แผนการจัดการเรียนรู้วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคต้น

94 สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ 3.10 ดงึ ดัน ผลัก ชน เตะ คตู่ อ่ สทู้ ุก 4.ข้ันการนาไปใช้ (10 นาที ) ลักษณะ(บนั ทึกฟาลว์ , ส่งขา้ ง) ถา้ เป็นการ 4.1 ครูให้นักเรียนเล่นทีมเต็มสนาม แบ่งออกเป็น 4 - นักเรียนมกี ารคิด ฟาล์วทีร่ ุนแรงผตู้ ัดสินอาจจะตัดสิทธิ์ให้ออก ทีม คอื ทีม A ทมี B ทมี C ทมี D เลน่ ครง่ึ เวลาละ 5 วางแผนในวิธีการเลน่ จากการแข่งขันได้ นาที ลงเล่นในสนามคร่ึงเวลาละ 5 นาที ตัวสารอง แชรบ์ อล, ตาแหนง่ การยนื ,} 4. การไดค้ ะแนน รอข้างสนามเพื่อเปล่ยี นตัวลงเล่นในครึ่งเวลาหลัง ในสนาม, กตกิ าการเลน่ 4.1 จะนับคะแนน เมื่อผู้ยิงประตูมีเท้าหลัก 4.2 เร่ิมเล่น โดยครูจะป็นคนโยนบอลตรงกลางสนาม แชร์บอลรวมถึงมีการ ติดอยู่กับพืนหรือมีทังสองเท้าอยู่กับพืนและ ให้นกั เรียนทีอ่ ยู่ตรงกลางสนามกระโดดปัดบอล กระต้นุ ให้ตนเองและเพื่อน บอลได้ลงตะกร้า โดยผู้ถือตะกร้าต้องทรงตัว - วิธีการเล่น คนมีบอลเคล่ือนท่ีไม่ได้ ลูกออกเส้น มีความสนุกสนานในเกม อยูบ่ นเกา้ ออี ยา่ งมนั่ คง ข้าง หรือเส้นหลัง ให้ที่มท่ีไม่ได้ทาลูกออกส่งลูกเข้า การแขง่ ขัน (PQ, AQ) เล่นข้างสนาม การชนะ หมายถึง ทีมใดยิงบอลลงใน 4.2 ได้คะแนนเม่ือบอลกลิงอยู่ในเขต ตะกร้าได้จานวนมากทส่ี ุด เปน็ ฝ่ายชนะ ผู้ป้องกันตะกร้า และผู้ถือตะกร้าสามารถใช้ ตะกรา้ ชอ้ นบอลให้อยู่ในตะกร้าไวไ้ ด้ 4.3 ผู้เลน่ ฝา่ ยปอ้ งกันพยายามป้องกนั โดยผิด กตกิ า ถา้ ลูกบอลลงตะกร้า ให้นับว่าไดค้ ะแนน 4.4 คะแนนท่ีไดจ้ ากการยิงประตูมีค่า 2 คะแนน คะแนนทไ่ี ด้จากการยงิ โทษ มีค่า - ครูสรปุ ผลของการเลน่ “แชรบ์ อล” และเปิด ครงั ละ 1 คะแนน 4.5 ฝ่ายทที่ าคะแนนมากกวา่ เปน็ ฝ่ายชนะ โอกาสให้นักเรียนซกั ถามข้อสงสยั การแข่งขนั 5.ขั้นสรปุ และสุขปฎบิ ัติ (10 นาที ) - นักเรียนไดฝ้ ึกประมวล 5. เวลาการแขง่ ขนั 5.1 ครสู รปุ เน้ือหาที่ไดเ้ รียนในช่ัวโมงเรียน ความคิดรวบยอดอีกครัง 5.1 เวลาการการแข่งขนั แบ่งออกเป็น 2 ครง่ึ โดยกาหนดตามอายุของอายุ 5.2 ครูถามคาถามนกั เรยี นวา่ หลงั จากเรยี นโดยการ ผแู้ ข่งขันดงั นี - อายุไมเ่ กิน 12 ปี 5.2.1 นกั เรียนที่เล่นในตาแหน่งคนปดั บอล แลกเปลีย่ น การถาม ครง่ึ ละ 15 นาที พกั ตอ้ งมลี ักษณะใด ระหว่างครึ่ง 5 นาที และตอบกบั ครผู ้สู อน - อายุตังแต่ 15 ปีขนึ ไป แนวคาตอบรูปรา่ งสงู ใหญแ่ ละต้องไมเ่ ป็นคนกลัวบอล - นกั เรียนรจู้ กั การดแู ล คร่งึ ละ 20 นาที พกั 5.2.2 นกั เรียนที่เล่นในสนามหมายเลขใดที่ รักษาความสะอาดอวยั วะ ระหวา่ งครึง่ 5 นาที ทาหน้าทปี่ ดั บอล และถือตะกร้า ต่างๆ ของร่างกายตนเอง แนวคาตอบ หมายเลข 1 ทาหน้าทป่ี ดั บอล หลังจากเลน่ กีฬา หมายเลข 7 ทาหน้าท่ีถือตะกรา้ - นกั เรียนไดฝ้ กึ ความ 5.3ครูให้นักเรียนไปลา้ งหน้า ล้างมือ ดื่มนา และ รบั ผิดชอบในการตรวจ กลับมาเข้าแถว สอบและแก้ไขในเร่ือง 5.4ครสู ารวจอปุ กรณ์และของใช้สว่ นตัวของนักเรียน

95 สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้ 5.2 เวลานอกให้แตล่ ะทมี ขอเวลานอกได้ ครึง่ เวลาละ 2 ครงั ครังละ 1 นาที 5.5 ครูใหน้ กั เรยี นบันทึกหวั ข้อเรื่องท่ีเรยี นในชั่วโมงนี ของการนาของใช้มา 7. ส่ือการสอน/แหลง่ การเรยี นรู้ ลงในหนังสือเรยี นหน้า 52 (อาจมีการเปลย่ี นแปลง) โรงเรยี น (IQ, MQ, AQ) - สื่อการสอน 5.6ครปู ลอ่ ยเลิกแถว 5.7ครพู านักเรียนเดนิ แถวกลบั ห้องเรียนก่อนเป็นฝา่ ยชนะ นกหวีด หนงั สือเรยี นวชิ าสขุ ศกึ ษา กรวย แผน่ ยางมาร์กเกอร์ Whistle และพลศึกษา ป..2 เล่ม 1 Cones Markers A Book กระดานไวทบ์ อร์ด ปากกาไวทบ์ อรด์ แปรงลบ โปสเตอร์ /POWERPOINT White board Whiteboard pen กระดานไวท์บอรด์ เรือ่ งทสี่ อนในชั่วโมง Whiteboard eraser poster/Image media เสอื ทีม Sports ลกู วอลเล่ยบ์ อล ตะกร้า เก้าอีแชรบ์ อล bib A Volleyball A Basket A Chair - แหล่งการเรยี นรู้ ณัฐพร สุดดี. 2561. เทคนิคการสอนเกมมลู ฐาน. กรุงเทพมหานคร: คณะครศุ าสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . (อัดสาเนา) ถาวร วรรณศริ ิ. 2551. สุขศึกษาและพลศกึ ษา : ฟุตบอล ชนั ประถมศึกษาปที ่ี 5-6. พิมพ์ครงั ที่ 1. กรุงเทพมหานคร: ไซเบอร์พรินท์กรปุ๊ จากัด. สุรเชษฐ์ วิศวธีรานนท์. 2561. กีฬาแชรบ์ อลและทักษะการเคลื่อนไหวขันพืนฐาน ชนั ประถมศึกษาปีท่ี 2 เล่ม 1. พมิ พค์ รังท่ี 1. กรุงเทพมหานคร: ไซเบอร์พรินท์กร๊ปุ จากดั .

96 8. คาศพั ทภ์ าษาอังกฤษ ความหมาย วิธีการเล่นแชรบ์ อล ลาดับ คาศัพท์ภาษาอังกฤษ ตาแหน่งการยืนในสนาม 1 How to play Chairball กติกาการเล่นแชรบ์ อล 2 The player position อุปกรณ์ของใชใ้ นการเรยี นพลศกึ ษา 3 Rules of Chairball ตะกรา้ 4 P.E Supplies เกา้ อีแชรบ์ อล 5 A Basket ลกู วอลเล่ย์บอล 6 A Chair นกหวีด หนังสือเรียน 7 A Volleyball กรวย 8 Whistle แผ่นยางมารก์ เกอร์ 9 Book กระดานไวท์บอรด์ 10 Cone ปากกาไวท์บอร์ด 11 Marker แปรงลบกระดานไวทบ์ อร์ด 12 White board โปสเตอร์ / POWERPOINTเรือ่ งที่สอนในชั่วโมง 13 Whiteboard pen 14 Whiteboard eraser 15 poster/Image media 9. การวัดและประเมินผล เครื่องมอื แบบสงั เกต ลาดับ เรอ่ื ง แบบตรวจสอบ แบบสังเกต 1 สังเกตความสนใจและการมสี ่วนร่วมตลอดชันเรยี น 2 สารวจเครื่องแตง่ กายและบักทึกคะแนนความรับผดิ ชอบและคะแนนสุขปฏบิ ัติ 3 สังเกตการตอบคาถามระหวา่ งการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

97 โรงเรยี นสาธติ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั ฝ่ายประถม แบบประเมนิ ความสนใจ การมีส่วนรว่ มในกิจกรรม และผลสาเรจ็ ของการฝกึ ทกั ษะและการนาไปใช้ วันท่ี ............/........../.......... เวลา........................น. ภาค............. ปีการศกึ ษา.......................... หนว่ ยการเรียนรู้...................................... เรื่อง...................................................................ระดับชัน.......................... ระดับ 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรุง/เพ่ิมเติม) PQ สมรรถภาพ นกั เรยี น 80% ขึนไป ฝกึ ทักษะหรอื เลน่ นักเรียน 60%-80% ฝึกทกั ษะหรอื เลน่ นกั เรยี นนอ้ ยกวา่ 60%ฝกึ ทกั ษะหรือเลน่ ทางกาย เกมเพอ่ื พัฒนาสมรรถภาพโดยไม่เหนอ่ื ย เกมเพือ่ พฒั นาสมรรถภาพโดยไมเ่ หนอื่ ย เกมเพ่ือพฒั นาสมรรถภาพโดยไมเ่ หนอื่ ย MQ นกั เรยี น 80% ขนึ ไปให้ความร่วมมอื นกั เรยี น 60%-80%ให้ความรว่ มมอื นักเรียนน้อยกวา่ 60%ให้ความ คุณธรรม กับครใู นการจัดกจิ กรรมเป็นอยา่ งดี กับครูในการจัดกจิ กรรมเป็นอยา่ งดี รว่ มมอื กบั ครูในการจดั กจิ กรรมเปน็ จรยิ ธรรม ยอมรับการเปน็ ผู้นา ผู้ตามทีด่ ี เชอ่ื ยอมรับการเป็นผ้นู า ผู้ตามทด่ี ี เชอ่ื อยา่ งดี ยอมรับการเปน็ ผนู้ า ผู้ตามที่ ฟังครู ฟงั ครู ดี เชือ่ ฟังครู นกั เรียน 80% ขนึ ไปมคี วามกระตอื รอื รน้ นั ก เรี ย น 60% -80% มี มี ค วาม นักเรียน น้อยกว่า 60% มี ความ แตง่ กายเรยี บรอ้ ยพรอ้ มท่จี ะเรยี น กระตือรือร้น แต่งกายเรียบร้อยพร้อม กระตือรือร้น แต่งกายเรียบร้อยพร้อม AQ เจตคติ ช่วยเหลือและแนะนาเพ่อื นใหป้ ฎบิ ตั ิ ที่จะเรียนช่วยเหลือและแนะนาเพื่อน ท่ีจะเรียนช่วยเหลือและแนะนาเพ่ือน ระเบยี บวินยั ในหอ้ งเรยี นได้ ใหป้ ฎบิ ตั ิระเบยี บวนิ ยั ในห้องเรยี นได้ ให้ปฎิบตั ิระเบยี บวินยั ในหอ้ งเรียนได้ นักเรยี น 80% ขนึ ไปสามารถอธบิ าย นกั เรียน 60%-80% สามารถอธบิ าย นักเรียนน้อยกว่า 60% สามารถ IQ ความรู้ เนอื หาทเี่ รยี นไปไดอ้ ย่างครบถ้วนและ เนือหาทเ่ี รียนไปได้อย่างครบถว้ นและ อธิบายเนือหาท่ีเรียนไปได้อย่าง ความเข้าใจ ถูกต้อง ถูกต้อง ครบถ้วนและถกู ต้อง นกั เรยี น 80% ขนึ ไปสามารถปฏบิ ตั ิ นักเรยี น 60%-80% สามารถปฏบิ ตั ิ นกั เรียนนอ้ ยกว่า 60% สามารถ SQ ทักษะ ทักษะทเี่ รียนในชัว่ โมงได้อย่าง ทักษะทีเ่ รยี นในชั่วโมงไดอ้ ยา่ ง ปฏิบัติทกั ษะทเ่ี รยี นในชว่ั โมงได้ ครบถว้ นและถกู ต้องได้ ครบถว้ นและถูกต้องได้ อย่างครบถ้วนและถกู ตอ้ งได้ ระดับคณุ ภาพ ระดับ 3 หมายถึง จานวนนกั เรยี น 80% ขึนไป ระดบั 2 หมายถึง จานวนนกั เรยี น 60-80% ระดบั 1 หมายถงึ จานวนนักเรียน้อยกวา่ 60% ลงชื่อ...........................................................ผู้ประเมิน

98 โรงเรียนสาธติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม บนั ทึกหลงั สอน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 2/...... หน่วย กฬี าแชรบ์ อล ภาคเรียน ตน้ เร่ือง วิธกี ารเลน่ แชร์บอล (How to play Chairball) เวลาเรยี น 1 คาบ (60 นาที) ตาแหน่งการยืนในสนาม (The player position) กตกิ าการเลน่ แชรบ์ อล (Rules of Chairball) วันที่..........เดอื น.................................................พ.ศ...................... เวลา....................น..-.......................น. 1. ผลการจัดการเรยี นรู้ ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... 2. ปัญหาและอุปสรรค(กอ่ นสอน-ระหว่างสอน-หลังสอน) ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแกไ้ ขเพ่อื ใชใ้ นการสอนครงั้ ต่อไป ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ............................................................... (………………………………………………………..) ผสู้ อน

99 โรงเรียนสาธติ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ฝ่ายประถม แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 2 หน่วย กฬี าแชร์บอล (Chairball) ภาคเรยี น ตน้ เรอ่ื ง ทักษะการเล่นทีม (Team play), การแขง่ ขนั (The Match) เวลาเรียน 1 คาบ (60 นาที) 1. มาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 3 การเคลอ่ื นไหว การออกกาลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล พ 3.1: เข้าใจ มที ักษะในการเคลอ่ื นไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกมและกีฬา พ 3.2: รักการออกกาลงั กาย การเลน่ เกม และการเลน่ กฬี า ปฏบิ ัตเิ ปน็ ประจาอย่างสมา่ เสมอ มีวนิ ยั เคารพสทิ ธิ กฎ กติกา มนี าใจนักกีฬา มจี ิตวญิ ญาณในการแข่งขัน และชน่ื ชม ในสนุ ทรยี ภาพของการกฬี า 2. ตัวชี้วัด พ 3.1 ป.2/1: ออกกาลงั กาย และเล่นเกม ไดด้ ้วยตนเองอย่างสนกุ สนาน พ 3.1 ป.2/2: ปฏบิ ัติตามกฎ กตกิ าและขอ้ ตกลงในการเลน่ เกมเป็นกลุ่ม 3. สาระสาคัญ ทักษะการเล่นทีมและการแข่งขัน เป็นทักษะท่ีทาให้ผู้เล่นมีความเข้าใจในระบบทีม อันได้แก่ ทักษะ พืนฐานในการเคลื่อนไหว ทักษะการใช้ลูกบอล ทักษะการเล่นแชร์บอลที่เกี่ยวข้องกับตาแหน่งการการยืนและกฎ กติกาการเล่น ผู้เลานสามารถนาทักษะการเล่นทีมไปปรับใช้ในการแข่งขันท่ีก่อให้เกิดความสนุกสนาน ตลอดจน การแข่งขันในระดบั สงู ตอ่ ไป 4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. นักเรยี นสามารถอธิบายถงึ ทักษะการเล่นทมี และการแขง่ ขนั ได้อย่างถกู ตอ้ ง (IQ) 2. นกั เรยี นสามารถใช้ทักษะการเล่นทมี ในการการแข่งขันแชร์บอลได้อยา่ งถูกต้อง อย่างนอ้ ย 80% ของจานวนนกั เรยี นทงั หมด (SQ) 3. นักเรียนสามารถพฒั นาสมรรถภาพทางกลไกลในดา้ นความออ่ นตวั (Flexibility) ความคล่องตวั (Agility) ความแขง็ แรงของกลา้ มเนือ (Muscle strength) และการประสานสัมพนั ธ์ (Coordination) จากการเลน่ เกมและการฝกึ ปฏิบตั ิ (PQ) 4. นกั เรียนสามารถแต่งกายถูกระเบียบและปฏิบัตติ ามกฎระเบียบ (MQ) 5. นักเรียนได้มีความกระตือรอื ร้นในการเข้าเรียนและสนกุ สนานในการเล่นเกม (AQ)

100 5. ผลการเรียนรทู้ ีค่ าดหวงั นักเรยี น 80% สามารถปฏิบัติไดต้ ามจุดประสงค์การเรียนรู้และสามารถนาเอาความรู้ไปใช้ในการเรยี นการ สอนรายวชิ าอ่ืนและชวี ติ ประจาวันได้ 6. กระบวนการจดั การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลัพธ์การเรียนรู้ - นกั เรียนมคี วามเข้าใจและ ทกั ษะการเลน่ ทีม (Team play), การ 1.ข้ันเตรยี ม / อบอุ่นร่างกาย (10 นาท)ี ปฎบิ ตั ิตามคาส่ังครูผสู้ อน - นักเรยี นมคี วามเป็น แขง่ ขนั (The Match) 1.1 ครเู ดินไปรับนักเรยี น แล้วพานักเรยี นไป ระเบยี บเรยี บรอ้ ยภายใน แถวตามทีก่ าหนด สถานที่เรยี น (สนาม 3) - นักเรียนมีความพร้อมใน การเรียนทง้ั ทางดา้ น ตาแหน่งการยืนในสนาม (The player 1.2 ครูใหน้ กั เรียนวางถุงยา่ มในช้ันวางของ โดย ร่างกาย จิตใจและอารมณ์ - นักเรียนเคารพกติกา position) ให้นักเรยี นชายไว้แถวลา่ งของช้ันวาง และ ภายในหอ้ งเรยี น, แต่งกาย เรียบร้อย (MQ) - หมายเลข ผู้ปอ้ งกันตะกร้า นกั เรยี นหญิงวางไวแ้ ถวบนของชน้ั วางของ - หมายเลข กองหลังด้านซา้ ยและขวา 1.3 ครูใหน้ กั เรยี นเข้าแถวตอนใหม่ทงั้ หมด 4 - หมายเลข กองกลาง แถว เปน็ ชาย 2 แถว หญงิ 2 แถว - หมายเลข กองหน้าดา้ นซา้ ยและขวา - หมายเลข ผูถ้ ือตะกรา้ ตาแหน่งการยืนในสนามตอนเริ่มตน้ = ครู = นกั เรยี น กอ่ นเล่นคร่งึ แรกและครง่ึ หลัง 1.4 ครสู ารวจเคร่อื งแต่งกายและของใชส้ ่วนตวั ทักษะการเลน่ ทมี (Team play), การ 1.5 อบอ่นุ รา่ งกาย (Warm – Up) ครใู หน้ กั เรียน - นกั เรยี นบรหิ ารรา่ งกาย ขยายแถวหนงึ่ ช่วงแขนเพื่ออบอุ่นรา่ งกาย และอวัยวะต่างๆ ได้ แขง่ ขัน (The Match) กีฬาแชร์บอลเป็นกีฬาประเภททีม 1.5.1 ครูนานักเรียนยืดเหยียดกล้ามเน้ือ โดยให้ เหมาะสมตามวัย (SQ) ประกอบด้วยผู้เล่นหลายคน แต่ละคนจะ นักเรยี นใชท้ ักษะการเคลือ่ นไหวขน้ั พนื้ ฐาน ทาหน้าท่ีแตกต่างกัน แต่จะต้องมีการ ท่าที่ 1 กา้ วชิดกา้ วดา้ นข้าง (SLIDE) ระยะทาง ประสานงานร่วมือกัน ช่วยเหลือซ่ึงกันและ 10 เมตร กัน เพื่อที่จะพาบอลไปยิงประตูของตนเอง ท่ีอยู่ในเขตฝ่ายตรงข้ามให้ได้ และทาให้ได้ ชัยชนะในการแข่งขัน สนามแชร์บอลจะ แบ่งหน้าท่ีความรับผิดชอบให้ผู้เล่นของแต่

101 สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธ์การเรยี นรู้ ละทีมท่ีมีอยู่ 7 คน ถ้าแบ่งสนามออกเป็น ทา่ ที่ 2 กา้ วชิดก้าวดา้ นหน้า(Gallop) 3 ส่วนจะมี 3 กลุ่มท่ีทาหน้าท่ีเป็นกองหน้า กองกลางและกองหลัง ซึ่งหมายเลข 1 ผู้ป้องกันประตู และหมายเลข 7 ผู้ถือตะกร้า จะแยกออกมาทาหน้าท่ีเฉพาะตาแหน่ง หนา้ ทีข่ องตนเอง ทา่ ท่ี 3 กา้ วเขยง่ (SKIP) ระยะทาง 10 เมตร ส่วนของกองหนา้ - มีหน้าท่ีพาลูกบอลไปทาประตูในแดนของ ฝ่ายตรงข้ามเมื่อเป็นฝ่ายรุก แล้วกลับมา ช่วยกันสกัดกั้น การบุกของฝ่ายตรงข้าม เมื่อ เป็นฝ่ายรบั บรเิ วณพ้ืนท่ี สนามท่ีรับผิดชอบ จะอยู่ประมาณสว่ นที่ 2-3 จากแดนหลงั ท่าที่ 4 กระโดดเทา้ คู่ไปขา้ งหนา้ (JUMPING) ระยะทาง 10 เมตร สว่ นของกองกลาง - มหี นา้ ทป่ี ระสานงานระหวา่ งกองหน้ากับ กองหลงั คอยลาเลยี งลกู จากแดนหลังขึ้น ไปในแดนของฝา่ ยตรงขา้ มและหาทางส่งต่อ ใหก้ องหน้าเข้าทาประตเู ม่ือเป็นฝา่ ยรกุ และ กลบั มาช่วยสกดั กน้ั การบุกของฝ่ายตรงขา้ ม ท่าท่ี 5 วิ่งรอบสนาม 2 รอบ (200 เมตร) ในแดนของตนเอง ร่วมกบั กองหลังเม่ือเปน็ ฝ่ายรับ บริเวณพ้ืนท่สี นามที่รับผิดชอบจะ อยูป่ ระมาณส่วนที่ 1-2 จากแดนหลงั ของ ตนเอง ส่วนของกองหลัง - ทาหน้าท่ีประสานงานกับกองกลางและ 1.6 พัฒนาสมรรถภาพร่างกาย -นักเรยี นพฒั นาสมรรถภาพ ช่วยเหลือผู้ป้องกันตะกร้า สกัดกันการบุก - ครใู หน้ กั เรยี นเลน่ “เกมแชร์บอลห่วง” ความเรว็ ความคล่องตัว และการยิงประตูของฝ่ายตรงข้ามเม่ือเป็น - ใหน้ กั เรียน ใส่เสอื ทมี ทมี ละสี ใช้อปุ กรณ์ คือ ลูก ความอดทนของกลา้ มเนือ ฝ่ายรับ และโต้กลับทันทีเม่ือได้ครองบอล วอลเล่ยบ์ อล 2 ลกู และการประสานสัมพนั ธ์ เป็นฝ่ายรุก โดยการลาเลียงบอลส่งต่อให้ - วิธีการเล่น แบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ จาก การเลน่ เกมและการ กองกลางและกองหน้า พื นที่สนามท่ี 6 คน ใส่เสอื ทมี กลุ่มละสี ฝึกปฏบิ ตั ิ (PQ)

102 สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ รับผิดชอบจะอยู่ประมาณส่วนที่ 1-2 จาก และให้ยืนคนละฝ่ังตามตาแหน่ง ไม่มีตาแหน่ง แดนหลังของตนเอง คนปัดบอล ไม่มีตาแหน่งคนถือตะกร้า ทุกคน คือผู้เล่นในสนาม ส่วนท่ี 3 ส่วนท่ี 2 ส่วนที่ 1 - เริ่มเล่นโดยแต่ละกลุ่มจะยืนกระจายอยู่ใน กองหน้า กองกลาง กองหนา้ สนาม กรรมการจะโยนบอลให้ผู้เล่น ทัง 2 กลุ่ม ปดั บอลกลางอากาศตรงกลางสนาม - ผู้เล่นจะส่งบอลติดต่อกันไปเรื่อยๆ ไม่ให้เลียง บอล คนมีบอลจะเคลือ่ นทไ่ี มไ่ ด้ - การนับคะแนนจะให้ครังละ 1 คะแนน สาหรับ พนื้ ทกี่ ารทาหนา้ ที่ของผูเ้ ล่น ฝ่ายที่นาลูกบอลไปวางในห่วง ฮูลาฮูปได้ กาหนด ทักษะทีใ่ ชใ้ นการเล่นทีมและการแข่งขัน เล่น 1 ครึ่งเวลา 5 นาที ตอ่ 2 กลมุ่ = กลุ่ม 1 ประกอบด้วย 1. ทกั ษะการเคลื่อนไหวขันพืนฐาน = กลมุ่ 2 (Fundamental Movement Skills) เพ่ือใช้ในการเคลื่อนท่ีในการรับส่งบอล = ลกู บอล ปดั ลูกบอล การหลบหลกี รวมถงึ การรับ บอลของผูท้ ถ่ี ือตะกร้าด้วย 1.1 ทักษะการว่ิง - ผลัดกันเลน่ อีก 2 กลมุ่ เข้ามาเลน่ ตอ่ 1.2 ทักษะการวิ่งสไลดด์ ้านขา้ ง - หากมสี นามเพียงพอใหเ้ ล่นพร้อมกนั หลายกลุ่ม 1.3 ทักษะการกระโดด - หลังจากเล่มเกมจบ ครูจะสรุปผลการเล่น สิ่งท่ีได้ 1.4 ทักษะการกระโดดด้วยขาข้างเดยี ว จากการเลน่ เกม และเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซกั ถาม 1.5 ทกั ษะการกลับตัว 1.6 ทกั ษะการว่ิงซิกแซก 2. ขั้นอธิบายสาธติ (10 นาที) - นักเรียนอธิบายทกั ษะ 1.7 ทักษะการเคล่ือนไหวประกอบลูกบอล 2.1 ครูให้นักเรียนชมคลิปวดิ โี อวธิ กี ารเลน่ แชร์บอล การเล่นทีม การแข่งขนั ในการเคลื่อนท่ี เพ่ือทบทวนกตกิ าแชรบ์ อล ไดอ้ ย่างถกู ต้อง (IQ) 2.2 ครูถามคาถามนกั เรียนว่า 2.2.1 ตาแหน่งของผู้เล่นในสนามแชร์บอลมี อะไรบ้าง แนวคาตอบ : หมายเลข ผปู้ อ้ งกันตะกรา้ การวง่ิ การวงิ่ สไลด์ หมายเลข กองหลงั ดา้ นซ้ายและขวา หมายเลข กองกลาง

103 สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลัพธ์การเรยี นรู้ หมายเลข กองหนา้ ดา้ นซา้ ยและขวา - นกั เรียนไดฝ้ กึ ทักษะท่ี หมายเลข ผถู้ อื ตะกร้า ได้เรยี นจนเกดิ ความ 2.2.2 ผูเ้ ล่นคนไหนสามารถเข้าไปในเขตของ ชานาญ (SQ) ผปู้ อ้ งกันประตูได้บ้าง แนวคาตอบ : หมายเลข 1 และหมายเลข 7 การวง่ิ กลับตวั การวง่ิ ซิกแซก 2.3 ครูทบทวนการยืนตาแหนง่ ในสนามแชร์บอล พร้อมรูปประกอบ 2.4 ครูอธบิ ายและสาธติ ร่วมกับนกั เรยี นในวธิ กี าร เลน่ แชรบ์ อล รูปแบบตา่ ง ๆ โดยมหี วั ข้อ ดงั นี้ 2.5 ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามข้อสงสยั กอ่ นการฝกึ ทักษะ การกระโดด การกระโดด 3. ข้นั การฝึกหดั ทักษะ (20 นาท)ี ด้วยขาข้างเดียว 3.1 แบบฝึกการเรยี นรูก้ ติกาการเล่น - ครูให้นกั เรียนเลน่ ทีมเต็มสนาม โดยให้แบง่ เปน็ การโยนบอล การสง่ บอล 2 ครงึ่ เวลา ครงึ่ เวลาละ 5 นาที ระดบั อก - เรม่ิ ฝึก ครึง่ แรกจะเสยี่ งทายเพอ่ื โยนบอลกลาง สนามให้นกั เรยี นท่ีใส่เสื้อหมายเลข 4 เป็นคนปดั บอล หลังจากน้นั จะเริ่มเลน่ โดยในทีมจะต้องส่ง บอลแลว้ มายิงประตใู ห้ได้ – คร่ึงหลัง เลน่ ในรูป แบบเดมิ หมดเวลา 2 คร่งึ เวลา นับลกู ทย่ี งิ เข้าประตู ทมี ใดไดม้ ากสุด ทีมนัน้ ชนะ การสง่ บอล การสง่ บอลลกู เหนอื ศรี ษะ กระดอน การส่งบอล การยิงประตู ทมี C แขง่ กับ ทีม D ทมี A แข่งกับ ทมี B มือเดียวเหนอื ไหล่ - ครสู รุปรูปแบบการฝึก และเปิดโอกาสให้ นักเรียนซกั ถามข้อสงสยั ตลอดการฝึกเลน่

104 สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ - หากมีการเลน่ ผดิ กติกา จะมีการเบรคเกมและ สอนกตกิ าทันที 4.ข้ันการนาไปใช้ (10 นาที ) - นักเรียนมกี ารคดิ การถอื ตะกรา้ การปดั บอลของ 4.1 ครูให้นักเรียนเล่นทีมแบ่งออกเป็น 4 ทีม คือ วางแผนในวธิ ีการเล่น ผูป้ อ้ งกันตะกรา้ ทีม A ทีม B ทีม C ทีม D เล่นครึ่งเวลาละ 5 นาที แชรบ์ อล, ตาแหน่งการยนื ,} ลงเล่นในสนามคร่งึ เวลาละ 5 นาที ตัวสารองรอข้าง ในสนาม, กตกิ าการเลน่ สนามเพอื่ เปล่ียนตวั ลงเล่นในคร่งึ เวลาหลงั แชรบ์ อลรวมถงึ มีการ 4.2 เริ่มเล่น โดยครูจะป็นคนโยนบอลตรงกลางสนาม กระตนุ้ ใหต้ นเองและเพ่ือน ใหน้ กั เรียนทีอ่ ยูต่ รงกลางสนามกระโดดปัดบอล มีความสนุกสนานในเกม การยิงประตู - วิธีการเล่น คนมีบอลเคล่ือนท่ีไม่ได้ ลูกออกเส้น การแข่งขนั (PQ, AQ) ข้าง หรือเส้นหลัง ให้ที่มท่ีไม่ได้ทาลูกออกส่งลูกเข้า เล่นข้างสนาม การชนะ หมายถึง ทีมใดยิงบอลลงใน 2. ทักษะทางสมรรถภาพทางกาย ตะกร้าได้จานวนมากทสี่ ุด เป็นฝา่ ยชนะ (Physical Fitness) ทใ่ี ชใ้ นการเล่น หรอื =ทมี A แข่งขนั จะมีทงั หมด 9 ดา้ น ประกอบดว้ ย = ทีม B 2.1 ความอ่อนตวั ใช้ในการเก็บบอล ที่อยู่ =ทมี C = ทีม D กบั พนื ตะครบุ บอลทกี่ ลงิ มากับพนื =ทศิ ทางการพาบอล 2.2 ความแข็งแรงของกล้ามเนอื แขน ขา ไปยิงประตู และลาตัว ในการขยับร่างกายอย่างมน่ั คง - ครสู รปุ ผลของการเล่น “แชร์บอล” และเปิด การขวา้ ง การปาบอลให้ได้ระยะทต่ี ้องการ โอกาสใหน้ กั เรยี นซักถามข้อสงสัย และแม่นยา 2.3 ความอดทนของกล้ามเนือแขน ขา 5.ข้นั สรปุ และสุขปฎบิ ัติ (10 นาที ) - นักเรยี นไดฝ้ กึ ประมวล และลาตวั ในการเล่นแชรบ์ อลได้เปน็ ระยะ 5.1 ครสู รุปเนือหาที่ไดเ้ รยี นในช่วั โมงเรียน ความคิดรวบยอดอีกคร้ัง เวลานานโดยทไี่ มเ่ หนือ่ ยลา้ 5.2 ครถู ามคาถามนกั เรยี นว่า หลงั จากเรียนโดยการ 2.4 ความคลอ่ งแคล่วว่องไว ในการเปล่ยี น 5.2.1 หลกั การยนื ในสนามเพื่อให้ได้บอล แลกเปลยี่ น การถาม ทศิ ทางในการเลน่ การเคล่ือนทไ่ี ด้อย่าง แนวคาตอบหาทีย่ นื บรเิ วณทวี่ า่ งและไปในทิศทาง และตอบกับครูผสู้ อน รวดเรว็ เดียวกับตะกรา้ ที่จะยงิ - นกั เรียนร้จู กั การดแู ล 2.5 การทรงตัวในการเคลือ่ นที่แบบอยู่กบั 5.3ครูให้นักเรียนไปลา้ งหน้า ล้างมือ ด่ืมน้า และ รักษาความสะอาดอวยั วะ ที่ หรอื เคลอ่ื นท่ี และเม่ือถอื บอลอยู่ กลบั มาเขา้ แถว ต่างๆ ของร่างกายตนเอง 5.4ครูสารวจอุปกรณแ์ ละของใช้ส่วนตัวของนักเรียน หลังจากเลน่ กฬี า

105 สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธก์ ารเรียนรู้ 2.6 การทางานประสานกนั ในขณะที่ ถือ 5.5 ครูให้นกั เรยี นบันทึกหวั ข้อเร่ืองท่ีเรียนในชั่วโมงน้ี - นกั เรยี นไดฝ้ กึ ความ บอลแล้วตอ้ งแล้วต้องเคลื่อนที่ หลบหลีก ลงในหนังสือเรยี นหน้า 52 (อาจมีการเปล่ยี นแปลง) รบั ผดิ ชอบในการตรวจ หรอื หลอกล่อไปดว้ ย เพ่ือให้การเล่น 5.6ครปู ลอ่ ยเลกิ แถว สอบและแก้ไขในเรื่อง ราบรืน่ ตอ่ เน่อื งและมีประสทิ ธิภาพ 5.7ครพู านักเรียนเดนิ แถวกลบั หอ้ งเรียนก่อนเป็นฝา่ ยชนะ ของการนาของใช้มา 2.7 การมีปฏิกริ ิยาท่ีตอบสนอง เพ่อื มีสิง่ โรงเรียน (IQ, MQ, AQ) เรา้ จากเกมการแขง่ ขนั เชน่ - ลูกบอลกาลังอยูใ่ นอากาศต้องวงิ่ เขา้ ไป แย่งบอล - ผูป้ ้องกันตะกร้าต้องเคล่ือนไหวให้เรว็ เมือ่ มบี อลอยู่ด้านหน้าหรือมคี นยิงประตู - ผ้ถู ือตะกร้าต้องรบั บอลไดท้ ุกรปู แบบ ไม่ ว่าบอลจะมาสูง เตยี ซา้ ยหรือขวา - คะแนนกาลงั เป็นผูต้ ามก็ต้องเล่นเกมใหเ้ รว็ ขึน เพื่อท่ีจะทาแตม้ ให้เสมอ หรือชนะ 2.8 พลังกล้ามเนือ ใชใ้ นการยิงประตู หรอื ส่ง บอลระยะไกลใหด้ ับผูเ้ ลน่ ในทีม 2.9 ความเรว็ ใช้ในการเคลือนท่ีในการเล่นอย่าง รวดเร็ว เพ่ือรบั บอล สง่ บอลหรือยิงประตู 7. สื่อการสอน/แหลง่ การเรียนรู้ - ส่อื การสอน นกหวีด หนงั สือเรยี นวิชาสขุ ศกึ ษา กรวย แผน่ ยางมาร์กเกอร์ Whistle และพลศกึ ษา ป..2 เล่ม 1 Cones Markers A Book

106 กระดานไวท์บอร์ด ปากกาไวทบ์ อรด์ แปรงลบ โปสเตอร์ /POWERPOINT White board Whiteboard pen กระดานไวท์บอรด์ เร่ืองทส่ี อนในชั่วโมง ลูกวอลเล่ยบ์ อล Whiteboard eraser poster/Image media A Volleyball ตะกรา้ เกา้ อ้แี ชร์บอล เสือ้ ทมี A Basket A Chair Sports bib - แหลง่ การเรียนรู้ เกรยี งไกร อินทรชัย. 2559. สุขศึกษาและพลศึกษา ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 เล่ม 2. พิมพ์ครัง้ ที่ 1. กรงุ เทพมหานคร: ไซเบอร์พร้ินท์กรปุ๊ จากดั . ณฐั พร สดุ ดี. 2561. เทคนิคการสอนเกมมูลฐาน. กรุงเทพมหานคร: คณะครศุ าสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. (อดั สาเนา) ถาวร วรรณศริ .ิ 2551. สุขศึกษาและพลศกึ ษา : ฟุตบอล ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5-6. พิมพ์ครง้ั ท่ี 1. กรุงเทพมหานคร: ไซเบอร์พรน้ิ ท์กร๊ปุ จากดั . สรุ เชษฐ์ วศิ วธีรานนท์. 2561. กีฬาแชรบ์ อลและทักษะการเคลอื่ นไหวขัน้ พืน้ ฐาน ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 2 เลม่ 1. พมิ พค์ ร้งั ท่ี 1. กรุงเทพมหานคร: ไซเบอร์พริน้ ท์กรปุ๊ จากัด. 8. คาศัพทภ์ าษาองั กฤษ ความหมาย ทักษะการเล่นทีม ลาดบั คาศพั ท์ภาษาอังกฤษ การเคลอ่ื นไหวข้ันพื้นฐาน 1 Team play สมรรถภาพทางกาย 2 Fundamental Movement Skills การแขง่ ขัน 3 Physical Fitness อุปกรณข์ องใช้ในการเรยี นพลศกึ ษา 4 The Match ตะกรา้ 5 P.E Supplies เกา้ อ้ีแชรบ์ อล 6 A Basket 7 A Chair

107 ลาดบั คาศพั ท์ภาษาอังกฤษ ความหมาย 8 A Volleyball ลกู วอลเลย่ ์บอล 9 Whistle 10 Book นกหวดี 11 Cone หนังสอื เรยี น 12 Marker กรวย 13 White board แผ่นยางมาร์กเกอร์ 14 Whiteboard pen กระดานไวท์บอรด์ 15 Whiteboard eraser ปากกาไวท์บอร์ด 16 poster/Image media แปรงลบกระดานไวทบ์ อร์ด โปสเตอร์ / POWERPOINTเรอื่ งท่สี อนในชว่ั โมง 9. การวัดและประเมินผล เคร่อื งมอื แบบสงั เกต ลาดับ เร่ือง แบบตรวจสอบ แบบสังเกต 1 สังเกตความสนใจและการมีส่วนร่วมตลอดชนั้ เรียน 2 สารวจเคร่ืองแตง่ กายและบกั ทึกคะแนนความรบั ผิดชอบและคะแนนสขุ ปฏบิ ัติ 3 สังเกตการตอบคาถามระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

108 โรงเรยี นสาธิตจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ฝา่ ยประถม แบบประเมินความสนใจ การมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรม และผลสาเรจ็ ของการฝกึ ทักษะและการนาไปใช้ วันที่ ............/........../.......... เวลา........................น. ภาค............. ปกี ารศกึ ษา.......................... หนว่ ยการเรียนร้.ู ..................................... เรอ่ื ง...................................................................ระดบั ช้ัน.......................... ระดับ 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง/เพิ่มเตมิ ) PQ นักเรยี น 80% ขน้ึ ไป ฝึกทักษะหรือเลน่ นักเรียน 60%-80% ฝึกทกั ษะหรอื เลน่ นักเรียนน้อยกว่า60%ฝึกทักษะหรือเลน่ สมรรถภาพ เกมเพื่อพัฒนาสมรรถภาพโดยไมเ่ หนอื่ ย เกมเพอ่ื พฒั นาสมรรถภาพโดยไม่เหนอื่ ย เกมเพื่อพัฒนาสมรรถภาพโดยไมเ่ หนอื่ ย ทางกาย MQ นกั เรียน 80% ขน้ึ ไปใหค้ วามรว่ มมอื นักเรียน 60%-80%ให้ความร่วมมอื นักเรียนน้อยกว่า 60%ให้ความ คุณธรรม กับครใู นการจดั กจิ กรรมเป็นอยา่ งดี กับครูในการจดั กจิ กรรมเป็นอย่างดี รว่ มมือกับครูในการจัดกจิ กรรมเปน็ จรยิ ธรรม ยอมรับการเป็นผนู้ า ผูต้ ามทดี่ ี เชอื่ ยอมรบั การเป็นผู้นา ผตู้ ามที่ดี เชอื่ อยา่ งดี ยอมรบั การเป็นผนู้ า ผู้ตามที่ ฟังครู ฟังครู ดี เชื่อฟงั ครู นักเรียน 80% ข้นึ ไปมีความกระตือรอื รน้ นั ก เรี ย น 60% -80% มี มี ค วาม นั กเรีย น น้ อย กว่า 60% มี ความ แตง่ กายเรยี บรอ้ ยพร้อมทจ่ี ะเรยี น กระตือรือร้น แต่งกายเรียบร้อยพร้อม กระตือรือร้น แต่งกายเรียบร้อยพร้อม AQ เจตคติ ช่วยเหลอื และแนะนาเพอื่ นให้ปฎิบตั ิ ท่ีจะเรียนช่วยเหลือและแนะนาเพื่อน ท่ีจะเรียนช่วยเหลือและแนะนาเพื่อน ระเบยี บวินยั ในห้องเรยี นได้ ให้ปฎบิ ตั ิระเบียบวินัยในห้องเรยี นได้ ให้ปฎบิ ตั ิระเบียบวนิ ยั ในหอ้ งเรียนได้ IQ ความรู้ นักเรียน 80% ข้นึ ไปสามารถอธิบาย นกั เรยี น 60%-80% สามารถอธบิ าย นักเรียนน้อยกว่า 60% สามารถ ความ เน้อื หาทีเ่ รียนไปได้อยา่ งครบถ้วนและ เนือ้ หาท่เี รยี นไปไดอ้ ยา่ งครบถว้ นและ อธิบายเน้ือหาที่เรียนไปได้อย่าง เขา้ ใจ ถกู ต้อง ถกู ต้อง ครบถ้วนและถกู ตอ้ ง นกั เรียน 80% ขนึ้ ไปสามารถปฏิบตั ิ นกั เรียน 60%-80% สามารถปฏบิ ตั ิ นักเรียนนอ้ ยกวา่ 60% สามารถ SQ ทักษะ ทกั ษะทีเ่ รียนในชัว่ โมงไดอ้ ย่าง ทักษะท่ีเรียนในช่วั โมงได้อยา่ ง ปฏบิ ตั ิทักษะทีเ่ รยี นในชว่ั โมงได้ ครบถ้วนและถูกต้องได้ ครบถ้วนและถกู ตอ้ งได้ อยา่ งครบถ้วนและถกู ตอ้ งได้ ระดบั คณุ ภาพ ระดับ 3 หมายถงึ จานวนนักเรียน 80% ขึ้นไป ระดับ 2 หมายถงึ จานวนนกั เรียน 60-80% ระดับ 1 หมายถึง จานวนนักเรียน้อยกวา่ 60% ลงชื่อ...........................................................ผปู้ ระเมนิ

109 โรงเรยี นสาธิตจุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ฝา่ ยประถม บันทึกหลังสอน กล่มุ สาระการเรียนรู้ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 2/...... หน่วย กีฬาแชร์บอล ภาคเรยี น ต้น เร่อื ง ทกั ษะการเล่นทีม (Team play), การแขง่ ขัน (The Match) เวลาเรยี น 1 คาบ (60 นาที) วนั ที่..........เดอื น.................................................พ.ศ...................... เวลา....................น..-.......................น. 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... 2. ปัญหาและอปุ สรรค(กอ่ นสอน-ระหว่างสอน-หลังสอน) ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ................................................. 3. แนวทางการแกไ้ ขเพือ่ ใช้ในการสอนคร้งั ตอ่ ไป ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ...................................................... (………………………………………………………..) ผู้สอน

110 โรงเรียนสาธติ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั ฝ่ายประถม แผนการจดั การเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 หนว่ ย สุขศึกษา (Health Education) ภาคเรียน ตน้ เรื่อง สขุ ปฏิบตั ิ (Sanitation) เวลาเรยี น 1 คาบ (60 นาท)ี 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 3 การเคลื่อนไหว การออกกาลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล พ 3.1: เข้าใจ มีทกั ษะในการเคลื่อนไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกฬี า สาระที่ 4 การสร้างเสรมิ สุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค พ 4.1: เห็นคณุ คา่ และมีทักษะในการสรา้ งเสริมสุขภาพ การดารงสุขภาพ การป้องกนั โรคและการ สรา้ งเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ 2. ตัวชวี้ ดั พ 3.1 ป.2/1: ออกกำลังกำย และเลน่ เกม ไดด้ ้วยตนเองอย่ำงสนุกสนำน พ.4.1 ป.2/1: บอกลักษณะของการมสี ขุ ภาพดี 3. สาระสาคัญ การมีสขุ ภาพดี ท่ีสมบรู ณ์ทั้งรา่ งกายและจติ ใจ มีชีวิตอยใู่ นสังคมอยา่ งเป็นสขุ เปน็ ความต้องการและความ จาเป็นพ้ืนฐานท่ีทุกคนปราถนาท่ีจะมี การปฏิบัติตทางด้านสุขภาพท่ีถูกต้องนั้นจะช่วยให้บุคคลนั้นมีสุขภาพท่ีดี แตกต่างกับบุคคลทีไ่ ม่ปฎบิ ัตติ นเพือ่ สุขภาพ มสี ุขปฏบิ ัตทิ ี่ไม่ถูกตอ้ ง ถึงแม้ว่าจะมีพนั ธุกรรมและอยู่ในส่งิ แวดล้อมที่ ดี ก็จะส่งผลทาให้ให้บุคคลนั้นมีสุขภาพท่ีไม่ดีได้ ดังนั้นการเรียนรู้ และนาแนวทางสุขปฎิบัติมาใช้ปฎิบัติอย่าง สม่าเสมอจนเป็นนิสัยเพ่ือให้มีสุขภาพท่ีดี จะทาให้เด็กและเยาวชนมีพฤติกรรมที่พ่ึงประสงค์อันจะนาไปสู่การมี สขุ ภาพดี ท้ังทางรา่ งกาย จติ ใจ และดตี ่อสงั คมดว้ ย 4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. เพ่ือให้นักเรยี นสามารถบอกประโยชนข์ องการปฏิบตั ิตามสขุ ปฎิบัตไิ ด้ (K /IQ) 2. เพอ่ื ให้นักเรียนสามารถปฏิบตั ติ นตามสขุ ปฎิบัติได้ (P/SQ) 3. เพอ่ื ให้นักเรียนให้ความรว่ มมอื ในการคิดหาคาตอบของคาถามในการเลน่ เกมเปิดแผ่นปา้ ยตอบคาถาม เรื่อง สขุ ปฎบิ ัตไิ ด้ (P + A/AQ) 4. เพือ่ ให้นักเรยี นเหน็ ความสาคัญของการปฏิบตั ติ นตามข้อปฏิบตั ิตนในเร่อื งสุขปฎิบัติได้ (A/AQ)

111 5. เพอื่ ใหน้ ักเรยี นสามารถพฒั นาสมรรถภาพทางกลไกลในด้านความอ่อนตัว (Flexibility) ความคล่องตวั (Agility) ความแข็งแรงของกลา้ มเน้อื (Muscle strength) และการประสานสัมพนั ธ์ (Coordination) จากการเลน่ เกม (PQ) 6. เพือ่ ให้นักเรียนสามารถแต่งกายถูกระเบยี บและปฏิบัตติ ามกฎระเบยี บในชวั่ โมงเรยี นได้ (MQ) 5. ผลการเรียนรู้ท่คี าดหวงั นักเรยี น 80% สามารถปฏบิ ตั ิไดต้ ามจุดประสงค์การเรียนรู้และสามารถนาเอาความรไู้ ปในการเรยี นการ สอนรายวิชาอื่น และชีวติ ประจาวัน 6.กระบวนการจัดการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ สุขปฎิบัต(ิ Sanitation) 1.ข้ันเตรียม / อบอุ่นร่างกาย (10 นาที) - นกั เรียนมีความเขา้ ใจ การมสี ุขภาพท่ดี ี สมบูรณ์ทงั้ ทาง 1.1 ครเู ดินไปรบั นักเรียน แล้วพานกั เรยี นไปสถานที่ และปฎบิ ตั ิตามคาสง่ั ร่างกายและจิตใจ มีชีวิตอยู่ในสงั คมได้ เรียน (สนาม 3) ครผู สู้ อน อยา่ งมีความสุข เป็นความตอ้ งการและ 1.2 ครใู หน้ ักเรียนวางถุงยา่ มในช้ันวางของ โดยให้ - นกั เรยี นมคี วามเป็น ความจาเป็นพ้นื ฐานของชวี ิตคนเรา นักเรยี นชายไวแ้ ถวลา่ งของชั้นวาง และนักเรียนหญงิ ระเบยี บเรียบรอ้ ย แต่อยา่ งไรก็ตามการท่ีเราจะมีสุขภาพท่ี วางไว้แถวบนของชั้นวางของ ภายในแถวตามท่ี ดไี ด้น้ัน เป็นส่ิงทีผ่ ู้อนื่ ไม่สามารถหยิบ 1.3 ครูให้นกั เรยี นแบ่งเปน็ แถวตอนทง้ั หมด 6 แถว กาหนด ย่ืนให้เราได้ เราจงึ จาเป็นต้องปฏิบัติ โดยมีข้นั ตอน ดงั นี้ - นักเรียนมีความ ด้วยตวั เองเทา่ นัน้ เพียงแต่เราต้องเริ่ม พรอ้ มในการเรยี นทง้ั ฝึกฝนตัวเองและปลูกฝังใหส้ มาชกิ ใน ทางดา้ นรา่ งกาย จิตใจ ครอบครัวมีพฤติกรรมในการป้องกัน และอารมณ์ โรค และส่งเสรมิ สุขภาพที่ถูกต้อง - นักเรยี นเคำรพกตกิ ำ การนาแนวทางสุขปฏิบัตมิ าใช้อยา่ ง ภำยในห้องเรยี น, แต่ง สมา่ เสมอจนเกิดเปน็ นสิ ัยจะทาให้เด็ก กำยเรียบรอ้ ย และเยาวชนมพี ฤตกิ รรมท่ีพึงประสงค์ = ครู = นกั เรียน อนั จะนาไปสกู่ ารมีสุขภาพทีด่ ีทงั้ 1.4 ครสู ารวจเครือ่ งแต่งกายและของใช้สว่ นตวั ร่างกายและจติ ใจ 1.5 อบอุน่ รา่ งกาย (Warm – Up) ครใู ห้นกั เรียนขยาย - นั กเรียนบริ หาร สุขปฎิบตั ิ(Sanitation) หมายถึง แถวหนง่ึ ชว่ งแขนเพ่ืออบอุน่ ร่างกาย ร่างกายและอวัยวะ การปฏิบตั ิตนเพื่อให้มสี ุขภาพดี ในที่น้ี 1.5.1 ครูนานักเรียนยดื เหยียดกล้ามเนอ้ื 5 ทา่ ต่างๆ ได้เหมาะสม จะเป็น สขุ ปฏบิ ตั ิสาหรบั นกั เรียน ตามวัย ประกอบดว้ ย

112 สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้ 1. อาบนา้ ทกุ วนั อยา่ งนอ้ ย ทา่ ท่ี 1 พับต้นขาแลว้ ยก วันละ 2 ครง้ั (เช้า–เยน็ ) มาข้างหน้า ขา้ งละ 10 เพอื่ ให้รา่ งกายสะอาด สดช่นื วินาที ทา 10 คร้ัง การอาบน้ายังช่วยกระตุ้น ระบบไหลเวียนโลหิต ให้ผิวพรรณสดใส และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ทาให้ไม่ เจบ็ ป่วยง่าย ท่าท่ี 2 พบั ตน้ ขาแล้วยก ไปขา้ งหลงั ขา้ งละ 10 วินาที 2. แปรงฟนั ทกุ วนั ทา 10 คร้งั เมอื่ ตน่ื นอน กอ่ นนอน หรอื หลงั อาหารทุกมื้อ ฟนั ผมุ ักเกิดบริเวณท่ีมี ทา่ ท่ี 3 ทา่ เหยียดต้นขาซา้ ย คราบจลุ นิ ทรีย์มากๆ และขวา สลับข้างละ 10 วินาที และทาความสะอาดได้ยาก ดังนนั้ การ ใช้ “ไหมขดั ฟัน” จะช่วยให้ทาความ สะอาดฟนั ไดม้ ากข้นึ อีกด้วย ท่าที่ 4 ท่าเหยยี ด 3. นอนหลับใหเ้ ตม็ ท่ี วันละ 8– 12 ขาซ้ายและขวา ช่ัวโมง เดก็ อายุ ตน้ สลบั ขา้ งละ 10 วนิ าที 6–11 ปี ควรนอนวนั ละ 10 ชวั่ โมง เดก็ ทา่ ท่ี 5 วงิ่ รอบสนาม 2 รอบ อายุ 12–15 ปี ควรนอนวันละ 8–9ช่ัวโมง (200 เมตร) 4. รับประทานอาหารที่มปี ระโยชน์ 1.6 พัฒนาสมรรถภาพรา่ งกาย -นั กเรี ยน ได้ พั ฒ น า เช่น ผกั ผลไม้ เน้ือสัตว์ นม - ครูให้นักเรียนเล่นเกม “เชื้อโรค” โดยแบ่งนักเรียน สมรรถภาพทางกาย และไข่ เราไม่ควร รบั ประทาน ออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายละเท่า ๆ กัน ฝ่ายหน่ึงเป็น ดา้ นความคล่องแคล่ว อาหารที่ซ้าซากเหมอื นเดิมทุกๆ วัน เพราะเราจะไดส้ ารอาหารไม่ครบ “เช้ือโรค”อีกฝ่ายเป็น “คนรักความสะอาด”ให้หนี ว่องไว โดยการวิ่งไล่ กลุ่ม“เช้อื โรค”จะยืนอยรู่ อบๆ วงกลม และวิ่งห นี ใน เก ม - เม่ือเร่ิมเล่น“เชื้อโรค”จะกระโดดขาเดียวเข้าไปใน “เชอื้ โรค”

113 สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลัพธ์การเรยี นรู้ วงกลม เพ่ือแตะตัว“คนรักความสะอาด”ท่ีอยู่ใน 5. ดม่ื นา้ วันละ วงกลม “เชื้อโรค”สามารถเปล่ียนตัวผู้เล่นได้โดย มากๆ อย่างนอ้ ย กระโดดขาเดยี วออกมาแปะมอื เพื่อนในทีม ให้เข้าไป วันละ 8 แก้ว เลน่ แทน เพราะว่าร่างกายของเราประกอบด้วย - เม่ือหมดเวลาการเล่น ให้นับจานวนผู้เล่นที่โดนแตะ นา้ 55–75 % ของนา้ หนักตวั คนเราถ้า ตัว แล้วเปล่ียนให้ฝ่าย”เชื้อโรค”ไปเป็น“คนรักความ ขาดอาหาร 70 วันเราจะตาย แต่หาก สะอาด”ฝ่าย“คนรกั ความสะอาด”มาเปน็ “เช้ือโรค” คนเราขาดนา้ เราจะตายใน 10 วัน - หลังจากท้ัง 2 ฝ่ายเสร็จส้ินการเป็น “เช้ือโรค” ให้ 6. ดื่มนมทกุ วัน ไมค่ วรดมื่ ชา กาแฟ สรุปว่าทีมใดโดน “เช้ือโรค”แตะตัวได้จานวนน้อยสุด นั กเรียนสามารถ ทมี น้นั เปน็ ฝา่ ยชนะ บรโิ ภคผลิตภัณฑ์ = เชอ้ื โรค อน่ื ๆ จากนมได้ อกี เชน่ ครมี เนย โยเกิร์ต ไอศกรีม ชีส หรือเครื่องด่ืม = คนรักสะอาด แทนนม แต่ไม่ใช่นม เช่น นมถ่ัวเหลือง นมขา้ ว นมขา้ วโพด นมอัลมอนด์ 2. ขั้นอธิบายสาธิต (10 นาที) 7. ออกกาลังกายเปน็ ประจา ทากจิ กรรม 2.1 ครูเสนอข่าวการระบาดของโรคไข้หวัดในประเทศ -นักเรียนฟั ง ถาม เคล่อื นไหวตอ่ เน่ือง ไทยพรอ้ มแลกเปลี่ยนข้อมลู ความรูก้ ับนักเรียน แ ล ะ ต อบ ค าถาม เปน็ เวลา 15–20 2.2 ครูถามคาถามนกั เรยี น แลกเป ลี่ ย น ความ นาทขี ึน้ ไป 2.2.1 นักเรียนร้จู ักสขุ ปฏิบตั ิหรือไม่ คืออะไร คิดเห็นกับครูผู้สอน แนวคาตอบ : สุขปฎิบัติ(Sanitation) หมายถึง การ ไดอ้ ย่างเหมาะสม 8. หลีกเล่ยี งสถานท่ี ปฏิบตั ติ นเพ่ือใหม้ ีสขุ ภาพ เสยี่ ง และบคุ คลที่ 2.3 ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายถึงวิธีการดูแล เปน็ พาหะโรคติดต่อ ตนเองในการป้องกันโรคไข้หวัดโดยการปฎิบัติตน เชน่ ไมค่ ลกุ คลีหรือใช้ ตามสุขปฏิบัติ เพอื่ นาเขา้ ส่บู ทเรยี น ของใช้รว่ มกับคนที่เป็นโรค 2.4 ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายความหมายและ องคป์ ระกอบของสขุ ปฎิบตั สิ าหรบั นักเรยี น 2.5 ครูเปิดโอกำสใหน้ ักเรียนซักถำม

114 สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลัพธก์ ารเรียนรู้ 9. ขับถา่ ยให้เป็นเวลา เช่นทกุ ๆ วนั 3. ขั้นฝึกทกั ษะ / ขัน้ นาไปใช้ (30 นาท)ี - นกั เรียนมคี วามรู้ ช่วงเช้าอจุ จาระบอก 3.1 ครูให้นักเรียนเล่นเกม “เปิดแผ่นป้ายตอบ และเขา้ ใจเรื่อง โรคได้ ถ้าถา่ ยเป็น คาถาม” เร่ือง สุขปฎิบัติ โดยแบ่งกลุ่มนักเรียน “สุขปฏิบตั ิ” จากการ กอ้ นเลก็ และแข็ง ออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มนักเรียนชาย และกลุ่ม ไดเ้ ล่นเกมหมุนวงล้อ แสดงว่าเรารบั ประทาน นักเรียนหญิง ให้แข่งขันตอบคาถามเร่ือง สุขปฎิบัติ อาหารทม่ี ีกากใยไม่ กลุ่มที่ตอบคาถามได้ถูกต้อง จะได้สิทธ์ิในการหมุน เพยี งพอ กนิ เน้ือ ไข่ หรอื นมมากเกนิ ไป วงล้อสะสมคะแนน 1 คร้ัง ต่อการตอบคาถาม 1 ถา้ เราถ่ายเปน็ น้า แสดงวา่ เราอาจจะตดิ คาถาม เพอ่ื สะสมคะแนน เช้อื ในลาไส้ หรอื แพ้อาหาร 3.2 ครูสรุปคะแนนหลังจากเล่นเกมเสร็จแล้ว โดย 10. ทาจิตใจใหร้ า่ เริง เบิกบานอย่เู สมอ แจกรางวัลให้กับนักเรียนทุกคนที่ให้ความร่วมมือใน การตอบคาถาม 3.3 ครูให้นักเรียนทาใบงาน เรื่อง “สุขปฏิบัติ”โดย แจกใบงาน ให้นักเรียนคนละ 1 แผ่น จากนั้นให้ นักเรยี นตอบคาถามลงในใบงานและให้ส่งในช่วั โมง 3.5 ครูเปิดโอกาสให้นกั เรียนซักถามข้อสงสัยจากการ ประโยชนท์ ี่ได้จากการปฏบิ ตั ิตาม เล่นเกมอีกคร้ัง สขุ ปฏิบัติ 4. ขั้นสรปุ และสุขปฏบิ ัติ (10 นาที ) - นกั เรยี นไดฝ้ กึ ประมวล 1. ป้องกันการตดิ เชื้อโรค และโรคตดิ ต่อ 4.1 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปข้อมูลประโยชน์ท่ีได้ ความคดิ รวบยอดอีกครง้ั รา้ ยแรงต่างๆ จากการปฎบิ ัตติ ามสขุ ปฎิบัติ หลงั จากเรียนโดยการ 2. ปลูกผังระเบียบวินัยในตนเอง 4.2 ครูถามคาถามนกั เรยี น แลก เปลี่ยน การถามและ 3. เสรมิ สรา้ งบุคลิกภาพ เพื่อเป็นที่ยอมรบั ตอบกบั ครผู ู้สอน ในสังคม 4.2.1 ถ้าหากเราไม่ปฎิบัติตนตามสุขปฎิบัติจะ - นักเรียนรู้จักการ 4. ป้องกันโรคฟันผุ เหงอื กอักเสบ มี ส่งผลต่อเสียต่อสุขภาพของเราหรือไม่ เพ่ือสารวจ ดู แ ล รั ก ษ าค วาม กลิน่ ปาก เจตคตขิ องนกั เรยี น สะอาดอวั ยวะต่ างๆ 5. ป้องกันโรคระบบทางเดนิ อาหาร แนวคาตอบ : ส่งผลเสีย เพราะจะทาให้เป็นโรคได้ง่าย ของรา่ งกายตนเอง ทาใหร้ ่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง ไมเ่ ปน็ และส่งผลต่อการดาเนินชวี ิตปกติของเรา เชน่ ทาใหต้ อ้ ง หลังจากเลน่ กีฬา โรคขาดสารอาหารหรือโรคอว้ น ขาดเรียน รับประทานอาหารไม่ค่อยได้ ทากิจกรรมกับ -นักเรียนได้ฝึกความ คนท่ีเรารกั ไมไ่ ด้ รั บ ผิ ด ช อ บ ใน ก า ร 4.3 ครูกล่าวชมเชยนักเรียนท่ีมีความต้ังใจและให้ ตรวจสอบและแก้ไข ความสนใจในชว่ั โมงเรยี น ในเรื่องของการนา 4.4 ครูให้นักเรียนไปล้างหน้า ล้างมือ ดื่มน้า และ ของใชม้ าโรงเรียน กลับมาเข้าแถว

115 สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ 4.5 ครสู ารวจอปุ กรณ์และของใชส้ ว่ นตัวของนักเรยี น 4.6 ครูให้นักเรียนบันทึกหัวข้อเร่ืองที่เรียนในช่ัวโมง นี้ลงในหนังสือเรียนหน้า 52 (อาจมีการเปลี่ยนแปลง เลขหนา้ ) 4.7 ครปู ล่อยเลกิ แถว 4.8 ครูพานกั เรยี นเดนิ แถวกลับหอ้ งเรยี น 7. สื่อการสอน/แหลง่ การเรยี นรู้ - สื่อการสอน นกหวีด หนังสอื เรยี นวชิ าสขุ ศกึ ษา วงล้อนาโชค โปสเตอร์ /POWERPOINT Whistle และพลศึกษา ป..2 เลม่ 1 Lucky Wheel เรื่องท่ีสอนในช่วั โมง A Book poster/Image media กระดานไวทบ์ อรด์ ปากกาไวท์บอร์ด แปรงลบ ใบงาน White board Whiteboard pen กระดานไวท์บอรด์ Worksheet Whiteboard eraser - แหลง่ การเรยี นรู้ ณฐั พร สุดดี. 2561. เทคนิคการสอนเกมมูลฐาน. กรงุ เทพมหานคร: คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . (อัดสาเนา) ถาวร วรรณศิร.ิ 2551. สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา : ฟุตบอล ช้ันประถมศึกษาปีที่ 5-6. พิมพ์ครัง้ ที่ 1. กรงุ เทพมหานคร: ไซเบอร์พร้ินทก์ รปุ๊ จากดั . สรุ เชษฐ์ วศิ วธรี านนท์. 2561. กฬี าแชร์บอลและทักษะการเคลอ่ื นไหวขั้นพ้นื ฐาน ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 2 เลม่ 1. พมิ พ์ครงั้ ที่ 1. กรงุ เทพมหานคร: ไซเบอร์พริน้ ท์กรุป๊ จากัด.

116 8. คาศพั ท์ภาษาองั กฤษ ความหมาย สขุ ปฎิบตั ิ ลาดบั คาศพั ทภ์ าษาองั กฤษ อุปกรณข์ องใชใ้ นการเรยี นพลศึกษา 1 Sanitation นกหวีด 2 P.E Supplies หนังสือเรยี น 3 Whistle กระดานไวทบ์ อรด์ 4 Book ปากกาไวทบ์ อรด์ 5 White board แปรงลบกระดานไวท์บอร์ด 6 Whiteboard pen โปสเตอร์ / POWERPOINTเร่อื งท่สี อนในชั่วโมง 7 Whiteboard eraser ใบงาน 8 Poster/Image media 9 Worksheet วงลอ้ นาโชค 10 Lucky Wheel 9. การวดั และประเมนิ ผล เครอื่ งมอื แบบสังเกต ลาดับ เรื่อง แบบตรวจสอบ แบบสังเกต 1 สงั เกตความสนใจและการมสี ่วนรว่ มตลอดช้ันเรียน 2 สารวจเครอื่ งแต่งกายและบกั ทกึ คะแนนความรับผดิ ชอบและคะแนนสุขปฏบิ ัติ 3 สงั เกตการตอบคาถามระหวา่ งการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้

117 โรงเรยี นสาธิตจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย ฝ่ายประถม แบบประเมินความสนใจ การมีส่วนรว่ มในกจิ กรรม และผลสาเรจ็ ของการฝึกทักษะและการนาไปใช้ วนั ที่ ............/........../.......... เวลา........................น. ภาค............. ปกี ารศึกษา.......................... หนว่ ยการเรียนรู.้ ..................................... เรือ่ ง...................................................................ระดบั ชนั้ .......................... ระดับ 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง/เพิ่มเตมิ ) PQ สมรรถภาพ นักเรียน 80% ขนึ้ ไป ฝึกทักษะหรอื เล่น นกั เรียน 60%-80% ฝกึ ทักษะหรอื เลน่ นกั เรยี นน้อยกว่า60%ฝกึ ทักษะหรอื เล่น ทางกาย เกมเพ่ือพฒั นาสมรรถภาพโดยไมเ่ หนอ่ื ย เกมเพอื่ พัฒนาสมรรถภาพโดยไมเ่ หนอ่ื ย เกมเพ่อื พัฒนาสมรรถภาพโดยไมเ่ หนอ่ื ย MQ นกั เรียน 80% ขน้ึ ไปใหค้ วามร่วมมือ นักเรยี น 60%-80%ให้ความรว่ มมอื นกั เรยี นน้อยกวา่ 60%ใหค้ วาม คณุ ธรรม กับครใู นการจัดกจิ กรรมเป็นอยา่ งดี กับครูในการจัดกจิ กรรมเป็นอย่างดี รว่ มมือกับครใู นการจดั กจิ กรรมเปน็ จรยิ ธรรม ยอมรบั การเปน็ ผู้นา ผตู้ ามท่ีดี เชอื่ ยอมรบั การเปน็ ผนู้ า ผู้ตามท่ดี ี เชอ่ื อย่างดี ยอมรับการเปน็ ผูน้ า ผ้ตู ามท่ี ฟังครู ฟังครู ดี เช่ือฟงั ครู นักเรียน 80% ข้นึ ไปมีความกระตือรอื ร้น นั ก เรี ย น 60% -80% มี มี ค วาม นักเรียน น้อยกว่า 60% มี ความ แตง่ กายเรยี บร้อยพรอ้ มทจ่ี ะเรยี น กระตือรือร้น แต่งกายเรียบร้อยพร้อม กระตือรือร้น แต่งกายเรียบร้อยพร้อม AQ เจตคติ ชว่ ยเหลอื และแนะนาเพือ่ นให้ปฎิบตั ิ ที่จะเรียนช่วยเหลือและแนะนาเพ่ือน ที่จะเรียนช่วยเหลือและแนะนาเพ่ือน ระเบียบวนิ ยั ในห้องเรยี นได้ ใหป้ ฎิบัตริ ะเบียบวนิ ัยในหอ้ งเรยี นได้ ใหป้ ฎิบตั ริ ะเบยี บวินัยในห้องเรยี นได้ นักเรียน 80% ข้นึ ไปสามารถอธบิ าย นักเรยี น 60%-80% สามารถอธิบาย นักเรียนน้อยกว่า 60% สามารถ IQ ความรู้ เนื้อหาทีเ่ รียนไปได้อย่างครบถ้วนและ เนือ้ หาทเ่ี รยี นไปได้อยา่ งครบถ้วนและ อธิบายเนื้อหาที่เรียนไปได้อย่าง ความเขา้ ใจ ถูกต้อง ถูกตอ้ ง ครบถ้วนและถกู ต้อง นกั เรยี น 80% ขน้ึ ไปสามารถปฏบิ ตั ิ นกั เรียน 60%-80% สามารถปฏบิ ัติ นักเรียนน้อยกว่า 60% สามารถ SQ ทกั ษะ ทักษะท่เี รียนในชว่ั โมงไดอ้ ยา่ ง ทักษะที่เรียนในช่วั โมงได้อยา่ ง ปฏิบัติทักษะที่เรียนในช่ัวโมงได้ ครบถว้ นและถกู ตอ้ งได้ ครบถว้ นและถูกตอ้ งได้ อยา่ งครบถว้ นและถกู ตอ้ งได้ ระดับคณุ ภาพ ระดับ 3 หมายถึง จานวนนักเรยี น 80% ข้ึนไป ระดบั 2 หมายถึง จานวนนกั เรียน 60-80% ระดบั 1 หมายถงึ จานวนนักเรียน้อยกวา่ 60% ลงชอื่ ...........................................................ผปู้ ระเมนิ

118 โรงเรยี นสาธิตจฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ฝา่ ยประถม บันทกึ หลงั สอน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/...... หนว่ ย สุขศึกษา (Health Education) ภาคเรยี น ตน้ เรือ่ ง สุขปฎิบตั ิ (Sanitation) เวลาเรียน 1 คาบ (60 นาที) วันท.ี่ .........เดอื น.................................................พ.ศ...................... เวลา....................น..-.......................น. 1. ผลการจดั การเรียนรู้ ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... 2. ปญั หาและอุปสรรค(กอ่ นสอน-ระหว่างสอน-หลังสอน) ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแก้ไขเพอื่ ใชใ้ นการสอนครงั้ ตอ่ ไป ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... .............................................................. (………………………………………………………..) ผสู้ อน

119 โรงเรยี นสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั ฝ่ายประถม แผนการจัดการเรียนรู้ กลุม่ สาระการเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 2 หน่วย สขุ ศึกษา (Health Educatiom) ภาคเรียน ตน้ เร่ือง การรักษาความสะอาดของใช้และเคร่ืองแต่งกาย เวลาเรยี น 1 คาบ (60 นาท)ี (Cleanliness) -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 3 การเคล่ือนไหว การออกกาลังกาย การเลน่ เกม กฬี าไทย และกีฬาสากล พ 3.1: เขา้ ใจ มีทกั ษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา สาระท่ี 4 การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการปอ้ งกันโรค พ 4.1: เห็นคณุ คา่ และมที ักษะในการสรา้ งเสริมสุขภาพ การดารงสขุ ภาพ การปอ้ งกันโรคและการ สร้างเสรมิ สมรรถภาพเพือ่ สุขภาพ 2. ตวั ชวี้ ัด พ 3.1 ป.2/1: ออกกาลังกาย และเล่นเกม ได้ดว้ ยตนเองอย่างสนกุ สนาน พ.4.1 ป.2/1: บอกลักษณะของการมีสขุ ภาพดี 3. สาระสาคัญ การรักษาความสะอาดของใช้และเคร่ืองแต่งกายให้สะอาดอยู่เสมอ จะช่วยทาให้ไม่เป็นโรคต่างๆ ได้ง่าย อกี ทั้งยังชว่ ยส่งเสริมให้บุคคลนั้นเป็นผ้ทู ่ีมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง จิตใจแจม่ ใส และเป็นท่ียอมรับของคนในสังคม ด้วย ในระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2 ซ่ึงถือว่าเป็นเด็กเล็กท่ีต้องเร่ิมฝึกฝนการดูแลตนเองในเรื่องเคร่ืองแต่งกาย ของใชส้ ่วนตวั หลายอยา่ ง เช่น แก้วน้า สมุด หนังสือ กระเป๋าหนังสือ ฯลฯ จึงจาเป็นท่ีจะต้องไดร้ ับความรู้ เกี่ยวกับ การดูแลรักษาความสะอาด เพอื่ เป็นการส่งเสริมให้นักเรียนเห็นความสาคัญและตระหนักถงึ การรักษาความสะอาด อันส่งผลต่อการมีสขุ ภาพทดี่ ีทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ปราศจากโรคภยั ไข้เจ็บและดารงชีวติ อยู่ในสงั คมได้อยา่ ง มคี วามสขุ 4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. นกั เรียนสามารถอธิบายเรื่องการรักษาความสะอาดของใช้และเคร่ืองแต่งกายได้อย่างถูกต้อง (K/IQ) 2. นกั เรียนสามารถดแู ลความสะอาดของใช้สว่ นตัวและเคร่อื งแต่กาย (P/SQ) 3. นกั เรยี นเหน็ ความสาคัญของการปฏิบตั ติ นตามการรกั ษาความสะอาด (A/AQ) 4. เพอ่ื ให้นักเรยี นเห็นความสาคัญของการปฏบิ ตั ติ นตามขอ้ ปฏบิ ัติตนในเร่อื งสุขปฎิบัติได้ (A/AQ)

120 5. เพ่อื ใหน้ ักเรียนสามารถพัฒนาสมรรถภาพทางกลไกลในด้านความอ่อนตัว (Flexibility) ความคล่องตวั (Agility) ความแข็งแรงของกล้ามเนอ้ื (Muscle strength) และการประสานสัมพนั ธ์ (Coordination) จากการเล่นเกม (PQ) 6. เพอ่ื ให้นักเรียนสามารถแต่งกายถูกระเบียบและปฏบิ ตั ิตามกฎระเบียบในชั่วโมงเรยี นได้ (MQ) 5. ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวงั นกั เรยี น 80% สามารถปฏิบัติไดต้ ามจุดประสงค์การเรียนรู้และสามารถนาเอาความร้ไู ปใช้ในการเรยี นการ สอนรายวิชาอนื่ และชีวติ ประจาวนั ได้ 6. กระบวนการจดั การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ หมายเหตุ - นกั เรยี นมคี วาม การรกั ษาความสะอาดของใช้และ 1.ข้ันเตรียม / อบอุ่นรา่ งกาย (10 นาที) เข้าใจและปฎิบตั ิตาม คาส่ังครผู ู้สอน เครื่องแต่งกาย(Cleanliness) 1.1 ครเู ดนิ ไปรบั นักเรียน แล้วพานักเรยี นไปสถานที่ - นกั เรียนมคี วาม เปน็ ระเบียบ เรยี น (สนาม 3) เรียบรอ้ ยภายในแถว ตามทก่ี าหนด สุขภาพ หมายถึง สุขภาวะที่สมบูรณ์ท้ัง 1.2 ครใู หน้ กั เรยี นวางถุงย่ามในชน้ั วางของ โดยให้ - นกั เรยี นมีความ ทางกาย จิตใจ สงั คม และปัญญา มิใช่เพียง นักเรียนชายไวแ้ ถวลา่ งของช้ันวาง และนักเรยี นหญงิ พรอ้ มในการเรยี นทง้ั ปราศจากโรคหรือความพิการเท่านั้น วางไว้แถวบนของชัน้ วางของ ทางด้านร่างกาย จิตใจ ประโยชน์ทไี่ ด้จากการปฏบิ ตั ิตามสุขปฏบิ ัติ 1.3 ครใู หน้ กั เรียนแบ่งเป็นแถวตอนทง้ั หมด 4 แถว และอารมณ์ - นกั เรียนเคารพ โดยมีข้ันตอน ดงั น้ี กตกิ าภายในห้องเรยี น สุขภาวะทางกาย หมายถึง การที่เรามี , แต่งกายเรยี บร้อย สุขภาพที่ดี สมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีโรคภัย ไข้เจ็บ อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ปราศจากมลภาวะ มีการดูแลร่างกายให้ สะอาดอยู่เสมอ และมีการบริโภคท่ีถูกต้อง เหมาะสม = ครู = นกั เรียน 1.4 ครสู ารวจเครอื่ งแต่งกายและของใชส้ ่วนตวั - นักเรียนบริหาร 1.5 อบอนุ่ รา่ งกาย (Warm – Up) ครูใหน้ ักเรียนขยาย ร่างกายและอวัยวะ แถวหนงึ่ ช่วงแขนเพ่ืออบอนุ่ ร่างกาย ต่างๆ ได้เหมาะสม 1.5.1 ครูนานกั เรียนยดื เหยยี ดกลา้ มเนือ้ 5 ทา่ ตามวัย

121 สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ หมายเหตุ สุขภาวะทางใจ หมายถึง สภาวะจิตใจ ของเราท่มี คี วามสดชน่ื มีความสุข ผ่อน ทา่ ท่ี 1 บริหารลาตวั โดยให้เอน คลาย มีเมตตากรุณา มีสมาธิ และมี ลาตวั ไปด้านซ้ายและด้านขวา จติ ใจท่อี ่อนโยน ข้างละ 10 วนิ าที ทา 10 ครัง้ ท่าท่ี 2 หมุนแขนและหวั ไหล่ไป ข้างหนา้ และข้างหลัง ขา้ งซ้ายและขวา ขา้ งละ 10 คร้ัง การรักษาความสะอาดของใชส้ ว่ นตัว ท่าที่ 3 ท่าเหยียดตน้ ขาซา้ ย เดก็ ๆ มขี องใช้สว่ นตวั หลายอย่างซ่งึ และขวา สลับขา้ งละ 10 วินาที สามารถดูแลความสะอาดได้ ดังน้ี 1. แก้วนา ล้างแก้วนา้ ทา่ ท่ี 4 ท่าเหยียด ให้สะอาดทงั้ ก่อนและ ขาซ้ายและขวา หลังการใช้ ตน้ สลับข้างละ 10 วนิ าที 2. สมดุ และหนังสือเรียน ทา่ ที่ 5 วิง่ รอบสนาม 2 รอบ - ห่อปกสมุดและหนังสือเรยี นให้เรียบรอ้ ย (200 เมตร) - เปิดปิดอย่างทะนุถนอม - ไมฉ่ ีกสมุดเลน่ - ทางานใหส้ ะอาดเป็นระเบียบ - เมือชารดุ ต้องรบี ซอ่ มแซม 1.6 พัฒนาสมรรถภาพรา่ งกาย -นักเรียนไดพ้ ฒั นา - ครูให้นักเรียนเล่นเกม “ว่ิงเก็บของใช้” โดยแบ่งนักเรียน สมรรถภาพทางกาย 3. กระเปา๋ หนงั สอื ออกเป็น 2 ทีม ทีมละเท่า ๆ กัน ได้แก่ ทีม A และ ทีม B ดา้ นความคลอ่ งแคลว่ - จัดหนังสอื ใหเ้ ป็นระเบียบ - เอกสารควรใส่ในแฟ้มใหเ้ รียบร้อย ท้ังสองทีมจะยืนอยูใ่ นวงกลมของตนเอง วอ่ งไว โดยการวิ่งไล่ - ครจู ะวางปา้ ยรูปภาพสง่ิ ของทวั่ ไป หรอื ของใช้สว่ นตัว และว่งิ หนใี นเกม “วิ่ง ไว้ 50 ชน้ิ ในวงกลม ของทง้ั สองทมี เกบ็ ของใช้”

122 สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ หมายเหตุ - เร่ิมเล่น โดยผู้เล่นจะต้องวิ่งจากจุดเร่ิมไปเปิดดูรูปภาพของ = ทมี 1 4. กล่องดินสอ ใช้ท่ีอยู่ในวงกลมตรงกันข้ามตามคอนเซ็ปต์ “สะอาดและเป็น - จดั วางดินสอเรียงกันให้เป็นระเบียบ ระเบียบเรียบร้อย” แล้วหยิบมาวางในวงกลมท่ีจุดเริ่มครั้งละ - เหลาดินสอทกุ แทง่ ให้พร้อมใช้งาน 1 ชนิ้ โดยกาหนดเวลาการเลน่ ไว้ 2 นาที - เมื่อหมดเวลา ให้หยดุ การแข่งขัน แล้วนับจานวน สิ่งของที่เก็บมาได้ ทีมใดได้จานวนส่ิงของมากชิ้นและ ถูกตอ้ งตามคอนเซ็ปต์ ทีมน้ันเปน็ ผชู้ นะ = ทีม 2 การรกั ษาความสะอาดเครอื่ งแตง่ กาย 2. ขนั อธบิ ายสาธติ (10 นาที) 1. ซกั รีดเสื้อผ้าให้สะอาดเปน็ ประจา 2.1 ครูใหน้ กั เรียนชมคลิปวีดิทศั น์ถงึ ความอนั ตราย - นักเรียนฟัง ถาม ทกุ อาทติ ย์ ของการที่ไมด่ แู ลรักษาความสะอาดร่างกายและของใช้ แ ล ะ ตอบ ค าถาม แลกเป ล่ียน ความ 2. เก็บเสือ้ ผา้ เข้าตู้ใหเ้ ป็นระเบยี บ สว่ นตัว เพอ่ื นาเขา้ ส่บู ทเรียน คิดเห็นกับครูผู้สอน 2.2 ครูถามคาถามนกั เรียน 2.2.1 นักเรียนรู้ไหมว่าโรคท่ีมาจากการที่นักเรียน ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม - นกั เรียนมคี วามรู้ สกปรก ไม่ดแู ลตนเอง ได้แกโ่ รคอะไรบา้ ง แนวคาตอบ : 1) โรคมือเท้าปาก 2) โรคติดเช้ือระบบ และเขา้ ใจเรอ่ื ง “การ ทางเดนิ หายใจ เชน่ โรคไข้หวัดใหญ่ วัณโรค 3) โรคติดเชอ้ื รกั ษาความสะอาดของ ทางเดินอาหาร เช่น โรคท้องเสีย 4) โรคติดต่อการสัมผัส ใช้และเครอื่ งแต่งกาย โดยตรง เช่น โรคตาแดง โรคเช้ือรา 5) โรคท่ีติดต่อได้ หลายทาง เช่น โรคอีสกุ อีใส 3. ระมดั ระวังไมใ่ ห้เสอื้ ผา้ สกปรกเลอะเทอะ 2.3 ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายถึงวิธีการดูแล ตนเองในการปอ้ งกันโรคท่ีเกิดจากการไม่ดูแลตนเองใน เร่อื งความสะอาด 2.4 ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันอภิปรายวิธีการดแู ลรกั ษา ความสะอาดเครื่องแต่งกายและของใช้สว่ นตัวของ นักเรยี น

123 สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ หมายเหตุ 4. ควรแยกซกั ผ้าสีกบั ผา้ ขาว หรือถุงเท้า 2.5 ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามขอ้ สงสยั กับผา้ เช็ดหนา้ 3. ขันฝึกทักษะ / ขนั นาไปใช้ (30 นาที) - นักเรียนมคี วาม 3.1 ครูและนักเรียนร่วมกันสาธิตวิธีรักษาความสะอาด เข้าใจเรื่อง “การ ของใช้ส่วนตัวโดยการสาธิตวิธีการล้างทาความสะอาด รักษาความสะอาด แก้วน้า เช็ดให้แห้งและเก็บในที่ไม่อับ จากน้ันให้นักเรียน ของใช้ส่วนตวั และ ปฎบิ ตั ิการลา้ งทาความสะอาดแกว้ นา้ ของตนเอง เคร่อื งแต่งกายจากการ 3.2 ครูให้นักเรียนเล่นเกม“แข่งขันการเก็บเสื้อทีม”เน้น ได“้ แขง่ ขันการเก็บ ความเป็นระเบียบเรียบร้อยโดยการแบ่งนักเรียนออกเป็น 4 เสอ้ื ทีม” ทีม ทีมละเท่าๆ กัน ได้แก่ ทีม A ,B, C, D เพ่ือฝึกฝนให้ นกั เรียนรจู้ ักวิธกี ารเกบ็ เสอ้ื ผ้าใหเ้ ปน็ ระเบยี บ - โดยรูปแบบการเลน่ จะวางเสอ้ื คละสี คละเบอร์กนั จานวนสลี ะ 12 ตวั - แล้วใหน้ กั เรยี นน่งั รวมกันอยู่ในเขตส่ีเหลีย่ ม - เมอื่ ได้ยนิ สัญญาณนกวีดใหเ้ รม่ิ เลน่ ใหน้ ักเรยี นลุกขนึ้ ไปหยบิ เสอื้ คร้ังละ 1 คน คนละ 1 ตวั แลว้ นามาวาง เรยี งเลขกันให้เรียบร้อย - คนทไ่ี ปหยิบมาไดแ้ ล้วใหแ้ ตะมือเปล่ียนเพ่ือนในกลุม่ คนตอ่ ไป ทาจนกว่าจะหยิบเสื้อครบ 12 ตวั - ทีมใดหยิบเสอื้ ครบและจัดเปน็ ระเบียบเรยี บรอ้ ย ทมี น้นั เป็นฝา่ ยชนะ ท่ี 1 ได้ 10 คะแนน ที่ 2-4 ได้ 5 คะแนน แขง่ 3 รอบ AB CD 3.4 ครูให้นักเรียนทาใบงาน เร่ือง “การรักษาความ สะอาด ของใช้ส่วนตัวและเครื่องแต่งกาย” โดยแจกใบ งาน ให้นักเรียนคนละ 1 แผ่น จากนั้นให้นักเรียนตอบ คาถามลงในใบงาน และให้สง่ ในชั่วโมง

124 สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ หมายเหตุ 3.5 ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัยจากการ เล่นเกมอกี ครัง้ 4. ขน้ั สรุปและสขุ ปฏบิ ัติ (10 นาที ) - นักเรียนไดฝ้ กึ 4.1 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปข้อมูลประโยชน์ท่ีได้ ประมวลความคิดรวบ จากการปฎิบัติเร่ือง “การรักษาความสะอาด ของใช้ ยอดอกี ครง้ั หลงั จาก สว่ นตวั และเคร่ืองแต่งกาย” เรียนโดยการแลก 4.2 ครูถามคาถามนกั เรยี น เปลย่ี นการถาม-ตอบ กับครผู ู้สอน 4.2.1 หากนักเรียนมีพฤติกรรมในการดูแลของใช้ - นักเรียนรู้จักการ สว่ นตัวและดูแลเคร่อื งแต่งกายใหส้ ะอาดและเรยี บร้อย ดู แ ล รั กษ าความ อยูเ่ สมอ ส่ิงท่ีจะเกิดข้ึนหลังจากที่นักเรยี นมีพฤติกรรม สะอาดอวัยวะต่างๆ เหล่านี้ คอื ของร่างกายตนเอง แนวคาตอบ : 1. นักเรียนจะไม่เจ็บป่วยง่าย 2. นักเรียนมี หลงั จากเลน่ กีฬา บุคลิกภาพท่ดี ี 3. นักเรียนจะหาสง่ิ ของไดง้ า่ ยข้ึน -นั ก เรี ย น ไ ด้ ฝึ ก ความรับผิดชอบใน 4.3 ครูกล่าวชมเชยนักเรียนท่ีมีความต้ังใจและให้ การตรวจสอบและ ความสนใจในชว่ั โมงเรียน แ ก้ ไข ใ น เรื่ อ ง ข อ ง การน าของใช้ม า 4.4 ครูให้นักเรียนไปล้างหน้า ล้างมือ ด่ืมน้า และ โรงเรยี น กลับมาเขา้ แถว 4.5 ครสู ารวจอุปกรณ์และของใช้ส่วนตวั ของนักเรยี น 4.6 ครูให้นักเรียนบันทึกหัวข้อเร่ืองท่ีเรียนในชั่วโมง นี้ลงในหนังสือเรียนหน้า 52 (อาจมีการเปล่ียนแปลง เลขหน้า) 4.7 ครปู ลอ่ ยเลกิ แถว 4.8 ครูพานกั เรยี นเดินแถวกลับห้องเรียน

125 7. ส่ือการสอน/แหล่งการเรยี นรู้ - ส่อื การสอน นกหวดี หนังสือเรยี นวิชาสขุ ศกึ ษา เสื้อทีม โปสเตอร์ /POWERPOINT Whistle และพลศกึ ษา ป..2 เลม่ 1 Sports bib เรอื่ งท่ีสอนในชัว่ โมง A Book poster/Image media กระดานไวทบ์ อรด์ ปากกาไวท์บอร์ด แปรงลบ ใบงาน White board Whiteboard pen กระดานไวทบ์ อรด์ Worksheet Whiteboard eraser - แหลง่ การเรียนรู้ ณัฐพร สุดดี. 2561. เทคนิคการสอนเกมมูลฐาน. กรุงเทพมหานคร: คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั . (อดั สาเนา) ถาวร วรรณศริ ิ. 2551. สุขศึกษาและพลศกึ ษา : ฟุตบอล ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 5-6. พิมพ์คร้งั ที่ 1. กรงุ เทพมหานคร: ไซเบอร์พร้ินทก์ ร๊ปุ จากดั . สุรเชษฐ์ วศิ วธีรานนท์. 2561. กีฬาแชร์บอลและทักษะการเคลือ่ นไหวข้นั พน้ื ฐาน ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2 เลม่ 1. พมิ พค์ ร้ังที่ 1. กรุงเทพมหานคร: ไซเบอร์พรน้ิ ท์กรปุ๊ จากัด. 8. คาศพั ท์ภาษาอังกฤษ ความหมาย การรกั ษาความสะอาดของใช้และเครื่องแตง่ กาย ลาดับ คาศัพทภ์ าษาองั กฤษ 1 Cleanliness อุปกรณ์ของใช้ในการเรียนพลศึกษา นกหวีด 2 P.E Supplies หนงั สือเรียน 3 Whistle กระดานไวทบ์ อร์ด 4 Book ปากกาไวท์บอรด์ 5 White board แปรงลบกระดานไวท์บอรด์ 6 Whiteboard pen 7 Whiteboard eraser

126 ลาดบั คาศัพทภ์ าษาองั กฤษ ความหมาย 8 Poster/Image media โปสเตอร์ / POWERPOINTเรื่องทีส่ อนในชั่วโมง 9 Sports bib เส้อื ทมี 10 Worksheet ใบงาน 9. การวัดและประเมนิ ผล เครอื่ งมอื แบบสังเกต ลาดบั เรื่อง แบบตรวจสอบ แบบสังเกต 1 สงั เกตความสนใจและการมีส่วนร่วมตลอดชน้ั เรียน 2 สารวจเคร่ืองแต่งกายและบักทึกคะแนนความรบั ผิดชอบและคะแนนสุขปฏบิ ัติ 3 สงั เกตการตอบคาถามระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

127 โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั ฝ่ายประถม แบบประเมินความสนใจ การมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรม และผลสาเรจ็ ของการฝึกทักษะและการนาไปใช้ วนั ท่ี ............/........../.......... เวลา........................น. ภาค............. ปกี ารศกึ ษา.......................... หนว่ ยการเรยี นร.ู้ ..................................... เรอื่ ง...................................................................ระดับช้ัน.......................... ระดับ 3 (ดี) 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรุง/เพ่มิ เติม) PQ / P สมรรถภาพ นักเรยี น 80% ขึ้นไป ฝกึ ทกั ษะหรอื เลน่ นักเรียน 60%-80% ฝกึ ทกั ษะหรอื เล่น นักเรยี นน้อยกวา่ 60%ฝึกทักษะหรือเลน่ ทางกาย เกมเพื่อพฒั นาสมรรถภาพโดยไม่เหนอ่ื ย เกมเพ่ือพฒั นาสมรรถภาพโดยไม่เหนอ่ื ย เกมเพ่ือพัฒนาสมรรถภาพโดยไมเ่ หนอ่ื ย MQ นักเรยี น 80% ขึ้นไปให้ความร่วมมือ นักเรยี น 60%-80%ให้ความร่วมมอื นกั เรียนนอ้ ยกว่า 60%ใหค้ วาม คณุ ธรรม กับครูในการจดั กจิ กรรมเป็นอย่างดี กบั ครูในการจดั กจิ กรรมเป็นอยา่ งดี ร่วมมือกบั ครูในการจัดกจิ กรรมเปน็ จรยิ ธรรม ยอมรบั การเปน็ ผนู้ า ผู้ตามทด่ี ี เชอ่ื ยอมรับการเป็นผนู้ า ผู้ตามทดี่ ี เชอ่ื อย่างดี ยอมรับการเป็นผนู้ า ผตู้ ามท่ี ฟังครู ฟังครู ดี เช่อื ฟังครู นกั เรียน 80% ขึ้นไปมีความกระตือรอื รน้ นั ก เรี ย น 60% -80% มี มี ค วาม นักเรียน น้อยกว่า 60% มี ความ AQ / A แตง่ กายเรยี บรอ้ ยพรอ้ มทจ่ี ะเรยี น กระตือรือร้น แต่งกายเรียบร้อยพร้อม กระตือรือร้น แต่งกายเรียบร้อยพร้อม เจตคติ ชว่ ยเหลอื และแนะนาเพือ่ นให้ปฎบิ ตั ิ ที่จะเรียนช่วยเหลือและแนะนาเพื่อน ท่ีจะเรียนช่วยเหลือและแนะนาเพื่อน ระเบยี บวนิ ยั ในหอ้ งเรียนได้ ใหป้ ฎิบตั ิระเบียบวนิ ยั ในห้องเรียนได้ ให้ปฎบิ ัติระเบียบวนิ ัยในหอ้ งเรยี นได้ IQ / K นักเรียน 80% ขนึ้ ไปสามารถอธิบาย นักเรยี น 60%-80% สามารถอธบิ าย นักเรียนน้อยกว่า 60% สามารถ ความรู้ เนื้อหาท่เี รียนไปได้อย่างครบถ้วนและ เนือ้ หาที่เรยี นไปไดอ้ ยา่ งครบถ้วนและ อธิบายเนื้อหาที่เรียนไปได้อย่าง ความเขา้ ใจ ถูกตอ้ ง ถูกต้อง ครบถว้ นและถกู ต้อง นกั เรยี น 80% ขนึ้ ไปสามารถปฏิบตั ิ นกั เรยี น 60%-80% สามารถปฏบิ ตั ิ นักเรียนน้อยกว่า 60% สามารถ SQ ทักษะ ทักษะทเ่ี รยี นในชัว่ โมงไดอ้ ยา่ ง ทักษะทเี่ รยี นในช่วั โมงได้อยา่ ง ป ฏิ บั ติ ทั ก ษ ะ ที่ เรี ย น ใ น ช่ั ว โ ม ง ไ ด้ ครบถว้ นและถูกตอ้ งได้ ครบถว้ นและถกู ต้องได้ อย่างครบถว้ นและถกู ต้องได้ ระดบั คุณภาพ ระดบั 3 หมายถึง จานวนนักเรียน 80% ข้ึนไป ระดับ 2 หมายถงึ จานวนนกั เรียน 60-80% ระดบั 1 หมายถงึ จานวนนักเรยี นอ้ ยกวา่ 60% ลงช่ือ...........................................................ผปู้ ระเมิน

128 โรงเรยี นสาธติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั ฝา่ ยประถม บันทึกหลงั สอน กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/...... หนว่ ย สุขศึกษา (Health Educatiom) ภาคเรยี น ตน้ เร่ือง การรักษาความสะอาดของใช้และเครื่องแต่งกาย เวลาเรียน 1 คาบ (60 นาที) (Cleanliness) วนั ที.่ .........เดือน.................................................พ.ศ...................... เวลา....................น..-.......................น. 1. ผลการจดั การเรียนรู้ ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... 2. ปญั หาและอุปสรรค(กอ่ นสอน-ระหวา่ งสอน-หลังสอน) ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแก้ไขเพื่อใชใ้ นการสอนครง้ั ต่อไป ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ............................................................. (………………………………………………………..) ผสู้ อน

129 โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ฝ่ายประถม แผนการจดั การเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 หนว่ ย กฬี าแชรบ์ อล (Chairball) ภาคเรียน ตน้ เรื่อง ทดสอบทักษะ (Skills test), เลน่ ทีม (Play) เวลาเรยี น 1 คาบ (60 นาที) ช่ัวโมงท่ี 14 โยนแล้วตบมอื รับลูก / รบั และส่งบอลแบบอยู่กบั ที่ ชั่วโมงที่ 15 รบั และสง่ บอลแบบเคล่อื นที่ / รับและส่งบอลข้ามเชือก (10 คร้ัง) ชวั่ โมงท่ี 16 การยงิ ประตู (สอบแบบเปน็ กลุ่ม) 1 นาที ชั่วโมงท่ี 17 เล่นทมี ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 3 การเคลอื่ นไหว การออกกาลังกาย การเล่นเกม กฬี าไทย และกีฬาสากล พ 3.1: เขา้ ใจ มีทักษะในการเคล่ือนไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกฬี า พ 3.2: รักการออกกาลงั กาย การเล่นเกม และการเลน่ กีฬา ปฏบิ ตั ิเปน็ ประจาอยา่ งสมา่ เสมอ มวี ินัย เคารพ สทิ ธิ กฏกตกิ า มนี า้ ใจ มีจิตวญิ ญาณในการแข่งขัน และชืน่ ชมในสุนทรภี าพของการกีฬา สาระที่ 4 การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ สมรรถภาพและการปอ้ งกนั โรค พ 4.1: เห็นคณุ คา่ และมที ักษะในการสร้างเสริมสขุ ภาพ การดารงสขุ ภาพ การป้องกันโรคและการสรา้ ง เสรมิ สมรรถภาพเพ่ือสุขภาพ 2. ตัวช้วี ัด พ 3.1 ป.2/1: ออกกาลงั กาย และเล่นเกม ไดด้ ว้ ยตนเองอยา่ งสนกุ สนาน พ.4.1 ป.2/1: บอกลักษณะของการมีสุขภาพดี 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. นักเรยี นสามารถอธบิ ายขัน้ ตอนในการทดสอบทักษะแชรบ์ อลได้ (IQ) 2. นักเรยี นสามารถปฏบิ ตั ิตนตามขัน้ ตอนในการสอบทักษะและสามารถปฏบิ ตั ิทกั ษะการสอบได้ถกู ต้อง ตาม เกณฑ์ทีก่ าหนด (SQ) 3. นกั เรยี นสามารถแนะนาเพ่ือนใหป้ ฎิบัตติ นตามขั้นตอนในการทดสอบทักษะได้ถูกต้อง (AQ) 4. นักเรยี นสามารถรกั ษาระเบียบวนิ ยั การเข้าแถวภายในแถวของตนเองได้ (MQ,EQ)

130 5. นกั เรยี นสามารถพัฒนาสมรรถภาพด้านความคล่องตัว (Agility) ดา้ นความอดทนของระบบไหลเวียนโลหติ (circulatory endurance) และความอดทนของกลา้ มเนื้อ (Muscular Endurance) จากการเลน่ เกม (PQ) 4. สาระสาคัญ ในการเรียนวิชาพลศึกษาของนักเรียนระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 เมื่อเรียนเนื้อหาจบในภาคต้น ช่วงท่ี 1 นักเรียนจะต้องได้รับการวัดและประเมินผลการทดสอบทักษะความสามารถทางพลศึกษาและสุขศึกษาที่นักเรียนได้ เรียนไปแล้ว เพ่ือวัดระดับความสามารถ รวมถึงการทดสอบเพ่ือเก็บคะแนนอีกด้วย ดังน้ันในภาคต้น ช่วงท่ี 1นักเรียน ระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี 2 ทุกคน จะต้องได้รับการทดสอบทักษะกีฬาแชร์บอล อันได้แก่ โยนแล้วตบมือรับลูก, รับ และส่งบอลแบบอยู่กับท่ี ,รับและส่งบอลแบบเคลื่อนที่, รับและส่งบอลข้ามเชือก (10 คร้ัง), การยิงประตู (สอบแบบ เป็นกล่มุ ) 1 นาท,ี เลน่ ทมี ซึง่ ลว้ นเปน็ ทักษะพืน้ ฐานและเป็นทักษะทน่ี ักเรยี นไดร้ ับการฝกึ ฝนในช่ัวโมงเรียนทง้ั สิ้น 5. ผลการเรียนรทู้ ค่ี าดหวัง นักเรียน 80% สามารถปฏิบตั ิไดต้ ามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้และสามารถนาเอาความรไู้ ปใช้ไดอ้ ย่างคลอ่ งแคลว่ ในการเรียนการสอนรายวชิ าอื่น และชวี ติ ประจาวัน 6. กระบวนการจดั การเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้ 1.ข้นั เตรยี ม / อบอุ่นร่างกาย (10 นาท)ี - นกั เรยี นมคี วามเขา้ ใจ สาระการเรยี นรู้ 1.1 ครเู ดินไปรับนักเรยี น แลว้ พานกั เรียนไปสถานท่ี และปฎิบตั ิตามคาสัง่ ทดสอบทักษะ(Skills test), เล่นทีม (Play) เรยี น (สนาม 3) ครผู ้สู อน ช่วั โมงที่ 14 ทดสอบทักษะโยนแลว้ 1.2 ครูให้นักเรยี นวางถุงย่ามในชัน้ วางของ โดยให้ - นกั เรยี นมคี วามเปน็ ตบมือรับลูกบอลคนเดยี ว 10 ครง้ั นักเรียนชายไวแ้ ถวล่างของชั้นวาง และนกั เรียนหญงิ ระเบียบเรียบรอ้ ย 5 คะแนน วางไว้แถวบนของชน้ั วางของ ภายในแถวตามที่ - โดยใหโ้ ยนลกู ขึ้นไปแลว้ ตบมอื 3 ครง้ั 1.3 ครูให้นกั เรียนแบ่งเปน็ แถวตอนทง้ั หมด 4 แถว กาหนด แล้วรบั ลกู ให้ได้ โยนจานวน 10 ครั้ง โดยมีขัน้ ตอน ดงั น้ี - นกั เรยี นมีความ การใหค้ ะแนน ดูจากความถกู ตอ้ ง ทา พร้อมในการเรียนทั้ง ผิดลบคะแนนคร้งั ละ 0.5 = ครู = นกั เรียน ทางดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ และอารมณ์  - นักเรียนเคารพกตกิ า ภายในหอ้ งเรียน, แต่ง กายเรียบรอ้ ย

131 สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ ชัว่ โมงที่ 14 ทดสอบทักษะรับและสง่ 1.4 ครูสารวจเครื่องแต่งกายและของใช้สว่ นตวั บอลยนื อยูก่ ับท่ี 5 คะแนน 1.5 อบอนุ่ ร่างกาย (Warm – Up) ครใู หน้ กั เรียนขยาย - นั กเรียนบริ หาร -โดยใหน้ กั เรียนจบั คู่ แล้วยนื ห่างจากคู่ แถวหนงึ่ ช่วงแขนเพื่ออบอุ่นร่างกาย ร่างกายและอวัยวะ 4 เมตร ใชก้ ารสง่ บอลแบบสองมือระดับ 1.5.1 ครนู านกั เรียนยดื เหยียดกลา้ มเนอื้ 5 ท่า ต่างๆ ได้เหมาะสม อก ไม่จากัดเวลาและจานวนคร้ัง ท่าท่ี 1 หมุนหัวไหล่และแขนซ้ายและขวาไปด้านหน้า ตามวัย การให้คะแนน ดจู ากความถกู ต้อง ทา พรอ้ มกนั 10 คร้ัง ผิดลบคะแนนคร้ังละ 0.5 ทา่ ที่ 2 หมุนเอว ซ้ายและขวา ข้างละ 10 ครั้ง ชวั่ โมงที่ 15 ทดสอบทักษะรับและสง่ บอลกับคเู่ คล่ือนที่ ระยะทาง 10 เมตร 5 คะแนน - ใหน้ ักเรียนยืนทห่ี ลัก(สลบั ฟันปลา) ให้ รับและสง่ บอลกบั คู่ตามหลักที่กาหนด ทาไปและกลับไม่จากดั เวลา การให้คะแนน ดจู ากความถูกตอ้ ง ทา ทา่ ที่ 3 หมุนหวั เข่า ซา้ ยและขวา ขา้ งละ 10 ครง้ั ผดิ ลบคะแนนคร้ังละ 0.5 

132 สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ ท่าท่ี 4 บริหารลาตัว เอว และต้นขา โดยให้น่ังลงแยกขา เอาฝ่าเทา้ ประกบกันแล้วก้มตัวลง นับ 1-10  ท่าท่ี 5 บริหารลาตัวและต้นขา โดยนั่งลงแยกขา ให้ ปลายเทา้ ช้ีออกดา้ นข้างแล้วก้มตัวลง นับ 1-10  ชว่ั โมงที่ 15 ทดสอบทกั ษะรับและสง่ บอลข้ามเชือก 10 ครั้ง 10 คะแนน -นั กเรี ยน ได้ พั ฒ น า - ให้นกั เรยี นยืนห่างจากเชอื ก ที่ขงึ อยู่ 1.6 พัฒนาสมรรถภาพร่างกาย ตรงกลางระหวา่ งคูป่ ระมาณ 2 เมตร ให้ - ครใหน้ กั เรียนเล่นเกม “เปา่ ยง่ิ ฉบุ ” สมรรถภาพทางกาย รบั ส่งบอลกบั คู่ ใช้การสง่ แบบไหนกไ็ ด้ - แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มละ 3 คน โดยครูจะวางจุด ด้านความอดทนของ แตบ่ อลจะตอ้ งข้ามเชือก หา้ มสัมผัส มาร์กเกอรใ์ ห้นกั เรยี นท้ัง 3 คน ยืน ระบบไหลเวียนโลหิต จานวน 10 ครั้ง ไม่จากดั เวลา - คนที่  จะว่ิงไป“เป่าย่ิงฉุบ” คนท่ี  หากใครแพ้ และความอดทนของ การให้คะแนน ดูจากจานวนครง้ั ท่ีขา้ ม จะว่ิงไป“เป่าย่ิงฉุบ” คนที่  ทาในรูปแบบน้ีไปเรื่อยๆ กล้ามเน้ือ โดยการวิ่ง ภายในเวลา 5 นาที ในเกม “เป่ายิ่งฉบุ ” ทาผดิ ลบคะแนนคร้งั ละ 0.5 - ครูเปิดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามข้อสงสัยกอ่ นเลน่ เกม     =นกั เรยี น  = ทิศทางการว่งิ   

133 สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ ชั่วโมงท่ี 16 การยิงประตู (สอบแบบ เป็นกลุ่ม) 5 คะแนน - ให้นกั เรียนเข้าแถวตอนห่างจากคนถือ ตะกร้าประมาณ 4 เมตร ยงิ บอลให้ลง ตะกรา้ แลว้ ไปตอ่ ทา้ ยแถว การให้คะแนน ยิงให้ลงมากที่สดุ ภายใน 1 นาที แลว้ นาจานวนลกู มาหาคา่ เฉลยี่ กลุม่ ใดได้จานวนลกู เขา้ ตะกร้าตัง้ แต่ -นักเรียนฟั ง ถาม คา่ เฉล่ยี ขึน้ ไป จะได้คะแนนเต็ม แ ล ะ ต อบ ค าถาม รปู ภาพประกอบการเลน่ เกม “เปา่ ยงิ้ ฉบุ ” 2. ขนั้ อธิบายและสาธิต (10 นาท)ี แลกเป ล่ี ย น ความ 2.1 ครูอธบิ ายและช้ีแจงข้อมูลการทดสอบทกั ษะ คิดเห็นกับครูผู้สอน 2.2 ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัยก่อน ได้อยา่ งเหมาะสม ทดสอบ - นักเรียนมีความร้แู ละ เขา้ ใจจากการได้ 3. ขั้นฝึกปฏิบัติ/ทดสอบทักษะ (30 นาที) โดยมี ทดสอบทักษะและ ชว่ั โมงที่ 17 การเล่นทมี / การแขง่ ขัน รปู แบบการทดสอบดงั นี้ สามารถทาการทดสอบ ภายในระดบั ช้นั 5 คะแนน ได้ - แข่งขันทมี ภายในหอ้ งเรียนและระหว่าง ชัว่ โมงที่ 14 โยนแลว้ ตบมือรับลูก ห้องเรียน - ใหน้ กั เรยี นจบั คู่ คู่หน่ึงมีบอล 1 ใบยนื ตามจดุ ท่ีกาหนด - นักเรยี นต้องเข้าร่วมทกุ คนและทุกครงั้ - เริ่มทดสอบ โดยให้คนหนึ่งเป็นคนสอบ คนหน่งึ เป็นคน นับจานวน ให้ปฏิบัติตามกติกาของการสอบ(ศึกษาใน ตารางสาระการเรียนร้)ู สลบั กันสอบจนครบทุกคน - เม่อื ทดสอบครบทุกคนแลว้ นักเรียนท่เี ปน็ คนนับ จะแจง้ คะแนนของเพ่ือนให้ครูบันทึกคะแนนลงใน เอกสาร

134 สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลัพธก์ ารเรียนรู้  = คนนับจานวน ยนื ห่างกนั 4 เมตร           = คนทดสอบ  ช่วั โมงที่ 14 รับและสง่ บอลแบบอยกู่ บั ที่ - ให้นักเรียนจับคู่ ต่อบอล 1 ใบ ยืนเรียงเลขที่และ ตามจุดทกี่ าหนด - เร่ิมทดสอบ โดยให้นักเรียนรับส่งบอลรูปแบบท่ีถนัด เช่น สองมือระดับอก สองมือเหนือศีรษะ มือเดียวเหนือ ไหล่ ให้ปฏิบัติตามกติกาของการสอบ(ศึกษาในตาราง สาระการเรยี นรู)้ สลับกนั สอบจนครบทกุ คน - ครูจะเดนิ ให้คะแนนเมอ่ื ทดสอบครบทุกคนแลว้ นักเรียนทเ่ี ปน็ คนนบั จะแจ้งคะแนนของเพ่อื นให้ครู บนั ทึกคะแนนลงในเอกสาร  = ทิศทางการรับและ  ส่งบอล  = ทดสอบเปน็ คู่ ช่ัวโมงที่ 15 รบั และสง่ บอลแบบเคล่อื นที่ - ให้นักเรียนจับคู่ ต่อบอล 1 ใบ ยืนเรียงเลขที่และ ตามจุดทก่ี าหนด - เร่ิมทดสอบ โดยให้นักเรียนรับส่งบอลรูปแบบท่ีถนัด เช่น สองมือระดับอก สองมือเหนือศีรษะ มือเดียวเหนือ ไหล่ ให้ปฏิบัติตามกติกาของการสอบ (ศึกษาในตาราง

135 สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้) สลบั กนั สอบจนครบทกุ คน ยืนหา่ งกนั - ครูจะเดนิ ใหค้ ะแนนเมือ่ ทดสอบครบทุกคนแล้ว = จดุ หยดุ ยืน 2 เมตร นกั เรยี นทเ่ี ปน็ คนนบั จะแจง้ คะแนนของเพือ่ นใหค้ รู บนั ทกึ คะแนนลงในเอกสาร ของนกั เรยี น  = ทิศทางการ  ส่งบอล ระยะเคล่ือนท่ี 10 เมตร   = ทดสอบ เป็นคู่ ช่ัวโมงท่ี 15 รบั และส่งบอลข้ามเชอื ก (10 ครงั้ ) - ให้นักเรียนจับคู่ ต่อบอล 1 ใบ ยืนเรียงเลขท่ีและ ตามจุดท่กี าหนด - เร่ิมทดสอบ โดยให้นักเรียนรับส่งบอลรูปแบบท่ีถนัด เช่น สองมือระดับอก สองมือเหนือศีรษะ มือเดียวเหนือ ไหล่ ให้ปฏิบัติตามกติกาของการสอบ(ศึกษาในตาราง สาระการเรยี นรู้) สลับกันสอบจนครบทกุ คน - ครูจะให้สัญญาณนกหวีด 10 คร้งั ใหน้ กั เรยี นสง่ บอลข้ามเชือกคนละ 10 ลกู ทั้งสองคนจะนบั เฉพาะ ลูกที่ข้ามเชอื ก - เมื่อทาครบแล้ว ครจู ะถามจานวนลกู ทีข่ ้ามเชือกกับ   = ทดสอบ นกั เรยี น แล้วบันทกึ คะแนนลงในเอกสาร เป็นคู่  = เชอื ก  = ทศิ ทาง การส่งบอล ข้ามเชอื ก

136 สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้ ช่วั โมงที่ 16 การยงิ ประตู (สอบแบบเปน็ กลุ่ม) 1 นาที - ให้นักเรียนแบง่ กลุม่ กลุม่ ละ 4 คน เขา้ แถวตอนหา่ ง จากคนถือตะกร้าประมาณ 4 เมตร คนแรกถอื บอล - เร่ิมทดสอบ ครใู ห้สัญญาณนกหวีด ใหน้ กั เรยี นเร่มิ ยงิ บอลใหล้ งตะกรา้ แลว้ ไปต่อท้ายแถว ชว่ ยกันยิงใหล้ ง ตะกรา้ ใหม้ ากทส่ี ดุ ภายใน 1 นาที - เมื่อหมดเวลา ให้แต่ละกลุ่มบอกจานวนลูกท่ีลงตะกร้า ครูจะนาจานวนลูกมาหาค่าเฉล่ียกลุ่มใดได้จานวนลูกเข้า ตะกรา้ ต้งั แตค่ ่าเฉลย่ี ขนึ้ ไป จะได้คะแนนเตม็ ยืนหา่ งกนั 4 เมตร = ผ้ถู ือตะกร้า  = นกั เรยี น  = ทิศทางการยิง  ประตู = เขตยนื ยิง  ประตู ชั่วโมงท่ี 17 การเล่นทมี / การแขง่ ขนั ภายในระดับ - ครใู หน้ กั เรียนแบง่ ทีมเปน็ 4 ทีม ได้แก่ ทีม ชาย A ชาย B หญิง A หญงิ B ทมี ละอยา่ งน้อย 7 คน - ครแู จกเสือ้ ทีมใหน้ กั เรยี น 7 หมายเลข เบอร์ 1-7 ผเู้ ลน่ ท่เี หลอื เป็นตัวสารอง รอเปล่ียนตวั ในคร่งึ หลงั โดยขอใหน้ กั เรียนวางแผนการเปลี่ยนตัวมาล่วงหน้า - หากหมดเวลาคร่ึงหลังขอให้ดาเนินการเปลี่ยนตัว นักเรียนท่ี ออกจากการแข่งขนั ในคร่ึงแรกขอใหน้ งั่ เชยี รเ์ พอ่ื นอยู่ขา้ งสนาม - การทดสอบ ภายในหอ้ งเรยี น แขง่ ขันทมี ใหน้ ักเรียน คล้องบตั รเลขท่ีของนกั เรียนตลอดเวลาการเล่น เพื่อบันทึก คะแนนลงในเอกสาร

137 สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลัพธ์การเรียนรู้ - การทดสอบ ระหว่างหอ้ งเรียน แข่งขนั ทมี ครูจะเชค็ ชือ่ นกั เรียน กอ่ นลงทาการแขง่ ขัน และจะบนั ทกึ คะแนน ภาพรวมลงในเอกสารระหว่างการแขง่ เมื่อจบการแข่งขัน โดยนกั เรียนต้องเขา้ ร่วมทกุ คนและทุกครง้ั 4 .ข้ันนาไปใช้ ( - นาที ) - 5. ข้นั สรุปและสุขปฏิบตั ิ (10 นาที ) - นกั เรียนไดฝ้ กึ 5.1 ครสู รปุ เนอ้ื หาทีเ่ รียนในชวั่ โมง และถามคาถาม ประมวลความคดิ รวบ เกยี่ วกับการทดสอบกฬี าแชร์บอล ยอดอกี ครั้งหลังจาก 5.1.1 ถ้าต้องการส่งบอลข้ามเชือก ควรใช้การส่ง เรยี นโดยการแลกเปล่ียน บอลแบบใด การถามและตอบกับ แนวคาตอบ : สง่ บอลสองมอื เหนือศรี ษะ ครผู ู้สอน 5.1.2 ในการเล่นทีมผู้เล่นที่มีหน้าที่ยิงประตู คือ - นกั เรียนรู้จกั การ ผ้เู ล่นหมายเลขอะไร ดูแลรักษาความสะอาด แนวคาตอบ : หมายเลข 4-5-6 อวัยวะต่างๆ ของ 5.2 ครูกล่าวชมเชยนักเรียนท่ีมีความตั้งใจและให้ ร่างกายตนเอง ความสนใจในการทดสอบทักษะในชั่วโมงเรยี น หลังจากเล่นกฬี า 5.3 ครูให้นักเรียนไปล้างหน้า ล้างมือ ด่ืมน้า และ -นักเรยี นไดฝ้ ึกความ กลับมาเข้าแถว รบั ผิดชอบในการ 5.4 ครูสารวจอุปกรณ์และของใช้ส่วนตัวของ ตรวจ สอบและ นักเรยี น แกไ้ ขในเร่ืองของ 5.5 ครูให้นักเรียนบันทึกหัวข้อเรื่องที่เรียนใน การนาของใชม้ า ช่ัวโมงนี้ลงในหนังสือเรียนหน้า 52 (อาจมีการ โรงเรยี น เปลย่ี นแปลง) 5.6 ครปู ล่อยเลิกแถว 5.7 ครพู านกั เรยี นเดินแถวกลบั ห้องเรียน

138 7. สื่อการสอน/แหล่งการเรยี นรู้ - สอื่ การสอน นกหวีด หนังสอื เรยี นวิชาสขุ ศกึ ษา กรวย แผ่นยางมาร์กเกอร์ Whistle และพลศึกษา ป..2 เลม่ 1 Cones Markers A Book กระดานไวทบ์ อรด์ ปากกาไวท์บอร์ด แปรงลบ โปสเตอร์ /POWERPOINT White board Whiteboard pen กระดานไวท์บอร์ด เรื่องทีส่ อนในช่วั โมง Whiteboard eraser poster/Image media นาฬิกาจบั เวลา กรวยทรงสงู เชือก เกา้ อแี้ ชร์บอล Stopwatch Cone Rope A Chair ลกู วอลเลย่ ์บอล ตะกรา้ เสือ้ ทีม A Volleyball A Basket Sports bib

139 - แหลง่ การเรียนรู้ เกรียงไกร อนิ ทรชยั . 2559. สขุ ศึกษาและพลศึกษา ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 2. พิมพ์คร้ังที่ 1. กรงุ เทพมหานคร: ไซเบอร์พร้ินท์กร๊ปุ จากดั . ณัฐพร สดุ ดี. 2561. เทคนิคการสอนเกมมลู ฐาน. กรุงเทพมหานคร: คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. (อัดสาเนา) ถาวร วรรณศริ .ิ 2551. สขุ ศึกษาและพลศึกษา : ฟตุ บอล ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5-6. พิมพ์ครั้งท่ี 1. กรุงเทพมหานคร: ไซเบอรพ์ ร้ินท์กรปุ๊ จากัด. สรุ เชษฐ์ วศิ วธีรานนท์. 2561. กีฬาแชร์บอลและทักษะการเคล่อื นไหวข้ันพ้นื ฐาน ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 2 เลม่ 1. พิมพ์คร้ังท่ี 1. กรุงเทพมหานคร: ไซเบอร์พร้นิ ท์กรปุ๊ จากดั . 8. คาศัพทภ์ าษาอังกฤษ ความหมาย ทดสอบทักษะ, เล่นทีม ลาดับ คาศัพท์ภาษาอังกฤษ นาฬิกาจบั เวลา 1 Skills test, Play นกหวดี 2 Stopwatch หนงั สอื เรยี น 3 Whistle กรวย 4 Book แผน่ ยางมารก์ เกอร์ 5 Cone กระดานไวทบ์ อรด์ 6 Marker ปากกาไวท์บอร์ด 7 White board แปรงลบกระดานไวท์บอร์ด 8 Whiteboard pen โปสเตอร์ / POWERPOINTเรอื่ งท่ีสอนในชวั่ โมง 9 Whiteboard eraser 10 Poster/Image media 9. การวัดและประเมินผล ลาดับที่ เรอ่ื ง เคร่ืองมือ แบบสังเกต 1 สังเกตความสนใจและการมีส่วนร่วมตลอดช้ันเรียน แบบตรวจสอบ 2 สารวจเคร่ืองแต่งกายและบกั ทกึ ขอ้ มลู เรื่องความรับผิดชอบและขอ้ มลู แบบสงั เกต สุขปฏบิ ตั ิ 3 สงั เกตการตอบคาถามก่อน-ระหว่าง-หลังการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

140 สาธิตจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝา่ ยประถม แบบประเมินความสนใจ การมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรม และผลสาเรจ็ ของการฝกึ ทักษะและการนาไปใช้ วันท่ี ............/........../.......... เวลา........................น. ภาค............. ปกี ารศกึ ษา............................. หน่วยการเรียนร้.ู ..................................... เรื่อง...................................................................ระดบั ช้นั ............................. ระดับ 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรุง/เพ่ิมเตมิ ) PQ สมรรถภาพ นกั เรียน 80% ขน้ึ ไป ฝึกทักษะหรือเลน่ นกั เรยี น 60%-80% ฝกึ ทักษะหรือเลน่ นักเรียนน้อยกว่า60%ฝึกทักษะหรอื เลน่ ทางกาย เกมเพ่ือพัฒนาสมรรถภาพโดยไม่เหนอื่ ย เกมเพ่อื พฒั นาสมรรถภาพโดยไมเ่ หนอ่ื ย เกมเพอื่ พฒั นาสมรรถภาพโดยไมเ่ หนอ่ื ย MQ คณุ ธรรม นักเรยี น 80% ข้ึนไปให้ความร่วมมอื นกั เรยี น 60%-80%ใหค้ วามรว่ มมอื นักเรียนนอ้ ยกวา่ 60%ใหค้ วาม จริยธรรม กับครูในการจัดกจิ กรรมเป็นอย่างดี กบั ครูในการจัดกจิ กรรมเป็นอยา่ งดี รว่ มมอื กับครูในการจัดกิจกรรมเปน็ ยอมรับการเป็นผ้นู า ผู้ตามทีด่ ี เชอื่ ยอมรับการเป็นผ้นู า ผ้ตู ามทดี่ ี เชอื่ อยา่ งดี ยอมรบั การเปน็ ผ้นู า ผู้ตามที่ ฟงั ครู ฟงั ครู ดี เชือ่ ฟังครู นกั เรยี น 80% ขนึ้ ไปมีความกระตือรอื ร้น นั ก เรี ย น 60% -80% มี มี ค วาม นักเรียน น้อยกว่า 60% มี ความ แตง่ กายเรยี บร้อยพร้อมทจ่ี ะเรยี น กระตือรือร้น แต่งกายเรียบร้อยพร้อม กระตือรือร้น แต่งกายเรียบร้อยพร้อม AQ เจตคติ ชว่ ยเหลือและแนะนาเพอ่ื นให้ปฎบิ ตั ิ ท่ีจะเรียนช่วยเหลือและแนะนาเพ่ือน ท่ีจะเรียนช่วยเหลือและแนะนาเพื่อน ระเบียบวินยั ในห้องเรียนได้ ใหป้ ฎบิ ัตริ ะเบยี บวนิ ัยในห้องเรยี นได้ ใหป้ ฎิบัติระเบียบวนิ ัยในห้องเรียนได้ IQ ความรู้ นักเรยี น 80% ข้ึนไปสามารถอธบิ าย นกั เรียน 60%-80% สามารถอธิบาย นักเรียนน้อยกว่า 60% สามารถ ความเขา้ ใจ เน้อื หาท่ีเรียนไปได้อย่างครบถ้วนและ เนือ้ หาทเี่ รียนไปไดอ้ ย่างครบถ้วนและ อธิบายเน้ือหาท่ีเรียนไปได้อย่าง ถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ครบถว้ นและถกู ตอ้ ง นกั เรียน 80% ขึ้นไปสามารถปฏบิ ตั ิ นกั เรียน 60%-80% สามารถปฏบิ ตั ิ นักเรียนน้อยกว่า 60% สามารถ SQ ทักษะ ทักษะทท่ี ดสอบในช่วั โมงได้อย่าง ทักษะทท่ี ดสอบในชัว่ โมงไดอ้ ยา่ ง ปฏิบัติทักษะที่ทดสอบในช่ัวโมงได้ ครบถว้ นและถูกต้องได้ ครบถว้ นและถูกต้องได้ อยา่ งครบถว้ นและถกู ต้องได้ ระดบั คุณภาพ ระดบั 3 หมายถึง จานวนนักเรยี น 80% ข้ึนไป ระดบั 2 หมายถึง จานวนนกั เรยี น 60-80% ระดบั 1 หมายถงึ จานวนนักเรยี นอ้ ยกวา่ 60% ลงชอื่ ...........................................................ผูป้ ระเมนิ

141 โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝา่ ยประถม บนั ทึกหลงั สอน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 2/...... หน่วย กีฬาแชรบ์ อล ภาคเรียน ตน้ เร่ือง ทดสอบทักษะ (Skills test), เลน่ ทีม (Play) เวลาเรียน 1 คาบ (60 นาท)ี ชัว่ โมงที่ 14 โยนแลว้ ตบมือรับลกู / รบั และสง่ บอลแบบอยู่กบั ท่ี ชั่วโมงที่ 15 รับและส่งบอลแบบเคลอ่ื นที่ / รับและสง่ บอลข้ามเชอื ก (10 คร้ัง) ชวั่ โมงท่ี 16 การยงิ ประตู (สอบแบบเป็นกลมุ่ ) 1 นาที ช่ัวโมงที่ 17 เลน่ ทีม 1. ผลการจดั การเรียนรู้ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ 2. ปัญหาและอุปสรรค(ก่อนสอน-ระหวา่ งสอน-หลังสอน) ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ 3. แนวทางการแก้ไขเพือ่ ใชใ้ นการสอนคร้งั ต่อไป ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ...................................................... (………………………………………………………..) ผ้สู อน

142 โรงเรยี นสาธติ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ฝ่ายประถม แผนการจัดการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 2 หนว่ ย กฬี าแชร์บอล (Chairball), สขุ ศึกษา (Health Education) ภาคเรยี น ตน้ เรอื่ ง สอบข้อเขียนแชร์บอลและสุขศึกษา (Subjective test) เวลาเรยี น 1 คาบ (60 นาท)ี ใบงานวชิ าสขุ ศกึ ษา (Worksheet) ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 3 การเคลื่อนไหว การออกกาลงั กาย การเล่นเกม กฬี าไทย และกีฬาสากล พ 3.1: เข้าใจ มีทกั ษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา สาระท่ี 4 การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค พ 4.1: เห็นคุณค่าและมีทักษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดารงสุขภาพ การปอ้ งกนั โรคและการสรา้ ง เสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ 2. ตัวชีว้ ัด พ 4.1 ป.2/1: บอกลกั ษณะของการมสี ุขภาพดี 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 นักเรียนสามารถอธบิ ายทกั ษะกีฬาแชรบ์ อลได้ถูกตอ้ ง (IQ) 3.2 นกั เรียนสามารถอธบิ ายเรือ่ งสุขปฏิบัติและการรักษาความสะอาดของใชแ้ ละเครื่องแต่งกายได้ถูกต้อง (IQ) 3.3 นกั เรียนรคู้ ุณค่าของการเลน่ กฬี าแชร์บอล การปฏิบัติตนตามสขุ ปฏิบตั ิและการรักษาความสะอาดของใช้ และเคร่ืองแต่งกายอยา่ งถูกวิธี (AQ) 3.4 นักเรยี นสามารถแสดงความซอื่ สัตย์ สจุ ริตในการทาข้อสอบพลศึกษาและสุขศึกษา ปฏิบัติตามข้อตกลงใน การสอบเรยี นได้ (MQ)

143 4. สาระสาคัญ การสอบข้อเขียนวชิ าพลศกึ ษา เรือ่ ง แชร์บอล วชิ าสขุ ศกึ ษา เรือ่ ง สขุ ปฏิบัติ การรักษาความสะอาดของใช้ และเคร่ืองแต่งกาย และการทาใบงานวิชาสขุ ศึกษา เรือ่ ง สขุ ปฏิบตั ิ การรักษาความสะอาดของใชแ้ ละเครอ่ื งแตง่ กาย เปน็ สว่ นหน่ึงของการวัดและประเมนิ ผลความรู้ที่ไดเ้ รียนมาในวิชาพลศกึ ษาและสุขศึกษา เพื่อใช้ประเมินความรูข้ อง นักเรยี นระดับช้นั ป.2 ภาคตน้ ชว่ งที่ 1 5. ผลการเรยี นรทู้ ีค่ าดหวัง นักเรียน 80% สามารถทาสอบข้อเขียนวชิ าพบศึกษาและวชิ าสขุ ศึกษาได้ผ่านเกณฑ์และมีความซ่ือสัตย์ สุจริต ในการทาขอ้ สอบ 6. กระบวนการจดั การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรยี นรู้ สอบข้อเขียนพลศกึ ษาและสุขศึกษา 1.ข้ันนา (10 นาท)ี (Subjective test) ใบงานวิชาสขุ ศึกษา 1.1 ครแู จง้ ข้อตกลงในการสอบและทาใบงาน - นกั เรยี นไดร้ ับทราบ (Worksheet) โดยใหน้ ักเรียน ข้อตกลงของการสอบ ขอ้ เขยี นพลศึกษาและสุขศึกษา - นัง่ แยกโตะ๊ หา่ งกนั ขอ้ เขยี น และทาใบ (Subjective test) ประกอบดว้ ย - อุปกรณ์ในการสอบ ประกอบดว้ ย งาน เรียนรทู้ ีจ่ ะ 1. ขอ้ สอบปรนัยวิชาพลศึกษา- กีฬา ดินสอ ยางลบ ไม้บรรทดั และสไี มห้ รือเมจกิ ปฏบิ ตั ติ ามกติกาได้ แชรบ์ อล จานวน 10 ข้อ ข้อละ 1 - ไม่ใหล้ ุกจากทน่ี ่ังหากไม่มีความจาเปน็ คะแนน เชน่ การเขา้ ห้องนาต้องขออนุญาต 2. ขอ้ สอบปรนยั วชิ าสุขศึกษา- เรอื่ งสขุ ปฏิบตั ิ 1.2 ครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า “วันนีเราจะ และการรักษาความสะอาดของใชแ้ ละเคร่อื ง ทาการสอบข้อเขียนและทาใบงานเพื่อเก็บ แต่งกาย จานวน 10 ข้อ ขอ้ ละ 1 คะแนน คะแนนของการเรียนช่วงท่ี 1 ภาคต้น กีฬา แชร์บอล และเก็บคะแนนการเรียนสุขศึกษา เกณฑ์การประเมิน เร่ือง สุขปฏิบัติ และการรักษาความสะอาด - คะแนนตา่ กว่าร้อยละ 50 : ไมผ่ ่านการ ของใชแ้ ละเครอื่ งแตง่ กาย” ทดสอบ ตอ้ งสอบแก้ตวั 1.3 ครเู ปิดโอกาสให้นกั เรยี นซกั ถามข้อสงสัยอกี ครัง - คะแนนสงู กวา่ รอ้ ยละ 49 : ผา่ นการ 1.4 ครูเร่มิ แจกกระดาษคาตอบทีละแถว จาก ทดสอบ หวั แถวไปจนถึงคนสดุ ทา้ ยของแถว นักเรยี น คนไหนที่ไดก้ ระดาษคาตอบแลว้ ให้เขยี นชอ่ื ชัน้ เลขที่ ของตนเองใหช้ ดั เจน