Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สอบ

สอบ

Published by watchara2534wa, 2020-04-18 04:03:24

Description: สอบ

Search

Read the Text Version

5. คนพกิ ารมสี ทิ ธทิ างการศกึ ษา ตามข้อใด (มาตรา 5) ก. ไดร้ ับการศกึ ษาโดยไมเ่ สยี คา่ ใชจ้ า่ ยตงั้ แตแ่ รกเกดิ จนตลอดชวี ติ ข. ไดร้ ับการศกึ ษาโดยไมเ่ สยี คา่ ใชจ้ า่ ยตง้ั แตแ่ รกเกดิ จนถงึ ระดบั มธั ยมศกึ ษา ตอนปลาย ค. ได้รบั การศกึ ษาโดยไมเ่ สยี คา่ ใชจ้ า่ ยตงั้ แตแ่ รกเกดิ จนถงึ อดุ มศกึ ษา ง. ไมม่ ีขอ้ ถกู 6. คณะกรรมการสง่ เสรมิ การจดั การศกึ ษาสาหรบั คนพกิ าร ใครเปน็ ประธานกรรมการ (มาตรา 11) ก. รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย ข. รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ค. เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน ง. เลขาธกิ ารคณะกรรมการอาชวี ศกึ ษา

7. กรรมการโดยตาแหนง่ ในคณะกรรมการสง่ เสรมิ การจดั การศกึ ษา สาหรับคนพกิ าร มจี านวนเทา่ ใด (มาตรา 11) ก. จานวน 3 คน ข. จานวน 5 คน ค. จานวน 9 คน ง. จานวน 10 คน 8. คณะกรรมการโดยตาแหนง่ ในขอ้ 7 ข้อใดไมถ่ กู ตอ้ ง (มาตรา 11) ก. ปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ข. เลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา ค. ปลดั กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมนั่ คงของ มนษุ ย์ ง. เลขาธกิ ารคณะกรรมการอาชวี ศกึ ษา

9. สถานศกึ ษาตามข้อใดมหี นา้ ทรี่ บั คนพกิ ารเขา้ ศกึ ษา (มาตรา 8) ก. สานักบรหิ ารการศกึ ษาพเิ ศษ ข. สถานศกึ ษาสงั กดั กศน. ค. สถานศกึ ษาอาชวี ศกึ ษา ง. สถานศกึ ษาทกุ สังกดั 10. คณะกรรมการมีอานาจหนา้ ที่ ตามข้อใด (มาตรา 12) ก. เสนอนโยบาย ยทุ ธศาสตร์ และแนวทางการพฒั นาการบรหิ าร ข. ให้ความเห็นชอบแผนการใชจ้ า่ ยเงนิ กองทนุ เพอ่ื สนบั สนนุ การจดั การศกึ ษาสาหรบั คนพกิ าร ค. สง่ เสรมิ สนบั สนนุ ให้ทกุ หนว่ ยงานทจ่ี ดั การศกึ ษาสาหรบั คนพกิ าร แบบบรู ณาการ ง. ถกู ทกุ ขอ้

11.กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ มิ วี าระอยใู่ นตาแหนง่ คราวละกปี่ ี (มาตรา 13) ก. 2 ปี ข. 3 ปี ค. 4 ปี ง. 6 ปี 12. กรรมการการสง่ เสรมิ การจดั การศกึ ษาสาหรับคนพกิ าร พ้นจากตาแหนง่ เมอื่ ใด (มาตรา 14) ก. ตาย ข. ลาออก ค. รฐั มนตรใี หอ้ อกเพราะบกพรอ่ งตอ่ หนา้ ที่ ง. ถกู ทกุ ขอ้

13. หนว่ ยงานใดทาหนา้ ทง่ี านเลขานกุ ารของคณะกรรมการส่งเสรมิ การจดั การศกึ ษา สาหรบั คนพกิ าร (มาตรา 18) ก. สานักงานบรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ ข. สานกั งาน กศน. ค. สานกั งานคณะกรรมการอาชวี ศกึ ษา ง. สานกั งานคณะกรรมการการอุดมศกึ ษา 14. กองทนุ สง่ เสรมิ การพัฒนาการจดั การศกึ ษาสาหรบั คนพกิ ารไดร้ บั การสนบั สนนุ จากหนว่ ยงานใด (มาตรา 21) ก. เงินอุดหนนุ จากรัฐบาล ข. เงนิ อดุ หนนุ จากองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ค. เงนิ รายได้ทไ่ี ดจ้ ากการออกสลากกินแบง่ รฐั บาล ง. ถูกทกุ ขอ้

15. พรบ. การจัดการศกึ ษาสาหรบั คนพกิ าร พ.ศ. 2551 ต้องแตง่ ตง้ั คณะกรรมการส่งเสรมิ การจดั การศึกษาสาหรับคนพกิ ารภายในกว่ี นั นบั แตว่ นั ท่ี พระราชบัญญตั นิ ใ้ี ช้ บังคบั (มาตรา 28) ก. 90 วนั ข. 120 วัน ค. 180 วัน ง. ไม่มขี อ้ ถกู 16. ใครเป็นรองประธานคนท่ี 2 ในคณะกรรมการสง่ เสริมการจดั การศึกษา สาหรับคนพกิ าร (มาตรา 11) ก. ผู้ทรงคณุ วฒุ ซิ งึ่ รฐั มนตรแี ตง่ ตงั้ ข. ผู้ทรงคณุ วฒุ ทิ เ่ี ปน็ คนพกิ ารซงึ่ รัฐมนตรแี ตง่ ตงั้ ค. ผทู้ รงคุณวุฒทิ ซ่ี ง่ึ รัฐมนตรีแตง่ ตงั้ ง. ผ้ทู รงคณุ วุฒทิ เี่ ปน็ คนพิการซงึ่ คณะรัฐมนตรีแตง่ ตง้ั

17. คณะกรรมการสง่ เสรมิ การจดั การศกึ ษาสาหรบั คนพกิ าร มกี ่คี น (มาตรา 11) ก. 15 คน ข. 21 คน ค. 28 คน ง. 31 คน 18. บคุ คลในข้อใดเป็นเลขานกุ ารของคณะกรรมการส่งเสรมิ การจดั การศกึ ษา สาหรับคนพกิ าร (มาตรา 11) ก. รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ข. ปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ค. เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน ง. ผอู้ านวยการสานกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ

19. หนว่ ยงานใดทาหนา้ ทก่ี ากบั ดแู ลใหส้ านกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ ปฏบิ ตั หิ นา้ ทใ่ี หเ้ ปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ล (มาตรา 18) ก. กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ข. สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน ค. สานักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ง. เขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษา 20. ขอ้ ใดมีหนา้ ทดี่ าเนนิ การจดั การเรยี นรว่ ม การนิเทศกากบั ตดิ ตาม เพ่ือให้ คนพกิ ารไดร้ บั การศกึ ษาอยา่ งทวั่ ถงึ และมีคณุ ภาพ (มาตรา 19) ก. สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน ข. สานกั งานการศกึ ษาพเิ ศษ ค. สานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา ง. สถานศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน

ขอ้ สอบ พรบ.ความรบั ผดิ ทางละเมดิ ของเจา้ หนา้ ที่ พ.ศ. 2539 1. เจา้ หนา้ ทีก่ ระทาการละเมดิ ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ผี เู้ สยี หายจะฟ้องตอ้ งฟอ้ งใคร (มาตรา 5) ก. หนว่ ยงานของรัฐทเี่ จา้ หนา้ ทน่ี น้ั สงั กดั ข. เจา้ หนา้ ท่ี ค. ฟอ้ งทงั้ ก และ ข ง. ฟ้องผู้เกีย่ วขอ้ งทง้ั หมดตามสายงาน 2. ถา้ การกระทาละเมดิ ของเจา้ หนา้ ทมี่ ใิ ชก่ ารกระทาในการปฏบิ ตั หิ น้าทห่ี าก ผเู้ สียหายจะฟอ้ งตอ้ งฟ้องตอ่ ใคร (มาตรา 6) ก. หนว่ ยงานของรัฐท่ีเจา้ หนา้ ทนี่ นั้ สงั กดั ข. เจา้ หนา้ ท่ี ค. ฟอ้ งทั้ง ก และ ข ง. ฟอ้ งผเู้ กี่ยวขอ้ งทง้ั หมดตามสายงาน

3. ถ้าหนว่ ยงานของรฐั หรอื เจา้ หนา้ ทไ่ี ดใ้ ชค้ า่ สนิ ไหมทดแทนแกผ่ เู้ สียหายสทิ ธิ ท่จี ะเรยี กใหอ้ กี ฝา่ ยหนึ่งชดใชค้ า่ สนิ ไหมทดแทนแกต่ นกาหนดใหม้ ีอายคุ วาม ตามขอ้ ใด (มาตรา 9) ก. อายุครบ 90 วัน ข. อายคุ รบ 1 ปี ค. อายคุ รบ 6 เดือน ง. อายคุ รบ 30 วัน 4. ใครมีหนา้ ทจี่ ดั ใหม้ รี ะเบยี บเพอ่ื ใหเ้ จา้ หนา้ ทซ่ี ง่ึ ตอ้ งรบั ผดิ ชอบสามารถผอ่ น ชาระเงนิ ทจี่ ะตอ้ งรบั ผดิ นั้นได้ (มาตรา 13) ก. รฐั มนตรี ข. คณะรฐั มนตรี ค. ปลัดกระทรวง ง. อธบิ ดี

5. ปัจจุบันสทิ ธริ อ้ งทกุ ขต์ อ่ คณะกรรมการวนิ จิ ฉยั รอ้ งทกุ ขใ์ หด้ าเนนิ การ อย่างไร (มาตรา 14) ก. ฟอ้ งคดตี อ่ ศาลยตุ ธิ รรม ข. ฟอ้ งคดตี อ่ ศาลปกครอง ค. รอ้ งทกุ ขต์ อ่ นายกรฐั มนตรี ง. ถูกทุกขอ้ 6. ตามกฎหมายความผดิ ทางละเมดิ ของเจา้ หนา้ ที่ ถา้ การกระทาละเมดิ เกดิ จากเจา้ หนา้ ที่ ซึง่ ไมไ่ ดส้ งั กดั หนว่ ยงานของรฐั แหง่ ใด ให้ถือวา่ หนว่ ยงานใด ต้องรบั ผดิ ชอบ (มาตรา 5) ก. กระทรวงมหาดไทย ข. สานักนายกรฐั มนตรี ค. กระทรวงการคลงั ง. กระทรวงการตา่ งประเทศ

7. สทิ ธเิ รยี กรอ้ งคา่ สนิ ไหมทดแทนจากเจา้ หนา้ ทม่ี อี ายคุ วามตามขอ้ ใด (มาตรา 10) ก. 4 ปี ข. 3 ปี ค. 2 ปี ง. 1 ปี 8. ตามกฎหมายความผดิ ทางละเมดิ ของเจา้ หนา้ ที่ หนว่ ยงานของรฐั สามารถ ไล่เบ้ียเอาจากเจา้ หนา้ ทไ่ี ดห้ ากความเสยี หายทเ่ี กดิ น้นั เปน็ ผลทเี่ กดิ จากการ กระทาในกรณใี ด (มาตรา 8) ก. จงใจ ข. ประมาทเลินเลอ่ ค. ประมาทเลนิ เลอ่ อยา่ งรา้ ยแรง ง. ถกู เฉพาะ ก. และ ค.

ข้อสอบ พระราชกฤษฎกี าว่าดว้ ยหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการบรหิ ารกจิ การ บา้ นเมอื งทดี่ ี พ.ศ. 2546 1. ขอ้ ใดคอื เปา้ หมายของการบรหิ ารกจิ การบา้ นเมอื งทดี่ ี (มาตรา 6) ก. เกิดประโยชนส์ ขุ ของประชาชน ข. เกดิ ผลสัมฤทธติ์ อ่ ภารกจิ ภาครฐั ค. ไมม่ ีขั้นตอนการปฏบิ ตั งิ านเกนิ ความจาเป็น ง. ถูกทกุ ขอ้ 2. ศนู ย์กลางทจี่ ะไดร้ บั บรกิ ารจากรฐั ได้แก่ (มาตรา 8) ก. สว่ นราชการ ข. รฐั บาล ค. ประชาชน ง. ถูกทกุ ขอ้

3. หนว่ ยงานใดมหี น้าทก่ี าหนดแนวทางโดยทว่ั ไปให้สว่ นราชการปฏบิ ตั ิ ราชการเพอื่ ประโยชนส์ ขุ ของประชาชน (มาตรา 8) ก. ก.พ. ข. ก.พ.ร. ค. สานักนายกรฐั มนตรี ง. สานกั เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี 4. ข้อใดไมไ่ ดก้ าหนดไวใ้ นแผนปฏบิ ตั ริ าชการของสว่ นราชการ (มาตรา 9) ก. เป้าหมายของภารกจิ ข. ผลสัมฤทธขิ์ องภารกจิ ค. ตวั ชว้ี ดั ความสาเรจ็ ของภารกจิ ง. หลกั การและเหตผุ ล

5. หน่วยงานใดมหี นา้ ทจี่ ดั ทาแผนบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ (มาตรา 13) ก. สานกั เลขาธิการคณะรฐั มนตรี , สานักเลขาธกิ ารนายกรัฐมนตรี ข. สานกั งานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ ค. สานักงบประมาณ ง. ถกู ทกุ ขอ้ 6. คณะรัฐมนตรตี อ้ งพจิ ารณาแผนบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ ภายในกวี่ นั (มาตรา 13) ก. 60 วนั นบั จากจดั ตง้ั รฐั บาลเสรจ็ ข. 90 วนั นับจากวนั ท่ี ครม. แถลงนโยบายตอ่ รัฐสภา ค. 90 วัน นบั จากวนั ไดร้ บั พระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ แตง่ ต้ัง ครม. ง. 90 วัน นับจากวนั เลอื กตัง้

7. แผนบรหิ ารราชการแผ่นดนิ เปน็ แผนกปี่ ี (มาตรา 14) ก. 2 ปี ข. 4 ปี ค. 5 ปี ง. 10 ปี 8. หน่วยงานใดมีหน้าทจี่ ดั ทาแผนนติ บิ ัญญตั ิ (มาตรา 15) ก. สานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า ข. สานกั เลขาธกิ ารนายกรฐั มนตรี ค. สานักงานอยั การสงู สดุ ง. ก. และ ข. ถูก

9. ใครเปน็ ผใู้ หค้ วามเห็นชอบแผนนติ บิ ญั ญตั ิ ก. คณะกรรมการตลุ าการศาลยตุ ธิ รรม ข. คณะรฐั มนตรี ค. รฐั สภา ง. ก.พ.ร. 10. การจดั ทาแผนปฏบิ ตั ริ าชการประจาปขี องสว่ นราชการตอ้ งระบุ สาระสาคญั คือ ก. นโยบายการปฏบิ ัตริ าชการของสว่ นราชการ ข. เปา้ หมายและผลสมั ฤทธขิ์ องงาน ค. ประมาณการรายไดแ้ ละรายจา่ ยและทรพั ยากรอน่ื ทตี่ อ้ งใช้ ง. ถกู ทกุ ขอ้

11. ใครเปน็ ผใู้ หค้ วามเหน็ ชอบแผนปฏิบตั ริ าชการของสว่ นราชการ (มาตรา 16) ก. ครม. ข. นายกรฐั มนตรี ค. รัฐมนตรี ง. ก.พ.ร. 12. การคานวณรายจา่ ยของสว่ นราชการตอ้ งรายงานตอ่ หนว่ ยงานใด (มาตรา 21) ก. สานกั งบประมาณ ข. กรมบัญชกี ลาง ค. ก.พ.ร. ง. ถูกทกุ ขอ้

13. หนว่ ยงานใดมีหนา้ ทปี่ ระเมนิ ความคมุ้ คา่ ในการปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ของรฐั (มาตรา 22) ก. ก.พ.ร. ข. สานกั งานคณะกรรมการเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ค. สานกั งบประมาณ ง. ข. และ ค. ถกู 14. กรณสี ว่ นราชการไม่เห็นชอบดว้ ยกบั คาเสนอแนะของสานักงาน คณะกรรมการกฤษฎกี าเกยี่ วกบั กฎหมายจะเสนอเรอื่ งตอ่ ใคร (มาตรา 36) ก. นายกรฐั มนตรี ข. คณะรฐั มนตรี ค. รฐั สภา ง. ก.พ.ร.

15. การรอ้ งเรยี นหรอื เสนอแนะเสนอผา่ นหนว่ ยงานใดไดบ้ า้ ง (มาตรา 42) ก. กระทรวงมหาดไทย ข. ก.พ.ร. ค. สานักงานตารวจแห่งชาติ ง. ถูกทกุ ขอ้ 16. เมื่อสว่ นราชการไดร้ บั การรอ้ งเรยี นตอ้ งชแี้ จงใหผ้ ูร้ อ้ งเรยี นทราบภายใน ก่วี นั (มาตรา 42) ก. 10 วัน ข. 15 วัน ค. 20 วนั ง. 30 วัน

17. หนว่ ยงานใดมหี นา้ ทกี่ าหนดเกณฑก์ ารประเมนิ ผลการปฏบิ ัตริ าชการ ของส่วนราชการ(มาตรา 45) ก. ก.พ.ร. ข. คณะรฐั มนตรี ค. รฐั สภา ง. สานกั นายกรฐั มนตรี 18. ใครมีหน้าทจี่ ดั สรรเงนิ เพม่ิ พเิ ศษเป็นบาเหนจ็ ความชอบแกส่ ว่ นราชการ (มาตรา 9) ก. สานกั งบประมาณ ข. ก.พ.ร. ค. คณะรฐั มนตรี ง. กระทรวงการคลัง

19. องค์กรปกครองทอ้ งถน่ิ ตอ้ งจดั ทาหลักเกณฑ์การบรหิ ารกจิ การบา้ นเมอื งทด่ี ี อย่างนอ้ ยตอ้ งมอี ะไร (มาตรา 52) ก. หลักเกณฑ์เกยี่ วกบั การลดขน้ั ตอนการปฏบิ ตั งิ าน ข. การอานวยความสะดวกและการตอบสนองความตอ้ งการของ ประชาชน ค. ตวั ชว้ี ดั ความสาเรจ็ ของภารกจิ ง. ก. และ ข. ถกู 20. หนว่ ยงานใดมหี นา้ ทดี่ แู ลและใหค้ วามชว่ ยเหลือองค์กรปกครองทอ้ งถนิ่ ใน การจดั ทาหลกั เกณฑก์ ารบรหิ ารกจิ การบา้ นเมอื งทด่ี ี (มาตรา 52) ก. กรมส่งเสริมการปกครองทอ้ งถน่ิ ข. สานกั งานทอ้ งถน่ิ จงั หวัด ค. กระทรวงมหาดไทย ง. จังหวดั

ขอ้ สอบ พระราชบญั ญตั ขิ อ้ มลู ขา่ วสารของทางราชการ พ.ศ. 2540 1. ข้อใดคอื ขอ้ มลู ขา่ วสาร (มาตรา 4 ) ข. ภาพวาด ก. หนงั สือ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ข. การบันทึกภาพหรอื เสียง 2. สานักงานคณะกรรมการขอ้ มลู ขา่ วสาร สงั กัดสว่ นราชการใด (มาตรา 6 ) ก. สานกั ขา่ วกรองแหง่ ชาติ ข. สานกั งานปลดั สานกั นายกรัฐมนตรี ค. สานกั นายกรฐั มนตรี ง. สานกั เลขาธกิ ารนายกรฐั มนตรี

3. ขอ้ ใดทห่ี นว่ ยงานของรัฐไมต่ อ้ งพมิ พใ์ นราชกจิ จานเุ บกษา (มาตรา 7 ) ก. สรปุ อานาจหนา้ ทท่ี สี่ าคญั และวธิ ดี าเนินงาน ข. โครงสร้างและการจดั การองคก์ ร ค. ประวตั คิ วามเปน็ มาของหนว่ ยงาน ง. สถานทตี่ ดิ ตอ่ เพอ่ื ขอรบั ขอ้ มลู 4. ประชาชนสามารถเขา้ ตรวจดขู อ้ มลู ขา่ วสารหนว่ ยงานในเร่อื งใด (มาตรา 9 ) ก. ผลการพจิ ารณาหรอื คาวนิ จิ ฉยั ทม่ี ผี ลโดยตรงตอ่ เอกชน ข. แผนงาน โครงการ และระบบงบประมาณรายจา่ ยประจาปที ตี่ อ้ ง ดาเนินการ ค. มตคิ ณะรฐั มนตรี ง. ถกู ทกุ ขอ้

5. ขอ้ มลู ขา่ วสารใดทเี่ ปดิ เผยมไิ ด้ (มาตรา 14 ) ก. ข้อมลู อาจกอ่ ใหเ้ กดิ ความเสยี หายตอ่ สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ ข. ขอ้ มูลเกย่ี วกบั ความมนั่ คง ค. ขอ้ มูลเกยี่ วกบั การทจุ รติ ของสานกั งาน ป.ป.ช. ง. ถูกทกุ ขอ้ 6. ข้อมลู ขา่ วสารใดทห่ี นว่ ยงานอาจสงั่ ไมใ่ ห้เปดิ เผยได้ (มาตรา 15 ) ก. การเปดิ เผยจะกอ่ ให้เกดิ ความเสยี หายตอ่ ความมน่ั คงของ ประเทศ ข. การเปดิ เผยจะทาใหก้ ารบังคบั ใชก้ ฎหมายเสอ่ื มประสทิ ธภิ าพ ค. การเปิดเผยจะทาใหเ้ กดิ อนั ตรายตอ่ ชวี ติ ง. ถกู ทกุ ขอ้

7. เจา้ หนา้ ทร่ี ฐั มคี าสง่ั มใิ หเ้ ปดิ เผยขอ้ มลู ขา่ วสาร สามารถอธุ รณไ์ ดใ้ น กี่วนั (มาตรา 18 ) ก. 7 วัน ข. 15 วนั ค. 30 วนั ง. 60 วนั 8. การยน่ื อธุ รณต์ ามขอ้ 7 จะตอ้ งยนื่ ตอ่ ใคร (มาตรา 18 ) ก. สานกั นายกรฐั มนตรี ข. สานกั งานปลดั สานกั นายกรฐั มนตรี ค. คณะกรรมการวนิ จิ ฉยั การเปดิ เผยขอ้ มูลขา่ วสาร ง. รัฐมนตรปี ระจาสานักนายกรฐั มนตรี

9. หน่วยงานของรฐั ตอ้ งตรวจสอบแกไ้ ขขอ้ มลู ขา่ วสารใหถ้ กู ตอ้ งอยเู่ สมอในเรอื่ งใด (มาตรา 23 ) ก. ประเภทของบคุ คลทมี่ กี ารเกบ็ ขอ้ มลู ไว้ ข. ลกั ษณะการใชข้ อ้ มลู ตามปกติ ค. แหล่งทมี่ าของขอ้ มลู ง. ถูกทกุ ขอ้ 10. การเปดิ เผยขอ้ มลู ส่วนบคุ คลในเรอื่ งใดทไ่ี มจ่ าเปน็ ทีเ่ จา้ ตวั ตอ้ งอนญุ าต (มาตรา 24 ) ก. เปดิ เผยตอ่ หนว่ ยงานของรฐั ที่ทางานดา้ นวางแผน สถิติ สัมโนตา่ ง ๆ ข. การเปดิ เผยตอ่ หอจดหมายเหตแุ หง่ ชาติ ค. การเปดิ เผยตอ่ ศาล ง. ถูกทกุ ขอ้

11. ถา้ ข้อมลู สว่ นบคุ คลทีเ่ กย่ี วกับตนสว่ นใดไมถ่ กู ตอ้ งและไดย้ นื่ หนงั สือให้ หนว่ ยงานแกไ้ ขแลว้ แต่ไมม่ กี ารแกไ้ ข สามารถอธุ รณ์ไดภ้ ายในกวี่ นั (มาตรา 25 ) ก. 30 วัน ข. 15 วัน ค. 7 วนั ง. 3 วนั 12. ขอ้ มูลขา่ วสารเกยี่ วกบั ความมนั่ คงของประเทศ หนว่ ยงานของรัฐตอ้ งส่งมอบ ใหแ้ กห่ อจดหมายเหตแุ หง่ ชาตใิ นเวลาใด (มาตรา 26 ) ก. เมอ่ื ครบ 70 ปี ข. เม่ือครบ 60 ปี ค. เมื่อครบ 20 ปี ง. เมอื่ ครบ 15 ปี

13. ใครคอื ประธานคณะกรรมการขอ้ มูลขา่ วสารของทางราชการ (มาตรา 27 ) ก. นายกรฐั มนตรี ข. ปลดั สานกั นายกรฐั มนตรี ข. ปลัดกระทรวงกลาโหม ง. ปลดั กระทรวงมหาดไทย 14. คณะกรรมการวนิ จิ ฉัยการเปิดเผยขอ้ มลู ขา่ วสารมจี านวน เทา่ ใด (มาตรา 36 ) ก. 3 คน ข. ไม่น้อยกวา่ 3 คน ค. 5 คน ง. ไมน่ ้อยกวา่ 5 คน

15. บุคคลใดไม่มาใหถ้ ้อยคาตอ่ คณะกรรมการมคี วามผดิ จะถูกลงโทษตามขอ้ ใด (มาตรา 40 ) ก. จาคกุ ไมเ่ กนิ สามเดอื น ปรบั ไมเ่ กนิ หา้ พนั บาท ข. จาคกุ ไมเ่ กนิ สามเดอื น ค. จาคกุ ไมเ่ กนิ หน่งึ ปี ง. ปรับไมเ่ กนิ สามหมน่ื บาท

ขอ้ สอบ ระเบยี บวา่ ด้วยการรกั ษาความลบั ของทางราชการ พ.ศ. 2544 1. ข้อใดคอื “ข้อมลู ขา่ วสารลบั ” (ขอ้ 5) ก. ขอ้ มลู ที่ มคี าสงั่ ไมใ่ หเ้ ปดิ เผยและอยใู่ นความครอบครอง ควบคมุ ดแู ล ของรัฐ ข. ขอ้ มูลที่ มคี าสงั่ ไมใ่ หเ้ ปดิ เผยและอยู่ในความครอบครอง ควบคมุ ดแู ล ของเอกชน ค. ขอ้ มูลทมี่ คี าสัง่ ไมใ่ หเ้ ปดิ เผย ง. ข้อมูลในการพจิ ารณาคดขี องศาล 2. ข้อใดมใิ ชห่ วั หนา้ หนว่ ยงานของรฐั (ข้อ 5) ก. กองบญั ชาการทหารสงู สดุ ข. ผู้วา่ ราชการจงั หวดั ค. นายอาเภอ ง. นายกเมอื งพทั ยา

3. ระเบียบวา่ ดว้ ยการรกั ษาความลบั ฉบบั นี้ ตอ้ งปรบั ปรงุ ในระยะเวลาใด (ข้อ 6) ก. ทกุ ปี ข. ทกุ 3 ปีอย่างน้อย ค. ทกุ 5 ปี เป็นอยา่ งนอ้ ย ง. ทุก 10 ปีอยา่ งนอ้ ย 4. ขอ้ ใดไมใ่ ชอ่ งคก์ ารรกั ษาความปลอดภัย (ขอ้ 11) ก. ฝ่ายรกั ษาความปลอดภยั ของกระทรวง ข. สานกั ขา่ วกรองแห่งชาติ ค. สานักนายกรฐั มนตรี ง. กองบญั ชาการทหารสงู สดุ

5. ชน้ั ความลบั มกี ี่ช้นั (ขอ้ 12) ข. 3 ช้ัน ก. 2 ชัน้ ง. 5 ชั้น ค. 4 ชัน้ ข. ลบั มาก 6. ข้อใดไมใ่ ชช่ นั้ ความลบั ง. ปกปิด ก. ลับทสี่ ดุ ค. ลับ

7. ข้อมลู ขา่ วสารลบั ซง่ึ หากเปดิ เผยทง้ั หมดหรอื เพยี งบางสว่ นจะเกดิ ความ เสียหายประโยชนแ์ ห่งรฐั คอื ขอ้ ใด (ข้อ 15) ก. ลับท่สี ดุ ข. ลับมาก ค. ลบั ง. ปกปดิ 8. การสงั่ ทาลายข้อมลู ขา่ วสารลับ ต้องมกี รรมการอยา่ งนอ้ ยกคี่ น (ข้อ 56) ก. 3 คน ข. 5 คน ค. 7 คน ง. 9 คน

9. การกาหนดให้ขอ้ มลู ขา่ วสารลบั อยใู่ นชน้ั ความลบั ใด พิจารณาถึง องค์ประกอบใด (ขอ้ 19) ก. ความสาคญั ขอ้ มลู เบอ้ื งตน้ ข. จานวนบุคคลทค่ี วรรบั ทราบ ค. ผลกระทบหากมกี ารเปดิ เผย ง. ถูกทกุ ขอ้ 10. เครอื่ งหมายแสดงชนั้ ความลบั ให้ใชอ้ กั ษรสใี ด (ข้อ 21) ก. แดง ข. สีที่สามารถมองเหน็ ไดเ้ ดน่ ชดั ค. สีนา้ เงนิ ง. ก และ ข ถกู

ขอ้ สอบ ระเบียบวา่ ดว้ ยการลาของขา้ ราชการ พ.ศ. 2555 1. ขอ้ ใดคอื หัวหน้าสว่ นราชการขึน้ ตรง (ขอ้ 5) ข. ปลัดกระทรวง ก. ปลัดสานกั นายกรฐั มนตรี ง. ก และ ข ถูก ง. เลขาธกิ าร ก.ค.ศ. 2. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ “เข้ารบั การเตรยี มพล” (ขอ้ 5) ก. เขา้ รบั การระดมพล ข. เข้ารบั การตรวจสอบพล ค. เขา้ รบั ราชการทหาร ง. เข้ารบั การฝกึ วชิ าทหาร

3. ขา้ ราชการไดร้ บั คาสงั่ ไปชว่ ยราชการ จะยน่ื ลาอปุ สมบทตอ่ ใคร (ขอ้ 9) ก. ผู้บงั คับบญั ชาของหนว่ ยงานทไ่ี ปชว่ ยราชการ ข. ผ้บู ังคบั บัญชาตน้ สงั กดั ค. ผบู้ ังคบั บญั ชาเหนอื ข้นึ ไปของหนว่ ยงานไปชว่ ยราชการ ง. รัฐมนตรี 4. ขอ้ ใดกลา่ วถกู เกย่ี วกบั การนับวนั ลา (ข้อ 10) ก. นับตามปีปฏทิ นิ ข. นบั ตามปงี บประมาณ ค. นับเฉพาะวนั ทาการ ง. ถูกทกุ ขอ้ แลว้ แตป่ ระเภทการลา

5. การลาประเภทใดนบั วนั ลาเฉพาะวนั ทาการ ข. ลาพกั ผอ่ น ก. ลากจิ สว่ นตวั ง. ก และ ข ถูก ค. ลาเขา้ รบั การเตรยี มพล 6. การลาประเภทใดทผ่ี บู้ ังคบั บญั ชาไมส่ ามารถเรยี กกลบั มาปฏบิ ตั ริ าชการ ได้ (ขอ้ 10) ก. ลาไปชว่ ยเหลอื ภรยิ าทคี่ ลอดบตุ ร ข. ลาไปศกึ ษา ฝกึ อบรม ปฏบิ ตั งิ านวจิ ยั หรอื ดงู าน ค. ลากจิ สว่ นตวั ง. ลาพกั ผอ่ น

7. ครผู ชู้ ว่ ย สงั กัดสานกั งาน กศน.ปฏบิ ตั ริ าชการในจงั หวดั มกุ ดาหาร ประสงคจ์ ะไปประเทศลาว 5 วัน จะขออนญุ าตใคร (ขอ้ 14) ก. ผ้วู า่ ราชการจงั หวดั มกุ ดาหาร ข. นายอาเภอเมอื งมกุ ดาหาร ค. เลขาธกิ าร กศน. ง. ผอู้ านวยการสานกั งาน กศน.จงั หวดั มกุ ดาหาร 8. การลามกี ปี่ ระเภท (ข้อ 7 ) ข. 10 ประเภท ก. 11 ประเภท ง. 8 ประเภท ค. 9 ประเภท

9. ขอ้ ใดไมใ่ ชป่ ระเภทการลา (ข้อ 17) ข. การลากจิ ก. การลาคลอดบตุ ร ง. การลาตดิ ตามคสู่ มรส ค. ลาพกั ผอ่ น 10. นาย ก ตอ้ งไปพบแพทยเ์ ดอื นละ 1 คร้งั ตอ้ งดาเนนิ การอยา่ งไร (ขอ้ 18) ก. ขออนญุ าตกอ่ น ข. ขออนุญาตวนั ทล่ี า ค. ต้องขออนญุ าตและตอ้ งไดร้ บั อนุญาตกอ่ น ง. ก และ ข ถูก

11. การลาปว่ ยตามขอ้ ใดตอ้ งมีใบรบั รองแพทย์ (ขอ้ 18) ก. 12 วนั ข. 15 วนั ค. 20 วนั ง. 30 วนั 12. ขอ้ ใดกลา่ วถกู เกย่ี วกบั การลาคลอดบตุ ร ก. ลาในวนั ทค่ี ลอด ข. ลากอ่ น ค. ลาหลงั ง. ถกู ทกุ ขอ้

13. ขา้ ราชการประสงค์จะลาไปชว่ ยภริยาโดยชอบดว้ ยกฎหมายที่คลอดบตุ รตอ้ ง ส่งใบลาภายใน ก่วี นั (ข้อที่ 20) ก. 30 วัน ข. 20 วนั ค. 15 วัน ง. 3 วนั 14. ข้าราชการทป่ี ระสงคจ์ ะลากจิ ส่วนตวั ถา้ มคี วามจาเปน็ โดยไมส่ ามารถรอรับ อนุญาตไดท้ ันทจี ะดาเนนิ การอยา่ งไร (ขอ้ 21) ก. หยุดราชการไปกอ่ นไดต้ อ้ งชแ้ี จงเหตผุ ลใหผ้ ู้มอี านาจอนญุ าต ทราบโดยเรว็ ข. จดั สง่ ใบลาในวันแรกท่มี าปฏบิ ตั ริ าชการ ค. โทรศัพทแ์ จง้ ผมู้ อี านาจอนญุ าต ง. ก และ ข ถูก

15. ข้าราชการประสงคจ์ ะลากจิ สว่ นตวั เพอื่ เลย้ี งดบู ุตร มสี ิทธกิ ารลาตอ่ เนอื่ ง จากการลาคลอดบตุ รไดต้ ามขอ้ ใด ก. ไมเ่ กนิ 150 วัน ข. ไมเ่ กนิ 150 วนั ทาการ ค. ไมเ่ กิน 90 วัน ง. ไม่เกนิ 90 วันทาการ 16. ขา้ ราชการมสี ทิ ธลิ าพกั ผอ่ นประจาปงี บประมาณหนง่ี ไดก้ ่วี นั (ขอ้ 23) ก. 10 วัน ข. 10 วันทาการ ค. ไมน่ อ้ ยกวา่ 10 วนั ทาการ ง. ไมเ่ กนิ 10 วัน

17. ข้าราชการทปี่ ระจาในตา่ งประเทศตามขอ้ ใด มีสิทธลิ าพกั ผอ่ นเพม่ิ (ข้อ 25) ก. แอฟรกิ า ข. รัสเซยี ค. มลั ดฟี ง. มาเลเซยี 18. การลาอปุ สมบทตอ้ งเสนอใบลากอ่ นกว่ี นั ก. ไมน่ ้อยกวา่ 90 วัน ข. ไมน่ ้อยกวา่ 60 วัน ค. ไมน่ ้อยกวา่ 45 วัน ง. ไมน่ ้อยกวา่ 30 วัน

19. ข้าราชการทไ่ี ดร้ ับพระราชทานพระบรมราชานุญาตใหอ้ ปุ สมบท ต้อง อปุ สมบทภายใน กวี่ นั (ข้อ 30) ก. 10 วันนบั แตว่ นั เริม่ ลา ข. 10 วันนบั แตว่ นั ไดร้ ับอนญุ าต ค. 5 วนั นับแตว่ ันเริม่ ลา ง. 5 วันนับแตว่ นั ไดร้ บั อนญุ าต 20. ขา้ ราชการทไ่ี ดร้ ับหมายเรียกเขา้ รับการตรวจเลือกตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ใด (ข้อ 31) ก. รายงานลาตอ่ ผบู้ งั คบั บญั ชากอ่ นวนั เขา้ รับการตรวจเลอื ก ไม่น้อย กว่า 48 ช่ัวโมง ข. รายงานตวั ตอ่ ผบู้ งั คับบญั ชากอ่ นวันเขา้ รับการตรวจเลือก ไม่น้อย กว่า 48 ชัว่ โมง ค. รายงานลาตอ่ ผู้บงั คับบัญชากอ่ นวันเขา้ รบั การตรวจเลอื ก ไม่นอ้ ย กว่า 30 ช่ัวโมง ง. รายงานตวั ตอ่ ผบู้ งั คบั บญั ชากอ่ นวนั เขา้ รบั การตรวจเลอื ก ไมน่ ้อย กวา่ 30 ชว่ั โมง

21. ขา้ ราชการทจี่ ะเขา้ รบั การตรวจเลอื กแลว้ มคี วามจาเปน็ ไมส่ ามารถมา รายงานตวั ไดอ้ าจขยายเวลาไดม้ ากทส่ี ดุ รวมกนั แลว้ ตามขอ้ ใด (ข้อ 23) ก. 10 วนั ข. 10 วันทาการค. 15 วนั ง. 15 วันทาการ 22. ใครมอี านาจอนญุ าตลาไปปฏบิ ตั งิ านในองคก์ ารระหวา่ งประเทศ ของ ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา สงั กัดสานกั งาน กศน. (ขอ้ 34) ก. เลขาธกิ าร กศน. ข. ปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ค. รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ง. นายกรฐั มนตรี

23. การลาไปปฏบิ ตั งิ านใน องคก์ ารระหวา่ งประเทศ เมอื่ ปฏิบตั งิ านเสรจ็ ให้ รายงานตวั เขา้ ปฏบิ ตั หิ นา้ ทรี่ าชการตามขอ้ ใด ก. ภายใน 5 วัน ข. ภายใน 10 วัน ค. ภายใน 15 วนั ง. ภายใน 30 วนั 24. การลาตดิ ตามคสู่ มรส ขอ้ ใดกลา่ วถูก (ขอ้ 36) ก. ลาไดไ้ มเ่ กนิ 2 ปี ข. กรณจี าเป็นอาจอนญุ าตให้ลาตอ่ ไดอ้ กี 2 ปี ค. การลารวมกนั แลว้ ตอ้ งไมเ่ กนิ 4 ปี ง. ถกู ทกุ ขอ้

25. การลาไปฟน้ื ฟสู มรรถภาพดา้ นอาชพี ลาไดต้ ามข้อใด (ข้อ 39) ก. ไมเ่ กนิ 3 เดอื น ข. ไมเ่ กนิ 6 เดอื น ค. ไม่เกนิ 12 เดอื น ง. ไมเ่ กนิ 24 เดือน

ข้อสอบ ระเบียบสานกั นายกรฐั มนตรวี า่ ดว้ ยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 1. ข้อใดคอื งานสารบรรณ (ขอ้ 6) ก. งานทเี่ กย่ี วกบั การจดั ทาเอกสาร ข. งานทเ่ี กย่ี วกับการรบั เอกสาร ค. งานทเี่ กย่ี วกบั การส่งเอกสาร ง. ถกู ทกุ ขอ้ 2. ขอ้ ใดคอื หนงั สอื ราชการ (ขอ้ 9) ก. หนังสอื ทม่ี ไี ปมาระหวา่ งสว่ นราชการ ข. หนงั สอื ทบ่ี คุ คลภายนอกมมี าถงึ สว่ นราชการ ค. เอกสารทที่ างราชการจดั ทาขนึ้ เพ่ือเปน็ หลักฐานทางราชการ ง. ถูกทกุ ขอ้

3. หนงั สอื ราชการ มกี ีช่ นดิ (ขอ้ 6) ก. 6 ชนิด ข. 5 ชนดิ ค. 4 ชนิด ง. 3 ชนิด 4. หนงั สอื ติดต่อราชการทเ่ี ปน็ แบบพิธีโดยใช้กระดาษตราครฑุ คอื หนังสอื ประเภทใด (ข้อ 11) ก. หนงั สอื ภายนอก ข. หนงั สอื ภายใน ค. หนงั สอื สง่ั การ ง. ถูกทุกข้อ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook