มาตรา 1 พระราชบัญญตั นิ เ้ี รยี กวา่ “พระราชบญั ญตั สิ ง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั พ.ศ. 2551” มาตรา 2 พระราชบัญญตั นิ ใี้ หใ้ ช้บงั คบั ตงั้ แตว่ นั ถดั จากวนั ประกาศใน ราชกจิ จานเุ บกษาเปน็ ตน้ ไป
มาตรา 3 พระราชบัญญัตินี้ไม่ใช้บังคับกับการจัดการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยซึ่งดาเนินการโดยสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและเอกชน ตามกฎหมายท่ีเกีย่ วกับสถาบันอดุ มศึกษาทไ่ี ดบ้ ญั ญัติไวแ้ ล้ว มาตรา 4 “การศึกษานอกระบบ” หมายความว่า กิจกรรมการศึกษาที่มี กลุ่มเป้าหมายผู้รับบริการและวัตถุประสงค์การเรียนรู้ท่ีชัดเจน มีรูปแบบ หลักสูตร วธิ ีการจดั และระยะเวลาเรียนหรือฝึกอบรมท่ียืดหยุ่นและหลากหลาย ตามสภาพความตอ้ งการและศกั ยภาพในการเรยี นร้ขู องกลมุ่ เป้าหมายนน้ั และมี วธิ กี ารวดั ผลและประเมนิ ผลการเรยี นรทู้ มี่ มี าตรฐานเพอื่ รับคุณวฒุ ิทางการศึกษา หรือเพ่อื จัดระดบั ผลการเรยี นรู้
“การศึกษาตามอธั ยาศัย” หมายความว่า กจิ กรรมการเรยี นรู้ในวิถีชีวิตประจาวัน ของบคุ คล ซงึ่ บุคคลสามารถเลอื กทจี่ ะเรยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งตอ่ เนอ่ื งตลอดชวี ติ ตามความ สนใจ ความต้องการ โอกาส ความพร้อม และศักยภาพในการเรียนรู้ของแต่ละ บุคคล “สถานศึกษา” หมายความว่า สถานศึกษาที่จัดการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยในสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศยั
“ภาคีเครือข่าย” หมายความว่า บุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน องค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ิน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถาน ประกอบการ และองคก์ รอน่ื รวมทัง้ สถานศึกษาอ่นื ท่ีมิได้สังกดั สานักงานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยท่มี สี ว่ นร่วม หรือมีวัตถุประสงค์ ในการดาเนนิ งานการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการส่งเสริมสนับสนุนและประสาน ความร่วมมือการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยตามกฎหมายว่าด้วย ระเบียบบรหิ ารราชการกระทรวงศกึ ษาธิการ “สานักงาน” หมายความว่า สานักงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัย “รัฐมนตรี” หมายความวา่ รฐั มนตรีรักษาการตามพระราชบญั ญตั นิ ี้
มาตรา 5 เพ่ือประโยชน์ในการส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา ให้บุคคลได้รับ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพตาม กฎหมายวา่ ดว้ ยการศึกษาแหง่ ชาติ โดยให้บุคคลซง่ึ ไดร้ บั การศึกษาข้นั พื้นฐานไปแล้ว หรอื ไมก่ ต็ ามมสี ิทธไิ ดร้ บั การศกึ ษาในรูปแบบการศกึ ษานอกระบบหรือการศึกษาตาม อธั ยาศยั ได้ แลว้ แตก่ รณี ท้งั นี้ ตามกระบวนการและการดาเนนิ การ ที่ได้บัญญตั ิไว้ ในพระราชบญั ญัติน้ี
มาตรา 6 การส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ใหย้ ึดหลกั ดงั ตอ่ ไปนี้
1. การศกึ ษานอกระบบ (ก) ความเสมอภาคในการเข้าถึงและได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวาง ท่ัวถึง เป็น ธรรม และมีคณุ ภาพเหมาะสมกบั สภาพชีวติ ของประชาชน (ข) การกระจายอานาจแก่สถานศึกษาและการให้ภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในการ จดั การเรียนรู้ 2. การศกึ ษาตามอัธยาศยั (ก) การเขา้ ถงึ แหล่งการเรยี นรทู้ ีส่ อดคล้องกับความสนใจและวถิ ชี วี ติ ของผ้เู รยี นทกุ กลมุ่ เป้าหมาย (ข) การพัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้มีความหลากหลายทั้งส่วนท่ีเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น และสว่ นทน่ี าเทคโนโลยมี าใชเ้ พอื่ การศึกษา (ค) การจดั กรอบหรอื แนวทางการเรียนรทู้ เ่ี ปน็ คุณประโยชน์ตอ่ ผูเ้ รยี น
มาตรา 7 การส่งเสรมิ และสนบั สนุนการศกึ ษานอกระบบ ใหด้ าเนนิ การเพอ่ื เปา้ หมาย ในเรอ่ื งตอ่ ไปน้ี 1. ประชาชนได้รับการศึกษาอย่างเน่ือง เพ่ือพัฒนาศักยภาพกาลังคนและสังคม ท่ีใช้ ความรู้และภูมิปัญญาเป็นฐานในการพัฒนา ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ความม่ันคง และคุณภาพชีวติ ทง้ั นี้ ตามแนวทางการพฒั นาประเทศ 2. ภาคีเครือข่ายเกิดแรงจูงใจและมีความพร้อมในการมีส่วนร่วมเพ่ือจัดกิจกรรม การศึกษา
มาตรา 8 การส่งเสรมิ และสนบั สนนุ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั ให้ดาเนนิ การเพอ่ื เป้าหมาย ในเร่อื งดงั ตอ่ ไปนี้ 1. ผู้เรยี นไดร้ ับความรู้และทกั ษะพน้ื ฐานในการแสวงหาความรู้ท่ีจะเอื้อต่อการเรียนรู้ ตลอดชวี ติ 2. ผู้เรียนได้เรียนรู้สาระท่ีสอดคล้องกับความสนใจและความจาเป็นในการยกระดับ คุณภาพชวี ิต ทั้งในด้านการเมอื ง เศรษฐกจิ สังคมและวฒั นธรรม 3. ผู้เรียนสามารถนาความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์และเทียบโอนผลการเรียนกับ การศึกษาในระบบและการศกึ ษานอกระบบ
มาตรา 9 ให้กระทรวงศกึ ษาธกิ ารส่งเสรมิ และสนบั สนนุ การศกึ ษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอัธยาศยั โดยใหค้ วามสาคญั แกผ่ ูเ้ กยี่ วขอ้ งตามบทบาทและหนา้ ท่ี ดงั ตอ่ ไปน้ี (1) ผเู้ รียน ซึง่ เปน็ ผทู้ ่ไี ดร้ บั ประโยชน์ มสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมการเรยี นรู้ และ สามารถ เลือกรบั บรกิ ารไดห้ ลากหลายตามความตอ้ งการของตนเอง (2) ผ้จู ดั การเรยี นรสู้ าหรบั การศกึ ษานอกระบบ และผ้จู ัดแหลง่ การเรยี นรู้ สาหรับการศกึ ษาตามอธั ยาศยั มกี ารดาเนนิ การทห่ี ลากหลายตามศกั ยภาพเพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการของผ้เู รยี น โดยบรู ณาการความรู้ ปลูกฝงั คณุ ธรรม และ ค่านิยมท่ีดงี าม (3) ผสู้ ง่ เสริมและสนบั สนนุ ซ่งึ เปน็ ผทู้ ีเ่ ออื้ ประโยชนใ์ หแ้ กผ่ ูเ้ รยี นและ ผจู้ ดั การเรยี นรู้ มกี ารดาเนนิ การทีห่ ลากหลาย เพอ่ื สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ ใหเ้ กดิ การ เรยี นรอู้ ย่างตอ่ เนอื่ ง
มาตรา 10 เพอื่ ประโยชนใ์ นการสง่ เสรมิ และสนบั สนุนการศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั สว่ นราชการ หนว่ ยงานของรฐั ทเี่ กยี่ วข้องและ ภาคเี ครอื ขา่ ย อาจดาเนนิ การสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ ในเรอื่ งดงั ตอ่ ไปน้ี (1) สอื่ และเทคโนโลยี เพื่อการศกึ ษาทจี่ าเป็นสาหรบั การศกึ ษา นอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั และการชว่ ยเหลอื ดา้ นการเงนิ เพอื่ การจดั การศกึ ษานอกระบบ (2) การจดั การศกึ ษา การพฒั นาวชิ าการและบคุ ลากร การใช้ ประโยชนจ์ ากทรพั ยากรเพอ่ื การศกึ ษา และการยกยอ่ งประกาศเกยี รตคิ ณุ สาหรับผจู้ ดั การเรยี นรกู้ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั
(3) สทิ ธปิ ระโยชนต์ ามความเหมาะสมใหแ้ กผ่ สู้ ง่ เสรมิ และ สนบั สนนุ การศกึ ษานอกระบบ (4) การสรา้ งและพฒั นาแหลง่ การเรยี นรทู้ ห่ี ลากหลาย เพ่อื ให้ ผูเ้ รียนของการศกึ ษาตามอธั ยาศยั สามารถเขา้ ถึงไดต้ ามความเหมาะสม (5) ทรัพยากรอนื่ ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การดาเนนิ การเพอ่ื ใหบ้ คุ คลและ ชุมชนไดเ้ รยี นรตู้ ามความสนใจและความตอ้ งการทส่ี อดคลอ้ งกบั ความ จาเปน็ ในสงั คมของการศกึ ษาตามอธั ยาศัย หลักเกณฑ์ วิธีการ และ เง่ือนไขในการสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ ตามวรรคหนง่ึ ให้เป็นไปตามที่ กาหนดในกฎกระทรวง
มาตรา 11 เพื่อประโยชนใ์ นการจดั และพฒั นาการศกึ ษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั ให้สว่ นราชการและหนว่ ยงานของรฐั ทเี่ กยี่ วขอ้ ง รว่ มมอื กบั ภาคเี ครอื ขา่ ย เพื่อดาเนินการในเรอื่ งดงั ตอ่ ไปนี้ (1) จัดใหม้ โี ครงสรา้ งพนื้ ฐานเพอื่ การเรยี นรู้ เช่น แหล่งการ เรยี นรู้ ศนู ยก์ ารเรยี นชมุ ชน สือ่ และเทคโนโลยที ห่ี ลากหลายเพอื่ ให้ ผู้เรยี นมโี อกาสเขา้ ถึงการเรยี นรู้ (2) สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การดาเนนิ งานของภาคเี ครอื ขา่ ย เพ่ือใหเ้ กดิ ความรว่ มมอื และการพฒั นาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง (3) ส่งเสรมิ และสนบั สนนุ ใหภ้ าคเี ครอื ขา่ ย ได้รบั โอกาสในการ จดั สรรทรพั ยากรและเขา้ ถึงแหลง่ เงินทนุ เพอ่ื การดาเนนิ งาน
มาตรา 12 เพ่ือประโยชนใ์ นการดาเนนิ การตามพระราชบัญญตั นิ ี้ ใหค้ ณะกรรมการมี อานาจหนา้ ท่ี ดังตอ่ ไปนี้ 1. การกาหนดนโยบายและแผนการส่งเสริมและสนับสนุนการส่งเสริมการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่สอดคล้องกับแผนการศึกษาแห่งชาติและ แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ 2. กาหนดแนวทางการดาเนินงานการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศยั 3. สง่ เสริมและสนบั สนนุ การประสานระหวา่ งส่วนราชการ รฐั วิสาหกจิ และภาคเอกชน ท้ังในประเทศและต่างประเทศเพอ่ื การจัดการศกึ ษาตามอธั ยาศยั 4. เสนอแนะต่อรัฐมนตรีในการจัดทาและการพัฒนาระบบการเทียบโอนผลการเรียน จากการเรยี นร้ใู นการศึกษาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย 5. ปฏิบตั งิ านอ่นื ใดตามทีพ่ ระราชบญั ญัตินีห้ รอื กฎหมายอ่ืนบญั ญตั ใิ ห้เป็นอานาจหน้าท่ี ของคณะกรรมการหรือตามท่ีคณะรฐั มนตรีมอบหมาย
มาตรา 13 ให้คณะกรรมการแตง่ ตง้ั คณะอนกุ รรมการขน้ึ คณะหนงึ่ เรียกวา่ “คณะอนกุ รรมการภาคเี ครอื ขา่ ย” ทป่ี ระกอบดว้ ยภาคส่วนตา่ ง ๆ ของสังคมทเี่ ขา้ มามีสว่ นรว่ มในการสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตาม อธั ยาศยั จานวนอนกุ รรมการ คณุ สมบตั ิ หลกั เกณฑ์ วิธีการไดม้ าของประธานและ อนุกรรมการ วาระการดารงตาแหนง่ และการพน้ จากตาแหนง่ รวมทงั้ อานาจหนา้ ท่ี ของคณะอนกุ รรมการภาคเี ครอื ขา่ ย ใหเ้ ปน็ ไปตามทก่ี าหนดในกฎกระทรวง มาตรา 14 ใหม้ สี านกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ขน้ึ ในสานกั ปลัดกระทรวง กระทรวงศกึ ษาธกิ าร เรียกโดยยอ่ วา่ “สานกั งาน กศน.” โดย มีเลขาธกิ ารสานกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั เรยี ก โดยยอ่ วา่ “เลขาธกิ าร กศน.” ซ่ึงมฐี านะเปน็ อธบิ ดแี ละเปน็ ผบู้ งั คบั บญั ชาขา้ ราชการ พนกั งานและลกู จา้ ง และรบั ผิดชอบการดาเนนิ งานของสานกั งาน สานักงานมอี านาจ หนา้ ท่ีดงั ตอ่ ไปน้ี
1. เป็นหน่วยงานกลางในการดาเนินการ ส่งเสริม สนับสนุน และประสานงาน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยและรับผิดชอบงานธุรการ ของคณะกรรมการ 2. จัดทาข้อเสนอแนะ นโยบาย ยุทธศาสตร์ แผน และมาตรฐาน การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยต่อคณะกรรมการ 3. สง่ เสรมิ สนบั สนุน และดาเนินการพัฒนาคุณภาพทางวิชาการ การวิจัย การ พัฒนาหลักสูตรและนวัตกรรมทางการศึกษา บุคลากร และระบบข้อมูล สารสนเทศทีเ่ กี่ยวข้องกับการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั 4. ส่งเสริม สนับสนุน และดาเนินการเทียบโอนผลการเรียน การเทียบโอน ความรู้และประสบการณ์ และการเทยี บระดับการศึกษา
5. ส่งเสริม สนับสนุน และประสานงานให้บุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน องคก์ รปกครองสว่ นท้องถนิ่ องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถาน ประกอบการ และองค์กรอื่นรวมตัวกันเป็นภาคีเครือข่าย เพื่อเสริมสร้างความ เขม้ แขง็ ในการดาเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย 6. จัดทาข้อเสนอแนะเก่ยี วกบั การใชป้ ระโยชนเ์ ครอื ขา่ ยเทคโนโลยสี ารสนเทศและการ สื่อสารสถานีวิทยุโทรทัศน์เพื่อการศึกษา วิทยุชุมชน ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อ การศึกษา ห้องสมุดประชาชน พิพิธภัณฑ์ ศูนย์การเรียนชุมชน และแหล่งการ เรียนรู้อื่น เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างต่อเน่ืองของ ประชาชน
7. ดาเนินงานเก่ียวกับการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการ ดาเนินงานการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั 8. ปฏบิ ตั ิงานอื่นใดตามพระราชบัญญัติน้ีหรือกฎหมายอื่นที่บัญญัติให้ เปน็ อานาจหน้าท่ีของสานกั งานหรอื ตามที่คณะรัฐมนตรมี อบหมาย
มาตรา 15 ใหม้ คี ณะกรรมการการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั ทุกจงั หวดั ดังตอ่ ไปนี้
1. ในกรุงเทพมหานคร ให้มีคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัยกรงุ เทพมหานคร ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธาน ปลดั กรุงเทพมหานคร กรรมการ เลขาธกิ าร กศน. กรรมการ ผแู้ ทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมัน่ คงของมนุษย์ กรรมการ ผแู้ ทนกระทรวงมหาดไทย กรรมการ ผูแ้ ทนกระทรวงแรงงาน กรรมการ ผแู้ ทนกระทรวงสาธารณสขุ กรรมการ และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจานวนแปดคนเป็นกรรมการ ซึ่งในจานวนน้ี จะต้องแตง่ ตงั้ จากผปู้ ฏิบตั งิ านในภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกบั งานการศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจานวนไม่น้อยกว่าห้าคนและให้ผู้อานวยการสานักงาน กทม. เปน็ กรรมการและเลขานกุ าร
2. ในจังหวดั อนื่ ใหม้ ีคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตาม อัธยาศยั จงั หวดั ประกอบดว้ ย ผ้วู า่ ราชการจงั หวัด ประธานกรรมการ ปลัดจงั หวดั กรรมการ เกษตรจงั หวดั กรรมการ สาธารณสุขจังหวัด กรรมการ แรงงานจงั หวดั กรรมการ พฒั นาสงั คมและความมน่ั คงของมนุษย์จงั หวดั กรรมการ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวดั กรรมการ และผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจานวน 8 คน เป็นกรรมการซึ่งในจานวนนี้ จะตอ้ งแตง่ ตง้ั จากผู้ปฏิบตั งิ านในภาคเอกชนทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกับงานการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยในพื้นที่ของจังหวัดจานวนไม่น้อยกว่า 5คน และให้ ผู้อานวยการสานักงาน กศน. จงั หวดั เปน็ กรรมการและเลขานกุ าร
มาตรา 16 คณะกรรมการสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตาม อัธยาศยั กรงุ เทพมหานคร และคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั มีอานาจหนา้ ทดี่ งั ตอ่ ไปนี้ (1) ให้คาปรกึ ษาและรว่ มมอื ในการพฒั นา การจดั การศกึ ษานอก ระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั กบั ภาคเี ครอื ขา่ ย (2) สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ ภาคเี ครอื ขา่ ย เพอื่ จดั การศกึ ษานอก ระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ให้สอดคล้องกบั นโยบายและมาตรฐานที่ คณะกรรมการกาหนด
(3) ตดิ ตามการดาเนนิ การจดั การศกึ ษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั ของสถานศกึ ษาและหนว่ ยงานทจี่ ดั การศกึ ษา นอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ให้มคี ณุ ภาพและมาตรฐานตามที่ กาหนด และสอดคล้องกบั ทศิ ทางการพฒั นาของประเทศรวมทง้ั ความ ตอ้ งการเพอ่ื การพฒั นาของทอ้ งถิน่ (4) ปฏบิ ตั งิ านอน่ื ตามทค่ี ณะกรรมการมอบหมาย
มาตรา 17 ใหม้ สี านกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั ทกุ จงั หวดั ดังต่อไปนี้ (1) ในกรงุ เทพมหานคร ให้มสี านกั งานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั กรงุ เทพมหานคร เรียกโดยยอ่ วา่ “สานกั งาน กศน. กทม.” เปน็ หนว่ ยงานในสงั กดั ของสานกั งาน และเปน็ หนว่ ยงานการศกึ ษาตามกฎหมายวา่ ดว้ ยระเบยี บขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ทาหน้าท่ีเปน็ หนว่ ยงานธรุ การ ของคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั กรงุ เทพมหานคร และมอี านาจหนา้ ทบี่ รหิ ารการจัดการศกึ ษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั ภายในกรงุ เทพมหานคร
(๒) ในจังหวัดอื่น ให้มีสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศยั จงั หวดั เรยี กโดยยอ่ วา่ “สานักงาน กศน. จังหวดั ” เปน็ หนว่ ยงานในสังกดั ของ สานกั งานและเปน็ หนว่ ยงานการศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา ทาหน้าที่เป็นหน่วยงานธุรการของคณะกรรมการส่งเสริม การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั และมีอานาจหนา้ ทีบ่ ริหารการ จัดการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยภายในจังหวดั ให้หน่วยงานการศึกษาตามวรรคหน่ึง มีผู้อานวยการเป็นผู้บังคับบัญชา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในสังกัดสานักงาน กศน. กทม. หรือ สานักงาน กศน. จังหวัด แล้วแต่กรณี รวมท้ังเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษาในสังกัดสถานศึกษาที่อยู่ในพื้นท่ีที่รับผิดชอบ และมีฐานะเป็น ผู้บริหารการศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศกึ ษา ตลอดจนรับผิดชอบในการปฏิบตั ริ าชการของหน่วยงานดงั กล่าว
มาตรา 18 ให้สถานศกึ ษาทาหนา้ ที่สง่ เสริม สนับสนนุ ประสานงาน และจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยร่วมกับภาคี เครือข่าย การดาเนินงานของสถานศึกษาตามวรรคหน่ึง อาจจัดให้มี ศนู ย์การเรยี นชมุ ชนเปน็ หนว่ ยจดั กจิ กรรมและสรา้ งกระบวนการเรียนรู้ ของชุมชนกไ็ ด้ การจัดตั้ง ยุบ เลิก รวม การกาหนดบทบาท อานาจและ หน้าท่ขี องสถานศกึ ษาตามวรรคหน่ึง ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศ กาหนด
มาตรา 19 คณะกรรมการสถานศกึ ษา ตามประกาศของคณะกรรมการ กศน. คณะกรรมการสถานศกึ ษา จานวน 9 คน ผทู้ รงคุณวุฒิ จานวน 8 คน ผ้อู านวยการสถานศึกษา กรรมการและเลขานุการ ให้คณะกรรมการเลอื กกนั เองเปน็ ประธาน
คณุ สมบตั ขิ องคณะกรรมการ มีสญั ชาติไทย มีอายไุ ม่ต่ากว่า 25 ปบี ริบรู ณ์ เป็นผู้มคี วามรูค้ วามสามารถ หรือมคี วามชานาญการในดา้ นตา่ งๆ ไมเ่ ปน็ บุคคลลม้ ละลาย ไมเ่ ป็นคนไร้ความสามารถหรอื เสมือนไรค้ วามสามารถ ไม่เคยมีประวัติเส่ือมเสียทางจริยธรรม คุณธรรมและจรรยาบรรณในการประกอบ อาชพี ไมเ่ คยไดร้ บั โทษจาคกุ โดยคาพิพากษาถงึ ที่สุดใหจ้ าคกุ เวน้ แต่โทษสาหรับ ความผิดทไี่ ด้กระทา โดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ ต้องไม่เปน็ คณะกรรมการของสถานศกึ ษาแห่งอื่นท่สี งั กัดสานกั งานส่งเสริมการศึกษา นอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยเกนิ กว่าสองแหง่ ในเวลาเดยี วกัน
มาตรา 20 ให้สานักงานจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษา นอกระบบซง่ึ เปน็ ระบบการประกนั คุณภาพภายในสาหรบั สถานศึกษาที่ มคี ณุ ภาพและมาตรฐานสอดคลอ้ งกบั กฎหมายวา่ ดว้ ยการศกึ ษาแหง่ ชาติ ให้สถานศึกษาดาเนินการประกันคุณภาพภายในให้สอดคล้อง กบั ระบบ หลักเกณฑ์ และวธิ กี ารประกนั คุณภาพภายใน โดยไดร้ ับความ รว่ มมอื สง่ เสริม และสนับสนุนจากภาคเี ครอื ข่ายและสานักงาน ระบบ หลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการประกนั คุณภาพภายใน ใหเ้ ป็น ไป ตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวง
มาตรา 21 ใหส้ านกั บรหิ ารงานการศึกษานอกโรงเรยี น ปรับเปลีย่ นภารกจิ มา เป็นสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และให้ ผู้อานวยการสานกั บรหิ ารงานการศกึ ษานอกโรงเรยี น ซึ่งดารงตาแหน่งอยใู่ นวนั ท่ี พระราชบัญญัตินี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ปฏิบัติหน้าท่ีเลขาธิการ กศน. จนกว่าจะมีการแต่งตั้งเลขาธิการ กศน. ข้ึนใหม่ ตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ ตอ้ งไม่เกนิ 180 วันนบั แตว่ นั ท่ีพระราชบัญญัตนิ ีใ้ ชบ้ ังคบั *ให้คณะกรรมการส่งเสริมสนับสนุนและประสานความร่วมมือการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศึกษาธิการซ่ึงดารงตาแหน่งอยู่ในวันท่ีพระราชบัญญัติน้ี ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา คงมฐี านะเป็นคณะกรรมการดังกล่าวต่อไปและปฏิบัติหน้าท่ี ตามพระราชบญั ญัตินี้ จนกว่าจะได้มีการแต่งต้ังคณะกรรมการดังกล่าวข้ึนใหม่ เพอ่ื ดาเนินการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 22 ให้เลขาธิการ กศน. แต่งตั้งผู้บริหารสถานศึกษาในเขต กรงุ เทพมหานครคนหน่งึ ปฏิบตั หิ น้าทีผ่ อู้ านวยการสานกั งาน กศน. กทม. จนกว่าจะมีการแต่งต้ังผู้อานวยการสานักงาน กศน. กทม. ขึ้นใหม่ตาม พระราชบญั ญัติน้ี ให้ผู้อานวยการศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัด ซ่ึงดารง ตาแหนง่ อยู่ในวันทพี่ ระราชบัญญัติน้ีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ปฏิบัติ หน้าท่ีผู้อานวยการสานักงาน กศน. จังหวัด จนกว่าจะมีการแต่งตั้ง ผู้อานวยการสานักงาน กศน. จังหวัด ขึ้นใหม่ตามพระราชบัญญัติน้ีการ ดาเนนิ การแต่งต้ังตามวรรคหน่ึงและวรรคสอง ตอ้ งดาเนินการให้แลว้ เสรจ็ ภายใน 180 วนั นบั แตว่ ันที่พระราชบัญญัตนิ ใี้ ช้บงั คับ
มาตรา 23 ให้รัฐมนตรีจัดทาบัญชีรายชื่อสถานศึกษาในสังกัดสานักบริหารงาน การศึกษานอกโรงเรียน สานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ ท่ีมีความ พร้อมในการปฏิบัติภารกิจของสถานศึกษาตามท่ีกาหนดในพระราชบัญญัติน้ี และ ประกาศรายชอื่ สถานศกึ ษาดงั กล่าวในราชกจิ จานเุ บกษา ภายใน 90 วนั นับแตว่ นั ท่ี พระราชบญั ญัตินใ้ี ช้บังคบั ให้ถือว่าสถานศึกษาตามบัญชีรายชื่อท่ีรัฐมนตรีประกาศกาหนดตามวรรค หนง่ึ เปน็ สถานศกึ ษาตามพระราชบญั ญัติน้ี มาตรา 24 ให้นากฎกระทรวง ข้อบังคบั ระเบียบ ประกาศและคาส่ังเก่ียวกบั การจดั การศกึ ษานอกโรงเรยี นทใ่ี ชบ้ งั คบั อยใู่ นวนั ท่พี ระราชบญั ญตั นิ ใี้ ชบ้ งั คบั มาใชบ้ งั คบั โดย อนโุ ลมจนกวา่ จะไดม้ กี ฎกระทรวง ข้อบงั คบั ระเบียบ และประกาศท่อี อกตาม พระราชบญั ญตั นิ ี้ ทัง้ น้ี ตอ้ งไมเ่ กนิ 2 ปี นับแตว่ นั ทพี่ ระราชบญั ญตั นิ ใี้ ชบ้ งั คบั
มาตรา 25 ใหร้ ัฐมนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ ารรกั ษาการตาม พระราชบญั ญตั นิ ้ี และมอี านาจออกกฎกระทรวงและประกาศเพอ่ื ปฏบิ ตั กิ าร ตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี กฎกระทรวงและประกาศนน้ั เมือ่ ไดป้ ระกาศในราชกจิ จานเุ บกษา แล้วให้ใชบ้ ังคับได้
ข้อสอบ พรบ.สง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอธั ยาศยั พ.ศ. 2551 1. พระราชบญั ญัติฉบบั นม้ี ีผลบงั คบั ใช้ตามขอ้ ใด (มาตรา 2) ก. 3 มนี าคม 2551 ข. 4 มนี าคม 2551 ค. 8 มนี าคม 2551 ง. 7 กนั ยายน 2551
2. พระราชบัญญตั ฉิ บบั นี้ประกาศในราชกจิ จานุเบกษาตามข้อใด ก. 3 มีนาคม 2551 ข. 4 มนี าคม 2551 ค. 8 มนี าคม 2551 ง. 7 กันยายน 2551 3. พระราชบัญญตั นิ ไี้ มใ่ ชบ้ ังคับในขอ้ ใด (มาตรา 3) ก. การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยโดย สถาบนั อดุ มศกึ ษาของรฐั ข. การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั โดย สถาบนั อดุ มศกึ ษาของเอกชน ค. การจดั การศกึ ษาทางไกลตอ่ เนื่อง ง. ก และ ข ถูก
4. ขอ้ ใดไมใ่ ชก่ ารศกึ ษานอกระบบ (มาตรา 4) ก. เป้าหมายชดั เจน ข. วตั ถุประสงคช์ ดั เจน ค. วิธกี ารจดั ชดั เจน ง. หลักสตู รยดื หยนุ่ 5. การเรยี นรใู้ นวถิ ชี วี ติ ประจาวนั ตรงกบั ขอ้ ใด (มาตรา 4) ก. การศกึ ษาตอ่ เนอ่ื ง ข. การศกึ ษาตามอธั ยาศยั ค. การศกึ ษาเพอื่ พฒั นาทกั ษะชวี ติ ง. การศกึ ษาเพอื่ พฒั นาสงั คมและชมุ ชน
6. ข้อใดไมใ่ ชส่ ถานศกึ ษาสงั กดั สานกั งาน กศน. (มาตรา 4) ก. สถาบนั กศน.ภาค ข. สถาบนั การศกึ ษาและพฒั นาตอ่ เนอื่ งสริ นิ ธร ค. อุทยานวทิ ยาศาสตรพ์ ระจอมเกลา้ หวา้ กอ ง. ไม่มีขอ้ ถูก 7. ข้อใดไมใ่ ชภ่ าคเี ครอื ขา่ ย (มาตรา 4) ก. กศน. อาเภอ ข. โรงเรยี นสงั กดั สพฐ. ค. โรงเรยี นเอกชน ง. มหาวทิ ยาลยั
8. คณะกรรมการ หมายถงึ (มาตรา 4) ก. คณะกรรมการสถานศกึ ษา กศน.อาเภอ ข. คณะกรรมการ กศน.จงั หวดั ค. คณะกรรมการสง่ เสรมิ สนบั สนนุ และประสานความร่วมมอื การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ง. ก และ ข ถกู 9. สานกั งาน หมายถงึ ก. สานกั งานการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ข. สานักงานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตาม อัธยาศัย ค. สานักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ง. สานกั งาน กศน.จงั หวัด
10. พระราชบญั ญตั ฉิ บบั น้ี จัดการศกึ ษาใหไ้ ดค้ ณุ ภาพตามข้อใด (มาตรา 5) ก. รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย ข. พรบ.การศกึ ษาแหง่ ชาติ 2542 ค. ยทุ ธศาสตรช์ าติ ง. นโยบายของรฐั บาลปัจจบุ นั
11. ใครมอี านาจ ยบุ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอ (มาตรา 18) ก. รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ข. ปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ค. คณะรฐั มนตรี ง. อ.ก.ค.ศ.สานกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร 12. การสง่ เสรมิ และสนับสนนุ การศกึ ษานอกระบบ ยึดหลกั ตามขอ้ ใด ( มาตรา ๖) ก. ความเสมอภาค ข. การกระจายอานาจ ค. ผเู้ รียนเป็นสาคญั ง. ก และ ข ถกู
13. ขอ้ ใดคอื เปา้ หมายการสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การศกึ ษานอกระบบ ( มาตรา ๗) ก. ประชาชนไดร้ บั การศกึ ษาอยา่ งตอ่ เนือ่ ง ข. ความเสมอภาค ค. การกระจายอานาจแกส่ ถานศกึ ษา ง. ถูกทกุ ขอ้ 14. สานกั งานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั เรียกโดยยอ่ วา่ อยา่ งไร ( มาตรา ๑๔) ก. กศน. ข. สานักงาน กศน. ค. สานักงาน ก.ศ.น. ง. สานักงาน กศ.น.
15. เลขาธกิ ารสานกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตาม อธั ยาศยั เรียกโดยยอ่ วา่ อยา่ งไร ก. เลขาธกิ าร กศน. ข. เลขาธกิ ารสานกั งาน กศน. ค. เลขาธกิ าร กศ.น. ง. เลขาธกิ ารสานกั งาน กศ.น. 16. ผู้บังคบั บญั ชาสงู สดุ ของสานกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั มฐี านะตามขอ้ ใด ก. เปน็ อธิบดี ข. เทยี บเทา่ อธบิ ดี ค. เลขาธกิ าร ง. ถูกทุกขอ้
17. ข้อใดคอื ประธานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั (มาตรา15) ก. ผวู้ ่าราชการจงั หวดั ข. ผู้อานวยการสานกั งาน กศน.จงั หวดั ค. ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ ง. คณะกรรมการเลอื กกนั เอง 18. คณะกรรมการส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั มีก่ีคน ก. 15 ข. 16 ค. 17 ง. 19
19. คณะกรรมการสถานศกึ ษา กศน.อาเภอ มจี านวน ก่ีคน ก. 15 ข. 12 ค. 9 ง. 7 20. ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอ เรียกโดยยอ่ วา่ ก. ศนู ย์ กศน.อาเภอ ข. กศน.อาเภอ ค. กศ.น. อาเภอ ง. ศูนย์ กศ.น.อาเภอ
สรุปสาระสาคญั พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บบรหิ ารราชการ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร พ.ศ. 2546 และทแี่ กไ้ ขเพิ่มเตมิ
มที ้งั หมด 5 หมวด และบทเฉพาะกาล จานวน 82 มาตรา หมวด 1 ระเบียบบรหิ ารราชการในสว่ นกลาง หมวด 2 ระเบยี บบรหิ ารราชการเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษา หมวด 3 ระเบยี บบรหิ ารราชการในสถานศกึ ษาของรฐั ทีจ่ ดั การศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาทเ่ี ปน็ นติ บิ คุ คล หมวด 4 การปฏบิ ตั ริ าชการแทน หมวด 5 การรกั ษาราชการแทน
ใหจ้ ดั ระเบยี บราชการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ดงั นี้ (1) ระเบียบบรหิ ารราชการในสว่ นกลาง (2) ระเบยี บบรหิ ารราชการเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา (3) ระเบียบบรหิ ารราชการในสถานศกึ ษาของรฐั ที่จดั การศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาทเี่ ป็นนติ บิ คุ คล
หมวด 1 การจดั ระเบยี บบรหิ ารราชการในสว่ นกลาง 1. ให้จดั ระเบียบบรหิ ารราชการในสว่ นกลาง ดังน้ี (1) สานักงานปลดั กระทรวง (2) ส่วนราชการทม่ี หี ัวหนา้ สว่ นราชการขนึ้ ตรงตอ่ รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
2. การแบง่ สว่ นราชการในสว่ นกลางของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร @ ใหม้ ี หัวหนา้ สว่ นราชการขึน้ ตรงตอ่ รฐั มนตรวี า่ การ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร @ มที ง้ั หมด 5 ส่วนราชการ แตม่ ฐี านะเปน็ กรม 4 กรม ดงั นี้ (1) สานกั งานรฐั มนตรี ............. (ไม่ใชก่ รม) (2) สานกั งานปลดั กระทรวง (3) สานกั งานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา (4) สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน (5) สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309