Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แนวการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์เพื่อสร้างสำนึกความเป็นไทย

แนวการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์เพื่อสร้างสำนึกความเป็นไทย

Published by praponesasomsap, 2021-04-21 12:31:34

Description: แนวการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์เพื่อสร้างสำนึกความเป็นไทย

Search

Read the Text Version

๙๔ สญั ลกั ษณป์ ระจาชาตไิ ทย ประกอบดว้ ย ๑. สัตวป์ ระจาชาติไทย คือ ชา้ งไทย ๒. ดอกไมป้ ระจาชาตไิ ทย คือ ดอกราชพฤกษ์ ๓. สถาปัตยกรรมประจาชาติ คอื ศาลาไทย ทัง้ น้ีคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติได้มอบหมายใหก้ รมศิลปากรเป็นผูอ้ อกแบบช้างไทย ส่วนภาพดอกราชพฤกษ์และภาพศาลาไทยได้จากการประกวด อย่างไรก็ตามสัญลักษณ์ท้ัง ๓ สิ่งนี้ โดยเฉพาะชา้ งไทย และศาลาไทย สามารถเชอ่ื มโยงถงึ ความเปน็ ไทยได้ นอกจากน้ีเรายังมีสัญลักษณ์อ่ืน ๆ ที่แสดงความเป็นชาติท่ีมีประวัติความเป็นมายาวนาน และความเป็นไทยที่บรรพบุรุษได้ส่ังสมสืบต่อกันมาจนเป็นส่วนหน่ึงในวิถีชีวิตของคนไทย สืบมาถึงจน ปัจจบุ นั น้ซี ่ึงเยาวชนไทยควรรู้และเขา้ ใจในความสาคัญ เพ่อื ให้ชว่ ยกนั อนุรักษ์และสืบสานตอ่ ไป จดุ ม่งหมำย : เปำ้ หมำยของกำรจัดกำรเรยี นรเู้ ร่ืองน้ี ๑. สร้างความรู้ ความเข้าใจในเร่ืองสัญลักษณ์ความเป็นไทย ท้ังจากธงชาติไทย และ เพลงชาตไิ ทย รวมทั้งสญั ลักษณอ์ ืน่ ๆ ทเี่ ราควรอนุรักษ์ และสบื สานความเปน็ ไทยสืบต่อไป ๒. มีจิตสานึกและความภูมิใจในความเป็นไทย โดยแสดงผ่านทางสัญลักษณ์ต่าง ๆ เช่น ธงชาติและเพลงชาติไทยในการเป็นตัวแทนของความเป็นชาติไทยที่มีเอกราชและวัฒนธรรมเป็น เอกลกั ษณ์และไดร้ บั การยกย่องจากนานาชาตทิ ่วั โลก ๓. ปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องเหมาะสมตามกาลเทศะ ตามขนบธรรมเนียมประเพณี วฒั นธรรมไทย และสามารถสรา้ งความเข้าใจอันดีทถ่ี ูกต้องใหก้ บั ผู้อ่นื ได้ ประเด็นสำคญั ท่คี วรรู้ : พื้นฐำนควำมรู้ จดุ เน้นที่ควรเช่ือมโยง และสิ่งต้องเสรมิ สร้ำง ใหเ้ กิดควำมภูมิใจ การใช้สัญลักษณ์ที่เป็นรูปธรรมในการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์เพ่ือสร้างสานึกในความ เปน็ ไทย ตัวอย่างเชน่ ๑) ธงชำตแิ ละเพลงชำตไิ ทย ธงชาติ และเพลงชาตไิ ทย คือ สัญลกั ษณ์ของความเป็นไทย เราจงรว่ มใจกันยนื ตรงเคารพธงชาติ เพอ่ื ความภาคภมู ิใจในเอกราชและความเสยี สละของบรรพบุรุษไทย ข้อความดงั กล่าวน้ีเป็นท่ีค้นุ หูของคนไทยทุกคน และต่างก็รบั รูก้ ันดวี ่าธงชาติและเพลงชาติ เป็นสัญลักษณ์สากลที่แสดงความเป็นชาติเอกราชท่ีมีเกียรติและศักดิ์ศรีเท่าเทียมกันของทุกประเทศ ในโลก ซ่ึงตามมารยาทหรือธรรมเนียมสากล พลเมืองของทุกชาติควรให้ความเคารพด้วยการยืนตรงอย่าง แนแวนกวากราจรัดจกัดากราเรรเยี รนียรนปู้ รรู้ปะรวะัตวศิัตาิศสาตสรต์เพรเ์ ่ือพสือ่ รสา้ รง้าสงาสนำึกนคกึ วคาวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย: :สญัสญั ลกัลษกั ณษณ์ควค์ าวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย

ÚÖ  óøšĂöđóøĊ÷ÜÖĆî đöČęĂĕéš÷ĉîđóúÜßćêĉĒúąÖćøĂĆâđßĉâíÜßćêĉ×ċĚîÿĎŠ÷Ăéđÿć éĆÜìĊęđøćÝąóïđĀĘîđÿöĂĔî ÖćøĒ×ÜŠ ×ĆîÖāĊ ć ÖćøêĂîøïĆ ĂćÙĆîêčÖąêćŠ ÜßćêĉĒúąÖćøðøąßöč ĔîøąéïĆ îćîćßćêĉ Ă÷ŠćÜĕøÖĘêćöđøćöĆÖóïđĀĘîüŠćÙîĕì÷ÝĞćîüîĕöŠîšĂ÷ìęĊúąđú÷ ĒúąĕöŠđĀĘîÙüćöÿĞćÙĆâĔî ÖćøĒÿéÜÙüćöđÙćøóêŠĂíÜßćêĉĒúąđóúÜßćêĉĕì÷ĒöšüŠćøĆåïćúÝąó÷ć÷ćöøèøÜÙŤĔĀšÙîĕì÷ĒÿéÜĂĂÖ ëċÜÙüćöøĆÖĒúąÙüćöÿćöĆÙÙĊ×ĂÜÙîĔîßćêĉÙüćöõĎöĉĔÝĔîđĂÖøćßìęĊïøøóïčøčþĕì÷ĕéšóúĊßĊóðÖðŜĂÜ éĉîĒéîĕì÷ĕüšđðŨîöøéÖ×ĂÜÙîĕì÷ìĚĆÜßćêĉÝîëċÜðŦÝÝčïĆîîĊĚ ēé÷ñŠćîÖćøđÙćøóíÜßćêĉøŠüöÖĆîĔîđüúć ġĩ.ġġ î. Ēúą Ģĩġġ î. ìčÖüîĆ ÖêĘ ćö ÿćđĀêčÿüŠ îĀîċÜę ĂćÝđðîŨ ñúöćÝćÖÖćø×ćéÙüćöøÙĎš üćöđךćĔÝĔî ÙüćöđðŨîöćĒúąÙüćöÿĞćÙĆâ×ĂÜÿĆâúĆÖþèŤ éĆÜÖúŠćü ĒúąĒöšüŠćĀúĆÖÿĎêøĒÖîÖúćÜÖćøýċÖþć×ĚĆîóČĚîåćî öćêøåćîÖćøđøĊ÷îøĎš óčìíýĆÖøćß ģĦĦĢ ÖúŠčöÿćøąÖćøđøĊ÷îøšĎÿĆÜÙöýċÖþć ýćÿîć ĒúąüĆçîíøøö ÿćøąìĊę ĥ : ðøąüêĆ ýĉ ćÿêøŤ öćêøåćî ÿ ĥ.Ĥ ìĊęĔĀšîĆÖđøĊ÷îìčÖøąéĆïßĆĚî \"đךćĔÝÙüćöđðŨîöć×ĂÜßćêĉĕì÷ üĆçîíøøöĒúąõĎöĉðŦââćĕì÷'' ĒêŠÖĞćĀîéêĆüßĊĚüĆéĕüšđóĊ÷ÜđÞóćąĔĀšîĆÖđøĊ÷îßĚĆîðøąëöýċÖþćðŘìĊę Ģ “Ăíĉïć÷ÙüćöĀöć÷ĒúąÙüćöÿĞćÙĆâ×ĂÜÿĆâúĆÖþèŤÿĞćÙĆâ×ĂÜßćêĉĕì÷ĒúąðäĉïĆêĉêîĕéšëĎÖêšĂÜ”đìŠćîĚĆî àęċÜ÷ŠĂöĕöŠÿćöćøëìęĊÝąïøøÝčÿćøąÿĞćÙĆâĒúąÖĉÝÖøøöđÿøĉöÿøšćÜÝĉêÿĞćîċÖĔĀšđÖĉéÙüćöõĎöĉĔÝĒúąíĞćøÜ ÙüćöđðŨîĕì÷ĕéšúċÖàĚċÜĀøČĂđóĊ÷ÜóĂìęĊÝąìĞćĔĀšđÖĉéóùêĉÖøøö “÷ČîêøÜđÙćøóíÜßćêĉ” éšü÷đÝêÙêĉ “õĎöĉĔÝ ĔîđĂÖøćßĒúąÙüćöđÿ÷Ċ ÿúą×ĂÜïøøóïčøčþĕì÷” ĕéš ĒîüÙĉéĒúąÿćøąÿćĞ ÙâĆ Ģ.Ģ íÜßćêĉĒúąđóúÜßćêĉđðŨîÿĆâúĆÖþèŤ×ĂÜðøąđìý ĒÿéÜëċÜÙüćöđðŨîđĂÖøćßĒúą ýĆÖéĉĝýøĊìĊęđìŠćđìĊ÷öÖĆî àęċÜÿĆÜÙöēúÖëČĂđðŨîÿĆâúĆÖþèŤÿćÖúìĊęóúđöČĂÜĕöŠĔߊđÞóćąßćêĉ×ĂÜêîÙüøĔĀš ÙüćöđÙćøó éšü÷Öćø÷ČîêøÜ éĆÜìęĊđøćĕéšóïđĀĘîđÿöĂĔîÖćøĒ׊Ü×ĆîÖĊāć ĀøČĂóĉíĊÖćøÿĞćÙĆâĔî øąéĆïðøąđìýĒúąøąĀüŠćÜðøąđìý ĀćÖđøćĕöŠðäĉïĆêĉĂćÝÝąĕéšøĆïÖćøéĎëĎÖđĀ÷Ċ÷éĀ÷ćöüŠćĕöŠøĎšÝĆÖ öćø÷ćìÿćÖúìóęĊ Üċ ðäĉïêĆ ĉ êŠĂÖîĆ Ģ.ģ íÜßćêĉĒúąđóúÜßćêĉĕì÷đðŨîÿĆâúĆÖþèŤÙüćöđðŨîĕì÷öĊðøąüĆêĉÙüćöđðŨîöć ĒúąöĊ üĉüĆçîćÖćøðøĆïđðúęĊ÷îđóęČĂĔĀšđĀöćąÿöÖĆïïøĉïììćÜÿõćóĒüéúšĂöĔîöĉêĉ×ĂÜđüúćìęĊöĊÿćîÿĆöóĆîíŤ ÖĆïîćîćßćêĉìĆĚÜéšćîÖćøÙšćĒúąÖćøđöČĂÜøąĀüŠćÜðøąđìý àęċÜÿąìšĂîëċÜõĎöĉðŦââć×ĂÜýĉúðŗîĕì÷ Öćøðøą÷čÖêŤĒúąñÿöñÿćîìćÜüĆçîíøøöĒúąüĉÿĆ÷ìĆýîŤ×ĂÜóøąöĀćÖþĆêøĉ÷Ťĕì÷ìĞćĔĀšðøąđìýĕì÷öĊ íÜßćêĕĉ ì÷ĒúąđóúÜßćêĉĕì÷ìéĆ đìĊ÷öÖïĆ îćîćðøąđìý Ģ.Ĥ íÜßćêĉìĊęĔßšĂ÷ŠĎĔîðŦÝÝčïĆî ÙČĂíÜĕêøøÜÙŤ àċęÜóøąïćìÿöđéĘÝóøąöÜÖčãđÖúšćđÝšćĂ÷ĎŠĀĆü (øĆßÖćúìęĊ ħ) ĕéšìøÜđðúĊę÷î\"íÜßšćÜ\"àċęÜđðŨîíÜßćêĉĕì÷Ĕî×èąîĆĚîĔĀšđðŨîíÜĕêøøÜÙŤēé÷îĞćĒëïÿĊ Ĥ ÿĊ ÙČĂ ÿĊĒéÜ ÿĊ×ćü ĒúąÿĊîĞĚćđÜĉî öćđðîŨ ÿĆâúÖĆ þèŤĒìîÿëćïîĆ ĀúÖĆ ×ĂÜßćêĉĕì÷ ÙĂČ ÿëćïîĆ ßćêĉ ÿëćïĆîýćÿîć ĒúąÿëćïĆîóøąöĀćÖþĆêøĉ÷Ť ïøĉïììćÜðøąüĆêĉýćÿêøŤĔîߊüÜđüúćÖĞćđîĉéíÜĕêøøÜÙŤîĚĆî ÙČĂ ÖćøÿøšćÜÖćø÷ĂöøĆïĔîÙüćöđìŠćđìĊ÷öÖĆïîćîćðøąđìý àęċÜóøąĂÜÙŤĕéšÿŠÜìĀćøĕì÷đ×šćøŠüöÖĆïòść÷ ĒแîนüวÖกćารøจÝดัĆéกÖาćรøเđรøยี÷Ċ นîรøู้ปĎšðรøะąวüตั Ćêิศĉýาćสÿตêรø์เŤđพóือ่ČĂę สÿรø้าšćงÜÿสĞćำîนÖċกึ คÙüวćามöđเðปŨî็นไĕทìย÷ ::ÿสĆâัญúĆÖลþักษèณÙŤ üค์ ćวöาđมðเŨîปĕ็นìไ÷ทย

๙๖ สัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งท่ี ๑ และนาธงไตรรงค์ที่แสดงความเป็นชาติไทยไปร่วมด้วยการเปน็ หน่ึง ในชาติชนะสงคราม ส่งผลให้ไทยมีฐานะทางการเมืองระหว่างประเทศมั่นคงยิ่งขึ้นได้แก้ไขสนธิสัญญาที่ ไม่เท่าเทียมกัน โดยเฉพาะสิทธิสภาพนอกอาณาเขต (การเสียเอกราชทางการศาล ซ่ึงการเท่าเทียม ดังกล่าวน้ีมคี วามพยายามอย่างตอ่ เน่อื งจนสาเรจ็ ในสมัยรชั กาลที่ ๘) ในพระราชนิพนธ์ เคร่ืองหมายแห่งไตรรงค์ ซ่ึงรัชกาลท่ี ๖ ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ ได้นิยาม ความหมายของธงไตรรงค์ ความว่า ขำว คอื บริสุทธิ์ศรีสวัสด์ิ หมายพระไตรรัตน์ และธรรมะคุ้มจิตไทย แดง คือโลหติ เราไซด์ ซงึ่ ยอมสละได้ เพ่ือรักษาชาตศิ าสนา น้ำเงิน คอื สโี สภา อันจอมประชา ธ โปรดเป็นของส่วนองค์ จดั ริ้วเขา้ เป็นไตรรงค์ จ่ึงเป็นสีธง ทีร่ ักแหง่ เราชาวไทย ทหารอวตารนาไป ยงยุทธว์ ิชัย วิชิตกช็ ูเกยี รติสยามฯ ๑.๔ ธงชาติในอดีตถือเป็นผลิตผลที่สร้างข้ึนจากภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ เพ่ือแกป้ ญั หา แตธ่ งไตรรงค์เกดิ จากการแกป้ ัญหา และความมุ่งม่นั ท่จี ะสร้างเกียรตภิ ูมิทดั เทยี มและได้รับ การยอมรับจากมหาอานาจ หากได้วิเคราะห์เปรียบเทียบกับธงชาติของชาติตะวันตกท่ีมีอิทธิพลอยู่ใน ชว่ งเวลาน้ัน(ในระหว่างสงครามโลกครงั้ ท่ี ๑) ซ่งึ เราจะพบความหมายดังกลา่ ว ๑.๕ ความสาคัญของธงชาติไทยในฐานะท่ีเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นเอกราช และความเสียสละของบรรพบุรุษไทย สะท้อนเด่นชัดในเหตุการณ์ท่ีฝร่ังเศสยึดเมืองตราด และปลดธง ชาติไทยลงจากยอดเสา เมื่อวันท่ี ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๔๖ หรือธงชาติในคดีเขาพระวิหารที่ใช้เป็น การอ้างองิ ในคดีพิพาทระหวา่ งประเทศ ๑.๖ ระเบียบการชัก ใช้ และแสดงธงชาติไทย มีระเบียบปฏิบัติอย่างชัดเจน ปรากฏในพระราชบัญญัติหลายฉบับ ในปัจจุบันยึดถือหลักการตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี (แก้ไขเพ่มิ เติม ๒ คร้ัง เม่ือ พ.ศ.๒๕๔๖ และ พ.ศ. ๒๕๔๗) ทั้งนธ้ี งชาตไิ ทยถอื เป็นสิง่ ที่คนไทยทกุ คนต้อง ใหค้ วามเคารพ การละเมิดถือเปน็ การกระทาท่ีผิดกฎหมาย ๑.๗ เพลงชำติไทยกาเนิดข้ึนภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบ สมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นระบอบประชาธิปไตยท่ีมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๕ ในขณะน้ันไทยใช้ชื่อว่าประเทศสยาม พ.ศ.๒๔๘๒ รัฐบาลได้ประกาศรัฐนิยม ฉบับที่๑ ให้ใช้ชื่อประเทศ ไทย และคนไทย ทาให้มีการปรบั เปลย่ี นเพลงชาติไทย และใชม้ าถึงปัจจบุ ันนี้ แนวการจัดการเรียนรปู้ ระวัตศิ าสตร์เพอื่ สรา้ งสานกึ ความเปน็ ไทย : สญั ลกั ษณค์ วามเปน็ ไทย แนวการจัดการเรยี นรูป้ ระวัติศาสตร์เพือ่ สร้างสำนึกความเป็นไทย : สญั ลักษณค์ วามเปน็ ไทย

๙๗ ๒) เพลงสรรเสริญพระบำรมี พระบรมฉำยำลกั ษณห์ รอื พระบรมสำทิสลักษณ์ แนวคดิ และสำระสำคญั ๒.๑ เพลงสรรเสริญพระบำรมี พระบรมฉำยำลักษณ์ หรือพระบรมสำทิสลักษณ์ เป็น สัญลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ไทย ซ่ึงเป็นที่เคารพสกั การะสูงสุดของปวงชนชาวไทย ประเทศไทยดารง อยู่ก็เพราะมีองค์พระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจ ทรงเป็นผู้นาในการปกป้อง รักษาเอกราช และ พัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า ดงั นัน้ ชาวไทยทุกคนควรใหค้ วามเคารพด้วยการยนื ตรงเมื่อได้ยนิ เพลง สรรเสริญ พระบารมีและเมื่อจบเพลงให้ถวายความเคารพ ส่วนการถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ หรือพระบรมสาทิสลักษณ์ ซ่ึงนับเป็นมารยาทในสังคมไทย ชาย ใช้วิธีการถวายคานับโดยค้อมศีรษะพอสมควร หญิง ใช้วิธีการ ถวายความเคารพแบบย่อเขา่ (ถอนสายบวั ) ซ่ึงมีท้งั ลกั ษณะแบบสากลนยิ ม และแบบราชนิยม ๒.๒ เพลงสรรเสริญพระบำรมี มีใช้ในประเทศท่ีมีการปกครองระบอบสมบูรณาญา สิทธิราชย์ และการปกครองประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมุข ใช้บรรเลง ในพระราชพธิ ี ที่พระมหากษัตริย์ และสมเด็จพระราชินีนาถ เสด็จมาร่วมงานท้ังมาและกลับ และเป็นมารยาทสากลท่ี พลเมืองควรแสดงความเคารพดว้ ยการยนื ตรง ๒.๓ เพลงสรรเสรญิ พระบำรมี ของไทยที่ใช้ในปัจจบุ ัน มีววิ ัฒนาการและการปรับเปลี่ยนและ สะท้อนถึงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทย กาเนิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕ เพ่ือแก้ปัญหาและแสดงถึงความ ทัดเทียมในเกยี รตยิ ศและศักด์ิศรีของชาติไทย ในยุคทป่ี ระเทศไทยต้องเผชิญกับการแผ่ขยายอิทธิพลของ ชาติตะวันตกท่ีทวีความรุนแรงมากขึ้น พระองค์ได้เสด็จไปประเทศเพ่ือนบ้านของไทยท่ีอยู่ภายใต้การ ครอบครองของชาติตะวันตก เพือ่ ศึกษาความเจรญิ ทางดา้ นต่างๆ เพือ่ ปรบั ใช้ในประเทศไทย ทรงพบว่า ทุกประเทศมีการบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีในการรับเสด็จและขณะน้ันสิงค์โปร์ (ภายใต้การ ปกครองของอังกฤษ) ได้บรรเลงเพลง God save the king (Queen) เพ่ือแสดงความเคารพต่อ พระมหากษัตริย์ ตามแบบอย่างของอังกฤษ ซึ่งขณะน้ันไทยก็ใช้ทานองเพลงดังกล่าวเป็นเพลงสรรเสรญิ พระบารมเี หมอื นกัน ท้งั เมือ่ เสดจ็ ไปถงึ เมืองปัตตาเวยี (ปัจจบุ ันอยูใ่ นประเทศอนิ โดนีเซยี ) ชาวฮอลนั ดา ได้ถามถึงเพลงประจาชาติของไทยเพ่ือไปบรรเลงรับเสด็จ รัชกาลท่ี ๕ จึงมีพระราชดาริให้แต่งเพลง สรรเสรญิ พระบารมีข้ึน โดยทรงเลือกทานองเปน็ สากลเพ่อื ให้ทดั เทยี มกับชาตติ ะวันตก ๒.๔ เพลงสรรเสริญพระบำรมีน้ีใช้แทนเพลงชาติไทยระหว่าง พ.ศ.๒๔๓๑ - ๒๔๗๕ (เปลี่ยนแปลงการปกครอง) เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศที่ปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ใน ขณะน้ัน แหล่งขอ้ มูลทีค่ วรศึกษำเพมิ่ เติม ๑. พิพิธภณั ฑธ์ งชาติไทย ตั้งอยทู่ ่ี ๑๕ ลาดพร้าว ๔๓ อาเภอหว้ ยขวาง กรุงเทพมหานคร ๒. ประวตั คิ วามเปน็ มาของธงชาติไทย ของ กรมการทหารชา่ ง (www.engrder5.com/tananchanglirg/army-tongthai.htm) ๓. หนังสือเรื่องพัฒนาการของธงชาติไทย แต่งโดย กฤษดา ไพรวรรณ์ โครงการจัดพิมพ์ หนังสอื ชุด ร้รู อบ - รอบรู้ คณะอักษรศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยศิลปากร พ.ศ. ๒๕๕๓ แนวการจดั การเรียนรปู้ ระวตั ศิ าสตรเ์ พื่อสรา้ งสานกึ ความเปน็ ไทย : สญั ลักษณค์ วามเปน็ ไทย แนวการจดั การเรียนรู้ประวตั ิศาสตร์เพอื่ สร้างสำนกึ ความเปน็ ไทย : สัญลกั ษณ์ความเปน็ ไทย

๙๘ ตัวอยำ่ ง รำ่ งแผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ ๔ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ รายวิชา ประวัตศิ าสตร์ รหัสวิชา..................... หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑ สัญลักษณข์ องชาตไิ ทย จานวน ๒ ชัว่ โมง หน่วยยอ่ ยที่ ๑ เร่อื ง ธงชาติและเพลงชาตไิ ทย จานวน ๒ ชั่วโมง ๑.มำตรฐำนกำรเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ัด มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ ส ๔.๓ เขา้ ใจความเปน็ มาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาไทย มีความรกั ความภูมิใจและธารง ความเป็นไทย ตัวชีว้ ัด ป.๑/๑ อธบิ ายความหมายและความสาคัญของสัญลักษณ์ สาคญั ของชาติไทยและปฏิบตั ิตนได้ถูกต้อง ๒. สำระสำคญั ธงชาติและเพลงชาติไทยเปน็ สัญลักษณข์ องความเป็นประเทศไทย แสดงถงึ ความเป็นเอกราชและ แสดงศกั ดิ์ศรขี องประเทศ ทเ่ี ท่าเทยี มกับประเทศอื่น ซึ่งทุกคนควรใหค้ วามเคารพ ดว้ ยการยนื ตรงเคารพ ธงชาติและเพลงชาตไิ ทย ทกุ สถานทีท่ ุกเวลาทม่ี ีการชักธงชาตแิ ละรอ้ งเพลงชาติ ๓. จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ ๑) นกั เรยี นบอกได้วา่ ธงชาติและเพลงชาติไทยเปน็ สัญลักษณ์ของประเทศไทยได้อย่างถูกตอ้ ง ๒) นกั เรยี นสามารถร้องเพลงชาติไทยได้อย่างถกู ต้อง ท้ังคารอ้ ง ทานองและมคี วามไพเราะ ๓) นกั เรยี นสามารถปฏบิ ตั ิตน เม่อื มีการเชญิ ธงธาตขิ ึ้นส่ยู อดเสาธงและลงจากยอดเสาธง พร้อมทั้งการร้องเสียงเพลงชาติ อยา่ งถูกต้องเหมาะสมตามวาระโอกาสด้วยความภาคภูมิใจ ๔. สำระกำรเรยี นรู้ ๑) สัญลกั ษณข์ องความเปน็ ประเทศไทยคือธงชาติและเพลงชาตไิ ทย ๑.๑) ธงชาตไิ ทยในประเด็น ความสาคัญ ความเป็นมา ลักษณะของธง ความหมายของสธี ง การทาความเคารพธง ๑.๒) เพลงชาติไทย ในประเด็นเหตุที่มีเพลงชาติ ทาไมต้องร้องเพลงชาติ เน้ือหาและ ความหมายของเพลงชาติ การปฏิบัตติ นเม่อื ได้ยนิ เพลงชาตไิ ทยดังข้นึ แนวการจัดการเรยี นรปู้ ระวตั ศิ าสตรเ์ พ่ือสรา้ งสานกึ ความเปน็ ไทย : สัญลักษณ์ความเปน็ ไทย แนวการจดั การเรียนรู้ประวตั ศิ าสตร์เพ่อื สรา้ งสำนกึ ความเปน็ ไทย : สญั ลักษณ์ความเปน็ ไทย

๙๙ ๕. ทกั ษะ/กระบวนกำร ๑) ทักษะการคดิ ๒) ทักษะการตอบคาถาม ๓) ทกั ษะการจาแนก ๖. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ๗. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน ๑) การคิด ๒) การสอ่ื สาร ๘. หลักฐำนกำรเรียนรู้ ๘.๑) ชิน้ งาน - นักเรียนร้องเพลงชาตไิ ทยและคดั เนื้อเพลงชาติ - ภาพวาดระบายสีธงชาติไทย - ภาพวาดภาพการยืนตรงเคารพธงชาติของตนเองในสถานการณท์ ่กี าหนด ๘.๒) ภาระงาน - ให้นกั เรยี นลาดบั การถอื กาเนิดของธงชาติไทยจากอดีตถึงปัจจบุ ัน - ให้นักเรยี นวาดภาพระบายสีการปฏิบัตติ นเมื่อไดย้ ินเพลงชาติไทยและธงชาติชกั ขึน้ สู่ยอดเสา ๙. กำรวดั และกำรประเมินผล เปา้ หมาย วิธวี ัด เคร่อื งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ ความรู้ ๑) นกั เรียนบอกไดว้ ่า การสอบถาม ประเดน็ คาถาม ๑. นักเรียนตอบได้ ธงชาติและเพลงชาติ การตรวจผลงาน - แบบฝกึ ท่ี ๑ สีของ ถูกต้องทุกคาถามทุกคน ไทยเป็นสัญลกั ษณ์ ธงชาติไทย ทปี่ ลิว้ ไสว ๒. ผลงานนกั เรียนมี ของประเทศไทยได้ สวยงามสง่า คณุ ภาพระดบั ดีขึน้ ไป อย่างถูกต้อง - แบบฝกึ ที่ ๒ การ กาเนิดธงชาติไทย -แบบประเมนิ ผลงาน ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ๒)นักเรียนสามารถ การตรวจสอบ ๑.แบบประเมนิ การ นักเรียนสามารถร้อง รอ้ งเพลงชาติไทยได้ รายการ รอ้ งเพลงชาติ เพลงชาตไิ ทยได้อยา่ ง อยา่ งถูกต้อง ท้ังคา ถูกต้อง ทัง้ คาร้อง รอ้ ง ทานองและมี ทานองและมีความ ความไพเราะ ไพเราะ ในระดบั ดีข้นึ ไป แนวการจัดการเรียนรปู้ ระวตั ศิ าสตร์เพื่อสร้างสานึกความเปน็ ไทย : สญั ลักษณค์ วามเปน็ ไทย แนวการจดั การเรียนร้ปู ระวตั ิศาสตรเ์ พอื่ สรา้ งสำนึกความเปน็ ไทย : สัญลกั ษณค์ วามเปน็ ไทย

๑๐๐ เป้าหมาย วิธีวดั เครื่องมือวดั เกณฑ์การประเมนิ ๓) นักเรียนสามารถ การสังเกตพฤติกรรม ๑.แบบบนั ทึกการ ๑.นักเรียนมีพฤติกรรม ปฏิบตั ิตน เมอ่ื มีการ การตรวจผลงาน สงั เกตพฤติกรรม การแสดงออกต่อการ เชิญธงธาติข้ึนส่ยู อด ๒.แบบฝึกท่ี ๓ เราคน ยนื ตรงเคารพธงชาติ เสาธงและลงจาก ไทยต้องยืนตรงเคารพ และร้องเพลงชาติ อยู่ ยอดเสาธง พร้อมทัง้ ธงชาติ ในระดบั ดีขึ้นไป การรอ้ งเสยี งเพลง ๒.ผลงานนักเรยี นมี ชาติ อยา่ งถูกตอ้ ง คุณภาพระดับดีขึ้นไป เหมาะสมตามวาระ โอกาสด้วยความ ภาคภมู ใิ จ ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑) รักชาติ ศาสน์ การตรวจสอบ/การ แบบบนั ทึกพฤติกรรม ๑.ยนื ตรงเคารพธงชาติ กษัตรยิ ์ สงั เกตการปฏิบตั ิตน ของนักเรยี นเปน็ ร้องเพลงชาติและอธิบาย ของนักเรยี นเมื่อได้ รายบุคคล ความหมายของเพลงชาติ ยนื เพลงชาตไิ ทย ได้ถูกต้องทุกคน ๒.เข้าร่วมกจิ กรรมที่ เกี่ยวกบั พระมหากษัตริย์ตามท่ี โรงเรียนและชุมชนจัด ข้นึ ทุกครั้ง ด้านสมรรถนะทีส่ าคัญของผู้เรียน ๑) การคิด การสังเกตพฤติกรรม แบบประเมินคณุ ภาพ นกั เรยี นผ่านการประเมิน ๒) การสอ่ื สาร ในระดับดีขึ้นไปทกุ คน แนแวนกวากราจรดั จกัดากราเรรเยี รนยี รนปู้ รรูป้ ะรวะัตวศิตั าศิ สาตสรตเ์ พรเ์ อ่ืพส่อื รสา้ รงา้ สงาสนำกึนคกึ วคาวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย: :สัญสญั ลักลษกั ณษณค์ ว์คาวมาเมปเ็นปไน็ ทไยทย

๑๐๑ ๑๐. กิจกรรมกำรเรียนรู้ ชว่ั โมงที่ ๑ จุดเนน้ ธงชำตไิ ทย กิจกรรมการเรียนรู้เรือ่ ง “ร้จู กั ธง” ใช้เทคนิคการสอนแบบต้ังคาถาม ประกอบการใชส้ อ่ื มลี าดบั การสอน ดังน้ี ขั้นกระตุก กระตุ้น ๑) ครูนาธงหรือภาพของ “ธง” ท่ีหลากหลายรูปแบบมาให้นักเรียนได้ดู เชน่ ธงสี ธงประจาโรงเรยี น ครูตง้ั คาถามวา่ สนทนาว่า: รู้จกั ไหมคะ่ นคี่ ืออะไร คาตอบของนักเรยี น : ธงคะ่ ธงประจาสี ค่ะ คาถาม : ธงสใี ช้ทาอะไรคะ่ คาตอบนักเรยี น : ใช้แบง่ คนเข้าสตี า่ งๆ ค่ะ ครเู สริมว่า บางคร้ังก็ใชแ้ บ่งเขตบริการในโรงเรียนของเรา ใชไ่ หมคะ่ คาถาม : นกั เรยี นวา่ ธงสี น่ีใชต้ ่าง ๆ ทใี่ ชใ้ นการแบง่ นักเรียนเป็นประโยชนท์ าอะไรได้บา้ งค่ะ คาตอบนักเรยี น : แขง่ กีฬาสีค่ะ ครูสนทนาเสริมว่า แบ่งนักเรียนออกเป็นกลมุ่ ๆ เข้าเป็นสีต่างๆตามธงสี ใช่ไหมค่ะ หากธงสีแดง ตงั้ อยู่ตรงไหนของสนามกีฬา สมาชิกของสีแดงกว็ ิง่ ไปรวมกันตรงที่ธงสีแดงปักอยใู่ ช่ไหมค่ะ คาตอบนักเรียน : ใช่คะ่ ครูสนทนาเสริมว่า โรงเรียนของเราแบ่งเขตบริการออกเป็นเขตสีต่าง และมีการกาหนดให้ สมาชิกในสีน้ัน ๆ ดูแลพ้ืนที่บริเวณรอบ ๆ โรงเรียน เช่น สนามหญ้า บริเวณรอบ ๆ เสาธง ห้องน้า สวนสมุนไพร ไม้กระถาง เป็นต้นนักเรียนที่เป็นสมาชิกในสีต่าง ๆ ก็ไปทาหน้าที่ ตามท่ีกลุ่มสีรับผิดชอบ ใช่มย้ั ค่ะ ดงั นัน้ ธงสีของเรา ก็เปน็ ตวั แทนในการแบง่ คนหรือแยกคนออกเปน็ กลุ่ม ๆ เพอ่ื แขง่ กีฬาสี หรือ เพื่อแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบในเขตบริการต่าง ๆ ของโรงเรียน ใช่มั้ยค่ะ นอกจากนี้ยังมีอีกนะคะ หากเราไปแข่งกีฬากลุ่มโรงเรียน ซ่ึงมีโรงเรียนหลายโรงเรียนมาทาการแข่งขันด้วยกัน นักเรียนคงเคย สังเกตนะคะว่า เวลาทาพิธีเปิดกีฬาสีกลุ่มโรงเรียน เราจะเดินสวนสนาม นักเรียนจะรู้ม้ัยค่ะว่าโรงเรียน ของเราอยตู่ รงไหนของแถวสวนสนามการเปิดแข่งขนั กีฬาสี ใครบอกครไู ด้มั้ยเอย่ ? คาตอบนักเรยี น : ป้ายชอ่ื โรงเรยี นค่ะ ครูซักถามต่อ : มอี ะไรอยา่ งอนื่ อีกม้ัยค่ะ นอกจากปา้ ย ช่อื โรงเรียนคาตอบนักเรียน : …….อาจจะตอบไดห้ รือไม่ได้…….คาตอบ : ธงโรงเรียน ค่ะ ครูเสริม : ธงโรงเรียน ก็เช่นเดียวกัน เป็นตัวแทน แบ่งนักเรียนแต่ละโรงเรียนออกจากกัน ธงโรงเรยี นของเรา ต้ังอยูล่ าดับที่...... นนี้ ะ เราก็ตอ้ งไปยืนเข้าแถวหลังธงโรงเรียนของเรา ใชม่ ้ัยคะ่ ดังน้ัน ธงสี ธงโรงเรยี น เป็นตวั แทนของอะไร คะ่ คาตอบ : เปน็ ตัวแทนของสีตา่ ง ๆ ในกีฬาสีของโรงเรียน และกีฬาสกี ลุ่มโรงเรียน แนแนวกวการาจรดัจัดกการาเรรเยีรยีนนรปู้รูป้ระรวะัตวตัศิ ิศาสาสตตรเ์รพเ์ พอ่ื ่ือสสรา้รง้างสสานำนึกกึคควาวมามเปเปน็ ็นไทไทยย::สสัญัญลลกั กัษษณณค์ ์ควาวมามเปเปน็ ็นไทไทยย

๑๐๒ ครูเสริมว่า ในการแบ่งคนออกเป็นสีต่าง ๆ หรือแบ่งโรงเรียนต่าง ๆ ในการแข่งขันกีฬากลุ่ม โรงเรียนซ่ึงมีนักเรียน โดยใช้ธง เป็นตัวแทน ซ่ึงมีนักเรียน มีครู มีผอ. เป็นสมาชิกอยู่ในสีนั้น ๆ หรือ โรงเรียน นั้น ๆ ซึ่งเราถือว่าธงสี ธงโรงเรียน เป็นตัวแทนของสีของโรงเรียน ในการแบ่งคนออกเป็นกลุ่ม เป็นก้อน เพ่ือทาหน้าท่ีในอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่กาหนดขึ้น ในท่ีครูยกตัวอย่างมาคือการแข่งขันกีฬาสี ในโรงเรยี น การแบ่งเขตบริการและการแข่งขันกฬี ากลุม่ โรงเรยี น ๒) ครูนาธงชาตปิ ระเทศสมาชกิ อาเซียน ๑๐ ชาติ ให้นกั เรียนดู แลว้ ถามวา่ นักเรียนรู้จักธงเหลา่ น้ี หรือไม่ คาตอบของนกั เรียน: ธงชาติต่างๆของประเทศสมาชิกอาเซียน รวมท้งั ธงชาติไทย ครูอธิบายเพ่ิมเติมให้ถูกต้องและครบท้ัง ๑๐ ประเทศ : บูรไน กัมพูชา ฟิลิปปินส์ เมียนม่าม์ มาเลเซีย ไทย อนิ โดนเี ซยี เวยี ดนาม ลาว สงิ คโปร์ พรอ้ มชูธงชาตปิ ระกอบการเอ่ยนามชาตนิ ัน้ ๆ ๓) ใหน้ กั เรียนเลน่ เกมส์ ฉนั คือใคร ครอู ธบิ ายวธิ กี ารเลน่ ใหน้ กั เรยี นฟงั ดังนี้ - นาธงชาติสมาชิกอาเซยี น ๑๐ ประเทศ มาตัง้ ปกั หน้าห้องเรยี น - ให้นักเรียนจับสลากคนละ ๑ ใบ ซ่ึงในสลากเขียนช่ือประเทศสมาชิกอาเซียน ทั้ง ๑๐ ประเทศ จานวนเท่า ๆ กัน - ครูประกาศช่ือประเทศอะไร ให้นักเรียนท่ีมีสลากชื่อประเทศนั้น ๆ วิ่งไปอยู่ท่ีธงประจาชาติ ท่คี รูเอ่ยนามปักอยู่ ขานชอ่ื ครบทกุ ประเทศแล้ว - ครูให้นักเรียนท่ียืนเป็นสมาชิกของแต่ละประเทศ เอ่ยช่ือประเทศที่ตนเองเป็นสมาชิก พรอ้ มๆกนั ทีละประเทศ จนครบทุกประเทศ ๔) ครูถามนักเรียนว่า ทาไมเม่ือครูเอ่ยชื่อประเทศ นักเรียนจึงว่ิงไปอยู่ที่ธงชาตขิ องประเทศนั้น ๆ ปกั อยู่ คาตอบนักเรยี น: กค็ นประเทศไหน กต็ ้องวิ่งไปอยู่ท่ีประเทศ น้ัน คาถาม : นักเรียนว่ิงไปที่ธงของชาติที่นักเรียนจับสลากได้ แสดงว่า ธงชาติ เป็นตัวแทนของ อะไรค่ะ คาตอบ : ตัวแทนของประเทศแต่ละประเทศ ค่ะ/ครบั ครสู รปุ วา่ ไมว่ า่ ธงสี ธงประจาโรงเรยี น ธงชาติ น้นั เราถอื ว่าเป็นตวั แทนของคน กลุ่มคน ท่ี เป็นสมาชิกในสังคม ในดินแดน ในประเทศนั้น ๆ ซึ่งเราเรียกสิ่งที่เราใช้แทน น้ันว่า สัญลักษณ์ ซ่ึง สัญลักษณ์จึงหมายถึงส่ิงท่ีเป็นตัวแทนของอะไรก็ตามทั้งในธรรมชาติหรือที่ส่ิงที่มนุษย์ (คน) สร้างขึ้นมา และได้รับการยอมรับในสังคมน้ัน ๆ มีลักษณะคงทนถาวรแปรเปล่ียนรูปร่างไม่ได้ ซ่ึงสัญลักษณ์ ท่ีเป็น ตวั แทนส่ิงตา่ ง ๆ มหี ลายลกั ษณะไม่ใช่เฉพาะธง อยา่ งเดยี ว เชน่ เครอ่ื งหมายทางภูมศิ าสตร์ (เครือ่ งหมาย กากับทิศ) เครอ่ื งหมายทางคณติ ศาสตร์ (บวก ลบ คณู และหาร หรือเครื่องหมายเท่ากับ) เปน็ ตน้ แนแวนกวากราจรัดจกัดากราเรรเียรนยี รนปู้ รรปู้ ะรวะัตวศิตั าศิ สาตสรต์เพรเ์ ื่อพส่ือรสา้ รง้าสงาสนำกึนคึกวคาวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย: :สญัสัญลกัลษกั ณษณ์คว์คาวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย

๑๐๓ สาหรับ ธงชาติ กเ็ ปน็ สัญลกั ษณอ์ ย่างหนงึ่ ท่ีแทนประเทศไมว่ ่าจะเป็นคน ดินแดน หรอื อาณา เขตของประเทศ ซึ่งแต่ละประเทศท่ีเรารู้จักไม่ว่าประเทศกลุ่มอาเซียน หรือญ่ีปุ่น จีน หรือประเทศใด ๆ ในโลกตา่ งกม็ ธี งชาติเปน็ ของตัวเอง คาถามชวนสนทนา : นักเรยี นวา่ ไทยเรามธี งชาติ ใชม้ านานแคไ่ หนแล้ว ใครอยากรบู้ า้ งคะ่ คาตอบของนกั เรยี น : ……………………………..อาจหลากหลาย ขัน้ ตระเตรียม ตริตรอง ตรวจสอบ ๑) ครูนาธงชาตไิ ทย (ธงไตรรงค์) / ธงแถบขาวแดงหา้ แถบ / ภาพธงช้างเผอื ก / ภาพธงพนื้ แดง มจี กั รตรงกลาง /ภาพธงแดง ขน้ึ มาให้นักเรยี นดู พร้อมๆกัน คาถาม : ใครเคยเห็นธงแบบใดบา้ ง ยกธงไตรรงค์ อันดบั แรก ตามดว้ ยธงอนื่ ๆ ที่ชาติไทยเคยใชม้ าใน อดตี (ธงแถบขาวแดงห้าแถบ / ภาพธงชา้ งเผือก / ภาพธงพื้นแดงมีวงจักรตรงกลาง / ภาพธงแดง) คาตอบนักเรียน : ………………อาจจะตอบไดห้ รือไม่ได้ ครูสรุปว่า ธงท่ีครูนามาใหน้ ักเรยี นดู ทงั้ หมดน้ี ต่างเปน็ ธงที่ใชแ้ ทนประเทศไทยมาในอดตี จนถึง ปจั จุบัน ธงแต่ละธงกม็ ีความหมายในตัวของมันเอง ว่าทาไมจึงเป็นธงแดง ธงแดงตรงกลางมจี ักร ธงแดง มชี า้ งเผือกตรงกลาง ธงแถบขาวแดงห้าแถบ หรือธงไตรรงค์ ใครอยากรู้ความเปน็ มาของธงเหลา่ นี้ ไหมค่ะ ๒) ครเู ลา่ ประวัติธงชาติไทย ใหน้ กั เรียนฟัง พอสังเขป พรอ้ มนาเสนอภาพธงประกอบ ดังนี้ ประเทศไทยใช้ธงแดง เม่ือกว่า ๖๐๐ กว่าปีมาแล้ว เพราะเม่ือก่อนเรามีการค้าขายทางทะเลกับ ตา่ งชาติ เราใชธ้ งแดงติดหวั เรอื สาเภา เป็นสัญลกั ษณ์นค่ี ือเรอื ของไทย คาถาม : ทาไมธงเมื่อแรกก่อน จึงใช้เป็นสีแดง ทาไมใช้สีแดงล่ะคะ ทาไม่ไม่ใช่ธงสีดา สีขาว สฟี ้า ฯลฯ คาตอบนักเรยี น:…………………………………………………………….. คาถาม : และทาไม่ ไม่ใช่ธงสดี า สขี าว สฟี า้ ฯลฯ ล่ะคะ ลองช่วยกันคดิ หาคาตอบดสู คิ ะ คาตอบนักเรยี น :………………………………………………………………………………………………….. คาถามสนทนา : ใชส้ ีขาว ก็คงเปือ้ นเร็ว สดี าเป็นไงค่ะ ไวท้ ุกชไ์ มเ่ ปน็ มงคล สฟี ้า กไ็ มร่ ู้จะใช้พชื อะไรมาย้อม…………….. คาตอบครู : เหตุผลว่าทาไมธงเม่ือก่อนเราใช้จึงเป็นธงแดง ครูคิดว่าเมื่อก่อนเรายังไม่มีสี สังเคราะห์ใช้ท่ีมีหลากสี สมัยก่อนเราจะใช้พืชธรรมชาติเป็นสีย้อมผ้า และครูคาดว่าสีแดง พืชท่ีใช้ทา ได้แก่ ครั่ง ชาด อาจจะหาได้ง่ายมีมากในสมัยน่นั และมันโดดเด่นเหน็ ได้ไกลเด่นชัด แต่หลักฐานก็ไม่มี ปรากฏใหเ้ ห็นได้ค้นควา้ ท่นี ามาอ้างอิงได้ นะคะ ถัดจากธงแดง ก็ยังมีธงแดงตรงกลางมีวงจักรสีขาว (ครูนาภาพธงธงแดงตรงกลางมี วงจักรสขี าว) ให้นกั เรียนดู ซึ่งใชต้ ิดทีเ่ รือสินค้าของพระมหากษตั ริยท์ ี่ออกไปค้าขายทางทะเลกับต่างชาติ แนแนวกวการาจรัดจัดกการาเรรเยีรยีนนรปู้รู้ประรวะัตวัตศิ ศิาสาสตตรเ์รพเ์ พ่อื ือ่สสรา้รง้างสสานำนกึ ึกคควาวมามเปเปน็ น็ไทไทยย::สสัญญั ลลักักษษณณค์ ์ควาวมามเปเปน็ ็นไทไทยย

๑๐๔ จะได้แยกให้ประเทศท่ีเราไปค้าขายด้วยว่า เรือสาเภาลาใดเป็นของพระมหากษัตริย์ เรือสาเภทใดเป็น ของเอกชน ซึง่ คงจะมีการปฏบิ ตั ิแตกต่างกนั ในสัญญาค้าขาย ระหว่างเรือหลวงกับเรือพอ่ คา้ ต่อมาไทยเปล่ียนเป็นธงช้างเผือก เพราะพระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่งทรงได้ช้างเผือกมา ๓ ช้าง ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ สง่างาม น่าเกรงขาม ช้างจึงเป็นตัวแทนของความยิ่งใหญ่ แสดงถึงบารมีของ องค์พระมหากษัตรยิ อ์ งค์ที่ได้ครอบครองช้างเผอื ก ต่อมามีเหตุการณ์เกิดขึ้น มีการติดธงช้างเผือก กลับเอาหัวช้างเผือกลง ถือว่าไม่เป็นมงคล จึงมีการเปลย่ี นธงใหม่ ในรัชกาลที่ ๖ อีก ๒ ครั้ง ครั้งแรกทดลองทาเป็นร้ิวห้าร้ิว มีสีแดงสลับสีขาวทางตามยาว ซึ่งผ้าขาวและผ้าแดง หาได้ง่าย สามารถเย็บเป็นธงได้สะดวก แต่มันดูจืดชืด ยังไม่พอพระราชหฤทัย จึงได้เปล่ียนสีธงชาติอีกครั้งหน่ึง โดยเปลี่ยนแถบห้าแถบ ๒ สี คือ สีแดง สีขาว เป็นห้าแถบ ๓ สี ซ่ึงเป็นสีของประเทศมหาอานาจ ๓ ประเทศ ได้แก่อังกฤษ ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา พระองค์จึงปรับธงให้มีสี ๓ สี ๕ แถบ เช่นชาติที่ เจริญแล้ว เพราะประเทศไทยกาลังจะก้าวเข้าสู่ความเป็นสมัยใหม่ ทัดเทียมกับนานาประเทศทางยุโรป และไดใ้ ชม้ าถงึ ปัจจบุ ันน้ี ทรงพระราชทานนามว่า ธงไตรรงค์ ๕) ครูเปิดเพลง “ไตรรงค์ธงไทย” นักเรียนฟัง เพ่ืออธิบายความหมายและลักษณะของธงชาติ ไทย นักเรียนฟงั จบแล้วครูตั้งคาถามเก่ียวกับสีของธงชาติ คาถาม: แถบสีแดง หมายถงึ อะไร ทาไมหมายถึงชาติ ครอู ธบิ ายถงึ ความเปน็ ชาตวิ ่ากษตั ริยไ์ ทยทรงเปน็ ผสู้ รา้ งชาติ รวบรวมคนในชาตใิ หเ้ ปน็ ปกึ แผน่ และสามัคคี ซ่งึ แลกมาด้วยเลือดเนือ้ ชีวติ ของพระมหากษัตรยิ แ์ ละบรรพบุรุษของเรา คาถาม : สขี าว หมายถงึ อะไร ครูอธิบายว่าหมายถึงความบริสุทธิ์ สะอาด เหมือนศาสนาซ่ึงเป็นส่ิงที่ยดึ เหนีย่ วจติ ใจ ทาให้คนในชาติประพฤติปฏิบัติดี และพระมหากษัตริย์ไทยยังได้ใช้ศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจคนใน ชาตดิ ว้ ยใหเ้ ป็นคนทด่ี ี มคี ณุ ธรรม จริยธรรมในการดาเนนิ ชีวติ และอยู่ร่วมกันอย่างมคี วามสขุ คาถาม : สีน้าเงนิ หมายถึงอะไร ครอู ธิบายวา่ เปน็ สีทรี่ ัชกาลท่ี ๖ ทรงโปรดเป็นการส่วนพระองค์ จึงใชเ้ ป็นสแี ทนองค์ พระมหากษัตรยิ ์ ครูสรุป : ธงชาติคือส่ิงที่หลอมรวมคนทั้งแผ่นดิน เป็นศูนย์รวมทางด้านจิตใจ และความ จงรักภักดีต่อองค์พระมหากษัตริย์ ดังน้ันเม่ือเรายืนตรงเคารพธงชาติก็เปรียบเสมือนการแสดงความ เคารพรัก เทิดทูนบูชาต่อศาสนาองค์พระมหากษัตริย์ รู้บุญคุณแผ่นดิน รวมทั้งแสดงออกถึงความ สามัคคีของคนในชาติ เคารพศาสนา นักเรียนควรให้ความเคารพ ด้วยการยืนตรงเคารพธงชาติด้วย ความภาคภูมิใจ แนแวนกวากราจรดั จกัดากราเรรเยี รนยี รนปู้ รรู้ปะรวะตั วศิตั าศิ สาตสรตเ์ พร์เ่ือพสื่อรสา้ รงา้ สงาสนำกึนคกึ วคาวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย: :สญัสญั ลักลษักณษณ์คว์คาวมาเมปเ็นปไน็ ทไยทย

๑๐๕ ขน้ั ตลบคิด ๖) ครฉู ายคลปิ วดี โิ อ สถานการณต์ ่างๆ ทมี่ ีการเคารพธงชาติ เชน่ กจิ กรรมหนา้ เสาธง วันสาคญั ทางราชพิธีและรัฐพิธี ต่าง ๆ การเปิดการแข่งขันกีฬาระดับประเทศ ระดับนานาชาติ หรือการข้ึนรับ รางวัลของนักมวย ท่ีจะมีธงชาติคลุมไหล่ มีรูปพระบรมยาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวชู เหนอื ศีรษะ เมื่อดูจบแลว้ ครูสนทนานกั เรียนด้วยคาถาม คาถาม: จากคลิปวดี โิ อ ทาไมในพธิ กี ารต่าง ๆ การแข่งขัน การขน้ึ รบั รางวัลของนักมวย นักกีฬา จะต้องมีการชกั ธงชาติขึน้ สู่ยอดเสาธง นาธงชาตมิ าคลมุ ไหล และภาพที่นักเรยี นเหน็ จากงานในโรงเรยี น หมบู่ ้าน จงั หวดั หรือในรายการถ่ายทอดสด จากโทรทศั น์ นักเรียนคดิ ว่าธงชาติไทยเปน็ ตัวแทนของอะไร คาตอบนักเรียน:…………………………………………………………………………………………….. ครูอธิบายสรุปว่า ธงชาติไทยเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ แสดงให้เห็นถึงสถานะอันเท่า เทียมกับนานาอารยประเทศ ธงชาติยังมีลักษณะเป็นส่ิงที่ศักด์ิสิทธิ์ เป็นเคร่ืองหมายแห่งความเป็นเอก ราชโดยสมบรู ณ์และเป็นสิ่งยึดเหน่ียวให้ชาวไทยมสี านึกรักชาติ รวมประชาชนชาวไทยทัง้ หลายไม่ว่าจะ อาศัยอยู่ ณ แห่งหนตาบลใด ใน หรือนอกประเทศ ให้มีความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน เพราะได้อยู่ภายใต้ ร่มธงผืนเดียวกัน คือ ธงไตรรงค์ คนไทยทุกคนควรให้ความเคารพ ด้วยการยืนตรงเคารพธงชาติและ เพลงชาตไิ ทย ทกุ สถานที่ทุกเวลาทีม่ กี ารชกั ธงชาติส่ยู อดเสาและรอ้ งเพลงชาติ คำถำมท้ำยบทเรียน ครูถามนักเรียนก่อนจบบทเรียนว่า…ตอนเช้าก่อนเข้าห้องเรียน เราชักธง ชาติข้ึนสู่ยอดเสา นอกจากจะเห็นธงชาติไทยโบกสะบัดหรือเชิญธงขึ้นสู่ยอดเสาธงแล้ว เราจะต้องเพลง พร้อมกับชักธงชาติข้ึนสู่ยอดเสาธงของโรงเรียน ทุกๆเช้า เสมอ เพลงนั้นคือเพลงอะไร ค่ะ โดยครูทิ้ง คาถามเพอื่ เขา้ สบู่ ทเรียนในชัว่ โมงตอ่ ไป ช่ัวโมงท่ี ๒ จุดเน้นเพลงชำตไิ ทย กิจกรรมกำรเรียนรู้ (เทคนคิ การสอนแบบตงั้ คาถามโดยใชส้ ่อื ) กจิ กรรมการเรียนรเู้ ร่ือง “เพลงชาติไทยภมู ใิ จจัง” ๑) ครูเกริ่นนาต่อเนื่องจากเร่ือง “รู้จักธง” ในช่ัวโมงแรกแล้วแสดงธงไตรรงค์พร้อมถาม “ช่ัวโมงที่แล้วนักเรียนจาได้ไหมที่ครูถามว่าตอนเช้าก่อนเข้าห้องเรียน เราชักธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา นอกจากจะเหน็ ธงชาติไทยโบกสะบดั หรือเชิญธงขึ้นส่ยู อดเสาธงแลว้ เราจะต้องเพลงพรอ้ มกับชักธงชาติ ขึ้นสู่ยอดเสาธงของโรงเรียน ทุกๆเช้า หรือเม่ือมีการแข่งขันกีฬาระดับชาติ ก่อนการแข่งขันหรือเวลา นักกีฬาชนะการแข่งขัน นอกจากจะเห็นธงชาติไทยโบกสะบัดหรือเชญิ ธงขึ้นสูย่ อดเสาธงแล้ว นักเรียน จะได้ยนิ เพลงอะไรตามมาเสมอ” เพลงน้นั คือเพลงชาติ ใชม่ ย้ั คะ แนแนวกวการาจรดัจัดกการาเรรเยีรียนนรปู้รปู้ระรวะัตวตัศิ ศิาสาสตตรเ์รพเ์ พ่ืออื่สสรา้รง้างสสานำนกึ ึกคควาวมามเปเปน็ น็ไทไทยย::สสัญัญลลกั กัษษณณ์ค์ควาวมามเปเป็น็นไทไทยย

๑๐๖ ขนั้ กระตุ้น กระตกุ ๒) ครูจัดเตรียมบรรยากาศสาหรับที่จะร้องเพลงชาติ คือ มีธงชาติไทย มีพระบรมฉายา ลกั ษณพ์ ระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัว ต้ังอย่หู น้าหอ้ ง ๓) ครูชวนให้นักเรียน ร่วมกันร้องเพลงชาติในห้องเรียน พร้อมๆกัน โดยครูเปิดเพลงชาติ ไทย จาก You Tube ครูนารอ้ งเปน็ ต้นเสียงอันดังชัดเจน (กอ่ นทีเ่ พลงชาติไทย จะเริ่มขึ้น หนา้ จอจะมี ตัวหนังสือข้อความว่า “ธงชาติและเพลงชาติไทยเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย เราจงร่วมใจยืนตรง เคารพธงชาติด้วยความภาคภูมิใจในเอกราชและความเสียสละของบรรพบุรุษไทย” ร้องเพลงชาติจนจบ (สังเกตปฏกิ ริ ิยานักเรียนเมือ่ ได้ยินเสยี งเพลงชาติ) ๔) ครูกระตุก ด้วยคาถาม : จากคลิปวีดิโอร้องเพลงชาติ ที่นักเรียนได้ร้องร่วมไปด้วย นกั เรยี นวา่ ในภาพนัน้ มีใครบ้างคะ่ ครูสรุป ว่าพระเจ้าอยู่หัว พระราชินี คนหลากหลายอาชีพ หลายเชื้อชาติ ธงชาติไทย ทั้งหมดที่นักเรียนเห็นในคลิปวีดิโอ รวมทั้งตัวของนักเรียนเองเป็นส่วนหนึ่งของชาติไทยด้วย ฉะน้ันส่ิงที่ เป็นตัวแทนแสดงออกได้ว่าเราเป็นชาติไทยที่เห็นชัดท่ีสดุ คือธงชาติและเพลงชาติไทย ซ่ึงเรารวมเรียก ทั้งสองส่งิ นี้วา่ สญั ลกั ษณข์ องชำติ ขนั้ ตระเตรียม ตริตรอง ตรวจสอบ ๕) ครชู วนนกั เรยี นร่วมกนั ฝกึ รอ้ งเพลงชาติใหถ้ กู ต้องชดั เจน โดยครูนาเน้อื เพลงชาติ ฉาย ข้ึนจอโปรเจคเตอร์ เพลงชาติไทย เนือ้ ร้องโดย พนั เอกหลวงสารานุประพนั ธ์ นวล ปาจณิ พยัคฆ์ ทานองโดย พระเจนดรุ ยิ างค์ (ปิติ วาทยะกร) ประเทศไทยรวมเลือดเนอ้ื ชาตเิ ชอื้ ไทย เป็นประชารัฐ ไผทของไทยทุกสว่ น อยูด่ ารงคงไวไ้ ดท้ ง้ั มวล ดว้ ยไทยล้วนหมาย รกั สามัคคี ไทยนี้รักสงบ แต่ถงึ รบไม่ขลาด เอกราชจะไมใ่ หใ้ ครข่มขี่ สละเลอื ดทุกหยาดเปน็ ชาตพิ ลี เถลิงประเทศชาตไิ ทยทวี มชี ัย ชโย ๖) ครูอธิบายความหมายของเพลงชาติไทยอย่างง่าย แต่ละวรรคตอนของเน้ือร้องให้ นักเรยี นฟัง ความหมายโดยสรปุ ดงั น้ี แนแวนกวากราจรัดจกัดากราเรรเียรนยี รนปู้ รรูป้ ะรวะัตวศิัตาิศสาตสรตเ์ พร์เือ่พสือ่ รส้ารงา้ สงาสนำกึนคึกวคาวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย: :สญัสัญลักลษักณษณค์ ว์คาวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย

๑๐๗ ประเทศไทยเป็นของคนไทยทุกคน ทุกรัฐ ทุกภาคส่วน ที่หลอมรวมด้วยเลือดเน้ือของ วีรบุรุษชาวไทยจนมาเป็นชาติไทยทุกวันนี้ ประเทศจะอยู่ได้ก็ด้วยคนไทยล้วนหมายสมัครสมานสามัคคี รกั ใคร่ ปองดอง ชว่ ยเหลอื เกือ้ กูลซึ่งกนั และกนั ไม่แบ่งฝักแบง่ ฝ่าย ไมก่ ดข่ขี ม่ เหงกนั เอง คนไทยเปน็ คนท่ี รักสงบ แต่ในยามรบเราก็ไม่หวั่นเกรงต่อข้าศึก เราพรอ้ มจะลุกข้ึนสู้ต่อผู้ท่มี ารุกรานประเทศ หรอื ข่มเหง รังแก โดยไม่เสียดายชีวิต คนไทยพร้อมจะสละเลือดเนื้อทุดหยาดหยดโดยไม่เสียดาย เพื่อดารงไว้ซ่ึง ความเปน็ เอกราชชาตไิ ทยช่ัวลกู ช่ัวหลานตลอดไป ๗) ครนู านักเรยี น และรว่ มกนั รอ้ งเพลงชาติ และยืนตรงเคารพธงชาติ ในห้องเรียน จนร้อง ไดค้ ลอ่ งออกเสียงได้ชัดเจนถูกตอ้ ง ขัน้ ตลบคดิ ๘) ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคนไดอ้ อกมาแสดงความรสู้ ึกของตนเอง เม่อื ไดร้ ้องเพลงชาติ ได้ยิน เพลงชาติไทย มีความร้สู กึ อย่างไร บา้ ง? ความรสู้ ึกของนกั เรียน:………………………………………………………………………………………. ครูก็แสดงความรู้สึกของตนเอง : ภาคภูมิใจว่าครูมีแผ่นดินท่ีอยู่เป็นของตนเอง มี ศาสนาเป็นเคร่อื งนาทางในการดาเนินชีวิต มอี งค์พระมหากษัตรยิ เ์ ป็นศนู ยร์ วมจิตใจทเ่ี คารพเทดิ ทูนเป็น ท่ีพ่ึงพิง ครูรักและหวงแหนแผ่นดินไทยของครูมากที่สุด ใครจะมารุกรานไม่ได้ ครูจะต้องปกป้องรักษา แผ่นดนิ นใี้ ห้เป็นมรดกของลูกหลานสบื ไป โดยครูจะทาหนา้ ทีข่ องครใู หด้ ที ส่ี ุด ๙) ครสู รุป : นักเรียนคงมีความรสู้ กึ วา่ ยามทนี่ ักเรยี นร้องเพลงชาติ ยืนตรงเคารพธงชาติ นัน้ ความร้สู ึกในขณะนน้ั รูส้ กึ ภาคภมู ใิ จที่เรามชี าติมแี ผ่นดินท่ีอยู่อาศัย มีศาสนาเปน็ เครอ่ื งยึดเหนยี่ ว จติ ใจ มคี วามสุขใต้รม่ พระบารมกี ารปกครองขององค์พระมหากษัตริย์ไทย ดงั นนั้ การมีเพลงชาติ ได้รอ้ งเพลงชาติ เป็นสงิ่ ท่ีบ่งบอกถึงความเป็นเอกราชของชาติไทย เพราะเพลงชาติมีเนื้อหาท่ีแสดงถึงความสามัคคี การรวมพลังกันเป็นกลุ่มก้อน มีความเสียสละและมี คุณธรรม เพ่ือดารงไว้ซึ่งประโยชน์ของประเทศชาติให้มีเอกราชสืบไป ธงชาติและเพลงชาติไทย จึงเป็น สญั ลักษณข์ องชาติไทย ทีท่ าใหเ้ ราภาคภูมิใจ และตอ้ งแสดงความเคารพทกุ คร้ัง เม่ือไดย้ นิ ๑๐) ครูสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน ท้ังการร้องและการแสดงความเคารพขณะที่นักเรียน รอ้ งเพลงชาตติ ่อหน้าธงชาติ สถานการณ์จาลองในห้องเรียน และหน้าเสาธงตอนเช้า เปน็ ประจาวนั ทุกวนั ๑๑) ใหน้ ักเรียนระบายสีธงชาติไทย ลงในแบบฝึกที่ ๑ สีของธงชาติไทยทีป่ ล้วิ ไสวสวยงามสงา่ ๑๒) ให้นักเรียนโยงเส้นลาดับการถือกาเนิดของธงชาติไทยในอดีตถึงปัจจุบัน ในแบบฝึก ท่ี ๒ กาเนดิ ธงชาตไิ ทย ๑๓) ใหน้ กั เรยี นระบายสแี ละเตมิ เตม็ ภาพการแสดงความเคารพต่อธงชาตแิ ละเพลงชาติ ไทย ลงในแบบฝึกที่ ๓ เราคนไทยต้องยืนตรงเคารพธงชาติ ๑๔) ใหน้ กั เรียนคัดลายมือ เนื้อเพลงชาติไทย ลงในสมดุ แนแนวกวการาจรดัจัดกการาเรรเียรยีนนรปู้ร้ปูระรวะัตวัตศิ ิศาสาสตตรเ์รพเ์ พอื่ อ่ืสสร้ารง้างสสานำนกึ กึคควาวมามเปเปน็ ็นไทไทยย::สสญั ัญลลักักษษณณค์ ์ควาวมามเปเป็นน็ไทไทยย

๑๐๘ สอ่ื /แหล่งเรียนรู้ ๑) ธงชาติไทย(ธงไตรรงค์) ธงชาติประเทศอาเซยี น ธงกีฬาสี ธงประจาโรงเรียน ๒) ภาพธงแดง ภาพธงแดงมวี งจักรตรงกลาง ภาพธงช้างเผือก ธง ๕ แถบ ๒ สี ๓) พระบรมยาลักษณ์พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัว รชั กาลท่ี ๙ ๔) คลิปวดี ิโอเก่ียวกบั สถานการณ์ในการแสดงความเคารพธงชาตแิ ละรอ้ งเพลงชาติ ๕) คลิปวีดิโอเพลงชาตไิ ทย ที่เปิดเวลาเชา้ -เย็น คอื ๐๘.๐๐ และ ๑๘.๐๐ น. ๖) แผนภูมเิ นอ้ื ร้องเพลงชาติไทย/ คลิปเสียงเพลง ๗) แผนภมู เิ พลงไตรรงคธ์ งไทย/คลิปเสยี งเพลง ๘) แบบฝึกท่ี ๑-๓ ๙) ใบความร้สู าหรบั ครู เร่ืองธงชาตแิ ละเพลงชาติไทย ๑๐) เกมส์ ฉนั คือใคร บนั ทกึ หลังสอน ๑. ด้านความรู้ ๑) นักเรียนบอกได้วา่ ธงชาติและเพลงชาติไทยเปน็ สัญลักษณ์ของประเทศไทยได้อย่าง ถกู ต้อง จานวน........................คน คดิ เปน็ ร้อยละ……………. ๒. ดา้ นทักษะ/กระบวนการ ๑) นักเรยี นสามารถร้องเพลงชาติไทยได้อยา่ งถูกต้อง ท้ังคาร้อง ทานองและมคี วาม ไพเราะ จานวน .........คน คดิ เป็นรอ้ ยละ……………. ๒) นักเรียนสามารถปฏิบัตติ น เม่อื มีการเชญิ ธงธาตขิ ้นึ ส่ยู อดเสาธงและลงจากยอดเสาธง พร้อมทงั้ การรอ้ งเสียงเพลงชาติ อย่างถูกตอ้ งเหมาะสมตามวาระโอกาสด้วยความภาคภูมิใจ จานวน .......คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ……………. ๓. ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ตวั ช้วี ัด - พลเมอื งดีของชาติ ๑) นักเรียนยนื ตรงเคารพธงชาติ รอ้ งเพลงชาติและอธิบายความหมายของเพลงชาตไิ ด้ ถกู ต้อง จานวน……….คน คิดเป็นรอ้ ยละ……………. ตวั ชี้วัด- เคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ๒) นักเรียนเขา้ รว่ มกจิ กรรมท่ีเกีย่ วกับพระมหากษัตริยต์ ามท่ีโรงเรียนและชุมชนจัดขน้ึ ทุก ครง้ั จานวน……….คน คิดเป็นร้อยละ……………. ๔. ดา้ นสมรรถนะทสี่ าคญั ของผู้เรยี น ๑) การคดิ ๒) การส่ือสาร แนแวนกวากราจรดั จกดั ากราเรรเยี รนียรนปู้ รรปู้ ะรวะัตวศิตั าศิ สาตสรต์เพร์เอ่ืพส่ือรสา้ รง้าสงาสนำึกนคกึ วคาวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย: :สัญสัญลกัลษักณษณ์คว์คาวมาเมปเ็นปไน็ ทไยทย

คำขอร้อง ๑๐๙ ได้ถูกต้อง แบบฝึกที่ ๑ สีของธงชำตไิ ทย ทป่ี ล้ิวไสวสวยงำมสงำ่ ให้นักเรยี นระบายสีธงชาติไทย (ธงไตรรงค)์ และบอกความหมายของสีธงชาติ (คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน) …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนแนวกวการาจรดัจัดกการาเรรเยีรยีนนรปู้ร้ปูระรวะัตวตัศิ ิศาสาสตตร์เรพเ์ พอ่ื อ่ืสสร้ารง้างสสานำนกึ กึคควาวมามเปเปน็ ็นไทไทยย::สสญั ัญลลักักษษณณ์คค์วาวมามเปเป็น็นไทไทยย

๑๑๐ แบบฝึกท่ี ๒ กำรกำเนดิ ธงชำตไิ ทย คำขอร้อง ใหน้ กั เรยี น เรียงลาดับการกาเนดิ ธงชาตไิ ทย โดยเขียนเลข ๑-๓ กากบั บนภาพ ธงชาติ ดา้ นลา่ งนี้ใหถ้ กู ต้อง (คะแนนเต็ม ๓ คะแนน) เลข ๑ หมายถงึ ธงทปี่ รากฏหลกั ฐานการใช้ธงเปน็ คร้งั แรก เลข ๒ หมายถึงธงท่มี ีการเปลยี่ นแปลงในรชั กาลท่ี ๒ กรงุ รตั นโกสนิ ทร์ เลข ๓ หมายถงึ ธงที่มีการปรับในรัชกาลที่ ๖ และใชม้ าจนถึงปจั จบุ นั ธงแดง ธงชำ้ งเผอื ก ธงไตรรงค์ แนแวนกวากราจรดั จกัดากราเรรเียรนียรนปู้ รรูป้ ะรวะตั วศิตั าิศสาตสรต์เพรเ์ อื่พสอื่ รสา้ รง้าสงาสนำึกนคกึ วคาวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย: :สญัสญั ลกัลษกั ณษณค์ ว์คาวมาเมปเ็นปไ็นทไยทย

๑๑๑ แบบฝึกที่ ๓ เรำคนไทยต้องยืนตรงเคำรพธงชำติ คำขอรอ้ ง ให้นักเรียนเติมภาพการปฏิบัติตนของตัวนักเรียน ในขณะที่ได้ยินเพลงชาติและมีการชักธง ชาตขิ ึ้นและลงจากยอดเสา พร้อมทัง้ ระบายสใี ห้สวยงาม (คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน) (ใหค้ ณะทำงำนทม่ี ฝี ีมือด้ำนศิลปะวำดภำพลำยเส้นโปร่งของกิจกรรมหนำ้ เสำธงของโรงเรียน บริเวณหน้ำเสำธง ที่มีองค์ประกอบ ดงั น้ี อำคำรเรียน แท่นเสำธง เสำธง มีนักเรียนชำย - หญิง กำลังชักธงชำติขึ้นสู่ยอดเสำ ได้ กง่ึ กลำงเสำ ลักษณะธงชำตใิ ห้ปลิวไสว ธงคลี่ใหเ้ หน็ ๕ แถบสีชัดเจน แตเ่ ปน็ พน้ื ขำว เพื่อให้ นกั เรยี นได้ระบายลงไปในธงชาติ นัน้ ให้ถกู ตอ้ ง ภำพนกั เรยี นชำยหญงิ กำลงั ยืนตรงและปำกอ้ำกวำ้ ง เพื่อแสดงวำ่ กำลังร้องเพลงชำติอย)ู่ จดุ ประสงคค์ ือต้องการใหน้ ักเรยี นวาดภาพตวั เองท่ีมีกิรยิ ายืนตรงเคารพธงชาติ เข้าไปใน ภาพน้ี และระบายสีธงชาติใหถ้ ูกต้อง แนวแกนาวรจกดัารกจาดัรเกรายี รนเรรียปู้ นรระู้ปวัตระศิ วาตั สิศตารส์เพตอื่ร์เสพรอ่ื ้าสงสร้าางนสึกำคนวึกาคมวเปามน็ เไปทน็ยไท:ยส:ัญสลัญกั ษลณกั ษ์คณวาค์มวเปาม็นเไปทน็ยไทย

๑๑๒ แบบประเมนิ ผลงำน แบบฝึกที่ ๑ สขี องธงชำติไทย ทปี่ ล้วิ ไสวสวยงำมสงำ่ ท่ี รายการประเมนิ คุณภาพผลงาน คะแนนท่ไี ด้ ๑ ระบายสีธงชาตไิ ดถ้ ูกต้อง ระบายสีธงชาตไิ ดถ้ ูกต้องครบถ้วนทัง้ ๕ สี อยู่ใน ๕ ขอบเสน้ สี ทุกเสน้ สะอาดเรียบรอ้ ย ระบายสธี งชาติไดถ้ ูกต้องครบถว้ นท้งั ๕ สี ๔ สเี ลอะเกนิ ขอบเส้นสี สภาพผลงานไมเ่ รยี บรอ้ ย ไม่สะอาด ระบายสีธงชาตไิ ด้ถูกต้องครบถว้ นทง้ั ๕ สี ๓ สีเลอะเกนิ ขอบเส้นสี สภาพผลงานไมเ่ รยี บร้อย ไม่สะอาด ระบายสธี งชาติไม่ถกู ต้อง สเี ลอะเกนิ ขอบเสน้ สี ๒-๑ สภาพผลงานไมเ่ รยี บร้อยสะอาด ๒ เขียนความหมายของสีธง เขียนความเหมายของสีธงชาตไิ ด้ ครบถว้ น ๕ ชาติได้ถูกตอ้ ง ถูกต้องทัง้ เนื้อหาและการเขียนสะกดคา ท้ัง ๓ สี เขยี นความเหมายของสีธงชาติได้ถูกตอ้ งทงั้ ๓ สี ๔ และการเขยี นสะกดคา มบี างคาเขียนไมถ่ ูกต้อง เขยี นความเหมายของสีธงชาติไดถ้ ูกต้องทั้ง ๓ สี ๓ แต่เขยี นสะกดคาไม่ถูกต้องเป็นสว่ นใหญ่ เขียนความเหมายของสีธงชาติไมถ่ ูกต้อง เป็น ๒-๑ บางสี และเขียนสะกดคาไม่ถูกต้องเป็นสว่ น ใหญ่ เกณฑ์กำรตัดสนิ ผลงำน ระดับดีมาก คะแนน ๙ - ๑๐ คะแนน คุณภาพงาน ระดบั ดี คะแนน ๘-๖ คะแนน คุณภาพงาน ระดับพอใช้ ระดบั ต้องปรบั ปรุง คะแนน ๖ – ๕ คะแนน คณุ ภาพงาน คะแนน ๔ - ๑ คะแนน คณุ ภาพงาน แนแวนกวากราจรดั จกดั ากราเรรเียรนียรนปู้ รรู้ปะรวะตั วศิัตาศิ สาตสรต์เพร์เอ่ืพสอื่ รสา้ รง้าสงาสนำึกนคึกวคาวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย: :สัญสญั ลักลษักณษณ์ควค์ าวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย

๑๑๓ แบบประเมนิ ผลงำน แบบฝึกท่ี ๓ เรำคนไทยต้องยืนตรงเคำรพธงชำติ ที่ รายการประเมนิ คณุ ภาพผลงาน คะแนนท่ไี ด้ ๑ การยนื ตรงเคารพธงชาติ นกั เรยี นเติมภาพของตนเองยืนตรงเคารพธง ๙-๑๐ และการบอกสีธงชาติ ชาตลิ งในสถานการณห์ น้าเสาธงโรงเรยี น และ ระบายสีธงชาตไิ ด้ถูกต้อง ผลงานเรียบร้อย สะอาด สวยงาม นกั เรยี นเตมิ ภาพของตนเองยืนตรงเคารพธง ๘-๗ ชาติลงในสถานการณห์ นา้ เสาธงโรงเรยี น และ ระบายสีธงชาติ ได้ถูกต้อง ผลงานไม่ เรียบรอ้ ย ไม่สะอาด สวยงาม นกั เรียนเตมิ ภาพของตนเองในลกั ษณะไมไ่ ด้ ๖-๕ ยืนตรงเคารพธงชาตลิ งในสถานการณห์ นา้ เสา ธงโรงเรียน และระบายสธี งชาติ ไดถ้ กู ต้อง ผลงานเรียบรอ้ ย สะอาด สวยงาม นักเรยี นเติมภาพของตนเองในลักษณะไมไ่ ด้ ๔-๑ ยืนตรงเคารพธงชาติลงในสถานการณ์หนา้ เสา ธงโรงเรียน และระบายสีธงชาติ ไม่ถูกต้อง ผลงานไม่เรียบร้อย ไม่สะอาด สวยงาม เกณฑ์กำรตดั สนิ ผลงำน ระดับดมี าก คะแนน ๙ - ๑๐ คะแนน คณุ ภาพงาน ระดบั ดี ระดบั พอใช้ คะแนน ๘-๖ คะแนน คณุ ภาพงาน ระดบั ตอ้ งปรับปรุง คะแนน ๖ – ๕ คะแนน คณุ ภาพงาน คะแนน ๔ - ๑ คะแนน คุณภาพงาน แนวแกนาวรจกดัารกจาัดรเกรายี รนเรรียปู้ นรระูป้วตัระศิ วาตั สศิ ตารสเ์ พต่ือร์เสพรือ่ ้าสงสร้าางนสกึ ำคนวกึ าคมวเปามน็ เไปท็นยไท:ยส:ัญสลญัักษลณักษค์ ณวาค์มวเปาม็นเไปทน็ยไทย

๑๑๔ แบบบนั ทึกกำรสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนเป็นรำยบคุ คล ทแี่ สดงออกถงึ กำร รกั ชำติ ศำสน์ กษัตรยิ ์ ที่ รายการประเมนิ พฤติกรรมทแี่ สดงออกของนักเรยี น ๑ เปน็ พลเมืองดขี องชาติ ยนื ตรงเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาติและอธบิ ายความหมายของ เพลงชาตไิ ด้ถกู ต้อง ๒ เคารพเทดิ ทูนสถาบนั เขา้ รว่ มกิจกรรมท่เี กยี่ วกับพระมหากษตั รยิ ต์ ามท่ีโรงเรยี นและ พระมหากษัตริย์ ชุมชนจัดขึ้น ท่ี ช่อื -สกลุ พฤติกรรมทแี่ สดงออกของนักเรยี น เปน็ พลเมืองดีของชาติ เคารพเทดิ ทูนสถาบัน พระมหากษัตรยิ ์ ืยนตรงเคารพธง ชาติ ้รองเพลงชา ิต อ ิธบาย ความหมายของ เพลงชา ิตไ ้ด ร่วม ิกจกรรมวัน ่พอ ่รวมกิจกรรมวันแ ่ม ่รวมกิจกรรม วัน…… ่ือน….. ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การตัดสนิ คุณลักษณะรกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ปฏิบัตกิ จิ กรรมครบ ร้อยละ ๑๐๐ ผลการตัดสิน ผ่านระดับดเี ย่ียม ปฏิบตั ิกจิ กรรมครบร้อยละ ๘๐-๙๐ ผลการตัดสิน ผ่านระดบั ดี ปฏิบตั กิ จิ กรรมครบร้อยละ ๗๙ -๖๐ ผลการตัดสิน ผา่ น ปฏบิ ัติกิจกรรมตา่ กว่ารอ้ ยละ ๖๐ ผลการติดสนิ ไมผ่ า่ น แนแวนกวากราจรัดจกดั ากราเรรเยี รนียรนปู้ รรู้ปะรวะัตวศิตั าศิ สาตสรตเ์ พรเ์ ่ือพสื่อรสา้ รง้าสงาสนำึกนคกึ วคาวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย: :สัญสญั ลักลษักณษณ์ควค์ าวมาเมปเ็นปไ็นทไยทย

๑๑๕ แนวคดิ ของกำรประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ข้อที่ ๑ ประกอบ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ เรื่องธงชำติและเพลงชำติไทย เวลำ ๒ ชั่วโมง นยิ ำมศัพท์ ตัวชี้วัด พฤติกรรมบง่ ชี้ และเกณฑก์ ำรให้คะแนน ข้อท่ี ๑ รกั ชำติ ศำสน์ กษัตริย์ นยิ าม รักชำติ ศำสน์ กษตั ริย์ หมายถงึ คุณลักษณะท่ีแสดงออกถึงการเปน็ พลเมืองดขี องชาติ ธารงไว้ ซึง่ ความเป็นชาติไทย ศรัทธา ยดึ มั่นในศาสนาและเคารพเทิดทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ ผ้ทู ่รี ักชำติ ศำสน์ กษตั ริย์ คอื ผ้ทู ่ีมลี ักษณะแสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ มีความ สามคั คี ปรองดอง ภูมใิ จ เชิดชคู วามเป็นมาของชาติไทย ปฏบิ ัตติ นตามหลักศาสนาที่ตนนบั ถือและแสดง ความ จงรักภกั ดตี ่อสถาบนั พระมาหากษตั รยิ ์ ตัวชีว้ ดั ๑. เป็นพลเมืองดีของชาติ ๒. เคารพเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ ตัวช้ีวดั พฤติกรรมบ่งชี้ ๑. เปน็ พลเมืองดีของชาติ ๑. ยนื ตรงเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาตแิ ละอธบิ ายความหมายของ เพลงชาตไิ ด้ถกู ต้อง ๒. เคารพเทดิ ทูนสถาบัน พระมหากษัตริย์ ๑. เข้าร่วมกิจกรรมท่ีเกย่ี วกับพระมหากษัตรยิ ์ตามทโ่ี รงเรยี นและ ชมุ ชนจดั ข้ึน ที่มา : แนวทางการพัฒนา การวดั แปละประเมนิ ผลคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ตามหลกั สูตรแกนกลาง การศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ สานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ. (๒๕๕๔) แนแวนกวากราจรดัจกัดากราเรรเยี รนียรนปู้ รปู้ระรวะตัวศิตั าศิ สาตสรต์เรพ์เพื่อสือ่ รสา้ รงา้ สงาสนำกึนคึกวคาวมามเปเปน็ ไน็ ทไทยย::สญัสัญลักลษกั ษณณ์คว์คาวมามเปเป็นไน็ ทไทยย

๑๑๖ ควำมรูส้ ำหรับครู ประวตั คิ วำมเป็นมำของธงชำติไทย ประวัติศาสตร์การใช้ธงเป็น สัญลักษณ์ของ ประเทศไทย เดิมใช้ธงสาหรับเปน็ เคร่ืองหมายของกองทัพกองละสี และใช้ ธงสีแดง เป็นเครื่องสาหรับเรือกาปั่นเดินทะเลทั่วไปมาแต่ สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี และยังไม่มีธงชาติไว้ใช้ดังท่ีเข้าใจ ในปัจจบุ ัน ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ ๒) พระองค์ทรงได้ ช้างเผือกอก ๓ ช้าง ถือเป็นเกียรติยศย่ิงต่อแผ่นดิน จึงทรง พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เพ่ิมรูปช้างเข้าภายในวงจักรของ เรือหลวงไว้ด้วย อันมีความหมายว่า พระเจ้ำแผ่นดินอันมี ช้ำงเผือก แต่ธงช้างอยู่ในวงจักรใช้แต่เรือหลวงเท่านั้น เรือ พ่อคา้ ยังคงใชธ้ งแดงตามเดมิ ใ น รั ช ส มั ย พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ จ อ ม เ ก ล้ า เจ้าอยู่หัว สยามจาเป็นต้องมีธงชาติใช้ตามธรรมเนียมชาติ ตะวันตก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้ ธงพ้ืนสีแดงมีรูป ชำ้ งเผอื ก เปลา่ อยตู่ รงกลางเปน็ ธงชาตสิ ยาม ธงไตรรงค์ ธงช้างเผือกเปล่าได้ใช้เป็นธงชาติสยามสืบมาจนกระทั่งในสมัยพระบา ทสมเด็จพระมงกุฏเกล้า เจ้าอยู่หัวรัชกาลท่ี ๖ แถบสีแดงที่ตรงกลางธงค้าขายได้เปลี่ยนเป็นสีขำบ หรือสีน้าเงินเข้มเจือม่วง ดงั ปรากฏอยใู่ นปัจจบุ ัน เน่ืองจากเปน็ สปี ระจาวนั พระราชสมภพคอื วนั เสาร์และอีกประการหนง่ึ สีน้าเงิน ยังแสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวของฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่ ๑ เช่น ฝร่ังเศส สหราช อาณาจักรสหรัฐอเมริกา เป็นต้น ซ่ึงใช้สีแดง ขาว น้าเงินเป็นสี ในธงชาติเป็นส่วนใหญ่ด้วย ธงชาติแบบใหม่นี้ได้รับพระราชทาน นามว่า \"ธงไตรรงค์\" และอวดโฉมต่อสายตาชาวโลกครั้งแรกใน สงครามโลกครั้งที่ ๑ ซึ่งกองทหารอาสาของไทยได้ใช้เชิญไปเป็น ธงชัยเฉลิมพลประจาหน่วย ธงไตรรงค์ นับต้งั แต่ พ.ศ. ๒๔๖๐ เป็นตน้ มา แนแวนกวากราจรัดจกดั ากราเรรเยี รนียรนปู้ รรูป้ ะรวะัตวศิัตาศิ สาตสรตเ์ พร์เอื่พสอื่ รสา้ รงา้ สงาสนำึกนคึกวคาวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย: :สญัสญั ลกัลษกั ณษณ์คว์คาวมาเมปเ็นปไน็ ทไยทย

๑๑๗ ต่อมาในสมัยพระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจา้ อยู่หวั รัชกาลที่ ๗ ยงั คงรับรองใหใ้ ช้ธงไตรรงค์ เปน็ ธงชาตอิ ยเู่ ช่นเดมิ จนถงึ ปจั จบุ นั เพลงชาตไิ ทย เนอื้ ร้องโดย พันเอกหลวงสารานปุ ระพันธ์ นวล ปาจิณพยัคฆ์ ทานองโดย พระเจนดรุ ยิ างค์ (ปติ ิ วาทยะกร) ประเทศไทยรวมเลือดเนือ้ ชาติเชอ้ื ไทย เป็นประชารัฐ ไผทของไทยทกุ ส่วน อยดู่ ารงคงไว้ไดท้ ัง้ มวล ดว้ ยไทยลว้ นหมาย รกั สามคั คี ไทยนร้ี กั สงบ แตถ่ งึ รบไมข่ ลาด เอกราชจะไม่ใหใ้ ครข่มขี่ สละเลือดทุกหยาดเปน็ ชาตพิ ลี เถลิงประเทศชาติไทยทวี มีชัย ชโย ควำมหมำยของเนอื้ เพลงชำติไทย ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาตเิ ช้ือไทย เปน็ ประชารฐั ไผทของไทยทุกส่วน คำแปล: ประเทศไทยเปน็ ของคนไทยทุกคน ทกุ รฐั ทุกภำคส่วน ที่หลอมรวมด้วยเลือดเน้ือของ วีรบุรุษชำวไทยจนมำเป็นชำติไทยทุกวนั นี้ อยู่ดารงคงไวไ้ ด้ท้ังมวล ดว้ ยไทยลว้ นหมาย รักสามัคคี คำแปล: ประเทศจะอยู่ได้ก็ดว้ ยคนไทยล้วนหมำยสมัครสมำนสำมคั คี รกั ใคร่ ปอง ดอง ชว่ ยเหลอื เก้อื กลู ซ่งึ กนั และกนั ไม่แบง่ ฝกั แบ่งฝำ่ ย ไม่กดข่ขี ่มเหงกนั เอง ไทยนรี้ ักสงบ แต่ถงึ รบไมข่ ลาด เอกราชจะไมใ่ ห้ใครข่มขี่ คำแปล: คนไทยเปน็ คนทร่ี ักสงบ แต่ในยำมรบเรำกไ็ มห่ วน่ั เกรงต่อขำ้ ศึก เรำพร้อมจะลกุ ขึ้นส้ตู อ่ ผู้ท่มี ำรกุ รำนประเทศ หรอื ข่มเหงรงั แก โดยไม่เสียดำยชวี ติ สละเลือดทุกหยาดเป็นชาติพลี เถลงิ ประเทศชาติไทยทวี มชี ัย ชโย คำแปล: คนไทยพร้อมจะสละเลอื ดเนอื้ ทดุ หยำดหยดโดยไม่เสยี ดำย เพื่อดำรงไว้ซึง่ ควำมเปน็ เอกรำช ชำติไทยช่วั ลูกช่ัวหลำนตลอดไป ไชโย แนแนวกวการาจรดัจดักการาเรรเยีรยีนนรปู้รปู้ระรวะัตวตัศิ ศิาสาสตตรเ์รพเ์ พื่อื่อสสร้ารงา้ งสสานำนกึ ึกคควาวมามเปเปน็ ็นไทไทยย::สสัญัญลลกั ักษษณณ์ค์ควาวมามเปเปน็ ็นไทไทยย

๑๑๘ ตัวอยำ่ ง รำ่ งแผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ ท่ี ๕ กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๑ รายวชิ าประวัติศาสตร์ รหสั วิชา..................... หน่วยการเรยี นรู้ที.่ .......เรือ่ ง....สถาบันพระมหากษัตริย์ จานวน....๒.....ชว่ั โมง หนว่ ยย่อยท่ี.....เร่ือง...เพลงสรรเสรญิ พระบารมี/พระบรมฉายาลักษณ์ จานวน......๒.......ชว่ั โมง ๑. มำตรฐำนกำรเรยี นรู/้ ตวั ช้ีวัด มาตรฐานการเรยี นรู้ท่ี ส ๔.๓ เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาไทย มคี วามรกั ความภูมใิ จและ ธารงความเป็นไทย ตวั ช้ีวดั ที่ ป ๑/๑ อธิบายความหมายและความสาคญั ของสญั ลกั ษณ์สาคัญของชาติไทยและปฏบิ ัติตนได้ ถูกต้อง ๒. สำระสำคัญ เพลงสรรเสริญพระบารมีและพระบรมฉายาลักษณ์ เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการท่ีประเทศ ไทยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขท่ีคู่กับประเทศไทยมายาวนาน คนไทยจึงต้องปฏิบัติด้วยความ เคารพและความภาคภูมิใจเมื่อได้ยินเพลงสรรเสริญพระบารมี และการได้พบเห็นพระบรมฉายาลักษณ์ เปรียบเหมือนได้เข้าเฝ้าพระมหากษัตริย์ เช่น เพลงสรรเสริญพระบารมีใช้บรรเลงในพระราชพิธีท่ี พระมหากษัตริย์ สมเด็จพระราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เสด็จทรงเป็นประธานทั้งขณะท่ี เสดจ็ ฯมาและกลบั และทุกคนในพธิ ีต้องแสดงความเคารพดว้ ยการยืนตรง ๓. จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ ๑. นักเรียนสามารถบอกความหมายและความสาคัญของเพลงสรรเสริญพระบารมีและ พระบรมฉายาลักษณไ์ ด้อยา่ งถูกตอ้ ง ๒. สามารถปฏิบัติตนเมื่อได้ยินเสียงเพลงสรรเสริญพระบารมีได้อย่างถูกต้องตามวาระ โอกาสดว้ ยความภาคภมู ิใจ และปฏิบตั ิตนตอ่ พระบรมฉายาลักษณ์ได้อย่างเหมาะสม ๔. สำระกำรเรียนรู้ สถาบนั พระมหากษัตริย์ ๕. ทักษะ/กระบวนกำร - ตอบคาถาม - แสดงความรูส้ กึ แนแวนกวากราจรดั จกดั ากราเรรเียรนยี รนปู้ รรปู้ ะรวะัตวศิัตาศิ สาตสรต์เพรเ์ ือ่พสอ่ื รสา้ รงา้ สงาสนำกึนคึกวคาวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย: :สัญสญั ลกัลษักณษณ์ควค์ าวมาเมปเ็นปไน็ ทไยทย

๑๑๙ ๖. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ - ความรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ๗. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน ๗.๑ การสือ่ สาร (การอา่ น การพูด การเขยี น การฟัง) ๗.๒ การคดิ วิเคราะห์ ๘. หลักฐำนกำรเรียนรู้ ๘.๑ ชิน้ งาน ใบกจิ กรรม - ภาพในหลวงของเรา - เหตุผลความประทับใจท่ีมีต่อในหลวงของเรา ๘.๒ ภาระงาน - ใหน้ กั เรียนวาดภาพในหลวงของเรา - ให้นักเรียนเขียนความประทับใจท่มี ตี ่อในหลวงของเราอย่างส้นั ๆ ๙. กำรวัดและกำรประเมิน เป้าหมาย วิธวี ดั เครือ่ งมือวัด เกณฑ์การประเมนิ ความรู้ การทดสอบการร้อง เพลงสรรเสริญพระบารมี รอ้ งได้ถกู ต้อง ๙๐% ดา้ นทักษะ/กระบวนการ ทกั ษะความรู้ความจา การสงั เกต แบบสังเกตพฤติกรรม ยืนตรงร้องเพลง การร้องเพลงสรรเสริญ ๑๐๐% พระบารมี ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝร่ ู้ใฝเ่ รยี น แบบสอบถามความพงึ แบบประเมนิ ความพึง พอใจ พอใจของผู้เรยี น มีความรกั ชาติ ศาสนา - ใบกิจกรรมเขยี น ใบกจิ กรรม พระมหากษัตรยิ ์ เหตผุ ลและความ ประทบั ใจทีม่ ีต่อใน - ภาพในหลวงของเรา หลวง - ให้นักเรยี นภาพวาด ในหลวงของเรา ดา้ นสมรรถนะทีส่ าคัญของผ้เู รียน การสือ่ สาร/การตอบ สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤติกรรม คาถาม แนแนวกวการาจรดัจัดกการาเรรเยีรยีนนรปู้รปู้ระรวะัตวตัศิ ิศาสาสตตรเ์รพ์เพ่ือื่อสสรา้รงา้ งสสานำนึกึกคควาวมามเปเปน็ น็ไทไทยย::สสญั ัญลลักกัษษณณ์ค์ควาวมามเปเป็นน็ไทไทยย

๑๒๐ ๑๐. กิจกรรมกำรเรียนรู้ (ระบวุ ธิ ีสอน/เทคนิคกำรสอน) ชัว่ โมงที่ ๑ (ใช้เทคนคิ การสอนแบบตง้ั คาถามโดยใช้สอื่ ) กิจกรรมการเรยี นรู้เรอ่ื ง “เพลงสรรเสริญพระบารมี/พระบรมฉายาลักษณ์” ๑. ขั้นเกร่ินนำ ครูนาพระบรมฉายาลักษณ์ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาตั้ง แสดงให้นักเรียนดูพร้อมถวายความเคารพ (สังเกตปฏิกิริยานักเรียนเมื่อครูถวายความเคารพ) เปิดส่ือ You Tube เก่ียวกับพระราชพิธี พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสต่าง ๆ หรอื โครงการในพระราชดาริ ในเพลง“ผปู้ ดิ ทองหลังพระ” จาก You tube ให้นกั เรียนดู จากนน้ั เปิดสื่อ เพลง “รูปทีม่ ที กุ บ้ำน” จาก You Tube อีกบทเพลง ๒. ข้ันสอน ครูต้ังคาถามว่า “นักเรียนทราบหรือไม่ว่านี่คือภำพของบุคคลใด.....??” (พระบรมฉายาลกั ษณ์ของในหลวง)ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า ภาพถ่าย เป็นคาท่ีใช้กับบุคคลท่ัวไป หาก พระมหากษัตริย์ จะใช้ คาราชาศัพท์ว่า พระบรมฉายาลักษณ์ หากเป็นภาพวาด เรียกว่า พระบรม สาทสิ ลักษณ์ คาถาม: “นักเรียนเหน็ มั้ยวา่ ตอนแรกพอครนู าภาพในหลวงมาตงั้ ไวแ้ ลว้ ครูทาอะไร ต่อจากนั้น?” (ครโู ค้งคานับ) ครอู ธิบายวา่ การโคง้ คานบั เป็นมารยามสากลทุกประเทศในโลกใชก้ ัน คาถาม: การโคง้ คานับต่อพระบรมฉายาลกั ษณข์ องในหลวงแสดงว่าครรู สู้ ึกอย่างไรต่อพระองค์” (เคารพ) “นักเรียนทราบหรือไม่วา่ ทาไมครถู ึงเคารพและรักในหลวงมาก” โดยให้นักเรยี นหาคาตอบ หา เหตุผลจากการดูภาพยนตร์พระราชกรณียกิจของในหลวง จากสอ่ื You Tube เปน็ เวลา ๑๐ นาที เม่ือนกั เรยี นดภู าพยนตร์พระราชกรณยี กจิ ของในหลวงจบแล้ว ครปู ้อนคาถามแกน่ ักเรยี นทั้งชัน้ วา่ “ในหลวงของเรา ท่านทาอะไรเพ่ือประชาชน บา้ ง” คาตอบนักเรยี น:……………………………………………………………………………………………………… คาถาม: เราจะตอบแทนพระคุณของในหลวงไดอ้ ยา่ งไร ? คาตอบนักเรยี น:……………………………………………………………………………………………………… ๓.ข้ันสรุป ครูสรุปคาตอบจากคาตอบของนักเรยี น และเตมิ เตม็ จากภาพพระราชกรณียกิจ ต่าง ๆ ท่ีเปิดให้นักเรียนดู และสรุปสุดท้ายว่า เพราะพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่ทาทุกๆอย่างเพื่อ ประชาชนของพระองค์ซึ่งก็คือพวกเราใช่หรือไม่” “เพราะพระองค์ทาส่ิงต่างๆ เพื่อพวกเราเช่นน้ีเรา จงึ …………………… (ให้นักเรียนตอบพร้อมๆกนั ) ” ครูสรุป “ดังนั้นเมื่อเรารักพระองค์ที่พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ (บุญคุณ)กับพวก เราอย่างย่ิง เราจึงต้องแสดงออกอย่างถูกต้องด้วยการถวายความเคารพต่อพระองค์เมื่อได้เห็นแม้เพียง ภาพของพระองคก์ ็ถือวา่ เป็นสัญลักษณ์แทนองค์ของในหลวงดว้ ย” แนแวนกวากราจรดั จกดั ากราเรรเยี รนียรนปู้ รรู้ปะรวะัตวศิัตาิศสาตสรตเ์ พรเ์ ่ือพสือ่ รส้ารงา้ สงาสนำกึนคึกวคาวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย: :สญัสญั ลกัลษกั ณษณค์ วค์ าวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย

๑๒๑ ช่ัวโมงท่ี ๒ ๑.ขั้นเกริ่นนำ ครเู ปิดเพลง “สรรเสริญพระบารมี” ใหน้ ักเรยี นดูและจากการดู You Tube คาถาม: ครถู ามว่านักเรยี นเห็นอะไรบา้ ง เคยได้ยินเสียงเพลงน้ีหรือไม่ คาตอบนักเรียน: ……………………………………………………………………………………….. คาถาม: ใครทราบบา้ งวา่ ชอ่ื เพลงอะไร คาตอบนักเรียน: เพลงสรรเสริญพระบารมี ครูอธิบายว่าเพลงท่ีได้ยินคือเพลง สรรเสริญพระบำรมี เป็นเพลงประจำสถำบันพระมหำกษัตริย์ ใช้เปดิ ในโอกาสตา่ ง ๆ ได้แก่ เมือ่ พระองค์เสด็จพระราชดาเนินไป ณ ท่แี หง่ ใด หนว่ ยงานทร่ี ับผิดชอบก็ จะเปิดหรือมีการบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี และใช้เปิดในงานพิธีท่ีเกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ เชน่ พิธวี นั เฉลิมพระชนมพรรษา และวันสาคัญเกีย่ วกบั พระมหากษัตริย์ ๒.ข้ันสอน ครูตดิ เนือ้ เพลงสรรเสริญพระบำรมีบนกระดาน บอกชื่อผ้แู ตง่ คาร้องทานอง คาร้อง : สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจา้ ฟ้ากรมพระยานริศรานวุ ัดตวิ งศ์ ทานอง : พระเจนดรุ ิยางวงค์ (ปิติ วาทยะกร) ขำ้ วรพทุ ธเจำ้ เอำมโนและศิระกรำน นบพระภูมบิ ำลบุญดเิ รก เอกบรมจกั รนิ พระสยำมินทรพ์ ระยศย่ิงยง เยน็ ศิระเพรำะพระบรบิ ำล ผลพระคณุ ธ รักษำ ปวงประชำเปน็ สขุ ศำนต์ ขอบนั ดำล ธ ประสงค์ใด จงสฤษดิ์ดงั หวงั วรหฤทัย ดุจถวำยชัย ชโย - ครอู า่ นเน้ือเพลงแล้วใหน้ ักเรยี นอา่ นตามทีละวรรค และอธิบายความหมายของเพลง สรรเสรญิ พระบารมีพอเขา้ ใจ (เน้ือหำครูปรับเปล่ียนให้ส้ันและเขำ้ ใจงำ่ ยตำมควำมเหมำะสม) ข้ำวรพุทธเจำ้ หมายถึง ข้าพเจ้าทั้งหลาย ซึ่งเป็นข้าของพระองค์ผู้ประดุจดังพระพุทธเจ้า โดย พระพุทธเจ้าในที่นี้ก็คือ เป็นผู้ตรัสรู้และโปรดมวลมนุษย์ให้บรรลุธรรม ให้พ้นจากกิเลส เพราะ ในมโนทัศนข์ องไทยโบราณถอื ว่ากษัตรยิ ค์ ือพระโพธสิ ัตว์ เอำมโนและศริ ะกรำน... หมายถงึ ขอเอาดวงใจและศรี ษะก้มน้อมกราบ นบพระภมู ิบำล บุญดิเรก... หมายถงึ ขอนบไหว้พระผู้ปกครองแผ่นดนิ ผมู้ ีบญุ ญาธิการอันใหญห่ ลวง เอกบรมจักริน... หมายถึง ทรงเป็นวงศ์แหง่ พระจักรีอันประเสริฐ แนแวนกวากราจรดัจกัดากราเรรเยี รนยี รนปู้ รู้ประรวะัตวศิัตาศิ สาตสรต์เรพเ์ พื่อส่ือรส้ารง้าสงาสนำึกนคึกวคาวมามเปเปน็ ไ็นทไทยย::สญัสญั ลกัลษักษณณค์ ว์คาวมามเปเปน็ ไน็ ทไทยย

๑๒๒ พระสยำมินทร.์ .. หมายถงึ เปน็ ผู้เปน็ ใหญแ่ ห่งสยาม พระยศยิ่งยง... หมายถงึ เกียตรยิ ศของพระองค์นั้นย่ิงใหญ่และยนื นาน เย็นศริ ะเพรำะพระบรบิ ำล... หมายถึง พวกเราจึงรม่ เย็นดว้ ยการปกครองของพระองค์ ผลพระคุณ ธ รกั ษำ ปวงประชำเปน็ สุขศำนต์... หมายถงึ พระคุณของพระองค์มผี ลรกั ษาปวงประชาให้เป็นสขุ ขอบนั ดำล ธ ประสงค์ใด... หมายถงึ ขอพระคุณนน้ั บันดาลให้สิ่งที่พระองค์ประสงคส์ าเร็จตามความปรารถนา จงสฤษฎ์ดงั หวังวรหฤทัย... หมายถึง ขอใหไ้ ดด้ ังใจหวัง ดุจถวำยชัย ชโย... หมายถงึ ดงั ทีไ่ ด้น้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัย ๓. ครูถามวา่ “ เพลงสรรเสริญพระบารมเี ป็นเพลงประจาสถาบันพระมหากษัตรยิ น์ กั เรียน ทราบหรอื ไม่วา่ ทาไมจึงเป็นเพลงประจาพระองค์”.... คาตอบนักเรียน:……………………………………………………………………………………………………………… ครูอธิบายความสาคัญของเพลงสรรเสริญพระบารมีว่าเป็นเพลงเกียรติยศสาหรับถวาย ความเคารพต่อองค์พระประมุขของชาติ ใชบ้ รรเลงประจาองค์พระมหากษัตรยิ ์ เน่ืองในงานพระราชพิธี ต่าง ๆ เพ่ือเป็นการแสดงถึงความจงรักภักดีของพสกนิกรที่มีต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินีและ พระบรมวงศานุวงศ์ทกุ พระองค์ ๔. ครูถามนักเรียนว่า “ดังนั้นเมื่อได้ยินเพลงสรรเสริญพระบารมี นักเรียนต้องทาอย่างไร” ครอู ธบิ ายสรปุ ว่าเม่ือเราไดย้ ินเพลงสรรเสริญพระบารมีไม่ว่าที่ไหนเราต้องยืนตรงเพ่ือถวำยควำมเคำรพ ต่อองคพ์ ระมหำกษัตริยผ์ ู้เป็นทีเ่ ทิดทูนของคนไทย ๕. ครเู ปดิ เพลงสรรเสริญพระบารมแี ละให้นักเรียนร่วมร้องถวายต่อหนา้ พระบรมฉายาลักษณไ์ ว้ เพอ่ื เป็นการเทิดทูนและแสดงความเคารพอย่างถูกตอ้ ง ๖. กิจกรรมภำพประทับใจ ครนู าภาพทรงงานของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั เปน็ ตัวอย่าง ให้นักเรียนดูแล้วให้นักเรียนวาดภาพ “ในหลวงของเรา” (เพ่ือสังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้าน ความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ความระลึกได้ จาได้) โดยให้แต่ละคนอธิบายว่าท่ีเลือกวาดภาพ ดังกล่าวเพราะเหตใุ ดอยา่ งส้นั และงา่ ย (คาถามท่ี ๗) แนวการจัดการเรียนรปู้ ระวัตศิ าสตร์เพือ่ สรา้ งสานกึ ความเปน็ ไทย : สญั ลกั ษณ์ความเปน็ ไทย แนวการจัดการเรยี นรปู้ ระวัตศิ าสตร์เพ่อื สรา้ งสำนกึ ความเป็นไทย : สัญลักษณ์ความเปน็ ไทย

๑๒๓ - ครถู ามนกั เรียนวา่ ท่ีบา้ นของนกั เรียนมภี าพปยู่ ่าตายายหรือคนที่เคารพบูชาหรือไม่ และถา้ มี คณุ พอ่ คณุ แมข่ องนักเรียนควรจะนาไปติดต้งั ไว้ทใ่ี ด แล้วนกั เรยี นควรนาภาพถ่าย หรือภาพวาดของพระองค์ไว้ ณ ทแี่ ห่งใด (คาถามที่ ๘) คาตอบ: (ไวใ้ นท่ีสูง เชน่ ติดผนงั เหนือศรี ษะ เพ่อื เคารพบูชา ไมน่ ามาต้งั ไว้ ณ ท่ีที่ ไม่เหมาะสม) - เพลงสรรเสรญิ พระบารมีใช้ในวาระโอกาสใด (เวลาเสด็จพระราชดาเนนิ ไปยงั สถานที่ตา่ ง ๆ ตลอดจนผู้แทนพระองค/์ พิธีตา่ ง ๆ หรือในโอกาสการแสดงความจงรกั ภักดี ดว้ ยความเคารพ) - เรามักได้ยนิ เพลงสรรเสรญิ พระบารมที ใ่ี ดบ้าง (คาถามท่ี ๙) (โรงเรยี น/โรงหนงั / สถานทรี่ าชการ/ที่ที่พระองคเ์ สด็จฯ) - เมื่อได้ยนิ เสียงเพลงสรรเสริญพระบารมีควรปฏิบัติตนอย่างไร (คาถามที่ ๑๐) (ยนื ตรง/ถวายคานับ) ๗. ครใู หน้ กั เรยี นออกมาพดู แสดงความรู้สกึ ทีม่ ีต่อในหลวงของเราส้ันๆ และครูถามเหตผุ ลว่า ทาไมนักเรยี นจงึ รสู้ ึกต่อพระองคเ์ ชน่ นัน้ เป็นรายบคุ คล จนครบทุกคน ๘. ครสู รุป ความร้สู ึกและเหตุผลของนกั เรียน ทุกคน ให้นักเรียนฟงั ทง้ั ห้อง เขียนออกเปน็ ผงั ความคดิ แบบ WEB ๙. ครสู รปุ ว่าเพ่อื เติมเต็ม เราจะตอบแทนพระคณุ ของพระองคท์ า่ นดว้ ยการเป็นคนดี รู้หน้าที่ และแสดงความเคารพต่อพระองค์ท่านด้วยการทาความเคารพ เปน็ สานวนส้ัน ๆ “พระบรมฉำยำ ลักษณค์ อื รูปเคำรพ เพลงสรรเสรญิ พระบำรมีเม่ือพบต้องยืนตรง” ๑๑. ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ - เพลงผูป้ ดิ ทองหลังพระ/เพลงรปู ท่มี ที ุกบ้าน/เพลงสรรเสริญพระบารมี จาก You Tube - พระบรมฉายาลกั ษณ์พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั - ใบความรู้เพลงสรรเสริญพระบารม/ี พระบรมฉายาลกั ษณ์ ๑๒. บันทกึ หลังสอน ๑๒.๑ ด้านความรู้ ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................................................. ๑๒.๒ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ ...................................................................................................... ....................................................... ............................................................................................................................. ................................ แนวการจดั การเรียนรปู้ ระวัตศิ าสตรเ์ พ่อื สรา้ งสานึกความเปน็ ไทย : สญั ลกั ษณค์ วามเปน็ ไทย แนวการจัดการเรยี นรปู้ ระวัตศิ าสตรเ์ พือ่ สร้างสำนึกความเป็นไทย : สญั ลกั ษณ์ความเป็นไทย

๑๒๔ ๑๒.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ............................................................................................................................. ................................ ................................................................................................... .......................................................... ๑๒.๔ ด้านสมรรถนะท่ีสาคญั ของผเู้ รียน ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................. ................................ เพลงสรรเสริญพระบำรมี คาร้อง : สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทานอง : พระเจนดุรยิ างวงค์ (ปิติ วาทยะกร) ข้ำวรพทุ ธเจำ้ เอำมโนและศิระกรำน นบพระภูมิบำลบุญดเิ รก เอกบรมจักริน พระสยำมินทร์พระยศยิง่ ยง เยน็ ศริ ะเพรำะพระบริบำล ผลพระคุณ ธ รักษำ ปวงประชำเปน็ สขุ ศำนต์ ขอบนั ดำล ธ ประสงค์ใด จงสฤษดิด์ ัง หวงั วรหฤทยั ดุจถวำยชัย ชโย แนวการจัดการเรยี นรปู้ ระวตั ศิ าสตรเ์ พอื่ สร้างสานึกความเปน็ ไทย : สัญลกั ษณ์ความเปน็ ไทย แนวการจดั การเรียนรปู้ ระวัติศาสตรเ์ พือ่ สร้างสำนึกความเป็นไทย : สัญลกั ษณ์ความเปน็ ไทย

๑๒๕ ภำพตวั อยำ่ งพระบรมสำทิสลักษณ์ แนวการจัดการเรยี นรปู้ ระวตั ศิ าสตรเ์ พื่อสร้างสานกึ ความเปน็ ไทย : สัญลักษณ์ความเปน็ ไทย แนวการจัดการเรียนรูป้ ระวตั ิศาสตรเ์ พ่ือสร้างสำนกึ ความเป็นไทย : สัญลกั ษณค์ วามเป็นไทย

๑๒๖ แนวการจัดการเรยี นรปู้ ระวัตศิ าสตร์เพอื่ สร้างสานึกความเปน็ ไทย : สญั ลักษณค์ วามเป็นไทย แนวการจัดการเรยี นร้ปู ระวัติศาสตร์เพื่อสรา้ งสำนึกความเป็นไทย : สญั ลกั ษณ์ความเปน็ ไทย

๑๒๗ เกณฑ์กำรประเมนิ เกณฑ์กำรพิจำรณำพฤตกิ รรมกำรทำงำน (rubrics) เกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ นา้ หนกั จุดเนน้ การประเมิน ดีมาก (๔) ดี (๓) พอใช้ (๑) ควรปรบั ปรงุ (๑) ๑.การตอบคาถาม ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้ ถูกตอ้ ง (๘ -๑๐ ถูกต้อง (๖-๗ (๕ คาถาม) (๐-๔ คาถาม) คาถาม) คาถาม) ๒.การใหค้ วาม ให้ความรว่ มมือกบั ให้ความร่วมมือ ให้ความ หลีกเล่ยี งที่จะให้ ร่วมมือกับครู ครทู ุกกิจกรรม เกือบครบทกุ ร่วมมอื เป็น ความร่วมมอื กจิ กรรม ครงั้ คราว ๓.ความต้ังใจใน ทางานครบทกุ งาน ทางานครบทกุ งาน ทางานที่รับ ไม่ทางานทรี่ บั การทางาน ที่รบั มอบหมาย ท่ีรบั มอบหมาย มอบหมายเป็น มอบหมาย (กิจกรรม) อยา่ งสวยงาม ส่วนใหญ่ ถกู ตอ้ ง แบบประเมนิ คุณลักษณ์อนั พึงประสงค์ คาช้ีแจง : ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนแล้วขดี √ ลงในช่องว่างทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน คุณลกั ษณะ รำยกำรประเมนิ ระดับคะแนน อนั พงึ ประสงคด์ ำ้ น ๔๓๒ ๑ ตัวช้วี ัดที่ ๑.๔เคารพ ๑. ยืนตรงเมอื่ ไดย้ ินเพลงสรรเสรญิ พระบารมี เทดิ ทนู สถาบันพระ ๒. รอ้ งเพลงสรรเสรญิ พระบารมไี ด้ถูกต้อง มหากษตั ิรย์ ๑.๔.๒ แสดงความ ๓. อธบิ ายความสาคญั ของเพลงสรรเสรญิ พระบารมไี ด้ สานกึ ในพระมหา กรณุ าธคิ ณุ ของ พระมหากษตั ริย์ ๔. รคู้ วามหมายและปฏบิ ตั ติ นต่อพระบรมฉายาลกั ษณไ์ ด้ ๑.๔.๓ แสดงออกซงึ่ อยา่ งถกู ตอ้ ง ความจงรกั ภักดตี ่อ สถาบัน พระมหากษตั รยิ ์ แนวการจัดการเรยี นรปู้ ระวัตศิ าสตรเ์ พ่ือสรา้ งสานกึ ความเปน็ ไทย : สัญลักษณ์ความเป็นไทย แนวการจดั การเรียนรูป้ ระวตั ศิ าสตรเ์ พอ่ื สร้างสำนึกความเป็นไทย : สัญลกั ษณ์ความเปน็ ไทย

๑๒๘ ตวั อยำ่ ง ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ รำ่ งแผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๖ รหสั วิชา..................... จานวน ๕ ชัว่ โมง กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม จานวน ๕ ชว่ั โมง รายวิชาประวัตศิ าสตร์ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑ สญั ลกั ษณ์ของชาตไิ ทย หนว่ ยย่อยท่ี ๑ เร่อื ง สญั ลกั ษณ์ของชาติไทย ๑. มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ / ตวั ชวี้ ดั มาตรฐาน ส ๔.๑ เข้าใจความหมาย ความสาคัญของเวลา และยุคสมยั ทางประวตั ิศาสตร์สามารถ ใช้วธิ ีการทางประวัตศิ าสตร์มาวเิ คราะหเ์ หตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ อยา่ งเปน็ ระบบ ตัวชว้ี ดั ม ๓/๒ ใช้วธิ กี ารทางประวัติศาสตร์ในการศึกษาเร่ืองราวต่าง ๆ ท่ีน่าสนใจ มาตรฐาน ส ๔.๓ เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วฒั นธรรม ภมู ิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจ และธารงความเป็นไทย ตวั ชวี้ ดั ม.๓/๒ วเิ คราะหป์ ัจจยั ท่สี ง่ ผลต่อความมั่นคงและความเจรญิ รุง่ เรืองของไทยในสมัย รัตนโกสนิ ทร์ ม.๓/๓ วิเคราะห์ภูมิปัญญา และวัฒนธรรมไทยสมัยรัตนโกสินทร์ และอิทธิพลต่อ การพัฒนาชาติไทย ม.๓/๔ วเิ คราะหบ์ ทบาทของไทยในสมัยในสมัยประชาธปิ ไตย ๒. สำระสำคัญ สัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นไทยอาจอยู่ในองค์ประกอบของศิลปกรรม และวัตถุต่าง ๆ สัญลักษณ์ที่ได้ยอมรับในสากล คือ ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของชาติไทย ส่วนเพลง สรรเสริญพระบารมี พระบรมฉายาลักษณ์ และพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมราชินีนาถ นับเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเคารพในสถาบันพระมหากษัตริย์ ถือเป็น สญั ลกั ษณท์ ี่ใครจะล่วงละเมิดไม่ได้ คนไทยจึงตอ้ งปฏิบัตดิ ้วยความเคารพดว้ ยความภาคภูมใิ จ ๓. จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ ๑. สร้างความรู้ ความเข้าใจในเร่ืองสัญลักษณ์ความเปน็ ไทย ทั้งจากธงชาติไทย และเพลง ชาติไทย รวมทั้งสัญลักษณอ์ น่ื ๆ ท่เี ราควรอนุรักษ์ และสืบสานความเปน็ ไทยสืบตอ่ ไป ๒.ปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องเหมาะสมตามกาลเทศะ ตามขนบธรรมเนียมประเพณี วฒั นธรรมไทย และสามารถสร้างความเข้าใจอันดีท่ถี ูกตอ้ งให้กับผู้อืน่ ได้ แนแวนกวากราจรัดจกดั ากราเรรเยี รนียรนปู้ รรปู้ ะรวะัตวศิตั าศิ สาตสรต์เพร์เื่อพสอื่ รส้ารงา้ สงาสนำึกนคกึ วคาวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย: :สัญสญั ลักลษักณษณ์ควค์ าวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย

๑๒๙ ๓. มีจิตสานึกและความภูมิใจในความเป็นไทย โดยแสดงผ่านทางสัญลักษณ์ต่างๆ เช่น ธงชาติและเพลงชาติไทยในการเป็นตัวแทนของความเป็นชาติไทยที่มีเอกราชและวัฒนธรรมเป็น เอกลกั ษณ์และได้รับการยกยอ่ งจากนานาชาตทิ ั่วโลก ๔. สำระกำรเรยี นรู้ ๔.๑ ความเปน็ ไทย ประเพณีไทย วัฒนธรรมไทย ๔.๒ สัญลักษณข์ องชาตไิ ทย ธงชาตแิ ละเพลงชาติไทย ๔.๓ สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ เพลงสรรเสรญิ พระบารมี พระบรมฉายาลักษณห์ รอื พระบรมสาทสิ ลกั ษณ์ พระราชกรณยี กิจของพระมหากษตั รยิ ์ไทย ๕. ทกั ษะ/กระบวนกำร ๕.๑ ทกั ษะการอ่าน ๕.๒ ทกั ษะการเขียน ๕.๓ ทักษะการสบื ค้นข้อมลู ๕.๔ ทักษะการมีเหตุผล ๕.๕ ทกั ษะการนาเสนอขอ้ มูล ๕.๖ กระบวนการกลุ่ม ๖. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๖.๑ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ๖.๒ รกั ความเป็นไทย ๖.๓ ใผเ่ รียนรู้ ๖.๔ มุ่งมั่นในการทางาน ๗. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ๗.๑ สมรรถนะดา้ นการสอื่ สาร ๗.๒ สมรรถนะดา้ นการคิดวเิ คราะห์ ๘. หลักฐำนกำรเรียนรู้ ๘.๑ ช้ินงำน ๑) รายงานการสืบคน้ เรอื่ ง ความเปน็ ไทย แนแนวกวการาจรัดจัดกการาเรรเียรียนนรปู้ร้ปูระรวะัตวัตศิ ศิาสาสตตรเ์รพ์เพือ่ ่ือสสรา้รง้างสสานำนกึ ึกคควาวมามเปเปน็ น็ไทไทยย::สสัญัญลลักกัษษณณค์ ค์วาวมามเปเป็น็นไทไทยย

๑๓๐ ๒) รายงานการสืบค้นเร่อื ง ววิ ัฒนาการของธงชาติไทย ๓) แผ่นพับประชาสมั พันธ์และรณรงค์ เร่ืองธงชาตไิ ทยและเพลงชาติไทย ๔) นทิ รรศการสานึกในพระมหากรุณาธิคณุ ในองค์พระมหากษตั รยิ ์ไทย สมัยกรุงรัตนโกสนิ ทร์ ๕) รายงานการสืบคน้ เรื่องวิวฒั นาการของเพลงสรรเสริญพระบารมี ๘.๒ ภำระงำน ๑) ให้นักเรยี นทาเส้นเวลาของวิวฒั นาการของธงชาติไทย ๒) ใหน้ กั เรยี นออกแบบแผ่นพบั ประชาสัมพันธ์และรณรงค์ให้เยาวชนไทยเห็นความสาคัญ ของธงชาตไิ ทยและเพลงชาตไิ ทย ๓) ให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นในประเด็นการทาความเคารพต่อพระบรมฉายาลักษณ์ พระบรมสาทสิ ลักษณ์และเพลงสรรเสรญิ พระบารมี ๔) ใหน้ กั เรยี นหาแนวทางในการส่งเสริมใหค้ นไทยแสดงความจงรักภกั ดตี ่อสถาบัน พระมหากษัตรยิ ์ ๙. กำรวดั และกำรประเมนิ เป้าหมาย วิธีวดั เครื่องมือวดั เกณฑ์การประเมิน แบบประเมนิ ผลงาน ความรู้ ๑.ผลงานนักเรียนมี ๑.แบบประเมิน คุณภาพระดับดีขึ้นไป อธบิ ายความหมาย การสอบถาม พฤติกรรมที่ แสดงออกเมื่อมี นักเรียนสามารถร้อง คุณค่าและ การตรวจผลงาน เหตกุ ารณ์ การร้อง เพลงชาติไทยได้อย่าง เพลงชาติ การเคารพ ถกู ต้อง ทง้ั คาร้อง ความสาคัญของความ ธงชาติ การเคารพ ทานองและมีความ ไพเราะ ในระดบั ดขี ้นึ ไป เป็นไทยในสังคมไทย ๑.นกั เรยี นมีพฤติกรรม การแสดงออกต่อการ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติ เพลง 2. วเิ คราะห์และ การตรวจสอบ สรรเสริญพระบารมี อยู่ ในระดับดีขนึ้ ไป ความสาคัญของ รายการ สัญลักษณ์ความเป็น ไทย โดยวิธกี ารทาง ประวตั ศิ าสตร์ 2. ตระหนักใน การสังเกตพฤติกรรม ความสาคญั ของ การตรวจผลงาน สญั ลกั ษณค์ วามเปน็ ไทย แนแวนกวากราจรดั จกัดากราเรรเียรนียรนปู้ รรู้ปะรวะตั วศิัตาิศสาตสรตเ์ พรเ์ ่อืพสอื่ รสา้ รง้าสงาสนำกึนคกึ วคาวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย: :สัญสัญลกัลษกั ณษณค์ วค์ าวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย

๑๓๑ เป้าหมาย วิธีวดั เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมิน พระบรมฉายาลักษณ์ ๒.ผลงานนักเรยี นมี และเพลงสรรเสริญ คณุ ภาพระดับดีขน้ึ ไป พระบารมี ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๑) รักชาติ ศาสน์ การตรวจสอบ/การ แบบบนั ทกึ ๑.ยนื ตรงเคารพธงชาติ กษัตรยิ ์ สงั เกตการปฏิบตั ติ น พฤติกรรมของ รอ้ งเพลงชาติและ ของนักเรียนเม่ือได้ นกั เรยี นเป็น อธบิ ายความหมายของ ยินเพลงชาติไทย รายบคุ คล เพลงชาตไิ ด้ถูกต้องทุก คน ๒.เข้าร่วมกิจกรรมที่ เกย่ี วกบั พระมหากษัตรยิ ์ตามท่ี โรงเรียนและชุมชนจัด ขึ้นทกุ ครง้ั ๖.๒ รักความเปน็ ไทย ๖.๓ ใผเ่ รยี นรู้ ๖ .๔ มุ่ ง ม่ั น ใ น ก า ร ทางาน ด้านสมรรถนะทีส่ าคญั ของผ้เู รียน ๑) การคิด การสังเกตพฤติกรรม แบบประเมิน นักเรียนผา่ นการ คุณภาพ ประเมินในระดับดีขน้ึ ไปทุกคน ๒) การส่ือสาร การสังเกตพฤติกรรม แบบประเมิน นกั เรยี นผ่านการ คุณภาพ ประเมนิ ในระดับดีข้ึน ไปทุกคน ๓) การใช้เทคโนโลยี การสังเกตพฤติกรรม แบบประเมนิ นักเรยี นผา่ นการ คุณภาพ ประเมินในระดับดีข้ึน ไปทุกคน แนแนวกวการาจรัดจดักการาเรรเียรียนนรปู้รปู้ระรวะตัวตัศิ ิศาสาสตตรเ์รพ์เพือ่ ือ่สสรา้รง้างสสานำนกึ กึคควาวมามเปเปน็ น็ไทไทยย::สสัญญั ลลักกัษษณณค์ ค์วาวมามเปเปน็ ็นไทไทยย

๑๓๒ ๑๐. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ ชวั่ โมงท่ี ๑ – ๒ เรอื่ งควำมเป็นไทย ๑. กระตุ้นควำมสนใจจำกนักเรียนด้วยกิจกรรม “คิดจำกภำพ” โดยมีเป้าหมาย เพ่ือให้ นักเรียนเข้าใจเกี่ยวกับสภาพปัญหาของความเป็นไทยของสังคมปัจจุบัน (ข้อ ๑-๒) ครูนาตัวอย่างภาพ เหตุการณ์จากหนังสือเรียนประวัติศาสตร์ เพ่ือให้นักเรียนเห็นแบบอย่างการอธิบายภาพท่ีดีว่า ควรระบุ ให้ชัดเจนวา่ ภาพอะไร ท่ไี หน เมื่อไหร่ และสาคญั อยา่ งไร ตัวอยา่ งครูอธิบายภาพเหตกุ ารณส์ าคญั ท่ีเกิดในสมยั รัตนโกสินทร์ ใหน้ ักเรยี นฟัง ตามประเด็น ภาพอะไร ท่ีไหน เมื่อไหร่ และสาคัญอย่างไร ๑.๑ ครูนาภาพที่แสดงพฤติกรรมของคนในสังคมไทย ให้นักเรียนพิจารณาและอธิบายภาพ ตามตัวอย่าง ท้ังนี้ครูควรใช้คาถามกระตุ้นให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม ด้วยเป้าหมายที่ ต้องการใหค้ ิดเชื่อมโยงถึงสถานการณใ์ นสังคมไทยทีเ่ กี่ยวกบั ความเปน็ ไทยในปัจจบุ ัน เช่น ๑) ภาพผู้คนแต่งกายในสถานที่ต่าง ๆ เช่น หน้าโรงภาพยนตร์ ในวัดใน พระบรมมหาราชวัง ฯลฯ (ท้ังเหมาะสม และไม่เหมาะสม) ๒) ภาพการแสดงความเคารพของคนไทยในสถานการณ์ต่าง ๆ ระหว่างเด็ก ผู้ใหญ่ นักเรียนกับครู ชาวพุทธกับศาสนสถาน ศาสนวัตถุ ศาสนบุคคล (อาจมีภาพการทาความเคารพของ คนไทยกับศาสนาอื่น ๆ ท่ีตนนับถือด้วย โดยเฉพาะในพ้ืนท่ีที่มีผู้นับถือศาสนาอื่นเป็นจานวนมาก) ชาวไทยกับการเคารพสัญลกั ษณข์ องชาติ เชน่ ธงชาตแิ ละเพลงชาตไิ ทย ชาวไทยกับการเคารพสัญลักษณ์ ของพระมหากษัตริย์ เช่น เพลงสรรเสริญพระบารมี พระบรมฉายาลักษณ์ หรือพระบรมสาทิสลักษณ์ ของสมเด็จพระเจา้ อยูห่ วั และพระบรมราชินีนาถ ๓) ภาพการเข้าร่วมกิจกรรมในประเพณีไทย เช่น วันสงกรานต์ วันลอยกระทง การแห่เทียนเข้าพรรษา วันปีใหม่ กิจกรรมตามความคิด ความเช่ือ เช่น การแห่นางแมว กิจกรรม ในท้องถ่นิ เช่น ผีตาโขน ๔) ภาพชาวต่างชาติในแหล่งท่องเท่ียวทางวัฒนธรรมไทย หรือเข้าร่วมในกิจกรรม ประเพณี การรบั ประทานอาหารไทย การนวดไทย แนแวนกวากราจรัดจกัดากราเรรเยี รนยี รนปู้ รรปู้ ะรวะตั วศิัตาิศสาตสรตเ์ พรเ์ ่ือพสอื่ รสา้ รงา้ สงาสนำึกนคึกวคาวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย: :สญัสญั ลักลษกั ณษณค์ ว์คาวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย

๑๓๓ ๑.๒ ครูนาภาพท้ังหมดติดบนกระดานหรือบอร์ด แล้วให้นักเรียนช่วยกันสรุปว่า ถ้าจะ อธิบายภาพทั้งหมดรวมกันด้วยข้อความสั้น ๆ ควรเป็นอย่างไร โดยครูพยายามช่วยนักเรียนใช้คาว่า “สงั คมไทย, วฒั นธรรมไทย, ความเปน็ ไทย” ในการบรรยายภาพ ๒. สรำ้ งควำมตระหนกั ในควำมสำคัญในเรื่องทเี่ รียนด้วยกิจกรรม “วพิ ำกษ์ สังคมไทย” ใน ปัจจุบันที่เก่ียวข้องกับวัฒนธรรมไทย โดยครูต้ังคาถามให้นักเรียนช่วยกันคิดและแสดงความคิดเห็นว่า เปน็ อย่างไร เพราะเหตใุ ด (สาเหตุอาจมาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ ปัจจยั ทางสังคม เชน่ การเลยี นแบบ ดาราหรือชาวต่างชาติหรืออื่น ๆ) วัฒนธรรมไทยใดที่ต่างชาติยกย่อง สมญาของชาติไทยท่ีต่างชาติยก ย่องไว้ (เช่น สยามเมืองย้ิม) สะท้อนแนวคิดเกี่ยวกับความเป็นไทยอย่างไร วัฒนธรรมไทยใดที่เราควร อนุรกั ษ์ และสบื สานตอ่ ไป ที่สาคัญคือ การใช้คาถามเพื่อให้นาไปสู่การวิพากษ์ว่า อะไรคือความเป็นไทยท่ีเราควร ภาคภูมิใจ และควรธารง “ความเป็นไทยสืบต่อไป” เพ่ือให้นักเรียนเชื่อมโยงกับวิถีการดาเนินชีวิตของ คนไทย ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทย ดินแดนไทยที่บรรพบุรุษได้ปกป้องจนถึงปัจจุบัน สถาบัน พระมหากษตั ริย์ทม่ี ีความสาคัญตอ่ สังคมไทย ฯลฯ ๒.๑ ครสู รา้ งแผนผังความคิดสะท้อนความเป็นไทยบนกระดานดา ตามข้อมูลท่ีนักเรียนคิด และวิพากษ์วิจารณไ์ ว้ เชน่ วิถไี ทย ภำษำไทย ศลิ ปกรรมไทย - มารยาทไทยทงั้ ทางกาย ควำมเปน็ ไทย วาจา ทง้ั ต่อสถานท่ีและ บคุ คล - ความกตัญญูกตเวที - การชว่ ยเหลอื เกอ้ื กูล ประเพณีไทย แนแนวกวการาจรัดจดักการาเรรเียรียนนรปู้รูป้ระรวะัตวัตศิ ศิาสาสตตร์เรพ์เพื่อ่อืสสร้ารงา้ งสสานำนึกกึคควาวมามเปเปน็ น็ไทไทยย::สสญั ัญลลักกัษษณณ์คค์วาวมามเปเป็น็นไทไทยย

๑๓๔ ๒.๒ ครูแบง่ กลมุ่ ใหน้ กั เรยี นสืบค้นเรือ่ ง “ความเป็นไทย” ในสังคมไทยดว้ ยการสอบถาม การ สงั เกต การศึกษาจากเอกสารเพิม่ เติมในประเดน็ ดังนี้ ๑) แนวความคิดในเร่อื ง “ความเป็นไทยของคนไทยในปัจจุบัน” หมายถงึ อะไรบา้ ง ๒) สภาพปัจจุบนั และปญั หาของความเป็นไทย เป็นอย่างไร ๓) ความเป็นไทยมีประโยชน์หรือคุณค่าตอ่ สังคมไทยหรอื ไม่ อย่างไร ๔) แนวทางการอนรุ กั ษห์ รอื สบื สานความเป็นไทยควรเปน็ อย่างไร ๒.๓ ครูให้แต่ละกลุ่มนาเสนอผลงานการสืบค้น จากน้ันจึงเปิดโอกาสให้นักเรียนอภิปราย เพื่อแสดงความคิดเห็น (เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย รวมท้ังเพ่ิมเติม) ครูเช่ือมโยงและเพ่ิมเติมเกี่ยวกับ ปจั จัยทางธรรมชาติและทางสงั คมทท่ี าใหเ้ กิด “ความเป็นไทยในสังคมไทย” ในปจั จบุ ัน เชน่ ปจั จัยด้ำน ท่ีต้ัง ทาให้ประเทศรับและผสมผสานวัฒนธรรมจากชาติต่าง ๆ ท้ังตะวันตกและตะวันออก กำรนับถือ พุทธศำสนำ ทาให้เกิดประเพณีและวัฒนธรรมทางศาสนา ควำมอุดมสมบูรณ์ของทรัพยำกรธรรมชำติ ทาใหค้ นไม่มีความเอื้อเฟื้อ ชว่ ยเหลือกัน) คณุ คา่ ของความเป็นไทยท่ีมตี ่อสังคมและประเทศชาติ รวมทงั้ แนวทางการอนรุ ักษ์และสืบสานต่อไป ชั่วโมงที่ ๓-๔ เรื่องสญั ลกั ษณข์ องชำติไทย ธงชำติและเพลงชำตไิ ทย ๓. ครนู าภาพสญั ลักษณส์ ากล เช่น เคร่อื งหมายทางคณติ ศาสตร์ เครือ่ งหมายในแผนที่ เครอ่ื งหมายจราจร ใหน้ กั เรียนบอกวา่ เคร่ืองหมายเหล่านแ้ี ทนอะไร เพื่ออธิบายเชอื่ มโยงความหมาย ของคาวา่ สัญลักษณ์ ๓.๑ ครนู าภาพทส่ี ามารถเป็นสญั ลกั ษณ์ทเี่ ช่ือมโยงจติ สานึก ความเป็นชาตไิ ทยได้ และ ให้นกั เรยี นตอบวา่ แต่ละภาพเป็นสัญลกั ษณ์แทนความหมายใด สาคญั อยา่ งไร ๑) พระบรมราชานุสาวรยี ์พระมหากษัตริยใ์ นอดีต ๒) อนุสาวรียบ์ รรพบรุ ุษไทยในอดตี ๓) ธงฉพั พรรณรังสี ธงธรรมจักร ๔) พระบรมฉายาลกั ษณ์ และพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระจาอยหู่ ัว และพระบรมราชินนี าถ ๕) ธงชาติไทย (ชอื่ เพลงชาตไิ ทย ชื่อเพลงสรรเสริญพระบารมี) ๓.๒ ครูใช้คาถามเพื่อใหเ้ ด็กไดเ้ กิดความเขา้ ใจท่ีถกู ตอ้ ง ว่าธงชาติและเพลงชาตเิ ป็น สญั ลักษณข์ องประเทศทุกประเทศและแสดงความเคารพด้วยการยนื ตรง เชน่ ๑) ในการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศ หรือการประชุมนานาชาติ ใช้สัญลักษณ์ใด แทนความเป็นประเทศ (ธงชาติและเพลงชาติ) มีการใช้สัญลักษณ์อ่ืนแทนประเทศได้หรือไม่ (นักเรียน แนแวนกวากราจรดั จกัดากราเรรเยี รนยี รนปู้ รรู้ปะรวะัตวศิตั าิศสาตสรตเ์ พรเ์ ือ่พส่ือรสา้ รงา้ สงาสนำกึนคกึ วคาวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย: :สัญสญั ลักลษกั ณษณค์ วค์ าวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย

๑๓๕ อาจตอบว่า การแต่งกายประจาชาติ ครูอาจยกตัวอย่างการแต่งกายของชาวมาเลเซีย ชาวบรูไน ชาวอินโดนีเซียที่ไม่แตกต่างกัน) ครูสรุปว่า ในทางสากล ธงชาติและเพลงชาติเปน็ สญั ลักษณ์ความเปน็ ประเทศ ครถู ามต่อวา่ การทาความเคารพธงชาติและเพลงชาติของทุกประเทศทากนั อย่างไร (ยืนตรง ดว้ ยอาการสารวม) หากไมป่ ฏิบัตจิ ะเป็นอยา่ งไร (.............) ครูเพ่มิ เติมดว้ ยวา่ ถ้าหากเราไม่ปฏิบตั ิ เราอาจจะได้รบั การดูถูก เหยียดหยามว่าไมร่ ้จู ักมารยาทที่พงึ ปฏบิ ัติต่อกนั ๒) นกั เรียนควรปฏิบตั ิอยา่ งไรต่อธงชาติไทยและเพลงชาติไทย เพราะเหตุใด ๓) โดยท่ัวไปเราแสดงความเคารพธงชาติและเพลงชาติไทย ในโอกาสใดบ้าง (ตอน เช้าประมาณ ๐๘.๐๐ น. และตอนเย็นเวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น.) และเพราะเหตุใด (นักเรียนอาจตอบ ตามความเข้าใจของนกั เรยี น) ครูอธิบายเช่อื มโยงถึงนโยบายของรฐั บาลและแนวปฏิบัติที่ถกู ตอ้ ง ๔. ครจู ัดกิจกรรมเพ่ือให้ความรู้ เร่ือง ววิ ัฒนาการของธงชาติไทย บอกความสาคัญของธงไทยใน สมัยโบราณ สาเหตุการปรับเปลี่ยนรูปแบบของธงในแตล่ ะครั้ง จนถึงสมัยรัชกาลที่ ๖ ที่ทรงปรับเปล่ียน ธงเป็นธงไตรรงค์ ดว้ ยกจิ กรรมใดกจิ กรรมหน่งึ ดังนี้ ๔.๑ แบ่งกลุ่มมอบหมายใหน้ ักเรียนศกึ ษาความรู้ดว้ ยตนเอง แล้วจัดทาสรปุ รายงานส่ง พรอ้ มภาพของธงชาติไทยในแต่ละชว่ งเวลาตา่ งๆ หลงั จากน้ันครจู งึ ต้ังประเด็นใหน้ ักเรียนอภปิ ราย เพื่อ ตรวจสอบความรู้ความเข้าใจของนักเรยี น เช่น ๑) ธงแดงเร่มิ ใช้ในสมัยใด เพ่ือกจิ การใด ๒) สาเหตุใดจึงมกี ารปรบั เปลี่ยนธงแดง เป็นอย่างไรและเม่ือไร ๓) ใครเป็นผ้ปู รบั เปล่ียนธงช้าง เปน็ ธงแถบสี เพราะเหตใุ ดจึงปรบั เปลยี่ น และใช้ แนวคดิ อยา่ งไร เก่ยี วข้องกับบทบาทฐานะของไทยในการเมืองระหว่างประเทศอย่างไร ๔) ธงไตรรงค์ หมายถึงอะไร สาคัญอยา่ งไร ๕) เหตุการณ์ใดที่แสดงถึงว่า ธงชาติไทยเป็นสัญลักษณ์ถึงเอกราชประเทศไทย และ ความเป็นเจา้ ของดนิ แดนไทย ๖) ธงชาติไทยมีความสมั พันธก์ ับสงครามโลกครง้ั ที่ 1 อยา่ งไร ๔.๒ ครูอธิบายววิ ัฒนาการของธงชาติไทย ประกอบกบั เสนอภาพธงชาติไทยต้ังแต่อดีตจนถึง ปัจจุบัน และภาพเหตุการณ์ท่ีเกี่ยวข้องตามลาดับ จากน้ันจึงใช้คาถาม ข้อ ๑-๖ (ใน ๔.๑) ตรวจสอบ ความรู้ของนกั เรยี น ๕. ภายหลังการทากิจกรรม ๔.๑ หรือ ๔.๒ (อยา่ งใดอย่างหน่ึง) ครูมอบหมายให้นกั เรยี นทาเส้น เวลา (time line) แสดงวิวัฒนาการของธงชาติไทย ครูเพิ่มเติมหรือเสนอแนะให้นักเรียนศึกษาเพิ่มเติม เกยี่ วกบั กฎหมายที่เก่ยี วข้องกับธงชาตไิ ทย เพอ่ื ท่ีจะไดป้ ฏิบัติตนไดถ้ กู ตอ้ ง ๖. ครูให้นักเรียนร้องเพลงชาติไทย และแสดงความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเพลง และ ความรู้สึกของการทาความเคารพธงชาตไิ ทย และเพลงชาตไิ ทย แนแนวกวการาจรดัจัดกการาเรรเยีรยีนนรปู้รปู้ระรวะตัวตัศิ ิศาสาสตตร์เรพ์เพ่อื ือ่สสร้ารง้างสสานำนึกกึคควาวมามเปเปน็ น็ไทไทยย::สสัญัญลลักกัษษณณ์คค์วาวมามเปเป็นน็ไทไทยย

๑๓๖ ๗. มอบหมายใหน้ ักเรยี นออกแบบแผ่นพบั เพ่ือประชาสมั พันธแ์ ละรณรงค์ให้เยาวชนไทยเหน็ ความสาคัญของธงชาติไทย และเพลงชาติไทย ช่วั โมงที่ ๕ –๖ เรอื่ ง สถาบันพระมหากษตั รยิ ์ ในประเดน็ เพลงสรรเสริญพระบารมี พระบรมฉายาลกั ษณ์ หรอื พระบรมสาทสิ ลักษณ์ ๑. กิจกรรมหำข้อมลู มำอธิบำยภำพ ครูเชื่อมโยงเรอื่ งสญั ลกั ษณ์ของพระมหากษัตรยิ ์ไทยที่ เรียนมาแล้ว อาจด้วยการตั้งคาถาม หรอื นาภาพหลายๆ ภาพ มาใหน้ ักเรยี นพจิ ารณาวา่ เป็นสัญลกั ษณ์ ของพระมหากษตั ริยไ์ ทยหรอื ไม่ ๑.๑ ครูนาภาพแสดงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จ พระบรมราชินนี าถ เพื่อให้นกั เรยี นหาขอ้ มลู วา่ ภาพเหล่านแ้ี สดงถึงบทบาทและพระราชกรณยี กิจของทั้ง สองพระองค์วา่ ทรงทาอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ (ภาพท่นี ามาครอบคลุมพระราชกรณียกจิ ทางดา้ นการเมือง การปกครอง การทานุบารุงพระศาสนา ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ โครงการพระราชดาริทั้งด้าน การเกษตร สิ่งแวดล้อม พระอัจฉริยภาพของพระองค์) โดยครูเลือกภาพที่เห็นวา่ นักเรียนอธิบายได้เพอ่ื เป็นตวั อยา่ งการอธบิ ายภาพท่ีถูกต้อง ๑.๒ แบ่งกลุ่มนักเรียน และมอบหมายภาพ ในการสืบค้นข้อมูล เพื่อบรรยายภาพตามท่ีครู เสนอแนะเป็นตัวอย่าง (ครูควรระบุแหล่งท่ีมาของภาพ หรือจัดหาหรือระบุแหล่งค้นคว้าของข้อมูล ดงั กล่าวด้วย) โดยให้นกั เรียนเขยี นคาอธิบายภาพ ลงในกระดาแล้วเย็บตดิ กับภาพนั้น ทั้งนค้ี รอู าจเปล่ียน สอื่ จากรปู ภาพ เปน็ สอ่ื ภาพท่ีได้บันทึกในไฟล์ภาพแทน ๑.๓ ครใู ห้กลมุ่ นาเสนอผลงาน “การอธบิ ายภาพแสดงพระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวและพระบรมราชินีนาถ” แล้วให้นักเรียนจัดกลุ่มภาพแยกออกเป็นประเด็นตามพระราช กรณียกิจ แล้วช่วยกันสรปุ ความสาคัญของพระมหากษัตริย์ไทยทีม่ ีต่อสังคมไทยท่ีครอบคลมุ ทุกด้าน อัน เปน็ ผลให้นานาประเทศและหนว่ ยงานต่างๆ ถวายรางวลั และพระเกียรติคุณแกท่ ้ังสองพระองค์ ๒. กจิ กรรมกำรแสดงออกถงึ ควำมจงรักภกั ดี เพื่อสานึกในพระมหากรณุ าธิคณุ ของ พระมหากษัตริย์ไทยอาจทาได้หลายวธิ ี เช่น ๒.๑ ใหน้ ักเรยี นระดมความคิดเห็นว่า นกั เรยี นและปวงชนชาวไทยควรแสดงออกหรือปฏิบัติ ตนอย่างไรท่ีจะแสดงถึงสานึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ จากนั้นให้นักเรียนนาข้อมูลไป ออกแบบจดั นทิ รรศการ หรอื แผ่นพบั เพอ่ื เผยแพร่ตอ่ ไป ๒.๒ ให้นักเรียนเขียนเรียงความ เพื่อแสดงถึงสานึกในพระกรุณาธิคุณดังกล่าว ครูอาจจัดให้ มกี ารคัดเลือกผลงานทีด่ ีเดน่ แลว้ ประชาสมั พนั ธ์ ๒.๓ แบ่งกลุ่มให้นักเรียนสืบค้นเกี่ยวกับการแสดงความเคารพสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ในสถานการณต์ า่ งๆ และฝกึ ปฏิบตั ิใหถ้ กู ตอ้ ง แนวการจัดการเรียนรปู้ ระวัตศิ าสตร์เพ่อื สร้างสานึกความเปน็ ไทย : สญั ลกั ษณค์ วามเป็นไทย แนวการจดั การเรียนร้ปู ระวตั ศิ าสตร์เพอ่ื สร้างสำนึกความเปน็ ไทย : สญั ลักษณค์ วามเปน็ ไทย

๑๓๗ ๓. กจิ กรรมสร้ำงควำมรู้ ควำมเข้ำใจ และควำมสำคญั ของเพลงสรรเสริญพระบำรมี ครู อาจเลือกวิธีการ ดังน้ี ๓.๑ ทาเอกสาร “ใบความรู้” ให้นักเรียนศึกษาดว้ ยตนเอง ๓.๒ ครอู ธบิ ายเรื่องวิวัฒนาการและความสาคัญของเพลงสรรเสริญพระบารมีในบริบท ภายในประเทศ และต่างประเทศ ๓.๓ มอบหมายให้นกั เรยี นสบื ค้นความรู้ ทัง้ น้คี รคู วรจัดกจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจสาระสาคัญดงั กล่าว ดว้ ยการตอบคาถามหรือ แสดงความคิดเห็น เชน่ ๑. ทาไมเพลงสรรเสริญพระบารมี จงึ ใช้แทนเพลงชาติไทยในช่วงระยะเวลาหนึง่ ๒. ทาไมเพลงสรรเสริญพระบารมี จงึ ใชท้ านองเพลงสากล ๓. เน้อื เพลงสรรเสรญิ พระบารมี มีความหมายอยา่ งไร ๔. กจิ กรรมสร้างความตระหนกั ในความสาคัญของการแสดงความเคารพต่อพระบรมฉายา ลักษณ์ พระบรมสาทสิ ลักษณ์ และเพลงสรรเสรญิ พระบารมี ด้วยการให้นกั เรียนเขยี นอธบิ ายแสดงความ คิดเห็นว่า “เพราะเหตุใดจึงควรแสดงความเคารพต่อพระบรมฉายยาลกั ษณ์ พระบรมสาทิสลักษณ์ และ เพลงสรรเสริญพระบารมี” รวมทั้งการหาแนวทางท่ีจะส่งเสริมให้คนไทยร่วมแสดงความจงรักภักดี สื่อ/แหลง่ เรียนรู้ ๑) ธงชาติไทย(ธงไตรรงค์) ธงชาติประเทศอาเซยี น ธงกฬี าสี ธงประจาโรงเรียน ๒) ภาพธงแดง ภาพธงแดงมวี งจักรตรงกลาง ภาพธงช้างเผอื ก ธง ๕ แถบ ๒ สี ๓) พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัว รัชกาลที่ ๙ ๔) คลิปวดี ิโอเกยี่ วกับสถานการณใ์ นการแสดงความเคารพธงชาติและร้องเพลงชาติ ๕) คลปิ วีดิโอเพลงชาตไิ ทย ท่ีเปิดเวลาเชา้ -เยน็ คือ ๐๘.๐๐ และ ๑๘.๐๐ น. ๖) แผนภูมิเนื้อรอ้ งเพลงชาติไทย/ คลปิ เสยี งเพลง ๗) แผนภมู ิเพลงไตรรงคธ์ งไทย/คลิปเสียงเพลง ๘) แผนภมู ิเพลงสรรเสรญิ พระบารมี/คลิปเสียงเพลง ๙) ใบความรู้ เรอื่ งธงชาติและเพลงชาตไิ ทย เพลงสรรเสรญิ พระบารมี ๑๐) คลิปวดี ิโอพระราชกรณยี กจิ ของพระมหากษัตรยิ ์ไทย สมยั กรุงรัตนโกสินทร์ ๑๑) ภาพหรอื คลิปวีดโิ อเกยี่ วกับ เหตกุ ารณส์ าคญั ๆที่เกดิ ขึ้นในสมัยรัตนโกสนิ ทร์ แนวการจดั การเรยี นรปู้ ระวัตศิ าสตร์เพอื่ สรา้ งสานกึ ความเปน็ ไทย : สญั ลกั ษณ์ความเปน็ ไทย แนวการจดั การเรียนรปู้ ระวตั ิศาสตรเ์ พื่อสร้างสำนกึ ความเปน็ ไทย : สัญลักษณ์ความเปน็ ไทย

๑๓๘ ๑๒. บันทกึ หลังสอน ๑๒.๑ ดำ้ นควำมรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๒.๒ ดำ้ นทักษะ/กระบวนกำร …………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๒.๓ ดำ้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. รักชำติ ศำสน์ กษัตริย์ ตวั ชวี้ ัด - พลเมอื งดีของชาติ ๑)นักเรยี นยนื ตรงเคารพธงชาติ รอ้ งเพลงชาติและอธิบายความหมายของเพลงชาติได้ถูกต้อง จานวน……….คน คดิ เป็นร้อยละ……………. ๒) ฯลฯ………………………………………………………. ตวั ช้วี ัด- เคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ๑) นักเรยี นเข้ารว่ มกจิ กรรมที่เกยี่ วกบั พระมหากษตั ริยต์ ามทโ่ี รงเรียนและชมุ ชนจดั ข้ึนทุกครัง้ จานวน……….คน คดิ เป็นรอ้ ยละ……………. ๒) ฯลฯ………………………………………… ๒. รักความเป็นไทย ……………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. ใผ่เรียนรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………….. ๔. มุ่งมัน่ ในการทางาน …………………………………………………………………………………………………………………………….. 12.4 ดำ้ นสมรรถนะทส่ี ำคัญของผ้เู รยี น ๑) การคิด ๒) การส่ือสาร แนแวนกวากราจรัดจกดั ากราเรรเยี รนยี รนปู้ รรูป้ ะรวะตั วศิตั าศิ สาตสรต์เพร์เ่อืพสอื่ รส้ารง้าสงาสนำกึนคกึ วคาวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย: :สัญสญั ลกัลษกั ณษณค์ ว์คาวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย

๑๓๙ สถาบนั พระมหากษตั รยิ ใ์ นสังคมไทย เกริน่ นำ : ทำไมจงึ ต้องเรียนเรอ่ื งนี้ สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันสูงสุดของคนในชาติ เป็นสถาบันท่ีแสดงให้เห็นความมี เอกราชและความจงรักภักดี ซง่ึ ในประเทศไทยน้นั สถาบันพระมหากษตั ริย์ไทยมปี ระวัติความเป็นมาอย่าง ยาวนาน มัน่ คง ทรงปกครองประเทศไทยดว้ ยธรรมะและด้วยประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตัง้ เสมอมา ทา ให้คนไทยผกู พันกับสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ มคี วามจงรักภกั ดียง่ิ ชีพและยอมสละชีพของตนแทนที่พระเจ้า แผ่นดิน หรือไมย่ อมใหใ้ ครล่วงเกินพระเจ้าแผน่ ดนิ ได้ ในประวัติศาสตร์ไทย ความภาคภูมิใจที่สาคัญที่สุดของคนไทยคือการมีพระเจ้าแผ่นดิน ปกครองมาโดยตลอด ไม่มีขาดช่วงขาดตอน และเป็นพระเจ้าแผ่นดินท่ีทรงธรรมเป็นที่ตั้ง ทรงเอา พระราชหฤทัยใส่ความเป็นอยู่ของประชาชนเสมอกันส้ิน ทรงอานวยความสุขให้เกิดแก่ประชาชนโดยไม่ ทรงเห็นแก่เวลาส่วนพระองค์ พระราชกรณียกิจดังกล่าวส่งผลให้สถาบันพระมหากษัติรย์ไทยได้รับ การยกย่องจากสังคมนานาชาติ ไม่เฉพาะแต่ประเทศเพ่ือนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้ ประเทศที่เจริญด้วย เทคโนโลยี และประเทศมหาอานาจต่างก็เชิดชูพระเกียรติยศเป็นท่ีประจักษ์ทั่วกัน ความภาคภูมิใจนี้เป็นสิ่งที่คนไทยต้องตระหนักและหวนแหน ต้องเคารพเทิดทูน และปลูกฝังความรัก สถาบนั พระมหากษตั ริย์ให้เกิดขึ้นในใจของทุกคน จดุ มงุ่ หมำย : เป้ำหมำยของกำรจัดกำรเรียนรู้เรื่องน้ี ๑. เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ทั้งด้านแนวคิด พระราชฐานะที่มีพัฒนาการต่อเนื่องมายาวนาน และบทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยใน ดา้ นการเมอื งการปกครอง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมไทย ๒. ตระหนกั ในความสาคัญ และภมู ิใจในสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ไทยท่ีมตี ่อสังคมไทย และมี ความสานกึ ในพระมหากรุณาธคิ ณุ ดงั กล่าว ๓. ปฏิบัติตนในการแสดงความเคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยได้ถูกต้องเหมาะสม รวมท้ังเผยแพรแ่ นวคดิ ทถ่ี กู ต้อง เพ่ือปกป้องสถาบันพระมหากษตั ริยไ์ ทยให้คงอยู่ในสงั คมไทยสบื ต่อไป ประเดน็ สำคญั ท่คี รูควรรู้ พ้ืนฐำนควำมรู้ จดุ เน้นท่ีควรเชื่อมโยง และสิ่งทตี่ ้อง สร้ำงเสริมให้เกิดควำมภมู ิใจ สถาบันพระมหากษัตริย์ในประเทศไทยมีพัฒนาการยาวนาน นับแต่ท่ีมีผู้คนมาอาศัยในดินแดน สุวรรณภูมิและพัฒนาข้ึนเป็นบ้านเมือง มีศาสนา ความเช่ือจากอินเดียเข้ามาตามลาดับ ทาให้แนวคิด เกยี่ วกบั พระมหากษตั ริยข์ องไทยผูกพนั กับแนวคิดของอนิ เดียอย่มู าก แนแนวกวากราจรดัจกัดากราเรรเยีรียนนรปู้รปู้ระรวะตัวตัศิ ศิาสาสตตรเ์รพเ์ พื่อสอื่ สร้ารง้าสงสำนากึนคกึ ควาวมามเปเปน็ นไ็ ทไทยย::สสถาถบาบันพันพระรมะมหหากาษกษตั ัตรยิรยิใ์ น์ใสนสงั คังมคมไทไทยย

๑๔๐ สถาบันพระมหากษัตริย์ประกอบด้วยคา ๒ คา คือ สถาบัน และพระมหากษัตริย์ คาว่าสถาบัน น้ัน พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานปี พ.ศ.๒๕๔๒ ให้ความหมายว่า “ส่ิงซ่ึงคนในส่วนรวม คือ สังคม จัดต้ังให้มีขึ้น เพราะเห็นประโยชน์ว่ามีความต้องการและจาเป็นแก่วิถีชีวิตของตน เช่น สถาบันครอบครัว สถาบันศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ สถาบันการศึกษา สถาบันการเมือง สถาบัน การเงิน เป็นต้น” หมายความว่าสถาบันเป็นสิง่ สาคญั ในสังคม เพราะมีหนา้ ท่ยี ึดเหน่ียวคนในสงั คมใหม้ ีทิศทางใน การดาเนิน ชีวิตไปในแบบเดียวกัน หรือมีความสุขเสมอกัน นอกจากน้ีสถาบันจะบังเกิดขึ้นได้ก็ด้วยคนในสังคมท่ีมี ความเหน็ พร้องกนั ว่าจาเป็นต้องมี หรอื มแี ลว้ จะสามารถอานวยประโยชน์ให้บังเกดิ ขึน้ ได้ อีกคาหนึ่งที่มีความสาคัญ คือ คาว่าพระมหากษัตริย์ หรือคาอ่ืนท่ีเรียกกัน เช่น พระเจ้า แผ่นดิน แม้ว่ารากฐานเดิมของคาน้ีจะมาจากอินเดียท่ีใช่ส่ือถึงวรรณะของคนในสังคมอินเดีย คนใน วรรณะ ท่ี ๒ แห่งสังคมฮินดู ซึ่งมีอยู่ ๔ วรรณะ ได้แก่ วรรณะพราหมณ์ วรรณะกษัตริย์ วรรณะแพศย์ และ วรรณะศูทร. แตค่ าว่ากษตั รยิ น์ ี้ก็มีพนื้ ฐานคาสนั สกฤต “กฺษตรฺ ิย” ท่แี ปลวา่ ผปู้ อ้ งกันภัย ชาตนิ กั รบ ดังนั้น ในความหมายเดิมจึงหมายถึงบุคคลผู้มีหน้าท่ีป้องกันข้าศึกและทาการรบหรือเป็นหันหน้าในการรบ นอกจากน้ีคาว่ากษัตริย์ยังสื่อถึงคาว่าเกษตร หรือเขตท่ีแปลว่าพ้ืนท่ีเขตแดน แว่นแคว้นด้วย สรุปได้ว่า ยังคงมีความหมายที่คล้ายคลงึ กนั ความสาคัญของกษัตริย์หรือระบบที่เกิดข้ึนในสถาบันกษัตริย์นั้น อาจพิจารณาเห็นได้ว่าเป็น ลักษณะการปกครองแบบลับดับข้ึน คือมีผู้ปกครองและผู้อยู่ใต้ปกครอง แต่สถาบันกษัตริย์จะสามารถ บังคับดูแลผู้อยู่ใต้ปกครองหรือไม่ มิใช่อยู่ท่ีการใช้อานาจหรือการกดขี่ให้อยู่ภายใต้อานาจแต่เป็น การยอมรับอานาจ สถานภาพ และบทบาทของกษัตริย์ที่นอกเหนือจากการรบหรือการต่อสู้เพื่อดินแดน เพยี งอย่างเดียว และหากผู้ทอี่ ยู่ใต้บังคับบัญชา (ประชาชน) เห็นวา่ กษตั ริยพ์ ระองคน์ ีส้ ามารถดูแลชวี ิตของ ตนได้น้ันกจ็ ะมีความจงรกั ภกั ดแี ละยอมรบั อานาจหรือบทบาทนนั้ ๆ คาสาคญั เก่ียวกบั สถาบนั พระมหากษัตริย์ที่คนไทยควรตระหนกั รู้ คอื กษัตริย์, เกษตร, เขต ย่อมมีความหมายโดยแรกว่านักรบหรือผู้ท่ีมีความสามารถใน การต่อสู้ขยายดนิ แดน เปน็ นักรบผู้กลา้ หาญท่ีสามารถรวมจติ ใจของผู้คนให้เปน็ หนึ่งเดยี วได้ พระเจ้ำแผ่นดิน คือ ความหมายท่ีว่ากษัตริย์พระองค์น้ันทรงครอบครองดินแดน และมี พระราชอานาจเหนือดนิ แดนน้นั ๆ พระเจ้ำอยู่หัว หมายถึง การยอมรับสถานะภาพของพระเจ้าแผ่นดินว่าทรงเป็นประดุจ พระพทุ ธเจ้า ของพทุ ธศาสนา รำชธรรม เป็นธรรมะที่องค์พระเจ้าแผ่นดินทรงปฏิบัติ ซ่ึงแบ่งเป็น ๒ กลุ่ม คือ ธรรมะท่ี ทรงปฏิบัติเพ่ือพระองค์เอง ให้ทรงอยู่ในศีล ธรรม คือ ทศพิธราชธรรม ๑๐ ประการ และกลุ่มที่ ๒ คือ ธรรมะที่ทรงปฏิบัติเพ่ือความผาสุกของประชาชน เช่นจักรวรรดิวัตร ๑๒ ประการ ราชสังคหะวัตถุ ๔ ราชนีตธิ รรม ราชวจิ ารณธรรม เป็นต้น แนวการจัดการเรยี นรปู้ ระวตั ศิ าสตรเ์ พ่ือสรา้ งสานึกความเปน็ ไทย : สถาบันพระมหากษัตริย์ในสงั คมไทย แนวการจัดการเรยี นรู้ประวัติศาสตร์เพอ่ื สร้างสำนกึ ความเป็นไทย : สถาบันพระมหากษัตริย์ในสังคมไทย

๑๔๑ ควำมจงรักภักดี คือ สิ่งที่ประชาชนทั่วไปต้องตระหนักเป็นหน้าท่ีสาคัญ เพราะเป็นการ แสดงให้เห็นว่ายอมรับและได้รับความสุขในการดารงชีวิตจากพระราชกรณียกิจท้ังปวงท่ีพระมหากษัตริย์ ทรงปฏิบัติ พระปฐมบรมรำชโองกำร เป็นเสมือนคาสัญญาของพระมหากษัตริย์เม่ือแรกขึ้น ครองราชย์ และพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์จะทรงปฏิบัติตามพระราชโองการน้ัน เพื่อประโยชน์ของ มหาชน มใิ ช่เพือ่ พระองคเ์ อง ๑. พฒั นำกำรของสถำบัน นับแต่อดีตท่ีผ่านมา สถาบันพระมหากษัตริยเ์ ป็นของประเทศของประชาชน ไม่ว่าผู้ใดก็ตาม ย่อมสามารถอธิบายสถาบันพระมหากษัตริย์ของตนได้ ดังเช่นปรากฏหลักฐานในคู่มือทูตในรัชกาลสมเด็จ พระนารายณม์ หาราชว่าพระมหากษัตริย์พระองค์แรกตัง้ ขน้ึ เม่ือ พ.ศ. ๑๓๐๐ เพราะฉะนัน้ หากนบั มาจนถึง ปจั จุบนั นีก้ เ็ ปน็ เวลาติดต่อมาถึง ๑, ๒๕๗ ปใี นปนี ้ี ซึ่งกเ็ ปน็ สิง่ ท่ีน่าภาคภมู ใิ จท่สี ุดสาหรับประเทศ ของเรา ในประเทศไทยแต่โบราณ เร่ืองของพระพุทธศาสนากับสถาบันพระมหากษัตริย์มี ความเก่ียวข้องกันอย่างลึกซ้ึง ก่อนหน้าท่ีเราจะรับพระพุทธศาสนาคร้ังสาคัญคือสมัยสุโขทัยโดย พ่อขุนรามคาแหงมหาราช ที่ทรงรับพุทธศาสนามาจากลังกา พระพุทธศาสนาเข้ามาเป็นแม่บทใหญ่ใน การดาเนินวิถีชีวิตในสังคมของรัฐสุโขทัย เราอาจพิจารณาว่าหากประชาชนต้องการมีผู้นาสูงสุด คือ พระมหากษัตริย์แล้ว ผู้คนจะคิดเหน็ อย่างไรและรู้ถึงธรรมชาติของพระมหากษัตริย์พุทธวา่ เป็นอย่างไร ผม คิดว่าในพุทธศาสนานิกายเถรวาทมีข้อมูลพร้อมอยู่ในพระไตรปิฎกซ่ึงจะบรรจุเรื่องน้ีไว้ ดังในพระสูตร ช่ือขัตติยาธิปปายสูตร ว่าด้วยความประสงค์ของคน ๖ จาพวกระบุว่า “ธรรมดากษัตริย์ทั้งหลายย่อม ประสงคโ์ ภคทรพั ย์ นยิ มปัญญา ม่ันใจในกาลังทหาร ต้องการในการไดแ้ ผ่นดิน มีความเป็นใหญ่ในที่สุด” น้ี คอื ความเปน็ ธรรมชาติของพระมหากษัตริยต์ ้งั แตส่ มยั พุทธกาล สาหรับพระสูตรช่ือจักกสูตรกล่าวถึงองค์คุณ ๕ ประการหรือเรียกว่าคุณสมบัติของ พระมหากษัตริย์กาหนดว่าพระเจ้าจักรพรรดิในโลกนี้เป็นผู้ท่ีทรง “รู้ผล รู้เหตุ รู้ประมาณ รู้จักกาล รู้จัก บริษัท” คือต้องรู้จักประชุมชนหรือท่ีในปัจจุบันเรียกว่าเข้าถึงประชาชนทุกหมู่เหล่า เหล่านี้เป็นลักษณะ ของพระมหากษัตรยิ ์ การทพ่ี ระจกั รพรรดิทรงรู้ประมาณนยี้ ังสบื ทอดมาจนถึงทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวรัชกาลปจั จบุ นั นน่ั เอง ในพระสูตรชือ่ ราชสูตรระบุพระราชกิจหน้าท่ขี องพระมหากษัตรยิ ์ไว้ ๓ ประการคอื ๑) มหี น้าที่รกั ษาหรืออารักขา ๒) หน้าที่ป้องกัน และ ๓) หน้าที่ค้มุ ครองท่เี ปน็ ธรรม แม้สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงปฏิบัติในภาระทั้ง ๓ น้ีเช่นกัน พระราชภารกิจของ พระมหากษัตริย์ท้ัง ๓ ประการนี้คือพระราชกรณียกิจหลัก ซ่ึงอาจมีเพ่ิมเติมหรือปรับเปล่ียนไป อย่างไรก็แล้วแต่พระมหากษัตริย์พระองค์นั้นทรงกาหนดเพิ่มเติมขึ้น เช่น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า แนวการจดั การเรียนรปู้ ระวตั ศิ าสตร์เพ่ือสร้างสานึกความเปน็ ไทย : สถาบนั พระมหากษัตริย์ในสังคมไทย แนวการจัดการเรยี นรปู้ ระวัตศิ าสตร์เพ่อื สร้างสำนึกความเปน็ ไทย : สถาบันพระมหากษตั ริย์ในสังคมไทย

๑๔๒ จุฬาโลกมหาราชทรงต้ังพระราชหฤทัยไว้ว่า “ต้ังใจจะอุปถัมภก ยอยกวรพุทธศาสนา ป้องกันขอบ ขัณฑเสมา รักษาประชาชนแลมนตรี” หมายความว่ารัชกาลที่ ๑ ก็ยังมีพระราชดาริท่ีดารงอยู่ในเกณฑ์ ข้างต้น แนวทางน้ีไม่เคยเปลี่ยนเลยต้ังแต่ที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไวใ้ นราชสูตรนั้น และเป็นการแสดงให้ เห็นว่ากอ่ นทีส่ ุโขทัยจะรบั คติกษัตรยิ ์พุทธเข้ามาคงจะต้องดูเหมือนกนั วา่ คุณลักษณะของพระมหากษัตริย์ท่ี ดีจะต้องประกอบด้วยสิ่งใดบา้ ง ในสยามประเทศ อิทธิพลพราหมณ์ฮินดูมีบทบาทมากเช่นเดียวกับพุทธศาสนาส่วนอีก อิทธพิ ลหน่งึ เป็นความเชือ่ พน้ื ถิ่นหรือพื้นบ้าน ทง้ั ๓ ปัจจยั น้จี ะผสมผสานกันเมอื่ ๓ สว่ นน้ีผสมกลมกลืนกนั แล้วจะกลายเป็นระบบความเชื่อเก่ียวกับพระมหากษัตริย์ของสังคมไทย คือ พราหมณ์ พุทธ และพ้ืนถ่ิน ของเราเอง ทางด้านพราหมณ์เป็นความเชื่อเร่ืองอวตารของพระเป็นเจ้าของศาสนาพราหมณ์ เช่นเรียก พระรามาธิบดีคือการอวตารลงมาของพระวิษณุ หรือพระราเมศวรบ้าง ส่วนด้านพระพุทธศาสนาก็ เกิดความคิดและความเชอื่ วา่ พระมหากษัตรยิ ์จะทรงเป็นอะไรได้บ้าง ทรงเป็นเทพ หรือเป็นพระโพธสิ ตั วก์ ็ ได้ ในคมั ภีรพ์ ระพุทธศาสนากลา่ วไว้ว่า พระโพธิสตั ว์จะลงมาเป็นพระจักรพรรดิก็ได้ เปน็ พระมหากษัตริย์ก็ ได้ บางครง้ั พระโพธสิ ตั วก์ ไ็ ปเสวยพระชาตเิ ปน็ พระอนิ ทร์ถงึ ๓๖ ครัง้ บางพระสตู รไปเปน็ ท้าวมหาพรหม ๗ คร้ัง พระโพธิสัตว์เองเคยเสวยพระชาติเป็นพราหมณ์ ฤๅษี ดาบส มาก่อนหลายครั้งเช่นกัน คร้ันเป็น พระ โพธสิ ตั ว์ กจ็ ะมงุ่ ให้ตรัสรูเ้ ป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล สมัยสุโขทยั ในจารึกหลักท่ี ๑ เปน็ ตน้ มคี าวา่ “พระขพุงผ”ี ซงึ่ เปน็ เทวดาสาคัญของพื้นถ่ินท่ี นับถือกันอย่างสูง แต่ถ้าหากเป็นเทวดาทางพระพุทธศาสนาก็จะต้องเป็นเหล่าเทวดาบนสวรรค์บ้าง ใน พรหมโลกบ้าง ในที่น้ีจะกล่าวถึงแนวคิดท่ีสาคัญอีกประการหน่ึง คือเทวะตามคติของพระพุทธศาสนาซึ่งมี ๓ ประเภทคือสมมติเทพ หมายถึงพระมหากษัตริย์ถือเป็นเทวดาท่ีสมมติขึ้นให้เหมือนเป็นเทวะหรือที่ เรียกวา่ เปน็ มนุษยเ์ ทพ และรวมถงึ พระราชเทวี พระราชโอรสธดิ า ก็นับเปน็ สมมติเทพด้วย ในรัชกาลพระ บาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราชให้ทรงรวมถึงพระบรมวงศานุวงศ์ แสดงวา่ ต้งั แต่ หมอ่ มเจ้า ขน้ึ ไปเปน็ สมมตเิ ทพ เพราะเจา้ คือเทวดานัน่ เอง ประเภทท่ี ๒ อุปบัตเิ ทพคอื เทพแทอ้ ยู่บนสวรรค์ เชน่ พวก พระอินทร์ พระพรหม พระอิศวร พระนารายณ์หรือว่าเทวดาอื่น ๆ เป็นอุปบัติเทพ ประเภทสุดท้ายคือวิ สุทธิเทพ คือเทพที่ทรงความบริสุทธ์ิหมายถึงพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ พระขีณาสพ พระปัจเจก พุทธ การจาแนกประเภทเทวดาไว้ ๓ ชนิดน้ี จึงเป็นเหตุผลว่าทาไมเราจึงใช้ราชาศัพท์กับ ท้ังทาง สถาบนั พระมหากษัตริย์ พระเจา้ แผ่นดินกใ็ ช้ราชาศพั ท์ อปุ บตั เิ ทพเชน่ พระอินทร์ พระพรหม พระอศิ วร พระนารายณ์ กใ็ ช้ราชาศัพท์ วสิ ุทธเิ ทพที่เรานับถือหรือให้ความยกย่อง ก็ใชร้ าชาศัพทเ์ ช่นกันอาทิ สมเด็จ พระสัมมาสมั พุทธเจ้า ท้ังน้เี พราะเทวะหรือเทวดา เป็นส่งิ ที่เราให้ความเคารพสกั การะอยา่ งสูงนัน่ เอง ในประเทศไทยนับแต่สมัยสุโขทัยน้ัน ความสัมพันธ์ระหว่างพระมหากษัตริย์กับประชาชน และพระพุทธศาสนามีความใกล้ชิดกันมากกว่าก่อน ปรากฏข้อความในศิลาจารึกหลักท่ี ๑ ของ พ่อขุนรามคาแหงมหาราช ซึ่งเป็นท่ีทราบกันดีอยู่แลว้ เปน็ ส่วนใหญ่ แต่สิ่งท่ีมีความสาคญั และมักจะไม่ค่อย กล่าวถึงกันคือวัฒนธรรมการปกครองในระบบกษัตริย์ของสุโขทัยนั้นเป็นการปกครองโดยมีมนุษยธรรม จารกึ สโุ ขทัยหลักท่ี ๓๘ วัดพระมหาธาตวุ ัดสระศรี พทุ ธศกั ราช ๑๙๔๐ ว่าพระมหากษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัย แนวการจดั การเรยี นรปู้ ระวัตศิ าสตรเ์ พอ่ื สรา้ งสานึกความเปน็ ไทย : สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ในสังคมไทย แนวการจัดการเรยี นรปู้ ระวัติศาสตรเ์ พ่ือสรา้ งสำนึกความเปน็ ไทย : สถาบนั พระมหากษัตริยใ์ นสงั คมไทย

๑๔๓ “จกั ใครข่ ดั พระราชสมี าน้ีดังมนุษยธรรม (อย่าง) พระยารามราช” หมายความวา่ กษตั ริย์ในกรงุ สโุ ขทยั ทรง มุ่งปกครองบ้านเมืองและประชาชนอยา่ งมีมนษุ ยธรรมเชน่ เดยี วกับพ่อขุนรามคาแหงมหาราช ความหมาย ของมนุษยธรรมซึ่งกษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัยต้องเอาพระทัยใส่คือไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินตามท่ีไตรภูมิพระร่วง กล่าวไว้ว่า “รู้จักผิดแลชอบ แลรู้จักที่อันเป็นบาปแลบุญ แลรู้จักประโยชน์ในชั่วนี้ชั่วหน้า แลรู้จักกลัว แก่ บาปแลละอายแก่บาป รู้จักว่ายากว่าง่าย แลรู้รักพ่ีรักน้อง แลรู้เอ็นดูกรุณาต่อผู้เข็ญใจ แลรู้ยาเกรง พ่อแม่ ผู้เถ้าผู้แก่ สมณพราหมณาจารย์อันอยู่ในสิกขาบทของพระพุทธิเจ้าทุกเมื่อ และรู้จักคุณแก้ว ๓ ประการ” อันแสดงใหเ้ ห็นความผูกพันระหว่างกษัตริย์ในฐานะของบดิ าบุตร ในการสอนให้ประชาชน ทาความดี ให้ รู้จักบาปบุญคณุ โทษและศลี ธรรมอ่นื ๆ ลักษณะของสงั คมได้รับอทิ ธิพลของพระพทุ ธศาสนาเช่นนีย้ ังปรากฏ ในดนิ แดนล้านนาและบริเวณใกลเ้ คียงอีกดว้ ย ต่อมา สถาบันพระมหากษัตริย์สุโขทัยในยุคกลางและปลายสังเกตได้ว่าพระมหากษัตริย์ สุโขทัยนับตั้งแต่พระมหาธรรมราชาลิไทย ทุกพระองค์ทรงเป็นธรรมราชาเป็นพระมหากษัตริย์ท่ีไม่ใช้ อาชญาและอาวธุ ในการปกครอง ซง่ึ เป็นทฤษฎธี รรมรำชำซึ่งปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกว่าพระจักรพรรดิที่ ถือธรรมทรงธรรมดีแล้วก็เป็นธรรมราชา ไม่ใช้อาชญาหรืออาวุธแต่ปกครองโดยธรรมใช้ธรรมเป็นที่ต้ัง พ่อขุนรามคาแหงมหาราชประทับบนพระแท่นมนังคศิลาบาตรแล้วอบรมขุนนางและประชาชน ซ่ึงต่อมา พระยาลิไทก็ทรงปฏิบัติอย่างเดียวกันดังปรากฏในจารึกสุโขทัยหลายหลัก ส่ิงนี้เป็นทฤษฎีบาเพ็ญธรรม ราชาบนเส้นทางของพระโพธิสัตว์เพ่ือที่ต่อไปจะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล ธรรมราชาก็แปลว่า ผู้ถือ ธรรม หรอื ทรงธรรม หมายถงึ พระพทุ ธเจา้ พระเจ้าลิไทท่านก็ต้องผ่านขั้นตอนเป็นพระมหาสมมติราชก่อน หมายถึงว่าราษฎรหรือ มหาชนสมมติตั้งพระองค์ข้ึนให้เป็นผู้ปกครองเป็นประมุข ในคัมภีร์พุทธศาสนารวมถึงไตรภูมิกถาของ พระเจ้าลิไทแห่งกรุงสุโขทัย และในพระธรรมศาสตร์ของกฎหมายตราสามดวง เม่ือกล่าวถึงพระโพธิสัตว์ ของชาวเราท้ังหลายเมื่อต้นกัลป์ว่าได้รับอภิเษกด้วยพระนาม ๓ อย่างคือ “มหาสมมติราช” ประชาชน ทั้งหลายยอมตงั้ ท่านใหเ้ ป็นใหญ่ คือเปน็ ประมุขและ “ขัตตยิ ะ” เพราะคนทั้งหลายให้ท่านแบ่งปันไร่นาข้าว น้าแก่คนท้ังหลาย ส่วนคาว่า “ราชา” เพราะพระโพธิสัตว์ถูกเนื้อพึงใจคนทั้งหลาย (ปกครองโดยธรรม) แล้วก็พัฒนาขัตติยะข้ึนเป็นวรรณะตามอย่างพราหมณ์ฮินดูคือวรรณะกษัตริย์ เป็นผู้ปกครองและนักรบ อนึ่ง คาว่าขัตติยะยังแปลว่าเขต แล้วกลายเป็นเกษตรคือผู้มีอานาจเหนือท่ีดิน จึงเป็นพระเจ้าแผ่นดิน จัดการแบ่งปันท่ีดนิ ไร่นาใหร้ าษฎรซึง่ สงั คมไทยทง้ั สมยั อยุธยาและกรุงเทพฯ ล้วนกาหนดข้ึนเปน็ ระบบศักดิ นากาหนดที่ดินให้ราษฎรทุกช่อช้ันซ่ึงนับเป็นการปฏิบัติตามแนวทางของพระโพธิสัตว์ซึ่งกล่าวมาแล้ว ขา้ งต้นอยา่ งแทจ้ ริง แม้ในกิจการพระพทุ ธศาสนาต้งั แตโ่ บราณมาทุกยคุ สมัย กม็ ีกลั ปนาอทุ ศิ ที่ดินไร่นาให้ เป็นนาสัดนาสงฆ์ขึ้นอย่างแพร่หลาย ส่วนคาว่าราชาหมายความว่าคนท่ีราษฎรพึงพอใจยินดี ปกครอง ด้วยธรรม แม้แต่ในจารึกพระยาลิไทก็บอกว่าบ่ข้าบ่ตีไม่ข้าไม่ตีใครจะทาผิด มีโทษเท่าไรก็ปล่อยหมด คือ ปกครองอย่างธรรมราชา หรือธรรมราช ไมใ่ ชอ้ าชญาและอาวธุ จนทา้ ยท่สี ุดก็จะทรงบาเพ็ญเป็นมหาธรรม ราชาเพ่อื บรรลพุ ระโพธสิ ัตว์ และเปน็ พระพุทธเจ้าในอนาคตกาลดังในจารึกสุโขทยั หลักท่ี ๖ ของพระเจ้าลิไท แนวการจดั การเรยี นรปู้ ระวตั ศิ าสตร์เพ่ือสรา้ งสานกึ ความเปน็ ไทย : สถาบนั พระมหากษัตริย์ในสังคมไทย แนวการจดั การเรียนรูป้ ระวัติศาสตร์เพื่อสรา้ งสำนึกความเป็นไทย : สถาบันพระมหากษัตริย์ในสงั คมไทย