หลักสูตรสังคม 64

กลุม่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษาฯ ส 22166 วชิ าประวัตศิ าสตร์ 3 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1 หน่วยการ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ตัวชีว้ ดั เวลา คะแนน เรยี นรู้ คาบ กลาง หลงั ปลาย 1 กอ่ น 5-- รวม 10 2 - ข้ันตอนของวิธีการทาง ส 4.1 4 5 15 - - ประวัตศิ าสตรส์ าหรับ การศกึ ษา ม.3/1 วเิ คราะหเ์ รื่องราว 35 เหตกุ ารณ์ทางประวตั ิศาสตร์ที่ เหตุการณ์สาคัญทาง เกิดขน้ึ ใน ทอ้ งถ่นิ ตนเอง ประวตั ศิ าสตร์ได้อย่างมี - นาวิธีการทางประวัติศาสตร์มาใช้ เหตผุ ลตามวธิ ีการทาง ในการศึกษา เร่อื งราวท่ีเก่ียวขอ้ ง ประวัตศิ าสตร์ กบั ตนเองครอบครัว และ ท้องถิ่น ม.3/2 ใชว้ ธิ ีการทาง ของตน ประวตั ิศาสตร์ในการศึกษา - วิเคราะหเ์ หตกุ ารณส์ าคัญในสมยั เรอื่ งราวตา่ ง ๆ ท่ีตนสนใจ รตั นโกสนิ ทร์ โดยใชว้ ิธกี ารทาง ประวตั ศิ าสตร์ - ทตี่ ้งั และสภาพทางภูมศิ าสตรข์ อง ส 4.2 14 20 ภมู ภิ าคตา่ งๆ ของโลก (ยกเว้นเอเชีย) ม.3/1 อธบิ าย ที่มีผลต่อพัฒนาการโดยสงั เขป พฒั นาการทางสังคม - พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ สังคม เศรษฐกจิ และการเมือง เศรษฐกิจและการเมอื ง ของภูมิภาคตาง ๆ ใน ของภมู ภิ าคตา่ งๆของโลก(ยกเว้น โลก โดยสงั เขป เอเชยี )โดยสังเขป ม.3/2 วเิ คราะหผลของ - อทิ ธิพลของอารยธรรมตะวันตกทีม่ ี การเปลย่ี นแปลงท่ี ผล ต่อพฒั นาการและการเปล่ียนแปลง นาไปสูความรวมมือ ของสังคมโลกโดยสงั เขป และความขัดแย - ความรว่ มมอื และความขัดแย้งใน งในครสิ ตศตวรรษท่ี ครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี20 เช่น สงครามโลก ๒๐ ตลอดจนความ ครง้ั ท1่ี ครัง้ ท่ี 2 สงครามเย็น องค์การ พยายามในการขจัดป ความร่วมมอื ระหว่างประเทศ ญหาความขดั แยง สอบวดั ผลกลางภาค ส 4.1/1, ส 4.1/2, ส 4.2/1, ส 4.2/2 2 - 20 - - -

หน่วยการ สาระการเรียนร้แู กนกลาง ตัวช้วี ดั เวลา คะแนน เรยี นรู้ คาบ กอ่ น กลาง หลัง ปลาย รวม 3 - การสถาปนากรุงเทพมหานครเปน็ ส 4.3 12 - - 10 12 22 ราชธานีของไทย ม.3/1 วิเคราะห - ปจั จัยท่ีสง่ ผลต่อความมัน่ คงและ พัฒนาการของไทยสมยั ความเจริญรงุ่ เรืองของไทยในสมัย รตั นโกสนิ ทรในดานตางๆ รตั นโกสนิ ทร์ ม.3/2 วิเคราะหปจจยั ทสี่ ง ผลตอความมัน่ คงและ ความเจรญิ รุงเรืองของไทย ในสมยั รัตนโกสินทร์ 4 - บทบาทของพระมหากษตั รยิ ไ์ ทยใน ส 4.3 3 - - 10 12 22 ราชวงศจ์ ักรีในการสร้างสรรคค์ วาม ม.3/4 วเิ คราะหบทบาท เจรญิ และความมั่นคงของชาติ ของไทยในสมยั - พัฒนาการของไทยในสมยั ประชาธิปไตย รัตนโกสนิ ทรท์ างด้าน การเมือง การปกครอง สังคม เศรษฐกิจ และความสมั พันธ์ ระหวา่ งประเทศตามช่วงสมยั ตา่ งๆ 5 - ภมู ิปญั ญาและวัฒนธรรมไทยใน ส 4.3 3 - - 5 6 11 สมัย รตั นโกสนิ ทรท์ ีม่ ีอิทธิพลตอ่ ม.3/3 วเิ คราะหภมู ปิ ญญา การพัฒนาชาติไทย จนถึงปจั จุบัน และวัฒนธรรมไทยสมยั โดยเฉพาะพระบาทสมเดจ็ พระ รัตนโกสินทร และ ปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช มหิต อทิ ธิพลตอการพฒั นาชาติ ลาธเิ บศร รามาธบิ ดี จกั รีนฤบ ไทย ดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถ บพติ รและสมเดจ็ พระนางเจา้ สิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชินีนาถ - บทบาทของไทยตัง้ แต่ เปล่ยี นแปลงการปกครอง จนถงึ ปัจจบุ นั ในสงั คมโลก สอบวัดผลปลายภาค ส 4.3/1, ส 4.3/2, ส 4.3/3 , ส 4.3/4 2 - - - 30 - รวม 40 25 20 25 30 100

กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษาฯ ส 23204 อาเซียนศึกษา ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรียนที่ 2 หน่วยการ สาระการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ เวลา คะแนน เรียนรู้ คาบ กลาง หลงั ปลาย รวม 1 ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ 1. วิเคราะห์ลักษณะทาง กอ่ น 4-- 9 กายภาพท่ีมีผลตอ่ พฒั นาการ 2 - 11 - ประเทศสาธารณรัฐสังคมนยิ ม ทางเศรษฐกิจและสงั คมของ 45 เวยี ดนาม ประเทศสมาชิกอาเซยี น 2. วเิ คราะหค์ วามเป็นมาทาง 14 35 16 - - 51 - ประเทศราชอาณาจกั รกมั พชู า ประวตั ิศาสตร์ที่มผี ลต่อ - ประเทศสาธารณรฐั พัฒนาการทางการเมอื ง การ ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว ปกครอง เศรษฐกิจและสงั คม - ประเทศราชอาณาจกั รไทย ของประเทศสมาชกิ อาเซยี น - ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพ 1. วเิ คราะห์ลกั ษณะทาง เมยี นมา กายภาพทีม่ ผี ลตอ่ พัฒนาการ - ประเทศสาธารณรัฐอินโดนเี ซีย ทางเศรษฐกิจและสงั คมของ - ประเทศมาเลเซีย ประเทศสมาชิกอาเซียน - ประเทศสาธารณรัฐสงิ คโปร์ 2. วเิ คราะห์ความเป็นมาทาง - ประเทศเนการาบรไู น ประวตั ิศาสตร์ท่ีมผี ลต่อ ดารสุ ซาลาม พัฒนาการทางการเมือง การ - ประเทศสาธารณรัฐฟลิ ปิ ปนิ ส์ ปกครอง เศรษฐกิจและสังคม สอบวดั ผลกลางภาค ผลการเรียนรูท้ ่ี 1,2 ของประเทศสมาชิกอาเซียน 2 - 20 - - - 12 กาเนดิ อาเซยี น 3. อธิบายความหมายและ 3 - - 4 4 8 ค ว า ม ส า คั ญ ช อ ง สั ญ ลั ก ษ ณ์ ข อ ง ประเทศสมาชิกอาเซยี น 4. วิเคราะหว์ วิ ฒั นาการของอาเซยี น กาเนดิ อาเซียน ปฏญิ ญาอาเซยี น และกฎบตั รอาเซยี น

หนว่ ย ผลการเรยี นรู้ เวลา คะแนน การ สาระการเรียนรู้ คาบ กลาง หลัง ปลาย เรียนรู้ รวม กอ่ น - 33 6 13 ววิ ัฒนาการและกลไกการ 5. วิเคราะหป์ ระชาคมอาเขียน 3- - 33 6 - 44 8 ดาเนนิ งานของอาเซยี น ความร่วมมอื ความสาเรจ็ ของ - 33 6 อาเซยี น และบทบาทของอาเซยี น - 33 6 ตอ่ ภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ - - 20 - และประชาคมโลก 20 20 20 100 14 กฎบัตรอาเซียน 4. วเิ คราะหว์ วิ ฒั นาการของอาเซียน 3 - กาเนดิ อาเซียน ปฏญิ ญาอาเซียน และกฎบตั รอาเซยี น 15 ประชาคมอาเซยี น 5. วิเคราะห์ประชาคมอาเขยี น 3- ความร่วมมอื ความสาเร็จของ อาเซียน และบทบาทของอาเซยี น ต่อภูมภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ และประชาคมโลก 16 ความรว่ มมอื และความสาเร็จ 6. วิเคราะหอ์ าเขียนกบั 3- ของอาเซียน ความสัมพันธ์กับประเทศ และกลุม่ ประเทศภายนอกภูมิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ 7. ตระหนกั และเหน็ ความสาคญั ของการร่วมเปน็ ประชาคมอาเซยี น อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 17 ความร่วมมือกบั ภายนอก 6. วิเคราะห์อาเขยี นกบั 3- ภมู ภิ าค ความสมั พันธก์ ับประเทศ และกลุม่ ประเทศภายนอกภมู ภิ าคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ 7. ตระหนักและเหน็ ความสาคญั ของการร่วมเป็นประชาคมอาเซียน อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ สอบวดั ผลปลายภาค ผลการเรยี นรู้ท่ี 3,4,5,6,7 2- รวม 40 40

โครงสร้างรายวิชาพนื้ ฐาน ระดับชน้ั มัธยมศึกษาตอนปลาย

กล่มุ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษาฯ ส 31121 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรมและการดาเนนิ ชีวิต ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ( 40 คาบ) หน่วย ตัวชีว้ ัด เวลา คะแนน การ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง คาบ เรยี นรู้ กอ่ น กลาง หลัง ปลาย รวม 10 1 ♦ โครงสรา้ งทางสงั คม ส 2.1/2 วเิ คราะหค์ วามสาคญั 4 5 5 - - 15 - การจดั ระเบยี บทางสังคม ของโครงสรา้ งทางสงั คม 10 - สถาบนั ทางสังคม การขดั เกลาทางสงั คมและ ♦ การขดั เกลาทางสังคม การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม ♦ การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม ♦ การแก้ปัญหาและแนวทางการ พัฒนาทางสงั คม 2 ♦ ความหมายและความสาคญั ของ ส 2.1/5 วิเคราะห์ความจาเป็น 6 10 5 - - วัฒนธรรม ทตี่ อ้ งมีการปรับปรงุ ♦ ลกั ษณะและ ความสาคญั ของ เปลี่ยนแปลงและอนรุ ักษ์ วัฒนธรรมไทยและเลือกรับ วัฒนธรรมไทยที่สาคญั ♦ การปรับปรุงเปล่ยี นแปลงและ วฒั นธรรมสากล อนุรกั ษว์ ฒั นธรรมไทย ♦ ความแตกต่างระหวา่ งวฒั นธรรม ไทยกบั วฒั นธรรมสากล ♦ แนวทางการอนรุ ักษ์วฒั นธรรม ไทยทด่ี ีงาม ♦ วธิ ีการเลือกรับวฒั นธรรมสากล 3 ♦ คุณลกั ษณะพลเมืองดีของ ส 2.1/3 ปฏบิ ตั ติ นและมีสว่ น 4 5 5 - - ประเทศชาตแิ ละสงั คมโลก เชน่ สนบั สนนุ ใหผ้ ู้อน่ื ประพฤติ - เคารพกฎหมายและกติกาสังคม ปฏิบัติเพือ่ เป็นพลเมอื งดขี อง - เคารพสทิ ธเิ สรภี าพของตนเอง ประเทศชาติ และสังคมโลก และบุคคลอื่น

หนว่ ย ตวั ชีว้ ัด เวลา คะแนน การ สาระการเรยี นร้แู กนกลาง คาบ เรียนรู้ ก่อน กลาง หลัง ปลาย รวม - มเี หตุผล รบั ฟงั ความคิดเห็นของ ผู้อ่ืน - มีความรับผดิ ชอบต่อตนเอง สังคม ชุมชน ประเทศชาตแิ ละสังคม - เขา้ รว่ มกิจกรรมทางการเมืองการ ปกครอง - มสี ว่ นรว่ มในการปูองกัน แกไ้ ข ปญั หา เศรษฐกจิ สงั คมการเมืองการ ปกครอง สิ่งแวดล้อม - มีคุณธรรมจรยิ ธรรมเป็นหลักใน การดาเนินชีวิต 4 ♦ ความหมาย ความสาคัญ แนวคดิ ส 2.1/4 ประเมินสถานการณ์ 4 5 5 - - 10 และหลักการของสิทธมิ นุษยชน สทิ ธมิ นุษยชนในประเทศไทย ♦ บทบาทขององคก์ รระหว่าง และเสนอแนวทางพัฒนา ประเทศในเวทีโลกที่มผี ลต่อประทศ ไทย ♦ สาระสาคัญของปฏญิ ญาสากลวา่ ดว้ ยสทิ ธมิ นุษยชน ♦ บทบญั ญตั ขิ องรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจกั รไทย ฉบับปัจจบุ นั เกยี่ วกับสทิ ธมิ นุษยชน ♦ ปัญหาสิทธมิ นษุ ยชนในประเทศ และแนวทางแกป้ ญั หาและพฒั นา สอบวัดผลกลางภาค ส 2.1/2 , ส 2.1/3 , ส 2.1/4 , ส 2.1/5 2 20 - - -

หนว่ ย ตวั ชี้วดั เวลา คะแนน การ สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง คาบ เรียนรู้ ก่อน กลาง หลัง ปลาย รวม 5 ♦ ปญั หาการเมอื งสาคัญทเี่ กดิ ข้ึน ส2.2/1 วเิ คราะหป์ ญั หา 3 - - 5 5 10 ภายในประเทศ การเมอื งทสี่ าคญั ใน ประเทศ ♦ สถานการณ์การเมอื งการปกครอง จากแหลง่ ข้อมลู ต่างๆ ของสังคมไทย และสังคมโลก และ พรอ้ มท้ังเสนอแนวทางแกไ้ ข ส 2.2/2 เสนอแนวทาง 3 - - 5 5 10 การประสานประโยชนร์ ่วมกนั ♦ อิทธิพลของระบบการเมอื งการ ทางการเมืองการปกครอง ปกครองท่ีมีผลตอ่ การดาเนนิ ชีวติ ที่นาไปสคู่ วามเข้าใจและ และความสัมพันธร์ ะหว่างประเทศ การประสานประโยชนร์ ่วมกนั ♦ การประสานประโยชน์ร่วมกนั ระหว่างประเทศ ระหว่างประเทศ เช่น การสร้าง ความสัมพนั ธร์ ะหว่างไทยกบั ประเทศตา่ ง ๆ ♦ การแลกเปลี่ยนเพื่อชว่ ยเหลอื และสง่ เสรมิ ดา้ นวฒั นธรรม การศกึ ษา เศรษฐกิจ สังคม 6 ♦ การปกครองตามระบอบ ส2.2/3 วเิ คราะห์ความสาคญั 4 - - 5 5 10 ประชาธปิ ไตย อันมีพระมหากษตั รยิ ์ และความจาเป็นทีต่ ้องธารง ทรงเป็นประมขุ รักษาไว้ซง่ึ การปกครองตาม - รปู แบบของรฐั ระบอบประชาธปิ ไตยอนั มี - ฐานะและพระราชอานาจของ พระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ พระมหากษตั ริย์ ♦ การตรวจสอบการใชอ้ านาจรัฐ ส2.2/4 เสนอแนวทางและมี 2 5 5 10 ตามรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั ร ส่วนรว่ มในการตรวจสอบการใช้ ไทยฉบับปจั จบุ ัน ท่ีมผี ลตอ่ การ อานาจรัฐ เปล่ยี นแปลงทางสงั คม เช่น การ ตรวจสอบโดยองคก์ รอสิ ระการ ตรวจสอบโดยประชาชน

หนว่ ย ตวั ชี้วดั เวลา คะแนน การ สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง คาบ เรียนรู้ 7 ♦ กฎหมายเพ่งเก่ียวกับนติ ิกรรม ส 2.1/1 วิเคราะหแ์ ละ กอ่ น กลาง หลัง ปลาย รวม สญั ญา เชน่ ซอื้ ขาย ขายฝาก เชา่ ปฏิบตั ติ นตามกฎหมายที่ 6 - - 5 10 15 ทรัพย์ เช่าซื้อ ก้ยู ืมเงิน จานา จานอง เก่ียวข้องกบั ตนเองครอบครัว ♦ กฎหมายอาญา เช่น ความผดิ ชุมชนประเทศชาติและ สงั คม 2 25 20 25 30 100 เกีย่ วกับทรัพย์ความผดิ เกี่ยวกบั ชีวติ โลก 40 25 20 25 30 100 และร่างกาย ♦ กฎหมายอืน่ ทส่ี าคญั เช่น รฐั ธรรมนูญ แหง่ ราชอาณาจักรไทย ฉบับปจั จบุ นั กฎหมายการรับ ราชการทหาร กฎหมาย ภาษอี ากร กฎหมายคมุ้ ครองผบู้ ริโภค ♦ ขอ้ ตกลงระหว่างประเทศ เชน่ ปฏญิ ญาสากลว่าด้วยสทิ ธิมนุษยชน กฎหมายมนุษยธรรมระหวา่ ง ประเทศ สอบวัดผลกลางภาค ส 2.1/1 , ส 2.2/1 , ส 2.2/2 , ส 2.2/3 , ส 2.2/4 รวม

โครงสรา้ งรายวิชา ส 31101 พระพุทธศาสนา 1 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษาฯ ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 จานวน 1.0 หน่วยกิต ( 40 คาบ ) หน่วย ตัวชว้ี ดั เวลา คะแนน การ สาระการเรียนรู้แกนกลาง คาบ เรียนรู้ กอ่ น กลาง หลัง ปลาย รวม 1 ♦ ประวัติพระพุทธเจา้ ส1.1/17 อธิบายประวัติ 455- - 10 3 มุฮัมมัด พระเยซู ศาสดาของศาสนาอน่ื ๆ 8 ♦ หลักธรรมสาคัญในการ โดยสงั เขป ส1.1/21 วเิ คราะห์หลกั ธรรม 2 3 - - - 2 อยู่ร่วมกนั อยา่ งสนั ติสุข ♦ ครสิ ตศ์ าสนา ไดแ้ ก่ บญั ญัติ สาคญั ในการอย่รู ่วมกันอย่าง 2 10 ประการ (เฉพาะทเี่ ก่ียวข้อง) สันติสขุ ของศาสนาอื่นๆ และ ชกั ชวน สง่ เสรมิ สนับสนนุ ♦ ศาสนาอสิ ลาม ได้แก่ หลักจรยิ ธรรม(เฉพาะท่เี ก่ียวข้อง) ให้บุคคลอืน่ เห็นความสาคัญ ของการทาความดตี ่อกัน 2 ♦ ลกั ษณะของสังคมชมพูทวีป ส1.1/1 วิเคราะหส์ ังคมชมพู 2 3 5 - - และคติความเช่อื ทางศาสนา ทวีปและคติความเชอ่ื ทาง สมัยกอ่ นพระพุทธเจา้ ศาสนาสมัยก่อนพระพุทธเจา้ ♦ พระพุทธศาสนามีทฤษฎี หรอื สงั คมสมยั ของศาสดา และวิธีการท่เี ป็นสากลและมี ทีต่ นนบั ถือ ขอ้ ปฏิบตั ิที่ยึดทางสายกลาง ส 1.1/4 วเิ คราะห์ข้อปฏิบัติ 2 2 - - - ♦ พระพุทธศาสนาเน้นการ ทางสายกลางในพระพุทธ พฒั นาศรัทธาและปัญญาที่ ศาสนาหรอื แนวคิดของ ถูกต้อง ศาสนาท่ตี นนับถือตามท่ี กาหนด ส 1.1/5วเิ คราะห์การพฒั นา 2 2 - - - ศรทั ธา และปญั ญาท่ถี ูกต้อง ในพระพุทธศาสนา หรือ แนวคดิ ของศาสนาที่ตนนับถือ ตามทก่ี าหนด

โครงสร้างรายวิชา ส 31101 พระพุทธศาสนา 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคม ศึกษาฯ ระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ( 40 คาบ ) หน่วย ตัวชว้ี ัด เวลา คะแนน การ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง คาบ เรียนรู้ ก่อน กลาง หลงั ปลาย รวม 3 ♦ พระพุทธเจ้าในฐานะเปน็ ส 1.1/2 วิเคราะห์ 255- - 10 10 มนษุ ย์ ผ้ฝู กึ ตนได้อยา่ งสูงสดุ พระพุทธเจ้าในฐานะเปน็ 9 (การตรัสรู้) มนุษยผ์ ฝู้ ึกตนไดอ้ ยา่ งสงู สดุ ♦ การกอ่ ตั้งพระพุทธศาสนา ในการตรัสรกู้ ารกอ่ ต้ัง วธิ กี าร วธิ ีการสอนและการเผยแผ่ สอนและการเผยแผ่ พระพุทธศาสนาตามแนวพุทธ พระพุทธศาสนาหรือ จริยา วเิ คราะห์ประวตั ิศาสดา ♦ พุทธสาวก พทุ ธสาวกิ า ทตี่ นนบั ถือตามท่ีกาหนด ◊ พระอัสสชิ ส 1.1/14วิเคราะห์ข้อคิดและ 4 5 5 - - ◊ พระกีสาโคตมเี ถรี แบบอย่างการดาเนินชีวิตจาก ◊ พระนางมัลลิกา ประวตั สิ าวก ชาดกเรื่องเลา่ ◊ หมอชวี ก โกมารภจั และศาสนกิ ชนตัวอยา่ ง ♦ ชาดก ตามท่ีกาหนด ◊ เวสสนั ดรชาดก ♦ ศาสนกิ ชนตวั อยา่ ง ◊พระนาคเสน-พระยามลิ ินท์ ◊ สมเดจ็ พระวนั รตั (เฮง เขมจารี) ◊ พระอาจารย์มนั่ ภรู ิทตฺโต ◊ สุชีพ ปญุ ญานุภาพ 4 ♦ พระรตั นตรัย ส 1.1/13วเิ คราะหห์ ลักธรรม 4 - - 5 4 ◊ วิเคราะหค์ วามหมายและ ในกรอบอรยิ สัจ 4 หรอื หลกั คณุ ค่าของพทุ ธะ คาสอนของศาสนาท่ีตนนบั ถอื

โครงสร้างรายวิชา ส 31101 พระพุทธศาสนา 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษาฯ ระดับช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ( 40 คาบ ) หนว่ ย ตวั ชว้ี ดั เวลา คะแนน การ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง คาบ เรยี นรู้ กอ่ น กลาง หลงั ปลาย รวม 4 ♦ อรยิ สัจ 4 ส 1.1/13วิเคราะหห์ ลกั ธรรม ---4 4 (ตอ่ ) ◊ ทุกข์ (ธรรมท่ีควรรู้) ในกรอบอริยสจั 4 หรอื หลกั 2 > ขันธ์ 5 - นามรปู คาสอนของศาสนาที่ตนนบั ถอื ◊ สมุทัย (ธรรมท่คี วรละ) > หลักกรรม - นยิ าม 5 - วติ ก 3 ◊ นิโรธ (ธรรมทค่ี วรบรรลุ) > ภาวนา 4 ◊ มรรค (ธรรมที่ควรเจรญิ ) > พระสทั ธรรม 3 > ปัญญาวฒุ ิธรรม 4 > พละ 5 > อบุ าสกธรรม 5 > มงคล 38 - สงเคราะหบ์ ตุ ร - สงเคราะหภ์ รรยา - สนั โดษ 5 ♦ วิธีการศกึ ษาและคน้ ควา้ ส 1.1/15 วิเคราะห์คุณค่าและ 1 - - - 2 พระไตรปฏิ ก และคมั ภีรข์ อง ความสาคัญของการสงั คายนา ศาสนาอ่นื ๆ การสงั คายนา พระไตรปิฎก หรือคมั ภรี ์ และการเผยแผ่พระไตรปิฏก ของศาสนาทตี่ นนับถือและ ♦ ความสาคัญและคณุ คา่ การเผยแผ่ ของพระไตรปิฏก

โครงสร้างรายวิชา ส 31101 พระพุทธศาสนา 1 กลุม่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษาฯ ระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 จานวน 1.0 หน่วยกิต ( 40 คาบ ) หนว่ ย ตวั ชี้วดั เวลา คะแนน การ สาระการเรียนรู้แกนกลาง คาบ เรียนรู้ ก่อน กลาง หลงั ปลาย รวม 5 ♦ พทุ ธศาสนสภุ าษิต ส 1.1/15 วเิ คราะหค์ ุณค่าและ ---2 2 (ตอ่ ) > จติ ฺต ทนตฺ สุขาวห ความสาคัญของการสังคายนา 7 : จติ ท่ฝี ึกดีแล้วนาสุขมาให้ พระไตรปิฎก หรอื คมั ภีร์ >นอจุ ฺจาวจ ปณฑฺ ติ า ของศาสนาทตี่ นนบั ถอื และ ทสสฺ ยนฺติ : บณั ฑิตย่อมไม่ การเผยแผ่ แสดงอาการขน้ึ ๆ ลง ๆ > นตถฺ ิ โลเก อนนิ ฺทิโต : คนที่ไม่ถูกนนิ ทาไม่มีในโลก > โกธ ฆตฺวา สุข เสติ : ฆา่ ความโกรธไดย้ อ่ มอยู่ เปน็ สขุ 6 ♦ ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ชาวพุทธทด่ี ี ส 1.2/1 ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ศาสนกิ 2 - - 5 2 ตอ่ พระภิกษุ ชนทีด่ ตี ่อสาวก สมาชิกใน ◊ การเขา้ ใจในกิจของ ครอบครวั และคนรอบข้าง พระภิกษุ เช่น การศกึ ษา การปฏบิ ัติธรรม และการ เปน็ นกั บวชทดี่ ี ◊ คณุ สมบัติทายกและ ปฏคิ าหก ◊ การปฏิบตั ติ นต่อพระภกิ ษุ ทางกาย วาจา และใจ ท่ีประกอบดว้ ยเมตตา

โครงสรา้ งรายวชิ า ส 31101 พระพทุ ธศาสนา 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษาฯ ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 จานวน 1.0 หน่วยกติ ( 40 คาบ ) หน่วย ตัวช้วี ดั เวลา คะแนน การ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง คาบ เรียนรู้ กอ่ น กลาง หลัง ปลาย รวม 6 ◊ การปฏิสนั ถารท่ีเหมาะสม ส 1.2/1 ปฏิบตั ิตนเปน็ ศาสนกิ ---3 3 (ตอ่ ) ต่อพระภิกษุ ในโอกาสต่าง ๆ ชนท่ีดีต่อสาวก สมาชิกใน 5 ♦ ปฏบิ ตั ิตนเปน็ สมาชิกท่ีดี ครอบครัว และคนรอบข้าง ของครอบครวั และสงั คม ◊ การรักษาศลี 8 ◊ การเขา้ รว่ มกิจกรรมและ เป็นสมาชกิ ขององคก์ ร ชาวพทุ ธ ◊ การเป็นชาวพทุ ธท่ีดี ตามหลักทิศเบื้องบนในทิศ 6 ◊ การปฏิบตั ิตนเปน็ สมาชกิ ทีด่ ขี องครอบครวั ตามหลัก ทศิ เบอ้ื งหลังในทิศ 6 7 ♦ ประเภทของศาสนพิธี ส 1.2/2 ปฏิบัติตนถูกต้อง 2- -23 ในพระพุทธศาสนา ตามศาสนพธิ ี พธิ ีกรรม ◊ ศาสนพธิ ีเนื่องดว้ ยพุทธ ตามหลกั ศาสนาทต่ี นนับถือ บัญญัติ เชน่ พิธีแสดงตนเป็น พทุ ธมามกะ พธิ ีเวียนเทียน ถวายสงั ฆทาน ถวายผา้ อาบ น้าฝน พิธีทอดกฐนิ พิธปี วารณา เป็นต้น ◊ ศาสนพธิ ีทนี่ าพระพทุ ธ ศาสนาเข้าไปเกยี่ วเนื่อง

โครงสร้างรายวชิ า ส 31101 พระพุทธศาสนา 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษาฯ ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 จานวน 1.0 หน่วยกิต ( 40 คาบ ) หน่วย ตัวช้ีวัด เวลา คะแนน การ สาระการเรียนรู้แกนกลาง คาบ เรียนรู้ ก่อน กลาง หลัง ปลาย รวม 7 ♦ การแสดงตนเป็นพทุ ธ ส 1.2/3แสดงตนเปน็ พุทธมามกะ 2 - - 3 2 5 5 (ตอ่ ) มามกะ หรอื แสดงตนเป็นศาสนกิ ชน 5 ◊ ขนั้ เตรยี มการ ของศาสนาทต่ี นนับถอื 3 ◊ ขนั้ พธิ กี าร ส 1.2/4 วิเคราะหห์ ลกั ธรรม 2- - -5 ♦ หลักธรรม/คตธิ รรม คตธิ รรม ทเ่ี กี่ยวเนอ่ื งกับ ท่เี กี่ยวเนอื่ งกับวันสาคญั วนั สาคัญทางศาสนา และ และเทศกาลท่สี าคัญใน เทศกาลท่สี าคญั ของศาสนาท่ี พระพุทธศาสนาหรือ ตนนบั ถือและปฏิบัตติ นได้ถูกตอ้ ง ศาสนาอืน่ ♦ การปฏิบัตติ นที่ถกู ต้อง ในวนั สาคญั และเทศกาลที่ สาคัญในพระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาอ่นื 8 ♦ พฒั นาการเรยี นรูด้ ว้ ยวิธี ส 1.1/19 เห็นคุณค่า เชอื่ ม่นั 1 - - 2 3 คิดแบบโยนิโสมนสิการ และมงุ่ มน่ั พัฒนาชวี ิตดว้ ยการ 10 วิธี (เน้นวิธคี ดิ แบบ พฒั นาจิตและพัฒนาการเรียนรู้ แยกแยะสว่ นประกอบ ด้วยวิธีคดิ แบบโยนโิ สมนสกิ าร แบบสามญั ญลักษณะและ หรือ การพัฒนาจิตตามแนวทาง แบบเปน็ อยใู่ นขณะ ของศาสนาที่ตนนับถือ ปจั จบุ ัน ) ส 1.1/20 สวดมนต์ แผ่เมตตา ♦ ฝึกการบรหิ ารจติ และ และการบรหิ ารจติ และเจริญ 2 - - 3 - เจริญปญั ญาตามหลัก ปัญญาตามหลักสติปัฏฐาน สตปิ ัฎฐาน หรอื ตามแนวทางของศาสนา ทต่ี นนับถือ

กลุม่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ส31161 วิชาประวัตศิ าสตร์ไทย ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 จานวน 1.0 หน่วยกิต (40 ชม.) หน่วยการ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตวั ชี้วดั เวลา คะแนน เรียนรู้ คาบ กอ่ น กลาง หลัง ปลาย รวม 1  เวลาและยคุ สมยั ทางประวตั ศิ าสตร์ที่ ส 4.1 ม.4-6/1 5 5 5 - - 10 ปรากฏในหลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ ตระหนกั ถึง ไทยและประวตั ศิ าสตรส์ ากล ความสาคญั ของ  ตวั อยา่ งเวลาและยุคสมยั ทาง เวลา และยคุ สมยั ประวตั ิศาสตร์ของสังคมมนุษย์ทม่ี ี ทางประวตั ิศาสตร์ ปรากฏในหลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์ ทีแ่ สดงถึงการ (เช่ือมโยงกับ มฐ. ส 4.3 ) เปลย่ี นแปลงของ มนุษยชาติ  ความสาคญั ของเวลาและยุคสมยั ทาง ประวตั ิศาสตร์ 2  ขนั้ ตอนของวธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์ ส 4.1 ม.4-6/2 6 5 5 - - 10 โดยนาเสนอตวั อย่างทลี ะข้นั ตอนอย่าง สรา้ งองคค์ วามรู้ ชัดเจน ใหมท่ าง  คุณคา่ และประโยชนข์ องวิธกี ารทาง ประวตั ศิ าสตรโ์ ดย ประวตั ิศาสตร์ที่มตี ่อการศกึ ษาทาง ใชว้ ิธกี ารทาง ประวตั ศิ าสตร์ ประวตั ศิ าสตร์  ผลการศึกษาหรือโครงงานทาง อยา่ งเป็นระบบ ประวตั ศิ าสตร์ 3  ประเดน็ สาคญั ของประวัตศิ าสตรไ์ ทย ส 4.3 ม.4-6/1 4 5 5 - 5 15 เช่น แนวคิดเกย่ี วกบั ความเป็นมาของ วิเคราะหป์ ระเดน็ ชาตไิ ทย อาณาจกั รโบราณในดินแดน สาคญั ของ ไทย และอทิ ธพิ ลที่มตี ่อสังคมไทยปัจจยั ประวตั ิศาสตร์ไทย 6 10 5 - 5 20 ท่มี ผี ลต่อการสถาปนาอาณาจักรไทยใน ส 4.3 ม.4-6/2 ชว่ งเวลาต่างๆ สาเหตุและผลของการ วิเคราะห์ ปฏริ ูปการปกครองบ้านเมือง การเลกิ ความสาคญั ของ ทาส เลิกไพร่ การเสดจ็ ประพาสยุโรป สถาบนั และหัวเมอื งสมยั รัชกาลท่ี 5 พระมหากษตั ริย์ ต่อชาติไทย

หนว่ ยการ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตัวชว้ี ัด เวลา คะแนน เรียนรู้ คาบ ก่อน กลาง หลงั ปลาย รวม แนวคิดประชาธิปไตยต้งั แต่สมยั รชั กาล 3 ท่ี 6 จนถงึ การเปล่ียนแปลงการ ปกครอง พ.ศ. 2475 สมยั รัชกาลที่ 7 บทบาท ของสตรีไทย 4  บทบาทของสถาบันพระมหากษตั ริยใ์ น ส 4.3 ม.4-6/4 7 - - 10 10 20 การพัฒนาชาติไทยในดา้ นตา่ งๆ เช่น วเิ คราะหผ์ ลงาน การปูองกันและรักษาเอกราชของชาติ ของบคุ คลสาคญั การสรา้ งสรรค์วฒั นธรรมไทย ท้งั ชาวไทยและ  อทิ ธิพลของวัฒนธรรมตะวนั ตกและ ต่างประเทศ ทม่ี ี ตะวันออกทม่ี ีตอ่ สงั คมไทย ส่วนสรา้ งสรรค์  ผลงานของบุคคลสาคญั ทง้ั ชาวไทยและ วฒั นธรรมไทย ตา่ งประเทศ ทม่ี ีสว่ นสรา้ งสรรค์ และประวตั ิศาสตร์ วัฒนธรรมไทยและประวตั ิศาสตรไ์ ทย ไทย เช่น - พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลยั - พระบาทสมเดจ็ พระน่งั เกลา้ เจา้ อยูห่ วั - พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจ้าอยูห่ วั - สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาว ชริ ณาญวโรรส - พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมหลวงวงษาธิ ราชสนทิ - สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ ยานริศรานวุ ัดติวงศ์ - สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระ ยาดารงราชานุภาพ - หมอ่ มราโชทยั หม่อมราชวงศ์ กระตา่ ย อศิ รางกูร

คะแนน หนว่ ยการ สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ตวั ชว้ี ัด เวลา ก่อน กลาง หลงั ปลาย ร เรียนรู้ คาบ ว ม 4 - สมเดจ็ เจ้าพระยาบรมมหาศรสี ุรยิ วงศ์ (ชว่ ง บนุ นาค ) - บาทหลวงปา เลอกัวซ์ - พระยากัลยาไมตรี (Dr.Francis B.Sayre ดร.ฟรานซสี บี.แซร)์ - ศาสตราจารยศ์ ิลป พรี ะศรี - พระยารษั ฎานปุ ระดษิ ฐ์มหศิ รภกั ดี (คอมซิมบ้ี ณ ระนอง)  ปจั จยั ทีส่ ง่ เสรมิ ความสรา้ งสรรคภ์ มู ิ ปัญญาไทย และวฒั นธรรมไทย ซ่ึงมีผล ต่อสังคมไทยในยุคปัจจุบัน เชน่ - พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ภูมิ พลอดุลยเดช - สมเด็จพระนางเจ้าสริ ิกติ ิ์ พระบรมราชนิ ีนาถ - สมเด็จพระศรนี ครินทราบรมราช ชนนี - สมเดจ็ พระเจา้ พ่ีนางเธอ เจ้าฟูา กลั ยานวิ ฒั นา กรมหลวงนราธวิ าสราช นครนิ ทร์ 5  สภาพแวดล้อมที่มผี ลต่อการสรา้ งสรรค์ ส 4.3 ม.4-6/3 4 - - 10 5 1 ภมู ปิ ญั ญาและวัฒนธรรมไทย วิเคราะหป์ ัจจยั ที่ 5  วิถีชวี ติ ของคนไทยในสมัยต่างๆ ส่งเสริมความ  การสบื ทอดและเปล่ียนแปลงของ สรา้ งสรรคภ์ มู ิ วฒั นธรรมไทย ปญั ญาไทย และ  แนวทางการอนุรักษภ์ มู ปิ ญั ญาและ วัฒนธรรมไทย ซึ่ง วัฒนธรรมไทยและการมสี ่วนร่วมใน มผี ลตอ่ สงั คมไทย 3 - - 5 5 การอนรุ ักษ์ ในยคุ ปจั จบุ นั 1  วิธกี ารมีส่วนร่วมอนุรักษ์ภมู ิปัญญาและ ส 4.3 ม. 4-6/5 0 วัฒนธรรมไทย วางแผนกาหนด แนวทางและการมี ส่วนร่วมการ อนรุ ักษ์ภูมปิ ัญญา

ไทยและ วัฒนธรรมไทย วัด/ประเมนิ ผล กลางภาค/ปลายภาค 4 25 20 25 30 1 0 0 รวม 40 25 20 25 30 1 0 0

กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ส32162 วิชาประวัตศิ าสตร์สากล ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรียนที่ 1 จานวน 1.0 หนว่ ยกติ (40 ชม.) หน่วยการ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตวั ช้วี ดั เวลา คะแนน เรียนรู้ คาบ กอ่ น กลาง หลัง ปลา รวม ย 1  เวลาและยคุ สมัยทาง ส 4.1 ม.4-6/1 4 5 3 --8 เวลาและยคุ ประวัติศาสตร์ทีป่ รากฏใน ตระหนักถึงความสาคญั สมัยทาง หลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ ของเวลา และยุคสมยั ประวัต-ิ ไทยและประวตั ิศาสตรส์ ากล ทางประวัติศาสตร์ ศาสตร์  ตวั อย่างเวลาและยุคสมยั ทาง ท่ีแสดงถึงการ ประวัตศิ าสตร์ของสังคม เปลีย่ นแปลงของ มนุษยท์ ม่ี ีปรากฏในหลักฐาน มนุษยชาติ ทางประวตั ิศาสตร์  ความสาคญั ของเวลาและยคุ สมยั ทางประวตั ศิ าสตร์ 2  ขัน้ ตอนของวิธีการทาง ส 4.1 ม.4-6/2 สรา้ ง 4 5 3 - - 8 การสร้างองค์ ประวัติศาสตร์ โดยนาเสนอ องค์ความรใู้ หมท่ าง ความรู้ใหม่ ตวั อย่างทีละขั้นตอนอย่าง ประวัติศาสตรโ์ ดยใช้ ทางประวตั -ิ ชดั เจน วธิ กี ารทาง ศาสตร์สากล  คณุ ค่าและประโยชนข์ อง ประวัติศาสตรอ์ ย่างเป็น วธิ กี ารทางประวัตศิ าสตร์ท่มี ี ระบบ ต่อการศึกษาทาง ประวตั ิศาสตร์  ผลการศกึ ษาหรือโครงงาน ทางประวัติศาสตร์ 3  อารยธรรมของโลกยุคโบราณ ส 4.2 ม.4-6/1 9 15 14 - - 29 อารยธรรม ไดแ้ ก่ อารยธรรมล่มุ แมน่ า้ วิเคราะห์อทิ ธิพลของ แห่งโลก ไทกรสี -ยเู ฟรตสี ไนล์ ฮวงโห อารยธรรมโบราณ และ โบราณ สนิ ธุ และอารยธรรมกรีก การติดตอ่ ระหวา่ ง โลก - โรมนั ตะวนั ออกกบั โลก  การติดต่อระหวา่ งโลก ตะวันตก ทีม่ ผี ลตอ่ ตะวนั ออกกบั โลกตะวนั ตก พฒั นาการและการ และอทิ ธพิ ลทางวฒั นธรรมท่มี ี เปลย่ี นแปลงของโลก ตอ่ กนั และกัน -

หนว่ ยการ สาระการเรียนร้แู กนกลาง ตวั ช้วี ดั เวลา คะแนน เรยี นรู้ คาบ กอ่ น กลาง หลัง ปลา รวม ย 4  เหตกุ ารณส์ าคัญต่างๆทีส่ ่งผล ส 4.2 ม.4-6/2 9 - - 10 15 25 เหตกุ ารณ์ ต่อการเปล่ียนแปลงของโลกใน วเิ คราะหเ์ หตุการณ์ สาคญั ทาง ปจั จบุ ัน เช่น ระบอบศกั ดินา สาคัญต่างๆ ทส่ี ่งผลต่อ ประวตั -ิ สวามิภกั ดิ์ สงครามครเู สด การเปลย่ี นแปลงทาง ศาสตร์ การฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ สังคม เศรษฐกิจ และ ทม่ี ผี ล การปฏวิ ัติทางวิทยาศาสตร์ การเมอื งเข้าสู่โลกสมยั ต่อโลก การสารวจทางทะเล การปฏริ ูป ปจั จุบนั 5 - - 5 10 15 ปจั จุบัน ศาสนา การปฏวิ ตั ิ อุตสาหกรรม ส 4.2 ม.4-6/3 แนวคิดเสรนี ยิ ม แนวคดิ วิเคราะหผ์ ลกระทบของ จักรวรรดินิยม แนวคดิ ชาตนิ ยิ ม การขยายอทิ ธิพล ของ  การขยาย การล่าอาณานิคม ประเทศในยุโรปไปยัง และผลกระทบ ทวีปอเมรกิ า แอฟริกา และเอเชีย  ความร่วมมอื และความขดั แยง้ ของ มนุษยชาติในโลกใน ครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 20 5  สถานการณส์ าคัญของโลกใน ส 4.2 ม.4-6/4 5 - - 10 5 15 สถานการณ์ ครสิ ต์ศตวรรษที่ 21 เชน่ วิเคราะหส์ ถานการณ์ สาคญั ของโลก - เหตกุ ารณร์ ะเบดิ ตึก ของโลกในศตวรรษที่ 21 ในครสิ ต-์ World Trade Center ศตวรรษ ( เวลิ ดเ์ ทรด เซ็นเตอร์ ) ที่ 21 11 กันยายน 2001 - การขาดแคลนทรัพยากร - การก่อการร้ายและการต่อตา้ น การก่อการรา้ ย - ความขัดแย้งทางศาสนา วัด/ประเมินผล กลางภาค/ปลายภาค 4 25 20 25 30 100 รวม 40 25 20 25 30 100

โครงสรา้ งรายวชิ า ส 32102 พระพุทธศาสนา 2 กลมุ่ สาระการเรียนร้สู งั คมศึกษาฯ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรียนที่ 2 จานวน 1.0 หนว่ ยกติ (40 คาบ) หน่วย ตัวชว้ี ัด เวลา คะแนน การ สาระการเรียนร้แู กนกลาง คาบ เรยี นรู้ 1 ♦ ลกั ษณะประชาธิปไตยใน ส.1.1/6. วเิ คราะห์ลกั ษณะ 1 กอ่ น กลาง หลัง ปลาย รวม พระพทุ ธศาสนา ประชาธิปไตยในพระพุทธศาสนา 5 5 - - 10 ♦ หลกั การของพระพุทธศาสนา หรอื แนวคิดของศาสนาทตี่ นนบั ถอื กับหลักวทิ ยาศาสตร์ ตามทก่ี าหนด ♦ การคิดตามนยั แหง่ ส.1.1/7. วเิ คราะหห์ ลักการของ 2 พระพุทธศาสนาและการคดิ แบบ พระพุทธศาสนากบั หลกั วทิ ยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ หรอื แนวคดิ ของ ♦ พระพุทธศาสนาเน้นการฝึกหัด ศาสนาทต่ี นนบั ถอื ตามท่กี าหนด อบรมตน การพ่งึ ตนเอง และการ ส.1.1/8. วเิ คราะหก์ ารฝึกฝนและ 1 มุ่งอสิ รภาพ พฒั นาตนเองการพึง่ ตนเอง และ การมุ่งอสิ รภาพในพระพุทธศาสนา หรอื แนวคดิ ของศาสนาทตี่ นนบั ถอื ตามทีก่ าหนด 2 ♦ พระพุทธเจ้าในฐานะเป็นมนุษย์ ส.1.1/2. วเิ คราะห์ พระพทุ ธเจา้ 3 10 5 - - 15 ผู้ฝึกตนไดอ้ ยา่ งสูงสุด (การตรสั ร้)ู ในฐานะเป็นมนษุ ยผ์ ูฝ้ ึกตนได้อย่าง ♦ การกอ่ ต้งั พระพุทธศาสนา สงู สดุ ในการตรสั รูก้ ารก่อตง้ั วิธีการสอนและการเผยแผ่ วิธกี ารสอนและการเผยแผ่ พระพุทธศาสนาตามแนวพทุ ธ พระพทุ ธศาสนา หรือวิเคราะห์ จริยา ประวตั ศิ าสดาทตี่ นนับถือตามที่ 3 ♦ พุทธสาวก พุทธสาวกิ า กาหนด ◊ พระอนุรทุ ธะ ส.1.1/14. วิเคราะห์ขอ้ คดิ และ แบบอยา่ งการดาเนินชวี ติ จาก ◊ พระองคุลิมาล ประวัตสิ าวกชาดกเร่ืองเลา่ ◊ พระธัมมทนิ นาเถรี และศาสนกิ ชนตวั อยา่ งตามท่ี ◊ จิตตคหบดี กาหนด ♦ ชาดก ◊ มโหสธชาดก ♦ ศาสนิกชนตวั อยา่ ง ◊ สมเด็จพระนารายณม์ หาราช

◊ พระธรรมโกศาจารย์ ( พุทธ ทาสภกิ ขุ) ◊ พระพรหมมงั คลาจารย์ (ปญั ญานนั ทภกิ ข)ุ ◊ ดร.เอม็ เบดการ์ 3 ♦ พระรตั นตรยั ส.1.1/13. วิเคราะหห์ ลกั ธรรมใน 8 10 5 - - 15 ◊ วเิ คราะหค์ วามหมายและ กรอบอรยิ สจั 4 หรือหลกั คาสอน คณุ ค่าของพทุ ธะ ธรรมะ สงั ฆะ ของศาสนาที่ตนนับถือ ♦ อรยิ สจั 4 ◊ ทุกข์ (ธรรมท่คี วรร)ู้ > ขนั ธ์ 5 - นามรปู - โลกธรรม 8 - จิตเจตสกิ ◊ สมทุ ัย (ธรรมท่คี วรละ) > หลักกรรม - นิยาม 5 - กรรมนิยาม ( กรรม 12 ) - ธรรมนยิ าม(ปฏิจจสมุป บาท) > วิตก 3 > มิจฉาวณิชชา 5 > นิวรณ์ 5 > อปุ าทาน 4 ◊ นิโรธ (ธรรมที่ควรบรรลุ) > ภาวนา 4 > วมิ ุตติ 5 > นพิ พาน ◊ มรรค (ธรรมที่ควรเจรญิ ) > พระสัทธรรม 3 > ปัญญาวุฒธิ รรม 4 > พละ 5 > อบุ าสกธรรม 5 > อปรหิ านยิ ธรรม > ทิฏฐธัมมิกัตถสังวตั ตนิก ธรรม 4 > โภคอาทยิ ะ 5

> อรยิ วัฑฒิ 5 > อธปิ ไตย 3 > สาราณยี ธรรม 6 > ทศพิธราชธรรม 10 > วิปัสสนาญาณ 9 > มงคล 38 - ถกู โลกธรรมจิตไม่ หวน่ั ไหว - จิตไมเ่ ศรา้ โศก - จติ ไมม่ ัวหมอง - จติ เกษม 4 ♦ วิธีการศึกษาและค้นควา้ พระ ส.1.1/15. วเิ คราะห์คุณค่าและ 2 5 5 - - 10 ไตรปฏิ ก และคัมภรี ข์ องศาสนาอ่ืน ความสาคญั ของการสงั คายนา ๆ การสงั คายนาและการเผยแผ่ พระไตรปิฎก หรือคมั ภรี ์ของ พระไตรปฏิ ก ศาสนาที่ตนนบั ถอื และการเผยแผ่ ♦ ความสาคญั และคณุ ค่าของพระ ส.1.1/13. วเิ คราะห์หลกั ธรรมใน 2 ไตรปฏิ ก กรอบอริยสจั 4 หรือหลกั คาสอน ♦ พุทธศาสนสภุ าษติ ของศาสนาทต่ี นนบั ถือ (พทุ ธ > ปฏริ ูปการี ธุรวา อฎุ ฺฐาตา ศาสนสภุ าษติ ) วินทฺ เต ธน : คนขยนั เอาการเอางาน กระทาเหมาะสม ยอ่ มหาทรัพยไ์ ด้ > วายเมถว ปรุ โิ ส ยาว อตฺถสสฺ นิปปฺ ทา : เกิดเป็นคนควรจะ พยายามจนกว่าจะประสบ ความสาเร็จ > สนตฺ ฎฺฐี ปรม ธน : ความสนั โดษเป็นทรัพย์ อยา่ งยง่ิ > อณิ าทาน ทุกฺข โลเก : การเปน็ หนเ้ี ป็นทุกข์ในโลก 5 ♦ ปฏิบัตติ นเปน็ ชาวพทุ ธทด่ี ีตอ่ ส.1.2 /1. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ศาสนิก 3 - - 5 8 13 พระภิกษุ ชนทีด่ ีต่อสาวกสมาชกิ ใน ◊ การเขา้ ใจในกิจของพระภกิ ษุ ครอบครัว และคนรอบขา้ ง เชน่ การศึกษา การปฏิบตั ิธรรม และการเปน็ นักบวชท่ดี ี

◊ หนา้ ทแี่ ละบทบาทของ พระภิกษุในฐานะพระนักเทศก์ พระธรรมทูต พระธรรมจารกิ พระ วทิ ยากร พระวิปัสสนาจารย์ และ พระนักพัฒนา ◊ การเป็นชาวพทุ ธที่ดี ตาม หลักทศิ เบือ้ งบนในทิศ 6 ◊ หนา้ ทีแ่ ละบทบาทของ อบุ าสก อบุ าสกิ า ที่มตี ่อสงั คมไทย ในปัจจบุ ัน 6 พิธีบรรพชาอปุ สมบท ส.1.2 /2. ปฏิบัตติ นถกู ต้องตามศา 1 - - 5 7 12 คณุ สมบัติของผู้ขอบรรพชา สนพธิ ี พิธกี รรมตามหลักศาสนาที่ อปุ สมบท เคร่อื งอฏั ฐบรขิ าร ตนนับถอื ประโยชนข์ องการบรรพชา ส.1.1/4. วิเคราะห์หลักธรรม คติ 2 อุปสมบท ธรรม ท่เี กยี่ วเนื่องกับวันสาคญั ทาง ♦ หลักธรรม/คติธรรมทเี่ กยี่ วเนื่อง ศาสนา และเทศกาลท่สี าคญั ของ กบั วันสาคญั และเทศกาลทส่ี าคญั ศาสนาท่ีตนนบั ถือและปฏิบตั ติ น ในพระพุทธศาสนาหรือศาสนาอ่ืน ไดถ้ ูกตอ้ ง ♦ การปฏิบตั ิตนท่ีถกู ต้องในวัน สาคัญและเทศกาลทสี่ าคัญใน พระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาอ่ืน 7 ♦ พัฒนาการเรยี นรดู้ ว้ ยวิธีคดิ ส.1.1/19. เห็นคณุ ค่า เช่ือม่นั และ 2 - - 4 5 9 แบบโยนโิ สมนสิการ 10 วธิ ี (เน้น มุง่ ม่ันพัฒนาชีวติ ดว้ ยการพฒั นา วิธคี ดิ แบบแยกแยะสว่ นประกอบ จติ และพฒั นาการเรียนรดู้ ้วยวธิ ีคดิ และแบบวภิ ชั ชวาท ) แบบโยนโิ สมนสิการหรือการ 1) วิธีคิดแบบแยกแยะ พฒั นาจติ ตามแนวทางของศาสนา สว่ นประกอบ ทีต่ นนับถือ 2) วิธคี ดิ แบบวิภัชชวาท ส.1.1/20. สวดมนต์ แผเ่ มตตา 1 และบรหิ ารจติ และเจรญิ ปัญญา ♦ สวดมนต์แปล และแผ่เมตตา รู้ ตามหลกั สตปิ ฏั ฐาน หรือตาม และเขา้ ใจวิธปี ฏบิ ตั ิและประโยชน์ แนวทางของศาสนาที่ตนนับถอื ของการบรหิ ารจติ และเจริญ ปญั ญา ♦ ฝกึ การบริหารจติ และเจริญ ปญั ญาตามหลกั สติปฎั ฐาน ♦ นาวิธีการบริหารจติ และเจรญิ ปัญญาไปใช้ในการพัฒนาการ

เรยี นรู้ คณุ ภาพชวี ติ และสังคม 8 ♦ สภาพปญั หาในชมุ ชน และ ส.1.1/22. เสนอแนวทางการจดั 1 - - 4 5 9 สังคม กิจกรรมความร่วมมอื ของทกุ ♦ การปกปูอง คุ้มครอง ธารง ศาสนาในการแก้ปญั หาและพฒั นา รักษาพระพุทธศาสนาของพุทธ สังคม บริษัทในสังคมไทย ส.1.2 /5. สมั มนาและเสนอแนะ 2 ♦ การปลูกจติ สานึก และการมี แนวทางในการธารงรกั ษาศาสนาท่ี สว่ นรว่ มในสงั คมพทุ ธ ตนนับถือ อันสง่ ผลถงึ การพัฒนา ตน พัฒนาชาติและโลก 9 ♦ ประวัติพระพทุ ธเจ้า มุฮัมมดั ส.1.1/17. อธบิ ายประวตั ศิ าสดา 1 - - 2 5 7 พระเยซู ของศาสนาอนื่ ๆ โดยสังเขป ♦ หลักธรรมสาคญั ในการอยู่ ส.1.1/21. วิเคราะห์หลักธรรม 1 รว่ มกันอยา่ งสันตสิ ุข สาคัญในการอยู่ร่วมกนั อยา่ งสนั ติ สขุ ของศาสนาอืน่ ๆและชักชวน ส่งเสรมิ สนบั สนุน ใหบ้ ุคคลอน่ื เหน็ ความสาคญั ของการ ทาความ ดีตอ่ กัน วดั -ประเมินผล 4 30 20 20 30 100 รวม 40 30 20 20 30 100

โครงสรา้ งรายวชิ าเพิ่มเตมิ ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาตอนตน้

กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษาฯ ส20221 วิชา หนา้ ที่พลเมืองและศลี ธรรม 1 ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นที่ 1 หนว่ ย เวลา คะแนน คาบ หลัง ปลาย การ สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ผลการเรยี นรู้ ก่อน กลาง รวม เรยี นรู้ 1 การปฏิบัตติ นเป็นผ้มู ีมารยาท 1. มีส่วนรว่ มในการอนุรักษ์ 5 15 10 - - 25 ไทยมีความเอ้ือเฟื้อเผื่อแผ่ มารยาทไทย และเสียสละต่อสังคม มสี ว่ น 2. แสดงออกถึงความ รว่ มในการอนุรักษ์ เออ้ื เฟื้อเผ่อื แผ่ และ ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี เสียสละตอ่ สงั คม ศิลปวฒั นธรรม 3. เห็นคณุ คา่ และอนุรักษ์ และภูมิปญั ญาไทยถอื เป็น ขนบธรรมเนียม ประเพณี คุณลักษณะท่ดี ีของคนไทย ศิลปวฒั นธรรม และ และแสดงถึงลกั ษณะสาคญั ภมู ิปัญญาไทย ของความเปน็ ไทย 2 การเป็นแบบอยา่ งในการ 4. เป็นแบบอยา่ งของ 4 15 10 - - 25 แสดงออกถงึ ความรักชาตกิ าร ความรักชาติ ยึดม่ันใน ยดึ มนั่ ในศาสนา และการ ศาสนาและเทิดทูน เทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษัตริย์ สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ ประยุกต์และเผยแพร่พระบรม 5. ประยุกตแ์ ละเผยแพร่ ราโชวาทในเร่ืองความมเี หตผุ ล พระบรมราโชวาท และความรอบคอบ หลักการ ทรงงาน ในเรอ่ื ง การใช้ หลกั การทรงงาน และหลัก ธรรมชาตชิ ่วยธรรมชาติ และ ปรชั ญาของเศรษฐกิจ การปลกู ปาุ ในใจคน รวมถงึ หลัก พอเพียง ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 6. ปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้มวี นิ ยั และปฏิบตั ิตนเปน็ ผูม้ ีวนิ ยั ใน ในตนเอง ตนเองถือเป็นคณุ ลกั ษณะทด่ี ี ของคนไทย

หนว่ ย ตัวช้ีวดั เวลา ก่อน กลาง คะแนน รวม การ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง คาบ หลงั ปลาย เรียนรู้ 6. มีความร้คู วามเข้าใจ เกี่ยวกบั การแยะแยะ 5 - - 20 5 25 3 -การคิดแยกแยะ ระหว่างผลประโยชนส์ ่วน -ระบบคิดฐาน 2 ตนและผลประโยชน์ 4 - - 20 5 25 -ระดบั คิดฐาน 10 สว่ นรวม -ความแตกตา่ งระหว่าง 7. สามารถคิดแยะแยะ 2 30 20 40 10 100 จริยธรรมและการทจุ ริต ระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ น 20 30 20 40 10 100 (ชุมชน สงั คม) ตนและผลประโยชน์ -ประโยชน์ส่วนตนและ สว่ นรวมได้ ประโยชน์ส่วนรวม 8. ตระหนักและเหน็ (ชุมชน สงั คม) ความสาคัญของการ -การขัดกนั ระหวา่ งประโยชน์ ต่อต้านและปูองกนั การ ส่วนตนและผลประโยชน์ ทจุ รติ ส่วนรวม -ผลประโยชนท์ บั ซอ้ น 9. มีความรคู้ วามเขา้ ใน (ชมุ ชน สังคม) เกยี่ วกบั ความละอายและ ความไม่ทนตอ่ การทุจริต 4 -การทาการบ้าน/ชน้ิ งาน 10.ปฏิบัตติ นเปน็ ผูล้ ะอาย -การทาเวร/การทาความ และไมท่ นต่อการทุจรติ สะอาด ทกุ รูปแบบ -การสอบ 11.ตระหนักและเหน็ -การแต่งกาย/การเข้าแถว ความสาคัญของการ -การเลอื กตั้ง ตอ่ ต้านและปูองกนั การ -กจิ กรรมนักเรียน(ห้องเรยี น) ทุจริต วดั -ประเมินผล รวม

กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู งั คมศกึ ษาฯ ส20221 วิชา หน้าท่ีพลเมอื งและศลี ธรรม 1 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นที่ 2 หน่วย เวลา คะแนน คาบ หลัง ปลาย การ สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ผลการเรียนรู้ กอ่ น กลาง รวม เรยี นรู้ 1 การเปน็ พลเมืองดีตามวถิ ี 1. ปฏบิ ัตติ นเปน็ พลเมืองดี 4 10 7 - - 17 ประชาธิปไตยจะตอ้ งมสี ่วน ตามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย รว่ ม ในกจิ กรรมตา่ งๆ ของ 2. มสี ่วนร่วมและรบั ผิดชอบ สงั คม ตดั สนิ ใจโดยใช้เหตุผล ในการตัดสนิ ใจ ตรวจสอบ มสี ่วนรว่ มและรับผิดชอบใน ขอ้ มูลเพอื่ ใชป้ ระกอบการ การตดั สินใจ ตรวจสอบข้อมลู ตัดสนิ ใจในกิจกรรมตา่ ง ๆ เพ่ือใช้ประกอบการตดั สนิ ใจ ในกจิ กรรมต่างๆ และมวี ินัย ในตนเอง 2 การอยรู่ ่วมกนั ในสังคมพหุ 3. ยอมรบั ความหลากหลาย 3 10 7 - - 17 วัฒนธรรม เราควรยอมรบั ทางสงั คมวัฒนธรรม ความแตกตา่ งในแต่ละด้าน ในภูมภิ าคเอเชียตะวนั ออก และรจู้ กั แกไ้ ขปัญหาความ เฉียงใต้ และอยู่ร่วมกัน ขดั แย้งที่เกิดขึน้ ระหว่างกนั โดย อยา่ งสันติ และพ่ึงพาซ่งึ กนั สันติวิธี เพือ่ ใหจ้ ดั การแก้ไข และกนั 4. มสี ่วนร่วมในการแก้ปัญหา ปัญหาได้อยา่ งถูกต้อง เหมาะสม สรา้ งความเขา้ ใจ ความขัดแย้งโดยสนั ติวธิ ี อนั ดรี ะหวา่ งกนั และอยรู่ ว่ มกัน อย่างมีความสุข

หน่วย เวลา คะแนน คาบ หลงั ปลาย การ สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ผลการเรียนรู้ ก่อน กลาง รวม เรยี นรู้ 3 การปฏิบัติตนเปน็ ผมู้ วี ินัยใน 5. ปฏบิ ัติตนเป็นผมู้ ีวินยั ใน 2 10 6 - - 16 ตนเองเกีย่ วกบั การมีความ ตนเอง ซ่ือสตั ยส์ จุ รติ ความขยนั หมั่น เพยี ร อดทน การใฝุหาความรู้ การตง้ั ใจปฏิบตั หิ น้าท่ี และ การยอมรับผลท่ีเกดิ จากการ กระทาของตนเอง ถือเป็น คณุ ลักษณะสาคญั ท่ีดีท่คี นไทย ทุกคนควรมี 4 -ความพอเพียง 6. มีความรู้ ความเข้าใจ 5 - - 20 5 25 4 - - 20 5 25 -ความโปร่งใส เกี่ยวกับ STRONG : -ความต่นื รู/้ ความรู้ จิตพอเพียงตา้ นทจุ รติ -ต่อต้านทจุ รติ 7. ปฏิบัติตนเป็นผู้ที่ -มุ่งไปข้างหน้า STRONG : จติ พอเพียงตา้ น -ความเอ้ืออาทร ทจุ ริต 5 -การเคารพสิทธหิ น้าทตี่ ่อ 8. มีความรู้ความเขา้ ใจ ตนเองและผอู้ น่ื เกยี่ วกบั พลเมอื งและ -ระเบยี บ กฎ กตกิ า กฎหมาย มคี วามรบั ผิดชอบต่อสงั คม -ความรบั ผิดชอบตอ่ ตนเอง 9. ปฏบิ ัตติ นตามหนา้ ท่ี และผูอ้ ่นื /สงั คม พลเมืองและมคี วาม -ความเปน็ พลเมือง รับผดิ ชอบตอ่ สังคม -ความเป็นพลโลก 10. ตระหนกั และเหน็ ความสาคญั ของการ ต่อตา้ นและ ปูองกันการทุจรติ วดั -ประเมินผล 2 30 20 40 10 100 20 30 20 40 10 100 รวม

วชิ าหนา้ ทพ่ี ลเมอื งและศลี ธรรม 3 รหัสวิชา ส22223 ขนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 ท่ี หน่วยการ ผลการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา ค (คาบ) เรยี นรู้ 4 1 อยอู่ ยา่ งไทย 1. มีส่วนร่วมและแนะนาผอู้ ืน่ ให้อนรุ ักษ์ 1.มารยาทไทย 4 มารยาทไทย - การแสดงความเคารพ 4 - การสนทนา - การแต่งกาย - การมสี มั มาคารวะ 2 ภูมิแผน่ ดนิ 2. เปน็ แบบอยา่ งและแนะนาผู้อ่นื ให้มี 1.การปฏบิ ตั ติ นทีแ่ สดงออกถึง ไทยและ ความรกั ชาติ ยดึ มนั่ ในศาสนา และเทิดทูน - ความรักชาติ STRONG : สถาบนั พระมหากษตั ริย์ - การยดึ ม่นั ในศาสนา จิตพอเพยี ง 3. มีความรู้ ความเข้าใจ STRONG : จิต - การเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษตั ริย์ ต้านทุจริต พอเพียงต้านทจุ ริต 2.การประกอบอาชีพโดยใช้วัสดุทอ้ งถิน่ ตามหลัก 4. ปฏบิ ตั ิหน้าทเี่ ป็นผูท้ ี่ STRONG : จิต STRONG : จิตพอเพียงตา้ นทจุ ริตเกี่ยวกบั พอเพียงตา้ นทุจริต - การทานา้ ยาล้างจาน - การนวดแผนโบราณ 3 พลเมอื งดีตาม 5. ปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดตี ามวถิ -ี 1. พลเมอื งดีตามวิถีประชาธิปไตย วถิ ไี ทยและ ประชาธิปไตย - การตดิ ตามข่าวสารบา้ นเมือง พลเมืองดีกบั 6. มีความรู้ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั พลเมอื ง - ความกล้าหาญทางจริยธรรม ความ และมีความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม - การเป็นผู้นา และการเป็นสมาชิกทดี่ ี รับผิดชอบต่อ 7. ปฏิบัตติ นตามหน้าที่พลเมอื งและมี 2. องค์ประกอบของการศกึ ษาความเป็นพลเมอื ง สังคม ความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม - ความรับผดิ ชอบทางสังคม - ความเกี่ยวพนั ชมุ ชน - ความสามารถในการอา่ นการเขยี นทางการเมือง

ท่ี หน่วยการ ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา ค เรยี นรู้ (คาบ) 4 สันติสขุ และ 8. เห็นคุณค่าของการอยรู่ ว่ มกัน 1. ความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในภมู ิภาค 4 ความละอาย ในภูมิภาคเอเชียอยา่ งสนั ติและพ่งึ พาซึง่ เอเชีย ในเรอ่ื งวิถีชีวิต วัฒนธรรม ศาสนา และความไม่ กันและกัน สงิ่ แวดล้อม ทนต่อการ 9. มีความรู้ความเข้าใจเกีย่ วกับความ 2. การอย่รู ว่ มกันในสงั คมพหุวัฒนธรรม และ ทุจริต ละอาย และความไมท่ นตอ่ การทจุ รติ การพึ่งพาซึ่งกันและกัน - เคารพซ่งึ กันและกัน - ไมแ่ สดงกิรยิ าและวาจาดหู มิ่นผอู้ ่ืน - ชว่ ยเหลือซง่ึ กันและกัน แบ่งปนั 3. ลกั ษณะความละอายและความไมท่ นตอ่ การ ทุจรติ ระดบั ประเทศ 5 หน้าท่ีชาวไทย 10. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้มวี นิ ยั ในตนเอง 1. คณุ ลักษณะของผ้มู ีวนิ ัยในตนเอง 4 และการคิด 11. มคี วามรู้ความเข้าใจเก่ยี วกบั การ - ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ แยกแยะ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตนและ - ขยันหม่ันเพียร อดทน ระหวา่ ง ผลประโยชน์ส่วนรวม - ใฝุหาความรู้ ผลประโยชน์ - ต้งั ใจปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ สว่ นตนและ - ยอมรบั ผลทเี่ กดิ จากการกระทาของตนเอง ผลประโยชน์ 2. การวิเคราะห์ วิจารณ์ ผลประโยชน์สว่ นตนออก ส่วนรวม จากผลประโยชนส์ ว่ นรวม โดยใชร้ ะบบการคดิ ฐาน สองที่ส่งผลกระทบต่อประเทศในระดับอาเซยี น 3. การทจุ รติ ท่เี กดิ จากระบบการคดิ ฐานสบิ ใน อาชีพต่างๆที่สง่ ผลตอ่ ประเทศและอาเซยี น 4. รปู แบบการขัดกันระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตน และผลประโยชนส์ ว่ นรวม รวม 20

วชิ าหนา้ ที่พลเมอื งและศีลธรรม 4 รหสั วชิ า ส22224 ขนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 2 ท่ี หนว่ ยการ ผลการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา ค (คาบ) เรียนรู้ 4 1 อยอู่ ย่างไทย 1. แสดงออกและแนะนาผู้อ่ืนใหม้ ี 1. ความเอื้อเฟ้ือเผอื่ แผ่และเสียสละตอ่ สังคม ความเอื้อเฟ้ือเผื่อแผ่ และเสยี สละ 2. ขนบธรรมเนียม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม ต่อสังคม และภูมิปัญญาไทย 2. เห็นคุณคา่ อนุรักษ์ และสืบสาน ขนบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปวฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย 2 ภูมแิ ผ่นดนิ 3. ประยุกต์และเผยแพร่ 1. พระบรมราโชวาท 4 4 ไทยและ พระบรมราโชวาทหลักการทรงงาน - มีเหตผุ ล STRONG : และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ - รอบคอบ จติ พอเพยี ง พอเพยี ง 2. หลักการทรงงาน ตา้ นทจุ รติ 4. ตระหนักและเห็นความสาคญั - การใช้ธรรมชาติชว่ ยธรรมชาติ ของการต่อตา้ น และปูองกันการ - การปลกู ปุาในใจคน ทุจรติ 3. การประกอบอาชีพโดยใช้วัสดุท้องถ่นิ ตาม หลกั STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทุจริต เกี่ยวกบั - การทาปุ๋ยชวี ภาพ 3 พลเมอื งดี 5. มีสว่ นรว่ มและรับผดิ ชอบในการ 1. การมีสว่ นรว่ มและรบั ผดิ ชอบในการ ตามวถิ ีไทย ตัดสนิ ใจตรวจสอบข้อมูลเพื่อใช้ ตัดสนิ ใจต่อกิจกรรมของห้องเรยี น และ และพลเมือง ประกอบการตัดสนิ ใจ โรงเรียน ดีกบั ความ ในกจิ กรรมต่าง ๆ และทันข่าวสาร 2. การตรวจสอบขอ้ มลู รับผดิ ชอบ 3. การรทู้ นั ข่าวสาร ตอ่ สงั คม 4. การเปน็ พลเมืองดี - มุ่งเนน้ ความรับผดิ ชอบระดับบคุ คล - การมีส่วนร่วม - ความยุติธรรม 5. การสร้างสานกึ พลเมืองต่อประเทศ

ท่ี หนว่ ยการ ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา ค (คาบ) เรยี นรู้ 4 4 สนั ตสิ ขุ และ 6. มีส่วนรว่ มและเสนอแนวทางการ 1. ความขดั แยง้ 4 ความละอาย แกป้ ญั หาความขดั แย้งโดยสันติวิธี - การละเมิดสทิ ธิ 20 และความไม่ 7. ปฏบิ ัติตนเป็นผูล้ ะอาย และไม่ - การใช้ของส่วนรวม ทนต่อการ ทนต่อการทจุ รติ ทุกรปู แบบ 2. การแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยสันตวิ ิธี ทุจรติ - การเจรจาไกล่เกล่ีย - การเจรจาตอ่ รอง - การระงับความขัดแย้ง 3. กรณตี ัวอย่าง ความละอายและความไม่ทน ตอ่ การทจุ ริตในกลุ่มประเทศอาเซียน 5 หนา้ ทชี่ าว 4. ตระหนกั และเหน็ ความสาคญั 1. การขดั กันระหวา่ งประโยชน์สว่ นตนและ ไทยและการ ของการต่อตา้ นและปูองกนั การ ประโยชนส์ ว่ นรวมชุมชนสังคม คิดแยกแยะ ทุจริต 2. สัมพนั ธ์การขดั กันระหว่างประโยชน์ส่วน ระหว่าง 8. สามารถคดิ แยกแยะระหว่าง ตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวมตอ่ ประเทศใน ผลประโยชน์ ผลประโยชนส์ ่วนตนและ อาเซียน ส่วนตนและ ผลประโยชนส์ ว่ นรวม 3. ตามการทุจรติ ทเ่ี กิดข้ึนภายใน ผลประโยชน์ ระดบั ประเทศ สว่ นรวม 4. จริยธรรมที่ใชใ้ นการปูองกันและทุจรติ ใน ระดบั ประเทศ 5. แนวทางการปูองกันผลประโยชนท์ บั ซอ้ น รวม

กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษาฯ ส20235 วชิ า หนา้ ท่ีพลเมอื งและศลี ธรรม 5 ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 หน่วยการ สาระสาคญั ผลการเรยี นรู้ เวลา คะแนน รวม เรียนรู้ คาบ ก่อน กลาง หลงั ปลาย 10 1 1. มารยาทไทย 1. มสี ว่ นรว่ ม แนะนาผอู้ ่ืนใหอ้ นรุ กั ษ์ 4 10 - - - 20 2 2.ความเอื้อเฟอ้ื เผ่อื แผ่และ และยกย่องผมู้ มี ารยาทไทย เสียสละตอ่ สงั คม. 2.แสดงออก แนะนาผูอ้ ่นื และมีสว่ น 4.ขนบธรรมเนียมประเพณี รว่ มในกิจกรรมเก่ียวกบั ความ ศิลปวฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญา เออื้ เฟือ้ เผ่ือแผ่และเสยี สละ ไทย 3. เหน็ คณุ ค่า อนุรักษ์ สบื สาน และ ประยกุ ตข์ นบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปวฒั นธรรม และภมู ิปญั ญาไทย 1.การใชส้ ิทธิ หน้าที่ เสรภี าพ 4. ปฏบิ ัตติ นเป็นพลเมอื งดตี ามวิถี 3 10 10 - - - การมีส่วนรว่ มในการ ประชาธิปไตย ตดั สินใจ 5. มีส่วนรว่ มและรบั ผิดชอบในการ - วินัยในตนเองในการเป็น ตัดสนิ ใจ ตรวจสอบขอ้ มลู ตรวจสอบ พลเมืองดี การทาหน้าท่ขี องบคุ คลเพื่อใช้ - พระบรมราโชวาท ประกอบการตัดสินใจ - หลักการทรงงาน 3 1.การปฏบิ ตั ติ นท่แี สดงออกถึง 6. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผ้มู วี นิ ัยในตนเอง 2 10 10 - - 20 20 ความรักชาติ การปฏบิ ัตติ นท่ีแสดงออกถึง การยดึ มัน่ ในศาสนา 4 การคดิ แยกแยะระหวา่ ง 7. การวเิ คราะห์สถานการณ์ การ 5 - - 20 - ผลประโยชน์ส่วนตนและ ขดั กันระหวา่ ผลประโยชน์สว่ นส่วนตน ผลประโยชนส์ ่วนรวม และประโยชนส์ ว่ นรวม 8. การวิเคราะห์ สงั เคราะห์ การ วิจารณ์ ผลประโยชน์สว่ นตนออกจาก ผลประโยชน์ส่วนรวม โดยใชร้ ะบบคดิ ฐานสองทีส่ ่งผลกระทบตอ่ ประเทศใน ระดับสงั คมโลก 9. การทจุ ริตทเ่ี กดิ จากระบบการคดิ ฐานสิบในสถานการณต์ ่างๆที่ส่งผลตอ่ ประเทศ และสังคมโลก

10.การทจุ รติ ที่เกดิ ขึน้ ในโลกและ จรยิ ธรรมที่ใชใ้ นการแก้ปัญหาการ หนว่ ยการ สาระสาคญั ผลการเรยี นรู้ เวลา คะแนน รวม เรยี นรู้ คาบ กอ่ น กลาง หลงั ปลาย 30 ทุจริตท่ีเกิดข้นึ ในโลก - 20 10 100 100 11. ผลกระทบที่เกดิ จากการขดั กนั 20 40 10 20 40 10 ระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและ ผลประโยชนส์ ่วนรวมท่เี กดิ ข้นึ ใน ประเทศ 12. รูปแบบของผลประโยชน์ทับซอ้ น และแนวทางการปูองกันผลประโยชน์ ทบั ซ้อนในกลุม่ ประเทศอาเซยี น 5 ความละอายและความไม่ทน 13. ลกั ษณะความละอายและความไม่ 4 - ต่อการทุจรติ ทนต่อการทุจรติ ในระดบั โลก วัด-ประเมนิ ผล รวม 14. การลงโทษทางสงั คมในระดบั โลก 15.. ตัวอยา่ งความละอายและความไม่ ทนตอ่ การทจุ รติ ของประเทศตา่ งๆ ใน ระดบั โลก 2 30 20 30

กลุ่มสาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษาฯ ส20236 วชิ า หนา้ ท่ีพลเมอื งและศีลธรรม 6 ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 2 หน่วยการ สาระสาคญั ผลการเรยี นรู้ เวลา คะแนน รวม เรียนรู้ คาบ กอ่ น กลาง หลงั ปลาย 10 1 การปฏิบัตติ นท่แี สดงออกถึง 1. เป็นแบบอย่างและมสี ว่ นรว่ มในการ 4 10 - - - 20 2 การเทิดทนู สถาบนั จัดกิจกรรมท่ีแสดงออกถึงความรกั พระมหากษตั ริย์ ชาติ ยดึ มัน่ ในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั ริย์ 2. ประยุกตแ์ ละเผยแพรพ่ ระบรม ราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 1.ความหลากหลายทางสงั คม 3. เห็นคณุ คา่ ของการอยรู่ ว่ มกนั ใน 3 10 10 - - วัฒนธรรมในภมู ภิ าคตา่ ง ๆ ภมู ภิ าคตา่ ง ๆ ของโลกอย่างสนั ตแิ ละ พง่ึ พาซ่ึงกนั และกัน 4. มสี ่วนร่วมและเสนอแนวทางการ ปอู งกันปัญหาความขัดแยง้ 3 2.การอยู่ร่วมกันและพง่ึ พา 5. ปฏิบัตติ นเปน็ ผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง 2 10 10 -- 20 อาศยั กัน 3.ความขดั แยง้ และการ 6.การดาเนินงาน บริษัทสรา้ งการดี 5 - - 20 - 20 ปอู งกันปญั หาและลดความ โดยยดึ หลัก STRONG : จิตพอเพยี ง 20 10 30 ขัดแยง้ โดยสันติวิธี ต้านทุจรติ 7. แนวทางการปฏบิ ตั ิตนเป็นพลเมือง 4 - - 40 10 100 4 STRONG : จติ พอเพยี งต้าน ดี 40 10 100 ทจุ รติ 8. การพจิ ารณาความเป็นพลเมอื ง 9. การสรา้ งสานึกพลเมืองตอ่ สงั คม 5 พลเมอื งกบั ความรบั ผดิ ชอบ โลก ตอ่ สงั คม 2 30 20 วัด-ประเมนิ ผล 20 30 20 รวม

โครงสร้างรายวิชาเพมิ่ เตมิ ระดับชัน้ มัธยมศึกษาตอนปลาย

กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ังคมศกึ ษาฯ ส 33241 อาเซยี นศึกษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนท่ี 1 หนว่ ยการ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ตัวช้ีวัด เวลา คะแนน รวม เรียนรู้ คาบ กอ่ น กลาง หลัง ปลาย 15 1.พัฒนาการ - กาเนดิ อาเซยี น วิเคราะห์พฒั นาการทาง 4 10 5 - - 15 20 ของอาเซียน - ประชาคมอาเซียน ประวตั ศิ าสตรข์ องอาเซียน - ความร่วมมือด้านตางๆ โครงสรา้ งขององค์การ กฎบัตร ของอาเซยี น อาเซยี น ความร่วมมือด้านตา่ งๆ - กฎบตั รอาเซยี น และจดุ มุ่งหมายของประชาคม - หน่วยงานท่ีทาหนา้ ที่ อาเซยี น ประสานงานและติดตาม ผลการดาเนนิ งานของ อาเซียน 2. การเมืองการ - ระบอบการเมอื งการ -วิเคราะหร์ ะบอบการเมืองการ 8 10 5 - - ปกครองและ ปกครองของประเทศ ปกครองของประเทศสมาชิก ความสัมพนั ธ์ สมาชิกอาเซียน อาเซียน ระหว่างไทยกบั - ความสัมพนั ธ์ระหว่าง - วิเคราะหค์ วามสัมพันธร์ ะหว่าง ประเทศสมาชกิ ประเทศไทยกับประเทศ ไทยกับประเทศสมาชกิ อาเซยี น อาเซียน สมาชกิ อาเซียน 3. ประชาคม - ประชาคมเศรษฐกจิ - วเิ คราะห์ความสาคญั ของการ 10 10 10 - - เศรษฐกิจ อาเซยี น รวมกลมุ่ เป็นประชาคม อาเซยี น - ประโยชน์และผลกระทบ เศรษฐกจิ อาเซยี น ทีไ่ ทยจะไดร้ บั จากการ - วเิ คราะหค์ วามสาคญั เครอื ข่าย รวมกลมุ่ เป็นประชาคม ความเชอ่ื มโยงในภมู ภิ าค เศรษฐกจิ อาเซยี น อาเซียน - เครือข่ายความเชอื่ มโยง - วิเคราะห์ประโยชน์และ ในภูมิภาคอาเซียน ผลกระทบท่ีไทยจะได้รับการ รวมกลมุ่ เปน็ ประชาคม เศรษฐกจิ อาเซยี น

หน่วยการ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตวั ชวี้ ดั เวลา คะแนน เรยี นรู้ คาบ ก่อน กลาง หลัง ปลาย รวม 4.สงั คมและ - พื้นฐานทางสงั คมและ - วิเคราะหส์ ังคมและวัฒนธรรม 8 - - 10 10 20 วัฒนธรรม วัฒนธรรมของอาเซยี น ของอาเซยี น อาเซียน - ความคล้ายคลงึ ทางสังคม - เปรียบเทยี บความหลากหลาย และวฒั นธรรมของอาเซียน ทางสงั คมและวัฒนธรรมของ - ความหลากหลายทาง อาเซียน และความคลา้ ยคลงึ สังคมและวฒั นธรรมของ ทางสังคมและวัฒนธรรมของ อาเซยี น อาเซียนดา้ นต่างๆ 5. ประชาคม - ประโยชนท์ ี่ไทยไดร้ บั จาก - วเิ คราะห์ประโยชน์ท่ไี ทยไดร้ ับ 3 - - 5 10 15 อาเซยี นกบั การเข้าสู่ประชาคม จากการเขา้ สูป่ ระชาคมอาเซยี น ประเทศสมาชกิ อาเซียน - วิเคราะห์บทบาทอาเซยี นทีม่ ี - บทบาทอาเซียนทม่ี ีตอ่ ต่อประเทศไทยและประเทศ ประเทศไทยและประเทศ สมาชกิ สมาชกิ 6. สิทธิ - ความหมายและ - วเิ คราะหพ์ ัฒนาการของสิทธิ 3 - - 5 10 15 มนษุ ยชนใน ความสาคญั ของสิทธิ มนุษยชนในอาเซียน ปฏิญญา อาเซียน มนษุ ยชน อาเซียนวา่ ดว้ ยสิทธิมนุษยชน - ปญั หาสิทธิมนษุ ยชนใน - วิเคราะหแ์ ละอภิปรายเกยี่ วกับ อาเซียน ปญั หาสิทธิมนษุ ยชนในอาเซยี น - ปฏิญญาอาเซียนวา่ ด้วย สทิ ธิมนุษยชน - พัฒนาการของสทิ ธิ มนุษยชนในอาเซยี น วัด-ประเมินผล 4 รวม 40 30 20 20 30 100

กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษาฯ ส32221 รายวิชา หน้าที่พลเมืองและศลี ธรรม 1 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 หน่วย ผลการเรยี นรู้ เวลา คะแนน การ สาระการเรียนรู้ คาบ เรยี นรู้ กอ่ น กลาง หลัง ปลาย รวม 1 มารยาทไทย 1.มสี ว่ นรว่ ม แนะนาผูอ้ ่นื ให้ 2 10 5 - - 15 - การแสดงความเคารพ อนุรกั ษ์ และเผยแพร่มารยาท - การสนทนา ไทยส่สู าธารณะ เป็นผมู้ ี - การแต่งกาย คณุ ธรรม จรยิ ธรรมพื้นฐาน - การมีสัมมาคารวะ 2 - การคิดแยกแยะระหว่าง 2. มคี วามรู้ความเขา้ ใจ 2 5 5 - - 10 ผลประโยชน์ ส่วนตนและ สามารถคิดแยกแยะเกีย่ วกบั ผลประโยชน์ส่วนรวม การแยกแยะระหวา่ ง - ระบบคิดฐาน 10 กับ ฐาน 2 ผลประโยชน์ส่วนตนกับ ผลประโยชนส์ ว่ นรวม ความละอายและความไมท่ น 3. มคี วามร้คู วามเข้าใจ 2 5 5 - - 10 ต่อการทุจรติ ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผูล้ ะอายและ - ผลกระทบทเี่ กดิ จากความ ไมท่ นต่อการทุจรติ ทุกรปู แบบ ไมล่ ะอายและการเพิกเฉย ตระหนกั และเห็นความสาคญั ต่อการทุจรติ ของการต่อตา้ นและปอู งกนั - แนวทางการแก้ปัญหาและ การทุจริต วธิ ีการปฏบิ ตั ิ 3 การปฏิบตั ติ นท่ีแสดงออกถึง 4. เป็นแบบอย่าง มีส่วนร่วม 2 10 5 - - 15 - ความรกั ชาติ ในการจดั กิจกรรม และ - การยึดมน่ั ในศาสนา สนบั สนุนให้ผู้อ่ืนแสดงออกถึง - การเทดิ ทนู สถาบนั ความรักชาติ ยึดม่นั ในศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ และเทิดทูนสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์

กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษาฯ ส32221 รายวชิ า หนา้ ทพ่ี ลเมอื งและศลี ธรรม 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 หนว่ ย ผลการเรยี นรู้ เวลา คะแนน การ สาระการเรียนรู้ คาบ เรียนรู้ กอ่ น กลาง หลัง ปลาย รวม 10 3 พระบรมราโชวาท 5. เปน็ แบบอยา่ ง ประยกุ ต์ 2 - - 10 - 10 - การมรี ะเบียบวนิ ัย และเผยแพร่พระบรม 10 10 - ความสามคั คี ราโชวาท ในเรือ่ งการมี 10 ระเบียบวนิ ยั ความสามัคคี 100 100 4. พลเมอื งดีตามวถิ ี 6.เปน็ แบบอยา่ งและส่งเสริม 2 - - 10 - ประชาธปิ ไตย สนับสนุนให้ผอู้ ่นื เป็นพลเมือง -การเป็นผูน้ าและการเป็น ดีตามวิถปี ระชาธิปไตย สมาชกิ ทีด่ ี -การใช้สิทธแิ ละหนา้ ที่ -การใช้เสรภี าพอย่าง รับผิดชอบ 5 การร้ทู ันขา่ วสารและการรู้ทัน 7.รู้ทนั ข่าวสารและรูท้ นั ส่ือ 2 - - 10 - สอื่ และคาดการณ์เหตุการณ์ - การคาดการณเ์ หตกุ ารณ์ ลว่ งหน้าบนพ้ืนฐานของข้อมลู ลว่ งหน้าบนพืน้ ฐานของข้อมลู - อตั ลกั ษณ์และความ 8.ยอมรบั ในอตั ลกั ษณ์และ 2 - - 10 - หลากหลายในสังคมพหุ เคารพความหลากหลายใน วัฒนธรรม สงั คมพหุวฒั นธรรม 6 คุณลกั ษณะของผู้มีวนิ ัยใน 9.ปฏบิ ัตติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ใน 2 - - - 10 ตนเอง -ความซอ่ื สตั ย์สจุ รติ ตนเอง ขยนั หมน่ั เพยี ร อดทน ใฝุหาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติ หนา้ ท่ี วดั -ประเมนิ ผล 2 30 20 40 10 รวม 20 30 20 40 10

กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษาฯ ส32222 รายวชิ า หนา้ ทพี่ ลเมอื งและศีลธรรม 2 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรียนท่ี 2 หน่วย ผลการเรยี นรู้ เวลา คะแนน การ สาระการเรียนรู้ คาบ เรยี นรู้ กอ่ น กลาง หลัง ปลาย รวม 1 ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี 1. เห็นคุณค่า อนรุ ักษ์ 2 10 5 - - 15 ศลิ ปวฒั นธรรม สบื สาน ประยุกต์ และ และภมู ิปญั ญาไทย เผยแพร่ ขนบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปวัฒนธรรมและ ภมู ปิ ัญญาไทย 2 - กรณตี วั อย่างการแก้ปญั หา 2. มคี วามร้คู วามเข้าใจ และ 2 10 5 - - 15 การทจุ รติ ในสงั คมไทย โดยใช้ ปฏิบตั ติ นเปน็ ผทู้ ่ี STRONG : หลัก STRONG : จติ พอเพียง จติ พอเพียงตา้ นทจุ ริต ต้านทจุ ริต - แนวทางการนาหลัก STRONG : จติ พอเพยี งตา้ น ทุจริต มาพฒั นาสงั คมไทย 3 หลักการทรงงาน 3. เปน็ แบบอย่าง ประยุกต์ 4 10 10 - - 20 -ระเบดิ จากขา้ งใน และเผยแพร่ หลักการทรงงาน -ไม่ติดตารา และหลกั ปรชั ญาของ -บริการรวมทจ่ี ดุ เดยี ว เศรษฐกิจพอเพยี ง -ใชอ้ ธรรมปราบอธรรม 4 พลเมืองกับความรับผดิ ชอบ 4. มีความรู้ ความเขา้ ใจและ 4 - - 10 - 10 ตอ่ สงั คม ปฏบิ ัตติ นตามหน้าท่ีพลเมือง - การเคารพสทิ ธิหน้าท่ตี ่อ และมคี วามรบั ผดิ ชอบ ตนเองและ ผอู้ ื่น ตอ่ สงั คม -ระเบยี บ กฎ กติกา กฎหมาย -แนวทางการปฏิบตั ิตนเปน็ พลเมอื งทีด่ ีของประเทศและ ของโลก

กลมุ่ สาระการเรียนร้สู งั คมศกึ ษาฯ ส32222 รายวชิ า หนา้ ทพ่ี ลเมืองและศีลธรรม 2 ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 2 หนว่ ย ผลการเรยี นรู้ เวลา คะแนน การ สาระการเรยี นรู้ คาบ เรียนรู้ ก่อน กลาง หลัง ปลาย รวม 4 - ความกลา้ หาญทาง 5.มสี ่วนรว่ ม ตัดสินใจเลือกตั้ง 2 - - 15 - 15 จรยิ ธรรม อย่างมีวิจารณญาณ และ - การมีส่วนร่วมในกิจกรรม ประยกุ ต์ใช้กระบวนการ ทางการเมือง ประชาธิปไตยในการวพิ ากษ์ - การเสนอแนวทางการ ประเด็นนโยบายสาธารณะที่ แก้ปญั หาสังคมต่อสาธารณะ ตนสนใจ - การตดิ ตามและประเมิน ข่าวสารทางการเมอื ง และ การรู้เท่าทนั สื่อ 5 การอย่รู ว่ มกนั ในสังคมพหุ 6. เห็นคุณคา่ ของการอยู่ 2 - - 15 - 15 วฒั นธรรม และการพงึ่ พาซงึ่ รว่ มกนั อยา่ งสนั ติ และพึ่งพา กันและกนั ซง่ึ กนั และกนั -เคารพซ่งึ กนั และกัน -ไม่แสดงกิริยาและวาจาดู หมน่ิ ผอู้ ่ืน -ชว่ ยเหลือซ่งึ กนั และกัน แบ่งปนั 6 คุณลักษณะของผู้มวี นิ ัยใน 7.ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผมู้ วี ินยั ใน 2 - - - 10 10 ตนเอง- ความซ่อื สตั ย์สุจริต ตนเอง ขยนั หม่ันเพียร อดทน ใฝหุ าความรู้ ตงั้ ใจปฏิบัติ หนา้ ที่ ยอมรบั ผลทเี่ กดิ จาก การกระทาของตนเอง วดั -ประเมินผล 2 30 20 40 10 100 รวม 20 30 20 40 10 100

กลุม่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม วชิ าหนา้ ทพี่ ลเมืองเพ่ิมเติม 3 รหสั ส 33223 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรยี นท่ี 1 ที่ หน่วยการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ เวลา ค (คาบ) 1 ความเปน็ ไทย 1. มารยาทไทย 1.มีส่วนร่วมและแนะนาผู้อนื่ ให้อนรุ กั ษ์ และเผยแพร่มารยาทไทย 2 สสู่ าธารณะ 2. ขนบธรรมเนียม ประเพณี 2. เห็นคุณคา่ อนรุ ักษ์ สืบสานประยกุ ต์ ศิลปวัฒนธรรม และภมู ิปญั ญาไทย เผยแพร่ ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี 2 ศลิ ปวัฒนธรรม และภูมิปญั ญาไทย 2 รกั ชาติ ศาสนา 1. การปฏิบตั ิตนทีแ่ สดงออกถึง 3. เปน็ แบบอย่าง มสี ่วนรว่ มในการจัด พระมหากษตั ริย์ ความรักชาติ ยดึ มน่ั ในศาสนา และ กจิ กรรม และสนบั สนุนใหผ้ ู้อ่ืน 1 เทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์ แสดงออกถึงความรักชาติ ยดึ ม่นั ใน ศาสนา และเทิดทนู สถาบันกษัตรยิ ์ 2. พระบรมราโชวาท และหลักการ 4. เปน็ แบบอย่าง ประยุกต์ และเผยแพร่ 1 ทรงงาน พระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน 3. หลักปรัญาของเศรษฐกจิ และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 1 พอเพยี ง 3 พลเมอื งกับความ 1. พลเมืองดีตามวถิ ีประชาธปิ ไตย 5. เป็นแบบอยา่ งและสง่ เสรมิ ใหผ้ อู้ ่ืนเปน็ 3 รบั ผดิ ชอบต่อ พลเมืองดตี ามวิถีประชาธิปไตย สังคม 2. การมีส่วนรว่ มทางการเมือง 6. ประยกุ ต์ใชก้ ระบวนการ การปกครองในระบอบ ประชาธปิ ไตยในการวิพากษป์ ระเด็น ประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ์ นโยบายสาธารณะที่ตนสนใจ ทรงเปน็ ประมขุ 7. มีส่วนรว่ มและตัดสนิ ใจเลอื กตัง้ 2 อยา่ งมวี จิ ารณญาณ 8. รูท้ นั ข่าวสารและรทู้ ันสื่อและ สามารถคาดการณ์เหตกุ ารณ์ล่วงหน้า บนพื้นฐานของข้อมูล 3. ความเปน็ พลเมืองไทยกับความ 9. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับพลเมือง เปน็ พลเมืองโลก และมีความรับผิดชอบต่อสงั คม 2 10. ปฏิบัติตนตามหนา้ ที่พลเมืองและมี ความรับผดิ ชอบต่อสังคม

กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม วิชาหน้าทพี่ ลเมืองเพิ่มเตมิ 3 รหัส ส 33223 ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 1 ที่ หนว่ ยการ สาระการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ เวลา ค เรียนรู้ (คาบ) 3 พลเมืองกบั 4. พลเมืองท่ีมีความรบั ผิดชอบตอ่ 9. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั พลเมือง 1 ความ การปอู งกันการทุจริต และมีความรบั ผิดชอบต่อสังคม รบั ผิดชอบต่อ 5. ความเป็นพลเมืองไทยท่สี มบูรณ์ 10. ปฏิบตั ติ นตามหนา้ ที่พลเมอื งและมี สังคม ความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม 1 11. ตระหนักและเหน็ ความสาคัญของ การต่อต้านและการปูองกนั การทุจริต 4 ความปรองดอง 1. อตั ลกั ษณ์และความหลากหลาย 12. ยอมรบั ในอัตลกั ษณ์ และเคารพ สมานฉนั ท์ ในสังคมพหุวฒั นธรรม ความหลากหลายในสังคม 1 พหวุ ฒั นธรรม 2. การอยู่ร่วมกนั ในสงั คม 13. เหน็ คณุ คา่ ของการอยูร่ ่วมกันอย่าง พหวุ ฒั นธรรม และการพง่ึ พา สันติ และพ่งึ พาซึง่ กันและกัน 1 ซ่ึงกันและกนั 5 ความมีวินยั ใน 1. คุณลกั ษณะของผู้มีวินัยในตนเอง 14. ปฏบิ ัตติ นเป็นผูม้ วี นิ ัยในตนเอง 2 ตนเอง รวม 14 20

กลุม่ สาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม วิชาหนา้ ทีพ่ ลเมืองเพิ่มเตมิ 4 รหัส ส 33224 ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 2 ที่ หน่วยการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ เวลา ค (คาบ) 1 ความเป็นไทย 1. ความเอ้อื เฟื้อเผอ่ื แผ่และความ 1. แสดงออก แนะนาผูอ้ ื่น และ 2 เสยี สละ ยกยอ่ งบุคคลที่มคี วามเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ 2. บุคคลผเู้ ปน็ แบบอย่างของความ และเสยี สละ 1 เอื้อเฟ้ือเผ่ือแผแ่ ละความเสยี สละ 2 การคดิ แยกแยะ 1. ความแตกต่างระหว่างจรยิ ธรรม 2. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การ 1 ระหว่างผลประโยชน์ และการทุจริต แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ น ส่วนตนและผลและ 2. กฎหมายทเ่ี ก่ยี วข้องกับการ ตน และผลประโยชนส์ ่วนรวม 1 โยชน์ส่วนรวม ทุจริต 3. ผลประโยชน์ทับซอ้ น 1 4. ผลประโยชน์ส่วนตนและ 2. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับการ 1 ผลประโยชน์ส่วนรวม แยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ น 5. การขัดกนั ท่ีเกดิ ขึ้นระหว่าง ตน และผลประโยชนส์ ว่ นรวม บุคคล สังคม ประเทศชาติและ 3. สามารถคิดแยกแยะระหวา่ ง 1 สังคมโลก ผลประโยชนส์ ว่ นตนและ ผลประโยชนส์ ่วนรวมได้ 3 ความละอายและ 1. ความละอายและความไม่ทนต่อ 4. มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั ความไมท่ นต่อการ การทุจริต ความละอายและความไมท่ นตอ่ การ ทจุ รติ ทจุ ริต 5. ปฏิบตั ิตนเป็นผลู้ ะอายและไมท่ น 2 ต่อการทุจริตทกุ รูปแบบ 6. ตระหนักและเห็นความสาคัญของ การตอ่ ต้านและปูองกนั การทุจรติ 2. แนวทางการแกป้ ญั หา และ 6. ตระหนกั และเหน็ ความสาคญั ของ วิธีการปฏิบัติ การต่อต้านและปูองกันการทุจรติ 2 7. ปฏิบัติตนเป็นผ้ลู ะอายและไม่ทน ตอ่ การทุจรติ ทกุ รูปแบบ 4 STRONG : 1. STRONG : 8. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกยี่ วกับ จิตพอเพียงต้าน จติ พอเพียงตา้ นทุจรติ STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทุจรติ 2 ทจุ รติ

กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม วิชาหน้าทพ่ี ลเมืองเพิ่มเตมิ 4 รหสั ส 33224 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรยี นท่ี 2 ท่ี หนว่ ยการ สาระการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ เวลา ค เรียนรู้ (คาบ) 5 ความปรองดอง 1. สถานการณค์ วามขัดแย้งและ 9. มสี ว่ นร่วมในการแก้ปญั หาเมือ่ เกิด 2 ความขัดแย้งโดยสันติวธิ ี และสรา้ ง สมานฉนั ทใ์ น ความรุนแรงในโลกยุคปจั จบุ ัน สงั คมไทย 2. ธรรมชาตขิ องความขัดแย้ง เครอื ข่ายการปูองกันปญั หาความขดั แยง้ และการจดั การความขดั แยง้ อยา่ ง 1 สนั ติวธิ ี 3. การสร้างสันตภิ าพในสังคม 1 2 6 ปลูกฝังสรา้ ง 1. การปลูกฝังวนิ ยั ในตนเอง 10. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผมู้ วี นิ ัยในตนเอง วนิ ยั กา้ วหน้า ไปอยา่ งมนั่ คง รวม 10 20