มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 91 เอกลกั ษณไ์ ม่ว่าในระดับราคาใด ๆ ปจั จบุ นั มผี ใู้ ชบ้ รกิ ารโดยเฉลีย่ 425,000 รายต่อคนื จนถงึ ปัจจุบัน มผี ูค้ น กว่า 60 ล้านคนท่ัวโลกใช้บริการเช่าที่พักของ Airbnb และมีเครือข่ายในการให้บริการครอบคลุม 34,000 ห้องใน 190 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นต้นกาเนิดของบริษัทในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2550-2555) มีการให้เช่าที่พักผ่าน Airbnb สูงถึง 10 ล้านคืน ในประเทศไทย ธุรกิจการท่องเที่ยวการ เดินทางในรูปแบบเศรษฐกิจแบ่งปัน เติบโตมากข้ึนเร่ือย ๆ เห็นได้จากสถิติที่คนไทยเข้าไปแชร์ที่พัก หรือใช้ บริการที่พัก ของ Airbnb รวมท้ังใช้บริการ Taxi ผ่าน Application ต่าง ๆ มากข้ึน ซึ่งปัจจุบันมีผู้ปะกอบ การให้เลือกอยู่หลายรายด้วยกัน เช่น Easy Taxi Grab Taxi Uber หรือ All Thai Taxi ทาให้เกิดการ แขง่ ขันในวงการ Taxi อย่างเข้มขน้ จากขอ้ มูลของ Airbnb ปี 2015 สหรัฐอเมริกามีความต้องการใชบ้ ริการ การของที่พักผ่าน Airbnb ในอันดับต้นๆ โดยกรุงเทพมหานครติดอันดับ 20 โดยมีการจองสูงถึง ร้อยละ 56.9 รองจากโตเกียว โอซากา สิงคโปร์ และฮ่องกง ในภูมิภาคเอเชีย และเป็นอันดับ 2 รองจาก สิงคโปร์สาหรับอาเซียน ต่อจากนั้น PricewaterhouseCoopers ได้สาหรับ The Sharing Economy ใน ประเทศอเมริกาและกล่าวถึงเศรษฐกิจแบง่ หนั ในไทย ว่ามแี นวโนม้ อนาคตสดใสและเติบโต โดยเชือ่ วา่ การท่ี ไทยกาลังปรับเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลตามนโยบายของภาครัฐ จะกระตุ้นให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัว เพ่ือรองรับการเปล่ียนแปลงที่กาลังจะเกิดขึ้นในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นระบบโครงสร้างพ้ืนฐานไอที รวมถึง กลยุทธ์การทาตลาด หรือ โมเดลธรุ กจิ รปู แบบใหม่ๆ ทีจ่ ะเกิดขน้ึ ซึง่ เช่อื ว่า ในอนาคตอนั ใกล้น้ี จะเหน็ ธุรกิจ ไทยเป็นแบบ Sharing Economy มากยิ่งขึ้น โดยภาคส่วนต่าง ๆ จะเชื่อมเข้าหากันและภาคธุรกิจจะ แบ่งปันหรือใช้ทรัพยากรร่วมกันเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันการมาของกิจการเศรษฐกิจแบ่งปันจากต่างชาติ เช่น Airbnb และได้เข้ามาเติบโตในประเทศไทยเป็นอย่างมาก และมีการท่องเท่ียวในแบบเศรษฐกิจแบ่งปันที่ สร้างสรรค์ข้ึนใหม่ของคนไทย ภายใต้ธุรกิจการท่องเท่ียวแบ่งปัน (Sharing Tourism) ของคนไทย LocalAlike มีความหมายว่า “เสมือนหนึ่งชาวบ้าน” เป็นกิจการเพื่อสังคมของคนไทยรุ่นใหม่ในด้านการ ท่องเท่ียวชุมชน การท่องเท่ียวท้องถ่ิน ต้ังข้ึนโดยยึดหลักท่ีว่า “Meaningful Experience for Traveler and Local Alike” ซ่งึ คานึงถึงประสบการณ์ทม่ี คี วามหมายต่อนักท่องเท่ยี วและชาวบา้ น จากการทบทวนแนวคิดเก่ียวกับการท่องเท่ียวแบบแบ่งปัน (Sharing Tourism) พบว่า เม่ือพลวัตร ของการสร้างเศรษฐกิจของโลกเปลี่ยนไปด้วยกระแสของดิจิทัลประเทศไทยในฐานะประเทศท่ีมีทรัพยากร การท่องเที่ยว ศิลปะวัฒนธรรม วิถีชุมชน วิถีท้องถิ่น องค์ความรู้ ภูมิปัญญา รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวทาง ธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ท่ีถือได้ว่าเป็นทรัพยากรท่องเที่ยว ที่มีโอกาสมากในการสร้างมูลค่าเพ่ิม ทางเศรษฐกิจได้ หากวันน้ีไม่มีการนาพาหรือสร้างโอกาสกลุ่มคนท่ีมีองค์ความรู้ภูมิปัญญา ที่เป็นทรัพย์สิน ทางประสบการณ์มาเผยแพร่ แบง่ ปนั ให้ความรแู้ กค่ นรุน่ หลงั ทรพั ยส์ นิ เหล่าน้ันก็มีแต่จะสูญหายไปกบั คนรุ่น เก่ากอ่ น
92 Asta Daunoriene, Aura Draksaite (2015) ได้ทาการวิจัยเก่ียวกับ การประเมินความย่ังยืนของ โมเดลธุรกิจแบบเศรษฐกิจแบ่งปัน พบว่า ในความแตกต่างของการแบ่งปัน ได้แก่ สินค้า บริการ ระหว่าง องค์กร / ลูกค้า ได้กลายมาเป็นจุดเร่ิมต้นของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคม และเทคโนโลยี ดังนั้นรูปแบบเศรษฐกิจแบ่งปัน ได้เข้ามามีบทบาทสาคัญทางเศรษฐกิจของทั่วโลก และพบว่า การแลกเปลย่ี น (Sharing) เป็นอกี ทางเลอื กหนง่ึ ของผู้ท่เี ป็นเจา้ ของทรัพยส์ นิ นาสินทรัพยท์ เ่ี กินความจาเป็น หรือ ไมไ่ ด้ใชม้ าสรา้ งรายไดเ้ สริม โดยการแลกเปล่ยี นผ่านสอ่ื กลางท่ีเปน็ แพลทฟอรม์ (Platform) ทท่ี าหน้าท่ี เป็นสื่อกลางระหวา่ งผ้บู ริโภคกบั เจ้าของสินทรัพย์ จากการทบทวนแนวคิดและทฤษฎี พบได้ว่า กระแสนิยม Digital Economy ที่กาลังมาแรงใน ปัจจุบัน กระตุ้นให้ผู้คนตื่นตัวในการนาเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ในการทาธุรกิจ การค้า บริการ รวมถึง กิจกรรมอื่น ๆ เน่ืองจากความก้าวหน้าของระบบสารสนเทศ และ เทคโนโลยีในการสื่อสารท่ีทันสมัย ทาให้ ระบบเศรษฐกจิ ถูกขับเคลื่อนดว้ ยนวตั กรรมใหม่ ๆ หนึง่ ในน้นั คือ ระบบ Sharing Economy หรือ แนวคิด เศรษฐกิจแบง่ ปัน ซ่งึ มาจากความต้องการสร้างรายไดจ้ ากการแลกเปล่ียนการบริโภคจากสินค้าและบริการที่ ตนมีอยู่ แต่มีปริมาณมากเกินความต้องการ โดยมีจุดเริ่มต้นจากสภาพเศรษฐกิจตกต่าในปี 2550-2551 จึงเกิดแนวคิดที่ต้องการหารายได้เสริม รวมถึงหาผู้ที่ร่วมจ่ายค่าสินค้าเพื่อแบ่งเบาภาระหน้ีสิน จนเกิดเป็น ธุรกิจ Startup ในปัจจุบัน ท้ังนี้ ระบบ Sharing Economy จะเติบโตได้ดีจะต้องมีการพัฒนาประมวล ข้อมูลบนระบบอินเตอร์เน็ตเพื่อทาให้ผู้ที่ต้องการแบ่งปันสินค้าส่งข้อมูลถึงผู้ที่ต้องการใช้สินค้าได้อย่าง สะดวก รวดเร็ว แม้จะอยู่ห่างกันคนละซีกโลก โดยผ่านแพลทฟอร์ม (Platform) บนระบบอินเตอร์เน็ต ซ่ึงเป็นตัวกลางที่ 3 ระหว่างผู้บริโภคและผู้ให้บริการ นอกจากการซื้อขายสินค้าและบริการแล้ว แนวคิด Economy Sharing ยังได้ถูกปรับมาใช้ในธุรกิจทางการเงิน บันเทิง และธุรกิจอ่ืน ๆ รวมถึงอุตสาหกรรม ทอ่ งเทย่ี ว ซึ่งมคี วามหลากหลายในการบรกิ าร อาทิ ท่ีพกั การขนสง่ ร้านอาหาร บรกิ ารนาเท่ยี ว ดว้ ยรูปแบบ การท่องเท่ียวท่ีเปล่ียนไป คนรุ่นใหม่นิยมเดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเองมากขึ้น ดังนั้นการเข้าถึงข้อมูลผ่าน ระบบอินเตอร์เน็ต จึงเข้ามามีบทบาทสาคัญ จากปี 2559 พบว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ท่ีเดินทางเข้ามา ท่องเท่ียวในประเทศไทย ด้วยตนเอง คิดเป็นร้อยละ 64 ที่เป็นผู้ที่ต้องการหาประสบการณ์แปลกใหม่ และ ตอ้ งการซมึ ซับวฒั นธรรมทอ้ งถิ่น ซง่ึ แพลทฟอร์ม Sharing Economy จะยังคงไดร้ ับความนิยมอยา่ งต่อเนื่อง ดังเชน่ ธุรกิจ Airbnb UBER Grab และ Lyft เปน็ ตน้ (ภาวนศิ ร์ ชวั ลลั ล,ี 2560) มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 93 กรณศี กึ ษาการดาเนนิ ธุรกจิ ด้วยแนวคิดเศรษฐกจิ เชงิ แบง่ ปัน ในการจัดกิจกรรมงานว่ิงเพ่ือส่งเสริมการท่องเท่ียวเชิงกีฬา ของจังหวัดราชบุรี พบว่า มีแนวทาง การดาเนินธุรกิจเพื่อสังคม กรณีศึกษา ศูนย์การเรียนรู้อยู่เย็นเป็นสุข วิถีไทยรามัญ ท่ีมีการดาเนินงานตาม แนวคิดเศรษฐกิจเชงิ แบง่ ปนั ได้ดงั นี้ กลุ่มธุรกิจชุมชนได้รวมกัน นาโดย ศูนย์การเรียนรู้ อยู่เย็นเป็นสุข วิถีไทยรามัญ ตาบลเบิกไพร อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี จดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนและศูนย์การเรียนรู้ เปิดให้บริการรับ นักท่องเท่ียวและผู้มาศึกษาดูงานตลอดทั้งปี มีบริการท่ีพัก อาหารและอาหารว่าง เป็นศูนย์ท่ีไม่ได้เปิดหน้า ร้านแต่รับจองล่วงหน้า แนวคิดหลักคือ การต่อยอดบริหารกิจการของตนเองร่วมกับการพัฒนาชุมชนใน พ้นื ท่ี โดยเช่อื มโยงกับกจิ กรรมการจัดงานวิ่งจอมบึงมาราธอน จากข้อจากัดของการใหบ้ ริการด้านที่พัก การ ขนส่ง สถานท่ีจอดรถ และร้านอาหาร ให้แก่นักว่ิงในแต่ละปี และเพื่อเน้นการตลาดเพ่ือเอาใจผู้บริโภค จึง หาวิธีแก้ไขปัญหา จากปริมาณความต้องการ ที่พัก สถานท่ีรับประทานอาหาร ท่ีจอดรถยนต์ท่ี การเดินทาง ไป-กลับ ท่ีสะดวกระหว่างท่ีพักกับสถานท่ีจัดงาน และการขยายเวลา Checkout ออกจากที่พัก รวมทั้ง สถานทีน่ ั้น ๆ มคี วามปลอดภยั ไวว้ างใจได้ในทรพั ย์สนิ ของมีคา่ ของนักว่ิง ผ้บู รหิ ารศูนย์ นาโดย นายสาโรจน์ ทองหุ้ม และ อาจารย์ ดร.อมรพิมล พิทักษ์ ครอบครัว ได้ออกแบบการให้บริการที่ มีรูปแบบการดาเนิน ธุรกจิ เชื่อมโยงกับกจิ กรรมงานวิง่ ในชุมชน แนวทางการดาเนินธุรกิจของศูนย์ให้เป็นมิตรกับชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม และมุ่งหวังในการ สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ที่มีรายได้จากการทาไร่ ทาสวนไม่คงที่ โดยการ ออกแบบการบริหารด้วยการเช่ือมโยงกับกิจกรรมว่ิงในชุมชน ต่อเน่ืองมา 3 ปี ทาให้เห็นผลของการพัฒนา อย่างเป็นรูปธรรม ตามแนวคิดธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ท่ีศูนย์นามาเป็นแนวปฏิบัติ ประกอบดว้ ย 9 องคป์ ระกอบ ดังนี้ 1) ลูกค้า (Customer) ลูกค้าของศูนย์สามารถรองรับได้ทุกเพศทุกวัย ที่ศูนย์สามารถบริหาร จัดการการให้บริการได้ตามวัตถุประสงค์ของลูกค้า ซึ่งการบริหารที่มีความยืดหยุ่นจะทาให้ลูกค้ามีความ สบายใจในการมาใช้บริการ จึงส่งผลใหล้ ูกค้าส่วนมากท่ีมาแล้วจะกลับมาอีกหากมีโอกาส และประกอบด้วย นักว่ิง ผู้ติดตาม นักเรียน นักศึกษา ผู้มาศึกษาดูงาน เกษตรกร นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะการรับรองลูกค้าใน กลุ่มนักว่ิงท่ีมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ซ่ึงหากแม้ว่าเรือนนอนไม่มีแอร์ แต่ก็จะเต็มทุกปี จนกระทั่งผู้บริหารจัด สถานที่กางเตน้ ทใ์ ห้นกั ว่ิงมาจองใชบ้ ริการ
94 1000 จานวนผใู้ ช้บริการ (คน) 357.50 800 รายไดเ้ พม่ิ (พนั บาท) 600 162.50 550 มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง400 200 65.00 250 0 100 2560 2561 2562 ภาพที่ 5.5 จานวนนักวงิ่ และรายได้ทีเ่ กิดขนึ้ จากการให้บรกิ ารธุรกจิ ของศูนย์เรยี นรู้ จากภาพที่ 5.5 ศูนย์การเรียนรู้ฯ ได้เปิดให้บริการรองรับนักวิ่ง ปี พ.ศ. 2560 ในจานวน 100 คน ซึ่งทาให้มีรายได้จากการให้บริการในปีแรกเป็นมูลค่า 65,000 บาทต่อคืน ต่อมาในปี พ.ศ. 2561 ได้สร้าง เรือนนอนเพิ่มขึ้น ทาให้สามารถรับนักวิ่งได้ 250 คน ทาให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 162,500 บาท และนักว่ิง จองเข้ามาใชบ้ ริการเพิม่ มากข้นึ ในปี พ.ศ. 2563 คณะผู้บรหิ ารจงึ แก้ไขปัญหาโดยการจ้างแรงงานภาคเกษตร มาปรับไถพื้นท่ีให้สามารถเป็นลานกางเต้นท์ให้นักว่ิงได้มาพัก ทาให้สามารถรองรับนักวิ่งได้สูงสุด 550 คน ทาใหม้ รี ายได้เพิ่มข้นึ เป็น 357,500 บาท โดยประมาณ ภาพท่ี 5.6 บรรยากาศการดแู ลนักวง่ิ ของศนู ย์การเรยี นรู้ ท่ีมา ทศั นยี ์ นาคเสนยี ์ และ วสันต์ นาคเสนยี ์ (2563)
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 95 2) บริการ (Services) การให้บริการของศูนย์ นอกจากจะเป็นศูนย์ศึกษาดูงาน ศูนย์ถ่ายทอดองค์ ความรู้ ภูมิปัญญาการเกษตรและการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรแล้ว ในช่วงของการจัดกิจกรรมงานวิ่ง จอมบงึ มาราธอน ได้เปิดให้บรกิ าร ท่ีพกั นกั ว่งิ และผูต้ ิดตาม บริการอาหาร เครอ่ื งด่ืม รถรับสง่ นักวิง่ และเปิด โอกาสให้ผูป้ ระกอบการนวดเพื่อสุขภาพมาเปิดให้บรกิ ารแกน่ ักวิ่ง ทาใหบ้ รรยากาศเป็นชนุ ชมเป็นมิตร ผ่อน คลาย นักว่ิงได้เดินเล่นในสวน รับประทานอาหารพ้ืนบ้าน ไม่ต้องรีบ Checkout ก่อนเท่ียงวันตามเวลาของ โรงแรมที่พักท่ัวไป เลือกซื้อผลผลิตและผลิตภัณฑ์แปรรูปของชุมชนกลับไปประกอบอาหารที่บ้านหรือซื้อ เปน็ ของฝากของท่ีระลึกได้ 3) ทุน (Capital) อันประกอบไปด้วย ทุนทางทรัพยากร ทุนทางสังคม และทุนทางส่ิงแวดล้อม กล่าวคือ ด้วยที่ต้องอยู่เป็นไร่อ้อย บรรยากาศโล่งกว้าง ล้อมรอบด้วยครัวเรือนที่เป็นมิตรประกอบอาชีพทา สวนและไร่อ้อย มีรถยนต์ใช้ในการขนส่งผลผลิตทางการเกษตร รถมอเตอร์ไซต์ซาเล้งขับข่ีเข้าไร่ ทาให้ศูนย์ การเรยี นรูม้ ฐี านทุนทสี่ มบรู ณ์ในการต่อยอดบูรณาการกจิ กรรมเชิงสร้างสรรคร์ ว่ มกับชุมชนได้ในทุกมิติตั้งแต่ กระบวนการผลิต แปรรูปและทาการตลาด อีกท้ังยังสามารถทาแผนท่ีเช่ือมโยงกับทุนในชุมชนเพ่ือนา นักท่องเท่ียวหรือกลุ่มผู้ศึกษาดูงานไปทากิจกรรมเพ่ือสร้างประสบการณ์การประกอบอาชีพเกษตรกรรม ร่วมกับชมุ ชนไดต้ ลอดท้งั ปี ภาพท่ี 5.7 การใช้ทุนในชุมชนมาสรา้ งมูลค่าเพ่ิม ที่มา ทัศนยี ์ นาคเสนยี ์ และ วสนั ต์ นาคเสนีย์ (2563) 4) แรงงานในชุมชน (Labor Community) ในชุมชนมีกลุ่มแรงงานท่ีหลากหลาย โดยเฉพาะ แรงงานผู้สูงอายุท่ีประกอบอาชีพเกษตรกร รับจ้างรายวัน ซึ่งกลุ่มผู้สูงอายุล้วนแต่มีประสบการณ์ในการทา การเกษตร โดยเฉพาะการทาไร่อ้อย การทาฟาร์มเห็ด ที่เป็นพืชเศรษฐกิจของชุมชน ดังนั้น ก่อนการจัด กจิ กรรมงานวิ่ง ผบู้ ริหารจะทาการประมาณการและวางแผนการใช้น้าอ้อยสดเพื่อต้อนรับนักท่องเทย่ี ว ออก บูทจาหน่ายน้าอ้อย ทาน้าตาลอ้อยเพ่ือจาหน่ายให้นักว่ิง จึงจะมีการเตรียมการล่วงหน้าในการผลิต ทาง
96 ศนู ย์ฯ จะทาการประกาศรับสมัครจ้างแรงงาน เพอื่ ให้ผทู้ ี่ว่างงานในชุมชนมาสมัครรับจา้ งทางาน ซ่ึงในแตล่ ะ ปจี ะมกี ารจ้างแรงงานไม่นอ้ ยกวา่ 30 อตั รา ภาพท่ี 5.8 การใชแ้ รงงานในชุมชน ทม่ี า ทศั นยี ์ นาคเสนยี ์ และ วสันต์ นาคเสนยี ์ (2563) 5) สินค้าชุมชน (Local Product) สินค้าในชุมชนส่วนมากเป็นผลผลติ จากไรแ่ ละสวน ได้แก่พืชผัก มนั สาปะหลงั ฟักทอง เหด็ ออ้ ย ไข่ไก่ ดินขยุ ไผแ่ ละไส้เดือนดิน ศนู ยฯ์ ไดม้ ีแนวคิดในการแปรรูปอ้อยมาทา เป็นน้าอ้อยคั้นสด และน้าตาลอ้อย นอกจากนั้นยังนาน้าตาลอ้อยมาปรุงเป็นน้าปรุงรสเมนูไข่ลูกเขย หาก ท่านใดมาใช้บริการอาหารที่ศูนย์ ทางแม่ครัวก็จะนาเสนอเมนูไข่ลูกเขยให้รับประทาน และไข่ไก่ที่นามาทา นั้นเป็นผลผลิตจากกลุ่มผู้สูงอายุในชุมชนเล้ียงแล้วนามาจาหน่ายให้ศูนย์เพ่ือใช้ในการปะกอบอาหาร นอกจากนั้นยังพบว่า เม่ือลูกค้ารับประทานแล้วติดใจในรสชสด จึงพากันซื้อน้าอ้อยปรุงรสกลับบ้าน ทาให้ สินค้าชุมชนจาหน่ายได้เพิ่มข้ึน การดาเนินธุรกิจของศูนย์ในวันจัดกิจกรรมงานวิ่ง ได้นาน้าอ้อยคั้นสดมาตั้ง บทู บริการนา้ ออ้ ยใหแ้ ก่นกั ว่งิ ในทกุ ๆ ปี ดงั ภาพ มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 97 ภาพที่ 5.9 ตัวอย่างสนิ ค้าชุมชน ที่มา ทศั นยี ์ นาคเสนีย์ และ วสนั ต์ นาคเสนีย์ (2563) 6) องค์ความรู้ (Knowledge) จากประสบการณ์จากการลองผิดลองถูกทาให้เกิดเป็นองค์ความรู้ที่ ฝังอยู่ในตัวผู้บริหาร ดังนั้น ความโดดเด่นในการบริหารจัดการ การสร้างกิจกรรมจากองค์ความรู้ ทาให้เกิด การยอมรับของศูนย์การเรียนรู้เพิ่มมากขึ้น ท้ังภาครัฐและเอกชน ต่างได้เสนอโครงการเพื่อขออนุมัติมา ศึกษาดูงาน หรือ นาศูนย์มาเป็นห้องปฏิบัติการชุมชนให้นักเรียน นักศึกษา ได้มาเรียนรู้กระบวนการผลิต หรอื การแปรรูป ดว้ ยตนเอง ภาพท่ี 5.10 บรรยากาศการถา่ ยทอดความร้ขู องศนู ย์ ทีม่ า ทัศนยี ์ นาคเสนยี ์ และ วสันต์ นาคเสนยี ์ (2563)
98 7) เครือข่าย (Networks) ตั้งแต่เปิดดาเนินการของศูนย์ ผู้บริหารของศูนย์ข้าร่วมกับกิจกรรมที่ เกยี่ วขอ้ งกบั การดาเนนิ ธุรกิจเกษตร ด้วยการเปน็ วิทยากรบรรยาย เปน็ ผ้เู ขา้ ร่วมประชุม ใหก้ บั หนว่ ยงานทุก ๆ ระดบั และทุกภาคส่วน ทางศนู ยฯ์ ให้ความรว่ มมอื ดว้ ยดเี สมอมา 8) สื่อสังคมออนไลน์และการตลาด (Social Media and Marketing) ในโลกของการ ติดต่อส่ือสารได้เปล่ียนแปลงไปอย่างไม่หยุดนึ่ง สื่อออนไลน์ท่ีทุกคนเข้าถึงได้ง่ายและรับรู้ได้เร็วที่สุด คือ เฟสบุ๊ค กลุ่มไลน์ เพจของงานจอมบึงมาราธอน เพื่อติดต่อสื่อสารกับนักว่ิงท่ีเป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายรวมไป ถงึ การสรา้ งความผกู พนั ธ์ดว้ ยการเลน่ เกม หรือ การแบ่งปันสง่ิ ของรว่ มกนั 9) ตราสนิ ค้าของศนู ย์ (Personal Brand) ตลอดระยะเวลาทเี่ ปดิ ใหบ้ ริการมา 4 ปี ส่งผลภาพลักษณ์ ของศูนย์ฯ ท่ีลูกค้าจดจาได้มากที่สุด คุณสาโรจน์ และ อาจารย์ ดร.นุ้ย คือช่ือเรียกกันจนคุ้นหูว่า ส่ิงที่คุณ สาโรจน์และ ดร.นุ้ย ต้องการให้เกิดเป็นภาพลักษณ์องค์กรที่มีความน่าเช่ือถือ มีความจริงใจกับลูกค้า แบง่ ปนั และรับผิดชอบต่อสังคมทาใหผ้ ลติ ภัณฑแ์ ละการบริการได้รบั การตอบรับเปน็ อย่างดี ภาพท่ี 5.11 ภาพลกั ษณต์ ราสินค้าของศนู ย์ ที่มา ทศั นีย์ นาคเสนยี ์ และ วสันต์ นาคเสนยี ์ (2563) ดงั น้ันจากการสัมภาษณ์และสงั เกตการณ์ในสถานการณ์จริง ทาให้คน้ พบขอ้ มูลถึงองคป์ ระกอบการ ดาเนินธุรกิจเพื่อสังคมของศูนย์ ที่มี 9 องค์ประกอบที่สาคัญ ต่างมีความสัมพันธ์ต่อกัน จนทาให้ศูนย์การ เรยี นรู้ มคี วามเขม้ แขง็ บนฐานของทรพั ยากร วิถีวฒั นธรรมของท้องถิน่ ดังภาพ ท่ี 5.11 มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 99 ภาพท่ี 5.12 องค์ประกอบการดาเนนิ ธรุ กจิ เพอื่ สังคมของศนู ย์ ทีม่ า ทศั นีย์ นาคเสนีย์ และ วสนั ต์ นาคเสนยี ์ (2563)
100 แนวทางการเชอ่ื มโยงเพื่อสร้างสรรคม์ ลู ค่าเพ่มิ ให้กับการจดั กิจกรรมงานวิง่ การจัดกิจกรรมงานวิ่ง ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้แก่ ผู้จัดกิจกรรมงานวิ่งใน ฐานะผลิตภัณฑ์การท่องเท่ียวเชิงกีฬาของชุมชน เท่านั้น ยังส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ทางธุรกิจการ ท่องเที่ยวเชิงกีฬา ก่อให้เกิดการพัฒนาทักษะ ประสบการณ์ของผู้จัดกิจกรรม และการพัฒนาความร่วมมือ ของชุมชน สู่การดาเนินธุรกิจเชิงแบ่งปัน ท่ีมีองค์ประกอบการดาเนินงานเพ่ือสังคม อย่างเป็นรูปธรรม ดังเช่นข้อค้นพบจากการศึกษาการวัดผลกระทบทางสังคม (Social Return on Investment : SROI) ของ การจัดกิจกรรมงานวิ่ง จอมบึงมาราธอน ครั้งที่ 35 คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับคณะ นักวิจัยมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ได้ร่วมกันวิเคราะห์เพื่อให้สามารถนาผลการดาเนินงานวัดเป็น มูลค่าได้ จนกระท่ังพบว่า การจัดกิจกรรมงานวิ่ง ได้ก่อให้เกิดผลตอบแทนสูงถึง 22.76 เท่า จากมูลค่าการ ลงทุน เม่ือประเมินมูลค่าของผลกระทบในรปู ของตัวเงิน พบว่า โดยรวมมีมูลค่าประมาณ 145.57 ล้านบาท จาแนกเป็น ผลลัพธ์ทางสังคม มูลค่า 123.87 ล้านบาท (ร้อยละ 85.09) รองลงมาคือ ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจ มลู คา่ 18.05 ลา้ นบาท (ร้อยละ 12.40) และ ผลลัพธ์ทางสิง่ แวดล้อม มูลคา่ 3.66 ลา้ นบาท (ร้อยละ 2.51) ดังน้ันจากผลการศึกษาครั้งนี้ อันประกอบไปด้วย ผลการศึกษาพฤติกรรมของนักท่องเท่ียวเชิงกีฬา ระบบ นิเวศน์ทางธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism Business Eco System) การจัดดาเนินกิจกรรม งานวิ่งถนนของผู้จัดกิจกรรมงานว่ิงถนน การออกแบบโครงสร้างเทคโนโลยีแพลทฟอร์มและพัฒนาระบบ เศรษฐกิจเชิงแบ่งปัน (Sharing Economy) ในกลุ่มกิจกรรมงานว่ิง ตลอดจนการศึกษาถึงการดาเนินธุรกิจ เพ่ือสังคม (Social Enterprise) ในการจัดกิจกรรมงานว่ิง สามารถ นามาวิเคราะห์และจัดทาเป็น (ร่าง) รูปแบบการใช้ระบบธรุ กิจเชงิ แบง่ ปันในการจัดกิจกรรมงานว่ิงระดับชมุ ชน นา (ร่าง) รูปแบบไปประชุมกลุ่ม ย่อยกับผ้ทู ี่เกย่ี วข้อง อาทิ ผู้บรหิ ารจดั การศนู ย์ฯ ผูแ้ ทนผูจ้ ดั กิจกรรมงานวิ่ง และผแู้ ทนนกั ว่ิง ไดร้ ปู แบบการ ใชร้ ะบบธุรกิจเชิงแบง่ ปันในการจัดกจิ กรรมงานวิ่งระดบั ชมุ ชน ดงั น้ี มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 101 ภาพท่ี 5.13 รูปแบบการใช้ระบบธรุ กิจเชงิ แบง่ ปันในการจดั กจิ กรรมงานว่งิ ระดบั ชมุ ชน ทม่ี า ทศั นยี ์ นาคเสนีย์ และ วสนั ต์ นาคเสนยี ์ (2563)
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 102 สรุป รปู แบบการทาธุรกิจแบบเศรษฐกิจแบ่งปัน (Sharing Economy) เปน็ ตลาดใหม่ ทีเ่ ป็นการทาธุรกิจ แบบเพือ่ นสู่เพ่ือน (Peer to Peer) หรือ เปน็ การติดต่อเพื่อแบ่งปนั ทรัพย์สมบตั ิผลัดกนั ใช้ โดยผา่ นการ เชา่ ซ้ือแบบสินค้ามือสอง แทนการซ้ือของใหม่ ผ่านช่องทาง อินเตอร์เน็ต Online Booking Website ซ่ึงมีข้อ ได้เปรียบ กว่าธุรกิจอื่น ๆ ได้แก่ 1) การแชร์ทรัพยากรระหว่างกันช่วยทาให้ชีวิตมีความสะดวกสบายและมี เงินใช้อย่างมีประสิทธิภาพมากข้ึน 2) การแบ่งปันหรือแลกเปลี่ยนสมบัติหรือสิ่งของระหว่างกัน คุ้มค่ากว่า การซื้อมาครอบครอง 3) การดาเนนิ ธุรกจิ แบบแบ่งปนั มีส่วนช่วยในการอนรุ ักษส์ ่งิ แวดลอ้ มได้อีกทาง และ 4) มีความเช่ือถือในบริษัทที่ให้บริการ เมื่อมีบุคลที่เคยไปมาแล้วมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทั้งในทางท่ีดีและ ไม่ดี ผ่าน Online Booking Website อันก่อให้เกิดผลดีต่อระบบเศรษฐกิจไทยโดยรวม โดยเฉพาะในด้าน การใช้จ่ายและการท่องเท่ียว ช่วยสร้างงานและรายได้เสริมหากประชาชนพร้อมท่ีจะปรับตัวใช้เทคโนโลยี เขา้ มาช่วยในการทาธรุ กิจ โดยถอื เป็นตัวรองรับทางเศรษฐกิจ (Cushion) เม่อื เกดิ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ เม่ือกล่าวถึงความสัมพันธ์ของแผนภาพเศรษฐกิจเชงิ แบ่งปัน พบว่า มีผู้เก่ียวข้อง 3 ภาคส่วน ได้แก่ เจ้าของทรัพย์สิน นาเสนอทรัพย์สินท่ีตนเองมีต่อผสู้ ร้างแพลตฟอร์มธุรกิจ เพื่อให้บริการเช่าใช้ หรือ บริการ อื่น ๆ ในขณะเดียวกันเจ้าของทรัพย์สินให้ผู้ใช้บริการหรือผู้บริโภคที่แจ้งความประสงค์จะใช้บริการต่อ แพลตฟอร์มธรุ กิจไว้ จงึ เกิดเปน็ การซ้ือขาย การใหบ้ ริการต่อกัน ผา่ นการส่อื สารทางเทคโนโลยี และ ในการ ออกแบบและพัฒนาแอพพลิเคช่ันบนสมาร์ทโฟน มีองค์ประกอบ 7C (มิลตรา สมบัติ และปวีณา คาพุกกะ, 2561) คือ การพาณิชย์ (Commerce) ความเป็นชุมชน (Community) เน้ือหา (Content) การสื่อสาร (Communication) การปรบั แตง่ (Customization) รูปแบบ (Context) และ การเชื่อมโยง (Connection) กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา (2560) ได้แบ่งห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของการท่องเท่ียวเชิงกีฬา ออกเปน็ 3 กลมุ่ ไดแ้ ก่ 1) กลมุ่ ผู้ใหบ้ ริการการท่องเทยี่ วเชิงกีฬา (Sports Tourism Service Providers) 2) กลมุ่ ตวั แทนจัดการท่องเทยี่ วเชงิ กีฬาและผู้ประกอบการทวั ร์เชิงกีฬา (Sports Travel Agencies and Tour Operators) 3) กลุม่ ผู้นาเสนอปจั จัยการผลติ ในการทอ่ งเทย่ี วเชิงกฬี า (Sports Input Providers) จากกรณศี ึกษาการดาเนินธรุ กจิ ด้วยแนวคดิ เศรษฐกิจเชงิ แบง่ ปนั ของศนู ยก์ ารเรียนรู้อยู่เย็นเป็นสุข วถิ ีไทยรามญั ท่มี ีการดาเนนิ งานตามแนวคิดเศรษฐกิจเชงิ แบ่งปัน (Sharing Economy) และธุรกิจเพ่อื สังคม (Social Enterprise) ที่ได้มาเป็นแนวปฏิบัติ ประกอบด้วย 9 องค์ประกอบ ลูกค้า (Customer) บริการ (Services) ทุน (Capital) แรงงานในชุมชน (Labor Community) สินค้าชุมชน (Local Product) องค์ ความรู้ (Knowledge) เครือข่าย (Networks) สื่อสังคมออนไลน์และการตลาด (Social Media and Marketing) และตราสินค้าของศูนย์ (Personal Brand)
103 แบบฝึกหดั ท้ายบท 1. การทาธรุ กจิ แบบเศรษฐกจิ แบง่ ปนั (Sharing Economy) มรี ูปแบบอยา่ งไร 2. ความสัมพันธ์ของแผนภาพเศรษฐกิจเชิงแบ่งปัน ประกอบด้วยผู้ท่ีเก่ียวข้องก่ีภาคส่วน และแต่ละ ภาคสว่ นมบี ทบาทหนา้ ที่อย่างไร 3. ในการออกแบบและพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ประกอบด้วยองค์ประกอบอะไรบ้าง จง อธิบายพร้อมยกตวั อยา่ งประกอบ 4. กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา (2560) ได้แบ่งห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของการ ทอ่ งเที่ยวเชงิ กีฬาออกเปน็ ก่ีกลมุ่ จงอธบิ ายพร้อมยกตัวอย่างประกอบ 5. จากกรณศี กึ ษาการดาเนนิ ธรุ กิจดว้ ยแนวคิดเศรษฐกจิ เชิงแบ่งปันและธุรกจิ เพ่ือสงั คม ของศนู ยก์ าร เรยี นรอู้ ยูเ่ ยน็ เป็นสขุ วิถไี ทยรามญั มรี ูปแบบการดาเนินงานอยา่ งไร มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง
104 บทที่ 6 ตวั อยา่ งการออกแบบแอพพลเิ คชัน่ เพอ่ื สง่ เสริมการทอ่ งเทย่ี วเชิงกฬี า วตั ถุประสงค์ของการเรียนรู้ เพอื่ ให้ผู้เรียน 1. สามารถอธบิ ายการเชอื่ มโยงธรุ กจิ ตามระบบเศรษฐกิจเชิงแบ่งปันในกิจกรรมงานวิ่ง 2. สามารถอธบิ ายแนวคดิ และขน้ั ตอนการออกแบบสรา้ งแพลทฟอร์ม Sharing Economy 3. สามารถอธิบายการสรา้ ง Platform ของเศรษฐกิจเชิงแบง่ ปันในเชิงพาณิชย์ในกิจกรรมงานวิ่ง 4. สามารถวเิ คราะห์ผลการใช้แอพพลิเคช่ัน SHARING ECONOMY และเสนอแนะความคิดเห็นได้ องคป์ ระกอบของแอพพลิเคช่นั ในการพฒั นาเศรษฐกจิ เชิงแบ่งปัน (Sharing Economy) องค์ประกอบของแอพพลิเคชั่นการพัฒนาเศรษฐกิจเชิงแบ่งปัน ( Sharing Economy) เป็น นวัตกรรมเทคโนโลยี แพลตฟอร์มใหม่จะคอยช่วยเหลือ ให้ผู้ท่ีไม่ใช่มืออาชีพ สามารถทาธุรกิจ เชิงพาณิชย์บนโลกออนไลน์ได้ ไดพ้ บกบั ลูกค้าของพวกเขาได้อย่างกว้างขวาง จงึ อาจจะกล่าวได้ว่า การสร้าง Platform ของเศรษฐกิจเชิงแบ่งปันในเชิงพาณิชย์น้ัน เป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีใหม่ ท่ีแสดง การเคลื่อนไหวของห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) อย่างเข้าถึงลูกค้าผู้บริโภคขั้นสุดท้าย (Giro Tra Sine, 2014) เช่นเดยี วกับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (2559) ทไี่ ดพ้ ยากรณ์ไว้วา่ แนวโนม้ ทีส่ าคญั ที่จะส่งผล กระทบต่อการท่องเท่ียวในอีก 20 ปีข้างหน้า โดยผู้คนจะหันมาให้ความสาคัญกับการเพ่ิมเครือข่ายเพื่อนท่ี เช่ือถือได้เพ่ือให้ข้อมูลเกี่ยวกับทางเลือกในการเดินทาง ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูล ณ ปัจจุบัน (In Real time) ได้มากข้ึน ปัจจุบันเศรษฐกิจการแบ่งปัน เป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมท่องเท่ียวใน 4 สาขาหลัก ได้แก่ การขนส่ง ที่พัก บริการอาหาร ไกด์และบริษัททัวร์ นอกจากนั้น แนวคิดเศรษฐกิจเชิงแบ่งปันมีแนวโน้มท่ี จะทาให้เกิดการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจให้แก่เจ้าของทรัพย์สิน แรงงาน เวลา ความเช่ียวชาญ ท่ีเจ้าของ ทรัพย์สินถือครองและไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มศักยภาพ มาสร้างมูลค่าเพ่ิมผ่านกระบวนทัศน์ของการ เปล่ยี นแปลงทางดา้ นเทคโนโลยี (Technology Paradigm) (กระทรวงการทอ่ งเทีย่ วและกฬี า, 2559) มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 105 ภาพที่ 6.1 แผนเช่ือมโยงธรุ กิจตามระบบเศรษฐกจิ เชงิ แบ่งปันในกิจกรรมงานว่งิ ที่มา กระทรวงการท่องเท่ยี วและกีฬา (2559) จากแผนภาพ 6.1 พบว่า ชอ่ งว่างของความสัมพันธ์และช่องทางการตดิ ต่อเพ่ือแลกเปลี่ยนหรือ แบ่งกันของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการจัดงานว่ิง ท่ีประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ คือ ผู้จัดงานวิ่ง นักวิ่งใน ฐานะนักทอ่ งเท่ียว ผปู้ ระกอบการในพนื้ ท่ี ที่มีความสมั พันธเ์ ช่ือมโยงกันดังนี้ 1) ผู้จัดกิจกรรมงานวิ่ง ไม่สามารถจัดกิจกรรมงานวิ่งได้แต่เพียงลาพัง จาเป็นต้องมีผู้ท่ี เก่ยี วขอ้ งในการขับเคลื่อนให้การจดั กิจกรรมงานว่ิงบรรลตุ ามวตั ถปุ ระสงค์ ประกอบดว้ ย กล่มุ ผู้ประกอบการ ผูร้ ับจา้ งผลิต ออกแบบ หรือบริการ ผูป้ ระกอบการประเภทผลิต 2) กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเท่ียวและบริการ กลุ่มผู้รับจ้างผลิต ออกแบบ หรือบริการ ผู้ประกอบการประเภทผลิต อาทิ เสื้อ เหรียญ ถ้วยรางวัล ฯลฯ และกลุ่มผู้ให้บริการ อาทิ การจับเวลา เทคนิคหน้าเส้น ฯลฯ ซ่ึงผู้จัดจะทาการจัดหาจากเครือข่ายเดิม หรือเครือข่ายเดิมแนะนาบอกต่อทั้งที่เป็น กลุ่มผู้ประกอบการในพ้ืนที่และต่างพื้นที่จัดงาน ซ่ึงต่างมีความสัมพัน์ในการทาธุรกิจร่วมกันระหว่าง ผปู้ ระกอบการทีม่ กี ารตกลงราคาค่าจา้ งก่อนการผลติ หรือให้บริการ หรอื สง่ มอบงาน 3) นักวิ่งและผู้ติดตาม ท่ีเดินทางมาเข้าร่วมกิจกรรมส่วนใหญ่มีความจาเป็นต้องพักค้าง ใช้ บริการร้านอาหาร และใช้บริการของผู้ประกอบการภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการในพ้ืนท่ี การประเมิน ศักยภาพในการซ่ึง รูปแบบการติดต่อระหว่างนักวิ่งหรือผู้ติดตาม กับกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ ท่ี
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 106 กิจกรรมการการส่งมอบประสบการณ์ในการใช้บริการจะเกิดขึ้นหลังจากนักท่องเท่ียวตัดสินใจเลือกใช้ บรกิ าร ผู้แต่งในฐานะคณะนักวิจัยจึงได้นาข้อมูลดังกล่าวมาเป็นปัจจัยนาเข้าในการออกแบบและพัฒนา ตามแนวคิดองค์ประกอบพ้ืนฐานในการสร้างเว็บไซต์และแอพพลิเคช่ัน (มิลตรา สมบัติ และ ปวีณา คาพุกกะ, 2561) เพ่ือสร้างนวัตกรรมเทคโนโลยี แพลตฟอร์มใหม่จะคอยช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจในนิเวศน์ทาง ธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ให้ผู้ท่ีไม่ใช่มืออาชีพ สามารถทาธุรกิจเชิงพาณิชย์บนโลกออนไลน์ได้ ตามภาพ ความสมั พนั ธ์ประกอบการออกแบบ ทดลองใช้และประเมินผลกอ่ นการเผยแพรไ่ ปยงั กลุม่ ผใู้ ช้งานไดด้ งั นี้ ภาพที่ 6.2 ผังแนวคดิ การออกแบบสร้างแพลทฟอร์ม Sharing Economy ทีม่ า ทัศนีย์ นาคเสนีย์ และ วสันต์ นาคเสนยี ์ (2563) จากองค์ประกอบเว็บไซต์ (7C) ตามแนวคิด มิลตรา สมบัติ และปวีณา คาพุกกะ (2561) ที่นามา ประยกุ ต์ใช้ในการออกแบบและพัฒนาแอพพลิเคชัน่ บนสมารท์ โฟน ประกอบด้วย 1) การพาณิชย์ (Commerce) คือ ข้ันตอนและกระบวนการส่ังซื้อสินค้าบนแอพพลิเคชั่น เกิดการ ทาธรุ กรรมบนระบบออนไลน์ มีการออกแบบการทารายการส่ังซื้ออยา่ งเปน็ ขั้นตอน เพ่ือความสะดวกต่อการ ใชง้ านและใหค้ วามสาคญั เร่อื งระบบความปลอดภยั ของข้อมลู ผูใ้ ชง้ านเปน็ หลกั ดังน้ี 1.1 กระบวนการจัดการสมาชิก Input data flows ข้อมูลส่วนตัว from External Entity ลูกค้า และ Output data flows ข้อมูลสมาชิก to External Entity ลูกค้า ในกระบวนการส่ังซ้ือสินค้าบน แอพพลเิ คชนั่
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 107 1.2 กระบวนการเพม่ิ ข้อมลู สินค้า เป็นกระบวนการทใ่ี ชใ้ นการเพ่ิมข้อมูลรายละเอยี ดสินค้าจาก พนกั งาน ในรูปแบบใบเสนอราคา 1.3 กระบวนการแกไ้ ขขอ้ มลู สินค้า เป็นกระบวนการที่ใชใ้ นการแกไ้ ขรายละเอยี ดข้อมูลสนิ ค้า 1.4 กระบวนการเลือกชนิดสินค้า เป็นกระบวนการท่ีใช้ในการเลือกประเภทของสินค้าที่ลูกค้า ตอ้ งการ 1.5 กระบวนการ เพ่ิมหรือปรับเปล่ียนสินค้า เป็นกระบวนการท่ีใช้ในการปรับเปล่ียนสินค้าท่ี ตอ้ งการ ในรูปแบบข้อมูลใบสัง่ ซ้ือ 1.6 กระบวนการเพิ่มรายการสั่งซื้อ เป็นกระบวนการที่ใช้ในการเพิ่มรายการสินค้าที่ลูกค้า ตอ้ งการส่ังซื้อ 1.7 กระบวนการแกไ้ ขรายการ เป็นกระบวนการที่ใช้ในการแก้ไขรายการสัง่ ซ้ือสินคา้ จากลกู คา้ 1.8 กระบวนการคานวณราคาสนิ คา้ เป็นกระบวนการท่ีใช้ในการคานวณราคาสนิ คา้ 1.9 กระบวนการยืนยันการสั่งซ้ือ เป็นกระบวนการที่ใช้ในการยืนยันการส่ังซ้ือสินค้าตาม รายการสนิ ค้าท่ีเลือกไว้ 1.10 กระบวนการแจ้งข้อมูลการชาระเงิน เป็นกระบวนการท่ีใช้ในการแจ้งรายละเอียดการ ชาระเงนิ จากลกู ค้า 1.11 กระบวนการตรวจสอบการชาระเงิน เป็นกระบวนการท่ใี ชใ้ นการตรวจสอบขอ้ มลู การชาระ เงนิ ของลูกคา้ จากพนกั งาน 1.12 กระบวนการผลิตสินค้าและเตรียมสินค้า เป็นกระบวนการที่ฝ่ายผลิตนาใบสั่งซ้ือ ดาเนนิ การผลิตสนิ คา้ 1.13 กระบวนการเพ่ิมข้อมูลสถานการณ์ส่ง เป็นกระบวนการที่ใช้ในการเพ่ิมสถานการณ์จัดส่ง สินค้า 1.14 กระบวนการแจ้งสถานการณ์ส่งสนิ คา้ เปน็ กระบวนการท่ีใช้ในการแจง้ ขอ้ มูลสถานะการส่ง สินค้าให้ลูกคา้ ทราบ 1.15 กระบวนการติดต่อลูกค้าสอบถามความพึงพอใจ เป็นกระบวนการสอบทานคุณภาพของ สินค้า 2) ความเป็นชุมชน (Community) คือ สังคมในแอพพลิเคช่ันของกลุ่มคนจานวนหน่ึงที่สามารถ ตดิ ต่อพดู คยุ หรือทากิจกรรมอื่น ๆ รว่ มกนั ได้ แสดงความคิดเหน็ การรวี วิ หรือแลกเปลี่ยนข้อมลู ซึ่งกันและกัน มรี ปู แบบการสร้างช่องทางในในแอพพลเิ คชัน่ ดงั น้ี
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 108 2.1 มีการสร้าง Web Board กระดานสนทนา เว็บบอร์ดท่ีสร้างบนเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่น เพ่ือแลกเปล่ียนความคิดเห็นผ่านบทสนทนา หรือการอภิปราย การวิเคราะห์ท่ีกาหนดหัวข้อสนทนาเป็น เรอื่ ง ๆ ประเด็น ๆ ไป 2.2 มีการสร้างWeb Blog เว็บล็อก ไดอารี่ออนไลน์ เป็นรูปแบบท่ีเปิดให้ผู้อ่ืนเข้ามาอ่านข้อมูล กิจกรรมการวิ่ง และสามารถเขียนแสดงความคิดเห็นต่อจากข้อความเจ้าของบล็อกเป็นคนเขียนเอง ซ่ึงทาง ให้ผเู้ ขยี นแสดงความคิดเห็นและสามารถได้ผลตอบกลับทนั ที 2.3 มีการสร้าง Club Site คือ เว็บไซต์ที่ให้บริการแก่สมาชิกและผู้เย่ียมชมอย่างจากัด พอสมควร เน่ืองจากเว็บไซต์ประเภทน้ีมีวัตถุประสงค์เพื่อเสรมิ สร้างความสัมพันธ์ภายในกลมุ่ สมาชิกรวมถึง การรับรู้ความต้องการของสมาชิกท่ีสนใจเรื่องเหล่าน้ีจริง ๆ เช่น ชุมนุมคนดูหนัง อ่านละคร ออนไลน์ หรือ คนรักรถ รักการถ่ายภาพ ทีเ่ กีย่ วข้องกับกจิ กรรมการวงิ่ 3) ด้านเนอื้ หา (Content) คอื มีรายละเอยี ดของข้อมลู บนแอพพลิเคชัน่ ขอ้ มลู จดั วางเปน็ ระเบยี บท่ี เกี่ยวข้องกับกจิ กรรมงานว่ิง ดา้ นเศรษฐกิจเชงิ แบ่งปัน (Sharing Economy) ดงั น้ี 3.1 ข้อมูลทัว่ ไป 1.) แอพพลิเคชน่ั 1 ภาษา คือภาษาไทย 2.) ระบบปฏบิ ัติ การ 1 ระบบ Android 3.) ประเภทสมาชิก ผูใชงานทัว่ ไป, ผูดูแลระบบ 3.2 ออกแบบ แอพพลเิ คช่ัน 1.) ออกแบบหนาจอแอพพลเิ คชนั่ UX / UI หนาจอแอพพลเิ คชน่ั 2.) ออกแบบระบบการทางานของแอพพลเิ คชั่น 3.) ออกแบบโครงสร้างในการเกบ็ ขอ้ มลู 4.) ออกแบบ Screen short อบั โหลดข้นึ Store 3.3 ส่วนของแอพพลิเคช่ัน Android 1. ท่ัวไป 1.1. มีแบนเนอร์ สาหรับโปรโมทหรอื ต้องการแจ้งขา่ วสาร 1.2. สามารถเลอื กแสดงข้อมลู ของแต่ละจงั หวดั ได้ 1.3. รายการขา่ วสารแนะนาหรอื รายการใหม่ 1.4. รายการแนะนา แยกตามจงั หวดั 1.5. มีหมวดหมู่รา้ นคา้ แนะนาเชน่ ร้านรบั ทาเสื้อว่ิง , รา้ นรับทาเหรียญวง่ิ 2. ระบบงานวงิ่
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 109 2.1. แสดงรายการจดั กิจกรรมวง่ิ มใี นปัจจบุ ัน 2.2. สามารถค้นหาจากชื่องานว่ิงได้ 2.3. แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับงานว่ิง เช่น สถานที่ว่ิง , เวลา , ระยะเวลา ข้อมูล ตดิ ตอ่ 2.4. สามารถกดดรู ายละเอยี ดเพ่ิมเติมเกี่ยวกบั งานวง่ิ ไปยัง website ปลายทางได้ 3. รายการหมวดหมู่ รา้ นค้าหรือส่วนที่ใหบ้ รกิ าร 3.1. แสดงรายการหมวดหมู่ เช่น ร้านค้าผลิตเสอื้ , ผู้ประกอบการน้าดม่ื 3.2. แสดงราย ละเอยี ดหมวดหมู่ 3.3. เชื่อมโยงในรายละเอยี ดของแต่ละหมวดหมู 4. ระบบรา้ นค้า 4.1. แสดงรายช่ือรา้ นค้า ผู้ประกอบการตามพ้ืนท่ี แตล่ ะจงั หวัดที่ เลือก 4.2. แสดงรายละเอียดร้านค้า (ช่ือร้านค้า, ข้อมูลติดต่อ, ขอเสนทาง,ผลงานร้านค้า, สินคา้ บริการ) 4.3. สามารถเชอื่ มโยงเสน้ ทาง แสดงพ้ืนท่เี พอ่ื ขอระยะทางไปยงั Google map 4.4. มีชอ่ งทางการตดิ ต่อทหี่ ลากหลาย 4.5. แสดงระยะทางพื้นท่ีสถานท่ีใกล้เคียงในระยะทาง 30 กิโลเมตรจากพื้นที่จัด กจิ กรรมงานวิง่ 5. หมวดหมู่ สถานท่ี ทอ่ งเทีย่ วในจังหวดั 5.1. แสดงราย ช่ือหมวดหมูสถานท่ีในจังหวัด เช่น ร้านอาหาร, ที่พัก หรือสถานท่ี ท่องเท่ยี วในจังหวัด 5.2. สามารถแสดงราย ชื่อสถานะทตี่ ามหมวดหมู่ 5.3. สามารถค้นหารายชอื่ โดยวิธีเทยี บเคียง 6. รายละเอยี ดสถานท่ที ่องเทยี่ ว 6.1. แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ให้บริการ และแสดงข้อมูลติดต่อหรือ เสน้ ทางที่วเิ คราะห์ทใ่ี กล้ 6.2. สามารถเชอ่ื มเพื่อขอเส้นทางไปยงั Google map 6.3. สามารถใช้ช่องทางตา่ ง ๆ ในการตดิ ตอ่ 6.4. แสดงระยะสถานที่ใกล้เคยี ง ตามระยะทางทหี่ ่างจากพนื้ ท่จี ดั กจิ กรรมงานวง่ิ 7. ระบบ บทความ
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 110 7.1. แสดงรายการบทความ 7.2. สามารถค้นหารายการบทความ 7.3. แสดงรายละเอยี ดบทความ รูปภาพ และเนือ้ หา 8. ระบบข่าวสาร 8.1. แสดงรายการขาวสาร 8.2. แสดงราย ละเอียดขา่ วสาร รูปภาพ และเน้ือหา 9. ระบบติดตอ่ แจ้งข้อมลู ส่งเสริมการขาย 9.1. สามารถกรอกรายละเอยี ดท่ี ต้องการตดิ ตอสอบถาม admin 9.2. สามารถแบบเอกสารไฟล PDF , PNG , JPG จานวน 1 ไฟล์ 10. หนา้ อ่ืน ๆ 10.1. เก่ียวกบั เรา 10.2. ตดิ ต่อเรา 10.3. เงือ่ นไขข้อตกลง 4) การส่ือสาร (Communication) คือ ช่องทางการติดต่อสื่อสารกับเจ้าของร้าน เป็นช่องทางท่ี หลงั บา้ นจะตอ้ งออกแบบใหเ้ ปน็ ชอ่ งทางในการตดิ ต่อส่ือสารกับเจา้ ของรา้ น ดังแสดงดังนี้ ส่วนของระบบจัดการ หรอื ผู้ดแู ล 1. ระบบจดั การผ้ดู แู ล 1.1. ผดู้ ูแล 2 ระดับ supper admin , admin 1.2. แสดงราย ชอื่ ผดู้ ูแลทั้งหมด 1.3. สามารถดู รายละเอียดส่วนตัว 1.4. สามารถเพมิ่ ผ้ดู แู ลได้ 1.5. สามารถแก้ไขขอ้ มลู ผดู้ แู ล 1.6. สามารถลบผดู้ แู ลออกจากระบบ 1.7. สามารถแก้ไขสถานะผ้ดู แู ล 2. ระบบจดั การสถานทวี่ ่ิง 2.1. แสดงรายการสถานทีจ่ ัดกจิ กรรมงานว่งิ ทงั้ หมด 2.2. แสดงราย ละเอยี ดสถานะกิจกรรมงาน วง่ิ 2.3. สามารถเพ่มิ รายการสถานที่วิ่ง 2.4. สามารถแกไ้ ขราย ละเอียดรายการสถานท่จี ัดกจิ กรรมงานว่ิง
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 111 2.5. สามารถลบรายการจดั กิจกรรมงานว่ิง 3. ระบบจัดการหมวดหมู่ร้านคา้ 3.1. แสดงรายการหมวดหมู่ร้านคา้ ท้งั หมด 3.2. แสดงรายละเอยี ดหมวดหมู่ 3.3. สามารถเพมิ่ รายการหมวดหมู่ 3.4. สามารถแก้ไขรายละเอียดรายการหมวดหมู 3.5. สามารถลบรายการหมวดหมู่ 4. ระบบจัดการรา้ นค้า 4.1. แสดงรายการร้านคา้ ท้งั หมด 4.2. สามารถดรู ายละเอียดร้านค้า 4.3. สามารถแก้ไขรายละเอยี ด หรือเปลีย่ นสถานะ 5. ระบบจดั การหมวดหมู่ สถานทีท่ ่องเท่ียว 5.1. แสดงรายการหมวดหมู่ สถานท่ี ทอ่ งเท่ยี วทง้ั หมด 5.2. แสดงรายละเอียดหมวดหมู่ 5.3. สามารถเพิม่ รายการหมวดหมู่ 5.4. สามารถแก้ไขรายละเอียดรายการหมวดหมู่ 5.5. สามารถลบรายการหมวดหมู่ 6. ระบบจดั การสถานท่ีท่องเที่ยว 6.1. แสดงรายการสถานที่ ท่องเทย่ี วทั้งหมด 6.2. สามารถดู รายละเอียดสถานที่ ทอ่ งเท่ยี ว 6.3. สามารถแก้ไขรายละเอียดสถานท่ีท่องเท่ยี ว หรอื เปลี่ยนสถานะสถานที่ท่องเทีย่ ว 5) การปรับแต่ง (Customization) คือ การออกแบบให้ง่ายต่อการปรับแต่ง ส่วนที่ให้ผู้ใช้งาน สามารถเปลยี่ นแปลงแกไ้ ขขอ้ มลู สว่ นตัวได้ ปรบั เปลี่ยนฟังกช์ ่ันต่าง ๆ ตามความตอ้ การของผ้ใู ชง้ าน ได้แก่ 6) รูปแบบ (Context) คือ การจัดโครงสร้างและการออกแบบแอพพลิเคชั่น การจัดวาง องค์ประกอบต่าง ๆ โดยรวม คานึงถึงความสวยงามและประโยชน์ในการใช้งาน มีการแบ่งสัดส่วนของหน้า การใชง้ านเป็นแต่ละประเภท เพ่ือความสะดวกละง่ายต่อการทางาน 7) การเชื่อมโยง (Connection) คือ ส่วนของเครือข่ายท่ีมีระบบการเชื่อมโยงจากแอพพลิเคชน่ั ไป ยงั ชอ่ งทางออนไลน์ และการเชอ่ื มโยง google map
112 Commerce Connection Communit y มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบงองค์ประกอบ เว็บไซต์ (7C) Context Content Customizat Communic ion ation ภาพที่ 6.3 องค์ประกอบเวบ็ ไซต์ (7C) ทีม่ า มิลตรา สมบัติ และปวณี า คาพกุ กะ (2561) เพื่อให้การดาเนินงานเป็นไปตามกรอบแนวคิดจากกรอบแนวคิดในการพัฒนารูปแบบการพัฒนา เศรษฐกิจเชิงแบ่งปัน (Sharing Economy) สร้างสรรค์มูลค่าเพิ่มให้กับการจัดกิจกรรมงานวิ่งในฐานะ ผลิตภัณฑ์การทอ่ งเท่ียวเชงิ กีฬาของชุมชน คณะนักวจิ ัยจึงได้ออกแบบข้นั ตอนการดาเนินงานเพื่อให้ได้มาซึ่ง นวัตกรรมเทคโนโลยีในรปู แบบของโปรแกรมแอพพลิเคชั่นที่ใช้ในการพัฒนาธุรกจิ เชิงแบ่งปันที่เกดิ จากการมี ส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายท่ีเกี่ยวข้อง ในการออกแบบ และพัฒนาเพื่อนาไปสู่การใช้จริงในชุมชน ตาม 7 ขั้นตอน ดังนี้
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 113 ภาพที่ 6.4 ขัน้ ตอนการสรา้ งนวัตกรรมเทคโนโลยใี นรปู แบบของโปรแกรมแอพพลิเคชน่ั ทมี่ า ทัศนีย์ นาคเสนยี ์ และ วสนั ต์ นาคเสนยี ์ (2563) ข้ันตอนท่ี 1 วิเคราะห์ความต้องการของนักว่ิง ผู้ติดตาม และผู้จัดกิจกรรมงานว่ิง ในฐานะผู้บริโภคมี ความต้องการที่จะใช้สินค้าและบริการ ท่ีมีตัวเลือกและช่องทางท่ีสามารถเข้าถึงผู้ประกอบการได้สะดวก รวดเรว็ ลดเวลาในการสบื หา ข้ันตอนท่ี 2 ออกแบบแพลตฟอร์มธุรกิจแบบแบ่งปัน ตามองค์ประกอบเว็บไซต์ (7C) ท่ีนามา ประยุกตใ์ ช้ในการออกแบบและพฒั นาแอพพลเิ คชั่นบนสมาร์ทโฟน ขั้นตอนที่ 3 เช่ือมโยง 4 ระบบให้เช่ือมต่อกันโดยมี แอพพลิเคชั่นธุรกิจแบบแบ่งปันเป็นเครื่องมือการ ทางาน เชอื่ มโยง B2C ธรุ กิจบริการกับนักวิง่ และผู้ติดตาม เชอ่ื มโยง B2B ผเู้ ขยี นแพลตฟอร์มกับธรุ กจิ บริการ เชื่อมโยง B2B ผู้จัดกิจกรรมงานวิ่งกับผู้ประกอบการธุรกิจผลิตและบริการกิจกรรมกีฬา และเช่ือมโยง B2B ผเู้ ขียนแพลตฟอร์มกบั ผ้ปู ระกอบการธุรกจิ ผลติ และบริการกจิ กรรมกฬี า ข้นั ตอนที่ 4 นาระบบจาลองไปทดลองใช้ในกิจกรรมว่ิง ในกลุ่มทดลอง นักว่ิง ผตู้ ิดตาม ผู้จดั กิจกรรม งานวิ่ง รา้ นค้า สถานประกอบการ ผู้ผลติ สนิ คา้ และบรกิ าร ข้นั ตอนท่ี 5 ทดสอบระบบเชอ่ื มโยง แอพพลเิ คช่ันธรุ กิจแบบแบ่งปนั ในกลุ่มทดลอง นกั ว่งิ ผตู้ ดิ ตาม ผู้ จัดกจิ กรรมงานวง่ิ ร้านค้า สถานประกอบการ ผ้ผู ลติ สินคา้ และบรกิ าร ขน้ั ตอนท่ี 6 ประเมินผล จากผู้ใช้งาน และผทู้ ่ีเกีย่ วข้องแอพพลเิ คชน่ั ธุรกจิ แบบแบ่งปนั ขั้นตอนที่ 7 ปรบั ปรงุ และพัฒนาระบบเชอ่ื มโยงแอพพลิเคช่ันธุรกจิ แบบแบ่งปนั เปน็ เคร่ืองมอื ต้นแบบ
114 ผลจากการศึกษาตาม 7 ข้ันตอน เพื่อสร้างนวัตกรรมการออกแบบโปรแกรมอย่างมีส่วนร่วมผ่าน แอพพลเิ คชั่น พบวา่ มฟี ังกช์ นั่ การทางาน 2 รูปแบบ ดังนี้ 1) รูปแบบที่ 1 แนวคิดในการพัฒนารูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจเชิงแบ่งปัน (Sharing Economy) เพื่อสร้างสรรค์มูลค่าเพิ่มให้กับการจัดกิจกรรมงานว่ิงในฐานะผลิตภัณฑ์การท่องเท่ียวเชิงกีฬาของชุมชน ระหว่าง นกั ท่องเท่ยี วและผู้ประกอบการธุรกิจท่องเทยี่ วและบริการ (B2C) และระหว่าง ผ้ปู ระกอบการธุรกิจ แพลทฟอรม์ กับผปู้ ระกอบการธุรกิจท่องเท่ียวและบรกิ าร (B2B) ดงั มีรายละเอยี ด ตามภาพประกอบ ภาพที่ 6.5 กลไกในการผลกั ดันการดาเนนิ นิเวศทางธรุ กิจในการจดั งานวง่ิ ดว้ ยโปรแกรมแอพพลิเคชน่ั ที่มา ทัศนีย์ นาคเสนีย์ และ วสนั ต์ นาคเสนีย์ (2563) มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง
115 เอกสารเชงิ หลักการมหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบงเอกสารเชิงหลกั การ ระบบหน้าบ้าน ระบบหลงั บา้ น แบบ B2C แบบ B2B การเข้าใชบ้ ริการของ การ Update ข้อมลู ของ นกั ทอ่ งเท่ยี ว ผู้ประกอบการทีใ่ หบ้ ริการ เปน็ ช่องทางการพบกนั ท่องเท่ียวและบริการ ระหว่างนักทอ่ งเทีย่ วกับ เปน็ ชอ่ งทางการพบกนั ผปู้ ระกอบการท่ใี ห้บริการ ระหวา่ ง เจา้ ของ Page กับ ทอ่ งเท่ยี วและบริการ ผปู้ ระกอบการที่ใหบ้ รกิ าร ซงึ่ มกี ลไกในการใช้ ท่องเท่ียวและบรกิ าร แอพพลิเคช่ันดังน้ี ซงึ่ มีกลไกในการใช้ 1) นักว่งิ ลงทะเบยี นเปน็ แอพพลเิ คชน่ั ดงั นี้ 1) ผปู้ ระกอบการ สมาชกิ ในกลมุ่ และเขา้ สู่ แอพพลิเคช่ัน ลงทะเบยี นเปน็ สมาชกิ ใน 2) นกั ว่งิ เลือกใช้บริการตา่ ง ๆ กลุ่มและเข้าสู่ ดว้ ยการคน้ หาข้อมูลใน แอพพลเิ คช่ัน แอพพลเิ คชน่ั ทพ่ี ัฒนาข้ึน 2) ใส่ขอ้ มลู เพ่มิ กจิ กรรมการ 3) นกั ว่ิงติดต่อผปู้ ระกอบการ บรกิ ารตามรายละเอียดท่ี ตาม Link ทเี่ ช่ือมไวใ้ น กาหนดใหค้ รบทุกชอ่ ง ระบบ ทง้ั การจองใช้บรกิ าร 3) ผดู้ ูแลระบบตรวจสอบ และการเดนิ ทางเข้าถงึ ด้วย คุณสมบัติหากผ่านให้เขา้ ระบบ GPS มาทาการซอื้ ขายกบั นักทอ่ งเทยี่ วในระบบได้ ภาพที่ 6.6 ข้นั ตอนการปฏิบัตงิ านในการจัดงานวิง่ ด้วยโปรแกรมแอพพลิเคชั่น สาหรับนักว่งิ ทีม่ า ทศั นีย์ นาคเสนยี ์ และ วสันต์ นาคเสนยี ์ (2563) 2) รูปแบบที่ 2 แนวคิดในการพัฒนารูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจเชิงแบ่งปัน (Sharing Economy) เพื่อสร้างสรรค์มูลค่าเพ่ิมให้กับการจัดกิจกรรมงานว่ิงในฐานะผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวเชิงกีฬาของชุมชน ระหว่าง ผู้จัดกิจกรรมงานว่ิงและผู้ประกอบการธุรกิจให้เช่าทรัพย์สินและบริการ (B2B) และระหว่าง ผู้ประกอบการธุรกิจแพลทฟอร์มกับผู้ประกอบการธุรกิจให้เช่าทรัพย์สนิ และบริการ (B2B) ดังมีรายละเอยี ด ตามภาพประกอบ
116 มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบงระบบหน้าบา้ น ระบบหลังบ้าน แบบ B2B แบบ B2B การเข้าใชบ้ ริการของผู้จัด การ Update ข้อมลู ของ กิจกรรมงานว่ิง ผปู้ ระกอบการท่ใี หบ้ ริการ เป็นช่องทางการพบกัน ท่องเท่ยี วและบรกิ าร ระหว่างผู้จดั กจิ กรรมงานวง่ิ เป็นช่องทางการพบกนั ซึง่ มีกลไกในการใช้ ระหวา่ ง เจ้าของ Page กบั แอพพลเิ คชัน่ ดงั น้ี ผู้ประกอบการให้เชา่ 1) ผูจ้ ัดกิจกรรมงานวิง่ ทรพั ย์สนิ และบรกิ ารใน ลงทะเบยี นเปน็ สมาชกิ ใน ชุมชนซ่งึ มกี ลไกในการใช้ กลุ่มและเขา้ สู่ แอพพลเิ คช่ันดังนี้ แอพพลเิ คชน่ั 1) ผู้ประกอบการ 2) ผจู้ ดั กจิ กรรมงานวิ่ง ลงทะเบยี นเป็นสมาชกิ ใน เลือกใช้บริการตา่ ง ๆ กลุม่ และเข้าสู่ ดว้ ยการคน้ หาขอ้ มลู ใน แอพพลิเคชัน่ แอพพลเิ คชนั่ ท่ีพัฒนาขึน้ 2) ใส่ขอ้ มูลเพมิ่ กิจกรรม 3) นกั ว่งิ ตดิ ตอ่ การบรกิ ารตาม ผ้ปู ระกอบการตาม Link รายละเอียดทีก่ าหนดให้ ที่เชอ่ื มไว้ในระบบ ทั้งการ ครบทุกช่อง จองใช้บรกิ าร และการ 3) ผดู้ แู ลระบบตรวจสอบ เดนิ ทางเข้าถึงดว้ ย คณุ สมบัติ หากผา่ นให้ เขา้ มาทาการซอื้ ขายกับ ภาพที่ 6.7 ขั้นตอนการปฏิบตั งิ านในการจัดงานวงิ่ ดว้ ยโปรแกรมแอพพลิเคชั่น สาหรบั ผจู้ นัดักทอ่ งเทย่ี วในระบบได้ ท่มี า ทัศนยี ์ นาคเสนยี ์ และ วสันต์ นาคเสนีย์ (2563)
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 117 ขั้นตอนการตดิ ตั้งโปรแกรมแอพพลิเคช่นั บนอปุ กรณพ์ กพา จากข้อเสนอแนะในการออกแบบแอพพลิเคช่นั จากนกั ว่ิง พบว่าได้ใหค้ วามสาคัญต่อประสทิ ธิภาพ ในประเด็น ตอบสนอง ประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว มีการเชื่อมโยงตาแหน่งทีต่ ้ังอยู่กบั เส้นทางไปยัง Google Map และ มีความไม่ยุ่งยาก เข้าถึงได้ง่าย สะดวกต่อการค้นหา มากท่ีสุด รองลงมาคือ ด้านการออกแบบ และด้านการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจชุมชนในพ้ืนที่จัดกิจกรรมงานวิ่งผ่านแอพพลิเคช่ัน ในระดับมากนั้น คณะนักวิจัยได้นาผลท่ีได้และข้อเสนอแนะ มาเป็นปัจจัยนาเข้าในการออกแบบแพลตฟอร์ม ธุรกิจเชิง แบง่ ปัน (Sharing Economy) โดยมีข้นั ตอนการเขา้ ใชง้ าน ดังนี้ ขน้ั ตอนท่ี 1 การโหลดแอพพลิเคชน่ั ข้ันตอนที่ 2 การเข้าหนา้ แรกของแอพพลเิ คชน่ั ขั้นตอนที่ 3 ชอ่ งทางกลุ่มนักวิ่งของแอพพลิเคชัน่ ขั้นตอนที่ 4 ช่องทางกลุ่มผจู้ ดั งานว่งิ ของแอพพลเิ คชัน่ ข้ันตอนที่ 5 ชอ่ งทางกล่มุ ผปู้ ระกอบการของแอพพลเิ คช่ัน ขน้ั ตอนที่ 6 ชอ่ งทางตดิ ตอ่ ผ้พู ฒั นาแอพพลเิ คชนั่ ขั้นตอนที่ 7 การใช้ขอ้ มลู สาหรับการแหลง่ ใหบ้ ริการในแอพพลเิ คชน่ั ขน้ั ตอนท่ี 8 การเขา้ ถงึ ข่าวสารและบทความในแอพพลิเคชั่น ภาพที่ 6.8 หนา้ จอแอพพลเิ คชนั่ SHARING ECONOMY ทม่ี า ทัศนยี ์ นาคเสนยี ์ และ วสนั ต์ นาคเสนยี ์ (2563)
118 ขน้ั ตอนที่ 1 การโหลดแอพพลเิ คชัน่ SHARING ECONOMY การโหลดแอพพลิเคชัน่ SHARING ECONOMY บนอปุ กรณ์มือถือ หรืออปุ กรณ์แท็บเลต็ สามารถ ท่ีจะโหลดโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการแอนดรอย์ (Android) ที่มีไอค่อนช่ือ Play Store โดย ระบบปฏิบัติการดังกล่าวผู้พัฒนาระบบ สามารถใช้ในลักษณะของซอฟต์แวร์เสรีหรือโอเพ่นซอร์ส (Open Source) ทาให้สามารถแก้ไข ดัดแปลงโค้ดแอนดรอยด์ได้อย่างอิสระ ตามความต้องการของผู้ใช้งาน และ ปรบั ปรงุ ขอ้ มูลได้ใหม้ ีความทันสมยั ในพ้นื ทีข่ องแอพพลิเคชัน่ SHARING ECONOMY จะประกอบด้วย 1. โลโก้ และ ชอ่ื SHARING ECONOMY 2. ข้อมูลการติดต่อของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ประกอบด้วย เว็บไซต์ อีเมล ที่อยู่ และนโยบาย ความเป็นสว่ นตวั 3. เกี่ยวกับแอพพลิเคชั่นโครงการวิจัย การพัฒนาการจัดการโซ่อุปทานการท่องเที่ยวเชิงกีฬา โครงการวิจัย การพฒั นาการจัดการโซ่อุปทานการท่องเทย่ี วเชิงกีฬาเพ่ือพฒั นาเศรษฐกิจชุมชนด้วยกจิ กรรม การวิ่งบนฐานวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจเชิงแบ่งปัน (Sharing Economy) สร้างสรรค์ มูลค่าเพิ่มให้กับการจัดกิจกร รมงานว่ิงในฐานะผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวเชิงกีฬาของชุมช นในพื้นที่ข อง แอพพลเิ คช่ัน SHARING ECONOMY จะประกอบดว้ ย 1. โลโก้ และช่อื SHARING ECONOMY 4. ข้อมูลการติดต่อของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ประกอบด้วย เว็บไซต์ อีเมล ท่ีอยู่ และนโยบาย ความเปน็ ส่วนตัว 5. เกี่ยวกับแอพพลิเคช่ันโครงการวิจัย การพัฒนาการจัดการโซ่อุปทานการท่องเที่ยวเชิงกีฬา โครงการวจิ ัย การพฒั นาการจัดการโซ่อุปทานการท่องเทีย่ วเชิงกีฬาเพ่ือพฒั นาเศรษฐกจิ ชุมชนดว้ ยกจิ กรรม การว่ิงบนฐานวัฒนธรรมท้องถิ่น เพ่ือพัฒนาเศรษฐกิจเชิงแบ่งปัน (Sharing Economy) สร้างสรรค์ มูลคา่ เพมิ่ ใหก้ ับการจดั กจิ กรรมงานวิง่ ในฐานะผลติ ภัณฑ์การท่องเท่ียวเชงิ กีฬาของชมุ ชน มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 119 ภาพที่ 6.9 ช่องทางการติดตั้งแอพพลเิ คชัน่ SHARING ECONOMY ที่มา ทัศนีย์ นาคเสนยี ์ และ วสนั ต์ นาคเสนยี ์ (2563) ข้ันตอนที่ 2 การเขา้ หนา้ แรกของแอพพลิเคชัน่ SHARING ECONOMY หนา้ แรกของแอพพลิเคชัน่ SHARING ECONOMY สามารถเข้าถึงได้ 2 ช่องทางคอื 1.เข้าโดย Play Store ในช่ือวา่ SHARING ECONOMY และ กดเขา้ หน้าแรกของแอพพลิเคชนั่ SHARING ECONOMY ทีป่ มุ่ แสดงคาวา่ เปิด 2. เขา้ โดยรูปไอคอ่ น บนอปุ กรณม์ ือถอื หรืออุปกรณแ์ ทบ็ เล็ต ท่ีมีชือ่ วา่ SHARING ECONOMY 3. บรเิ วณหนา้ แรกของแอพพลิเคชนั่ มโี ลโก้ บพข. และตรามหาวทิ ยาลยั ราชภฏั หมบู่ ้านจอมบงึ ถัด ลงมาจะมีช่องทางเขา้ ถึงข้อมูลใน 3 กลุ่ม ดังน้ีคือ 3.1 กลมุ่ นกั วง่ิ แสดงขอ้ มูลที่จาเปน็ ของนักวิ่ง จากผปู้ ระกอบธรุ กจิ ที่มีสว่ น เกีย่ วข้องกับนักว่ิง และผตู้ ดิ ตามนักวิ่ง ท่แี สดงถึงผปู้ ระกอบการ รา้ นคา้ ร้านอาหาร ทพี่ ัก แหลง่ ท่องเท่ียว ฯลฯ โดยสามารถ ระบุระยะทางจากสถานที่จดั งาน นอกจากนี้มขี ้อมลู งานวงิ่ ข่าวสาร ฯลฯ
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 120 3.2 กลุ่มผู้จัดงานว่ิง แสดงข้อมูลท่ีจาเป็นสาหรับ ผู้ผลิตเหรียญ เสื้อวิ่ง ผู้สื่อข่าว ผู้ประกอบ กิจการด้านอาหาร มาแชล อาสาสมัคร สุขาเคล่ือนที่ โรงพยาบาล สถานีตารวจ การไฟฟ้าภูมิภาค เครือขา่ ยสนับสนุนในท้องถ่นิ ฯลฯ 3.3 กลุ่มผู้ประกอบการ แสดงข้อมูลท้ังหมดของผู้ประกอบการในพื้นท่ี ร้านค้า ร้านอาหาร ที่ พัก แหล่งท่องเท่ียว ร้านอุปกรณ์ เคร่ืองเสียงเคร่ืองไฟ สุขาเคล่ือนที่ ฯลฯ พร้อมมีช่องทางในการการเพิ่ม ข้อมูลสายตรงจากผู้ประกอบการ การแนะนาสินค้าและบริการ การส่งเสริมการขาย ให้กับกลุ่มนักว่ิง ผตู้ ดิ ตามนักวงิ่ และผู้จัดงานวงิ่ ภาพท่ี 6.10 หนา้ แรกของแอพพลเิ คชน่ั SHARING ECONOMY ที่มา ทัศนีย์ นาคเสนยี ์ และ วสนั ต์ นาคเสนีย์ (2563) ขนั้ ตอนท่ี 3 ชอ่ งทางกลุ่มนักว่งิ ของแอพพลเิ คชนั่ SHARING ECONOMY หน้าต่างของกลุม่ นักวิง่ ของแอพพลเิ คชนั่ SHARING ECONOMY ประกอบดว้ ย 4 สว่ น คอื 1. ส่วนการให้บริการสินค้าและบริการด้านเศรษฐกิจเชิงแบ่งปัน ได้แก่ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก แหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว แหล่งจาหนว่ ยสินคา้ ระบบโลจิสติกส์ สถานีตารวจ สถานพยาบาล สถานีบรกิ าร 2. หนว่ ยงานทีเกีย่ วข้องกบั กิจกรรมงานวงิ่ ได้แก่ ชมรม หนว่ ยงานราชการ เชอื่ มโยงฐานข้อมูลการ จัดงานวิ่งในประเทศ ฐานข้อมูล SHARING ECONOMY ของค้นหาร้านอาหาร การจองท่ีพัก การจองการ เดินทาง สมาคม
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 121 3. งานว่ิงที่เด่น เป็นท่ีนิยม ตามปฏิทินงานวิ่งท้ังงานวิ่งถนน งานวิ่งเทรล และการจัดงานวิ่งแบบ Virtual Run พร้อมแสดงข้อมูลส่วนการให้บริการสินค้าและบริการด้านเศรษฐกิจเชิงแบ่งปันท่ีใกล้บริเวณ จัดงานว่งิ 4. ข่าวสารประกาศ สาหรับนกั วิ่ง ผูจ้ ดั งานวงิ่ และผสู้ นใจเข้ามาติดตามข้อมลู ขา่ วสาร บทความที่ เก่ียวข้องกบั งานวิ่ง ภาพที่ 6.11 ช่องทางกลุ่มนักวง่ิ ของแอพพลเิ คชน่ั SHARING ECONOMY ทมี่ า ทศั นีย์ นาคเสนยี ์ และ วสนั ต์ นาคเสนยี ์ (2563)
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 122 ข้ันตอนที่ 4 ช่องทางกลุม่ ผู้จัดงานว่ิงของแอพพลเิ คช่นั SHARING ECONOMY หนา้ ตา่ งของกลมุ่ ผจู้ ัดงานว่งิ ของแอพพลเิ คช่นั SHARING ECONOMY ประกอบด้วย 4 สว่ น คือ 1) ส่วนการให้บริการสินค้าและบริการด้านเศรษฐกิจเชิงแบ่งปัน ได้แก่ ผู้ผลิตเส้ือวิ่ง ผู้ผลิตเหรียญ รางวัล ผู้ผลติ ส่ือสารมวลชน ผผู้ ลิตปา้ ยสอื่ สัญลักษณ์ ผูผ้ ลิตอุปกรณ์สนับสนุนการว่ิง ระบบฐานข้อมูลการ จัดงานว่ิง เครื่องเสียงเครื่องไฟ เทคนิคการจัดงาน เต้นท์อุปกรณ์การจัดงาน เทคนิคการแข่งขัน มาแชล การดาเนินรายการ ผ้สู นบั สนนุ Expo 2) หนว่ ยงานทีเก่ียวข้องกบั กิจกรรมงานวิง่ ได้แก่ ชมรม หน่วยงานราชการ เช่ือมโยงฐานขอ้ มูลการ จัดงานว่ิงในประเทศ ฐานข้อมูล SHARING ECONOMY ของค้นหาร้านอาหาร การจองที่พัก การจองการ เดินทาง สมาคม 3) งานวิ่งท่ีเด่น เป็นท่ีนิยม ตามปฏิทินงานวิ่งทั้งงานว่ิงถนน งานว่ิงเทรล และการจัดงานว่ิงแบบ Virtual Run พร้อมแสดงข้อมูลส่วนการให้บริการสินค้าและบริการด้านเศรษฐกิจเชิงแบ่งปันท่ีใกล้บริเวณ จดั งานว่ิง 4) ข่าวสารประกาศ สาหรับนักว่ิง ผู้จัดงานวิ่ง และผู้สนใจเข้ามาติดตามข้อมูลข่าวสาร บทความท่ี เกีย่ วข้อง ภาพท่ี 6.12 ชอ่ งทางกลุ่มผู้จัดงานวง่ิ ของแอพพลเิ คช่ัน SHARING ECONOMY ท่ีมา ทัศนยี ์ นาคเสนยี ์ และ วสันต์ นาคเสนีย์ (2563)
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 123 ขนั้ ตอนที่ 5 ช่องทางกลุ่มผู้ประกอบการของแอพพลิเคช่ัน SHARING ECONOMY หน้าตา่ งของกลุม่ ผูจ้ ดั งานว่ิงของแอพพลเิ คช่ัน SHARING ECONOMY ประกอบด้วย 3 ส่วน คอื 1. ส่วนการให้บริการสินค้าและบริการด้านเศรษฐกิจเชิงแบ่งปัน ท้ังหมดรวมอยู่ในหมวดนี้ ได้แก่ ผู้ผลิตเส้ือวิ่ง ผู้ผลิตเหรียญรางวัล ผู้ผลิตสื่อสารมวลชน ผู้ผลิตป้ายส่ือสัญลักษณ์ ผู้ผลิตอุปกรณ์สนับสนุน การวิ่ง ระบบฐานข้อมูลการจัดงานวิ่ง เคร่ืองเสียงเคร่ืองไฟ เทคนิคการจัดงาน เต้นท์อุปกรณ์การจัดงาน เทคนิคการแข่งขัน มาแชล การดาเนนิ รายการ ผู้สนบั สนนุ Expo ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก แหลง่ ทอ่ งเที่ยว แหลง่ จาหนว่ ยสินคา้ ระบบโลจสิ ติกส์ สถานีตารวจ สถานพยาบาล สถานีบริการ ฯลฯ 2. เป็นส่วนของการประชาสัมพันธ์ของผู้ประกอบการท่ีต้องการแจ้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อนกั วิ่ง และผู้จัดงานวิ่ง รวมถึงการแนะนาสินค้าและบริการ ให้นักว่ิงเข้าถึงการใช้บริการเพ่ือแบ่งปันข้อมูนเพื่อ เศรษฐกิจ 3.หน่วยงานทีเก่ียวข้องกับกิจกรรมงานวิ่ง ได้แก่ ชมรม หน่วยงานราชการ เช่ือมโยงฐานข้อมูลการ จัดงานวิ่งในประเทศ ฐานข้อมูล SHARING ECONOMY ของค้นหาร้านอาหาร การจองท่ีพัก การจองการ เดินทาง สมาคม แสดงข้อมูลส่วนการให้บริการสินค้าและบริการด้านเศรษฐกิจเชิงแบ่งปันที่ใกล้บริเวณจัด งานวิง่ ภาพท่ี 6.13 ชอ่ งทางกลมุ่ ผู้ประกอบการของแอพพลเิ คชั่น SHARING ECONOMY ทม่ี า ทศั นีย์ นาคเสนีย์ และ วสันต์ นาคเสนยี ์ (2563)
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 124 ขัน้ ตอนท่ี 6 ชอ่ งทางตดิ ต่อผู้พัฒนาแอพพลเิ คช่นั SHARING ECONOMY ในชอ่ งทางตดิ ต่อผู้พัฒนาแอพพลเิ คชน่ั SHARING ECONOMY ประกอบดว้ ย 2 สว่ น คือ 1. สว่ นของตดิ ต่อเรา เปน็ ชอ่ งทางติดต่อนักวิจยั โดยมี 2 ชอ่ งทางคอื (1) Line Official และ (2) Email Address 2. ส่วนของเกย่ี วกบั เรา และตดิ ต่อเรา จะเป็นชอ่ื โครงการวจิ ัย และวตั ถุประสงค์ของโครงการวิจยั รวมถึงช่ือสถานทที่ างานของนักวจิ ัย ภาพท่ี 6.14 ช่องทางตดิ ต่อผพู้ ัฒนาแอพพลิเคชั่น SHARING ECONOMY ท่ีมา ทัศนยี ์ นาคเสนยี ์ และ วสนั ต์ นาคเสนีย์ (2563)
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 125 ข้นั ตอนที่ 7 การใชข้ ้อมลู สาหรับการแหล่งให้บริการในแอพพลิเคช่ัน SHARING ECONOMY การใช้ข้อมูลสาหรับแหล่งให้บริการในแอพพลิเคชั่น SHARING ECONOMY สามารถเข้าไปใช้ ข้อมูลในแหล่งงานวิ่งท่ีโปรแกรมได้โพสนาเสนอ สามารถเข้าถึงการใช้บริการเศรษฐกิจเชิงแบ่งปันท่ีมีข้อมูล ระยะทางของสถานที่ที่ห่างจากพื้นท่ีการจัดงานวิ่ง มีช่ือสถานท่ี หมวดหมู่ ท่ีต้ัง เวลาเปิดทาการ แผนที่ Google Map รวมถึงช่องทางติดต่อ Facebook Email แผนท่ี เว็บไซต์ Line และโทรศัพท์ เพ่ือให้ เข้าถงึ ข้อมลู เศรษฐกจิ ในพ้ืนทีจ่ ัดกิจกรรมงานว่ิง ภาพท่ี 6.15 การใช้ขอ้ มูลสาหรบั การแหลง่ ให้บริการในแอพพลิเคช่นั SHARING ECONOMY ที่มา ทศั นีย์ นาคเสนีย์ และ วสนั ต์ นาคเสนยี ์ (2563)
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 126 ข้นั ตอนที่ 8 การเขา้ ถึงขา่ วสารและบทความในแอพพลเิ คชน่ั SHARING ECONOMY การเข้าถึงขา่ วสารและบทความในแอพพลิเคชั่น SHARING ECONOMY สามารถเขา้ ได้ 2 ชอ่ งทาง ได้แกช่ อ่ งทางสาหรับกลุ่มนักวิ่ง และช่องทางสาหรับผู้จัดงานว่ิง ในหัวข้อขา่ วสารและประกาศ รวมไปถึง ช่องทางพิเศษตรงแถบสีฟ้าด้างล่างของแอพพลเิ คช่ัน SHARING ECONOMY ภาพท่ี 6.16 การเข้าถงึ ขา่ วสารและบทความในแอพพลเิ คช่นั SHARING ECONOMY ทีม่ า ทศั นีย์ นาคเสนีย์ และ วสันต์ นาคเสนยี ์ (2563)
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 127 สรุป การสร้าง Platform ของเศรษฐกิจเชิงแบ่งปันในเชิงพาณิชน์นั้น เป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีใหม่ ที่แสดงการเคลื่อนไหวของห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) อย่างเข้าถึงลูกค้าผู้บริโภคข้ันสุดท้าย (Giro Tra Sine, 2014) ใหส้ ามารถเข้าถงึ ข้อมูล ณ ปจั จุบัน (In Real time) ไดม้ ากข้นึ ดังเชน่ แผนเช่อื มโยงธรุ กิจตาม ระบบเศรษฐกิจเชิงแบ่งปันในกิจกรรมงานวงิ่ มี 3 องค์ประกอบ คือ ผู้จัดงานว่ิง นักว่ิงในฐานะนักท่องเท่ยี ว ผู้ประกอบการในพ้ืนท่ี วิเคราะห์ร่วมกับแนวคิด 7C ทาให้ได้ผังแนวคิดการออกแบบสร้างแพลทฟอร์ม Sharing Economy ในการออกแบบ และพัฒนาเพ่ือนาไปสู่การใช้จริงในชุมชน ตาม 7 ขั้นตอน ประกอบด้วย 1) การวิเคราะห์ความต้องการของนักวิ่ง ผู้ติดตาม และผู้จัดกิจกรรมงานวิ่ง 2) การออกแบบ แพลตฟอร์มธุรกิจแบบแบ่งปัน ตามองค์ประกอบเว็บไซต์ (7C) 3) เชื่อมโยง 4 ระบบตามแนวคิด B2C และ B2B 4) นาระบบจาลองไปทดลองใช้ในกิจกรรมวิ่ง ในกลุ่มทดลอง 5) ทดสอบระบบเช่ือมโยง แอพพลิเคชั่น ธุรกิจแบบแบ่งปันในกลุ่มทดลอง 6) ประเมินผล จากผู้ใช้งาน และผู้ท่ีเกี่ยวข้องแอพพลิเคช่ันธุรกิจแบบ แบ่งปัน และ 7) ปรับปรงุ และพัฒนาระบบเชอ่ื มโยงแอพพลิเคช่ันธุรกจิ แบบแบง่ ปัน เปน็ เคร่ืองมือต้นแบบ การสร้าง Platform ของเศรษฐกิจเชิงแบ่งปันในเชิงพาณิชย์ในกจิ กรรมงานวิ่ง พบวา่ มฟี ังก์ชั่นการ ทางาน 2 รูปแบบ ประกอบดว้ ย 1) รปู แบบท่ี 1 แนวคดิ ในการพฒั นารูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจเชงิ แบ่งปัน (Sharing Economy) เพ่ือสรา้ งสรรค์มูลคา่ เพ่ิมให้กับการจัดกิจกรรมงานวิ่งในฐานะผลิตภัณฑ์การท่องเท่ียว เชิงกีฬาของชุมชน ระหว่าง นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการธุรกิจท่องเท่ียวและบริการ (B2C) และระหว่าง ผู้ประกอบการธุรกิจแพลทฟอร์มกับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเท่ียวและบริการ (B2B) และ 2) รูปแบบที่ 2 แนวคิดในการพัฒนารูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจเชงิ แบง่ ปัน (Sharing Economy) เพ่ือสรา้ งสรรค์มลู ค่าเพิ่ม ให้กับการจดั กจิ กรรมงานวง่ิ ในฐานะผลิตภณั ฑ์การท่องเทีย่ วเชิงกีฬาของชุมชน ระหว่าง ผู้จัดกิจกรรมงานว่ิง และผปู้ ระกอบการธุรกจิ ใหเ้ ชา่ ทรัพยส์ ินและบริการ (B2B) และระหวา่ ง ผ้ปู ระกอบการธรุ กิจแพลทฟอร์มกับ ผู้ประกอบการธุรกิจให้เช่าทรพั ย์สินและบริการ (B2B) ข้ันตอนการติดตั้งโปรแกรมแอพพลิเคช่ันบนอุปกรณ์ พกพา ประกอบด้วย 8 ขั้นตอน ได้แก่ ข้ันตอนที่ 1 การโหลดแอพพลิเคชั่น ขั้นตอนที่ 2 การเข้าหน้าแรก ของแอพพลิเคชั่น ขั้นตอนที่ 3 ช่องทางกลุ่มนักวิ่งของแอพพลิเคช่ัน ข้ันตอนท่ี 4 ช่องทางกลุ่มผู้จัดงานวิ่ง ของแอพพลิเคชั่น ข้ันตอนท่ี 5 ช่องทางกลุ่มผู้ประกอบการของแอพพลิเคช่ัน ขั้นตอนท่ี 6 ช่องทางติดต่อ ผู้พัฒนาแอพพลิเคชนั่ ขนั้ ตอนท่ี 7 การใช้ขอ้ มูลสาหรบั การแหล่งให้บริการในแอพพลเิ คช่ัน และ ขั้นตอนท่ี 8 การเข้าถึงข่าวสารและบทความในแอพพลเิ คช่ัน
128 แบบฝกึ หดั ท้ายบท 1. แผนเชื่อมโยงธุรกิจตามระบบเศรษฐกิจเชิงแบ่งปันในกิจกรรมงานวิ่ง มีก่ีองค์ประกอบและแต่ละ องค์ประกอบมีบทบาทหน้าที่อยา่ งไร 2. แนวคิดการออกแบบสร้างแพลทฟอร์ม Sharing Economy ในการออกแบบ และพัฒนาเพ่ือนาไปสู่ การใช้จรงิ ในชมุ ชน มกี ข่ี ั้นตอน 3. การสร้าง Platform ของเศรษฐกิจเชิงแบ่งปันในเชงิ พาณิชย์ในกิจกรรมงานวิ่ง มีฟังก์ช่ันการทางานกี่ รูปแบบทม่ี คี วามแตกตา่ งกันอยา่ งไร 4. การโหลดแอพพลิเคช่ัน SHARING ECONOMY บนอุปกรณ์มือถือ หรืออุปกรณ์แท็บเล็ตบน ระบบปฏิบัตกิ ารแอนดรอย์ (Android) ท่มี ไี อค่อนชอ่ื Play Store มีขอ้ ดแี ละขอ้ จากดั อยา่ งไรบา้ ง 5. หลังจากทดลองใช้ ขอให้แสดงความคิดเห็น ในประเด็นจุดเด่น และข้อจากัดของ แอพพลิเคชั่น SHARING ECONOMY เพ่ือเป็นแนวทางการปรับปรุงพัฒนาตอ่ ไป มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 129 บทที่ 7 ขน้ั ตอนการจดั กิจกรรมกีฬาวงิ่ ถนนเพ่ือสง่ เสรมิ การทอ่ งเท่ยี ว วตั ถปุ ระสงค์ของการเรียนรู้ เพ่ือให้ผเู้ รียน 1. สามารถอธิบายถึงผลกระทบจากการแพรร่ ะบาดของไวรสั โคโรน่า (COVID-19) ท่ีส่งผลต่อการจัด มหกรรมงานว่ิงของประเทศไทย ท้ังในระดบั ทอ้ งถ่ิน ชาติ และ นานาชาติ 2. สามารถวิเคราะห์แนวโน้มของการจดั มหกรรมงานกีฬาของประเทศไทย ภายหลังสถานการณ์การ แพรร่ ะบาดของไวรัสโคโรน่า (COVID-19) 3. สามารถอธิบายการวางแผนบริหารจัดการงานตามห่วงโซ่อุปทานของการจัดงานวิ่ง ก่อนเริ่ม กาหนดกิจกรรมการแขง่ ขนั (Race Before) 4. สามารถอธบิ ายขั้นตอนการทางานในวันจดั กจิ กรรมงานวิ่ง (Race Expo Day and Race Day) 5. สามารถอธิบายขั้นตอนการทางานหลังการกจิ กรรมงานวิ่ง (Race End) ในการจัดกิจกรรมกีฬา ปัจจัยหลักท่ีผู้จัดต้องคานึงถึง คือ พฤติกรรมของนักท่องเที่ยว (Customer Journey) เน่ืองจากจะเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักแล้ว ยังพบว่า นักท่องเท่ียวเชิงกีฬายังทาหน้าท่ีในการ ประชาสัมพันธ์เผยแพร่การจัดกิจกรรมของผู้จัดแบบไวรัล โดยท่ีเป็นการประชาสัมพันธท์ ั้งเชิงบวก หากการ จัดกิจกรรมนั้นสร้างความประทับใจที่เกินความคาดหวัง หรือ ประชาสัมพันธ์เชิงลบหากการจัดกิจกรรมน้นั ไม่ประทับใจ ดังนั้น ผู้จัดกิจกรรมจะต้องวางแผนการจัดกิจกรรมออกมาเป็นข้ันตอนเพ่ือให้คณะทางาน สามารถดาเนินงานได้อย่างถูกต้องตามแนวคิดของงาน (Concept) โดยแบ่งออกเป็น 3 Function หลัก 3 ตามช่วงระยะเวลาของการดาเนนิ งานไดแ้ ก่ ช่วงต้นน้า กลางนา้ และปลายนา้ ภาพที่ 7.1 พฤติกรรมของนกั วง่ิ ในการเข้ารว่ มกิจกรรมงานวง่ิ ในแตล่ ะสนาม ท่มี า วทิ ยา สุหฤทดารง (2563)
130 จากภาพท่ี 7.1 เป็นการแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมการเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมงานว่ิงของนักวิ่ง กับ กลไกของการจัดกิจกรรมการวิ่งถนนท่ีมีกระบวนการตั้งแต่นักวิ่งลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมว่ิง และ เดินทางมาเข้าร่วมกิจกรรมงานว่ิงในสนามท่ีมีการจัดการแข่งขันใช้บริการของผลิตภัณฑ์ที่ผู้จัดกิจกรรมการ ว่ิงเตรยี มไว้รองรบั จนกระท่ังเสร็จส้ินกระบวนการเปน็ วงจรท่ผี ูจ้ ดั กจิ กรรมและนักวงิ่ ที่มีประสบการณเ์ ข้าร่วม กิจกรรมงานวิ่ง มีความเข้าใจเป็นอย่างดี แต่จากสถานการณ์ปัจจุบันการแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า (COVID- 19) ทาใหก้ ารจัดกิจกรรมงานวิ่งไมส่ ามารถดาเนินการได้ แตห่ ากภายหลังสถานการณ์ คลี่คลายลงแล้วจะทา ให้กิจกรรมการว่ิงจะกลับมาได้รับความนิยมอีกคร้ัง เนื่องจากประชาชนจะใส่ใจสุขภาพของตนเอง เพิ่มมาก ขึ้น ดังน้ัน ผู้ประกอบการธุรกิจกีฬาในฐานะผู้จัดกิจกรรมงานว่ิงในฐานะผู้จัดหน้าใหม่ ควรมีความรู้พื้นฐานของ ขั้นตอนการจัดกิจกรรมงานวิ่ง โดยเร่ิมต้ังแต่ก่อนวันจัดกิจกรรมงานวิ่ง (Race Before) วันจัดกิจกรรมงานว่ิง (Race Day) และวนั หลงั การจดั กิจกรรมงานวงิ่ (Race End) ดงั มรี ายละเอียดดังต่อไปนี้ มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 131 ภาพท่ี 7.2 ขนั้ ตอนการจดั กจิ กรรมงานวิ่ง ที่มา ทศั นยี ์ นาคเสนยี ์ และ วสันต์ นาคเสนยี ์ (2563)
132 การดาเนินงานก่อนการจัดกิจกรรมงานวง่ิ (Race Before) มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง ภาพที่ 7.3 ขัน้ ตอนการดาเนนิ งานกอ่ นการจัดกจิ กรรมงานวง่ิ ที่มา ทศั นยี ์ นาคเสนยี ์ และ วสันต์ นาคเสนีย์ (2563)
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 133 จากภาพที่ 7.3 ก่อนเร่ิมกาหนดกิจกรรมการแข่งขันผู้จัดกิจกรรมงานวิ่ง (Organizers) จะมีการ วางแผนบริหารจัดการงานอย่างรัดกุม อาทิ การกาหนดเป้าหมายและความชัดเจนของการจัดงานในด้าน ตา่ ง ๆ ของการจดั งานตามห่วงโซ่อุปทานของการจดั งานว่งิ ไมน่ อ้ ยกว่า 22 งาน ดังต่อไปนี้ 1. การกาหนดวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรม อาทิ เพ่ือความบันเทิง เพ่ือออกกาลังกาย เพ่ือ การกุศล เพ่ือจัดหางบประมาณช่วยเหลือทุนการศึกษา รักษาผู้ป่วย และอื่น ๆ ท่ีมีการเปิดรับสมัคร โดยให้ คนหมู่มากมาร่วมกิจกรรมงานวิ่งท่ีมีกาหนดจัดข้ึน แต่หากเป็นสนามท่ีมีมีการจัดท่ีย่ิงใหญ่ (Major) ได้แก่ 1) เชียงรายฮาฟท์มาราธอน 2) บางแสน 42 ชลบุรีมาราธอน 3) Phuket Tron2020 4) Bangkok Marathon 2020 และ 5) บุรีรัมย์มาราธอน 2021 ต่างมีเป้าหมายเพ่ือการดาเนินธุรกิจเชิงพาณิชย์ ให้ สามารถบรหิ ารจัดการและจัดกจิ กรรมได้ในปีต่อ ๆ ไป โดยไดร้ ับการตอบรับและความร่วมมือกับชุมชนและ นักว่งิ 2. การกาหนดประเภทของการจัดกจิ กรรมวิง่ (Product Services) คอื กอ่ นตัดสินใจจัดกิจกรรม งานว่ิง ผู้จัดจะต้องกาหนดระยะทางในการจัดกิจกรรมงานว่ิงท่ีมีความเหมาะสมกับเส้นทาง ซึ่งโดยท่ัวไปใน การจัดกจิ กรรมงานว่ิงถนนของไทย แบง่ ออกเป็น 4 ประเภทตามระยะทางมาตรฐาน ได้แก่ การว่ิงมาราธอน ระยะทาง 42.195 กิโลเมตร การวิง่ ฮาฟมาราธอน ระยะทาง 21.1 กิโลเมตร การว่ิงระยะ 10 กโิ ลเมตร และ การวิ่งระยะ Fun Run ยังไม่มีการกาหนดระยะทางวิ่งที่เป็นมาตรฐาน ทั้งนี้ ระยะทางว่ิง Fun Run Fun run ขึ้นอยู่กับผู้จัดและชุมชนเจ้าของพ้ืนท่ี ดังเช่น การจัดกิจกรรมงานว่ิงจอมบึงมาราธอน ได้กาหนดข้ึนมี 5 ประเภท ได้แก่ การว่ิงมาราธอน ด้วยระยะไกลท่ีสุด คือ 42.195 กิโลเมตร การว่ิงฮาฟมาราธอน ระยะทาง 21.1 กิโลเมตร การว่งิ ระยะ 10 กิโลเมตร และ การว่งิ ระยะ Fun Run 3. การกาหนดจานวนและนักวิ่งกลุ่มเป้าหมาย (Customer / Runner) ผู้จัดจะต้องกาหนดจานวนของ นักว่ิงที่มีความสัมพันธ์กับขนาดพื้นที่ไม่ให้เกินความสามารถในการรองรับของพื้นท่ี ซึ่งแต่เดิมก่อนเกิดเหตุการณ์ แพร่ระบาดของไวรสั โคโรนา่ COVID-19 สามารถรับนกั วง่ิ ไดม้ ากกว่า เพราะเมื่อเกดิ เหตุการณ์การแพร่ระบาด การจัดกิจกรรมงานวิ่งต้องคานึงถึงความปลอดภัยท่ีนักวิ่ง 1 คนจะต้องใช้ระยะห่างระหว่างบุคคล (Social Distancing) 1.0-1.5 ตารางกิโลเมตรต่อคน นอกจากนน้ั ผูจ้ ัดจะต้องกาหนดนกั ว่ิงกลุ่มเป้าหมาย อาทิ นักวงิ่ ชั้นนาของโลก นักว่ิงแนวหน้า นักว่ิงที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ นักวิ่งผู้พิการ นักวิ่งผู้สูงวัย นักวิ่ง เยาวชน หรอื นกั ว่งิ ประเภทอื่น ๆ 4. การควบคุมคุณภาพและมาตรฐานของสนาม (Quality and Standard) ด้วยหน่วยงานท่ี เก่ียวข้องให้ความสาคัญมากกับมาตรฐานการจัดงานวิ่ง โดยเฉพาะกระทรวงท่องเท่ียวและกีฬา ได้จัดทา คู่มอื มาจรฐานการจัดกิจกรรมงานว่ิงประเภทถนนของประเทศไทย และมาตรฐานการจดั งานว่ิงให้ได้รับการ รับรองมาตรฐานในระดับประเทศหรอื นานาชาติท่ีเป็นไปตามข้อกาหนดของสหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 134 (IAAF) เพ่ือสร้างความเช่ือมั่นให้กับสาธารณชนและนักวิ่งว่าการจัดกิจกรรมงานว่ิงจะดาเนินไปตาม มาตรฐานทก่ี าหนดไว้ 5. การกาหนดช่วงวัน และเวลาของการจัดกิจกรรมงานว่ิง นอกจากจะคานึงถึงสภาพภูมิอากาศ ในแต่ละพ้ืนที่ ความสะดวกของท้องถ่ิน ศักยภาพในการรองรับการให้บริการแก่นักวิ่ง ทั้งพ่ีพัก อาหาร และ สภาพการจราจร ผู้จัดต้องคานึงถึงวัน เวลา ท่ีจัดหากเป็นไปได้จะพยายามจัดหลบไม่ให้ตรงกับสนามว่ิงที่มี การประกาศจัดไว้แล้ว ดังน้ัน เทคนิคของการจัดกิจกรรมงานวิงจอมบึงมาราธอนคือ การกาหนดไว้เสาร์ สัปดาห์ท่ี 3 ของเดือนมกราคมของทุกปี ทาให้ผู้จัดรายอื่น ๆ จะไม่จัดชนกับงานว่ิงจอมบึงมาราธอน ที่จะ ส่งผลตอ่ จานวนนกั วิ่งทเ่ี ปดิ รบั เพราะนักวง่ิ จะไปสมคั รลงว่งิ สนามทใี่ หญ่ ๆ กอ่ น 6. การเลือกพื้นที่การจัดกิจกรรมงานว่ิง และวางผงั งาน ผ้จู ดั จะตอ้ งคานึงถึงความเปน็ เอกลักษณ์ ของพื้นที่เพ่ือนามาซ่ึงออกแบบผังงาน เส้นทางว่ิง และท่ีจอดรถ เช่นเส้นทางว่ิงท่ีมีภูเขา ทะเล ชุมชน หม่บู า้ น ใจกลางเมือง เชอื่ มโยงกับแหล่งท่องเทย่ี วที่เป็นอตั ลักษณ์ 7. การขออนุมัติจัดกิจกรรมงานว่ิงกับหน่วยงานภาครัฐตามแนวปฏิบัติของแต่ละพ้ืนที่ท่ีได้รับ มอบหมาย มีความสาคัญและจาเป็นมากท่ีผู้จัด จะต้องดาเนินการขออนุญาตจัดกิจกรรมงานว่ิงก่อนเป็น ลาดับแรกโดยการขออนญุ าตจากหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ขน้ึ อยกู่ บั แนวปฏบิ ัตขิ องพน้ื ท่ีน้นั เชน่ การจดั งานในพ้ืนที่ ของอาเภอ ผู้จัดจะต้องขออนุญาตจัด ต้ังแต่ระดับอาเภอ จังหวัดและประเทศ ตลอดจนหน่วยงานท่ีเป็น เจ้าของผูด้ แู ลพื้นที่กอ่ นเปน็ ลาดบั แรกก่อนการวางแผนบริหารจดั การงานดา้ นอ่นื ๆ 8. การสร้างความสัมพันธ์ ความร่วมมือกับภาคีในพื้นท่ี ด้วยการจัดกิจกรรมงานวิ่งใหญ่ ๆ ที่มี ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจานวนมาก ผู้จัดจะต้องมีความสัมพันธ์ท่ีดีต่อภาคีพ้ืนที่ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมท้ังเป็น เจ้าภาพร่วมจัด เป็นเจ้าบ้านท่ีให้การต้อนรับ จนกระท่ังทุก ๆ การจัดกิจกรรมโดยผู้จัดรายน้ันจะทาให้ภาคี ในพื้นท่ีมคี วามเชื่อถือทีจ่ ะไม่ไปทาใหช้ ุมชนในพนื้ ท่ีนั้น ๆ ไดร้ บั ความเสียหายและผลกระทบในทางท่ีไม่ดีต่อ ชมุ ชน 9. การวางระบบความปลอดภัยของผู้มีส่วนร่วมทุกฝ่าย รวมถึงการติดต่อประสานงานกับ โรงพยาบาลและหน่วยงานแพทย์ การวางแผนด้านความปลอดภัยตลอดเส้นทาง และความปลอดภยั ในชีวิต และทรัพย์สินของชุมชนและนักว่ิง มีความสาคัญท่ีจะต้องได้รับความร่วมมือทั้งจากทีมสาธารณะสุขระดับ จงั หวดั /อาเภอ และทมี แพทยป์ ระจาโรงพยาบาลในพืน้ ที่ 10. การปฏิบตั ติ ามกฎระเบียบและข้อบงั คับท้องถ่ิน เปน็ ส่งิ ทผี่ จู้ ัดจะตอ้ งให้ความเคารพและปฏิบัติ ตามเพอื่ ไม่สรา้ งความเดอื นรอ้ นให้กับท้องถนิ่ อาทิ การคมนาคม การประกอบอาชพี ของท้องถ่นิ 11. การวางแผนงานด้านการบริหารจัดการในส่วนของการจัดองค์กร และการวางผังเส้นทาง การ ทางานจะต้องมีการระบฝุ ่ายงานและกาหนดผู้รับผิดชอบ ผู้ส่งั การและผมู้ อี านาจในการตดั สนิ ใจสงู สุดในฝ่าย
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 135 นั้น ๆ เพ่ือป้องกันความสับสนอันจะนาไปสู่การแก้ไขปัญหาได้อย่างรอบคอบและทันท่วงที ซึ่งสัมพันธ์กับ การวางผังเส้นทางวิ่ง ที่จะต้องถูกออกแบบอย่างเป็นระบบ ไม่ส่งผลกระทบต่อการจราจร มีการออกแบบ เส้นทางทางเลือกสาหรับการสัญจรในช่วงเวลาของการจัดกิจกรรมงานว่ิงยังไม่ส้ินสุดลง และการจัดวางจุด อานวยความสะดวกต่าง ๆ ตามเสน้ ทางวิ่ง 12. การขออนุญาตส่วนราชการและหน่วยงานในพ้ืนท่ีหรือหน่วยงานท่ีรับผิดชอบดูแลสถานท่ี โดยตรง ถึงแม้ว่า ผู้จัดจะได้รับอนุญาตให้จดั งานได้จากหนว่ ยงานท่ีได้รับมอบหมายจากระทรวงหรือจังหวัด แลว้ ผู้จดั จะต้องประสานกับหน่วยงานองค์กรปกครองในพื้นที่ ตัง้ แตร่ ะดับอาเภอ เทศบาล/องค์การบริหาร สว่ นตาบลในพ้นื ทีก่ ารจดั กานัน ผใู้ หญบ่ า้ น ทจี่ ะต้องใหผ้ ู้ทเี่ ก่ยี วข้องในพน้ื ทที่ ราบถึงรายละเอยี ดของการจัด งาน เพื่อช่วยกันเฝ้าระวังเหตุการณ์หรือลดความเส่ียงในการบริหารจัดการงานวิ่งและดูแลความปลอดภัย ใหก้ ับนกั ว่งิ ตลอดการเขา้ ร่วมกจิ กรรม อาทิ พนื้ ทใ่ี นเขตป่าชุมชน พน้ื ทใี่ นสวนสาธารณะ 13. การขออนุญาตตารวจในพ้ืนท่ีที่ดูแลการจัดการงานจราจร ด้วยการจัดกิจกรรมงานว่ิงถนนมี หน่วยงานที่เก่ียวข้องกับการดูแลระบบการจราจรบนท้องถนน ดังน้ัน ผู้จัด ไม่เพียงแต่การขออนุญาตใช้ เส้นทางและแจ้งต่อตารวจจราจรในพื้นที่แล้ว จะต้องแจ้งต่อไปยังสานักงานตารวจระดับจังหวัด เพ่ือ หน่วยงานจราจรทั้งจังหวัดหรือจังหวัดใกล้เคียงรับทราบถึงรายละเอียดของการจัดกิจกรรมงานวิ่ง เพื่อ อานวยดแู ลระบบการจราจรในภาพรวม 14. การจัดทาประกันภัยอุบัติเหตุให้นักวิ่ง ถึงแม้ว่านักว่ิงบางคนจะมีประกันชีวิตของตนเองแล้ว แต่ไม่ได้มีทุกคน ดังนั้นผู้จัดจะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อชีวิตและความปลอดภัยของนักว่ิง โดยการซ้ือ ประกันอุบัติเหตุให้นักวิ่งทุกคนท่ีลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมงานวิ่งจากบริษัทประกันภัยท่ีมีความน่าเช่ือถือ โดยจะไม่เรียกเก็บเพิ่มจากนักวิ่ง โดยท่ัวไปผู้จัดจะคานวณรวมไว้กับค่าสมัครของนักว่ิงแต่ละระยะ โดยจะ คุ้มครองเฉพาะการเกิดอุบัติเหตุท่ีเข้าร่วมกิจกรรมงานวิ่งเท่านนั้ ค่าใช้จ่ายส่วนน้ีอยู่ระหวา่ ง 15-25 บาทต่อ คน ท้ังนรี้ าคาข้นึ อยู่กับปรมิ าณจานวนนักวิ่งเปน็ สาคญั 15. การจัดเตรียมรถนาและรถปิดท้าย เพ่ือสร้างความเชื่อมม่ันในความปลอดภัยให้แก่นักวิ่ง ผจู้ ดั ทามกี ารจดั เตรียมรถนาและรถปดิ ท้าย เพอ่ื ดูแลกล่มุ นกั ว่งิ คนแรกและคนสุดท้ายตลอดเส้นทาง 16. การจัดหาเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร แต่งตั้งหัวหน้าฝ่ายงานให้มีอานาจในการส่ังการ การดูแลนัก ว่ิงจานวนมากจาเป็นจะต้องมีผู้ให้บริการที่เพียงพอต่อจานวนนักว่ิง ทั้งน้ีผู้จัดจะต้องมีการจัดหาเจ้าหน้าท่ี อาสามสมัครทั้งจากพื้นท่ีและต่างพื้นที่ท่ีมีทักษะ ความเช่ียวชาญในการปฏิบัติหน้าท่ีที่ได้รับมอบหมาย ใน การทางานโดยเฉพาะในวันจัดงานอาจจะเกิดปัญหาท่ีต้องแก้ไขเฉพาะหน้า ดังนั้นบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน จะต้องปฏิบตั ิงานตามคาสง่ั ของหวั หน้าฝ่ายงานนน้ั ๆ เท่าน้ัน
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 136 17. การจัดตรียมระบบการรับสมัคร ในอดีตการรับสมัครเปิดรับโดยระบบ Manual รับสมัครทาง โทรศัพท์ แต่เม่ือเทคโนโลยีมีการเปล่ียนแปลง มีผู้ออกแบบระบบการรับสมัครทาให้เกิดความสะดวกต่อนัก ว่ิงในการสมัครผ่าน Platform อีกท้ังสามารถเรียกดูข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว สะดวกต่อการจัดเก็บข้อมูลของ นกั วิ่งแต่ละปี (Data Base) อาทิ ระบบการรับสมคั รของ ThaiRun Running Connect เป็นตน้ 18. การออกแบบสั่งผลิตเสื้อ เหรียญ และถ้วยรางวัล การออกแบบถือได้ว่าเป็นภาพลักษณ์ของ การจัดงานในแต่ละปีที่นักว่ิงจะให้ความสนใจ การออกแบบจะต้องมีความสัมพันธ์กับ Theme งานและมี ความเป็นเอกลกั ษณ์เฉพาะงานน้ัน ๆ เพอื่ ใหน้ ักว่ิงไดจ้ ดจาและนาไปสกู่ ารสะสม สรา้ งความภาคภมู ใิ จในการ เปน็ เจ้าของของนกั วิ่ง 19. การออกแบบป้ายหมายเลขการแข่งขัน และ BIB ป้ายหมายเลขการแข่งขันจะระบุข้อมูล ส่วนตัวของนักว่ิงที่มีการเชื่อมโยงกับระบบการรับสมัคร รวมไปถึงการคุ้มครองการประกันอุบัติเหตุของนัก วิ่งแต่ละคน ซึ่งมีความสาคัญมาก เปรียบเสมือนบัตรประจาตัวของนักวิ่งแต่ละคน ที่นักวิ่งห้ามทาหายหรือ นาไปใช้แทนกันไม่ได้ หากมีการเปลย่ี นแปลงข้อมูลนักว่งิ จะตอ้ งติดต่อผู้จดั เพ่ือขอแก้ไขข้อมูล 20. แผนสารองกรณีฉุกเฉินและการสื่อสารข้อมูลในสนามที่มีการจัดกิจกรรม ซึ่งถือได้ว่าเป็น หน่วยงานที่มีความสาคัญหลังจากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินทั้งการก่อการร้าย การเกิดอุบัติภัยทางธรรมชาติ การทาหนา้ ท่ขี องระบบการจดั องค์กรสาหรับการบงั คับบัญชา (Emergency Incident Command System) ที่จะทาหน้าท่ีในการบังคับบัญชา การควบคุม การประสานงาน ทาให้เกิดความปลอดภัยโดยใช้ระบบ เทคโนโลยีการส่ือสาร ให้สามารถประเมินสถานการณ์จุดเกิดเหตุ การคัดแยกผู้บาดเจ็บ ณ จุดเกิดเหตุ การ ขนย้ายผู้บาดเจ็บ ซ่ึงเป็นการทางานประสานงานร่วมกับหลายภาคส่วนโดยมีเป้าหมายหลัก คือ การระงับ สถานการณ์ ปกป้องชีวติ ทรพั ยส์ ินและส่ิงแวดลอ้ มอยา่ งทนั ทว่ งที 21. การติดต่อจ้างเหมาผู้รับจ้าง ทางาน ให้เช่าอุปกรณ์ เพ่ืออานวยความสะดวกให้แก่นักวิ่ง การ บริหารจัดการในส่วนงานนี้ได้ก่อให้เกิดการกระจายรายไปไปยังภาคส่วนต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะธุรกิจ น้อยใหญ่ในชุมชน ท้ังการเช่าของชุมชนอาทิรถสองแถว รถมอเตอร์ไซต์ การว่าจ้างกลุ่มแม่บ้านหูงหา ทาอาหาร มารองรับนักวิ่ง การเช่าอุปกรณ์เครื่องเสยี งเครือ่ งไฟของผู้ประกอบการขนาดเล็กในชมุ ชนมาร่วม จดั สถานทีเ่ พือ่ ให้สามารถ 22. รองรับนักวิ่งและใหบ้ ริการแก่นักวงิ่ อย่างเพียงพอ ทั้งน้ีการติดต่อจ้างเหมา นอกจากผู้จัดจะใช้ บริการของผู้ให้บริการรายเดิมแล้ว ก็จะมีการประเมินคุณภาพการให้บริการของรายใหม่ ๆ ให้เข้ามาเป็น เครอื ขา่ ยผู้รบั จ้างเช่า ในทกุ ๆ ปี การกาหนดเงื่อนไขกรณฉี ุกเฉินอนั เปน็ เหตุไมส่ ามารถจัดกิจกรรมงานวิ่งได้ ผู้จัดอาจจะต้องวางแผนฉุกเฉินไว้ล่วงหน้า ด้วยมีสถานการณ์การจัดงานว่ิงมีปัจจัยหลายอย่างเข้ามามี บทบาทสาคัญอันจะก่อให้เกิดการจัดงานไม่เป็นไปตามท่ีได้วางแผนไว้ อาทิ ภัยธรรมชาติ สภาพอากาศร้อน
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 137 มากเกินไป การก่อการร้าย หรือเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ดังนั้นผู้จัดจะต้องมีแผนฉุกเฉินใน การบริหารจัดการเพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักว่ิง อาทิ การเลื่อนการจัด การยกเลิกและคืนสิทธิ์ให้นักว่ิง การเปล่ยี นรปู แบบการวิง่ จากว่ิงในสถานการณจ์ รงิ เป็นว่งิ ผา่ นสอ่ื เสมอื นจรงิ (Virtual Run) เปน็ ตน้ การดาเนนิ งานในวนั จัดกจิ กรรมงานวง่ิ (Race Expo Day and Race Day) ภาพที่ 7.4 ขน้ั ตอนการดาเนินงานในวนั จดั กจิ กรรมงานวิ่ง ท่มี า ทัศนยี ์ นาคเสนีย์ และ วสันต์ นาคเสนยี ์ (2563)
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 138 ในวนั จดั กจิ กรรมงานวิ่ง เริ่มต้ังแต่วันประกาศใหน้ ักว่ิงเข้ามารายงานตัวในพนื้ ท่ี มกี ารจดั นทิ รรศการ (Expo) การจาหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ในพ้ืนท่ีจัดงาน ผู้จัดกิจกรรมงานว่ิง (Organizers) จะมีการ ดาเนนิ งานในพนื้ ท่ี 16 งาน ดังนี้ 1. การจัดแสดงแผนท่ีการแข่งขัน ในวันจัดงานกลุ่มนักวิ่งเข้ามาในบริเวณงานอย่างแออัด ดังน้ัน การจัดแสดงแผนที่การแข่งขันทั้งภาพแผนผังภายในบริเวณงานภาพรวมของงาน อาทิ จดุ รบั ฝากของ จุดรับ รายงานตัว จุดพยาบาล จุดรับของท่ีระลึก เป็นต้น และภาพแผนผังเส้นทางว่ิง อาทิ จุดบริการน้าด่ืม จุด บรกิ ารพยาบาล จุดเล้ยี วกลบั ตวั จงึ เปน็ สง่ิ สาคัญท่ีนักวิ่งจะสามารถทาการคน้ หาได้ด้วยตนเองจากการศึกษา แผนท่ี 2. การวางและติดตั้งป้ายเส้นทางและป้ายข้อมูลตามเส้นทางงานว่ิงในแต่ละระยะ เป็นการส่ือสาร เพื่อให้รับรแู้ ละทาความเขา้ ใจถึงเสน้ ทางวิง่ ไมว่ ิ่งผดิ เส้นทาง 3. การติดต้ังป้ายในบริเวณงานเพื่ออานวยความสะดวกให้แก่นักว่ิง เพ่ือเป็นการสื่อสารกับนักว่ิง อย่างถูกต้องและชดั เจน คอื การแผ่นป้ายให้ชัดเจน 4. จุดนัดพบ ผู้จัดจะต้องออกแบบแผ่นป้ายหรือทาเป็นกล่องป้ายให้สูงเด่น เพื่อให้นักวิ่งสามารถ เห็นได้ชัดในระยะไกล เพ่ือนัดหมายพบกันระหว่างนักว่ิง ผู้ติดตาม อีกท้ังผู้จัดจะต้องจัดเตรียมโต๊ะ เก้าอี้ พัดลม รวมถงึ ส่งิ อานวยความสะดวกไวบ้ รกิ ารอย่างเหมาะสม 5. จดุ รับรายงานตัว ในกรณีที่นกั ว่ิงไม่ได้รายงานตัวผา่ นระบบ Online จะเดินทางมารายงานตวั ณ บริเวณ จัดงาน ซ่ึงผู้จัดจะจัดพ้ืนท่ีรับรายงานกับจุดรับ BIB อยู่ใกล้กัน ดังนั้นผู้จัดกิจกรรมจะต้องทาแผนผงั ติดตงั้ ภายในบรเิ วณงานเพื่อให้นักวิ่งเห็นชัดเจน 6. จุดรับฝากของสัมภาระ ด้วยนักวิ่งบางคนเดินทางมาคนเดียว ดังน้ันจุดรับฝากของท่ีมีระบบจะ สร้างความเชื่อมมั่นให้กับนักวิ่งในฐานะเจ้าของทรัพย์สินได้ ในอดีตมีการรับฝากติดหมายเลข นักว่ิงเก็บ หมายเลขไว้และนามาแลกคืนเมื่อเข้าร่วมกิจกรรมเรียบรอ้ ยแล้ว ต่อมาได้มีการพัฒนาระบบการรับฝากของ โดยใช้ระบบ Scan เช่ือมโยงกับระบบเทคโนโลยี เข้ามาใช้เพราะนอกจากจะรับฝากของแล้ว สามารถ ติดตามเจา้ ของทรัพย์สินกรณที ลี่ ืมมารบั คนื เป็นต้น 7. การรวบรวมเจ้าหน้าท่ี อาสาสมัครแต่ละฝ่ายงาน ในการทากิจกรรมงานว่ิงต้องมีกาลังผู้ ให้บริการที่เพียงพอ ท้ังน้ีนอกจากเจ้าหน้าท่ีขององค์กรแล้ว ผู้จัดงานจาเป็นต้องมีการเปิดรับสมัคร อาสาสมัครมาร่วมเป็นเจ้าภาพ เพื่อให้บริการแก่นักวิ่งและผ้ตู ิดตามอย่างท่ัวถึง ซึ่งอาสาสมัคร ส่วนมากเป็น แรงงานในพืน้ ที่ อาทิ นกั เรียน นกั ศกึ ษา ประชาชนในพน้ื ท่ี 8. การรับลงทะเบียนและรวมพลส่ือมวลชน ส่ือมวลชนที่มาเก็บภาพถ่ายในการจัดกิจกรรมงานว่ิง ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่อาชีพสื่อมวลชน โดยเฉพาะผู้ท่ีมีเทคนิคการถ่ายภาพ
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 139 โดนใจนักวิ่ง ดังน้ัน ในแต่ละปีจะมีช่างภาพสื่อมวลชนอิสระมาลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ในการถ่ายภาพนักวิ่ง ทีม่ าว่ิงในงาน แตบ่ างสนามวิ่งไม่ได้เปิดใหช้ ่างภาพอิสระเข้าไปเก็บภาพในบริเวณงาน เนื่องจากผจู้ ดั งานเป็น ผดู้ าเนนิ การเกบ็ ภาพถ่ายเอง เพ่ือจาหน่ายใหแ้ ก่นกั วง่ิ ที่ตอ้ งการเก็บภาพว่งิ ของตนเองไวเ้ ป็นทรี่ ะลกึ 9. การจัดกิจกรรมนิทรรศการในงาน ความโดดเด่นของการจัดกิจกรรมงานวิ่ง คือ การจัด นิทรรศการการจาหน่ายสินค้า ทั้งท่ีเป็นสินค้าทางด้านกีฬา อาทิ เส้ือผ้า รองเท้า อุปกรณ์สนับสนุนการว่ิง รวมทงั้ การออกนทิ รรศการของผสู้ นบั สนุนการจดั งานว่งิ ทงั้ ท่สี นับสนนุ งบประมาณและสงิ่ ของ 10. การประชุมซักซ้อมทาความเข้าใจในงานที่ได้รับมอบหมาย ในวันจัดงาน ก่อนการลงพ้ืนที่ ปฏิบัติงานจริง หัวหน้าทุกฝ่ายงานจะต้องประชุมทีมงานของตนเอง โดยการช้ีแจงบทบาทหน้าท่ีท่ีได้รับ มอบหมายให้รับผิดชอบ ฝ่ายงานต่าง ๆ อาจจะให้หมายเลขโทรศัพท์ หรือมีระบบการส่ือสารท่ีรวดเร็วและ เข้าถึงในพื้นท่ีปฏิบัติงาน หรือ สร้างกลุ่มส่ือสารเฉพาะกิจเพ่ือหารือ รับฟังการส่ังการจากหัวหน้าฝ่าย และ ดาเนนิ การแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหน้าใหท้ นั ท่วงที 11. การตดิ ต้ังอุปกรณ์ทางดา้ นเทคนคิ ณ จดุ ปลอ่ ยตัว จดุ กลบั ตัวและเสน้ ชยั การทางานของฝ่ายน้ีมี ความจาเป็นต้องมอบหมายให้ผู้เช่ียวชาญเฉพาะด้านเป็นผู้ดาเนินการ อาจจะเป็นหน่วยงานผู้รับจ้างท่ีมี ความเช่ยี วชาญ มคี วามเปน็ มืออาชพี และมีอุปกรณท์ างด้านเทคนิคท่ีทนั สมยั แสดงผลสถิตขิ องนกั วงิ่ ได้อย่าง รวดเรว็ แม่นยาและเช่ือถอื ได้ 12. การกาหนดเวลาปล่อยตัว ผู้จัดจะต้องทาการสื่อสารไปยังนักว่ิงทุกคนผ่านหลาย ๆ ช่องทาง เพอ่ื ใหน้ กั วิ่งวางแผนในการเดินทางมาถึงบริเวณงานก่อนเวลาปล่อยตวั อย่างน้อย 30-45 นาที นอกจากการ กาหนดเวลาปลอ่ ยตัวให้นกั วงิ่ แตล่ ะระยะทางทราบแลว้ จะตอ้ งแจง้ ใหน้ กั ว่งิ ทราบถงึ ระยะเวลาส้ินสดุ ท่ีผู้จดั ตะต้องตัดนักว่ิงออกจากการแข่งขัน กรณีไม่สามารถว่ิงได้ตามมาตรฐานการว่ิง (Do not finish หรือ DNF) ด้วยมาตรฐานการวิ่งแต่ละระยะทางทางสมาพันธ์ฯ ได้กาหนดไว้ที่ระยะทาง 10 กิโลเมตร ต้องว่ิงให้แล้ว เสร็จภายในเวลา 2 .30 ช่ัวโมง ระยะทาง 21.1 กิโลเมตร ต้องว่ิงให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 4 ช่ัวโมง และการวิ่งระยะ 42.195 กิโลเมตร จะต้องวิ่งให้แล้วเสร็จภายในเวลา 7 ชั่วโมง ดังน้ัน การปล่อยตัวของนกั ว่ิงระยะมาราธอน (41.195 กิโลเมตร) จึงต้องปล่อยตัวในเวลาเช้ามีดมาก ๆ เพ่ือหลักเล่ียงสภาพอาหารท่ี ร้อนจดั ในช่วงเวลากลางวันเนอ่ื งจากต้องใช้เวลาระยะยาวนานในการว่งิ 13. การบรกิ ารทางการแพทย์ การจดั กิจกรรมงานวิง่ ความปลอดภัยของนักวง่ิ และผมู้ าร่วมกจิ กรรม งานวิ่ง เป็นสิ่งสาคัญในอันดับต้น ๆ ดังน้ัน หน่วยบริการทางการแพทย์จึงมีความจาเป็นต้องใช้บุคลากรที่มี ความเช่ียวชาญ ความรู้เบื้องต้นทางการแพทย์ จานวนมาก ในบางพื้นท่ีมีไม่เพียงพอต้องว่าจ้างทีมบริการ ทางการแพทย์จากนอกพื้นที่เข้ามาร่วมปฏิบัติงาน หรือ ประสานขอความอนุเคราะห์ไปยังโรงพยาบาล ภาครัฐ ภาคเอกชน เพ่ือสนับสนุนบุคลากร อุปกรณ์ และรถพยาบาลเคลอื่ นที่เร็วมาร่วมด้วยช่วยกันดูแลนกั
มหา ิวทยา ัลยราช ัภฎห ู่ม ้บานจอม ึบง 140 วิ่งตลอดระยะวลาท่มี ีการจดั กิจกรรมงานวิง่ การจดั งานบางแหง่ ไดท้ าการฝึกซ้อมผปู้ ฐมพยาบาลเบื้องต้นใน ชุมชน เพือ่ ชว่ ยเหลอื นักวงิ่ ตามเส้นทาง 14. จดุ บริการน้าด่ืม เกลอื แร่ และบริการตา่ ง ๆ ระหวา่ งเส้นทาง ผจู้ ดั กจิ กรรมงานว่งิ จะต้องทาการ วางแผนคานวณปริมาณการให้บริการ น้าดื่ม เกลอื แร่ และผลไมแ้ ก่นกั ว่ิงในแต่ละจุดอย่างเพยี งพอ ก่อนจะมี การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโคโรน่า ผู้จัดจะบริการน้าด่ืมและเกลือแร่ให้แก่นักวิ่ง โดยการเทน้าดื่มใส่แก้ว อย่างถูกต้องตามระบบสาธารณูปโภค การให้บริการน้าดื่มด้วยแก้วพลาสติกขนาดเล็ก ทาให้นักว่ิงสะดวก หยิบจับขณะว่ิง และดื่มกินได้อย่างรวดเร็ว สภาพปัญหาท่ีเกิดขึ้นคือมีขยะประเภทพลาสติกในพ้ืนท่ีเพิ่มข้ึน เป็นจานวนมาก ผ้จู ัดได้กาหนดกิจกรรมงานวิ่งรักษส์ ิ่งแวดล้อมโดยการรณรงคใ์ ห้นักวิ่งนาภาชนะของตนเอง มาใช้ ต่อมาเม่ือมีการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโนร่า กระทรวงได้ออกคู่มือปฏิบัติการการจัดกิจกรรมงาน วิง่ ภายใต้สถานการณ์การแพรร่ ะบาดของเชอื้ ไวรสั โดยกาหนดใหม้ กี ารบรกิ ารน้าดม่ื เปน็ ขวดขนาดเล็กแทน 15. จุดบริการอาหารนักว่ิงในบริเวณสถานท่ีจัดงาน การบริการอาหารให้แก่นักว่ิงเป็นความมีเสน่ห์ ของการจัดงานแต่ละคร้ัง ผู้จัดจะคัดสรรเมนูอาหารจากร้านค้าต่าง ๆ ที่ปรุงอย่างถูกสุขอนามัย ปลอดภัย สะอาด และอร่อยมาไว้คอยบริการนักว่ิง นอกจากนั้นแล้ว ยังมีการจ้างกลุ่มแม่บ้าน หรือ ผู้ประกอบการ ธุรกิจอาหารในชุมชน มาประกอบอาหารในวันจัดงานวิ่ง เม่ือนักว่ิงวิ่งเข้าเส้นชัย รับเหรียญท่ีระลึกและผล การรายงานสถิติการว่ิงของตนเองแล้ว นกัว่ิงจะนาคูปองอาหารท่ีได้รับจากการรายงานตัวมาแลกอาหารที่ ตนเองชอบ ซงึ่ ชุดคปู องอาหารส่วนมากจะประกอบไปด้วย อาหารหลัก ผลไม้หรอื ขนมหวานและน้าดืม่ โดย คา่ อาหารไดร้ วมไปกบั คา่ ลงทะเบยี นรับสมัครเรียบร้อยแลว้ 16. จุดรับของที่ระลึก เส้ือท่ีระลึก เหรียญรางวัล และถ้วยรางวัล เมื่อนักว่ิงแต่ละประเภทลงสนาม การแข่งขันถูกต้องตามกติการการจดั การแข่งขันของแต่ละสนามแล้ว นักว่ิงแต่ละคนจะได้รับสิทธปิ ระโยชน์ ตามทผี่ ู้จดั แจ้งประชาสัมพันธ์ในนักว่ิงทราบก่อนการสมัครเขา้ รว่ มกจิ กรรม อาทิ การจัดกิจกรรมงานว่ิงจอม บงึ มาราธอน ครัง้ ท่ี 36 นักว่ิงระยะ 42.195 กิโลเมตร Marathon ชาระค่าสมัครวิ่ง คนละ 900 บาท สิทธิ ประโยชนท์ จ่ี ะไดร้ บั คือ หมายเลขวง่ิ และการจับเวลา (BIB) ซึง่ ใน QR Code จบั เวลาไดบ้ รรจุขอ้ มูลส่วนตัว ของนักว่ิงท่ีได้กรอกผ่านระบบการรับสมัครไว้ท้ังหมด ได้รับเสื้อท่ีระลึก สาหรับใส่ว่ิง ตามขนาดท่ีนักว่ิงแจ้ง สาหรับนักว่ิงระยะน้ี จะได้รับสิทธิพิเศษ คือ ถุงผ้าที่ระลึก และเมื่อนักวิ่งวิ่งเข้าเสน้ ชัย นักวิ่งจะได้รับเหรียญ ที่ระลึกในระยะ 42.195 กิโลเมตร และได้รับเส้ือท่ีระลึก ที่เรียกในกลุ่มนักวิ่งว่า เส้ือผู้พิชิต (Finisher) แต่ หากนักวง่ิ ไมส่ ามารถวงิ่ เขา้ เสน้ ชัยตามระยะเวลาที่กาหนดไดน้ ักว่งิ จะไม่ได้รับเหรียญเสน้ ชัยและเสื้อผูพ้ ชิ ิต นักวิ่งระยะ 21.1 กิโลเมตร Half Marathon เมื่อชาระค่าสมัคร 700 บาท นักวิ่งจะ ได้รับ หมายเลขว่ิงและการจับเวลา (BIB) ซ่ึงใน QR Code จับเวลาได้บรรจุข้อมูลส่วนตัวของนักว่ิงท่ีได้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230