Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา (ระดับ ม.ต้น)

รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา (ระดับ ม.ต้น)

Published by thezeroii, 2021-08-20 11:22:12

Description: รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา (ระดับ ม.ต้น)

Search

Read the Text Version

เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ส�ำ นกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย จังหวัดนครศรธี รรมราช สำ�นกั งานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย ส�ำ นกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศึกษาธิการ

เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค23000123 ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สำ�นักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย จงั หวดั นครศรธี รรมราช ส�ำ นกั งานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย ส�ำ นักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ



คำ� นำ� ส�ำนักงาน กศน.จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้พัฒนาหลักสูตรรายวิชานครศรีธรรมราชศึกษา รหสั วชิ า สค23000123 ใหเ้ ปน็ รายวชิ าเลอื กเสรี สาระพฒั นาสงั คม ตามหลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบ ระดบั การศกึ ษา ข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยให้สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนในเน้ือหาสาระของนครศรีธรรมราช เพ่ือให้นักศึกษาได้เรียนรู้ถึงรากเหง้าความเป็นมา ความเป็นอยู่ และความเป็นไปของจังหวัดนครศรีธรรมราช เพ่ือบ่มเพาะให้ผู้เรียนเกิดความภาคภูมิใจ รัก ศรัทธาและหวงแหนในศิลปวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี ทรพั ยากรและสงิ่ แวดลอ้ มทางธรรมชาตขิ องจงั หวดั นครศรธี รรมราช และดำ� เนนิ ชวี ติ ตามวถิ ขี องชาวนครศรธี รรมราช ร่วมกันพัฒนาและสร้างสันติสุขให้เกิดกับจังหวัดนครศรีธรรมราช อีกท้ัง เพ่ือร่วมกันอนุรักษ์ สืบสานและสืบทอด ความเป็นนครศรีธรรมราชไปสู่คนรุ่นต่อๆ ไป จึงได้จัดท�ำเอกสารประกอบการเรียนรายวิชานครศรีธรรมราชศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ เล่มนี้ขึ้นมาเพ่ือให้นกั ศกึ ษา ได้นำ� ไปใช้ศกึ ษาเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง ขอขอบคุณ ผูท้ รงคณุ วฒุ ิทีเ่ ก่ยี วข้องทุกทา่ นทไ่ี ด้ให้ค�ำแนะนำ� และใหข้ อ้ มลู ที่เป็นประโยชนต์ อ่ การจัดทำ� เอกสารประกอบการเรียนเล่มนี้ และขอบคุณบุคลากรส�ำนักงาน กศน.จังหวัดนครศรีธรรมราชทุกคน ท่ีได้ร่วมกัน จัดทำ� เอกสารประกอบการเรยี นรายวิชานครศรีธรรมราชศึกษา เล่มนีจ้ นแล้วเสร็จ หวังเป็นอย่างย่ิงว่าเอกสารประกอบการเรียนรายวิชานครศรีธรรมราชศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เลม่ น้ี จะเปน็ ประโยชนท์ ้งั กับผูเ้ รียน ครผู สู้ อน และผทู้ สี่ นใจท่ัวไป และหากมีขอ้ บกพร่องประการใดใคร่ขอค�ำชแี้ นะ เพ่อื พฒั นาปรับปรงุ ต่อไป ส�ำนกั งาน กศน.จังหวัดนครศรธี รรมราช พฤษภาคม 2563



สารบัญ หน้า ค�ำนำ� สารบัญ คำ� แนะนำ� การใช้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 ประวตั ิศาสตร์นครศรธี รรมราช ................................................................................... 1 เรื่องท่ี 1 ลักษณะการตั้งถิน่ ฐานและการด�ำเนินชีวิตของผูค้ นในเขตจังหวดั นครศรธี รรมราช ....... 1 เร่อื งที่ 2 เหตุการณ์สมัยกอ่ นประวตั ศิ าสตร ์ ................................................................................. 3 เรอ่ื งท่ี 3 เหตกุ ารณ์สมยั แรกเรมิ่ ประวตั ิศาสตร ์ ............................................................................ 6 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 ลักษณะภูมิประเทศจังหวดั นครศรีธรรมราช ............................................................... 13 เรื่องที่ 1 ทต่ี ัง้ ขนาด และอาณาเขตจังหวดั นครศรีธรรมราช ........................................................ 13 เรอ่ื งท่ี 2 ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศจังหวัดนครศรธี รรมราช .................................................................. 14 เรื่องที่ 3 แมน่ ำ�้ ทีส่ ำ� คัญของจังหวดั นครศรีธรรมราช .................................................................... 15 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 ลกั ษณะภูมิอากาศจังหวดั นครศรีธรรมราช ................................................................. 20 เรื่องท่ี 1 ฤดกู าลของจงั หวดั นครศรีธรรมราช ............................................................................... 20 เรอ่ื งท่ี 2 ภยั ธรรมชาตทิ เี่ กิดข้ึนในจงั หวัดนครศรธี รรมราช ........................................................... 21 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 เศรษฐกจิ ของจังหวดั นครศรธี รรมราช ......................................................................... 31 เรื่องท่ี 1 เศรษฐกิจพอเพียง .......................................................................................................... 31 เรื่องท่ี 2 เศรษฐกจิ กับชมุ ชนในจังหวัดนครศรธี รรมราช . .............................................................. 35 เรื่องที่ 3 การรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกิจของจงั หวัดนครศรีธรรมราช ................................................. 38 เรอ่ื งที่ 4 แนวโน้มเศรษฐกจิ ของจงั หวัดนครศรธี รรมราช .............................................................. 39 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 5 การคมนาคมของจังหวดั นครศรีธรรมราช ................................................................... 44 เรือ่ งท่ี 1 การคมนาคมทางบกของจงั หวดั นครศรีธรรมราช ........................................................... 44 เรื่องท่ี 2 การคมนาคมทางรถไฟของจงั หวัดนครศรธี รรมราช. ....................................................... 49 เรอ่ื งที่ 3 การคมนาคมทางอากาศของจังหวดั นครศรธี รรมราช . ................................................... 51 เรื่องที่ 4 การคมนาคมทางนำ�้ ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ........................................................... 53

สารบญั (ต่อ) หนา้ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 6 ทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อมจังหวดั นครศรีธรรมราช ...................................... 55 เรอื่ งท่ี 1 ทรัพยากรป่าไมแ้ ละสตั วป์ า่ จงั หวัดนครศรธี รรมราช ...................................................... 55 เรื่องท่ี 2 ทรัพยากรน�ำ้ ................................................................................................................. 60 เรื่องท่ี 3 ทรพั ยากรทางทะเลและชายฝ่งั ทะเล จังหวดั นครศรีธรรมราช ....................................... 65 เรือ่ งที่ 4 ทรพั ยากรแรจ่ งั หวดั นครศรธี รรมราช ............................................................................. 70 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 7 ประชากรกับการเมอื งการปกครองจงั หวดั นครศรธี รรมราช ....................................... 75 เรอ่ื งที่ 1 ประชากรจังหวัดนครศรีธรรมราช .................................................................................. 75 เรอ่ื งที่ 2 บุคคลส�ำคัญจงั หวัดนครศรีธรรมราช ............................................................................. 78 เรอ่ื งที่ 3 ประชากร การเมอื ง และการปกครอง จังหวัดนครศรธี รรมราช .................................... 88 เรื่องท่ี 4 การเมืองการปกครองจังหวัดนครศรีธรรมราช ............................................................... 90 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 8 การจัดการศึกษาจงั หวดั นครศรีธรรมราช ................................................................... 93 เรื่องท่ี 1 ความเป็นมาของการศกึ ษาในจังหวัดนครศรีธรรมราช ................................................... 93 เรื่องที่ 2 การจัดการศกึ ษาในจงั หวัดนครศรีธรรมราช .................................................................. 94 เรื่องท่ี 3 หนว่ ยงานการศกึ ษาและสถานศกึ ษาทีจ่ ัดการศึกษา ...................................................... 96 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 9 ศาสนาจังหวัดนครศรธี รรมราช ................................................................................... 101 เรื่องที่ 1 ประวัติทางศาสนาในจงั หวัดนครศรธี รรมราช ................................................................ 101 เรอ่ื งท่ี 2 ศาสนาทีช่ าวจงั หวดั นครศรีธรรมราชสว่ นใหญน่ ับถือ ..................................................... 103 เรอ่ื งที่ 3 ความเชื่อทางศาสนาและพิธกี รรมอืน่ ๆ จังหวดั นครศรธี รรมราช .................................. 107 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 10 ประเพณแี ละวัฒนธรรมจงั หวัดนครศรีธรรมราช ...................................................... 109 เรอ่ื งที่ 1 ประเพณีที่เก่ียวเนื่องกับความกตัญญูกตเวที จงั หวัดนครศรธี รรมราช ........................... 109 เรอ่ื งที่ 2 ประเพณที เ่ี กย่ี วเนอ่ื งกบั ความสามคั คี จังหวดั นครศรีธรรมราช ..................................... 112 เรื่องท่ี 3 ประเพณีที่เกี่ยวเนอ่ื งกับความศรทั ธา จงั หวัดนครศรธี รรมราช ...................................... 115 เร่ืองท่ี 4 เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมจังหวดั นครศรธี รรมราช ......................................................... 118 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 11 โบราณสถานและโบราณวัตถจุ ังหวัดนครศรีธรรมราช ............................................... 125 เรื่องท่ี 1 โบราณสถานจงั หวดั นครศรีธรรมราช ............................................................................. 125 เรอ่ื งที่ 2 โบราณวัตถุ จงั หวัดนครศรีธรรมราช .............................................................................. 138

สารบัญ (ตอ่ ) หน้า หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 12 แหลง่ ท่องเท่ยี วในจงั หวดั นครศรธี รรมราช ................................................................ 147 เรื่องที่ 1 ค�ำขวัญสง่ เสริมการท่องเท่ยี วประจำ� จังหวัดนครศรธี รรมราช ........................................ 147 เรอ่ื งท่ี 2 ประเภทแหลง่ ทอ่ งเท่ียวในจงั หวดั นครศรีธรรมราช ....................................................... 147 เรื่องท่ี 3 แหลง่ ท่องเที่ยวประเภทชายทะเล ชายหาด ................................................................... 161 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 13 โครงการอนั เน่ืองมาจากพระราชดำ� ริในจังหวดั นครศรธี รรมราช ................................ 169 เร่ืองที่ 1 โครงการพัฒนาดา้ นแหลง่ นำ�้ ......................................................................................... 169 เรอื่ งที่ 2 โครงการพฒั นาดา้ นสิง่ แวดล้อม ..................................................................................... 177 เรอ่ื งท่ี 3 โครงการพัฒนาดา้ นส่งเสรมิ อาชพี ................................................................................. 179 เรอ่ื งที่ 4 โครงการพัฒนาด้านสวสั ดิการสงั คม/การศึกษา ............................................................. 180 เรอ่ื งท่ี 5 โครงการพฒั นาด้านแบบบูรณาการและโครงการพฒั นาด้านอน่ื ๆ . ............................... 183 จังหวัดนครศรีธรรมราช “โครงการพัฒนาพนื้ ทล่ี ุม่ น�ำ้ ปากพนงั อนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� ริ” หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 14 ปัญหาในจังหวัดนครศรีธรรมราช ............................................................................. 189 เรือ่ งท่ี 1 ปญั หาขยะมลู ฝอย ......................................................................................................... 189 เรื่องที่ 2 ปัญหายาเสพตดิ ............................................................................................................ 194 เรื่องที่ 3 ปัญหาการจราจร ........................................................................................................... 196 เรอ่ื งท่ี 4 ปญั หาการลักขโมย ........................................................................................................ 197 เรื่องท่ี 5 ปญั หาทางด้านเศรษฐกจิ ................................................................................................ 200 บรรณานุกรม ................................................................................................................................................... 206 คณะผูจ้ ัดทำ� ..................................................................................................................................................... 209

ค�ำแนะนำ� การใช้ เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ านครศรีธรรมราชศึกษา ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น เอกสารประกอบการเรียนรายวิชานครศรีธรรมราชศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เล่มนี้ เปน็ สอื่ การเรยี นรสู้ ำ� หรบั นกั ศกึ ษาระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ทล่ี งทะเบียนเรยี นรายวชิ านครศรีธรรมราชศึกษา รหัสวชิ า สค23000123 สาระการพัฒนาสงั คม ซึ่งนักศึกษาสามารถน�ำไปเรียนรู้ด้วยตนเองเพ่ือการเรียนรู้และตระหนักถึงรากเหง้า ของนครศรีธรรมราช ทงั้ ดา้ นความเปน็ มา ความเปน็ อยู่ และความเปน็ ไปของจงั หวดั นครศรธี รรมราช ทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ ความภาคภมู ใิ จ รกั ศรทั ธา และหวงแหนในศิลปวัฒนธรรมประเพณี ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม ทางธรรมชาติของจังหวัดนครศรีธรรมราช และดำ� เนนิ ชวี ติ ตามวถิ ขี องชาวนครศรธี รรมราช อกี ทง้ั รว่ มกนั อนรุ กั ษ์ สบื สานและสบื ทอดความเปน็ นครศรธี รรมราช ไปสู่คนร่นุ ต่อ ๆ ไป ท้งั น้ี นกั ศึกษาควรศกึ ษาและปฏบิ ตั ติ ามลำ� ดับ ดงั น้ี 1. เอกสารประกอบการเรียนเลม่ น้ี ได้จดั เนอื้ หาสาระใหผ้ ู้เรียนไดเ้ รียนรู้ จ�ำนวน 14 หนว่ ย การเรียนรู้ ดังน้ี 1.1 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 ประวตั ศิ าสตรน์ ครศรธี รรมราช 1.2 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ลักษณะภมู ปิ ระเทศนครศรีธรรมราช 1.3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 ลกั ษณะภมู อิ ากาศนครศรีธรรมราช 1.4 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เศรษฐกจิ ของนครศรีธรรมราช 1.5 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 การคมนาคมของนครศรธี รรมราช 1.6 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6 ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ้ มนครศรีธรรมราช 1.7 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 7 ประชากรกับการเมอื งการปกครองจงั หวดั นครศรีธรรมราช 1.8 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 8 การจดั การศึกษานครศรธี รรมราช 1.9 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 9 ศาสนาจังหวดั นครศรธี รรมราช 1.10 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 10 ประเพณแี ละวฒั นธรรมนครศรีธรรมราช 1.11 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 11 โบราณสถานและโบราณวตั ถนุ ครศรธี รรมราช 1.12. หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 12 แหลง่ ทอ่ งเท่ยี วในจงั หวัดนครศรธี รรมราช 1.13 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 13 โครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� ริในจังหวัดนครศรธี รรมราช 1.14 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 14 ปญั หาในจงั หวดั นครศรีธรรมราช 2. ศกึ ษาเนื้อหาทีละหน่วยการเรยี นรูต้ ามล�ำดบั พรอ้ มท�ำกิจกรรมท้ายหนว่ ยการเรยี นรู้ในแตล่ ะหนว่ ย การเรยี นรใู้ หค้ รบทกุ ขอ้ แลว้ สง่ ใหค้ รผู สู้ อนเพอื่ รบั การประเมนิ ผลการเรยี น หรอื ประเมนิ ตนเอง โดยการตรวจคำ� ตอบ จากเน้อื หา จนครบท้ัง 14 หน่วยการเรียนรู้ 3. หากมีเน้อื หาใดท่ีเรียนรแู้ ลว้ ไมเ่ ข้าใจ หรอื ท�ำกจิ กรรมแล้วไม่สามารถตอบค�ำถามได้ กใ็ ห้ย้อนกลบั ไป เรยี นรเู้ น้อื หาในหน่วยการเรียนรูน้ ั้นๆ อกี ครั้งหน่ึง หรือสอบถามครูผสู้ อนหรือผู้ร้เู พ่มิ เตมิ

1หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ประวัติศาสตร์จงั หวัดนครศรีธรรมราช ประวตั ศิ าสตรน์ ครศรธี รรมราช เปน็ การเรยี นรเู้ กยี่ วกบั ลกั ษณะการตง้ั ถนิ่ ฐานและการดำ� เนนิ ชวี ติ ของผคู้ น ในเขตจงั หวดั นครศรธี รรมราช เหตกุ ารณส์ มยั กอ่ นประวตั ศิ าสตร์ เหตกุ ารณส์ มยั แรกเรม่ิ ประวตั ศิ าสตร์ และเหตกุ ารณ์ สมัยประวัติศาสตร์ ซึ่งการใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ในการสืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่นและรวบรวมข้อมูล จากแหล่งข้อมูลและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ท่ีมีอยู่ท�ำให้เข้าใจความเป็นมาของชาติภูมิ ส่งผลให้เกิดความส�ำนึก รักและภูมใิ จในทอ้ งถ่ินของตนเอง เรื่องที่ 1 ลกั ษณะการตง้ั ถ่นิ ฐานและการด�ำ เนินชวี ติ ของผู้คนในเขตจังหวดั นครศรธี รรมราช ลกั ษณะการตงั้ ถนิ่ ฐานและการดำ� เนนิ ชวี ติ ของผคู้ น ชาวถำ้� หรอื มนษุ ยถ์ ำ้� ชมุ ชนเกษตรกรรมเรม่ิ แรกชมุ ชน เมืองท่าและสถานกี ารค้าและชมุ ชนเมืองและนครรัฐ โดยมีรายละเอยี ด ดังน้ี “สังฆราชปราชญ์ เรยี นจบปฏิ กไตร หลวกกวา่ ปู่ครูในเมอื งนื้ ทกุ คนลุกแต่เมอื งนครศรี” ก่อนมาเป็น นครศรีธรรมราช ชื่อเมืองท่ีมีความหมายว่า นครอันงามสง่าแห่งพระราชาผู้ทรงธรรม อนั เปน็ จังหวดั หนง่ึ ในประเทศไทยปจั จบุ ันน้ี นครศรีธรรมราช มีพฒั นาการทางประวัติศาสตรม์ ายาวนาน นบั ตงั้ แต่ ก่อนยุคประวัติศาสตร์ ซึ่งหมายถึงยุคสมัยท่ีผู้คนแถบนั้น ยังไม่มีตัวอักษรใช้ส่ือสาร มีการตั้งถ่ินฐานอยู่ตามถ�้ำ หรือ เพิงผา หาพืชและสัตว์กินเป็นอาหารไปวัน ๆ จนกระทั่งรวมตัวกันเข้าเป็นชุมชนเกษตรกรรมยุคแรกเร่ิม แล้วพัฒนา มาเป็นเมืองท่าหรือสถานีการค้า ซ่ึงมีชื่อว่า ตามพรลิงค์ จนกระทั่งกลายเป็นชุมชนเมืองหรือนครรัฐ ทร่ี ุ่งเรอื ง ซ่งึ มชี ่อื วา่ นครศรีธรรมราช ในพทุ ธศตวรรษที่ 18 เปน็ นครศนู ย์กลางแหง่ พทุ ธศาสนาในคาบสมทุ รภาคใต้ เป็นนครของปราชญ์ หรือป่คู รู ทมี่ ชี ่อื ปรากฏในศลิ าจารึกพอ่ ขุนรามคำ� แหงมหาราช ดงั ข้อความขา้ งต้น การตงั้ ถ่นิ ฐาน หลักฐานทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ท่ีส�ำรวจและขุดพบ สามารถแบ่งลักษณะการตั้งถิ่นฐาน และการด�ำเนนิ ชวี ิตของผู้คนในเขตจังหวัดนครศรธี รรมราช ตั้งแตอ่ ดตี ถงึ ปจั จบุ นั แบง่ ออกได้เป็น 3 ช่วงเวลา ดังนี้ 1. ชาวถ�้ำหรอื มนุษยถ์ ้�ำ จากการขุดค้นแหล่งโบราณคดกี ่อนประวัตศิ าสตรใ์ นภาคใตน้ �ำมาเปรียบเทยี บกับเมืองนครฯ เชือ่ ว่า คนกอ่ นประวตั ศิ าสตร์ในเมืองนครฯ พักอาศัยอยู่ตามถํ้าหรอื เพิงผา หาอาหาร โดยการลา่ สตั วเ์ ก็บผลไม้ ใช้เคร่อื งมอื หินประเภทครกและสาก ส�ำหรับบดต�ำพืชประกอบอาหาร บางคร้ังอาจใช้ใบมีดหรือขวานหินส�ำหรับปอกลูกไม้ หรอื เปลอื กไม้ ตัดเฉือนเนื้อสตั ว์ มหี ลักฐานทางโบราณคดีแสดงให้เหน็ ว่า เมอื่ ประมาณ 5,000 - 6,500 ปี มาแล้ว เอกสารประกอบการเรียน 1 รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค23000123 ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้

มนษุ ยถ์ าํ้ ในภาคใตป้ ระกอบอาหารโดยใชค้ วามรอ้ นจากไฟ รจู้ กั การหงุ ตม้ โดยใชห้ มอ้ ดนิ เผาและมถี า่ นไมเ้ ปน็ เชอื้ เพลงิ ภาชนะที่ใช้ประกอบอาหารที่มีใชโ้ ดยทว่ั ไป คอื หมอ้ ดินเผากน้ กลม และภาชนะแบบหมอ้ สามขาซง่ึ สามารถตัง้ ครอ่ ม กองไฟ โดยไมต่ ้องใช้เสาหรอื กอ้ นเส้า นอกจากน้ียังมีภาชนะใส่อาหาร เชน่ ภาชนะทรงพาน หม้อก้นตื้น หมอ้ มสี ัน ภาชนะประเภทชาม จอก ถ้วย เหยอื ก แทน่ รองหมอ้ และแทน่ พงิ ถว้ ย ส�ำหรบั รองรบั ถ้วยน�้ำดม่ื อาจทำ� จากเขาสัตว์ เป็นต้น นอกจากน้ีชาวถ�้ำยังรู้จักก่อกองไฟให้ความอบอุ่น รู้จักท�ำเคร่ืองนุ่งห่ม โดยท�ำจากหนังหรือขนสัตว์ หรอื ทำ� จากเปลือกไม้ พบหนิ ทุบเปลอื กไมห้ ลายชิ้น หม้อและลายเขยี นสแี ดง พบทวี่ ัดสวนหลวง อ�ำเภอเมือง จังหวดั นครศรธี รรมราช 2. ชมุ ชนเกษตรกรรมเรมิ่ แรก เปน็ ววิ ฒั นาการของการตงั้ ถนิ่ ฐานชว่ งทส่ี องของเมอื งนคร เรม่ิ จากชมุ ชนยคุ หนิ ใหมท่ อี่ าศยั บนทรี่ าบ ปรากฏชดั ขนึ้ เมอื่ รจู้ กั ใชเ้ ครอื่ งมอื โลหะซงึ่ เปน็ องคป์ ระกอบสำ� คญั ตอ่ การพฒั นาของชมุ ชนเกษตรกรรม ทำ� ใหส้ ามารถ ปลกู ข้าวได้มากกว่าเดิม เริ่มตัง้ ถ่ินฐานถาวร มีการเลือกถ่นิ ฐานในภูมปิ ระเทศทีอ่ ุดมสมบรู ณเ์ หมาะแก่การเพาะปลูก ปรากฏชุมชนโบราณตามแนวสันทรายและท่ีราบลุ่มแม่น�้ำล�ำคลอง เม่ือประมาณพุทธศตวรรษท่ี 5 เป็นต้นมา โบราณวตั ถุของชุมชนสมยั นี้ นอกจากเครือ่ งมือท่ใี ช้ในชวี ติ ประจ�ำวันแล้ว ยังมเี ครอ่ื งดนตรซี งึ่ เกิดจากการขัดแต่งหิน จากธรรมชาติที่เคาะแล้วมีเสียงดังกังวาน สันนิษฐานว่า เป็นระนาดหิน มีลักษณะคล้ายขวานหินยาว ขัดแต่ง จนเรยี บรอ้ ย ลักษณะเปน็ รปู สเี่ หลีย่ มผืนผา้ มีดา้ มยาวมากกวา่ ดา้ นกวา้ ง 3 - 6 เท่า 3. ชุมชนเมอื งทา่ และถานกี ารคา้ ระนาดหนิ พบที่ ต.สระแกว้ อ.ทา่ ศาลา จ.นครศรธี รรมราช นบั ตงั้ แตพ่ ทุ ธศตวรรษที่ 3 เปน็ ตน้ มา ชาวอนิ เดยี ชาวเปอรเ์ ซยี ชาวอาหรับ และชาวโรมันได้เดินเรือมาถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชีย ตะวนั ออกทำ� ใหค้ าบสมทุ รมลายจู งึ กลายเปน็ จดุ ศนู ยก์ ลางของเสน้ ทางเดนิ เรอื จากฝา่ ยตะวนั ตกอนั ไดแ้ ก่ อนิ เดยี เปอรเ์ ซยี อาหรบั และโรมนั กบั ฝา่ ยตะวนั ออก ได้แก่ จีน เวียดนาม จามปา และเจนละ เรือสินค้ามักต้องแวะเวียนพัก เพื่อขนถ่ายสินค้าหรือหาเสบียงอาหาร หลักฐานส�ำคัญ ได้แก่ โบราณวัตถุ อันเป็นสินค้าจากต่างประเทศ เช่น ลูกปัดแก้ว ลูกปัดหินสี เคร่ืองประดับ เคร่ืองแก้ว เศษเครื่องถ้วยชามตลอดจนประติมากรรม รูปเคารพทางศาสนา ทต่ี ดิ มากบั เรอื เดนิ ทะเล ตงั้ แตพ่ ทุ ธศตวรรษที่ 8 เปน็ ตน้ มา เกดิ ชมุ ชนอยา่ งถาวร 2 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค23000123 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้

บริเวณเมืองท่าชายฝังทะเล ได้แก่ ตะก่ัวป่า พบจารึกอักษรปัลลวะ ภาษาทมิฬ พบหลักฐานจากศิลาจารึกหุบเขา ช่องคอย อักษรปัลลวะ ภาษาสันสกฤต มีอายุอยู่ประมาณพุทธศตวรรษ ที่ 12 แสดงถึงชุมชนของกลุ่มผู้นับถือ ศาสนาพราหมณอ์ ินดู ลัทธิไศวนกิ ายในเมอื งนคร นอกจากกลุ่มพ่อค้าและนักแสวงโชคแล้วกลุ่มนักบวชพราหมณ์และพระภิกษุในพุทธ-ศาสนา เขา้ มาตงั้ ถน่ิ ฐานในดนิ แดนแถบนใ้ี นเวลาใกลเ้ คยี งกนั เพราะพบประตมิ ากรรมรปู เคารพ เชน่ พระพทุ ธรปู ศลิ ปะอมราวดี คุปตะ หลงั คุปตะ ปาละ เนะ เทวรูป อิทธพิ ลปัลลวะ และโจฬะจากอินเดยี ใต้ เปน็ ตน้ 4. ชมุ ชนเมืองและนครรฐั การเข้ามาของวัฒนธรรมอินเดีย ท�ำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมากต่อชุมชนในภูมิภาคนี้ ในระยะเรมิ่ แรกศาสนาพราหมณจ์ ะเดน่ กวา่ ศาสนาพุทธ เมืองนครศรีธรรมราช เป็นรัฐทมี่ ีพื้นฐานทางการเกษตร สนิ คา้ พน้ื เมือง ไดแ้ ก่ ขา้ ว การบูร ไม้หอม (ไม้กฤษณา) ไม้ฝาง ไม้จันทน์ ขี้ผ้ึง งาช้าง เขาสัตว์ หนังสัตว์ และดีบุก เป็นเมืองท่าส�ำคัญ เมืองนครได้ด�ำรงตน เป็นรัฐอิสระ มีความรุ่งเรืองในสมัยปลายพุทธศตวรรษที่ 18 เป็นรัฐเอกราชในระยะเวลาเดียวกันกับสมัย พ่อขุนรามค�ำแหง แห่งกรุงสุโขทัย เป็นรัฐที่ม่ังค่ังเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนา มีพระมหากษัตริย์ ทรงพระนาม พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช เป็นอาณาจักรที่มีอิทธิพลครอบคลุมทั้งแหลมมลายู บรรดาบ้านเมือง ในอาณาบรเิ วณนถ้ี กู ผนวกเปน็ สว่ นหนง่ึ ของอาณาจกั รนครศรธี รรมราช โดยเรยี กเมอื งหลวงนน้ั วา่ เมอื งสบิ สองนกั ษตั ร เมืองนครศรธี รรมราช เรือ่ งที่ 2 เหตุการณ์สมยั กอ่ นประวตั ิศาสตร์ เหตุการณ์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ประกอบด้วย 3 ยุค ได้แก่ ยุคหิน ยุคหินใหม่ และยุคโละหะ โดยมรี ายละเอียด ดังนี้ ภาชนะดินเผาทรงหมอ้ สามขา พบท่ีถ้ำ� เขาเอง อ�ำเภอนบพติ ำ� จงั หวดั นครศรธี รรมราช 1. ยุคหนิ แหล่งโบราณคดีก่อนประวิตศาสตร์ ได้พบว่า แหล่งท่ีมีการใช้เคร่ืองมือขวานหินกะเทาะสองแหล่ง คือ ทีถ่ า้ํ ตาหม่นื ยม และถ้ําเขาหลกั เอกสารประกอบการเรียน 3 รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค23000123 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น

ถ้าํ ตาหมื่นยม ตัง้ อยหู่ ม่ทู ี่ 1 บ้านวังเหรยี ง ต�ำบลชา้ งกลาง อำ� เภอชา้ งกลาง พบเคร่อื งมอื หนิ กะเทาะ คุมรอบปลายแหลม ด้านบนมีรอยโดนตัดคล้ายกับขวานส้ันที่เคยพบท่ีอ�ำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี และเศษภาชนะดนิ เผาสีดำ� ลายเชอื กทาบ ถ้ําเขาหลัก ตั้งอยู่ในเขตต�ำบลสิชล อ�ำเภอสิชล พบเครื่องมือหินกะเทาะแบบสองหน้า ลักษณะ เปน็ ขวานสน้ั มรี อยกะเทาะหยาบ ๆ ทำ� จากหนิ ควอรต์ ไซด์ จำ� นวน 1 ชนิ้ และพบภาชนะดนิ เผาประเภทหมอ้ กน้ กลม 1 ช้ิน หม้อกน้ แบน 3 ช้นิ รวมกับกระดูกสตั วป์ ระเภทลิง 2 ช้ิน จากโบราณวัตถุท่ีพบสันนิษฐานว่า ถํ้าทั้งสองแห่งนี้มนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์เข้ามาพักอาศัย แต่ไม่สามารถก�ำหนดอายุของแหล่งได้ชัดเจนจากการเปรียบเทียบกับแหล่งอ่ืนพอก�ำหนดอายุได้ประมาณ 4,200 - 6,500 ปี 2. ยคุ หินใหม่ ไดพ้ บแหลง่ โบราณคดเี ปน็ จำ� นวนมาก พบโบราณวตั ถุ ไดแ้ ก่ ขวานหนิ ขดั และภาชนะดนิ เผาประเภท หม้อสามขา ซ่ึงส่วนใหญ่ได้พบตามแหลง่ ที่เป็นถํา้ หรอื เพงิ ผา ไดแ้ ก่ ถา้ํ เขาพลู อยใู่ นตำ� บลเขาโร อ�ำเภอทงุ่ สง พบขวานหิน ขัดมีบ่า เศษภาชนะดนิ เผาเน้ือหยาบและเศษ กระดูกสตั ว์ ถ�ำ้ ตลอด อยใู่ นตำ� บลน้ำ� ตก อ�ำเภอท่งุ สง พบขวานหินขดั และภาชนะดนิ เผาทรงพาน ถํ้านางนอนหงาย อยู่ในต�ำบลบางขัน อ�ำเภอบางขัน พบขวานหินขัดเศษภาชนะดินเผา ภาชนะดนิ เผาสภาพสมบรู ณ์ ประเภทหมอ้ กน้ กลม ชามกน้ กลมทรงขนั นา้ํ ถว้ ยกน้ ตดั ปากบาน ภาชนะกน้ กลมปากบาน ขัดมนั สว่ นใหญต่ กแต่งผิวนอกด้วยลายเชอื่ กทาบ และเครื่องประดับทำ� จากเปลอื กหอยกาบเจาะรู ถ้ําเขาโพรงเสือ อยู่ในเขตต�ำบลทอนหงส์ อ�ำเภอพรหมคีรี พบเศษภาชนะดินเผา เน้ือหยาบ มีทัง้ ผิวเรยี บ และลายเชือกทาบ ชน้ิ สว่ นหมอ้ สามขาและขวานหินขดั ถ้ําเทวดางวงช้าง อยู่ในเขตต�ำบลลานสกา อ�ำเภอลานสกา พบภาชนะดินเผา เศษภาชนะดินเผา ขัดผิวด้านนอกเรียบมัน เน้ือค่อนข้างบางได้แก่ ภาชนะดินเผาลายเชือกทาบรูปทรงคล้ายขันน้ํา และขวานหินขัด แบบจงอยปากนก เขาปนู อย่ทู ี่วดั เขาปนู ตำ� บลพรหมโลก อ�ำเภอพรหมครี ี พบเศษภาชนะดนิ เผาเน้อื หยาบตกแต่งผิว ดว้ ยลายกดทับ ลายเชือกทาบ เปน็ ชนิ้ สว่ นของภาชนะ ประเภทหมอ้ สามขา ระนาดหนิ แบบท่พี บบริเวณคลองกลาย อ�ำเภอทา่ ศาลา (ปจั จุบันอยทู่ พ่ี พิ ิธภัณฑสถานแหง่ ชาติ นครศรีธรรมราช) ถํา้ เขาหนิ ตก อยใู่ นเขตต�ำบลเสาธง อ�ำเภอรอ่ นพิบูลย์ พบลกู ปัดเปลือกหอย ลูกปัดทำ� จากกระดกู เศษภาชนะดนิ เผาลายเชือกทาบ หมอ้ สามขา ขวานหินขัดหิน หุบเขาลานสกา อยู่ในเขตตำ� บลลานสกา อ�ำเภอลานสกา พบขวานหินขนาดเลก็ รูปสเ่ี หลีย่ มคางหมู ขวานหนิ ขัดมบี า่ เขาตอ่ อยู่ทบ่ี ้านเขาแกว้ อำ� เภอลานสกา พบขวานหินขดั หรอื ระนาดหิน ขนาดหนา ขดั เรยี บ เขาพรง อยู่ในเขตต�ำบลทุง่ ปรัง อำ� เภอสิชล พบขวานหินขัดไมม่ ีบ่า รปู สีเ่ หลีย่ มคางหมู ถาํ้ พรรณรา อยใู่ นเขตตำ� บลพรรณรา อำ� เภอถา้ํ พรรณรา พบเศษภาชนะดนิ เผาสดี ำ� แดง ลายเชอื กทาบ ขวานหนิ ขดั ชิน้ สว่ นกระดกู มนุษย์ ถ้ําเขาแอง อยู่ในเขตต�ำบลนบพิต�ำ อ�ำเภอนบพิต�ำ พบหม้อสามขา สภาพเกือบสมบูรณ์ (ปัจจุบัน อยูท่ ีพ่ ิพธิ ภัณฑสถานแหง่ ชาตนิ ครศรธี รรมราช) 4 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค23000123 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น

สำ� หรบั แหลง่ โบราณคดยี ุคหินใหม่ ทม่ี ิใชแ่ หล่งถ้าํ หรอื เพงิ ผา ได้แก่ คลองเขาแกว้ อยทู่ หี่ นา้ วดั ชายเขา ตำ� บลเขาแกว้ อำ� เภอลานสกา พบขวานหนิ ขดั ขนาดใหญ่ โครงรา่ ง ห้าเหล่ยี ม คมแบบจะงอยปากนก บ้านในแหนบ อยู่ในเขตต�ำบลเขาแก้ว อ�ำเภอลานสกา พบโกลนโครงร่างละเอียดของขวานหินขัด แต่งพอสมควร หว้ ยครกเบือ อยู่ในเขตตำ� บลท่าดี อ�ำเภอลานสกา พบขวานหินขัด คลองกลาย อยู่ในเขตต�ำบลสระแก้ว อ�ำเภอท่าศาลา พบขวานหินยาว หรือระนาดหิน จำ� นวน 6 ชิ้น เชงิ เขาคา ตงั้ อย่ทู ีเ่ ชงิ เขาคา ดา้ นตะวนั ออกเฉียงเหนอื ตำ� บลเสาเภา อ�ำเภอสชิ ล พบขวานหินขัด รปู ส่ีเหลย่ี มคางหมู สิชล อยู่ในเขตพ้ืนท่ีอ�ำเภอสิชล พบมีดท�ำจากหินทรายสีเทา มีลักษณะเป็นมีดด้ามงอ โครงร่าง เป็นรูปมนรี ส่วนท่ีเป็นด้ามตอนปลายโค้งขนานกับส่วนคม ซึ่งคอดเล็กกว่าด้าม สีสันร่องแบ่งระหว่างส่วนคม และส่วนด้ามขดั เจน เหมือนมีดมีดา้ มในปัจจุบนั (ปจั จบุ นั อยู่ทพี่ ิพธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาตนิ ครศรธี รรมราช) ชุมชนใกล้วัดพระเพรง อยู่ในเขตต�ำบลนาสาร อ�ำเภอพระพรหม พบขวานหินขัดขนาดกลาง ไม่มบี ่า รปู สเ่ี หลย่ี มคางหมู คลองท่าเรือ อยู่ในเขตตำ� บลท่าเรอื อำ� เภอเมือง พบขวานหนิ ขัดและกำ� ไลหิน วดั หวั มีนา (รา้ ง) อยใู่ นเขตตำ� บลท่าเรอื อ�ำเภอเมืองนครศรธี รรมราช พบโกลนขวานหนิ ขดั และ สะเก็ดหนิ โบราณวตั ถุ ยคุ หนิ ใหม่ 3. ยุคโลหะ ในช่วงพุทธศตวรรษท่ี 1 - 3 เป็นช่วงที่ได้รับวัฒนธรรมจากดินแดนภายนอก โดยเริ่มติดต่อกับ ดินแดนโพ้นทะเล เช่น จีน อินเดีย และอาหรับ ท�ำให้ชุมชนพ้ืนเมืองเดิมเปลี่ยนแปลงไปสู่ชุมชนในลักษณะใหม่ หลกั ฐานทางโบราณคดสี มยั นท้ี พ่ี บในจงั หวดั นครศรธี รรมราช คอื โบราณวตั ถทุ ที่ ำ� จากโลหะ ทงั้ ทเ่ี ปน็ สำ� รดิ และเหลก็ ไดแ้ ก่ กลองมโหระทึกกบั เคร่อื งมอื สำ� ริดและเหล็ก 3.1 กลองมโหระทึก เป็นกลองส�ำริด พบแหล่งผลิตคร้ังแรกท่ีเมืองธันหัว ประเทศเวียดนาม เมอื่ ประมาณปี พ.ศ. 200 - 300 กลองมโหระทึกทีพ่ บในเขตจังหวดั นครศรธี รรมราช จ�ำนวน 4 ใบ คอื ใบที่ 1 พบทบี่ ้านเกียกกาย หมู่ 8 ต�ำบลทำ� เรือ อ�ำเภอเมอื งนครศรธี รรมราช สภาพชำ� รุด เอกสารประกอบการเรยี น 5 รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค23000123 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้

ใบท่ี 2 พบทคี่ ลองคุดดว้ น ในเขตอำ� เภอฉวาง เป็นสว่ นของหน้ากลอง พบเมื่อปี พ.ศ. 2482 ใบท่ี 3 พบทบี่ ้านนากะชะ ต�ำบลนากะชะ อำ� เภอฉวาง เมื่อปี พ.ศ. 2497 ใบที่ 4 พบทคี่ ลองทำ� ทนู (บา้ นยวนเทา่ ) ตำ� บลเทพราช อำ� เภอสชิ ล เปน็ สเี่ หลยี่ มผนื ผา้ (ปจั จบุ นั อย่ทู ่พี ิพธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาตนิ ครศรีธรรมราช) 3.2 เคร่อื งมอื เครือ่ งใช้ ซงึ่ ประกอบดว้ ย แหล่งโบราณคดีบ้านเกยี กกาย ตำ� บลท่าเรอื พบเครอ่ื งมือ ส�ำริดขนาดเล็ก ขวานเหล็กมีป้องท่ีสัน คล้ายกับท่ีพบในแหล่งโบราณคดียุคโลหะท่ีจังหวัดกาญจนบุรี พบร่วมกับ โบราณวตั ถอุ น่ื เชน่ ภาชนะดนิ เผาแบบไหกน้ กลม เนอื้ หยาบและบางมาก ชายปากบาน กน้ ตดั หมอ้ ขนาดเลก็ กน้ กลม ขวานหนิ ซดั เครอื่ งประดบั ตา่ งหทู องคำ� เศษภาชนะ ดนิ เผาเนอ้ื ดนิ เผา เผาด้วยอุณหภูมิตํ่าเป็นจ�ำนวนมาก ชั้นดินทางโบราณคดี แสดงกิจกรรมการอยู่อาศัยของคน ก่อนประวัติศาสตร์ยุคโลหะ แหล่งโบราณคดีบ้านพังสิงห์ ต�ำบลท่าเรือ อ�ำเภอเมือง พบเครื่องมือเหล็ก รูปเคียว และปะหญ้า ลักษณะเป็นแผ่นเหล็ก ลี่เหลี่ยมผืนผ้า มีคมด้านหนึ่งคล้ายจอบ เม่ือใช้งานด้ามจะอยู่ใน แนวตั้ง สว่ นคมอยูแ่ นวนอน ดา้ มเป็นแท่งเหล็กเรยี งคล้ายคางหมู สำ� หรับเสยี บเข้าดา้ มไมบ้ างทอ้ งถน่ิ เรียก ป้ายหญ้าและไตร กลองมโหระทกึ พบท่ีบ้านเกยี กกาย ต.ท่าเรอื อ.เมอื ง จ.นครศรธี รรมราช เรอ่ื งที่ 3 เหตุการณ์สมยั ประวตั ิศาสตร์ เหตุการณ์สมัยประวัติศาสตร์ ประกอบด้วย สมัยอาณาจักรตามพรลิงค์ สมัยอาณาจักรศรีวิชัย สมยั สริ ธิ รรมนคร สมยั สโุ ขทยั สมยั อยธุ ยา สมยั กรงุ ธนบรุ ี สมยั รตั นโกสนิ ทร์ และยคุ มณฑลเทศาภบิ าลโดยมรี ายละเอยี ด ดังตอ่ ไปน้ี ระยะเวลาที่จดั วา่ นครศรีธรรมราช เขา้ สสู่ มัยประวัติศาสตร์ ตั้งแตพ่ ทุ ธศตวรรษท่ี 12 ท้งั น้เี พราะได้พบ จารึก อักษรโบราณหลายหลักในจังหวัดนครศรีธรรมราช จารึกรนุ่ แรก พบศลิ าจารกึ อักษรปลั ลวะ 3 หลกั ไดแ้ ก่ ศิลาจารึกหบุ เขาชอ่ งคอย พบท่ีต�ำบลทุ่งโพธิ์ อ�ำเภอจุฬาภรณ์ เป็นจารึกบนแท่งหิน ตดิ กบั ภเู ขา อกั ษรปลั ลวะ ภาษาสนั สกฤต กำ� หนดอายรุ าวพทุ ธศตวรรษ ที่ 12 จารึกหลักน้ีเป็นของกลุ่มชนท่ีนับถือศาสนาพราหมณ์ ลทั ธไิ ศวนกิ าย ศิลาจารกึ ช่องคอยหรอื ศิลาจารกึ หุบเขาชอ่ งคอย ลกั ษณะ ศลิ าจารกึ เป็นหนิ ขนาด ตัง้ อยบู่ ริเวณหนา้ ผา ระหว่างหุบเขาสามารถ มองเห็นพื้นท่ีราบด้านล่างได้ชัดเจนด้านบนเป็นแผ่นราบมีอักษร ศิลาจารึกหุบเขาชอ่ งคอย ปลั ลวะจารกึ เปน็ ขอ้ ความ 3 ตอน ซงึ่ แปลเปน็ ภาษาไทยปจั จบุ นั ไดด้ งั น้ี ตอนท่ี 1 (ศลิ าจารกึ นเี้ ปน็ ) ของผเู้ ปน็ สวามขี องนางวทิ ยาเทวี (นางวิทยาเทวเี ป็นร่างหน่ึงของนางทุรคา) ตอนที่ 2 ขอความนอบน้อมจงมีแก่ท่าน ผู้อยู่เป็นเจ้า แห่งป่าพระองค์น้ันขอความนอบน้อมจงมีแก่ท่านผู้เป็นเจ้าแห่งเทพ อกั ษรปลั ลวะจารกึ ตอนท่ี 1 6 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค23000123 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น

ทงั้ มวลพระองคน์ น้ั ชนทงั้ หลายผเู้ คารพตอ่ พระศวิ ะ คดิ วา่ ของอนั ทา่ น ผูเ้ จรญิ (พระศวิ ะ) น้ีจะพึงให้มีอยใู่ นทีน่ จ้ี ึงมาเพื่อประโยชน์นัน้ ตอนท่ี 3 ถ้าคนดีอยู่ในหมู่บ้านของชนเหล่าใดความสุข และผลจักมีแกช่ นเหลา่ นนั้ อกั ษรปลั ลวะจารกึ ศลิ าจารึกวดั มเหยงคณ์ (จารกึ หลกั ท่ี 27 หรอื น.ศ.10) พบท่ีวัดมเหยงคณ์ ริมคลองกลาย ต�ำบลสระแก้ว อ�ำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นแท่งศิลาจารึกสีด�ำ รปู สเ่ี หลยี่ มสภาพชำ� รดุ มรี อยหกั ดา้ นขวาและดา้ นซา้ ยทงั้ สองขา้ งจารกึ อกั ษรปลั ลวะ ภาษาสนั สกฤต บง่ บอกถงึ เสนาสนะของจดั การจำ� หนา่ ย เคร่ืองเขียน ทั้งหมึก แผ่นเขียน และได้กล่าวถึงคณะพราหมณ์ท่ีอยู่ รว่ มกนั ดว้ ย ดงั มปี ริศนาลายทาง กล่าวไวว้ ่า “วัดมเหยงคณ์ มีธงสามชาย อยู่ปากน�้ำกลาย ฝ่ายทิศอุดรมีโหนดต้นอ่อน ๆ มีท้อนต้นแฉ้ ใครรู้จักแก้ กนิ ไมส่ ้ินเอย” ศิลาจารกึ วดั พระมหาธาตวุ รมหาวหิ าร (จารกึ หลกั ท่ี 28 หรือ น.ศ.3) เป็นแท่งศิลาแผ่นสี่เหลี่ยม จารึกอักษรปัลลวะ ภาษามอญโบราณ ก�ำหนดอายุราวพุทธศตวรรษที่ 12 กรมศิลปากรอ่านและแปลความได้ว่า “รูปจ�ำลอง พ่อมายาแห่งหัวเมืองช้ันนนอก ผู้งามสง่าประดุจถ่านไฟ ท่ีก�ำลังลุกโชน” จารึกอักษรปัลลวะท้ัง 3 หลักที่พบแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างดินแดนนครศรีธรรมราช กับอนิ เดยี 1. สมัยอาณาจักรตามพรลิงค์ ชื่อแรกของเมืองนครศรีธรรมราช ปรากฏต้ังแต่ก่อนพุทธศตวรรษที่ 10 ทั้งกะมะลิง ตะมะลิง ตามรยะลิงค์ ตามพรลิงเดศวร ตันหม่าหลิง และตามพรลิงห์ อันแปลว่า ศิวลึงค์ทองแดง หรือลิฟต์ทองแดง เมืองตามพรลิงค์อันมีความหมายว่า ลิงค์ทองแดง ก�ำเนิดจากเขาคา ลิงค์ทองแดง เป็นการตั้งชื่อจากลึงคบรรพต หรือสยมภูวลึงค์ ที่ประดิษฐานเนินเหนือสุดของเขาคา เป็นหินรูปธรรมชาติ รูปทรงแบบศิวลึงค์ ท่ีมีร่องรอย การแกะสลกั เล็กนอ้ ย เพอ่ื ใหเ้ กดิ เสน้ พรหมสตู รและ เส้นปารศวสตู ร (เสน้ เอน็ ของหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย) ในความเชื่อของพราหมณ์ลัทธิไศวนิกาย ถ้าลิงคบรรพต หรือสยมภูวลิงค์ แตกหักหรือร้าว จะเกดิ อบุ ตั ภิ ยั อยา่ งมากตอ่ ชาวบา้ น จะตอ้ งทำ� พธิ กี รรมบชู าเทพและหมุ้ หอ่ ศวิ ลงิ คด์ ว้ ยทองแดง หรอื ทองคำ� ซง่ึ เชอื่ วา่ ลงิ คบรรพต องคน์ ค้ี งจะได้รบั การหุ้มหอ่ ด้วยทองแดง และเรยี กขานกนั ต่อมาวา่ ตามพรลิงค์ โดยอาจเป็นท่ีตงั้ เมือง หรอื เปน็ จดุ หมายนักเดนิ ทางได้ จึงบันทกึ ช่อื เมืองแรกแถบทะเลใต้น้วี า่ “ตามพรลงิ ค”์ ตามพรลิงค์ จากยุคท่ีก่อตั้งท่ีเขาคา ตามคติศาสนาพราหมณ์ลัทธิไศวนิกายแล้ว จากหลักฐาน ทางโบราณคดี นา่ จะมีการเปล่ียนศูนยก์ ลางเป็นระยะจากเขาคาส่ตู ้นลมุ่ น้ำ� คลองกลาย และสบู่ า้ นทา่ เรือ ตามล�ำดบั บางชว่ งสมัยก็มีอาณาจกั รอ่ืน ๆ มีอำ� นาจเหนอื กว่า เอกสารประกอบการเรยี น 7 รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค23000123 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้

2. สมัยอาณาจกั รศรีวิชัย ศรวี ชิ ยั เปน็ ชอ่ื อาณาจกั รทมี่ ชี อื่ เสยี งทางการเดนิ เรอื และการคา้ มคี วามเจรญิ รงุ่ เรอื งในชว่ งพทุ ธศกั ราช ที่ 13-16 อาณาจักรนีแ้ ตเ่ ดิมอยูแ่ ถวเกาะสมุ าตรา และขยายอิทธพิ ลครอบครองช่องแคบมะละกาได้ เปน็ จดุ ควบคมุ เส้นทางเดนิ เรือท้งั ในภูมภิ าคและรฐั แดนไกล เช่น จนี และอนิ เดีย และศรวี ชิ ยั ยังเปน็ ศูนย์กลางพระพทุ ธศาสนานิกาย มหายานในภูมิภาค ศรีวิชัยตามบันทึกต่าง ๆ ซ่ึงเรียกซื่อตามส�ำเนียงของซาติต่าง ๆ เช่น ซิลิโฟซิ โฟซิ คันโทสี โดยมหี ลกั ฐานการบันทกึ ทสี่ ำ� คัญ เช่น บันทึกหลวงจนี อ้ีจงิ (พ.ศ. 1213-1238) จารกึ สุมาตรา (พ.ศ. 1225-1229) บนั ทึกการเดนิ เรือของสไุ ลมาน พอ่ ค้าอาหรับ (พ.ศ. 1394) ของอาบู่โซอคิ (พ.ศ. 1459) ของมาซูดี (พ.ศ. 1486) จารึกตันซอร์ของอินเดีย (พ.ศ. 1568) บันทึกจากเจาจูคัว ในหนังสือจูพ่านฉี (พ.ศ. 1768) และหลักฐานของไทย ในศลิ าจารึกหลักท่ี 23 (พ.ศ. 1318) ศิลาจารึกหลกั ท่ี 25 (พ.ศ. 1726) และศลิ าจารกึ หลกั ท่ี 24 (พ.ศ. 1773) 3. สมยั สริ ธิ รรมนคร ชื่อนี้พบว่าใช้ในกรณีท่ีเป็นช่ือของสถานท่ี (คือเมืองหรือนคร) เช่นเดียวกับช่ืออื่น ๆ ที่กล่าวมา แตห่ ากเปน็ ชื่อของกษัตรยิ ์มักจะเรียนวา่ “พระเจ้าสิรธิ รรม” หรอื “พระเจา้ สิรธิ รรมนคร” หรอื “สริ ิธรรมราช” “สิริธรรมนคร” ปรากฏในหนังสือบาลีเร่ืองจามเทวีวงศ์ ซี่งมีพระโพธิรังลีพระเถระ ชาวเชียงใหม่ เป็นผู้แต่งขึ้นในราวพุทธศตวรรษท่ี 21 นอกจากน้ีปรากฏอยู่ในหนังสือชินกาลมาลีปกรณ์ พุทธสิหิงศ์ที่ลังกา จงึ ทรงอยากได้ พระเจา้ สริ ธิ รรมนครจงึ สง่ ทตู ไปขอกษตั รยิ ล์ งั กาใหก้ รงุ สโุ ขทยั จงึ ไดพ้ ระพทุ ธสหิ งิ ศม์ าบชู า ในตำ� นาน พระบรมธาตเุ มอื งนครศรธี รรมราช ไดก้ ลา่ วถงึ เมอื งขน้ึ ของนครศรธี รรมราช สบิ สองเมอื ง เรยี กวา่ เมอื งสบิ สองนกั ษตั ร ได้แก่ เมืองสาย (สายบรุ )ี ใชต้ ราหนู เมืองตาน(ี ปัตตานี) ใช้ตราวัว เมืองกลันตนั ใช้ตราเสอื เมอื งปาทังใช้ตราแพะ เมืองบันทายสมอ ใช้ตราสิง เมืองสระอุเลา ใช้ตราไก่ เมืองตะกั่วป่าใช้ตราหมา เมืองกระ(กระบุรี) ใช้ตราหมู และคงเป็นเมืองขึ้นตั้งแต่ ปลายพุทธศตวรรษที่ 18 ถึงปลายพุทธศตวรรษที่ 19 หรือต้นพุทธศตวรรษท่ี 20 กอ่ นทนี่ ครศรธี รรมราช จะถูกผนวกเป็นสว่ นหนงึ่ ของอาณาจักรอยธุ ยา รวมเวลาท่นี ครศรธี รรมราช หรืออาณาจักร ตามพรลิงค์ เจริญอย่างสูงสุดประมาณหนง่ึ ศตวรรษตง้ั แตป่ ลายพทุ ธศตวรรษที่ 18 เปน็ ตน้ มา 4. สมัยสุโขทยั พุทธศตวรรษที่ 19 - 20 ในช่วงพทุ ธศตวรรษท่ี 18 นครศรีธรรมราช หรอื ตามพรลงิ ค์ เป็นเมืองใหญ่ ในคาบสมุทรภาคใต้ มีแสนยานุภาพทางทหาร โดยเฉพาะอย่างย่ิงก�ำลังทางเรือ สามารถยกกองทัพเรือไปตีลังกา ถึงสองครั้ง รวมท้ังยกพลไปตีเมืองละโว้ได้ด้วย พญาศรีธรรมาโศกราช มีความสัมพันธ์กับเมือง หรือดินแดน ทางตอนเหนือ ตัง้ แตด่ ินแดนในล่มุ แม่นำ�้ เจา้ พระยาไปจนถงึ สุโขทัย ความสมั พันธน์ ้ี ส่วนหน่ึงเกดิ จากความสัมพนั ธ์ ในระบบเครือญาติโดยการแตง่ งาน 5. สมัยอยธุ ยา ในกลางพุทธศตวรรษที่ 19 นครศรีธรรมราชอ่อนแอลง ตามต�ำนานเมืองนครศรีธรรมราชมีว่า หลงั จากพระเจา้ อทู่ องสถาปนากรงุ ศรอี ยธุ ยาในปี พ.ศ.1893 ไดย้ กกองทพั ลงมาทางใตส้ รู้ บกบั เมอื งนครศรธี รรมราช แต่ไม่แพ้ชนะกัน จึงได้เจรจาแบ่งดินแดนกับพญาศรีธรรมาโศกราช ที่บริเวณบ้านบางตะพาน (อ�ำเภอบางสะพาน จงั หวดั ประจวบครี ขี ันต์) พุทธศตวรรษที่ 23 ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้ด�ำเนินกุศโลบายใหม่โดยส่ง พระยารามเดโช ทหารเอกเช้ือสายแขกอาหรับ นับถือศาสนาอิสลามมาเป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช 8 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค23000123 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น

เพื่อให้เป็นศูนย์กลางอ�ำนาจของอยุธยาในแหลมมลายูเพื่อโดดเดี่ยวและปิดล้อมเมืองสงขลา ส่งผลให้การค้า ของสงขลาซบเซา และสามารถกีดกันอ�ำนาจของอังกฤษออกไปจากสงขลาได้ในที่สุด สงขลาถูกกองทัพ ของกรงุ ศรอี ยธุ ยา จากนครศรธี รรมราชตแี ตก เมอ่ื ปี พ.ศ.2233 และกลบั มาอยใู่ นปกครองของเมอื งนครศรธี รรมราช ตามเดมิ รัชสมัยสมเด็จพระเพทราชา ได้ทรงจัดการกับหัวเมืองที่ขัดขืนพระราชอ�ำนาจไม่ได้เข้ามาร่วมงาน พระราชพิธี ถือน้ําพระพิพัฒน์สัตยาแสดงความจงรักภักดี มีเมืองนครศรีธรรมราชกับเมืองนครราชสีมา เมื่อปี พ.ศ. 2235 จึงได้ยกกองทัพทั้งทางบกและทางเรือไปดีเมืองนครศรีธรรมราช โดยมีพระยาสุรสงคราม เปน็ แมท่ พั หลวง และพระยาราชวงั สันเป็นแมท่ พั หนา้ พระยารามเดโชมีหนงั สอื ลบั พระยาราชวงั สัน ซง่ึ เปน็ เพอ่ื น และเป็นมุสลิมด้วยกันช่วยจัดหา เรือให้พระยารามเดโชหนีไปได้ เม่ือตีเมืองนครศรีธรรมราชได้พระยาราชวังสัน ตอ้ งโทษประหารชวี ติ ภายหลงั เสรจ็ ศกึ ความเสยี หายของนครศรธี รรมราชครง้ั น้ี ทำ� ใหอ้ ำ� นาจของเมอื งนครศรธี รรมราช ออ่ นแอลงไปมาก สมเดจ็ พระเพทราชา ทรงนำ� วธิ กี ารกลั ปนาวดั กลบั มาใชอ้ กี ครงั้ คอื ใหอ้ ำ� นาจพระสงฆใ์ นการควบคมุ ชมุ ชน 6. สมยั กรงุ ธนบรุ ี พุทธศตวรรษท่ี 24 หลังจากกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า เม่ือปี พ.ศ. 2310 หลวงสิทธินายเวร ผเู้ ปน็ ปลดั เมอื งนครศรธี รรมราชหรอื ทเ่ี รยี กกนั วา่ พระปลดั หนู ไดร้ วบรวมผคู้ นตงั้ ตนเปน็ อสิ ระ เรยี กวา่ ชมุ นมุ เจา้ นคร ในปี พ.ศ. 2312 สมเดจ็ พระเจา้ ตากสนิ มหาราช ไดโ้ ปรดใหเ้ จา้ พระยาจกั รี (หมดุ ) พระยาอภยั รณฤทธิ์ พระยายมราช และพระยาเพชรบุรี ยกก�ำลังทางบกไปปราบแต่ไม่ส�ำเร็จสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จึงเสด็จ ยกก�ำลังทางเรือไปตเี มืองนครศรีธรรมราช ทัพหลวงเขา้ ตคี า่ ยทา่ หมาก ที่คลองปากนคร และท่คี ลองท่าศาลาสห่ี น้า (บ้านปากพญา) แตก เจ้านครศรธี รรมราชทิง้ เมืองอพยพครอบครวั หนีไปเมืองสงขลา แลว้ ให้หลวงสงขลา (วเิ ถียน) พาไปพักพิงอยู่เมืองเทพา เมืองปัตตานี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้โปรดให้เจ้าพระยาจักรีและพระยาพิชัย ราชายกกองทัพเรือติดตามไปเมืองปัตตานี เจ้าเมืองปัตตานียอมส่งตัวเจ้านครศรีธรรมราช (หนู) มาถวายแต่โดยดี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงแต่งตั้งพระเจ้าหลานเธอเจ้านราสุริยวงศ์ ข้ึนครองเมืองนครศรีธรรมราช ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2312 จนถึงแกพ่ ริ าลยั เม่อื ปี พ.ศ. 2319 จึงทรงแตง่ ตั้งให้ เจา้ นครศรธี รรมราช (หนู) กลับไปครอง เมืองนครศรธี รรมราช อกี ครั้ง พระราชทานบรรดาศกั ดิ์เปน็ พระเจา้ นครศรธี รรมราช เจ้าขณั ฑสมี า ให้มีเกยี รตเิ สมอ เจา้ ประเทศราชมีอำ� นาจแต่งต้งั ขนุ นางตามแบบจตุสดมภ์ไดเ้ ชน่ เดียวกับราชธานี 7. สมยั รัตนโกสนิ ทร์ ปี พ.ศ. 2325 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราช ไดม้ กี ารเปล่ยี นแปลงฐาน อ�ำนาจ ทางการเมือง และการปกครองเมืองนครศรธี รรมราช ดงั นี้ โปรดเกลา้ ให้พระเจ้านครศรีธรรมราช (หน)ู พ้นจากตำ� แหนง่ ให้เขา้ มารับราชการทีก่ รุงเทพฯ แต่งต้ังเจ้าพัฒน์ (หรือพัด) ปลัดเมืองนครศรีธรรมราชขึ้นเป็นเจ้าเมืองแทนโดยได้รับบรรดาศักดิ์ เป็น เจา้ พระยาศรโี ศกราช ชาตเิ ดโชไชย มไหสุรยิ าบดี อภยั พริ ิยะ ปรากรมพาหุ พระยาศรธี รรมราช หรอื เรียกสัน้ ๆ วา่ เจา้ พระยานครศรธี รรมราช (พัฒน์) ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (พัฒน์) ได้กราบ บังคมทูลขอลาออกจากต�ำแหน่ง เนื่องจากมีปัญหาเร่ืองสุขภาพ พระองค์ได้ทรงแต่งต้ังพระบริรักษ์ภูเบศร์ (น้อย) ผู้ช่วยราชการเมืองนครศรีธรรมราช เป็นเจ้าเมืองแทน เม่ือปี พ.ศ. 2354 โดยได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ เอกสารประกอบการเรยี น 9 รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค23000123 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น

เป็นพระยานครศรีธรรมราช (น้อย) มีนามในตราตั้งว่า พระยาศรีธรรมโศกราช ชาติเดโชไชย มไหสุริยิบดี อภัยพิริยปรากรมพาหุ พระยานครศรีธรรมราช และได้เป็นเจ้าพระยานครศรีธรรมราช ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระนั่งเกลา้ เจา้ อยูห่ ัว คนท่ัวไปนยิ ม เรยี กว่า เจ้าพระยานครน้อย สมเด็จฯ กรมพระยาดำ� รงราชานุภาพ ทรงกล่าวยกย่องเจ้าพระยานคร (น้อย) มีความตอนหน่ึงว่า “เป็นผู้มีอ�ำนาจมากกว่าเจ้าพระยานครท้ังปวง ได้บังคับบัญชาตลอดจนมาถึงเมืองไชยาข้างฝังตะวันตกก็มีอ�ำนาจ เอ้ือมแผ่ไปจนถึงถลาง น�ำทัพศึกท่ีเป็นเรื่องส�ำคัญก็คือ ตีเมืองไทร มีอ�ำนาจในเมืองแขกมาก นับถือเป็นพระเจ้า แผน่ ดนิ รอง เปน็ ผไู้ ดร้ บั อำ� นาจทำ� หนงั สอื สญั ญากบั องั กฤษเจา้ ของพระขรรคเ์ นาวโลหะ พระแทน่ ถม พระราชยานถม พระแสงทวนถมและอื่น ๆ” เจ้าพระยาศรีธรรมราช (น้อย) ได้สร้างความส�ำคัญให้แก่เมืองนครศรีธรรมราชเป็นอันมาก สมเด็จฯ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพ ทรงกล่าวถึงไว้ในหนังสือสาส์น สมเด็จภาคที่ 6 มีความตอนหน่ึงว่า “เจา้ พระยานครฯ (นอ้ ย) ปกครองบา้ นเมอื งเขม้ แขง็ กวา่ เจา้ เมอื งแตก่ อ่ น” ในดา้ นการชา่ งไดต้ อ่ เรอื รบ และเรอื กำ� ปน่ั แปลงแก่กองทัพไทยสมัยรัชกาลท่ี 2 จ�ำนวน 30 ล�ำ ได้ส่งเสริมงานช่างศิลปกรรม เครื่องถมและ ผ้ายกเมืองนคร จนเป็นท่ีรจู้ ักกว้างขวาง ด้านการรบได้ท�ำศึกสงครามเพอ่ื ปราบปรามกบฏเมอื งไทรบุรชี นะ ท�ำใหไ้ ทรบรุ ี ยังคงขน้ึ อยู่ กับไทย เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อย) ถงึ แก่อนิจกรรม เมอื่ ปี พ.ศ. 2382 พระบาทสมเดจ็ พระน่ังเกลา้ เจ้าอยู่หัวทรงแต่งตั้งพระเสน่หามนตรี (น้อยกลาง) ผู้ช่วยว่าราชการเมืองนครศรีธรรมราช ผู้เป็นบุตรคนท่ีส่ี ของเจ้าพระยานครศรธี รรมราช (น้อย) เปน็ เจา้ เมือง ปรากฏนามในตราตัง้ ว่า พระยานครศรีธรรมราช แต่คนทว่ั ไป มักเรียกว่า พระยานครน้อยกลาง ภายหลังได้รับสถาปนาเป็นเจ้าพระยานครศรีธรรมราช เมื่อปี พ.ศ. 2395 และได้ถงึ แก่อนิจกรรม เมอ่ื ปี พ.ศ. 2410 พระเสนห่ ามนตรี (หนูพรอ้ ม) บตุ รคนโตของเจา้ พระยานครศรีธรรมราช (น้อยกลาง) ได้เขา้ ดำ� รงตำ� แหนง่ เจา้ เมืองเป็นเจา้ พระยานครศรีธรรมราชสบื แทน ปรากฏนามภายหลงั ว่า เจา้ พระยา สุธรรมมนตรี คนทั่วไป เรยี กว่า เจา้ พระยาชนทวน 8. ยุคมณฑลเทศาภิบาล มณฑลเทศาภิบาล เป็นรูปแบบปกครองโดยการรวมหัวเมือง เข้ามาอยู่ภายใต้การก�ำกับดูแล และบังคับบญั ชาของขา้ หลวงเทศาภิบาล แทนการมเี จา้ เมอื งดังแต่ก่อน ขา้ หลวงเทศาภบิ าล มฐี านะเป็นข้าราชการ ต่างพระเนตร พระกรรณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั ทรงไวว้ างพระราชหฤทัย คดั เลือกจากขนุ นางชน้ั ผูใ้ หญ่ ที่มีความรู้ความสามารถสูงออกไปปฏิบัติราชการ และยังมีข้าราชการรองอีกจ�ำนวนหน่ึงรวมเรียกว่า กองมณฑล ท�ำหนา้ ท่ี ชว่ ยเหลือการปฏิบัตริ าชการในแผนกการต่าง ๆ ในมณฑล ก่อนการปฏิรูปการปกครอง หัวเมืองทางปักษ์ใต้ที่มีความส�ำคัญมาก คือ เมืองนครศรีธรรมราช และเมืองสงขลา เพราะเมอื งท้ังสองท�ำหนา้ ท่ีควบคุมบงั คับบัญชาประเทศราชมลายู เม่ืออังกฤษมีเมอื งขนึ้ อย่ปู ระชิด ดนิ แดนไทย เปน็ เหตใุ หโ้ ทษกบั องั กฤษมกี รณพี พิ าทกนั ในเรอ่ื งหวั เมอื งมลายหู ลายครง้ั พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจ้าอยู่หัว ทรงใช้นโยบายประนีประนอม ทรงยกฐานะผู้ครองนครรัฐไทรบุรี ข้ึนเป็นเจ้าพระยาและให้ข้ึนตรงต่อ กรุงเทพฯ จากเดิมที่ข้ึนกับเมืองนครศรีธรรมราช ทรงมีพระราชประสงค์ให้ หัวเมืองมลายูเป็นพระราชอาณาเขต ช้ันนอกติดกับฝร่ังเศสตะวันตกและได้โปรดเกล้าฯ ให้หัวเมืองปักษ์ใต้ทั้งหมด ท่ีเคยขึ้นสังกัดกระทรวงกลาโหม มาอยู่ในสงั กัดกระทรวงมหาดไทย 10 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค23000123 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้

กิจกรรมหน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 ประวตั ศิ าสตรน์ ครศรธี รรมราช จงตอบค�ำถามต่อไปน้ีทุกขอ้ 1. จงอธิบายลักษณะการต้ังถิ่นฐานและการด�ำเนินชีวิตของผู้คนในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช ตามหวั ข้อต่อไปน้ี พอเปน็ สงั เขป ดงั นี้ 1) ชาวถ้ำ� หรอื มนุษยถ์ �ำ้ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. 2) ชุมชนเกษตรกรรมเรม่ิ แรก ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. 3) ชุมชนเมอื งท่าและสถานทก่ี ารค้า ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. เอกสารประกอบการเรยี น 11 รายวิชา นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค23000123 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น

4) ชุมชนุ เมืองและนครรฐั พอสังเขป ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... 2. จงแสดงล�ำดับเหตกุ ารณส์ ำ� คญั สมัยกอ่ นประวตั ศิ าสตร์ในยคุ หิน ยุคหนิ ใหม่ และยคุ โลหะ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................... 3. จงบอกสงิ่ สำ� คัญท่ีเกดิ ขน้ึ ในยคุ สมัยท้ัง 7 สมัย ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. 12 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค23000123 ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2ลักษณะภมู ปิ ระเทศจงั หวัดนครศรธี รรมราช ลักษณะภูมิประเทศจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นการเรียนรู้เก่ียวกับ ที่ต้ัง ขนาด และอาณาเขต ลักษณะภูมิประเทศ และแม่น้�ำที่ส�ำคัญของจังหวัดนครศรีธรรมราช ซ่ึงการเรียนรู้และการสืบค้นข้อมูลลักษณะ ภมู ปิ ระเทศจงั หวดั นครศรธี รรมราช จะสง่ ผลใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ใจบรบิ ทของพน้ื ทขี่ องจงั หวดั นครศรธี รรมราชไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง เร่อื งที่ 1 ท่ตี ั้ง ขนาด และอาณาเขตจังหวดั นครศรธี รรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ทางตอนกลางของภาคใต้ ห่างจากกรุงเทพมหานคร 780 กิโลเมตร มีเนื้อท่ีประมาณ 9,942,502 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 6,214,064 ไร่ มีพื้นที่มากเป็นอันดับ 2 ของภาคใต้ และเปน็ อนั ดบั ที่ 16 ของประเทศ หรอื ประมาณ รอ้ ยละ 1.98 ของพน้ื ทที่ ง้ั ประเทศ ทต่ี งั้ ของตวั จงั หวดั ตง้ั อยปู่ ระมาณ ละติจูด 9 องศาเหนอื และลองติจดู 100 องศาตะวนั ออก มอี าณาเขตตดิ ตอ่ กับจังหวัดตา่ ง ๆ ดังน้ี ทิศเหนอื ตดิ ต่อกบั จังหวดั สรุ าษฎร์ธานแี ละอา่ วไทย ทิศใต ้ ตดิ ตอ่ กับ จงั หวดั ตรงั จงั หวดั พัทลุง และจังหวดั สงขลา ทิศตะวันออก ติดตอ่ กับ อา่ วไทย ซึ่งมีฝ่ังทะเลยาว 225 กโิ ลเมตร ทิศตะวนั ตก ติดตอ่ กับ จงั หวัดสรุ าษฎรธ์ านี และจงั หวัดกระบ่ี ทีม่ า : http://www.oceansmile.com/S/Nakhonsitammarat/Nakhon1.htm เอกสารประกอบการเรยี น 13 รายวิชา นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค23000123 ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้

เรือ่ งที่ 2 ลักษณะภูมิประเทศจังหวัดนครศรธี รรมราช ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศจงั หวดั นครศรธี รรมราช ประกอบดว้ ย บรเิ วณเทอื กเขาตอนกลาง บรเิ วณ ทร่ี าบชายฝง่ั ตะวันออก และบรเิ วณท่รี าบดา้ นตะวันตก โดยมีรายละเอียด ดังน้ี 1. บรเิ วณเทอื กเขาตอนกลาง ไดแ้ ก่ บรเิ วณเทอื กเขาจงั หวดั นครศรธี รรมราช มอี าณาเขตตง้ั แตต่ อนเหนอื ของจงั หวดั ลงไปถงึ ตอนใตส้ ดุ บรเิ วณพน้ื ทข่ี องอำ� เภอ ทอ่ี ยใู่ นเขตเทอื กเขาตอนกลาง ไดแ้ ก่ อำ� เภอสชิ ล อำ� เภอขนอม อ�ำเภอท่าศาลา อ�ำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช อ�ำเภอลานสกา อ�ำเภอพรหมคีรี อ�ำเภอร่อนพิบูลย์ อ�ำเภอชะอวด อ�ำเภอจุฬาภรณ์ และอ�ำเภอพระพรหม ในเขตเทือกเขาน้ีมีภูเขาสูงสุดในจังหวัด คือ ภูเขาหลวง ซง่ึ สูงเหนือระดบั นํา้ ทะเลประมาณ 1,835 เมตร นอกจากนี้เทือกเขาดังกล่าวยังเป็นเส้น แบ่งเขตอ�ำเภอ ระหว่างอ�ำเภอทุ่งสง อ�ำเภอฉวาง กับอ�ำเภอชะอวด อ�ำเภอร่อนพิบูลย์ อ�ำเภอลานสกา อ�ำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช อ�ำเภอพรหมคีรี พ้นื ท่ี อ.พรหมครี ี อำ� เภอทา่ ศาลา และเปน็ เสน้ แบง่ เขต จงั หวดั นครศรธี รรมราช ทีม่ า : https://www.welovelocal.travel/outingonthetrain กบั อำ� เภอบา้ นนาสารอำ� เภอกาญจนดษิ ฐ์จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี อีกด้วย บริเวณเทือกเขาตอนกลาง มีเส้นทางคมนาคม ทสี่ ำ� คญั คอื ทางหลวงแผน่ ดนิ หมายเลข 401 โดยมรี ะยะทาง เร่ิมต้นจากชายฝั่งตะวันตกของภาคใต้ โดยแยกจาก ถนนเพชรเกษมบริเวณกิโลเมตรที่ 762+481 ท่ีสามแยก โคกเคียน ใกล้ตัวเมืองอ�ำเภอตะก่ัวป่า จังหวัดพังงา จากนั้นตัดไปทางทิศตะวันออกผ่านจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปยงั ชายฝง่ั ตะวนั ออก และลงใตไ้ ปยงั จงั หวดั นครศรธี รรมราช พ้ืนท่ี อ.ลานสกา โดยสิ้นสุดที่ถนนพัฒนาการคูขวาง และทางหลวงแผ่นดิน ที่มาhttps://pantip.com/topic/35053664 หมายเลข 4015 นครศรีธรรมราช–บ้านส้อง เป็นถนนเส้นทางหลักเช่ือมต่อระหว่างอ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อ�ำเภอลานสกา อ�ำเภอชา้ งกลาง อำ� เภอฉวาง และอ�ำเภอเวยี งสระ จังหวดั สุราษฎร์ธานี 2. บริเวณท่ีราบชายฝั่งตะวันออก ได้แก่ บริเวณต้ังแต่เทือกเขาตอนกลางไปทางตะวันออกถึงฝั่ง ทะเลอา่ วไทย จำ� แนกได้เปน็ 2 ตอน คอื ตั้งแต่อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปทางใต้เป็นที่ราบที่มีความ กว้างจากบริเวณเทือกเขาตอนกลาง ไปถึงชายฝั่งทะเล ระยะทางประมาณ 95 กิโลเมตร มีแมน่ ํา้ ลำ� คลองทม่ี ตี น้ น้ำ� เกิดจากบริเวณเทือกเขาตอนกลางไหลลงสู่อ่าวไทย หลายสาย นับเป็นที่ราบซึ่งมีค่าทางเศรษฐกิจของจังหวัด ล�ำน้ําส�ำคัญได้แก่แม่น้�ำปากพนัง และมีคลองสายเล็ก ๆ พ้ืนท่อี �ำเภอสิชล ท่มี า : about:blank 14 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค23000123 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้

ในเขตอำ� เภอเมอื งจงั หวดั นครศรธี รรมราช อกี หลายสาย เชน่ คลองปากพญาและคลองทา้ ยวงั เปน็ ตน้ อกี บรเิ วณหนงึ่ คือ ต้ังแต่อ�ำเภอท่าศาลาข้ึนไปทางทิศเหนือ เป็นบริเวณชายฝั่งแคบ ๆ ไม่เกิน 15 กิโลเมตร คือ อ�ำเภอสิชล และอำ� เภอขนอม 3. บรเิ วณท่ีราบด้านตะวนั ตก ไดแ้ ก่ บริเวณ ทร่ี าบระหวา่ งเทอื กเขาจงั หวดั นครศรธี รรมราช จงึ มลี กั ษณะ เป็นเนินเขาอยู่เป็นแห่ง ๆ อ�ำเภอท่ีอยู่บริเวณท่ีราบด้านนี้ คือ อ�ำเภอพิปูน อำ� เภอทงุ่ ใหญ่ อำ� เภอฉวาง อ�ำเภอนาบอน อำ� เภอบางขนั อ�ำเภอถา้ํ พรรณรา และอำ� เภอทงุ่ สง ล�ำน้�ำส�ำคัญ ได้แก่ ต้นน้�ำของแม่น�้ำตาปี ไหลผ่านอ�ำเภอพิปนู อ�ำเภอฉวาง และอำ� เภอทุ่งใหญ่ ทม่ี า : https://www.naewna.com/likesara เร่อื งท่ี 3 แม่น�้ำท่ีส�ำคญั ของจงั หวัดนครศรีธรรมราช แมน่ ำ�้ ทส่ี ำ� คญั ของจงั หวดั นครศรธี รรมราช ประกอบดว้ ย แมน่ ำ�้ ปากพนงั แมน่ ำ�้ หลวง คลองปากพนู คลอง ปากพญา-คลองปากนคร คลองเสาธง คลองกลาย คลองน้�ำตกโยง คลองมีน คลองท่าเลาและคลองท่าโลน โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1. แม่น้�ำปากพนัง ต้นน้�ำเกิดจากเทือกเขาบรรทัด ในเขตต�ำบลวังอ่าง อ�ำเภอชะอวด ไหลผ่าน อำ� เภอชะอวด อำ� เภอเชยี รใหญ่ และมสี าขาจากอำ� เภอหวั ไทร ไหลมารวมกนั ทบี่ า้ นปากแพรก กลายเปน็ แมน่ ำ�้ ปากพนงั ไหลลงสอู่ า่ วจงั หวดั นครศรธี รรมราช นบั เปน็ แมน่ ำ้� ทสี่ ำ� คญั ทางเศรษฐกิจของจังหวัดมาก โดยเฉพาะทางด้าน เกษตรกรรม บริเวณลุ่มน้�ำปากพนังและล�ำน้�ำสาขา เป็นบริเวณที่ราบมีพ้ืนที่นากว่า 500,000 ไร่ มีโครงการ พัฒนาพ้ืนท่ีลุ่มน้�ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ ด�ำเนินการโดยกรมชลประทาน และแม่น้�ำปากพนัง เป็นท่ีตั้งของท่าเทียบเรือประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช และตลาดกลางก้งุ กุลาดำ� จังหวดั นครศรธี รรมราช แมน่ ้ำ� ปากพนัง 2. แม่น้�ำหลวง เป็นสาขาหนึ่งของแม่น้ําตาปี ต้นนํ้าเกิดจากบริเวณทิศตะวันตกของเทือกเขา จังหวัดนครศรีธรรมราช และเทือกเขาภูเก็ต ส่วนที่เกิดจากเทือกเขาจังหวัดนครศรีธรรมราช มีต้นนํ้าอยู่ในเขต อ�ำเภอพิปูน และอ�ำเภอฉวาง ไหลผ่านอ�ำเภอฉวาง และ อ�ำเภอทุ่งใหญ่เขา้ เขตจังหวดั สุราษฎร์ธานี อ�ำเภอพระแสง อ�ำเภอนาสารไปรวมกับแม่นํ้าคีรีรัฐนิคม (แม่นํ้าพุมดวง) ท่ีอ�ำเภอพุนพิน เรียกว่า “แม่น�้ำตาปี” แล้วไหลลงสู่ อ่าวบ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี แม่นํ้าสายน้ีเป็นแม่น�้ำ สายท่มี คี วามยาวท่สี ุดของภาคใต้ แมน่ ำ�้ หลวง ท่ีมา : http://oknation.nationtv.tv/blog เอกสารประกอบการเรยี น 15 รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค23000123 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น

3. คลองปากพูน ต้นน้ําเกิดจากเทือกเขา จงั หวดั นครศรธี รรมราชบรเิ วณเขาหลวงทางดา้ นตะวนั ออก ของเทอื กเขาตน้ นาํ้ อยทู่ นี่ าํ้ ตกพรหมโลกในเขตอำ� เภอพรหมครี ี ไหลไปทาง ทศิ ตะวนั ออกผา่ นตำ� บลบา้ นเกาะ อำ� เภอพรหมครี ี และบา้ นทา่ แพ ตำ� บลปากพนู อำ� เภอเมอื งแลว้ ไหลลงสอู่ า่ ว จังหวัดนครศรีธรรมราช ต้นน้�ำเรียกว่าคลองนอกท่า ใกลป้ ากนำ�้ เรยี กวา่ คลองปากพนู เปน็ คลองทมี่ คี วามสำ� คญั ทางเศรษฐกจิ มาแตส่ มยั โบราณ คลองปากพนู ท่มี า : http://oknation.nationtv.tv 4. คลองปากพญา-คลองปากนคร ต้นนํ้าเกิดจากแหล่งนํ้าหลายสาขาในเขตเทือกเขา จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะท่ีเขาคีรีวง ต�ำบลก�ำโลน อ�ำเภอลานสกา ไหลผ่านอ�ำเภอเมือง ต้นนํ้าเรียกว่า คลองท่าดี ผ่านต�ำบลก�ำแพงเซา ต�ำบลมะม่วงสองต้น อ�ำเภอเมือง เม่ือไหลมาถึงสันทราย ซึ่งเป็นท่ีตั้งตัวเมือง คลองแบ่งแยกเป็นหลายสาขา สายหนึ่งไหลเลียบตัวเมือง ขึ้นไปทางตะวันออกผ่าน ตัวเมืองที่สะพานราเมศวร์ ต�ำบลท่าวัง ผ่านต�ำบลท่าซัก ออกทะเล ที่ปากพญา เรียกว่า คลองปากพญา ซ่ึงเป็นคลองที่มีความส�ำคัญ ด้านประวัติศาสตร์เศรษฐกิจของจังหวัด มีหลักฐานว่า เดิมมีขนาดกว้างและลึก ซ่ึงเรือก�ำปั่นขนาดใหญ่เข้ามา ติดตอ่ คา้ ขายไดถ้ ึงตัวเมืองจงั หวดั นครศรธี รรมราช คลองปากพญา-คลองปากนคร ที่มา : https://pimnatnicha14.wordpress.com 5. คลองเสาธง ต้นน้ําเกิดจากเทือกเขาจังหวัดนครศรีธรรมราช ในเขตอ�ำเภอลานสกา คลองนี้มีช่ือ เรยี กกนั หลายช่อื ตามทอ้ งทีท่ คี่ ลองไหลผ่าน คือ เม่ือไหลจากน้าํ ตกกะโรม เรียกว่า คลองเขาแกว้ เม่อื ไหลเข้าสอู่ ำ� เภอ ร่อนพิบูลย์ เรียกว่า คลองเสาธง เม่ือไหลผ่านบ้านโคกคราม อ�ำเภอร่อนพิบูลย์ เรียกว่า คลองโคกคราม เมื่อไหล เขา้ สตู่ ำ� บลชะเมา เรียกวา่ คลองชะเมา เม่ือถึงหนองนา้ํ มนต์มคี ลองแยกไปลงคลองปากนคร แตส่ ว่ นใหญอ่ อกทะเล ท่ีปากคลองบางจากตอนปลาย คลองนี้จึงเรียกว่า คลองบางจาก และเป็นคลองท่ีแบ่งเขตอ�ำเภอเมือง จงั หวดั นครศรธี รรมราชกบั อำ� เภอปากพนงั ในสมยั ทพี่ ระยา สขุ มุ นยั วนิ ติ เปน็ เทศาภบิ าลมณฑลจงั หวดั นครศรธี รรมราช ได้ขุดคลองบางจากเชื่อมกับแม่น้�ำปากพนัง เรียกว่า คลองสขุ มุ ทีต่ ำ� บลบางจาก กรมชลประทานไดส้ ร้างประตู ระบายน้�ำเพ่ือเก็บกักน้�ำไว้ในล�ำคลองและป้องกันน้�ำเค็ม ระบายให้แก่คลองสุขุมและช่วยการเกษตรกรรมพื้นท่ี 58,200 ไร่ ทีม่ า : https:ค//ลwอwงเwสา.bธlงoggang.com 16 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค23000123 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้

6. คลองกลาย ต้นน้�ำเกิดจากเทือกเขา จังหวัดนครศรีธรรมราช ในเขตพื้นท่ี อ�ำเภอนบพิต�ำ ไหลไปออกทะเลท่ีอ�ำเภอท่าศาลา คลองกลาย เป็นท่ีรู้จัก ของชาวจงั หวดั นครศรธี รรมราช เพราะมสี ะพานทย่ี าวทส่ี ดุ ในจงั หวดั จงั หวัดนครศรีธรรมราช คลองกลาย ทมี่ า : https://pimnatnicha14.wordpress.com 7. คลองน�้ำตกโยง ต้นน้ําเกิดจากเทือกเขา จังหวัดนครศรีธรรมราช ด้านตะวันตกบริเวณน้ําตกโยง ต�ำบลถ้ําใหญ่ อ�ำเภอทุ่งสง แล้วไหลผ่านต�ำบลปากแพรก ต�ำบลชะมาย ต�ำบลที่วัง และต�ำบลกะปาง เข้าสู่อ�ำเภอ หว้ ยยอด จงั หวัดตรงั กลายเป็นสาขาหนึง่ ของแมน่ ้าํ ตรัง 8. คลองมีน ต้นน้ําเกิดจากภูเขาสามจอม คลองนำ้� ตกโยง ในเขตอ�ำเภอทุ่งใหญ่ ไหลลงมาทางตะวันออกเฉียงเหนือ ทมี่ า : http://myprojectpage1.blogspot.com ผ่านบ้านห้วยญวณข้างเหนือ ผ่านบ้านเขาขาว สหกรณ์ นิคมทุ่งสง บ้านล�ำสาย บ้านทุ่งส้าน สถานีรถไฟหลักช้าง คลองมีน บา้ นปากนา้ํ คลองจนั ดี ไหลไปเปน็ สาขาหนง่ึ ของแมน่ า้ํ หลวง ทม่ี า : https://pimnatnicha14.wordpress.com หรือแม่น้าํ ตาปีและออกอา่ วบ้านดอน จงั หวัดสรุ าษฎร์ธานี เอกสารประกอบการเรยี น 17 รายวชิ า นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหัสรายวชิ า สค23000123 ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้

กจิ กรรมหนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 ลักษณะภมู ปิ ระเทศจังหวัดนครศรธี รรมราช ให้ผเู้ รียนศึกษาคน้ คว้าและตอบค�ำถามต่อไปน้ใี ห้ถูกต้อง 1. ทต่ี ้ัง ขนาด และอาณาเขตนครศรธี รรมราช ทตี่ งั้ …………………………………………………………..……… ขนาด………………………………………………………..……… ………………………………………………………….…………… ………………………………………………………….…………… …………………………………………………………….…...…… …………………………………………………………….…...…… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… อาณาเขต ทิศเหนือ ตดิ ตอ่ กับ .................................................................................................................................. ทิศใต ้ ติดตอ่ กับ .................................................................................................................................. ทศิ ตะวนั ออก ติดตอ่ กับ .................................................................................................................................. ทิศตะวันตก ตดิ ตอ่ กบั .................................................................................................................................. 2. อธบิ ายลักษณะภูมปิ ระเทศและยกตวั อยา่ งอำ� เภอของจงั หวดั นครศรธี รรมราช ลกั ษณะ ลักษณะส�ำ คญั อำ�เภอ ภูมปิ ระเทศ ทอ่ี ยใู่ นบริเวณ บริเวณ ………………………………………………………................................................ ..………………..…..…… เทือกเขา ………………………………………………………................................................ ………………….……….. ตอนกลาง ………………………………………………………................................................ ………………….…...….. ………………………………………………………................................................ ………………….….……. บริเวณทีร่ าบ ………………………………………………………................................................ ..………………..…..…… ชายฝัง่ ………………………………………………………................................................ ………………….……….. ตะวันออก ………………………………………………………................................................ ………………….…...….. ………………………………………………………................................................ ………………….….……. บรเิ วณที่ราบ ………………………………………………………................................................ ..………………..…..…… ดา้ นตะวันตก ………………………………………………………................................................ ………………….……….. ………………………………………………………................................................ ………………….…...….. ………………………………………………………................................................ ………………….….……. 18 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค23000123 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น

3. อธบิ ายและยกตัวอย่างแมน่ ำ้� ทส่ี ำ� คัญของจงั หวดั นครศรธี รรมราช โดยสังเขป ชื่อแม่นำ้� ข้อมลู ทวั่ ไป 1. ..................................................... ………………………………………………………................................................ ………………………………………………………................................................ ………………………………………………………................................................ 2. ..................................................... ………………………………………………………................................................ ………………………………………………………................................................ ………………………………………………………................................................ 3. ..................................................... ………………………………………………………................................................ ………………………………………………………................................................ ………………………………………………………................................................ เอกสารประกอบการเรียน 19 รายวิชา นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค23000123 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 3ลักษณะภูมอิ ากาศจงั หวดั นครศรีธรรมราช ลกั ษณะภมู อิ ากาศนครศรธี รรมราช เปน็ การเรยี นรเู้ กย่ี วกบั ฤดกู าลของนครศรธี รรมราช และภยั ธรรมชาติ ท่เี กดิ ขน้ึ ในจังหวดั นครศรีธรรมราช ซึง่ ลักษณะทางกายภาพของพ้นื ทใี่ นนครศรธี รรมราช สง่ ผลตอ่ การเกิดภยั พบิ ัติ ที่แตกตา่ งกัน การเขา้ ใจความสมั พันธ์ระหวา่ งลักษณะทางกายภาพในประเทศไทยกับภยั พบิ ตั จิ ะช่วยให้มนุษยอ์ าศัย อยู่ร่วมกบั ธรรมชาตอิ ย่างยง่ั ยนื เรือ่ งท่ี 1 ฤดูกาลของจังหวดั นครศรธี รรมราช ลักษณะภูมิอากาศของจังหวัดนครศรีธรรมราชจากสถานที่ตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร และมีภูเขาแบ่งพ้ืนที่ เป็น 2 คาบสมุทร คือ ด้านตะวันออกเป็นทะเลจีนใต้มหาสมุทรแปซิฟิก ส่วนด้านตะวันตกเป็นทะเลอันดามัน มหาสมุทรอนิ เดีย ส่งผลให้จงั หวัดนครศรีธรรมราชมอี ณุ หภมู ิ ดงั นี้ อุณหภมู ิ เฉลย่ี ทั้งปี 27.0 °c อณุ หภมู สิ ูงสดุ เฉลย่ี ทง้ั ปี 32.1 °c อณุ หภูมิต่ำ� สดุ เฉลยี่ ท้งั ปี 23.0 °c นอกจากนี้ยังได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมจากมหาสมุทรอินเดียและพายุหมุนเขตร้อนจากทะเลจีนใต้ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่านมหาสมุทรอินเดีย และทะเลอันดามัน เข้าสู่ประเทศไทยบริเวณชายฝั่งตะวันตก จึงมีฝนตกชุก แต่จังหวัดนครศรีธรรมราชมีเทือกเขาทางตะวันตกและตอนกลางเป็นแนวกั้นทิศทางลม ท�ำให้ได้รับ อทิ ธิพลไม่มากนัก ลมมรสุมดังกลา่ วอยใู่ นช่วงประมาณเดอื นพฤษภาคมถึงเดอื นตลุ าคม 1. ฤดูฝน 1.1 ตงั้ แต่เดือน พฤษภาคม - ตุลาคม ได้รบั อิทธพิ ลจากลมมรสุมตะวันตกเฉยี งใต้ แตเ่ นื่องจากมี เทือกเขานครศรีธรรมราชท่ีสูงชัน เป็นท่ีกั้นทิศทางลมจึงมีฝนตกไม่มากนัก พ้ืนที่ที่ได้รับฝน คือ พ้ืนท่ีทางตะวันตก ของเทือกเขา จ�ำนวน 8 อ�ำเภอ ได้แก่อ�ำเภอทุ่งสง อ�ำเภอทุ่งใหญ่ อ�ำเภอบางขัน อ�ำเภอฉวาง อ�ำเภอช้างกลาง อ�ำเภอถำ้� พรรณรา อ�ำเภอนาบอนและอำ� เภอพปิ ูน 1.2 ตั้งแตเ่ ดือนพฤศจกิ ายน - กุมภาพันธ์ ไดร้ บั อิทธิพลจากลมมรสุมตะวนั ออกเฉียงเหนือ ทำ� ให้มี ฝนตกหนาแน่น ประกอบด้วย 15 อ�ำเภอ ได้แก่ อ�ำเภอขนอม อ�ำเภอสิชล อ�ำเภอท่าศาลา อ�ำเภอนบพิต�ำ อำ� เภอพรหมคีรี อ�ำเภอเมอื งนครศรธี รรมราช อำ� เภอลานสกา อำ� เภอร่อนพิบูลย์ อ�ำเภอจุฬาภรณ์ อ�ำเภอพระพรหม อำ� เภอเฉลมิ พระเกียรติ อ�ำเภอเชียรใหญ่ อำ� เภอชะอวด อำ� เภอหัวไทร และอำ� เภอปากพนงั เนือ่ งจากพืน้ ท่ีสว่ นใหญ่ ต้งั อยู่ด้านรับลมทำ� ใหเ้ กดิ อุทกภยั ขึ้นเป็นประจ�ำทกุ ปี เกณฑ์ปรมิ าณฝนตก ปริมาณฝนตก ตงั้ แต่ 0.1 - 10.0 มิลลเิ มตร/วนั เรียกว่า ฝนตกเลก็ นอ้ ย ปริมาณฝนตก ตงั้ แต่ 10.1 - 35.0 มลิ ลิเมตร/วัน เรียกวา่ ฝนตกปานกลาง ปริมาณฝนตก ตั้งแต่ 35.1 - 90 มิลลเิ มตร/วัน เรียกว่า ฝนตกหนัก 20 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค23000123 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

ปรมิ าณฝนตก ตั้งแต่ 90.1 มลิ ลิเมตรขึ้นไป เรียนว่า ฝนตกหนกั มาก สถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดนครศรีธรรมราช เก็บข้อมูลปริมาณน้�ำฝน จ�ำนวน 5 ปี (ระหว่าง พ.ศ. 2557 - 2561) ปรมิ าณน้�ำฝนสูงสุด คอื เดือนพฤศจกิ ายน รองลงมาคือ เดอื น ธนั วาคม และเดอื นมกราคม 2. ฤดรู ้อน จงั หวัดนครศรีธรรมราช เรม่ิ เข้าฤดรู ้อนตั้งแต่กลางเดือนมกราคม - กลางเดอื นพฤษภาคม อุณหภมู ิ ระยะเวลา 5 ปี ตั้งแตป่ ี 2557 - 2561 อุณหภูมิสูงสดุ อยใู่ นชว่ งระหว่างเดือนเมษายน - สิงหาคม เดอื นที่มีอณุ หภมู ิ สูงสุด คือ เดือนพฤษภาคม รองลงมาคือ เดือนมิถุนายนและเดือนเมษายน อุณหภูมิต�่ำสุดอยู่ในช่วงระหว่าง เดือนมกราคม - มีนาคม เดือนท่มี อี ุณหภูมติ ่ำ� สดุ คอื เดอื นกุมภาพันธ์ รองลงมา คือ เดอื นมกราคม และเดอื นมีนาคม เร่ืองท่ี 2 ภยั ธรรมชาติท่ีเกิดข้ึนในจังหวดั นครศรธี รรมราช จงั หวดั นครศรธี รรมราช เปน็ จงั หวดั ทมี่ ขี นาดใหญ่ มลี กั ษณะทางกายภาพของพนื้ ทเ่ี ปน็ ภเู ขา ปา่ ไม้ นาขา้ ว ป่าพรุและทะเล ขึ้นกบั ทำ� เลทต่ี ง้ั การได้รบั อิทธิพลจากธรรมชาตหิ รอื ท่เี รยี กวา่ ภัยธรรมชาติอย่างหลากหลาย ได้แก่ นำ้� ท่วม ดินถล่ม พายุ การกดั เซาะชายฝ่ังทะเล ภยั แลง้ และไฟป่า 1. อทุ กภยั อทุ กภยั คอื ภยั หรอื อนั ตรายทเี่ กดิ จากนำ�้ ทว่ ม หรอื อนั ตรายอนั เกดิ จากสภาวะทนี่ ำ�้ ไหล เออ่ ลน้ ฝง่ั แมน่ ำ�้ ล�ำธาร หรือทางน�้ำเข้าท่วมพ้ืนที่ ซ่ึงโดยปกติแล้วไม่ได้อยู่ใต้ระดับน้�ำ หรือเกิดจากการสะสมน้�ำบนพื้นท่ี ซ่ึงระบาย ออกไม่ทัน ท�ำให้พ้ืนท่ีนั้นปกคลุมไปด้วยน้�ำ พื้นที่และบริเวณที่อาจจะเกิดอุทกภัย ดินถล่มจะเป็นท่ีราบลุ่มบริเวณ ริมตล่ิงและเชิงเขา เกิดการเล่ือนไหลของตะกอนมวลดินและหินที่อยู่บนภูเขาสู่ที่ต่�ำในล�ำห้วยและทางน�้ำ ขณะเม่อื มีฝนตกหนกั อย่างตอ่ เน่ือง ลักษณะของพนื้ ท่เี ส่ยี งอุทกภยั -ดนิ ถล่ม จงั หวัดนครศรีธรรมราช 1.1 อุทกภัยทเ่ี กดิ จากนำ้� ท่วม แบ่งเปน็ ลกั ษณะใหญ่ 2 ลกั ษณะดงั นี้ 1) น�้ำท่วมขัง/น้�ำลน้ ตลิ่ง เปน็ สภาวะนำ้� ทว่ มทเี่ กดิ ขนึ้ เนอ่ื งจากระบบระบายนำ้� ไมม่ ปี ระสทิ ธภิ าพ มสี งิ่ กดี ขวางทางนำ�้ มักเกิดข้ึนในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น�้ำและบริเวณชุมชนเมือง มีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ซ่ึงเกิดจากฝนตกหนัก ณ บรเิ วณน้นั ๆ ติดต่อกนั เป็นเวลาหลายวัน หรือเกิดจากสภาวะนำ�้ ลน้ ตลิ่ง นำ้� ท่วมขังส่วนใหญ่จะเกิดบรเิ วณท้ายน้�ำ และมีลักษณะแผ่เป็นบริเวณกว้างเนื่องจากไม่สามารถระบายได้ทัน ความเสียหายจะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร และทรัพยส์ นิ 2) น�้ำท่วมฉบั พลนั เกดิ ขน้ึ เนอื่ งจากอทิ ธพิ ลจาก หยอ่ มความกดอากาศตำ่� (เกดิ พายอุ อ่ น ๆ) รอ่ งความกดอากาศ ต่�ำและพายุเคลื่อนตัวผ่าน ซ่ึงอาจจะไม่มีฝนตกหนักในบริเวณน้ันมาก่อน แต่มีฝนตกหนักมากบริเวณต้นน้�ำ ที่อยู่ห่างออกไป น้�ำท่วมฉับพลันมีความรุนแรงและเคล่ือนที่ด้วยความเร็วมาก โอกาสท่ีจะป้องกันและหลบหนี จงึ มีน้อยท�ำให้ไดร้ ับความเสยี หาย ท้งั ชวี ิตและทรพั ยส์ นิ เอกสารประกอบการเรยี น 21 รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค23000123 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้

1.2 สาเหตกุ ารเกดิ อุทกภยั 1) เกิดจากธรรมชาติ (1) ฝนตกหนักจากพายุหรือพายุฝนฟ้าคะนอง เป็นพายุที่เกิดขึ้นติดต่อกันเป็นเวลา หลายชั่วโมง มีปริมาณฝนตกหนักมาก ไหลลงสู่ต้นน�้ำล�ำธารไม่ทัน จึงท่วมพื้นท่ี ท่อี ยู่ในท่ีต่�ำมักเกิดในชว่ งฤดูฝนหรอื ฤดรู อ้ น (2) ฝนตกหนักในป่าบนภูเขา มีปริมาณมาก น�้ำไหลเช่ียวอย่างรุนแรงลงสู่-ท่ีราบเชิงเขา ท�ำใหเ้ กดิ น�ำ้ ท่วมขึน้ อย่างกะทันหัน เรียกว่า นำ้� ท่วมฉบั พลัน เกิดขน้ึ หลังจากที่มฝี น ตกหนกั ในชว่ งระยะเวลาสน้ั ๆ หรอื เกดิ กอ่ นทฝี่ นจะหยดุ ตก มกั เกดิ ขนึ้ ในลำ� ธารเลก็ ๆ โดยเฉพาะบริเวณที่อยูใ่ กลต้ ้นนำ้� ของบริเวณลมุ่ นำ�้ ระดบั น�ำ้ จะสงู ขน้ึ อยา่ งรวดเรว็ (3) ผลจากพายุหรือลมมรสุมมีก�ำลังแรง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เป็นมรสุมที่พัดพา ความช้ืนจากมหาสมุทรอินเดียเข้าสู่ประเทศไทย ท�ำให้จังหวัดนครศรีธรรมราช มีฝนตกต้ังแต่ปลายเดือนพฤษภาคม - กรกฎาคมและระหว่างเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ มีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ท�ำให้จังหวัดนครศรีธรรมราช จะมีฝนตกชกุ อีกครงั้ เน่ืองจากมรสมุ น้ีนำ� ความช่มุ ชน้ื จากทะเลจนี ใต้ เม่อื ก�ำลังแรง เปน็ ระยะเวลาหลายวัน ท�ำให้เกดิ คลื่นลมแรง ระดับนำ้� ในทะเลตามขอบฝ่ังจะสงู ขน้ึ ประกอบกับมีฝนตกหนักทำ� ให้เกิดน้ำ� ท่วมได้ 2) เกดิ จากมนุษย์ (1) การตัดไม้ท�ำลายป่าในพ้ืนที่เส่ียงภัย เม่ือเกิดฝนตกหนักจะท�ำให้อัตราการไหลของ กระแสน�้ำเพิ่มข้ึนและไหลมาเร็วข้ึน เป็นการเพ่ิมความรุนแรงของน้�ำในการท�ำลาย ท�ำให้ดนิ ถลม่ รากไม้ขนาดใหญถ่ ูกชะลา้ งใหไ้ หลลงมาในทอ้ งนำ้� (2) การขยายเขตเมืองลุกล้�ำเข้าไปในพ้ืนที่ลุ่มต่�ำซ่ึงเป็นแหล่งเก็บน้�ำธรรมชาติ ท�ำให้ ไมม่ ที ่รี บั น้ำ� ดังนั้นเมอ่ื น้ำ� ลน้ ตลงิ่ ก็จะเข้าไปท่วมบริเวณท่ีเปน็ พ้ืนท่ีลมุ่ ตำ่� ซงึ่ เป็นเขต เมอื งที่ขยายใหม่กอ่ น (3) การกอ่ สร้างอาคารบา้ นเรอื นขวางทางนำ้� ธรรมชาติ (4) การออกแบบทางระบายน�้ำของถนนไม่เพียงพอ ท�ำใหน้ �้ำล้นเอ่อในเขตเมือง (5) การกอ่ สรา้ งในบรเิ วณเชงิ เขาที่ลาดชัน โดยไม่มีการค�ำนวณดา้ นวิศวกรรมทดี่ พี อ (6) การเกษตรในพ้นื ที่ลาดชันเชิงเขา (7) การก�ำจัดพชื ทปี่ กคลมุ ดนิ (8) ชุมชนส่วนใหญต่ ้งั อย่บู ริเวณเชงิ เขาและท่ีราบลุ่ม (9) การบกุ รุกพื้นที่ปา่ (10) การเปล่ยี นแปลงการใชป้ ระโยชน์ท่ีดนิ ที่ไมเ่ หมาะสมกับสภาพพ้นื ท่ี 3) การปอ้ งกนั อุทกภยั ก่อนเกดิ อทุ กภัย มขี อ้ สังเกต ดงั นี้ (1) มีฝนตกหนักถึงหนกั มากตลอดท้งั วนั (2) มีน้�ำไหลซึมหรือน�้ำพุพุ่งขึ้นมาจากใต้ดินนอกจากนี้อาจจะสังเกตจากลักษณะ การอุ้มน้�ำของช้ันดิน เนื่องจากการเกิดดินถล่ม ดินจะอ่ิมตัวด้วยน�้ำหรือชุ่มน�้ำ มากกวา่ ปกติ 22 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค23000123 ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้

(3) ระดับน้ำ� ในแมน่ �ำ้ ลำ� หว้ ยเพมิ่ สงู ขนึ้ อยา่ งรวดเร็วผิดปกติ (4) สีของน้ำ� มสี ีขนุ่ มากกว่าปกติ (5) มกี ิ่งไมห้ รอื ท่อนไม้ไหลมากับกระแสนำ้� (6) เกดิ ช่องทางเดินนำ้� แยกขึน้ ใหมห่ รอื หายไปจากเดมิ (7) ตน้ ไม้ เสาไฟ รั้ว หรอื ก�ำแพงเอยี งหรือลม้ ลง (8) เกิดรอยแตกร้าวขึ้นท่ีโครงสร้างต่างๆ ในส่ิงก่อสร้าง เช่น รอยแยกระหว่างวงกบ กับประตู หรือระหว่างวงกบกับหนา้ ต่างขยายใหญข่ ึน้ ขณะเกดิ อทุ กภยั (1) ตดั สะพานไฟ และปดิ แก๊สหุงตม้ ใหเ้ รียบรอ้ ย (2) ให้อยูใ่ นอาคารที่แขง็ แรง และอยู่ในท่สี ูงพ้นระดับน�้ำที่เคยท่วมมาก่อน (3) ทำ� รา่ งกายใหอ้ บอ่นุ อยเู่ สมอ (4) ไมค่ วรขับข่ยี านพาหนะฝา่ ลงไปในกระแสน�้ำหลาก (5) ไมค่ วรเลน่ น้�ำหรอื วา่ ยนำ้� เลน่ ในขณะนำ้� ทว่ ม (6) ระวงั สตั วม์ พี ษิ ทห่ี นนี ำ้� ทว่ มขน้ึ มาอยบู่ นบา้ นและหลงั คาเรอื น เชน่ งู แมงปอ่ ง ตะขาบ (7) ติดตามเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด เช่น สังเกตลมฟ้าอากาศ และติดตามค�ำเตือน เกยี่ วกับ ลักษณะอากาศจากกรมอุตนุ ิยมวิทยา (8) เตรียมพร้อมท่ีจะอพยพไปในที่ปลอดภัยเม่ือสถานการณ์จวนตัวหรือปฏิบัติตาม ค�ำแนะน�ำของทางราชการ (9) เม่ือจวนตวั ใหค้ ำ� นงึ ถึงความปลอดภยั ของชีวติ มากกวา่ ห่วงทรัพย์สมบตั ิ หลงั เกิดอุทกภยั (1) การขนสง่ คนอพยพกลับยังภมู ิลำ� เนาเดิม (2) การช่วยเหลือในการรื้อสิ่งปรักหักพัง การกวาดเก็บขนสิ่งปรักหักพังท่ัวไป การท�ำความสะอาดบ้านเรือน ถนนหนทางท่ีเต็มไปด้วยโคลนตม และส่ิงช�ำรุด เสียหายท่ีเกลื่อนกลาดอย่ทู ว่ั ไปกลับส่สู ภาพปกติโดยเรว็ (3) ซอ่ มแซมบา้ นเรือนท่พี กั อาศัย โรงเรียน สะพานทห่ี ักพังชำ� รุดเสยี หายและที่เสยี หาย มากจนไม่อาจซ่อมแซมได้ กใ็ หร้ ้ือถอนเพราะจะเป็นอนั ตรายได้ (4) จัดซ่อมท�ำเครื่องสาธารณูปโภคให้กลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็วท่ีสุด เช่น การไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ (5) ภายหลังน�้ำท่วมจะมีซากสัตว์ตายในท่ีต่าง ๆ ซึ่งจะต้องจัดการเก็บฝังโดยเร็ว สตั วท์ ่มี ีชีวติ อยู่ ซงึ่ อดอาหารเป็นเวลานานใหร้ ีบให้อาหารและน�ำกลับคนื ให้เจา้ ของ (6) ซ่อมถนนสะพานและทางรถไฟท่ีช�ำรุดเสียหายให้กลับสู่สภาพเดิมเพ่ือใช้ในการ คมนาคมได้โดยเร็วทส่ี ดุ (7) สรา้ งอาคารชว่ั คราวส�ำหรบั ผ้ทู อี่ าศยั (8) แจกเส้ือผา้ เคร่ืองนุง่ ห่ม และอาหารแก่ผปู้ ระสบภยั เพอ่ื ดำ� รงชีวิตชวั่ ระยะหน่งึ (9) ระวงั การเจบ็ ปว่ ยและโรคระบาด เอกสารประกอบการเรียน 23 รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค23000123 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้

2. วาตภัย วาตภัยเป็นภัยที่เกิดข้ึนจากพายุลมแรง จนท�ำให้เกิดความเสียหายแก่อาคารบ้านเรือน ต้นไม้ และสง่ิ กอ่ สรา้ ง จงั หวดั นครศรธี รรมราชมโี อกาสเสย่ี งตอ่ ภยั จากพายหุ มนุ เขตรอ้ น ตง้ั แตก่ ลางเดอื นตลุ าคมจนถงึ เดอื น มกราคม และมีพื้นที่เส่ียงภัย 3 ระดบั ดงั นี้ ความเสี่ยงระดับต�่ำ จ�ำนวน 5 อ�ำเภอ ได้แก่ อ�ำเภอพรหมคีรี อ�ำเภอนบพิต�ำ อ�ำเภอนาบอน อ�ำเภอถ้ำ� พรรณรา และอำ� เภอเฉลมิ พระเกียรติ ความเสี่ยงระดับกลาง จ�ำนวน 9 อำ� เภอ ไดแ้ ก่ อำ� เภอขนอม อ�ำเภอพระพรหม อำ� เภอพปิ นู อำ� เภอ ช้างกลาง อ�ำเภอท่งุ สง อำ� เภอบางขัน อ�ำเภอจุฬาภรณ์ อำ� เภอชะอวด และอำ� เภอเชียรใหญ่ ความเสยี่ งระดบั สงู จำ� นวน 9 อำ� เภอ ไดแ้ ก่ อำ� เภอสชิ ล อำ� เภอทา่ ศาลา อำ� เภอเมอื ง อำ� เภอลานสกา อ�ำเภอร่อนพิบลู ย์ อ�ำเภอปากพนงั อ�ำเภอหัวไทร อำ� เภอฉวาง และอำ� เภอทงุ่ ใหญ่ 2.1 ลักษณะการเกดิ วาตภยั ในจงั หวดั นครศรธี รรมราช มโี อกาสเกดิ วาตภยั คอื พายหุ มนุ เขตรอ้ นเปน็ คำ� ทใี่ ชเ้ รยี ก พายหุ มนุ ทม่ี ถี นิ่ กำ� เนดิ เหนอื มหาสมทุ รในเขตรอ้ นแถบละตจิ ดู ตำ�่ พายนุ เี้ กดิ ขนึ้ ในมหาสมทุ รหรอื ทะเลทมี่ อี ณุ หภมู สิ งู ตง้ั แต่ 26 C° หรือ 27 C° ข้ึนไป และมีปริมาณไอน้�ำสูง เมื่อเกิดข้ึนแล้วและมีสภาวะที่เจริญเติบโตเต็มท่ี มักเคลื่อนตัว ตามกระแสลมสว่ นใหญจ่ ากทศิ ตะวนั ออกมาทางทศิ ตะวันตก และคอ่ ยโค้งขึน้ ไปทางละติจดู สูง แลว้ เวยี นโคง้ กลบั ไป ทางทิศตะวันออกอีก พายุหมุนเขตร้อนเกิดขึ้นได้หลายแห่งในโลก และมีชื่อเรียกต่างกันไปตามแหล่งก�ำเนิด บริเวณทีม่ พี ายหุ มนุ เขตร้อนเกิดขน้ึ เปน็ ประจ�ำและมผี ลตอ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แก่ 1) ดีเปรสชัน เป็นพายุหมุนท่มี กี ำ� ลังอ่อน เกดิ ข้ึนในละตจิ ูดกลางหรอื ละติจดู สงู ทำ� ใหฝ้ นตก ปานกลางถงึ ฝนตกหนัก มคี วามเร็วลมสูงสดุ ใกล้บริเวณศูนย์กลางไมเ่ กนิ 33 นอต (61 กโิ ลเมตร/ชวั่ โมง) 2) พายุโซนร้อน เป็นพายุท่ีมีขนาดความแรงของลมปานกลาง ท�ำให้ฝนตกหนักในวงกว้าง เกิดน้�ำท่วม - ดินถล่ม ต้นไม้ใหญ่หักโค่น ถนนช�ำรุดเสียหาย มีความเร็วลมใกล้บริเวณศูนย์กลางอยู่ระหว่าง 34 - 63 นอต (63 - 117 กโิ ลเมตร/ชัว่ โมง) 3) พายุไต้ฝุ่น เป็นพายุที่มีขนาดความแรงของลมสูงสุด ท�ำให้ฝนตกหนัก พายุ ฟ้าคะนอง และอุทกภัย (ซ่ึงมักจะท�ำให้มีคนเสียชีวิตมาก) มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางตั้งแต่ 64 นอต (118 กิโลเมตร/ ชั่วโมง) ขึ้นไป แต่มชี ่ือตา่ ง ๆ กันตาม บริเวณแหล่งทเ่ี กดิ ดงั นี้ พายไุ ตฝ้ ุน่ เกิดขึ้นในมหาสมทุ รแปซฟิ กิ ทางเหนอื หรือในทะเลจนี ใต้ พายไุ ซโคลน เกิดขึน้ ในมหาสมุทรอนิ เดีย อ่าวเบงกอล ทะเลอาระเปยี พายุเฮอร์รเิ คน เกดิ ขึ้นในมหาสมทุ รแอตแลนตกิ เหนือแถวทะเลแคริบเบยี น อา่ วเมก็ ซโิ ก 24 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค23000123 ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น

การเกดิ วาตภยั คร้ังส�ำคัญของจงั หวัดนครศรธี รรมราช มดี ว้ ยกนั 3 คร้ัง ดงั ต่อไปน้ี ครง้ั ท่ี 1 วาตภัยจากพายุโซนร้อน “แฮเรียต” (ความเร็วลมสูงสดุ ใกล้ศนู ย์กลาง 95 กโิ ลเมตร/ชว่ั โมง) พัดขน้ึ ฝ่งั ท่แี หลมตะลมุ พุก อำ� เภอปากพนัง จงั หวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันท่ี 25 ตุลาคม พ.ศ. 2505 มผี ้เู สียชีวติ 870 คน สญู หาย 160 คน บาดเจ็บ 422 คน ประชาชนไรท้ ี่อยอู่ าศัย 16,170 คน ทรัพยส์ นิ สญู เสีย ประมาณ 960 ล้านบาท ครั้งที่ 2 วาตภัยจากพายุโซนร้อน “ฟอร์เรสต์” (Forrest) (ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 155 กิโลเมตร/ ชั่วโมง) พัดเขา้ จงั หวดั นครศรธี รรมราช เมอ่ื วันที่ 15 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2535 ท�ำใหบ้ า้ นเรอื นไร่นา ในจังหวัดนครศรธี รรมราช ได้รบั ความเสียหาย รวมมลู ค่าประมาณ 3,000 ลา้ นบาท ครงั้ ท่ี 3 วาตภยั จากพายุโซนรอ้ น “ปาบกึ ”(Pabuk) (ความเร็วลมสงู สดุ ใกลศ้ ูนย์กลาง 80 กิโลเมตร/ ชวั่ โมง) พดั เขา้ จงั หวดั นครศรีธรรมราช เมือ่ วันท่ี 4 มกราคม พ.ศ.2562 มผี ้เู สียชีวติ 2 คน พนื้ ทจ่ี �ำนวน 16 อำ� เภอ ไดร้ บั ความเสยี หายบา้ นเรอื น สง่ิ กอ่ สรา้ ง ตน้ ไม้ เสาไฟฟา้ ลม้ ถนนหลายสาย ถกู ตน้ ไมล้ ม้ ทบั สวนยางพารา สวนปาลม์ สวนผลไม้ไดร้ บั ความเสียหายเป็นบรเิ วณกว้าง 2.2 การปอ้ งกันวาตภยั การเตรียมการ และขณะเกิดวาตภัย 1) ตดิ ตามขา่ วและประกาศค�ำเตือนลกั ษณะอากาศจากกรมอตุ นุ ยิ มวทิ ยา 2) เตรยี มวทิ ยแุ ละอปุ กรณส์ อ่ื สาร ชนดิ ใชถ้ า่ นแบตเตอรี่ เพอ่ื ตดิ ตามขา่ วในกรณที ไี่ ฟฟา้ ขดั ขอ้ ง 3) ตดั กิง่ ไมโ้ ดยเฉพาะกิง่ ท่ีจะหักมาทับบา้ น สายไฟฟา้ ตน้ ไมท้ ี่ตายยืนต้นควรจดั การโคน่ 4) ตรวจเสาและสายไฟฟ้าท้ังในและนอกบริเวณบ้านให้เรียบร้อย ถ้าไม่แข็งแรงให้ยึดเหนี่ยว เสาไฟฟา้ ให้มัน่ คง 5) พักในอาคารที่ม่ันคงตลอดเวลา ขณะเกิดวาตภัย อย่าออกมาในที่โล่งแจ้ง เพราะต้นไม้ และกง่ิ ไม้ อาจหกั โคน่ ลงมาทบั ได้ รวมท้งั สังกะสีและกระเบอื้ งจะปลิวตามลมมาท�ำอันตรายได้ 6) ปดิ ประตู หนา้ ตา่ งทกุ บาน รวมทง้ั ยดึ ประตแู ละหนา้ ตา่ งใหม้ นั่ คงแขง็ แรง ถา้ ประตหู นา้ ตา่ ง ไม่แขง็ แรง ให้ใชไ้ มท้ าบตีตะปูตรึงปิดประตู หน้าตา่ งไว้จะปลอดภัยยิ่งขึน้ 7) ปิดก้นั ช่องทางลมและชอ่ งทางต่าง ๆ ทล่ี มจะเข้าไปท�ำให้เกดิ ความเสียหาย 8) เตรยี มตะเกยี ง ไฟฉาย และไมข้ ดี ไฟไวใ้ ห้พร้อม ให้อยใู่ กลม้ ือ เม่อื เกดิ ไฟฟ้าดบั จะได้หยบิ ใช้ได้อยา่ งทันทว่ งที และน้ำ� สะอาด พรอ้ มทัง้ อปุ กรณ์เคร่อื งหุงต้ม 9) เตรยี มอาหารส�ำรอง อาหารกระป๋องไวบ้ า้ งสำ� หรบั การยังชีพในระยะเวลา 2 - 3 วัน 10) ดับเตาไฟใหเ้ รยี บร้อยและควรจะมีอุปกรณส์ ำ� หรับดับเพลงิ ไว้ 11) เตรยี มเครอื่ งเวชภัณฑ์ 12) ส่ิงของควรไวใ้ นท่ตี �ำ่ เพราะอาจจะตกหล่น แตกหักเสียหายได้ 13) บรรดาเรอื แพ ใหล้ งสมอยืดตรงึ ให้ม่งั คงแขง็ แรง 14) ถา้ มรี ถยนต์ หรอื พาหนะ ควรเตรยี มไวใ้ หพ้ ร้อมภายหลังพายุสงบ อาจต้องนำ� ผู้ป่วยไปสง่ โรงพยาบาล นำ้� มนั ควรจะเติมใหเ้ ต็มถังอยูต่ ลอดเวลา 15) เม่ือลมสงบแล้วต้องรออย่างน้อย 3 ชั่วโมง ถ้าพ้นระยะนี้แล้วไม่มีลมแรงเกิดข้ึนอีก จึงจะวางใจว่า พายุได้ผ่านพ้นไปแล้ว ทั้งน้ีเพราะ เม่ือศูนย์กลางพายุผ่านไปแล้วจะต้องมีลมแรงและฝนตกหนัก ผา่ นมาอกี ประมาณ 2 ชว่ั โมง เอกสารประกอบการเรยี น 25 รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหัสรายวชิ า สค23000123 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น

2.3 หลงั วาตภยั 1) เมอื่ มผี บู้ าดเจบ็ ใหร้ บี ชว่ ยเหลอื และนำ� สง่ โรงพยาบาลหรอื สถานพยาบาลทใ่ี กลเ้ คยี งโดยเรว็ ทสี่ ดุ 2) ต้นไม้ใกล้จะล้มใหร้ ีบจัดการโคน่ ล้มลงเสีย มฉิ ะน้นั จะหกั โคน่ ลม้ ภายหลัง 3) ถ้ามีเสาไฟฟ้าล้ม สายไฟขาดอย่าเข้าใกล้หรือแตะต้องเป็นอันขาด ท�ำเคร่ืองหมายแสดง อันตราย แจ้งให้เจ้าหน้าทีห่ รือชา่ งไฟฟ้าจัดการดว่ น อยา่ แตะโลหะท่เี ปน็ สอื่ ไฟฟา้ 4) เมือ่ ปรากฏว่า ท่อประปาแตกท่ีใด ใหร้ บี แจ้งเจ้าหน้าที่มาแกไ้ ขโดยด่วน 5) อยา่ เพงิ่ ใชน้ ำ้� ประปา เพราะนำ�้ อาจไมส่ ะอาด เนอ่ื งจากทอ่ แตกหรอื นำ้� ทว่ ม ถา้ ใชน้ ำ้� ประปา ขณะนนั้ ดื่ม อาจจะเกดิ โรคได้ ใหใ้ ช้นำ้� ท่ีกักตุนก่อนเกดิ เหตุดืม่ แทน 3. ภัยแล้ง ภัยแล้งเกิดจากการมีฝนตกน้อยกว่าปกติ หรือฝนไม่ตกตามฤดูกาล ท�ำให้ขาดแคลนน�้ำด่ืม น้�ำใช้ ขาดแคลนน้�ำเพื่อการเกษตร พืช สัตว์ขาดน�้ำ ท�ำให้ไม่เจริญเติบโตตามปกติ บางพื้นท่ีมีปัญหาฝนทิ้งช่วงในช่วงฤดู เพาะปลกู ทำ� ใหน้ าขา้ วและพชื ไรใ่ นทอ้ งถนิ่ เกดิ ความเสยี หาย ฉะนนั้ กอ่ นถงึ ฤดแู ลง้ ตอ้ งเตรยี มภาชนะเกบ็ นำ้� ใหพ้ รอ้ ม พฒั นาแหลง่ น�้ำ และไม่ตัดไม้ทำ� ลายป่า อ�ำเภอในจงั หวดั นครศรธี รรมราชมคี วามเสย่ี งตา้ นภัยแลง้ 2 ระดบั ไดแ้ ก่ พน้ื ทท่ี มี่ คี วามเสย่ี งระดบั กลาง จำ� นวน 11 อำ� เภอ ไดแ้ กอ่ ำ� เภอเมอื ง อำ� เภอพระพรหม อำ� เภอลานสกา อ�ำเภอพรหมคีรี อ�ำเภอนบพิต�ำ อ�ำเภอทุ่งใหญ่ และอ�ำเภอทุ่งสง อ�ำเภอถ�้ำพรรณรา อ�ำเภอนาบอน อ�ำเภอพิปูน อำ� เภอเฉลมิ พระเกยี รติ พืน้ ทท่ี ีม่ คี วามเสยี่ งระดบั สูง จ�ำนวน 4 อำ� เภอ ไดแ้ ก่ อ�ำเภอปากพนงั อำ� เภอหวั ไทร อำ� เภอชะอวด และอำ� เภอเชียรใหญ ่ 3.1 สาเหตกุ ารเกิดภยั แลง้ ปัจจัยท่ีก่อให้เกิดภัยแล้งในจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นระยะเวลา 3-4 เดือน ระหว่าง เดอื นกมุ ภาพนั ธ์ถึงกลางเดอื นพฤษภาคม นอกจากฝนจะไมต่ กตามฤดูกาลแลว้ ยงั มีสาเหตขุ องการเกิดภยั แล้งได้ดงั น้ี 1) จากสภาวะอากาศในฤดูร้อนท่ีรอ้ นมากกว่าปกติ 2) จากการพัดพาของลมมรสมุ ตะวนั ตกเฉียงใต้ 3) ผลกระทบจากปรากฏการณ์ภาวะเรอื นกระจก 4) จากการตดั ไม้ทำ� ลายปา่ 5) ภมู ปิ ระเทศบางพน้ื ท่ีเปน็ ที่สงู สลับกบั ท่รี าบและทรี่ าบลมุ่ บางสว่ นเปน็ พ้ืนท่ีท้ายน้�ำ 6) ไมม่ ีแหลง่ กกั เกบ็ น�ำ้ ขนาดใหญ่ 7) แหลง่ ตน้ น�ำ้ ถกู ทำ� ลาย 3.2 ปญั หาจากภยั แล้ง 1) ปญั หาการขาดแคลนน้ำ� เพอ่ื การอปุ โภคบรโิ ภค (1) บริเวณท่ีอยู่ใกล้พรุ ไม่สามารถน�ำน�้ำมาใช้ได้เน่ืองจากแหล่งน�้ำจากพรุมีความ เปน็ กรดสูง ได้แก่ อ�ำเภอชะอวด อ�ำเภอเชียรใหญ่ และบางสว่ นของอ�ำเภอร่อนพิบลู ย์ (2) ระบบประปาไม่ทว่ั ถงึ (3) น�ำ้ ประปาไมม่ คี ณุ ภาพ 26 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค23000123 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้

2) ปัญหาการขาดแคลนนำ้� เพอ่ื การเกษตร (1) ปริมาณน�้ำท่ีกกั เกบ็ ไวไ้ มเ่ พียงพอกับความตอ้ งการ (2) แม่น�้ำบางสายมีน้�ำเคม็ รกุ ล�้ำเข้ามาทางปากนำ้� กลายเปน็ นำ�้ กร่อย 3) การเตรยี มพร้อมรบั ภยั แลง้ หนว่ ยงานราชการ (1) ขดุ ลอกคูคลอง สระน�ำ้ ร่องน�ำ้ (2) ก่อสร้างและปรับปรงุ ฝาย ชะลอนำ้� ฝายน�้ำล้น ฝายมีชีวติ ทำ� นบชัว่ คราว (3) ก่อสร้างปรับปรุงและซ่อมแซมแก้มลิง อ่างเก็บน�้ำ ประตูระบายน้�ำ ท่อระบายน�้ำ ขดุ เจาะหรอื พฒั นาแหล่งน้�ำบาดาล (4) ควรใช้น�้ำอย่างประหยัด ไม่เปิดน้�ำไหลท้ิงในขณะล้างหน้า แปรงฟัน โกนหนวด และซักผา้ (5) หม่ันตรวจสอบการรั่วซึมของซักโครก ด้วยการหยดสีผสมอาหารลงในถังพักน�้ำ หากมีปนมากับนำ�้ โดยไม่กดซักโครกแสดงว่ามีการร่ัวซึมให้รีบซ่อมแซมทนั ที (6) หมั่นตรวจสอบการช�ำรุดของก๊อกน�้ำ ฝักบัว ท่อน�้ำ โดยปิดอุปกรณ์น้�ำทุกตัว และ บันทึกมาตรเลขวดั น้ำ� ถ้าตัวเลขมีการเปลยี่ นแปลง แสดงว่า มกี ารรวั่ ไหลของน้ำ� ใหร้ บี ซ่อมแซม (7) ใช้สปริงเกอร์หรือฝักบัวรดน้�ำและควรรองน�้ำ ใส่ภาชนะส�ำหรับล้างรถ แทนการใช้ สายยางฉีดโดยตรง (8) ตดิ ต้ังอุปกรณเ์ ตมิ อากาศทีห่ ัวกอ๊ กน้�ำ ฝกั บวั เพอ่ื ชว่ ยเพม่ิ แรงดนั และลดปริมาณน�้ำ (9) หลีกเล่ียงการเผาตอซังข้าวและฟางข้าวให้ใช้วิธีฝังหรือไถกลบแทน เพราะจะท�ำให้ ดินขาดความชมุ่ ชืน้ ส่งผลใหส้ ถานการณภ์ ัยแลง้ รนุ แรงมากขึน้ (10) เลือกปลูกพืชอายุส้ันที่ใช้น้�ำน้อย เช่น พืชตระกูลถ่ัว ข้าวโพด มันส�ำปะหลัง ฯลฯ งดเว้นการท�ำนาปรังนอกเขตพนื้ ที่ ทจ่ี งั หวดั กำ� หนด 4. ไฟปา่ ไฟปา่ เกดิ จากสาเหตใุ ด ๆ ก็ตามในปา่ ธรรมชาติ หรือสวนปา่ แล้วลกุ ลามไปได้โดยอิสระ ปราศจาก การควบคุม มักจะเกิดในชว่ งฤดูแล้ง ระหวา่ งเดือนมีนาคมถงึ เดือนพฤษภาคมของทุกปี อำ� เภอท่ีมีความเส่ียงระดับกลาง ได้แก่ อ�ำเภอปากพนัง อำ� เภอนบพติ �ำ อำ� เภอสชิ ล อำ� เภอลานสกา อ�ำเภอพระพรหม และอ�ำเภอพิปูน อำ� เภอทม่ี คี วามเสยี่ งระดบั สงู จำ� นวน 6 อำ� เภอ ไดแ้ ก่ อำ� เภอรอ่ นพบิ ลู ย์ อำ� เภอจฬุ าภรณ์ อำ� เภอชะอวด อำ� เภอเชียรใหญ่ อำ� เภอหวั ไทร และอ�ำเภอเฉลมิ พระเกยี รติ 4.1 สาเหตขุ องการเกดิ ไฟป่า จากปรากฏการณท์ างธรรมชาติ 1) ฟ้าผ่า 2) เสยี ดสีกัน 3) การเปลย่ี นแปลงสภาพภูมิอากาศ เอกสารประกอบการเรยี น 27 รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหัสรายวชิ า สค23000123 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น

จากการกระท�ำของมนษุ ย์ 1) เผาป่า ซังข้าว ขยะมลู ฝอย 2) การเลีย้ งสตั ว์ 3) แกลง้ จุดไฟเผาเพ่ือการล่าสัตว์ 4) ความประมาท ความคึกคะนอง 4.2 การปอ้ งกนั ไฟป่า 1) ก่อนเกิดไฟป่า (1) กำ� จดั พชื ทตี่ ิดไฟได้งา่ ย เช่น หญา้ คา หญา้ สาบเสอื พงออ้ ใบไม้ กง่ิ ไมเ้ ลก็ (2) จดั ทำ� แนวกนั ไฟ โดยถางปา่ ใหห้ า่ งจากทางเดนิ ในระยะ 5 เมตร เพอ่ื ปอ้ งกนั การตดิ ตอ่ ลุกลามของไฟ (3) รณรงคเ์ ผยแพรค่ วามร้เู กย่ี วกบั การปอ้ งกนั และลดผลกระทบจากไฟป่า (4) รักษาความชุ่มชนื้ ในเขตป่า (5) แตง่ ต้งั คณะกรรมการรับผิดชอบพ้นื ทรี่ ะดบั อำ� เภอในพื้นทีเ่ สยี่ งสงู (6) เม่ือพบเห็นกองไฟที่มีบุคคลเผาท้ิงไว้ก็รีบดับเสีย หรือเห็นไฟไหม้ก็รีบท�ำการดับ ก่อนท่ีจะท�ำให้เกิดการลุกไหม้มากข้ึน เมื่อเห็นว่าจะไม่สามารถดับได้ด้วยตนเองให้รีบแจ้งเจ้าหน้าท่ีดับเพลิง หรือเจา้ หน้าทคี่ วบคุมไฟปา่ (7) นกั ทอ่ งเทยี่ ว ควรปฏิบัติตามระเบยี บข้อบงั คับในการป้องกนั ไฟป่า ให้ความรว่ มมอื เชื่อฟงั ค�ำแนะนำ� ของเจา้ หนา้ ที่ และควรแนะนำ� ให้ทกุ คนรู้จกั อันตรายจากไฟปา่ 2) ขณะเกิดไฟป่า (1) ถ้ายังไม่มีเครื่องมือหรือยังไม่มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากหน่วยควบคุมไฟป่าแล้ว อย่าเส่ียงเข้าไปดบั ไฟเวน้ แต่เป็นการลุกไหม้เล็กนอ้ ยของไฟทเ่ี กิดจากพวกหญ้าต่าง ๆ เช่น หญ้าคา หญา้ สาบเสือ (2) ควรช่วยกันตัดกิ่งไม้สด ตีไฟท่ีลุกไหม้ตามบริเวณหัวไฟให้เชื้อเพลิงแตกกระจาย แล้วตีขนานกับไฟปา่ ท่ีกำ� ลังจะเริ่มลกุ ลาม 3) หลังจากไฟป่าสงบลงแลว้ (1) ตรวจดบู ริเวณที่ยังมีไฟคุกรุ่น เมอ่ื พบแลว้ จดั การดับใหส้ นิท (2) ค้นหาและชว่ ยเหลอื คน สัตว์ ท่ีหนไี ฟออกมาและได้รบั บาดเจ็บ (3) ระวงั ภยั จากสัตวท์ ี่หนไี ฟปา่ ออกมา จะท�ำอนั ตรายแกช่ ีวิตและทรัพย์สิน (4) ปลกู ป่าทดแทน ปลกู พชื คลุมดิน ปลกู ไมโ้ ตเรว็ 28 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค23000123 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้

4.3 ผลกระทบจากไฟป่า 1) ผลกระทบต่อสุขภาพอนามยั (1) ฝนุ่ ควนั จากไฟปา่ ท�ำให้เป็นโรคเก่ียวกบั ระบบทางเดินหายใจ (2) ไฟป่าที่ลามมาติดบ้านเรือนท�ำให้เกิดเหตุไฟไหม้บ้านเรือนอาจมีคนเสียชีวิต และบาดเจ็บจากการถกู ไฟคลอกได้ (3) ควันจากไฟป่าจะบดบังทัศนวิสัยของยานพาหนะท�ำให้เกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บ และเสยี ชีวติ 2) ผลกระทบทางสิ่งแวดลอ้ ม (1) โครงสร้างปา่ เปล่ยี นไป (2) ฝนตกเกดิ นำ้� ทว่ ม (3) เกิดสภาวะเรอื นกระจก 3) ผลกระทบทางเศรษฐกิจ (1) ท�ำใหส้ ญู เสียทรพั ย์สินและค่าใช้จา่ ย (2) ระบบสาธารณปู โภคไดร้ ับความเสียหายอย่างรนุ แรง เอกสารประกอบการเรยี น 29 รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค23000123 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

กิจกรรมหน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 ลักษณะภมู ิอากาศนครศรีธรรมราช จงตอบค�ำถามตอ่ ไปนี้ทกุ ข้อ 1. ใหเ้ ขยี นอธิบายฤดกู าลที่เกดิ ขน้ึ ในจงั หวดั นครศรธี รรมราช พอเปน็ สังเขป …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ใหอ้ ธบิ ายถงึ การเกดิ ภยั ธรรมชาตใิ นจงั หวดั นครศรธี รรมราช พรอ้ มยกตวั อยา่ งภยั ธรรมชาตติ อ่ ไปน้ี 2.1 อุทกภยั …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………….………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………… 2.2 วาตภยั …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….……………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………… 2.3 ภยั แล้ง …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………… 2.4 ไฟป่า …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………… 30 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค23000123 ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้

4หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี เศรษฐกจิ ของจังหวัดนครศรีธรรมราช เศรษฐกิจของนครศรีธรรมราช เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับ เศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจกับชุมชน ในนครศรีธรรมราช การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของนครศรีธรรมราช แนวโน้มเศรษฐกิจของนครศรีธรรมราช และเศรษฐกิจท่ีส�ำคัญของนครศรีธรรมราช เป็นการศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับระบบการผลิต การบริโภค ความสัมพันธ์ ความรว่ มมอื และแนวโนม้ เศรษฐกจิ ของนครศรธี รรมราช โดยนำ� หลกั การ แนวคดิ และปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง มาเปน็ แนวทางในการดำ� รงชีวิตและการพัฒนาเศรษฐกจิ ให้กา้ วทนั โลกยคุ โลกาภิวัตนอ์ ย่างเหมาะสมและยัง่ ยืน เรอ่ื งที่ 1 เศรษฐกจิ พอเพยี ง “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาท่ีพระบาท สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี 9 ทรงมพี ระราชดำ� รสั ชแ้ี นะ แนวทางการด�ำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด นานกว่า 25 ปี ต้ังแต่ก่อนเกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ และเมื่อภายหลังได้ทรงเน้นย้�ำแนวทางการแก้ไขเพ่ือให้ รอดพ้น และสามารถด�ำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและย่ังยืน ภายใตก้ ระแสโลกาภวิ ัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ 1. ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู พิ ลอดุลยเดชมหาราช รชั กาลที่ 9 ได้ทรงพระราชทาน พระบรมราชานญุ าตใหน้ ำ� ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปเผยแพร่ เพอื่ เปน็ แนวทางปฏบิ ตั ขิ องทกุ ฝา่ ย และประชาชน โดยท่ัวไป ดงั นี้ เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวทางการด�ำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชน ในทุกระดับ ตงั้ แตร่ ะดบั ครอบครวั ระดบั ชุมชนจนถงึ ระดบั รัฐ ท้งั ในการพฒั นาและบริหารประเทศ ให้ดำ� เนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพอื่ ใหก้ า้ วทนั ต่อโลกยุคโลกาภิวตั น์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจ�ำเป็นท่ีจะต้องมีระบบ ภูมิคุ้มกัน ในตัวที่ดีพอสมควรต่อการมีผลกระทบใด ๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงท้ังภายนอกและภายใน ท้ังนี้ จะต้องอาศยั ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวงั อยา่ งย่ิง ในการน�ำวิชาการต่าง ๆ มาใช้ในการวางแผน และการดำ� เนินการทกุ ขนั้ ตอน และขณะเดยี วกันจะตอ้ งเสริมสร้างพนื้ ฐานจติ ใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหนา้ ท่ี ของรฐั นกั ทฤษฎแี ละนกั ธรุ กจิ ในทกุ ระดบั ใหม้ สี ำ� นกึ ในคณุ ธรรม ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ และใหม้ คี วามรอบรู้ ทเ่ี หมาะสม ด�ำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติปัญญา และความรอบคอบ เพ่ือให้สมดุล และพร้อมต่อการรองรับ การเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ทั้งด้านวัตถุ สังคมส่ิงแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอก ไดเ้ ป็นอยา่ งดี เอกสารประกอบการเรยี น 31 รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค23000123 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้

2. หลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ การพัฒนาท่ีตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลาง และความไม่ประมาท โดยคำ� นึงถึงความพอประมาณ ความมเี หตุผล การสรา้ งภมู คิ ุ้มกันท่ีดใี นตวั ตลอดจนใช้ความรู้ ความรอบคอบ และคณุ ธรรมประกอบการวางแผน การตดั สนิ ใจ และการกระท�ำ ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีหลกั พิจารณาอยู่ 5 ส่วน ดังนี้ 1. กรอบแนวคิด เป็นปรัชญาที่ชี้แนะแนวทางการด�ำรงอยู่และปฏิบัติตนในทางที่ควรจะเป็น โดยมพี น้ื ฐาน มาจากวถิ ชี วี ติ ดง้ั เดมิ ของสงั คมไทย สามารถนำ� มาประยกุ ตใ์ ชไ้ ดต้ ลอดเวลาและเปน็ การมองโลกเชงิ ระบบ ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัย และวิกฤติ เพ่ือความมั่นคง และความยั่งยืน ของการพฒั นา 2. คุณลักษณะ เศรษฐกิจพอเพียงสามารถน�ำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติได้ในทุกระดับ โดยเน้น การปฏิบัติบนทางสายกลาง และการพัฒนาอยา่ งเปน็ ขัน้ ตอน ท่มี า: จาก Web Site https://www.stou.ac.th/study/sumrit/7-58(500)/page1-7-58(500).htmlขอ้ มูลภาพ ณ วนั ที่ 15 พ.ค.63 3. ค�ำนิยาม ความพอเพียงจะต้องประกอบดว้ ย 3 คุณลักษณะพรอ้ ม ๆ กัน คือ ความพอประมาณ (Moderation) ความมเี หตผุ ล (Reasonableness) และการมภี มู คิ มุ้ กนั ในตวั ทดี่ ี (Self-immunity) ถา้ ขาดคณุ ลกั ษณะ ใดคณุ ลกั ษณะหนึง่ ก็จะไม่สามารถเรียกไดว้ ่าเปน็ ความพอเพยี ง ได้แก่ 1) ความพอประมาณ หมายถงึ ความพอดี ไมม่ ากหรอื นอ้ ยเกนิ ไปในมติ ติ า่ ง ๆ ของการกระทำ� 5 ด้าน คือ (1) ด้านจิตใจ คือ เรม่ิ ตน้ จากตนเองต้องตง้ั สติ มปี ัญญา มีจิตสำ� นึกทีด่ ี มเี มตตา เอื้ออาทร มีความเข้าใจและประนีประนอม คำ� นงึ ถงึ ผลประโยชนส์ ว่ นรวม เขม้ แขง็ และพึ่งตนเองได้ (2) ดา้ นสงั คม คอื การสรา้ งความพอดใี นทกุ ระดบั ของสงั คม โดยเรมิ่ จากครอบครวั ชมุ ชน และสงั คม ซง่ึ ตอ้ งชว่ ยเหลอื เกอ้ื กลู กนั สรา้ งความเขม้ แขง็ ใหแ้ กช่ มุ ชน รจู้ กั ผนกึ กำ� ลงั และทส่ี ำ� คญั มกี ระบวนการเรยี นรู้ ทเ่ี กิดจากฐานรากทม่ี ่นั คงและแข็งแรง 32 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค23000123 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้

(3) ด้านเศรษฐกจิ คือ ต้องอย่อู ยา่ งพอดี พอมีพอกิน ไมห่ รหู รา ฟุ่มเฟือย (4) ด้านเทคโนโลยี คอื ควรเหมาะสมสอดคล้องกบั สภาวะและความตอ้ งการ ของประเทศ และควรพฒั นาเทคโนโลยจี ากภูมปิ ญั ญาทอ้ งถ่ินใหส้ อดคล้องเป็นประโยชน์ตอ่ สภาพแวดล้อมของเรา (5) ด้านทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม คือ ใช้อย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนรณรงคร์ กั ษาทรพั ยากรธรรมซาติใหเ้ กดิ ความยง่ั ยืนสูงสุด 2) ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเก่ียวกับระดับของความพอเพียงน้ันจะต้องเป็นไป อยา่ งมีเหตุผล โดยพจิ ารณาจากเหตปุ จั จยั ทีเ่ กยี่ วขอ้ ง ตลอดจนคำ� นงึ ถึงผลท่ีคาดว่าจะเกดิ ขนึ้ จากการกระท�ำน้นั ๆ อย่างรอบคอบ 3) การมภี มู คิ มุ้ กนั ทด่ี ใี นตวั หมายถงึ การเตรยี มตวั ใหพ้ รอ้ มรบั ผลกระทบและการเปลยี่ นแปลง ดา้ นตา่ ง ๆ ทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ โดยคำ� นงึ ถงึ ความเปน็ ไปไดข้ องสถานการณต์ า่ ง ๆ ทคี่ าดวา่ จะเกดิ ขน้ึ ในอนาคตทง้ั ใกลแ้ ละไกล 4. เงอ่ื นไข การตดั สนิ ใจและการดำ� เนนิ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ใหอ้ ยใู่ นระดบั พอเพยี งนนั้ ตอ้ งอาศยั ทง้ั ความรู้ และคุณธรรมเปน็ พน้ื ฐาน กล่าวคือ 1) เงอื่ นไขความรู้ ประกอบดว้ ย ความรอบรูเ้ กีย่ วกบั วิชาการตา่ ง ๆ ทเ่ี กย่ี วข้องอย่างรอบดา้ น ความรอบคอบทจี่ ะนำ� ความรเู้ หลา่ นนั้ มาพจิ ารณา เพอ่ื ประกอบการวางแผนและการใชค้ วามระมดั ระวงั ในขนั้ ปฏบิ ตั ิ 2) เง่ือนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้าง ประกอบด้วย มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซอ่ื สัตย์สุจริตและมีความอดทน มีความเพยี ร ใชส้ ตปิ ัญญาในการดำ� รงชีวติ 5. แนวทางปฏิบัติ/ผลท่ีคาดว่าจะได้รับ จากการน�ำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ คือ การพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน พร้อมรับต่อการเปล่ียนแปลงในทุกด้าน ท้ังด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ความรู้และเทคโนโลยี การปฏิบัติในระดับตนเองและในระดับองค์กร เศรษฐกิจพอเพียงจึงเป็นปรัชญาแห่งวิถีชีวิต ทม่ี ีความหลากหลายและสามารถยืดหยุ่นความเป็นอยู่ของชวี ิตของตนได้ 3. ชุมชนเศรษฐกจิ พอเพียงในนครศรีธรรมราช 1. ไร่จันทรงั ษี ไรจ่ นั ทรงั ษี ตงั้ อยหู่ มทู่ ี่ 2 ตำ� บลขนาบนาก อำ� เภอปากพนงั จงั หวดั นครศรธี รรมราช เปน็ ไรต่ น้ จาก ท่เี ปิดเป็นแหลง่ เรยี นรเู้ รื่องราวของต้นจาก อกี ทงั้ ยงั จ�ำหน่ายผลติ ภณั ฑน์ ้ำ� ตาลจากเพมิ่ เตมิ ดว้ ย ข้อมูลเพ่ิมเติมของไร่จนั ทรังษี เอกสารประกอบการเรียน 33 รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค23000123 ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น

2. คีรีวง ครี วี ง หมบู่ า้ นทถี่ กู ขนานนามวา่ เปน็ หมบู่ า้ นทอ่ี ากาศดที ส่ี ดุ ในประเทศไทย ตงั้ อยทู่ ี่ อำ� เภอลานสกา จงั หวดั นครศรีธรรมราช หมบู่ า้ นแห่งน้อี ยู่ในใจกลางหบุ เขา แวดล้อมไปด้วยธรรมชาตทิ ีอ่ ุดมสมบรู ณ์ คนในหมู่บ้าน อยูอ่ าศยั กนั อย่างพอมีพอกิน (นจุ รี แรกรุน่ , 2560) ข้อมลู เพิ่มเติมของคีรวี ง 3. ศูนยศ์ ิลปาชพี บา้ นเนนิ ธมั มัง ศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง ด�ำเนินการส่งเสริมให้ราษฎรได้มีอาชีพเสริมท�ำจะได้มีรายได้ มาเล้ียงดูครอบครัวเพ่ิมขึ้นอีกทางหน่ึง นอกเหนือจากรายได้หลักท่ีประกอบอาชีพอยู่เป็นรายได้ที่ค่อนข้างจะน้อย ปัจจุบนั มสี มาชกิ ศิลปาชพี จำ� นวน 173 คน ทำ� งานศลิ ปาชพี ท่ีเปน็ อาชพี เสรมิ ประเภทปกั ผา้ ทอผ้า สานเสอ่ื กระจดู สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จเข้าทรงงานในศาลาศิลปาชีพ บ้านเนินธัมมัง ทอดพระเนตรผลงานศิลปาชีพของสมาชิก ทรงรับซ้ือผลิตภัณฑ์ของสมาชิกไว้เพื่อให้มูลนิธิส่งเสริม ศลิ ปาชพี ในสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ พิ์ ระบรมราชนิ นี าถ พระบรมราชชนนพี นั ปหี ลวง นำ� ไปจำ� หนา่ ยตอ่ ทรงรบั สมคั ร ราษฎรท่ีสมคั รใจเขา้ เป็นสมาชกิ ศลิ ปาชพี เพื่อส่งเสรมิ ให้มอี าชพี เสริมจะได้มรี ายไดม้ าเล้ยี งดูครอบครวั เพิม่ ข้ึน ข้อมูลเพม่ิ เตมิ ของศนู ยศ์ ลิ ปาชีพบา้ นเนินธมั มัง 34 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค23000123 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้

เรอ่ื งท่ี 2 เศรษฐกจิ กับชุมชนในจังหวดั นครศรธี รรมราช เศรษฐกิจกบั ชมุ ชนในนครศรีธรรมราช เปน็ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ทั้งการผลิต การบริโภค การจ�ำหน่าย ที่คนในท้องถิ่นชุมชน ได้มีส่วนร่วมท�ำ ร่วมคิด ร่วมรับประโยชน์ และร่วมเป็นเจ้าของ มีรากฐานมาจากศักยภาพ ของชมุ ชน ซง่ึ ประกอบดว้ ยกจิ กรรมดา้ นการเกษตร อตุ สาหกรรม การคา้ การลงทนุ และการบรกิ าร โดยมรี ายละเอยี ด ดงั นี้ 1. ภาวะเศรษฐกจิ ของจังหวัดนครศรธี รรมราช ประชากรของจงั หวดั ประกอบอาชพี หลกั คอื การเกษตรกรรม ผลติ ภณั ฑม์ วลรวมของจงั หวดั (GPP) คาดการณจ์ ากสำ� นกั งานคณะกรรมการเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ คดิ เปน็ อนั ดบั ท่ี 37 ของประเทศ และอนั ดบั ท่ี 10 ของภาคใต้ ผลติ ภณั ฑม์ วลรวมของจงั หวดั แบง่ ไดเ้ ปน็ สดั สว่ นตามสาขาตา่ ง ๆ คอื สาขาเกษตรกรรม สาขาอตุ สาหกรรม การคา้ ปลกี คา้ ส่ง สาขาการศึกษา สาขาไฟฟา้ กา๊ ซ และระบบปรบั อากาศ ตามล�ำดบั ผเู้ รียนสามารถเขา้ ศึกษาขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ เก่ียวกับ ผลติ ภณั ฑ์มวลรวมของจงั หวัดนครศรธี รรมราช โดยการสแกน QR Code เพ่อื เขา้ ถึงข้อมลู ล่าสุด 1.1 ดา้ นการเกษตร ผลผลิตสนิ คา้ เกษตรทส่ี ำ� คญั ได้แก่ ยางพารา ปาล์มน�ำ้ มัน ขา้ ว มังคุด ทเุ รยี น เงาะ การทร่ี าคา ผลผลิตปรับตัวเพ่ิมขึ้นหรือลดลง ขึ้นอยู่กับปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาด หากมีปริมาณผลผลิตมากเกินจ�ำเป็น ราคากจ็ ะลดลง และราคาผลผลิตจะเพม่ิ ข้นึ หากผลผลิตมปี รมิ าณนอ้ ย ยางพารา (Rubber Tree) ขา้ ว (Rice) เอกสารประกอบการเรยี น 35 รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค23000123 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

ทเุ รียน (Durain) เงาะ (Rambutan) ปาลม์ (Palm) มงั คดุ (Mangosteen) ศกึ ษาเพ่ิมเติม การตลาดเกษตร ทม่ี า: จาก thaikasetsart.com ยางพารา ขา้ ว ทเุ รยี น เงาะ ปาลม์ น�ำ้ มนั มงั คุด ศกึ ษาเพิ่มเติม ผู้เรยี นสามารถเขา้ ศึกษาข้อมลู เพ่มิ เตมิ เกย่ี วกับสถิติ การปลกู พืชสำ� คญั ได้จากเวบ็ ไซตข์ อง ส�ำนกั งานสถิติ จงั หวดั นครศรีธรรมราชโดยการสแกน QR Code เพอ่ื เข้าถึงขอ้ มลู ลา่ สดุ 36 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค23000123 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น

1.2 ดา้ นอุตสาหกรรม การผลติ ในดา้ นอุตสาหกรรม จังหวัดนครศรธี รรมราชมอี ุตสาหกรรมทีส่ ำ� คัญ ดงั น้ี 1) อตุ สาหกรรมยางพาราและผลติ ภณั ฑ์ 2) อุตสาหกรรมแปรรปู ไม้ยางพารา 3) อุตสาหกรรมสกัดนำ้� มันปาลม์ ดิบ 4) อตุ สาหกรรมปูนซเี มนต์ 5) อตุ สาหกรรมผลติ ส่งจำ� หน่ายพลงั งานไฟฟ้า ได้แก่ โรงไฟฟ้าขนอมและโรงไฟฟา้ จาก Bio Gas/ Bio Mass 6) โรงแยกก๊าซธรรมชาติ 7) อตุ สาหกรรมแปรรูปอาหารทะเล ไดแ้ ก่ โรงงานปลา ศกึ ษาเพิม่ เติม ผู้เรยี นสามารถเข้าศกึ ษาข้อมลู เพม่ิ เตมิ เกี่ยวกับ อตุ สาหกรรมในจังหวดั นครศรธี รรมราช โดยการสแกน QR Code เพ่อื เข้าถงึ ข้อมูล 1.3 ดา้ นการก่อสร้าง ด้านการก่อสร้าง มีการขยายตัวจากการอนุญาตให้ก่อสร้างบ้านที่อยู่อาศัยเพิ่มข้ึน ขณะท่ี การกระตุ้นจากภาครฐั ชะลอตวั ลงแต่ยงั มงี บลงทนุ โดยเปน็ การกระต้นุ การลงทุน ในโครงการระบบสาธารณปู โภค 1.4 ด้านการคา้ การลงทนุ การค้าการลงทุนจากการจดทะเบียนนิติบุคคลจัดต้ังใหม่ โดยรวมมีการขยายตัวลดลง สว่ นการจดทะเบียนรถยนตบ์ รรทกุ สว่ นบุคคลมีเพ่มิ ข้นึ 1.5 ดา้ นบริการ ด้านบริการขยายตัวเพิ่มข้ึน เป็นผลจากนักท่องเที่ยวท้ังชาวไทยและต่างชาติ เดินทางเข้ามา เทย่ี วในจงั หวดั มากขน้ึ รวมทงั้ ความรว่ มมอื ของภาครฐั และเอกชนทม่ี กี ารกระตนุ้ การทอ่ งเทยี่ ว นกั ทอ่ งเทยี่ วทเี่ พม่ิ ขนึ้ สว่ นใหญเ่ ปน็ ชาวเอเชียโดยเฉพาะชาวจนี ที่จะเห็นไดจ้ ากการเข้าพักในโรงแรมเพมิ่ ข้นึ เอกสารประกอบการเรยี น 37 รายวชิ า นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค23000123 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

เรือ่ งท่ี 3 การรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกจิ ของจังหวัดนครศรธี รรมราช การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นสถาบันและการรวมกลุ่มทางธุรกิจ ท่ีเกิดข้ึนในจังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบด้วยหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช และสภาอุตสาหกรรม จงั หวัดนครศรีธรรมราช โดยมรี ายละเอยี ดดังน้ี 1. หอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช มีสถานท่ี ตงั้ อยเู่ ลขท่ี 129/560 หมบู่ า้ นเมอื งทอง หมทู่ ่ี 2 ถนนวนั ดโี ฆษติ กลุ พร ต�ำบลปากนคร อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช 80000 โดยมีวตั ถุประสงค์ของการจัดต้งั ดงั น้ี 1.1 สง่ เสรมิ การคา้ การบรกิ าร การประกอบวชิ าชพี อิสระ อุตสาหกรรม เกษตรกรรม การเงนิ หรอื เศรษฐกิจทัว่ ไป เชน่ รวบรวมสถิติ เผยแพร่ข่าวสารการค้า วิจัยเกี่ยวกับการค้า และ การเศรษฐกจิ สง่ เสริมการท่องเที่ยว การออกใบรบั รองแหลง่ ก�ำเนิด ตราสญั ลกั ษณห์ อการคา้ จงั หวดั นครศรธี รรมราช สินค้า การวางมาตรฐานแห่งคุณภาพของสินคา้ การตรวจสอบมาตรฐานสนิ คา้ จดั ต้งั และดำ� เนนิ การเกยี่ วกับการค้า และเศรษฐกจิ พพิ ิธภัณฑ์สนิ ค้า การจดั งานแสดงสนิ ค้า ขอ้ พิพาททางการคา้ 1.2 รับปรึกษาและให้ข้อแนะน�ำแก่สมาชิกเกี่ยวกับการค้า การบริการ การประกอบอาชีพอิสระ อตุ สาหกรรม เกษตรกรรม การเงินหรอื เศรษฐกจิ และอำ� นวยความสะดวกต่าง ๆ ให้แก่สมาซิก 1.3 ให้คำ� ปรกึ ษาและเสนอขอ้ แนะนำ� แกภ่ าครฐั เพือ่ พัฒนาเศรษฐกจิ ของจงั หวดั นครศรีธรรมราช 1.4 ประสานงานระหว่างผู้ประกอบการกับราชการ 1.5 ปฏบิ ตั กิ จิ การอน่ื ๆ ตามแตจ่ ะมกี ฎหมายระบุ ใหเ้ ปน็ หนา้ ทขี่ องหอการคา้ หรอื ตามทท่ี างราชการ มอบหมาย 2. สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช สถานท่ีต้ัง 87 หมู่ 9 ต�ำบลนาเคียน อ�ำเภอเมือง นครศรธี รรมราช เป็นองค์กรไมแ่ สวงหากำ� ไร ตามพระราชบัญญตั สิ ภาอตุ สาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2530 โดยมีวัตถปุ ระสงคข์ องการจัดตัง้ ดงั น้ี 2.1 เป็นตัวแทนของผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ภาคเอกชน ในการประสานนโยบาย และด�ำเนินการกับรฐั 2.2 สง่ เสรมิ และพฒั นาการประกอบอุตสาหกรรม 2.3 ศึกษาและหาทางแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการประกอบ อตุ สาหกรรม 2.4 ส่งเสริม สนับสนุนการศึกษา วิจัย อบรม เผยแพร่ วชิ าการและเทคโนโลยีเกีย่ วกับอุตสาหกรรม 2.5 ตรวจสอบสนิ คา้ ออกใบรบั รองแหลง่ กำ� เนดิ หรอื ใบรบั ตราสญั ลักษณ์สภาอตุ สาหกรรมจงั หวัดนครศรีธรรมราช รองคณุ ภาพสนิ ค้า ที่มา : https://www.facebook.com/FTI.NAKHONSRI/photos/ a.860671530637784/2949243168447266/?type=1&theater 2.6 ให้ค�ำปรึกษาและเสนอแนะแก่รัฐบาล เพ่ือพัฒนา เศรษฐกจิ ค้านอุตสาหกรรม 2.7 ส่งเสริมนักอุตสาหกรรมและเป็นแหล่งกลางสำ� หรับนักอุตสาหกรรม แลกเปล่ียนความคิดเห็น เพอ่ื ประโยชนต์ ่อวงการอุตสาหกรรม 2.8 ควบคมุ ดูแลให้สมาชกิ ปฏบิ ตั ิตามกฎหมายเกีย่ วกับการประกอบการอุตสาหกรรม 2.9 ปฏิบัตกิ ิจกรรมอื่น ๆ ตามทก่ี ฎหมายก�ำหนด 38 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค23000123 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น

เรื่องที่ 4 เศรษฐกิจทีส่ ำ�คัญของจังหวดั นครศรีธรรมราช การจำ� หนา่ ยจา่ ยแจก การผลติ และการบรโิ ภคใชส้ อยสงิ่ ตา่ ง ๆ ของชมุ ชน ทงั้ ดา้ นเกษตรกรรม การประมง และอตุ สาหกรรม ช่วยกระตุน้ ให้เกิดภาวะเศรษฐกิจท่ีส�ำคัญของนครศรธี รรมราช โดยมีรายละเอยี ดดังน้ี 1. ด้านเกษตรกรรม จังหวัดนครศรีธรรมราช ประชากรส่วนใหญ่ยึดอาชีพทางด้านเกษตรกรรมเป็นหลัก ประมาณ ร้อยละ 80 ของประชาชนทัง้ จงั หวัด ซึง่ มที ้ังการกสกิ รรม การประมง การเลยี้ งสัตว์ พชื เศรษฐกจิ ทส่ี �ำคัญ 1.1 ยางพารา ภาวการณ์ผลิต จังหวัดนครศรีธรรมราชมีพื้นท่ีปลูกยางพาราเป็นล�ำดับท่ี 3 ของพื้นท่ี ปลกู ยางพาราทงั้ หมด ในภาคใต้มปี ลกู เกือบทกุ พนื้ ทข่ี องจังหวัดอ�ำเภอท่ีปลูกมาก คือ อำ� เภอทงุ่ ใหญ่ อ�ำเภอบางขัน อ�ำเภอทุ่งสง อ�ำเภอฉวาง และอ�ำเภอชะอวด ในแต่ละปียางพาราจะผลัดใบในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน ในช่วงดังกล่าว ยางพาราจะออกสู่ตลาดน้อย เพราะเป็นช่วงผลัดใบไม่เหมาะกับการกรีดยาง ส่วนในช่วงเดือน พฤษภาคม ถึงเดือนมกราคม จะเป็นช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาด เพราะเป็นช่วงที่เหมาะกับการกรีดยาง ส�ำหรับช่วง ทป่ี ริมาณยางออกสู่ตลาดมาก คอื ชว่ งเดอื นมิถุนายน - สิงหาคม และ เดือนธันวาคม – มกราคม ศึกษาเพิม่ เติม ผเู้ รียนสามารถเขา้ ศึกษาข้อมลู เพ่ิมเติมเก่ียวกบั สำ� นักงาน เกษตรจังหวดั นครศรธี รรมราช โดยการสแกน QR Code เพ่อื เขา้ ถึงข้อมลู ล่าสุด ศกึ ษาเพิ่มเติม ผูเ้ รียนสามารถเขา้ ดรู าคายางพาราลา่ สุดจากการยาง แห่งประเทศไทย (กยท.) โดยการสแกน QR Code เพอ่ื เขา้ ถงึ ขอ้ มูลล่าสดุ วถิ ีตลาด ในจงั หวดั นครศรีธรรมราช มีการซ้อื ขายยางพารา แบง่ ออกไดเ้ ปน็ 3 ลกั ษณะ คอื 1) เกษตรกรจะทำ� การซือ้ ขายกับองคก์ ารสวนยางนาบอน 2) ขายใหแ้ กพ่ ่อค้าร้านคา้ ยอ่ ยในอ�ำเภอและจงั หวัด 3) ขายให้แก่ตลาดกลางของการยางแห่งประเทศไทยสาขาจังหวัดนครศรีธรรมราช (กยท.) และกลมุ่ สหกรณ์ ในความส่งเสรมิ ของ กยท. ซง่ึ มีโรงรมเปน็ ของตนเอง สำ� หรับอำ� เภอทไี่ ม่มี กยท. หากเกษตรกรต้องการขายให้แก่องคก์ ารสวนยาง เกษตรกรก็จะรวบรวม แล้วแจ้งให้องค์การสวนยางนาบอนทราบ เพ่ือจะได้ออกไปรับซ้ือผลผลิตท่ีเกษตรกรน�ำไปขายให้แก่การยาง แหง่ ประเทศไทยสาขาจังหวดั นครศรธี รรมราช (กยท.) หรอื องคก์ ารสวนยางนาบอน เอกสารประกอบการเรยี น 39 รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค23000123 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้

1.2 ขา้ ว ภาวการณ์ผลิต จังหวัดนครศรีธรรมราช มกี ารปลูกและผลิตขา้ วนาปี อ�ำเภอทเี่ ปน็ แหลง่ ปลูก ขา้ วทสี่ ำ� คญั ของจงั หวดั ไดแ้ ก่ อำ� เภอหวั ไทร อำ� เภอปากพนงั อำ� เภอเชยี รใหญ่ อำ� เภอชะอวด อำ� เภอเฉลมิ พระเกยี รติ อำ� เภอทา่ ศาลา อำ� เภอพระพรหม อ�ำเภอร่อนพิบลู ย์ อ�ำเภอสิชล และอำ� เภอเมอื ง การปลูกข้าวนาปีจะเริม่ ประมาณ เดือนสิงหาคม – ตุลาคม และจะมีการเก็บเก่ียวในช่วง เดือนมีนาคม - เมษายน ข้าวนาปีท่ีผลิตได้ส่วนใหญ่ เป็นพันธุ์พื้นเมืองชนิดต่าง ๆ เช่น ข้าวมาเลเฉ้ียง และพันธุ์ข้าวหอมปทุมธานี 1 เกษตรกรส่วนใหญ่จะปลูกข้าว เพื่อบริโภคมากกวา่ เพอ่ื การจ�ำหนา่ ย สำ� หรบั ขา้ วนาปรงั จะปลกู ในเขตอำ� เภอปากพนงั อำ� เภอหวั ไทร อำ� เภอเชยี รใหญ่ อำ� เภอชะอวด อ�ำเภอเฉลิมพระเกียรติ อ�ำเภอพระพรหม และอ�ำเภอเมือง ซ่ึงจะเร่ิมเพาะปลูกในช่วงเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม และเก็บเก่ียวในช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน ซึ่งข้าวนาปรังที่ผลิตได้ส่วนใหญ่ เกษตรกรจะน�ำออกจ�ำหน่าย การเกบ็ ไวบ้ รโิ ภคจะนอ้ ย เน่อื งจากขา้ วมคี วามชื้นสงู เกษตรกรไม่นยิ มบริโภค ศกึ ษาเพม่ิ เติม ผู้เรียนสามารถเข้าดรู าคาขา้ วล่าสดุ จากสมาคมโรงสขี า้ ว แหง่ ประเทศไทย โดยการสแกน QR Code เพอื่ เขา้ ถงึ ขอ้ มูลล่าสุด ภาวการณต์ ลาด วิถกี ารตลาดขา้ วเปลือก มกี ารซ้ือขายข้าวเปลอื กของเกษตรกร 3 ลักษณะ คอื 1) จ�ำหนา่ ยใหส้ หกรณก์ ารเกษตร 2) จำ� หนา่ ยให้โรงสใี นทอ้ งถิ่น 3) จำ� หนา่ ยใหพ้ อ่ คา้ ในทอ้ งทนี่ ำ� ไปแปรรปู เปน็ ขา้ วสารจำ� หนา่ ยใหแ้ กพ่ อ่ คา้ สง่ และพอ่ คา้ ปลกี เพ่อื จ�ำหนา่ ยใหแ้ กผ่ ูบ้ รโิ ภคตอ่ ไป 1.3 ปาลม์ นํา้ มัน ภาวการณผ์ ลติ ในจงั หวดั นครศรธี รรมราช มพี นื้ ทป่ี ลกู ปาลม์ นาํ้ มนั มากเปน็ ลำ� ดบั 4 ของภาคใต้ ปลูกกระจายทุกอ�ำเภอ อ�ำเภอท่ีเป็นแหล่งปลูกปาล์มน้ํามันท่ีส�ำคัญของจังหวัด ได้แก่ อ�ำเภอสิชล อ�ำเภอทุ่งใหญ่ อ�ำเภอชะอวด อ�ำเภอขนอม อ�ำเภอบางขัน และอ�ำเภอเฉลมิ พระเกยี รติ ศกึ ษาเพ่ิมเตมิ ผูเ้ รยี นสามารถเข้าดูราคาปาลม์ นํ้ามนั ลา่ สุดจากเวบ็ ไซต์ ราคาเกษตร โดยการสแกน QR Code เพ่อื เข้าถึงข้อมลู สา่ สดุ 40 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค23000123 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้

ภาวการณต์ ลาด วถิ กี ารตลาดปาลม์ นำ้� มนั มกี ารซอ้ื ขายปาลม์ นำ�้ มนั ของเกษตรกร 3 ลกั ษณะ คอื 1) จำ� หนา่ ยให้พอ่ ค้าในทอ้ งถิน่ 2) จำ� หน่ายให้สหกรณก์ ารเกษตร 3) จำ� หน่ายให้โรงงานสกัดน้�ำมันปาลม์ ในจังหวดั และจังหวดั ใกล้เคยี ง 1.4 ผลไมท้ ่ีส�ำคญั 1) มงั คุด ภาวการณผ์ ลติ จงั หวดั นครศรธี รรมราช มพี น้ื ทป่ี ลกู มงั คดุ กระจายอยทู่ วั่ ไปทกุ อำ� เภอ แตอ่ ำ� เภอ ทีป่ ลูกมาก คอื อำ� เภอลานสกา อำ� เภอพรหมคีรี อ�ำเภอเมือง อ�ำเภอสชิ ล และอ�ำเภอชา้ งกลาง ผลผลิตออกส่ตู ลาด ช่วงเดือน กรกฎาคม - ธันวาคม ชว่ งทอ่ี อกส่ตู ลาดมากทส่ี ดุ คอื เดอื นสงิ หาคม 2) ทเุ รียน ภาวการณ์ผลิต จังหวัดนครศรีธรรมราชมีพื้นที่ส่วนใหญ่ปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทอง กระจายอยู่ท่ัวไปทุกอ�ำเภอ แต่อ�ำเภอท่ีปลูกมากคือ อ�ำเภอสิชล อ�ำเภอท่าศาลา อ�ำเภอนบพิต�ำ อ�ำเภอลานสกา และอำ� เภอชา้ งกลาง ผลผลติ ออกสตู่ ลาดชว่ งเดอื นกรกฎาคม - กนั ยายน ชว่ งทอ่ี อกสตู่ ลาดมากทส่ี ดุ คอื เดอื นสงิ หาคม แหล่งรับซอ้ื และจ�ำหนา่ ยผลไม้ของจงั หวดั (1) ตลาดกลางผกั และผลไมห้ วั อฐิ 11/7-53 ม.1 ถ.กะโรม อ.เมอื ง โทรศพั ท์ 075-256819, 344203-4 (2) ตลาดกลางสินค้าเกษตรหัวอิฐ 1/8 ม.1 ถ.กะโรม ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง โทรศัพท์ 075-344483 (3) พ่อค้าท้องถิ่น/พ่อคา้ เร่ ทม่ี ีรถเขา้ ไปรับซื้อถงึ สวนโดยตรง (4) ผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ (ลง้ ) สว่ นใหญจ่ ะต้งั จุดรับซื้อ ณ แหลง่ ผลิตในต�ำบลตา่ ง ๆ 3) เงาะ ภาวการณผ์ ลิต จังหวดั นครศรธี รรมราชในปี 2560 มีพนื้ ท่ปี ลูกเงาะ จำ� นวน 32,746 ไร่ พนื้ ทใี่ ห้ ผลแลว้ 32,440 ไร่ ผลผลติ รวมจำ� นวน 10,125 ตนั ผลผลติ เฉลยี่ 312 กโิ ลกรมั /ไร่ สว่ นใหญป่ ลกู พนั ธโ์ุ รงเรยี น พนื้ ท่ีปลกู กระจายอยู่ทั่วไปทุกอำ� เภอ แตอ่ �ำเภอทปี่ ลูกมากคอื อ�ำเภอชะอวด อ�ำเภอสชิ ล อำ� เภอฉวาง อำ� เภอเมอื ง และอำ� เภอนาบอน ผลผลิตออกสตู่ ลาดช่วงเดอื นสิงหาคม - ธนั วาคม ช่วงทอ่ี อกสู่ตลาดมากทสี่ ดุ คอื เดือนกันยายน 2. ด้านการประมง จังหวัดนครศรีธรรมราชมีชายฝั่งทะเลในพ้ืนท่ี 6 อ�ำเภอ ยาว 225 กิโลเมตร แยกเป็นพ้ืนที่ ในอำ� เภอขนอม 21 กโิ ลเมตร อำ� เภอสชิ ล 26.5 กโิ ลเมตร อำ� เภอทา่ ศาลา 31.8 กโิ ลเมตร อำ� เภอเมอื งนครศรธี รรมราช 32 กิโลเมตร อ�ำเภอปากพนัง 85 กิโลเมตร และอ�ำเภอหัวไทร 28.7 กิโลเมตร โดยรูปแบบการประมง ในจงั หวดั นครศรีธรรมราช จ�ำแนกไดต้ ามลักษณะเปน็ 2 ประเภท คือ ประมงพ้ืนบ้าน และประมงพาณิชย์ 2.1 ประมงพ้ืนบา้ น เป็นซาวประมงหลกั ของจังหวดั นครศรธี รรมราช มกี ารอาศยั อย่กู นั เป็นชมุ ชน ชาวประมง หรือหมู่บ้าน ตั้งอยู่ริมฝังคลอง ปากแม่น�้ำ มีเขตติดต่อกับชายฝั่งทะเล ซ่ึงชาวประมงจะจอดเรือ อยู่หน้าบ้านของตนเองและน�ำสัตว์ขึ้นมาจ�ำหน่าย เคร่ืองมือที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องมือพ้ืนบ้าน เช่น อวนลอย อวนลอยปลากระบอก อวนจมปมู ้า อวนจมปลาทู เป็นต้น เอกสารประกอบการเรียน 41 รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค23000123 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook