➢ ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาผใู้ ดกระทาความผดิ วนิ ยั อยา่ ง ร้ายแรง เปน็ กรณคี วามผดิ ทป่ี รากฏชดั แจง้ ซง่ึ ผูบ้ งั คบั บญั ชาจะ ดาเนนิ การทางวนิ ยั ม.100 โดยไมส่ อบสวนหรอื งดการสอบสวน ก็ได้ 1. กระทาความผดิ อาญาจนไดร้ บั โทษจาคกุ หรอื โทษทห่ี นกั กวา่ จาคกุ 2. ละทิ้งหนา้ ทร่ี าชการตดิ ตอ่ ในคราวเดยี วกนั เป็นเวลาเกนิ 15 วนั 3. กระทาผดิ วนิ ยั อยา่ งรา้ ยแรงและไดร้ บั สารภาพเปน็ หนังสอื ตอ่ ผบู้ งั คับบัญชา
กรณศี กึ ษาตอ่ ก. ระดับปรญิ ญาตรี มีผลการศกึ ษาสะสมตามหลกั สตู ร ไมต่ า่ กวา่ 2.5 ข. ระดบั ปรญิ ญาโท มผี ลการศกึ ษาสะสมตามหลกั สตู ร ไมต่ า่ กวา่ 3.2 ค. ระดับปรญิ ญาเอก มีผลการศกึ ษาสะสมตามหลกั สตู ร ไมต่ า่ กวา่ 3.5 ง. การลาฝกึ อบรม หรอื วจิ ยั มีผลการฝกึ อบรมหรอื มคี วามกา้ วหนา้ ในการ วจิ ัยทม่ี ีคณุ ภาพสูง
การลาบ่อยครง้ั และการมาทางานสายเนอื ง ๆ ลาบ่อยครงั้ 1. ลาเกนิ 6 คร้งั ในสถานศกึ ษา 2. ลาเกนิ 8 ครง้ั ในสานกั งาน มาทางานสายเนือง ๆ 1. เกิน 8 ครั้ง ในสถานศกึ ษา 2. เกนิ 9 ครงั้ ในสานกั งาน
ข้อสอบ พรบ.ระเบียบขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากร ทางการศกึ ษา 2547 และทแี่ ก้ไขเพม่ิ เตมิ 1. ขา้ ราชการครู หมายถึง ขอ้ ใด (มาตรา 4) ก. ผปู้ ระกอบวชิ าชพี ทที่ าหนา้ ทหี่ ลกั ดา้ นการเรยี นการสอน ข. ผ้ปู ระกอบวชิ าชพี ทท่ี าหนา้ ทห่ี ลกั ดา้ นการเรยี นการสอนใน สถานศกึ ษาของรฐั ค. ผู้ประกอบวชิ าชพี ควบคมุ ดา้ นการสอน ง. ผปู้ ระกอบวชิ าชพี ทคี่ รุ สุ ภากาหนด
2. บุคลากรทางการศึกษาหมายถงึ (มาตรา 4) ก. ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา ข. ผู้บริหารการศกึ ษา ค. ผู้สนบั สนนุ การศกึ ษาปฏบิ ตั เิ กยี่ วเนอื่ งกับกระบวนการจดั การเรียนการ สอน การนเิ ทศ ง. ถกู ทุกขอ้ 3. ขอ้ ใดคอื วชิ าชพี (มาตรา 4) ก. วชิ าชีพครู วชิ าชพี บรหิ ารการศกึ ษา และวชิ าชพี บคุ ลากรทาง การศึกษาอนื่ ข. วิชาชพี ครู วิชาชพี บรหิ าร และศกึ ษานิเทศก์ ค. วิชาชีพครู วชิ าชพี บคุ ลากรทางการศึกษาอน่ื ง. ถกู ทกุ ขอ้
4. ขอ้ ใดไมใ่ ชห่ น่วยงานทางการศกึ ษา ก. สถานศกึ ษา ข. สานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา ค. กองการศกึ ษาเทศบาล ง. แหลง่ เรียนรตู้ ามประกาศของสานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษา 5. คณะกรรมการขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา มีกีค่ น (คาสง่ั คสช. ที่16/2560) ก. 11 คน ข. 12 คน ค. 13 คน ง. 14 คน
6. อ.ก.ค.ศ. วิสามญั แตล่ ะคณะมีจานวนกคี่ น จงึ ถกู ตอ้ ง (คาสง่ั คสช. ที่16/2560) ก. 15 คน ข. 14 คน ค. 13 คน ง. ถกู ทกุ ขอ้ * คาสง่ั คสช.ท่ี 16/2560 กาหนดไมเ่ กนิ 15 คน 7. ข้อใดไมใ่ ชอ่ านาจหนา้ ท่ี ก.ค.ศ. (มาตรา 19) ก. เสนอแนะใหค้ าปรกึ ษาแกร่ ฐั มนตรเี กย่ี วกบั นโยบายการบรหิ ารบคุ คลของ ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ข. กาหนดนโยบาย วางแผนและกาหนดอตั รากาลังข้าราชการครแู ละบคุ ลากร ทางการศกึ ษา ค. ออกกฎ ก.ค.ศ. ง. พิจารณาการวนิ จิ ฉัยตคี วามปญั หาท่ีเกดิ ขนึ้ จากการใชบ้ งั คบั กฎหมาย ฉบับน้ี
8. ข้อใดมหี นา้ ทเ่ี สนอแนะให้คาปรกึ ษาแกค่ ณะรฐั มนตรเี กย่ี วกบั การบรหิ าร บคุ คลของข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา (มาตรา 19) ก. ก.ค.ศ. ข. สานกั งาน ก.ค.ศ. ค. ครุ สุ ภา ง. ถกู ทกุ ขอ้ 9. ขอ้ ใดเปน็ เจา้ หนา้ ทดี่ าเนนิ งานในหนา้ ทข่ี อง ก.ค.ศ. (มาตรา 20) ก. เลขาธกิ าร ก.ค.ศ. ข. สานกั งาน ก.ค.ศ. ค. เจ้าหนา้ ทส่ี านกั งาน ก.ค.ศ.ทกุ คน ง. คณะกรรมการขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาทกุ คน
10. คณะกรรมการศกึ ษาธกิ ารจงั หวัด (กศจ.) มอี านาจหนา้ ทใี่ นเขตจังหวดั ตามกฎหมายใด (คาสง่ั คสช. ท่ี16/2560) ก. กฎหมายวา่ ดว้ ยการศกึ ษาแห่งชาติ ข. กฎหมายวา่ ดว้ ยระเบยี บบรหิ ารราชการกระทรวงศึกษาธิการ ค. กฎหมายว่าดว้ ยระเบยี บขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษากาหนดใหเ้ ปน็ อานาจหนา้ ทข่ี องคณะกรรมการเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา และ อ.ก.ค.ศ. เขตพนื้ ที่ การศกึ ษา ง. ถกู ทุกข้อ 11. คณะกรรมการสถานศกึ ษา มอี านาจหน้าทบ่ี รหิ ารงานบุคคลสาหรบั ข้าราชการครแู ละ บุคลากรทางการศกึ ษา ขอ้ ใดไมถ่ ูกตอ้ ง (มาตรา 26) ก. กากบั ดแู ลการบรหิ ารบุคคลในสถานศึกษา ข. เสนอความตอ้ งการ จานวน และอตั ราตาแหนง่ ข้าราชการครู ค. เห็นชอบในการพจิ ารณาความดคี วามชอบ ง. เสนอข้อคดิ เหน็ เกยี่ วกบั การบรหิ ารงานบุคคลของขา้ ราชการครตู อ่ ผบู้ รหิ าร สถานศกึ ษา
12. ข้อใดไมใ่ ชอ่ านาจหนา้ ทข่ี องผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา (มาตรา 27) ก. ควบคุมดแู ลการบรหิ ารงานบคุ คลในสถานศกึ ษาเปน็ ไปตามกฎหมาย ข. เห็นชอบใหค้ วามดคี วามชอบของขา้ ราชการครู ค. จัดทาภาระงานของขา้ ราชการครู ง. ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านตามมาตรฐานของขา้ ราชการครู 13. ขอ้ ใดไมใ่ ชค่ ณุ สมบตั ขิ องผูท้ จี่ ะเขา้ รับเปน็ ขา้ ราชการครู (มาตรา 30) ก. มเี ช้อื ชาตไิ ทย ข. อายุไมต่ า่ กว่าสิบแปดปบี รบิ รู ณ์ ค. ไม่เป็นบุคคลลม้ ละลาย ง. ไมเ่ ปน็ ผเู้ คยถกู ลงโทษ ใหอ้ อก ปลดออก หรือไลอ่ อกจากรฐั วิสาหกจิ
14. เงินเพ่ิมคา่ ครองชพี ชว่ั คราวตามภาวะเศรษฐกจิ เปน็ ไปตามขอ้ ใด (มาตรา 34) ก. ระเบียบ ก.ค.ศ. ข. มตคิ ณะรฐั มนตรี ค. พระราชกฤษฎกี า ง. ระเบยี บกระทรวงการคลงั 15. ใครเป็นผ้กู าหนด วนั เวลา ทางาน วันหยดุ ราชการตามประเพณี วนั หยดุ ประจาปี ก. ก.พ. ข. ก.ค.ศ. ค. คณะรฐั มนตรี ง. กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
16. ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษามกี ป่ี ระเภท (มาตรา 38) ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท 17. ตาแหนง่ ใดทม่ี ไี ดใ้ นทกุ หนว่ ยงาน (มาตรา 38) ก. ครูผชู้ ว่ ย ข. ครู ค. อาจารย์ ง. ก และ ข ถูก
18. ขอ้ ใดคอื ตาแหนง่ บคุ ลากรทางการศกึ ษาอน่ื (มาตรา 38) ก. รองผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา ข. ผู้อานวยการสถานศกึ ษา ค. ศกึ ษานเิ ทศก์ ง. ถกู ทกุ ขอ้ 19. ตาแหน่งครมู วี ทิ ยฐานะสงู สดุ ตามขอ้ ใด (มาตรา 39) ก. ครูชานาญการ ข. ครชู านาญการพเิ ศษ ค. ครูเชย่ี วชาญ ง. ครเู ช่ียวชาญพเิ ศษ
20. ขอ้ ใดมหี นา้ ทจ่ี ดั ทามาตรฐานตาแหนง่ และมาตรฐานวทิ ยฐานะ (มาตรา 42) ก. สานักงาน ก.ค.ศ. ข. ก.ค.ศ. ค. ก.ค.ศ. และ ครุ ุสภา ง. เจา้ หน้าทส่ี านักงาน ก.ค.ศ. 21. ขอ้ ใดมอี านาจอนมุ ตั กิ ารบรรจแุ ตง่ ตงั้ ครผู ชู้ ว่ ย กศน. (มาตรา 53) ก. ปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ข. เลขาธกิ าร กศน. ค. อ.ก.ค.ศ.สานกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ง. ผทู้ ่ปี ลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ ารมอบหมาย
22. ขอ้ ใดมอี านาจบรรจแุ ละแตง่ ตง้ั มาตรา 53 ก. ปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ข. เลขาธกิ าร กศน. ค. อ.ก.ค.ศ.สานกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ง. รองปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ ารทรี่ บั ผดิ ชอบสานกั งาน กศน. 23. ขอ้ ใดเกย่ี วข้องกบั การประเมนิ วทิ ยฐานะ (มาตรา 54) ก. วนิ ัยคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ข. จรรยาบรรณวชิ าชพี ค. ประสบการณ์ ง. ถกู ทกุ ขอ้
24. ผ้ไู ดร้ บั แตง่ ตง้ั ใหเ้ ปน็ ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาตาแหนง่ ใดทต่ี อ้ งเตรยี มความพรอ้ มและพฒั นาอยา่ งเข้ม เปน็ เวลา 2 ปี (มาตรา 56) ก. นกั วชิ าการศกึ ษา ข. นักจดั การงานทวั่ ไป ค. ครู ผู้ช่วย ง. ถูกทกุ ขอ้ 25. นาย ก ดารงตาแหนง่ ครู ตอ่ มาไดร้ บั บรรจแุ ตง่ ตง้ั เป็นผอู้ านวยการ สถานศกึ ษา ข้อใดกลา่ วถกู (มาตรา 57 ) ก. นาย ก เลอื่ นตาแหนง่ ข. นาย ก เปลี่ยนตาแหนง่ ค. นาย ก สอบคดั เลือกได้ ง. นาย ก สอบแข่งขันได้
26. ข้อใดไมส่ ามารถโอนมารบั ราชการเปน็ ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการ ศกึ ษา สานักงาน กศน.ได้ (มาตรา 58) ก. พนกั งานสว่ นทอ้ งถนิ่ ข. ขา้ ราชการการเมอื ง ค. ข้าราชการตารวจ ง. ข้าราชการทหาร 27. การยา้ ยขา้ ราชการพลเรอื นสามญั เพ่อื ไปบรรจแุ ละแตง่ ตง้ั ใหด้ ารง ตาแหนง่ เปน็ ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ต้องไดร้ บั อนมุ ตั จิ าก ใคร (มาตรา 59) ก. กศจ. ข. อ.ก.ค.ศ.สว่ นราชการ เชน่ สานกั งานปลดั กระทรวง ศกึ ษาธกิ าร ค. ก.ค.ศ. ง. สานกั งาน ก.ค.ศ.
28. ผ้อู านวยการสานกั งาน กศน.จงั หวดั สามารถปฏบิ ตั หิ นา้ ทตี่ ามขอ้ ใดจงึ จะมีการสบั เปล่ยี นหรอื การยา้ ยโดยไมม่ เี หตผุ ลความจาเป็นเพอื่ ประโยชนข์ อง ทางราชการ (มาตรา 60) ก. ไม่เกนิ 3 ปี ข. ไมเ่ กนิ 4 ปี ค. ไมเ่ กิน 5 ปี ง. ไม่เกนิ 6 ปี 29. การเลอ่ื นตาแหน่งบุคลากรทางการศกึ ษาทม่ี ิไดก้ าหนดใหม้ วี ทิ ยฐานะ สามารถดาเนนิ การตามขอ้ ใด (มาตรา 61) ก. สอบแขง่ ขนั ข. สอบคดั เลอื ก ค. คดั เลอื ก ง. ถูกทกุ ขอ้
30. การดาเนนิ การสรรหา บคุ ลากรทางการศกึ ษา ตามขอ้ ใด ตอ้ งบรรจุ ตามลาดบั ท่ี (มาตรา 62) ก. สอบแขง่ ขนั ข. สอบคดั เลอื ก ค. คดั เลอื ก ง. ถูกทกุ ขอ้ 31. ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา ออกจากราชการไป ปฏบิ ตั งิ านตามมตคิ ณะรฐั มนตรถี า้ จะกลบั เขา้ รบั ราชการ ตอ้ งมเี วลาไป ปฏิบตั งิ านตามมตคิ ณะรฐั มนตรตี ามข้อใด (มาตรา 65) ก. 2 ปี ข. 3 ปี ค. 4 ปี ง. ถกู ทกุ ขอ้
32. ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ถูกสั่งใหอ้ อกจากราชการเพอื่ ไปรบั ราชการทหารหากประสงคก์ ลบั เขา้ รบั ราชการเปน็ ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากร ทางการศกึ ษาในหนว่ ยงานเดมิ ตอ้ งขอกลบั เขา้ รบั ราชการในระยะเวลา กีว่ ัน ก. 60 วนั ข. 90 วนั ค. 180 วัน ง. 120 วนั 33. กรณตี าแหนง่ ขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาว่างลง หรือผดู้ ารง ตาแหนง่ ไมส่ ามารถปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีได้ ตอ้ งดาเนนิ การอยา่ งไร (มาตรา 68) ก. ผมู้ อี านาจแตง่ ตงั้ ผูร้ ักษาราชการแทน ข. ผ้มู ีอานาจแตง่ ตงั้ ผูร้ กั ษาการในตาแหนง่ ค. ผู้มีอานาจแตง่ ตงั้ ผปู้ ฏบิ ตั ริ าชการแทน ง. ผู้มีอานาจแตง่ ตงั้ ผทู้ าการแทน
34. การประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านของขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการ ศกึ ษา ยดึ หลกั ตามขอ้ ใด (มาตรา 72) ก. การปฏบิ ตั ติ นทเ่ี หมาะสม ข. การปฏบิ ตั ริ าชการไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ค. ประสทิ ธผิ ลมผี ลงานเป็นทป่ี ระจกั ษ์ ง. ถกู ทกุ ขอ้ 35. ข้อใดคอื การบาเหน็จความชอบ (มาตรา 72) ก. บนั ทกึ คาชมเชย ข. เครอ่ื งหมายเชดิ ชเู กยี รติ ค. การเลอื่ นเงินเดอื น ง. ถกู ทกุ ขอ้
36. ขอ้ ใดคอื การพจิ ารณาเลอื่ นเงนิ เดอื น ก. มีความเทย่ี งธรรม ข. เปดิ เผย ค. โปรง่ ใส ง. ถกู ทกุ ขอ้ 37. การพจิ ารณาเงนิ เดอื นยดึ ขอ้ ใดเป็นหลกั (มาตรา 73) ก. ผลการปฏบิ ตั งิ าน ข. ความประพฤตใิ นการรกั ษาวนิ ยั ค. คณุ ธรรม จรยิ ธรรมและจรรยาบรรณวชิ าชพี ง. ถกู ทกุ ขอ้
38. ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาทสี่ ว่ นราชการดาเนนิ การยก ยอ่ งเชดิ ชเู กยี รตคิ อื (มาตรา 75) ก. ผูม้ คี วามคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ ข. ผลงานดเี ดน่ เปน็ ทปี่ ระจกั ษ์ ค. มคี วามประพฤตเิ ป็นแบบอยา่ งทด่ี ี ง. ก และ ข ถูก 39. ใครเปน็ ผใู้ ห้ความเห็นชอบการจดั สวสั ดกิ ารแกค่ รอบครวั ขา้ ราชการครู และบคุ ลากรทางการศกึ ษา ถงึ แก่กรรมอนั เนื่องมาจากการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี ราชการ (มาตรา 77) ก. ก.ค.ศ. ข. คณะรฐั มนตรี ค. นายกรฐั มนตรี ง. กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
40. ใครเป็นผกู้ าหนดหลักเกณฑก์ ารจดั สวสั ดกิ ารแกค่ รอบครวั ขา้ ราชการครแู ละ บคุ ลากรทางการศกึ ษา ถงึ แกก่ รรมอนั เนอื่ งมาจากการปฏบิ ตั หิ นา้ ทรี่ าชการ (มาตรา 77) ก. ก.ค.ศ. ข. คณะรัฐมนตรี ค. นายกรฐั มนตรี ง. กระทรวงศกึ ษาธกิ าร 41. ข้อใดคอื หนา้ ทผี่ บู้ งั คับบญั ชาในการเสรมิ สร้างประสทิ ธิภาพในการปฏบิ ตั ิ หน้าที่ราชการ (มาตรา 79) ก. ปฏิบตั ติ นเปน็ แบบอยา่ งทด่ี ี ข. พฒั นาผใู้ ตบ้ ังคับบญั ชา เพอ่ื ใหม้ คี วามรทู้ กั ษะในการปฏบิ ตั ิ หน้าทใี่ หเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพ ค. ดาเนินการทางวนิ ยั ผ้กู ระทาผดิ ง. ถูกทุกขอ้
42. ข้อใดคอื วนิ ัย (มาตรา 82) ข. ขอ้ ปฏบิ ัติ ก. ข้อห้าม ง. การกาหนดบทลงโทษผกู้ ระทาผดิ ค. ขอ้ หา้ มและข้อปฏบิ ัติ 43. ขอ้ ใดคอื การทจุ รติ (มาตรา 84) ก. การปฏบิ ัตโิ ดยมชิ อบ ข. การละเวน้ ปฏบิ ตั โิ ดยมชิ อบ ค. ตนเองหรอื ผอู้ น่ื ไดป้ ระโยชนท์ มี คิ วรได้ ง. การปฏบิ ตั หิ รอื ละเวน้ การปฏิบตั หิ นา้ ทโ่ี ดยมชิ อบเพอ่ื ใหต้ นเองหรอื ผู้อ่นื ไดป้ ระโยชนท์ ม่ี ิควรได้
44. การไมป่ ฏิบตั หิ นา้ ทร่ี าชการให้เปน็ ไปตามระเบียบกฎหมายจะถกู ลงโทษ ตามขอ้ ใด(มาตรา 85) ก. ไลอ่ อก ข. ปลดออก ค. ลดเงนิ เดอื น ตัดเงนิ เดอื น ภาคทณั ฑ์ ง. ก และ ข ถูก 45. การขดั คาสง่ั หรอื หลกี เลย่ี งไมป่ ฏบิ ตั ติ ามคาส่งั ของผบู้ งั คบั บญั ชาเปน็ เหตุ ใหเ้ สียหายแกร่ าชการรา้ ยแรง จะถกู ลงโทษตามขอ้ ใด (มาตรา 86) ก. ไลอ่ อก ข. ปลดออก ค. ลดเงนิ เดอื น ง. ก และ ข
46. ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาเห็นวา่ การปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ ผู้บังคับบัญชาจะทาใหร้ าชการเสยี หาย จะปฏบิ ตั อิ ยา่ งไร (มาตรา 86) ก. หยุดการปฏบิ ตั งิ าน ข. รายงานผบู้ งั คบั บัญชาเหนือขนึ้ ไป ค. เสนอความเหน็ เปน็ หนงั สอื ภายใน 7 วัน ง. ถกู ทกุ ขอ้ 47. การละทง้ิ หนา้ ทร่ี าชการตดิ ตอ่ กนั คราวเดยี วกนั กว่ี นั จงึ จะถกู ลงโทษวนิ ัย อย่างรา้ ยแรง (มาตรา 87) ก. 15 วัน ข. 16 วนั ค. 8 วัน ง. 12 วนั
48. การดหู มนิ่ เหยยี ดหยามผเู้ รยี นจะถกู ลงโทษตามขอ้ ใด ก. ปลดออก ข. ลดเงนิ เดอื น ค. ตัดเงนิ เดอื น ง. ภาคทัณฑ์ 49. ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ร้องเรียนผอู้ น่ื เมอื่ ตรวจสอบแล้วไม่ เป็นความจรงิ จะถกู ลงโทษสถานใด ก. ไล่ออก ข. ปลดออก ค. ลดเงนิ เดอื น ง. ถ้าผู้ถกู ร้องเรยี นเสยี หายไมร่ า้ ยแรงจะถกู ลงโทษ ภาคทัณฑ์ ตัด เงนิ เดือน หรือลดเงนิ เดอื น แต่ถา้ เสยี หายอยา่ งร้ายแรงจะถกู ลงโทษ ปลดออก หรอื ไลอ่ อก
50. ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาวง่ิ เตน้ และจา่ ยเงนิ เพอ่ื ใหล้ กู ของตนเองไดร้ บั บรรจแุ ตง่ ตงั้ เปน็ ครผู ชู้ ว่ ย จะมคี วามผดิ ตามขอ้ ใด (มาตรา 90) ก. รา้ ยแรง ข. ไม่รา้ ยแรง ค. ไมม่ คี วามผดิ ง. ก และ ข ถกู 51. นาย ก จ้างนาย ข ทาผลงานเพอื่ ประเมนิ วทิ ยฐานะ นาย ก จะมี ความผดิ ฐานใด (มาตรา 91) ก. ร้ายแรง ข. ไมร่ า้ ยแรง ค. ไมม่ ีความผดิ ง. ก และ ข ถกู
52. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ตอ้ ง (มาตรา 92) ก. ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาตอ้ งไมเ่ ปน็ กรรมการ ผู้จดั การในหา้ งหุ้นสว่ นหรอื บรษิ ทั ข. ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาตอ้ งไมเ่ ปน็ ผจู้ ดั การใน ห้างหุน้ สว่ นหรอื บรษิ ทั ค. ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาตอ้ งไมเ่ ปน็ ทป่ี รกึ ษาในหา้ ง หุน้ ส่วนหรอื บรษิ ทั ง. ก และ ข ถูก 53. ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา เข้าไปเกย่ี วขอ้ งการซอื้ สทิ ธข์ิ ายเสยี ง การเลือกตง้ั สมาชกิ สภาทอ้ งถน่ิ มคี วามผดิ ตามขอ้ ใด (มาตรา 93) ก. ร้ายแรง ข. ไมร่ า้ ยแรง ค. มีความผดิ อาญา ง. ก และ ข ถูก
54. ศาลส่ังจาคกุ ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา บคุ คลนนั้ ถกู ลงโทษ ตามขอ้ ใด(มาตรา 94) ก. ไล่ออก ข. ปลดออก ค. ลดเงินเดอื น ง. ก และ ข ถูก 55. การเสรมิ สร้างและพัฒนาผู้ใตบ้ งั คบั บัญชามวี ินยั ผูบ้ ังคับบญั ชาตอ้ งทาอยา่ งไร (มาตรา 95) ก. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ แบบอยา่ งทด่ี ี ข. สร้างขวญั กาลงั ใจ ค. ฝึกอบรม ง. ถกู ทกุ ขอ้
56. ข้อใดไมใ่ ชโ่ ทษทางวนิ ยั (มาตรา 96) ก. ภาคทณั ฑ์ ข. ตัดเงนิ เดอื น ค. ลดขัน้ เงนิ เดอื น ง. ไลอ่ อก 57. การลงโทษขา้ ราชการและบุคลากรทางการศกึ ษา ให้ดาเนนิ การตามขอ้ ใด (มาตรา 97) ก. ทาเป็นหนงั สอื ข. ทาเป็นคาสงั่ ค. ทาเป็นบนั ทกึ แจง้ ง. ถูกทกุ ขอ้
58. กรณมี มี ลู ควรกลา่ วหาวา่ ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา กระทาผดิ วนิ ยั ผบู้ ังคบั บัญชาตอ้ งดาเนินการอยา่ งไร (มาตรา 98) ก. แตง่ ตงั้ กรรมการสบื สวนขอ้ เทจ็ จรงิ ข. แตง่ ตงั้ คณะกรรมการสอบสวน ค. ดาเนนิ การสบื สวนทงั้ เป็นทางการและทางลบั ง. ถกู ทกุ ขอ้ 59. ในกรณที กี่ ระทาผดิ วนิ ยั อยา่ งรา้ ยแรงตอ้ งลงโทษ ปลดออกหรอื ไลอ่ อก ถา้ มีเหตอุ นั ควรลดหยอ่ นผอ่ นโทษหา้ มมใิ หล้ งโทษตา่ กวา่ ระดบั ใด (มาตรา 99) ก. ปลดออก ข. ตดั เงนิ เดอื น ค. ภาคทณั ฑ์ ง. ถูกทุกขอ้
60. กรณกี ระทาผดิ วนิ ยั เลก็ น้อยตอ้ งลงโทษตามขอ้ ใด (มาตรา 100) ก. ว่ากลา่ วตกั เตอื น ข. ภาคทณั ฑ์ ค. ทาทณั ฑบ์ น ง. ยุตเิ รอ่ื ง 61. กรรมการสอบสวนเป็นเจา้ พนกั งานตามขอ้ ใด (มาตรา 101) ก. เจ้าพนกั งานตามประมวลกฎหมายอาญา ข. เจ้าพนกั งานคดปี กครอง ค. เจ้าพนกั งานบังคบั คดี ง. ก และ ง ถกู
62. ผ้อู านวยการสถานศกึ ษาถกู ฟ้องคดอี าญาหลังจากทอี่ อกจากราชการไปแล้ว ผูม้ อี านาจ ตอ้ งดาเนนิ การอยา่ งไร (มาตรา 202) ก. เริ่มดาเนนิ การสอบสวนในหนง่ึ ปนี บั แตว่ นั ที่ออกจากราชการ ข. ส่งั ลงโทษภายใน 3 ปีนบั จากวันออกจากราชการ ค. ดาเนนิ การสอบสวนใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภายใน 90 วนั ง. ก และ ข ถูก 63. กรณใี ดตอ่ ไปน้ี ผมู้ อี านาจสามารถส่ังพกั ราชการหรอื สั่งใหอ้ อกจากราชการไวก้ อ่ น (มาตรา 203) ก. กระทาผดิ วนิ ยั อยา่ งรา้ ยแรง ข. ถกู ฟอ้ งคดอี าญา ค. บคุ คลลม้ ละลาย ง. ก และ ข ถูก
64. เมื่อข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สานกั งาน กศน. ถูกลงโทษทางวนิ ยั เรอ่ื งจะยตุ ทิ ใ่ี ด (มาตรา 104) ก. ก.ค.ศ. ข. อ.ก.ค.ศ.สานกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ค. ปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ง. สานักงาน ก.ค.ศ. 65. การยบั ยง้ั การลาออก สามารถยบั ยง้ั ไดใ้ นระยะเวลากว่ี นั (มาตรา 108) ก. ไมเ่ กนิ 90 วัน ข. ไมเ่ กนิ 120 วัน ค. ไมเ่ กิน 180 วัน ง. ไม่เกนิ 360 วัน
66. ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา ถกู สั่งลงโทษตดั เงินเดอื น มี สิทธ์ิอธุ รณ์ ภายในกว่ี นั (มาตรา 121) ก. 15 วนั ข. 30 วัน ค. 45 วนั ง. 60 วนั 67. จากขอ้ 67 ถา้ ก.ค.ศ. วินิจฉยั อทุ รณแ์ ลว้ หากเหน็ วา่ ตนไมไ่ ดร้ บั ความ เปน็ ธรรม สามารถดาเนนิ การไดต้ ามข้อใด (มาตรา 125) ก. ฟ้องคดอี าญา ข. ฟ้องคดตี อ่ ศาลปกครอง ค. รอ้ งเรยี นไปยงั ศนู ยด์ ารงธรรม ง. ถกู ทกุ ขอ้
68. ขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา เหน็ วา่ ตนไมไ่ ดร้ ับความเปน็ ธรรม หรอื มคี วามคบั ขอ้ งใจจากการกระทาของผูบ้ งั คบั บญั ชา ผู้นัน้ มีสิทธอ์ิ ะไรบา้ ง ก. รอ้ งทุกข์ ข. อุธรณ์ ค. ฟ้องคดศี าลปกครอง ง. ถูกทุกขอ้ 69. ใครคอื ผูก้ าหนดหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารในเรอื่ งเกย่ี วกบั การอุธรณ์ของ ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา สังกดั สานกั งาน กศน. (มาตรา 124) ก. เลขาธิการ กศน. ข. ปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร ค. ก.ค.ศ. ง. สานกั งาน ก.ค.ศ. 70. ขอ้ ใดมอี านาจสอบสวนใหมต่ ามกฎหมายฉบับใด (มาตรา 117) ก. รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ข. ก.ค.ศ. ค. สานักงาน ก.ค.ศ. ง. นายกรฐั มนตรี
พระราชบญั ญตั คิ ุ้มครองเดก็ พ.ศ. 2546
➢เดก็ หมายถงึ บคุ คลซึง่ มอี ายตุ า่ กวา่ 18 ปบี ริบูรณ์ แต่ไม่รวมถงึ ผทู้ ี่ บรรลนุ ติ ภิ าวะดว้ ยการสมรส ➢นกั เรยี น หมายถงึ เดก็ ซึ่งกาลงั รบั การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐานระดบั ประถมศกึ ษาและมธั ยมศกึ ษาทงั้ ประเภทสามญั ศกึ ษาและอาชวี ศกึ ษา หรอื เทยี บเทา่ อยใู่ นสถานศกึ ษาของรฐั และเอกชน
ระเบียบกระทรวงศกึ ษาธกิ ารว่าดว้ ยการลงโทษนกั เรยี น และนกั ศกึ ษา พ.ศ. 2548 ➢ การลงโทษ หมายความวา่ การลงโทษนกั เรยี นหรอื นกั ศกึ ษา ทีก่ ระทาความผดิ โดยมจี ดุ มงุ่ หมาย เพอ่ื การอบรมสง่ั สอน ➢ โทษสาหรบั นกั เรยี นหรอื นกั ศกึ ษาทกี่ ระทาผดิ มี 4 สถาน คือ 1. ว่ากลา่ วตกั เตอื น 2. ทาทณั ฑบ์ น 3. ตัดคะแนนความประพฤติ 4. ทากจิ กรรมเพอื่ ใหป้ รบั เปลย่ี นพฤตกิ รรม
➢ผู้บริหารโรงเรยี นหรอื สถานศกึ ษา หรือผทู้ ผ่ี บู้ รหิ าร ฯ มอบหมายเปน็ ผู้ มอี านาจในการลงโทษ ➢การลงโทษใหค้ านงึ ถงึ อายแุ ละความรา้ ยแรงของพฤตกิ ารณ์ ➢การวา่ กลา่ วตกั เตอื น กรณคี วามผดิ ไมร่ า้ ยแรง ➢การทาทณั ฑบ์ น กรณีประพฤตติ นไมเ่ หมาะสม ➢การทาทณั ฑบ์ น ใหท้ าหนังสอื และเชญิ บิดามารดา หรือผปู้ กครองมา บันทึกรบั ทราบความผดิ และรบั รอง การทาทณั ฑบ์ น
ข้อสอบ พระราชบญั ญตั คิ มุ ครองเดก็ พ.ศ. 2546 1. ขอ้ ใดคอื ความหมายของคาวา่ “เดก็ ” ตาม พ.ร.บ. ฉบับนี้ (มาตรา 4) ก. อายตุ า่ กวา่ 18 ปี ข. อายุ 16 ปี สมรสแลว้ ค. อายตุ า่ กวา่ 20 ปี ง. อายตุ า่ กวา่ 25 ปี 2. เด็กกาพรา้ หมายถึง (มาตรา 4) ก. เดก็ ทบี่ ดิ ามารดาเสยี ชวี ติ ข. เดก็ ทไ่ี มป่ รากฏบดิ ามารดาหรอื ไมส่ ามารถสบื หาบิดามารดาได้ ค. เด็กทอ่ี าศยั อยกู่ บั ผอู้ นื่ ซ่ึงมใิ ชญ่ าติ ง. ก และ ข ถูก
3. สถานรบั เลย้ี งเดก็ หมายถงึ (มาตรา 4) ก. สถานทร่ี บั เล้ียงเดก็ และพฒั นาเดก็ ทม่ี อี ายไุ มเ่ กนิ 6 ปบี รบิ รู ณ์ ข. สถานทรี่ บั เลย้ี งเดก็ และพฒั นาเดก็ ทมี่ อี ายไุ มเ่ กนิ 8 ปีบรบิ รู ณ์ ค. สถานทรี่ บั เลย้ี งเดก็ และพฒั นาเดก็ ทม่ี อี ายไุ มเ่ กนิ 10 ปบี ริบูรณ์ ง. สถานทรี่ บั เลยี้ งเดก็ และพฒั นาเดก็ ทม่ี อี ายไุ มเ่ กนิ 18 ปีบริบูรณ์ 4. สถานศกึ ษา มหี นา้ ทสี่ ง่ เสรมิ ความประพฤตนิ กั เรยี นนกั ศกึ ษาอยา่ งไร (มาตรา 63) ก. จดั ใหม้ รี ะบบงานและกจิ กรรมในการใหค้ าปรกึ ษานกั ศกึ ษา ผู้ปกครอง เพื่อส่งเสรมิ ความประพฤติ ข. ลงโทษนกั เรยี นหรอื นกั ศกึ ษาตามระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ค. อบรมสงั่ สอน ง. แจง้ ใหผ้ ปู้ กครองอบรมสง่ั สอนรว่ มกบั สถานศกึ ษา
5. ใครเป็นประธานกรรมการคมุ้ ครองเดก็ แห่งชาติ (มาตรา 7) ก. นายกรัฐมนตรหี รอื รองนายกรัฐมนตรที นี่ ายกรฐั มนตรีมอบหมาย ข. รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมน่ั คงของ มนุษย์ ค. รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย ง. รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงยตุ ธิ รรม 6. กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ใิ นคณะกรรมการการคมุ้ ครองเดก็ แห่งชาตติ อ้ งเปน็ สตรี จานวนเทา่ ไร(มาตรา 7) ก. ไม่น้อยกวา่ 2 ใน 3 ข. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ค. ไมน่ อ้ ยกวา่ 3 ใน 4 ง. ไม่น้อยกวา่ 3 ใน 5
7. ในกรณมี ีเหตอุ นั ควรสงสัยวา่ มกี ารฝา่ ฝนื กฎหรอื ระเบยี บเกยี่ วกบั การ ประพฤตขิ องนกั เรยี นหรอื นกั ศกึ ษา พนกั งานเจา้ หน้าทส่ี ามารถเขา้ ตรวจสอบ ในเวลาใด (มาตรา 67) ก. พระอาทติ ยข์ ึน้ ถึงพระอาทติ ยต์ ก ข. ระหวา่ งเวลาทาการ ค. วันทาการ ง. และ ข ถกู 8. กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ มิ วี าระอยใู่ นตาแหนง่ คราวละกปี่ ี (มาตรา 9) ก. 5 ปี ข. 4 ปี ค. 3 ปี ง. 2 ปี
9. ขอ้ ใดไมใ่ ชค่ ณะกรรมการคมุ้ ครองเดก็ จงั หวดั (มาตรา 17) ก. ผอู้ านวยการสานักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษา ข. แรงงานจงั หวดั ค. อัยการจงั หวดั ง. ผู้อานวยการสานกั งาน กศน.จงั หวดั 10. ใครมีหน้าทค่ี มุ้ ครองสวสั ดภิ าพเดก็ (มาตรา 24) ก. ปลัดกระทรวง ข. ผวู้ ่าราชการจงั หวดั ค. ผู้บริหารองคก์ รปกครองทอ้ งถน่ิ ง. ถูกทกุ ขอ้
11. เดก็ ทีพ่ งึ ไดร้ บั การสงเคราะหไ์ ดแ้ ก่ (มาตรา 32) ก. เด็กเรร่ ่อน หรือเดก็ กาพร้า ข. เด็กท่ีผปู้ กครองมพี ฤตกิ รรมหรือประกอบอาชพี ไมเ่ หมาะสม ค. เด็กทไ่ี ดร้ บั การเลย้ี งดโู ดยมิชอบ ง. ถกู ทกุ ขอ้ 12. ผจู้ ดั ตง้ั หรือดาเนนิ กจิ การสถานเลยี้ งเดก็ โดยมไิ ดร้ บั ใบอนญุ าตตอ้ งระวางโทษ ตามขอ้ ใด (มาตรา 82) ก. จาคุกไมเ่ กนิ ๑ เดือน หรอื ปรับไมเ่ กนิ ๑๐,๐๐๐ บาท หรือท้งั จาทงั้ ปรับ ข. จาคุกไมเ่ กนิ ๓ เดอื น หรือปรับไมเ่ กิน ๒๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจาทงั้ ปรับ ค. จาคกุ ไมเ่ กนิ ๖ เดือน หรือปรับไมเ่ กนิ ๔๐,๐๐๐ บาท หรอื ท้งั จาทัง้ ปรบั ง. จาคกุ ไมเ่ กนิ ๑ ปี หรอื ปรับไมเ่ กนิ ๕๐,๐๐๐ บาท หรอื ทั้งจาทง้ั ปรับ
ข้อสอบ พระราชบญั ญตั กิ ารจดั การศกึ ษาสาหรบั คนพกิ าร พ.ศ.2551 1. ขอ้ ใด หมายถงึ “คนพกิ าร” (มาตรา 3) ก. คนทีม่ ีความบกพรอ่ งทางการมองเหน็ ข. คนทม่ี ีความบกพรอ่ งทางการเคลอื่ นไหว ค. คนท่ีมีความบกพรอ่ งทางจติ ใจ ง. ถกู ทกุ ขอ้ 2. “การเรยี นรว่ ม” หมายถงึ ขอ้ ใด (มาตรา 3) ก. การจดั การศกึ ษาสาหรบั คนพกิ ารทส่ี ามารถเรยี นรว่ มกบั คนปกติ ข. การจัดการศกึ ษาเฉพาะสาหรบั คนพกิ าร ค. การจดั การศกึ ษานอกระบบ ง. การจดั การศกึ ษาในระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั
3. “ครูการศึกษาพเิ ศษ” หมายถงึ ขอ้ ใด (มาตรา 3) ก. ครทู ม่ี วี ฒุ ปิ รญิ ญาตรี ข. ครูท่วี ุฒิทางการศกึ ษาพิเศษสงู กวา่ ปริญญาตรี ค. ครทู ม่ี วี ฒุ กิ ารศกึ ษาปรญิ ญาโทขนึ้ ไป ง. ครูทม่ี ีวฒุ ทิ างการศกึ ษาสูงกว่าปริญญาตรี 4. “รฐั มนตรี” ตามพระราชบัญญตั กิ ารจดั การศึกษาสาหรับคนพกิ าร พ.ศ. 2551 หมายถงึ ขอ้ ใด (มาตรา 4) ก. รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย ข. รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ค. รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงการอดุ มศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วจิ ัยและ นวัตกรรม ง. ข และ ค ถกู
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309