- 142 - ระเบียบวาระการประชุมคณะกรรมการบริหารวิทยาลัยเทคนคิ มนี บรุ ี คร้ังที่ ๒ / ๒๕๕๕ วนั พฤหัสบดที ี่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๕ เวลา ๐๙.๐๐ น. ณ ห้องประชุมทองกวาว อาคาร ๒ ระเบยี บวาระท่ี ๑ เรอ่ื งท่ปี ระธานแจง้ ใหท้ ี่ประชุมทราบ ๑.๑ กาหนดการปฐมนิเทศนักศึกษาใหมป่ ระจาปีการศึกษา ๒๕๕๔ ๑.๒ กาหนดการเขา้ ตรวจประเมินการประกันคณุ ภาพการศกึ ษาภายใน ๑.๓ กาหนดการเปดิ ภาคการศึกษาที่ ๑ / ๒๕๕๔ ระเบยี บวาระท่ี ๒ เรอ่ื งการรบั รองรายงานการประชุมคร้งั ที่ ๑ / ๒๕๕๔ เมอื่ วันท่ี ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ระเบยี บวาระที่ ๓ เรื่องที่เสนอให้ที่ประชุมทราบ ๓.๑ สรปุ จานวนนกั ศกึ ษาปีการศกึ ษา ๑ / ๒๕๕๔l ๓.๒ กาหนดการเยยี่ มชมและแนะนาการใช้บริการหอ้ งสมุดและศนู ย์การเรียนรู้ ด้วยตนเอง ปีการศึกษา ๒๕๕๔ ระเบยี บวาระท่ี ๔ เรอ่ื งท่ีเสนอให้ท่ีประชุมพิจารณา ๔.๑ การขยายระยะเวลาการรับลงทะเบยี น ๔.๒ การจดั สรรอัตราพนักงานราชการ ระเบยี บวาระที่ ๕ เรอ่ื งอืน่ ๆ (ถ้ามี)
- 143 - ระเบยี บวาระการประชุมคณะกรรมการจดั งานวนั เดก็ ครั้งที่ ๒/๒๕๕๒ วนั ท่ี ๒๘ สงิ หาคม ๒๕๕๒ เวลา ๑๓.๐๐ น. ณ ห้องประชุมทองกวาว วทิ ยาลัยเทคนิคมีนบุรี ระเบยี บวาระท่ี ๑ เร่ืองท่ปี ระธานแจง้ ให้ที่ประชุมทราบ ๑.๑ การจดั กจิ กรรมวนั เด็กประจาปี ๒๕๕๓ ๑.๒ รายงานผลการจดั กจิ กรรมวนั เดก็ ปะจาปี ๒๕๕๒ ระเบียบวาระท่ี ๒ เร่ืองการรับรองรายงานการประชมุ ครัง้ ท่ี ๑/๒๕๕๒ ระเบียบวาระที่ ๓ เรอื่ งทเ่ี สนอให้ท่ีประชมุ ทราบ ระเบียบวาระท่ี ๔ ๓.๑ รายนามผใู้ หก้ ารสนับสนุนการจดั งาน ๓.๒ สถานท่ีในการจดั งาน ระเบยี บวาระที่ ๕ เรอ่ื งท่เี สนอใหท้ ปี่ ระชุมพิจารณา ๔.๑ การจดั กจิ กรรมงานวันเด็ก ๔.๒ การกาหนดกจิ กรรมในการจดั งานวันเดก็ ๔.๓ งบประมาณในการจัดงาน ๔.๔ การมอบหมายหนา้ ทีใ่ นการจัดงาน เรื่องอื่น ๆ
- 144 - รายงานการประชมุ ผ้อู านวยการฝ่ายและสานกั ครงั้ ที่ ๔/๒๕๕๒ เม่ือวนั ท่ี ๓๐ เมษายน ๒๕๕๒ ณ ห้องประชุมอาคาร ๕ ทพี่ ักนกั กฬี า ๓๐๐ เตียง ผูม้ าประชุม ๑. นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการ ๒. นายจตุพร ณ นคร รองผ้วู า่ การฝ่ายสง่ เสริมกีฬา ๓. นายเฉลิมชยั บญุ รกั ษ์ รองผูว้ ่าการฝา่ ยกีฬาเป็นเลิศและวทิ ยาศาสตร์การกีฬา ๔. นายมนตรี ไชยพันธ์ุ รองผูว้ ่าการฝา่ ยปรหิ าร ๕. นายพรี ะ ฟองดาวริ ัตน์ รองผู้วา่ การฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ ๖. นางสาวแจม่ จนั ทร์ เจยี มใจสว่างฤกษ์ ผูอ้ านวยการฝา่ ยตรวจสอบภายใน ๗. นางสมคดิ ปิ่นทอง ผ้อู านวยการสานกั ผู้ว่าการ ๘. นางกัลยา สุขฤกษ์ ผ้อู านวยการฝ่ายการคลงั ๙. นางสาวสุมาลี วิญญวู รรธน์ ผู้อานวยการฝา่ ยทรัพยากรบุคคล ๑๐.นายสกล วรรณพงษ์ ผอู้ านวยการฝ่ายพฒั นากฬี าเปน็ เลิศ ๑๑.นายถวัลยศ์ กั ด์ิ พิมเสน ผอู้ านวยการฝา่ ยวทิ ยาศาสตร์การกีฬา ๑๒.นางวรี วรรณ พจนวรพงษ์ ผูอ้ านวยการฝา่ ยธุรกจิ และสิทธิประโยชน์ ๑๓.นายบุญทนั มว่ งช่นื ผู้อานวยการฝา่ ยสารสนเทศและวชิ าการกีฬา ๑๔.นายสงั เวยี น บญุ โต ผอู้ านวยการฝา่ ยกีฬาสถาน ๑๕.นายสมาน แสงโชติ (แทน) ผู้อานวยการฝา่ ยกีฬาภมู ิภาค ๑๖.นางจริยา ม่วงแกว้ (แทน) ผอู้ านวยการฝ่ายนโยบายและแผน ๑๗.นางสาวนรีรตั น์ เรืองเผ่าพันธุ์ (แทน) ผูอ้ านวยการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย ผู้เขา้ ร่วมประชุม ๑. นางวรณุ ี ภู่ขวญั เมอื ง ผู้อานวยการกองประชาสัมพันธ์ ๒. นางภัสร์สร มว่ งกล่า ผอู้ านวยการกองกลาง ๓. นายสมพร ไชยสงคราม (แทน) ผู้อานวยการกองนติ ิการ ๔. นางเสรมิ ศริ ิ มหาผลธนวนิ ท์ หวั หนา้ งานเลขานกุ ารและการประชุม ๕. นางโปรดปราน สมานมิตร หัวหนา้ งานประชาสัมพนั ธ์ ๖. นางสาวสภุ าพรรณ มณศี าสตร์ หวั หน้างานตดิ ตามงบประมาณ ๗. นายวัชระ คาเพ็ง หวั หนา้ งานวิเคราะห์และประเมินผล
- 145 - ๘. นางภาสนิ ี พนั ธมุ ะบารงุ หวั หนา้ งานบริหารความเสีย่ ง ๙. นายประเสริฐ ตนั มี หัวหน้างานบริหารทรัพยากรบคุ คล ๑๐. นายทนเุ กียรติ จนั ทร์ชมุ หวั หนา้ งานแข่งขนั และทะเบียนกีฬาอาชพี ๑๑. นางสาวชลันดา ชอบจติ ร หวั หนา้ กากบั ดแู ลและติดตามประเมนิ ผลกีฬาอาชีพ ๑๒. นางสาวชุติกาญจน์ ศศวิ รรณพงศ์ พนกั งานบริหารงานท่วั ไป ๕ ๑๓. นางสาวสภุ าพร ชโู ตศรี พนกั งานบริหารงานทั่วไป ๓ เรม่ิ ประชุมเวลา ๑๔.๐๐ น. เมอ่ื ประธานกลา่ วเปดิ ประชมุ แลว้ ได้ดาเนนิ การตามระเบยี บวาระการประชมุ ดังตอ่ ไปน้ี ระเบียบวาระที่ ๑ เร่ืองท่ีประธานแจ้งใหท้ ี่ประชุมทราบ ประธาน แจง้ ว่า ผลการดาเนินรัฐวิสาหกิจ ในปีบัญชี 2551 ตามที่สานักงานคณะกรรมการ นโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ประเมินน้ัน กกท. ได้รับผลการประเมิน ฯ อยู่ท่ีระดับคะแนน ๓.๘๕ ซ่ึงมีตัวชี้วัดท่ีผลการประเมินไม่ได้ตามเกณฑ์ที่ระดับ ๕ คือ ๑. การติดตามผลการสนับสนุน และ ๒. ประเมนิ ในปีบัญชี ๒๕๕๑ ก็จะเปน็ ไปตามนี้ ที่ประชมุ ทราบ ระเบียบวาระที่ ๒ เร่ืองการรับรองรายงานการประชมุ ผู้อานวยการฝ่ายและสานัก ครัง้ ที่ ๓/๒๕๕๒ เมือ่ วันท่ี ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๒ ผอู้ านวยการสานกั ผู้วา่ การ แจง้ วา่ ตามที่ไดม้ กี ารประชมุ ผูอ้ านวยการฝ่ายและสานกั คร้ังท่ี ๓/ ๒๕๕๒ เมือ่ วันท่ี ๓๐ มีนาคม๒๕๕๒ ณ หอ้ งประชุมอาคาร ๕ ท่ีพกั นกั กีฬา ๓๐๐ เตยี ง นั้น สานักผู้ว่า การไดส้ ง่ รายงานการประชมุ ให้ฝ่ายและสานกั พิจารณาตรวจสอบโดยผ่านระบบ E – mail ของ กกท. แล้วโดยไม่มีผู้ใดปรับปรุงแก้ไขอย่างใด จึงเสนอเพื่อพิจารณาให้รับรองรายงาน การประชุม ผู้อานวยการฝ่ายและสานัก ครั้งท่ี ๓/๒๕๕๒ เม่ือวันท่ี ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๒ ตารมเอกสารท่ีส่งให้ท่ี ประชุมแลว้ ที่ประชุมไดพ้ ิจารณารบั รองรายงานการประชมุ ผอู้ านวยการฝา่ ยและสานัก ครง้ั ที่ ๓/๒๕๕๒ เมือ่ วนั ท่ี ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๒ โดยไม่มีการปรับปรงุ แกไ้ ขแตอ่ ยา่ งใด ประธาน แจ้งว่า เรื่องการมอบหมายงาน ขอมอบให้สานักผู้ว่าการ นัดหมายผู้เก่ียวข้องเพ่ือ หารอื เรอ่ื งร่วมกัน ซ่ึงประกอบดว้ ย ผวู้ ่าการ รองผู้วา่ การทง้ั ๔ ท่าน ผู้อานวยการฝ่ายการคลัง หัวหน้า งานนติ ิการ โดยให้ใชห้ อ้ งประชุมอาคาร ๑ สานักผู้วา่ การ ท่ีประชมุ รับทราบ
- 146 - ระเบยี บวาระที่ ๓ เร่อื งทีเ่ สนอให้ท่ีประชุมทราบ ๓.๑ ระเบียบวาระการประชุมคณะกรรมการ กกท. ครง้ั ท่ี ๔/๒๕๕๒ ผู้อานวยการสานักผู้ว่าการ แจ้งว่า ตามที่มีการประชุมคณะกรรมการ กกท. คร้ังที่ ๓/ ๒๕๕๒ ในวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๕๒ ณ ห้องประชุม ๒๑๗ อาคาร ๔ ราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬา แห่งประเทศไทยแล้วน้ัน สาหรับการประชุมคณะกรรมการ กกท. คร้ังท่ี ๔/๒๕๕๒ มีฝ่ายและสานัก สง่ เรอ่ื งท่จี ะนาเสนอท่ปี ระชมุ ฯ รายละเอียดตามเอกสารท่สี ่งใหท้ ปี่ ระชมุ แล้ว ทปี่ ระชุมรบั ทราบ และใหป้ รับเพิม่ เติมวาระการประชุมฯ เปน็ ดังน้ี ระเบยี บวาระท่ี ๑ เร่ืองที่ประธานแจ้งใหท้ ี่ประชุมทราบ ระเบียบวาระที่ ๒ เรื่องการรับรองรายงานการประชุม ระเบยี บวาระที่ ๓ เร่ืองสบื เนอื่ งจากการประชุมครงั้ ก่อน ๓.๑ แผนยุทธศาสตรก์ ารกฬี าแห่งประเทศไทย (พ.ศ. ๒๕๕๓ – ๒๕๕๗) ๓.๒ แต่งต้ังคณะอนุกรรมการประเมินผลการปฏิบัติงานของ ผูว้ า่ การกีฬาแหง่ ประเทศไทย (นายกนกพนั ธุ์ จลุ เกษม) ประจาปี ๒๕๕๒ ระเบยี บวาระท่ี ๔ เรื่องทเ่ี สนอให้ทปี่ ระชุมทราบ ๔.๑ รายงานการตรวจสอบงบการเงินการกีฬาแห่งประเทศ ไทยสาหรบั ปสี ิน้ สดุ วนั ที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๑ และ ๒๕๕๐ ๔.๒ การรายงานผลการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ตามแบบรายงาน สงป. ไตรมาสท่ี ๒ (ม.ค. – ม.ี ค. ๒๕๕๒) ๔.๓ การรายงานผลการบริหารความเส่ียงและการควบคุม ความเสีย่ งและการควบคุมภายใน ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ไตรมาสที่ ๒ ระเบยี บวาระท่ี ๕ เร่ืองท่เี สนอให้ทปี่ ระชมุ พิจารณา ๕.๑ ประกาศกาหนดชนิดกีฬา หมากรุกจีน (เซ่ียงฉี) และ ยูยิตสู เป็นชนิดกีฬาที่สมาคมซ่ึงมีวัตถุประสงค์หลักเกี่ยวกับการกีฬาโดยตรงจะต้องขอรับใบอนุญาต กกท. ตามมาตรา ๕๓ แหง่ พระราชบัญญัตกิ ารกฬี าแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๒๘ 5.2 แผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณกองทุน ส่งเสรมิ กฬี าอาชพี 5.3 ขอความเห็นชอบการปรับปรุงค่าใช้จ่ายในการพัฒนา บคุ ลากรกีฬาระดับนานาชาติ ระเบยี บวาระท่ี 6 เรือ่ งอน่ื ๆ (ถ้าม)ี
- 147 - ระเบยี บวาระที่ 4 เร่ืองท่เี สนอให้ท่ปี ระชมุ ทราบ 4.1 ขอปรับแผนการปฏบิ ัตงิ านและแผนการใช้จา่ ยประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ในเดอื นเมษายน 2552 นางจริยา ม่วงแก้ว ผู้อานวยการกองติดตามและประเมินผล แทน ผู้อานวยการฝ่ายนโยบายและแผน แจ้งว่า ตามที่ฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา ขอปรับใช้เงินเหลือจ่าย จากการดาเนินงานหลัก รายการท่ี 3/037 การควบคุมการใช้สารต้องห้าม “ดาเนินการหลักที่ 3 โอนเงินสมทบการดาเนินงานของ WADA ประจาปี 2009 งบประมาณ 1,350,000 บาท” แล้วมี เงินคงเหลือจานวน 280,000 บาท เพื่อนาไปสมทบการดาเนินงานจัดซื้อ/จัดจ้างวัสดุ และฝ่าย นโยบายและแผนได้ให้ความเห็นว่า ควรนาเงินเหลือจ่ายจานวนดังกล่าวไปจ่ายค่าหนี้สาธารณูปโภค และค่า K ก่อน และดาเนินการจัดพิมพ์สมุดโน้ตเรื่องสารต้องห้าม, จัดพิมพ์คู่มือการปฏิบัติตัวสาหรับ นักกีฬาเมื่อถูกตรวจสารต้องห้ามและจัดพิมพ์ประมวลกฎหมายต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (WADA Code 2009) ไม่ได้เป็นตัวช้ีวัด เป้าหมายของรายการที่เป็นการจัดเก็บสารต้องห้ามจาก นักกฬี าฯ จึงควรคานึงถงึ ความคุม้ คา่ ความจาเป็นในการดาเนนิ การดังกลา่ ว สาหรับรายละเอียดขอให้ ผู้อานวยการฝ่ายวิทยาศาสตรก์ ารกีฬา เปน็ ผู้ชี้แจงตอ่ ท่ปี ระชุม ผู้อานวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา เพิ่มเติมว่า เดิมได้กาหนดการโอน เงินสมทบให้กับ WADA ทุกปี ๆ ละ 1.35 ล้านบาท ทั้งน้ี ขึ้นอยู่กับ WADA จะแจ้งยอดเงินท่ีของ สมทบในเดือนมกราคมของทกุ ปี สาหรับปนี ไ้ี ด้คานวณอตั ราแลกเปลี่ยนไว้ล่วงหน้าและของบประมาณ ไว้ 1,350,000 บาท และได้โอนเงินให้ WADA ไปแล้วเป็นเงินจานวน 30,631 เหรียญสหรัฐ อัตราแลกเปล่ียนอยู่ที่ 34.87 บาท รวมเป็นเงิน 1,070,000 บาท จึงมีเงินคงเหลือท้ังส้ิน 280,000 บาทในแต่ละปีจะมีการจัดจ้างวัสดุ ในการจัดทาเอกสารเรื่องสารต้องห้าม การใช้ยา การ จัดซื้อวัสดุส่ิงพิมพ์ แต่ในปีนี้ WADA ได้มีการกาหนดให้จัดพิมพ์ประมวลกฎหมายต่อต้านการใช้สาร ต้องห้ามโลก (WADA Code 2009) ปรับจาก WADA Code 2003 ซึ่งจะถูกขอจัดพิมพ์เพิ่มเติม จากที่มีอยู่ 3,000 เล่ม เป็น 5,000 เล่ม สาหรับคู่มือการปฏิบัติตัวสาหรับนักกีฬาเม่ือถูกตรวจสาร ต้องห้าม เปน็ ส่วนท่กี าหนดใหเ้ พ่ิมข้ึนมาใหม่ จึงมีความจาเป็นท่ีจะต้องทาเพื่อมอบให้กับนักกีฬาและ สมาคมกฬี า ประธาน ขอทราบว่า มูลค่าหน้ีสาธารณูปโภคและค่า K ที่ยังขาดอยู่เป็น จานวน 10 ล้านบาทนัน้ มที ี่มาอย่างไร นางจริยา แก้วม่วง ผู้อานวยการกองติดตามและประเมินผล แทน ผู้อานวยการฝา่ ยนโยบายและแผนได้ประสานทราบข้อมูลจากฝา่ ยการคลัง ผู้อานวยการฝ่ายการคลัง แจ้งว่า ทุกปีจะมีการปรับโอนเงินคงเหลือจาก การดาเนินงานของ กกท. เพ่ือนาไปจ่ายค่าหน้ีสาธารณูปโภค และในปีนี้มีอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น จึง เป็นเหตุให้ค่าไฟฟา้ สงู ขึน้ ดว้ ย
- 148 - ผู้อานวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล ขอทราบว่า การจัดซ้ือ จัดจ้าง วัสดุ จานวน 618,000 บาท น้ัน มีรายละเอียดการดาเนินงานอย่างไรบ้าง และงบประมาณท่ีขาดไปมี จานวนเท่าใด ผู้อานวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา แจ้งว่า การจัดซื้อ จัดจ้างวัสดุ จานวน 618,000 บาท มีรายละเอียดการดาเนนิ งาน ดงั นี้ 1. จัดทาเอกสารการรายงานเรื่องสารตอ้ งห้าม จานวน 245,000 บาท 2. จัดทาเอกสารยาทีใ่ ชแ้ ละยาที่หา้ มใช้ จานวนเงนิ 49,000 บาท 3. คา่ จดั ซื้อ จดั จ้าง วสั ดุ จานวนเงิน 27,000 บาท 4. จัดทา WADA Code 2009 (3,000 เลม่ ) จานวนเงิน 295,000 บาท ที่ประชุมเห็นว่าหากฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา มีความจาเป็นต้องจัดพิมพ์ คู่มอื การปฏิบัติตัวสาหรับนักกีฬาเม่ือถูกตรวจสารต้องห้ามและจัดพิมพ์ประมวลกฎหมายต่อต้านการ ใช้สารต้องห้ามโลก (WADA Code 2009) ก็ใหไ้ ปดาเนินการปรบั แผนฯ ในโครงการดังกล่าวมาเพื่อ ใชด้ าเนนิ การจัดพมิ พ์ นอกจากน้ี ประธานมีบัญชาให้ฝ่ายที่เก่ียวข้องดาเนินการจัดทาและส่งข้อ มลู คา่ หนสี้ าธารณูปโภคและคา่ K ของ กกท. ให้กับทา่ นผ้วู า่ การเพ่อื พิจารณาตอ่ ไป 4.2 เงินค่าครองชีพชั่วคราวผู้ปฏิบตั ิงานสว่ นภูมิภาค ผู้อานวยการฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล แจ้งว่า ตามท่ีฝ่ายวิทยาศาสตร์ การกีฬาได้รับอนุมัติหลักการและรับรองแผนปฏิบัติการ แผนการใช้จ่ายงบประมาณ พ.ศ. 2552 รายการท่ี 03/034 การดาเนินงานสถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬาส่วนภูมิภาค ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เป็นจานวน 7,856,000 บาท โดยมีการจัดจ้างผู้ช่วยปฏิบัติงานประจาสถาบัน วทิ ยาศาสตรก์ ารกฬี าส่วนภมู ิภาค จานวน 20 คน จากการโอนเงินให้ศูนย์ กกท. ภาค 1 – 5 จานวน 4,915,000 บาท บัดน้ี ฝ่ายการคลังได้ดาเนินการเบิกจ่ายเงินค่าครองชีพชั่วคราวย้อนหลังให้กับ พนักงานและผู้ช่วยปฏิบัติงานโครงการ ไตรมาสที่ 1 และ 2 (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551 – 31 มีนาคม 2552) แต่ปรากฏว่าในส่วนของผู้ช่วยปฏิบัติงานโครงการ การดาเนินงานของสถาบัน วิทยาศาสตรก์ ารกฬี า ส่วนภมู ภิ าค ซ่ึงปฏบิ ัติงาน ณ สถาบนั วทิ ยาศาสตร์การกีฬาส่วนภูมิภาค ท้ัง 4 ภาค (ภาคละ 4 คน) รวมทัง้ ส้นิ 20 คน ยังไม่ได้รับสทิ ธใิ์ นการรบั เงนิ ค่าครองชพี ชั่วคราวมาเป็นเวลา 6 เดือนแล้ว ท้ังนี้ ฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬาได้หารือกับฝ่ายทรัพยากรบุคคลและได้ทราบว่าผู้ช่วย ปฏิบัติงานส่วนภูมิภาค ท้ัง 20 คนไม่ได้อยู่ในกรอบของลูกจ้าง กกท. ดังนั้น เพ่ือเป็นขวัญและ กาลังใจของผู้ช่วยปฏิบัติงานส่วนภูมิภาคดังกล่าว จึงเห็นควรเพ่ิมกรอบอัตรากาลังผู้ช่วยปฏิบัติงาน ทง้ั ๒๐ คน จึงเสนอเพ่อื พิจารณา
- 149 - ผู้อานวยการฝ่ายคลัง แจ้งว่า ฝ่ายการคลังได้เบิกจ่ายเงินค่าครองชีพ ชั่วคราวให้กับผู้ช่วยปฏิบัติงานวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๑ ถึงวันท่ี ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๒ ไปแล้ว เหตุใด การจา้ งผูช้ ว่ ยปฏิบตั งิ าน จานวน ๒๐ คน จงึ ไมไ่ ด้อยู่ในกรอบอัตรากาลงั ตามที่ได้รบั อนุมตั แิ ล้ว นายประเสริฐ ตันมี หัวหน้างานบริหารทรัพยากรบุคคล แจ้งว่า ตามที่ฝ่าย วิทยาศาสตร์การกีฬาได้ขอจัดจ้างผู้ช่วยปฏิบัติงาน จากรายการที่ ๐๓/๐๓๔ การดาเนินงานสถาบัน วิทยาศาสตร์การกีฬาส่วนภูมิภาค จานวน ๒๐ คนน้ัน ได้มีการตรวจสอบและพบผู้ว่าช่วยปฏิบัติงาน จานวนดังกล่าวอยู่นอกกรอบที่ได้รับความเห็นชอบจากฝ่ายบริหาร จึงได้ประสานแนะนาให้ ผูร้ ับผดิ ชอบโครงการ ฯ นาเสนอขออนมุ ัตกิ รอบการจ้างผชู้ ว่ ยปฏิบตั งิ านเพิ่มเติม แตฝ่ า่ ยวทิ ยาศาสตร์ การกีฬาก็ยืนยันว่าได้มีการโอนเงินให้ศูนย์ กกท. ภาค ๑ – ๕ ไปแล้วเต็มจานวนและไม่แสดง รายละเอียดใด ๆ โดยได้จัดจ้างผู้ช่วยปฏิบัติงานท้ังปริญญาตรีและปริญญาโทไปเรียบร้อย และได้ กล่าวอ้างว่าโครงการดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบแล้ว และต่อมาฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬาได้ ประสานงานกับฝ่ายทรัพยากรบุคคลว่าจะขอจัดจ้างผู้ช่วยปฏิบัติงานให้มีสถานภาพเช่นเดียวกับ ลูกจา้ งสนามกีฬา มเี พียงสวสั ดกิ าร ๕,000 บาทตอ่ คนเทา่ นั้น ฝ่ายทรัพยากรบุคคลจึงต้องดาเนินการ จัดจ้างผู้ช่วยปฏิบัติงานให้กับฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา ภายหลังจะขอรับสิทธิ์ในการรับเงินค่า ครองชพี ชั่วคราว จึงได้เสนอให้ปรบั เงินในโครงการเพอ่ื มาจา่ ยใหก้ บั ผู้ช่วยปฏบิ ตั งิ านแทน ผู้อานวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา ขอทราบว่าฝ่ายวิทยาศาสตร์ การกีฬาจะขอนาเงินที่ได้โอนให้ศูนย์ กกท. ภาค ๑ – ๕ ไปจ่ายเพื่อเป็นค่าครองชีพชั่วคราวให้กับ ผชู้ ่วยปฏบิ ตั งิ านได้หรอื ไม่ ผู้อานวยการฝา่ ยการตรวจสอบฝา่ ยใน เพิ่มเติมว่า ในการจัดทารายละเอียด โครงการต่างๆ จะต้องทราบจานวนการจ้างผู้ช่วยปฏิบัติงานก่อนเสนอขออนุมัติกรอบการจ้าง คณะกรรมการ กกท. ผู้อานวยการฝ่ายการคลัง เสนอว่า กรณีนี้จะต้องขออนุมัติกรอบการจ้าง ผู้ช่วยปฏิบัติงานเพิ่มเติมจากคณะกรรมการ กกท. และจะต้องขออนุมัติเพิ่มเติมเงินทุนต้ังเป็นเงิน สารองเพ่ือจา่ ยเปน็ ค่าครองชีพชั่วคราวใหก้ ับผู้ชว่ ยปฏิบัติงานกลุ่มน้ีดว้ ย รองผู้ว่าการฝ่ายการบริหาร ต้ังข้อสังเกตว่า กรณีท่ีไม่มีรายละเอียดการ จัดจ้างผู้ช่วยปฏิบัติงานไว้ในโครงการ ฯ และเป็นการจัดจ้างที่สูงกว่าเสมียนจะต้องได้รับความ เห็นชอบจากคณะกรรมการ กกท. ก็เทา่ กับว่าเงินเดอื นที่ไดจ้ ่ายไปนัน้ มีปญั หา กรณีเดียวกันนี้แต่ให้ถือ เสมือนว่ามีการจัดจ้างผู้ช่วยปฏิบัติงาน เงินเดือนท่ีได้จ่ายไปก็สามารถจ่ายได้ แต่การจ่ายค่าครองชีพ ชวั่ คราวจะสามารถจ่ายย้อนหลังได้หรือไม่ เป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาอย่างรอบครอบ แต่ท้ังนี้ที่ต้อง พิจารณาถงึ มาตรการควบคุม ในเรอื่ งการดาเนนิ การจดั จ้าง ตลอดจนการตรวจสอบโครงการ ฯ โดยมี ฝ่ายนโยบายและแผนเป็นผูล้ งชอื่ กากับ มติที่ประชุม มอบหมายให้รองผู้ว่าฝ่ายการกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์ การกีฬาและผู้อานวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล รับไปพิจารณาแนวทางการแก้ไขเรื่องการจ่ายค่า
- 150 - ครองชพี ชั่วคราวให้กับผู้ปฏิบัติงานส่วนภูมิภาค ๕ ภาค ซ่ึงจัดจ้างจากแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้ จ่ายงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ รายการที่ ๐๓/๐๓๔ การดาเนินงานสถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬาส่วน ภูมิภาค จานวน ๒๐ คน กรณีไม่อยู่ในกรอบของลูกจ้าง กกท. ที่ได้รับความเห็นชอบจาก คณะกรรมการ กกท. หากได้ข้อสรุปอย่างไร ขอให้นาเสนอเรื่องเข้าท่ีประชุมผู้อานวยการฝ่ายและ สานัก เพอ่ื พจิ ารณาต่อไป ๔.๓ การพิจารณามาตรการสานักผู้ว่าการ ด้านการจัดระเบียบวาระการ ประชุมคณะกรรมการ กกท. และการประชุมผอู้ านวยการฝ่ายและสานัก ผู้อานวยการสานกั ผู้ว่าการ แจง้ วา่ ตามทไี่ ดพ้ จิ ารณาเห็นว่ากรณีท่ีฝ่ายและ สานักส่งระเบียบวาระเรื่องที่จะนาเสนอท่ีประชุมคณะกรรมการ และท่ีประชุมผู้อานวยการฝ่ายและ สานักกระช้ันชิดกับวันประชุม น้ัน ทาให้เกิดปัญหาในการปฏิบัติงานของสานักผู้ว่าการ เน่ืองจากทา ให้สานักผู้ว่าการ มีเวลาจัดระเบียบวาระการประชุมจากัด ซึ่งอาจจะมีผลให้วาระเรื่องและเอกสาร ประกอบการประชุมเกิดความผิดพลาดข้ึนได้ ไม่ครบถ้วนและไม่ทันตามกาหนด และคณะทางาน จัดวางระบบควบคุมภายในพิจารณาแล้ว เห็นว่ากรณีดังกล่าวถือเป็นความเส่ียงในการปฏิบัติงาน ระดับองค์กร และคณะอนุกรรมการบริหารความเสี่ยงและควบคุมภายใน ได้เห็นชอบให้การจัดทา ระเบยี บวาระการประชมุ คณะกรรมการ กกท. และการประชุมฝ่ายและสานักท่ีไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน และไม่ทันตามกาหนด ถือเป็นความเสี่ยงระดับองค์กรเน่ืองจากเห็นว่าความผิดพลาดของเอกสาร ขอ้ มูลไม่ถูกตอ้ งและไมค่ รบถว้ น ทาให้คณะกรรมการ กกท. ไม่สามารถพิจารณากากับการดาเนินกาน ของ กกท. ได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม ทัง้ ที่ กกท. ไดจ้ ัดสง่ แผนการดาเนนิ การดังกล่าวให้คณะกรรมการ ตรวจเงินแผน่ ดนิ ตามระเบียบที่กาหนดไว้ ท้ังที่ กกท. ต้องรายงานผลการควบคุมภายในตามแผนการ ปรับปรุงการควบคุมภายในระดับองค์กร ให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้กากับดูแล และ คณะกรรมการตรวจสอบ ระเบียบและเกณฑก์ ารประเมินท่เี ก่ียวข้อง ๑. ตามระเบียบคณะการตรวจเงินแผน่ ดินวา่ ดว้ ยการกาหนดมาตรฐานการ ควบคมุ ภายใน พ.ศ. ๒๕๔๔ ซึ่งออกโดยอาศัยอานาจตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การตรวจเงนิ แผน่ ดิน พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๑๕ (๓) (ก) (ค) ดังน้ี ระเบียบข้อ ๖ ระบุให้หน่วยรับตรวจประเมินการควบคุมภายในแล้ว รายงานต่อคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้กากับดูแล และคณะกรรมการตรวจสอบ เกี่ยวกับการ ควบคุมภายในอย่างน้อยปีละหน่ึงครั้ง ภายในเก้าสิบวันนับจากวันสิ้นปีงบประมาณ เพื่อปรับปรุง การควบคุมภายในให้มีประสิทธิผลเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและความเสี่ยงท่ีเปล่ียนแปลงไป อยูเ่ สมอ ๒. ตามเกณฑ์การประเมินผลดาเนินรัฐวิสาหกิจของสานักงานคณะ กรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ได้กาหนดเกณฑ์การประเมินบทบาทของคณะกรรมการ รัฐวิสาหกิจ ข้อ ๑.๕ การประชุมคณะกรรมการการประชุมและวาระการประชุมล่วงหน้าโดยจัดให้มี
- 151 - การประชุมทุกเดือนหรอื ตามความเหมาะสม และมีการจัดกดไกลสาหรับวาระท่ีมีการซับซ้อนเพื่อให้มี เวลาในการพิจารณา และดูแลให้มีเอกสารประกอบการประชุมท่ีเพียงพอ และได้รับล่วงหน้าก่อนการ ประชุมภายในเวลาท่ีเหมาะสม ทั้งนี้ กรรมการควรเข้าประชุมคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการ ตา่ งๆ อยา่ งสมา่ เสมอ และมีส่วนร่วมในการประชุม สานักผู้ว่าการ ได้จัดทามาตราท่ีจะดาเนินการบริหารจัดการให้ฝ่ายสานัก ส่งวาระเรื่องการประชุมคณะกรรมการ กกท. และวาระการประชุมผู้อานวยการฝ่ายและสานัก ตามเอกสารทีส่ ่งใหท้ ป่ี ระชมุ แล้ว รองผู้ว่าฝ่ายบริหาร ให้ข้อสังเกตว่า การกาหนดมาตรการจัดทาระเบียบ วาระการประชุมดังกล่าว จะสามารถกระทาได้ต่อเม่ือทราบกาหนดการประชุมคณะกรรมการ กกท. ทแ่ี นน่ อน ผู้อานวยการฝ่ายการกีฬาภูมิภาค เสนอเห็นควรให้กาหนดการประชุม ผู้อานวยการฝ่ายและสานัก เป็นทุกสัปดาห์ที่ 1 ของเดือน เพ่ือจะได้มีระยะเวลาในการเตรียมข้อมูล เพิ่มเติม ก่อนนาเสนอเร่ืองเข้าท่ีประชุมคณะกรรมการ กกท. และหลังจากท่ีมีการประชุม คณะกรรมการ กกท. แล้วจะได้นาเรือ่ งมาหารือในท่ปี ระชุมผู้อานวยการฝ่ายและสานักได้ ผอู้ านวยการสานักผู้ว่าการ แจ้งว่า ในช่วงต้นปีงบประมาณ ๒๕๕๒ สานัก ผ้วู ่าการ ได้มีบนั ทึกแจง้ ให้ฝ่ายต่างๆ สง่ แผนงานในการดาเนนิ งานการจดั สง่ วาระเรื่องเขา้ ที่การประชุม คณะกรรมการ กกท. ซึ่งเป็นตัวช้ีวัดของ กกท. ด้านบทบาทของคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ ที่จะต้อง จัดทาแผนงาน/ปฏบิ ัติการประชุมฯ และได้มีบันทึกแจ้งให้ทุกฝ่ายทราบ พิจารณาตรวจสอบแผนงาน/ ปฏทิ นิ การประชุมคณะกรรมการ กกท. หากมีข้อแกไ้ ขประการใด ขอให้ส่งมายังสานักผู้ว่าการอีกครั้ง และขอให้ดาเนินงานตามแผนงาน/ปฏิทินการประชุมฯ ด้วยท้ังนี้ ในการประชุมคณะกรรมการ กกท. คร้ังท่ี ๑/๒๕๕๒ เม่ือวันท่ี ๓๐ มกราคม ๒๕๕๒ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา ประธานกรรมการ กกท. ไดก้ าหนดประชุมกรรมการ กกท. ทุกวนั ศกุ รส์ ัปดาหท์ ่ี ๔ ของเดือน รองผู้ว่าฝ่ายการบริหาร ให้ความเห็นว่า ตามร่างมาตรการท่ีจะใช้ในการ ดาเนินการจัดส่งระเบียบวาระการประชุมคณะกรรมการ กกท. ข้อ ๒. “ ฝ่ายและสานัก ท่ีมีเร่ือง นาเสนอต่อท่ีประชุมคณะกรรมการ ให้จัดส่งระเบียบวาระการประชุมพร้อมเอกสารประกอบการ ประชุมล่วงหน้า โดยให้ส่งภายในกาหนดที่สานักผู้ว่าการแจ้งไว้ หรือก่อนวันประชุมคณะกรรมการ กกท. อย่างน้อย ๑๔ วัน” นั้น หากประธานกรรมการ กกท. มีความจาเป็นนัดหมายล่วงหน้าไม่ถึง ๑๔ วัน จะมีปัญหาในการปฏิบัติ จึงเห็นควรให้ปรับให้แก้ไขเพื่อให้สามารถปฏิบัติได้จริง อีกประการ หน่ึง ทริส ต้องตรวจสอบด้วย และขอเสนอให้กาหนดการประชุมผู้อานวยการฝ่ายและสานัก ในสัปดาห์ที่ ๑ ของเดือน เพื่อจะได้ดาเนินการจัดส่งวาระการประชุมคณะกรรมการ กกท. ได้ตาม ชว่ งเวลาทก่ี าหนด มติที่ประชมุ เห็นชอบให้ปรับมาตรการควบคุมภายในในการจัดส่งระเบียบ วาระการประชุมคณะกรรมการ กกท. และการประชุมผู้อานวยการฝ่ายและสานัก เพ่ือให้สามารถ
- 152 - ปฏิบัติได้จริงเน่ืองจากทริส ต้องตรวจสอบว่าสามารถปฏิบัติได้ตามมาตรการที่วางไว้หรือไม่ และ ที่ประชุมได้กาหนดการประชมุ ผอู้ านวยการฝา่ ยและสานกั เป็นทุกสัปดาห์ท่ี ๑ ของเดือน ๔.๔ การจัดทาโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาส มหามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธนั วาคม ๒๕๕๔ ผู้อานวยการสานักผู้ว่าการ แจ้งว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มี หนังสือท่ี กก ๐๒๐๖.๐๑/ว ๘๔๐ ลงวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๕๒ แจ้งว่า เน่ืองในโอกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงเจริญพระชนมพรรษา ๗ รอบ ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๕ และ นายกรัฐมนตรี ได้ขอให้สานักราชเลขาธิการนาความกราบบังคมทูลพระกรุณาขอรับพระราชทาน ดาเนินการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งหากทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน จักได้ดาเนินการจัดตั้งคณะกรมการเพ่ือดาเนินงานจัดงานเฉลิมพระเกียรติต่อไป การนี้ นายกรัฐมนตรี (นายอภิสิทธ์ิ เวชชาชีวะ) ได้ให้ความเห็นชอบให้หน่วยงานของรัฐเตรียมพิจารณา จัดทาโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงเจริญพระชนม พรรษา ๗ รอบ ในวนั ที่ ๕ ธนั วาคม ๒๕๕๕ กระทรงการท่องเท่ียงและกีฬา ได้มีหนังสือที่ กก ๐๒๐๖.๐๑/ว ๘๔๑ ลง วันท่ี ๒๗ เมษายน ๒๕๕๒ ขอให้การกีฬาแห่งประเทศไทย ดาเนินการกาหนดหรือคัดเลือกโครงการ/ กิจกรรม ต้ังแต่ปี ๒๕๕๓ ให้สอดคล้องกับระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการเสริมสร้าง เอกลักษณ์ของชาติ พ.ศ. ๒๕๔๙ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๗ รอบ หรือ ๘๔ พรรษา ในวันท่ี ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ พร้อมท้ังกาหนด ผู้รับผิดชอบ จานวน ๒ คน เพื่อจะได้แต่งตั้งเป็นคณะกรรมการในระดับกระทรวงฯโดยจัดส่งให้ ผู้อานวยการสานักผู้ตรวจราชการกระทรวง ภายในวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๒ สาหรับหลักการให้ ดาเนินการตามแนวกาหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เน่ืองในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ในวันท่ี ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ดงั น้ี ๑) โครงการและกิจกรรมต้องมวี ัตถุประสงค์อย่างใดอยา่ งหนึ่ง ๒) การจัดทาโครงการและกิจกรรมให้คานึงถึงความเหมาะสม สมพระ เกียรติ ความจาเปน็ ยึดหลกั ประหยดั เป็นประโยชนต์ อ่ สงั คมโดยรวม ๓) หน่วยงานเจ้าของโครงการและกิจกรรมจะต้องมีงบประมาณในการ ดาเนนิ งาน ๔) โครงการและกิจกรรมจะต้องดาเนินงานในช่วงปีเฉลิมพระเกียรติ แต่จะเสร็จสนิ้ ภายหลงั สน้ิ เดอื นธันวาคมกไ็ ด้หากจาเป็น ๕) หน่วยงานของรัฐหรือเอกชนท่ีเสนอโครงการและกิจกรรมต้องผ่านการ พิจารณาและกลนั่ กรองจากกระทรวงเจา้ ของสงั กัด ๖) โครงการและกิจกรรมท่ีมีลักษณะเดียวกันให้มีหน่วยงานหลักเป็น ผปู้ ระสาน
- 153 - รายละเอยี ดปรากฏตามหนังสือสานักนายกรัฐมนตรี ที่ นร ๐๑๑๑/ว ๔๐๑ ลงวันท่ี ๔ มีนาคม ๒๕๕๑ จงึ เสนอเพื่อพิจารณา มตทิ ปี่ ระชมุ เหน็ ชอบใหก้ าหนดผู้รบั ผิดชอบ จานวน ๒ คน คอื ๑. นายบุญทนั มว่ งชน่ื ผนู้ วยการฝ่ายสารสนเทศและวชิ าการกีฬา ๒. นายสงั เวียน บุญโต ผ้อู านวยการฝา่ ยกฬี าสถาน ทง้ั นี้ ขอใหผ้ ู้รบั ผิดชอบ พิจารณาคดั เลือกโครงการและกิจกรรมท่ีเปน็ ไป ตามหลักเกณฑ์การพจิ ารณาคัดเลอื กโครงการและกิจกรรมเฉลมิ พระเกียรติเนื่องในโอกาส มหามงคล เฉลมิ พระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ให้กับสานกั ผวู้ ่าการ ภายในวันท่ี ๑๘ พฤษภาคม ๑๔๔๒ เพอ่ื สานักผู้ว่าการจะได้จัดส่งรายช่อื ผู้รับผิดชอบ พรอ้ มชอื่ โครงการและกจิ กรรมเฉลิมพระเกียรตฯิ ใหก้ บั กระทรวงการท่องเทยี่ วและกีฬาตอ่ ไป ๔.๕ การรายงานความคืบหน้า ปัญหา อุปสรรค ในการดาเนินงานตาม แผนงาน โครงการ ประจาปงี บประมาณ ๒๕๕๒ ของฝ่ายและสานกั ต่างๆ นายจริยา ม่วงแก้ว ผู้อานวยการกองติดตามและประเมินผล แทน ผู้อานวยการฝา่ ย นโยบายและแผน แจ้งว่า ตามท่ี กกท. ได้รับงบประมาณประจาปี พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็น เงนิ ๒,๗๘๘,๔๑๔,๘๐๐,๐๐ บาท ประกอบดว้ ย ผลผลติ ท่ี ๑ เสรมิ สร้างพัฒนากีฬาเพ่ือความเป็นเลิศเป็นเงิน ๑,๗๘๔,๔๘๗,๘๐๐ บาท ผลผลติ ที่ ๒ เสรมิ สร้างพัฒนากีฬาเพื่อการอาชีพ เปน็ เงิน ๑๗๗,๓๘๕,๐๐๐ บาท ผลผลติ ท่ี ๓ เสริมสรา้ งพฒั นาการบริการทางการกีฬา เป็นเงนิ ๘๒๖,๕๔๒,๐๐๐ บาท คณะรัฐมนตรี ได้มีมติ เมื่อวันท่ี ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ เห็นชอบ มาตรการและแนวทางเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินงบประมาณ รายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ตามท่ีกระทรวงการคลังเสนอ โดยกาหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจาปี งบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๒ สาหรับรายจ่ายลงทุนเห็นสมควรกาหนดเป้าหมายไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๔.๐๐ ของวงเงนิ งบประมาณรายจา่ ยลงทนุ ของแต่ละสว่ นราชการ ซ่งึ ผลกั ดนั ให้รายจ่ายงบประมาณ ในภาพรวมถึงร้อยละ ๙๔.๐๐ ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายโดยมีเป้าหมายเบิกจ่ายสะสม ณ สิ้น ไตรมาส ดังนี้ ไตรมาสท่ี ๑ ร้อยละ ๒๒.๕๐ ไตรมาสท่ี ๒ รอ้ ยละ ๔๖.๐๐ ไตรมาสท่ี ๓ รอ้ ยละ ๗๐.๐๐ ไตรมาสท่ี ๔ ร้อยละ ๙๔.๐๐
- 154 - ในการประชุมผู้อานวยการฝ่ายและสานัก คร้ังที่๙/๒๕๕๑ เมื่อวันท่ี ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ผู้ว่าการมีบัญชาให้ทุกฝ่ายและสานัก รายงานผลการดาเนินงาน การใช้จ่าย งบประมาณ ปัญหาอปุ สรรค และแนวทางแกไ้ ขในการดาเนนิ งานตามแผนงานทุก ๒ เดือน โดยให้เร่ิม รายงานในการประชุมผู้อานวยการฝ่ายและสานัก ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ เป็นต้นไป โดยมอบ ให้กองติดตามและประเมินผล ฝ่ายนโยบายและแผนเป็นผู้รวบรวมข้อมูลดังกล่าว สรุปนาเสนอท่ี ประชุม และได้ดาเนินการติดตามผลการดาเนินงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณตามแผนการ ปฏบิ ัติงานและแผนการใช้จา่ ยงบประมาณ ประจาปี พ.ศ. ๒๕๕๒ โดยได้นาแบบรายงาน กกท. ๐๑- ๒ ส่งใหผ้ ูร้ ับผิดชอบในแต่ละรายงานการงบประมาณ ทารายงานผลฯ ในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นประจาทุกเดือน และได้นาข้อมูลมาจัดทาสรุปผลการใช้จ่ายงบประมาณ โดยสรุปได้ในภาพรวม ดังน้ี ผลการใช้จ่ายงบประมาณสะสม ณ ไตรมาสที่ ๒ (เดือนตลุ าคม ๒๕๕๑- มนี าคม ๒๕๕๒) มีดงั น้ี งบประมาณ ๒,๗๘๘,๔๑๔,๘๐๐.๐๐ บาท คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๕๑.๖๐ แผน สงป. ๑,๔๓๘,๘๑๓,๐๒๔.๐๐ บาท คดิ เป็นร้อยละ ๕๑.๔๒ แผน D ๑,๔๓๓,๘๐๓,๓๓๔.๐๐ บาท คิดเป็นรอ้ ยละ ๔๑.๒๖ ผลการเบิกจา่ ย ๗๒๐,๐๘๓,๒๕๕.๖๙ บาท คดิ เปน็ ร้อยละ ๒๕.๘๓ รายละเอยี ดตามเอกสารที่ส่งให้ทีป่ ระชมุ จึงเสนอเพื่อพิจารณา ประธานขอทราบว่า ฝ่ายนโยบายและแผน ได้มีกระบวนการติดตามผล การดาเนินงานของแตล่ ะฝ่ายอย่างไรบ้าง นางจริยา ม่วงแก้ว ผู้อานวยการกองติดตามและประเมินผล แทน ผู้อานวยการฝ่าย ฝ่ายนโยบายและแผน แจ้งว่า ฝ่ายนโยบายและแผน ได้จัดทาสรุปข้อมูลเป็นตัวเลข และส่งให้ฝ่ายและสานักสอบถามข้อมูลอีกคร้ัง พร้อมทั้งรวบรวมปัญหาและอุปสรรคท่ีนาเสนอต่อที่ ประชุม หากฝ่ายและสานักพบว่าข้อมูลไม่ถูกต้องตรงกัน ฝ่ายนโยบายและแผนจะปรับตัวเลขให้ เป็นไปตามท่ีได้รับแจ้ง ทั้งนี้หากมีปัญหา อุปสรรคในการดาเนินงานอย่างไร ก็ให้ชี้แจงต่อท่ีประชุม เพือ่ ทราบ ผู้อานวยการฝ่ายสารสนเทศและวิชาการ เสนอว่า ฝ่ายและสานักใดที่มี ปัญหาและอุปสรรคในการดาเนินงาน เห็นควรให้นาปัญหาและอุปสรรคนั้น เสนอต่อรองผู้ว่าการใน สายงานท่ีกากับดูแล ซึ่งผู้ว่าการ จะสามารถติดตามงานได้จากรองผู้ว่าการ เพ่ือหาแนวทางการแก้ไข ปญั หาตอ่ ไปได้ ผูอ้ านวยการฝ่ายกฬี าสถานเสนอวา่ หลังจากทฝ่ี า่ ยและสานัก ได้ดาเนินการ แก้ไขปัญหาจากการดาเนินงานที่เกิดข้ึนตามคาแนะนาของกองติดตามและประเมินผลแล้ว เห็นว่า ฝ่ายและสานักควรจะรายงานผลการดาเนินงานแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เสนอต่อรองผู้ว่าการในสายงานที่
- 155 - กากบั ดแู ลและกองติดตามและประเมินผล จัดประชมุ รว่ มกนั ระหวา่ งผ้วู า่ การ ซึ่งปัญหาบางเรื่องระดับ ปฏิบตั ิการจะตอ้ งทราบ และผอู้ านวยการฝ่ายจะตอ้ งเปน็ ผู้รับผิดชอบ ประธาน แจ้งว่า จุดประสงค์ของการให้ติดตามความคืบหน้า ปัญหา อุปสรรค ในการดาเนินงานตามแผนงาน โครงการของฝ่ายและสานักต่างๆ เพ่ือเสนอในท่ีประชุมฝ่าย และสานัก นั้น ก็คือ ในแต่ละเดือนที่ผ่านมา ฝ่ายและสานักมีปัญหาและต้องการให้มีวิธีการแก้ไข ปรับปรุงอย่างไร จะได้หารือเพ่ือหาวิธีการแก้ไขกันต่อไป สาหรับวิธีการนั้น ผู้อานวยการกองติดตาม และประเมินผล จะต้องเข้าถึงปัญหา โดยการสอบถาม พูดคุยกับผู้อานวยการฝ่ายทุกฝ่าย และให้ สรุปปัญหาต่าง ๆ เสนอต่อผู้ว่าการ และรองผู้ว่าการ หากพบว่าปัญหายังไม่มีความชัดเจน จะเชิญ ฝ่ายนั้น ๆ เข้าพบเพื่อหารือ แต่ท้ังน้ี หากการนาเสนอข้อมูลด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ สาเร็จ เม่ือใดจะทาใหก้ ารบริหารงานเปน็ ไปด้วยความสะดวกรวดเรว็ มากย่ิงขนึ้ ผู้อานวยการฝ่ายสารสนเทศและวิชาการกีฬา แจง้ ว่า ขณะน้ีอย่รู ะหว่างการ พจิ ารณาคัดเลอื กบริษทั ทจี่ ะรับดาเนินการจัดทาระบบ DSS ซ่งึ ผลการดาเนินงานลา่ ชา้ ไป ๑ เดอื น มติประชุม มดี ังนี้ ๑. ให้ทุกฝ่ายและสานัก จัดเตรียมข้อมูลเก่ียวกับปัญหา อุปสรรคในการ ดาเนินวานตามแผนงาน โครงการ ประจาปีงบประมาณ 2552 เพ่ือให้กองติดตามและประเมินผล ฝ่ายนโยบายและแผน ดาเนนิ การติดตามผลการดาเนินและสอบถามปัญหา อุปสรรคในการดาเนินงาน ของแตล่ ะฝ่ายโดยการหารือกนั อย่างใกล้ชดิ ๒. ให้กองติดตามและประเมินผล จัดทาสรุปปัญหา อุปสรรคในการ ดาเนนิ งานตามแผนงานโครงการ ประจาปีงบประมาณ 2552 ของฝา่ ยและสานกั ตา่ ง ๆ ซึ่งพบว่าเป็น ปัญหาท่ีไม่สามารถดาเนินการให้เสร็จส้ินภายในปีงบประมาณนี้ได้ โดยเฉพาะเร่ืองงบลงทุนของ กกท. ท่ีจะส่งผลกระทบต่อการดาเนินงานตามตัวชี้วัด ในระบบประเมินผลการดาเนินงานของ รัฐวิสาหกจิ ของสานักงาน คณะกรรมการนโยบายรฐั วิสาหกจิ (สคร.) ๓. ให้กองตดิ ตามและประเมินผล เสนอสรปุ ผลการดาเนนิ งานตามข้อ ๒ ให้กบั ผ้วู ่าการ และรองผู้วา่ การ ทัง้ ๔ ฝา่ ย เพอ่ื พิจารณาต่อไป ๔.๖ ระบบข้อรอ้ งเรยี นของ กกท. นางจริยา ม่วงแก้ว ผู้อานวยการกองติดตามผลและประเมินผล แทน ผู้อานวยการฝ่ายนโยบายและแผน แจ้งว่า ตามท่ี กกท. เข้าสู่ระบบประเมินผลการดาเนินงานของ รฐั วสิ าหกจิ โดยมีการประเมินเรื่องการบริหารจัดการองค์กร ซ่ึงประกอบด้วย บทบาทคณะกรรมการ รัฐวิสาหกิจ การบริหารความเส่ียงการควบคุมภายใน การบริหารจัดการสารสนเทศและการบริหาร ทรัพยากรบุคคล สาหรับการควบคุมภายใน ได้กาหนดให้รัฐวิสาหกิจจัดทาระบบการรับข้อร้องเรียน การตอบสนองต่อข้อร้องเรียนการดาเนินการต่อข้อร้องเรียนโดยวิธีการต่าง ๆ เป็นต้น และในการ ประชุมคณะทางานจัดวางระบบควบคุมภายในครั้งที่ ๒/๒๕๕๒ เมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๕๒ ได้มี
- 156 - การพิจารณาร่างข้ันตอนระบบการรับข้องร้องเรียนของกกท. พร้อมทั้งพิจารณาประเด็นที่เก่ียวข้อง ตามท่ี บริษัท ทริส คอร์ปอรเ์ รช่ัน จากัด ได้ต้ังข้อสังเกตไว้ ดังนี้ ๑. ความหมายของระบบข้อรอ้ งเรยี นตามทีร่ ะบบของบริษัท ทริส ๑.๑ ข้อร้องเรียนที่เก่ียวข้องกับการดาเนินงานของรัฐวิสาหกิจ หมายถึง การร้องเรียนที่เก่ยี วข้องกับการดาเนินงาน การบริหารงานของ กกท. ท่ีมีผลกระทบโดยตรง ต่อประชาชนที่มาใช้บริการ และมีผลกระทบต่อพนักงาน เช่น มีสุนัขมากในสนาม,พนักงานพูดจาไม่ สุภาพ ๑.๒ ข้อร้องเรียนทีเ่ ก่ียวข้องกับการปฏิบัติงานที่เป็นไปตามกฎระเบียบ ข้อบังคับขององค์กร หมายถึง การร้องเรียนที่เก่ียวข้องกับบุคลากรและ หรือ กกท. ไม่ปฏิบัติตาม กฎหมายระเบียบข้อบังคับของ กกท. เช่น ประชาชนต้องการใช้สนามเพ่ือว่ิงออกกาลังกาย ในเวลา ๔ ทุม่ แต่ กกท. มรี ะเบียบที่ให้ปดิ ปะตเู วลา ๔ ทมุ่ ๒. การจาแนกช่องทางของข้อรอ้ งเรยี น ๒.๑ ข้อรอ้ งเรยี นจากเอกสาร โทรศพั ท์ โทรสาร ๒.๒ ข้อร้องเรยี นจาก Website กกท. ๓. หนว่ ยงานที่รบั ข้อร้องเรียน ๓.๑ ข้อร้องเรียนที่เก่ียวข้องกับการดาเนินงานของรัฐวิสาหกิจ ได้แก่ ผูร้ วบรวมข้องร้องเรียน สานักผวู้ า่ การ และฝา่ ยสารสนเทศและวชิ าการกฬี า ๓.๒ ข้อรอ้ งเรียนทเ่ี กยี่ วขอ้ งกับการปฏิบตั ิงานท่ีเป็นไปตามกฎระเบียบ ขอ้ บงั คบั ไดแ้ ก่ ฝา่ ยทรัพยากรบคุ คล ๔. การกาหนดระยะเวลาการตอบสนองตอ่ ข้อร้องเรียน ท้ัง ๒ ประเภท 4.1 ข้อร้องเรยี นที่เกยี่ วขอ้ งกบั การดาเนินงานของรฐั วิสาหกจิ ๔.๒.๑ แจ้งตอบสนองข้อร้องเรยี น ภายใน ๓ วัน ๔.๒.๒ ใช้ระยะเวลาในการหาข้อยุติ เพอ่ื แก้ไขตามข้อร้องเรยี น ภายใน ๑ เดอื นและมีการแจ้งความคบื หน้าให้กบั ผรู้ อ้ งเรยี นทราบทกุ ๖๐ วัน เช่นเรอ่ื งการมสี นุ ัขมาก สามารถดาเนินการได้ภายใน ๑ สปั ดาห์ ๕. ระบบการจดั เก็บสถิติ การวิเคราะห์ข้อรอ้ งเรยี นเสนอผูว้ า่ การโดยมี ระบบการจดั เกบ็ เปน็ รายเดือนและรายปี จึงเสนอเพื่อโปรดพิจารณาร่างขั้นตอนระบบการรับข้อร้องเรียนของ กกท. พร้อมทั้งพจิ ารณาประเด็นท่ีเก่ียวข้องตามที่ บริษัท ทริส คอร์ปอร์เรชั่น จากัด ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ หาก เห็นชอบ ฝ่ายนโยบายและแผน โดยกองติดตามและประเมินผลจะได้จัดทาคู่มือการดาเนินการตาม ระบบการรบั ขอ้ ร้องเรียนและเวียนแจง้ ฝ่ายและสานัก เพอื่ นาไปปฏบิ ัตติ ่อไป
- 157 - ผู้อานวยการฝ่ายสารสนเทศและวิชาการกีฬา เสนอว่า เห็นควรให้สานัก ผวู้ ่าการเปน็ ผู้รับผดิ ชอบในการรวบรวมข้อร้องเรียน ไม่ว่าจะมาจากช่องทางใด และให้ส่งข้อร้องเรียน ไปยงั ฝา่ ยท่ีรับผดิ ชอบ เพ่ือพจิ ารณาหาวธิ ีการดาเนนิ การแกไ้ ขต่อไป รองผู้ว่าการฝ่ายบริหาร เสนอว่า ร่างข้ันตอนระบบการรับข้อร้องเรียนของ กกท. ผู้รับผิดชอบช่องทาง จะรับเร่ืองและแจ้งตอบกลับผู้ร้องเรียนภายใน ๓ วัน และส่งเร่ืองให้กับ ฝ่ายท่ีเกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาหาวิธีการแก้ไขและปรับปรุง ภายใน ๑ เดือน แต่เน่ืองจากขาดการ เช่ือมโยงระหว่างฝ่ายท่ีรับผิดชอบในการหาวิธีการดาเนินการแก้ไข กับสานักผู้ว่าการ ดังนั้น ขอให้ เพิ่มเติมจุดน้ีไว้ด้วย นอกจากน้ีผู้รับผิดชอบช่องทาง จะต้องรวบรวม สรุปข้อร้องเรียน เสนอผู้ว่าการ และรองผวู้ ่าการเพือ่ ทราบ พร้อมทง้ั รวบรวมผลการดาเนนิ งานเข้าท่ีประชุมคณะทางานจัดวางระบบฯ เพื่อวิเคราะห์ทุกเดือน ซึ่งจุดนี้เป็นข้อกาหนดของบริษัท ทริส สาหรับฝ่ายที่รับผิดชอบดาเนินการ แกไ้ ข จะตอ้ งแจ้ง ความคบื หน้าให้กับผ้รู อ้ งเรียนทราบทุก ๖๐ วนั ดว้ ย ผอู้ านวยการฝา่ ยการคลัง แจง้ วา่ กรณที ่มี ีการรอ้ งเรยี นเรอ่ื งเขา้ มา แตเ่ ร่ือง ร้องเรยี นนั้นไมเ่ ก่ยี วข้องกับการดาเนนิ งานของ กกท. รองผวู้ า่ การฝ่ายบริหาร แจง้ ว่า วธิ ีการบรหิ ารสามารถกระทาได้โดยการแจง้ ตอบกลบั ผูร้ ้องเรียนว่า กกท. รับทราบ และแนะนาใหร้ ้องเรียนไปยงั หนว่ ยงานอ่นื ทเ่ี กย่ี วข้อง ผู้อานวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล ขอเพ่ิมเติมช่องทางของข้อร้องเรียน คือ ตู้รับข้อคิดเห็น เนื่องจากฝ่ายทรัพยากรบุคคล จะต้องรายงานผลการดาเนินงานด้านการรับข้อ ร้องเรยี นผ่านตูร้ ับข้อคิดเห็นให้กับกระทรวงแรงงานและบรษิ ัท ทริส ดว้ ย นางภาสินี พันธุมะบารุง หัวหน้างานบริหารความเสี่ยง แจ้งว่า ได้ประสาน กับหัวหน้างานธุรการและสารบรรณ ทราบว่า สานักผู้ว่าการ ได้จัดทาทะเบียนรับข้อร้องเรียนไว้ เรียบร้อยแล้ว โดยแยกเฉพาะการรับข้อร้องเรียนเท่าน้ัน อย่างไรก็ตาม ผู้รับผิดชอบช่องทางซึ่ง ประกอบด้วยผู้อานวยการกองจากทุกฝ่าย จะรวบรวมเรื่องและนาเข้าสู่ท่ีประชุมคณะทางานจัดวาง ระบบฯ เพ่อื ทาการวิเคราะหแ์ ละทาหน้าทต่ี ดิ ตามเรื่องอยา่ งใกล้ชดิ ดว้ ย มตทิ ปี่ ระชุม ๑. เห็นชอบร่างขั้นตอนระบบการรับข้อร้องเรียนของ กกท. โดยให้ เพ่ิมเติมการเชื่อมโยงระหว่างฝ่ายที่รับผิดชอบในการพิจารณาหาวิธีการดาเนินการแก้ไข ปรับปรุง ภายใน ๑ เดือน แล้วมีการตอบกลับไปยังสานักผู้ว่าการ เพ่ือแจ้งผู้ร้องเรียนให้รับทราบกระบวนการ ดาเนินงานต่อไป ๒. ให้เพิ่มเติมช่องทางของข้อร้องเรียน ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับระบบข้อ ร้องเรียนตามข้อสงั เกตของบริษัท ทริส คอร์ปอเรชั่น จากัด ดังน้ี ขอ้ ๒.๑ ข้อรอ้ งเรยี นจากเอกสาร โทรศัพท์ โทรสาร ตรู้ บั ข้อคิดเหน็
- 158 - ๓. มอบให้สานักผู้ว่าการ เป็นผู้รวบรวมข้อร้องเรียนจากทุกช่องทาง โดย ให้ลงทะเบียนรับเร่ืองแยกไว้เป็นประเภทรับข้อร้องเรียน และให้ติดตามความคืบหน้าการดาเนินงาน การแกไ้ ขและปรับปรุงตามขอ้ ร้องเรยี นนนั้ ๆ และนาเขา้ ท่ปี ระชมุ คณะทางานจัดวางระบบฯ ๔.๗ หลกั เกณฑ์การบริหารความขดั แย้งทางผลประโยชน์ ผู้อานวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล แจ้งว่า ตามท่ีสานักงานคณะกรรมการ นโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ได้จัดให้มีการประเมินผลการดาเนินงานของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ประจาปีบัญชี๒๕๕๑ บริษัท ไทยเรตติ้ง แอนอินฟอร์เมชั่น เซอร์วิส จากัด มีข้อสังเกตของ ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๓.๕ การบริหารทรพั ยากรบคุ คล ขอ้ ๓.๒ หลักปฏบิ ตั ิและกฎหมายทเ่ี กี่ยวขอ้ ง... ๒) การจัดการแก้ปัญหาความขัดแย้งทางผลประโยชน์ท่ีเกี่ยวข้องกับการ บริหารทรัพยากรบุคคล (HR 7-4, HR 7-5, HR 7-6, HR 7-7, HR 7-8, HR 7-9) ซ่ึงยังไม่มีหลัก ปฏิบัติว่าด้วยความขัดแย้งทางผลประโยชน์ น้ัน ฝ่ายทรัพยากรบุคคลพิจารณาแล้วเห็นว่า เพ่ือ ประโยชน์สูงสุดขององค์กรในการตอบตัวช้ีวัดดังกล่าว ในประจาปีบัญชี ๒๕๕๒ และเพื่อให้การ ดาเนินงานของ กกท. สอดคลอ้ งกับการกากบั ดแู ลท่ีดใี นรัฐวสิ าหกจิ จึงได้ยกรา่ งหลกั เกณฑ์การบริหาร ความขดั แยง้ ทางผลประโยชนข์ ึ้น เพือ่ เปน็ แนวใชถ้ ือปฏิบัตติ อ่ ไป รายละเอียดตามทส่ี ่งให้ที่ประชุมแล้ว จึงเสนอเพ่ือพจิ ารณา รองผวู้ า่ การฝ่ายบรหิ าร แจง้ ว่า ตามรา่ งหลกั เกณฑ์การบรหิ ารความขัดแย้ง ทางผลประโยชน์ ข้อ 1.3.7 พนักงานซ่ึงมีฐานะเป็นพี่น้อง บิดา มารดา บุตร สามี ภรรยา ตอ้ งไมอ่ ยูใ่ นหนว่ ยงานเดยี วกนั โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ หนว่ ยงานทมี่ บี คุ คลใดบุคคลหนงึ่ เปน็ ผ้บู ังคบั บัญชา ข้อ 2.2 ในกรณีท่ีกรรมการ ผู้บริหาร หรือพนักงานคนหนึ่งคนใดมีส่วนได้ ส่วนเสียหรืออาจมีส่วนได้ส่วนเสียกับผลประโยชน์ในเร่ืองที่กาลังมีการพิจารณาหรืออนุมัติต้องไม่เข้า ร่วมพจิ ารณาหรืองดออกเสียงในเรอื่ งนัน้ ๆ ทั้ง 2 ข้อข้างต้น กาหนดความหมายที่ยังไม่ชัดเจน เกรงว่าจะเกิดปัญหา ในทางปฏิบัติได้ มติท่ีประชุม มอบรองผู้ว่าการฝ่ายบริหาร ไปพิจารณาในรายละเอียด และ ให้อนมุ ัติหลักเกณฑก์ ารบรหิ ารความขัดแยง้ ทางผลประโยชน์ เพอ่ื ใชเ้ ป็นแนวทางถอื ปฏิบตั ิต่อไป ๔.๘ การจัดกจิ กรรมเทดิ พระเกยี รติ ๖๐ ปี บรมราชาภเิ ษก ผูอ้ านวยการสานักผวู้ า่ การ แจง้ ว่า ด้วยได้รับการประสานทางโทรศัพท์จาก ผู้อานวยการสานักผู้ตรวจราชการ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาว่า รัฐบาลจะจัดกิจกรรม เทิดพระเกียรติ ๖๐ ปี บรมราชาภิเษก ระหว่างวันที่ ๔-๕ พฤษภาคม ๒๕๕๒ ณ บริเวณสี่แยกหน้า โรงเรยี นนายร้อยพระจลุ จอมเกล้า (จปร.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ดาเนินการจ้างบริษัทท่ี รับจ้างจัดงานทาการจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติฯ แล้ว ในการนี้ กระทรวงฯ ขอเชิญผู้บริหาร ระดับสูงและพนักงาน กกท. รวมจานวน ๗๐ คน ไปร่วมงานดังกล่าว ในวันอังคารท่ี ๕ พฤษภาคม
- 159 - ๒๕๕๒ (แต่งกายสุภาพ) จึงเสนอเพ่ือทราบ ท้ังนี้เห็นควรให้ผู้ว่าการ รองผู้ว่าการทั้ง ๔ ท่าน ผ้อู านวยการฝ่ายและสานกั เข้าร่วมงาน ส่วนพนักงานแต่ละฝ่ายท่ีจะไปร่วมงานเห็นควรให้แต่ละฝ่าย ส่งรายชื่อพนักงานท่ีจะไปร่วมงานฝ่ายละ ๕ คน โดยแจ้งรายชื่อท่ีฝ่ายทรัพยากรบุคคลเพ่ือประสาน การจัดพาหนะรับ-สง่ ในการรว่ มงานดังกลา่ ว มติท่ีประชุม เห็นชอบให้ผู้อานวยการฝ่ายและสานักเข้าร่วมงานทุกท่าน และให้จัดพนักงานเข้าร่วมงานฯอีกฝ่ายละ ๕ คน โดยแจ้งรายชื่อที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล เพ่ือจะได้ ประสานพาหนะรบั - ส่งในการร่วมงานดงั กลา่ ว ระเบยี บวาระท่ี ๕ เรอื่ งอื่นๆ ๕.๑ ประธาน แจ้งว่า ในการจัดประชุมเพื่อหารือเร่ืองต่าง ๆ ภายในฝ่ายของทุกฝ่าย ประธาน จะเขา้ ร่วมประชุมดว้ ย เพอ่ื เป็นการแกไ้ ขปัญหาเรื่องการสือ่ สารองค์กร ๕.๒ ประธาน แจ้งว่า กกท.ร่วมกับบริษัท โตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย จากัด(มหาชน) จัดใหม้ ีการแข่งขันรถยนต์ รายการ Toyota Motor Sport ระหว่างวันที่ ๙ - ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๒ ณ สนามกฬี าหวั หมาก ๕.๓ ประธาน แจ้งว่า ขณะนี้บริเวณภายใน กกท. ได้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ด้านหน้า เพ่ือ ตอ้ นรับการจัดการแข่งขันกฬี าเอเชี่ยลมาเชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งท่ี ๑ โดยใช้งบประมาณจากการจัดการ แข่งขนั เกมสด์ งั กลา่ ว ๕.๔ รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ แจ้งว่า กกท. ได้รับการสนับสนุนด้าน สิทธิประโยชน์จากบริษัท AIS ด้านเครือข่ายโทรศัพท์กว่า ๒,๐๐๐ เลขหมาย ซ่ึง กกท. จะได้มอบ ให้กับพนักงาน กกท., สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย , สมาคมกีฬาจังหวัด และจังหวัดท่ีเป็นเจ้าภาพ จัดการแข่งขนั กฬี าเยาวชนแห่งชาติและกีฬาแห่งชาติ ในช่วงสิ้นปีบริษัท AIS จะนาเคร่ืองโทรศัพท์ที่มี ความทันสมัยส่งมอบให้กับ กกท. ทั้งนี้ มีมูลค่าคิดเป็นเงินทั้งสิ้น ปีละ ๙ ล้านกว่าบาท รวม ๒ ปี คิด เป็น ๑๙ ล้านบาท สาหรบั การสนบั สนนุ ในรปู เงินสด ทางบรษิ ัท AIS จะได้หารือกับผู้ว่าการต่อไป ๕.5 ประธาน แจ้งว่า ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ อาเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ได้ดาเนินการ ก่อสร้างเสร็จสิ้นแล้ว ซ่ึงขณะน้ี ฝ่ายนโยบายและแผนได้มีการจัดอบรม สัมมนาให้กับส่วนภูมิภาค ดังน้ัน จึงเห็นควรให้มีการจัดสัมมนาโดยใช้สถานท่ีแห่งนี้ นอกจากน้ี ฝ่ายทรัพยากรบุคคล อาจจะจัด ใหม้ ีการไปเย่ยี มชมสถานท่ีดงั กลา่ วด้วย ๕.๖ ประธาน แจ้งว่า สถานีทีวีกีฬา (T Sports Channel) จะย้ายสถานีไปอยู่ท่ีช่อง ESPN ซ่ึงเป็นของบรษิ ทั ทรู คอรป์ อเรช่ัน จากดั ๕.๗ ประธาน ขอให้รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ ไปพิจารณาหาวิธีการ บริหารจัดการศูนย์อาหาร (Canteen) ในศูนย์โภชนาการการกีฬาของ กกท. ท่ีได้จัดสร้างเสร็จ เรยี บรอ้ ยกว่า ๑ ปแี ล้ว
- 160 - ผู้อานวยการฝ่ายธุรกิจและสิทธิประโยชน์ แจ้งว่า รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและ สิทธิประโยชน์ ได้มีบัญชาให้กาหนดการประชุมเร่ืองการบริหารจัดการศูนย์อาหาร (Canteen) ใน ศนู ย์โภชนาการการกฬี าของ กกท. ในวันพุธท่ี ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๒ ๕.๘ ผูอ้ านวยการสานักผู้ว่าการ แจ้งว่า ในการประชุมผู้อานวยการฝ่ายและสานัก คร้ังต่อไป ขอใหก้ าหนดเป็นวนั ศุกรท์ ่ี ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๒ เวลา ๑๓.๓๐ น. เลิกประชุมเวลา ๑๖.๓๐ น. (นางสาวชุติกาญจน์ ศศิวรรณพงศ์) พนกั งานบริหารทว่ั ไป 5 ผู้จดรายงานการประชมุ (นางภัสร์สร ม่วงกล่า) ผูอ้ านวยการกองกลาง ผตู้ รวจรายงานการประชุม
- 162 - วตั ถปุ ระสงคใ์ นการจดั เกบ็ หนงั สอื ๑. เพือ่ ให้การจัดเก็บหนังสือของสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาและสถานศึกษาใน สงั กดั เป็นระบบทดี่ แี ละเป็นไปตามระเบียบสานกั นายกรัฐมนตรีวา่ ดว้ ยงานสารบรรณ พ.ศ. ๒๕๒๖ ๒. เพ่ือความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะดวกต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ สามารถค้นหา และปฏบิ ัตไิ ด้รวดเร็วขน้ึ ๓. เพ่อื ให้เจา้ หน้าท่ใี นสานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา สามารถปฏิบัติงานแทนกันได้ เม่ือเจ้าหนา้ ทค่ี นใดคนหน่ึงไมอ่ ยู่ ๔. เพื่อสร้างบรรยากาศทด่ี ีในการทางาน ๕. เพอ่ื เสริมสร้างนสิ ยั ทดี่ ีในการเก็บรกั ษาส่งิ ของใหเ้ ปน็ ระเบยี บเรียบร้อย ๖. เพ่ือรักษาหนังสือให้อยู่ในสภาพท่ีดีภายในกาหนดระยะเวลาของการเก็บและเป็นการ ปอ้ งกันมิใหห้ นังสือสูญหาย ๗. เพือ่ ความสะดวกในการควบคุม ตรวจสอบและติดตามเร่ืองต่าง ๆ ๘. เพ่ืออานวยความสะดวกแก่หน่วยงานอื่น ๆ ในการติดต่อประสานงานและเป็นแบบอย่าง ทีด่ ี ๙. เพอ่ื ความสะดวกในการคดั แยกหนงั สอื ก่อนขออนุญาตทาลาย ๑๐. เพ่ือช่วยส่งเสริมการปรับปรุงงานของสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาให้ เจรญิ กา้ วหน้า
- 163 - หนังสอื ราชการทีต่ อ้ งจดั เก็บ การเก็บหนังสือราชการหมายถึงการเกบ็ หนงั สือตามระเบียบสานกั นายกรัฐมนตรีว่าด้วยงาน สารบรรณ พ.ศ. ๒๕๒๖ หนงั สอื ราชการ คอื เอกสารทเี่ ป็นหลักฐานในราชการ ไดแ้ ก่ ๑. หนงั สือทมี่ ีไปมาระหวา่ งสว่ นราชการ ๒. หนังสือที่ส่วนราชการมีไปถึงหน่วยงานอื่นใดซึ่งมิใช่ส่วนราชการหรือท่ีมีไปถึงบุคคล ภายนอก ๓. หนงั สือทห่ี น่วยงานอน่ื ใดซ่งึ มิใช่ส่วนราชการหรอื บุคคลภายนอกมมี าถงึ สว่ นราชการ ๔. เอกสารที่ทางราชการจัดทาขน้ึ เพ่อื เป็นหลักฐานในราชการ ๕. เอกสารที่ทางราชการจัดทาข้นึ ตามกฎหมาย ระเบียบ หรือขอ้ บงั คบั สรุปได้วา่ หนงั สอื ราชการทตี่ อ้ งจัดเกบ็ ได้แก่ หนังสือราชการ ๖ ชนดิ ดงั นี้ (๑) หนังสือภายนอก (๒) หนงั สือภายใน (๓) หนงั สอื ประทับตรา (๔) หนังสอื สงั่ การ (๕) หนังสอื ประชาสมั พนั ธ์ (๖) หนงั สอื ทเ่ี จ้าหนา้ ท่ีทาข้ึนหรือรับไวเ้ ปน็ หลักฐานในราชการ หนงั สอื ราชการทง้ั ๖ ชนิดดังกล่าวข้างตน้ ต่างก็มีรูปแบบแตกต่างกันตามลักษณะของหนังสือ จัดได้ว่าเป็นเอกสารสาคัญที่ทางราชการใช้ในการปฏิบัติราชการ ใช้ติดต่อประสานงานและใช้เป็น หลักฐานเพ่ือให้งานบรรลุเป้าหมายท่ีกาหนดไว้ จึงมีความจาเป็นอย่างย่ิงที่จะต้องมีการเก็บรักษา หนังสือราชการให้คงสภาพตามลาดับความสาคัญและตามระยะเวลาท่ีกาหนดไว้ในระเบียบว่าด้วย งานสารบรรณให้ชอบด้วยระบบทีด่ ี หมายเหตุ สาหรับหน่วยงานที่ไม่ได้เป็นส่วนราชการก็มีหนังสือต่าง ๆ ที่จะต้องจัดเก็บเช่นเดียวกับ หนังสือราชการต่าง ๆ ท่ีกล่าวมาแล้วโดยอนุโลม แต่อาจเรียกว่าการเก็บหนังสือต่าง ๆ ของหน่วยงานนั้น ๆ
- 164 - ขอ้ สาคญั ๑๐ ประการในงานการเก็บหนังสือ ๑. ต้องเห็นความสาคัญของการจัดเก็บหนังสือให้เป็นระบบที่ดี ยอมทาอย่างมีเหตุผล (ทาดี ทาถกู ควรทาเปน็ แบบอย่าง เพราะเราเป็นครูหรอื เป็นตวั อย่างทด่ี ขี องครู) ๒. ผู้บริหารเห็นชอบและใหค้ วามสนบั สนุน ๓. ตอ้ งทราบวา่ จะจัดเกบ็ หนงั สืออยา่ งไร ควรอ่านคู่มือการเก็บหนังสือให้เข้าใจดีถ้าสามารถ ทาได้ควรเข้ารับการฝึกอบรมเร่ืองการเก็บหนังสือ และไปดูงานการเก็บหนังสือที่เป็นระบบเหมาะสม ด้วยจะดีมาก ๔. ต้องมีทะเบียนรหัสหนังสือของหน่วยงานเดียวกันให้เป็นระบบสากล และทราบถึงความ จาเป็นทีต่ ้องมที ะเบยี นรหัสหนงั สือ รวมท้งั รจู้ กั การใชท้ ะเบยี นรหสั หนังสอื ดว้ ย ๕. ก่อนดาเนินการจัดเก็บหนังสือต้องเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ต่าง ๆ ให้ พร้อมถ้าประสงค์จะจัดเก็บหนังสือโดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ ก็ต้องศึกษาทาความเข้าใจให้แตกฉาน และมีเจา้ หน้าทโ่ี ดยเฉพาะ ๖. ต้องจัดเก็บเร่ืองระหว่างปฏิบัติในระหว่างปีให้เข้าระบบก่อน แล้วจึงเก็บเร่ืองท่ีปฏิบัติ เสรจ็ แล้วตอนสิน้ ปี และเก็บเรื่องเดมิ ท่ีค้างเก็บหลาย พ.ศ. ให้เข้าระบบ นอกจากน้ีควรจัดเร่ืองทาลาย หนงั สือดว้ ย ๗. หนังสือท่ีจัดเก็บ ต้องมีทะเบียนรหัสหนังสือ บัญชีหนังสือส่งเก็บ ทะเบียนเก็บหนังสือ และมที ะเบยี นคมุ แฟม้ เก็บหนังสือกากบั เสมอ ๘. หนังสือที่จัดเก็บแต่ละแฟ้มต้องมีสารบัญเรื่องประจาแฟ้มกากับ เพ่ือความสะดวกในการ ตรวจค้น ๙. ตอ้ งรจู้ ักแก้ปัญหาและปรับปรงุ งานการเก็บหนงั สอื ใหบ้ ังเกิดผลดีอยเู่ สมอ ๑๐. เจา้ หน้าทต่ี ้องรว่ มแรงรว่ มใจกันเป็นอันดี และหัวหนา้ หนว่ ยงานรจู้ ักใหก้ าลังใจ ผลดีของการจัดเกบ็ หนงั สือให้ชอบด้วยระบบทีด่ ี ๑. ทาให้มีความคล่องตัวในการปฏิบัติงานและสะดวกต่อการควบคุม การตรวจค้น การยืม และการทาลายหนงั สอื ๒. ทาให้เกดิ ความเปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ยในการจัดเกบ็ หนังสือ ๓. ทาให้การจัดหน่วยงานเหมาะสม สวยงาม บรรยากาศดี ๔. ทาให้เจา้ หน้าท่ีมคี วามเอาใจใสต่ อ่ หนว่ ยงานและรกั งานมากขึน้ ๕. ทาใหเ้ จ้าหนา้ ทมี่ ีความภาคภูมใิ จในผลงานและมีชื่อเสยี งดี ๖. ทาใหเ้ กดิ ความคดิ ริเริ่มสรา้ งสรรค์ในการปรับปรงุ งาน ๗. ทาใหผ้ บู้ งั คับบญั ชามคี วามศรัทธาและพอใจในการปฏบิ ัตงิ านของหมู่คณะ ๘. ชว่ ยสร้างนิสยั ทดี่ ใี หแ้ ก่เจา้ หน้าท่ีและเสรมิ สรา้ งความรักความสามัคคีในหมคู่ ณะ
- 165 - ๙. ชว่ ยให้การปฏิบตั งิ านอ่นื บงั เกิดผลดีตามไปดว้ ย ๑๐. เป็นการปฏิบตั ิท่ชี อบดว้ ยระเบียบและเปน็ แบบทีด่ ีแก่หน่วยงานอ่นื ปญั หา อปุ สรรค และขอ้ เสนอแนะเก่ยี วกับการจดั เก็บหนงั สอื ๑. ปัญหา อุปสรรค ๑.๑ อัตรากาลังเจ้าหน้าท่ีมีไม่เพียงพอ ซ่ึงจะเป็นปัญหาในการพิจารณาการแบ่งงานให้ ปฏิบัตจิ ดั ทา ๑.๒ เจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน ซึ่งเคยจัดเก็บหนังสือแบบเดิมอาจคิดว่าเป็นการเพ่ิมภาระ การปฏิบัตงิ านโดยไม่จาเป็นเพราะเหตุว่าเคยชนิ กบั สภาพเดมิ ๑.๓ เจา้ หนา้ ทผ่ี ูร้ บั ผดิ ชอบในงานสารบรรณไม่มีความรู้ความเข้าใจเร่ืองการเก็บหนังสือ ทง้ั ยังไม่เคยได้รบั การอบรมในเรอื่ งการจัดเก็บหนังสอื อย่างเปน็ ระบบงานทีด่ ีมาก่อน ๑.๔ หน่วยงานขาดแคลนเครื่องมอ เคร่ืองใช้ วัสดุครุภัณฑ์ที่จาเป็น เช่น ตู้เหล็กชนิด ๔ ลิ้นชัก ช้ันพักเร่ือง เครื่องจัดทารหัส แฟ้มชนิดต่าง ๆ เนื่องจากงบประมาณในการจัดซื้อวัสดุ ครภุ ณั ฑ์ในแต่ละปไี ด้รบั ในวงเงนิ จากดั ๑.๕ หน่วยงานส่วนใหญ่คบั แคบทาให้เกดิ ความไม่คล่องตัว ในการจัดเก็บหนังสือให้เป็น สดั ส่วนและไมส่ ะดวกในการปฏบิ ตั ิงาน ๑.๖ บุคลากรในหน่วยงาน ส่วนใหญ่ยังให้ความสนใจเก่ียวกับระเบียบงานสารบรรณ ค่อนขา้ งน้อย มักจัดเก็บหนังสือตามความเคยชิน ตามความรู้สึก ตามคาบอกเล่า ไม่ได้ศึกษาแนวทาง ปฏบิ ัติอยา่ งจริงจงั ๑.๗ หัวหน้าหน่วยงานไม่หม่ันตรวจสอบ และติดตามการเก็บหนังสือเท่าท่ีควร นอกจากนี้บางท่านมองเห็นความสาคัญและให้ความสนับสนุนงานจัดเก็บหนังสืออย่างมีระบบยังไม่ดี เทา่ ที่ควร ๑.๘ การนาวิธีการจัดเก็บหนังสือให้เป็นระบบมาใช้ ในระยะเร่ิมแรกอาจทาให้เกิด ความรู้สกึ ตอ่ บคุ ลากรในหน่วยงานว่าเป็นเรอ่ื งยุ่งยาก สับสน เพราะยงั ไม่ได้ลงมอื ปฏิบัติ ๒. ขอ้ เสนอแนะ ๒.๑ จะต้องชี้แจง อบรม บุคลากรในหน่วยงานให้เข้าใจระบบการเก็บหนังสือที่จะ นามาใชโ้ ดยชี้แจงให้เห็นถงึ ประโยชน์และความสะดวกในการปฏิบัตงิ าน ๒.๒ ในระยะเริ่มแรกควรสารวจหน่วยงาน และวัสดุอุปกรณ์ท่ีจะใช้ในการจัดระบบการ เกบ็ หนังสือ และควรจัดตามสภาพท่ีมีอยไู่ ปกอ่ น โดยวางแผนให้มีการปรับปรุงให้เต็มรูปแบบในโอกาส ตอ่ ไป ๒.๓ จัดหาอุปกรณ์ เคร่ืองมือ เครื่องใช้ในการจัดระบบการเก็บหนังสือตามกาลัง งบประมาณเท่าท่ีสามารถทาได้
- 166 - ๒.๔ เสนอของงบประมาณเพิ่มเติมจากหน่วยงานต้นสังกัด หรือพยายามหาเงินตาม กาลังความสามารถ เพอื่ ซอ้ื วัสดคุ รุภณั ฑท์ ีย่ งั ขาดอยู่ ๒.๕ การนาคูม่ อื การเก็บหนังสือและทะเบยี นรหัสหนังสือมาใช้ จะต้องช้ีแจงให้บุคลากร ในหน่วยงานทั้งหมดทราบว่า ในหลักการและแนวทางปฏิบัติได้จัดทาโดยยึดตามระเบียบสานัก นายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. ๒๕๒๖ ซ่ึงกาหนดให้ส่วนราชการ กาหนดวิธีการเก็บ หนังสือให้เหมาะสมตามขั้นตอนของการปฏิบัติงาน ทั้งกาหนดให้มีรหัสตามหมวดหมู่ของหนังสือและ รหัสประจาแฟ้มให้เป็นตามระบบท่ีเหมาะสม เพื่อให้การบริการเอกสารในหน่วยงานมีประสิทธิภาพ ยิ่งข้นึ
- 60 - - - 167 - - - - - - - 60 - - - X - -
- 168 -
- 170 - คอมพวิ เตอร์กบั งานสารบรรณ ในปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT : Information Technology) เข้ามามีบทบาทต่อ ชีวิตประจาวันของมนุษย์มากขึ้น และนาไปใช้ในการปฏิบัติงานกันอย่างมีประสิทธิภาพ การนา คอมพิวเตอร์มาเป็นเคร่ืองมือในการจัดเก็บและบันทึกข้อมูลในงานสารบรรณเป็นการช่วยลดขั้นตอน ในการทางาน เช่น การรบั – ส่ง ร่าง พมิ พ์ จัดเกบ็ และการสบื คน้ ขอ้ มูล ก่อนท่ีจะนาคอมพิวเตอร์มาใช้ในงานสารบรรณ เรามารู้จักคอมพิวเตอร์กันก่อนดีกว่าว่า คอมพวิ เตอร์เกี่ยวขอ้ งกับงานสรรบรรณอย่างไร คอมพิวเตอร์ คือ เครื่องมือหรือเคร่ืองจักรท่ีประกอบข้ึนจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ท่ีมี คุณสมบตั ิในการรบั ขอ้ มลู เข้า จดจา จดั เกบ็ ขอ้ มูลไดแ้ ละสามารถนาข้อมูลมาคานวณหรือประมวลผล เพ่อื ให้ได้ผลลพั ธท์ ี่ตอ้ งการได้
- 171 - การใช้คอมพิวเตอรใ์ นการปฏิบัตงิ านสารบรรณ เราสามารถนาคอมพวิ เตอร์มาใชใ้ นการปฏิบตั ิงานสารบรรณได้ ดังน้ี 1. งานพิมพ์เอกสาร งานตรวจเอกสารได้อย่างรวดเร็ว ย่อขยายตามความประสงค์และ ประหยัด 2. ทราบความเคล่อื นไหวของหนังสือหรือเอกสารทีร่ บั – ส่งกันภายในหน่วยงาน 3. งานเก็บขอ้ มูล ระเบยี บ หนงั สอื สาหรบั ใช้ตรวจสอบและอ่นื ๆ 4. ช่วยในการตรวจและค้นหาหนงั สอื และขอ้ มลู ตา่ ง ๆ 5. จัดทาหนงั สือราชการตามระเบยี บว่าด้วยงานสารบรรณท้งั 6 ชนิดเป็นระเบียบเรียบร้อย น่าอา่ น และสามารถ Print Out เอกสารได้ 6. รบั ส่งขา่ วสาร หนังสือราชการโดยผา่ นระบบ Internet หรอื Intranet 7. จัดเก็บหนังสือระหว่างปฏิบัติ ที่ปฏิบัติเสร็จแล้ว ให้เป็นระบบที่ดีได้ไม่จากัด และไม่ เปลืองแฟม้ 8. สามารถเรียกดรู ายละเอียดตา่ งๆ ของหนงั สอื เอกสาร ทะเบยี น รหสั หนังสือได้ 9. ช่วยในการติดตอ่ สื่อสารอยา่ งมีประสิทธิภาพ ชว่ ยขยายความรู้ ความเข้าใจ 10.งานสะดวก รวดเรว็ ทันสมัย นอกจากน้ัน เรายังสามารถนาคอมพวิ เตอร์มาใชใ้ ห้สอดคล้องกบั ลักษณะงานที่ปฏบิ ตั ไิ ด้ คอื 1. คอมพิวเตอร์กบั งานรับ – ส่ง 1.1 รบั เอกสารโดยการ Printout จากระบบ Internet หรือ Intranet 1.2 ลงทะเบียนรบั สง่ เอกสารด้วยระบบปฏิบตั กิ ารคอมพวิ เตอร์ 1.3 ส่งหนังสือราชการโดยผา่ นระบบ Internet หรือ Intranet 1.4 ทาใหก้ ารปฏบิ ตั ิงานเป็นระบบทีด่ ี คล่องตัว ประหยัดเวลา 2. คอมพิวเตอรก์ บั ระเบียบงานสารบรรณ และการใช้หนงั สือภายนอก 2.1 สามารถจัดพิมพ์หนังสือต่าง ๆ ได้รวดเร็ว และสามารถแก้ไขได้ง่าย ถูกต้องตาม รูปแบบเป็นมาตรฐานเดียวกนั 2.2 จดั ทาเป็นหนงั สอื ภายนอกที่ถกู ตอ้ งเหมาะสม สวยงามและเก็บไวด้ ูเปน็ แบบอย่างทด่ี ี 2.3 สามารถจดั ทาได้ครง้ั ละหลายๆ ฉบับ 2.4 เก็บข้อมูลเก่ียวกับระเบียบงานสารบรรณ และคาอธิบายประกอบระเบียบ เพ่ือ ประโยชน์ ในการปฏิบตั งิ าน 2.5 ในเผยแพร่ ประชาสัมพนั ธ์แบบหนงั สอื ภายนอกได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ 2.6 ทาใหก้ ารปฏบิ ัตงิ านมรี ะบบท่ดี ี ผลงานมีประสิทธภิ าพ
- 172 - 3. คอมพิวเตอร์กับงานรา่ งหนังสือ 3.1 ใส่แบบฟอร์มมาตรฐานในการร่างหนังสือได้ และถ้าเป็นเร่ืองเดิมที่มีเน้ือหาคล้ายกัน สามารถปรบั แกจ้ ากฉบับเดมิ ได้ ทาให้รา่ งหนงั สอื ได้รวดเร็ว ไม่สิ้นเปลืองกระดาษ 3.2 สามารถตรวจทานความถูกต้องเรียบร้อยได้จากร่างหนังสือทั้ง 6 ชนิด คือ หนังสือ ภายนอก หนังสือภายใน หนังสือประทับตรา หนังสือสั่งการ หนังสือประชาสัมพันธ์ และหนังสือที่ เจา้ หน้าทจ่ี ัดทาข้ึนหรือรบั ไวเ้ ปน็ หลกั ฐานในราชการ ท่ไี ดด้ าเนินการจดั เกบ็ ไวใ้ นเครื่องได้ 3.3 สะดวก ประหยัดกระดาษร่างหนังสอื 4. คอมพิวเตอรก์ ับงานการบันทึก การเสนอหนงั สือและขอ้ สงั เกตต่าง ๆ เก่ียวกับงานสารบรรณ 4.1 สามารถทางานได้รวดเรว็ บันทึกข้อมลู หรือรายงานได้รวดเรว็ 4.2 ทาให้สะดวกในการคน้ หา ให้บริการข้อมูลไดร้ วดเรว็ 4.3 สามารถบันทกึ ได้ถูกตอ้ งตามรูปแบบการบนั ทกึ 4.4 สามารถแก้ไขข้อมลู ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว 4.5 สะดวกในการบันทกึ ไดห้ ลายกรณี สามารถเก็บแบบบนั ทกึ ต่างๆ ไวใ้ นคอมพวิ เตอร์ได้ 4.6 เก็บข้อมูลเกี่ยวกับข้อสังเกตต่างๆ เกี่ยวกับงานสารบรรณไว้เพื่อใช้พิจารณาตรวจสอบ ดา้ นการปฏบิ ตั ิงานสารบรรณได้อยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสม 5. คอมพวิ เตอรก์ ับงานการทารายงานการประชมุ 5.1 สามารถจัดทารายงานการประชมุ ไดเ้ ปน็ มาตรฐาน และเป็นรูปแบบเดียวกัน 5.2 ตรวจร่าง แกไ้ ขไดร้ วดเร็ว 5.3 สามารถจดั เกบ็ รายงานการประชมุ ได้ทกุ คร้ังอย่างเป็นระบบ สะดวกตอ่ การค้นหา 5.4 สามารถสบื ค้นข้อมลู จากรายงานการประชมุ ได้อยา่ งรวดเร็ว 6. คอมพิวเตอร์กับงานเก็บหนงั สือและการทาลายหนงั สือ การใช้คอมพวิ เตอร์ในงานการเกบ็ หนงั สือ มีวิธกี ารใช้ ดงั นี้ 6.1 จัดเก็บโดยใช้โปรแกรมวินโดว์ ในระบบปฏิบัติการไมโครซอฟต์เวิร์ด (Microsoft Word) ซง่ึ มีข้นั ตอนการปฏิบตั ิงานพอสรปุ ง่าย ๆ ไดค้ ือ เมื่อมีเอกสารที่จะจัดเก็บเราสามารถจัดแบ่งหมวดหมู่ของเอกสารท่ีจะจัดเก็บโดยสร้างเป็น Folder และต้ังชื่อ Folder ดังกล่าวเป็นชื่อเอกสารที่ต้องการได้ท้ังภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เช่น Folder หนงั สอื เขา้ Folder หนังสอื Folder ระเบยี น จานวน Folder จะสร้างที่ Folder ก็ได้ หรือแฟ้มเอกสารจะสร้างก่ีแฟ้มก็ได้ จะตั้งชื่อเป็น เอกสารอะไรก็ได้ และในแต่ละแฟ้มจะจัดเก็บเอกสารก่ีล้านหน้าก็ได้ (ตามประสิทธิภาพของเคร่ือง คอมพิวเตอร์) ท่ีจัดเก็บใน Folder ก็ได้เปรียบกับแฟ้มเอกสารท่ีเราจัดเก็บไว้ในตู้นั่นเอง จะสังเกตว่า ถ้าผู้ใช้ Program มีความสามารถเพียงพอ และตัวคอมพิวเตอร์ที่เราใช้เช่ือมโยงกับเครือข่าย Internet สมบูรณ์ งานสารบรรณที่เราทาบนคอมพิวเตอร์ ก็ไม่จาเป็นต้องใช้กระดาษในการเก็บหรือ นาเสนอข้อมูล หรือผู้ที่จะลงนามอนุมัติเรื่องท่ีเสนอ จะอยู่ที่ไหนก็ได้ในโลก ถ้าที่น้ันมีคอมพิวเตอร์ที่ เชอื่ มโยงกับเครือขา่ ย Internet
- 173 - ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์กับงานสารบรรณ 1. ทางานไดส้ ะดวก รวดเรว็ ประหยัดเวลา ประหยัดวัสดุสานกั งาน 2. สามารถสรา้ งแบบฟอร์มและจัดทาเอกสารได้ครงั้ ละหลายฉบับ 3. ลดขน้ั ตอนการปฏิบัติงานและใช้บคุ ลากรปฏบิ ตั ิงานน้อย 4. ประหยัดเน้ือท่ีในการจัดเก็บเอกสาร ทาให้การจัดหน่วยงานเหมาะสม สวยงาม บรรยากาศดี 5. คอมพวิ เตอรม์ ีหน่วยความจาที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถจัดเก็บหนังสือและข้อมูลได้ใน ปริมาณมาก 6. ช่วยในการตรวจ คน้ หาหนงั สือเอกสารต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว 7. สามารถติดตามข้อมลู ระหว่างการปฏบิ ัติงานได้อยา่ งสะดวก รวดเร็ว 8. มีระบบการรักษาความปลอดภัยของเอกสารที่เป็นรูปแบบ สามารถควบคุมและบริหาร จดั การได้ 9. ให้บรกิ ารค้นหาขอ้ มูลย้อนหลังได้สะดวก โดยใช้ระบบปฏิบตั กิ ารคอมพิวเตอร์ 10.จัดทาข้อมูลการนาเสนอประกอบการบรรยาย เร่ืองงานสารบรรณ โดยใช้โปรแกรม พาวเวอร์พอ้ ยท์ (Program power point) และสตอร่บี อร์ด (Story board) 11.ใช้ประโยชน์ในด้านการส่ือสาร ประสานงาน และสั่งการระหว่างส่วนราชการและ หน่วยงานตา่ ง ๆ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี
- 174 - ปญั หาและอปุ สรรคในการใชค้ อมพวิ เตอร์ 1. ผู้บริหารบางทา่ นยังไมม่ ีความรู้ความสามารถในการใชค้ อมพวิ เตอร์ 2. เจา้ หน้าทผี่ ้ใู ชข้ าดความร้แู ละทกั ษะในการใชค้ อมพิวเตอร์ ไม่สามารถใช้คอมพวิ เตอร์ได้ เต็มศักยภาพ 3. ไม่มีเจ้าหน้าที่ประจาเครือ่ งคอมพวิ เตอร์ หรอื มไี ม่เพียงพอ 4. คอมพิวเตอร์มไี มเ่ พยี งพอและไม่ท่วั ถึง 5. อุปกรณท์ ่ีใช้กับเคร่อื งคอมพิวเตอรม์ ีไมเ่ พียงพอ เช่นเครื่องพิมพ์ เคร่ืองสแกนเนอร์ หรือ ปัญหาจากการติดตงั้ ระบบ Internetเปน็ ตน้ 6. วัสดุ อุปกรณ์ในการจัดซ่อมบารุงรักษาคอมพิวเตอร์ราคาแพง ค่าใช้จ่ายสูงทาให้ สนิ้ เปลอื งงบประมาณ 7. ใช้คอมพิวเตอร์เปน็ เวลานาน ๆ อาจมีปัญหาต่อสุขภาพ เช่น สายตา ปวดหลัง ปวดเอว เปน็ ตน้ 8. ในปัจจุบันคอมพิวเตอร์พัฒนาอย่างรวดเร็วทาให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีใช้งานอยู่ ตกรนุ่ เร็ว 9. ใชค้ อมพวิ เตอรท์ ี่ไม่มีประสทิ ธภิ าพ ทาใหข้ ้อมูลเสียหาย เปน็ อปุ สรรคต่อการปฏบิ ัตงิ าน 10. การทางานของเคร่อื งคอมพวิ เตอร์มปี ัญหาเกี่ยวกับไวรัส และเคร่ืองเสีย ทาให้ผลเสียใน การใช้งานและการเกบ็ ขอ้ มลู ต่าง ๆ 11. การจัดฝึกอบรมให้มีความรู้ด้านการใช้คอมพิวเตอร์กับงานสารบรรณยังมีน้อยและไม่ ท่วั ถงึ การใชอ้ ินเตอรเ์ น็ตกบั งานสารบรรณ Internet เป็นระบบเครือข่ายที่มีขนาดใหญ่ท่ีสุดซึ่งประกอบด้วย เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ย่อย ๆ จานวนมากที่กระจายอยู่ท่ัวโลก เชื่องโยงกันภายใต้ระบบการสื่อสารเดียวกันและภายใต้ กฎเกณฑ์วัตถุประสงคร์ ว่ มกนั งานสารบรรณสามารถนาระบบ Internet มาใช้ในการบริหารงาน โดยเฉพาะการรับ-ส่ง หนงั สอื เอกสาร ขอ้ ความหรือรปู ภาพไดด้ ว้ ยวิธีตา่ ง ๆ คือ 1. E-mail : electronic mail หรือจาหมายอิเล็กทรอนกิ ส์ การใช้บริการรับ – ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ จะมีลักษณะรูปแบบเช่นเดียวกับการส่ง จดหมายทางไปรษณีย์ เพียงแต่จะเปลี่ยนเป็นการส่งจากระบบคอมพิวเตอร์ของผู้ส่งไปยังระบบ คอมพิวเตอร์ของผู้รับผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต โดยเราสามารถส่งเอกสารจดหมายที่อยู่ใน รูปแบบดิจิตอล ซึ่งมีการระบุผู้ส่งต้นทางและผู้รับปลายทางท่ีชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นตัวหนังสือ รูปภาพ กราฟฟิก วดิ โี อ โปรแกรม หรอื แฟ้มข้อมลู ประเภทต่าง ๆ ได้ โดยจะดาเนินการจัดส่งไปยังผู้รับภายใน เวลาเพียงไมก่ ่นี าทเี ทา่ น้ัน จะเห็นได้ว่าการรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์จะทาได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าการส่งจดหมายธรรมดาหรือ EMS เป็นอย่างมาก ทาให้บริการนี้กลายเป็น บรกิ ารทม่ี ปี ระโยชนอ์ ย่างยง่ิ
- 175 -
- 176 -
- 177 -
- 178 -
- 179 - คาอธบิ ายการพิมพห์ นงั สือราชการภาษาไทย ด้วยโปรแกรมการพิมพ์ในเคร่ืองคอมพิวเตอรแ์ ละตวั อย่างการพิมพ์ จาก http://www.opm.go.th/opminter/itcenter/officialletter.htm
- 180 -
- 181 -
- 182 -
- 183 - ตารางเปรยี บเทยี บการต้ังคา่ เมอ่ื พิมพโ์ ดยเครอื่ งพมิ พด์ ีดกบั โปรแกรมในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ การตงั้ คา่ เมื่อพิมพ์โดยเครื่องพิมพด์ ดี การตง้ั ค่าเมื่อพิมพ์โดยโปรแกรมในเคร่อื ง 1. ในบรรทดั หนึ่งใหต้ ้งั จังหวะเคาะไว้ ๗๐ จงั หวะ คอมพิวเตอร์ เคาะ 1. การกั้นค่าไมบ้ รรทัดระยะการพมิ พ์ อยู่ 2. การพิมพ์ ๑ หน้ากระดาษขนาด เอ ๔ โดยปกติ ระหวา่ ง ๐ – ๑๖ เซนตเิ มตร ใหพ้ มิ พ์ ๒๕ บรรทัด 2. ตงั้ ค่าระยะบรรทดั เป็น หน่งึ เทา่ หรือ 3. ตราครุฑสาหรบั แบบพมิ พ์ มี ๒ ขนาด Single จานวนบรรทัดในหนงึ่ หน้าตามความ เหมาะสม สงู ๓ เซนตเิ มตร สาหรับหนงั สอื ภายนอก และหนังสือประทบั ตรา 3. ขนาดตราครุฑ สูง ๓ เซนตเิ มตร ใช้สาหรับการจัดทา สงู ๑.๕ เซนติเมตร สาหรบั หนังสอื ภายใน กระดาษตราครุฑ สูง ๑.๕ เซนติเมตร ใชส้ าหรับการจดั ทา 4. บรรทดั แรกของกระดาษควรอยู่ห่างจาก กระดาษบันทึกข้อความ ขอบกระดาษด้านบนประมาณ ๕ เซนตเิ มตร การวางตราครุฑ ใหว้ างห่างจาก ขอบกระดาษบนประมาณ ๑.๕ 5. การขนึ้ บรรทัดใหม่ = ปดั ๑ เซนตเิ มตร 6. การขนึ้ บรรทัดย่อหน้าใหม่ = ปดั ๑ บิดขึน้ ๑ 7. ระยะห่างจากขอบกระดาษดา้ นซา้ ยมือประมาณ 4. เมื่อใช้ Template มาตรฐานบรรทดั แรก ของหนงั สือจะอยหู่ ่างจากขอบกระดาษ ๓ เซนติเมตร ด้านบนประมาณ ๔ – ๔.๕ เซนติเมตร 5. การขน้ึ บรรทัดใหม่ = 1 Enter 6. การข้นึ บรรทัดขอ้ ความใหม่ = 1 Enter + Before 6 pt 7. ระยะหา่ งจากขอบกระดาษดา้ นซา้ ยมอื ประมาณ ๓ เซนตเิ มตร 8. ระยะห่างจากขอบกระดาษดา้ นขวาไมน่ ้อยกวา่ 8. ระยะหา่ งจากขอบกระดาษด้านขวาไม่น้อย ๒ เซนติเมตร กวา่ ๒ เซนติเมตร 9. การยอ่ หน้าใหเ้ ว้นหา่ งจากระยะก้ันหนา้ ๑๐ 9. การย่อหน้าใหเ้ ว้นหา่ งจากระยะกน้ั หนา้ จงั หวะเคาะ ๒.๕ เซนตเิ มตร 10.การพมิ พ์คาลงทา้ ย ให้มรี ะยะบรรทดั ห่างจาก 10.การพิมพ์คาลงท้าย ใหม้ ีระยะบรรทัดหา่ ง บรรทัดสดุ ทา้ ยภาคสรุป = ปัด ๒ จากบรรทดั สุดทา้ ยภาคสรปุ = 1 Enter + Before 12 pt ๑๑.การเวน้ ระยะใหล้ งชอ่ื = ปัด ๒ บิดขึ้น ๑ ๑๑.การเว้นระยะใหล้ งชอื่ = 4 Enter
- 184 -
- 185 -
- 186 -
- 187 -
- 188 -
- 189 -
- 190 -
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350