สาระทักษะการพัฒนาสังคม

247 คำอธิบายรายวิชา สค32005 สงครามนวิ เคลียร์ จำนวน 1 หน่วยกิต ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจตระหนกั เกยี่ วกับภูมิศาสตร์ ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครองในโลก และนำมาปรับใชใ้ นการดำเนินชวี ติ เพื่อความมั่นคงของชาติ ศึกษาและฝกึ ทักษะเกีย่ วกบั เรอื่ งตอ่ ไปน้ี 1. ยุคการคน้ พบพลังงานนวิ เคลยี ร์ 2. คุณและโทษของพลังงานนวิ เคลยี ร์ 3. สงครามโลกครง้ั ที่ 2 และการใชพ้ ลงั งานนวิ เคลียรข์ องสหรฐั อเมริกา 4. ผลของสงครามนวิ เคลียร์ 5. โลกเข้าสูส่ งครามเยน็ 6. การสะสมอาวธุ นวิ เคลียร์และการทดลองใช้อาวุธนิวเคลียรข์ องประเทศต่าง ๆ 7. ท่าทีขององคก์ ารสหประชาชาติและประเทศต่าง ๆ ในความพยายามระงบั การสะสมและ การทดลองอาวุธนวิ เคลียร์ การจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ จัดให้มีการศึกษาค้นคว้าข้อมูลที่เก่ียวข้องกับสงครามนิเคลียร์ ต้ังแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จากเอกสาร อินเตอร์เนต็ ผรู้ ู้ แบ่งกลุ่มอภิปราย จดั นิทรรศการ และจัดให้ผู้เรยี นติดตามข่าวสารความ เคลอื่ นไหวในการใชอ้ าวธุ นิวเคลียร์ในปัจจบุ ัน พร้อมจัดทำรายงานนำเสนอในรูปแบบตา่ ง ๆ การวัดและประเมินผล จัดให้ผู้เรียน ทดสอบความรู้ก่อนเรียน ระหว่างเรียน และหลังเรียน ทดสอบทัศนคติผู้เรียน เกี่ยวกับการแก้ปัญหาระหว่างประเทศของสังเกตความสนใจ ความพึงพอใจ และการมีสว่ นร่วมในการ จดั กระบวนการเรียนรขู้ องประเทศตา่ ง ๆ ในโลก ด้วยการสรา้ งอาวุธและทดลองอาวธุ นวิ เคลยี ร์ หรือการ แก้ปัญหาดงั กล่าวดว้ ยสันติวิธี

248 รายละเอียดคำอธบิ ายรายวชิ า สค32005 สงครามนิวเคลียร์ จำนวน 1 หน่วยกติ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเข้าใจตระหนักเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครองในโลก และนำมาปรบั ใช้ในการดำเนนิ ชวี ิตเพื่อความมน่ั คงของชาติ ท่ี หวั เรอื่ ง ตัวชี้วดั เน้ือหา จำนวน (ช่วั โมง) 1 สงคราม 1. อธิบายข้อมูลท่ี 1. ยคุ การค้นพบพลงั งาน นวิ เคลยี ร์ เกี่ยวข้องกบั สงคราม นวิ เคลยี ร์ 40 นวิ เคลยี รไ์ ด้ถูกต้อง 2. คุณและโทษของพลังงาน 2. ออกแบบตรวจสอบ นิวเคลยี ร์ ความเชอื่ มโยงขอ้ มลู ที่ เกย่ี วขอ้ งกบั สงคราม 3. สงครามโลกคร้ังท่ี 2 และ นวิ เคลยี ร์ตัง้ แตอ่ ดีต การใช้พลงั งานนวิ เคลยี ร์ จนถงึ ปจั จบุ ันไดอ้ ย่าง ของประเทศสหรัฐอเมรกิ า สมเหตผุ ล 4. สงครามเย็น 3. มเี จตคตกิ ารใช้วิธกี าร 5. การสะสมอาวุธนิวเคลียร์ แก้ปัญหาระหวา่ ง ประเทศดว้ ยการใช้ และการทดลองใช้อาวุธ สนั ตภิ าพปฏิบตั กิ ารใช้ นิวเคลยี ร์ของประเทศตา่ ง ในทกุ รูปแบบ ๆ 6. ทา่ ทขี ององคก์ ร สหประชาชาติ และ ประเทศต่าง ๆ เก่ยี วกบั อาวธุ นิวเคลียร์ทีป่ ระเทศ ต่าง ๆ นำมาใช้

249 รายละเอียดคำอธบิ ายรายวชิ า สค32006 เส้นทางการค้าโลก จำนวน 1 หนว่ ยกติ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรูร้ ะดบั มีความรู้ ความเข้าใจตระหนกั เกยี่ วกบั ภูมศิ าสตร์ ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครองในโลก และนำมาปรบั ใชใ้ นการดำเนินชีวิตเพือ่ ความมั่นคงของชาติ ศึกษาและฝึกทกั ษะเกยี่ วกบั เร่อื งตอ่ ไปนี้ 1. เสน้ ทางการค้าโลกยุคโบราณ 2. สาเหตุการเปล่ยี นแปลงเสน้ ทางการคา้ โลก 3. เส้นทางการค้าโลกยุคปจั จุบนั 4. เส้นทางการค้าของไทย 5. แนวโนม้ เส้นทางการค้าของไทยในอนาคต 6. แนวโนม้ การพฒั นาอาชีพที่เกย่ี วข้องกบั การคา้ ของไทยที่สอดคลอ้ งกบั การคา้ ของโลกใน อนาคต การจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ศึกษาค้นควา้ ขอ้ มูลเส้นทางการค้าโลกจากแหล่งข้อมลู ต่าง ๆ จากสื่อสิ่งพิมพ์ ซีดี อินเตอร์เน็ต ผ้รู ู้ ทำปา้ ยนเิ ทศ อภิปราย จดั ทำรายงาน นำเสนอในรูปแบบท่ีหลากหลาย การวัดและประเมินผล สงั เกตความสนใจและการมีสว่ นรว่ มของผู้เรยี น แบบทดสอบก่อนเรียนระหว่างเรยี น และหลังเรียน คุณภาพการทำรายงาน การอภิปราย การจัดทำป้ายนิเทศ

250 รายละเอยี ดคำอธบิ ายรายวชิ า สค 32006 เส้นทางการค้าโลก จำนวน 1 หน่วยกติ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นรู้ระดบั มีความรู้ ความเข้าใจตระหนักเก่ียวกับภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครองในโลก และนำมาปรับใช้ในการดำเนินชีวติ เพ่อื ความมัน่ คงของชาติ ที่ หวั เรือ่ ง ตัวชว้ี ัด เนอ้ื หา จำนวน (ช่ัวโมง) 1 เสน้ ทางการค้า 1. อธิบายเส้นทางการคา้ 1. เสน้ ทางการคา้ โลกยคุ โบราณ โลก 40 โลกยุคโบราณทสี่ ำคัญได้ ท่ีสำคญั ทางบก เชน่ เสน้ ทางสาย ไหม ทางทะเล 1.1 ชาติมหาอำนาจทาง การค้ายคุ โบราณ เช่น จนี ฮอลันดา 1.2 สินคา้ ในยุคโบราณ 2. อธบิ ายสาเหตุ 2. สาเหตุการเปลี่ยนแปลง การเปล่ียนแปลงเส้นทาง เสน้ ทางการคา้ โลกท่สี ำคญั ๆ คือ การค้าโลก การปฏวิ ัตอิ ุตสาหกรรม 3. อธิบายเส้นทางการค้า 3. เส้นทางการค้าโลกยคุ ปจั จบุ นั โลกในยุคปจั จบุ ันได้ ทางทะเล เมอื งทา่ ทส่ี ำคัญ ทาง อากาศ ชาติมหาอำนาจทาง การคา้ ในยุคปจั จบุ ัน 4. เสน้ ทางการค้าของไทยกับ 4. อธบิ ายเส้นทางการค้า ประเทศตา่ ง ๆ ทางเรอื ทางบก ของไทยในปัจจบุ ันได้ ทางอากาศ คลังสินค้า เมอื งท่า 5. สามารถวเิ คราะห์ 5. แนวโนม้ เส้นทางการค้าของ แนวโนม้ เส้นทางการคา้ ไทยในอนาคต ของไทยในอนาคตและ 5.1 การพฒั นาท่าเรอื นำข้อมูล มา ประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ติ ได้ 5.2 การพัฒนาทางรถไฟ 5.3 การพัฒนาดา้ นการ

251 ที่ หัวเรอื่ ง ตวั ชวี้ ดั เน้ือหา จำนวน (ชั่วโมง) ขนสง่ ทางอากาศ และ ทางทะเล 5.4 แนวโนม้ การตลาดของ ไทยและการพัฒนาสนิ ค้า 5.5 แนวโนม้ การพฒั นา อาชพี ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การคา้ ของ ไทยทส่ี อดคล้องกบั การค้า ของ โลกในอนาคต

252 คำอธิบายรายวิชา สค32007 เศรษฐกิจระหว่างประเทศ จำนวน 1 หน่วยกติ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรูร้ ะดบั มีความรู้ ความเข้าใจตระหนกั เก่ยี วกับภมู ศิ าสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครองในโลก และนำมาปรับใชใ้ นการดำเนินชวี ิตเพอื่ ความม่นั คงของชาติ ศึกษาและฝึกทักษะเก่ียวกับเร่ืองตอ่ ไปน้ี 1. ความหมาย ความสำคัญของการค้าระหวา่ งประเทศ 2. การเงนิ ระหวา่ งประเทศ 3. เศรษฐกจิ ระหว่างประเทศ 4. การรวมกลมุ่ ระหว่างประเทศ การจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ ศึกษาเรียนรู้จากการค้นข้อมูล จากเอกสาร เว็บไซต์ ผู้รู้ ครูผู้สอน วิทยากร สื่อ ตำรา หน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง และเขียนรายงาน(เป็นรายบุคคล หรือ กลุ่ม) จัดให้ผู้เรียนได้อภิปรายถึงผลดี ผลเสียของการท่ีประเทศไทยไดด้ ำเนินการค้าระหว่างประเทศกับประเทศในโลกพร้อมสรุปนำเสนอใน รูปแบบที่หลากหลาย การวดั และประเมินผล ใบงาน การรายงาน การมสี ่วนร่วม แลกเปลีย่ นความคิดเห็น ผลงาน แบบทดสอบ

253 รายละเอียดคำอธิบายรายวิชา สค32007 เศรษฐกจิ ระหว่างประเทศ จำนวน 1 หน่วยกติ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นรู้ระดบั มีความรู้ ความเข้าใจตระหนักเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครองในโลก และนำมาปรบั ใช้ในการดำเนินชวี ติ เพื่อความมน่ั คงของชาติ ที่ หัวเร่ือง ตวั ช้วี ัด เนือ้ หา จำนวน (ช่ัวโมง) 1 การคา้ ระหว่าง ประเทศ 1. อธบิ ายความหมาย 1. ความหมายและความสำคญั ของ 40 และ ความสำคญั การค้าระหวา่ งประเทศ ของการคา้ ระหว่าง 2. นโยบายการค้าระหว่างประเทศ ประเทศ 3. แนวคดิ พน้ื ฐานท่ีเกย่ี วขอ้ ง 2. อธบิ ายนโยบาย กบั การคา้ ระหว่างประเทศ การค้าระหวา่ ง 4. บทบาทขององค์การความรว่ มมอื ประเทศ ทางเศรษฐกจิ ในภูมิภาคต่าง ๆ ของ 3. วเิ คราะห์ผลเสยี ของ โลก เชน่ WTO, NAFTA, EU, ความรว่ มมือทาง JMF เศรษฐกจิ ระหว่าง 5. ปจั จัยต่าง ๆท่นี ำไปสกู่ ารพง่ึ พา ประเทศในรปู แบบ การแขง่ ขนั การขดั แย้ง และการ ตา่ ง ๆ ประสานประโยชนท์ างเศรษฐกจิ ไทยกับตา่ งประเทศ 6. ผลกระทบจากการดำเนนิ กจิ กรรม ทางเศรษฐกิจระหวา่ งประเทศ 7. ปัจจยั ต่าง ๆทนี่ ำไปสู่การกดี กนั ทาง การคา้ ในการค้าระหว่างประเทศ 2 การเงนิ ระหวา่ ง 4. อธิบายระบบการเงนิ 8. เงนิ ตราตา่ งประเทศและอตั รา ประเทศ ระหว่างประเทศ และ แลกเปลี่ยนเงินตรา อัตราการแลกเปลยี่ น 9. ดุลการชำระเงนิ 3 เศรษฐกจิ ระหว่าง ระหวา่ งประเทศได้ 1. การค้าและการลงทนุ ระหว่าง ประเทศของไทย 1. อธบิ ายการ ประเทศ

254 ที่ หวั เรื่อง ตวั ชีว้ ดั เนื้อหา จำนวน (ช่ัวโมง) เคลอื่ นไหวของ 2. ผลกระทบของการเปิดเสรที าง เศรษฐกจิ โลก และ เศรษฐกจิ ของประเทศท่ีมผี ลตอ่ เศรษฐกจิ ของ ภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ประเทศไทยได้ ภาคการคา้ และบรกิ าร 2. วเิ คราะหผ์ ลกระทบ การเปดิ เสรที าง เศรษฐกจิ ในยคุ โลกาภวิ ฒั นท์ มี่ ผี ล ต่อการเมอื งไทยได้ 4 บทบาทสำคัญ 1. อธบิ ายบทบาท 1. บทบาทสำคัญของการรวมกลุ่มทาง ของการรวมกลมุ่ สำคัญของการ เศรษฐกจิ ระหว่างประเทศ ทางเศรษฐกิจ รวมกลมุ่ ทาง 2. ลกั ษณะการรวมกลุม่ ทางเศรษฐกจิ เศรษฐกจิ ระหวา่ ง 3. กลมุ่ ทางเศรษฐกจิ ในภมู ภิ าค ประเทศได้ ต่าง ๆ

255 คำอธบิ ายรายวชิ า สค32008 เศรษฐศาสตร์เกษตร จำนวน 2 หน่วยกติ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดับ มีความรู้ ความเข้าใจตระหนักเก่ียวกับภมู ศิ าสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครองในโลก และนำมาปรับใชใ้ นการดำเนินชีวติ เพ่ือความมนั่ คงของชาติ ศึกษาและฝกึ ทักษะเก่ียวกบั เร่ืองตอ่ ไปน้ี 1. ความหมาย ความสำคัญ ขอบเขตและปญั หาเศรษฐศาสตร์การเกษตร 2. โครงสร้างเศรษฐกจิ การเกษตรของชุมชน / ประเทศไทย 3. ทฤษฎีการผลติ 4. ตน้ ทุนการผลติ 5. พฤติกรรมของผบู้ ริโภค 6. การตลาดสินค้าเกษตร การจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ ให้ผู้เรียนศึกษาค้นหาข้อมูลจากสื่อ หนังสือ คู่มือ เว็บไซต์ ผู้รู้ วิทยากร เครือข่าย การทำเวทีประชาชน เชญิ วทิ ยากรมาใหค้ วามรู้ แบง่ กลุม่ อภปิ รายในประเด็น “พฤติกรรมของผูบ้ ริโภคใน ประเทศไทย มีผลดี ผลเสียตอ่ โครงสร้างเศรษฐกิจการเกษตรของชมุ ชนอย่างไร เพราะเหตุใด” พรอ้ ม สรปุ ผลและนำเสนอในรูปแบบที่หลากหลาย การวดั และประเมนิ ผล ใบงาน การรายงาน การมสี ว่ นรว่ ม การอภปิ รายกลมุ่ ผลงาน และการทดสอบ

256 รายละเอยี ดคำอธิบายรายวิชา สค32008 เศรษฐศาสตร์เกษตร จำนวน 2 หน่วยกติ ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ มีความรู้ ความเข้าใจตระหนักเก่ียวกับภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครองในโลก และนำมาปรบั ใช้ในการดำเนินชีวิตเพือ่ ความมนั่ คงของชาติ ที่ หวั เร่อื ง ตัวชีว้ ัด เนือ้ หา จำนวน (ชวั่ โมง) 1 เศรษฐศาสตร์ 1. บอกความหมาย 1. ความหมาย ความสำคัญ เกษตร 80 ความสำคัญขอบเขต และ ขอบเขต และปัญหาทาง ปัญหาทางเศรษฐศาสตร์ เศรษฐศาสตรเ์ กษตร เกษตรได้ 2. อธิบายโครงสรา้ ง 2. โครงสร้างเศรษฐกจิ การเกษตร เศรษฐกจิ การเกษตรของ ของชมุ ชน / ประเทศไทย ชมุ ชน / ประเทศไทยได้ 2.1 ลกั ษณะระบบเศรษฐกจิ ของประเทศไทย / ชมุ ชน 2.2 ลักษณะการผลิต 3. วิเคราะหแ์ ละเลือก 2.3 โครงสรา้ งการตลาด ตัดสนิ ใจทจ่ี ะเลอื กผลิต 3. ทฤษฎกี ารผลิต ผลผลิตทางการเกษตรได้ 3.1 ความหมายการผลติ 4. อธิบายวิธีการทีจ่ ะ 3.2 การตดั สนิ ใจของผผู้ ลติ เลอื กบริโภคสินค้าตาม 4. ตน้ ทุนการผลติ ข้อจำกัดของรายได้ 4.1 ความหมาย 4.2 รายไดจ้ ากการขายสนิ ค้า 4.3 การตัดสนิ ใจกำหนด ปริมาณการผลิต 4.4 อปุ ทานของตลาด 5. อธิบายวิธกี ารวเิ คราะห์ 5. พฤติกรรมของผ้บู รโิ ภค และ เปรยี บเทียบการ อุปสงค์ของสนิ ค้า เคลอ่ื นไหวของราคาสินคา้ 5.1 ทฤษฎพี ฤตกิ รรมผู้บรโิ ภค เกษตรในชุมชนและ 5.2 ทางเลอื กของผบู้ รโิ ภค ประเทศได้ 5.3 อัตราการทดแทนกนั ของ

257 ที่ หวั เรอื่ ง ตวั ชีว้ ัด เนือ้ หา จำนวน (ช่ัวโมง) สนิ ค้า 5.4 งบประมาณ 5.5 ดลุ ยภาพของผบู้ รโิ ภค 5.6 ผลการเปลย่ี นแปลงของ ราคาสนิ ค้าต่อการบรโิ ภค 5.7 ผลทางการทดแทนกันของ สินคา้ และผลทางรายได้ 5.8 ความยึดหยุ่นของอุปสงค์ ตอ่ ราคาและรายได้จากการขาย สนิ ค้า 5.9 ความยดึ หย่นุ ของอุปสงค์ ตอ่ รายได้ 6. การตลาดสินคา้ เกษตร /ชุมชน /ประเทศ 6.1 ความหมาย ความสำคญั ลักษณะของตลาดสนิ ค้าเกษตร 6.2 ความสำคัญระหว่างตลาด สนิ ค้าเกษตร และเกษตรกร 6.3 การวเิ คราะห์ตลาดสินคา้ เกษตร 6.4 สถาบันตลาดสนิ คา้ เกษตร 7. ราคาสินค้าเกษตร / ชมุ ชน / ประเทศ 7.1 ความสำคัญ การกำหนด ราคาสนิ ค้าเกษตร 7.2 ลกั ษณะการเคล่ือนไหว ตามกาลเวลาสนิ ค้าเกษตร 7.3 การแทรกแซงราคาของรฐั บาล

258 คำอธบิ ายรายวชิ า สค32009 กฎหมายลขิ สิทธ์ิไทย จำนวน 1 หน่วยกิต ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนร้รู ะดับ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจตระหนักเก่ยี วกับภมู ศิ าสตร์ ประวตั ิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครองในโลก และนำมาปรับใช้ในการดำเนินชวี ติ เพอื่ ความมั่นคงของชาติ ศึกษาและฝกึ ทักษะเกีย่ วกับเรอ่ื งตอ่ ไปน้ี 1. ความเปน็ มา ความหมายและความสำคญั เกีย่ วกับกฎหมายลขิ สิทธ์ิ 2. ผลงานทีไ่ ดร้ บั ลิขสทิ ธ์ิ 3. ขอบเขตคุ้มครองงานสร้างสรรค์ 4. ลขิ สิทธข์ิ องลูกจ้าง 5. งานไม่มลี ิขสิทธิ์ 6. โทษการละเมิดลิขสิทธิ์ 7. เวลาคุม้ ครองงานงานลิขสทิ ธิ์ การจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ 1. จดั ใหผ้ ู้เรียนศึกษาหาความรจู้ ากผรู้ ู้ ส่อื ตำรา วารสาร หนังสือพมิ พ์แล้วจัดทำรายงาน ผลงานท่ี ไดล้ ิขสทิ ธข์ิ องประเทศไทย และประเทศต่าง ๆ ในโลก (เปน็ รายบคุ คลหรอื กลมุ่ ) 2. จัดหาวรรณกรรม นาฏกรรม ศิลปกรรม ฯลฯ หรือผลงานที่ได้รับลิขสิทธ์ิมาจัดไว้ในแหล่ง เรียนรู้ 3. แบ่งกลุ่มให้อภิปรายประเด็น “ ถ้าท่านจะซื้อวรรณกรรม นาฏกรรม ศิลปกรรม โสตทัศน์วัสดุ ภาพยนตร์ ฯลฯ ทา่ นจะเลอื กซอื้ สิง่ ที่มลี ขิ สทิ ธ์หิ รือไม่ เพราะเหตใุ ด” การวัดและประเมนิ ผล การสงั เกต การเขา้ รว่ มกจิ กรรม การอภิปราย ผลงาน และการทดสอบ

259 รายละเอียดคำอธิบายรายวชิ า สค32009 กฎหมายลิขสิทธ์ไิ ทย จำนวน 1 หน่วยกิต ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ มีความรู้ ความเข้าใจตระหนักเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมื อง การปกครองในโลก และนำมาปรบั ใช้ในการดำเนนิ ชวี ติ เพือ่ ความมั่นคงของชาติ ท่ี หัวเร่อื ง ตวั ช้วี ัด เนอ้ื หา จำนวน (ชว่ั โมง) 1 กฎหมายลขิ สิทธิ์ 1. อธิบายเกยี่ วกบั ความ 1. ความเป็นมาและ ไทย 40 เป็นมาและ ความสำคญั เก่ียวกบั ความสำคญั เกย่ี ว กฎหมายลิขสิทธิไ์ ทย กบั กฎหมายลิขสิทธิ์ ไทยได้ 2. อธบิ ายและตระหนัก 2. ผลงานท่ไี ดร้ บั ลิขสทิ ธิ์ ในผลงานทไี่ ดร้ บั ด้าน ลิขสทิ ธิ์ 2.1 วรรณกรรม 2.2 นาฏศลิ ป์ 2.3 ภาพยนตร์ 2.4 การศกึ ษา 2.5 เพลง 2.6 ฝนเทยี ม 2.7 แก้มลงิ ฯลฯ 3. อธิบายเกี่ยวกับ 3. ขอบเขตคุ้มครองงาน ขอบเขตคุ้มครอง สรา้ งสรรค์ งานสร้างสรรค์ได้ 4. อธิบายเก่ยี วกับ 4. ลิขสทิ ธิข์ องลกู จา้ ง ลิขสทิ ธิ์ ของลกู จา้ ง ได้ 5. อธิบายเกี่ยวกับงานไม่ 5. งานไม่มีลิขสทิ ธิ์ มลี ขิ สทิ ธ์ิได้ 6. อธบิ ายเกีย่ วกับการ 6. การละเมดิ ลิขสทิ ธ์ิ และ ละเมิดลขิ สิทธ์ิ โทษ โทษการละเมดิ ลขิ สิทธิ์ การละเมดิ ลิขสทิ ธิ์ได้

260 ที่ หัวเร่ือง ตวั ชี้วัด เนือ้ หา จำนวน (ชัว่ โมง) 7. อธิบายเกี่ยวกบั เวลา 7. เวลาคมุ้ ครองงาน คุ้มครองงานงาน งานลขิ สทิ ธ์ิ ลิขสทิ ธไ์ิ ด้

261 คำอธิบายรายวิชา สค32010 การละเมดิ สิทธดิ า้ นทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม จำนวน 1 หน่วยกติ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนร้รู ะดับ มีความรู้ ความเขา้ ใจตระหนกั เกีย่ วกับภมู ิศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครองในโลก และนำมาปรบั ใช้ในการดำเนนิ ชีวติ เพ่อื ความมัน่ คงของชาติ ศึกษาและฝึกทกั ษะเกยี่ วกับเร่อื งตอ่ ไปนี้ 1. ความหมาย ความสำคัญของ ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการละเมดิ สทิ ธิ 2. การละเมิดสิทธิทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ( ที่ดิน ,ป่าไม้ ,การจับปลา ,สัตว์ป่า สงวน และสงิ่ แวดล้อม) 3. กฎหมายท่ีเก่ียวข้องและอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดล้อม และความหลากหลาย 4. วิเคราะห์กรณีศึกษาการละเมิดสิทธิทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ของไทย และของโลก 5. แนวทางการแกไ้ ขปัญหาการละเมดิ สทิ ธทิ รพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม ของไทย และ ของโลก การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ใหผ้ ู้เรยี นค้นควา้ ข้อมูลการละเมิดสิทธทิ รัพยากรธรรมชาติในประเทศไทย และโลกพรอ้ มเขียน รายงาน จัดให้ศึกษาดูงานในสถานการณ์จริง ฝึกทักษะการทำกระดานข่าวเปรียบเทียบการศึกษา ทรพั ยากรธรรมชาติ ของประเทศและโลก แบง่ กลุ่ม อภปิ รายในประเด็น “แนวทางการแกไ้ ขการละเมิด สิทธิทรัพยากรธรรมชาตใิ นประเทศ และโลกเชิงเปรียบเทียบ” การวดั และประเมนิ ผล สังเกต การเข้าร่วมกจิ กรรม สง่ รายงาน การอภิปรายเชงิ เปรยี บเทยี บ การทดสอบ

262 รายละเอยี ดคำอธิบายรายวิชา สค32010 การละเมดิ สิทธิดา้ นทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม จำนวน 1 หน่วยกติ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ มีความรู้ ความเข้าใจตระหนักเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครองในโลก และนำมาปรับใชใ้ นการดำเนินชวี ิตเพื่อความม่ันคงของชาติ ที่ หวั เรอ่ื ง ตวั ชว้ี ดั เนอื้ หา จำนวน (ชวั่ โมง) 1 การละเมดิ สิทธดิ า้ น 1. อธิบายและเห็น 1. ความหมาย ความสำคญั 40 ทรัพยากรธรรมชาติ ความสำคัญของ ของทรพั ยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ ม ทรัพยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ ม และสง่ิ แวดลอ้ ม 2. อธิบายเกีย่ วกบั การ 2. การละเมดิ สิทธิ ละเมิดสทิ ธิ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ ทรพั ยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และสง่ิ แวดล้อม 2.1 ที่ดิน และกฎหมายท่ี 2.2 ทรัพยากรธรรมชาติ เกีย่ วขอ้ ง / และสงิ่ แวดลอ้ ม อนุสญั ญาระหวา่ ง 2.3 ป่าไม้ ประเทศว่าด้วยการ 2.4 สัตวป์ ่าสงวน อนรุ ักษ์ 2.5 การจับปลา ทรัพยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ มได้ 3. อธบิ ายและเห็น 3. กฎหมายทีเ่ กย่ี วขอ้ ง / คณุ คา่ ของ อนุสัญญาระหว่างประเทศ ทรัพยากรธรรมชาติ วา่ ดว้ ยการอนุรกั ษ์ และสงิ่ แวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และ 4. แนะนำให้ผ้อู นื่ ส่ิงแวดล้อม หลีกเล่ียง ในการ 4. ประโยชนข์ อง ละเมดิ สิทธิดา้ น ทรัพยากรธรรมชาติ และ ทรัพยากรธรรมชาติ ส่ิงแวดลอ้ ม เชน่ ปา่ ไม้ และสง่ิ แวดลอ้ มได้ ลำธาร ฯลฯ

263 ที่ หัวเรือ่ ง ตัวช้ีวัด เนอ้ื หา จำนวน (ชว่ั โมง) 5. โทษของการละเมดิ สทิ ธิ เชน่ จำคกุ ปรบั ทง้ั ปรบั ทง้ั จำคุก 6. แนวทางและวิธปี อ้ งกนั การละเมิดสิทธดิ ้าน ทรพั ยากรธรรมชาติ และ สงิ่ แวดล้อม

264 คำอธบิ ายรายวชิ า สค32011 ธรรมาภิบาลสร้างสังคมสงบสขุ จำนวน 1 หน่วยกิต ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดับ มีความรู้ ความเข้าใจตระหนักเกยี่ วกับภูมศิ าสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครองในโลก และนำมาปรบั ใช้ในการดำเนินชวี ิตเพอื่ ความม่ันคงของชาติ ศึกษาและฝึกทักษะเกี่ยวกบั เร่อื งตอ่ ไปน้ี 1. หลกั ธรรมาภบิ าล 9 หลัก 2. ประโยชนข์ องการใชห้ ลักธรรมาภบิ าล 3. การนำหลกั ธรรมาภบิ าลไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั การจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ให้ผู้เรียนศึกษาเรียนรู้จากส่ือเอกสาร ตำรา ผู้รู้ การจัดอภิปรายแลกเปล่ียนเรียนรู้เก่ียวกับ องค์ประกอบของหลักธรรมาภิบาล การวิเคราะห์ สถานการณ์ จำลอง การสรุปผลการเรียนรู้ และนำเสนอในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น การจัดทำกระดานข่าว ยกตัวอย่างการนำหลักธรรมาภิบาล ไปใช้ หรอื การเขยี นรายงานเป็นกลุม่ ฯลฯ การวดั และประเมินผล การสงั เกต การจัดทำรายงาน การยกตวั อย่างการนำหลักธรรมาภบิ าล ไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั

265 รายละเอยี ดคำอธบิ ายรายวิชา สค32011 ธรรมาภบิ าลสรา้ งสงั คมสงบสขุ จำนวน 1 หน่วยกติ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเข้าใจตระหนักเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครองในโลก และนำมาปรบั ใชใ้ นการดำเนินชวี ิตเพื่อความมัน่ คงของชาติ ที่ หัวเรอ่ื ง ตัวชี้วัด เนอ้ื หา จำนวน (ชวั่ โมง) 1 ธรรมาภบิ าลสร้าง 1. อธบิ ายความหมายของ 1. หลกั ธรรมาภิบาล 9 หลกั 40 สังคมสงบสขุ หลักธรรมาภบิ าลได้ 1.1 นติ ิธรรม 1.2 คุณธรรม 1.3 โปร่งใส 1.4 คุ้มค่า 1.5 รว่ มมือ 1.6 รบั ผิดชอบ 1.7 ความสอดคล้อง 1.8 ความเสมอภาค 1.9 ความมีประสทิ ธิภาพ 2. บอกประโยชน์ของการ 2. ประโยชนข์ องหลกั นำหลกั ธรรมาภบิ าลแต่ ธรรมาภบิ าลแต่ละด้าน ละดา้ นไปใช้ใน ชีวิตประจำวันของแต่ ละคนได้ 3. เป็นผนู้ ำในการนำหลกั 3. การนำหลักธรรมาภบิ าล หลกั ธรรมาภบิ าลไปใช้ แตล่ ะด้านไปปรับใช้ ในชีวติ ประจำวันได้ ในชวี ิตประจำวนั อยา่ งมีคุณค่า

266 คำอธิบายรายวชิ า สค32012 รูปแบบการเมอื งการปกครองของประเทศมหาอำนาจในโลก จำนวน 1 หน่วยกติ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเขา้ ใจตระหนักเกีย่ วกับภมู ศิ าสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครองในโลก และนำมาปรบั ใชใ้ นการดำเนินชวี ิตเพ่อื ความมั่นคงของชาติ ศกึ ษาและฝกึ ทกั ษะเกย่ี วกับเร่ืองตอ่ ไปน้ี 1. ความหมายของการเมอื งการปกครอง 2. รูปแบบการเมอื งการปกครองของประเทศมหาอำนาจของโลก 3. การเปรยี บเทียบการปกครองของประเทศไทยกับประเทศมหาอำนาจของโลก การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ 1. การศกึ ษาขอ้ มลู จากแบบเรยี น อนิ เตอรเ์ นต็ 2. การอภิปรายแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ เร่ืองการเมืองการปกครองของประเทศมหาอำนาจของโลก 3. เปรยี บเทยี บ และวเิ คราะห์ความแตกต่างระหวา่ งการปกครองของไทยและประเทศ มหาอำนาจของโลก การวดั และประเมนิ ผล ใบงาน การสรปุ รายงาน อภิปราย สอบ วัดผล

267 รายละเอยี ดคำอธบิ ายรายวิชา สค32012 รูปแบบการเมอื งการปกครองของประเทศมหาอำนาจในโลก จำนวน 1 หน่วยกติ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดบั มีความรู้ ความเข้าใจตระหนักเก่ียวกับภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครองในโลก และนำมาปรบั ใช้ในการดำเนนิ ชีวิตเพอ่ื ความมัน่ คงของชาติ ที่ หัวเร่ือง ตวั ชี้วัด เนื้อหา จำนวน (ชัว่ โมง) 1 การเมืองการ 1. อธบิ ายการเมืองการ 1. ประวัติความเป็นมาของ ปกครองของ ปกครองของประเทศ การเมืองการปกครองของ 40 ประเทศ มหาอำนาจได้ ประเทศมหาอำนาจ มหาอำนาจใน 1.1 รูปแบบของรฐั โลก 2. อธบิ ายเปรียบเทียบ 1.2 รปู แบบการปกครอง ความแตกตา่ งของ 1.3 โครงสรา้ ง การเมอื ง การปกครอง ของประเทศ 2. การเมอื งการปกครองของ มหาอำนาจของโลกได้ ประเทศมหาอำนาจของโลก ยุโรป อเมรกิ า 3. เปรียบเทยี บการเมอื ง การปกครองของไทย 3. ความแตกตา่ งของการเมอื ง กับประเทศมหาอำนาจ การปกครองของไทยกบั ของโลก ประเทศมหาอำนาจของโลก

268 คำอธบิ ายรายวชิ า สค32013 การคา้ มนษุ ย์ จำนวน 1 หน่วยกิต ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรูร้ ะดบั มคี วามรู้ ความเขา้ ใจตระหนกั เกีย่ วกับภูมศิ าสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครองในโลก และนำมาปรับใชใ้ นการดำเนนิ ชีวติ เพื่อความมน่ั คงของชาติ ศกึ ษาและฝึกทกั ษะเกยี่ วกับเรื่องตอ่ ไปนี้ 1. ปฎิญญาสากลวา่ ดว้ ยสิทธิมนุษยชน ขอ้ 4 , 13 2. สาระสำคญั ของ พ.ร.บ. ปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย์ พ.ศ.2551 3. ความหมายการค้ามนุษย/์ ลกั ษณะของการกระทำที่เขา้ ขา่ ยการคา้ มนษุ ย์ 4. สถานการณ์การคา้ มนษุ ยใ์ นประเทศไทย 3 สถานะ 5. รายงานการคา้ มนุษย์ (กลมุ่ ท่ี 2 “กรณี บัว” และ “การทรมานผตู้ ้องขงั ”) 6. การดำเนนิ คดี 7. การคุ้มครอง 8. การป้องกัน 9. ศนู ย์ปฏบิ ัติการการค้ามนษุ ย์มลู นธิ ิกระจกเงา การจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ จากส่ือ ตำรา เวบ็ ไซต์ จดั กลุ่มอภปิ รายในประเด็น “การค้ามนุษย์เป็น เร่ืองผิดกฎหมาย และมีบาปจริงหรือ” พร้อมวิเคราะห์ นำเสนอแลกเปล่ียนเรียนรู้ จัดทำกระดานข่าว “เรอื่ งการคา้ มนษุ ยใ์ นประเทศไทย และประเทศต่าง ๆ ในโลกและจัดทำรายงาน” การวัดและประเมนิ ผล การนำเสนอ และการมสี ่วนรว่ มในการแสดงความคดิ เห็น ผลงานรายงาน การทดสอบ

269 รายละเอียดคำอธบิ ายรายวชิ า สค32013 การคา้ มนุษย์ จำนวน 1 หน่วยกิต ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ มีความรู้ ความเข้าใจตระหนักเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครองในโลก และนำมาปรับใช้ในการดำเนินชวี ติ เพอื่ ความม่นั คงของชาติ ที่ หวั เรื่อง ตวั ชีว้ ัด เนอื้ หา จำนวน (ชัว่ โมง) 1 การคา้ มนษุ ย์ 1. อธบิ ายเกี่ยวกบั 1. ปฏิญญาสากล วา่ ดว้ ยสทิ ธิ 40 ปฏญิ ญาสากล ว่าดว้ ย มนุษยชน ขอ้ 4 , 13 สิทธมิ นษุ ยชน ข้อ 4 , 13 ได้ 2. อธบิ ายสาระสำคญั ของ 2. สาระสำคญั ของ พ.ร.บ. พ.ร.บ. ป้องกนั และ ปอ้ งกันและปราบปรามการค้า ปราบปรามการค้า มนุษย์ พ.ศ.2551 มนุษย์ พ.ศ.2551 ได้ 3. อธิบายความหมาย 3. ความหมายการค้ามนษุ ย์ การคา้ มนุษย/์ ลกั ษณะ ของการกระทำทเี่ ข้า ขา่ ยการค้ามนษุ ย์ 4. อธิบายสถานการณ์ 4. ลกั ษณะของการกระทำ การค้ามนษุ ย์ในประเทศ ท่เี ข้าข่ายการค้ามนุษย์ ไทย 3 สถานะได้ 5.อธิบายเก่ียวกบั ขอ้ มลู 5. สถานการณก์ ารคา้ มนษุ ย์ใน การค้ามนุษยใ์ นประเทศ ประเทศไทย 3 สถานะ ไทยได้ 5.1 พืน้ ท่ีตน้ ทาง 5.2 พื้นทที่ างผา่ น 5.3 พืน้ ทีป่ ลายทาง 6. อธบิ ายขอ้ มูล วิเคราะห์ เปรียบเทยี บ และ 6. การคา้ มนษุ ย์ในประเทศไทย ตระหนักเหน็ 6.1 กลุ่มที่ 2 กรณีตวั อย่าง ความสำคัญของการค้า “บวั ” มนุษย์ เป็นเรอื่ งผิด 6.2 ความเป็นทาสการคา้ ทาส กฎหมาย และมบี าป การค้ามนษุ ย์

270 ที่ หัวเร่อื ง ตวั ชวี้ ดั เนื้อหา จำนวน (ช่ัวโมง) 6.3 การทรมานผ้ตู ้องขงั ใน สงั คมไทย 7. การดำเนนิ คดี 8. การคมุ้ ครอง 9. การปอ้ งกนั 10. ศนู ยป์ ฏบิ ตั กิ ารตอ่ ตา้ น การคา้ มนษุ ยม์ ลู นธิ กิ ระจกเงา

271 คำอธิบายรายวชิ า สค32014 ปญั หาชนกลุ่มน้อย จำนวน 1 หน่วยกติ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั มีความรู้ ความเข้าใจตระหนักเกี่ยวกบั ภูมศิ าสตร์ ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครองในโลก และนำมาปรับใช้ในการดำเนินชีวติ เพือ่ ความมน่ั คงของชาติ ศกึ ษาและฝึกทกั ษะเกยี่ วกบั เรอ่ื งตอ่ ไปน้ี 1. ความเปน็ มาและความสำคัญของชนกล่มุ นอ้ ยชาวไทยกับความมั่นคงของชาติ 2. ปัจจยั ทม่ี ีอทิ ธิพลต่อชนกลมุ่ นอ้ ยชาวไทย (ภายในประเทศ/นอกประเทศ) 3. ปัญหาชนกลุ่มนอ้ ยในแงค่ วามมั่นคงของชาติ 4. นโยบายและมาตรการในการแกไ้ ขปญั หาชนกลุ่มนอ้ ยกบั ความม่ันคงของชาติ การจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ 1. จดั ใหผ้ เู้ รยี นไดศ้ ึกษาดว้ ยตนเองจากสอื่ ตำรา เว็บไซด์ ฯลฯ 2. จัดทำกระดานข่าว เรื่องปัญหาชนกลมุ่ นอ้ ย 3. แบ่งกลุ่มผู้เรยี นใหฝ้ ึกทกั ษะคิด วเิ คราะห์ เปรยี บเทยี บประเด็น “ท่านมีความคดิ เหน็ อยา่ งไร กบั ปญั หาชนกลุ่มน้อยในแงค่ วามมนั่ คงของชาติ” 4. ใหผ้ เู้ รียนไดแ้ ลกเปลีย่ นเรียนรู้ และจัดทำรายงานปญั หาชนกลุ่มนอ้ ยเปน็ รายบุคคลหรอื กลุ่ม การวดั และประเมินผล การอภิปราย การนำเสนอในช้ันเรยี น การเข้ารว่ มกจิ กรรม การจดั ทำรายงาน และ การทดสอบ

272 รายละเอยี ดคำอธิบายรายวชิ า สค32014 ปญั หาชนกลมุ่ น้อย จำนวน 1 หน่วยกติ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั มีความรู้ ความเข้าใจตระหนักเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครองในโลก และนำมาปรบั ใชใ้ นการดำเนินชีวิตเพือ่ ความม่นั คงของชาติ ท่ี หวั เรอื่ ง ตวั ชี้วดั เนอ้ื หา จำนวน (ชั่วโมง) 1 ปญั หาชนกลุ่ม น้อย 1. อธิบายเกีย่ วกบั ความ 1. ความเปน็ มาและ 40 เป็นมา และความสำคัญ ความสำคญั ของชนกลมุ่ น้อยกบั ของชนกลมุ่ นอ้ ย กับความ ความม่นั คงของชาติ ม่ันคงของชาตไิ ด้ 2. ปจั จัยทม่ี ีอทิ ธิพลต่อ 2. อธิบายเกี่ยวกับปจั จยั ท่ี คนกลมุ่ นอ้ ยชาวไทย มอี ิทธพิ ลตอ่ ชนกลุ่มนอ้ ย - ภายในประเทศ ชาวไทยได้ - ภายนอกประเทศ 3. ปญั หาชนกลมุ่ น้อย 3. อธบิ ายเกีย่ วกบั ปญั หา ในแงค่ วามมน่ั คงของชาติ ชนกลุ่มน้อยในแง่ความ มนั่ คงของชาติได้ 4. อธิบายเกีย่ วกับ 4. นโยบายและมาตรการ นโยบายและมาตรการใน ในการแก้ไขปัญหาชนกลมุ่ การแก้ปญั หาชนกลมุ่ น้อย น้อยกับความมัน่ คงของชาติ กับความม่ันคงของชาติได้ - พระราชบญั ญัตปิ อ้ งกนั 5. อธบิ าย วิเคราะห์ และปราบปรามการคา้ เปรยี บเทียบสภาพปญั หา มนุษย์ ชนกลุ่มนอ้ ยในประเทศกบั ประเทศตา่ ง ๆ ในโลกได้

273 คำอธบิ ายรายวชิ า สค32015 วฒั นธรรม ประเพณี ของประเทศต่าง ๆ ในโลก กบั อุตสาหกรรมการทอ่ งเที่ยว จำนวน 1 หน่วยกติ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ มคี วามรู้ ความเข้าใจ เหน็ คณุ ค่า และสบื ทอดศาสนา วัฒนธรรม ประเพณีของ ประเทศในสงั คมโลก ศึกษาและฝกึ ทักษะเกยี่ วกับเรื่องตอ่ ไปน้ี 1. วฒั นธรรม ประเพณี กับอตุ สาหกรรมการท่องเทย่ี ว ของประเทศตา่ ง ๆ ในโลก เชน่ ญปี่ นุ่ เกาหลี อนิ โดนีเซีย อินเดยี จีน ฯลฯ 2. กรณีตัวอย่าง การอนุรักษ์ ประเพณี วัฒนธรรม เพื่อการท่องเท่ียว อย่างเหมาะสม เช่น ภฏู าน ฮาวาย 3. กรณีตวั อย่าง การอนุรักษว์ ัฒนธรรมไทย ประเพณไี ทย เพอื่ อตุ สาหกรรมการท่องเที่ยว เชน่ วัฒนธรรมการกนิ ขนั โตก วัฒนธรรมบ่ายศรสี ขู่ วญั ประเพณีสงกรานต์ การจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ จัดประสบการณ์จริง ศึกษาดูงานในท้องถ่ิน ศึกษาค้นคว้าข้อมูล จากสื่อ สิ่งพิมพ์ ซีดี ผู้รู้ การนำเสนอรายงาน การอภิปราย การทำกระดานข่าวและการทำโครงงาน การวดั และประเมนิ ผล สงั เกตจากความสนใจของผู้เรยี น สังเกตจากการมีสว่ นร่วมของผู้เรยี น การทำโครงงาน กิจกรรม ต่าง ๆ มีคุณภาพ การทดสอบ กอ่ นเรยี น ระหว่างเรียน หลงั เรียน

274 รายละเอียดคำอธิบายรายวิชา สค32015 วฒั นธรรม ประเพณี ของประเทศต่าง ๆ ในโลก กับอตุ สาหกรรมการทอ่ งเทย่ี ว จำนวน 1 หน่วยกิต ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดับ มีความรู้ ความเข้าใจ เห็นคณุ คา่ และสบื ทอดศาสนา วัฒนธรรม ประเพณขี อง ประเทศในสังคม โลก ท่ี หวั เรือ่ ง ตัวชวี้ ัด เน้อื หา จำนวน (ช่วั โมง) 1 วัฒนธรรม 1. อธิบายวัฒนธรรม 1. วัฒนธรรม ประเพณี กบั 40 ประเพณขี อง ประเพณขี องประเทศ อตุ สาหกรรมการท่องเทยี่ ว ประเทศต่าง ๆ ตา่ ง ๆ ในโลกกบั เชน่ ญ่ปี นุ่ เกาหลี อนิ โดนเี ซยี ในโลก กบั อุตสาหกรรมการ มาเลเซีย อนิ เดีย จีน อยี ิปต์ อุตสาหกรรม ทอ่ งเท่ยี วได้ อติ าลี ฝรั่งเศส องั กฤษ การท่องเท่ยี ว 2. วเิ คราะหก์ รณตี ัวอยา่ ง ซาอุดอิ าระเบีย สเปน การอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรม ออสเตรเลยี สหรัฐอเมริกา ประเพณใี หย้ ง่ั ยืนเพือ่ ฯลฯ อตุ สาหกรรมการ 2. กรณีตัวอยา่ ง การอนรุ กั ษ์ ทอ่ งเทยี่ วอย่าง วัฒนธรรมประเพณี เหมาะสม เพือ่ การท่องเทย่ี วอย่าง 3.อธบิ าย และตระหนักถงึ เหมาะสมของประเทศตา่ ง ๆ การอนรุ กั ษ์ วฒั นธรรม ในโลก เชน่ ภฎู าน ฮาวาย ประเพณไี ทย 3. กรณีตัวอย่างอนรุ ักษ์ เพ่ืออตุ สาหกรรม วฒั นธรรมประเพณีไทยเพอ่ื การท่องเท่ียวอยา่ ง อตุ สาหกรรมการท่องเทย่ี ว เหมาะสม เช่น วฒั นธรรมการกินขนั โตก วฒั นธรรมบายศรสี ู่ขวัญ ประเพณสี งกรานต์ ฯลฯ

275 คำอธิบายรายวิชา สค32016 นักปรัชญาท่ีสำคญั ของโลก จำนวน 1 หน่วยกติ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ มคี วามรู้ ความเข้าใจ เหน็ คุณคา่ และสบื ทอดศาสนา วฒั นธรรม ประเพณขี อง ประเทศในสงั คม โลก ศึกษาและฝึกทักษะเก่ยี วกบั เร่ืองตอ่ ไปน้ี 1. ความหมายและความสำคัญของปรัชญา 2. หลักของปรัชญา 3. นกั ปรัชญาทีส่ ำคัญของโลก 4. การเขียนปรัชญาของชีวิต การจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ จัดให้ผเู้ รยี นอภิปรายความหมายและความสำคัญของปรัชญา ศกึ ษาค้นคว้าองค์ความร้จู ากส่ือ อินเตอร์เน็ต เก่ียวกับหลักปรัชญาพร้อมยกตัวอย่างและเสนอชื่อนักปรัชญาท่ีเด่น ๆ ของโลก ฝกึ การเขยี นปรชั ญาของชวี ติ ตนเอง การวดั และประเมินผล อภปิ ราย รายงาน ใบงาน วเิ คราะห์ การเขียนรายงาน การทดสอบ

276 รายละเอียดคำอธิบายรายวชิ า สค32016 นกั ปรชั ญาทีส่ ำคัญของโลก จำนวน 1 หน่วยกติ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดับ มคี วามรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณค่า และสืบทอดศาสนา วฒั นธรรม ประเพณีของ ประเทศในสงั คม โลก ท่ี หวั เรื่อง ตัวชวี้ ดั เนื้อหา จำนวน (ชว่ั โมง) 1 นกั ปรชั ญาที่ สำคัญของโลก 1. อธบิ ายความหมาย 1. ความหมายและความสำคญั ของ 40 และความสำคัญของ ปรชั ญา ปรัชญาได้ 2. บอกหลักของ 2. หลักของปรัชญา ปรชั ญาได้ 2.1 ปรัชญาชวี ิต 2.2 ปรัชญาสังคม 2.3 ปรชั ญาการศกึ ษา 2.4 ปรัชญาการทำงาน 2.5 ปรัชญามนุษยโ์ ลก 3. ยกตวั อยา่ งและ 3. นกั ปรชั ญาทสี่ ำคัญของโลก อธบิ ายการเป็นนกั 3.1 ดร.โกวทิ วรพิพฒั น์ ปรชั ญาทสี่ ำคญั ของ 3.2 โสเคติส (Socrates) โลกได้ 3.3 พระนเรศวรมหาราช 3.4 ขงเบ้ง 3.5 ขงจ้อื 3.6 อรสิ โตเติ้ล (Aristotle) 3.7 คาส์ลมารก์ ซ์ (Cart Mark) 4. ปฏิบัติการฝึกคิด 4. แนวทางการเขียนปรชั ญาชวี ติ และเขียนปรชั ญา ชวี ิตตนเองได้

277 คำอธิบายรายวชิ า สค32017 การพฒั นาสงั คมฐานความรู้ จำนวน 1 หน่วยกติ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ มคี วามรู้ ความเข้าใจหลกั การพฒั นา ชมุ ชน สงั คม สามารถวเิ คราะหข์ อ้ มลู และเป็นผนู้ ำผตู้ ามใน การพัฒนาตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน สงั คมใหส้ อดคลอ้ งกบั สภาพการเปล่ยี นแปลงของเหตกุ ารณป์ จั จบุ ัน ศึกษาและฝกึ ทักษะเกี่ยวกบั เรอื่ งตอ่ ไปนี้ 1. ความหมายและความสำคญั ของสังคมฐานความรู้ 2. การพัฒนาสังคมสสู่ งั คมฐานความรู้ 3. พฒั นาสงั คมฐานความรู้ไปใช้ในชวี ิต การจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ 1. ศึกษาเอกสารจากเวบ็ ไซต์ 2. การจัดทำรายงาน การค้นควา้ ขอ้ มลู ต่าง ๆ 3. การนำเสนอรายงานในหอ้ งเรียน 4. แลกเปลี่ยนเรียนรู้หลงั การนำเสนอรายงาน การวัดและประเมนิ ผล จากผลงาน การจดั ทำรายงาน การนำเสนอ และการมสี ่วนรว่ มในการแสดงความคิดเหน็ จากการ ทดสอบความรอบรู้

278 รายละเอียดคำอธิบายรายวชิ า สค32017 การพัฒนาสังคมฐานความรู้ จำนวน 1 หน่วยกิต ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดบั มีความรู้ ความเข้าใจหลักการพัฒนา ชุมชน สังคม สามารถวเิ คราะห์ข้อมลู และเป็นผู้นำผู้ตามใน การพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สงั คมใหส้ อดคลอ้ งกับสภาพการเปล่ียนแปลงของเหตกุ ารณ์ปจั จบุ ัน ท่ี หวั เร่อื ง ตวั ชี้วัด เนือ้ หา จำนวน (ชั่วโมง) 1 สงั คมฐานความรู้ 1. อธบิ ายความสำคัญของ 1. สังคมฐานความรเู้ ป็นสงั คมแหง่ 40 สงั คมฐานความร้ไู ด้ การสร้างสรรค์ และ การ เรยี นรู้ตลอดชีวติ สงั คม ฐานความรูก้ ่อใหเ้ กิดระบบของ การผลติ สงิ่ ประดษิ ฐ์ ใหม่ ๆ ของชาติ ขอ้ มลู ความรตู้ า่ ง ๆ ถกู เผยแพรก่ ระจายไปอย่าง กว้างขวางโดยเทคโนโลยี สมยั ใหม่เกดิ เป็นสงั คมแหง่ การ 2. อธบิ ายความเปลยี่ นแปลง เรยี นรู้ ท่เี กดิ ขึน้ จากสงั คม 2. ความเปล่ยี นแปลงทเ่ี กดิ ขึน้ ฐานความรไู้ ด้ จากสงั คมฐานความรู้ 2.1 ความรู้ทกุ รูปแบบ 2.2 การเข้าถึงความร้ทู ่ีเทา่ เทียมกัน 2.3 การประชมุ ปรึกษา ทำความเขา้ ใจกัน 2.4 การกระตุ้นเยาวชนร่นุ ใหม่ ใหส้ นใจในวิทยาศาสตร์ 3. อธิบายการแสวงหา 3. การสำรวจสังคมแห่ง ความรดู้ ว้ ยตนเอง เป็น การเรยี นรู้ โดยเปน็ การสอนให้ รากฐานสำคญั ของการนำ ทุกคนแสวงหาความรดู้ ว้ ย ความรูไ้ ปสสู่ ังคม ตนเอง ซึ่งเปน็ รากฐานสำคัญ ฐานความรูแ้ ละการ ของการนำไปสสู่ งั คม นำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวัน ฐานความรู้

279 บรรณานุกรม สำนักงานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย สำนักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ กระทรวงศึกษาธกิ าร. (2555). หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 สาระการพัฒนาสังคม (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2554). กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพอ์ งค์การสงเคราะหท์ หารผา่ นศกึ . _______. (ออนไลน)์ . หลักสตู รรายวิชาเลือกสาระการพฒั นาสังคม หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับ การศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551. Retrived from http://203.172.142.230/nfe-reseve/backend/control.php วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

280 ภาคผนวก

281 ภาคผนวก ก ประกาศที่ปรึกษาและผู้เขา้ รว่ มปรบั ปรุงและพัฒนาหลักสตู ร

282 ประกาศศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอบา้ นแหลม เรอื่ ง แตง่ ตง้ั ทีป่ รึกษาและผเู้ ขา้ ร่วมปรบั ปรงุ และพัฒนาหลักสูตรสถานศกึ ษา หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2554 ) สืบเน่ืองจากหลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 ได้ มกี ารปรับปรงุ ให้ทนั สมยั ในปี พ.ศ. 2554 โดยสำนกั งานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตาม อัธยาศัย ประกอบกับสภาพสังคม เศรษฐกิจ การเมอื งการปกครอง เทคโนโลยี และวิชาการของจงั หวัด เพชรบุรี และอำเภอบ้านแหลม มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การจัดการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขนั้ พืน้ ฐานของศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอบา้ นแหลม มีความทันสมัยเท่าทันการเปล่ียนแปลงข้างต้น ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอบ้านแหลม จึงได้มีการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ให้มีความทันสมัยและใช้จัดการศึกษานอกระบบระดับ การศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพและเกดิ ประสิทธผิ ล เพ่ือให้การปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2554) เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิด ผลดีต่อผเู้ ก่ียวข้อง จึงประกาศท่ีแต่งตัง้ ปรึกษาและผเู้ ข้าร่วมปรบั ปรงุ และพัฒนาหลักสตู ร สถานศกึ ษา ห ลั ก สู ต ร ก า ร ศึ ก ษ า น อ ก ร ะ บ บ ร ะ ดั บ ก า ร ศึ ก ษ า ขั้ น พื้ น ฐ า น พุ ท ธ ศั ก ร า ช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2554) ดงั น้ี ท่ีปรกึ ษา ผูอ้ ำนวยการสำนักงาน 1. นางรัชนุช สละโวหาร กศน.จงั หวัดเพชรบุรี 2. นายสหรัฐ พลู นาค รองผอู้ ำนวยการ กศน.จงั หวัดเพชรบรุ ี 3. นางสาวสธุ กิ านต์ แย้มนลิ ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอหัวหิน จังหวดั ประจวบฯ 4. นางวภิ ารัตน์ ชาแจง้ ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี 5. นางทองสขุ รัตนประดิษฐ์ ศกึ ษานิเทศก์ ผูเ้ ขา้ รว่ มใหข้ อ้ มลู ผแู้ ทนนายกองค์การบรหิ ารส่วนตำบล ผ้แู ทนชมุ ชน 1. นายพสิ ษิ ฐ์ แผนประไพ ผ้แู ทนนักศกึ ษา กศน.อำเภอบา้ นแหลม 2. นางสาวเอือ้ มพร เทียมรัตน์ 3. นางสาวเกศสุดา เกตุแก้ว

283 4. นางอัจฉรยี ์ เสรมิ ทรัพย์ ศิษย์เก่า กศน.อำเภอบา้ นแหลม มหี น้าที่ ให้คำปรกึ ษา แนะนำให้ความช่วยเหลือการปรับปรุงและพฒั นาหลกั สตู รสถานศกึ ษา หลกั สตู ร การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2554) ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอบ้านแหลม ประกาศ ณ วนั ท่ี 1 เดอื น กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 (นางวิภารตั น์ ชาแจง้ ) ผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอบ้านแหลม

284 ภาคผนวก ข คำสั่งแต่งต้ังคณะกรรมการปรบั ปรุงและพัฒนาหลักสตู ร

285 คำสั่งศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอบา้ นแหลม ท่ี 017 / 2564 เรอื่ ง แต่งตัง้ คณะกรรมการพฒั นาหลกั สูตรสถานศึกษา หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขนั้ พ้นื ฐานพทุ ธศกั ราช 2551 ( ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช 2554 ) ---------------------- สบื เน่อื งจากหลักสตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขั้นพืน้ ฐานพุทธศักราช 2551 ไดม้ ี การปรับปรุงให้ทันสมัยในปี พ.ศ. 2554 โดยสำนักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศยั ประกอบกับสภาพสงั คม เศรษฐกิจ การเมืองการปกครอง เทคโนโลยี และวชิ าการของจงั หวัด เพชรบุรี และอำเภอบ้านแหลม มีการเปล่ียนแปลงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การจัดการศึกษานอกระบบ ระดับการศกึ ษา ขั้นพนื้ ฐานของศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอบา้ นแหลม มี ความทันสมัยเท่าทันการเปลี่ยนแปลงข้างต้น ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอบ้านแหลม จึงได้มีการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐานพุทธศักราช 2551 ให้มีความทันสมัยและใช้จัดการศึกษานอกระบบระดับ การศกึ ษาข้นั พื้นฐาน ไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพและเกิดประสิทธิผล เพอ่ื ให้การปรับปรงุ และพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษา ข้ันพ้ืนฐานพุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2554) เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดผลดีต่อ ผู้เก่ียวข้อง จึงแต่งต้ังคณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ การศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ดังนี้ คณะกรรมการอำนวยการ ชาแจง้ ประธานกรรมการ 1. นางวิภารตั น์ ทวิ าลัย กรรมการ 2. นางสาววรวรรณ สุดยโู ซะ๊ กรรมการ 3. นางสาวโกสุมภ์ ประดบั ศรี กรรมการ 4. นางทัศนยี ์ รอดสวัสดิ์ กรรมการและเลขานกุ าร 5. นางสาวชรินทิพย์ มหี นา้ ท่ี จัดประชุม อบรมการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ให้คำปรึกษา แนะนำช่วยเหลือ และสนับสนุน งบประมาณ สถานที่ หรือทรัพยากรอื่น ๆ ให้กับคณะกรรมการดำเนินการ คณะกรรมการดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาหลกั สตู ร 1. นางวิภารัตน์ ชาแจ้ง ประธานกรรมการ 2. นางสาวโกสมุ ภ์ สดุ ยูโซ๊ะ กรรมการ 3. นางทศั นีย์ ประดับศรี กรรมการ

286 4. นางสาวชรนิ ทพิ ย์ รอดสวัสดิ์ กรรมการ 5. นางไพรตั น์ โกศลนริ ตั ิวงษ์ กรรมการ 6. นางสาวแกว้ ทพิ ย์ พวงทพิ ย์ กรรมการ 7. นางสาวปวีณา เนระภู กรรมการ 8. นางวนั เพญ็ เนยี มปาน กรรมการ 9. นางสาวอารยี า ซบเอ่ียม กรรมการ 10. นางสาวนทั ธมน แซอ่ ้ิว กรรมการ 11. นายขจรศกั ดิ์ มว่ งคำ กรรมการ 12. นายเพชรแก้วมณี เพชหนู กรรมการ 13. นางสาวธดิ ารัตน์ ชวนะ กรรมการ 14. นางสาวสุปรยี า รุ่งเจรญิ กรรมการ 15. นางสาววรวรรณ ทิวาลัย กรรมการและเลขานุการ มีหนา้ ที่ 1. ศึกษาและจัดพิมพ์ร่างเอกสารหลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ การศกึ ษา ขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2554) ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศยั อำเภอบา้ นแหลม ประกอบดว้ ย 19 องค์ประกอบ ได้แก่ (1) บริบทพ้นื ฐาน (2) ปรชั ญา หลักสูตร (3) วสิ ัยทัศน์ (4) พันธกิจ (5) หลักการและจุดหมายของหลักสูตร (6) กลุ่มเป้าหมาย (7) กรอบ โครงสรา้ ง (8) การจดั หลกั สตู ร (9) การจัดการศกึ ษาสำหรบั กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ (10) สาระและมาตรฐานการ เรยี นรู้ (11) แผนการลงทะเบยี นเรยี น (12) วิธกี ารจัดการเรยี นรู้ (13) การจดั กระบวนการเรยี นรู้ (14) สอ่ื การ เรียนรู้ (15) การเทียบโอน (16) การวดั และประเมินผลการเรียน (17) การจบหลักสตู ร (18) เอกสารหลักฐาน การศกึ ษา และ (19) การบริหารหลักสตู ร 2. รวบรวมเอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา 5 สาระการเรียนรู้ จำนวน 8 เลม่ 3. นำรา่ งเอกสารหลกั สตู รสถานศึกษา หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2554) ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอบา้ นแหลม ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบคุณภาพหลักสูตร และขอความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการ สถานศกึ ษา คณะผู้ดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาเอกสารประกอบหลักสูตร 5 สาระการเรียนรู้ จำนวน 8 เลม่ ประกอบด้วย 1. นางสาววรวรรณ ทิวาลัย สาระการประกอบอาชพี 2. นางสาวชรนิ ทพิ ย์ รอดสวสั ดิ์ สาระการประกอบอาชีพ 3. นายเพชรแกว้ มณี เพชหนู สาระการประกอบอาชพี 4. นางสาวสปุ รยี า รุ่งเจรญิ สาระการประกอบอาชีพ 5. นางสาทศั นยี ์ ประดบั ศรี สาระทกั ษะการเรยี นรู้ 6. นางสาวโกสุมภ์ สดุ ยูโซะ๊ สาระการเรียนรู้พน้ื ฐานภาษาไทย 7. นางสาวอารยี า ซบเอีย่ ม สาระการเรียนรู้พื้นฐานวิทยาศาสตร์

287 8. นางสาวแก้วทิพย์ พวงทพิ ย์ สาระการเรียนร้พู นื้ ฐานภาษาอังกฤษ 9. นางไพรตั น์ โกศลนิรัตวิ งษ์ สาระการเรยี นร้พู น้ื ฐานคณิตศาสตร์ 10. นางสาวปวณี า เนระภู สาระการพฒั นาสงั คม 11. นายขจรศกั ด์ิ ม่วงคำ สาระการพฒั นาสงั คม 12.นางสาวธิดารตั น์ ชวนะ สาระการพฒั นาสงั คม 13.นางสาวนัทธมน แซอ่ ิ้ว สาระทกั ษะการดำเนนิ ชวี ติ 14.นางวันเพ็ญ เนยี มปาน สาระทักษะการดำเนนิ ชวี ิต มหี น้าที่ 1. ศกึ ษาและจดั พมิ พเ์ อกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาข้ันพื้นฐานพุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2554) ศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอบ้านแหลม มี 5 สาระการเรียนรู้ จำนวน 8 เลม่ แตล่ ะเล่มประกอบดว้ ย (1) คำชแี้ จงสาระฯ (2) สาระฯ (3) ผังมโนทัศน์ (4) มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดับและผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง (5) รายวชิ าบังคับและรายวิชาเลือก (6) คำอธิบายรายวิชาบงั คับและรายละเอียดคำอธิบายรายวิชา (7) คำอธิบายรายวิชาเลอื กและรายละเอียดคำอธบิ ายรายวชิ า (8) บรรณานกุ รม และ(9) ภาคผนวก 2. จัดทำขอ้ มลู เปน็ ไฟล์ ให้เรยี บร้อย และนำส่งทป่ี ระธานคณะกรรมการดำเนนิ การ คณะกรรมการฝา่ ยปฏิคม ประกอบด้วย 1. นางสาวแกว้ ทพิ ย์ พวงทิพย์ ประธานกรรมการ 2. นางสาววรวรรณ ทวิ าลยั กรรมการ 3. นางสาวอารยี า ซบเอย่ี ม กรรมการ 4. นางสาวชรินทพิ ย์ รอดสวสั ดิ์ กรรมการและเลขานุการ มีหน้าท่ี ให้การต้อนรับ จัดเตรียมอาหารกลางวัน และอาหารว่างและเคร่ืองดื่มบริการ ผู้เข้ารว่ มอบรม และวทิ ยากร คณะกรรมการฝา่ ยประชาสมั พันธ์ ประกอบด้วย 1. นางสาววรวรรณ ทิวาลัย ประธานกรรมการ 2. นางสาวชรนิ ทพิ ย์ รอดสวัสดิ์ กรรมการ 3. นายเพชรแกว้ มณี เพชหนู กรรมการ 4. นางสาวสปุ รยี า ร่งุ เจริญ กรรมการและเลขานกุ าร มีหน้าที่ แจ้งกำหนดการ แจง้ รายละเอียดของโครงการ คณะกรรมการฝ่ายถา่ ยภาพกจิ กรรม ประกอบดว้ ย 1. นางสาวสปุ รียา รงุ่ เจรญิ ประธานกรรมการ 2. นางสาววรวรรณ ทิวาลัย กรรมการ 3. นางสาวธดิ ารัตน์ ชวนะ กรรมการและเลขานกุ าร มหี นา้ ที่ บันทึกภาพถา่ ยในโครงการ

288 คณะกรรมการฝ่ายประเมินผลโครงการ ประกอบดว้ ย 1. นางสาววรวรรณ ทวิ าลัย ประธานกรรมการ 2. นายเพชรแกว้ มณี เพชหนู กรรมการ 3. นางสาวอารียา ซบเอยี่ ม กรรมการและเลขานุการ มีหน้าท่ี จัดเตรยี มขอ้ มูลเอกสารพร้อมดำเนินการประเมนิ ผลโครงการและงานอืน่ ๆ ท่ี ไดร้ บั มอบหมาย ขอให้คณะกรรมการท่ีไดร้ บั แต่งต้งั อุทศิ ตน ทำงานอยา่ งเต็มความสามารถ เพื่อให้งานสำเร็จ เรยี บรอ้ ยบรรลุวัตถปุ ระสงค์ และทันประกาศใชใ้ นภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2563 สั่ง ณ วนั ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2564 (นางวภิ ารตั น์ ชาแจง้ ) ผอู้ านวยการศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอบา้ นแหลม

289 ภาคผนวก ค นิยามศพั ท์

290 นยิ ามศพั ท์ เจตคติ หมายถึง สภาพความรู้สึกทางด้านจิตใจท่ีเกิดจากประสบการณ์และการเรียนรู้ของ บคุ คลอันเป็นผลทำให้เกิด มที ่าทีหรือมีความคิดเห็น รู้สกึ ตอ่ สง่ิ ใดส่งิ หนึ่งในลกั ษณะท่ชี อบ หรอื ไม่ชอบ เหน็ ดว้ ยหรือไม่เหน็ ด้วย ศักยภาพ หมายถงึ ความสามารถสูงสุดทเ่ี ป็นไปได้ของบุคคล สัตว์ สิ่งของนั้นๆ ไดร้ ับการบำรุง ส่งเสรมิ อย่างเตม็ ท่ี และถูกต้องทั้งทางกายและทางจิต ผงั มโนทศั น์ หมายถงึ ภาพที่ปรากฏภายในใจของแต่ละคน แม้จะมองไมเ่ หน็ แตะต้องไม่ได้ แต่ ทุกคนก็ทราบดีว่าภายในใจของคนมีภาพต่าง ๆ ปรากฏอยู่ เช่น ภาพของต้นไม้ ภูเขา ทุ่งนา ความอด ยาก ความสนุกสนาน คำอธบิ ายรายวิชา หมายถงึ ข้อมลู รายละเอียดของแต่ละรายวชิ า ประกอบดว้ ยมาตรฐานการ เรียนรู้เนื้อหาสาระ เวลาเรียน รหัสวิชา ช่ือวิชา จำนวนหน่วยกิต ระดับการศึกษา เพ่ือใช้เป็นกรอบ ทศิ ทาง ท่ีผสู้ อนใช้ในการวางแผน และออกแบบการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ หมายถึง องค์ความรู้ ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะสำคัญรวมไว้ใน มาตรฐานการเรยี นรู้ ซ่ึงผู้เรียนตอ้ งรแู้ ละปฏบิ ัติได้ การเรียนรู้ด้วยตนเอง หมายถึง กระบวนการเรียนรู้ที่บุคคลริเริ่มการเรียนรดู้ ้วยตนเองตาม ความสนใจ ความต้องการ และความถนัด มีเป้าหมาย รู้จักแสวงหาแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ เลือก วธิ ีการเรยี นรู้จนถึงประเมนิ ความก้าวหนา้ ของการเรยี นรู้ของตนเอง โดยจะดำเนินการ ด้วยตนเองหรือ รว่ มมือชว่ ยเหลือกบั ผู้อื่นหรือไมก่ ไ็ ด้ การใชแ้ หล่งเรยี นรู้ หมายถงึ การทีบ่ ุคคลเหน็ ความสำคญั และร้จู กั ใชแ้ หลง่ เรียนรูป้ ระกอบการ เรียนรูก้ ารจัดการความรู้ หมายถึงการรวบรวม สรา้ ง จดั ระเบียบ แลกเปล่ยี นและประยกุ ต์ใช้ความรูข้ อง บคุ คล ชมุ ชน คิดเป็น หมายถึงการแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาโดยใช้ข้อมูลตนเอง สังคม และวิชาการ อย่างเป็นกระบวนการเพอ่ื ใช้ประกอบการตัดสินใจ การวจิ ัยอย่างง่าย หมายถึงการวิจัยของบุคคลท่ีทำการวิจัยเล็ก ๆ เพ่ือปรับปรุงและพัฒนา งานและการแกป้ ัญหาของตนหรอื ชุมชน