Biology IV Unit 1 : ระบบประสาท และอวยั วะรบั ความรสู้ กึ จัดทำโดย นำงสำวสุกฤตำ โสมล กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนเบญจมรำชทู ศิ จังหวัดจนั ทบุรี 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 1
ระบบประสานงาน (Coordinating system) กำรทำงำนของอวยั วะและส่วนต่ำงๆ ในรำ่ งกำยมนษุ ยแ์ ละสตั วจ์ ะดำเนินไปเป็นปกติตอ้ ง อำศยั ระบบประสำนงำนระหว่ำง ระบบประสำท (nervous system) และระบบต่อมไรท้ ่อ (endocrine system) กำรทำงำนของสองระบบนีท้ ำหนำ้ ท่ีควบคมุ และติดต่อประสำนงำน ต่ำงๆ ของรำ่ งกำยจงึ เรยี กรวมกนั วำ่ ระบบประสำนงำน (coordinating system) • Nervous system • Endocrine system โครงสร้ำงทีส่ ำคัญของระบบประสำท คือ เซลลป์ ระสำทและอวยั วะสมั ผสั และอีก ระบบหน่งึ คอื ระบบต่อมไรท้ ่อ สรำ้ งสำรเคมี เรยี กวำ่ hormone ทำหนำ้ ท่ีสรำ้ งสำร กระตนุ้ ควบคมุ กำรทำงำนของรำ่ งกำย ทงั้ ระบบประสำทและระบบตอ่ มไรท้ ่อ ทำหนำ้ ท่ี ประสำนงำนใหร้ ำ่ งกำยอย่ใู นสภำวะสมดลุ ได้ 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 2
ความแตกตา่ งของระบบประสาทกบั ระบบตอ่ มไรท้ ่อ ข้อเปรยี บเทยี บ ระบบประสำท ระบบตอ่ มไร้ทอ่ สำรเคมี (ฮอรโ์ มน) รูปแบบกำรส่อื สำร กระแสไฟฟำ้ และสำรเคมี ตอบสนองตอ่ สงิ่ เรำ้ ชำ้ ควำมเรว็ ในกำรตอบสนอง ตอบสนองตอ่ สิง่ เรำ้ รวดเรว็ นำนกวำ่ ระยะเวลำในกำร สนั้ hormone ตอบสนอง สำรเคมีท่ีใชใ้ นกำรส่ือสำร neurotransmitter 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 3
10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 4
กลไกการรับรูแ้ ละการตอบสนอง stimulus receptor Sensory neuron brain/spinal cord response effector Motor neuron ภำพ กลไกกำรรับรู้กำรเปลยี่ นแปลงต่อสภำพแวดล้อมของส่ิงมีชวี ติ 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 5
ตวั อยา่ งโจทยว์ ิเคราะห์การรับรู้และการตอบสนอง 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 6
ระบบประสาทของสัตว์ 1) ส่ิงมีชีวิตเซลลเ์ ดียว เช่น Paramecium • ยงั ไมม่ รี ะบบประสำท แต่จะมเี ส้นใยเชอ่ื มโยงอยรู่ ะหว่ำงโคนของซเิ ลยี (cilia) ซง่ึ ควบคุมกำรพดั โบกของซเิ ลีย เรียกวำ่ เส้นใยประสำนงำน (coordinating fiber) • ถำ้ ตัดเส้นใยประสำนงำนออกไปจะทำใหพ้ ำรำมีเซยี มไมส่ ำมำรถควบคุมทศิ ทำง กำรเคลื่อนทไี่ ด้ 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 7
ระบบประสาทของสตั ว์ 2) สตั วไ์ มม่ ีกระดกู สนั หลงั เช่น ไฮดรำ พลำนำเรยี ไสเ้ ดือนดนิ แมลง กงุ้ ปู หอย ดำวทะเล (c) Earth worm (b) Planaria (c) Insect 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 8
ระบบประสาทของสตั ว์ 3) สตั วม์ ีกระดกู สนั หลงั และมนษุ ย์ * มสี มองทแี่ ทจ้ ริง (brain หรือ crania) อยใู่ นกะโหลกศรี ษะ และไขสันหลงั (spinal cord) อยใู่ นกระดกู สันหลัง จะมเี ส้นประสำทแยกออกมำจำกสมองและไขสันหลัง 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 9
TEST : ผงั สรุปการรับรู้และการตอบสนองของส่ิงมีชีวติ Unicellular Invertebrate Vertebrate coordinating nerve net brain fiber spinal cord nerve ganglion nerve cord 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 10
10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 11
เซลล์ประสาท (neuron/neurone/nerve cell) • เซลลป์ ระสำทเป็นเซลลท์ ่ีทำหนำ้ ท่ีหลกั ภำยในระบบประสำท • ประกอบดว้ ย ตวั เซลล์ (cell body หรอื soma) ซง่ึ ทำหนำ้ ท่ีควบคมุ กำร ทำงำนภำยในเซลลป์ ระสำทและสรำ้ งสำรส่อื ประสำท (neurotransmitter) และสว่ นท่ีเป็นแขนงย่ืนออกจำกตวั เซลล์ (processes) ซง่ึ มี 2 ชนิด คือ dendrite (หนำ้ ท่ีรบั กระแสประสำทเขำ้ มำ ในตวั เซลล)์ และ axon (เก่ียวขอ้ งกบั กำรเกิดกระแสประสำทและสง่ กระแส ประสำทไปยงั เซลลอ์ ่ืนๆ) • โดยท่วั ไปเซลลป์ ระสำท 1 เซลลจ์ ะมี (axon) เพียง 1 อนั เทำ่ นนั้ แตส่ ว่ นของ dendrite อำจมีตงั้ แต่ 1 อนั ถึงหลำยรอ้ ยอนั • บรเิ วณปลำยสดุ ของ axon จะมีลกั ษณะโป่งออกเป็นกระเปำะ เรยี กวำ่ synaptic terminal ซง่ึ เป็นบรเิ วณท่ีเกิดกำร synapse ไปยงั เซลลอ์ ่ืนๆ ตอ่ ไป 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 12
ภาพแสดงโครงสร้างเซลล์ประสาท (nerve cell /neuron) 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 13
• axon ของเซลลป์ ระสำทในสตั วม์ ีกระดกู สนั หลงั จะสำมำรถแบง่ ออก ไดเ้ ป็น 2 รูปแบบหลกั คอื 1. non-myelinated axon 2. myelinated axon (มีกำรสง่ กระแสประสำทไดไ้ วกวำ่ ) 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 14
10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 15
10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 16
ข้อควรทราบเพม่ิ เติม • ตวั เซลลข์ องเซลลป์ ระสำทจะพบสว่ นของ RER จำนวนมำก แตจ่ ะไม่ เหมือนในเซลลท์ ่วั ไป เรยี กวำ่ Nissl body • ไซโตสเกเลตนั (intermediate filament) หลกั ท่ีคำ้ จนุ ภำยใน ตวั เซลลป์ ระสำท คอื neurofilament • เสน้ ประสำท (nerve) คอื กลมุ่ ของ axon ท่ีมดั อยรู่ วมกนั และมี เนือ้ เย่ือเก่ียวพนั (connective tissue) มำหมุ้ • ปมประสำท (ganglion) คอื กลมุ่ ของตวั เซลลท์ ่ีมำอยรู่ วมกนั 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 17
10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 18
1. ER ที่มี ribosome มาเกาะอยตู่ ามผิวซ่งึ มีชอื่ เฉพาะเรียกวา่ นสิ ส์ บอดี (Nissl body) ทาหน้าท่ี เก่ียวกบั การสังเคราะห์โปรตนี สาหรับนาไปสรา้ งเป็น เอนไซม์ทเี่ ก่ยี วข้องกบั การนากระแสประสาท พบไดใ้ น ตวั เซลล์ประสาทที่เดนไดรต์ แตจ่ ะไมพ่ บในแอกซอน 2. Mitochondria ออรแ์ กแนลล์นี้พบไดท้ ั้งในตัวเซลล์ เดนไดรตแ์ ละแอกซอน พบมากบริเวณปลายประสาท โดยเฉพาะปลายประสาทนาคาส่ัง ทาหน้าท่ีสรา้ ง พลังงานให้แกเ่ ซลล์ 3. Golgi Body มีลกั ษณะเป็นเส้นบาง ๆ เรียงขนานกันเป็นชั้น ๆ มหี นา้ ทเี่ กบ็ สารโปรตีนที่ นิสส์ บอดี สร้างขึน้ และเปล่ียนแปลงโปรตนี บางสว่ นเปน็ lysosome 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 19
2. ใยประสาท (Nerve Fiber) - เป็นส่วนที่แยกออกมาจากตัวเซลล์ มี ลกั ษณะเป็นแขนงเล็ก ๆ จานวนแขนงและ ความยาวของแขนงแตกต่างกันไปตาม หนา้ ทแ่ี ละตาแหนง่ ทอ่ี ยู่ ใยประสาทจาแนก ออกเป็น 2 ประเภท คอื 1) เดนไดรต์ (Dendrite) เปน็ สว่ นของ 2) แอกซอน (Axon) เป็นสว่ นของไซ เซลลท์ ย่ี ื่นออกไปเป็นแขนงสนั้ ๆ แล้วแตก โทพลาซึมของเซลลป์ ระสาทที่ยนื่ ออกจาก ก่ิงก้านออกไปมากมาย เดนไดรตท์ าหนา้ ท่ีรับ ตวั เซลล์ สว่ นปลายของแอกซอนจะแตก กระแสประสาทจากหน่วยรับความรสู้ กึ เป็นแขนงเรียกว่า Telodendron สาหรับ (Receptor) และรับกระแสประสาทจาก ใยประสาททมี่ คี วามยาวมาก ๆ ทัง้ เดนไดรต์ เซลลป์ ระสาทเซลล์อน่ื เข้าสตู่ ัวเซลล์ และแอกซอนจะมีปลอก (Sheath) หุม้ 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 20
10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 21
การมหี รอื ไมม่ ปี ลอกหมุ้ จะสามารถแบ่งชนดิ ของ เซลลป์ ระสาทออกเปน็ 2 พวก คอื 1. ใยประสำทชนิดทม่ี เี ยอื่ ไมอลี ินหมุ้ (Myelinated Neuron) เยือ่ ไมอีลินเกดิ จากเซลล์ชวานน์ (Schwann Cell) ใยประสาทชนิดนี้ จะมีรอยคอดเปน็ ระยะ ตรงรอยคอดไมม่ ีเยือ่ ไมอลิ นิ หุ้มเรยี กวา่ Node of Ranvier ซง่ึ จะนากระแสประสาทไดเ้ ร็วมาก คือ 120 m/s 2. ใยประสำททไ่ี ม่มเี ยอ่ื ไมอลี ินหมุ้ (Mon-myelinated Neuron) เป็นใยประสาททม่ี เี ซลล์ชวานนห์ มุ้ เพยี งรอบเดียว ไมม่ กี ารม้วนตัวหลายๆ รอบ จงึ ไมเ่ กิดเปน็ เย่อื ไมอลี นิ หุม้ แอกซอนเหมอื นแบบแรก ซึ่งจะสง่ กระแสประสาทไดใ้ น อตั ราเรว็ เพยี ง 12 m/s เทา่ นน้ั 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 22
10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 23
1. การจาแนกเซลลป์ ระสาท (ตามหนา้ ท่ี) • เซลลป์ ระสำทรับควำมรู้สึก (sensory neuron) –สง่ สญั ญำณ จำกหน่วยรบั ควำมรูส้ กึ (receptor) ไปยงั หนว่ ยประมวลผล • เซลลป์ ระสำทเช่อื มโยง (interneuron)/เซลลป์ ระสำท ประสำนงำน (association / relay neuron) –พบมำกใน ระบบประสำทสว่ นกลำงสำหรบั ประมวลสญั ญำณประสำท • เซลลป์ ระสำทส่ังกำร (motor neuron) –สง่ กระแสประสำทไป ควบคมุ กำรตอบสนองของหน่วยตอบสนอง (effector) 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 24
เซลลป์ ระสาท (แยกตามหนา้ ท)่ี 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 25
10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 26
2. การจาแนกเซลลป์ ระสาท (ตามรปู รา่ ง) • เซลลป์ ระสำทขัว้ เดยี ว(unipolar neuron) –มีแขนงแยกอกมำจำกตวั เซลล์ เพียง 1 อนั จงึ คอ่ ยแยกออกไปเป็น dendrite และ axon พบในเซลลป์ ระสำท รบั ควำมรูส้ กึ ท่ีอยใู่ นปมประสำทรำกบนไขสนั หลงั (dorsal root ganglion) • เซลลป์ ระสำทสองขัว้ (bipolar neuron) –มีแขนงแยกออกมำจำกตวั เซลล์ 2 อนั คือ dendrite และ axon อยำ่ งละอนั พบในเซลลช์ นั้ เรตนิ ำของลกู ตำ เซลลร์ บั กล่นิ (olfactory cell) ในโพรงจมกู และในหชู นั้ ใน • เซลลป์ ระสำทหลำยขั้ว (multipolar neuron) –เซลลป์ ระสำทหลกั ท่ีพบ ในรำ่ งกำย มีแขนงของ dendrite แยกออกมำจำนวนมำก โดยท่วั ไปมกั มี 1 แอกซอน พบในระบบประสำทสว่ นกลำงเป็นหลกั (สมองและไขสนั หลงั ) 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 27
การจาแนกเซลลป์ ระสาท (ตามรปู รา่ ง) 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 28
10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 29
หวั ขอ้ : การเชอ่ื มโยง 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 30
เซลล์คา้ จุน (neuroglia หรือ glial cell) ในมนุษย์ • เซลลร์ ูปดำว (astrocyte) – ช่วยในกำรนำอำหำรและแก๊สจำกหลอด เลือดฝอยมำยงั เซลลป์ ระสำท • เซลลท์ ่ีสรำ้ งเย่ือหมุ้ ไมอีลนิ มี 2 ชนิดคอื 1. Schwann cell – พบในระบบประสำทรอบนอก (PNS) 2. oligodendrocyte – พบในระบบประสำทสว่ นกลำง (CNS) • เซลลท์ ่ีช่วยโบกพดั นำ้ เลยี้ งสมองและไขสนั หลงั (ependymal cell) • เซลล์ microglia - เก่ียวกบั กำรกำจดั สงิ่ แปลกปลอมในระบบประสำท 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 31
10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 32
การทางานของเซลลป์ ระสาท โดย กำรวจิ ัยของ A.L.Hodgkin & A.F.Huxley , 2506 -ใช้ microelectrode กับแอกซอนของหมกึ - ใช้มำตรวัดควำมตำ่ งศักยไ์ ฟฟ้ำ (cathode ray oscilloscope) 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 33
ศักย์ไฟฟ้าเย่ือเซลล์ (Membrane Potential) • เซลลข์ องสตั วท์ กุ ชนิดจะมีควำมแตกตำ่ งของประจไุ ฟฟำ้ ระหวำ่ งภำยในเซลล์ กบั ภำยนอกเซลล์ ทงั้ นี้ เน่ืองจำกองคป์ ระกอบของของเหลวภำยในเซลลแ์ ละ ภำยนอกเซลลจ์ ะมีปรมิ ำณของไอออนแตล่ ะชนิดท่ีแตกตำ่ งกนั ออกไป • เช่น ในสภำวะปกตขิ องเซลลป์ ระสำทจะมี Na+ อยดู่ ำ้ นนอกเซลลม์ ำกกวำ่ ภำยในเซลล์ และจะมี K+ อยภู่ ำยในเซลลม์ ำกกวำ่ ภำยนอกเซลล์ • ดงั นนั้ โดยท่วั ไป Na+ จงึ มีแนวโนม้ จะแพรเ่ ขำ้ มำภำยในเซลล์ ขณะท่ี K+ มีแนวโนม้ ท่ีจะแพรอ่ อกนอกเซลล์ ผำ่ นทำงโปรตนี บนเย่ือหมุ้ เซลลท์ ่ีมี ลกั ษณะเป็นช่อง (passive channel) • อยำ่ งไรก็ตำมเซลลป์ ระสำทสำมำรถรกั ษำควำมเขม้ ขน้ ของไอออนนีไ้ ดโ้ ดย อำศยั กำรทำงำนของ Na-K pump ในกำรป๊ัมเอำ Na+ ออกไปไว้ ภำยนอกเซลล์ และนำ K+ เขำ้ มำสะสมไวภ้ ำยในเซลลใ์ นสดั สว่ น 3Na+:2K+ ผ่ำนกำรใชพ้ ลงั งำนในรูปของ ATP 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 34
กระบวนการ sodium potassium pump ภำพโซเดยี มโพแทสเซยี มปั้มในระยะพกั *Na-K Pump จะทำงำนตลอดเวลำรวมถงึ ขณะท่ีเกิดกำรสง่ กระแสประสำท (action potential) 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 35
• ในสภำพปกตทิ ่ีเซลลป์ ระสำทไมถ่ กู กระตนุ้ จะมีศกั ยไ์ ฟฟำ้ เย่ือเซลลใ์ นระยะ พกั (resting membrane potential) ประมำณ -70 mV โดย ภำยในเซลลจ์ ะมีคำ่ เป็นลบเม่ือเทียบกบั ภำยนอกเซลล์ โดยมีเหตผุ ล 2 ประกำร คอื 1. K+ ท่ีอยภู่ ำยในเซลลจ์ ะร่วั ออกนอกเซลลผ์ ำ่ นทำง K+ leak channel ซง่ึ มจี ำนวนมำกกวำ่ Na+ passive channel ท่ีให้ Na+ จำกภำยนอกไหลเขำ้ มำภำยในเซลล์ ดงั นนั้ เม่อื คดิ สทุ ธิแลว้ เซลลจ์ งึ มีกำรสญู เสยี ประจบุ วกไปจำก K+ มำก จงึ ทำใหภ้ ำยในเซลลม์ ีประจเุ ป็น ลบ 2. โปรตนี และกรดนิวคลีอกิ ท่ีอยภู่ ำยในเซลลม์ ีประจเุ ป็นลบ และไมส่ ำมำรถ เคล่อื นออกไปนอกเซลลไ์ ด้ จงึ สง่ ผลใหภ้ ำยในเซลลม์ ีประจเุ ป็นลบเม่ือ เทียบกบั ภำยนอกเซลล์ 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 36
การส่ งกระแสประสาทภายในเซลล์ (Action Potential) กำรเปล่ยี นแปลงของศกั ยไ์ ฟฟำ้ เย่ือเซลลเ์ ม่ือเทียบกบั ศกั ยไ์ ฟฟำ้ ระยะพกั (resting potential) สำมำรถเกิดได้ 2 แบบ คือ • Depolarization – กำรตอบสนองท่ีทำใหภ้ ำยในเซลลป์ ระสำทมี คำ่ ศกั ยไ์ ฟฟำ้ เพ่มิ ขนึ้ • Hyperpolarization – กำรตอบสนองท่ีทำใหภ้ ำยในเซลล์ ประสำทมีคำ่ ศกั ยไ์ ฟฟำ้ ลดลง 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 37
เม่ือมีส่งิ เรำ้ มำกระตนุ้ เซลลป์ ระสำท เซลลป์ ระสำทสำมำรถเกิดกำร ตอบสนองได้ 2 รูปแบบ คอื 1. กำรตอบสนองตำมควำมแรงของสงิ่ เร้ำ (graded potential) – สง่ิ เรำ้ ย่งิ มีขนำดแรงมำก กำรเปล่ยี นแปลงของศกั ยไ์ ฟฟำ้ ย่งิ เปล่ยี นแปลงมำกขนึ้ 2. กำรตอบสนองแบบทไ่ี ม่ขนึ้ กบั ควำมแรงของสง่ิ เร้ำ (all-or-none- response) – เม่ือส่งิ เรำ้ มีควำมแรงถงึ ระดบั หนง่ึ ท่ีเรยี กวำ่ threshold level ถึงแมจ้ ะเพมิ่ ควำมแรงของสง่ิ เรำ้ เพ่มิ ขนึ้ กำรตอบสนองหรอื กำรเปล่ียนแปลง ของศกั ยไ์ ฟฟำ้ เย่ือเซลลจ์ ะไม่เปล่ยี นแปลงไปตำมควำมแรงสิง่ เรำ้ 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 38
10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 39
ข้นั ตอนการเกดิ กระแสประสาท 1 (action potential หรือ nerve impulse) 1. ในสภำวะปกตทิ ่ียงั ไมม่ ีส่งิ เรำ้ มำกระตนุ้ ประตโู ซเดียม (voltage- gated sodium channel) และประตโู พแทสเซยี ม (voltage- gated potassium channel) จะปิด จะมีเพยี ง passive channel ท่ีจะเปิดอยู่ ดงั นนั้ ไอออนของ Na+ และ K+ จะอยใู่ น สภำวะสมดลุ เรยี กวำ่ ระยะพกั (resting stage) 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 40
10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 41
ข้นั ตอนการเกดิ กระแสประสาท 2 (action potential หรือ nerve impulse) 2. สง่ิ เรำ้ ท่ีมำกระตนุ้ เซลลป์ ระสำทเม่ือมีควำมแรงถงึ ระดบั threshold level จะกระตนุ้ ใหเ้ ซลลป์ ระสำทเกิดกำร Depolarization ขนึ้ โดยทำใหป้ ระตู โซเดียม (voltage-gated sodium channel) เปิด ทำให้ Na+ จำกภำยนอกเซลลไ์ หลเขำ้ มำภำยในเซลลป์ ระสำทมำกขนึ้ ดงั นนั้ ภำยในเซลลป์ ระสำทจงึ มีประจเุ ป็นบวกเม่ือเทียบกบั ภำยนอกเซลล์ 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 42
10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 43
2 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 44
10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 45
10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 46
10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 47
ระยะที่ 3 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 48
10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 49
4 10/08/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 50
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231