Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore PDF_merged กลยุทธ์ ผส.

PDF_merged กลยุทธ์ ผส.

Published by Takkey Chaiyasing, 2020-10-19 08:06:00

Description: PDF_merged กลยุทธ์ ผส.

Search

Read the Text Version

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. แบบลําดับช้ันเหมือนองค์กรภาครัฐ เช่น องค์กรภาคประชาชน องค์กรพัฒนาเอกชน เป็นต้น โดยองค์กรเหล่านี้ได้ใช้ กระบวนการมสี ่วนร่วมในการบรหิ ารจัดการในทกุ กระบวนการ จากการวิเคราะห์ระบบการบริหารจัดการองค์กรท้ัง 4 ประเภทที่ได้มีการศึกษานั้น ทําให้เห็นได้ว่า การจัดทํากลยุทธ์ในการสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายผู้สูงอายุของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคง ของมนุษย์นั้นต้องอาศัยปัจจัยเก้ือหนุนอีกหลายประการซ่ึงกระทรวงฯ ยังไม่ได้มีการลงไปปฏิบัติงานร่วมกับภาคี ภายนอกกระทรวงอย่างจริงจัง ทั้งนี้หากวิเคราะห์ถึงภารกิจของกระทรวงท่ีต้องทํางานกับก ลุ่มเปูาหมายท่ีมี จํานวนมากในพื้นท่ี แต่มีข้อจํากัดในเร่ืองของหน่วยงานระดับพื้นที่ การทํางานกับภาคีเครือข่ายย่อมเป็นอีก แนวทางหนึ่งท่ีจะทําให้งานของกระทรวงสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเปูาหมายผู้สูงอายุได้อย่างทั่วถึง มากยิง่ ข้นึ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทําให้การศึกษาครั้งน้ีจึงมุ่งหาปัจจัยหรือส่ิงท่ีจะเสริมสร้างให้เกิดความเข้มแข็ง ในการทาํ งานกบั กลมุ่ เครือขา่ ยของกระทรวงในหลากหลายมิติ โดยพบว่า แนวทางการเสริมสร้างและพัฒนาเครือข่าย ความร่วมมือท่ีจะนําไปสู่ความเข้มแข็งน้ัน ต้องเป็นไปตามขั้นตอนและพัฒนาการตามลําดับ โดยควรเริ่มต้นด้วยการ ร่วมกันกําหนดจุดมุ่งหมายของเครือข่าย การต้ังเปูาหมายและวัตถุประสงค์ร่วม การสร้างและพัฒนาแผนปฏิบัติงาน การส่งเสริมบทบาทและกระบวนการตัดสินใจของแต่ละกลุ่ม พัฒนากระบวนการติดต่อสื่อสาร พัฒนาโครงข่าย ความร่วมมือพัฒนาทรัพยากรและแหล่งทุนของเครือข่าย ซึ่งนอกเหนือจากแนวทางดังกล่าวแล้ว ยังต้องอาศัย องค์ประกอบต่างๆ เพ่ือให้การทํางานของกระทรวงกับภาคีเครือข่ายสําเร็จอีกหลายประการ เช่น กระบวนการ ติดต่อส่อื สารระหว่างกระทรวงกับภาคีเครือข่าย ตอ้ งมีความสมาํ่ เสมอ มกี ารแลกเปล่ียนข้อมลู ซ่ึงกันและกัน มีการสรุป ความก้าวหน้าและขยายผลของเครือข่าย มีการพิจารณาถึงความต้องการของสมาชิกเครือข่าย ซ่ึงในที่น้ีหมายถึง กลุ่มผู้สูงอายุที่เป็นสมาชิกขององค์กร/ชมรมต่างๆ เน้นการแลกเปลี่ยนทัศนะมุมมองและประสานความร่วมมือกัน โดยที่กระทรวงจะต้องให้ความร่วมมือและมีการปรับโครงสร้างเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพ ซ่ึงปัจจุบันพบว่าเครือข่าย ของกระทรวงที่ทํางานร่วมกันยังไม่ได้มีการวางโครงสร้างการทํางานร่วมกันอย่างชัดเจน ขาดกระบวนการทํางาน ร่วมกันในหลายๆ ขั้นตอน ซงึ่ สิ่งสาํ คัญทกี่ ระทรวงควรเลง็ เห็นคือการใหค้ วามสําคัญกับการส่งเสริมบทบาทของสมาชิก เครือข่ายต่างๆ เพื่อสร้างบรรทัดฐานความร่วมมือที่ดีต่อกัน สร้างให้เกิดการพัฒนาและระดมทรัพยากร ตลอดจน การจัดทาํ แผนการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสทิ ธิภาพ โดยต้องเน้นให้มีการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์บทบาทของ เครือข่ายและระดมความร่วมมือให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าใจและให้การสนับสนุนการดําเนินงานของกระทรวงและ เครือข่ายอย่างต่อเนื่องจึงจะทําให้การทํางานของกระทรวงสามารถเสริมหนุนบทบาทหน้าที่ในการทํางานของ องคก์ รเครอื ข่ายไดด้ ยี ิง่ ข้ึน Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 232

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. 7.2 การอภปิ รายผลการศึกษา การศึกษารูปแบบ วิธีการ และระบบการบริหารจัดการขององค์กรเครือข่ายด้านผู้สูงอายุต่อ การให้บริการแก่กลุ่มผู้สูงอายุเพ่ือการจัดทํากลยุทธ์หรือแนวทางในการเสริมสร้างให้เกิดความเข้มแข็งของเครือข่าย ผ้สู งู อายุ สามารถแบง่ การอภปิ รายผลการศึกษาได้เปน็ 3 ประเดน็ ดังน้ี ประเด็นท่ี 1 ระบบการบริหารจดั การของเครอื ขา่ ยด้านผ้สู งู อายุ ประเด็นท่ี 2 แนวทางการเสรมิ สรา้ งความเข้มแขง็ ของเครือข่ายผ้สู งู อายุ ประเด็นท่ี 3 กลยุทธก์ ารสร้างความเข้มแข็งของเครอื ข่ายผู้สูงอายุ ประเดน็ ที่ 1 ระบบการบรหิ ารจัดการของเครอื ขา่ ยดา้ นผ้สู งู อายุ จากการศกึ ษาระบบการบริหารจัดการของเครอื ขา่ ยด้านผสู้ งู อายุที่เป็นภาคีเครือข่ายของกระทรวงการพัฒนา สังคมและความมั่นคงของมนุษย์ท้ัง 4 ประเภท ได้แก่ เครือข่ายภาครัฐ ภาคประชาชน ภาคธุรกิจเอกชน และองค์กร พัฒนาเอกชน (NGOs) พบว่า การบริหารจัดการเครือข่ายของกระทรวงท่ีได้ร่วมงานกับภาคีส่วนต่างๆ ซึ่งพบว่า กลไกการบรหิ ารงานมี 2 แนวทาง คือ กลไกการบริหารตามแนวดง่ิ และกลไกการบรหิ ารตามแนวราบ ซึ่งข้อค้นพบในการศึกษาวิจัยในส่วนของการบริหารเครือข่ายองค์กรภาครัฐ พบว่า ระบบการบริหารจัดการ ของเครือข่ายภายในกระทรวงเดียวกันหรือหน่วยงานที่อยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงเดียวกัน จะมีลักษณะการบริหาร จดั การเครือขา่ ยโดยใช้กลไกการบริหารตามแนวดิ่งเป็นหลัก กล่าวคือ มีระบบการทํางานท่ีมีโครงสร้างการบริหารงาน แบบลําดับช้ันอย่างชัดเจน โดยมีผู้มีอํานาจหรือปลัดกระทรวงเป็นผู้สั่งการให้แต่ละหน่วยงานภายในกระทรวง ดําเนินภารกิจหรือบทบาทงานตามท่ีได้รับมอบหมาย มีการใช้อํานาจการตัดสินใจในลักษณะของการรวมศูนย์ การส่ังงานหรือการวางแผนงานโครงการต่างๆ มีการส่ังการมาจากระดับบน คือต้องดําเนินงานตามกรอบนโยบาย วิสัยทัศน์และพันธกิจของกระทรวง ที่กําหนดให้แต่ละหน่วยงานดําเนินงาน โดยมีผู้ปฏิบัติระดับล่างคือ หน่วยต่างๆ ปฏิบัติตามคําส่ังท่ีได้รับการถ่ายทอดลงมาเท่าน้ัน สอดคล้องกับ วิโรจน์ เป็นสุข (2554, น.19-21) ซ่ึงจะส่งผลต่อ การดําเนินการจัดกิจกรรมหรือการให้บริการท่ีไม่สามารถตอบสนองความต้องการท่ีแท้จริงของกลุ่มเปูาหมาย ได้เท่าท่ีควร อีกทั้งยังไม่ก่อให้เกิดการพยายามท่ีจะพัฒนางานในเชิงสร้างสรรค์หรือการคิดงาน เพื่อตอบสนอง ความต้องการใช้บริการของกลุ่มเปูาหมายในพื้นท่ี การบริหารโดยมีกลไกตามแนวดิ่งน้ี ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะการ บรหิ ารงานของเครอื ขา่ ยภาครฐั ท่ีมรี ปู แบบคลา้ ยๆ กนั เช่น กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น ในสว่ นของการบรหิ ารจัดการองคก์ รเครือข่ายภาคประชาชนนั้น จากการศึกษาพบว่าระบบการบริหารจัดการ ระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กับเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน มีการเช่ือมโยง เครือข่ายมีรูปแบบกลไกบริหารเครือข่ายมีท้ังตามแนวดิ่งและแนวราบ ซ่ึงการเชื่อมโยงกับเครือข่ายภาคประชาชน ในพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นเครือข่ายท่ีดําเนินงานโดยประชาชนและมีภาคเอก ชนในพ้ืนที่จะเข้ามาสนับสนุน Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 233

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. ด้านงบประมาณในการประกอบกิจกรรมต่างๆ ภายใต้แนวคิดการเชื่อมโยงการทํางานองค์กรด้านผู้สูงอายุร่วมกัน คือในแต่ละองค์กรมีการวางแผนการทํางานด้านผู้สูงอายุให้เกิดความเช่ือมโยงร่วมกับเครือข่าย เน้นการทํางานแบบ มสี ่วนร่วม ช่วยกันคิดโครงการ กําหนดวิสัยทัศน์พัฒนางานด้านผู้สูงอายุ ทําเป็นต้นแบบและนําไปขยายผลต่อองค์กร หน่วยงานต่างๆได้ในอนาคตองค์กรมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สมาชิกทุกคนได้ทํากิจกรรมร่วมกันและ พยายามที่จะดึงให้อาสาสมัครสาธารณสุขมูลฐาน เข้ามาร่วมกิจกรรมเพื่อเรียนรู้งาน เพราะเป็นวัยท่ีกําลังทํางาน อายุ 40-50 ปี ใหม้ าเรียนรงู้ านต้งั แต่ต้น หากไมร่ ีบมาเรยี นรู้งานจะไม่สามารถที่จะรับช่วงต่อกันซ่ึงอาจจะทําให้องค์กร เกิดปัญหาข้ึนได้ ซึ่งตัวอย่างองค์กรในส่วนขององค์กรภาคประชาชนที่ได้ทําการลงพื้นที่ศึกษาวิจัยพบองค์กร ภาคประชาชนส่วนมากเปน็ องค์กรประเภทชมรมผ้สู ูงอายุ ซึง่ แบ่งออกได้ 2 แบบคอื 1) เป็นชมรมที่เกิดจากการรวมตวั กันของผ้สู งู อายุเพื่อการทากิจกรรมร่วมกนั ของผูส้ ูงอายุในแต่ละพืน้ ท่ี ในส่วนขององค์กรท่ีเกิดจากการรวมกลุ่มผู้สูงอายุท่ีได้ทํากิจกรรมร่วมกัน อันเป็นการเสริมสร้างสุขภาพท่ีดี ท้ังด้านร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุให้สามารถอยู่อย่างมีคุณค่า ไม่ท้อถอย มีความสุขในชีวิต และเกิดความภูมิใจ ในตัวเองท่ีเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่ืน รวมถึงการถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นให้แก่ลูกหลานภายในตําบลไม่ให้สูญหาย ซ่ึงในการบรหิ ารองค์กรภาคประชาชนที่เกิดจากการรวมตัวกันของผู้สูงอายุ มีการบริหารจัดการภายในชมรมผู้สูงอายุ โดยมีประธานผสู้ ูงอายุในระดบั ตําบลรองประธาน เหรัญญิก ประชาสัมพันธ์ เลขานุการและคณะกรรมการ ซึ่งจะดูแล ในระดับตําบลทั้งหมด และในแต่ละหมู่บ้านก็จะมีประธานผู้สูงอายุในระดับหมู่บ้านโดยจะดูแลภายในหมู่บ้าน ของตัวเอง เช่น ชมรมผู้สูงอายุตําบลจําปุาหวาย อําเภอเมือง จังหวัดพะเยา ชมรมผู้สูงอายุบ้านหนองหญ้าน้อย อําเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ชมรมผู้สูงอายุตําบลจอมปลวก จังหวัดสมุทรสงคราม ชมรมผู้สูงอายุตําบลวังใหม่ อําเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี ชมรมผู้สูงอายุเทศบาลเมืองระนอง ชมรมผู้สูงอายุเทศบาลเบิกไพร จังหวัดราชบุรี ชมรมผู้สูงอายุวัดยูงทอง จังหวัดสงขลา ชมรมผู้สูงอายุ ตําบลหนองแสง จังหวัดนครนายก ชมรมผู้สูงอายุเทศบาล ตําบลแมจ่ ั๊วะ จังหวดั แพร่ ฯลฯ 2) เปน็ ชมรมท่ีเกิดจากหน่วยงานภาครฐั ไดส้ ่งเสรมิ และผลกั ดนั ใหเ้ กิดขึน้ ในส่วนองค์กรภาคประชาชนที่เกิดจากหน่วยงานภาครัฐเป็นตัวส่งเสริมและผลักดันให้เกิดชมรมผู้สูงอายุ ขึน้ มานั้น เกดิ ขนึ้ จากการท่หี นว่ ยงานภาครฐั ไดม้ องเห็นปญั หาผสู้ ูงอายทุ ี่เกิดข้นึ ในพ้นื ท่ี เช่น ผู้สูงอายุเกิดภาวะซึมเศร้า ปัญหาการฆ่าตัวตาย ไม่มีคนดูแลบุตรหลานต้องออกไปทํางานนอกบ้านปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่เพียงลําพัง ฯลฯ ทางภาครัฐจึงมีส่วนช่วยผลักดันให้ผู้สูงอายุได้รวมกลุ่มกันเพื่อบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นโดยทางกระทรวงสาธารณสุข (รพ.สต.) มสี ว่ นช่วยในด้านการจดั ตัง้ ชมรมผู้สงู อายุ ในการประสานงาน มกี ารคดั เลือกคณะกรรมการ โดยทาง รพ.สต. และอบต. คอยเป็นพี่เล้ียงและคอยสนับสนุนในด้านต่างๆให้กับชมรมผู้สูงอายุ เช่น ประสานงานกับหน่วยงานท่ี เกี่ยวข้องในการขอสนับสนุนงบประมาณในการจัดต้ังศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในระดับตําบล ดูแลด้าน Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 234

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. สวัสดิการด้านต่างๆให้กับผู้สูงอายุ เป็นพ่ีเลี้ยงในการทํากิจกรรม วิทยากรให้ความรู้ รวมถึงการเป็นคณะกรรมการ ท่ีปรกึ ษาใหก้ ับชมรมผูส้ งู อายุในพ้ืนที่ ในด้านการบริหารจัดการของชมรมผู้สูงอายุ เริ่มจากการประชุม มีการรวมกลุ่ม และมกี ารประชาสัมพนั ธ์ใหผ้ สู้ งู อายเุ ข้ามารว่ มกลุ่ม และมีการรบั สมาชกิ เข้าชมรมผูส้ ูงอายุทํากิจกรรม มีการประชาคม ประชาสัมพันธ์ทุกหมู่บ้าน และหลังจากน้ันก็มีการจัดต้ังคณะกรรมการขึ้นมาซ่ึงเหมือนกับองค์กรภาคประชาชน เกิดจากการรวมตัวกันของผู้สูงอายุ ซึ่งประกอบด้วยประธานผู้สูงอายุในระดับตําบล รองประธาน เหรัญญิก ประชาสัมพันธ์ เลขานุการ และคณะกรรมการ ซึ่งจะดูแลในระดับตําบลท้ังหมด และในแต่ละหมู่บ้านก็จะมี ประธานผู้สูงอายุในระดับหมู่บ้านโดยจะดูแลภายในหมู่บ้านของตัวเอง เป็นต้น และชมรมผู้สูงอายุองค์กร ภาคประชาชนที่เกิดจากหน่วยงานภาครัฐเป็นตัวส่งเสริมและผลักดันให้เกิดชมรมผู้สูงอายุ เช่น ชมรมผู้สูงอายุ ตําหนักธรรม อําเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ ชมรมผู้สูงอายุตําบลโคกขม้ิน จังหวัดบุรีรัมย์ ชมรมจิตอาสา ราชประชาสมาสัย อาํ เภอเมอื ง จงั หวดั พิษณุโลก ฯลฯ ส่วนของระบบของการบริหารเครือข่ายองค์กรเอกชน ผลจากการศึกษา พบว่า มีลักษณะการดําเนินงาน ทีแ่ ตกตา่ งไปตามแต่ละองคก์ ร เนือ่ งจากแต่ละองค์กรมเี ครือข่ายท่ตี ้องรว่ มทํางานร่วมกันท่กี ว้างขวาง โดยวัตถุประสงค์ ของการจัดต้ังองค์กร ก็เพ่ือเป็นองค์กรที่ประสานงานร่วมกับองค์กรผู้สูงอายุต่างๆ ในพื้นท่ี จุดเด่นของเครือข่าย ประเภทน้ี คือ ความคล่องตัวในการบริหารจัดการ และการขยายเครือข่ายอาศัยเทคนิคและวิธีการของผู้นําแต่ละคนที่ จะดึงภาคีเข้ามาร่วมงาน เช่น สาขาสาขาสมาคมผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยฯน้ัน ถือเป็นองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือ องค์กรหรือชมรมผู้สูงอายุในเขตพ้ืนที่ของตนเองหรือในจังหวัดของตนเอง และจะมีคณะที่ทํางานกําหนดนโยบายใน ระดับประเทศอีกช้ันหนึ่ง ซ่ึงสาขาสมาคมแต่ละจังหวัดต้องเข้าไปมีส่วนสัมพันธ์ทํางานร่วมกับหน่วยงานท้ังภาครัฐ เอกชนจํานวนมาก เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวง วัฒนธรรม องค์กรเอกชน มูลนิธิต่างๆ ซ่ึงความสัมพันธ์ร่วมกันน้ีก็มุ่งที่จะตอบสนองภารกิจร่วมกันของเครือข่าย ท่ีเข้าไปร่วมดําเนินงาน ซ่ึงมีเปูาหมายเดียวกันคือการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ และปัจจัยที่ส่งเสริมการ ดาํ เนนิ งานใหส้ าํ เร็จลลุ ่วงไปได้ไม่ใชผ่ ลตอบแทนทางด้านเงนิ ทอง แตเ่ ปน็ ปัจจยั ด้านจติ อาสาของผู้เขา้ มาปฏบิ ัติงาน การจัดโครงสร้างการดําเนินงานของเครือข่ายองค์กรเอกชน ส่วนใหญ่ใช้รูปแบบคณะกรรมการโดยแบ่งเป็น ระดับช้ัน เช่น Help Age International ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศ ท่ีเกิดจากความร่วมมือขององค์กรต่างๆ ท่ีทํางานด้านผู้สูงอายุ และปัจจุบันมีสาขา ท่ีครอบคลุมไปทั่วโลก งบประมาณในการดําเนินงานส่วนใหญ่มาจากเงิน บริจาคจากองค์กรต่างๆ ซึ่งการวางโครงสร้างมีการจัดที่ชัดเจนเนื่องจากมีประสบการณ์การทํางานที่ชัดเจ น โดยมีคณะผู้บริหารท่ีเรียกว่าเป็น CEO เป็นผู้บริหารสูงสุด และแบ่งการบริหารงานเป็นระดับทวีปและประเทศ โดย Help Age International ท่ีประเทศไทยมีที่ตง้ั อยูท่ ่ีจังหวดั เชยี งใหมท่ ่ีมีเครอื ขา่ ยในการทํางานร่วมที่หลากหลาย เช่นเดียวกันกับสาขาสมาคมผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยที่มีการวางโครงสร้างที่กระจายไปทุกจังหวัดโดยประธานสาขา แต่ละจังหวัดจะมีการวางเครือข่ายร่วมกันท่ีชัดเจนโดยมีนโยบายจากส่วนกลาง แต่แตกต่างจากองค์กรเอกชนที่อยู่ใน Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 235

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. พื้นท่ี ซึ่งมีขนาดองค์กรท่ีเล็กกว่า องค์กรระหว่างประเทศอย่าง Help Age International หรือ ระดับประเทศ อย่าง สาขาสมาคมผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ซ่ึงจะมีทิศทางการดําเนินงานท่ีชัดเจนโยมีระดับนโยบายในการช่วยจัด วางโครงสรา้ งการดําเนนิ งาน องค์กรที่มีขนาดเล็กลงมา จะมีการวางโครงสร้างในรูปแบบคณะกรรมการ คณะทํางานเป็นด้านๆไป เช่น การบริหารจัดการของมูลนิธิพัฒนางานผู้สูงอายุ การจัดรูปแบบโครงสร้างให้มีสายงานหลัก ซึ่งแบ่งเป็น 4 ฝุาย ได้แก่ ฝุายการเงินและธุรการ ฝุายโครงการและการดําเนินโครงการ ฝุายฝุายพัฒนาทรัพยากรและฝุายสารสนเทศ และการสื่อสาร แต่ละฝุายมีโครงการ และผู้จัดการและเจ้าหน้าท่ีทําหน้าที่รับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม องค์กรเอกชน บางแห่ง อาจไม่มีรูปแบบการบริหารอย่างเป็นทางการ ดังเช่น สถานสงเคราะห์ผู้สูงอายุบ้านศิริวัฒนธรรม อําเภอ บ้านโปุง จังหวัดราชบุรี ระบบการบริหารจัดการเป็นลักษณะของบุคคลในครอบครัว ช่วยกันดู แลผู้สูงอายุ ซึ่งประกอบดว้ ย นายกล้า ศริ วิ ฒั นธรรม ภรรยา บุตรและสะใภ้ ทีใ่ ห้การดูแลผ้สู ูงอายุ และในส่วนของระบบการบริหารเครือข่ายองค์กรธุรกิจเอกชน คือ องค์กรที่แสวงหากําไร โดยการทํา ธุรกิจใหบ้ ริการกับผูส้ ูงอายุ ดูแลด้านสุขภาพ ด้านชีวิตความเป็นอยู่ รวมถึงด้านจิตใจ มีกิจกรรมด้านนันทนาการต่างๆ ซ่ึงลักษณะการบริหารจัดการขององค์กรเอกชนนั้น ให้ความสําคัญกับการบริหารธุรกิจซึ่งโครงสร้างการจัดองค์กรนั้น เป็นไปตามระบบเอกชน มีผู้บริหารและมีการแบ่งการทํางานอย่างชัดเจน คือ แผนกบุคคล การเงิน บัญชี และ พยาบาลวิชาชีพและผู้ดูแลผู้สูงอายุ ในระบบการจัดโครงสร้างอย่างน้ีเป็นไปตามกลไกที่มุ่งตอบสนองการบริหาร จัดการภายในองค์กรให้ตอบรับกับการดําเนินธุรกิจ โดยกลยุทธ์การดําเนินงานขององค์กรเอกชนท่ีแสวงหากําไร นั้นมีเปูาหมายในการดําเนินงาน ท่ีชัดเจน มีการกําหนดทิศทางการขยายธุรกิจ มีการสร้างบุคลากรรองรับ เช่น โรงพยาบาลกล้วยน้ําไท 2 นั้นมีสถาบันท่ีผลิตบุคลากรในการดูแลผู้สูงอายุเพื่อรองรับการขยายงานของ โรงพยาบาล ส่วนเครือข่ายในการดําเนินงานร่วมน้ัน องค์กรท่ีเป็นธุรกิจน้ันจะมีการบริหารองค์กรท่ีมีเอกเ ทศของ ตนเอง จะไม่มีเครือข่ายร่วมเพราะต้องบริหารธุรกิจตามศักยภาพของตนเอง แต่หากพูดถึงเครือข่ายจะประสานงาน ร่วมกันในแง่ของการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อตอบสนองการบริหารงานร่วมกัน และหากจะมีกิจกรรมท่ีทํางานร่วม จะเน้นไปในเร่อื งของการทํากิจกรรมช่วยเหลือสังคมหรือ CSR Corporate social responsibility ซึ่งทั้ง 2 องค์กรได้ มกี ิจกรรมรว่ มกบั หนว่ ยงานอ่นื ๆ เช่นกิจกรรมการสนับสนุนคุณภาพผสู้ งู อายุร่วมกบั หน่วยงานราชการ กล่าวโดยสรุป องค์กรท่ีทํางานด้านเอกชนและมีการแสวงหากําไรหรือประกอบธุรกิจทางด้าน การให้บริการกับผู้สูงอายุนั้นจะมีลักษณะเด่นและเปูาหมายที่ชัดเจนเพื่อมุ่งบริการด้านธุรกิจมีความคล่องตัวในการ บริหารจัดการเพ่ือมุงตอบสนองการดําเนินงานในการประกอบธุรกิจโดยในด้านการทํางานร่วมกับเครือข่ายก็มุ่งท่ีจะ ตอบสนองธรุ กจิ ขององค์กร Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 236

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. จากการศึกษาทั้ง 4 ประเภทองค์กรท่ีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เป็นเครือข่าย ร่วมกันน้ี หากวิเคราะห์การเช่ือมโยงเครือข่ายของกระทรวงจะพบว่า ในส่วนการประสานการทํางานกับหน่วยงาน ภาคีเครือข่ายภายนอกกระทรวงน้ันจะใช้กลไกการบริหารตามแนวราบ ซ่ึงเป็นรูปแบบกลไกการบริหารที่เน้น การประสานงาน การมอบหมายงานผ่านโครงการและกิจกรรมต่างๆ เป็นหลัก ซึ่งเป็นความร่วมมือในแนวราบ เป็นหลัก โดยอาศัยความสัมพันธ์ระหว่างแกนนําท่ีเป็นจุดเช่ือมต่อ (Node) ของแต่ละเครือข่าย กลไกการบริหาร แบบนี้จึงให้ความสําคัญกับแกนนําหรือผู้นําเครือข่ายและภาวะผู้นําขององค์ กรเครือข่ายมีความสําคัญมากใน การผลักดันไปสู่ความสําเร็จของงาน ทั้งน้ี การใช้ภาวะผู้นําในการขับเคล่ือนและบริหารเครือข่ายแบบแนวนอนนั้น ไมไ่ ดเ้ นน้ การส่ังการหรือการบงั คับบญั ชาแบบลาํ ดบั ชั้น แต่เป็นการอาศัยทุนทางสังคม (Social Capital) ที่มีอยู่เดิมใน รูปของความสัมพันธ์เชิงเครือญาติและความสัมพันธ์ฉันท์มิตรในการประสานงาน และขอความร่วมมือในการเข้าร่วม กิจกรรม ซ่ึงจากผลการศึกษาพบว่า ในกระบวนการทํางานร่วมกับภาคีเครือข่ายภายนอกกระทรวงน้ันการประสาน แนวราบยังทําเพียงแค่การประสานผ่านโครงการ/กิจกรรม หรือการสนับสนุนเพียงในส่วนของงบประมาณในการ จดั โครงการ/กิจกรรมเท่านนั้ โดยไม่ไดม้ ีการลงไปปฏบิ ตั ิหรอื รว่ มงานในการพฒั นากบั เครือข่ายอย่างจริงจงั เทา่ ทคี่ วร ด้วยเหตุนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์จึงควรมีการพัฒนาในเร่ืองของการทํางาน ร่วมกับเครือข่ายภายนอกให้มากยิ่งข้ึน ไม่เพียงแต่การสนับสนุนงบประมาณหรือการประสานงานผ่านกิจกรรมหรือ โครงการระยะสน้ั เท่านัน้ ซงึ่ หากตอ้ งการทจี่ ะมภี าคีเครือข่ายที่เขม้ แขง็ และเป็นกาํ ลังสําคัญในการทํางานของกระทรวง อาจต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายในหลายๆ ทาง อย่างไรก็ตาม ในการระดมความร่วมมือจากเครือข่าย ในบางคร้ังอาจเป็นกรณีเร่งด่วนหรือมีข้อจํากัดด้านเวลา อาจไม่สามารถรอกระบวนการมีส่วนร่วมของสมาชิกได้ทัน จึงจําเป็นต้องอาศัยภาวะผู้นําของบรรดาแกนนําเครือข่ายในการตัดสินใจและประสานขอความร่วมมือในการระดม มวลชนในเครือข่ายเพ่ือการสนับสนุน ดังนั้น แนวคิดของกลไกบริหารงานเครือข่ายในแนวราบนับว่าเป็นหัวใจหลัก ในการนําไปสูค่ วามสาํ เร็จในการบริหารงานเชิงเครอื ข่ายของกระทรวง ประเดน็ ที่ 2 แนวทางการเสรมิ สรา้ งความเขม้ แข็งของเครือขา่ ยผสู้ ูงอายุ จากการศึกษาเพ่ือหาแนวทางในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายด้านผู้สูงอายุของกระทรวง การพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์น้ัน ได้ทําการศึกษาวิเคราะห์จากประเด็นสําคัญที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ การหาแนวทางการทํางานร่วมกันกับเครือข่าย 3 ประเด็นหลักได้แก่ ประเด็นปัญหาของเครือข่ายผู้สูงอายุ ประเด็นความต้องการของผู้สูงอายุ และข้อเสนอแนะต่อการสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายผู้สูงอายุ ซ่ึงประเด็น ท่ีกลา่ วมานนั้ สามารถนํามาวเิ คราะหเ์ พอ่ื คน้ หาแนวทางในการเสริมสรา้ งความเข้มแขง็ ของเครือข่ายผสู้ ูงอายุได้ ดงั น้ี Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 237

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. 2.1 ปญั หาของเครอื ข่ายผ้สู งู อายุ ผลจากการศึกษา พบว่า ประเด็นปัญหาในการดําเนินงานของหน่วยงานต่างๆ ที่เป็นภาคีเครือข่ายของ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์น้ัน มีประเด็นที่ถือได้ว่าเป็นหัวใจสําคัญของการทํางานหลาย ประการ ซึ่งผลจากการศึกษาสามารถสะท้อนปัญหาในการบริหารจัดการของกระทรวงฯ ต่อการทํางานร่วมกับ เครือขา่ ยในพื้นท่ีในหลายๆ ด้าน ตั้งแต่ด้านบุคลากรที่พบว่ากระทรวงฯ ยังขาดบุคลากรในระดับพ้ืนที่ท่ีจะดําเนินงาน หรือประสานงานกับองค์กรเครือข่ายด้านผู้สูงอายุ ซึ่งหากมองในเชิงโครงสร้างพบว่า กระทรวงยังไม่มีหน่วยปฏิบัติ ในระดับพน้ื ทท่ี ่ที าํ งานด้านผู้สูงอายุโดยตรง มีแต่เพียงสํานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่มีการดําเนิน กิจกรรมหรือโครงการในระดับจังหวัดเท่าน้ัน ทําให้ขาดความต่อเนื่องในด้านให้บริการ เนื่องด้วยไม่มีเจ้าหน้าท่ี ท่ีจะทํางานในเชิงรุกได้อย่างเน่ือง การทํางานเน้นในรูปแบบของการสั่งการจากนโยบาย ซ่ึงนโยบายจะมี การเปลี่ยนแปลงตลอดทาํ ใหผ้ ลทไี่ ดไ้ ม่มคี วามตอ่ เน่ืองหรือย่ังยืนในการให้บริการ ซ่ึงหากเป็นการประสานงานกับพ้ืนท่ี เพ่ือจัดกิจกรรมหรือโครงการ เช่นการประสานไปยัง องค์การบริหารส่วนตําบลต่างๆ ก็จะเป็นการประสานงานใน ลกั ษณะของการสนับสนุนงบประมาณ หรอื การสง่ ต่องานใหท้ างองคก์ ารบรหิ ารส่วนตําบลเปน็ ดําเนินงาน ประเดน็ ปัญหาดา้ นงบประมาณ ท่ียงั ขาดการสนบั สนนุ งบประมาณในการดําเนินกิจกรรม/โครงการที่ต่อเนื่อง ทําให้หลายๆ กิจกรรมท่ีเป็นประโยชน์ต่อผู้สูงอายุต้องหยุดชะงักไม่สามารถดําเนินงานต่อเน่ืองได้ในพ้ืนท่ี ประเด็นปัญหาด้านองค์ความรู้ในการปฏิบัติงาน พบว่า บุคลากรของกระทรวงเองยังขาดองค์ความรู้ในหลายๆ ด้านทจ่ี าํ เป็นในการทํางานดา้ นผู้สูงอายุร่วมกับภาคีเครือข่ายในชุมชน รวมไปถึงปัญหาบริการต่างๆ ที่ยังไม่ตอบสนอง ความต้องการของผู้สูงอายุเท่าที่ควร บางกิจกรรมไม่มีสถานท่ีในการจัดให้บริการ ไม่มีวัสดุอุปกรณ์ท่ีเพียงพอ เป็นต้น ซ่ึงปัญหาต่างๆ เหล่านี้เป็นปัญหาท่ีเครือข่ายต้องการให้กระทรวงฯ เห็นความสําคัญและประสานความร่วมมือ กับองค์กรเครอื ข่ายอย่างต่อเน่ืองและทั่วถึงทุกๆ พื้นท่ี 2.2 ความต้องการของผู้สูงอายุ ผลการศึกษาพบว่า จากการสํารวจด้านความต้องการของผู้สูงอายุต่อการจัดบริการขององค์กรเครือข่าย ด้านผู้สงู อายุ จาํ นวน 3,840 คน จาํ แนกเปน็ ผ้หู ญงิ 2,419 คน และผ้ชู าย 1,421 คน เม่อื สงั เกตจากความสัมพันธ์ของ อายุต่อความต้องการบรกิ ารจากหนว่ ยงาน/องค์กรเครือข่ายด้านผู้สูงอายุ พบว่า ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ต้องการการบริการ ในด้านการรักษาพยาบาลมากท่ีสุด คือร้อยละ 47.4 รองลงมาคือ ด้านอาหาร ร้อยละ 11.0 และด้านท่ีอยู่อาศัยกับ ด้านทักษะอาชีพร้อยละ 10.0 และ 7.5 ตามลําดับ ซ่ึงสอดคล้องกับผลการสํารวจสุขภาวะผู้สูงอายุไทย ปี 2556 โดยกรมอนามัยร่วมกับโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) พบว่า ผู้สูงอายุไทยมีเพียง ร้อยละ 5 เท่านั้นท่ีมีสุขภาพสมบูรณแ์ ขง็ แรง สว่ นท่ีเหลอื รอ้ ยละ 95 เจ็บปวุ ย โดยแยกเป็นโรคความดันโลหิตมากท่ีสุด ร้อยละ 41 เบาหวาน ร้อยละ 18 ข้อเส่ือมร้อยละ 9 พิการ ร้อยละ 6 และซึมเศร้า ร้อยละ 1 (อ้างถึงใน สํานักงาน Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 238

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. ส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1-12 , 2558) จากภาวะความเจ็บปุวยของกลุ่มผู้สูงอายุท่ีได้มีการสํารวจมาแล้วนี้ สะทอ้ นให้เหน็ วา่ ผู้สูงอายนุ ัน้ มีความตอ้ งการท่ีสอดคล้องกับภาวะสุขภาพ เน่ืองด้วยกลุ่มผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะมีอาการ ของโรคต่างๆ แตกต่างกันไป ซ่ึงความต้องการในการใช้บริการกับกลุ่มเครือข่ายน้ัน ผู้สูงอายุจึงมีความต้องการใน เร่ืองของการรักษาพยาบาลเป็นอันดบั แรก นอกจากน้ี เม่ือทําการศึกษารูปแบบของการบริการท่ีเก่ียวกับด้านสุขภาพท่ีผู้สูงอายุต้องการ พบว่าผู้สูงอายุมีความต้องการบริการด้านการรักษาพยาบาล ได้แก่ การตรวจสุขภาพร้อยละ 21.5 การจัดหน่วย แพทย์เคล่ือนที่ลงไปยังชุมชนร้อยละ 18.2 และการเยี่ยมผู้สูงอายุ/เย่ียมบ้าน ร้อยละ 13.9 และเม่ือแยกเป็น ความต้องการการให้บริการด้านสุขภาพกาย พบว่า บริการท่ีผูส้ งู อายุต้องการให้มีหน่วยให้บริการมากที่สุดคือเรื่องการ ให้คําปรึกษาท่ัวไปแก่ผู้สูงอายุเกี่ยวกับสภาวะสุขภาพ ร้อยละ 16.9 รองลงมาคือในเรื่องของการจัดให้มีอุปกรณ์ ออกกาํ ลังกายทเ่ี หมาะสมสําหรับผสู้ งู อายุ ร้อยละ 15.7 และรอ้ ยละ 15.6 คือความต้องการให้มีการจัดอบรมให้ความรู้ เก่ียวกับสุขภาพและเร่ืองกายภาพบําบัดในร้อยละท่ีเท่ากัน ส่วนความต้องการการบริการในด้านสุขภาพจิตน้ัน พบว่า ส่ิงท่ีผู้สูงอายุต้องการคือการมอบของขวัญในวันสําคัญเพ่ือเป็นขวัญกําลังใจ ร้อยละ 29.9 รองลงมาคือ การจัดกิจกรรมทางศาสนา เช่น การฟังธรรม รอ้ ยละ 21.6 จากผลการศึกษาครั้งนี้ ทําให้เห็นได้ถึงแนวทางในการส่งเสริมกิจกรรมของเครือข่ายว่าส่ิงท่ีกลุ่มผู้สูงอายุ ต้องการเกือบคร่ึงหน่ึงคือด้านสุขภาพ แต่สําหรับการบริการอีกส่วนหนึ่งโดยภาพรวมเป็นความต้องการการบริการใน เชิงสังคมและการดํารงชีวติ ทั้งน้ีเม่ือศึกษาถึงการให้บริการในเชิงพ้ืนที่นั้น ผู้สูงอายุกลุ่มตัวอย่างเห็นว่าการให้บริการควรจัดในพื้นท่ี ของชุมชนมากถึงร้อยละ 72.1 รองลงมาคือการจัดให้บริการถึงที่บ้านร้อยละ 19.9 และมีบางส่วนท่ีต้องการให้ จัดบริการในหน่วยบริการต่างๆ ร้อยละ 8 โดยเมื่อถามถึงประเด็นค่าใช้จ่ายในการใช้บริการจากหน่วยงาน/องค์กร เครือข่าย ส่วนใหญ่แล้วผู้สูงอายุมองว่าควรเป็นการบริการที่ไม่เสียเงิน (ฟรี) มากถึงร้อยละ 90.1 มีบางส่วน คือ ร้อยละ 8.5 ท่ียอมจ่ายร่วมเป็นบางส่วน ซึ่งมีเพียงร้อยละ 1.4 ที่สามารถจ่ายค่าบริการต่างๆ ได้เองทั้งหมดซ่ึงผลจาก ความต้องการบริการเหล่านี้ ชี้ให้เห็นว่ากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ควรมีเครือข่ายท้ัง 4 ประเภทเข้ามาร่วมในการทํางานด้านผู้สูงอายุ โดยเฉพาะหน่วยงานระดับท้องถ่ิน ซึ่งเป็นหน่วยงานท่ีอยู่ใกล้ชิดกับ กลุ่มเปูาหมายมากที่สุด โดยควรมีการจัดทําแผนงานการจัดให้บริการท่ีสอดคล้องกับความต้องการและสอดคล้องกับ บริบทพ้ืนที่ของผู้สูงอายุ โดยควรเน้นกลยุทธ์ในด้านการส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามาส่วนร่วมใน การดแู ลผสู้ งู อายุ และมีนโยบายการดําเนินงานเกี่ยวกับผูส้ ูงอายุอยา่ งต่อเน่ืองจนสําเรจ็ ตามกระบวนการ Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 239

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. 2.3 ขอ้ เสนอแนะต่อการสร้างความเขม้ แข็งของเครือข่ายผู้สูงอายุ จากการศึกษารูปแบบและแนวทางการให้บริการของหน่วยงาน/องค์กรเครือข่ายด้านผู้สูงอายุ ทําให้เห็นถึง กระบวนการทํางานร่วมกันของกระทรวงกับหน่วยต่างๆ ที่เชื่อมประสานกัน ซ่ึงกระทรวงการพั ฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์ มีกระบวนการทํางานเป็นไปตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายและตามกฎหมายกําหนดเป็น ลกั ษณะของการบริหารเชิงแนวด่ิง (Functional Organization Structure) กล่าวคือ มีโครงสร้างท่ีแบ่งตามประเภท หรือหน้าท่ีการงาน เพื่อแสดงให้เห็นว่าแต่ละกลุ่มงานหรือฝุายมีหน้าที่ต้องทําอะไร ซึ่งการบริหารตามโครงสร้างนี้ เมื่อผนวกกับการทํางานร่วมกับภาคีเครือข่าย โดยเฉพาะเปูาหมายในการศึกษาครั้งนี้คือกลุ่มเปูาหมายผู้สูงอายุ ทําให้พบว่าหน่วยงานของกระทรวงเองยังไม่มีหน่วยงานรองรับระดับพ้ืนที่ท่ีจะให้บริก ารด้านการจัดสวัสดิการสังคม แก่กลุ่มเปูาหมายได้เต็มที่นัก เนื่องด้วยเปูาหมายในการดําเนินการของหน่วยระดับพ้ืนท่ีท่ีมีทุกเขต เช่น สํานักงาน พฒั นาสงั คมและความมั่นคงของมนุษย์นั้น เปน็ หนว่ ยทม่ี ีเปูาหมายในการให้บริการแก่ประชาชนท่ีประสบปัญหาสังคม ทุกกลุ่มต้ังแต่กลุ่มเด็ก สตรี คนพิการ ผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ ทําให้เห็นได้ว่า การทํางานอาจไม่ได้มีการลงลึก ถึงปัญหาของผู้สูงอายุไดท้ ุกกระบวนการ ด้วยเหตุนี้ การทํางานกับเครือข่ายจึงเป็นอีกทางหนึ่งที่จะทําให้กระทรวงสามารถท่ีจะทํางานกับ กลุ่มเปูาหมายผู้สูงอายุได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยกระทรวงจะทําหน้าท่ีในการส่งเสริมและสนับสนุนการให้บริการแก่กลุ่มภาคี เครือข่ายผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณ องค์ความรู้ท่ีเกี่ยวข้องและโครงการกิจกรรมต่างๆ ซึ่งการ บูรณาการการทํางานกับพื้นท่ีนั้น กระทรวงพยายามเชื่อมโยงเครือข่ายโดยการประสานข้อมูล โครงการและกิจกรรม โดยเน้นให้หน่วยงานหลกั ในพน้ื ท่ขี ับเคลอื่ น นั่นก็คือ องค์การบริหารส่วนตาํ บลที่ทําหน้าที่หลักในการทํางานและได้รับ การสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวง ท้ังน้ีการทํางานจะทําร่วมกับทุกภาคส่วน เรียกว่า พหุภาคีโดยใช้ทั้งกลุ่ม องค์กรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน อย่างเช่น กลุ่ม ชมรมท่ีมีในพื้นทีเข้ามาร่วมงานกัน ซึ่งการดําเนินการโดยการดึงทุกภาคส่วนมามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมหรือการบริการทางสังคมนั้น จะมีแนวคิด คล้ายกันกับแนวคิดการทํางานด้านผู้สูงอายุของประเทศออสเตรเลีย ที่กําหนดว่า “รัฐต้องลดบทบาทในการเป็นผู้จัด สวัสดิการให้น้อยลง แต่ส่งเสริมให้ครอบครัว เอกชน และสังคมเข้ามามีบทบาทมากข้ึน บทบาทของรัฐคงเหลืออยู่ เพียงการให้การสนับสนุนด้านงบประมาณ การส่งเสริมทางวิชาการ และการประสานงานในด้านกฎระเบียบและการ บรหิ ารจัดการ” (บทความจากเว็บไซตข์ องคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร,์ มปป.) นอกจากน้แี ลว้ แนวคิดในการนําเครือข่ายเข้ามาทํางานร่วมกันกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ยังสอดคล้องกับแนวคิดด้านเครือข่ายของ Stephen Goldsmith และ William D.Eggers (แปลโดย จักร ติงศภัทิย์ และกฤษฎา ปราโมทย์ธนา, 2552 น.29-30) ที่ได้กล่าวว่า “เครือข่าย” หมายถึงโครงการริเริ่มต่างๆ ท่ีหน่วยงานภาครัฐเป็นผู้ดําริให้มีขึ้นเพ่ือตอบสนองความต้องการสาธารณะ โดยสามารถวัดเปูาหมายของผลงานได้ มีการมอบหมายหน้าท่ีรับผิดชอบให้แต่ละหุ้นส่วนการงาน และได้กําหนดโครงสร้างการไหลของสารสนเทศไว้ตาม Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 240

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. เปูาหมายของการทุ่มเทในการดําเนินงานก็คือ เพ่ือสร้างคุณค่าสาธารณะให้เกิดข้ึนสูงสุดเป็นคุณค่าท่ีย่ิงใหญ่กว่า ผลรวมจากคุณค่าของงาน ท่ีแต่ละหุ้นส่วนการงานสามารถทําได้ตามลําพังโดยปราศจากการประสานความร่วมมือ” จากแนวคิดดังกล่าว ทําให้เห็นได้ว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันของมนุษย์ได้มีการทํางานร่วมกับ ภาคส่วนต่างๆ เพ่ือการพัฒนารูปแบบการทํางานให้เข้าถึงกลุ่มเปูาหมายได้มากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าผลจากการศึกษา การทํางานด้านเครือข่ายระหว่างกระทรวงฯ กับภาคส่วนต่างๆ ยังมีอีกหลายหน่วยงานท่ีกระทรวงเองยังไม่ได้ เข้าไปร่วมงานในหลายส่วน อาจมีเพียงด้านงบประมาณและการสนับสนุนด้านอื่นๆ ท่ีทางองค์กรเครือข่ายต่างๆ ขอความร่วมมือ แต่ก็มีอีกไม่น้อยท่ีกระทรวงเองได้ทํางานร่วมกันในฐานะของภาคีเครือข่ายอย่างจริงจัง เช่น จากการลงพื้นท่ีเพ่ือศึกษาหน่วยงานเครือข่ายภาครัฐ ซึ่งก็คือโรงพยาบาลลําสนธิที่พบว่าในส่วนของกระบวนการ ดําเนินงานโครงการ Care Team โรงพยาบาลลําสนธิ ซึ่งเป็นการทํางานร่วมกับเครือข่ายเพ่ือดูแลผู้ปุวยที่บ้าน อย่างเป็นระบบ กลุ่มเปูาหมายหนึ่งของโครงการน้ี คือ ผู้ปุวยติดบ้านติดเตียง ผู้สูงอายุท่ีช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ซ่ึงจุดเริ่มต้นโครงการพัฒนาผู้ดูแลท่ีเรียกว่า Care Team (ทีมผู้ดูแลผู้ปุวย) นี้เป็นการริเร่ิมร่วมมือกันระหว่าง โรงพยาบาลลําสนธิ และองค์การบริหารส่วนตําบลท้ัง 6 แห่งของอําเภอ ซ่ึงมีวัตถุประสงค์เพ่ือดูแลด้านสังคมแก่ ผู้ยากไร้ ผู้พิการ ผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาสทางสังคมในลักษณะต่างๆ ในส่วนของการประสานงานเครือข่ายระหว่าง กระทรวงฯ ได้มีการทํางานร่วมกันโดยผ่านทางสํานักงานพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ (พมจ.) ร่วมกับ โครงการดงั กล่าว เป็นการสนับสนุนด้านงบประมาณเสริมในการลงไปช่วยเหลือดูแลกลุ่มเปูาหมาย โดยมีงบประมาณ หลักมาจากกองทุนสุขภาพชุมชน (ซ่ึงเป็นระบบท่ีสํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นร่วมมือกันต้ังขึ้นในทุกตําบลของประเทศ) เม่ือวิเคราะห์ถึงวิธีการเชื่อมโยงพบว่า การเชื่อมโยงการทํางาน ของกระทรวงฯ กับโรงพยาบาลลําสนธิ ยังคงมีรูปแบบกลไกบริหารเครือข่ายแบบแนวราบ กล่าวคือ การนํารูปแบบ การทํางานแบบ District Health System มาใช้โดยเช่ือมประสานระหว่างโรงพยาบาลซึ่งเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิ (Primary Care Unit- PCU) และชุมชน โดยจะเช่ือมโยงกันในทุกระดับ และทําการขับเคล่ือนไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งเครือข่าย เน้นการดูแลผู้สูงอายุที่บ้านและท่ีชุมชน ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของผู้สูงอายุที่ได้ทําการศึกษาใน คร้ังน้ีคือการให้บริการโดยสถานท่ีท่ีผู้สูงอายุต้องการบริการในลักษณะดังกล่าว คือ การให้บริการท่ีเข้าถึงบ้าน หรอื อยใู่ นชุมชนมากกวา่ การออกไปใช้บรกิ ารในหน่วยงานภายนอก ประเด็นท่ี 3 กลยทุ ธก์ ารสร้างความเขม้ แขง็ ของเครอื ข่ายผูส้ งู อายุ จากการศึกษา การดําเนินงานเครือข่ายด้านผู้สูงอายุ สามารถนําเสนอแนวทางการทํางานและกลยุทธ์ การทาํ งานดา้ นผู้สูงอายขุ องกระทรวงกาพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ ไดด้ ังน้ี ประเด็นท่ี 1 ระบบการบรหิ ารจดั การของเครือข่ายด้านผูส้ งู อายุ Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 241

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. ประเด็นที่ 2 แนวทางการเสริมสรา้ งความเขม้ แข็งของเครือข่ายผสู้ ูงอายุ ประเด็นท่ี 3 กลยุทธ์การสรา้ งความเขม้ แขง็ ของเครือขา่ ยผสู้ งู อายุ กลยุทธ์ท่ี 1 : การบริหารจัดการเครือข่ายด้านผู้สูงอายุ มาตรการในการดาเนนิ การ 1. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ ต้องให้การส่งเสริมกระบวนการ มีส่วนร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆ โดยเน้นการให้ความสําคัญกับการดูแลผู้สูงอายุ และมีนโยบายในการดําเนินงาน รว่ มกนั เกีย่ วกับผู้สูงอายอุ ย่างต่อเนอ่ื ง 2. กระทรวงฯ ควรส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นแกนนําในการสร้างเครือข่าย การทาํ งานด้านผู้สูงอายุในระดบั ท้องถิน่ 3. กระทรวงฯ ควรส่งเสริมภาคีเครือข่ายด้านผู้สูงอายุให้เข้ามาทํางานร่วมกันโดยเน้นกระบวนการ ทํางานแบบมีส่วนรว่ มระหวา่ งกระทรวงฯ กบั ภาคีเครอื ขา่ ยภายนอกให้มากยง่ิ ขึ้น 4. กระทรวงฯ ควรเน้นให้มีการส่งเสริม และพัฒนาผู้นําองค์กรเครือข่ายด้านผู้สูงอายุให้มีศักยภาพ ในการทาํ งาน โดยการจัดอบรมใหค้ วามรู้ในด้านการทํางานกับกลุม่ ผู้สูงอายุ 5. กระทรวงฯ ควรมีการส่งเสริมการรวมตัวเรียนรู้ร่วมคิดร่วมทดลองปฏิบัติจริง รวมท้ังการ เสริมหนุนกลุ่มทมี่ ีการรวมตวั อยแู่ ลว้ ใหเ้ ข้มแข็ง 6. กระทรวงฯ ควรส่งเสริมให้มีกระบวนการจัดการองค์ความรู้อย่างเป็นข้ันเป็นตอน มีเครือข่าย การเรยี นรู้ 7. กระทรวงฯ ควรมีการสนับสนุนงบประมาณในการบริหารจัดการองค์กรเครือข่ายด้านผู้สูงอายุ ผา่ นกจิ กรรม/โครงการท่ที ํารว่ มกบั องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ และภาคเี ครือข่ายทีเ่ กี่ยวข้องอย่างต่อเน่ือง 8. การส่งเสริมการรวมตัวของเครือข่ายในการทํากิจกรรมเพ่ือด้านผู้ สูงอายุร่วมกัน ในรูปแบบท่หี ลากหลายท้ังท่ีเป็นทางการและไม่เปน็ ทางการ ทัง้ ในเชงิ พนื้ ท่หี รือประเดน็ ความสนใจ 9. การสนบั สนนุ ใหภ้ าคีเครอื ข่ายมีการรวมตัวทํางานร่วมกัน โดยเพ่ิมขีดความสามารถในการพัฒนา องค์กรภาคีเครือข่ายมากขึ้น โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ ต้องมีการเปิดพื้นที่สาธารณะ ในการจัดกิจกรรมอย่างต่อเน่ือง มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารท่ีเป็นประโยชน์ผ่านส่ือบุคคล ส่ือการศึกษา ส่ือท้องถิ่น และสื่อระดับชาติ รวมถึงการปรับปรุงกลไกทางกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับและมาตรการต่างๆ เพ่ือเอื้ออํานวยให้ ภาคส่วนตา่ งๆ เข้ามารว่ มสนับสนุนการสรา้ งเครอื ข่ายด้านผู้สูงอายุทเ่ี ข้มแขง็ 10. การจัดการองค์ความรู้และระบบการเรียนรู้ของชุมชนอย่างครบวงจร โดยการพัฒนาฐานข้อมูล ชุมชนใหเ้ ป็นระบบและปรบั ให้ทนั สมัยอยเู่ สมอ Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 242

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. 11. กลยุทธ์ที่ 2 : กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ต้องให้การส่งเสริมและ พัฒนาผู้นาองค์กรเครือข่ายด้านผู้สูงอายุให้มีศักยภาพในการทางานและมีพลังในการดึงภาคีเครือข่ายเข้ามา ทางานรว่ มกัน โดยการมสี ว่ นร่วมจากผสู้ ูงอายุ มาตรการในการดาเนนิ การ 1. กําหนดคุณลักษณะของตําแหน่งผู้ทํางานด้านผู้สูงอายุตามที่ต้องการ เสริมทักษะผู้นําให้มีความรู้ ความสามารถในการทํางานและมีความรคู้ วามเข้าใจเกีย่ วกบั งานดา้ นผสู้ ูงอายุอยา่ งชัดเจน 2. พัฒนาองค์กรด้านผู้สูงอายุให้เห็นความสําคัญของการคัดสรรผู้นําองค์กรที่มีความรู้ความสามารถ ในการดําเนินงานและนาํ พาองคก์ รไปถงึ เปูาหมาย 3. ส่งเสริมให้ผู้นําองค์กรให้ความสําคัญกับพันธมิตรในการทํางาน แสวงหาภาคีเครือข่ายใน การดําเนินงานรว่ มกัน เพ่อื ใหผ้ สู้ ูงอายุมกี จิ กรรมทีห่ ลากหลาย 4. ส่งเสริม/ชักจูงให้ผู้ท่ีมีความรู้ความสามารถ มีศักยภาพในการดําเนินงาน เข้ามามีส่วนร่วมใน การทํางานเพ่อื สงั คมใหม้ ากขนึ้ 5. พฒั นาศักยภาพของผ้นู ํา/คณะทาํ งานองค์กรท่ีทํางานด้านผู้สูงอายุให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพือ่ ให้เกิดการปฏิบตั ิงานตามความรบั ผิดชอบและสามารถบรหิ ารองค์กรได้อย่างเหมาะสม กลยุทธ์ที่ 3 : กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ ต้องมีการจัดทายุทธศาสตร์การสร้าง ความร่วมมือกับเครือขา่ ยด้านผู้สงู อายุ มาตรการในการดาเนนิ การ 1. การวางเปูาประสงคท์ ตี่ ้องการตามกรอบเวลาทชี่ ัดเจน 2. การค้นหาภาคเี ครอื ข่ายท่ีทํางานรว่ มกบั กระทรวง 3. การนาํ แผนท่ีไดไ้ ปใช้ในทางปฏบิ ตั ิเพื่อเกดิ ประโยชนต์ ่อกลุ่มเปูาหมายสูงอายุ 4. จัดทําแผนการพัฒนาคุณภาพชีวิตสาํ หรับผสู้ งู อายุแบบองค์รวม โดยพฒั นาทง้ั มิติดา้ นร่างกาย จิตใจ สงั คม สง่ิ แวดล้อม 5. จดั ทาํ แผนการเตรียมความพร้อมให้กบั ผู้ทีจ่ ะก้าวเข้าส่สู ังคมผสู้ ูงอายุ 6. จัดตัง้ ศนู ย์ฝึกอบรมให้กับเครือขา่ ยและผูส้ งู อายุในพนื้ ที่ทตี่ ้องทํางานในเรอ่ื งการดูแลผู้สูงอายุ Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 243

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. 7.3 ข้อเสนอแนะ ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 1. หน่วยงานภาครัฐควรให้การสนับสนุนการดําเนินงานองค์กรภาคีเครือข่ายที่ดําเนินงานด้านผู้สูงอายุ อยา่ งต่อเนือ่ ง ไม่วา่ จะเป็นดา้ นงบประมาณ องค์ความรู้ และการสนบั สนนุ ทรพั ยากรต่างๆ 2. กระทรวงที่เก่ียวข้องกับงานด้านผู้สูงอายุ อาทิ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น ควรมีการบูรณาการทํางานร่วมกันอย่างจริงจังเพ่ือให้โครงการ/ กจิ กรรมที่ดําเนินงานเก่ียวกับผู้สูงอายุเป็นไปในแนวทางเดียวกัน อีกท้ังหนุนเสริมการดําเนินงานซึ่งกันและกันเพื่อลด ระยะเวลาในการดําเนนิ งานและมีการใช้ทรพั ยากรอย่างคุ้มค่า 3. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ควรมีการจัดทํายุทธศาสตร์การสร้างความร่วมมือ เครอื ข่ายด้านผ้สู ูงอายใุ นระดับประเทศอย่างชัดเจน 4. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ ควรมีการจัดทําระบบฐานข้อมูลของผู้สูงอายุ อยา่ งเป็นระบบ เพ่ือนําขอ้ มูลของผูส้ ูงอายมุ าชว่ ยกาํ หนดแนวทางการพัฒนางานต่อไป 5. กระทรวงท่ีเกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น ควรมีการปรับปรุงการทํางานขององค์กรให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นท่ีเพ่ือให้สามารถ ตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายใุ นพ้ืนท่ีได้ 6. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ ควรเข้าไปจัดการบริการทางสังคมสําหรับกลุ่ม ผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลนอกเหนือจากการบริการด้านสุขภาพ เพ่ือเสริมหนุนการดูแลด้านสุขภาพแกผู้สูงอายุ เช่น การช่วยเหลือในเรื่องการสนับสนุนกายอุปกรณ์ที่จําเป็น การเข้าไปปรับปรุงสถานท่ีอยู่อาศัยของผู้ สูงอายุให้ เหมาะสม เปน็ ตน้ ข้อเสนอแนะตอ่ องคก์ รภาคเี ครอื ข่าย 1. หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องในการดําเนินงานด้านผู้สูงอายุ ควรทําหน้าท่ีในการสนับสนุนหรือเป็นพี่เลี้ยงใน การดําเนินงานขององค์กรเครือข่าย แต่ไม่ควรเข้าไปแทรกแซงการดําเนินงานหรือเปลี่ยนแปลงเปูาหมายใน การดาํ เนนิ งานขององคก์ ร 2. หน่วยงานภาคีเครือข่าย ควรมีการพัฒนาศักยภาพการดําเนินงานของผู้บริหารองค์กรด้านผู้สูงอายุและ คณะทํางานเพ่ือใหม้ ีความรทู้ ่ีหลากหลายและทันเหตุการณ์ 3. หน่วยงานที่เก่ียวข้องต้องดําเนินการสนับสนุนองค์กรที่มีผลการดําเนินงานประสบผลสําเร็จ เพือ่ เปน็ ตน้ แบบของการพัฒนาและขยายผลให้ครอบคลุมทุกพนื้ ท่ี 4. หน่วยงานที่เก่ียวข้องควรทําหน้าท่ีในการส่งเสริมการเตรียมความพร้อมการทํางานเพื่อผู้สูงอายุ โดยชักจูงผ้ทู ีย่ ังไม่เข้าสวู่ ยั ผู้สูงอายุใหเ้ ขา้ มาเรียนรูก้ ารทาํ งานรว่ มกัน Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 244

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. บรรณานุกรม การบรหิ ารงานแบบเครอื ข่ายในภาครัฐเวทปี ญั ญา สมั มนาวาที ครัง้ ท่ี 6. 2551. สบื คน้ เมื่อวนั ท่ี 26 การสรา้ งเครอื ขา่ ย. (ไมร่ ะบุปที พี่ มิ พ์). สบื คน้ เม่อื วันท่ี 26 พฤศจิกายน 2558 จาก http://med.md.kku.ac.th/site_data/mykku_med/701000019/Networking.doc, กระทรวงมหาดไทย สํานักบริหารยทุ ธศาสตรก์ ลมุ่ จงั หวัดภาคใตฝ้ ่งั อันดามัน “โครงการบรู ณาการอตุ สาหกรรม การท่องเที่ยวอันดามันสกู่ ารเป็นศนู ย์กลางการท่องเทย่ี วระดับโลกบนฐานความเข้มแข็งของชุมชนตาม แนวเศรษฐกิจพอเพียงสานกั บริหารยุทธศาสตร์กลมุ่ จังหวัดภาคใต้ฝง่ั อนั ดามัน” (ม.ป.ป.) เกสรา วิเศษรัตน์. 2556. การเสริมสร้างเครือข่ายการจัดทาแผนชุมชนขององคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ ในอาเภอคอ้ วงั จงั หวัดยโสธร. เกรียงศกั ดิ์ เจริญวงศ์ศกั ด.์ิ 2543. การจัดการเครอื ขา่ ย : กลยทุ ธส์ าคัญสูค่ วามสาเรจ็ ของการปฏิรปู การศกึ ษา. กรงุ เทพมหานคร : ซัคเซสมีเดียจํากดั , ชญานนิ กฤติยะโชติ. 2557. แนวคดิ เกี่ยวกับกลยุทธ์. สืบคน้ เมอื่ วนั ที่ 6 พฤศจกิ ายน 2558. จาก ฉันทนา พานทอง. 2555. พัฒนาการและการจัดการเครอื ข่ายผสู้ งู อายแุ ละเครอื ข่ายผูพ้ กิ ารกรณศี กึ ษา เทศบาลตาบลหนองตองพฒั นา อาเภอหางดง จงั หวัดเชยี งใหม่. วทิ ยานิพนธ์ปรญิ ญามหาบัณฑิต บณั ฑติ วทิ ยาลัย สาขารฐั ประศาสนศาสตร์. มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่. ชนิดาภา ศรหี นู. 2554. การจัดการเครอื ขา่ ยครัวเรือนเศรษฐกิจพอเพียงตาบลขอนหาด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช.การคน้ ควา้ อสิ ระศิลปศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวิชาสหวิทยาการเพ่อื การพัฒนา ท้องถน่ิ . มหาวิทยาลยั ราชภฏั พระนคร. ทศพร ศิริสมั พนั ธ.์ 2539. การวางแผนกลยทุ ธ์. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ัทพมิ พ์ดี จาํ กัด. เทคนคิ การสร้างเครือข่ายและทมี งาน. 2552. สืบค้นเม่ือวันที่ 26 พฤศจกิ ายน 2558. จาก http://203.157.41.107/estimates_new/upload/Network%20Rayaburee%2031%20Aug- ธนพล แสงจันทร.์ 2555. การเสรมิ สร้างเครือขา่ ยการดารงชีวติ อสิ ระของคนพกิ าร กรณีศกึ ษา : ศนู ย์การดารงชีวติ อิสระของคนพิการพทุ ธมณฑล. วิทยานิพนธป์ ริญญามหาบัณฑิต, บัณฑติ วิทยาลัย สาขาวิชาพฒั นศึกษา. มหาวิทยาลัยศลิ ปากร. นฤมล นริ าทร. 2543. การสร้างเครือข่ายการทางาน ข้อควรพิจารณาบางประการ. Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 245

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. กรุงเทพมหานคร : มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์. บญุ อยู่ ขอพรประเสรฐิ . 2551. การบริหารเครือขา่ ยชุมชน : กรณศี ึกษาเครือข่ายรณรงคล์ ด ละ เลิก ปรเมศวร์ เจริญกิจ. 2553. กลยทุ ธก์ ารจัดการธรุ กิจของผจู้ าหนา่ ยโพแทสเซียมคลอเรต รายย่อย ในอาเภอจอมทอง จงั หวัดเชียงใหม่. วทิ ยานิพนธว์ ทิ ยาศาสตรม์ หาบัณฑติ , บัณฑิตวทิ ยาลยั สาขาวิชาธุรกจิ การเกษตร. มหาวิทยาลยั เชียงใหม่. ปาน กมิ ป.ี 2540. การพัฒนาเครอื ข่ายการเรียนรกู้ ารศึกษานอกโรงเรยี นเพอื่ การพ่ึงตนเองของชมุ ชน. วิทยานิพนธ์ดษุ ฎีบัณฑติ , สาขาวชิ าพัฒนศกึ ษา. จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ปารชิ าติ วลัยเสถียรและคณะ. 2548. กระบวนการและเทคนคิ การทางานของนักพฒั นา. พิมพค์ รั้งท่ี 3. กรุงเทพมหานคร : อุษาการพมิ พ์. ปรดี า เรอื งวชิ าธร. 2547. งาน พลงั กลุ่ม และความสขุ . กรุงเทพมหานคร : เฟื่องฟาู พร้ินติง้ . ปรยี านุช จันทมิ า. 2554. พัฒนาการของเครือขายผสู งู อายใุ นการดแู ลสขุ ภาพตนเอง:กรณศี ึกษาชมุ ชน เขตเทศบาลเมืองอานาจเจริญ. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต,บัณฑิตวิทยาลัย สาขาวิชายุทธศาสตร การพัฒนาภมู ิภาค. มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อบุ ลราชธานี. ประดิษฐ มชั ฌมิ า. 2522. สังคมวทิ ยาชนบท แนวคิดกลุม. โรงพมิ พมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประเวศ วะสี. 2545.ชุมชนเข้มแข็ง ทนุ ทางสังคมของไทย. กรงุ เทพมหานคร : สาํ นกั งานกองทนุ เพอ่ื สงั คม และธนาคารออมสนิ . ปิยนันท์ สวัสด์ิศฤงฆาร. 2557. การสรา้ งและนากลยทุ ธ์ไปปฏิบัติ. สบื คน้ เมอื่ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2558. จาก พงศกร ควรรู้ดี. 2553. การประสานเครือขา่ ยทรพั ยากรมนุษยด์ า้ นกีฬา : กรณีองคก์ ารบริหารสว่ นตาบล ในอาเภอเหลา่ เสือโก้ก จังหวัดอุบลราชธาน.ี รายงานการศึกษาอสิ ระ. ปริญญารฐั ประศาสนศาสตร มหาบณั ฑติ , มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น, วิทยาลัยการปกครองทอ้ งถิ่น, สาขาวชิ าการปกครองทอ้ งถนิ่ . พฤธิพงค์ พิศาลวชั รนิ ทร.์ 2550. กระบวนการจัดการเครือขา่ ยชุมชนทอ้ งถิน่ ในการขบั เคลื่อนนโยบาย สาธารณะดา้ นการจดั การสิ่งแวดล้อม กรณศี ึกษา เครือข่ายลมุ่ น้าคลองอูต่ ะเภา. วิทยานิพนธว์ ิทยาศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวชิ าการจัดการสง่ิ แวดล้อม. มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์. พฒั น บุณยรัตพนั ธุ. การสรางพลงั ชุมชนโดนขบวนการพัฒนาชมุ ชน. พมิ พครงั้ ท่ี 2. เลิฟและลพิ เพรสจํากัด. พชั รี สิโรรส. 2541. เครอื ข่ายและกระบวนการนโยบายด้านอุบตั ิภยั จราจร.สถาบนั วิจัยระบบสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข. Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 246

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. พระดาวเหนอื บตุ รสที า. 2557. การสร้างเครือข่ายและการจัดการเครอื ข่ายการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาของ ชมุ ชนบ้านพบธรรมนาสุขอาเภอทุ่งเสล่ียม จงั หวดั สุโขทัย. วิทยานิพนธป์ ริญญามหาบัณฑติ , คณะพัฒนาสังคมและสง่ิ แวดล้อม, สาขาการบริหารการพฒั นาสงั คม. สถาบนั บัณฑติ พฒั นบรหิ ารศาสตร์. พระมหาสทุ ติ ยอ์ าภากโร. 2547. เครอื ขา่ ย : ธรรมชาติความรแู้ ละการจดั การ. กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพเ์ ดือนตลุ า พติ รพบิ ูล ไชยเมอื ง และคณะ. 2557. รูปแบบการเสริมสร้างเครอื ข่ายทางสงั คมทีม่ อี ิทธพิ ลต่อคุณภาพ การบริหารจดั การในองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน จังหวัดหนองบัวลาภู. วารสารมหาวิทยาลัยนครพนม; ปี ที่ 5 ฉบบั ท่ี 1 : มกราคม - เมษายน 2558. พิทยา วอ่ งกุล. 2541. รบั วิกฤตโลกป2ี 000เศรษฐกิจยัง่ ยนื . กรงุ เทพมหานคร : อมรนิ ทรพ์ ริน้ ตงิ้ แอนด์พบั ลิชชิ่ง. มาศวรี สังขเรียง. 2552. เครือข่ายความสมั พันธท์ างสังคมท่ีสง่ ผลต่อสภาพจติ ใจของผสู้ ูงอายใุ นชมรม ผู้สูงอายุโพธ์ทิ อง ตาบลมะลวน อาเภอพุนพิน จังหวดั สรุ าษฎร์ธานี. วทิ ยานพิ นธศ์ กึ ษาศาสตร มหาบณั ฑิต, บณั ฑติ วิทยาลัย สาขาวชิ าการส่งเสรมิ สุขภาพ. มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่. เมืองทอง แขมมณี. 2544. ความหมายของเครือขา่ ย. สบื ค้นเมอ่ื วันที่ 3 พฤศจกิ ายน 2558. จาก http://hp.anamai.moph.go.th/soongwai/statics/about/network/topic002.php โรงพยาบาลศรีธัญญา กรมสุขภาพจิต. 2557. แนวทางการดาเนินงานเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายคน พิการทางจติ . รายงานการศึกษาอิสระปรญิ ญารฐั ประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต, วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น สาขาวิชาการปกครองท้องถนิ่ .มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ . วรรณพร พุทธภูมิพิทักษ์ และกัญญามน อินหว่าง. 2554. ทฤษฎีองค์การและการจัดการ. พิษณุโลก :มหาวิทยาลัย พิษณโุ ลก. วฒั นา วงศเ์ กียรตริ ตั น.์ 2551. แผนกลยุทธ์และการประเมินความคุ้มค่าในการใชจ้ า่ ยงบประมาณ. สถาบันพฒั นานโยบายและการจัดการ คณะรัฐศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั . มปพ. https://www.gotoknow.org/posts/345600. วิโรจน์ เป็นสุข. 2554. การจดั การเครอื ขา่ ยสง่ เสรมิ สุขภาพระดับตาบล ในเขตองค์การบริหารส่วนตาบล บางทอง อาเภอทา้ ยเหมอื ง จงั หวัดพังงา. วทิ ยานิพนธร์ ัฐประศาสนศาสตรมหาบณั ฑติ , วิทยาลยั การปกครองทอ้ งถน่ิ , สาขาการปกครองท้องถิน่ . มหาวิทยาลัยขอนแกน่ . Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 247

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. ศักดิ์สทิ ธ์ิ หม่นื กลุ . 2545. ทศั นของชาวบ้านในพื้นทแ่ี นวกันชนปุาภเู ขยี วต่อการดาเนินงานของกลมุ่ เครือข่ายเกษตรตีนภูพัฒนา อาเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ. สารนิพนธ์มหาบัณฑิต, คณะสงั คมสงเคราะหศ์ าสตร์. มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร.์ สมใจ โลหะพนู ตระกูล. 2539. จส.100 : สานึกทางสงั คมของคนชน้ั กลางในเมอื ง. วิทยานพิ นธ์ ปริญญาสงั คมสงเคราะห์ศาสตรมหาบณั ฑิต, สาขาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์. สญั ญา สัญญาววิ ฒั น์. 2551.ทฤษฎีและกลยทุ ธ์การพฒั นาสังคม. กรุงเทพมหานคร : จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย. สทุ ติ ย์ อาภากโร. เครือข่าย : ธรรมชาติ ความรู้ และการจดั การ. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พเ์ ดอื นตุลา. 2547. อวยชยั วะทา. 2554. กลยทุ ธก์ ารพฒั นาผูน้ าองคก์ รชาวบา้ นเพอื่ ส่งเสรมิ การอนุรกั ษป์ าุ ชมุ ชน จังหวดั มหาสารคาม. วิทยานิพนธ์ปริญญาปรชั ญาดุษฎีบัณฑติ , สาขายุทธศาสตร์การพัฒนาภูมิภาค, บณั ฑิตวิทยาลัย, มหาวทิ ยาลัยราชภฏั มหาสารคาม. อจั ฉรา พุฒมิ า. 2555. การจัดการเครอื ขา่ ยผ้สู งู อายและผพู้ กิ ารกรณีศึกษาเทศบาลเมอื งเมอื งแกนพฒั นา อาเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ,บัณฑิตวิทยาลัย สาขารัฐประศาสน ศาสตร์. มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม.่ อดเิ ทพ ทองศร.ี 2556. ความสาเร็จในการจดั การเครอื ข่ายปอู งกันและบรรเทาสาธารณภยั ขององค์การ บริหารสว่ นตาบลเวยี งตาลอาเภอหา้ งฉัตร จงั หวดั ลาปาง. วทิ ยานพิ นธ์ปริญญามหาบัณฑิต, บณั ฑิตวิทยาลัย, สาขารัฐประศาสนศาสตร์. มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่. ___________________. (2549). การคิดเชิงกลยุทธ์. กรุงเทพฯ : ซัคเซสมเี ดีย. จาก http://www.oknation.net/blog/boonyou/2008/11/02/entry-1. http://www.oknation.net/blog/piyanan/2014/06/17/entry-1. http://drchayanin.blogspot.com/2014/10/blog-post.html. 1%20Sep%2052/network.ppt วิชัย นาคสงิ ห.์ 2552. หลักการจัดการ.สบื คน้ เมอ่ื วนั ที่ 7 พฤศจกิ ายน 2558. จาก พฤศจิกายน 2558จากhttp://www.opdc.go.th/content.php?menu_id=5&content_id=1186 การบรโิ ภคสุรา. สืบค้นเมื่อวันท่ี 6 พฤศจิกายน 2558. Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 248

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. BOOKS Anastasia Gouseti. 2014. Digital Technologies for School Collaboration.New York, U.S.A.: Palgrave macmillan. Avantika Singh and Gyan Prakash. 2010. Public-Private Partnership in Health Services Delivery A network organizations perspective. Public Management Review, 12, 6, p.829-856. Bateman, Thomas S. and Scott A. Snell. 1999. Management, Building Competitive Advantage.International Edition : McGraw-Hill,Inc. Byars, Rue, and Zahra (Lloyd L.Byar, Leslie W.RUE and Shaker A.Zahra. Strategy in a Chang environment,1995.p.4) David,Fred R. 1997. Strategic management. 6th ed. New Jersey : Prentice-Hall,Inc. Dess, Gregory G.,and Alex Miller.(1993). Strategic management.Singapore : McGraw-Hill, Inc. John Scott. 2012. What is Social Network Analysis?.New York, U.S.A. :Bloomsbury Academic. Laurence J. O’Toole, Jr. 1997. Treating Networks Seriously: Practical and Research-Based Agendas in Public Administration. Public Administration Review, 57, 1 (January/February),p.45-52. Lloyd L.Byars,Leslie W. Rue and Shaker A.Zahra. 1996. Strategic Management. U.S.A.: R.R.Donnelly & Sons. Mintzberg, Henry. 1994. Mintzberg on management : inside our strange world oforganizations. New York : Free Press. Starkey, Paul. 1997. Networking for Development. London: International Forum for Rural Transport and Development.p. 14. Stephen Goldsmith and William D. Eggers แปลโดย จกั ร ตงิ ศภัทยิ ์ และกฤษฎา ปราโมทยธ์ นา. 2552. Governing by Network การบริหารงานภาครัฐแบบเครอื ขา่ ย: มติ ใิ หม่ของภาครัฐ. กรุงเทพมหานคร : เอก็ ซเปอร์เนท็ . Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 249

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. Robert Agranoff and Michael McGuire. 2001. Big Questions in Public Network Management Research.Journal of Public Administration Research and Theory, 11,3 (July) :295-326. Thompson, Arthur A. Jr. and A.J.Strickland. 1995. Strategic management : Concept and Cases, 8th ed.(New York : Business. Wheelen , Thomas L. and David J.Hunger. 2002. Strategic Management and Business Policy, 8th ed. New Jersey : Prentice – Hall. Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 250

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. ภาคผนวก Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 251

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. แบบสารวจความต้องการของผ้สู ูงอายุต่อบริการ จากหน่วยงาน/องค์กรเครือข่ายด้านผู้สูงอายุ โครงการวจิ ัย กลยุทธ์การสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายผู้สูงอายุ ของกระทรวงการพฒั นาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ ตอนที่ 1 ขอ้ มลู ทั่วไปของผตู้ อบแบบสอบถาม 1. เพศ  1) ชาย  2) หญิง 2. อายุ  1) 60-65 ปี  2) 66-70 ปี  3) 71-75 ปี  4) 76-80 ปี  5) 80 ปีขึ้นไป 3. รายไดต้ อ่ เดือน.......................................................บาท 4. การเปน็ สมาชกิ ชมรม  1) ชมรมผู้สงู อายุ  2) ฌาปนกิจสงเคราะห์  3) กองทนุ ในชมุ ชน  4) ชมรมอน่ื ๆ ระบ.ุ ................................. 5. ศาสนา  1) พทุ ธ  2) ครสิ ต์  3) อสิ ลาม  4) อนื่ ๆ โปรดระบ.ุ ................................. ตอนท่ี 2 ข้อมูลเกย่ี วกบั การใชบ้ ริการจากองคก์ ร กลุ่ม ชมรม ท่ีดาเนินงานเกยี่ วกับผู้สงู อายุ 6. ในรอบ 1 ปีท่ผี า่ นมาท่านเคยใช้บรกิ ารจากองค์กร กล่มุ ชมรม ทีด่ าเนินงานเกย่ี วกบั ผู้สูงอายุหรือไม่  1) ไม่เคยใช้ (ขา้ มไปตอบขอ้ 9)  2) เคยใช้ 7. ชมรม/หน่วยงานท่เี คยใช้บริการ  1) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจาํ ตําบล (รพ.สต.)  2) องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น (อปท./อบต.)  3) ชมรมต่างๆ เชน่ ชมรมผูส้ งู อายุ ชมรมเพ่อื นชว่ ยเพ่อื น ฯลฯ  4) หนว่ ยงานอื่นๆ (โปรดระบ.ุ ........................................................................) 8. รูปแบบบรกิ ารท่เี คยได้ใช้บริการ  1) บริการเกยี่ วกับการสงเคราะหป์ จั จัยส่ี (อาหาร ท่ีอย่อู าศัย ยารักษาโรค เครอื่ งนงุ่ หม่ )  2) บริการเกี่ยวกับสุขภาพกายและจติ ใจ Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 252

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security.  3) บรกิ ารเกยี่ วกับทักษะอาชีพและเสรมิ รายได้  4) บรกิ ารเก่ยี วกบั จติ อาสาและอาสาสมัคร  5) บริการด้านประเพณี วฒั นธรรม ศาสนาและภูมปิ ญั ญา  6) บริการเพมิ่ พูนและแสวงหาความรู้  7) บริการพิเศษในวนั สําคญั ฯลฯ  8) บริการอื่นๆ 9. ท่านต้องการบริการจากองค์กร กลุ่ม ชมรม ท่ีดาเนินงานด้านผู้สูงอายุด้านใดมากที่สุดในอนาคต (เลือกตอบได้เพยี งขอ้ เดยี ว) 9.1 ดา้ นทีอ่ ยอู่ าศัย  1) การสรา้ ง/ปรบั ปรุงบ้าน/ซ่อมแซมบ้าน  2) การหาที่อยู่อาศัยท่ีเหมาะสม  3) การดูแลทอี่ ยู่อาศยั ใหเ้ หมาะสม  4) การดูแลความสะอาดส่งิ แวดล้อมของบ้าน  5) การจัดบริการบา้ นพักในกรณฉี ุกเฉนิ  6) การอํานวยความสะดวกเร่อื งที่อยู่อาศยั  7) การปรบั สภาพแวดล้อมใหเ้ หมาะสม เช่น คูคลอง เป็นตน้  8) บรกิ ารอนื่ ๆ................................................................. 9.2 ด้านอาหาร  1) การแจกอาหารแห้ง ในกรณที ่ผี สู้ ูงอายปุ ระสบปัญหาเดือดร้อน  2) การจดั งานเล้ยี งให้กับผู้สูงอายใุ นชมุ ชนในวนั สาํ คัญตา่ งๆ  3) การสนับสนุนเครอ่ื งอปุ โภคบริโภคสาํ หรับผูส้ งู อายุ  4) การสนบั สนุนดา้ นอาหาร  5) การแจกถงุ ยังชพี ให้แก่ผู้สงู อายทุ ยี่ ากไร้  6) การแนะนาํ เก่ียวกับโภชนาการ และบริการความรู้ดา้ นอาหาร  7) บรกิ ารอืน่ ๆ................................................................. Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 253

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. 9.3 ด้านการรกั ษาพยาบาล  1) บรกิ ารตรวจสุขภาพ  2) บริการหน่วยแพทย์เคลือ่ นที่  3) บริการใหค้ วามรูด้ ้านการดแู ลตนเองสําหรบั ผู้สูงอายุ  4) บรกิ ารเย่ยี มเยยี นผ้ปู ุวย/เยย่ี มบา้ น  5) บรกิ ารดูแลผู้สูงอายุพิการ / ชว่ ยเหลอื ตนเองไม่ได้  6) บริการแนะนําวิธกี ารปอู งกนั โรค  7) บรกิ ารยารักษาโรค  8) การจดั ให้มแี พทยป์ ระจาํ ที่ รพ.สต.  9) อื่นๆ.............................. 9.4 ด้านเสื้อผา้ และเคร่อื งนุง่ ห่ม  1) การแจกเสอ้ื ผ้า ผา้ ห่ม เสื้อกันหนาว  2) การแจกเคร่ืองสาธารณปู โภค  3) บริการอื่นๆ................................. 9.5 ด้านสขุ ภาพกาย  1) การอบรมให้ความร้เู กีย่ วกับเรื่องกายภาพบําบัด  2) บรกิ ารนวดแผนโบราณ  3) การจดั กจิ กรรมออกกาํ ลงั กาย  4) การจดั อบรมให้ความรู้เก่ยี วกบั สุขภาพ  5) การจัดบริการใหค้ ําปรกึ ษาทัว่ ไปแกผ่ ูส้ ูงอายุ  6) การจดั บรกิ ารแพทย์ทางเลอื ก เช่น แพทยแ์ ผนไทย  7) การจัดใหม้ ีอุปกรณ์ออกกําลงั กายสาํ หรับผสู้ ูงอายุ  8) บรกิ ารอืน่ ๆ.............................. Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 254

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. 9.6 ด้านสุขภาพใจ  1) การจดั ให้มกี ิจกรรมการศึกษาดูงาน  2) การใหค้ าํ ปรึกษาด้านสภาพจิตใจแกผ่ ้สู ูงอายุ  3) การจัดกิจกรรมทางศาสนา เชน่ การฟงั ธรรม  4) การจดั กจิ กรรมนนั ทนาการในวนั สาํ คญั ๆ ให้แก่ผสู้ ูงอายุ  5) มอบของขวัญในวนั สําคัญเพ่ือเปน็ ขวญั กาํ ลงั ใจ 9.7 การบรกิ ารเกยี่ วกับทักษะอาชพี และเสริมรายได้ 1) การจดั หาอาชพี ท่ีเหมาะสมแกผ่ ูส้ งู อายุ ระบชุ นิดของกิจกรรม.......................................................................................... ........................................................................................................................... 2) การใหค้ วามรู้เก่ียวกับอาชพี แก่ผ้สู ูงอายุ ระบชุ นิดของอาชพี .............................................................................................. ........................................................................................................................... 3) การส่งเสรมิ ใหผ้ ู้สูงอายุเข้าถงึ เงนิ ทุนประกอบอาชีพ ระบุวธิ ีการสง่ เสริมฯ............................................................................................. ........................................................................................................................... 4) การส่งเสริมให้เข้าร่วมกองทนุ ตา่ งๆ เพ่อื การประกอบอาชีพ ระบวุ ธิ ีการสง่ เสริมฯ............................................................................................. ........................................................................................................................... 5) การจดั หาตลาดรองรบั ผลติ ภัณฑ์ ระบวุ ธิ ีการ........................................................................................................... ........................................................................................................................... 6) อืน่ ๆ............................................................................................................... Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 255

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. 9.8 การบริการเก่ียวกับจติ อาสาและอาสาสมัคร  1) ทํากจิ กรรมการตดั หญา้ /ตน้ ไม/้ ทาสี เพื่อปรบั ภมู ิทัศนใ์ นชุมชน  2) การทาํ ความสะดาดบริเวณวัด/โรงเรยี น  3) การรว่ มกจิ กรรมวนั สาํ คญั  4) การเย่ยี มบา้ นผสู้ ูงอายุ  5) การบรกิ ารจิตอาสาท่มี าดูแลกายภาพบาํ บดั ทบี่ ้าน  6) การดแู ลผู้สงู อายกุ รณีที่เจ็บปวุ ย และต้องอยโู่ ดยลาํ พงั  7) บริการอน่ื ๆ.............................................................................................. 9.9 การบรกิ ารดา้ นประเพณี วัฒนธรรม ศาสนาและภูมปิ ัญญา  1) การร่วมกจิ กรรมทาํ บญุ ทวี่ ัด  2) การร่วมกิจกรรมวนั สาํ คญั ต่าง ๆ เช่น วนั พ่อ วนั แม่ วันสงกรานต์ เป็นตน้  3) การจัดรถรบั -สง่ ผสู้ งู อายใุ นการเดนิ ทางไปร่วมกิจกรรม  4) การจัดกจิ กรรมเพื่อถา่ ยทอดภมู ิปัญญาให้แก่ลกู หลาน  5) บริการอื่นๆ............................................................................................... 9.10 การเพม่ิ พนู และแสวงหาความรู้ 9.10.1) การสง่ เสรมิ ด้านภาษาต่างประเทศ  1) ภาษาองั กฤษ  2) ภาษาจีน  3) ภาษาพม่า  4) ภาษามาเลเซีย  5) อื่นๆ............................................................................................................ 9.10.2) ดา้ นอ่ืนๆ  1) การเรียนดนตรี/เต้นราํ  2) การใชห้ ้องสมดุ  3) การปลูกผกั ปลอดสารพษิ  4) ความรูอ้ ่นื ๆ ท่ีจาํ เปน็ เชน่ ศาสนา สวัสดิการทร่ี ฐั จดั ใหแ้ ก่ผู้สูงอายุ เปน็ ตน้  5) บริการอ่ืนๆ................................................................................................. Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 256

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. 10. ท่านคดิ วา่ บรกิ ารทท่ี ่านเลือกควรจดั สถานทีใ่ ด  1) จัดบรกิ ารในชุมชน  2) จดั บรกิ ารที่บา้ น  3) จัดบรกิ ารในหน่วยงาน/สถาบัน 11. ทา่ นคิดว่า ค่าใชจ้ า่ ยในการรบั บรกิ ารรปู แบบใดจึงจะเหมาะสม  1) แบบจา่ ยเงินเองท้งั หมด  2) แบบจา่ ยเงินบางสว่ น/ผสู้ งู อายุรว่ มจ่าย  3) แบบให้บรกิ ารฟรี ขอขอบคณุ ทตี่ อบแบบสอบถาม Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 257

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. ประเดน็ คาถามในการสัมภาษณเ์ ชงิ ลึก Focus group กลุม่ คณะกรรมการบริหารองค์กรท่ีทางานด้านผสู้ งู อายุ (ต้องอ่านวรรณกรรมท่ีเก่ียวขอ้ ง เกี่ยวกับเครอื ขา่ ยใหช้ ดั เจน โดยเฉพาะหัวข้อ 2.5) 1. การบริหารจัดการภายในองค์กรของท่าน มีรูปแบบวิธีการและระบบการบริหารจัดการองค์กรอย่างไร และมีการ วางเปาู หมายในการทาํ งานด้านผู้สูงอายรุ ่วมกนั อยา่ งไร 2. องคก์ รของทา่ นมีวิธีการทาํ งานรว่ มกันกับเครือข่ายด้านผสู้ งู อายใุ ดบ้างและมกี ารทํางานอย่างไรบา้ ง 3. ทา่ นคิดวา่ การทํางานรว่ มกับเครอื ขา่ ยดา้ นผสู้ ูงอายุได้ก่อใหเ้ กิดประโยชนต์ ่อองค์กรของทา่ นในเรอื่ งใดบา้ ง/ อย่างไร 4. โปรดระบุปัญหาและอุปสรรคในการพัฒนาของเครือข่ายด้านผู้สูงอายุ ถ้ามีปัญหาอุปสรรคเกิดข้ึนท่านมีวิธีการ แกไ้ ขอยา่ งไร (ท้ังในด้านการบริหารจดั การ รปู แบบ และวิธีการบรหิ ารจัดการ) - ในองค์กร - การทาํ งานร่วมกับเครอื ขา่ ย 5. โปรดแสดงความคิดเห็นต่อการเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายผู้สูงอายุท่ีจะสนับสนุนการดําเนินงานของ กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความม่นั คงของมนษุ ยใ์ นประเด็นต่อไปนี้ 5.1 เปิดรับฟังและแลกเปล่ียนเรียนรู้ความคิดเห็นร่วมกันและมีการใช้ข้อมูลจากการสะท้อนความ คิดเห็นและการประเมนิ การสร้างความเชือ่ ม่นั ดา้ นความเท่าเทยี มกนั ในสมาชิกองคก์ ร - ท่านมีวิธีใดที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้สมาชิกในองค์กรของท่านมีการพูดคุย และแลกเปล่ียน ความคิดเหน็ ร่วมกันหรอื ไม่อยา่ งไร - ท่านมีวิธีการที่จะนําความคิดเห็นข้อเสนอแนะต่างๆ ของสมาชิก มาปรับใช้ต่อแนวทางการ ทํางานขององคก์ รใหม้ ากยิ่งขน้ึ ได้อยา่ งไร - ทา่ นคดิ ว่าท่านจะพัฒนาสมาชิกทุกภาคส่วนใหเ้ กิดความเทา่ เทยี มกันได้อยา่ งไร - ทา่ นคิดว่าองค์กรควรพัฒนาระบบการติดตามประเมินผลหรือไม่อย่างไร เพ่ือพัฒนาเครือข่ายให้ เขม้ แข็ง 5.2 ในช่วง 1 ปี ท่ีผา่ นมามีการปรับปรุงการดําเนนิ งานและการบรกิ าร - ทา่ นคิดว่าทา่ นจะปรับปรงุ กระบวนการทาํ งานของท่านอยา่ งไรบา้ ง - ท่านจะส่งเสริมการพบปะ ประชุม ทํากิจกรรมฯลฯ เครือข่ายด้านผู้สูงอายุในลักษณะไหน/ อยา่ งไร Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 258

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. - การบริการขององค์กรท่านมีการปรับปรุงให้เหมาะสมหรือสอดคล้องความต้องการของผู้สูงอายุ หรือไมอ่ ยา่ งไร 5.3 มีกจิ กรรมร่วมกันอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง - องคก์ รของท่านมีการจดั กจิ กรรมใหส้ มาชิกใหมข่ องเครอื ขา่ ย เพ่ือเชื่อมโยงต่อคนรนุ่ เก่ากับคนรุ่นใหม่ หรอื ไม่อยา่ งไร และมีแนวทางในการเสรมิ สร้างให้คนรุน่ ใหม่เข้ามามสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมไดอ้ ยา่ งไร - ในอนาคตองค์กรของท่านมกี ารวางแผนการดาํ เนนิ งานกิจกรรมสําหรบั ผู้สูงอายหุ รือไม่อย่างไร 5.4 มเี ปูาหมายรว่ มกนั ชดั เจนและมีการสรุปบทเรยี นรว่ มกนั - องค์กรของท่านมีการกําหนดเปูาหมายในการดําเนินงานร่วมกันหรือไม่อย่างไร หรือมีการ วางเปูาหมายการดําเนินงานตามชว่ งระยะเวลาหรอื ไม่ และสมาชิกรบั ทราบเปูาหมายร่วมกนั หรอื ไมอ่ ย่างไร - หลังการดาํ เนนิ กิจกรรมกับเครอื ข่ายเสรจ็ แลว้ มีการสรุปบทเรียนร่วมกันหรือไม่ เพ่ือนําข้อมูลมา ปรบั ปรงุ การทํางานในครัง้ ถดั ไปหรือไมอ่ ย่างไร 5.5 มีนวตั กรรมท่ีเกดิ จากการทํางานของเครือข่าย - การทํางานของเครือข่าย มีการปรบั ปรงุ การทํางานขององคก์ รใหแ้ ตกตา่ งจากปจั จุบันหรือไม่ อยา่ งไร - ท่านมีแนวคิดในการเชือ่ มโยงการทาํ งานองค์กรด้านผู้สงู อายใุ นอนาคตอย่างไร - ทา่ นคิดว่าองค์กรของท่านจะมรี ะบบการช่วยเหลือเครือข่ายอย่างต่อเนื่องหรอื ไม่/อย่างไร Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 259

The Strategic to Empowerment for Older Network of Ministry of Social Development and Human Security. คณะนกั วิจยั 1.นางสาวกรี ติกา กีรตพิ งษ์ไพศาล นกั พัฒนาสังคมชานาญการ สสว.6 หวั หน้าโครงการวจิ ยั 2.นางสาวภคอร ประสิทธสิ์ ขุ นักพัฒนาสังคม สสว.1 นักวิจยั 3.นางสาวสุวรรณา บญุ มา นกั สังคมสงเคราะหช์ านาญการ สสว.2 นักวิจยั 4.นางสาวพนิดา แน่นอดุ ร นักพัฒนาสังคม สสว.3 นักวิจยั 5.นางสาวภริญา โชคนภธร นักพัฒนาสังคมชานาญการ สสว.4 นักวิจัย 6.นางสาวณภทั ร แสวงผล พนักงานบรกิ าร สสว.5 นกั วจิ ัย 7.นายเชาวฤทธ์ิ ขลุ่ยเงนิ นักพฒั นาสังคมชานาญการ สสว.7 นกั วจิ ัย 8.นางสาวเบญวรรณ ภู่ฤทธิ์ พนกั งานบริการ สสว.8 นักวิจยั 9.นายบรรจง อันสนธิ์ นกั พัฒนาสงั คมชานาญการ สสว.9 นกั วจิ ัย 10.นางสาวภาราพึง อะริยะ นกั พฒั นาสงั คมชานาญการ สสว.10 นักวจิ ัย 11.นางสาวอจั ฉรา สุระกลุ นักพัฒนาสังคมชานาญการ สสว.11 นกั วิจัย 12.นางสาวนพรตั น์ กอวัฒนากลุ นกั พัฒนาสังคมชานาญการ สสว.12 นกั วจิ ัย Technical and Promotion Support Office Region 1-12 หนา้ 260


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook