Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ความพึงพอใจบุคลากรNRRU2060

ความพึงพอใจบุคลากรNRRU2060

Published by qa.nrru, 2020-10-30 03:25:05

Description: ความพึงพอใจบุคลากรNRRU2060

Search

Read the Text Version

148 3. ควรเพ่ิมพื้นท่ีสีเขียวภายในมหาวิทยาลัยให้เยอะข้ึน ติดตั้งคอมพิวเตอร์ประจาห้องเรียนเพิ่มเติม และจดั ผู้ดแู ลประจา 4. สภาพแวดล้อมในการทางานก็มีความลาบากในเร่ืองการจอดรถยนต์ ปัญหาการจราจรภายใน มหาวิทยาลัย ควรแก้ปัญหาเร่ืองระบบการจัดการที่จอดรถยนต์ จักรยานยนต์ ให้เป็นระเบียบ และควบคุมใน การปฏบิ ตั อิ ย่างแทจ้ ริง และลิฟทท์ ใ่ี ชง้ านไมค่ ่อยได้ 5. การทางานต้องมีระบบพีเ่ ลยี้ ง และการพฒั นาทมี เพื่อความเข้มแขง็ 6. อยากให้มีฉากกั้นบรเิ วณโตะ๊ ทางานเพอื่ ให้สามารถทางานไดม้ สี มาธิมากขึ้น เน่ืองจากมีนักศึกษาเข้า ออก ห้องพักอาจารย์ตลอดเวลา ห้องทางานแออัดไปนิด ขาดความเป็นส่วนตัว มีเสียงรบกวนอยู่ตลอดเวลา เนอ่ื งจากมกี ารกอ่ สรา้ งและซอ่ มแซมต่าง ๆ 7. จัดทาระบบบนั ทกึ ภาระงานออนไลน์ ด้านความก้าวหนา้ มั่นคงในงาน 1. อยากให้ครูโรงเรยี นสาธติ มวี ิทยะฐานะ 2. ควรมีความชัดเจนเรื่องสถานภาพการเป็นมหาวิทยาลัยที่เป็นส่วนราชการหรือมหาวิทยาลัยใน กากับของรัฐ ให้ความชัดเจนกับลูกจา้ งมากกวา่ น้ี เชน่ ชี้แจงการบริหาร หรือ อนาคตท่คี วรเปน็ ไป 3. งานท่ีได้รับมอบหมายจากทางมหาวิทยาลัยนั้น ไม่ตรงกับสายวิชาชีพท่ีศึกษาและการปฏิบัติงานท่ี เก่ียวข้องมา จึงทาให้การปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความไม่ราบร่ืน ซึ่งอาจส่งผลต่อระบบการทางาน รวมถึง ประสิทธภิ าพและประสิทธผิ ลของงาน จึงมีความเป็นไปได้ทีจ่ ะเปลย่ี นอาชพี การทางานในอนาคต 3. ควรให้มีการแบ่งงาน แบ่งหน้าที่ เช่น การทางานหลายอย่างเรื่องความชานาญ เพื่อให้เกิดรายได้ บางครั้งการอบรมเอาคนที่ไร้ประสบการณ์ไปเป็นวิทยากร สร้างความเสียหายแก่องค์กร หวังเพ่ือรายได้ หรือ เห็นแก่ความสะดวก หรอื พวกพร้องในหนว่ ยงาน เกิดความเสยี หาย ไม่มีความนา่ เชื่อถอื 4. มั่นคงเฉพาะข้าราชการ ยังให้โอกาสแก่ข้าราชการ อายุงาน ไม่เหมือนระบบเอกชนที่ดู ความสามารถทแ่ี ท้จรงิ ยังยดึ ติดกับกฎระเบยี บเดมิ ๆ ทาให้ไมม่ คี วามกระตือรือร้นในการสรา้ งผลงาน 5. ควรปรับเพ่ิมฐานเงินเดือนให้สูงข้ึนตามจริงเพื่อดึงดูดคนเก่ง มีความสามารถเข้าสู่องค์กร ควร สง่ เสรมิ และรักษาบุคลากรใหม้ ีความมน่ั คง ในอาชีพเนน้ รกั ษาคนไว้ 6. ความนาแผนพัฒนาบุคลากรมาตรวจสอบและจัดแผนพัฒนาอย่างจริงจัง อยากให้มีการกาหนด เกี่ยวกับเส้นทางความก้าวหน้าของแต่ละงานให้ชัดเจน (ทุกระดับงาน) การสนับสนุนการทาผลงานเพื่อเข้าสู่ ตาแหน่งทส่ี ูงขนึ้ อยากใหม้ ีการอบรมเพอ่ื เพิ่มความรู้ความเขา้ ใจในกระบวนการจดั ทาผลงาน 7. ควรหาแนวทางแก้ไขอย่างจริงจังต่อจานวนนักศึกษาท่ีลดลง ส่งเสริมความร่วมมือกันทุกหลักสูตร ใหม้ ที ศิ ทางเดยี วกัน 8. การบรหิ ารงานแบบหลักสูตรเกดิ ปัญหาตา่ ง ๆ มากมาย 9. อยากให้มหาวิทยาลัยเพ่ิมงบประมาณในการพัฒนาศักยภาพของอาจารย์ให้มากกว่าที่เคยได้รับ อย่างน้อยท่านละ 10,000 บาท เพ่ิมงบประมาณสนับสนุนการทาวิจัย เพิ่มเงินรางวัลให้แก่อาจารย์ท่ีมีผลงาน โดดเด่น ควรมีเกณฑก์ ารประเมินความดีความชอบทเี่ ป็นธรรม แยกระหว่างสายสอน สายวิจัย สายบรหิ าร

149 10. กาหนดเป้าหมายท่ีท้าทาย เพื่อให้กิจกรรมท่ีหนุนเสริมเกิดประโยชน์ต่อผู้เข้าร่วมกิจกรรมให้เกิด ความกา้ วหน้าและความม่ันคงในงาน ก็จะส่งผลให้เกดิ ขวัญกาลงั ใจและพัฒนาองค์กรให้ดยี ่ิงข้ึน 11. ผู้ปฏิบัติงานท่ีจบระดับปริญญาตรีแล้วควรจะปรับให้เป็นผู้ปฏิบัติการเลย โดยมีคาส่ังจากทาง มหาวิทยาลัย ระบบการทางานตามหลักธรรมาภิบาล 1. ควรจัดระบบการบรหิ ารงานตามหลกั ธรรมาภิบาลอยา่ งจรงิ จงั 2. ยังมคี นทท่ี างานอย่างเตม็ ที่เพ่อื อนาคตของนักศกึ ษา บนจรรยาบรรณสูงสุดของวิชาชีพ ที่ถูกละเลย มองข้าม และไม่ได้รับเกียติรยกย่องใด ๆ แต่คนส่วนนี้ก็ยังทาเป็นนิสัย หากจะใช้คาว่าธรรมมาภิบาล ควรมี แบบประเมนิ ผ้บู ริหาร และผู้เป็นหวั หนา้ ระดบั ต่าง ๆ ให้ครบรอบด้าน 3. ยังไม่มีการประเมินผลงานจากงานที่ปฏิบัติจริง และยังคงเลือกปฏิบัติ การพิจารณาความดี ความชอบไม่มีความเป็นรูปธรรมและไม่สามารถตรวจสอบได้ คนท่ีได้รับปูนบาเหน็จความดีความชอบมักเป็น แคก่ ลุ่มคนเดมิ ๆ เปน็ ประจา ทง้ั นสี้ ามารถยอมรับไดห้ ากมีระบบการพิจารณาที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็น รูปธรรม 4. การประเมินการเลอ่ื นเงนิ เดอื น ใช้เอกสารการประเมินดี แตพ่ อการประเมินจริง บางคร้ังไม่ได้ดูจาก เอกสารท่ีส่งไป ควรมีการประเมินข้ันเงินเดือนตามความเป็นจริง เพ่ิมระบบการประเมินการขึ้นข้ันเงินเดือนที่ เป็นธรรม ยดึ ผลงานการพัฒนาตนเองเพ่อื ผลสัมฤทธิ์ของงานเป็นหลกั ควรมีการกาหนดเกณฑ์การประเมินเพื่อ เลอื่ นขน้ั เงนิ เดอื นที่ชัดเจน และมกี ารแจ้งผลการประเมนิ ใหผ้ รู้ ับการประเมนิ เพ่ือทราบกอ่ นทาความตกลง 5. อยากให้การบริหารหลกั สตู รมคี วามโปร่งใสมากกว่านี้ 6. มหาวทิ ยาลัยและหนว่ ยงาน กากับติดตามอยา่ งจรงิ จังเพ่ือใหเ้ ปน็ ไปตามประกาศภาระงาน 7. ควรให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณเพื่อสวัสดิการของพนักงานมหาวิทยาลัย เพื่อความ โปร่งใส ตรวจสอบได้ บางจุดยังขาดการตรวจสอบ ทาให้การใช้งบประมาณไม่ประสบความสาเร็จตาม วัตถุประสงค์ 8. ควรใช้หลักธรรมาภิบาลกับบุคคลกรทุกคนไม่ว่าจะเป็นในส่วนของพนักงานราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าท่ี 9. การช้ีแจงไม่ท่ัวถึงทาให้ไม่ทราบการเป็นไปของการบริหารจัดการ เปิดเผยข้อมูลข่าวสารอย่าง ต่อเน่อื ง 10. เมื่อเห็นว่าทางานร่วมกับผู้อ่ืนไม่ได้ควรเชิญมาพูดคุยแนะนาถึงการปรับตัว การปฏิบัติตัว ไม่ใช่ ปล่อยให้ทางานมาไดต้ ้ัง 7 ปี แล้วไม่ตอ่ สัญญา 11. ควรเน้นให้บุคลากรมีส่วนร่วมในการตัดสินอย่างเหมาะสม หลาย ๆ กรณี เช่น การจัดหาจัดซ้ือ วัสดุ หรือแม้กระทั่งในการประชุมในฝ่ายเอง ผู้ใต้บังคับบัญชามีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นน้อยมาก ย่ิงถ้า หากแสดงความคดิ เหน็ ท่ไี มถ่ ูกจรติ ผูบ้ ังคับบัญชาแลว้ บรรยากาศในการประชุมจะเปลย่ี นไปทางมดื มนเลยทนั ที

150 การสื่อสารและความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งบุคลากร 1. ยังมีการแบ่งพรรคแบ่งพวกและเลือกปฏิบัติ มหาวิทยาลัยยังขาดกิจกรรมท่ีทาให้บุคลากรได้มี โอกาสรู้จักกัน ทาให้บุคลากรยังทางานเฉพาะกลุ่มตัวเอง การสื่อสารและความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากรจะมี ความสมั พันธ์เฉพาะคณะ ความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากรของแต่ละคณะยังน้อยเกินไป ควรมีการจัดกิจกรรมที่ ทาให้บคุ ลากรได้ทารว่ มกันมากข้ึน และไม่แบง่ แยกสายวชิ าการ และสายสนบั สนุน 2. มหาวิทยาลัยขาดการทางานท่ีมีส่วนร่วม ขาดการประชาคมในองค์กร และมักตัดสินใจทาบางสิ่งที่ ขัดกับความคิดเห็นโดยส่วนใหญ่ เช่น การยกเลิกการบริหารงานแบบโปรแกรมวิชา และการเปิด - ปิดภาค เรยี นแบบอาเซยี น เปน็ ตน้ 3. ผูบ้ ริหารคณะไมม่ ีการเชิญบุคลากรในคณะประชมุ ทงั้ กอ่ นเปิดภาคเรียนหรือหลังปิดภาคเรียน เพ่ือ ร่วมกันนาเสนอปัญหาหรอื ช่วยกนั แกป้ ัญหาในระยะเวลา 5 ปที ี่ผา่ นมา 4. ควรเพ่ิมการทากิจกรรมท่ีสร้างความตระหนักและรักในงานที่ทา ไม่ควรมีแต่การประชุม บรรยาย เชิญวิทยากร ควรเป็นกิจกรรมท่ีสร้างความสัมพันธ์อันดีในทุกหน่วยงาน การสร้างความรักองค์กรและปรับ วฒั นธรรมองคก์ รใหท้ นั ต่อการเปลี่ยนแปลงในโลกยุค 4.0 ควรมีการปรับทัศนคติอาจารย์ในการผลิตบัณฑิตท่ีมี คุณภาพ มีงานทาตรงกับความต้องการของท้องถิ่น มากกว่าการคิดว่าได้นักศึกษาไม่เก่งมา ให้มีมีกิจกรรม แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ระหวา่ งองค์กร เพอื่ สร้างมนษุ ย์สัมพันธ์ท่ีดีต่อกัน การสง่ เสรมิ สขุ ภาพ สวัสดกิ าร และขวญั กาลังใจ 1. ควรมีสวัสดิการด้านรักษาพยาบาลนอกเหนือจากประกันสังคม เนื่องจากประกันสังคมสิทธิในการ รักษาพยาบาลอาจไมค่ รอบคลุมทุกการรกั ษา ควรเพ่มิ วงเงินสวัสดกิ ารค่ารักษาพยาบาล ศูนย์เวชเข้าถึงยาก ให้ มกี ารตรวจสขุ ภาพประจาปี และควรมีการตดิ ตามผลด้วย 2. ควรจัดหาท่ีพักอาศัยให้กับอาจารย์เหมาะสมและเพียงพอ เนื่องจากอาจารย์ใหม่ อาจารย์ท่ีมาจาก ตา่ งจงั หวดั ยงั ขาดแคลนทพี่ กั อาศัย 3. อาจารย์และผู้สอนมีหน้าที่ในการทางานหลายอย่าง บางคร้ังอาจก่อให้เกิดความเครียดขึ้นโดยไม่ รู้ตัว ควรมีการจัดกิจกรรมเพื่อให้ตระหนักรู้ถึงโรคภัยทางสุขภาพจิต และ โรคเรื้อรังอันเกิดจากการทางานใน ออฟฟิศ เชน่ ออฟฟิศซนิ โดรม เปน็ ต้น 4. มหาวิทยาลัยมีการจัดสวัสดิการที่หลากหลายให้กับบุคลากร มีสถานที่สาหรับออกกาลงกาย กิจกรรมสาหรับสร้างเสริมสุขภาพ การให้รางวัลสาหรับผู้ได้รับการเล่ือนตาแหน่งทางวิชาการ ให้รางวัลแก่แต่ ละสาขา เป็นต้น

บรรณานกุ รม

152 บรรณานุกรม กรองแก้ว สรนนั ท์. (2537). ความพงึ พอใจในการปฏบิ ัติงานและปัจจยั ทีส่ ง่ ผลต่อความพึงพอใจในการ ปฏิบัตงิ านของขา้ ราชการสาย ข และสาย ค ในจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั . วทิ ยานิพนธค์ รุศาสตร มหาบัณฑติ คณะครุศาสตร์. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั . กนั ยา สวุ รรณแสง. (2538). จติ วิทยาทัว่ ไป (พมิ พ์คร้งั ที่ 2). กรงุ เทพมหานคร : อกั ษรพิทยา. กานดา จันทรแ์ ยม้ . (2546). จิตวิทยาอุตสาหกรรมเบอ้ื งตน้ . กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์โอเดยี นสโตร์ จิตินนั ท์ เดชะคุปต์. (2543). จติ วทิ ยาบริการ. พมิ พค์ ร้งั ท่ี 4. นนทบุรี : มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธิราช. จิราภรณ์ ตงั้ กติ ตภิ าภรณ.์ (2556). จิตวทิ ยาทวั่ ไป. กรงุ เทพมหานคร : สานักพมิ พ์แหง่ จุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลยั . จิรายุ ทรัพย์สิน. (2540) ปัจจยั ความคดิ เหน็ ของนสิ ติ ทีม่ ีต่อการเลือกตง้ั ผ้วู ่าราชการ กรุงเทพมหานคร. วทิ ยานพิ นธศ์ ิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ บัณฑิตวทิ ยาลัย มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์. ธงชัย สนั ติวงษ.์ (2539). การบรหิ ารงานบุคคล. กรงุ เทพมหานคร: ไทยวฒั นาพานชิ . ธนชยั ยมจนิ ดาและเสนห่ ์ จุ้ยโต. (2545). ทฤษฎีองค์การ. หน่วยท่ี 4 พฤติกรรมมนษุ ย์ในองค์การ. เอกสาร การสอนสาขาวิชาวิทยาจัดการ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธริ าช .กรุงเทพมหานคร : ฝา่ ยการพิมพ์ มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธิราช. ธัญญา ผลอนันต์. (2547). การมุ่งเนน้ ทีท่ รัพยากรบุคคล : แนวทางสรา้ งความพึงพอใจแก่พนักงาน. พมิ พค์ รงั้ ที่ 3. กรงุ เทพมหานคร : อินโนกราฟฟิกส์ นพพร ไพบลู ย.์ (2546). ความคิดเหน็ ของพนักงานบรษิ ทั เอสวไี อ จากดั (มหาชน) ท่ีมีต่อการยอมรบั มาตรฐานการจดั สิง่ แวดล้อม ISO 14000. วิทยานพิ นธ์การศึกษามหาบณั ฑติ สาขาวิชาการบริหาร การศึกษา บณั ฑิตวิทยาลัย มหาวทิ ยาลยั ศรีนครนิ ทรวิโรฒ. นันทนิจ ดา่ นคอนสกลุ . (2545). ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งแรงจูงใจในการปฏิบตั งิ านกบั ผลการปฏิบตั งิ านของ บุคลากรฝ่ายการเจ้าหน้าที่สังกดั สานักงานการประถมศกึ ษา จงั หวดั ในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื . วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑติ สาขาวชิ าการบรหิ ารการศกึ ษา บณั ฑติ วทิ ยาลัย สถาบนั ราชภัฏ เลย. นาคม ธรี สุวรรณจักร. (2541). ความคิดเหน็ ของประชาชนท้องถนิ่ ตอ่ การมีสว่ นร่วมในการทอ่ งเท่ียวเชิงนเิ วศ กรณีศึกษา : อาเภอสวนผง้ึ จังหวัดราชบุร.ี วิทยานิพนธศ์ ึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาส่ิงแวดล้อม บณั ฑิตวทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล. บญุ โชค สดุ คิด. (2542). การศึกษาความพึงพอใจในการปฏบิ ัตงิ านของขา้ ราชการครูในโรงเรียนกนั ดาร สังกัด สานกั งานการประถมศึกษาจงั หวดั นครศรีธรรมราช. วทิ ยานิพนธป์ ริญญาการศึกษามหาบัณฑติ สาขาวชิ าการบรหิ ารการศึกษา บณั ฑติ วทิ ยาลัย มหาวิทยาลัยทักษณิ . บุญมน่ั ธนาศภุ วัฒน.์ (2537). จติ วิทยาองค์การ. กรุงเทพมหานคร : สานกั พมิ พโ์ อเดยี นสโตร์.

153 ประยทุ ธ ชสู อน. (2548). พฤติกรรมภาวะผ้นู าและแนวทางการพัฒนาสคู่ วามเปน็ ผู้บริหารมืออาชีพของ ผ้บู รหิ ารโรงเรียนประถามศึกษาในเขตภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื วิทยานิพนธ์ปรญิ ญาศกึ ษาดษุ ฎี บัณฑิต การบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น. ปรียาพร วงศอ์ นุตรโรจน์. (2535). จิตวทิ ยาการบรหิ ารงานบคุ คล. กรงุ เทพมหานคร : ศนู ย์สื่อเสริมกรุงเทพ พรรณราย ทรพั ยะประภา. (2529). จติ วิทยาอุตสาหกรรม. กรุงเทพมหานคร : สานักพิมพ์โอเดียนสโตร. พวงมาลัย พรบิ ไหว. (2539). การศกึ ษาความพงึ พอใจในการปฏิบัติงานของหัวหน้าศูนย์บรกิ ารการศึกษานอก โรงเรียนอาเภอ. วิทยานิพนธ์ครศุ าสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลยั จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. ฟอร์ชิท แพทริท. (2550). จงู ใจแบบมืออาชีพ : How to motivate people. กรุงเทพฯ : เนชน่ั บคุ๊ . มณั ฑนา โพธ์แิ กว้ . (2550). ความคิดเห็นของบคุ ลากรท่มี ีต่อการบรหิ ารงานขององค์การบรหิ ารส่วนตาบลใน เขตอาเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบรุ .ี ปญั หาพเิ ศษรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวชิ าการ บริหารท่ัวไป วทิ ยาลยั การบริหารรฐั กจิ มหาวิทยาลยั บรู พา. รัชดา สุทธวิ รวฒุ ิกลุ . (2542). การศกึ ษาความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการตัดสนิ ใจของผู้บรหิ ารกบั ความพึง พอใจในการปฏบิ ัตงิ านของครูโรงเรยี นประถมศกึ ษา สงั กดั สานกั งานการประถมศึกษาจงั หวดั สพุ รรณบรุ .ี วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบณั ฑิต สถาบนั ราชภัฏกาแพงเพชร. สงบ ประเสรฐิ พันธ.์ ( 2543). ร่วมกันสรรค์สรา้ งคุณภาพโรงเรียน. กรงุ เทพมหานคร : สุวรี ิยาสาสน์ . สมพร เพชรสวุ รรณ. (2543). ความคดิ เหน็ ของผ้บู ริหารต่อบทบาทการบริหารงานเทคโนโลยี สารสนเทศไดร้ บั มอบหมาย:ศึกษาเฉพาะกรณีสานกั งานเร่งรดั พัฒนาชนบท. ภาคนพิ นธพ์ ฒั นบริหารศาสตรมหาบัณฑิต สาขาพัฒนาสงั คม คณะพัฒนาสงั คม บัณฑติ พัฒนบริหารศาสตร์. สมฤดี เพชรนาค. (2550). ความพงึ พอใจของผู้รับบรกิ ารที่มีต่อการให้บรกิ ารของสานักทะเบยี นอาเภอควน ขนนุ จงั หวัดพทั ลุง. สารนพิ นธ์ สาขาวชิ ารฐั ประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. สร้อยตระกลู (ติวยานนท์) อรรถมานะ. (2541). พฤติกรรมองค์การ : ทฤษฎแี ละการประยุกต์. กรุงเทพมหานคร : สานกั พิมพม์ หาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์. สริ อิ ร วิชชาวธุ . (2544). จิตวิทยาการอุตสาหกรรมและองค์การเบ้ืองตน้ . กรงุ เทพมหานคร : มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ สุจนิ ดา ตรโี กศล. (2543). การศึกษาพฤตกิ รรมความเป็นผู้นาของวิศวกรโรงงานอตุ สาหกรรมกับความพึง พอใจในการทางานของพนักงานในสายการผลติ ศกึ ษากรณี ของ บริษัท ไทยอเิ ล็กตรอนกัน จากัด. วิทยานิพนธศ์ ลิ ปศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาการบริหารองคก์ าร มหาวิทยาลัยศรปี ทุม. สุชา จนั ทร์เอม. 2539 จิตวทิ ยาทวั่ ไป กรงุ เทพมหานคร : ไทยวฒั นาพานิช สุทธนู ศรไี สย์ และสุพจน์ บุญวิเศษ. (2547). ทศั นะของประชาชนต่อการเลือกต้ังนายกเทศมนตรี และสมาชิก สภาเทศบาลเมอื งจนั ทบุร.ี ชลบรุ ี : มหาวทิ ยาลัยบรู พา. สมุ าลี วทิ ยรตั น์. (2543). ความสัมพันธร์ ะหว่างภาวะผู้นาของอธกิ ารบดีกับความพงึ พอใจในการปฏบิ ัตงิ าน ของผู้บรหิ ารสถาบันราชภัฏในภาคเหนือ. วิทยานพิ นธค์ รศุ าสตรมหาบัณฑิต (การบรหิ ารการศึกษา) บณั ฑติ วทิ ยาลัย สถาบนั ราชภัฏกาแพงเพชร.

154 สุรยี ์ เขียวมรกต. (2548). ความคิดเหน็ ของประชาชนท่ีมตี ่อการอนรุ กั ษแ์ ละฟ้นื ฟูทรพั ยากรธรรมชาติป่าชาย เลน : ศกึ ษาเฉพาะกรณีอาเภอขลุง จังหวดั จันทบรุ .ี วิทยานิพนธศ์ ึกษาศาสตรมหาบณั ฑิต, สาขา สังคมศาสตร์เพ่ือการศึกษา บณั ฑติ วทิ ยาลยั มหาวิทยาลัยราชภัฏราไพพรรณ.ี สวุ รรณ ภตู ิวณชิ ย์. (2541). การศึกษาความพงึ พอใจในการปฏบิ ัตงิ าน และปัจจยั ท่ีส่งผลต่อความพงึ พอใจใน การปฏิบัติงานของข้าราชการในสังกัดสานกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร. วิทยานพิ นธค์ รุศาสตรมหา บณั ฑิต คณะครศุ าสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั . หนนู ิล ศรีสมบัติ. (2547). ความพึงพอใจในการปฏิบตั ิงานของบุคลากรในสานักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษา หนองบัวลาพู. วทิ ยานพิ นธ์ครุศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาบริหารการศึกษา คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น. อาคม เกง่ บญั ชา. (2533). พฤตกิ รรมการตัดสนิ ใจของผบู้ ริหารที่มีต่อการพึงพอใจในการทางานของครู โรงเรียนมธั ยมศกึ ษาในจงั หวัดสพุ รรณบรุ ี. วิทยานิพนธม์ หาบัณฑติ สาขาการบรหิ ารการศึกษา คณะ ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร. Likert, R. (1932). A technique for the measurement of attitudes. Archives of Psychology. Oskamps, Stuart. (1987). Applied Social Psychology. Englewood, Cliffs. New Jersey : Prentice- Hall Inc. Yoder, D. (1985). Handbook of Personnel management and Labour Relation. NewYork : Mc Graw Hill.

ภาคผนวก

แบบสอบถามความคิดเห็นและความพึงพอใจของอาจารยต์ ่อการบรหิ ารหลกั สตู ร และการดาเนินงานของมหาวิทยาลัยราชภฏั นครราชสีมา

สาหรบั อาจารย์ แบบสอบถามความคดิ เหน็ และความพงึ พอใจของอาจารยต์ ่อการบริหารหลกั สูตร และการดาเนินงานของ มหาวิทยาลัยราชภฏั นครราชสีมา คาชีแ้ จง 1. แบบสอบถามฉบบั น้ใี ช้สาหรบั ศกึ ษาความคิดเห็นและความพึงพอใจของอาจารย์ต่อการบริหารหลักสูตรและการ ดาเนินงานของมหาวิทยาลยั ราชภัฏนครราชสีมา เพอ่ื นาไปสกู่ ารปรบั ปรงุ คุณภาพหลกั สูตร พฒั นาสภาพแวดล้อมในการทางาน และพัฒนาระบบและกลไกเกยี่ วกับการทางานของบคุ ลากรใหม้ ีประสทิ ธิภาพมากขน้ึ 2. แบบสอบถาม แบง่ ออกเป็น 5 ตอน ดังน้ี ตอนท่ี 1 ขอ้ มลู เก่ยี วกับผตู้ อบแบบสอบถาม ตอนท่ี 2 ความพงึ พอใจของอาจารย์ตอ่ การบรหิ ารหลกั สตู ร ตอนท่ี 3 ความคิดเหน็ ตอ่ ผลการดาเนินงานของมหาวทิ ยาลัย ตอนที่ 4 ความพึงพอใจตอ่ สภาพการทางาน ตอนท่ี 5 ขอ้ คดิ เห็นและข้อเสนอแนะ 3. ขอความรว่ มมอื บคุ ลากรของมหาวิทยาลัยทุกท่านในการตอบแบบสอบถามตามสภาพทเ่ี ปน็ จรงิ ตามความรสู้ ึก และความคดิ เหน็ ทแ่ี ท้จริงของทา่ น ข้อมูลที่ไดจ้ ะนาไปประมวลผลในภาพรวมโดยไมม่ ผี ลกระทบต่อทา่ นแตอ่ ยา่ งใด ตอนที่ 1 ข้อมลู เกย่ี วกับผตู้ อบแบบสอบถาม 1. เพศ ( ) ชาย ( ) หญงิ 2. อายุ ( ) ไมเ่ กิน 30 ปี ( ) ระหว่าง 31 – 40 ปี ( ) ระหว่าง 41 – 50 ปี ( ) ระหวา่ ง 51 – 60 ปี ( ) มากกวา่ 60 ปี 3. ประเภทของบุคลากร ( ) ข้าราชการ ( ) พนักงานราชการ ( ) พนกั งานในสถาบนั อุดมศึกษา ( ) ลกู จ้างชวั่ คราว ( ) อนื่ ๆ (ระบุ)................... 4. สงั กัดหน่วยงาน ( ) ครุศาสตร์ ( ) มนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ ( ) วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( ) วทิ ยาการจดั การ ( ) เทคโนโลยอี ตุ สาหกรรม ( ) สาธารณสขุ ศาสตร์ 5. ระยะเวลาในการปฏบิ ตั ิงาน ณ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏนครราชสมี า ( ) ต่ากวา่ 1 ปี ( ) 1 - 5 ปี ( ) 6 - 10 ปี ( ) 11 - 15 ปี ( ) 16 – 20 ปี ( ) 21 ปขี ึน้ ไป 6. ระดบั การศึกษา ( ) ปริญญาตรี ( ) ปรญิ ญาโท ( ) ปรญิ ญาเอก 7. ตาแหนง่ ( ) เปน็ อาจารยป์ ระจาหลักสูตร ( ) ไมเ่ ปน็ อาจารยป์ ระจาหลกั สตู ร 8. หลักสตู ร ควรมีช่องใหเ้ ลอื กหลกั สูตร

ตอนที่ 2 ความพึงพอใจของอาจารย์ตอ่ การบริหารหลักสูตร 2.1 ดา้ นนกั ศึกษา หัวข้อประเมนิ มากที่สุด ระดับความพงึ พอใจ น้อยท่สี ดุ มาก ปานกลาง นอ้ ย การรับนกั ศกึ ษา 1. การกาหนดเป้าหมายการรบั นกั ศกึ ษา โดยพิจารณาความตอ้ งการของตลาด และความพร้อมของอาจารย์ท่ีมีอยู่ 2. การกาหนดคณุ สมบตั ิของนักศึกษาท่ีสอดคลอ้ งกบั ความต้องการของ หลกั สตู ร เชน่ ความรพู้ ้ืนฐานต่างๆ และคณุ สมบตั อิ ืน่ ๆ 3. การเตรยี มความพรอ้ มของนักศึกษาก่อนเขา้ ศกึ ษาไดร้ บั การพฒั นาตนเอง พรอ้ มทัง้ สามารถเรียนในหลกั สตู รจนสาเร็จการศกึ ษา 4. เกณฑท์ ี่ใชใ้ นการคดั เลอื กนกั ศึกษามีความเหมาะสมเช่อื ถอื ได้ โปร่งใสและ เปน็ ธรรม การสง่ เสริมและพัฒนานกั ศึกษา 5. กระบวนการจดั การเรียนการสอนของหลกั สตู ร เนน้ พัฒนานักศกึ ษาใหเ้ รยี นรู้ ตามโครงสรา้ งหลกั สตู ร บรู ณาการกับพันธกิจต่างๆ สง่ เสรมิ ทกั ษะการเรยี นรู้ ในศตวรรษท่ี 21 ประกอบด้วย ทกั ษะการเรยี นรแู้ ละนวัตกรรมทักษะ สารสนเทศ ภาษาตา่ งประเทศ ทกั ษะการทางานแบบมสี ว่ นร่วม ฯลฯ 6. การเปิดโอกาสให้นกั ศึกษาสามารถตดิ ตอ่ สอื่ สารไดห้ ลากหลายชอ่ งทาง อาทิ แบบคาร้อง ตจู้ ดหมาย ทาง Social Media เปน็ ตน้ 7. การให้คาแนะนาด้านลงทะเบยี นเรยี น การวางแผนการเรียนและควบคุมการ ลงทะเบียนเรยี นให้เปน็ ไปตามแผนการศึกษา 8. การกากบั ตดิ ตาม ตรวจสอบ ผลการเรยี นของนกั ศึกษา เพอื่ ช่วยใหน้ กั ศึกษา เรียนจบตามระยะเวลาของหลักสตู ร 9. การใหค้ าปรกึ ษาแนะนาช่วยเหลอื นกั ศึกษาทง้ั ดา้ นการเรยี น การปรบั ตัวใน การเรยี นระดับอุดมศึกษา และดา้ นอนื่ ๆ (เฉพาะหลักสตู รบณั ฑติ ศกึ ษา ตอบข้อ 10 - 11 เพิม่ เติม) 10. ติดตามและกากบั ดแู ลผลการทาวทิ ยานิพนธ์และการค้นควา้ อิสระของ นกั ศึกษาอย่างสมา่ เสมอ 11. ใหค้ วามชว่ ยเหลอื หรือถ่ายทอดประสบการณด์ า้ นการวิจยั และ/หรือ งาน สรา้ งสรรค์แก่นักศึกษา ตลอดจนรบั ฟังความคดิ เหน็ และช่วยแกไ้ ขปญั หา ต่างๆ ผลทเ่ี กดิ กับนกั ศกึ ษา 12. การแก้ไข/ปรับปรุงเกย่ี วกับข้อร้องเรยี นของนักศกึ ษาทมี่ ตี ่อหลักสูตรและการ จัดการศกึ ษา ความคิดเหน็ เพิ่มเติม ด้านนกั ศกึ ษา

2.2 ด้านอาจารย์ หัวข้อประเมิน มากที่สดุ ระดบั ความพึงพอใจ น้อยท่สี ดุ มาก ปานกลาง น้อย การบรหิ ารและพัฒนาอาจารย์ 1. การกาหนดคณุ สมบตั ิอาจารย์ใหมม่ ีความสอดคล้องกบั บรบิ ท ปรัชญา วิสยั ทัศน์ ของหลกั สูตรและสถาบนั 2. การวางแผนด้านอตั รากาลังของอาจารย์เป็นไปตามเกณฑม์ าตรฐานการ อดุ มศึกษา 3. จานวนอาจารย์และคณุ สมบัติอาจารย์ประจาหลกั สตู รเปน็ ไปตามเกณฑ์ มาตรฐานทสี่ กอ. กาหนด 4. การจดั ผู้สอนในรายวชิ าต่างๆ แตล่ ะภาคการศกึ ษา ผู้สอนมสี ่วนร่วมในการจดั ผ้สู อน 5. จานวนรายวชิ าท่ีรับผดิ ชอบต่อภาคการศกึ ษามีความเหมาะสม 6. การปฐมนเิ ทศ อบรม ชีแ้ จงในเร่ืองบทบาทหน้าทอ่ี าจารย์ทป่ี รึกษาทางวิชาการ อยา่ งเหมาะสม 7. อาจารยป์ ระจาหลกั สตู รไดร้ ับพฒั นาทางวชิ าการและวชิ าชพี อยา่ งเหมาะสม 8. การเปดิ โอกาสใหอ้ าจารยท์ กุ คนไดพ้ ัฒนาตนเองทัง้ ทางวชิ าการและวชิ าชีพ 9. การประเมนิ การสอนของอาจารยพ์ รอ้ มท้งั การนาผลการประเมนิ มาใช้ในการ พัฒนาความสามารถของอาจารย์ 10. (เฉพาะหลักสูตรบณั ฑติ ศกึ ษา ตอบขอ้ 10 เพิ่มเติม)การปฐมนเิ ทศ อบรม ช้แี จง ในเรื่องบทบาทหนา้ ท่อี าจารยท์ ี่ปรกึ ษาวิทยานพิ นธ์และการคน้ ควา้ อสิ ระอยา่ ง เหมาะสม ผลที่เกดิ กับอาจารย์ 11. ภาระงานทไี่ ด้รับมอบหมายมีสดั สว่ นท่ีเหมาะสมกับจานวนนักศกึ ษาทีร่ บั ใน หลกั สตู ร 12. จานวนอาจารยเ์ พียงพอในการจัดการเรยี นการสอนตาม มาตรฐานหลักสตู ร 13. ในภาพรวมอาจารยม์ คี วามพงึ พอใจต่อการบรหิ ารหลกั สตู ร ความคดิ เห็นเพมิ่ เติม ดา้ นอาจารย์ 2.3 ดา้ นหลักสตู ร การเรียนการสอน และการประเมินผูเ้ รียน หัวข้อประเมนิ มากที่สดุ ระดับความพึงพอใจ สาระของรายวิชาในหลักสูตร มาก ปานกลาง น้อย น้อยท่สี ุด 1. การควบคุมกากับการจัดรายวชิ าตา่ งๆ ให้มเี น้อื หาท่ที นั สมยั ทนั ต่อความก้าวหน้า ทางวทิ ยาการ และความหลากหลายของรายวชิ าในหลกั สตู ร 2. การเปิดรายวชิ ามลี าดับทเ่ี หมาะสม มีความต่อเน่ือง เอื้อให้นกั ศกึ ษามีพื้นฐาน ความรู้และสามารถตอ่ ยอดความรู้ 3. (เฉพาะหลกั สตู รบัณฑติ ศึกษา ตอบขอ้ 3 เพ่ิมเตมิ )การควบคมุ มาตรฐานของหัวขอ้ วิทยาพนธ์ การค้นคว้าอิสระ มีความเหมาะสม โดยเปน็ ประเด็นร่วมสมยั เหมาะสมกบั ปรชั ญาและวิสยั ทัศนข์ องหลกั สูตร

หัวขอ้ ประเมิน มากที่สุด ระดับความพงึ พอใจ มาก ปานกลาง น้อย นอ้ ยท่ีสุด การจัดการเรยี นการสอน 4. อาจารยผ์ ู้สอนมคี วามร้คู วามสามารถ และความเชยี่ วชาญในรายวิชาทีส่ อน 5. มีการกากับ ตดิ ตาม และตรวจสอบการจัดทา มคอ.3 มคอ.4 มคอ.5 และ มคอ.6 6. มีการดาเนินการจดั ทา มคอ.7 (เฉพาะหลักสตู รบณั ฑติ ศึกษา ตอบขอ้ 7-8 เพิ่มเตมิ ) 7. การแตง่ ตั้งอาจารยท์ ป่ี รึกษาวิทยานพิ นธ์ และ/หรอื การค้นคว้าอสิ ระ คานึงถงึ ความรคู้ วามเชยี่ วชาญในหวั ขอ้ ดังกล่าว 8. มีการควบคุมกากับจานวนนักศกึ ษาต่ออาจารยท์ ปี่ รึกษาวิทยานิพนธ์ และ/หรอื การคน้ คว้าอิสระ เปน็ ไปตามเกณฑ์ท่ีสานักงานคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษา (สกอ.) กาหนด การประเมินผเู้ รียน 9. การประเมนิ ผู้เรยี นว่ามคี วามรู้ความสามารถตามวัตถุประสงคข์ องรายวชิ า ผ่านการพจิ ารณาจากคณะกรรมการกากับมาตรฐานวชิ าการ ทงั้ รายละเอยี ดของ รายวชิ า (มคอ.3 และ มคอ.4) ขอ้ สอบและผลการสอบ ความคดิ เห็นเพิ่มเติม ดา้ นหลักสตู ร การเรียนการสอน การประเมินผเู้ รยี น 2.4 ด้านสิง่ สนับสนุนการเรียนรู้ มากทส่ี ุด ระดบั ความพึงพอใจ มาก ปานกลาง น้อย น้อยทสี่ ดุ หวั ขอ้ ประเมนิ ดา้ นส่ิงสนบั สนนุ การเรียนรู้ 1. อาคารเรยี น ห้องเรยี น หอ้ งปฏิบตั กิ าร (Workshop) ท่ีพกั นกั ศกึ ษา มีความ พรอ้ มต่อการจดั การศึกษา 2. ทรัพยากรทเี่ ออื้ ตอ่ การเรยี นรู้ เชน่ อุปกรณ์ เทคโนโลยสี ารสนเทศ หอ้ งสมุด ตารา หนงั สือ แหล่งเรยี นรู้ ฐานขอ้ มลู มคี วามเหมาะสมต่อการจัดการศกึ ษา 3. มกี ารบารุงดแู ล รักษาทรพั ยากรให้เออ้ื ต่อการเรยี นรอู้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ 4. เทคโนโลยที ใี่ ชใ้ นการจดั การเรียนการสอนมีความเหมาะสม 5. มกี ารจดั พ้ืนทส่ี าหรับนักศึกษาและอาจารยไ์ ดพ้ บปะแลกเปล่ยี นความคิดเห็น หรือทางานร่วมกัน 6. มีการให้บริการคอมพิวเตอร์ และอนิ เตอรเ์ นต็ ความเรว็ สงู (เฉพาะหลักสูตรบัณฑติ ศึกษา ตอบขอ้ 7-9 เพม่ิ เติม) 7. มีการจดั สรรงบประมาณให้นักศกึ ษาเพื่อทาวิจยั 8. มีหอ้ งทางานวิจยั (ซงึ่ ไม่ใช่หอ้ งเรียน) เพ่อื ใหน้ ักศกึ ษาเข้าใช้ได้สะดวกในการทา วจิ ยั 9. มีอปุ กรณ์และเคร่ืองมอื พน้ื ฐานทีจ่ าเป็นและเหมาะสมในการทาวจิ ยั ความคิดเหน็ เพมิ่ เติม ดา้ นส่งิ สนับสนุนการเรยี นรู้

2.5 ดา้ นขอ้ รอ้ งเรยี นต่างๆ ทา่ นเคยไดร้ บั ทราบขอ้ รอ้ งเรียนจากนกั ศกึ ษาต่อการจดั การหลักสตู ร สาขาวิชา ภาควชิ า หรือคณะหรอื ไม่  เคย ระบุขอ้ ร้องเรียน ขอ้ ร้องเรียนไดร้ ับการแก้ ไข ปรับปรงุ หรือไม่ อย่างไร  ไม่เคย ความคิดเหน็ เพมิ่ เติม ด้านข้อรอ้ งเรยี นต่างๆ ของนักศึกษา ตอนท่ี 3 ความคดิ เห็นตอ่ ผลการดาเนินงานของมหาวทิ ยาลัย 3.1 ผลการดาเนินงานท่ีสอดคล้องกบั อัตลักษณ์ของมหาวิทยาลยั โปรดพิจารณาวา่ ในรอบปกี ารศกึ ษาทผ่ี า่ นมามหาวิทยาลัยมีผลการดาเนินงานท่ีสอดคลอ้ งกบั อัตลกั ษณ์ของ มหาวิทยาลยั “ทีพ่ ่ึงของทอ้ งถนิ่ ” มากนอ้ ยเพียงใดเลอื กระดับความพึงพอใจที่ตรงกบั ระดบั ความพงึ พอใจของทา่ น รายการ ระดับความคิดเห็น 1. การให้โอกาสทางการศกึ ษาแก่นกั เรียนนกั ศกึ ษาและประชาชน มากทสี่ ดุ มาก ปานกลาง น้อย นอ้ ยทสี่ ดุ ในทอ้ งถ่ิน 2. มีการบริการวชิ าการเพื่อเพ่ิมศักยภาพของชมุ ชนในท้องถน่ิ 3. มกี ารอนุรกั ษส์ ง่ เสริมและถ่ายทอดศิลปวฒั นธรรมและประเพณี ของท้องถน่ิ 4. มีการวจิ ัยและถา่ ยทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมสู่ทอ้ งถน่ิ 5. มคี วามรว่ มมอื กับหนว่ ยงานภายนอกในการพฒั นาทอ้ งถน่ิ 3.2 ผลการดาเนนิ งานตามจดุ เน้น จุดเด่น หรอื ความเชี่ยวชาญเฉพาะของมหาวิทยาลยั มหาวทิ ยาลัยไดก้ าหนดจดุ เนน้ จดุ เด่นหรอื ความเชีย่ วชาญเฉพาะโดยผ่านความเหน็ ชอบของสภามหาวทิ ยาลัย ไว้ 5 ดา้ น ดังในตาราง โปรดพจิ ารณาว่าในรอบปกี ารศกึ ษาท่ผี ่านมา ทา่ นมคี วามพงึ พอใจตอ่ ผลการดาเนนิ งานในด้านตา่ ง ๆ มาก นอ้ ยเพยี งใดแล้วเลือกระดับความพึงพอใจทตี่ รงกับระดับความพงึ พอใจของทา่ น จดุ เน้น จุดเด่น หรือความเชยี่ วชาญเฉพาะด้าน มากทสี่ ุด ระดบั ความพงึ พอใจ มาก ปานกลาง น้อย นอ้ ยทีส่ ุด 1. เป็นผนู้ าดา้ นการศึกษาพิเศษในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื 2. เปน็ ผนู้ าของประเทศในการผลติ ครแู ละบุคลากรทางการศึกษามอื อาชีพ 3. ร้อยละของงานวจิ ัยเพื่อตอ่ ยอดภมู ิปัญญาทอ้ งถิน่ ของจงั หวัด นครราชสีมาด้านอาหาร ผา้ และการทอ่ งเท่ียวต่อจานวนงานวจิ ัย ทง้ั หมด 4. สถาบนั วิจยั ไมก้ ลายเป็นหนิ ฯ เปน็ แหล่งเรยี นรดู้ า้ นบรรพชวี นิ ระดบั นานาชาตทิ ่โี ดดเด่นในอาเซยี น 5. การสบื สานโครงการอนั เนือ่ งมาจากพระราชดารใิ นการ แก้ปญั หาและใชป้ ระโยชน์จากดินเค็มของจังหวดั นครราชสมี า

3.3 ผลการดาเนินงานของมหาวทิ ยาลยั ดา้ นการพฒั นาอตั ลักษณข์ องบณั ฑติ โปรดพิจารณาว่าในรอบปกี ารศกึ ษาท่ีผ่านมามหาวิทยาลัยมผี ลการดาเนนิ งานดา้ นการพฒั นาอตั ลกั ษณข์ อง บณั ฑติ ที่ว่า “สานกึ ดี มีความรู้ พร้อมสู้งาน” มากนอ้ ยเพยี งใดเลือกระดับความพึงพอใจท่ีตรงกบั ระดบั ความพงึ พอใจของท่าน จุดเนน้ จดุ เดน่ หรือความเชย่ี วชาญเฉพาะด้าน ระดบั ความพงึ พอใจ มากทส่ี ุด มาก ปานกลาง น้อย นอ้ ยที่สุด สานึกดี 1. การจดั กิจกรรมเพือ่ เสรมิ สรา้ งคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 2. การสรา้ งความตระหนักเกี่ยวกบั จรรยาบรรณวชิ าชีพ 3. การปลูกจติ สานกึ ความเปน็ ไทย 4. การปลูกฝงั ให้เกิดความรกั และความผกู พันต่อทอ้ งถ่นิ มีความรู้ 1. การพัฒนาความรคู้ วามสามารถและทักษะทางวชิ าการ/วชิ าชีพ 2. การพฒั นาความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ 3. การสร้างเสริมความสามารถในการแกไ้ ขปญั หา 4. การเพ่ิมศกั ยภาพดา้ นภาษาต่างประเทศ 5. การเพิ่มศกั ยภาพดา้ นเทคโนโลยีสารสนเทศ พร้อมสูง้ าน 1. การสง่ เสริมด้านความรบั ผิดชอบตอ่ หน้าท่ี 2. การสง่ เสรมิ ด้านการอุทิศเวลาใหก้ ับงาน 3. การสร้างเสริมภาวะผนู้ าในการแก้ปัญหา 4. การสร้างเสริมความคิดรเิ ริ่มและความร่วมมอื ในการแกป้ ญั หา 5. การสง่ เสรมิ ให้มกี ารพัฒนาตนเองอย่างต่อเนอ่ื ง ตอนท่ี 4 ความพึงพอใจต่อสภาพการทางาน โปรดทาเครอ่ื งหมาย / ลงในชอ่ งด้านขวามอื ท่ตี รงหรือใกลเ้ คยี งกบั ความร้สู ึกทแ่ี ทจ้ ริงของทา่ นตอ่ สภาพการทางานใน ด้านต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ รายการ ระดบั ความพงึ พอใจ มากที่สดุ มาก ปานกลาง น้อย น้อยทีส่ ดุ สภาพแวดลอ้ มในการทางาน 1. สถานท่ีทางาน/ห้องเรยี นสะอาดเป็นระเบียบเรยี บร้อย มคี วาม เหมาะสม สะดวกตอ่ การทางาน 2. สภาพแวดลอ้ มของสถานที่ทางานเหมาะสมต่อการปฏิบตั งิ าน เชน่ พ้ืนท่ีพอเหมาะ อากาศถ่ายเทสะดวก ไมม่ กี ลน่ิ และเสยี ง รบกวน เปน็ ต้น 3. วัสดุ อุปกรณ์ และครุภณั ฑเ์ พยี งพอและเหมาะสมต่อการปฏบิ ตั ิงาน 4. สถานที่ทางานมคี วามปลอดภัย 5. บรรยากาศในการทางานอบอุ่นเป็นกนั เอง 6. การจัดภมู ทิ ัศนส์ วยงามสอดคลอ้ งกับธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม 7. มีพนื้ ทใ่ี นการจดั กจิ กรรมวันสาคัญทางศาสนา 8. มพี ื้นท่ีในการจดั กิจกรรมทางศลิ ปะและวฒั นธรรม

รายการ ระดับความพึงพอใจ มากทสี่ ดุ มาก ปานกลาง น้อย นอ้ ยทีส่ ุด ความก้าวหน้าและความมน่ั คงในงาน 1. งานที่ทาอยใู่ นปัจจุบันมคี วามมนั่ คง 2. ท่านมโี อกาสก้าวหนา้ ในหน้าทกี่ ารงาน 3. ท่านได้รบั การสนับสนนุ ให้พฒั นาความรคู้ วามสามารถและ ทักษะในการทางาน เชน่ อบรม ประชุม ศกึ ษาตอ่ เป็นต้น 4. มหาวทิ ยาลัยสนับสนุนการทาผลงานเพอื่ เข้าส่ตู าแหนง่ ทสี่ งู ขนึ้ ระบบการทางานตามหลักธรรมาภบิ าล 1. มกี ารกาหนดภาระงานอย่างชัดเจน 2. มขี ้นั ตอนการปฏิบัตงิ านอยา่ งชดั เจน เปน็ ระบบ 3. มีการประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านอยา่ งเปน็ ระบบ โปรง่ ใส และเปน็ ธรรม 4. มีระบบการเลอ่ื นข้นั เงนิ เดือนท่ยี ุติธรรมและโปรง่ ใส 5. มีการบรหิ ารจดั การอย่างมีสว่ นร่วม ใหอ้ านาจในการตัดสินใจแก่ บุคลากรอยา่ งเหมาะสม 6. ในหนว่ ยงานมแี หลง่ ข้อมูลข่าวสารทเ่ี ชอ่ื ถอื ไดเ้ ป็นปัจจบุ ัน 7. มกี ารถ่ายทอดความรู้ ส่งเสรมิ และพฒั นาบคุ ลากร ในหนว่ ยงานเพื่อใหส้ ามารถทางานเตม็ ตามศักยภาพ การสือ่ สารและความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งบคุ ลากร 1. บุคลากรในหนว่ ยงานมมี ิตรภาพและความสมั พนั ธท์ ดี่ ี ก่อให้เกดิ วัฒนธรรมที่ดใี นการทางาน 2. บคุ ลากรในหนว่ ยงานมสี ่วนรว่ มรับทราบปัญหา แสดงความคิดเหน็ หรอื รว่ มแกไ้ ขปญั หา 3. มกี ารจดั กจิ กรรมส่งเสริมใหบ้ คุ ลากรไดม้ ีโอกาสพบปะสังสรรค์ เพ่อื สรา้ งมนษุ ยสัมพนั ธท์ ด่ี ตี อ่ กัน 4. บุคลากรในหนว่ ยงานมีอสิ ระในการแสดงความคิดเหน็ ดา้ นการปฏบิ ตั ิงาน หรอื นโยบายในการบริหารงานขององคก์ ร การสง่ เสริมสุขภาพ สวัสดิการ และขวัญกาลงั ใจ 1. มกี ารส่งเสรมิ สุขภาพของบคุ ลากร เช่น การตรวจสขุ ภาพ ประจาปี มศี ูนย์แพทย์ ศูนย์สง่ เสรมิ สุขภาพ สนามกีฬา รา้ นคา้ รา้ นสวัสดิการ หอ้ งพกั อาจารย์ เป็นตน้ 2. มีสวสั ดกิ ารดา้ นการรักษาพยาบาล 3. มีสวสั ดกิ ารด้านการใหท้ ุนสนบั สนุนการศึกษาตอ่ 4. มีสวัสดิการดา้ นการศกึ ษาดงู านทัง้ ในและต่างประเทศ 5. มกี ารยกยอ่ งชมเชย ให้รางวลั หรือการเชดิ ชเู กยี รตบิ ุคลากร หรอื หนว่ ยงานท่ปี ฏบิ ัตงิ านดีเด่น

ตอนที่ 5 ขอ้ คดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะ โปรดใหข้ ้อคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เติมเกยี่ วกบั สภาพการทางานในดา้ นตา่ ง ๆ ลงในช่องวา่ งทเี่ ว้นไว้ให้ 1. ดา้ นการจดั การเรียนการสอน (ประเด็น : ความรใู้ นสาขาวิชา, การเตรยี มการสอน, การจัดกจิ กรรมการเรียน- การสอนในชน้ั เรยี น, การวดั ผลและประเมินผล)................................................................................................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 2. ด้านสภาพแวดลอ้ มในการทางาน………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 3. ดา้ นความก้าวหน้าและความม่ันคงในงาน………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 4. ดา้ นระบบการทางานตามหลักธรรมาภิบาล……………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …….…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 5. ดา้ นการสื่อสารและความสมั พนั ธ์ระหว่างบคุ ลากร ………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 6. ด้านการสง่ เสริมสุขภาพ สวัสดกิ าร และขวัญกาลงั ใจ……………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

แบบสอบถามความคิดเหน็ และความพึงพอใจของบุคลากรสายสนับสนุน ตอ่ การดาเนินงานของมหาวทิ ยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

สาหรับสายสนบั สนนุ แบบสอบถามความคดิ เห็นและความพงึ พอใจของบุคลากรสายสนับสนุน ตอ่ การดาเนินงานของ มหาวิทยาลัยราชภฏั นครราชสีมา คาชี้แจง 3. แบบสอบถามฉบบั น้ีใชส้ าหรบั ศกึ ษาความคดิ เห็นต่อการดาเนนิ งานของมหาวิทยาลัยและความพึงพอใจ ต่อสภาพการทางานของบุคลากรมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครราชสมี าสายสนบั สนุน เพ่ือนาไปสกู่ ารปรบั ปรงุ พฒั นาสภาพแวดล้อม ในการทางาน ระบบและกลไกเกี่ยวกบั การทางานของบคุ ลากรใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพมากขน้ึ 4. แบบสอบถาม แบ่งออกเปน็ 4 ตอน ดงั น้ี ตอนท่ี 1 ขอ้ มูลเกี่ยวกับผ้ตู อบแบบสอบถาม ตอนท่ี 2 ความคดิ เห็นต่อผลการดาเนนิ งานของมหาวทิ ยาลัย ตอนท่ี 3 ความพึงพอใจตอ่ สภาพการทางาน ตอนที่ 4 ข้อคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะ 3. ขอความรว่ มมอื บคุ ลากรของมหาวิทยาลัยทกุ ทา่ นในการตอบแบบสอบถามตามสภาพทเ่ี ปน็ จริง ตามความรสู้ ึก และความคดิ เห็นที่แท้จรงิ ของทา่ น ขอ้ มูลทีไ่ ด้จะนาไปประมวลผลในภาพรวมโดยไมม่ ผี ลกระทบตอ่ ท่านแตอ่ ยา่ งใด ตอนท่ี 1 ข้อมลู เกย่ี วกบั ผตู้ อบแบบสอบถาม 1. เพศ ( ) ชาย ( ) หญงิ 2. อายุ ( ) ไม่เกนิ 30 ปี ( ) ระหว่าง 31 – 40 ปี ( ) ระหว่าง 41 – 50 ปี ( ) ระหว่าง 51 – 60 ปี ( ) มากกว่า 60 ปี 3. ประเภทของบุคลากร ( ) ขา้ ราชการ ( ) พนกั งานในสถาบนั อุดมศกึ ษา ( ) ลูกจา้ งประจา ( ) พนักงานราชการ ( ) ลกู จ้างช่วั คราว ( ) อืน่ ๆ (ระบ)ุ .............. 5. สังกัดหนว่ ยงาน ( ) ครศุ าสตร์ ( ) มนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ ( ) วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( ) วิทยาการจดั การ ( ) เทคโนโลยอี ตุ สาหกรรม ( ) สาธารณสขุ ศาสตร์ ( ) ศนู ย์/สานกั /สถาบัน (ระบุ) ................................................................... 5. ระดบั การศกึ ษา ( ) ตา่ กว่าปรญิ ญาตรี ( ) ปรญิ ญาตรี ( ) ปรญิ ญาโท ( ) ปริญญาเอก 6. ระยะเวลาในการปฏบิ ัตงิ าน ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ( ) ต่ากวา่ 1 ปี ( ) 1 - 5 ปี ( ) 6 - 10 ปี ( ) 11 - 15 ปี ( ) 16 – 20 ปี ( ) 21 ปีข้นึ ไป

ตอนที่ 2 ความคดิ เหน็ ตอ่ ผลการดาเนินงานของมหาวทิ ยาลยั 1.2 ผลการดาเนินงานที่สอดคลอ้ งกับอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลยั โปรดพิจารณาวา่ ในรอบปกี ารศึกษาที่ผ่านมามหาวิทยาลยั มีผลการดาเนนิ งานที่สอดคลอ้ งกบั อัตลักษณ์ของ มหาวทิ ยาลยั “ทพ่ี งึ่ ของท้องถ่นิ ” มากนอ้ ยเพยี งใดแลว้ ทาเครอื่ งหมาย / ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดบั ความคดิ เหน็ ของทา่ น รายการ มากทีส่ ดุ ระดับความคิดเหน็ มาก ปานกลาง นอ้ ย น้อยที่สุด 1. การให้โอกาสทางการศกึ ษาแกน่ ักเรียนนกั ศึกษาและประชาชน ในทอ้ งถิ่น 2. มกี ารบริการวชิ าการเพอ่ื เพ่ิมศกั ยภาพของชมุ ชนในทอ้ งถนิ่ 3. มกี ารอนุรกั ษส์ ง่ เสริมและถ่ายทอดศิลปวฒั นธรรมและประเพณี ของทอ้ งถิน่ 4. มีการวจิ ยั และถา่ ยทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมส่ทู อ้ งถิน่ 5. มีความร่วมมือกบั หนว่ ยงานภายนอกในการพฒั นาทอ้ งถนิ่ 1.3 ผลการดาเนินงานตามจุดเนน้ จุดเดน่ หรอื ความเชยี่ วชาญเฉพาะของมหาวิทยาลัย มหาวทิ ยาลยั ไดก้ าหนดจดุ เนน้ จุดเด่นหรือความเช่ียวชาญเฉพาะโดยผ่านความเห็นชอบของสภามหาวิทยาลัย ไว้ 5 ด้าน ดังในตาราง โปรดพจิ ารณาวา่ ในรอบปกี ารศกึ ษาทผ่ี า่ นมา ท่านมีความพงึ พอใจต่อผลการดาเนนิ งานในดา้ นตา่ ง ๆ มากนอ้ ยเพียงใดแล้วทาเครื่องหมาย / ลงในชอ่ งทีต่ รงกบั ระดับความพงึ พอใจของทา่ น (ตอบเฉพาะดา้ นที่ทา่ นเกยี่ วขอ้ ง) จดุ เน้น จดุ เดน่ หรือความเชีย่ วชาญเฉพาะด้าน มากท่สี ุด ระดบั ความพงึ พอใจ น้อยที่สดุ มาก ปานกลาง น้อย 1. เป็นผนู้ าด้านการศกึ ษาพิเศษในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ 2. เปน็ ผนู้ าของประเทศในการผลิตครูและบุคลากรทางการศึกษา มืออาชีพ 3. รอ้ ยละของงานวจิ ัยเพ่ือตอ่ ยอดภมู ิปัญญาทอ้ งถิน่ ของจังหวัด นครราชสมี าดา้ นอาหาร ผา้ และการทอ่ งเที่ยวตอ่ จานวน งานวจิ ยั ทัง้ หมด 4. สถาบันวจิ ัยไมก้ ลายเป็นหนิ ฯ เปน็ แหล่งเรยี นร้ดู ้านบรรพชวี นิ ระดับนานาชาติทีโ่ ดดเด่นในอาเซยี น 5. การสืบสานโครงการอันเนอ่ื งมาจากพระราชดารใิ นการ แก้ปญั หาและใชป้ ระโยชนจ์ ากดินเค็มของจังหวัดนครราชสมี า

1.3 ผลการดาเนินงานของมหาวทิ ยาลัยด้านการพฒั นาอัตลกั ษณข์ องบณั ฑิต โปรดพจิ ารณาวา่ ในรอบปีการศกึ ษาท่ผี า่ นมามหาวิทยาลัยมผี ลการดาเนนิ งานดา้ นการพฒั นาอตั ลกั ษณข์ อง บัณฑิตท่ีวา่ “สานึกดี มคี วามรู้ พร้อมสู้งาน” มากน้อยเพยี งใดแล้วทาเคร่ืองหมาย / ลงในช่องที่ตรงกับระดบั ความคดิ เหน็ ของ ท่าน จุดเน้น จุดเดน่ หรือความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มากท่ีสุด ระดบั ความพงึ พอใจ นอ้ ยทส่ี ดุ มาก ปานกลาง นอ้ ย สานึกดี 1. การจัดกิจกรรมเพ่ือเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 2. การสรา้ งความตระหนกั เก่ียวกบั จรรยาบรรณวิชาชพี 3. การปลูกจิตสานึกความเปน็ ไทย 4. การปลกู ฝังใหเ้ กดิ ความรักและความผูกพนั ต่อท้องถิ่น มีความรู้ 1. การพฒั นาความรคู้ วามสามารถและทกั ษะทางวชิ าการ/วชิ าชีพ 2. การพัฒนาความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ 3. การสร้างเสริมความสามารถในการแกไ้ ขปัญหา 4. การเพิ่มศักยภาพดา้ นภาษาตา่ งประเทศ 5. การเพิ่มศกั ยภาพดา้ นเทคโนโลยีสารสนเทศ พร้อมสงู้ าน 1. การสง่ เสริมด้านความรบั ผดิ ชอบตอ่ หน้าท่ี 2. การสง่ เสรมิ ด้านการอทุ ศิ เวลาให้กับงาน 3. การสรา้ งเสริมภาวะผนู้ าในการแก้ปญั หา 4. การสร้างเสรมิ ความคดิ รเิ ร่ิมและความร่วมมือในการแก้ปญั หา 5. การสง่ เสริมใหม้ ีการพัฒนาตนเองอย่างตอ่ เน่ือง

ตอนที่ 3 ความพึงพอใจต่อสภาพการทางาน โปรดทาเคร่ืองหมาย / ลงในชอ่ งด้านขวามือทตี่ รงหรอื ใกลเ้ คยี งกับความรสู้ กึ ทแ่ี ท้จรงิ ของทา่ นตอ่ สภาพการทางานใน ดา้ นตา่ ง ๆ ดังตอ่ ไปน้ี รายการ มากที่สุด ระดบั ความพงึ พอใจ มาก ปานกลาง น้อย นอ้ ยท่สี ุด สภาพแวดล้อมในการทางาน 1. สถานท่ีทางาน/หอ้ งเรียนสะอาดเป็นระเบยี บเรียบรอ้ ย มีความ เหมาะสม สะดวกตอ่ การทางาน 2. สภาพแวดลอ้ มของสถานทท่ี างานเหมาะสมต่อการปฏบิ ตั งิ าน เชน่ พื้นทพ่ี อเหมาะ อากาศถา่ ยเทสะดวก ไมม่ กี ล่ินและเสยี ง รบกวน เปน็ ตน้ 3. วสั ดุ อปุ กรณ์ และครภุ ณั ฑ์เพยี งพอและเหมาะสมต่อการปฏบิ ัตงิ าน 4. สถานที่ทางานมคี วามปลอดภัย 5. บรรยากาศในการทางานอบอุน่ เปน็ กันเอง 6. การจัดภมู ิทัศน์สวยงามสอดคล้องกับธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม 7. มีพ้นื ท่ใี นการจดั กิจกรรมวนั สาคญั ทางศาสนา 8. มพี ื้นท่ีในการจดั กิจกรรมทางศลิ ปะและวฒั นธรรม ความก้าวหนา้ และความมัน่ คงในงาน 1. งานทที่ าอยูใ่ นปัจจบุ ันมคี วามมั่นคง 2. ท่านมโี อกาสกา้ วหนา้ ในหนา้ ทก่ี ารงาน 3. ทา่ นได้รบั การสนบั สนนุ ให้พฒั นาความรู้ความสามารถและทกั ษะใน การทางาน เชน่ อบรม ประชมุ ศึกษาต่อ เปน็ ต้น 4. มหาวทิ ยาลยั สนบั สนนุ การทาผลงานเพ่อื เขา้ ส่ตู าแหนง่ ทสี่ งู ขึ้น ระบบการทางานตามหลักธรรมาภิบาล 1. มีการกาหนดภาระงานอยา่ งชดั เจน 2. มขี ้นั ตอนการปฏบิ ตั งิ านอย่างชดั เจน เปน็ ระบบ 3. มีการประเมนิ ผลการปฏบิ ัตงิ านอยา่ งเปน็ ระบบ โปรง่ ใส และเปน็ ธรรม 4. มีระบบการเลือ่ นขั้นเงินเดือนท่ียตุ ธิ รรมและโปรง่ ใส 5. มกี ารบริหารจดั การอยา่ งมีสว่ นรว่ ม ใหอ้ านาจในการตดั สินใจแก่ บคุ ลากรอยา่ งเหมาะสม 6. ในหนว่ ยงานมแี หลง่ ข้อมูลขา่ วสารที่เช่ือถือได้เป็นปจั จบุ นั 7. มีการถา่ ยทอดความรู้ ส่งเสริม และพฒั นาบคุ ลากร ในหนว่ ยงานเพื่อให้สามารถทางานเตม็ ตามศักยภาพ การสือ่ สารและความสมั พนั ธร์ ะหว่างบุคลากร 1. บคุ ลากรในหนว่ ยงานมีมติ รภาพและความสัมพนั ธท์ ี่ดี กอ่ ให้เกดิ วฒั นธรรมท่ดี ีในการทางาน 2. บคุ ลากรในหน่วยงานมีสว่ นรว่ มรบั ทราบปัญหา แสดงความคิดเห็น หรอื รว่ มแกไ้ ขปัญหา 3. มีการจดั กจิ กรรมส่งเสรมิ ให้บุคลากรได้มโี อกาสพบปะสงั สรรค์ เพือ่ สรา้ งมนษุ ยสัมพันธท์ ด่ี ีต่อกนั

รายการ ระดบั ความพงึ พอใจ มากทส่ี ดุ มาก ปานกลาง นอ้ ย นอ้ ยท่ีสุด 4. บุคลากรในหน่วยงานมอี ิสระในการแสดงความคิดเหน็ ด้านการปฏบิ ตั ิงาน หรอื นโยบายในการบรหิ ารงานขององคก์ ร การส่งเสรมิ สขุ ภาพ สวสั ดิการ และขวญั กาลังใจ 1. มีการสง่ เสรมิ สุขภาพของบคุ ลากร เช่น การตรวจสุขภาพ ประจาปี มีศนู ยแ์ พทย์ ศนู ยส์ ง่ เสรมิ สขุ ภาพ สนามกฬี า รา้ นค้า ร้านสวสั ดกิ าร ห้องพกั อาจารย์ เปน็ ตน้ 2. มีสวสั ดิการดา้ นการรกั ษาพยาบาล 3. มสี วสั ดกิ ารด้านการใหท้ นุ สนบั สนุนการศกึ ษาตอ่ 4. มีสวสั ดกิ ารด้านการศึกษาดงู านทง้ั ในและต่างประเทศ 5. มกี ารยกยอ่ งชมเชย ให้รางวัล หรอื การเชิดชเู กียรติบคุ ลากร หรอื หน่วยงานที่ปฏบิ ัติงานดีเดน่ ตอนท่ี 4 ข้อคิดเหน็ และข้อเสนอแนะ โปรดให้ข้อคดิ เห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ เกีย่ วกับสภาพการทางานในดา้ นตา่ ง ๆ ลงในช่องวา่ งทีเ่ วน้ ไวใ้ ห้ 7. ดา้ นสภาพแวดลอ้ มในการทางาน ………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 8. ดา้ นความก้าวหนา้ และความม่ันคงในงาน ………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 9. ดา้ นระบบการทางานตามหลกั ธรรมาภบิ าล …………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 10. ด้านการส่ือสารและความสมั พนั ธ์ระหวา่ งบุคลากร …………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 11. ด้านการสง่ เสรมิ สุขภาพ สวัสดกิ าร และขวญั กาลงั ใจ …………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ขอขอบคณุ ในความร่วมมอื ตอบแบบสอบถาม มหาวิทยาลยั ราชภัฏนครราชสมี า

มหาวิทยาลยั ราชภฏั นครราชสีมา 340 ถ.สรุ นารายณ์ ต.ในเมอื ง อ.เมอื ง จ.นครราชสมี า 30000


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook