สอบ

หมวด 4 การปฏบิ ตั ริ าชการแทน 1. การปฏบิ ตั ริ าชการแทน หมายถงึ การมอบอานาจใหผ้ ู้อน่ื ปฏบิ ตั ริ าชการ โดยผู้มอบอานาจยงั สามารถปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี 2. อานาจในการสงั่ การอนญุ าต การอนมุ ตั ิ การปฏบิ ตั ริ าชการหรอื การ ดาเนนิ การ อื่นที่ดารง ตาแหนง่ ใดในพระราชบญั ญตั นิ จ้ี ะพงึ ปฏบิ ตั หิ รอื ดาเนนิ การตามกฎหมาย - ถา้ มิไดก้ าหนดเรอ่ื งการมอบอานาจไวเ้ ปน็ อยา่ งอนื่ ผดู้ ารงตาแหนง่ นนั้ อาจมอบอานาจใหผ้ ูด้ ารงตาแหนง่ อนื่ ปฏบิ ตั ริ าชการแทนไดโ้ ดยคานงึ ถงึ 1. ความเปน็ อสิ ระ 2. การบรหิ ารงานทค่ี ลอ่ งตวั

การมอบอานาจปฏบิ ตั ริ าชการแทน 1 . รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร อาจมอบอานาจให้ รฐั มนตรชี ว่ ยวา่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ปลดั กระทรวง เลขาธกิ าร หรอื หวั หนา้ สว่ นราชการซึ่งดารงตาแหนง่ เทยี บเทา่ อธิการบดใี นสถานศกึ ษาของรฐั ทจี่ ดั การศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาในสังกดั หรอื ผู้วา่ ราชการจงั หวดั 2 . ปลัดกระทรวง อาจมอบอานาจให้ รองปลดั กระทรวง ผู้ชว่ ยปลดั กระทรวง หรือ เลขาธกิ าร อธกิ ารบดใี นสถานศกึ ษาของรฐั ทจี่ ดั การศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาในสงั กดั หรือผอู้ านวยการสานกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษา หรือ ผ้อู านวยการ สถานศกึ ษา หรือผวู้ า่ ราชการจงั หวดั

3. เลขาธกิ าร อาจมอบอานาจให้ รองเลขาธกิ าร ผู้ช่วยเลขาธกิ าร อธกิ ารบดใี นสถานศกึ ษาของรฐั ที่ จัดการศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาในสงั กดั ผ้อู านวยการสานกั ผอู้ านวยการ สานักบรหิ ารงานหรอื ผดู้ ารงตาแหนง่ เทียบเทา่ ผอู้ านวยการสานกั งาน เขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษา หรือ ผ้อู านวยการสถานศกึ ษา หรอื ผวู้ า่ ราชการ จังหวดั 4. ผ้อู านวยการสานกั อาจมอบอานาจให้ ผอู้ านวยการสานกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษา ผอู้ านวยการสถานศกึ ษา หรือผดู้ ารงตาแหนง่ เทยี บเทา่

5. ผอู้ านวยการสานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา หรือผดู้ ารงตาแหนง่ เทียบเทา่ อาจ มอบอานาจให้ ขา้ ราชการในสานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา หรอื ผู้อานวยการ สถานศกึ ษา หรือ หัวหนา้ หนว่ ยงานทเี่ รยี กชอื่ อยา่ งอน่ื ในเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาท่ี ตนรับผิดชอบไดต้ ามระเบยี บท่เี ลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน กาหนด 6. ผ้อู านวยการสถานศกึ ษาหรอื ผดู้ ารงตาแหนง่ เทยี บเทา่ อาจมอบอานาจให้ ขา้ ราชการในสถานศกึ ษาหรอื ในหนว่ ยงานทเี่ รยี กชอ่ื อยา่ งอนื่ ได้ ตามระเบยี บที่ คณะกรรมการเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษากาหนด

เมอ่ื มกี ารมอบอานาจโดยชอบแลว้ • ผรู้ ับมอบอานาจมีหน้าทต่ี อ้ งรบั มอบอานาจนั้น และจะมอบอานาจนั้น ใหแ้ กผ่ ดู้ ารงตาแหนง่ อนื่ ตอ่ ไปไมไ่ ด้ • เวน้ แตก่ รณกี ารมอบอานาจให้แก่ ผวู้ ่าราชการจงั หวดั จะมอบอานาจ นน้ั ต่อไปตามกฎหมายวา่ ดว้ ยระเบยี บบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ กไ็ ด้

ขอ้ ควรจา เร่ือง การมอบอานาจใหป้ ฏิบตั ริ าชการแทน *** เม่อื รับมอบอานาจแล้ว ... ผรู้ ับมอบจะมอบใหค้ นอนื่ อกี ไมไ่ ด้ ยกเวน้ มอบให้ ผู้ว่าราชการจงั หวดั .... ผู้ว่าฯ สามารถมอบตอ่ ไปให้ .....รองผู้วา่ ราชการ จงั หวดั – ปลัดจงั หวดั – หัวหนา้ สว่ นราชการประจาจงั หวดั – นายอาเภอ – หวั หนา้ ส่วนราชการประจาอาเภอ โดยมีเง่อื นไข 1. ถา้ ผู้วา่ ราชการจงั หวดั มอบให้ รองผู้วา่ ราชการจงั หวดั ....ให้ แจง้ ผมู้ อบอานาจชน้ั ตน้ ทราบ 2. ถ้าผ้วู า่ ราชการจงั หวดั มอบให้ ปลดั จงั หวดั หวั หนา้ สว่ น ราชการประจาจงั หวดั นายอาเภอ หัวหนา้ สว่ นราชการประจาอาเภอ ต้องไดร้ บั ความเหน็ ชอบจากผ้มู อบอานาจชนั้ ตน้ เสยี กอ่ น

หมวด 5 การรกั ษาราชการแทน การรกั ษาราชการแทน ใช้ในกรณที ผ่ี ดู้ ารงตาแหนง่ ไมม่ ี หรือไมอ่ ยู่ สถานที่ ทางาน 1. รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร @ให้รฐั มนตรชี ว่ ยวา่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร @ ถา้ มรี ฐั มนตรชี ว่ ยวา่ การกระทรวง ศธ.หลายคน ให้คณะรฐั มนตรี มอบหมายใหร้ ฐั มนตรชี ว่ ยวา่ การกระทรวง ศธ.คนใดคนหนงึ่ เปน็ ผูร้ ักษาราชการแทน @ ถา้ ไมม่ ผี ้ดู ารงตาแหนง่ รฐั มนตรชี ว่ ยวา่ การกระทรวง ศธ. หรอื มี แต่ไมอ่ าจปฏบิ ตั ริ าชการไดใ้ หค้ ณะรฐั มนตรมี อบหมายใหร้ ฐั มนตรี คนใดคนหนง่ึ เปน็ ผู้รกั ษาราชการแทน

2. ปลัดกระทรวง รองปลดั กระทรวงเป็นผรู้ กั ษาราชการแทน ถา้ มรี องปลดั กระทรวง หลายคน ให้รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ ารแตง่ ตงั้ รองปลดั กระทรวง คนใดคนหนึง่ เปน็ ผรู้ กั ษาราชการแทน ถา้ ไม่มผี ดู้ ารงตาแหนง่ รองปลดั กระทรวงหรอื มแี ตไ่ มอ่ าจปฏบิ ัติ ราชการไดใ้ ห้ รมว. ศึกษาธกิ ารแตง่ ตงั้ ขา้ ราชการในกระทรวงซง่ึ ดารง ตาแหนง่ ไมต่ า่ กวา่ เลขาธกิ ารหรอื เทยี บเทา่ เปน็ ผรู้ กั ษาราชการแทน

3. เลขาธกิ าร - รองเลขาธกิ ารเปน็ ผรู้ กั ษาราชการแทน - ถ้ามรี องเลขาธกิ ารหลายคนใ.ห้ รมว. ศึกษาธกิ าร แตง่ ตง้ั รอง เลขาธกิ ารคนใดคนหนง่ึ เป็นผรู้ กั ษาราชการแทน - ถ้าไมม่ ผี ดู้ ารงตาแหน่งรองเลขาธกิ าร หรือมีแตไ่ มอ่ าจปฏบิ ตั ิ ราชการได้ ให้ รมว. ศกึ ษาธกิ าร แต่งตงั้ ขา้ ราชการในสานกั งานซ่ึงดารง ตาแหนง่ เทยี บเทา่ รองเลขาธกิ าร หรือข้าราชการตาแหนง่ เลขาธกิ าร สานกั หรอื ผอู้ านวยการสานกั หรอื เทยี บเทา่ ขนึ้ ไปคนหนึง่ เป็นผรู้ กั ษา ราชการแทน

4. ผอู้ านวยการสานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษา - รองผอู้ านวยการสานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษา - ถา้ มรี องผอู้ านวยการสานักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาหลายคนให้ เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน แต่งตง้ั รองผอู้ านวยการ สานักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาคนใดคนหนงึ่ รกั ษาราชการแทน - ถ้าไมม่ ผี ดู้ ารงตาแหน่งรองผอู้ านวยการสานกั งานเขตพน้ื ท่ี การศกึ ษา หรือมแี ตไ่ ม่อาจปฏบิ ตั ริ าชการไดใ้ ห้เลขาธกิ ารคณะกรรมการ การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐานแตง่ ตง้ั ขา้ ราชการในเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษา ซง่ึ ดารง ตาแหนง่ เทยี บเทา่ รองผอู้ านวยการสานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาหรอื ดารง ตาแหนง่ ไม่ตา่ กวา่ ผอู้ านวยการสถานศกึ ษาหรอื ตาแหนง่ เทยี บเทา่ ขน้ึ ไป คนใดคนหนึง่ เป็นผรู้ กั ษาราชการแทนกไ็ ด้

5. ผ้อู านวยการสถานศกึ ษา - รองผู้อานวยการสถานศกึ ษารกั ษาราชการแทน - ถ้ามีรองผอู้ านวยการหลายคน ใหผ้ ูอ้ านวยการเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาแตง่ ตง้ั รองผูอ้ านวยการสถานศกึ ษาคนใดคนหนงึ่ รกั ษาราชการแทน - ถา้ ไมม่ ผี ดู้ ารงตาแหนง่ รองผ้อู านวยการสถานศกึ ษา หรือมี แตไ่ มอ่ าจปฏบิ ตั ิ ราชการได้ ให้ผอู้ านวยการเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษา แตง่ ตง้ั ข้าราชการในสถานศกึ ษาคนใด คนหนง่ึ เปน็ ผ้รู กั ษาราชการแทน 6. ใหผ้ ู้รักษาราชการแทน - มีอานาจเชน่ เดยี วกบั ผ้ตู นแทน - ในกรณที ผ่ี ู้ดารงตาแหนง่ ใดหรอื ผู้รกั ษาราชการแทนผดู้ ารง ตาแหนง่ นนั้ มอบหมายหรอื มอบอานาจใหผ้ ดู้ ารงตาแหนง่ อน่ื ปฏบิ ตั ริ าชการแทน ใหผ้ ู้ ปฏิบัตริ าชการแทนมอี านาจหนา้ ทเ่ี ชน่ เดยี วกบั ผ้ซู ง่ึ มอบหมายหรอื มอบอานาจ

ขอ้ สอบ พรบ.ระเบยี บบรหิ ารราชการกระทรวงศกึ ษาธิการ พ.ศ.2546 1. ข้อไมใ่ ช่สว่ นราชการในกระทรวงศกึ ษาธกิ าร (มาตรา 10) ก. สานกั งานปลดั กระทรวง ข. สานักงานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา ค. สานักงานคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษา ง. สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา

2. กฎหมายฉบบั นย้ี กเลกิ กฎหมายฉบบั ใด (มาตรา 3) ก. พ.ร.บ.ระเบียบการปฏบิ ตั ริ าชการของทบวงมหาวทิ ยาลยั พ.ศ. 2520 ข. พ.ร.บ.ระเบียบขา้ ราชการครู พ.ศ. 2523 ค. พ.ร.บ.ครู พ.ศ. 2488 ง. ข. และ ค. ถูก 3. กรณี พ.ร.บ.ระเบยี บบรหิ ารราชการกระทรวงศกึ ษาธกิ ารมไิ ด้ บญั ญตั ิ ไว้ ใหน้ ากฎหมายใดมาใชโ้ ดยอนโุ ลม (มาตรา 4) ก. พ.ร.บ.ระเบยี บบรหิ ารราชการแผ่นดนิ ข. กฎหมายวา่ ดว้ ยการศกึ ษาแห่งชาติ ค. พ.ร.บ.ระเบยี บขา้ ราชการครู พ.ศ. 2523 ง. ถกู ทงั้ ก. และ ข.

4. ข้อใดมใิ ชก่ ารจดั ระเบยี บบรหิ ารราชการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร (มาตรา 6) ก. ระเบียบบรหิ ารราชการสว่ นกลาง ข. ระเบียบบรหิ ารราชการเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษา ค. ระเบียบบรหิ ารราชการสว่ นภมู ภิ าค ง. ระเบยี บบรหิ ารราชการในสถานศกึ ษาของรฐั ทจี่ ดั การศกึ ษา ระดับปรญิ ญาทเี่ ป็นนติ บิ คุ คล

5. การกาหนดตาแหนง่ และอตั ราเงินเดอื นของขา้ ราชการใน กระทรวงศกึ ษาธกิ ารตอ้ งคานงึ ถงึ สง่ิ ใด (มาตรา 3) ก. คุณวฒุ ิ ข. ประสบการณ์ ค. มาตรฐานวชิ าชพี ง. ถูกทกุ ขอ้ 6. ใครมอี านาจออกระเบียบเพอื่ ปฏบิ ตั ติ ามพระราชบัญญตั นิ ้ี ก. ปลดั กระทรวง ข. เลขาธกิ าร ค. รัฐมนตรี ง. ถูกทงั้ ก. และ ข.

7. ข้อใดไมเ่ ป็นการจดั ระเบียบบรหิ ารราชการในสว่ นกลาง (มาตรา 8) ก. สานกั งานปลดั กระทรวง ข. สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ขั้นพนื้ ฐาน ค. สานักงานคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษา ง. สานกั งานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา 8. ข้อใดมีฐานะเปน็ นติ บิ ุคคล (มาตรา 10) ก. สานกั งานรฐั มนตรี ข. สานกั งานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา ค. สานักงานคณะกรรมการขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการ ศกึ ษา ง. สานกั งาน กศน.

๙. สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา จะแบง่ สว่ นราชการตอ้ งตราเปน็ กฎหมาย ใด (มาตรา 11) ก. พระราชบญั ญตั ิ ข. พระราชกฤษฎีกา ค. กฎกระทรวง ง. พระราชกาหนด ๑๐. ข้อใดไมใ่ ชห่ นา้ ทข่ี องสภาการศกึ ษา (มาตรา 14) ก. เสนอแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ ข. อนมุ ัตแิ ผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ ค. เสนอนโยบายและแผนในการสนบั สนนุ ทรพั ยากรเพอื่ การศกึ ษา ง. ดาเนนิ การประเมนิ การจดั การศกึ ษา

๑๑. หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน ต้องสอดคลอ้ งกบั ขอ้ ใด (มาตรา 15) ก. แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ข. แผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ ค. แผนพฒั นาการศกึ ษาแห่งชาติ ง. ก. และ ข. ถกู ๑๒. สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน เปน็ สว่ นราชการขน้ึ ตรง ตอ่ ข้อใด (มาตรา 29) ก. นายกรฐั มนตรี ข. รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ค. ปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ง. กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

13. เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานมีฐานะเทยี บเทา่ ตาแหนง่ ใด (มาตรา 29) ก. อธิบดี ข. ปลัดกระทรวง ค. ผตู้ รวจราชการกระทรวง ง. รองปลดั กระทรวง 14. การกาหนดเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษา ตอ้ งคานงึ ถงึ สง่ิ ใดเปน็ หลกั (มาตรา 23) ก. ปริมาณสถานศกึ ษา ข. จานวนประชากร ค. วัฒนธรรม ง. ถูกทกุ ขอ้

15. ใครเปน็ ผแู้ นะนาในการกาหนดเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษา (มาตรา 33) ก. รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ข. ปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ค. สภาการศกึ ษา ง. เลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา 16. การแบง่ สว่ นราชการของสานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา ต้องดาเนนิ การอยา่ งไร (มาตรา 34) ก. ประกาศกระทรวง ข. กฎกระทรวง ค. พระราชกฤษฎกี า ง. คาสงั่

17. การแบง่ สว่ นราชการในสถานศกึ ษาทจี่ ดั การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน ใครเปน็ ผกู้ าหนด (มาตรา 34) ก. ผูอ้ านวยการสานกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษา ข. คณะกรรมการเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษา ค. เลขาธิการคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน ง. คณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน

18. กรณไี มม่ ผี ดู้ ารงตาแหนง่ ผอู้ านวยการสถานศกึ ษา หรอื มแี ตไ่ มอ่ าจ ปฏิบัติราชการไดต้ อ้ งดาเนนิ การอยา่ งไร (มาตรา 54) ก. ใหร้ องผอู้ านวยการสถานศกึ ษารกั ษาการในตาแหนง่ ข. ใหร้ องผอู้ านวยการสถานศกึ ษารกั ษาราชการแทน ค. ใหร้ องผอู้ านวยการสถานศกึ ษาปฏบิ ตั ริ าชการแทน ง. ให้รองผอู้ านวยการสถานศกึ ษาเป็นผู้ปฏบิ ตั หิ นา้ ทแ่ี ทน

19. ตาแหนง่ ทมี่ ไิ ดก้ าหนดไวใ้ นพระราชบญั ญตั ริ ะเบียบบรหิ ารราชการ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารคอื (มาตรา 37) ก. ผู้อานวยการสานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา ข. รองผอู้ านวยการสานกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษา ค. ผชู้ ว่ ยผอู้ านวยการสานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษา ง. ผ้อู านวยการสานกั 20. ขอ้ ใดคอื อานาจหน้าทข่ี องปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ก. ควบคมุ ราชการประจาในกระทรวง ข. แปลงนโยบายเปน็ แนวทางและแผนปฏบิ ตั ริ าชการ ค. ประสานการปฏบิ ตั งิ านของสว่ นราชการในกระทรวง ง. ถกู ทุกขอ้

พรบ. สภาครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. 2546

หลกั การ ➢ แก้ไขพระราชบญั ญตั คิ รู พุทธศกั ราช 2488 ให้เปน็ กฎหมายวา่ ดว้ ย สภาครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. 2546 ➢ กาหนดใหม้ อี งคก์ รเกย่ี วกบั วชิ าชพี ครู 2 องค์กร ไดแ้ ก่ 1. สภาครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา เรยี กวา่ ครุ สุ ภา มฐี านะเปน็ นติ บิ คุ คลอยใู่ นกากบั ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร 2. สานักงานคณะกรรมการสง่ เสรมิ สวสั ดกิ ารและสวสั ดภิ าพครแู ละบคุ ลากรทางการ ศกึ ษา มีฐานะเปน็ นติ บิ คุ คล อยู่ในกากบั ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ภายใตก้ าร บริหารของคณะกรรมการสง่ เสรมิ สวสั ดกิ ารและสวสั ดภิ าพครแู ละบคุ ลากรทางการ ศกึ ษา

สาระสาคญั เกี่ยวกบั ครุ สุ ภา วตั ถุประสงคข์ องครุ สุ ภา ( มาตรา 8 ) 1. กาหนดมาตรฐานวชิ าชพี ออกและเพกิ ถอนใบอนญุ าต กากบั ดแู ล การปฏบิ ัตติ ามมาตรฐานวชิ าชพี และจรรยาบรรณของวชิ าชพี รวมทง้ั การพฒั นาวชิ าชพี 2. กาหนดนโยบายและแผนพฒั นาวชิ าชพี 3. ประสาน สง่ เสรมิ การศกึ ษาและการวจิ ยั เกย่ี วกบั การประกอบ วชิ าชพี

อานาจหนา้ ท่ขี องครุ สุ ภา ( ม.9 ) 15 ขอ้ 1. กาหนดมาตรฐานวชิ าชพี และจรรยาบรรณของวชิ าชพี 2. ควบคมุ ความประพฤตแิ ละการดาเนนิ งานของผปู้ ระกอบวชิ าชพี ทางการศกึ ษาใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐานวชิ าชพี และจรรยาบรรณของ วชิ าชพี 3. ออกใบอนุญาตใหแ้ กผ่ ขู้ อประกอบวชิ าชพี 4. พักใชใ้ บอนญุ าตหรอื เพกิ ถอนใบอนุญาต 5. สนบั สนนุ สง่ เสรมิ และพฒั นาวชิ าชพี ตามมาตรฐานวชิ าชพี และ จรรยาบรรณของวชิ าชพี ฯลฯ

➢คณะกรรมการครุ สุ ภา : เป็นองคก์ รบรหิ าร มอี านาจหนา้ ทบี่ รหิ ารและ ดาเนนิ งานใหเ้ ปน็ ไปตามวตั ถุประสงคแ์ ละอานาจหนา้ ทขี่ องครุ สุ ภา ➢คณะกรรมการครุ สุ ภา ตามคาสง่ั คสช.ที่ 17/2560 ประกอบดว้ ย 1. รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร เปน็ ประธาน 2. รมช.วา่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร 3. ปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร 4. เลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา 5. เลขาธกิ าร กพฐ.

6. เลขาธกิ ารคณะกรรมการอดุ มศกึ ษา 7. เลขาธกิ ารคณะกรรมการอาชวี ศกึ ษา 8. เลขาธกิ าร ก.ค.ศ. 9. เลขาธกิ ารคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศกึ ษาเอกชน 10. หวั หนา้ สานกั งานคณะกรรมการมาตรฐานการบรหิ ารงาน บุคคลสว่ นทอ้ งถน่ิ 11. เลขาธกิ ารครุ สุ ภา เป็นกรรมการและเลขานกุ าร

➢คณะกรรมการมาตรฐานวชิ าชพี : มหี น้าทคี่ วบคมุ และรกั ษามาตรฐาน การประกอบวชิ าชพี ของผปู้ ระกอบวชิ าชพี ➢คณะกรรมการมาตรฐานวชิ าชพี มจี านวน 17 คน วาระ 4 ปี ไม่เกนิ 2 วาระ (ม.21) ประกอบดว้ ย

อานาจและหนา้ ท่ขี องคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชพี (ม.25) 1. พิจารณาการออกใบอนญุ าตใหแ้ กผ่ ้ปู ระกอบวิชาชพี ทางการศกึ ษา และ การพกั ใชห้ รอื เพิกถอนใบอนญุ าต 2. กากับดแู ลการปฏบิ ตั ติ ามมาตรฐานและจรรยาบรรณของ ผ้ปู ระกอบวชิ าชพี ทางการศกึ ษา 3. ส่งเสริม พัฒนา และเสนอแนะคณะกรรมการครุ ุสภา กาหนดมาตรฐาน และจรรยาบรรณในการประกอบวชิ าชพี

4. ส่งเสรมิ ยกยอ่ ง และพฒั นาวชิ าชพี ไปสคู่ วามเปน็ เลศิ ในสาขาตา่ ง ๆ ตามท่ี กาหนดในขอ้ บังคบั ของครุ สุ ภา 5. แต่งตงั้ ทปี่ รกึ ษา คณะอนกุ รรมการ หรือมอบหมายกรรมการมาตรฐาน วชิ าชพี เพื่อกระทาการใด ๆ อนั อยใู่ นอานาจและหนา้ ทขี่ อง คณะกรรมการมาตรฐานวชิ าชพี 6. ปฏิบตั กิ ารอน่ื ใดตามทก่ี ฎหมายกาหนดไวใ้ ห้เป็นอานาจและหนา้ ทขี่ อง คณะกรรมการมาตรฐานวชิ าชพี 7. พิจารณาหรอื ดาเนนิ การในเรอื่ งอน่ื ตามทรี่ ฐั มนตรหี รอื คณะกรรมการครุ ุ สภามอบหมาย

** ใหค้ ณะกรรมการมาตรฐานวชิ าชพี เสนอรายงานดาเนนิ งาน ประจาปตี อ่ คณะกรรมการครุ สุ ภา ตามระเบียบทค่ี ณะกรรมการครุ ุ สภากาหนด ** สานักงานเลขาธกิ ารครุ สุ ภา ให้มีสานกั งานเลขาธกิ าร ครุ ุสภา รับผดิ ชอบเกยี่ วกบั การดาเนินงานของครุ สุ ภา (ม.34) โดยมี เลขาธกิ ารครุ สุ ภาบรหิ ารกจิ การของสานกั งานเลขาธกิ ารครุ สุ ภา และมวี าระอยใู่ นตาแหนง่ คราวละ 4 ปี และอาจไดร้ บั แตง่ ตงั้ อกี ได้ แตไ่ ม่เกนิ 2 วาระตดิ ตอ่ กนั (ม.35 – 42)

วชิ าชพี ควบคมุ วชิ าชพี ครู ผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา และผบู้ รหิ ารการศกึ ษา เปน็ วชิ าชพี ควบคมุ การกาหนดวชิ าชีพควบคมุ อน่ื ให้เปน็ ไปตามทก่ี าหนดใน กฎกระทรวง (ศกึ ษานิเทศก)์

ห้ามมิใหผ้ ใู้ ดประกอบวชิ าชพี ควบคมุ เว้นแต่ 1. ผู้ท่เี ขา้ มาให้ความรแู้ กผ่ เู้ รยี นในสถานศกึ ษาเปน็ ครงั้ คราวในฐานะ วทิ ยากรพเิ ศษทางการศกึ ษา 2. ผูท้ ไ่ี มไ่ ดป้ ระกอบวชิ าชพี หลักทางดา้ นการเรยี นการสอนแตใ่ นบางครง้ั ต้องทาหนา้ ทส่ี อนดว้ ย 3. นักเรยี น นกั ศกึ ษา หรือผู้รบั การฝกึ อบรมหรอื ผไู้ ดร้ บั ใบอนุญาต ปฏิบัติการสอน 4. ผทู้ ี่จดั การศกึ ษาตามอธั ยาศยั

5. ผู้ที่ทาหนา้ ทส่ี อนในศนู ยก์ ารเรยี นตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการศกึ ษาแห่งชาติ 6. คณาจารย์ ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา และผู้บรหิ ารการศกึ ษาในระดบั อดุ มศกึ ษา ระดบั ปรญิ ญาทงั้ ของรฐั และเอกชน 7. ผ้บู รหิ ารการศกึ ษาระดบั เหนอื เขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา 8. บคุ คลอน่ื ตามทค่ี ณะกรรมการครุ สุ ภากาหนดใบอนุญาตประกอบวชิ าชพี

บคุ คลยกเวน้ ไมต่ อ้ งมใี บประกอบวชิ าชพี 1. พระภกิ ษทุ ที่ าหนา้ ทส่ี อนหรอื บรหิ ารสถานศกึ ษา 2. ผสู้ อนศาสนาทท่ี าหนา้ ทใ่ี นสถานศกึ ษา 3. ผ้สู อนตามโครงการแลกเปลยี่ นระหวา่ งประเทศหรอื องคก์ รระหวา่ ง ประเทศ 4. ขา้ ราชการ ตชด. 5. ขา้ ราชการกลาโหมทจ่ี ดั การศกึ ษาปฐมวยั ขัน้ พืน้ ฐาน และอดุ ม ท่ตี า่ กวา่ ปรญิ ญา

คณุ สมบตั แิ ละลกั ษณะตอ้ งหา้ มของผขู้ อรับใบอนญุ าต (ม.44) ➢ คุณสมบตั ิ 1. มอี ายไุ มต่ า่ กวา่ 20 ปบี รบิ ูรณ์ 2. มีวุฒิปรญิ ญาทางการศกึ ษา หรือเทยี บเทา่ หรอื มคี ณุ วฒุ อิ นื่ ทคี่ รุ ุ สภารบั รอง 3. ผา่ นการปฏบิ ตั กิ ารสอนในสถานศกึ ษาตามหลักสตู รปรญิ ญาทาง การศกึ ษาเปน็ เวลาไม่นอ้ ยกวา่ หนงึ่ ปี และผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ปฏิบตั กิ ารสอนตามหลกั เกณฑ์ วิธกี าร และเง่ือนไขทคี่ ณะกรรมการ ครุ ุสภากาหนด

➢ ลักษณะต้องหา้ ม 1. เป็นผมู้ คี วามประพฤติเสอ่ื มเสยี หรือบกพรอ่ งใน ศลี ธรรม อันดี 2. เป็นผไู้ รค้ วามสามารถหรอื คนเสมอื นไรค้ วามสามารถ 3. เคยตอ้ งโทษจาคกุ ในคดที ค่ี รุ สุ ภาเหน็ วา่ อาจนามาซง่ึ ความ เสอื่ มเสยี เกียรตศิ กั ด์แิ หง่ วชิ าชพี

➢ มาตรฐานวิชาชพี (ม.49) ประกอบด้วย 1. มาตรฐานความรแู้ ละประสบการณว์ ชิ าชพี 2. มาตรฐานการปฏบิ ตั งิ าน 3. มาตรฐานการปฏบิ ตั ิตน

➢ จรรยาบรรณของวชิ าชพี (ม.50) ประกอบดว้ ย 1. จรรยาบรรณตอ่ ตนเอง 2. จรรยาบรรณตอ่ วชิ าชพี 3. จรรยาบรรณตอ่ ผรู้ บั บรกิ าร 4. จรรยาบรรณตอ่ ผรู้ ว่ มประกอบวชิ าชพี 5. จรรยาบรรณตอ่ สังคม

พจิ ารณาโทษผปู้ ระกอบวชิ าชพี (ม.54) ใหค้ ณะกรรมการ มาตรฐานวชิ าชพี มอี านาจวนิ จิ ฉยั ชข้ี าดอยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. ยกขอ้ กลา่ วหา 2. ตกั เตอื น 3. ภาคทณั ฑ์ 4. พกั ใชใ้ บอนญุ าตมกี าหนดระยะเวลาตามทเ่ี ห็นสมควร แตไ่ มเ่ กนิ 5 ปี 5. เพกิ ถอนใบอนญุ าต

การอุทธรณค์ าวนิ จิ ฉัยชข้ี าด (ม.55) ➢ผู้ได้รบั ใบอนญุ าตซ่งึ คณะกรรมการมาตรฐานวชิ าชพี ช้ีขาด อาจอทุ ธรณค์ า วนิ จิ ฉัยตอ่ คณะกรรมการครุ สุ ภาภายใน 30 วัน นับแตว่ นั ทไี่ ดร้ บั แจง้ คาวนิ ิจฉยั

➢ ประเภทสมาชิกของครุ สุ ภา ( ม.58 ) มี 2 ประเภท ดังนี้ 1. สมาชกิ สามญั 2. สมาชิกกติ ติมศกั ดิ์ คณุ สมบตั ขิ องสมาชกิ (ม.59) 1. สมาชกิ สามญั ต้องเปน็ ผมู้ ใี บอนญุ าตตามพระราชบัญญตั นิ ้ี 2. สมาชกิ กติ ตมิ ศกั ดิ์ ตอ้ งเปน็ ผทู้ รงคณุ วฒุ ซิ ่ึงคณะกรรมการครุ ุ สภาแตง่ ตง้ั โดยมตเิ ปน็ เอกฉนั ท์

สิทธิและหน้าทขี่ องสมาชิก (ม.60) ➢ สมาชิกสามญั 1. แสดงความเหน็ และซกั ถามเปน็ หนงั สอื เกย่ี วกับกจิ การของครุ สุ ภา ต่อคณะกรรมการเพอื่ พจิ ารณา 2. เลอื ก รบั เลอื กตง้ั หรอื รับแตง่ ตง้ั เปน็ กรรมการตาม ม. 12 หรอื ม. 21 3. ชาระคา่ ธรรมเนยี มตามประกาศของครุ สุ ภา 4. ผดุงไวซ้ งึ่ เกียรตศิ กั ดแิ์ หง่ วชิ าชพี และปฏบิ ตั ติ ามพระราชบญั ญตั นิ ้ี ** สมาชิกกติ ตมิ ศกั ดิ์ มีสิทธแิ ละหนา้ ทีเ่ ชน่ เดยี วกบั สมาชกิ สามญั เวน้ แตส่ ิทธแิ ละหนา้ ที่ ตาม (2) และ (3)

➢คณะกรรมการสง่ เสรมิ สวสั ดกิ ารและสวสั ดิภาพครแู ละบคุ ลากร ทางการ ศึกษา ➢ตามคาสงั่ คสช.ท่ี 7/2560 มีจานวน 9 คน 1. รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงศกึ ษาธิการ เป็นประธานกรรมการ 2. ปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร 3. เลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา 4. เลขาธกิ าร กพฐ. 5. เลขาธกิ ารการอดุ มศกึ ษา

6. เลขาธิการคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา 7. เลขาธกิ ารครุ สุ ภา 8. เลขาธกิ าร ก.ค.ศ. 9. เลขาธกิ าร สกสค. เป็นกรรมการและเลขานกุ าร

** วาระการดารงตาแหน่งของกรรมการสง่ เสรมิ สวสั ดกิ ารและ สวสั ดภิ าพครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา อยูใ่ นตาแหนง่ คราวละ 4 ปี และอาจไดร้ บั แตง่ ตงั้ อกี แตจ่ ะดารงตาแหนง่ เกนิ 2 วาระ ตดิ ตอ่ กนั ไมไ่ ด้ ** สานักงานคณะกรรมการสง่ เสรมิ สวสั ดกิ ารและสวสั ดภิ าพครแู ละ บุคลากรทางการศกึ ษา ในกากบั ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร

การรายงานและการตรวจสอบ 1. ให้ครุ ุสภาเสนอรายงานประจาปเี กย่ี วกบั ผลการดาเนนิ งานดา้ นตา่ งๆ ของครุ สุ ภา รวมท้งั รายงานการเงนิ และบญั ชี ตลอดจนเสนอแผนก ดาเนนิ งาน แผนการเงินและงบประมาณของปตี อ่ ไป ต่อคณะรัฐมนตรี เพอ่ื ทราบ (ม.76) 2. ให้สานักงานการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ตรวจสอบการปฏบิ ตั งิ านดา้ นการเงิน การบัญชขี องคุรสุ ภาเปน็ ประจาทกุ ปี แลว้ รายงานใหร้ ฐั สภาทราบ (ม.77)

➢ บทกาหนดโทษ 1. มาตรา 43 หา้ มไมใ่ หผ้ ู้ใดประกอบวชิ าชพี ควบคมุ โดยไมไ่ ดร้ บั ใบอนญุ าต ต้องระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กนิ 1 ปี หรือ ปรบั ไมเ่ กนิ 20,000 หรอื ทงั้ จาทงั้ ปรับ (ม.78) 2. มาตรา 46 ห้ามไมใ่ หผ้ ู้ใดแสดงดว้ ยวธิ ใี ดๆ ใหผ้ ู้อื่นเขา้ ใจวา่ ตนมสี ิทธิ์ หรือพร้อมจะประกอบวชิ าชพี โดยไมไ่ ดร้ บั ใบอนญุ าตจาก ครุ ุสภา ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กนิ 3 ปีหรือปรับไมเ่ กนิ 60,000 บาท หรือ ทัง้ จาทัง้ ปรับ(ม.79) 3. มาตรา 56 ห้ามมใิ หผ้ ูไ้ ดร้ บั ใบอนญุ าตซงึ่ อยใู่ นระหวา่ งถกู สง่ั พกั ใช้ ใบอนญุ าต ผู้ใดประกอบวชิ าชพี ควบคมุ หรือแสดงดว้ ยวธิ ใี ดๆใหผ้ อู้ นื่ เขา้ ใจ วา่ ตนมสี ทิ ธิหรือพร้อมจะประกอบวิชาชพี ควบคุม ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กิน 3 ปีหรือปรับไมเ่ กนิ 60,000 บาท หรือทัง้ จาทง้ั ปรับ