Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอน 2/ 2563

แผนการสอน 2/ 2563

Published by Pandee Komala, 2021-09-02 05:30:50

Description: แผนการสอนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายภาคเรียนที่ 2/2563

Search

Read the Text Version

2

แผนการจดั การกิจกรรมการเรยี นรู้รายภาคเรยี น (ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย) 3 แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ กศน. ภาคเรียนท่ี ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖3 ผู้รบั ผิด หมาย ครงั้ ท่ี วัน/ กิจกรรมการเรยี นรู้ สถานที่ วิธกี าร ชอบ เหตุ ครูกมลา เดือน/ปี ครูกมลา 1 6 ธ.ค. 1) ๑.ปฐมนิเทศ/ชแี้ จงการเรียนรู๎ 1) กศน.ตาํ บล - บรรยายให๎ ครูกมลา ครูกมลา 63 2.ช้ีแจงกระบวนการเรียนรตู๎ ามหลักสูตร 51. ความรู๎ ครูกมลา ครูกมลา 3. โครงสรา๎ งหลักสูตร กศน.51 ครูกมลา ครูกมลา 4.กิจกรรม กพช. ครูกมลา ครูกมลา 5.การพบกลุํม/การวัดผลประเมนิ ผล 6.การจบหลกั สตู ร 2 13 ธ.ค. 2) จดั กิจกรรมการเรียนรู๎ รายวชิ า 1) กศน.ตําบล - บรรยายให๎ 63 ภาษาองั กฤษเพ่ือชวี ิตและสงั คม ความรู๎ เรอ่ื ง การพูดสนทนาทางโทรศัพท๑ 3 20 ธ.ค. 3) จดั กจิ กรรมการเรยี นรู๎ รายวิชา 1) กศน.ตําบล - บรรยายให๎ 63 ภาษาองั กฤษเพื่อชวี ิตและสงั คม ความรู๎ เรอ่ื ง การใช๎พจนานุกรม 4 27 ธ.ค. 4) จัดกจิ กรรมการเรยี นรู๎ รายวิชา 1) กศน.ตําบล - บรรยายให๎ 63 ภาษาองั กฤษเพื่อชีวิตและสังคม ความรู๎ เร่ือง สญั ลกั ษณ๑ท่คี วรร๎ู 5 3 ม.ค. 5) จดั กิจกรรมการเรยี นรู๎ 1) กศน.ตาํ บล - บรรยายให๎ 64 รายวชิ า เศรษฐกจิ พอเพียง ความร๎ู เรือ่ ง การแกป๎ ญั หาชุมชน 6 10 ม.ค. 6) จดั กิจกรรมการเรียนร๎ู 1) กศน.ตาํ บล - บรรยายให๎ 64 รายวชิ า สุขศกึ ษา พลศึกษา ความร๎ู เรอ่ื ง เพศศีกษา 7 17 ม.ค. 7) จดั กิจกรรมการเรยี นร๎ู 1) กศน.ตาํ บล - บรรยายให๎ 64 รายวิชา สขุ ศึกษา พลศกึ ษา ความรู๎ เรือ่ ง อาหารและโภชนาการ 8 24 ม.ค. 8) จดั กิจกรรมการเรยี นร๎ู 1) กศน.ตําบล - บรรยายให๎ 64 รายวิชา ศลิ ปศกึ ษา ความร๎ู เรื่อง ทศั นศลิ ป์ 9 31 ม.ค. 9) จัดกิจกรรมการเรยี นร๎ู 1) กศน.ตาํ บล - บรรยายให๎ 64 รายวชิ า ศลิ ปศึกษา ความรู๎ เรอ่ื ง ดนตรี 10 7 ก.พ. 10) จดั กิจกรรมการเรียนรู๎ 1) กศน.ตําบล - บรรยายให๎ 64 รายวิชา ประวตั ศิ าสตร๑ชาติไทย ความรู๎ เรื่อง ความภูมิใจในความเปน็ ไทย

ครัง้ ท่ี วนั /เดือน/ปี กิจกรรมการเรยี นรู้ สถานท่ี วิธีการ ผู้รับผดิ ชอบ หมาย เหตุ 11 14 ก.พ.64 11) จดั กิจกรรมการเรียนรู๎ 1) กศน.ตาํ บล - บรรยายให๎ ครูกมลา รายวิชา ประวตั ศิ าสตร๑ชาตไิ ทย ความร๎ู ครูกมลา เรอ่ื งพระราชกรณียกิจของ ครูกมลา พระมหากษัตรยิ ๑ไทยสมยั ครูกมลา ครูกมลา รตั นโกสนิ ทร๑ ครูกมลา 12 21 ก.พ.64 12) จัดกิจกรรมการเรียนรู๎ รายวิชา 1) กศน.ตําบล - บรรยายให๎ ครูกมลา ประวตั ศิ าสตรช๑ าติไทย ความรู๎ ครูกมลา เรอ่ื ง การเปลี่ยนแปลงของชาตไิ ทย 13 28 ก.พ.64 13) จดั กิจกรรมการเรียนรู๎ 1) กศน.ตําบล - บรรยายให๎ รายวชิ า การปูองกนั การทุจริต ความร๎ู เรื่อง การคิดแยกแยะระหวําง ผลประโยชนต๑ นและสวํ นรวม 14 7 ม.ี ค.64 14) จดั กิจกรรมการเรียนรู๎ รายวิชา 1) กศน.ตําบล - บรรยายให๎ การปอู งกนั การทจุ ริต ความร๎ู เรอ่ื ง ความละอายตํอการทจุ ริต 15 14 มี.ค.64 15) จดั กจิ กรรมการเรยี นรู๎ รายวชิ า 1) กศน.ตาํ บล - บรรยายให๎ การปูองกนั การทุจรติ ความรู๎ เรอ่ื ง ความพอเพยี งตํอตา๎ นทุจรติ 16 21 มี.ค.64 16) จัดกจิ กรรมการเรยี นรู๎ รายวชิ า 1) กศน.ตําบล - บรรยายให๎ กัญชงกัญชาใชเ๎ ปน็ ยาฯ ความรู๎ เรอ่ื ง เหตุใดต๎องเรียนกญั ชาและกัญ ชง 17 28 มี.ค.64 17) จัดกิจกรรมการเรียนร๎ู รายวิชา 1) กศน.ตําบล - บรรยายให๎ กัญชงกญั ชาใชเ๎ ปน็ ยาฯ ความร๎ู เร่ือง เหตุใดต๎องเรียนกญั ชาและกัญ ชง 18 31 ม.ี ค.64 18) จัดกจิ กรรมการเรยี นรู๎ รายวิชา 1) กศน.ตําบล - บรรยายให๎ กญั ชงกญั ชาใช๎เป็นยาฯ ความรู๎ เรอ่ื ง กญั ชาและกัญชงกบั แพทย๑แผน ปัจจุบนั

แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้คร้งั ท่ี 1

ครง้ั ท่ี วัน/เดือน/ปี หวั เรอ่ื ง/ตวั ช้วี ัด แผนการ(ปฐมนิเท ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ภาคเ เนอ้ื หาสาระการเรยี นรู้ 1 6 ธ.ค.63 เรอื่ ง 1.การปฐมนเิ ทศนกั ศกึ ษา - ปฐมนเิ ทศนกั ศกึ ษา กศน. ภาคเรยี นท่ี 2/2563 - ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2. การใชห๎ ลักสูตรการศึกษานอก เจ 2563 ระบบระดบั การศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน 1 พทุ ธศกั ราช 2551 3. กิจกรรมพฒั นาคุณภาพชีวิต 2 (กพช.) ก 4. วิธกี ารจัดกระบวนการเรียนการ - สอน - 5. การเทียบโอนผลการเรยี น 3 6. การวัดผลประเมนิ ผล 4 7. การจบหลักสูตร - 8. การสมคั รเป็นสมาชิกหอ๎ งสมุด - 9. การเทยี บระดบั 5 6 6 7 8

ทศนักศกึ ษาใหม)่ สื่อ/แหล่งเรยี นรู้ การวดั และ เรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2563 ประเมนิ ผล คูํมือนักศึกษา การจัดกระบวนการเรียนรู้ ๑. การสังเกต ๒. การมสี วํ น มกี ารคัดกรองกอํ นเขา๎ กศน.ตาํ บล รวํ ม กอํ นการจัดกิจกรรมมกี ารตรวจสุขภาพนักศึกษา โดย จา๎ หน๎าที่ อสม.มาใหบ๎ ริการ 1. แนะนําสถานศึกษา/ครู กศน.ตาํ บล - กศน.ตําบล 2. ชี้แจงการจดั การเรยี นหลักสตู รนอกระบบระดับ การศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 หลักการของหลกั สตู ร- จดุ มุงํ หมายของหลักสูตร ระดบั การศึกษา- สาระการเรยี นร๎ู 3. การจัดกิจกรรมพฒั นาคุณภาพชวี ิต 4. วิธกี ารจดั กระบวนการเรยี นรู๎ การเรียนรแู๎ บบพบกลํุม การเรียนรด๎ู ๎วยตนเอง 5. การเทียบโอนผลการเรียน 6. การทํากจิ กรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต (กพช.) 6. การวดั ผลประเมนิ ผล 7. การจบหลกั สตู ร 8. การสมคั รสมาชิกห๎องสมุด 2

แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้คร้งั ท่ี 2

๔ ตารางวเิ คราะห์สาระการเรียนรู้ รายวชิ า ภาษาอังกฤษ รหัส พต31001 ระดบั ม. ปลาย จานวน 5 หนว่ ยกติ หวั เร่ือง 1. Everyday English เวลา การวิเคราะห๑เนื้อหา (ชัว่ โมง) ตัวชีว้ ัด เน้อื หา พบกลํุม สอน เรยี นรดู๎ ว๎ ย เสริม ตนเอง ตคี วามหมายจาก 1. การออกเสียงพยัญชนะต้นคา -ท้ายคา 2  น้าํ เสยี งของผ๎ูอ่นื และ 1.1 ทบทวนการออกเสียง พยัญชนะตน๎ คาํ ท่ียาก รู๎จักใช๎น้ําเสยี ง เชํน เสยี ง s z ch sh ในการแสดง - sit, see, soon ความรส๎ู กึ ระหวําง - zebra, zero, zoo การสนทนาได๎ ได๎แกํ - cheap, chat, choose ดีใจ เสยี ใจ พงึ พอใจ - ship, shoe, shut ไมํพึงพอใจ ซาบซ้ึง etc. ผิดหวัง ปรารถนาดี 1.2การอ่านออกเสียงท้ายคาที่ถูกตอ้ ง 2  ชืน่ ชมและ เชํน เสียง [d] , [t] , หรือ [id] เม่อื เปน็ กรยิ า ชอํ ง 2 เห็นใจ และpast participle เชนํ - moved, turned, loved - walked, talked, knocked - wanted, rented, waited etc.  2. การออกเสียงหนกั -เบา (Stress) วิธกี ารออก เสียง หนัก-เบา ของคาํ ในลกั ษณะตาํ ง ๆ เชํน คําเด่ียว คาํ ประสมในลกั ษณะตําง ๆ เป็นต๎นวาํ คาํ ประเภทใด จะต๎องออกเสียงเนน๎ ที่พยางค๑แรก พยางคก๑ ลางหรอื พยางคห๑ ลัง  3. การออกเสียงตามระดับเสียงสูง-ต่า (Intonation) วธิ ีการออกเสียงของประโยคลกั ษณะ ตํางๆ ซงึ่ จะต๎องออกเสยี งสงู -ตํ่า ให๎ถูกต๎องเพอ่ื ใหส๎ ่อื ความหมายท่ผี ๎ูพูดต๎องการ ประโยคประเภทเดียวกนั ถ๎าออกเสยี งสงู -ตํ่า ตํางกนั จะให๎ความรส๎ู กึ ทีต่ ํางกนั

๕ เวลา การวิเคราะหเ๑ น้ือหา (ชวั่ โมง) ตัวชว้ี ดั เนอื้ หา พบกลํุม สอน เรียนรด๎ู ว๎ ย เสริม ตนเอง 4. การออกเสียงเชอื่ มโยง (Linking Sound) 2 วิธกี ารอํานออกเสยี งเช่ือมโยงระหวาํ งคําใน ภาษาองั กฤษท่ถี ูกต๎องตามกฎเกณฑ๑ของภาษาอังกฤษ เชนํ - Ten years ago. - Far away etc. 2 5. การแสดงความดีใจ/เสียใจ การใช๎คํา วลแี ละรปู ประโยคท่ีจะนํามาใชใ๎ น การ แสดงความดีใจและเสยี ใจในโอกาสตาํ งๆ ไดถ๎ ูกต๎อง เชํน แสดงความดีใจท่ีได๎พบกันอีกคร้ังหรอื แสดงความเสียใจท่ีทําผดิ เป็นตน๎ ตัวอยําง คาํ วลี และรูปประโยค เชนํ - Congratulations! 2 - Sorry. Glad is hear about that. - Sorry about that. - I’m glad to...................... - I’m pleased to........................ - I love to........................... - I’m sorry to......................... - It’s my fault that............................

๖ เวลา การวเิ คราะห๑เน้ือหา (ชั่วโมง) ตัวชว้ี ดั เน้อื หา พบกลํุม สอน เรยี นรู๎ดว๎ ย เสรมิ ตนเอง 6. การแสดงความพอใจ ไม่พอใจ ใหร๎ ูจ๎ กั คาํ วลีและ 2  รปู ประโยคท่ีนํามาใชใ๎ นการแสดงความพอใจ ไมํพอใจ ในโอกาสตํางๆ ได๎ถูกต๎อง เชํน แสดงความพอใจ ไมํ พอใจในการรบั บริการ เปน็ ต๎น ตวั อยาํ งคาํ วลี และรปู ประโยค เชํน - Great! - Awful! - Good news! - How nice! - How terrible! - That’s fantastic! - I can’t stand it! - I’m very disappointed with......................... - It’s ashamed that............................. 2 7. การแสดงความปรารถนา เห็นใจและการตอบรบั  การใช๎ คํา วลี และรปู ประโยคทจี่ ะนาํ มาใช๎ใน การแสดงความปรารถนาดี เห็นใจในโอกาสตํางๆ ได๎ ถูกต๎อง เชนํ การแสดงความระลึกถึง การแสดง ความเหน็ ใจเมื่อผอู๎ ่นื ประสบปัญหา เปน็ ต๎น ตวั อยาํ ง คํา วลี และรปู ประโยค เชํน - Best wishes. - Take care. - Get well soon. - Good luck. - With sympathy. - We hope everything go well through this suffering period.

๗ เวลา การวิเคราะห๑เนื้อหา (ชั่วโมง) ตัวชว้ี ดั เนอื้ หา พบกลุํม สอน เรยี นรดู๎ ว๎ ย เสริม ตนเอง - I understand how difficult it is. - It must be for you. - I feel sympathy for you. - Thank you for your hospitality. - Thanks a million for............................ - I’m very grateful to your........................... - It’s very appreciative that.............................. - I’m very appreciated  for................................ 8. การแสดงความตอ้ งการการเสนอให้ความ ช่วยเหลือ บริการ รวมทัง้ การตอบรบั ปฏิเสธ การใหค้ วามช่วยเหลือ/ บรกิ าร การใช๎คาํ วลี และ รูปประโยคเพื่อแสดงความต๎องการ การเสนอ ให๎ ความชํวยเหลอื บริการ รวมทั้งการตอบรบั ปฏเิ สธ ในการให๎ความชํวยเหลือ บรกิ ารในโอกาสและ 4 สถานท่ีตํางๆ ไดอ๎ ยํางถูกต๎อง ได๎แกํ การซ้ือสินคา๎ บริการในร๎าน การสั่งจอง ตัว๋ เครื่องบนิ รถไฟ ภาพยนตร๑ การบริการในบริษัททัวร๑ การจองโรงแรม ท่ีพกั การใช๎บรกิ ารในท่ีทาํ การไปรษณยี ๑ ธนาคาร รา๎ นอินเตอรเ๑ น็ต ตวั อยําง คํา วลี และรปู ประโยค เชนํ - May I help you? - What can I do for you? - Let me..............................

๘ หัวเร่อื ง 2. What should you do? เวลา การวิเคราะหเ๑ น้ือหา (ชว่ั โมง) ตัวชีว้ ัด เนอ้ื หา พบกลํุม สอน เรียนรด๎ู ว๎ ย เสริม ตนเอง อํานและทาํ ตาม 1. การใชพ้ จนานุกรม (Dictionary) 2 คาํ แนะนําในการใช๎ 1.1 ทบทวนการค๎นหาความหมายของคาํ ศัพท๑ คูมํ ือ ปูายคาํ แนะนํา โดยเรยี งตามตวั อักษรของคําศัพท๑ท่คี ๎นหาจาก a ถงึ z วิธีการปรงุ ขอ๎ ควร 1.2 ให๎อํานวธิ กี ารใช๎พจนานุกรมและขอ๎ มูลตาํ ง ๆ ระวังและ ปูาย ทอ่ี ยใํู นสวํ นหนา๎ (คําชีแ้ จงในการใช๎) ของ ประกาศได๎ Dictionary ให๎เขา๎ ใจ 1.3 เม่อื คน๎ หาคําศัพท๑พบแลว๎ ให๎ศึกษาวธิ ีการ อาํ นออกเสียงหน๎าทข่ี องคาํ ความหมายและตัวอยําง ในการใช๎ (ซง่ึ คาํ บางคําอาจจะทาํ หนา๎ ที่ได๎หลายอยาํ ง) และคําทม่ี ีความหมายใกล๎เคียงกนั เชํน drug (ดรกั ) n. ยา ผลติ ภณั ฑ๑ยา ยาเสพติด สินคา๎ ที่เกยี่ วกบั สขุ ภาพทข่ี ายในร๎านขายยา vt. Drugged, drugging ผสมกบั ยา ทาํ ให๎ติดยา ทาํ ให๎ได๎รบั พิษจากยา drug on the market สนิ ค๎าทีม่ ีมากเกินความตอ๎ งการใน ตลาด 2. การวิเคราะหศ์ ัพท์และรูปประโยคทใ่ี ชใ้ น 4 สญั ลกั ษณ์ ปาู ยประกาศ คาแนะนาในการใช้ คาแนะนา คาเตอื นตา่ ง ๆ 2.1 การวิเคราะหศ๑ ัพทโ๑ ดยการรจ๎ู ักสวํ นทเี่ ป็น รากศัพท๑ (Root) อุปสรรค หรอื คาํ ท่ีเติมไปข๎างหน๎า (Prefix) และปัจจัยหรือคําทีเ่ ตมิ ไปข๎างหลัง (Suffix) โดยทราบความหมายของสํวนประกอบของคําศัพท๑ ตํางๆ เหลําน้นั ทราบความหมายของศัพท๑ได๎ เชํน

๙ เวลา การวิเคราะหเ๑ นื้อหา (ช่ัวโมง) ตัวชี้วดั เนือ้ หา พบกลํมุ สอน เรยี นรู๎ดว๎ ย เสริม ตนเอง Prefix : re = again anti = against tele = far etc. Suffix : ant = person er = person who dom = condition ern = direction etc. 2.2 รปู ประโยคทีใ่ ช๎ในสัญลักษณ๑ ปูายประกาศ 4  คาํ แนะนําในการใช๎ คาํ แนะนํา คาํ เตือนตาํ ง ๆ ซ่งึ จะ ใช๎รูปประโยคคาํ ส่ัง (Imperative Sentence) ทั้งใน ลักษณะบอกเลําและปฏิเสธ เชนํ - Don’t smoke. - No smoking. - No entry. - Put some oil in the pan, then put the garlic and stir until it become yellow. 3 etc.  3. สัญลักษณ์และปาู ยประกาศต่าง ๆ (Signs & Notices) ร๎ูจักความหมายของสญั ลักษณ๑ และปาู ย ประกาศท่ีพบในชวี ิตประจาํ วัน และการประกอบ อาชพี เชํน การปฏิบัตติ นในแหลงํ ทํองเทยี่ ว โรงแรม พิพธิ ภัณฑ๑ โรงงาน สํานักงาน ยานพาหนะ เชํน

๑๐ เวลา การวิเคราะห๑เน้ือหา (ชั่วโมง) ตวั ชว้ี ัด เนอ้ื หา พบกลุํม สอน เรียนรด๎ู ว๎ ย เสริม ตนเอง = Don’t take = No smoking = Don’t take = Hduarniadnicianpspideed. Make up = Elevation or the room lift = Do not disturb = Make up the room

๑๑ เวลา การวิเคราะห๑เนื้อหา (ชั่วโมง) ตวั ช้วี ัด เนือ้ หา พบกลํมุ สอน เรยี นรดู๎ ว๎ ย เสริม ตนเอง = Danger = Safety first = No parking = Disabled Symbol etc.

๑๒ เวลา การวิเคราะห๑เน้ือหา (ช่วั โมง) ตวั ช้ีวดั เน้ือหา พบกลุํม สอน เรียนรดู๎ ว๎ ย เสรมิ ตนเอง 4. สลากยาและค่มู ือในการใช้อุปกรณต์ า่ ง ๆ 3  (Instructions) การอาํ น ทําความเขา๎ ใจและปฏบิ ัติ ตามคาํ แนะนาํ ในการใช๎ยาและอุปกรณต๑ ํางๆ ทีใ่ ช๎ใน ชวี ิตประจําวัน เชํน หม๎อหุงข๎าวไฟฟาู เครอื่ งซักผ๎า คอมพวิ เตอร๑ โทรศัพท๑มอื ถือ เป็นต๎น โดยให๎เขา๎ ใจ สํานวนหรอื โครงสรา๎ งของประโยคที่มักใช๎ เชนํ - Keep out of reach of children. - Take one tablet after each meal. - Shake well before use. การใช๎ Active Voice และ Passive Voice Modal verb Direct Speech, Indirect speech, Conjunction และ Connective words ทสี่ าํ คัญ เชํน - You should have it directly after meal. - The doses must not be divided. - Don’t use if the package is open. - First open the can with the opener. Pull it in a bowl. Then put some chopped chili, lemon juice and fish sauce. After that 4  mix them together. 5. คาแนะนาและคาเตือนตา่ งๆ (Tips and Warning) ร๎ูจกั วธิ กี ารอํานและตคี วามคําแนะนํา คาํ ชี้แจง และ คาํ อธิบายตํางๆ เชํน พยากรณอ๑ ากาศ ประกาศเตือนภยั คําแนะนําในการเข๎าไปในสถานท่ตี ํางๆ คาํ อธบิ ายสนิ ค๎า และสํวนประกอบหรือเครอ่ื งปรุง วธิ กี ารปรุงอาหาร เปน็ ตน๎

๑๓ หวั เรื่อง 3. Hello, could you tell me.............? เวลา การวิเคราะหเ๑ น้ือหา (ชัว่ โมง) ตัวชี้วดั เนื้อหา พบกลํุม สอน เรียนรด๎ู ว๎ ย เสริม ตนเอง ติดตอํ ส่อื สารทาง 1. การตดิ ตอ่ ทางโทรศพั ท์กับผู้ทีค่ ุ้นเคย 4 โทรศพั ท๑ได๎ รู๎จักวิธีการพดู โตต๎ อบทางโทรศพั ท๑กับเพือ่ น คลํองแคลวํ ญาติพ่ีน๎องและผทู๎ ค่ี ุ๎นเคยในเร่ืองตาํ ง ๆ โดยใชส๎ ํานวน และภาษาทเี่ หมาะสม เชํน - Is ……………. at home? - Could I speak to………., please? - May I speak to ……..…., please? - She/he is out. - Sorry, she’s not here now. - Would you like to wait? - Will you leave a message? - May I take a message for her/him? - Wait a minute, please. - Will you hole on? - Just a moment, please. - Please tell ....................... to call me at...............

๑๔ เวลา การวิเคราะห๑เน้ือหา (ชั่วโมง) ตัวช้ีวดั เน้ือหา พบกลุํม สอน เรียนรดู๎ ว๎ ย เสรมิ ตนเอง 2. การติดต่อทางโทรศพั ทเ์ พ่ือสอบถามขอ้ มลู ตา่ ง ๆ 4  การใชส๎ ํานวนภาษาทใี่ ช๎พดู ทางโทรศัพทเ๑ พื่อสอบถาม ข๎อมูลตํางๆ ที่ต๎องการทราบโดยใชร๎ ูปประโยคขอรอ๎ ง ขอร๎องอยํางสภุ าพ (request, polite, request) ประโยค direct indirect speech ประโยคคาํ ถาม ลกั ษณะตาํ งๆ ประโยคแสดงความคดิ เห็นและการ ขอบคุณ เชํน การสอบถามเส๎นทางการเดนิ ทางไปท่ี ตาํ งๆ สอบถามตารางรถไฟ เครื่องบิน สอบถามขอ๎ มลู ดา๎ นการคุ๎มครองผบ๎ู รโิ ภค สุขภาพอนามัย พยากรณอ๑ ากาศ เปน็ ตน๎ ตวั อยาํ งประโยคที่ใช๎ - Hello, I’d like to ask about......................... - Could you tell me......................, please? - Would you mind giving me the information about.................................? - Can/Could you...............................? - May/Can/Could I.................................? - Don’t............................, please? - At what time...........................? - How many.................................? - How far..............................? - How much..............................? - I need your help............................... - Pradon. - I think.............................. - Well, I must.............................. - In my opinion, .............................. - Thanks. /Thank you. - Sorry. /I’m sorry. - You’re welcome.

๑๕ เวลา การวิเคราะห๑เน้ือหา (ชว่ั โมง) ตวั ช้วี ัด เนอ้ื หา พบกลมํุ สอน เรียนรดู๎ ว๎ ย เสรมิ ตนเอง 3. การติดตอ่ ทางโทรศัพท์เพ่ือการประกอบอาชพี 10  วธิ กี ารพดู โต๎ตอบทางโทรศัพท๑ เพ่ือถาม-ใหข๎ ๎อมูล เก่ยี วกับการประกอบอาชพี โดยใช๎สาํ นวนและภาษา ท่เี หมาะสมในการสอบถามข๎อมลู เก่ียวกบั การสมคั ร งาน การซือ้ -ขายสินค๎า การใหข๎ ๎อมูลเก่ียวกบั คุณภาพ และราคาของสินคา๎ การสงํ เสริมการขาย การตํอรอง ราคา การรับและสงํ ของตัวอยํางประโยคท่ีใช๎ - Hello. I’d like to ask/know about.................. - Can/could you tell me about........................? - May/Could I speak to......................., please? - Can/Could you inform me about..................? - What is the position required? - What is the qualification? - How can I apply for this position? - When is the dateline of the application? - Do I have to send the application form? - Should I also send the resume/reference? - When/Where will the interview take place? - What kind of goods are available? - How much does it cost? - How can I send the order? - Is there any discount? - How about the present promotion? - How about the quality? - Where/When can I buy this product? - What is the product’s significance? - Please let me know if............................ - I’m interested in...........................

๑๖ เวลา การวิเคราะห๑เน้ือหา (ชั่วโมง) ตัวชี้วดั เนือ้ หา พบกลํมุ สอน เรยี นร๎ดู ว๎ ย เสริม ตนเอง - That’s very interesting. - I’m very appreciated......................... - When will I receive the product? - How should I pay for the product? - By cash/check /credit. - Thanks for your interest /kindness/information. - It’s my pleasure. - You’re welcome. - Sorry. /I’m sorry. หัวเรอื่ ง 4. Cultural Difference เวลา การวิเคราะหเ๑ น้ือหา (ชวั่ โมง) ตวั ช้ีวดั เนื้อหา พบกลมุํ สอน เรยี นร๎ูด๎วย เสริม ตนเอง 1. ปฏบิ ตั ติ นตาม 1. การใชภ้ าษาในการสอื่ สารได้เหมาะสมตาม 5  มารยาท วฒั นธรรม มารยาททางสงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และประเพณตี ําง ๆ การใช๎ภาษา นา้ํ เสียงและภาษาทําทางได๎อยําง ไดอ๎ ยาํ งถกู ต๎อง เหมาะสมกบั บคุ คล เวลา สถานทแ่ี ละโอกาส เชนํ การ 2. เปรยี บเทียบความ สัมผัสมือ การโบกมือ การใชส๎ หี น๎าทาํ ทาง และ แตกตํางระหวาํ ง นา้ํ เสียงประกอบ การพดู การแนะนําตัวเอง การ วฒั นธรรมองั กฤษกบั แสดงความรูส๎ ึกในโอกาสตาํ งๆ การแตํงกาย การ วฒั นธรรมไทย รับประทานอาหาร รํวมงานงานเลยี้ ง งานสงั สรรค๑ และกิจกรรมทางสงั คมตาํ ง ๆ

๑๗ เวลา การวิเคราะห๑เน้ือหา (ชั่วโมง) ตัวช้ีวดั เน้ือหา พบกลุํม สอน เรียนรด๎ู ว๎ ย เสริม ตนเอง ตัวอยา่ ง เชน่ - Blow a kiss. (สํงจบู ) - I love you. (ภาษาใบ)๎ - Be quiet. (เงยี บ) - That’s bad. (ยกหัวแมมํ ือ ชล้ี งไปที่พืน้ ) - How’s everything? - How have you been? - What’s going on with your life? - How’s life? - What’s up? - May I introduce myself? - Let me introduce myself, ………………….

๑๘ เวลา การวิเคราะห๑เนื้อหา (ชัว่ โมง) ตัวช้ีวดั เน้อื หา พบกลมุํ สอน เรียนร๎ดู ๎วย เสริม ตนเอง - Allow me to introduce...............to................ - Have you met......................? - Congratulations on........................ - Happy Birthday. - Merry Christmas. - Happy New Year. - I’m sorry for......................... - May god bless you. - May god be with you. - I feel sorry............................... - Please pass my warm regards to................... - Toast! - I wish you................................... - Would you mind................................... - Please let me know................................... - Would you please................................... - May I have................................... - Can you help me................................... - You look smart. - How nice............................... - I wonder if.............................. - How to cook.............................. etc.

๑๙ เวลา การวเิ คราะห๑เน้ือหา (ช่ัวโมง) ตัวช้ีวดั เน้อื หา พบกลมํุ สอน เรียนรู๎ดว๎ ย เสริม ตนเอง 2. ความเชอ่ื และขนบธรรมเนยี ม ประเพณีของ 5  เจ้าของภาษา ความเปน็ มาของความเชื่อ ขนบธรรมเนียมและ ประเพณีตําง ๆ ในสงั คมของเจา๎ ของภาษา การทํา กจิ กรรมตามความเชอื่ ขนบธรรมเนยี มและประเพณี ตาํ ง ๆ ในดา๎ น บทเพลง การแตงํ กาย อาหาร เคร่ืองดม่ื และ การประกอบพิธีกรรมที่เก่ยี วขอ๎ ง ได๎แกํ วนั ครสิ ต๑มาส วัน ขอบคุณพระเจา๎ วนั วาเลนไทน๑ และ วนั พอํ 3. การเปรยี บเทียบโครงสร้างภาษาไทยกบั ภาษาองั กฤษ 5 เปรยี บเทยี บลักษณะคาํ ท่มี าของคาํ ความหมาย และ การประยุกตค๑ ําในภาษาองั กฤษมาใชใ๎ นภาษาไทยและ คาํ ในภาษาไทยทนี่ ําไปใชใ๎ นภาษาองั กฤษ ตวั อยําง เชํน - ศัพท๑ของภาษาไทยสวํ นใหญมํ าจากภาษาบาลี สนั สกฤต ในขณะท่ีศพั ท๑ของภาษาองั กฤษ สํวนใหญํ มาจากภาษากรีกและโรมนั - คาํ ในภาษาองั กฤษท่นี ํามาใช๎ในภาษาไทย เชนํ กโิ ลกรัม กโิ ลเมตร เซนตเิ มตร คาํ ในภาษาไทยที่ นาํ ไปใชใ๎ นภาษาอังกฤษ เชนํ Tom Yam Kung, Muai Thai เปน็ ต๎น โครงสรา้ งของประโยคต่างๆ - ประโยคความเดียว (Simple Sentence) - ประโยคความรวม (Compound Sentence) - ประโยคความซ๎อน (Complex Sentence) - การใช๎ Transitive / intransitive/ auxiliary verbs

๒๐ เวลา การวิเคราะหเ๑ น้ือหา (ชว่ั โมง) ตัวชว้ี ัด เน้ือหา พบกลํุม สอน เรียนรด๎ู ว๎ ย เสริม ตนเอง - Tense ตาํ งๆ - ลักษณะของประโยคคาํ ถาม - ประโยคเง่ือนไข - การใชส๎ ันธาน (Conjunction) และบพุ บท (Preposition) etc. 4. เปรยี บเทียบ สานวน คาพังเพย สุภาษิต บท 5  กลอนภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 4.1 คําและสาํ นวนที่ไดร๎ บั อิทธพิ ลจากศาสนา เชนํ - Oh, god! = คุณพระชํวย - Oh, my god! = พุทโธ ธัมโม สังโฆ etc. 4.2 คําพังเพย สุภาษิตที่มักจะใชใ๎ น ชวี ติ ประจาํ วัน เชํน - It’s a piece of cake. = ปลอกกลว๎ ยเขา๎ ปาก - Silence is gold. = น่งิ เสียตําลงึ ทอง - Time and tide wait for no one. = เวลาและวารไี มเํ คยคอยใคร 4.3 ลักษณะของบทกลอนภาษาไทยกับ ภาษาอังกฤษท่ีเหมือนและแตกตาํ งกัน แรงบนั ดาลใจ ของกวีในการแตงํ คําประพันธ๑พรอ๎ มตัวอยาํ งทม่ี กั ได๎ ยินเสมอ ๆ เชนํ Roses are red, Violets are blue, sugar is sweet, but not as sweet as you. แม๎เนือ้ เย็นเปน็ ห๎วงมหรรณพ จะขอพบศรีสวัสด์เิ ป็นมัจฉา

๒๑ เวลา การวเิ คราะหเ๑ น้ือหา (ช่วั โมง) ตัวชี้วัด เนอ้ื หา พบกลํมุ สอน เรยี นรู๎ดว๎ ย เสรมิ ตนเอง แมเ๎ ป็นบัวตวั พี่เปน็ ภมุ รา เชยผกาโกสมุ ภป๑ ระทมุ ทอง แม๎เป็นถาํ้ อําไพใครเํ ปน็ หงส๑ จะรอํ นลงสิงสํูเปน็ คสูํ อง จะติดตามทรามสงวนนวลละออง เป็นคูํครอง พสิ วาส ทกุ ชาติไป etc. หวั เรื่อง 5. News & News Headline เวลา การวเิ คราะห๑เน้ือหา (ชว่ั โมง) ตัวช้ีวดั เนื้อหา พบกลมํุ สอน เรียนร๎ดู ว๎ ย เสรมิ ตนเอง 1. เขา๎ ใจและใช๎ 1. เสยี ง คําศัพท๑ วลี สาํ นวน ท่ี มกั ใชบ๎ ํอยๆ ในขาํ ว 2  2 ประโยคทซ่ี บั ซ๎อนใน 2. องคป๑ ระกอบของขาํ ว ประกอบด๎วย สถานการณ๑ตํางๆ ได๎ Headline, Sub headline, Lead และ Detail 2. ใช๎ Tenses ที่ 3. ประเภทของขําว เชนํ ขาํ วการเมือง ขาํ ว 2  ยงุํ ยากและซับซ๎อน การศกึ ษา ขําวกีฬา ขาํ วสังคม ขาํ วเศรษฐกิจ ได๎ เป็นต๎น 3. ศกึ ษาค๎นคว๎า 4. โครงสรา๎ งของการเขยี นพาดหัวขาํ ว 5  ความรู๎และข๎อมลู (News Headline) ไดแ๎ กํ จากส่ือหนงั สือ พมิ พ๑ 4.1 ขําวและพาดหวั ขําว ได๎ 4.2 การถามและตอบคาํ ถามจากขาํ ว 4. แลกเปลยี่ น ดว๎ ย ข๎อมลู ขาํ วสาร คาํ ถามที่ เป็น Wh-Question และ Yes/No 4 ความร๎ูอยาํ งเป็น Question ทางการ 4.3 การถามและแสดงความคดิ เห็นวํา เหน็ ด๎วย หรอื ไมํเห็นดว๎ ย เชนํ - Do you agree with this....................?

๒๒ เวลา การวเิ คราะห๑เน้ือหา (ชวั่ โมง) ตัวชี้วัด เนือ้ หา พบกลุํม สอน เรยี นร๎ดู ว๎ ย เสริม ตนเอง 5. สบื คน๎ ขอ๎ มลู ใน ดา๎ นตาํ ง ๆ จาก - What do you think Internet ได๎ about.................. 2 4.4 Website ของหนังสือพิมพ๑ The Nation หรอื Bangkok Post เพ่อื ศึกษาขําวประเภทตําง ๆ ท่ีสนใจแลว๎ วเิ คราะหโ๑ ครงสร๎างของพาดหัวขาํ วนั้นๆ หรอื บอกประเภทของขาํ วนนั้ ๆ - Subj. + V1 - Subj. + V3 - Subj. + to + V1 - Subj. + V. ing Noun phrase หวั เรื่อง 6. Self -Sufficiency Economy เวลา การวเิ คราะหเ๑ น้ือหา (ชวั่ โมง) ตวั ชีว้ ัด เน้ือหา พบกลมุํ สอน เรยี นร๎ูดว๎ ย เสริม ตนเอง 1. ศกึ ษาคน๎ คว๎าความร๎ู 1. บทความเกยี่ วกับเศรษฐกิจพอเพยี งจาก 2 และข๎อมลู จากสื่อตําง ๆ หนังสือ หนงั สอื พิมพ๑ หรือ Website ที่เกยี่ วข๎อง 2 ได๎ 2. คาํ ศัพท๑ วลี สํานวน ท่ีเก่ยี วข๎องกบั เศรษฐกจิ 2. สบื คน๎ ขอ๎ มูลในด๎าน พอเพยี ง เชํน moral , moderation, ตาํ งๆจาก Internet ได๎ reasonable, knowledge, saving เป็นต๎น 2 2 3. เข๎าใจและใช๎ 3. โครงสรา๎ ง Conditional sentence (If - 2 ประโยคซบั ซ๎อนใน clause)  สถานการณต๑ ํางๆ ได๎ 4. โครงสรา๎ ง Imperative 4. การแลกเปลยี่ น 5. การนาํ เสนอการนําเศรษฐกิจพอเพยี งมาใช๎ใน ข๎อมลู ขาํ วสารความร๎ไู ด๎ รูปแบบตําง ๆ เชนํ การติดคําขวัญ การ สมั ภาษณ๑ การทํา Poster เป็นตน๎ 6. การเลํนเกม Cross word

๒๓ หัวเรือ่ ง 7. Have you exercised to day? เวลา การวเิ คราะห๑เน้ือหา (ชัว่ โมง) ตัวชี้วัด เน้ือหา พบกลุํม สอน เรียนรดู๎ ว๎ ย เสรมิ ตนเอง 1. ศึกษาคน๎ ควา๎ ความรู๎ 1. แบบสอบถาม (Questionnaire) เก่ียวกับการ 2  และข๎อ มลู จากส่ือตํางๆ ดแู ลสขุ ภาพจากหนังสือหรอื Website เกยี่ วขอ๎ ง  ได๎ 2. การอํานออกเสยี ง คําศัพท๑ สํานวน วลี ที่ 2 2. สบื คน๎ ขอ๎ มลู ในดา๎ น เก่ยี วขอ๎ งกับสขุ ภาพ เชํน aerobics, once, ตาํ ง ๆ จาก Internet ได๎ relaxed, health, healthy, firm, have a 3. เข๎าใจและใชป๎ ระโยค headache เป็นตน๎ ซบั ซ๎อนในสถานการณ๑ 3. ประโยคที่เขียนดว๎ ย Modal Verb เชนํ 2  ตําง ๆ ได๎ should, must, ought to, had better, will 4. ใช๎ Tense ทีย่ ํุงยาก เปน็ ตน๎ 2 4 และซบั ซ๎อนได๎ 4. Present Perfect Tense  5. แลกเปลยี่ นขอ๎ มลู 5. การสํารวจแบบสอบถามเกี่ยวกับสุขภาพ ขําวสารความรู๎ ทงั้ อยําง บคุ คลใกล๎ชิด แล๎วนําเสนอขอ๎ มลู เป็นรปู กราฟ เป็นทางการและไมํเป็น หรือแผนภูมิ ทางการได๎

๒๔ หวั เร่อื ง 8. Shall we save the energy? เวลา การวิเคราะหเ๑ นื้อหา (ชวั่ โมง) ตัวช้ีวดั เนอื้ หา พบกลํุม สอน เรยี นร๎ดู ว๎ ย เสริม ตนเอง 1. ศึกษาคน๎ ควา๎ ความร๎ู 1. บทความเกีย่ วกบั การประหยัดพลงั งาน 2 และข๎อมูลจากส่ือตํางๆได๎ (Energy Saving) จากหนงั สอื หนงั สือพมิ พ๑ หรือ 2. สืบค๎นขอ๎ มูลในด๎าน Website ที่เกย่ี วข๎อง 2 ตาํ งๆ จาก Internet ได๎ 2. เสียง คาํ ศัพท๑ วลี สํานวนทีเ่ ก่ยี วข๎องกบั 3. เขา๎ ใจและใชป๎ ระโยค การประหยัดพลงั งาน เชํน reuse, recycle, ซบั ซอ๎ นในสถานการณ๑ plug in, unplug, turn on, turn off, reduce ตําง ๆ ได๎อยาํ งถกู ต๎อง เปน็ ต๎น 2  4. ใช๎ Tense ที่ยํงุ ยากและ 3. โครงสรา๎ ง เรือ่ ง Imperative + V1 ซับซอ๎ นได๎อยาํ งถกู ต๎อง _________. 1 2 5. แลกเปล่ยี นข๎อมลู ขําว Don’t + V1+ ..................................... สารความรูท๎ ง้ั อยาํ งเปน็  ทางการและไมเํ ปน็ ทางการ 4. Game “Find someone who..............” ได๎ 5. การสมั มนาเรื่องการประหยดั พลังงาน หัวเรอ่ื ง 9. What have I done? เวลา การวเิ คราะหเ๑ น้ือหา (ชั่วโมง) ตัวช้วี ดั เน้อื หา พบกลํุม สอน เรยี นรู๎ด๎วย เสรมิ ตนเอง 1. ศกึ ษาค๎นควา๎ ความรแ๎ู ละข๎อมลู 1. บทสนทนาเก่ยี วกบั การไปตดั เสือ้ 2  จากส่ือตํางๆ ได๎ 2. การอํานออกเสยี ง คําศัพท๑ วลี สํานวน 2  2. อํานออกเสียงคาํ ศัพท๑ วลี ท่เี กี่ยวข๎องกับการไปตัดเสอื้ เชนํ สํานวนได๎อยาํ งถูกตอ๎ ง measure, sleeves, seam, shorten 3. เขา๎ ใจและใช๎ประโยคซบั ซอ๎ น เป็นตน๎ 2  ในสถานการณ๑ตาํ งๆ ได๎ 3. โครงสร๎าง have something done 2  4. ใช๎ Tense ทย่ี ํุงยากและ 4. โครงสร๎าง Reported Speech 2  ซบั ซอ๎ นได๎ 5. การเลําเร่ือง (สถานการณ๑) 5. แลกเปลยี่ นขอ๎ มูลขาํ วสาร ความรไ๎ู ด๎

๒๕ หวั เรื่อง 10. What is your e-mail address? เวลา การวิเคราะห๑เนื้อหา (ชัว่ โมง) ตวั ชี้วัด เน้ือหา พบกลมํุ สอน เรยี นรูด๎ ว๎ ย เสริม ตนเอง 1. การสืบคน๎ ข๎อมูลด๎าน 1. การขอมี e-mail ตาํ งๆ จาก Internet และ 2. การเปิด/ปิด e-mail 2 รบั สํง e-mail ได๎ 3. ภาษา e-mail 2. ศกึ ษาค๎นคว๎าความร๎ู 4. บทอาํ นแนะนําตนเองท่พี ิมพม๑ าจาก e-mail 1 และข๎อมูลจากส่ือตํางๆ 5. การสร๎างประโยคคําถามจากคําตอบท่ีให๎มา 2 3. เข๎าใจและใชป๎ ระโยค 6. การถามและการตอบข๎อมูลการ 2  ซบั ซอ๎ นในสถานการณ๑ เปรยี บเทียบ ตํางๆ 7. การเขยี นแนะนําตนเองถงึ Pen pal โดยสํง 1 4. แลกเปลย่ี นขอ๎ มูล ทาง e-mail ขําวสารความร๎ู ทั้งอยาํ ง 1 เปน็ ทางการและไมเํ ป็น 1 ทางการได๎  หวั เรือ่ ง 11. Natural Disaster เวลา การวเิ คราะห๑เน้ือหา (ชัว่ โมง) ตวั ชว้ี ดั เนื้อหา พบกลมํุ สอน เรยี นรู๎ดว๎ ย เสรมิ ตนเอง 1. ศึกษา ค๎นคว๎าความร๎ู 1. บทอํานเกี่ยว Earthquake, Tornado หรอื 2 และข๎อมูลจากสื่อตาํ งๆได๎ Flood จากหนงั สือพมิ พ๑ หรอื Website ของ 2. สบื ค๎นข๎อมลู ในดา๎ น หนงั สือพิมพ๑ The Nation หรือ Bangkok 1 ตาํ ง ๆ จาก Internet ได๎ Post 3. เข๎าใจและใช๎ประโยคที่ 2. คําศัพท๑ วลี สํานวนทีเ่ กยี่ วข๎อง เชํน kill, 3 ซับซ๎อนในสถานการณ๑ injured, die, homeless, help, shelter, 2 ตําง ๆ ได๎ อยํางถูกตอ๎ ง landslide เป็นต๎น 4. การใช๎ Tense ที่ 3. Past Simple Tense, Past Continuous ยงํุ ยากและซบั ซ๎อนได๎ Tenseและ Past Perfect Tense. 4. Compound Sentence และ Complex Sentence

๒๖ เวลา การวิเคราะหเ๑ นื้อหา (ช่ัวโมง) ตัวชีว้ ดั เน้ือหา พบกลุํม สอน เรยี นรู๎ดว๎ ย เสรมิ ตนเอง 5. แลกเปล่ยี นขอ๎ มูล 5. การถามและการตอบคําถามจากบทอาํ น ขําวสารความรู๎ ท้ังเป็น 6. การแสดงบทบาทสมมตุ ิ (Role Play) เป็น 1 ทางการและไมํเปน็ ผ๎ูสื่อขาํ ว นาํ เสนอขําวทีเ่ ก่ียวกับ Natural ทางการ Disaster 1 หวั เรอ่ื ง 12. Let’s Travel เวลา การวิเคราะหเ๑ นื้อหา (ชวั่ โมง) ตวั ช้วี ดั เนอ้ื หา พบกลมํุ สอน เรยี นร๎ดู ว๎ ย เสรมิ ตนเอง 1. ศกึ ษาคน๎ คว๎าความรู๎ 1. ตารางเวลาของ Bus, Train, Airplane, 2  และข๎อมูลจากสื่อตํางๆได๎ Boat หรอื Subway จากสือ่ ตํางๆ เชํน แผนํ พบั 2. สืบคน๎ ข๎อมลู ในดา๎ น หนงั สอื พิมพ๑ หรอื Website ท่เี ก่ียวข๎อง 2 ตาํ งๆ จาก Internet และ 2. Asking & giving Information เชนํ รบั สงํ e-mail ได๎ - Could you please tell 3. เขา๎ ใจและใช๎ประโยคที่ me....................? ซบั ซ๎อนในสถานการณ๑ - Please tell me.............................. 2 ตํางๆ ได๎ - Excuse me. Do you 4. ใช๎ Tense ท่ยี งุํ ยาก know..................? และซับซ๎อนได๎ 3. การบอกทิศทาง (Direction) เชนํ 5. แลกเปลี่ยนข๎อมูล - Go straight. ขําวสารความร๎ูได๎ - Keep walking to.......................... - Walk past.................................. - It’s at the opposite 2 of.......................... 2  - Next to.................................... 4. Past Simple Tense และ Past Simple 2  Tense 5. การเขียนเลําเรอ่ื งหรือประสบการณใ๑ นการ ทอํ งเท่ยี ว 6. การวางแผนการเดนิ ทางทํองเทีย่ ว

๒๗ หัวเรือ่ ง 13. Will it rain tomorrow? เวลา การวเิ คราะห๑เน้ือหา (ชว่ั โมง) ตวั ชว้ี ดั เนอ้ื หา พบกลํุม สอน เรียนรดู๎ ว๎ ย เสรมิ ตนเอง 1. ศึกษาค๎นควา๎ ความร๎ู 1. บทอําน การพยากรณ๑อากาศ (Weather 2 และข๎อมูลจากสื่อตาํ งๆ Forecast) ทง้ั ในประเทศและตาํ งประเทศ เชํน หนงั สือพมิ พ๑ภาษา 2. การถาม-ตอบ คําถามจากบทอําน การ 1 อังกฤษและWebsite ได๎ พยากรณ๑อากาศ (Weather Forecast) 2. แลกเปล่ยี นขอ๎ มลู 3. การถามและการขอข๎อมูล (Asking & Giving 2  ขาํ วสารความรทู๎ ัง้ อยาํ ง Information) เป็นทางการและไมเํ ปน็ 4. เสียง คาํ ศัพท๑ วลี สํานวนท่มี ักใชบ๎ ํอยๆ ใน ทางการได๎ ขาํ วพยากรณ๑อากาศ เชํน shower, windy, 3. เข๎าใจและใช๎ประโยคท่ี heavy, scatter, stormy, sunrise, sunset, ซับซ๎อนในสถานการณ๑ maximum, minimum, Northeast ตาํ ง ๆ ได๎อยาํ งถูกต๎อง 5. Parts of Speech การทําคาํ นาม Noun ให๎ 2  4. สบื คน๎ ข๎อมูลในด๎าน เปน็ Adjective  ตาํ ง ๆ จาก Internet ได๎ 6. Website ท่ีเก่ียวกบั การพยากรณ๑อากาศ 1 7. Role play เป็นผู๎ประกาศขาํ วการพยากรณ๑ 2  อากาศ หวั เร่อื ง 14. Global Warming เวลา การวเิ คราะห๑เน้ือหา (ช่ัวโมง) ตัวชวี้ ัด เนื้อหา พบกลมํุ สอน เรียนร๎ูดว๎ ย เสริม ตนเอง 1. ศึกษาคน๎ คว๎าความร๎ู 1. บทความเกย่ี วกบั ภาวะโลกร๎อน (Global 2 และข๎อมลู จาก Warming) สาเหตขุ องภาวะโลกรอ๎ นหรอื สอ่ื ตําง ๆ ได๎ ผลกระทบของภาวะโลกร๎อนจากหนงั สอื หรือ 2 2. สืบค๎นขอ๎ มูลในด๎าน หนงั สือพมิ พ๑หรือWebsite ทีเ่ กย่ี วข๎อง ตาํ งๆ จาก Internet ได๎ 2. การอํานออกเสยี งคําศัพท๑ วลี สาํ นวน ที่ 2 3. เข๎าใจและใชป๎ ระโยค เกยี่ วขอ๎ ง เชนํ temperature, increase, ซับซอ๎ นในสถานการณ๑ melt, burn, earth, hot เป็นต๎น 2 ตําง ๆ ได๎ 3. โครงสร๎าง Passive Voice 2 4. ใช๎ Tense ท่ียงุํ ยากและซบั ซ๎อนได๎ Subj + V to be + V3 5. แลกเปลย่ี นขอ๎ มูล ขําวสารความร๎ูทั้งอยําง 4. บทสนทนาทเ่ี กีย่ วกับการปอู งกันหรือ เป็นทางการและไมเํ ปน็ ลดภาวะโลกร๎อน ทางการได๎ 5. Mind map แสดงเหตผุ ลและผลกระทบ ของภาวะโลกร๎อน

๒๘ หัวเรื่อง 15. Urgently Wanted เวลา การวเิ คราะหเ๑ นื้อหา (ชว่ั โมง) ตวั ชีว้ ดั เนื้อหา พบกลํุม สอน เรียนรดู๎ ๎วย เสรมิ ตนเอง 1.ศกึ ษาคน๎ ควา๎ ความรแู๎ ละ 1. โฆษณาตาํ แหนํงงาน (Job 2 ข๎อ มลู จากสื่อตาํ งๆ ได๎ Advertisement)จากหนังสือ หนังสือพมิ พ๑ 2 2.สืบค๎นขอ๎ มูลในด๎าน หรือ Website เกีย่ วขอ๎ ง ตาํ งๆจากInternetและ 2. คาํ ศพั ท๑ สํานวน วลี โครงสรา๎ งที่ รบั สงํ e-mail ได๎ เกยี่ วข๎อง เชํน qualification, salary, 3.เข๎าใจและใชป๎ ระโยค graduation, age, photo, apple เปน็ ตน๎ 2 ซับซ๎อนในสถานการณ๑ 3. การเขยี นประวัติ (Resume) เพ่ือสมคั ร ตาํ ง ๆ ได๎ งานการสงํ e-mail สมัครงาน 4.การแลก เปล่ียนข๎อมลู ขําวสารความร๎ู ทัง้ อยํางเป็นทางการและ ไมํเปน็ ทางการได๎ หวั เร่อื ง 16. ภาษาองั กฤษสําหรับพนักงานนวดแผนไทย เวลา การวิเคราะหเ๑ นื้อหา (ชวั่ โมง) ตวั ชีว้ ดั เนื้อหา พบกลุํม สอน เรียนรด๎ู ว๎ ย เสรมิ ตนเอง 1. ใช๎คาํ ศัพท๑เกีย่ วกับ 1. คําศัพทเ๑ ก่ียวกับการให๎บริการนวดแผนไทย 5 การ ให๎บรกิ ารนวดแผน เชํน massage, relax etc. ไทยได๎ถูกต๎อง 2. สํานวนภาษาการกลาํ วเชิญชวนลกู คา๎ การ  2. ใชส๎ ํานวนภาษาใน นดั หมายลกู ค๎า การให๎ข๎อมลู เก่ยี วกบั การ การ เชิญชวน นัดหมาย บริการนวดแผนไทย เชํน ลกู คา๎ และการ ให๎ Come this way to the massage room. ข๎อมลู เกีย่ วกับการนวด Please straight out your foot. แผนไทย Please check your belongings before you leave. Would you like to return for another massage later?

๒๙ หวั เรอ่ื ง 17. ภาษาอังกฤษสําหรบั พนกั งานขาย เวลา การวิเคราะห๑เน้ือหา (ชัว่ โมง) ตัวชวี้ ัด เน้อื หา พบกลุํม สอน เรียนรดู๎ ว๎ ย เสรมิ ตนเอง 1. ผเู๎ รียนสามารถใช๎ 1. การโต๎ตอบและชกั ชวนลูกค๎าเขา๎ ชมร๎านขาย 2 ถอ๎ ยคํา สาํ นวน และ ของทีร่ ะลึก ประโยคตอบโตใ๎ นการ 3. การฝกึ สนทนาในสถานการณท๑ กี่ ําหนดและ  บอกข๎อมูล ความประสงค๑ การฝกึ เรียงลาํ ดบั ประโยค ในการซ้ือสินคา๎ ได๎ใน 4. การตํอรองราคาสนิ คา๎ ในรา๎ นคา๎ 2 4  สถานการณ๑ดังน้ี 5. การฝึกเรียงลาํ ดับบทสนทนา 2 1.1 การทกั ทาย 6. การจองตว๋ั รถโดยสาร รถไฟ เครือ่ งบิน  เชญิ ชวนลูกคา๎ 7. การฝึกเรยี งลาํ ดับบทสนทนา 1.2 เจรจาซือ้ ขาย และ 8. แบบทดสอบทา๎ ยบท ตํอรองราคาสนิ คา๎ ได๎ 1.3 โต๎ตอบในการซื้อขาย ตัว๋ โดยสาร บอกจุดหมาย ปลายทาง สําหรับรถโดย สาร รถไฟ และเคร่ืองบนิ ได๎ 1.4 มีความรคู๎ วามเขา๎ ใจ และสามารถนําความรู๎ เก่ียวกับการเจรจาซ้ือ ขายไปใช๎ได๎ทุก สถานการณ๑

แผนการเรียนการสอน รายวิชาภาษาองั กฤษเพื่อชีวิตและสังคม พต 310 กศน..................................... อาเภอบา้ นโปุง จังหวัดราชบุร รายวชิ า/หัวเรอื่ ง ตวั ชีว้ ดั เน้ือหา การพูดสนทนา การตดิ ตํอ สอ่ื สารทาง ๒. การทักทาย ขน้ั ที่ 1 ทางโทรศัพท๑ โทรศพั ท๑ได๎คลํองแคลวํ การใช๎คาํ และประโยคท่ี -ครพู ูด ถกู ต๎องในการทกั ทาย การ ตอบรับคาํ ทักทาย การใช๎ ชีวิตปร คาํ พดู ตามเวลา เชํน ความส - Hi - ครพู - Hello โทรศพั - How are you? อะไรบ - How’s it going? - How’ve you been? ขน้ั ที่ - What’s new? 1. คร - What’s up? - What’s happening? ทางโท - What’s going on? ตง้ั ใจฟ 2.ครแู วดี ที ัศ

001 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563 รี วนั ที่ ........ เดอื น ...........................พ.ศ............ คร้งั ท่ี........ การจดั กระบวนการเรยี นรู้ สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ การวดั และ ประเมนิ ผล 1 กาํ หนดสภาพ ปัญหา -แบบเรียนวิชาองั กฤษ -การสงั เกตการมี เพื่อชีวติ และสงั คม สํวนรวํ ม ดทักทายผู๎เรยี นและถามผ๎ูเรียนวาํ ใน -ห๎องคอมพิวเตอร๑ -ใบงานเกีย่ วกบั การ ระจาํ วนั การพดู สื่อสารทางโทรศัพท๑มี ตดิ ตํอทางโทรศัพท๑ ภาษาอังกฤษ สาํ คัญอยํางไร - วดี ีทศั น๑บทสนทนา พดู คยุ ซักถามเกี่ยวกับการพดู คุยทาง พท๑เป็นภาษาอังกฤษวํามปี ระโยค - แบบทดสอบ บา๎ ง 2 ขนั้ แสวงหาข๎อมลู และจัดการเรียนร๎ู - แบบสังเกต รใู ห๎ผู๎เรียนชมวีดีทศั น๑เร่ือง การพูดคุย ทรศัพท๑แบบไมํเปน็ ทางการให๎ผูเ๎ รยี น ฟงั และจดบนั ทกึ เน้ือหาสาระท่ีสาํ คัญ และผ๎เู รียนรวํ มกันสรุปเนื้อหาจาการดู ศน๑เรื่องเร่ืองการพูดคยุ ทางโทรศพั ท๑แบบ 30

รายวชิ า/หวั เรื่อง ตวั ชี้วดั เน้ือหา ๓. การติดต่อทางโทรศัพทก์ ับผู้ ไมํเป็น ทีค่ นุ้ เคย 3. แบ รจ๎ู ักวธิ ีการพดู โตต๎ อบทาง โทรศัพท๑กับเพ่ือน ญาติ พนี่ อ๎ ง 4. ผเู๎ ร และผท๎ู ่ีคน๎ุ เคยในเรื่องตาํ ง ๆ โดย โทรศพั ใชส๎ ํานวนและภาษาทเ่ี หมาะสม ข้ันที่ เชํน - Is ……………. at home? 1. ค - Could I speak to………., โทรศัพ please? 2. ให - May I speak to ……..…., หนา๎ ช please? ทางโท - She/he is out. 3. คร เรียนร ข้นั ท่ี 4 ครแู ละ กลาํ วถ โทรศพั

การจัดกระบวนการเรียนรู้ สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้ การวดั และ ประเมนิ ผล นทางการ 31 บํงกลมํุ ฝึกสนทนาทางโทรศพั ท๑ รยี นทาํ แบบฝึกหัดเรื่อง การพูดคยุ ทาง พท๑ 3 ขนั้ ปฏบิ ตั ิและนําไปประยกุ ต๑ใช๎ ครูใหผ๎ ๎เู รียนจับคูํ เพื่อฝึกการสนทนาทาง พท๑เปน็ ภาษาอังกฤษ ห๎ผูเ๎ รยี นจับคูอํ อกมาแสดงบทบาทสมมุติ ชน้ั เรียน จากท่ีผ๎ูเรียนได๎ฝกึ การสนทนา ทรศัพท๑เป็นภาษาอังกฤษ รแู ละผ๎ูเรียนรวํ มกนั สรปุ บทเรยี นทไี่ ด๎ รู๎ 4 การประเมินผลการเรยี นร๎ู ะผู๎เรียนสรุปสิ่งท่ีได๎เรยี นรู๎รวํ มกันและ ถงึ ความจําเป็นในการสื่อสารทาง พทเ๑ ปน็ ภาษาอังกฤษ

32 แบบทดสอบกํอนเรยี น รายวิชาภาษาอังกฤษเพอื่ ชีวิตและสงั คม พต31001 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย Choose the best answer. 1. Which group of words has the same pronunciation? a. mixed, needed, cooked b. cheated, waited, wanted c. dropped, washed, rented d. trained, started, disturbed 2. Which word stresses at the first syllable? a. engineer b. opposite c. undertake d. transportation 3. Which sentence has the rising intonation? a. Are you ready? b. How do you do? c. The weather is fine. d. What time are you leaving? 4. Which sentence has the linking sound? a. Its all over. b. I will do my homework. c. No one laugh at that man. d. He went to the zoo last week 5. What should you say if Mike got a gold medal? a. Well done! b. Of course not. c. Who told you? d. Tony also got one. 6. I’m very disappointed with …………………… a. her first prize b. my youngest son c. getting promotion d. my first prize lottery 7. Jan takes medicine …………………. After meal. a. late b. before c. always d. directly 8. Which word means having too much medicine? a. overcome b. overdose c. overload d. overall

33 9. We call the 24th of December as “…………………”. a. Christmas Day b. Christmas Eve c. Christmas Time d. Christmas night 10. …………………….. and enjoy, if you hurt, please let me know. a. Sleep b. Relax c. Stay still d. Close you eyes

34 ใบความรู้ เรอ่ื งการพดู สนทนาทางโทรศัพท์ การร๎ูจักประโยคตํางๆท่ีใช๎ในการสนทนาโต๎ตอบหรือติดตํอสื่อสารทางโทรศัพท๑เป็ นทักษะเบ้ืองต๎นที่สําคัญ สําหรบั การนําไปประยุกตใ๑ ชใ๎ นการประกอบอาชพี และการดําเนนิ ชีวิตประจําวัน ตวั อยํางประโยคท่ีใช๎ในการสนทนาใน สถานการณต๑ าํ งๆ เชํน Introductions เร่ิมการสนทนาทางโทรศัพทด๑ ๎วยการแนะนาํ ตวั เอง เชํน \"Hello, this is Louis Barker. ถา๎ ผ๎ทู ่ีโทรเขา๎ มาไมํไดแ๎ นะนําตัวเขา เราสามารถใชป๎ ระโยคคําถามวํา \"May I ask who's calling, please?\" Asking for someone / Making a request ประโยคท่ีใช๎ในการถามหาคนท่ีตอ๎ งการพูดด๎วย เชนํ \"May I speak to Alax Johnson, please?\" หรอื ถา๎ มีเบอรต๑ ํอแตํไมํทราบชื่อของเจ๎าของเบอร๑น้ัน ควรพดู วํา \"Could I have extension number 635?\" ถา๎ โทรเพื่อจดุ ประสงคช๑ ัดเจนไมไํ ด๎อยากคุยกบั ใครเป็นการเจาะจง ควรบอกวตั ถปุ ระสงค๑ของการโทร เชํน \"I’m calling to make a reservation.\" ถอื สายรอหรือโอนสาย \"Please hold\" เปน็ ภาษาทางโทรศัพทท๑ ี่หมายถึง \"รอสักครูํ\" ถา๎ transferred (โอนสาย) ไป ทเี่ บอรต๑ ํออ่นื เรามกั จะไดย๎ ินการบอกกลาํ ววาํ \"Connecting your call...\" หรือ \"Please hold, I'll transfer you.\" แตํถา๎ ติดตํอทางธุรกิจในชํวงเวลาท่ียุงํ ๆ เราอาจไดย๎ ินเพยี งคําบอกสน้ั ๆ ใหถ๎ ือสายรอวํา\"Hello, please hold!\" กอํ นท่ีโอปะเรเตอรจ๑ ะตัดไปรับสายอ่นื

35 แบบประเมินผลการเรียนรู้ เรือ่ ง ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทางโทรศัพท์ ชอื่ -นามสกุล............................................................................................................................. .. รหสั นักศกึ ษา..........................................................ระดับ........................................................... ให๎ผ๎ูเรยี นศึกษาบทสนทนา การทักทายและการสื่อสารโทรศัพท๑ ทางส่อื ตาํ ง ๆ หรือในชีวติ ประจําวัน และให๎ ผ๎ูเรียนจับคเูํ ขียนบทสนทนาทางโทรศพั ท๑มา 10 ประโยค พร๎อมออกมานําเสนอหน๎าช้ันเรยี น ............................................................................................................................. ............................................... ................................................................................................................................................................................ ......... .......................................................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ ..................................................................................................................................... .................................................... ......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ........................................................... ................................................................................................................................................................. ........................ ........................................................................................................... .............................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ ......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ ................................................................................................................................................. ........................................ .......................................................................................... ............................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................................................................ .............

แผนการจัดกจิ กรรม

มการเรยี นรู้คร้งั ท่ี 3

แผนการเรยี นรู๎รายวิชา พต3100 ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย ภา ช่ือหนวํ ยการเรยี นร๎ู การใชพ๎ จนานุกรม U รายวชิ า/หวั ตัวชีว้ ดั เนอ้ื หา ข้นั ท่ี 1 ก เรื่อง 1.1 สามารถใช๎ 2. การใชพ้ จนานกุ รม (Dictionary) การใช๎ พจนานุกรม 1.1.ทบทวนการคน๎ หาความหมายของ 1.2 พจนานกุ รม ภาษาอังกฤษ คาํ ศัพทโ๑ ดยเรยี งตาม ตวั อกั ษรของคาํ ศัพทท๑ ่ี ข้ัน ในการหา คน๎ หาจาก a ถงึ z 2.1 ความหมายของ 1.2.ให๎อาํ นวิธีการใช๎พจนานุกรมและข๎อมูล คําศัพท๑ หนา๎ ทีข่ อง ตาํ ง ๆ ที่อยใํู นสํวนหน๎า (คาํ ชีแ้ จงในการใช)๎ 2.2 คํา และคําอาํ น ของ Dictionary ใหเ๎ ข๎าใจ (อาํ นและทาํ ตาม คาํ แนะนําในการใช๎ คํูมอื ปาู ยคาํ แนะนํา ขอ๎ ควรระวังและ ปาู ยประกาศ)

01 ภาษาอังกฤษเพื่อชีวิตและสังคม สือ่ และแหลงํ เรยี นรู๎ การวัดและ าคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 ประเมนิ ผล Using a Dictionary สัปดาหท๑ ่ี/คร้งั ท่ี 3 - พจนานุกรม การจัดกระบวนการเรียนรู๎ ภาษาอังกฤษ กาหนดสภาพปัญหา ความต้องการในการเรยี นรู้ 1 ครูสอบถามผ๎ูเรยี นวาํ “ถา๎ เราตอ๎ งการรค๎ู วามหมาย - ไทย คาํ อาํ น ของคาํ ศัพทภ๑ าษาอังกฤษ ผ๎เู รียนตอ๎ งทาํ - ใบงาน อยํางไร” 2 ครแู ละผเู๎ รียนรวํ มกันสรา๎ งความเขา๎ ใจวิธกี ารใช๎ หาคาํ ศพั ท๑ พจนานุกรมภาษาองั กฤษ นที่ 2 แสวงหาข้อมลู และจัดการเรยี นรู้ 10 คาํ 1 ครูอธิบายหลักการใช๎พจนานุกรมภาษาองั กฤษ การหาคาํ ศัพท๑ตามตัวอักษร ตัวยํอในพจนานุกรม - ใบความรู๎ - แบบสงั เกต ภาษาองั กฤษ คาํ อําน ความหมาย พรอ๎ มกบั แจก เอกสารใบความร๎ูการใชพ๎ จนานกุ รมภาษาอังกฤษ (Using a 2 ใหผ๎ ๎ูเรยี นแบํงกลุํมแขํงขันทําใบงานเรื่อง คําศพั ท๑ Dictiionary) - ใบงาน 10 คํา โดยกาํ หนดเวลา 5 นาที - ใบงาน หาคาํ ศพั ท๑ สถานท่ี 38

การใช๎ สามารถใช๎ 1.3.เมอ่ื คน๎ หาคําศัพท๑พบแล๎ว ให๎ศกึ ษาวธิ กี าร ขนั้ ที่ 3 ก พจนานกุ รม พจนานกุ รม ภาษาองั กฤษ อาํ นออกเสียงหน๎าท่ขี องคํา ความหมายและ 3.1 ในการหา ความหมายของ ตวั อยํางในการใช๎ (ซ่ึงคําบางคําอาจจะทําหนา๎ ที่ คาํ ศัพท๑ หน๎าที่ ของคํา และคาํ ได๎หลายอยําง) และคาํ ท่ีมีความหมายใกลเ๎ คยี ง 3.2 อําน (อํานและทาํ ตามคาํ แนะนําใน กัน เชนํ drug (ดรกั ) n. ยา ผลติ ภณั ฑ๑ยา ยา การใช๎คํมู ือ ปูาย คาํ แนะนํา วธิ กี าร เสพตดิ สินค๎าที่เกีย่ วกบั สขุ ภาพทขี่ ายในร๎าน ปรงุ ขอ๎ ควรระวัง และ ปูาย ขายยา vt. drugged, drugging ผสมกบั ยา ทํา ขน้ั ที่ 4 ก ประกาศ) ใหต๎ ิดยา ทําให๎ไดร๎ ับพิษจากยา drug on the 4.1 market สนิ คา๎ ที่มี มากเกนิ ความตอ๎ งการใน 4.2 ตลาด พ พ

การปฏบิ ตั แิ ละการนาไปใช้ - พจนานุกรม 1 ผู๎เรียนนําความรูไ๎ ปใชไ๎ ดใ๎ นสถานทีต่ าํ ง ๆ หรอื แหลํง ภาษาองั กฤษ ทํองเทย่ี วตาํ ง ๆ ได๎ - ไทย 2 ครูให๎ผ๎เู รยี นไปตามสถานทีส่ ําคัญตําง ๆ พร๎อมกับให๎ - ใบงาน บันทึกคาํ ศัพท๑ และบอกความหมายของคําศัพทน๑ ั้น หาคาํ ศัพท๑ อยาํ งนอ๎ ย 10 คาํ ศัพท๑ เพื่อสงํ ในการพบกลุํมคร้งั ตํอไป 10 คาํ การประเมนิ ผลการเรียนรู้ - ใบความรู๎ 1 ครูและผ๎ูเรยี นประเมินผลจากแบบสังเกตใบงาน - แบบสงั เกต (Using a - ใบงาน 2 ครแู ละผูเ๎ รยี นรํวมกันประเมินงานจากการทําใบงาน พร๎อมกบั สรุปวาํ ผู๎เรียนมคี วามเข๎าใจมากน๎อยเพียงใด Dictiionary) พร๎อมกบั หาแนวทางแก๎ไขรํวมกัน - ใบงาน หาคาํ ศพั ท๑ สถานที่ 39

39 ใบงาน หาคาศัพท์จากพจนานุกรม หน่วยการเรยี นรู้ การใชพ๎ จนานกุ รมภาษาองั กฤษ วิชา ภาษาองั กฤษเพื่อชวี ิตและสังคม ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย คาช้แี จง จงหาคําอาํ น ความหมาย ของคําศัพท๑ในพจนานุกรมดังตํอไปน้ี 1. Mother คาํ อําน.............................................................. ความหมาย………………………………………………… 2. Desk คําอําน.............................................................. ความหมาย………………………………………………… 3. Computer คาํ อําน.............................................................. ความหมาย………………………………………………… 4. Turn on คําอาํ น.............................................................. ความหมาย………………………………………………… 5. Clock คาํ อาํ น.............................................................. ความหมาย………………………………………………… 6. Chair คาํ อาํ น.............................................................. ความหมาย………………………………………………… 7. Pencil คาํ อําน.............................................................. ความหมาย………………………………………………… 8. Shoe คาํ อาํ น.............................................................. ความหมาย………………………………………………… 9. Bag คําอําน.............................................................. ความหมาย………………………………………………… 10.Money คําอําน.............................................................. ความหมาย…………………………………………………

40 ใบงาน เรือ่ ง คาํ ศพั ท๑ 10 คาํ คาํ ช้แี จง จงหาความหมายของคําศพั ท๑ในพจนานกุ รมดงั ตํอไปน้ี 1. Mother ความหมาย……………………………………………………………………….. 2. Desk ความหมาย……………………………………………………………………….. 3. Computer ความหมาย……………………………………………………………………….. 4. Turn on ความหมาย……………………………………………………………………….. 5. Clock ความหมาย……………………………………………………………………….. 6. Chair ความหมาย……………………………………………………………………….. 7. Pencil ความหมาย……………………………………………………………………….. 8. Shoe ความหมาย……………………………………………………………………….. 9. Bag ความหมาย……………………………………………………………………….. 10.Money ความหมาย………………………………………………………………………..


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook