แผนการจัดการเรียนรู้รายภาค ม.ปลาย

-กลมุ่ ท่ี 2 มมุ มองการใช้กัญชาและกญั ชงของประชาชน ทั่วไป - กลุม่ ท่ี 3 สภาพการณข์ ้อมูลทีเ่ กีย่ วขอ้ งกับกญั ชา พืชกญั ชง และกัญชงผา่ นสื่อออนไลน์ ละพชื -กลุม่ ท่ี 4 มุมมองการใช้กญั ชาและกญั ชงของบุคคลากร ทางการแพทย์ ชกญั ชง -กลุ่มท่ี 5 มมุ มองการใชก้ ญั ชาและกญั ชงของ ผปู้ ่วยและ สภาพการณ์และขั้นตอนการใหบ้ ริการ ญชง คลีนิคกัญชาในประเทศไทย คญั ทพี่ บ ข้ันที่ ๓ การปฏิบัตนิ ำไปใช้ พชื กัญชา -ครรู ่วมสรปุ กบั นกั ศึกษาในเร่ืองท่เี รียนรู้ สรุปเป็น Mind Mapping เหตุใดตอ้ งเรยี นรู้กญั ชา และพืช และกัญชง โดยให้ตัวแทนกลุ่มนำเสนอหน้าชั้น เรยี น ครูผสู้ อนดำเนนิ การสรา้ งองค์ความรดู้ า้ นกฎหมาย เพ่มิ เติมกรณีพชื กัญชาและพืชกญั ชงที่ในประเทศ ไทยยังเป็นยาเสพตดิ ประเภทท่ี 5 บุคคลใดมีไว้ ด์ ครอบครองมีความผดิ ทางกฎหมาย ตกต่าง ข้ันท่ี ๔ การประเมินผลการเรียนรู้ 212 -ครูสังเกตการร่วมกิจกรรม กระบวนการกลุม่ การมสี ว่ น ร่วมของนกั ศกึ ษาในกลมุ่ -การทำแบบทดสอบ -การทำงานใบงานในหนงั สอื เรยี น / ไม่ แปร แบบเรียน -ใบความรู้

4.2ผลติ ภณั ฑพ์ ชื กัญชาและพืชกญั ชงแ 4.3. การบริโภคและอปุ โภค 4.3.1 ผ,ตภณั ฑ์เพ่ือบรโิ ภค 4.3.2 ผลิตภณั ฑ์เพื่อความความงามแ สขุ ภาพ 4.3.3 ผลติ ภัณฑเ์ พอ่ื อปุ โภค 4.4 การนันทนาการ หัวเรือ่ ง 3.โทษของกญั ชาและกญั ชง 1.1ผลกระทบตอ่ รา่ งกายและผลข้างเค 1.2ผลกระทบตอ่ จติ ใจ 1.3 ผลกระทบตอ่ สงั คม 1.4ผลกระทบตอ่ ประเทศชาติ 2.ประโยชน์ของกญั ชาและกัญชงทาง การแพทย์ 3.รู้โทษและประโยชนข์ องกัญชา และกญั ชง 1.บอกโทษของกัญชาและกัญชง ตอ่ รา่ งกาย จติ ใจ สังคมและ ประเทศชาติ 2.สามารถอธิบายผลขา้ งเคียง จากการใช้กัญชาและกญั ชงได้ 3.อธิบายและประโยชน์ของ กญั ชาและกญั ชงทางการแพทย์

แปรรูป -อินเตอร์เนต็ / Wi-Fi กศน.ตำบล และ -หอ้ งสมุด/ กศน.ตำบล -แหลง่ เรยี นร้ชู ุมชน ครูมอบหมายงานให้นกั ศกึ ษา กรต.ในหัวขอ้ เรื่อง และทำ รายงานส่งในสปั ดาห์ถดั ไป 2 อาทติ ย์ คียง 213

4.วเิ คาระห์ความแตกตา่ งระหวา่ ง โทษและประโยชนข์ องกัญชาและ กญั ชงตามสถานการณ์ทีก่ ำหนด ได้ 5.ตระหนกั ถึงโทษและประโยชน์ ของกญั ชาและกัญ

214

แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ คร้ังท่ี 17

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชา รายวิชา เลือกบังคับ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย จำนวน 3 หน่วยก ครง้ั ท่ี วัน/เดอื น/ปี หวั เร่อื ง/ตัวช้ีวดั เนือ้ หาสาระการเรยี นรู้ 17 ม.ี ค.64 4.กฏหมายทีเ่ ก่ียวข้องกับกัญชา หวั เรื่อง 4 และกญั ชง 1.พระราชบญั ญัตยิ าเสพติด 1.บอกกฏหมายท่ีเกย่ี วข้องกับ ให้โทษ พ.ศ. 2522 กัญชาและกญั ชงได้ 2.พระราชบัญญตั วิ ัตถุออก 2.อธบิ ายสาระท่สี ำคัญของ ฤทธต์ิ อ่ จติ ประสาทพ.ศ. กฏหมายที่เก่ยี วข้องกับกัญชา 2539 และกญั ชงได้ 3.พระราชบัญัติยาเสพติดให้ 3.สามารถบอกขอ้ )กบิ ัติทตี่ อ้ งทำ โทษ (ฉบับท่ี 7 ) พ.ศ. 2562 ตามกฏหมายท่ีเกยี่ วข้องกับ 4.ประกาศกระทรวง กญั ชาและกัญชงได้ สาธารณสุขทเ่ี กย่ี วข้องกบั 4. วิเคราะห์โทษของการฝ่าฝืน กญั ชาและกญั ชง กฏหมายทเ่ี ก่ยี วข้องกบั กัญชา 5.ประกาศคณะกรรมการ และกญั ชงตามสถานการณ์ท่ี ควบคมุ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ กำหนดได้ 6.พระราชบัญํติสทิ ธิบัตรกับ 5.บอกกฏหมายระหว่างประเทศ กญั ชาและกัญชง ที่เกีย่ วกับกญั ชาและกญั ชงได้ 7.ขอ้ ปฏิบตั ิที่ตอ้ งทำตาม 6.ตระหนกั ถงึ โทษของการฝา่ ฝืน กฎหมายที่เกีย่ วข้องกับกัญชา กฏหมายเกยี่ วกบั กญั ชาและกัญชง และกัญชง 8.โทษของการฝ่าฝนื กฏหมาย ที่เกีย่ วข้องกับกญั ชาและกญั ช

บ กัญชงกัญชาอย่างชาญฉลาด รหสั วชิ า สค32034 กิต หวั เร่ือง เหตใุ ดต้องเรยี นรู้กัญชาและกัญชง การจัดกระบวนการเรยี นรู้ ส่ือ/แหลง่ เรียนรู้ การวดั และ ประเมินผล ครมู อบหมายใหต้ ัวแทนนกั ศึกษานำร้องเพลงชาตแิ ละสวด -หนังสอื เรยี นหนงั สอื -การสังเกต มนตไ์ หว้พระและร้องเพลงสรรเสรญิ พระบารมีกอ่ นเรียน เรยี นวชิ ากญั ชาและกัญ -การชักถาม ชงศึกษา เพ่ือใช้ -การมสี ว่ นร่วม ทุกสปั ดาห์ เปน็ ยาอยา่ งชาญฉลาด -ใบงาน ขัน้ ท่ี ๑ กำหนดสภาพปญั หา -ใบความรู้ 1. ครสู นทนาทักทายกับนักศกึ ษาแจ้งตัวชี้วดั การเรยี นรใู้ ห้ -อนิ เตอร์เน็ต นกั ศกึ ษาทราบ -ห้องสมุด กศน.ตำบล 2. ครใู ห้นกั ศึกษาทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน -แหลง่ เรียนรชู้ มุ ชน 3. ครูใหน้ ักศกึ ษาดยู ูทปู เรื่องมมุ มองทางกฎหมายองกญั ชา 2 และกัญชงในตา่ งประเทศ แลว้ ถามว่า กญั ชากบั กัญชงใน ต่างประเทศและประเทศ พรอ้ มท้งั ให้นกั ศึกษาออกแสดง ความคิดเหน็ ประกอบ จากนนั้ ครสู รุปเพ่ือเชอื่ มโยงเขา้ สู่ เน้อื หาท่ีจะเรยี น ข้นั ที่ ๒ แสวงหาความรู้ ครสู นทนากบั นักเรยี นเกยี่ วกับเหตใุ ดต้องเรียนรู้กญั ชาและ กัญชง ครูใหน้ กั เรยี นแบง่ ออกเป็น 4 กลมุ่ แต่ละกลมุ่ สบื คน้ ข้อมูลเก่ียวกับเรื่องต่อไปน้ี า -กลมุ่ ที่ 1 พระราชบญั ญัติยาเสพตดิ ให้โทษ พ.ศ. 2522 /พระราชบัญญัตวิ ัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต ย ประสาทพ.ศ. 2539 ชง 216

9.กฏหมายระหว่างประเทศ เก่ยี วกับกญั ชาและกัญชง 5.กญั ชาและกญั ชงกบั การแพทย์ หัวเรื่อง 5. แผนไทยและแพทย์ทางเลอื ก 1.ประวัติความเป็นมาการใช้ 1.บอกประวัตคิ วามเปน็ มาการใช้ กัญชาและกญั ชงในทาง กญั ชาและกญั ชงในการแพทย์ การแพทยท์ างเลือก ทางเลอื กต่างประเทศ ตา่ งประเทศ 2.บอกประวัตคิ วามเปน็ มาการใช้ 2.ประวัติความเป็นมาการใช้ กญั ชาและกญั ชงในทาง กญั ชาและกญั ชงในทาง การแพทยท์ างเลือกได้ การแพทย์แผนไทยและแพทย 3.วิเคราะห์ตำรบั ยาทมี่ ีกัญชา ทางเลือก และกัญชงเป็นส่วนประกอบ 3.ตำรบั ยาทม่ี กี ัญชาและกญั รบั รองโดยกระทรวงสาธารณสุข ชงเปน็ ส่วนประกอบรบั รอง ตามสถานการณท์ ่ีกำหนดให้ได้ โดยกระทรวงสาธารณสุข 4.ประยกุ ต์ใช้ความรู้ตำรบั ยาทมี่ ี 3.1ยาอคั คนิ วี คณะ กัญชาและกญั ชงเปน็ 3.2ยาศุขไสยาศน์ ส่วนประกอบโดยกระทรวง 3.3ยาแก้ลมเนาวนารีวาโย สาธารณสขุ ศกึ ษาโรคที่สนใจได้ 3.4ยาน้ำมนั สน่นั ไตรภพ 5.ตระหนักถงึ คณุ ค่าของตำรับยา 3.5ยาแก้ลมขึน้ เบ้ืองสูง ทมี่ กี ัญชาและกัญชงเปน็ 3.6ยาไฟอาวธุ ส่วนประกอบ 3.7ยาแก้นอนไม่หลบั /ยาแก้ 6.อธบิ ายขอ้ มลู ท่ีเกย่ี วกบั ภูมิภูเบ ไขผ้ อมเหลอื ง ศรวบรวมและเผยแพร่ภูมปิ ัญญา 3.8ยาแก้สณั ฑฆาต ไทยได้ 3.9ยาอัมฤตโอสถ

-กลุม่ ที่ 2 พระราชบญั ัตยิ าเสพติดใหโ้ ทษ (ฉบับที่ 217 7 ) พ.ศ. 2562 / ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ ท่ี เกี่ยวข้องกับกัญชาและกัญชง - กลุ่มที่ 3 ประกาศคณะกรรมการควบคุมยาเสพ ตดิ ให้โทษ /พระราชบัญํติสทิ ธิบัตรกับกญั ชาและ กัญชง -กลุ่มที่ 4 ขอ้ ปฏิบัติทีต่ ้องทำตามกฎหมายท่ี เกี่ยวขอ้ งกบั กัญชาและกัญชง /โทษของการฝ่าฝนื กฏหมายทเ่ี กย่ี วข้องกับกัญชาและกัญชง/กฏหมาย ย์ ระหวา่ งประเทศเกย่ี วกับกัญชาและกญั ชง ขั้นท่ี ๓ การปฏิบตั นิ ำไปใช้ -ครูรว่ มสรปุ กบั นกั ศกึ ษาในเร่ืองท่ีเรยี นรู้ สรุปเป็น Mind Mapping กฏหมายทเ่ี กีย่ วข้อง กับกัญชาและกญั ชง และ กัญชาและกญั ชงกับ การแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ขน้ั ที่ ๔ การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ -ครสู ังเกตการณ์รว่ มกจิ กรรม การมสี ่วนรว่ มของนกั ศกึ ษา -การทำแบบทดสอบ -การทำงานใบงาน -หนงั สือเรยี นวชิ ากญั ชาและกญั ชงศึกษา เพ่ือใช้ เปน็ ยาอยา่ งชาญฉลาด -ใบความรู้ -ใบงาน -อนิ เตอรเ์ นต็

7.บอกข้อมูลทีเ่ ก่ียวข้องกบั ภูมิ 3.10ยาอไภยสาลี ปัญญานายเดชา ศริ ิภัทร หมอ 3.11ยาแก้ลมแกเ้ สน้ พืน้ บ้านได้ 3.12ยาแกโ้ รคจติ 8.ตระหนกั ถึงคุณค่าความสำคญั 3.13ยาทาริดสีดวงทวารหนกั ของภมู ปิ ัญญาภมู ภิ เู บศรวบรวม และโรคผิวหนงั และเผยแพรภ่ ูมิปัญญาไทยและ 3.15 ยาทำลายพระสุเมรุ ตระหนกั ถึงภมู ิปัญญา นายเด 3.16ยาทพั ยาธิคุณ ชา ศริ ภิ ทั ร 4.ภูมภิ เู บศรวบรวมและ หมอพนื้ บา้ นกับการใช้กัญชาและ เผยแพรภ่ มู ิปญั ญาไทย กัญชงเป็นยา 5.ภมู ิปัญญษนายเดชา ศิริ ภทั ร หมอพ้นื บา้ น

-หอ้ งสมุด กศน.ตำบล -แหล่งเรยี นรชู้ ุม ก 218

แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ คร้ังท่ี 18

แผนการจดั การเรียนร้รู ายวชิ า รายวิชา เลอื กบังคบั ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปล หัวเร่อื ง 6.กญั ชาและกญั ช ครั้งที่ วัน/เดอื น/ปี หวั เรือ่ ง/ตวั ชี้วดั เนอ้ื หาสาระการเรยี นรู้ 18 ม.ี ค.64 6.กัญชาและกญั ชงกบั หัวเร่ือง 6...... การแพทย์แผนปัจจุบัน 1.ประวตั กิ ารใชก้ ัญชาและกัญ 1.บอกประวตั ิการใช้กญั ชา ชงทางการแพทย์แผนปจั จุบัน และกัญชงทางการแพทย์แผน 1.1ต่างประเทศ ปจั จบุ ันท้ังในต่างประเทศและ 1.2 ประเทศไทย ประเทศไทยได้ 2.กญั ชาและกญั ชงท่ีช่วย 2.บอกการใช้กัญชาและกัญ บรรเทาโรคแผนปจั จุบนั ชงทชี่ ่วยบรรเทาโรคพาร์กนิ 2.1กัญชาและกญั ชงกบั โรค สัน มะเรง็ ลมชัก พารก์ ินสัน ผิวหนัง และโรคต้อหนิ ได้ 2.2 กญั ชาและกญั ชงกบั 3.ประยกุ ตใ์ ช้ความรู้กัญชา โรคมะเรง็ และกัญชงทช่ี ่วยบรรเทาโรค 2.3 กัญชาและกัญชงกบั การ แผนปัจจุบันศกึ ษาโรคทสี่ นใจ อาการปวด ได้ 2.4กญั ชาและกัญชงกับโรค 4.วิเคราะห์การใช้น้ำมัน ลมชัก กญั ชาและกญั ชงกับ 2.5กัญชาและกัญชงกับโรค การแพทย์แผนปจั จบุ ันตาม ผิวหนงั สถานการณ์ทก่ี ำหนดใหไ้ ด้ 2.6กัญชาและกัญชงกับโรคต หิน 5.อธิบายผลิตภัณฑก์ ัญชา 3.การใช้นำ้ มันกัญชาและกัญ และกัญชงทางการแพทยไ์ ด้ กบั การแพทย์แผนปจั จุบัน 3.1นำ้ มนั กัญชาคืออะไร

บ กัญชงกัญชาอย่างชาญฉลาด รหัสวิชา สค32034 สือ่ /แหลง่ เรียนรู้ การวดั และ ลาย จำนวน 3 หนว่ ยกิต ประเมินผล ชงกับการแพทย์แผนปจั จุบนั -การสังเกต การจัดกระบวนการเรยี นรู้ -การชักถาม -การมสี ว่ นร่วม ครมู อบหมายใหต้ วั แทนนักศกึ ษานำรอ้ งเพลงชาตแิ ละสวด -หนงั สอื เรียน -ใบงาน -การสังเกต ญ มนตไ์ หวพ้ ระและรอ้ งเพลงสรรเสรญิ พระบารมกี ่อนเรียน -ใบความรู้ -การชักถาม น ทุกสัปดาห์ -อนิ เตอรเ์ นต็ -การมสี ว่ นร่วม -หอ้ งสมุด กศน.ตำบล -การตรวจ ขั้นท่ี ๑ กำหนดสภาพปญั หา ผลงาน -แหลง่ เรยี นรู้ชุมชน -บนั ทกึ การ 1. ครสู นทนาทกั ทายกับนกั ศึกษาแจง้ ตัวชว้ี ดั การเรยี นรู้ให้ หนงั สือเรียน เรยี นรู้ นักศกึ ษาทราบ -ใบความรู้ 2. ครใู หน้ กั ศึกษาทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น -ใบงาน 3. ครูใหน้ ักศึกษาดูยทู ูปกญั ชาและกัญชงกับการแพทย์ -อนิ เตอร์เน็ต แผนปัจจุบัน พรอ้ มทั้งใหน้ กั ศกึ ษาจดบันทึกการบรรยาย -หอ้ งสมุด กศน.ตำบล ของหมอเดชา ศิริภัทร หมอพนื้ บา้ น ประกอบ จากนนั้ ครู -แหล่งเรียนรชู้ ุมชน สรุปเพอื่ เชอ่ื มโยงเขา้ สเู่ น้ือหาท่จี ะเรียน รลด ขัน้ ท่ี ๒ แสวงหาความรู้ ครสู นทนากับนักเรยี นเกยี่ วกบั กัญชาและกญั ชงกับ การแพทยแ์ ผนปัจจบุ นั ครใู หน้ ักเรยี นแบ่งออกเปน็ 4 กลมุ่ แตล่ ะกลมุ่ สืบค้น ขอ้ มลู เกีย่ วกับเรอื่ งตอ่ ไปนี้ -กลมุ่ ท่ี 1 .ประวตั กิ ารใช้กัญชาและกัญชงทาง การแพทยแ์ ผนปัจจบุ ัน ต้อ 1.1ต่างประเทศ 1.2 ประเทศไทย ญชง -กลุ่มที่ 2 กญั ชาและกัญชงที่ชว่ ยบรรเทาโรค แผนปจั จบุ ัน 2.1กัญชาและกญั ชงกับโรคพาร์กนิ สัน 220

6.บอกวิธีการใช้ผลติ ภณั ฑ์ 3.2ลกั ษณะของน้ำมนั กัญชา กัญชาและกัญชงให้ได้ 3.3สตู รนำ้ มนั กัญชา ประโยชน์ทางการแพทย์ใน 3.4วธิ กี ารสกดั นำ้ มันกัญชา ปัจจุบันได้ 3.5วธิ ีการใช้น้ำมนั กัญชา 4.ผลิตภัณฑก์ ญั ชาและกัญชง 7.บอกวธิ ีการใชผ้ ลิตภณั ฑ์ ทางการแพทย์ กญั ชาและกญั ชงทาง 4.1ผลติ ภัณฑ์ THC การแพทย์นา่ จะไดป้ ระโยชน์ สงั เคราะห์ (Synthetic THC) ในการควบคุมอาการได้ 4.1.1ยาโดรนาบินอล (Dronabinol ) 8. ตระหนักถงึ ความสำคญั 4.1.2 นาบิโลน (Nabilone ของการนำกัญชาและกญั ชง 4.2 ผลติ ภณั ฑ์สารสกัดแคนา ไปใชแ้ ละลดอาการปวดใน นอยดจ์ ากธรรมชาติ ( Natura แพทย์แผนปัจจบุ ัน Purified Canabinoid) 4.3 ผลติ ภณั ฑส์ ารสกัด CBD 4.4 ผลิตภัณฑ์สำหรบั สตั ว์ 5. การใชผ้ ลิตภัณฑ์กัญชาแล กญั ชงให้ได้ประโยชนท์ าง การแพทย์ในปจั จุบัน 5.1 ภาวะคลนื่ ไสอ้ าเจียน 5.2โรคลมชกั ทีร่ กั ษายากและ โรคลมชักทดี่ ้ือต่อยารักษา

2.2 กญั ชาและกัญชงกับโรคมะเรง็ 221 2.3 กญั ชาและกัญชงกับการลดอาการปวด 2.4กญั ชาและกญั ชงกบั โรคลมชัก 2.5กญั ชาและกัญชงกบั โรคผิวหนงั ง 2.6กญั ชาและกญั ชงกบั โรคต้อ - กลุ่มท่ี 3 .การใช้นำ้ มนั กญั ชาและกญั ชงกับ การแพทยแ์ ผนปัจจบุ ัน ) 3.1นำ้ มันกัญชาคืออะไร 3.2ลักษณะของนำ้ มนั กญั ชา 3.3สูตรนำ้ มันกัญชา e) 3.4วธิ กี ารสกดั นำ้ มันกญั ชา าบิ 3.5วธิ ีการใช้น้ำมันกญั ชา al -กลุ่มที่ 4 ผลติ ภัณฑ์กัญชาและกัญชงทาง การแพทย์ D 4.1ผลติ ภณั ฑ์ THC สงั เคราะห์ (Synthetic THC) 4.1.1ยาโดรนาบนิ อล (Dronabinol ) ละ 4.1.2 นาบิโลน (Nabilone) 4.2 ผลิตภณั ฑส์ ารสกัดแคนาบินอยด์จาก ธรรมชาติ ( Natural Purified Canabinoid) 4.3 ผลติ ภัณฑส์ ารสกดั CBD ะ 4.4 ผลติ ภัณฑ์สำหรับสัตว์ กลุ่มท่ี 5 การใชผ้ ลติ ภณั ฑก์ ัญชาและกญั ชงให้ได้ ประโยชนท์ างการแพทย์ในปจั จุบนั 5.1 ภาวะคล่ืนไสอ้ าเจียน

หัวเร่อื ง 7. ใช้กัญชาและกัญ 5.3 ภาวะกล้ามเนอ้ิ หดเกรง็ ใ ชงเปน็ ยาอยา่ งรู้คุณค่าและ ผปู้ ่วยโรคปลอกประสาทเสื่อม ชาญฉลาด แข็ง 1.บอกความเชื่อและความ 5.4 ภาวะปวดประสาท จริงเก่ยี วกบั กัญชาและกัญชง 6.การใช้ผลิตภัณฑก์ ัญชาและ ทางการแพทย์ได้ กัญชงทางการแพทยน์ า่ จะได้ 2บอกวธิ ีใชผ้ ลติ ภณั ฑ์กญั ชา ประโยชน์ในการควบคุมอากา และกญั ชงทางการแพทย์ใน หัวเร่อื ง 7 อนาคตใหไ้ ดป้ ระโยชน์ได้ 1.ความเชอื่ และความจริง 3.บอกข้อแนะนำก่อน เกีย่ วกบั กญั ชาและกัญชงทาง ตดั สนิ ใจใชผ้ ลติ ภณั ฑ์กญั ชา การแพทย์ และกญั ชงทางการแพทย์ได้ 1.1ความเชื่อเก่ยี วกับกัญชา 4.บอกวธิ ีการวางแผนการ และกญั ชงทางการแพทย์ รกั ษาด้วยผลติ ภัณฑ์กัญชา 1.2 ความจริงเก่ียวกบั กัญชา และกญั ชงได้ และกัญชงทางการแพทย์ 5.อธิบายวิธกี ารเริม่ ใช้ 2.การใชผ้ ลิตภัณฑก์ ัญชาและ ผลิตภัณฑ์กญั ชาและกญั ชง กัญชงทางการแพทยใ์ นอนาค ในทางการแพทยไ์ ด้ ใหไ้ ดป้ ระโยชน์ 3.ข้อแนะนำก่อนตดั สินใจใช้ ผลติ ภณั ฑ์กัญชาและกญั ชงทา การแพทย์ 4.การวางแผนการรกั ษาดว้ ย ผลติ ภณั ฑ์กญั ชาและกัญชง

ใน 5.2โรคลมชักท่ีรักษายากและโรคลมชักทดี่ ือ้ ต่อยา ม รกั ษา 5.3 ภาวะกลา้ มเนอ้ิ หดเกร็งในผูป้ ว่ ยโรคปลอก ประสาทเสื่อมแข็ง ะ 5.4 ภาวะปวดประสาท 6.การใช้ผลิตภัณฑ์กญั ชาและกญั ชงทางการแพทย์นา่ จะ าร ไดป้ ระโยชนใ์ นการควบคมุ อาการ ข้นั ท่ี ๒ แสวงหาความรู้ (ตอ่ ) ครสู ุ่มให้นกั ศึกษาแตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมานำเสนอ ง ครใู ห้นักศึกษาดู ยทู ปู เรอ่ื ง ใชก้ ญั ชาและกัญชง เป็นยาอย่างรู้คุณค่าและชาญฉลาด ครูใหน้ ักศึกษารว่ มกันแสดงความคิดเหน็ โดยครูใช้คำถาม ดังน้นี ักศึกษาเห็นด้วยกบั า- แนวคดิ เร่ืองกัญชาและกญั ชงกบั การแพทยแ์ ผนปัจจุบันตาม แนวคิดใดเพราะเหตใุ ดโดยครูแบ่งกล่มุ ะ - +ใหน้ ักศึกษาคน้ คว้าเรือ่ งใดบา้ งทั้งหมด 5 กลุ่ม คต ขัน้ ที่ ๓ การปฏบิ ัตินำไปใช้ 222 -ครรู ่วมสรุปกับนกั ศึกษาในเร่ืองทเ่ี รยี นรู้ ใช้กญั ชา และกัญชงเปน็ ยาอย่างรู้คณุ ค่าและชาญฉลาด าง ในประเทศไทย สรุปเปน็ Mind Mappingใช้ กัญชาและกัญชงเปน็ ยาอยา่ งรคู้ ุณคา่ และชาญ ฉลาดความเช่อื และความจริงเกยี่ วกับกัญชาและ กัญชงทางการแพทย์ 1.1ความเชื่อเกีย่ วกบั กัญชาและกัญชงทาง การแพทย์

6.บอกข้อห้ามใชผ้ ลติ ภัรฑท์ ่มี ี 5.การเริม่ ใช้ผลิตภัณฑก์ ญั ชา สาร THCและ CBD เป็น และกญั ชงในทางการแพทย์ ส่วนประกอบได้ 6.ขอ้ ห้ามใช้ผลติ ภณั ฑท์ ่ีมาสา 7. วิเคราะหส์ ถาการณ์ท่ี THCและCBDเปน็ ส่วนประกอ กำหนดให้ทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับข้อ 7.ขอ้ ควรระวังอนื่ ๆ ควรระวงั อนื่ ๆได้ 7.1ข้อควรระวังทางการแพท 8.ให้คณุ ค่าหลกั ธรรมนำชีวิต 7.2 ขนาดของกัญชาและกัญ พน้ พิษภยั จากกัญชาและกัญ ชงในทางการแพทย์ ชงได้ 7.2.1 ขนาดยากญั ชาและกัญ 9.บอกข้อห้ามในการใชก้ ัญชา ชงท่เี หมาะสม และกญั ชงได้ 7.2.2 ปจั จัยท่ีมผี ลต่อขนาด 10.บอกวธิ กี ารถอนพิษ กญั ชาและกญั ชงท่เี หมาะสม เบอ้ื งตน้ จากการเมากญั ชา 7.2.3 คำแนะนำการใช้ขนาด และกัญชงได้ ของนำมนั กญั ชาและกัญชง 11.สามารถนำความรู้ท่ีได้ 7.3 ห้ามใช้น้ำมันกัญชาและ จากการศึกษาการใช้กัญชา กญั ชงทาบุหรี่ และกญั ชงเป็นยาไปแนะนำ 7.4สารตกค้างจากการสกดั บุคคลในครอบครัวหรือบุคคล น้ำมนั กัญชาและกญั ชง หรือชมุ ชนได้ 7.5 ความปลอดภัยของน้ำมัน 12.ตระหนกั ถงึ คุณคา่ ของ กัญชาและกญั ชง การนำกญั ชาและกัญชงไปใช้ 7.6สายพนั ธุ์กญั ชาและกญั ชง เปน็ ยาได้ เหมาะสมกบั บางโรค 8.ขอ้ ห้ามในการใช้กัญชาและ กัญชง

1.2 ความจรงิ เกีย่ วกบั กัญชาและกัญชงทาง 223 การแพทย์ าร 2.การใช้ผลติ ภัณฑ์กญั ชาและกัญชงทางการแพทย์ อบ ในอนาคตให้ได้ประโยชน์ 3.ข้อแนะนำก่อนตัดสินใจใช้ผลิตภณั ฑก์ ญั ชาและ ทย์ กญั ชงทางการแพทย์ ญ 4.การวางแผนการรักษาด้วยผลิตภัณฑก์ ญั ชาและ กญั ชง ญ 5.การเรมิ่ ใช้ผลิตภณั ฑ์กัญชาและกัญชงในทาง การแพทย์ ด 6.ขอ้ หา้ มใชผ้ ลติ ภณั ฑ์ท่ีมาสาร THCและCBDเป็น สว่ นประกอบ ด 7.ขอ้ ควรระวังอื่นๆ 7.1ข้อควรระวังทางการแพทย์ ะ 7.2 ขนาดของกัญชาและกัญชงในทางการแพทย์ 7.2.1 ขนาดยากญั ชาและกัญชงทเี่ หมาะสม 7.2.2 ปัจจยั ท่ีมผี ลตอ่ ขนาดกัญชาและกญั ชงท่ี เหมาะสม น 7.2.3 คำแนะนำการใช้ขนาดของนำมนั กัญชาและ กัญชง ง 3 หา้ มใช้นำ้ มนั กัญชาและกญั ชงทาบุหรี่ 4สารตกคา้ งจากการสกัดนำ้ มันกญั ชาและกัญชง ะ 7.5 ความปลอดภัยของน้ำมันกัญชาและกญั ชง 7.6สายพนั ธุ์กัญชาและกัญชงเหมาะสมกบั บางโรค

9.การถอนพิษเบ้ืองต้นจากกา เมากญั ชาและกัญชง

าร 8.ขอ้ หา้ มในการใช้กัญชาและกญั ชง 9.การถอนพษิ เบื้องต้นจากการเมากัญชาและกัญ ชง ขัน้ ที่ ๔ การประเมนิ ผลการเรียนรู้ -ครูสงั เกตการณร์ ่วมกจิ กรรม การมสี ่วนร่วมของนกั ศึกษา -การทำแบบทดสอบ -การทำงานใบงาน การทำรายงานรปู เลม่ สง่ ครผู สู้ อนโดย สืบค้นจากสมาร์ทโฟนของผูเ้ รียน 224

225 ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย 1 วชิ ากัญชาและกญั ชงเพอ่ื ใชเ้ ปน็ ยาอย่างชาญฉลาด 1. เหตุใดประชาชนจงึ ตอ้ งเรยี นรู้เกี่ยวกับกญั ชาและกญั ชงอย่าง 5. ขอ้ ใดถูก “คนไทยสามารถปลกู กญั ชาไดบ้ า้ นละ 6 ต้น รู้เทา่ ทนั จรงิ หรือไม่” ก. เนื่องจากมกี ารเปลี่ยนแปลงของกฎหมายที่เปดิ กวา้ งให้ใชก้ ญั ชา ก. จรงิ โดยให้รวมกลุ่มเป็นสโมสรผปู้ ลกู กญั ชา และเปดิ ใหม้ รี ้าน เปน็ ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ ขายกัญชาไดโ้ ดยรฐั บาลควบคุมเอง ข. ประชาชนในประเทศไทยมคี วามต่ืนตวั ใหค้ วามสนใจการใช้ ข. จริง โดยใหม้ กี ารปลกู กญั ชาในบ้าน รวมถงึ ครอบครองกญั ชา ประโยชนจ์ ากกญั ชาและกญั ชงทางการแพทย์ เพ่ือการรักษาโรค ได้ไมเ่ กิน 50 กรมั เป็นไปอย่างกวา้ งขวางมากข้นึ ค. ไมจ่ ริง ยงั ไม่สามารถทำได้ ณ ขณะน้ี (พ.ย. 62) กฎหมาย ค. ประชาชนจะได้มีความรใู้ นการนำกญั ชาและกญั ชงไปใช้เองได้ ไทยยงั ไม่อนญุ าตให้ประชาชนปลกู กญั ชาอย่างเสรี อย่างเสรี ง. ถกู ทั้งข้อ ก. และ ข. ง. ถกู ทงั้ ข้อ ก. และ ข. 6. ข้อใดไมถ่ กู ต้อง 2. ข้อใดถกู “ผปู้ ว่ ยสามารถหาซ้ือยากัญชารักษาตนเองได้ไม่ผิด ก. พชื กัญชงเป็นพชื ตระกลู เดยี วกบั กญั ชา แตม่ ีความแตกตา่ ง กฎหมายจรงิ หรือไม่” ด้านปรมิ าณสาร THC ซึ่งกัญชงมปี ริมาณสาร THCนอ้ ยกว่าพืช ก. ไม่จริง เพราะกฎหมายยังไม่อนญุ าตให้ผปู้ ว่ ยหาซือ้ กัญชาท่ีขาย กัญชามาก ตามท้องตลาด หรือออนไลนไ์ ด้ ข. พืชกัญชงมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศอินเดยี ทางภาค ข. จริง เนอ่ื งจากผปู้ ว่ ยยงั ไม่สามารถรับการรักษาจากคลินิกกัญชา ตะวนั ตกเฉยี งเหนอื ของเทือกเขาหมิ าลัย ทางการแพทย์ของโรงพยาบาลได้ ค. พืชกญั ชา มชี ่อื วทิ ยาศาสตร์ คอื Cannabis sativaL. เป็น ค. จริง เนอ่ื งจากกญั ชาทข่ี ายตามท้องตลาดมีคณุ ภาพเหมือนกัน พชื ในวงศ์ Cannabaceaeเปน็ ไมย้ นื ต้น ลาต้นตง้ั ตรง และไมเ่ ป็นอันตรายแตผ่ ปู้ ว่ ย ง. ขอ้ ก. และ ข. ง. ถูกทั้งข้อ ข. และ ค. 7. กญั ชาและกัญชงอยูใ่ นสปชี ีสเ์ ดียวกนั จริงหรอื ไม่ 3. ขอ้ ใดไมถ่ กู ตอ้ ง ก. จริง กัญชงและกญั ชาจดั เป็นพชื ทอี่ ยูใ่ นสปชี สี เ์ ดยี วกนั มชี ่อื ก. สารสกดั หลกั จากกัญชา คือ “สาร Cannabinoid” มอี ยหู่ ลาย ทางวิทยาศาสตร์ คือ Cannabis sativaL. แตแ่ ตกตา่ งกนั ท่ี ชนดิ เชน่ แคนนาบไิ ดออล (Cannabidiol, CBD) สารเตตราไฮโดร ปรมิ าณ THC แคนนาบนิ อล (Tetrahydrocannabinol, THC) ข. จริง กญั ชงและกญั ชาจดั เป็นพชื ท่ีมีลกั ษณะคลา้ ยกัน ข. กัญชามฤี ทธิท์ ำใหเ้ สพตดิ ได้จริง โดยเกิดจากฤทธขิ์ องสารเตตรา และสามารถเรยี กไดอ้ กี ช่อื คือ เฮมพ(์ Hemp) ไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol, THC) ค. ถูกเฉพาะข้อข. ค. กญั ชามฤี ทธิ์ทำใหเ้ สพตดิ ได้ แตไ่ มร่ บกวนการทำงานของเซลล์ ง. ถูกท้งั ข้อ ก. และ ข. สมอง และไมท่ ำใหเ้ กดิ ความเสยี่ งต่อการเกิดโรคทางจติ เวช เช่น 8. ข้อใดถกู ตอ้ ง วิตกกังวล ก้าวร้าว ซมึ เศร้า เป็นตน้ ก. กัญชาและกญั ชง เปน็ พชื ทีม่ ีตน้ ตวั ผู้ ต้นตัวเมีย และตน้ กระ ง. สารสกดั จากพืชตระกูลกญั ชาในบางรูปแบบ สามารถนำมาใช้ เทย ประโยชนท์ างการแพทยไ์ ด้ แตจ่ ะต้องเปน็ ไปตามข้อบง่ ชมี้ ีหลักฐาน ข. กัญชาสายพนั ธ์ุของไทย เปน็ กญั ชาท่มี ีสาร CBD สงู กว่า THC ทางการแพทย์ทไ่ี ดม้ าตรฐานรองรบั เทา่ นน้ั ค. กญั ชาและกญั ชงเมอื่ นามาทานสดสามารถทำใหเ้ กิดการเมา 4. ข้อใดคอื หลกั การรเู้ ท่าทันสอ่ื ออนไลน์ เนือ่ งจากมสี าร THC ก. การคน้ หาขอ้ มูลในสอื่ ออนไลน์ ต้องตง้ั คาถามกบั ตัวเองทุกครั้ง ง. ถกู ทุกขอ้ ว่า ขอ้ มลู ดังกลา่ วมาจากไหน อย่าเชื่อสง่ิ ทีเ่ ห็นหรอื ได้ยินทกุ ครั้ง 9. สารใดท่มี คี วามสาคญั ทางยาของกญั ชามากท่สี ดุ จนกว่าจะรทู้ มี่ าของแหลง่ ข่าวมาจากไหน ก. สารฟลาโวนอยด์ ข. การตดิ ตามข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ ปัจจุบันถือว่าเปน็ ส่ิงสำคญั ข. สารกลมุ่ เทอปีน มาก เพราะช่องทางของสอ่ื ออนไลนท์ ่กี ระจายข่าวสารไดอ้ ย่าง ค. สารกลุ่มแคนาบินอยด์ รวดเร็ว เชน่ อนิ เทอรเ์ นต็ เฟซบ๊กุ ไลน์ และยูทบู เปน็ ตน้ จงึ ควร ง. ถกู ทกุ ขอ้ ตอ้ งระมดั ระวัง และรอบคอบในการรบั ขอ้ มลู จากสื่อออนไลน์ 10. ขอ้ ใดไม่ถูกตอ้ ง ค. การตรวจสอบข้อมลู หลาย ๆ ทาง โดยทาการสำรวจข้อมลู จาก ก. สารออกฤทธ์แิ คนนาบนิ อยด์พบมากท่ไี ทรโครม (Trichome) เวบ็ ไซต์ของกเู กลิ้ (www.google.com) ในเบอ้ื งต้น เพ่อื ดูท่ีมาของ ซึ่งเป็นเซลล์ขนของพชื มีลักษณะคลา้ ยตอ่ มนำ้ รูปทรงคล้ายเหด็ แหล่งขอ้ มลู สามารถสืบคน้ ข้อมลู ไปยังแหลง่ อา้ งองิ ของข่าวทร่ี ะบุ ข. สารสาระสำคญั ต่าง ๆ ท่อี อกฤทธใิ์ นพืชกัญชา คือ THC และ ไว้ เขา้ ไปสืบคน้ ข้อมลู จากเว็บไซตท์ นี่ า่ เช่ือถอื CBD

ง. ถกู ทกุ ข้อ 220 ค. สาร CBD คือ สารทีอ่ อกฤทธ์ิสง่ ผลใหม้ ีอาการมึนเมา หากมี การใช้ตอ่ เนอ่ื ง ทาใหเ้ กิดการเสพตดิ ได้ ง. พชื จะสร้างสารแคนนาบินอยดม์ ากทส่ี ดุ ในชอ่ ดอกตัวเมยี ท่ีไม่ ผสมพันธุ์ เมือ่ เทียบกบั ส่วนอน่ื ๆ ของพืช ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย 2 วิชากญั ชาและกญั ชงเพ่ือใชเ้ ป็นยาอย่างชาญฉลาด 11. ขอ้ ใดไมถ่ ูกตอ้ ง 16. ข้อใดเปน็ การใชป้ ระโยชนจ์ ากกญั ชาตามวตั ถุประสงค์ในกรณี ก. ผู้เสพกญั ชาและกญั ชงจะสบู ควนั กัญชาทาใหเ้ พ่ิมความเสย่ี งใน จำเป็น การเกิดมะเรง็ ปอดและในกญั ชายงั มีสารเคมที ี่เป็นอันตราย ก. ประโยชนข์ องทางราชการ สามารถเกดิ มะเรง็ ได้ ข. ประโยชน์ทางการแพทย์ ข. การสบู กญั ชาและกัญชงต่อเน่ืองจะเกดิ ปญั หาต่อระบบทางเดิน ค. ประโยชนใ์ นการศกึ ษาวจิ ัยและพัฒนา หายใจทาให้หลอดลมหดตวั เฉยี บพลันหัวใจเตน้ ชา้ ลงเกดิ การ ง. ถูกทกุ ข้อ หายใจชา้ ลงและติดขดั ค. การเสพกญั ชาและกญั ชงทาให้เกดิ ผลข้างเคยี งที่พบบอ่ ยคือ 17. ข้อใดคือข้อปฏิบัตทิ ่ีต้องทำตามกฎหมายที่เกย่ี วขอ้ งกบั กัญชา ปากแห้งตาแหง้ ตาแดงมึนงงตอบสนองตอ่ สิ่งรอบตวั ชา้ และกญั ชง ง. ถกู เฉพาะขอ้ ข. และค. ก. โพสต์ภาพ หรือขอ้ ความเพอ่ื โฆษณายาเสพตดิ มีโทษจาคกุ ไมเ่ กิน 2 ปี ปรบั ไมเ่ กิน 200,000บาท

221 12. ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถูกตอ้ งเกยี่ วกับผลขา้ งเคยี งของการใช้ ข. ใชอ้ บายหลอกลวง ขูเ่ ขญ็ ใช้กาลังประทุษรา้ ย ข่มขืนใจใหผ้ ้อู น่ื เสพ กัญชาและกัญชง จาคุก 1 -10 ปี และปรับตัง้ แต่ 100,000 -1,000,000 บาท ก. ผลขา้ งเคียงที่พบไมบ่ ่อยนักคือตาพรา่ มัวปวดหัวเคลม้ิ ค. ยุยงสง่ เสรมิ ใหผ้ ู้อ่ืนเสพ ไม่มโี ทษจำคกุ แตป่ รบั ไม่เกนิ 20,000บาท ข. ผลขา้ งเคยี งทพี่ บไดย้ ากควบคมุ การทรงตวั ร่างกายไดไ้ มด่ ี ง. ใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใชก้ ำลังประทษุ รา้ ย ข่มขนื ใจใหผ้ อู้ ่ืนผลติ จำนวนสเปริ ์มลดลงภาวะความดนั ตำ่ ภาวะซึมเศรา้ ท้องเสยี ตบั นำเขา้ สง่ ออก จาหนา่ ย ครอบครองเพือ่ จาหน่าย มีโทษเปน็ สองเท่า อักเสบ ของโทษทก่ี ฎหมายบัญญตั ไิ วส้ ำหรบั ความผิดน้ัน ๆ ค. กัญชาอาจจะทาใหม้ ภี าวะตน่ื ตวั มีความกระตอื รือรน้ ในการทา 18. ข้อใดไมถ่ กู ต้องเกีย่ วกับโทษของการฝา่ ฝนื กฎหมายทเ่ี ก่ียวขอ้ ง ส่งิ ต่างๆเนอื่ งจากสารสาระสำคญั ในกัญชา กับกญั ชาและกัญชง ง. ภาวะเสพตดิ กญั ชาจะทาใหผ้ ู้ใช้ยาเกิดการเสพติดไดย้ ากกว่า ก. กลุ่มผเู้ สพ (นอกเหนอื เพ่ือรกั ษาตามคาสงั่ แพทย์) มีบทลงโทษ จำคุก บหุ รี่แต่การใชอ้ ย่างตอ่ เนอื่ งทกุ วนั พบวา่ ประมาณรอ้ ยละ10 มี ไมเ่ กนิ 1ปี หรอื ปรับไมเ่ กิน 20,000บาท หรือทง้ั จำทง้ั ปรับ โอกาสเสพติดได้และเมอ่ื หยุดใช้ยาจะมีอาการถอนยาได้ ข. กลุ่มครอบครอง หรือจำหนา่ ยโดยไมไ่ ดร้ ับอนุญาต (ไมถ่ งึ 10 13. ข้อใดกล่าวถูกต้องเก่ียวกับประโยชน์ของกัญชาและกัญชง กโิ ลกรมั ) มบี ทลงโทษ จาคุกไม่เกนิ 5ปี หรือปรับไม่เกนิ 100,000 ทางการแพทย์ บาท หรือทัง้ จำท้ังปรบั ก. กัญชาสามารถลดอาการคลื่นไสอ้ าเจียนในผู้ที่รบั ยาเคมีบำบดั ค. กลมุ่ จำหนา่ ยโดยไม่ไดร้ บอนญุ าต (ปรมิ าณ 10กิโลกรัมข้ึนไป) มี หรอื เพมิ่ ความอยากอาหารในผู้ติดเชื้อและผปู้ ่วยเอดสร์ วมท้ัง บทลงโทษ จำคุกต้งั แต่ 1 -15 ปี และปรับ 100,000 -1,500,000 รักษาอาการปวดเรอื้ รังและการหดเกร็งของกล้ามเน้ือ บาท ข. กัญชาทางการแพทย์ไมถ่ อื เป็นยาประเภทใหม่เนอ่ื งจากกญั ชา ง. กลุ่มกรณเี พอ่ื จำหนา่ ย มบี ทลงโทษ จาคกุ ไมเ่ กิน 1 -15ปี และปรับ เปน็ ยาครอบจักรวาลหรือยารักษาโรคปัจจุบนั ท่ัวโลกเลือกใช้ ไม่เกนิ 20,000บาท กัญชาเป็นการรกั ษาลำดับแรก ค. กลุ่มโรคหรือภาวะทนี่ ่าจะไดป้ ระโยชนใ์ นการควบคมุ อาการ 19. ใครสามารถขออนุญาตปลูกกญั ชาได้ ตอ้ งการข้อมลู วชิ าการและศกึ ษาวจิ ยั สนับสนุนเพิ่มเตมิ เชน่ ก. หน่วยงานรฐั ทมี่ ีหนา้ ทศี่ กึ ษาวจิ ยั โรคพาร์กนิ สันโรคอัลไซเมอรโ์ รคปลอกประสาทอกั เสบโรควติ ก ข. เกษตรกรทร่ี วมกลมุ่ เป็นวิสาหกจิ ชุมชน กงั วลผู้ปว่ ยทีต่ อ้ งดแู ลแบบประคับประคองและผู้ป่วยมะเร็งระยะ ค. ผปู้ ระกอบวชิ าชพี เวชกรรม สดุ ท้าย ง. ถกู ทุกขอ้ ง. ถกู ทง้ั ขอ้ ก. และค. 14. ข้อใดเป็นไม่ใชผ่ ลกระทบต่อชมุ ชนและสังคม 20. ขอ้ ใดถกู ต้อง ก. กอ่ ใหเ้ กดิ ปัญหาอาชญากรรมตา่ งๆในชมุ ชน ก. ในตำรับยาแผนไทยทีม่ กี ารใชก้ ัญชา สว่ นใหญใ่ ช้กะหลี่กญั ชาในการ ข. เพ่ิมภาระการเสียภาษีของประชาชนเพราะรฐั บาลต้องนำภาษี เข้าตารับยา เนื่องจากทำใหเ้ กดิ การผ่อนคลาย ของประชาชนไปใช้จา่ ยในการแกไ้ ขปญั หายาเสพตดิ ข. ในตำรบั ยาแผนไทยทีม่ กี ารใช้กญั ชา สว่ นใหญ่ใชด้ อกกญั ชา ค. กอ่ ใหเ้ กดิ ปัญหาอบุ ตั เิ หตเุ นือ่ งจากฤทธขิ์ องกัญชา เนื่องจากมีปรมิ าณสาระสำคญั สงู ง. ถกู ทุกข้อ ค. ในตำรับยาแผนไทยทม่ี ีการใชก้ ญั ชา ส่วนใหญ่ใชใ้ บกัญชาในการเขา้ 15. ข้อใดไมถ่ ูกตอ้ ง ตำรับยา และจะไมใ่ ชเ้ ป็นยาเดย่ี ว ส่วนใหญ่จะใชเ้ ป็นยาตำรบั คอื ใช้ ก. ยาเสพตดิ ให้โทษหมายถึง สารเคมหี รอื วัตถุชนิดใด ๆ ซ่ึงเมื่อ ร่วมกบั สมุนไพรอื่น ๆ เสพเขา้ สรู่ า่ งกายไม่ว่าจะโดยรบั ประทาน ดม สบู ฉดี หรอื ด้วย ง. ถูกทั้งขอ้ ก. และ ค. ประการใด ๆ แล้วทำใหเ้ กดิ ผลตอ่ รา่ งกายและจิตใจในลกั ษณะ 21. ตำรับยาศขุ ไสยาศนท์ มี่ ีกญั ชาเป็นสว่ นผสม มสี รรพคุณใด สาระสำคญั เชน่ ต้องเพมิ่ ขนาดการเสพขน้ึ เปน็ ลำดบั ก. แกค้ ล่นื เหยี นอาเจยี น ข. ยากญั ชาถกู บัญญตั ไิ วใ้ นกฎหมายวา่ เป็นยาเสพตดิ ให้โทษ ข. ช่วยใหน้ อนหลับ เจริญอาหาร ประเภท 3ตามมาตรา 7โดยกำหนดไว้วา่ ห้ามปลกู หา้ มเสพ ห้าม ค. บรรเทาอาการทอ้ งผกู จำหน่ายและมไี ว้ครอบครอง ง. บรรเทาอาการปวดศีรษะ ค. กัญชามีสารวัตถุออกฤทธ์ิ ชื่อว่า “เตตราไฮโดรแคนนาบีนอล” 22. ข้อใดกลา่ วถูกตอ้ งเกยี่ วกับ พระคัมภีร์ปฐมจินดา (tetrahydrocannabinol,THC) และถูกบญั ญตั ไิ ว้ในประกาศ กระทรวงสาธารณสขุ เร่ืองระบุชื่อวัตถุออกฤทธ์ิในประเภท 1

222 ง. ตามพระราชบญั ญตั ิยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ (ฉบับท่ี 7) เปิดโอกาสให้ ก. เป็นตำราวา่ ดว้ ยโรคลมและโรคเลือดของทงั้ สตรีและบรุ ษุ มียา 1ตา สามารถนำกัญชาและพชื กระท่อมไปทำการศึกษาวิจยั เพือ่ รบ คือ ยาแก้โรคสาหรบั บุรุษและสตรี ใช้รกั ษากามโรค ปสั สาวะเปน็ ประโยชนท์ างการแพทย์และสามารถนำไปใช้ในการรักษาภายใต้ โลหิต การดแู ลและควบคุมของแพทย์ผู้ได้รับอนุญาตได้ ข. เปน็ ตำราวา่ ดว้ ยความเส่อื มของร่างกายทาให้ผอมแห้ง แรงนอ้ ย สุขภาพทรุดโทรมในพระคัมภีร์น้มี กี ัญชาเป็นส่วนผสมถึง 5 ตารับ ค. เป็นตำรากมุ ารเวชศาสตร์ของแพทย์แผนไทย มยี าเข้ากัญชา 1ตารับ คือ “ไฟอาวธุ ” ซึ่งใช้รักษาโรคตานทราง ง. เป็นตำรานรเี วชศาสตรข์ องการแพทย์แผนไทย มยี าเข้ากญั ชา 3 ตำรบั ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย 3 วชิ ากัญชาและกญั ชงเพอื่ ใชเ้ ป็นยาอย่างชาญฉลาด 23. ขอ้ ใดไม่ใชต่ ำรับในพระคัมภรี ม์ หาโชตรตั 26. ข้อใดถกู “การดมื่ หรือรับประทานผลิตภัณฑ์ท่มี กี ัญชาเปน็ สว่ นประกอบทำให้ออกฤทธช์ิ า้ กวา่ การสบู กัญชาหรอื ใช้น้ามนั ก. ยาแก้ลมอุทธังคมาวาตะ กัญชาหยดใต้ล้นิ จริงหรอื ไม่” ก. ไมจ่ รงิ เนอื่ งจากมีการรับเขา้ ทางปากเหมอื นกัน จึงทำใหม้ ีการออก ข. ยาแก้กษยั เหลก็ ฤทธเ์ิ ท่ากัน ข. จริง เนือ่ งจากการดมหรอื รบั ประทานผลติ ภัณฑ์ทมี่ กี ัญชาเปน็ ค. ยาแก้ริดสีดวงมหากาฬ สว่ นประกอบจะต้องผา่ นทางเดนิ อาหารกอ่ นจึงจะเกดิ การดดู ซึม ทำ ให้ออกฤทธ์ิชา้ แต่การสบู กัญชาหรือใช้นามันกญั ชาหยดใตล้ ้ินจะซึม ง. ยาแก้อาการบิดมวนทอ้ งและทอ้ งเสยี ในสตรี เข้าส่กู ระแสเลือดโดยตรงจงึ ออกฤทธเ์ิ ร็วกว่า ค. ไมจ่ ริง เนื่องจากการหยดใต้ลนิ้ จะทาใหม้ ีโอกาสสัมผสั นา้ ลายใน 24. ขอ้ ใดไม่ถูกตอ้ ง ระยะเวลานานกว่าการรบั ประทาน ดังนน้ั นำ้ ลายจะทำลาย สาระสำคญั ท่อี อกฤทธ์ิและมผี ลทำให้ออกฤทธ์ไิ ด้ชา้ ลง ก. แพทย์ ทันตแ์ พทย์ และเภสัชกรไดร้ บั การยกเวน้ ว่าใหส้ ามารถ ง. ผดิ ทกุ ขอ้ 27. ข้อใดถกู “กัญชาและกญั ชงสามารถใช้ในการรักษาโรคในสตั ว์ ปรุงยาเพ่ือประโยชนข์ องคนไข้เฉพาะรายของตนได้ ได้จรงิ หรือไม่” ก. จริง ในอดตี ประเทศไทยมกี ารใชก้ ญั ชาและกญั ชงเพอื่ ช่วยในการ ข. แพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยกุ ต์ และหมอพืน้ บ้านไดร้ ับ ขนุ หมูให้อว้ นพี เพมิ่ การอยากอาหารในสัตว์ปว่ ย ข. จริง มกี ารนำมาใช้รักษาโรคในสัตวโ์ ดยกลมุ่ โรคเหมือนกับการใช้ ขอ้ ยกเวน้ ใหส้ ามารถปลูกพชื เสพตดิ เองได้ รักษาในคน เช่น ช่วยลดการปวดจากการรบั คโี ม ค. แพทยแ์ ผนไทย แผนแพทยไ์ ทยประยุกต์ และหมอพ้ืนบา้ น หาก ต้องการปลูกตอ้ งรว่ มมือกบั หน่วยงานของรัฐและขออนญุ าตปลกู อย่างถูกต้อง ง. ถกู ทง้ั ขอ้ ก. และ ข. 25. ข้อใดถกู ตอ้ ง “กัญชาช่วยลดความดนั จรงิ หรอื ไม่” ก. จริง สารในกัญชามผี ลทาใหห้ ลอดเลอื ดขยาย ดงั นั้นจึงมีผลทำให้ ความดันลดลงไดจ้ ริง ข. จริง ในปัจจุบนั กญั ชาสามารถใช้แทนยาลดความดันได้ เนอ่ื งจากไม่มผี ลขา้ งเคียงใดๆ ค. ไมจ่ รงิ เน่ืองจากสารในกญั ชามผี ลทำให้หลอดเลือด

223 หดตัว จงึ ทำใหค้ วามดันเพ่ิมสงู ขน้ึ ค. ไม่จรงิ เนือ่ งจากโรคในคนและในสตั วม์ โี อกาสเกดิ ไดเ้ หมือนกัน แต่ ง. ถกู ทกุ ข้อ การนำกญั ชาและกัญชงมาใช้ในคนและสตั วจ์ ะสง่ ผลท่ีแตกตา่ งกนั 25. ขอ้ ใดถูกตอ้ ง “กัญชาชว่ ยลดความดนั จริงหรอื ไม่” ง. ถกู ท้ังข้อก. และ ข. ก. จริง สารในกัญชามผี ลทาใหห้ ลอดเลือดขยาย ดังนัน้ จึงมีผลทำให้ 28. ข้อใดไมใ่ ช่กล่มุ ทมี่ กี ารใช้ผลติ ภัณฑก์ ญั ชาโดยกรมการแพทย์ ความดันลดลงไดจ้ รงิ ในการดแู ลรกั ษา หรอื ควบคมุ อาการของผู้ปว่ ย โดยมหี ลกั ฐานทาง ข. จรงิ ในปัจจบุ นั กัญชาสามารถใช้แทนยาลดความดันได้ วชิ าการทม่ี ีคุณภาพสนบั สนุนชดั เจน เนือ่ งจากไมม่ ผี ลข้างเคียงใดๆ ก. ภาวะคลืน่ ไสอ้ าเจียนจากเคมีบาบดั ค. ไม่จริง เนอ่ื งจากสารในกัญชามผี ลทำให้หลอดเลือด ข. โรคลมชกั ทร่ี กั ษายาก หดตัว จึงทำให้ความดนั เพ่มิ สงู ข้นึ ค. ภาวะกล้ามเนื้อหดเกรง็ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ง. โรคไทรอยด์เป็นพิษ 29. ข้อใดถกู ต้องเกีย่ วกับขอ้ งแนะนำการใช้ผลติ ภณั ฑก์ ัญชา 30. ข้อใดไมถ่ กู ตอ้ งเก่ยี วกับการวางแผนการรกั ษาด้วยผลติ ภณั ฑ์ เพอื่ บรรเทาความปวดในผ้ปู ว่ ยท่ีได้รบั การดูแลแบบ กญั ชาและกญั ชง ประคับประคอง หรอื ผปู้ ่วยในวาระสุดท้ายของชวี ิต ก. วางเป้าหมายการเรมิ่ รักษา และการหยดุ ใช้ แพทยค์ วรหารอื ก. ไม่แนะนำให้ใช้ผลติ ภณั ฑ์กญั ชาเปน็ การรักษาเริ่มตน้ ร่วมกับผปู้ ว่ ยใหช้ ดั เจน ข. ผู้ปว่ ยทไ่ี ดร้ ับยาแก้ปวดอยา่ งสมเหตผุ ลแลว้ ยังมีอาการปวดมา ทง้ั ข. กำกบั ตดิ ตาม ทบทวนทุกสัปดาห์ โดยแพทย์ หรอื เภสชั กร ทีย่ าแกป้ วดที่ไดร้ บั อยูใ่ นปริมาณทเี่ หมาะสมแล้ว ผู้เชย่ี วชาญ ค. แนะนำให้ใชผ่ ลิตภัณฑ์กัญชาเปน็ การรกั ษาเสรมิ หรอื ควบรวม ค. วางแผนการใช้ในปรมิ าณมากเท่าทตี่ ้องการ เพอ่ื ใหส้ ามารถเหน็ กับวธิ ีการรักษาตามมาตรฐาน ผลการรักษาไดร้ วดเรว็ ทส่ี ุด ง. ถกู ทุกขอ้ ง. ใหค้ ำแนะนำผปู้ ่วยเมือ่ ใชผ้ ลิตภณั ฑ์กญั ชาและกญั ชงทางการแพทย์

224 31. การเรมิ่ ใช้ผลิตภัณฑก์ ญั ชาและกญั ชงกับผู้ป่วยในทาง 35. สารออกฤทธ์ใิ นพืชกัญชาและกญั ชงในขอ้ ใดเก่ียวข้องกันมาก การแพทย์ ต้องคำนึงถงึ ขอ้ ปฏบิ ตั ิใด ทีส่ ุด ก. การซกั ประวตั อิ าการป่วยในปจั จุบัน ประวัติการเจบ็ ปว่ ยใน ก. CDB กับ TDB อดตี ข. CBD กบั THC ข. การกำหนดขนาดยา และการบรหิ ารยา ค. CDB กบั TCB ค. ความสามารถในการจ่ายค่ารักษาของผูป้ ว่ ยจนจบการรักษา ง. CBB กับ THC ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข. 36. อาการในขอ้ ใดจัดเป็นพษิ ภยั สำคัญทีส่ ดุ เมอื่ รา่ ยกายได้รับสาร 32. ข้อใดถูกต้องเก่ยี วกบั ขอแนะนำก่อนตัดสนิ ใจใชผ้ ลติ ภณั ฑ์ ออกฤทธิจ์ ากพชื กัญชา กัญชาและกญั ชงทางการแพทย์ ก. ทำให้เกิดอาการวิงเวยี นศรี ษะ ก. การประเมนิ ผู้ป่วย ขอ้ มูลประวตั ิท่เี กย่ี วข้องกับอาการของ ข. ทำให้เกิดอาการมึนเมาและประสาทหลอน ผู้ปว่ ย ค. ทำให้เกดิ ความเพลดิ เพลนิ สนุกสนสนเกนิ ขอบเขต ข. การแจ้งใหท้ ราบ และตัดสนิ ใจร่วมกัน ง. ทำให้เกดิ อาการอยากรับประทานอาหารมากย่ิงขน้ึ ค. ความสมั พันธร์ ะหวา่ งแพทยก์ ับผู้ปว่ ย เปน็ พ้ืนฐานในการ 37. ขอ้ ปฏิบตั ิประการสำคัญทีส่ ดุ ในการใช้นำ้ มันกัญชาเพอ่ื รกั ษา ยอมรับการรกั ษาพยาบาล รวมถงึ การประเมนิ ผู้ป่วยว่าเหมาะสม โรคคือข้อใด ทจี่ ะใช้ผลิตภณั ฑก์ ัญชาและกญั ชงหรอื ไม่ ก. ใชน้ ้ำมนั กญั ชาในปริมาณนอ้ ยที่สดุ ง. ถูกทกุ ขอ้ ข. ใช้นำ้ มันกัญชาตามท่แี พทย์สงั่ เท่านั้น 33. ข้อใดไม่ถูกต้องเกย่ี วกับข้อห้ามในการใชก้ ญั ชาและกัญชง ค. ใช้นำ้ มันกัญชาให้ตรงกบั ชนิดของโรค ก. ห้ามใช้ในผู้ป่วยโรคหัวใจขนั้ รนุ แรงทีม่ ีอาการ ง. ใช้นำ้ มันกัญชาจากแหล่งทเ่ี ชอ่ื ถือได้เทา่ น้ัน ความดันตก 38. พิษของกัญชามีผลกระทบตอ่ ระบบร่างกายส่วนใดมากที่สดุ ข. ห้ามใชใ้ นสตรตี งั้ ครรภ์ หรอื ใหน้ มบตุ ร (อาจทำให้เด็กในครรภ์ ก. ปอด นา้ หนักนอ้ ย และมพี ฒั นาการชา้ ) ข. ผิวหนัง ค. หา้ มใชใ้ นผู้ปว่ ยสงู อายุ ควรใช้ในผู้ท่มี ีอายตุ ่ำกวา่ 25 ปี เพอ่ื ให้ ค. สมองและประสาท เกดิ ประสทิ ธิภาพดี ง. หัวใจและหลอดเลอื ด ง. ห้ามใช้ในผ้เู ป็นโรคตับแขง็ (หากจำเป็นใหล้ ดยาลง เน่ืองจาก 39. ข้อใดเป็นขอ้ ปฏิบัตกิ อ่ นการตัดสนิ ใจใชผ้ ลิตภณั ฑก์ ญั ชาและกัญ กญั ชาใช้ตบั ในการกำจัดยาเปน็ หลกั ) ชงทางการแพทยท์ ่ีถกู ต้องที่สุด 34. ขอ้ ใดเป็นวธิ กี ารถอนพิษเบอื้ งต้นจากการเมากัญชาและ ก. ประเมินอายุของผู้ปว่ ยเปน็ อันดับแรก กญั ข. ประเมนิ ความพร้อมทางร่างกายของผู้ปว่ ยเป็นอันดับแรก ก. ดื่มนา้ มะนาวผสมนำ้ ผึ้ง ค. ประเมนิ ความพร้อมของเคร่อื งมือแพทยแ์ ละยาเปน็ อันดับแรก ข. ดืม่ สมนุ ไพรรางจืด ง. ประเมนิ ความเหมาะสมท่ีจะใชผ้ ลิตภณั ฑก์ ัญชาและกญั ชงเป็นอันดับ ค. รบั ประทานกล้วยน้ำว้าสุกวนั ละสามเวลา เชา้ กลางวัน เยน็ แรก ง. ถกู ทกุ ข้อ 40. ข้อใดไม่ถกู ต้องเก่ยี วกบั โทษของกัญชาและกญั ชง ก. ไม่ควรเสพกญั ชาทั้งก่อนและระหว่างการต้ังครรภเ์ พราะอาจมี ผลเสยี ต่อมารดาและทารกในครรภ์ ข. ควันจากกญั ชามคี ุณสมบตั ใิ กลเ้ คยี งกับควันบหุ ร่ีทีเ่ ป็นสารก่อ ค. มีความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งการเสพกญั ชากบั การเกดิ เน้อื งอกในลูก อัณฑะของเพศชาย ง. กัญชามผี ลกระทบตอ่ ร่างกายแตไ่ มม่ ีผลกระทบตอ่ จิตใจ

225 เฉลย 1. ง 21. ข 2. ก 22. ค 3. ค 23. ข 4. ง 24. ง 5. ค 25. ก 6. ค 26. ข 7. ก 27. ง 8. ก 28. ง 9. ค 29. ง 10. ค 30. ค 11. ข 31. ง 12. ค 32. ง 13. ง 33. ค 14. ข 34. ง 15. ข 35. ข 16. ง 36. ข 17. ค 37. ข 18. ง 38. ค 19. ง 39. ข 20. ค 40. ง

226