245 การใชบ้ รกิ ารตามระเบยี บกระทรวงสาธารณสขุ ฯ ขอ้ ๑๐ ใหแ้ สดงบตั รประจำ� ตวั เจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั และหนงั สอื รับรองจากนายอำ� เภอ (มอี ายไุ มเ่ กิน ๓ เดือน) และสามารถขอรับบรกิ ารได้ท่หี น่วยบรกิ าร สาธารณสขุ ของรฐั ไดแ้ ก่ โรงพยาบาล สถานอี นามยั หนว่ ยงานสงั กดั กระทรวงสาธารณสขุ ซง่ึ ดำ� เนนิ การ เพ่ือการสาธารณสขุ ๗. ฌาปนกิจสงเคราะห์ก�ำนัน ผใู้ หญบ่ ้าน ฯลฯ ระเบยี บกรมการปกครองวา่ ดว้ ยการฌาปนกจิ สงเคราะหก์ ำ� นนั ผใู้ หญบ่ า้ น แพทยป์ ระจำ� ตำ� บล สารวัตรกำ� นัน และผูช้ ่วยผใู้ หญ่บ้าน พ.ศ. ๒๕๔๘ กำ� นนั ผู้ใหญ่บา้ น ฯลฯ และคูส่ มรสสามารถสมคั ร เปน็ สมาชกิ ฌาปนกิจสงเคราะห์ฯ (ฌ.ก.น.) ได้ ณ ที่วา่ การอำ� เภอทผ่ี ้สู มคั รมีภูมลิ ำ� เนา โดยยื่นหลกั ฐาน ใบสมคั รและเสยี คา่ สมัครคนละ ๒๐ บาท เมือ่ สมาชิกคนใดถึงแกค่ วามตาย สมาชกิ ทุกคนทีย่ ังมชี วี ิตอยู่ ตอ้ งชาระเงินสงเคราะหค์ นละ ๒ บาทตอ่ ๑ ศพ จ�ำนวนเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ฯ ที่จะได้รับจะมีมากหรือน้อยเพียงใดข้ึนอยู่กับจ�ำนวน สมาชิกท่ีมีอยู่ในขณะน้ัน โดยวิธีการขอรับเงินค่าท�ำศพให้ทายาทเป็นผู้ย่ืนค�ำร้องขอรับเงินสงเคราะห์ ตอ่ นายอำ� เภอทอ้ งทที่ ส่ี มาชกิ มภี มู ลิ ำ� เนาตามทปี่ รากฏในทะเบยี นสมาชกิ โดยดว่ น ซงึ่ ทายาทของสมาชกิ จะได้รับเงินครั้งแรกเมื่อส�ำนักงาน ฌ.ก.น. ได้รับแจ้งการถึงแก่กรรมของสมาชิก จะได้รับเงินทดรอง เปน็ คา่ จดั การศพ จำ� นวน ๒๐,๐๐๐ บาท และครง้ั ทสี่ อง จะไดร้ บั เงนิ ทเี่ รยี กเกบ็ จากสมาชกิ ซง่ึ จะหกั จาก เงินทดรองครงั้ แรก โดยจะได้รับภายใน ๖๐ วันนับแตว่ นั ทค่ี ณะกรรมการอนมุ ัติ หมายเหตุ แมจ้ ะพน้ จากตำ� แหน่งกำ� นัน ผูใ้ หญ่บา้ น ฯลฯ ไปแล้ว สมาชิกภาพของสมาชิก ฌ.ก.น. ก็ยงั คงมอี ยู่ต่อไป ถา้ สมาชกิ ไม่ขาดส่งเบี้ยคา่ ทำ� ศพติดตอ่ กนั ๓ เดือน หรือไดล้ าออกเสียก่อน ๘. เงินสงเคราะห์จากมูลนธิ กิ ำ� นนั ผู้ใหญบ่ า้ น มลู นธิ กิ ำ� นนั ผใู้ หญบ่ า้ น ไดจ้ ดั ตง้ั ขนึ้ เมอ่ื วนั ที่ ๔ มกราคม ๒๕๓๒ โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ชว่ ยเหลอื สงเคราะห์ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเน่ืองจากการปฏิบัติหน้าที่หรือให้ การสงเคราะห์ด้านการศึกษาแก่ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ หรือบุตรหลาน โดยมีหลักเกณฑ์ส�ำคัญๆ ที่ควรทราบ ดังนี้ ๑. ให้การสงเคราะห์ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ที่เสียชีวิตเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ รายละไมเ่ กนิ ๑๐,๐๐๐ บาท และท่ีบาดเจบ็ เนอ่ื งจากการปฏิบัติหน้าที่รายละไมเ่ กนิ ๕,๐๐๐ บาท ๒. ใหก้ ารสงเคราะหก์ ำ� นนั ผใู้ หญบ่ า้ น ฯลฯ ทป่ี ระสบสาธารณภยั เชน่ นำ�้ ทว่ ม ไฟไหม้ ฯลฯ รายละไมเ่ กิน ๓,๐๐๐ บาท ๓. ให้การสงเคราะห์ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ตามกรณีอื่นๆ ท่ีคณะกรรมการพิจารณา ให้การช่วยเหลือ พจิ ารณาให้การสงเคราะห์ได้รายละไมเ่ กิน ๓,๐๐๐ บาท
246 ๔. ให้การสงเคราะห์ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ในด้านทุนการศึกษาบุตรที่เรียนอยู่ในระดับ ต้ังแต่ช้ัน ป.๑ ถึงระดับ ปวส. หรือเทียบเท่าที่มีผลการเรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ โดยมีหลักเกณฑ ์ การใหก้ ารสงเคราะห์ จำ� นวนทนุ และวธิ กี าร ทางมลู นธิ จิ ะดำ� เนนิ การประกาศเปน็ คราว ๆ ไป เพอ่ื ใหผ้ มู้ สี ทิ ธิ ขอรบั ทุนจดั สง่ รายละเอียดไปใหม้ ูลนธิ ิฯ พิจารณาตอ่ ไป วธิ กี ารขอรับทุนฯ ผู้ท่ีจะขอรับการสงเคราะห์จากมูลนิธิฯ จะต้องเป็นผู้ท่ีด�ำรงต�ำแหน่ง ก�ำนัน ผใู้ หญ่บา้ น แพทยป์ ระจำ� ต�ำบล สารวัตรก�ำนนั หรือผชู้ ่วยผ้ใู หญบ่ า้ น โดยสามารถขอรับคำ� รอ้ ง ได้ทีท่ ่ที �ำการปกครองอำ� เภอทกุ แหง่ ท่วั ประเทศ ๙. เงินช่วยเหลอื เนอ่ื งจากปฏบิ ตั หิ น้าทช่ี ว่ ยเหลือราชการ กำ� นนั ผใู้ หญบ่ า้ น ฯลฯ เมอื่ ประสบภยั ขณะปฏบิ ตั หิ นา้ ทช่ี ว่ ยเหลอื ราชการ จะไดร้ บั ความชว่ ยเหลอื จากทางราชการ ตามพระราชบญั ญตั สิ งเคราะหผ์ ปู้ ระสบภยั เนอ่ื งจากชว่ ยเหลอื ราชการ การปฏบิ ตั งิ านของชาติ หรือการปฏิบัติหน้าท่ีมนุษยธรรม พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งกระทรวงการคลังได้ออกกฎกระทรวงการคลัง ก�ำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการขอรับความช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าวไว้ โดยให้ผู้ประสบภัยหรือทายาท ยน่ื แบบคำ� ขอรบั เงนิ สงเคราะหผ์ ปู้ ระสบภยั พรอ้ มหลกั ฐานทเี่ กย่ี วขอ้ งตอ่ นายอำ� เภอ ซง่ึ เปน็ ทอ้ งทเ่ี กดิ เหตุ ตามหลกั เกณฑ์การจ่ายเงินชดเชยให้แกผ่ ้ปู ระสบภัย ดงั นี้ ๑. เสยี ชีวติ หรือทุพพลภาพขนาดหนัก ได้ ๓๐ เทา่ ของอตั ราเงนิ เดอื น ๒. สญู เสียอวัยวะสืบพันธหุ์ รอื ความสามารถสืบพันธ์ุ ได้ ๒๕ เทา่ ของอตั ราเงนิ เดือน ๓. แขนขาดขา้ งหน่งึ /เทา้ ขาดสองขา้ ง ได้ ๒๔ เท่าครึง่ ของอตั ราเงินเดอื น ๔. ขาขาดข้างหน่งึ ได้ ๒๒ เท่าครงึ่ ของอัตราเงนิ เดือน ๕. มือขาดขา้ งหน่ึง ได้ ๑๘ เท่าครง่ึ ของอัตราเงนิ เดือน ๖. เท้าขาดขา้ งหน่ึง ได้ ๑๕ เทา่ ของอตั ราเงนิ เดือน ๗. สญู เสียลกู ตาข้างหนึ่ง ได้ ๑๑ เท่าครงึ่ ของอตั ราเงินเดอื น ๘. สูญเสยี สมรรถภาพการมองเหน็ รอ้ ยละ ๙๐ ข้ึนไป ได้ ๑๐ เทา่ ของอตั ราเงนิ เดอื น ๙. หูหนวกทัง้ สองขา้ ง ได้ ๙ เทา่ ของอตั ราเงนิ เดือน ๑๐. หูหนวกข้างหน่งึ /น้ิวหวั แมม่ ือขาดน้ิวหนึ่ง ได้ ๔ เท่าครง่ึ ของอตั ราเงินเดือน ๑๑. นิ้วชี้ขาดนิว้ หนง่ึ ได้ ๓ เท่าคร่งึ ของอัตราเงินเดอื น ๑๒. นว้ิ กลางขาดน้วิ หนึ่ง/นว้ิ หวั แม่เทา้ ขาดนวิ้ หนึง่ ได้ ๓ เทา่ ของอัตราเงนิ เดือน ๑๓. นวิ้ นางขาดนวิ้ หนงึ่ ได้ ๒ เทา่ ครึ่งของอัตราเงินเดอื น ๑๔. นิ้วกอ้ ยขาดขา้ ง/นิว้ เทา้ อนื่ ขาดนิ้วหน่งึ ได ้ ๑ เท่าของอัตราเงนิ เดอื น
11. น้วิ ชขี้ าดนวิ้ หน่งึ ได้ 3 เท่าครึง่ ของอัตราเงนิ เดอื น 12. นิ้วกลางขาดนวิ้ หน่งึ /นวิ้ หวั แมเ่ ท้าขาดนิว้ หนึ่ง ได้ 3 เท่าของอตั ราเงนิ เดอื น 13. นว้ิ นางขาดนวิ้ หน่งึ ได้ 2 เทา่ คร่งึ ของอตั ราเงินเดอื น 14. นิ้วกอ้ ยขาดขา้ ง/นิว้ เทา้ อ่ืนขาดนว้ิ หนึ่ง ได้ 1 เทา่ ของอตั ราเงนิ เดอื น 247 หมายเหตุ การขอรับเงินสงเคราะห์ผู้ประสบภัยฯ ให้ย่ืนแบบคาขอรับเงินสงเคราะห์ฯ พร้อมหลกั ฐานทเ่ี กี่ยวข้องประกอบด้วย ๑1) หลกั ฐานหรือคาสั่งในการช่วยเหลือราชการ การปฏิบัติงานของชาติ หรือ การปฏิบตั ิตามหน้าท่ีมนุษยธรรม ๒2) รายงานการสอบสวนขอ้ เทจ็ จริง ๓3) รายงานการสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรอื คาพิพากษาของศาล (ถ้าม)ี ๔4) หลักฐานการสอบสวนพยานผู้รู้เห็นเหตุการณ์และหลักฐานท่ีเกี่ยวข้องอ่ืน (ถา้ ม)ี ๕5) ใบรับรองแพทย์ที่ทางราชการรับรองซึ่งตรวจและให้ความเห็นว่าผู้นั้น สญู เสียอวยั วะหรือสมรรถภาพในการทางานของอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทุพพล ภาพหรอื ปว่ ยเจ็บจนไมส่ ามารถใช้กาลงั กายหรือความคิดประกอบอาชีพได้ตามปกติ หรือพกิ ารทุพพลภาพขนาดหนัก สาหรับกรณปี ระสบภัยถึงแก่ความตาย ให้ย่ืนหลักฐานเพิ่มเติม คือ หลักฐาน เกีย่ วกบั การตาย หลกั ฐานเก่ยี วกับทายาท หลกั ฐานเก่ยี วกบั ค่สู มรส หลักฐานเกยี่ วกับ บุตร หลักฐานแสดงการเปน็ ผู้ปกครองโดยชอบดว้ ยกฎหมาย หรือผ้พู ิทกั ษ์แลว้ แตก่ รณี 10. การเพิ่มพนู คณุ วฒุ ิให้แกก่ านัน ผู้ใหญบ่ า้ น ฯลฯ กระทรวงมหาดไทยร่วมกบั มหาวิทยาลัยสุโขทยั ธรรมาธิราช จัดทาโครงการเพิ่มพูน คุณวุฒิให้แก่กานัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยให้สามารถเรียนต่อในระดับปริญญาตรี หลักสูตรรัฐ ๑๐. ปกราะรศเพาส่ิมนพศูนาคสุณตรวบฒุ ัณิใหฑ้แิตกแ่กขำ� นนงันวิชผาใู้ บหรญิห่บา้ารนรัฐฯกลิจฯวิชาเอกการบริหารการปกครองท้องที่ แใหขแ้นกงรกซก่ววร่ึงำ�ิชมะเน าปทกนับ๓็นรรร,ผว๐ะหิหงใู้ ท๐หลามรร๐ัญหกวราสบ่งัฐคดูมตา้กนไนหิจรทาใทโยหวดด้ังิชยไดมนทาใา่ี้หเยเรทอนส้รัฐี่กคนิา่วสกมณมกนาากาะับรรรับบรถสเมัปฐเรนรหิมห็นยีุนาานโนควครตต่าิทกรอ่ใรยางชใีมกราน้จปีลมาร่ารัยกตะยนสคดิเใมุโารบัหขรอื่อป้รท่อง้วอรัยทงัญินยกธ้อลทญร่องระี่ทนาม๑ตี่ ๘าจรซ๖ธ๐ีาึ่งหิรเนตาลป(ว๕ชุกัล็นนส,าห๔จตูคล๓ัด๐รมักทร๐รสฐั�ำ๒ุ่นปูตโบค๕รราๆระใ๕ทหงศล)ก๐มาะาแส่ รเทนล๑หเะศพี่ค,็น๐ผาณิ่มสชู้เ๐พะขตอ๐ูนร้ารบัฐรคบคม่วใุณณั นหนมวฑ้ตุฒติร ี ิ มีมติเม่ือวันท่ี ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๐ เห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทย ด�ำเนินการเป็นโครงการ น�ำร่องก่อน จ�ำนวน ๓ รุ่น ๆ ละ ๑,๐๐๐ คน รวม ๓,๐๐๐ คน ทั้งนี้ รัฐสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้ รอ้ ยละ ๘๐ (๕,๔๐๐ บาท) และผเู้ ขา้ ร่วมโครงการฯ รับผดิ ชอบค่าใชจ้ ่ายเองร้อยละ ๒๐ (๑,๓๕๐ บาท) ต่อภาคการศึกษา โดยกำ� หนดหลกั เกณฑแ์ ละคณุ สมบตั ิของผูม้ สี ทิ ธิสมัครเข้าศึกษา ประกอบด้วย
248 ๑. หลักเกณฑก์ ารรบั สมัคร ดงั นี้ ๑) ก�ำหนดรับนักศกึ ษาเฉพาะหลักสตู ร ๔ ปี ๒) พิจารณารบั สมัครจากผู้ด�ำรงต�ำแหน่งก�ำนนั ผู้ใหญบ่ ้าน เป็นล�ำดับแรก ๓) พจิ ารณาผสู้ มคั รทด่ี ำ� รงตำ� แหนง่ กำ� นนั ผใู้ หญบ่ า้ น ฯ ลฯ ทคี่ งเหลอื ระยะเวลาการดำ� รงตำ� แหนง่ อย่ไู มน่ ้อยกว่า ๔ ปี หรืออายไุ มเ่ กิน ๕๕ ปีบริบรู ณ์ ๒. คุณสมบตั ขิ องผ้มู สี ิทธสิ มัครเข้าศกึ ษา ดังนี้ ๑) ดำ� รงตำ� แหนง่ กำ� นนั ผใู้ หญบ่ า้ น แพทยป์ ระจำ� ตำ� บล สารวตั รกำ� นนั ผชู้ ว่ ยผใู้ หญบ่ า้ น และ ๒) ส�ำเร็จการศึกษาประโยคมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.๓) หรือเทียบเท่า และด�ำรงต�ำแหน่ง ตามขอ้ ๑) มาแล้วไม่นอ้ ยกว่า ๕ ปี หรอื เคยมีประสบการณ์ท�ำงานเกีย่ วกับการปกครองทอ้ งที่มาแลว้ ไมน่ ้อยกว่า ๕ ปี หรอื ๓) ส�ำเร็จการศกึ ษาประโยคมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย (ม.๖) หรือเทียบเท่า หรอื ๔) ส�ำเรจ็ การศกึ ษาประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.) หรอื เทียบเท่า หรอื ๕) ส�ำเร็จการศกึ ษาประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.) หรอื ๖) ส�ำเรจ็ การศกึ ษาอนุปริญญา หรือเทียบเท่า หรอื สูงกวา่ หรือ ๗) ส�ำเรจ็ การศึกษาประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชนั้ สูง (ปวส.) หรอื เทียบเท่า ๘) มคี ณุ สมบัตอิ นื่ ตามที่กระทรวงมหาดไทยและมหาวทิ ยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชก�ำหนด ๑๑. การขอพระราชทานเครือ่ งราชอิสริยาภรณ์ ๑. เคร่ืองราชอิสริยาภรณเ์ ปน็ เครื่องหมายแห่งเกยี รติยศ ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงพระราชทาน แก่ผู้กระท�ำความดคี วามชอบเป็นประโยชนแ์ ก่ราชการหรอื สาธารณชน ๒. ก�ำนนั ผู้ใหญบ่ ้าน ผชู้ ่วยผู้ใหญบ่ ้าน แพทยป์ ระจำ� ต�ำบล สารวตั รกำ� นนั ซง่ึ ไดก้ ระท�ำความดี ความชอบเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ ประชาชน สามารถขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ ์ ได้ตามระเบียบส�ำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นท่ี เชิดชูย่ิงช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๒ (บังคับใช้ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๒) ซ่ึงได้ก�ำหนดหลักเกณฑ์การขอพระราชทานไว้ ดังนี้
๒๔๙249 หลกั เกณฑ์ เง่อื นไข/ระยะเวลา/รายละเอยี ด หมายเหตุ ๑1. ขอคร้ังแรก 1๑..1๑ ต้อองงดดา�ำรงรตงาตแ�ำหแนห่งนใด่งตใาดแตห�ำนแ่งหหน่ึงหหนร่ึือง - กานัน เรม่ิ ขอ ร.ท.ช., บ.ม., หลรือายหตลาาแยหตน�ำง่ แตหดิ ตน่อ่งกตนัิดเตป่อ็นกเวันลเปาไ็นมเ่นว้อลยา บ.ช., จ.ม. จนถงึ จ.ช. ไกมว่นา้อ3ยกปวีบ่าร๓ิบูรปณีบ์ รนิบับูรแณต์น่วับนแทตี่ด่วาันรทงี่ - ผ้ใู หญ่บา้ น เร่มิ ขอ ร.ง.ช., ดต�าำแรหงนตง่�ำจแนหถนงึ ว่งนั จกนอ่ ถนึงววันันทกี่ 5่อธน.ใคน.ขวอันงทป่ี ร.ท.ม., ร.ท.ช., บ.ม. จนถงึ บ.ช. ๕ท่ขี ธอ.คพ.รขะอรงาปชที ทขี่ าอนพไรมะน่ ร้อายชกทวาา่น6ไม0น่ วอ้ ันยกวา่ - แพทย์ประจาตาบล สารวัตร 1 .2 ๖กร๐ณวีดนั ารงตาแหน่งไม่ต่อเน่ืองกัน ให้ กานนั และผ้ชู ่วยผใู้ หญบ่ า้ น ๑.๒ กนรบั ณเวีดลำ�ารงวตม�ำกแันหไนมง่นไ้อมยต่ กอ่ วเน่า่อื 5งกปนั ีบรใิหบนู้รณบั ์ เร่มิ ขอ ร.ง.ช, ร.ท.ม และ ร.ท.ช. เนวับลแาตรว่ มันกทัน่ีดไามร่นงต้อายแกหวน่า่งจ๕นถปึงีบวรันิบกูร่อณน์ นวันบทแี่ ต5่วธัน.คท.ข่ีดอ�ำงรปงีทต่ีข�ำอแพหรนะ่งราจชนทถาึงนวไันม่ กนอ่้ นยวกนัว่าที่6๕0ธว.คนั . ของปที ข่ี อพระราชทาน 2๒.. ขอเลือ่ น ดา�ำรรงงตตาแ�ำหแนห่งนต่องเตน่อื่ เงนตื่อไงปตไ่มอ่นไอป้ ยไกมว่นา่ ้อ3ยปกี ว่า ชัน้ ตราท่ี บ๓ริบปูรีบณร์ หิบรูรือณกร์ ณหีไรมือ่ตกอ่ เรนณอื่ ีงไตมอ้่ตง่อมเีรนะยื่อะงเตวล้อางม ี สูงขน้ึ ดระารยงะตเวาลแาหดนำ� ง่รมงตาแำ� แลวห้ นนง่ บั มเาวแลลาว้รวนมบักเนั วไลมา่นร้อวมยกนั กไมวน่าอ้ 5ยกปวบี า่ ร๕บิ รูปณบี ์รนบิ บัรู ณปีท์ นีไ่ บัดปร้ บัที พไ่ี ดรร้ ะบั รพารชะทราานชทาน เคร่ือองงรราาชชออสิ ิสรริยยิ าาภภรรณณ์คค์ รรง้ั ลั้งลา่ สา่ สดุ ดุ วิธีกำรเสนอขอพระรำชทำน ประมาณเดือนมกราคม จังหวัดจะพิจารณาผู้มีคุณสมบัติส่งให้กรมการปกครอง ภายในเดือนมีนาคมของทุกปี ดังนั้น หากท่านทราบว่าตนเองมีคุณสมบัติขอให้ประสาน เจ้าหน้าท่ีงานปกครองของแต่ละอาเภอ เพื่อเสนอช่ือไปยังคณะกรรมการระดับจังหวัด ภายในระยะเวลาดงั กล่าว หากต้องการตรวจสอบประวัติการได้รับเครื่องราชย์ จาก สนร. เบอร์โทรศัพท์ 0๐-2๒2๒8๘0๐--9๙0๐0๐0๐ตตอ่ อ่ 4๔2๒6๖,, 4๔2๒7๗ หรือ ตรวจสอบจาก http://www.cabinet.thaigov.go.th ๑1๒2. รางวลั กานัน ผใู้ หญบ่ ้าน รระะเบเบียบียกบรกะรทะรทวงรมวหงมาดหไาทดยไวทา่ ดยว้ ย่ากดา้วรยพกจิ ารณพาิจราารงณวลั ากราานงนั วัลผกใู้�ำหนญัน่บ้าผนู้ใหแญพ่บท้ยาน์ ปแพระทจยา์ปตราะบจล�ำต�ำสบาลรวสัตารรกวาัตนรันก�ำแนลันะผแู้ลชผ่วู้ยช่วผยู้ใหผู้ใญห่บญ้า่บน้านพ.พศ.ศ๒2.๕5๒๔4๕6๖๔เ๖พอ่ื เเพปื่อน็ เกปา็นรกตาอรบตแอทบนแทน คณุ ความดีเป็นการประจาปีเป็นกาลังใจในการปฏิบัตหิ น้าท่ี 1๑.. ผู้มสี ิทธไิ ด้รับการพจิ ารณารางวลั กานัน ผ้ใู หญ่บา้ น แพทย์ประจาตาบล สารวัตรกานัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ที่จะได้รบั การพจิ ารณาให้รับรางวัล ทด่ี ารงตาแหน่งติดต่อกันครบหน่ึงรอบปีงบประมาณของ ปที แี่ ล้วโดยนับตั้งแต่ ๑1 ต ลุ า ค ม ข อ ง ป ี ถ งึ ๓30๐ กันยายนของปถี ัดไป
250 ในกรณีที่บุคคลใดมีความดีความชอบเป็นพิเศษ เม่ือนายอ�ำเภอเห็นสมควรท่ีจะให้บุคคลนั้น ไดร้ บั การพจิ ารณาดว้ ย ใหข้ ออนมุ ตั ผิ วู้ า่ ราชการจงั หวดั ทง้ั นี้ ตอ้ งดำ� รงตำ� แหนง่ นนั้ ไมน่ อ้ ยกวา่ แปดเดอื น ในรอบปีงบประมาณที่แล้ว ข้อสงั เกต ก�ำนันต�ำบลใดไดร้ บั รางวัลช้ันใด ให้สารวัตรกำ� นันต�ำบลนน้ั ได้รบั รางวลั ช้ันนัน้ ดว้ ย ต�ำบลใดมีสารวัตรก�ำนันสองคนก็ให้ได้รับรางวัลคนละคร่ึง ต�ำบลใดไม่มีสารวัตรก�ำนันให้น�ำรางวัล ส่งคนื คลัง แล้วแจง้ ใหก้ ระทรวงมหาดไทยทราบ ๒. ประเภทและการแบง่ ชั้นรางวลั ๑) ประเภทรางวลั สำ� หรับกำ� นนั มี ๒ ชั้น คอื ๑.๑) รางวัลยอดเยยี่ ม ได้รบั แหนบทองค�ำ อาวธุ ปืนสั้น และเครือ่ งแบบปกตขิ าว กรณีรับครงั้ ทส่ี อง ได้รับแหนบทองคำ� อาวุธปืนลูกซองยาวห้านดั และเคร่ืองแบบปกตขิ าว กรณรี ับครั้งทีส่ ามข้ึนไป ได้รบั แหนบทองคำ� โล่เกยี รตยิ ศ และเครอื่ งแบบปกตขิ าว ๑.๒) รางวลั ชัน้ ท่ี ๒ รางวัลละ ๓,๐๐๐ บาท ใหม้ อี ำ� เภอละ ๑ รางวลั ถา้ อำ� เภอใด ก�ำนันได้รบั รางวลั ยอดเยยี่ มแล้ว ใหง้ ดอ�ำเภอนน้ั ๒) ประเภทรางวลั สำ� หรับผู้ใหญ่บา้ น มี ๒ ช้ัน คอื ๒.๑) รางวัลยอดเย่ยี ม ได้รับแหนบทองค�ำ อาวุธปนื ส้นั และเครื่องแบบปกติขาว กรณีรับครั้งทีส่ อง ไดร้ บั แหนบทองค�ำ อาวธุ ปืนลูกซองยาวห้านดั และเครอื่ งแบบ ปกตขิ าว กรณรี ับคร้งั ที่สามขน้ึ ไป ไดร้ บั แหนบทองคำ� โล่เกยี รตยิ ศ และเครอ่ื งแบบปกตขิ าว ๒.๒) รางวัลชน้ั ที่ ๒ รางวลั ละ ๒,๐๐๐ บาท ใหม้ ีอ�ำเภอละ ๑ รางวลั ถ้าอ�ำเภอใด ผ้ใู หญบ่ า้ นไดร้ ับรางวลั ยอดเย่ียมแล้ว ให้งดอ�ำเภอน้นั ๓) ประเภทรางวลั ส�ำหรบั แพทย์ประจำ� ตำ� บล มี ๒ ชัน้ คือ ๓.๑) รางวัลช้นั ที่ ๑ รางวลั ละ ๒,๐๐๐ บาท ให้มีจังหวดั ละ ๑ รางวลั ๓.๒) รางวลั ชั้นท่ี ๒ รางวัลละ ๑,๐๐๐ บาท ใหม้ ีอำ� เภอละ ๑ รางวัล ถ้าอำ� เภอใด แพทยป์ ระจ�ำต�ำบลได้รบั รางวัลชัน้ ท่ี ๑ แล้ว ใหง้ ดอ�ำเภอนั้น ๔) ประเภทรางวัลส�ำหรบั สารวัตรกำ� นัน มี ๒ ชั้น คอื ๔.๑) รางวลั ชนั้ ท่ี ๑ รางวัลละ ๑,๕๐๐ บาท ใหม้ จี งั หวัดละ ๑ รางวลั ๔.๒) รางวัลช้ันท่ี ๒ รางวัลละ ๑,๐๐๐ บาท ใหม้ ีอ�ำเภอละ ๑ รางวลั ถ้าอำ� เภอใด สารวตั รก�ำนันไดร้ บั รางวัลชน้ั ท่ี ๑ แลว้ ใหง้ ดอำ� เภอนัน้
251 ๕) ประเภทรางวลั ส�ำหรบั ผู้ช่วยผใู้ หญบ่ ้าน มี ๒ ช้นั คอื ๕.๑) รางวลั ชน้ั ท่ี ๑ รางวลั ละ ๑,๕๐๐ บาท ใหม้ ีจังหวัดละ ๑ รางวลั ๕.๒) รางวลั ช้นั ท่ี ๒ รางวลั ละ ๑,๐๐๐ บาท ให้มีอำ� เภอละ ๑ รางวัล ถ้าอำ� เภอใด ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านไดร้ ับรางวัลชั้นที่ ๑ แลว้ ให้งดอำ� เภอนั้น การกำ� หนดชน้ั รางวลั เงนิ รางวลั สำ� หรบั กำ� นนั ผใู้ หญบ่ า้ น ฯลฯ กระทรวงมหาดไทยมสี ทิ ธิ จะแก้ไขเปลย่ี นแปลง ตัด เพมิ่ งด ใหก้ ับจงั หวดั หรอื อำ� เภอใด ๆ ก็ได้ ตามที่พจิ ารณาเห็นสมควร โดย “รางวลั ชัน้ ที่ ๑ ของก�ำนนั ผใู้ หญ่บา้ น ใหม้ ีสัดส่วน ดังนี้ (ก) จังหวัดทม่ี ีอำ� เภอ ไมเ่ กิน ๑๐ อำ� เภอ ให้มีประเภทละหนึ่งรางวลั (ข) จังหวดั ทม่ี อี ำ� เภอ ตงั้ แต่ ๑๑ ถงึ ๑๕ อำ� เภอ ให้มปี ระเภทละสองรางวัล (ค) จังหวดั ทม่ี ีอ�ำเภอ ตั้งแต่ ๑๖ อ�ำเภอข้ึนไป ใหม้ ีประเภทละสามรางวัล” ส�ำหรับจังหวัดนราธิวาสและจังหวัดปัตตานี ให้มีรางวัลเพ่ิมอีกประเภทละสองรางวัล จังหวัดยะลา ให้มีรางวัลเพิ่มอีกประเภทละหน่ึงรางวัล และจังหวัดสงขลา เฉพาะอ�ำเภอจะนะ นาทวี เทพา และสะบ้าย้อย รวมกนั ใหม้ รี างวัลเพิม่ อกี ประเภทละหน่งึ รางวัล ๓. หลักเกณฑ์การพจิ ารณาใหเ้ งินรางวัล ๑) เป็นผู้เอาใจใส่ดูแลทุกข์สุขราษฎร รักษาความสงบเรียบร้อยในพ้ืนท่ี และป้องกัน ภัยพบิ ตั ติ า่ ง ๆ ๒) ปฏบิ ตั งิ านตามนโยบายทเี่ สยี่ งอนั ตราย และอทุ ศิ ตนใหแ้ กร่ าชการจนเกดิ ผลอยา่ งดยี ง่ิ ๓) ส่งเสรมิ ด้านการศึกษา ศาสนา และอนุรกั ษศ์ ลิ ปวัฒนธรรมประเพณีของชมุ ชน ๔) ชว่ ยเหลอื กอ่ สรา้ งสง่ิ สาธารณประโยชนห์ รอื สถานทรี่ าชการ โดยไมต่ อ้ งใชเ้ งนิ งบประมาณ ของแผน่ ดนิ หรอื ชว่ ยเหลือหารายได้หรือวสั ดุส่ิงของสมทบ กระทรวงมหาดไทย อาจเพิ่มเติมหรืองดเว้นหลักเกณฑ์การพิจารณาข้อใดข้อหน่ึงได ้ ตามท่ีเหน็ สมควร ๔. วธิ กี ารพิจารณาใหร้ างวลั ๑) คณะกรรมการระดบั อำ� เภอ ประกอบดว้ ย นายอำ� เภอเปน็ ประธาน หวั หนา้ สว่ นราชการ ประจำ� อ�ำเภอจำ� นวน ๓ คน ผทู้ รงคุณวฒุ ซิ ึ่งเป็นผู้มีประสบการณใ์ นการท�ำงานเป็นทย่ี อมรับโดยท่วั ไป จ�ำนวน ๓ คน โดยมปี ลัดอ�ำเภอหวั หนา้ ฝ่ายบรหิ ารงานปกครองเป็นกรรมการและเลขานกุ าร ๒) คณะกรรมการระดบั จงั หวดั ประกอบดว้ ย ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั เปน็ ประธาน ปลดั จงั หวดั หัวหน้าส่วนราชการประจ�ำจังหวัด จ�ำนวน ๓ คน ผู้ทรงคุณวุฒิ จ�ำนวน ๓ คน โดยมีจ่าจังหวัด เปน็ กรรมการและเลขานุการ ๓) คณะกรรมการระดับกระทรวง ให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยแต่งต้ังบุคคลหรือผู้แทน หนว่ ยงานราชการท่ีเกี่ยวขอ้ ง จ�ำนวนไม่เกนิ สิบเอด็ คน มีหนา้ ทีพ่ ิจารณากลั่นกรอง ผไู้ ด้รบั รางวัลกำ� นนั ผู้ใหญ่บ้าน ยอดเย่ียม ว่าเป็นผู้มีประวัติหรือพฤติการณ์เสื่อมเสียหรือไม่ เพ่ือเสนอรัฐมนตร ี วา่ การกระทรวงมหาดไทยประกอบการพจิ ารณาประกาศผลการคัดเลือกต่อไป
252 ๑๓. การยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ ระเบยี บกระทรวงมหาดไทย วา่ ดว้ ยการยกยอ่ งเชดิ ชเู กยี รตกิ ำ� นนั ผใู้ หญบ่ า้ น ผชู้ ว่ ยผใู้ หญบ่ า้ น แพทย์ประจ�ำตำ� บล และสารวัตรกำ� นัน ซึ่งปฏิบัติหนา้ ท่หี รือชว่ ยเหลือ เจ้าพนกั งานในการปฏิบตั ิหน้าท่ี อนั เปน็ ประโยชนอ์ ย่างมากแกท่ างราชการและประชาชน พ.ศ. ๒๕๕๐ ผทู้ ม่ี สี ทิ ธจิ ะไดร้ บั การยกยอ่ งเชดิ ชเู กยี รตติ ามระเบยี บนี้ ไดแ้ ก่ กำ� นนั ผใู้ หญบ่ า้ น ผชู้ ว่ ยผใู้ หญบ่ า้ น แพทยป์ ระจำ� ตำ� บล และสารวัตรกำ� นัน ซึง่ ปฏิบตั หิ นา้ ทีห่ รือชว่ ยเหลือ เจา้ พนักงานในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี ตามอ�ำนาจหน้าท่ี อันเป็นประโยชน์อย่างมากแก่ทางราชการและประชาชน โดยจะต้องปฏิบัติงาน ตามอ�ำนาจหน้าท่ีด้วยความเส่ียงภัย หรือเสี่ยงอันตรายต่อชีวิต ด้วยความเสียสละ กล้าหาญ ทุ่มเท หรือปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความมั่นคง การรักษาความสงบเรียบร้อย การอ�ำนวยความเป็นธรรม การปอ้ งกนั บรรเทาสาธารณภยั การบำ� บดั ทกุ ขบ์ ำ� รงุ สขุ การปอ้ งกนั แกไ้ ขปญั หา หรอื การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ประชาชนตามกฎหมาย ซง่ึ มผี ลการปฏบิ ตั เิ ปน็ ทป่ี ระจกั ษ์ จนเกดิ ประโยชน์ ผลดี หรอื เปน็ แบบอยา่ งทด่ี ี ทง้ั นี้ ผทู้ ไี่ ดร้ บั การยกยอ่ งเชดิ ชเู กยี รติ มสี ทิ ธไิ ดร้ บั และประดบั เขม็ เครอ่ื งหมาย (ประดบั เหนอื กระเปา๋ เส้อื ด้านขวา/บ่าเสอ้ื ขวาของเคร่อื งแตง่ กายสากล) รวมทั้งประกาศ การยกยอ่ งเชิดชเู กียรตจิ าก กระทรวงมหาดไทย ๑๔. คา่ ป่วยการในการพิสูจน์รงั วดั ท่ดี นิ กำ� นนั ผใู้ หญบ่ า้ น ในฐานะเจา้ หนา้ ทปี่ กครองทอ้ งที่ ทำ� การพสิ จู นร์ งั วดั ทดี่ นิ (การรงั วดั เกยี่ วกบั โฉนดทดี่ ิน/ พสิ จู นส์ อบสวน/ ตรวจสอบเนอ้ื ทเ่ี กย่ี วกับหนงั สอื รับรองการท�ำประโยชน)์ ได้ค่าป่วยการ วันละ ๕๐ บาท ค่าปิดประกาศที่ดนิ แปลงละ ๑๐ บาท (กฎกระทรวงมหาดไทยฉบบั ท่ี ๔๘ พ.ศ. ๒๕๔๒ ออกตามความในพระราชบญั ญัติใหใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗) ๑๖. ค่าเบี้ยประชุมคณะกรรมการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจ�ำต�ำบล (คชก. ต�ำบล) ตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพ่ือเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๒๔ ก�ำนัน เป็นประธาน คชก. ต�ำบลโดยต�ำแหน่ง เมื่อมีการประชุมคณะกรรมการจะได้รับเบ้ียประชุมคร้ังละ ๑,๕๐๐ บาท ส�ำหรับผู้ใหญ่บ้านในหมู่บ้านท่ีมีการเช่าที่ดินเพ่ือเกษตรกรรมจะเป็นกรรมการ คชก. ต�ำบลโดยต�ำแหน่ง เช่นเดียวกัน และจะได้รับเบี้ยประชุม คร้ังละ ๑,๒๐๐ บาท (ตามประกาศกระทรวงการคลัง เร่ือง ก�ำหนดรายช่ือคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ ท่ีมีสิทธิได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายเดือน และอัตราเบี้ยประชุมเป็นรายเดือนและเป็นรายครั้งส�ำหรับกรรมการ อนุกรรมการ เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการ พ.ศ. ๒๕๕๑ ลงวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๑)
253 บทท่ี ๑๕ ความรูเ้ บ้อื งตน้ เกย่ี วกับประชาคมอาเซยี น ๑. อาเซยี นและการเข้าส่ปู ระชาคมในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ อาเซียน (ASEAN) หรือสมาคมประชาชาติ แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Association of Southeast Asian Nations) ถอื ก�ำเนิดขึน้ ในปี พ.ศ. ๒๕๑๐ โดยมีสมาชกิ ผู้ก่อต้งั ๕ ประเทศ คอื ไทย มาเลเซยี อินโดนเี ซยี ฟลิ ิปปนิ ส์ และสิงคโปร์ ต่อมาจึงมีสมาชิกเพ่ิมเติม คือ บรูไน เวียดนาม ลาว และเมียนมาร์ โดยกัมพูชาเป็นประเทศสุดท้ายที่เข้าเป็น สมาชกิ อาเซียน ในปี พ.ศ. ๒๕๔๒ ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๑๓ เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ ณ ประเทศสิงคโปร์ ในโอกาสครบรอบ ๔๐ ปีของการก่อตั้งอาเซียนผู้น�ำอาเซียนได้ลงนามรับรอง กฎบตั รอาเซยี น (The ASEAN Charter) เพอ่ื กา้ วสกู่ ารเปน็ ประชาคมอาเซยี น (ASEAN Community : AC) ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ภายใต้วิสัยทัศน์ร่วมของผู้น�ำอาเซียน คือ การสร้างประชาคมอาเซียน ทม่ี ขี ดี ความสามารถในการแขง่ ขนั สงู มกี ฎกตกิ าทชี่ ดั เจน และมปี ระชาชนเปน็ ศนู ยก์ ลาง อยา่ งไรกด็ ี ประเทศสมาชิกไดใ้ ห้สตั ยาบนั กฎบัตรอาเซียน ครบทงั้ ๑๐ ประเทศ เมือ่ วันท่ี ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ กฎบัตรอาเซียนจึงมีผลใช้บังคับตัง้ แตว่ นั ที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๑ เปน็ ต้นไป ๒. แผนงาน (Blueprint) สำ� หรับการจดั ต้งั ประชาคมอาเซยี น นอกจากผู้น�ำอาเซียนได้ลงนามรับรองกฎบัตรอาเซียน (The ASEAN Charter) เพ่ือก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียน (ASEAN Community : AC) ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ผู้น�ำอาเซียน ยงั ใหค้ �ำรบั รองแผนงาน (Blueprint) สำ� หรบั การจดั ต้ังประชาคมอาเซียนใน ๓ เสาหลกั (Pillars) ไดแ้ ก่ ๑) แผนงานประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน (ASEAN Political–Security Community : APSC) มเี ปา้ หมายเพือ่ ใหป้ ระชาคมอาเซยี นเป็นประชาคมท่มี ีกตกิ า การพัฒนาค่านิยม และบรรทดั ฐานรว่ มกัน มคี วามเปน็ เอกภาพ สงบสุข แข็งแกร่ง และความรับผดิ ชอบร่วมกนั มีพลวตั ิ และปฏิสมั พนั ธก์ บั นอกภูมิภาคอาเซียน ๒) แผนงานประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) มีเป้าหมายเพ่ือให้ประชาคมอาเซียนเปน็ ตลาดและฐานการผลติ เดยี ว มขี ีดความสามารถในการแข่งขนั ทางเศรษฐกิจ มีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน และสามารถบูรณาการเข้ากับ เศรษฐกจิ โลก
254 ๓) แผนงานประชาคมสงั คมและวฒั นธรรมอาเซยี น (ASEAN Socio - Cultural Community : ASCC) มีเป้าหมายให้ประชาคมอาเซียนเป็นประชาคมที่มีการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ มีการคุ้มครอง และสวัสดิการสังคม มีสิทธิและความยุติธรรมทางสังคม มีความย่ังยืนด้านสิ่งแวดล้อม มีการสร้าง อัตลักษณอ์ าเซียน และการลดช่องวา่ งทางการพฒั นาระหว่างประเทศสมาชิก ๓. แผนแม่บทวา่ ด้วยความเชอ่ื มโยงในอาเซียน (Master Plan on ASEAN Connectivity) นอกจากแผนงานประชาคมท้งั ๓ ด้าน หรอื ๓ เสาหลกั ดังกล่าวขา้ งตน้ แลว้ ในการประชมุ ผู้น�ำอาเซียน (ASEAN Summit) คร้ังท่ี ๑๕ ในเดือนตุลาคม ๒๕๕๒ ที่ประชุมเห็นชอบข้อเสนอ ของประเทศไทยเกี่ยวกับความเชื่อมโยงในอาเซียน และต่อมาในการประชุมผู้น�ำอาเซียน คร้ังที่ ๑๗ ในเดือนตุลาคม ๒๕๕๓ ผู้น�ำอาเซียนได้รับรองแผนแม่บทว่าด้วยความเช่ือมโยงในอาเซียน (Master Plan on ASEAN Connectivity) เพื่อเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นของประชาคมอาเซียน และนาไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี ๒๕๕๘ รวมทั้งเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแข่งขัน ของอาเซียนในเวทีโลกประกอบดว้ ย ความเช่อื มโยงในอาเซียนใน ๓ รูปแบบ ไดแ้ ก่ ๑) การสร้างโครงขา่ ยเชื่อมอาเซยี นทางกายภาพ (Physical Connectivity) แบ่งออกเป็น ๓ เรื่องใหญ่ๆ ได้แก่ โครงข่ายด้านคมนาคม (transportation) โครงสร้างพ้ืนฐาน ด้านเทคโนโลยี สารสนเทศและการสอ่ื สาร (ICT infrastructure) โครงสรา้ งพนื้ ฐานดา้ นพลงั งาน (energy infrastructure) ไดแ้ ก่ เช้อื เพลิงปโิ ตรเลยี ม (ทอ่ สง่ น้�ำมัน) และพลงั งานไฟฟ้า (power grid) ๒) ความเช่ือมโยงด้านสถาบัน(Institutional Connectivity) ครอบคลุมข้อตกลง พธิ กี ารในระดบั นานาชาตหิ รอื ระดบั ภมู ภิ าคในดา้ นตา่ งๆ ไดแ้ ก่ ดา้ นการขนสง่ และคมนาคม(transport facilitation) เน้นกฎเกณฑ์ด้านคมนาคมข้ามพรมแดนระหว่างประเทศภายในอาเซียนด้วยกันด้าน การขนส่งสนิ ค้าอย่างเสรี (free flow of goods) เพอ่ื ส่งเสรมิ การค้าภายในภมู ิภาค ด้านการเปดิ เสร ี ภาคบรกิ าร (free flow of services) ด้านเปดิ เสรี การลงทุน (free flow of investment) ดา้ นเปิดเสรี ภาคแรงงาน (free flow of skilled labour and human development) ด้านการผ่านแดน (cross-border procedures) ให้การเดินทางข้ามประเทศสะดวกและรวดเร็วมากข้ึน ขณะเดียวกัน ก็ป้องกันและแกไ้ ขปญั หาที่อาจจะเกดิ ขึน้ จากอาชญากรรมข้ามชาติ แรงงานผิดกฎหมาย การคา้ มนษุ ย์ และมลภาวะตา่ งๆ ทจ่ี ะตามมาจากความเชอื่ มโยง ๓) ความเชอื่ มโยงระหวา่ งประชาชน (People-to-people Connectivity) เพอ่ื ใหป้ ระชาชน ในอาเซยี นรจู้ ักกนั และเข้าใจกนั มากขึ้น โดยมยี ุทธศาสตรส์ ำ� คัญในประเด็นตา่ งๆ ไดแ้ ก่ ความเชื่อมโยง ทางการศกึ ษา ความเช่อื มโยงทางวัฒนธรรมและความเชอ่ื มโยงทางการท่องเทยี่ วภายในอาเซยี น
255 ในการขับเคล่ือนแผนแม่บทด้านความเชื่อมโยงอาเซียน อาเซียนได้จัดตั้งคณะกรรมการ ประสานงานอาเซยี นวา่ ดว้ ยความเชอ่ื มโยงระหวา่ งกนั ในภมู ภิ าค (ASEAN Connection Coordinating Committee: ACCC) นอกจากนัน้ ยังมกี ารจดั ท�ำ ASEAN Information Sheet เพอ่ื เปน็ คมู่ ือในการ ระดมทุนจากประเทศคู่เจรจา องคก์ รพฒั นาเอกชน และภาคเอกชน ๔. โครงสรา้ งและกลไกการดำ� เนินงานของประชาคมอาเซยี น กฎบัตรอาเซียน ซึ่งประกอบด้วยบทบัญญัติ ๑๓ หมวด ๕๕ ข้อ ได้ก�ำหนดโครงสร้าง และกลไกการด�ำเนินงานของประชาคมอาเซียนไว้ ดังน้ี ๑) การประชมุ ผนู้ ำ� อาเซยี น (ASEAN Summit) เปน็ การประชมุ ระดบั ประมขุ หรอื หวั หนา้ รฐั บาล เพื่อท�ำหน้าที่ในการก�ำหนดนโยบายสูงสุดและแนวทางความร่วมมือของอาเซียน รวมทั้งตัดสินใจ ในเรื่องส�ำคัญ โดยให้ประเทศสมาชิกซึ่งเป็นประธานอาเซียนเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมจากเดิมปีละ ๑ ครง้ั เปน็ ปลี ะ ๒ ครงั้ หรอื เรยี กประชมุ พเิ ศษหรอื เฉพาะกจิ เมอ่ื มคี วามจำ� เปน็ เพอื่ ใหผ้ นู้ ำ� มโี อกาสหารอื กันมากข้ึน พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงเจตจ�ำนงทางการเมืองที่จะผลักดันอาเซียนไปสู่การรวมตัวกัน หากมีการละเมิดพันธกรณีในกฎบัตรฯ อย่างร้ายแรง ผู้น�ำอาเซียนสามารถก�ำหนดมาตรการใดๆ ท่ีเหมาะสมว่าจะดำ� เนนิ การอย่างไรต่อรฐั ผู้ละเมิดพันธกรณี ๒) คณะมนตรีประสานงานอาเซียน (ASEAN Coordinating Councils : ACCs) ประกอบด้วย รัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศสมาชิกอาเซียนท�ำหน้าที่เตรียมการประชุมสุดยอด อาเซียน ประสานงานความตกลงและข้อตัดสินใจของท่ีประชุมสุดยอดอาเซียน ประสานงานระหว่าง ๓ เสาหลกั ดแู ลการดำ� เนนิ งานและกจิ การตา่ งๆ ของอาเซยี นในภาพรวม คณะมนตรปี ระสานงานอาเซยี น จะมกี ารประชุมกนั อย่างนอ้ ย ๒ ครั้งตอ่ ปี ๓) คณะมนตรีประชาคมอาเซียน (ASEAN Community Councils) ประกอบด้วย คณะมนตรปี ระชาคม ๓ เสาหลกั ไดแ้ ก่ คณะมนตรกี ารเมอื งและความมน่ั คงอาเซยี น คณะมนตรปี ระชาคม เศรษฐกจิ อาเซยี น และคณะมนตรปี ระชาคมสงั คมและวฒั นธรรมอาเซยี น ซง่ึ เปน็ ผแู้ ทนทปี่ ระเทศสมาชกิ แตง่ ตง้ั ให้เปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบแตล่ ะเสาหลกั มีอำ� นาจหน้าท่ีในการประสานงานและตดิ ตามการทำ� งานตาม นโยบาย โดยเสนอรายงานและขอ้ เสนอแนะต่อทปี่ ระชุมสดุ ยอด มกี ารประชมุ อยา่ งนอ้ ยปีละ ๒ คร้งั ๔) องค์กรระดับรัฐมนตรีอาเซียนเฉพาะสาขา (ASEAN Sectoral Ministerial Bodies) ในแผนประชาคมด้านต่างๆ เชน่ ดา้ นยาเสพตดิ ด้านการจดั การภัยพบิ ัติ ดา้ นการพฒั นาชนบทและขจดั ความยากจน เปน็ ตน้ ประกอบด้วย รัฐมนตรีเฉพาะสาขา มีหนา้ ท่ีปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลงและขอ้ ตดั สนิ ใจ ของทปี่ ระชมุ สดุ ยอดอาเซยี นทอ่ี ยใู่ นขอบขา่ ยการดำ� เนนิ งานของตน และเสรมิ สรา้ งความรว่ มมอื ในสาขา ของแต่ละองคก์ รใหเ้ ข้มแข็งขนึ้ เพ่อื สนบั สนุนการรวมตัวของประชาคมอาเซียน
256 ๕) เลขาธกิ ารอาเซยี นและส�ำนักเลขาธกิ ารอาเซยี น (Secretary-General of ASEAN and ASEAN Secretariat) สำ� นกั เลขาธกิ ารอาเซยี นจดั ตงั้ ขน้ึ ตามขอ้ ตกลงทลี่ งนาม โดยรฐั มนตรตี า่ งประเทศ อาเซียนในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งท่ี ๑ ในปี ๒๕๑๙ เพื่อท�ำหน้าท่ีประสานงาน และด�ำเนินงานตามโครงการและกิจกรรมต่างๆ ของสมาคมอาเซียน และเป็นศูนย์กลางในการ ตดิ ตอ่ ระหว่างสมาคมอาเซียน คณะกรรมการ ตลอดจนสถาบันตา่ ง ๆ และรฐั บาลของประเทศสมาชิก ส�ำนักเลขาธิการอาเซียนตั้งอยู่ท่ี กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โดยมีหัวหน้าส�ำนักงานเรียกว่า “เลขาธิการอาเซยี น” (ASEAN Secretary-General) ซึ่งได้รบั การแต่งตัง้ โดยท่ีประชุมสุดยอดอาเซยี น โดยมีวาระการดำ� รงตำ� แหนง่ ๕ ปี และต้องไดร้ ับเลอื กจากรัฐสมาชกิ โดยหมุนเวยี นตามลำ� ดับตวั อักษร ๖) คณะกรรมการผแู้ ทนถาวรประจำ� อาเซยี น (Committee of Permanent Representatives to ASEAN) ประกอบด้วย ผู้แทนระดับเอกอัครราชทูตท่ีแต่งต้ังจากประเทศสมาชิกให้ประจ�ำท ่ี สำ� นักงานใหญ่อาเซยี น กรุงจาการต์ า ประเทศอินโดนีเซีย มีหนา้ ทีส่ นับสนนุ การท�ำงานของคณะมนตรี ประชาคมอาเซียนและองคก์ รระดบั รัฐมนตรีเฉพาะสาขา ประสานงานกบั เลขาธิการส�ำนักงานอาเซยี น ในเร่ืองทีเ่ ก่ยี วข้อง และประสานงานกับสำ� นกั งานเลขาธกิ ารอาเซียนแหง่ ชาตแิ ละองค์กรระดับรฐั มนตรี อาเซยี นเฉพาะสาขา ๗) ส�ำนักงานอาเซียนแห่งชาติ (ASEAN National Secretariat) เป็นหน่วยงาน ระดับกรมในกระทรวงการต่างประเทศของประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งแต่ละประเทศได้จัดต้ังขึ้น เพื่อท�ำหน้าท่ีรับผิดชอบประสานงาน สนับสนุนภารกิจและความร่วมมือต่าง ๆ เก่ียวกับอาเซียน ในประเทศนนั้ ๆ สำ� หรบั ประเทศไทยหนว่ ยงานทร่ี บั ผดิ ชอบ คอื กรมอาเซยี น กระทรวงการตา่ งประเทศ ๘) องคก์ รสทิ ธิมนุษยชนอาเซยี น (ASEAN Human Rights Body) เป็นองค์กรท่จี ัดตง้ั ขึ้น โดยความประสงค์และหลักการของกฎบัตรอาเซียนเก่ียวกับการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และเสรภี าพขน้ั พ้ืนฐาน ๙) มูลนิธิอาเซียน (ASEAN Foundation) มีหน้าท่ีสนับสนุนเลขาธิการอาเซียน และด�ำเนินการร่วมกับองค์กรของอาเซียนที่เก่ียวข้องในการสนับสนุนการสร้างประชาคมอาเซียน โดยการสง่ เสรมิ ความสำ� นกึ ทเี่ พม่ิ ขนึ้ เกยี่ วกบั อตั ลกั ษณข์ องอาเซยี น การมปี ฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งประชาชน กับประชาชน การด�ำเนินงานร่วมกันที่ใกล้ชิดระหว่างภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม นักวิชาการ และผูม้ ีส่วนได้เสยี อน่ื ๆ ในอาเซยี น
257 ๕. การเตรียมความพร้อมของประเทศไทยในการเขา้ สูป่ ระชาคมอาเซยี น ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ การรับรองกฎบัตรอาเซียนและแผนงานประชาคมด้านต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ของผนู้ ำ� อาเซยี นในการเขา้ สปู่ ระชาคมอาเซยี นทม่ี ขี ดี ความสามารถในการแขง่ ขนั สงู มกี ฎกตกิ าทชี่ ดั เจน และมีประชาชนเป็นศูนย์กลางได้ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในมิติต่าง ๆ อย่างมีนัยส�ำคัญ ทงั้ ในดา้ นทศิ ทางการพฒั นาประเทศ แผนปฏบิ ตั งิ านของหนว่ ยงานตา่ งๆ การพฒั นากลไกทางเศรษฐกจิ และนโยบายการพัฒนากฎหมายตามข้อผูกพัน ข้อตกลงที่ได้ลงนามรับรองไว้ในกฎบัตรอาเซียน และแผนงานประชาคมด้านต่าง ๆ ประเทศไทยจึงได้จัดตั้งกลไกและก�ำหนดยุทธศาสตร์ของประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมเขา้ สปู่ ระชาคมอาเซยี น ๕.๑ กลไกระดบั ชาติเพื่อขับเคลื่อนแผนงานประชาคมต่างๆ ประกอบดว้ ย ๑) คณะกรรมการอาเซียนแห่งชาติ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธาน ท�ำหน้าที่เป็นกลไกประสานงานระดับชาติ เพ่ือบูรณาการการดำ� เนินงานของหน่วยงาน ของไทยและเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ อย่างเป็นเอกภาพและ มปี ระสทิ ธภิ าพ โดยกระทรวงการตา่ งประเทศรบั ผดิ ชอบในการจดั ทำ� แผนงานสำ� หรบั การเตรยี มความพรอ้ มฯ ซ่ึงครอบคลุมถึงการดำ� เนนิ งานตามพันธกรณขี องประเทศไทยตามแผนการจดั ตง้ั ประชาคมในแต่ละเส า มีกรมอาเซยี น กระทรวงการต่างประเทศ ท�ำหน้าที่สำ� นักงานเลขาธกิ ารอาเซยี นแหง่ ชาติ ๒) คณะกรรมการส�ำหรับการด�ำเนินการตามแผนการจัดตั้งประชาคมอาเซียน ในแต่ละเสา ประกอบด้วย คณะกรรมการด�ำเนินการเพื่อจัดตั้งประชาคมการเมืองและ ความม่ันคง โดยมีปลัดกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน คณะอนุกรรมการด�ำเนินงานตามแผนงานไปสู่การ เป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยมีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน คณะกรรมการแห่งชาติ ด้านประชาสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความม่ันคง ของมนษุ ย์ เป็นประธาน ในบริบทของการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน รัฐบาลก�ำหนดนโยบายท่ีจะน�ำประเทศ ไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี ๒๕๕๘ อย่างสมบูรณ์ โดยสร้างความพร้อมและความเข้มแข็ง ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม และการเมืองและความมั่นคงและมีนโยบายเร่งด่วนที่จะ ดำ� เนนิ การตามขอ้ ผกู พนั ในการรวมตวั เปน็ ประชาคมอาเซยี นในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ทง้ั ในมติ เิ ศรษฐกจิ สงั คม และม่ันคง ตลอดจนการเช่ือมโยงเส้นทางคมนาคมขนส่งภายในและภายนอกภูมิภาค จึงได้ก�ำหนด ยทุ ธศาสตร์ประเทศ (Country Strategy) พ.ศ. ๒๕๕๖ - ๒๕๖๑ ซง่ึ ได้ผนวกยุทธศาสตร์เตรียมความพรอ้ ม เขา้ สปู่ ระชาคมอาเซยี นไวด้ ว้ ย กระทรวงมหาดไทย จงึ จำ� เปน็ ตอ้ งทบทวนยทุ ธศาสตร ์ กระทรวงมหาดไทย และก�ำหนดจุดยืนเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Positioning) ให้สอดคล้องกับบริบทของยุทธศาสตร์ ประเทศในช่วงเปลี่ยนผา่ นสู่ประชาคมอาเซียน
258 ๕.๒ การก�ำหนดยุทธศาสตร์ประเทศ (Country Strategy) ยทุ ธศาสตรป์ ระเทศในบริบทของการเข้าสูป่ ระชาคมอาเซียน สรุปได้ ดังน้ี วิสยั ทัศน์ ประเทศมขี ีดความสามารถในการแข่งขัน คนไทยอยดู่ กี นิ ดี มีความเสมอภาคและเปน็ ธรรม หลักการของยุทธศาสตร์ ต่อยอดรายได้จากฐานเดิมสร้างรายได้จากโอกาสใหม ่ เพอื่ ความสมดุล และการพัฒนาอย่างยั่งยนื วัตถปุ ระสงค์ ๑) เพ่อื รกั ษาฐานรายได้เดมิ และสร้างรายได้ใหม่ ๒) เพอื่ เพ่ิมประสิทธิภาพของระบบการผลิต ๓) เพ่อื ลดตน้ ทุนใหก้ บั ธุรกิจ (ด้วยการลดตน้ ทนุ คา่ ขนสง่ และโลจิสตกิ ส)์ ยทุ ธศาสตรห์ ลัก ประกอบดว้ ย ๔ ยทุ ธศาสตร์ ไดแ้ ก่ ๑) ยุทธศาสตร์การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพื่อให้หลุดพ้น จากกับดักประเทศรายได้ปานกลาง (Growth and Competitiveness) โดยมีเปา้ หมายใหเ้ ศรษฐกิจ ขยายตวั และมรี ายไดต้ อ่ หวั เพมิ่ ขนึ้ กลยทุ ธท์ ส่ี ำ� คญั เชน่ การพฒั นาอตุ สาหกรรมอนาคต เชน่ การพฒั นา ให้ประเทศเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารคุณภาพ (ครัวไทยสู่ครัวโลก) การเพ่ิมขีดความสามารถ ของผปู้ ระกอบการขนาดกลางและขนาดยอ่ มและผลติ ภณั ฑช์ มุ ชนหนง่ึ ตำ� บลและผลติ ภณั ฑ ์ (SMEs & OTOP) การจัดการใชท้ ด่ี นิ (Zoning) เพื่อการเกษตร อุตสาหกรรม ทอ่ งเท่ยี ว พ้นื ท่เี มืองและพ้ืนทปี่ า่ เป็นตน้ การพฒั นาระบบโลจสิ ตกิ ส์ โครงสรา้ งพ้ืนฐาน พลงั งาน และเทคโนโลยสี ารสนเทศ (ICT) เชน่ สรา้ งรถไฟ ความเร็วสูง เพ่ือเชื่อมโยงกรุงเทพและเมืองหลักในภูมิภาค การจัดหาแหล่งพลังงานให้เพียงพอกับ ความต้องการ การพฒั นาโครงขา่ ยสารสนเทศ และการสื่อสาร เป็นต้น ๒) ยุทธศาสตร์สรา้ งโอกาสบนความเสมอภาคและเท่าเทยี มกนั ทางสงั คม (Inclusive Growth) โดยมเี ป้าหมายเพอื่ ลดความยากจน ทำ� ให้การกระจายรายไดม้ ากข้นึ เพือ่ ลดชอ่ งว่าระหวา่ ง คนรวยและคนจน ด้วยการสร้างโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากร โครงสร้างพื้นฐาน เพื่อสร้างอาชีพ และรายได้ที่มั่นคง ให้สามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ ท่ีเป็นปัจจัยพื้นฐานในการด�ำรงชีวิตท่ีมีคุณภาพ อยา่ งเทา่ เทยี ม รวมทง้ั เขา้ ถงึ กระบวนการยตุ ธิ รรม และไดร้ บั การคมุ้ ครองสทิ ธปิ ระโยชน์ อยา่ งเทา่ เทยี ม เป็นธรรม และท่ัวถงึ เชน่ การปฏริ ูปการศกึ ษา การพฒั นาระบบสวัสดิการ เปน็ ต้น ๓) ยทุ ธศาสตรก์ ารเตบิ โตบนคณุ ภาพชวี ติ ทเ่ี ปน็ มติ รกบั สงิ่ แวดลอ้ ม (Green Growth) ขณะท่ีเศรษฐกิจเติบโต ประชาชนต้องมีคุณภาพชีวิตท่ีดีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยุทธศาสตร์น ้ี จงึ มเี ปา้ หมายเพอ่ื ลดการปลอ่ ยกา๊ ซเรอื นกระจกของกจิ กรรมตา่ ง ๆ ในสงั คม เชน่ การลดการใชพ้ ลงั งาน ในอตุ สาหกรรม การขนสง่ และครวั เรอื น ขณะเดยี วกนั ตอ้ งสง่ เสรมิ การใชพ้ ลงั งานทดแทน การบรหิ ารจดั การ ทรพั ยากรธรรมชาติ เชน่ ทรพั ยากรนำ�้ การนำ� มาตรการทางการคลังมาใชใ้ นการแกป้ ญั หาสิ่งแวดลอ้ ม การเสรมิ สรา้ งและสนบั สนุนการเพม่ิ ศักยภาพเมอื งทีม่ ีสิ่งแวดล้อมอยา่ งยัง่ ยนื (green community/city) เพอ่ื เช่ือมโยงโอกาสจากอาเซยี น การจัดทำ� แผนแมบ่ ทเมอื งอตุ สาหกรรมเชิงนเิ วศ เปน็ ต้น
259 ๔) ยทุ ธศาสตรป์ รบั สมดลุ และพฒั นาระบบบรหิ ารจดั การภาครฐั (Internal Process) เพื่อให้กลไกภาครัฐเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพ และโปร่งใส เช่น การบูรณาการแนวทางการพัฒนา ประเทศของหน่วยงานต่าง ๆ ใหเ้ ป็นไปในทศิ ทางเดยี วกนั การพฒั นากฎหมาย เพ่อื เสริมสรา้ งขีดความ สามารถในการแข่งขัน การแก้ปัญหาความมั่นคงในภาคใต้ การลดการทุจริต และการบริหารงาน อยา่ งโปรง่ ใสเพื่อสรา้ งความเชื่อม่ันจากสงั คมไทย และนานาประเทศ ๖. ผลกระทบของการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน แม้ว่าการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนจะมีประโยชน์ท่ีเป็นรูปธรรม แต่ก็มีปัญหาต่างๆ ที่เกิดข้ึนติดตามมาด้วย ได้แก่ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การลักลอบเข้าเมือง ความเสื่อมโทรม ของสงิ่ แวดล้อม การเปลีย่ นแปลงของสภาพภมู อิ ากาศและมลพิษ ตลอดจนความท้าทายขา้ มเขตแดนอื่นๆ ทีจ่ �ำเปน็ ท่จี ะตอ้ งไดร้ ับการพจิ ารณาปอ้ งกันและแก้ไขอย่างเหมาะสม ผลกระทบด้านประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เกิดจากการเคล่ือนย้ายอย่างเสรีใน ๕ สาขา ได้แก่ สินค้า บรกิ าร การลงทุน แรงงานฝมี ือและเงนิ ทุน ซึง่ ทำ� ใหม้ ีทั้งผทู้ ไ่ี ดป้ ระโยชนแ์ ละเสยี ประโยชน์ แตกต่างกันตามศักยภาพของผู้ประกอบการในแต่ละประเทศ การเตรียมความพร้อมของไทยในการ รองรับระบบการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์การค้า การลงทุน การที่ผู้ประกอบการจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับข้อตกลง FTA อาทิ กฎว่าด้วยแหล่งก�ำเนิดของสินค้าและมาตรการทางการค้า ทมี่ ใิ ชภ่ าษี และแนวทางการดำ� เนนิ การของแตล่ ะประเทศสมาชกิ เปน็ ตน้ การปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั มาตรฐาน การทำ� งานทเี่ ปน็ สากล การเตรยี มความพรอ้ มรบั ปญั หาแรงงานทงั้ ทม่ี กี ารแขง่ ขนั และขาดแคลนในบางสาขา รวมถงึ การปรบั ตวั ในการบริหารต้นทุนและปิดความเสี่ยงดา้ นอตั ราแลกเปลยี่ นสกลุ เงินต่างๆ ผลกระทบด้านประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน ในปัจจุบันภัยคุกคามของโลก ไดเ้ ปล่ียนไปอยา่ งส้ินเชิง (Radical change) โดยมิใช่ภัยคุกคามทสี่ ามารถแกป้ ัญหาได้ดว้ ยการใช้กำ� ลัง ทางทหารเพียงอย่างเดียวได้อีกตอ่ ไป แต่กลบั กลายเป็นภัยคกุ คาม ที่เรยี กวา่ “ภยั คกุ คามรปู แบบใหม่ (Non-traditional threat)” อันเป็นปัญหาท่ีเกิดขึ้นจากความขัดแย้งภายในหรือจากภายนอก ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของอาชญากรรมข้ามชาติ การก่อการร้าย และภัยพิบัติ ซ่ึงต้องใช้การบูรณาการ ทรพั ยากรมนษุ ยแ์ ละเทคโนโลยอี ยา่ งชาญฉลาด อกี ทงั้ ตอ้ งมคี วามรว่ มมอื ระดบั นานาชาตกิ บั มติ รประเทศ จงึ จะสามารถแก้ปญั หาได้ ผลกระทบด้านประชาคมสังคมและวัฒนธรรม เกิดข้ึนจากการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งท�ำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อโครงสร้างของสังคมและวัฒนธรรม รวมถึงผลกระทบด้านส่ิงแวดล้อม ซงึ่ แผนประชาคมสงั คมและวฒั นธรรมอาเซยี นจะทำ� หนา้ ทชี่ ดเชยผลกระทบของพฒั นาทางดา้ นเศรษฐกจิ โดยควรได้รับการส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนาให้มีบทบาทท่ีเป็นรูปธรรมและเป็นจริงมากข้ึน การมีทิศทางในการพฒั นาเพอ่ื แก้ไขปญั หาและขจดั ความยากจน การส่งเสรมิ ใหป้ ระชาชนทั่วไปเข้าถึง สวสั ดกิ ารสงั คม การศกึ ษา การคมุ้ ครองสทิ ธสิ ตรแี ละเดก็ บรกิ ารดา้ นสาธารณสขุ ความมนั่ คงดา้ นอาหาร การสรา้ งเขตปลอดยาเสพตดิ เปน็ ตน้
260 การเตรียมความพรอ้ มของกำ� นัน ผใู้ หญ่บา้ น ฯลฯ การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในวันท่ี ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ในหลายมิติทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และวัฒนธรรม โดยเฉพาะประเด็น ที่เกี่ยวข้องกับการ พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สวัสดิการสังคม การอ�ำนวยความยุติธรรม และสิทธิต่าง ๆ ดังนั้น บุคลากร ของภาครัฐจึงมีส่วนส�ำคัญท่ีจะท�ำให้การท�ำงานภายใต้บริบทอาเซียนเกิดผลส�ำเร็จได้ ในการนี้ ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นผู้น�ำของต�ำบล หมู่บ้าน จึงต้องปรับตัวและเตรียมความพร้อมรับการเปล่ียนแปลง ดังกลา่ ว โดยใหค้ วามสนใจในประเดน็ ดังน้ี ๑. การรจู้ กั ตวั เอง “รเู้ รา” ตอ้ งร้พู นื้ ทตี่ ำ� บล หมบู่ า้ นทตี่ นปกครองวา่ มอี ะไรเปน็ จุดเดน่ จดุ ด้อย เขา้ ใจบรบิ ทของพนื้ ทท่ี งั้ ดา้ นการเมอื ง เศรษฐกจิ สงั คมและวฒั นธรรม เพอื่ กำ� หนดแนวทางในการพฒั นา ต�ำบล หมบู่ ้าน เปน็ การสรา้ งคณุ คา่ และมลู คา่ ใหก้ ับบุคคลและส่งิ ต่าง ๆ ในพนื้ ที่ ๒. การ “รู้เขา” ต้องต่ืนตัวและตระหนักรู้ที่จะศึกษาท�ำความเข้าใจเก่ียวกับประเทศอ่ืน ในอาเซียน ทง้ั ด้านการเมอื ง เศรษฐกิจ สังคมและวฒั นธรรม เพอ่ื ให้เกดิ ความร่วมมอื ทดี่ ีระหว่างกนั ๓. การเป็นผู้น�ำการเปล่ียนแปลงในการสนับสนุนงานของภาครัฐ โดยเฉพาะการสร้าง ความรคู้ วามเขา้ ใจเกยี่ วกบั อาเซยี นและประชาคมอาเซยี นใหป้ ระชาชนในทอ้ งทไี่ ดร้ บั รู้ ชใี้ หเ้ หน็ ประโยชน์ และผลกระทบทอี่ าจไดร้ บั ในอนาคต ตลอดจนการนำ� นโยบายทเี่ กยี่ วขอ้ งไปแจง้ ใหป้ ระชาชนไดร้ บั ทราบ
261 ภาคผนวก
262 ระเบยี บกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพาและใชอ้ าวธุ ปืนของพนักงานฝา่ ยปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๖ (และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติมจนถึงปัจจุบัน) โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพกพาอาวุธปืน ของพนักงานฝ่ายปกครอง พ.ศ. ๒๕๑๙ ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับบทบัญญัติของ พระราชบญั ญตั ิอาวุธปืน เครือ่ งกระสนุ ปืน วตั ถุระเบิด ดอกไม้เพลงิ และสิ่งเทียมอาวุธปนื พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๘ ทวิ วรรคสาม ซ่งึ แก้ไขเพมิ่ เติมโดยมาตรา ๕ แหง่ พระราชบญั ญตั ิอาวธุ ปืน เครือ่ งกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๒๒ โดยบัญญัติให้เจ้าพนักงาน ผมู้ หี นา้ ทรี่ กั ษาความสงบเรยี บรอ้ ยของประชาชน ทหาร และตำ� รวจ ซงึ่ อยรู่ ะหวา่ งปฏบิ ตั หิ นา้ ทส่ี ามารถ พาอาวุธปืนติดตัวได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าพนักงาน ผู้ออกใบอนุญาต จึงต้องปรับปรุงระเบียบ ว่าดว้ ยการพาและใช้อาวธุ ปืนของพนกั งานฝา่ ยปกครองผมู้ ีหน้าทีร่ ักษาความสงบเรียบร้อยไว้ อาศัยอ�ำนาจตามความในมาตรา ๒๐ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ซง่ึ แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ (ฉบบั ท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทยจึงออกระเบียบไว้ ดงั ต่อไปนี้ ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพาและใช้อาวุธปืน ของพนักงานฝา่ ยปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๖” ข้อ ๒ ระเบยี บน้ีใหใ้ ช้บงั คบั ตง้ั แตว่ นั ถดั จากวันทปี่ ระกาศในราชกจิ จานเุ บกษา เปน็ ต้นไป ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยการพกพาและใชอ้ าวุธปืนของพนกั งาน ฝา่ ยปกครอง พ.ศ. ๒๕๑๙ ขอ้ ๔ พนกั งานฝา่ ยปกครอง หมายความถงึ พนกั งานฝา่ ยปกครองหรอื ตำ� รวจตามมาตรา ๒ (๑๖) และพนกั งานฝา่ ยปกครองหรือต�ำรวจช้ันผู้ใหญต่ ามมาตรา ๒ (๑๗) แห่งประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณา ความอาญา เฉพาะในส่วนของกระทรวงมหาดไทย และให้หมายความรวมถึงก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำ� ตำ� บล ผชู้ ว่ ยผู้ใหญ่บา้ น สารวัตรกำ� นัน ด้วย
263 ขอ้ ๔/๑ ผปู้ ฏบิ ตั หิ นา้ ที่ หรอื ผชู้ ว่ ยเหลอื ราชการในการปอ้ งกนั ประเทศ รกั ษาความสงบเรยี บรอ้ ย ของประชาชน หรอื รกั ษาทรัพย์สนิ อนั ส�ำคัญของรัฐ หมายความถึง (๑) ขา้ ราชการ พนกั งาน และลกู จ้างของส�ำนกั งานปลดั กระทรวงมหาดไทย (๒) ข้าราชการ พนกั งาน และลูกจ้างของกรมการปกครอง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน และเจ้าหน้าท่ที ี่ปฏิบตั หิ น้าทใี่ นกองบัญชาการกองอาสารักษาดนิ แดน (๓) ประชาชนผู้ได้รับมอบให้มีและใช้อาวุธปืนจากหน่วยราชการที่มอบให้ประชาชน มแี ละใช้เพอื่ ชว่ ยเหลือราชการ ข้อ ๔/๒ พนักงานฝา่ ยปกครองตามข้อ ๔ และผปู้ ฏิบตั ิหน้าทต่ี ามขอ้ ๔/๑ ตอ้ งมกี ารปฏิบตั ิ หน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่งตามท่ีได้รับมอบหมายเป็นลายลักษณ์อักษรจากปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมการปกครอง ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอ�ำเภอ หรือปลัดอ�ำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจ�ำก่ิงอ�ำเภอ แลว้ แต่กรณี โดย (๑) เป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าท่ีรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน และอยู่ระหว่าง ปฏิบตั หิ นา้ ที่ (๒) เป็นข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างของส�ำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย หรอื กรมการปกครอง ซง่ึ อยใู่ นระหวา่ งปฏบิ ตั หิ นา้ ทเี่ พอ่ื การปอ้ งกนั ประเทศ หรอื รกั ษาความสงบเรยี บรอ้ ย ของประชาชน หรือรักษาทรัพยส์ นิ อนั ส�ำคญั ของรฐั (๓) ประชาชนผไู้ ดร้ บั มอบใหม้ แี ละใชอ้ าวธุ ปนื ในราชการทหาร ตำ� รวจ หรอื ในราชการของ กระทรวงมหาดไทย กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กรมการปกครอง ท่ีมอบให้ประชาชน มแี ละใชเ้ พอ่ื ชว่ ยเหลอื ราชการทหาร ตำ� รวจ หรอื กระทรวงมหาดไทย กองบญั ชาการกองอาสารกั ษาดนิ แดน และกรมการปกครอง แลว้ แต่กรณี ข้อ ๔/๓ ผู้ด�ำรงต�ำแหน่งต่อไปนี้ มีอ�ำนาจออกหนังสือรับรองการพาและใช้อาวุธปืนได้ ตามระเบียบน้ี (๑) ปลดั กระทรวงมหาดไทย สำ� หรบั บคุ คลตามขอ้ ๔ และขอ้ ๔/๑ (๑) ในเขตกรงุ เทพมหานคร และทว่ั ราชอาณาจักร (๒) อธบิ ดกี รมการปกครอง สำ� หรบั บคุ คลตามขอ้ ๔ และขอ้ ๔/๑ (๒) ในเขตกรงุ เทพมหานคร และทวั่ ราชอาณาจกั ร (๓) ผวู้ ่าราชการจงั หวดั ส�ำหรบั บคุ คลตามขอ้ ๔ และข้อ ๔/๑ เฉพาะในเขตจังหวัด (๔) นายอ�ำเภอ หรือปลัดอ�ำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจ�ำกิ่งอ�ำเภอ ส�ำหรับบุคคลตามข้อ ๔ และขอ้ ๔/๑ เฉพาะในเขตอำ� เภอ หรือกง่ิ อำ� เภอ (ความในข้อ ๔ ยกเลิกและใช้ข้อความใหม่แทน โดยข้อ ๓ และ ๔ ของระเบียบกระทรวงมหาดไทย วา่ ด้วยการพาและใชอ้ าวธุ ปืนของพนักงานฝ่ายปกครอง (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑)
264 ขอ้ ๕ พนกั งานฝา่ ยปกครอง จะพาอาวธุ ปนื ซงึ่ ไดร้ บั อนญุ าตใหม้ แี ละใชอ้ าวธุ ปนื หรอื ไดร้ บั มอบให้มีและใชอ้ าวุธปืนโดยชอบดว้ ยกฎหมาย ตดิ ตวั ในระหว่างปฏิบตั ิหนา้ ท่ไี ด้ ดงั ต่อไปน้ี (๑) เปน็ ผ้มู ีหนา้ ที่รักษาความสงบเรยี บรอ้ ยของประชาชนภายในเขตทอ้ งท่ีของตน (๒) เป็นผู้มีหน้าท่ีร่วมกับพนักงานฝ่ายปกครอง หรือต�ำรวจ หรือทหารในกรณีฉุกเฉิน ทจ่ี �ำเป็นตอ้ งท�ำการปราบปรามผ้กู ระทำ� ผดิ (๓) เป็นผู้มีหน้าท่ีที่ได้รับค�ำส่ังให้ไปรักษาเหตุการณ์เพื่อป้องกันและปราบปรามเหตุร้าย ตามคำ� สง่ั ของผบู้ ังคบั บญั ชาตามลำ� ดบั ชัน้ (๔) เป็นผู้มีหน้าท่ีจ�ำเป็นต้องติดตามสืบสวนจับกุมผู้กระท�ำความผิดทางอาญานอกเขต ทอ้ งทขี่ องตนเมื่อมีเหตจุ �ำเป็นและเร่งดว่ นตามสมควรแกพ่ ฤติการณ์ (๕) เป็นผู้มีหน้าท่ีต้องออกไปปฏิบัติราชการนอกเขตท้องที่ของตน โดยได้รับค�ำส่ังเป็น ลายลักษณอ์ กั ษรจากปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดกี รมการปกครอง ผวู้ า่ ราชการจังหวดั นายอำ� เภอ หรือปลัดอ�ำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจ�ำกิ่งอ�ำเภอ แล้วแต่กรณี และในการปฏิบัติหน้าท่ีมีความจ�ำเป็น ตอ้ งพาอาวุธปนื ติดตัว ข้อ ๖ การพาและใชอ้ าวธุ ปนื เพอื่ ปฏิบตั ิหน้าทต่ี ามระเบยี บน้ี ให้ถือปฏบิ ตั ดิ งั ตอ่ ไปนี้ (๑) อาวธุ ปนื ยาวใหพ้ าไปดว้ ยความระมดั ระวัง อยา่ ให้เปน็ ท่หี วาดเสียวแกป่ ระชาชน (๒) อาวธุ ปนื สนั้ ก. ในกรณีแต่งเคร่ืองแบบ ให้พาไปด้วยความเหมาะสมเรียบร้อย โดยใส่ซองปืน หรือใส่กระเป๋าถอื ข. ในกรณไี ม่ได้แต่งเคร่ืองแบบ ให้พาโดยมิดชิด (๓) ในการพาและใช้อาวุธปืนเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตาม (๑) หรือ (๒) เพื่อเป็นการแสดงตน ว่าเป็นพนักงานฝ่ายปกครองผู้มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน พนักงานฝ่ายปกครอง ผู้นั้นจะย่ืนค�ำขอหนังสือรับรองการพาและใช้อาวุธปืนของพนักงานฝ่ายปกครองต่อผู้บังคับบัญชา ผ้มู อี �ำนาจสั่งการแลว้ แต่กรณีก็ได้ การพาและใช้อาวุธปืนตาม (๑) หรือ (๒) เพ่ือปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานฝ่ายปกครอง ในแตล่ ะครง้ั นอกจากมบี ตั รประจำ� ตวั เจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั แลว้ ใหน้ ำ� คำ� สง่ั เพอื่ ใหป้ ฏบิ ตั หิ นา้ ทตี่ ดิ ตวั ไปดว้ ย เพ่ือเป็นหลกั ฐานยนื ยนั การปฏิบตั หิ น้าท่ี การพาและใช้อาวุธปืนตาม (๓) เพื่อปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานฝ่ายปกครองในแต่ละคร้ัง นอกจากมบี ตั รประจำ� ตวั เจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั และคำ� สง่ั ใหป้ ฏบิ ตั หิ นา้ ทแี่ ลว้ จะตอ้ งนาหนงั สอื รบั รองการพา และใชอ้ าวธุ ปืนของพนักงานฝ่ายปกครองติดตัวไปดว้ ย เพ่ือแสดงตนว่าเปน็ เจ้าพนักงานผ้มู ีหนา้ ทร่ี กั ษา ความสงบเรยี บรอ้ ยของประชาชน
265 ขอ้ ๗ ผู้ท่ีมีความประสงค์ขอพาและใช้อาวุธปืนเพื่อปฏิบัติหน้าที่ ให้ยื่นค�ำขอมีหนังสือ รบั รองการพาและใชอ้ าวุธปนื ตามแบบทา้ ยระเบยี บน้ี และให้มเี อกสารประกอบการยื่นค�ำขอ ดงั ต่อไปน้ี (๑) รูปถ่ายขนาด ๑ นิ้วครง่ึ จำ� นวน ๒ รปู (ถ่ายมาแล้วไม่เกิน ๖ เดอื น) (๒) ส�ำเนาบัตรประจำ� ตวั เจ้าหน้าที่ของรฐั (๓) สำ� เนาบตั รประจ�ำตวั ประชาชน (๔) ส�ำเนาทะเบยี นบา้ น (๕) ส�ำเนาใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน (แบบ ป. ๔) หรือส�ำเนาหนังสือแสดงหลักฐาน การเป็นอาวุธปนื ของทางราชการ (๖) สำ� เนาคำ� สง่ั ทม่ี อบหมายใหป้ ฏบิ ตั หิ นา้ ทจ่ี ากผบู้ งั คบั บญั ชาทม่ี อี ำ� นาจออกหนงั สอื รบั รอง การพาและใช้อาวุธปนื ตามขอ้ ๔/๒ (ความในขอ้ ๗ ยกเลิกและใชข้ ้อความใหมแ่ ทน โดยข้อ ๕ ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการ พาและใชอ้ าวุธปนื ของพนกั งานฝา่ ยปกครอง (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑) ขอ้ ๘ หนงั สอื รบั รองการพาและใชอ้ าวธุ ปนื ใหเ้ ปน็ ไปตามแบบทา้ ยระเบยี บนแ้ี ละใหม้ อี ายสุ ป่ี ี นับแต่วันออกหนังสือรับรอง หรือกรณีผู้ได้รับหนังสือรับรองพ้นจากหน้าที่ที่ได้รับสิทธิในการพา และใชอ้ าวุธปนื ตามระเบยี บนก้ี ใ็ ห้ใบอนญุ าตส้ินสดุ และให้สง่ มอบแก่ผอู้ อกหนังสือรับรองด้วย ขอ้ ๘/๑ ส�ำหรบั หนังสือรับรองการพาและใช้อาวุธปนื ทอี่ อกตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย วา่ ดว้ ยการพาและใชอ้ าวธุ ปนื ของพนกั งานฝา่ ยปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๖ ใหใ้ ชไ้ ดต้ อ่ ไปจนถงึ วนั ท่ี ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๒ หรือหากผู้ได้รับหนังสือรับรองการพาและใช้อาวุธปืนดังกล่าวพ้นจากหน้าที่ท่ีได้รับสิทธ ิ ในการพาและใช้อาวุธปืนตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพาและใช้อาวุธปืนของพนักงาน ฝ่ายปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๖ กใ็ หห้ นงั สือรับรองการพาและใชอ้ าวธุ ปืนดังกล่าวสิน้ สดุ ลง (ความในข้อ ๘ ยกเลิกและใช้ข้อความใหม่แทน โดยข้อ ๖ และ ๗ ของระเบียบกระทรวงมหาดไทย วา่ ดว้ ยการพาและใช้อาวุธปนื ของพนกั งานฝ่ายปกครอง (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑) ขอ้ ๙ ใหป้ ลดั กระทรวงมหาดไทยเปน็ ผู้รกั ษาการ และมอี ำ� นาจตีความ หรือวินฉิ ัยปญั หา เกีย่ วกับการปฏิบตั ิให้เป็นไปตามระเบยี บน้ี ประกาศ ณ วันท่ี ๑๗ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๔๖ (นายวนั มูหะมัดนอร์ มะทา) รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย
266 ค�ำขอมหี นังสอื รบั รองการพาและใชอ้ าวธุ ปืนของพนักงานฝ่ายปกครอง เขยี นท.่ี ...................................................... วนั ท.่ี .............เดือน................................พ.ศ............... เรยี น................................................ ดว้ ยขา้ พเจา้ ...................................................................หมายเลขประจำ� ตวั ประชาชน............................................... ตำ� แหนง่ ............................................................................................สงั กดั ............................................................................................ ฝา่ ย / สว่ น............................................................................................กอง / สำ� นกั / จงั หวดั .......................................................................... อาย.ุ ........................ปี อยบู่ ้านเลขท.่ี .............................หมูท่ .ี่ .............................ซอย................................................................. อ�ำเภอ / เขต......................................................จังหวัด......................................................โทร...................................................... ถนน.....................................................................................ต�ำบล / แขวง........................................................................................ มคี วามประสงคข์ อพาและใช้อาวธุ ปืนชนิด........................................................ขนาด......................................................... หมายเลขประจำ� ปืน...........................................................เคร่ืองหมายทะเบียน.................................................................... ตามใบอนุญาตให้มแี ละใชอ้ าวธุ ปนื (แบบ ป. ๔) เลขท่ี........................ลงวันท.่ี ............................................................ อำ� เภอ..................................................................................จงั หวดั ...................................................................................................... หรืออาวธุ ของทางราชการหมายเลข.............................................หน่วยงาน....................................................................... พร้อมกระสุน จ�ำนวน.............................นดั เพ่อื ปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ตามคำ� สัง่ ............................................................................................................................................................. ตง้ั แตว่ ันท.่ี ......................................................................ถงึ ................................................................................................................... ขา้ พเจ้าได้ยื่นหลกั ฐานประกอบค�ำขอ ดงั ต่อไปนี้ ๑. รูปถ่าย ขนาด ๑ นว้ิ คร่ึง จำ� นวน ๒ รปู (ถ่ายมาไม่เกนิ ๖ เดอื น) ๒. สำ� เนาบตั รประจ�ำตวั ประชาชน ๓. บตั รประจ�ำตวั เจา้ หนา้ ท่ขี องรฐั ๔. สำ� เนาทะเบยี นบ้าน ๕. ส�ำเนาใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน (แบบ ป. ๔) หรือส�ำเนาหนังสือแสดงหลักฐาน การเป็นอาวธุ ปนื ของทางราชการ ๖. ส�ำเนาค�ำสั่งท่ีให้ปฏิบัติหน้าท่ีจากผู้บังคับบัญชาที่มีอ�ำนาจออกหนังสือรับรองการพา และใช้อาวุธปนื ตามข้อ ๔/๒ จงึ เรียนมาเพอ่ื โปรดพจิ ารณา (ลงชอ่ื ).......................................................................ผยู้ ืน่ ค�ำขอ (.....................................................................)
267 ความเหน็ ของเจ้าหน้าท่ี ..................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................... (ลงช่อื )....................................................................... (.....................................................................) ความเหน็ ของผูบ้ ังคบั บัญชาชน้ั เหนือขน้ึ ไป ..................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................... (ลงชอ่ื )....................................................................... (.....................................................................) ความเห็นผู้อนุญาต ..................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................... (ลงชื่อ)....................................................................... (.....................................................................)
268 แบบหนงั สอื รับรองการพาและใชอ้ าวุธปืน ดา้ นหน้า ๙ ซม. ๖ ซม. รูปถา่ ย ท.่ี ....../....... หนังสอื รับรองการพาและใช้อาวธุ ปนื ขนาด ฉบบั น้ใี หไ้ วเ้ พื่อแสดงว่า ๑ นวิ้ ครึ่ง .................................................................................................. ................................. หมายเลขประจำ�ตวั ประชาชน................................................... ลายมือชือ่ สามารถพาและใชอ้ าวธุ ปนื ตดิ ตวั ไดต้ ามมาตรา ๘ ทวิ วรรคสาม แหง่ พระราชบัญญตั ิอาวุธปนื ฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ ในเขตทอ้ งท.ี่ ............................................................................... (ลงชือ่ ) ผูอ้ อกหนังสอื รับรอง (...................................) ตำ�แหนง่ ............................................................ ดา้ นหลงั วันออกหนังสือรับรอง..........................................วันหมดอายุ........................................... อาวุธปนื ทรี่ ับรองใหพ้ าและใชอ้ าวุ ธปืน ชนดิ ......................................................................... ขนาด....................................................เลขหมายประจ�ำปนื ................................................. เครอื่ งหมายทะเบยี น............................................................................................................... ใบอนุญาตใหม้ ีและใช้อาวธุ ปนื (แบบ ป. ๔) เลขท.่ี ............................................................. ลงวันท่ี...........................................................................................อาวธุ ปืนของทางราชการ หมายเลข...................................................หน่วยงาน........................................................... พร้อมกระสุน..................................นดั หมายเหตุ ให้ใช้ควบกับบัตรประจ�ำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐและค�ำสั่งที่ได้รับมอบหมาย ใหป้ ฏิบตั ิหน้าที่
269 สรุปอำ�นาจหน้าที่ท่ีเกีย่ วขอ้ งกบั กำ�นนั ผใู้ หญ่บา้ น ฯลฯ ตามกฎหมายตา่ ง ๆ ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ในฐานะนักปกครองท้องท่ีมีอ�ำนาจหน้าท่ีตามพระราชบัญญัติลักษณะ ปกครองทอ้ งที่ พระพุทธศักราช ๒๕๕๗ และทแี่ กไ้ ขเพม่ิ เตมิ (ฉบบั ที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๒๗ ผูใ้ หญบ่ ้าน ท�ำหน้าท่ีช่วยเหลือนายอ�ำเภอในการปฏิบัติหน้าที่และเป็นหัวหน้าราษฎรในหมู่บ้านของตนและมีอานาจหน้าที่ อำ� นวยความเปน็ ธรรมและดแู ลรกั ษาความสงบเรยี บรอ้ ยและความปลอดภยั ใหแ้ กร่ าษฎรในหมบู่ า้ น ดงั นนั้ กำ� นนั ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ จึงเป็น “พนักงานฝ่ายปกครองหรือต�ำรวจ” ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ใมนาฐตารนาะ๒พ(น๑ัก๖ง)าซนงึ่เจก้าฎหหนม้าาทย่ีหใหรม้ืออีฐาำ� นนะาจอแน่ื ลๆะตหานมา้ กทฎรี่ หกั ษมาาคยอวาื่นมทสีเ่ งกบีย่ เวรขยี ้อบ2งร7อ้ด0ยงั นขอ้ี งประชาชนตลอดจนมอี ำ� นาจหนา้ ที่ ล�ำดับท่ี รำยชอ่ื กฎหมำย อ�ำนำจและหนำ้ ทต่ี ำมบทบัญญัติ แนวทำง/วิธปี ฏบิ ตั ิ ท่ีเกี่ยวข้อง ของกฎหมำย ๑ พ.ร.บ.ลกั ษณะ - มีอ�านาจหน้าท่ีในทางปกครองและ - ปกครองบรรดาราษฎรท่ีอยู่ในเขต ปกครองท้องท่ี รั ก ษ า ค ว า ม ส ง บ เรี ย บ ร ้ อ ย ต า ม หมบู่ ้าน พระพุทธศกั ราช มาตรา ๑๐, ๒๗, ๒๘, ๓๔ - ๔๓, - อ�านวยความเป็นธรรมและดูแลรักษา ๒๔๕๗ ๕๐ - ๖๐ ความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัย - ผู้ใหญ่บ้านท�าหน้าที่ช่วยเหลือ ให้แก่ราษฎรในหมบู่ ้าน นายอ�าเภอในการปฏิบัติหน้าที่และ - มอี �านาจในการที่เก่ียวด้วยความอาญา เป็นหัวหน้าราษฎรในหมู่บ้านของตน ในฐานะผ้ชู ว่ ยเหลือเจา้ พนักงาน ตามมาตรา ๒๗ - ก�านันมีหน้าท่ีและอ�านาจในการ ทเ่ี กย่ี วดว้ ยความอาญาในฐานะผชู้ ว่ ยเหลอื เจา้ พนกั งาน - เมื่อเกิดเหตุร้ายส�าคัญในต�าบลเป็น หน้าที่ของก�านันเรียกผู้ใหญ่บ้านและ ลูกบ้านใหช้ ว่ ยเหลือ เพื่อระงบั เหตไุ ด้ - ก�านันต้องร่วมมือและช่วยเหลือ นายอา� เภอและองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ดูแลรักษาคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็น สาธารณสมบตั ขิ องแผน่ ดนิ และสง่ิ ซงึ่ เปน็ สาธารณประโยชนอ์ ่ืนอันอยู่ในต�าบลน้นั ๒ ประมวลกฎหมาย - เป็นพนักงานฝ่ายปกครอง ตาม - พนักงานฝ่ายปกครองหรือต�ารวจ วิธีพิจารณาความ ป.วิ อาญา มาตรา ๒ (๑๖) มอี �านาจ จะจับผู้ใดโดยไม่มีหมายจับหรือค�าสั่ง อาญา หน้าที่ในการสืบสวนคดีอาญาท่ีเกิด ของศาลไม่ได้ เว้นแต่ ขนึ้ ภายในพนื้ ท่ี และมอี า� นาจหนา้ ทใ่ี น • พบบุคคลกระทา� ความผิดซงึ่ หน้า การจับกุมผู้กระท�าผิดทางอาญาตาม • พบบุคคลอันควรสงสยั วา่ จะกอ่ เหตุ ป.วิ อาญา มาตรา ๗๘ และการค้น รา้ ยโดยมเี ครอ่ื งมอื หรอื วตั ถอุ นื่ ทสี่ ามารถ ตามมาตรา ๙๒ ใช้ในการกระทา� ผดิ • เป็นการจบั ผู้ต้องหาหรอื จ�าเลยท่หี นี หรือจะหลบหนีในระหว่างถูกปล่อย ชว่ั คราว ทัง้ น้ี เม่อื จับแล้วตอ้ งแจ้งว่าบุคคลน้ัน จะต้องถูกจบั พรอ้ มทงั้ แจ้งสทิ ธดิ ว้ ย - พนกั งานฝา่ ยปกครองหรอื ตา� รวจจะคน้ ในที่รโหฐานโดยไม่มีหมายค้นหรือค�าส่ัง ของศาลไมไ่ ด้ เว้นแต่ • มีเสียงร้องให้ช่วยมาจากข้างในที่ รโหฐาน • เมอื่ บคุ คลทไ่ี ดก้ ระทา� ความผดิ ซง่ึ หนา้ ขณะทีถ่ ูกไล่จับหนเี ขา้ ไปในท่รี โหฐาน
270 ล�ำดบั ที่ รายชอื่ กฎหมาย อำ� นาจและหน้าทตี่ ามบทบัญญตั ิ แนวทาง/วธิ ปี ฏบิ ตั ิ ๓ ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ของกฎหมาย ๔ พ.ร.บ.ระเบียบ - มอี ำ� นาจหนา้ ทใี่ นการประนปี ระนอม - การประนปี ระนอมขอ้ พพิ าทในคดแี พง่ บริหารราชการ ข ้ อ พิ พ า ท ข อ ง ร า ษ ฎ ร ใ น พื้ น ที่ และคดอี าญาอนั ยอมความได้ ดำ� เนนิ การ แผน่ ดนิ พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามขอ้ บงั คบั มท.วา่ ดว้ ยการปฏบิ ตั งิ าน ดังนี้ และทแี่ กไ้ ขเพม่ิ เตมิ ประนีประนอมข้อพิพาทของคณะ ๑. สอบถามคูก่ รณีจากข้อเทจ็ จรงิ (ฉบบั ที่ ๗) กรรมการหมู่บา้ น พ.ศ. ๒๕๓๐ ขอ้ ๕, ๒. สอบถามขอ้ เทจ็ จรงิ จากผทู้ เี่ กย่ี วขอ้ ง พ.ศ. ๒๕๕๐ ๖, ๑๑ ในกรณจี ำ� เปน็ - ข้อบังคับ มท. - การให้ความรว่ มมือในการเผยแพร่ ๓. ตรวจสอบเอกสาร วตั ถุ หรอื สถานท่ี ว่าด้วยการปฏิบัติ กฎหมายและช่วยเหลือทางกฎหมาย ทเี่ กยี่ วขอ้ ง ตามความยนิ ยอมของเจา้ ของ งานประนปี ระนอม แก่ประชาชน หรือผู้ครอบครอง ข ้ อ พิ พ า ท ข อ ง ๔. หากคู่กรณี คณะกรรมการ • ตกลงกนั ไมไ่ ด้ - ยตุ เิ รอื่ ง แจง้ คกู่ รณี หมบู่ า้ น พ.ศ. ๒๕๓๐ ทราบและรายงานนายอำ� เภอทราบ • ตกลงได้-ทำ� สญั ญาประนปี ระนอม ยอมความข้ึน ๔ ฉบับ (คู่กรณีฝ่ายละ ๑ ฉบบั , ผู้ใหญ่บ้าน ๑ ฉบบั และรายงาน นายอำ� เภอ ๑ ฉบับ) พ.ร.บ.การทะเบยี น - เป็นนายทะเบียนผู้รับแจ้งประจ�ำ - รบั แจง้ งานทะเบยี นราษฎรของประชาชน ราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔ ต�ำบล หมู่บ้าน ตามประกาศส�ำนัก ในต�ำบล หมู่บ้าน และออกหลักฐาน - ประกาศส�ำนัก ทะเบยี นกลางฯ มหี นา้ ทรี่ บั แจง้ การเกดิ ดงั ตอ่ ไปน้ีให้แก่ประชาชน เพ่อื นำ� ไปย่นื ท ะ เ บี ย น ก ล า ง การตาย การยา้ ยทอี่ ยู่การสรา้ งบา้ นใหม่ ต่อนายทะเบยี น (ยกเว้นในเขต กทม.) เร่ือง การแต่งต้ัง การร้ือบ้านและการก�ำหนดเลข ๑. ใบรบั แจ้งการเกิด ท.ร. ๑ ตอนหน้า ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประจำ� บ้าน ๒. ใบรบั แจง้ การตาย ท.ร. ๔ ตอนหนา้ เป็นนายทะเบียน ๓. ใบรับแจ้งการย้ายท่ีอยู่ ท.ร. ๖ ผู้รับแจ้ง ลงวันที่ ตอนหนา้ ๒๓ มนี าคม ๒๕๓๕ ๔. ใบรับแจ้งเกีย่ วกับบ้าน ท.ร. ๙ - เปน็ นายทะเบยี นในเรอ่ื งการตรวจสอบ - เรียกเจ้าบ้านมาให้ข้อเท็จจริงหรือ ความถูกต้องของการทะเบียนราษฎร แสดงหลกั ฐาน รวมถงึ การเขา้ ไปสอบถาม ในต�ำบล หมูบ่ ้าน ผอู้ ยใู่ นบา้ นไดต้ ามความจำ� เปน็ เพอื่ ตรวจสอบ การทะเบียนราษฎรให้ถูกต้องตรงกับ ความเป็นจริง หมายเหตุ - เปน็ เจา้ พนกั งานตามประมวลกฎหมาย - จับกุมผู้กระท�ำการทุจริตเกี่ยวกับงาน การเปรียบเทียบ อาญา ในการจบั กมุ ผ้กู ระทำ� ความผิด ทะเบียนราษฎรในพ้ืนท่ีต�ำบล หมู่บ้าน ปรับเป็นอ�ำนาจ งานทะเบยี นราษฎรในเขตตำ� บล หมบู่ า้ น นำ� สง่ ใหพ้ นกั งานสอบสวนดำ� เนนิ คดตี าม ของนายทะเบียน กฎหมาย อ�ำเภอ และนาย ทะเบยี นท้องถิน่
271 ลำ� ดับที่ รายชื่อกฎหมาย อ�ำนาจและหน้าท่ีตามบทบัญญัติ แนวทาง/วิธปี ฏิบัติ ๕ ท่ีเกี่ยวข้อง ของกฎหมาย พ.ร.บ.บตั รประจำ� ตวั - เปน็ เจา้ พนกั งานตรวจบตั รประจำ� ตวั - ขอตรวจบัตรประจ�ำตัวประชาชน ประชาชน พ.ศ.๒๕๒๖ ประชาชนเฉพาะด่านตรวจในพื้นที่ จากผทู้ เ่ี ดินทางผ่านเข้า - ออก ตามด่าน และทแ่ี กไ้ ขเพมิ่ เตมิ ตามค�ำสั่งกระทรวงมหาดไทย ตรวจตา่ ง ๆ (ฉบับที่ ๒) ท่ี ๔๕๒/๒๕๔๒ ขอ้ ๒ มอี ำ� นาจหนา้ ท่ี พ.ศ. ๒๕๔๒ ในการตรวจบัตรประจ�ำตัวประชาชน - ค�ำส่ังกระทรวง ตามดา่ นตรวจตา่ ง ๆ ทง้ั น้ี ตอ้ งมคี ำ� สง่ั มหาดไทย ที่ ให้ก�ำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน ปฏิบัติหน้าท ่ี ๔๕๒/๒๕๔๒ ณ ด่านตรวจนนั้ ๆ ดว้ ย ลงวนั ที่ ๓ พฤศจกิ ายน ๒๕๔๒ - เปน็ “บคุ คลผนู้ า่ เชอื่ ถอื ” ในการรบั รอง - ให้ค�ำรับรองผู้ขอท�ำบัตรเฉพาะ เรื่อง การแต่งตั้ง เจ้าพนักงานตรวจ ตวั บุคคลผู้ขอทำ� บัตร (ข้อ ๔) ผู้ที่ตนรู้จักคุ้นเคยและยืนยันได้ว่าเป็น บัตรและพนักงาน เจ้าหนา้ ที่ ผู้มีสัญชาติไทย และเป็นบุคคลเดียวกับ - ระเบียบกรมการ ปกครองวา่ ดว้ ยการ ที่มีชื่อในทะเบียนบ้านตามท่ีแจ้งต่อ จดั ทำ� บตั รประจำ� ตวั ประชาชน พ.ศ. ๒๕๓๘ พนกั งานเจา้ หนา้ ทจี่ รงิ ในกรณที พี่ นกั งาน เจา้ หนา้ ทร่ี อ้ งขอ - เป็นผมู้ อบบตั รประจ�ำตวั ประชาชน - มอบบัตรทรี่ ับจากอำ� เภอใหแ้ ก่เจ้าของ ใหก้ บั ราษฎรในต�ำบล หมูบ่ า้ น ( บัตรโดยตรงหรือผู้ท่ีเจ้าของบัตรมอบ ขอ้ ๓ อ�ำนาจให้รับบัตรแทน โดยให้ผู้รับบัตร • กรณีบตั รประจำ� ตวั ประชาชนของ ลงลายมอื ชอ่ื พรอ้ มวนั ทร่ี บั บตั รใหช้ ดั เจน บุคคลมีสถานะการเข้าเมืองโดยชอบ ดว้ ยกฎหมายแตย่ งั ไมไ่ ดร้ บั สญั ชาตไิ ทย
272 ล�ำดบั ที่ รายชื่อกฎหมาย อำ� นาจและหน้าทตี่ ามบทบญั ญัติ แนวทาง/วธิ ปี ฏิบตั ิ ๖ ทเ่ี ก่ียวข้อง ของกฎหมาย พ . ร . บ . อ า วุ ธ ป ื น - เป็นผู้รับรองความเหมาะสม - ให้ค�ำรับรองความเหมาะสม เหตุผล เคร่ืองกระสุนปืน และความประพฤตขิ องผขู้ ออนญุ าตมี ความจำ� เปน็ นสิ ยั ใจคอ และความประพฤติ วตั ถุระเบดิ ดอกไม้ และใชอ้ าวธุ ปนื ตอ่ นายทะเบยี นทอ้ งที่ ของผู้ขออนุญาตมีและใช้อาวุธปืน เพลิง และส่ิงเทียม อาวธุ ปนื พ.ศ. ๒๔๙๐ ตอ่ นายทะเบยี นทอ้ งทต่ี ามความเปน็ จรงิ กรณผี ้ขู อเป็นลูกบา้ นในปกครอง - ค�ำส่ังกระทรวง - เป็นผู้กำ� กับ ดแู ล ควบคุม ตรวจตรา - ก�ำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจตราการมี ม ห า ด ไ ท ย ที่ การมีและใช้อาวุธปืนภายในต�ำบล และใชอ้ าวุธปืนภายในตำ� บล หม่บู า้ น ๖ ๗ ๔ / ๒ ๔ ๙ ๐ หมู่บ้าน ให้เป็นไปด้วยความถูกต้อง ลงวนั ท่ี ๑๐ ตลุ าคม เรียบรอ้ ย ๒๔๙๐ - หนงั สอื กระทรวง - รายงานความประพฤติของผู้ได้รับ มหาดไทย ที่ มท อนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน ซึ่งมี ๐๓๑๐.๒/ว ๙๖๗ พฤติการณ์ไม่เหมาะสม หรือเป็นภัย ลงวนั ท่ี ๒๔ มนี าคม ต่อการรักษาความสงบเรียบร้อยให ้ ๒๕๔๐ นายทะเบียนอาวุธปืนทราบเพ่ือเรียก ประกันทัณฑ์บนหรือใช้อ�ำนาจเพิกถอน ใบอนุญาต ๗ พ.ร.บ.ภาษีบ�ำรุง - ก�ำนัน มีฐานะเป็นคณะกรรมการ ทอ้ งท่ี พ.ศ. ๒๕๐๘ ตีราคาปานกลางท่ีดิน ตาม พ.ร.บ. - ก ฎ ก ร ะ ท ร ว ง ภาษีบำ� รงุ ทอ้ งที่ฯ มาตรา ๑๔ (๓) มหาดไทย (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๑๖ - กำ� นนั ผู้ใหญ่บ้าน มฐี านะเป็นเจา้ พ นั ก ง า น ส� ำ ร ว จ ต า ม แ บ บ แ ส ด ง รายการท่ดี ิน (ภ.บ.ท.๕) ในเขตท้องท่ี นั้น ๆ ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๑๖) ขอ้ ท่ี ๓ มีอำ� นาจหนา้ ที่ ในการส�ำรวจท่ีดินเพื่อจัดเก็บภาษี บำ� รุงทอ้ งที่
273 ล�ำดบั ท่ี รายชื่อกฎหมาย อ�ำนาจและหนา้ ที่ตามบทบัญญัติ แนวทาง/วิธีปฏิบัติ ๘ ที่เกีย่ วขอ้ ง ของกฎหมาย ๙ พ.ร.บ.การเชา่ ทดี่ นิ - ก�ำนัน เป็นประธาน คชก. ประจ�ำ เพื่อเกษตรกรรม ตำ� บล และผู้ใหญ่บา้ น ในหมบู่ า้ นทีม่ ี พ.ศ. ๒๕๒๔ การเช่าท่ีดินฯ เป็นกรรมการ คชก. ประจำ� ตำ� บล ตาม พ.ร.บ.การเชา่ ทด่ี นิ พ.ร.บ.จดทะเบียน เพอื่ เกษตรกรรมฯ มาตรา ๙ มอี ำ� นาจ ครอบครวั พ.ศ.๒๔๗๘ หนา้ ที่ ดงั นี้ - ระเบยี บ มท. วา่ - กำ� หนดอตั ราคา่ เชา่ ขนั้ สงู ของแตล่ ะทอ้ งที่ ดว้ ยการจดทะเบยี น - พิจารณาวินิจฉัยข้อพิพาทเกี่ยวกับ ครอบครวั พ.ศ. ๒๕๔๑ การเรียกเก็บค่าเช่า การช�ำระค่าเช่า และระยะเวลาของการเชา่ - อ�ำนาจหน้าที่อ่ืน ตามท่ี คชก. จังหวัดมอบหมาย (มาตรา ๑๓) - เป็นเจ้าพนักงานตาม ป.วิ อาญา มีอ�ำนาจเรียกผู้เช่า ผู้ให้เช่า หรือ ผู้เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยค�ำหรือชี้แจง ห รื อ ส ่ ง เ อ ก ส า ร ห ลั ก ฐ า น เ กี่ ย ว กั บ การเช่ามาประกอบการพิจารณาได้ (มาตรา ๑๙ วรรคหนง่ึ ) - มีอ�ำนาจเข้าไปในที่ดินที่เช่า หรือท่ีเก็บผลผลิตของผู้เช่า ผู้ให้เช่า หรอื ผู้เก่ียวข้อง ในระยะเวลาระหว่าง พระอาทิตย์ข้ึนถึงพระอาทิตย์ตก เพอ่ื ตรวจสอบขอ้ เทจ็ จรงิ เกย่ี วกบั การ เช่าได้ (มาตรา ๑๙ วรรคสอง) - กำ� นนั เปน็ ผรู้ บั คำ� รอ้ งขอจดทะเบยี น - ก�ำนันรับค�ำร้องของผู้อื่นจดทะเบียน สมรสของคสู่ มรสทม่ี ีถิ่นท่อี ยใู่ นต�ำบล ในทอ้ งทท่ี ี่ ผวจ. โดยอนมุ ตั ขิ อง รมว.มท. น้ัน ซ่ึงย่ืนขอจดทะเบียนสมรสนอก กำ� หนด แลว้ นำ� สง่ ตอ่ นายทะเบยี นทอ้ งที่ สำ� นกั ทะเบยี นในทอ้ งทที่ ่ี ผวจ. ประกาศ เพอื่ ดำ� เนนิ การตอ่ ไป โดยอนมุ ตั ขิ อง รมว.มท. แลว้ นำ� สง่ ตอ่ นายทะเบยี น สว่ นผใู้ หญบ่ ้าน จะเป็น พยานกรณีคู่สมรสแสดงเจตนา กระท�ำการสมรสนอกส�ำนักทะเบียน (มาตรา ๖) - ก�ำนัน เป็นพยานในกรณีคู่สมรส - ก�ำนัน เป็นพยาน เนื่องจากฝ่ายหนึ่ง ประสงค์จะขอจดทะเบียนสมรสด้วย ฝา่ ยใดหรือท้ังสองฝ่ายตกอยู่ในอนั ตราย วาจาหรอื กรยิ า (มาตรา ๑๔) ใกล้ความตายและโดยพฤติกรรมที่เป็น อยนู่ ายทะเบยี นไมส่ ามารถไปจดทะเบยี น ให้ได้ มีความประสงค์จะขอจดทะเบียน สมรสดว้ ยวาจาหรอื กรยิ า โดยรอ้ งขอตอ่ ก�ำนันแทน
274 ลำ� ดับท่ี รายชอ่ื กฎหมาย อำ� นาจและหน้าท่ีตามบทบญั ญตั ิ แนวทาง/วธิ ีปฏิบตั ิ ๑๐ ทีเ่ กย่ี วข้อง ของกฎหมาย พ.ร.บ.สตั วพ์ าหนะ - ผใู้ หญบ่ า้ น มอี ำ� นาจหนา้ ทด่ี งั ตอ่ ไปนี้ - น�ำสัตว์พาหนะที่มีอายุครบเกณฑ์ พ.ศ. ๒๔๘๒ • เป็นพยานในการน�ำสัตว์ไปขอ ที่จะต้องท�ำต๋ัวรูปพรรณ พร้อมด้วย (มาตรา ๔, ๘, ๑๒, จดทะเบยี นทำ� ตวั๋ รปู พรรณสตั วพ์ าหนะ เจ้าของสัตว์หรือตัวแทนไปขอจดทะเบียน ๑๘, ๒๔) (ม. ๘) ท�ำต๋ัวรปู พรรณจากนายทะเบียนทอ้ งที่ - ระเบยี บการสตั ว์ • มีหน้าที่ช่วยเหลือก�ำนัน ในการ พาหนะ พ.ศ. ๒๔๘๒ ด� ำ เ นิ น ก า ร เ ก่ี ย ว กั บ ก า ร ท ะ เ บี ย น สัตวพ์ าหนะ • สำ� รวจและจดั ทำ� บญั ชสี ตั วท์ ยี่ งั ไมไ่ ด้ ทำ� ตว๋ั พมิ พร์ ปู พรรณ (แบบ ส.พ.๑๙) • จั ด ท� ำ บั ญ ชี สั ต ว ์ ป ร ะ จ� ำ ค อ ก ซึ่ ง ยั ง ไ ม ่ ไ ด ้ ท� ำ ตั๋ ว พิ ม พ ์ รู ป พ ร ร ณ (แบบ ส.พ.๑๘) และบญั ชสี ตั วท์ ยี่ งั ไมไ่ ด้ ทำ� ตวั๋ พมิ พร์ ปู พรรณ (แบบ ส.พ. ๑๙) และตรวจสอบแก้ไข - กำ� นัน มีอำ� นาจหน้าทดี่ งั ตอ่ ไปน้ี - รับแจ้งความและรับมอบตั๋วรูปพรรณ • รบั มอบตว๋ั รปู พรรณสตั ว์ กรณผี มู้ ี สัตว์ที่ตายจากเจ้าของสัตว์หรือตัวแทน ตว๋ั รปู พรรณแตไ่ มม่ สี ตั วใ์ นครอบครอง หรือผู้ครอบครองช่ัวคราว เพ่ือน�ำส่งต่อ เพอ่ื ส่งให้นายทะเบยี นตอ่ ไป (ม.๑๒) นายทะเบียนท้องที่ภายใน ๑๕ วัน • รับแจ้งความหรือรับมอบตั๋ว นบั แตว่ ันท่ีทราบวา่ สตั วน์ ้ันตาย รูปพรรณสัตว์ท่ีตายจากเจ้าของสัตว ์ หรือตัวแทน (ม.๑๘) • รบั มอบตวั๋ รปู พรรณกรณสี ตั วห์ าย ตามคืนมาไม่ได้ (ม.๒๔) • รบั มอบตวั๋ รปู พรรณสตั วท์ ย่ี งั ไมไ่ ด้ ท�ำตัว๋ พิมพร์ ปู พรรณ (แบบ ส.พ.๑๙) จากผใู้ หญบ่ า้ น จำ� นวน ๓ ฉบบั น�ำไป สง่ นายทะเบยี นเพอ่ื รบั ทราบและลงนาม และจัดเก็บบัญชีดังกล่าวเพ่ือเป็น หลักฐานตรวจสอบสิทธ์ิ และการ จดทะเบยี นท�ำต๋ัวรูปพรรณ - ส�ำรวจและจัดท�ำบัญชีสัตว์ประจ�ำ ค อ ก ซ่ึ ง ยั ง ไ ม ่ ไ ด ้ ท� ำ ต๋ั ว รู ป พ ร ร ณ (แบบ ส.พ.๑๘) ส่งนายทะเบียนเป็น ประจ�ำทุกเดอื น - เป็น “เจ้าพนักงาน” ตาม พ.ร.บ. - มอี ำ� นาจยดึ สตั วพ์ าหนะทไี่ มม่ ตี วั๋ รปู พรรณ สัตว์พาหนะ (ม.๔) หรือมแี ต่ไม่ถูกต้องกับตวั สัตว์ และนำ� สง่ ตอ่ พนกั งานสอบสวนดำ� เนนิ คดี (ม.๒๑) - รับแจ้งความสัตว์พาหนะท่ีหายจาก เจ้าของหรือตัวแทน โดยให้แจ้งต่อ เจา้ พนักงานภายใน ๗ วัน (ม.๒๔)
275 ล�ำดบั ที่ รายชื่อกฎหมาย อ�ำนาจและหน้าทตี่ ามบทบัญญตั ิ แนวทาง/วธิ ปี ฏิบตั ิ ๑๑ ที่เกีย่ วขอ้ ง ของกฎหมาย ๑๒ - เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประกาศ - ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีจับกมุ ปราบปรามผู้บกุ รกุ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ ครอบครองป่า หรือผู้ที่มีไม้หวงห้าม ๑๓ ๒๔๘๔ สิ่งแวดล้อม เรื่อง แต่งต้ังพนักงาน อนั มไิ ดแ้ ปรรปู หรอื มไี มแ้ ปรรปู เกนิ ๐.๐๒ พ.ร.ฎ.ก�ำหนดไม้ เจา้ หนา้ ที่ ตาม พ.ร.บ. ปา่ ไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ ลบ.ม. โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือจับกุม ๑๔ หวงหา้ ม พ.ศ. ๒๕๓๐ ขอ้ ๑ (๙) (๑๐) ประกาศ ณ วันที่ ๑๖ ผเู้ กบ็ หาของปา่ หวงหา้ มทไี่ มไ่ ดร้ บั อนญุ าต พ.ร.ฎ.ก�ำหนดของ ธนั วาคม ๒๕๔๗ มอี ำ� นาจหน้าที่ในการ ป่าหวงห้าม พ.ศ. ป้องกัน จับกุมและ ปราบปราม ๒๕๓๐ ผกู้ ระทำ� ผดิ และยดึ ของกลาง ภายในเขต พ.ร.บ.ป่าสงวน ทอ้ งทร่ี บั ผดิ ชอบ แหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ - เป็นพนักงานเจา้ หนา้ ที่ ตามประกาศ ก ร ะ ท ร ว ง ท รั พ ย า ก ร ธ ร ร ม ช า ติ แ ล ะ สิ่งแวดล้อม เรื่อง แต่งตั้งพนักงาน เจา้ หนา้ ที่ ตาม พ.ร.บ.ปา่ ไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ ขอ้ ๑ (๙) (๑๐) ประกาศ ณ วันท่ี ๑๖ ธันวาคม ๒๕๔๗ มีอำ� นาจหนา้ ทใ่ี นการ ปอ้ งกนั จบั กมุ ปราบปรามผกู้ ระทำ� ความ ผดิ และยดึ ของกลาง ตาม พ.ร.ฎ.กำ� หนด ไม้หวงห้าม พ.ศ. ๒๕๓๐ ภายในเขต ท้องทร่ี ับผิดชอบ - เป็นพนกั งานเจา้ หน้าท่ี ตามประกาศ ก ร ะ ท ร ว ง ท รั พ ย า ก ร ธ ร ร ม ช า ติ แ ล ะ สิ่งแวดล้อม เรื่อง แต่งต้ังพนักงาน เจา้ หนา้ ท่ี ตาม พ.ร.บ.ปา่ ไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ ขอ้ ๑ (๙) (๑๐) ประกาศ ณ วันท่ี ๑๖ ธันวาคม ๒๕๔๗ มีอำ� นาจหนา้ ทใี่ นการ ปอ้ งกนั จบั กมุ ปราบปรามผกู้ ระทำ� ความ ผดิ และยดึ ของกลาง ตาม พ.ร.ฎ.กำ� หนด ของปา่ หวงหา้ ม พ.ศ. ๒๕๓๐ ภายในเขต ทอ้ งทร่ี บั ผดิ ชอบ - เป็นพนกั งานเจ้าหน้าที่ ตามประกาศ - ปฏบิ ัติหนา้ ที่ปอ้ งกันปราบปรามผู้บกุ รุก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ ท�ำลายป่าสงวนแหง่ ชาติ สิ่งแวดล้อม เรื่อง แต่งต้ังพนักงาน เจา้ หนา้ ท่ี ตาม พ.ร.บ.ปา่ สงวนแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ ข้อ ๒.๒ (๓) ประกาศ ณ วนั ที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๔๖ มอี ำ� นาจ ห น ้ า ท่ี ในการจับกุมและปราบปราม ผกู้ ระทำ� ผดิ ตาม พ.ร.บ.ปา่ สงวนแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ ข้อ ๒.๒ (๓) ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๔๖ มอี ำ� นาจ ห น ้ า ที่ ใ น ก า ร จั บ กุ ม แ ล ะ ป ร า บ ป ร า ม ผู้กระท�ำผิด พ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาต ิ พ.ศ. ๒๕๐๗ ภายในเขตทอ้ งทรี่ บั ผดิ ชอบ
276 ล�ำดบั ท่ี รายชือ่ กฎหมาย อ�ำนาจและหน้าท่ีตามบทบญั ญัติ แนวทาง/วธิ ปี ฏบิ ัติ ๑๕ ทเี่ ก่ียวข้อง ของกฎหมาย ๑๖ - เปน็ พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ี ตามประกาศ - จับกุม ปราบปราม ผู้กระท�ำผิด พ.ร.บ.อทุ ยานแหง่ ชาติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และคุม้ ครองดแู ลรกั ษาอุทยานแห่งชาติ ๑๗ พ.ศ. ๒๕๐๔ และส่ิงแวดล้อม เร่ือง แต่งตั้งพนักงาน พ.ร.บ.สงวนและ เจา้ หนา้ ท่ี ตาม พ.ร.บ.อทุ ยานแหง่ ชาติ ๑๘ คุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.๒๕๐๔ ข้อ ๒.๑ (๓) ประกาศ พ.ศ. ๒๕๓๕ ณ วนั ท่ี ๓๐ กนั ยายน ๒๕๔๗ มอี ำ� นาจ พ.ร.บ.สวนปา่ หนา้ ทใี่ นการจบั กมุ ปราบปรามผกู้ ระทำ� พ.ศ. ๒๕๓๕ ความผดิ ตาม พ.ร.บ.อุทยานแหง่ ชาติ พ.ร.บ.เลอื่ ยโซย่ นต์ พ.ศ. ๒๕๐๔ ภายในเขตทอ้ งทรี่ บั ผดิ ชอบ พ.ศ. ๒๕๔๕ - เปน็ พนกั งานเจา้ หนา้ ที่ ตามประกาศ - ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและปราบปราม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ มใิ หผ้ ใู้ ดยดึ ถอื ครอบครองทด่ี นิ หรอื ตดั โคน่ ส่ิงแวดล้อม เร่ือง แต่งตั้งพนักงาน แผ้วถาง เผา ท�ำลายต้นไม้ ขุดหาแร ่ เจา้ หนา้ ท่ี ตาม พ.ร.บ.อทุ ยานแหง่ ชาติ ดิน หิน หรือกระทำ� อันตรายแก่สัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๐๔ ขอ้ ๒.๑ (๓) ประกาศ ตามประกาศประเภทสตั วป์ า่ ตาม พ.ร.บ. ณ วันท่ี ๓๐ กันยายน ๒๕๔๗ สงวนและค้มุ ครองสัตวป์ ่าฯ มีอ�ำนาจหน้าที่ในการจับกุมปราบ ปรามผู้กระท�ำผิดตาม พ.ร.บ.สงวน และคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ ภายในเขตท้องที่รบั ผิดชอบ - เปน็ พนกั งานเจา้ หนา้ ทต่ี ามประกาศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดล้อม เร่ือง แต่งต้ังพนักงาน เจา้ หนา้ ที่ตาม พ.ร.บ.สวนปา่ พ.ศ. ๒๕๓๕ ข้อ ๑.๑ (๙) (๑๐) ประกาศ ณ วันท่ี ๑๖ ธันวาคม ๒๕๔๗ มีอ�ำนาจหน้าท่ีในการป้องกัน จับกุม ปราบปรามผกู้ ระทำ� ความผดิ และยึด ของกลาง ตาม พ.ร.บ.สวนป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ ภายในเขตทอ้ งทร่ี บั ผิดชอบ - เปน็ พนกั งานเจา้ หนา้ ที่ ตามประกาศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดล้อม เรื่อง แต่งตั้งพนักงาน เจ้าหน้าท่ี ตาม พ.ร.บ.เล่ือยโซ่ยนต์ พ.ศ. ๒๕๕๕ ข้อ ๑.๑ (๙) (๑๐) ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๖ ธนั วาคม ๒๕๔๗ มีอ�ำนาจหน้าที่ในการป้องกัน จับกุม ปราบปรามผู้กระท�ำความผิดและยึด ของกลาง ตาม พ.ร.บ.เล่ือยโซ่ยนต์ พ.ศ. ๒๕๔๕ ภายในเขตทอ้ งทรี่ บั ผดิ ชอบ
ล�ำดบั ที่ รายชื่อกฎหมาย อำ� นาจและหนา้ ทตี่ ามบทบญั ญตั ิ 277 ๑๙ ทเี่ ก่ยี วข้อง ของกฎหมาย แนวทาง/วธิ ปี ฏบิ ัติ พ.ร.บ.โรคระบาด - เปน็ พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ี ตามประกาศ สตั ว์ พ.ศ. ๒๔๙๙ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง แตง่ ตงั้ พนกั งานเจา้ หนา้ ที่ ตาม พ.ร.บ. โรคระบาดสตั ว์ พ.ศ. ๒๔๙๙ ขอ้ ๒ (๘) (๙) ประกาศ ณ วันท่ี ๗ กันยายน ๒๕๔๙ มอี ำ� นาจหนา้ ทใี่ นการเฝา้ ระวงั ควบคุม ปอ้ งกันและก�ำจัดโรคระบาด สตั ว์ (มาตรา ๘ ,๙,๒๖) ๒๐ พ.ร.บ.การ - เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่มีอ�ำนาจ ชลประทานราษฎร์ หนา้ ท่ดี งั ตอ่ ไปนี้ พ.ศ. ๒๔๘๒ • เกณฑ์แรงงานหรืออุปกรณ์การ ชลประทานสว่ นราษฎรในเวลาฉกุ เฉนิ (มาตรา ๑๔) • เป็นผู้แบ่งกลุ่มและควบคุมงาน ในการแบ่งปันการงานและเคร่ือง อุปกรณ์ชลประทานส่วนราษฎร (มาตรา ๑๗) • แบ่งปันน้�ำในเขตชลประทาน สว่ นราษฎร โดยแบ่งปันตามสว่ นของ จำ� นวนเนอ้ื ทกี่ ารเพาะปลกู (มาตรา ๒๑) ๒๑ พ.ร.บ.การ - มีหน้าที่ดูแลรักษาคันคลองและ ชลประทานหลวง ทางน�้ำชลประทานที่อยู่ในเขตท้องท่ี พ.ศ. ๒๔๘๕ (มาตรา ๑๗) ๒๒ พ.ร.บ.คมุ้ ครองเดก็ - เป็นพนักงานฝ่ายปกครองมีอ�ำนาจ พ.ศ. ๒๕๔๖ หน้าที่ • รับแจ้ง/รายงานเก่ียวกับการ สงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพ ของเด็ก (มาตรา ๒๙) • เข้าตรวจคน้ และมีอ�ำนาจแยกตวั เด็กออกจากครอบครัวเพื่อคุ้มครอง สวัสดภิ าพ (มาตรา ๔๑) • ยน่ื คำ� ขอตอ่ ศาลเพอื่ ขอมาตรการ ในการคมุ้ ครองเด็ก (มาตรา ๔๓)
278 ล�ำดับท่ี รายชื่อกฎหมาย อ�ำนาจและหนา้ ท่ีตามบทบญั ญัติ แนวทาง/วิธีปฏบิ ตั ิ ๒๓ ทเ่ี กยี่ วข้อง ของกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครอง - เป็นพนักงานฝ่ายปกครองมีอ�ำนาจ ผู้ถูกกระท�ำด้วย หน้าที่ ความรุนแรงใน • รบั แจง้ /รายงานเกยี่ วกบั การกระทำ� ครอบครัว พ.ศ. ความรุนแรงในครอบครวั (มาตรา ๕) ๒๕๕๐ • มีอ�ำนาจเข้าไปในเคหสถานหรือ สถานที่เกิดเหตุ • จดั ใหผ้ ถู้ กู กระทำ� ดว้ ยความรนุ แรง ในครอบครัวเข้ารับการตรวจรักษา จากแพทย์ และขอรับค�ำปรึกษา แนะนำ� จากจติ แพทย์ นกั จติ วทิ ยาหรอื นกั สังคมสงเคราะห์ • จัดใหม้ กี ารร้องทกุ ข์ (มาตรา ๖) ๒๔ พ.ร.บ.สภาองค์กร - มีอ�ำนาจหน้าที่ในการจดแจ้ง ชมุ ชน พ.ศ. ๒๕๕๑ การจดั ตงั้ ชมุ ชน การจดแจง้ การจดั ตงั้ ห รื อ ยุ บ ส ภ า อ ง ค ์ ก ร ชุ ม ช น ต� ำ บ ล ตามมาตรา ๕, ๑๐ ๒๕ พ.ร.บ.ใหใ้ ช้ - เป็นเจ้าพนักงานผู้ปกครองท้องท่ี ประมวลกฎหมาย ซึ่งอาจได้รับมอบหมายจากนาย ทด่ี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ อ�ำเภอให้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานท่ีดิน - กฎกระทรวง ในการรังวัดท่ีดินเพ่ือออกหนังสือ มหาดไทย ฉบบั ที่ ๔๘ ส�ำคัญ (น.ส.) หรือโฉนด หรือการ พ.ศ. ๒๕๔๒ แบ่งแยกโอน ซือ้ ขายทด่ี นิ ซึ่งในการน้ี อาจไดร้ บั คา่ ปว่ ยการจากทางราชการ ตามกฎกระทรวงมหาดไทย ฉบบั ท่ี ๔๘ พ.ศ. ๒๕๔๒ ๒๖ พ.ร.บ.แร่ - เป็นกลุ่มตัวแทนท่ีปรึกษาเบ้ืองต้น พ.ศ. ๒๕๑๐ ใหก้ บั ผูเ้ สยี หาย (มาตรา ๘๙/๙ (๒) ) ๒๗ * พ.ร.บ.ส่งเสริม - อาสาสมคั รพทิ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และพฒั นาคณุ ภาพ และส่ิงแวดลอ้ มหมบู่ า้ น (ทสม.) ส่ิงแวดล้อม - เฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงคุณภาพ พ.ศ. ๒๕๓๕ สงิ่ แวดลอ้ ม - โครงการพัฒนาพื้นทด่ี ินเค็ม
ล�ำดับท่ี รายชอื่ กฎหมาย อ�ำนาจและหน้าทตี่ ามบทบัญญตั ิ 279 ๒๘ ที่เกี่ยวข้อง ของกฎหมาย แนวทาง/วิธีปฏบิ ตั ิ * พ.ร.บ.นโยบาย - มีหน้าท่ีในการประชาสัมพันธ์งาน การทอ่ งเทยี่ วแหง่ ชาติ ด้านการท่องเท่ยี วและกฬี า พ.ศ. ๒๕๕๑ - การสง่ เสรมิ และพฒั นาแหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว ในพื้นที่ - โครงการพัฒนาบุคลากรเครือข่าย ดา้ นการทอ่ งเทย่ี ว - โครงการมหกรรมกฬี าเพื่อมวลชน ๒๙ * พ.ร.บ.จัดที่ดิน - เป็นหวั หนา้ เขตในนคิ มสรา้ งตนเอง เพื่อการครองชีพ พ.ศ. ๒๕๑๑ ๓๐ * พ.ร.บ.ส่งเสริม - มหี น้าท่สี ง่ เสรมิ และพฒั นาคณุ ภาพ และพฒั นาคณุ ภาพ ชวี ติ คนพกิ าร ชีวิตคนพกิ าร พ.ศ. ๒๕๕๐ ๓๑ * พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ - มหี นา้ ทใ่ี นการคมุ้ ครองสทิ ธผิ สู้ งู อายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ ๓๒ * พ.ร.บ.พัฒนา - โครงการจดั ท�ำแผนพลังงานชมุ ชน พลงั งานและ - การจดั เกบ็ ขอ้ มลู ดา้ นพลงั งานชมุ ชน ส่งเสริมพลังงาน - โครงการหมู่บา้ นพลงั งานในชนบท พ.ศ. ๒๕๓๕
280 ล�ำดับที่ รายชื่อกฎหมาย อ�ำนาจและหนา้ ทตี่ ามบทบัญญตั ิ แนวทาง/วิธีปฏิบตั ิ ๓๓ ที่เกยี่ วขอ้ ง ของกฎหมาย ๓๔ * พ.ร.บ.การไฟฟา้ - โครงการไฟฟา้ พลงั นำ้� ระดบั หมบู่ า้ น ฝา่ ยผลติ แหง่ - เป็นคณะอนุกรรมการตรวจสอบ ประเทศไทย ทรพั ยส์ นิ และจา่ ยคา่ ชดเชยแกร่ าษฎร พ.ศ. ๒๕๑๑ - โครงการก่อสร้างขยายระบบ ส่งไฟฟา้ * พ.ร.บ.ความรับ - โครงการพัฒนาชุมชนในพื้นท ่ี ผดิ ตอ่ ความเสยี หาย รอบโรงไฟฟ้า ทเ่ี กดิ ขนึ้ จากสนิ คา้ - สำ� รวจบา้ นเรอื นราษฎรและประสาน ทีไ่ มป่ ลอดภยั การด�ำเนินงานการขยายเขตไฟฟ้า พ.ศ. ๒๕๕๑ - ประชาสัมพันธ์กิจกรรมและติด ประกาศขา่ วสารตา่ ง ๆ ของการไฟฟา้ ส่วนภูมภิ าค - แจง้ ข่าวสารเกีย่ วกับระบบจำ� หน่าย ทเ่ี หน็ วา่ ไมป่ ลอดภยั ในพน้ื ทใ่ี หก้ ารไฟฟา้ สว่ นภมู ภิ าคทราบ เพ่ือท�ำการแกไ้ ข - สอดสอ่ งดแู ลทรพั ยส์ นิ ของการไฟฟา้ สว่ นภมู ภิ าค เพอ่ื ปอ้ งกนั การโจรกรรม - ชว่ ยตรวจตรากรณมี บี คุ คลภายนอก แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้า สว่ นภมู ิภาค - โครงการไฟฟ้าอย่างประหยัดและ ปลอดภัย - งานคุ้มครองผู้บรโิ ภค ๓๕ * พ.ร.บ.มาตรา - มีหน้าท่ีสอดส่องดูแลและแจ้ง ชงั่ ตวงวดั พ.ศ.๒๕๔๒ นายอำ� เภอทราบเมอื่ พบการกระทำ� ผดิ - เป็นอาสาสมคั รชา่ งตวงวดั
๓๕ * พ.ร.บ.มาตรา - มีหน้าท่ีสอดส่องดูแลและแจ้ง 281 ชั่งตวงวัด พ.ศ. นายอา� เภอทราบเมอื่ พบการกระทา� ผดิ ๓๖ ๒๕๔๒ - เปน็ อาสาสมคั รชา่ งตวงวัด แนวทำง/วิธีปฏิบตั ิ ล�ำดบั ที่ * พ.ร.บ.ว่าดว้ ย - ติดตามสถานการ1ณ2์ราคาสินค้า ราคาสินคา้ และ อุปโภค บรโิ ภค บรรำกิ ยาชร่ือกฎหมำย - อโคำ� รนงำกจาแรลธงะฟห้าน้ำท่ตี ำมบทบัญญัติ พ.ศท. เี่๒ก๕ีย่ ๔วข๒้อง ของกฎหมำย ๓๗๓ * พพ.ร.ร.บ.บ.ก.กาารรแไขฟง่ ขฟนั้า - โคมรางตกรากราไฟรฟแทา้ พรลกงัแนซา�้ งรตะลดาบั ดหสมินบู่ คา้ น้า ฝทา่ ยงกผาลรติ คแ้าห่ง -เกษเปต็นรคณะอนุกรรมการตรวจสอบ ประเทศไทย ท- รโคพั รยงส์ กนิ ารแจลัดะหจา่ ยตคลา่ ชดดใหเช้เยกแษกตร่ ราษฎร ๓๘ พ* .พศ.ร๒.บ๕.น๑้า� ๑บาดาล - จโัดคหรางแกหาลร่งกน่า�้อบสารด้าลงขยายระบบ พ.ศ. ๒๕๕๑ สง่ ไฟฟ้า - โครงการพัฒนาชุมชนในพ้ืนที่รอบ อ*หำ� นมาาจยหเนหา้ ตทุ ไี่ วสอ้ �ำยหา่ รงับชดัอเ�ำจนนาเจชหน่ นพ-กโร้าสา.งรทา�ไ.รดฟบี่ขว�าฟ.จอเนคา้บงินมุ้า้กนงค�ำาเรรนนออื ักนงนาซรรผาาขษกู้ใยฎหดารกยึญแเดขล่บำ�ตะบ้าไปฟนรรรฟะพสา้ฯา์ลพนฯ.ศ.ต๒า๕ม๐ก๕ฎ,ห พม.ารย.บอ.่ืนการๆควทบ่ีไคมมุ ่ไโดภ้บคัญภณัญฑัต์ ิ พพ..รศ..บ.๒ด๔ิน๙แ๕ล,ะคพูน.ร�้ำ .บพ..ศว.ัต๒ถ๕ุอ-ปส๐ันว่ร๕ปตนะกรภรกาะมูาศช�ำิภยขนาาา่ สคันวพัมส.พาผศรัู้ใน.ตหธา่ ญ๒ง์กๆิ๕่จบก้า๓ขรนอ๕รงม,กฯแาลพรลฯไ.ะฟรตฟอ.ิบดา้าจ. ปทฏริบัพัตยิหานก้ารทนี่ใน�้ำ ฐาพน.ศะผ. ู้ป๒ก๕ค๕รอ๐งทแ้อลงทะ่ี ตามพระราชบญั ญตั ลิ กั ษณะปกค-รอแงจทง้ ขอ้ ่างวทสี่าพรรเกะ่ยีพวทุ กธับศรกัะรบาบชจ๒า� ห๔น๗่า๕ย หรอื อาจไดร้ บั มอบหมายใหป้ ฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี ตเขา้ามไปกฎดำ�หเมนาินยกแาทรนในนเาขยตอห�ำมเภู่บอา้ นท้อส-ทตงสว่เี่�ำหทนอบน็ี่ดภลวรสมูา่ทวอ่ไภิ ไ่ีมมงาดดป่ทค้รแูลท้ังบัอลเรดทปผาภริด็นบพยัั ชกใเยนอพาส์ พบรือ่นิ นอื้ทขท�ำ�าอในี่กงหากวก้ รายาแรรคกไไฟวฟไ้ ขาฟฟมา้า้ สะดวกแก่หน่วยงานที่มีโครงการต่าง ๆ สว่ นภมู ภิ าค เพอ่ื ปอ้ งกนั การโจรกรรม - ชว่ ยตรวจตรากรณมี บี คุ คลภายนอก แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าท่ีของการไฟฟ้า สว่ นภูมิภาค - โครงการไฟฟ้าอย่างประหยัดและ ปลอดภยั ๓๔ * พ.ร.บ.ความรับ - งานคุ้มครองผบู้ ริโภค ผดิ ตอ่ ความเสยี หาย ทเี่ กดิ ขน้ึ จากสนิ คา้ ทไี่ มป่ ลอดภยั พ.ศ. ๒๕๕๑ ๓๕ * พ.ร.บ.มาตรา - มีหน้าที่สอดส่องดูแลและแจ้ง ช่ังตวงวัด พ.ศ. นายอา� เภอทราบเมอ่ื พบการกระทา� ผดิ ๒๕๔๒ - เป็นอาสาสมคั รช่างตวงวดั ๓๖ * พ.ร.บ.วา่ ดว้ ย - ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า ราคาสินค้าและ อปุ โภค บริโภค บรกิ าร - โครงการธงฟา้ พ.ศ. ๒๕๔๒ ๓๗ * พ.ร.บ.การแขง่ ขนั - มาตรการแทรกแซงตลาดสินค้า ทางการคา้ เกษตร - โครงการจัดหาตลาดใหเ้ กษตร ๓๘ * พ.ร.บ.นา�้ บาดาล - จดั หาแหลง่ นา้� บาดาล พ.ศ. ๒๕๕๑
193 คณะที่ปรกึ ษา ๑. ร้อยต�ำ รวจโท อาทิตย์ บุญญะโสภัต อธิบดีกรมการปกครอง ๒. นายนิวฒั น ์ ร่งุ สาคร รองอธิบดกี รมการปกครอง ๓. นายศกั ด์ิชัย แตงฮอ่ รองอธิบดีกรมการปกครอง ๔. นายศักด์ิฤทธ ิ์ สลักคำ� รองอธิบดีกรมการปกครอง ๕. นายวิเชียร ชดิ ชนกนารถ รองอธิบดกี รมการปกครอง คณะผู้จัดท�ำ ๑. นายธรรมนญู แกว้ ค�ำ ผู้อ�ำ นวยการสำ�นักบรหิ ารการปกครองทอ้ งที่ ๒. นายวริศธ์นิ นั ย์ เสือทอง ผู้อำ�นวยการส่วนบรหิ ารงานก�ำ นนั ผู้ใหญ่บ้าน ๓. นายเกียรติศกั ดิ ์ หอมเยน็ ใจ หวั หน้ากลมุ่ งานระเบียบการ ๔. นายศราวฒุ ิ พงศ์พญา หัวหน้ากลุ่มงานวนิ ยั ๕. นายธรี พล ล้มิ ศิริ รกั ษาการหวั หนา้ กลมุ่ งานบริหารและพฒั นางานก�ำ นนั ผใู้ หญบ่ ้าน ๖. นางสาวชดาภสั สร์ ชยั เอ้อื ด�ำ รงชัย หวั หนา้ ฝา่ ยทะเบียนประวัติ ๗. นางเคยี งศร ทว้ มจุ้ย หัวหนา้ ฝ่ายงบประมาณและสวัสดิการ ๘. นายธรี จิตร ์ พิมพ์ศิร ิ นกั วชิ าการคอมพิวเตอร์ช�ำ นาญการ ๙. นายปรีชา อินทรวเิ ชียร เจา้ พนกั งานปกครองช�ำ นาญการ ๑๐. นางสาวปองใจ สดุ วไิ ลพร เจ้าพนกั งานปกครองปฏิบัตกิ าร ๑๑. นายจักรกฤษณ์ เป้าประสิทธิ์ เจ้าหนา้ ท่ีปกครองชำ�นาญงาน ๑๒. นางทัศนีย์ ธรรมพรสกลุ เจา้ พนักงานธุรการชำ�นาญงาน ๑๓. นางสาววิไลลักษณ์ โกมุทสกุณ ี เจา้ หน้าทป่ี กครองช�ำ นาญงาน ๑๔. นางจันทรเ์ พ็ญ อน้ ค�ำ เจ้าหนา้ ทีป่ กครองชำ�นาญงาน ๑๕. นางสาวหตั ถภรณ ์ ตันติวรเวศน ์ เจ้าหนา้ ท่ีปกครองชำ�นาญงาน ๑๖. นางสาวบุษบา นสุ ลศาลา พนกั งานราชการ เสนอแนะหรอื สอบถามเพมิ่ เตมิ ไดท้ ่ี : ส่วนบริหารงานก�ำ นนั ผูใ้ หญ่บา้ น ส�ำ นักบรหิ ารการปกครองทอ้ งท่ี ก รมการปกครอง (วงั ไชยา) ถนนนครสวรรค์ เขตดสุ ิต กรงุ เทพฯ ๑๐๓๐๐ โทรศัพท์ ๐-๒๖๒๙-๘๓๐๖-๑๔ ตอ่ ๔๐๒, ๐-๒๖๒๙-๘๓๐๓ โทรสาร ๐-๒๖๒๙-๘๓๐๓
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288