สอบ

ข้อสอบ พรบ. สภาครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. 2546 1. ขอ้ ใดไมใ่ ชว่ ตั ถปุ ระสงคข์ องครุ สุ ภา (มาตรา 8) ก. กาหนดมาตรฐานวชิ าชพี ครู ข. พัฒนาวชิ าชพี ครู ค. กาหนดมาตรฐานตาแหนง่ ง. ออกและเพกิ ถอนใบประกอบวชิ าชพี 2. การออกขอ้ บงั คบั ของครุ สุ ภา จะใชไ้ ด้ เม่ือใด (มาตรา 9) ก. รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ ารเหน็ ชอบ ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา ข. คณะรฐั มนตรเี หน็ ชอบประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา ค. สภาการศกึ ษาเหน็ ชอบ รฐั มนตรลี งนาม ง. ไม่มขี อ้ ถกู

3. คุรุสภาเปน็ หนว่ ยงานลกั ษณะใดในกระทรวงศกึ ษาธกิ าร (มาตรา 7) ก. องค์กรมหาชนใน ศธ. ข. นติ บิ คุ คลในกากบั ของ ศธ. ค. หน่วยงานระดบั กรมใน ศธ. ง. หน่วยงานเอกชน 4. ประธานอานวยการครุ สุ ภาคอื ขอ้ ใด (มาตรา 12) ก. ผู้ทรงคณุ วฒุ ิ คณะรัฐมนตรแี ตง่ ตงั้ ข. รัฐมนตรกี ระทรวงศกึ ษาธกิ าร ค. เลขาธกิ ารครุ สุ ภา ง. กรรมการเลอื กกนั เอง

5. คณะกรรมการมาตรฐานวชิ าชีพมกี ค่ี น (มาตรา 12) ก. 15 คน ข. 16 คน ค. 17 คน ง. 18 คน 6. คณะกรรมการมาตรฐานวชิ าชพี มวี าระกปี่ ี (มาตรา 24) ก. 2 ปี ข. 4 ปี ค. 6 ปี ง. 8 ปี

7. คณะกรรมการชดุ ใดมีหนา้ ทพ่ี จิ ารณาออกใบอนญุ าตและเพกิ ถอน ใบอนุญาต (มาตรา 25) ก. คณะกรรมการครุ สุ ภา ข. คณะกรรมการมาตรฐานวชิ าชพี ค. คณะกรรมการ สก.สค. ง. ถกู ทกุ ขอ้ 8. ขอ้ ใดไมใ่ ชค่ ณุ สมบตั ขิ องเลขาธกิ ารครุ สุ ภา (มาตรา 36) ก. อายไุ มต่ า่ กวา่ 35 ปี ไมเ่ กิน 70 ปี ข. สัญชาตไิ ทย ค. เปน็ ผมู้ คี วามรู้ ความสามารถ ง. ไม่มีขอ้ ถูก

9. เลขาธกิ ารครุ สุ ภา มวี าระการดารงตาแหน่งกปี่ ี (มาตรา 37) ก. 2 ปี ข. 4 ปี ค. 5 ปี ง. 8 ปี 10. ขอ้ ใดเปน็ วชิ าชพี ควบคุมตามพระราชบัญญตั สิ ภาครแู ละบุคลากร ทางการศกึ ษา พ.ศ. 2546 (มาตรา 43) ก. วชิ าชพี ครู ข. วชิ าชพี ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา ค. วชิ าชพี ผบู้ รหิ ารการศกึ ษา ง. ถูกทกุ ขอ้

11. ห้ามมใิ หผ้ ใู้ ดประกอบวชิ าชพี ควบคมุ โดย ไมไ่ ดร้ บั อนญุ าต ยกเวน้ ขอ้ ใดบ้าง (มาตรา 43) ก. วิทยากรพเิ ศษทางการศกึ ษา ข. ผจู้ ดั การศกึ ษาตามอธั ยาศยั ค. อาจารย์ ผ้บู รหิ ารในมหาวทิ ยาลัย ง. ถูกทกุ ขอ้ 12. ข้อใดไมต่ อ้ งมใี บประกอบวชิ าชพี ตามพระราชบญั ญตั สิ ภาครแู ละ บุคลากรทางการศกึ ษา (มาตรา 43) ก. ครผู ชู้ ว่ ย ข. ครู ค. อาจารย์ ง. ศกึ ษานเิ ทศก์

13. ผู้จะขอใบประกอบวชิ าชพี ควบคมุ ตอ้ งมคี ณุ สมบัตติ ามขอ้ ใดบา้ ง (มาตรา 44) ก. อายไุ มต่ า่ กวา่ สบิ แปดปบี รบิ รู ณ์ ข. ปรญิ ญาทางการศกึ ษา ค. ผ่านการสอนในสถานศกึ ษา ๖ เดือน ง. ถกู ทกุ ขอ้ 14. ข้อใดสมาชกิ กติ ตมิ ศกั ดไิ์ มม่ ีสทิ ธเิ หมอื นสมาชกิ สามญั (มาตรา 49) ก. ชาระคา่ ธรรมเนยี ม ข. เลือกรบั การเลอื กตง้ั เปน็ กรรมการ ค. แสดงความคดิ เหน็ หรอื ตามขอ้ สงสยั ง. ขอ้ ก และ ข

15. ผู้ใดรบั ใบอนญุ าตซ่ึงถูกสงั่ เพกิ ถอนจะขออกี ไมไ่ ด้ จนกวา่ จะพน้ กปี่ ี นับตงั้ แตว่ นั ถกู สง่ั เพกิ ถอน (มาตรา 57) ก. ๓ ปี ข. ๔ ปี ค. ๕ ปี ง. ๖ ปี 16. คณะกรรมการมาตรฐานวชิ าชพี มอี านาจวนิ จิ ฉัยชข้ี าด ยกเวน้ ขอ้ ใด (มาตรา 54) ก. ตักเตอื น ข. พักใชใ้ บอนญุ าต ๗ ปี ค. ภาคทณั ฑ์ ง. เพิกถอนใบอนญุ าต

17. สมาชกิ ครุ สุ ภามกี ป่ี ระเภท (มาตรา 48) ข. 2 ประเภท ก. 1 ประเภท ง. 4 ประเภท ค. 3 ประเภท 18. คณะกรรมการมาตรฐานวชิ าชพี มอี านาจพกั ใชใ้ บอนญุ าตไมเ่ กนิ กป่ี ี (มาตรา 54) ก. 2 ปี ข. 3 ปี ค. 4 ปี ง. 5 ปี

19. การอทุ ธรณค์ าสงั่ ตอ่ คณะกรรมการ ครุ ุสภาในกรณที ไ่ี มต่ อ่ อายุ ใบอนุญาต ภายในกว่ี นั นับตงั้ แตว่ นั ทไี่ ดร้ บั แจง้ (มาตรา 55) ก. 15 วัน ข. 30 วัน ค. 16 วัน ง. 19 วัน 20. ใครคอื ประธานคณะกรรมการสง่ เสรมิ สวสั ดกิ ารและสวสั ดภิ าพครแู ละ บุคลากรทางการศกึ ษา (คาสงั่ คสช.ที่ 7/2558) ก. รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ข. ปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ค. บุคคลทคี่ ณะรฐั มนตรแี ตง่ ตง้ั ง. ผูท้ รงคณุ วฒุ ทิ ไ่ี ดร้ บั เลอื กจากทปี่ ระชมุ

21. ข้อใดไมใ่ ช่ คณะกรรมการสง่ เสรมิ สวสั ดกิ ารและสวสั ดภิ าพครแู ละบุคลากรทางการ ศกึ ษา ก. ปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ข. เลขาธกิ าร ก.ค.ศ. ค. สานกั งานคณะกรรมการการส่งเสรมิ การศกึ ษาเอกชน ง. เลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา 22. ผู้ใดฝา่ ฝืนการปฏบิ ตั ติ นวิชาชพี ควบคมุ ตอ้ งระวางโทษตามขอ้ ใด (มาตรา 78) ก. จาคกุ ไมเ่ กนิ 1 ปี หรือปรบั ไมเ่ กนิ 2 หมน่ื บาท หรอื ทงั้ จาทงั้ ปรับ ข. จาคกุ ไม่เกิน 2 ปี หรอื ปรบั ไม่เกนิ 1 หมน่ื บาท หรอื ทัง้ จาทงั้ ปรบั ค. จาคุกไมเ่ กนิ 6 เดอื น ปรบั ไมเ่ กนิ 1 หมื่นบาท หรอื ทง้ั จาทงั้ ปรับ ง. จาคกุ ไมเ่ กนิ 3 เดอื น หรือปรบั ไมเ่ กนิ 1 หมน่ื บาท หรอื ท้งั จาทงั้ ปรับ

23. ผใู้ ดแสดงวา่ ตนมสี ทิ ธใ์ิ บประกอบวชิ าชพี ไปทาหนา้ ทสี่ อนหนงั สอื มีความผดิ ตอ้ ง ระวางโทษตามขอ้ ใด (มาตรา 79) ก. จาคกุ ไมเ่ กนิ สามปี ปรับไมเ่ กินหกหมืน่ บาท หรอื ทงั้ จาและปรบั ข. จาคกุ ไมเ่ กนิ หนง่ึ ปี ปรับไมเ่ กนิ สามหมืน่ บาท หรือทงั้ จาทง้ั ปรบั ค. จาคกุ ไม่เกนิ สองปี ปรับไมเ่ กนิ สามหมืน่ บาท หรือทง้ั จาทง้ั ปรับ ง. ถกู ทุกขอ้ 24. กรรมการมาตรฐานวชิ าชพี พน้ จากตาแหนง่ โดยมตใิ หอ้ อกเสียงดว้ ยคะแนนเสยี ง เทา่ ไรของกรรมการทงั้ หมด (มาตรา 24) ก. 1 ใน 3 ของกรรมการทงั้ หมด ข. 2 ใน 3 ของกรรมการทง้ั หมด ค. กรรมการทกุ คนเปน็ เอกฉนั ท์ ง. 1 ใน 2 ของกรรมการทงั้ หมด 25. ใบอนญุ าตประกอบวิชาชีพมกี ปี่ ระเภท (มาตรา 43) ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท

สรุปสาระสาคญั พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บขา้ ราชการครแู ละ บุคลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. 2547 แก้ไขเพม่ิ เตมิ พ.ศ. 2551

➢ก.ค.ศ. ยอ่ มาจาก “คณะกรรมการข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา” ➢ตามคาสั่ง คสช. ท่ี 16/2560 มีจานวน 14 คน 1.รัฐมนตรชี ว่ ยวา่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ประธานกรรมการ กรรมการโดยตาแหนง่ 2. รฐั มนตรชี ว่ ยวา่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร กรรมการ (2 คน) 3. เลขาธิการคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน กรรมการ 4. เลขาธกิ ารคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษา กรรมการ 5. เลขาธกิ ารคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กรรมการ 6. เลขาธิการสภาการศกึ ษา กรรมการ 7. เลขาธกิ ารครุ สุ ภา กรรมการ 8. เลขาธิการ ก.พ. กรรมการ

➢ กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิ 3 คน * บคุ คลทมี่ คี วามรู้ ความเชย่ี วชาญและประสบการณส์ งู ใน ด้านการบรหิ ารทรพั ยากรมนษุ ย์ ด้านการศกึ ษา และดา้ นกฎหมาย ด้านละ 1 คน ➢ ให้เลขาธกิ าร ก.ค.ศ. เป็นกรรมการและเลขานกุ าร ***** ให้เลขาธกิ าร ก.ค.ศ.แตง่ ตงั้ ขา้ ราชการในสานกั งาน ก.ค.ศ. จานวน ไม่ เกนิ 2 คน เปน็ ผู้ชว่ ยเลขานกุ าร

➢ ก.ค.ศ. มอี านาจแตง่ ตง้ั อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเพอ่ื ทาการใด ๆ แทน ก.ค.ศ. ดังต่อไปน้ี 1. อ.ก.ค.ศ. วสิ ามัญเกย่ี วกับการอุธรณ์และการร้องทกุ ข์ 2. อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกย่ี วกบั วนิ ยั และการออกจากราชการ 3. อ.ก.ค.ศ. วสิ ามญั เกยี่ วกบั กฎหมายและระเบยี บ ➢ให้ อ.ก.ค.ศ. วิสามญั แตล่ ะคณะ มีจานวนไมเ่ กนิ 15 คน

ตามคาสง่ั คสช.ท่ี 16/2560 ให้แก้ไข คาว่า ”ข้ันเงนิ เดอื น” ในกฎหมายระเบยี บขา้ ราชการครู และบคุ ลากรทางการศกึ ษา เป็น ”เงินเดอื น” ทกุ แหง่

ตาแหนง่ ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา มี 3 ประเภท ➢ เปน็ ผสู้ อนในหนว่ ยงานทางการศกึ ษา 1. ครผู ู้ชว่ ย 2. ครู 3. อาจารย์ 4. ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ 3-6 มีในสถานศกึ ษาทเ่ี ปดิ สอน 5. รองศาสตราจารย์ ระดับปรญิ ญา 6. ศาสตราจารย์

➢ ผู้บริหารสถานศกึ ษาและผบู้ รหิ ารการศกึ ษา ➢ รองผอู้ านวยการสถานศกึ ษา มีในสถานศกึ ษาตามประกาศ ศธ. ➢ ผู้อานวยการสถานศกึ ษา ➢ รองผอู้ านวยการสานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา มใี น สพท. ➢ ผอู้ านวยการสานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา ➢ ตาแหนง่ ทเี่ รยี กอยา่ งอน่ื ** ยกเลิก – อธิการบด,ี รองอธกิ ารบดี

➢ตาแหนง่ บคุ ลากรทางการศกึ ษาอน่ื ➢ ศึกษานเิ ทศก์ ➢ ตาแหนง่ ทเี่ รยี กชอ่ื อยา่ งอนื่

ตาแหนง่ ทมี่ ีวทิ ยฐานะ ➢ ตาแหนง่ ครู ➢ ครชู านาญการ ➢ ครชู านาญการพเิ ศษ ➢ ครเู ชยี่ วชาญ ➢ ครเู ชยี่ วชาญพเิ ศษ

➢ ตาแหนง่ ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา ➢ รองผอู้ านวยการชานาญการ ➢ รองผอู้ านวยการชานาญการพเิ ศษ ➢ รองผอู้ านวยการเชี่ยวชาญ ➢ ผอู้ านวยการชานาญการ ➢ ผู้อานวยการชานาญการพิเศษ ➢ ผอู้ านวยการเช่ยี วชาญ ➢ ผอู้ านวยการเช่ยี วชาญพเิ ศษ

➢ ตาแหนง่ ผบู้ รหิ ารการศกึ ษา ➢ รอง ผอ.สพท. ชานาญการพเิ ศษ ➢ รอง ผอ.สพท. เชีย่ วชาญ ➢ ผอ.สพท. เชย่ี วชาญ ➢ ผอ.สพท. ชานาญเชี่ยวชาญพเิ ศษ

➢ ตาแหนง่ ศกึ ษานเิ ทศก์ ➢ ศึกษานเิ ทศกช์ านาญการ ➢ ศกึ ษานเิ ทศกช์ านาญการพเิ ศษ ➢ ศกึ ษานเิ ทศกเ์ ช่ยี วชาญ ➢ ศึกษานเิ ทศกเ์ ชย่ี วชาญพเิ ศษ ➢ ตาแหนง่ ทเ่ี รยี กชือ่ อยา่ งอนื่ ท่ี ก.ค.ศ. กาหนดใหม้ วี ิทยฐานะ

➢ ม. 40 ตาแหนง่ คณาจารย์ เป็นตาแหนง่ ทางวิชาการ • อาจารย์ • ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ • รองศาสตราจารย์ • ศาสตราจารย์ ➢ เงินเดือน, เงนิ ประจาตาแหนง่ นากฎหมายว่าดว้ ยระเบยี บ ขา้ ราชการพลเรอื นในสถาบนั อดุ มศกึ ษาใชโ้ ดยอนโุ ลม

การเสริมสรา้ งประสทิ ธิภาพในการปฏบิ ตั ริ าชการ ➢ ม.72 ผูบ้ ังคับบญั ชามหี นา้ ที่ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านของข้าราชการครฯู โดยยึดหลกั - การปฏบิ ตั งิ านทีเ่ หมาะกบั การเปน็ ขา้ ราชการครฯู - การปฏบิ ตั งิ านไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพเกดิ ประสิทธผิ ลมผี ลงานเปน็ ทปี่ ระจกั ษ์ • เม่ือบุคคลใดปฏบิ ตั งิ านตามทีก่ ลา่ ว ถอื ว่าผ้นู นั้ มคี วามชอบสมควรไดร้ บั บาเหนจ็ ความชอบ ซึง่ ไดแ้ ก่ - บันทึกคาชนื่ ชม - รางวลั - เครอ่ื งเชดิ ชเู กยี รติ - หรือการเลือ่ นขนั้ เงนิ เดอื น - หรืออนื่ ๆ ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด

➢ ม.72 ผู้บงั คับบญั ชาตงั้ คณะกรรมการเพอ่ื พจิ ารณาเลือ่ นขน้ั เงนิ เดอื น โดยยึดหลกั - คณุ ธรรม - มีความเทย่ี งธรรม - เปดิ เผย - โปร่งใส - พจิ ารณาจากผลงานเปน็ หลกั - ความประพฤตใิ นการรกั ษาวนิ ยั คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวชิ าชพี • การเล่อื นขนั้ เงนิ เดอื น ให้พจิ ารณาผลการปฏิบตั งิ านเปน็ ทป่ี ระจกั ษแ์ กผ่ เู้ รยี น (เน้น ผู้เรยี นเปน็ สาคญั ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการศกึ ษาแหง่ ชาติ) ** ขอ้ สงั เกต สาหรับตาแหนง่ ทมี่ ีวทิ ยฐานะให้ ก.ค.ศ. กาหนดขนั้ เงนิ เดอื น ประสทิ ธภิ าพของตาแหนง่ ขา้ ราชการครฯู เพอ่ื ใหป้ ฏิบตั งิ านบงั เกดิ ผลดแี ละมี ความกา้ วหนา้ ไดม้ าตรฐานของทางราชการ (ม.74)

➢ม.75 ก.ค.ศ. อาจกาหนดใหข้ า้ ราชการครฯู ทม่ี ผี ลการปฏบิ ตั งิ านดเี ดน่ หรอื ผ้ไู ดร้ บั การยกยอ่ ง เชิดชเู กยี รตใิ ห้ไดร้ บั เงนิ วทิ ยพฒั นไ์ ด้ ตามระเบยี บที่ ก.ค. ศ. กาหนดโดยอนุมตั ขิ อง ครม. ➢ม.77 ขา้ ราชการครฯู ถึงแกค่ วามตายจากการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี ให้จดั สวสั ดกิ าร แกค่ รอบครวั ตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด โดยความเห็นชอบของ ครม. ➢ม.79 ใหผ้ ู้บังคบั บัญชาปฏบิ ตั ติ นเปน็ ตวั อยา่ งทด่ี แี กผ่ ใู้ ตบ้ งั คบั บัญชาและ มีหนา้ ทพี่ จิ ารณาผใู้ ตบ้ งั คับบญั ชาเพอ่ื - ให้ความรู้ - มที กั ษะ - มเี จตคตทิ ด่ี ี - มีคุณธรรม - มีจรยิ ธรรม - มีจรรยาบรรณวชิ าชพี ทเ่ี หมาะสม • ตามหลกั เกณฑท์ ี่ ก.ค.ศ. กาหนด

➢ม.80 ผู้บังคับบญั ชามหี นา้ ทใี่ นการสง่ เสรมิ สนบั สนนุ ผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชา โดย การใหไ้ ปศกึ ษา ฝกึ อบรม ดูงาน หรอื ปฏบิ ตั งิ านวจิ ยั และพจิ ารณาตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด - กรณมี คี วามจาเปน็ ของหนว่ ยงาน เพือ่ ประโยชนต์ อ่ การพฒั นาคณุ ภาพ การศกึ ษา หรอื วชิ าชพี หรือคณุ วฒุ ทิ ข่ี าดแคลน ผบู้ ังคบั บัญชาอาจสง่ หรอื อนญุ าตใหล้ าไป ศึกษาฯ โดย อนมุ ตั ิ ก.ค.ศ. หรือ อ.ก.ค.ศ. เขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษา ใหถ้ อื เปน็ การไปปฏบิ ัติ หน้าท่รี าชการและมสี ทิ ธเิ ลอื่ นขน้ั เงนิ เดอื นระหวา่ งลา

วนิ ยั และการรกั ษาวนิ ยั ➢ ลกั ษณะเฉพาะของวนิ ยั - ไมม่ ีอายคุ วาม - การรบั สารภาพไมเ่ ปน็ เหตใุ ห้พน้ ความผดิ ➢ม.82 วนิ ัยเปน็ ขอ้ หา้ มและขอ้ ปฏบิ ตั โิ ดยเครง่ ครดั อยเู่ สมอ ➢ม.83 ขา้ ราชการครฯู ตอ้ งสนบั สนุนการปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย

➢ม.84 - ปฏบิ ัตหิ นา้ ทด่ี ว้ ยความซ่อื สตั ย์ สจุ รติ เสมอภาคและเทยี่ งธรรม มี ความวริ ยิ ะอตุ สาหะ ขยันหมั่นเพยี ร ดูแลเอาใจใส่ รักษาประโยชน์ของ ทางราชการ และตอ้ งปฏบิ ตั ติ นตามมาตรฐานและจรรยาบรรณวชิ าชพี อย่างเครง่ ครดั - การปฏบิ ัตหิ รอื ละเวน้ การปฏบิ ตั หิ นา้ ทรี่ าชการโดยมิชอบ ใหต้ นเอง หรอื ผอู้ น่ื ไดร้ บั ประโยชนท์ มี่ ิควรได้ เปน็ การทจุ รติ ตอ่ หนา้ ทร่ี าชการ เปน็ ความผดิ วนิ ยั รา้ ยแรง • ข้อสังเกต มขี อ้ ปฏบิ ตั ติ ามมาตรฐานและจรรยาบรรณวชิ าชพี ตาม ขอ้ บงั คบั ครุ สุ ภารวมอยดู่ ว้ ย

➢ ม.85 การจงใจไมป่ ฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย ระเบยี บ แบบแผนของทางราชการและ หนว่ ยงานทางการศกึ ษา มติ ครม., นโยบายรฐั บาล, ประมาทเลนิ เลอ่ , ทาใหเ้ กดิ ความเสียหายแกท่ างราชการอยา่ งรา้ ยแรงเปน็ ความผิดวนิ ยั รา้ ยแรง ➢ ม.86 ตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามคาส่ังของผบู้ งั คบั บญั ชาซงึ่ สั่งโดยชอบดว้ ยกฎหมายระเบยี บ ของทางราชการ - หากเหน็ วา่ จะเกิดความเสียหายใหเ้ สนอความเหน็ เปน็ หนงั สือ ภายใน 7 วัน - ถ้าผบู้ ังคบั บญั ชายนื ยนั เปน็ หนงั สือใหป้ ฏิบตั ติ ามคาสง่ั เดมิ ใหผ้ ้ใู ตบ้ งั คบั บญั ชา ตอ้ งปฏบิ ตั ติ าม ** การขดั คาสัง่ หรอื หลกี เลย่ี งคาสง่ั ทางราชการเสยี หายอยา่ งรา้ ยแรงเปน็ ความผิด วนิ ยั อยา่ งรา้ ยแรง

➢ม.87 ตอ้ งอทุ ศิ ตนให้แกท่ างราชการและผเู้ รยี นจะละทงิ้ หรอื ทอดทง้ิ หนา้ ท่ี ราชการมไิ ด้ การละทง้ิ หนา้ ทรี่ าชการตดิ ตอ่ ในคราวเดยี วกนั เปน็ เวลาเกนิ 15 วันขน้ึ ไป เปน็ ความผดิ วนิ ยั อยา่ งรา้ ยแรง ➢ม.88 ตอ้ งประพฤตเิ ป็นแบบอยา่ งทดี่ แี กผ่ เู้ รยี น ชมุ ชน สงั คม มีความสภุ าพ เรยี บรอ้ ย รกั ษาความสามคั คี ช่วยเหลอื เกอ้ื กลู ตอ่ ผเู้ รยี น - การกล่นั แกลง้ ดูหมนิ่ เหยยี ดหยาม กดข่ี ขม่ เหงผเู้ รยี น หรือประชาชนผู้ มา ติดตอ่ ราชการ เปน็ ความผดิ วนิ ยั อยา่ งรา้ ยแรง ➢ม.89 ตอ้ งไมก่ ลนั่ แกลง้ หรอื รอ้ งเรยี นผอู้ นื่ โดยปราศจากความจรงิ - ถ้าผอู้ น่ื ไดร้ บั ความเสยี หายอยา่ งรา้ ยแรง เป็นความผดิ วนิ ัยอยา่ งรา้ ยแรง

➢ม.90 การกระทาโดยมงุ่ หมายจะให้เป็นการซื้อขายหรอื ใหไ้ ดร้ บั แตง่ ตงั้ ให้ ดารงตาแหน่งหรอื มวี ทิ ยฐานะใด หรือเป็นการใหห้ รอื ไดม้ าซ่ึงทรพั ยส์ นิ เพอ่ื ใหต้ นเองไดร้ บั การบรรจแุ ตง่ ตง้ั โดยมชิ อบ เป็นความผดิ วนิ ยั อยา่ ง รา้ ยแรง ➢ม.91 การคดั ลอกหรอื ลอกเลยี นผลงานทางวชิ าการผอู้ น่ื โดยมชิ อบ เป็น ความผดิ วนิ ยั อยา่ งรา้ ยแรงการรว่ มกนั คดั ลอกหรอื ลอกเลยี นผลงานของ ผอู้ ื่น หรอื รบั จดั ทาผลงานไมว่ า่ จะมคี า่ ตอบแทนหรอื ไม่ เปน็ ความผดิ วนิ ัย อย่างรา้ ยแรง ➢ม.92 ต้องไม่เป็นกรรมการผจู้ ดั การ หรอื ผจู้ ดั การหรอื ดารงตาแหน่งอน่ื ใด ท่ีมีลกั ษณะงานคลา้ ยคลงึ กนั ในหา้ งหนุ้ สว่ นหรอื บรษิ ทั

➢ ม.93 ต้องวางตวั เป็นกลางทางการเมอื ง การเขา้ ไปเกยี่ วขอ้ งจนมกี ารทจุ รติ ซอ้ื สทิ ธขิ ายเสยี งในการเลือกตง้ั เปน็ ความผดิ วนิ ยั อยา่ งรา้ ยแรง ➢ ม.94 ต้องรกั ษาชอื่ เสยี งของตนและรักษาเกยี รตศิ กั ดข์ิ องตน ไมก่ ระทาการใด ๆ อนั ไดช้ อ่ื ว่าผปู้ ระพฤตชิ วั่ - การกระทาผดิ อาญาจนไดร้ ับโทษจาคกุ เวน้ ประมาทหรือลหโุ ทษ ถือ ว่าเปน็ ผปู้ ระพฤตชิ วั่ อยา่ งร้ายแรง เป็นความผดิ วนิ ยั อยา่ งรา้ ยแรง - เสพยาเสพตดิ หรือสนบั สนนุ ใหผ้ อู้ น่ื เสพยาเสพตดิ เลน่ การพนนั เปน็ อาจิณ หรอื กระทาลว่ งละเมดิ ทางเพศตอ่ ผเู้ รยี นหรอื นกั ศกึ ษา ไมว่ า่ จะอยใู่ นความดแู ลรบั ผดิ ชอบของตนหรือไม่ เปน็ ความผดิ วนิ ยั อยา่ ง ร้ายแรง

➢ ม.95 - ผู้บงั คบั บญั ชามหี นา้ ท่ีสง่ เสรมิ และพฒั นาผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชาใหม้ วี นิ ยั ป้องกนั และ ดาเนินการกบั ผูก้ ระทาผิด - การเสรมิ สรา้ งและพฒั นาผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชาใหก้ ระทาตนเปน็ แบบอยา่ งทดี่ ี การฝกึ อบรม การสร้างขวญั กาลังใจ การจงู ใจ - การปอ้ งกนั ไมใ่ หก้ ระทาผดิ วนิ ยั กระทาโดยการเอาใจใส่ สงั เกตการและ ขจดั เหตอุ าจกอ่ ใหเ้ กดิ การกระทาผดิ วนิ ยั - ผู้บังคับบญั ชาปกปอ้ ง ช่วยเหลือผกู้ ระทาผดิ ถือว่าการกระผดิ วนิ ยั ➢ ม.96 โทษผิดวนิ ยั มี 5 สถาน คอื 1. ภาคทณั ฑ์ 2. ตดั เงนิ เดอื น 3. ลดขน้ั เงนิ เดอื น 4. ปลดออก 5. ไลอ่ อก **ผู้ถกู ลงโทษปลดออก ให้ผู้นนั้ มสี ทิ ธริ บั บาเหนจ็ บานาญเสมอื นผู้นน้ั ลาออกจาก ราชการ

การดาเนนิ การทางวนิ ัย ➢ ม.98 เมอ่ื มีมูลวา่ กระทาผดิ วนิ ยั ใหด้ าเนนิ การ - แตง่ ตงั้ คณะกรรมการสอบสวนโดยไมช่ กั ช้า - แจ้งข้อกลา่ วหา - สรุปพยานหลักฐานทสี่ นบั สนนุ ขอ้ กล่าวหาใหผ้ ถู้ กู ลา่ วหาทราบ - ใหผ้ ้ถู ูกกล่าวหาชแ้ี จงและนาสบื ขอ้ กล่าวหา ➢ ม.99 กรณีดาเนนิ การสอบสวนแล้วไมม่ คี วามผดิ ใหส้ ่งยุตเิ รอ่ื งกรณกี ระทาผดิ รา้ ยแรง ต้องลงโทษไล่ออกหรอื ปลดออก ถ้ามีเหตอุ นั ควรลดหย่อนผอ่ นโทษ ห้ามมิใหล้ ดโทษ ต่ากว่าปลดออก

➢ม.100 - กรณีไมร่ า้ ยแรงใหล้ งโทษภาคทณั ฑ์ ตัดเงนิ เดอื น หรอื ลดขั้น เงนิ เดอื น - การภาคทณั ฑ์ ใชก้ รณคี วามผดิ เลก็ นอ้ ย - ในกรณคี วามผดิ เลก็ นอ้ ยและมเี หตอุ นั ควรงดโทษ จะงดโทษโดย ให้ทาทณั ฑบ์ นเป็นหนังสอื หรอื วา่ กลา่ วตกั เตอื นกไ็ ด้ ➢ม.102 ความผดิ รา้ ยแรง แม้ผ้ถู กู กลา่ วหาจะออกจากราชการไปแลว้ เวน้ ออกเพราะตายใหด้ าเนนิ การสอบสวนตอ่ ไป เหมอื นผนู้ น้ั ยงั มไิ ดอ้ อกจาก ราชการ เวน้ ผลการสอบสวนวา่ ผนู้ น้ั กระทาผดิ วนิ ยั ทจี่ ะตอ้ งลงโทษไม่ ร้ายแรง

➢ ม.103 ผู้ถูกกลา่ วหาวา่ กระทาผดิ วนิ ยั อยา่ งรา้ ยแรงจนถกู ตงั้ กรรมการสอบสวน หรอื ถูกฟอ้ ง คดีอาญาหรอื ต้องหาวา่ กระทาผดิ อาญา เวน้ ประมาทหรอื ลหโุ ทษ ผู้มอี านาจสง่ั พกั ราชการ หรอื สง่ั ใหอ้ อกจากราชการไวก้ อ่ นเพอื่ รอฟงั ผลการพจิ ารณากไ็ ด้ ➢ ม.104 ผบู้ ังคบั บญั ชาไดด้ าเนนิ การตามวนิ ยั หรอื ดาเนนิ การสอบสวนแลว้ ใหด้ าเนนิ การ - กรณวี นิ ยั ไมร่ า้ ยแรงใหร้ ายงาน ผอ.สพท. เพือ่ พิจารณาวา่ เหน็ ควรยตุ เิ รอื่ งหรอื ลหโุ ทษ หรือเปลย่ี นแปลงคาสงั่ เดมิ แตถ่ ้าเหน็ วา่ กรณเี ปน็ ความผดิ วนิ ยั รา้ ยแรงใหต้ ง้ั กรรมการ สอบสวนได้ แลว้ เสนอหรอื รายงาน อ.ก.ค.ศ. เขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษาพจิ ารณา - กรณวี นิ ยั รา้ ยแรงใหร้ ายงาน ผอ.สพท. เพอ่ื พจิ ารณาแลว้ นาเสนอ อ.ก.ค.ศ. เขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา • เมื่อ อ.ก.ค.ศ. เขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษามมี ตปิ ระการใดแลว้ ให้ผมู้ อี านาจตามมาตรา 53 ส่งั ไป ตามนน้ั ➢ ม.105 ก.ค.ศ. มอี านาจสอบสวนใหมห่ รอื สอบสวนเพมิ่ เตมิ

การออกจากราชการ ➢ ม.107 ข้าราชการครฯู ออกจากราชการเม่อื 1. ตาย 2. พน้ จากราชการตามกฎหมายวา่ ดว้ ยบาเหนจ็ บานาญ 3. ลาออกจากราชการ 4. ถกู ส่ังใหอ้ อก กรณี ม.49 ขาดคณุ สมบตั ใิ นการสอบแขง่ ขนั ม.56 วรรค 2 ไมผ่ า่ นการทดลอง หรือการพฒั นาอยา่ งเขม้ ม.56 วรรค 3 ถกู ส่ังใหอ้ อกไปรบั ราชการทหารตอ่ มาถกู สง่ั ใหอ้ อกตาม มาตราอน่ื ใหผ้ ้มู อี านาจส่งั ใหอ้ อกตามมาตราอน่ื ม.56 วรรค 5 ถกู กลา่ วหาวา่ กระทาผิดอาญาหรอื กระทาผิดวนิ ยั ระหวา่ ง ทดลองปฏบิ ตั หิ นา้ ทรี่ าชการ

ม.103 ถูกกลา่ วหาวา่ กระทาผดิ วนิ ยั รา้ ยแรงจนถูกตง้ั กรรมการ สอบสวนหรอื ถกู ฟอ้ งอาญา เว้นแตป่ ระมาทหรอื ลหุโทษ ม.110 ถูกส่ังให้ออกรบั บาเหนจ็ บานาญกรณเี จบ็ ป่วย สมัครไป ปฏบิ ัติงานใด ๆ ตามความประสงคข์ องทางราชการและผขู้ าดคณุ สมบตั ิ ม.111 หยอ่ นความสามารถ ม.112 มมี ลทนิ มวั หมอง ม.113 ศาลสงั่ จาคกุ โดยประมาท ม.114 ไปรบั ราชการทหาร ม.118 โอนมาจากทอ้ งถิ่น ซ่ึงท้องถน่ิ พจิ ารณาเหน็ ควรสง่ั ใหอ้ อก 5. ถูกส่งั ลงโทษปลดออกหรอื ไลอ่ อก 6. ถูกเพกิ ถอนใบอนญุ าตประกอบวชิ าชพี เวน้ แตไ่ ดร้ บั แตง่ ตง้ั ให้ ดารงตาแหน่งใหมโ่ ดยไมต่ อ้ งมใี บประกอบวชิ าชพี

➢ม.108 ข้าราชการครฯู ประสงคล์ าออกใหย้ น่ื หนังสอื ตอ่ ผบู้ ังคบั บญั ชา - ผมู้ อี านาจตามมาตรา 53 ยับย้ังการอนุญาตใหล้ าออกไวเ้ ปน็ เวลาไม่เกนิ 90 วนั นับตง้ั แตว่ นั ขอลาออก ** ขอ้ สงั เกต ให้แยกแยะคาวา่ ผบู้ ังคบั บัญชาและผมู้ ีอานาจตาม มาตรา 53 ยกตวั อยา่ ง ครูเชยี่ วชาญขอลาออกตอ้ งยนื่ หนังสอื ตอ่ ผบู้ งั คบั บญั ชาคอื ผอ.สถานศกึ ษา สว่ นผมู้ อี านาจ ตามมาตรา 53 คือ ผอ.สพท. (ม.53 วรรค 2)

➢ม.110 มอี านาจตามมาตรา 53 สั่งให้ขา้ ราชการครฯู ออกจากราชการ เพอื่ รบั บาเหนจ็ บานาญ 1. เหตุทดแทน คือ การออกจากราชการโดยไมม่ คี วามผดิ 2. เหตรุ บั ราชการนาน อายรุ าชการ 30 ปี แตถ่ า้ อายุ 25 ปี ประสงคล์ าออกดว้ ยเหตนุ กี้ ไ็ ด้ 3. เหตุทพุ พลภาพ แพทยข์ องทางราชการรบั รองไดต้ รวจและแสดง ความเห็นวา่ ไมส่ ามารถรบั ราชการได้ 4. เหตสุ ูงอายุ อายุครบ 60 ปี แตถ่ า้ อายุ 50 ปีบริบูรณป์ ระสงค์ ลาออกดว้ ยเหตสุ งู อายกุ ไ็ ด้

➢ การสงั่ ใหอ้ อกเพอ่ื รบั บาเหนจ็ บานาญ 1. เมอื่ ขา้ ราชการครูฯ เจบ็ ป่วยไมอ่ าจปฏบิ ตั หิ นา้ ทข่ี องตนไดโ้ ดยสมา่ เสมอ 2. เมอื่ ข้าราชการครูฯ สมัครไปปฏบิ ตั งิ านใด ๆ ตามความประสงคข์ องทาง ราชการ 3. ขาดคณุ สมบตั คิ รมู าตรา 30 (1) (4) (5) (7) (8) (9) ได้แก่ - ไม่มสี ญั ชาตไิ ทย - ดารงตาแหน่งทางการเมอื ง - ไร้ความสามารถ - บกพร่องในศลี ธรรมอนั ดี - เปน็ กรรมการ / เจา้ หนา้ ที่พรรคการเมอื ง - บคุ คลลม้ ละลาย

4. มีเหตคุ วรสงสยั ขาดคณุ สมบตั ติ ามมาตรา 30 (3) คือไม่เปน็ ผเู้ ลอ่ื มใสใน การปกครองประชาธปิ ไตย ผมู้ อี านาจสงั่ แตง่ ตง้ั กรรมการสอบสวนโดยไม่ ชักช้า เมื่อ ก.ค.ศ. หรือ อ.ก.ค.ศ.เขตพน้ื ทม่ี มี ตวิ า่ ผู้น้ันขาดคณุ สมบตั จิ รงิ กใ็ หผ้ ู้มอี านาจส่งั ใหผ้ นู้ น้ั ออกจากราชการ ** ขอ้ สงั เกต มีการสงั่ ใหอ้ อกกรณเี ดยี วในมาตรา 110 ทีต่ อ้ งตง้ั คณะกรรมการสอบสวน 5. ทางราชการยบุ เลกิ หรอื ยบุ ตาแหนง่ 6. ผ้ใู ดไม่สามารถปฏบิ ตั ริ าชการให้มปี ระสทิ ธภิ าพเกดิ ประสทิ ธผิ ล ในระดบั อนั เปน็ ทพี่ อใจของทางราชการได้

➢ ม.111 ขา้ ราชการครฯู มกี รณกี ลา่ วหาหรอื มเี หตอุ นั ควรสงสัยหยอ่ นความสามารถ บกพรอ่ งในหนา้ ท่รี าชการ หรือประพฤตติ นไมเ่ หมาะสม ใหผ้ มู้ ีอานาจส่งั ตง้ั คณะกรรมการ สอบสวนโดยไมช่ กั ชา้ ➢ ม.112 ผ้ใู ดถูกตงั้ กรรมการสอบสวนเหน็ วา่ ผนู้ นั้ ไดก้ ระทาผดิ วนิ ยั อย่างรา้ ยแรง แต่การ สอบสวนไมไ่ ดค้ วามแนช่ ดั พอท่ีจะสัง่ ลงโทษ ถา้ รับราชการตอ่ ไปจะเสยี หายแก่ราชการ ส่งั ใหผ้ นู้ นั้ ออกจากราชการเพราะมมี ลทินหรอื มวั หมองในกรณที ีถ่ กู สอบสวน (รับบาเหนจ็ บานาญทดแทน) ➢ ม.113 ผู้ใดตอ้ งรบั โทษจาคกุ โดยคาสัง่ ศาลหรอื โทษจาคกุ ในความผดิ ทป่ี ระมาท/ลหโุ ทษ ซึ่งยงั ไมถ่ งึ กบั จะถกู ลงโทษปลดออกหรอื ไลอ่ อกกส็ ง่ั ให้ ออกรบั บาเหนจ็ บานาญทดแทน ➢ ม.120 การออกจากราชการของตาแหนง่ ซงึ่ ทรงมพี ระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ใหน้ าความกราบบงั คมทลู เวน้ แตอ่ อกตาม ม.107 คอื ตาย

การอทุ ธรณแ์ ละการรอ้ งทกุ ข์ ➢ม.121 ขา้ ราชการครฯู ถูกสง่ั ลงโทษภาคทณั ฑ์ ตัดเงนิ เดอื น ลดเงินเดอื น มสี ิทธอิ ทุ ธรณต์ อ่ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นท่ี หรือ ก.ค.ศ. แล้วแตก่ รณี ภายใน 30 วันนบั แตว่ นั ทไี่ ดร้ บั แจง้ คาสง่ั ➢ม.122 ขา้ ราชการครฯู ถูกสั่งปลดออก ไลอ่ อก หรอื ถูกสงั่ ใหอ้ อกจาก ราชการให้มสี ทิ ธอิ ทุ ธรณห์ รอื รอ้ งทกุ ข์ แลว้ แตก่ รณี ตอ่ ก.ค.ศ. ภายใน 30 วันนับแตว่ นั ทไี่ ดร้ บั คาสง่ั และให้ ก.ค.ศ. พิจารณาให้เสรจ็ ภายใน 90 วนั

➢ม.123 ขา้ ราชการครฯู เหน็ วา่ ไมไ่ ดร้ บั ความเปน็ ธรรมหรอื มีความขบั ขอ้ งใจ เนื่องจากการกระทาของผบู้ ังคบั บญั ชา หรอื การตง้ั กรรมการ สอบสวนวนิ ยั ใหผ้ นู้ ้ันมีสทิ ธริ อ้ งทกุ ข์ตอ่ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่ หรือ ก.ค.ศ. แล้วแตก่ รณี ➢ม.124 เมอื่ มีการวนิ จิ ฉยั แลว้ เห็นว่าตนไม่ไดร้ บั ความเปน็ ธรรม ผนู้ ้นั ยอ่ มมสี ทิ ธทิ จี่ ะฟอ้ งคดศี าลปกครอง

กฎ ก.ค.ศ. วา่ ดว้ ยโรค พ.ศ. 2549 โรคตามมาตรา 30 (5) คอื 1. โรคเรอื้ นในระยะตดิ ตอ่ หรอื ในระยะทปี่ รากฏอาการเป็นทรี่ งั เกยี จ แกส่ งั คม 2. วณั โรคในระยะตดิ ตอ่ 3. โรคเทา้ ชา้ งในระยะทป่ี รากฏอาการเป็นทร่ี งั เกยี จแกส่ ังคม 4. โรคตดิ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ 5. โรคพษิ สรุ าเรอื้ รงั

กฎ ก.ค.ศ. ว่าดว้ ยกรณคี วามผดิ ทปี่ รากฏชดั แจง้ พ.ศ. 2549 ➢ ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาผใู้ ดกระทาความผดิ วนิ ยั ไมร่ า้ ยแรง เปน็ กรณคี วามผดิ ทป่ี รากฏชดั แจง้ ซ่งึ ผู้บังคบั บญั ชา จะดาเนนิ การทางวนิ ยั โดยไม่สอบสวนหรอื งดการสอบสวนกไ็ ด้ 1. กระทาผดิ อาญาจนตอ้ งคาพพิ ากษาถงึ ทส่ี ดุ วา่ ผนู้ ัน้ กระทาผดิ และ ผูบ้ งั คับบัญชาเหน็ วา่ ขอ้ เทจ็ จรงิ ทป่ี รากฏตามคาพพิ ากษานั้นได้ ประจักษช์ ดั แลว้ 2. กระทาผดิ วนิ ยั ไมร่ า้ ยแรงและไดร้ บั สารภาพเป็นหนังสอื ตอ่ ผบู้ งั คับบญั ชา