แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 150 แผนการสอนทฤษฎี และปฏิบัติ หน่วยท่ี 7 วชิ า เขียนแบบเบ้ืองตน้ สอนคร้ังที่ 1-2 ช่ือหน่วย ภาพสามมิติ จานวน 8 ช.ม.ชื่อเร่ือง ภาพไอโซเมตริกหวั ข้อเร่ือง 1. ความหมายของภาพสามมิติ 2. ประเภทของภาพสามมิติ 3. วธิ ีเขียนภาพสามมิติ 4. การบอกขนาดภาพสามมิติสาระสาคัญ ในการเขียนแบบงานบางคร้ังนอกจากจะเขียนเป็ นภาพฉายแลว้ อาจตอ้ งเขียนภาพชิ้นงานเป็นภาพสามมิติดว้ ยเพอื่ ให้ผปู้ ฏิบตั ิงานสามารถปฏิบตั ิงานตามแบบไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เพราะภาพสามมิติสามารถแสดงใหเ้ ห็นพ้ืนผวิ ของชิ้นงานไดค้ รบท้งั 3 มิติในภาพเดียวกนั คือ ความกวา้ ง ความยาว และความสูง ซ่ึงจะมีรูปร่างใกลเ้ คียงกบั ชิ้นงานจุดประสงค์การเรียนการสอน จุดประสงค์ทวั่ ไป เพื่อใหม้ ีความรู้ และทกั ษะในการเขียนภาพไอโซเมตริกจุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. บอกความหมายของภาพสามมิติได้ 2. บอกชนิดของภาพสามมิติได้ 3. เขียนภาพไอโซเมตริกชิ้นงานทรงเหลี่ยมได้ 4. สร้างรูปวงรีในภาพไอโซเมตริกได้ 5. บอกขนาดงานภาพสามมิติได้ 6. มีมนุษยสัมพนั ธ์ รับฟังความคิดเห็นผอู้ ่ืน ทางานร่วมกบั ผูอ้ ่ืนได้ 7. มีวนิ ยั ปฏิบตั ิตามกฎ ระเบียบ ตรงต่อเวลา
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 151 8. มีความรับผดิ ชอบ ปฏิบตั ิงานเสร็จตามกาหนด 9. มีความซื่อสตั ย์ สุจริต ไม่ปฏิบตั ิมิชอบดว้ ยประการท้งั ปวง 10. การพ่ึงตนเอง สามารถแกป้ ัญหาได้เนื้อหาสาระ 1. ความหมายของภาพสามมิติ 2. ประเภทของภาพสามมิติ 2.1 ภาพสามมิติ แบบ TRIMETRIC 2.2 ภาพสามมิติ แบบ DIMETRIC 2.3 ภาพสามมิติ แบบ ISOMETRIC 3. วธิ ีเขียนภาพสามมิติ 3.1 การเขียนภาพไอโซเมตริก 3.2 การเขียนวงรีในภาพไอโซเมตริก 3.3 การบอกขนาดในภาพไอโซเมตริก
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 152งานมอบหมาย หรือกจิ กรรม ก่อนเรียน 1. เตรียมความพร้อมก่อนเรียน 2. ทากิจกรรมสร้างเสริมกิจนิสยั และจริยธรรม 3. มอบหมายหนา้ ที่ความรับผดิ ชอบของนกั เรียนแตล่ ะคน 4. วดั ความรู้พ้ืนฐาน (PRE-TEST) เรื่อง ภาพสามมิติ ขณะเรียน 1. จดั กลุ่มการเรียนการสอน ข้นั ท่ี 1 แบง่ นกั เรียนออกเป็ นกลุ่ม แตล่ ะกลุ่มประกอบดว้ ย นกั เรียนเก่ง ปานกลาง คอ่ นขา้ งเก่ง ปานกลางค่อนขา้ งอ่อน และนกั เรียนอ่อนคละกนั เรียกวา่ กลุ่มหลกั ข้นั ที่ 2 มอบหมายงานให้แต่ละกลุ่ม คือ คนที่ 1 ของทุกกลุ่ม เรื่อง ความหมายของภาพสามมิติ คนท่ี 2 ของทุกกลุ่ม เรื่อง ชนิดของภาพสามมิติ คนท่ี 3 ของทุกกลุ่ม เร่ือง การเขียนภาพไอโซเมตริก คนที่ 4 ของทุกกลุ่ม เรื่อง การเขียนวงรี คนท่ี 5 ของทุกกลุ่ม เรื่อง การใหข้ นาดงานในภาพไอโซเมตริก ข้นั ท่ี 3 ใหน้ กั เรียนที่ไดร้ ับเน้ือหาเดียวกนั จากแต่ละกลุ่มมานงั่ ร่วมกนั เพอ่ื ศึกษา อภิปรายเน้ือหา แลว้ สรุปเน้ือหาไปในทิศทางเดียวกนั สมาชิกแตล่ ะคน เรียกวา่ ผเู้ ช่ียวชาญ ข้นั ท่ี 4 ใหผ้ เู้ ช่ียวชาญทุกคนกลบั กลุ่มหลกั ของตวั เอง แลว้ ใหผ้ เู้ ช่ียวชาญแต่ละคน อภิปรายเน้ือหาใหส้ มาชิกในกลุ่มฟังจนครบ สมาชิกท่ีฟังอภิปรายสามารถ ซกั ถามเน้ือหาท่ีไม่เขา้ ใจจากผอู้ ภิปราย ข้นั ที่ 5 ทดสอบ ถามเน้ือหาจากสมาชิกในกลุ่มตา่ ง ๆ โดยการสุ่มหลงั เรียน 1. ใหน้ กั เรียนทุกคนอา่ นทบทวน เรื่อง ภาพไอโซเมตริก 2. ใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบภาคทฤษฎี 3. ใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิงานเขียนแบบตามใบงานที่ 1
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 153ส่ือการเรียนการสอน ส่ือส่ิงพมิ พ์ หนงั สือเรียน วชิ าเขียนแบบเบ้ืองตน้ (2100-1301) สื่อโสตทัศน์ 1. แผน่ ภาพที่ 1 ลกั ษณะภาพสามมิติ แบบไตรเมตริก 2. แผน่ ภาพท่ี 2 ลกั ษณะภาพสามมิติ แบบไดเมตริก 3. แผน่ ภาพท่ี 3 ลกั ษณะภาพสามมิติ แบบไอโซเมตริก 4. แผน่ ภาพท่ี 4 ลกั ษณะภาพสามมิติ แบบออบลิค 5. แผน่ ภาพที่ 5 ลกั ษณะการวางภาพแบบไอโซเมตริก 6. แผน่ ภาพที่ 6 แสดงลาดบั การเขียนภาพไอโซเมตริก 7. แผน่ ภาพที่ 7 ลกั ษณะรูกลมที่เกิดในภาพไอโซเมตริก 8. คอมพวิ เตอร์ช่วยสอนการประเมินผลการเรียน ก่อนเรียน สังเกตความพร้อมของนกั เรียนขณะเรียน 1. การมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน 2. ความรับผดิ ชอบในหนา้ ท่ีตามท่ีไดร้ ับมอบหมาย 3. การทาแบบทดสอบภาคทฤษฎี 4. การปฏิบตั ิงานเขียนแบบตามใบงานหลงั เรียน 1. แบบทดสอบภาคทฤษฎี จานวน 5 ขอ้ 2. ผลงานการปฏิบตั ิงานเขียนแบบตามใบงาน
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 154เกณฑ์การสังเกตการปฏบิ ัตงิ านกล่มุ พฤตกิ รรม มมี นุษย์สัมพนั ธ์ ความมวี นิ ัย ความรับผดิ ชอบ ความซื่อสัตย์สุจริต การพงึ่ ตนเองกล่มุ ที่ 321 321 321 321 3 21 1 2 3 4 5 6 7 8คาชี้แจง3 หมายถึง มีพฤติกรรมระดบั สูง 2 หมายถึง มีพฤติกรรมระดบั ปานกลาง 1 หมายถึง มีพฤติกรรมระดบั ต่าการประเมนิ ผลภาคทฤษฎี ขอ้ ข้ึนไป หมายความวา่ เก่งมาก ขอ้ หมายความวา่ เก่ง1. แบบทดสอบบรรยาย 5 ข้อ ขอ้ หมายความวา่ ปานกลาง 1.1 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 5 ขอ้ หมายความวา่ อ่อน 1.2 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 4 ขอ้ หมายความวา่ ออ่ นมาก 1.3 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 3 1.4 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 2 ขอ้ ข้ึนไป หมายความวา่ เก่งมาก 1.5 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 1 ขอ้ หมายความวา่ เก่ง ขอ้ หมายความวา่ ปานกลาง 2. แบบทดสอบเลือกคาตอบ 25 ข้อ ขอ้ หมายความวา่ อ่อน ขอ้ หมายความวา่ อ่อนมาก 2.1 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 21 2.2 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 16-20 2.3 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 11-15 2.4 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 6-10 2.5 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง นอ้ ยกวา่ 5
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 155เกณฑ์การประเมนิ ผลภาคปฏบิ ัติ (ตามสภาพจริง) 1 คะแนน 1 คะแนน 1. กระบวนการเทคนิคการทางาน 1 คะแนน 1.1 การเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ 1.2 เทคนิคการใชเ้ คร่ืองมือ 2 คะแนน 1.3 ความรู้ความสามารถในการปฏิบตั ิงาน 2 คะแนน2. ผลงาน 1 คะแนน 2.1 ความถูกตอ้ งของแบบงาน 1 คะแนน 2.2 เส้น (คมชดั เจน, น้าหนกั เส้น) 1 คะแนน 3. คุณลกั ษณะพงึ ประสงค์ 3.1 การแต่งกายถูกตอ้ งตามระเบียบ 3.2 ความตรงตอ่ เวลา 3.3 ความสะอาด
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 156แบบทดสอบภาคทฤษฎี (หน่วยท่ี 7)ก. จงตอบคาถามโดยละเอยี ด 1. จงอธิบายความหมายของภาพสามมิติ (PICTORIAL) มาพอเข้าใจ................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. 2. จงอธิบายลกั ษณะของภาพสามมติ แิ บบ TRIMETRIC มาพอเข้าใจ................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. 3. จงอธิบายลกั ษณะของภาพสามมิตแิ บบ ISOMETRIC มาพอเข้าใจ................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. 4. จงอธิบายการเขียนวงรีในภาพไอโซเมตริก................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................5. จงอธิบายลกั ษณะของภาพสามมิติแบบ OBLIQUE มาพอเข้าใจ.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 157จากภาพฉายทกี่ าหนดให้ จงเลือกภาพสามมิติทถ่ี ูกต้อง
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 158
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 159
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 160
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 161
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 162จงเขียนภาพ ISOMETRIC จากภาพทกี่ าหนดให้ (มาตราส่วน 1:1)
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 163จงเขียนภาพ ISOMETRIC จากภาพทกี่ าหนดให้ (มาตราส่วน 1:1)
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 164เฉลยแบบทดสอบหน่วยท่ี 7ก. จงตอบคาถามต่อไปนีใ้ ห้ได้ใจความสมบูรณ์ 1. จงอธิบายความหมายของภาพสามมติ ิ (PICTORIAL) มาพอเข้าใจ ตอบ ภาพสามมิติ หมายถึง การเขียนภาพ โดยการนาพ้ืนผวิ แตล่ ะดา้ นของชิ้นงานมาเขียน ประกอบกนั ในรูปเดียว ทาใหส้ ามารถมองเห็นลกั ษณะรูปร่าง พ้ืนผวิ ไดท้ ้งั ความกวา้ ง ความยาว และความหนาของชิ้นงาน ทาใหภ้ าพสามมิติลกั ษณะคลา้ ยกบั การมองชิ้นงานจริง ภาพสามมิติท่ีเขียนในงานเขียนแบบมีหลายประเภท แตล่ ะประเภทกจ็ ะมีความแตกตา่ งกนั ใน การวางมุมในการเขียน และขนาดชิ้นงานจริงกบั ขนาดของชิ้นงานในการเขียน ซ่ึงผเู้ ขียนแบบ จะตอ้ งศึกษาลกั ษณะของภาพสามมิติประเภทต่าง ๆ ใหเ้ ขา้ ใจ เพื่อสามารถปฏิบตั ิการเขียนแบบได้ อยา่ งถูกตอ้ ง 2. จงอธิบายลกั ษณะของภาพสามมิติ TRIMETRIC มาพอเข้าใจ ตอบ ภาพสามมิติแบบ TRIMETRIC เป็นภาพสามมิติที่มีความสวยงามและมีลกั ษณะคลา้ ย กบั ความเป็นจริงมากท่ีสุด และเป็นภาพที่ง่ายตอ่ การอ่านแบบ แต่ไมค่ ่อยนิยมในการ เขียนแบบ เพราะเป็นภาพท่ีเขียนไดย้ าก เนื่องจากมุมท่ีใชเ้ ขียนเอียง 12๐ และ 23๐ และ อตั ราความยาวของดา้ นแตล่ ะดา้ นไมเ่ ทา่ กนั 3. จงอธิบายลกั ษณะของภาพสามมติ แิ บบ ISOMETRIC มาพอเข้าใจ ตอบ ภาพสามมิติแบบ ISOMETRICเป็นภาพสามมิติท่ีนิยมเขียนมาก เพราะภาพที่เขียนง่าย เน่ืองจากภาพมีมุมเอียง 30๐ ท้งั สองขา้ งเท่ากนั และขนาดความยาวของภาพทุกดา้ นจะมี ความยาวเท่าขนาดงานจริง ภาพท่ีเขียนจะมีขนาดใหญ่มากทาใหเ้ ปลืองเน้ือที่กระดาษ 4. จงอธิบายการเขียนวงรีในภาพไอโซเมตริก ตอบ 1. สร้างรูปสี่เหล่ียมขนมเปี ยกปูนโดยใหม้ ีขนาดเสน้ ผา่ นศูนยก์ ลางของวงกลมที่ตอ้ งการเขียน 2. แบ่งคร่ึงดา้ นท้งั 4 ของรูปสี่เหลี่ยมขนมเปี ยกปูน แลว้ ลากเส้นต้งั ฉากกบั ดา้ นน้นั ท่ีจุดแบ่ง 3. จุดท่ีเส้นตดั กนั เขียนเส้นโคง้ เล็ก 4. ที่ปลายของเส้นต้งั ฉากท้งั 2 เขียนส่วนโคง้ ใหญ่ 5. จงอธิบายลกั ษณะของภาพสามมติ ิแบบ OBLIQUE มาพอเข้าใจ ตอบ ภาพสามมิติแบบ OBLIQUE เป็นภาพสามมิติที่นิยมเขียนมาก สาหรับงานที่มีรูปร่าง เป็นส่วนโคง้ หรือรูกลม เพราะสามารถเขียนไดง้ ่าย และรวดเร็ว เนื่องจากภาพ OBLIQUE จะวางภาพดา้ นหน่ึงอยบู่ นแนวระดบั จะเอียงเป็นมุมเพยี งดา้ นเดียว โดยเขียนเป็นมุม 45๐ สามารถเขียนเอียงไดท้ ้งั ดา้ นซา้ ยและดา้ นขวา และความหนาของงานและลดขนาดลงคร่ึงหน่ึง
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 165ข. จงเลือกภาพสามมติ ิทถี่ ูกต้อง 4. B 5. C 1. C 2. D 3. A 9. C 10. A 6. A 7. B 8. D 14. A 15. D 11. D 12. B 13. C 19. C 20. D 16. D 17. B 18. A 24. C 25. A 21. B 22. A 23. D
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 166 หน่วยท่ี 7 แผนการสอนทฤษฎี และปฏิบตั ิ สอนคร้ังที่ 3 วชิ า เขียนแบบเบ้ืองตน้ ชื่อหน่วย ภาพสามมิติ จานวน 4 ช.ม.ช่ือเรื่อง ภาพออบลิคหัวข้อเรื่อง การเขียนภาพออบลิคสาระสาคญั ในการเขียนภาพสามมิติแบบไอโซเมตริก ท่ีมีรูปร่างเป็นทรงกระบอก เป็ นส่วนโคง้ หรือมีรูกลมในชิ้นงาน ทาใหก้ ารเขียนแบบยงุ่ ยาก และตอ้ งใชเ้ วลาในการปฏิบตั ิงานเขียนแบบนานมาก จึงมีการแกป้ ัญหาโดยการจดั วางรูปงานตามแบบออบลิค โดยจดั รูปงานท่ีเป็นส่วนโคง้ หรือรู ใหอ้ ยดู่ า้ นหนา้ซ่ึงทาใหเ้ ห็นรายละเอียดตรงตามเป็นจริงมากท่ีสุดจุดประสงค์การเรียนการสอน จุดประสงค์ทว่ั ไป เพ่อื ใหม้ ีความรู้ และทกั ษะในการเขียนภาพสามมิติจุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. เขียนภาพออบลิคชิ้นงานได้ 2. บอกขนาดภาพสามมิติได้ 3. มีมนุษยสัมพนั ธ์ รับฟังความคิดเห็นผอู้ ่ืน ทางานร่วมกบั ผอู้ ่ืนได้ 4. มีวนิ ยั ปฏิบตั ิตามกฎ ระเบียบ ตรงตอ่ เวลา 5. มีความรับผดิ ชอบ ปฏิบตั ิงานเสร็จตามกาหนด 6. มีความซื่อสัตย์ สุจริต ไมป่ ฏิบตั ิมิชอบดว้ ยประการท้งั ปวง 7. การพ่งึ ตนเอง สามารถแกป้ ัญหาได้
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 167เนื้อหาสาระ 1. แกนออบลิค 2. การเขียนภาพออบลิคกจิ กรรมการเรียนการสอน กจิ กรรมครู1. ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน ครูสนทนาสอบถามนกั เรียนที่เคยเขียนวงรีในภาพไอโซเมตริก หรือเขียนภาพไอโซเมตริกที่มีผวิ โคง้ จะตอ้ งใชเ้ วลาในการเขียน และมีความยงุ่ ยากในการเขียนมาก เพื่อเป็นการแกป้ ัญหาดงั กล่าวจึงเขียนแบบงานเป็นภาพออบลิค ซ่ึงทาใหส้ ามารถเขียนไดง้ ่าย2. ข้ันดาเนินการสอน 1. อธิบายจุดประสงคก์ ารเรียนการสอน 2. จดั แบ่งเน้ือหา มอบหมายงานคน้ ควา้ อภิปราย 2.1 เร่ือง แกนออบลิค 2.2 เรื่อง การเขียนภาพออบลิค 3. มอบหมายงานใหป้ ฏิบตั ิ งานเขียนแบบตามใบงานกจิ กรรมนักเรียน 1. จดั แบง่ กลุ่มตามท่ีไดร้ ับมอบหมาย 2. ศึกษาเพ่ิมเติม อภิปรายเน้ือหาท่ีไดร้ ับมอบหมายในกลุ่ม 3. สมาชิกในกลุ่มจดบนั ทึกเพ่มิ เติม 4. สรุปเน้ือหาท่ีศึกษาอภิปรายนาเสนอในช้นั เรียน 5. นกั เรียนท่ีฟัง ซกั ถามขอ้ สงสยั ที่มีกบั กลุ่มท่ีนาเสนอผลงาน 6. ปฏิบตั ิงานเขียนแบบตามที่ไดร้ ับมอบหมายงานมอบหมาย หรือกจิ กรรม ก่อนเรียน 1. เตรียมความพร้อมก่อนเรียน 2. ทากิจกรรมเสริมสร้างกิจนิสยั และจริยธรรม 3. มอบหมายหนา้ ที่ ความรับผิดชอบของนกั เรียนแตล่ ะคน
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 168ขณะเรียน 1. จดั กลุ่มการเรียนการสอน แบบ BRAINSTORMING ข้นั ท่ี 1 แบง่ นกั เรียนออกเป็ นกลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 เป็นนกั เรียนท่ีมีเลขค่ี เช่น 1, 3, 5, 7 กลุ่มท่ี 2 เป็นนกั เรียนท่ีมีเลขคู่ เช่น 2, 4, 6, 8 ข้นั ที่ 2 ครูแบง่ เน้ือหาออกเป็นเรื่องยอ่ ย ๆ ข้นั ท่ี 3 มอบหมายงานใหแ้ ตล่ ะกลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 เร่ือง แกนออบลิค ข้นั ที่ 4 ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มศึกษาคน้ ควา้ อภิปรายในหวั ขอ้ ท่ีไดร้ ับมอบหมาย ช่วยกนั ปรับแต่งเน้ือหาใหส้ มบูรณ์ ข้นั ท่ี 5 แต่ละกลุ่มนาผลงานเสนอหนา้ ช้นัหลงั เรียน 1. ใหน้ กั เรียนทุกคนอ่านทบทวน 2. ใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิงานเขียนแบบตามใบงานส่ือการเรียนการสอน ส่ือส่ิงพมิ พ์ 1. หนงั สือเรียน วชิ าเขียนแบบเบ้ืองตน้ (2100-1001) สื่อโสตทัศน์ 1. แผน่ ภาพท่ี 1 แสดงการวางแกนออบลิค 2. แผน่ ภาพท่ี 2 แสดงลาดบั ข้นั การเขียนภาพออบลิค 3. แผน่ ภาพท่ี 3 แสดงลกั ษณะการวางภาพออบลิคส่ือของจริง หุ่นจาลองชิ้นงานลกั ษณะต่าง ๆการประเมินผลการเรียน ก่อนเรียน สงั เกตความพร้อมของนกั เรียน
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 169ขณะเรียน 1. การมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน 2. ความรับผดิ ชอบในหนา้ ที่ตามท่ีไดร้ ับมอบหมาย 3. การปฏิบตั ิงานเขียนแบบตามใบงาน หลงั เรียน ผลการปฏิบตั ิงานเขียนแบบตามใบงาน
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 170จงเขียนภาพ OBLIQUE จากภาพทก่ี าหนดให้ (มาตราส่วน 1 : 1)
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 171จงเขียนภาพ OBLIQUE จากภาพทกี่ าหนดให้ (มาตราส่วน 1 : 1)
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 172บันทกึ หลงั การสอน1. ผลการใช้แผนการสอนหน่วยการสอนกบั เวลา เหมาะสม ควรปรับปรุงเน้ือหาสาระ เหมาะสม ควรปรับปรุงกิจกรรมการเรียนการสอน เหมาะสม ควรปรับปรุงสื่อการเรียนการสอน เหมาะสม ควรปรับปรุง2. ผลทเี่ กดิ กบั ผู้เรียน ความสนใจในการเรียน มากข้ึน นอ้ ยลงมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน มากข้ึน นอ้ ยลงผลการเรียนโดยเฉล่ีย มากข้ึน นอ้ ยลง3. ผลทเ่ี กดิ กบั ผู้สอนมีความมนั่ ใจในการสอน เพ่มิ ข้ึน ลดลงเน้ือหาท่ีทาการสอน ครบ ไมค่ รบ การปฏิบตั ิการสอน ทนั เวลา ไม่ทนั เวลา4. ข้อเสนอแนะ......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 173 หน่วยที่ 8 แผนการสอนทฤษฎี และปฏิบตั ิ สอนคร้ังท่ี 1 วชิ า เขียนแบบเบ้ืองตน้ ช่ือหน่วย ภาพตดั (SECTION VIEWS) จานวน 4 ช.ม.ช่ือเร่ือง การเขียนภาพตดัหัวข้อเร่ือง 1. ความหมายของภาพตดั 2. ระนาบตดั 3. สญั ลกั ษณ์ลายตดั 4. การเขียนภาพตดั 5. ภาพตดั ชนิดต่าง ๆสาระสาคัญ ชิ้นส่วนท่ีมีรูปร่างซบั ซอ้ น หรือบริเวณท่ีถูกบงั เมื่อทาการเขียนแบบจะตอ้ งเขียนแสดงส่วนน้นัเป็นเส้นประ ซ่ึงอาจทาใหเ้ กิดความยงุ่ ยาก สับสนข้ึนได้ ท้งั การเขียนแบบและการอา่ นแบบ เพ่ือปฏิบตั ิงานของช่างเทคนิค เพือ่ แกป้ ัญหาดงั กล่าวจึงเขียนแบบเป็นภาพตดั เพ่ือแสดงส่วนที่ถูกบงั หรือรูปร่างภายในชิ้นงานไดช้ ดั เจนจุดประสงค์การเรียนการสอน จุดประสงค์ทว่ั ไป เพอ่ื ใหม้ ีความรู้ และทกั ษะในการเขียนระนาบตดั สัญลกั ษณ์ลายตดั จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. บอกความหมายของภาพตดั ได้ 2. อธิบายระนาบตดั ในงานตดั ได้ 3. เขียนเส้นแสดงแนวตดั ในภาพตดั ได้ 4. เขียนสัญลกั ษณ์ลายตดั วสั ดุตา่ ง ๆ ได้ 5. อธิบายขอ้ กาหนดในการเขียนภาพตดั ได้ 6. มีมนุษยสมั พนั ธ์ ทางานร่วมกบั ผอู้ ่ืนได้ รับฟังความคิดเห็นผอู้ ื่น
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 174 7. มีวนิ ยั ปฏิบตั ิตามกฎระเบียบ ตรงตอ่ เวลา 8. มีความรับผดิ ชอบ ปฏิบตั ิงานเสร็จตามกาหนด 9. มีความซื่อสัตยส์ ุจริต ไมป่ ฏิบตั ิมิชอบดว้ ยประการท้งั ปวง 10. การพ่งึ ตนเอง สามารถแกป้ ัญหาได้เนื้อหาสาระ 1. ความหมายของภาพตดั 2. ระนาบตดั 3. สัญลกั ษณ์ลายตดั 4. การเขียนภาพตดักจิ กรรมการเรียนการสอน
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 175เนื้อหาสาระ 1. ความหมายของภาพตดั 2. ระนาบตดั 3. สญั ลกั ษณ์ลายตดั 4. การเขียนภาพตดักจิ กรรมการเรียนการสอน กจิ กรรมครู 1. ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน ครูนาผลไมต้ ามฤดูกาลมา เช่น มะละกอ ส้ม ฝร่ัง มาเป็ นอุปกรณ์สาธิต โดยสอบถาม นกั เรียนวา่ มีใครทราบไหมวา่ ผลไมน้ ้นั มีเน้ือสีอะไร เน้ือหนาบางขนาดไหน มีเมลด็ มาก นอ้ ยขนาดไหน แลว้ จึงผา่ ผลไมน้ ้นั ออกใหน้ กั เรียนดูรูปร่างภายใน 2. ข้นั ดาเนินการสอน 1. อธิบายจุดประสงคก์ ารเรียนการสอน 2. จดั แบ่งเน้ือหา มอบหมายงานคน้ ควา้ อภิปราย 2.1 เรื่องท่ี 1 ความหมายของภาพตดั 2.2 เรื่องที่ 2 ระนาบตดั 2.3 เร่ืองที่ 3 สญั ลกั ษณ์ลายตดั 2.4 เร่ืองที่ 4 การเขียนภาพตดั 3. มอบหมายงานใหป้ ฏิบตั ิงานเขียนแบบตามใบงาน กจิ กรรมนักเรียน 1. จดั แบ่งกลุ่มตามที่ไดร้ ับมอบหมาย 2. ศึกษาเพมิ่ เติม อภิปรายเน้ือหาที่ไดร้ ับมอบหมายในกลุ่ม 3. สมาชิกแตล่ ะคนจดบนั ทึกเพิ่มเติม 4. สรุปเน้ือหาท่ีคน้ ควา้ นาเสนอผลงาน 5. ซกั ถามขอ้ สงสยั ท่ีมีกบั กลุ่มท่นี าเสนอผลงาน 6. ปฏิบตั ิงานเขียนแบบตามที่ไดร้ ับมอบหมาย
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 176งานมอบหมาย หรือกจิ กรรม ก่อนเรียน 1. การเตรียมความพร้อมก่อนเรียน 2. ทากิจกรรมสร้างเสริมกิจนิสัย และจริยธรรม 3. มอบหมายหนา้ ท่ี ความรับผดิ ชอบของนกั เรียนแต่ละคน 4. วดั ความรู้พ้ืนฐาน (PRE-TEST) เรื่อง ภาพตดัขณะเรียน 1. จดั กลุ่มการเรียนการสอน แบบ ข้นั ที่ 1 แบง่ นกั เรียนออกเป็ นกลุ่ม แตล่ ะกลุ่มประกอบดว้ ย นกั เรียนเก่ง ปานกลาง และนกั เรียนออ่ นคละกนั เรียกวา่ กล่มุ หลกั ข้นั ที่ 2 มอบหมายงานใหส้ มาชิกแต่ละกลุ่ม คือ นกั เรียนคนที่ 1 ความหมายของภาพตดั นกั เรียนคนท่ี 2 ระนาบตดั นกั เรียนคนที่ 3 สญั ลกั ษณ์ลายตดั นกั เรียนคนท่ี 4 การเขียนภาพตดั ข้นั ที่ 3 ใหผ้ เู้ รียนท่ีไดเ้ น้ือหาเร่ืองเดียวกนั จากแต่ละกลุ่มมานงั่ รวมกลุ่มกนั เพ่อื ศึกษา อภิปรายเน้ือหา สรุปเน้ือหาใหเ้ ป็ นไปในทิศทางเดียวกนั สมาชิกแต่ละคนเรียกวา่ผ้เู ชี่ยวชาญ ข้นั ท่ี 4 ใหผ้ เู้ ช่ียวชาญทุกคนกลบั กลุ่มหลกั ของตวั เอง แลว้ ใหผ้ เู้ ชี่ยวชาญแต่ละคนอธิบาย เน้ือหาใหส้ มาชิกในกลุ่มฟังจนครบ สมาชิกที่ฟังอธิบายซกั ถามเน้ือหาท่ีไมเ่ ขา้ ใจ จากผอู้ ภิปราย ข้นั ที่ 5 ครูทดสอบถามเน้ือหาจากสมาชิกในกลุ่มตา่ ง ๆ โดยการสุ่ม 2. ครูบรรยายสรุป เสนอแนะเพ่ิมเติม หลงั เรียน 1. ใหน้ กั เรียนทุกคนอ่านเน้ือหาทบทวน เรื่อง ภาพตดั 2. ใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบภาคทฤษฎี 3. ใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิงานเขียนแบบตามใบงาน
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 177ส่ือการเรียนการสอน สื่อส่ิงพมิ พ์หนงั สือเรียน วชิ าเขียนแบบเบ้ืองตน้ (2100-1001) ส่ือโสตทศั น์ 1. แผน่ ภาพที่ 1 ภาพแสดงโครงสร้างกลไกภายในของเมเร็ตตา้ 92 เอฟเอส 2. แผน่ ภาพท่ี 2 แสดงระนาบตดั 3. แผน่ ภาพท่ี 3 แสดงสญั ลกั ษณ์ภาพตดั 4. แผน่ ภาพท่ี 4 ลกั ษณะการเส้นลายตดั 5. แผน่ ภาพท่ี 5 ลกั ษณะการเขียนลายตดั ภาพประกอบ 6. แผน่ ภาพที่ 6 ลกั ษณะการเขียนลายตดั ชิ้นงานบาง 7. แผน่ ภาพที่ 7 ลกั ษณะงานที่ไม่ตอ้ งเขียนลายตดั 8. แผน่ ภาพท่ี 8 ลกั ษณะงานท่ีไมต่ อ้ งเขียนเส้นประ 9. แผน่ ภาพท่ี 9 ลกั ษณะการเขียนใหข้ นาดงานภาพตดั 10. คอมพิวเตอร์ช่วยสอนการประเมินผลการเรียน ก่อนเรียน สงั เกตความพร้อมของนกั เรียนขณะเรียน 1. การมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน 2. การรับผดิ ชอบต่อหนา้ ที่ตามที่ไดร้ ับมอบหมาย 3. การทาแบบทดสอบภาคทฤษฎี 4. การปฏิบตั ิงานเขียนแบบตามใบงาน หลงั เรียน 1. แบบทดสอบภาคทฤษฎี จานวน 10 ขอ้ 2. ผลงานการปฏิบตั ิงานเขียนแบบตามใบงาน
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 178เกณฑ์การสังเกตการปฏบิ ัตงิ านกล่มุ พฤตกิ รรม มมี นุษย์สัมพนั ธ์ ความมวี นิ ัย ความรับผดิ ชอบ ความซ่ือสัตย์สุจริต การพง่ึ ตนเองกลุ่มที่ 321 321 321 321 3 21 1 2 3 4 5 6 7 8คาชี้แจง3 หมายถึง มีพฤติกรรมระดบั สูง 2 หมายถึง มีพฤติกรรมระดบั ปานกลาง 1 หมายถึง มีพฤติกรรมระดบั ต่าการประเมนิ ผลภาคทฤษฎี 5 ขอ้ ข้ึนไป หมายความวา่ เก่งมาก 4 ขอ้ หมายความวา่ เก่ง1. แบบทดสอบเลือกข้อถูกต้อง 5 ข้อ 3 ขอ้ หมายความวา่ ปานกลาง 1.1 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 2 ขอ้ หมายความวา่ อ่อน 1.2 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 1 ขอ้ หมายความวา่ ออ่ นมาก 1.3 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 1.4 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง 1.5 นกั เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ ง
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 179เกณฑ์การประเมนิ ผลภาคปฏบิ ัติ (ตามสภาพจริง) 1 คะแนน 1 คะแนน 1. กระบวนการเทคนิคการทางาน 1 คะแนน 1.1 การเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ 1.2 เทคนิคการใชเ้ คร่ืองมือ 2 คะแนน 1.3 ความรู้ความสามารถในการปฏิบตั ิงาน 2 คะแนน2. ผลงาน 1 คะแนน 2.1 ความถูกตอ้ งของแบบงาน 1 คะแนน 2.2 เส้น (คมชดั เจน, น้าหนกั เส้น) 1 คะแนน 3. คุณลกั ษณะพงึ ประสงค์ 3.1 การแต่งกายถูกตอ้ งตามระเบียบ 3.2 ความตรงตอ่ เวลา 3.3 ความสะอาด
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 180แบบทดสอบภาคทฤษฎี (หน่วยท่ี 8)ก. แบบทดสอบภาคทฤษฎี 1. จงอธิบายความหมายของภาพตัด (SECTIONVIEW) มาพอเข้าใจ ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 2. การเขียนภาพตดั (SECTIONVIEW) ระนาบตดั หมายความว่าอย่างไร ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 3. การเขยี นภาพตดั ชิ้นงานทป่ี ระกอบกนั หลายชิ้นจะเขียนลายตัดอย่างไร .......................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 4. การเขยี นภาพตัดชิ้นงานบริเวณทยี่ กเว้นไม่ต้องเขียนลายตัดคือบริเวณใด .......................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................5. ภาพตดั ครึ่ง (HALF SECTION) มีลกั ษณะการเขียนอย่างไร .......................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 181เฉลยแบบทดสอบก. แบบทดสอบภาคทฤษฎี 1. จงอธิบายความหมายของภาพตัด (SECTION VIEW) มาพอเข้าใจ ตอบ ภาพตดั หมายถึง การผา่ หรือตดั เน้ือวสั ดุงานเพอ่ื แสดงรายละเอียดรูปร่างชิ้นส่วนภายใน เช่น รูเจาะ รูควา้ น ร่องล่ิม หรือลกั ษณะการประกอบกนั ของชิ้นส่วน เคร่ืองจกั รกลตา่ ง ๆ เพ่ือใหง้ ่ายต่อการอา่ นแบบมากกวา่ การเขียนแบบดว้ ยเส้นประ 2. การเขยี นภาพตดั (SECTION VIEW) ระนาบตดั หมายความว่าอย่างไร ตอบ ระนาบตดั เป็นแนวสมมติที่ตดั ผา่ นวสั ดุ หรือเน้ืองาน เม่ือเล่ือนชิ้นส่วนงานที่ถูกตดั ออกไปจะทาใหม้ องเห็นพ้ืนผวิ หนา้ งานที่ถูกตดั และลกั ษณะรูปร่างภายในชิ้นงานไดอ้ ยา่ ง ชดั เจน หรือจะกล่าวไดว้ า่ ระนาบตดั เป็ นคาสั่งใหต้ ดั งานตามแนวน้นั 3. การเขียนภาพตัดชิ้นงานทป่ี ระกอบกนั หลายชิ้นจะเขยี นลายตัดอย่างไร ตอบ การเขียนสัญลกั ษณ์ตดั ชิ้นงานที่ประกอบกนั หลายชิ้น จะเขียนเส้นลายตดั เอียงเป็ นมุม ตา่ งกนั หรือเขียนระยะระหวา่ งเส้นไมเ่ ทา่ กนั เพื่อใหเ้ กิดความแตกต่างระหวา่ งชิ้นงานท่ีจะ สังเกตเห็นไดช้ ดั เจน 4. การเขยี นภาพตดั ชิ้นงานบริเวณทย่ี กเว้นไม่ต้องเขียนลายตัดคือบริเวณใด ตอบ ชิ้นงานบริเวณท่ียกเวน้ ไม่ตอ้ งเขียนลายตดั เช่น เพลา ลูกปื น สลกั เกลียว หมุดย้า ลิ่ม ครีบงาน 5. ภาพตัดคร่ึง (HALF SECTION) มีลกั ษณะการเขียนอย่างไร ตอบ ภาพตดั คร่ึงจะใชเ้ ขียนกบั ชิ้นงานท่ีมีลกั ษณะสมมาตรกนั โดยจะเขียนระนาบตดั มีลกั ษณะ เป็นเส้นต้งั ฉากกนั ชิ้นงานจะถูกตดั ออกหน่ึงในสี่ส่วน ซ่ึงจะมีผลใหส้ ามารถเห็นลกั ษณะภายใน ของชิ้นงานที่ถูกตดั และรายละเอียดผวิ ภายนอกของชิ้นงานไดใ้ นภาพเดียวกนั โดยใชเ้ ส้น ศูนยก์ ลางเป็นเส้นแสดงแนวที่ถูกตดั แบง่ คร่ึง
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 182 หน่วยท่ี 8 แผนการสอนทฤษฎี และปฏิบตั ิ สอนคร้ังที่ 2 วชิ า เขียนแบบเบ้ืองตน้ ชื่อหน่วย ภาพตดั จานวน 4 ช.ม.ชื่อเร่ือง การเขียนภาพตดัหัวข้อเร่ือง 1. ภาพตดั เตม็ (FULL SECTION) 2. ภาพตดั คร่ึง (HALF SECTION)สาระสาคญั การเขียนแบบ มีการเขียนภาพตดั (SECTION) เพือ่ แสดงรายละเอียดงานไดห้ ลายลกั ษณะ ท้งั น้ีข้ึนอยกู่ บั ลกั ษณะรูปร่างชิ้นงาน ความซบั ซอ้ นของชิ้นงาน และความจาเป็นท่ีตอ้ งการแสดงรายละเอียดเฉพาะส่วนใดส่วนหน่ึงของชิ้นงานจุดประสงค์การเรียนการสอน จุดประสงค์ทวั่ ไป เพ่ือใหม้ ีความรู้ และทกั ษะในการเขียนภาพตดั จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. อธิบายลกั ษณะภาพตดั เตม็ ได้ 2. เขียนภาพตดั เตม็ ตามแบบท่ีกาหนดได้ 3. อธิบายลกั ษณะภาพตดั คร่ึงได้ 4. เขียนภาพตดั คร่ึงตามแบบท่ีกาหนดได้ 5. มีมนุษยส์ ัมพนั ธ์ รับฟังความคิดเห็นผอู้ ื่น ทางานร่วมกบั ผูอ้ ื่นได้ 6. ความมีวนิ ยั ปฏิบตั ิตามกฎระเบียบ ตรงต่อเวลา 7. ความรับผดิ ชอบ ปฏิบตั ิงานเสร็จตามกาหนด 8. ความซื่อสตั ยส์ ุจริต ไม่ปฏิบตั ิมิชอบดว้ ยประการท้งั ปวง 9. การพ่งึ ตนเอง สามารถแกป้ ัญหาได้
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 183เนื้อหาสาระ 1. ภาพตดั ชนิดต่าง ๆ 1.1 ภาพตดั เตม็ 1.2 ภาพตดั คร่ึงกจิ กรรมการเรียนการสอน กจิ กรรมครู 1. ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน ครูนาชิ้นงานรูปร่างลกั ษณะต่าง ๆ และปากกาเมจิกมาใหน้ กั เรียนทดลองเขียนระนาบตดั ลกั ษณะต่าง ๆ บนชิ้นงาน เช่น ภาพตดั เตม็ ภาพตดั คร่ึง 2. ข้นั ดาเนินการสอน 1. อธิบายจุดประสงคก์ ารเรียนการสอน 2. จดั แบ่งเน้ือหา มอบหมายงานคน้ ควา้ อภิปราย 2.1 เรื่อง ภาพตดั เตม็ (FULL SECTION) 2.2 เรื่อง ภาพตดั คร่ึง (HALF SECTION) 3. มอบหมายงานใหป้ ฏิบตั ิงานเขียนแบบตามใบงานกจิ กรรมนักเรียน 1. จดั แบง่ กลุ่มตามที่ไดร้ ับมอบหมาย 2. ศึกษาเพิม่ เติม อภิปรายเน้ือหาท่ีไดร้ ับมอบหมายในกลุ่ม 3. สมาชิกในกลุ่มจดบนั ทึกเพิม่ เติม 4. สรุปเน้ือหาท่ีคน้ ควา้ นาเสนอผลงาน 5. ซกั ถามขอ้ สงสัยท่ีมีกบั กลุ่มท่ีนาเสนอผลงาน 6. ปฏิบตั ิงานเขียนแบบตามที่ไดร้ ับมอบหมายงานมอบหมาย หรือกจิ กรรมก่อนเรียน 1. เตรียมความพร้อมก่อนเรียน 2. ทากิจกรรมเสริมสร้างกิจนิสัย และจริยธรรม 3. มอบหมายหนา้ ท่ี ความรับผิดชอบของนกั เรียนแตล่ ะคน
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 184ขณะเรียน 1. จดั กลุ่มการเรียนการสอน ข้นั ท่ี 1 แบ่งนกั เรียนออกเป็ นสองกลุ่ม คือ กลุ่มท่ี 1 เป็นนกั เรียนที่มีเลขคี่ เช่น 1, 3, 5, 7, 9 กลุ่มท่ี 2 เป็นนกั เรียนท่ีมีเลขคู่ เช่น 2, 4, 6, 8, 10 ข้นั ที่ 2 ครูแบ่งเน้ือหาออกเป็นเร่ืองยอ่ ย ๆ ข้นั ท่ี 3 มอบหมายงานให้แตล่ ะกลุ่ม คือ กลุ่มท่ี 1 เรื่อง ภาพตดั เตม็ กลุ่มท่ี 2 เร่ือง ภาพตดั คร่ึง ข้นั ที่ 4 ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มศึกษาคน้ ควา้ อภิปรายในหวั ขอ้ ที่ไดร้ ับมอบหมาย ช่วยกนั ปรับแต่งเน้ือหาใหส้ มบูรณ์ ข้นั ที่ 5 แตล่ ะกลุ่มนาผลงานเสนอหนา้ ช้นั 2. ครูบรรยายสรุป เสนอแนะเพม่ิ เติมหลงั เรียน 1. ใหน้ กั เรียนทุกคนอา่ นเน้ือหาทบทวน 2. ใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิงานเขียนแบบตามใบงานส่ือการเรียนการสอน สื่อสิ่งพมิ พ์ หนงั สือเรียน วชิ าเขียนแบบเบ้ืองตน้ (2100-1301)สื่อโสตทศั น์ 1. แผน่ ภาพที่ 12 ลกั ษณะภาพตดั เตม็ 2. แผน่ ภาพท่ี 13 ลกั ษณะภาพตดั คร่ึง 3. คอมพวิ เตอร์ช่วยสอน ส่ือของจริง หุ่นจาลองชิ้นงานลกั ษณะตา่ ง ๆ
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 185การประเมินผลการเรียน ก่อนเรียน สงั เกตความพร้อมของนกั เรียน ขณะเรียน 1. การมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน 2. ความรับผดิ ชอบในหนา้ ท่ีตามท่ีไดร้ ับมอบหมาย 3. การทาแบบทดสอบภาคทฤษฎี 4. การปฏิบตั ิงานเขียนแบบตามใบงานหลงั เรียน ผลงานการปฏิบตั ิงานเขียนแบบตามใบงานเกณฑ์การสังเกตการปฏบิ ัตงิ านกล่มุ พฤตกิ รรม มมี นุษย์สัมพนั ธ์ ความมวี นิ ัย ความรับผดิ ชอบ ความซื่อสัตย์สุจริต การพง่ึ ตนเองกลุ่มท่ี 321 321 321 321 3 21 1 2 3 4 5 6 7 8คาชี้แจง3 หมายถึง มีพฤติกรรมระดบั สูง 2 หมายถึง มีพฤติกรรมระดบั ปานกลาง 1 หมายถึง มีพฤติกรรมระดบั ต่า
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 186เกณฑ์การประเมนิ ผลภาคปฏบิ ัติ (ตามสภาพจริง) 1 คะแนน 1 คะแนน 1. กระบวนการเทคนิคการทางาน 1 คะแนน 1.1 การเตรียมเคร่ืองมืออุปกรณ์ 1.2 เทคนิคการใชเ้ ครื่องมือ 2 คะแนน 1.3 ความรู้ความสามารถในการปฏิบตั ิงาน 2 คะแนน2. ผลงาน 1 คะแนน 2.1 ความถูกตอ้ งของแบบงาน 1 คะแนน 2.2 เส้น (คมชดั เจน, น้าหนกั เส้น) 1 คะแนน 3. คุณลกั ษณะพงึ ประสงค์ 3.1 การแต่งกายถูกตอ้ งตามระเบียบ 3.2 ความตรงต่อเวลา 3.3 ความสะอาด
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 187จากภาพ ISOMETRIC ทถี่ ูกตัด จงแสดงระนาบตดั และเขยี นสัญลกั ษณ์ลายตัด
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 188จากภาพ ISOMETRIC ทถี่ ูกตดั จงแสดงระนาบตดั และเขียนสัญลกั ษณ์ลายตัด
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 189จากภาพ ISOMETRIC ทถี่ ูกตัด จงแสดงระนาบตดั และเขยี นสัญลกั ษณ์ลายตัด
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 190จากภาพ ISOMETRIC ทถี่ ูกตดั จงแสดงระนาบตดั และเขียนสัญลกั ษณ์ลายตัด
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 191จากภาพ ISOMETRIC ทถี่ ูกตัด จงแสดงระนาบตดั และเขยี นสัญลกั ษณ์ลายตัด
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 192จากภาพ ISOMETRIC ทถี่ ูกตดั จงแสดงระนาบตดั และเขียนสัญลกั ษณ์ลายตัด
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 193เฉลยแบบทดสอบ
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 194เฉลยแบบทดสอบ
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 195เฉลยแบบทดสอบ
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 196เฉลยแบบทดสอบ
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขียนแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 197เฉลยแบบทดสอบ
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 198เฉลยแบบทดสอบ
แผนการจดั การเรียนรู้ : เขยี นแบบเบอื ้ งต้น (2100-1301) 199 หน่วยที่ 8 แผนการสอนทฤษฎี และปฏิบตั ิ สอนคร้ังที่ 3 วชิ า เขียนแบบเบ้ืองตน้ ช่ือหน่วย ภาพตดั (SECTION VIEWS) จานวน 4 ช.ม.ช่ือเรื่อง การเขียนภาพตดัหัวข้อเรื่อง 1. ภาพตดั เย้ือง (OFFSET SECTION) 2. ภาพตดั เฉพาะส่วน (PARTIAL SECTION)สาระสาคัญ การเขียนแบบบางลกั ษณะมีการเขียนภาพตดั (SECTION) เพอ่ื แสดงรายละเอียดงานไดห้ ลายลกั ษณะ ท้งั น้ีข้ึนอยกู่ บั ลกั ษณะรูปร่างชิ้นงาน ความซบั ซอ้ นของชิ้นงาน และความจาเป็นที่ตอ้ งการแสดงรายละเอียดเฉพาะส่วนใดส่วนหน่ึงของชิ้นงานจุดประสงค์การเรียนการสอน จุดประสงค์ทว่ั ไป เพ่อื ใหม้ ีความรู้ และทกั ษะในการเขียนภาพตดัจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. อธิบายลกั ษณะภาพตดั เย้อื งได้ 2. เขียนภาพตดั เย้อื งตามแบบท่ีกาหนดได้ 3. อธิบายลกั ษณะภาพตดั เฉพาะส่วนได้ 4. เขียนภาพตดั เฉพาะส่วนตามแบบที่กาหนดได้ 5. มีมนุษยสัมพนั ธ์ รับฟังความคิดเห็นผอู้ ื่น ทางานร่วมกบั ผอู้ ื่นได้ 6. ความมีวนิ ยั ปฏิบตั ิตามกฎระเบียบ ตรงต่อเวลา 7. ความรับผดิ ชอบ ปฏิบตั ิงานเสร็จตามกาหนด 8. ความซื่อสัตยส์ ุจริต ไม่ปฏิบตั ิมิชอบดว้ ยประการท้งั ปวง 9. การพ่งึ ตนเอง สามารถแกป้ ัญหาได้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279