Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการอ่านและแปลภาษาโบราณ _ ภาษาบาลี

คู่มือการอ่านและแปลภาษาโบราณ _ ภาษาบาลี

Description: คู่มือการอ่านและแปลภาษาโบราณ _ ภาษาบาลี

Search

Read the Text Version

ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๔๕ จ. มหาราชสฺส มหาราชาย มหาราชตถฺ ํ มหาราชานํ ปฺ. มหาราชสมฺ า มหาราชมหฺ า มหาราชา มหาราเชหิ มหาราเชภิ ฉ. มหาราชสสฺ มหาราชานํ ส. มหาราชสมฺ ึ มหาราชมหฺ ิ มหาราเช มหาราเชสุ อา. มหาราช มหาราชาโน ศัพทเ หลานี้ แจกเหมอื น มหาราช ------------------------------------------------------------------------------- อนรุ าช พระราชานอย นาคราช นาคผพู ระราชา อภริ าช พระราชยงิ่ มิคราช เนอ้ื ผพู ระราชา อุปราช อปุ ราช สปุ ณณฺ ราช ครุฑผพู ระราชา จกฺกวตตฺ ริ าช พระราชาจกั รพรรดิ หสํ ราช หงสผ พู ระราชา เทวราช เทวดาผูพระราชา ภควนตฺ ุ [พระผมู พี ระภาค] เปน ปลุ ิงค แจกอยา งน:้ี - ------------------------------------------------------------------------------ เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. ภควา ภควนตฺ า ภควนฺโต ท.ุ ภควนตฺ ํ ภควนฺเต ภควนฺโต ต. ภควตา ภควนเฺ ตน ภควนเฺ ตหิ ภควนเฺ ตภิ จ. ภควโต ภควนตฺ สฺส ภควตํ ภควนฺตานํ ปฺ. ภควตา ภควนตฺ มฺหา ภควนตฺ สฺมา ภควนฺเตหิ ภควนเฺ ตภิ ฉ. ภควโต ภควนตฺ สสฺ ภควตํ ภควนตฺ านํ ส. ภควติ ภควนเฺ ต ภควนตฺ มหฺ ิ ภควนตฺ สมฺ ึ ภควนฺเตสุ อา. ภคว ภควา ภควนตฺ า ภควนโฺ ต ศัพทเหลาน้ี แจกเหมอื น ภควนตฺ ุ ------------------------------------------------------------------------------- อายสฺมนตฺ ุ คนมีอายุ ธติ มิ นตฺ ุ คนมปี ญญา คุณวนตฺ ุ คนมคี ณุ ปญฺ วนตฺ ุ คนมปี ญญา จกขฺ มุ นตฺ ุ คนมจี กั ษุ ปุ ญฺ วนตฺ ุ คนมบี ุญ ชตุ ิมนฺตุ คนมีความโพลง พนฺธุมนตฺ ุ คนมพี วกพอง ธนวนตฺ ุ คนมที รพั ย สตมิ นตฺ ุ คนมสี ติ

ค่มู อื การอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๔๖ อรหนตฺ [พระอรหันต] เปน ได ๒ ลิงค คือปุงลิงคก ับอิตถลี ิงค ปุงลงิ คแ จกเหมือนแบบ ภควนตฺ ุ ศพั ท ตา งกัน ท่ี ปฐมาวภิ ตั ติเอกวจนะ เปน อรหา อรหํ เทา น้นั นอกนนั้ เหมอื นกัน สว นอติ ถีลงิ ค แปลงเปน อรหนตฺ ี แลว นำไปแจกตามแบบ อี การนั ต ในอิตถลี ิงค (นารี) ภวนฺต [ผูเ จริญ] เปน ทวฺ ลิ ิงค ใน ปงุ ลิงค(อติ ถลี งิ คแ จกเหมือน นารี) แจกอยางนี้ :- ------------------------------------------------------------------------------- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. ภวํ ภวนฺตา ภวนโฺ ต ทุ. ภวนตฺ ํ ภวนฺเต ภวนฺโต ต. ภวตา โภตา ภวนฺเตหิ ภวนเฺ ตภิ จ. ภวโต โภโต ภวตํ ภวนตฺ านํ ป.ฺ ภวตา โภตา ภวนฺเตหิ ภวนเฺ ตภิ ฉ. ภวโต โภโต ภวตํ ภวนตฺ านํ ส. ภวนเฺ ต ภวนเฺ ตสุ อา. โภ ภวนฺตา ภวนโฺ ต โภนตฺ า โภนโฺ ต สตถฺ ุ [ผูสอน] เปน ปุงลงิ คแ จกอยางนี้ :- --------------------------------------------------------------------------------- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. สตฺถา สตถฺ าโร ทุ. สตถฺ ารํ สตฺถาโร ต. สตฺถารา สตถฺ นุ า สตฺถาเรหิ สตถฺ าเรภิ จ. สตฺถุ สตถฺ ุโน สตถฺ ุสสฺ สตฺถารานํ สตถฺ านํ ป.ฺ สตถฺ ารา สตถฺ าเรหิ สตถฺ าเรภิ ฉ. สตถฺ ุ สตถฺ ุโน สตถฺ ุสฺส สตถฺ ารานํ สตถฺ านํ ส. สตฺถริ สตถฺ าเรสุ อา. สตถฺ า สตฺถาโร ศพั ทเ หลานแ้ี จกเหมอื น สตถฺ ุ -------------------------------------------------------------------------------- กตตฺ ุ ผทู ำ เนตุ ผูน ำไป ขตตฺ ุ ผูขุด ภตตฺ ุ ผเู ลี้ยง, ผวั าตุ ผรู ู วตตฺ ุ ผูกลาว ทาตุ ผูให โสตุ ผูฟง นตตฺ ุ หลาน หนตฺ ุ ผฆู า

ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๔๗ ปต ุ [พอ] เปน ปุงลงิ ค แจกอยางนี้ :- (ภาตุ พ่ีชาย นอ งชาย, ชามาตุ ลูกเขย, ๒ ศพั ทนี้ แจกเหมือน ปต ุ) ----------------------------------------------------------------------------------- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. ปตา ปต โร ท.ุ ปต รํ ปตโร ปต เร ต. ปต รา ปต ุนา ปต เรหิ ปต เรภิ ปตหู ิ ปต ภู ิ จ. ปตุ ปตโุ น ปต รานํ ปต นู ํ ป.ฺ ปตรา ปต เรหิ ปตเรภิ ปต หู ิ ปตูภิ ฉ. ปต ุ ปต โุ น ปตรานํ ปตนู ํ ปตานํ ส. ปต ริ ปต เรสุ ปต สู ุ อา. ปต า ปต โร มาตุ [มารดา] เปน อติ ถีลงิ ค แจกอยา งนี:้ - (ธตี ุ [ธิดา] แจกเหมอื น มาตุ) ------------------------------------------------------------------------------------- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. มาตา มาตโร ท.ุ มาตรํ มาตโร ต. มาตรา มาตยุ า มาตราหิ มาตราภิ มาตูหิ มาตูภิ จ. มาตุ มาตยุ า มาตรานํ มาตูนํ ป.ฺ มาตรา มาตราหิ มาตราภิ มาตูหิ มาตภู ิ ฉ. มาตุ มาตุยา มาตรานํ มาตนู ํ ส. มาตริ มาตราสุ มาตสู ุ อา. มาตา มาตโร มโนคณะศัพท คือหมูแหง มน ศัพทเปนตน มี ๑๒ ศัพท มน ศัพทเปนทฺวิลิงค คือ ปุล ิงคและนปุส กลิงค ศัพทท เ่ี หลือนอกนัน้ เปน ปงุ ลงิ คอ ยางเดยี ว ดงั น้ี มน [ใจ] เปน ทวฺ ิลิงค ใน ปุงลงิ ค แจกอยา งน้ี เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. มโน มนา ทุ. มนํ มโน มเน ต. มนสา มเนน มเนหิ มเนภิ จ. มนโส มนสสฺ มนานํ ป.ฺ มนสา มนา มนมหฺ า มนสฺมา มเนหิ มเนภิ ฉ. มนโส มนสฺส มนานํ ส. มนสิ มเน มนมหฺ ิ มนสฺมึ มเนสุ อา. มน มนา มน [ใจ] เปน ทวฺ ิลิงค ใน นปงุ สกลงิ ค แจกอยางน้ี

ค่มู อื การอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๔๘ เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. มนํ มนานิ ท.ุ มนํ มโน มนานิ ต. มนสา มเนน มเนหิ มเนภิ จ. มนโส มนสฺส มนานํ ป.ฺ มนสา มนา มนมหฺ า มนสฺมา มเนหิ มเนภิ ฉ. มนโส มนสฺส มนานํ ส. มนสิ มเน มนมฺหิ มนสฺมึ มเนสุ อา. มน มนานิ ศพั ทช ื่อมโนคณะ แจกตาม มน ศพั ทในปุงลิงค มดี งั นี้ ๑. มน ใจ ๒. อย เหลก็ ๓. อุร อก ๔. เจต ใจ ๕. ตป ความรอ น ๖. ตม มืด ๗. เตช เดช ๘. ปย นำ้ นม ๙. ยส ยศ ๑๐. วจ วาจา ๑๑. วย วยั ๑๒. สริ หวั กมมฺ [กรรม] เปน นปงุ สกลงิ ค แจกอยางนี้ :- ------------------------------------------------------------------------------ เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. กมมฺ ํ กมฺมานิ กมฺมา ทุ. กมฺมํ กมฺมานิ กมเฺ ม ต. กมมฺ ุนา กมมฺ นา กมเฺ มน กมเฺ มหิ กมเฺ มภิ จ. กมฺมุโน กมมฺ สสฺ กมมฺ านํ ป.ฺ กมฺมุนา กมมฺ สฺส กมเฺ มหิ กมเฺ มภิ ฉ. กมฺมุโน กมฺมานํ ส. กมฺมนิ กมเฺ ม กมฺมมหฺ ิ กมมฺ สมฺ ึ กมเฺ มสุ อา. กมมฺ กมมฺ านิ โค [โค] สามัญ ไมน ยิ มวา ผู เมีย แจกอยางนี้ :- ----------------------------------------------------------------------------------- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. โค คาโว คโว ทุ. คาวํ คาวุ คาโว คโว ต. คาเวน คเวน โคหิ โคภิ คาเวหิ คาเวภิ จ. คาวสสฺ ควสฺส คุนฺนํ คาวานํ ปฺ. คาวสมฺ า คาวมหฺ า คาวา ควา ควมหฺ า ควสฺมา โคหิ โคภิ คาเวหิ คาเวภิ ฉ. คาวสสฺ ควสฺส คนุ ฺนํ คาวานํ

ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๔๙ ส. คาวสมฺ ึ คาวมหฺ ิ คาเว คเว ควมหฺ ิ ควสฺมึ โคสุ คาเวสุ อา. คาว คาโว โค ศัพทนี้ ถาประสงคใหเปนปุงลิงค ใหแปลง โค เปน โคณ แลวนำไปแจกอยาง ปุริส ศัพท อ การันต ในปุงลิงค และถาประสงคใหเปนอิตถีลิงค ใหแปลง โค เปน คาวี แลวนำไปแจกอยาง นารี อี การันต ในอิตถีลิงค โค ศัพทน้ี อาจารยบางทาน ใหความหมายวาเปน อลิงค คือไมเปนลิงคอะไร และเปน โอ การันต ศัพทน อกเหนอื จากกตปิ ยศัพท ๑๒ ศพั ทน้ี ยังมีศพั ทอ่ืนอีกท่ีมวี ิธแี จกเฉพาะของตน แตไ มค อยมีใช ในคมั ภรี ทง้ั หลายเทา ใดนัก มี ๖ ศพั ท ดงั น้ี ๑. ปมุ แปลวา ชาย เปนปงุ ลิงค มที ่ใี ชบ า ง เฉพาะปฐมาวิภัตติ เอกวจนะ คือ ปมุ า เทาน้นั ๒. สา แปลวา หมา เปนคำกลางๆ ไมเจาะจงวาเปนเพศผูหรอื เพศเมีย เหมือนกับศัพทวา “โค” มี ที่ใชแ ตเฉพาะปฐมาวิภัตติ เอกวจนะ คือ สา เทานั้น ในปุงลงิ คใชเปน สุนข ในอติ ถีลงิ คใชเปน สุนขี หรือใช ศัพทอ ืน่ ๆ นอกจากนี้ แจกตามการันตในลิงคน ัน้ ๆ ๓. อทธฺ า แปลวา กาลยดื ยาว เปนปุงลงิ ค มีท่ีใชบ า งในฝา ยเอกวจนะ ทเ่ี ปนปฐมาวิภตั ติ คือ อทธฺ า ทตุ ยิ าวภิ ตั ติ คอื อทธฺ านํ ตตยิ าวภิ ตั ติ คอื อทฺธนุ า จตตุ ถวี ิภตั ติและฉัฏฐวี ภิ ัตติ คอื อทธฺ โุ น และสตั ตมีวภิ ตั ติ คอื อทธฺ าเน เทา นน้ั ๔. มฆว แปลวา พระอนิ ทร เปน ปุงลงิ ค มใี ชมากแตป ฐมาวิภตั ติ เอกวจนะ คอื มฆวา มใี ชเ ปน อาลปนะบา ง คอื มฆว ๕. ยุว แปลวา ชายหนมุ หญิงสาว เปน ไดสองลงิ ค คอื ปงุ ลงิ ค และอติ ถีลงิ ค ในปงุ ลงิ คนยิ มใช แตป ฐมาวิภัตติ เอกวจนะ คือ ยุวา นอกนน้ั แจกเหมือน ปรุ สิ ศัพท ในอิตถลี งิ ค แปลง ยวุ เปน ยวุ ตี แจก ตามนารี อี การนั ต ในลิงคน นั้ ๖. สข แปลวา เพอื่ น เปนไดสองลิงค คือปงุ ลิงค และอติ ถลี งิ ค ในปงุ ลงิ คนิยมใชแ ตป ฐมาวิภัตติ เอกวจนะ คือ สขา ในอติ ถลี งิ ค แปลง สข เปน สขี แลวนำไปแจกตาม นารี อี การันต สัพพนาม นนั้ แบง เปน ๒ คือ ๑.ปุรสิ สพั พนาม เปน ศพั ทสำหรบั ใชแทนชอ่ื คนและสงิ่ ของทอ่ี อกช่อื มาแลว ขา งตน เพ่ือจะไมใ ห เปน การซ้ำซาก นบั ตามบรุ ุษทที่ า นจดั ไวใน อาขยาต เปน ๓ คือ ต ศัพท ตุมหฺ ศพั ท และ อมหฺ ศัพท ต ศพั ท เปน ประถมบรุ ุษ ชายที่ ๑ สำหรบั ออกช่ือคนและสิง่ ของ ทผี่ พู ดู ออกชือ่ ถึง เชน คำใน ภาษาของเราวา \"เขา\" เปน ไตรลิงค ตมุ ฺห ศัพท เปน มธั ยมบรุ ุษ ชายมใี นทา มกลาง สำหรบั ออกชอ่ื คนที่ผพู ดู ๆ กบั คนใด สำหรบั ออก ช่ือคนนนั้ เชน คำในภาษาของเราวา \"เจา , ทา น, สู, เอง, มึง\" ตามคำสงู และตำ่ , แตใ นภาษาบาลไี มมคี ำสงู คำ ตำ่ อยางนี้ ใช ตมุ ฺห ศัพทอยา งเดียว อมหฺ ศัพท เปน อตุ ตมบรุ ษุ ชายสงู สดุ สำหรบั ใชอ อกชอ่ื ผูพดู เชนคำในภาษาของเราวา \"ฉนั , ขา, กู\" ตามคำที่สงู และตำ่ แตในภาษาบาลไี มมคี ำสงู คำตำ่ อยางน้ี ใช อมหฺ ศพั ทอ ยางเดียว ตมุ หฺ และอมหฺ ศัพท ท้งั ๒ นี้ แจกเปน แบบเดียวกนั ทงั้ ปลุ งิ คและอติ ถลี ิงค. ๒.วเิ สสนสัพพนาม คลา ย ๆ กับคณุ นาม แตม วี ธิ แี จกไมเ หมอื นคณุ นาม แบง เปน ๒ คอื อนยิ ม และนยิ ม

ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๕๐ อนยิ ม ไดแ ก ศัพทเ หลานี้ คอื ย, อฺ , อฺ ตร, อฺ ตม, ปร, อปร, กตร, กตม, เอก, อภุ ย, อติ ร, สพฺพ, กึ นิยม ไดแ ก ศัพทเ หลา น้ี คือ ปุพฺพ, ทกฺขณิ , อตุ ตฺ ร, อธร, ต, เอต, อิม, อม,ุ ย ศัพทน น้ั ไมเ ปน อนิยมแทท ีเดยี ว เพราะเขา กับ ตมุ ฺห, อมฺห ศัพทกไ็ ด วเิ สสนสัพพนาม ๒ อยาง เปน ไตรลงิ ค แจกไดท้งั ๓ ลงิ ค ในสพั พนามทัง้ ปวง ไมมอี าลปนะ ต ศพั ท ใน ปงุ ลงิ ค แจกอยางน้:ี - ---------------------------------------------------------------------------------- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. โส เต ท.ุ ตํ นํ เต เน ต. เตน เตหิ จ. ตสฺส อสสฺ เตสํ เตสานํ เนสํ เนสานํ ป.ฺ ตสสฺ อสมฺ า ตมหฺ า เตหิ ฉ. ตสฺส อสฺส เตสํ เตสานํ เนสํ เนสานํ ส. ตสมฺ ึ อสมฺ ึ ตมหฺ ิ เตสุ ต ศัพท ใน อติ ถีลงิ ค แจกอยา งน้ี :- ----------------------------------------------------------------------------------- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. สา ตา ทุ. ตํ นํ ตา ต. ตาย ตาหิ จ. ตสฺสา อสฺสา ติสสฺ า ตสิ สฺ าย ตาสํ ตาสานํ ปฺ. ตาย ตาหิ ฉ. ตสฺสา อสสฺ า ตสิ ฺสา ติสฺสาย ตาสํ ตาสานํ ส. ตายํ ตสสฺ ํ อสสฺ ํ ตสิ ฺสํ ตาสุ ต ศัพท ใน นปุงสกลงิ ค แจกเหมอื น ใน ปงุ ลงิ ค ตา งกนั ท่ี ปฐมาวภิ ตั ติ เอกวจนะ เปน ตํ พหุวจนะ เปน ตานิ และทตุ ิยาวิภตั ติ พหวุ จนะ เปน ตานิ เทา นนั้ . ตุมฺห ศัพท (ทาน) ทง้ั สองลิงค แจกอยา งเดยี วกัน อยางน้ี :- -------------------------------------------------------------------------------- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. ตฺวํ ตวุ ํ ตุมฺเห โว ท.ุ ตํ ตฺวํ ตวุ ํ ตุมเฺ ห โว ต. ตยา ตวฺ ยา เต ตมุ เฺ หหิ โว จ. ตยุ หฺ ํ ตุมหฺ ํ ตว เต ตุมฺหากํ โว ปฺ. ตยา ตมุ ฺเหหิ

ค่มู อื การอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๕๑ ฉ. ตุยฺหํ ตมุ หฺ ํ ตว เต ตุมฺหากํ โว ส. ตยิ ตวฺ ยิ ตมุ เฺ หสุ อมฺห ศพั ท (ขา ) ทั้งสองลงิ ค แจกเปน แบบเดยี วกนั อยางน้ี :- -------------------------------------------------------------------------------- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. อหํ มยํ โน ทุ. มํ มมํ อมเฺ ห โน ต. มยา เม อมฺเหหิ โน จ. มยหฺ ํ อมฺหํ มม มมํ เม อมหฺ ากํ อสฺมากํ โน ป.ฺ มยา อมเฺ หหิ ฉ. มยหฺ ํ อมหฺ ํ มม มมํ เม อมฺหากํ อสฺมากํ โน ส. มยิ อมเฺ หสุ ย ศัพท ใด ใน ปุงลงิ ค แจกอยางน้ี :- ------------------------------------------------------------------------ เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. โย เย ท.ุ ยํ เย ต. เยน เยหิ จ. ยสฺส เยสํ เยสานํ ป.ฺ ยสมฺ า ยมหฺ า เยหิ ฉ. ยสสฺ เยสํ เยสานํ ส. ยสฺมึ ยมหฺ ิ เยสุ ศัพทเหลา น้ี แจกเหมอื น ย ศพั ท ------------------------------------------------------------------------------ อฺ อ่ืน กตม คนไหน อฺ ตร คนใดคนหนึง่ เอก คนหนง่ึ , พวกหนึง่ อฺตม อยางใดอยา งหนงึ่ เอกจจฺ บางคน,บางพวก ปร อ่ืน อุภย ทง้ั สอง อปร อ่นื อีก สพพฺ ทงั้ ปวง กตร คนไหน ย ศัพท ในอติ ถลี งิ ค แจกอยา งนี้ :- ------------------------------------------------------------------------------ เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. ยา ยา ทุ. ยํ ยา

ค่มู อื การอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๕๒ ต. ยาย ยาหิ จ. ยสฺสา ยาสํ ยาสานํ ปฺจ. ยาย ยาหิ ฉ. ยสฺสา ยาสํ ยาสานํ ส. ยสสฺ ํ ยาสุ ย ศพั ท ใน นปุงสกลงิ ค แจกเหมอื น ปุงลงิ ค ตางกันที่ ปฐมาวิภตั ติ เอกวจนะ เปน ยํ พหวุ จนะ เปน ยานิ และทตุ ยิ าวภิ ัตติ พหวุ จนะ เปน ยานิ เทานัน้ . กึ ศัพท ใคร,อะไร คงเปน รปู กึ อยแู ตใน นป.ุ ป.ทุ. เอก. เทา นนั้ นอกนัน้ แปลงเปน ก แลว แจกใน ไตรลงิ คเหมือน ย ศัพท กึ ศพั ท ท่แี จกดวยวภิ ัตติในไตรลงิ คน ี้ มี จิ อยูทา ยศัพท แปลวา นอ ย บางคน หรือ บางสิ่ง เปน คำใหว า ซำ้ สองหนเหมือนในภาษาของเราเขียนรปู \"ๆ\" เชน โกจิ ชายบางคน หรือ ใคร ๆ กาจิ อติ ถฺ ี หญงิ บางคน หรอื หญิงไร ๆ กิ จฺ ิ วตถฺ ุ ของนอ ยหน่ึง หรอื ของบางส่ิง ถา เปนพหวุ จนะ แปลวา บาง พวก หรอื บางเหลา เชน เกจิ ชนา ชนทัง้ หลายบางพวก กาจิ อติ ถฺ ี หญงิ ทงั้ หลายบางพวก กานิจิ กุลานิ ตระกูลท้ังหลายบางเหลา ถา มี ย นำหนา มี จิ อยูหลงั แปลวา คนใดคนหนึ่ง หรือ ส่งิ ใดสิง่ หน่งึ เชน ๑. โย โกจิ เทโว วา มนสุ ฺโส วา เทวดาหรอื หรอื มนษุ ย คนใดคนหนง่ึ . ๒. ยา กาจิ เวทนา อตตี านาคตปจจฺ ปุ ปฺ นนฺ า เวทนา อยางใดอยางหนึ่ง ลว งแลว หรือยัง ไมม าหรือเกดิ ขึ้นเฉพาะแลว . ๓. ยงกฺ ิ จฺ ิ วิตตฺ ํ อิธ วา หุรํ วา ทรพั ยเครื่องปลืม้ ใจ อนั ใดอนั หนง่ึ ในโลกนี้หรอื หรือในโลกอ่นื . เอต ศพั ท [นน่ั ] ใน ปงุ ลิงค แจกอยางนี้:- ---------------------------------------------------------------------------- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. เอโส เอเต ทุ. เอตํ เอนํ เอเต ต. เอเตน เอเตหิ จ. เอตสฺส เอเตสํ เอเตสานํ ป.ฺ เอตสมฺ า เอตมหฺ า เอเตหิ ฉ. เอตสฺส เอเตสํ เอเตสานํ ส. เอตฺสมฺ ึ เอตมหฺ ิ เอเตสุ เอต ศพั ท ในอิตถลี งิ ค แจกอยา งนี้ :- --------------------------------------------------------------------------- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. เอสา เอตา ท.ุ เอตํ เอนํ เอตา ต. เอตาย เอตาหิ

ค่มู ือการอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๕๓ จ. เอตสฺสา เอติสสฺ า เอติสฺสาย เอตาสํ เอตาสานํ ปฺ. เอตาย เอตาหิ เอตาภิ ฉ. เอตสสฺ า เอติสฺสา เอติสสฺ าย เอตาสํ เอตาสานํ ส. เอตสสฺ ํ เอติสสฺ ํ เอตาสุ เอต ศัพท ใน นปงุ สกลงิ ค แจกเหมอื นใน ปุงลงิ ค ตางกนั ที่ ปฐมาวภิ ัตติ เอกวจนะ เปน เอตํ พหุ วจนะ เปน เอตานิ และทตุ ิยาวิภตั ติ พหวุ จนะ เปน เอตานิ เทานัน้ อิม ศพั ท (นี)้ ใน ปุงลงิ ค แจกอยา งนี้ :- ---------------------------------------------------------------------------- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. อยํ อเิ ม ท.ุ อิมํ อิเม ต. อิมินา อเนน อเิ มหิ จ. อิมสฺส อสสฺ อิเมสํ อเิ มสานํ ป.ฺ อิมสฺมา อมิ มหฺ า อสมฺ า อเิ มหิ ฉ. อมิ สฺส อสสฺ อิเมสํ อเิ มสานํ ส. อิมสฺมึ อมิ มหฺ ิ อสมฺ ึ อเิ มสุ อิม ศัพท ในอติ ถีลงิ ค แจกอยางน้ี :- ------------------------------------------------------------------------------ เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. อยํ อมิ า ทุ. อิมํ อมิ า ต. อมิ าย อิมาหิ จ. อมิ ิสสฺ า อมิ ิสสฺ าย อสสฺ า อมิ าสํ อมิ าสานํ ป.ฺ อมิ าย อมิ าหิ ฉ. อมิ สิ สฺ า อมิ ิสสฺ าย อสฺสา อมิ าสํ อมิ าสานํ ส. อิมสิ สฺ ํ อสฺสํ อิมาสุ อิม ศัพท ใน นปงุ สกลงิ ค แจกเหมอื นใน ปงุ ลิงค ตางกนั ที่ ปฐมาวิภัตติ เอกวจนะ เปน อิทํ พหุ วจนะ เปน อิมานิ และ ทุตยิ าวิภัตติ เอกวจนะ เปน อิทํ อิมํ พหวุ จนะ เปน อมิ านิ เทานั้น อมุ ศพั ท (โนน ) ใน ปุงลงิ ค แจกอยา งนี้ :- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. อมุ อมู ท.ุ อมุ อมู ต. อมนุ า อมูหิ จ. อมุสฺส อมโุ น อมูสํ อมูสานํ

ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๕๔ ปฺ. อมุสมฺ า อมุมหฺ า อมูหิ ฉ. อมุสฺส อมโุ น อมสู ํ อมูสานํ ส. อมุสมฺ ึ อมุมหฺ ิ อมสู ุ อมุ ศัพท ในอติ ถีลงิ ค แจกอยา งน้ี :- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. อมุ อมู ทุ. อมุ อมู ต. อมุยา อมูหิ จ. อมสุ สฺ า อมูสํ อมสู านํ ปฺ. อมุยา อมหู ิ ฉ. อมสุ สฺ า อมสู ํ อมสู านํ ส. อมุสสฺ ํ อมูสุ อมุ ศัพท ใน นปงุ สกลงิ ค แจกเหมือนใน ปงุ ลงิ ค ตางกนั ท่ี ปฐมาวภิ ัตติ เอกวจนะ เปน อทุ พหุ วจนะ เปน อมูนิ และทุตยิ าวภิ ัตติ พหวุ จนะ เปน อมูนิ เทานนั้ อัพยยศพั ท ศัพทอ ีกจำพวกหนง่ึ แจกดว ยวิภตั ติทง้ั ๗ แปลงรปู ไปตา ง ๆ เหมือนนามทัง้ ๓ ไมได คงรปู อยู เปนอยางเดียว ศัพทเหลานเี้ รียกวา อัพยยศัพท แบง เปน ๓ คอื อุปสัค นิบาต ปจ จัย ๑.อุปสคั นนั้ สำหรับใชนำหนา นามและกริ ิยา แจกแจงเนอ้ื ความใหว เิ ศษขนึ้ เสมอตวั หรอื ตำ่ ลง กวา เดิม เมื่อนำหนานาม มอี าการคลา ยคุณนาม เมือ่ นำหนา กริ ิยา มีอาการคลา ยกริ ยิ าวเิ สสนะ อติ ยงิ่ เกนิ ลว ง อธิ ยงิ่ ใหญ ทบั อนุ นอ ย ภายหลงั ตาม อป ปราศ หลกี อป หรอื ป ใกล บน อภิ ยิ่ง ใหญ จำเพาะ ขา งหนา อว หรอื โอ ลง อา ทว่ั ย่ิง กลับความ อุ ขนึ้ นอก อปุ เขา ไป ใกล มั่น ทุ ช่วั ยาก นี เขา ลง นิ ไมม ี ออก ป ทัว่ ขา งหนา กอน ออก ปฏิ เฉพาะ ตอบ ทวน กลับ ปรา กลบั ความ ปริ รอบ วิ วิเศษ แจง ตา ง สํ พรอม กบั ดี สุ ดี งาม งา ย. ๒.นบิ าต น้ัน สำหรับลงในระหวา งนามศพั ทบา ง กริ ิยาศัพทบา ง บอก อาลปนะ กาล ที่ ปรเิ ฉท อุปไมย ปฏิเสธ ความไดย นิ เลาลือ ความปริกปั ความถาม ความรบั ความเตอื น เปน ตน

ค่มู อื การอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๕๕ นิบาตบอกอาลปนะ อคฺเฆ, ยคเฺ ฆ เปน คำสำหรบั รองเรยี ก ใหค นสูงกวา ตนตัง้ ใจฟงคำที่ผูพ ดู ประสงคจ ะกลา ว ไมมคี ำ แปลในภาษาของเราใหต รงกนั ได เห็นมอี ยูแตค ำทูลพระเจาแผน ดินวา \"สรวมชีพ\" หรอื \"ขอเดชะ\" ซง่ึ เปน คำพูดเพอ่ื จะใหพระจา แผนดิน ตง้ั พระราชหฤทัยฟงคำท่จี ะพดู ตอ ไป ภนเฺ ต, ภทนเฺ ต ๒ คำนี้ เปนคำสำหรับคฤหสั ถเรียกบรรพชติ ดวยเคารพ หรอื บรรพชติ ผูออน พรรษากวา เรียกบรรพชติ ผแู กก วา เชน กตมฺ ํ ปน ภนเฺ ต คนถฺ ธรุ ํ ขา แตท านผูเจรญิ ก็ คนั ถธรุ ะ เปน ไฉน ภเณ เปน คำสำหรบั คนสงู กวา พดู กบั คนผูทีอ่ ยใู นบงั คับตน เชน พระเจา แผน ดนิ รบั ส่งั แก ขา ราชการ เชน ทุกกฺ รํ ภเณ พรฺ าหมฺ เณน กตํ ภเณ กรรมอนั บคุ คล ทำไดยาก อันพราหมณ ทำแลว ในภาษาของเราทา นบญั ญตั ใิ ห แปลวา \"พนาย.\" อมฺโภ เปน คำเรียกชายดวยวาจาออ นหวาน ในภาษาเราทา นใหแ ปลวา \"แนะ ผเู จรญิ เชน อมโฺ ภ กุมารา เอส สาลกิ โปตโก, ตํ คณฺหถ. แนะ กมุ าร ท. ผูเจรญิ นนั่ ลกู นกสาลกิ า เจา ท. จงจับเอา ซึ่งมนั อาวโุ ส เปน คำสำหรบั บรรพชิตทม่ี ีพรรษามากกวา เรียกบรรพชติ ทมี่ ี พรรษานอ ยกวา และสำหรบั บรรพชติ เรยี กคฤหัสถ เชน มา อาวุโส เอวํ อวจ อาวโุ ส ทา น อยา ไดกลาวแลว อยา งนน้ั ในภาษาของเราทา นบญั ญตั ใิ หแ ปลวา \"แนะ ทา นผมู อี าย.ุ \" เร, อเร ๒ คำนี้ เปน คำสำหรับรอ งเรียกคนเลวทราม ตรงกบั ภาษาของเราวา \"เวย , โวย \" เชน อเร ขชุ ฺเช แนะ หญงิ คอ ม เวย, ติ เร เอง จงหยดุ โวย เห เปน คำสำหรบั รองเรียกคนเลว ตรงกบั ภาษาเราวา เฮย เชน เห มลฺลกิ า กสมฺ า เอวรปู มกาสิ เฮย แนะนางมัลลกิ า เหตไุ ร เจา ไดทำแลว ซึ่งกรรมมีอยางน้เี ปนรปู เช เปนคำทีน่ ายเรียกสาวใช เชน หนฺท เช อมิ ํ ภณฺฑํ คณหฺ าหิ เอาเถดิ แม(เจา)จงถอื ซง่ึ ภัณฑะนี้ นบิ าตบอกกาล ลงในอรรถสตั ตมี อถ ครงั้ นนั้ หิยโฺ ย วนั วาน ปาโต เชา เสฺว วันพรุง ทวิ า วัน สมฺปติ บดั เด๋ียวน้ี สายํ เย็น อายตึ ตอ ไป สุเว ในวนั อโธ เบอื้ งตำ่ เห า ภายใต นบิ าตบอกสถานที่ โอรํ ฝงใน ปารํ ฝง นอก อุทฺธํ เบ้ืองบน หรุ ํ โลกอืน่ อุปริ เบือ้ งบน สมมฺ ุขา ตอ หนา อนตฺ รา ระหวา ง ปรมมฺ ุขา ลบั หนา อนโฺ ต ภายใน พาหริ า ภายนอก ติโร ภายนอก พหิ ภายนอก พหิทธฺ า ภายนอก รโห ที่ลบั

ค่มู ือการอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๕๖ สมนฺตา รอบคอบ นบิ าตบอกปริจเฉท กีว เพียงไร ยาวตา มีประมาณเพียงใด ยาว เพยี งใด ตาวตา มปี ระมาณเพยี งนน้ั ตาว เพยี งนนั้ กิตตฺ าวตา มีประมาณเทา ใด ยาวเทว เพียงใดน่นั เทยี ว เอตตฺ าวตา มีประมาณเทา นนั้ ตาวเทว เพยี งนน้ั น่ันเทียว นิบาตบอกอปุ มาอุปไมย วิย ราวกะ เสยยฺ ถา ฉันใด อิว เพียงดัง ตถา ฉันนั้น ยถา ฉันใด เอวํ ฉันนั้น กถํ ดว ยประการไร นิบาตบอกประการ ยถา ดวยประการใด เอว น่ันเทียว เอวํ ดว ยประการน้ัน วินา เวน ตถา ดวยประการน้นั อลํ พอ นบิ าตบอกปฏเิ สธ น ไม หามไิ ด โน ไม หามไิ ด มา อยา ว เทียว นบิ าตบอกความไดยนิ คำเลา ลอื กิร ไดย ินวา สทุ ํ ไดยินวา นบิ าตบอกปรกิ ัป เจ หากวา อถ ถาวา ยทิ ผวิ า อปฺเปว นาม ช่ือแมไ ฉน สเจ ถา วา ยนฺนูน กระไรหนอ นิบาตบอกความถาม กึ หรอื , อะไร นนุ มิใชห รอื กถํ อยางไร อุทาหุ หรือวา กจฺจิ แลหรอื อาทู หรือวา นุ หนอ เสยยฺ ถีทํ อยางไรนี้

ค่มู อื การอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๕๗ นบิ าตบอกความรบั อาม เออ อามนฺตา เออ นิบาตบอกความเตอื น อิงฺฆ เชิญเถดิ หนฺท เอาเถดิ ตคฆฺ เอาเถดิ นิบาตสำหรับผกู ศพั ทแ ละประโยคมีอตั ถะเปนอเนก จ ดว ย, อน่ึง, ก,็ จรงิ อยู ปน สวนวา , ก็ วา หรอื , บาง อป แม, บาง หิ ก,็ จริงอยู, เพราะวา อปจ เออก็ ตุ สว นวา , ก็ อถวา อกี อยางหน่ึง นบิ าตสกั วา เปนเครอ่ื งทำบทใหเ ตม็ นุ หนอ โข แล สุ สิ วต หนอ เว เวย หเว เวย โว โวย นบิ าตมีเนื้อความตาง ๆ อฺทตฺถุ โดยแท อาวี แจง อโถ อนึ่ง อจุ จฺ ํ สูง อทธฺ า แนแ ท อิติ เพราะเหตนุ ัน้ ,วา ดังน,ี้ ดว ยประการน้ี,ชอ่ื อวสสฺ ํ แนแ ท อโห โอ กิ ฺจาป แมนอ ยหนง่ึ อารา ไกล กวฺ จิ บา ง นีจํ ตำ่ มจิ ฉฺ า ผดิ นูน แน มุธา เปลา นานา ตาง ๆ มุสา เท็จ ปจฉฺ า ภายหลงั สกึ คราวเดยี ว ป าย ตงั้ กอ น สตกขฺ ตฺตุ รอ ยคราว ปภูติ จำเดิม สทฺธึ พรอ ม, กบั ปุน อีก สณกิ ํ คอ ย ๆ ปนุ ปฺปนุ ํ บอย ๆ สยํ เอง ภยิ ฺโย ยง่ิ สห กับ ภยิ ฺโยโส โดยยิ่ง สามํ เอง ๓.ปจจัย นัน้ ลงทายนามศพั ทเปนเครอ่ื งหมายวิภัตติ ลงทายธาตเุ ปนเครอื่ งหมายกริ ยิ า มี ๔ ดงั นี้

ค่มู ือการอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๕๘ ๑.) โต ปจ จยั เปน เครอื่ งหมายตติยาวภิ ตั ติ แปลวา ขาง เปน เครอื่ งหมายปญ จมวี ิภตั ติ แปลวา แต ดังน้ี สพฺพโต แต- ท้ังปวง ปุรโต ขางหนา อฺโต แต- อนื่ ปจฉฺ โต ขางหลัง อฺตรโต แต- อันใดอนั หนงึ่ ทกขฺ ณิ โต ขางขวา อติ รโต แต- นอกนี้ วามโต ขา งซาย เอกโต ขา งเดยี ว อุตตฺ รโต ขา งเหนอื อุภโต สองขาง อธรโต ขางลา ง ปรโต ขา งอนื่ ยโต แต- ใด ตโต แต- นนั้ อมุโต แต- โนน เอโต อโต แต- นน่ั กตรโต แต- อะไร อโิ ต แต- น้ี กโุ ต แต- ไหน อปรโต ขา งอนื่ อกี ๒.) ปจจัย ๙ ตัว คือ ตรฺ ตฺถ ห ธ ธิ หึ หํ หิจฺ นํ ว เปนเคร่อื งหมายสตตฺ มแี ปลตามสตฺตมี ดงั นี้ สพฺพตรฺ ใน-ทั้งปวง สพฺพตถฺ ใน-ทัง้ ปวง อหิ ใน-น้ี อธิ ใน-น้ี สพฺพธิ ใน-ทง้ั ปวง กุหึ ใน-ไหน ยหํ ใน-ใด กุหึ จฺ นํ ใน-ไหน กวฺ ใน-ไหน ๓.) ปจ จยั ๗ ตัว คอื ทา ทานิ รหิ ธุนา ทาจนํ ชฺช ชชฺ ุ เปนเคร่ืองหมายสตตฺ มีลงในกาล ดังนี้ สพพฺ ทา ในกาลทัง้ ปวง เอตรหิ ในกาลน้ี, เดีย๋ วนี้ สทา ในกาลทุกเมื่อ กรหจิ ในกาลไหน ๆ,บางคร้ัง เอกทา ในกาลหน่งึ ,บางที อธุนา ในกาลน้ี, เมื่อก้ี ยทา ในกาลใด, เม่อื ใด กุทาจนํ ในกาลไหน ตทา ในกาลนนั้ , เมือ่ นนั้ อชฺช ในวนั นี้ กทา ในกาลไร, เมื่อไร สชฺชุ ในวันมอี ยู, วันนี้ กทาจิ ในกาลไหน,บางคราว ปรชชฺ ุ ในวนั อน่ื อทิ านิ ในกาลน้ี, เดีย๋ วนี้ อปรชฺชุ ในวันอนื่ อกี ๔.) ปจ จยั กิรยิ ากติ ก ๕ ตัว คอื ตเว ตุ ตนู ตฺวา ตวฺ าน เปน อพั ยยะ แจกดว ยวิภตั ตไิ มไ ด ดงั นี้ กาตเว เพื่ออนั ทำ กาตุ ความทำ, เพือ่ อนั ทำ กาตนู ทำแลว กตวฺ า ทำแลว

ค่มู อื การอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๕๙ กตวฺ าน ทำแลว คนตฺ เว เพอ่ื อันไป คนตฺ ุ เพือ่ อนั ไป,ความไป คนฺตนู ไปแลว คนตฺ วฺ า ไปแลว คนตฺ ฺวาน ไปแลว ๓.๕ สังขยา สังขยา คอื คำศพั ทส ำหรับใชน ับจำนวนสุทธนาม หรือจำนวนทีถ่ กู นับ มี ๒ อยาง คอื ปกตสิ ังขยา และ ปรู ณสังขยา ปกตสิ ังขยา คอื คำศพั ทท ใ่ี ชนบั จำนวนตามธรรมดา เชน หน่งึ สอง สาม เปน ตน ดงั นี้ คำบาลี คำแปล เอก ๑ ทฺวิ ๒ ติ ๓ จตุ ๔ ปจฺ ๕ ฉ๖ สตฺต ๗ อ ๘ นว ๙ ทส ๑๐ เอกาทส ๑๑ ทวฺ าทส,พารส ๑๒ เตรส ๑๓ จตทุ ฺทส,จุทฺทส ๑๔ ปจฺ ทส,ปณฺณรส ๑๕ โสฬส ๑๖ สตตฺ รส ๑๗ อ ารส ๑๘ เอกูนวสี ต,ิ อูนวีส ๑๙ วสี ติ,วีส ๒๐ เอกวีสติ ๒๑ ทฺวาวีสต,ิ พาวสี ติ ๒๒ เตวสี ติ ๒๓ จตุวีสติ ๒๔ ปฺจวีสติ ๒๕ ฉพฺพีสติ ๒๖ สตฺตวสี ติ ๒๗ อ วีสติ ๒๘

เอกูนตึสต,ิ เอกนู ตึส ค่มู ือการอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๖๐ ตสึ ต,ิ ตึส เอกตตฺ สึ ๒๙ ทฺวตตฺ ึส,พตตฺ สึ ๓๐ เตตตฺ สึ ๓๑ จตุตตฺ ึส ๓๒ ปจฺ ตตฺ สึ ๓๓ ฉตตฺ ึส ๓๔ สตฺตตฺตสึ ๓๕ อ ตตฺ ึส ๓๖ เอกูนจตฺตาสี ,อนู จตตฺ าีส ๓๗ จตฺตาีส,ตาสี ๓๘ เอกจตตฺ าีส ๓๙ เทฺวจตตฺ าีส ๔๐ เตจตตฺ าีส ๔๑ จตุจตตฺ าีส ๔๒ ปจฺ จตตฺ าีส ๔๓ ฉจตตฺ าสี ๔๔ สตตฺ จตตฺ าสี ๔๕ อ จตตฺ าีส ๔๖ เอกูนปฺ าส,อนู ปฺ าส ๔๗ ปฺ าส,ปณณฺ าส ๔๘ สี ๔๙ สตฺตติ ๕๐ อสีติ ๖๐ นวตุ ิ ๗๐ เอกนู สตํ ๘๐ สตํ ๙๐ สหสฺสํ ๙๙ ทสสหสสฺ ํ รอย สตสหสสฺ ํ,ลกขฺ ํ พัน ทสสตสหสฺสํ หมืน่ โกฏิ แสน ปโกฏิ ลาน อสงฺเขยยฺ ํ โกฏิ(สบิ ลาน) สบิ โกฏ(ิ รอ ยลา น) นับไมได

ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๖๑ ๑–๔ การจดั แบงปกติสงั ขยาในนามศพั ท ๕ – ๙๘ เปน สพั พนาม เปน วิเสสนะนบั สุทธนาม ๙๙ ข้นึ ไป เปน คณุ นาม เปนวิเสสนะนบั สทุ ธนาม ๑ – ๑๘ เปน สุทธนาม แปลไดต ามลำพงั ตวั เอง ๑๙ – ๙๘ การจดั แบง ปกตสิ ังขยาในลงิ ค ๙๙ ขึ้นไป เปน ได ๓ ลงิ ค ผันไปตามตวั สทุ ธนามทนี่ ับ โกฏิ เปน อติ ถีลงิ ค เปน อยางนน้ั ไมผ นั ตามสุทธนามทน่ี บั ๑ เปน นปงุ สกลิงค เปน สทุ ธนามแปลตามลำพังตัวเอง ๒ – ๑๘ เปนอติ ถีลงิ ค เปนสุทธนามแปลตามลำพงั ตัวเอง ๑๙ – ๙๘ การจดั แบง ปกตสิ ังขยาในวจนะ ๙๙ ขึ้นไป เปนเอกวจนะ สุทธนามตองเปน เอกวจนะ เปนพหวุ จนะ สุทธนามตอ งเปน พหวุ จนะ เปน เอกวจนะ สทุ ธนามตองเปน พหวุ จนะ เปน ๒ วจนะ สุทธนามเปน เอกวจนะและพหวุ จนะ สรปุ การจดั แบงปกติสงั ขยา เอก (๑) เปน ๓ ลงิ ค เอกวจนะ (เอก สพั พนาม เปน ๒ วจนะ) ทฺวิ (๒) ถงึ อารส (๑๘) เปน ๓ ลิงค พหวุ จนะ เอกนู วสี ติ (๑๙) ถึง อ นวตุ ิ (๙๘) เปน อิตถลี งิ ค เอกวจนะ เอกนู สต (๙๙) ถงึ อสงฺเขยยฺ เปน นปงุ สกลิงค ๒ วจนะ โกฏิ ปโกฏิ โกฏิปฺปโกฏิ อกโฺ ขภณิ ี เปน อติ ถลี งิ ค ๒ วจนะ จำแนกสงั ขยาโดยนาม ๓ เอก ถงึ จตุ เปน สัพพนาม ปจฺ ถงึ อนวตุ ิ เปน คุณนาม เอกนู สต ข้นึ ไป เปน สทุ ธนาม วธิ แี จกปกตสิ ังขยา ๑ – ๕ มแี บบแจกเฉพาะของตน เอก (๑) ใน ๓ ลิงค ปุงลิงค อิตถลี งิ ค นปงุ สกลิงค ป. เอโก เอกา เอกํ ท.ุ เอกํ เอกํ เอกํ ต. เอเกน เอกาย เอเกน จ. เอกสสฺ เอกาย เอกสสฺ ปฺ. เอกสมฺ า,เอกมหฺ า เอกาย เอกสฺมา,เอกมหฺ า ฉ. เอกสสฺ เอกาย เอกสฺส ส. เอกสมฺ ึ,เอกมหฺ ิ เอกาย เอกสฺม,ึ เอกมหฺ ิ เอก เปนเอกวจนะอยา งเดยี ว ในสงั ขยาไมมีอาลปนะ

ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๖๒ ทฺวิ (๒) และ อภุ (ท้ัง ๒) ใน ๓ ลงิ ค เปนพหวุ จนะ ทง้ั ๓ ลงิ คแ จกเหมอื นกนั ทฺวิ อภุ ป. เทวฺ อโุ ภ ท.ุ เทวฺ อุโภ อเุ ภ ต. ทวฺ หี ิ อโุ ภหิ จ. ทฺวินนฺ ํ อภุ นิ ฺนํ ปฺ. ทฺวหี ิ อโุ ภหิ ฉ. ทฺวนิ นฺ ํ อภุ นิ ฺนํ ส. ทฺวสี ุ อุโภสุ ติ (๓) ใน ๓ ลิงค เปน พหวุ จนะทั้ง ๓ ลงิ ค แจกอยางนี้ ปงุ ลิงค อติ ถลี งิ ค นปงุ สกลงิ ค ป. ตโย ติสฺโส ตณี ิ ท.ุ ตโย ติสฺโส ตีณิ ต. ตหี ิ ตีหิ ตหี ิ จ. ติณณฺ ,ํ ติณณฺ นนฺ ํ ติสฺสนนฺ ํ ติณฺณ,ํ ติณณฺ นนฺ ํ ปฺ. ตีหิ ตหี ิ ตีหิ ฉ. ตณิ ฺณ,ํ ตณิ ณฺ นนฺ ํ ตสิ สฺ นนฺ ํ ติณฺณํ,ติณณฺ นนฺ ํ ส. ตสี ุ ตีสุ ตสี ุ จตุ (๔) ใน ๓ ลงิ ค เปน พหวุ จนะท้ัง ๓ ลงิ ค แจกอยา งนี้ ปงุ ลงิ ค อิตถลี งิ ค นปงุ สกลงิ ค ป. จตฺตาโร,จตโุ ร จตสโฺ ส จตฺตาริ ท.ุ จตฺตาโร,จตุโร จตสฺโส จตฺตาริ ต. จตหู ิ จตูหิ จตูหิ จ. จตุนนฺ ํ จตสฺสนนฺ ํ จตุนนฺ ํ ปฺ. จตูหิ จตหู ิ จตูหิ ฉ. จตนุ นฺ ํ จตสฺสนนฺ ํ จตนุ นฺ ํ ส. จตสู ุ จตูสุ จตสู ุ ปฺจ (๕) ใน ๓ ลิงค เปน พหวุ จนะทั้ง ๓ ลงิ ค แจกเหมอื นกนั อยางน้ี ปงุ ลงิ ค อิตถลี ิงค นปุงสกลิงค ป. ปจฺ ปจฺ ปฺจ ทุ. ปจฺ ปจฺ ปฺจ ต. ปฺจหิ ปจฺ หิ ปจฺ หิ

ค่มู ือการอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๖๓ จ. ปฺจนนฺ ํ ปจฺ นนฺ ํ ปจฺ นนฺ ํ ปฺ. ปจฺ หิ ปจฺ หิ ปจฺ หิ ฉ. ปฺจนนฺ ํ ปจฺ นนฺ ํ ปจฺ นนฺ ํ ส. ปจฺ สุ ปฺจสุ ปจฺ สุ ๖ – ๑๘ แจกเหมือน ปฺจ ตวั อยา ง ฉ (๖) ดงั น้ี ปงุ ลิงค อติ ถลี ิงค นปุงสกลิงค ป. ฉ ฉ ฉ ท.ุ ฉ ฉ ฉ ต. ฉหิ ฉหิ ฉหิ จ. ฉนนฺ ํ ฉนนฺ ํ ฉนนฺ ํ ปฺ. ฉหิ ฉหิ ฉหิ ฉ. ฉนนฺ ํ ฉนนฺ ํ ฉนนฺ ํ ส. ฉสุ ฉสุ ฉสุ ๑๙ – ๙๘ แจกไดห ลายแบบ ตามลงิ คและการันต ดังน้ี ลงทายดว ยสระ อะ เชน เอกูนวีส วสี ตสึ จตตฺ าีส เปนอติ ถลี งิ ค แจกอยา ง เอกูนวีส ฝายเอก วจนะ ลงทายดว ยสระ อิ เชน เอกนู วีสติ วสี ติ ตสึ ติ อสตี ิ นวตุ ิ เปนอติ ถลี งิ ค แจกอยาง รตตฺ ิ ฝา ยเอก วจนะ สงทายดว ยสระ อี เชน เอกูนส ี สี เอกสี ฉสี เปน อติ ถฺ ีลงิ ค แจกอยา ง นารี ฝา ยเอก วจนะ เอกนู วสี (๑๙) เปนอติ ถีลงิ ค เอกวจนะ แจกอยางน้ี เอกวจนะ ป. เอกูนวีสํ ท.ุ เอกูนวีสํ ต. เอกนู วีสาย จ. เอกูนวีสาย ปฺ. เอกูนวสี าย ฉ. เอกูนวีสาย ส. เอกนู วีสาย เอกูนวสี ติ (๑๙) เปนอติ ถีลงิ ค เอกวจนะ แจกเหมอื น รตตฺ ิ อยา งนี้ เอกวจนะ ป. เอกนู วีสติ ทุ. เอกนู วสี ตึ ต. เอกนู วีสตยิ า

ค่มู อื การอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๖๔ จ. เอกนู วีสตยิ า ป.ฺ เอกนู วีสติยา ฉ. เอกูนวีสตยิ า ส. เอกนู วสี ตยิ า เอกนู วสี ติยํ เอกนู ส ี - อสี (๕๙-๖๘) เปนอติ ถลี งิ ค เอกวจนะ แจกเหมอื น นารี อยา งนี้ เอกวจนะ ป. เอกูนสี ทุ. เอกนู ส ึ เอกูนส ยิ ํ ต. เอกูนส ยิ า จ. เอกนู สิยา ปฺ. เอกนู สิยา ฉ. เอกนู สิยา ส. เอกนู ส ิยา เอกูนสิยํ เอกูนสตํ (๙๙) ขน้ึ ไป เปนนปุงสกลิงค เปน ได ๒ วจนะ แจกอยา ง กลุ อยางน้ี เอกวจนะ พหวุ จนะ ป. เอกนู สตํ เอกนู สตานิ ท.ุ เอกูนสตํ เอกนู สตานิ ต. เอกูนสเตน เอกูนสเตหิ จ. เอกูนสตสฺส เอกนู สตาย เอกนู สตตฺถํ เอกูนสตานํ ปฺ. เอกนู สตสมฺ า เอกนู สตมหฺ า เอกูนสตา เอกนู สเตหิ ฉ. เอกูนสตสฺส เอกูนสตานํ ส. เอกนู สตสมฺ ึ เอกนู สตมฺหิ เอกูนสเต เอกนู สเตสุ โกฏิ ปโกฏิ โกฏิปฺปโกฏิ ใหจ ำแนกตาม รตตฺ ิ ศพั ทท้ัง ๒ วจนะ อกโฺ ขภิณี ใหจำแนกตาม อติ ฺถี ศัพททงั้ ๒ วจนะ การตอ สงั ขยา สังขยาคณุ ตอ กบั สงั ขยานาม ใช อตุ ตฺ ร เช่ือม ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ – ๙๘ (หลักสบิ ) เปน สังขยาคณุ ๙๙ ข้นึ ไป (หลกั รอ ยขนึ้ ไป) เปนสงั ขยานาม ๑๐๕ ใชส งั ขยาวา ปจฺ ตุ ตฺ รสตํ ๑๐๗ ใชสังขยาวา สตฺตตุ ตฺ รสตํ ๑๑๕ ใชสงั ขยาวา ปณณฺ รสตุ ตฺ รสตํ ๑๓๘ ใชส งั ขยาวา อ ตตฺ ึสตุ ตฺ รสตํ ๑๔๔ ใชสังขยาวา จตุจตตฺ าีสุตตฺ รสตํ ๑๐๑๒ ใชสังขยาวา ทวฺ าทสตุ ฺตรสหสสฺ ํ

ค่มู อื การอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๖๕ ๑,๐๕๐ ใชสงั ขยาวา ปณฺณาสุตตฺ รสหสฺสํ ๑๐๕๗ ใชสงั ขยาวา สตฺตปฺ าสตุ ตฺ รสหสสฺ ํ หลักหนวยหรือหลกั สบิ ท่ลี งทายดว ยสระ อิ หรอื สระ อี ซึ่งอยหู นา อตุ ตฺ ร ใหแ ปลง อิ หรอื อี เปน ย แลว ลบ อ ที่ อตุ ตฺ ร แลว นำไปเชอื่ มทพ่ี ยญั ชนะตวั สดุ ทา ยของสงั ขยา เชน ๕๒๒ ใชสังขยาวา ทวฺ าวสี ตยฺ ตุ ตฺ รปฺจสตํ ๗๙๑ ใชส ังขยาวา เอกนวุตฺยตุ ฺตรสตตฺ สตํ ๖๐๕๙ ใชส ังขยาวา เอกนู ส ยฺ ตุ ตฺ รฉสหสสฺ ํ สงั ขยานาม ตอ กบั สังขยานาม ใช อธกิ เช่ือม ๑๕๐๐ ใชสงั ขยาวา ปจฺ สตาธกิ สหสสฺ ํ ๒๒๐๐ ใชสงั ขยาวา ทฺวิสตาธิกทวฺ ิสหสฺสํ ๓๔๐๐ ใชส งั ขยาวา จตสุ ตาธกิ ติสหสฺสํ ๖๓๐๐ ใชสังขยาวา ติสตาธกิ ฉสหสฺสํ ๘๙๐๐ ใชสงั ขยาวา นวสตาธกิ สหสสฺ ํ ๙๖๐๐ ใชสงั ขยาวา ฉสตาธิกนวสหสสฺ ํ สังขยานาม ตอ กบั สังขยานาม และ สงั ขยาคณุ นาม ใช อธกิ และ อตุ ตฺ ร เชือ่ ม ๒๕๕๘ ใชส ังขยาวา อ ปฺ าสตุ ตฺ รปฺจสตาธกิ ทวฺ ิสหสสฺ ํ ๑๘๓๙ ใชสงั ขยาวา เอกนู จตฺตาีสุตตฺ รสตาธกิ สหสสฺ ํ ๒๕๖๓ ใชสงั ขยาวา เตสยฺ ตุ ฺตรปฺจสตาธิกทวฺ สิ หสฺสํ ๒๒๒๒ ใชส งั ขยาวา ทวฺ าวสี ตฺยตุ ตฺ รทวฺ สิ ตาธกิ ทฺวสิ หสฺสํ ๔๓๙๓ ใชสงั ขยาวา เตนวุตฺยตุ ตฺ รติสตาธกิ จตสุ หสฺสํ ๗๘๘๘ ใชสงั ขยาวา อ าสตี ฺยตุ ฺตรสตาธกิ สตตฺ สหสฺสํ การตอสงั ขยานามบทสดุ ทา ยเปนเลข ๑ เชน หนง่ึ รอ ย หนึ่งพัน ประกอบเปน เอกวจนะ สวน สงั ขยานามบทสดุ ทา ยเปน เลข ๒-๙ ประกอบเปน เอกวจนะ หรือ พหวุ จนะ กไ็ ด เชน ๑๑๘ ใชสงั ขยาวา อ ารสตุ ตฺ รสตํ ๑๓๒ ใชสังขยาวา ทวฺ ตตฺ สึ ุตตฺ รสตํ ๑๒๐๐ ใชสงั ขยาวา ทฺวสิ ตาธิกสหสฺสํ ๑๘๒๖ ใชส ังขยาวา ฉพพฺ สี ตฺยตุ ตฺ รสตาธกิ สหสฺสํ ๓๕๐ ใชส ังขยาวา ปฺาสุตตฺ รติสตานิ ๔๘๒ ใชส ังขยาวา ทฺวาสีตยฺ ตุ ตฺ รจตสุ ตานิ ๒๐๒๐ ใชส งั ขยาวา วสี ตยฺ ตุ ฺตรทฺวสิ หสสฺ านิ ๗๕๐๐ ใชส ังขยาวา ปจฺ สตาธกิ สตตฺ สหสสฺ านิ การตอ สงั ขยาแบบแยกวิภตั ติ การตอสงั ขยาท่กี ลาวมาขางตน เปน การตอ แบบเขาสมาส คอื ลบวภิ ตั ตนิ ามออกทงั้ หมด ยกเวน สงั ขยานามบทสดุ ทายทเ่ี ปนประธานตอ งประกอบเปน เอกวจนะหรือพหวุ จนะ นอกจากนย้ี ังมกี ารตอสงั ขยา แบบแยกวภิ ตั ติ มีขอ ท่คี วรพจิ ารณา

ค่มู อื การอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๖๖ สังขยานามบทสดุ ทา ยเปน เลข ๑ ประกอบเปน เอกวจนะ ใช อตุ ฺตร และ อธกิ เช่ือม ตอ งประกอบ ใหม ลี งิ ค วจนะ และวภิ ตั ติ เสมอกบั ตวั ประธาน สังขยานามบทสดุ ทายเปนเลข ๒ – ๙ ประกอบเปนพหวุ จนะ ใช อตุ ตฺ ร และ อธิก เชอ่ื ม ตอ ง ประกอบใหม ีลิงค วจนะ และวิภตั ติ เสมอกบั ตวั ประธานดวยเชน เดยี วกนั เชน ๑๔๕ ใชสังขยาแบบแยกวิภตั ตวิ า ปจฺ จตฺตาีสาย อตุ ฺตรํ สตํ อ.รอย อนั เกนิ ดวยสส่ี บิ หา ๑๘๓๕ ใชสังขยาแบบแยกวิภตั ตวิ า ปจฺ ตฺตสึ าย อตุ ฺตรํ อหิ สเตหิ อธกิ ํ สหสสฺ ํ อ.พนั อนั ยงิ่ ดวยรอ ย ท. แปด อนั เกนิ ดว ยสามสบิ หา ๔๗๕ ใชสังขยาแบบแยกวิภตั ตวิ า ปจฺ สตฺตติยา อุตตฺ รานิ จตฺตาริ สตานิ อ.รอย ท. ส่ี อนั เกนิ ดว ยเจด็ สบิ หา ๒๕๖๓ ใชสังขยาแบบแยกวิภตั ตวิ า เตสิยา อตุ ตฺ รานิ ปจฺ หิ สเตหิ อธกิ านิ เทวฺ สหสสฺ านิ อ.พัน ท. สอง อนั ย่งิ ดว ยรอย ท. หา อนั เกนิ ดว ยหกสิบสาม การตอ สงั ขยาแทรกนาม ตอ แบบแยกวภิ ัตติ แทรกนามหลงั สงั ขยาคณุ นาม และหนา สงั ขยานาม นามหลงั สังขยาคุณนาม ประกอบตตยิ าวภิ ตั ติ และใชว จนะใหต รงกนั สว นนามหนา สงั ขยานาม ประกอบฉฏั ฐีวิภัตติ พหวุ จนะ เชน บุรษุ ๑๐๑ คน เอเกน ปรุ เิ สน อุตตฺ รํ ปรุ ิสานํ สตํ อ.รอ ย แหงบรุ ุษ ท. อนั เกนิ ดวยบรุ ษุ หนงึ่ อบุ าสกิ า ๓๒๒ คน ทวฺ าวสี ตยิ า อุปาสิกาหิ อุตตฺ รานิ ตีณิ อุปาสกิ านํ สตานิ อ.รอ ย ท. แหง อบุ าสกิ า ท. สาม อนั เกนิ ดว ยอบุ าสกิ า ท. ย่ีสิบ สอง พระอรหันต ๑๒๕๐ องค ปฺาสาย อรหนฺเตหิ อุตตฺ รํ ทฺวีหิ อรหนตฺ านํ สเตหิ อธิกํ อรหนฺตานํ สหสฺสํ อ.พนั แหง พระอรหนั ต ท. อนั ย่ิง ดว ยรอย ท. แหงพระอรหันต ท. สอง อนั เกนิ ดว ยพระอรหนั ต ท. หา สบิ ภิกษุ ๔๘๖๙ รปู เอกนู สตตฺ ตยิ า ภิกขฺ หู ิ อตุ ตฺ รานิ อหิ ภกิ ขฺ ูนํ สเตหิ อธิกานิ จตตฺ าริ ภกิ ขฺ ูนํ สหสฺสานิ อ.พัน ท. แหง ภิกษุ ท. ส่ี อนั ยง่ิ ดว ยรอ ย ท. แหงภกิ ษุ ท. แปด อนั เกนิ ดว ยภกิ ษุ ท. เจด็ สบิ หยอนหน่งึ ตอ แบบเขา สมาส ใหลบวภิ ัตติของสงั ขยานาม และสทุ ธนามออกทงั้ หมด ยกเวน สงั ขยานามบท สุดทา ยท่เี ปน ประธาน ในกรณีที่เปนเลข ๑ ประกอบเปน เอกวจนะ และกรณีที่เปน เลข ๒ – ๙ ประกอบเปน พหวุ จนะ แทรกนามไวห ลงั สงั ขยาคุณนามศพั ทแ รกและหนา สงั ขยานามศัพทสุดทา ยท่เี ปน ประธาน หรือ แทรกนามไวห นา สงั ขยานามศัพทส ุดทา ยทเ่ี ปน ประธาน ทีเ่ ดยี วกไ็ ด

ค่มู อื การอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๖๗ บรุ ษุ ๑๐๑ คน เอกปรุ ิสตุ ตฺ รปรุ สิ สตํ หรือ อุบาสกิ า ๓๒๒ คน เอกตุ ตฺ รปรุ สิ สตํ พระอรหนั ต ๑๒๕๐ องค ทฺวาวสี ตฺยปุ าสกิ ุตตฺ รตยฺ ปุ าสิกาสตานิ หรอื ภิกษุ ๔๘๖๙ รูป ทฺวาวสี ตยฺ ตุ ตฺ รตฺยปุ าสกิ าสตานิ การตอ สังขยาแบบศักราช ปฺาสารหนฺตุตตฺ รทวฺ ิสตาธิการหนตฺ สหสสฺ ํ หรือ ปฺาสุตตฺ รทวฺ ิสตาธกิ ารหนฺตสหสสฺ ํ เอกูนสตตฺ ตภิ กิ ขฺ ตุ ฺตรสตาธิกจตุภกิ ขฺ สุ หสสฺ านิ หรือ เอกนู สตตฺ ตยฺ ตุ ตฺ รสตาธกิ จตุภิกขฺ สุ หสสฺ านิ เอกวจนะ ใช อิทาน.ิ .....อติกฺกนตฺ ํ บดั นี้ลวงแลว ๑๘๕ ป อทิ านิ ปฺจาสตี ิสวํ จฺฉรุตตฺ รํ สํวจฉฺ รสตํ อตกิ ฺกนตฺ ํ บดั นี้ลวงแลว ๑,๘๒๖ ป อิทานิ ฉพพฺ สี ตสิ วํ จฉฺ รตุ ตฺ ร สตาธิกํ สวํ จฉฺ รสหสสฺ ํ อติกกฺ นตฺ ํ บดั นี้ลวงแลว ๑,๓๙๗ ป อิทานิ สตตฺ นวุตสิ วํ จฉฺ รตุ ตฺ รตสิ ตาธิกํ สวํ จฉฺ รสหสสฺ ํ อตกิ กฺ นตฺ ํ พหุวจนะ ใช อทิ านิ......อตกิ กฺ นตฺ านิ บดั น้ีลวงแลว ๔๓๓ ป อิทานิ เตตฺตสึ สวํ จฉฺ รตุ ฺตรานิ จตตฺ าริ สวํ จฉฺ รสตานิ อตกิ กฺ นฺตานิ บัดนี้ลวงแลว ๒๕๖๓ ป อิทานิ เตส ิสวํ จฉฺ รตุ ตฺ รปฺจสตาธกิ านิ เทฺว สํวจฉฺ รสหสฺสานิ อตกิ ฺกนตฺ านิ บดั นี้ลวงแลว ๒๓๓๑ ป อิทานิ เอกตฺตึสสวํ จฉฺ รตุ ตฺ รตสิ ตาธกิ านิ เทวฺ สวํ จฺฉรสหสสฺ านิ อตกิ กฺ นตฺ านิ ปรู ณสังขยา คอื คำที่ใชนบั ใหเ ต็มหรือนับตามลำดบั ทมี่ อี ยใู นที่นนั้ ๆ ภาษาไทยมคี ำแปลวา ที่ เชน ที่ ๑ ที่ ๒ ท่ี ๓ เปน ตน สว นในภาษาบาลีใหน ำปจ จัย ๕ ตัว คอื ตยิ ถ  ม อี มา ลงหลงั ปกตสิ งั ขยาสำเร็จแลว ใชเปน คุณนาม เปน ได ๓ ลงิ ค และเปนเอกวจนะอยา งเดยี ว ปูรณสงั ขยาเปน คณุ นาม มใี ชท ั้ง ๓ ลงิ ค เอกวจนะอยางเดยี ว ใหจ ำแนกตามสุทธนามในลงิ คแ ละ การนั ตน ้ัน ๆ ดังนี้ ปงุ ลงิ ค อติ ถลี ิงค นปงุ สกลงิ ค คำแปล ปโม ปมา ปมํ ที่ ๑ ทุติโย ทุตยิ า ทุติยํ ที่ ๒ ตตโิ ย ตติยา ตติยํ ที่ ๓ จตุตโฺ ถ จตุตถฺ า จตตุ ฺถี จตุตถฺ ํ ท่ี ๔ ปจฺ โม ปจฺ มา ปจฺ มี ปฺจมํ ที่ ๕ ฉโ  ฉา ฉี ฉํ ที่ ๖

ค่มู ือการอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๖๘ สตฺตโม สตตฺ มา สตตฺ มี สตตฺ มํ ที่ ๗ อ โม อ มา อ มี อ มํ ท่ี ๘ นวโม นวมา นวมี นวมํ ท่ี ๙ ทสโม ทสมา ทสมี ทสมํ ท่ี ๑๐ เอกาทสโม เอกาทสมา เอกาทสี เอกาทสมํ ที่ ๑๑ ทฺวาทสโม พารสโม ทวฺ าทสี พารสี ทฺวาทสมํ พารสมํ ท่ี ๑๒ เตรสโม เตรสี เตรสมํ ท่ี ๑๓ จตทุ ทฺ สโม จตุทฺทสมา จตทุ ทฺ สี จตุททฺ สมํ ท่ี ๑๔ ปณณฺ รสโม ปณณฺ รสมา ปณฺณรสี ปณฺณรสมํ ท่ี ๑๕ โสฬสโม โสฬสี โสฬสมํ ที่ ๑๖ สตตฺ รสโม สตฺตรสี สตฺตรสมํ ท่ี ๑๗ อ รสโม อ รสี อ รสมํ ที่ ๑๘ เอกนู วสี ตโิ ม เอกนู วสี ตมิ า เอกูนวีสตมิ ํ ที่ ๑๙ วสี ตโิ ม วสี ติมา วีสติมํ ท่ี ๒๐ ตึสตโิ ม ตสึ ตมิ า ตสึ ตมิ ํ ท่ี ๓๐ จตฺตาสี โม จตตฺ าีสมา จตตฺ าีสมํ ท่ี ๔๐ ปฺ าสโม ปฺ าสมา ปฺาสมํ ที่ ๕๐ การใชปรู ณสงั ขยา ใชเปน คณุ นาม ขยายสุทธนามบทใด ใหเ รยี งไวห นา บทนน้ั ประกอบลิงค วจนะ และวิภตั ติ ใหต รงกัน มตี วั อยางการใชด ังนี้ ปโม ภิกขฺ ุ อ.ภิกษุ รปู ที่ ๑ ปฺจวสี ติโม อปุ าสโก อบุ าสก คนท่ี ๒๕ ทตุ ยิ า ภกิ ฺขนุ ี อ.ภิกษณุ ี รปู ท่ี ๒ ตตยิ ํ กมลํ อ.ดอกบัว ดอกท่ี ๓ ฉ ํ คามํ ซ่งึ หมูบา น ที่ ๖ จตตุ เฺ ถน วาเรน โดยวาระ ท่ี ๔ นวมสฺส ปตุ ฺตสสฺ แกบ ตุ ร คนท่ี ๙ ปฺจมาย นทิยา จากแมน ำ้ สายท่ี ๕ โสฬสมสสฺ สิสสฺ สสฺ ของศิษย คนที่ ๑๖ สตตฺ เม ทิวเส ในวนั ท่ี ๗ ๓.๖ สมาส สมาส คอื การยอ นามศพั ท นบิ าต และอปุ สรรค ตัง้ แต ๒ ศัพทข ึ้นไป เขา เปน บทเดียวกนั คำวา “สมาส” มาจาก สํ บทหนา อสฺ ธาตุ ในความยอ ลง ณ ปจจัยในนามกติ ก ปจจัยท่เี นอ่ื งดว ย ณ ใหล บ ณ แลวทฆี ะ อ ตน ธาตุ เปน อา แปลงนคิ หติ ท่ี สํ เปน ม สำเร็จรูปเปน สมาส มบี ทวเิ คราะหว า สมสยิ เตติ สมาโส (สทโฺ ท) แปลวา อ.ศพั ท ใด อนั ทา น ยอ มยอเขา กันดว ยดี เพราะเหตนุ ัน้ อ.ศัพท น้ัน ชอ่ื วา สมาส

ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๖๙ สมาสวา โดยกจิ (วธิ ีการทำ) มี ๒ อยา ง คือ ๑. ลุตตฺ สมาส สมาสท่ลี บวิภตั ติของศพั ทหนา ใหล บพยางคท า ยคำของบทหนา เหลือไวแตสระ สุดทายของศัพทเดมิ แลวยอเขา กบั บทหลงั ใหเปนบทเดียวกัน เชน กนิ สฺส ทุสฺสํ ยอเปน กนิ ทุสฺสํ (ผาเพ่ือกฐนิ ) พทุ ฺธสสฺ สาวโก ยอเปน พทุ ฺธสาวโก (สาวกของพระพุทธเจา) มหาราชสฺส ธนํ ยอเปน มหาราชธนํ (ทรพั ยข องมหาราช) ๒. อลตุ ตฺ สมาส สมาสท่ไี มล บวิภัตตขิ องศพั ทหนา ไมลบพยางคท า ยคำของบทหนา เพียงแตน ำมา ตอเขา ดว ยกนั กับบทหลงั ใหเ ปน บทเดียวกนั เชน ปรสสฺ ปทํ ยอเปน ปรสสฺ ปทํ (บทเพ่อื ผอู ืน่ ) พทุ ฺธานํ สาสนํ ยอเปน พทุ ฺธานสํ าสนํ (คำสอนของพระพทุ ธเจา ทั้งหลาย) อรุ สิ โลโม ยอ เปน อรุ สโิ ลโม (ขนที่อก) ลกั ษณะของสมาส ๓ อยา ง ๑. ประกอบเขา เปน บทเดยี วกัน ๒. สวดใหเปน บทเดียวกนั (ไมเวนวรรคกลางสมาส) ๓. มวี ิภตั ติตวั เดยี วกนั สมาสวา โดยชอ่ื มี ๖ อยาง ๒.ทิคุสมาส ๑.กมั มธารยสมาส ๔.ทวนั ทวสมาส ๓.ตปั ปุรสิ สมาส ๖.พหพุ พิหสิ มาส ๕.อัพยยีภาวสมาส ๑. กัมมธารยสมาส กัมมธารยสมาส คอื สมาสทีย่ อสุทธนามกบั สุทธนาม สุทธนามกบั คุณนาม หรอื คณุ นามกบั คณุ นาม ท่มี วี ิภตั ติและวจนะเหมอื นกนั เขาดว ยกนั แบง ออกเปน ๙ อยา ง คอื ๑. วเิ สสนปพุ พปทะ มบี ทวเิ สสนะ(ตวั ขยาย)อยหู นา เชน มหนฺโต จ โส ปุรโิ ส จาติ มหาปุริโส. คนผปู ระเสรฐิ ดว ย คนผปู ระเสริฐนัน้ เปน บุรุษดวย เพราะเหตุนนั้ ชอ่ื วา มหาปุรสิ ะ มหนตฺ ํ จ ตํ ภยํ จาติ มหพภฺ ย.ํ สง่ิ นา กลวั ใหญดว ย ส่งิ นากลวั ใหญน ้ัน เปน ภัยดว ย เพราะเหตนุ น้ั ชื่อวา มหพั ภยะ วโี ร จ โส ปรุ โิ ส จาติ วรี ปุรโิ ส. ผูก ลา หาญดว ย ผกู ลาหาญนนั้ เปน บรุ ษุ ดว ย เพราะเหตนุ ัน้ ชื่อวา วรี ปรุ สิ ะ ๒. วเิ สสนตุ ตรปทะ มบี ทวเิ สสนะ(ตวั ขยาย)อยหู ลงั เชน สาริปตุ ฺโต จ โส เถโร จาติ สารปิ ตุ ตฺ ตเฺ ถโร. พระสารบี ุตรดวย พระสารีบตุ รน้นั เปนพระเถระดวย เพราะเหตนุ ัน้ ชื่อวา สารปิ ุตตัตเถระ พุทธฺ โฆโส จ โส อาจรโิ ย จาติ พทุ ธฺ โฆสาจรโิ ย. พระพทุ ธโฆสะดว ย พระพุทธโฆสะนั้น เปน อาจารยด ว ย เพราะเหตุนนั้ ชอื่ วา พทุ ธโฆสาจรยิ ะ

ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๗๐ วตถฺ ุ จ ตํ วเิ สโส จาติ วตถฺ วุ ิเสโส. วตั ถุดว ย วตั ถุนนั้ เปนความพเิ ศษดว ย เพราะเหตุนนั้ ชอ่ื วา วตั ถุวเิ สสะ ๓. วเิ สสโนภยปทะ มบี ททัง้ ๒ เปน วิเสสนะ(ทำหนา ที่ขยายบทอน่ื ทงั้ สองศัพท) เชน สีตฺจ ตํ อุณหฺ จฺ าติ สตี ณุ หฺ ํ(วตฺถ)ุ . วตั ถนุ นั้ เยน็ ดว ย รอ นดว ย เพราะเหตนุ ้ัน ช่ือวา สตี ุณหะ อนฺโธ จ โส พธโิ ร จาติ อนธฺ พธิโร(ปรุ โิ ส). บรุ ุษนนั้ ตาบอดดว ย หหู นวกดวย เพราะเหตนุ ัน้ ชื่อวา อันธพธริ ะ กตจฺ ตํ อกตจฺ าติ กตากต(ํ กมฺม)ํ . กรรมน้ัน อนั ถูกกระทำแลว ดว ย อันไมถ กู กระทำแลว ดวย เพราะเหตนุ น้ั ชือ่ วา กตากตะ ๔. อุปมานตุ ตรปทะ มบี ทหลังเปน บทอปุ มา(เปรียบเทยี บ) เชน มุนิ จ โส สีโห จาติ มุนิสโี ห. พระมุนดี วย พระมุนนี นั้ เปน เพียงดงั สีหะ(ราชสหี )ดวย เพราะเหตนุ น้ั ช่อื วา มุนิสหี ะ สทฺธมฺโม จ โส รสํ ิ จาติ สทธฺ มฺมรํสิ. พระสัทธรรมดว ย พระสทั ธรรมน้ัน เปน เพียงดงั รศั มีดว ย เพราะเหตนุ น้ั ชอ่ื วา สทั ธรรมรังสิ มุขจฺ ตํ จนฺโท จาติ มขุ จนโฺ ท. หนาดวย หนา นนั้ เปน เพียงดงั พระจนั ทรด ว ย เพราะเหตนุ นั้ ชอื่ วา มขุ จนั ทะ ๕. สัมภาวนาปพุ พปทะ มีบทหนาประกอบดว ย อิติ ศพั ท ในอรรถแสดงการยกยอ ง ขนั้ กลาง ระหวา งบทหนาและบทหลัง เชน ธมโฺ ม อิติ พุทธฺ ิ ธมฺมพทุ ฺธ.ิ ความรู วาเปน พระธรรม ชอื่ วา ธมั มพทุ ธิ อนิจจฺ ํ อิติ สฺ า อนิจฺจสฺา. ความจำไดหมายรู วา เปน สงิ่ ไมเ ท่ยี ง ชื่อวา อนิจจสญั ญา อตฺตา อติ ิ ทิิ อตตฺ ทิ .ิ ความเหน็ วาเปน ตวั ตน ชอ่ื วา อตั ตทฏิ ฐิ ๖. อวธารณปพุ พปทะ มีบทหนา เปน บททถ่ี กู กำหนด โดยประกอบดว ย เอว ศพั ทเปน ตวั กลา ว กำหนด เพ่ือหา มเนอ้ื ความอน่ื เชน สทฺธา เอว ธนํ สทธฺ าธนํ. ศรทั ธา นนั่ เทยี ว เปนทรพั ย ชื่อวา สัทธาธนะ รูปเมว อารมฺมณํ รูปารมมฺ ณ.ํ รูป นั่นเทยี ว เปน อารมณ ชอื่ วา รปู ารัมมณะ จกฺขุ เอว ทฺวารํ จกขฺ ทุ ฺวารํ. จักษุ นน่ั เทยี ว เปน ทวาร ชอ่ื วา จกั ขุทวาระ ๗. นนปิ าตปุพพปทะ มี น นบิ าตเปน บทหนา เพ่อื หามหรอื ปฏเิ สธ เชน น มนสุ ฺโส อมนุสฺโส. มนษุ ย หามไิ ด ช่อื วา อมนสุ สะ(ผไู มใ ชม นุษย) น สกํ ลิ ิ  า อสกํ ิลิ า.

ค่มู อื การอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๗๑ (ธรรม)อนั เศรา หมองทัง้ หลาย หามไิ ด ชือ่ วา อสงั กิลฏิ ฐะ(ธรรมอันไมเ ศรา หมอง) น อุปวาโท อนูปวาโท. การวา ราย หามิได ชือ่ วา อนปู วาทะ(การไมวา ราย) ๘. กปุ พุ พปทะ มี กุ นบิ าตเปน บทหนา ในอรรถนา รงั เกยี จ เชน กจุ ฉฺ ิโต ปุรโิ ส กาปรุ โิ ส. บุรุษ ผนู ารงั เกยี จ ชอ่ื วา กาปรุ ิสะ กุจฺฉติ า ทิ ิ กทุ ิ .ิ ความเหน็ อนั นารงั เกยี จ ชอ่ื วา กทุ ิฏฐิ กุจฺฉติ า ทาสา กทุ าสา. ทาสทงั้ หลาย ผนู า รงั เกียจ ชอ่ื วา กุทาสะ ๙. ปาทิปุพพปทะ มี ป อปุ สคั เปน ตน เปนบทหนา เชน ปธานํ วจนํ ปาวจน.ํ คำพูด ทเ่ี ปน ประธาน ชอ่ื วา ปาวจนะ(ปาพจน, พระพุทธพจน) สนุ ฺทโร คนโฺ ธ สคุ นฺโธ. กล่ิน อนั ดี ช่อื วา สคุ ันธะ ววิ ธิ า มติ วิมต.ิ ความรู อนั มอี ยางตา งๆ ชอื่ วา วิมติ (ความรมู ีอยา งตา งๆ,ความสงสยั ) ๒. ทคิ สุ มาส ทิคสุ มาส คอื กมั มธารยสมาสทม่ี ปี กติสังขยาเปน บทหนา แบง ออกเปน ๒ อยา ง คือ ๑. สมาหารทิคุ ทคิ ุสมาสยอ นามศพั ทกบั สงั ขยาในลงิ คต า ง ๆ ทเ่ี ปนพหุวจนะ ทำใหเ ปน นปุงสกลงิ คเอกวจนะ เชน ตโย โลกา ติโลกํ. โลกทั้งหลาย ๓ ช่อื วา ติโลกะ จตตฺ าโร มคฺคา จตุมคฺค.ํ มรรคทง้ั หลาย สี่ ชอ่ื วา จตมุ ัคคะ ปฺจ สตานิ ปจฺ สตํ. รอ ยทัง้ หลาย หา ช่อื วา ปญจสตะ อ สลี านิ อ สีล.ํ ศลี ทัง้ หลาย แปด ชื่อวา อัฏฐสลี ะ ทส สลี านิ ทสสลี ํ. ศลี ทง้ั หลาย สบิ ชื่อวา ทสสลี ะ ฉ อายตนานิ สฬายตนํ. อายตนะท้ังหลาย หก ชอ่ื วา สฬายตนะ เทฺว องฺคุลโิ ย ทฺวงคฺ ลุ .ํ นิ้วทั้งหลาย สอง ช่ือวา ทวังคลุ ะ ตณี ิ ลกฺขณานิ สมาหฏานตี ิ ตลิ กฺขณ.ํ

ค่มู อื การอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๗๒ ลักษณะทั้งหลาย สาม ถูกรวบรวมแลว เพราะเหตนุ นั้ ชอื่ วา ตลิ ักขณะ จตตฺ าริ สจจฺ านิ สมาหฏานตี ิ จตุสสฺ จฺจํ. สจั จะทั้งหลาย ส่ี ถกู รวบรวมแลว เพราะเหตนุ น้ั ชอ่ื วา จตุสสจั จะ ๒. อสมาหารทิคุ ทคิ ุสมาสที่ยอ นามศพั ทกบั สังขยา มอี รรถไมร วบรวม รปู สำเร็จจะเปนไปตามลงิ ค ของบทหลงั และจะเปน เอกวจนะหรอื พหวุ จนะกไ็ ด เชน เอโก ปคุ คฺ โล เอกปคุ ฺคโล. บุคคล หนง่ึ ชอื่ วา เอกปคุ คละ(บุคคลคนหนงึ่ ) ตโย โลกา ติโลกา. โลกทั้งหลาย สาม ชอื่ วา ตโิ ลกา(โลกสามทงั้ หลาย) ตีณิ รตนานิ ตริ ตนานิ. รตั นะทัง้ หลาย สาม ชือ่ วา ตริ ตนาน(ิ รตั นะสามทงั้ หลาย) จตสโฺ ส ทิสา จตทุ ฺทสิ า. ทิศทั้งหลาย ๔ ชอ่ื วา จตทุ ทิสา(ทศิ ส่ีท้งั หลาย) ปฺจ พลานิ ปฺจพลานิ. กำลงั ทั้งหลาย หา ชื่อวา ปญ จพลาน(ิ กำลงั หา ท้ังหลาย) นว โลกตุ ตฺ รา นวโลกุตตฺ รา. โลกุตตรธรรมทั้งหลาย เกา ชอ่ื วา นวโลกตุ ตรา(โลกตุ ตรธรรมเกา ทง้ั หลาย) ๓. ตปั ปุริสสมาส ตปั ปุริสสมาส คอื สมาสทีย่ อ นาม ๒ บททม่ี ีวิภัตตติ างกัน เขาเปน บทเดียวกนั แบง ออกเปน ๖ อยา ง ตามลำดบั ตง้ั แตท ตุ ิยาวภิ ตั ติถงึ สตั ตมีวภิ ตั ติ ดงั น้ี ๑. ทตุ ยิ าตปั ปรุ ิสะ บทหนาประกอบดวยทตุ ยิ าวภิ ตั ติ ออกสำเนียงอายตนบิ าตวา “ซง่ึ สู ยงั ส้นิ กะ ตลอด เฉพาะ” เชน สรณํ คโต สรณคโต. ผถู ึง (ซ่ึงพระพุทธเจา) วา เปนสรณะ ชื่อวา สรณคตะ(ชนผูถงึ ซึง่ พระพุทธเจา วา เปนสรณะ) อรฺํ คโต อรฺคโต. ไปแลว สปู า ชอื่ วา อรญั ญคตะ(บรุ ุษผูไปแลว สูป า ) สุขํ ปตโฺ ต สขุ ปปฺ ตโฺ ต. ถงึ แลว ซงึ่ ความสุข ชอื่ วา สขุ ปั ปต ตะ(ชนผถู ึงแลว ซ่งึ ความสุข) ๒. ตตยิ าตปั ปรุ สิ ะ บทหนาประกอบดว ยตตยิ าวภิ ัตติ ออกสำเนียงอายตนิบาตวา “ดวย โดย อนั ตาม เพราะ ม”ี เชน พทุ ฺเธน ภาสโิ ต พุทฺธภาสโิ ต. (พระธรรม) อนั พระพทุ ธเจา ทรงภาษิตแลว ชือ่ วา พทุ ธภาสติ ะ อสนิ า กลโห อสกิ ลโห. ความทะเลาะ เพราะดาบ ชอื่ วา อสกิ ลหะ โภเคน สมฺปทํ โภคสมฺปทํ. ความถงึ พรอม ดว ยโภคะ ชอื่ วา โภคสัมปทะ

ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๗๓ อน่งึ ตติยาตัปปุรสิ สมาสน้ี มีลักษณะพเิ ศษ คอื บทใดแปลเชอ่ื มความระหวางบทหนาและบทหลงั ไดค วามไมชดั เจน ใหเติมกรยิ ากิตกท ี่มีคำแปลเช่อื มไดด กี บั บทหนา เขามาในระหวา งกลางระหวา งบทหนา กบั บทหลังในรปู วเิ คราะห เม่อื ยอ เสรจ็ ใหลบกริยากติ กท เี่ ตมิ เขามาในทามกลางออก เชน นเ้ี รยี กวา มัชเฌ โลปสมาส ตวั อยา งในภาษาไทยก็ใชค ำพูดแบบยอ เหมือนกนั เชน คนเดนิ ดว ยเทา ยอเปน คนเดนิ เทา สตั ว เกิดในน้ำ ยอ เปน สตั วน ำ้ เปนตน ในภาษาบาลกี ม็ ีคตดิ จุ เดียวกัน เชน อสฺเสน (ยตุ โฺ ต) รโถ อสฺสรโถ. รถ อนั เทยี มแลว ดว ยมา ชอื่ วา อสั สรถะ(รถมา) หตเฺ ถน (กตตฺ พพฺ )ํ กมมฺ ํ หตฺถกมมฺ .ํ กรรม อนั บุคคลพึงทำ ดว ยมอื ชอ่ื วา หตั ถกมั มะ(หตั ถกรรม) กเน (กโต) อคาโร กาคาโร. เรอื น อันบคุ คลทำแลว ดวยไม ชอื่ วา กัฏฐาคาระ(เรอื นไม) โมเหน (สมฺปยตุ ตฺ ํ) จติ ตฺ ํ โมหจติ ฺตํ. จติ อนั ประกอบพรอมแลว ดวยโมหะ ชื่อวา โมหจติ ตะ(โมหจติ ) สนตฺ เกน (ตุ โ) ภกิ ฺขุ สนตฺ กภกิ ฺขุ. ภิกษุ ผยู ินดแี ลว ดวยของมอี ยู ชอื่ วา สนั ตกภิกขุ(สนั ตกภกิ ษ)ุ ๓. จตตุ ถตี ัปปรุ สิ ะ มบี ทหนาเปน สทุ ธนามประกอบดว ยจตุตถีวภิ ตั ติ ออกสำเนยี งอายตนบิ าตวา “แก เพอ่ื ตอ ” และบทหลงั เปน สุทธนาม แปลงทายคำเปน ปฐมาวภิ ตั ติ กตั ตกุ ารก เชน กินสฺส ทุสฺสํ กินทสุ สฺ .ํ ผา เพื่อกฐนิ ชอื่ วา กฐินทสุ สะ คลิ านสสฺ เภสชชฺ ํ คลิ านเภสชชฺ .ํ ยา เพ่ือคนไข ช่ือวา คลิ านเภสัชชะ อาคนฺตกุ สสฺ ภตตฺ ํ อาคนตฺ กุ ภตฺตํ. ภัต เพื่อผูมาเยือน ชอื่ วา อาคนั ตกุ ภัตตะ มตกสฺส ภตตฺ ํ มตกภตฺต.ํ ภัตร เพื่อผตู าย ช่ือวา มตกภตั ตะ ๔. ปญจมีตัปปรุ สิ ะ มบี ทหนา ประกอบดว ยปญ จมวี ภิ ตั ติ ออกสำเนียงอายตนิบาตวา “แต จาก กวา เหต”ุ มบี ทหลงั เปน สทุ ธนาม คุณนาม หรอื สพั พนาม แปลงทา ยคำเปน ปฐมาวภิ ัตติ กตั ตกุ ารก ใหถ กู ตามการนั ต และลงิ คน ัน้ ๆ เชน อคฺคิสฺมา ภยํ อคฺคิภย.ํ ภยั แตไ ฟ ชือ่ วา อคั คภิ ยะ(อัคคภี ยั ) โจรมฺหา ภยํ โจรภยํ. ภยั แตโ จร ชอื่ วา โจรภยะ(โจรภยั ) กากสมฺ า สูโร กากสโู ร (นโร). (คน)กลา กวากา ช่อื วา กากสรู ะ(กลากวา กา) โลกา จโุ ต โลกจโุ ต (สตฺโต). (สัตว)เคลือ่ นแลว จากโลก ช่อื วา โลกจตุ ะ(เคล่อื นจากโลก)

ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๗๔ พนธฺ นา มุตโฺ ต พนธฺ นมตุ โฺ ต (สตโฺ ต). (สตั ว)พน แลว จากเคร่ืองผกู ชอื่ วา พันธนมตุ ตะ (พนเครอ่ื งผกู ) ๕. ฉัฏฐตี ัปปุรสิ ะ มบี ทหนา ประกอบดวยฉัฏฐวี ภิ ตั ติ ออกสำเนยี งอายตนบิ าตวา “แหง ของ” มี บทหลังเปน สทุ ธนาม แปลงทา ยคำเปน ปฐมาวิภตั ติ กัตตกุ ารก ตามการนั ต และลงิ คน้นั ๆ เชน พทุ ธฺ สสฺ สาวโก พทุ ธฺ สาวโก. สาวก ของพระพทุ ธเจา ชือ่ วา พทุ ธสาวกะ เส โิ น ปตุ ฺโต เสปิ ุตฺโต. บตุ ร ของเศรษฐี ชือ่ วา เสฏฐิปตุ ตะ รฺโ ปตุ ฺโต ราชปตุ โฺ ต. บุตร ของพระราชา ช่ือวา ราชปุตตะ รุกฺขสฺส สาขา รกุ ฺขสาขา. กิ่ง แหง ตน ไม ชอ่ื วา รกุ ขสาขา ปฺาย อาภา ปฺาอาภา. แสงสวาง แหง ปญ ญา ชื่อวา ปญ ญาอาภา ถา อยหู นาศพั ทเหลานี้ คอื สงฺฆ(หมู) คณ(หมู) ราสิ(กอง) สมุห(ประชมุ ) ปกติสงั ขยาทีเ่ ปน สทุ ธ นาม ตงั้ แต เกา สบิ เกา(๙๙) ข้นึ ไป เชน เอกนู สตํ สตํ สหสฺสํ เปนตน ใหประกอบสทุ ธนามที่อยูหนา เปน ฉฏั ฐี วภิ ัตติ พหวุ จนะเสมอ เชน ภกิ ขฺ ูนํ สงฺโฆ ภิกฺขสุ งฺโฆ. หมู แหง ภกิ ษทุ ้ังหลาย ชอื่ วา ภกิ ขุสงั ฆะ(หมแู หง สงฆ) ทูตานํ คโณ ทตู คโณ. หมู แหง ทตู ทง้ั หลาย ชื่อวา ทูตคณะ(คณะแหง ทตู ) ธฺานํ ราสิ ธฺราสิ. กอง แหง ขาวเปลอื กทงั้ หลาย ชอ่ื วา ธญั ญราส(ิ กองแหงขาวเปลือก) มนสุ ฺสานํ สมุโห มนสุ สฺ สมุโห. ประชมุ แหง มนษุ ยท ง้ั หลาย ชอ่ื วา มนสุ สสมหุ ะ(ประชมุ แหง มนษุ ย) ภกิ ขฺ นู ํ สตํ ภกิ ฺขุสต.ํ รอ ย แหงภิกษุทง้ั หลาย ชือ่ วา ภกิ ขสุ ตะ(รอ ยแหง ภิกษุ) ชนานํ สหสฺสํ ชนสหสสฺ .ํ พนั แหง ชนทงั้ หลาย ช่อื วา ชนสหัสสะ(พนั แหง ชน) ๖. สตั ตมตี ปั ปรุ สิ ะ มบี ทหนา เปนสุทธนามประกอบดว ยสัตตมวี ภิ ตั ติ ออกสำเนียงอายตนบิ าตวา “ใน ใกล ที่ ในเพราะ เหนอื บน” อยา งใดอยา งหนง่ึ มีบทหลงั เปน สทุ ธนาม แปลงทายคำเปน ปฐมาวิภตั ติ กัตตกุ ารก ตามการนั ตแ ละลงิ คน น้ั ๆ เชน ธมเฺ ม คารโว ธมฺมคารโว. ความเคารพ ในธรรม ชอื่ วา ธมั มคารวะ(ความเคารพในธรรม) สสํ าเร ทกุ ฺขํ สสํ ารทกุ ขฺ .ํ ความทกุ ข ในสงสาร ชอ่ื วา สงั สารทกุ ขะ(ทกุ ขใ นสงั สาร)

ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๗๕ วเน ปุปฺผํ วนปปุ ผฺ .ํ ดอกไม ในปา ชื่อวา วนปปุ ผะ(ดอกไมป า ) วเน มหิโส วนมหิโส. กระบอื ในปา ชอื่ วา วนมหสิ ะ(ควายปา ) รกุ เฺ ข สกุณา รกุ ขฺ สกณุ า. นกท้ังหลาย บนตนไม ชื่อวา รุกขสกุณา(นกบนตน ไม) รเู ป สฺ า รปู สฺา. ความหมายรู ในรปู ชอ่ื วา รปู สัญญา(ความหมายรูในรปู ) คามสฺมึ อาวาโส คามาวาโส. วัด ใกลหมบู าน ชอื่ วา คามาวาสะ(วัดใกลบ าน) ชเล มจฺฉา ชลมจฺฉา. ปลาท้งั หลาย ในนำ้ ช่ือวา ชลมจั ฉา(ปลาในนำ้ ) กาเล วสสฺ ํ กาลวสสฺ ํ. ฝน ในฤดูกาล ชอ่ื วา กาลวัสสะ(ฝนในฤดกู าล) วกิ าเล โภชนํ วกิ าลโภชน.ํ การกนิ อาหาร ในยามวิกาล ช่อื วา วกิ าลโภชนะ(การกนิ อาหารยามวกิ าล) ธมฺเม รจุ ิ ธมฺมรุจิ. ความชอบใจ ในธรรม ช่อื วา ธมั มรจุ ิ(ความชอบใจในธรรม) ธมเฺ ม รโต ธมฺมรโต. ยินดแี ลว ในธรรม ช่อื วา ธมั มรตะ(ผูยนิ ดใี นธรรม) จารเก พทโฺ ธ จารกพทฺโธ. ถูกมดั แลว ในเรือนจำ ช่ือวา จารกพทั ธะ(ผถู ูกมดั ในเรือนจำ) ๔. ทวนั ทวสมาส ทวันทวสมาส คือสมาสท่ยี อสุทธนามท่นี ิยมเปน คำคกู นั ตงั้ แตส องศัพทข ้นึ ไป ทกุ ๆศพั ทจะแปลง เปน บทปฐมาวภิ ตั ตเิ หมอื นกนั ใช จ ศพั ท ควบอยูทุกบท บทสำเรจ็ รวมเขา เปน บทเดยี วกนั แบง ออกเปน ๒ อยาง คอื สมาหารทวันทวสมาส และอสมาหารทวันทวสมาส ดงั นี้ ๑. สมาหารทวันทวสมาส ยอสุทธนามทมี่ ีลงิ คและวจนะตา งกนั บา ง เหมือนกันบาง ยอเขาเปนบท เดียวกัน รวบรวมบทตางลิงคตางวจนะใหม รี ปู สำเรจ็ เปน นปงุ สกลิงค เอกวจนะ เสมอไป เชน ปตฺโต จ จีวรจฺ ปตตฺ จีวรํ. บาตรดว ย จวี รดว ย ชอื่ วา ปต ตจวี ระ(บาตรและจวี ร) สมโถ จ วปิ สฺสนา จ สมถวปิ สฺสนํ. สมถะดว ย วปิ ส สนาดว ย ชื่อวา สมถวิปสสนะ(สมถะและวิปสสนา) สงฺโข จ ปณโว จ สงฺขปณว.ํ สงั ขด ว ย กลองบณั เฑาะวดว ย ชอื่ วา สงั ขปณวะ(สังขและกลองบัณเฑาะว) จกฺขุ จ โสตฺจ จกขฺ ุโสตํ. ตาดว ย หูดว ย ชอ่ื วา จกั ขโุ สตะ(ตาและห)ู

ค่มู อื การอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๗๖ มขุ จฺ นาสกิ า จ มขุ นาสกิ .ํ ปากดวย จมูกดวย ชอ่ื วา มขุ นาสกิ ะ(ปากและจมกู ) หนุ จ คีวา จ หนุคีว.ํ คางดว ย คอดว ย ชอ่ื วา หนคุ วี ะ(คางและคอ) ปุพพฺ า จ อปรา จ ปพุ พฺ าปรํ. ทศิ ตะวันออกดวย ทิศตะวนั ตกดว ย ชอ่ื วา ปุพพาประ(ทศิ ตะวันออกและทิศตะวนั ตก) ฑํสา จ มกสา จ ฑสํ มกสํ. เหลือบทงั้ หลายดว ย ยุงทง้ั หลายดวย ชอื่ วา ฑงั สมกสะ(เหลือบและยงุ ) กนุ ฺถา จ กปิ ล ลฺ กิ า จ กนุ ฺถกปิ ลฺลิก.ํ มดทั้งหลายดว ย ปลวกท้งั หลายดว ย ช่ือวา กนุ ถกิปลลิกะ(มดและปลวก) สากณุ กิ า จ มาควกิ า จ สากณุ กิ มาควกิ ํ. คนฆา นก ท.ดว ย คนฆาเน้ือ ท.ดว ย ชือ่ วา สากุณกิ มาควกิ ะ(พรานนกและพรานเนอ้ื ) หตถฺ ี จ อสโฺ ส จ รโถ จ ปตตฺ โิ ก จ หตฺถอี สสฺ รถปตตฺ กิ .ํ ชา งดว ย มา ดว ย รถดว ย คนเดนิ เทา ดว ย ชอื่ วา ชา งมารถและคนเดนิ เทา สงขฺ า จ ปณวา จ ฑิณฺฑิมา จ สงขฺ ปณวฑณิ ฺฑิมํ. สังข ท.ดว ย กลองบัฑเฑาะว ท.ดวย เปง มาง ท.ดว ย ช่อื วา สังขปณวฑิณฑมิ ะ(สังข กลอง บัณเฑาะว และเปงมาง) ๒. อสมาหารทวันทวสมาส ยอ สุทธนามท่มี วี จนะเหมอื นกนั สำเร็จแลว มลี งิ ค ตามบทหลงั และ เปน พหวุ จนะ เทา นนั้ เชน สารปิ ตุ โฺ ต จ โมคฺคลลฺ าโน จ สาริปตุ ฺตโมคคฺ ลลฺ านา. พระสารบี ตุ รดว ย พระโมคคลั ลานะดวย ชอ่ื วา สารปี ตุ ตโมคคลั ลานา(พระสารบี ตุ รและพระ โมคคลั ลานะท้ังหลาย) คหโ  จ ปพพฺ ชิโต จ คหปพฺพชิตา. คฤหัสถด ว ย บรรพชติ ดว ย ชื่อวา คหฏั ฐปพพชติ า(คฤหสั ถและบรรพชิตท้งั หลาย) มาตา จ ปต า จ มาตาปต โร. มารดาดว ย บดิ าดว ย ชอ่ื วา มาตาปต (ุ มารดาและบิดาทง้ั หลาย) จนฺทิมา จ สรุ ิโย จ จนฺทิมสุริยา. พระจันทรด วย พระอาทิตยดวย ชอื่ วา จนั ทิมสุรยิ า(พระจันทรและพระอาทติ ยท ัง้ หลาย) สมโณ จ พฺราหมฺ โณ จ สมณพฺราหมฺ ณา. สมณะดว ย พราหมณด ว ย ชอ่ื วา สมณพราหมณา(สมณะและพราหมณท งั้ หลาย) ภกิ ฺขุ จ สามเณโร จ ภกิ ฺขุสามเณรา. ภกิ ษดุ ว ย สามเณรดว ย ช่ือวา ภิกขุสามเณรา(ภกิ ษุและสามเณรทง้ั หลาย) สมโถ จ วิปสสฺ นา จ มคฺโค จ ผลจฺ สมถวปิ สสฺ นามคฺคผลานิ. สมถะดวย วปิ สสนาดว ย มรรคดวย ผลดวย ชือ่ วา สมถวปิ สสนามัคคผลานิ(สมถวิปส สนา มรรคและผลทงั้ หลาย) สโุ ร จ อสุโร จ นโร จ อรุ โค จ นาโค จ ยกโฺ ข จ สรุ าสรุ นโรรคนาคยกขฺ า.

ค่มู อื การอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๗๗ เทวดา อสูร คน งู นาคและยักษ ชอื่ วา สุราสรุ นโรรคนาคยกั ขา(เทวดาอสรู คนงนู าคและ ยักษท ั้งหลาย) อนงึ่ อสมาหารทวนั ทวสมาสนี้ มีลกั ษณะพิเศษอกี อยา งหนงึ่ คือเวลายอบทหนา และบทหลงั เขา เปนคำเดียวกนั ใหล บทง้ิ เสยี หน่ึงศัพท หรอื ทงั้ สองศพั ท คงไวแ ตเ พียงศัพทเ ดยี ว หรือมรี ูปเปลีย่ นไปจาก ศพั ทท ่ลี บทิง้ เรียกวา เอกเสสสมาส แปลวา ยอดว ยวธิ ลี บบทหนา หรอื บทหลงั หรอื ท้ังสองบททิง้ ไปเหลือไว บทเดียวหรือแปลงรปู เปน บทเดยี ว โดยบทสำเร็จเปน พหวุ จนะ เสมอไป มี ๔ ชนดิ คอื ๑.ปุพเพกเสสสมาส ยอ ดวยวธิ ลี บบทหลงั เหลอื ไวแ ตบทหนา เชน สาริปตุ โฺ ต จ โมคฺคลลฺ าโน จ สาริปตุ ฺตา. พระสารบี ตุ รดว ย พระโมคคัลลานะดว ย ช่ือวา สารปี ตุ ตา(พระสารีบตุ รและพระโมคคัลลา นะทั้งหลาย) มาตา จ ปต โร จ มาตโร. มารดาดว ย บิดาดว ย ชอ่ื วา มาตโร(มารดาและบดิ าทั้งหลาย) อุปาสโก จ อปุ าสิกา จ อปุ าสกา. อุบาสกดวย อุบาสกิ าดว ย ชอื่ วา อุปาสกา(อุบาสกและอบุ าสิกาทง้ั หลาย) ๒.ปเุ รกเสสสมาส ยอดวยวธิ ีลบบทหนา เหลอื ไวแ ตบทหลงั เชน สมโณ จ พรฺ าหฺมโณ จ พฺราหมฺ ณา. สมณะดว ย พราหมณด ว ย ชอื่ วา พราหมณา(สมณะและพราหมณทง้ั หลาย) ทายโก จ ทายกิ า จ ทายกิ า. ทายกดว ย ทายิกาดว ย ช่ือวา ทายกิ า(ทายกและทายิกาทงั้ หลาย) ๓.สรเู ปกเสสสมาส ยอ ดว ยวธิ ีลบบททีม่ รี ปู เหมือนกนั ใหเ หลอื เพียงบทเดียว เชน รชชฺ ุ จ รชฺชุ จ รชชฺ ุโย. เชอื กดว ย เชือกดว ย ช่ือวา รชั ชุโย(เชอื กและเชอื กทง้ั หลาย) ยุคฺจ ยุคฺจ ยุคานิ. คูดว ย คดู ว ย ชื่อวา ยุคาน(ิ คแู ละคทู ง้ั หลาย) ๔.วิรเู ปกเสสสมาส ยอ ดว ยวิธลี บบทท่เี หมือนกนั ท้ังสองบททิง้ ไป แลว นำบทที่มรี ูปแปลกจากบทที่ ลบทง้ิ มาแทนไวหนง่ึ บท นิยมใชก ับปกตสิ ังขยาโดยทำบทสำเรจ็ ใหเ ปน ผลรวมของจำนวนแตล ะบททท่ี งิ้ ไป เชน ปฺจ จ ปจฺ จ ทส(สกุณา). หา ดว ย หา ดว ย ชอื่ วา ทสะ(นกทง้ั หลายสบิ ) ทส จ ทส จ วสี (ชนา). สิบดว ย สบิ ดว ย ชือ่ วา วสี ะ(ชนทั้งหลายย่สี บิ ) ทส จ ทส จ ทส จ ตึส(ชนา). สิบดว ย สิบดว ย สิบดว ย ชอื่ วา ตงิ สะ(ชนทงั้ หลายสามสบิ )

ค่มู อื การอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๗๘ ๕. อพั ยยภี าวสมาส อพั ยยีภาวสมาส คอื สมาสทีย่ ออปุ สคั หรือนิบาตบางตวั เขา กบั บทสทุ ธนามใหเ ปน บทเดยี วกัน(ยอ ศัพทท ่เี ปนอพั ยยศพั ทเขากบั สทุ ธนาม) บทสำเรจ็ จะมีบทหนาเปน อปุ สัคหรือนบิ าต บทหลังเปน สทุ ธนาม และเปน นปุงสกลิงค เอกจวนะ เทา นน้ั มี ๒ คอื ๑. อปุ สคั คปพุ พกะ มีอปุ สคั เปนบทหนา และแปลเปน ประธาน เชน นครสสฺ สมีป อปุ นคร.ํ ที่ใกล แหงเมอื ง ชื่อวา อปุ นคระ(ทีใ่ กลเ มอื ง) กุมภฺ สสฺ สมีป อปุ กุมฺภํ. ท่ใี กล แหงหมอ ชอ่ื วา อุปกมุ ภะ(ท่ใี กลห มอ) ทรถานํ อภาโว นิททฺ รถํ. ความไมม ี แหงความเรา รอ นทง้ั หลาย ช่อื วา นทิ ทรถะ(ความไมมคี วามเรารอน) โทสสสฺ อภาโว นทิ โฺ ทส.ํ ความไมม ี แหงโทษ ชอื่ วา นทิ โทสะ(ความไมม ีโทษ) ภยสฺส อภาโว นิพฺภย.ํ ความไมม ี แหง ภยั ชือ่ วา นพิ ภยะ(ความไมมีภัย) โสตสสฺ ปฏโิ ลมํ ปฏิโสต.ํ ทวน แหงกระแส ชอื่ วา ปฏโิ สตะ(ทวนกระแส) อตฺตานมตตฺ านํ ปติ ปจจฺ ตตฺ .ํ เฉพาะ แหง ตน แหงตน ชอ่ื วา ปจจตั ตะ(เฉพาะตนๆ) อปุ สคั คปุพพกะ ยงั มที ีใ่ ชกิรยิ าในรูปวเิ คราะห แทนอปุ สคั เชน วาตํ อนวุ ตตฺ ตตี ิ อนุวาต(ํ วตฺถ)ุ . วตั ถุใด ยอ มเปน ไปตาม ซึง่ ลม เหตนุ ัน้ วตั ถนุ ้นั ชือ่ วา อนวุ าตะ(เปน ไปตามลม) อตตฺ านํ อธิวตตฺ ตตี ิ อชฌฺ ตตฺ ํ(วตถฺ )ุ . วัตถใุ ด ยอ มเปน ไปทบั ซงึ่ ตน เหตนุ น้ั วตั ถนุ น้ั ช่ือวา อชั ฌัตตะ(เปนไปทบั ตน) อนตฺ ํ อตวิ ตตฺ ตตี ิ อจจฺ นตฺ (ํ วตฺถ)ุ . วัตถุใด ยอ มเปน ไปลวง ซง่ึ สว น เหตนุ น้ั วัตถุนนั้ ชื่อวา อจั จนั ตะ(เปน ไปลว งสว น) ๒. นปิ าตปุพพกะ มนี ิบาตเปน บทหนา และแปลเปน ประธาน เชน ปพฺพตสสฺ ตโิ ร ตโิ รปพพฺ ต.ํ ภายนอก แหง ภเู ขา ชอื่ วา ตโิ รปพพตะ(ภายนอกภเู ขา) นครสฺส พหิ พหินครํ. ภายนอก แหง พระนคร ชอื่ วา พหนิ คระ(ภายนอกพระนคร) เคหสสฺ อนฺโต อนโฺ ตเคห.ํ ภายใน แหง เรือน ชอ่ื วา อนั โตเคหะ(ภายในเรอื น) ภตตฺ สสฺ ปจฉฺ า ปจฺฉาภตตฺ ํ. ภายหลัง แหง ภตั ชอ่ื วา ปจ ฉาภตั ตะ(ภายหลงั ภัต) มคคฺ สฺส อนฺตรา อนตฺ รามคคฺ .ํ

ค่มู อื การอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๗๙ ระหวาง แหงหนทาง ชอื่ วา อันตรามคั คะ(ระหวางหนทาง) ปาสาทสสฺ อุปริ อุปรปิ าสาทํ. เบ้อื งบน แหง ปราสาท ชือ่ วา อุปรปิ าสาทะ(เบ้ืองบนปราสาท) มฺจสฺส เห า เหามจฺ .ํ ภายใต แหง เตียง ชื่อวา เหฏฐามญั จะ(ใตเ ตยี ง) ชวี สสฺ ยตตฺ โก ปรจิ เฺ ฉโท ยาวชีวํ. การกำหนด เพยี งใด แหง ชวี ติ ช่อื วา ยาวชวี ะ(กำหนดเพยี งใดแหงชวี ิต) สขุ สสฺ ยตตฺ โก ปรจิ เฺ ฉโท ยาวสขุ ํ. การกำหนด เพียงใด แหง ความสุข ชือ่ วา ยาวสขุ ะ(กำหนดเพยี งใดแหง ความสุข) กาลสฺส ตตฺตโก ปรจิ เฺ ฉโท ตาวกาลํ. การกำหนด เพยี งนน้ั แหงกาล ชื่อวา ตาวกาละ(กำหนดเพยี งนั้นแหง กาล) อายุสสฺ ตตตฺ โก ปริจฺเฉโท ตาวตายกุ .ํ การกำหนด เพียงนน้ั แหงอายุ ชอ่ื วา ตาวตายกุ ะ(กำหนดประมาณเพยี งนน้ั แหง อาย)ุ กมมฺ สสฺ ปฏปิ าฏิ ยถากมฺมํ. ลำดับ แหง กรรม ชอื่ วา ยถากัมมะ(ตามกรรม) สตตฺ ิยา ปฏปิ าฏิ ยถาสตตฺ ิ. ลำดับ แหง ความสามารถ ชอ่ื วา ยถาสตั ติ(ตามความสามารถ) พลสฺส ปฏิปาฏิ ยถาพลํ. ลำดบั แหง กำลัง ชื่อวา ยถาพละ(ตามกำลงั ) สทฺธาย ปฏิปาฏิ ยถาสทฺธํ. ลำดับ แหงศรทั ธา ช่ือวา ยถาสัทธะ(ตามศรทั ธา) ปสาทสสฺ ปฏปิ าฏิ ยถาปสาทํ. ลำดบั แหง ความเลอ่ื มใส ชอื่ วา ยถาปสาทะ(ตามความเลือ่ มใส) สขุ สสฺ ปฏปิ าฏิ ยถาสขุ .ํ ลำดับ แหงความสุข ชอื่ วา ยถาสขุ ะ(ตามความสขุ ) วฑุ ฒฺ านํ ปฏปิ าฏิ ยถาวุฑฒฺ ํ. ลำดบั แหงผูเจริญทงั้ หลาย ชื่อวา ยถาวฑุ ฒะ(ลำดบั ผเู จรญิ ) อนง่ึ ยถาวฑุ ฺฒํ นี้ นอกจากจะใช ปฏปิ าฏิ แทน ยถา แลว อาจจะใช เย เย แทนบา งกไ็ ด เชน เย เย วุฑฺฒา ยถาวฑุ ฺฒ.ํ (ชนท้งั หลาย) ผเู จริญแลว ใด ใด ชื่อวา ยถาวฑุ ฒะ(ชนเจริญแลว อยา งไร) ๖. พหุพพิหิสมาส พหุพพหิ ิสมาส คอื สมาสทม่ี ีอรรถของบทอน่ื เปน ประธาน(อญั ญปทตั ถะ) รปู สำเรจ็ เปน คณุ ศัพท ทำหนา ที่เปน วเิ สสนะขยายบทอ่นื แปลวา “ผมู ี...., อนั มี...., ม.ี .... พหพุ พหิ ิสมาสนี้ เก่ียวขอ งกับบท ๒ บท คอื ๑. บททถี่ ูกยอ เรียกวา “สกปท” (บทของตวั เอง) เชน อาคตสมโณ (อาคต-สมณ)

ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๘๐ ๒. บทอื่นท่ีนอกจากบทท่ีถูกยอ เรียกวา “อฺปท”(บทอื่น) ซ่ึงจำเปนและเก่ียวของทำใหอรรถ หรอื เนื้อความสมบูรณ ในรูปวิเคราะหใช ย,ต,เอต,และ อิม ศัพท แทน เมอ่ื สำเร็จเปนสมาสแลว จะปรากฏ อยูขางหลังบทสมาส เชน อาคตสมโณ อาราโม แปลวา “อาราม มีสมณะมาแลว” คำวา อาราโม เปน อัญญบทของ อาคตสมโณ พหพุ พิหสิ มาส สามารถแบงตามลกั ษณะเปน ๕ อยา ง คอื ๑.ตุลยาธิกรณพหพุ พหิ ิสมาส ๒.ฉัฏฐีอปุ มาพหพุ พหิ สิ มาส ๓.นบพุ พบทพหพุ พิหิสมาส ๔.ภนิ นาธิกรณพหุพพหิ ิสมาส ๕.สหบพุ พบทพหพุ พิหิสมาส ๑.ตลุ ยาธกิ รณพหุพพิหสิ มาส สมาสน้ีใชยอบทสทุ ธนามกบั บทวิเสสนะทงั้ ๒ ท่ีมเี นื้อความคลอ ย ตามกนั เขา ดวยกนั วเิ สสนะนน้ั ไดแ ก คุณนาม ปกตสิ งั ขยา ปรู ณสงั ขยา กิริยากติ ก นามกติ ก เมื่อยอ เขาเปน สมาสแลว มฐี านะเปน คุณนามตองมีอญั ญบท(บทอน่ื ) ท่ีเรยี กวา ตุลยาธกิ รณพหพุ พหิ สิ มาส เพราะมบี ท ประธานและบทวเิ สสนะเสมอกันดว ยลิงคและวจนะ ใชในอรรถวภิ ตั ติทง้ั ๖ ไดแ ก ทตุ ิยาวภิ ตั ติ ตติยาวิภตั ติ จตุตถวี ภิ ตั ติ ปญ จมวี ิภตั ติ ฉฏั ฐีวิภตั ติ และสตั ตมวี ภิ ตั ติ ดงั นี้ ทตุ ยิ าตลุ ยาธกิ รณพหุพพิหิสมาส นำบททเ่ี ปนทตุ ิยาวภิ ัตตใิ นประโยควิเคราะหเ ปนประธานแหง บทสมาส (ย ศพั ท ประกอบเปนทตุ ยิ าวภิ ตั ต)ิ เชน อาคตา สมณา ยํ โส อาคตสมโณ.(อาราโม) สมณะทงั้ หลาย มาแลว สอู ารามใด อารามนนั้ ชอื่ วา มสี มณะมาแลว รฬุ หฺ า ลตา ยํ โส รฬุ ฺหลโต.(รกุ โฺ ข) เครือวัลย ขนึ้ แลว สตู น ไมใ ด ตน ไมน ้นั ชอื่ วา มเี ครอื วลั ยข ึน้ แลว อุปคตา กฺา ยํ สา อุปคตกฺ า.(สาลา) นางสาวนอ ย เขา ไปแลว สศู าลาใด ศาลาน้ัน ชอ่ื วา มนี างสาวนอ ยเขา ไปแลว อภริ ูฬฺหา วาณชิ า ยํ สา อภิรูฬหฺ วาณิชา.(นาวา) พอ คา ท้ังหลาย ขน้ึ แลว สเู รอื ใด เรือนน้ั ชื่อวา มีพอ คาขน้ึ แลว ตตยิ าตลุ ยาธกิ รณพหพุ พหิ สิ มาส นำบทท่ีเปน ตติยาวิภตั ติในประโยควิเคราะหเปนประธานแหง บทสมาส (ย ศพั ท ประกอบเปนตติยาวภิ ัตต)ิ เชน ทิ  า ธมฺมา เยน โส ทิ ธมฺโม.(สมโณ) ธรรมทั้งหลาย อนั สมณะใด เหน็ แลว สมณะนนั้ ชือ่ วา มธี รรมอันเหน็ แลว กตํ ปุฺ ํ เยน โส กตปุโฺ .(ปรุ ิโส) บุญ อนั บรุ ษุ ใด กระทำแลว บรุ ุษนนั้ ชือ่ วา มีบญุ อันกระทำแลว อาหิโต อคคฺ ิ เยน โส อาหติ คคฺ .ิ (พรฺ าหมฺ โณ) ไฟ อันพราหมณใ ด บชู าแลว พราหมฺณน ้นั ช่อื วา มไี ฟอนั บูชาแลว จตตุ ถีตลุ ยาธกิ รณพหพุ พิหสิ มาส นำบทที่เปน จตุตถวี ิภัตติในประโยควิเคราะหเปน ประธานแหง บทสมาส (ย ศัพท ประกอบเปนจตุตถีวิภตั ติ) เชน ทินฺโน สุงโฺ ก ยสสฺ โส ทินนฺ สงุ โฺ ก.(ราชา)

ค่มู อื การอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๘๑ สวย อนั ชาวเมืองถวายแลว แดพ ระราชาใด พระราชานน้ั ชอื่ วา มสี ว ยอนั ชาวเมอื งถวายแลว สชฺ าโต สเํ วโค ยสสฺ ตํ สชฺ าตสเํ วค.ํ (กลุ ํ) ความสงั เวช เกดิ แลว แกตระกลู ใด ตระกลู นน้ั ชื่อวา มคี วามสงั เวชเกดิ แลว อุปฺปนฺโน ลาโภ ยาสํ ตา อปุ ปฺ นฺนลาภา.(อติ ถฺ โิ ย) ลาภ เกิดขึ้นแลว แกหญงิ ทง้ั หลายเหลา ใด หญงิ ท้งั หลายเหลา น้ัน ชอ่ื วา มีลาภเกดิ ข้นึ แลว ปญจมตี ลุ ยาธิกรณพหุพพหิ ิสมาส นำบททเี่ ปน ปญจมวี ภิ ตั ติในประโยควิเคราะหเ ปน ประธานแหง บทสมาส (ย ศพั ท ประกอบเปน ปญ จมวี ภิ ัตติ) เชน นิคฺคตา ชนา ยสฺมา โส นคิ ฺคตชโน.(คาโม) ชนท้ังหลาย ออกไปแลว จากหมบู า นใด หมูบานนนั้ ชอ่ื วา มชี นออกไปแลว ชาตา ธตี า ยาย สา ชาตธตี า.(มาตา) ธดิ า เกดิ แลว จากมารดาใด มารดานน้ั ชอื่ วา มธี ิดาเกดิ แลว อปคตานิ ธนานิ ยสฺมา ตํ อปคตธนํ.(กลุ ํ) ทรพั ยท้ังหลาย ไปปราศแลว จากตระกลู ใด ตระกูลนนั้ ชอ่ื วา มที รัพยไ ปปราศแลว ฉฏั ฐีตลุ ยาธกิ รณพหุพพิหิสมาส นำบททเ่ี ปน ฉัฏฐวี ิภัตติในประโยควเิ คราะหเปน ประธานแหง บท สมาส (ย ศพั ท ประกอบเปน ฉัฏฐวี ภิ ัตต)ิ เชน ขีณา อาสวา ยสสฺ โส ขีณาสโว.(ภกิ ฺข)ุ อาสวะทงั้ หลาย ของภิกษุใด สนิ้ แลว ภกิ ษนุ น้ั ชือ่ วา มีอาสวะสนิ้ แลว สนโฺ ต กิเลโส ยสสฺ า สา สนตฺ กเิ ลสา.(ภกิ ขฺ นุ ี) กิเลส ของภิกษุณีใด สงบแลว ภิกษุณนี นั้ ช่อื วา มกี ิเลสสงบแลว ฉนิ โฺ น หตฺโถ ยสสฺ โส ฉินฺนหตโฺ ถ.(ปรุ ิโส) มือ ของบรุ ษุ ใด ขาดแลว บรุ ษุ นัน้ ชื่อวา มีมือขาดแลว วสิ ทุ ธฺ ํ สลี ํ ยสฺส โส วสิ ุทฺธสโี ล.(ภิกฺข)ุ ศีล ของภกิ ษุใด หมดจดแลว ภิกษุนน้ั ชือ่ วา มศี ลี หมดจดแลว สัตตมีตลุ ยาธิกรณพหุพพิหสิ มาส นำบททเ่ี ปน สตั ตมวี ภิ ตั ตใิ นประโยควิเคราะหเปน ประธานแหง บทสมาส (ย ศพั ท ประกอบเปน สตั ตมีวิภตั ติ) เชน สมปฺ นนฺ านิ สสสฺ านิ ยสฺมึ โส สมปฺ นนฺ สสฺโส.(ชนปโท) ขา วกลา ท้ังหลาย อนั ถงึ พรอ มแลว ในชนบทใด ชนบทนนั้ ชอ่ื วา มขี า วกลา ถึงพรอมแลว สุลภา ภกิ ฺขา ยสมฺ ึ โส สภุ กิ โฺ ข.(ชนปโท) ภิกษา อนั หาไดโ ดยงา ย ในชนบทใด ชนบทนน้ั ชอ่ื วา มภี กิ ษาหาไดโดยงา ย อากณิ ฺณา มนสุ สฺ า ยสสฺ ํ สา อากณิ ณฺ มนสุ ฺสา.(ธานี) มนษุ ยทัง้ หลาย อนั เกลอ่ื นกลนแลว ในเมอื งใด เมืองนน้ั ชอื่ วา มมี นุษยเ กลอ่ื นกลน แลว อุปจติ ํ มสํ โลหิตํ ยสฺมึ ตํ อปุ จติ มสํ โลหติ .ํ (สรรี )ํ เน้ือและเลือด อันถูกสั่งสมแลว ในสรีระใด สรรี ะน้นั ชือ่ วา มีเนื้อและเลอื ดอันถูกสั่งสมแลว ๒.ฉัฏฐอี ุปมาพหพุ พหิ สิ มาส สมาสนีม้ อี ปุ มาอยใู นประโยควเิ คราะห มคี ำแปลวา ผมู .ี ....เพยี งดัง .....แหง ... มลี กั ษณะเฉพาะคอื บทหนา เปน ฉัฏฐวี ิภัตติ เอกวจนะ บทอุปมาอยหู ลงั แสดงภาวะเปนเจา ของ

ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๘๒ และเปนสทุ ธนามเหมอื นกัน แลว เรียง อวิ ศัพทต อ จากตัวอปุ มา และวางตวั ประธานซ่งึ เปน ตวั เดยี วกบั อุปมา จัดรูปแบบเหมือนฉัฏฐพี หุพพิหิสมาส ดงั ตัวอยา งเชน สวุ ณณฺ สสฺ วณโฺ ณ อิว วณฺโณ ยสสฺ โส สวุ ณฺณวณโฺ ณ.(ภควา) วรรณะ ของพระผูมพี ระภาคพระองคใด เพยี งดงั วรรณะ แหงทอง พระผมู พี ระภาค พระองคน นั้ ชื่อวา มวี รรณะเพียงดงั วรรณะแหงทอง พรฺ หมฺ โุ น สโร อวิ สโร ยสสฺ โส พรฺ หมฺ สสฺ โร.(ภควา) เสียง ของพระผมู พี ระภาคพระองคใด เพียงดัง เสียง แหงพรหม พระผูมพี ระภาคพระองค นน้ั ชือ่ วา มีเสียงเพียงดงั เสยี งแหง พรหม นาคสสฺ คติ อิว คติ ยสสฺ โส นาคคต.ิ (ภควา) การเสดจ็ ไป ของพระผมู ีพระภาคพระองคใด เพยี งดงั การไป แหง ชางตวั ประเสรฐิ พระผูมี พระภาคพระองคน น้ั ช่ือวา มกี ารเสดจ็ ไปเพียงดงั การไปแหงชางตัวประเสรฐิ สหี สฺส หนุ อวิ หนุ ยสฺส โส สีหหนุ.(ภควา) คาง ของพระผมู พี ระภาคพระองคใด เพยี งดงั คาง แหง ราชสีห พระผมู ีพระภาคพระองค นน้ั ช่อื วา มคี างเพยี งดงั คางแหงราชสหี  เอณสิ สฺ ชงฆฺ า อิว ชงฺฆา ยสฺส โส เอณชิ งโฺ ฆ.(ภควา) พระชงฆ ของพระผมู ีพระภาคพระองคใ ด เพยี งดงั แขง แหง เนือ้ ทราย พระผูมพี ระภาค พระองคน น้ั ชอ่ื วา มีพระชงฆเพียงดังแขง แหงเนอื้ ทราย อุสภสสฺ ขนโฺ ธ อิว ขนฺโธ ยสสฺ โส อสุ ภกขฺ นโฺ ธ.(ภควา) พระกาย(ลำตวั ) ของพระผมู พี ระภาคพระองคใ ด เพยี งดงั ลำตัว แหงววั ผ(ู เครอื่ งหมายแสดง กำลังและความสามารถของบุรษุ ผนู กั รบ) พระผมู ีพระภาคพระองคนนั้ ชอ่ื วา มลี ำตวั เพยี งดงั ลำตวั แหงววั ผู สูกรสฺส สสี ํ อวิ สสี ํ ยสสฺ โส สกู รสโี ส.(เปโต) ศรี ษะ ของเปรตใด เพยี งดัง ศรี ษะ แหง สุกร เปรตน้นั ชอ่ื วา มศี ีรษะเพยี งดงั ศรี ษะแหง สกุ ร หตถฺ ิโน ลงิ คฺ ํ อวิ ลงิ คฺ ํ ยสสฺ โส หตถฺ ิลงิ โฺ ค.(สกุโณ) เพศ ของนกใด เพียงดงั เพศ แหง ชา ง นกนนั้ ชอ่ื วา มเี พศเพยี งดงั เพศแหง ชาง เทวสสฺ วณโฺ ณ อวิ วณโฺ ณ ยสสฺ า สา เทววณณฺ า.(ยกขฺ นิ )ี วรรณะ ของนางยักษใ ด เพยี งดัง วรรณะ แหงเทพ นางยักษน น้ั ช่ือวา มวี รรณะเพยี งดงั วรรณะแหง เทพ ๓.นบุพพบทพหุพพหิ สิ มาส คือ พหพุ พหิ สิ มาสทมี่ ี น ศพั ท ปฏเิ สธ แสดงเนอื้ ความไมป ฏเิ สธ มีคำ แปลวา “มี....หามไิ ด” หรอื “ไมม .ี ...” ในรปู วิเคราะหใช นตฺถิ แทน น ศัพท เขา บทสมาสแลว แปลง น เปน อ หรอื อน โดยมี ต เอต อมิ ศพั ท เปน บทเรยี กหาอญั ญบท เชน นตถฺ ิ เอตสฺส อตุ ตฺ โรติ อนตุ ตฺ โร.(ภควา) บุคคลผปู ระเสริฐยิ่งกวา ยอมไมม ี แกพระผูมีพระภาคพระองคนน่ั เหตนุ ั้น พระผูมพี ระภาค พระองคน น่ั ช่ือวา มบี คุ คลผปู ระเสรฐิ ย่ิงกวา หามไิ ด( ไมม บี คุ คลผปู ระเสรฐิ ยงิ่ กวา) นตถฺ ิ ตสฺส สโมติ อสโม.(ภควา) ผเู สมอ ยอมไมม ี แกพ ระผมู ีพระภาคพระองคน ัน้ เหตนุ ัน้ พระผมู พี ระภาคพระองคน นั้ ช่ือ วา มผี เู สมอหามไิ ด(ไมม ีผูเ สมอ)

ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๘๓ นตถฺ ิ ตสสฺ ปฏิปุคฺคโลติ อปปฺ ฏปิ ุคคฺ โล.(ภควา) บคุ คลผเู ปรยี บ ยอมไมมี แกพ ระผูมีพระภาคพระองคน นั้ เหตนุ ้นั พระผมู ีพระภาคพระองค นัน้ ชื่อวา มบี ุคคลเปรยี บหามไิ ด(ไมม ีบุคคลเปรยี บ) นตฺถิ เอเตสํ อาสวาติ อนาสวา.(ภกิ ฺข)ู อาสวะทงั้ หลาย ยอ มไมมี แกภ ิกษุท้ังหลายเหลา นน่ั เหตนุ น้ั ภิกษุท้งั หลายเหลานนั่ ชื่อวา มี อาสวะหามไิ ด( ไมม อี าสวะ) นตถฺ ิ ตสฺส ตุโลติ อตโุ ล.(ชโน) ความเท่ียงตรง ยอ มไมม ี แกช นนน้ั เหตนุ น้ั ชนน้นั ชือ่ วา มคี วามเท่ียงตรงหามไิ ด( ไมมีความ เทย่ี งตรง) นตถฺ ิ เตสํ สวํ าโสติ อสํวาสา.(ชนา) การอยรู ว ม ยอ มไมมี แกช นทง้ั หลายเหลาน้ัน เหตนุ ั้น ชนทั้งหลายเหลา นนั้ ชอื่ วา มกี ารอยู รวมหามไิ ด(ไมม ีการอยูรวม) นตฺถิ ตสสฺ ปตุ ตฺ าติ อปตุ ตฺ โก.(ชโน) บุตรทงั้ หลาย ยอ มไมมี แกช นนั้น เหตนุ น้ั ชนนน้ั ชื่อวา มบี ตุ รหามิได( ไมม ีบตุ ร) นตฺถิ ตสสฺ ธมโฺ มติ อธมโฺ ม.(ชโน) ธรรม ยอ มไมม ี แกช นน้ัน เหตนุ นั้ ชนนัน้ ช่ือวา มธี รรมหามไิ ด( ไมม ธี รรม) นตถฺ ิ ตสสฺ า ธมฺโมติ อธมมฺ า.(อิตถฺ )ี ธรรม ยอ มไมมี แกห ญงิ นน้ั เหตนุ ้นั หญงิ นั้น ช่อื วา มธี รรมหามไิ ด( ไมมธี รรม) นตฺถิ ตสสฺ ธมฺโมติ อธมมฺ .ํ (กลุ )ํ ธรรม ยอมไมม ี แกตระกลู นนั้ เหตนุ ้ัน ตระกลู นน้ั ชือ่ วา มีธรรมหามไิ ด( ไมม ีธรรม) นตฺถิ ตสฺส นาโถติ อนาโถ.(ชโน) ท่พี ่งึ ยอ มไมม ี แกช นนนั้ เหตุนน้ั ชนนนั้ ชอื่ วา มีท่ีพงึ่ หามไิ ด( ไมม ีทีพ่ ง่ึ ) นตถฺ ิ ตสสฺ เหตตู ิ อเหตโุ ก.(ปุคคโล) เหตุ ยอมไมมี แกบคุ คลนนั้ เหตนุ ั้น บุคคลนน้ั ชือ่ วา มีเหตหุ ามไิ ด( ไมมเี หตุ) นตฺถิ ตสฺส สลี นตฺ ิ อสโี ล.(ปรุ ิโส) ศีล ยอมไมมี แกบ รุ ุษน้นั เหตนุ น้ั บรุ ษุ นน้ั ชือ่ วา มีศลี หามิได(ไมม ีศลี ) นตฺถิ ตสสฺ ปฺ าติ อปโฺ .(นโร) ปญ ญา ยอ มไมม ี แกคนนน้ั เหตนุ ัน้ คนนน้ั ชื่อวา มีปญ ญาหามิได(ไมมปี ญ ญา) นตถฺ ิ ตสสฺ อนฺโตติ อนนฺตํ.(จกฺกวาฬ)ํ ทีส่ ดุ ยอ มไมม ี แกจ ักรวาลนนั้ เหตนุ ้ัน จักรวาลน้นั ชื่อวา มที สี่ ดุ หามไิ ด(ไมม ที ่ีสดุ ) นตฺถิ ตสสฺ ทิ ีติ อทิิโก.(ปุรโิ ส) ความเหน็ ยอมไมมี แกบุรุษนัน้ เหตนุ ้ัน บรุ ษุ นนั้ ชอ่ื วา มคี วามเห็นหามไิ ด( ไมม ีความเหน็ ) นตถฺ ิ เอตถฺ วุ  ีติ อวุ โิ ก.(ชนปโท) ฝน ยอ มไมม ี ในชนบทนี้ เหตนุ นั้ ชนบทนี้ ชอื่ วา มีฝนหามิได(ไมม ีฝน) นตถฺ ิ ตสสฺ ผาสุกนตฺ ิ อผาสกุ .ํ (จติ ตฺ )ํ ความสำราญ ยอ มไมม ี แกจติ นนั้ เหตุนนั้ จิตนั้น ชือ่ วา มคี วามสำราญหามไิ ด(ไมมคี วามสำราญ)

ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๘๔ นตฺถิ เอตถฺ อสโฺ สติ อนสฺโส.(คาโม) มา ยอ มไมมี ในหมบู านนี้ เหตุนนั้ หมบู านน้ี ชอ่ื วา มีมาหามิได(ไมมมี า )(หมูบ านไมมมี า) ๔.ภินนาธกิ รณพหุพพหิ สิ มาส คือพหุพพหิ สิ มาสที่มกี ารยอ บทสทุ ธนามเขากบั สทุ ธนาม หมายความวา ในประโยควิเคราะหน น้ั ทง้ั บทหนาและบทหลงั เปน สทุ ธนาม ซงึ่ มวี ิภตั ตแิ ตกตา งกนั สว นลงิ ค นั้นจะเหมอื นหรอื ตางกนั ก็ได นยิ มใหบทหนึ่งแปลงทา ยคำเปน ทุตยิ าวิภตั ติ หรอื สตั ตมวี ภิ ตั ติ สดุ แต เนอื้ ความจะไปทางใด สว นอกี บทหนง่ึ นนั้ นิยมใหแ ปลงทา ยคำเปน ปฐมาวภิ ตั ติ ใชเปนบทประธาน บท สำเรจ็ จากรปู วิเคราะหแ หง สมาสน้ี เปน คณุ นาม มีอญั ญบทหรือนามบทอื่นเปน ประธาน เชน เอกรตตฺ ึ วาโส อสสฺ าติ เอกรตตฺ ิวาโส.(ปรุ โิ ส) การอยู สนิ้ ราตรหี นง่ึ ของบรุ ุษนั้น (มอี ย)ู เหตุนน้ั บรุ ุษนน้ั ชอ่ื วา มกี ารอยสู น้ิ ราตรหี นง่ึ สมาเนน ชเนน สทธฺ ึ วาโส อสสฺ าติ สมานวาโส.(ปุรโิ ส) การอยู กับ ดว ยชน ผูเสมอกนั ของบรุ ุษนน้ั (มอี ยู) เหตุนนั้ บุรุษนนั้ ชื่อวา มีการอยูเสมอกนั อภุ โต กมมฺ โต อปุ ฺปนนฺ ํ พยฺ ฺชนทฺวยํ อสฺสาติ อภุ โตพยฺ ฺชโน19๑.(ปุคฺคโล) ความเปน สองเพศ เกิดข้ึนแลว เพราะกรรม สองอยา ง ของบคุ คลนน้ั มีอยู เหตนุ นั้ บุคคล น้ัน ช่อื วา มคี วามเปน สองเพศเพราะกรรมสองอยา ง กณฺสฺมึ กาโฬ อสสฺ าติ กณเฺ กาโฬ.(ปรุ โิ ส) สดี ำ ทค่ี อ ของบรุ ษุ นน้ั (มอี ย)ู เหตนุ น้ั บรุ ุษนนั้ ชอื่ วา มสี ดี ำทค่ี อ อรุ สฺมึ โลมานิ อสสฺ าติ อุรสโิ ลโม.(พรฺ าหฺมโณ) ขนทงั้ หลาย ทอี่ ก ของพราหมณนน้ั (มีอย)ู เหตุนน้ั พราหมณน น้ั ช่อื วา มขี นทอ่ี ก ปตโฺ ต หตเฺ ถ อสสฺ าติ ปตตฺ หตโฺ ถ.(ภิกขฺ )ุ บาตร ในมือ ของภิกษนุ ้นั (มอี ยู) เหตนุ ัน้ ภิกษนุ นั้ ช่อื วา มีบาตรในมือ อสิ หตเฺ ถ อสฺสาติ อสหิ ตโฺ ถ.(โยโธ) ดาบ ในมือ ของทหารนนั้ (มอี ยู) เหตนุ น้ั ทหารน้ัน ชอ่ื วา มดี าบในมอื สตถฺ ํ ปาณิมฺหิ อสสฺ าติ สตถฺ ปาณ.ิ (ปรุ ิโส) ศัสตรา ในมอื ของบรุ ุษนน้ั (มอี ย)ู เหตนุ น้ั บุรษุ น้นั ชือ่ วา มีศัสตราในมอื ฉตตฺ ํ ปาณมิ ฺหิ อสสฺ าติ ฉตตฺ ปาณิ.(ปรุ โิ ส) รม ในมือ ของบรุ ุษนนั้ (มีอยู) เหตนุ น้ั บรุ ษุ นนั้ ชอื่ วา มรี มในมอื ทณโฺ ฑ ปาณิมหฺ ิ อสสฺ าติ ทณฺฑปาณิ.(ปรุ ิโส) ไมเทา ในมือ ของบรุ ุษน้ัน (มีอยู) เหตนุ ้นั บุรุษน้นั ชอื่ วา มไี มเทาในมอื วชริ ํ ปาณิมหฺ ิ อสสฺ าติ วชิรปาณ.ิ (สกฺโก) วเิ ชยี ร ในพระหตั ถ ของทา วสักกะนนั้ (มอี ย)ู เหตนุ ั้น ทาวสกั กะนน้ั ชื่อวา มวี ิเชียรในพระ หัตถ ขคโฺ ค หตถฺ สฺมึ อสสฺ าติ ขคคฺ หตฺโถ.(ราชา) ๑ พระญาณธชเถระ(แลดสี ยาดอ) (พระธรรมโมลี (สมศกั ดิ์ อุปสโม),พระมหานมิ ิตร ธมมฺ สาโร ตรวจชำระ สมควร ถว นนอก ปรวิ รรต), นริ ตุ ตทิ ีปนี(คัมภีรว าดวยหลกั ไวยากรณสายโมคคัลลานะ)(กรงุ เทพฯ: หางหนุ สวนจำกดั ไทยรายวนั การพมิ พ, ๒๕๔๘) หนา ๒๔๙.

ค่มู ือการอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๘๕ พระขรรค ในพระหตั ถ ของพระราชานัน้ (มอี ย)ู เหตนุ นั้ พระราชานน้ั ชอื่ วา มีพระขรรคใ น พระหตั ถ อาวุธา หตเฺ ถสุ เตสนตฺ ิ อาวธุ หตถฺ า.(โยธา) อาวธุ ทั้งหลาย ในมือทงั้ หลาย ของทหารทง้ั หลายเหลา นน้ั (มีอย)ู เหตุนน้ั ทหารทั้งหลาย เหลานนั้ ช่อื วา มอี าวธุ ในมอื ทาเน อชฌฺ าสโย อสสฺ าติ ทานชฺฌาสโย.(ปุคฺคโล) อธั ยาศยั ในทาน ของบคุ คลนนั้ (มีอยู) เหตุนนั้ บคุ คลนนั้ ชอื่ วา มีอธั ยาศัยในทาน ทาเน อธิมตุ ตฺ ิ อสฺสาติ ทานาธมิ ตุ ตฺ โิ ก.(ปคุ คฺ โล) ความนอ มใจเช่อื ในทาน ของบุคคลนน้ั (มอี ย)ู เหตุนนั้ บุคคลนนั้ ชอ่ื วา มีความนอ มใจเชอ่ื ในทาน พุทเฺ ธสุ ภตตฺ ิ อสฺสาติ พุทธฺ ภตฺตโิ ก.(ปุคฺคโล) ความจงรกั ภกั ดี ในพระพุทธเจา ทงั้ หลาย ของบคุ คลนนั้ (มีอย)ู เหตนุ นั้ บุคคลน้ัน ชอื่ วา มี ความจงรกั ภกั ดใี นพระพุทธเจา พทุ เฺ ธ คารโว อสสฺ าติ พุทฺธคารโว.(ปุคฺคโล) ความเคารพ ในพระพทุ ธเจา ของบคุ คลนนั้ (มอี ยู) เหตนุ นั้ บคุ คลนนั้ ชอื่ วา มีความเคารพ ในพระพุทธเจา ธมฺเม คารโว อสฺสาติ ธมมฺ คารโว.(ปคุ คฺ โล) ความเคารพ ในพระธรรม ของบคุ คลนน้ั (มอี ย)ู เหตนุ นั้ บคุ คลนั้น ช่ือวา มีความเคารพใน พระธรรม สงฺเฆ คารโว อสสฺ าติ สงฆฺ คารโว.(ปุคคฺ โล) ความเคารพ ในพระสงฆ ของบุคคลนน้ั (มอี ยู) เหตุนน้ั บุคคลนน้ั ชือ่ วา มีความเคารพใน พระสงฆ สทธฺ มเฺ ม คารโว อสฺสาติ สทธฺ มมฺ คารโว.(ปคุ คฺ โล) ความเคารพ ในพระสทั ธรรม ของบคุ คลนน้ั (มีอยู) เหตุนน้ั บคุ คลน้ัน ช่ือวา มีความเคารพ ในพระสทั ธรรม ๕.สหบพุ พบทพหุพพหิ ิสมาส คอื พหพุ พิหสิ มาสทมี่ บี ทหนา เปน สห นบิ าต แปลวา “กบั ...” บท หลงั เปน สุทธนาม แปลงทายคำเปน ตติยาวภั ตั ติ แปลวา “ดว ย...” เสมอไป เมอื่ สำเร็จรปู เปน สมาสแลวให แปลง สห นบิ าตเปน “ส” เสมอ มคี ำแปลวา “เปน ไปกับดว ย...” หรอื “มี...” ลงในอรรถแหง ปฐมาวิภตั ติ มีอญั ญบทคือมีบทอน่ื เปน ประธานเนอ่ื งจากสมาสนเี้ ปนสมาสคุณนาม เชน สห วติ กฺเกน โย วตตฺ ตตี ิ สวิตกโฺ ก.(สมาธิ) สมาธิใด ยอ มเปน ไป กบั ดว ยวิตก เหตนุ น้ั สมาธนิ น้ั ชอื่ วา เปนไปกบั ดว ยวติ ก(มวี ติ ก) สห วติ กเฺ กน ยา วตตฺ ตตี ิ สวติ กกฺ า.(ปฺา) ปญ ญาใด ยอ มเปนไป กบั ดว ยวิตก เหตนุ ้นั ปญ ญานน้ั ช่อื วา เปน ไปกบั ดว ยวติ ก(มีวติ ก) สห วิตกฺเกน ยํ วตตฺ ตตี ิ สวติ กกฺ ํ.(ฌานํ) ฌานใด ยอมเปน ไป กบั ดว ยวติ ก เหตนุ น้ั ฌานนนั้ ช่อื วา เปน ไปกับดว ยวิตก(มวี ติ ก) สห วติ กฺเกน ยานิ วตตฺ นตฺ ตี ิ สวติ กฺกานิ.(ฌานานิ)

ค่มู ือการอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๘๖ ฌานทง้ั หลายเหลา ใด ยอมเปน ไป กบั ดว ยวติ ก เหตุนน้ั ฌานทง้ั หลายเหลานน้ั ชื่อวา เปนไปกบั ดว ยวติ ก(มวี ติ ก) สห เหตนุ า โย วตตฺ ตตี ิ สเหตโุ ก.(ธมโฺ ม) ธรรมใด ยอ มเปน ไป กบั ดว ยเหตุ เหตนุ น้ั ธรรมนน้ั ชอ่ื วา เปนไปกบั ดว ยเหตุ(มีเหต)ุ สห ปริวาเรน โย วตตฺ ตตี ิ สปริวาโร.(ภกิ ขฺ )ุ ภกิ ษใุ ด ยอ มเปน ไป กบั ดว ยบรวิ าร เหตุนน้ั ภกิ ษนุ น้ั ชือ่ วา เปนไปกบั ดว ยบริวาร(มีบรวิ าร) สห ปตุ เฺ ตน โย วตตฺ ตีติ สปตุ โฺ ต.(ปตา) บิดาใด ยอ มเปน ไป กับ ดว ยบุตร เหตนุ ั้น บิดานน้ั ชอ่ื วา เปนไปกบั ดวยบตุ ร(มีบตุ ร) สห มจฺเฉเรน ยํ วตตฺ ตตี ิ สมจเฺ ฉรํ.(จติ ฺต)ํ จิตใด ยอ มเปน ไป กับ ดว ย ความตระหนี่ เหตนุ ั้น จิตนน้ั ช่อื วา เปน ไปกบั ดว ยความตระหน่ี (มคี วามตระหนี่) สห โภเคน ยํ วตตฺ ตตี ิ สโภคํ (กลุ )ํ ตระกูลใด ยอมเปน ไป กบั ดว ยโภคะ เหตนุ น้ั ตระกูลนั้น ชอื่ วา เปน ไปกับดว ยโภคะ(มีโภคะ) สห ธเนน โย วตตฺ ตตี ิ สธโน.(ชโน) ชนใด ยอมเปน ไป กบั ดวยทรพั ย เหตนุ นั้ ชนนนั้ ชอ่ื วา เปนไปกับดวยทรัพย(มที รัพย) สห รฺา ยา วตตฺ ตตี ิ สราชกิ า.(ปรสิ า) บรษิ ัทใด ยอ มเปน ไป กับ ดว ยพระราชา เหตนุ น้ั บรษิ ทั นน้ั ช่อื วา เปนไปกบั ดว ยพระราชา (มีพระราชา) สห ภริยาย โย วตตฺ ตตี ิ สภรโิ ย.(ปุรโิ ส) บุรษุ ใด ยอมเปน ไป กบั ดวยภรยิ า เหตนุ นั้ บรุ ุษนน้ั ชือ่ วา เปนไปกบั ดว ยภรยิ า(มภี รยิ า) สห สามเิ กน ยา วตฺตตีติ สสามิกา.(อติ ฺถ)ี หญงิ ใด ยอมเปน ไป กับ ดว ยสามี เหตนุ น้ั หญงิ นน้ั ชอื่ วา เปน ไปกับดวยสามี(มสี ามี) สห ปติยา เย วตตฺ นตฺ ตี ิ สปปฺ ตกิ า.(ธมมฺ า) ธรรมทัง้ หลายเหลา ใด ยอ มเปน ไป กบั ดว ยปต ิ เหตนุ นั้ ธรรมทงั้ หลายเหลา นนั้ ช่ือวา เปนไปกบั ดว ยปต (ิ มปี ต )ิ สห ปจฺจเยหิ เย วตตฺ นตฺ ตี ิ สปจจฺ ยา.(ธมมฺ า) ธรรมทง้ั หลายเหลา ใด ยอมเปน ไป กับ ดวยปจจัยทัง้ หลาย เหตนุ ้นั ธรรมทงั้ หลายเหลา นน้ั ช่อื วา เปน ไปกบั ดวยปจ จัย(มีปจ จัย) สห อุปาทาเนหิ โย วตตฺ ตตี ิ สอุปาทาโน.(ธมฺโม) ธรรมใด ยอมเปน ไป กบั ดวยอปุ าทานท้ังหลาย เหตนุ ั้น ธรรมนนั้ ช่อื วา เปนไปกบั ดวย อปุ าทาน(มีอปุ าทาน) นอกจากนี้ ยงั มีสมาสท่ีพิเศษไปกวา สมาสทงั้ ๖ อยา งทกี่ ลา วมา ซ่ึงมีลกั ษณะสมาสซอนสมาส กลา วคอื การนำเอาบทสำเรจ็ จากสมาสตา งๆ ทงั้ ๖ นนั้ มายอ รวมไวเปน บทเดียวกัน ซอนกนั อยูเปน ช้ันๆ บทหนงึ่ ๆ อาจมหี ลายสมาส ตง้ั แต ๒ สมาสขึน้ ไป จนถงึ ๓ หรือ ๔ สมาส กไ็ ด เรยี กวา สมาสทอ ง โดยมี สมาสท่ีวเิ คราะหสดุ ทายเปนตวั หลกั หรอื สมาสใหญ และสมาสที่วิเคราะหก อ นเปน ตวั เชอ่ื มอยูภายในหรือ สมาสเล็ก

ค่มู อื การอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๘๗ ดังนนั้ การเรียกชอ่ื สมาสทอง กจ็ ะมีช่อื เรียกตามบทสำเรจ็ คอื เรยี กตามชือ่ สมาสท่วี เิ คราะห สุดทายหรอื สมาสใหญซ งึ่ สว นใหญม กั จะแปลกอน และเรยี กชอื่ สมาสท่ีอยภู ายในหรือสมาสเลก็ ตง้ั แต ขางหนาสดุ ทว่ี เิ คราะหก อ นไปตามลำดบั ซง่ึ สว นใหญม กั จะแปลทหี ลงั การวางรปู วเิ คราะหใ หถือเอา คำแปล ทหี ลัง ตง้ั วิเคราะหก อน คำแปลกอนต้ังวเิ คราะหทีหลงั ดังนี้ สพฺพรตตฺ ิโสภโณ (จนโฺ ท) แปลวา (พระจนั ทร) งามตลอดราตรีทงั้ ปวง เปน ทตุ ิยาตปั ปรุ สิ สมาส (ท.ุ ตปั .) มี วเิ สสนบพุ พบท กัมมธารยสมาส (วิ.บุพ.กัม.) เปน สมาสภายใน ตงั้ วิเคราะห ดังน้ี วิ.บุพ.กัม. วิ.วา สพพฺ า รตตฺ ิ สพฺพรตฺติ. ราตรี ท้งั ปวง ชื่อวา ราตรีทงั้ ปวง ทุ.ตปั . ว.ิ วา สพพฺ รตตฺ ึ โสภโณ สพฺพรตตฺ โิ สภโณ.(จนโฺ ท) (พระจนั ทร) งาม ตลอดราตรที ง้ั ปวง ชอ่ื วา งามตลอดราตรที ้ังปวง ภิกฺขสุ งฆฺ ปรวิ โุ ต (ภควา) แปลวา (พระผูมพี ระภาค)ผอู ันหมแู หงภิกษแุ วดลอ มแลว เปน ตตยิ าตัปปุรสิ สมาส (ต.ตปั .) มี ฉัฏฐีตัปปรุ สิ สมาส (ฉ.ตัป.) เปน สมาสภายใน ตง้ั วเิ คราะห ดังน้ี ฉ.ตปั . วิ.วา ภกิ ฺขูนํ สงโฺ ฆ ภิกฺขสุ งโฺ ฆ. หมู แหง ภกิ ษุทั้งหลาย ชอ่ื วา หมแู หงภิกษุ ต.ตปั . ว.ิ วา ภิกฺขสุ งเฺ ฆน ปรวิ ุโต ภกิ ฺขสุ งฆฺ ปริวุโต.(ภควา) (พระผูม พี ระภาค) อนั หมูแหง ภิกษุ แวดลอ มแลว ชอ่ื วา ผูอ นั หมแู หง ภิกษแุ วดลอ มแลว ปจฺ สตภกิ ขฺ ปุ รวิ าโร (ภควา) แปลวา (พระผมู ีพระภาค)ผูม ภี ิกษุมีรอ ยหาเปน บรวิ าร เปน ฉฏั ฐีตลุ ยาธิกรณพหพุ พิหิสมาส (ฉ.ตุล.พหพุ .) มี ฉัฏฐตี ุลยาธิกรณพหุพพหิ ิสมาส (ฉ.ตลุ .พหพุ .) และ วเิ สสนบพุ พบท กมั มธารยสมาส (วิ.บุพ.กมั .) เปนสมาสภายใน ตง้ั วเิ คราะห ดงั น้ี ฉ.ตลุ .พหพุ . วิ.วา ปฺจ สตานิ เยสํ เต ปฺจสตา.(ภกิ ฺข)ู รอ ยทงั้ หลาย หา ของภกิ ษุทงั้ หลายเหลาใด (มอี ย)ู ภิกษทุ ั้งหลาย เหลานน้ั ชอ่ื วา มรี อ ยหา (มหี ารอย) ว.ิ บพุ .กมั . ว.ิ วา ปจฺ สตา ภกิ ฺขู ปฺจสตภกิ ฺข.ู ภิกษทุ ้ังหลาย มรี อยหา ชือ่ วา ภกิ ษมุ รี อ ยหา ทงั้ หลาย ฉ.ตุล.พหพุ . ว.ิ วา ปจฺ สตภิกขู ปรวิ ารา ยสสฺ โส ปจฺ สตภกิ ขฺ ุปรวิ าโร.(ภควา) ภกิ ษมุ รี อยหา ทั้งหลาย เปน บรวิ าร ของพระผมู พี ระภาคพระองคใด พระผูมพี ระภาคพระองคนน้ั ชือ่ วา มีภกิ ษมุ ีรอ ยหา เปน บรวิ าร ปวตตฺ ิตปปฺ วรธมมฺ จกโฺ ก (ภควา) แปลวา (พระผมู พี ระภาค)ผูม ีจักรคอื ธรรมอนั ประเสรฐิ อนั ใหเ ปน ไปท่วั แลว เปน ตตยิ าตลุ ยาธกิ รณพหุพพิหิสมาส (ต.ตลุ .พหุพ.) มี อวธารณบุพพบท กมั มธารยสมาส (อว.บุพ.กมั .) และ วิเสสนบพุ พบท กมั มธารยสมาส (ว.ิ บุพ.กมั .) เปน สมาสภายใน ตง้ั วิเคราะห ดังนี้

ค่มู อื การอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๘๘ อว.บพุ .กัม. ว.ิ วา ธมฺโม เอว จกกฺ ํ ธมมฺ จกกฺ .ํ ว.ิ บุพ.กมั . ว.ิ วา จักร คอื ธรรม ชอื่ วา จกั รคอื ธรรม ต.ตลุ .พหพุ . วิ.วา ปวรํ ธมฺมจกกฺ ํ ปวรธมฺมจกกฺ ํ. จักรคือธรรม อนั ประเสรฐิ ชอ่ื วา จกั รคอื ธรรมอนั ประเสรฐิ ปวตตฺ ิตํ ปวรธมฺมจกกฺ ํ เยน โส ปวตตฺ ติ ปปฺ วรธมฺมจกโฺ ก.(ภควา) จักรคอื ธรรมอันประเสรฐิ อนั พระผูมพี ระภาคพระองคใด ใหเ ปน ไปทวั่ แลว พระผมู ีพระภาคพระองคนน้ั ช่ือวา ผมู ีจักรคอื ธรรมอันประเสรฐิ อนั ใหเปน ไปทว่ั แลว คนธฺ มาลาทิหตถฺ า (มนสุ ฺสา) แปลวา (มนษุ ยท้ังหลาย)มวี ตั ถุมขี องหอมและระเบยี บเปน ตน ในมอื เปน ฉัฏฐีภนิ นาธกิ รณพหุพพิ หสิ มาส (ฉ.ภิน.พหพุ .) มี อสมาหารทวนั ทวสมาส (อ.ทวนั .) และ ฉฏั ฐตี ลุ ยาธกิ รณพหุพพิหสิ มาส (ฉ.ตลุ .พหุพ.) เปน สมาสภายใน ตงั้ วิเคราะห ดงั นี้ อ.ทวนั . วิ.วา คนโฺ ธ จ มาลา จ คนธฺ มาลา. ของหอมดวย ระเบยี บดวย ชอื่ วา ของหอมและระเบียบทง้ั หลาย ฉ.ตุล.พหุพ. ว.ิ วา คนฺธมาลา อาทโิ ย เยสํ ตานิ คนฺธมาลาทีน.ิ (วตถฺ ูน)ิ ของหอมและระเบียบท้งั หลาย เปน ตน ของวตั ถุท้ังหลายเหลาใด (มอี ย)ู วตั ถทุ ้ังหลายเหลา นน้ั ช่อื วา มีของหอมและระเบียบเปน ตน ฉ.ภนิ .พหุพ. ว.ิ วา คนฺธมาลาทีนิ หตเฺ ถสุ เยสํ เต คนฺธมาลาทหิ ตถฺ า.(มนุสสฺ า) (วตั ถุท้ังหลาย)มขี องหอมและระเบยี บเปน ตน (มีอย)ู ในมอื ท้งั หลาย ของมนษุ ยท ้งั หลายเหลา ใด มนษุ ยทง้ั หลายเหลา น้นั ชอ่ื วา มวี ัตถมุ ขี อง หอมและระเบียบเปน ตน ในมอื ทิพพฺ จกฺขโุ อโลกนาทิ (กิจฺจ)ํ แปลวา (กิจ)มีการตรวจดดู วยจักษเุ พยี งดงั ทิพยเปน ตน เปน ฉฏั ฐตี ลุ ยาธิกรณพหพุ พหิ สิ มาส (ฉ.ตุล.พหุพ.) มี วิเสสโนปมบท กัมมธารยสมาส (วิ.โนปม.กัม.) และ ตตยิ าตปั ปุริสสมาส (ต.ตปั .) เปน สมาสภายใน ตง้ั วเิ คราะห ดงั น้ี วิ.โนปม.กัม. วิ.วา ทพิ ฺพํ อวิ จกฺขุ ทพิ พฺ จกฺข.ุ จักษุ เพียงดงั ทพิ ย ชอื่ วา จกั ษุเพียงดงั ทิพย ต.ตปั . วิ.วา ทพิ ฺพจกฺขุนา โอโลกนํ ทิพฺพจกขฺ โุ อโลกนํ. การตรวจดู ดวยจกั ษเุ พียงดังทพิ ย ชื่อวา การตรวจดูดว ยจกั ษเุ พยี งดงั ทพิ ย ฉ.ตุล.พหุพ. ว.ิ วา ทิพพฺ จกฺขโุ อโลกนํ อาทิ ยสสฺ ตํ ทิพพฺ จกฺขโุ อโลกนาท.ิ (กิจฺจ)ํ การตรวจดดู ว ยจกั ษเุ พียงดังทิพย เปนตน ของกจิ ใด (มีอยู) กจิ นนั้ ชือ่ วา มกี ารตรวจดดู ว ยจักษเุ พยี งดงั ทพิ ยเปน ตน

ค่มู ือการอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๘๙ พฺยาลมพฺ มฺพุธรพินฺทจุ ุมพฺ ิตกโู ฏ (ปพฺพโต) แปลวา (ภเู ขา)มยี อดอันหยาดนำ้ แหงเมฆท่ียอยจบู แลว เปน ฉัฏฐตี ลุ ยาธกิ รณพหพุ พหิ สิ มาส (ฉ. ตลุ .พหพุ .) มี วิเสสนบพุ พบท กมั มธารยสมาส ( วิ.บพุ .กมั .), ฉฏั ฐตี ัปปุริสสมาส (ฉ.ตปั .) และ ตตยิ าตปั ปุ รสิ สมาส (ต.ตปั .) เปน สมาสภายใน ตงั้ วิเคราะห ดังน้ี ว.ิ บพุ .กมั . ว.ิ วา พฺยาลมฺโพ อมฺพุธโร พฺยาลมพฺ มฺพธุ โร. เมฆ อนั ยอย ชือ่ วา เมฆอันยอ ย ฉ.ตปั . ว.ิ วา พฺยาลมฺพมฺพธุ รสสฺ พนิ ฺทูนิ พยฺ าลมฺพมฺพุธรพนิ ทฺ ูนิ. หยาดนำ้ ทง้ั หลาย แหง เมฆอนั ยอ ย ช่อื วา หยาดน้ำแหง เมฆอันยอย ต.ตปั . วิ.วา พยฺ าลมฺพมฺพธุ รพินทฺ ูหิ จุมพฺ โิ ต พยฺ าลมฺพมพฺ ุธรพนิ ทฺ ุจุมพฺ ิโต.(กโู ฏ) (ยอด)อนั หยาดนำ้ แหงเมฆอนั ยอยทง้ั หลาย จบู แลว ชื่อวา อนั หยาดนำ้ แหง เมฆอนั ยอ ยจบู แลว ฉ.ตลุ .พหพุ . ว.ิ วา พฺยาลมพฺ มฺพธุ รพนิ ฺทุจุมพฺ โิ ต กโู ฏ ยสสฺ โส พยฺ าลมพฺ มพฺ ุธรพินฺทุ- จมุ พฺ ติ กโู ฏ.(ปพฺพโต) ยอด อนั หยาดนำ้ แหงเมฆอันยอ ยจบู แลว แหง ภูเขาใด (มีอย)ู ภเู ขาน้นั ชอื่ วา มยี อดอันหยาดน้ำแหง เมฆอนั ยอ ยจบู แลว นานาทุมปตติ ปุปผฺ วาสิตสานุ (ปพพฺ โต) แปลวา (ภูเขา)มีไหลเขาถกู อบดว ยดอกไมท ห่ี ลน จากตน ไมต างๆ เปน ฉัฏฐตี ุลยาธิกรณพหพุ พหิ ิ สมาส (ฉ.ตุล.พหพุ .) มี วเิ สสนบุพพบท กัมมธารยสมาส (วิ.บุพ.กัม.), ปญจมีตปั ปรุ สิ สมาส (ป.ตัป.), วเิ ส สนบพุ พบท กมั มธารยสมาส (วิ.บพุ .กัม.) และ ตติยาตปั ปุรสิ สมาส (ต.ตปั .) เปน สมาสภายใน ต้ังวเิ คราะห ดังน้ี วิ.บุพ.กัม. ว.ิ วา นานปฺปการา ทมุ า นานาทมุ า. ตนไมท ้งั หลาย มีประการตา งๆ ชอื่ วา ตน ไมตางๆ ป.ตัป. วิ.วา นานาทเุ มหิ ปตติ านิ นานาทมุ ปติตานิ.(ปุปผฺ าน)ิ (ดอกไมทั้งหลาย)อนั ตกไปแลว จากตน ไมต า งๆท้งั หลาย ชื่อวา อนั ตกจากตนไมต างๆ วิ.บุพ.กัม. ว.ิ วา นานาทุมปตติ านิ จ ตานิ ปปุ ฺผานิ จาติ นานาทมุ ปตติ ปปุ ฺผาน.ิ อนั ตกจากตน ไมต า งๆ ทั้งหลายดว ย อันตกจากตน ไมตางๆ ทัง้ หลาย เหลา นนั้ เปน ดอกไมด ว ย เหตนุ นั้ ช่ือวา ดอกไมอ นั ตกจากตน ไมต า งๆ ต.ตปั . ว.ิ วา นานาทมุ ปตติ ปปุ เฺ ผหิ วาสติ า นานาทมุ ปติตปุปฺผวาสติ า.(สานู) (ไหลเขาทง้ั หลาย)ถูกอบแลว ดว ยดอกไมอนั ตกจากตน ไมตา งๆ ทั้งหลาย ชือ่ วา อนั ถกู อบดว ยดอกไมอนั ตกจากตน ไมต า งๆ ฉ.ตลุ .พหุพ. ว.ิ วา นานาทมุ ปตติ ปปุ ผฺ วาสติ า สานู ยสฺส โส นานาทุมปติตปุปฺผวาสติ - สานุ.(ปพฺพโต) ไหลเ ขาทัง้ หลาย อนั ถกู อบดว ยดอกไมอ นั ตกจากตน ไมตา งๆ แหง ภูเขา ใด (มีอยู) ภเู ขาน้ัน ชอ่ื วา มไี หลเขาอนั ถูกอบดว ยดอกไมอ นั ตกจาก ตนไมตา งๆ

ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๙๐ ๓.๗ ตัทธติ ตัทธติ คอื นามศัพทที่ประกอบดว ยปจจัยหมหู นง่ึ ซง่ึ ใชแทนศพั ท เปน ประโยชนเ ก้อื กลู แกเนือ้ ความ เพ่อื ยอคำพดู ใหสน้ั ลง โดยใชว ธิ กี ารลงปจ จัยแทนศัพท ศพั ทท่ปี จจัยเขาแทนทน่ี ี้ไดแ ก นามศัพท อาขยาต และกติ ก ปจ จัยตัทธติ ใชลงขา งหลงั ศัพทส ำเร็จรปู เปน ศพั ทต ัทธติ เหมอื นคำวา สยฺ าเม ชาโต ใช ณกิ ปจ จยั แทน ชาต ศัพท สำเรจ็ เปน สยฺ ามิโก (ชโน) ชน เกิดแลว ในสยาม ชอ่ื วา ผูเ กดิ แลวในสยาม (ลบ ชาต ศพั ท ลง ณิก ปจจยั หลงั สยฺ าม ศัพท ปจจยั เนอื่ งดว ย ณ เมอื่ ลงแลว ลบทง้ิ เสยี เหลอื ไวแ ตสระท่ี ณ อาศัย) ดงั น้ี เปน ตน ตทั ธติ นน้ั โดยยอ แบง เปน ๓ อยาง คือ สามญั ญตัทธติ ภาวตัทธิต และ อัพยยตทั ธิต ทั้ง ๓ อยา งนี้ มปี จ จยั เปน ของตนเอง มขี อที่ตอ งจดจำและการนำไปใชใ นแตละปจจยั ดงั ตอ ไปน้ี สามญั ญตทั ธิต แบง ออกเปน ๑๓ อยา ง และลงปจ จยั ดงั น้ี ๑.โคตตตัทธิต ลงปจ จยั ๘ ตวั คอื ณ ณายน ณาน เณยยฺ ณิ ณกิ ณว เณร ๒.ตรตยาทติ ัทธติ ลงปจจยั ๑ ตวั คอื ณกิ ๓.ราคาทิตทั ธติ ลงปจ จัย ๑ ตวั คือ ณ ๔.ชาตาทิตทั ธติ ลงปจจยั ๓ ตวั คือ อมิ อิย กิย ๕.สมุหตัทธติ ลงปจ จยั ๓ ตวั คอื กณฺ ณ ตา ๖.ฐานตัทธิต ลงปจ จยั ๒ ตวั คอื อยี เอยยฺ ๗.พหลุ ตัทธติ ลงปจ จยั ๑ ตวั คือ อาลุ ๘.เสฏฐตทั ธติ ลงปจ จัย ๕ ตวั คอื ตร ตม อยิ ิสสฺ ก อยิ อิฏ ๙.ตทสั สตั ถติ ทั ธติ ลงปจจัย ๙ ตวั คอื วี ส สี อกิ อี ร วนตฺ ุ มนตฺ ุ ณ ๑๐.ปกตติ ัทธติ ลงปจจัย ๑ ตวั คือ มย ๑๑.ปรู ณตัทธิต ลงปจจัย ๕ ตวั คอื ตยิ ถ  ม อี ๑๒.สังขยาตัทธติ ลงปจ จัย ๑ ตวั คอื ก ๑๓.วิภาคตทั ธติ ลงปจจัย ๒ ตวั คอื ธา โส ภาวตัทธติ ลงปจ จัย ๖ ตวั คอื ตตฺ ณยฺ ตตฺ น ตา ณ กณฺ อพั ยยตัทธติ ลงปจ จัย ๒ ตวั คือ ถา ถํ ตามทกี่ ลา วแลว วา ตทั ธติ โดยยอ มี ๓ อยาง สว นโดยพสิ ดารนนั้ มี ๑๕ อยา ง แบง เปน สามัญญ ตทั ธติ ๑๓ อยา ง ภาวตทั ธติ ๑ อยา ง และ อัพยยตัทธติ ๑ อยาง ดงั นี้ ๑.โคตตตัทธติ โคตตตัทธติ ใชป จจยั ๘ ตวั คอื ณ ณายน ณาน เณยยฺ ณิ ณิก ณว เณร แทน อปจฺจ ศพั ท หรอื โคตตฺ ศัพท หรือ ปุตตฺ ศพั ท แปลวา \"เหลากอ, โคตร, ลูก, หลาน\" ดงั น้ี ศพั ทท ี่ลง ณ ปจจัย อยางนี้ เหลา กอ ของวสิฏฐะ ชื่อวา วาสิฐ ะ วสิสฺส อปจจฺ ํ วาสิ โ. เหลากอ ของโคตมะ ช่อื วา โคตมะ โคตมสสฺ อปจฺจํ โคตโม. เหลา กอ ของวสเุ ทวะ ชอื่ วา วาสุเทวะ วสุเทวสสฺ อปจจฺ ํ วาสุเทโว.

ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๙๑ ศัพททลี่ ง ณายน ปจจยั อยางน้ี เหลา กอ ของกัจจะ ชอ่ื วา กจั จายนะ กจจฺ สสฺ อปจฺจํ กจฺจายโน. เหลากอ ของวัจฉะ ชอื่ วา วจั ฉายนะ วจฺฉสสฺ อปจจฺ ํ วจฉฺ ายโน. เหลา กอ ของนางโมคคลั ลี ชอ่ื วา โมคคลั ลายนะ โมคคฺ ลฺลิยา อปจฺจํ โมคคฺ ลลฺ ายโน. เหลากอ ของกัจจะ ชอ่ื วา กจั จานะ ศัพททล่ี ง ณาน ปจ จัย อยา งน้ี เหลากอ ของวจั ฉะ ชอื่ วา วจั ฉานะ กจฺจสสฺ อปจจฺ ํ กจฺจาโน. เหลากอ ของนางโมคคลั ลี ชอื่ วา โมคคลั ลานะ วจฺฉสฺส อปจฺจํ วจฉฺ าโน. เหลากอ ของพ่ีนองหญงิ ชอ่ื วา ภาคเิ นยยะ โมคคฺ ลลฺ ยิ า อปจฺจํ โมคคฺ ลฺลาโน. เหลา กอ ของนางวนิ ตา ชอ่ื วา เวนเตยยะ ศพั ทท่ลี ง เณยยฺ ปจจยั อยา งนี้ เหลากอ ของนางโรหิณี ชอื่ วา โรหเิ ณยยะ ภคนิ ยิ า อปจจฺ ํ ภาคเิ นยโฺ ย. เหลา กอ ของทกั ขะ ชอื่ วา ทกั ขิ วินตาย อปจจฺ ํ เวนเตยโฺ ย. เหลากอ ของวสวะ ชอ่ื วา วาสวิ โรหณิ ยิ า อปจจฺ ํ โรหเิ ณยโฺ ย. เหลา กอ ของวรุณะ ชือ่ วา วารุณิ ศพั ทท ล่ี ง ณิ ปจ จยั อยา งน้ี เหลา กอ ของบตุ รแหง สกั ยะ ชื่อวา สากยปุตตกิ ะ ทกฺขสฺส อปจฺจํ ทกฺข.ิ เหลากอ ของบตุ รแหง นกั ฟอ น ชอ่ื วา นาฏปตุ ติกะ วสวสสฺ อปจฺจํ วาสวิ. เหลา กอ ของชนิ ทตั ตะ ชอ่ื วา เชนทตั ติกะ วรณุ สสฺ อปจจฺ ํ วารุณิ. เหลา กอ ของอุปกุ ชอ่ื วา โอปกวะ ศพั ทท่ีลง ณิก ปจจัย อยา งนี้ เหลากอ ของมนุ ช่ือวา มานวะ สกยฺ ปตุ ตฺ สสฺ อปจฺจํ สากฺยปตุ ตโิ ก. เหลากอ ของภัคคุ ช่อื วา ภคั ควะ นาฏปตุ ตฺ สสฺ อปจจฺ ํ นาฏปตุ ตฺ ิโก. เหลา กอ ของหญงิ หมา ย ชอ่ื วา เวธเวระ ชนิ ทตตฺ สสฺ อปจจฺ ํ เชนทตตฺ โิ ก. เหลากอ ของสมณะ ช่อื วา สามเณระ ศัพทท ีล่ ง ณว ปจจัย อยางน้ี เหลา กอ ของพนั ธกุ ี(กลว ยไมดอกสีขาว) ชื่อวา พนั ธุเกระ อปุ กสุ ฺส อปจจฺ ํ โอปกโว. มนุโน อปจจฺ ํ มานโว. ภคฺคโุ น อปจจฺ ํ ภคฺคโว. ศัพทท ล่ี ง เณร ปจ จัย อยางนี้ วิธวาย อปจฺจํ เวธเวโร. สมณสฺส อปจจฺ ํ สามเณโร. พนฺธุกยิ า อปจฺจํ พนฺธุเกโร20๑. ๑ พระญาณธชเถระ(แลดสี ยาดอ) (พระธรรมโมลี (สมศักดิ์ อุปสโม),พระมหานมิ ติ ร ธมฺมสาโร ตรวจชำระ สมควร ถวนนอก ปรวิ รรต), นริ ตุ ติทปี น(ี คมั ภรี วาดว ยหลักไวยากรณส ายโมคคลั ลานะ)(กรงุ เทพฯ: หางหนุ สว นจำกัดไทยรายวันการพมิ พ, ๒๕๔๘) หนา ๒๙๑.

ค่มู อื การอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๙๒ ๒.ตรตยาทติ ัทธติ ตรตยาทติ ัทธติ ใชป จจยั ๑ ตวั คือ ณกิ ปจจัย แทนศพั ททั้งหลาย มี ศัพทก ริ ยิ าอาขยาต เชน ตรติ (ยอมขา ม) ศัพทกริ ิยากติ ก เชน ชาโต(เกดิ แลว) ศพั ทสทุ ธนาม เชน มุคฺคโร(ฆอ น) ศัพทค ณุ นาม เชน สนตฺ กํ (อนั เปน ของมีอย)ู เปน ตน อยา งนี้ ใชแทนศัพทก ิริยาอาขยาต นาวาย ตรตตี ิ นาวิโก.(ชโน) ชนใด ยอ มขาม ดว ยเรอื เหตนุ นั้ ชนนนั้ ชอ่ื วา นาวกิ ะ (ผขู ามดวยเรอื ) อฬุ ุมเฺ ปน ตรตตี ิ โอฬมุ ปฺ โ ก.(ชโน) ชนใด ยอ มขา ม ดว ยแพ เหตนุ นั้ ชนนน้ั ชือ่ วา โอฬุมปกะ(ผขู า มดว ยแพ) สกเฏน จรตตี ิ สากฏิโก.(ชโน) ชนใด ยอมเท่ยี วไป ดว ยเกวยี น เหตุนนั้ ชนนนั้ ชอื่ วา สากฏกิ ะ(ผเู ท่ียวไปดว ยเกวยี น) อกฺเขน ทพิ พฺ ตตี ิ อกขฺ โิ ก.(ชโน) ชนใด ยอ มเลน ดวยสกา เหตนุ นั้ ชนนน้ั ชื่อวา อกั ขกิ ะ(ผเู ลน ดว ยสกา) สกุเณ หนตฺ ฺวา ชวี ตตี ิ สากณุ โิ ก.(ชโน) ชนใด ฆา แลว ซึ่งนกท้งั หลาย ยอมเปน อยู เหตนุ นั้ ชน นั้น ชื่อวา สากณุ กิ ะ(ผฆู านกเปนอย(ู นายพรานนก)) ปนุ ภวาย สํวตตฺ ตีติ โปโนพภฺ วโิ ก.(ธมฺโม)ธรรมใด ยอ มเปน ไปพรอ ม เพอื่ ภพ อกี เหตนุ น้ั ธรรมนน้ั ชื่อวา โปโนพภวกิ ะ(เปน ไปพรอ มเพ่อื ภพอีก) ใชแ ทนศัพทก ริ ิยากติ ก (โภชนะ) ระคนพรอมแลว ดว ยงาทง้ั หลาย ช่อื วา ติเลหิ สสํ ํ เตลกิ .ํ (โภชน)ํ เตลิกะ (ระคนพรอมแลวดว ยงา) ราชคเห ชาโต ราชคหิโก.(ชโน) (ชน) เกิดแลว ในเมืองราชคฤห ช่ือวา ราชคหกิ ะ นิรเย ชาโต เนรยโิ ก.(สตโฺ ต) (ผเู กิดแลว ในเมอื งราชคฤห) กาเยน กตํ กายิกํ.(กมฺมํ) (สัตว) เกดิ แลว ในนรก ชอื่ วา เนรยกิ ะ พุทฺเธ ปสนฺโน พุทธฺ โิ ก.(ปคุ คฺ โล) (ผูเกดิ ในนรก) ทวฺ าเร นิยุตโฺ ต โทวารโิ ก.(ชโน) (กรรม) อนั ชนกระทำแลว ดว ยกาย ชอื่ วา กายกิ ะ (อันชนกระทำแลว ดวยกาย) (บุคคล) เลอ่ื มใสแลว ในพระพุทธเจา ชอื่ วา พทุ ธกิ ะ (ผเู ลอ่ื มใสแลว ในพระพทุ ธเจา) (ชน) ประกอบแลว ในประตู ชือ่ วา โทวารกิ ะ (ผูประกอบแลวในประต)ู ใชแทนศพั ทสุทธนาม มุคฺคโร อสฺส อาวโุ ธติ มคุ ฺครโิ ก.(ชโน) คอน เปน อาวธุ ของชนนนั้ เหตนุ ัน้ ชนนนั้ ชอื่ วา มุคครกิ ะ(ผมู คี อนเปน อาวุธ) ปส กุ ูลธารณํ อสฺส สลี นฺติ ปส ุกลู ิโก.(ภกิ ขฺ )ุ การทรงผา บงั สุกุล เปน ปกติ ของภิกษุนน้ั เหตนุ ้นั ภกิ ษนุ ัน้ ชอ่ื วา ปง สุกลู กิ ะ(ผทู รงผา บงั สกุ ุลเปนปกติ)

ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๙๓ คนโฺ ธ อสฺส ปณยฺ นตฺ ิ คนธฺ โิ ก.(ชโน) เคร่ืองหอม เปน วัตถุอนั เขาพงึ ขาย ของชนนนั้ เหตนุ ัน้ ชนนน้ั ชื่อวา คนั ธกิ ะ(ผูมีเคร่อื งหอมอนั ควรขาย) วณี าวาทนมสสฺ สิปปฺ นตฺ ิ เวณโิ ก.(ชโน) การดีดพณิ เปนศิลปะ ของชนนน้ั เหตนุ ั้น ชนนน้ั ช่ือวา เวณกิ ะ(ผมู กี ารดดี พิณเปน ศลิ ปะ) อปุ ธิ อสสฺ ปโยชนนตฺ ิ โอปธกิ .ํ (ปุ ฺ ํ) รางกาย เปน ประโยชน ของบญุ นนั้ เหตนุ นั้ บญุ นน้ั ชอ่ื วา โอปธกิ ะ(อนั มีรา งกายเปนประโยชน) จาโป อสฺส ปหรณนตฺ ิ จาปโ ก.(ชโน) ธนู เปน เครอ่ื งประหาร ของชนนนั้ เหตนุ ัน้ ชนนน้ั ชื่อวา จาปก ะ(ผมู ีธนเู ปน เครือ่ งประหาร) ใชแ ทนศัพทคุณนาม (วตั ถ)ุ อนั เปน ของมีอยู แหง สงฆ ชื่อวา สงั ฆิกะ สงฺฆสฺส สนตฺ กํ สงฺฆกิ .ํ (วตฺถ)ุ (อันเปน ของมอี ยแู หง สงฆ) ปตโุ น สนตฺ กํ เปตตฺ ิก.ํ (ธน)ํ (ทรพั ย) อนั เปนของมอี ยู แหงบดิ า ช่อื วา เปตติกะ โกสเล อสิ สฺ โร โกสลโิ ก.(ชโน) (อนั เปน ของมอี ยแู หง บดิ า) มนสิ สนฺนธิ านํ มานสิกํ.(ทกุ ขฺ ํ) (ชน) ผูเปนใหญ ในแควน โกศล ช่ือวา โกสลิกะ สรเี ร สนฺนธิ านํ สารีริก.ํ (ทกุ ขฺ )ํ (ผูเปน ใหญในแควนโกศล) สรีเร สนนฺ ธิ านา สารีรกิ า.(เวทนา) (ทุกข) อนั นับเนอื่ ง ในใจ ชือ่ วา มานสกิ ะ (อนั นบั เนอ่ื งในใจ) (ทุกข) อนั นบั เนอ่ื ง ในสรรี ะ ช่อื วา สารรี กิ ะ (อันนบั เนอ่ื งในสรรี ะ) (เวทนา) อนั นบั เนอ่ื ง ในสรีระ ชอ่ื วา สารรี กิ า (อันนบั เนอื่ งในสรรี ะ) ๓.ราคาทติ ทั ธติ ราคาทติ ทั ธติ ใชปจ จยั ๑ ตัว คอื ณ ปจจัย แทนศัพททง้ั หลายไดท ว่ั ไป ไมจ ำกดั มี รตตฺ ศัพท เปน ตน เปน ปจ จัยทเี่ นือ่ งดว ย ณ มอี ำนาจในการลบ ณ ทงิ้ เมอ่ื ใชแ ทนศัพทแ ลว และยังมอี ำนาจในการทฆี ะ หรือวิการสระหนา อกี ดว ย ยกเวน เปน ทีฆะหรอื สงั โยคอยแู ลว ไมต องเปล่ยี นแปลงอะไร อยา งนี้ วยฺ ากรณํ อธเิ ตติ เวยฺยากรโณ.(ชโน) ชนใด ยอมเรยี น ซึ่งพยากรณ เหตนุ นั้ ชนนน้ั ชอื่ วา กสาเวน รตตฺ ํ กาสาวํ.(วตถฺ ํ) เวยยากรณะ(ผเู รยี นซ่ึงพยากรณ) มหิสสสฺ อทิ ํ มสํ ํ มาหสิ ํ. ผา อันบคุ คลยอ มแลว ดวยน้ำฝาด ช่ือวา กาสาวะ คพฺเภ ชาโต คพฺโภ.(สตโฺ ต) (ผา อนั ยอมแลว ดว ยน้ำฝาด) มคเธ ชาโต มาคโธ.(ชโน) เน้อื นี้ ของกระบือ ชอื่ วา มาหสิ ะ (เน้อื ของกระบอื ) (สตั ว) เกดิ แลว ในครรภ ชือ่ วา คัพภะ (ผเู กดิ แลว ในครรภ) (ชน) เกดิ แลว ในแควนมคธ ชื่อวา มาคธะ

ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๙๔ สสิ ิเร ชาโต สสิ ิโร.(ชโน) (ผูเกิดแลวในแควน มคธ) มคเธ อิสฺสโร มาคโธ.(ชโน) (ชน) เกดิ แลว ในฤดใู บไมผ ลิ ชือ่ วา สิสริ ะ กตตฺ ิกาย ยตุ โฺ ต กตตฺ ิโก.(มาโส) (ผูเกิดแลว ในฤดใู บไมผลิ) มฆาย ยตุ โฺ ต มาโฆ.(มาโส) (ชน) ผูเปนใหญ ในแควน มคธ ชอ่ื วา มาคธะ ติปฏ กํ ธาเรตตี ิ เตปฏโก.(เถโร) (ผูเ ปนใหญในแควนมคธ) ชนปเท วสตตี ิ ชานปโท.(ภิกขฺ )ุ (เดอื น) ประกอบแลว ดว ยฤกษก ตั ตกิ า ชอ่ื วา กตั ตกิ ะ นคเร วสตตี ิ นาคโร.(ชโน) (อันประกอบแลว ดว ยฤกษกตั ตกิ ะ) ปรมํ ปาเปตตี ิ ปารมี.(ปฏปิ ทา) (เดอื น) ประกอบแลว ดว ยฤกษม ฆา ช่อื วา มาฆะ (อันประกอบแลว ดวยฤกษมาฆะ) พระเถรใด ยอ มทรงไว ซึง่ ปฎ กสาม เหตนุ ้นั พระเถระ น้นั ชอื่ วา เตปฏกะ(ผทู รงไวซ ่งึ ปฎ กสาม) ภิกษใุ ด ยอ มอยู ในชนบท เหตนุ ัน้ ภกิ ษุนนั้ ชอ่ื วา ชานปทะ(ผูอยใู นชนบท) ชนใด ยอ มอยู ในเมือง เหตนุ ้ัน ชนนน้ั ชอื่ วา นาคระ (ผอู ยูในเมือง) ปฏปิ ทาใด ยงั บุคคลใหถ งึ ซง่ึ คุณอนั ยง่ิ เหตนุ ั้น ปฏิปทานน้ั ชอ่ื วา ปารมี(อนั ยงั บคุ คลใหถ งึ คุณอันยง่ิ ) ๔.ชาตาทติ ทั ธติ ชาตาทติ ัทธติ ใชป จ จยั ๓ ตัว คอื อมิ อยิ และ กยิ ปจจยั แทน ชาต ศพั ท เปน ตน ไมม อี ำนาจใน การเปลีย่ นแปลง ลงแลวคงไวอยา งเดมิ ดงั นี้ ศัพทท ีล่ ง อิม ปจ จัย อยางนี้ (ชน) เกิดแลว ในกอ น ชือ่ วา ปรุ มิ ะ ปเุ ร ชาโต ปรุ ิโม.(ชโน) (ผเู กิดแลวในกอน) มชฺเฌ ชาโต มชฺฌโิ ม.(ชโน) (ชน) เกดิ แลว ในทา มกลาง ชอ่ื วา มชั ฌมิ ะ ปจฺฉา ชาโต ปจฉฺ โิ ม.(ชโน) (ผูเกดิ แลวในทา มกลาง) มชเฺ ฌ ภโว มชฌฺ โิ ม.(ชโน) (ชน) เกดิ แลว ในภายหลงั ชอื่ วา ปจ ฉมิ ะ อนเฺ ต ภโว อนฺตโิ ม.(ชโน) (ผูเกิดแลวในภายหลงั ) อปุ ริ ภโว อปุ รโิ ม.(ชโน) (ชน) มี ในทามกลาง ชอื่ วา มชั ฌมิ ะ อนเฺ ต นิยตุ โฺ ต อนตฺ ิโม.(ชโน) (ผูมีในทา มกลาง) (ชน) มี ในทีส่ ดุ ชอ่ื วา อนั ตมิ ะ (ผูมใี นทส่ี ุด) (ชน) มี ในเบ้ืองบน ช่ือวา อปุ ริมะ (ผูม ีในเบื้องบน) (ชน) ประกอบแลว ในทส่ี ดุ ชือ่ วา อนั ตมิ ะ (ผปู ระกอบแลวในทสี่ ุด)