Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พระบรมราชาวิธี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

พระบรมราชาวิธี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

Published by Rattanagorn Putiaek, 2021-09-06 04:11:16

Description: พระบรมราชาวิธี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

Search

Read the Text Version

รถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม พระบรมราชานสุ รณ์เน่ืองในโอกาสมหามงคลเสดจ็ เถลงิ ถวัลยราชสมบตั คิ รบ ๗๐ ปี ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ รถไฟฟ้ามหานครเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง รถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม อันมีความหมายว่า เฉลิมฉลองพระราชาท่ีปกครองโดยธรรม โดยรถไฟฟ้าสายสีม่วงแบ่งเส้นทางออกเป็น ๒ ช่วง ช่วงแรกเป็น ช่วงเตาปูน - บางใหญ่ (สถานีคลองบางไผ่) เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันเสาร์ ที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชด�าเนินแทนพระองค์โดยรถยนต์พระที่น่ังจากวังสระปทุม ไปทรงเปิด การเดินรถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรมท่ีสถานีรถไฟฟ้าเตาปูน เขตบางซ่ือ กรุงเทพมหานคร จากนั้นประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่งจาก สถานีรถไฟฟ้าเตาปูน ถึงศูนย์ซ่อมบ�ารุงฯ คลองบางไผ่ ทรงกดปุ่มระบบคอมพิวเตอร์เปิดการเดินรถไฟฟ้ามหานครที่สถานี ศูนย์ซ่อมบ�ารุงฯ คลองบางไผ่ อ�าเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี รถไฟฟ้าเฉลิมพระเกียรติทั้ง ๒ เส้นทางน้ี เป็นเพียงก้าวแรกของรถไฟฟ้าในความรับผิดชอบของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน แห่งประเทศไทย ในสังกัดกระทรวงคมนาคม เพื่อสนองแนวพระราชด�าริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในเร่ืองการประหยัดพลังงาน รักษาส่ิงแวดล้อม ตลอดจนเป็นโครงการส�าคัญในการแก้ปัญหาการจราจรในเมือง ที่พระองค์ให้ความส�าคัญอย่างยิ่ง ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และ การรถไฟแห่งประเทศไทย จะได้เร่งด�าเนินโครงการรถไฟฟ้าเพ่ิมเติม เพ่ือให้เป็นโครงข่ายที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยมีแผนงานในปัจจุบัน และอนาคต ดังน้ี โครงการรถไฟฟ้าทอ่ี ยู่ระหวา่ งการก่อสรา้ ง ๔ โครงการ คอื ๑. โครงการรถไฟฟา้ สายสนี ้�าเงิน ชว่ งบางซ่ือ - ท่าพระ ความยาว ๑๑.๐๘ กิโลเมตร และช่วงหวั ล�าโพง - บางแค ความยาว ๑๕.๙ กิโลเมตร ๒. โครงการรถไฟฟา้ สายสเี ขียว ช่วงแบร่ิง - สมุทรปราการ ความยาว ๑๒.๘ กิโลเมตร ๓. โครงการรถไฟฟา้ สายสีเขียว ช่วงหมอชิต - สะพานใหม่ - คูคต ความยาว ๑๘.๘ กิโลเมตร ๔. โครงการระบบรถไฟฟา้ ชานเมือง (สายสีแดง) ชว่ งบางซ่ือ - รงั สิต ความยาว ๒๖.๓ กิโลเมตร โครงการรถไฟฟา้ ทอี่ ยู่ระหวา่ งการเตรียมการ ๕ โครงการ คือ ๑. โครงการรถไฟฟา้ สายสชี มพู ช่วงแคราย - มนี บุรี ความยาว ๓๖ กิโลเมตร ๒. โครงการรถไฟฟ้าสายสเี หลอื ง ชว่ งลาดพรา้ ว - สา� โรง ความยาว ๓๐.๔ กิโลเมตร ๓. โครงการรถไฟฟา้ สายสีสม้ ช่วงตล่ิงชนั - ศูนยว์ ฒั นธรรมแหง่ ประเทศไทย ความยาว ๒๓ กิโลเมตร และชว่ งศูนยว์ ฒั นธรรมแหง่ ประเทศไทย - มีนบุรี ความยาว ๑๖.๘ กโิ ลเมตร ๔. โครงการรถไฟฟา้ สายสนี �้าเงนิ ช่วงบางแค - พทุ ธมณฑลสาย ๔ ความยาว ๘ กโิ ลเมตร ๕. โครงการรถไฟฟ้าสายสเี ขียว ชว่ งสมุทรปราการ - บางปู ความยาว ๙.๒ กิโลเมตร และชว่ งคคู ต - ลา� ลกู กา ความยาว ๖.๗๕ กิโลเมตร 198 พระบรมราชาวิถี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

เสน้ ทำงรถไฟเพื่อกำรทอ่ งเท่ยี วผำ่ นเข่อื นปำ่ สกั ชลสิทธ์ิ การจัดสร้างเข่ือนป่าสักชลสิทธิ์อันเน่ืองมาจากพระราชด�าริของพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มีวัตถุประสงค์เพ่ือบรรเทาปัญหาความ เดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็น ด้านการประกอบอาชีพเกษตรกรรมท่ีมักขาดแคลนน้�าในช่วงหน้าแล้ง การพัฒนาชีวิต ความเป็นอยู่ให้มีน้�าเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคตลอดปี และการบรรเทาปัญหาอุทกภัย ทม่ี ักเกิดขึ้นเปน็ ประจา� ในหนา้ ฝน การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ร้ือย้ายเส้นทางรถไฟสายเดิมท่ีอยู่ในเขตพื้นที่กักเก็บน้�า และก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายใหม่ข้ึนระหว่างสถานีรถไฟแก่งเสือเต้นกับสถานีรถไฟ สรุ นารายณ์ จงั หวดั ลพบรุ ี เสน้ ทางรถไฟสายใหมน่ อกจากอา� นวยความสะดวกในการเดนิ ทาง ให้แก่ประชาชนยังมีความส�าคัญในการน�านักท่องเที่ยวเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่สะดวก รวดเรว็ ประหยดั คา่ ใชจ้ า่ ย เพราะบรเิ วณรอบเขอื่ นปา่ สกั ชลสทิ ธแ์ิ ละบรเิ วณสนั เขอื่ นไดพ้ ฒั นา เปน็ แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วยอดนยิ มทไี่ ดร้ บั ความสนใจจากนกั ทอ่ งเทยี่ วทงั้ ชาวไทยและตา่ งประเทศ แหล่งท่องเท่ียวท่ีส�าคัญบริเวณเขื่อน ได้แก่ พระพุทธรัตนมณีมหาบพิตรชลสิทธ์ิมงคลชัย พิพธิ ภัณฑล์ ่มุ น้�าป่าสกั พิพิธภณั ฑส์ ตั วน์ า้� ไร่ดอกทานตะวัน 199

สะพำนพระรำม ๖ ทำงรถไฟข้ำมแมน่ ำ้� เจ้ำพระยำ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช แหง่ เดียวของกรุงเทพมหำนคร บรมนาถบพติ ร ทรงเป็นประธานในพธิ เี ปดิ สะพานพระราม ๖ เม่อื วันเสาร์ ท่ี ๑๒ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๙๖ สะพานพระราม ๖ เป็นสะพานรถไฟข้ามแม่น�้าเจ้าพระยาสายประวัติศาสตร์ แห่งแรกของประเทศไทย สร้างขึ้นในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว สมัยสงครามโลกคร้ังท่ี ๒ สะพานถูกระเบิดจนช่วงกลางสะพานขาด จึงได้ปรับปรุง ซ่อมแซมใหม่ เปน็ ทางรถไฟขนานกบั ถนน พรอ้ มท�าทางคนเดนิ สองข้างสะพาน เชอื่ ม ระหว่างเขตบางซ่ือกับเขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จพระราชด�าเนินไปทรงเปิดสะพาน พระราม ๖ เมอื่ วันเสาร์ ท่ี ๑๒ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๙๖ ปจั จบุ ันได้ยกเลิกการใชถ้ นน หลงั จากมกี ารสรา้ งสะพานพระราม ๗ ทั้งตอ่ มามีทางพิเศษศรรี ัช - วงแหวนรอบนอก กรงุ เทพมหานคร คขู่ นานกนั แตส่ ะพานพระราม ๖ กย็ งั คงเปน็ สะพานรถไฟขา้ มแมน่ า�้ เจา้ พระยาแหง่ เดียวของกรงุ เทพมหานคร บงึ มกั กะสัน กำ� จัดนำ�้ เสียดว้ ยธรรมชำติ พระบรมรำชำนสุ รณ์ เนื่องในพระรำชพธิ มี หำมงคลเฉลิมพระชนมพรรษำ ๕ รอบ บงึ มกั กะสนั เปน็ บงึ ขนาดใหญท่ อ่ี ยใู่ นพน้ื ทข่ี องการรถไฟแหง่ ประเทศไทย บรเิ วณ ใจกลางกรุงเทพมหานคร เคยใช้เป็นแหล่งระบายน้�าและรองรับน�้าเสียรวมท้ังน�้ามัน เครื่องจากโรงงานรถไฟมักกะสัน และเป็นท่ีท้ิงขยะมูลฝอยของชุมชนแออัดท่ีต้ังอยู่ โดยรอบบึง เม่ือเวลาผ่านไปจึงท�าให้เกิดปัญหาส่ิงแวดล้อมเส่ือมโทรมและน้�าเน่าเสีย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงตระหนักถึง พษิ ภยั จากมลภาวะดงั กลา่ วทจ่ี ะเกดิ แกป่ ระชาชน จงึ พระราชทานพระราชดา� รเิ กย่ี วกบั “เคร่อื งกรองนา�้ ธรรมชาติ” โดยใชผ้ กั ตบชวา เมื่อวนั ศกุ ร์ ที่ ๑๕ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๒๘ ความตอนหน่งึ วา่ “…บึงมกั กะสนั นี้ทา� โครงการท่เี รยี กว่าแบบคนจน โดยใชห้ ลกั วา่ ผักตบชวา ที่มีอยู่ทั่วไปน้ัน เป็นพืชดูดความโสโครกออกมา แล้วก็ท�าให้สะอาดขึ้นได้ เป็น เครอ่ื งกรองธรรมชาติ ใชพ้ ลงั งานแสงอาทติ ยแ์ ละธรรมชาตขิ องการเตบิ โตของพชื …” พระราชดา� รสั ในโอกาสทค่ี ณะทา� งานฝา่ ยวชิ าการ และคณะทา� งานฝา่ ยปฏบิ ตั กิ าร ในคณะกรรมการโครงการปรบั ปรงุ บงึ มกั กะสนั กบั คณะกรรมการระบายนา�้ หนองหาน เพื่อปรับปรุงสภาพส่ิงแวดล้อม เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนา ภูพาน จังหวัดสกลนคร วันศกุ ร์ ที่ ๑๕ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๒๘ เม่ือสภาพสงิ่ แวดลอ้ มของบึงมกั กะสนั ดขี ึน้ ตามลา� ดบั ภายหลังใน พ.ศ. ๒๕๓๘ จึงพระราชทานพระราชด�าริให้ทดลองปรับปรุงบึงเพ่ือใช้ประโยชน์ในการป้องกัน น�้าท่วมในเขตกรุงเทพมหานคร และเป็นแหล่งขจัดน้�าเสียในคลองสามเสนด้วย ระบบธรรมชาติ โดยการใชผ้ กั ตบชวาซึ่งเปน็ วธิ ีประหยดั ดงั ที่เคยทา� มาก่อน พระราชด�ารัสที่พระราชทานแก่คณะบุคคลผู้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลสมทบทุนโครงการมักกะสัน เมอ่ื วนั จนั ทร์ ท่ี ๓ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๓๐ ทรงเนน้ ย้�าถงึ ความส�าคญั ของบงึ มกั กะสนั วา่ “ที่ดินของบึงมักกะสันนั้นทางการรถไฟเป็นเจ้าของ และได้มอบให้แก่ โครงการ...ถา้ ไปตีราคาท่ีดินตรงนน้ั กค็ งจะตอ้ งข้นึ ราคาเปน็ ๑๐๐ ลา้ นเหมือนกัน ซงึ่ ถา้ ขายไปสรา้ งเปน็ อาคารสงู ๆ ใหญ่ ๆ กค็ งจะไดเ้ งนิ ไมน่ อ้ ย แตใ่ นเวลาเดยี วกนั ก็จะต้องสร้างโรงฟอกน้�าข้ึนอีก...เพราะฉะนั้นจึงได้บอกกับเจ้าหน้าท่ีต่าง ๆ ว่า ไม่สมควรท่ีจะขายที่ดินน้ีส�าหรับไปเป็นการก่อสร้างอาคาร สมควรท่ีจะใช้เป็นท่ี สา� หรบั ฟอกน้�าโดยธรรมชาติ...” 200 พระบรมราชาวิถี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

ต่อมาเมื่อวันอาทิตย์ ท่ี ๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๐ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชด�าเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร สยามบรมราชกุมารี ไปทอดพระเนตร บึงมักกะสัน มีพระราชปฏิสันถารกับผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และข้าราชการช้ันผู้ใหญ่ ที่เฝ้าทลู ละอองธลุ ีพระบาทรับเสด็จในขณะนั้นว่า “...ไมต่ อ้ งการท�าใหบ้ งึ มกั กะสันเป็นสถานที่ท่องเทย่ี ว หรอื สวนน�้า แตต่ อ้ งการใหท้ �าน�า้ สกปรกทเี่ น่าเหม็นให้เปน็ น�า้ ดี ใช้เป็นประโยชนโ์ ดยวธิ ีประหยัด...” หลังจากนั้นการรถไฟแห่งประเทศไทยและกรุงเทพมหานครได้ร่วมกันด�าเนินการสนองพระราชด�าริอย่างต่อเน่ือง โดย การรถไฟแห่งประเทศไทยในฐานะเจ้าของพื้นท่ีได้อนุญาตให้กรุงเทพมหานครขุดลอกบึงมักกะสันด้านทิศตะวันตก (ตั้งแต่ ทางพิเศษเฉลิมมหานครถึงถนนราชปรารภ) ซ่ึงตื้นเขินและหมดสภาพบึงแล้ว จึงท�าให้มีพื้นท่ีบึงเพ่ิมมากขึ้นเป็น ๑๒๐ ไร่ นอกจากนไี้ ดร้ ว่ มกนั พจิ ารณาภารกจิ ทตี่ อ้ งดา� เนนิ การ ไดแ้ ก่ การกา� จดั นา้� โสโครกในหนา้ แลง้ เพอื่ เกบ็ กกั นา้� และระบายนา้� ในหนา้ ฝน และภารกจิ รอง คือการน�าผกั ตบชวามาท�าเปน็ ป๋ยุ หมัก พรอ้ มปลูกผกั อน่ื ๆ เชน่ ผักบุ้ง และเลย้ี งปลา เปน็ ตน้ นอกจากน้ี เพอื่ ร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสพระราชพิธมี หามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ๕ ธนั วาคม ๒๕๔๐ การรถไฟ แห่งประเทศไทยได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายที่ดินบึงมักกะสัน จ�านวน ๑๒๐ ไร่ท่ีปรับปรุงแล้ว แด่พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เพื่อพระราชทานแก่กรุงเทพมหานครรับไปด�าเนินการให้เกิดประโยชน์ตาม แนวพระราชดา� รติ ่อไป 201

กำรป้องกันน�้ำทว่ มกรงุ เทพมหำนครและปริมณฑล และกำรระบำยน�ำ้ ท่วมลอดใต้ทำงรถไฟ การเกิดน้�าท่วมในเขตกรุงเทพมหานครเป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงมีความห่วงใยและทรงศึกษาหาวิธีบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้�าท่วม มาโดยตลอด ได้พระราชทานแนวพระราชด�าริแก่องคมนตรีและหน่วยงานต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องท่ีเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ พระต�าหนักจติ รลดารโหฐาน พระราชวังดสุ ิต เม่ือวันองั คาร ที่ ๑๙ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๓๘ เกี่ยวกับวิธีการแกไ้ ขปัญหานา้� ทว่ ม ดังความตอนหน่ึงว่า “ให้ทุก ๆ ฝ่ายร่วมมือกันเร่งระบายน้�าออกจากพื้นที่กรุงเทพมหานครโดยเร็ว ต้องขุดลอกคูคลองและก�าจัดวัชพืช ในคลองตามแนวดง่ิ พจิ ารณากอ่ สรา้ งทา� นบและประตนู า�้ พรอ้ มทง้ั ตดิ ตง้ั เครอื่ งสบู นา�้ ตามจดุ ตา่ ง ๆ โดยใหร้ ะดมความรว่ มมอื กนั ในทกุ ๆ หน่วยงาน ท้งั ภาครฐั และเอกชน” (อ้างองิ : ขอ้ มูลจากโครงการพระราชด�าริ ในเวบ็ ไซตส์ า� นกั งานคณะกรรมการพิเศษเพ่ือประสานงานโครงการอนั เนื่องมาจากพระราชดา� ร)ิ ในขณะเดยี วกนั ไดม้ พี ระราชดา� รวิ า่ ตอ้ งเรง่ ระบายนา้� ลอดใตท้ างรถไฟสายตะวนั ออกเปน็ กรณเี รง่ ดว่ น เพอื่ บรรเทาภาวะ น้�าท่วมในบริเวณพื้นที่ข้างเคียงโดยรอบ เป็นการเพื่อป้องกันน้�าท่วมขังในฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมท้ังการระบายน้�าลอดใต้ทางรถไฟจากด้านเหนือลงสู่ด้านใต้ให้รวดเร็ว เพ่ือให้น�้าไหลลงสู่ทะเลได้สะดวกยิ่งข้ึน นับเป็น พระมหากรณุ าธิคณุ แก่พสกนกิ รผู้ประสบอุทกภัยใหญ่ในขณะนัน้ อย่างหาทส่ี ดุ มไิ ด้ การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ด�าเนินงานสนองพระราชด�าริในฉับพลัน ด้วยการก่อสร้างช่องระบายน�้าใต้ทางรถไฟ ขนาด ๓ x ๐.๔๐ เมตร รวม ๒๑ จดุ พรอ้ มทงั้ ปรบั ยกระดบั ทางรถไฟใหส้ อดคลอ้ งกบั การกอ่ สรา้ ง เรม่ิ ดา� เนนิ การเมอ่ื เดอื นกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ แล้วเสรจ็ สมบรู ณ์ในเดอื นมกราคม พ.ศ. ๒๕๔๐ นอกจากน้ี ดา� เนนิ การกอ่ สรา้ งสะพานเหลก็ ขนาดชว่ ง ๓ x ๘ เมตร รวม ๓ แห่ง คือ ทางรถไฟสายใต้ท่ีกิโลเมตร ๒๐+๒๘๑ ระหว่างสถานีศาลายาถึงสถานีรถไฟวัดสุวรรณ ข้ามคลองสามบาท และทางรถไฟสายวงเวียนใหญ่ถึงมหาชัย ที่กิโลเมตร ๒๕+๑๐๒ ระหว่างท่ีหยุดรถบางน้�าจืด คอกควาย บ้านขอม ข้ามคลอง สี่วาพาสวัสด์ิ (คอกกระบือ) เพื่อขยายช่องทางน�้าให้กว้างขึ้นเป็น ๒๔ เมตร ทั้ง ๓ แห่ง เร่ิมงานก่อสร้างเม่ือเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ แล้วเสรจ็ ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๒ 202 พระบรมราชาวิถี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

กำรขยำยสะพำนรถไฟข้ำมคลองฉวำง จงั หวัดสรุ ำษฎรธ์ ำนี เพ่ือบรรเทำปญั หำน้�ำทว่ ม พ.ศ. ๒๕๓๑ เกดิ ภยั พบิ ตั นิ า้� ทว่ มครงั้ ใหญใ่ นภาคใต้ การเดนิ ทางของประชาชนเปน็ ไปดว้ ยความยากลา� บาก พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานแนวพระราชด�าริเพื่อให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่ เก่ียวข้องด�าเนินการอย่างเร่งด่วน เพ่ือให้การช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ เข้าไปในพ้ืนท่ีได้โดยเร็ว โดยให้กรมชลประทานพิจารณา สรา้ งเข่ือนกัน้ ลา� คลองฉวางกิโลเมตรที่ ๖๗๒+๘๗๔ ต�าบลบ้านนาสาร อ�าเภอบา้ นนาสาร จงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี และควรใหย้ ้าย ราษฎรทตี่ ง้ั อยรู่ มิ คลองฉวางครงึ่ หนง่ึ ไปอยบู่ นทส่ี งู สว่ นการรถไฟแหง่ ประเทศไทยใหด้ า� เนนิ การขยายสะพานรถไฟขา้ มคลองฉวาง เรง่ ระบายน้า� ช่วยประชาชนในพ้นื ทีป่ ระสบอทุ กภัยให้รวดเรว็ ข้ึน กำรปลกู หญ้ำแฝกสองข้ำงทำงรถไฟ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงเห็นว่าหญ้าแฝกเป็นหญ้าท่ีมีระบบรากลึก แผ่กระจายลงไปในดินตรง ๆ เป็นแผงเหมือนก�าแพง ช่วยกรองตะกอนดินและรักษาหน้าดินได้ดี ดังกระแสพระราชด�ารัส ทพ่ี ระราชทานในงานรวมพลังมวลชนว่า “...ภเู ขาทอ่ี ยเู่ หนอื ดนิ นน้ั มตี น้ ไม้ และเมอื่ ใบไมร้ ว่ งลงมาฝนกช็ ะใบไมน้ น้ั ลงมา ถา้ เราไมป่ ลกู หญา้ แฝก หรอื ระมดั ระวงั ไม่ให้ใบไม้หรือสิ่งท่ีมาจากภูเขาน้ันไหลลงไปในห้วยท่ีอยู่ข้างล่าง ก็ไม่สามารถที่จะฟื้นฟูดิน แต่โดยท่ีปลูกหญ้าแฝกและ ท�าคันก้ันไม่ให้ตะกอนเหล่าน้ันไหลลงไปในห้วย ก็สามารถฟื้นฟูสร้างดินท่ีใช้ได้ส�าหรับการเพาะปลูก. นอกจากน้ัน ถ้าหากว่าไม่ได้ปฏิบัติเช่นน้ี ดินนั้นจะหมดไปเลย เหลือแต่ดินดานและทราย. และดินที่อาจเป็นดินสมบูรณ์ก็ไหล ลงไปในห้วย ซ่ึงจะท�าให้ห้วยนั้นตื้นเขิน เม่ือห้วย ต้ืนเขิน น�้าที่ลงมาจากภูเขาก็ท่วมในที่ราบ นอกจาก นั้น น้�าท่ีลงจากภเู ขาน้นั จะลงมาโดยรวดเร็ว เพราะวา่ ภเู ขานนั้ มตี น้ ไมน้ อ้ ย ทา� ใหน้ า้� ลงมาโดยฉบั พลนั และทว่ ม มิหน�าซ้�าเม่ือน้�าท่วมแล้วท�าลายพืชผลของชาวบ้าน น้�าน้ันไหลไปเร็ว เวลาไม่กี่วันก็แห้ง และไม่มีน้�าใช้ ไมส่ ามารถที่จะฟน้ื ฟูการเพาะปลกู ...” พระราชดา� รสั ในโอกาสท่เี สด็จพระราชด�าเนนิ ไปทรง เปน็ ประธานในงานรวมพลังมวลชน ซ่ึงกองทัพภาคที่ ๑ จดั ขน้ึ เพ่ือนา� มวลชนรว่ มกิจกรรมและแสดงความจงรักภักดี ณ พระราชนเิ วศน์มฤคทายวัน อา� เภอชะอ�า จงั หวัดเพชรบุรี วันอังคาร ท่ี ๒๓ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๔๑ การรถไฟแห่งประเทศไทย กรมทางหลวง และ กรมทางหลวงชนบท ตลอดจนหน่วยงานอ่ืนในสังกัด กระทรวงคมนาคมได้น้อมน�าแนวพระราชด�าริของ พ ร ะ อ ง ค ์ ท ่ า น ไ ป ป ฏิ บั ติ ด ้ ว ย ก า ร ป ลู ก ห ญ ้ า แ ฝ ก เพื่อบรรเทาการพังทลายของหน้าดินบริเวณไหล่ถนน และไหล่ทางรถไฟได้ผลอย่างดีย่ิง นอ้ มเกลำ้ น้อมกระหม่อมถวำยท่ีดนิ ยำ่ นพหลโยธิน จำ� นวน ๑๐๐ ไร่ เพอื่ สร้ำงสวนสำธำรณะ เมอ่ื วนั ที่ ๕ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๑๘ เนอ่ื งในโอกาสวนั คลา้ ยวนั พระราชสมภพของพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ล อดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร มพี ระชนมายคุ รบ ๔ รอบ การรถไฟแหง่ ประเทศไทยและกรงุ เทพมหานครไดร้ ว่ มดา� เนนิ การกอ่ สรา้ ง สวนสาธารณะในทดี่ นิ จา� นวน ๑๐๐ ไร่ ยา่ นพหลโยธนิ เพอื่ นอ้ มเกลา้ ฯ ถวายเปน็ ราชสกั การะ และเพอ่ื ใหป้ ระชาชนทว่ั ไปไดม้ ี สวนสาธารณะสา� หรบั ใชเ้ ปน็ ทพี่ กั ผอ่ นหยอ่ นใจเพมิ่ ขนึ้ 203

แนวพระรำชดำ� รทิ ำงกำรสอื่ สำร 204 พระบรมราชาวิถี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช และสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา เจา้ ฟ้ามหาจักรีสริ นิ ธร สยามบรมราชกุมารี ทรงเขา้ ร่วมการสมั มนาและทอดพระเนตร นิทรรศการในการสัมมนาการประยุกต์เทคโนโลยกี ารถ่ายท�า ภาพถ่ายทางอากาศและดาวเทียม ในการวางแผนใช้ทล่ี ุ่มน�า้ ทางเหนือ ของประเทศไทย เมื่อวนั จนั ทร์ ที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๓ ณ โรงแรมรินคา� จังหวดั เชียงใหม่ ไทยเปน็ เจา้ ภาพในการจัดการประชุมคณะกรรมการ การบรหิ ารองค์การโทรคมนาคม ทางดาวเทยี มระหวา่ งประเทศ (Intelsat) ครัง้ ท่ี ๑๓ ระหว่างวนั พุธ ท่ี ๘ - วนั พฤหัสบดี ที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๘ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มีพระอัจฉริยภาพทางด้านงานช่างและ การสอื่ สารมาตง้ั แตค่ รง้ั ยงั ทรงพระเยาว์ ทรงใสพ่ ระราชหฤทยั ในเทคโนโลยกี ารสอื่ สารทงั้ ทางวทิ ยุ โทรคมนาคม ดาวเทยี ม รวมถึงการสื่อสารส�าคัญอืน่ ๆ ในแต่ละชว่ งเวลานน้ั ๆ ทรงศึกษาอย่างมุง่ มั่นจรงิ จัง ทรงปฏบิ ัติทดลองจนรู้แจง้ ก่อนทีจ่ ะ น�าแนวพระราชด�าริในเทคโนโลยีในสาขาวิชาการดังกล่าวมาพระราชทานแก่หน่วยงานต่าง ๆ ให้น�าไปประยุกต์ใช้ เพ่อื ความร่มเยน็ ผาสุกของพสกนกิ ร ตลอดจนสรา้ งความมัน่ คงและความมงั่ ค่ังย่งั ยนื ของประเทศชาติ หากย้อนเวลากลับไป เมื่อพระองค์ท่านยังทรงพระเยาว์ ขณะประทับอยู่ท่ีสวิตเซอร์แลนด์ก็ปรากฏชัดถึง พระอจั ฉรยิ ภาพดา้ นการสอ่ื สารใหป้ วงพสกนกิ รไดช้ นื่ ชมโสมนสั แลว้ โดยเฉพาะดา้ นไฟฟา้ และวทิ ยสุ อ่ื สาร สง่ิ ทพ่ี ระองคท์ า่ น ทรงประดษิ ฐแ์ ละทดลองใชค้ อื เครอื่ งรบั วทิ ยกุ ระจายเสยี งแบบใชแ้ ร่ ดงั ความตอนหนง่ึ ในพระนพิ นธเ์ รอ่ื ง เจา้ นายเลก็ ๆ – ยุวกษตั รยิ ์ ของสมเดจ็ พระเจา้ พี่นางเธอ เจ้าฟา้ กัลยาณวิ ฒั นา กรมหลวงนราธวิ าสราชนครนิ ทร์ ทรงเล่าวา่ “...เคร่อื งวิทยุที่บา้ นไม่ทรงมีสิทธิท่จี ะแตะต้อง มีไวฟ้ งั ข่าวเทา่ นัน้ แตเ่ มอื่ อายสุ กั ๑๐ ปีได้ ก็มโี อกาสสรา้ งของ ตัวเองข้ึนมาได้ ทโ่ี รงเรยี น มกี ารขายสลากในงานของโรงเรียนงานหนงึ่ ทา่ นก็ไดส้ ลากเปน็ คอยล์ (coil) ทา่ นกศ็ กึ ษา ถามผรู้ วู้ า่ จะต้องทา� อยา่ งไรจงึ จะเป็นวทิ ยอุ อกมาได้ เขากบ็ อกให้ท่านซอ้ื แรส่ ีดา� (galena หรอื galenite หรือ PbS) ซ่ึงเป็นส่วนส�าคัญของเครื่อง ‘คือท่ีรับไฟฟ้าในอากาศท่ีเป็นคล่ืนวิทยุ’ และหูฟังอีกคู่หนึ่ง ท้ังหมดราคาประมาณ ๑๐ แฟรงค์ มาต่อกนั อยา่ งไรไมท่ ราบ ทรงสามารถฟงั วิทยุท่เี ขาสง่ ได้ ยงั แบ่งกนั ฟังคนละหูกบั พระเชษฐา...” 205

สถำนีวิทยุ อ.ส. สื่อกษตั ริยก์ ับประชำชน หลังจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จนิวัตพระนคร ใน พ.ศ. ๒๔๙๔ กรมประชาสัมพันธ์ได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเคร่ืองส่งวิทยุคล่ืนยาวและคลื่นสั้น ก�าลังส่ง ๑๐๐ วัตต์ ในระบบ AM พร้อมติดตั้งถวาย ณ พระท่ีนั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ซึ่งเป็น ท่ปี ระทับในขณะน้ัน พระองค์ได้พระราชทานนามสถานวี ทิ ยแุ ห่งน้ีว่า “สถานีวทิ ยุ อ.ส. พระราชวังดุสติ ” โดยชื่อ อ.ส. ย่อมาจาก “อัมพรสถาน” ซึ่งเป็นสถานท่ีออกอากาศครั้งแรก ใช้รหัสสถานีว่า HS1AS เปน็ สถานวี ทิ ยกุ ระจายเสยี งในประเทศไทยเพยี งแหง่ เดยี วทก่ี รมไปรษณยี โ์ ทรเลขเปน็ ผกู้ า� หนดความถถ่ี วาย และอนญุ าตใหส้ ง่ เป็นคล่ืนสนั้ ไดใ้ นขณะน้ัน สถานีวทิ ยุ อ.ส. ไดอ้ อกอากาศจนถึง พ.ศ. ๒๕๐๐ จึงยา้ ยไป ตั้งในบริเวณพระต�าหนักจิตรลดารโหฐาน และออกอากาศสืบเนือ่ งมาจนปจั จุบนั นับจากการเริ่มส่งกระจายเสยี งครง้ั แรกใน พ.ศ. ๒๔๙๕ สถานวี ิทยุ อ.ส. ไดท้ า� หนา้ ท่เี ผยแพร่รายการ ทง้ั ขา่ วสาร สาระความรคู้ วามกา้ วหนา้ ทางดา้ นวทิ ยาการสาขาตา่ ง ๆ และความบนั เทงิ ใหแ้ กป่ ระชาชน อกี ทง้ั เป็นสื่อกลางแก้ปัญหายามที่ประเทศชาติประสบภัยพิบัติ ตลอดจนเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ท�าให้พสกนิกร ของพระองค์ตอ้ งได้รับความเดอื ดร้อน เชน่ โปลโิ อระบาด ใน พ.ศ. ๒๔๙๕ อหิวาตกโรคระบาดระหว่าง พ.ศ. ๒๕๐๑ - ๒๕๐๒ หรอื การเกดิ มหาวาตภยั ภาคใต้ แหลมตะลมุ พกุ อา� เภอปากพนงั จงั หวดั นครศรธี รรมราช ใน พ.ศ. ๒๕๐๕ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร มพี ระราชดา� รใิ หใ้ ชส้ ถานี วิทยุ อ.ส. ท�าหน้าที่เป็นส่ือกลางในการช่วยเหลือประชาชน ทรงอ�านวยการรับบริจาคก่อนที่จะมีองค์กร หรือหน่วยราชการใด ๆ เข้ามาด�าเนินการในเรื่องนี้ ตลอดจนได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ และจัดหาเคร่ืองใช้จ�าเป็นให้แก่ผู้ประสบภัย สถานีวิทยุ อ.ส. จึงเป็นสื่อกลางระหว่างพระเจ้าแผ่นดินกับ ประชาชน ระหว่างพระราชหฤทัยอันเปี่ยมล้นด้วยพระเมตตากับความจงรักภักดีท่ีประชาชนแสดงออก ด้วยประการต่าง ๆ ถวายคืนสูพ่ ระองค์ 206 พระบรมราชาวิถี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

วิทยสุ ื่อสำร คลำยปญั หำทว่ั แผ่นดนิ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โปรดการตดิ ตอ่ ดว้ ยวทิ ยทุ ง้ั วทิ ยกุ ระจายเสยี งและวทิ ยสุ อื่ สาร พระองคเ์ คยมพี ระราชกระแส รบั สั่งวา่ วทิ ยเุ ปน็ หนทางหน่งึ ทีท่ �าใหพ้ ระองคท์ รงใกล้ชดิ กับประชาชน ไมว่ า่ พระองค์ เสดจ็ พระราชดา� เนนิ ทใ่ี ด อปุ กรณท์ ที่ รงนา� ตดิ พระวรกายไปดว้ ยเสมอกค็ อื วทิ ยสุ อื่ สาร การสื่อสารผ่านวิทยุจึงเป็นช่องทางแห่งการพัฒนาประเทศท่ีประสานตรง ระหว่างพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร กบั เครอื ข่ายวิทยุของราชการ พระองคม์ ีพระบรมราชานญุ าตให้ผูท้ ี่ติดต่อกับพระองค์ ไม่ต้องใช้ราชาศัพท์ และทรงจดจ�าสัญญาณประจ�าพระองค์ที่แตกต่างกันส�าหรับ การตดิ ต่อแต่ละเครือข่ายไวไ้ ด้อยา่ งแมน่ ย�า อกี ทั้งทรงใชไ้ ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง เช่น สัญญาณเรียกขาน “กส.๙” ทรงใช้ส�าหรับติดต่อกับข่ายวิทยุต�ารวจแห่งชาติ “ปทุมวัน” สญั ญาณเรยี กขาน “น.๙” ทรงใชส้ า� หรบั ตดิ ตอ่ กบั ศนู ยร์ วมขา่ วตา� รวจนครบาล ขา่ ย “ผ่านฟ้า” และสัญญาณเรยี กขาน “VR009” หรือ “Voluntary Radio 009” เมือ่ ครงั้ ที่กรมไปรษณีย์โทรเลขได้ก่อตั้งชมรมวิทยุอาสาสมัคร อธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข ในขณะนน้ั ไดท้ ลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวายสญั ญาณ VR009 ใชส้ า� หรบั การตดิ ตอ่ สอ่ื สาร ในเครอื ขา่ ยวทิ ยสุ มคั รเล่น เมื่อวนั อาทิตย์ ท่ี ๕ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๒๔ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร ทรงปฏิบตั ิ ตามกฎระเบยี บของนกั วทิ ยสุ มคั รเลน่ อยา่ งเครง่ ครดั ทง้ั ในแงค่ วามถกู ตอ้ งของคา� พดู ที่ ใชส้ า� หรบั การตดิ ตอ่ สอ่ื สาร และการใชเ้ ครอื่ งวทิ ยคุ มนาคมทเี่ ปน็ ไปตามมาตรฐานสากล แมเ้ ปน็ เครอื ขา่ ยวทิ ยสุ มคั รเลน่ แตก่ เ็ หน็ สมควรใหป้ ฏบิ ตั ติ ามกรอบของกฎกตกิ า และ ด้วยพระปรีชาญาณและความสนพระราชหฤทัยด้านการสื่อสารทางวิทยุ ซึ่งจ�าเป็น ต้องมีการปรับแต่งเครื่องรับส่งวิทยุอยู่บ่อยครั้ง เพื่อให้สัญญาณส่ือสารระหว่างกัน เกิดความชดั เจน “VR009” จึงทรงเป็นเสมือนท่ปี รกึ ษาในการพระราชทานค�าแนะนา� แกศ่ นู ยส์ ายลม กรมไปรษณยี โ์ ทรเลข เกยี่ วกบั การใชเ้ ครอ่ื งรบั สง่ วทิ ยคุ มนาคม YAESU แบบติดต้งั ประจา� ที่ รนุ่ FT-726R ในด้านเทคนิคเกีย่ วกบั การปรับแตง่ ที่สลบั ซบั ซ้อน ให้เกิดความกระจ่าง จนพนักงานวิทยุของศูนย์สายลมมีความเข้าใจถึงการปรับแต่ง ปมุ่ ต่าง ๆ ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง ดังพระราชกระแสรบั สง่ั มาทางวิทยวุ ่า “เครอ่ื งวทิ ยขุ องสายลมนน้ั เป็นเครอื่ งพีเ่ ครือ่ งน้องกับของ VR009” ค�าแนะน�าส�าคัญที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร พระราชทานแก่ศนู ยส์ ายลมประมวลไดด้ งั นี้ • วนั อังคาร ท่ี ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ พระราชทานคา� แนะน�า ในการแก้ปัญหาการรบกวน โดยใส่ Cavity เนื่องจาก Filter ทศ่ี ูนยส์ ายลมใชป้ อ้ งกนั การรบกวนในขณะนนั้ แคบไม่พอ • วันพฤหัสบดี ท่ี ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ พระราชทาน คา� แนะนา� ปอ้ งกันฟา้ ผา่ • วันศุกร์ ท่ี ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ พระราชทานก�าลังใจ แก่สมาชกิ ชมรมวทิ ยสุ มคั รเล่น คือ VR969 และ VR938 ทอ่ี อกไป ชว่ ยเหลอื รถเสยี เมอ่ื เกดิ น้�าทว่ มและทรงแนะนา� ทางกลบั บา้ น เครื่องรับสง่ วิทยุศนู ย์สายลม YAESU • วนั พธุ ที่ ๑๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ พระราชทานการ Report สัญญาณแก่ผู้กดคีย์ว่างระหว่างการพระราชทานค�าแนะน�าการ ใช้เครอ่ื งวทิ ยุคมนาคม YAESU แบบตดิ ต้ังประจา� ทีร่ นุ่ FT-726R แก่ศูนย์สายลม โดยให้ปรับสัญญาณลบจุดหนึ่งเพื่อให้สามารถ ร่วมการสอื่ สารได้ 20๗

เหตุการณ์ส�าคัญที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทาน ความช่วยเหลือแก่ข้าราชการกรมไปรษณีย์โทรเลข และยังจารึกไว้ในความทรงจ�า ตราบนานเท่านาน คือ กรมไปรษณีย์โทรเลขได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ จดั การแขง่ ขันซเี กมส์ ครงั้ ท่ี ๑๓ ระหวา่ งวนั อาทิตย์ ที่ ๘ ถึงวันองั คาร ท่ี ๑๗ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ ใหร้ บั ผดิ ชอบเกย่ี วกบั ระบบการตดิ ตอ่ สอ่ื สารสา� หรบั การประสานงานของ คณะกรรมการสาขาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ส�าหรับสนามแข่งขันท้ังในกรุงเทพมหานคร และตา่ งจงั หวดั พระองคท์ า่ นไดพ้ ระราชทานคา� แนะนา� ในการแกไ้ ขปญั หาการรบกวน ของเครื่องวิทยุถ่ายทอดสัญญาณในเครือข่ายสื่อสารของคณะกรรมการต่าง ๆ จนสามารถใช้งานได้ตามปกติ ท�าให้งานของประเทศชาติไม่เสียหาย ซ่ึงนับว่าทรงมี พระปรีชาสามารถสูงย่ิงและเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นแก่คณะกรรมการ ผูจ้ ดั การแข่งขันและนกั กีฬาทุกคน นอกจากน้ี ในคราวเกดิ วาตภยั ทต่ี า� บลสวนผงึ้ จงั หวดั ราชบรุ ี ซง่ึ เปน็ ภยั ธรรมชาติ ที่สร้างความเสียหายร้ายแรงให้แก่ประชาชนเป็นจ�านวนมาก พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงติดต่อเข้ามาท่ีศูนย์สายลม และพระราชทานค�าแนะน�าวิธีการติดต้ังข่ายสื่อสารเพื่อติดต่อระหว่างผู้ที่จะเข้าไปยัง พื้นท่ีกับนักวิทยุสมัครเล่นในกรุงเทพมหานคร และพระราชทานค�าแนะน�าในการ เตรยี มแบตเตอรส่ี า� รองสา� หรบั เครอ่ื งวทิ ยคุ มนาคมมอื ถอื ทา� ใหก้ ารดา� เนนิ งานชว่ ยเหลอื ของกลุม่ นักวทิ ยุสมคั รเลน่ เปน็ ไปอย่างราบรื่นและประสบผลสา� เรจ็ ดว้ ยดี ไทยคม ดำวเทียมสือ่ สำรแห่งชำติ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ทรงเล็งเห็นความส�าคัญของเทคโนโลยีการส่ือสารที่จะน�าพาบ้านเมือง ให้เจริญรดุ หน้า และทรงสนับสนุนส่งเสริมให้เกิดเทคโนโลยกี ารส่ือสาร ในด้านต่าง ๆ ท่ีเป็นผลดีต่อการพัฒนาประเทศชาติ ดังพระราชด�ารัส ที่พระราชทานเพื่อเชิญลงพิมพ์ในหนังสือที่ระลึกครบรอบ ๑๐๐ ปี การสอ่ื สารของชาติ เนอื่ งในโอกาสการจดั งานวนั สอื่ สารแหง่ ชาตคิ รงั้ แรก พ.ศ. ๒๕๒๖ โดยจดั ร่วมกบั งานครบรอบ ๑๐๐ ปี ของการสถาปนากรม ไปรษณยี โ์ ทรเลข และการเฉลมิ ฉลองปกี ารสอ่ื สารโลก ความตอนหนง่ึ วา่ “การสื่อสารเป็นปัจจัยท่ีส�าคัญย่ิงอย่างหน่ึงในการพัฒนา สร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้า รวมทั้งการรักษาความมั่นคงและ ปลอดภัยของประเทศดว้ ย. ยิง่ ในสมยั ปัจจบุ นั ท่ีสถานการณข์ องโลก เปล่ียนแปลงอยทู่ ุกขณะ การติดตอ่ สอ่ื สารทรี่ วดเรว็ ทันต่อเหตุการณ์ ยอ่ มมคี วามสา� คญั มากเปน็ พเิ ศษ. ทกุ ฝา่ ยและทกุ หนว่ ยงานทเี่ กย่ี วขอ้ ง กับการส่ือสารของประเทศ จึงควรจะได้ร่วมมือกันด�าเนินงานและ ประสานผลงานกนั อยา่ งใกลช้ ดิ และสอดคลอ้ ง. สา� คญั ทสี่ ดุ ควรจะได้ พยายามศึกษาค้นคว้าวิชาการและเทคโนโลยีอันทันสมัยให้ลึกซ้ึง และกวา้ งขวาง แลว้ พจิ ารณาเลอื กเฟน้ สว่ นทด่ี ี มปี ระสทิ ธภิ าพแนน่ อน มาปรับปรุงใช้ด้วยความฉลาดริเริ่ม ให้พอเหมาะพอสมกับฐานะ และสภาพของบ้านเมอื งของเรา...” พระต�าหนกั จิตรลดารโหฐาน วันศุกร์ ที่ ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๖ 208 พระบรมราชาวิถี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

เม่ือโลกเร่ิมมีการสื่อสารผ่านดาวเทียม พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สนพระราชหฤทัย เทคโนโลยีและได้ทรงศึกษาและติดตามความก้าวหน้าของวิทยาการ ดา้ นนอี้ ยา่ งใกลช้ ดิ ขณะนน้ั รฐั บาลมนี โยบายใหป้ ระเทศไทยมดี าวเทยี ม สอื่ สารภายในประเทศเปน็ ของตนเองอนั จะเปน็ ประโยชนต์ อ่ การสอ่ื สาร ของหน่วยงานของชาติ กระทรวงคมนาคมได้เข้าเฝ้าทูลละออง ธลุ พี ระบาทกราบบงั คมทลู พระกรณุ าเกย่ี วกบั ความเปน็ มาของโครงการ ขอ้ กา� หนดของสญั ญา และการดา� เนนิ โครงการ และขอพระราชทานนาม ดาวเทียมส่ือสารดวงแรกของประเทศ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหมอ่ มพระราชทานนามดาวเทยี มสอื่ สารแหง่ ชาตวิ า่ “ไทยคม” ในขณะนั้นกิจการส่ือสารดาวเทียมนับว่าเป็นเรื่องใหม่ แต่พระองค์ ได้พระราชทานแนวพระราชด�าริ ทั้งในเร่ืองการสื่อสารดาวเทียมและ เรื่องวิทยุส่ือสารแก่ผู้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทได้อย่างละเอียด สร้างความประหลาดใจแก่ชาวต่างประเทศ ซึ่งล้วนเป็นผู้เช่ียวชาญ ระดับสูงและเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสื่อสารของโลกเป็นล้นพ้น เมอ่ื กระทรวงคมนาคมสรา้ งสถานดี าวเทยี มไทยคมขน้ึ ทจ่ี งั หวดั นนทบรุ ี ไดท้ รงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มเสดจ็ พระราชดา� เนนิ ไปทรง เปน็ ประธานในพธิ เี ปดิ สถานดี าวเทยี มไทยคม เมอื่ วนั พธุ ท่ี ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓7 ดว้ ย “ครตู ู้” กำรศกึ ษำทำงไกลผ่ำนดำวเทียม การเสด็จพระราชด�าเนินไปทรงเยี่ยมประชาชนในทั่วทุก ภมู ภิ าคของประเทศ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร ทรงสนพระราชหฤทัยในปัญหาการติดต่อสื่อสารท่ี ประชาชนยังใช้ภาษาท้องถ่ินมากกว่าภาษากลาง มีพระบรมราช- วินิจฉัยว่า การศึกษาจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ ดังที่ทรงลง พระปรมาภิไธยในสมุดเย่ียม ณ คุรุสัมมนาคาร จังหวัดยะลา ใน พ.ศ. ๒๕๐๒ ความว่า “การศึกษาท่ีน่ีส�าคัญมาก ให้พยายามจัดให้ดี ให้พลเมือง สามารถพูดไทยได้ แม้จะพูดได้ไม่มากนัก เพียงแต่พอรู้เรื่องกัน ก็ยังดี เพราะเท่าที่ผ่านมาคราวนี้มีผู้ท่ีไม่รู้ภาษาไทย ต้องให้ล่ามแปล ควรให้พูดเข้าใจกันได้ เพ่ือสะดวกในการติดต่อซึ่งกันและกัน” พระมหากรุณาธิคุณในด้านการศึกษา จึงเป็นเคร่ืองมือส�าคัญ ใ น ก า ร พั ฒ น า ค น อั น จ ะ เ ป ็ น ก� า ลั ง ใ น ก า ร พั ฒ น า ป ร ะ เ ท ศ ต ่ อ ไ ป ทรงมีส่วนช่วยเกื้อหนุนอย่างมาก ทั้งการศึกษาในระบบโรงเรียนและ นอกระบบ ต้ังแต่ช้ันประถมศึกษาไปจนถึงชั้นอุดมศึกษา ทั้งน้ี เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาของชาติไปยังท้องถิ่นต่าง ๆ อย่างท่ัวถึง และมีคุณภาพ จึงทรงริเริ่มน�าเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านดาวเทียม มาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาการศึกษาให้สามารถแผ่ขยายความรู้ ไปสู่ทุกชุมชนท่ีอยู่ห่างไกล เกิดเป็นโครงการการศึกษาทางไกล ผ่านดาวเทียมขึ้น เร่ิมออกอากาศเป็นปฐมฤกษ์เม่ือวันอังคาร ที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ 209

210 พระบรมราชาวิถี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

การถ่ายทอดสดการเรียนผ่านดาวเทยี มของโรงเรียนวงั ไกลกงั วล สถานโี ทรทศั นก์ ารศกึ ษาทางไกลผา่ นดาวเทยี มตงั้ อยทู่ โ่ี รงเรยี นวงั ไกลกงั วล อา� เภอหวั หนิ จงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ เปน็ อาคาร ๔ ชนั้ ประกอบดว้ ยหอ้ งออกอากาศ ๖ หอ้ ง หอ้ งวชิ าการ หอ้ งสง่ สญั ญาณ หอ้ งควบคมุ ถา่ ยทอดสญั ญาณ ห้องผลิตและเก็บสื่อสถานีจะถ่ายทอดการเรียนการสอนของโรงเรียนวังไกลกังวล ส่งสัญญาณผ่านใยแก้วน�าแสง ไปยงั สถานภี าคพนื้ ดนิ ดาวเทยี มไทยคมทจ่ี งั หวดั นนทบรุ ี แลว้ ยงิ สญั ญาณขน้ึ สดู่ าวเทยี มไทยคมยา่ นความถ่ี KU BAND ด้วยระบบ DTH (Direct to Home) ลงมาสู่เครื่องรับ IRD (Integrated Receiver Decoder) เพ่ือแพร่ภาพ ไปยงั โรงเรยี นตา่ ง ๆ ในเครอื ขา่ ยทวั่ ประเทศ และตอ่ มาไดข้ ยายไปยงั โรงเรยี นในประเทศใกลเ้ คยี งทขี่ อพระราชทาน พระมหากรณุ า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงจัดรายการ “ศึกษาทัศน์” ทรงเป็นวิทยากรน�านักเรียนไปศึกษาหาความรู้นอกสถานท่ี ถ่ายทอดผ่านการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ให้นักเรียนทั่วประเทศได้ร่วมศึกษาหาความรู้ด้วย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้ ควำมถีว่ ิทยุสว่ นพระองค์กับงำนมลู นธิ แิ พทย์อำสำ สมเดจ็ พระศรีนครินทรำบรมรำชชนนี พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ไดพ้ ระราชทานความถวี่ ทิ ยสุ ว่ นพระองค์ ในย่านความถส่ี ูงมากใหแ้ กม่ ลู นิธแิ พทยอ์ าสาสมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี เพ่อื ใช้ปฏิบัตภิ ารกจิ ชว่ ยเหลือ ในการรักษาพยาบาลแก่ประชาชนผู้เจ็บป่วยในท้องถ่ินทุรกันดารที่ห่างไกลความเจริญ อีกท้ังทรงพระกรุณา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้น�าระบบถ่ายทอดวิทยุผ่านวงจรโทรคมนาคมของ องคก์ ารโทรศพั ทแ์ หง่ ประเทศไทย ซงึ่ เปน็ ระบบเดยี วกบั ทที่ รงใชง้ านในโอกาสเสดจ็ แปรพระราชฐานไปประทบั แรม ในส่วนภูมิภาคมาใช้ในกิจการของมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ท�าให้การช่วยเหลือ ผปู้ ว่ ยเป็นไปอยา่ งทันทว่ งที ตลอดจนไดข้ ยายลกั ษณะภารกจิ ไปตามความกา้ วหน้าทางการแพทยม์ าจนปัจจบุ นั 211

เย็นศิระ เพรำะพระบรบิ ำล



พระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลยเดช บรมนำถบพิตร ทรงเป็นพระมหำกษัตริย์ ท่ีมีพระมหำกรุณำธิคุณต่อกำรคมนำคมของไทยอย่ำงหำที่สุดมิได้ ดังจะเห็นได้จำกกระแส พระรำชด�ำรัสและพระบรมรำโชวำทที่พระรำชทำนในโอกำสต่ำง ๆ ท่ีทรงเห็นควำมส�ำคัญของ กำรคมนำคมวำ่ เปน็ ปจั จยั พนื้ ฐำน อนั จะนำ� ไปสกู่ ำรพฒั นำดำ้ นอนื่ ๆ ตอ่ ไป ดงั นนั้ กอ่ นทจี่ ะเรมิ่ โครงกำรพฒั นำใด ๆ จำ� เปน็ ตอ้ งมกี ำรพฒั นำโครงสรำ้ งพน้ื ฐำนดำ้ นกำรคมนำคมควบคู่ไปดว้ ย เสมอ โครงกำรอันเน่ืองมำจำกพระรำชด�ำริโครงกำรแรกในรัชกำล คือโครงกำรสร้ำงถนน เข้ำไปยังบ้ำนห้วยมงคล ต�ำบลหินเหล็กไฟ อ�ำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพ่ือเป็น พน้ื ฐำนในกำรพฒั นำคณุ ภำพชวี ติ และควำมเปน็ อยขู่ องรำษฎรในพน้ื ทใ่ี หส้ ำมำรถชว่ ยตนเองได้ ดว้ ยกำรประกอบอำชพี เกษตรกรรม กำรสรำ้ งถนนเขำ้ หมบู่ ำ้ นทำ� ใหร้ ำษฎรสำมำรถสญั จรไปมำ และน�ำผลผลิตออกไปจ�ำหน่ำยยังชุมชนภำยนอกได้สะดวก ช่วยสร้ำงงำน สร้ำงอำชีพ สร้ำง รำยได้ ให้รำษฎรในพ้ืนท่ีได้มีควำมเป็นอยู่อย่ำงพออยู่ พอกิน สมดังแนวพระรำชด�ำริ ในปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง กระทรวงคมนาคมไดส้ นองพระราชดา� รแิ ละพระบรมราโชวาทในทกุ ดา้ นโดยเตม็ กา� ลงั ความสามารถ เปน็ ทพ่ี อพระราชหฤทยั ย่งิ ดังปรากฏในพระราชกระแสทท่ี รงพระกรณุ าโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้อญั เชญิ มาพระราชทานในโอกาสครบรอบ ๑๐๐ ปี กระทรวงคมนาคม เมอื่ วนั อาทติ ย์ ที่ ๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๔ เพ่ือพิมพ์ในหนังสอื ท่ีระลกึ ของกระทรวงคมนาคม ความว่า “การคมนาคม เป็นปัจจัยพ้ืนฐานท่ีส�าคัญยิ่งอย่างหนึ่งในการสร้างสรรค์ความเจริญของประเทศ และการพัฒนา คณุ ภาพชีวติ ของประชาชน. ตลอด ๑๐๐ ปี ที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมได้ปรบั ปรงุ พัฒนากจิ การคมนาคมของไทย ใหม้ ี ประสทิ ธภิ าพและกา้ วหนา้ ขนึ้ อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง. จงึ ขอใหท้ กุ คนทกุ ฝา่ ย ทกุ หนว่ ยงานในกระทรวงนี้ ไดภ้ มู ใิ จในงานทที่ า� พรอ้ มทงั้ รว่ มมอื รว่ มงานกนั ใหย้ ง่ิ สอดคลอ้ งแนน่ แฟน้ ขนึ้ เพอื่ ใหผ้ ลแหง่ การปฏบิ ตั งิ านของทา่ นอา� นวยประโยชนอ์ นั กวา้ งขวางยงั่ ยนื ให้แก่ประชาชน และเป็นปจั จัยเสรมิ สร้างความเจรญิ มน่ั คงให้แกป่ ระเทศชาตติ ลอดตอ่ ไป ไมม่ ีทสี่ ิน้ สดุ .” อาคารเฉลมิ พระเกยี รติ โรงพยาบาลศิริราช วันที่ ๕ ตลุ าคม พุทธศกั ราช ๒๕๕๔ พระราชกระแสที่อัญเชิญมาข้างต้นกระทรวงคมนาคมได้รับพระราชทานมาในพุทธศักราช ๒๕๕๔ อันเป็นช่วงปลาย รัชกาล จึงเป็นสิ่งยืนยันถึงความจงรักภักดีของชาวกระทรวงคมนาคมท่ีได้ปฏิบัติงานสนองพระเดชพระคุณมาตลอดรัชสมัย ซ่ึงชาวกระทรวงคมนาคมได้น้อมรับพระราชกระแสใส่เกล้าใส่กระหม่อมด้วยความส�านึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่าง หาที่เปรียบมิได้ 214 พพรระะบบรรมมรารชาาชวาิถวี ๗ิถี ท๗ศวทรศรษวรพริพษัฒพนิพ์คมัฒนนาค์คมมนาคม

“เย็นศิระเพราะพระบริบาล” ภาคนี้ เป็นการประมวลบันทึกความทรงจ�าของข้าราชการกระทรวงคมนาคม ที่เคยปฏิบัติงานสนองพระเดชพระคุณอย่างใกล้ชิด ซึ่งหลายบทความ นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ขณะด�ารงต�าแหน่ง ลดั กระทรวงคมนาคม ไดส้ มั ภาษณแ์ ละเรยี บเรยี งไวเ้ ปน็ บนั ทกึ ประวตั ศิ าสตร์ บางบทความขา้ ราชการชนั้ ผใู้ หญห่ ลายทา่ น ไดบ้ นั ทกึ เรยี บเรยี งจากความทรงจา� เหลา่ นลี้ ว้ นเปน็ บนั ทกึ ประวตั ศิ าสตรจ์ ากการบอกเลา่ ทม่ี คี ณุ คา่ ยงิ่ ของกระทรวงคมนาคม ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ได้คัดเลือกและประมวลสาระส�าคัญ มาพมิ พ์เผยแพรใ่ นโอกาสน้ี ดงั นี้ นางจนั ทร์สม อินภิรมย์ เรื่อง พ่ใี หญข่ องพนกั งานวทิ ยุชาวทางหลวง นายเฉลยี ว วชั รพกุ ก์ เรอื่ ง นา�้ พระราชหฤทยั แก่คนทา� ทาง นายประภสั ร์ จงสงวน เร่ือง การกอ่ สร้างรถไฟฟา้ ใตด้ นิ สายเฉลิมรชั มงคล นายประสงค์ ตันมณวี ฒั นา เรอื่ ง พระบารมปี กเกลา้ ฯ ชาวทางหลวง นายประสิทธิ์ ทฆี พุฒิ เร่ือง พระผทู้ รงเป็นแสงสว่างแหง่ ปัญญา นายปลื้มใจ สินอากร เร่ือง พระอจั ฉรยิ ภาพเกยี่ วกบั งานด้านโทรศัพท์ นาวาอากาศตรี พยรู เผือกผอ่ ง เรื่อง คราวประทบั เครื่องบินพระท่นี ่ังของการบินไทย นายพิเชียร เจริญกลกิจ เรื่อง บุญพระครองครอบเกลา้ ...ชาวทาง นายไพบลู ย์ ลมิ ปพยอม เร่ือง ชมุ สายโทรศพั ท์จติ รลดา นายมหดิ ล จันทรางกรู เร่ือง อัครมหาราชา ป่นิ ฟา้ คมนาคม นายวันชยั ศารทลู ทตั เรื่อง การขจัดคราบน้�ามันในทะเล นายศรีภูมิ ศุขเนตร เรอื่ ง พระอัจฉรยิ ภาพด้านการสื่อสาร นายศรสี ขุ จนั ทรางศุ เรื่อง โครงการทางคขู่ นานลอยฟา้ ถนนบรมราชชนนี นายสมทิ ธ ธรรมสโรช เรื่อง พระปรชี าสามารถในกิจการส่ือสารอุตนุ ยิ มวิทยา นางสร้อยทพิ ย์ ไตรสุทธ์ิ เร่ือง ร�าลึกคร้ังเข้าเฝา้ ฯ ณ โรงพยาบาลศริ ิราช นายสวาท ศรขี �า เรอื่ ง การสนองงานขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย พลต�ารวจตรี สชุ าติ เผอื กสกนธ์ เร่ือง นกั วิทยสุ มัครเล่น VR009 นายสุธี อกั ษรกิตต์ิ เรื่อง การประดิษฐส์ ายอากาศพระราชทาน สธุ ี ๑ - สุธี ๔ 215

นำงจันทรส์ ม อนิ ภริ มย์ พีใ่ หญ่ของพนกั งำนวิทยชุ ำวทำงหลวง เรอื่ งเลา่ ขานของเจา้ หนา้ ทผ่ี นู้ อ้ ยในกรมทางหลวงเรอื่ งหนงึ่ ทสี่ รา้ งความปลมื้ ปตี ิ ได้ทุกครั้งที่กล่าวถึง ด้วยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงห่วงใยขวัญก�าลังใจของเจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติงานทุกคน แม้จะ อยู่ห่างไกลในถ่ินทุรกันดาร แต่น�้าพระราชหฤทัยของพระองค์ท่านยังเดินทาง ไปถึง สร้างความชุ่มช่ืนหัวใจแก่เจ้าหน้าท่ีชาวทางหลวงได้อย่างถ้วนทั่ว นางจันทร์สม อินภิรมย์ พนักงานรับ-ส่งวิทยุเขตการทางพิษณุโลก เมื่อกว่า ๔๐ ปีมาแล้ว มีอีกชื่อหน่ึงที่หมู่พนักงานวิทยุสื่อสารของกรมทางหลวงทั่วประเทศ รู้จักดีว่า “พ่ีใหญ่” ในฐานะที่นางจันทร์สม อินภิรมย์ เป็นเจ้าหน้าท่ีช้ันผู้น้อยที่มี ความอาวุโสกว่าใครในกลุ่มพนักงานวิทยุสื่อสารของกรมทางหลวงซึ่งมีอยู่ด้วยกัน กว่า ๑๐๐ คนท่ัวประเทศในเวลานั้น ไม่เพียงอายุและประสบการณ์ในหน้าที่ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน แต่ตลอดเวลา ท่ีผ่านมา นางจันทร์สม อินภิรมย์ เป็นผู้ปฏิบัติงานที่รับผิดชอบต่อหน้าที่เป็นอย่างสูง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หรือมีธุระส่วนตัวที่ใด ก็มักจะน�าวิทยุสื่อสารติดตัวไว้ด้วยเสมอ เรียกได้ว่าเป็นคนท�างานตลอด ๒๔ ช่ัวโมงก็คงไม่ผิดนัก พลตรี ประถม บุรณศิริ อดีตรองอธิบดีกรมทางหลวง เล่าว่า พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงชมเชยการปฏิบัติงานของ นางจันทร์สม อินภิรมย์ ในฐานะ “พ่ีใหญ่” ทรงเคยตรัสถามว่า “พ่ีใหญ่ คือใคร” และมีพระราชกระแสรับส่ังให้ศูนย์ส่ือสารสวนจิตรลดาส่งวิทยุชมเชย “พี่ใหญ่” ในความต้ังใจปฏิบัติงานเป็นอย่างดี มีความสามารถรับฟังข่าวและผ่านข่าว ให้หน่วยงานอ่ืนท่ีปฏิบัติงานในพ้ืนท่ีทุรกันดารห่างไกลและอยู่ในเขตคุกคาม ของผู้ก่อการร้ายได้ตลอดเวลา เมื่อครั้งหน่วยก่อสร้างทางสายทุ่งช้าง - ปอน - ห้วยโก๋น ถูกผู้ก่อการร้าย ซุ่มโจมตีเป็นเหตุให้เจ้าหน้าท่ีกรมทางหลวงเสียชีวิต ๒ คน บาดเจ็บ ๔ คน ทหาร เสียชีวิต ๓ คน บาดเจ็บ ๕ คน และรถ APC ของกรมทหารม้าที่ ๒ ถูกยิงด้วย ระเบิด RPG จนไฟลุกไหม้เสียหายใช้การไม่ได้ นายบุญญฤทธ์ิ ศุภวิญญู พนักงาน วิทยุประจ�าโครงการดังกล่าว ได้วิทยุแจ้งมายังเขตการทางพิษณุโลกให้ส่งข่าวต่อ ไปยังส่วนกลาง และขอเฮลิคอปเตอร์จากทหารหน่วยใดก็ได้มาช่วยคนเจ็บและ ล�าเลียงผู้เสียชีวิต แต่อาจเป็นเพราะทัศนวิสัยไม่ดี ทางทหารได้แจ้งกลับไปว่า ไม่สามารถข้ึนบินได้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงฟัง วิทยุอยู่ในเวลาน้ันพอดี จึงมีพระราชกระแสรับสั่งให้ราชองครักษ์แจ้งเขตการทาง พิษณุโลกว่า “อีก ๑ ช่ัวโมงจะส่งเฮลิคอปเตอร์มา” จากนั้นอีกประมาณหน่ึงช่ัวโมง ก็มีเฮลิคอปเตอร์มาลงจอดท่ีบริเวณ ริมล�าน้�าปอน เพ่ือรับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตไปส่งท่ีโรงพยาบาลจังหวัดน่านจริง ๆ เหตุการณ์ในคร้ังน้ันยังความซาบซ้ึงในพระมหากรุณาธิคุณแก่เจ้าหน้าท่ีทุกฝ่าย ทุกระดับท่ีปฏิบัติงานเส่ียงภัยในพ้ืนท่ีตราบจนทุกวันน้ี นอกจากน้ี ในวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๑๖ ยังได้เกิดส่ิงอันเป็นมงคล อย่างไม่คาดฝันขึ้นและสร้างความประทับใจอยู่ในความทรงจ�าของพนักงานวิทยุ ท่ัวประเทศอย่างมิรู้ลืม วันนั้น มีเสียงเรียกทางวิทยุสื่อสารดังข้ึน ซ่ึงวิทยุของกรมทางหลวงทั่วท้ัง ภาคเหนือได้ยินทุกคน “พิษณุโลก พิษณุโลก” เวลาน้ันนางจันทร์สม อินภิรมย์ 216 พระบรมราชาวิถี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

ผู้เป็นพนักงานวิทยุยังไม่ได้ขานตอบ เพราะเป็นเสียงที่ไม่คุ้นเคย อีกท้ังยังไม่ทราบว่าเป็นใคร และมีท่ีมาจากแห่งใด เพียงครู่เดียว ก็มีเสียงเรียกซ�้าจากเสียงเดิมดังข้ึน “พ่ีใหญ่ พ่ีใหญ่” “ตอบค่ะ ไม่ทราบว่าจากหน่วยไหนคะ” นางจันทร์สมตอบ “จาก เดโชชัย ๑” ทันทีที่ได้ยินช่ือดังกล่าว นางจันทร์สม อินภิรมย์ รีบวิทยุเรียกไปยังทุกเขต แขวง โครงการ และศูนย์ฯ ด้วย ความตื่นเต้น แจ้งให้ท้ังหมดบิดคลื่นวิทยุไปยังช่อง ๑๒ โดยด่วน ก่อนจะย�้าไปอีกครั้งหน่ึงว่า “จากเดโชชัย ๑ นะ” ทุกคนจึงอยู่ในความเงียบสงบอีกครั้ง แต่เช่ือว่าหัวใจทุกคนเวลานั้นคงจะเต้นอย่างอึกทึกครึกโครมไม่เป็นจังหวะ เพราะเป็นท่ีทราบดีว่า เดโชชัย ๑ คือมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยท้ังปวง เม่ือเจ้าหน้าท่ีทุกคนบิดช่องสัญญาณไปท่ีช่อง ๑๒ ต่างก็ได้ยินพระราชด�ารัสพระราชทานพรปีใหม่ทางวิทยุ อย่างชัดเจนว่า “สวัสดีปีใหม่เจ้าหน้าที่ทุกคน ขอให้มีความสุขตลอดทั้งครอบครัว ให้มีพลานามัยสมบูรณ์ แข็งแรง ปลอดภัย มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าท่ีราชการ สวัสดี” ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ในปีต่อ ๆ มา พนักงานวิทยุกรมทางหลวงก็ได้รับพระราชทานพรปีใหม่ต่อเน่ืองกันมา อีกหลายปี ถือเป็นความภาคภูมิใจและเป็นมงคลแก่ชีวิตของนางจันทร์สม อินภิรมย์ ตลอดจนพนักงานวิทยุ กรมทางหลวงทุกคนเป็นอย่างยิ่ง ที่พระองค์ท่านมีพระราชปฏิสันถารด้วยในครั้งนั้น ส่วนหนึ่งมาจากความตั้งใจจริง ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่ลดละ เหตุการณ์สุดประทับใจครั้งน้ัน แสดงให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ท่ีทรงมีความห่วงใยเจ้าหน้าท่ีกรมทางหลวงเสมอ ไม่เว้น แม้กระท่ังผู้ท่ีไม่เคยปฏิบัติงานสนองพระองค์ท่านอย่างใกล้ชิด 21๗

น้�ำพระรำชหฤทัยแก่คนทำ� ทำง ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๑๒ - ๒๕๒๕ นน้ั เปน็ ช่วงเวลาท่ีมีการคกุ คามและขัดขวาง การก่อสร้างทางอย่างรุนแรงจากผู้ก่อการร้าย กรมทางหลวงในฐานะผู้รับผิดชอบ การก่อสร้างทางเพ่ือความม่ันคงทั่วประเทศ ต้องพบกับการโจมตีทุกรูปแบบถึง ๑,๗๙๕ ครั้งเพื่อขัดขวางงานก่อสร้าง เป็นเหตุให้บุคลากรกรมทางหลวงเสียชีวิต หลายสบิ คน รวมถงึ ทหาร ตา� รวจ อาสาสมคั ร และพนกั งานของบรษิ ทั รบั เหมากอ่ สรา้ ง ทเ่ี สียชีวิตไปเกอื บ ๑,๐๐๐ คน และบาดเจบ็ อีกกวา่ ๒,๐๐๐ คน พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ทรงตดิ ตาม ขา่ วการปฏบิ ตั ริ าชการของเจา้ หนา้ ทอี่ ยา่ งใกลช้ ดิ และเสดจ็ พระราชดา� เนนิ ไปทรงเยย่ี ม เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในสนามเพ่ือสร้างขวัญและก�าลังใจ รวมทั้งทรงเยี่ยมผู้บาดเจ็บ ท่ีพกั รักษาตวั อยตู่ ามโรงพยาบาลตา่ ง ๆ โดยมิได้คาดฝนั อยหู่ ลายครงั้ แสดงให้เหน็ วา่ พระองคท์ า่ นทรงตดิ ตามสถานการณต์ ่าง ๆ อยูต่ ลอดเวลา อกี ทงั้ เสดจ็ พระราชดา� เนนิ ไปทรงเย่ียมราษฎรในพ้ืนที่เสี่ยงพร้อมทั้งพระราชทานสิ่งของยังชีพ และโปรดเกล้า โปรดกระหมอ่ มให้มีคณะแพทยใ์ นขบวนเสดจ็ ไดต้ รวจรกั ษาผ้เู จ็บป่วยอีกดว้ ย นำยเฉลยี ว วชั รพกุ ก์ โดยเฉพาะสถานทก่ี ่อสรา้ งเสน้ ทางสายทงุ่ ชา้ ง - ปอน - ห้วยโกน๋ ซ่ึงถูกซุ่มโจมตี จนเกดิ การสญู เสยี ซา�้ แลว้ ซา�้ เลา่ และทกุ ครง้ั ทพี่ ระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ล อดุลยเดช บรมนาถบพติ ร เสดจ็ พระราชดา� เนนิ ไปทอดพระเนตรการก่อสรา้ งสะพาน ข้ามแม่น�้าน่านที่บ้านปอน พระองค์มักจะมีพระราชดา� รัสกับ นายเฉลียว วัชรพุกก์ อธบิ ดีกรมทางหลวง ในขณะนั้นวา่ “สะพานแห่งนี้เปรียบเสมือนสหาย เม่ือมาจังหวัดน่านคร้ังใด ก็อดแวะ มาเยย่ี มไมไ่ ด”้ นายเฉลียว วัชรพุกก์ ถือเป็นข้าราชการกรมทางหลวงผู้หนึ่งที่พระองค์ท่าน มพี ระราชปฏสิ นั ถารดว้ ยในหลายคราว เชน่ เมอื่ ครงั้ เสดจ็ พระราชดา� เนนิ แปรพระราชฐาน ไปประทับ ณ พระต�าหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เม่ือวันจันทร์ ท่ี ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๑ มพี ระราชกระแสรับสั่งวา่ “เส้นทางข้ามภูเขาจากบ้านเปาสามขา อ�าเภอสันก�าแพง จังหวัดเชียงใหม่ ไปยงั อา� เภอแมท่ า จงั หวดั ลา� พนู ระยะทาง ๙ กโิ ลเมตรเศษ เปน็ ทางลา� ลองมาตงั้ แต่ สมยั สงครามโลกครัง้ ที่ ๒ ถา้ ปรบั ปรุงให้ใชไ้ ดท้ กุ ฤดูกาล จะช่วยให้ราษฎรท้งั ๒ ฝง่ั ของภเู ขาสามารถใชส้ ญั จรไปมาไดโ้ ดยสะดวก ขอใหพ้ ิจารณาดูวา่ จะท�าหรือไม”่ นายเฉลียว วัชรพุกก์ ได้แจ้งนายช่างแขวงการทางล�าพูนให้ไปตรวจสอบ ความชา� รุดเสยี หายของเสน้ ทางดงั กลา่ วในทันที อีก ๑๓ วันต่อมา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร ทรงถามอกี วา่ 218 พระบรมราชาวิถี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จฯ ไปทรงเยีย่ มราษฎร ได้ทรงพบอธิบดกี รมทางหลวงที่อา� เภอสนั ก�าแพง จังหวัดเชยี งใหม่ พ.ศ. ๒๕๒๑ “ทางข้ามภเู ขาท่อี �าเภอสันกา� แพงที่เคยบอกไว้ เสรจ็ หรอื ยัง” นายเฉลยี ว วัชรพุกก์ ไดก้ ราบบังคมทูลว่าจะเรง่ มอื ท�าใหเ้ สร็จในฤดูแลง้ น้ี พระองค์ท่านยังมพี ระราชดา� รัสตอ่ อกี วา่ “แลง้ ปนี ี้นะ ไม่ใช่แลง้ ปหี น้า และอาจจะข่มี อเตอร์ไซค์ไปเองเร็ว ๆ น”้ี ท�าให้นายเฉลียว วชั รพุกก์ ต้องรบี โทรศัพทไ์ ปก�าชับนายชา่ งแขวงการทางล�าพูนให้รบี น�าอุปกรณ์ไปซ่อมทางสายนี้ ให้เรยี บรอ้ ยโดยเรว็ ทสี่ ดุ หลงั จากนนั้ เพยี ง ๔ วนั คณะท�างานกรมทางหลวงทมี่ นี ายเฉลยี ว วชั รพกุ ก์ เปน็ หวั หนา้ คณะไดเ้ ดนิ ทางไปตรวจงาน ดังกลา่ วเวลาประมาณ ๑๖ นาฬิกา ได้พบกบั ต�ารวจท่ีเฝา้ รายทางอยจู่ งึ ทราบวา่ มีขบวนเสด็จได้เดนิ ทางขา้ มภูเขาไปแลว้ แต่ยังไม่กลับมา จึงหยุดรถรอท่ีเนินเขาแห่งนั้นก่อนจะทราบจากวิทยุของต�ารวจต่อมาว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภมู ิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ก�าลงั เสดจ็ พระราชดา� เนินกลับในเสน้ ทางเดิม เพียงครู่เดียว พระองค์ท่านได้ทรงรถยนต์พระท่ีนั่งขับเคล่ือนสี่ล้อกลับมาถึงจุดดังกล่าว ได้เสด็จพระราชด�าเนิน ลงมามีพระราชปฏสิ นั ถารกับคณะเจา้ หน้าทก่ี รมทางหลวง และมีรบั ส่งั วา่ “ทางพอใช้ได้ ปรับปรุงอีกไม่มากนักจะสะดวกข้ึน อยากจะให้ซ่อมสะพานบนเส้นทางฝั่งโน้นเพราะช�ารุดอยู่ จะได้พฒั นาสรา้ งอา่ งเก็บน�้า” กรมทางหลวงโดยแขวงการทางล�าพนู ใช้เวลาอกี ราว ๔๐ วนั หลงั จากนน้ั ปรับปรงุ เสน้ ทางสายน้ี ใหเ้ ปน็ ถนนลูกรงั มาตรฐาน กอ่ นจะปรับปรุงเป็นทางลาดยางอีกครัง้ ในเวลาต่อมา และเรียกเสน้ ทางนี้วา่ ทางหลวงหมายเลข ๑๒๒๙ ตอน บา้ นวาก - บ้านใหม่ - บา้ นแม่ตะไคร้ ทา� ใหก้ ารเดนิ ทางสัญจรของประชาชนในพืน้ ทด่ี ังกล่าวเปน็ ไปอยา่ งสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยยง่ิ ขึ้นสมดง่ั พระราชประสงค์ของพระองค์ทา่ น เหตกุ ารณใ์ นครงั้ นน้ั ถอื เปน็ เหตกุ ารณห์ นงึ่ ทพ่ี สิ จู นค์ วามตง้ั ใจจรงิ ของนายเฉลยี ว วชั รพกุ ก์ ในการสนองพระราชดา� ริ อย่างฉับไว ซ่ึงเร่ืองดังกล่าวเป็นที่ทราบกันดีในหมู่ข้าราชการระดับสูงหลายท่าน เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร มกี ระแสพระราชดา� รสั ในเรอ่ื งนอ้ี ยบู่ อ่ ยครง้ั และทรงชมเชยการทา� งานอยา่ งเขม้ แขง็ ของนายเฉลียว วชั รพุกก์ ในฐานะอธิบดีกรมทางหลวงอยู่เสมอ เมื่อวันศุกร์ ท่ี ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๑ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ ให้แก่ นายเฉลยี ว วัชรพุกก์ ซ่งึ มขี า้ ราชการระดบั อธบิ ดนี อ้ ยทา่ นนักที่จะมีโอกาสเช่นนี้ 219

นำยประภัสร์ จงสงวน กำรกอ่ สร้ำงรถไฟฟ้ำใต้ดิน สำยเฉลมิ รชั มงคล วนั เสาร์ ที่ ๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ เปน็ วนั สา� คญั ยง่ิ ในชวี ติ ของ นายประภสั ร์ จงสงวน ผวู้ า่ การการรถไฟฟา้ ขนสง่ มวลชนแหง่ ประเทศไทย (รฟม.) เพราะเปน็ วนั ทมี่ ี โอกาสไดเ้ ขา้ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาทพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร อย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก ในโอกาสท่ีเสด็จพระราชด�าเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร สยามบรมราชกุมารี ไปทรงเปิดการเดินรถโครงการรถไฟฟ้า มหานครสายเฉลิมรัชมงคล (หัวล�าโพง-บางซ่ือ) อย่างเป็นทางการ เป็นเหตุการณ์ ที่ก่อให้เกิดความปล้ืมปีติและความประทับใจในครั้งนั้นยังคงอยู่ในความทรงจ�าของ นายประภสั ร์ จงสงวน มิรลู้ ืมจวบจนทุกวันน้ี “โครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน คือโครงการรถไฟฟ้ามหานครที่เกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหา การจราจรและลดมลพษิ บนทอ้ งถนนในเมอื งหลวง ซงึ่ ทงั้ ปญั หาการจราจรและปญั หา ด้านสิ่งแวดล้อมล้วนเป็นเร่ืองที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ความส�าคัญ เปน็ อย่างยงิ่ พระองคจ์ งึ มพี ระมหากรุณาธคิ ุณต่อโครงการน้ีนับแตแ่ รกเริ่ม… “ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎ- ราชกุมาร เสด็จพระราชด�าเนินแทนพระองคไ์ ปทรงวางศิลาฤกษ์ ณ สถานหี วั ล�าโพง เมื่อวันอังคาร ที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๙ ท้ังยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อเส้นทางรถไฟฟ้ามหานครระยะแรกว่า เฉลิมรัชมงคล อีกด้วย ซึง่ นับเปน็ พระมหากรณุ าธคิ ณุ แก่ รฟม. อย่างหาทีส่ ดุ มไิ ด้” จวบจนกระทงั่ วนั พธุ ที่ ๓ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๔๗ คนไทยทง้ั ประเทศกไ็ ดเ้ หน็ ความส�าเร็จของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้�าเงินในระยะทาง ๒๐ กิโลเมตร จ�านวน ๑๘ สถานี ซง่ึ ไดร้ บั พระราชทานนามวา่ “เฉลมิ รชั มงคล” อนั เปน็ กา้ วแรกของรถไฟฟา้ ใต้ดินทีถ่ ือกา� เนดิ ข้นึ ในประเทศไทย “เมื่อการด�าเนินโครงการแล้วเสร็จสมบูรณ์ มีการทดสอบระบบการท�างาน ต่างๆ เป็นท่ีเรียบร้อย จึงได้กราบบังคมทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จ พระราชด�าเนินมาทรงเปิดโครงการฯ เพ่ือความเป็นสิริมงคล ซ่ึงเม่ือได้รับค�ายืนยัน จากส�านักพระราชวังว่าพระองค์ท่านจะเสด็จฯ มาทรงเปิดโครงการด้วยพระองค์เอง ก็ท�าให้เจ้าหน้าท่ีทุกคนต่างปลาบปล้ืมและต่ืนเต้นยินดีกันมาก ทุกคนมีความต้ังใจ ตรงกนั ทจี่ ะทา� หนา้ ทข่ี องตนใหด้ ที สี่ ุด และสา� หรับตวั ผมเองตอ้ งถือเปน็ บญุ ของตัวเอง อย่างมากท่ีมีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ พระองค์ท่านอย่างใกล้ชิด ได้กราบบังคมทูลรายงาน โดยละเอียดเก่ียวกับเรื่องการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินให้ทรงทราบ ซึ่งพระองค์ทรง สนพระราชหฤทัยในเร่ืองของเทคนิคการก่อสร้าง ตลอดจนวิธีการด�าเนินการต่าง ๆ เป็นอย่างย่ิง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของงานโยธา หรือในส่วนของตัวรถ จะทรงซักถาม ด้วยความสนพระราชหฤทยั ” ในวันนั้นนายประภัสร์ จงสงวน ได้กราบบังคมทูลรายละเอียดในการก่อสร้าง อโุ มงคโ์ ดยใชห้ วั ขดุ ซง่ึ มอี ปุ กรณท์ จี่ ะประกอบชนิ้ สว่ นของอโุ มงคอ์ ยภู่ ายใน และยดึ ตวั อโุ มงคท์ งั้ หมดเอาไวด้ ว้ ยนอตจา� นวนมาก สว่ นบรเิ วณดา้ นหลงั จะมรี ะบบปอ้ งกนั นา้� ซมึ อย่างแน่นหนา และมีวัสดุกันซึมที่อยู่ระหว่างรอยต่อของชิ้นส่วนอุโมงค์ด้วย ส่วนตัว อโุ มงคเ์ องกม็ กี ารออกแบบใหเ้ ขา้ กบั การเดนิ รถ พรอ้ มทงั้ ระบบการระบายอากาศ และ มาตรการดา้ นความปลอดภยั ตา่ ง ๆ ทก่ี ารรถไฟฟา้ ขนสง่ มวลชนแหง่ ประเทศไทยไดน้ า� 220 พระบรมราชาวิถี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

เทคโนโลยีท่ีดีท่สี ุด ทนั สมยั ทีส่ ุด และปลอดภยั ทส่ี ดุ มาใชต้ ามมาตรฐานสากลและมาตรฐานส่งิ แวดล้อมทมี่ กี ารก�าหนดไว้ ซึ่งเมือ่ พระองค์ท่านทรงทราบกท็ รงพอพระราชหฤทยั เป็นอยา่ งยง่ิ ในพิธีเปิดวนั นนั้ นายประภสั ร์ จงสงวน เองยังไดเ้ หน็ พระราชอริ ยิ าบถและการทรงงานของพระองคท์ ่านอยตู่ ลอดเวลา “ผมยังจ�าได้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัวมพี ระราชกระแสรับส่งั กับผมว่า เส้นทางของรถไฟฟา้ ควรมีมากกว่านี้ จงึ จะเกดิ ประโยชน์ ซงึ่ หากเรามโี ครงขา่ ยรถไฟฟา้ ในระยะทไ่ี กลกวา่ นจ้ี ะชว่ ยลดปญั หาการจราจรและมลพษิ บนทอ้ งถนนลงได้ เพราะคนจะหนั มาใชบ้ รกิ ารขนสง่ สาธารณะแทนรถยนตส์ ว่ นตวั กนั มากขนึ้ ซงึ่ ผมกห็ วงั วา่ เราจะกา้ วไปถงึ จดุ นนั้ ไดใ้ นวนั หนงึ่ “ขณะทพี่ ระองคท์ า่ นเสดจ็ ฯ ทอดพระเนตรโครงการฯ พระองคจ์ ะทรงใชก้ ลอ้ งสว่ นพระองคบ์ นั ทกึ ภาพรายละเอยี ด ต่าง ๆ เก็บไว้ตลอด นอกจากน้ันในระหว่างท่ีประทับบนขบวนรถไฟเท่ียวปฐมฤกษ์ พระองค์ท่านจะมีพระราชด�ารัสกับ สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ ิกติ ิ์ พระบรมราชินนี าถ และสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี ด้วยพระอารมณ์ขนั ตลอดเวลา ซ่ึงผู้ที่ได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างใกล้ชิดจะทราบดีว่าพระองค์ทรงมีพระอารมณ์ขันมาก และกระแสพระราชดา� รัสทแี่ ฝงด้วยพระอารมณข์ ันของพระองค์นั้นจะอยูภ่ ายใต้พระพักตรน์ ่ิง ๆ…” ระยะเวลาเกือบสามช่ัวโมงเต็มที่นายประภัสร์ จงสงวน ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร อย่างใกล้ชิด ท�าให้สัมผัสได้ถึงความห่วงใยที่พระองค์ท่านทรงมีต่อ พสกนิกรชาวไทยเป็นอย่างดี เนื่องจากพระราชด�ารัสของพระองค์น้ันล้วนแต่มีเรื่องที่เก่ียวข้องกับความทุกข์ร้อนของ ประชาชนทว่ั ประเทศท้งั สิ้น “พระองค์ทรงเป็นห่วง ทรงกังวลมาก และมีพระราชประสงค์ให้ช่วยกันแก้ไข พระองค์ท่านจะทรงเป็นห่วง คนเมืองหลวงในเรื่องเก่ียวกับปัญหาจราจรและปัญหาน�้าท่วม และจะทรงเป็นห่วงคนต่างจังหวัดในเรื่องเกี่ยวกับการ ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และการเพาะปลูกตา่ ง ๆ ชว่ งเวลาท่ีผมได้เข้าเฝา้ ฯ พระองค์อย่างใกล้ชดิ ในวนั น้นั ได้รบั ฟงั กระแสพระราชดา� รสั ตา่ ง ๆ ท�าให้รู้ซง้ึ เลยว่าพระองค์ทรงเปน็ หว่ งราษฎรมากขนาดไหน” ในวันน้ันเม่ือพิธีการเสร็จส้ิน และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ก�าลังจะ เสด็จพระราชด�าเนินกลับ เม่ือพระองค์ท่านเสด็จพระราชด�าเนินไปจนใกล้ถึงรถยนต์พระท่ีน่ังก็ทรงหยุด ก่อนจะเสด็จ พระราชด�าเนินย้อนกลับมายังนายประภัสร์ จงสงวน ท่ียืนส่งเสด็จอยู่แถวหลัง มีพระราชกระแสรับส่ังกับนายประภัสร์ จงสงวน ทีท่ �าใหเ้ ขาตน้ื ตันใจอย่างทส่ี ุดมากระท่ังทกุ วนั น้ี “พระองคท์ า่ นมพี ระราชกระแสรบั สง่ั กบั ผมวา่ ‘ขอบใจ’ ทง้ั ยงั ทรงอวยพรใหผ้ มดว้ ยวา่ ‘ขอใหป้ ระสบความสา� เรจ็ และมคี วามสุขมาก ๆ’ ความรู้สึกของผมในตอนนนั้ ทง้ั ปลาบปล้ืม ทั้งตืน้ ตนั จนบรรยายไมถ่ ูก…” จนถงึ วนั นแ้ี ม้กาลเวลาจะผ่านพน้ ไปเนน่ิ นาน แตก่ ระแสพระราชดา� รสั “ขอบใจ” และคา� อวยพร “ขอใหป้ ระสบ ความสา� เรจ็ และมคี วามสขุ มาก ๆ” ของพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ทพ่ี ระราชทาน แกน่ ายประภสั ร์ จงสงวน ยงั กอ้ งกงั วานอยใู่ นความทรงจา� มริ ลู้ มื อนั นา� มาซงึ่ กา� ลงั ใจอยา่ งใหญห่ ลวงในการทา� งานอยา่ งหนกั เพ่อื ก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์แกส่ ่วนรวมมากย่งิ ขึน้ 221

นำยประสงค์ ตนั มณีวฒั นำ พระบำรมปี กเกล้ำฯ ชำวทำงหลวง เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๒ นายประสงค์ ตนั มณีวัฒนา ขณะน้ันรับราชการในตา� แหนง่ นายชา่ งโครงการระดับ ๕ สังกัดกรมทางหลวง รับผิดชอบโครงการ Maintenance Study ทจ่ี งั หวดั เชยี งใหม่ ไดม้ โี อกาสปฏบิ ตั งิ านสนองเบอื้ งพระยคุ ลบาท ในการกอ่ สรา้ ง ทางสายบา้ นแมต่ ะไคร-้ บา้ นหว้ ยแกว้ โครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดา� ริ อนั เกดิ จาก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงเล็งเห็นว่า ประชาชนท่ีอาศัยอยู่ในพื้นท่ีทุรกันดารระหว่างอ�าเภอสันก�าแพง จังหวัดเชียงใหม่ กับอ�าเภอแจ้ห่ม จังหวัดล�าปาง มีความเป็นอยู่อย่างแร้นแค้นและขาดเส้นทางสัญจร ไปมา จึงมีพระราชด�าริให้กรมทางหลวงด�าเนินการก่อสร้างทางเช่ือมต่อเส้นทางสาย บ้านวาก-บ้านใหม่ และบ้านแม่ตะไคร้ โดยตัดข้ามภูเขามาออกท่ีหมู่บ้านสหกรณ์ สนั ก�าแพง เพ่ืออา� นวยความสะดวกดา้ นการคมนาคมให้แกร่ าษฎรในพื้นท่ี นายประสงค์ ตันมณีวัฒนา ซึ่งเป็นหน่ึงในผู้มีส่วนร่วมในการด�าเนินโครงการ ดังกล่าว ยงั จ�าไดไ้ มล่ ืมเลือนถงึ ภาพแหง่ ความประทับใจเมือ่ คร้งั อดีตท่ีผา่ นมา “สมยั กอ่ นพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ ฯ เยย่ี มราษฎรในจงั หวดั ภาคเหนอื เป็นประจ�าทุกปี ซึ่งในยุคน้ันถนนหนทางไม่สะดวกสบาย เส้นทางยังเป็นป่าเขา และเป็นถนนลูกรังเสียส่วนใหญ่ พระองค์ท่านเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรด้วย ความยากลา� บากในทวั่ ทกุ พน้ื ท่ี เพอ่ื ทอดพระเนตรถงึ ความเปน็ อยขู่ องราษฎร บางครง้ั ทรงขบั รถยนตพ์ ระทนี่ ง่ั บกุ ปา่ ฝา่ ดงเขา้ ไป และบางครง้ั กต็ อ้ งเสดจ็ พระราชดา� เนนิ ดว้ ย พระบาทเพราะไม่มีทางรถวิ่ง นั่นจึงท�าให้พระองค์ทรงทราบถึงความเดือดร้อน ดา้ นการสญั จรของราษฎรเปน็ อยา่ งดี จงึ มพี ระราชปรารภกบั นายเฉลยี ว วชั รพกุ ก์ อธบิ ดี กรมทางหลวงในสมัยนั้นว่า อ�าเภอดอยสะเก็ด อ�าเภอสันก�าแพง และอ�าเภอแม่ทา มที างหลวงสายหลกั ในแนวเหนอื - ใตต้ ดั ผา่ น และมที างหลวงสายหลกั ในแนวเหนอื - ใต้ อีกเส้นทางหน่ึงตัดผ่านอ�าเภอวังเหนือ และอ�าเภอแจ้ห่ม แต่ยังไม่มีทางหลวงในแนว ตะวันตก - ตะวันออกเพ่ือเชื่อมระหว่างทางหลวงแนวเหนือ - ใต้ ฉะนั้น ควรตัด เส้นทางจากบ้านแม่ตะไคร้มาบ้านห้วยแก้ว แล้วไปออกท่ีอ�าเภอสันก�าแพง เพื่อให้ ราษฎรในหมบู่ ้านแม่ตะไครม้ ีเสน้ ทางในการสญั จร เมื่อพระราชทานแนวพระราชดา� ริ ดังกล่าวแก่กรมทางหลวงแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ความส�าคัญกับ การสรา้ งเสน้ ทางสายนม้ี ากโดยทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯใหส้ มเดจ็ พระบรมโอรสาธริ าชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ ไปร่วมส�ารวจภูมิประเทศในบริเวณท่ีจะสร้างทาง สายน้ี ร่วมกับนายช่างแขวงการทางล�าพูนผู้รับผิดชอบโครงการ เพื่อศึกษาถึง ความเป็นไปได้ในการก�าหนดแนวก่อสร้างเบ้ืองต้น ซ่ึงผมก็เป็นคนหน่ึงท่ีได้ร่วม ทมี สา� รวจเส้นทางในคร้งั นัน้ ด้วย” การสา� รวจภมู ปิ ระเทศเพอื่ กา� หนดแนวกอ่ สรา้ งเบอื้ งตน้ ครงั้ นน้ั ใชเ้ วลาถงึ ๒ วนั จึงสามารถรวบรวมข้อมูลเพื่อน�าขึ้นกราบบังคมทูลรายงานให้พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้ทรงทราบ ณ พระต�าหนัก ภูพิงคราชนเิ วศน์ “จา� ได้ว่าเป็นวนั จันทร์ ท่ี ๒๖ กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๒ หลงั จากส�ารวจเสน้ ทาง เสรจ็ เรยี บรอ้ ย มนี ายชา่ งแขวงพเิ ชยี ร เจรญิ กลกจิ เปน็ ผนู้ า� ทมี มนี ายไพโรจน์ ศรภี ริ มย์ นายชา่ งแขวงการทางเชยี งใหมท่ ี่ ๑ และผม เมอ่ื ทมี งานเดนิ ทางไปถงึ เปน็ เวลาเดยี วกนั กบั ทพี่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ ฯ กลบั จากทรงเยยี่ มราษฎรพอดี พอพระองค์ ลงจากรถยนต์พระท่ีน่ัง ทอดพระเนตรเห็นพวกเรา ๓ คนยืนเฝ้ารอรับเสด็จอยู่ 222 พระบรมราชาวิถี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

ก็ทรงพระด�าเนินตรงมาหาทันที และได้ทรงซักถามข้อมูลอย่างละเอียดด้วยความสนพระราชหฤทัย ทีมงานตระหนัก เป็นอย่างดีว่าพระองค์ท่านทรงให้ความส�าคัญกับการสร้างเส้นทางสายน้ีมาก ทุกคนจึงมีความตั้งใจเป็นอย่างยิ่ง ทีจ่ ะด�าเนนิ โครงการนใี้ ห้ดีท่ีสุด และใหแ้ ล้วเสรจ็ โดยเรว็ สมดังพระราชประสงค์… “แขวงการทางล�าพูนสามารถสร้างเส้นทางสายน้ี ท่ีต้องตัดผ่านภูมิประเทศอันเป็นป่าเขาสูงชัน ให้การจราจร ผา่ นได้ส�าเรจ็ เม่ือวนั พธุ ท่ี ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๒ รวมระยะทางท้ังสิ้นประมาณ ๒๐ กโิ ลเมตร ท�าให้ราษฎรของพระองค์ ไดใ้ ช้ประโยชน์จากเส้นทางดังกล่าวนบั จากนน้ั เปน็ ตน้ มา” ด้วยพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาญาณในด้านงานช่าง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ ม พระราชทานแนวพระราชดา� รใิ นการกอ่ สรา้ งเสน้ ทางสายตา่ ง ๆ แก่กรมทางหลวงเป็นจ�านวนมาก จากการท่ีพระองค์ได้เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรไปท่ัวทุกพ้ืนท่ี ท�าให้ทรงทราบ ความเดือดร้อนเร่งด่วนของพ้ืนที่ต่าง ๆ ก่อนจะพระราชทานโครงการพระราชด�าริขึ้น นายประสงค์ ตันมณีวัฒนา ในช่วงที่รับหน้าที่นายช่างโครงการที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงมีโอกาสได้ร่วมท�างานโครงการในพระราชด�าริสร้างเส้นทาง ขนึ้ ดอยอ่างขางดว้ ยเช่นกัน “ตอนนั้นเส้นทางข้ึนดอยอ่างขางยังเป็นทางแคบ ๆ เต็มไปด้วยฝุ่น และเป็นทางชันมาก รถปิกอัพธรรมดา ๆ ไมส่ ามารถขับขึน้ ดอยได้ ต้องใชร้ ถขับเคล่อื นส่ลี ้อเทา่ น้นั กรมทางหลวงจึงตดั เสน้ ทางใหม่ให้มีความชันนอ้ ยลง เอาลกู รัง ไปลงเพอื่ ลดฝนุ่ ตลอดจนทา� เสน้ ทางวนั เวยบ์ นเขา เพราะทางแคบ ๆ เมอ่ื รถสวนกนั จะเกดิ อนั ตราย จงึ ตอ้ งตดั เสน้ ทางใหม่ ให้มีความปลอดภยั ยิง่ ขน้ึ ซงึ่ เม่อื พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวเสดจ็ ฯ ในเส้นทางท่ีสรา้ งแลว้ เสร็จ พระองค์ทรงตรัสชมว่า ‘กรมทางทา� ทางได้เรยี บแปล้’ ผมในฐานะท่ีมีส่วนร่วมในการสร้างทางเส้นนี้ จงึ ร้สู ึกภูมิใจและปลม้ื ปีติเป็นอยา่ งมาก” การกอ่ สรา้ งถนนหนทางในยคุ ๔๐ กวา่ ปกี อ่ นนนั้ การทา� งานเปน็ ไปดว้ ยความยากลา� บาก เพราะพนื้ ทใี่ นการสรา้ งทาง ลว้ นเปน็ ปา่ เขา และบางพ้ืนท่ยี ังอยูใ่ นเขตชายแดนเต็มไปดว้ ยผู้กอ่ การร้าย เจ้าหนา้ ท่กี รมทางหลวงตอ้ งกางเตน็ ท์นอนกนั กลางปา่ อยา่ งทเ่ี รยี กกนั วา่ “นอนกลางดนิ กนิ กลางทราย” อาบนา�้ กนั ในรมิ หว้ ย เสยี่ งภยั อนั ตรายในการเขา้ ไปทา� งานในพนื้ ที่ ซ่ึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มพี ระมหากรุณาธคิ ณุ ตอ่ เจ้าหนา้ ทก่ี รมทางหลวงที่ ปฏิบัติงานในพื้นที่เส่ียงภัยเป็นอย่างย่ิง และทรงห่วงใยในสวัสดิภาพของเจ้าหน้าท่ีทุกคน ทุกระดับ บ่อยคร้ังท่ีพระองค์ เสดจ็ พระราชดา� เนนิ พรอ้ มดว้ ยสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ นี าถ ไปทรงเยยี่ มฐานปฏบิ ตั กิ ารของหนว่ ยสรา้ งทาง กรมทางหลวง ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางที่ทุรกันดารหรือเส่ียงต่อภยันตรายเพียงใด พระองค์ก็ยังคงเสด็จพระราชด�าเนินไป พระราชทานขวญั และก�าลังใจให้แกเ่ จา้ หนา้ ทท่ี ุกนายอย่างไม่หว่นั เกรง ใน พ.ศ. ๒๕๑๘ อันเป็นมหามงคลสมัยท่ีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงเจรญิ พระชนมพรรษาครบ ๔ รอบ ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าโปรดกระหมอ่ มพระราชทานเหรยี ญ ภปร. พ.ศ. ๒๕๑๘ แก่กรมทางหลวงจ�านวน ๕,๐๐๐ เหรียญ หน่ึงในผู้ท่ีได้รับพระราชทานเหรียญดังกล่าวคือ นายประสงค์ ตันมณีวัฒนา ซงึ่ ถือเป็นเครื่องระลึกถงึ ความตัง้ ใจจรงิ ในการสนองงานโครงการในพระราชด�าริและเปน็ มงคลสูงสดุ ของชีวิต 223

นำยประสทิ ธ์ิ ทฆี พฒุ ิ พระผ้ทู รงเป็นแสงสวำ่ งแหง่ ปญั ญำ นายประสิทธ์ิ ทีฆพุฒิ อาจารย์ประจ�าคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย คือพสกนิกรไทยคนหนึ่งที่นอกจากได้รับรู้ถึงพระราชกรณียกิจนานา และตดิ ตามพระราชดา� รสั ทพี่ ระราชทานแกป่ ระชาชนชาวไทยในวาระตา่ ง ๆ ทลี่ ว้ นเปน็ พระราชด�ารัสที่เข้าใจง่าย มีความหมายชัดเจน เป็นประโยชน์ในการด�าเนินชีวิต ทั้งสิ้น และเขาได้ยึดถือปฏิบัติตามมาโดยตลอด แต่สิ่งที่เป็นสิริมงคลแก่ตนเองอย่างหาท่ีสุดมิได้คือการได้เข้าเฝ้าทูลละออง ธุลีพระบาทสาธิตการติดต่อสื่อสารผ่านระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่และคอมพิวเตอร์ แบบพกพาถวายท่ีพระต�าหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต โดยใช้ความรู้ ความเชยี่ วชาญในดา้ นสอื่ สารโทรคมนาคมของตน และมโี อกาสไดร้ บั ฟงั กระแสพระราชดา� รสั ท่ีแสดงถึงพระอัจฉริยภาพของพระองค์ท่าน ผู้ทรงเป็นแสงสว่างแห่งปัญญา “ความที่กระผมเกรงว่าจะพลาด จึงได้ขอทางส�านักพระราชวังเข้าไปท�าการ ทดลองก่อน ณ สถานท่ีจริง หาที่วางต�าแหน่งอุปกรณ์ที่เหมาะสม ซึ่งก็ได้รับ การอนุญาต การทดลองจึงเป็นไปด้วยดี ไม่มีอุปสรรคใด ๆ การเตรียมการเป็นไป อย่างดี ย่ิงได้รับความร่วมมือจากทุก ๆ ฝ่าย ท�าให้การทดสอบซอฟต์แวร์และระบบ ต่าง ๆ เป็นไปอย่างสมบูรณ์… “เม่ือถึงเวลาตามก�าหนดการ พระองค์ได้เสด็จออกยังท่ีประทับ กระผม ได้กราบบังคมทูลให้ทรงทราบถึงการท�างานต่าง ๆ ขีดความสามารถและการใช้ ประโยชน์ทางด้านการส่ือสาร และแสดงการสาธิตถวาย ทุกข้ันตอนก็เป็นไปตามท่ี เตรียมไว้ จนมาถึงข้ันตอนสุดท้ายท่ีจะต้องเชื่อมต่อเข้าอินเทอร์เน็ต อยู่ ๆ โทรศัพท์ ท่ีเตรียมไว้ก็เกิดไม่มีสัญญาณและติดต่อเครือข่ายไม่ได้ กระผมก็พยายามหาสาเหตุ ความม่ันใจท่ีมีอยู่ก็หายหมด และเร่ิมสั่น แต่พระองค์ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้ ก�าลังใจอยู่ตลอดว่ากระผมไม่ใช่คนแรก หลายคนท่ีมาท�าการสาธิตต่อหน้าพระพักตร์ แล้วอยู่ ๆ อุปกรณ์ก็ไม่ท�างานเช่นน้ี หลังจากน้ันสัก ๑๐ นาที ทุกอย่างก็เข้าสู่ สภาพปกติ สัญญาณก็ปรากฏ โทรศัพท์จึงใช้ได้ การสาธิตจึงเป็นไปตามที่เตรียมตัวมา และเสร็จสมบูรณ์ในเวลาต่อมา” ย่ิงไปกว่านั้น พระองค์สนพระราชหฤทัยในเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก ทรงสอบถามในรายละเอยี ดเรอ่ื งการสอื่ สารโทรคมนาคมในระบบตา่ ง ๆ การแกป้ ญั หา เร่ืองคลื่นรบกวน ซึ่งในครั้งนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายประสิทธ์ิ ทีฆพุฒิ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท และมีพระราชปฏิสันถารด้วย เป็นเวลานานกว่า ๓ ช่ัวโมง “พระองค์ตรัสถึงเม่ือตอนทรงพระเยาว์เพียง ๑๑ พรรษา ทรงทดลองน�า ไฟฟ้าสายเด่ียวมาเล่นรถไฟในพระราชวัง ต่อมาเม่ือพระชนม์ได้ ๒๐ กว่าพรรษา พระองค์ทรงทราบข่าวว่ามีนักวิทยาศาสตร์ผู้หน่ึงมีช่ือเสียงมากท�าการทดลองไฟฟ้า สายเดี่ยว พระองค์พระราชทานพระราชด�ารัสเก่ียวกับเทคโนโลยีข้ันสูงในอีกแง่คิด หนึ่งท่ีกระผมไม่เคยคิดมาก่อน กระผมพยายามกราบบังคมทูลถึงข้อดี การน�ามาใช้ ประโยชน์ วิธีการต่าง ๆ ตามประสบการณ์ที่ตนเองมี และพระองค์ทรงเปี่ยมล้นด้วย พระราชหฤทัยที่เมตตา พระราชทานค�าแนะนา� เพ่มิ เติมอกี มากมาย พระราชด�ารัสนน้ั สอนให้คิดและมองในอีกมุมมองหน่ึง โดยสรุปก็คือ เทคโนโลยีขั้นสูงต่าง ๆ บางครั้ง ก็มีผลเสียถ้าการบริหารเทคโนโลยีนั้นไม่ดี เช่น โทรศัพท์เคล่ือนที่ บางคร้ังมีเครื่อง แต่ก็ใช้ไม่ได้ โดยท่ีผู้ค้าต้ังหน้าต้ังตาขายอย่างเดียว ท�าให้ประชาชนเดือดร้อน และ 224 พระบรมราชาวิถี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

ในบางครั้งเทคโนโลยีใหม่ ๆ น้ันก็อาจจะไม่เหมาะ พระราชด�ารัสท่ีมีมาเปิดโอกาสให้กระผมได้กราบทูลถามจนหาย สงสัย และเริ่มตระหนักว่าส่ิงที่ตนเองคิดว่าถูกก็อาจจะไม่ถูก” นอกจากน้นั ยังมพี ระราชดา� รัสเกยี่ วกบั การท�างานและการทา� หนา้ ที่อาจารยข์ องนายประสทิ ธ์ิ ทีฆพฒุ ิ อีกว่า “เป็นส่ิงดี ทา� ดีแล้ว ขอให้มองไกล พอแก่ตวั แลว้ กรรมดที ตี่ นท�าไว้กจ็ ะมา Take care ตนเองใหม้ ีเกียรติ และ อยากให้มาช่วยงานกนั …” ซ่ึงตลอดชีวติ การท�างานของนายประสิทธิ์ ทฆี พฒุ ิ เขามคี วามรักในประเทศชาติและปวารณาตนเพ่อื พระองคท์ ่าน โดยแทจ้ รงิ การไดส้ มั ผัสกบั พระอัจฉริยภาพในคร้งั น้นั เป็นท่จี ดจา� ของนายประสิทธ์ิ ทฆี พุฒิ ไปตลอดชวี ติ โดยเฉพาะอย่างย่งิ “แสงสวา่ งแหง่ ปญั ญา” ทไ่ี ดร้ บั พระราชทานมานน้ั มคี ณุ คา่ ยง่ิ ใหญม่ ากเหลอื จะพรรณนาได้ และนบั เปน็ โชคของคนไทย ทม่ี ีพระมหากษตั ริย์ที่มีพระปรชี าญาณและลึกซง้ึ เชน่ นี้ 225

นำยปล้มื ใจ สินอำกร พระอจั ฉรยิ ภำพ เกย่ี วกับงำนดำ้ นโทรศพั ท์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สนพระราชหฤทัยและติดตามกิจการงานด้านโทรศัพท์เพ่ือให้บริการแก่ประชาชน เป็นอย่างย่ิง นายปล้ืมใจ สินอากร ผู้อ�านวยการอาวุโสฝ่ายบริหารโครงการ บริษัท ไทยเทเลโฟนแอนด์เทเลคอมมิวนิเคชั่น จ�ากัด (มหาชน) ได้มีโอกาสปฏิบัติงาน สนองพระมหากรณุ าธคิ ณุ ของพระองคใ์ นชว่ ง พ.ศ. ๒๕๑๒ ถงึ ๒๕๓๔ ขณะทย่ี งั ท�างาน ในองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย และมีหน้าท่ีรับผิดชอบต่อการด�าเนินงาน สนองกระแสพระราชด�ารัสเกี่ยวกับงานด้านโทรศัพท์ ได้น้อมส�านึกใน พระมหากรุณาธิคุณและพระอัจฉริยภาพของพระองค์ท่านในหลายด้าน ในช่วงเวลาดังกล่าวข้างต้น กิจการโทรศัพท์ของประเทศไทยยังอยู่ในระหว่าง การพัฒนา ระบบโทรศัพท์ท้องถิ่นยังเป็นระบบแมนนวล ท่ีต้องใช้พนักงานต่อสาย หรือระบบโทรศัพท์ทางไกลในบางจังหวัดยังเป็นระบบวิทยุความถ่ีสูง (High Frequency) หรือระบบวิทยุความถี่สูงมาก (Very High Frequency) ในขณะที่ บางจังหวัดก็ยังไม่สามารถติดต่อกันได้ด้วยระบบโทรศัพท์ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยรับสั่งว่า ให้ถือว่าพระองค์ท่านทรงเป็น เสมือนพนักงานองค์การโทรศัพท์ฯ คนหน่ึง ทุกคร้ังท่ีพระองค์เสด็จพระราชด�าเนิน ไปที่ใดและพบว่าโทรศัพท์ยังไม่ดีหรือใช้งานได้ไม่สะดวก ก็จะมีพระราชกระแสรับสั่ง ผ่านทางคุณขวัญแก้ว วัชโรทัย หรือเจ้าหน้าที่ศูนย์รักษาความปลอดภัย แม้กระทั่ง ในบางครั้งก็มีพระราชกระแสรับส่ังให้คุณสวาท ศรีข�า อดีตรองผู้อ�านวยการองค์การ โทรศัพท์ฯ และข้าพเจ้า พร้อมทั้งพนักงานองค์การโทรศัพท์ฯ ท่ีเกี่ยวข้อง เข้าเฝ้าฯ มีรับส่ังแจ้งให้ทราบถึงสาเหตุขัดข้องพร้อมท้ังพระราชทานค�าแนะน�าในการแก้ไข… “มีอยู่คร้ังหนึ่ง ประมาณ พ.ศ. ๒๕๑๕ ขณะเสด็จแปรพระราชฐานไปประทับ ณ พระต�าหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทรงเยี่ยมเยียนและแนะน�า อาชพี แกป่ ระชาชนในภาคเหนือ ในเวลาน้ัน องคก์ ารโทรศพั ท์ฯ ไดน้ า� ระบบไมโครเวฟ (Microwave) มาใช้งานเชื่อมโยงโทรศัพท์ทางไกลจากชุมสายเชียงใหม่ถึงกรุงเทพฯ แทนการใช้วิทยุระบบความถี่สูง (High Frequency) แล้ว พระองค์มีรับสั่งว่า ‘วงจร โทรศัพท์ทางไกลในช่วงเวลาประมาณ ๓ นาฬิกา ถึง ๔ นาฬิกา จะมีเสียงหวีด สูงมาก’ และได้พระราชทานข้อวินิจฉัยว่า ‘น่าจะมีวงจรอะไรที่ท�างานบกพร่อง และจะเป็นในช่วงเวลาดึก ๆ เท่านั้น’ คุณสวาท ศรีข�า และข้าพเจ้าก็ได้ด�าเนินการ ค้นหาอยู่นาน ในขณะที่พระองค์ท่านได้ทรงติดตามและแนะน�าหลายคร้ัง จนกระทั่ง มีการแต่งต้ังคณะท�างานและเร่ิมมีการปรับแต่ง Alignment เครื่อง Microwave จากกรุงเทพฯ - เชยี งใหม่ทั้งหมด ผลปรากฏวา่ ความถี่ของสัญญาณบางภาคในเครอื่ ง Multiplex มีการเคลื่อนไป เมื่อได้ท�าการแก้ไขส�าเร็จแล้วก็ได้กราบบังคมทูล รายงานให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทราบปัญหาดังกล่าว เพราะหากไม่มี พระราชกระแสรับส่ังจากพระองค์ เราก็ไม่ทราบว่าวงจรโทรศัพท์มีสภาพเป็นอย่างไร เม่ือการแก้ไขปัญหาเสร็จส้ิน ประชาชนผู้ใช้บริการก็ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่” มีอีกหลายครั้งที่พระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกายมาช่วยตรวจแก้ปัญหา อย่างคราวเสด็จพระราชด�าเนินภาคใต้ท่ีพระต�าหนักทักษิณราชนิเวศน์ สายเคเบิลท่ี พระต�าหนักชั่วคราวเสีย ท�าให้โทรศัพท์เกิดขัดข้อง และตู้พักสายถูกติดตั้งไว้ท่ีใต้ช้ัน วางของ เมื่อพระองค์ท่านทรงทราบก็ทรงก้มพระเศียรเข้าไปใต้ชั้น และทรงตรวจดู 226 พระบรมราชาวิถี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

สายท่ีเสียด้วยพระองค์เอง น�าความ ปลาบปลม้ื ใจแก่พนักงานตรวจแก้ข่ายสาย เป็นอย่างมาก เพราะไม่คิดว่าจะสน พระราชหฤทัยตรวจแก้ไขด้วยพระองค์เอง ในจุดท่ีต้องท�างานด้วยความยากล�าบาก น อ ก จ า ก น้ี ไ ด ้ พ ร ะ ร า ช ท า น คา� แนะนา� อนั เปน็ ประโยชนเ์ สมอ อาทิ กรณี สัญญาณจางหาย (Fading) ที่มักเกิดข้ึน ในภาคเหนือตลอดจนภาคกลางช่วงปลาย ฤดูหนาวเวลาเช้าตรู่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น อากาศในช่วงนั้นมักมีหมอกปกคลุม ซ่ึงมี ผลท�าให้สัญญาณคล่ืนวิทยุ Microwave ขัดข้อง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มีพระราชกระแสรับส่ังให้นายสวาท ศรีข�า และนายปลื้มใจ สินอากร ตรวจสอบและถวายรายงาน แล้วทรงแนะน�าให้ต้ังจานสายอากาศรับส่งสัญญาณเพิ่มข้ึนอีก เพ่ือดักสัญญาณท่ีหักเหเปลี่ยนทิศทาง จากพระราชกระแสรับส่ังดังกล่าว องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยได้รับ ใส่เกล้าใส่กระหม่อมไปปรับปรุงจนท�าให้คุณภาพการให้บริการโทรศัพท์ดีข้ึนมาก ในเวลาต่อมา การเสดจ็ พระราชดา� เนนิ ไปทรงเยย่ี มประชาชนในท้องถน่ิ ตา่ ง ๆ นน้ั บางครั้งวทิ ยุสอ่ื สารไม่สามารถ ติดต่อได้ เน่ืองจากระยะทางไกลหรือภูมิประเทศไม่เอื้ออ�านวย มีสิ่งกีดขวาง พระองค์ท่านได้ทรงแนะน�าให้จัดท�า เครอื่ งทวนสญั ญาณ (Repeater) ขนึ้ เพอื่ เพมิ่ ระยะทางการใชว้ ทิ ยสุ อ่ื สารใหม้ ากขนึ้ เมอื่ องคก์ ารโทรศพั ทฯ์ ไดจ้ ดั ทา� ถวายแลว้ และไดน้ า� เครอ่ื งทวนสญั ญาณวทิ ยสุ อ่ื สารไปใชใ้ นงานตรวจแกข้ า่ ยสายใหส้ ามารถตดิ ตอ่ กบั หนว่ ยงานตา่ ง ๆ โดยเจา้ หนา้ ท่ี ขององคก์ ารโทรศพั ทฯ์ สามารถนา� รถออกไปทา� งานตรวจแกข้ า่ ยสายในระยะทางไกลได้ ซง่ึ พระอจั ฉรยิ ภาพทก่ี ลา่ วมาทง้ั หมด จากความทรงจา� ของนายปลม้ื ใจ สินอากร เปน็ เพยี งส่วนหนึ่งทต่ี วั เขาไดป้ ระสบมาเท่าน้นั 22๗

นำวำอำกำศตรี พยรู เผอื กผอ่ ง ครำวประทับเครื่องบนิ พระท่นี งั่ ของกำรบนิ ไทย วันพุธ ท่ี ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๔ เป็นวันที่บริษัท การบินไทย จ�ากัด (มหาชน) ต้องบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ เม่ือพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร เสดจ็ พระราชดา� เนนิ แปรพระราชฐานไปประทบั ณ พระต�าหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยเที่ยวบินพิเศษ TG 8007 ซงึ่ การบนิ ไทยนอ้ มเกลา้ นอ้ มกระหมอ่ มจดั ถวาย โดยมี นาวาอากาศตรี พยรู เผอื กผอ่ ง เป็นนักบินท่ี ๑ ของเครอ่ื งบินพระท่ีน่ังในครัง้ น้นั แมเ้ หตกุ ารณส์ า� คญั ดงั กลา่ วจะผา่ นพน้ มาเนนิ่ นาน แตภ่ าพแหง่ ความประทบั ใจ ท่ีเกิดขน้ึ ยงั คงอยใู่ นความทรงจ�าของนาวาอากาศตรี พยูร เผือกผ่อง ตราบจนวนั นี้ “นบั แตก่ อ่ ตงั้ บรษิ ทั ฯ มา การบนิ ไทยไมเ่ คยมโี อกาสไดส้ นองพระมหากรณุ าธคิ ณุ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการเสด็จพระราชด�าเนินไปทรงประกอบพระราช- กรณียกิจยังจังหวัดต่าง ๆ เลย เพราะพระองค์จะเสด็จพระราชด�าเนินโดยเครื่องบิน พระทนี่ ง่ั ทกี่ องทพั อากาศจดั ถวายเทา่ นนั้ จนกระทงั่ เมอื่ พ.ศ. ๒๕๓๔ ฝา่ ยบรหิ ารระดบั สงู ของการบินไทยได้ท�าเรื่องกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับเคร่ืองบินของการบินไทยเพ่ือความเป็นสิริมงคลแก่บริษัทฯ ซึ่งพระองค์ท่าน ไดม้ พี ระบรมราชานญุ าตใหก้ ารบนิ ไทยจดั เครอ่ื งบนิ พระราชพาหนะถวายในการเสดจ็ พระราชด�าเนนิ แปรพระราชฐานยังพระต�าหนกั ภูพงิ คราชนเิ วศน์ โดยมผี มเปน็ นกั บนิ ที่ ๑ คุณกมล สุวรรณวัฒนา เป็นนักบินที่ ๒ และพลอากาศเอก เกษตร โรจนนิล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในขณะน้ัน เป็นผู้อ�านวยการเดินทาง ซ่ึงนับเป็นคร้ังแรก และครัง้ เดยี วทกี่ ารบินไทยไดม้ โี อกาสสนองพระมหากรุณาธคิ ณุ พระองค์ทา่ น” เคร่ืองบินพระท่ีน่ังในการเสด็จพระราชด�าเนินแปรพระราชฐานครั้งนั้น เป็น เครอ่ื งบนิ โบอิ้ง ๗๔๗-๔๐๐ ขนาด ๓๗๕ ท่นี ั่ง ซง่ึ พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหา ภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มพระราชทาน นามไวก้ อ่ นหนา้ นว้ี า่ “อลงกรณ”์ เปน็ เครอ่ื งบนิ ลา� ใหมล่ า่ สดุ ของการบนิ ไทยในเวลานนั้ ซึ่งเร่มิ ปฏิบัตกิ ารบินเมือ่ วนั พฤหสั บดี ที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๔ นอกจากเหล่าข้าราชบริพาร คณะผู้ตามเสด็จบนเท่ียวบินประวัติศาสตร์ของ การบนิ ไทยยงั ประกอบดว้ ยขา้ ราชการชน้ั ผใู้ หญ่จาก ๔ หน่วยงาน คอื กองทพั อากาศ การบินไทย การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย และกรมต�ารวจ อาทิ พลอากาศเอก เกษตร โรจนนิล ผู้บัญชาการทหารอากาศ พลอากาศเอก สุเทพ เทพรักษ์ ผู้ช่วย ผบู้ ญั ชาการทหารอากาศ พลอากาศเอก ประชมุ ฉายศริ ิ ผชู้ ว่ ยผบู้ ญั ชาการทหารอากาศ และพลอากาศเอก อนนั ต์ กลนิ ทะ เสนาธกิ ารทหารอากาศ พลอากาศเอก วรี ะ กจิ จาทร กรรมการผอู้ า� นวยการใหญบ่ รษิ ทั การบนิ ไทย จา� กดั รอ้ ยตา� รวจโท ฉตั รชยั บญุ ยะอนนั ต์ กรรมการรองกรรมการผู้อ�านวยการใหญ่ เรืออากาศเอก อุดม กฤษณัมพก รองกรรมการผ้อู า� นวยการใหญ่ และเรอื อากาศโท ชูศักด์ิ นาชยั ยทุ ธ รน. ผอู้ �านวยการ ฝา่ ยชา่ ง จากการบนิ ไทย พลอากาศเอก สมบญุ ระหงษ์ ผวู้ า่ การการทา่ อากาศยาน แห่งประเทศไทย และพลตา� รวจเอก สวัสดิ์ อมรววิ ฒั น์ อธิบดกี รมตา� รวจ “ในคร้ังน้ันทุกหน่วยงานต่างเตรียมความพร้อมกันอย่างละเอียดรอบคอบ ท่ามกลางความต่ืนเต้นยินดีของเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทุกคน โดยเฉพาะการบินไทย ซงึ่ ปลมื้ ปตี เิ ปน็ ลน้ พน้ ทจ่ี ะไดส้ นองงานใตเ้ บอื้ งพระยคุ ลบาทองคพ์ ระประมขุ ของประเทศ เพราะโอกาสทจ่ี ะได้ปฏบิ ัตงิ านถวายพระองค์ทา่ นเช่นน้ีไมใ่ ชเ่ ร่ืองงา่ ย ๆ ทกุ หน่วยงาน 228 พระบรมราชาวิถี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

ต่างเตรียมพร้อมทั้งในด้านการถวายความปลอดภัยและการก�าหนดเส้นทางบินใหม่ เพราะปกติการบินในเส้นทาง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เป็นการบินระยะส้ันที่ใช้เวลาบินเพียง ๔๕ นาที แต่เนื่องจากเท่ียวบินพิเศษนี้เป็นเที่ยวบินภาคค�่า เราจึงก�าหนด Flight Plan ขึ้นใหม่ เพื่อให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีช่วงเวลาประทับพักผ่อนพระราชอิริยาบถ และเสวยพระกระยาหารค�่าได้นานขึ้น โดยจะบินอ้อมจากกรุงเทพฯ ผ่านนครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี เลย แพร่ เชยี งราย แลว้ จึงเข้าเชียงใหม่ เส้นทางบินใหมน่ ้ี ใช้เวลาบินท้งั สนิ้ ประมาณ ๑ ชั่วโมง ๓๐ นาท…ี “ในฐานะนกั บนิ เราตอ้ งเตรยี มความพรอ้ มในการปฏบิ ตั กิ ารบนิ ตลอดเวลาอยแู่ ลว้ แตเ่ มอื่ ไดร้ บั มอบหมายใหป้ ฏบิ ตั ิ งานถวายแด่องค์พระมหากษตั รยิ ์ ความรสู้ กึ แรก คือดใี จและปลมื้ ใจ ขณะเดยี วกันความรสู้ กึ ต่อมา คอื เครียดและกงั วลวา่ จะปฏิบัติหน้าที่ได้ดีที่สุดได้หรือไม่ แต่เพราะผมรู้สึกภูมิใจและถือว่าการปฏิบัติงานถวายครั้งนี้คือสิริมงคลสูงสุดของชีวิต ในฐานะท่ีเกิดมาเป็นคนไทย อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทยภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระองค์ท่าน เม่ือบริษัทฯ ให้โอกาสท่ดี ที ่สี ุดแกผ่ ม ผมจงึ ต้ังใจทา� งานถวายพระองค์ทา่ นด้วยชวี ติ เลย” การปฏิบัติหน้าที่นักบินที่ ๑ ประจ�าเคร่ืองบินพระท่ีน่ัง นอกจากจะน�ามาซึ่งความปลาบปลื้มและภาคภูมิใจแก่ นาวาอากาศตรี พยูร เผอื กผ่องแล้ว ยงั ถอื เปน็ ชว่ งเวลาพิเศษสดุ ในชวี ิตนกั บินของเขาอีกด้วย “เหตุการณ์ในวันน้ัน เรียกได้ว่าเป็นความประทบั ใจในชวี ติ ทผี่ มไมม่ วี นั ลมื โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ตอนทพี่ ระองคท์ า่ น เสวยพระกระยาหารค�่าเสร็จ แล้วเสด็จพระราชด�าเนินมายังห้องท�างานของนักบิน มีพระราชกระแสรับส่ังกับนักบิน ด้วยพระอารมณ์ขันว่า ‘วันนี้กัปตันบินหลงทาง’ ผมและนักบินที่ ๒ ต่างก็ปลาบปล้ืมและประทับใจมาก ที่พระองค์มี พระราชปฏสิ นั ถารกบั พวกเรา” ทกุ ๆ รายละเอยี ดของเทยี่ วบนิ พเิ ศษ TG 8007 เสน้ ทางเสดจ็ พระราชดา� เนนิ กรงุ เทพฯ - เชยี งใหม่ จงึ ยงั คงอยใู่ น ความทรงจา� ของนาวาอากาศตรี พยูร เผือกผ่อง และมสี มดุ บันทกึ เลม่ เล็กใช้บันทกึ เหตกุ ารณป์ ระวตั ิศาสตรใ์ นคร้งั นน้ั ไว้ อยา่ งถถี่ ว้ น ทงั้ รายละเอยี ดของเสน้ ทางบนิ รายชอื่ เจา้ หนา้ ทผี่ ปู้ ฏบิ ตั กิ ารบนเทยี่ วบนิ คณะผตู้ ามเสดจ็ ไมเ่ วน้ แมก้ ระทง่ั รายละเอยี ดเกย่ี วกบั พระกระยาหารทจี่ ดั ถวายบนเครอ่ื งบนิ พระทนี่ ง่ั หลงั จากจัดเคร่อื งบินพระราชพาหนะถวายในครงั้ น้ัน การบินไทยก็ไมม่ โี อกาสปฏบิ ตั ิงานถวายเกยี่ วกบั อากาศยาน พระราชพาหนะอีกเลย แตถ่ งึ กระน้ันความจงรกั ภักดที เ่ี จ้าหน้าทที่ กุ คนถวายแดพ่ ระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ล อดุลยเดช บรมนาถบพติ ร กไ็ มเ่ คยเสื่อมคลาย “เมอ่ื ผมไดเ้ หน็ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ครงั้ ใด กอ็ ดไมไ่ ดท้ จ่ี ะหวนนกึ ถงึ เหตกุ ารณท์ เี่ คยปฏบิ ตั งิ านถวายพระองค์ มโี อกาสไดส้ มั ผสั กบั พระเมตตาของพระองคด์ ว้ ยตวั เอง ตลอดอายกุ ารทา� งานในฐานะนกั บนิ ของผม ผา่ นเหตกุ ารณส์ า� คญั มามากมาย ต่ืนเต้นก็มาก ประทับใจก็มี แต่เหตุการณ์ซึ่งถือว่าเป็นท่ีสุดของชีวิตท่ีจะอยู่ในความทรงจ�าไปตลอด คอื การไดม้ โี อกาสเปน็ นกั บนิ บงั คบั อากาศยานพระราชพาหนะถวายพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี ๙” 229

นำยพเิ ชยี ร เจรญิ กลกิจ บญุ พระครองครอบเกล้ำ...ชำวทำง เมอ่ื วนั อังคาร ท่ี ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๑ ณ พระต�าหนักภูพงิ คราชนเิ วศน์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร มีพระราชกระแส รับส่ังกับนายเฉลียว วัชรพุกก์ อธิบดีกรมทางหลวงในขณะน้ัน ให้พิจารณาปรับปรุง เส้นทางสายบ้านวาก - บ้านใหม่ - บ้านแม่ตะไคร้ เพ่อื ช่วยเหลอื ราษฎรบ้านใหมแ่ ละ บ้านแม่ตะไคร้ให้สามารถเดินทางมาสู่อ�าเภอสันก�าแพงได้โดยสะดวกข้ึน เนื่องจาก ทางเดมิ นน้ั มคี วามคบั แคบและผา่ นภเู ขาสงู ชนั โดยเฉพาะในฤดฝู นไมส่ ามารถใชส้ ญั จร ผ่านได้เลย ท้ัง ๆ ที่อยู่ห่างจากอ�าเภอสันก�าแพงไม่ถึง ๒๕ กิโลเมตร ในวันถัดมา นายเฉลยี ว วชั รพุกก์ จึงมีค�าส่ังให้ แขวงการทางลา� พูนเข้ามารับผิดชอบงานนใ้ี นทันที ซงึ่ นัน่ ถอื เป็นจดุ เริม่ ต้นของหนา้ ทีร่ าชการท่สี �าคัญและมีคุณคา่ ย่งิ ยาวนานถึง ๗ ปเี ต็ม ของนายพิเชียร เจริญกลกจิ นายชา่ งแขวงการทางลา� พูนขณะนน้ั นายพเิ ชยี ร เจรญิ กลกจิ ไดจ้ ดั ประชมุ ผเู้ กยี่ วขอ้ งทกุ คนเพอื่ แจง้ ใหท้ ราบถงึ ความ ไว้วางใจจากอธิบดีกรมทางหลวงให้ท�างานสนองพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนั้น ซง่ึ นบั เปน็ เกยี รตปิ ระวตั ขิ องแขวงการทางลา� พนู และเจา้ หนา้ ทซ่ี ง่ึ นอ้ ยคนนกั ทจ่ี ะมโี อกาส และต้งั หน่วยเฉพาะกิจเตรียมเขา้ พน้ื ทท่ี ันที “หวั ใจของการปรบั ปรงุ ทางสายนอี้ ยทู่ ก่ี ารควบคมุ การไหลของนา้� บนภเู ขาในฤดฝู น มงุ่ เนน้ ไปในการวางทอ่ และการทา� รางระบายนา�้ โดยการสา� รวจดลู กั ษณะภมู ปิ ระเทศ วา่ ควรทา� ทดี่ กั นา้� รางระบายนา�้ ทอ่ ฯลฯ ณ จดุ ไหน จากนนั้ แขวงฯ ล�าพนู ไดใ้ ชเ้ วลา การสรา้ งเพยี ง ๔๐ วนั แลว้ เสรจ็ เมอื่ ตน้ เดอื นพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๑ ชว่ ยใหก้ ารจราจร สามารถผา่ นไปไดด้ ว้ ยความเรว็ เฉลยี่ ๖๐ กโิ ลเมตรตอ่ ชว่ั โมง ซง่ึ ผสู้ ญั จรสามารถเดนิ ทาง จากบา้ นวากถงึ บา้ นแมต่ ะไครด้ ว้ ยเวลาเพยี ง ๑๒ - ๑๕ นาที นอ้ ยลงกวา่ เดมิ ถงึ ๔ เทา่ ตวั และโครงการดงั กลา่ วใชง้ บประมาณเพยี งกโิ ลเมตรละประมาณ ๔๐,๐๐๐ บาทเทา่ นนั้ ” จากผลงานดังกล่าวของแขวงการทางล�าพูน นายพิเชียร เจริญกลกิจ ได้รับ พระมหากรณุ าธคิ ณุ ใหเ้ ขา้ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาทเพอ่ื รบั พระราชทานเลย้ี งอาหารคา่� ณ พระตา� หนกั ภพู งิ คราชนเิ วศน์ พรอ้ มดว้ ยคณะเจา้ หนา้ ทกี่ รมทางหลวง ซงึ่ ในโอกาส ดงั กลา่ ว พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร มพี ระราชดา� ริ ในการกอ่ สรา้ งเสน้ ทางตอ่ จากสายบา้ นวาก - บา้ นใหม่ - บา้ นแมต่ ะไคร้ โดยการตดั ขา้ ม ภเู ขาผา่ นมายงั จดุ ทจ่ี ะกอ่ สรา้ งเขอื่ นแมท่ า ไปบรรจบกบั บา้ นหว้ ยแกว้ ทหี่ มบู่ า้ นสหกรณ์ สนั กา� แพงแปลง ๖ โครงการก่อสร้างเส้นทางสายใหม่ เป็นโครงการท่ีมีความยากและมีอุปสรรค มากกว่าเส้นทางแรกอยู่มาก ซ่ึงนายพิเชียร เจริญกลกิจ ได้เร่งวางแผนการท�างาน สนองพระราชดา� รดิ งั กลา่ วในทนั ที กอ่ นจะไดร้ บั แจง้ วา่ ในการลงพนื้ ทส่ี า� รวจเสน้ ทางนน้ั สมเดจ็ พระบรมโอรสาธริ าช เจา้ ฟา้ มหาวชริ าลงกรณ สยามมกฎุ ราชกมุ าร (พระราช- อสิ รยิ ยศขณะนน้ั ) จะเสดจ็ พระราชดา� เนนิ ไปรว่ มสา� รวจดว้ ย “ในการสา� รวจครงั้ แรก คณะสา� รวจฯ รวมทง้ั สนิ้ ประมาณ ๒๐ คน เดนิ ทางมาถงึ บา้ นแมต่ ะไคร้ เมอื่ เวลาประมาณ ๑๑.๐๐ น. เพอื่ เขา้ สา� รวจแนวทางทคี่ าดวา่ จะเปน็ ไปได้ ในการก่อสรา้ ง ภูมิประเทศที่เดินทางเข้าไปส�ารวจน้ัน เปน็ ภูเขาและหุบเหว ปกคลมุ ไปดว้ ยตน้ ไมน้ านาพนั ธท์ุ คี่ อ่ นขา้ งหนาทบึ มรี อ่ งนา�้ ลา� ธารทมี่ นี า�้ ใสสะอาดไหลอยตู่ ลอด เวลา ทกุ คนตา่ งขนึ้ เขาลงหว้ ยบกุ ปา่ ฝา่ ดงกนั ดว้ ยความทรหดอดทน ขา้ พเจา้ เองขณะนน้ั อายไุ ด้ ๓๗ ปี แมจ้ ะยงั มไิ ดอ้ ยใู่ นวยั ชราภาพ แตด่ ว้ ยความทห่ี า่ งเหนิ จากการเดนิ ปา่ เขา มาหลายปี ประกอบกับความต่ืนเต้นท่ีต้องตามเสด็จสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกฎุ ราชกมุ าร อยา่ งไมเ่ คยคาดคดิ มากอ่ น ทา� ใหร้ สู้ กึ เหนด็ เหนอื่ ยพอสมควรทเี ดยี ว 230 พระบรมราชาวิถี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

แตก่ ไ็ มก่ ลา้ แสดงอาการออกมา คณะส�ารวจไดก้ ลบั ออกจากปา่ เมอื่ เวลาประมาณ ๑๗.๓๐ น. รวมเวลาทส่ี า� รวจภมู ปิ ระเทศ อยใู่ นปา่ ในวนั นน้ั ประมาณ ๖ ชวั่ โมง” เมอื่ ไดข้ อ้ มลู จากการสา� รวจเรยี บรอ้ ย เจา้ หนา้ ทที่ กุ คน เริ่มพบว่างานนี้มีอุปสรรคท่ีขวางหน้าอยู่มิใช่น้อย หากต้อง ตัดทางใหม่ผ่านป่าเขาสูงชันที่มีความยาวถึง ๒๐ กิโลเมตร และตอ้ งกอ่ สรา้ งสะพานขา้ มลา� นา้� อกี ๒ แหง่ แตไ่ มว่ า่ อยา่ งไร เจา้ หนา้ ทท่ี กุ คนลว้ นทมุ่ เทก�าลงั และปญั ญาสงู สดุ เพอ่ื ใหง้ านน้ี สา� เรจ็ ลงใหไ้ ด้ ตามปณธิ านทช่ี าวกรมทางหลวงถอื เปน็ ครรลอง ในการปฏบิ ตั ริ าชการตลอดมาทกุ สมยั “เป้าหมายของเราก็คือ จะต้องก่อสร้างทางสายนี้ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟา้ มหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงร่วมส�ารวจเส้นทางบ้านแม่ตะไคร้ - บา้ นหว้ ยแกว้ สามารถสญั จรผา่ นไดท้ กุ ฤดกู าล และตง้ั ใจใหเ้ สรจ็ ทนั รบั เสดจ็ อ�าเภอสันก�าแพง จงั หวดั เชยี งใหม่ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ในชว่ งตน้ ปี พ.ศ. ๒๕๒๓ ใหไ้ ด้ ซง่ึ พวกเราสามารถตดั เขา ถมเหว ระเบดิ หนิ ท่ี กม. ๓ และ กม. ๔ รวมทง้ั เจาะแนวทางใหท้ ะลถุ งึ กนั ไดอ้ ยา่ งทหี่ วงั ในวนั ท่ี ๕ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๒๒ ถอื เปน็ การฉลองพระชนมพรรษาและสนองพระมหากรณุ าธคิ ณุ หลงั จากนนั้ กเ็ รง่ ขยายและขนึ้ รปู คนั ทาง ฝงั ทอ่ คสล. ทา� รางระบายนา�้ และทา� ผวิ ทางลกู รงั บดอดั แนน่ เปน็ งานสดุ ทา้ ย… “แทบจะทนั ทที ง่ี านแลว้ เสรจ็ ในวนั จนั ทร์ ที่ ๒๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๓ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงขบั รถยนตพ์ ระทน่ี ง่ั พรอ้ มดว้ ยสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี และสมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ จฬุ าภรณวลยั ลกั ษณ์ อคั รราชกมุ ารี จากพระตา� หนกั ภพู งิ คฯ ผา่ นหมบู่ า้ นสหกรณส์ นั กา� แพง ผา่ นเสน้ ทางสายบา้ นแมต่ ะไคร้ - บา้ นหว้ ยแกว้ ซงึ่ พวกเราชาวกรมทางหลวง ทมุ่ เททง้ั ใจและกายกอ่ สรา้ งสนองพระราชดา� ร…ิ “ในวนั นนั้ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ ลงจากรถยนตพ์ ระทนี่ ง่ั ทรงพระดา� เนนิ มายงั แถวรอรบั เสดจ็ คณะเจา้ หนา้ ที่ ทง้ั หมดจงึ กราบบงั คมทลู รายงานตวั จากนน้ั พระองคก์ แ็ ยม้ พระสรวล และมพี ระราชดา� รสั สนั้ ๆ วา่ ‘ทางสวยมาก’ “เปน็ ๓ คา� ทยี่ งั ความปลม้ื ปตี แิ กพ่ วกเราเปน็ ลน้ พน้ ความเหนด็ เหนอื่ ยและความวติ กกงั วลนานปั การอนั ตรธานหายไป หมดสนิ้ ในบดั นนั้ ” กลางเดอื นสงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๒๗ หลงั จากนายพเิ ชยี ร เจรญิ กลกจิ ปฏบิ ตั ริ าชการสนองพระราชดา� รมิ าเปน็ เวลา ๖ ปี ไดม้ ี หนงั สอื จากสา� นกั ราชเลขาธกิ าร ใหเ้ ขา้ เฝา้ ทลู ละอองพระบาทสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า เจา้ ฟา้ มหาจกั รสี ริ นิ ธร สยามบรมราชกมุ ารี ผแู้ ทนพระองค์ เพอื่ รบั พระราชทานเหรยี ญรตั นาภรณ์ ณ ศาลาดสุ ดิ าลยั สวนจติ รลดา ในวนั เสาร์ ท่ี ๒๕ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๒๗ ซง่ึ นบั เปน็ เกยี รตปิ ระวตั สิ งู สดุ ในชวี ติ การทา� งานกรมทางหลวงของนายพเิ ชยี ร เจรญิ กลกจิ 231

นำยไพบลู ย์ ลิมปพยอม ชมุ สำยโทรศัพท์จติ รลดำ จากพระราชกระแสรบั สงั่ ของพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร ท่วี ่า “ให้ยึดถือความถูกต้องเป็นหลักการท�างาน มีปัญหาอะไรแก้ไขไม่ได้... ตอ้ งบอก อยา่ กลัวผ้สู ่งั ไมใ่ ช่สั่งแลว้ ต้องทา� ได้ทุกเรอ่ื ง” นายไพบลู ย์ ลมิ ปพยอม ไดน้ อ้ มรับกระแสพระราชดา� รัสใสเ่ กล้าใสก่ ระหมอ่ ม ด้วยความประทับใจในแนวพระราชด�าริและยึดถือเป็นหลักในชีวิตการท�างาน ตลอดมา ขณะท่ีนายไพบูลย์ ลิมปพยอม ปฏิบัติงานอยู่ในองค์การโทรศัพท์แห่ง ประเทศไทย ได้มีโอกาสปฏิบัติหน้าท่ีสนองงานพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เกี่ยวกับกิจการสื่อสารด้านโทรศัพท์มา ต้ังแต่ พ.ศ. ๒๕๑๕ มีหน้าที่รับผิดชอบงานด้านอุปกรณ์ตอนนอก ในเขตโทรศัพท์ นครหลวง ครอบคลุมพ้ืนที่กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี และปทุมธานี คือความภาคภูมิใจซึ่งถือเป็นมงคลแห่งชีวิต “สมัยน้ันโทรศัพท์มีปัญหาด้านการบริการมาก เนื่องจากสภาพของเคเบิล สายใต้ดิน สายแขวนอากาศตามเสาค่อนข้างเก่า ท�าให้ผู้ใช้งานไม่ได้รับความสะดวก รวมถึงภายในบริเวณพระบรมมหาราชวังและพระต�าหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต นอกจากน้ันสภาพของข่ายสายก็ไม่น่ามองเท่าไรนัก ท้ังสกปรก รกรุงรัง ไม่เหมาะสมกับสถานที่อันควรแก่สายตาของประชาชนทั่วไป… “องค์การโทรศัพท์ฯ ในตอนนั้นจึงได้จัดท�าโครงการพิเศษปรับปรุงสภาพ ข่ายสายทั้งหมด น�าสายที่แขวนรุงรังตามเสาไปร้อยลงท่อใต้ดิน และเปลี่ยนมา ใช้สายประเภทปลอดจากการรบกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ตลอดจนจัด กองงานพิเศษถวายส�าหรับการบ�ารุงรักษาตลอด ๒๔ ชั่วโมง กระทั่งข้าพเจ้า มาด�ารงต�าแหน่งผู้อ�านวยการองค์การโทรศัพท์ฯ ได้มีโอกาสปฏิบัติงานถวาย พระองค์ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม นับเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดและถือเป็นงานที่ ปฏิบัติอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงชีวิตการท�างานของข้าพเจ้า” นายไพบูลย์ ลิมปพยอม จดจ�าช่วงเวลาน้ันได้เป็นอย่างดี เม่ือคร้ังท่ีมีโอกาส เข้าไปปฏิบัติงานถวาย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานค�าแนะน�าเก่ียวกับงานด้านโทรศัพท์อยู่เสมอ หลายครั้งท่ีโทรศัพท์เสียและเจ้าหน้าท่ียังหาสาเหตุไม่พบ ก็มักจะได้รับค�าแนะน�า จากพระองค์ส�าหรับน�าไปแก้ไขได้จนส�าเร็จอยู่หลายครั้ง ในระยะแรกท่ีต้องเข้าไปดูแลระบบโทรศัพท์ในพระต�าหนักจิตรลดา รโหฐาน พระราชวังดุสิต เจ้าหน้าที่ทุกคนจะเกรงกลัวพระองค์ท่านมาก พระองค์ จึงมีพระราชปฏิสันถารด้วยบ่อย ๆ เพ่ือให้เจ้าหน้าท่ีเกิดความคุ้นเคย และรู้สึกว่า พระองค์เสมือนพระอาจารย์ผู้รอบรู้ ท้ังเคยมีรับส่ังว่า พระองค์ทรงเป็นพนักงาน ขององค์การโทรศัพท์คนหนึ่ง ฉะน้ันอย่าได้เกรงกลัวท่าน ความประทับใจเรื่องหนึ่งในหลาย ๆ เรื่องของนายไพบูลย์ ลิมปพยอม ที่ได้ ปฏิบัติงานราชการสนองเบื้องพระยุคลบาทมาตลอด ๒๐ ปี คือพระปรีชาสามารถ ทางวิทยาการสมัยใหม่ท่ีพระองค์ทรงติดตามอยู่เสมอ บางครั้งทรงให้ค�าแนะน�า ในการตรวจแก้แก่ช่างโทรศัพท์เสียเอง เพราะบางคร้ังคนท�างานมักจะมองข้าม สาเหตุเล็กน้อยไป 232 พระบรมราชาวิถี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

เรื่องที่ชาวองค์การโทรศัพท์ฯ ภาคภูมิใจสูงสุดคือ การได้รับ พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้สร้างอาคาร “ชุมสายโทรศัพท์ จิตรลดา” ข้ึนภายในบริเวณพระต�าหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๒ อันถือเป็นเกียรติยศหนึ่งในการท�างานของนายไพบูลย์ ลิมปพยอม ซ่ึงได้รับแต่งต้ังให้เป็นหัวหน้าชุมสาย และผู้เช่ารายหน่ึง ของชุมสายน้ีคือ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร “ในช่วงท่ีพระองค์เสด็จแปรพระราชฐานไปยังพระต�าหนักต่าง ๆ เปน็ เวลาทข่ี า้ พเจา้ จะตอ้ งเขา้ ไปตรวจสอบดแู ลความเรยี บรอ้ ยของเครอื่ งโทรศพั ท์ และสายโทรศัพท์ท่ีอยู่ในพระต�าหนักทุกจุด ซ่ึงน่ันเป็นความภาคภูมิใจส่วนตัว ของข้าพเจ้าท่ีได้มีโอกาสสนองงานใต้เบ้ืองพระยุคลบาทส่วนพระองค์... “ขณะเดียวกัน ในการเสด็จแปรพระราชฐานไปยังพระต�าหนักต่าง ๆ ทางองค์การโทรศัพท์ฯ ได้จัดท�าระบบโทรศัพท์ถวายเป็นตู้สาขา ก่อนที่ พระองค์ท่านจะเสด็จ โดยเจ้าหน้าที่ต้องเตรียมการตั้งวงจรพิเศษไว้ล่วงหน้า เน่ืองจากสมัยก่อนยังไม่เป็นระบบอัตโนมัติ กระทั่งต่อมาเมื่อมีการพัฒนา ด้านเทคโนโลยีมากข้ึน องค์การโทรศัพท์ฯ ก็ได้จัดถวายอุปกรณ์สื่อสาร ประเภทต่าง ๆ เพ่ือใช้ในกิจการส่วนพระองค์ส�าหรับใช้ติดต่อส่ือสาร ได้ท่ัวประเทศ โดยมีระบบส่ือสารดาวเทียมเคลื่อนท่ีตามเสด็จฯ ทั้งหมด ไม่เว้นแม้ในพื้นที่ทุรกันดาร” 233

อคั รมหำรำชำ ปิ่นฟำ้ คมนำคม หากให้ย้อนรอยความทรงจ�าเก่ียวกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ในชว่ งทผ่ี มรบั ราชการตง้ั แตก่ รมไปรษณยี โ์ ทรเลขจนกระทง่ั เปน็ ปลดั กระทรวงคมนาคม ทตี่ อ้ งดแู ลการพฒั นาโครงสรา้ งพน้ื ฐานดา้ นการขนสง่ ทางบก การขนส่งทางน�้า การขนส่งทางอากาศ การสื่อสารโทรคมนาคม และอุตุนิยมวิทยา ผมได้น้อมน�าพระราชด�าริของพระองค์ท่านมาเป็นหลักคิด และใช้เป็นแนวทาง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านต่าง ๆ พระองค์ทรงมีพระอัจฉริยภาพอย่างย่ิง ในทกุ ๆ ดา้ น ซง่ึ แตล่ ะดา้ นคอื การพฒั นา แกไ้ ขปญั หาเพอ่ื ประโยชนต์ อ่ ประชาชนทง้ั สน้ิ นำยมหดิ ล จันทรำงกูร 234 พระบรมราชาวิถี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

ในด้านการสื่อสาร ทรงเน้นถึงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เก่ียวข้อง การศึกษาค้นคว้า ทางวิชาการใหล้ กึ ซึง้ และกว้างขวางให้มากขนึ้ ซ่งึ นอกจากพระราชทานแนวคิดแลว้ พระองค์ ยงั ทรงศกึ ษาดว้ ยพระองคเ์ องอกี ตา่ งหาก ประยกุ ตใ์ ชว้ ทิ ยาการสมยั ใหมด่ า้ นสอ่ื สารดาวเทยี ม ดา้ นคอมพวิ เตอร์ และสอื่ สารอตุ นุ ยิ มวทิ ยา เพอ่ื ชว่ ยเหลอื เกษตรกร และพระราชทานแนวทาง แกไ้ ขปญั หาลดผลกระทบจากภยั ธรรมชาตติ ่าง ๆ ให้ดว้ ย ถนนหนทาง สะพานหลาย ๆ แห่ง ทเี่ กดิ ขน้ึ เพื่อการแก้ปัญหาจราจรของประเทศ และ แม้กระทัง่ การตดั ถนนเขา้ สชู่ นบท เพอ่ื เปน็ เส้นทางการขนส่งและการเดนิ ทางของประชาชน ล้วนแล้วแต่เป็นเร่ืองที่กระทรวงคมนาคมน้อมน�าพระราชด�ารัสในโอกาสต่าง ๆ ตลอดจน แนวพระราชดา� รมิ าปฏบิ ตั เิ พอ่ื สรา้ งความอยดู่ กี นิ ดใี หเ้ กดิ ขน้ึ ตามพระราชปณธิ านของพระองค์ พระองค์ทรงเปน็ “อคั รมหาราชา ปิน่ ฟา้ คมนาคม” อยู่เหนอื เกศเกลา้ ชาวคมนาคม และปวงชนชาวไทย ด้วยพระมหากรณุ าธคิ ุณสูงสดุ อนั ประมาณมไิ ด้ 235

นำยวันชยั ศำรทลู ทัต กำรขจดั ครำบน�้ำมนั ในทะเล ดว้ ยความสนพระราชหฤทยั ในดา้ นสงิ่ แวดลอ้ มเปน็ อยา่ งยงิ่ โดยเฉพาะในแหลง่ นา�้ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร มีพระราชกระแส รบั สง่ั ใหด้ แู ลรกั ษาสภาพแวดลอ้ มและปอ้ งกนั แกไ้ ขมลพษิ ทเี่ กดิ ขน้ึ กบั แหลง่ นา�้ อยเู่ สมอ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๕ ระหว่างที่ นายวันชัย ศารทูลทัต ด�ารงต�าแหน่งอธิบดี กรมการขนสง่ ทางนา้� และพาณชิ ยนาวี (ปจั จบุ นั คอื กรมเจา้ ทา่ ) ไดม้ โี อกาสทา� งานดา้ น การดแู ลรกั ษาสภาพแวดลอ้ มทางนา้� สนองพระราชดา� รใิ นพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ซึ่งถอื เป็นความภาคภูมิใจสูงสุดในชีวิตราชการ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใส่พระราชหฤทัยในเร่ืองการอนุรักษ์ ส่ิงแวดล้อมทางทะเลมาโดยตลอด กรมการขนส่งทางน้�าและพาณิชยนาวีในฐานะ หนว่ ยงานทมี่ หี นา้ ทด่ี แู ลในดา้ นนโี้ ดยตรง จงึ สนองพระราชดา� รดิ ว้ ยการดา� เนนิ นโยบาย ทัง้ ในทางป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบตอ่ ส่งิ แวดล้อมทางน�้าอยา่ งต่อเนอ่ื ง… “ในช่วงท่ีผมเป็นอธิบดีกรมการขนส่งทางน�้าและพาณิชยนาวี ได้มีการต่อเรือ อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อปฏิบัติหน้าท่ีขจัดคราบน้�ามันท่ีจะก่อให้เกิดปัญหา มลพิษทางทะเล และใช้ส�าหรับฝึกอบรมบุคลากรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนให้มี ความรู้ความเข้าใจในการป้องกันและแก้ปัญหามลพิษทางทะเลอย่างต่อเน่ือง โดยท่ี เมอื่ เรอื สรา้ งเสรจ็ กรมการขนสง่ ทางนา�้ และพาณชิ ยนาวไี ดก้ ราบบงั คมทลู เชญิ พระองค์ เสด็จพระราชด�าเนินมาทรงเจิมป้ายเรือเพื่อความเป็นสิริมงคล ทั้งยังทรงพระกรุณา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานนามแก่เรือล�าน้ีว่า ‘ชลธารานุรักษ์’ ยังความ ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณแก่ข้าราชการกรมการขนส่งทางน้�าและพาณิชยนาวี อย่างหาทส่ี ุดมไิ ด้” เหตกุ ารณใ์ นวนั นน้ั ตราตรงึ อยใู่ นความทรงจา� ของนายวนั ชยั ศารทลู ทตั และสรา้ ง ขวญั กา� ลงั ใจแกข่ า้ ราชการกรมเจา้ ทา่ (กรมการขนสง่ ทางนา�้ และพาณชิ ยนาวขี ณะนนั้ ) ทุกคน โดยเฉพาะช่วงท่ีพระองค์ท่านเสด็จพระราชด�าเนินมาทรงเจิมป้ายช่ือเรือ เมอ่ื วนั จนั ทร์ ที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๕ ไดม้ ีพระราชด�ารสั กบั ขา้ ราชการทีเ่ ขา้ เฝ้า ทูลละอองธลุ พี ระบาทวา่ “เหนื่อยหนอ่ ยนะ” เพราะทรงเห็นวา่ การทา� งานดแู ลรกั ษา สิ่งแวดล้อมทางทะเลเป็นภารกิจที่บรรลุผลส�าเร็จได้ไม่ง่าย จึงทรงให้ก�าลังใจแก่ ขา้ ราชการทป่ี ฏบิ ตั งิ านดว้ ยพระเมตตา ทา� ใหข้ า้ ราชการทกุ คนตา่ งปลม้ื ปตี แิ ละมคี วามตงั้ ใจ ในการปฏบิ ัตหิ นา้ ทเ่ี พ่ือสนองพระราชด�าริอย่างสดุ ความสามารถ เพียง ๑๐ วันหลังจากนั้นได้เกิดอุบัติเหตุเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ชนกับ เรือบรรทุกน�้ามันใกล้บริเวณทางเข้าท่าเรือแหลมฉบัง ท�าให้น�้ามันเตาอันเป็นน้�ามัน เชอื้ เพลงิ ของเรอื รวั่ ไหลลงสทู่ ะเล จงึ ถอื เปน็ ครงั้ แรกทเ่ี รอื ชลธารานรุ กั ษไ์ ดอ้ อกปฏบิ ตั กิ าร ขจดั คราบน้า� มันในทะเล และทา� หน้าทไี่ ดอ้ ย่างสมบรู ณต์ ามที่คาดหวงั ไว้ ตลอดชว่ งเวลาทเี่ กดิ เหตกุ ารณค์ รงั้ นน้ั พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ล อดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงติดตามสถานการณ์ด้วยความสนพระราชหฤทยั และ ทรงห่วงใยในปัญหามลพิษทางทะเลที่จะเกิดขึ้น ซึ่งนายวันชัย ศารทูลทัต ในฐานะ อธิบดีกรมการขนส่งทางน�้าและพาณิชยนาวีได้กราบบังคมทูลรายงานการปฏิบัติการ แก้ปัญหาในทุกข้ันตอนให้พระองค์ทรงทราบอย่างต่อเน่ือง รวมทั้งได้ถ่ายภาพ รายละเอยี ดตา่ ง ๆ ทง้ั สภาพคราบนา�้ มนั ทเ่ี กดิ ขนึ้ และหลงั เสรจ็ สนิ้ ปฏบิ ตั กิ ารดว้ ยตนเอง ถวายใหพ้ ระองค์ท่านทอดพระเนตรโดยละเอียด ในเวลาต่อมาไม่นานก็เกิดอุบัติเหตุเรือบรรทุกสารเคมีเกยต้ืนชนหินฉลามท่ี อ�าเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ท�าให้น้�ามันเตาไหลร่ัวลงสู่ทะเลอีกคร้ัง พระบาทสมเด็จ 236 พระบรมราชาวิถี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มใหส้ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า เจ้าฟา้ มหาจกั รสี ิรนิ ธร สยามบรมราชกมุ ารี ตดิ ตามผลการดา� เนนิ การอยา่ งใกลช้ ิดเพอ่ื กราบบงั คมทลู รายงานให้พระองค์ ทรงทราบ จากทั้งสองเหตุการณ์จะเห็นได้ว่าพระองค์ทรงมีความเป็นห่วงในปัญหามลพิษท่ีเกิดข้ึนเป็นอย่างย่ิง และทรงใส่ พระราชหฤทยั ในทกุ รายละเอยี ด ทง้ั ๆ ทท่ี รงมพี ระราชภารกจิ มากมาย แตไ่ มเ่ คยทรงละเลยในทกุ ๆ เรอื่ งทอี่ าจกอ่ ใหเ้ กดิ ผลกระทบกบั คณุ ภาพชีวติ ของประชาชน การไดป้ ฏบิ ตั งิ านราชการสนองเบอื้ งพระยคุ ลบาททผี่ า่ นมาของนายวนั ชยั ศารทลู ทตั จงึ ถอื เปน็ ความภาคภมู ใิ จและ เปน็ สริ มิ งคลยงิ่ แกช่ วี ติ ทปี่ ระทบั ไวใ้ นความทรงจา� ดว้ ยความสา� นกึ ในพระมหากรณุ าธคิ ณุ ของพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทร มหาภูมพิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทท่ี รงมีต่อประเทศชาตแิ ละประชาชนเสมอมา โดยซาบซ้ึงในความหมายของคา� ว่า “ข้าราชการ” ทีย่ ึดมนั่ เป็นอาชีพมาตลอดชวี ิตการท�างาน “ค�าว่าข้าราชการมีความหมายในตัวเอง ท่ีคนเป็นข้าราชการจะต้องส�านึกว่า เราท�างานถวายพระราชา ดังนั้น ในชว่ งหนงึ่ ของชวี ติ การรบั ราชการของผมทพี่ ระราชาไดเ้ สดจ็ ฯ มาถงึ ทที่ า� งาน ยอ่ มถอื เปน็ มงคลทส่ี ดุ เปน็ สงิ่ ประเสรฐิ ทส่ี ดุ ในชีวิตข้าราชการ ซึ่งทุก ๆ คนที่เป็นข้าราชการควรส�านึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน และปฏิบัติภารกิจ ด้วยความซ่ือสัตย์สุจริต โดยน้อมน�ากระแสพระราชด�ารัส พระบรมราโชวาทท้ังในเร่ืองท่ีเก่ียวข้องกับการปฏิบัติงาน และการวางตนมาปฏบิ ตั ิ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ประโยชน์ตอ่ ตนเองและสงั คมส่วนรวมตอ่ ไป” 23๗

นำยศรีภูมิ ศุขเนตร พระอัจฉริยภำพดำ้ นกำรส่ือสำร จากหลายเรอื่ งราวอนั เปน็ ทป่ี ระจกั ษถ์ งึ พระปรชี าสามารถทางดา้ นโทรคมนาคม ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ สนพระราชหฤทยั ศกึ ษาความเจรญิ กา้ วหนา้ ของเทคโนโลยโี ทรคมนาคมมาตลอด ทง้ั ทรง คดิ คน้ ดดั แปลง และใชป้ ระโยชนจ์ ากอปุ กรณส์ อื่ สารโทรคมนาคมทที่ นั สมยั ทกุ ประเภท อันเป็นผลดีย่ิงต่อการช่วยเหลือพสกนิกรชาวไทยโดยเฉพาะในท้องถิ่นทุรกันดาร ส่งผลให้การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศประสบผลส�าเร็จอย่างต่อเน่ือง ตลอดเวลาหลายทศวรรษ พระปรีชาสามารถดังกล่าวควรค่าแก่การจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การ โทรคมนาคมของโลก นายศรีภูมิ ศุขเนตร ในฐานะนายกสมาคมโทรคมนาคม แห่งประเทศไทย จึงไดน้ อ้ มเกลา้ นอ้ มกระหม่อมเฉลิมพระเกยี รติ Telecom Man of the Nation แดพ่ ระองค์ท่าน เมอ่ื วันพฤหสั บดี ที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๙ หากย้อนกลับไปเร่ิมจาก พ.ศ. ๒๕๑๐ นายศรีภูมิ ศุขเนตร ได้มีโอกาส สนองงานใต้เบ้ืองพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในด้านการส่ือสารอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก โดยความรับผิดชอบ ในต�าแหน่งรองอธิบดีกรมไปรษณยี โ์ ทรเลข “ข้าพเจ้าได้มีโอกาสเข้าไปแสดงความจงรักภักดีอย่างใกล้ชิด โดยได้ไปว่ิงออก กา� ลงั กายในบรเิ วณพระตา� หนกั จติ รลดารโหฐานและบางครง้ั กว็ ง่ิ กนั บนศาลาดสุ ดิ าลยั ทกุ คร้ังระหวา่ งพักผอ่ นจากการวิง่ พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช จะมพี ระราชกระแสรบั สง่ั ถามเกย่ี วกบั งานดา้ นการสอื่ สารอยเู่ สมอ และพระองคท์ รงมี ความรอบรู้ในเรื่องการสื่อสารเป็นอย่างมาก แม้ตัวข้าพเจ้าเองจะรับราชการใน กรมไปรษณยี โ์ ทรเลขกย็ งั รสู้ กึ วา่ ความรทู้ างดา้ นเทคนคิ มอิ าจเทยี บกบั พระองคท์ า่ นไดเ้ ลย” ช่วงเวลาน้ัน ประเทศไทยเริ่มมีการใช้ดาวเทียมในกิจการสื่อสารแล้ว เป็น ชว่ งเวลาเดยี วกบั ทสี่ มเดจ็ พระบรมโอรสาธริ าช เจา้ ฟา้ มหาวชริ าลงกรณ สยามมกฎุ ราชกมุ าร (พระราชอสิ รยิ ยศในขณะนนั้ ) เสดจ็ พระราชดา� เนนิ ไปทรงศกึ ษาทเี่ ครอื รฐั ออสเตรเลยี ทกุ ครง้ั ทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร และสมเดจ็ พระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชประสงค์จะรับส่ังทางโทรศัพท์กับ สมเดจ็ พระบรมโอรสาธริ าช เจา้ ฟา้ มหาวชริ าลงกรณ สยามมกฎุ ราชกุมาร จะมีรับสั่ง ใหร้ าชเลขาธิการแจ้งมายงั นายศรภี มู ิ ศุขเนตร ท่ีกรมไปรษณยี โ์ ทรเลขเพ่อื ดา� เนินการ ต่อสายให้พระองค์ท่านผ่านทางดาวเทียม เพราะขณะน้ันระบบการติดต่อต้องผ่าน โอเปอเรเตอร์ ไม่สามารถเรียกได้โดยตรง และตลอดการสนทนา นายศรีภูมิ ศขุ เนตร จะตอ้ งคอยเฝา้ ถวายอารกั ขาเพอื่ ปอ้ งกนั การรว่ั ไหลของขา่ วสาร ถอื ไดว้ า่ พระองคท์ า่ น พระราชทานความไวว้ างใจในการท�างานของนายศรีภูมิ ศุขเนตร เป็นอย่างสูง ใน พ.ศ. ๒๕๑๒ ประเทศไทยได้จัดให้มีการถ่ายทอดสดการไปเหยียบ ดวงจนั ทรค์ รง้ั แรกของมนษุ ยโ์ ดยยานอวกาศอะพอลโล ๑๓ ครง้ั นน้ั นายศรภี มู ิ ศขุ เนตร ด�ารงต�าแหน่งเลขานุการของคณะกรรมการถ่ายทอดสดที่มีพลอากาศเอก ทวี จุลละทรพั ย์ เปน็ ประธานกรรมการ ได้ช่วยกนั ระดมสรรพก�าลงั มาท�าการถ่ายทอดสด จนประสบความส�าเร็จ ซึ่งหลังจากนั้นพระองค์ทรงพอพระราชหฤทัยและทรงช่ืนชม ความก้าวหน้าในกิจการส่ือสารของประเทศอย่างมาก กระท่ังต่อมาใน พ.ศ. ๒๕๑๓ กรมไปรษณีย์โทรเลขได้เปิดให้บริการวิทยุติดตามตัวข้ึนเป็นคร้ังแรก ในนามบริษัท โทรคมนาคมเพอ่ื สือ่ มวลชนแห่งประเทศไทย ซ่ึงนายศรีภมู ิ ศขุ เนตร ได้รบั มอบหมาย ให้ด�ารงต�าแหน่งกรรมการผู้จัดการ ตามมติคณะรัฐมนตรี โดยใช้เงินท่ีเหลือจากการ 238 พระบรมราชาวิถี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

ถา่ ยทอดสด จ�านวน ๕๐,๐๐๐ บาท เปิดให้บรกิ ารระบบวทิ ยุตดิ ตามตัวเปน็ คร้งั แรก และมีหมายเลขให้บรกิ ารในขณะนน้ั จา� นวน ๙๙๙ หมายเลข “ข้าพเจ้าได้น�าหมายเลข ๑๒๓ ไปถวายแด่พระองค์ท่านเป็นการภายใน โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดชทรงทดลองใช้บริการวิทยุติดตามตัว ด้วยการให้คนอ่ืนเรียกเข้ามาท่ีหมายเลขของพระองค์ ปรากฏว่า ทรงพอพระราชหฤทัยมาก เมือ่ เหน็ ดงั นน้ั พลเรือตรี ชลี สนิ ธุโสภณ จงึ ได้นา� คณะกรรมการของบรษิ ทั ฯ เข้าเฝ้าฯ ถวาย เคร่ืองวิทยุเพ่ือทรงใช้งานจา� นวน ๑๐ เครื่อง ซึ่งพระองค์ท่านได้มอบให้ข้าราชบริพารผู้ใกล้ชิด เช่น ราชองครักษ์ หรือ ผู้ท่ีรับใช้ใกล้ชิดไปใช้ หลังจากน้ันพระองค์ท่านได้จัดต้ังระบบข้ึนมาเองเป็นระบบวิทยุติดตามตัวที่ไว้ใช้ส�าหรับติดต่อกับ ข้าราชบริพารผูใ้ กลช้ ิดในเวลาต่อมา” อีกภารกิจหน่ึงหลังจากที่นายศรีภูมิ ศุขเนตร ข้ึนมาด�ารงต�าแหน่งอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข เขาต้องเดินทาง ไปรว่ มประชมุ ทอี่ งคก์ ารโทรคมนาคมดาวเทยี มระหวา่ งประเทศ (Intelsat) ณ กรงุ วอชงิ ตนั ด.ี ซ.ี สหรฐั อเมรกิ า อยเู่ ปน็ ประจา� ในฐานะกรรมการบรหิ ารขององค์การ ครั้งหนึ่งกรมไปรษณยี ์โทรเลขไดม้ ีหนงั สอื เชิญคณะกรรมการบรหิ ารดงั กล่าวให้มา ประชุมทปี่ ระเทศไทย กอ่ นจะได้รบั เกียรติเป็นเจ้าภาพจดั การประชุมคณะกรรมการบริหาร Intelsat ครง้ั ท่ี ๑๓ ระหวา่ ง วนั พธุ ท่ี ๘ ถึงวันพฤหัสบดี ท่ี ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๘ ในคร้ังน้นั คณะกรรมการบรหิ าร Intelsat ได้มีโอกาสเขา้ เฝ้าทูลละอองธุลพี ระบาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร อย่างใกลช้ ดิ เปน็ เวลานานเกือบ ๒ ชว่ั โมง ณ พระตา� หนกั ภพู งิ คราชนิเวศน์ จงั หวดั เชยี งใหม่ โดยพระองคม์ พี ระราชปฏสิ นั ถารกบั คณะผเู้ ขา้ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาทอยา่ งทวั่ ถงึ และพระราชทานพระราชดา� ริ เก่ียวกับกิจการสื่อสารดาวเทียมได้อย่างละเอียด สร้างความประหลาดใจเป็นล้นพ้นแก่เหล่าผู้เชี่ยวชาญระดับสูงกลุ่มนั้น ถึงพระปรีชาสามารถในด้านการสื่อสารโทรคมนาคมเป็นอย่างมาก และการประชุมท่ีประเทศไทยเป็นเจ้าภาพคร้ังนั้น เปน็ ทก่ี ลา่ วขวญั ถงึ อยเู่ สมอในเวลาตอ่ มา เพราะทกุ ครงั้ ทม่ี ปี ญั หาทข่ี บคดิ ไดย้ าก หรอื มกี ารขดั แยง้ ทหี่ าขอ้ ยตุ ไิ มไ่ ด้ กรรมการ บรหิ ารกจ็ ะขอให้ทกุ คนระลกึ ถึง “Spirit of Chiangmai” แลว้ การประชมุ ก็จะผ่านพ้นปญั หาและข้อขัดแย้งไปด้วยดี “Spirit of Chiangmai” ในองค์การโทรคมนาคมทางดาวเทียมระหว่างประเทศ ถือเป็นสปิริตท่ีแสดงออกถึง ความร่วมมือร่วมใจและการประสานประโยชน์เพ่ือความส�าเร็จของกิจการส่ือสารดาวเทียมของโลก โดยอาศัยพระบารมี แห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร 239

นำยศรีสุข จันทรำงศุ โครงกำรทำงคู่ขนำนลอยฟ้ำ ถนนบรมรำชชนนี ช่วงเดอื นมถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๓๘ ขณะพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู พิ ล อดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชด�าเนินไปทรงเยี่ยมพระอาการประชวรของ สมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนีท่ีโรงพยาบาลศิรริ าช พระองคไ์ ด้ทอดพระเนตร เห็นปัญหาการจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก ตั้งแต่บริเวณสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ต่อเนื่องไปจนถึงถนนบรมราชชนนี จึงได้พระราชทานแนวพระราชด�าริให้ก่อสร้าง ทางคขู่ นานลอยฟา้ จากเชิงสะพานสมเด็จพระปนิ่ เกล้าไปยังบรเิ วณสถานีขนส่งสายใต้ อีกทั้งมีพระราชดา� รสั ว่า “...หากสร้างสะพานยกระดับขาออกให้ยาวเลยไปจากขนส่งสายใต้ จะมี ประโยชน์มาก...” ในช่วงเวลาน้ันมีนายบรรหาร ศิลปอาชา ด�ารงต�าแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้จัด ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพ่ือสนองพระราชด�าริเรื่องการแก้ไขปัญหาการจราจร ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครซ่ึงมีร้อยเอก กฤษฎา อรุณวงษ์ ณ อยธุ ยา เป็นผวู้ ่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายประเสรฐิ สมะลาภา เป็นปลัด กรงุ เทพมหานคร ผลการประชมุ สรปุ วา่ กรงุ เทพมหานครเปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบกอ่ สรา้ งทาง คขู่ นานลอยฟา้ จากแยกอรณุ อมรนิ ทรถ์ งึ คลองบางกอกนอ้ ย รวมระยะทางประมาณ ๓.๒ กโิ ลเมตร ส่วนกรมทางหลวงโดย นายศรสี ุข จนั ทรางศุ อธบิ ดีกรมทางหลวงขณะนนั้ รับผิดชอบการก่อสร้างขยายช่องจราจรระดับพื้นราบ จากเดิมที่มี ๘ ช่องจราจร ให้เพม่ิ เป็น ๑๒ ช่องจราจร พรอ้ มทัง้ ใหม้ ีการปลกู ตน้ ไมท้ ่เี กาะกลางถนนเพอื่ ภมู ิทัศน์ ทสี่ วยงาม หลังจากไดข้ ้อสรุปทชี่ ดั เจนตามแนวพระราชด�าริ คณะทา� งานจึงได้กราบบงั คม ทลู ถวายรายงานตอ่ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ซง่ึ ทรงเหน็ ชอบตามคา� กราบบงั คมทลู และไดท้ รงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ ม เสด็จพระราชด�าเนินไปทรงวางศิลาฤกษ์ เพื่อเริ่มต้นโครงการก่อสร้างทางดังกล่าว ในวนั องั คาร ท่ี ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๙ 240 พระบรมราชาวิถี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

จากนนั้ อกี ๒ ปี ในวนั องั คาร ท่ี ๒๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๑ พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร ได้เสดจ็ พระราชดา� เนนิ ไป ทรงเปดิ ทางคขู่ นานลอยฟา้ ถนนบรมราชชนนี ซง่ึ เหตกุ ารณใ์ นวนั นนั้ นายศรสี ขุ จันทรางศุ ยงั จดจ�าไดด้ ีถึงพระราชกระแสรบั ส่ังว่า “การกอ่ สรา้ งเสน้ ทางสายนท้ี า� ไดย้ าก การจราจรมปี ญั หา สองหนว่ ยงาน ร่วมกนั ทา� ดมี าก ท�าไดส้ า� เร็จ ขอชมเชย” นอกจากนี้ พระองคท์ า่ นยงั ตรสั ถามถงึ ระบบการระบายนา้� บนสะพานวา่ “อยากถามอะไรหน่อย อยากรู้มานาน การระบายน้�า ระบายน้�า อยา่ งไร” นายศรีสขุ จนั ทรางศุ ได้กราบบงั คมทูลรายงานถงึ วิธกี ารทใี่ ช้ระบายนา�้ จากนั้น พระองค์ทรงพระกรุณาฉายภาพนายศรีสุข จันทรางศุ และ นายประเสริฐ สมะลาภา และนายศรสี ุข จันทรางศุ นายประเสรฐิ สมะลาภา ปลดั กรงุ เทพมหานคร ยนื คกู่ นั ณ บรเิ วณ Joint สรา้ ง ความปลาบปลื้มใจอย่างสงู สุดแก่บคุ คลท้ังสอง ทั้งมพี ระราชด�ารสั วา่ พระองคเ์ สด็จพระราชดา� เนินแปรพระราชฐานไปหัวหนิ ต้งั แตถ่ นน ยังไมล่ าดยาง จนมกี ารพัฒนาเร่อื ยมาจนขณะน้ี สามารถเสดจ็ พระราชด�าเนนิ ไปหัวหนิ ได้สะดวกและรวดเร็วขึน้ โครงการทางคู่ขนานลอยฟ้าและการขยายถนนบรมราชชนนีดังกล่าว เกิดขึ้นจากความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีแก่ประชาชนซึ่งประสบปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ และพระองค์ได้พระราชทานแนว พระราชดา� รติ ลอดจนวธิ กี ารแกไ้ ขปญั หา จนไดผ้ ลสา� เรจ็ เปน็ “โครงการพระราชดา� รทิ างคขู่ นานลอยฟา้ ” ซงึ่ เปน็ อกี หนงึ่ โครงการทแี่ สดง ใหเ้ หน็ ถงึ พระปรชี าญาณทที่ รงมองการณไ์ กลเกย่ี วกบั การแกไ้ ขปญั หาจราจร ตลอดจนนา้� พระราชหฤทยั อนั เปย่ี มลน้ ดว้ ยพระเมตตากรณุ า ท่ีทรงมตี อ่ พสกนกิ รเสมอมา 241

นำยสมทิ ธ ธรรมสโรช พระปรีชำสำมำรถ ในกจิ กำรสอื่ สำรอตุ ุนยิ มวิทยำ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร สนพระราช- หฤทัยในกิจการสื่อสารอุตุนิยมวิทยา ด้วยทรงพิจารณาเห็นว่า กิจการอุตุนิยมวิทยา มีผลกระทบต่อการด�าเนินชีวิตของประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกร ทปี่ ระสบปญั หาการขาดแคลนนา�้ เพราะไมม่ แี หลง่ กกั เกบ็ นา้� ทเี่ พยี งพอในฤดแู ลง้ ทา� ให้ เกิดปัญหาต่อการท�าเกษตร ตลอดจนภาคอุตสาหกรรม รวมถึงการใช้น�้าเพื่อการ อปุ โภคบรโิ ภคอกี ดว้ ย ฉะนนั้ การมขี อ้ มลู เกยี่ วกบั สภาวะอากาศทถี่ กู ตอ้ ง จะชว่ ยอา� นวย ประโยชนใ์ นการเพาะปลกู และสามารถชว่ ยใหเ้ กษตรกรเพม่ิ ผลผลติ ไดม้ ากขน้ึ พระองค์ จึงสนพระราชหฤทยั งานด้านอตุ ุนยิ มวทิ ยามาโดยตลอด ความสนพระราชหฤทัยในงานอุตุนิยมวิทยาของพระองค์ท่าน ท่ีนายสมิทธ ธรรมสโรช อดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ระลึกได้นั้น มีมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกรม อตุ นุ ยิ มวทิ ยา (กรมอตุ นุ ยิ มวทิ ยาเปน็ หนว่ ยงานในสงั กดั กระทรวงคมนาคมจนถงึ พ.ศ. ๒๕๔๕) ทรงใชข้ อ้ มลู อตุ นุ ยิ มวทิ ยาทง้ั ในประเทศและตา่ งประเทศ เพอ่ื ศกึ ษา วเิ คราะห์ วิจัย และพยากรณ์อากาศด้วยพระองค์เอง เพ่ือพระราชทานค�าเตือนภัยแก่มูลนิธิ ซงึ่ อยใู่ นสงั กดั สา� นกั พระราชวงั เชน่ มลู นธิ ริ าชประชานเุ คราะห์ ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ ซงึ่ มหี นา้ ทช่ี ว่ ยเหลอื และบรรเทาทกุ ขแ์ กป่ ระชาชนเมอื่ เกดิ ภยั พบิ ตั ติ า่ ง ๆ และพระองค์ มพี ระปรชี าสามารถในการพยากรณล์ กั ษณะอากาศได้อย่างแมน่ ยา� “หลายครั้งที่พระองค์ท่านสามารถพยากรณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ ก่อนที่ทาง กรมอุตุนิยมวิทยาจะพยากรณ์ได้ด้วยซ�้า จึงเห็นได้ว่าหน่วยบรรเทาทุกข์ของพระองค์ โดยเฉพาะมูลนิธิราชประชานุเคราะห์มักจะไปถึงจุดท่ีประชาชนได้รับอันตรายก่อน หน่วยงานอ่ืน นอกจากน้ีแม้บางครั้งท่ีกรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์ล่วงหน้าว่าจะมี พายพุ ดั ผา่ นประเทศไทย แตห่ ากพระองคท์ รงพยากรณว์ า่ ‘พายดุ งั กลา่ วจะไมพ่ ดั ผา่ น ประเทศไทยแนน่ อน’ กม็ กั ปรากฏว่าพายลุ ูกนั้นไม่ผา่ นเข้ามาจรงิ ๆ “ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ การเกิดพายุ Angela ใน พ.ศ. ๒๕๓๘ ซึ่งทางกรม อุตุนิยมวิทยาได้รับข้อมูลท่ีชัดเจนว่าพายุลูกนี้จะพัดเข้ามาในประเทศไทยแน่นอน โดยจะเข้ามาทางจังหวัดมุกดาหารและอุบลราชธานี แม้แต่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาจาก ต่างประเทศ เช่น จนี ญ่ปี นุ่ ฮ่องกง และสหรฐั อเมรกิ า ก็ยงั ระบุเชน่ น้ัน แต่พระองค์ ทรงยืนยันว่าพายุลูกน้ีไม่เข้าประเทศไทยแน่นอน และผลก็ปรากฏว่าเป็นไปตามท่ี พระองคท์ รงพยากรณไ์ วจ้ รงิ ๆ ในภายหลงั มรี บั สง่ั กบั ขา้ พเจา้ ในโอกาสทไ่ี ดไ้ ปเขา้ เฝา้ ฯ ว่าที่พระองค์ทรงพยากรณ์ไว้นั้นเป็นวิทยาศาสตร์ มิใช่โหราศาสตร์ ซ่ึงนับเป็น พระปรีชาสามารถทีส่ ูงย่งิ นกั ” จากปัญหาภาวะฝนแล้งของประเทศที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ท�าให้พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สนพระราชหฤทัยในเรื่อง การท�าฝนหลวง โดยมีพระราชประสงค์เพ่ือเพ่ิมปริมาณน้�าฝนให้ตกในบริเวณท่ี แห้งแล้งและทุรกันดารในฤดูแล้งหรือแม้ในฤดูฝน ซ่ึงพระองค์มีพระราชด�าริใหม่ เพิ่มขึ้นในระยะหลังวา่ “เมื่อเราไม่สามารถเก็บกักน้�าไว้ในเขื่อนได้ในฤดูฝนเพราะไม่มีน�้าเพียงพอ ก็ต้องพยายามท�าฝนเทียมให้ตกในบริเวณอ่างเก็บน�้าเหนือเข่ือนต่าง ๆ ที่ได้สร้าง ไว้แลว้ เช่น เข่อื นภมู ิพล เขอ่ื นสิรกิ ติ ิ์ เข่อื นอุบลรตั น์ เปน็ ตน้ เพอ่ื จะได้มเี ก็บน้�าไว้ เพราะถา้ ให้ตกนอกเขอ่ื นหรือใต้เขื่อน น้�าก็จะไหลลงทะเลไปโดยเปล่าประโยชน”์ 242 พระบรมราชาวิถี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ทรงพยายามใชข้ อ้ มลู ทางอตุ นุ ยิ มวทิ ยาประกอบกบั การคน้ ควา้ หาสตู รสารเคมีตา่ ง ๆ ท่ีจะไปบังคบั ความชน้ื และเมฆฝนใหต้ กในพืน้ ท่ีเกบ็ น�้า จึงท�าให้มปี รมิ าณน�า้ ท่เี ก็บกักไดม้ ากข้ึนกวา่ ปกติ กอ่ นจะ เพิ่มประสิทธภิ าพการทา� ฝนหลวงใหส้ ูงขึน้ ได้เปน็ ลา� ดบั ตลอดเวลาท่ีผา่ นมา ทรงศึกษาลกั ษณะอากาศจากขอ้ มูลท่ีทางกรมอตุ ุนิยมวทิ ยาน�าขน้ึ ทูลเกล้าทูลกระหมอ่ มถวายทกุ วัน รว่ มกบั ข้อมูลจากต่างประเทศโดยอาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างคอมพิวเตอร์ ทรงเรียกดูข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพ่ือพยากรณ์และ วเิ คราะหล์ ักษณะอากาศ รวมถงึ ผลกระทบที่มีต่อประเทศไทยทกุ วนั โดยเฉพาะในช่วงทมี่ ีสภาวะอากาศผิดปกติ เชน่ มพี ายุไตฝ้ ุ่น หรอื พายไุ ซโคลนพัดผ่านหรอื มผี ลกระทบต่อประเทศไทย “พระองคจ์ ะทรงขอขอ้ มลู ลกั ษณะอากาศเพม่ิ เตมิ เชน่ แผนทอี่ ากาศชนั้ บน ลมในระดบั ตา่ ง ๆ และจะทรงตดิ ตามอยา่ งใกลช้ ดิ ใน บางครง้ั จะทรงใหค้ า� แนะนา� หรอื ชแี้ จงใหท้ ราบวา่ เสน้ ทางของพายนุ า่ จะมแี นวโนม้ ไปทางใด จะมผี ลกระทบตอ่ ภาคใดสว่ นใดของประเทศ บ้าง สง่ิ ต่าง ๆ เหลา่ นเ้ี ป็นประโยชนอ์ ย่างยง่ิ ตอ่ กรมอุตนุ ยิ มวทิ ยา อยา่ งกรณพี ระบรมราชวนิ จิ ฉยั เรอื่ งการไม่เขา้ มาของพายุ Angela ใน ครงั้ นน้ั พระองคย์ งั มพี ระราชดา� รสั ในทางขา� ขนั เพอื่ ไมใ่ หเ้ จา้ หนา้ ทเี่ สยี ใจวา่ ไมเ่ ปน็ ไร ลกู นไ้ี มเ่ ขา้ ฉนั ใหน้ างเมขลาพาไปเทยี่ วเขาพระสเุ มรุ แล้ว เป็นต้น นับเป็นพระมหากรณุ าธคิ ณุ อยา่ งใหญห่ ลวงท่ีได้ทรงให้คา� แนะนา� และใหก้ า� ลังใจแกเ่ จา้ หนา้ ทผี่ ู้ปฏิบัติงานตลอดเวลา” กอ่ นเกดิ เปน็ โครงการพระราชดา� รพิ ระราชทานหนว่ ยงานตา่ ง ๆ เพอื่ ใหป้ ฏบิ ตั สิ นองงานทกุ โครงการ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จะทรงศึกษาค้นคว้าอย่างรอบคอบเสียก่อนว่าจะมีผลประโยชน์เกิดข้ึนอย่างไร สิ่งที่ลงทุนไป จะมีผลลพั ธท์ ดี่ มี ากกว่าผลเสยี หรือไม่ และมรี บั สั่งอยเู่ สมอวา่ “Our loss is our gain” เพอ่ื ใหท้ ุกคนไดต้ ระหนักวา่ การดา� เนินงาน ที่ยึดผลส�าเร็จแห่งความ “คุ้มค่า” มากกว่า “คุ้มทุน” ค�านึงถึงผลประโยชน์ของคน ส่วนรวม มากกว่าผลส�าเร็จท่ีเป็น ตัวเลข เป็น พระบรมราโชบายทน่ี ายสมิทธ ธรรมสโรช น้อมรับใส่เกลา้ ใสก่ ระหม่อมและยึดถือเปน็ แนวทางในการปฏิบัติหน้าท่ตี ลอดมา 243

ร�ำลกึ ครัง้ เขำ้ เฝ้ำฯ ณ โรงพยำบำลศิรริ ำช นำงสรอ้ ยทิพย์ ไตรสุทธิ์ เป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาท่ีสุดมิได้ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร โปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มใหค้ ณะผบู้ รหิ ารกระทรวง คมนาคมและกรุงเทพมหานครเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทกราบบังคมทูลรายงาน การแก้ไขปัญหาจราจรบริเวณโดยรอบโรงพยาบาลศิริราช ซ่ึงนับเป็นบุญและมงคล สูงสุดของชีวิตในฐานะเป็นราษฎรของพระองค์ และในฐานะเป็นข้าราชการคนหนึ่ง ซึ่งขณะน้ันด�ารงต�าแหน่งผู้อ�านวยการส�านักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ที่ไดม้ โี อกาสเขา้ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาทในครั้งนนั้ ด้วย จา� ไดแ้ มน่ ยา� และจะไม่มีวันลมื ในชวั่ ชีวิตนี้ เป็นวนั จันทร์ ท่ี ๒๗ มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเบ้ืองพระพักตร์ของพระองค์ท่ีโรงพยาบาล ศิริราช ซ่ึงเป็นช่วงเวลาท่ีพระองค์ยังทรงพระประชวรอยู่ แต่พระองค์ยังคงทรงงาน เพ่ือแก้ไขปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนให้ราษฎรโดยมิได้มีท่าทีจะทรงเหน็ดเหน่ือย 244 พระบรมราชาวิถี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

พระวรกาย พระราชทานแนวคิดและตรัสถามอยู่ตลอดเวลา มีพระบรมราชวินิจฉัยให้ไปปฏิบัติ พระองค์รอบรู้ทุกเร่ือง ในงานโครงการของกระทรวงคมนาคมและกรุงเทพมหานครในช่วงเวลานั้น ๆ สนพระราชหฤทัยงานระบบราง ทงั้ ระบบรถไฟฟา้ สายสตี า่ ง ๆ รถไฟทางคู่ และรถไฟฟา้ ความเรว็ สงู ทพี่ ระองคท์ รงเรยี กวา่ รถไฟเรว็ มพี ระราชกระแสรบั สง่ั ถงึ ประโยชนข์ องรถไฟวา่ “ทจ่ี รงิ รถไฟนี้ จะไดป้ ระโยชนม์ ำก เพรำะวำ่ ดกี วำ่ กำรคมนำคมทำงถนน ทำงถนนมนั แพงมำก ควำมจรงิ กท็ ำงรถไฟจะถกู ลงไปมำก กห็ มำยควำมวำ่ ดสี ำ� หรบั กำรเศรษฐกจิ ของไทย ถำ้ ทำ� ไดส้ ำ� เรจ็ โดยเรว็ ” พระองค์ ทรงย้�าถึงการพัฒนารถไฟไทยว่า “การพัฒนารถไฟต้องพัฒนาทั้งระบบเก่าและระบบใหม่” ซ่ึงหมายถึงรางขนาดเดิม ๑ เมตร กบั ขนาด รางกวา้ ง ๑.๔๓๕ เมตร จ�าได้ว่าระหว่างการเข้าเฝ้าเบื้องพระยุคลบาทครั้งดังกล่าว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันเปี่ยมล้นต่อพสกนิกรของ พระองค์ ในการมีพระราชประสงค์ใหป้ ระชาชนได้รับความสะดวก ลดระยะเวลาในการเดินทางดว้ ยระบบรถไฟที่ทันสมัย ทรงมกี ระแสพระราชดา� รสั ตรสั ถามถงึ แนวทางการกอ่ สรา้ งโครงการรถไฟฟา้ (สายสแี ดงชว่ งบางซอื่ - หวั ลา� โพง / บางซอื่ - มักกะสัน) ช่วงที่ผ่านพระต�าหนักจิตรลดารโหฐาน ซ่ึงกระทรวงคมนาคมได้กราบบังคมทูลถึงแนวทางการก่อสร้าง ในการอนุรักษ์อาคารสถานีรถไฟจิตรลดา และการก่อสร้างทางวิ่งแบบอุโมงค์แบบเปิด หรือ Open Cut ซ่ึงมีกระแส พระราชดา� รสั ตอบวา่ ตกลงรปู แบบการก่อสร้างได้เสียที นอกจากน้ีได้ตรัสถามถึงรูปแบบการก่อสร้างรถไฟความเร็ว (สูง) เสน้ ทางกรงุ เทพฯ - หวั หนิ วา่ จะมผี ลกระทบต่อสถานรี ถไฟหัวหินหรือไม่ พระราชทานเล่าให้ฟงั วา่ คร้ังยงั ทรงพระเยาว์ ไดเ้ คยเสดจ็ พระราชดา� เนนิ ทางรถไฟมายงั หวั หนิ และเสดจ็ ลง ณ สถานรี ถไฟแหง่ น้ี เมอ่ื ไดร้ บั ฟงั พระราชกระแสดงั กลา่ วแลว้ ถงึ ตอนนใี้ นฐานะขา้ ราชการผรู้ บั ผดิ ชอบในการศกึ ษาออกแบบโครงการดงั กลา่ วไดก้ ราบบงั คมทลู วา่ จะอนรุ กั ษอ์ าคารสถานี หวั หินตลอดจนรปู แบบทางสถาปัตยกรรมไว้ โดยการกอ่ สร้างรถไฟความเร็วสูงจะมแี นวทางการกอ่ สรา้ งเป็นอาคารสถานี แหง่ ใหมเ่ พ่ือมิให้มผี ลกระทบตอ่ อาคารสถานรี ถไฟหวั หนิ ดงั กลา่ ว ในชว่ งเวลากวา่ ๒ ชว่ั โมงทไี่ ดเ้ ขา้ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาท เปน็ ชว่ งเวลาอนั ทรงคณุ คา่ ทมี่ ที ง้ั ความตนื้ ตนั ใจ ตน่ื เตน้ ความปล้ืมปีติทีไ่ มอ่ าจกลา่ วเป็นถอ้ ยค�าได้หมด และมีปณิธานท่ีต้ังมน่ั ไวใ้ นใจตอ่ เบือ้ งพระพกั ตรว์ ่า จะเปน็ ขา้ ราชการทีด่ ี ของแผ่นดิน จะน้อมน�าแนวพระราชด�าริและพระราชด�ารัสของพระองค์ไปเป็นหลักในการท�างาน และด�าเนินชีวิต เปน็ คนดีของประเทศชาตติ อ่ ไป ด้วยความสา� นกึ ในพระเมตตาและพระมหากรณุ าธิคณุ เปน็ ลน้ พน้ 245

นำยสวำท ศรีขำ� กำรสนองงำนขององคก์ ำรโทรศพั ท์ แห่งประเทศไทย ตลอดระยะเวลาอนั ยาวนานทพี่ ระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร ทรงงานเพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและประชาชน อย่างอเนกอนันต์ พระราชจริยวัตรอันงดงามของพระองค์ขณะทรงปฏิบัติ พระราชกรณียกิจเป็นภาพท่ีอยู่ในความทรงจ�าของพสกนิกรชาวไทยทุกคนเสมอมา ทุกคร้ังท่ีพระองค์เสด็จพระราชด�าเนินไปยังพ้ืนที่ห่างไกล เพื่อค้นคว้าแนวทาง พัฒนาความเป็นอยู่ของพสกนิกร จะทรงมีอุปกรณ์ติดพระวรกาย ๓ ชิ้นหลัก ๆ คือ แผนที่พร้อมดินสอ กล้องถ่ายภาพ และวิทยุส่ือสาร ซ่ึงองค์การโทรศัพท์ แห่งประเทศไทยเป็นหน่วยงานส�าคัญที่มีโอกาสสนองงานใต้เบื้องพระยุคลบาท ในด้านการติดต่อส่ือสาร โดยเฉพาะ นายสวาท ศรีข�า อดีตรองผู้อ�านวยการองค์การ โทรศัพท์แห่งประเทศไทย และ นายปล้ืมใจ สินอากร อดีตผู้ช่วยผู้อ�านวยการ ฝ่ายบริหารโครงการ ที่มีโอกาสได้ประสบพบเจอกับเร่ืองราวมากมายระหว่าง การปฏิบัติงานเหตุการณ์เหล่าน้ันสะท้อนให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพและ พระปรีชาสามารถ ที่ช่วยให้เจ้าหน้าท่ีทุกคนน้อมน�ามาเป็นหลักยึดในการด�าเนินชีวิต องค์การโทรศัพท์ฯ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้สนองงานพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร อย่างเป็นทางการ เร่ิมเม่ือ ประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๕ โดยมีภารกิจหลักในการวางข่ายสายโทรศัพท์และวงจร โทรคมนาคมประจ�าพระต�าหนักต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพระต�าหนักทักษิณราชนิเวศน์ ภูพานราชนิเวศน์ และภูพิงคราชนิเวศน์ “ภารกิจในสมยั น้ัน คอื การสร้างขา่ ยสายภายในพระต�าหนักตา่ ง ๆ ที่พระองค์ จะเสดจ็ พระราชดา� เนินแปรพระราชฐาน เมื่อมกี า� หนดวา่ จะเสดจ็ ไปประทับ ณ ทใ่ี ด พวกเราก็ต้องส่งเจ้าหน้าท่ีออกไปเตรียมการส่ือสารให้พร้อมก่อนหน้า เช่น เม่ือคราว ทา่ นจะเสดจ็ พระราชดา� เนนิ ไปประทบั ยงั พระตา� หนกั ภพู งิ คราชนเิ วศน์ จงั หวดั เชยี งใหม่ ซงึ่ เปน็ พระตา� หนกั ทตี่ ง้ั อยบู่ นภเู ขา ทมี งานตอ้ งขนึ้ ไปเตรยี มการกนั กอ่ น ดว้ ยการจัดต้ัง เคร่ืองส่งวิทยุระบบ VHF หน่ึงวงจร เน่ืองจากไม่สามารถเดินข่ายสายขึ้นไปได้… 246 พระบรมราชาวิถี ๗ ทศวรรษ พิพัฒน์คมนาคม

“ในเวลานั้น วิทยุโทรศัพท์ยังสามารถเรียกส่ือสารได้เพียงทีละข่ายเท่านั้น พระองค์ท่านจึงมีรับสั่งกับพวกเราว่า น่าจะลองหาวิธีที่จะท�าให้วิทยุสื่อสารเครื่องเดียวสามารถติดต่อได้หลายข่ายสื่อสาร เม่ือได้รับกระแสพระราชด�าริ แนะน�าดังกล่าว เจ้าหน้าที่ก็ได้รับใส่เกล้าฯ แล้วน�ามาเป็นแนวทางในการปรับปรุง ซึ่งภายหลังก็สามารถรวมทุกข่าย ส่ือสารที่มีใช้ในประเทศได้ส�าเร็จ และทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระองค์ท่านให้สามารถรับทราบข่าวสารได้จากวิทยุสื่อสาร เพียงเคร่ืองเดียว” การเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทสนองงานด้านการส่ือสารโดยวิทยุโทรศัพท์น้ัน เวลาไม่ใช่เคร่ืองก�าหนด ช่วงการท�างานประจ�าวัน เน่ืองจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงงาน ตลอดเวลาแม้ยามดึกด่ืน โดยการติดต่อสื่อสารเป็นสิ่งส�าคัญที่พระองค์สนพระราชหฤทัยเป็นพิเศษ ท�าให้องค์การ โทรศัพท์แห่งประเทศไทยต้องพร้อมสนองงานตลอดเวลา “พวกเราต้องเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา เพ่ือเข้าเฝ้าฯ ได้ทันทีท่ีระบบส่ือสารมีปัญหา แต่ความรู้สึกท่ีได้สนองงาน รับใช้พระองค์ท่านคือส่ิงที่ดีท่ีสุดในชีวิตของพวกเรา แม้ในช่วงแรกจะตื่นเต้นและเป็นกังวลมากว่าจะใช้ค�าพูดกับ พระองค์ท่านได้ถูกต้องหรือไม่ แต่หลังจากได้เข้าสนองงานอยู่หลายครั้ง เราก็รู้สึกผ่อนคลายข้ึน เหตุเพราะพระองค์ ไม่ทรงถือพระองค์ ทรงปฏิบัติพระองค์เป็นกันเองกับพวกเรามาก… “ขณะทรงงานพระองค์ท่านจะพระราชทานค�าแนะน�าแก่พวกเราเสมอ บางคร้ังแทบจะไม่รู้สึกเลยว่าทรงก�าลัง สอนเราอยู่ พระองค์จะท�าให้กลมกลืนไปทีละเล็กละน้อยโดยท่ีเราไม่รู้ตัว แต่เม่ือเวลาผ่านมาเราถึงทราบว่า พระราชด�ารัสหลาย ๆ คร้ังที่ตรัสกับเรานั้นเป็นประโยชน์ให้สามารถน�ามาปรับปรุงการท�างานได้เป็นอย่างดี” ถือเป็นเกียรติประวัติที่สร้างความภาคภูมิใจที่สุดแก่องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยและเจ้าหน้าที่ทุกคน ท่ีได้รับพระมหากรุณาธิคุณในการสนองงานใต้เบ้ืองพระยุคลบาท ในการอ�านวยประโยชน์ด้านการติดต่อสื่อสาร เพ่ือพระราชกรณียกิจในการสร้างเสริมความอยู่ดีกินดีแก่มวลพสกนิกรชาวไทยสืบมา 24๗


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook