294 สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ 2.ขน้ั ทดสอบข้อเขียน (40 นาที) - นักเรยี นทาข้อสอบ 2.1 ครูชีแ้ จงรายละเอยี ดการสอบพลศึกษา และทาใบงานได้ตาม สขุ ศกึ ษา และใบงานสขุ ศึกษา ข้อตกลงของกติกา - จานวนข้อ - ขน้ั ตอนวิธกี ารทาข้อสอบ การสอบ - ตรวจสอบการเขยี นช่อื ช้ัน เลขท่ใี ส่ กระดาษคาตอบ - ระยะเวลาในการสอบ วชิ าละ 20 นาที รวม 20 นาที - ระยะเวลาในการทาใบงานสขุ ศกึ ษา 10 นาที 2.2 ครใู หน้ ักเรียนชักถามหากมีข้อสงสัย 2.3 ครใู หน้ ักเรยี นเร่ิมทาข้อสอบและใบงาน 2.4 ครคู วบคุมการสอบ และเรยี กเกบ็ ข้อสอบ และการดาษคาตอบตามเลขท่ี เพอ่ื ความเป็น ระเบียบเรยี บรอ้ ย 3.ขั้นสรปุ (10 นาที) - นกั เรยี นได้ฝึกประมวล 3.1 ครสู รปุ เน้ือหาการเรียนวิชาพลศึกษา ช่วงที่ 2 ความคิดรวบยอดอกี ครั้ง ภาคตน้ ทีผ่ ่านมา หลังการสอบโดย 3.2 ครูอธบิ ายถงึ การเรยี นวิชาพลศกึ ษาในชว่ งที่ 2 แลกเปลย่ี นการถามและ ของภาคปลายให้นักเรยี นฟงั โดยคร่าว ตอบกับครูผู้สอน 3.3 ครนู ดั หมายการเรยี นการสอนกบั นกั เรยี นใน คาบเรียนต่อไป 3.4 ครูพานกั เรียนกลับห้องเรียน
295 7. สอื่ การสอน/แหลง่ การเรียนรู้ - ส่อื การสอน ข้อสอบพลศึกษาและสุขศึกษา ใบงานสุขศกึ ษา 8. คาศัพทภ์ าษาอังกฤษ ความหมาย สุขศึกษา ลาดบั คาศพั ท์ภาษาอังกฤษ ทักษะการเคล่อื นไหวข้ันพื้นฐาน 1 Health Education สอบข้อเขียน 2 Basic Movment Skills ใบงาน 3 Subjective test 4 Worksheet
296 โรงเรยี นสาธติ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั ฝ่ายประถม บนั ทกึ หลงั สอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 2/...... หนว่ ย ทกั ษะการเคลื่อนไหวข้ันพื้นฐาน(Basic Movement Skills), ภาคเรียน ปลาย สขุ ศกึ ษา (Health Education) เรอื่ ง สอบข้อเขยี นสขุ ศกึ ษาและพลศึกษา (Subjective test) เวลาเรียน 1 คาบ (60 นาที) ใบงานวชิ าสขุ ศึกษา (Worksheet) วันท่ี..........เดอื น.................................................พ.ศ...................... เวลา....................น.-.......................น. 1. ผลการจดั การเรยี นรู้ ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... 2. ปัญหาและอปุ สรรค (ก่อนสอน-ระหว่างสอน-หลังสอน) ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแก้ไขเพอ่ื ใชใ้ นการสอนครั้งต่อไป ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... ….................................................................................................................................................................................................................... .…………....................................................... (………………………………………………………..) ผ้สู อน
297 โรงเรียนสาธติ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ฝ่ายประถม แผนการจดั การเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2 หนว่ ย กจิ กรรมเนื่องในสัปดาหแ์ สนสนุกสขุ หรรษา ภาคเรยี น ปลาย เร่อื ง การละเล่นพ้ืนเมอื งไทย (Thai Traditional Games) เวลาเรียน 1 คาบ (60 นาท)ี - ต่ีจบั - เตย - การละเล่นโพงพาง - กระต่ายขาเดยี ว - การละเล่นโคง้ ตีนเกวียน - กระโดดเชือก --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 3 การเคลื่อนไหว การออกกาลังกาย การเลน่ เกม กีฬาไทย และกีฬาสากล พ 3.1: เข้าใจ มีทักษะในการเคล่ือนไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกฬี า 2. ตวั ชว้ี ัด พ.3.1 ป.2/1 ควบคุมการเคลือ่ นไหวร่างกาย ขณะอยู่กับท่ี เคลือ่ นท่ี และใช้อปุ กรณ์ประกอบ พ.3.1 ป.2/2 เล่มเกมเบ็ดเตล็ดและเข้าร่วมกิจกรรมทางกายที่วิธเี ลน่ อาศัยการเคล่อื นไหวเบอื้ งต้นทง้ั แบบอยกู่ ับท่ี เคล่ือนที่ และใชอ้ ุปกรณ์ประกอบ 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 นกั เรยี นสามารถอธบิ ายการละเล่นพ้ืนเมืองไทย คือ ต่ีจับ เตย การละเลน่ โพงพาง กระตา่ ยขาเดียว - การละเลน่ โคง้ ตีนเกวยี น กระโดดเชอื กได้ถกู ต้องอย่างน้อย 80% ของจานวนนักเรียนทง้ั หมด (SQ) 3.2 นกั เรียนสามารถปฏบิ ัติทกั ษะการละเลน่ พนื้ เมืองไทย คือ ตจ่ี ับ เตย การละเลน่ โพงพาง กระต่ายขาเดียว - การละเลน่ โค้งตนี เกวยี น กระโดดเชอื กไดถ้ กู ต้องอย่างน้อย 80% ของจานวนนกั เรยี นทัง้ หมด (SQ) 3.3 นกั เรยี นสามารถพฒั นาสมรรถภาพด้านความอดทนของระบบไหลเวียนโลหิต (Cardiorespiratory Endurance) ความอดทนของกล้ามเน้ือขา (Muscular Endurance) ความเรว็ (Speed) และความ คลอ่ งแคล่ววอ่ งไว (Agility) จากการเลน่ เกมและการฝึกปฏิบัติ (PQ) 3.4 นักเรยี นมคี วามสนุกสนานจากการเล่นเกมการแขง่ ขันและการเล่นเกมการละเลน่ พนื้ เมืองไทย (AQ) 3.5 นกั เรียนสามารถเขา้ แถวอย่างเปน็ ระเบยี บ แต่งกายเรยี บร้อย พดู จาสุภาพ (MQ) 4. สาระสาคัญ การละเลน่ พืน้ เมืองไทย (Thai Traditional Games) คือ การละเล่นทแี่ สดงเอกลักษณ์ของท้องถนิ่ ที่มีอยู่ ทัว่ ทุกภาคของประเทศไทย โดยสามารถแบ่งตามการละเล่นแต่ละภาค ได้แก่ การละเลน่ ภาคกลาง การละเลน่ ภาค ตะวันออก การละเล่นภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือหรอื ภาคอสี าน ความแตกต่างของการละเล่นจะปรากฏใน ลักษณะ ท่าทางการร่ายรา คาร้อง ดนตรี และการแต่งกาย การละเล่นเป็นกิจกรรมบันเทิงที่แฝงไว้ด้วยสัญลักษณ์ อันเนื่องด้วยวัฒนธรรมและประเพณี สะท้อนวิถีชีวิตและความ
298 เช่ือของสังคมท่ีสืบทอดมาแต่โบราณ การละเล่นบางอย่างของแต่ละภาคอาจได้รับอิทธิพลจากประเทศเพ่ือนบ้านที่อยู่ ใกลเ้ คียงทีม่ ีพรมแดนตดิ ต่อหรือใกล้เคยี งกันกัน เช่น ประเทศลาว กัมพูชา พมา่ จนี อินโดนีเซีย มาเลเซยี เปน็ ต้น 5. ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง นักเรียน 80% สามารถปฏบิ ัติไดต้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้และสามารถนาเอาความรูไ้ ปใช้ได้อยา่ ง คลอ่ งแคล่วในการเรยี นการสอนรายวชิ าอืน่ และชวี ิตประจาวัน 6. กระบวนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ การละเล่นพน้ื เมืองไทย (Thai Traditional 1.ขนั้ เตรียม / อบอ่นุ รา่ งกาย (10 นาท)ี Games) 1.1 ครเู ดนิ ไปรับนักเรียน แลว้ พานักเรียนไป - นักเรยี นมีความเปน็ ประวตั ิความเป็นมา สถานทีเ่ รียน (สนาม 3) ระเบยี บเรยี บรอ้ ย กีฬาพื้นเมืองไทยเป็นกิจกรรมที่มีการ 1.2 ครูให้นกั เรียนวางถุงยา่ มในชนั้ วางของ ภายในแถวตามท่ี โดยใหน้ ักเรยี นชายไว้แถวลา่ งของช้นั วาง และ กาหนด เล่นสืบทอดต่อกันมาแต่สมัยโบราณต้ังแต่ สมยั กรุงสโุ ขทัย การเลน่ กีฬาพน้ื เมืองไทย นักเรียนหญงิ วางไวแ้ ถวบนของชนั้ วางของ - นกั เรียนเคารพกติกา สมยั กรุงสโุ ขทัย มีจดุ มุ่งหมายเพื่อ 1.3 ครูใหน้ ักเรียนเข้าแถว 4 แถว ภายในห้องเรยี นแตง่ ฝึกฝนการต่อสู้ป้องกันตัวทั้งในลกั ษณะมือ กายเรยี บร้อย เปลา่ และการใช้อาวุธโบราณ เปน็ การเตรียม - นกั เรียนมีความ พร้อมสาหรับการสงครามนอกจากน้ี ยงั พร้อมในการเรยี นท้ัง เล่นเพอ่ื เปน็ การสนกุ สนานรนื่ เริงในงาน ทางดา้ นร่างกาย จติ ใจ ประเพณีต่างๆ โอกาสทีเ่ ล่นมักเปน็ การ และอารมณ์ สมโภชงานพระราชพธิ ีตา่ งๆ และเล่นใน ยามว่างจากงานสมยั กรงุ สโุ ขทยั = ครู = นกั เรียน สมัยกรุงศรีอยุธยา จุดมุ่งหมายในการ เล่นยังคงเป็นการเล่นเพ่ือฝึกฝนการต่อสู้ 1.4 ครสู ารวจเคร่อื งแต่งกายและของใชส้ ว่ นตัว - นกั เรียนบริหารร่างกาย ปอ้ งกนั ตัว เตรียมพร้อมไวใ้ นสงคราม เล่น 1.5 อบอนุ่ ร่างกาย (Warm – Up) ครูให้ และอวยั วะตา่ งๆ ได้ เพ่ือความสนุกสนานรื่นเริงและความ นกั เรยี น ขยายแถวหนง่ึ ช่วงแขนเพ่ืออบอุน่ เหมาะสมตามวัย สามัคคีในงานเทศกาลและงานประเพณี รา่ งกาย ต่างๆ และเล่นเพื่อความเพลิดเพลินใน 1.5.1 ครนู านักเรียนยดื เหยียดกล้ามเนื้อ 5 ท่า ยามว่างงานโอกาสที่เล่นมักเล่นเป็นการ ฉลองในงานพระราชพิธตี ่างๆ สมัยกรุงธนบุรี ช่วงระยะเวลาสั้นมาก การเลน่ กีฬาพื้นเมอื งไทยเป็นการเลน่ ท่ีสืบ
299 สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรยี นรู้ ทอดมาจากสมัยกรุงศรีอยุธยาจึงไม่มีอะไร ท่าที่ 1 ทา่ ยืดกลา้ มเน้ือเนือ้ หัวไหล่ ข้างซ้าย เปลย่ี นแปลงไปจากเดมิ และขวา สลับข้างละ 10 วนิ าที สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นสมัยท่ีมี พัฒนา การเล่นกีฬาพื้นเมืองไทยอย่าง แท้จริง เพราะกีฬาพื้นเมืองไทยนิยมเล่น กนั ทั้งประเทศ จดุ มุ่งหมายในการเลน่ กฬี า พื้นเมืองไทยช่วงนี้มิได้มุ่งเน้นที่การต่อสู้ ป้องกันตัวเพ่ือการสงครามแต่มุ่งเน้นเพื่อ เป็นการเล่นออกกาลังกาย เพ่ือความ สนุกสนานเพลิดเพลินและเพื่อผ่อนคลาย ทา่ ที่ 2 ท่ายดื กลา้ มเนอื้ ด้านหลังส่วนบน ความตึงเครียดจากงานเป็นสาคัญ โอกาส ค้างไว้ 10 วนิ าที ที่เล่นในช่วงน้ีมักเล่นในงานเทศกาลตาม ประเพณีของชาวบ้านโดยทั่วไปแทบทุกจังหวัด เช่น เล่นในงานเทศกาล ตรุษสงกรานต์ งาน บญุ ตา่ งๆ งานประจาปี ความสาคัญการละเลน่ พื้นบา้ นไทย 1. เสริมสร้างสขุ ภาพใหส้ มบรู ณ์ ใช้สายตา ทา่ ที่ 3 ทา่ ยดื กลา้ มเนอ้ื ต้นขาด้านหนา้ ขา้ ง สังเกต ทักษะในการเคลื่อนไหวอวยั วะ ซ้ายและขวา สลับข้างละ 10 วินาที 2. ส่งเสริมความเจริญทางด้านจิตใจ โดย ปลูกฝังให้มีคุณธรรม อันจาเป็นแก่การ เป็นพลเมอื งทด่ี ี 3. ฝกึ ให้ใชค้ วามคิด ฝึกให้มไี หวพริบ 4. ฝึกให้เป็นผู้มีระเบียบวินัย มีความ รบั ผดิ ชอบ มีความสามคั คใี นหมูค่ ณะ ท่าที่ 4 ท่ายืดกล้ามต้นขาด้านหลัง ค้างไว้ 5. คณุ ค่าดา้ นภาษาท้งั ในแงข่ องวรรณศิลป์ และในแง่ของการส่ือสาร 10 วินาที คุ ณ ค่ า แ ล ะป ร ะโย ช น์ ข อ งก า ร ล ะเล่ น แบบไทย 1. ด้านร่างกาย การเคล่ือนไหวอวัยวะส่วน ต่างๆ ซึ่งนอกจากจะเป็นการฝึกการใช้ กลา้ มเนือ้ แลว้ ยังทาใหไ้ ด้ออกกาลังกายดว้ ย
300 สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลลัพธก์ ารเรียนรู้ 2. ด้านอารมณ์ จะช่วยให้เด็กอารมณ์ดี ทา่ ที่ 5 วิง่ รอบสนาม 2 รอบ (200 เมตร) เบิกบาน สดช่ืน กระฉับกระเฉง สนุกสนาน คลายเครียด 3. ด้านสังคม ช่วยให้เรียนรู้ถึงความ สามัคคี ฝึกการเป็นผู้นาผู้ตาม ฝึกการ ยอมรับข้อตกลงและเคารพกฎกติกาใน การเล่น รวมท้ังฝึกการมีน้าใจเป็นนักกีฬา ใหร้ ู้จักร้แู พ-้ รู้ชนะ-รู้อภัย 1.6 ขนั้ พฒั นาสมรรถภาพทางกาย - นักเรียนมีพัฒ นา 4. ด้านสติปัญญา ฝึกใหร้ ู้จักวางแผนและ 1.ครูให้นักเรียนทาแบบฝึก “วิ่งแตะเส้น” สมรรถภาพทางกาย ใช้ความคิดในการแกไ้ ขปัญหา - ให้นักเรียนเข้าแถวหน้ากระดาน ครูจะ ในด้านความอดทน กาหนดเส้นในการใหน้ ักเรียนวง่ิ ไปแตะ 5 เส้น ของระบบไหลเวียน เกมการละเลน่ พ้ืนบ้าน (ให้วิ่งไปแตะเส้นที่ 1 แลว้ กลับมายงั จุดเรม่ิ ต้น โล หิ ต แ ล ะ ร ะ บ บ 1. ตี่จบั (ภาคกลาง) ทาจนครบทัง้ 5 เส้น) หายใจ ความคล่อง วธิ ีการเล่น แ ค ล่ ว ว่ อ ง ไว แ ล ะ - โดยมีการแบ่งเป็นทีมรุก และทีมรับ ทีมท่ี 1 2 3 4 5 ความเร็ว รับจะอยู่ในเขตวงกลมที่ครูกาหนดให้ ทีมที่ = เส้นเรม่ิ เป็นฝ่ายรุกจะอยู่นอกเขต ฝ่ายรุกจะต้อง = เสน้ แตะ 1 เปล่งเสียงคาว่า “ต่ี” เสียงจะต้องไม่ขาด ถ้า = เสน้ แตะ 2 ผ้เู ลน่ เสยี งขาดหาย ใหว้ ิ่งมาเปลี่ยนตวั ทันที = เส้นแตะ 3 = เสน้ แตะ 4 = เสน้ แตะ 5 จุดเร่มิ ตน้ = ผู้ทดสอบ ภาพการละเลน่ ต่ีจบั 2. ขั้นอธบิ ายและสาธิต (10นาท)ี -นักเรยี นฟัง ถามและ 2.1 ครถู ามคาถามนักเรียนว่า ตอบคาถามแลกเปล่ียน ความคิดเห็ นกับครู 2.1.1 นกั เรยี นคนใดรู้จกั เกมการละเลน่ ผูส้ อนไดอ้ ย่างเหมาะสม พน้ื บา้ นของภาคเหนือและภาคกลางบา้ ง มี นกั เรยี นคนใดเคยเลน่ มาก่อน แนวคาตอบ : มหี ลากหลาย จะเปิดโอกาสให้ นกั เรียนตอบหลายๆ คน
301 สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้ รปู แบบการเล่นเกมต่ีจบั 2.2 ครูอธิบายความรู้ทัว่ ไปเกี่ยวกับเกม การละเล่นของไทย เขตเชลย ฝ่ายรุก - ประวัติความเปน็ มาและความสาคัญ - ประโยชนแ์ ละคุณค่าของเกมการละเล่น ฝ่ายรับ ของไทยพรอ้ มมีภาพประกอบ 2.3 จากนั้นครูบอกช่ือเกมที่จะเล่น และ เขเขตตเชเชลลยย อธิบายวิธีการเล่น พร้อมกับสาธิตวิธีการเล่น ให้นักเรียนดู ได้แก่ ต่ีจับ เตย การละเล่น ฝ่ายรุกเปลง่ เสียง โพงพาง กระต่ายขาเดียว การละเล่นโค้งตีน ดังๆยาวๆว่า “ต”่ี เกวยี น กระโดดเชือก 2.4 ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซกั ถาม ในสงิ่ ที่ ครูอธิบายและนกั เรียนไม่เข้าใจ ให้นกั เรยี นยก มอื ขึ้นแล้วถามถาม 2. เตย (ภาคกลาง) 3.ขั้นการฝกึ หดั ทกั ษะ/ ขัน้ นาไปใช้ - นักเรียนไดฝ้ กึ ทักษะ วธิ ีการเลน่ (30 นาที) ทไี่ ด้เรยี นจนเกิดความ - แบ่งทีมเหมือนกับในเกมแรก และ 3.1 ครนู านกั เรียนฝกึ เล่นเกมการละเล่นพ้นื เมือง ชานาญ (SQ) สลับกันให้เป็นทีมรุกทีมรับ เกมเตยจะมี 2 เกม คือ 1) ต่จี ับ 2) เตย 3) การละเล่นโพงพาง การแบ่งเขตแดนเป็นด่าน ให้ทีมรับยืน 4) กระต่ายขาเดยี ว 5) การละเลน่ โคง้ ตนี เกวียน - นักเรยี นสนกุ สนาน ประจาอยู่ท่ีเขตของตนเอง ทั้งสองขา 6) กระโดดเชอื ก ในการเล่นอย่างนอ้ ย ห้ามออกนอกเส้น ส่วนทีมรุก จะอยู่ท่ี - เลน่ ทกุ เกมการละเลน่ 80% ของจานวน จุดเริ่มต้น เมื่อได้ยินสัญญาณนกหวีด ให้ 3.2 ครูใหค้ าแนะนาในกติกาการเล่น และรว่ ม นกั เรียนท้ังหมด ทีมฝ่ายรุกพยายามวิ่งผ่านด่าน ทีมฝ่ายรับ เล่นกับนักเรยี น ไปใหไ้ ด้ อยา่ ใหผ้ ้เู ลน่ แตะถูกตวั ตนเองได้ 3.3 กาหนดเวลา 25 นาที เม่ือหมดเวลา ครู จะสรปุ ผลการเล่นพร้อมข้อเสนอแนะในการ ภาพการละเลน่ เตย เลน่ และเปิดโอกาสให้นกั เรียนซกั ถาม - นกั เรียนได้ฝึก ประมวลความคดิ รวบ 5. ขนั้ สรปุ และสุขปฏบิ ตั ิ (10 นาที) ยอดอีกคร้งั หลังจาก 5.1 ครูให้นักเรียนกลับมาเขา้ แถวตามกลุ่ม เรยี น - นักเรยี นฟัง ถาม หลังจากนน้ั ครูสรุปเนอื้ หาท่เี รียน และตอบคาถามแลก 5.2 ครชู มเชยนักเรยี นที่มคี วามต้งั ใจเลน่ และชนะการแขง่ ขนั
302 สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ รปู แบบการเลน่ เกมเตย 5.3 ครูถามคาถามเพื่อทบทวนเน้อื หา เปล่ียนความคดิ เห็น ฝา่ ยรุกจะวงิ่ ผ่านไปแต่ละดา่ น และว่งิ 5.3.1 สรปุ การละเล่นพื้นเมอื ง คอื อะไร กับครผู สู้ อนได้อย่าง กลับมาจดุ เร่ิมตน้ แนวคาตอบ : คือ การละเล่นทีแ่ สดงเอกลักษณ์ เหมาะสม ของท้องถ่นิ ทม่ี ีอย่ทู ั่วทกุ ภาคของประเทศไทย โดย - นกั เรียนไดฝ้ กึ ความ สามารถแบ่งตามการละเลน่ แตล่ ะภาค ได้แก่ การ รบั ผิดชอบในการ ละเล่นภาคกลาง การละเลน่ ภาคตะวนั ออก การ ตรวจสอบและแกใ้ ข ฝา่ ยรบั ยนื บนเสน้ ละเลน่ ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ หรือภาคอีสาน ในเรอ่ื งการนาของใช้ 5.4 ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซกั ถาม ข้อสงสยั มาโรงเรยี น 5.5 ครูสารวจอุปกรณ์และของใช้ส่วนตัวของ - นักเรียนรูจ้ กั การ นกั เรยี น ดูแลรกั ษาความ 5.6 ครูให้นักเรียนบันทึกหัวข้อเรื่องที่เรียนใน สะอาดอวยั วะตา่ งๆ ชวั่ โมงนี้ลงในหนังสอื เรยี นหนา้ 52 (อาจมีการ ของรา่ งกายตนเอง เปลีย่ นแปลง) หลังจากเลน่ กฬี า 5.7 เลิกแถวและพานักเรียนเดินแถวกลับ 5.8 ครูพานักเรียนไปล้างหน้า ล้างมือ ด่ืมน้า 3. การละเล่นโพงพาง (ภาคเหนือ) ก่อนเข้าหอ้ งเรียน วิธีการเลน่ - ให้ผู้เล่นทั้งหมดโอน้อยออกเพ่ือหา ผู้เล่นทีจ่ ะเป็นโพงพางตาบอด - ผู้เล่นคนอ่ืนจะจับมือกันเป็นวงกลมแล้ว รอ้ งเพลง เพลง โพงพางเอ๋ย โพงพายตาบอด รอด เข้ารอดออก โพงพางตาบอดปล่อยลูกช้าง เข้าในวงกลม ภาพการละเลน่ โพงพาง
303 สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ - ขณะเดินวนรอบๆ โพงพางตาบอดร้อง เพลง 1–3 จบ แล้วนั่งลงโพงพางจะมาคลา คนอื่นๆ ซ่ึงคนอ่ืนต้องพยายามหนี และ จะต้องเงียบสนิทที่สุด หากโพงพางจาเสียง หัวเราะ รูปลักษณะใครได้จะต้องเรียกชื่อ ให้ถูก ถ้าเรียกถูก คนท่ีถูกเรียกช่ือต้อง ออกมาเป็นโพงพางตาบอด แต่ถ้าเรียกชื่อ ไม่ถูกใหผ้ ู้เลน่ เป็นโพงพางตาบอดต่อไป 4. การละเลน่ กระต่ายขาเดียว (ภาคกลาง) วธิ ีการเล่น -ขดี เส้นแบง่ เขตบนพ้ืน และมีเขตจากัดเส้นออก ไว้ดว้ ยแบ่งผเู้ ลน่ ออกเปน็ 2ฝ่ายเท่าๆกัน -ตกลงกันวา่ ใครจะเป็นกระตา่ ยก่อน กลุ่มท่ีเป็น กระต่ายจะคิดคาขึ้นหน่ึงคา ให้มีพยางค์เท่ากับ จานวนคนในหมู่และต้องกาหนดพยางค์ใหแ้ ตล่ ะ คนดว้ ย - เมื่อคิดคาได้แล้วฝ่ายท่ีเป็นผู้หนีทั้งหมดก็จะ เปน็ ผเู้ ลือกว่าจะเอาพยางคใ์ ดฝ่ายกระต่ายคนที่ มีพยางค์ตรงกับท่ีโดนเลือกก็จะวิ่งกระโดดขา เดียวใหเ้ รว็ ทีส่ ดุ และไล่จบั แตะคนในฝ่ายเลน่ - ถ้าคนใดโดนจับหรือถูกตัวกระต่ายก็ต้องออก จากการเล่น แต่ถ้ากระตา่ ยเปล่ียนขาหรือขาแตะ พื้นจะต้องเปลี่ยนเป็นกระต่ายตัวใหม่ท่ีฝ่ายเล่น จะเลอื กเม่ือฝา่ ยเล่นถูกไล่ตีจนหมดแล้วก็ถือว่า แพ้ ตอ้ งมาเป็นฝา่ ยกระต่ายบา้ ง ภาพการละเล่นกระตา่ ยขาเดียว
304 สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลลพั ธ์การเรยี นรู้ 5. การละเล่นโคง้ ตนี เกวียน หรอื ระวง ตนี เกวยี น (ภาคอีสาน จงั หวัดยโสธร) วิธีการเลน่ - ในการเล่นจะมีคนยืนสลับกับคนน่ังเป็น วงกลมคล้ายล้อเกวียน พวกท่ีนั่งจะเอา เท้ายันกันไว้ตรงกลางคล้ายดุมเกวียนและ เอามือจบั คนที่ยืน - โดยจะเดินไปรอบๆ เป็นวงกลม กลุ่มน่ัง จะน่งั ให้กน้ ลอยพ้นพ้นื เล็กนอ้ ย - จากน้ันจะหมุนตามโดยใช้เท้าท่ียันกันไว้ เป็นศูนย์กลาง หากกลุ่มท่ีน่ังทามือหลุดก็ จะถือว่าเป็นฝ่ายแพ้ ต้องเปลี่ยนให้คนท่ี ยนื มาเป็นฝ่ายน่ังแล้วคอ่ ยเล่นต่อ ภาพการละเลน่ โค้งตนี เกวยี น *การเล่นโค้งตีนเกวียน จะนิยมเล่นกัน เกื อ บ ทุ ก โ อ ก า ส โ ด ย เฉ พ า ะ ใ น ช่ ว ง ท่ี มี เทศกาลตรุษสงกรานต์ เป็นต้น 6. การละเล่นกระโดดเชอื ก(ภาคใต้ จงั หวดั พงั งา) วธิ ีการเลน่ วิธที ี่ 1 สาหรับผู้เล่นคนเดยี ว ให้ผเู้ ล่นถือ เชือกดว้ ยมือทัง้ สองขา้ ง งอศอกเล็กน้อย ให้กลางเชอื กหอ้ ยอยขู่ า้ งหลัง แลว้ แกว่ง
305 สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรยี นรู้ เชอื กให้เรว็ ขึ้นทุกที จนแทบแลไม่เหน็ เสน้ เชอื กจึงจะสนุก ภาพการกระโดดเชือก สาหรบั ผู้เล่นคนเดยี ว วิธที ่ี 2 วธิ นี ้ตี อ้ งใช้เชอื กใหย้ าว ให้ผู้เล่นสองคนจับปลายเชือกด้วยมือทั้ง สอง เชือกจะแกว่งลงพ้ืนข้างหน่ึง และขึ้น อีกข้างหน่ึงผู้เล่นนอกนั้นยืนอยู่ห่างๆ ทางด้านท่ีเชือกลงพ้ืนพอเห็นเชือกแกว่งดี แล้วก็ให้คนวิ่งเข้าไป ระวังอย่าให้ติดเชือก และยนื ระหวา่ งกลางคนแกว่งเชือกทงั้ สอง ค อ ย ก ร ะ โ ด ด ขึ้ น เมื่ อ เชื อ ก ฟ า ด ล ง พ้ื น เพ่ือให้เชือกลอดไป ตอ้ งหมายตาคอยดูให้ ดี เล่นจนครบผู้เล่นทุกคนจะต้องผลัดกัน แกว่งเชือก และต้องแกว่งให้ดี คอื ให้เชือก ตกลงเฉียดพื้นพอดี และเวลาเชือกแกว่ง ข้ึนก็ให้ขา้ มศีรษะคนกระโดดไปได้ อย่าให้ ฟาดถูกตัวเข้า ผู้เล่นต้องฝึกหัดแกว่งเชือก ให้เป็นเสียก่อนทุกคน และให้ผู้เล่นผลัด กันแกว่งในเวลาเล่น เพ่ือไม่ให้คนแกว่ง ประจาอยจู่ นเม่ือยแขนเกินไป
สาระการเรียนรู้ 306 ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ภาพการเล่นกระโดดเชือก ผู้เล่นหลายๆ คน 7. ส่อื การสอน/แหลง่ การเรยี นรู้ - สอื่ การสอน นกหวีด หนงั สือเรยี นวิชาสขุ ศกึ ษา กรวย แผ่นยางมาร์กเกอร์ Whistle และพลศกึ ษา ป..2 เลม่ 2 Cones Markers A Book กระดานไวท์บอร์ด ปากกาไวท์บอรด์ แปรงลบ โปสเตอร์ /POWERPOINT เชอื กกระโดด White board Whiteboard pen กระดานไวท์บอร์ด เรอ่ื งที่สอนในชวั่ โมง Jump Rope Whiteboard eraser poster/Image media - แหลง่ การเรียนรู้ การละเลน่ ของเด็กภาคกลาง. สืบคน้ เม่ือ 11 มถิ นุ ายน,2558, จากเว็บไซต์ : http://student.nu.ac.th /sowanee/teejuk.html สุรเชษฐ์ วศิ วธรี านนท.์ 2561. กีฬาฟตุ บอลและกิจกรรมยืดหยุน่ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 2 เลม่ 2. พมิ พค์ รัง้ ที่ 2. กรุงเทพมหานคร: ไซเบอร์พรนิ้ ท์กรุ๊ป จากัด. สายใจ บุญเสริฐ. 2556. สืบคน้ เมอ่ื 11 มิถนุ ายน,2558, จากเว็บไซต์ : http://xn-- 12c8bfaaf0a0bcua5kxai6e6g4c2cwac.blogspot.com/2013/01/blog-post_238.html
307 A Gide To Passing in Handball. 2556. [ออนไลน์]. แหล่งทีม่ า: https://www.youtube.com/ watch?v=tMLu3zWV3Sg [1 เมษายน 2563] 8. คาศพั ทภ์ าษาองั กฤษ ความหมาย การละเล่นพ้ืนเมืองไทย ลาดับ คาศัพท์ภาษาอังกฤษ เชอื กกระโดด 1 Thai Traditional Games นกหวดี 2 Jump Rope หนงั สอื เรียน 3 Whistle กรวย 4 Book แผ่นยางมารก์ เกอร์ 5 Cone กระดานไวทบ์ อรด์ 6 Marker ปากกาไวท์บอร์ด 7 White board แปรงลบกระดานไวทบ์ อร์ด 8 Whiteboard pen โปสเตอร์ /POWERPOINTเรอื่ งท่สี อนในชั่วโมง 9 Whiteboard eraser 10 poster/Image media 9. การวัดและประเมินผล ลาดบั ที่ เรือ่ ง เครอ่ื งมือ แบบสงั เกต 1 สังเกตความสนใจและการมสี ่วนร่วมตลอดช้ันเรียน แบบตรวจสอบ 2 สารวจเครือ่ งแตง่ กายและบักทกึ คะแนนความรับผดิ ชอบและ แบบสงั เกต คะแนนสขุ ปฏบิ ตั ิ 3 สังเกตการตอบคาถามระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
308 โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั ฝ่ายประถม แบบประเมินความสนใจ การมีส่วนรว่ มในกิจกรรม และผลสาเรจ็ ของการฝึกทกั ษะและการนาไปใช้ วันที่ ............/........../.......... เวลา........................น. ภาค............. ปกี ารศกึ ษา.......................... หน่วยการเรยี นรู.้ ..................................... เรื่อง...................................................................ระดบั ชั้น.......................... ระดบั 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรุง/เพม่ิ เติม) PQ นกั เรียน 80% ขนึ้ ไป ฝึกทกั ษะหรอื เลน่ นักเรียน 60%-80% ฝกึ ทกั ษะหรอื เล่น นักเรยี นนอ้ ยกว่า60%ฝกึ ทกั ษะหรือเล่น สมรรถภาพ เกมเพ่อื พัฒนาสมรรถภาพโดยไม่เหนอ่ื ย เกมเพือ่ พัฒนาสมรรถภาพโดยไม่เหนอ่ื ย เกมเพ่อื พัฒนาสมรรถภาพโดยไมเ่ หนอ่ื ย ทางกาย MQ นักเรียน 80% ข้ึนไปให้ความรว่ มมอื นักเรียน 60%-80%ใหค้ วามร่วมมอื นักเรียนน้อยกวา่ 60%ใหค้ วาม คุณธรรม กบั ครูในการจัดกจิ กรรมเปน็ อยา่ งดี กับครูในการจัดกจิ กรรมเปน็ อยา่ งดี รว่ มมอื กบั ครูในการจดั กจิ กรรมเปน็ จริยธรรม ยอมรบั การเป็นผนู้ า ผ้ตู ามทีด่ ี เชอ่ื ยอมรบั การเปน็ ผ้นู า ผตู้ ามทดี่ ี เชอื่ อย่างดี ยอมรบั การเป็นผู้นา ผู้ตามที่ ฟงั ครู ฟังครู ดี เชื่อฟงั ครู นกั เรียน 80% ขน้ึ ไปมีความกระตือรอื รน้ นั ก เรี ย น 60% -80% มี มี ค วาม นั กเรีย น น้ อย กว่า 60% มี ความ แตง่ กายเรยี บรอ้ ยพรอ้ มที่จะเรยี น กระตือรือร้น แต่งกายเรียบร้อยพร้อม กระตือรือร้น แต่งกายเรียบร้อยพร้อม AQ เจตคติ ชว่ ยเหลือและแนะนาเพอื่ นใหป้ ฎบิ ตั ิ ท่ีจะเรียนช่วยเหลือและแนะนาเพื่อน ท่ีจะเรียนช่วยเหลือและแนะนาเพื่อน ระเบยี บวินยั ในหอ้ งเรียนได้ ให้ปฎบิ ตั ริ ะเบียบวนิ ยั ในหอ้ งเรยี นได้ ให้ปฎบิ ัติระเบยี บวินัยในห้องเรียนได้ IQ ความรู้ นักเรียน 80% ขึ้นไปสามารถอธบิ าย นักเรียน 60%-80% สามารถอธบิ าย นักเรียนน้อยกว่า 60% สามารถ ความ เนือ้ หาท่เี รยี นไปได้อยา่ งครบถว้ นและ เน้ือหาท่เี รยี นไปได้อยา่ งครบถ้วนและ อธิบายเนื้อหาที่เรียนไปได้อย่าง เขา้ ใจ ถกู ต้อง ถกู ต้อง ครบถ้วนและถกู ตอ้ ง นกั เรียน 80% ข้นึ ไปสามารถปฏบิ ตั ิ นกั เรยี น 60%-80% สามารถปฏบิ ตั ิ นักเรยี นน้อยกว่า 60% สามารถ SQ ทกั ษะ ทกั ษะทเ่ี รียนในชัว่ โมงไดอ้ ยา่ ง ทกั ษะทเี่ รียนในช่วั โมงได้อย่าง ปฏิบตั ิทกั ษะท่เี รียนในชั่วโมงได้ ครบถ้วนและถกู ตอ้ งได้ ครบถว้ นและถูกต้องได้ อย่างครบถ้วนและถกู ต้องได้ ระดับคณุ ภาพ ระดับ 3 หมายถึง จานวนนักเรียน 80% ข้ึนไป ระดบั 2 หมายถึง จานวนนกั เรียน 60-80% ระดับ 1 หมายถึง จานวนนักเรยี นอ้ ยกว่า 60% ลงช่อื ...........................................................ผปู้ ระเมนิ
309 โรงเรยี นสาธิตจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย ฝา่ ยประถม บนั ทึกหลงั สอน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เร่ือง การละเลน่ พื้นเมืองไทย (Thai Traditional Games) ภาคตน้ - ต่จี ับ - เตย - การละเลน่ โพงพาง - กระต่ายขาเดยี ว - การละเล่นโคง้ ตนี เกวียน - กระโดดเชือก วันท่.ี .........เดอื น.................................................พ.ศ...................... เวลา....................น.-.......................น. 1. ผลการจดั การเรียนรู้ …................................................................................................................................................................................................................... …................................................................................................................................................................................................................... …................................................................................................................................................................................................................... …................................................................................................................................................................................................................... . …................................................................................................................................................................................................................... . 2. ปญั หาและอปุ สรรค (กอ่ นสอน-ระหว่างสอน-หลังสอน) …................................................................................................................................................................................................................... …................................................................................................................................................................................................................... …................................................................................................................................................................................................................... …................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................... . 3. แนวทางการแกไ้ ขเพื่อใชใ้ นการสอนครง้ั ต่อไป …................................................................................................................................................................................................................... …................................................................................................................................................................................................................... …................................................................................................................................................................................................................... …................................................................................................................................................................................................................... …................................................................................................................................................................................................................... …................................................................................................................................................................................................................... .…………....................................................... (………………………………………………………..) ผู้สอน
311 ภาคผนวก - โครงการสอนระยะยาวกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคตน้ - ตารางการสอบสุขศึกษาและพลศกึ ษา ป.2 ภาคตน้ -
312 โรงเรียนสาธติ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั ฝา่ ยประถม โครงการสอนระยะยาว กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 2 ภาคต้น สปั ดาห์ที่ ช่ัวโมง กจิ กรรม หมายเหตุ 1 2 กฬี าแชร์บอล สอ่ื การเรยี นรู้ 3 1 - ปฐมนเิ ทศ, ช้ีแจงขอ้ ตกลงเบ้ืองต้นในการเรียนพล - ตัวอย่างเครื่องแตง่ กาย (ชดุ พละ, รองเท้า ศึกษาและสขุ ศกึ ษา ภาคต้น (Orientation) ผ้าใบ, ถุงเทา้ ขาว) - ประวตั ิกีฬาแชรบ์ อล (History of Chairball) - ตัวอย่างของใช้ (แก้วน้า, สบ,ู่ ผา้ ขนหนู,หวี) 2 ทดสอบสมรรถภาพทางกายกอ่ นเรยี น (PhysicalFitnessPre-Test) สอื่ การเรยี นรู้ - นงั่ งอตัว (Sit and Reach Teast) - กล่องวดั ความอ่อนตวั - นาฬกิ าจับเวลา - ลุกน่งั 30 วนิ าที (30 Second Sit up Test) - เบาะรอง -หว่ งวงกลมส้าหรบั ยืนในวงกลม - ว่ิงเกบ็ ของ (Run A Faster Shuttle Run) - หว่ งยาง 4 หว่ ง - ใบบันทึกขอ้ มูล 1 การสรา้ งความคนุ้ เคยกับบอลแบบต่างๆ (Ball Control) สอ่ื การเรียนรู้ - การหมุนบอลอ้อมรอบตวั เอง (Ball Wraps) - แผ่นภาพแสดงท่าทางการหมุนบอล - การโยนและรบั บอลดว้ ยตัวเองสองมือ (Two ออ้ มรอบตวั เอง, การโยนและรับบอลดว้ ย handed Toss and Catch the Ball) ตวั เองสองมือ, การท่มุ บอลลงพ้นื และรบั - การทมุ่ บอลลงพื้นและรบั บอลดว้ ย (Bounce and Catch) บอลดว้ ย, การโยนและรับบอลดว้ ยตวั เอง - การโยนและรับบอลดว้ ยตวั เองมือเดียว (One มือเดยี ว handed Toss and Catch the Ball) 2 การรับและสง่ บอลสองมอื แบบอยู่กบั ท่ี (Two handed ส่ือการเรียนรู้ Passing and Receiving the Ball) - แผ่นภาพแสดงท่าทางการรับและส่ง -การรบั และสง่ บอลสองมือระดับอก(TwohandedChest Pass) บอลสองมือระดบั อก, การรับและส่ง -การรบั และสง่ บอลสองมือเหนือศรี ษะ(Two handed บอลสองมือเหนือศรี ษะ, การสง่ บอลสอง Overhead Pass) มือกระดอนพืน้ , การสง่ บอลสองมือ -การส่งบอลสองมือกระดอนพ้ืน(TwohandedBounce Pass) ด้านลา่ ง -การสง่ บอลสองมอื ดา้ นลา่ ง(TwohandedUnderhandPass) 1 การรับและส่งบอลมือเดียวแบบอยกู่ บั ที่ (One handed สอ่ื การเรียนรู้ Passing and Receiving the Ball) - แผน่ ภาพแสดงทา่ ทางการส่งบอลมือ - การส่งบอลมือเดยี วเหนอื ไหล่ (Baseball Pass) เดียวเหนอื ไหล่ 2 การรบั และส่งบอลสองคนเคลื่อนท่ี (Wall Pass or ส่ือการเรยี นรู้ Give and Go) - แผน่ ภาพแสดงท่าทางการรับและส่ง บอลสองคนเคลอื่ นท่ี
313 สปั ดาหท์ ี่ ชั่วโมง กจิ กรรม หมายเหตุ 4 1 ทักษะการยิงประตูแบบตา่ งๆ และการถือตะกร้า สอ่ื การเรยี นรู้ (Shooting Skills and Hold the basket) - แผน่ ภาพแสดงท่าทางการยงิ ประตแู บบ ตา่ งๆและการถือตะกร้า 2 การรับและส่งบอลสองคนเคลื่อนทแี่ ละยิงประตู (Wall สื่อการเรยี นรู้ Pass or Give and Go and Shooting) - แผ่นภาพแสดงท่าทางการรับและสง่ บอล สองคนเคลอื่ นทแ่ี ละยิงประตู 5 1 วิธีการเล่นแชร์บอล (How to play Chairball) สื่อการเรยี นรู้ - ต้าแหน่งการยนื ในสนาม (The player position) - แผ่นภาพสนามแชรบ์ อลและต้าแหนง่ การยนื - กตกิ าการเล่นแชรบ์ อล (Rules of Chairball) - เสอื้ ทมี 4 สๆี ละ 10 ตวั (เบอร์ 1– เบอร์ 10) 2 ทักษะการเลน่ ทีม (Team play), การแขง่ ขัน (The Match) สื่อการเรยี นรู้ - แผ่นภาพสนามแชรบ์ อลและตา้ แหนง่ การยนื - สอ่ื ออนไลน์ “วธิ ีการเล่นแชรบ์ อล” 6 1 ทักษะการเล่นทมี (Team play), การแขง่ ขัน (The Match) - เสื้อทีม 4 สีๆ ละ 10 ตวั (เบอร์ 1– เบอร์ 10) 2 วชิ าสขุ ศกึ ษา เรือ่ ง สุขปฏบิ ตั ิ (Sanitation) ส่ือการเรียนรู้ - แผน่ ภาพ เรื่อง สขุ ปฏิบัติ - สอื่ ออนไลน์ - ใบงาน 7 1 วิชาสุขศึกษา เรื่อง การรักษาความสะอาด สอ่ื การเรียนรู้ แข่งขันกฬี า ข อ ง ใ ช้ แ ล ะ เ ค ร่ื อ ง แ ต่ ง ก า ย ( C l e a n l i n e s s ) - แผน่ ภาพ เรือ่ ง การรักษาความสะอาด เครือ่ งใชแ้ ละเคร่อื งแต่งกาย แชร์บอล - สื่อออนไลน์ - ใบงาน ส่ือการเรยี นรู้ ภายใน - แผน่ ภาพทกั ษะท่ีใชใ้ นการทดสอบ ระดับชัน้ 2 ทดสอบทักษะ (Skills test), เล่นทีม (Play) *** - โยนแล้วตบมือรับลูก - รับและส่งบอลแบบอย่กู ับท่ี - ลูกวอลเลย่ ์บอล 40 ลูก – มาร์กเกอร์ - ใบประเมินการทดสอบทักษะ 8 1 ทดสอบทักษะ (Skills test), เลน่ ทีม (Play) สื่อการเรียนรู้ แขง่ ขนั กีฬา - รบั และสง่ บอลแบบเคลอื่ นท่ี - แผ่นภาพทักษะที่ใชใ้ นการทดสอบ แชร์บอล - รับและสง่ บอลขา้ มเชอื ก (10 คร้ัง) - ลูกวอลเล่ยบ์ อล 40 ลูก – มาร์กเกอร์ ภายใน - เชือกไนลอ่ น - เสาสา้ หรับผกู เชอื ก ระดับชนั้ - ใบประเมนิ การทดสอบทกั ษะ ***
314 สัปดาห์ ช่ัวโมง กจิ กรรม หมายเหตุ 2 ทดสอบทักษะ (Skills test), เล่นทมี (Play) ส่อื การเรยี นรู้ - การยงิ ประตู (สอบแบบเปน็ กลุ่ม) 1 นาที - แผน่ ภาพทักษะทใ่ี ชใ้ นการทดสอบ - เกา้ อ้ี ตะกร้า 12 ชุด - ลกู วอลเล่ยบ์ อล 12 ลูก - ใบประเมินการทดสอบทกั ษะ 9 1 ทดสอบทักษะ (Skills test), เล่นทมี (Play) สื่อการเรยี นรู้ * สอบประจา - เลน่ ทมี - แผน่ ภาพทักษะท่ีใชใ้ นการทดสอบ ภาคตน้ ครง้ั - เก้าอ้ี ตะกร้า 4 ชดุ - ลูกวอลเลย่ บ์ อล 2 ใบ - เสอ้ื ทีม 4 สๆี ละ 10 ตวั (เบอร์ 1– เบอร์ 10) ที่ 1 - ใบประเมินการทดสอบทกั ษะ 2 สอบข้อเขยี นสขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา (Subjective test) สอื่ การเรยี นรู้ ใบงานวิชาสขุ ศึกษา (Worksheet) - ขอ้ สอบวิชาพลศกึ ษาและสขุ ศึกษา 40 ชดุ - ใบงานวิชาสุขศึกษา 40 ชดุ 10 ทกั ษะการเคลื่อนไหวข้นั พนื้ ฐาน ส่อื การเรียนรู้ 1 ทกั ษะการเคลือ่ นไหวแบบอยู่กบั ท่ี (Non-Locomotor Skills) - แผ่นภาพแสดงท่าทางการก้มตวั , ยดื - ก้มตัว (Bending) - ยืดหรอื เหยยี ดตัว (Stretching) หรอื เยยี ดตัว, บดิ ตัว, หมุนตัว, แกวง่ หรอื - บดิ ตวั (Twisting) - หมุนตัว (Turning) เหวยี่ งแขน, เอียงตวั , โยกตัว, การดนั , - แกวง่ หรือเหว่ียงแขน (Swinging) - เอยี งตัว (Swaying) การดงึ - โยกตวั (Rocking) - การดนั (Pushing) – การดงึ (Pulling) 2 ทกั ษะการเคลอ่ื นไหวแบบเคลอื่ นที่ (Locomotor Skills) สือ่ การเรยี นรู้ - เดิน (Walk) - เดนิ ตามจังหวะ (March) - วง่ิ (Run) - แผน่ ภาพแสดงทา่ ทางการเดิน, เดนิ - การหยุดเดิน หยดุ วิ่ง (Stopping) ตามจังหวะ, วิ่ง, การหยุดเดิน หยุดว่ิง 11 1 ทกั ษะการเคลอื่ นไหวแบบเคล่ือนท่ี (Locomotor Skills) สือ่ การเรียนรู้ - ก้าวเขย่ง (Skipping) - กา้ วกระโดด (Jupping) - แผน่ ภาพแสดงทา่ ทางการก้าวเขยง่ , - ควบม้า (Galloping) - การกลับตัว (Shuttle Run) ก้าวกระโดด, ควบม้า, การกลับตวั 2 ทกั ษะการเคลอื่ นไหวแบบเคลอ่ื นท่ี (Locomotor Skills) สื่อการเรยี นรู้ - กระโดดขาเดียว (Single leg Jump) - แผน่ ภาพแสดงท่าทางการกระโดดขา - กระโดดสองขา (Jumping) – กระโจน (Leaping) เดยี ว, กระโดดสองขา, กระโจน 12 1 ทกั ษะการเคลื่อนไหวแบบเคลื่อนท่ี (Locomotor Skills) สื่อการเรยี นรู้ - สไลด์ (Slide) - วง่ิ และสไลด์ซิกแซก (Zigzag Run - แผน่ ภาพแสดงทา่ ทางการสไลด์, ว่ิง and Slide Footwork) สไลด์ซิกแซก - กรวยหรอื หลัก36 อนั
315 สัปดาห์ ชัว่ โมง กจิ กรรม หมายเหตุ 2 ทกั ษะการเคลื่อนไหวแบบเคลื่อนท่ี (Locomotor Skills) สอ่ื การเรยี นรู้ - วิ่งข้ามสิ่งกดี ขวาง (Running over Obstacles) - แผน่ ภาพแสดงท่าทางการว่ิงขา้ มสิ่งกีด - การลอดสงิ่ กีดขวาง (Pass Through Obstacles) ขวาง, การลอดส่ิงกดี ขวาง - สงิ่ กดี ขวาง 36 อัน - ชดุ ห่วงส้าหรับลอด 12 ชดุ 13 1 ทกั ษะการเคลื่อนไหวแบบเคลอ่ื นท่ี (Locomotor Skills) สอ่ื การเรยี นรู้ - การเดนิ บนคานทรงตัว (Walk on Balance Beam) แผ่นภาพแสดงท่าทางการเดินบนคาน - เดินข้นึ และเดนิ ลงคานทรงตัว (Walk up and Walk ทรง, เดินขึ้นและเดินลงคานทรงตวั , การ down on Balance Beam) กระโดดจากท่สี งู - การกระโดดจากทส่ี ูง (Jumping from High) - แผ่นไมย้ าว 2 ชิ้น - ห่วงสา้ หรับยนื - โตะ๊ สนาม 1 ชุด 2 ทกั ษะการเคล่ือนไหวแบบเคลื่อนที่ (Locomotor Skills) สอ่ื การเรียนรู้ - ท่าทางการเข้าท่ี-ระวัง-ไป (4 Point Star) - แผ่นภาพแสดงทา่ ทางการเขา้ ที่-ระวัง-ไป 14 1 ทักษะการเคลือ่ นไหวแบบเคล่ือนท่ี (Locomotor Skills) ส่อื การเรยี นรู้ และประกอบอปุ กรณ์(Manipulative Skills) - แผน่ ภาพแสดงทา่ ทางการวิ่งออ้ มหลัก - การวิ่งอ้อมหลกั (Shuttle Run) ,การวิง่ เปยี้ ว - การวง่ิ เปีย้ ว (Flag Race) - กรวยหรอื หลกั 8 อัน - หว่ งยาง 4 หว่ ง 2 ทักษะการเคล่ือนไหวประกอบอุปกรณ์ (Manipulative Skills) ส่อื การเรียนรู้ - การกระโดดเชือกรูปแบบต่างๆ (Jumping Rope) - ส่ือออนไลนแ์ สดงท่าทางการกระโดดเชือก - เชอื กยาว 10 เมตร 1 เส้น - เชอื ก กระโดด 36 ช้ิน 15 1 วิชาสขุ ศึกษา เรอ่ื งการออกกา้ ลังกาย (Exercise) ส่อื การเรยี นรู้ แข่งขนั วิ่งเปี้ยว 2 วิชาสุขศกึ ษา เรือ่ งการรักษาทรวดทรง (Shape & - แผน่ ภาพ เรือ่ ง เรื่องการรกั ษาทรวดทรง ภายในระดับชนั้ Personality) - สอื่ ออนไลน์ - ใบงาน *** 16 1 ทดสอบทักษะการเคลื่อนไหวข้ันพนื้ ฐาน สอ่ื การเรียนรู้ แข่งขนั วงิ่ เปีย้ ว (Basic Movement Skills Test) - แผ่นภาพทักษะท่ีใชใ้ นการทดสอบ ภายในระดับชนั้ - ทักษะการกระโดดดว้ ยขาขา้ งเดยี ว - กรวยหรอื หลกั 10 อัน - ทักษะการวง่ิ และสไลด์ซกิ แซก - ใบประเมนิ การทดสอบทักษะ *** 2 ทดสอบทักษะการเคลื่อนไหวข้นั พื้นฐาน ส่อื การเรยี นรู้ (Basic Movement Skills Test) - แผ่นภาพทกั ษะที่ใช้ในการทดสอบ - ทักษะท่าทางการออกว่ิง - เส้นเริ่มและเส้นชยั - การกระโดดเชอื ก - เชอื กกระโดด 36 ชิน้ - ใบประเมนิ การทดสอบทักษะ
316 สปั ดาห์ ช่วั โมง กจิ กรรม หมายเหตุ 17 1 ทดสอบทักษะการเคลื่อนไหวขั้นพ้นื ฐาน สอ่ื การเรยี นรู้ * สอบประจา (Basic Movement Skills Test) - กรวยหรอื หลัก 10 อัน - หว่ งยาง 4 หว่ ง ภาคตน้ ครัง้ - การวิ่งเปยี้ วภายในห้องเรียน (คะแนนรวมกบั ภายใน - ใบประเมินการทดสอบทักษะ ระดบั ชัน้ ) ท่ี 2 2 สอบข้อเขยี นสุขศกึ ษาและพลศึกษา (Subjective test) สื่อการเรยี นรู้ ใบงานวิชาสขุ ศึกษา (Worksheet) - ขอ้ สอบวิชาพลศกึ ษาและสขุ ศึกษา 40 ชดุ - ใบงานวชิ าสุขศึกษา 40 ชุด 18 1 กิจกรรมเน่ืองในสัปดาห์แสนสนกุ สขุ หรรษา สื่อการเรียนรู้ 2 การละเล่นพื้นเมอื งไทย (Thai Traditional Games) - เชือกยาว 10 เมตร 1) ต่จี บั 2) เตย 3) การละเลน่ โพงพาง 4) กระตา่ ยขาเดียว - กะลา 20 คู่ 5) การละเลน่ โคง้ ตนี เกวียน 6) กระโดดเชือก - ผ้าเช็ดหนา้ หรอื ผ้าขนหนผู นื เล็ก 2 ผืน - กรวย / หลัก / มารก์ เกอร์ - passport ประจา้ ตัว หมายเหตุ : 1. การแขง่ ขนั กฬี าภายในระดบั ชั้น - แข่งขนั แชร์บอลภายในระดับชน้ั กา้ หนดสปั ดาห์ท่ี 7-8 - แข่งขันว่ิงเปีย้ วภายในระดับช้ัน ก้าหนดสปั ดาหท์ ่ี 15-16 2. ส่ือการเรียนรูท้ ี่ต้องเตรยี มทกุ ช่ัวโมง (The devices to play Chairball) 1) หนงั สือเรยี นสุขศึกษาฯ ป.2 เลม่ 1 2) ลูกวอลเลย่ บ์ อล 3 /ตะกร้า/เก้าอ้ี 3) กรวย / หลัก / มารก์ เกอร์ 4) ตารางการบนั ทึกหลงั เลิกเรยี น 5) รูปภาพประกอบการสอน 6) บนั ทึกหลงั สอน 7) แบบประเมินและแบบสงั เกตนักเรยี น 8) กระดานไวท์บอร์ด และปากกาไวทบ์ อรด์ 9). บตั รค้าภาษา อังกฤษทีเ่ ก่ียวขอ้ ง 10)รปู ภาพการเข้าแถวรปู แบบตา่ งๆ(การเดนิ แถว,ระเบียบเข้าแถวตอน, ระเบียบเขา้ แถวหนา้ กระดาน, แถวตรง, แถวพัก, ตามระเบยี บพัก, การจดั แถวตอน, การจัดแถวหน้ากระดาน) 2. ให้สอนเน้ือหา เรอื่ ง ระเบียบแถวทุกช่ัวโมง สอดแทรกในทุกชั่วโมง 1) การเข้าแถวตอน 2) นง่ั ในแถวตอน 3) การจัดแถวตอนยาว 4) การน่งั และการยนื ข้ึนในแถว 5) การเดินแถวเดยี่ ว 6) การเดนิ แถวค(ู่ 2แถว) 7) หยดุ เดนิ แถว 8) แถวตรง, แถวพกั , ตามระเบียบพัก 9) การเข้าแถวหน้ากระดาน, น่งั ในแถวหนา้ กระดาน 10) ซ้ายหัน-ขวาหัน, ฝกึ กลบั หลังหัน กลมุ่ สาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา
317 ชอื่ ..............................................นามสกลุ ........................................ช้ัน...../..... เลขท.่ี ....... ตารางการสอบสุขศึกษาและพลศึกษา ป.2 ช่วงท่ี 1 ภาคตน้ **************************************************************** สปั ดาห์ท่ี รายการสอบ คะแนนเตม็ หมายเหตุ 7 ทดสอบทักษะแชรบ์ อล โยนแล้วตบมือรบั ลูกบอล คนเดียว 10 คร้ัง 5 - ดูรายละเอียดเกณฑ์ รับและสง่ บอลกับคู่อย่กู ับที่ ระยะยืนหา่ งกัน 4 เมตร 5 การสอบในหนงั สอื กฬี า 8 รับและสง่ บอลกบั คู่เคล่อื นท่ี ระยะทาง 10 เมตร 5 ฟตุ บอลและกจิ กรรม รบั และสง่ บอลขา้ มเชือก 10 ครงั้ 5+5 *** ยืดหยนุ่ หน้า 33-34 ยงิ ประตูจับเวลา 1 นาที (สอบเปน็ กลมุ่ ) 5 - ยกเลกิ การให้คะแนน 9 แข่งขันทีมภายในห้องเรยี นและระหวา่ งห้องเรียน 5+5 *** การทดสอบสมรรถภาพ ทางกาย 10 คะแนน (นักเรียนต้องเข้าร่วมทุกคนและทกุ ครงั้ ) วชิ าสขุ ศึกษา ใบงาน เรอ่ื ง “สุขปฏิบตั ิและการรกั ษาความสะอาดของใช้ 10 และเคร่อื งแตง่ กาย” สอบทฤษฎีสขุ ศึกษา เรื่อง “สขุ ปฏิบัติ” 10 สอบทฤษฎีพลศึกษา เร่ือง “แชรบ์ อล” 10 คะแนนสว่ นอื่นๆ 1. คะแนนแบบบันทึกการออกกาลังกาย 10 คะแนน ใหน้ ้าหนงั สือพลศึกษามาสง่ ที่อาจารย์ผสู้ อนในช่วั โมงสอบทฤษฏี โดยกอ่ นส่งใหด้ า้ เนินการ ดงั นี้ - ให้นักเรียนไปทา้ กจิ กรรมออกกา้ ลงั กายนอกเวลาเรียน 7 ครัง้ เป็นอย่างน้อย และบนั ทึก ข้อมูลลงในหนังสอื หน้า 57-59 - ตดิ รปู ถา่ ยออกก้าลังกาย 1 รปู และ รูปถ่ายการไปชมกีฬาที่สนามแขง่ ขนั 1 รูป (มีนักเรียนอยู่ในรูปด้วย) ในหนงั สือหน้า 60-61) 2. คะแนนคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ 20 คะแนน หมายเหตุ : *** หมายถงึ แก้ไขคะแนน จากหนงั สือเรียน เดมิ 5 คะแนน แก้ไขเป็น 10 คะแนน กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ุขศึกษาและพลศึกษา
318 ช่ือ..............................................นามสกุล........................................ช้ัน...../..... เลขท่.ี ....... ตารางการสอบสุขศึกษาและพลศกึ ษา ป.2 ชว่ งท่ี 2 ภาคตน้ **************************************************************** สปั ดาหท์ ี่ รายการสอบ คะแนนเต็ม หมายเหตุ 16 ทดสอบทกั ษะการเคลอ่ื นไหวขน้ั พนื้ ฐาน วิ่งกา้ วเขย่งไปข้างหน้า ระยะทาง 10 เมตร (Skipping) 5 - ดูรายละเอียดเกณฑ์ วิ่งก้าวกระโดดไปข้างหน้า ระยะทาง 10 เมตร (Hopping) 5 การสอบในหนังสือ วง่ิ และสไลด์ซิกแซก ระยะทาง 10 เมตร (Zigzag Run & 5 กีฬาฟุตบอลและ Slide Footwork) ระยะทาง 10 เมตร กิ จ ก ร ร ม ยื ด ห ยุ่ น ทา่ ทางการออกว่งิ (4 Point Start) ปฏิบัติ 1 คร้ัง 5 หน้า 50-51 กระโดดเชือกให้ไดต้ ิดต่อกัน 20 ครั้ง (Jumping Rope) 10 - ยกเลิกการให้ 17 แขง่ ขันว่งิ เป้ียว ภายในห้องเรียน และระหวา่ งห้องเรียน 5+5*** คะแนนการทดสอบ สมรรถภาพทาง (นักเรียนต้องเขา้ ร่วมทกุ คนและทุกครงั้ ) 10 กาย 10 คะแนน วชิ าสขุ ศกึ ษา ใบงานเรอ่ื ง“การออกกา้ ลังกายและการรักษาทรวดทรงฯ” สอบทฤษฎีสขุ ศึกษา เร่อื ง “การออกกา้ ลังกายและการรักษา 10 ทรวดทรง ฯ ” สอบทฤษฎีพลศึกษาเรอ่ื ง“ทักษะการเคลื่อนไหวข้ันพน้ื ฐาน” 10 คะแนนสว่ นอ่ืนๆ 1. คะแนนแบบบนั ทกึ การออกกาลงั กาย 10 คะแนน อาจารย์ผู้สอนจะแจกเอกสารแบบบันทึกการออกกาลังกาย / เอกสารติดรูปถา่ ยออกกาลังกาย / ติดรปู ถา่ ยชม กีฬาทส่ี นามแข่งขนั ใหน้ กั เรยี นเพม่ิ เติม ให้นักเรยี นนา้ หนงั สือพลศกึ ษามาส่งที่อาจารย์ผสู้ อนในชั่วโมงสอบทฤษฏี โดยก่อนสง่ ให้ด้าเนินการ ดงั นี้ - ใหน้ กั เรียนไปทา้ กิจกรรมออกกา้ ลังกายนอกเวลาเรียน 7 ครง้ั เปน็ อยา่ งนอ้ ย และบนั ทึกข้อมลู ลงใน เอกสารทจี่ ะแจกใหเ้ พ่ิมเติม - ตดิ รปู ถ่ายออกกา้ ลังกาย 1 รปู และ รูปถ่ายการไปชมกีฬาที่สนามแข่งขัน 1 รูป (มนี กั เรยี นอยูใ่ นรปู ด้วย) 2. คะแนนคณุ ลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ 20 คะแนน หมายเหตุ : *** หมายถงึ เพ่ิมเติมจากหนังสือเรียน เดิม แขง่ ขนั ทักษะยืดหยุ่น แก้ไขเป็น วง่ิ เปี้ยว กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา
บรรณานุกรม เกรยี งไกร อินทรชยั . 2559. สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เล่ม 1. พิมพ์คร้ังท่ี 1. กรงุ เทพมหานคร: ไซเบอร์พริน้ ทก์ รุ๊ป จากดั . เกรยี งไกร อนิ ทรชัย. 2559. สุขศึกษาและพลศกึ ษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เล่ม 2. พมิ พ์ครั้งท่ี 1. กรงุ เทพมหานคร: ไซเบอร์พร้ินทก์ ร๊ปุ จากดั . ณฐั พร สดุ ดี. 2561. เทคนิคการสอนเกมมลู ฐาน. กรุงเทพมหานคร: คณะครศุ าสตร์ จฬุ าลงกรณ์ มหาวทิ ยาลัย. (อดั สาเนา) ถาวร วรรณศิร.ิ 2551. สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา : ฟุตบอล ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 5-6. พิมพ์ครงั้ ท่ี 1. กรงุ เทพมหานคร: ไซเบอร์พริน้ ทก์ ร๊ปุ จากัด. สรุ เชษฐ์ วศิ วธรี านนท์. 2561. กีฬาแชร์บอลและทักษะการเคล่ือนไหวขัน้ พื้นฐาน ชั้นประถมศกึ ษา ปที ่ี 2 เลม่ 1. พมิ พค์ รั้งท่ี 1. กรงุ เทพมหานคร: ไซเบอร์พริ้นทก์ รุ๊ป จากดั .
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326