Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ทัศนศิลป์ ม.4

ทัศนศิลป์ ม.4

Published by yungseemuangjai, 2019-12-03 01:29:29

Description: อจท. ทัศนศิลป์ ม.4

Search

Read the Text Version

จานสี มีหลายขนาดและ หลายแบบ อาจเป็ นวสั ดุท่ีทาํ จาก เซรามิก หรื อพลาสติก สีน้ําไม่ สามารถซึมเขา้ เน้ือจานได้ โดยจาน จะมีช่องหลายช่องสําหรับผสมสี โ ด ย ท่ัว ไ ป จ า น จ ะ มี สี ข า ว เ พื่ อ ใ ห้ สามารถมองเห็นสีที่ผสมสีได้ง่าย ข้ึน

กระดาษเขียนสีนํา้ กระดาษเขียนสีน้าํ จะมีความหนาเรียกเป็นปอนด์ เช่น ๑๐๐ ปอนด์ ๑๘๐ ปอนด์ ๒๐๐ ปอนด์ เป็ นตน้ บางทีก็เรียกความหนาของกระดาษเป็ นแกรม เช่น ๘๐ แกรม ๑๐๐ แกรม ๑๘๕ แกรม เป็ น ตน้ กระดาษวาดเขียนปกติจะมีผิวหยาบดา้ นหน่ึงและเรียบดา้ นหน่ึง ซ่ึงดา้ นหยาบจะเป็ นดา้ นที่ใชส้ าํ หรับ การลงสี

พู่กนั พกู่ นั ระบายสีน้าํ จะมีลกั ษณะแตกต่างกนั ออกไป โดยทวั่ ไปจะใชแ้ ค่พกู่ นั กลมและพกู่ นั แบน พ่กู นั แบน มีท้งั ขนแปรงอ่อนและขนแปรง พู่กนั กลม มีขนแปรงอ่อน เหมาะสาํ หรับ แข็ง ขนแปรงอ่อนใช้กบั สีน้ําและสีโปสเตอร์ ใชก้ บั สีน้าํ และสีโปสเตอร์ ส่วนขนแปรงแขง็ เหมาะสาํ หรับใชก้ บั สีน้าํ มนั

การรับรู้สู่การสร้างสรรค์ผลงาน ก า ร ส ร้ า ง ส ร ร ค์ ผ ล ง า น เป็ นการถ่ายทอดความคิดและ ความรู้สึกของผูว้ าดภาพ ด้วย เน้ือหาและเทคนิควิธีการแบบ ต่างๆ เพ่ือสื่อความหมายให้ ผูอ้ ่ืนรับรู้ได้ ผลงานท่ีปรากฏ ยอ่ มแสดงใหเ้ ห็นถึงส่ิงที่ศิลปิ น ได้รับรู้ และประสบการณ์ท่ี ผา่ นมาของศิลปิ น

การรับรู้สู่การสร้างสรรคผ์ ลงานสามารถแสดง ใหเ้ ห็นกระบวนการท่ีเป็นข้นั ตอนได้ ดงั ต่อไปน้ี ประสาทสัมผัสของการรับรู้ (The Senses of Perception) ประสาทสัมผสั ท้งั ๕ คือ รูป รส กล่ิน เสียง และสัมผสั การรับรู้เกิดจากการท่ีบุคคลไดส้ ัมผสั สิ่ งแวดล้อมรอบๆ ตัวในสภาวการณ์ต่างๆ จน เกิดปฏิกิริยาตอบสนองต่อส่ิงเร้าน้นั ๆ

ศิลปิ น (The Artist) หรือ ผปู้ ฏิบตั ิงานสร้างสรรคภ์ าพเขียนเมื่อ ได้รับการรับรู้จากประสาทสัมผสั แลว้ สมองก็ประมวลปรากฏการณ์ ทั้ง ห ม ด ป ร ะ ส า น สั ม พัน ธ์ กับ สุนทรียภาพส่วนบุคคลเป็ นความคิด หรือมโนคติ ดา้ นแสง - เงา สี รูปร่าง รู ปทรง ความประทับใจความ- เคลื่อนไหว การแสดงออก ซ่ึ ง นําไปสู่ การตัดสิ นใจและเลือก วธิ ีการถ่ายทอดผลงาน

วิธีการ (Method) เป็ นข้นั ตอนหลงั จากเกิดความนึกคิดแลว้ ศิลปิ น หรือผูส้ ร้างงานศิลปะน้ีจะ เลือกสรรจนไดว้ ิธีการว่าควรส่ือดว้ ยวสั ดุประเภทใด จึงจะเกิดรูปแบบตามท่ีมองเห็น หรือตามความรู้สึก ถ่ายทอดเป็นภาพ ๒ มิติ เป็นกรอบความคิดท่ีชดั เจนแน่นอน

ภาพเขยี นสีนํา้ (The Water Color) เป็นข้นั ตอนสุดทา้ ยที่จะนาํ ไปสู่ผลลพั ธ์ท่ีได้ ซ่ึงกค็ ือ การสร้างสรรคผ์ ลงานภาพเขียนสีน้าํ ดว้ ยการถ่ายทอดความคิดรวบยอดท่ีประกอบดว้ ย การผสานของมือ ตา ความคิดสร้างสรรค์ สื่อวสั ดุ และอื่นๆ ออกมาเป็นภาพที่ผสมกลมกลืน เป็นอยา่ งดี

เทคนิคการระบายสีน้าํ การระบายสีน้าํ เป็ นลกั ษณะเฉพาะของชนิดสีที่ตอ้ งเก่ียวขอ้ งกบั ความขน้ ความเหลวจากการ ใชน้ ้าํ ในการละลายสี ผปู้ ฏิบตั ิควรฝึ กฝนอยา่ งจริงจงั ในการผสมสีกบั น้าํ และทดลองเทคนิควิธีการ ต่างๆที่เก่ียวขอ้ งกบั การระบายสีน้าํ

เทคนิคการระบายสีน้าํ สามารถแบ่งออกไดเ้ ป็น ๔ ชนิด ดงั น้ี การระบายสีแบบเปี ยกบนเปี ยก (Wet into Wet) การใชพ้ กู่ นั จุ่มน้าํ ระบายบนกระดาษวาดเขียนก่อน จากน้นั จึงใชพ้ กู่ นั จุ่มสีที่ผสมกบั น้าํ ค่อนขา้ งเหลวระบายลงไปบนกระดาษท่ียงั เปี ยกน้าํ อยู่ ภาพท่ีปรากฏจะแสดงใหเ้ ห็น ความชุ่มและซึมของสีแต่ละสี ในระหวา่ งระบายสีหากเอียงกระดานใหท้ าํ มุมสีกจ็ ะมีการไหลยอ้ นทบั กนั การระบาย สีลกั ษณะน้ี จะนิยมระบายมากในภาพส่วนที่เป็นทอ้ งฟ้ าน้าํ หรือผวิ วสั ดุที่เป็นมนั

การระบายสีแบบเปี ยกบนแห้ง (Wet into Dry) การระบายสีบนกระดาษท่ีไม่ตอ้ งลงน้าํ ก่อน คาํ วา่ เปี ยก คือ พกู่ นั กบั สีค่อนขา้ งเหลว ส่วนแหง้ คือ แผน่ กระดาษ เป็นการระบายเรียบสีเดียว หรือหลายสี

การระบายสีแบบแห้งบนแห้ง (Dry into Dry) หมายถึง การระบายสีที่ใชพ้ ู่กนั จุ่มสีท่ีผสมไว้ ค่อนขา้ งขน้ ระบายบนกระดาษ การระบายแบบน้ีมีประโยชน์ในการเน้นส่วนใดส่วนหน่ึงหรือบริเวณท่ี เห็นว่าควรทาํ ให้เด่นชัด อีกเทคนิคหน่ึงท่ีเป็ นการระบายสีแบบแห้งบนแห้ง คือ การผสมสีที่ระบาย ค่อนขา้ งขน้ ระบายสีลงบนสีท่ีระบายก่อนและแห้งแลว้ เป็ นการระบายสีใหม่แห้งๆ ทบั ลงไปจนเกิดเป็ น ร่องรอยพกู่ นั แหง้ ๆ

การระบายสีแบบแห้ งบน เปี ยก (Dry into Wet) การระบายสี ท่ีผสมไวค้ ่อนขา้ งขน้ ระบายลงบน กระดาษที่เปี ยกอยู่ เทคนิคน้ีจะทาํ ให้สีกระจายออกไปเองตามพ้ืนที่ที่ เปี ยก สีบางส่วนก็จะเกิดการซึม ผสมกันเองด้วย เช่น การระบาย ต้นไม้ให้กลืนกับท้องฟ้ า หรือให้ ซึมเขา้ หาทอ้ งฟ้ าบางส่วน

เทคนิคการระบายโปสเตอร์ การระบายสีจาก ๔ แบบน้ี เมื่อนาํ มา สร้างสรรค์ภาพไม่ใช่ว่าจะสามารถแยก เทคนิคออกจากกนั เป็ นแบบๆ จาํ เป็ นตอ้ ง ใช้เทคนิคท้ัง ๔แบบผสมผสานกันไป ข้ึนอยู่กบั บริเวณของส่วนน้ันๆ โดยตอ้ งดู วา่ ใชเ้ ทคนิคใดจึงจะเหมาะสมดว้ ย

เทคนิคการเขียนภาพสีโปสเตอร์ เป็นเทคนิคการใชส้ ีท่ีมีความแตกต่างจากการใชส้ ีน้าํ สีโปสเตอร์ เป็นสีทึบแสงท่ีมีเน้ือสีหนา การสร้างสรรคผ์ ลงานจึงง่ายสาํ หรับผเู้ ริ่มเรียนศิลปะใหม่ๆเพราะจะเป็น การระบายสีท่ีเรียบๆและสดใส

สีโปสเตอร์จัดว่าเป็ นสีที่เหมาะสมแก่ การฝึกระบายสีท่ีสุด เพราะสีโปสเตอร์เป็นสีที่ ไม่ซึมกระดาษเหมือนสีน้าํ จึงสามารถใชพ้ ่กู นั ขนาดเลก็ สาํ หรับตกแต่งรายละเอียด หรือเขียน เส้นไดง้ ่ายกวา่ ลายเส้นที่เขียนมีความทึบแสง อย่างเห็นได้ชัด การลงสีไม่ตอ้ งใช้ความรีบ ร้อนเหมือนสีน้าํ สีโปสเตอร์จึงเหมาะสาํ หรับ การฝึกทกั ษะระบายสีใหเ้ นียนเรียบ

การเขียนภาพดว้ ยสีโปสเตอร์ มีเทคนิคที่ไม่มากนัก ไม่มีความซับซ้อน ของวิธีการมากเท่าใด อาศัยการฝึ กปฏิบัติ บ่อยคร้ังก็สามารถจะเขา้ ใจถึงวธิ ีการท่ีเหมาะสม กบั คุณลกั ษณะของสีโปสเตอร์

ภาพเขียนแต่ละภาพจะประกอบไปด้วย รูปร่าง รูปทรง แสง - เงา เม่ือระบายดว้ ยสี สีจะทาํ หน้าที่ให้น้ําหนักอ่อน - แก่ สว่าง หรื อมืด หลกั การคือ ตอ้ งเรียนรู้การไล่น้าํ หนกั ก่อน เม่ือมี ความชาํ นาญแลว้ จึงจะสามารถแสดงออกมาได้ ตามความตอ้ งการ

การเขียนภาพด้วยสี โปสเตอร์ เพ่ือ ถ่ายทอดเร่ืองราวจินตนาการ ภาพธรรมชาติ ภาพหุ่นน่ิง เป็ นการสร้างภาพตามแนวทางของ แต่ละคน ผูป้ ฏิบตั ิจึงตอ้ งฝึ กการใชส้ ีโปสเตอร์ ในข้นั พ้นื ฐานใหด้ ีก่อน

สื่อ วสั ดุ อุปกรณ์ทใี่ ช้ในการเขยี นภาพสีโปสเตอร์ วสั ดุ อุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการเขียนภาพสีโปสเตอร์ จะเหมือนอุปกรณ์ท่ีใชก้ บั สีน้าํ ไดแ้ ก่ กระดาษวาดเขียน สีโปสเตอร์ พ่กู นั เบอร์ ๑๒, ๖, ๓ ดินสอร่างภาพ ยางลบ กระดานรองเขียน สีโปสเตอร์ท่ีมีขายส่วนใหญ่ จะ บรรจุขวด ผงสีของโปสเตอร์จะมีความละเอียดนอ้ ยกวา่ สีน้าํ เราสามารถควบคุมความเขม้ ของสีไดด้ ว้ ยการ เติมสีขาว

การไล่นํา้ หนักของสีโปสเตอร์ แบ่งออกเป็น ๒ วธิ ี ดงั น้ี - การไล่นํ้าหนักแบบสีเดียว เป็ นการไล่โทนสีโดยการผสมกบั สีขาว โดยหากผสมสีขาวมากสีก็จะมี ความเขม้ ขน้ นอ้ ย แต่หากผสมสีขาวนอ้ ยสีท่ีไดก้ จ็ ะมีความเขม้ ขน้ มาก

การไล่นํ้าหนักแบบหลายสี เป็ นการใช้สีท่ีมีความเข้มต่างกันมาจัดวางด้วยกัน โดยการใช้วงสี ธรรมชาติซ่ึงมีท้งั วรรณะอุ่นและวรรณะเยน็ หากตอ้ งการให้สีอ่อนลงสามารถทาํ ไดโ้ ดยการผสมกบั สีขาว แต่หากตอ้ งการทาํ ให้สีเขม้ ข้ึนก็สามารถทาํ ไดโ้ ดยการผสมสีดาํ หรือสีคู่ตรงขา้ ม เทคนิคการไล่สีหากผฝู้ ึ ก ปฏิบตั ิฝึกจนเขา้ ใจพ้ืนฐานแลว้ กจ็ ะสามารถนาํ ความรู้ท่ีไดไ้ ปสร้างสรรคผ์ ลงานอ่ืนไดต้ ามตอ้ งการ

เทคนิคผสมในการเขยี นภาพ รูปแบบการสร้างสรรคผ์ ลงานเทคนิคแบบผสม ผปู้ ฏิบตั ิสามารถสร้างสรรคจ์ นไดร้ ูปแบบที่มี ความหลากหลาย เพราะเป็นศิลปะท่ีไม่มีการจาํ กดั วธิ ีการ แต่จะข้ึนอยกู่ บั กระบวนการปฏิบตั ิ ประสบการณ์ ความรู้ความเขา้ ใจพ้นื ฐานของแต่ละคน

เทคนิคผสมในการเขียนภาพ ตอ้ งประกอบไปดว้ ยส่วนประกอบสาํ คญั ดงั น้ี เทคนิคผสมในการเขยี นภาพ ๑. แนวคิดในการสร้างสรรคผ์ ลงานเทคนิคแบบผสม ๒. วตั ถุประสงคข์ องงานท่ีตอ้ งการสร้างสรรค์ ๓. เทคนิคในการทาํ งาน ๔. คุณคา่ ทางสุนทรียภาพ

แนวคิดในการสร้างสรรคผ์ ลงานเทคนิคแบบผสม การดาํ เนินกิจกรรมใดๆ ตอ้ งมีแนวคิด หรือหลกั การ เพื่อแสดงทิศทางและความสามารถในการ ปฏิบตั ิ เพ่ือบรรลุวตั ถุประสงค์ท่ีวางไว้ แนวคิดจึงเป็ นส่วนสําคญั ท่ีจัดได้ว่าเป็ นหัวใจในการทาํ งาน ทศั นศิลป์

วตั ถุประสงคข์ องงานท่ีตอ้ งการสร้างสรรค์ ผปู้ ฏิบตั ิตอ้ งศึกษาถึงวตั ถุประสงคใ์ นการทาํ งานใหล้ ะเอียดและดาํ เนินการใหส้ อดคลอ้ ง ตามวตั ถุประสงคท์ ่ีวางไว้ เช่น ตนเองตอ้ งการดดั แปลงงานศิลปะของศิลปิ นท่านอื่น หรือ ตอ้ งการสร้างสรรคง์ านท่ีมีรูปแบบเฉพาะตวั เพ่ือใหเ้ กิดเป็นรูปแบบของลกั ษณะงานประยกุ ตศ์ ิลป์

เทคนิคในการทาํ งาน ความถนดั ของแต่ละบุคคลข้ึนอยู่ กับการขยนั หมั่นฝึ กฝนและเลือกฝึ ก ปฏิบตั ิดว้ ยเทคนิคที่หลากหลาย โดยไม่ จาํ เพาะเจาะจงแค่ประเภทใดประเภท หน่ึง ซ่ึงสามารถศึกษาไดจ้ ากส่ิงต่างๆ เหล่าน้ี ๑. วสั ดุท่ีเหมาะสม ๒. เครื่องมือท่ีถูกตอ้ งกบั งาน ๓. กระบวนการและ ลาํ ดบั ข้นั ตอนท่ี ถูกต้องซ่ึ งแตกต่างไปตามสี แต่ละ ประเภท

คุณค่าทางสุนทรียภาพ คุณค่าทางสุนทรียภาพ คือ ความ ง ด ง า ม ท า ง อ ง ค์ป ร ะ ก อ บ ต่ า ง ๆ ท่ี เกี่ยวขอ้ ง ในดา้ นของทฤษฎีความงาม คุณค่าทางสุนทรียภาพมีองคป์ ระกอบที่ เก่ียวขอ้ ง ดงั ต่อไปน้ี ๑. ทัศนธาตุ ได้แก่ เส้น สี รูปร่ าง รูปทรง น้าํ หนกั ๒. คุณค่าทางสุนทรียศาสตร์ มีส่วน สัด ความสมดุล ความกลมกลืน จุดเด่น จุดสนใจ เป็นตน้ ๓.ใชว้ สั ดุไดอ้ ย่างเหมาะสมกบั หน้าท่ี ใชส้ อย

เทคนิคการป้ันรูปนูนต่าํ การป้ันรูปนูนต่าํ (Base – Relief) เป็นเทคนิคพ้นื ฐานแบบง่ายๆ ที่ตอ้ งการใหผ้ เู้ รียนรู้จกั การเนน้ ความสาํ คญั ของความสูง - ต่าํ ระหวา่ งรูปและพ้ืนเพียงเลก็ นอ้ ย

๒. การสร้างสรรค์งานทศั นศิลป์ ประเภทประตมิ ากรรม งานประติมากรรม เป็ น ผลงานทศั นศิลป์ อีกประเภทหน่ึง ที่มีคุณค่าและมีความสําคัญต่อ สังคม โดยเฉพาะการสร้างงาน ประติมากรรมเพื่อรับใช้สังคม เช่น การประดับอาคารสถานท่ี ก า ร ส ร้ า ง อ นุ ส ร ณ์ ส ถ า น บุ ค ค ล สําคัญ ซ่ึงผลงานแต่ละชิ้นจะมี เทคนิค กรรมวิธีที่มีความเป็ น ลักษณะเฉพาะ ท้ังการป้ัน การ- แกะสลกั โดยอาจมีการใชม้ ือ หรือเคร่ืองมือผสมผสานกนั ไป

ข้นั ตอนในการป้ันรูปนูนต่าํ สามารถแบ่งออกไดเ้ ป็น ๖ ข้นั ตอน ดงั ต่อไปน้ี ข้นั ท่ี ๑ เตรียมวสั ดุ อุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการป้ันใหพ้ ร้อม จากน้นั นาํ ดินที่ใชป้ ้ันมานวดให้เขา้ กนั คดั เลือกวสั ดุท่ี ปนมากบั ดินออกให้หมด เพื่อไม่ให้ทาํ อนั ตรายกบั ผปู้ ้ันและอาจทาํ ให้ผิวดินไม่เรียบเม่ือป้ันเสร็จ นวดดิน จนกวา่ จะมีความอ่อนนิ่ม ไม่เปี ยก หรือแขง็ จนเกินไป

ข้นั ที่ ๒ นาํ ดินเหนียวท่ีนวดไวม้ าคลึงให้เป็ นแผน่ แบนๆ ดว้ ยไมห้ นา้ กลม กดน้าํ หนกั มือบนไมห้ นา้ กลมให้ เสมอกนั ท้งั สองดา้ น จนหน้าดินมีขนาดหนาตามที่ตอ้ งการ จากน้ันตดั ขอบดินท้งั ส่ีด้านให้ไดข้ นาดที่ ตอ้ งการ

ข้นั ที่ ๓ ร่างภาพที่ตอ้ งการจะทาํ ลงบนกระดาษ ก่อนปฏิบตั ิจริงบนดินเหนียว

ข้นั ที่ ๔ ใชเ้ ครื่องมือปลายแหลม ร่างเคา้ โครงรวมๆ ตามภาพที่ออกแบบไว้

ข้นั ที่ ๕ ใชเ้ ครื่องมือป้ัน ปาด ขดู แกะ ตกแต่งส่วนของภาพร่างใหล้ ึกต้ืนตามแบบร่าง

ข้นั ที่ ๖ ตกแต่งรายละเอียดใหม้ ีความชดั เจน ปาดดินเหนียวออกในส่วนท่ีไม่ตอ้ งการ และพอกเพิม่ ในส่วน ท่ีตอ้ งการป้ันแต่ง

เทคนิคการป้ันรูปนูนสูง การป้ันรูปนูนสูง (High – Relief) เป็นประติมากรรมท่ีมีความแตกต่างระหวา่ งรูปและฐานรองรับใน ระดบั ความสูงท่ีมากกวา่ รูปนูนต่าํ จนสามารถสมั ผสั และชื่นชมความงามไดท้ ้งั ดา้ นหนา้ และดา้ นขา้ ง

ข้นั ตอนในการป้ันรูปนูนสูงสามารถ แบ่งออกไดเ้ ป็น ๔ ข้นั ตอน ดงั ต่อไปน้ี ข้นั ท่ี ๑ จดั เตรียมส่วนของฐานรองรับใหเ้ รียบร้อย โดยการเตรียมดิน นวดดิน คลึงดินใหเ้ ป็นแผน่ ปรับผวิ หนา้ ดินใหเ้ รียบเสมอกนั จากน้นั ใชม้ ีดตดั ดินเหนียวใหไ้ ดข้ นาดตามที่ตอ้ งการ

ข้นั ที่ ๒ ร่างภาพตามแบบร่างตน้ แบบท่ีออกแบบไวล้ งบนแผน่ ดิน แลว้ ตดั ดินตามขนาดที่วางแผนไว้

ข้นั ท่ี ๓ นาํ รูปทรงท่ีตดั ไวต้ ามแบบร่างตน้ แบบไปติดลงบนแผน่ พ้นื หรือฐานรองรับ ควรทาํ ริ้วรอยลงไปบน แผน่ รูปดา้ นหลงั และบนแผน่ พ้ืนที่จะนาํ รูปทรง ลงไปติด เพื่อใหร้ ูปทรงของรูปภาพ กบั แผน่ พ้ืนติดกนั ไดด้ ี

ข้นั ที่ ๔ แกะลวดลาย เสริมทรวดทรงใหม้ ีความสมบูรณ์ โดยใชเ้ คร่ืองมือคอ่ ยๆ ปรับส่วนสูง ส่วนแบน และ ส่วนกลมใหไ้ ดร้ ูปทรงตามตอ้ งการ ข้นั สุดทา้ ยใหใ้ ชน้ ้าํ ค่อยๆ ทาลงไปบนพกู่ นั เพอ่ื เป็นตวั ทาํ ละลายส่วน ผวิ หนา้ ของดิน ใหค้ ่อยๆ เรียบเสมอกนั

เทคนิคการป้ันรูปลอยตวั รูปลอยตวั เป็นประติมากรรมท่ีสามารถมองเห็นไดท้ ุกดา้ น หรือ รอบดา้ น เช่น อนุสาวรียพ์ ระพทุ ธรูป การป้ันรูปลอยตวั จะต่างไปจากการป้ันรูปนูนต่าํ และนูนสูงตรงที่ไม่ตอ้ งมีพ้ืนเป็ นตวั รองรับรูปทรง ซ่ึง รูปทรงสามารถเติบโต หรือขยายไปไดโ้ ดยรอบ

ข้นั ตอนในการป้ันรูปลอยตวั สามารถ แบ่งออกได้เป็ น ๕ ข้ัน ดงั ต่อไปน้ี ข้นั ท่ี ๑ เตรี ยมโครงสร้างด้วยเส้น โลหะ ให้มีขนาดตามสัดส่วนของ รูปลอยตวั ท่ีจะป้ัน โดยการนําเส้น โลหะมาดดั ให้ส่วนปลายงอเป็ นมุม ฉากแล้วนํามาตอกตะปูติดไว้กับ ฐาน เพื่อใหด้ ินท่ีจะทาํ การป้ันยดึ กบั โครงสร้างได้มั่นคง จากน้ันให้ เตรียมทาํ ไมก้ ากบาทหลายๆ อนั ผกู ติดไวก้ บั โครงสร้าง

ข้นั ท่ี ๒ ใชด้ ินเหนียวค่อยๆ พอกลงไปที ละนอ้ ยบนโครงสร้างตอนบน

ข้นั ที่ ๓ ทดลองหาตาํ แหน่งรูปใบหน้า ของมนุษย์ ว่าต้ังอยู่ส่วนใดของ รูปทรง ลองข้ึนรูปอยา่ งง่ายๆ และ กาํ หนดส่วนของหู ตา คอ จมูกให้ ไดต้ าํ แหน่งของความเป็นจริง

ข้นั ท่ี ๔ ตกแต่งป้ันรายละเอียด ให้เกิด ความสมบูรณ์และถูกต้อง ดู ความสัมพันธ์ของรู ปด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังว่าได้ สดั ส่วนหรือไม่

ข้นั ที่ ๕ ตกแต่งและเกบ็ รายละเอียดงาน ป้ันท้งั หมดใหเ้ สร็จสมบูรณ์

๓. การสร้างสรรค์งานทศั นศิลป์ ประเภทการ์ตูน การ์ตูนเป็ นงานทศั นศิลป์ ประเภทจิตรกรรมประเภทหน่ึง ท่ีผเู้ ขียนสามารถถ่ายทอดความรู้สึก นึกคิดของตนให้ผอู้ ื่นรับรู้ไดโ้ ดยง่าย และมีลกั ษณะเฉพาะตวั เนื่องจากภาพการ์ตูน เป็ นการสื่อสารทาง ธรรมชาติอยา่ งหน่ึงของมนุษย์ ท่ีมีอิทธิผลต่อการเรียนรู้และการเขา้ สงั คมไดม้ าก

การฝึ กฝนทกั ษะทางดา้ นการ์ตูน เป็ นกระบวนการหน่ึงท่ีสามารถขดั เกลาและทาํ ให้เกิดพฒั นาการ ทางอารมณ์ และจิตวิญญาณ ทาํ ใหผ้ ฝู้ ึกฝนมีความคิด ริเริ่มสร้างสรรค์ มีจินตนาการ และมีความฉลาดทาง เชาวน์ปัญญา ตลอดจนความฉลาดทางอารมณ์

ความหมายของการ์ตูน การ์ตนู เป็นคาํ ทบั ศพั ทจ์ ากภาษาองั กฤษคาํ วา่ Cartoon พจนานุกรมฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๒๕ ไดใ้ ห้ความหมายของการ์ตูนไวว้ ่า หมายถึง ภาพลอ้ ภาพตลก บางคร้ังเขียนเป็ น ภาพบุคคล บางคร้ังเป็ นภาพเขียนที่ผเู้ ขียนต้งั ใจลอ้ เลียนแสดงเหตุการณ์ จนผดู้ ูรู้สึกขบขนั หรือ อีกนยั หน่ึง การ์ตูนจดั เป็นภาพลอ้ หรือภาพวาดท่ีทาํ ใหเ้ กิดความขบขนั สดั ส่วนของภาพจะอิสระ และผดิ ไปจากความเป็นจริง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook