Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอน วิชาวิทยาการคำนวณ ม.3

แผนการสอน วิชาวิทยาการคำนวณ ม.3

Published by p_l_j0118, 2022-09-01 03:54:18

Description: แผนการสอน วิชาวิทยาการคำนวณ - รวมเล่ม

Search

Read the Text Version

ว๒๓๑๘๖ วิทยำกำรคำนวณ ๓ คำอธิบำยรำยวิชำ ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปีที่ ๓ ภำคเรยี นที่ ๒ กลุม่ สำระกำรเรยี นรูว้ ิทยำศำสตร์ เวลำ ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต ศึกษาวิเคราะห์ อภิปรายกระบวนการและวิธีการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ พัฒนาแอปพลิเคชันที่มี การบูรณาการกับวิชาอื่นอย่างสร้างสรรค์ รวบรวมข้อมูล ประมวลผล ประเมินผล นาเสนอข้อมูลและ สารสนเทศตามวัตถุประสงค์ โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอร์เน็ตท่ีหลากหลาย วิเคราะห์ส่ือและ ผลกระทบจากการให้ขา่ วสารท่ีผิด เพ่ือการใชง้ านอยา่ งรเู้ ท่าทนั ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย และมี ความรับผดิ ชอบต่อสงั คม ปฏบิ ัตติ ามกฎหมายเก่ยี วกับคอมพวิ เตอร์ ใชล้ ิขสิทธข์ิ องผู้อืน่ โดยชอบธรรม โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การอภิปราย การสร้าง สถานการณ์ การวางแผน ทกั ษะปฏบิ ัติการ การวเิ คราะห์ การเสรมิ สร้างเจตคติและการเสรมิ สร้างคุณลักษณะ ท่พี ึงประสงค์ เพ่ือใหเกิดความรู ความเขาใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร รวมทง้ั ทกั ษะการเรียนรูในศตวรรษที่ 21 ในดานการใชเทคโนโลยี สารสนเทศ ดานการคดิ และการแกปญหา ด านการส่ือสาร สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรูและนาความรูไปใชในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร จริยธรรม คุณธรรม และคานิยมที่เหมาะสม ตลอดจนมีจิตสานึกในการอนุรักษ์พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและ สง่ิ แวดล้อม รหสั ตัวช้ีวดั ว ๔.๒ ม.๓/๑ ว ๔.๒ ม.๓/๒ ว ๔.๒ ม.๓/๓ ว ๔.๒ ม.๓/๔ รวมทั้งหมด ๔ ตัวชว้ี ัด

โครงสรำ้ งรำยวชิ ำ รำยวิชำ วทิ ยำกำรคำนวณ ๓ รหัสวชิ ำ ว๒๓๑๘๖ ชน้ั มัธยมศึกษำปที ี่ ๓ จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต เวลำ ๒๐ ชั่วโมง จำนวนเวลำ นำ้ หนกั ท่ี ชื่อหน่วย มำตรฐำน สำระสำคัญ (ชัว่ โมง) คะแนน กำรเรยี นรู้ กำรเรียนร/ู้ ตวั ชี้วดั ๑ บูรณาการ ว ๔.๒ ม.๓/๑ - ข้นั ตอนการพัฒนาแอปพลเิ คชัน ๕ ๒๐ แอปพลิเคชน่ั Internet of Things (IoT)ซอฟต์แวร์ที่ ใช้ในการพฒั นาแอปพลเิ คชนั เชน่ Scratch, python, java, c, AppInventor ตัวอยา่ งแอปพลเิ คชนั เชน่ โปรแกรมแปลงสกุลเงิน โปรแกรม ผนั เสยี งวรรณยุกต์โปรแกรมจาลองการ แบ่งเซลลร์ ะบบรดน้าอตั โนมัติ ๒ การบริการบน ว ๔.๒ ม.๓/๒ - การรวบรวมขอ้ มลู จากแหล่งข้อมลู ๕ ๒๐ อินเทอร์เนต็ ปฐมภมู แิ ละ ทตุ ยิ ภูมิประมวลผล สรา้ งทางเลือกประเมินผลจะทาให้ได้ สารสนเทศเพ่ือใช้ในการแกป้ ัญหาหรอื การตัดสินใจได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ - การประมวลผลเปน็ การกระทากบั ขอ้ มูล เพอ่ื ให้ได้ผลลพั ธท์ ่มี คี วามหมาย และมปี ระโยชนต์ อ่ การนาไปใชง้ านการ ใช้ซอฟต์แวรห์ รอื บริการบน อินเทอรเ์ นต็ ทีห่ ลากหลายในการ รวบรวมประมวลผลสรา้ งทางเลือก ประเมินผล นาเสนอ จะช่วยให้ แก้ปัญหาได้อย่างรวดเรว็ ถูกตอ้ ง และ แมน่ ยาตัวอยา่ งปญั หา เชน่ การเลอื ก โปรโมชันโทรศัพท์ ให้เหมาะกับ พฤติกรรมการใชง้ าน สินค้าเกษตรที่ ต้องการและสามารถปลูกได้ในสภาพ ดนิ ของท้องถนิ่

ท่ี ชือ่ หน่วย มำตรฐำน สำระสำคญั จำนวนเวลำ น้ำหนัก กำรเรียนรู้ กำรเรียนร้/ู ตัวชี้วัด (ช่ัวโมง) คะแนน ๓ ความหนา้ เช่อื ถือ ว ๔.๒ ม.๓/๓ - การประเมนิ ความน่าเชื่อถือของ ๔ ๑๕ ของขอ้ มูลและการ ข้อมลู เชน่ ตรวจสอบและยืนยันขอ้ มูล วเิ คราะหส์ อ่ื โดยเทยี บเคยี งจาก ข้อมูลหลายแหล่ง แยกแยะขอ้ มูลที่เปน็ ข้อเท็จจริง และขอ้ คดิ เห็น หรือใช้ PROMPT การสบื ค้น หาแหลง่ ต้นตอของข้อมูล การสรา้ งและแสดงสทิ ธิ์ความเป็น เจ้าของผลงาน เหตุผลวิบตั ิ (logical fallacy) ผลกระทบจากขา่ วสารที่ ผิดพลาด - การรูเ้ ท่าทนั ส่อื เชน่ การวเิ คราะห์ถึง จดุ ประสงค์ของข้อมูลและผู้ใหข้ อ้ มูล ตคี วาม แยกแยะเนอ้ื หาสาระของส่ือ เลือกแนวปฏิบตั ไิ ด้อยา่ งเหมาะสมเมอ่ื พบขอ้ มลู ตา่ งๆ ๔ การใชเ้ ทคโนโลยี ว ๔.๒ ม.๓/๔ - การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ๔ ๑๕ อย่างปลอดภยั อย่างปลอดภยั เช่น การทาธรุ กรรม ออนไลน์การซอ้ื สนิ คา้ ซื้อซอฟต์แวร์ ๑ ๑๕ ค่าบรกิ ารสมาชกิ ซ้อื ไอเท็ม ๑ ๑๕ - การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ๒๐ ๑๐๐ อย่างมีความรบั ผิดชอบ เช่น ไม่สรา้ ง ข่าวลวง ไม่แชรข์ อ้ มลู โดยไม่ตรวจสอบ ข้อเท็จจรงิ - กฎหมายเกยี่ วกบั คอมพวิ เตอร์ - การใช้ลิขสิทธ์ขิ องผูอ้ ื่นโดยชอบธรรม (fair use) สอบกลำงภำค สอบปลำยภำค รวม

กำรวเิ ครำะห์มำตรฐำน/ตวั ชี้วดั เพื่อจดั ทำคำอธบิ ำยรำยวชิ ำ กลุ่มสำระกำรเรียนร้วู ิทยำศำสตร์ ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษำตอนต้น รำยวชิ ำวิทยำกำรคำนวณ ๓ (ว๒๓๑๘๖) ชนั้ มัธยมศึกษำปีที่ ๓ เวลำ ๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๐.๕ หน่วย มำตรฐำนกำรเรยี นรู้/ตวั ช้ีวดั ควำมรู้ ทกั ษะกระบวนกำร คุณลกั ษณะ อนั พึงประสงค์ ว. ๔.๒ ม.๓/๑ พฒั นาแอปพลเิ คชนั ที่มี - ทักษะการแกป้ ัญหา ความรับผดิ ชอบ พัฒนาแอปพลิเคชันท่ีมกี าร การบรู ณาการกบั วชิ าอืน่ บูรณาการกบั วชิ าอืน่ อย่าง อยา่ งสร้างสรรค์ - ทักษะการคดิ อยา่ งมี ใฝเ่ รยี นรู้ สร้างสรรค์ วจิ ารณญาณ สนใจซกั ถาม - ทกั ษะการสงั เกต - ทักษะการนาความรไู้ ปใช้ ว. ๔.๒ ม.๓/๒ รวบรวมข้อมลู ประมวลผล ทักษะการแกป้ ญั หา ความรับผิดชอบ รวบรวมข้อมลู ประมวลผล ประเมินผล นาเสนอข้อมลู - ทักษะการคดิ อยา่ งมี ใฝ่เรียนรู้ ประเมนิ ผล นาเสนอข้อมลู และสารสนเทศตาม วจิ ารณญาณ สนใจซักถาม และสารสนเทศตาม วัตถุประสงค์ โดยใช้ - ทักษะการสังเกต วตั ถปุ ระสงค์ โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ ซอฟตแ์ วร์หรือบริการบน - ทักษะการนาความรไู้ ปใช้ หรอื บรกิ ารบนอินเทอร์เนต็ ท่ี อนิ เทอร์เน็ตทีห่ ลากหลาย หลากหลาย ว. ๔.๒ ม.๓/๓ ประเมนิ ความน่าเชือ่ ถอื ของ ทกั ษะการแก้ปัญหา ความรับผดิ ชอบ ประเมินความนา่ เชอ่ื ถอื ของ ข้อมลู วเิ คราะห์สอ่ื และ - ทกั ษะการคดิ อย่างมี ใฝ่เรยี นรู้ ขอ้ มลู วเิ คราะห์ส่อื และ ผลกระทบจากการให้ วจิ ารณญาณ สนใจซักถาม ผลกระทบจากการให้ข่าวสาร ขา่ วสารท่ีผิด เพอ่ื การใช้งาน - ทกั ษะการสังเกต ที่ผดิ เพือ่ การใชง้ านอย่างรู้ อยา่ งรู้เทา่ ทนั - ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ เท่าทนั ว. ๔.๒ ม.๓/๔ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ทกั ษะการแก้ปัญหา ความรับผดิ ชอบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ ง อย่างปลอดภัย และมีความ ปลอดภยั และมคี วาม รบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม ปฏิบตั ิ - ทกั ษะการคิดอยา่ งมี ใฝ่เรียนรู้ รับผดิ ชอบต่อสังคม ปฏบิ ตั ิ ตามกฎหมายเก่ยี วกบั ตามกฎหมายเก่ียวกบั คอมพวิ เตอร์ ใช้ลิขสิทธิข์ อง วจิ ารณญาณ สนใจซกั ถาม คอมพิวเตอร์ ใช้ลิขสิทธ์ิของ ผอู้ ื่นโดยชอบธรรม ผ้อู ่ืนโดยชอบธรรม - ทักษะการสังเกต - ทักษะการนาความรู้ไปใช้

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ บูรณาการแอปพลเิ คชนั หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑ บรู ณาการแอปพลเิ คชนั เวลา ๕ ชั่วโมง ๑. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชวี้ ดั ว ๔.๒ เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชงิ คานวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชีวติ จริงอยา่ งเปน็ ขัน้ ตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรยี นรู้ การทางานและการแกป้ ญั หาไดอ้ ย่างมี ประสิทธิภาพ ร้เู ท่าทนั และมีจริยธรรม ว ๔.๒ ม.๓/๑ พฒั นาแอปพลเิ คชนั ท่ีมีการบรู ณาการกบั วิชาอน่ื อยา่ งสร้างสรรค์ ๒. สาระการเรยี นรู้ ๒.๑ สาระการเรียนรู้แกนกลาง ๑) ชน้ั ตอนการพฒั นาแอปพลเิ คชัน ๒) Internet of Things (IoT) ๓) ซอฟต์แวร์ทีใ่ ช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน เช่น Scratch, python, java, c, AppInventor ๔) ตัวอย่างแอปพลิเคชัน เช่น โปรแกรมแปลงสกุลเงิน โปรแกรมผนั เสียงวรรณยกุ ต์ โปรแกรมจาลอง การแบ่งเซลล์ ระบบรดน้าอัตโนมตั ิ ๓. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การทาให้อุปกรณ์หลายตัวสามารถสื่อสาร แลกเปล่ียนข้อมูล และทางานร่วมกันได้น้ัน เรียกว่า เทคโนโลยี IoT ต้องอาศัยความสามารถของ Smart Device ซึ่งอุปกรณ์ที่มีหน่วยประมวลผล หรือเซนเซอร์ ภายในตัว เพือ่ สง่ ขอ้ มูลผ่าน Cloud Computing หรือ Wireless Network เป็นตวั กลางในการ รับส่งข้อมูล ภายในเครือข่ายเพ่ือประมวลผล และอาศัย Dashboard สาหรับแสดงผลและใช้ควบคุมการทางานจากผู้ใช้ แอปพลิเคชนั เป็นโปรแกรมท่ีถกู พัฒนาข้ึนมาเพอ่ื อานวยในด้านต่าง ๆ มีการออกแบบมาเพื่อใช้งาน ในหลายรูปแบบ โดยแอปพลิเคชันแบ่งออกได้ ๒ ประเภท ได้แก่ แอปพลิเคชันระบบ แอปพลิเคชัน ทต่ี อบสนองต้องการของกล่มุ ผใู้ ช้ การพฒั นาแอปพลิเคชัน มี ๗ ขั้นตอน ดังนี้ ๑) กาหนดปัญหา ๒) ศึกษาความเป็นไปได้ ๓) วิเคราะห์ ความตอ้ งการแอปพลิเคชัน ๔) ออกแบบแอปพลิเคชนั ๕) ทดสอบ ๗) จัดทาเอกสาร เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๑

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑ บรู ณาการแอปพลิเคชนั ซึ่งก ารพั ฒ น าโป รแก รมใน ปั จจุบั น นิ ยม ใช้โป รแก รม ภ าษ าไพ ท อ น (Python) เพ ราะ เป็นภาษาที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ตัวอย่างการเขียนโปรแกรมการพัฒนาแอปพลิเคชันด้วย โปรแกรมภาษาไพทอน เช่น โปรแกรมคานวณหาอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทไทย (THB) เป็นเงินดอลลาร์ (USD) เปน็ ต้น ภาษาไพทอนเป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสาหรับผู้เริ่มต้นเขียนโปรแกรมไปจนถึง การประยุกต์ใช้งานในระดับสูง เน่ืองจากโครงสร้างภาษาที่ลดความยุ่งยากเร่ืองไวยากรณ์ในการเขียน โปรแกรมลง อา่ นแล้วเข้าใจงา่ ย ไม่ซับซ้อน ๔. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๑. มวี นิ ัย ๒. ความสามารถในการคิด ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๓. มงุ่ มนั่ ในการทางาน ๔. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๔. มีจติ สาธารณะ ๕. ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง - ๖. การวัดและการประเมินผล รายการวดั วธิ ีวัด เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน - แบบทดสอบ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ ๖.๑ การประเมินกอ่ นเรยี น - ตรวจแบบทดสอบ กอ่ นเรียน - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ก่อนเรียน หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๓ เรือ่ ง แอปพลิเคชนั ๖.๒ การประเมนิ ระหวา่ งการจัด - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ๒ กจิ กรรม เร่ือง เทคโนโลยี IoT แบบฝกึ หดั ผา่ นเกณฑ์ ๑) แนวคิดและ - ตรวจการออกแบบ เรือ่ ง เทคโนโลยี IoT องคป์ ระกอบของ IoT แนวคดิ ในการพัฒนา - แบบประเมิน เทคโนโลยี IoT แบบฝกึ หดั ในแบบฝกึ หัด - แบบประเมนิ เรือ่ ง เทคโนโลยี IoT ก(าขร้อน๕า-เ๗สน) อ - ประเมินการนาเสนอ แนวคิดในการพัฒนา เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๒

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๑ บรู ณาการแอปพลเิ คชนั รายการวัด วิธวี ดั เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารประเมิน เทคโนโลยี IoT - ตรวจแบบฝึกหัด เรอ่ื ง เทคโนโลยี IoT (ข้อ ๘) ๒) ซอฟตแ์ วรท์ ใี่ ช้ - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝึกหดั รายวิชา ระดบั คณุ ภาพ ๒ ในการพัฒนา - ตรวจการออกแบบ พนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ผ่านเกณฑ์ แอปพลเิ คชนั แนวคดิ ในแบบฝกึ หัด เทคโนโลยี (วิทยาการ - ประเมนิ การนาเสนอ คานวณ) ม.๓ แนวคดิ การออกแบบ เรอ่ื ง แอปพลิเคชนั การพฒั นาแอปพลเิ คชนั - แบบประเมนิ แบบฝึกหัด - แบบประเมิน การนาเสนอ ๓) การพัฒนาแอปพลเิ คชัน - อธิบายการทางานของ - แบบประเมินชิ้นงาน ระดบั คุณภาพ ๒ ดว้ ยภาษา Python โปรแกรมหรอื - แบบประเมนิ ผา่ นเกณฑ์ แอปพลเิ คชันทเี่ ขยี น การนาเสนอ ด้วยภาษา Python - ตรวจโปรแกรมหรอื แอปพลเิ คชันทเ่ี ขยี น ด้วยโปรแกรมภาษา Python - บอกประโยชนข์ อง แอปพลเิ คชนั ทีพ่ ฒั นาขึ้น ๔) คุณลกั ษณะ - สังเกตความมวี นิ ยั - แบบประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ ๒ อนั พงึ ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ มุง่ มัน่ คณุ ลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์ ในการทางาน และ อันพงึ ประสงค์ มจี ติ สาธารณะ ๖.๓ การประเมนิ หลังเรยี น - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบ ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ ๑) แบบทดสอบหลังเรียน หลังเรยี น หลังเรียน หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๔ เรื่อง แอปพลเิ คชนั เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๓

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑ บรู ณาการแอปพลเิ คชัน รายการวดั วิธวี ดั เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมนิ ๒) การประเมนิ ช้ินงาน/ - ตรวจชิน้ งาน/ ภาระงาน (รวบยอด) - แบบประเมนิ ช้นิ งาน/ - ระดบั คุณภาพ ๒ ภาระงาน (รวบยอด) เร่อื ง - ภาระงาน (รวบยอด) ผา่ นเกณฑ์ ๗. กิจกรรมการเรยี นรู้ นกั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑ เรอ่ื ง บรู ณาการแอปพลิเคชัน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๔

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ บูรณาการแอปพลิเคชัน เรื่องท่ี ๑ : แนวคิดและองค์ประกอบของ IoT เวลา ๑ ช่ัวโมง วิธีการสอนแบบการใช้คาถาม (Questioning Method) วิธีการสอนโดยใช้แนวคดิ เชงิ คานวณ (Computational Thinking) ขน้ั นา ๑. ครูถามคาถามกระต้นุ ความสนใจของนักเรยี นวา่ “นักเรยี นรู้จกั เทคโนโลยี IoT หรือไม”่ ขนั้ สอน 1. ครถู ามนกั เรียนว่าเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ น็ต หรอื เครือข่ายไร้สายมีประโยชนก์ บั ชวี ิตเราอย่างไร (แนวคาตอบ เช่นสัญญาณ๓G ๔G ทาให้เขา้ ถึงอินเทอรเ์ นต็ ไดส้ ะดวก) 2. ครถู ามตอ่ วา่ ถ้าสมมติมือถือ หรอื คอมพวิ เตอร์ แลปทอปของเราไม่มีความสามารถในการเชือ่ มตอ่ เครือขา่ ย อินเทอรเ์ น็ตได้ นกั เรยี นคดิ วา่ จะมีผลกระทบตอ่ ชีวิตอย่างไร (แนวคาตอบ ค้นหาขอ้ มลู ไดย้ าก แลกเปล่ยี นขอ้ มลู กนั ช้าเน่อื งจากไม่มีอินเทอรเ์ น็ต ไม่สามารถอัปเดต ขา่ วสารได้ Real time) 3. ครอู ธบิ ายว่า ยคุ กอ่ นหนา้ นี้มอื ถอื และคอมพวิ เตอร์ของเรายงั ไม่มคี วามสามารถในการเขา้ ถงึ อินเทอร์เนต็ แต่ปจั จุบนั อปุ กรณเ์ หล่าน้ีแทบทุกเคร่อื งจะมีความสามารถในการเช่อื มตอ่ เครอื ข่ายเข้าหากันได้ เช่น Bluetooth , Wifi Internet ทาให้อุปกรณห์ ลายชนิ้ เช่ือมต่อกนั จึงทาใหส้ ามารถแลกเปลยี่ นข้อมูลกนั ได้ อยา่ งรวดเรว็ 4. ครอู ธบิ ายวา่ ลกั ษณะการทาใหอ้ ปุ กรณ์หลายช้ินเช่ือมต่อเขา้ หากันผ่านเครือข่าย และทาการแลกเปล่ยี น ข้อมูลกนั เพื่อใหใ้ ช้ประโยชนไ์ ด้มากขึน้ เปน็ แนวคดิ ทคี่ ล้ายกบั เทคโนโลยี IoT 5. ครูอธบิ ายแนวคดิ จุดกาเนิด และองค์ประกอบของของเทคโนโลยี IoT วา่ เป็นการทาให้อปุ กรณ์ต่าง ๆ มี หนว่ ยประมวลผลและความสามารถในการเชอ่ื มต่อกับอปุ กรณอ์ ่ืนได้ โดยไม่ต้องพง่ึ พาความสามารถของ คอมพิวเตอรใ์ นการประมวลผลและการเช่อื มต่อกับอปุ กรณอ์ ่ืน จงึ ทาให้อปุ กรณส์ ามารถสง่ ผา่ นข้อมลู ระหว่างกนั ได้โดยตรง เช่น เคร่อื งพิมพ์ทเ่ี ชือ่ มเข้าระบบ wifi และส่ังปร้ินท์งานผ่านระบบ wifi ไม่ จาเปน็ ต้องเชือ่ มเครอื่ งพมิ พ์กับคอมพิวเตอรอ์ กี ตอ่ ไปแตส่ ามารถสัง่ งานจากอปุ กรณใ์ ดก็ได้ที่เชอ่ื มวง เครือขา่ ย wifi เดียวกนั ๖. ครถู ามนักเรียนว่าหากเราสามารถพฒั นาเทคโนโลยี IoT ด้วยตนเองไดน้ กั เรียนคิดวา่ จะนาอุปกรณ์ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ใดมาเช่อื มตอ่ เครอื ข่าย และจะใช้ประโยชน์จากการเช่อื มต่อเข้าเครือข่ายของอปุ กรณ์นั้น อย่างไร สุ่มนักเรยี นตอบคาถาม๓-๕คน (แนวคาตอบ แอรเ์ ชือ่ มเนต็ แลว้ เชค็ อุณหภมู ิจากท่ีไหนกไ็ ดจ้ ากนัน้ ก็สั่งเปิด-ปดิ แอร์ตอนไหนกไ็ ด)้ ๗. ครูอธิบายเพิม่ เติมเกย่ี วกบั แนวคดิ ของ IoT เรือ่ งองคป์ ระกอบท่ีสาคัญท้งั ๓ สว่ นไดแ้ ก่ ๑) Smart Device ใชน้ าเข้าข้อมูลจากเซนเซอร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๕

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑ บูรณาการแอปพลิเคชนั ๒) Cloud Computing หรอื Wireless Network เพ่อื ใชเ้ ป็นส่อื กลางในการรบั สง่ ขอ้ มูล ๓) Dashboard เพือ่ ใช้สื่อสารกบั ผใู้ ช้ ดังนน้ั นอกจากอุปกรณจ์ ะสามารถเชอื่ มต่อเขา้ เป็นเครอื ข่ายเดยี วกนั ได้แลว้ จะต้องมีสว่ นติดต่อทีใ่ ช้ควบคุม การทางานภายในระบบได้ดว้ ย เชน่ สัง่ สตาร์ทรถผ่านมอื ถอื โดยใช้สื่อกลางเปน็ ระบบอนิ เทอร์เนต็ เปิด-ปดิ เครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ ภายในบา้ นด้วยเครือข่ายไร้สาย Wifi ๘. ครูสอบถามนกั เรียนวา่ สงสยั หรอื ไม่ แอรท์ ่ีบ้านเรารูอ้ ณุ หภมู ิว่าเป็นกอี่ งศาภายในบ้านได้อยา่ งไร (แนวคาตอบ มีตัวตรวจจบั มีเครื่องวัดอณุ หภูมิ มีเซนเซอร์ เซนเซอรว์ ัดอณุ หภมู ิ) ๙. ครสู อบถามนกั เรยี นว่า “นักเรยี นรูจ้ กั เซนเซอร์อะไรบ้าง หรอื เคยเหน็ เซนเซอร์ในอปุ กรณ์ไหนบา้ ง (แนวคาตอบ ขนึ้ อยูก่ บั ดุลยพินิจของครูผู้สอน) ๑๐. ครแู นะนาบอรด์ micro:bit (ไมโครบทิ ) ทมี่ ีเซนเซอรห์ ลากหลายสามารถนามาใช้พัฒนาเทคโนโลยี IoT และยกตวั อย่างอปุ กรณ์ ไมโครบิท พรอ้ มบอกส่วนประกอบเบือ้ งต้น (กรณีทโี่ รงเรยี นมี micro:bit ให้ครู แจกบอร์ด micro:bit ให้นกั เรียนทาความรจู้ ัก) ๑๓. ครใู หน้ กั เรียนเปิดหนังสือวิชาวิทยาการคานวณ จากนน้ั ครูอธิบายตวั อย่างแนวคดิ การพฒั นาเทคโนโลยี IoT โดยใชบ้ อร์ดไมโครบิทเปน็ อปุ กรณใ์ นการวัดอุณหภูมแิ ลว้ ส่งขอ้ มลู มาบนแทบเล็ท ซ่งึ เป็นสว่ น แสดงผลและใช้แทปเลท็ เป็นอปุ กรณเ์ พื่อควบคุมการทางานของพัดลมไดโ้ ดยกดปุ่มสงั่ งาน A บนแทปเลท็ เพือ่ เปดิ พดั ลม พรอ้ มขึ้นสถานะเลข ๑ บนบอรด์ ไมโครบทิ ใหผ้ ู้ใชร้ ูส้ ถานะการทางานของพัดลมได้ และกดปุม่ งาน B เพือ่ ปดิ พัดลมพรอ้ มข้ึนสถานะ ๐ บนบอร์ดไมโครบิท ๑๔. ครตู ้งั คาถามกับนกั เรียนว่าจากแนวคิดนีห้ ากให้นกั เรียนปรบั ใช้และพฒั นาตอ่ นักเรยี นจะนาแนวคิดไป พฒั นาต่ออย่างไร ส่มุ นกั เรียนตอบคาถาม ๓-๕ คน ๑๕. ครใู ห้นักเรยี นทาแบบฝกึ หัดแบบฝึกหัด Exercise เร่ือง เทคโนโลยี IoT ขน้ั สรุป ๑. ครใู ห้นักเรยี นชว่ ยกันสรปุ แนวคดิ ของเทคโนโลยี IoT ๒. ครถู ามนกั เรียนวา่ จากการฟงั แนวคิดของเพื่อนในช้นั เรยี นมแี นวคิดใดน่าสนใจ หรือแนวคิดใดที่มปี ระโยชน์ ในชีวิตประจาวันไดจ้ รงิ บ้าง ๓. ครสู รปุ แนวคิด และองคป์ ระกอบของเทคโนโลยี IoT ใหน้ กั เรยี นฟงั พร้อมทั้งเน้นถึงความสาคัญเร่อื ง ประโยชนก์ ารใช้งานจรงิ ในชวี ติ ประจาวัน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๖

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๑ บูรณาการแอปพลเิ คชนั เรอื่ งที่ ๒ : ซอฟตแ์ วรท์ ีใ่ ชใ้ นการพฒั นาแอปพลิเคชัน เวลา ๑ ชว่ั โมง รปู แบบการสอนแบบการอภิปราย วธิ ีการสอนโดยเนน้ กระบวนการกลมุ่ (Group Process–Based Instruction) วธิ กี ารสอนโดยใชก้ ารแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing) วธิ ีการสอนโดยใชแ้ นวคิดเชิงคานวณ (Computational Thinking) ขน้ั นา ๑. ครูสนทนากบั นักเรียนว่า ถ้าสมมตนิ ักเรยี นไปเทยี่ วตา่ งประเทศ นักเรียนคาดวา่ ตอ้ งใชเ้ งนิ ประมาณเทา่ ไร ๒. จากนน้ั ครูถามตอ่ วา่ จานวนเงนิ ท่ีนกั เรียนบอกเปน็ สกลุ เงนิ ไทย หรอื สกลุ เงนิ ประเทศท่ีตอ้ งการไปเที่ยว ๓. ครถู ามว่าแลว้ นักเรียนสามารถแปลงจานวนเงนิ บาทเป็นสกลุ เงนิ ของต่างประเทศอยา่ งไร (แนวคาตอบ สามารถคานวณได้ด้วยโปรแกรมท่ีอยู่บนออนไลน์ หรือแอพพิเคช่ันบนมือถือและแท็ปเลท นอกจากนัน้ ยงั สามารถคานวณไดโ้ ดยดจู ากการแปลงอัตราแลกเปลย่ี นค่าเงนิ ประจาวัน) ๔. ครสู อบถามวา่ นกั เรียนเคยสงสัยไหมว่าโปรแกรมเหลา่ น้ที างานอยา่ งไร (แนวคาตอบ : การแปลงคา่ เทยี บค่าเงนิ ดูจากอตั ราแลกเปล่ยี นเงิน) ขน้ั สอน ๑. ครูกลา่ วถงึ ลักษณะแบบนี้เป็นประโยชนข์ องโปรแกรม หรอื แอปพลเิ คชันท่เี ราใชใ้ นชีวิตประจาวัน ๒. ครอู ธิบายความหมาย และประเภทของแอปพลเิ คชัน และยกตวั อย่างแอปพลิเคชัน ๓. ครูใหน้ ักเรยี นทาแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) เพอื่ ตรวจสอบความเขา้ ใจ ๔. ครูถามนักเรียนว่าจากท่ีเราพูดถึงจานวนเงิน และการแปลงสุกลเงินในคาบท่ีแล้วนักเรียนคาดว่าหาก ตอ้ งการพฒั นาแอปพลิเคชันเราจะต้องใช้เครือ่ งมือใดบ้าง (แนวคาตอบ คอมพิวเตอร์ โปรแกรมภาษาC++ โปรแกรมภาษาPython ) ๕. ครูอธิบายว่าการพัฒนาโปรแกรมสามารถใช้ภาษาในการเขียน และพัฒนาแอปพลิเคชันได้หลากหลาย สามารถเลอื กใชไ้ ด้ตามความถนัด ๖. ครสู นทนากบั นักเรียนว่า นักเรียนไดเ้ รยี นเขียนโปรแกรมภาษา Python เบอื้ งตน้ มาแล้วในชั้นมธั ยมศึกษา ปีที่ ๒ แลว้ รู้หรือไม่ว่าทาไมนกั พัฒนาโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันส่วนใหญ่จึงเลอื กใช้โปรแกรมน้ี เรามาดู จุดเด่น จดุ ดอ้ ยของโปรแกรมภาษาไพทอนกัน ๗. ครูให้นักเรียนเปิดโปรแกรม Mu จากนั้นครูอธิบายหน้าท่ีการทางานเครื่องมือของโปรแกรม เป็นการ ทบทวนเนื้อหาเดิมท่ีเรียนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๒ และศึกษาเพิ่มเติมจากใบความร้เู ร่ือง If else, while, for (สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมได้จากเวบ็ ไซต์ https://codewith.mu/en/download ) เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๗

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๑ บรู ณาการแอปพลิเคชัน ๘. ครูอธิบายเนื้อหาในหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคานวณ) ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ เรื่องโปรแกรม คานวณหาอตั ราแลกเปลี่ยนเงินบาทไทย(THB) เป็นเงินดอลลาร์ (USD) และใหน้ ักเรยี นศึกษาพร้อมทดลอง เขียนโปรแกรมตามหนังสอื เพ่อื ความเขา้ ใจโปรแกรมมากข้ึน ให้ศกึ ษาในใบความรู้เพิ่มเตมิ เรอื่ งการใช้งาน GUI รว่ มกบั ภาษาไพทอนในการเขียนโปรแกรม โดยใ้ช้โมดลู Tkinter ๙. ครูถามนักเรียนว่าจากตัวอย่างที่ศกึ ษา สามารถนาแนวคิดการแปลงสกุลเงินไปปรับเปน็ โปรแกรมรูปแบบ อื่นได้หรอื ไม่ อยา่ งไรบา้ งใหน้ ักเรียนร่วมกนั อภิปรายแลกเปล่ียนความคิดเห็น และบันทึกรูปแบบที่เพือ่ น นาเสนอแลว้ สนใจลงกระดาษ A๔ ๑๐. ครสู อบถามว่าจากการแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นได้พบข้อดี ข้อเสยี อะไรบา้ ง ๑๑. ครูให้นกั เรียนจับค่เู พอ่ื แลกเปล่ียนแนวคดิ และรปู แบบที่นักเรียนสนใจการพฒั นาโปรแกรมหรอื แอปพลเิ ค ชนั จากนั้นเลอื กแนวคิดที่น่าสนใจ ๑ อยา่ งเพ่ือเขียนรายละเอียดการทางานตามขน้ั ตอนการพัฒนาแอป พลเิ คชันดังกล่าวในแบบฝกึ หัด ๑๒. ครูให้นักเรียนนาแนวคิดท่ีได้มาเขียน Flow Chart เพื่อนาไปพัฒนาเป็นแอปพลิเคชันในแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๑๓. ครถู ามนกั เรยี นวา่ จากการเขยี น Flow Chart นกั เรียนคาดวา่ แนวคดิ ทตี่ นเองเขียนมีโอกาสท่จี ะทาไดจ้ รงิ หรอื ไม่ ๑๔. ครูให้นกั เรยี นแต่ละค่นู าเสนอแนวคดิ และผงั งาน (Flowchart) ของตนเองหนา้ ชัน้ เรยี น ให้เพอ่ื น ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเหน็ พร้อมทั้งครคู อยใหค้ าแนะนา จากน้ันให้นาไปปรับปรุงแก้ไข ขน้ั สรปุ ๑. ให้นักเรียนยกตัวอย่างแอปพลิเคชนั ที่มปี ระโยชน์ของในชีวติ ประจาวัน โดยการตอบคาถามในแบบฝกึ หัด เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๘

หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ บรู ณาการแอปพลเิ คชนั เร่ืองท่ี ๓ : ซอฟตแ์ วร์ท่ีใช้ในการพฒั นาแอปพลิเคชัน (๒) เวลา ๓ ชัว่ โมง รูปแบบการสอนแบบบรรยาย (Lecture) วิธกี ารสอนโดยใช้แนวคิดเชงิ คานวณ (Computational Thinking) ขน้ั นา ๑. ครบู อกกบั นักเรียนวา่ จากชัว่ โมงที่ผ่านมาเราทราบดวี ่าโปรแกรมท่ีใช้ในการพฒั นาแอปแพลเิ คชนั มีให้เลอื ก หลากหลาย แตโ่ ปรแกรมทนี่ ิยมกนั และเรยี นร้ไู ด้เร็วซึ่ง Python เปน็ ตวั เลือกท่ีน่าสนใจ ๒. ครูสนทนากับนักเรียนว่า “จากตัวอย่างที่นักเรียนลองเขียนโปรแกรมแปลงค่าเงินด้วยโปรแกรมภาษา Python นกั เรียนคิดว่า ฟังก์ชนั หรือคาส่ังท่นี ักเรียนใช้ในการเขียนโปรแกรมข้างตน้ เพียงพอสาหรับการ พัฒนาแอปพลเิ คชนั ตามแนวคดิ ของนักเรียนหรือไม่” ๓. ครูสนทนากบั นักเรียนวา่ “หากเราต้องการพัฒนาแอปแพลิเคชนั ด้วย Python จะต้องเรยี นร้อู ะไรบา้ ง (แนวคาตอบ โปรแกรมทีใ่ ช้เขยี น เชน่ Mu, คาส่งั ใหโ้ ปรแกรมแสดงผล, เรียนร้คู าส่งั if-else, คาส่งั loop) ขน้ั สอน ๑. ครูใหน้ กั เรยี นเปิดโปรแกรม Mu จากน้นั ครูอธิบายหน้าทก่ี ารทางานเครอ่ื งมอื ของโปรแกรม (สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมไดจ้ ากเวบ็ ไซต์ https://codewith.mu/en/download ) ๒. ครูทบทวนการเขยี นโปรแกรมคาส่งั print เพอ่ื สั่งให้โปรแกรมแสดงผลตวั เลข และข้อความ ๓. ครูทบทวนการเขยี นโปรแกรมโดยใช้ variable ด้วยตัวเลข และข้อความเพ่อื การแสดงผล เช่น ๔. ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า กรณีที่สร้างตัวแปรของตัวเลข เช่น A = ๕ กับ C = “๕” แสดงผลออกมาเป็นเลข ๕ เหมือนกัน แตค่ วามหมายต่างกัน A เปน็ ตัวแปรของตัวเลข ส่วน C เปน็ ตัวแปรของตัวอักษรหรือขอ้ ความ เพราะมีสญั ลกั ษณ์ “” ๕. จากนน้ั ครูทบทวนรูปแบบรหัสข้อมูล (Format Code) เพ่มิ เตมิ จากทเี่ คยเรยี นผา่ นมาแลว้ ในระดบั ช้นั ม.๒ ๖. ครใู หน้ ักเรยี นทาใบงาน เร่อื ง ตวั แปรและตัวดาเนนิ การ ๗. ครูถามคาถามเพื่อทบทวนนักเรียนว่าจากการเรียนเร่ืองการใช้งานตัวแปรเพื่อการดาเนินการทาง คณิตศาสตร์ มขี อ้ มลู ตวั เลขแบบไหนบ้างทีส่ ามารถนามาดาเนินการทางคณิตศาสตร์ได้ (แนวคาตอบ จานวนเงิน อุณหภูมิ น้าหนัก ส่วนสูง เป็นตัวเลขที่มีค่าสามารถนามาดาเนินการทาง คณติ ศาสตร์ได้ ) ๘. จากน้นั ครทู บทวนการใช้งานคาส่ังการรับข้อมูลจากแปน้ พิมพ์ input เชน่ ๙. ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกหัด เร่ือง การเขียนใช้คาสั่งแสดงผล อินพุต และเอาต์พุต และแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๑๐. ครูสอบถามนักเรียนวา่ ฟงั กช์ ัน input ทางานอยา่ งไร (แนวคาตอบ เปน็ การรบั ข้อมูลจากแป้นพิมพ์ หรือนาเข้าขอ้ มลู จากแปน้ พมิ พ์) เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๙

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๑ บรู ณาการแอปพลิเคชนั ช่ัวโมงที่ ๒ ข1. น้ั สอน ๑๑. ครูถามนักเรียนวา่ จากการเรยี นเขยี นโปรแกรมคาส่ังที่เรียนมา หากครตู ้องการเขียนโปรแกรมจัดลาดับ ความนิยมของร้านอาหารโดยใช้ข้อมูลจากระดับความพอใจในการใช้บริการ ๕ ระดับ นักเรียนคิดว่า สามารถทาได้หรอื ไม่ (แนวคาตอบ ไมส่ ามารถทาได้เนอื่ งจากเรียนคาสั่งการดาเนนิ การแล้ว แตย่ งั ไม่มคี าสง่ั ในการตรวจสอบคา่ ) ๑๒. ครสู อนนักเรียนใช้งานคาสัง่ if-else ๑๓. จากน้ันครูให้นักเรียนทาใบงาน เร่ือง การทางานแบบมีเงื่อนไข และแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการ คานวณ) ๑๔. ครูถามนกั เรยี นว่าสามารถนาความรู้ที่เรียนไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งไรบ้าง (แนวคาตอบ การเขียนโปรแกรมตัดเกรด เขียนโปรแกรมBMI เป็นตน้ ) ๑๕. ครูถามนักเรียนว่าจากการเรียนเขียนโปรแกรมท่ีผ่านมา หากครูต้องการให้นักเรียนเขียนโปรแกรมเพ่ือ แสดงชื่อตนเอง ๑๐๐ บรรทัด นกั เรียนคดิ วา่ ต้องเขียนคาส่ังเยอะหรือไม่ (แนวคาตอบ เยอะ เนือ่ งจากตอ้ งเขยี นคาสงั่ บรรทัดตอ่ บรรทดั ในการแสดงผล ) ๑๖. ครบู อกทม่ี าและอธิบายเรือ่ งการใชง้ านคาส่งั ทาซา้ และคาส่งั อ่นื ๆ ได้แก่ while , for ๑๗. ครูสอนนกั เรยี นใชง้ านคาสง่ั while / for ๑๘. ครใู ห้นกั เรียนทาใบงาน เรอ่ื ง การทาซ้า แบบฝึกหดั เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๑๙. ครใู ห้นักเรยี นช่วยกันบอกคาสัง่ ในการเขียนโปรแกรมทไี่ ดเ้ รยี นท้ังหมด พร้อมบอกหน้าท่ีของแต่ละคาส่ัง ชว่ั โมงที่ ๓ ขน้ั ส1อ.น ๒๐. จากแผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๒ ครูให้นักเรียนแต่ละคู่นาเสนอแนวคดิ และผังงาน (Flowchart) ของตนเอง หน้าช้ันเรียน ให้เพื่อนร่วมกันแลกเปล่ียนความคิดเห็น พร้อมทั้งครูคอยให้คาแนะนา จากนั้นให้นาไป ปรบั ปรงุ แก้ไข ๒๑. ในคาบนี้ครูให้นักเรียนนาแนวคิดท่ีปรับปรุงแล้วมาพัฒนาต่อเพ่ือเขียนโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันด้วย ภาษา Python หรือนกั เรียนจะออกแบบแนวคิดการพัฒนาโปรแกรมหรอื แอปพลิเคชันใหม่กไ็ ด้ ๒๒. ครใู หน้ กั เรยี นลงมอื เขยี นโปรแกรมหรือแอปพลเิ คชันดว้ ยภาษา Python ๒๔. ครใู ห้นกั เรียนทดสอบโปรแกรมหรอื แอปพลเิ คชนั เพอื่ ตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาด เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๑๐

หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ บูรณาการแอปพลเิ คชนั ขน้ั สรุป ๑. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะคู่นาเสนอโปรแกรมหรอื แอปพลเิ คชัน ให้เพ่อื นรว่ มกันแลกเปลี่ยนความคิดเหน็ พร้อม ทงั้ ครคู อยใหค้ าแนะนาเพ่มิ เตมิ ๘. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้ ๘.๑ สือ่ การเรยี นรู้ ๑. หนงั สือเรยี นรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ม.๒ ๒. หนงั สือเรยี นรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ม.๓ หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๔ เรอื่ ง แอปพลิเคชนั ๓. หนังสอื แบบฝกึ หดั รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ม.๓ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๔ เร่อื ง แอปพลเิ คชนั ๔. โปรแกรม Mu ๕. ใบความรู้ เร่อื ง การใช้คาสงั่ แสดงผลอินพุต และเอาตพ์ ุต ๖. ใบความรู้ เรื่อง ตวั แปรและตวั ดาเนินการ ๗. ใบความรู้ เรอื่ ง การทางานแบบมีเง่ือนไข ๘. ใบความรู้ เรื่อง การทาซ้า ๙. ใบงานท่ี ๔.๓.๑ เรอื่ ง ตัวแปรและตัวดาเนินการ ๑๐. ใบงานท่ี ๔.๓.๒ เร่อื ง การใช้คาส่งั แสดงผลอินพตุ และเอาต์พุต ๑๑. ใบงานท่ี ๔.๓.๓ เร่อื ง การทางานแบบมีเง่ือนไข ๑๒. ใบงานท่ี ๔.๓.๔ เรอื ง การทาซา้ ๘.๒ แหล่งการเรียนรู้ ๑) หอ้ งคอมพวิ เตอร์ ๒) อนิ เทอร์เนต็ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๑๑

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๑ บูรณาการแอปพลิเคชัน แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑ คาช้ีแจง : ให้นกั เรียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว ๑. หากระบบควบคมุ แอร์อาคารแหง่ หนงึ่ ถูกออกแบบ ๘. หากต้องการเปลีย่ นโปรแกรมต่อไปนีใ้ หร้ บั คา่ เฉพาะจานวนเต็ม ให้เช่อื มเข้าอินเทอรเ์ นต็ โดยอาศยั wifi เพ่อื ใหส้ งั่ งาน สามารถทาได้ด้วยวิธีใด การเปดิ -ปิดแอร์ได้จากมือถือจากการส่ือสารดว้ ยอนิ เทอร์เนต็ ถือว่าเป็นลักษณะของเทคโนโลยี IoT หรือไม่ เพราะเหตใุ ด ก. ไมใ่ ช่ เพราะ ต้องมีอปุ กรณ์มากกว่าหน่งึ อยา่ งที่ เชื่อมเขา้ กับระบบ wifi และอินเทอรเ์ น็ต ข. ใช่ เพราะ ระบบแอรเ์ ชอื่ มกับสัญญาณ wifi และอนิ เทอร์เน็ต ค. ใช่ เพราะ ระบบแอรเ์ ชอ่ื มกบั อินเทอรเ์ น็ตและการส่ังงาน ก. บรรทดั ที่๖ เป็น dollar = baht / rate (int) จากมอื ถอื ได้ ข. บรรทัดท่ี๔และ๕ ง. ไม่ใช่ เพราะ ระบบการทางานของเทคโนโลยตี ้องเช่อื มกับ เปน็ rate = float(int('ปอ้ นอัตราแลกเปล่ยี นเงินบาทไทยตอ่ อุปกรณ์ไฟฟ้ามากกว่าหน่งึ ชนดิ ๑ ดอลลาร์ : ') rate = float(int('ป้อนจานวนเงินบาทไทย : ') ๒. ข้อใดไม่ใช่องคป์ ระกอบของเทคโนโลยี IoT ค. บรรทดั ท่ี๔และ๕ ก. Compiler ข. Dashboard เปน็ rate = int(input('ป้อนอัตราแลกเปล่ียนเงินบาทไทยต่อ ๑ ค. Smart Device ง. Cloud Computing ดอลลาร์ : ') rate = int(input('ป้อนจานวนเงินบาทไทย : ') ๓. หากกาลงั พดู ถึง “แอปพลิเคชั่นระบบและแอปพลิเคชนั ง. บรรทดั ท่ี๘ เป็น print('คานวณเป็นเงินดอลลาร์ได้ : %.f ท่ีตอบสนองต่อความต้องการผใู้ ช้” แสดงวา่ ผู้พดู กาลังพดู ถงึ ดอลลาร'์ % dollar) เรอื่ งอะไร ๙. หากต้องการตัวแปรเก็บขอ้ ความคาว่า Welcome to program ก. ประเภทของผงั งาน ข. ประเภทของแอปพลเิ คชัน และคา่ ตัวเลข ๔๙๗ ขอ้ เขียนคาสั่งได้ถูกต้อง ค. ขัน้ ตอนการเขยี นของผังงาน ง. ข้ันตอนการพัฒนาแอปพลเิ คชนั ก. text = Welcome to program , x = ๔๙๗ ๔. “Windows Android Linux” ข้อใดเก่ียวขอ้ งกบั ขอ้ ความ ข. text = Welcome to program ; x = \"๔๙๗\" ดังกล่าว ค. text = \"Welcome to program\" ; x = ๔๙๗ ก. แอปพลเิ คชั่นบราวเซอร์ ข. แอปพลิเคช่ันบรกิ าร ง. text = \"Welcome to program\" , x = \"๔๙๗\" ค. แอปพลิเคชันเทคนคิ ง. แอปพลิเคชันระบบ ๑๐. ข้อใดจะใหผ้ ลลพั ธ์เปน็ การแสดงผลคาวา่ Application ๓ รอบ ๕. ข้อใดคอื ข้ันตอนแรกของขัน้ ตอนการพฒั นาแอปพลิเคช่ัน ก. ข. ก. กาหนดปัญหา ข. วิเคราะหป์ ัญหา ค. ศึกษาความเป็นไปได้ ง. วเิ คราะหค์ วาม ๖. คาสง่ั print() จะให้ผลลัพธ์การทางานอย่างไร ก. แสดงผลบนเวบ็ ไซต์ ข. แสดงผลบนหนา้ จอ ค. ง. ค. แสดงผลบนบราวเซอร์ ง. แสดงผลผ่านเครือ่ งพมิ พ์ ๗. หากต้องการใหโ้ ปรแกรมแสดงผลคาว่า Monday ต้องกรอก เลขใดในโปรแกรม ก. เลข ๑ ข. เลข ๒ ค. เลข ๓ ง. เลข ๔ เฉลย ๑. ค ๒. ก ๓. ข ๔. ง ๕. ก ๖. ข ๗. ข ๘. ค ๙. ค ๑๐. ง เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๑๒

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๑ บรู ณาการแอปพลิเคชัน แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ คาชแ้ี จง : ให้นักเรียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว ๑. หากตอ้ งการตัวแปรเก็บข้อความคาว่า Welcome to ๖. ข้อใดจะใหผ้ ลลัพธเ์ ปน็ การแสดงผลคาว่า Application ๓ รอบ ก. ข. program และค่าตัวเลข ๔๙๗ ข้อเขยี นคาสั่งได้ถูกตอ้ ง ค. ง. ก. text = Welcome to program , x = ๔๙๗ ข. text = Welcome to program ; x = \"๔๙๗\" ค. text = \"Welcome to program\" ; x = ๔๙๗ ง. text = \"Welcome to program\" , x = \"๔๙๗\" ๒. ข้อใดคือขั้นตอนแรกของขั้นตอนการพัฒนาแอปพลิเคชัน่ ก. กาหนดปัญหา ข. วิเคราะหป์ ญั หา ค. ศึกษาความเปน็ ไปได้ ง. วิเคราะห์ความต้องการ ๗. หากต้องการให้โปรแกรมแสดงผลคาว่า Monday ต้องกรอกเลข ๓. หากตอ้ งการเปล่ียนโปรแกรมต่อไปน้ีให้รับค่าเฉพาะจานวน ใดในโปรแกรม เตม็ สามารถทาได้ด้วยวธิ ใี ด ก. เลข ๑ ข. เลข ๒ ค. เลข ๓ ง. เลข ๔ ๘. หากกาลงั พูดถึง “แอปพลเิ คช่ันระบบและแอปพลิเคชนั ท่ีตอบสนองต่อความตอ้ งการผู้ใช้” แสดงวา่ ผพู้ ดู กาลงั พดู ถงึ เร่ือง ก. บรรทัดที่๖ เป็น dollar = baht / rate (int) อะไร ข. บรรทดั ที่๔และ๕ ก. ประเภทของผังงาน ข. ประเภทของแอปพลเิ คชัน เปน็ rate = float(int('ป้อนอัตราแลกเปลีย่ นเงินบาทไทยตอ่ ค. ข้ันตอนการเขียนของผังงาน ง. ข้นั ตอนการพฒั นาแอปพลเิ คชนั ๑ ดอลลาร์ : ') rate = float(int('ป้อนจานวนเงินบาทไทย : ') ๙. “Windows Android Linux” ขอ้ ใดเกย่ี วขอ้ งข้อใด ค. บรรทัดท่ี๔และ๕ ก. แอปพลเิ คช่นั บราวเซอร์ ข. แอปพลเิ คช่ันบริการ เปน็ rate = int(input('ปอ้ นอัตราแลกเปลย่ี นเงินบาทไทยต่อ ๑ ค. แอปพลิเคชนั เทคนคิ ง. แอปพลเิ คชันระบบ ดอลลาร์ : ') rate = int(input('ป้อนจานวนเงินบาทไทย : ') ๑๐. หากระบบควบคุมแอร์อาคารแหง่ หนง่ึ ถกู ออกแบบ ง. บรรทดั ที่๘ เป็น print('คานวณเปน็ เงินดอลลารไ์ ด้ : %.f ใหเ้ ชื่อมเขา้ อนิ เทอรเ์ น็ตโดยอาศยั wifi เพือ่ ใหส้ ั่งงาน ดอลลาร'์ % dollar) การเปิด-ปดิ แอร์ได้จากมือถอื จากการส่อื สารดว้ ยอินเทอร์เนต็ ถอื ว่า ๔. คาสงั่ print() จะให้ผลลัพธก์ ารทางานอย่างไร เปน็ ลกั ษณะของเทคโนโลยี IoT หรือไม่ เพราะเหตใุ ด ก. แสดงผลบนเว็บไซต์ ข. แสดงผลบนหนา้ จอ ก. ไม่ใช่ เพราะ ต้องมีอปุ กรณม์ ากกว่าหนง่ึ อยา่ งท่ี ค. แสดงผลบนบราวเซอร์ ง. แสดงผลผ่านเครอ่ื งพิมพ์ เช่ือมเข้ากับระบบ wifi และอินเทอรเ์ น็ต ๕. ขอ้ ใดไม่ใช่องคป์ ระกอบของเทคโนโลยี IoT ข. ใช่ เพราะ ระบบแอรเ์ ชอ่ื มกับสญั ญาณ wifi และอนิ เทอร์เนต็ ก. Compiler ข. Dashboard ค. ใช่ เพราะ ระบบแอร์เช่อื มกบั อนิ เทอร์เนต็ และสงั่ งานจากมอื ถือ ค. Smart Device ง. Cloud Computing ง. ไม่ใช่ เพราะ ระบบการทางานของเทคโนโลยีตอ้ งเช่ือมกับอปุ กรณ์ ไฟฟ้ามากกว่าหนึ่งชนดิ และสามารถควบคมุ ได้ทุกอปุ กรณ์ เฉลย ๑. ค ๒. ก ๓. ค ๔. ข ๕. ก ๖. ง ๗. ข ๘. ข ๙. ง ๑๐. ค เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๑๓

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑ บรู ณาการแอปพลเิ คชนั เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๑๔

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑ บรู ณาการแอปพลิเคชัน แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑ แนวคดิ และองคป์ ระกอบของ IoT แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๑ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑ บรู ณาการแอปพลเิ คชนั เวลา ๕ ช่วั โมง เรอ่ื ง แนวคิดและองค์ประกอบของ IoT เวลา ๑ ชว่ั โมง รายวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ ๑. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชี้วัด สาระท่ี ๔ เทคโนโลยี มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้าใจและใช้แนวคดิ เชิงคานวณในการแกป้ ญั หาทพี่ บในชวี ติ จริงอย่างเปน็ ขั้นตอน และเปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรียนรู้ การทางาน และการแกป้ ัญหา ไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ รูเ้ ท่าทันและมจี รยิ ธรรม ตัวชีว้ ัด ม.๓/๑ พัฒนาแอปพลิเคชนั ทมี่ ีการบรู ณาการกับวชิ าอื่นอย่างสรา้ งสรรค์ ๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อธิบายแนวคดิ และองคป์ ระกอบของเทคโนโลยี IoT ได้ (K) ๒. ออกแบบแนวคดิ เพอื่ การพฒั นาเทคโนโลยี IoT ได้ (P) ๓. ยกตวั อยา่ งประโยชน์ของเทคโนโลยี IoT ในชวี ิตประจาวนั ได้ (A) ๓. สาระสาคญั การทาให้อุปกรณ์หลายตัวสามารถส่ือสาร แลกเปลี่ยนข้อมูล และทางานร่วมกันได้น้ัน เรียกว่า เทคโนโลยี IoT ต้องอาศัยความสามารถของ Smart Device ซึ่งอุปกรณ์ท่ีมีหน่วยประมวลผล หรือเซนเซอร์ ภายในตัว เพ่ือส่งข้อมูลผ่าน Cloud Computing หรือ Wireless Network เป็นตัวกลางในการรับส่งข้อมูล ภายในเครอื ขา่ ยเพอ่ื ประมวลผล และอาศยั Dashboard สาหรบั แสดงผลและใชค้ วบคมุ การทางานจากผ้ใู ช้ ๔. สาระการเรียนรู้ ๑. แนวคิดของเทคโนโลยี IoT ๒. องคป์ ระกอบของเทคโนโลยี IoT ๓. อุปกรณ์ท่ใี ชส้ าหรับพฒั นาเทคโนโลยี IoT ๔. ขอ้ ดีข้อเสยี ของเทคโนโลยี IoT ๕. รูปแบบการสอน/วธิ ีการสอน ๑. วิธกี ารสอนแบบการใชค้ าถาม (Questioning Method) ๒. วิธกี ารสอนโดยใช้แนวคิดเชงิ คานวณ (Computational Thinking) เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๑๔

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ บูรณาการแอปพลเิ คชนั แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๑ แนวคิดและองค์ประกอบของ IoT ๖. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น  ความสามารถในการสอ่ื สาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแกป้ ญั หา  ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๗. ทกั ษะ ๔Cs  ทกั ษะการคิดวจิ ารณญาณ (Critical Thinking)  ทักษะการทางานรว่ มกนั (Collaboration Skill)  ทกั ษะการสอื่ สาร (Communication Skill)  ทกั ษะความคิดสรา้ งสรรค์ (Creative Thinking) ๘. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ซือ่ สตั ย์ สุจริต  รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์  ใฝ่เรยี นรู้  มวี ินยั  มุ่งมน่ั ในการทางาน  อยู่อย่างพอเพียง  มจี ิตสาธารณะ  รักความเปน็ ไทย ๙. การจัดกระบวนการเรยี นรู้ ๑. ครูใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๔ เร่ือง แอปพลเิ คชัน เพือ่ วดั ความรเู้ ดิมของ นักเรยี นกอ่ นเข้าสูก่ จิ กรรม ขัน้ นา ๑. ครูถามคาถามกระตุ้นความสนใจของนกั เรยี นวา่ “นกั เรียนรู้จกั เทคโนโลยี IoT หรอื ไม”่ ข้นั สอน 1. ครูถามนักเรยี นวา่ เครือขา่ ยอนิ เทอร์เนต็ หรอื เครือข่ายไร้สายมปี ระโยชนก์ ับชีวิตเราอยา่ งไร (แนวคาตอบ เชน่ สัญญาณ๓G ๔G ทาให้เขา้ ถึงอินเทอรเ์ น็ตไดส้ ะดวก) 2. ครูถามตอ่ ว่าถ้าสมมติมอื ถอื หรอื คอมพิวเตอร์ แลปทอปของเราไมม่ ีความสามารถในการเชื่อมต่อเครอื ข่าย อนิ เทอร์เน็ตได้ นักเรียนคิดวา่ จะมผี ลกระทบตอ่ ชีวติ อย่างไร (แนวคาตอบ คน้ หาข้อมลู ไดย้ าก แลกเปลยี่ นขอ้ มูลกนั ชา้ เนอื่ งจากไมม่ อี ินเทอรเ์ นต็ ไมส่ ามารถอัปเดต ข่าวสารได้ Real time) เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๑๕

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๑ บูรณาการแอปพลิเคชัน แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๑ แนวคดิ และองค์ประกอบของ IoT 3. ครอู ธบิ ายว่า ยุคกอ่ นหน้าน้มี ือถือ และคอมพิวเตอร์ของเรายังไมม่ ีความสามารถในการเข้าถงึ อนิ เทอรเ์ นต็ แตป่ ัจจุบันอปุ กรณเ์ หล่านี้แทบทกุ เคร่ืองจะมคี วามสามารถในการเชื่อมตอ่ เครอื ข่ายเขา้ หากันได้ เช่น Bluetooth , Wifi Internet ทาใหอ้ ุปกรณ์หลายชน้ิ เชือ่ มตอ่ กนั จงึ ทาให้สามารถแลกเปลยี่ นขอ้ มูลกันได้ อยา่ งรวดเร็ว 4. ครูอธิบายวา่ ลกั ษณะการทาใหอ้ ุปกรณ์หลายชน้ิ เช่ือมตอ่ เข้าหากนั ผ่านเครือขา่ ย และทาการแลกเปลีย่ น ข้อมลู กนั เพอ่ื ใหใ้ ช้ประโยชนไ์ ดม้ ากข้นึ เปน็ แนวคิดทีค่ ล้ายกบั เทคโนโลยี IoT 5. ครูอธบิ ายแนวคดิ จุดกาเนดิ และองค์ประกอบของของเทคโนโลยี IoT วา่ เปน็ การทาให้อุปกรณ์ต่าง ๆ มี หนว่ ยประมวลผลและความสามารถในการเชอ่ื มต่อกบั อุปกรณอ์ ื่นได้ โดยไมต่ ้องพ่ึงพาความสามารถของ คอมพวิ เตอร์ในการประมวลผลและการเชอื่ มตอ่ กับอุปกรณ์อื่น จึงทาใหอ้ ุปกรณ์สามารถส่งผา่ นขอ้ มูล ระหว่างกนั ได้โดยตรง เช่น เครอ่ื งพมิ พ์ทเ่ี ช่อื มเข้าระบบ wifi และส่ังปรนิ้ ท์งานผ่านระบบ wifi ไม่ จาเปน็ ตอ้ งเชอ่ื มเครือ่ งพิมพก์ บั คอมพวิ เตอรอ์ กี ตอ่ ไปแต่สามารถสัง่ งานจากอุปกรณ์ใดกไ็ ด้ทเ่ี ชอื่ มวง เครือข่าย wifi เดยี วกนั ๖. ครถู ามนกั เรยี นว่าหากเราสามารถพฒั นาเทคโนโลยี IoT ด้วยตนเองได้นกั เรยี นคดิ วา่ จะนาอปุ กรณ์ อเิ ล็กทรอนิกส์ใดมาเช่ือมต่อเครอื ขา่ ย และจะใช้ประโยชน์จากการเชอ่ื มต่อเข้าเครือขา่ ยของอุปกรณ์น้นั อยา่ งไร สมุ่ นกั เรียนตอบคาถาม๓-๕คน (แนวคาตอบ แอร์เชื่อมเนต็ แล้วเชค็ อุณหภูมิจากท่ีไหนกไ็ ดจ้ ากน้ันก็สง่ั เปดิ -ปิดแอรต์ อนไหนกไ็ ด)้ ๗. ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ เก่ียวกบั แนวคดิ ของ IoT เรอื่ งองค์ประกอบทีส่ าคัญทงั้ ๓ ส่วนได้แก่ ๑) Smart Device ใช้นาเขา้ ขอ้ มูลจากเซนเซอร์ ๒) Cloud Computing หรอื Wireless Network เพ่อื ใชเ้ ป็นสื่อกลางในการรับส่งข้อมูล ๓) Dashboard เพอ่ื ใช้สอ่ื สารกบั ผู้ใช้ ดังน้นั นอกจากอปุ กรณจ์ ะสามารถเช่อื มตอ่ เขา้ เปน็ เครือข่ายเดียวกันไดแ้ ลว้ จะตอ้ งมสี ่วนตดิ ตอ่ ทีใ่ ช้ควบคมุ การทางานภายในระบบไดด้ ้วย เชน่ ส่ังสตาร์ทรถผา่ นมอื ถือโดยใช้สือ่ กลางเปน็ ระบบอินเทอรเ์ น็ต เปดิ -ปดิ เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าภายในบา้ นดว้ ยเครอื ข่ายไร้สาย Wifi ๘. ครูสอบถามนกั เรียนวา่ สงสยั หรือไม่ แอรท์ ่ีบา้ นเรารอู้ ณุ หภมู ิว่าเปน็ กอ่ี งศาภายในบ้านได้อย่างไร (แนวคาตอบ มตี ัวตรวจจบั มเี คร่อื งวัดอุณหภมู ิ มีเซนเซอร์ เซนเซอร์วดั อณุ หภมู ิ) ๙. ครสู อบถามนักเรียนว่า “นกั เรยี นรจู้ กั เซนเซอรอ์ ะไรบ้าง หรือเคยเห็นเซนเซอรใ์ นอปุ กรณไ์ หนบ้าง (แนวคาตอบ ขน้ึ อยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน) ๑๐. ครูแนะนาบอรด์ micro:bit (ไมโครบิท) ที่มีเซนเซอรห์ ลากหลายสามารถนามาใชพ้ ฒั นาเทคโนโลยี IoT และยกตวั อยา่ งอุปกรณ์ ไมโครบิท พร้อมบอกส่วนประกอบเบ้อื งต้น (กรณีท่โี รงเรียนมี micro:bit ให้ครู แจกบอร์ด micro:bit ให้นกั เรยี นทาความร้จู ัก) ๑๓. ครใู ห้นักเรยี นเปิดหนงั สือวิชาวทิ ยาการคานวณ จากน้ันครอู ธิบายตวั อย่างแนวคดิ การพฒั นาเทคโนโลยี IoT โดยใช้บอรด์ ไมโครบิทเป็นอปุ กรณใ์ นการวดั อุณหภูมิแล้วส่งขอ้ มูลมาบนแทบเล็ท ซ่ึงเป็นสว่ น เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๑๖

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ บูรณาการแอปพลเิ คชนั แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑ แนวคดิ และองค์ประกอบของ IoT แสดงผลและใช้แทปเล็ทเป็นอุปกรณเ์ พ่ือควบคุมการทางานของพัดลมไดโ้ ดยกดปมุ่ สงั่ งาน A บนแทปเล็ท เพือ่ เปิดพัดลม พร้อมขึน้ สถานะเลข ๑ บนบอรด์ ไมโครบทิ ให้ผู้ใช้รสู้ ถานะการทางานของพดั ลมได้ และกดปุ่มงาน B เพื่อปดิ พดั ลมพร้อมขนึ้ สถานะ ๐ บนบอรด์ ไมโครบิท ๑๔. ครตู ้งั คาถามกับนักเรียนวา่ จากแนวคดิ น้หี ากให้นักเรยี นปรบั ใช้และพฒั นาตอ่ นักเรียนจะนาแนวคดิ ไป พัฒนาต่ออยา่ งไร สุ่มนกั เรียนตอบคาถาม ๓-๕ คน ๑๕. ครใู ห้นักเรยี นทาแบบฝกึ หัดแบบฝึกหัด Exercise เรื่อง เทคโนโลยี IoT ขน้ั สรปุ ๑. ครูให้นกั เรยี นช่วยกนั สรุปแนวคดิ ของเทคโนโลยี IoT ๒. ครถู ามนกั เรียนว่าจากการฟงั แนวคิดของเพื่อนในชน้ั เรยี นมแี นวคดิ ใดนา่ สนใจ หรือแนวคิดใดท่ีมปี ระโยชน์ ในชวี ติ ประจาวันได้จรงิ บ้าง ๓. ครูสรุปแนวคิด และองคป์ ระกอบของเทคโนโลยี IoT ใหน้ ักเรียนฟัง พรอ้ มทัง้ เนน้ ถึงความสาคญั เร่ือง ประโยชนก์ ารใช้งานจรงิ ในชีวติ ประจาวนั ๑๐. สื่อและแหลง่ การเรียนรู้ ๑. หนังสอื เรยี นรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ม.๓ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๑๗

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๑ บรู ณาการแอปพลเิ คชนั แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๑ แนวคดิ และองค์ประกอบของ IoT ๑๑. การวดั และการประเมินผล ๑๑.๑ การประเมนิ ระหวา่ งการจัดกจิ กรรม จดุ ประสงค์ วธิ กี ารประเมิน เคร่อื งมอื การประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ ๑.อธิบายแนวคิดและ ตวรจแบบฝึกหัด เรอื่ ง แบบประเมิน อธบิ ายแนวคิดและ องค์ประกอบของ เทคโนโลยี IoT แบบฝกึ หดั องค์ประกอบของ เทคโนโลยี IoT ได้ (K) เรอ่ื ง เทคโนโลยี IoT เทคโนโลยี IoT ได้ ใน ระดับคุณภาพพอใชข้ น้ึ ไป ถอื ว่าผ่าน ๒.ออกแบบแนวคดิ เพ่อื ๑.ตรวจการออกแบบ ๑.แบบประเมิน ๑.ออกแบบแนวคิดในการ พัฒนาเทคโนโลยี IoT แนวคดิ ในการพฒั นา ได้ (P) เทคโนโลยี IoT ใน แบบฝกึ หัด พฒั นาเทคโนโลยี IoT ได้ แบบฝึกหดั เร่อื ง เทคโนโลยี IoT ๒.แบบประเมนิ ตรงตามแนวคดิ ของ ๒.ประเมนิ การนาเสนอ แนวคิดในการพฒั นา การนาเสนอ เทคโนโลยี ในระดับ เทคโนโลยี IoT คุณภาพพอใช้ขึน้ ไปถือว่า ผ่าน ๒.นาเสนอแนวคิดในการ พฒั นาเทคโนโลยี IoT ใน ระดับคณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผา่ น ๓.ยกตัวอย่างประโยชน์ ตรวจแบบฝกึ หัดเรอ่ื ง แบบฝึกหัด ยกตัวอย่างเทคโนโลยี IoT ของเทคโนโลยี IoT ใน เทคโนโลยี IoT ชวี ติ ประจาวันได้ (A) เรื่อง เทคโนโลยี IoT ในชวี ิตประจาวนั ถกู ตอ้ ง ข้อ ๗ ๖๐% ขึน้ ไปถือว่าผา่ น เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๑๘

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑ บูรณาการแอปพลเิ คชัน แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๑ แนวคดิ และองค์ประกอบของ IoT ๑๑.๒ การประเมินการนาเสนองานกลมุ่ ท่ี รายการประเมิน คุณภาพผลงาน ๔ ๓ ๒๑ ๑ นาเสนอการประยกุ ต์แนวคิดในการพฒั นาเทคโนโลยี IoT กับ ความสามารถของ micro:bit ไดน้ ่าสนใจและสื่อสารเขา้ ใจงา่ ย ชัดเจน ๒ อธบิ ายการทางานของแนวคิดได้เขา้ ใจ และถูกตอ้ งตามหลักการ และตอบ คาถามได้ ๓ มคี วามคดิ สร้างสรรค์ ๔ การมสี ่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม ๕ การรับฟงั ความคิดเหน็ ของผูอ้ น่ื รวม เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๖ – ๒๐ ดี ๑๐ – ๑๕ นอ้ ยกว่า ๑๐ พอใช้ ปรบั ปรุง เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๑๙

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๑ บูรณาการแอปพลเิ คชนั แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๑ แนวคดิ และองค์ประกอบของ IoT ๑๑.๓ การประเมนิ แบบฝกึ หัด เรอ่ื ง เทคโนโลยี IoT (แนวคดิ และองคป์ ระกอบของ IoT) ประเด็นในการประเมิน ๓ เกณฑก์ ารให้คะแนน ๑ ๒ ๑.อธบิ ายแนวคิดของ อธิบายแนวคิดของ อธบิ ายแนวคดิ ของ อธบิ ายแนวคิดของ เทคโนโลยี IoT เทคโนโลยี IoT ได้ เทคโนโลยี IoT ได้ เทคโนโลยี IoT ได้ ถกู ตอ้ งครบถว้ นทง้ั หมด ถูกตอ้ ง ๕๐% ขนึ้ ไป ถูกต้อง น้อยกวา่ ๕๐% ๒.แผนผงั การทางาน เขียนแผนผงั การทางาน เขยี นแผนผงั การทางาน เขยี นแผนผงั การทางาน องคป์ ระกอบของ องค์ประกอบของ องคป์ ระกอบของ องค์ประกอบของ เทคโนโลยี IoT เทคโนโลยี IoT ได้เปน็ เทคโนโลยี IoT ไดเ้ ป็น เทคโนโลยี IoT ไดเ้ ปน็ ระบบ ถูกตอ้ งและ ระบบ ถกู ตอ้ งและ ระบบ ถกู ต้องและ เข้าใจง่ายทง้ั หมด เขา้ ใจงา่ ย ๕๐% ขนึ้ ไป เขา้ ใจง่าย น้อยกวา่ ๕๐% เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ๕–๖ ดี ๓–๔ พอใช้ น้อยกวา่ ๓ ปรบั ปรงุ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๒๐

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ บูรณาการแอปพลิเคชนั แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๑ แนวคิดและองค์ประกอบของ IoT ๑๑.๔ การประเมินแบบฝกึ หัด เรอื่ ง เทคโนโลยี IoT (การออกแบบแนวคิดในการพัฒนา เทคโนโลยี IoT) ประเดน็ ในการประเมิน ๓ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ๑ ๒ ๑.ระบปุ ญั หาทพี่ บเจอใน ระบุปัญหาท่พี บเจอใน ระบปุ ัญหาท่พี บเจอใน ระบุปัญหาทพ่ี บเจอใน ชวี ิตประจาวัน และ ชวี ติ ประจาวันได้ ชีวิตประจาวันได้ ชีวิตประจาวนั ได้ และ แนวทางการพัฒนา น่าสนใจ และอธบิ าย น่าสนใจ และอธบิ าย อธิบายแนวทางการพฒั นา แนวทางการพัฒนาโดย แนวทางการพัฒนาโดย โดยใช้เทคโนโลยี IoT ได้ ใชเ้ ทคโนโลยี IoT ได้ ใช้เทคโนโลยี IoT ได้ ถกู ต้องครบ นอ้ ยกวา่ ถูกต้องครบถว้ น ถกู ตอ้ งครบ ๕๐% ข้นึ ไป ๕๐% ๒.ออกแบบแนวคดิ ใน ออกแบบแนวคิดในการ ออกแบบแนวคดิ ในการ ออกแบบแนวคิดในการ การพฒั นาเทคโนโลยี พัฒนาเทคโนโลยี IoT พัฒนาเทคโนโลยี IoT พฒั นาเทคโนโลยี IoT กับ IoT กับความสามารถ กับความสามารถของ กบั ความสามารถของ ความสามารถของ บอร์ด ของบอรด์ บอร์ด บอรด์ ไมโครคอนโทรลเลอร์ได้ ไมโครคอนโทรลเลอร์ ไมโครคอนโทรลเลอร์ได้ ไมโครคอนโทรลเลอร์ได้ หลกั การถกู ตอ้ งครบถว้ น น่าสนใจ สรา้ งสรรค์ นา่ สนใจ หลักการ และเลอื กใชอ้ ุปกรณไ์ ด้ หลักการถูกต้องครบถ้วน ถกู ต้อง และเลอื กใช้ เหมาะสมกบั การแกป้ ญั หา ทั้งหมด และเลือกใช้ อปุ กรณไ์ ด้เหมาะสมกบั นอ้ ยกวา่ ๕๐% อุปกรณไ์ ดเ้ หมาะสมกับ การแก้ปัญหา ๕๐% ข้นึ การแก้ปญั หา ไป เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ๕–๖ ดี ๓–๔ พอใช้ น้อยกว่า ๓ ปรบั ปรุง เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๒๑

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑ บูรณาการแอปพลเิ คชนั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑ แนวคิดและองค์ประกอบของ IoT Exercise เรอื่ ง เทคโนโลยี IoT ๑. ให้นกั เรียนบอกแนวคดิ ของเทคโนโลยี IoT ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ๒. ให้นักเรียนเขียนแผนผังการทางานขององค์ประกอบเทคโนโลยี IoT ๓. จากการเรยี น เร่อื ง เทคโนโลยี IoT หากในอนาคตนักเรียนได้รับหน้าทเี่ ปน็ นักพฒั นาเทคโนโลยี IoT นกั เรียนจะมแี นวคดิ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเทคโนโลยี IoT อย่างไร ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๒๒

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑ บรู ณาการแอปพลิเคชนั แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑ แนวคิดและองค์ประกอบของ IoT ๔. ถา้ ตอ้ งการอุปกรณส์ าหรบั ใชใ้ นเครอื ข่ายของเทคโนโลยี IoT สามารถประยุกตใ์ ช้อปุ กรณใื ดไดบ้ ้าง พรอ้ มยกตัวอยา่ ง ๑. กลมุ่ Smart Device สามารถใช้อุปกรณ์ใดได้บา้ ง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ๒. กล่มุ Cloud Computing หรือ Wireless Network สามารถใช้อุปกรณ์ใดได้บ้าง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ๓. กลมุ่ Dashboard สามารถใชอ้ ปุ กรณใ์ ดไดบ้ ้าง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ๕. ใหน้ กั เรยี นระบปุ ญั หาทพ่ี บในชีวติ ประจาวนั เก่ยี วกับเทคโนโลยหี รอื อปุ กรณท์ ่ตี อ้ งการพัฒนาโดยใช้ เทคโนโลยี IoT ๑. ปญั หาเทคโนโลยีหรอื อุปกร์ท่พี บในชวี ติ ประจาวนั ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ๒. แนวทางการแกป้ ญั หา ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๒๓

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๑ บูรณาการแอปพลิเคชนั แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑ แนวคิดและองค์ประกอบของ IoT ๖. จากขอ้ ๕ ให้นกั เรยี นนาปัญหามาวเิ คราะหเ์ พอ่ื วางแผนพฒั นาอปุ กรณ์กับเทคโนโลยี IoT โดยใช้ ความสามารถจากบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ๗. ให้นกั เรยี นยกตัวอย่างประโยชนข์ องอปุ กรณ์ท่ีใชเ้ ทคโนโลยี IoT ในชีวติ ประจาวันอย่างน้อย ๑ ตัวอย่าง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๒๔

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑ บูรณาการแอปพลิเคชัน แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑ แนวคดิ และองค์ประกอบของ IoT Exercise เร่อื ง การรวบรวมขอ้ มลู ๑. ใหน้ กั เรยี นบอกแนวคิดของเทคโนโลยี IoT การทาใหอ้ ุปกรณ์หลายชนิด เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพทม์ ือถือ อปุ กรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์ เซน็ เซอร์ เช่ือมตอ่ กับเครอื ขา่ ยอินเทอร์เนต็ ได้ ทาใหอ้ ุปกรณเ์ หล่าน้เี ก็บบนั ทึกข้อมูลติดตอ่ สือ่ สาร แลกเปลีย่ นข้อมูล และ ทางานร่วมกนั ไดอ้ ย่างอัตโนมตั ิ ๒. ให้นกั เรยี นเขยี นแผนผังการทางานขององค์ประกอบเทคโนโลยี IoT ๓. จากการเรยี น เร่ือง เทคโนโลยี IoT หากในอนาคตนกั เรียนได้รบั หนา้ ทีเ่ ป็นนักพฒั นาเทคโนโลยี IoT นกั เรยี นจะมีแนวคดิ เพือ่ ปรับปรงุ และพัฒนาเทคโนโลยี IoT อยา่ งไร ระบบควบคมุ การใหน้ า้ เป็นระบบทคี่ วบคุมผา่ นแอฟพลเิ คชนั บนโทรศพั ท์มอื ถอื โดยใช้หลักการชุด คอนโทรลเลอร์ติดตง้ั ไว้กบั ชุดเซน็ เซอรค์ กู่ นั เซน็ เซอร์เป็นตัวเก็บความชน้ื ในดนิ ว่าดนิ ต้องการความช้ืนอกี เทา่ ไร แลว้ ส่งสัญญาณออกมาท่ีคอนโทรลเลอร์ คอนโทรลเลอร์เปน็ อุปกรณ์ทางดานอิเล็กทรอนิกส์และ ไมโครคอนโทรลเลอรต์ า่ ง ๆ สามารถทางานผ่านระบบอนิ เทอรเ์ นต็ ไดโ้ ดยผา่ นแอปพลเิ คชันไปทคี่ อนโทรลเลอร์ ให้ทางานวา่ จะให้น้ากบั พืชปรืมาณเทา่ ใด ระยะเวลเทา่ ใด ใหน้ ้าในช่วงเวลาใด เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๒๕

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๑ บรู ณาการแอปพลเิ คชนั แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๑ แนวคดิ และองค์ประกอบของ IoT ๔. ถา้ ต้องการอุปกรณ์สาหรับใชใ้ นเครอื ขา่ ยของเทคโนโลยี IoT สามารถประยุกตใ์ ช้อุปกรณใื ดได้บา้ ง พรอ้ มยกตัวอย่าง ๑. กลุ่ม Smart Device สามารถใช้อปุ กรณใ์ ดได้บ้าง ๑) เครื่องปรับอากาศ ๒) พัดลม ๓) โทรทศั น์ ๒. กลุ่ม Cloud Computing หรือ Wireless Network สามารถใชอ้ ปุ กรณ์ใดไดบ้ ้าง ๑) Wi-Fi ๒) Bluetooth ๓) Internet ๓. กล่มุ Dashboard สามารถใชอ้ ปุ กรณใ์ ดได้บ้าง ๑) โทรทศั น์ ๒) โทรศพั ท์มอื ถอื ๓) จอแสดงผลในรถยนต์ ๕. ใหน้ ักเรยี นระบุปัญหาทพี่ บในชวี ิตประจาวนั เก่ยี วกบั เทคโนโลยีหรอื อุปกรณ์ท่ีต้องการพัฒนาโดยใช้ เทคโนโลยี IoT ๑. ปญั หาเทคโนโลยีหรืออุปกร์ท่พี บในชวี ิตประจาวนั คุณพ่อกบั คุณแมอ่ ายุมากและความจาไมค่ ่อยดีแต่อยู่บ้านเพยี งลาพงั บ่อยคร้ังทีท่ า่ นออกไปรดน้า ตน้ ไมต้ อนเช้าหรอื ตอนเย็น แลว้ เดนิ เข้าบา้ น โดยลมื ปิดประตบู า้ นอาจจะเกิดอันตรายจากผไู้ มป่ ระสงคด์ ี ภายนอก เช่น มคี นเข้ามาลกั ทรัพย์ ๒. แนวทางการแก้ปญั หา ทาใหป้ ระตูบ้านสามารถสงั่ งานไดจ้ ากระยะไกลผา่ นโทรศัพท์มอื ถือ โดยเชอื่ มกนั ผ่านอนิ เทอรเ์ นต็ ๖. จากขอ้ ๕ ให้นักเรียนนาปญั หามาวเิ คราะหเ์ พ่อื วางแผนพฒั นาอปุ กรณ์กับเทคโนโลยี IoT โดยใช้ ความสามารถจากบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ ใช้บอร์ดไมโครคอนโทรลเลอรค์ วบคุมการทางานของประตูด้วยมอเตอร์ และเชอื่ มระบบการทางานขง ประตูเขา้ อนิ เทอรเ์ น็ตดว้ ยสญั ญาณ Wi-Fi ของบ้าน เพอื่ ส่ังงานประตจู ากแอปพลิเคชัน่ บนโทรศพั ท์มอื ถอื จาก ระยะไกลได้ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๒๖

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑ บรู ณาการแอปพลิเคชัน แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๑ แนวคิดและองค์ประกอบของ IoT ๗. ให้นกั เรียนยกตัวอย่างประโยชน์ของอุปกรณท์ ใี่ ช้เทคโนโลยี IoT ในชีวิตประจาวันอย่างนอ้ ย ๑ ตวั อยา่ ง ระบบเปิด-ปดิ เครอ่ื งปรบั อากาศทใ่ี ช้ควบคฒุ อณุ หภมู ผิ ่านอนิ เทอรเ์ น็ตจากแอปพลเิ คชนั บน โทรศพั ท์มือถือหรอื แท็บเล็ต ๑๒. บนั ทึกผลหลังการสอน  ดา้ นความรู้  ด้านสมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น  ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ)  ดา้ นอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่นหรอื พฤตกิ รรมทม่ี ปี ัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )  ปญั หา/อปุ สรรค  แนวทางการแกไ้ ข เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๒๗

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑ บรู ณาการแอปพลิเคชัน แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๒ ซอฟตแ์ วร์ท่ีใชใ้ นการพฒั นาแอปพลเิ คชัน แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๒ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ บรู ณาการแอปพลเิ คชนั เวลา ๕ ชั่วโมง เร่อื ง ซอฟต์แวรท์ ใี่ ช้ในการพัฒนาแอปพลเิ คชัน เวลา ๑ ชวั่ โมง รายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วัด สาระที่ ๔ เทคโนโลยี มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้าใจและใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจรงิ อย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหา ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ร้เู ท่าทนั และมจี ริยธรรม ตวั ชีว้ ัด ม.๓/๑ พฒั นาแอปพลิเคชันทีม่ ีการบูรณาการกับวชิ าอนื่ อย่างสรา้ งสรรค์ ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑.บอกความหมาย ประเภท และขนั้ ตอนการพฒั นาแอปพลเิ คชันได้ (K) ๒.ออกแบบการพฒั นาแอปพลิเคชนั ตามขนั้ ตอนการพัฒนาแอปพลิเคชนั ได้ (P) ๓.ยกตวั อยา่ งแอปพลิเคชันท่มี ปี ระโยชน์ของในชวี ิตประจาวนั ได้ (A) ๓. สาระสาคัญ แอปพลิเคชนั เป็นโปรแกรมที่ถกู พัฒนาขึ้นมาเพ่ืออานวยในด้านต่าง ๆ มีการออกแบบมาเพื่อใช้งาน ในหลายรูปแบบ โดยแอปพลิเคชันแบ่งออกได้ ๒ ประเภท ได้แก่ แอปพลิเคชันระบบ แอปพลิเคชันที่ ตอบสนองต้องการของกล่มุ ผู้ใช้ การพัฒนาแอปพลเิ คชัน มี ๗ ข้นั ตอน ดงั น้ี ๑) กาหนดปัญหา ๒) ศึกษาความเปน็ ไปได้ ๓) วิเคราะห์ ความต้องการแอปพลเิ คชนั ๔) ออกแบบแอปพลิเคชนั ๕) ทดสอบ ๗) จัดทาเอกสาร ซ่ึงการพัฒนาโปรแกรมในปัจจุบันนิยมใช้โปรแกรมภาษาไพทอน (Python) เพราะเป็นภาษาที่อ่าน แล้วเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ตัวอย่างการเขียนโปรแกรมการพัฒนาแอปพลิเคชันด้วยโปรแกรมภาษาไพทอน เช่น โปรแกรมคานวณหาอตั ราแลกเปล่ยี นเงินบาทไทย (THB) เปน็ เงนิ ดอลลาร์ (USD) เป็นต้น ๔. สาระการเรยี นรู้ ๑. ขน้ั ตอนการพฒั นาแอปพลิเคชัน ๒. ซอฟตแ์ วรท์ ใี่ ชใ้ นการพฒั นาแอปพลิเคช่ัน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๒๘

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ บูรณาการแอปพลิเคชนั แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒ ซอฟต์แวร์ท่ีใชใ้ นการพัฒนาแอปพลเิ คชัน ๕. รปู แบบการสอน/วิธีการสอน ๑. รปู แบบการสอนแบบการอภปิ ราย ๒. วิธีการสอนโดยเน้นกระบวนการกล่มุ (Group Process–Based Instruction) ๓. วิธีการสอนโดยใช้การแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing) ๔. วธิ ีการสอนโดยใชแ้ นวคดิ เชงิ คานวณ (Computational Thinking) ๖. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น  ความสามารถในการสื่อสาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแกป้ ัญหา  ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๗. ทกั ษะ ๔ Cs  ทักษะการคิดวิจารณญาณ (Critical Thinking)  ทักษะการทางานรว่ มกัน (Collaboration Skill)  ทกั ษะการสื่อสาร (Communication Skill)  ทักษะความคดิ สรา้ งสรรค์ (Creative Thinking) ๘. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์  ซ่อื สัตย์ สุจรติ  รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์  ใฝเ่ รียนรู้  มวี ินัย  มงุ่ ม่นั ในการทางาน  อยู่อย่างพอเพียง  มีจติ สาธารณะ  รกั ความเป็นไทย เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๒๙

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๑ บรู ณาการแอปพลเิ คชนั แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๒ ซอฟตแ์ วร์ที่ใชใ้ นการพัฒนาแอปพลเิ คชัน ๙. การจดั กระบวนการเรียนรู้ ข้นั นา ๑. ครสู นทนากบั นักเรยี นว่า ถ้าสมมตนิ ักเรียนไปเที่ยวตา่ งประเทศ นักเรียนคาดว่าต้องใช้เงินประมาณเท่าไร ๒. จากนั้นครถู ามต่อว่าจานวนเงินท่นี กั เรียนบอกเป็นสกุลเงนิ ไทย หรอื สกลุ เงินประเทศทีต่ อ้ งการไปเทย่ี ว ๓. ครถู ามวา่ แล้วนักเรียนสามารถแปลงจานวนเงินบาทเป็นสกลุ เงินของต่างประเทศอย่างไร (แนวคาตอบ สามารถคานวณได้ด้วยโปรแกรมที่อยู่บนออนไลน์ หรือแอพพิเคชั่นบนมือถือและแท็ปเลท นอกจากนน้ั ยังสามารถคานวณไดโ้ ดยดูจากการแปลงอัตราแลกเปลย่ี นคา่ เงนิ ประจาวนั ) ๔. ครูสอบถามว่านกั เรยี นเคยสงสัยไหมวา่ โปรแกรมเหล่านที้ างานอยา่ งไร (แนวคาตอบ : การแปลงค่า เทียบค่าเงนิ ดจู ากอัตราแลกเปลย่ี นเงนิ ) ขั้นสอน ๑. ครกู ลา่ วถึงลักษณะแบบนเี้ ปน็ ประโยชน์ของโปรแกรม หรอื แอปพลิเคชันที่เราใช้ในชีวิตประจาวัน ๒. ครูอธบิ ายความหมาย และประเภทของแอปพลเิ คชัน และยกตัวอยา่ งแอปพลิเคชนั ๓. ครูให้นักเรยี นทาแบบฝกึ หัด เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) เพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจ ๔. ครูถามนักเรียนว่าจากท่ีเราพูดถึงจานวนเงิน และการแปลงสุกลเงินในคาบท่ีแล้วนักเรียนคาดว่าหาก ตอ้ งการพัฒนาแอปพลิเคชนั เราจะต้องใชเ้ ครอื่ งมือใดบา้ ง (แนวคาตอบ คอมพิวเตอร์ โปรแกรมภาษาC++ โปรแกรมภาษาPython ) ๕. ครูอธิบายว่าการพัฒนาโปรแกรมสามารถใช้ภาษาในการเขียน และพัฒนาแอปพลิเคชันได้หลากหลาย สามารถเลอื กใช้ไดต้ ามความถนดั ๖. ครูสนทนากับนักเรียนว่า นักเรยี นได้เรยี นเขยี นโปรแกรมภาษา Python เบอื้ งต้นมาแล้วในชั้นมัธยมศึกษา ปที ่ี ๒ แลว้ รู้หรือไม่วา่ ทาไมนักพัฒนาโปรแกรมหรือแอปพลิเคชนั ส่วนใหญ่จึงเลือกใช้โปรแกรมน้ี เรามาดู จุดเดน่ จุดดอ้ ยของโปรแกรมภาษาไพทอนกัน ๗. ครูให้นักเรียนเปิดโปรแกรม Mu จากน้ันครูอธิบายหน้าที่การทางานเครื่องมือของโปรแกรม เป็นการ ทบทวนเนื้อหาเดมิ ที่เรยี นในระดับมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ และศึกษาเพิ่มเติมจากใบความรเู้ รื่อง If else, while, for (สามารถดาวนโ์ หลดโปรแกรมไดจ้ ากเวบ็ ไซต์ https://codewith.mu/en/download ) ๘. ครูอธิบายเนื้อหาในหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคานวณ) ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ เร่ืองโปรแกรม คานวณหาอัตราแลกเปลย่ี นเงินบาทไทย(THB) เป็นเงินดอลลาร์ (USD) และใหน้ ักเรยี นศึกษาพรอ้ มทดลอง เขียนโปรแกรมตามหนังสอื เพ่อื ความเข้าใจโปรแกรมมากขึ้น ให้ศกึ ษาในใบความรู้เพม่ิ เติมเร่อื งการใช้งาน GUI ร่วมกับภาษาไพทอนในการเขยี นโปรแกรม โดยใ้ชโ้ มดูล Tkinter ๙. ครถู ามนักเรียนว่าจากตัวอย่างที่ศึกษา สามารถนาแนวคิดการแปลงสกุลเงินไปปรับเป็นโปรแกรมรปู แบบ อื่นได้หรือไม่ อยา่ งไรบ้างให้นักเรยี นรว่ มกนั อภิปรายแลกเปลี่ยนความคดิ เห็น และบันทึกรูปแบบที่เพื่อน นาเสนอแลว้ สนใจลงกระดาษ A๔ ๑๐. ครสู อบถามวา่ จากการแลกเปล่ียนความคิดเห็นได้พบข้อดี ขอ้ เสียอะไรบ้าง เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๓๐

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ บูรณาการแอปพลิเคชัน แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๒ ซอฟตแ์ วรท์ ี่ใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน ๑๑. ครูใหน้ กั เรยี นจับคู่เพ่ือแลกเปล่ียนแนวคดิ และรปู แบบที่นักเรียนสนใจการพัฒนาโปรแกรมหรอื แอปพลเิ ค ชนั จากน้ันเลอื กแนวคิดที่น่าสนใจ ๑ อยา่ งเพอ่ื เขียนรายละเอียดการทางานตามข้นั ตอนการพัฒนาแอป พลิเคชนั ดังกล่าวในแบบฝกึ หดั ๑๒. ครูให้นักเรียนนาแนวคิดที่ได้มาเขียน Flow Chart เพื่อนาไปพัฒนาเป็นแอปพลิเคชันในแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๑๓. ครถู ามนกั เรียนวา่ จากการเขียน Flow Chart นักเรยี นคาดวา่ แนวคดิ ทต่ี นเองเขยี นมโี อกาสทจี่ ะทาได้จริง หรอื ไม่ ๑๔. ครูให้นักเรยี นแตล่ ะค่นู าเสนอแนวคิดและผงั งาน (Flowchart) ของตนเองหนา้ ชั้นเรยี น ใหเ้ พอื่ น รว่ มกนั แลกเปล่ยี นความคิดเห็น พร้อมทง้ั ครูคอยใหค้ าแนะนา จากนนั้ ให้นาไปปรบั ปรงุ แกไ้ ข ขัน้ สรปุ ๑. ให้นักเรียนยกตัวอยา่ งแอปพลิเคชันท่ีมปี ระโยชน์ของในชีวติ ประจาวัน โดยการตอบคาถามในแบบฝกึ หัด เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๑๐. ส่อื และแหลง่ การเรียนรู้ ๑. หนังสือเรยี นรายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ม.๓ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑ เร่อื ง แอปพลเิ คชัน ๒. โปรแกรม Mu เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๓๑

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๑ บรู ณาการแอปพลิเคชัน แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๒ ซอฟต์แวร์ทใ่ี ชใ้ นการพฒั นาแอปพลเิ คชนั ๑๑. การวดั และการประเมนิ ผล ๑๑.๑ การประเมินระหว่างการจัดกจิ กรรม จุดประสงค์ วิธีการประเมนิ เครื่องมือการประเมนิ เกณฑ์การประเมนิ บอกความหมาย ๑. บอกความหมาย ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหดั รายวิชา ประเภท และขัน้ ตอน การพฒั นาแอปพลิเคชัน ประเภท และข้ันตอน Exercise เรือ่ ง การ พ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ได้ถูกต้อง ๖๐% ขึ้นไป การพฒั นาแอปพลิเคชัน พฒั นาแอปพลิเคชน่ั เทคโนโลยี (วทิ ยาการ ๑.ออกแบบการพฒั นา แอปพลิเคชันตาม ได้ (K) คานวณ) ม.๓ ขนั้ ตอนการพัฒนาแอป พลเิ คชนั ได้ ในระดับ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ คณุ ภาพพอใช้ขึ้นไปถอื วา่ ผา่ น เรื่อง แอปพลิเคชนั ๒.นาเสนอแนวคิดการ ออกแบบการพฒั นาแอป ๒.ออกแบบการพฒั นา ๑.ตรวจการออกแบบ ๑.แบบประเมนิ พลเิ คชันในระดับ คณุ ภาพพอใช้ข้ึนไปถือ แอปพลิเคชันตาม แนวคดิ ในแบบฝกึ หัด แบบฝกึ หดั วา่ ผ่าน ๓.ผ่านเกณฑ์การ ขนั้ ตอนการพฒั นาแอป Exercise เร่ือง การ เร่อื ง แอปพลิเคชนั ประเมิน ๖๐% ข้นึ ไป พลเิ คชนั ได้ (P) พัฒนาแอปพลเิ คช่ัน (ออกแบบการพัฒนา ๒.ประเมนิ การนาเสนอ แอปพลเิ คชัน) แนวคดิ การออกแบบการ ๒.แบบประเมนิ พัฒนาแอปพลเิ คชนั การนาเสนองานกลมุ่ (ออกแบบแนวคิดการ พฒั นาแอปพลิเคชนั ) ๓.ยกตวั อย่างแอปพลิเค ตรวจแบบฝกึ หัด แบบฝึกหดั รายวิชา ชนั ทมี่ ีประโยชน์ของใน Exercise เรอื่ ง การ พ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ชีวิตประจาวนั ได้ (A) พฒั นาแอปพลิเคชน่ั เทคโนโลยี (วทิ ยาการ คานวณ) ม.๓ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑ เรอื่ ง แอปพลิเคชนั เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๓๒

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑ บูรณาการแอปพลเิ คชนั แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๒ ซอฟตแ์ วร์ที่ใช้ในการพฒั นาแอปพลิเคชัน ๑๑.๒ การประเมนิ การนาเสนองานกลมุ่ (ออกแบบแนวคดิ การพัฒนาแอปพลิเคชนั ) ท่ี รายการประเมนิ คณุ ภาพผลงาน ๔ ๓ ๒๑ ๑ นาเสนอการออกแบบการพฒั นาแอปพลเิ คชนั ตามขั้นตอนการพัฒนาแอป พลเิ คชันได้น่าสนใจและสื่อสารเขา้ ใจง่าย ชดั เจน ๒ อธบิ ายการทางานของแนวคิดได้เข้าใจ และถกู ตอ้ งตามหลักการ และตอบ คาถามได้ ๓ มีความคิดสรา้ งสรรค์ ๔ การมสี ่วนรว่ มของสมาชกิ ในกลมุ่ ๕ การรับฟังความคิดเหน็ ของผูอ้ ื่น รวม เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ๑๖ – ๒๐ ดี ๑๐ – ๑๕ น้อยกวา่ ๑๐ พอใช้ ปรับปรงุ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๓๓

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑ บรู ณาการแอปพลเิ คชนั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๒ ซอฟต์แวรท์ ใี่ ช้ในการพัฒนาแอปพลเิ คชัน ๑๑.๓ การประเมินแบบฝึกหัด เรอื่ ง แอปพลเิ คชนั (ออกแบบการพฒั นาแอปพลิเคชัน) ประเดน็ ในการประเมนิ ๓ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ๑ ๒ ๑.ความสอดคลอ้ งกับ ออกแบบแนวคดิ การ ออกแบบโปรแกรมหรอื ออกแบบโปรแกรมหรือ เน้อื หา พัฒนาโปรแกรมหรอื แอปพลิเคชันตาม แอปพลเิ คชนั ตาม แอปพลิเคชันตาม ขนั้ ตอนการออกแบบ ขน้ั ตอนการออกแบบ ขัน้ ตอนการออกแบบ แอปพลิเคชนั ไดถ้ ูกตอ้ ง แอปพลเิ คชันได้ถกู ตอ้ ง แอปพลเิ คชันได้ถูกตอ้ ง และชัดเจนมากกว่า นอ้ ยกวา่ ๕๐% ครบถ้วนและชดั เจน ๕๐% ๒.การแสดงอัลกอริทึม เขียนแสดงลาดบั การ เขยี นแสดงลาดับการ เขยี นแสดงลาดับการ ทางานของโปรแกรม ทางานของแอปพลเิ คชนั ทางานของแอปพลิเคชัน หรอื แอปพลิเคชันดว้ ย ด้วยแผนผังงาน (Flow ดว้ ยแผนผังงาน (Flow แผนผงั งาน (Flow Chart) ไดเ้ ปน็ ระบบ Chart) ไดเ้ ป็นระบบ Chart) ได้เปน็ ระบบ ถกู ตอ้ งและเขา้ ใจงา่ ย ถกู ตอ้ งและเข้าใจง่าย ถูกตอ้ งและเขา้ ใจงา่ ย มากกวา่ ๕๐% นอ้ ยกว่า๕๐% ๓.มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ สามารถออกแบบ สามารถออกแบบ สามารถออกแบบ ในการออกแบบแอป แนวคดิ การพัฒนาแอป แนวคดิ การพัฒนาแอป แนวคิดการพฒั นาแอป พลเิ คชนั พลเิ คชันไดน้ า่ สนใจ พลิเคชนั ได้นา่ สนใจ พลเิ คชันได้น่าสนใจ และคานงึ ประโยชน์ของ และคานงึ ประโยชนข์ อง และคานงึ ประโยชน์ของ การใช้งาน การใช้งานเป็นสว่ นใหญ่ การใชง้ านบ้างพยี ง บางสว่ น เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ๗–๙ ดี ๕–๖ พอใช้ น้อยกวา่ ๕ ปรบั ปรงุ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๓๔

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๑ บูรณาการแอปพลิเคชนั แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๒ ซอฟต์แวรท์ ี่ใช้ในการพฒั นาแอปพลเิ คชนั Exercise เรือ่ ง การพฒั นาแอปพลิเคชนั ๑. ให้นักเรยี นตอบคาถามต่อไปน้ี ๑. อธบิ ายความหมายของแอปพลเิ คชนั ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ๒. อธิบายลกั ษณะของแอปพลิเคชนั ด้านการศกึ ษา ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ๓. อธบิ ายลกั ษณะของแอปพลิเคชันด้านสาธารณสขุ ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ๔. อธบิ ายลักษณะของแอปพลเิ คชนั ดา้ นความบนั เทงิ ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๓๕

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๑ บูรณาการแอปพลเิ คชัน แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๒ ซอฟตแ์ วรท์ ีใ่ ชใ้ นการพัฒนาแอปพลเิ คชนั ๒. ให้นกั เรยี นยกตวั อย่างแอปพลิเคชนั หรือโปรแกรมประยกุ ต์ทนี่ า่ สนใจอยา่ งน้อย ๕ โปรแกรม พร้อมทัง้ บอกประโยชน์ของแอปพลเิ คชนั ดงั กลา่ ว ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ๓. ใหน้ กั เรียนเขยี นขน้ั ตอนการพฒั นาแอปพลิเคชนั ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ๔. ใหน้ ักเรียนออกแบบการพฒั นาโปรแกรมหรือแอปพลิเคชนั ททีน่ กั เรยี นสนใจดว้ ยภาษาไพทอน จากนัน้ เขยี นรายละเอียดการทางานตามข้ันตอนการพฒั าแอปพลิเคชนั ๑. ขน้ั กาหนดปัญหา .................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ๒. ขั้นศกึ ษาความเปน็ ไปได้ ......................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ๓. ขน้ั วเิ คราะห์ความตอ้ งการแอปพลิเคชนั ................................................................................................ ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ๔. ข้นั ออกแบบแอปพลเิ คชัน ...................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๓๖

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ บูรณาการแอปพลเิ คชนั แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๒ ซอฟต์แวรท์ ีใ่ ช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชนั ๕. ขั้นพัฒนาแอปพลิเคชัน .......................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ๖. ขน้ั ทดสอบแอปพลิเคชนั ........................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ๗. ข้ันจดั ทาเอกสาร .................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ๕. จากขอ้ ๔ ใหน้ ักเรียนนาแนวคดิ มาเขียนผงั งาน (Flowchart) การทางานของโปรแกรม เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๓๗

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ บรู ณาการแอปพลิเคชนั แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๒ ซอฟต์แวรท์ ่ีใช้ในการพัฒนาแอปพลเิ คชัน ๖. ใหน้ ักเรียนตอบคาถามต่อไปน้ี ๑. จากโปรแกรมต่อไปน้ี ใหน้ กั เรียนทาความเข้าใจการทางานของผงั งาน (Flowchart) จากนั้นเขยี นรหสั การทางานของโปรแกรมภาษาไพทอน ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๓๘

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ บรู ณาการแอปพลิเคชัน แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๒ ซอฟตแ์ วร์ทใี่ ชใ้ นการพัฒนาแอปพลเิ คชัน ๒. จากโปรแกรมต่อไปน้ี หากตอ้ งการเพิ่มระดบั การแจ้งผลลพั ธ์จากท่มี ีอยู่ ๔ ระดับ ให้เพ่ิมเปน็ ๕ ระดับ โดยใหแ้ จ้งผลลัพธว์ ่า “รอ้ นมาก” เม่ืออุณหภูมมิ ากกว่า ๔๐ องศาเซลเซียส จะสามารถเขยี นรหสั คาสงั่ ได้ อย่างไร ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๓๙

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ บูรณาการแอปพลิเคชัน แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๒ ซอฟต์แวร์ทใ่ี ชใ้ นการพัฒนาแอปพลิเคชัน ๓. จากโปรแกรมต่อไปนี้ ใหน้ ักเรยี นเขียนรหสั คาสง่ั เพอื่ ใหโ้ ปรแกรมแสดงผลลัพธ์เปลย่ี นจาก Hello Python เปน็ การแสดงช่อื นักเรยี นเองจานวน ๑๐ ครัง้ ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๔๐

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑ บูรณาการแอปพลเิ คชนั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๒ ซอฟต์แวร์ทใ่ี ช้ในการพัฒนาแอปพลเิ คชัน ๔. จากโปรแกรมต่อไปน้ี ใหน้ กั เรยี นเขยี นรหสั คาสัง่ เพือ่ แสดงเฉพาะจานวนคีท่ ่ีอยูร่ ะหวา่ ง ๐-๑๐๐ ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๔๑

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑ บรู ณาการแอปพลเิ คชนั แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๒ ซอฟต์แวรท์ ่ีใช้ในการพัฒนาแอปพลเิ คชัน ๕. จากโปรแกรมการทางานด้วย for ต่อไปน้ี ถ้าต้องการปรับชดุ ขอ้ มลู จากชื่อสัตวเ์ ปน็ ช่ือเดอื น ๑๒ เดอื น แล้วให้โปรแกรมแสดงช่อื เดือนที่มีตัวอักษร “er” จะสามารถประยกุ ต์ใชร้ หัสคาสั่งไดอ้ ย่างไร ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ๗. ให้นกั เรยี นยกตัวอย่างแอปพลเิ คชันในชีวิตประจาวัน พร้อมบอกประโยชนจ์ ากการใช้งานแอปพลเิ คชนั ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๔๒

หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ บรู ณาการแอปพลิเคชนั แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒ ซอฟตแ์ วร์ทใี่ ช้ในการพัฒนาแอปพลเิ คชัน Exercise เร่อื ง การพฒั นาแอปพลเิ คชัน ๑. ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามต่อไปน้ี ๑. อธิบายความหมายของแอปพลิเคชัน โปรแกรมทีถ่ ูกพัฒนาข้นึ มา เพอื่ อานวยความสะดวกในด้านตา่ ง ๆ มีการออกแบบมาเพอ่ื ใช้งานในหลาย รปู แบบ ถาเป็นแอปพลิเคชันสาหรับใช้งานบนคอมพวิ เตอรห์ รือนตี บุ๊กคอมพิวเตอร์ เรียกว่า เดสก์ท็อปแอป พลิเคชัน แตถ่ า้ ใช้งานบนโทรศพั ท์มือถือ แท็บเลต็ หรืออปุ กรณ์พกพาตา่ ง ๆ จะเรียกวา่ โมไบล์แอปพลิเคชนั ๒. อธบิ ายลกั ษณะของแอปพลเิ คชันด้านการศึกษา เปน็ แอปพลเิ คชนั ที่พัฒนาขึน้ มา เพือ่ ใช้จัดการห้องเรยี นให้มคี วามสนกุ สนาน และชว่ ยเพ่ิมปฎิสัมพันธ์ ระหว่างผู้เรียนกบั ผู้สอนมากขึน้ ๓. อธบิ ายลกั ษณะของแอปพลิเคชันด้านสาธารณสุข เปน็ แอปพลเิ คชนั ทพ่ี ัฒนาขึ้นมา เพ่ือชว่ ยดูแลและจัดการดา้ นตา่ ง ๆ เก่ียวกับสุขภาพทง้ั เรือ่ งการ รบั ประทานอาหาร การออกกาลงั กาย การป้องกนั และรกั ษาโรค ๔. อธิบายลักษณะของแอปพลิเคชนั ดา้ นความบันเทงิ เป็นแอปพลเิ คชันที่พัฒนาข้นึ มา เพอื่ สร้างความบันเทงิ ผอ่ นคลายความเครียดของผใู้ ชง้ านในหลากหลาย รปู แบบ ไมว่ ่าจะเป็นแอปพลเิ คชันเกม แอปพลิเคชันดูภาพยนต์หรอื ฟงั เพลง ๒. ใหน้ ักเรียนยกตวั อย่างแอปพลเิ คชันหรือโปรแกรมประยุกตท์ ี่น่าสนใจอยา่ งน้อย ๕ โปรแกรม พรอ้ มทั้ง บอกประโยชน์ของแอปพลเิ คชนั ดังกล่าว ๑) Microsoft Word ใช้พมิ พ์งาน จัดทาเอกสาร รายงาน ๒) Google Chrome ใช้คน้ หาขอ้ มูลบนเวบ็ ไซต์ ๓) Photoshop ใช้ปรบั แตง่ รูปภาพ ๔) Netflix ใชด้ ภู าพยนตร์ ซีรีย์ หรอื รายการโทรทัศน์เพ่ือความบันเทิง ๕) Line ใชพ้ ดู คยุ ติดต่อส่อื สาร ๓. ใหน้ กั เรียนเขยี นขนั้ ตอนการพัฒนาแอปพลเิ คชนั ๑) กาหนดปัญหา ๖) ทดสอบแอปพลิเคชนั ๒) ศกึ ษาความเปน็ ไปได้ ๗) จัดทาเอกสาร ๓) วเิ คราะหคื วามตอ้ งการแอปพลิเคชัน ๔) ออกแบบแอปพลิเคชนั ๕) พฒั นาแอปพลเิ คชนั เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๔๓

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ บรู ณาการแอปพลเิ คชัน แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๒ ซอฟตแ์ วรท์ ใ่ี ช้ในการพฒั นาแอปพลิเคชนั ๔. ให้นักเรียนออกแบบการพฒั นาโปรแกรมหรอื แอปพลิเคชนั ททีน่ กั เรียนสนใจด้วยภาษาไพทอน จากน้ัน เขยี นรายละเอียดการทางานตามขน้ั ตอนการพฒั าแอปพลิเคชนั ๑. ขั้นกาหนดปญั หา ตปู้ ลาทซ่ี ือ้ มามีจอแสดงผลอุณหภมู ขิ องตู้ ซึ่งแสดงเปน็ องศาฟาเรนไฮต์ทาให้ไม่ สะดวกตอ่ การดู เนือ่ งจากอุณหภูมิทใ่ี ช้ในชีวิตประจาวันเป็นองศาเซลเซยี ส ๒. ข้ันศกึ ษาความเป็นไปได้ ปัญหาเร่อื งการแปลงค่าอณุ ภูมิอาจเขยี นแอปพลิเคชันขน้ึ มาใชง้ าน ด้าน ต้นทนุ มีเพยี งคอมพิวเตอร์สาหรับการเขยี นโปรแกรม ๓. ขน้ั วิเคราะห์ความตอ้ งการแอปพลเิ คชนั ตอ้ งการค่าอุณหภูมิเพอ่ื นาไปแปลงค่าโดยการปอ้ นขอ้ มูลทาง แปน้ พิมพ์ ๔. ขน้ั ออกแบบแอปพลิเคชัน ผู้ใชป้ ้อนขอ้ มูลทางแปน้ พมิ พ์ โปรแกรมนาขอ้ มลู ไปประมวลผล โปรแกรมแสดงผล ๕. ขนั้ พัฒนาแอปพลิเคชนั ............................................................................................................... ๑) รหัสคาส่งั Print(‘Welcome to temp Program’) Temp = float(input(‘Enter temperature in fahrenheit : ’)) Tempcelsius = (temp-๓๒)/๑.๘ Print(‘Calculated in celsius = %f ‘ % tempcelsius) Prient(‘\\nThank you’) ๒) ทดสอบแลว้ ไมม่ ขี ้อผิดพลาด ๖. ขั้นทดสอบแอปพลิเคชนั ........................................................................................................................ ๑) ทดสอบใสค่ ่าตามทีก่ าหนด แล้วตรวจสอบผลลัพธ์ของโปรแกรม ๒) ทดสอบจากผใู้ ชง้ านจรงิ โดยให้เพอื่ น ๒๐ คน ทดสอบโปรแกรมพบวา่ ทางานปกติ ๗. ขน้ั จดั ทาเอกสาร จัดทาคมู่ อื การใชง้ านแอปพลิเคชนั อาจแทรกไปในแอปพลิเคชนั โดยการสร้างเมนู Help เพอื่ บอกวธิ ีการคานวณของโปรแกรมและการใชงานโปรแกรม เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๔๔


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook