Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงาน สว.พบ ปชช. ฉบับ ย่อ present

รายงาน สว.พบ ปชช. ฉบับ ย่อ present

Published by rujipas.kansuwan, 2020-09-13 06:57:19

Description: รายงาน สว.พบ ปชช. ฉบับ ย่อ present

Search

Read the Text Version

ก สิงหาคม 2562 – มีนาคม 2563 (ฉบับย่อ)

ก บทสรุปผู้บรหิ าร โครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน เป็นโครงการที่มุ่งเปิดโอกาสให้ประชาชน ทุกภาคส่วนและเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกระดับได้แลกเปล่ียนเรียนรู้และขับเคล่ือนประเทศร่วมกัน อย่างมีทิศทาง โดยมีวตั ถุประสงค์เพ่ือนาข้อมูลความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะท่ีไดจ้ ากการพบปะ ประชาชน และหน่วยงานของรัฐมาใช้ประกอบการพิจารณากล่ันกรองในการตรากฎหมาย ประเมินผลสัมฤทธ์ิของกฎหมายเม่ือกฎหมายมีผลบังคับใช้ ปรับปรุงและพัฒนากฎหมาย ให้สอดคล้องกับหลักการตามรัฐธรรมนูญ หลักสากล และเหมาะสมกับบริบททางสังคม ที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งนาข้อมูลที่ได้จากการพบปะประชาชน และหน่วยงานของรฐั ไปสู่การแก้ไข โดยอาศัยกลไกของวุฒิสภา สาหรับผู้รับผิดชอบโครงการ ประกอบด้วย คณะกรรมการอานวยการ โครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน และคณะกรรมการโครงการในระดับภาคอีก ๗ คณะ คือคณะกรรมการโครงการฯ ภาคเหนือตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ตอนบน ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื ตอนลา่ ง และภาคใต้ สาหรับรายงานการติดตามประเมินผลโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนฉบับน้ี มีวัตถุประสงค์เพ่ือนาเสนอผลการดาเนินงานโครงการท้ังโดยภาพรวมและรายภาค ในช่วง ระยะเวลา ๘ เดือน ต้ังแต่เดือนสิงหาคม ๒๕๖๒ ถึงเดือนมีนาคม ๒๕๖๓ เก็บรวบรวมข้อมูล เชิงปริมาณและเชิงคุณภาพในการพบปะประชาชนด้วยการสอบถาม อภิปรายความคิดเห็น แลกเปล่ียน ประมวลผลและวเิ คราะห์ข้อมลู โดยสถติ ิเชิงพรรณนาและการวเิ คราะหเ์ น้อื หา ผลการติดตามประเมินโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน พบว่า มีการ ลงพื้นท่ีใน ๖๗ จังหวัด โดยส่วนใหญ่เป็นจังหวัดท่ีได้มีการลงพื้นที่ ๑ ครั้ง จานวน ๕๔ จังหวัด ท่มี ีการลงพ้ืนท่ี ๒ คร้ัง จานวน ๑๔ จงั หวัด โดยมีจังหวัดที่ยงั ไม่มกี ารลงพ้ืนท่ี จานวน ๙ จังหวัด ไม่นับรวมกรุงเทพมหานครท่ีเป็นเขตปกครองพิเศษ ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ตรัง ยะลา พัทลุง สตูล ภูเก็ต พังงา มหาสารคาม และบึงกาฬ ทั้งนี้พบว่า คณะกรรมการโครงการฯ ท่ีลงพ้ืนที่บ่อยคร้ังที่สุด ได้แก่ คณะกรรมการภาคกลาง รองลงมาคือ ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และคณะกรรมการ อานวยการ ตามลาดบั

ข ในการน้ี มีประชาชนเข้าร่วมโครงการจานวน ๑๕,๗๙๗ คน มากกว่าเป้าหมาย ที่กาหนด องค์ประกอบของผู้เข้าร่วม จาแนกได้ ๖ กลุ่ม คือ ๑) หัวหน้าส่วนราชการ (รวมผู้ว่าราชการจังหวัดและกาชาดจังหวัด ) ๒) ท้องท่ี/ท้องถิ่น (กานัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) ๓) ภาคธุรกิจเอกชน (รวมสภาหอการค้า) ๔) ภาคประชาชน/ ภาคประชาสังคม ๕) นักเรียน/นักศึกษา/เยาวชน และ ๖) สื่อมวลชน โดยสัดส่วนท่ีเข้าร่วม มากท่ีสุด คือ หัวหน้าส่วนราชการ รองลงมา คือ ภาคประชาชน/ภาคประชาสังคม, ท้องที่/ท้องถิ่น ภาคธุรกจิ เอกชน นกั เรียน/นักศึกษา/เยาวชน และส่อื มวลชน ตามลาดบั ประเด็นที่สมาชิกวุฒิสภาได้แลกเปล่ียนเรียนรู้กับประชาชนท่ีเข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย ๕ สาระหลัก คือ ๑) ความรู้เรื่องสมาชิกวุฒิสภาและบทบาทหน้าที่ ๒) รับฟัง ความคิดเห็นประเด็นกฎหมายและทาความเข้าใจด้านกฎหมาย ๓) การประเมินผลสัมฤทธิ์ ของกฎหมาย ปัญหา และผลกระทบกฎหมาย ๔) การปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และ ๕) การน้อมนาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การพัฒนา คุณภาพชีวิต โดยในแต่ละคร้ังอาจมีจุดเน้นที่แตกต่างกันตามบริบทของพื้นท่ีแต่ สาระหลัก ทีท่ ุกคณะดาเนินการคอื การให้ความรู้เรอื่ งสมาชกิ วฒุ ิสภาและบทบาทหน้าทแี่ ก่ประชาชนท่ีเข้าร่วม นอกจากน้ี คณะกรรมการโครงการฯ บางคณะ ได้ให้ความสาคัญกับการแลกเปลี่ยน ประเด็นความสอดคล้องระหว่างแผนพัฒนาจังหวัดกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูป ประเทศ พบว่า จังหวดั สว่ นใหญใ่ ห้ความสาคัญกบั ยุทธศาสตรช์ าติ ดา้ นการสร้างขีดความสามารถ ในการแข่งขันมากท่ีสุด รองลงมา คือ ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ด้านพฒั นาและเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพทรพั ยากรมนุษย์ และด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิต ทเ่ี ป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม ตามลาดับ สว่ นความสอดคล้องระหว่างแผนพัฒนาจงั หวัดกับแผนการ ปฏริ ูปประเทศ พบว่า จงั หวัดสว่ นใหญ่ให้ความสาคัญกับประเด็นการปฏริ ปู ประเทศด้านเศรษฐกจิ และด้านการศึกษา มากท่ีสุด รองลงมา คือ ด้านสังคม ด้านทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และด้านการเมือง จากการรับฟังข้อคิดเห็นท่ีได้รับการสะท้อนจากผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด มีประเด็น ข้อคิดเห็น รวมท้ังส้ิน ๗๔๐เร่ือง เป็นข้อคิดเห็นด้านสังคมมากท่ีสุด รองลงมา คือ ด้านน้า ดา้ นการเกษตร ดา้ นท่ดี ิน ดา้ นคมนาคม ด้านเศรษฐกิจ และด้านสิ่งแวดล้อม ตามลาดับ และเมื่อได้รับฟัง ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะแล้ว ประเด็นส่วนใหญ่คณะสมาชิกวุฒิสภาได้มอบให้จังหวัดรับไป

ค ดาเนินการต่อ เนื่องจากเป็นเรื่องที่สามารถดาเนินการได้ ส่วนบางเร่ืองที่นอกเหนืออานาจ ของจังหวัด คณะสมาชิกวุฒิสภาได้รับเรื่องมาเพ่ือส่งต่อคณะกรรมาธิการตามกลไกของวุฒิสภา หรือหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องทม่ี ีกฎหมายกาหนดไว้อยา่ งชัดเจน สาหรับการดาเนินงานเก่ียวกับเรื่องที่ได้รับร้องเรียนทั้งหมด ท้ังที่ได้รับโดยหนังสือและ โดยวาจานั้น ได้ดาเนินการแล้วเสร็จรวม ๖๗ เร่ือง จาแนกตามประเด็น พบว่า เป็นประเด็นด้านสังคม มากท่ีสุด รองลงมา คือ ด้านท่ีดิน ด้านส่ิงแวดล้อม ด้านคมนาคม ด้านน้า ด้านการเกษตร และ ด้านเศรษฐกิจตามลาดบั ในเร่ืองประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน พบว่า ทั้งประชาชน หน่วยงานในพื้นท่ี และสมาชิกวุฒิสภาต่างก็ได้รับประโยชน์จากโครงการในลักษณะที่แตกต่างกัน อันเปน็ เรื่องที่ดีแก่ทุกฝ่าย ข้อเสนอแนะสาหรับการดาเนินงานคร้ังต่อไป คือ ควรมีการประเมิน ความพึงพอใจของผ้เู ข้ารว่ มโครงการ โดยภาพรวมท่ีได้จากการติดตามและประเมินผลโครงการ กล่าวได้ว่า โครงการสมาชิก วุฒิสภาฯ บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ ในแง่ของการประมวลข้อมูล ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ที่มาจากทุกภาคส่วนและทุกเวทีในพ้ืนท่ีมาใช้ในกระบวนการกล่ันกรอง ปรับปรุงและพัฒนากฎหมาย อันนาไปสู่การแก้ปัญหาในระดับพื้นท่ีอย่างยั่งยืน นอกจากน้ียังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ ประชาชน ในขณะท่ีประชาชนรวมทงั้ เด็กและเยาวชนก็มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทหนา้ ทข่ี อง สมาชกิ วฒุ สิ ภามากขน้ึ  เล่มรายงานผลการดาเนนิ งานโครงการสมาชกิ วฒุ สิ ภา พบประชาชน (สงิ หาคม ๒๕๖๒ – มนี าคม ๒๕๖๓)



ก สารบญั บทสรปุ ผบู้ รหิ าร ก สารบญั แผนภมู ิจานวนการลงพื้นที่ดาเนนิ งานโครงการ จาแนกตามคณะทางาน ๑ แผนภูมิจานวนประเดน็ ในการพบประชาชน จาแนกตามสาระ ๑ แผนภมู ิจานวนความสอดคล้องระหวา่ งแผนพฒั นาจังหวัดกับยุทธศาสตรช์ าติ ๒ แผนภูมิจานวนความสอดคลอ้ งระหว่างแผนพฒั นาจังหวัดกับแผนการปฏริ ปู ประเทศ ๒ แผนภูมสิ รุปประเด็นข้อคดิ เห็น/ความตอ้ งการทพ่ี บจากการลงพนื้ ทขี่ องสมาชกิ วุฒสิ ภา พบประชาชนในดา้ นต่าง ๆ โดยภาพรวม ๓ แผนภมู สิ รุปประเด็นข้อคดิ เห็น/ความตอ้ งการท่พี บจากการลงพน้ื ที่ของสมาชิกวุฒสิ ภา พบประชาชนในดา้ นต่าง ๆ จาแนกตามรายภาค ๓ การลงพนื้ ที่ภาคเหนอื ตอนบน ๗ - เชยี งใหม่ ๘ - ลาปาง ๑๑ - เชยี งราย ๑๓ - พะเยา ๑๖ - ลาพนู ๑๘ - แพร่ ๒๐ - น่าน ๒๒ - แม่ฮอ่ งสอน ๒๕ การลงพืน้ ทีภ่ าคเหนือตอนลา่ ง ๒๗ - พิษณุโลก ๒๘ - อตุ รดิตถ์ ๓๐ - สโุ ขทยั ๓๓

ข ๔๑ ๔๖ สารบญั (ต่อ) ๔๘ ๕๐ - พิจติ ร ๕๘ - นครสวรรค์ ๖๔ - อุทัยธานี - ตาก ๖๖ - กาแพงเพชร - เพชรบูรณ์ ๖๗ ๖๘ การลงพน้ื ทีภ่ าคตะวันออกเฉียงเหนอื ตอนบน ๖๙ ๗๔ - สกลนคร ๗๘ - นครพนม ๘๒ - กาฬสินธิ์ ๘๓ - หนองบัวลาภู ๘๔ - เลย - อดุ รธานี ๘๕ - หนองคาย - ร้อยเอด็ ๘๖ ๘๗ การลงพ้นื ทภ่ี าคตะวันออกเฉียงเหนือตอนลา่ ง ๘๘ ๙๐ - อุบลราชธานี ๙๒ - ยโสธร ๙๔ - ศรีสะเกษ ๙๖ - สุรนิ ทร์ ๙๗ - ชยั ภมู ิ - นครราชสมี า - บุรรี ัมย์ - อานาจเจรญิ

ค สารบญั (ต่อ) การลงพ้ืนทภี่ าคกลาง ๙๘ - พระนครศรอี ยุธยา ๙๙ - ราชบุรี ๑๐๑ - ชัยนาท ๑๐๕ - สุพรรณบรุ ี ๑๐๘ - สมทุ รสาคร ๑๑๔ - เพชรบรุ ี ๑๑๗ - สมุทรปราการ ๑๒๐ - นครปฐม ๑๒๑ - กาญจนบุรี ๑๒๒ - สงิ ห์บรุ ี ๑๒๓ - อา่ งทอง ๑๒๖ - ลพบุรี ๑๒๗ - ปทุมธานี ๑๒๘ - สระบรุ ี ๑๓๑ - นนทบรุ ี ๑๓๓ - สมทุ รสงคราม ๑๓๘ - ประจวบครี ีขันธ์ ๑๔๑ การลงพน้ื ทีภ่ าคตะวันออก ๑๔๓ - ปราจนี บรุ ี ๑๔๔ - สระแก้ว ๑๔๕ - ชลบุรี ๑๔๖ - ระยอง ๑๔๗ - ตราด ๑๕๑ - จันทบรุ ี ๑๖๔

ง ๑๗๐ ๑๗๖ สารบัญ (ตอ่ ) ๑๘๒ ๑๘๓ - นครนายก ๑๘๖ - ฉะเชิงเทรา ๑๘๘ การลงพนื้ ทีภ่ าคใต้ ๑๙๐ - ปัตตานี ๑๙๔ - นครศรธี รรมราช - กระบ่ี ๑๙๖ - นราธิวาส - ชมุ พร การลงพืน้ ทพี่ บนกั เรียนนกั ศกึ ษา และเยาวชน ของคณะกรรมการ อานวยการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน

๑ แผนภูมจิ านวนการลงพนื้ ทด่ี าเนนิ งานโครงการ จาแนกตามคณะทางาน (ครั้ง) 18 17 16 14 14 13 12 10 9 10 10 87 5 6 4 2 0 แผนภมู ิจานวนประเด็นในการพบประชาชน จาแนกตามสาระ (คร้งั ) ความรู้เรื่องบทบาทหน้าที่และอานาจ ๗๐ ๖๐ ของวฒุ สิ ภา การรับฟังความคิดเหน็ ประเดน็ ๖๐ ๕๐ ๔๕ กฎหมายและทาความเข้าใจด้าน กฎหมาย ๔๐ การประเมนิ ผลสมั ฤทธข์ิ องกฎหมาย ๓๐ ๒๒ ๒๐ ๑๙ ปัญหา ผลกระทบกฎหมาย ๒๐ การปกครองในระบอบประชาธิปไตย ๑๐ อนั มีพระมหากษัตริยเ์ ป็นประมขุ ๐ การน้อมนาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง

๒ แผนภมู ิจานวนความสอดคลอ้ งระหวา่ งแผนพฒั นาจังหวดั กบั ยทุ ธศาสตร์ชาติ (แผน) ๑๔ ด้ านการสร้ างขีดความสามารถในการ ๑๒ แขง่ ขนั ๑๒ ด้ านการสร้ างโอกาสและความเสมอ ๑๐ ภาคทางสงั คม ๘๗ ด้านพฒั นาและเสริมสร้างศกั ยภาพ ๖ ๕ ทรัพยากรมนษุ ย์ ๔ ๔ ด้านการสร้างการเติบโตบนคณุ ภาพ ๒ ๒ ชีวิตที่เป็นมิตรตอ่ สิ่งแวดล้อม ๐ ด้านความมนั่ คง แผนภูมิจานวนความสอดคลอ้ งระหวา่ งแผนพัฒนาจงั หวดั กบั แผนการปฏริ ปู ประเทศ (แผน) ๗ ด้านเศรษฐกิจ ๖๖ ด้านการศกึ ษา ๖ ๕ ด้านสงั คม ๕ ด้านทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ ๔ สงิ่ แวดล้อม ๓ ด้านการเมือง ๒ ๒ ๑๑ ๐

๓ สรปุ ประเด็นขอ้ คดิ เหน็ /ความตอ้ งการของประชาชนในดา้ นตา่ ง ๆ โดยภาพรวม ภาพรวมทั้งประเทศจาแนกตามดา้ น 47 ครงั้ 6% 234 ครั้ง 32% ดา้ นสงั คมและอ่ืน ๆ 57 ครงั้ 8% 124 ครงั้ 17% ด้านนา้ 75 ครง้ั 10% ดา้ นเกษตร ด้านท่ีดนิ 88 ครง้ั 12% ด้านคมนาคม 111 ครัง้ 15% ด้านเศรษฐกจิ ด้านสิง่ แวดล้อม สรุปประเด็นข้อคิดเหน็ /ความต้องการของประชาชนในดา้ นต่าง ๆ จาแนกตามรายภาค 1 คร้ัง 4% ภาคเหนอื ตอนบน ดา้ นท่ดี ิน 2 คร้งั 8% ด้านสิง่ แวดลอ้ ม 1 คร้งั 4% ดา้ นสังคมและอ่นื ๆ ดา้ นนา้ 8 ครัง้ 32% ดา้ นเกษตร ดา้ นคมนาคม 6 คร้ัง 24% 7 ครั้ง 28%

๔ ภาคเหนือ ตอนล่าง 11 คร้งั 7% 2 คร้งั 1% 16 ครั้ง 10% 63 ครั้ง 38% ดา้ นสงั คมและอ่ืน ๆ 22 ครง้ั 13% ด้านนา้ ด้านเศรษฐกจิ 25 คร้งั 15% ด้านเกษตร ดา้ นท่ีดนิ ดา้ นคมนาคม ด้านสิ่งแวดล้อม 27 ครง้ั 16% 17 ครง้ั 6% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน ด้านสงั คม 22 ครงั้ 8% ดา้ นน้า 10 ครง้ั 4% ดา้ นเกษตร ดา้ นที่ดิน 98 ครง้ั 37% ดา้ นคมนาคม ด้านเศรษฐกิจ 25 ครงั้ 9% ด้านสิง่ แวดลอ้ ม 38 ครัง้ 14% 60 ครั้ง 22%

๕ 2 ครง้ั 6% ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ ตอนลา่ ง ด้านน้า 3 คร้งั 9% ด้านเกษตร 1 คร้ัง 3% ด้านคมนาคม ด้านสงั คม 12 ครง้ั 37% ด้านทดี่ ิน ด้านเศรษฐกิจ 4 คร้งั 13% ดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม 4 คร้ัง 13% 6 ครัง้ 19% 7 ครง้ั 6% 2 คร้งั 2% ภาคกลาง ดา้ นสงั คม 9 คร้งั 7% ด้านเกษตร 42 ครงั้ 33% ด้านทด่ี ิน ด้านคมนาคม 14 ครง้ั 11% ด้านน้า ด้านสิ่งแวดลอ้ ม 18 ครัง้ 14% ดา้ นเศรษฐกิจ 34 คร้งั 27%

๖ ภาคตะวันออก 2 ครั้ง 3% 1 ครงั้ 2% ด้านสังคม 3 ครั้ง 5% ดา้ นคมนาคม ดา้ นทีด่ ิน 4 ครั้ง 6% 22 คร้ัง 35% ด้านเศรษฐกิจ ด้านเกษตร 9 คร้งั 14% ด้านสิ่งแวดลอ้ ม ด้านน้า 10 คร้งั 16% 12 ครง้ั 19% ข้อเสนอแนะ ภาคใต้ 3 คร้ัง 50% ดา้ นสังคม ด้านน้า 3 ครง้ั 50%

๗ ภาคเหนือตอนบน

๘ เชียงใหม่ ๑. การติดตามการขบั เคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ มีการติดตามการขับเคล่ือนการปฏิรปู ประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ ตามรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจกั รไทยหมวด ๑๖ ๒. การรบั ฟงั ความคิดเห็นของประชาชน ๑. ปัญหาหมอกควันและฝุ่นมลภาวะ ปัญหาหมอกควันมีผลกระทบต่อระบบ ทางเดินหายใจและสง่ ผลทาให้นักทอ่ งเทย่ี วลดลง ภาคีเครือข่ายสภาลมหายใจเชียงใหม่ กล่าวถึงปัญหามลภาวะทางอากาศในจังหวัด เชยี งใหม่ ว่าควรแก้ปัญหาทสี่ าเหตุของการเผา และควรสร้างความเข้าใจใหป้ ระชาชนได้ตระหนัก ถึงสาเหตุท่ีแท้จริงของการเผา อาจช่วยแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืนมากกว่าการแก้ปัญหาโดยการ บงั คับใช้กฎหมายเพียงอยา่ งเดียวและคาดหวังว่าหากทกุ ภาคส่วนร่วมกันแก้ปญั หาหมอกควันพิษ ทเี่ กดิ ขนึ้ อยา่ งจริงจงั ปัญหามลภาวะทางอากาศในจงั หวัดเชียงใหมจ่ ะดขี ึ้นไดอ้ ย่างย่ังยืน ขอ้ คิดเห็นของสมาชิกวฒุ ิสภาตอ่ ประเดน็ ฝ่นุ มลภาวะ (๑) ภาคเี ครอื ข่ายภายในจังหวดั เชียงใหม่ควรจะมีการประชุมหารือร่วมกนั และจดั ทา แผนแมบ่ ทเพ่ือใช้ในการเฝา้ ระวงั แหล่งกาเนดิ ฝุน่ ควันเพ่อื คืนอากาศสะอาดสู่จังหวดั เชยี งใหม่ต่อไป (๒) สมาชกิ วฒุ ิสภาไดร้ ับเรื่องราวร้องทุกขจ์ ากคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน จังหวัด เชียงใหม่ ย่ืนหนังสือผ่านระบบอิเลก็ ทรอนิกส์ เร่ือง ขอผลักดันให้มีคณะกรรมการบริหารอากาศ แหง่ ชาติ และกฎหมายสะอาด (Clean Air Act) ๒. ภยั แล้ง ฝนทงิ้ ชว่ ง ทาให้มผี ลกระทบตอ่ ประชาชนเรอื่ งการอปุ โภคบริโภค ๓. ประเด็นกฎหมาย ในปัจจุบันมีพระราชบัญญัติโรงแรมฉบับเดียวซึ่งบังคับใช้ ท้ังในโรงแรมขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ทาให้ประชาชนที่ดาเนินการธุรกิจโรงแรมขนาดเล็ก และเกสต์เฮ้าส์ได้รับผลกระทบ ซึ่งรัฐบาลต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้สู่ชุมชน แต่การลงทุนประกอบกิจการต่าง ๆ ภายในชุมชนกลับติดขัดข้อกฎหมาย เช่น ธุรกิจท่ีพักแรม รถรับจ้าง และการคา้ ขายต่าง ๆ จึงอยากให้ทบทวนเรื่องข้อกฎหมายท่ีขัดต่อการประกอบอาชีพ ทามาหากนิ ของประชาชนในพ้นื ที่

๙ ความตอ้ งการและขอ้ เสนอแนะของประชาชน ควรจะมีการแยกกฎหมายใช้บังคับตามประเภทของธรุ กจิ ทพ่ี ักเหมือนในต่างประเทศ เชน่ พระราชบัญญตั เิ กสต์เฮา้ ส์ พระราชบญั ญตั โิ ฮมสเตย์ พระราชบญั ญตั ิโฮสเทล เปน็ ต้น ขอ้ คดิ เห็นของสมาชกิ วุฒสิ ภา (๑) ขอให้เร่งรัดกฎหมายร่างพระราชบัญญัติรายได้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน พ.ศ. .... (๒) ขอให้เร่งรัดกฎหมายร่างพระราชบัญญัติกระจายหน้าที่และอานาจให้แก่องค์กร ปกครองส่วนท้องถิน่ พ.ศ. .... ๔. ประเด็นการท่องเท่ียว ผลกระทบด้านการท่องเท่ียว ท่ีมาจากค่าเงินบาทแข็งตัว สงครามการค้าโลกและอกี หลายปจั จัย ทาใหจ้ านวนนกั ท่องเทยี่ วจากตา่ งประเทศลดลง ความต้องการและขอ้ เสนอแนะของประชาชน ต้องการให้ภาครัฐดาเนินนโยบายในการจัดแพ็กเกจกระตุ้นการท่องเท่ียว เช่น มาตรการฟรีวีซา่ และมาตรการจงู ใจอืน่ ๆ เพอ่ื สง่ เสริมการทอ่ งเที่ยวให้กลบั มา ๕. ประเด็นที่ดินวัดร้างที่มีข้อพิพาทระหว่างชุมชนกับนายทุน สาหรับปัญหา ข้อพิพาทท่ีดิน กรณีวัดต้นปูน ซ่ึงเป็นวัดร้าง พ้ืนที่ของสานักพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ เน้ือท่ี ๗๕๔ ตารางวา เคยจดั สร้างเป็นโรงเรียน แต่ไดย้ กเลิกไป จากนน้ั ได้เปิดพ้ืนท่ีให้เอกชนเช่า มากว่า ๕ ปี มีความพยายามที่จะสร้างเป็นโรงแรม ซึ่งมีเอกชนเข้ามาเช่าช่วงแล้ว ๓ ราย ขณะนี้ สญั ญาเช่าล่าสุดไดส้ ้ินสดุ ลง และทางสานกั พระพทุ ธศาสนาเชยี งใหม่ไมม่ กี ารต่อสัญญาแตอ่ ยา่ งใด แตเ่ อกชนยงั คงยึดครองและใช้ประโยชน์จากทดี่ นิ ดงั กล่าวอยู่ ความตอ้ งการและขอ้ เสนอแนะของประชาชน ชุมชนไม่ต้องการให้พ้ืนท่ีของสานักงานพระพุทธศาสนาถูกสร้างเป็นโรงแรม และอยากให้คงพื้นที่เพ่ือทาประโยชน์ร่วมกันในชุมชน ซึ่งพ้ืนที่ดังกล่าวสามารถใช้ประโยชน์ ร่วมกนั ได้ถึง ๕ ชุมชน คือชุมชนล่ามช้าง ลา่ มปงิ เชียงม่ัน หม้อคาตวง และควรคา่ ม้า

๑๐ ข้อคดิ เห็นของสมาชิกวฒุ ิสภา จะนาข้อมลู พร้อมมติจากการหารือใหห้ น่วยงานทเ่ี กย่ี วข้อง ติดตามผล และช่วยเหลือ เพอ่ื ใหเ้ กิดประโยชนก์ ับประชาชนในพื้นที่มากทสี่ ุด ที่มา : โครงการสมาชกิ วุฒิสภาพบประชาชน วนั ที่ ๔ - ๕ กันยายน ๒๕๖๒ และ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ วธิ ีการ : ลงพืน้ ท่ีรับฟังขอ้ คดิ เหน็ และข้อเสนอแนะของสมาชิกประชาชนในพื้นที่ สถานที่ : ศาลาอเนกประสงคว์ ดั ลา่ มชา้ ง

๑๑ ลาปาง ๑. การตดิ ตามการขบั เคลื่อนยุทธศาสตรช์ าติ มีการติดตามการขบั เคล่ือนการปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ ตามรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจกั รไทยหมวด ๑๖ ๒. การรบั ฟังความคดิ เหน็ ของประชาชน ๑. ขาดแคลนวัตถดุ บิ ดินขาวในการทาเซรามกิ กลุ่มผู้ประกอบการเซรามิกประสบปัญหา การขาดแคลนวัตถดุ ิบดินขาวซึ่งเปน็ วตั ถุดิบหลกั เนอ่ื งจากวัตถุดบิ ดงั กล่าวอยใู่ นเขตปา่ สงวน ข้อคิดเหน็ ของสมาชกิ วฒุ สิ ภา การดาเนนิ การหน่วยงานท่ีเก่ียวขอ้ งหลายหน่วยงานยังมีความไม่สอดคล้องกนั ก่อให้เกิด ปัญหาในการปฏิบัติแก่ผู้ประกอบการ เช่น ประทานบัตรเหมืองแร่ในพื้นท่ีป่าสงวนแห่งชาติ เป็นต้น จึงจาเป็นต้องมีการบูรณาการการทางานของหลายหน่วยงาน ซึ่งอาจจาเป็นต้องมี การแก้ไขเพ่มิ เติมหรือปรบั ปรุงกฎหมายทใ่ี ชบ้ งั คับอยู่ในปัจจบุ ัน ๒. พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้รับสัมปทาน ให้ประกอบกิจการผลิตกระแสไฟฟ้าโดยใช้ถ่ายหินลิกไนต์เป็นเชื้อเพลงมีการเปิดหน้าดินขุดถ่านหิน เพือ่ ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าซึ่งพื้นทด่ี งั กลา่ วอยทู่ ับซอ้ นกับที่อยู่อาศัยของประชาชน ๓. กจิ การเหมอื งถ่านหนิ ทาใหเ้ กดิ การอพยพ เน่อื งจากไดร้ บั ผลกระทบดา้ นมลภาวะ ฝนุ่ กลิ่น เสียง แหล่งน้า ขาดแคลนน้าดิบในการทาประปา มีผปู้ ่วยด้านระบบทางเดินหายใจเพ่ิมมากข้ึน และประชาชนไม่มพี น้ื ท่กี ารประกอบอาชีพ ความตอ้ งการและข้อเสนอแนะของประชาชน (๑) ขอความอนเุ คราะห์ชว่ ยเหลอื ปัญหาความเดอื ดรอ้ น (๒) ขอความเป็นธรรมการอพยพ (๓) ขอความอนุเคราะห์ช่วยแกไ้ ขปญั หาพืน้ ที่ทากนิ ของเกษตรกรทบั ซ้อนกบั เขตพื้นที่ทหาร

๑๒ ขอ้ คดิ เหน็ ของสมาชกิ วฒุ สิ ภา (๑) การดาเนินการของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เก่ียวข้องต้องคานึงถึงผลกระทบ ที่เกิดขึ้นกับราษฎรในพ้ืนท่ี และหลักเกณฑ์ท่ีนามาบังคับใช้ควรมีความเป็นธรรม โดยเป็นไป ตามบทบญั ญัติของกฎหมายท่เี ก่ียวขอ้ ง (๒) คณะกรรมการจะรับเร่ืองไปพิจารณาวิเคราะห์และส่งเร่ืองให้คณะกรรมาธิการสามัญ ประจาวุฒิสภา และหน่วยงานที่เกย่ี วขอ้ ง เพอ่ื พจิ ารณาดาเนนิ การตามหนา้ ทแ่ี ละอานาจตอ่ ไป ทม่ี า: โครงการสมาชกิ วฒุ ิสภาพบประชาชน วันท่ี ๔ - ๕ กันยายน ๒๕๖๒ และ ๓ ตลุ าคม ๒๕๖๒ วธิ กี าร : ร่วมรับฟงั ข้อมลู ข้อคิดเหน็ และข้อเสนอแนะ ลงพนื้ ที่ศกึ ษาสภาพบรเิ วณที่ทงิ้ ดนิ ของเหมืองแม่เมาะ รับฟังประเด็นเรอ่ื งการขาดแคลนวัตถุดบิ ทใ่ี ช้ในการผลิตเคร่ืองป้ันดินเผาและ ผลิตภณั ฑเ์ ซรามิก สถานที่ : ศาลาเอนกประสงค์วัดล่ามชา้ ง และองคก์ ารบริหารสว่ นตาบลบา้ นดง อาเภอแม่เมาะ

๑๓ เชยี งราย การรับฟงั ความคิดเหน็ ของประชาชน ๑. ประเด็นการท่องเที่ยว สานักงานทะเบียนธุรกิจนาเท่ียวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคเหนือ (จงั หวัดเชยี งใหม่) เปน็ หน่วยงานกากับดูแลครอบคลุม ๑๗ จงั หวัดในภาคเหนอื ตามพระราชบัญญัติ ธุรกิจนาเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการจดทะเบียนการขอรับ ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนาเที่ยวในประเทศไทย การที่สานักงานทะเบียนธุรกิจฯ ตั้งอยู่ที่จังหวัด เชียงใหม่ เป็นเหตุให้ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวในจังหวัดทางภาคเหนือไม่ได้รับความสะดวกในการ ตดิ ต่อหน่วยงานดังกล่าว เนอื่ งจากต้องเดนิ ทางข้ามจงั หวดั ๒. ประเด็นการค้าชายแดน การสุ่มตรวจสินค้าบริเวณด่านศุลกากรกรณีสินค้าเกษตร ที่อาจมีสารพิษตกค้าง เนื่องจากสินค้าเกษตรเน่าเสียง่าย ประกอบกับข้ันตอนการตรวจ ตอ้ งใช้ระยะเวลาพอสมควร เจ้าหนา้ ท่ีไม่สามารถกักสินค้าไว้ เม่ือทาการสุ่มตรวจแล้วต้องปล่อย สินค้าไปก่อน ถ้าตรวจสอบแล้วยืนยันได้ว่าสินค้าเกษตรนั้นมีสารพิษตกค้างก็จะดาเนินการ ยดึ ใบอนุญาตนาเขา้ ในภายหลงั ๓. ประเด็นแรงงานข้ามชาติ กระทรวงแรงงานได้ดาเนินการเสนอแก้ไขเพิ่มเติม พระราชกาหนดการบริหารจัดการการทางานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๐ และกระทรวงแรงงาน ได้ดาเนินการตามมตคิ ณะรัฐมนตรี ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๒ เรอ่ื ง แนวทางการบริหารจัดการการทางาน ของแรงงานต่างด้าวปี ๒๕๖๒ – ๒๕๖๓ โดยกาหนดเง่ือนไขใน MOU เพ่ือควบคุมการเปลี่ยนนายจ้าง ของแรงงานต่างดา้ วดังกล่าว ๔. ขาดแคลนทนุ การศกึ ษาแก่ผู้ยากไร้ ๕. ประชาชนชาติพันธบ์ุ างสว่ นไร้สญั ชาติไทยและมีปัญหาในการทาบัตรประชาชน ขอ้ คดิ เห็นของสมาชิกวฒุ ิสภา ประชาชนในพื้นท่ีสามารถประสานงานไปยังหน่วยงานฝ่ายปกครองเพื่อร้องขอให้ประชาชน เข้าสู่กระบวนการตรวจสารพันธุกรรม (DNA) ต่อสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อนามาเป็นหลักฐานและ นาไปสูก่ ระบวนการพสิ จู น์สญั ชาตติ ่อไป

๑๔ ๖. พ้ืนที่พักอาศัยบนดอย ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง และถนนมีสภาพไม่ดีเป็นดินทาให้เดินทาง ไม่สะดวก ๗. ชาวบ้านไมม่ ีที่ทามาหากิน เพราะเปน็ เขตป่าสงวน ๘. ประเด็นเก่ียวกับการบังคับใช้กฎหมายต่าง ๆ ในโครงการก่อสร้างถนนพาราดินซีเมนต์ ซึง่ เป็นความร่วมมอื ระหวา่ งองคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวัดเชยี งราย และมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล อีสาน นับว่าเป็นถนนสายแรกของภาคเหนือที่ใช้ส่วนผสมจากยางพารา ดนิ และปูนซีเมนต์ ก่อให้เกิด การพัฒนาในหลายด้าน หากมีการขยายโครงการก่อสร้างถนนพาราดินซีเมนต์ ก็จะสามารถช่วยการ สร้างอาชีพและรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง และเป็นทางเลือกในการแก้ปัญหาราคายางพารา ตกต่าไดอ้ ยา่ งยัง่ ยนื ความต้องการและข้อเสนอแนะของประชาชน (๑) ขอให้แต่งตั้งคณะทางานท่ีมีหน้าที่และอานาจพิจารณาผลักดันโครงการ ๑ ตาบล ๑ เส้นทางเพื่อสนับสนุนการก่อสร้างถนนพาราดินซีเมนต์ใช้งานในถนนขนส่งสินค้าเกษตร ในทุกตาบลทว่ั ประเทศ (๒) ปัจจุบันสานักงานการตรวจเงินแผ่นดินยังไม่มีคู่มือตรวจการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน ทาให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่สามารถใช้งบประมาณสนับสนุนการก่อสร้างถนนพาราดิน ซเี มนต์เพือ่ การใช้งานจรงิ (๓) การยางแห่งประเทศไทยควรกาหนดราคากลางยางพาราให้มีความเหมาะสมกับ การลงทนุ ทาถนนพาราดนิ ซีเมนต์ (๔) หนว่ ยงานภาครฐั ไมส่ ามารถจัดหาพ้นื ท่ีรองรบั การลงทุนของนักลงทุนได้ (๕) ประเดน็ ระดับน้าในแมน่ ้าโขงมกี ารเพ่มิ ขน้ึ /ลดลง แบบผิดปกติ (๖) การค้าการลงทุนต่าง ๆ ส่วนใหญ่ข้ึนอยู่กับสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นผู้กาหนด หลกั เกณฑ์ กติกา ทั้งสิน้ ๙. ทา่ เรือพาณิชย์เชยี งแสน ความตอ้ งการและข้อเสนอแนะของประชาชน (๑) ข้อจากัดในการขนถา่ ยสินค้า โดยการใชเ้ ครอื่ งมอื แทนแรงงานคน

๑๕ (๒) การนาระเบียบ กฎเกณฑ์ ของท่าเรือส่วนกลางมาใช้กับท่าเรือภูมิภาค ทาให้เกิด ปัญหาในทางปฏบิ ตั เิ นอ่ื งจากสภาพแวดลอ้ มที่มีความแตกตา่ งกัน (๓) การกักเก็บ/การปล่อยน้าจากเขื่อนของสาธารณรัฐประชาชนจีน ท่ีไม่มีกาหนด ระยะเวลาท่ีชดั เจน แนน่ อน ๑๐. ประเด็นเร่ืองผังเมือง ไม่มีการจัดเก็บและสารวจข้อมูลในการจัดทาผังเมือง จากพน้ื ท่จี ริง รวมทั้งไมเ่ ข้าใจบริบทของพื้นท่อี าเภอแมส่ ายอย่างแทจ้ รงิ ทีม่ า : โครงการสมาชกิ วฒุ สิ ภาพบประชาชน วนั ท่ี ๑๑ - ๑๒ กันยายน ๒๕๖๒ และ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๒ วธิ กี าร : จัดประชุมสัมมนาร่วมกบั ส่วนราชการภายในจังหวัดเชยี งราย จดั ประชุมเชงิ ปฏบิ ัติการรว่ มกับกลุ่มเยาวชนและประชาชน ร่วมรับฟังข้อมูล ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะ กับหน่วยงานภาครัฐและตัวแทน ภาคเอกชน สถานท่ี : ศาลากลางจงั หวัดเชยี งราย, โรงเรยี นสหศาสตรศ์ กึ ษา,เทศบาลตาบลแม่ยาวทา่ เรอื พาณชิ ยเ์ ชยี งแสน, หอ้ งประชมุ ตองจี โรงแรมแมโ่ ขงเดลต้าบตู คิ แมส่ าย

๑๖ พะเยา การรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ๑. ด้านการท่องเที่ยว การบังคับใช้กฎหมายที่เกิดขึ้นในจังหวัดพะเยาเน่ืองจากบริษัท นาเที่ยวเอกชนได้มีการหลอกลวงนักท่องเท่ียวให้มาซ้ือทัวร์ แต่กลับไม่พาลูกทัวร์ไปเท่ียว ตามวนั และเวลาท่กี าหนด จงึ มกี ารใหเ้ พม่ิ วงเงินประกันให้คลอบคลุมกบั ค่าเสียหายตามจรงิ ความต้องการและข้อเสนอแนะของประชาชน ควรมีการเจรจากับ สปป.ลาว เพื่อให้มีการยกระดับด่านปางมอย ของ สปป.ลาว เปน็ ด่านถาวรเชน่ เดียวกบั ดา่ นบ้านฮวกของไทย ซ่งึ จะทาใหม้ ีมูลคา่ การทอ่ งเท่ยี วสูงขน้ึ ขอ้ คดิ เหน็ ของสมาชกิ วุฒิสภา ควรจัดทาแผนยทุ ธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเท่ียวด่านบ้านฮวก เพอ่ื นามาเป็น ข้อมูลในการพูดคยุ ร่วมกนั ระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ๒. ด้านการค้าชายแดน ปัญหาการกักพืชหรือกักสัตว์ท่ีมีพ่อค้าชาวลาวมาซ้ือจากไทย เพ่อื สง่ ออกไปทป่ี ระเทศลาวไมไ่ ด้ตลอดจนสินคา้ น้ามนั เชือ้ เพลิงทีห่ นว่ ยงานทหารท่ปี ระจาดา่ นศลุ กากร ตีความว่าเป็นสนิ ค้าประเภทยุทโธปกรณ์ทาใหก้ ารค้าบรเิ วณชายแดนมีขอ้ จากัดอยา่ งมาก ความต้องการและข้อเสนอแนะของประชาชน ประชาชนในพ้ืนท่ีขอให้ลดความเข้มงวดของระเบียบ ข้อบังคับ กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ในการ ค้าขายของด่านบ้านฮวก หรือ เปิดด่านประเพณีขึ้นอีก ๑ ด่าน เพ่ือส่งเสริมการค้าระดับชาวบ้าน ท่ัวไป ๓. ด้านหมอกควัน จังหวัดพะเยามีพื้นท่ีป่าในความรับผิดชอบ จานวนกว่า ๒ ล้านไร่ ลาพังกาลังเจ้าหนา้ ท่ีป่าไม้ ไม่เพียงพอท่ีจะควบคุมดูแล จึงต้องอาศัยความร่วมมือกับอาสาสมัคร ชุมชนในการติดตาม เฝ้าระวัง และลาดตระเวน โดยที่ผ่านมาจะใช้งบประมาณสนับสนุน จากงบกลาง ปีละ ๑๐ ล้านบาทต่อมาในปี ๒๕๖๑ ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณดังกล่าว โดยต้องเสนอขอต่ออธิบดีตามข้ันตอนปกติ ทาให้งบประมาณตกหล่นไป ไม่มีงบประมาณ สนบั สนุนใหแ้ กอ่ าสาสมคั รชุมชนท่ีช่วยเจ้าหน้าทีใ่ นการติดตามเฝ้าระวงั และลาดตระเวนในพนื้ ที่

๑๗ ป่าดังกล่าว ทั้งนี้ ขอให้มีการสนับสนุนงบกลางให้แก่หน่วยงานในพื้นท่ี จังหวัดละ ๑๕ ล้านบาท เพอ่ื สนับสนุนใหแ้ กอ่ าสาสมัครชมุ ชนดงั กลา่ ว ๔. ดา้ นคนไร้สญั ชาติ เดก็ ท่ีมายน่ื ขอสญั ชาติไทยมักจะเกิดจากการคลอดในบ้านไม่ได้คลอด ในสถานพยาบาลของรัฐจงึ ไม่มีเอกสารหลักฐานที่ยืนยันว่าเกิดในประเทศไทยจาเปน็ ตอ้ งมกี ารพิสูจน์ สัญชาติของเด็กเหล่านี้โดยการสืบพยานบุคคลประกอบการพิจารณาให้สัญชาติซ่ึงมีข้ันตอน ทต่ี ้องปฏบิ ัตทิ ต่ี อ้ งใช้ระยะเวลาดาเนินการค่อนขา้ งนาน ข้อคิดเหน็ ของสมาชกิ วุฒสิ ภา (๑) การแก้ไขปัญหาตา่ ง ๆ ในพืน้ ทจี่ ังหวัดพะเยา ยงั ตดิ ขอ้ บังคบั ของกฎหมายหลายฉบับ (๒) การกักเก็บ/การปล่อยน้าจากเขื่อนของสาธารณรัฐประชาชนจีน ท่ีไม่มีกาหนด ระยะเวลาทช่ี ดั เจน แน่นอน ทาให้การแจ้งเตือนประชาชนในพ้ืนทีเ่ ปน็ ไปอย่างกะทนั หัน ซึง่ ทาให้ เกิดความเสยี หายตอ่ การเกษตร ส่ิงแวดล้อม และวถิ กี ารดารงชีวติ ของคนในพน้ื ท่ี (๓) สว่ นราชการควรขอความรว่ มมือจากมหาวิทยาลยั พะเยา ในการร่วมกันศึกษา ค้นควา้ วจิ ัยในดา้ นต่าง ๆ เพื่อช่วยกนั แก้ไขปัญหา และพัฒนาจังหวัดพะเยาใหด้ ียิง่ ข้ึน ท่มี า: โครงการสมาชกิ วุฒสิ ภาพบประชาชน วนั ที่ ๑๒ - ๑๓ กันยายน ๒๕๖๒ และ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๒ วิธกี าร : จดั ประชุมสมั มนาร่วมกบั หน่วยงานภาครัฐภายในจังหวัด สถานท่ี : หอ้ งประชุมศนู ย์วิจัยและพฒั นาประมงนา้ จดื พะเยา หอ้ งประชมุ บวรรัตนประสทิ ธิ์ ช้นั ๒ มหาวทิ ยาลัยพะเยา

๑๘ ลาพูน การรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของประชาชน ๑. ด้านหมอกควัน การเผาในท่โี ล่ง พื้นท่ีชุมชน พ้ืนท่รี ิมทาง ท่ีรกร้างว่างเปล่า บริเวณท่ี มีการลักลอบท้ิงขยะ และเผาในพ้ืนที่ป่าไม้เป็นจานวนมาก และยังหาตัวผู้กระทาผิดไม่ได้ สภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงทาให้สถานการณ์หมอกควันรุนแรงข้ึน ป่ามีความแห้งแล้ง เมื่อเกิดไฟป่าจงึ ทาให้ไฟป่าลกุ ลามอย่างรวดเร็ว ๒. ปัญหาท่ีดินทากิน ที่ดินทากิน/ที่อยู่อาศัยไม่มีโฉนด เนื่องจากเป็นเขตป่าสงวน เขตอุทยาน และเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่า แต่สภาพแวดล้อมท่ัวไปเป็นเมืองในเขตเทศบาล ทาให้ ไม่สามารถเข้าถึงสาธารณปู โภคได้ ได้แก่ น้าประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ ไมส่ ามารถสร้างอ่างเก็บน้า เพื่อใช้ในการทาเกษตรของหมู่บ้านได้ รวมถึงไม่สามารถใช้เปน็ หลักประกันในการกู้ยมื เพื่อนามา เปน็ ทนุ ในการทาเกษตรกรรมได้ ความตอ้ งการและขอ้ เสนอแนะของประชาชน (๑) ท่ีดินทากิน/ท่ีอยู่อาศัยอยู่ในเขตที่ดิน สปก. ซ่ึงชาวบ้านอยู่มาก่อนแล้วต่อมามีการ ประกาศเขตอทุ ยานทาใหป้ ระชาชนถูกดึงใบ สปก. คืน และไม่มสี ทิ ธ์ใิ นทดี่ ินของตนเอง (๒) ต้องการให้เจ้าหน้าท่ีของรัฐมาสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชน ว่าตรงพื้นที่ไหน ออกโฉนดได้หรอื ไมไ่ ดอ้ ยา่ งไร (๓) สาหรับที่ดิน สค.๑ ประชาชนได้ดาเนินการขอออกโฉนดแล้วแต่ยังไม่ได้โฉนด ซึ่งเจ้าหน้าที่มาดาเนินการทารังวัดไปเรียบร้อยและเก็บค่าสารวจไปเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่มี ความคบื หน้า (๔) บางพ้ืนท่ีเป็นพ้ืนที่ติดกับป่าสงวนแห่งชาติทาให้ยังไม่ได้รับเอกสารสิทธิจึงมี ความต้องการขอกนั พืน้ ท่ีออกจากป่าสงวนแหง่ ชาติ ๓. นิคมอตุ สาหกรรม ความต้องการและขอ้ เสนอแนะของประชาชน (๑) กังวลเรื่องนโยบายค่าแรงขั้นต่าของรัฐบาลซ่ึงนโยบายดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรง ตอ่ ตน้ ทุนของโรงงานอุตสาหกรรม และจะส่งผลต่อการลงทุนจากต่างชาตใิ นอนาคต

๑๙ (๒) ความกังวลเกยี่ วกับปัญหาสงครามทางการคา้ (Trade War) และปัญหาทางการเมือง ภายในประเทศซ่ึงอาจจะส่งผลกระทบต่อการย้ายฐานการผลิตไปยังต่างประเทศและแรงงาน จะถูกเลิกจ้าง ซ่ึงแรงงานที่เคยทางานภายในโรงงานอุตสาหกรรมมีความชานาญเฉพาะทาง หากถูกเลกิ จา้ งไมส่ ามารถกลบั ไปทาอาชีพเกษตรกรได้ ๔. การเกษตร ความต้องการและข้อเสนอแนะของประชาชน (๑) ควรจะมีการจัดทาพระราชบัญญัติลาไย เพื่อดูแลเกษตรกรให้ผลผลิตท่ีจาหน่าย ไดร้ าคาดี และเป็นไปตามกลไกลตลาด (๒) รัฐควรเจรจาการค้าระหว่างประเทศแบบรัฐต่อรัฐ นอกจากน้ียังมีความกังวล เรือ่ งงบประมาณทล่ี า่ ช้าทาให้ไม่สอดคลอ้ งกบั การทางาน ข้อคดิ เห็นของสมาชกิ วฒุ ิสภา (๑) สาหรับกระบวนการออกกฎหมายภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรีเสนอร่าง พระราชบญั ญัติเข้าสรู่ ัฐสภาแลว้ น้ัน จะตอ้ งผ่านการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎรก่อน หลงั จาก นั้นจึงจะเป็นขั้นตอนการพิจารณาของวุฒิสภา สาหรับข้อมูลและความคิดเห็นท่ีได้รับจาก ประชาชนในครัง้ น้ีจะนาขอ้ มลู เกบ็ ไว้เพื่อใชใ้ นกระบวนการกลน่ั กรองกฎหมายของวุฒิสภาต่อไป (๒) สาหรับกฎหมายที่เก่ียวข้องกับท้องท่ีและท้องถ่ินน้ันอยู่ระหว่างการดาเนินการของ ฝ่ายบริหาร (๓) สาหรับการทาเกษตรแปลงใหญ่น้ันควรจะต้องหาตลาดก่อนจึงจะดาเนินการผลิตให้ เหมาะสมกับความต้องการของตลาด ท่มี า : โครงการสมาชิกวุฒสิ ภาพบประชาชน วนั ท่ี ๑๐ ตลุ าคม ๒๕๖๒ วิธีการ : จัดประชุมสมั มนาร่วมกับตวั แทนภาคเอกชน และประชาชน สถานที่ : ศาลากลางจังหวัดลาพูน, วทิ ยาลัยเกษตรและเทคโนโลยลี าพูน อาเภอแมท่ า และสหกรณ์ประตูปา่

๒๐ แพร่ ๑. การรับฟงั ความคดิ เหน็ ของประชาชน ๑. ด้านหมอกควัน มสี าเหตุมาจากการป้องกนั ทีช่ า้ เกินไป การกาหนดเวลาเผาทีไ่ ม่พรอ้ มกัน การปลูกพืชเชิงเดี่ยว และวิถีชีวิตการเผาป่าของประชาชนเพ่ือหาเห็ดเผาะและเก็บผักหวาน โดยการเกบ็ ผกั หวานน้นั หากไมเ่ ผาป่า ผักหวานจะไมแ่ ตกยอด ส่วนเหด็ เผาะหากมีตน้ ไมแ้ ละหญา้ ขึ้นคลุมผิวดินมาก ๆ ก็จะขึ้นไม่ได้ และภายในชุมชนยังขาดมาตรการของหมู่บ้าน และอุปกรณ์ การดับไฟป่าเพ่ือดบั ไฟป่าได้ทนั เวลา ข้อคิดเหน็ ของสมาชกิ วุฒสิ ภา (๑) ควรมีการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุโดยการให้ความรู้ความเข้าใจและสร้างจติ สานกึ ให้กับ ประชาชนเก่ยี วกบั ผลกระทบจากการเผาป่า (๒) ควรมีการจัดระบบการเขา้ ป่าเชน่ ควรมพี าสปอรต์ เขา้ ป่าเพื่อใหส้ ามารถตรวจสอบได้ (๓) ส่งเสริมให้มกี ารกาจัดขยะของชุมชุนหรือมีการแปรรูปขยะให้เกิดมูลค่า หรือแปรรูป เป็นอินทรีย์วัตถุเพื่อเป็นปุ๋ยให้กับภาคการเกษตร เสนอให้มีการเพาะของป่า เช่น เพาะเห็ดถอบ ปลกู ผกั หวาน ๒. ด้านการท่องเท่ียว จังหวัดแพร่เป็นจังหวัดท่ีเป็นเอกลักษณ์และเป็นแหล่งกาเนิดของ “ม่อฮ่อม” แต่ไม่ได้รับการสนับสนุนส่งเสริมให้มีความน่าสนใจและเป็นท่ีต้องการของตลาด รวมทั้งมีโบราณสถานท่ีเก่าแก่และมีความน่าสนใจมากมาย แต่ยังไม่ได้รับความสนใจจาก กลุ่มนกั ท่องเท่ียวมากพอ ขอ้ คดิ เห็นของสมาชกิ วุฒิสภา (๑) ควรมีการบูรณาการด้านการทอ่ งเทีย่ วร่วมกันทงั้ ภาครัฐ เอกชน และชุมชน (๒) การส่งเสริมสนับสนุนให้มีกิจกรรมหลากหลาย สนับสนุนให้มีการท่องเที่ยวและกีฬา ที่มตี ้นทุนจากธรรมชาติ (๓) สนับสนุนกจิ กรรมทีม่ าจากวัฒนธรรมของคนในจังหวัด เช่น งานคราฟ งานไหว้พระธาตุ งานบูชาตามความเชื่อ เพอ่ื ให้เกิดการสรา้ งงานสรา้ งอาชพี ใหแ้ กป่ ระชาชนในชุมชน

๒๑ ๓) ด้านท่ดี นิ ทากิน พ้ืนทีจ่ ังหวัดแพร่ลอ้ มรอบด้วยภเู ขาทัง้ ๔ ทศิ พนื้ ทีส่ ่วนใหญป่ ระมาณ ร้อยละ ๘๐ เป็นภูเขามีพื้นท่ีราบเพียงร้อยละ ๒๐ พ้ืนที่ราบของจังหวัดจะอยู่ระหว่างหุบเขา มี ๒ แปลงใหญ่ ซ่ึงที่ราบดังกล่าวใช้เป็นท่ีอยู่อาศัยและทาการเกษตรจึงทาให้เกิดปัญหาที่ดิน ทากนิ และทอ่ี ยอู่ าศัยของประชาชนทบั ซ้อนกบั พน้ื ที่ป่าทาใหป้ ระชาชนไม่มีเอกสารสิทธิในทีด่ ิน ๔) ด้านการบริหารจัดการน้าลาน้าสาคัญของจังหวัดแพร่ประกอบด้วยแม่น้ายมไหลผ่าน จงั หวัดแพรแ่ ละลานา้ สาขาหลกั ๑๑ สาย ซง่ึ ปริมาณนา้ จากแหลง่ นา้ ดงั กล่าว ไมเ่ พยี งพอตอ่ การบริโภค และเพอื่ การเกษตรโดยเฉพาะในฤดูแลง้ ความต้องการและขอ้ เสนอแนะของประชาชน (๑) ควรมีแหลง่ สารองนา้ ขนาดเลก็ ขนาดกลางตามแหล่งนา้ สาขา (๒) ควรมีการศกึ ษาโครงการฯจัดเก็บนา้ ในบริเวณทผ่ี ่านชุมชนเช่นโครงการห้วงน้า ธนาคารนา้ ตามพ้นื ทีใ่ ห้เหมาะสม ท่มี า : โครงการสมาชกิ วุฒิสภาพบประชาชน วันท่ี ๗ - ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๒ วธิ ีการ : จดั ประชุมสมั มนารว่ มกบั หนว่ ยงานภาครฐั และรบั ฟงั ขอ้ มลู ขอ้ คดิ เห็นและ ขอ้ เสนอแนะจากประชาชน สถานที่ : ศาลากลางจงั หวัดแพร่ อาเภอเมืองแพร่

๒๒ นา่ น ๑. การรบั ฟังความคดิ เหน็ ของประชาชน ๑. ด้านการจัดการท่ีดิน การพัฒนาที่ดิน พัฒนาแหล่งน้า และปัจจัยพื้นฐาน ได้ดาเนิน กิจกรรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาท่ีดิน สาธิตการปรับปรุงดินแก่ราษฎร รวมทั้งศึกษา ความเหมาะสมด้านการพัฒนาแหล่งน้า พัฒนาปัจจัยพื้นฐาน จานวน ๗ แห่ง และก่อสร้างฝาย พรอ้ มระบบส่งนา้ จานวน ๔ แหง่ ข้อคดิ เหน็ ของสมาชิกวฒุ สิ ภา (๑) คทช. จังหวดั น่านควรจะมีกลไกลในการติดตามการใชท้ ่ีดินของประชาชนเพอื่ ป้องกัน การนาท่ีดินดังกลา่ วไปขายให้เอกชนใชป้ ระโยชน์ (๒) ควรมีการติดตามตรวจสอบการปลูกพืชเชงิ เดีย่ วในพ้ืนท่ภี ูเขาเนื่องจากการปลกู พืชใน พ้นื ที่ดงั กล่าวจะทาให้ปา่ ต้นน้าได้รับความเสยี หาย ๒. การขอแก้ไขผังเมือง ปัจจุบันจังหวัดน่านมีการขยายตัวมากข้ึนเพื่อรองรบั การพฒั นา และการขยายพื้นท่ีเศรษฐกิจของจังหวัดน่าน โดยต้องการให้มีถนนขยายเมือง เพ่ือให้ลด ผลกระทบตอ่ โบราณสถานภายในตัวเมือง และขยายการพฒั นาดา้ นเศรษฐกิจ ข้อคิดเหน็ ของสมาชิกวฒุ สิ ภา ในการแกไ้ ขผังเมืองควรจะมีการประชมุ ในทุกภาคสว่ นท่ีเก่ียวข้อง และเสนอเรื่องกลับขึ้น ไปตามระบบอีกครั้ง และส่งสาเนามายังวุฒิสภาเพื่อช่วยติดตามการดาเนินการภายใต้กรอบ อานาจหน้าท่ีของ สว. ตอ่ ไป ๓. การต่อยอดผลิตภัณฑ์ชุมชนและหัตถกรรมจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ขับเคลื่อนและ พัฒนาผลิตภัณฑเ์ ครื่องเงนิ และผ้าทอเมอื งน่าน โดยให้ความรูก้ ารออกแบบผลติ ภัณฑแ์ ละบรรจภุ ัณฑ์ การจัดทาผลิตภัณฑ์ต้นแบบ การสร้างเร่ืองราวจากผลิตภัณฑ์ มีการแลกเปล่ียนเรียนรู้ระหว่าง ผ้ปู ระกอบการกับผเู้ ช่ยี วชาญดา้ นการออกแบบ เพ่อื ใหเ้ กิดผลติ ภณั ฑ์ทเ่ี ป็นเอกลกั ษณข์ องจังหวดั น่าน ขอ้ คิดเห็นของสมาชิกวุฒิสภา (๑) ควรหาตลาดรองรับสนิ คา้ ที่เป็นสินค้าประจาจังหวัด โดยกระทรวงพาณิชย์ควรจดั หา โอกาสให้ผ้ปู ระกอบการจงั หวัดได้นาสนิ คา้ ไปจัดแสดงทง่ี าน EXPO ในต่างประเทศ

๒๓ (๒) ควรประสานงานกับการบินไทยเพือ่ นาผลิตภัณฑข์ องจังหวัดแพรบ่ รรจุลงในแคตตาล็อก สินคา้ OTOP การบนิ ไทย ๔. การแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า เตรียมมาตรการบริหารจัดการเพื่อแก้ไข หมอกควันและไฟป่าโดยมีจัดต้ังศูนย์บัญชาการจังหวัดและอาเภอเพ่ืออานวยการสั่งการระดม สรรพกาลังและประสานการปฏิบัติระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ สร้างการรับรู้ให้กับประชาชน เพอ่ื ใหป้ ระชาชนมสี ว่ นร่วมในการป้องกนั หมอกควนั ในพื้นทม่ี ีการบังคบั ใช้กฎหมายอย่างเครง่ ครดั โดยจบั กุมผกู้ ระทาความผิดลกั ลอบเผาในพนื้ ท่ปี า่ ขอ้ คดิ เหน็ ของสมาชิกวุฒสิ ภา (๑) ในแผนการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ควรมีการสร้างความรู้ความเข้าใจ ให้กับประชาชน รวมทั้งควรจะมีการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน รวมทั้งภาคประชาสังคม ในการแก้ไขปญั หาดังกลา่ ว (๒) ปัจจุบันหอการค้า ๑๗ จังหวัดทั่วภาคเหนือ ได้มีการรวมตัวกันเพ่ือขับเคล่ือนให้มี กฎหมายอากาศสะอาด (Clean Air Act) ๕. ด้านการท่องเท่ียวการขับเคล่ือนเกี่ยวกับพัฒนาการท่องเท่ียวอย่างย่ังยืนของจังหวัด น่า นปร ะ กอบด้วย เ กณ ฑ์ กา ร พัฒนา กา ร ท่องเท่ีย วอย่ า งย่ั งยืนเ ป้า ห ม า ย การ พัฒนา ที่ยั่ งยื น ความสาคัญของการท่องเท่ียวอย่างย่ังยืนเกณฑ์การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและการ ประเมนิ สถานะความยงั่ ยืนของเมอื งเก่าน่านดว้ ย GSTC ขอ้ คิดเหน็ ของสมาชกิ วฒุ ิสภา (๑) ควรบรรจุกิจกรรมงาน “ภูษาผ้าน่าน อลังการเครื่องเงิน” ไว้ในปฏิทินการท่องเท่ียว จังหวัดนา่ น (๒) จังหวัดน่านควรจะมี Tour Designer เพื่อออกแบบเส้นทางการท่องเท่ียวภายใน จังหวัดให้มีความน่าสนใจในแต่ละพ้ืนที่โดยดึงเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม อาหารของแต่ละพื้นท่ี มาเป็นจดุ เด่น (๓) ควรมีการจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการท่องเท่ียวท้ังมวล (Universal Design) เพื่อให้จงั หวดั น่านมนี กั ทอ่ งเทีย่ วคุณภาพเขา้ มาทอ่ งเทีย่ วและพกั ระยะยาว (Long Stay) (๔) ควรพฒั นาให้มีระบบขนส่งมวลชนที่มีความสะดวกและปลอดภยั

๒๔ (๕) ควรมีการจัดทาเส้นทางการท่องเท่ียวในแต่ละเส้นทางการท่องเท่ียว ทั้งน้ี ควรจะมี การบูรณาการร่วมกนั ในทกุ ภาคสว่ น (๖) ควรมีการจดั เส้นทางการทอ่ งเท่ียวเพ่อื ดึงดดู นกั ทอ่ งเท่ียวคณุ ภาพใหพ้ ักยาวขนึ้ ๖. ด่านชายแดนห้วยโก๋น เกิดปัญหาการทับซ้อนของพ้ืนที่ จึงทาให้การดาเนินการเกิด ความล่าช้า นอกจากนี้ประชาชนห้วยโก๋นยังไม่มคี วามรู้เรอื่ งการพัฒนาด่านหว้ ยโก๋น สาหรับการ เดินทางไปยังหน้าด่านห้วยโก๋นจากตัวเมือง มีระยะทางประมาณ ๑๔๐ กิโลเมตร ควรจะมีการ พฒั นาใหม้ ที พี่ กั บริเวณหน้าด่าน ความต้องการและขอ้ เสนอแนะของประชาชน (๑) การทับซอ้ นของพืน้ ท่ดี าเนนิ การพัฒนาระหวา่ งกรมศลุ กากรกบั กรมทางหลวง (๒) ขาดหนว่ ยงานทีจ่ ะเปน็ ตวั กลางในการประสานการดาเนินงาน (๓) การร้องเรยี นของประชาชนท่ไี ดร้ ับผลกระทบจากการพัฒนาพ้ืนท่ีดา่ นห้วยโกน๋ ข้อคิดเหน็ ของสมาชิกวฒุ สิ ภา (๑) ขอใหก้ ระทรวงมหาดไทยให้การสนบั สนุนการดาเนินการใหพ้ ัฒนาดา่ นชายแดนห้วยโกน๋ (๒) ขอให้ผู้ตรวจราชการสานักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ประสานกรมทางหลวง กรมศุลกากร และกรมป่าไม้ ในการบูรณาการแผนการดาเนินการและการใช้งบประมาณของแต่ละหน่วยงาน เพอ่ื แกไ้ ขปัญหาการสรา้ งดา่ นหว้ ยโก๋นตอ่ ไป (๓) ทุกภาคส่วนควรมีการบูรณาการร่วมกันในการจดั ทาแผนพัฒนาดา่ นห้วยโก๋น เพอื่ ให้ ประชาชนจังหวัดนา่ นซง่ึ เปน็ เจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณคา่ ได้รับประโยชนจ์ ากการพฒั นา ด่านห้วยโก๋น วัฒนธรรมไม่ถูกทาลาย และประชาชนและจังหวัดน่านได้รับเม็ดเงินจากการเปิด ด่านชายแดนดงั กล่าวเพื่อใช้ในการพฒั นาจังหวัดนา่ นตอ่ ไป ท่ีมา : โครงการสมาชกิ วุฒสิ ภาพบประชาชน วันท่ี ๘ - ๙ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๒ วธิ ีการ : การสมั มนาร่วมกับผแู้ ทนภาคเอกชน ภาคประชาชน และภาคประชาสงั คม สถานท่ี : ศาลากลางจงั หวัดนา่ น

๒๕ แมฮ่ อ่ งสอน ๑. การรบั ฟังความคดิ เหน็ ของประชาชน ๑. ประเด็นผลักดันจุดผ่อนปรนด่านห้วยต้นนุ่น ให้เป็นด่านถาวรเนื่องจากปัจจุบัน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังไม่มีด่านการค้าชายแดนถาวร ทาให้การค้าขายพืชผลทางการเกษตร และการท่องเท่ียวของจังหวัดไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร มีอุปสรรคเร่ืองเส้นทางการคมนาคม ขนส่ง และพื้นท่ีที่จะสร้างด่านถาวรนั้นอยู่ในพื้นที่ของเขตอุทยาน เขตป่าอนุรักษ์ โดยมีระเบียบ ขอ้ กฎหมาย ท่ีไม่อนุญาตให้มีการก่อสร้างใด ๆ ในเขตพื้นที่ดังกล่าว หรือหากจะมกี ารสร้างถนน ต้องไดร้ ับอนุญาตและตอ้ งมีวัตถุประสงคเ์ พ่อื การดแู ลป่าไมแ้ ละสตั ว์ปา่ เทา่ นนั้ ๒. ด้านการท่องเที่ยว ข้อจากัดด้านเส้นทางการคมนาคมสายการบินมีเท่ียวบินน้อย ราคาแพง ถนนเปน็ หลุมบอ่ คับแคบ คดเคย้ี ว สูงชัน ทาให้นักท่องเท่ียวเดินทางมาทอ่ งเทย่ี วน้อย ทั้งน้ี ส่วนราชการจงั หวดั แมฮ่ อ่ งสอนไดม้ ีการดาเนินการประสานในส่วนท่เี ก่ียวข้อง ใหเ้ รง่ ดาเนินการ รวมทัง้ จดั ทาแผนพฒั นาการท่องเทยี่ วในด้านต่าง ๆ ทาปฏิทินการทอ่ งเทย่ี วแมฮ่ ่องสอนเทยี่ วได้ทัง้ ปี ขอ้ คิดเห็นของสมาชกิ วฒุ สิ ภา (๑) ควรเน้นการประชาสัมพันธ์ สร้างเร่ืองราว (Story) ให้มีความน่าสนใจ สร้างบุคคล ทีจ่ ะเปน็ นกั เล่าเร่อื ง ร้อยเรียงประวัติ ความเป็นมา ถา่ ยทอดเสนห่ ์ของจงั หวดั แมฮ่ อ่ งสอน (๒) ด้านการคมนาคม กรมทางหลวงอยู่ระหว่างดาเนินการปรับปรุงแสงสว่างในทุกเส้นทาง โดยจะเสนอเป็นแผนการดาเนินงานมายงั คณะกรรมาธกิ ารการคมนาคม วฒุ ิสภา และถนนในหมบู่ ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ รบั ดาเนินการ ๓. ด้านหมอกควัน เป็นปัญหาที่สาคัญของ ๙ จงั หวัดภาคเหนือตอนบนมากท่ีสดุ สาเหตุหลัก คือ การเก็บหาของป่า การเผาไร่กาจัดวัชพืช ล่าสัตว์ เป็นต้น ทางส่วนราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้จัดทาแผนรองรับ ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการเกิดไฟป่า เพื่อลดปัญหาหมอกควัน รวมทั้ง เรง่ รณรงค์ทาความเขา้ ใจกับประชาชนพนื้ ท่ีจังหวัดแม่ฮอ่ งสอนดว้ ย ๔. สาธารณปู โภค/ โครงสร้างพืน้ ฐาน ๑) หลายพนื้ ทยี่ งั ไม่มีไฟฟ้าใชแ้ ละมีกระแสไฟฟา้ ดบั บ่อยครงั้ และดับเป็นเวลานาน ๒) ขาดแคลนน้าในการทาการเกษตรในฤดูแลง้ ขอใหร้ าชการชว่ ยสรา้ งอ่างเก็บนา้ ๓) การกาจัดนา้ เสีย/ ขยะ

๒๖ ๕. ด้านการเกษตร ผลิตผลทางการเกษตร มีราคาเท่าเดิมแต่ต้นทุนการผลิตเพ่ิมสูงข้ึน ขาดตลาดรองรับผลผลิตอีกทั้งเส้นทางการขนส่งสินค้าค่อนข้างลาบากทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัด แมฮ่ ่องสอนร่วมกันบรู ณาการสรา้ งสรรค์การแปรรปู สินคา้ เพอ่ื เพ่ิมมลู คา่ ของสินคา้ ความตอ้ งการและขอ้ เสนอแนะของประชาชน (๑) จัดอบรมเพอ่ื ยกระดบั มาตรฐานการใหบ้ ริการและร้านอาหาร (๒) คิดกจิ กรรมใหมๆ่ เพอ่ื ดึงดูดให้นกั ท่องเทย่ี วอยู่ในพน้ื ท่เี พื่อเพมิ่ รายไดใ้ หก้ บั ชุมชน (๓) การขอโฉนดท่ีดินแปลงรวมควรมีการลงพ้ืนที่เพื่อปักหมุด หรือทาหลักปูนถาวรเพื่อ ปอ้ งกนั ปัญหาความขัดแย้งในอนาคต (๔) ควรสง่ เสรมิ เรอ่ื งการทาเกษตรปลอดสารพษิ สนบั สนนุ ช่องทางการค้าออนไลน์ (๕) เพมิ่ ศกั ยภาพการเขา้ ถงึ ผู้บริโภค หรอื การเพมิ่ มลู ค่าให้กับผลิตผลทางการเกษตรและ สนิ ค้าต่าง ๆ ข้อคิดเห็นของสมาชิกวฒุ สิ ภา ควรมีการส่งเสริมประชาชนให้เข้าร่วมโครงการของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อเปน็ การ ฝกึ อาชีพใหก้ บั คนในพ้ืนที่ ๖. การจัดสรรที่ดินทากินและที่อยู่อาศัย ประชาชนส่วนใหญ่อยู่อาศัยและทากินในเขต พ้ืนทอ่ี นุรักษ์และเขตป่าสงวน ประชาชนจึงต้องการเอกสารสทิ ธหิ รือโฉนดในการครอบครองที่ดิน ใหถ้ กู ตอ้ งตามกฎหมาย ข้อคิดเห็นของสมาชกิ วฒุ สิ ภา วุฒสิ ภารับทราบและจะดาเนนิ การภายใต้อานาจและหนา้ ท่ีของวฒุ สิ ภาตอ่ ไป ที่มา : โครงการสมาชกิ วฒุ สิ ภาพบประชาชน วนั ที่ ๑๔ - ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ วิธีการ : การสัมมนารว่ มกบั ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ผแู้ ทนภาคเอกชน และประชาชนในพน้ื ที่ สถานที่ : ศาลาประชาคมหมบู่ า้ นรกั ไทย และหอประชุมมหาวทิ ยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

๒๗ ภาคเหนอื ตอนลา่ ง

๒๘ พิษณโุ ลก การรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของประชาชน ๑. ประเด็นการบริหารจัดการน้า เน่ืองจากจังหวัดพิษณุโลกมีฝนตกลงมาในปริมาณน้อย และส่งผลกระทบกบั ผปู้ ระกอบอาชพี ในภาคเกษตรกรรมเปน็ จานวนมาก ประกอบกบั ระดับน้าในเขื่อน ท่ีสง่ นา้ ให้มปี ริมาณน้าคอ่ นขา้ งนอ้ ย ทาให้พื้นที่ประสบปัญหาพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสยี หาย จากการขาดแคลนน้า ได้แก่ อาเภอบางกระทุ่ม อาเภอบางระกา และอาเภอชาติตระการ จังหวัด พิษณุโลกได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ตามระเบียบ กระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๖๒ ทาให้ปัจจุบันจังหวัดพิษณุโลกมีพื้นท่ีท่ีได้รับความเสียหายจากภาวะฝนแล้ง จานวน ๓ อาเภอ ๑๑ ตาบล ๗๘ หมูบ่ ้าน ซ่ึงจงั หวดั พษิ ณโุ ลกยังขาดแคลนงบประมาณเพ่ือพัฒนาแหล่งกกั เก็บนา้ ๒. ประเด็นท่ีดิน ปัญหาท่ีดินทากินของราษฎรทับซ้อนกับแนวเขตที่ดินของรัฐ จังหวัด พษิ ณุโลกมีพ้ืนที่ จานวน ๖,๗๘๙,๙๓๗.๕๐ ไร่ โดยมีพ้ืนที่ปา่ ป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติ และวนอุทยาน ซ่ึงที่ดินของรัฐมีแนวเขตท่ีไม่ชัดเจน ทาให้เกิดปัญหาท่ีดินทากินของราษฎร ทับซ้อนกบั แนวเขตทีด่ ินของรฐั สง่ ผลทาให้ราษฎรไมส่ ามารถขอเอกสารสิทธิทดี่ นิ ได้ ๓. ประเด็นการลงทุน ปัจจบุ ันผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ขาดสภาพคลอ่ งทางการเงินส่งผลกระทบตอ่ การประกอบธุรกิจ ซง่ึ การปล่อยกูข้ องธนาคารจะตอ้ ง มีการตรวจสอบสถานะทางการเงินและเครดิตบูโรทาให้ไม่สามารถกู้เงินได้ จึงควรปรับเปล่ียน หลักเกณฑ์การปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ( SME) โดยพิจารณาจากบญั ชีเงนิ หมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ ความตอ้ งการและข้อเสนอแนะของประชาชน ขอให้สนับสนุนการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดย่อม (SME) ๔. ประเด็นการจัดตั้งกองทุน กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองท่ีชาวบ้านรวมตัวกัน จัดตั้งขึ้นโดยไม่ได้มีการจดทะเบียน เช่น กองทุนสัจจะออมทรัพย์ ทาให้กรมพัฒนาชุมชน ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบการบริหารงานของกองทุนได้ ซ่ึงในจังหวัดพิษณุโลกมีการฟ้องร้อง ดาเนนิ คดีกรรมการกองทุนกบั สมาชกิ จานวนหลายคดี

๒๙ ๕. ประเด็นการเกษตร การใช้สารเคมีในภาคการเกษตร สารเคมี ๓ ชนิด ประกอบด้วย พาราควอต คอลร์ไพรีฟอส และไกลโฟเซต เปน็ สารเคมกี าจัดศัตรูพืชท่ีมีความเสีย่ งสูง ทาใหเ้ ป็น อันตรายตอ่ เกษตรกรและผบู้ รโิ ภค ความต้องการและข้อเสนอแนะของประชาชน ขอให้พิจารณายกเลกิ การใช้สารเคมที ้ัง ๓ ชนิด ประกอบด้วย พาราควอต คอลร์ไพรฟี อส และไกลโฟเซต เปน็ สารเคมีกาจัดศัตรูพชื ทม่ี คี วามเสย่ี งสูง ทม่ี า : โครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน วันท่ี ๒๒ สงิ หาคม ๒๕๖๒ วิธกี าร : จดั ประชมุ ชีแ้ จงและหารอื กบั ผูแ้ ทนหนว่ ยงานภาครัฐ และผแู้ ทนภาคเอกชน สถานที่ : ศาลากลางจงั หวดั พิษณโุ ลก

๓๐ อตุ รดิตถ์ การรับฟังความคิดเหน็ ของประชาชน ๑. ประเด็นเกษตร ความตอ้ งการและขอ้ เสนอแนะของประชาชน (๑) ขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สนับสนุนโครงการสินเช่ือเพื่อชะลอการขาย ขา้ วเปลือกนาปีมากาหนดเปน็ นโยบาย (๒) ขอให้สนับสนุนงบประมาณใหก้ ับสหกรณ์การเกษตรเพ่ือก่อสร้างถังบรรจุผลผลติ ทาง การเกษตร (ไซโล) ๒. ประเด็นค่าตอบแทนภาระหน้าท่ี เน่ืองจากกานันและผู้ใหญ่บ้าน มีภาระหน้าที่เป็น จานวนมาก ประกอบกับค่าครองชีพท่ีเพิ่มสูงขึ้น ทาให้เงินค่าตอบแทนท่ีได้รับไม่เพียงพอต่อ คา่ ใช้จ่าย ความตอ้ งการและข้อเสนอแนะของประชาชน ขอให้กระทรวงมหาดไทยพจิ ารณาเพ่ิมคา่ ตอบแทนให้กบั กานนั และผใู้ หญบ่ า้ น ๓. ประเด็นการรบั รองแบบกอ่ สร้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินการจัดทาโครงการ ตามภารกิจเร่งด่วนท่ีถือเป็นงานก่อสร้าง จาเป็นต้องมีแบบรูปรายงานการก่ อสร้าง ท่ีผ่านการรับรองจากผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ พระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒ และพระราชบัญญัติสถาปนิก พ.ศ. ๒๕๔๓ แต่เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ไม่มีบุคลากรที่ได้รับใบอนญุ าตประกอบวิชาชีพ ดังกล่าว ท่ีผ่านมา อปท. แกไ้ ขปัญหาโดยการขอความอนุเคราะหใ์ หบ้ ุคลากรของเทศบาลในพ้นื ท่ี เซ็นรับรองแบบรูปรายงานการก่อสร้าง ทาให้เกิดความล่าช้าในการทางานไม่สามารถเสนอ โครงการไดท้ ันภายในระยะทก่ี าหนด และไม่สามารถตอบสนองนโยบายรฐั บาลได้ ความต้องการและขอ้ เสนอแนะของประชาชน ขอให้เพ่ิมตาแหน่งนายช่างโยธาให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน (อปท.) โดยให้มี ตาแหนง่ ประจา ณ ทีว่ ่าการอาเภอ

๓๑ ขอ้ คดิ เห็นของสมาชิกวฒุ ิสภา การรับรองแบบการก่อสร้าง ขอให้กานันและผู้ใหญ่บ้านบูรณาการในการทางานร่วมกับ ผู้บรหิ ารของเทศบาลในพน้ื ท่ี เพอื่ ให้การรับรองแบบการกอ่ สรา้ งเป็นไปอย่างรวดเร็วและสามารถ เสนอโครงการได้ทันภายในระยะเวลาท่กี าหนด ๔. ประเด็นทีด่ นิ ๑) สืบเน่ืองจากที่ดินทากินของประชาชนในพื้นที่อาเภอเมือง จังหวัดอุตรดติ ถ์ มีแนวเขต ทับซ้อนกับทด่ี ินของรฐั ทาใหไ้ ม่สามารถออกโฉนดทด่ี นิ ได้ ๒) ด้วยมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปท่ีดินเพ่ือเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ กาหนดให้เมื่อได้มีพระราชกฤษฎีกากาหนดเขตปฏิรูปที่ดินใช้บงั คับในท้องที่ใดแล้ว ถ้าในเขตปฏิรูป ที่ดินน้ันมีที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสาหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน แต่พลเมืองเลิกใช้ ประโยชน์ในที่ดินนั้น ให้พระราชกฤษฎีกากาหนดเขตปฏิรูปที่ดินนั้นมีผลเป็นการถอนสภาพ การเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสาหรับที่ดินดังกล่าวโดยมิต้องดาเนินการถอนสภาพ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งมีผลให้เป็นการยกเลิกท่ีสาธารณประโยชน์ ท้ังน้ี การถอนสภาพ การเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินโดยผลของกฎหมายดังกล่าวทาให้มีการบุกรุกที่ดินของรัฐ เพิม่ มากข้ึน และการตรวจสอบแนวเขตเปน็ ไปดว้ ยความยากลาบาก ๕. ประเด็นโครงสรา้ งพ้นื ฐาน ๑) ถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข ๑๑๗ สายนครสวรรค์ – จุดผ่านแดนภูดู่ (รวมทางหลวง แผ่นดินหมายเลข ๑๓๒๕, ๑๑๐๔ และ ๑๐๔๗ สายคลองเมม – ม่วงเจ็ดต้น) เป็นทางหลวงแผ่นดิน สายหลักที่เช่ือมการขนส่งจราจรระหว่างจังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดพิจิตรและจังหวัดพิษณุโลก และเปน็ ทางหลวงสายรองในช่วงจังหวัดพิษณุโลกถึงจงั หวดั อตุ รดิตถ์ รวมระยะทางตลอดทั้งสาย ๓๙๖.๗๘๔ กิโลเมตร โดยในช่วงอาเภอเมืองอุตรดิตถ์ถึงอาเภอบ้านโคก ถนนยังมีขนาด ๒ ช่อง จราจร ซ่งึ ถนนในพน้ื ทีจ่ งั หวัดอตุ รดติ ถ์มปี ระชาชนใช้เดินทางสัญจรเป็นจานวนมาก ๒) โครงการตามผังเมืองรวมอุตรดิตถ์ สาย ๒ ตอนถนนท่าอิฐล่าง – ถนนพาดวารี (วิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์) ซ่ึงมีแนวเส้นทางตัดผ่านวิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์เพ่ือเช่ือมกับถนน ทางหลวงแผน่ ดินหมายเลข ๑๑๙ ทาใหส้ นามฟุตบอลของวิทยาลัยมีพ้ืนท่ไี ม่เพยี งพอ และพืน้ ที่ถกู แยกออกเป็น ๒ ส่วน ซ่ึงอาจเกิดความไม่ปลอดภัยต่อบุคคลของวิทยาลัย ทาให้ทางวิทยาลัยเทคนิค อตุ รดติ ถย์ ังไมอ่ นุญาตใหใ้ ช้พื้นทใี่ นการก่อสรา้ ง

๓๒ ความตอ้ งการและขอ้ เสนอแนะของประชาชน ขอใหม้ กี ารขยายถนนทางหลวงหมายเลข ๑๑๗ ใหม้ ขี นาด ๔ ชอ่ งจราจร ข้อคดิ เหน็ ของสมาชิกวุฒิสภา ที่ผ่านมาหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องได้มีการหารือกับผู้อานวยวิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์ เพื่อขอใชพ้ ้ืนท่ีของวทิ ยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์ในการก่อสร้างสะพาน แตย่ ังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้พ้ืนที่ ขณะนี้ได้มีการเปลี่ยนผู้ดารงตาแหน่งผู้อานวยการวิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์ ดังน้ัน ส่วนราชการ รบั ผิดชอบควรนาปญั หาดงั กล่าวหารือกับผู้อานวยการวทิ ยาลัยเทคนิคอุตรดติ ถ์อีกคร้งั ทม่ี า : โครงการสมาชิกวฒุ ิสภาพบประชาชน วนั ท่ี ๒๒ สงิ หาคม ๒๕๖๒ และ วันที่ ๒ ตลุ าคม ๒๕๖๒ วธิ ีการ : จดั ประชมุ ชแี้ จงและหารอื กบั ผแู้ ทนหน่วยงานภาครัฐ ผู้แทนภาคเอกชนและ ประชาชน สถานท่ี : ศาลากลางจังหวดั อตุ รดติ ถ์, สหกรณก์ ารเกษตรเมืองอตุ รดติ ถ์ จากัด, หอ้ งประชมุ ท่วี า่ การอาเภอเมืองอตุ รดติ ถ์, ศาลาการเปรยี ญวดั โพธ์ิทอง

๓๓ สุโขทยั การรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของประชาชน ๑. ประเด็นการบริหารจัดการน้า ปัญหาน้าท่วมและภัยแล้ง พ้ืนท่ีก่อสร้างอ่างเก็บน้า ปัจจุบันตั้งอยู่ในพื้นท่ีเขตอุทยานแห่งชาติ ไม่มีประชาชนอยู่อาศัย และยังไม่ได้รับการอนุญาต ใหใ้ ช้พืน้ ทเ่ี พือ่ กอ่ สรา้ งอา่ งเก็บนา้ แต่อย่างใด ความตอ้ งการและขอ้ เสนอแนะของประชาชน มีความต้องการให้สร้างอ่างเก็บน้าในพื้นท่ีอาเภอบ้านด่านลานหอย เพ่ือจะได้มีแหล่ง กักเก็บน้าไว้เป็นน้าต้นทุนเพ่ือนาไปช่วยเหลือพื้นที่การเพาะปลูกของเกษตรกรและกักเก็บน้า ไว้ใชส้ าหรับอุปโภค - บริโภค ๒. ประเดน็ หนส้ี นิ ของเกษตรกร เกษตรกรจงั หวดั สโุ ขทัยประสบปญั หามีหนสี้ ินจานวนมาก โดยหนี้สินส่วนหนึ่งเกิดจากการกู้ยืมเงินเพ่ือทาการเกษตร เช่น การกู้ยืมเงินเพ่ือซ้ือเครื่องจักร ซ้ือปุ๋ยเคมี ซ่ึงท่ีผ่านมารัฐบาลมีนโยบายให้กับเกษตรกรเข้าถึงแหล่งทุนหลายโครงการ แต่เกษตรกร ไมส่ ามารถเข้าถงึ แหล่งทุนได้ เน่อื งจากแตล่ ะโครงการมเี ง่ือนไขเป็นจานวนมาก และมอี ัตราดอกเบีย้ สงู ความต้องการและขอ้ เสนอแนะของประชาชน ควรส่งเสริมให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งทุนได้สะดวกและมีอัตราดอกเบ้ียต่า เพื่อลดภาระ หน้สี นิ ของเกษตรกร ๓. ประเด็นทด่ี นิ ๑) จังหวัดสุโขทัยเป็นจังหวัดหน่ึงที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรป่าไม้ จังหวัดสุโขทัย มีพื้นที่ ป่าไม้ มีป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติ เขตห้ามล่าสัตว์ป่า และวนอุทยาน ซ่ึงที่ดินของรัฐ แต่ละแห่งมแี นวเขตทีไ่ ม่ชัดเจน ทาใหเ้ กดิ ปญั หาท่ดี ินทากินของราษฎรทับซ้อนกับแนวเขตทด่ี นิ ของรฐั ๒) ปัญหาเอกสารสิทธิในท่ีดิน ในพื้นที่ตาบลเมืองเก่า มีหลายหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่ โดยปรากฏวา่ ในพ้ืนท่ีตาบลเมอื งเกา่ อย่ใู นเขตอุทยานประวตั ศิ าสตรส์ ุโขทยั และท่สี าคญั สาหรบั ท่ีหลวง (นสล.ทุ่งพระบาทน้อย) และอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน (สปก.) ทาให้ประชาชนมีปัญหาการใช้ประโยชน์ ในท่ีดินที่ประชาชนส่วนใหญ่มีสิทธ์ิการครอบครองท่ีดิน (สค.๑) ยกตัวอย่างเช่น ๑) การจัดเก็บภาษี ๒) การใช้ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ๓) การออกเอกสารสิทธิ ๔) การออกบ้านเลขท่ีตาม พ.ร.บ.ทะเบียน ราษฎร ๕) การอนุญาตใช้พนื้ ท่เี พ่อื ก่อสร้างที่อย่อู าศยั ๖) การประกอบอาชพี

๓๔ ๓) ปัญหาเอกสารสิทธิในที่ดิน ในพื้นที่ตาบลบ้านกล้วย ซ่ึงพ้ืนที่ส่วนใหญ่ร้อยละ ๗๐ เป็นพ้ืนที่สาธารณประโยชน์ โดยมีพ้ืนที่ประมาณ ๔,๐๐๐ ไร่ เม่ือปี ๒๕๕๖ ได้มีกรรมาธิการ รัฐสภานาโดย นายชัย ชิดชอบ มาดพู ื้นที่และประชมุ ร่วมกับทุกฝ่ายและมคี าสั่งให้เทศบาลตาบล บ้านกล้วยตั้งงบประมาณเพ่ือสารวจพ้ืนท่ีทุ่งคุยทอง เพ่ือออกเอกสาร น.ส.๓ ให้กับประชาชน ในพ้ืนท่ีหมู่ท่ี ๗ หมู่ท่ี ๑๓ และหมู่ที่ ๑๔ ของตาบลบ้านกล้วย แต่จนถึงปัจจุบันราษฎรในพ้ืนที่ ยงั ไมไ่ ดร้ ับการจดั สรรพื้นทีห่ รอื ได้รบั เอกสารสทิ ธิในพ้ืนทีด่ ังกล่าว ๔) ปัญหาเอกสารสิทธิในที่ดิน ในพื้นที่ตาบลตาลเต้ีย ซึ่งพื้นท่ีส่วนใหญ่ร้อยละ ๗๐ เปน็ พ้ืนท่ีสาธารณประโยชน์ โดยมีพน้ื ทป่ี ระมาณ ๕,๐๐๐ ไร่ ๕) ปัญหาท่ีดินในเขตปฏิรูปท่ีดิน ในท้องท่ีอาเภอเมืองสุโขทัยเป็นพื้นท่ีประกาศกาหนด ตามพระราชกฤษฎีกากาหนดเขตที่ดินให้เป็นเขตปฏิรูปท่ีดิน พ.ศ.๒๕๒๘ โดยประกาศกาหนด ในพ้ืนทย่ี กท้ังอาเภอเมอื งสุโขทัย แต่ได้รบั การจัดสรรเป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์ในเขต สปก.บางพื้นท่ี ทาให้พ้ืนที่ตาบลบางแห่ง เช่น ตาบลวังทองแดง ประสบปัญหาการไม่มีเอกสารสิทธิในท่ีดิน เพื่อใช้อา้ งอิงการได้รับประโยชน์จากรฐั ในดา้ นเกษตรกรรมและดา้ นอื่น ๆ ความต้องการและข้อเสนอแนะของประชาชน (๑) เขตปฏิรูปที่ดิน (สปก.) ให้ยกเลิก (สปก.) นอกเขตดาเนินการในเขตอานาจของ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (๒) พ้ืนท่สี าธารณประโยชน์ เขาพระบาทน้อยให้ดาเนินการออกเอกสารสิทธิ หรือดาเนินการ อ่นื ๆ ตอ่ คณะกรรมการจดั สรรทดี่ ินในการประกอบอาชีพและท่ีอยู่อาศยั (๓) การแก้ไขท่ีดินราชพัสดุในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเป็นอานาจของ กระทรวงการคลัง (๔) ควรให้ภาครัฐใช้ พ.ร.บ. เกี่ยวกับท่ีดินเพียงฉบับเดียว เพื่อแก้ไขปัญหาทับซ้อนของ กฎหมาย (๕) ขอให้ยกเลิกและตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ชาวบ้านได้ครอบครอง โดยนาไปออก เอกสารสิทธหิ รอื โฉนดให้กบั ราษฎรในพืน้ ท่ีดังกล่าว ๔. ประเด็นดา้ นการคมนาคม ถนนทางหลวงหมายเลข ๑๐๑ เปน็ เส้นทางหลักท่ีเช่ือมต่อ ระหว่างจังหวัดสุโขทัยกับจังหวัดใกล้เคียง เช่น จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดแพร่ และจังหวัดน่าน และสามารถเชอื่ มตอ่ ผา่ นเข้าสู่ประเทศลาว ประเทศเวียดนาม และภาคใต้ของประเทศจีน ซ่ึงทางหลวง

๓๕ สายดังกล่าวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการจราจรและเป็นการอานวยความปลอดภัยในการเดินทาง บนทางหลวง อีกท้ังจะทาให้การเดินทางและการจราจรเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย และเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเศรษฐกิจ แต่ขณะน้ีถนนสายดังกล่าวในพ้ืนท่ีจังหวัดสุโขทัยยังมีขนาด ๒ ชอ่ งจราจร ความต้องการและขอ้ เสนอแนะของประชาชน ขอให้มกี ารขยายถนนทางหลวงหมายเลข ๑๐๑ ให้มขี นาด ๔ ชอ่ งจราจร ๕. ประเด็นการบริหารจัดการสหกรณ์การเกษตรที่ไม่มีคุณภาพ การบริหารงานของ สหกรณ์ไม่ได้ดาเนินงานตามหลักการก่อต้ังสหกรณ์เพื่อให้สมาชิกมีความสามารถในการรวมตัว เพ่ือต่อรองด้านราคาและการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่จะบริหารงานโดยเน้นการปล่อย เงินกู้ให้กับสมาชิก เม่ือสมาชิกสหกรณ์ผิดนัดชาระหน้ีเป็นจานวนมาก ทาให้สหกรณ์ไม่สามารถ ดาเนินงานตอ่ ไปได้ ๖. ประเด็นสทิ ธิ และผลประโยชน์ ๑) ค่าตอบแทนของผู้ประสานชุมชน เน่ืองจากเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ไม่มีกานัน ผู้ใหญ่บ้านในพ้ืนที่ การบริหารงานและรับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นท่ี จึงจาเป็นต้องมีประธาน ชมุ ชนต่าง ๆ ซึ่งทาหนา้ ทเ่ี ปรยี บเสมือนกานนั ผู้ใหญบ่ ้าน ในพื้นทเี่ ทศบาล ๒) ค่าตอบแทนของแพทย์เฉพาะทาง ควรได้รับค่าตอบแทนที่สูงข้ึน เพ่ือให้เหมาะสม ในการดารงชีวติ กับสภาพเศรษฐกจิ ในปัจจุบนั ความตอ้ งการและขอ้ เสนอแนะของประชาชน (๑) ขอให้พิจารณายกเลิกพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. ๒๔๙๖ มาตรา ๔ มาตรา ๑๒ วรรคสอง และมาตรา ๔๘ เนื่องจากเกิดผลกระทบต่อกานัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจาตาบล สารวัตรกานันและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ในท้องถ่ินท่ีได้รับการยกฐานะท้องถ่ินให้เป็นเทศบาลเมือง หรอื เทศบาลนครแลว้ (๒) ขอให้พจิ ารณาเร่ืองสวัสดิการช่วยเหลอื รกั ษาพยาบาล (ค่าห้องพเิ ศษ และคา่ อาหารพิเศษ) เช่นเดียวกับสวัสดิการของ อสม. โดยให้กานัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจาตาบล สารวัตรกานัน และ ผ้ชู ่วยผู้ใหญ่บ้านมีสทิ ธิได้รับการช่วยเหลือลดหย่อนค่าหอ้ งพิเศษและค่าอาหารพิเศษจากโรงพยาบาล สงั กัดกระทรวงสาธารณสขุ

๓๖ (๓) ขอพิจารณาให้กานัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่เกษียณไปแล้วมีสิทธิแต่งเคร่ืองแบบสีกากีคอพับ และชดุ เคร่ืองแบบปกติขาวไดเ้ ช่นเดียวกบั ขา้ ราชการประจาการในโอกาสอนั สมควรตามท่กี าหนด ไว้ตามระเบียบ ข้อบังคับ คาสั่งกระทรวง ส่วนลักษณะของเครื่องแบบและเครื่องหมายให้แต่ง เครื่องแบบเช่นเดียวกับกานัน ผู้ใหญ่บ้านท่ียังดารงตาแหน่ง แต่ให้ติดเครื่องหมายอักษร “นก” ทาด้วยโลหะโปรง่ สที อง ไมม่ ีขอบ สูง ๒ เซนติเมตร ทีป่ กคอเส้ือดา้ นหนา้ ข้างขวา หรือให้ติดป้าย ชื่อว่า “อดีตกานัน.....” (๔) ขอปรับเปลี่ยนบัตรประจาตัวเจ้าหน้าท่ีของรัฐให้มีความเป็นสากลโดยการเพ่ิมเติม ข้อความเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งชื่อ-นามสกุล และตาแหน่งของผู้ถือบัตร เพื่อก้าวสู่ประชาคม อาเซียน และเป็นการประชาสัมพันธ์องค์กร แสดงตนเป็นเจ้าหน้าท่ีของรัฐให้ประชาชนคนไทย และนกั ท่องเทย่ี วตา่ งชาติไดท้ ราบ (๕) การทาป้ายจุดรับแจ้งเหตุเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง ควรมีข้อความเป็นภาษาอังกฤษ ด้วยเพื่อให้ชาวต่างชาติทราบว่ามีจุดให้บริการ คาแนะนา หรือสามารถแจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงาน ฝ่ายปกครองได้ ณ จุดใดบ้าง เพื่อเป็นการบริการให้ชาวต่างชาติเกิดความประทับใจ และรู้สึก ปลอดภัยในการมาทอ่ งเท่ียวในประเทศไทยตอ่ ไป (๖) ต้องการให้ประธานชุมชนในเขตเทศบาลเมอื งมีคา่ ตอบแทนเหมอื นกานัน ผใู้ หญ่บ้าน เพื่อจะไดม้ ีแรงจงู ใจในการปฏบิ ตั งิ าน ๗. ประเดน็ การบริหารองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ ๑) จานวนสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตาบล ตามพระราชบัญญัติสภาตาบลและ องค์การบริหารส่วนตาบล (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ ในมาตรา ๔๕ ภายใต้บังคับมาตรา ๔๕/๑ สภาองค์การบริหารส่วนตาบล ประกอบด้วย สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตาบล จานวน เขตเลือกต้ังละหน่ึงคนซึ่งเลือกต้ังขึ้นโดยราษฎรผู้มีสิทธิเลือกต้ังในแต่ละเขตเลือกต้ังในเขต องค์การบริหารส่วนตาบลน้ัน ซ่ึงจานวนสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตาบลน้อยทาให้ ไมส่ ามารถนาปญั หาต่าง ๆ ไปพัฒนา และแก้ไขได้ตรงเปา้ หมาย ๒) วาระการดารงตาแหน่งของผู้บรหิ ารท้องถิน่ ตามมาตรา ๕๘/๒ นายกองคก์ ารบรกิ าร ส่วนตาบลมีวาระอยู่ในตาแหน่งคราวละส่ีปี นับแต่วันเลือกต้ังแต่จะดารงตาแหน่งติดต่อกัน เกินสองวาระไม่ได้ ทาใหก้ ารดาเนินงานไม่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง การบริหารงานในองค์กรปกครอง สว่ นทอ้ งถิ่นไม่มีประสทิ ธิภาพ

๓๗ ๓) การดาเนินงานด้านงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน หากโครงการต่าง ๆ ทีผ่ ่านการพิจารณาเหน็ ชอบจากสภาแล้ว มีการดาเนนิ โครงการดงั กลา่ วมากกวา่ ๑ ปงี บประมาณ ควรจะต้องมีการขอกันเงินกับสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามระเบียบวิธีการงบประมาณ ขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๑ รวมถงึ ทแี่ กไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดยไมต่ ้องผา่ นการพิจารณา จากสภาอีกครั้ง เพอ่ื การดาเนินงานของโครงการตา่ ง ๆ น้ันเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ๔) การถ่ายโอนภารกิจของส่วนราชการหน่วยงานต่าง ๆ ให้แก่เทศบาลเมืองสุโขทัยธานี เป็นผู้รับผิดชอบ ด้วยเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีเป็นผู้รับผิดชอบดาเนินการดูแลพ้ืนที่ราชพัสดุ หลายแห่ง เช่น ตลาดสดเทศบาล ๑ และ ๒ ปัจจุบันทางเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีจะต้องเสีย คา่ เชา่ พนื้ ท่ใี ห้กับกรมธนารักษ์ และการพัฒนาทรัพยส์ ินต่าง ๆ ของทเี่ ชา่ ความต้องการและขอ้ เสนอแนะของประชาชน (๑) ควรมีสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตาบลตามเขตเลือกตั้งหมู่บ้านละ ๒ คน เพ่ือให้การรับฟังปัญหาของหมู่บ้านได้ครอบคลุมทั้งหมู่บ้าน เช่น กรณีหมู่บ้านที่มีขนาดใหญ่ และพ้นื ทีม่ ากสามารถนาปญั หาตา่ ง ๆ ไปพฒั นา และแก้ไขไดต้ รงเป้าหมาย (๒) ขอเสนอให้นายกองค์การบริหารส่วนตาบลสามารถดารงตาแหน่งหลายวาระได้ เพ่ือความต่อเน่ืองการบริหารงานและมีประสิทธิภาพในการบริหารงานขององค์กรปกครอง ส่วนทอ้ งถนิ่ (๓) อยากให้ทางกรมธนารักษ์รับผิดชอบดูแลพ้ืนท่ีราชพัสดุดังกล่าวแทนเทศบาลเมือง สุโขทัยธานีเพราะทางเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีไม่สามารถท่ีจะพัฒนาทรัพย์สินนั้นได้ หรือจะให้ ทางเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีเป็นผู้รับผิดชอบก็ได้ เพื่อลดปัญหาความซ้าซ้อนในการบริหาร จัดการ ๘. ประเดน็ แหลง่ ทอ่ งเทีย่ ว ๑) ปญั หาการแก้ไขพระราชบัญญัติโบราณสถาน ๒) ปัญหาเรื่องกฎหมายซา้ ซอ้ นหลายฉบบั ของแต่ละหนว่ ยงาน ๓) ปัญหามัคคุเทศก์ท้องถ่ิน เน่ืองจากเขตตาบลเมืองเก่า เป็นพ้ืนท่ีท่องเที่ยวเมืองมรดก โลก มัคคุเทศก์ท้องถ่ินซ่ึงผ่านการอบรมแล้ว สามารถนาเท่ียวชมสถานท่ีต่าง ๆ ได้ แต่ปัจจุบันยัง ไม่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพ่ือรองรับอาชีพมัคคุเทศก์อย่างถูกต้องจึงทาให้ไม่สามารถ ปฏบิ ตั งิ านได้

๓๘ ๔) ปัญหาการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากการเสนอข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง ของสอ่ื มวลชน เนื่องจากการท่องเท่ียวไดร้ ับผลกระทบเป็นอย่างมากจากปัญหาอุทกภยั ครั้งท่ีผา่ นมา โดยส่ือมวลชนนาเสนอข่าวว่าจังหวัดสุโขทัยมีปัญหาอุทกภัยวิกฤตร้ายแรง แต่ในความจริงแล้ว เกิดปัญหาอุทกภัยในเขตตาบลธานี ซ่ึงเป็นพ้นื ท่ีต้ังของศาลาวา่ การจังหวัดสุโขทัย แต่ไม่ได้ส่งผล กระทบถึงตาบลเมืองเก่าซึง่ เปน็ แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตรแ์ ต่อยา่ งใด ๕) ปัญหาการบรหิ ารจัดการมรดกโลก เนื่องจากรัฐบาลได้อนุมัตงิ บประมาณในการสร้าง หอจดหมายเหตุแห่งชาติท่ีจังหวัดพะเยา ขณะที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยมีเอกสารท่ีต้อง เก็บรักษาเป็นจานวนมาก ควรมีการสร้างหอจดหมายแห่งชาติที่จังหวัดสุโขทัย เพ่ือรักษาเอกสาร ของอาณาจักรสโุ ขทัยเกา่ มิใหเ้ อกสารเสียหายและชารุด ๖) ปัญหาเรื่องระบบการขนส่งเพ่อื การทอ่ งเทย่ี ว ๗) การสนบั สนุนระบบการดูแลความปลอดภัยและระบบกชู้ ีพ ๘) ปญั หาเรอื่ งการบูรณะซอ่ มแซมโบราณสถาน ๙) ปัญหาเรื่องการขอเลขที่บ้าน เนื่องจากปัจจุบันบ้านพักอาศัยในเขตอุทยานนั้น หากต้องการขอเลขท่ีบ้านจะได้เป็นเลขที่บ้านชั่วคราวเท่านั้น จึงอยากทราบว่าจะมีผลในทางปฏิบัติ อยา่ งไรกบั ชุมชนต่อไป ๑๐) ปัญหาเรื่องการไม่รับจดแจ้งขึ้นทะเบียน ปัจจุบันอาเภอไม่รับจดแจ้งข้ึนทะเบียน ในธุรกิจด้านท่ีพัก เช่น โรงแรม รีสอร์ท เกสต์เฮาส์ และโฮมสเตย์ โดยให้เหตุผลว่าไม่มีเอกสารสิทธิ ถือครองทีด่ ิน ความต้องการและข้อเสนอแนะของประชาชน (๑) การแก้ไขพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑ์สถาน แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ขอให้แก้ไขเพ่ิมเติม พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ควรได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะมาตรา ๔ นิยาม โบราณสถานให้รวมถงึ เขตอทุ ยานประวัติศาสตรเ์ ปน็ โบราณสถานดว้ ย (๒) ปญั หาเร่อื งกฎหมายซ้าซ้อนหลายฉบับของแต่ละหนว่ ยงาน อยากให้มีการบูรณาการ ร่วมกันเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของคนในท้องถ่ิน เช่น การก่อสร้างที่อยู่อาศัย เอกสารสิทธิ ในท่ีดนิ การขออนญุ าตประกอบการทีพ่ ักโรงแรม

๓๙ (๓) อยากให้มีการส่งเสริมการท่องเท่ียวโดยชุมชน โดยกาหนดให้องค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ินที่มีโครงการศึกษาดูงาน เน้นการศึกษาดูงานชุมชนที่ประสบความสาเร็จด้าน การทอ่ งเท่ียวเพ่อื เป็นการกระจายรายได้ส่ชู มุ ชน (๔) การสนับสนุนงบประมาณในการจัดทาระบบ CCTV อยากให้ภาครัฐให้ความสาคัญ แหล่งท่องเท่ียวท่ีเป็นเมืองมรดกโลก ในการสนับสนุนด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเท่ียว โดยจดั งบประมาณเพื่อจัดทาระบบกล้อง CCTV ระบบใหญ่ระบบเดียวท้ังเมือง และให้ทางสถานี ตารวจภธู รเมืองเก่าเปน็ ผู้ดูแล พร้อมงบประมาณในการซอ่ มบารงุ ด้วย (๕) ขอเสนอให้สร้างหอจดหมายเหตแุ หง่ ชาติท่จี งั หวัดสโุ ขทัย (๖) อยากให้มีการพัฒนาระบบการขนส่งเพื่อการท่องเท่ียวท้องถ่ินและการท่องเท่ียว ชมุ ชนใหค้ รอบคลมุ (๗) อยากให้สนับสนุนงบประมาณเพ่ือส่งเสริมระบบการดูแลความปลอดภัยและระบบ กชู้ ีพให้กับตารวจท่องเท่ียว อาสาสมคั ร และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ (๘) ขอใหจ้ ัดอบรมเพ่อื เพมิ่ จานวนมคั คุเทศกท์ อ้ งถ่ิน (๙) ขอสนบั สนุนป้ายและข้อมลู สารสนเทศให้กบั นักท่องเท่ียว อยากใหม้ ีขอ้ มลู สารสนเทศ เช่น ป้ายบอกทาง ตารางการเดินรถประจาทางที่ถูกต้องให้กับนักท่องเท่ียวทั้งคนไทยและ คนตา่ งชาติ (๑๐) อยากให้มกี ารบูรณะซอ่ มแซมโบราณสถานท่ีชารดุ ทรดุ โทรมโดยอ้างองิ จากหลักฐาน เดิมของกรมศลิ ปากร และดาเนินการโดยชา่ งศิลปากร (๑๑) อยากให้อาเภอรับจดแจ้งข้ึนทะเบียนในธุรกิจด้านท่ีพัก เช่น โรงแรม รีสอร์ท เกสตเ์ ฮาส์ และโฮมสเตย์ ใหถ้ ูกตอ้ งตามกฎหมาย ข้อคิดเห็นของสมาชกิ วฒุ ิสภา ประชาชนได้รับทราบถึงบทบาทหน้าที่และอานาจของสมาชิกวุฒิสภา วัตถุประสงค์ของ โครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน ตลอดจนประชาชนมีความต่ืนตัว ต้อนรับการเข้ามาในพื้นท่ี สมาชิกวุฒิสภามีส่วนร่วมในการเสนอประเด็นปัญหา ข้อคิดเห็นต่อความต้องการให้ภาครัฐ ปรับปรุงแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ข้อร้องเรียน ตลอดจนขอ้ เสนอแนะต่าง ๆ ซ่ึงวุฒสิ ภาได้นา ข้อคิดเห็นและเสนอแนะเหล่านั้นกลับมาสู่กระบวนการของวุฒิสภาตามบทบาท หน้าที่และ อานาจตอ่ ไป

๔๐ ที่มา : โครงการสมาชิกวฒุ ิสภาพบประชาชน วนั ท่ี ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๖๒ และวนั ที่ ๔ ธนั วาคม ๒๕๖๒ วิธีการ : จัดประชมุ จัดเวทีเสวนา ลงพื้นทพ่ี บปะผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ผ้แู ทนภาคเอกชน หัวหน้าสว่ นราชการ กานนั ผใู้ หญบ่ ้าน เกษตรกร สอื่ มวลชน และประชาชนในพืน้ ที่ สถานท่ี : ศาลากลางจังหวัดสโุ ขทัย, หอประชุมตึกอานวยการวทิ ยาลยั สารพดั ชา่ งสโุ ขทยั , อทุ ยานประวัตศิ าสตรส์ โุ ขทัย และสานกั งานสาธารณสขุ จังหวดั สโุ ขทัย

๔๑ พจิ ติ ร การรบั ฟังความคดิ เห็นของประชาชน ๑. ประเด็นการบริหารจัดการนา้ ๑) เน่ืองจากเป็นระยะเวลา ๓๐ ปีแล้วที่หนองหวายไม่ได้ขุดลอกมานานแล้ว จึงทาให้ ปจั จุบันเกิดการต้ืนเขิน มีปัญหาน้าทว่ มและน้าแล้งทุกปี โดยมีการเสนอแผนพัฒนาทุกปีแต่ไม่ได้ รับงบประมาณดังกล่าว หนองหวายมีพ้ืนท่ี ๑๕ ไร่ อยู่ในเขตองค์การบริหารส่วนตาบลท้ายน้า อ.โพทะเล จ.พิจติ ร ๒) การบริหารจัดการน้าในบึงสรรพงาย และปัญหาการครอบครองท่ีดินทับซ้อนพ้ืนที่ ป่าดงกุรัง โดยข้อมลู พ้ืนฐานของตาบลท่าบวั มีพื้นทท่ี ้ังหมดประมาณ ๒๘,๘๖๐ ไร่ เป็นท่ีราบลุ่ม ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทานา ทาสวน ราษฎรจานวน ๒,๑๘๒ ครัวเรือน ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ๑,๔๗๐ ครัวเรือน (ประมาณ ๙๐%) อยู่ในเขตจัดรูปฯ การใช้พ้ืนท่ี เพื่อการเกษตรกรรมเท่านั้น ๑๓ หมบู่ า้ นใช้นา้ บาดาล เพราะพน้ื ท่อี ยู่ปลายคลองสง่ น้าทาใหน้ ้าส่ง ไม่ถึงตลอดริมคลองแม่น้าพิจิตรท้งั ๒ ฝั่ง (๑๒ กิโลเมตร) เป็นสวนมะนาวและส้ม เม่ือปี ๒๕๕๘ ประสบปัญหาแม่น้าพิจิตรเริ่มแห้ง ซึ่งทุกปีจะมีน้าหล่อเลี้ยงตลอดท้ังปี ล่าสุดเม่ือวันที่ ๑๓ พ.ย. ๒๕๖๒ ท่ีประชุมโครงการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้าประจาปี ๒๕๖๓ (ความร่วมมือ ทบ.– มูลนิธิ อุทกพัฒน์ฯ) ท่ีประชุมหารือเร่ืองแก้มลิงบึงสรรพงาย สาเหตุที่ประชุมเล่ือนแผนขุดแก้มลิง มาหลายคร้ัง สรุปอนุมัติให้ ช.พัน ๘ พล.ม.๑ เป็นหนว่ ยสารวจขุดลอกบึงสรรพงาย ตาบลท่าบัว ส่วนที่ ๑ ผลการสารวจโครงการปรบั ปรงุ ฟ้นื ฟูแหล่งน้าลุ่มน้ายมให้ดาเนินการขุดลอกในปี ๒๕๖๓ วงเงนิ ๙,๙๘๒,๐๗๕ บาท ๓) ปัญหาน้าท่วม น้าแล้ง ในพ้ืนที่ฝ่ังตะวันออกของแม่น้าน่านได้เกิดภัยพิบัติซ้าซาก หลายครั้ง ซ่ึงพ้ืนที่ดังกล่าวจะเป็นพ้ืนที่รับน้าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ในฤดูฝนหรือฤดูน้าหลาก จะทาให้เกิดน้าท่วมเป็นประจา และในฤดูแล้งพื้นท่ีบริเวณดังกล่าวก็จะแห้งแล้งมาก ทาให้ ประชาชนได้รับความเดอื ดรอ้ น ๔) การขาดแคลนน้าทาการปลูกข้าว และพืชผลทางการเกษตร ในพื้นที่จังหวัดพิจิตร นอกเขตชลประทาน ประชาชนในพ้ืนท่ีจะทาการเกษตรแต่ในช่วงฤดแู ล้งน้าจากเขตชลประทาน จะไมเ่ พียงพอต่อพืชผลทางการเกษตร ทาให้ประชาชนในพื้นท่ีไม่สามารถทาการเกษตรได้ตลอด ทั้งปี จึงต้องอพยพไปทางานในต่างพ้ืนท่ี หากส่วนราชการท่ีเก่ียวข้องมีมาตรการในการบริหาร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook