๔๐ คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ ว๒๒๒๐๑ การแสดงกลทางวิทยาศาสตร์ (Science Shows) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี - ภาคเรียนที่ - เวลา ๔๐ ชัว่ โมง : ภาคเรยี น จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ ศึกษา วิเคราะห์ อธิบาย หลักการ เน้ือหาสาระกิจกรรม ลักษณะการแสดงท่ีคล้ายกับการเล่น กลแต่เปน็ กลทอ่ี ธบิ ายได้ด้วยหลกั การทางวิทยาศาสตร์ โดยปฏิบัติการ เน้ือหาสาระที่จะแสดง การแสดงท่ีตื่นเต้น เร้าใจ ความสัมพันธ์ระหว่างการ แสดง หรือเลอื กเร่ืองทจ่ี ะแสดงให้มคี วามสัมพนั ธ์กนั ดว้ ยอาศยั หลกั การทางวิทยาศาสตร์หรือกระบวนการ ทางวทิ ยาศาสตร์ เพ่ือสร้างความตื่นเต้นเร้าใจ ทำให้ผู้ชมอยากรอู้ ยากเห็น เกิดความสนุกที่อยากจะติดตาม สร้าง จินตนาการในการชม และนำไปส่คู วามคดิ ริเรม่ิ สร้างสรรค์ ในการศึกษาค้นคว้าเพ่ือแสวงหาความรู้ตอ่ ไป ผลการเรียนรู้ ๑. นักเรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในเนอื้ หา สาระ กิจกรรมท่ีจะแสดง ๒. นักเรียนสามารถเลือกเนื้อหาสาระ กจิ กรรมท่ีจะแสดง ใหม้ ีความสัมพันธแ์ ละอธิบายไดด้ ้วยหลักการ ทางวิทยาศาสตร์ ๓. นักเรยี นสามารถแสดง กิจกรรมท่มี ลี ักษณะการแสดงท่ีคล้ายกับการเลน่ กลแตเ่ ปน็ กลทอ่ี ธบิ ายไดด้ ว้ ย หลกั การทางวทิ ยาศาสตร์ ตอ่ สาธารณะชนได้ ๔. นกั เรยี นเกดิ ทกั ษะในการสร้างความต่นื เต้นเร้าใจ ประหลาดใจทำให้ผู้ชมอยากรูว้ ่าเกดิ อะไรขน้ึ สรา้ ง ใหผ้ ู้ชมเกดิ คำถามตอ่ ไปว่าเกิดขึน้ ได้อยา่ งไร เพราะอะไรถงึ เป็นเช่นนน้ั เมือ่ ผชู้ มอยากรู้อยากเหน็ ก็จะ นำไปส่กู ารศึกษาค้นคว้าเพ่อื แสวงหาความรู้ต่อไปได้ รวมทั้งหมด ๔ ผลการเรียนรู้
๔๑ คำอธบิ ายรายวิชาเพิม่ เติม ว๒๒๒๐๒ โครงงานวิทยาศาสตร์ กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ - ภาคเรยี นที่ - เวลา ๔๐ ช่ัวโมง : ภาคเรยี น จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต ศึกษา สังเกต วิเคราะห์ อธิบาย หลักการและประเภทของโครงงานวิทยาศาสตร์ รวบรวมข้อมูล ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากแหล่งความรู้ วิธีทำโครงงานวิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การแก้ปัญหาภายใต้ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ การเขียนรายงาน การนำเสนอผลงาน โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตรใ์ นการสบื เสาะหาความรู้ การแก้ปญั หาและการใช้เครอื่ งมือ ในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีจากแหลง่ ความรู้ และจัดทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ เพื่อใหเ้ กดิ ความรู้ ความคิด สร้างสรรค์ ความเข้าใจ สามารถส่อื สารสง่ิ ทเี่ รียนรู้ มีความสามารถใน การตัดสินใจ และมีเจตคติท่ดี ีตอ่ วทิ ยาศาสตร์ ผลการเรยี นรู้ ๑. นักเรยี นสามารถศกึ ษาค้นหาขอ้ มูลทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีจากแหล่งความรู้ต่าง ๆ ๒. นักเรียนสามารถวิเคราะหแ์ ละสรุปสาระสำคัญของข้อมลู ทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี จาก การศึกษาค้นควา้ ๓. วิเคราะหป์ ญั หาพิเศษหรือโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ๔. ตัดสนิ ใจเลือกเรอื่ งสำหรับทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ไดเ้ หมาะสม ๕. ทำการทดลองเบือ้ งตน้ เพ่อื นสำรวจความเป็นไปได้ของวธิ กี ารทดลองและความ พร้อมของวสั ดอุ ปุ กรณท์ ่เี ก่ียวข้องกับเรื่องทต่ี ้องการศกึ ษา ๖. เขยี นเค้าโครงยอ่ ของโครงงานวิทยาศาสตร์ได้ครบทุกขนั้ ตอนและมีความเป็นไปได้ ๗. ทำการทดลองตามวธิ ีดำเนนิ การทดลองท่ีกำหนดไว้ให้เค้าโครงย่อของ โครงงานวิทยาศาสตร์ ๘. สามารถแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหน้าขณะดำเนนิ การทดลองได้เหมาะสม ๙. รวบรวมขอ้ มูลและบรรทุกขอ้ มลู ได้ครบถ้วนและมีความเหมาะสม ๑๐.แปลความหมายข้อมูลและสรุปผลการทดลองไดถ้ ูกต้อง ๑๑.เขยี นรายงานโครงงานวิทยาศาสตรไ์ ดส้ มบูรณ์และถกู ตอ้ ง ๑๒.อธบิ ายโครงงานวิทยาศาสตร์ที่ตนเองศึกษาทดลองได้อยา่ งถูกต้องคลอ่ งแคล่ว และมคี วามมัน่ ใจ ๑๓.สามารถใชส้ อื่ ประกอบการอธิบายได้อย่างมีประสิทธภิ าพ ๑๔.มที กั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ มีจติ วิทยาศาสตรแ์ ละเจตคตทิ ่ีดีต่อวทิ ยาศาสตร์ รวมท้ังหมด ๑๔ ผลการเรยี นรู้
๔๒ คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ ง๒๒๒๐๑ การแกะสลักของอ่อน กลมุ่ สาระการเรียนรูก้ ารงานอาชพี ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี - ภาคเรยี นท่ี - เวลา ๒๐ ช่ัวโมง : ภาคเรียน จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ ศึกษาชนิดและคุณสมบัติของวัสดุธรรมชาติและวัสดุสังเคราะห์ประเภทเน้ืออ่อน อภิปราย ลักษณะสำคญั ของงาน รู้จักการอนุรักษ์เอกลักษณ์ไทย การออกแบบและกำหนด เคร่ืองมืออุปกรณก์ าร แกะสลักของอ่อน ตัดสนิ ใจแก้ปญั หาการทำงาน อย่างมีเหตุผล ความปลอดภัยในประเภทตกแต่งช้ินงาน บริการ และแกะสลักของอ่อนสามารถประเมินราคา ค่าบริการจัดจำหน่าย และทำบัญชีรายรับ - รายจ่าย เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจและมีทักษะ ในการแกะของอ่อนสามารถให้บริการและนำทักษะ การแกะสลักไปประกอบการประกอบอาชพี ได้ ผลการเรียนรู้ ๑. วเิ คราะห์ขั้นตอนการทำงานตามกระบวนการทำงาน ๒. ใชก้ ระบวนการกลุ่มในการทำงานดว้ ยความเสียสละ ๓. ตดั สนิ ใจแก้ปญั หาการทำงาน อย่างมเี หตุผล ๔. การศกึ ษาชนดิ และคุณสมบัตขิ องวสั ดุธรรมชาติ ๕. อภิปราย ลกั ษณะสำคญั ของงาน และยงั ร้จู กั การอนรุ ักษ์เอกลกั ษณไ์ ทย ๖. รจู้ กั การออกแบบงาน และกำหนดเครือ่ งมอื ในการทำงาน ๗. มคี วามรคู้ วามเข้าใจมีทักษะในการแกะสลักของออ่ น ๘. มีความร้คู วามเข้าใจความเป็นมาของการแกะสลัก ๙. มีเจตคตทิ ีด่ ีต่อการประกอบอาชีพ ๑๐. เห็นความสำคญั ของการสรา้ งอาชพี รวมทง้ั หมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้
๔๓ คำอธบิ ายรายวิชาเพิม่ เตมิ ง ๒๑๒๐๓ การจดั สวนถาด กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี - ภาคเรยี นที่ - เวลา ๒๐ ชั่วโมง : ภาคเรยี น จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต ศกึ ษา ความหมาย ความสำคัญ ประโยชนแ์ ละประวัติความเป็นมาของการจดั สวน รูปแบบ ของสวน เครอ่ื งมือ วัสดุอุปกรณ์ องค์ประกอบในการจัดสวนถาด เช่น รากไม้ หิน ดิน พนั ธไุ์ ม้ ฯลฯ หลักการนำองค์ประกอบศิลปม์ าใชใ้ นการจัดสวนถาด หลกั และวธิ กี ารจัดสวนถาด รูปแบบของการจัดสวน ถาด ปฏบิ ัติงานออกแบบ และจัดสวนถาดในรปู แบบต่าง ๆ การดูแลรักษาสวนถาด การประเมินราคา ค่าใชจ้ ่ายในการจัดสวนถาด การจดั จำหน่าย เพ่ือใหม้ ีความรู้ความเข้าใจ และมีทักษะพ้ืนฐานที่จำเป็นในการจัดสวนถาด มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ มปี ระสบการณ์ในการทำงาน เห็นคณุ ค่าของการจัดสวน ทำงานร่วมกับผู้อน่ื อยา่ งมีความสุข มงุ่ มั่นในการ ทำงาน เหน็ แนวทางในงานอาชีพ มีคุณธรรม และเจตคตทิ ่ดี ีต่ออาชีพ ผลการเรียนรู้ ๑.มคี วามรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความหมาย ความสำคญั ประโยชน์ของการจัดสวนถาด ๒. อธิบายเกย่ี วกับประวตั คิ วามเปน็ มาของการจัดสวนถาดได้ ๓. เปรียบเทยี บรปู แบบการจดั สวนถาดแบบไทยและญี่ปนุ่ ได้ ๔. มีความรคู้ วามเขา้ ใจเกี่ยวกบั เคร่ืองมือและวัสดอุ ุปกรณใ์ นการจัดสวนถาด ๕. มีความรู้ความเข้าใจเกย่ี วกับหลักและวิธกี ารจัดสวนถาด ๖. ปฏิบตั กิ ารออกแบบและจัดสวนถาดในรปู แบบตา่ ง ๆ ได้ ๗. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกบั การดแู ลรกั ษาสวนถาดใหอ้ ยูไ่ ด้นานและมีคุณภาพ ๘. ประเมินราคาสวนถาด และจัดจำหน่ายได้ ๙. มคี วามมงุ่ ม่ันในการทำงานทำงาน เห็นแนวทางในงานอาชพี มีเจตคตทิ ่ดี ีตอ่ อาชพี จัดสวนถาด รวมทงั้ หมด ๙ ผลการเรียนรู้
๔๔ คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ ง ๒๑๒๐๔ การเพาะเหด็ ด้วยวัสดุผสม กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี - ภาคเรยี นท่ี - เวลา ๔๐ ชั่วโมง : ภาคเรียน จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต ศกึ ษาความหมาย ความสำคัญ ประโยชน์ คุณค่าของเห็ดในด้านโภชนาการและเศรษฐกิจ ขอ้ มูล การตลาดเห็ดในท้องถ่นิ ประเภทของเห็ดท่ีสามารถเพาะได้ด้วยวัสดุผสม วงจรชวี ิต ส่วนประกอบของเห็ด การใช้วัสดุผสมในการเพาะเห็ด เช่นขี้เล่ือย ฟางข้าว เศษฝ้าย ไส้นุ่น เปลือกถั่ว รำ ฯลฯ สถานท่ี โรงเรอื น วสั ดอุ ปุ กรณใ์ นการเพาะเห็ด โรคและแมลงศัตรเู ห็ด การเลือกซ้อื เชื้อเห็ด หลักและวิธกี ารเพาะ เพาะเห็ด การปฏบิ ตั ิดแู ลรักษา การเกบ็ ดอกเหด็ การแปรปู และการจำหนา่ ย วิเคราะหค์ วามต้องการเห็ดชนิดต่าง ๆ ของตลาด วางแผนการผลิต ปฏิบตั กิ ารเพาะเห็ดด้วยวัสดุ ผสม บรรจุและอัดวัสดุผสมลงในถุงพลาสติก นำไปนึ่งฆ่าเช้ือ และเข่ียเช้ือเห็ดใส่ถุง ดูแลรักษา และจด บันทกึ เลอื กเก็บเห็ดอยา่ งถูกวธิ ี บรรจุหีบหอ่ หรอื ภาชนะ จัดจำหนา่ ย คำนวณค่าใชจ้ า่ ย กำหนดราคาขาย เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการทำงานเพาะเห็ด มีทักษะกรพบวนการทำงาน รักการ ทำงาน มีจิตสำนกึ ในการใชพ้ ลงั งาน ทรพั ยากรธรรมชาติ และส่งิ แวดล้อม มั่งมนั่ ในการทำงาน เห็นแนวทาง ในงานอาชีพ อยู่อย่างพอเพียง มคี ณุ ธรรม และเจตคติท่ดี ตี อ่ งานอาชพี ผลการเรียนรู้ ๑. ศึกษา สำรวจ และวิเคราะห์ ข้อมูลการตลาดเห็ดในท้องถ่ิน ๒. อธิบายความหมาย ความสำคัญ ประโยชน์ และประวตั ิความเป็นมาของการเพาะเห็ด ๓. อธิบายเกยี่ วกับวงจรชีวิต และสว่ นประกอบของเห็ดได้ ๔. มคี วามรคู้ วามเข้าใจเกย่ี วกบั เหด็ เศรษฐกจิ ชนิดต่าง ๆ ๕. สามารถวางแผนการปฏิบัติงานเกย่ี วกับการเพาะเห็ด หรือผลิตภัณฑอ์ าหารจากเห็ด ๖. อธิบายปจั จัยทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกับการเจรญิ เติบโตของเห็ดได้ ๗. มคี วามร้คู วามเข้าใจเก่ียวกบั โรงเรือน และวสั ดุ อปุ กรณ์ท่ีจำเปน็ ในโรงเรอื นเพาะเหด็ ๘. อธบิ ายเกีย่ วกบั กระบวนการผลิตเห็ด และสามารถผลิตก้อนอาหารเหด็ ได้ ๙. อธบิ ายเกี่ยวกบั ข้ันตอนวธิ ีการเปดิ ดอกเห็ดได้ ๑๐. มคี วามรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการปฏิบตั ดิ ูแลรกั ษา การป้องกนั กำจดั ศัตรู ๑๑. สามารถปรงุ และแปรรปู อาหารจากเห็ดได้ ๑๒. สามารถคำนวณคา่ ใช้จ่าย และจดั จำหน่ายเห็ดและผลิตภัณฑ์จากเหด็ ได้ ๑๓. มคี วามมงุ่ ม่นั ในการทำงาน ใชท้ รัพยากรอยา่ งคมุ้ ค่า อยู่อยา่ งพอเพยี ง เห็นแนวทางในงานอาชีพ มี คณุ ธรรม และเจตคตทิ ่ีดีต่ออาชพี การเพาะเห็ด รวมทั้งหมด ๑๓ ผลการเรยี นรู้
๔๕ คำอธิบายรายวชิ าเพม่ิ เตมิ ง ๒๒๒๐๒ พชื สมนุ ไพร กลุ่มสาระการเรยี นร้กู ารงานอาชีพ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี - ภาคเรียนท่ี - เวลา ๒๐ ชั่วโมง : ภาคเรยี น จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ศึกษาความหมาย ความสำคัญ และประโยชน์ของพืชสมุนไพรในท้องถ่ิน เช่น ขิง ข่า ขม้ิน ตะไคร้ ฯลฯ ลักษณะ ประเภท และสรรพคุณทางยาของพืชสมุนไพร การดูแลรักษา การจัดจำหน่าย ผลผลิต วิเคราะห์ขอ้ มูลความต้องการของตลาด เลือกพืชสมุนไพร สำหรับปลูกและขยายพันธ์ุท่ีเหมาะสม กับท้องถิ่น ปลูกพืชสมนุ ไพรในแปลงหรอื ในภาชนะต่าง ๆ ดูแลรักษาเก็บเก่ยี วผลิตผลจำหน่าย แปรรูป คำนวณค่าใช้จ่าย กำหนดราคาขาย จัดจำหน่าย จดบันทึกการปฏิบัติงาน จัดทำบัญชีรายรับ- รายจ่าย และประเมนิ ผล เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการปลูกพืชสมุนไพร มีทักษะกรพบวนการทำงาน รักการ ทำงาน มีจิตสำนึกในการใช้พลงั งาน ทรพั ยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ ม มง่ั มนั่ ในการทำงาน เห็นแนวทาง ในงานอาชีพ อยู่อย่างพอเพียง มีคุณธรรม และเจตคตทิ ดี่ ตี อ่ งานอาชพี ผลการเรยี นรู้ ๑. อธิบายความหมาย ความสำคญั และประโยชน์ของพืชสมนุ ไพรในทอ้ งถนิ่ ได้ ๒. จำแนกประเภทและชนดิ ของสมุนไพรได้ ๓. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกี่ยวกบั สรรพคุณทางยาของสมุนไพรแต่ละชนิด ๔. สามารถปลูก และขยายพนั ธุส์ มนุ ไพร ๕. มคี วามรู้ความเข้าใจเกีย่ วกับการดูแลรักษา ป้องกนั โรค และศัตรพู ชื สมุนไพร ๖. สามารเก็บเกย่ี วและแปรรูปสมุนไพร ๗. มีความรคู้ วามเข้าใจเกย่ี วกบั การตลาด และการจำหนา่ ยพชื สมนุ ไพร ๘. สามารถคำนวณคา่ ใชจ้ า่ ย และจัดจำหนา่ ยสมุนไพรและผลติ ภัณฑ์จากสมุนไพร ๙. มคี วามมงุ่ มัน่ ในการทำงาน ใชท้ รพั ยากรอย่างคุ้มค่า อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง เหน็ แนวทางในงานอาชพี มีคุณธรรม และเจตคติท่ีดีต่ออาชีพการปลูกสมนุ ไพร รวมทง้ั หมด ๙ ผลการเรียนรู้
๔๖ คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ ง ๒๓๒๐๑ การขยายพันธุ์พชื กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ - ภาคเรยี นท่ี - เวลา ๒๐ ชั่วโมง : ภาคเรียน จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ศึกษาความหมาย ความสำคัญ ของการขยายพันธุ์พืช เครื่องมือ และวัสดุอุปกรณ์ในการ ขยายพันธุ์พืช ประเภทของการขยายพันธ์ุพืช การอนุบาลพันธุ์ไม้ การปลูกพืชในภาชนะ การจัด จำหน่าย สำรวจการผลติ และภาวการณ์ตลาด วางแผนการขยายพนั ธพุ์ ืช เลือกเคร่ืองมือ และวัสดุอุปกรณ์ ให้เหมาะสมกับวิธขยายพันธุ์ ฝึกทักษะการขยายพันธุ์พืชแบบไม่ใช้เพศ เช่น การปักชำ การตอน การติดตา ต่อก่ิง ดูแลรักษา คำนวณค่าใช้จ่าย กำหนดราคาขาย จัดจำหน่าย จดบันทึกการ ปฏบิ ตั งิ าน ทำบัญชรี ายรับ – รายจ่าย และประเมนิ ผล เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการปลูกพืชสมุนไพร มีทักษะกรพบวนการทำงาน รกั การ ทำงาน มีจิตสำนกึ ในการใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม มั่งมน่ั ในการทำงาน เห็นแนวทาง ในงานอาชพี อยอู่ ยา่ งพอเพียง มีคุณธรรม และเจตคติทีด่ ีต่องานอาชีพ ผลการเรยี นรู้ ๑. มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั ความหมาย ความสำคัญของการขยายพันธุพ์ ชื ๒. อธิบายปัจจยั ทม่ี ีอทิ ธพิ ลตอ่ การเจรญิ เติบโตของพันธ์ุไม้ ๓. มีความร้คู วามเข้าใจเครือ่ งมอื และวสั ดุอปุ กรณ์ในการขยายพันธพ์ุ ืช ๔. สามารถขยายพันธพุ์ ชื โดยไมใ่ ช้เพศแบบตา่ ง ๆ ได้ ๕. สามารถปลกู พชื ในภาชนะได้ ๖. สามารถอนุบาลพันธุ์ไม้และปฏิบัติดแู ลรกั ษาพนั ธ์ุไม้ ๗. มีความรูค้ วามเข้าใจเก่ียวกับการตลาดและการจำหนา่ ยพนั ธุไ์ ม้ ๘. สามารถสรุปและประเมินผลการขยายพันธพ์ ืชได้ ๙. มีความมงุ่ ม่ันในการทำงาน ใช้ทรพั ยากรอยา่ งค้มุ ค่า อยูอ่ ย่างพอเพยี ง เห็นแนวทางใน งานอาชีพ มีคุณธรรม และเจตคติตอ่ อาชีพการขยายพันธ์พุ ืช รวมท้ังหมด ๙ ผลการเรยี นรู้
๔๗ คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ ง ๒๓๒๐๒ การสานหมวก กลุ่มสาระการเรียนร้กู ารงานอาชีพ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี - ภาคเรยี นที่ - เวลา ๒๐ ช่ัวโมง : ภาคเรยี น จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต รู้และเขา้ ใจประวัติความเป็นมาและพนื้ ฐานการสานหมวก บอกอุปกรณแ์ ละ ส่วนต่าง ๆ ศึกษา ขนั้ ตอนและวธิ ีการสานหมวกลวดลายต่าง ๆ การผลติ เพื่อการใชแ้ ละการจำหนา่ ย มีทักษะในการเตรียมเส้นตอก การไม้ไผ่ การย้อมสี การสานและการแก้ปัญหาในการสาน การ ทำงานอย่างมขี น้ั ตอนและเน้นกระบวนการกล่มุ การปรับปรุงงานและการตกแตง่ ชิ้นงาน มีความคิดสรา้ งสรรค์ นำความร้แู ละทักษะท่ีได้จากการเรียนไปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจำวันและ ประกอบอาชีพอิสระได้ ตระหนัก เห็นประโยชน์ คุณค่า ความสำคัญของการสานหมวก การอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี และภมู ปิ ญั ญาในท้องถ่ิน ผลการเรียนรู้ ๑. บอกประวตั ิความเปน็ มาของหมวกในประเทศไทยได้ ๒. บอกประวัติความเป็นมาของการสานหมวกในชมุ ชนได้ ๓. บอกช่อื อุปกรณ์ทใ่ี ช้ในกระบวนการสานหมวกได้ ๔. บอกแหล่งท่มี าของไมไ้ ผ่ได้ ๕. ออกแบบลวดลายการสานหมวกได้ ๖. คำนวณความยาวของเสน้ ตอกทนี่ ำมาใช้ในการสานได้ ๗. การเลอื กขนาดและสีสนั ตามลวดลายหมวกได้ ๘. เลอื กไมไ่ ผต่ ามท่ีต้องการได้ ๙. อธบิ ายหลักการเลือกไผ่ได้ ๑๐. ปฏิบัติการทำเส้นตอกได้ ๑๑. อธิบายหลกั การและวิธีการสานได้ ๑๒. ปฏิบัตกิ ารทำเส้นตอกใหน้ ่ิมได้ ๑๓. อธิบายหลักการและวิธกี ารสานได้ ๑๔. ปฏิบัตกิ ารสานได้ ๑๕. อธิบายหลักการและข้ันตอนการสานสลบั สีได้ ๑๖. ตกแตง่ ผลงานให้เรียบรอ้ ยสมบูรณ์ได้ ๑๗. คิดคำนวณตน้ ทนุ การผลิต กำหนดราคาขาย และทำบัญชรี ายรับรายจา่ ยไดถ้ ูกต้อง ๑๘. นำเสนอผลงานหมวกโดยการจดั นิทรรศการและจำหนา่ ยหมวกได้ รวมทงั้ หมด ๑๘ ผลการเรยี นรู้
๔๘ คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ว๒๑๒๐๑ คอมพวิ เตอรเ์ พอื่ การสบื คน้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง : ภาคเรยี น จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต ศึกษาการใช้คอมพิวเตอร์ การเปิดปิดเครื่อง การใช้แป้นพิมพ์ การจัดทำสำเนา แผ่นบันทึก การ ขอดูสาระบบแฟ้มข้อมูล การป้อนข้อมูล การแก้ไขข้อมูล คำส่ังต่างๆ ในการพิมพ์แฟ้ม ข้อมูลเอกสาร การจัดเกบ็ แฟม้ ข้อมูลเอกสารและการเรียกแฟ้มขอ้ มูลมาแก้ไข การกำหนดรูปแบบเอกสาร การคน้ หาและ เปล่ียนแปลงข้อความ คำสั่งพิเศษในการสั่งพิมพ์ การประยุกต์ในงานพิมพ์เอกสารต่างๆ ศึกษา ข้อมูล สารสนเทศ ระบบสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ การส่ือสารข้อมูล การใช้ อินเทอร์เน็ตในการเรียกดูข้อมูล ค้นหาข้อมูล การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลในท้องถิ่ น ใช้โปรแกรมประมวลคำ ป้อนข้อมูล แก้ไขข้อมูล ใช้คำส่ังในการพิมพ์แฟ้มข้อมูลเอกสาร จดั เก็บ แฟ้มข้อมูลเอกสารและเรียกแฟ้มข้อมูลมาแก้ไข กำหนดรูปแบบเอกสาร พิมพ์เอกสาร การใช้งาน อินเทอร์เน็ตในการเรียกดูข้อมูล การค้นหาข้อมูล การทำช้ินงานโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพ่ือให้มี ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และมีทกั ษะในการจัดทำเอกสารด้วยโปรแกรมประมวลคำ สาม รถประยุกตก์ ารจัดทำเอกสารในรูปแบบตา่ งๆได้ เขา้ ใจและเห็นคุณคา่ ของเทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถใช้ โปรแกรมประยกุ ต์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ และอนิ เทอร์เนต็ ในการรวบรวม ประมวลผลและนำเสนอข้อมูล ประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยี อย่างมีจิตสำนึกและรบั ผดิ ชอบ ผลการเรยี นรู้ ๑. เพื่อให้นักเรียนใช้งานเครอื่ งคอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณ์ประกอบได้อยา่ งถูกต้อง ๒. นกั เรียนสามารถใช้อินเทอรเ์ น็ตในการเรยี กดขู ้อมูล คน้ หาข้อมูล การรวบรวมขอ้ มลู จาก แหล่งขอ้ มูลได้ ๓. นักเรยี นสามารถจัดทำกำหนดรปู แบบ สำเนา บนั ทกึ แฟม้ ข้อมูล เรียกแฟม้ ขอ้ มูลมาแก้ไข และสั่ง พมิ พ์ได้ ๔. นักเรยี นสามารถประยุกตก์ ารจดั ทำเอกสารในรปู แบบตา่ งได้ ๕. นักเรยี นเขา้ ใจและเห็นคุณค่าของเทคโนโลยีสารสนเทศ ๖. นกั เรียนสามารถใชโ้ ปรแกรมประยุกต์ เครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ และอินเทอรเ์ นต็ ในการรวบรวม ประมวลผลและนำเสนอข้อมลู ประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยี อย่างมีจติ สำนกึ และรับผดิ ชอบ รวมทัง้ หมด ๖ ผลการเรยี นรู้
๔๙ คำอธิบายรายวชิ าเพ่มิ เตมิ ง๒๑๒๐๒ คอมพวิ เตอรก์ ราฟิก (Graphic designs) กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง : ภาคเรียน จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต ศกึ ษา ความหมาย หลักการ วิธกี าร ของคอมพิวเตอรก์ ราฟิก การออกแบบกราฟกิ ซอฟต์แวร์ ด้านกราฟิก ระบบคอมพิวเตอร์สำหรับงานคอมพิวเตอร์กราฟิก การใช้งานซอฟต์แวร์ด้านกราฟิก ใช้ เคร่ืองมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงคำสั่งท่ีสำคัญในการออกแบบคอมพวิ เตอร์กราฟิก ในโปรแกรมกราฟิก ได้อย่างชำนาญ การนำภาพจากแหล่งภาพต่างๆ มาสร้างสรรค์งานกราฟิกให้มีจินตนาการตามความคิด ริเริม่ ทัง้ ยงั ศกึ ษาหลักการออกแบบเทคนิคการใช้โปรแกรมการออกแบบคอมพิวเตอร์กราฟิกไดจ้ ากเวบ็ ไซต์ ต่างๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์งาน ปฏิบัติการออกแบบคอมพิวเตอร์กราฟิกด้วยโปรแกรม กราฟิก เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถใช้ซอฟต์แวร์ด้านกราฟิกออกแบบและสร้างสรรค์ผลงานด้านกราฟิก เผยแพร่สู่สาธารณะชนได้อย่างมีคุณธรรมและจริยธรรม มีความรับผิดชอบ มีความสามารถในการใช้ เทคโนโลยีไดอ้ ย่างเหมาะสม มเี จตคติท่ีดตี อ่ การทำงาน ผลการเรียนรู้ ๑. เพ่อื ใหน้ ักเรยี นทราบถึงความหมายของคอมพิวเตอร์กราฟิก ๒. เพอื่ ให้นกั เรยี นไดม้ คี วามร้ใู น หลกั การ วิธีการออกแบบกราฟกิ ซอฟตแ์ วรด์ า้ นกราฟกิ ๓. เพอ่ื ให้นกั เรียนสามารถใช้เคร่ืองมือและอปุ กรณต์ ่างๆ รวมถงึ คำสงั่ ทส่ี ำคญั ในการออกแบบ คอมพวิ เตอรก์ ราฟิก ในโปรแกรมกราฟกิ ได้ ๔. นักเรียนสามารถนำภาพจากแหลง่ ต่างๆ มาสร้างสรรคง์ านกราฟิกให้มีจนิ ตนาการตามความคดิ รเิ ริ่ม ๕. นักเรียนสามารถศึกษาและนำหลกั การออกแบบเทคนคิ การใช้โปรแกรมการออกแบบคอมพิวเตอร์ กราฟกิ จากเวบ็ ไซต์ต่างๆมาประยุกตใ์ นการสรา้ งสรรคผ์ ลงาน ๖. เพอ่ื ใหน้ ักเรียนสามารถใชซ้ อฟแวร์คอมพวิ เตอร์ออกแบบและสร้างสรรค์ผลงานด้านกราฟกิ เผยแพร่สาธารณะชนไดอ้ ย่างมีคณุ ธรรมและจรยิ ธรรม มคี วามรับผดิ ชอบ มคี วามสามารถในการใช้ เทคโนโลยีไดอ้ ย่างเหมาะสม มีเจตคติทีด่ ีตอ่ การทำงาน รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรียนรู้
๕๐ คำอธิบายรายวชิ าเพมิ่ เตมิ ง๒๓๒๐๔ การเขยี นเว็บไซต์ Web site กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๒๐ ช่วั โมง : ภาคเรียน จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ ศกึ ษาโครงสร้างข้อมูล บิต ไบต์ เวิร์ด การแทนรหัส การส่ือระบบสอ่ื สาร โมเด็ม มาตรฐานของการสื่อสาร ข้อมูล เครือข่ายคอมพิวเตอร์ เครือข่ายแบบต่างๆ มาตรฐานของการเชื่อมโยง เครือข่ายอินเตอร์เน็ต เครือข่าย อินทราเน็ต เครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ในงานด้านต่างๆ เช่น การสง่ ไปรษณยี ์อิเล็กทรอนิกส์ การโอนย้ายแฟม้ ขอ้ มูล การใช้ ทรัพยากรร่วมกัน การส่งข่าวสารและหาความรู้ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์อย่างมีประสิทธิภาพ ปฏิบัติการใช้ ระบบสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ กับงานด้านต่าง ๆ ได้ เพ่ือให้มีความรู้ความเข้าใจและสามารถแสวงหา ข้อมูลข่าวสารหาความรู้ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และสามารถออกแบบข้ันพ้ืนฐานและการจัดทำเว็บเพจด้วยภาษา HTML ซ่ึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการเผยแพร่ความรู้ ข้อมูล การประชาสัมพันธ์ ข่าวสาร กิจกรรมต่างๆ ออกสู่ สาธารณชน การจัดทำเว็บไซตข์ องหน่วยงานข้นึ สเู่ ครือข่ายอนิ เทอร์เนต็ สามารถจัดทำแหลง่ เรยี นร้เู ผยแพร่ การปฏิบตั ิ วิธกี าร จัดทำโครงสรา้ ง เนอื้ หา ของเอกสาร การตกแตง่ เว็บเพจด้วยรูปภาพ การควบคุมเว็บเพจใหด้ ู สวยงาม การเชือ่ มโยงเน้ือหาในเว็บเพจ การสร้างเทคนิคเพือ่ ใหเ้ วบ็ เพจมีความนา่ สนใจ การแก้ไขปรับปรุงไฟล์เพอื่ นำเสนอ ข้อมูล และการอัพโหลดข้อมลู ขนึ้ สู่เคร่ืองบรกิ ารในเครอื ขา่ ย ในการศึกษาและการทำงานจะตอ้ งได้รับการฝึกฝนตามกระบวนการเรียนร้ขู องกล่มุ การงานอาชีพและเทคโนโลยี การศึกษา เพือ่ ใหผ้ ้เู รียนทำงานบนพนื้ ฐานของความเขา้ ใจ ความหมาย ความสำคัญและประโยชน์ วิธกี ารและข้ันตอนกากร ทำงานทีร่ ับผดิ ชอบ การจดั การและการใช้เทคโนโลยี ตลอดจนการปลกู ฝังนสิ ยั รักการทำงานและปฏิบตั ไิ ดด้ ้วยตนเอง ผลการเรยี นรู้ ๑. นักเรียนมคี วามรคู้ วามเข้าใจ โครงสร้างขอ้ มูล บิต ไบต์ เวริ ์ด การแทนรหสั การส่อื สาร โมเดม็ มาตรฐานของการ เชื่อมโยง เครอื ข่ายอินเตอร์เน็ต เครือขา่ ยอนิ ทราเน็ต เครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรใ์ นงานดา้ นตา่ งๆ ๒. นักเรยี นสามารถสง่ ไปรษณยี ์อิเล็กทรอนิกส์ การโอนยา้ ยแฟม้ ข้อมูล การใช้ทรัพยากรรว่ มกัน การสง่ ข่าวสารผา่ น เครอื ขา่ ยคอมพิวเตอรไ์ ด้ ๓. นักเรยี นมคี วามรูค้ วามเขา้ ใจและสามารถแสวงหาข้อมลู ข่าวสารความรู้ผ่านเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรไ์ ด้ ๔. นักเรียนมคี วามร้คู วามเขา้ ใจ วิธกี าร จัดทำโครงสรา้ ง เนอ้ื หา ของเอกสาร การตกแต่งเว็บเพจใหม้ ีความสวยงาม และนา่ สนใจ ๕. นกั เรยี นสามารถออกแบบขัน้ พื้นฐานและการจดั ทำเวบ็ ไซตด์ ้วยโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ๖. นกั เรยี นมีผลงานการออกแบบและสร้างสรรค์เวบ็ ไซต์ เผยแพรส่ าธารณะชนไดอ้ ยา่ งมคี ุณธรรมและจรยิ ธรรม มี ความรบั ผดิ ชอบ มีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยีได้อยา่ งเหมาะสม มเี จตคติท่ีดตี อ่ การทำงาน รวมท้งั หมด ๖ ผลการเรยี นรู้
๕๑ คำอธิบายรายเพิม่ เตมิ วิชาภาษาอังกฤษเพอ่ื การสือ่ สาร กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ ชั้นประถมศกึ ษาท่ี ๑ รหัสวชิ า อ ๑๑๒๐๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง ใช้ตวั อักษร เสยี งตวั อักษร สระ การสะกดคำ ให้ข้อมูลเก่ยี วกบั ตนเอง ประโยคบอกความตอ้ งการ เกี่ยวกับตนเอง ประโยค ให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเอง คำสั่งท่ีใช้ในห้องเรียน ข้อความท่ีใช้ในการพูดให้ข้อมูล เกย่ี วกบั ตนเอง และเรือ่ งใกล้ตวั คำ ทมี่ ีความหมายสัมพันธ์กับส่ิงต่างๆใกล้ตัว อาหาร เครื่องด่ืม วัฒนธรรม เจ้าของภาษาแสดงกิริยา การขอบคุณ ขอโทษ การพูดแนะนำตนเอง การใช้ภาษาในการฟัง พูด อ่านใน สถานการณท์ ี่เกดิ ข้นึ ในหอ้ งเรียน โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูลและมีทักษะทางสังคมมีวิถีของระบอบ ประชาธิปไตย ซ่ือสตั ย์ ใฝเ่ รยี นรู้ แสดงออกถึงความเป็นไทย เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ และ นำความรู้ ไปใช้ประโยชน์ใน ชีวติ ประจำวนั ผลการเรยี นรู้ ๑. ปฏิบัตติ ามคำสงั่ คำขอร้องท่ีฟัง ๒. อ่านออกเสยี งตวั อกั ษร คำ กล่มุ คำ ประโยคง่ายๆ และ บทพูดเข้าจังหวะง่ายๆ ถกู ต้องตาม หลักการอ่าน ๓.บอกความหมายของคำและกลมุ่ คำท่ีฟงั ตรงตามความหมายตอบคำถามจากการฟงั หรอื อ่าน ประโยคง่ายๆ
๕๒ คำอธิบายรายเพิ่มเตมิ วิชาภาษาอังกฤษเพ่อื การส่ือสาร กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ ชนั้ ประถมศึกษาที่ ๒ รหสั วชิ า อ ๑๒๒๐๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง ใชค้ ำสง่ั ทใี่ ช้ในหอ้ งเรียน ตวั อักษร เสยี งตัวอกั ษร สระ การสะกดคำ การอ่านออกเสยี ง คำ กลมุ่ คำ บทอ่าน บทสนทนา ประโยค ใหข้ อ้ มูลเก่ียวกับตนเองคำ ประโยคบทอา่ น บทสนทนา ประโยค ให้ ขอ้ มลู เก่ยี วกับตนเอง ขอ้ ความทใ่ี ช้ในการพูดให้ข้อมลู เกีย่ วกบั ตนเอง และเรอ่ื งใกลต้ วั คำ ที่มคี วามหมาย สัมพนั ธ์กบั สงิ่ ต่างๆใกลต้ ัว อาหาร เคร่ืองดืม่ วฒั นธรรมเจ้าของภาษาแสดงกิริยา การขอบคณุ ขอโทษ การ พูดแนะนำตนเอง กจิ กรรมทางภาษา การรอ้ งเพลง การใชภ้ าษาในการฟงั พดู อ่านในสถานการณ์ ท่ี เกดิ ข้นึ ในหอ้ งเรียน โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมลู และมีทักษะทางสงั คม มวี ถิ ีของระบอบ ประชาธิปไตย ซอ่ื สัตย์ ใฝเ่ รียนรู้ แสดงออกถงึ ความเป็นไทย เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจ สามารถสอ่ื สารสิง่ ทเี่ รียนรู้ และ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ในชีวติ ประจาวนั ผลการเรยี นรู้ ๑. ปฏบิ ตั ิตามคำสงั่ คำขอร้องทีฟ่ งั ๒. อ่านออกเสยี งตัวอกั ษร คำ กลุม่ คำ ประโยคง่ายๆ และ บทพดู เข้าจงั หวะง่ายๆ ถกู ตอ้ งตาม หลักการอ่าน ๓. บอกความหมายของคำและกลมุ่ คำทฟ่ี งั ตรงตามความหมายตอบคำถามจากการฟงั หรอื อ่าน ประโยค บทสนทนาหรือนิทานง่ายๆ ๔. พดู โตต้ อบดว้ ยคำสนั้ ๆง่ายๆในการส่อื สารระหว่างบคุ คลตามแบบท่ฟี งั ใชค้ ำส่ังและ คำขอรอ้ ง ง่ายๆ บอกความตอ้ งการง่ายๆ ของตนเอง พูดขอและใหข้ ้อมูลเกยี่ วกับตนเองและเพ่อื น บอกความรสู้ ึกของ ตนเองเก่ยี วกับส่งิ ตา่ งๆ ใกล้ตวั หรอื กิจกรรมต่างๆ ตามแบบทฟี่ ัง ๕. พดู ให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองและเรอ่ื งใกลต้ วั จดั หมวดหมู่คำตามประเภทของบคุ คล สตั ว์ และ สิง่ ของตามทฟ่ี ังหรอื อ่าน ๖. พูดและทำท่าประกอบ ตามมารยาทสังคม/วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา บอกชอ่ื และคำศัพท์ งา่ ยๆ เกย่ี วกบั เทศกาล/วนั สำคัญ/งานฉลอง และชวี ิตความเปน็ อยขู่ องเจ้าของภาษา เขา้ ร่วมกจิ กรรมทาง ภาษาและวัฒนธรรมที่เหมาะกบั วยั
๕๓ คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ภาษาองั กฤษเพื่อการสอื่ สาร กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ ช้นั ประถมศกึ ษาที่ ๓ รหสั วิชา อ ๑๓๒๐๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง ใชค้ ำสง่ั ทใ่ี ช้ในหอ้ งเรียน ตวั อักษร เสียงตัวอกั ษร สระ การสะกดคา การอ่านออกเสยี ง คำ กล่มุ คำ บทอ่าน พดู เขา้ จงั หวะ บทสนทนา ประโยค ให้ขอ้ มูลเกีย่ วกับตนเอง เลอื กระบุภาพตรงความหมาย บทสนทนา ใหข้ ้อมลู เก่ียวกับตนเอง ประโยคบอกความต้องการเกีย่ วกบั ตนเอง คำสงั่ ท่ีใช้ในห้องเรยี น ขอ้ ความทีใ่ ชใ้ นการพูดให้ขอ้ มลู ความรสู้ กึ เกี่ยวกบั ตนเอง และเรื่องใกลต้ วั วัฒนธรรมเจ้าของภาษาแสดง กิริยา การขอบคณุ ขอโทษ การพดู แนะนำตนเอง การใช้ภาษาในการฟัง พูด อ่านในสถานการณ์ที่เกิดขึน้ ใน หอ้ งเรียน โดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบคน้ ข้อมูลและมีทักษะทางสงั คม มีวถิ ีของระบอบ ประชาธปิ ไตย ซอ่ื สัตย์ ใฝเ่ รียนรู้ แสดงออกถึงความเปน็ ไทย เพือ่ ใหเ้ กิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถส่อื สารส่งิ ท่ีเรียนรู้ และ นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ใน ชวี ิตประจำวัน ผลการเรียนรู้ ๑. ปฏบิ ตั ิตามคำส่ัง คำขอรอ้ งที่ฟัง ๒. บอกความหมายของคำและกล่มุ คำทีฟ่ ังตรงตามความหมาย ตอบคำถามจากการฟงั หรืออ่าน ประโยค บทสนทนาหรือนิทานง่ายๆ ๓. พูดโต้ตอบดว้ ยคำสน้ั ๆ งา่ ยๆ ในการสอ่ื สารระหว่างบคุ คลตามแบบทฟ่ี ัง ใช้คำส่ังและคำขอรอ้ ง ง่ายๆ ๔. บอกความตอ้ งการง่ายๆ ของตนเอง พดู ขอและให้ขอ้ มูลเก่ยี วกบั ตนเองและเพ่ือน บอกความรู้สึก ของตนเองเกี่ยวกบั สิ่งต่างๆ ใกลต้ ัวหรอื กจิ กรรมต่างๆ ตามแบบทีฟ่ งั ๕. พดู ให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเองและเรื่องใกล้ตวั จดั หมวดหมู่คาตามประเภทของบุคคล สัตว์ และ สงิ่ ของตามทฟ่ี ังหรืออ่าน ๖. พูดและทำท่าประกอบ ตามมารยาทสงั คม/วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา ๗. บอกชือ่ และคำศพั ทง์ ่ายๆ เก่ียวกบั เทศกาล/วนั สำคญั /งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยู่ของ เจา้ ของภาษา เข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมทเี่ หมาะกับวัย ๘. บอกความแตกต่างของเสยี งตัวอักษร คำ กลุม่ คำ และประโยคง่ายๆ ของภาษาอังกฤษและ ภาษาไทย ๙. ฟงั /พูดในสถานการณง์ ่ายๆ ที่เกิดขน้ึ ในหอ้ งเรยี น
๕๔ คำอธิบายรายวชิ าเพมิ่ เติมภาษาอังกฤษเพ่อื การสอื่ สาร กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชนั้ ประถมศกึ ษาท่ี ๔ รหัสวชิ า อ ๑๓๒๐๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง ปฏบิ ตั ิตามคำสง่ั คำแนะนำ คำขอรอ้ งที่ใชใ้ นห้องเรยี น พูดเขา้ จงั หวะ บทสนทนา ประโยค ให้ ข้อมลู เกีย่ วกบั ตนเอง เลือกระบุภาพ หรอื สญั ลกั ษณ์ตรงความหมาย ตอบคำถามจากการฟังและอา่ น บท สนทนา พูด เขียนใหข้ อ้ มูลโต้ตอบเกี่ยวกบั ตนเอง ส่อื สารระหว่างบคุ คล ประโยคบอกความตอ้ งการเกยี่ วกับ ตนเอง คำส่งั ที่ใช้ในหอ้ งเรยี น ขอ้ ความท่ีใช้ในการพดู เขียน แสดงความตอ้ งการของตนเอง ใหข้ อ้ มูล ความร้สู ึกเกีย่ วกบั ตนเอง และเรอ่ื งใกลต้ ัว วัฒนธรรมเจา้ ของภาษาแสดงกริ ยิ า การขอบคุณ ขอโทษ การพดู แนะนำตนเอง คำศัพทเ์ ก่ียวกับเทศกาลเจ้าของภาษา กจิ กรรมทางภาษา การรอ้ งเพลง ศกึ ษา การใช้ภาษา ในการฟงั พดู ทำทา่ ประกอบอย่างสุภาพ เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษา อา่ น พดู ในสถานการณ์ทเ่ี กดิ ขึ้น ใน หอ้ งเรยี น โดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูลและมีทักษะทางสังคม มีวถิ ีของระบอบ ประชาธิปไตย ซอ่ื สตั ย์ ใฝ่เรียนรู้ แสดงออกถึงความเปน็ ไทย เพือ่ ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสิง่ ท่เี รยี นรู้ และ นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ใน ชีวิตประจำวนั ผลการเรียนรู้ ๑. ปฏบิ ัติตามคำส่งั คำขอร้องทีฟ่ ัง ๒. อา่ นออกเสยี งตวั อกั ษร คำ กลุม่ คำ ประโยคง่ายๆ และ บทพดู เข้าจงั หวะง่ายๆ ถกู ตอ้ งตาม หลกั การอ่าน ๓. บอกความหมายของคำและกลุม่ คำท่ฟี งั ตรงตามความหมาย ตอบคำถามจากการฟงั หรืออ่าน ประโยคบทสนทนาง่ายๆ ๔. พดู โตต้ อบดว้ ยคำสนั้ ๆ งา่ ยๆ ในการสอื่ สารระหวา่ งบุคคลตามแบบทีฟ่ ัง ใช้คำสัง่ และคำขอร้อง งา่ ยๆบอกความตอ้ งการงา่ ยๆ ของตนเอง ๕. พูดขอและให้ข้อมูลเกย่ี วกบั ตนเองและเพอื่ น บอกความรสู้ ึกของตนเองเกี่ยวกบั สง่ิ ต่างๆ ใกลต้ วั หรือกิจกรรมต่างๆ ตามแบบทีฟ่ งั ๖. พูดให้ข้อมูลเก่ียวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ ัว จัดหมวดหม่คู ำตามประเภทของบคุ คล สัตว์ และ สิง่ ของตามทฟี่ งั หรอื อ่าน ๗. พดู และทำท่าประกอบ ตามมารยาทสงั คม/วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา บอกชือ่ และคำศพั ท์ ง่ายๆ เก่ยี วกับเทศกาล/วนั สำคัญ/งานฉลอง และชีวติ ความเป็นอยขู่ องเจ้าของภาษา เข้ารว่ ม กิจกรรมทาง ภาษาและวัฒนธรรมทเ่ี หมาะกบั วยั ๘. บอกความแตกต่างของเสยี งตัวอักษร คำ กลมุ่ คำ และประโยคง่ายๆ ของภาษาภาษาอังกฤษและ ภาษาไทย ๙. ฟัง/พูดในสถานการณ์งา่ ยๆ ที่เกดิ ข้ึนในหอ้ งเรียน
๕๕ คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ ภาษาอังกฤษเพอื่ การสอื่ สาร กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ ชน้ั ประถมศกึ ษาท่ี ๕ รหัสวชิ า อ ๑๕๒๐๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง ปฏบิ ตั ติ ามคำสง่ั คำแนะนา คำขอรอ้ ง คำแนะนำงา่ ยๆ ทใ่ี ช้ในหอ้ งเรียน การสะกดคำ การอ่าน ออกเสียง บทสนทนา ประโยค ให้ขอ้ มูลเก่ียวกับตนเองคำ เลือกระบุภาพ หรือสญั ลกั ษณ์ตรงความหมาย ของประโยค ตอบคำถามจากการฟังและอา่ น บทสนทนา นทิ านง่ายๆ ประโยค พูด เขียนให้ข้อมูลโต้ตอบ เกยี่ วกับตนเอง แสดงความรูส้ กึ สอื่ สารระหวา่ งบุคคล ใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง และกิริยา ประโยคบอกความ ตอ้ งการเกย่ี วกบั ตนเองคำ คำสง่ั ที่ใช้ในหอ้ งเรยี น ขอ้ ความท่ีใช้ในการพดู เขียน แสดงความตอ้ งการของ ตนเอง ให้ข้อมลู ความร้สู กึ เกย่ี วกับตนเอง และเรอ่ื งใกลต้ ัว บอกความเหมือน ความแตกตา่ ง ระหวา่ งการ ออกเสียงประโยคชนดิ ตา่ งๆ แสดงความคดิ เหน็ งา่ ยๆโดยใช้คำศัพท์เหมาะสมกับวยั การใช้ภาษาในการฟงั พดู ทำทา่ ประกอบอย่างสภุ าพ เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษา อา่ น พดู ในสถานการณ์ทีเ่ กิดข้ึนในห้องเรียน โดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบคน้ ข้อมูลและมีทักษะทางสังคม มีวถิ ีของระบอบ ประชาธปิ ไตย ซือ่ สัตย์ ใฝเ่ รียนรู้ แสดงออกถึงความเป็นไทย เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่งิ ทเี่ รียนรู้ และ นำความรู้ไปใช้ประโยชนใ์ น ชีวิตประจำวนั ผลการเรียนรู้ ๑. ปฏบิ ตั ิตามคำสัง่ คำขอรอ้ งทฟี่ งั ๒. อ่านออกเสยี งตวั อักษร คำ กลมุ่ คำ ประโยคงา่ ยๆ และ บทพดู เข้าจังหวะง่ายๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น ๓. บอกความหมายของคำและกลุ่มคำทฟี่ ังตรงตามความหมาย ตอบคำถามจากการฟงั หรืออา่ น ประโยคบทสนทนาหรอื นทิ านง่ายๆ ๔. พดู โตต้ อบด้วยคำสน้ั ๆ งา่ ยๆ ในการสื่อสารระหว่างบุคคลตามแบบท่ฟี งั ใช้คำสง่ั และคำขอรอ้ ง งา่ ยๆ บอกความตอ้ งการของตนเอง ๕ พูดใหข้ อ้ มูลเกีย่ วกบั ตนเองและเรอ่ื งใกล้ตวั จัดหมวดหมู่คำตามประเภทของบุคคล สัตว์ และ ส่ิงของตามท่ฟี ังหรืออ่าน ๖. พดู และแสดงท่าประกอบ ตามมารยาทสงั คม/วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา ๗. บอกช่ือและคำศัพท์งา่ ยๆ เกีย่ วกับเทศกาล/วนั สำคญั /งานฉลอง และชีวติ ความเป็นอยู่ของ เจ้าของ ภาษา เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมท่ีเหมาะกบั วยั ๘. บอกความแตกต่างของเสียงตัวอักษร คำ กลุ่มคำ และประโยคงา่ ยๆ ของภาษาอังกฤษและ ภาษาไทย ๙. ฟัง/พูดในสถานการณง์ ่ายๆ ท่ีเกิดขึน้ ในห้องเรียน ๑๐. ใช้ภาษาองั กฤษเพอื่ รวบรวมคำศพั ท์ที่เกีย่ วข้องใกลต้ ัว
๕๖ คำอธิบายรายวิชาเพ่มิ เตมิ ภาษาองั กฤษเพือ่ การส่อื สาร กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ ชัน้ ประถมศกึ ษาที่ ๖ รหสั วชิ า อ ๑๖๒๐๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง ปฏิบัตติ ามคำสั่ง คำแนะนำ คำขอรอ้ งงา่ ยๆ ที่ใช้ในห้องเรยี น การสะกดคำ การอ่าน ออกเสียง คำ กลมุ่ คำ บทอ่าน บทกลอนส้ันๆ บทสนทนา ประโยคถกู ตอ้ งตามหลักการอา่ น ให้ข้อมูลเกี่ยวกบั ตนเอง คำ เลือกระบุภาพ หรือสญั ลกั ษณ์ หรอื เครอื่ งหมายตรงความหมายของประโยค ขอ้ ความสน้ั ๆ ตอบคำถาม จากการฟังและอา่ น บทสนทนา พูด เขียนใหข้ อ้ มูลโต้ตอบเก่ียวกับตนเอง แสดงความร้สู ึก สื่อสารระหวา่ ง บคุ คล เขยี นภาพ แผนผัง และแผนภมู ิ ตารางแสดงขอ้ มลู ต่างๆ ใช้ถอ้ ยคำ น้ำเสยี ง และกิรยิ า ประโยคบอก ความตอ้ งการเกี่ยวกบั ตนเองคำ คำสัง่ ทใี่ ชใ้ นหอ้ งเรียน ขอ้ ความท่ีใชใ้ นการพูด เขยี น แสดงความตอ้ งการ ของตนเอง ใหข้ อ้ มลู ความรู้สึกเก่ียวกบั ตนเอง และเร่ืองใกล้ตวั ใช้คำส่ัง คำขอรอ้ ง และให้คำแนะนำ บอก ความเหมือน ความแตกตา่ ง ระหว่างการออกเสียงประโยคชนดิ ต่างๆ กจิ กรรม ทางภาษา การรอ้ งเพลง การเล่านทิ านประกอบทา่ ทาง พดู วาดภาพแสดงความสมั พันธข์ องส่งิ ต่างๆ แสดงความคิดเห็นง่ายๆโดยใช้ คำศัพท์เหมาะสมกับวัย การใชภ้ าษาในการฟัง พูดทำท่าประกอบ และนำเสนอด้วยการพูด เขยี นอย่าง สุภาพ เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษา อ่าน พูด ในสถานการณท์ ี่เกดิ ข้ึนในห้องเรยี น และสถานศกึ ษา โดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบคน้ ข้อมูลและมที ักษะทางสงั คม มีวถิ ีของระบอบ ประชาธปิ ไตย ซื่อสตั ย์ ใฝ่เรียนรู้ แสดงออกถึงความเป็นไทย เพื่อให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถ ส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้ และ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ในชวี ิตประจาวัน ผลการเรียนรู้ ๑. ปฏิบัติตามคำส่งั คำขอร้องทฟี่ งั ๒. อา่ นออกเสียงตวั อักษร คำ กลุม่ คำ ประโยคง่ายๆ และ บทพดู เขา้ จงั หวะง่ายๆ ถกู ต้องตามหลกั การอ่าน ๓. บอกความหมายของคำและกลมุ่ คำทฟี่ งั ตรงตามความหมาย ตอบคาถามจากการฟงั หรอื อา่ นประโยค บทสนทนาหรอื นทิ านงา่ ยๆ ๔. พูดโตต้ อบดว้ ยคำสั้นๆ ง่ายๆ ในการส่อื สารระหวา่ งบุคคลตามแบบที่ฟัง ใช้คำสั่งและ คำขอร้องง่ายๆ บอกความตอ้ งการงา่ ยๆ ของตนเอง ๖. พดู ให้ข้อมูลเกย่ี วกับตนเองและเรอื่ งใกลต้ ัว จดั หมวดหมคู่ ำตามประเภทของบคุ คล สตั ว์ และ ส่ิงของ ตามที่ฟงั หรืออ่าน ๗. พดู และทำท่าประกอบ ตามมารยาทสังคม/วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ๘. บอกชื่อและคำศพั ทง์ า่ ยๆ เกี่ยวกับเทศกาล/วันสำคญั /งานฉลอง และชวี ติ ความเปน็ อยขู่ องเจา้ ของ ภาษา เข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเ่ี หมาะกับวัย ๙. บอกความแตกต่างของเสียงตวั อักษร คำ กล่มุ คำ และประโยคง่ายๆ ของภาษาองั กฤษและ ภาษาไทย ๑๐. ฟงั /พูดในสถานการณ์ง่ายๆ ทีเ่ กดิ ข้ึนในห้องเรยี น รวบรวมคำศัพท์ที่เกี่ยวขอ้ งใกล้ตวั
๕๗ คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่มิ เติม อ๒๑๒๐๑ Young Guide ๑ กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง : ภาคเรียน จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ศกึ ษา อธบิ าย และฝึกปฏิบัติ ตามขั้นตอนและทักษะย่อยของกระบวนการฟัง กระบวนการพูด ใช้ภาษาส่อื สาร รับและสง่ สารในรูปแบบการสนทนาในสถานการณ์ทห่ี ลากหลาย โดยใช้คำศัพท์ สำนวน โครงสร้างภาษาได้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของการสื่อสาร สร้างสรรค์และดำเนินการสนทนากับ ชาวต่างชาติได้อย่างต่อเนอ่ื ง เหมาะสมตามกาลเทศะและมารยาทสงั คม ผลการเรยี นรู้ ๑. ปฏบิ ัตติ ามขัน้ ตอนของกระบวนการฟงั ได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ มที กั ษะใน การฟัง โดยสามารถตีความ วเิ คราะหเ์ รอื่ งทีฟ่ ัง น้ำเสยี ง กริยาท่าทางและสรุปความ ถ่าย โอนเป็นภาษาพูดและเขียนได้ ๒. ปฏบิ ัติตามขนั้ ตอนของกระบวนการพดู ได้อยา่ งถูกต้อง โดยสามารถพูด นำเสนอในที่ชุมชน ในหวั ขอ้ ตา่ งๆ ไดอ้ ย่างสร้างสรรค์ ๓. สร้างสรรคภ์ าษาในการสนทนา แลกเปลยี่ นข้อมลู และสร้างความสมั พันธ์ ระหวา่ งบุคคล โดยใช้คำศัพท์ สำนวน โครงสรา้ งภาษาให้เหมาะสมกบั สถานการณ์และ มารยาทสงั คม ๔. ใช้ภาษาองั กฤษในการส่ือสารไดท้ กุ สถานการณ์ ๕. มคี วามเชื่อมน่ั ในการใช้ภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติ รวมทง้ั หมด ๕ ผลการเรยี นรู้
๕๘ คำอธิบายรายวชิ าเพม่ิ เติม อ๒๑๒๐๒ Young Guide ๒ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี๑ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง: ภาคเรียน จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ฝึกสนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เร่ืองต่างๆ ใกล้ตัว ประสบการณ์ สถานการณ์ ข่าว และเหตุการณ์ ประเดน็ ท่ีอย่ใู นความสนใจของสังคม และสื่อสารอย่างต่อเน่ืองเหมาะสม เลือกและใช้ คำขอร้อง คำช้ีแจง คำอธบิ าย และให้คำแนะนำ พูดและเขียนแสดงความต้องการ เสนอและให้คำแนะนำ พูดและเขียนแสดงความคิดเห็นของตนเองเกย่ี วกับเร่ืองต่างๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตุการณ์ อยา่ งมเี หตุผล ผลการเรยี นรู้ ๑. ปฏบิ ัติตามคำส่งั คำขอร้อง คำแนะนำ คำชแี้ จงง่ายๆ สือ่ ทไี่ มเ่ ป็นความเรียง ปา้ ย สัญลกั ษณ์ และทีเ่ ปน็ ความเรียงประเภทสง่ิ พิมพ์ ๒. เข้าใจมารยาทสงั คมแลละวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ๓. สรา้ งสรรค์ภาษาในการสนทนา แลกเปลี่ยนข้อมูลและสรา้ งความสมั พันธ์ ระหวา่ งบุคคล โดยใช้คำศัพท์ สำนวน โครงสร้างภาษาให้เหมาะสมกับสถานการณ์และ มารยาทสังคม ๔. ใช้ภาษาอังกฤษในการส่ือสารได้ทกุ สถานการณ์ ๕. มคี วามเชอื่ มนั่ ในการใชภ้ าษาอังกฤษกบั ชาวต่างชาติ รวมทง้ั หมด ๕ ผลการเรยี นรู้
๕๙ คำอธิบายรายวชิ าเพ่มิ เติม อ๒๓๒๐๑ เกมและกิจกรรมการอ่านภาษาองั กฤษ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี๓ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒๐ ช่วั โมง : ภาคเรยี น จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ พัฒนาทักษะการฟังและการพูด โดยฝึกปฏิบัติตามข้ันตอนและทักษะย่อยของกระบวนการฟัง กระบวนการพูด ใช้ภาษาสื่อสาร รบั และสง่ สารในรปู แบบการสนทนาในสถานการณท์ ี่หลากหลาย โดยใช้ คำศัพท์ สำนวน โครงสร้างภาษาได้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของการส่ือสาร สร้างสรรค์และดำเนินการ สนทนากับชาวตา่ งชาติได้อยา่ งตอ่ เน่อื ง เหมาะสมตามกาลเทศะและมารยาทสังคม ผลการเรียนรู้ ๑. นักเรียนเรยี นรคู้ ำศัพท์ภาษาองั กฤษจากการเล่นเกม ได้แลกเปลยี่ นคำศัพท์ ใหม่ๆจาก เพอ่ื น สมาชกิ ภายในกลุ่ม และนำคำศัพท์ในกลุ่มไปแลกเปลีย่ นกับเพื่อนๆกลุม่ อ่ืน ๒. นักเรียนสามารถจดจำคำศพั ทไ์ ด้ดีข้ึนเม่ือใชร้ ูปภาพในการประกอบ ๓. สรา้ งสรรคภ์ าษาในการสนทนา แลกเปล่ยี นขอ้ มูลและสรา้ งความสัมพนั ธ์ ระหวา่ งบคุ คล โดยใช้คำศัพท์ สำนวน โครงสรา้ งภาษาใหเ้ หมาะสมกบั สถานการณ์และ มารยาทสังคม ๔. ใชภ้ าษาองั กฤษในการส่ือสารประสานงาน เปน็ วลี คำส่งั ง่ายๆ ได้ ๕. เปน็ การเลน่ ที่ได้รบั ทงั้ ความรู้ควบคู่ไปดว้ ย ทำใหผ้ ้เู รียนไดร้ ับความสนุกสนานและมเี จตคติ ในการเรียนภาษาอังกฤษดีข้นึ รวมทงั้ หมด ๕ ผลการเรียนรู้
๖๐ คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง ๑. ระดับประถมศกึ ษา ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๑ ส๑๑๒๐๑ หน้าทีพ่ ลเมือง เวลา ๔๐ ชั่วโมง ปฏิบตั ิตนเป็นผู้มมี ารยาทไทย ในเรือ่ งการแสดงความเคารพ การรับประทานอาหาร การทักทายดว้ ย วาจาและยิม้ แสดงออกถงึ ความกตญั ญกู ตเวทตี ่อพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ เห็นความสำคัญของภาษาไทย ปฏบิ ตั ิตนเป็นผูม้ วี นิ ัย ในตนเอง ในเร่อื งความซื่อสัตย์สจุ ริต ขยันหมนั่ เพยี ร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติ หน้าท่ี และยอมรับผลที่เกิดจากการกระทำของตนเอง เข้ารว่ มกจิ กรรมเก่ยี วกบั ชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ ปฏิบัตติ นตามพระบรมราโชวาท ใน เร่ืองการออมและการประหยดั หลกั การทรงงาน ในเร่ืองการประหยดั ความเรียบงา่ ย ไดป้ ระโยชนส์ ูงสดุ ความซือ่ สตั ยส์ ุจริตและจรงิ ใจตอ่ กนั และหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปฏิบัตติ นเป็นผมู้ ีวินยั ในตนเอง ในเรื่องความซือ่ สตั ย์สจุ รติ ขยนั หม่นั เพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตง้ั ใจปฏิบัตหิ น้าที่ และยอมรับผลทเ่ี กิดจาก การกระทำของตนเอง ปฏบิ ตั ิตนตามข้อตกลง กตกิ า และหน้าทท่ี ี่ตอ้ งปฏิบัติในหอ้ งเรียน ในเรอ่ื งการรกั ษาความสะอาด การรกั ษา ของใชร้ ่วมกนั และการสง่ งาน ปฏบิ ตั ิตนตามบทบาทหน้าท่ใี นฐานะสมาชกิ ที่ดีของครอบครัวและห้องเรียน ในเรือ่ งการเชือ่ ฟังคำส่ังสอนของพ่อแม่ ญาติผูใ้ หญ่และครู ปฏิบตั ติ นเป็นผู้มวี นิ ัยในตนเอง ในเรอ่ื งความ ซื่อสัตย์สุจริต ขยันหม่ันเพยี ร อดทน ใฝห่ าความรู้ ต้ังใจปฏบิ ัติหนา้ ท่ี และยอมรบั ผลท่ีเกดิ จากการกระทำ ของตนเอง ยอมรบั ความเหมอื นและความแตกต่างของตนเองและผู้อื่น ในเร่อื งเชอ้ื ชาติ ภาษา เพศ สุขภาพ ความ พิการ ความสามารถ ถ่ินกำเนิด ฯลฯ ยกตัวอยา่ งความขดั แย้งในหอ้ งเรยี น ในกรณีความคดิ เห็นไม่ตรงกัน การละเมดิ สทิ ธิของผ้อู ื่น และเสนอวธิ ีการแกป้ ัญหาโดยสนั ติวธิ ี ปฏิบตั ิตนเป็นผู้มวี นิ ยั ในตนเอง ในเร่อื งความ ซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ อดทน และยอมรบั ผลที่เกิดจากการกระทำของตนเอง โดยใชก้ ระบวนการคดิ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และ กระบวนการแกป้ ัญหา เพ่ือให้ผู้เรียนมีลกั ษณะทด่ี ขี องคนไทย ภาคภูมิใจและรักษาไว้ซงึ่ ความเป็นไทย แสดงออกถงึ ความรักชาติ ยึดม่ันในศาสนา เทิดทนู สถาบันพระมหากษตั ริย์ ดำเนินชีวติ ตามวถิ ีประชาธปิ ไตย อย่รู ่วมกบั ผูอ้ ่นื อยา่ งสนั ติ สามารถจัดการความขัดแยง้ ด้วยสันตวิ ธิ ี และมวี ินัยในตนเอง ผลการเรียนรู้ ๑. ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้มมี ารยาทไทย ๒. แสดงออกถึงความกตญั ญกู ตเวทตี ่อบคุ คลในครอบครัว ๓. เห็นความสำคญั ของภาษาไทย ๔. เข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกบั ชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ ๕. ปฏบิ ตั ติ นตามพระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๖. ปฏิบัติตนตามขอ้ ตกลง กติกา และหนา้ ที่ที่ตอ้ งปฏิบตั ใิ นห้องเรียน ๗. ปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าทีใ่ นฐานะสมาชิกท่ดี ีของครอบครวั และหอ้ งเรยี น ๘. ยอมรับความเหมอื นและความแตกต่างของตนเองและผู้อน่ื ๙. ยกตัวอยา่ งความขัดแย้งในห้องเรียนและเสนอวิธกี ารแกป้ ัญหาโดยสันตวิ ิธี ๑๐. ปฏิบัตติ นเป็นผู้มวี นิ ยั ในตนเอง รวมท้งั หมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้
๖๑ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ ส๑๒๒๐๑ หน้าที่พลเมือง เวลา ๔๐ ชวั่ โมง ปฏิบัติตนเป็นผูม้ มี ารยาทไทย ในเรอ่ื งการพดู ด้วยถอ้ ยคำไพเราะและการมกี ริ ิยาสุภาพอ่อนนอ้ ม แสดงออกถงึ ความกตญั ญูกตเวทีต่อบุคคลในโรงเรียน เห็นประโยชนข์ องการแตง่ กายดว้ ยผา้ ไทย ปฏิบัตติ น เป็นผ้มู ีวนิ ัย ในตนเอง ในเรอื่ งความซอื่ สัตยส์ ุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติหนา้ ท่ี และยอมรับผลที่เกดิ จากการกระทำของตนเอง เขา้ รว่ มกจิ กรรมเก่ียวกับชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ ปฏิบัตติ นตามพระบรมราโชวาท ในเรื่อง ความขยันและความอดทน หลกั การทรงงาน ในเรอื่ งการพงึ่ ตนเองและรู้ รัก สามคั คี และหลกั ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผูม้ ีวนิ ยั ในตนเอง ในเร่อื งความซ่อื สตั ย์สจุ รติ ขยนั หมน่ั เพยี ร อดทน ใฝห่ า ความรู้ ต้งั ใจปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ และยอมรบั ผลที่เกิดจากการกระทำของตนเอง ปฏิบัตติ นตามกฎ ระเบยี บ และหนา้ ท่ีทตี่ ้องปฏิบัติในโรงเรยี น ในเร่อื งการแตง่ กาย การเข้าแถว การดูแล พนื้ ทที่ ี่ไดร้ ับมอบหมาย ปฏบิ ตั ิตนตามบทบาทหน้าทใ่ี นฐานะสมาชิกทด่ี ีของห้องเรียนและโรงเรียน ในเรอ่ื ง การเปน็ ผนู้ ำและการเป็นสมาชกิ ท่ดี ี หน้าท่ีและความรบั ผดิ ชอบ ปฏิบัติตนเปน็ ผมู้ ีวินัยในตนเอง ในเร่ือง ความซื่อสตั ยส์ ุจริต ขยันหม่นั เพียร อดทน ใฝห่ าความรู้ ตัง้ ใจปฏิบัติหน้าที่ และยอมรบั ผลท่ีเกิดจากการ กระทำของตนเอง ยอมรบั ความเหมอื นและความแตกตา่ งของตนเองและผูอ้ ืน่ ในเรื่องเชอ้ื ชาติ ภาษา เพศ สขุ ภาพ ความพกิ าร ความสามารถ ถนิ่ กำเนดิ ฯลฯ ยกตวั อยา่ งความขัดแยง้ ในโรงเรียน ในกรณหี น้าทแ่ี ละความรับผดิ ชอบ และ การใช้ของสว่ นรวม และเสนอวิธีการแก้ปัญหาโดยสันตวิ ิธี ปฏิบัติตนเปน็ ผู้มวี นิ ยั ในตนเอง ในเร่ืองความ ซอ่ื สัตย์สุจริต อดทน และยอมรับผลที่เกดิ จากการกระทำของตนเอง โดยใชก้ ระบวนการคิด กระบวนการกลมุ่ กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และ กระบวนการแก้ปัญหา เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นมีลักษณะท่ีดีของคนไทย ภาคภมู ใิ จและรักษาไวซ้ ่งึ ความเปน็ ไทย แสดงออกถึงความรกั ชาติ ยดึ ม่ันในศาสนา เทดิ ทนู สถาบันพระมหากษตั รยิ ์ ดำเนินชวี ิตตามวิถปี ระชาธิปไตย อย่รู ่วมกับผ้อู น่ื อย่างสนั ติ สามารถจัดการความขัดแย้งด้วยสนั ตวิ ิธี และมีวินัยในตนเอง ผลการเรยี นรู้ ๑. ปฏบิ ัติตนเป็นผูม้ มี ารยาทไทย ๒. แสดงออกถึงความกตญั ญูกตเวทีตอ่ บคุ คลในโรงเรียน ๓. เห็นประโยชนข์ องการแตง่ กายด้วยผ้าไทย ๔. เขา้ ร่วมกิจกรรมเก่ียวกับชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ ๕. ปฏิบัติตนตามพระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ๖. ปฏบิ ัตติ นตามกฎ ระเบยี บ และหนา้ ที่ทตี่ อ้ งปฏิบตั ิในโรงเรยี น ๗. ปฏิบตั ิตนตามบทบาทหนา้ ทใ่ี นฐานะสมาชิกท่ีดีของห้องเรียนและโรงเรียน ๘. ยอมรับความเหมอื นและความแตกต่างของตนเองและผอู้ ่ืน ๙. ยกตัวอยา่ งความขดั แยง้ ในโรงเรียนและเสนอวิธีการแก้ปัญหาโดยสันติวิธี ๑๐. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผมู้ ีวินยั ในตนเอง รวมทัง้ หมด ๑๐ ผลการเรียนรู้
๖๒ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ ส๑๓๒๐๑ หนา้ ท่พี ลเมอื ง เวลา ๔๐ ช่วั โมง ปฏิบตั ติ นเป็นผู้มีมารยาทไทย ในเรอ่ื งการตอ้ นรบั ผมู้ าเยอื น และการปฏิบัติตนตามกาลเทศะ แสดงออก ถงึ ความกตัญญกู ตเวทตี อ่ บุคคลในชมุ ชน เห็นคุณค่าของภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่นในเร่ืองต่าง ๆ ปฏิบัติตนเป็นผู้มี วนิ ัย ในตนเอง ในเรอ่ื งความซือ่ สัตยส์ จุ รติ ขยนั หม่ันเพยี ร อดทน และยอมรับผลท่ีเกิดจากการกระทำของ ตนเอง เข้ารว่ มกิจกรรมเกีย่ วกับชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษตั ริย์ ปฏบิ ตั ติ นตามพระบรมราโชวาท ในเร่ือง ความซอ่ื สตั ยแ์ ละความเสียสละ หลักการทรงงาน ในเร่ืองการมีสว่ นร่วมและความเพยี ร และหลกั ปรัชญา ของเศรษฐกจิ พอเพียง ปฏบิ ตั ิตนเป็นผู้มวี ินัยในตนเอง ในเรอื่ งความซอื่ สัตยส์ จุ รติ ขยนั หมั่นเพยี ร อดทน ใฝ่หาความรู้ ต้งั ใจปฏิบตั ิหนา้ ท่ี และยอมรับผลท่เี กิดจากการกระทำของตนเอง ปฏิบตั ติ นตามขอ้ ตกลง กติกา กฎ ระเบียบ และหน้าทที่ ีต่ ้องปฏบิ ตั ใิ นห้องเรยี นและโรงเรียน ในเร่อื งการ ใช้และการดแู ลรกั ษาสิง่ ของ เครือ่ งใชแ้ ละสถานท่ีของสว่ นรวม ปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าท่ีในฐานะสมาชิก ท่ดี ี ของหอ้ งเรยี นและโรงเรยี น ในเรอ่ื งการใชส้ ิทธิและหน้าที่ และการใชเ้ สรีภาพอย่างรับผิดชอบ มีส่วนรว่ ม ในกจิ กรรม ต่าง ๆ ของหอ้ งเรียนและโรงเรียน ปฏบิ ตั ติ นเป็นผูม้ ีวนิ ัยในตนเอง ในเร่ืองความซอ่ื สัตย์สุจรติ ขยนั หม่นั เพียร อดทน ใฝห่ าความรู้ ตง้ั ใจปฏิบัติหน้าท่ี และยอมรับผลทเี่ กดิ จากการกระทำของตนเอง ยอมรบั ความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างบุคคล ในเรื่องเชอื้ ชาติ ภาษา เพศ สุขภาพ ความพิการ ความสามารถ ถิ่นกำเนิด สถานะของบุคคล ฯลฯ อยรู่ ว่ มกับผ้อู ื่นอย่างสันติและพ่งึ พาซ่งึ กนั และกัน ดว้ ยการ ไม่รังแก ไม่ทำรา้ ย ไมล่ ้อเลียน ชว่ ยเหลือซงึ่ กันและกัน และแบง่ ปนั ยกตวั อย่างความขดั แย้งในชมุ ชน ใน กรณกี ารใช้ สาธารณสมบตั แิ ละการรกั ษาสิ่งแวดล้อม และเสนอวิธีการปญั หาโดยสนั ตวิ ิธี ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ี วินัยในตนเอง ในเร่อื งความซอ่ื สัตย์สจุ รติ อดทน และยอมรบั ผลที่เกดิ จากการกระทำของตนเอง โดยใชก้ ระบวนการคดิ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และ กระบวนการแก้ปญั หา เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นมีลักษณะที่ดีของคนไทย ภาคภูมใิ จและรกั ษาไว้ซ่ึงความเป็นไทย แสดงออกถึงความรกั ชาติ ยึดมั่นในศาสนา เทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ ดำเนนิ ชวี ิตตามวิถปี ระชาธปิ ไตย อย่รู ว่ มกับผู้อื่นอย่างสันติ สามารถจัดการความขัดแยง้ ด้วยสนั ตวิ ธิ ี และมวี นิ ยั ในตนเอง ผลการเรยี นรู้ ๑. ปฏบิ ัติตนเป็นผ้มู ีมารยาทไทย ๒. แสดงออกถึงความกตัญญกู ตเวทีต่อบุคคลในชุมชน ๓. เห็นคุณค่าของภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น ๔. เข้ารว่ มกจิ กรรมเกี่ยวกับชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ๕. ปฏบิ ัติตนตามพระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๖. ปฏิบตั ติ นตามขอ้ ตกลง กติกา กฎ ระเบยี บ และหนา้ ท่ีทต่ี อ้ งปฏิบัตใิ นห้องเรยี นและโรงเรยี น ๗. ปฏิบตั ิตนตามบทบาทหน้าทีแ่ ละมีส่วนร่วมในกิจกรรมตา่ ง ๆ ของห้องเรยี นและโรงเรยี น ๘. ยอมรบั และอยู่ร่วมกบั ผอู้ ืน่ อย่างสนั ติ ๙. ยกตวั อยา่ งความขัดแย้งในชุมชนและเสนอวธิ ีการแกป้ ัญหาโดยสนั ตวิ ิธี ๑๐. ปฏิบตั ติ นเปน็ ผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง รวมทง้ั หมด ๑๐ ผลการเรียนรู้
๖๓ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๔ ส๑๔๒๐๑ หน้าทพี่ ลเมือง เวลา ๔๐ ช่วั โมง เหน็ คณุ ค่าและปฏิบัติตนเป็นผมู้ มี ารยาทไทยในพิธีการต่าง ๆ ในเร่ืองการกลา่ วคำตอ้ นรบั การแนะนำ ตวั เองและแนะนำสถานท่ี แสดงออกถงึ ความกตญั ญกู ตเวทีตอ่ ผู้ทำประโยชนใ์ นสงั คม มสี ่วนร่วมใน ขนบธรรมเนยี มประเพณีไทยในท้องถิน่ ปฏบิ ัตติ นเป็นผมู้ ีวนิ ัยในตนเอง ในเรือ่ งความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ อดทน และยอมรบั ผลที่เกดิ จากการกระทำของตนเอง เหน็ ความสำคญั และแสดงออกถงึ ความรกั ชาติ ยึดม่ันในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษตั ริย์ ใน เรอ่ื งการใชส้ ินค้าไทย ดูแลรักษาโบราณสถาน โบราณวตั ถุและสาธารณสมบตั ิ ปฏบิ ัติตนเปน็ ศาสนกิ ชนท่ดี ี ปฏบิ ตั ติ นตามพระราชจรยิ วตั รและพระจริยวตั ร ปฏบิ ัตติ นตามพระบรมราโชวาท ในเรื่องการมีวินยั และการ ขม่ ใจ หลกั การทรงงาน ในเรือ่ งประโยชนส์ ว่ นรวมและพออย่พู อกิน และหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ปฏบิ ตั ติ นเป็นผู้มวี ินัยในตนเอง ในเรอื่ งความซื่อสัตย์สจุ ริต ขยนั หมนั่ เพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ต้งั ใจปฏิบตั ิ หนา้ ท่ี และยอมรับผล ทเี่ กิดจากการกระทำของตนเอง มีส่วนรว่ มในการสร้างและปฏบิ ัติตามข้อตกลง กตกิ าของหอ้ งเรยี น ในเร่อื งการรักษาความสะอาด การรักษา ของใชร้ ่วมกันและการส่งงาน โดยใช้กระบวนการมีส่วนรว่ มในการสรา้ งข้อตกลง กตกิ าดว้ ยหลกั เหตุผลและ ยึดถือประโยชน์สว่ นรวม ปฏบิ ัตติ นตามบทบาทหน้าที่ของการเปน็ สมาชิกที่ดีของครอบครวั และหอ้ งเรียน ในเรอ่ื งการเป็นผนู้ ำ และการเป็นสมาชกิ ที่ดี การมีเหตผุ ล ยอมรับฟังความคิดเหน็ ของผอู้ นื่ และการปฏบิ ัติ ตามเสยี งขา้ งมากและยอมรับ เสยี งขา้ งน้อย มสี ว่ นรว่ มและรับผดิ ชอบในการตดั สินใจในกิจกรรมของ ครอบครัวและห้องเรยี น ปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้มวี นิ ยั ในตนเอง ในเรื่องความซ่ือสตั ยส์ ุจรติ ขยนั หม่นั เพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตงั้ ใจปฏิบตั หิ นา้ ที่ และยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จากการกระทำของตนเอง ยอมรับความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งบคุ คล ในเร่ืองเชอ้ื ชาติ ภาษา เพศ สุขภาพ ความพิการ ความสามารถ ถนิ่ กำเนิด สถานะของบคุ คล ฯลฯ อยู่รว่ มกับผู้อ่ืนอยา่ งสันติและพงึ่ พาซง่ึ กันและกัน ในเรือ่ ง การไมร่ ังแก ไม่ทำรา้ ย ไมล่ อ้ เลยี น ชว่ ยเหลอื ซ่งึ กันและกนั และแบง่ ปนั วเิ คราะหป์ ัญหาความขัดแย้งใน ทอ้ งถิน่ ในกรณีการใช้สาธารณสมบัตแิ ละการรักษาสงิ่ แวดล้อม และเสนอแนวทางการแก้ปัญหาโดยสันติวิธี ปฏบิ ตั ติ น เปน็ ผู้มีวนิ ัยในตนเอง ในเรอ่ื งความซ่อื สัตย์สจุ ริต อดทน และยอมรับผลที่เกิดจากการกระทำของ ตนเอง โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการกลมุ่ กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และ กระบวนการแกป้ ัญหาเพอ่ื ให้ผเู้ รียนมีลักษณะท่ดี ีของคนไทย ภาคภูมใิ จและรกั ษาไว้ซ่ึงความเป็นไทย แสดงออกถงึ ความรักชาติ ยึดม่ันในศาสนา เทิดทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์ ดำเนนิ ชีวติ ตามวถิ ีประชาธปิ ไตย อยูร่ ว่ มกบั ผอู้ ่นื อย่างสนั ติ สามารถจัดการความขัดแยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ิธี และมีวนิ ยั ในตนเอง ผลการเรียนรู้ ๑. เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ัตติ นเปน็ ผมู้ มี ารยาทไทย ๒. แสดงออกถงึ ความกตญั ญูกตเวทีต่อผทู้ ำประโยชน์ในสังคม ๓. มีส่วนรว่ มในขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ๔. เหน็ ความสำคัญและแสดงออกถงึ ความรกั ชาติ ยดึ ม่นั ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษตั ริย์ ๕. ปฏบิ ัติตนตามพระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ๖. มสี ่วนรว่ มในการสร้างและปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง กติกาของหอ้ งเรียน ๗. ปฏบิ ตั ิตนตามบทบาทหนา้ ที่ มสี ว่ นรว่ มและรับผิดชอบในการตัดสินใจในกิจกรรมของครอบครวั และ หอ้ งเรียน
๖๔ ๘. ยอมรบั และอยู่รว่ มกับผู้อนื่ อย่างสันติ และพ่ึงพาซ่ึงกนั และกัน ๙. วเิ คราะหป์ ญั หาความขดั แย้งในท้องถ่นิ และเสนอแนวทางการแก้ปัญหาโดยสันตวิ ธิ ี ๑๐. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้มวี ินัยในตนเอง รวมท้งั หมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้
๖๕ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕ ส๑๕๒๐๑ หน้าทพ่ี ลเมือง เวลา ๔๐ ชัว่ โมง เห็นคุณคา่ และปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้มมี ารยาทไทยในการสนทนา การปฏิบตั ิตนตามกาลเทศะ และการ ต้อนรับผูม้ าเยือนรู้คณุ ค่า ใช้อยา่ งประหยัด คมุ้ คา่ และบำรงุ รักษาทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มี ส่วนรว่ มในศิลปวฒั นธรรมไทยปฏบิ ตั ิตนเป็นผ้มู วี ินัยในตนเอง ในเรอ่ื งความซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต ตง้ั ใจปฏิบตั ิหนา้ ท่ี และยอมรับผลทเ่ี กดิ จากการกระทำ ของตนเอง เหน็ คุณค่าและแสดงออกถงึ ความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทนู สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ ดว้ ยการ ใช้สินค้าไทย ดแู ลรกั ษาโบราณสถาน โบราณวตั ถุและสาธารณสมบัติ ปฏิบัติตนเป็นศาสนกิ ชนท่ีดี ปฏิบัติ ตนตาม พระราชจรยิ วัตรและพระจรยิ วตั ร ปฏบิ ัติตนตามพระบรมราโชวาท ในเรือ่ งความเออื้ เฟ้ือเผื่อแผ่ และความสามัคคี หลกั การทรงงาน ในเร่ืองการทำตามลำดบั ขั้นและทำงานอยา่ งมคี วามสขุ และหลัก ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ปฏิบัติตนเปน็ ผู้มีวินัยในตนเอง ในเรอื่ งความซือ่ สตั ยส์ จุ รติ ขยนั หม่ันเพยี ร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตง้ั ใจปฏิบัติหน้าที่ และยอมรบั ผลท่ีเกิดจากการกระทำของตนเอง มสี ่วนรว่ มในการสร้างและปฏบิ ัติตนตามกฎ ระเบียบของโรงเรยี น ในการรักษาความสะอาด การรักษา ของ ใช้ร่วมกันและการดแู ลพ้ืนทที่ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย โดยใช้กระบวนการมีสว่ นร่วมในการสรา้ งกฎ ระเบียบ ด้วย หลกั เหตุผลและยึดถอื ประโยชน์ส่วนรวม ปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าท่ีของการเปน็ สมาชกิ ท่ีดีของห้องเรยี น และโรงเรยี น ในเร่อื งการยดึ ถอื หลกั ความจริง ความดงี าม ความถูกต้องและหลกั เหตุผล การยึดถอื ประโยชน์ ของสว่ นรวมเปน็ สำคญั การยดึ หลักความเสมอภาคและความยุติธรรม มสี ่วนร่วมและรบั ผดิ ชอบ ในการตดั สนิ ใจ ในกิจกรรมของหอ้ งเรยี นและโรงเรยี น ปฏิบตั ิตนเปน็ ผ้มู ีวนิ ยั ในตนเอง ในเรอื่ งความซอ่ื สตั ย์ สุจริต ขยนั หมนั่ เพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตัง้ ใจปฏิบัติหน้าที่ และยอมรบั ผลทีเ่ กดิ จากการกระทำของ ตนเองยอมรับ ความหลากหลายทางสังคมวฒั นธรรมในท้องถ่นิ ในเร่อื งวิถีชีวติ วฒั นธรรม ศาสนาและสงิ่ แวดลอ้ ม อยู่ ร่วมกบั ผู้อน่ื อยา่ งสันตแิ ละพง่ึ พากนั ดว้ ยการเคารพซ่งึ กนั และกัน ไม่แสดงกริ ยิ า วาจาดหู มิน่ ผอู้ ื่น ช่วยเหลอื ซึง่ กนั และกนั และแบ่งปนั วิเคราะห์ปญั หาความขัดแย้งในภูมภิ าคของตนเอง ในเรื่องการจดั การทรพั ยากร และ การขดั แย้งทางความคิด และเสนอแนวทางการแกป้ ญั หาโดยสนั ติวิธี ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง ในเร่ือง ความซื่อสตั ยส์ ุจริต ความอดทน และยอมรบั ผลที่เกดิ จากการกระทำของตนเอง โดยใช้กระบวนการ คิด กระบวนการกลุม่ กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการเผชญิ สถานการณ์ และกระบวนการแก้ปัญหา เพือ่ ให้ผ้เู รยี นมลี ักษณะทดี่ ขี องคนไทย ภาคภมู ิใจและรักษาไว้ซึ่งความเปน็ ไทย แสดงออกถึงความรัก ชาติ ยึดมั่นในศาสนา เทดิ ทูนสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ ดำเนนิ ชวี ิตตามวถิ ีประชาธิปไตย อยรู่ ่วมกับผู้อ่ืน อยา่ งสันติ สามารถจดั การความขัดแยง้ ดว้ ยสันติวิธี และมวี นิ ัยในตนเอง ผลการเรยี นรู้ ๑. เห็นคุณค่าและปฏบิ ัตติ นเป็นผูม้ ีมารยาทไทย ๒. รูค้ ุณค่าและบำรุงรักษาทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ๓. มสี ว่ นร่วมในศิลปวฒั นธรรมไทย ๔. เหน็ คณุ ค่าและแสดงออกถึงความรกั ชาติ ยึดม่ันในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ ๕. ปฏิบตั ิตนตามพระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ๖. มีสว่ นรว่ มในการสรา้ งและปฏบิ ัติตามกฎ ระเบียบของโรงเรยี น ๗. ปฏบิ ัติตนตามบทบาทหน้าท่ี มีส่วนรว่ มและรับผิดชอบในการตัดสนิ ใจในกจิ กรรมของห้องเรยี นและ โรงเรียน
๖๖ ๘. ยอมรบั ความหลากหลายทางสังคม วัฒนธรรมในทอ้ งถน่ิ และอย่รู ่วมกบั ผู้อ่นื อยา่ งสันติ และพึ่งพาซึ่งกนั และกัน ๙. วเิ คราะหป์ ญั หาความขัดแย้งในภูมิภาคของตนเองและเสนอแนวทางการแก้ปญั หาโดยสนั ตวิ ธิ ี ๑๐. ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ ีวนิ ัยในตนเอง รวมทั้งหมด ๑๐ ผลการเรียนรู้
๖๗ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๖ ส๑๖๒๐๑ หนา้ ท่พี ลเมอื ง เวลา ๔๐ ช่วั โมง ปฏิบตั ิตนและชกั ชวนผอู้ น่ื ให้มมี ารยาทไทย ในเรอ่ื งการแสดงความเคารพ การสนทนา การปฏิบัตติ น ตามกาลเทศะ และการต้อนรับผมู้ าเยอื น มสี ว่ นรว่ มและชกั ชวนผอู้ ่นื ใหอ้ นรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ ม มีส่วนร่วมใน ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒั นธรรม และภมู ปิ ัญญาไทย ปฏบิ ัติตนเปน็ ผ้มู ี วนิ ยั ในตนเอง ในเรอ่ื งความซื่อสัตย์สจุ ริต ต้งั ใจปฏิบตั ิหน้าท่ี และยอมรบั ผลที่เกดิ จากการกระทำของตนเอง เหน็ คุณค่าและแนะนำผอู้ ่ืนให้แสดงออกถงึ ความรักชาติ ยดึ ม่นั ในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษัตริย์ ด้วยการใช้สนิ ค้าไทย ดูแลรกั ษาโบราณสถาน โบราณวัตถุและสาธารณสมบตั ิ ปฏิบัตติ น เปน็ ศาสนกิ ชนทดี่ ี ปฏิบตั ิตนตามพระราชจรยิ วัตรและพระจรยิ วตั ร ปฏบิ ตั ติ นตามพระบรมราโชวาท ใน เรือ่ งความใฝ่รู้ ความกตัญญู หลักการทรงงาน ในเร่ืององค์รวมและทำใหง้ า่ ย และหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ปฏบิ ัตติ นเป็นผมู้ วี ินัยในตนเอง ในเรื่อง ความซอ่ื สัตยส์ ุจรติ ขยันหม่นั เพียร อดทน ใฝห่ าความรู้ ตัง้ ใจปฏิบตั หิ น้าท่ี และยอมรับผลท่เี กดิ จากการกระทำของตนเอง ปฏิบตั ิตนและแนะนำผู้อืน่ ใหป้ ฏิบัติตามข้อตกลง กติกา กฎ ระเบียบของหอ้ งเรยี นและโรงเรยี น ในการ ใช้และดแู ลรักษาสิ่งของ เครอ่ื งใช้ วสั ดุอุปกรณ์ และสถานทีข่ องส่วนรวม เห็นคณุ คา่ และปฏิบตั ิตนตาม บทบาทหน้าทขี่ องการเปน็ สมาชกิ ท่ดี ีของห้องเรียนและโรงเรยี น ดว้ ยการเป็นผู้นำและการเปน็ สมาชิกทด่ี ี การยดึ ถือประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคญั การใช้สิทธิและหนา้ ท่ี การใชเ้ สรภี าพอยา่ งรับผิดชอบ มสี ว่ น รว่ มและรบั ผิดชอบในการตัดสินใจในกจิ กรรมของหอ้ งเรียนและโรงเรยี น ปฏบิ ตั ติ นเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ใน เร่อื งความซ่ือสตั ย์สจุ รติ ขยันหม่ันเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตัง้ ใจปฏบิ ัตหิ น้าท่ี และยอมรับผลท่เี กิดจาก การกระทำของตนเอง ยอมรบั ความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในประเทศไทย ในเรอ่ื งวิถีชวี ติ วัฒนธรรม ศาสนาและ สิ่งแวดล้อม อยรู่ ว่ มกับผอู้ ่นื อยา่ งสนั ตแิ ละพึ่งพากัน ในเรือ่ งการเคารพซ่งึ กนั และกนั ไม่แสดงกริ ยิ า วาจาดู หม่ินผอู้ ื่น ช่วยเหลอื ซึง่ กันและกัน และแบง่ ปนั วิเคราะหป์ ญั หาความขดั แยง้ ในประเทศไทย ในเรื่องการการ ละเมิดสิทธิ การรักษาส่ิงแวดล้อม และเสนอแนวทางการแก้ปัญหาโดยสันตวิ ิธี ปฏบิ ัติตนเป็นผมู้ ีวนิ ัยใน ตนเอง ในเร่ือง ความซอ่ื สัตย์สจุ รติ อดทน และยอมรับผลท่ีเกดิ จากการกระทำของตนเอง โดยใช้ กระบวนการคดิ กระบวนการกลมุ่ กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชญิ สถานการณ์ และกระบวนการ แก้ปัญหา เพ่ือให้ผ้เู รยี นมลี กั ษณะที่ดขี องคนไทย ภาคภูมิใจและรกั ษาไว้ซงึ่ ความเป็นไทย แสดงออกถึงความรัก ชาติ ยึดม่นั ในศาสนา เทดิ ทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ดำเนินชีวติ ตามวิถีประชาธิปไตย อยรู่ ่วมกบั ผู้อ่นื อย่างสันติ สามารถจัดการความขัดแยง้ ด้วยสันติวิธี และมวี ินยั ในตนเอง ผลการเรียนรู้ ๑. ปฏิบัตติ นและชักชวนผูอ้ ่นื ให้มีมารยาทไทย ๒. มสี ว่ นรว่ มและชกั ชวนผู้อน่ื ให้อนรุ ักษท์ รพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ๓. มสี ว่ นรว่ มในขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และภูมิปญั ญาไทย ๔. เหน็ คณุ ค่าและแนะนำผูอ้ ่ืนใหแ้ สดงออกถึงความรกั ชาติ ยดึ ม่ันในศาสนา และเทิดทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์ ๕. ปฏิบตั ติ นตามพระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ๖. ปฏบิ ัตติ นและแนะนำผอู้ ื่นให้ปฏิบัตติ ามข้อตกลง กตกิ า กฎ ระเบยี บของหอ้ งเรียนและโรงเรียน
๖๘ ๗. เห็นคณุ คา่ และปฏบิ ัติตนตามบทบาทหน้าท่ี มีสว่ นรว่ มและรับผิดชอบในการตัดสนิ ใจในกจิ กรรม ของหอ้ งเรยี นและ โรงเรยี น ๘. ยอมรับความหลากหลายทางสงั คมวัฒนธรรมในประเทศไทย และอยรู่ ่วมกับผ้อู ื่นอยา่ งสนั ติ และพ่งึ พา ซึง่ กันและกนั ๙. วเิ คราะหป์ ญั หาความขัดแยง้ ในประเทศไทยและเสนอแนวทางการแก้ปญั หาโดยสนั ติวิธี ๑๐. ปฏิบตั ติ นเปน็ ผูม้ ีวนิ ัยในตนเอง รวมท้งั หมด ๑๐ ผลการเรียนรู้
๖๙ ๒. ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑ ส๒๑๒๐๑ หน้าทพ่ี ลเมอื ง ภาคเรียนที่ ๑ ๒๐ ชั่วโมง ๐.๕ หนว่ ยกติ ส๒๑๒๒๒ หนา้ ท่ีพลเมือง ภาคเรียนท่ี ๒ ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต มีส่วนร่วมอนรุ ักษ์มารยาทไทยในการแสดงความเคารพ การสนทนา การแตง่ กาย การมีสมั มาคารวะ แสดงออกถงึ ความเอ้ือเฟือ้ เผื่อแผแ่ ละเสยี สละต่อสงั คม เห็นคุณคา่ และอนุรกั ษ์ขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปวัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย ปฏบิ ัตติ นเป็นผู้มีวนิ ัยในตนเอง ในเรอ่ื งความซอ่ื สัตยส์ ุจริต ขยันหมน่ั เพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏบิ ัติหน้าที่ และยอมรับผลทเี่ กิดจากการกระทำของตนเอง ปฏิบตั ติ นเป็นแบบอย่างของความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์ ประยุกต์ และเผยแพรพ่ ระบรมราโชวาท ในเร่อื งมีเหตผุ ล รอบคอบ หลักการทรงงาน ในเรือ่ งการใช้ธรรมชาติชว่ ย ธรรมชาติ การปลูกป่าในใจคน และหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปฏิบตั ติ นเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ใน เรอ่ื งความซือ่ สตั ย์สุจรติ ขยันหม่ันเพยี ร อดทน ใฝ่หาความรู้ และต้ังใจปฏบิ ัติหน้าที่ ปฏบิ ัติตนเปน็ พลเมืองดีตามวถิ ีประชาธิปไตย ในการมสี ่วนร่วมในกิจกรรมตา่ ง ๆ ของสังคม การตดั สินใจ โดยใช้เหตผุ ล มสี ว่ นรว่ มและรบั ผิดชอบในการตดั สินใจในกิจกรรมของหอ้ งเรียนและโรงเรยี น ตรวจสอบ ขอ้ มลู เพ่อื ใช้ประกอบการตัดสนิ ใจในกิจกรรมตา่ ง ๆ ปฏบิ ัติตนเปน็ ผ้มู วี ินยั ในตนเอง ในเร่ืองความซ่ือสตั ย์ สุจริต อดทน ขยันหมัน่ เพียร ใฝ่หาความรู้ ต้ังใจปฏบิ ตั ิหน้าท่ี และยอมรบั ผลทเี่ กิดจากการกระทำของ ตนเอง ยอมรับความหลากหลายทางสงั คมวัฒนธรรมในภมู ภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ ในเร่อื งวิถีชวี ติ วัฒนธรรม ศาสนา สิ่งแวดลอ้ ม อยรู่ ่วมกันอยา่ งสันติและพ่ึงพาซง่ึ กนั และกนั ในสังคมพหวุ ฒั นธรรม ด้วยการ เคารพซึง่ กันและกนั ไมแ่ สดงกริ ยิ าและวาจาดหู ม่นิ ผูอ้ น่ื ชว่ ยเหลือซ่ึงกนั และกนั แบง่ ปนั มสี ว่ นร่วมในการ แก้ปญั หาความขัดแย้ง โดยสนั ตวิ ิธี ในเรือ่ งการทะเลาะวิวาท ความคดิ เห็นไมต่ รงกัน ดว้ ยการเจรจาไกล่ เกลยี่ การเจรจาต่อรอง การระงับ ความขดั แยง้ ปฏบิ ัติตนเปน็ ผู้มวี นิ ัยในตนเอง ในเรอื่ งความซ่อื สัตย์สจุ รติ อดทน ใฝ่หาความรู้ ตงั้ ใจปฏิบัตหิ นา้ ที่ ยอมรบั ผลทเ่ี กิดจากการกระทำของตนเองโดยใช้กระบวนการกลมุ่ กระบวนการคดิ กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการเผชญิ สถานการณ์ กระบวนการแกป้ ญั หา กระบวนการ สืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสรา้ งความตระหนัก กระบวนการสร้างคา่ นิยม และกระบวนการสร้างเจต คติ เพื่อให้ผูเ้ รียนมีลกั ษณะท่ีดขี องคนไทย ภาคภูมิใจในความเปน็ ไทย แสดงออกถงึ ความรักชาติ ยดึ มั่น ใน ศาสนา และเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษัตริย์ เปน็ พลเมอื งดีในระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ ทรงเปน็ ประมขุ มสี ่วนรว่ มทางการเมอื งการปกครอง อยู่ร่วมกับผู้อ่ืนอยา่ งสนั ติ จัดการความขัดแยง้ ด้วย สันติวธิ ี และมวี ินัยในตนเอง ผลการเรยี นรู้ ๑. มีส่วนร่วมในการอนรุ ักษ์มารยาทไทย ๒. แสดงออกถงึ ความเอื้อเฟอื้ เผ่ือแผ่ และเสียสละต่อสังคม ๓. เหน็ คุณค่าและอนรุ กั ษข์ นบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และภมู ปิ ญั ญาไทย ๔. เป็นแบบอยา่ งของความรักชาติ ยดึ มั่นในศาสนา และเทิดทนู สถาบันพระมหากษัตริย์ ๕. ประยุกต์และเผยแพร่พระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๖. ปฏบิ ตั ิตนเป็นพลเมอื งดตี ามวถิ ปี ระชาธิปไตย ๗. มสี ่วนรว่ มและรับผดิ ชอบในการตดั สินใจ ตรวจสอบข้อมลู เพ่อื ใช้ประกอบการตดั สินใจในกจิ กรรมต่าง ๆ
๗๐ ๘. ยอมรบั ความหลากหลายทางสังคมวฒั นธรรมในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ และอยู่รว่ มกัน อยา่ ง สนั ติ และพึ่งพาซง่ึ กันและกนั ๙. มีสว่ นร่วมในการแก้ปญั หาความขัดแย้งโดยสนั ติวิธี ๑๐. ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ ีวนิ ยั ในตนเอง รวมทงั้ หมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้
๗๑ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒ ส๒๒๒๐๑ หนา้ ท่พี ลเมอื ง ภาคเรียนที่ ๑ ๒๐ ชัว่ โมง ๐.๕ หนว่ ยกติ ส๒๒๒๒๒ หน้าที่พลเมอื ง ภาคเรยี นท่ี ๒ ๒๐ ชัว่ โมง ๐.๕ หน่วยกิต มีส่วนร่วมและแนะนำผอู้ น่ื ใหอ้ นรุ ักษม์ ารยาทไทย ในการแสดงความเคารพ การสนทนา การแต่งกาย การมสี ัมมาคารวะ แสดงออกและแนะนำผูอ้ ่ืนให้มคี วามเอ้ือเฟ้อื เผอื่ แผ่และเสยี สละต่อสังคม เหน็ คุณค่า อนุรักษ์ และสบื สานขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปญั ญาไทย ปฏิบัตติ นเป็นผ้มู วี นิ ยั ใน ตนเอง ในเร่ืองความซื่อสตั ย์สจุ ริต ขยนั หมั่นเพยี ร อดทน ตัง้ ใจปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ี และยอมรบั ผลที่เกดิ จากการ กระทำของตนเอง ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างและแนะนำผู้อ่นื ใหม้ ีการปฏิบตั ติ นทีแ่ สดงออกถงึ ความรกั ชาติ ยึดมัน่ ในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ ประยุกต์ และเผยแพรพ่ ระบรมราโชวาท ในเร่ืองการมสี ติ ความขยัน อดทน หลักการทรงงาน ในเร่อื งภูมสิ งั คม ขาดทุนคือกำไร และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ปฏิบัติ ตนเป็นผมู้ ีวินัย ในตนเอง ในเร่อื งความซอื่ สตั ย์สจุ ริต ขยันหม่นั เพยี ร อดทน ใฝห่ าความรู้ และตัง้ ใจปฏิบัติ หนา้ ท่ีปฏิบตั ิตนเป็นพลเมอื งดตี ามวิถีประชาธปิ ไตย ในเรอ่ื งการติดตามข่าวสารบา้ นเมือง ความกล้าหาญ ทางจรยิ ธรรม การเป็นผนู้ ำและการเป็นสมาชิกท่ีดี มีสว่ นร่วมและรับผดิ ชอบในการตัดสินใจต่อกิจกรรมของ ห้องเรยี นและโรงเรียน ตรวจสอบขอ้ มูลเพื่อใช้ประกอบการตัดสนิ ใจในกจิ กรรมตา่ ง ๆ และรทู้ นั ขา่ วสาร ปฏบิ ตั ติ นเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรอื่ งความซือ่ สัตยส์ ุจรติ อดทน ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ ใฝห่ าความรู้ และ ยอมรบั ผลที่เกดิ จากการกระทำของตนเอง เหน็ คุณค่าของการอยรู่ ่วมกันในภูมภิ าคเอเชียอยา่ งสนั ติ และพึ่งพาอาศยั ซ่ึงกนั และกันโดยคำนงึ ถึง ความหลากหลายทางสงั คม วฒั นธรรมในภูมภิ าคเอเชยี ในเรอื่ งวถิ ีชวี ติ วัฒนธรรม ศาสนา ส่งิ แวดล้อม การ อยูร่ ่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมและการพึ่งพาซงึ่ กันและกนั ในเร่อื งการเคารพซ่ึงกนั และกนั ไม่แสดงกริ ยิ า และวาจาดหู มิน่ ผู้อืน่ ช่วยเหลือซ่ึงกันและกนั แบง่ ปัน มีสว่ นร่วมและเสนอแนวทางการแก้ปญั หาความ ขดั แยง้ โดยสนั ติวิธีเกี่ยวกบั การละเมดิ สทิ ธิ การใช้ของสว่ นรวม ด้วยการเจรจาไกล่เกลย่ี การเจรจาต่อรอง การระงับ ความขดั แยง้ ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผ้มู วี นิ ยั ในตนเอง ในเรือ่ งความซอ่ื สตั ย์สจุ ริต อดทน ใฝห่ าความรู้ ต้ังใจปฏิบัติหน้าที่ ยอมรบั ผลที่เกิดจากการกระทำของตนเอง โดยใช้กระบวนการกล่มุ กระบวนการคดิ กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ กระบวนการแก้ปญั หา กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ กระบวนการสร้างความตระหนกั กระบวนการสรา้ งค่านยิ ม และกระบวนการสร้างเจตคติ เพ่ือให้ผูเ้ รียนมีลักษณะทด่ี ีของคนไทย ภาคภมู ิใจในความเป็นไทย แสดงออกถงึ ความรกั ชาติ ยึดมน่ั ใน ศาสนา และเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ เป็นพลเมอื งดีในระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ์ ทรงเปน็ ประมขุ มีส่วนรว่ มทางการเมืองการปกครอง อยรู่ ่วมกับผู้อืน่ อย่างสนั ติ จดั การความขดั แย้งดว้ ย สันตวิ ิธี และมวี นิ ัยในตนเอง ผลการเรยี นรู้ ๑. มีส่วนรว่ มและแนะนำผู้อ่ืนให้อนุรักษม์ ารยาทไทย ๒. แสดงออกและแนะนำผ้อู น่ื ให้มคี วามเอื้อเฟ้ือเผ่ือแผ่ และเสียสละตอ่ สงั คม ๓. เหน็ คุณค่า อนรุ กั ษ์ และสบื สานขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ศลิ ปวัฒนธรรม และภูมิปญั ญาไทย ๔. เป็นแบบอยา่ งและแนะนำผู้อ่นื ใหม้ คี วามรกั ชาติ ยดึ มน่ั ในศาสนา และเทิดทนู สถาบันพระมหากษัตริย์ ๕. ประยกุ ตแ์ ละเผยแพร่พระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ๖. ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวถิ ีประชาธปิ ไตย
๗๒ ๗. มสี ่วนรว่ มและรับผดิ ชอบในการตดั สนิ ใจ ตรวจสอบข้อมูลเพื่อใชป้ ระกอบการตดั สนิ ใจในกจิ กรรม ต่าง ๆ และรู้ทันขา่ วสาร ๘. เห็นคุณค่าของการอย่รู ่วมกนั ในภูมภิ าคเอเชยี อยา่ งสันติ และพึ่งพาซ่ึงกันและกนั ๙. มีสว่ นรว่ มและเสนอแนวทางการแก้ปญั หาความขดั แยง้ โดยสันตวิ ธิ ี ๑๐. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผ้มู วี ินยั ในตนเอง รวมทงั้ หมด ๑๐ ผลการเรียนรู้
๗๓ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ส๒๓๒๐๑ หนา้ ทีพ่ ลเมอื ง ภาคเรียนท่ี ๑ ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หนว่ ยกติ ส๒๓๒๒๒ หน้าท่ีพลเมือง ภาคเรยี นที่ ๒ ๒๐ ชัว่ โมง ๐.๕ หนว่ ยกิต มีส่วนร่วม แนะนำผอู้ นื่ ใหอ้ นรุ กั ษ์ และยกยอ่ งผู้มมี ารยาทไทย ในเร่อื งการแสดงความเคารพ การ สนทนา การแต่งกาย การมีสัมมาคารวะ แสดงออก แนะนำผอู้ ื่นและมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมเก่ยี วกับความ เอือ้ เฟื้อเผื่อแผ่ และเสียสละต่อสงั คม เห็นคุณค่า อนรุ ักษ์ สบื สาน และประยุกตข์ นบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปวฒั นธรรม และ ภมู ปิ ัญญาไทย ปฏิบตั ติ นเป็นผู้มวี นิ ัยในตนเอง ในเรอื่ งความซื่อสัตย์สจุ ริต ขยนั หมน่ั เพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตงั้ ใจปฏบิ ตั ิหน้าท่ี และยอมรับผลที่เกิดจากการกระทำของตนเอง ปฏิบตั ติ นเปน็ แบบอย่าง และมสี ่วนรว่ มในการจดั กิจกรรมทแ่ี สดงออกถงึ ความรกั ชาติ ยดึ มัน่ ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ ประยุกต์และเผยแพร่พระบรมราโชวาท ในเรอ่ื งการเสยี สละ ความ ซื่อสตั ย์ หลกั การทรงงาน ในเร่ืองศึกษาข้อมลู อยา่ งเป็นระบบ แกป้ ัญหาทจ่ี ดุ เล็ก ปฏบิ ัติตนเปน็ ผมู้ ีวินัยใน ตนเอง ในเร่อื งความซ่ือสตั ยส์ จุ ริต ขยนั หมัน่ เพียร อดทน ใฝห่ าความรู้ และตัง้ ใจปฏบิ ัตหิ น้าที่ ปฏบิ ัตติ นเป็นพลเมอื งดีตามวถิ ีประชาธปิ ไตย ในเรือ่ งการใช้สทิ ธแิ ละหนา้ ที่ การใชเ้ สรภี าพอยา่ งรบั ผิดชอบ การมสี ่วนรว่ มในกิจกรรมการเลือกตั้ง มสี ว่ นร่วมและรับผิดชอบในการตดั สินใจต่อกจิ กรรมของหอ้ งเรียน และโรงเรยี น ตรวจสอบขอ้ มูล ตรวจสอบการทำหนา้ ท่ขี องบคุ คลเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ ปฏิบัตติ น เป็นผู้มวี นิ ัย ในตนเอง ในเรือ่ งความซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต ขยันหมน่ั เพยี ร ใฝ่หาความรู้ ตัง้ ใจปฏบิ ัติหนา้ ทีแ่ ละ ยอมรับผลที่เกดิ จาก การกระทำของตนเอง เหน็ คุณค่าของการอยู่รว่ มกันในภมู ภิ าคเอเชยี อยา่ งสนั ติและพ่งึ พาซึง่ กนั และกนั ท่ามกลาง ความ หลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในภูมิภาคตา่ ง ๆ ของโลก ในเร่อื งวิถีชวี ติ วฒั นธรรม ศาสนา สิ่งแวดลอ้ ม การอยู่รว่ มกนั ในสงั คมพหุวัฒนธรรมและพง่ึ พาซงึ่ กันและกัน ในเร่ืองการเคารพซ่ึงกันและกัน ไม่แสดงกริ ยิ า และวาจาดูหมน่ิ ผอู้ ืน่ ชว่ ยเหลือซ่ึงกนั และกนั แบง่ ปัน มีสว่ นร่วมและเสนอแนวทางการปอ้ งกันปญั หาความ ขดั แยง้ ในเรอ่ื งทัศนคติ ความคิด ความเชอ่ื ชสู้ าว ปฏิบัติตนเปน็ ผ้มู ีวินัยในตนเอง ในเรอ่ื งความซอ่ื สัตย์ สุจรติ อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบตั หิ นา้ ที่ และยอมรบั ผลที่เกดิ จากการกระทำของตนเอง โดยใช้กระบวนการกล่มุ กระบวนการคดิ กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการเผชญิ สถานการณ์ กระบวนการ แกป้ ญั หา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสร้างความตระหนัก กระบวนการสร้างค่านยิ ม และ กระบวนการสร้างเจตคติ เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนมลี กั ษณะที่ดขี องคนไทย ภาคภูมิใจในความเปน็ ไทย แสดงออกถงึ ความรักชาติ ยดึ ม่นั ใน ศาสนา และเทิดทูนสถาบนั พระมหากษัตริย์ เปน็ พลเมืองดใี นระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั รยิ ์ ทรงเปน็ ประมุข มสี ว่ นร่วมทางการเมอื งการปกครอง อยรู่ ่วมกับผอู้ ื่นอยา่ งสนั ติ จดั การความขัดแยง้ ดว้ ย สนั ตวิ ธิ ี และมีวินยั ในตนเอง ผลการเรียนรู้ ๑. มสี ว่ นร่วม แนะนำผู้อืน่ ให้อนรุ กั ษ์ และยกยอ่ งผู้มีมารยาทไทย ๒. แสดงออก แนะนำผู้อน่ื และมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมเกี่ยวกบั ความเออ้ื เฟือ้ เผื่อแผ่ และเสยี สละ ๓. เหน็ คุณค่า อนรุ ักษ์ สืบสาน และประยกุ ตข์ นบธรรมเนยี ม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม และภมู ิปัญญาไทย ๔. เปน็ แบบอย่างและมีสว่ นร่วมในการจัดกจิ กรรมท่ีแสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมัน่ ในศาสนา และ เทดิ ทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ๕. ประยุกต์และเผยแพรพ่ ระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๖. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ พลเมอื งดีตามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย
๗๔ ๗. มสี ว่ นรว่ มและรับผดิ ชอบในการตดั สนิ ใจ ตรวจสอบขอ้ มูล ตรวจสอบการทำหนา้ ทข่ี องบคุ คล เพ่ือใช้ ประกอบการตัดสินใจ ๘. เหน็ คุณค่าของการอยรู่ ว่ มกันในภมู ภิ าคตา่ ง ๆ ของโลกอย่างสนั ติ และพงึ่ พาซงึ่ กันและกนั ๙. มสี ว่ นร่วมและเสนอแนวทางการป้องกนั ปญั หาความขดั แย้ง ๑๐. ปฏิบตั ติ นเป็นผ้มู วี นิ ยั ในตนเอง รวมท้งั หมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้
ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๓๒ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ คำอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เวลา ๒๔๐ ชวั่ โมง ๖ ช่วั โมง : สัปดาห์ ศึกษาการอ่านออกเสียงบอกความหมายของคำพื้นฐาน คำคล้องจอง ข้อความ คำที่มีวรรณยุกต์ และไม่มีวรรณยุกต์ ตัวสะกดตรงตามมาตราและไม่ตรงตามมาตรา คำควบกล้ำ อักษรนำ อ่านจับใจความ จาก นิทาน เร่ืองส้ัน บทร้อง บทเพลง เรื่องราวจากบทเรียน อ่านหนังสือตามความสนใจ เครื่องหมาย สญั ลักษณ์ มีมารยาทในการอ่าน คดั ลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทัดตามแบบอักษรไทย เขยี นสือ่ สารคำที่ใชใ้ น ชีวติ ประจำวัน คำพน้ื ฐาน คำคล้องจอง ประโยคง่ายๆ ฟังและปฏบิ ัตติ ามคำแนะนำ คำสั่งง่ายๆ จับใจความ พูดแสดงความคิดเห็น ความรู้สึกจากเรื่องเล่า สารคดีสำหรับเด็ก นิทาน การ์ตูน เร่ืองขบขัน พูดสื่อสารใน ชีวิตประจำวัน แนะนำตัวเอง ขอความช่วยเหลือ กล่าวขอบคุณ กล่าวขอโทษ มีมารยาทในการฟัง การดู การพูด บอกและเขียนพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ เลขไทย การสะกดคำ แจกลูก และอ่านเป็นคำ มาตราตัวสะกด ทตี่ รงตามมาตราและไมต่ รงตามมาตรา การผันคำ ความหมายของคำ การแต่งประโยค คำ คล้องจอง บอกข้อคิดการอ่านหรือฟังวรรณกรรมร้อยแก้วและร้อยกรองสำหรับเด็ก เช่น นิทานเรื่องส้ัน งา่ ยๆ ปริศนาคำทาย บทรอ้ งเล่น บทอาขยาน บทรอ้ ยกรอง วรรณคดีและวรรณกรรมในบทเรยี น โดยใช้ทักษะกระบวนการปฏิบัติในการอา่ น การเขยี น การฟงั การดู การพูด และการใชภ้ าษาไทย เพื่อให้เกิดความรู้ความคิด วิเคราะห์ การตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตอย่างมีวิจารณญาณและ สร้างสรรค์ สามารถนำไปใช้ในชวี ติ จริงได้อยา่ งเหมาะสม มีมารยาทที่ดี กระตือรือรน้ รักการอา่ น การเขียน การฟัง การดู การพูด ภูมิใจ รักภาษาไทย และ การใช้ภาษาไทย ในชีวิตประจำวันไดอ้ ย่างเหมาะสม รหัสตัวชี้วัด ท๑.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓ ป.๑/๔ ป.๑/๕ ป.๑/๖ ป.๑/๗ ป.๑/๘ ท๒.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓ ท๓.๑ ป.๑๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓ ป.๑/๔ ป.๑/๕ ท๔.๑ ป.๑/๑ ป. ๑/๒ ป.๑/๓ ป.๑/๔ ท๕.๑ ป.๑/๑ ป. ๑/๒ รวมท้งั หมด ๒๒ ตวั ช้ีวัด
ท๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๓๓ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๒ คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย เวลา ๒๔๐ ชั่วโมง ๖ ช่วั โมง : สัปดาห์ ศกึ ษาการอ่านออกเสียงและการบอกความหมายของคำ คำคล้องจอง ข้อความ บทร้อยกรองง่าย ๆ จากมีรูปวรรณยุกต์และไม่มีรปู วรรณยุกต์ ตัวสะกดตรงมาตราและไม่ตรงมาตรา อกั ษรนำ ตวั การันต์ คำ รร หนั พยญั ชนะและสระทีไ่ ม่ออกเสยี ง จับใจความจากนิทานเรอื่ งเล่าสัน้ ๆ บทเพลงและบทรอ้ ยกรอง ขา่ ว และเหตุการณ์ประจำวัน อ่านหนังสือตามความสนใจ ข้อเขียนเชิงอธิบายใช้สถานที่สาธารณะ คำแนะนำ การใช้เคร่อื งใช้ทีจ่ ำเป็นในบา้ น ในโรงเรยี น มารยาทในการอา่ น คดั ลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทัดตามรูปแบบ การเขียน ตัวอักษรไทย เขยี นเรื่องส้ันเกี่ยวกับประสบการณ์ตามจินตนาการ เขียนให้อ่านง่ายสะอาดไม่ขีด ฆ่าใช้ภาษาเหมาะสมกับเวลา สถานท่ี และบุคคล ไม่เขียนล้อเลียน ฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำ คำส่ังท่ี ซับซ้อน จับใจความพูดแสดงความคิดเห็นความรู้สึกจากเรื่องเล่า สารคดีสำหรับเด็ก นิทาน การ์ตูน เรื่อง ขบขัน ข่าวเหตุการณ์ประจำวัน เพลง พูดสื่อสารในชีวิตประจำวัน เช่นแนะนำตัวเอง ขอความช่วยเหลือ กล่าวขอบคุณ กล่าวคำขอโทษ พูดขอร้องเล่าประสบการณ์ มีมารยาทในการฟัง การดู การพูด บอกและ เขียนพยญั ชนะ สระ และวรรณยกุ ต์ เลขไทย การสะกดคำ แจกลูก และอา่ นเป็นคำ มาตราตัวสะกด ท่ีตรง ตามมาตราและไมต่ รงตามมาตรา การผันอักษรกลาง อักษรสูง อักษรต่ำ ตัวการันต์ คำควบกล้ำ อักษรนำ คำท่ีมคี วามหมายตรงกันขา้ ม คำทม่ี ี รร หนั ความหมายของคำ แตง่ ประโยคเรียบเรยี งประโยคคำคล้องจอง ภาษาไทยมาตรฐาน ภาษาถิ่น ระบุข้อคิดจากการอ่านวรรณกรรมร้อยแก้วและร้อยกรองสำหรับเด็ก เช่น นิทาน เร่ืองส้ันง่ายๆ ปริศนาคำทาย บทอาขยาน บทร้อยกรอง วรรณคดีและวรรณกรรมในบทเรียน บท รอ้ งเล่นในท้องถน่ิ โดยใช้ทักษะกระบวนการปฏิบัติในการอา่ น การเขียน การฟงั การดู การพดู และการใช้ภาษาไทย เพื่อให้เกิดความรู้ความคิด วิเคราะห์ การตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตอย่างมีวิจารณญาณและ สรา้ งสรรค์ สามารถนำไปใช้ในชีวิตจรงิ ได้อย่างเหมาะสม มีมารยาทท่ีดี กระตือรอื รน้ รักการอ่าน การเขียน การฟัง การดู การพูด ภูมิใจ รักภาษาไทย และ การใชภ้ าษาไทยในชวี ติ ประจำวันไดอ้ ยา่ งเหมาะสม รหสั ตัวชี้วัด ท๑.๑ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๒/๓ ป.๒/๔ ป.๒/๕ ป.๒/๖ ป.๒/๗ ป.๒/๘ ท๒.๑ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๒/๓ ป.๒/๔ ท๓.๑ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๒/๓ ป.๒/๔ ป.๒/๕ ป.๒/๖ ป.๒/๗ ท๔.๑ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๒/๓ ป.๒/๔ ป.๒/๕ ท๕.๑ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๒/๓ รวมท้ังหมด ๒๗ ตวั ชี้วดั
๓๔ ท๑๓๑๐๑ ภาษาไทย คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย เวลา ๒๔๐ ชั่วโมง ๖ ช่วั โมง : สัปดาห์ ศึกษาการอ่านออกเสียงและบอกความหมายของคำ คำคล้องจอง ข้อความ บทร้อยกรองง่ายๆ ตัว การันต์ คำท่ีมี รร พยัญชนะและสระไม่ออกเสียง คำพ้อง คำพิเศษอื่น ๆ อ่านจับใจความ นิทานหรือเร่ือง เกีย่ วกบั ท้องถนิ่ เรื่องเลา่ ส้นั ๆ บทเพลงและบทรอ้ ยกรอง ขา่ วและเหตกุ ารณ์ในชวี ติ ประจำวันในทอ้ งถิน่ และ ชุมชน อ่านหนังสือตามความสนใจ อ่านข้อเขียนเชิงอธิบาย ปฏิบัติตามคำสั่งหรือข้อแนะ ประกาศ ป้าย โฆษณา และคำขวัญ อ่านข้อมูลจากแผนภาพ แผนท่ี และแผนภูมิ มารยาทในการอ่าน การคัดลายมือตัว บรรจงเต็มบรรทดั ตามรูปแบบการเขียน ตัวอักษรไทย เขียนบรรยายลักษณะของ คน สัตว์ ส่ิงของ สถานที่ บันทึกประจำวัน จดหมายลาครู เร่ืองตามจินตนาการจากคำ ภาพ และหัวข้อท่ีกำหนด การจับใจความ และพดู แสดงความคดิ เหน็ และความรสู้ กึ จากเรื่องทฟี่ ังและดู ทั้งทเี่ ป็นความรู้และความบันเทงิ เช่น เรอ่ื งเล่า และสารคดสี ำหรับเด็ก นิทาน การ์ตูน เรื่องขบขัน รายการสำหรับเด็ก ขา่ วและเหตุการณ์ในชีวติ ประจำวัน เพลง พูดสื่อสารในชีวิตประจำวัน เช่น แนะนำตนเอง แนะนำสถานท่ีในโรงเรียนและในชมุ ชน แนะนำ เชิญ ชวนรักษาความสะอาดของร่างกาย การเล่าประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน พูดขอร้อง พูดทักทาย กล่าว ขอบคุณและขอโทษ พูดปฏเิ สธ พูดซกั ถาม มารยาทในการฟัง การพูด การดู สะกดคำ แจกลกู อ่านเป็นคำ มาตราตัวสะกดที่ตรงตามมาตราและไม่ตรงตามมาตรา ผันอักษรกลาง อักษรสูง และอักษรต่ำ คำที่มี พยัญชนะควบกล้ำ คำที่มีอักษรนำ คำที่ประวิสรรชนีย์และคำที่ไม่ประวิสรรชนีย์ คำท่ีมี ฤ ฤๅ คำท่ีใช้ บัน บรร คำที่ใช้ รร คำท่ีมีตัวการันต์ ความหมายของคำ ชนิดของคำ ได้แก่ คำนาม คำสรรพนาม คำกริยา ใช้ พจนานุกรม แต่งประโยคเพื่อการสื่อสาร ได้แก่ ประโยคบอกเล่า ประโยคปฏเิ สธ ประโยคคำถาม ประโยค ขอร้อง ประโยคคำสัง่ คำคล้องจอง คำขวญั ภาษาไทยมาตรฐาน ภาษาถิ่น ระบขุ อ้ คิดจากการอา่ นวรรณคดี วรรณกรรมและเพลงพื้นบ้าน นิทานหรือเร่ืองในท้องถนิ่ เรื่องส้ันง่ายๆ ปริศนาคำทาย บทร้อยกรอง เพลง พืน้ บา้ น เพลงกล่อมเด็ก วรรณกรรมและวรรณคดีในบทเรยี นและตามความสนใจ โดยใชท้ ักษะกระบวนการปฏิบัติในการอ่าน การเขียน การฟัง การดู การพดู และการใชภ้ าษาไทย เพื่อให้เกิดความรู้ความคิด วิเคราะห์ การตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตอย่างมีวิจารณญาณและ สร้างสรรค์ สามารถนำไปใช้ในชวี ิตจริงได้อยา่ งเหมาะสม มมี ารยาทท่ีดี กระตือรือร้น รกั การอา่ น การเขียน การฟัง การดู การพูด ภมู ิใจ รักภาษาไทย และ การใชภ้ าษาไทย ในชีวิตประจำวนั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม รหัสตวั ช้ีวัด ท๑.๑ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓ ป.๓/๔ ป.๓/๕ ป.๓/๖ ป.๓/๗ ป.๓/๘ ป.๓/๙ ท๒.๑ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓ ป.๓/๔ ป.๓/๕ ป.๓/๖ ท๓.๑ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓ ป.๓/๔ ป.๓/๕ ป.๓/๖ ท๔.๑ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓ ป.๓/๔ ป.๓/๕ ป.๓/๖ ท๕.๑ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓ ป.๓/๔ รวมทัง้ หมด ๓๑ ตวั ชี้วัด
๓๕ ท๑๔๑๐๑ ภาษาไทย คำอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย เวลา ๑๖๐ ชว่ั โมง ๔ ช่ัวโมง : สัปดาห์ ศึกษาการอ่านออกเสียง บอกความหมายของคำ บทร้อยแก้ว บทร้อยกรอง คำที่มี ร ล เป็น พยญั ชนะต้น คำควบกลำ้ อักษรนำ คำประสม อักษรย่อและเคร่ืองหมายวรรคตอน ประโยคท่มี ีสำนวนเป็น คำพงั เพย สุภาษิต ปริศนาคำทาย และเคร่ืองหมายวรรคตอน อ่านบทรอ้ ยกรองเป็นทำนองเสนาะ อ่านจับ ใจความ เร่ืองเล่าจากประสบการณ์ นิทานชาดก บทความ บทโฆษณา งานเขียนประเภทโน้มน้าวใจ ข่าว และเหตุการณ์ประจำวัน สารคดีและบันเทิงคดี อ่านหนังสือ ตามความสนใจ คัดลายมือตัวบรรจงเต็ม บรรทดั และคร่ึงบรรทัดตามรูปแบบการเขียนตัวอักษรไทย เขียนสอื่ สาร เชน่ คำขวัญ- คำแนะนำ แผนภาพ โครงเร่ืองและแผนภาพความคิด ไปพัฒนางานเขียน ย่อความจากส่ือต่างๆ นิทาน ความเรียง ประกาศ จดหมาย คำสอน จดหมายถึงเพ่ือนและบิดามารดา เขียนบันทึกและเขียนรายงานจากการศึกษาค้นคว้า เรื่องตามจินตนาการ มารยาทในการเขียน จำแนกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรื่องท่ีฟังและดู ใน ชวี ิตประจำวัน จับใจความ พูดแสดงความรู้ ความคิด เรื่องที่ฟังและดู จากสื่อต่างๆ เร่ืองเล่า บทความส้ันๆ ข่าวและเหตุการณ์ประจำวัน โฆษณา สื่ออิเล็กทรอนิกส์ รายงาน พูดลำดับเหตุการณ์ มารยาทในการฟัง การดู และการพูด คำในแม่ ก กา มาตราตัวสะกด ผันอักษร คำเป็นคำตาย คำพ้อง ชนิดของคำ ได้แก่ คำนาม คำสรรพนาม คำกริยา คำวิเศษณ์ การใช้พจนานุกรมประโยคสามัญ ส่วนประกอบของประโยค ประโยค ๒ สว่ น ประโยค ๓ ส่วน กลอนส่ี คำขวัญ สำนวนท่เี ป็นคำพังเพยและสภุ าษิต ภาษาไทยมาตรฐาน ภาษาถิน่ ระบุข้อคิดจากการอา่ นวรรณคดีและวรรณกรรม เชน่ นทิ านพืน้ บ้าน นทิ านคติธรรม เพลงพื้นบ้าน วรรณคดแี ละวรรณกรรมในบทเรยี นและตามความสนใจ โดยใช้ทักษะกระบวนการปฏิบตั ิในการอ่าน การเขยี น การฟงั การดู การพูด และการใช้ภาษาไทย เพื่อให้เกิดความรู้ความคิด วิเคราะห์ การตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตอย่างมีวิจารณญาณและ สรา้ งสรรค์ สามารถนำไปใช้ในชวี ติ จรงิ ได้อย่างเหมาะสม มมี ารยาทที่ดี กระตือรือรน้ รกั การอา่ น การเขียน การฟัง การดู การพูด ภูมิใจ รักภาษาไทย และ การใช้ภาษาไทย ในชวี ติ ประจำวันไดอ้ ย่างเหมาะสม รหัสตวั ชี้วดั ท๑.๑ ป.๔/๑ ป.๔/๒ ป.๔/๓ ป.๔/๔ ป.๔/๕ ป.๔/๖ ป.๔/๗ ป.๔/๘ ท๒.๑ ป.๔/๑ ป.๔/๒ ป.๔/๓ ป.๔/๔ ป.๔/๕ ป.๔/๖ ป.๔/๗ ป.๔/๘ ท๓.๑ ป.๔/๑ ป.๔/๒ ป.๔/๓ ป.๔/๔ ป.๔/๕ ป.๔/๖ ท๔.๑ ป.๔/๑ ป.๔/๒ ป.๔/๓ ป.๔/๔ ป.๔/๕ ป.๔/๖ ป.๔/๗ ท๕.๑ ป.๔/๑ ป.๔/๒ ป.๔/๓ ป.๔/๔ รวมท้งั หมด ๓๓ ตวั ช้ีวดั
๓๖ ท๑๕๑๐๑ ภาษาไทย คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๕ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย เวลา ๑๖๐ ชว่ั โมง ๔ ช่ัวโมง : สปั ดาห์ ศึกษาการอ่านออกเสยี งบอกความหมาย บทรอ้ ยแก้ว บทร้อยกรองคำควบกลำ้ อักษรนำ ตัวการนั ต์ อักษรย่อ เครื่องหมายวรรคตอน ข้อความ อ่านบทร้อยกรองเป็นทำนองเสนาะ อ่านจับใจความจาก วรรณคดี บทความ โฆษณา งานเขียน ข่าวเหตกุ ารณป์ ระจำวนั งานเขยี นเชิงอธิบายคำสัง่ ขอ้ แนะนำการใช้ พจนานุกรมใช้วัสดุอุปกรณ์ฉลากยา เอกสาร ข่าวสารทางราชการ หนังสือที่นักเรียนสนใจ คัดลายมือตัว บรรจงเต็มบรรทัด ครึ่งบรรทัด ตามรูปแบบอักษรไทย เขียนคำขวัญ คำอวยพร คำแนะนำ คำอธิบาย แผนภาพโครงเรื่อง แผนภาพความคิด ย่อความจากนิทาน ความเรียง ประกาศ แจ้งความ แถลงการณ์ จดหมาย คำสอน โอวาท คำปราศรัย จดหมายถึงผู้ปกครองและญาติ กรอกแบบรายการ ใบฝากเงิน ใบ ถอนเงิน ธนาณัติ พัสดุไปรษณียภัณฑ์ เร่ืองตามจิตนาการ มารยาทในการเขียน อ่านจับใจความพูดแสดง ความรู้ความคิดจากเรอ่ื งเล่า บทความ ข่าวเหตุการณ์ประจำวัน โฆษณา ส่ืออิเลก็ ทรอนิกส์ วิเคราะห์ความ นา่ เช่ือถอื เรื่องทีฟ่ ัง และดูในชวี ิตประจำวนั พูดรายงาน ลำดับขั้นตอนเหตกุ ารณ์ ระบชุ นิดและหน้าทข่ี องคำ คำบุพบท คำสันธาน คำอทุ าน ประโยค ส่วนประกอบ ของประโยค ภาษาไทยมาตรฐาน ภาษาถน่ิ คำราชา ศัพท์ คำมาจากภาษาต่างประเทศ กาพย์ยานี ๑๑ สำนวน คำพังเพย สุภาษิต สรุปเร่ืองวรรณคดีและ วรรณกรรม เช่นนทิ านพื้นบ้าน นิทานคติธรรม เพลงพืน้ บ้านวรรณคดีและวรรณกรรมในบทเรยี นและความ สนใจบทอาขยาน บทร้อยกรองท่ีมีคุณค่า โดยใชท้ ักษะกระบวนการปฏิบัติในการอา่ น การเขียน การฟงั การดู การพูด และการใช้ภาษาไทย เพ่ือให้เกิดความรู้ความคิด วิเคราะห์ การตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตอย่างมีวิจารณญาณและ สรา้ งสรรค์ สามารถนำไปใช้ในชีวติ จรงิ ได้อย่างเหมาะสม มมี ารยาทท่ีดี กระตือรือร้น รกั การอา่ น การเขียน การฟัง การดู การพูด ภมู ิใจ รักภาษาไทย และ การใชภ้ าษาไทย ในชีวติ ประจำวันไดอ้ ยา่ งเหมาะสม รหัสตัวชี้วัด ท๑.๑ ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ ป.๕/๔ ป.๕/๕ ป.๕/๖ ป.๕/๗ ป.๕/๘ ท๒.๑ ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ ป.๕/๔ ป.๕/๕ ป.๕/๖ ป.๕/๗ ป.๕/๘ ป.๕/๙ ท๓.๑ ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ ป.๕/๔ ป.๕/๕ ท๔.๑ ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ ป.๕/๔ ป.๕/๕ ป.๕/๖ ป.๕/๗ ท๕.๑ ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ ป.๕/๔ รวมท้ังหมด ๓๓ ตัวชี้วัด
๓๗ ท๑๖๑๐๑ ภาษาไทย คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง ๔ ชั่วโมง : สปั ดาห์ ศึกษาการอ่านออกเสียงและบอกความหมายบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองประกอบด้วย คำที่มี พยัญชนะควบกลำ้ อักษรนำ ตัวการันต์ คำภาษาตา่ งประเทศ อักษรยอ่ เครื่องหมายวรรคตอนวัน เดือน ปี แบบไทย ข้อความท่ีเป็นโวหาร สำนวนเปรียบเทียบ อ่านบทร้อยกรองเป็นทำนองเสนาะ อ่านจับใจความ เร่ืองส้ัน นิทาน เพลงพื้นบ้าน บทความ พระบรมราโชวาท สารคดี งานเขียน บทโฆษณา ข่าวเหตุการณ์ อา่ นเรว็ งานเขียนเชิงอธบิ าย คำสั่ง ข้อแนะนำ ใชพ้ จนานุกรม ข้อตกลงการอยู่ร่วมกัน ในชุมชนสงั คมและ ท้องถิ่นข้อมูลจากแผนผัง แผนที่ แผนภูมิและกราฟอ่านหนังสือตามความสนใจ มารยาทในการอ่าน คัด ลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและคร่ึงบรรทัดตามแบบอักษรไทย คำขวัญ คำอวยพร ประกาศ แผนภาพโครงเรื่อง แผนภาพความคิด เรียงความ ย่อความ นิทาน ความเรียง ประกาศ แจ้งความ แถลงการณ์ จดหมาย คำสอน โอวาท คำปราศรัย สุนทรพจน์ รายงาน ระเบียบ คำส่ัง จดหมายส่วนตัว จดหมายขอโทษ จดหมายขอบคุณ จดหมายแสดงความเห็นใจ แสดงความยินดี กรอกแบบรายการ แบบ ขอร้อง ใบสมคั รศึกษาต่อ แบบฝากสง่ พัสดุ ไปรษณียภณั ฑ์ เร่อื งตามจนิ ตนาการ พูดแสดงความรู้ความ เข้าใจ ในจุดประสงค์ของเรื่องสื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ วิเคราะห์ความน่าเช่ือถือจากส่ือโฆษณา รายงานการพูดลำดับข้ันตอน ลำดับเหตุการณ์ พูดโน้มน้าว การเลือกตั้ง กรรรมการนักเรียน การรณรงค์ โตว้ าที มารยาทในการฟัง การดู การพูดวิเคราะหช์ นิดและหน้าท่ีของคำ คำนาม คำสรรพนาม คำกรยิ า คำ วิเศษณ์ คำบุพบท คำเช่ือม คำอุทาน คำราชาศัพท์ ระดับภาษา ภาษาถิ่น คำที่มาจากภาษาต่างประเทศ กลุม่ คำหรอื วลี ประโยคสามัญ ประโยครวม ประโยคซอ้ น กลอนสุภาพ สำนวนคำพังเพยและสุภาษติ แสดง ความคิดเห็นวรรณคดีและวรรณกรรม เช่น นิทานพื้นบ้านท้องถ่ินตนเองและท้องถ่ินอ่ืน นิทานคติธรรม เพลงพื้นบา้ น วรรณคดีและวรรณกรรมในบทเรียน บทอาขยาน บทรอ้ ยกรอง โดยใชท้ ักษะกระบวนการปฏิบัติในการอา่ น การเขยี น การฟงั การดู การพูด และการใช้ภาษาไทย เพื่อให้เกิดความรู้ความคิด วิเคราะห์ การตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตอย่างมีวิจารณญาณและ สร้างสรรค์ สามารถนำไปใช้ในชวี ติ จริงได้อย่างเหมาะสม มีมารยาทท่ีดี กระตือรือร้น รกั การอา่ น การเขียน การฟัง การดู การพูด ภูมิใจ รักภาษาไทย และ การใช้ภาษาไทย ในชวี ิตประจำวนั ได้อยา่ งเหมาะสม รหัสตัวชี้วัด ท๑.๑ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓ ป.๖/๔ ป.๖/๕ ป.๖/๖ ป.๖/๗ ป.๖/๘ ป.๖/๙ ท๒.๑ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓ ป.๖/๔ ป.๖/๕ ป.๖/๖ ป.๖/๗ ป.๖/๘ ป.๖/๙ ท๓.๑ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓ ป.๖/๔ ป.๖/๕ ป.๖/๖ ท๔.๑ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓ ป.๖/๔ ป.๖/๕ ป.๖/๖ ท๕.๑ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓ ป.๖/๔ รวมท้งั หมด ๓๔ ตวั ชี้วดั
๓๘ คำอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน ท๒๑๑๐๑ ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๖๐ ชั่วโมง : ภาคเรียน จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต ฝึก อา่ นออกเสียงบทร้อยแก้วท่เี ป็นบทบรรยาย และบทรอ้ ยกรองที่เปน็ กลอนสุภาพ กลอนสักวา กาพย์ยานี ๑๑ กาพยฉ์ บัง ๑๖ กาพย์สรุ างคนางค์ ๒๘ และโคลงสี่สภุ าพ จับใจความสำคัญจากเร่ืองเล่า จากประสบการณ์ เรื่องส้ัน บทสนทนา นิทานชาดก วรรณคดีในบทเรียน ปฏิบัติตามคู่มือแนะนำ วิธีการใช้งาน ของเคร่ืองมือหรือเคร่ืองใช้ในระดับที่ยากขึ้น ระบุเหตุและผล อธิบาย ข้อเท็จจริงกับ ข้อคิดเห็น ข้อสังเกตและความสมเหตุสมผล ของงานเขียนประเภทชักจูงโนม้ น้าวใจ คำเปรียบเทียบและ คำที่มีหลายความหมายในบริบทต่างๆ จากการอ่าน ลักษณะของเสียง ในภาษาไทย การสร้างคำใน ภาษาไทย คุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน ตีความคำยากในเอกสารวิชาการ โดยพิจารณาจาก บริบท วิเคราะห์คุณค่าท่ีได้รับจากการอ่านงานเขียนอย่างหลากหลาย นำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิต ความแตกต่างของภาษาพดู และภาษาเขียน คัดลายมือตวั บรรจงครึ่งบรรทดั เขียน สื่อสารแนะนำตนเอง สถานท่สี ำคัญ เรียงความเชงิ พรรณนา ยอ่ ความจากส่อื เรื่องสั้น คำสอน โอวาท คำปราศรยั แสดงความ คิดเห็นเกี่ยวกับสาระจากสื่อท่ีได้รับ บรรยาย ประสบการณ์โดยระบุสาระสำคัญ และรายละเอียด สนับสนุน โดยใช้ถ้อยคำถูกต้อง ชัดเจน เหมาะสม และสละสลวย พูดสรุปใจความสำคัญ เล่าเร่ืองย่อ แสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ รายงานเร่ืองหรือประเด็นที่ศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดู และการ สนทนา สรุปเนื้อหาวรรณคดแี ละวรรณกรรม ความรู้และข้อคดิ จากการอ่าน เพื่อประยุกต์ใช้ในชวี ติ จริง ท่องจำบทอาขยานตามทกี่ ำหนด และบทร้อยกรองทม่ี ีคุณค่าตามความสนใจ โดยการใช้ทักษะการ ฟัง พูด อ่าน เขียน การวิเคราะห์ การอธิบาย การอภิปราย การจับ ใจความ การสรปุ ความ กระบวนการทำงานเป็นกลมุ่ การศึกษาคน้ คว้าดว้ ยตนเอง เพื่อให้เห็นคุณค่ารักภาษาไทย รักการอ่าน มีมารยาทในการฟัง พูด อ่าน เขียน ดู และใช้ ภาษาไทยในการส่อื สารได้อย่างเหมาะสม รหัสตัวช้ีวัด ท๑.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ม.๑/๗ ม.๑/๘ ม.๑/๙ ท๒.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ม.๑/๙ ท๓.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ท๔.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๔ ม.๑/๖ ท.๕.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ รวมทง้ั หมด ๒๙ ตัวช้ีวดั
๓๙ คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน ท๒๑๑๐๒ ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๑ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๖๐ ชั่วโมง : ภาคเรยี น จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต ฝกึ อา่ นออกเสียงบทร้อยแก้วทเี่ ป็นบทบรรยายและบทร้อยกรองกลอนสภุ าพ กลอนสักวา กาพย์ ยานี ๑๑ กาพยฉ์ บัง ๑๖ กาพย์และโคลงสส่ี ุภาพ จบั ใจความสำคัญจากวรรณคดีในบทเรียน งานเขียน สรา้ งสรรค์ สารคดี บทความ เอกสารทางวชิ าการท่มี ีคำ ประโยคและขอ้ ความทีต่ อ้ งใช้บรบิ ทช่วยพิจารณา ความหมาย ระบเุ หตุและผล ข้อเท็จจรงิ กับข้อคิดเหน็ ข้อสังเกตและความสมเหตุสมผล ของงานเขยี น ประเภทชกั จูงโนม้ น้าวใจ อธิบายลักษณะของเสียง ในภาษาไทย คุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่ อา่ น ตีความคำยากในเอกสารวชิ าการ โดยพจิ ารณาจากบริบท วเิ คราะห์คุณค่าทไี่ ดร้ ับจากการอา่ นงาน เขียนอย่างหลากหลาย เพื่อนำไปใชแ้ กป้ ัญหาในชีวิต ชนดิ และหนา้ ที่ของคำในประโยค วรรณคดแี ละ วรรณกรรมทอี่ า่ นพรอ้ มยกเหตผุ ลประกอบ เขียนส่ือสารบนสือ่ อีเล็กทรอนกิ ส์ ย่อความจากสนุ ทรพจน์ รายงาน ระเบียบ คำสงั่ บทสนทนา เรอ่ื งเล่า แสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั สาระจากสื่อทไ่ี ดร้ ับ เขยี น จดหมายสว่ นตวั จดหมายกิจธุระ รายงานการศึกษาคน้ คว้า โครงงาน บรรยายประสบการณ์โดยระบุ สาระสำคัญ และรายละเอียดสนบั สนนุ โดยใช้ถ้อยคำถกู ตอ้ ง ชัดเจน เหมาะสม และสละสลวย แต่ง บทรอ้ ยกรองประเภทกาพยย์ าน๑ี ๑ พูดสรุปใจความสำคญั เล่าเร่ืองย่อ พูดแสดงความคิดเห็นอยา่ ง สร้างสรรค์ ประเมินความนา่ เช่ือถือของส่ือที่มเี นื้อหาโน้มนา้ วใจ พูดรายงานเรื่องหรอื ประเดน็ ท่ีศึกษา คน้ ควา้ จากการฟัง การดู และการสนทนา สรุปเนื้อหาวรรณคดแี ละวรรณกรรม ความรแู้ ละขอ้ คดิ จาก การอา่ น เพ่อื ประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ จริง ทอ่ งจำบทอาขยานตามท่ีกำหนด และบทร้อยกรองท่ีมคี ุณค่าตาม ความสนใจ โดยการใช้ทกั ษะการ ฟงั พูด อ่าน เขยี น การวเิ คราะห์ การอธิบาย การอภปิ ราย การจบั ใจความ การสรุปความ กระบวนการทำงานเป็นกลมุ่ การศึกษาคน้ คว้าดว้ ยตนเอง เพอ่ื ให้เหน็ คณุ คา่ รักภาษาไทย รักการอา่ น มมี ารยาทในการฟัง พดู อ่าน เขยี น ดู และใช้ ภาษาไทยในการส่อื สารไดอ้ ยา่ งเหมาะสม รหัสตวั ชี้วดั ท๑.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ม.๑/๗ ม.๑/๘ ม.๑/๙ ท๒.๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ม.๑/๗ ม.๑/๘ ม.๑/๙ ท๓.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ท๔.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๓ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ท.๕.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ รวมท้งั หมด ๓๐ ตัวชี้วดั
๔๐ คำอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน ท๒๒๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง : ภาคเรียน จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต ฝึก อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วที่เป็นบทบรรยายและบทรอ้ ยกรองท่ีเป็นกลอนบทละคร กลอน เพลงยาว กลอนนิทาน อ่านหนังสือบทความหรือคำประพันธ์อย่างหลากหลายและประเมินคุณค่าหรือ แนวคดิ ที่ได้จากการอ่านเพือ่ นำไปใช้แก้ปญั หาในชวี ิต จบั ใจความสำคัญ สรุปความรู้ ขอ้ คิด เน้อื หาวรรณคดี และวรรณกรรมที่อ่านในระดบั ที่ยากข้นึ ไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตจริง อธบิ ายรายละเอียด คุณค่าของวรรณคดี และวรรณกรรมที่อ่าน ระบุข้อสังเกต การชวนเช่ือ การโน้มน้าว หรือความสมเหตุสมผลของงานเขียน อภิปรายแสดงความคิดเห็นและข้อโต้แยง้ เก่ยี วกับเรอ่ื งที่อ่าน วิเคราะหแ์ ละจำแนกขอ้ เท็จจรงิ ข้อมูลสนับสนุน และข้อคิดเห็นจากบทความที่อ่าน คัดลายมือ ตัวบรรจงคร่ึงบรรทัด เขียนบรรยาย และพรรณนา เรียงความเกี่ยวกับประสบการณ์ ย่อความนิทาน คำสอน จดหมายกิจธุระ ผังความคิด เขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้ ความคิดเห็น หรือโต้แย้งจากบทความ บทเพลงหนังสืออ่านนอกเวลาอย่างมี เหตผุ ล พูดในโอกาสต่างๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ พดู สรุปใจความสำคัญของเร่ืองที่ฟังและดู วิเคราะห์ โครงสร้างประโยคสามัญ ประโยครวมและประโยคซ้อน ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็นและความน่าเชื่อถือของ ข่าวสารจากสื่อต่างๆ วิเคราะห์และวิจารณ์เร่ืองท่ีฟังและดูวรรณคดีวรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถิ่น อย่างมีเหตุผลเพ่ือนำข้อคิดมาประยุกต์ใช้ ในการดำเนินชีวิต แต่งบทร้อยกรองประเภทกลอน สร้างคำใน ภาษาไทย ทอ่ งจำบทอาขยานตามทีก่ ำหนดและบทร้อยกรองทมี่ ีคณุ ค่าตามความสนใจ โดยการใชท้ ักษะการ ฟงั พดู อา่ น เขียน การวิเคราะห์ การอธิบาย การอภิปราย การจับใจความ การสรุปความ กระบวนการทำงานเป็นกล่มุ การศกึ ษาคน้ ควา้ ด้วยตนเอง เพื่อให้เห็นคุณค่ารักภาษาไทย รักการอ่าน มีมารยาทในการฟัง พูด อ่าน เขียน ดู และใช้ ภาษาไทยในการสอ่ื สารไดอ้ ยา่ งเหมาะสม รหัสตัวชี้วัด ท๑.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ ม.๒/๕ ม.๒/๖ ม.๒/๗ ม.๒/๘ ท๒.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ ม.๒/๖ ม.๒/๗ ม.๒/๘ ท๓.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ ม.๒/๖ ท๔.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ท.๕.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ ม.๒/๕ รวมท้ังหมด ๒๘ ตวั ชวี้ ัด
๔๑ คำอธบิ ายรายวชิ าพ้นื ฐาน ท๒๒๑๐๒ ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท๒่ี ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๖๐ ชั่วโมง : ภาคเรยี น จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต ฝึก อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วท่ีเป็นบทพรรณนาและบทร้อยกรองท่ีเป็นกาพย์ห่อโคลง โคลงสี่ สุภาพ อา่ นหนังสอื บทความหรือคำประพนั ธ์อย่างหลากหลายและประเมินคุณคา่ หรือแนวคดิ ที่ได้จากการ อ่านเพ่ือนำไปใช้แกป้ ัญหาในชวี ิต จับใจความสำคัญ สรปุ ความรู้ ข้อคิด เนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่ อ่านในระดับที่ยากขึ้นไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง อธิบายรายละเอียดคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ี อ่าน ระบุข้อสังเกต การชวนเชื่อ การโน้มน้าว หรือความสมเหตุสมผลของงานเขียน อภิปรายแสดงความ คิดเห็นและข้อโต้แย้งเก่ียวกับเรื่องท่ีอ่าน วิเคราะห์และจำแนกข้อเท็จจริง ข้อมูลสนับสนุนและข้อคิดเห็น จากบทความท่อี ่าน คัดลายมือ ตัวบรรจงครึ่งบรรทดั เขียนบรรยาย และพรรณนา เรียงความ ย่อความ บทความทางวิชาการ นิทานชาดก รายงานการศึกษาค้นคว้า ผังความคิด เขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และ แสดงความรู้ ความคิดเห็น หรอื โต้แย้งจากสารคดี บนั เทิงคดีอยา่ งมเี หตผุ ล พดู รายงานเร่ืองหรือประเดน็ ท่ี ศึกษาค้นคว้า พูดสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่ฟังและดู สร้างคำในภาษาไทย ใช้คำราชาศัพท์ รวบรวม และอธิบายความหมาย ของคำภาษาต่างประเทศ ที่ใช้ในภาษาไทย วิเคราะห์ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็นและ ความน่าเช่ือถือของข่าวสารจากส่ือต่างๆ วิเคราะห์และวิจารณ์เร่ืองที่ฟังและดูวรรณคดีวรรณกรรม และ วรรณกรรมท้องถิ่น อย่างมีเหตุผลเพื่อนำข้อคิดมาประยุกต์ใช้ ในการดำเนินชีวิต ท่องจำบทอาขยานตามท่ี กำหนดและบทร้อยกรองทม่ี ีคุณค่าตามความสนใจ โดยการใช้ทักษะการ ฟัง พูด อ่าน เขยี น การวิเคราะห์ การอธบิ าย การอภิปราย การจับ ใจความ การสรุปความ กระบวนการทำงานเป็นกลุ่ม การศึกษาคน้ ควา้ ด้วยตนเอง เพื่อให้เห็นคุณค่ารักภาษาไทย รักการอ่าน มีมารยาทในการฟัง พูด อ่าน เขียน ดู และใช้ ภาษาไทยในการสอ่ื สารได้อยา่ งเหมาะสม รหสั ตวั ชี้วัด ท๑.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ ม.๒/๕ ม.๒/๖ ม.๒/๗ ม.๒/๘ ท๒.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ ม.๒/๕ ม.๒/๗ ม.๒/๘ ท๓.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๕ ม.๒/๖ ท๔.๑ ม.๒/๔ ม.๒/๕ ท.๕.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ ม.๒/๕ รวมทัง้ หมด ๒๗ ตัวชี้วดั
๔๒ คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน ท๒๓๑๐๑ ภาษาไทย กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นที๑่ เวลา ๖๐ ชั่วโมง :ภาคเรียน จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต ฝึก อ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ ท่เี ป็นบทความทว่ั ไป บทความปกิณกะ บทร้อยกรองกลอน บทละคร กลอนเสภา กาพย์ยานี๑๑ กาพย์ฉบัง๑๖ โคลงส่ีสุภาพ อ่านเร่ืองต่างๆ แล้วเขียนกรอบแนวคิด ผัง ความคิด บันทึก ย่อความและรายงาน ระบุความแตกต่างของคำท่ีมีความหมายโดยตรง และความหมาย โดยนัย ใจความสำคัญและรายละเอียดของข้อมูลที่สนับสนุน จากเรื่องท่ีอ่าน วิเคราะห์ระดับภาษา วิถี ไทย และคุณค่าจากวรรณคดี และวรรณกรรมที่อ่าน วิจารณ์ และประเมินเรื่องที่อ่าน ฟังและดู โดยใช้ กลวิธีการเปรียบเทียบเพ่ือให้ผู้อ่านเข้าใจได้ดีข้ึน เพ่ือนำข้อคิดมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต ประเมิน ความถกู ตอ้ งของข้อมูล ท่ีใชส้ นับสนนุ ในเรื่องท่อี า่ น คดั ลายมือ ตวั บรรจงครึง่ บรรทดั เขียนคำอวยพร ในโอกาสต่างๆ คำขวัญ คำคม คำโฆษณา คติพจน์ สุนทรพจน์ ชีวประวัติหรืออัตชีวประวัติ ข้อคิดเห็น และทัศนคตใิ นเรอื่ งตา่ งๆ ย่อความจากนิทาน ประวัติ ตำนาน สารคดีทางวิชาการ พระราชดำรัส พระบรม ราโชวาท จดหมายราชการ เขียนจดหมายกิจธุระเชิญวิทยากร ขอความอนุเคราะห์ แสดงความขอบคุณ พูดโต้วาที อภิปราย ยอวาที โน้มน้าว แสดงความคิดเห็นและประเมินเรื่องจากการฟังและการดู โดย นำเสนอหลกั ฐานตาม ลำดับเนื้อหาอย่างมีเหตุผล และน่าเช่ือถือ ใช้คำทับศัพท์และศัพทบ์ ัญญัติ แตง่ บท ร้อยกรองประเภทโคลงส่ีสุภาพ สรุปเน้ือหา ความรู้และข้อคิดจากการอ่าน วรรณคดีวรรณกรรม และ วรรณกรรมท้องถิ่นเกี่ยวกับศาสนา ประเพณี พิธีกรรม สุภาษิตคำสอน เหตกุ ารณ์ในประวัติศาสตร์ ท่องจำ และบอกคุณค่าบทอาขยานและบทร้อยกรองท่ีมีคณุ ค่าตามความสนใจและสามารถนำไปใช้อา้ งอิงได้ โดยการใช้ทกั ษะการ ฟัง พูด อ่าน เขียน การวเิ คราะห์ การอธิบาย การอภปิ ราย การจับใจความ การสรุปความ กระบวนการทำงานเป็นกลมุ่ การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง เพื่อให้เห็นคุณค่า รักภาษาไทย รกั การอ่าน มมี ารยาทในการฟัง พดู อ่าน เขยี น ดู และใชภ้ าษาไทยในการสอื่ สารได้อย่างเหมาะสม รหสั ตวั ช้ีวัด ท๑.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ม.๓/๔ ม.๓/๕ ม.๓/๖ ม.๓/๑๐ ท๒.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ม.๓/๔ ม.๓/๕ ม.๓/๑๐ ท๓.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๔ ม.๓/๕ ม.๓/๖ ท๔.๑ ม.๓/๓ ม.๓/๔ ม.๓/๕ ม.๓/๖ ท.๕.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ รวมทั้งหมด ๒๖ ตวั ช้ีวัด
๔๓ คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน ท๒๓๑๐๑ ภาษาไทย กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ ภาคเรียนท่๒ี เวลา ๖๐ ชั่วโมง :ภาคเรยี น จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ ฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วที่เป็นบทความท่ัวไป บทความปกิณกะบทร้อยกรองกลอนบทละคร กลอนเสภา กาพย์ยานี๑๑ กาพย์ฉบัง๑๖ โคลงส่ีสุภาพ อ่านเร่ืองต่างๆ แล้วเขียนกรอบแนวคิด ผัง ความคิด บันทึก ย่อความและรายงาน วิเคราะห์ วิจารณ์ และประเมินวิถีไทย และคุณค่าจากวรรณคดี และวรรณกรรม เรอ่ื งท่อี า่ นโดยใช้กลวิธกี ารเปรยี บเทยี บเพ่ือให้ผู้อ่านเข้าใจได้ดีขนึ้ ความสมเหตสุ มผลการ ลำดับความและความเป็นไปได้ของเร่ือง เพื่อนำข้อคิดมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต ตีความและ ประเมินคุณค่า และแนวคิด ที่ได้จากงานเขียนอย่างหลากหลาย คัดลายมือ ตัวบรรจงครึ่งบรรทัด เขียน รายงานการศึกษาค้นคว้า และโครงงาน อธิบาย ชี้แจง แสดงความรู้ แสดงความคิดเห็นและโต้แย้งบท โฆษณา บทความทางวชิ าการ กรอกแบบสมัครงานพรอ้ มเขยี นบรรยายเกย่ี วกับความรู้และทกั ษะของตนเอง ท่ีเหมาะสมกับงาน พูดรายงานเร่ืองหรือประเด็นท่ีศึกษาค้นคว้า จากการฟัง การดู และการสนทนา จำแนก และใช้คำภาษาต่างประเทศ ท่ีใช้ในภาษาไทย วิเคราะห์โครงสร้างประโยคซับซ้อน ใช้คำศัพท์ ทางวิชาการและวิชาชีพ วิเคราะห์ สรุปเนอ้ื หา ความรู้และขอ้ คิดจากการอ่าน วรรณคดีวรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถ่ินเก่ียวกับศาสนา ประเพณี พิธีกรรม สุภาษิตคำสอน เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ ท่องจำและบอกคุณค่าบทอาขยานตามที่กำหนดและบทร้อยกรอง มีคุณค่าตามความสนใจและสามารถ นำไปใชอ้ ้างอิงได้ โดยการใช้ทักษะการ ฟัง พูด อ่าน เขียน การวิเคราะห์ การอธิบาย การอภิปราย การจับ ใจความ การสรปุ ความ กระบวนการทำงานเป็นกล่มุ การศกึ ษาค้นคว้าดว้ ยตนเอง เพ่ือให้เห็นคุณค่า รักภาษาไทย รักการอ่าน มีมารยาทในการฟัง พูด อ่าน เขียน ดู และใช้ ภาษาไทยในการสอ่ื สารได้อยา่ งเหมาะสม รหสั ตวั ช้ีวัด ท๑.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๔ ม.๓/๕ ม.๓/๖ ม.๓/๗ ม.๓/๘ ม.๓/๙ ม.๓/๑๐ ท๒.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๖ ม.๓/๗ ม.๓/๘ ม.๓/๙ ม.๓/๑๐ ท๓.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ม.๓/๖ ท๔.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๔ ม.๓/๕ ท.๕.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ รวมท้งั หมด ๒๖ ตัวชว้ี ัด
๔๔ คำอธิบายรายวชิ าคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาที่ ๑ กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค ๑๑๑๐๑ เวลา ๒๐๐ ช่วั โมง ศึกษา ฝกึ ทักษะการคิดคำนวณและฝึกแก้ปัญหา จำนวนนับ ๑ ถึง ๑๐๐ และ ๐ บอกและแสดง จำนวนส่ิงต่าง ๆ ตามจำนวนที่กำหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย การบอกอันดับท่ีหลัก คา่ ของเลขโดดในแต่ละหลกั และเขยี นแสดงจำนวนในรูปกระจาย เปรียบเทียบจำนวนนบั ไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ โดยใชเ้ ครือ่ งหมาย = ≠ > < เรียงลำดบั จำนวนตงั้ แต่ ๓ ถึง ๕ จำนวน และหาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าใน ประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวก การลบ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบ ของจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ ความยาวและน้ำหนัก สร้างโจทย์ปัญหาพร้อมทั้งแสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการ บวก การลบ ของจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ ระบุจำนวนที่หายไปในแบบรูปของจำนวนที่เพ่ิมขึ้น หรือลดลงทลี ะ๑ ทีละ ๑๐ รูปที่หายไปในแบบรปู ซ้ำของรูปเรขาคณิตและรูปอื่น ๆ ท่ีสมาชิกใน แต่ละชุด ท่ีซ้ำมี ๒ รูป วัดและเปรียบเทียบความยาวเป็นเซนติเมตร เป็นเมตร น้ำหนกั เป็นกิโลกรัมเป็นขีด และใช้ หน่วยที่ไม่ใช่หน่วยมาตรฐาน จำแนกรูปสามเหล่ียม รปู ส่ีเหล่ียม วงกลม วงรี ทรงสี่เหล่ียมมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และกรวย ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาคำตอบของโจทย์ปัญหา เม่ือกำหนดรูป ๑ รปู แทน ๑ หนว่ ย ค ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕ ค ๑.๒ ป.๑/๑ ค ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ค ๒.๒ ป.๑/๑ ค ๓.๑ ป.๑/๑ รวม ๑๐ ตวั ชวี้ ัด
๔๕ ชั้นประถมศึกษาที่ ๒ คำอธิบายรายวชิ าคณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค ๑๒๑๐๑ กล่มุ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ เวลา ๒๐๐ ช่วั โมง ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคำนวณและฝึกแก้ปัญหา จำนวนนับ ๑ ถึง ๑,๐๐๐ และ ๐ บอกและ แสดงจำนวนส่ิงตา่ ง ๆ ตามจำนวนที่กำหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย การบอกอันดับที่ หลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก และเขียนแสดงจำนวนในรูปกระจาย เปรียบเทียบจำนวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ โดยใช้เครื่องหมาย = ≠ > < เรียงลำดับจำนวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ ตั้งแต่ ๓ ถงึ ๕ จำนวน และหาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวก การลบ การแก้โจทย์ปญั หา การบวก การลบของจำนวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ แสดงการคูณของจำนวน ๑ หลักกับจำนวนไม่เกิน ๒ หลัก และประโยคสัญลักษณ์แสดง การหารท่ีตัวตั้ง ไม่เกิน ๒ หลัก ตัวหาร ๑ หลัก โดยท่ีผลหารมี ๑ หลัก ทั้งหารลงตัวและหารไม่ลงตัว หาผลลัพธ์ การบวก ลบ คูณ หารระคนของจำนวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา ๒ ขั้นตอนของจำนวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเวลาท่ีมีหน่วย เด่ียวและเป็นหน่วยเดียว วัดและเปรียบเทียบความยาวเป็นเมตรและเซนติเมตร พร้อมท้ังแสดงวิธีการหา คำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบความยาวที่มีหน่วยเป็นเมตรและเซนติเมตร วัดและเปรียบเทียบ นำ้ หนักเปน็ กิโลกรมั และกรัม กิโลกรัมและขดี พรอ้ มทั้งแสดงวิธกี าร หาคำตอบของโจทย์ปัญหาการ บวกการลบเก่ียวกับน้ำหนักท่ีมีหน่วยเป็นกิโลกรัมและกรัม กิโลกรัมและขีด วัดและเปรียบเทียบปริมาตร และความจุเป็นลิตร จำแนกและบอกลักษณะของรปู หลายเหลย่ี มและวงกลม ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพ ในการหาคำตอบของโจทยป์ ัญหา เมอื่ กำหนดรูป ๑ รูปแทน ๒ หนว่ ย ๕ หนว่ ยหรอื ๑๐ หน่วย ค ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘ ค ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖ ค ๒.๒ ป.๒/๑ ค ๓.๑ ป.๒/๑ รวม ๑๖ ตวั ชี้วัด
๔๖ คำอธบิ ายรายวิชาคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาที่ ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค ๑๓๑๐๑ เวลา ๒๐๐ ชั่วโมง อ่านและเขียน ตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ เปรียบเทียบและเรยี งลำดับจำนวนนับไมเ่ กิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ จากสถานการณ์ต่าง ๆ บอก อ่าน และเขียนเศษสว่ นทแี่ สดงปริมาณส่งิ ตา่ ง ๆ และแสดงสง่ิ ตา่ ง ๆ ตามเศษสว่ นท่กี ำหนด เปรียบเทยี บเศษสว่ น ท่ีตัวเศษเท่ากัน โดยท่ีตัวเศษน้อยกว่าหรือเท่ากับตัวส่วน หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ แสดงการบวกและการลบของจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ หาค่าของตัว ไม่ทราบค่าในประโยค สญั ลักษณแ์ สดงการคณู ของจำนวน ๑ หลกั กับจำนวนไมเ่ กิน ๔ หลักและจำนวน ๒ หลักกับจำนวน ๒ หลัก หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการหารท่ีตัวต้ังไม่เกิน ๔ หลัก ตัวหาร ๑ หลัก และหาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนและแสดงวิธีการหาคำตอบของโจทย์ปัญหา ๒ ข้ันตอนของ จำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ หาผลบวกและแสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวกของ เศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากันและผลบวกไม่เกิน ๑ และหาผลลบพร้อมท้ังแสดงวิธี หาคำตอบของ โจทยป์ ัญหารการลบของเสษส่วนทมี่ ตี วั ส่วนเท่ากนั ระบจุ ำนวนที่หายไปในแบบรูปของจำนวนที่เพ่ิมขึ้นหรือ ลดลงทีละเทา่ ๆ กัน แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเงิน เวลาและระยะเวลา เลือกใช้เครื่องมือ ความยาวที่เหมาะสม วัดและบอกความยาวของสิ่งต่าง ๆ เป็นเซนติเมตรและมิลลิเมตร เมตรและ เซนติเมตร คาดคะเนความยาวเป็นเมตรและเป็นเซนติเมตร เปรยี บเทียบ ความยาวและแสดงวิธหี า คำตอบของโจทย์ปญั หาเกย่ี วกับระหวา่ งเซนตเิ มตรกบั มลิ ลิเมตร เมตรกับเซนติเมตร กิโลเมตรกบั เมตร จาก สถานการณ์ตา่ ง ๆ เลือกใชเ้ ครื่องชั่งท่ีเหมาะสม วัดและบอกน้ำหนักเป็นกิโลกรัมและขีด กโิ ลกรัมและกรัม คาดคะเนน้ำหนักเป็นกิโลกรัมและเป็นขีด เปรียบเทียบน้ำหนักและแสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา เกี่ยวกับน้ำหนกั ทมี่ ีหน่วยเป็นกิโลกรัมกบั กรมั เมตริกตัน กับกโิ ลกรัม จากสถานการณ์ตา่ ง ๆ เลอื กใช้เครอ่ื ง ตวงท่เี หมาะสม วัดและเปรยี บเทยี บปริมาตร ความจุ เปน็ ลิตรและมลิ ลิลิตร คาดคะเนและแสดงวธิ ีหา คำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรและความจุ เป็นลติ รและมิลลิเมตร ระบุรปู เรขาคณิตสองมิติท่ีมี แกนสมมาตรและจำนวนแกนสมมาตร เขียนแผนภูมิรูปภาพและใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหา คำตอบของโจทย์ปญั หา เขียนตารางทางเดียว จากข้อมูลที่เป็นจำนวนนับและใช้ข้อมูลจากตาราง ทางเดยี วในการหาคำตอบของโจทยป์ ัญหา ค ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙, ป.๓/๑๐ , ป.๓/๑๑ ค ๑.๒ ป.๓/๑ ค ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙, ป.๓/๑๐, ป.๓/๑๑, ป.๓/๑๒, ป.๓/๑๓ ค ๒.๒ ป.๓/๑ ค ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒ รวม ๒๘ ตวั ชี้วดั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406