Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore PDF_merged กลยุทธ์ ผส.

PDF_merged กลยุทธ์ ผส.

Published by Takkey Chaiyasing, 2020-10-19 08:06:00

Description: PDF_merged กลยุทธ์ ผส.

Search

Read the Text Version

Strategies for Elderly Network Strengthen of Ministry of Social Development and Human Security. งท่ี 16 การจากหน่วยงาน/องค์กรเครือขา่ ยด้านผู้สงู อายุ สขุ ภาพ สขุ ภาพจิต ทักษะ จิตอาสา ประเพณี เพม่ิ พนู รวม กาย อาชีพ วฒั นธรรม ความรู้ 56.1 3.5 2.6 4.1 0.8 1.3 1.1 30.5 1.1 7.4 2.2 0.5 2.8 0.9 1.4 0.5 2.8 0.3 1.5 0.4 0.0 0.4 0.3 0.3 0.1 1.7 0.2 100.0 0.3 0.3 0.1 0.3 0.1 3.4 0.2 0.2 0.1 0.1 0.2 0.1 0.2 0.1 0.2 0.3 6.8 3.8 7.5 2.7 3.5 ริการจากหนว่ ยงาน/องค์กรเครือขา่ ยด้านผู้สงู อายุ องการบริการจากหน่วยงาน/องค์กรเครือข่ายด้านผู้สูงอายุ มีความสัมพันธ์ านการรักษาพยาบาลมากกว่าบริการอ่ืนๆ โดยผู้สูงอายุนับถือศ าสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ต้องการบริการ ร้อยละ 2. 1 ส่วนผู้สูงอายุนับถือศาสนาคริสต์ หนา้ 188

ตาราง ความสัมพนั ธ์ระหว่างการนบั ถอื ศาสนากับความตอ้ งกา การนบั ถือศาสนา ท่อี ยู่ อาหาร รกั ษา เสอื้ ผา้ และ พุทธ อาศัย พยาบาล เครอ่ื งนุง่ ห่ม 11.0 9.8 45.3 3.9 อิสลาม 0.2 0.0 2.1 0.0 คริสต์ 0.0 0.0 0.1 0.0 รวม 10.0 11.0 47.5 3.9 2 =285.82135 D.F.= 18 Sig.< .001 (5) ความสัมพันธ์ระหว่างการเป็นสมาชกิ ชมรมกับความต้องกา การ ทด ส อบ คว ามสั มพั น ธ์ ร ะ ห ว่ างการ เ ป็ น ส มาชิ ก ช มร มผู้ สู งอ มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ 0.001 ผู้สูงอายุมีความต้องก สมาชิกชมรมผู้สูงอายุ ต้องการบริการด้านการรักษาพยาบาล ร้อยละ 6.0 ส่ว ร้อยละ 41.5 (ตารางท่ี 18) Technical and Promotion Support Office Region 1-12

Strategies for Elderly Network Strengthen of Ministry of Social Development and Human Security. งที่ 17 ารบรกิ ารจากหนว่ ยงาน/องค์กรเครอื ข่ายด้านผู้สงู อายุ สุขภาพ สุขภาพจติ ทักษะ จติ อาสา ประเพณี เพ่มิ พูน รวม กาย อาชพี วฒั นธรรม ความรู้ 95.1 6.2 3.6 7.3 2.4 2.5 3.1 4.5 0.3 0.4 0.4 0.1 0.1 0.2 1.0 0.0 100.0 3.4 0.2 0.1 0.0 0.0 0.0 6.8 3.8 7.5 2.7 3.5 ารบรกิ ารจากหน่วยงาน/องคก์ รเครือข่ายดา้ นผูส้ งู อายุ อายุกับความต้องการบริการจากหน่วยงาน/องค์กรเครือข่ายด้านผู้สูงอายุ การบริการด้านการรักษาพยาบาลมากกว่าบริการอ่ืนๆ โดยผู้สูงอายุท่ีไม่เป็น วนผู้สูงอายุเป็นสมาชิกชมรมผู้สูงอายุ ต้องการบริการด้านการรั กษาพยาบาล หนา้ 189

ตาราง ความสัมพนั ธ์ระหว่างการเป็นสมาชกิ ชมรมผู้สูงอายุ กบั ความ ข้อมลู ทัว่ ไป ที่อยู่ อาหาร รกั ษา เส้อื ผา้ และ ไม่เป็นสมาชิกชมรมผู้สงู อายุ อาศัย พยาบาล เครือ่ งน่งุ หม่ 0.8 3.6 6.0 0.9 เปน็ สมาชิกชมรมผสู้ ูงอายุ 9.2 7.4 41.5 3.1 รวม 10.0 11.0 47.5 3.9 2 = 188.37331 D.F.= 9 Sig.< .001 (6) ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งการเปน็ สมาชิกชมรมฌาปนกิจสงเคร การทดสอบความสมั พนั ธ์ระหว่างการเปน็ สมาชิกชมรมฌาปนกิจส มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ 0.001 ผู้สูงอายุมีความต้อง สมาชิกชมรมฌาปนกิจสงเคราะห์ต้องการบริการด้านการรักษาพยาบาล ร ต้องการบริการดา้ นการรกั ษาพยาบาล ร้อยละ 23.2 (ตารางท่ี 19) Technical and Promotion Support Office Region 1-12

Strategies for Elderly Network Strengthen of Ministry of Social Development and Human Security. งท่ี 18 มต้องการบริการจากหน่วยงาน/องค์กรเครือข่ายดา้ นผูส้ งู อายุ สุขภาพ สขุ ภาพจติ ทักษะ จิตอาสา ประเพณี เพ่ิมพูน รวม กาย อาชีพ วฒั นธรรม ความรู้ 14.5 0.6 1.0 0.7 0.4 0.2 0.2 85.5 100.0 9.3 2.7 6.7 2.2 3.3 3.2 6.8 3.8 7.5 2.7 3.5 3.4 ราะห์ กบั ความต้องการบรกิ ารจากหน่วยงาน/องค์กรเครือขา่ ยด้านผสู้ ูงอายุ สงเคราะห์กับความต้องการบริการจากหน่วยงาน/องค์กรเครือข่ายด้านผู้สูงอายุ งการบริการด้านการรักษาพยาบาลมากกว่าบริการอ่ืนๆ โดยผู้สูงอายุที่ไม่เป็น ร้อยละ 24.5 ใกล้เคียงกับผู้สูงอายุที่เป็นสมาชิกชมรมฌาปน กิจสงเคราะห์ หนา้ 190

ตาราง ความสัมพนั ธร์ ะหว่างการเปน็ สมาชิกชมรมฌาปนกจิ สงเคราะห์ กับ ขอ้ มูลทั่วไป ทอี่ ยู่ อาหาร รักษา เสอื้ ผ้าและ ไมเ่ ป็นสมาชกิ ชมรมฌาปนกิจ อาศัย พยาบาล เครื่องนงุ่ หม่ 4.0 4.6 24.2 1.4 สงเคราะห์ เปน็ สมาชกิ ชมรมฌาปนกิจ 6.0 6.4 23.2 2.6 สงเคราะห์ รวม 10.0 11.0 47.5 3.9 2 =60.51891 D.F. = 9 Sig.< .001 (7) ความสัมพันธ์ระหวา่ งการเป็นสมาชกิ กองทนุ ในชุมชน กบั ค การทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างการเป็นสมาชิกกองทุนในชุม มคี วามสัมพนั ธ์อยา่ งมนี ยั สําคญั ทางสถิติทร่ี ะดบั 0.001 ผู้สงู อายุมีความต้องการบ กองทุนในชุมชนต้องการบริการด้านการรักษาพยาบาล ร้อยละ 34.6 ส่วนผ ร้อยละ 12.8 (ตารางท่ี 20 ) Technical and Promotion Support Office Region 1-12

Strategies for Elderly Network Strengthen of Ministry of Social Development and Human Security. งท่ี 19 บความตอ้ งการบริการจากหน่วยงาน/องค์กรเครือข่ายดา้ นผสู้ งู อายุ สุขภาพ สขุ ภาพจติ ทักษะ จิตอาสา ประเพณี เพิ่มพูน รวม กาย อาชพี วฒั นธรรม ความรู้ 47.8 3.3 2.1 2.9 1.6 2.0 1.7 3.5 1.6 4.6 1.0 1.5 1.7 25.2 6.8 3.8 7.5 2.7 3.5 3.4 100.0 ความต้องการบรกิ ารจากหนว่ ยงาน/องค์กรเครอื ขา่ ยดา้ นผสู้ ูงอายุ มชนกับความต้องการบริการจากหน่วยงาน/องค์กรเครือข่ายด้านผู้สูงอายุ บริการด้านการรกั ษาพยาบาลมากกว่าบริการอื่นๆ โดยผู้สูงอายุที่ไม่เป็นสมาชิก ผู้สูงอายุที่เป็นสมาชิกกองทุนในชุมชนต้องการบริการด้านการรักษาพยา บาล หนา้ 191

ตาราง ความสมั พันธ์ระหวา่ งการเป็นสมาชิกกองทุนในชมุ ชน กับควา ข้อมลู ทั่วไป ทอ่ี ยู่ อาหาร รักษา เสือ้ ผา้ และ ไมเ่ ปน็ สมาชกิ กองทนุ ในชมุ ชน อาศัย พยาบาล เครื่องนุ่งห่ม 6.6 6.0 34.6 3.2 เปน็ สมาชิกกองทุนในชุมชน 3.4 5.0 12.8 0.7 รวม 10.0 11.0 47.5 3.9 2 =89.29460 D.F.= 9 Sig.< .001 (8) ความสัมพนั ธ์ระหว่างการเป็นสมาชกิ ชมรมอืน่ ๆ กับความต การทดสอบความสมั พันธ์ระหวา่ งการเป็นสมาชิกชมรมอนื่ ๆ กบั คว อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001 ผู้สูงอายุมีความต้องการบริการด้านก ต้องการบริการด้านการรักษาพยาบาล รอ้ ยละ 46.4 ส่วนผสู้ งู อายุเปน็ สมาชิกชม ตาราง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งการเป็นสมาชกิ ชมรมอืน่ ๆ กบั ความต Technical and Promotion Support Office Region 1-12

Strategies for Elderly Network Strengthen of Ministry of Social Development and Human Security. งที่ 20 ามตอ้ งการบริการจากหนว่ ยงาน/องคก์ รเครือข่ายด้านผสู้ งู อายุ สขุ ภาพ สขุ ภาพจิต ทกั ษะ จิตอาสา ประเพณี เพิม่ พูน รวม กาย อาชพี วัฒนธรรม ความรู้ 70.0 4.9 2.5 4.8 2.1 2.4 2.8 30.0 100.0 1.9 1.3 2.7 0.6 1.1 0.6 6.8 3.8 7.5 2.7 3.5 3.4 ต้องการบรกิ ารจากหน่วยงาน/องค์กรเครอื ข่ายดา้ นผู้สงู อายุ วามต้องการบริการจากหน่วยงาน/องค์กรเครือข่ายด้านผู้สูงอายุมีความสัมพันธ์ การรักษาพยาบาลมากกว่าบริการอื่นๆ โดยผู้สูงอายุท่ีไม่เป็นสมาชิกชมรมอ่ืนๆ มรมอื่นๆ ตอ้ งการบรกิ ารดา้ นการรกั ษาพยาบาล ร้อยละ 1.1 (ตารางที่ 21) งที่ 21 ต้องการบริการจากหนว่ ยงาน/องค์กรเครือข่ายด้านผู้สงู อายุ หนา้ 192

ข้อมลู ทว่ั ไป ที่อยู่ อาหาร รักษา เสือ้ ผ้าและ ไม่เป็นสมาชิกชมรมอนื่ ๆ อาศยั พยาบาล เครือ่ งนุ่งหม่ 9.6 10.8 46.4 3.8 .2 1.1 .1 เป็นสมาชกิ ชมรมอืน่ ๆ .4 11.0 47.5 3.9 รวม 10.0 2 =43.83613 D.F.= 9 Sig.< .001 (9) ความสัมพันธร์ ะหวา่ งผู้ท่เี คยใช้บรกิ ารและไมเ่ คยใช้บรกิ ารก การทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างผู้ท่ีเคยใช้บริการและไม่เคยใช มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001 ผู้สูงอายุมีความต้องก ใช้บริการ ต้องการบริการด้านการรักษาพยาบาล ร้อยละ 4.7 ส่วนผู้สูง (ตารางท่ี 22 ) ตาราง ความสมั พันธ์ระหวา่ งผู้ทีเ่ คยใช้บริการและไมเ่ คยใช้บริการกับคว ขอ้ มลู ท่วั ไป ทอี่ ยู่ อาหาร รกั ษา เส้อื ผา้ และ ไมเ่ คยใช้บริการ อาศัย พยาบาล เครอื่ งนงุ่ หม่ 1.0 0.7 4.7 0.8 เคยใชบ้ ริการ 9.0 10.3 42.8 3.2 รวม 10.0 11.0 47.5 3.9 2 =102.24659 D.F. = 9 Sig.< .001 Technical and Promotion Support Office Region 1-12

Strategies for Elderly Network Strengthen of Ministry of Social Development and Human Security. สุขภาพ สขุ ภาพจติ ทกั ษะ จิตอาสา ประเพณี เพ่ิมพนู รวม กาย อาชพี วัฒนธรรม ความรู้ 96.5 6.5 3.4 7.1 2.4 3.2 3.3 3.5 .3 .3 .4 .3 .3 .1 100.0 6.8 3.8 7.5 2.7 3.5 3.4 กับความต้องการบรกิ ารจากหน่วยงาน/องคก์ รเครือขา่ ยดา้ นผสู้ ูงอายุ ช้บริการกับความต้องการบริการจากหน่วยงาน/องค์กรเครือข่ายด้านผู้สูงอายุ การบริการด้านการรักษาพยาบาลมากกว่าบริการอ่ืนๆ โดยผู้ สูงอายุท่ีไม่เคย งอายุเคยใช้บริการต้องการบริการด้านการรักษาพยาบาล ร้อยละ 42.8 งท่ี 22 วามตอ้ งการบริการจากหน่วยงาน/องค์กรเครือขา่ ยดา้ นผู้สงู อายุ สุขภาพ สขุ ภาพจติ ทักษะ จิตอาสา ประเพณี เพิ่มพนู รวม กาย อาชพี วัฒนธรรม ความรู้ 9.8 0.5 1.1 0.4 0.3 0.2 0.3 90.2 100.0 6.4 2.6 7.0 2.4 3.3 3.1 6.8 3.8 7.5 2.7 3.5 3.4 หนา้ 193

Technical and Promotion Support Office Region 1-12

Strategies for Elderly Network Strengthen of Ministry of Social Development and Human Security. หนา้ 194

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. กล่าวโดยสรุป ผู้สูงอายุมีความต้องการบริการจากหน่วยงาน องค์กร ชมรมท่ีจัดบริการมากท่ีสุด ในแต่ละประเด็นได้แก่ บริการด้านท่ีอยู่อาศัย ร้อยละ 32.1 ต้องการให้สร้าง /ปรับปรุงบ้าน /ซ่อมแซมบ้าน ของผู้สูงอายุ, บริการด้านอาหาร ร้อยละ 24.5 ต้องการให้แจกถุงยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุท่ียากไร้, บริการด้าน การรกั ษาพยาบาล ร้อยละ 21.5 ต้องการบริการตรวจสุขภาพ, บริการด้านเส้ือผ้าและเครื่องนุ่งห่ม ร้อยละ 56.2 ต้องการให้มีการแจกเสื้อผ้า ผ้าห่ม เสื้อกันหนาว, บริการด้านสุขภาพกาย ร้อยละ 16.9 ต้องการให้จัดบริการ ให้คาปรึกษาทั่วไปแก่ผู้สูงอายุ, บริการด้านสุขภาพจิต ร้อยละ 29.9 ต้องการให้มีการมอบของขวัญในวันสาคัญ เพื่อเป็นขวัญกาลังใจ, บริการเก่ียวกับทักษะอาชีพและเสริมรายได้ ร้อยละ 29.0 ต้องการให้จัดหาอาชีพ ที่เหมาะสมแก่ผู้สูงอายุ, บริการเกี่ยวกับจิตอาสาและอาสาสมัคร ร้อยละ 29.5 ต้องการให้มีบริการเย่ียมบ้าน ผู้สูงอายุ, บริการด้านประเพณี วัฒนธรรม ศาสนาและภูมิปัญญา ร้อยละ 29.1 ต้องการให้มีการจัดรถ รับ-ส่ง ผู้สูงอายุในการเดินทางไปร่วมกิจกรรม, บริการด้านการเพิ่มพูนและแสวงหาความรู้ ร้อยละ 43.6 ต้องการให้มี โรงเรียนผู้สูงอายุ, ความคิดเห็นต่อสถานที่ที่ควรจัดบริการ ร้อยละ 72.1เห็นว่าควรจัดบริการในชุมชนและ รปู แบบคา่ ใช้จา่ ยในการรบั บริการทเี่ หมาะสม รอ้ ยละ 90.1 เหน็ วา่ ควรจัดบริการแบบให้บริการฟรี ส่วนการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลส่วนบุคคลกับความต้องการบริการจากหน่วยงาน/องค์กร เครือขา่ ยดา้ นผู้สงู อายุ พบวา่ เพศ อายุ รายได้ การนับถือศาสนา การเป็นสมาชิกชมรมผู้สูงอายุ การเป็นสมาชิก ชมรมฌาปนกจิ สงเคราะห์ การเปน็ สมาชกิ กองทนุ ในชมุ ชน การเป็นสมาชกิ ชมรมอ่นื ๆ และผู้ท่ีเคยใช้บริการและ ไม่เคยใช้บริการกับความต้องการบริการจากหน่วยงาน/องค์กรเครือข่ายด้านผู้สูงอายุ มีความสัมพันธ์ อย่างมนี ยั สาคัญทางสถติ ทิ ่รี ะดบั 0.001 Technical and Promotion Support Office Region 1-12

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. ตอนท่ี 3 ความคิดเหน็ / ข้อเสนอแนะของเครือข่ายผสู้ ูงอายุต่อการสรา้ งความเขม้ แข็ง จากการสนทนากลมุ่ องคก์ รเครอื ข่าย ไดแ้ สดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาศักยภาพ เพ่ือให้เกิดความเข้มแข็งของเครือข่ายผู้สูงอายุ กระบวนการบริหารจัดการท่ีมีประสิทธิภาพ การเช่ือมโยงและ การบรู ณาการการทาํ งานร่วมกันของเครือขา่ ย ผลการศกึ ษาพบขอ้ มูลทส่ี าํ คญั ดงั น้ี 3.1 การพัฒนาศกั ยภาพเพือ่ ใหเ้ กิดความเข้มแขง็ ของเครือข่ายผู้สูงอายุ 1. เปดิ รบั ฟังและแลกเปล่ยี นเรียนรู้ความคิดเห็นระหว่างองค์กรเครือข่ายต่างๆ ร่วมกัน โดยวิธีการต่างๆ ดงั น้ี (1) การเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างองค์กรต่างๆ เพ่ือจะให้รับทราบวัตถุประสงค์ของแต่ละองค์กร มีระเบียบ มีข้อปฏิบัติต่างๆ เพื่อสร้างความเข้าใจซ่ึงกันและกัน อันจะก่อให้เกิดการทํางานร่วมกันได้อย่างมี ประสิทธิภาพ (2) การส่งเสริมและสนับสนุนให้สมาชิกในองค์กรแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน โดยการสอบถาม ความคิดเห็นและความต้องการจากผู้สูงอายุหรือตัวแทน เพื่อให้สมาชิกมีโอกาสในการแสดงความคิดเห็นร่วมกัน ผ่านกิจกรรมในโอกาสต่างๆ นําข้อเสนอแนะและบทสรุปต่างๆ มาใช้เป็นแนวทางในการดําเนินการกิจกรรมต่อไป เชน่ การจัดเวทีประชาคม เป็นกระบวนการใช้เวทีในการทําประชาคมท้องถ่ิน ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมให้สมาชิกองค์กร ได้พูดคุยแลกเปล่ียนความคิดเห็นร่วมกันโดยเฉพาะในกลุ่มองค์กรเครือข่ายภาครัฐ ปัจจุบันมีการจัดประชุมเวที ประชาคมเป็นประจําในทุกหมู่บ้านจนสามารถนํามาปรับใช้เป็นแผนตําบล ก่อให้เกิดผู้ผลักดันและพัฒนา แตห่ มบู่ า้ นเปน็ ผู้รเิ ร่มิ ในการคิด นอกจากน้ี ยังมีการส่งเสริมและสนับสนุนให้สมาชิกในองค์กรมีการพูดคุยและแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นร่วมกัน โดยจากกระบวนการบริหารงานขององค์กร มีการแบ่งเป็นฝุายต่างๆ เพื่อให้มีการบริหารงาน มีการพูดคุยเกี่ยวกับกิจกรรมที่เหมาะสมกับฝุายของตนเอง บางเครือข่ายมีการซักซ้อมการดําเนินกิจกรรมให้กับ สมาชิกในองค์กรดูก่อนเพื่อให้เกิดความถูกต้อง และเพ่ือให้สมาชิกได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นถึงส่ิงท่ีได้ทํา ว่าเหมาะสมหรือไม่ การประชุม พูดคุย แลกเปลี่ยน แสดงความคิดเห็นและนํามาปรับใช้ผ่านกิจกรรม โดยผูน้ ําชุมชนมาประชุมรว่ มกัน เสนอข้อคดิ เหน็ และหาแนวทางการทํางานกิจกรรมตามประเพณีของชุมชน (3) ในการดําเนินกิจกรรมหรือโครงการแต่ละครั้ง ควรจะมีการประชุมทีมงานท้ังภายในองค์กร และภาคีเครือข่าย เพื่อให้การดําเนินงานประสบความสําเร็จตามเปูาหมายและถูกต้องตามอํานาจหน้าที่ขององค์กร ท่ีสําคัญคอื ใหม้ คี วามเข้าใจในการดาํ เนนิ งานร่วมกนั Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 196

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. 2. การสร้างการมีส่วนรว่ มระหว่างองคก์ รและสมาชกิ เครอื ขา่ ย โดยเปิดรับฟังและแลกเปล่ียนเรียนรู้ความคิดเห็นร่วมกัน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ พบปะพูดคุยกัน ทําให้ได้รบั ความรู้ตา่ งๆ คณะทาํ งานทกุ คนสามารถใหค้ วามคิดเห็นกับกิจกรรมโครงการได้ และมีการปรับให้เหมาะสม กับบริบทของพ้ืนที่ เปิดรับฟังและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ความคิดเห็นร่วมกัน มีการพูดคุยกันเอง มีกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือกัน เช่น เพื่อนช่วยเพ่ือน การเดินทางเพ่ือมาเข้าร่วมกิจกรรมของชมรมด้วยกันของสมาชิก เพอื่ ความเขม้ แข็ง ความรกั ความสามคั คี และความเทา่ เทยี มกัน การดําเนินงานให้ทุกภาคส่วนมีความเสมอภาคในการทํางานร่วมกัน มีสิทธิในการเสนอความคิดเห็น ในส่งิ ท่ตี นตอ้ งการ ต้องทํา และใหท้ ุกคนเปน็ ส่วนหนึ่งในการเผยแพรค่ วามรู้ใหก้ บั สมาชิกในพ้ืนท่ี การดําเนินงานขององค์กร สมาชิกทุกคนมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นในสิ่งที่ต้องการได้ ซึ่งองค์กรจะพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการดําเนินงาน พร้อมทั้งวางแผนการทํางาน ประชุมร่วมกันกับเครือข่าย ที่มาทํากิจกรรมในพ้ืนท่ี ว่าเขาจะนําสิ่งใดมาสนับสนุนองค์กร มีการเสนอปัญหาในที่ประชุมและแก้ไขปัญหาร่วมกัน เช่น อาสาสมคั รผดู้ แู ลผู้สงู อายุเยีย่ มเยอื น (อสย.) โดยครู จดั เด็กเยาวชนมาร่วมจดบันทกึ สุขภาพในสมุดบนั ทึกผู้สูงอายุ โดยเป็นความต้องการของครูและคนในชุมชน ให้เด็กฝึกมีจิตใจเอื้ออาทรต่อผู้สูงอายุ ฝึกปรับพฤติกรรมของเด็ก จากเลน่ เกมสม์ าดูและคนในหมู่บา้ น นอกจากนั้น เครือข่ายภาครัฐบางแห่งมีการประชุมหัวหน้าส่วนของ เทศบาล/อบต. ทุกเดือน และนําปัญหาต่างๆ ที่พบในพ้ืนที่หรือปัญหาจากการปฏิบัติงานมาวิเคราะห์ร่วมกันเพ่ือให้เกิดการแก้ไขปัญหา จากทุกฝุาย ผู้บริหารให้ความสําคัญกับประชาชนในพ้ืนที่อย่างเท่าเทียมกัน ให้สิทธิทุกคนในการเสนอความคิดเห็น และให้ความสําคัญท้ังเสียงส่วนมากและเสียงส่วนน้อย และนําข้อเสนอแนะมาปรับปรุงกระบวนการทํางานต่อไป มีการสรุปงานเพ่ือให้ผู้ที่เก่ียวข้องรับทราบข้อมูลร่วมกัน การดําเนินงานขององค์กรสนับสนุนให้สมาชิกใหม่เข้ามา ร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง และมีการเรียนรู้งานร่วมกันระหว่างทีมงาน เมื่อเข้าร่วมกิจกรรมแต่ละครั้งมีการสรุปงาน เพ่ือใหผ้ ทู้ ่ีเก่ียวข้องรับทราบข้อมูลรว่ มกันทาํ ให้สามารถตอบข้อมลู แทนกนั ได้ ตวั อย่าง การส่งเสริมการมีสว่ นร่วม เช่น การจดั ต้งั ศนู ย์สงเคราะห์ผ้สู งู อายุในพ้ืนท่ี ใช้หลักการมีส่วนร่วม โดยการจัดทําเวทีประชาคมในระดับหมู่บ้านและระดับตําบล เพื่อสร้างให้ประชาชนในชุมชนมีส่วนร่วม ในการคิดเชิงวิเคราะห์ปัญหาของชุมชนร่วมกันกําหนดแนวทางและแผนการดําเนินการแก้ไขปัญหา ร่วมลงมือปฏิบัติ จนเกิดพันธะสัญญา “ร่วมคิด ร่วมทํา ร่วมพลังสามัคคี” ท้ังนี้เพ่ือให้เกิดการเรียนรู้และตระหนักในกระบวนการ แก้ไขปัญหาต่างๆ ของชุมชนเอง โดยมีจุดหมายเพื่อสร้างจิตสํานึกและพัฒนาศักยภาพของคนในชุมชนให้เกิด การแกไ้ ขปญั หาและพัฒนาบริการต่างๆ โดยชุมชน รวมทง้ั เพอื่ ระดมความรว่ มมือในลักษณะการประสานความร่วมมือ ระหว่างองค์กรภายนอกชุมชนและบุคลากรภายในชุมชน และกรณีตัวอย่างขององค์การบริหารส่วนตําบลพลูตาหลวง มีโครงการสัญจรประชาคมหมู่บ้าน ซ่ึงผู้สูงอายุเป็นผู้ดําเนินการหลัก เพราะคนส่วนใหญ่ที่เป็นคนทํางานจะกลับมา Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 197

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. จากการทํางานไม่ทันเวลาการประชุม องค์การบริหารส่วนตําบลเข้ามาดูแลเรื่องกระบวนการประชาคม การให้ความคดิ เหน็ และลงมติในเร่ืองต่างๆ ตามแผนยุทธศาสตร์ของชมรมผสู้ ูงอายุ 3. สง่ เสริมใหเ้ กิดการพบปะ การประชมุ การทํากจิ กรรมรว่ มกันของเครือขา่ ย การส่งเสริมให้เกิดการพบปะ การประชุม การทํากิจกรรมร่วมกันของเครือข่ายด้านผู้สูงอายุน้ัน พบว่า มี 2 ลกั ษณะใหญ่ๆ คอื 1.) กําหนดการนัดประชุมท่ีแน่นอน มีท้ังแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ กําหนดการประชุม ส่วนใหญ่มีการพบปะ 1 - 2 ครั้งต่อเดือน หรือมากกว่า เช่น ประชุมทุก 3 เดือน ประชุมรายปี รูปแบบมีทั้ง แบบเป็นทางการซ่ึงส่วนใหญ่เป็นเครือข่ายองค์กรภาครัฐ คือ มีการกําหนดประชุมประจําเดือน หนังสือเชิญประชุม หรือแจ้งตามเสียงตามสาย มีวาระการประชุม จดบันทึกและสรุปผลการประชุม และนําข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ มาปรับใช้ ส่วนแบบไม่เป็นทางการเป็นการรวมตัวเพ่ือพบปะสังสรรค์และสร้างเครือข่ายระหว่างกัน เพ่ือทํากิจกรรม รายเดือน เช่น การวางแผนให้ผู้สูงอายุแต่ละรุ่นมีการพบปะกันทุกๆ เดือน เพ่ือจัดกิจกรรมอวยพรวันเกิดสําหรับ ผทู้ ่เี กดิ เดือนนน้ั ๆ 2.) การประชุมเม่ือมีการจัดกิจกรรม ช่วงเวลาที่มีการจัดกิจกรรมจะมีการประชุมร่วมกัน เช่น กิจกรรมวันสําคัญทางประเพณี ศาสนา กิจกรรมของโรงเรียนผู้สูงอายุ เช่น กิจกรรมรับน้อง วันเข้าค่าย เมื่อสําเร็จการศึกษา การศึกษาดูงานท่ีบ้านของสมาชิก ทางองค์กรได้มีการส่งเสริมให้เครือข่ายได้เข้ามามีส่วนร่วม ในการทํากิจกรรม ตั้งแต่การร่วมกันวิเคราะห์ปัญหา การดําเนินการแก้ไขปัญหา การทํากิจกรรมร่วมกัน โดยการทํางานจะทํางานเป็นทมี สหวิชาชีพ มีการประชุมรว่ มกันทกุ ครั้งกอ่ นการดําเนินกิจกรรม จึงทําให้ภาคีเครือข่าย มีความค้นุ เคยกัน ทาํ งานรว่ มกันแบบพ่ึงพาอาศยั ซง่ึ กันและกนั 4. การจดั บริการใหส้ อดคล้องกบั ความต้องการของผู้สูงอายุ การดําเนินงานขององค์กรมีการปรับปรุงให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการ ของผสู้ ูงอายโุ ดย 1.) กิจกรรมที่เกิดจากความต้องการและเป็นที่เหมาะสมตามความสนใจของสมาชิก เช่น การสังเกตและสอบถามผู้สูงอายุ เมื่อมีอาสาสมัครค่อนข้างวัยรุ่นมานํากิจกรรมการเต้นแอโรบิค และได้กําชับเขาว่า อย่าใช้ท่าหักโหม รวดเร็ว เพราะจะทําให้ผู้สูงอายุเกิดการบาดเจ็บได้ง่าย และหากตามไม่ทันก็จะเบ่ือ แต่ก็ไม่ได้เต้น แอร์โรบิคทุกวันนาน ๆ ครั้ง ซ่ึงผู้สูงอายุก็ตอบรับมาว่าชอบ ผู้สูงอายุท่ีมีความรู้เก่ียวกับการรําไทเก๊กก็จะมาสอน ผู้สูงอายุด้วยกันอยู่แล้ว นอกจากน้ีเรายังได้ดึงเครือข่ายต่าง ๆ เข้ามา เช่น กศน. นําอาชีวบําบัดมาให้ผู้สูงอายุได้ทํา ตอนนี้ประเทศเราเข้าส่อู าเซียนแลว้ กฝ็ ึกพดู ภาษาอังกฤษ มีการทกั ทายกนั ทกุ เชา้ 2.) การออกประชาคมเพ่ือรับทราบปัญหาในพื้นที่ และการออกเย่ียมเยียนผู้สูงอายุในพื้นที่ และในบ้านพักเพ่ือรับทราบปัญหาและความต้องการของผู้สูงอายุ เม่ือรับทราบข้อมูลแล้วทางทีมงานจะวางแผน Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 198

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. การทํางานร่วมกันเพื่อตอบโจทย์ของพื้นท่ีและตอบโจทย์ความต้องการของผู้สูงอายุ เช่น การบริการให้กับผู้ปุวย ผู้สูงอายุ ผู้พิการในพ้ืนที่ซ่ึงไม่ให้ผู้ปุวยนอนบนพ้ืน องค์กรต้องรีบประสานงานเพื่อจัดหาเตียงนอนให้ผู้ปุวยจะไม่ให้ ผู้ปุวยนอนกะพ้นื บ้านซงึ่ จะมีผลต่อการฟื้นฟู ผ้ปู ุวยทํากายภาพบําบัด 3.) การจัดทําแบบสํารวจความต้องการของสมาชิก เพ่ือจัดกิจกรรมให้เหมาะสม องค์กร มีการวางแผนการดําเนินงานกิจกรรมสําหรับผู้สูงอายุ โดยนําความคิดเห็นต่างๆ ของสมาชิกมาปรับใช้ต่อแนวทาง การทํางานให้เป็นไปตามความต้องการของสมาชิกชมรม เช่น กิจกรรมการส่งเสริมอาชีพจะใช้สมาชิกชมรมผู้สูงอายุ เป็นวิทยากรในการอบรมองค์ความรู้จากภูมิปัญญา เช่น ผลิตภัณฑ์ลูกประคบสมุนไพร นํ้าพริก เป็นต้น มีกิจกรรม นันทนาการที่เหมาะสมตามความสนใจ บางเครือข่ายระบุว่า จากการลงพื้นท่ีแต่ละครั้งจะพบว่า ผู้สูงอายุไม่ต้องการ อะไร ต้องการแค่เพื่อนคุย ทางองค์กรจึงหาวิธีการที่จะให้ผู้สูงอายุได้ทํากิจกรรมร่วมกัน ซ่ึงจะถามความสมัครใจก่อน เช่น การทํากิจกรรมร่วมกัน อย่างการออกกําลังกายจะใช้ท่าไหนออกกําลังกาย (ท่ีผู้สูงอายุสนใจ) มีการออกเย่ียม ผู้สูงอายุ เพ่ือตรวจสุขภาพ ให้กําลังใจและมีการจัดทําข้อมูลของผู้สูงอายุให้เป็นปัจจุบัน เพื่อให้การดูแลผู้สูงอายุได้ อยา่ งทั่วถงึ 4.) นําปัญหาท่ีเกิดขึ้นมาจัดทําเป็นแผน ทําเป็นกลยุทธ์ การปรับปรุงวิธีการทํางานให้มี คว า ม เ ห ม า ะ ส มแ ล ะ ส อ ด ค ล้ อ ง กับ ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ข อ ง ผู้ สู ง อ า ยุ แ ล ะ พ ย า ย า ม ทํ า ใ ห้ ผู้ สู ง อ า ยุ ไ ด้ เ ข้ า ม า มี ส่ ว น ร่ ว ม มีการนําปัญหาที่เกิดขึ้นมาจัดทําเป็นแผน ทําเป็นกลยุทธ์ เช่น สมาชิกชมรมผู้สูงอายุมีมากจะให้เดินมาเองหรือนั่งรถ มอเตอร์ไซด์รับจ้างมาร่วมกิจกรรมก็จะทําให้เกิดอันตรายไม่คุ้มค่ากับชีวิต องค์กรก็ต้องร่วมกันคิดว่าจะทําอย่างไร จะหาภาคีเครือข่ายใดมาช่วยในการทํางาน ทําให้เกิดกระบวนการคิดในการทํางาน มีการปรับเปลี่ยนวิธีการ มาร่วมกิจกรรม โดยการหารถยนต์บริการผู้สูงอายุในการรับ – ส่ง เพื่อให้มีความปลอดภัยมากย่ิงข้ึน ชมรมผู้สูงอายุ ตําบลจอมปลวก เป็นผนู้ าํ เอาความตอ้ งการของสมาชิกมาดาํ เนนิ การ มาวางแผนการทาํ กิจกรรม และหาภาคีเครือข่าย ในการทํากิจกรรมเพ่อื ตอบสนองความตอ้ งการของผู้สูงอายุ 5.) ร่วมคิด ร่วมทํา ร่วมรับประโยชน์ การทํางานร่วมกันของภาคีเครือข่ายเป็นลักษณะการทํางาน แบบทีม ทร่ี ว่ มกันวางแผนงานในทกุ ขัน้ ตอน ร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ไม่ใช่การทํางานร่วมกันแบบการสั่งการ มีความใส่ใจอยู่ในสถานการณ์ได้ทุกสถานการณ์ เช่น กิจกรรมเพื่อนช่วยเพ่ือน (การเย่ียมบ้าน เล่าสู่กันฟัง และการช่วยเหลือเครื่องอุปโภคบริโภค) การให้ความรู้แก่จิตอาสาในด้านการดูแลผู้สูงอายุ (ความสามารถในการ วิเคราะห์สถานการณ์ผู้สูงอายุและตัวเองได้) การใช้องค์ความรู้ท่ีมีในตัวผู้สูงอายุเพื่อถ่ายทอดภูมิปัญญา และการแลกเปลี่ยนดงู าน 5. การติดตามประเมินผล ฟังเสียงสะท้อน ข้อเสนอแนะจากสมาชิก และเสียงสะท้อนจากเครือข่าย ภายนอก เชน่ Help Aged มีการเชิญผู้บริหารแต่ละประเทศที่มีสํานักงานประจําเข้ามาวางแผนกลยุทธ์ในการทํางาน ในปีต่อๆไป และมีการสอบถามผลที่ได้รับจากเครือข่าย เพื่อนํามาปรับปรุงด้านการทํางาน และมีการวางแผนร่วมกัน Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 199

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. ว่าในอนาคตแต่ละเครือข่ายในแต่ละประเทศที่มีความสนใจท่ีจะทําโครงการเรื่องไหนต่อไป และนําใช้ใน การดําเนนิ งาน 3.2 กระบวนการบริหารจัดการทม่ี ีประสทิ ธิภาพ 1. ปรับปรงุ การทาํ งานขององค์กรอยู่เสมอ การพัฒนาระบบการบริหารจัดการ เน้นหลักการวางแผนการทํางานเพื่อหาข้อจํากัดวิธีการ ปรับปรุงการทํางานขององค์กรอยู่เสมอให้สอดคล้องกับบริบทของสังคมที่เปล่ียนแปลงไป และให้เหมาะสม กับกระบวนการทํางานทมี่ ีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้เกิดประโยชน์และในการบริหารงานอย่างประสิทธิผล ในองค์กรสูงสดุ 2. ให้อสิ ระทางความคิด ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมในการพัฒนาองค์กร องค์กรให้ความสําคัญ กับสมาชิกทุกคนและให้อิสระทางความคิด ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมในการพัฒนาองค์กร จะเห็นได้จากหากมีการอบรมใดท่เี ปน็ ความรู้ สามารถนาํ มาพัฒนาองค์กรของตนเองได้ ถ้าสมาชิกท่านใดต้องการท่ีจะ เขา้ ไปอบรมทางองค์กรก็ให้สิทธเิ ตม็ ที่ในการเข้ารบั การอบรม 3. ให้อิสระในการทํางานของผูป้ ฏิบัตงิ าน เนื่องจากผู้สูงอายุมีปัญหาและความต้องการท่ีหลากหลาย การทํางานเพ่ือผู้สูงอายุในพ้ืนท่ี ควรให้อิสระในการทํางานของเจ้าหน้าท่ีอย่างเต็มท่ีให้ทําตามบริบทของพื้นที่ รวมท้ังมีการส่งเสริมศักยภาพของ ผู้ปฏิบัติงาน เช่น การฝึกปฏิบัติ ดูงาน ดูการตลาด ฝึกปฏิบัติอีกคร้ัง ค้นหาคนเก่ง และวางระบบ ท้ังน้ีเครือข่าย ได้เสนอแนะว่า ภาครัฐควรมีบทบาทเป็น “พ่ีเลี้ยง” ให้แก่ท้องถ่ินในการจัดสวัสดิการสังคมให้กับผู้สูงอายุ สนบั สนนุ และพฒั นามาตรฐาน และพฒั นาการจดั บริการให้แก่หน่วยงานทง้ั ภาครฐั และเอกชน 4. การนําความคิดเห็นข้อเสนอแนะต่างๆ ของสมาชิก ไปปรับใช้เป็นแนวทางการทํางานของ องค์กร ส่ิงที่สําคัญที่สุดในการบริหารงานขององค์กร คือ การรับฟังทุกความคิดเห็นและที่สําคัญเน้นการดําเนินการ เองโดยไม่รอจากภาครัฐ ค่อยเป็นค่อยไป เช่น กิจกรรมหลักที่มุ่งเน้น 5 กิจกรรมเป็นกิจกรรมที่เกิดจากความต้องการ ของผู้สูงอายุ จากนโยบายงานศพปลอดเหล้าและได้ทําข้อตกลงกันภายในชุมชน (เกิดพลังจากประชาชน) เครือข่าย บางแห่งใช้ปัญหาเป็นตัวต้ัง (จุดแข็ง) เพื่อลดอัตราการทําร้ายตัวเองของผู้สูงอายุตัดสินโดยใช้มติเสียงส่วนใหญ่ จากการแสดงความคดิ เหน็ ของสมาชกิ ใช้ระบบเสียงสว่ นใหญ่ 5. การไปศึกษาดูงาน หลังจากการไปศึกษาดูงานหรือร่วมกิจกรรมกับเครือข่ายภายนอก ได้กลับมาสรุปส่ิงท่ีเรียนรู้ ปรับปรุงการดําเนินงาน กิจกรรมของศูนย์ฯ มีการสรุปบทเรียนร่วมกัน เพื่อนําข้อมูลมาปรับปรุงการทํางาน ในครั้งถัดไป เช่น หลังจากการที่สมาชิกชมรมผู้สูงอายุไปทัศนศึกษาดูงานวัดพระบาทน้ําพุ จั งหวัดลพบุรี Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 200

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. หรือตามท่ีต่างๆ การร่วมกิจกรรมกับเครือข่ายผู้สูงอายุภายนอก ได้กลับมาสรุปส่ิงที่เรียนรู้ต่างๆ เพื่อมาปรับปรุง การดําเนินงาน อีกทั้งเปดิ รบั ฟังเสียงสะท้อนเร่ืองต่างๆ ระหว่างภายในชมรมผู้สูงอายุและเครือข่ายของชมรมผู้สูงอายุ ท่ีเข้ามาเพ่ือศึกษาดูงานของชมรมเมื่อดําเนินกิจกรรมเสร็จเพ่ือมาปรับใช้ต่อแนวทางการทํางานของชมรมปรับปรุง การทาํ งานในคร้งั ถดั ไปใหด้ ียงิ่ ขน้ึ 6. การติดตามประเมินผล การช้ีแจงผลการดําเนินงานให้แก่เจ้าหน้าที่ การติดตามและประเมินผลเพ่ือพัฒนาเครือข่าย เข้มแข็ง ในการทํางานทุกครั้งต้องมีการประเมินผล มีข้อเสนอแนะ มีการจัดประชุมเชิญคณะทํางานมาร่วมและช้ีแจง ผลการดาํ เนินงานให้แกเ่ จ้าหน้าที่ พมจ./สสส. การประเมนิ ผลมีทกุ คร้งั นํามาปรับปรงุ และมสี ่วนร่วมจากเครือข่าย ในด้านการประเมินผล เครือข่ายองค์กรผู้สูงอายุมีการดําเนินการโดยติดตามทางด้านการพูดคุย สอบถาม การตดิ ตามการดาํ เนินงานท่ีผา่ นมา ไม่มีการตดิ ตามท่ีเป็นลายลกั ษณอ์ ักษร แตจ่ ะติดตามทาง ด้านการพูดคุย สอบถามความเป็นอยู่กันมากกว่า ซึ่งจะสังเกตได้ว่าการดําเนินงานกิจกรรมท่ีผ่านมาเป็นโยชน์กับผู้สูงอายุในพื้นที่ ผู้สงู อายุมีความสขุ มากข้ึน ออกมารว่ มกจิ กรรมกันมากขึ้น เช่นเดียวกบั เครอื ข่ายองค์กรภาครฐั ประเมินผลความสําเร็จ โดยพิจารณาจากจํานวนผู้สูงอายุและเครือข่ายมาร่วมกิจกรรมเพิ่มข้ึน เช่นบางองค์กรเครือข่ายยังไม่มีการติดตาม ประเมินผลท่ีชัดเจน แต่ก็มีการจัดทํารายงานผลการดําเนินงานเป็นประจําทุกปี ในส่วนของ อบต.ที่เห็นชัดเจน คือ ในการทํากิจกรรมแต่ละคร้ังจะมีผู้สูงอายุเข้าร่วมการดําเนินกิจกรรมทุกครั้งและมีจํานวนที่มากขึ้น ซึ่งถือว่า การดําเนินงานของ อบต.กับผู้สูงอายุนั้นประสบความสําเร็จ และมีเครือข่ายเข้ามาร่วมในการดําเนินกิจกรรมในพ้ืนที่ เปน็ จาํ นวนทเ่ี พม่ิ ขึ้นทกุ ปี ประเมินจากปัญหาและข้อเสนอแนะจากผู้สูงอายุ การฟังเสียงสะท้อนเรื่องต่างๆ ระหว่าง ภายในชมรมผู้สูงอายุ โดยเจ้าหน้าที่มีการประชุมประมวลผลร่วมกันเพื่อพิจารณาข้อเสนอแนะที่ผู้สูงอายุ เสนอนํามาพิจารณาแก้ไขปรับปรุงตามลําดับความสําคัญ เช่น เม่ือก่อนห้องน้ําอยู่ไกลมาก เม่ือมีข้อเสนอแนะมา กน็ ํามาตง้ั เรอ่ื งเปน็ โครงการขอรับสนบั สนนุ งบประมาณสรา้ งห้องนา้ํ เพื่อบรกิ ารผู้สงู อายุ ประเมินจากความพึงพอใจของผู้ร่วมกิจกรรม เช่น ในการทํากิจกรรมทุกกิจกรรม มกี ารประเมินผล ความพึงพอใจ ประเมินโดยใช้ Model ในการประเมิน เช่น ระบบติดตามประเมินผลของศูนย์ท่ีใช้ การประเมินผล PDCA แต่อาจไม่ใช้ครบทุกข้ันตอน ลักษณะของการประเมินผลเป็นโครงการแต่ละโครงการ องค์ประกอบวา่ บรรลุวัตถปุ ระสงคก์ ารหรือไม่ มันตอบภารกจิ ของกระทรวงหรอื ไม่ ประเมินจากการจัดทารายงานผลการดาเนินงาน ส่วนในด้านภาคีเครือข่าย คือ รพ.สต.จะมี การติดตามประเมินผลการดําเนินงานร่วมกันทุกปีเก่ียวกับการดําเนินงานทําให้สามารถรับทราบข้อมูลร่วมกันว่า Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 201

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. ผลการดําเนินงานกับผู้สูงอายุท่ีผ่านมาประสบความสําเร็จมากน้อยเพียงใด โดย รพ.สต.จะมีการจัดทําเกณฑ์ใน การประเมินผลความสาํ เร็จกับการดาํ เนินงานกับผสู้ งู อายทุ กุ ปี การประเมินผลโดยการถอดบทเรียน องค์กรมีระบบการติดตามประเมินผลซึ่งจากการเข้ารับ การอบรมของสมาชิกชมรมจะมีการถอดบทเรียนกันทุกครั้ง หรือกิจกรรมต่างๆ ท่ี ได้ร่วมกับเครือข่ายก็จะมี การถอดบทเรียนกันทุกครั้ง ซ่ึงจะทําให้ทราบถึงข้อบกพร่องหรือปัญหาอุปสรรค์ท่ีเกิดขึ้นจากการทํากิจกรรม และนําส่ิงต่างๆ ท่ีเป็นข้อบกพร่องหรือปัญหาที่เกิดข้ึนมาแก้ไขเพ่ือไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก ถ้าการทํางาน ทํากิจกรรม อะไรแล้วไม่มีการถอดบทเรียน องค์กรของตนก็จะไม่รู้จักตนเอง ทํางานแล้วไม่มีข้อผิดพลาดนั้นไม่มี และเวลา ถอดบทเรียนทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้เต็มท่ี โดยองค์กรมีกฎว่าอย่าโกรธกันเวลาสมาชิกทุ กท่านได้ แสดงความคิดเห็นจึงส่งผลให้ผลที่ออกมาจากการดําเนินงานร่วมกับภาคีเครือข่ายแต่ละคร้ังประสบผลสําเร็จ และเป็นทยี่ อมรับของเครอื ข่าย การประเมินผลจากหน่วยงานภายนอก เช่น การประเมินผลจากหน่วยงานภายนอก (องค์การ บรหิ ารสว่ นตาํ บล) มกี ารติดตามประเมินผลจาก พมจ. สส. ม.แม่โจ้ (วทิ ยาเขตแพร)่ 7. การสรุปบทเรียน เพื่อนํามาปรับปรุงการทํางานการพัฒนาคุณภาพ งาน เครือข่ายมีการสรุป บทเรียนในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การสรุปบทเรียนหลังการจัดกิจกรรม การสรุปบทเรียนร่วมกันหลังจากการไป ศึกษาดูงาน โดยจัดรายงานผลการดําเนินงานทุกครั้ง ว่าผลการดําเนินงานเป็นอย่างไร มีปัญหาอุปสรรคอะไรบ้าง ซึ่ง จะมีการประชุมร่วมกันทุกคร้ังเม่ือมีการดําเนินกิจกรรม ส่งผลให้กิจกรรมที่ดําเนินการสามารถตอบสนองความ ต้องการของพื้นท่ีได้เป็นอย่างดี เช่น พบว่าการผลิตดอกไม้จันทน์ ออกมาแล้วไม่มีตลาดรองรับผลิตภัณฑ์ ก็จะมีการ หาทางออกโดยการหาตลาดรองรับ โดยประสานงานในพนื้ ที่ และพน้ื ท่ีใกล้เคียง เครือข่ายบางแห่งหลังดําเนินกิจกรรม ได้ให้สมาชิกสรุปบทเรียนร่วมกัน พร้อมการประเมิน ความพึงพอใจ ในรูปแบบไม่เป็นทางการ เช่น ในช่วงรับประทานอาหารร่วมกัน หรือการต้ังวงพูดคุย ทบทวนว่ามี ปัญหาอุปสรรคอะไรบ้าง และมีข้อเสนอแนะแก้ไขปัญหาอย่างไร นําผลการสรุปบทเรียนประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนได้รู้เพื่อจะได้นํามาปรับปรุงงาน เช่น K = ให้ความรู้ A = ศรัทธา คล้อยตาม P = การปฏิบัติก็ง่าย รวมถึงการจดั ทาํ รายงานผลเพ่อื วเิ คราะหร์ ว่ มกนั ถึงผลทีไ่ ดร้ ับ และแนวทางการดําเนินงานในครั้งต่อไป 8. การถอดบทเรียน หลังการดําเนินกิจกรรมร่วมกับเครือข่ายในแต่ละครั้ง องค์กรมี การถอดบทเรียนกันทุกคร้ัง หรือกิจกรรมต่างๆ ท่ีได้ร่วมกับเครือข่าย ก็จะมีการถอดบทเรียนกันทุกคร้ัง ซึ่งจ ะทําให้ ทราบถึงข้อบกพร่อง หรือปัญหาอุปสรรค์ท่ีเกิดข้ึนจากการทํากิจกรรม และนําสิ่งต่างๆ ท่ีเป็นข้อบกพร่อง หรือปัญหาที่เกิดขึ้นมาแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก ถ้าการทํางาน ทํากิจกรรมอะไรแล้วไม่มีการถอดบทเรียน องค์กรของตนก็จะไมร่ ู้จักตนเอง ทํางานแล้วไม่มีข้อผิดพลาดนั้นไม่มี และเวลาถอดบทเรียนทุกคนสามารถแสดงความ Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 202

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. คิดเห็นได้เต็มท่ี โดยองค์กรมีกฎว่าอย่าโกรธกันเวลาสมาชิกทุกท่านได้แสดงความคิดเห็น จึงส่งผลให้ผลที่ออกมาจาก การดําเนนิ งานรว่ มกับภาคเี ครอื ขา่ ยแตล่ ะครง้ั ประสบผลสําเรจ็ และเปน็ ทย่ี อมรบั ของเครอื ขา่ ย บางเครอื ข่ายยงั มีการให้คณะกรรมการ และสมาชิกมกี ารทบทวนวา่ วันแรกตั้งแต่เข้ามาในชมรมนี้ เป็นอย่างไร ให้เปรียบเทียบต้ังแต่วันแล้วกับปัจจุบันว่าเป็นอย่างไร แต่ก่อนรู้จักคนก่ีคน และเด๋ียวนี้รู้จักคนเท่าไร เดินทางไปทางไหนก็มคี นรูจ้ ัก ได้งานสังคม สังคมยอมรับ มีคุณค่าในสังคม สุขภาพของตนเองเป็นอย่างไร มีสุขภาพที่ แข็งแรงขน้ึ หรือไม่ ซงึ่ เป็นการทบทวนในตนเอง ทาํ ใหร้ ูถ้ งึ ประโยชนท์ ไ่ี ด้รบั จากการทํากิจกรรมมากข้ึน 9. การเสริมสรา้ งคนร่นุ ใหม่เขา้ มามสี ่วนรว่ ม แนวทางในการเสริมสร้างใหค้ นรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมในกจิ กรรม โดย 1.) สอนงานกบั คนรุ่นใหม่อย่างใกล้ชิด การให้จิตอาสามาสอนงานกับคนรุ่นใหม่อย่างใกล้ชิด ซึ่ง เป็นการถ่ายทอดความรู้ ทักษะของผู้ท่ีมีประสบการณ์สู่คนรุ่นใหม่จนเกิดทักษะ มีความรู้ มีความชํานาญ เขาจึงจะ ออกปฏิบตั งิ านไดต้ ามลําพัง 2.) ชักชวนผ่านสมาชิก (ผู้สูงอายุ) การชักชวนให้เริ่ มเข้าเป็นสมาชิกชมรมผู้สูงอายุ และ อผส. ก่อน และหลังจากนั้น ก็จะพัฒนาไปสู่ขั้นอ่ืนๆ เช่น ผู้สูงอายุท่ีไม่ยอมออกจากบ้าน ติดบ้าน เริ่มต้นจากการเข้าไปถามสารทุกข์สุกดิบว่าเป็นไงบ้าง สําหรับผู้สูงอายุที่ติดเตียงก็จะดูแลต่างจ ากธรรมดา นิดหนอ่ ย การดแู ลวา่ จะเทา่ เทยี มกันหรอื ไม่ 3.) จดั กิจกรรมการแข่งขันกีฬา กิจกรรมการเชื่อมโยงสมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ได้แก่ กิจกรรม ก า ร แ ข่ ง ขั น กี ฬ า บ า น ไ ม่ รู้ โ ร ย เ ก ม ส์ ซึ่ ง จ ะ จั ด ขึ้ น ปี ล ะ 1 ค ร้ั ง เ ป็ น กิ จ ก ร ร ม ท่ี จั ด เ พ่ื อ ใ ห้ ผู้ สู ง อ า ยุ จาก 13 ชมรม ซ่งึ เป็นสมาชกิ เครือขา่ ยฯ ได้มโี อกาสมาพบปะสงั สรรค์ ทาํ กิจกรรมร่วมกัน ร้จู ักกัน รบั นอ้ งใหม่ดว้ ยกัน 4.) ทาํ กจิ กรรมกบั เครือขา่ ยของสมาชกิ (คนในครอบครัวของผู้สูงอายุ) ให้ผู้สูงอายุนํากลับไปเล่า ตอ่ ลูกหลาน และถ้าสนใจมาร่วมกิจกรรมก็จัดกิจกรรมส่งเสริมต่อ การเช่ือมโยง คนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ผ่านการทํา กิจกรรม โดยครอบครัวท่ีมาร่วมกิจกรรมกลับไปเล่าต่อลูกหลาน และถ้าสนใจมาร่วมกิจกรรมก็จะส่งเสริม เช่น สมัครเป็นนักร้อง ปั่นเพ่ือพ่อ ปั่นเพ่ือแม่ ป่ันทุกวัน (เร่ิมต้นจากป่ันลดโลกร้อน) เปิดเพลงเสียงตามสายสําหรับทุกวัย ต้ังแต่พ่อเฒ่า แม่เฒ่า ชักชวน ลูกหลานมาร่วมซึมซับ สนใจ มีสอนรํากลองยาว สอนพิธีกรรมทางศาสนา เป็นต้น บางเครือข่ายกจ็ ดั กิจกรรมโครงการครอบครวั สัมพนั ธ์ (ครอบครัวชมุ ชนตําบลวงั ใหม่) เป็นโครงการท่ีสร้างข้ึนเพื่อสร้าง ความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัว จึงมีความจําเป็นที่ต้องมีผู้สูงอายุในการเข้าร่วมกิจกรรมของโครงการเพื่อสร้าง ศูนย์ 3 วัยใหก้ บั ครอบครวั 5.) ดึง อสม. อายุ 40-50 ปีมาร่วมกิจกรรม เพื่อเรียนรู้งาน การจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ สมาชิกทุกท่านได้ทํากิจกรรมร่วมกัน และพยายามท่ีจะดึงอาสาสมัครสาธารณสุขมูลฐาน เข้ามาร่วมกิจกรรม เพ่ือ เรยี นร้งู าน เพราะเปน็ วัยทกี่ าํ ลงั ทาํ งาน อายุ 40-50 ปี ให้มาเรียนรู้งานตั้งแต่ต้น หากไม่รีบมาเรียนรู้งานจะไม่สามารถ Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 203

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. ท่จี ะรับชว่ งต่อกัน ซ่ึงอาจจะทําให้องค์กรเกิดปัญหาข้ึนได้ หรือบางเครือข่ายสร้างคนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วม โดยการ ฝกึ ผทู้ ี่จะเข้าสู่วัยสูงอายุ (อายุประมาณ 50 ปี) การถ่ายทอดการดําเนินงานจากรุ่นหน่ึงไปสู่อีกรุ่นหน่ึง คณะกรรมการ พยายามท่จี ะหาผทู้ จี่ ะมาดาํ เนนิ กจิ กรรมต่อเพื่อให้เกดิ ความตอ่ เนื่อง อย่างไรก็ตาม ยังพบปัญหาตรงท่ีว่า ผู้ที่วางตัวสืบ ทอดตําแหน่งยังไม่กลา้ แสดงออกเนอ่ื งจากความเกรงใจผู้สงู อายุ กพ็ ยายามท่ีจะฝึกฝนให้มีประสบการณ์ข้ึนมาเพ่ือที่จะ สามารถดาํ เนนิ การองค์กรตอ่ ไปได้ 6.) การนําเยาวชนรุ่นใหม่มาทํากิจกรรมกับผู้สูงอายุ การเชื่อมโยงการทํางานกับ คนรุน่ เกา่ กลุ่มเด็ก กลุ่มเยาวชน กลุ่มสตรี กลุ่มชาวบ้าน กลุ่มครอบครัว ที่มีกิจกรรมท่ีทําให้เกิดการส่งเสริมเชื่อมโยง ระหว่างกัน เช่น การถ่ายทอดภูมิปัญญาด้านศิลปวัฒนธรรม ด้านอาหารหรือด้านดนตรีให้แก่บุตรหลานในช่วงปิด ภาคเรียน การสง่ เสรมิ การเขา้ รว่ มกจิ กรรมประเพณีวัฒนธรรมระหว่างผ้สู งู อายแุ ละลกู หลานในครอบครัวในวันสําคัญๆ ทางศาสนา เพอื่ ให้เดก็ และเยาวชนเหน็ ถงึ ความสําคัญของประเพณีวัฒนธรรม มีจิตสํานึกท่ีดีและรู้จักการเสียสละมีจิต อาสาและเข้ารว่ มกจิ กรรมทางสังคมมากขึน้ 7.) การร่วมกับอาสาสมัครประจําหมู่บ้าน ท่ีร่วมกันเพ่ือนช่วยเพื่อนดูแลผู้ปุวยติดเตียงที่เป็น สมาชิกเก่าแต่เจ็บปุวย การสร้าง อผส.น้อย ซ่ึงเริ่มตั้งแต่นักเรียน อผส. น้อย เข้ามา ตอนนี้เค้าจะเป็นบัดด้ีกับ อสม. ใหญ่ มีการประกบกัน ท่ีเอา อสม. น้อย แล้วก็จะมี อผส. ด้วย ให้เค้ารู้ว่าเราต้องทํายังไง เค้าจะดูแลได้อีกขั้น หนึ่ง ดูแลการทานอาหารและยา หรือให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมปูองกันโรค เช่น กิจกรรมรณรงค์ด้านการจําจัด ยงุ ลาย ใหผ้ สู้ งู อายุ ร่วมกบั อสม.ทําลายแหลง่ เพาะพนั ธ์ุยงุ ลาย 3.3 การเช่อื มโยงและการบูรณาการการทาํ งานรว่ มกันของเครือข่าย 1.) กําหนดเปูาหมายร่วมกัน ยุทธศาสตร์ ซ่ึงเป็นหลักการสําคัญ ทางเดินในการพัฒนา โดยเครือข่ายบางแห่งกําหนดเปูาหมายการพัฒนาว่า ” จะดูแลผู้สูงอายุเสมือนเป็นญาติ ให้คุณภาพชีวิตที่ดี มองเป็นมิติ ดา้ นร่างกาย สงั คม สิ่งแวดลอ้ ม จติ วญิ ญาณ สุขภาพจิต และนํามาแตกเปน็ ยุทธศาสตร์ มีการเปลี่ยนแปลง ทางสงั คม การพัฒนาศักยภาพ การสง่ เสริม” \"การสรา้ งคณุ ภาพชีวติ ท่ีดีให้กับผู้สูงอายุน้ัน คือ การสร้างชุมชนแห่งการ เก้ือกูลผู้สูงอายุให้เกิดขึ้น เพ่ือให้ผู้สูงอายุทุกคนได้มีชีวิตอย่างมีเกียรติและศักด์ิศรี” และ“พัฒนาทุกภาคส่วนให้เกิด ความเท่าเทยี ม พดู คุยทําความเขา้ ใจทุกกลุ่มทุกฝุาย ไมค่ ํานงึ ถึงฐานะ และมีการเข้ารว่ มกิจกรรมเพือ่ ชว่ ยเหลือกัน” 2.) ร่วมมือกับภาคีคณะทํางานท้ังหมดในพื้นท่ี ทั้งภาครัฐ พมจ. สจ. สส. รพ. สาธารณะสุข ภาคเอกชน นักการเมือง พระสงฆ์ ฯลฯ ส่งเสริมเครือข่ายต่าง ๆ ในชุมชนให้เข้มแข็ง ต้ังแต่คณะกรรมการหมู่บ้าน ตําบล งบประมาณหนุนลงไป ใช้วัฒนธรรมท้องถ่ินเข้ามาร่วม เพราะต่อไปสามารถประสานงานกันได้สะดวก รวมท้ัง การสร้างเครือข่ายเพิ่ม ร่วมกับชุมชนอ่ืนๆ มีข้อมูลสมาชิกขององค์กรต่าง ๆทุกเครือข่ายจะทําหน้าท่ีในการจัดเก็บ ขอ้ มูลและนําสง่ ให้กับศูนย์ประสานงานเพ่อื รวบรวมเป็นข้อมูลกลาง Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 204

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. เช่น เทศบาลตําบลท่าช้าง มีรูปแบบการทํางานแบบ “โยนหินถามทาง” ตัวอย่าง เม่ือจะทํางาน กับ สปสช. ก็อ่านเลยว่า เค้าต้องการอะไร มีวิธีการอย่างไร...” ซ่ึงการโยนหินถามทางของท่ีน่ีจะรับเอาโจทย์ จากนโยบายระดับต่างๆ ต้ังแต่ระดับประเทศ กระทรวง กรม กอง จังหวัด เพื่อมากําหนดงานที่จะดําเนินการ การทาํ งานตามนโยบายทุกภาคส่วนทําให้ทํางานง่ายขึ้น มีพ้ืนที่รองรับงานที่จะทํา “...ก่อนจะทํางานพ่ีจะทําเป็นแผน ท่ี เป็นชาร์ทเลยว่านโยบายจากท่ีต่างๆ มายังไง เช่ือมโยง เกี่ยวข้องกันอย่างไร...มันจะง่ายกับเรา เรามีที่รองรับงาน แนน่ อน...” นอกจากนี้การทาํ งานของเทศบาลตําบลท่าช้างยังใช้แนวคิด “แผ้วทางให้เดิน” กล่าวคือ องค์กร จะเริ่มกิจกรรมต่างๆ ไว้ก่อนเมื่อคงที่แล้วจะมีหน่วยงานที่พร้อมท่ีจะทําต่อมาสานต่อเอง เทศบาลก็จะถอยมาเป็น ผู้สนับสนุนงบประมาณ เช่นเดียวกันกับการจัดต้ังและดําเนินการศูนย์ฟื้นฟูฯ เม่ือหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องกับการพัฒนา คุณภาพชวี ิตพรอ้ มที่จะดาํ เนินการก็จะมอบงานต่อและเป็นผู้สนบั สนนุ งบประมาณ และเป็นพี่เลีย้ งคอยสนบั สนุน 3.) แบ่งความรับผิดชอบระหว่างองค์กร การประสานงานภาคีเครือข่ายซึ่งไม่ได้ใช้งบประมาณ เดียวทัง้ หมด นาํ มาจาก สปสช.บา้ ง สสส. ฯลฯ มกี ารขับเคล่อื นไปด้วยกัน การช่วยเหลือองค์กรที่มาเป็นภาคีเครือข่าย เชน่ กศน. เขามีงบประมาณ เรามกี ล่มุ เปาู หมาย อย่างกระทรวงส่งเรือ่ งมาใหท้ ําเราก็ดาํ เนนิ การตามนโยบาย 4.) ใช้ขอ้ ตกลงระหวา่ งกัน การใช้ขอ้ ตกลงระหว่างกนั จะทําให้เกิดผลสําเร็จ (พลังภาคีเครือข่าย + ชมุ ชน) 5.) แนวทางการดาํ เนนิ งานให้มกี ิจกรรมร่วมกนั อย่างต่อเนื่อง โดย 1. จัดทําแผนพัฒนาผู้สูงอายุ เพ่ือให้มีการวางแผนกิจกรรมผู้สูงอายุอย่างต่อเน่ือง บางเครอื ขา่ ยระบุว่า ควรจดั ทําแผนพฒั นาผสู้ ูงอายุ เพื่อเสนอเข้าสู่แผนพัฒนาของเทศบาล / อบต. 2. การวางแผนการดําเนินงานที่เชื่อมโยงเป็นระบบ เพื่อให้เกิดผลสําเร็จใน การดําเนินงานอย่างแท้จริง อาทิ ด้านการส่งเสริมอาชีพ ทางเทศบาลตําบลกําลังวางแผนดําเนินการจัดทําสถานที่ใน การขายผลิตภณั ฑ์ใหก้ ับผ้สู งู อายุ และประชาชนที่สนใจดําเนนิ การ 3. บูรณาการกิจกรรมร่วมกับหน่วยงานอื่น จัดกิจกรรมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่น เชน่ โรงพยาบาล ชมุ ชน โรงเรยี น และสภาเด็กฯ 4. การประชาสมั พันธข์ อ้ มลู กิจกรรม/โครงการทีเ่ กดิ ขน้ึ ในชมรมฯ 5. ถ่ายทอดความรู้ให้สมาชิกใหม่ ให้สมาชิกเก่าถ่ายทอดความรู้ให้สมาชิ กใหม่ สมาชิกชมรมรุน่ พี่ดูแลรุน่ นอ้ งแบบจบั คตู่ วั ตอ่ ตวั 6. กระตุ้นเครือข่าย แล ะทํากิจกรรมอ ย่างต่อเนื่อ ง โ ดยการของบประมา ณ เขยี นโครงการนาํ เสนอ กระตนุ้ เครือขา่ ย และทํากจิ กรรมอย่างต่อเนอ่ื ง Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 205

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. บทท่ี 6 กลยทุ ธ์การสร้างความเข้มแขง็ ของเครอื ข่ายผ้สู ูงอายุ Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 206

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. การบริหารจัดการองค์กร จําเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยองค์ประกอบท่ีสําคัญหลากหลายประการ ทั้งผู้นําท่ีมีวิสัยทัศน์ ผู้ปฏิบัติงานท่ีมีความสามารถ ทรัพยากรต่างๆ ที่เอื้อต่อการพัฒนาให้องค์กร ประสบความสาํ เร็จตามเปูาหมายขององค์กร ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์เป็นองค์กรหลัก ท่ีต้องทํางานเพ่ือการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาสังคมกับกลุ่มเปูาหมายท่ีมีความหลากหลาย ด้วยเหตุน้ีทําให้ การทํางานของกระทรวงฯ จึงไม่สามารถที่จะดําเนินให้สําเร็จได้เพียงลําพัง หากต้องอาศัยภาคีเครือข่ายภายนอก เพ่ือรว่ มมอื ในการพฒั นาระบบการจัดสวัสดกิ ารสังคมและการพฒั นาสังคมใหต้ อบสนองตอ่ ความต้องการของเปูาหมาย และลดปัญหาสังคมท่ีมีให้ได้ ด้วยเหตุผลท่ีกล่าวมาทําให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ต้องมีแนวทางหรือวิถีทางและข้อกําหนดต่าง ๆ ที่จะทําให้องค์กรประสบความสําเร็จบรรลุเปูาหมายการทํางาน ซึ่งหลาย ๆ ปัญหาอาจมีข้อจํากัดท่ีเกิดจากขีดความสามารถขององค์กรที่ไม่สามารถจัดการได้เพียงลําพัง การดึงเครือขา่ ยทั้งภายในและภายนอกกระทรวงฯ เข้ามาร่วมดําเนินการจึงเป็นอีกแนวทางหน่ึงที่เป็นการรวมตัวของ กลุ่มเครอื ขา่ ยทีเ่ กย่ี วขอ้ งเพ่อื ทํางานร่วมกนั ท้ังนี้ ในการทํางานด้านผู้สูงอายุก็เป็นอีกด้านหน่ึงที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ ให้ความสําคัญและมีองค์กรที่ขับเคล่ือนการดําเนินงาน คือ กรมกิจการผู้สูงอายุ ท่ีทําหน้าท่ีในการจัดให้บริการ สวัสดิการสังคมและการบริการทางสังคมต่างๆ ก็มีหน่วยงานในระดับโครงสร้างคือกระทรวง หน่วยงานภายใต้ กระทรวงท่ีปฏิบัติหน้าที่ในระดับพื้นท่ีเชื่อมประสานงานกันเพ่ือการจัดสวัสดิการให้ลงสู่พื้นท่ีได้อย่างครอบคลุมและ ทั่วถึงมากขึ้น แต่ถึงกระนั้น กรมกิจการผู้สูงอายุเองไม่สามารถที่จะขับเคล่ือนงานต่างๆ ได้หากขาดปัจจัยสําคัญ คือ องค์กรเครือข่ายภายนอกท้ังหลาย ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้อง หน่วยงานระดับพื้นที่ต่างๆ องค์กร ภาคเอกชน ภาคประชาชน หรือแม้แต่ภาคธุรกิจเอกชน ด้วยเหตุนี้ ในการศึกษาวิจัยคร้ังน้ีจึงมุ่งท่ีจะศึกษาการบริหาร จัดการและรูปแบบการทํางานของเครือข่ายด้านผู้สูงอายุที่ทําหน้าท่ีเชื่อมประสานกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความม่ันคงของมนุษย์และกรมกิจการผู้สูงอายุ เพื่อค้นหากลยุทธ์ที่จะช่วยให้การทํางานน้ันบรรลุเปูาหมายสูงสุด คือ การจัดสวัสดิการให้แก่กลุ่มผู้สูงอายุ ซ่ึงเป็นกลุ่มท่ีมีการเติบโตของจํานวนกลุ่มเปูาหมายสูงขึ้นอย่างต่อเน่ือง มากกว่ากลุ่มเปาู หมายอืน่ ๆ จากการศึกษาคร้ังน้ี ได้ดําเนินการศึกษาในเชิงลึกถึงกระบวนการบริหารจัดการที่นําไปสู่องค์กรที่ทํางาน และประสบผลสําเร็จ เป็นองค์กรท่ีสามารถเชื่อมโยงเครือข่ายต่างๆ เพื่อการบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี และเป็นองค์กรเครือข่ายของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ โดยได้แบ่งประเภทขององค์กร เครือขา่ ยที่ทาํ การศกึ ษาออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1. เครอื ขา่ ยภาครฐั 2. เครอื ข่ายภาคประชาชน Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 207

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. 3. เครอื ขา่ ยภาคธรุ กจิ เอกชน 4. เครือข่ายองคก์ รพฒั นาเอกชน (NGOs) จากองค์กรท้ัง 4 ประเภทน้ี คณะผู้วิจัยได้ทําการศึกษาจากองค์กรเครือข่ายทั่วประเทศ จํานวนท้ังสิ้น 52 องค์กร โดยได้ทําการศึกษาถึงการบริหารจัดการของเครือข่ายด้านผู้สูงอายุ ท้ังในวิธีการ รูปแบบ การบริหารจัดการองค์กร การบริหารจัดการการบริหารสําหรับกลุ่มผู้สูงอายุ การพัฒนาศักยภาพบุคลากรในองค์กร การให้บริการแก่กลุ่มเปูาหมาย การทํางานด้านเครือข่ายการสนับสนุนทางสังคมที่ให้บริการกลุ่มเปูาหมายร่วมกัน ไปจนถึงการศึกษาถึงปัญหาและอุปสรรคในการพัฒนาสู่ความย่ังยืนของเครือข่ายด้านผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นปัญหา ในด้านการบริหารจัดการ การให้บริการ ด้านทรัพยากร งบประมาณ หรือแม้แต่องค์ความรู้ในการพัฒนาศักยภาพ องค์กร จากการศึกษากรณีตัวอย่างท้ังหมด ได้นํามาวิเคราะห์ร่วมกันกับกลุ่มเครือข่าย โดยใช้วิธีการสนทนากลุ่ม การสมั ภาษณ์ เพื่อหาแนวทางในการส่งเสริมให้เกิดความเข้มแข็งของเครือข่ายด้านผู้สูงอายุ สร้างกระบวนการเรียนรู้ ร่วมกันเพื่อให้เกิดการบูรณาการความรู้ในการบริหารจัดการ อันจะก่อให้เกิดแนวทางในการทํางานของกระทรวง การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่จะได้ทราบถึงสิ่งท่ีเครือข่ายนั้น ต้องการการส่งเสริมหรือการสนับสนุน จากกระทรวงฯ และทาํ งานรว่ มกันกบั กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความม่ันคงของมนุษย์ได้อย่างภาคีท่ีมีส่วนร่วมใน การวางแผนการพฒั นางานสวัสดิการสาํ หรบั ผสู้ ูงอายุในอนาคตต่อไป ผลการศึกษาสามารถนํามาวิเคราะห์ประเด็นเพื่อนําไปสู่การกําหนดกลยุทธ์การสร้างความเข้มแข็งของ เครอื ข่ายผู้สงู อายุของกระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมั่นคงของมนษุ ย์ ไดด้ ังน้ี 1.การวเิ คราะห์แนวทางการจัดทากลยทุ ธ์การทางานกบั เครือข่ายองคก์ รภาครฐั จากบทสรปุ ทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษา สามารถวเิ คราะห์ให้เห็นได้ว่า กลไกการบริหารงานเครือข่ายของกระทรวงการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นั้น มีทั้งกลไกการบริหารแนวดิ่งและแนวราบ ซ่ึงหากต้องการที่จะเสริมสร้าง ความเข้มแข็งให้กับองค์กรเครือข่ายด้านผู้สูงอายุนั้น กระทรวงฯควรมีการวางแผนการบริหารเชิงกลยุทธ์ หรือกระบวนการบริหารเชงิ กลยุทธท์ ท่ี ํารว่ มกนั กับทุกฝาุ ยทเ่ี กยี่ วข้อง ซ่งึ เป็นกระบวนการท่ีเก่ียวข้องกับผู้บริหารระดับ กระทรวงท่ีจะร่วมกันในการกําหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เปูาหมายเชิงกลยุทธ์ กําหนดวัตถุประสงค์เพื่อให้บรรลุภารกิจ ซ่ึงเป็นจุดมุ่งหมายหลักขององค์กร มีการวางแผนเชิงกลยุทธ์เกิดการปฏิบัติตามกลยุทธ์และเป็นการนํากลยุทธ์ไปสู่ การปฏิบัติและได้ผลลัพธ์ออกมา เช่น การกําหนดโครงสร้างขององค์กร การจัดระบบการปฏิบัติที่เหมาะสม เป็นต้น ซ่ึงขณะน้ี กระทรวงฯ ได้มีองค์กรในการบริหารจัดการด้านนี้โดยตรงคือ กรมกิจการผู้สูงอายุ ที่จะดําเนินภารกิจ ดังกล่าว ซ่ึงสอดคล้องกับ Bateman and Snell (1999, p.131) ที่กล่าวว่า “การบริหารเชิงกลยุทธ์ (Strategic management) เป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับผู้บริหารจากทุกฝุายขององค์การ ในการกําหนดและปฏิบัติ ตามเปูาหมายและกลยทุ ธข์ ององคก์ าร หรอื เปน็ กระบวนการตอ่ เน่ืองกนั ในการกําหนด (Formulating) การปฏิบัติการ Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 208

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. (Implementing) และการควบคมุ (Controlling) ซงึ่ เปน็ แผนหลักเพือ่ เป็นแนวทางให้องคก์ ารสามารถบรรลุเปูาหมาย ภายใต้สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกท่ีกําหนดเป็นการประสมประสานการวางแผนเชิงกลยุทธ์ (Strategic planning) และการจัดการ (Management) เข้าด้วยกัน การวางแผนเชิงกลยุทธ์จึงเป็นกิจกรรมที่ต่อเน่ืองที่ผู้จัดการ ทุกคนจะได้รับการกระตุ้นให้คิดอย่างมีกลยุทธ์ โดยมุ่งที่การวางแผนระยะยาว ประเด็นปัญหาต่าง ๆ ตลอดจน ประเด็นปัญหาเกี่ยวกับยุทธวิธีในระยะสั้นและการดําเนินงาน ด้วยกระบวนการนี้ผู้บริหารระดับสูงต้องพิจารณา สถานการณ์ในระยะยาวขององค์การจากทัศนะในวงกว้างเพื่อวางแผนความสามารถและทรัพยากรภายใน และสภาพแวดล้อมภายนอก” แต่ถึงกระน้ัน การบริหารจัดการในระดับหน่วยงานภาครัฐ อาจต้องอาศัยขั้นตอน และระยะเวลาค่อนข้างมากในการที่จะดําเนินการ ดังน้ัน การอาศัยองค์กรภาคีเครือข่ายภายนอกองค์กรภาครัฐ เข้ามาร่วมดําเนินงานจึงเป็นทางเลือกหรือเป็นกลยุทธ์หนึ่ งที่ทําได้เร็วที่สุด และตอบสนองความต้องการ ของกลุม่ เปูาหมายไดส้ งู สุด ซึ่งในการศึกษาคร้ังนี้ ได้ทําการศึกษาองค์การภาครัฐท่ีดําเนินงานด้านผู้สูงอายุร่วมกับกระทรวง การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เช่น โรงพยาบาล สถานสงเคราะห์ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ซ่ึงพบแนวทางสู่ความสําเร็จในการดําเนินงานขององค์กรภาครัฐ โดยหลักองค์กรภาครัฐจะดําเนินงานตามนโยบาย ของรัฐบาลเป็นสําคัญ ซ่ึงนับได้ว่าในปัจจุบันนโยบายของรัฐบาลให้ความสนใจและให้การสนับสนุน การดําเนินงาน ด้านผู้สูงอายุมากขึ้นและมีความต่อเน่ืองในการดําเนินงาน ทั้งน้ีก็เพ่ือการเตรียมการรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ของประเทศไทยเอง ทําให้หลายๆ หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องกับการจัดให้บริการต้องมีภารกิจและบทบาทหน้าที่ใน การสร้างรูปแบบการพัฒนากิจกรรมโครงการต่างๆ ท่ีรองรับจํานวนของกลุ่มผู้สูงอายุที่จะใช้บริการมากข้ึน อย่างต่อเน่ือง และหากวิเคราะห์การบริหารจัดการองค์กรภาครัฐน้ัน สามารถวิเคราะห์ถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนา องคก์ รภาครัฐไดด้ ังน้ี 1.1 การบริหารจัดการ องค์กรภาครัฐส่วนใหญ่ พบว่า ได้รับการสนับสนุนการดําเนินงานตามความชํานาญ/เชี่ยวชาญของตนเอง โดยการบริหารจัดการน้ัน เน้นการเช่ือมโยงการทํางานอย่างเป็นระบบ มีข้ันตอนการปฏิบัติงานท่ีชัดเจนและมีการ ตอ่ ยอดกิจกรรมทีด่ ําเนินงานจนประสบความสาํ เรจ็ และมีการจดั ลาํ ดบั ความสําคัญเร่งด่วนของการทํากิจกรรมร่วมกับ เครือข่าย ซ่ึงในการทํางานร่วมกันนั้นได้มีการนําปัญหาท่ีเกิดขึ้นจากการทํางานมาปรับปรุงการทํางานต่อไป เน่ืองด้วยมีเปูาหมายในการทํางานอย่างชัดเจนและมีการดําเนินงานอย่างต่อเนื่อง มีงบประมาณหลักในการบริหาร จัดการ และมีการของบประมาณจากหน่วยงานภายนอกเพื่อมาอุดหนุนการจัดกิจกรรมต่างๆ ขององค์กรผ่านการ ประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสาร เพ่ือให้ข้อมูลแก่ชุมชนและหน่วยงานภายนอกได้รับรู้ และได้ใช้กระบวนการมีส่วนร่วม เขา้ มาเพอ่ื ส่งเสรมิ ให้คนในชุมชนมสี ่วนในการวางแผนการดําเนินงาน โดยเร่ิมจากการมีเปูาหมายร่วมกันในการทํางาน ทําให้ระบบมคี วามยืดหยุ่น โดยเป็นระบบท่ีชมุ ชนสนบั สนนุ รว่ มกาํ กับดแู ลและรสู้ ึกเปน็ เจ้าของ Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 209

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. นอกจากนี้ การทอี่ งคก์ รภาครัฐ โดยเฉพาะในระดับองค์กรส่วนท้องถิ่นมีการบริหารจัดการท่ีประสบผลสําเร็จ และสามารถให้บริการตอบสนองความต้องการของกลุ่มเปูาหมายสู่อายุได้เป็นอย่างดีน้ัน ส่ิงท่ีสําคัญคือ การมีผู้นํา องค์กรหรือหน่วยงานที่ให้ความสําคัญกับการดูแลผู้สูงอายุ เป็นผู้นําท่ีมีศักยภาพในการบริหารจัดการองค์กร และมีความเข้าใจต่อความต้องการของผู้สูงอายุจึงจะสามารถทําให้หน่วยงานนั้นๆ มีการจัดบริการ/กิจกรรม ให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ ซ่ึงโดยส่วนใหญ่แล้วองค์ประกอบอีกสองส่วนที่สําคัญนอกเหนือจากตัวองค์กรและผู้นําก็คือ ชุมชนและภาคีเครือข่ายในระดับพื้นท่ี ซึ่งกล่าวได้ว่า ผู้สูงอายุ ชุมชน และผู้นําชุมชนมีศักยภาพและมีพลังส่วนบุคคล ที่ช่วยให้การทํางานขององค์กรภาครัฐเป็นไปอย่างราบร่ืน ซ่ึงหากบุคลากรในชุมชนให้ความสนใจและตระหนักถึง ปัญหาผู้สูงอายุในอนาคตชุมชนก็จะมีความสามัคคี ในการร่วมกิจกรรมและยินดีท่ีจะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ภายในชุมชนเพื่อดําเนินกิจกรรมสําหรับผู้สูงอายุ และนําพาให้เกิดภาคีเครือข่ายในพื้นท่ีท่ีพร้อมท่ีจะร่วมกิจกรรม เพื่อผู้สูงอายุ มีความพร้อมในการบูรณาการความร่วมมือจากหน่วยงานภายในพื้นท่ี เพ่ือดําเนินงานด้านผู้สูงอายุ พร้อมท่ีจะทํางานเชิงรุกร่วมกัน โดยสร้างความเข้าใจร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานภาคีเครือข่าย และกลุ่มเปูาหมายในพื้นที่โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมเข้ามาตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผนการทํางานและติดตามผล การทํางานร่วมกันระหว่างเครือข่ายกับองค์กร 1.2 การพฒั นาระบบการบริหารจดั การเครอื ข่าย ในการพัฒนาระบบการบริหารจัดการเครือข่ายภาครัฐน้ัน สิ่งสําคัญคือการพัฒนาบุคลากรในองค์กร หรือการพัฒนาทีมงานที่มีคุณภาพในการดําเนินงานด้านผู้สูงอายุและพัฒนาสังคม ส่ิงสําคัญคือ องค์กรจะต้องมี เจ้าหน้าที่รับผิดชอบงานด้านผู้สูงอายุโดยตรง ท้ังในระดับพื้นท่ีและระดับจังหวัด การทํางานในพ้ืนที่จะเน้น กระบวนการสร้างและพัฒนาแกนนําในพ้ืนที่และเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วม ส่งเสริมให้คณะทํางาน ด้านผู้สูงอายุมีคนหลายช่วงวัยเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหาร รวมไปถึงการส่งเสริมให้ข้าราชการท่ีเกษียณอายุ เข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนการดําเนินงานด้านเครือข่ายผู้สูงอายุ ซึ่งแนวคิดในการพัฒนาน้ี ต้องเร่ิมตั้งแต่ การสร้างผู้นําหน่วยงานที่มีศักยภาพและมีวิทัศน์ในการดําเนินงานด้านผู้สูงอายุ และควรมีการพัฒนาผู้บริหาร พร้อมคณะทํางานให้มีความเข้าใจในการดําเนินงานด้านผู้สูงอายุ องค์กรควรมีการวางแผนการดําเนินโครงการ/ กิจกรรมอย่างตอ่ เนื่อง เพ่อื ดาํ เนนิ งานช่วยเหลอื สนบั สนุนการทํางานอย่างเป็นรูปธรรม มีการให้หน่วยงานภายในพ้ืนที่ และนอกพ้ืนทร่ี ่วมบูรณาการงานดา้ นผูส้ งู อายุ นอกจากนี้ ในเร่ืองของแผนงานการบริหารจัดการ สิ่งสําคัญที่องค์กรภาครัฐต้องมีคือ การจัดทําแผนสําหรับ การสนับสนุนให้หน่วยงานภาคีเครือข่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการทํางานด้านผู้สูงอายุ โดยเน้นท่ีการวางแนวทาง การดําเนินงานโดยคํานึงถึงความต้องการของผู้สูงอายุเป็นหลัก กําหนดโครงสร้างองค์กรให้มีความยืดหยุ่น สามารถเปล่ียนแปลงได้ตามความเหมาะสม มีการจัดทําแผนงานพัฒนาผู้สูงอายุท้ังระยะสั้นและระยะยาว Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 210

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. และควรมีการจัดทําฐานข้อมูลผู้สูงอายุให้มีความชัดเจนและเป็นระบบ ทั้งน้ีควรมีการแลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกับ หน่วยงานอ่ืน เพ่ือนําข้อมูลมาประยุกต์ใช้กับพ้ืนท่ีของตนเองต่อไป มีการติดตามประเมินผลงานดําเนินงาน ดา้ นผสู้ ูงอายเุ ป็นระยะๆ การทาํ งานในระดับพ้ืนทน่ี ้ันหนว่ ยงานควรมกี ารประชาสัมพนั ธผ์ ลการดาํ เนินงานด้านผู้สูงอายุ ในพน้ื ทใ่ี ห้แก่ชุมชนและหน่วยงานภายนอกได้รับทราบ เพ่ือเป็นการเพิ่มเครือข่ายการทํางานไปในตัว เช่น การพัฒนา ศักยภาพเครือข่ายให้เข้มแข็งโดยการพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และมีการเชื่อมโยงการทํางานร่วมกันอยู่เสมอ หรือในกรณีที่มีการจัดทําแผนงานผู้สูงอายุระดับจังหวัด ควรเปิดโอกาสให้หน่วยงานภาคีเครือข่ายเข้ามามีส่วนร่วม และนาํ เสนอใหห้ น่วยงานระดบั กระทรวงมีการบูรณาการงานดา้ นผสู้ ูงอายุโดยให้เกิดแนวทางการทํางานร่วมกนั จากการวิเคราะห์การบริหารจัดการองค์กรภาครัฐ สามารถกําหนดกรอบแนวทาง/กลยุทธ์การสร้าง ความเขม้ แขง็ ให้กบั องค์กรเครือขา่ ย ไดด้ ังน้ี กลยุทธ์ท่ี 1 : ส่งเสรมิ และพัฒนาผนู้ าองคก์ รด้านผู้สงู อายใุ หม้ ศี กั ยภาพในการทางาน แนวทางการพฒั นา 1. กําหนดคุณลักษณะของตําแหน่งผู้ทํางานด้านผู้สูงอายุตามที่ต้องการ เสริมทักษะผู้นําให้มีความรู้ ความสามารถในการทํางานและมคี วามร้คู วามเข้าใจเกีย่ วกบั งานดา้ นผสู้ ูงอายุอย่างชดั เจน 2. พัฒนาองค์กรด้านผู้สูงอายุให้เห็นความสําคัญของการคัดสรรผู้นําองค์กรท่ีมีความรู้ความสามารถใน การดาํ เนินงานและนาํ พาองคก์ รไปถึงเปูาหมาย 3. ส่งเสริมให้ผู้นําองค์กรให้ความสําคัญกับพันธมิตรในการทํางาน แสวงหาภาคีเครือข่ายในการดําเนินงาน รว่ มกันเพื่อให้ผู้สูงอายมุ ีกิจกรรมทีห่ ลากหลาย 4. ส่งเสริม/ชักจูงให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มีศักยภาพในการดําเนินงาน เข้ามามีส่วนร่วมในการทํางาน เพอ่ื สงั คมให้มากข้นึ 5. พัฒนาศักยภาพของผู้นํา/คณะทํางานองค์กรที่ทํางานด้านผู้สูงอายุให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพ่อื ให้เกิดการปฏิบัติงานตามความรับผิดชอบและสามารถบริหารองคก์ รได้อยา่ งเหมาะสม 6. จัดทาํ แผนการพฒั นาคณุ ภาพชีวติ สําหรบั ผู้สูงอายุแบบองค์รวม โดยพัฒนาท้ังมิติด้านร่างกาย จิตใจ สังคม สิ่งแวดลอ้ ม 7. จดั ทาํ แผนการเตรยี มความพรอ้ มให้กบั ผทู้ ี่จะก้าวเขา้ สู่สงั คมผ้สู ูงอายุ 8. จัดตัง้ ศนู ยฝ์ ึกอบรมใหก้ บั เครือข่ายและผสู้ ูงอายุในพนื้ ท่ีท่ตี อ้ งทาํ งานในเร่ืองการดแู ลผสู้ งู อายุ Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 211

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. กลยุทธ์ท่ี 2: สรา้ งจติ สานกึ ใหเ้ ดก็ และเยาวชน เหน็ ความสาคญั ของการดแู ลผู้สูงอายุในครอบครวั แนวทางการพฒั นา 1. สง่ เสริมให้ครอบครวั (พ่อแม)่ เป็นแบบอยา่ งทด่ี ีในการดแู ลผู้สงู อายใุ นครอบครัว 2. สนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมให้เด็กและเยาวชนได้เข้ามามีส่วนร่วมและสนับสนุนการดําเนินงานของเด็ก และเยาวชนเกี่ยวกับผสู้ งู อายุ 3. พัฒนาหลักสูตร/กิจกรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเก่ียวกับผู้สูงอายุให้กับเด็กและเยาวชนได้เรียนรู้ โดยมกี ารเรียนร้เู ก่ียวกับการดแู ลผสู้ งู อายุในครอบครวั ตงั้ แตร่ ะดับอนุบาลเปน็ ตน้ ไป 4. สง่ เสรมิ องค์กรในทอ้ งถิ่นให้นาํ เด็กและเยาวชน ทํากจิ กรรมรว่ มกับผสู้ ูงอายใุ นเทศกาลตา่ งๆ ทุกครงั้ 5. ส่งเสริมกิจกรรมในการพัฒนาเด็กและเยาวชนในการบําเพ็ญประโยชน์เพื่อผู้สูงอายุโดยมีการกําหนดเป็น ชวั่ โมงในการทาํ กิจกรรม 6. เปิดโอกาสใหเ้ ด็กและเยาวชนเสนอโครงการเพื่อดาํ เนินกิจกรรมสําหรบั ผ้สู ูงอายใุ นพนื้ ท่ี กลยุทธ์ที่ 3: ส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินให้ความสาคัญกับการดูแลผู้สูงอายุและมีนโยบาย การดาเนนิ งานเก่ียวกับผ้สู งู อายอุ ยา่ งต่อเนอื่ งจนสาเร็จตามกระบวนการ แนวทางการพัฒนา 1. สง่ เสรมิ ให้ผู้บริหารสว่ นท้องถิ่นให้ความสาํ คญั และผลกั ดนั เกยี่ วกบั การดาํ เนนิ งานด้านผู้สูงอายใุ นพืน้ ที่ 2. กําหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินมีการดําเนินนโยบายเกี่ยวกับแผนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของ ผู้สูงอายุอย่างต่อเนอ่ื ง กลยทุ ธท์ ี่ 4 : ส่งเสรมิ ภาคีเครอื ข่ายเข้ามาทางานร่วมกัน โดยเนน้ การมีส่วนรว่ ม แนวทางการพัฒนา 1. ค้นหาภาคีเครอื ขา่ ยเพอ่ื ร่วมทํางาน โดยเพิ่มการประชาสมั พนั ธ์และการเขา้ ถึงแหล่งข้อมูลดา้ นผูส้ ูงอายุ 2. สรา้ งแรงจูงใจในทํางานให้กับภาคีเครอื ข่าย โดยการเชิดชูเกรียตจิ ากผลการปฏบิ ัตงิ าน 3. เชิญภาคีเครือข่ายในระดับพื้นท่ีและระดับจังหวัดเข้าร่วมประชุม เพื่อวางแผนดําเนินงานด้านผู้สูงอายุ ทั้งระยะส้นั และยะยาว 4. จัดทําฐานข้อมูลที่ชัดเจน ถูกต้อง และเป็นระบบ สามารถนําไปใช้ได้ง่ายเพ่ือให้หน่วยงานภาคีเครือข่าย สามารถนาํ ไปทําแผนเพือ่ พัฒนาผสู้ งู อายุตอ่ ไป Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 212

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. ขอ้ เสนอแนะตอ่ หน่วยงานภาคภี าครฐั 1. หน่วยงานภาครัฐควรใหก้ ารสนบั สนนุ การดาํ เนินงานองคก์ รทีด่ ําเนนิ งานดา้ นผู้สูงอายุอยา่ งต่อเน่ือง 2. หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องในการดําเนินงานด้านผู้สูงอายุเป็นเพียงหน่วยงานที่คอยสนับสนุนหรือเป็นพี่เล้ียง ในการดําเนินงานขององค์กร อยา่ เขา้ ไปแทรกแซงการดําเนนิ งานหรือบิดเบือนเปาู หมายทแ่ี ท้จรงิ ขององค์กร 3. ควรมกี ารพัฒนาศกั ยภาพการดําเนินงานของผู้บริหารองค์กรด้านผู้สูงอายุและคณะทํางานเพ่ือให้มีความรู้ ทห่ี ลากหลายและทนั เหตุการณ์ 4. กําหนดเร่อื งการดูแลผสู้ ูงอายุเป็นหลกั สตู รในสถาบันการศึกษาเพ่ือให้เด็กและเยาวชนเห็นความสําคัญของ การดแู ลผู้สูงอายุ 5. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดทําโครงการควรมีการจัดอบรมการเขียนโครงการเพ่ือให้โครงการ ของเครอื ข่ายทจี่ ัดทําถูกต้องตามระเบยี บ เป็นการลดภาระงานของเจา้ หนา้ ท่ีท่เี ก่ียวขอ้ ง 6. การดําเนินงานของทุกกระทรวงท่ีเก่ียวข้องกับผู้สูงอายุควรมีการบูรณาการทํางานกับอย่างจริงจัง เพ่อื ให้โครงการ กิจกรรมท่ดี ําเนนิ งานกบั ผู้สงู อายุเปน็ ไปในแนวทางเดยี วกันและหนุนเสริมการดําเนินงานซ่ึงกันและกัน และลดระยะเวลาในการดําเนินงาน 7. ควรมีการจดั ทาํ ยุทธศาสตรก์ ารสรา้ งความร่วมมอื เครือขา่ ยผู้สูงอายุในระดบั เทศอย่างชดั เจน 8. ควรมีการจัดทําระบบฐานข้อมูลของผู้สูงอายุอย่างเป็นระบบ เพ่ือนําข้อมูลของผู้สูงอายุมาช่วยกําหนด แนวทางการพฒั นางานต่อไป 9. สง่ เสรมิ การสบื ทอดวฒั นธรรมเพื่อเปิดโอกาสใหผ้ ู้สงู อายุไดแ้ สดงศักยภาพ 10. ควรเพิม่ การบริการ/อํานวยความสะดวกใหก้ ับผูส้ ูงอายุเขา้ มาร่วมกิจกรรม 2. การวิเคราะหแ์ นวทางการจัดทากลยทุ ธ์การทางานกบั เครอื ขา่ ยองคก์ รภาคประชาชน จากการวิเคราะห์แนวทางการจัดทํากลยุทธ์การทํางานกับเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน โดยการพิจารณา จากการบริหารจัดการระหว่างกระทรวงกับเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน พบว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์กบั เครือข่ายภาคประชาชนนั้น มีการเช่ือมโยงเครือข่ายในรูปแบบกลไกบริหารเครือข่ายซ่ึงมีท้ัง กลไกบรหิ ารเครือขา่ ยตามแนวดิ่งและแนวราบ และหากแบง่ ตามประเภทหรือรปู แบบของเครอื ข่ายนั้น เครือข่ายที่เป็น องค์กรภาคประชาชนจะมีรูปแบบท่ีเรียกกว่า “เครือข่ายเชิงพ้ืนท่ี” (Area) เป็นการรวมกลุ่มขององค์กรเครือข่าย ท่ีอาศัยพื้นท่ีดําเนินการเป็นปัจจัยหลัก เช่น ชมรมผู้สูงอายุ และศูนย์ประสานงานชุมชน เป็นต้น ซึ่งสอดคล้องกับ คาํ นยิ ามของรปู แบบเครือขา่ ยเชิงพืน้ ท่ี ในจุดเร่มิ ต้นของการรวมกลุ่มที่ว่า กลุม่ องค์กรเครือข่ายท่ีอาศัยพ้ืนท่ีดําเนินการ เป็นปัจจยั หลักในการทาํ งานรว่ มกนั ของทุกฝาุ ย โครงสรา้ งความสมั พันธ์ของเครือข่ายเชงิ พ้ืนทมี่ ีกระบวนการท้ังแนวดิ่ง และแนวราบ โดยมีการรวมศูนย์กิจกรรมเข้าสู่ส่วนกลางในระดับพื้นที่ขนาดใหญ่ และมีศูนย์ประสานงานย่อยในพื้นท่ี Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 213

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. ขนาดเล็ก มีแกนนํา ผู้ประสานงานในเครือข่ายย่อยอื่นๆ ทํางานตามหน้าท่ีและภารกิจของตนในขณะท่ีความสัมพันธ์ ในแนวราบจะมีการประสานเครือข่ายย่อยตามประเด็นท่ีมีอยู่ในพื้นที่แล้วมากําหนดกิจกรรมร่วมกัน (อ้างถึงใน พระมหาสุทติ ย์ อาภากโร (2547, น.84)) จากรปู แบบการทํางานของเครือข่ายข้างต้น ทําให้เห็นถึงแนวทางการเช่ือมโยงกับเครือข่ายภาคประชาชนใน พ้ืนท่ีได้ว่า การเชื่อมโยงกับเครือข่ายภาคประชาชนน้ันจะเข้ามาได้โดยการสนับสนุนด้านงบประมาณในการประกอบ กิจกรรมต่างๆ โดยมีแนวคิดในการเชื่อมโยงการทํางานองค์กรเครือข่ายด้านผู้สูงอายุ คือในแต่ละองค์กร มีการวางแผนการทํางานด้านผู้สูงอายุให้เกิดความเช่ือมโยงร่วมกับเครือข่ายเน้นการทํางานแบบมีส่วนร่วม ช่วยกันคิดโครงการ กําหนดวิสัยทัศน์ พัฒนางานด้านผู้สูงอายุ ทําเป็นต้นแบบและนําไปขยายผลต่อองค์กรหน่วยงาน ตา่ งๆ ได้ในอนาคต โดยในการศึกษาคร้ังน้ี ได้ศึกษาองค์การภาคประชาชนท่ีดําเนินงานด้านผู้สูงอายุร่วมกับกระทรวงการพัฒนา สงั คมและความมน่ั คงของมนษุ ย์ เชน่ ชมรมผูส้ งู อายุ โรงเรียนผสู้ ูงอายุ สภาองคก์ รชมุ ชนตา่ งๆ เป็นตน้ แนวทางสู่ความสําเร็จในการดําเนินงานขององค์กรภาคประชาชน ส่วนสําคัญที่สุดคือ ผู้นําองค์กร กล่าวคือการมีผู้นําองค์กรที่จะนําพาไปสู่ความสําเร็จและมีการบริหารจัดการที่มีความย่ังยืนน้ัน จากการศึกษา พบว่า ผู้นําส่วนใหญ่จะเป็นผู้นําท่ีมีวิสัยทัศน์ มีศักยภาพ เป็นบุคคลที่มีความน่าเช่ือถือ และมีพลังส่วนบุคคลใน การบริหารองค์กร สามารถดึงภาคีเครือข่ายมาทํากิจกรรมผู้สูงอายุร่วมกัน เพ่ือสร้างความเข้มแข็งและจัดสวัสดิการ ใหผ้ ู้สูงอายุ ซ่ึงผนู้ ําส่วนใหญ่นัน้ มีกระบวนการคิดนโยบายท่ตี ่อเนือ่ ง มีขน้ั ตอนการทํางานที่เป็นระบบ และมีการพัฒนา กระบวนการหางบประมาณเข้าองค์กร โดยองค์กรยึดหลักการพึ่งตนเองเป็นสําคัญ โดยเน้นไปที่การให้ความสําคัญ กบั การดแู ลผู้สูงอายทุ ัง้ ในและนอกพน้ื ท่ี ทําให้ภาคีเครือข่ายเห็นการดําเนินงานและมีการกล่าวถึงกันแบบปากต่อปาก จึงมีภาคีเครือข่ายเข้ามาสนับสนุนให้องค์กรจึงสามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง และหากวิเคราะห์การบริหารจัดการองค์กร ภาคประชาชนนนั้ สามารถวิเคราะหถ์ ึงปจั จยั ท่สี ง่ ผลตอ่ การพฒั นาองค์กรภาครัฐได้ดงั นี้ 2.1 การบริหารจดั การ จากการลงพ้ืนที่สัมภาษณ์ ทําให้เห็นถึงการทํางานที่เป็นกันเองและเป็นธรรมชาติ องค์กรภาคประชาชน ส่วนใหญ่มีอิสระทางความคดิ มกี ารพัฒนาศกั ยภาพในระดับทมี และระดบั บุคคลอย่างต่อเน่ือง ท้ังน้ีอาจเนื่องด้วยการท่ี องค์กรภาคประชาชนน้ันมีทุนทางสังคมท่ีดี มีสมาชิกองค์กรท่ีมีจิตใจมุ่งม่ันในการทํางาน มีจิตอาสาโดยไม่หวัง ผลประโยชน์จากการเข้ามาร่วมดําเนินงาน พร้อมท่จี ะทาํ งานเพื่อส่วนรวมโดยต้องการให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีข้ึน ซึ่งการบริหารจัดการในทุกขั้นตอนเน้นกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันหรือกระบวนการมีส่วนร่วมในทุกข้ันตอน เช่น การลองผดิ ลองถกู มกี ารนําขอ้ ผิดพลาดในการดําเนินงานมาประชุมร่วมกันหลังจากการทํากิจกรรมเพื่อปรับปรุงแก้ไข การดําเนินงานให้ดขี นึ้ โดยสมาชิกทกุ คนยอมรบั ฟังคําตชิ มและพร้อมท่ีจะแก้ไข ส่งผลให้การบริหารงานมีความชัดเจน Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 214

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. มีกระบวนการขั้นตอนรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ ซึ่งองค์กรภาคประชาชนน้ันทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความม่นั คงของมนุษย์กไ็ ดม้ ีการสง่ เสรมิ ให้กลุ่มท่ีอยู่ภายใต้องค์กรมีการจดรับรองเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์เพ่ือให้ องคก์ รเข้าถงึ แหล่งงบประมาณมากย่งิ ข้ึน นอกจากการบริหารงานโดยคณะทํางานหรือคณะกรรมการแล้ว เม่ือเกิดปัญหาขึ้นภายในองค์กร ก็มักจะมีการบริหารจัดการโดยการนําปัญหาที่เกิดข้ึนมาจัดทําเป็นแผนกลยุทธ์ในการพัฒนาองค์กรให้ดีข้ึนและ ยั่งยืนต่อไป โดยเร่ิมต้ังแต่การเข้าหาแหล่งสนับสนุนการดําเนินงาน งบประมาณ กิจกรรม การให้ความรู้ทางวิชาการ เพ่ือให้เข้ามาดําเนินกิจกรรมร่วมกับองค์กร ซึ่งองค์กรในลักษณะน้ีจะมีการทํางานโดยการกระจายข้อมูลความรู้ ใน รูปแบบเพื่อนบอกเพ่ือน เนื่องจากการอบรมอาจจะมีข้อจํากัดด้านจํานวนผู้เข้ารับการอบรม จึงให้ผู้เข้ารับการอบรม ต้องมาถ่ายทอดความรู้ต่อให้กับสมาชิกในองค์กร ทําให้มีความรู้ที่เท่าเทียมกันและเป็นการส่งเสริมให้ผู้รับการอบรม ให้ความสนใจเก่ยี วกบั เรอ่ื งที่อบรมด้วย ในด้านการทํากิจกรรมขององค์กรนั้น มีการประสานงานท่ีดีและมีกระบวนการคิดท่ีต่อเน่ืองในการ ดําเนินกิจกรรม ซึ่งผู้สูงอายุสามารถร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน โดยดึงความสามารถของผู้สูงอายุให้ เข้ามาร่วมทํากิจกรรม ทําให้ผู้สูงอายุรู้สึกมีคุณค่าในตนเองและได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ มีการทบทวนกิจกรรม ประเมินผลจากการจัดกิจกรรมเพ่ือการวางระบบการดํา เนินงานด้านผู้สูงอายุเพื่อให้สามารถขับเคล่ือนงานได้ โดยชุมชนเอง ซ่ึงบางกลุ่มองค์กรสามารถท่ีจะก่อให้เกิดการสร้างแบรนด์ท่ีเป็นของตนเอง ท้ังองค์กรและบุคคล ทําให้ภาคีเครือข่ายเห็นคุณค่าและมีกิจกรรมดําเนินการเพื่อหนุนเสริม เช่น ด้านโภชนาการ ท่ีมีเอกลักษณ์เป็น ของตนเอง ด้านการเป็นผู้นําทางศาสนา เป็นต้น และได้มีการนําเสนอผลงานที่องค์กรได้ทําให้กับหน่วยงานภายนอก ได้รับรู้ มีการนําผลงานต่างๆ เช่น การเล่นอังกะลุง การรําพื้นบ้าน ไปแสดงตามสถานที่ต่างๆ ท้ังในจังหวัด และตา่ งจงั หวัด ซึง่ เปน็ การประชาสัมพนั ธ์ผลงานขององคก์ รให้เปน็ ทีป่ ระจกั ษ์ในสังคม สําหรับการทํางานด้านเครือข่ายขององค์กรภาคประชาชนน้ัน พบว่า ผู้นําในชุมชนทั้งท้องท่ีและท้องถิ่น ให้การสนับสนุนการดําเนินงานขององค์กรเป็นอย่างดี ทําให้องค์กรมีกิจกรรมดําเนินการต่อเน่ือง และทําให้มีการ ต่อยอดงานจนสําเร็จตามกระบวนงาน เกิดความสัมพันธ์ที่ดีของเครือข่าย ช่วยกันเป็นหูเป็นตา โดยเป็นความร่วมไม้ ร่วมมือของคนในชุมชน การทํางานในองค์กรลักษณะดังกล่าวมักกําหนดตามความเชี่ยวชาญของแต่ละหน่วยงาน โดยให้ความสําคัญกับภาคีเครือข่ายในการทํากิจกรรมร่วมกัน มีการบูรณาการจากทุกภาคส่วนในหลากหลายด้าน ซึ่งองค์กรสามารถท่ีจะทํากิจกรรมกับผู้สูงอายุแล้วให้ลูกหลานได้เห็นการดําเนินงานขององค์กร ถือเป็นการบ่งช้ีให้ ลูกหลานเห็นความสําคัญของผู้สูงอายุมากข้ึน อีกท้ังยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐในพ้ืนท่ีด้วย เช่น รพ.สต./อสม./อผส. บริการตรวจวัดความดัน เจาะเลือด เบาหวาน ตรวจสุขภาพปากและฟัน ทั้งในตําบลและ ต่างตําบลมาให้ความรู้ เร่ืองการปฏิบัติตัวของผู้สูงอายุ การดูแลสุขภาพ การเลือกรับประทานอาหาร การดูแลปาก Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 215

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. และฟัน เป็นต้น มีอาสาสมัครด้านผู้สูงอายุที่มีการเช่ือมโยงระหว่างผู้สูงอายุกับเด็กและเยาวชน เช่น อสย. (อาสาสมัครผู้ดูแลผู้สูงอายุเยี่ยมเยือน) โดยครูจัดเด็กเยาวชนมาร่วมจดบันทึกสุขภาพในสมุดบันทึกผู้ สูงอายุ ฝกึ มจี ิตอาสา เอ้อื อาทรตอ่ ผู้สงู อายุ ฝึกปรับพฤติกรรมของเดก็ จากการเล่นเกมส์เปล่ยี นมาเป็นการดแู ลคนในหมบู่ ้าน 2.2 การพัฒนาระบบการบริหารจัดการเครอื ขา่ ย ในการพัฒนาระบบการบริหารจัดการเครือข่ายภาครัฐประชาชน สิ่งสําคัญคือผู้นําองค์กร ดังนั้นการคัดเลือก ผู้นําองค์กรท่ีมีคุณสมบัติเหมาะสมในการบริหารองค์กร มีศักยภาพ มีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงาน และมพี ลังในการดึงเครอื ข่ายเขา้ มาดาํ เนินงาน โดยต้องมเี วลาในการทํางานเพ่ือองค์กรและมีทุนทางสังคมท่ีดี เน้นการ พัฒนาศกั ยภาพผู้นาํ องคก์ รพร้อมคณะให้มีความเข้าใจในการดําเนินงานร่วมกัน เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริม ให้เกิดทีมงานที่มีคุณภาพในการทํางานด้านการพัฒนาสังคม เพ่ือให้สามารถบริหารองค์กรได้อย่างเหมาะสม และ พยายามปลูกฝังในการทํางานเพ่ือส่วนรวม ซึ่งการดําเนินงานด้านผู้สูงอายุ คณะผู้บริหาร สมาชิก ไม่จําเป็นต้องมี เฉพาะผู้สูงอายุเท่าน้ัน แต่ต้องพยายามส่งเสริมให้วัยกลางคนเข้ามาเป็นสมาชิก โดยเสริมสร้างการเรียนรู้งานของเด็ก รุ่นใหม่ เพ่ือให้เกิดการช่วยเหลือผู้สูงอายุในการทํากิจกรรมต่างๆ และท่ีสําคัญเพ่ือให้เกิดการรับช่วงงานท่ีต่อเน่ือง ตอ่ ไป ในส่วนของการบริหารจัดการองค์กรน้ัน ควรมีการแต่งตั้งคณะทํางานผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการดําเนินงานและ คัดเลือกแกนนําหลักในการประสานการทํางาน เพ่ือให้เกิดความต่อเนื่องในการดําเนินงานร่วมกัน และวางแผนการทํางานร่วมกันระหว่างองค์กรกับภาคีเครือข่ายเพื่อกําหนดแนวทาง ในการพัฒนาที่ประสานและ สอดคล้องกัน ในการทํางานเช่ือมโยงระหว่างภาคีเครือข่ายท้ังในและนอกพ้ืนท่ี นอกจากน้ีการพัฒนาศักยภาพของ สมาชิกกม็ ีส่วนสําคัญ ดังน้นั ในการคดั เลือกสมาชกิ ในองคก์ รเข้ารับการอบรมตา่ งๆ จึงมคี วามจําเป็นท่ีจะต้องคัดเลือกผู้ ท่ีมีคุณสมบัติท่ีสามารถรับข้อมูลจากการอบรมได้ เพ่ือถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับให้กับสมาชิกในองค์กรได้ ควรให้การ สนบั สนุนการดําเนนิ งานของบุคลากร และมีการแบ่งหน้าท่ี ความรับผิดชอบอย่างชัดเจน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวใน การปฏิบัติงานมากยิ่งข้ึน ฉะน้ันในการพัฒนาศักยภาพทีมงานและบุคลากรจึงควรมีอย่างต่อเน่ืองเพ่ือให้มีความเข้าใจ ในการดําเนินงานร่วมกัน เสริมสร้างองค์ความรู้ทางด้านวิชาการ และพยายามปลูกฝังในการทํางานเพ่ือส่วนรวม นอกจากน้ี การทํางานในรูปแบบองค์กรอิสระที่ดําเนินการบริหารจัดการกันเอง ในประเด็นการรับฟังความคิดเห็น จากสมาชิกคณะกรรมการเพ่ือนํามาปรับใช้การดําเนินงานท่ีดีย่อมเป็นสิ่งสําคัญ นอกจากนี้ ประเด็นของการสร้าง คณะทาํ งานรนุ่ ใหมเ่ พอ่ื ทดแทนและพยายามดึงผู้สงู อายทุ ีม่ คี วามร้คู วามสามารถเข้ามาทํางานในองค์กรเพื่อให้ผู้สูงอายุ เหน็ คณุ ค่าในตนเอง ในประเด็นการบริหารงาน/งบประมาณพบว่า โครงสร้างองค์กรส่วนใหญ่ในองค์กรภาคประชาชนมักมี ความยืดหยุ่น สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมของแต่ละองค์กรและโดยมากจะได้รับการสนับสนุนและ Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 216

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. ส่งเสริมจากองค์กรอื่นๆ ในพื้นท่ีให้มีความเข้มแข็งและสามารถจดรับรองเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ และมีการเชื่อมโยงงานอย่างเป็นระบบทั้งในองค์กร และการเชื่อมโยงระหว่างภาคีเครือข่ายท้ังในและนอกพื้นที่ รวมถึงมีการต่อยอดงานจนงานสําเร็จตามกระบวนงาน โดยการปรับปรุงกระบวนการดําเนินงานให้มีความเหมาะสม กับบริบทของพื้นท่ีเพ่ือให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุในพ้ืนที่ได้ กระบวนการทํางานส่วนใหญ่ เน้นวางแผนการทํางานร่วมกันระหว่างองค์กรและภาคีเครือข่าย มีการแบ่งบทบาทหน้าท่ีรับผิดชอบที่ชัดเจน มีการแลกเปลี่ยนแนวทางการดําเนินงานร่วมกัน โดยการดําเนินงานขององค์กรต้องมีทั้งเชิงรุกและเชิงรับ และมีการกําหนดให้มีการประชุมร่วมกันทุกเดือนเพ่ือติดตามผลการดําเนินงานและค้นหาปัญหาอุปสรรค พร้อมทั้งหาแนวทางการแก้ไข องค์กรภาคประชาชนส่วนมากมีการส่งเสริมให้องค์กรมีการสรุปบทเรียนจากการทํา กิจกรรมทุกคร้ัง เพ่ือเป็นการทบทวนความสําเร็จ ปัญหาอุปสรรคในการทํางานเพื่อปรับปรุงและแก้ไขให้ดียิ่งข้ึน อีกท้ังยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ในการวิเคราะห์สถานการณ์ผู้สูงอายุและตัวเองได้ ส่งเสริมให้เกิด การทําแผนที่ทํามือเกี่ยวกับผู้สูงอายุในพื้นท่ี เพ่ือให้ทราบว่ามีผู้สูงอายุอยู่ตรงไหน สภาพความเป็นอยู่อย่างไร เพอ่ื ให้เกดิ การชว่ ยเหลือไดท้ นั เวลา ในส่วนของการสร้างภาคีเครือข่ายนั้น มีการกําหนดแนวทางการดําเนินงานในพ้ืนที่ โดยยึดข้อมูล ความต้องการในพ้ืนท่ีเป็นหลักเพ่ือกําหนดเป็นกรอบในการดําเนินงาน และภาคีเครือข่ายสามารถท่ีจะทํากิจกรรมให้ สอดคล้องกับแนวทางท่ีกําหนดไว้และสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงประเด็น ซึ่งหากองค์กรต้องการความสําเร็จ จะต้องให้ความสําคัญกับภาคีเครือข่ายในการร่วมดําเนินกิจกรรม เนื่องด้วยมองว่าการทํางานร่วมกับภาคีเครือข่าย จะทําให้มีกิจกรรมที่มีความหลากหลาย ทําให้ผู้สูงอายุต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในการทํากิจกรรมมากย่ิงข้ึน ดังน้ัน การจัดให้มีการประชุมร่วมกันระหว่างภาคีเครือข่ายที่ร่วมดําเนินงานอย่างสมํ่าเสมอ ให้ทุกภาคส่วนเข้ามา มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั การดาํ เนินงานในพื้นที่ ทง้ั หนว่ ยงานภายในพื้นท่ีและภายนอกพ้ืนท่ีจะช่วย ให้การทํางานมีทิศทางที่ชัดเจนมากข้ึน และได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาคีภายนอกโดยเฉพาะอย่างย่ิง หน่วยงานท้ังภาครัฐและเอกชนที่มีความต้องการให้การสนับสนุนองค์กรที่ประสบผลสําเร็จในการดําเนินงาน อย่างเต็มท่ี เพ่ือเป็นต้นแบบในด้านการดําเนินกิจกรรมและพัฒนาสังคมขยายผลให้ครอบคลุมทุกพ้ืนท่ีต่อไป ซง่ึ ในส่วนของชมรมผู้สงู อายนุ ้นั มกั พบกลวิธใี นการทํางานร่วมกบั อาสาสมัครเพอ่ื เป็นแนวทางในการสร้างกระบวนการ ทํางานร่วมกันกับชุมชนโดยใช้การเปิดกว้างรับอาสาสมัครที่มีความจิตอาสาในการดูแลผู้สูงอายุ หรือส่งเสริมให้มี อาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุน้อย (อผส.น้อย) เข้ามาดูแลผู้สูงอายุในชุมชน โดยให้ออกไปเยี่ยมเยี่ยมผู้สูงอายุติดเตียง ตามบ้าน โดยมี อผส. และ อสม. เป็นพี่เล้ียงในการสอนงานการดูแลผู้สูงอายุ เช่น วัดความดัน ตรวจชีพจร แนะนํา การรับประทานยา ฯลฯ จากการวิเคราะห์การบริหารจัดการองค์กรภาคประชาชน สามารถกําหนดกรอบแนวทาง/กลยุทธ์การสร้าง ความเข้มแขง็ ใหก้ ับองคก์ รเครือขา่ ย ไดด้ ังน้ี Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 217

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. กลยุทธ์ท่ี 1: ส่งเสริมและพัฒนาผู้นาองค์กรด้านผู้สูงอายุให้มีศักยภาพในการทางานและมีพลังในการดึง ภาคีเครือข่ายเข้ามาทางานรว่ มกันโดยการมีสว่ นรว่ มจากผสู้ งู อายุ แนวทางการพฒั นา 1. กําหนดคุณลักษณะของตําแหน่งผู้ทํางานด้านผู้สูงอายุตามที่ต้องการ เสริมทักษะผู้นําให้ มีความรู้ ความสามารถในการทํางานและมีความร้คู วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั งานดา้ นผสู้ ูงอายุอย่างชัดเจน 2. พัฒนาองค์กรด้านผู้สูงอายุให้เห็นความสําคัญของการคัดสรรผู้นําองค์กรท่ีมีความรู้ความสามารถใน การดําเนินงานและนาํ พาองค์กรไปถึงจุดเปาู หมาย 3. ส่งเสริมให้ผู้นําองค์กรให้ความสําคัญกับพันธมิตรในการทํางาน แสวงหาภาคีเครือข่ายในการดําเนินงาน รว่ มกนั เพ่อื ใหผ้ ู้สูงอายุมกี ิจกรรมท่หี ลากหลาย 4. สง่ เสรมิ /ชักจูงใหผ้ ู้ท่มี คี วามรคู้ วามสามารถ มีศักยภาพในการดาํ เนินงาน เข้ามามสี ่วนร่วมในการทํางาน เพ่ือสังคมให้มากขึน้ 5. พัฒนาศกั ยภาพของผู้นาํ /คณะทาํ งานองคก์ รทท่ี ํางานดา้ นผสู้ ูงอายุให้เกดิ การพฒั นาอยา่ งตอ่ เน่ือง เพ่ือใหเ้ กดิ การปฏบิ ตั ิงานตามความรับผดิ ชอบและสามารถบริหารองค์กรได้อย่างเหมาะสม 6. มีความสามคั คี รวมถึงการมีส่วนร่วมและผูน้ าํ ทุกฝุายให้ความร่วมมือในการทาํ งานอย่างสมํ่าเสมอ กลยุทธ์ท่ี 2: สร้างจิตสานกึ ใหเ้ ดก็ และเยาวชนเหน็ ความสาคญั ของการดูแลผสู้ ูงอายุในครอบครัว แนวทางการพฒั นา 1. สง่ เสรมิ ใหค้ รอบครวั (พอ่ แม)่ เปน็ แบบอย่างทีด่ ีในการดแู ลผ้สู งู อายุในครอบครัว 2. สนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมให้เด็กและเยาวชนได้เข้ามามีส่วนร่วมและสนับสนุนการดําเนินงานของ เดก็ และเยาวชนเก่ยี วกับผสู้ งู อายุ 3. พัฒนาหลักสูตร/กิจกรรมเรียนรู้ตลอดชีวิตเก่ียวกับผู้สูงอายุให้กับเด็กและเยาวชนได้เรียนรู้ โดยมีการเรยี นรู้เกยี่ วกับการดูแลผสู้ ูงอายุในครอบครวั ต้งั แต่ระดบั อนุบาลเปน็ ต้นไป 4. ส่งเสริมองค์กรในท้องถิ่นให้นําเด็กและเยาวชน ทํากิจกรรมร่วมกับผู้สูงอายุในเทศกาลต่างๆ ทุกครง้ั 5. ส่งเสริมกิจกรรมในการพัฒนาเด็กและเยาวชน ในการบําเพ็ญประโยชน์เพ่ือผู้สูงอายุโดยมีการกําหนด เปน็ ชัว่ โมงในการทาํ กิจกรรม 6. เปดิ โอกาสใหเ้ ด็กและเยาวชนเสนอโครงการเพ่อื ดําเนนิ กิจกรรมสาํ หรับผูส้ ูงอายุในพนื้ ท่ี Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 218

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. กลยุทธท์ ่ี 3: การให้การสนับสนุนองคก์ รทดี่ าเนนิ งานด้านผสู้ งู อายุทปี่ ระสบผลสาเร็จอย่างตอ่ เน่ือง แนวทางการพฒั นา 1. ส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐท่ีเก่ียวข้องดําเนินการสํารวจข้อมูลองค์กรท่ีดําเนินงานด้านผู้สูงอายุที่ ประสบผลสาํ เร็จเพือ่ เปน็ ข้อมลู ในการจดั ทํากจิ กรรม/โครงการสนับสนุนการดาํ เนนิ งานและพฒั นาองค์กรให้ มคี วามเขม้ แขง็ มากยิ่งขน้ึ ต่อไป 2. ส่งเสริมให้หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จัดทําแผนการให้การสนับสนุนองค์กร ทีด่ าํ เนนิ งานด้านผู้สูงอายทุ ปี่ ระสบผลสําเร็จ ท้งั ด้านงบประมาณและกจิ กรรมในการดําเนินงานกับผู้สูงอายุ 3. พัฒนาองค์กรที่ดําเนินงานด้านผู้สูงอายุให้เกิดการประชาสัมพันธ์ผลงานอย่างต่อเน่ือง เพ่ือให้สังคมเห็น ความสําคญั ของการดูแลผสู้ ูงอายุ 4. สนับสนุนให้องค์กรด้านผู้สูงอายุมีการดําเนินงานท้ังเชิงรุกและ เชิงรับ เพื่อให้สามารถเข้าถึง แหลง่ งบประมาณได้ 5. พฒั นาระบบการประเมนิ ผลการดําเนนิ งานขององค์กรเพือ่ ให้การชว่ ยเหลือตามความเหมาะสม กลยทุ ธท์ ่ี 4: สง่ เสรมิ การพัฒนาหลักสูตรการจดั กิจกรรมสาหรับผสู้ งู อายุ แนวทางการพัฒนา 1. สรา้ งความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดําเนินงานด้านผ้สู งู อายใุ ห้เหมาะสมกับพน้ื ท่ี 2. พัฒนาหลักสตู รการจดั กิจกรรมสาํ หรับผสู้ ูงอายใุ ห้เหมาะสมกับพื้นท่ี เพื่อวางกรอบในการดําเนินงานให้กับ ภาคเี ครือขา่ ยในการจดั กิจกรรมใหเ้ หมาะสมและสอดคล้องกนั 3. พัฒนาระบบการวิพากษ์หลักสูตรให้เกิดขึ้นในพ้ืนที่ โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยคํานงึ ถงึ ความตอ้ งการของผูส้ ูงอายุในพื้นที่เป็นหลกั 4. เสริมสร้างกระบวนการเรียนรูใ้ นการจดั ทาํ หลักสูตรให้เหมาะสมกับผู้สงู อายุในพื้นท่ี 5. ส่งเสริมให้เกดิ ผู้นําทางด้านการจัดกิจกรรมให้กับผู้สูงอายุในพื้นท่ี 6. พัฒนากระบวนการมีส่วนร่วมของคนที่ได้รับประโยชน์ คนดูแล และภาครัฐ ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการ ดาํ เนนิ กจิ กรรมตั้งแต่เรมิ่ ตน้ ของการดาํ เนนิ งาน Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 219

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. กลยุทธ์ที่ 5: สง่ เสรมิ ระบบการประชาสัมพันธ์ผลการดาเนินงานขององค์กรดา้ นผู้สูงอายใุ ห้กับสังคมภายนอกรับรู้ แนวทางการพัฒนา 1. พฒั นาบคุ ลากรขององค์กรด้านผสู้ งู อายใุ นการจัดทาํ ส่ือเพ่ือประชาสัมพันธ์ผลการดาํ เนินงานขององค์กร 2. สร้างฐานข้อมูลส่ือทั้งในพ้ืนท่ีและนอกพื้นท่ี เพื่อการส่งข่าวสารในการประชาสัมพันธ์ผลการดําเนินงาน ขององค์กร กลยุทธ์ที่ 6: พัฒนาระบบการจัดทาโครงการเสนอของบประมาณจากหน่วยงานภาครัฐ แนวทางการพัฒนา 1. สง่ เสริมใหเ้ กิดพีเ่ ล้ียงในการเขยี นโครงการใหก้ บั องค์กรในพื้นท่ี 2. พฒั นาผรู้ บั ผิดชอบให้มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั การทาํ โครงการเพอ่ื เสนอของบประมาณใหถ้ ูกต้อง 3. พัฒนาระบบการสื่อสารเกี่ยวกับงบประมาณของหน่วยงานให้องค์กรรับทราบ เพื่อส่งโครงการเสนอขอ งบประมาณได้ทันระยะเวลากาํ หนดขององค์กร 4. สร้างแนวทางในการเขียนของบประมาณของแต่ละหน่วยงานให้เป็นรูปแบบเดียวกัน เพื่อให้องค์กรท่ี ดําเนินงานดา้ นผสู้ ูงอายเุ ขียนของบประมาณได้ถูกต้องตามทห่ี นว่ ยงานต้องการ 5. พัฒนาระบบการพิจารณางบประมาณให้มีความรวดเร็วและสอดคล้องกับความต้องการของพนื้ ท่ี กลยทุ ธ์ที่ 7 : นาวถิ ีคิดสู่วธิ ีปฏิบัติและสาเร็จอย่างเรียบงา่ ยตรงประเด็นและเป็นจริง แนวทางการพัฒนา 1. สรรหาผู้มีความรู้ ความสามารถตรงตามหลักสูตร หรือกิจกรรมท่ีกําหนดไว้แต่ต้น ทําให้การจัดกิจกรรม บรรลตุ ามวัตถปุ ระสงค์ทุกประการ 2. ชว่ ยใหง้ านนโยบายการพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตของผสู้ งู อายเุ ป็นรูปธรรมทช่ี ดั เจนขนึ้ ข้อเสนอแนะตอ่ หน่วยงานภาคีภาคประชาชน 1. หนว่ ยงานภาครัฐควรใหก้ ารสนบั สนนุ การดําเนินงานองค์กรท่ีดําเนนิ งานดา้ นผสู้ งู อายอุ ยา่ งต่อเนื่อง 2. ควรมีการพัฒนาศักยภาพการดําเนินงานของผู้บริหารองค์กรด้านผู้สูงอายุและคณะทํางานเพื่อให้มีความรู้ ทห่ี ลากหลายและทนั เหตุการณ์ 3. กําหนดเรื่องการดูแลผู้สูงอายุเป็นหลักสูตรในสถาบันการศึกษาเพื่อให้เด็กและเยาวชนเห็นความสําคัญ ของการดูแลผู้สงู อายุ Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 220

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. 4. หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องกับการจัดทําโครงการควรมีการจัดอบรมการเขียนโครงการเพื่อให้โครงการ ของเครือขา่ ยที่จดั ทําถกู ตอ้ งตามระเบียบ เปน็ การลดภาระงานของเจา้ หนา้ ท่ที ี่เกีย่ วข้อง 3.การวเิ คราะหแ์ นวทางการจดั ทากลยุทธก์ ารทางานกับเครอื ข่ายองค์กรธุรกิจเอกชน จากการศึกษา สามารถวิเคราะห์แนวทางการจัดทํากลยุทธ์การทํางานกับเครือข่ายองค์กรธุรกิจเอกชน ได้ว่าองค์กรท่ีแสวงหากําไรโดยการทําธุรกิจให้บริการกับผู้สูงอายุ ดูแลด้านสุขภาพ ด้านชีวิตความเป็นอยู่ รวมถึง ด้านจิตใจท่ีมีกิจกรรมด้านนันทนาการต่างๆ ซ่ึงลักษณะการบริหารจัดการขององค์กรเอกชนน้ัน ให้ความสําคัญกับ การบริหารธุรกิจ ซึ่งโครงสร้างการจัดองค์กรนั้นเป็นไปตามระบบเอกชน มีผู้บริหารและมีการแบ่งการทํางาน อย่างชัดเจน คือ แผนกบุคคล การเงิน บัญชี และ พยาบาลวิชาชีพและผู้ดูแลผู้สูงอายุ ในระบบการจัดโครงสร้าง อย่างนี้เป็นไปตามกลไกที่มุ่งตอบสนองการบริหารจัดการภายในองค์กรให้ตอบรับกับการดําเนินธุรกิจ โดยกลยุทธ์ การดําเนินงานขององค์กรเอกชนท่ีแสวงหากําไร นั้นมีเปูาหมายในการดําเนินงานที่ชัดเจน มีการกําหนดทิศทาง การขยายธุรกิจ มีการสร้างบุคลากรรองรับ เช่น โรงพยาบาลกล้วยนํ้าไท 2 น้ัน มีสถาบันท่ีผลิตบุคลากรในการดูแล ผู้สูงอายุเพ่ือรองรับการขยายงานของโรงพยาบาล ส่วนเครือข่ายในการดําเนินงานร่วมนั้น องค์กรที่เป็นธุรกิจน้ันจะมี การบริหารองคก์ รท่ีมีเอกเทศของตนเอง ไม่มีเครือข่ายรว่ มเพราะต้องบริหารธุรกิจตามศักยภาพของตนเอง แต่หากพูด ถึงเครือข่ายจะประสานงานร่วมกันในแง่ของการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อตอบสนองการบริหารงานร่วมกัน และหากจะมกี ิจกรรมทท่ี ํางานรว่ มจะเน้นไปในเร่ืองของการทํากิจกรรมช่วยเหลือสังคมหรือ CSR (Corporate social responsibility) ซึ่งทั้ง 2 องค์กรได้มีกิจกรรมร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ เช่นกิจกรรมการสนับสนุนคุณภาพผู้สูงอายุ ร่วมกับหน่วยงานราชการ กล่าวโดยสรุป องค์กรท่ีทํางานด้านเอกชนและมีการแสวงหากําไรหรือประกอบธุรกิจ ทางด้านการใหบ้ รกิ ารกบั ผู้สงู อายนุ ัน้ จะมลี ักษณะเดน่ และเปูาหมายท่ีชัดเจนเพ่ือมุ่งบริการด้านธุรกิจ มีความคล่องตัว ในการบริหารจัดการเพื่อมุงตอบสนองการดําเนินงานในการประกอบธุรกิจโดยในด้านการทํางานร่วมกับเครือข่าย กม็ ุง่ ที่จะตอบสนองธุรกจิ ขององค์กร จากแนวทางทั้งหมดนี้ สามารถนํามาปรับใช้กับการสร้างให้องค์กรประเภทองค์กรธุรกิจเอกชน หันมาเป็นส่วนหนึ่งหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับกระทรวงได้มากย่ิงข้ึน โดยเทคนิคต่างๆ เหล่านี้อาจจะปรับให้เข้ากับ สภาพขององค์กรธุรกิจที่ทํางานด้านผู้สูงอายุอยู่แล้วให้เห็นถึงแนวทางการทํางานร่วมกัน และเอื้อประโยชน์ต่อกันใน การทํางานกับกลุ่มเปูาหมายผู้สูงอายุในชุมชน เช่น การประสานข้อมูลการทํางาน การร่วมกิจกรรมกัน การวางแผนการทํางานร่วมกัน เป็นต้น ทั้งนี้ก็เพื่อให้การบริการด้านผู้สูงอายุเข้าถึงกลุ่มเปูาหมายได้มากที่สุด ซึ่งองค์กรลักษณะน้ีอาจเข้าถึงกลุ่มผู้สูงอายุที่มีกําลังมากพอท่ีจะจ่ายเงินเพื่อใช้บริการต่างๆ แต่อาจไม่เหมาะกับ กลุ่มผู้สูงอายุทั่วไปที่ไม่มีกําลังซื้อ แต่ก็ถือได้ว่า เป็นการประสานการทํางานเพื่อบรรลุเปูาหมายเดียวกันคือ Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 221

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. การทํางานเพ่ือกลุ่มผู้สูงอายุ ซ่ึงจากการศึกษาตัวอย่างการทํางานของหน่วยงานภาครัฐร่วมกับเอกชน พบว่าสามารถบรหิ ารจดั การไดอ้ ยา่ งดแี ละให้บรกิ ารไดอ้ ย่างทว่ั ถึงมากยิ่งข้ึน ตัวอย่างเช่น ในประเทศสวีเดน (ในเว็บไซต์ของประเทศสวีเดน (ELDERLY CARE IN SWEDEN, 2015)) กล่าวถึง การดูแลสุขภาพและสังคมของผู้สูงอายุ ซึ่งถือว่าเป็นนโยบายสวัสดิการสังคมท่ีสําคัญของสวีเดน โดยประเทศสวีเดนน้ันได้มีการบริหารจัดการท่ีให้เอกชนเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการดูแล โดยหน่วยงานภาครัฐ คือเทศบาลเลือกท่ีจะให้ภาคเอกชนเป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุ โดยในปี ค.ศ.2011 มีจํานวนผู้สูงอายุท่ีภาคเอกชนดูแล อยู่ท่ีบ้าน ร้อยละ 18.6 ผู้สูงอายุสามารถเลือกได้ว่าจะให้มีคนมาดูแลตนเองที่บ้านหรือไปอยู่บ้านพักท่ีภาครัฐ หรือเอกชนจดั เตรียมให้ อย่างไรก็ตาม พ้ืนท่ีดังกลา่ วทางเทศบาลก็ยังคงรับผิดชอบในทุกเรื่อง มีการตั้งศูนย์ช่วยเหลือ หรือจัดสรรบ้านพักสําหรับผู้สูงอายุพร้อมมีสิ่งอํานวยความสะดวกให้ มีข้อเท็จจริงในการดูแลผู้สูงอายุในสวีเ ดน เรื่องสิทธิในการอยู่ร่วมกัน ในปี ค.ศ.2012 มีการปรับปรุง พ.ร.บ.การบริการทางสังคมของสวีเดน โดยให้ผู้สูงอายุ ท่ีอาศัยอยู่ด้วยกันมานานสามารถอยู่ด้วยกันต่อไปได้ในบั้นปลายชีวิตในสถานที่ที่รัฐจัดให้ ในปี ค.ศ. 2012 ถือเป็นปีแห่งผู้สูงอายุที่มีศักยภาพของยุโรปและความเป็นปึกแผ่นระหว่างรุ่น โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะช่วย สรา้ งวฒั นธรรมผ่านศักยภาพท่ีเหลืออยู่ของผู้สูงอายุ ซ่ึงรัฐบาลสวีเดนและองค์กรต่างๆ ได้ให้ความร่วมมือกับทาง EU ท้ังในด้านการก่อตั้งกองทุนและการดูแลเร่ืองโปรแกรมดูแลสุขภาพ เทศบาลสวีเดนวางแผนที่จะสร้างบ้านพักและ บริเวณท่ีพักอาศัยท่ีตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุและผู้พิการ การเข้าถึงความต้องการของคนกลุ่มนี้มีส่วน สําคัญในการผลักดันกฎหมายในช่วงหลายปีมานี้ สวีเดนมจี าํ นวนผ้สู ูงอายุเพม่ิ มากขึ้นและมีความต้องการท่ีจะอาศัยอยู่ ในบา้ นพักแบบน้ี โดยทั่วไปบ้านพักผู้สูงอายุมีไว้สําหรับผู้มีอายุ 55 ปีข้ึนไป บ้านพักรูปแบบน้ีมีส่ิงอํานวยความสะดวก ข้นั พ้นื ฐานและมกี ารดแู ลสาํ หรบั ผสู้ ูงอายุที่อยทู่ ี่บ้านของตนเองดว้ ย เช่นเดียวกันกับประเทศญ่ีปุน ท่ีเมื่อเร่ิมบังคับใช้กฎหมายระบบประกันการดูแลระยะยาว (Long-term Care Insurance: LTCI) LTCI จะเน้นให้ผู้ใช้บริการสามารถเลือกใช้บริการท่ีตนต้องการได้ มีการให้สวัสดิการ และบริการดูแลรักษาสุขภาพที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับผู้ท่ีมีภาวะพ่ึงพิง ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของ ภาคเอกชน เช่น สถานประกอบการ สหกรณ์การเกษตร และองค์กรท่ีไม่หวังผลกําไร โดยให้บริการหลากหลาย และมีประสิทธิภาพ และท่ีสําคัญคือให้แยกการดูแลระยะยาวออกจากการประกันสุขภาพ ท้ังนี้ถือเป็นก้าวแรก ของญี่ปุน การปรับโครงสร้างการประกันสังคมโดยให้ผู้สูงอายุเป็นผู้ประกันตนและร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาล ร้อยละ 10 ของจํานวนเตม็ หรือแม้แต่ในออสเตรเลีย ท่ีมองว่ารัฐต้องลดบทบาทในการเป็นผู้จัดสวัสดิการให้น้อยลงแต่ส่งเสริม ให้ครอบครัว องค์กร เอกชน และสังคมเข้ามามีบทบาทมากข้ึน บทบาทของรัฐคงเหลืออยู่เพียงการให้การสนับสนุน ดา้ นงบประมาณ การส่งเสริมทางวิชาการ และประสานงานในด้านกฎระเบียบและการบริหารจัดการ Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 222

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. ตัวอย่างการบริหารจัดการการทํางานกับองค์กรเครือข่ายภาคเอกชนเหล่าน้ี ทําให้เห็นได้ว่า ประเทศไทย ควรมีการสนบั สนุนและสง่ เสรมิ การทํางานร่วมกับภาคีเครือข่ายเหล่านี้ให้มากข้ึน เพื่อลดภาระการดูแลกลุ่มวัยสูงอายุ ทจ่ี ะเพมิ่ ขึ้นอยา่ งต่อเน่อื ง ในการศกึ ษาคร้งั น้ี ไดศ้ ึกษาองคก์ ารภาคประชาชนทีด่ ําเนนิ งานดา้ นผสู้ งู อายุร่วมกบั กระทรวงการพัฒนาสังคม และความม่ันคงของมนุษย์ สาขาสมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยฯ ศูนย์สงเคราะห์ผู้สูงอายุ ศูนย์พัฒนาฟ้ืนฟู สุขภาพผ้สู งู อายุ และมลู นิธิต่างๆ เปน็ ตน้ 3.1 การบริหารจัดการ แนวทางสู่ความสําเร็จในการดําเนินงานขององค์กรภาคธุรกิจเอกชน ส่วนสําคัญท่ีสุดท่ีทําให้องค์กรประสบ ความสําเร็จในการดําเนินงาน ก็คือ ผู้นําที่มีศักยภาพและมีพลังในการดําเนินงานร่วมกับภาคีเครือข่ายซ่ึงไม่ต่างจาก องค์กรประเภทอื่น นอกจากผู้นําแล้วก็คือ ทีมงาน หากมีทีมงานที่มีคุณภาพก็จะทําให้องค์กรน้ันมีทุนทางสังคมท่ีดี ซง่ึ จากการศกึ ษาพบว่า องค์กรธุรกิจเอกชนน้ันมักมีบุคลากรที่เป็นนักประสานงานที่ดีและมีกระบวนการคิดที่ต่อเนื่อง ในการดําเนินกิจกรรม องค์กรมักมีการปรับปรุงกระบวนการทํางานให้เหมาะสมกับระยะเวลาและบริบทของพ้ืนท่ี ทาํ ให้สามารถปรับตัวอย่ไู ด้ ซงึ่ องคก์ รลกั ษณะนม้ี กั จะให้ความสาํ คญั กับทกุ ภาคเี ครอื ขา่ ย ทกุ หน่วยงานที่ทํางานร่วมกัน ไม่ปฏิเสธหน่วยงานท่ีเข้ามาติดต่อประสานงานและมักดึงความสามารถของผู้สูงอายุในพ้ืนท่ีให้เข้ามาร่วมทํากิจกรรม ให้ผู้สูงอายุรู้สึกมีคุณค่าในตนเองและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยมีการกําหนดให้มีการดําเนินงานกิจกรรม อย่างต่อเน่ืองทําใหอ้ งคก์ รมีการเคลื่อนไหวตลอด ผ้สู งู อายสุ ามารถร่วมกิจกรรมไดแ้ ลกเปล่ยี นเรียนรกู้ จิ กรรมร่วมกัน ในการศึกษาองค์กรเอกชนหลายๆ แห่งพบว่า ผู้บริหารองค์กร มีกระบวนการคิดท่ีต่อเน่ืองทําให้มี กระบวนการทาํ งาน ขน้ั ตอนการทํางานท่เี ป็นระบบและประสบผลสาํ เรจ็ และมกี ารพัฒนากระบวนการหางบประมาณ เข้าองคก์ ร โดยยดึ หลกั การพึ่งตนเองเปน็ สําคัญ องค์กรเอกชนมักเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาองค์กรเครือข่ายในระดับ อําเภอ ระดับตําบล ทําให้องค์กรต่างๆ สามารถดําเนินกิจกรรมได้ และคอยหนุนเสริมการดําเนินงานซึ่งกันและกัน ทั้งจังหวัด นอกจากน้ี ยังได้มีการนําเสนอผลงานท่ีองค์กรได้ทําให้กับหน่วยงานภายนอกได้รับรู้ มีการนําผลงานต่างๆ เช่น การรํามวยไทย ไปแสดงตามสถานท่ีต่างๆ ทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด ซึ่งเป็นการประชาสัมพันธ์ผลงาน ขององค์กรให้เป็นท่ีประจักษ์ในสังคม อีกท้ังผู้บริหารเปิดใจกว้างในการรับสมาชิกเข้ามาทํางานเพิ่ม ไม่จํากัดอยู่ที่ เฉพาะบุคคลหรือเฉพาะกลุ่ม และการทํางานจะมีกระบวนการการติดตามประเมินผลความสําเร็จของงานทุกครั้ง โดยติดตามความสําเร็จของงานในเวทีประชุมประจําเดือน เพื่อดูความก้าวหน้าของงานและค้นหาปัญหาอุปสรรค ทเ่ี กิดขน้ึ เพ่อื หาแนวทางในการแก้ไขซ่ึงถอื เปน็ เทคนิคสําคัญในการทํางานขององค์กรภาคธุรกจิ เอกชน Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 223

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. 3.2 การพัฒนาระบบการบรหิ ารจัดการเครือข่าย การทํางานขององค์กร จะมีการวางแผนการทํางานร่วมกันระหว่างองค์กรกับภาคีเครือข่ายเพ่ือกําหนด แนวทางในการพัฒนาที่ประสานและสอดคล้องกัน มีการกําหนดแกนนําหลักในการประสานการทํางาน เพื่อให้เกิดความต่อเน่ืองในการดําเนินงานร่วมกัน เน้นกระบวนการทํางานใช้พื้นท่ีเป็นฐานในการทํางาน เพ่ือให้สอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่และสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงประเด็น ซ่ึงองค์กรเหล่าน้ีจะดําเนินงาน กับภาคีเครือข่ายท้ังเชิงรุกและเชงิ รบั เพ่อื ใหเ้ ขา้ ถึงหนว่ ยงานต่างๆ และเป็นการประชาสมั พันธ์ผลการดําเนินงานให้กับ สังคมรับทราบ มีการกําหนดให้ผ้มู สี ่วนได้รบั ผลประโยชน์เขา้ มามีสว่ นร่วมในการดาํ เนนิ กจิ กรรม พรอ้ มท้งั ได้กําหนดให้ มีการประชุมร่วมกันทุกเดือนเพื่อติดตามผลการดําเนินงานและค้นหาปัญหาอุปสรรคพร้อมท้ังหาแนวทางแก้ไข ซ่ึงหน่วยงานภาครัฐระดับกระทรวงควรมีการเชื่อมโยงการดําเนินงานด้านผู้สูงอายุอย่างจริงจัง มิใช่แต่ละกระทรวง แยกกนั ดําเนนิ การ จากการวเิ คราะห์การบรหิ ารจดั การองค์กรภาคธุรกิจเอกชน สามารถกําหนดกรอบแนวทาง/กลยุทธ์การสร้าง ความเขม้ แข็งให้กับองคก์ รเครือขา่ ยไดด้ งั น้ี กลยทุ ธ์ที่ 1 : จดั ทายุทธศาสตร์การสร้างความรว่ มมือกบั เครอื ขา่ ยทเี่ กี่ยวข้อง แนวทางการพฒั นา 1.วางเปาู ประสงค์ทต่ี ้องการตามกรอบระยะเวลาท่ีชดั เจน 2.ค้นหาเครือข่ายท่ีมกี ารทํางานทีม่ ีสว่ นสัมพนั ธเ์ ขา้ มามสี ว่ นรว่ มในการทํางาน 3.นําแผนงานที่ได้ไปใชป้ ระโยชน์ กลยุทธ์ที่ 2 : การพัฒนาพันธมิตรในการดาเนินงานด้านผู้สูงอายุ เพ่ือให้องค์กรเข้าถึงแหล่งงบประมาณใน การดาเนนิ งานด้านผู้สงู อายุ แนวทางการพฒั นา 1. พัฒนาการสร้างข้อมูลพ้ืนฐานภาคีเครือข่าย ท้ังภาครัฐและภาคเอกชนท่ีให้การสนับสนุนการดําเนินงาน ขององค์กรดา้ นผู้สูงอายุ 2. สนับสนุนใหห้ น่วยงานองค์กรภาคธุรกิจในพน้ื ทใ่ี ห้การสนบั สนนุ การดําเนินงานด้านผสู้ ูงอายุ 3. สร้างแรงจูงใจให้หน่วยงาน องค์กรภาคธุรกิจ ให้การสนับส นุนงบประมาณ โครงการกิจกรรม การดําเนนิ งานเพอ่ื ผู้สูงอายุ Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 224

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. กลยุทธท์ ่ี 3: สง่ เสริมการพัฒนาหลกั สูตรการจดั กจิ กรรมสาหรับผ้สู ูงอายุ แนวทางการพฒั นา 1. สรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจเก่ียวกับการดําเนนิ งานดา้ นผู้สงู อายุใหเ้ หมาะสมกบั พืน้ ที่ 2. พฒั นาหลักสตู รการจัดกจิ กรรมสําหรบั ผ้สู ูงอายุให้เหมาะสมกับพ้ืนที่ เพื่อวางกรอบในการดําเนินงานให้กับ ภาคีเครอื ข่ายในการจดั กจิ กรรมใหเ้ หมาะสมและสอดคล้องกัน 3. พัฒนาระบบการวิพากษ์หลักสูตรให้เกิดข้ึนในพื้นที่ โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนโดย คาํ นึงถึงความต้องการของผู้สงู อายใุ นพ้ืนทเ่ี ป็นหลัก 4. เสริมสรา้ งกระบวนการเรียนรใู้ นการจดั ทําหลกั สูตรให้เหมาะสมกบั ผู้สูงอายุในพ้ืนท่ี 5. สง่ เสริมใหเ้ กิดผู้นําทางดา้ นการจัดกิจกรรมใหก้ บั ผู้สงู อายใุ นพน้ื ที่ 6. พัฒนากระบวนการมีส่วนร่วมของคนที่ได้รับประโยชน์ คนดูแล และภาครัฐ ให้เข้ามามีส่วนร่วมใน การดําเนนิ กจิ กรรมต้ังแต่เรม่ิ ตน้ ของการดาํ เนินงาน ข้อเสนอแนะต่อหน่วยงานภาคภี าคธรุ กจิ เอกชน 1. การคดั เลอื กผนู้ าํ ที่มศี กั ยภาพและพลังในการทาํ งาน 2. การพยายามดงึ ผู้สงู อายุที่มคี วามรู้ความสามารถเข้ามาทาํ งานในองค์กรเพ่ือใหผ้ ู้สูงอายเุ หน็ คณุ คา่ ในตนเอง 3. ส่งเสริมการเตรียมความพร้อมการทํางานเพื่อผู้สูงอายุ โดยชักจูงผู้ที่ยังไม่เข้าสู่วัยผู้สูงอายุให้เข้ามาเรียนรู้ การทํางานร่วมกัน 4. การปรบั ปรงุ การทํางานขององค์กรให้เหมาะสมกบั บริบทของพื้นท่ี เพอ่ื ให้สามารถตอบสนองความต้องการ ของผสู้ งู อายใุ นพ้นื ที่ได้ 5. การดําเนินงานตอ้ งยดึ พนื้ ทเ่ี ปน็ หลัก โดยใชพ้ นื้ ทต่ี ําบลเป็นฐานในการพฒั นา 6. การส่งเสรมิ และพฒั นาบุคลากรให้มีความรคู้ วามสามารถทนั กับการเปลี่ยนแปลงของสังคม เพ่ือให้สามารถ ปรบั วธิ กี ารทาํ งานให้เหมาะสม 7. สง่ เสริมให้เกดิ การเชื่อมโยงงานอย่างเป็นระบบจนถึงผลลพั ธข์ องความสาํ เร็จ 8. หน่วยงานที่เก่ียวข้องต้องดําเนินการสนับสนุนองค์กรที่มีผลการดําเนินงานประสบผลสําเร็จ เพ่ือเป็น ตน้ แบบของการพัฒนาและขยายผลให้ครอบคลุมทุกพน้ื ท่ี 4. การวิเคราะหแ์ นวทางการจดั ทากลยุทธ์การทางานกับเครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชน ระบบของการบริหารเครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชน มีลักษณะการดําเนินงานที่แตกต่างไป ตามแต่ละองค์กร เนื่องจากแต่ละองค์กรมีเครือข่ายท่ีต้องทํางานร่วมกันมากมาย โดยวัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 225

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. องค์กรก็เพ่ือเป็นองค์กรท่ีประสานงานร่วมกับองค์กรผู้สูงอายุต่างๆ ในพื้นที่ จุดเด่นของเครือข่ายประเภทน้ีคือ ความคล่องตัวในการบริหารจัดการและการขยายเครือข่าย อาศัยเทคนิคและวิธีการของผู้นําแต่ละคนที่จะดึงภาคี เข้ามาร่วมงาน เช่น สาขาสาขาสมาคมผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยฯ นั้น ถือเป็นองค์กรท่ีให้ความช่วยเหลือองค์กร หรือชมรมผู้สูงอายุในเขตพื้นท่ีของตนเองหรือในจังหวัดของตนเอง และจะมีคณะที่ทํางานกําหนดนโยบาย ในระดับประเทศอีกชั้นหน่ึง ซึ่งสาขาสมาคมแต่ละจังหวัดต้องเข้าไปมีส่วนสัมพันธ์ทํางานร่วมกับหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ เอกชนจํานวนมาก เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวัฒนธรรม องค์กรเอกชน มูลนิธิต่างๆ ซึ่งความสัมพันธ์ร่วมกันนี้มุ่งที่จะตอบสนองภารกิจร่วมกันของ เครือข่ายที่เข้าไปร่วมดําเนินงาน ซึ่งมีเปูาหมายเดียวกันคือ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุและปัจจัยท่ีส่งเสริม การดาํ เนนิ งานให้สาํ เรจ็ ลลุ ่วงไปได้ไมใ่ ช่ผลตอบแทนทางดา้ นเงินทอง แต่เปน็ ปจั จัยด้านจิตอาสาของผู้เข้ามาปฏิบัติงาน คล้ายๆ กับการทํางานในต่างประเทศ เช่น โครงการ “ผู้สูงอายุช่วยเหลือผู้สูงอายุ”งานอาสาสมัครเป็นปรากฏการณ์ ใหม่ในประเทศเดนมาร์ก โครงการนี้ครอบคลุมถึง 120 เทศบาล จากทั้งหมด 275 เทศบาลในประเทศเดนมาร์ก ความตัง้ ใจท่จี ะตอ่ สู้กับความโดดเด่ียวดว้ ยการสรา้ งเครอื ข่ายของผสู้ งู อายุ เปาู หมายคอื การสร้างอาสาสมัครช่วยเหลือ ในส่วนที่เหลืออีก 155 เทศบาล ภายในช่วง 3 ปีข้างหน้า เปูาหมายน้ีถูกขยายคุณลักษณะของอาสาสมัครด้วย การบูรณาการการทํางานของอาสาสมัครท่ีจะเข้ามาในชีวิตประจําวันของผู้สูงอายุ โดยไม่คํานึงถึงอายุ วิชาชีพ หรือเช้อื ชาติของอาสาสมัคร ด้วยเหตุนี้จึงพัฒนา \"ความเข้าใจความแตกต่างทางสังคม\" ที่หวังว่าจะเสริมสร้างรูปแบบ สวัสดิการสังคมของประเทศเดนมารก์ ในการศึกษาคร้ังนี้ ได้ศึกษาองค์การภาคพัฒนาเอกชน (NGOs) ท่ีดําเนินงานด้านผู้สูงอายุร่วมกับกระทรวง การพฒั นาสังคมและความมั่นคงของมนษุ ย์ เช่น มลู นิธิ และสถาบันด้านผูส้ งู อายุ เปน็ ตน้ 4.1 การบรหิ ารจดั การ แนวทางสู่ความสําเร็จในการดําเนินงานขององค์กรพัฒนาเอกชน ส่วนสําคัญท่ีสุด คือการมีจิตใจมุ่งม่ัน ของผู้บริหารองค์กรท่ีต้องการดูแลผู้สูงอายุที่ด้อยโอกาสทางสังคม ซึ่งการทํางานขององค์กรลักษณะนี้จะเป็น การทํางานที่ไม่มุ่งหวังตัวเงินหรือผลประโยชน์ใดๆ จากการทํางานและไม่มีการแสวงหาเครือข่ายในการทํางาน ซง่ึ การทาํ งานกับกลมุ่ เปูาหมายขององค์กรท่ีได้ศึกษานั้น พบว่า ผู้บริหารองค์กรไม่ได้ให้ความสําคัญกับผู้สูงอายุเฉพาะ ในสถานสงเคราะห์เท่านั้น แต่ให้ความสําคัญกับครอบครัวที่ดูแลผู้สูงอายุ ให้ทั้งความรู้ทางวิชาการเกี่ยวกับการดูแล ผู้สูงอายุและให้ยืมอุปกรณ์ในการดูแลผู้สูงอายุในครอบครัว โดยในการทํางานขององค์กรน้ัน จะได้รับการสนับสนุน จากภาคีเครือข่ายในการดําเนินการดูแลผู้สูงอายุ การทํางานหรือการบริหารจัดการองค์กรนั้น พบว่ามีการบริหารกัน แบบพอเพียง ไม่ได้หวังเงินหรือผลประโยชน์ใด เปูาหมายคือการขอให้การดูแลผู้สูงอายุให้รอดๆ ไปวันๆ หน่ึงเท่านั้น ดว้ ยเหตุน้ีจึงทําให้ภาคีเครือข่ายเห็นการดําเนินงานและมีการกล่าวถึงกันแบบปากต่อปากทําให้มีภาคีเครือข่ายเข้ามา สนับสนนุ ให้องค์กรสามารถอยูไ่ ด้ Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 226

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. 4.2 การพฒั นาระบบการบริหารจัดการเครือข่าย ในกระบวนการพัฒนาระบบการบริหารจัดการองค์กรน้ันพบว่า องค์กรเอกชนนั้นต้องการที่จะให้หน่วยงาน ภาครัฐมีการประชาสัมพันธ์ผลการดําเนินงานขององค์กรให้ภาคีเครือข่ายรับทราบ (เนื่องจากผู้บริหารองค์กรไม่มี การประชาสัมพันธ์การดําเนินงาน) และได้มีแนวคิดท่ีจะให้สถานศึกษาควรให้ความสําคัญกับการทํากิจกรรม เพ่ือประโยชนต์ ่อสงั คม ในการนําเดก็ มารว่ มกจิ กรรมกบั องค์กร เพอ่ื เป็นการปลกู ฝังใหเ้ ดก็ เห็นความสําคัญของผู้สูงอายุ จากการวิเคราะห์การบริหารจัดการองค์กรพัฒนาเอกชน สามารถกําหนดกรอบแนวทาง/กลยุทธ์การสร้าง ความเข้มแขง็ ให้กับองคก์ รเครือข่าย ได้ดงั นี้ กลยทุ ธท์ ี่ 1: ส่งเสริมระบบการประชาสัมพนั ธผ์ ลการดาเนินงานขององคก์ รด้านผสู้ ูงอายุใหก้ ับสังคมภายนอกรบั รู้ แนวทางการพฒั นา 1. พฒั นาบคุ ลากรขององคก์ รด้านผสู้ งู อายุในการจดั ทาํ ส่อื เพื่อประชาสัมพนั ธ์ผลการดําเนินงานขององคก์ ร 2. สร้างฐานข้อมูลสื่อทั้งในพ้ืนท่ีและนอกพ้ืนที่ เพ่ือการส่งข่าวสารในการประชาสัมพันธ์ผลการดําเนินงาน ขององคก์ ร กลยุทธ์ท่ี 2 : ยดึ ประชาชนกลุ่มเปูาหมายเป็นทตี่ ั้ง และมองเหน็ ปญั หารว่ มกนั แนวทางการพฒั นา 1. วางแผนเริ่มต้น ช่วยเหลือและทํางานสนับสนุน ส่งเสริมให้กับคนที่เข้าไม่ถึง การทํางานแบบ NGOs ท่เี ป็นมลู นิธิ ก็เปรียบเสมือนพระสงฆ์ เราใชค้ วามศรทั ธา ซงึ่ ถ้าไม่ศรทั ธาไม่ใหเ้ งินทํางาน กอ็ ยูไ่ มไ่ ด้ 2. ไมท่ าํ ใหเ้ สียศรทั ธา ตอ้ งทาํ ใหเ้ กดิ ความโปรง่ ใส ตรงไปตรงมาจะเปน็ เคร่ืองมือให้คนทํางานเพ่ือสังคมมีพลัง ในการทํางานมากขนึ้ กลยุทธ์ 2 : S P D I C S (South full ment) = เติมเต็ม ทําอะไรก็ทําไดท้ ี่ไม่ไปพ่ึงใคร) P (Participation) = มีส่วนรว่ มในการพัฒนาชุมชน D (Dignity) = มศี กั ดิ์ศรี I (Independent) = มคี วามเปน็ อสิ ระ C (Care) = ดูแลตวั เองไมไ่ ด้ก็ต้องไดร้ ับการดูแล Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 227

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. กลยทุ ธท์ ี่ 3 : ทางานรว่ มกบั เครือข่ายภาคประชาสงั คมอนื่ ๆ เพ่ือวางแผนการรณรงคร์ ะดับชาติ แนวทางการพัฒนา 1. การลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ได้รับความช่วยเหลือผู้สูงอายุและชุมชนได้รับผลกระทบจากน้ําท่วม โดยการซ่อมแซมบ้านและอาคาร 2. ฝึกอบรมอาสาสมัครเพื่อให้แน่ใจว่าชุมชนสามารถท่ีจะตอบสนองต่อภัยพิบัติ และสอดคล้องกับ ความตอ้ งการของผู้สูงอายุ 3. สนับสนุนให้ผู้สูงอายุเข้ามามีบทบาทเข้าใจประเด็นต่างๆจริงๆ และวิธีการท่ีเข้าใจง่าย ผู้สูงอายุได้เข้ามา มีบทบาทมากขน้ึ ข้อเสนอแนะต่อหน่วยงานภาคภี าคองค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) 1. ควรมกี ารกําหนดวิสัยทัศน์ พัฒนางานด้านผู้สูงอายุ เอาโครงการมาแนะนํา โดยทําเป็นต้นแบบและนําไป ขยายผลต่อองค์กร หน่วยงานต่างๆ ให้ดําเนินกิจกรรมต่อไปพร้อมกับได้แสวงหาแนวทางในการมีบทบาทใน การสนับสนนุ สงั คมอยา่ งต่อเน่อื ง 2. ควรเน้นการสร้างความเข้มแข็งของกลุ่มผู้สูงอายุและเครือข่ายในการโต้ตอบกับเจ้าหน้าท่ีท้องถิ่นและ การเข้าถงึ สิทธิผสู้ ูงอายุ Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 228

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. บทที่ 7 สรุปและอภิปรายผลการศกึ ษา Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 229

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. สรปุ อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ การวิจัยเร่ือง “กลยุทธ์การสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายผู้สูงอายุ ของกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์” มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบ วิธีการ และระบบการบริหารจัดการของเครือข่าย ด้านผู้สูงอายุ และเพื่อจัดทํากลยุทธ์การสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายผู้สูงอายุ ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนษุ ย์ การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยประยุกต์ (Applied Research) ศึกษาโดยใช้วิธีวิทยาการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Methodology) การศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ โดยแบ่งตาม เขตรับผิดชอบของสํานักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 -12 การคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างเชิงคุณภาพ (การลงพ้ืนที่ศึกษาดูงานการบริหารจัดการองค์กรเครือข่ายด้านผู้สูงอายุ และการสนทนากลุ่ม) ในที่น้ีได้คัดเลือก กลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยคํานึงถึงวัตถุประสงค์ของการศึกษา และจํานวนองค์กร ที่ได้มีการศึกษาดูงานและการสนทนากลุ่ม ได้มีการคํานวณสัดส่วนการเก็บข้อมูลในแต่ละพื้นท่ีของสํานักงานส่งเสริม และสนับสนุนวิชาการ 1-12 มจี ํานวนรวมท้งั สิ้น 35 องคก์ ร ส่วนการคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างเชิงปริมาณได้คัดเลือกพ้ืนที่ จากการสุ่มตัวอย่างแบบ Simple Random จากพ้ืนท่ีในเขตรับผิดชอบของสํานักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ เขต 1-12 จํานวนทั้งสิน้ 3,840 ตวั อย่าง โดยเก็บข้อมลู จากผู้สงู อายทุ เ่ี ปน็ สมาชิกชมรมผู้สูงอายุ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ สถติ กิ ารแจกแจงความถี่ และหาค่าร้อยละ 7.1 สรปุ ผลการศกึ ษา ผลจากการศึกษารูปแบบ วิธีการ และระบบการบริหารจัดการเครือข่ายด้านผู้สูงอายุและการจัดทํากลยุทธ์ กา ร ส ร้ า ง คว า ม เ ข้ ม แ ข็ ง ข อง เ ค รื อ ข่า ย ผู้ สู ง อ า ยุ ขอ ง ก ร ะ ท ร ว ง กา ร พั ฒ น า สั ง คม แ ล ะค ว า ม มั่ น คง ขอ ง ม นุ ษ ย์ นั้ น สรุปผลได้ว่า เครือข่ายผู้สูงอายุท่ีทําการศึกษาในคร้ังนี้เป็นการรวมกลุ่มหรือการเข้ามามีปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน ของกลุ่มหรือองค์กรด้านผู้สูงอายุ ซึ่งมีทั้งการรวมกลุ่มกันอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ มีการทํากิจกรรม ร่วมกันเพื่อบรรลุเปูาหมายของกลุ่ม องค์กรหรือเครือข่ายร่วมกัน มีการติดต่อสื่อสารกันระหว่างกลุ่มผู้สูงอายุหลายๆ กลมุ่ จนก่อให้เกิดเครอื ข่ายในระดับกวา้ งข้นึ จากการศึกษารูปแบบขององค์กรเครือข่ายนั้น พบว่า เครือข่ายที่ทําการศึกษา เป็นเครือข่ ายท่ีเกิดข้ึน โดยอาศัยภารกิจ/กิจกรรม และการก่อตัวของกลุ่มผลประโยชน์ในสังคม เป็นแนวทางดําเนินงาน แบ่งเป็นเครือข่าย ภาครัฐ ภาคประชาชน ภาคธุรกิจเอกชนและภาคองค์กรพัฒนาเอกชน โดยเครือข่ายดังกล่าว มุ่งเน้นการดําเนินการ Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 230

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. ภายใต้กรอบแนวคิด หลักการ วัตถุประสงค์และเปูาหมายหลักของหน่วยงาน หรือโครงสร้างหลักของกลุ่ม ผลประโยชน์น้นั ๆ โดยสรปุ มลี กั ษณะ ดังนี้ 1) เครือข่ายภาครัฐ เช่น ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ, เทศบาล,องค์การบริหาร ส่วนตําบล ,โรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพตําบล และสถาบันการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย เป็นต้น 2) เครือข่ายภาคประชาชน เช่น ชมรมผู้สูงอายุ, โรงเรียนผู้สูงอายุ, ศูนย์ประสานงานขบวนองค์กร เป็นตน้ 3) เครือข่ายองค์กรภาคธุรกิจเอกชน เช่น ศูนย์พัฒนาฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงอายุ, สาขาสมาคมสภา ผสู้ ูงอายแุ หง่ ประเทศไทยฯ และศูนย์สงเคราะห์ผสู้ งู อายุ เปน็ ต้น 4) เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชน เช่น บ้านพักคนชรา, มูลนิธิธรรมรักษ์,สถาบันแมคเคนเพ่ือ การฟ้ืนฟู เปน็ ต้น จากการแบ่งเครือข่ายตามโครงสร้างหน้าท่ีน้ีทําให้พบว่า วิธีการและระบบการบริหารจัดการเครือข่าย ด้านผู้สูงอายุขององค์กรท้ัง 4 รูปแบบ มีการบริหารจัดการเครือข่ายคล้ายกันใน 2 แนวทาง คือ การใช้กลไก การบริหารตามแนวดิ่งและกลไกการบริหารแนวราบ โดยโครงสร้างองค์กรนั้นมีความสําคัญต่อการจัดตําแหน่งหน้าที่ ความรบั ผดิ ชอบงานบคุ คลและกลุ่มบุคคลในแต่ละองค์กรเป็นอย่างมาก ซึ่งสามารถสะท้อนให้เห็นถึงกลไกการบริหาร องค์กรเครอื ข่ายไดอ้ ยา่ งชดั เจน เช่น หน่วยงานองค์กรภาครัฐ ดังเช่นกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เน้นท่ีกลไกการทํางานตามแนวด่ิง คือมีโครงสร้างการบริหารงานแบบลําดับชั้น มีการปฏิบัติงานตามคําส่ังและหน้าที่ รับถ่ายทอดคําส่ัง ส่งผลให้การติดสินใจในการบริหารงานต่างๆ ต้องมาจากผู้ที่มีตําแหน่งสูงกว่า ซ่ึงเป็นลักษณะ การบรหิ ารงานภายในองค์กร แต่เมื่อวิเคราะห์ถึงการประสานงานองค์กรระหว่างกระทรวงฯกับหน่วยงานหรือองค์กร ภายนอกกระทรวงได้ใช้กลไกการทํางานตามแนวราบ แต่ก็ไม่ได้มีประสานงานในลักษณะของกระบวนการทํางาน เครือข่ายท่ีชัดเจน มีเพียงการทํางานร่วมกับภาคีเครือข่ายในลักษณะของการประสานข้อมูลโครงการ และกิจกรรม โดยไม่ได้เน้นการทํางานกับเครือข่ายโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการหรือการวางแผนงานงาน รว่ มกันเทา่ ใดนัก ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับองค์กรเครือข่ายภายนอกในเรื่องของการบริหารจัดการเครือข่าย พบว่า องค์กร ภายนอกกระทรวงมีการทํางานท่ีเน้นกลไกการบริหารแนวราบมากกว่าแนวด่ิง กล่าวคือ ใช้รูปแบบการบริหารท่ีเน้น การประสานงาน การมอบงาน และความร่วมมือในแนวราบเป็นหลัก อาศัยความสัมพันธ์ระหว่างแกนนําขององค์กร เป็นจุดเชื่อมต่อ (Node) ของแต่ละเครือข่าย โดยการบริหารงานในรูปแบบนี้จะให้ความสําคัญกับแกนนําหรือผู้นํา เครือข่ายและภาวะผู้นําในการขับเคล่ือนและการบริหารงานเครือข่าย ไม่เน้นการส่ังการหรือการบังคับบัญชา Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 231


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook