เอกสารคำสอนวิชา 2723121 เทคนิคการสอนเกมมูลฐาน

ปร ลำดับที่ ชื่อเกม เกมไทย เกมสำกล 1. เกมกลุ่ม ัสมพัน ์ธ 2. เกมเ ็บดเต ็ลด 3. เกมเ ีลยนแบบ 53. เกมวิง่ เกบ็ ของ   54. เกมวงิ่ กระสอบ   55. เกมไล่จบั  56. เกม Bunny Jump 57. เกมกำรละเล่นเสือขำ้ มห้วย  58. เกมกำรละเลน่ เสอื กนิ ววั  59. เกมกำรละเลน่ แย้ลงรู  

 4. เกมประกอบเพลง 177  5. เกมนำไปสู่กำรเลน่ กฬี ำ  6. เกมเสริมสรำ้ งสมรรถภำพทำงกำย ระเภทของเกม  7. เกมนันทนำกำร  8. เกมทำงน้ำ  อนบุ ำล  ประถมตอนตน้ ประถมตอนปลำย  มัธยมตอนตน้ ชว่ งวยั ที่เหมำะสม  มธั ยมตอนปลำย  วยั ทำงำน    

ประ ลำดับท่ี ช่ือเกม เกมไทย เกมสำกล 1. เกมกลุ่ม ัสมพัน ์ธ 2. เกมเ ็บดเต ็ลด 3. เกมเ ีลยนแบบ 60. เกมกำรละเลน่ ชกั เย่อ   61. เกมจบั คหู่ ำคำตอบ   62. เกมที่รกั จะบ้ำเหรอ   63. เกมสัตว์ป่ำมหำสนุก  64. เกมยิงเรือ   65. เกมแจวเรอื   66. เกมกระทบกัน  

 4. เกมประกอบเพลง 178 5. เกมนำไปสู่กำรเลน่ กฬี ำ  6. เกมเสริมสรำ้ งสมรรถภำพทำงกำย ะเภทของเกม  7. เกมนันทนำกำร  8. เกมทำงน้ำ  อนบุ ำล  ประถมตอนตน้  ประถมตอนปลำย มัธยมตอนตน้  มธั ยมตอนปลำย ช่วงวัยทเี่ หมำะสม  วยั ทำงำน     

ประ ลำดบั ท่ี ชือ่ เกม เกมไทย เกมสำกล 1. เกมกลุ่ม ัสมพัน ์ธ 2. เกมเ ็บดเต ็ลด 3. เกมเ ีลยนแบบ 67. เกมนวด  68. เกมเป่ำยง้ิ ฉุบ  69. เกม โฟค เฟียต ฟอร์ด  70. เกมสวสั ดี 4 ชำติ  71. เกมงมเหรียญ  72. เกมแชรบ์ อลนำ้  73. เกมควำนหำไข่ 

 4. เกมประกอบเพลง 179  5. เกมนำไปสู่กำรเลน่ กฬี ำ  6. เกมเสริมสรำ้ งสมรรถภำพทำงกำย ะเภทของเกม 7. เกมนันทนำกำร  8. เกมทำงน้ำ อนบุ ำล  ประถมตอนตน้  ประถมตอนปลำย  มัธยมตอนตน้  มธั ยมตอนปลำย วยั ทำงำน     ชว่ งวัยทีเ่ หมำะสม      

ประ ลำดับที่ ชือ่ เกม เกมไทย เกมสำกล 1. เกมกลุ่ม ัสมพัน ์ธ 2. เกมเ ็บดเต ็ลด 3. เกมเ ีลยนแบบ 74. เกมปลำใหญ่กนิ ปลำเลก็  75. เกมทำยหมวดส่งิ ของ  76. เกมไก่  77. เกมสี  78. เกมนั่งยำง  79. เกมแตะ  80. เกมปำท่องโก๋ 

4. เกมประกอบเพลง 180 5. เกมนำไปสู่กำรเลน่ กฬี ำ 6. เกมเสริมสรำ้ งสมรรถภำพทำงกำย ะเภทของเกม 7. เกมนันทนำกำร              8. เกมทำงน้ำ อนบุ ำล  ประถมตอนตน้ ช่วงวัยทเี่ หมำะสม ประถมตอนปลำย มัธยมตอนตน้ มธั ยมตอนปลำย วยั ทำงำน

181 แบบทดสอบเพื่อวัดควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ (หลังเรียน) หวั ข้อ “ประเภทเกม” รำยวิชำ 2723121 ช่ือวชิ ำ เทคนคิ และทกั ษะเกมมลู ฐำน ************************************************************************************************** คำชีแ้ จง นสิ ิตเลือกคำตอบท่ีถกู ต้องทส่ี ุดและกำกบำทลงในกระดำษคำตอบ 1. ข้อใดกลำ่ วไม่ถกู ต้องเกย่ี วกับเกม ก. เกมทำให้เกิดควำมสนุกสนำนเพลิดเพลนิ ข. เกมชว่ ยส่งผลใหม้ ีพัฒนำกำรในทกุ ด้ำน ค. เกมชว่ ยสรำ้ งเสริมทักษะและส่งเสรมิ กำรทำงำนเฉพำะบคุ คล ง. เกมเป็นกำรเล่นประเภทหนึง่ ท่ีเล่นไดใ้ นทุกวัย 2. ข้อใดคอื เกมกลุม่ สมั พันธ์ ก. ตำใครตำมนั / ขโมยหัวใจ / เรียงลำดับ ข. บำสเกตบอลรเี ลย์ / ลงิ ชิงบอล / มนิ ิเบสบอล ค. ทำยชอ่ื / โยนบอลเรียกชอื่ / ฉนั คอื ใคร ง. กระตำ่ ยขำเดียว / ขวำ้ งลงิ / แปะแข็ง 3. ข้อใดคือเกมเบ็ดเตล็ด ก. ผลไม้รวม / ชิงนำง / เป่ำย้ิงฉุบ ข. หนีบลกู โป่งดว้ ยเขำ่ / ตอ่ ตวั / เชือ้ โรค ค. ลมเพลมพดั / รวมเงิน / เก้ำอด้ี นตรี ง. วิง่ ไล่จับ / ซอ่ นหำ / โป้งแปะ 4. ข้อใดคอื เกมประกอบเพลง ก. ฮลู ำ่ ฮูปดนตรี / เรอื พฆิ ำต / แชร์บอลห่วง ข. วงกลมพำไป / ฮอ๊ กกีล้ มกรด / ท่อนไม้ส่งบอล ค. หำกว่ำเรำกำลังสบำย / นวด / ปรบมือปบั ปับปับ ง. ว่ิงเปี้ยว / วง่ิ วบิ ำก/ น่ังยำง

182 5. ข้อใดคอื เกมทำงน้ำ ก. พำยเรือ / กระรอก กระแต / รวมเงิน ข. นง่ั ยำง / เสือขำ้ มห้วย / โป้งแปะ ค. ลมเพลมพดั / รวมเงิน / ซอ่ นหำ ง. ควำนหำไข่/ ปลำใหญ่กินปลำเลก็ / ปำท่องโก๋ 6. ข้อใดคือเกมเสริมสร้ำงสมรรถภำพทำงกำย ก. วงกลมเคลือ่ นท่ี / ว่ิงสำมคั คี / ซ่อนหำ ข. วงิ่ เป้ียว / ว่ิงกระสอบ / วง่ิ เกบ็ ของ ค.. ผลไมร้ วม / ชงิ นำง / เป่ำยง้ิ ฉบุ ง. ทำยชือ่ / โยนบอลเรียกช่อื / ฉนั คอื ใคร 7. ขอ้ ใดกลำ่ วถกู ตอ้ งเกีย่ วกบั ประโยชนข์ องกำรเลน่ เกม “สะพำนชีวิต” ก. รู้จกั เพลง จังหวะดนตรี ไดค้ วำมอดทน ควำมออ่ นตวั และได้เล่นกับเพอ่ื น ข. รู้จักจงั หวะดนตรี ได้ควำมแขง็ แรง ควำมอดทน ปฏภิ ำณไหวพรบิ และไดเ้ ล่นกบั เพื่อน ค. รจู้ กั จังหวะดนตรี ไดก้ ำรเคลือ่ นไหว ควำมคล่องแคลว่ ปฏิภำณไหวพริบและได้ควำมสนุกสนำน ง. รูจ้ กั เพลง จังหวะดนตรี ได้ควำมคลอ่ งแคลว่ วอ่ งไวและไดเ้ ล่นกับเพ่อื น 8. ข้อใดกล่ำวถูกตอ้ งเกยี่ วกับประโยชน์ของกำรเล่นเกม “กระต่ำยขำเดียว” ก เปน็ กำรฝึกกำรทรงตัว ทำให้คลอ่ งแคล่ววอ่ งไว ร่ำงกำยแขง็ แรงและอดทนโดยเฉพำะสว่ นทเ่ี ปน็ เทำ้ ข เปน็ กำรฝึกกำรทรงตวั ทำให้ออ่ นตวั รำ่ งกำยแข็งแรง โดยเฉพำะสว่ นท่เี ป็นเทำ้ และขำ ค เป็นกำรฝึกกำรทรงตวั ทำใหร้ ำ่ งกำยมคี วำมออ่ นตัว และอดทนโดยเฉพำะส่วนทเ่ี ป็นเท้ำและขำ ง เปน็ กำรฝึกกำรทรงตัว ทำใหร้ ำ่ งกำยมีควำมออ่ นตวั คล่องแคลว่ ว่องไวและเกดิ ควำมเรว็ 9. กำรเลน่ เกมในข้อใดทแี่ บง่ ผู้เล่นออกเปน็ 2 กลุ่ม ก. บอลเรียกชอื่ / ไซมอ่ นเซย์ / มอญซ่อนผำ้ ข. แชรบ์ อลนำ้ / ชักเยอ่ / มินิเบสบอล ค. เหยียบลกู โปง่ / ลิงชิงบอล / ไซมอ่ นเซย์ ง. มอญซ่อนผำ้ / เลียนแบบทำ่ แมว / กู้ระเบดิ

183 10. เกมในขอ้ ใดทีผ่ ูเ้ ลน่ จะต้องมคี วำมสำมคั คีกนั จงึ จะทำให้ปiระสบควำมสำเร็จในกำรเล่นเกม ก. ชักเย่อ / แชรบ์ อลน้ำ/ สำมัคคสี ่งบอล ข. เหยยี บลูกโปง่ / ลงิ ชิงบอล / โยนไข่ ค. มอญซอ่ นผำ้ / เลียนแบบทำ่ แมว / ก้รู ะเบดิ ง. ชักเย่อ / เลยี นแบบทำ่ แมว / กู้ระเบิด

184 รำยกำรอ้ำงองิ ภำษำไทย กิตพิ งษ์ เทยี นตระกลู . (2533). เกมนำไปสกู่ ฬี ำ. กรุงเทพมหำนคร: คณะครศุ ำสตร์ จฬุ ำลงกรณ์ มหำวิทยำลัย. (อัดสำเนำ) จีระนนั ท์ เจรญิ ชัยภินนั ท์. (2554). ควำมหมำยและหลกั กำรกำรสอนเกมเบด็ เตล็ด. วำรสำรคณะ พลศึกษำ มหำวิทยำลัยศรีนครนิ ทรวิโรฒ, 14(ฉบบั พิเศษ), 125 ชัชชัย โกมำรทตั . (2549). กีฬำพนื้ เมืองไทยภำคกลำง: ศึกษำ และวิเครำะห์ควำมเป็นมำ วธิ ีเล่น และคุณค่ำ. พมิ พค์ รง้ั ที่ 1. กรงุ เทพมหำนคร: สถำพรบุ๊คส์ ดนู จีระเดชำกุล. (2544). นันทนำกำรสำหรบั เดก็ . กรงุ เทพมหำนคร: โรงพมิ พ์ไทยวฒั นำพำนชิ จำกดั . ทศิ นำ แขมมณ.ี (2545). ศำสตรกำรสอน: องคค์ วำมรเู้ พอ่ื กำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้ทีม่ ี ประสิทธภิ ำพ. พมิ พ์ครง้ั ท่ี 2. กรุงเทพมหำนคร: สำนักพมิ พ์แหง่ จฬุ ำลงกรณ์ มหำวิทยำลยั . เทพประสทิ ธ์ กุลธวชั วิชยั . (2556). กำรนันทนำกำร. กรงุ เทพมหำนคร: สำนกั พมิ พ์แหง่ จฬุ ำลงกรณม์ หำวิทยำลยั . นวพรรณ อมรรัตนำนนท.์ (2540). ทกั ษะและวธิ สี อนเกม. กรงุ เทพมหำนคร: ภำควิชำพลศึกษำ คณะศกึ ษำศำสตร์ มหำวทิ ยำลัยเกษตรศำสตร์. (อัดสำเนำ) ประพัฒน์ ลกั ษณพสิ ุทธ์ิ. (2548). เกมสพ์ ลศกึ ษำ. พิมพ์คร้งั ท่ี 2. กรุงเทพมหำนคร: สำนกั พมิ พ์ แห่งจฬุ ำลงกรณม์ หำวทิ ยำลัย. พลศึกษำ, กรม. (2557). คมู่ ือผู้นำนนั ทนำกำร. กรงุ เทพมหำนคร: สำนักงำนกิจกำรโรงพมิ พ์ องค์กำรสงเครำะหท์ หำรผ่ำนศกึ ในพระบรมรำชูปถมั ภ์ พัฒนำกำรพลศึกษำสุขภำพและนันทนำกำร, สำนัก. (ม.ป.ป.). ผู้นำนันทนำกำรและกำรออกกำลังกำย. (อัดสำเนำ) พัฒนำกำรพลศึกษำ สขุ ภำพและนันทนำกำร,สำนัก. (2557). ผู้นำนันทนำกำรและกำรออกกำลงั กำย. (อดั สำเนำ) พีระพงศ์ บญุ ศิริ และมำลี สรุ พงษ์. (2536). เกม. กรุงเทพมหำนคร: โอเดยี นสโตร์ เยำวพำ เดชะคุปต์. (2542). ดนตรีและกจิ กรรมเขำ้ จังหวะสำหรบั เดก็ ปฐมวัย. กรงุ เทพมหำนคร: สำนักพมิ พแ์ มค็ จำกดั .

185 รำชบัณฑติ ยสถำน. (2554). พจนำนุกรมฉบบั รำชบัณฑติ ยสถำน พ.ศ. 2554. สบื ค้นเมือ่ 10 มถิ นุ ำยน 2561, จำกhttp://www.royin.go.th/dictionary วรศักดิ์ เพียรชอบ. (2561). รวมบทควำมเก่ียวกับปรชั ญำ หลกั กำร วิธสี อน และกำรวดั เพ่ือประเมนิ ผล ทำงกำรพลศกึ ษำ. พมิ พค์ รง้ั ที่ 2. กรุงเทพมหำนคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬำลงกรณม์ หำวทิ ยำลัย. ศักดิ์ อินพิรดุ . (2539). วชิ ำเกมและเกมนำ. สืบค้นเม่ือ10 มิถนุ ำยน 2561, จำก https:// www.youtube.com /channel/UCHbRKkSj8PxG0b7VbbsFvpQ ศกั ดพิ นั ธ์ ตนั วมิ ลรัตน.์ (2546). เทคนิคและวิธกี ำรจัดกจิ กรรมกลุม่ สัมพันธ.์ วำรสำรวิทยบริกำร, 14(1), 40 สมบตั ิ กำญจนกจิ .(2535). นนั ทนำกำรชมุ ชนและโรงเรยี น. กรุงเทพมหำนคร: สำนักพิมพ์แหง่ จฬุ ำลงกรณม์ หำวิทยำลัย. สชุ ำติ ทวีพรปฐมกลุ . (2547). เทคนคิ และทักษะเกมมลู ฐำน. พมิ พ์ครง้ั ท่ี 2. กรุงเทพมหำนคร: สำนกั พิมพ์แห่งจฬุ ำลงกรณม์ หำวิทยำลัย. สวุ ทิ ย์ มูลคำ และ อรทยั มลู คำ. (2545). 21 วธิ ีจัดกำรเรียนรเู้ พอ่ื พัฒนำระบบควำมคดิ . พิมพ์ครงั้ ท่ี 4. กรงุ เทพมหำนคร: ภำพพิมพ.์ องค์ประกอบของกิจกรรมหรือเกม. (2556). สืบคน้ เมอ่ื 10 มิถุนำยน 2561, จำก http:// hrdtraininggames. blogspot.com/2013/09/blog-post_5.html ภำษำอังกฤษ Elder, T. (1995). Water Fun and Fitness. United States of America: Human Kinetics. Game Activities (2018). Retrieved May, 30, 2019, from: http://acitivities. blogspot.com /2010/05/blog-post_6329.html. (30 พฤษภำคม 2562) Gibbs, G. I. (1978). Dictionary of gaming, modelling & simulation. Indiana University: E & F N Spon, อ้ำงถงึ ใน สุชำติ ทวพี รปฐมกลุ (2547). เทคนิคและทกั ษะเกมมูลฐำน. กรุงเทพมหำนคร: สำนักพิมพแ์ ห่งจุฬำลงกรณ์มหำวทิ ยำลยั . Hawks, G. W. (1963). Games are for playing. Journal of Health and Physical Education and Recreation 25 (May 1963) : 23, อ้ำงถงึ ใน วรศักดิ์ เพียรชอบ. (2561). รวมบทควำมเกีย่ วกบั ปรัชญำ หลกั กำร วธิ ีสอน และกำรวัดเพือ่ ประเมินผล ทำงกำรพลศึกษำ. กรุงเทพมหำนคร: สำนักพมิ พแ์ หง่ จฬุ ำลงกรณ์มหำวิทยำลัย.

186 Robert, J.M. and Sutton-Smith, B. (1959). Child Training and Game Involvement. Ethnology 1 (January 1962) : 166 – 285, อำ้ งถึงใน วรศกั ดิ์ เพียรชอบ. (2561). รวมบทควำมเกี่ยวกับปรัชญำ หลักกำร วิธีสอน และกำรวัดเพื่อประเมินผลทำงกำรพล ศึกษำ. กรงุ เทพมหำนคร: สำนกั พมิ พ์แห่งจฬุ ำลงกรณ์มหำวิทยำลัย. Schurr, E. (1985). Movement Experiences for Children: A Humanistic Approach to Elelmentary School Physical Education. Retrieved June, 10, 2018, from: http://mje.mcgill.ca/article/ view/7077 Thomas, D. (2005). Swimming: Steps to success. Third Edition. United States of America: Human Kinetics.

บทที่ 5 เทคนคิ การเป็นผ้นู าเกม บทนา ปัจจุบันการเป็นผู้นาเกมอาจไม่ต้องประกอบด้วยคุณสมบัติมากมาย เม่ือ 5-10 ปีท่ีแล้ว ประเทศไทยเป็นสังคมท่ีมีผู้นาเกมมีไม่มากเท่าทุกวันนี้ คุณสมบัติของผู้นาเกมจึงจาเป็นต้องมี ความรู้ที่หลากหลาย แต่ปัจจุบันเหมือนว่าใคร ๆ ก็เป็นผู้นาเกมได้ ดังจะเห็นได้จากเกมอาจจะเล่น เหมือนกันแต่เม่ือผู้นาเกมต่างกันความสนุกสนานของเกมย่อมต่างกันด้วย แสดงให้เห็นว่าผูน้ าเกม ที่ดีน้ันสามารถสร้างความแตกต่างในเร่ืองของความสนุกสนานขณะเล่นเกมได้เป็นอย่างดี ทั้งน้ีลักษณะหรือองค์ประกอบของผู้นาเกมท่ีสาคัญคือ มีความเข้าใจในเกมและสามารถประยุกต์ เกมเหล่าน้ันให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และกลุ่มเป้าหมายท่ีต้องการได้ รวมถึงการคาดการณ์ ล่วงหน้าและการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในขณะเล่นเกมอีกด้วย ในอดีตผู้นาเกมที่มีความรู้ ความสามารถในเรื่องการวางแผนจัดเกมได้เฉพาะกลุ่มเฉพาะองค์กรเพียงเท่านี้ก็สามารถเป็นผู้นา เกมได้ แตใ่ นโลกยุคปจั จุบนั ลักษณะและเทคนคิ ของผู้นาเกมทค่ี วรมเี พิม่ ขึ้นคือ ตอ้ งเป็นผทู้ ี่มคี วาม ทันสมัย มีความรู้ทางเทคโนโลยีและความรู้ทางด้านภาษา ด้วยโลกแห่งปัจจุบันได้ย่อลงมาขนาด เล็กและกิจกรรมที่มนุษย์จะทาในเวลาว่างปัจจุบันมีจานวนมากข้ึน เช่น ปัจจุบัน มี E-sports “กีฬาอิเล็กทรอนิกส์”เป็นกีฬาหรือเกมท่ีจัดการแข่งขันทั้งประเภทเด่ียวและประเภททีม การกีฬา แห่งประเทศไทยจัดให้ E-sports เป็นกีฬาท่ีเก่ียวข้องกับการแข่งขัน “วีดิโอเกม” เกมจับคู่ ออนไลนต์ า่ ง ๆ ที่ทาให้มนุษยส์ ามารถสรา้ งความคุ้นเคยกนั ไดแ้ ล้วโดยผ่านการเลน่ เกมออนไลน์ ดังน้ันจุดเปล่ียนท่ีน่าสนใจของการเป็นผู้นาเกมคือ ผู้นาเกมในปัจจุบันจะต้องมีความรู้ใน เร่ืองเทคโนโลยี และมีความเท่าทันข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ เพื่อนามาใช้กับเด็กที่จะเป็นผู้ใหญ่ใน อนาคต และต้องรักษาไว้ซึ่งวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมเกมให้คงอยู่ต่อไป ดังน้ันส่ิงที่สาคัญ และน่าสนใจของผู้นาเกมในยคุ 4.0 ทจ่ี ะต้องมมี ากทส่ี ดุ คือ 1. ผนู้ าเกมจะต้องมคี วามรู้ ความเข้าใจในเร่ืองเกมอยา่ งชานาญ 2. ผนู้ าเกมจะต้องมีความรใู้ นเรือ่ งเทคโนโลยีและภาษาองั กฤษ

188 องค์ประกอบและคุณลกั ษณะของผนู้ าเกม นวพรรณ อมรรัตนานนท์ (2540) ได้ให้ความหมายว่า ผู้นาเกมท่ีดี ต้องมีศิลปะต่างๆ ของ ผู้ท่ีจะทาให้บุคคลอ่ืนได้รับความสนุกสนานทางเกม กล่าวคือจะทาอย่างไรให้เขาเล่นด้วยความ สนกุ สนานเตม็ ท่ี ให้เขาไดร้ ับทกั ษะและทัศนคตทิ างเกมกีฬาให้มากทีส่ ดุ เทา่ ที่จะมากได้ ส่ิงนั้นก็คือ คณุ ลักษณะการเปน็ ผู้นาทีด่ ีทางเกมซึง่ มลี กั ษณะตา่ ง ๆ พอประมวล ดงั น้ี 1. ต้องมีความรูค้ วามเขา้ ใจ ความตอ้ งการและความสนใจของเดก็ ในดา้ นการเลน่ การ ออกกาลังกาย ตลอดจนความซุกซนต่าง ๆ 2. ตอ้ งมีความรูท้ างด้านจติ วิทยาเกยี่ วกบั ความเจริญของรา่ งกายและจติ ใจเด็ก 3. ตอ้ งมคี วามรเู้ ร่ืองเกมประเภทต่าง ๆ อยา่ งเพียงพอและเปน็ อย่างดี 4. ตอ้ งสามารถปรับตัวใหเ้ ข้ากับเดก็ ไดด้ ี 5. เด็กมีความสนกุ สนานรา่ เริงไปดว้ ย 6. หากสามารถเลน่ รวมกบั เดก็ ได้ ควรเลน่ รวมด้วย 7. ควรมอี ารมณข์ ัน ไม่เคร่งเครยี ดเอาจรงิ เอาจังเกินไป 8. ต้องสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหนา้ ได้ เช่น เกมทส่ี อนไปเด็กไมช่ อบไม่ต้องการ ต้องสามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ใช้ทางการจงู ใจแทน 9. ไมค่ วรใช้วิธีดุ ด่า ตาหนิ หรือวิธีรุนแรงอืน่ ๆ แต่ควรใชว้ ธิ แี รงจูงใจและชมเชยแทน 10. ผ้นู าเกมท่ดี ไี มค่ วรนากฎ ระเบยี บมาขู่ แตค่ วรใชค้ วามเปน็ จรงิ เปน็ มิตร สนทิ สนม และมคี วามเขา้ ใจกนั เป็นที่ตั้ง 11. ควรใหอ้ สิ ระแกผ่ ้เู ล่นอย่างกว้างขวาง ไม่ควรให้อยูใ่ นกรอบวนิ ัยมากจนเกินไป 12. ผู้นาตอ้ งวางตวั อย่างเหมาะสม แม้ว่าจะเป็นกันเองกไ็ ม่ควรเกนิ ขอบเขต 13. ผูน้ าทด่ี ใี ชส้ ญั ญาณนกหวดี น้อยที่สุดเท่าทจ่ี าเป็นเทา่ นน้ั ควรใช้สญั ญาณอื่นแทนเสียง นกหวีด 14. ควรเลือกหาเกมทีส่ นุกใหเ้ ด็กเลน่ และควรยตุ ิเกมนั้น เมื่อทกุ คนสนุกสนานจนสดุ ยอดแลว้ หากฝืนเลน่ ต่อไปกจ็ ะทาใหเ้ กิดความเบ่ือหนา่ ยในเกมนน้ั ๆ 15. ผู้นาทีด่ ีตอ้ งเอาใจใส่เดก็ ทกุ คนให้ไดเ้ ล่นอยา่ งถูกต้องและทัว่ ถงึ 16. ผนู้ าท่ดี พี รอ้ มทีจ่ ะตอบปัญหาตา่ ง ๆ ของเกมได้เป็นท่นี า่ พอใจของเหล่าเด็กเสมอ

189 นอกจากนี้ สชุ าติ ทวพี รปฐมกลุ (2547) ยังได้กลา่ วถึงลักษณะของผู้นาเกม มลี กั ษณะดังนี้ 1 ตรวจสอบสถานที่ อุปกรณแ์ ละสิง่ อานวยความสะดวกใหอ้ ยใู่ นสภาพปกติ อย่างสมา่ เสมอ 2. ผู้นาเกมต้องสร้างอุปนิสัยที่ดีให้แก่ผู้ร่วมกิจกรรมโดยเฉพาะเด็ก เยาวชน เช่น การ ปฏบิ ตั ิตามกฏระเบยี บ ใหม้ คี วามสานกึ ในเร่อื งเก่ยี วกับความปลอดภัย 3 จะต้องอธิบายชี้แจงข้อควรระวัง ของอุบัติเหตุอันอาจจะเกิดขึ้นในการเล่นเกมนั้น ๆ และให้รจู้ กั ป้องกนั และแกไ้ ขหากเกิดอบุ ตั เิ หตขุ น้ึ 4 แบ่งกลุ่มผู้ร่วมกิจกรรมให้เหมาะสมตามทักษะ โดยเฉพาะเกมท่ีมีการต่อสู้ หรือใช้ กาลังปะทะ 5 ต้องเลือกเกมให้เหมาะสมกับพ้ืนฐานความสามารถของผู้เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อ หลกี เลย่ี งอบุ ัตเิ หตุ ประพัฒน์ ลักษณพิสุทธิ์ (2548) ได้กล่าวถึงองค์ประกอบและคุณลักษณะท่ีผู้นาเกมควรมี คือ ความกระตือรือร้นของครูหรือผู้นาเกมเป็นส่ิงสาคัญอย่างย่ิง เด็กสามารถและแสดง ปฏิบัติ หรือสะท้อนให้เห็นทัศนคติของเราได้ ไม่ว่าจะเป็นความกระตือรือร้นหรือความเฉื่อยชา ความ กระตือรอื รน้ สามารถติดตอ่ หรือรบั เข้าไว้ได้ แต่เด็ก ๆ จะไมส่ ามารถเก็บหรือจับใหอ้ ย่ไู ด้ นอกจาก ครูจะได้แสดงความกระตือรือร้นอยู่ในขณะน้ัน ส่วนความกระปร้ีกระเปร่านั้นถือว่าเป็นการแสดง จิตใจแกร่งกล้า(aggressive spirit) ท่ีผู้นาเกมจาเป็นจะต้องมีการสอนก็ควรจะสอนไปตาม แนวทางทเี่ ชือ่ ว่าจะทาให้ผู้เข้าร่วมสนุกสนานไปกับเราดว้ ย สิง่ สาคญั สาหรับการเปน็ ผู้นาเกม (Essentials for leadership) ในการวางแผนการเริ่มตน้ ของแผนการและการจัดการแนะนากิจกรรมสาหรับกลุ่มผ้นู าเกม จะต้องรู้ถึงสิ่งสาคัญท่ีจะนาไปใช้ในการจัดโปรแกรมท่ีมีประสิทธิภาพ และให้ได้รับความสาเร็จ ผนู้ าจึงควรมลี กั ษณะ ดังนี้ 1. รู้ถึงกลุ่มของเกมแทนท่ีจะรู้เป็นอย่าง ๆ ไป โดยคานึงถึงจุดมุ่งหมายหรือแบบแผน เพอ่ื ประหยัดเวลาในการวางแผนสรา้ งโปรแกรม 2. เลือกกิจกรรมที่เหมาะสม ผู้นาควรได้พิจารณาถึงความสนใจและประสบการณ์ทาง สังคมของกลุ่ม การแต่งกายของผู้เล่น ขนาดสนามเล่น อุปกรณ์ หรือส่ิงอานวยความสะดวกท่ี พอจัดหาได้ และวตั ถุประสงค์ทีต่ ้องการจะใหส้ ัมฤทธิ์ผล

190 3. กาหนดหรือแต่งต้ังคณะกรรมการหรือผู้ช่วยเหลือ เม่ือเห็นว่ามีความจาเป็นหรือ ต้องการ 4. รว่ มอภิปรายถึงแผนงานกบั คณะกรรมการหรือผู้ชว่ ยเหลือ เพอ่ื ขอขอ้ เสนอแนะและ คาติชมต่าง ๆ และใหแ้ น่ใจวา่ แตล่ ะคนเข้าใจถงึ ความรบั ผดิ ชอบของเขา 5. เขา้ ใจกฎกตกิ าของเกมกอ่ นท่จี ะนาไปเสนอ (นาไปใช้) 6. รวบรวมและตรวจตราเครื่องใช้ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ท่ีจาเป็นหรือการใช้ในการเล่น เกมในการเล่นเกมท่ีต้องการให้ผู้เล่นเขียน และในสภาพการณ์น้ันไม่เหมาะกับการจัดโต๊ะเพื่อรอง เขียน ควรจะจัดแมกกาซีน กระดาษ หรือกระดาษรองเขียนหรือบัตรสาหรับแต่ละคน อุปกรณ์ ทกุ ๆ อย่างควรจะเรียบร้อย แต่ไมค่ วรจะวางไว้ในทีท่ ่ีเด็กในกลุ่มสามารถจะหยิบไปใช้ก่อนเล่นเกม 7. เตรียมอุปกรณ์อ่ืน ๆ อย่างพร้อมเพรียง เมื่อต้องการใช้ก็สามารถหยิบใช้ได้อย่าง ทันท่วงที บัญชีรายชื่อรายการ (List) แผนภูมิหรืออ่ืน ๆ เมื่อต้องการรายการหลายๆ แผ่นในการ เล่นเกม ควรจะจัดสาเนาติดไว้บนกระดานดา หรือบนกระดาษแผ่นใหญ่ ๆ เพ่ือว่าเด็กจะสามารถ อ่านรายการต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน ควรอัดสาเนาต่าง ๆ ไว้ให้พร้อมสาหรับแต่ละคน หรือจะให้ นกั เรยี นเตรยี มรายการของตนเอง เมอ่ื ไดร้ บั มอบหมายหน้าท่ี 8. เขียนเส้นเร่ิมหรือเขตประตูสาหรับการเล่นแบบผลัด หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่ต้องการ เคร่อื งหมายถ้าครจู ะขดี เส้น กค็ วรจะให้นักเรียนคนใดคนหนงึ่ ออกมาทาแทนผู้นาหรือครไู มค่ วรจะ ขดี เส้นเอง ควรจะควบคมุ และสอนเกมในเวลาเดยี วกนั 9. ใชส้ ญั ญาณเพือ่ ดึงความสนใจของนกั เรียน เริม่ และหยดุ กจิ กรรมเมือ่ จาเปน็ เท่านนั้ สัญญาณดงั กลา่ วอาจจะได้แก่ การยกมือ เสียงนกหวีด หรอื คาพูดตา่ ง ๆ 10. จดั ใหน้ กั เรยี นเขา้ แถว หรือจัดกลุม่ ตามตอ้ งการเพ่ือจะเล่นเกม 11. ใหค้ าแนะนางา่ ย ๆ สน้ั ๆ และชดั เจนในการเล่นเกม 12. ใช้ภาพประกอบ ถา้ ภาพนัน้ จะชว่ ยให้การสอนนั้น ๆ ไดผ้ ลดี 13. ขอความช่วยเหลือจากคณะกรรมการ ผู้ช่วยเหลือหรือบุคคลอ่ืนๆ ในกลุ่มให้สาธิต วิธีการเล่นเกม ถ้าวิธีการดังกล่าวจะทาให้การสอนดีขึ้น ผู้นาควรจะแน่ใจว่าผู้เข้าร่วมทุกคนรู้ว่า จะเล่นเกมอย่างไร และอาจจะจาเป็นอยา่ งยิง่ ถ้าจะได้มกี ารฝกึ ตามลาดับขั้นของการสาธิต 14. ถามปัญหาเพื่อใหก้ ารเลน่ เกมดียง่ิ ขนึ้ 15. หลงั จากที่เกมได้เร่มิ ไปแล้วควรใหค้ าแนะนาเกี่ยวกับการเล่นใหน้ อ้ ย

191 16 เปลีย่ นจากเกมหนึง่ ไปอกี เกมหนงึ่ ขณะทีผ่ ู้เล่นกาลังสนุกสนานกบั เกมแรก อย่างไร ก็ตาม ผ้นู ากไ็ มค่ วรรีบร้อนเปลย่ี นเกมหน่งึ ไปอีกเกมหนงึ่ ก่อนท่ีผู้เล่นจะมีโอกาสและเขา้ ใจ และ สนุกสนานในเกมแรกเสียก่อน 17 จดั โปรแกรมใหม้ ีความยดื หยุ่นได้ โดยเตรียมกิจกรรมไว้ใหม้ ากกวา่ ท่จี ะตามโปรแกรม เพื่อวา่ จะได้แทนในเกมอ่ืน ๆ ตามทต่ี อ้ งการ (พร้อมทจี่ ะใช้) ผู้นาควรจะเตรียมตัวทจ่ี ะปรบั ตวั และ กจิ กรรมทดแทนลงไป ถ้าเหน็ วา่ แผนนจ้ี ะไมเ่ หมาะสม 18 หยดุ โปรแกรมขณะทค่ี วามสนกุ สนานกาลังจะถึงจดุ สงู สุด ขอ้ เสนอแนะสาหรบั ผนู้ าเกม 1. รจู้ กั เกมเป็นอย่างดีกอ่ นท่ีจะนาเกมไปสอน หมายความว่า ร้ถู งึ อนั ตราย รถู้ งึ ความ ยงุ่ ยาก และความสามารถทจ่ี ะดัดแปลงเกมใหเ้ หมาะสมกบั กลุ่มและส่ิงอานวยความสะดวก 2. บอกกฎกตกิ าและเหตผุ ลทตี่ อ้ งใชก้ ฎกตกิ า 3. เพ่ือให้การเล่นมปี ระสิทธภิ าพสูง ควรจะแบง่ ผเู้ ล่นออกเป็นกลมุ่ แล้วแตก่ จิ กรรม สว่ นใหญ่ จะแบ่งกลุม่ ประมาณ 10-15 คน 4. เล่นกบั เด็กเป็นบางครง้ั บางคราว เพราะเดก็ ๆ ก็อยากจะเหน็ เราเลน่ 5. ส่วนประกอบใหญท่ ่จี ะทาให้ผนู้ าท่ปี ระสบความสาเรจ็ คือ ความกระฉบั กระเฉง คลอ่ งแคล่ว ความเรง่ รีบผสมกับความทะเยอทะยานกระตอื รอื รน้ ของผูน้ าจะทาให้ผลเปน็ ที่น่าพอใจ 6. คอยดแู ลการเล่นอย่างระมดั ระวังเก่ียวกับการลดความสนใจ อาจจะเปลยี่ นแปลง เกมได้บา้ ง เพ่อื กระตุ้นความสนใจ หรอื อาจจะเปลี่ยนกิจกรรมอ่ืนกไ็ ด้ 7. ความผดิ เลก็ ๆ น้อย ๆ จะตอ้ งถกู แก้ไขระหว่างการเล่น ไมค่ วรใหก้ ตกิ าท้งั หมดกอ่ น การเล่น ให้เฉพาะเท่าท่ีจาเป็น 8. เตรียมทุกส่ิงทุกอย่างให้พร้อมก่อนที่จะเริม่ แนะนาเกม ขีดเส้นกาหนดแดนหรอื เส้น อน่ื ๆ เตรียมสง่ิ ต่าง ๆ ใหพ้ รอ้ มก่อนท่ีจะเร่ิมใช้ 9. เราสามารถดดั แปลงเกมให้เหมาะสมกบั อปุ กรณ์และสงิ่ อานวยความสะดวกอ่ืน ๆ เกมบางเกมอาจจะเหมาะกับอุปกรณ์และสิง่ อานวยความสะดวกทจี่ ดั ขนึ้ เสน้ แบง่ แดนอาจจะกวา้ งยาว หรอื ส้นั ตามแตจ่ ะตอ้ งการ 10. ในการเลน่ เกมประเภททีมทต่ี อ้ งอาศัยองคป์ ระกอบต่าง ๆ จะตอ้ งแนใ่ จว่าแตล่ ะทมี มี จานวนผเู้ ลน่ และความสามารถไม่แตกต่างกัน ไม่ควรจะทาลายเกมโดยการจดั ใหท้ มี เก่งแข่งกับทีมอ่อน

192 11. ชว่ ยและสนับสนนุ ข้างท่ีแพ้ เราต้องการให้เด็กเปน็ ผู้แพท้ ี่ดี มีใจเป็นนักสู้แตไ่ ม่ใช้ ผแู้ พอ้ ย่างง่ายดาย 12. สังเกตความอ่อนเพลียของผู้เล่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนไล่ที่ไม่สามารถจะจับคนหนีได้ ครูอาจจะเปล่ียนเปน็ ตรงกันข้าม ซึ่งจะทาให้คนหนีเป็นคนไล่ หรือหยุดเล่นเกมแล้วให้เด็กอีกคน หนง่ึ เป็นคนไล่แทน 13. ขอ้ เสนอแนะและการแนะเทคนิคตา่ ง ๆ ควรจะเปน็ สว่ นหนึ่งของการนาเกม เช่น ในการตั้งต้นว่ิงแข่งขันควรโน้มตัวไปขา้ งหน้าเล็กนอ้ ย เพื่อการต้ังต้นจะไดเ้ ร็วข้ึน 14. ในการสาธิตหรืออธิบายตอ้ งแน่ใจวา่ เดก็ อยู่ในอริ ิยาบถที่สบายระหว่างการอธบิ าย ในขณะหยุดเกมควรให้เด็กนง่ั (จดั หาทน่ี ่งั ) ถา้ การอธิบายนัน้ ยาว ควรให้เดก็ นงั่ บนพน้ื หรอื ท่ีใดก็ ตามทีเ่ ขาตอ้ งการในบริเวณนัน้ 15. ต้องคอยระวังเดก็ ที่จะทาตวั เปน็ ตวั กอ่ กวน 16. ถ้าเล่นเกมทต่ี อ้ งให้ผู้เล่นออก จะต้องมกี ารเตือน การให้ออกไมค่ วรทาให้เกิดความ ขมข่ืน ควรกาหนดวา่ จะใหม้ ีการออกเปน็ อัตราสว่ นเทา่ ใด และให้ส่วนท่ีเหลอื เปน็ ผชู้ นะ คมู่ ือผ้นู านันทนาการ กรมพลศึกษา (2557) ได้กล่าวถงึ คุณลกั ษณะของผู้นาเกม วา่ ผูท้ ี่จะนาเกม ได้สาเร็จนั้น เป็นผู้ที่ชอบงานที่มีชีวิตชีวา ยืดหยุ่น และกระตือรือร้น การนาเกมจะต้องทาต่อเนื่องต้ังแต่ เริ่มต้น อย่าพยายามให้สะดุด ในกรณีมีเหตุการณ์ท่ีไม่คาดฝัน ผู้นาต้องพร้อมที่จะแก้ปัญหา โดยทั่วไปการ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ทาได้โดยการนาเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนมาเป็นประโยชน์ในการนา พยายามหลีกเล่ียง การเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ หรือแกไ้ ขด้วยวิธีตัดบท เช่น ถ้ามคี น“แซว” เราอาจใช้การ“แซว” ดังกล่าวมา เป็นข้อคิดเห็นหรือเป็นส่ือ ให้เกิดอารมณ์ขัน นอกจากนี้ ผู้นาเกมได้ดีควรเป็นผู้ท่ีสามารถสร้างสถานการณ์ ได้ตามต้องการ เป็นคนท่ีมีอารมณ์ขัน ยอมรับฟังความคิดเห็น แม้ว่าส่ิงน้ันจะเป็นส่ิงที่ตนเองไม่ชอบ ส่ิงสาคัญท่ีผู้นาเกมต้องตระหนัก คือ การสร้างความเช่ือม่ัน ได้แก่ การเตรียมทุกอย่างให้พร้อม กอ่ นการนา ผูท้ ี่ฝกึ ฝนอยเู่ สมอย่อมได้เปรยี บ การเตรียมพรอ้ มและฝึกฝนจะทาใหผ้ ู้นา มั่นใจและมี โอกาสผิดพลาดน้อย ผู้ที่ไม่เตรยี มการคิดว่าทาได้ แต่เมอื่ อยู่หน้ากลุ่มคน กลับนกึ อะไรไม่ออก ทา ให้การนาผิดพลาดและส่งผลและส่งผลทาให้ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ในขณะท่กี าลังนากิจกรรม นอกจากการเตรียมการไว้ก่อนแล้ว การฝึกฝนตนเองจนสามารถปฏิบัติได้โดยอัตโนมัติเป็นสิ่งที่จะ นาความเช่ือมน่ั สผู่ นู้ า เกมไดเ้ ปน็ อยา่ งดี

193 คณุ สมบตั ิของผูน้ าเกมทดี่ ี ผสู้ อนเกม หรือเรียกว่า ผู้นาเกม เป็นผู้มีความสาคัญที่สุดท่ีจะสร้างความสนุกสนาน ความ รว่ มมอื ในการเล่นเกมและทาให้เกดิ ทศั นคติทด่ี ตี ่อการเล่นเกมได้ ดังนัน้ ผู้นาเกมทีด่ คี วรมลี ักษณะ ดงั นี้ 1. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกับการเลน่ เกมเปน็ อย่างดี สามารถวางแผนและดาเนินการ เกีย่ วกบั การคดั เลอื กเกม การจัดกลุ่มผูเ้ ล่น การจดั อุปกรณ์ สถานท่ีไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 2. มีอารมณ์สนุกสนานร่าเรงิ สามารถสร้างบรรยากาศใหก้ ารเล่นเกมเป็นไปด้วย ความ ราบรื่น ไมน่ ่าเบือ่ หน่าย ทาให้ผู้เล่นทุกคนมคี วามต้องการที่จะเขา้ รว่ มกจิ กรรม 3. มีมนษุ ย์สมั พันธด์ ี สามารถปรับตัวใหผ้ ู้เลน่ กับผ้สู อนมีความกลมกลืนกัน สามารถจงู ใจ และเชิญชวนให้ผเู้ ลน่ กล้าแสดงออกอย่างเตม็ ท่ี 4. มีความม่ันใจในตัวเอง และมีความกระตือรอื รน้ ในการสอน ทงั้ ยงั สามารถควบคมุ การ เล่นเกมให้เปน็ ไปด้วยความราบรื่น ไม่หยุดชะงกั กลางคัน 5. มีบคุ ลิกภาพดี เป็นทส่ี นใจแกผ่ เู้ ล่น เช่น การแตง่ กาย การวางท่าทาง กิริยามารยาท การ ส่อื สาร น้า เสียงชดั เจน และมปี ฏภิ าณไหวพริบดี ซ่งึ ช่วยทาใหก้ ารเล่นเกมบรรลุตามวัตถปุ ระสงค์ และ แก้ไขสถานการณ์หรอื ปัญหาเฉพาะหน้าไดด้ ี 6. มอี ารมณ์มั่นคง และมีความยุตธิ รรมในการตดั สินเกมใหเ้ ปน็ ไปตามกฎ กติกาของเกม โดยปราศจากความลาเอียง 7. มีความเข้าใจในหลักการติดตามประเมินผล เพ่อื รับทราบผลดี ผลเสยี ของการ เลน่ เกม ใจกว้าง รบั ฟงั ความคดิ เห็นของผูอ้ นื่ บคุ ลกิ ภาพของผนู้ าเกมทีด่ ี ผนู้ าเกมควรมลี ักษณะที่พงึ ประสงค์ ดังนี้ 1 ตอ้ งเปน็ ผู้ทีแ่ ต่งกายเรียบรอ้ ย หน้าตาย้มิ แย้มแจ่มใส พูดชดั เจน การยืน ต้องมี ความ มั่นคง เปน็ ธรรมชาติ ปลายเท้าแยกเลก็ น้อย บุคลกิ ดี เป็นทน่ี า่ เชื่อถอื และเป็นกันเอง เพอื่ สรา้ ง บรรยากาศของความค้นุ เคยและจูงใจผเู้ รียน 2 ตอ้ งมีทัศนคตทิ ดี่ ี 3. ตอ้ งมีทักษะในการฟงั และการสง่ั กล่าวคือ การใชถ้ ้อยคา สานวนภาษา และการ ตดิ ต่อส่ือสารตอ้ งมีความชัดเจนและถกู ต้อง 4. ต้องสามารถเดาใจ อา่ นใจ หรือสามารถวิเคราะหผ์ ้เู รยี นไดด้ ีและถกู ต้องพอสมควร ต้องสังเกตความต้องการของผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง

194 5. ตอ้ งใจกว้างและเคารพในความคดิ เหน็ ของผู้อ่ืน และพรอ้ มทจ่ี ะรบั ความผิดพลาดของ ตนเอง 6. ตอ้ งไมว่ ิพากษว์ ิจารณ์หรอื แปลพฤตกิ รรมของผู้เรยี นโดยไมจ่ าเป็น 7. ตอ้ งไม่เอาปญั หาของตนเองมาเป็นจดุ สรา้ งความสนใจให้กับผู้เรียน จนกระทั่งลืม ความต้องการหรือวัตถปุ ระสงค์ของกล่มุ 8. ตอ้ งเป็นคนท่มี ปี ฏภิ าณและไหวพริบเป็นเยี่ยม และร้จู ักนา ความคดิ ของผเู้ รียน มาใช้ประโยชน์ 9. ต้องมีความสามารถในการวเิ คราะห์ เชื่อมโยงความคดิ และสรุปความคิดเห็นตา่ ง ๆ ได้ดคี ู่ ลักษณะทไี่ ม่พงึ ประสงค์ของผ้นู าเกม มดี งั นี้ 1. การยมื กมุ มอื กมุ เขม็ ขัด ยืนแอน่ 2. การลว้ งกระเป๋า 3. การกะพริบตาถ่ี ๆ 4. การแลบลิ้น การหาว 5. การเกาหัว เกาหู เกาก้น 6. การเขย่าขา ยักไหล่ 7. การโยกตัว 8. การแคะจมกู แคะหู 9. การแกะสิว แกะกระดุมเส้ือ เทคนคิ การเปน็ ผนู้ าเกม สุชาติ ทวพี รปฐมกุล (2547) ไดก้ ลา่ วถงึ การนาเกมใหม้ ีประสทิ ธภิ าพเป็นศลิ ปะอยา่ งหน่งึ และเปน็ สิ่งสาคัญของผ้นู า ซง่ึ ควรดาเนนิ การดงั ตอ่ ไปนี้ 1. ผนู้ าเกมควรเลือกสถานที่ยนื และตาแหน่งท่ีเหมาะสม ตาแหน่งหรือจุดยืนของผู้นาเกม ก่อนท่ีจะเริ่มนาเกม ผู้นาเกมจะต้องเลือกสรร ตาแหน่งหรือบริเวณที่ผู้นาเกมจะยืน เพื่ออธิบายและสาธิตวิธีการเล่นเกมนั้น ๆ โดยมีหลักอยู่ว่า ตาแหน่งน้ัน ผู้นาสามารถมองเห็นผู้ร่วมกิจกรรมได้อย่างท่ัวถึง ผู้ร่วมกิจกรรมสามารถได้ยิน คาอธิบายของผู้นาเกม ตลอดจนมองเห็นผู้นาเกม และการสาธิตวิธีการเล่นได้อย่างชัดเจน ซึ่ง ผนู้ าเกมจะไดป้ ระหยดั การใชเ้ สยี ง

195 2. สรา้ งความคุ้นเคยกบั ผ้รู ่วมกิจกรรม การสร้างความคุ้นเคยกับผู้ร่วมกิจกรรม ผู้นาเกมจาเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้าง ความคุ้นเคยกับผู้ร่วมกิจกรรมและระหว่างผู้ร่วมกจิ กรรมด้วยกันเอง ซึ่งมีผู้เปรียบความคุ้นเคยว่า เปรียบเสมือนน้ามันหล่อล่ืนของเครื่องยนต์ฉันใดก็ฉันนั้น เม่ือมีความคุ้นเคยกันดีแล้ว การนาเกม ก็จะได้รบั ความร่วมมอื เปน็ อย่างดจี ากผรู้ ่วมกจิ กรรมทุกคน เพราะในระยะแรก ๆ ผรู้ ่วมกิจกรรมมี ความรูส้ ึกอดึ อัด เพราะต่างฝ่ายกพ็ ยายามสร้างเกราะหรือกาหนดขอบเขตของตนเองมากบ้างน้อย บ้าง ดังน้ันการสร้างความคุ้นเคยจะช่วยให้เข้าหากันได้สนิทใจข้ึน มีความเป็นมิตรท่ีดีกันมากข้ึน มกี ารแสดงออกมากขึ้น และรู้จกั กันมากขึ้น มคี วามรักและความจรงิ ใจต่อกนั ซ่งึ ผู้นาเกมจะต้อง คานงึ ถงึ ระดบั ความสมั พันธข์ องผรู้ ว่ มกจิ กรรม ระดับความสมั พนั ธข์ องผู้ร่วมกิจกรรม กลุ่มท่ี 1 กล่มุ ที่ไมเ่ คยรู้จัก ไมค่ ุน้ เคยกันมาก่อน การจัดกจิ กรรมตอ้ งพยายามใหก้ ลุ่มร้จู กั กนั อย่างรวดเร็ว ในเวลาอันส้ัน ในบรรยากาศทส่ี นุกสนาน เชน่ การจับคูแ่ นะนาตัว ลมเพลมพัด เกมบงิ โก กล่มุ ที่ 2 กลมุ่ ที่รู้จักกนั มาบ้างแล้ว กลมุ่ นจ้ี ะรู้จักกนั แบบไม่ลึกซึง้ นัก เคยพบกัน บา้ งจงึ ควรจัดกจิ กรรมให้รจู้ ักกันมากข้นึ ทาความเขา้ ใจกัน เรียนรู้และ ยอมรบั ซึง่ กันและกนั มากขนึ้ เช่น ลา่ ลายเซน็ แลกเปลี่ยนป้ายชอื่ ทาย ใจบดั ดี้ กลุม่ ที่ 3 กล่มุ ท่ีร้จู ักกนั อย่างสนทิ สนม ติดตอ่ ประสานงานในการทางานหรือรว่ ม กจิ กรรมกนั อยูเ่ ป็นประจา ในกลุ่มนี้ควรจะจดั กจิ กรรมท่ีเพอ่ื นเน้นความ มั่นใจในความสนิทสนมกนั มากขนึ้ เช่น ฉันคอื ใคร แนะนาลูกโซแ่ ฟนซี นอกจากนี้ผนู้ าเกมสามารถใช้หลัก 5 S ในการสร้างความค้นุ เคย ไดด้ ังนี้ 1) Sincere (ความจรงิ ใจ) ผูน้ าเกมจะตอ้ งแสดงความจรงิ ใจ ท่ีจะทาใหผ้ รู้ ่วม กิจกรรมรู้สกึ ว่าเปน็ มิตรอย่างแท้จริง 2) Say (การพดู คุย) การพดู คุยของผูน้ าเกมในสงิ่ ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเหตกุ ารณ์ปจั จุบันหรือ ประสบการณ์ต่าง ๆ จะทาให้ผรู้ ว่ มกจิ กรรมเร่ิมมีการโต้ตอบและจะสามารถร่วมกิจกรรม ต่าง ๆ ได้ 3) Service (การใหบ้ ริการ) ผนู้ าเกมจะตอ้ งเปน็ ผู้ให้บริการ จัดสิ่งอานวยความ สะดวกใหแ้ กผ่ รู้ ว่ มกจิ กรรม

196 4) Star (จดุ เดน่ ของบคุ คล) ผนู้ าจะตอ้ งพยายามหาจุดเดน่ ของผูร้ ว่ มกจิ กรรม เพ่อื จะได้ชน้ี าใหน้ าจุดเดน่ ของผู้รว่ มกิจกรรมแสดงออกต่อผรู้ ่วมกจิ กรรมทงั้ หมด 5) Shoe off (ความตอ้ งการในการแสดงออก) ผูร้ ่วมกจิ กรรมบางคนชอบแสดงออก ดังน้ันผู้นาเกมควรจดั ใหผ้ ้ทู ช่ี อบแสดงออก ออกมาเป็นผู้นา เพื่อจะเปน็ การ สรา้ งบรรยากาศต่อการเข้าร่วมกิจกรรม ทาให้เกิดความคุ้นเคยกันง่ายขนึ้ 3. จดั กลมุ่ หรอื หมู่ผรู้ ่วมกจิ กรรมตามลกั ษณะการเล่นของเกมนน้ั ๆ การจัดกลุ่มหรือรูปขบวนแถว แต่ละเกมมีวิธีการเล่นที่แตกต่างกัน ผู้นาเกมจึง จาเป็นต้องศึกษารายละเอียดถึงวธีการเล่นของเกมน้ันๆ ได้ถูกต้องโดยการแบ่งกลุ่มซึ่งเป็นรูปแถว ต่าง ๆ แล้วยังมีวิธีการแบ่งกลุ่มตามวันเกิด ตามปีเกิด ตามสีที่ชอบ ตามเพลง แบ่งโดยการนับ เลข แบง่ โดยการจบั คเู่ ป็นต้น การแบ่งกลุ่ม เป็นการจัดกลุ่มผู้ร่วมกิจกรรมเพ่ือให้เหมาะสมกับเกม หรือ กิจกรรมทจี่ ะจัดขนึ้ ซ่งึ ใช้ประโยชนห์ ลายประการด้วยกัน คือ 1) การแบ่งกลุ่มเพือ่ เลือกเกม ให้เหมาะสมกับลกั ษณะ หรือธรรมชาตขิ องกลุม่ เชน่ เพศ วยั อาชีพ การศึกษา ฯลฯ 2) เพอื่ กาหนดบทบาท หรือขบวนการจัดกิจกรรมใหส้ อดคล้องเหมาะสม สะดวก ต่อการจัดดาเนนิ การ เช่น รูปแบบ การมีส่วนร่วม การกาหนดเวลา 3) เพอ่ื การสังเกตขอ้ แตกตา่ งของแตล่ ะกลุ่ม วา่ มคี วามแตกต่างหรือคลา้ ยคลงึ กนั อยา่ งไร สะดวกตอ่ การประเมนิ ผล สรุปผลกจิ กรรม 4) เพ่ือความปลอดภัยสาหรบั การเลน่ ซงึ่ ถ้ากลุ่มบุคคลมคี วามแตกต่างกนั ในด้าน ร่างกาย วุฒภิ าวะ นามาเล่นร่วมกัน อาจทาใหเ้ กดิ อนั ตรายแกผ่ ู้รว่ มกจิ กรรมได้ 5) เพ่ือเป็นประโยชนต์ ่อผูน้ าเกม จะได้ใชว้ ิธกี ารหรือการเตรียม ตลอดจนการจัด สถานท่ี อปุ กรณ์ และบรเิ วณทจ่ี ะใชด้ าเนินการได้เหมาะสม ประพัฒน์ ลักษณพิสุทธิ์ (2548) ได้กล่าวถงึ เทคนิคการเป็นผู้นาเกม 1. ตอ้ งมกี ารวางแผนและดาเนินการตามแผนท่ีวางไว้ เช่น มีคนจานวนเท่าใด อุปกรณ์ทจี่ าเปน็ ตอ้ งใช้ ลักษณะของกล่มุ ผรู้ ่วมกจิ กรรม 2. เตรียมอปุ กรณ์ใหพ้ รอ้ มทีจ่ ะใชไ้ ด้ทนั ที

197 3. ผู้นาเกมต้องจาไว้ว่า “เรากาลังสอนเด็ก ไม่ใช่สอนเกม” การสร้างความ สนกุ สนานให้กับผเู้ ล่นเปน็ สง่ิ สาคัญ 4. ผู้นาควรอยู่ในตาแหน่งทสี่ ามารถมองเหน็ และไดย้ ินเสียงซ่งึ กันและกนั ไดอ้ ยา่ ง ชัดเจน 5. จดั ให้ผูเ้ รยี นอยใู่ นรูปแถวทีต่ ้องการกอ่ นทจ่ี ะเรมิ่ อธบิ ายหรือสาธติ ให้เด็กดู 6. ถ้าเลน่ เกมเป็นหมู่ ควรสร้างทีส่ งั เกตให้เห็นไดช้ ัด เช่น มแี ถบสี หรือใสเ่ สอื้ ทมี 7. อย่าอธิบายถ้าสามารถสาธิตได้ และอย่าใช้เวลาในการสาธิตนานเกิน ควร พยายามให้ ผเู้ ลน่ ได้เข้าร่วมเกมโดยเรว็ ทีส่ ดุ 8. ถา้ เกิดผดิ พลาด ควรรีบแก้ไขและเรม่ิ เกมต่อไปโดยเร็ว อยา่ ชะงกั นานเกินควร 9. ยกตัวอย่างปญั หาที่จะเกิดขนึ้ และการแกป้ ญั หาและเร่ิมตอ่ ไป 10.ควรหยดุ เลน่ เกมกอ่ นท่ีผ้เู ลน่ จะเบือ่ หมายความว่าควรหยดุ เลน่ เกมในขณะทีผ่ ู้ เลน่ ยงั ต้องการเลน่ เกมนั้นอกี และพรอ้ มมากขน้ึ ท่จี ะเล่นเกมอื่นตอ่ ไป 11. ผู้นาเกมต้องเตรียมพร้อมกบั เหตกุ ารณ์ท่จี ะเกดิ ขนึ้ โดยไม่คาดหวงั และจงยิม้ กบั เด็กแต่ไมใ่ ชย่ ้มิ เยาะ นอกจากน้ีอย่าแสดงความโกรธให้เด็กเหน็ 12. ควรเปิดโอกาสใหเ้ ดก็ เปน็ ผู้นาเกมบ้าง หรอื อาจจะเป็นการยอมรับฟงั ความ คดิ เห็น หรือขอ้ เสนอแนะของเขา 13. ควรปรับปรงุ และดัดแปลงเกมบา้ ง เช่น การเปล่ียนวธิ ีการเคล่ือนไหว เสน้ ทาง เป็นต้น 14. มีการประเมินผลในการเล่นเกมวา่ มีปญั หาอยา่ งใด 15. การจัดทีมเพื่อเข้าแขง่ ขนั ประเภทผลัดเปล่ียนหรือต่อสู้ ควรจดั ให้เหมาะสมตามอายุ ความสามารถหรือขนาดของร่างกาย เพื่อไมใ่ ห้เกดิ ความเหลื่อมลา้ ได้เปรียบหรอื เสียเปรียบกันมาก 16. ในขณะเลน่ ควรฝึกให้เด็กได้เรียนรู้กฎของความปลอดภยั ดว้ ย ผนู้ าต้องจาไว้ เสมอวา่ อุบตั เิ หตุจะไม่เกดิ ขึน้ เองโดยไมม่ ีสาเหตุ ผู้นาท่ดี ีจาเปน็ จะต้องขจัดสาเหตุน้นั เสยี ก่อน 17. ทา่ นได้นาเกมประสบความสาเร็จตามแผนที่วางไวห้ รอื ไม่ คราวต่อไปทา่ นจะ ทาอะไรใหแ้ ตกต่างและดกี ว่าครงั้ น้ี เดก็ ๆ พรอ้ มที่จะเล่นหรือเรียนทกั ษะที่ยากขน้ึ ไปหรือยัง ความเปน็ ผ้นู าในตวั ไดร้ ับการพัฒนาข้นึ บา้ งไหม

198 วรี ะ มนัสวานิช (2539) ได้กล่าวถึง เทคนคิ ของการสอนเกม คือ กระบวนการท่จี ะทาให้ จุดมุ่งหมายของการสอนบรรลุจดุ มงุ่ หมายปลายทางตามท่วี างไว้ กระบวนการสอนซึ่งมีเทคนคิ ข้ันตอนท่สี าคญั ที่ครูหรอื ผู้นาควรจะถอื เป็นแนวทางปฏิบตั เิ ป็นขัน้ ๆ ดังนี้ 1. เทคนคิ การอบอุ่นร่างกาย การอบอุ่นร่างกายเป็นการกระตนุ้ ใหร้ ่างกายไดป้ รบั ตัว เช่น ระบบกล้ามเนื้อเพ่มิ อณุ หภมู ิหดตัวได้ประสทิ ธิภาพสงู มกี ารประสานงานระบบไหลเวียนโลหติ และระบบการหายใจให้ มีการเคลื่อนตวั ในระยะคงท่ี พรอ้ มที่จะเคลือ่ นไหว หลกั ในการอบอ่นุ ร่างกายท่สี าคญั มีดงั นี้ 1) การอบอนุ่ ร่างกายแตล่ ะครั้งควรใช้เวลาใหน้ ้อยท่ีสดุ เพื่อใหผ้ ูเ้ ลน่ มีเวลา ในการเล่นหรือทากิจกรรมให้มากทสี่ ุด 2) ท่าบริหารกายที่ใช้ในการอบอนุ่ รา่ งกาย ควรเปน็ ทา่ บริหารทวั่ ไปเพ่ือให้ รา่ งกายไดป้ รบั ตัวโดยท่วั ๆ ไป หรือการบรหิ ารที่ต้องใช้กล้ามเน้ือส่วนน้ัน ๆ สาหรับกจิ กรรม เฉพาะอย่าง เชน่ แขน ขา ลาตัว ทาให้ร่างกายพร้อมที่จะทางานหรือเคลือ่ นไหวไดใ้ นเวลา อนั รวดเร็ว 3) การอบอ่นุ รา่ งกายควรจะเริ่มด้วยท่าทีช่ า้ ๆ งา่ ย ๆ เบา ๆ กอ่ นแล้วจึงเรง่ ความ เรว็ ความยาก ความหนักขนึ้ ตามลาดบั อาจจะเริม่ ต้นจากศีรษะลงไปเร่อื ยๆ จนถงึ ข้อเท้า 4) อบอนุ่ ร่างกายแต่ละครัง้ ควรให้ส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายไดร้ บั การบริหาร อย่างท่ัวถึง โดยเรมิ่ ตน้ จากการบรหิ ารคอลงไปเร่ือยจนถึงขอ้ เท้า จากท่ายนื ไปสูท่ ่าน่งั บรหิ ารคน เดยี วหรอื บริหารคู่ 5) เพือ่ ใหผ้ ู้เล่นได้มีส่วนรว่ มและเปน็ การสง่ เสริมคุณลกั ษณะในการเป็น ผู้นาในตัว ผู้เล่นครผู ู้นาควรจะจัดให้ผู้เล่นมกี ารผลัดเปลีย่ นหมนุ เวียนมานาการอบอนุ่ ร่างกายเป็น ประจาวัน ๆ หน่งึ หรือหลายคนก็ได้ โดยมีการตกลงกนั และมอบหมายให้นักเรียนเหล่านน้ั ได้ทราบ และเตรียมตัวลว่ งหนา้ 6) เพอื่ ความพรอ้ มเพียงกันและทาให้การอบอุน่ รา่ งกายเป็นไปด้วยความ สนกุ สนาน ครผู นู้ าอาจจะใหผ้ ู้เล่นออกเสียงพรอ้ ม ๆ กนั ตามการจงั หวะการบริหารกายนนั้ ๆ ด้วย เชน่ ให้ ผู้เล่นออกเสยี งดงั ๆ คาว่า “ซา้ ย” ในขณะที่นักเรยี นวง่ิ เหยาะ ๆ ลงด้วยเท้าซา้ ย พรอ้ ม ๆ กันหรอื ให้ผเู้ ลน่ ออกเสยี งคาว่า หนง่ึ -สอง เปน็ จงั หวะในขณะทผี่ เู้ ล่นกระโดยตบมือเหนือ ศีรษะ เปน็ ตน้

199 7) การอบอนุ่ ร่างกายแตล่ ะครง้ั ควรจะให้ผู้เล่นร้สู กึ ว่าเหน่อื ยกว่าปกติ จรงิ ๆ เชน่ ให้ผูเ้ ลน่ หายใจถข่ี ้ึนชพี จรเร็วหรือมีเหงือ่ ออกมาก ไม่เช่นนนั้ การอบอนุ่ รา่ งกายจะ ไมไ่ ดป้ ระโยชนเ์ ทา่ ทีค่ วร 8) เพอ่ื เปน็ การเสริมสร้างสมรรถภาพทางดา้ นรา่ งกายควบคู่กนั ไปด้วย ทา่ บริหารกายบางอย่าง เชน่ การดันพ้นื การลกุ -น่ัง อาจจะนามาใช้เพอ่ื เปิดรายการอบอนุ่ ร่างกายในแตล่ ะคร้งั ด้วย 2. เทคนิคการอธบิ ายและการสาธติ การอธิบายและการสาธิตเปน็ วิธีการสอนที่จะให้ผู้เล่นได้มคี วามรู้ ความเข้าใจใน สิง่ ทเ่ี ลน่ เพือ่ จะได้นาไปเป็นแนวทางในการท่ีจะฝกึ หัดและเลน่ ตอ่ ไป เพื่อจะไดบ้ รรลุวัตถปุ ระสงค์ ทีไ่ ดว้ างไว้ เพอื่ ให้ได้ผลดยี ่ิงขน้ึ และสอดคล้องกับแนวการสอนแบบใหม่ ครูหรือผนู้ าควรใช้หลกั ที่ สาคญั เพอื่ เปน็ แนวทาง ดังตอ่ ไปนี้ 1) ผ้นู าบอกชอื่ เกมให้ผเู้ ล่นและจัดใหผ้ เู้ ลน่ จดั รปู แถวในการเล่น 2) อธบิ ายวชิ าการเลน่ สัน้ ๆ เขา้ ใจง่ายจนผู้เลน่ เขา้ ใจอย่างแจม่ แจ้ง 3) อธบิ ายกฎกติกาการเล่น การฟาวล์ การแพช้ นะกนั 4) ผนู้ าทดสอบความเข้าใจอีกคร้ังหนึง่ โดยใหผ้ ู้เลน่ ถามหรือผู้นาถามเองก็ ไดแ้ ลว้ สาธติ หรอื ให้ผเู้ ล่นทดลองอย่างชา้ ๆ จนทุกคนเข้าใจ 5) กอ่ นเลน่ ผนู้ าตอ้ งย้าความปลอดภยั ให้ผเู้ ล่นทราบทุกคร้งั 3. เทคนคิ การเล่นเพ่อื ความสนกุ สนานหรอื การแขง่ ขนั กนั เม่อื ทกุ คนเขา้ ใจใน กฎ กติกาและข้นั ตอนการเลน่ อยา่ งชดั เจนแลว้ ครหู รือผูน้ ากล็ งมือ ให้เล่นทนั ทีโดยไมช่ กั ชา้ เพราะเวลามคี ่าตอ่ ผู้เล่นมาก ผู้เล่นไดน้ าความรู้ความเข้าใจ ข้อบังคบั ของการ เล่นมาปฏบิ ตั ิในสภารพการณ์ของการเล่นจริง ครหู รอื ผนู้ ามีโอกาสทจ่ี ะปลูกฝังคณุ ธรรมระเบยี บวนิ ยั การเป็นผเู้ ล่น การรวมหมู่ ความสามัคคี การรูจ้ กั แพช้ นะ การอภยั ตลอดจนพฤติกรรมอืน่ ๆ ในตัว ผเู้ ล่นไดเ้ ปน็ อยา่ งดี ครผู นู้ าได้ร้จู ักนสิ ยั ใจคอของผู้เล่นอย่างแท้จริงวา่ ผู้เล่นคนไหนมพี ฤติกรรมที่พงึ ปรารถนาหรอื ควรจะได้รบั การแก้ไขใหด้ ีขึ้นอย่างไร สาคญั อยทู่ ่ีครูหรือผนู้ าจะสามารถฉวยโอกาสนีเ้ พ่ือ นามาใชใ้ ห้มีประโยชน์และมคี วามหมายต่อผูเ้ ล่นมากน้อยแคไ่ หน โดยนาหลักการและเทคนิคการจดั การ แขง่ ขันหรอื การเลน่ มาปฏิบตั ิ ดงั นี้

200 1) จานวนผู้เล่นในแตล่ ะหมู่ให้มจี านวนเทา่ ๆ กัน 2) ผู้เล่นทีม่ ีสว่ นเกินกจ็ ัดให้มสี ่วนร่วมโดยการเปน็ กรรมการช่วยครใู นการตัดสิน 3) จัดใหม้ ีหัวหน้าหมู่ สปี ระจาในแตล่ ะหมู่ หรอื สี 4) เสน้ เรมิ่ เสน้ กลับตวั หรือเสน้ ชัดควรเขยี นใหช้ ดั เจนไมค่ วรมสี ง่ิ กีดขวาง 5) การตดั สนิ ควรจะเป็นไปอยา่ งยุติธรรม 6) ให้ผ้เู ลน่ ไดป้ ฏิบตั ติ ามกตกิ าและระเบียบการเลน่ 7) ถ้าหมู่ใดคนใดชนะ ให้หมคู่ นอ่ืน ๆ ปรบมือให้เกียรติ และหมชู่ นะควรจะได้ แสดงความขอบคุณโดยการคานับ โคง้ ให้เกยี รตเิ พือ่ เป็นการปลูกฝังการแพช้ นะในตัวผเู้ ล่น 8) ครูผู้นาควรบอกข้อดีและข้อเสยี ของกลมุ่ ชนะและกลุ่มแพเ้ พื่อจะปรบั ปรงุ ต่อไป 9) ครูผ้นู าอาจจะจดั ใหม้ กี ารเล่นหรือแข่งขันกนั ใหมก่ ไ็ ดข้ น้ึ อยกู่ ับความตอ้ งการของผู้เลน่ 4. การสรปุ และสุขปฏิบัติ การสอนในขนั้ น้ีนับว่ามีความสาคัญท่ีจะทาใหก้ ารสอนมคี วามสมบรู ณย์ ่งิ ขึน้ ตามหลัก ของการสอนเกมหรือการสอนพลศึกษาวัตถปุ ระสงค์ของการสอนในขนั้ นที้ ส่ี าคัญมี 2 ประการคอื 1. เพื่อสรุปผลและประเมินผลที่เกยี่ วกบั การเรยี นการเล่นในชั่วโมง 2. เพ่อื ผลทางดา้ นการปลูกฝังสุขนสิ ยั ใหแ้ กส่ มาชกิ หรอื ผเู้ ลน่

201 บทสรปุ เทคนิคการเป็นผู้นาเกมที่ดี จะต้องประกอบไปด้วย 1) ผู้นาเกมที่มีลักษณะบุคลิกภาพท่ีดี มี มนุษยสัมพันธ์ท่ีดี มีความยุติธรรม มีบุลิกภาพและแบบอย่างท่ีดี อันจะทาให้ผู้เล่นเกิดความ สนุกสนาน มจี ิตใจร่าเริงและเป็นกันเอง 2) มีความรู้ มีความสามารถประยุกต์และดัดแปลงการเล่นเกม นั้นให้เหมาะสมกับสภาพความต้องการของบริบทต่าง ๆ ทาให้ผู้ร่วมกิจกรรมมีความเข้าใจในเกมท่ี นามาเล่นเป็นอย่างดี 3) มีแผนการนาเกมอย่างเป็นระบบ โดยคานึงถึงสิ่งสาคัญของการเป็นผู้นาเกม กล่าวคอื อธบิ ายให้สั้น ให้คาแนะนาง่าย ๆ ชัดเจน ถามปัญหาเพ่ือให้การเล่นเกมดียง่ิ ข้ึน หลงั จากเริ่ม เกมควรให้คาแนะนาน้อยลง และจบเกมในขณะที่ผ้เู ล่นยังอยากที่จะเล่นอยู่ 4) มีการประเมินผลในแต่ ละด้าน เพือ่ นาไปพฒั นาให้ดีขึน้ ในการจัดกจิ กรรมเกมครั้งต่อไป ส่ิงสาคญั สาหรบั การเป็นผ้นู าเกมทีต่ อ้ งคานึงถึงเพอ่ื ให้การจดั เกมเป็นไปไดอ้ ยา่ งราบร่ืน 1. ผนู้ าเกมจะตอ้ งรู้ เขา้ ใจกติกาของเกมก่อนท่จี ะนาเสนอ 2. เข้าถึงถงึ กลุ่มของผูเ้ ลน่ เกม 3. เลอื กกจิ กรรมท่เี หมาะสมกับผเู้ ลน่ ทมี่ คี วามแตกตา่ งกนั 4. เลอื กขนาดสนาม อปุ กรณใ์ ห้เหมาะสมเพือ่ สรา้ งบรรยากาศในการเลน่ ใหม้ มี ากขึน้ 5. กาหนดหรอื แต่งตงั้ ผชู้ ่วย เม่อื เหน็ วา่ มคี วามจาเป็น อาจเปน็ หนง่ึ ในผเู้ ล่นก็ได้ 6. มชี ่วงเวลาในการรว่ มอภิปรายเพ่อื เพิม่ ข้อเสนอแนะ จากผรู้ ่วมกิจกรรม

202 คาถามท้ายบท จงเขยี นอธิบายลกั ษณะของการเปน็ ผูน้ าเกมท่ีดี (อธิบายเปน็ ข้อๆ) ................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................. ................................................................................................................... .................................................................................................................. .................................................................................................................. .................................................................................................................. .................................................................................................................. .................................................................................................................. .................................................................................................................. .................................................................................................................. ................................................................................................................... .................................................................................................................. .................................................................................................................. .................................................................................................................. .................................................................................................................. .................................................................................................................. .................................................................................................................. .................................................................................................................. .................................................................................................................. ..................................................................................................................

203 รายการอา้ งอิง ภาษาไทย นวพรรณ อมรรตั นานนท์.(2540). ทักษะและวิธสี อนเกม. กรุงเทพมหานคร: ภาควิชาพลศึกษา คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. (อดั สาเนา) ประพฒั น์ ลกั ษณพสิ ุทธิ์. (2548). เกมส์พลศกึ ษา. พิมพ์ครงั้ ที่2. กรงุ เทพมหานคร: สานักพมิ พ์ แหง่ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย. พลศึกษา, กรม. (2557). คู่มือผู้นานันทนาการ. กรุงเทพมหานคร: สานักงานกิจการโรงพิมพ์ องค์การสงเคราะห์ทหารผา่ นศกึ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พฒั นาการพลศกึ ษาสุขภาพและนันทนาการ, สานกั .(ม.ป.ป). ผนู้ านันทนาการและการออกกาลังกาย. (อดั สาเนา) วีระ มนสั วานชิ . (2539). เทคนิคและทกั ษะการสอนเกม. กรุงเทพมหานคร: สานักพมิ พ์โอเดียนสโตร์ สุชาติ ทวีพรปฐมกุล. (2547). เทคนคิ และทักษะเกมมูลฐาน. พมิ พ์คร้ังท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร: สานกั พมิ พแ์ ห่งจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

บทท่ี 6 บทสรุป จากเน้ือหาทั้งหมดในเอกสารคาสอนวชิ าเทคนิคการสอนเกมมูลฐาน พอจะสรุปเน้อื หาสาคัญ ทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อผู้อา่ นท่ีต้องการศึกษาหาความรู้เพ่ิมเติมและสามารถนาไปใชไ้ ด้เลยในการจัดการ เรียนการสอนใน 2 หัวขอ้ ดงั นี้ 1. รปู แบบการจัดการเรยี นการสอนเกมโดยใช้ทักษะการสอน 9 ทักษะ 2. แนวทางการจดั เกมสาหรบั เดก็ ในชว่ั โมงเรียนพลศึกษา การจัดการศึกษาให้กับผเู้ รียนในโลกปัจจุบัน มีความท้าทายเป็นอย่างมากทั้งในเร่อื งของคน รุ่นใหม่ในยุคปัจจุบัน หรอื เรียกว่า เจเนอเรชัน่ ซี (Generation Z) หมายถึงคนที่เกดิ หลังพ.ศ. 2540 ขึ้นไป คนกลุ่มนี้จะเติบโตมาพร้อมกับสิ่งอานวยความสะดวก มีความสามารถในการใช้งาน เทคโนโลยีต่าง ๆ และเรียนรู้ได้เร็วในเรื่องของโทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เน็ต และโซเชียลเน็ตเวิร์ก เด็กรุ่นน้ีจะได้รับการเล้ียงดูจากคนอื่นมากกว่าพ่อแม่ของตัวเอง อุปนิสัยที่มากับเทคโนโลยีเหล่าน้ี ที่เห็นเด่นชัดมาก ๆ คือ การไม่สนใจต่อการทากิจกรรมท่ีไม่มีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง พฤติกรรม ที่มีผลต่อการเรียนหนังสือ คือ การไม่รอคอย ไม่อดทน และเบื่อง่ายต่อการทากิจกรรมท่ีไม่รู้สึก ตื่นเต้นและเร้าใจ ดังน้ันการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้กับนิสิตในเจเนอเรช่ัน ซี (Generation Z) น้ี จะต้องป็นกิจกรรมท่ีหลากหลายและสรรคส์ ร้างให้กจิ กรรมดาเนินไปได้ตลอดเวลา โดยส่วนหนึ่งของ กระบวนการสอนที่ต้องเพิ่มเติมและต่อเนื่อง คือ รูปแบบการจัดกิจกรรมการสอนต้องมีเทคโนโลยี เขา้ มามีสว่ นช่วยทาให้ผู้เรียนคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง ได้เห็นอะไรที่มากกว่าในห้องเรียน หรือที่ครูผูส้ อน จัดหามาให้ดูเป็นตัวอย่าง ครูผู้สอนต้องสอนในส่ิงท่ีผู้เรียนสืบค้นหาไม่ได้ หรือหายากในส่ือสังคม ออนไลน์ท่ีมีอยู่ทั่วไป การแสดงตัวอย่าง การที่ให้นิสิตได้ฝึกทักษะเป็นฐานหรือเล่นผ่านการจัด กิจกรรมเกมจากข้อมูลที่นิสิตได้สืบค้นมายังเป็นเร่ืองที่น่าท้าทาย และสร้างตื่นเต้นให้กับนิสิตได้ใน กจิ กรรมพลศึกษา ทั้งน้กี ารเฝ้าสังเกตของครูตลอดเวลา ไม่ปลอ่ ยใหน้ ิสิตดาเนนิ กจิ กรรมเอง จะทา ให้เกดิ การเปลย่ี นแปลง เกดิ สัมพนั ธภาพและเกดิ พฒั นาท่ีดีต่อการเรียนการสอน 1. รูปแบบการจัดการเรียนการสอนเกมโดยใช้ทักษะการสอน 9 ทักษะ จากประสบการณ์ของผู้เขียนท่ีเป็นผู้สอนวิชาน้ีมาประมาณ 10 ปี ได้เห็นถึงผลกระทบ จากการเปล่ียนแปลงพฤติกรรมของนิสิตที่มีต่อการเรียนการสอนในชั่วเรียนแล้ว ทาให้ต้องคิด รูปแบบการสอนใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ทักษะการสอนที่นามาปรับใช้บ่อยข้ึนกับนิสิตในช่วงเวลา 2-3 ปนี ี้ คอื ทักษะการสอน 9 ทกั ษะ

205 วารีรัตน์ แกว้ อไุ ร (2549) ได้กล่าวถงึ ทักษะการสอน ประกอบด้วย 9 ทักษะ ดงั น้ี 1. ทักษะการนาเข้าสู่บทเรียน เช่น การต้ังคาถาม การใช้เกม เป็นต้น ทุกวิธีล้วนส่งผลให้ เกดิ ความร่วมมอื กันระหวา่ งผู้สอนและผเู้ รยี น 2. ทักษะการอธิบาย การอธบิ ายที่ดีไมค่ วรนานเกินไป ควรใชภ้ าษาทสี่ ั้น กระชบั เข้าใจง่าย และท่ี สาคัญต้องครอบคลมุ ใจความสาคญั ได้อยา่ งครบถ้วน และจาเป็นต้องมีการสรปุ ประเดน็ ในการอธิบาย 3. ทกั ษะการใช้คาถาม ความสามารถในการใชค้ าถามเพอื่ กระต้นุ ความสนใจของผ้เู รียน 4. ทักษะการเสริมกาลังใจ จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดความม่ันใจอยากที่ตอบคาถาม กระตุ้น ความอยากเรียนให้กับผู้เรยี นโดยตรง แต่ไมค่ วรทจ่ี ะนามาใช้บอ่ ยเพราะจะส่งผลเสยี มากกว่าผลดไี ด้ 5. ทักษะการสรุปบทเรียน หลักของการสรุปบทเรียนน้ันผู้สอนจะต้องสรุปเนื้อหาให้มี ความถกู ต้อง และครอบคลุมใจความสาคญั เพอื่ ให้ผูเ้ รียนไดร้ ับเนื้อหาทถ่ี ูกต้องและสมบรู ณม์ ากทีส่ ดุ 6. ทักษะการเร้าความสนใจน้ัน เป็นวิธีการต่าง ๆ ที่ผู้สอนใช้ในการเรียนการสอน เพื่อ กระตุ้นใหผ้ ้เู รียนเกดิ ความสนใจมีความตัง้ ใจและมีความกระตอื รอื ร้นท่ีอยากจะเรียน 7. ทักษะการใช้กระดานดา หรือกระดานชอล์ก ผู้สอนสามารถใช้กระดานดาเพื่อ ประกอบการเรยี นการสอน ประกอบการบรรยาย อธบิ าย การสรปุ และการทบทวนบทเรยี น 8. ทักษะการกระตุ้นให้คิด เป็นการฝึกให้ผู้เรียนมีทักษะความสามารถทางความคิดที่ดี ข้นึ กล่าวคือ เพอื่ พฒั นาผู้เรียนให้เกดิ ความรู้ในทุกๆ ด้านที่ผู้เรยี นสนใจ 9. ทักษะการใช้สอื่ การสอน เป็นเทคนคิ ต่างๆ ที่ผู้สอนใชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรยี น การสอนอยูใ่ นรูปของ วัสดุ อุปกรณ์ เทคโนโลยแี ละเทคนคิ วธิ กี ารต่าง ๆ นอกจากทักษะการสอน 9 ทักษะแล้ว ผู้สอนยังเพิ่มรูปแบบการเรียนโดยใช้คลิปวีดิทัศน์ในการ ช่วยสอนแทนการสาธิตด้วยตัวเอง เมื่อนิสิตได้ชมวีดิทัศน์ จะเกิดกระบวนการเรียนรู้จากการสังเกต พฤติกรรมของผู้แสดงในคลิป ในท่ีสุดจะทาใหเ้ กิดการเลียนแบบทเ่ี กดิ จากการสงั เคราะห์จากผู้ชม คลิป วีดิทัศน์ยงั สามารถช่วยแพร่กระจายความรู้ไปยังผอู้ ่นื ทาให้ทกุ คนท่ีตดิ ตามมีความรู้ ทันสมัยและช่วยให้ ครูสามารถติดต่อกับผู้เรียน และติดต่อกับครูด้วยกันเองได้อย่างเร็วข้ึนเพื่อช่วยให้การเรียนการสอนมี ประสทิ ธภิ าพอยา่ งต่อเนื่อง และลา่ สุดผสู้ อนมีแนวคิดที่จะแก้ปญั หานิสิตท่เี รียนไม่ทันเพื่อน และนสิ ิตที่ ขาดเรียนบอ่ ยครงั้ การไม่เข้าใจเนอ้ื หาของนิสติ ท่ีมาเรยี น การชว่ ยนสิ ติ ให้เรยี นรูท้ ักษะเพ่มิ เติมนอกเวลา เรียน การเพ่ิมเวลาฝึกทักษะและการปรับเปลี่ยนการสอนให้มีความสนใจ มีความทันสมัยเพื่อให้ สอดคล้องกับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 จึงมีแนวคิดจะให้นิสิตเรียนในรูปแบบ Flipped Classroom ซงึ่ หลักการเรียนการสอน คอื “ให้นสิ ิตไปเรียนทฤษฎีท่ีบ้านมาก่อนแล้วใหม้ าฝกึ ทกั ษะหรือทาการบา้ นท่ี โรงเรียน” ซง่ึ อาจจะเปน็ แนวทางใหมท่ ดี่ ีเพ่อื พัฒนาการจัดการเรยี นการสอนในอนาคตตอ่ ไป

206 ภาพตัวอย่างรูปแบบการจดั การเรียนการสอนเกม การสอนโดยใชท้ กั ษะการสอน 9 ทักษะ \\ ทกั ษะการนาเข้าสูบ่ ทเรยี น / ทกั ษะการอธบิ าย / ทักษะการใช้คาถาม / ทักษะการใช้กระดานดา / ทักษะการใช้ส่ือการสอน / ทกั ษะการกระตุ้นให้คิด (ใชท้ ้งั กอ่ นเรยี น ระหวา่ งเรียนและชว่ งท้ายชั่วโมงเรียน) ทกั ษะการเสริมกาลงั ใจ / ทกั ษะการเรา้ ความสนใจ / ทักษะการใช้ส่อื การสอน (เหมาะสาหรับใชใ้ นระหว่างการเล่น)

207 ภาพตัวอย่างรูปแบบการจัดการเรียนการสอนเกม การสอนโดยใช้ทกั ษะการสอน 9 ทักษะ ทกั ษะการสรปุ บทเรยี น (เหมาะสาหรับใชใ้ นช่วงสุดทา้ ยของเวลาเรยี น)

208 2. แนวทางการจดั เกมสาหรับเด็กในชัว่ โมงเรียนพลศึกษา การใช้เกมในการเรียนการสอนในชั่วโมงพลศึกษาหรือวิชาต่าง ๆ ในโรงเรียนระดับประถมศึกษา เป็นหัวใจหลักหรือเป็นท่ีนิยมสาหรับครูไปแล้ว การคิดรูปแบบเกมให้เหมาะสมและสอดคล้องกับหัวข้อ เรื่องในการสอนเป็นส่ิงท่ีท้าทายและสร้างความสุขให้กับครูและนักเรียนเป็นอย่างย่ิง เนื้อหาการเล่นเกม ต่าง ๆ จะถูกบรรจุอยู่ในแผนการจัดการเรียนการสอนของครูทุกคน เกมที่เหมาะสาหรับใช้กับเด็กใน ระดับปฐมวัยและประถมศกึ ษาในช่ัวโมงเรียนพลศึกษา พอจะสรปุ เปน็ หวั ขอ้ ไดด้ ังน้ี 1. เกมนาทวั่ ไป 2. เกมอบอนุ่ ร่างกาย 3. เกมเพื่อการนาไปใช้ 1. เกมนาท่ัวไป เปน็ เกมที่ใช้สาหรบั เตรียมความพร้อม หรือนาเขา้ สู่เน้อื หาหรือบทเรียนทจ่ี ะ เรียน วัตถุประสงค์ของการเล่นเกม เพ่ือให้นักเรียนมีความสนุกสนานตั้งแต่ต้นช่ัวโมงเรียนและทา ให้เกิดความอยากเรียนเน้ือหาในชั่วโมงเรยี นต่อ เกมท่ีเล่นนี้อาจมีความเกย่ี วข้องกับเนื้อหาที่จะสอน หรือไม่เกี่ยวข้องก็ได้. ช่วงเวลาที่เล่นจะเป็นเวลาส้ัน ๆ ในแต่ละครั้งไม่ควรเกิน 5 นาที เช่น เกม ลกุ -นัง่ เกมปรบมอื เกมครูสั่งว่า เกมจดั แถว เกมวิง่ ไล่ตี เป็นต้น ตวั อย่าง เกมจดั แถว วตั ปุ ระสงค์ : เพอ่ื ความสนุกสนาน และให้นักเรียนร้จู ักระเบยี บแถวตอน แถวหนา้ กระดาน รูปแบบการเลน่ : 1. เรม่ิ เลน่ ครูจะให้นักเรยี นเข้าแถวเรียงลาดบั และแบง่ แถวให้เทา่ ๆ กัน 2. หลังจากน้ันครูจะไปหาที่ยืนใหม่ และเรียกนักเรียนโดยใช้สัญญาณนกหวีดและ ทา่ ทางยกแขนหรอื ผายแขน 3. เมื่อนักเรียนเห็น นักเรียนต้องวิ่งไปเข้าแถวด้านหน้าของครู ตามรูปแบบที่ กาหนดไว้ตั้งแต่ที่จะเล่มเกมน้ี 4. ครูใช้นาฬิกาจับเวลาในการจัดแถวในแต่ละครั้ง แถวใดทาได้เร็วและถูกต้องจะ เป็นฝ่ายชนะ 5. ท่าทางที่ใช้ในการเล่นเกม คือ เหยียดแขนสองข้างไปข้างหน้า คือ แถวตอน และ ผายแขนออกดา้ นขา้ งซ้ายและขวา คอื แถวหนา้ กระดาน

209 เกมเปา่ ย้ิงฉุบ-ว่งิ วตั ุประสงค์ : เพื่อความสนุกสนาน และให้นักเรยี นมีความกระตอื รอื รน้ กอ่ นทจ่ี ะเรียน รปู แบบการเลน่ : 1. เริ่มเลน่ ครจู ะใหน้ ักเรยี นจัดกลุ่ม ๆ ละ 3 คน 2. นกั เรยี นหนง่ึ คนไปยืนฝง่ั ตรงขา้ ม อีกสองคนยนื ฝง่ั เดยี วกัน 3. ครูให้สัญญาณเรมิ่ เล่น ให้นักเรียนฝั่งท่ีมีสองคน “เป่ายิ้งฉุบ”ก่อน ใครแพ้ให้ว่ิงไป เป่ายง้ิ ฉุบกับเพ่ือนทย่ี นื ฝัง่ ตรงข้าม ทาไปเรอ่ื ยๆ 4. นักเรียนคนใดทีม่ ีจานวนครงั้ ท่วี ง่ิ ไปเปา่ ยิ้งฉบุ กบั เพ่อื นนอ้ ยทส่ี ดุ จะเป๋นฝา่ ยชนะ

210 2. เกมอบอุ่นร่างกาย เป็นเกมที่ให้ร่างกายได้ยืดเหยียด เตรียมความพร้อมก่อนที่ร่างกายจะ ทางานหนัก โดยส่วนใหญ่จะใชท้ ักษะการเคล่ือนไหวแบบอยกู่ บั ที่ หรอื การเคล่อื นไหวแบบเคลอ่ื นท่ี เช่น เกม เปา่ ยิ้งฉบุ -วง่ิ เกมลุก-น่ัง เกมจบั คดู่ นั มอื เป็นต้น ตวั อยา่ ง เกมจบั คดู่ นั มือ วัตุประสงค์ : เพ่อื ความสนกุ สนาน และใหน้ ักเรียนรู้จกั บริหารกล้ามเน้อื มือและแขน รูปแบบการเล่น : 1. ครใู ห้นกั เรียนจบั คกู่ ับเพือ่ นทม่ี ีรปู รา่ งใกลเ้ คียงกัน 2. นักเรยี นทัง้ สองคนหันหนา้ เข้าหากัน แลว้ นามอื ทงั้ สองขา้ งไปประกบกับมอื เพื่อน 3. เริ่มเล่นครูจะให้สัญญาณนกหวีด ให้นักเรียนต่างฝ่ายต่างออกแรงดันมือเพื่อนให้ เพอื่ นถอยหลงั ออกนอกเขตทก่ี าหนด 4. นกั เรียนท่ีถูกดันมอื แล้วออกจากเขตทก่ี าหนด จะถือว่าแพ้

211 3. เกมเพ่ือการนาไปใช้ จะเล่นหลังจากนักเรียนได้ฝึกทักษะที่ถูกต้องแล้ว และนาทักษะ เหล่านั้นมาเล่นในขั้นนาไปใช้ ทาให้เกิดความคุ้นเคยและเกิดสมรรถนะในทักษะนั้น เช่น เกม ว่งิ เปยี้ ว เกมขว้างลิง เกมเตะลงิ เกมลงิ ชิงบอล เปน็ ตน้ ตวั อย่าง เกมลิงชิงบอล วัตุประสงค์ : เพ่ือความสนกุ สนาน และให้นกั เรยี นรู้จักการใชอ้ วัยวะต่าง ๆ ในการเลน่ บอล รูปแบบการเลน่ : 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 6-8 คน ในแต่ละกล่มุ ให้เลือกนักเรียน 1 คน เป็น ลิง และใหย้ นื อยตู่ รงกลางวงกลม 2. เริ่มเล่นให้นักเรียนที่ยืนเป็นวงกลมส่งบอลกันไปมาระหว่างเพ่ือนที่ยืนเป็นวงกลม โดยไมใ่ ห้ลงิ เข้ามาแยง่ บอลหรอื โดนบอล 3. หากลิงสามารถแยง่ บอล หรือมอื ไปถกู ลูกบอล ให้เข้าไปยนื แทนคนทสี่ ง่ บอล 4. นักเรียนที่ไม่ใช่ลิง หากถูกบอลเป็นคนสุดท้าย ก่อนที่ลิงจะแย่งได้ จะแพ้และถูก เปลีย่ นตัวมาเปน็ ลิง ยืนตรงกลางวงกลมแทน

212 ตัวอย่าง เกมว่ิงไล่ตี วัตปุ ระสงค์ : เพือ่ ความสนุกสนาน และให้นักเรียนร้จู กั และเเกีย่ วกับการเคล่ือนทใี่ หเ้ รว็ และสรา้ งเสริมความคลอ่ งแคลว่ ว่องไว รูปแบบการเล่น : 1. ครูแบง่ นกั เรยี นออกเปน็ สองกล่มุ กลมุ่ เล็กมี 5 คน ถอื ผา้ นอกนัน้ คอื กลุ่มใหญ่ 2. .ใหน้ กั เรียนกล่มุ ใหญ่ว่งิ หนี กลุ่มเลก็ วง่ิ ไล่ โดยให้นาผ้าทถ่ี ืออยู่ในมอื ไปแตะเพอ่ื น 3. นักเรียนคนใดถกู แตะตวั แล้วใหอ้ อกจากพ้นื ท่ีการเลน่ กาหนดเวลาเล่น 2 นาทตี ่อรอบ

213 รายการอา้ งอิง ภาษาไทย ณัฐพร สดุ ดี. (2561).การพัฒนารปู แบบการจัดการเรียนการสอนพลศึกษาตามแนวคดิ การเรยี นรู้ เชงิ รกุ ร่วมกบั วดี ทิ ัศนต์ น้ แบบเพื่อสง่ เสรมิ ทักษะการสอนและความตระหนักในการสอน กฬี าพ้นื เมอื งไทยสาหรับนสิ ติ คร.ู รายงานการวิจยั เงนิ ทนุ เพือ่ การวิจยั กองทนุ คณะครศุ าสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย ปงี บประมาณ 2561 วารรี ตั น์ แกว้ อไุ ร. (2549). ทกั ษะการสอนเบ้อื งต้น. สบื ค้นเมือ่ 21 ธันวาคม 2560, จาก http://www.oocities.org/ ya_bah/instruction.pdf

214 รายการอา้ งอิง ภาษาไทย กิติพงษ์ เทียนตระกูล. (2533). เกมนำไปสู่กีฬำ. กรุงเทพมหานคร: คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลัย. (อดั สาเนา) จีระนันท์ เจริญชัยภินันท์ (2554). ควำมหมำยและหลักกำรกำรสอนเกมเบ็ดเตล็ด. วารสารคณะ พลศกึ ษา มหาวิทยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ 14 (ฉบับพเิ ศษ): 125 ชชั ชยั โกมารทตั . (2549). กีฬำพ้นื เมอื งไทยภำคกลำง : ศกึ ษำ และวเิ ครำะห์ควำมเป็นมำ วิธเี ล่น และคุณคำ่ . พมิ พค์ ร้งั ท่ี 1. กรุงเทพมหานคร: สถาพรบคุ๊ ส์ ณฐั พร สดุ ดี. (2561).กำรพฒั นำรปู แบบกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนพลศกึ ษำตำมแนวคิดกำรเรียนรู้ เชงิ รกุ รว่ มกบั วีดทิ ศั นต์ ้นแบบเพ่ือส่งเสรมิ ทกั ษะกำรสอนและควำมตระหนกั ใน กำรสอน กีฬำพืน้ เมอื งไทยสำหรับนิสิตคร.ู รายงานการวิจัย เงนิ ทุนเพือ่ การวิจัย กองทนุ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั ปงี บประมาณ 2561. ดนู จรี ะเดชากุล. (2544). นันทนำกำรสำหรับเดก็ . กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพ์ไทยวฒั นาพานชิ จากดั . ทิศนา แขมมณี. (2545). ศำสตรกำรสอน: องค์ควำมรู้เพื่อกำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้ที่มี ประสทิ ธิภำพ. พมิ พ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: สานักพมิ พแ์ หง่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั . ทศิ นา แขมมณ.ี (2560). รูปแบบกำรเรยี นกำรสอน: ทางเลือกทีห่ ลากหลาย. พมิ พค์ รั้งท่ี 9. กรุงเทพมหานคร: สานักพมิ พ์แหง่ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. เทพประสิทธ์ กุลธวัชวิชัย. (2556). กำรนันทนำกำร. พิมพ์คร้ังที่ 2. กรงุ เทพมหานคร: สานักพิมพ์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . นวพรรณ อมรรัตนานนท์.(2540). ทักษะและวิธีสอนเกม. กรุงเทพมหานคร: ภาควิชาพลศึกษา คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์. (อัดสาเนา) ปฏิวัติ กมลรัตน์. (2558). ควำมหมำยของเกม. สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2561 จาก, https://prezi.com/ fxwgu0in5wo2/presentation/ ประพัฒน์ ลักษณพิสุทธ์ิ. (2548). เกมส์พลศึกษำ. พิมพ์คร้ังที่ 2. กรุงเทพมหานคร : สานักพิมพ์ แห่งจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย. พลศึกษา, กรม. (2557). คู่มือผู้นำนันทนำกำร. กรุงเทพมหานคร: สานักงานกิจการโรงพิมพ์ องคก์ ารสงเคราะห์ทหารผ่านศกึ ในพระบรมราชูปถัมภ์.

215 พฒั นาการพลศึกษา สขุ ภาพและนันทนาการ, สานัก. (ม.ป.ป). ผู้นำนันทนำกำรและกำรออกกำลังกำย. (อัดสาเนา) พิมพนั ธ์ เดชะคปุ ต์ และพเยาว์ ยินดีสุข. (2560). สอนเขียนแผนบรู ณำกำรบนฐำนเดก็ เปน็ สำคัญ. พมิ พ์คร้งั ท่ี 5. กรุงเทพมหานคร: สานกั พิมพแ์ หง่ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. พรี ะพงศ์ บุญศิริ และมาลี สุรพงษ์. (2536). เกม. กรุงเทพมหานคร: โอเดยี นสโตร์. เยาวพา เดชะคุปต์. (2542). ดนตรีและกิจกรรมเข้ำจังหวะสำหรับเด็กปฐมวัย. กรุงเทพฯ : บริษัท สานกั พมิ พแ์ ม็ค จากดั . ราชบัณฑิตยสถาน. (2554). พจนำนกุ รมฉบบั รำชบณั ฑิตยสถำน พ.ศ. 2554. สบื ค้นเมอื่ 10 มถิ นุ ายน 2561 จาก, http://www.royin.go.th/dictionary/ วรศักด์ิ เพียรชอบ. (2561). รวมบทควำมเกี่ยวกับปรัชญำ หลักกำร วิธีสอน และกำรวัดเพื่อ ประเมินผลทำงกำรพลศึกษำ. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: สานักพิมพ์แห่ง จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั . วารีรัตน์ แก้วอุไร. (2549). ทักษะกำรสอนเบอื้ งตน้ . สบื ค้นเม่ือ 10 มิถนุ ายน 2561 จาก, http://www.oocities.org/ ya_bah/instruction.pdf วีระ มนัสวานชิ (2539). เทคนคิ และทักษะกำรสอนเกม. กรุงเทพมหานคร: สานักพมิ พโ์ อเดียนสโตร์. สมหวัง พิธิยานุวัฒน์. (2541). วิธีวทิ ยำกำรประเมินทำงกำรศึกษำ. กรงุ เทพมหานคร: สานักพิมพ์ แหง่ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . ศิริชัย กาญจนวาสี. (2556). ทฤษฎีกำรทดสอบแบบด้ังเดิม. พิมพ์ครั้งท่ี 7. กรุงเทพมหานคร: สานักพิมพแ์ ห่งจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. ศักดิ์ อินพิรดุ . (2539). วิชำเกมและเกมนำ. สบื คน้ เมอ่ื 10 มิถุนายน 2561 จาก, https://www.youtube .com/channel/UCHbRKkSj8PxG0b7VbbsFvpQ ศักดพิ ันธ์ ตันวิมลรัตน.์ (2546). เทคนคิ และวิธีกำรจัดกิจกรรมกลุม่ สัมพนั ธ์. วารสารวิทยบรกิ าร 14 (1): 40. สมบัติ กาญจนกิจ. (2535). นันทนำกำรชุมชนและโรงเรียน. กรุงเทพมหานคร: สานักพิมพ์แห่ง จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั . สุชาติ ทวีพรปฐมกุล. (2547). เทคนิคและทักษะเกมมูลฐำน. พิมพ์คร้ังที่ 2. กรุงเทพมหานคร: สานกั พิมพแ์ ห่งจุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั . สุวิทย์ มูลคา และ อรทัย มูลคา. (2545). 21 วิธีจัดกำรเรียนรู้เพ่ือพัฒนำระบบควำมคิด. พิมพ์ คร้ังท่ี 4. กรุงเทพมหานคร: ภาพพิมพ์. อาภรณ์ ใจเทย่ี ง.(2553). หลกั กำรสอน. พิมพค์ ร้งั ท่ี 5. กรุงเทพมหานคร: โอเดยี นสโตร.์

216 ภาษาอังกฤษ Anderson, W. and Krathwohl, R. (2001). A taxonomy for learning, teaching and assessing: A revision of Bloom’s taxonomy of educational objectives: complete edition. New York: Longman. Bloom, B. et al. (1956). Taxonomy of educational objectives: The classification of educational goals. handbook I: Cognitive domain. New York: David McKay. Company.Elder, T. (1995). Water fun and fitness. United States of America: Human Kinetics. Darshil Pipalia.(2019). What is the importance of games and sports? Retrieved April, 18, 2019 from : https://www.quora.com/What-is-the-importance-of-games- and-sports. Game Activities (2018). Teamwork. [Online]. Retrieved May, 30, 2019 from: http://acitivities.blogspot.com /2010/05/blog-post_6329.html. Gibbs, G.I. (1978). Dictionary of gaming, modelling & simulation. Indiana University: E & F N Spon, อ้างถึงใน สุชาติ ทวีพรปฐมกุล (2547). เทคนิคและทักษะเกมมูลฐำน. กรุงเทพมหานคร: สานักพมิ พแ์ หง่ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. Hawks,G. W.(1963). Games are for playing. Journal of Health and Physical Education and Recreation 25 (May 1963) : 23, อ้างถึงใน วรศักดิ์ เพียรชอบ. (2561). รวมบทควำมเกี่ยวกับ ปรัชญำ หลักกำร วิธีสอน และกำรวดั เพ่ือประเมินผลทำงกำรพลศึกษำ. กรุงเทพมหานคร: สานักพมิ พแ์ ห่งจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. Herbart, J. F. (1891). A text-book in psychology translated by M.K. Smith. New York: D.Appleton and Company Retrieved June, 10, 2018 from: https://archive.org /details / atextbookinpsyc01herbgoog Raj, X. M. (2015). Methods, test, measurement and evaluation in physical education. Retrieved June, 10, 2018 from: https://books.google.co.th/ books?id= v2upCQAAQBAJ&printsec=frontcover&hl=th#v=onepage&q&f =false

217 Robert, J.M. and Sutton-Smith, B. (1959). Child training and game involvement. ethnology 1 (January 1962) : 166 – 285, อ้างถึงใน วรศักด์ิ เพียรชอบ. (2561). รวมบทควำมเก่ียวกับปรัชญำ หลักกำร วิธีสอน และกำรวัดเพื่อประเมินผลทำงกำรพล ศกึ ษำ. กรุงเทพมหานคร: สานกั พิมพ์แห่งจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย. Ryan, D.B. (2011) Reading through a plan. Journal of the American Planning Association. 77 (Autumn 2011): 309 – 327 Schurr, E. (1985). Movement experiences for children: A humanistic approach to elelmentary school physical education Retrieved June, 10, 2018 from: http://mje.mcgill.ca/article/ view/7077 Thomas, D. (2005). Swimming: steps to success. 3rd ed. United States of America: Human Kinetics. WeisKopf, D.C.(1978). A guide to recreation and Leisure. Boston: Allyn and Bacon.1978.

เทคนิคการสอนเกมมูลฐาน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ณฐั พร สดุ ดี พ.ศ. 2561