ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๔๕ จ. มหาราชสฺส มหาราชาย มหาราชตถฺ ํ มหาราชานํ ปฺ. มหาราชสมฺ า มหาราชมหฺ า มหาราชา มหาราเชหิ มหาราเชภิ ฉ. มหาราชสสฺ มหาราชานํ ส. มหาราชสมฺ ึ มหาราชมหฺ ิ มหาราเช มหาราเชสุ อา. มหาราช มหาราชาโน ศัพทเ หลานี้ แจกเหมอื น มหาราช ------------------------------------------------------------------------------- อนรุ าช พระราชานอย นาคราช นาคผพู ระราชา อภริ าช พระราชยงิ่ มิคราช เนอ้ื ผพู ระราชา อุปราช อปุ ราช สปุ ณณฺ ราช ครุฑผพู ระราชา จกฺกวตตฺ ริ าช พระราชาจกั รพรรดิ หสํ ราช หงสผ พู ระราชา เทวราช เทวดาผูพระราชา ภควนตฺ ุ [พระผมู พี ระภาค] เปน ปลุ ิงค แจกอยา งน:้ี - ------------------------------------------------------------------------------ เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. ภควา ภควนตฺ า ภควนฺโต ท.ุ ภควนตฺ ํ ภควนฺเต ภควนฺโต ต. ภควตา ภควนเฺ ตน ภควนเฺ ตหิ ภควนเฺ ตภิ จ. ภควโต ภควนตฺ สฺส ภควตํ ภควนฺตานํ ปฺ. ภควตา ภควนตฺ มฺหา ภควนตฺ สฺมา ภควนฺเตหิ ภควนเฺ ตภิ ฉ. ภควโต ภควนตฺ สสฺ ภควตํ ภควนตฺ านํ ส. ภควติ ภควนเฺ ต ภควนตฺ มหฺ ิ ภควนตฺ สมฺ ึ ภควนฺเตสุ อา. ภคว ภควา ภควนตฺ า ภควนโฺ ต ศัพทเหลาน้ี แจกเหมอื น ภควนตฺ ุ ------------------------------------------------------------------------------- อายสฺมนตฺ ุ คนมีอายุ ธติ มิ นตฺ ุ คนมปี ญญา คุณวนตฺ ุ คนมคี ณุ ปญฺ วนตฺ ุ คนมปี ญญา จกขฺ มุ นตฺ ุ คนมจี กั ษุ ปุ ญฺ วนตฺ ุ คนมบี ุญ ชตุ ิมนฺตุ คนมีความโพลง พนฺธุมนตฺ ุ คนมพี วกพอง ธนวนตฺ ุ คนมที รพั ย สตมิ นตฺ ุ คนมสี ติ
ค่มู อื การอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๔๖ อรหนตฺ [พระอรหันต] เปน ได ๒ ลิงค คือปุงลิงคก ับอิตถลี ิงค ปุงลงิ คแ จกเหมือนแบบ ภควนตฺ ุ ศพั ท ตา งกัน ท่ี ปฐมาวภิ ตั ติเอกวจนะ เปน อรหา อรหํ เทา น้นั นอกนนั้ เหมอื นกัน สว นอติ ถีลงิ ค แปลงเปน อรหนตฺ ี แลว นำไปแจกตามแบบ อี การนั ต ในอิตถลี ิงค (นารี) ภวนฺต [ผูเ จริญ] เปน ทวฺ ลิ ิงค ใน ปงุ ลิงค(อติ ถลี งิ คแ จกเหมือน นารี) แจกอยางนี้ :- ------------------------------------------------------------------------------- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. ภวํ ภวนฺตา ภวนโฺ ต ทุ. ภวนตฺ ํ ภวนฺเต ภวนฺโต ต. ภวตา โภตา ภวนฺเตหิ ภวนเฺ ตภิ จ. ภวโต โภโต ภวตํ ภวนตฺ านํ ป.ฺ ภวตา โภตา ภวนฺเตหิ ภวนเฺ ตภิ ฉ. ภวโต โภโต ภวตํ ภวนตฺ านํ ส. ภวนเฺ ต ภวนเฺ ตสุ อา. โภ ภวนฺตา ภวนโฺ ต โภนตฺ า โภนโฺ ต สตถฺ ุ [ผูสอน] เปน ปุงลงิ คแ จกอยางนี้ :- --------------------------------------------------------------------------------- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. สตฺถา สตถฺ าโร ทุ. สตถฺ ารํ สตฺถาโร ต. สตฺถารา สตถฺ นุ า สตฺถาเรหิ สตถฺ าเรภิ จ. สตฺถุ สตถฺ ุโน สตถฺ ุสสฺ สตฺถารานํ สตถฺ านํ ป.ฺ สตถฺ ารา สตถฺ าเรหิ สตถฺ าเรภิ ฉ. สตถฺ ุ สตถฺ ุโน สตถฺ ุสฺส สตถฺ ารานํ สตถฺ านํ ส. สตฺถริ สตถฺ าเรสุ อา. สตถฺ า สตฺถาโร ศพั ทเ หลานแ้ี จกเหมอื น สตถฺ ุ -------------------------------------------------------------------------------- กตตฺ ุ ผทู ำ เนตุ ผูน ำไป ขตตฺ ุ ผูขุด ภตตฺ ุ ผเู ลี้ยง, ผวั าตุ ผรู ู วตตฺ ุ ผูกลาว ทาตุ ผูให โสตุ ผูฟง นตตฺ ุ หลาน หนตฺ ุ ผฆู า
ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๔๗ ปต ุ [พอ] เปน ปุงลงิ ค แจกอยางนี้ :- (ภาตุ พ่ีชาย นอ งชาย, ชามาตุ ลูกเขย, ๒ ศพั ทนี้ แจกเหมือน ปต ุ) ----------------------------------------------------------------------------------- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. ปตา ปต โร ท.ุ ปต รํ ปตโร ปต เร ต. ปต รา ปต ุนา ปต เรหิ ปต เรภิ ปตหู ิ ปต ภู ิ จ. ปตุ ปตโุ น ปต รานํ ปต นู ํ ป.ฺ ปตรา ปต เรหิ ปตเรภิ ปต หู ิ ปตูภิ ฉ. ปต ุ ปต โุ น ปตรานํ ปตนู ํ ปตานํ ส. ปต ริ ปต เรสุ ปต สู ุ อา. ปต า ปต โร มาตุ [มารดา] เปน อติ ถีลงิ ค แจกอยา งนี:้ - (ธตี ุ [ธิดา] แจกเหมอื น มาตุ) ------------------------------------------------------------------------------------- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. มาตา มาตโร ท.ุ มาตรํ มาตโร ต. มาตรา มาตยุ า มาตราหิ มาตราภิ มาตูหิ มาตูภิ จ. มาตุ มาตยุ า มาตรานํ มาตูนํ ป.ฺ มาตรา มาตราหิ มาตราภิ มาตูหิ มาตภู ิ ฉ. มาตุ มาตุยา มาตรานํ มาตนู ํ ส. มาตริ มาตราสุ มาตสู ุ อา. มาตา มาตโร มโนคณะศัพท คือหมูแหง มน ศัพทเปนตน มี ๑๒ ศัพท มน ศัพทเปนทฺวิลิงค คือ ปุล ิงคและนปุส กลิงค ศัพทท เ่ี หลือนอกนัน้ เปน ปงุ ลงิ คอ ยางเดยี ว ดงั น้ี มน [ใจ] เปน ทวฺ ิลิงค ใน ปุงลงิ ค แจกอยา งน้ี เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. มโน มนา ทุ. มนํ มโน มเน ต. มนสา มเนน มเนหิ มเนภิ จ. มนโส มนสสฺ มนานํ ป.ฺ มนสา มนา มนมหฺ า มนสฺมา มเนหิ มเนภิ ฉ. มนโส มนสฺส มนานํ ส. มนสิ มเน มนมหฺ ิ มนสฺมึ มเนสุ อา. มน มนา มน [ใจ] เปน ทวฺ ิลิงค ใน นปงุ สกลงิ ค แจกอยางน้ี
ค่มู อื การอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๔๘ เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. มนํ มนานิ ท.ุ มนํ มโน มนานิ ต. มนสา มเนน มเนหิ มเนภิ จ. มนโส มนสฺส มนานํ ป.ฺ มนสา มนา มนมหฺ า มนสฺมา มเนหิ มเนภิ ฉ. มนโส มนสฺส มนานํ ส. มนสิ มเน มนมฺหิ มนสฺมึ มเนสุ อา. มน มนานิ ศพั ทช ื่อมโนคณะ แจกตาม มน ศพั ทในปุงลิงค มดี งั นี้ ๑. มน ใจ ๒. อย เหลก็ ๓. อุร อก ๔. เจต ใจ ๕. ตป ความรอ น ๖. ตม มืด ๗. เตช เดช ๘. ปย นำ้ นม ๙. ยส ยศ ๑๐. วจ วาจา ๑๑. วย วยั ๑๒. สริ หวั กมมฺ [กรรม] เปน นปงุ สกลงิ ค แจกอยางนี้ :- ------------------------------------------------------------------------------ เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. กมมฺ ํ กมฺมานิ กมฺมา ทุ. กมฺมํ กมฺมานิ กมเฺ ม ต. กมมฺ ุนา กมมฺ นา กมเฺ มน กมเฺ มหิ กมเฺ มภิ จ. กมฺมุโน กมมฺ สสฺ กมมฺ านํ ป.ฺ กมฺมุนา กมมฺ สฺส กมเฺ มหิ กมเฺ มภิ ฉ. กมฺมุโน กมฺมานํ ส. กมฺมนิ กมเฺ ม กมฺมมหฺ ิ กมมฺ สมฺ ึ กมเฺ มสุ อา. กมมฺ กมมฺ านิ โค [โค] สามัญ ไมน ยิ มวา ผู เมีย แจกอยางนี้ :- ----------------------------------------------------------------------------------- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. โค คาโว คโว ทุ. คาวํ คาวุ คาโว คโว ต. คาเวน คเวน โคหิ โคภิ คาเวหิ คาเวภิ จ. คาวสสฺ ควสฺส คุนฺนํ คาวานํ ปฺ. คาวสมฺ า คาวมหฺ า คาวา ควา ควมหฺ า ควสฺมา โคหิ โคภิ คาเวหิ คาเวภิ ฉ. คาวสสฺ ควสฺส คนุ ฺนํ คาวานํ
ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๔๙ ส. คาวสมฺ ึ คาวมหฺ ิ คาเว คเว ควมหฺ ิ ควสฺมึ โคสุ คาเวสุ อา. คาว คาโว โค ศัพทนี้ ถาประสงคใหเปนปุงลิงค ใหแปลง โค เปน โคณ แลวนำไปแจกอยาง ปุริส ศัพท อ การันต ในปุงลิงค และถาประสงคใหเปนอิตถีลิงค ใหแปลง โค เปน คาวี แลวนำไปแจกอยาง นารี อี การันต ในอิตถีลิงค โค ศัพทน้ี อาจารยบางทาน ใหความหมายวาเปน อลิงค คือไมเปนลิงคอะไร และเปน โอ การันต ศัพทน อกเหนอื จากกตปิ ยศัพท ๑๒ ศพั ทน้ี ยังมีศพั ทอ่ืนอีกท่ีมวี ิธแี จกเฉพาะของตน แตไ มค อยมีใช ในคมั ภรี ทง้ั หลายเทา ใดนัก มี ๖ ศพั ท ดงั น้ี ๑. ปมุ แปลวา ชาย เปนปงุ ลิงค มที ่ใี ชบ า ง เฉพาะปฐมาวิภัตติ เอกวจนะ คือ ปมุ า เทาน้นั ๒. สา แปลวา หมา เปนคำกลางๆ ไมเจาะจงวาเปนเพศผูหรอื เพศเมีย เหมือนกับศัพทวา “โค” มี ที่ใชแ ตเฉพาะปฐมาวิภัตติ เอกวจนะ คือ สา เทานั้น ในปุงลงิ คใชเปน สุนข ในอติ ถีลงิ คใชเปน สุนขี หรือใช ศัพทอ ืน่ ๆ นอกจากนี้ แจกตามการันตในลิงคน ัน้ ๆ ๓. อทธฺ า แปลวา กาลยดื ยาว เปนปุงลงิ ค มีท่ีใชบ า งในฝา ยเอกวจนะ ทเ่ี ปนปฐมาวิภตั ติ คือ อทธฺ า ทตุ ยิ าวภิ ตั ติ คอื อทธฺ านํ ตตยิ าวภิ ตั ติ คอื อทฺธนุ า จตตุ ถวี ิภตั ติและฉัฏฐวี ภิ ัตติ คอื อทธฺ โุ น และสตั ตมีวภิ ตั ติ คอื อทธฺ าเน เทา นน้ั ๔. มฆว แปลวา พระอนิ ทร เปน ปุงลงิ ค มใี ชมากแตป ฐมาวิภตั ติ เอกวจนะ คอื มฆวา มใี ชเ ปน อาลปนะบา ง คอื มฆว ๕. ยุว แปลวา ชายหนมุ หญิงสาว เปน ไดสองลงิ ค คอื ปงุ ลงิ ค และอติ ถีลงิ ค ในปงุ ลงิ คนยิ มใช แตป ฐมาวิภัตติ เอกวจนะ คือ ยุวา นอกนน้ั แจกเหมือน ปรุ สิ ศัพท ในอิตถลี งิ ค แปลง ยวุ เปน ยวุ ตี แจก ตามนารี อี การนั ต ในลิงคน นั้ ๖. สข แปลวา เพอื่ น เปนไดสองลิงค คือปงุ ลิงค และอติ ถลี งิ ค ในปงุ ลงิ คนิยมใชแ ตป ฐมาวิภัตติ เอกวจนะ คือ สขา ในอติ ถลี งิ ค แปลง สข เปน สขี แลวนำไปแจกตาม นารี อี การันต สัพพนาม นนั้ แบง เปน ๒ คือ ๑.ปุรสิ สพั พนาม เปน ศพั ทสำหรบั ใชแทนชอ่ื คนและสงิ่ ของทอ่ี อกช่อื มาแลว ขา งตน เพ่ือจะไมใ ห เปน การซ้ำซาก นบั ตามบรุ ุษทที่ า นจดั ไวใน อาขยาต เปน ๓ คือ ต ศัพท ตุมหฺ ศพั ท และ อมหฺ ศัพท ต ศพั ท เปน ประถมบรุ ุษ ชายที่ ๑ สำหรบั ออกช่ือคนและสิง่ ของ ทผี่ พู ดู ออกชือ่ ถึง เชน คำใน ภาษาของเราวา \"เขา\" เปน ไตรลิงค ตมุ ฺห ศัพท เปน มธั ยมบรุ ุษ ชายมใี นทา มกลาง สำหรบั ออกชอ่ื คนที่ผพู ดู ๆ กบั คนใด สำหรบั ออก ช่ือคนนนั้ เชน คำในภาษาของเราวา \"เจา , ทา น, สู, เอง, มึง\" ตามคำสงู และตำ่ , แตใ นภาษาบาลไี มมคี ำสงู คำ ตำ่ อยางนี้ ใช ตมุ ฺห ศัพทอยา งเดียว อมหฺ ศัพท เปน อตุ ตมบรุ ษุ ชายสงู สดุ สำหรบั ใชอ อกชอ่ื ผูพดู เชนคำในภาษาของเราวา \"ฉนั , ขา, กู\" ตามคำที่สงู และตำ่ แตในภาษาบาลไี มมคี ำสงู คำตำ่ อยางน้ี ใช อมหฺ ศพั ทอ ยางเดียว ตมุ หฺ และอมหฺ ศัพท ท้งั ๒ นี้ แจกเปน แบบเดียวกนั ทงั้ ปลุ งิ คและอติ ถลี ิงค. ๒.วเิ สสนสัพพนาม คลา ย ๆ กับคณุ นาม แตม วี ธิ แี จกไมเ หมอื นคณุ นาม แบง เปน ๒ คอื อนยิ ม และนยิ ม
ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๕๐ อนยิ ม ไดแ ก ศัพทเ หลานี้ คอื ย, อฺ , อฺ ตร, อฺ ตม, ปร, อปร, กตร, กตม, เอก, อภุ ย, อติ ร, สพฺพ, กึ นิยม ไดแ ก ศัพทเ หลา น้ี คือ ปุพฺพ, ทกฺขณิ , อตุ ตฺ ร, อธร, ต, เอต, อิม, อม,ุ ย ศัพทน น้ั ไมเ ปน อนิยมแทท ีเดยี ว เพราะเขา กับ ตมุ ฺห, อมฺห ศัพทกไ็ ด วเิ สสนสัพพนาม ๒ อยาง เปน ไตรลงิ ค แจกไดท้งั ๓ ลงิ ค ในสพั พนามทัง้ ปวง ไมมอี าลปนะ ต ศพั ท ใน ปงุ ลงิ ค แจกอยางน้:ี - ---------------------------------------------------------------------------------- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. โส เต ท.ุ ตํ นํ เต เน ต. เตน เตหิ จ. ตสฺส อสสฺ เตสํ เตสานํ เนสํ เนสานํ ป.ฺ ตสสฺ อสมฺ า ตมหฺ า เตหิ ฉ. ตสฺส อสฺส เตสํ เตสานํ เนสํ เนสานํ ส. ตสมฺ ึ อสมฺ ึ ตมหฺ ิ เตสุ ต ศัพท ใน อติ ถีลงิ ค แจกอยา งน้ี :- ----------------------------------------------------------------------------------- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. สา ตา ทุ. ตํ นํ ตา ต. ตาย ตาหิ จ. ตสฺสา อสฺสา ติสสฺ า ตสิ สฺ าย ตาสํ ตาสานํ ปฺ. ตาย ตาหิ ฉ. ตสฺสา อสสฺ า ตสิ ฺสา ติสฺสาย ตาสํ ตาสานํ ส. ตายํ ตสสฺ ํ อสสฺ ํ ตสิ ฺสํ ตาสุ ต ศัพท ใน นปุงสกลงิ ค แจกเหมอื น ใน ปงุ ลงิ ค ตา งกนั ท่ี ปฐมาวภิ ตั ติ เอกวจนะ เปน ตํ พหุวจนะ เปน ตานิ และทตุ ิยาวิภตั ติ พหวุ จนะ เปน ตานิ เทา นนั้ . ตุมฺห ศัพท (ทาน) ทง้ั สองลิงค แจกอยา งเดยี วกัน อยางน้ี :- -------------------------------------------------------------------------------- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. ตฺวํ ตวุ ํ ตุมฺเห โว ท.ุ ตํ ตฺวํ ตวุ ํ ตุมเฺ ห โว ต. ตยา ตวฺ ยา เต ตมุ เฺ หหิ โว จ. ตยุ หฺ ํ ตุมหฺ ํ ตว เต ตุมฺหากํ โว ปฺ. ตยา ตมุ ฺเหหิ
ค่มู อื การอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๕๑ ฉ. ตุยฺหํ ตมุ หฺ ํ ตว เต ตุมฺหากํ โว ส. ตยิ ตวฺ ยิ ตมุ เฺ หสุ อมฺห ศพั ท (ขา ) ทั้งสองลงิ ค แจกเปน แบบเดยี วกนั อยางน้ี :- -------------------------------------------------------------------------------- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. อหํ มยํ โน ทุ. มํ มมํ อมเฺ ห โน ต. มยา เม อมฺเหหิ โน จ. มยหฺ ํ อมฺหํ มม มมํ เม อมหฺ ากํ อสฺมากํ โน ป.ฺ มยา อมเฺ หหิ ฉ. มยหฺ ํ อมหฺ ํ มม มมํ เม อมฺหากํ อสฺมากํ โน ส. มยิ อมเฺ หสุ ย ศัพท ใด ใน ปุงลงิ ค แจกอยางน้ี :- ------------------------------------------------------------------------ เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. โย เย ท.ุ ยํ เย ต. เยน เยหิ จ. ยสฺส เยสํ เยสานํ ป.ฺ ยสมฺ า ยมหฺ า เยหิ ฉ. ยสสฺ เยสํ เยสานํ ส. ยสฺมึ ยมหฺ ิ เยสุ ศัพทเหลา น้ี แจกเหมอื น ย ศพั ท ------------------------------------------------------------------------------ อฺ อ่ืน กตม คนไหน อฺ ตร คนใดคนหนึง่ เอก คนหนง่ึ , พวกหนึง่ อฺตม อยางใดอยา งหนงึ่ เอกจจฺ บางคน,บางพวก ปร อ่ืน อุภย ทง้ั สอง อปร อ่นื อีก สพพฺ ทงั้ ปวง กตร คนไหน ย ศัพท ในอติ ถลี งิ ค แจกอยา งนี้ :- ------------------------------------------------------------------------------ เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. ยา ยา ทุ. ยํ ยา
ค่มู อื การอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๕๒ ต. ยาย ยาหิ จ. ยสฺสา ยาสํ ยาสานํ ปฺจ. ยาย ยาหิ ฉ. ยสฺสา ยาสํ ยาสานํ ส. ยสสฺ ํ ยาสุ ย ศพั ท ใน นปุงสกลงิ ค แจกเหมอื น ปุงลงิ ค ตางกันที่ ปฐมาวิภตั ติ เอกวจนะ เปน ยํ พหวุ จนะ เปน ยานิ และทตุ ยิ าวภิ ัตติ พหวุ จนะ เปน ยานิ เทานัน้ . กึ ศัพท ใคร,อะไร คงเปน รปู กึ อยแู ตใน นป.ุ ป.ทุ. เอก. เทา นนั้ นอกนัน้ แปลงเปน ก แลว แจกใน ไตรลงิ คเหมือน ย ศัพท กึ ศพั ท ท่แี จกดวยวภิ ัตติในไตรลงิ คน ี้ มี จิ อยูทา ยศัพท แปลวา นอ ย บางคน หรือ บางสิ่ง เปน คำใหว า ซำ้ สองหนเหมือนในภาษาของเราเขียนรปู \"ๆ\" เชน โกจิ ชายบางคน หรือ ใคร ๆ กาจิ อติ ถฺ ี หญงิ บางคน หรอื หญิงไร ๆ กิ จฺ ิ วตถฺ ุ ของนอ ยหน่ึง หรอื ของบางส่ิง ถา เปนพหวุ จนะ แปลวา บาง พวก หรอื บางเหลา เชน เกจิ ชนา ชนทัง้ หลายบางพวก กาจิ อติ ถฺ ี หญงิ ทงั้ หลายบางพวก กานิจิ กุลานิ ตระกูลท้ังหลายบางเหลา ถา มี ย นำหนา มี จิ อยูหลงั แปลวา คนใดคนหนึ่ง หรือ ส่งิ ใดสิง่ หน่งึ เชน ๑. โย โกจิ เทโว วา มนสุ ฺโส วา เทวดาหรอื หรอื มนษุ ย คนใดคนหนง่ึ . ๒. ยา กาจิ เวทนา อตตี านาคตปจจฺ ปุ ปฺ นนฺ า เวทนา อยางใดอยางหนึ่ง ลว งแลว หรือยัง ไมม าหรือเกดิ ขึ้นเฉพาะแลว . ๓. ยงกฺ ิ จฺ ิ วิตตฺ ํ อิธ วา หุรํ วา ทรพั ยเครื่องปลืม้ ใจ อนั ใดอนั หนง่ึ ในโลกนี้หรอื หรือในโลกอ่นื . เอต ศพั ท [นน่ั ] ใน ปงุ ลิงค แจกอยางนี้:- ---------------------------------------------------------------------------- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. เอโส เอเต ทุ. เอตํ เอนํ เอเต ต. เอเตน เอเตหิ จ. เอตสฺส เอเตสํ เอเตสานํ ป.ฺ เอตสมฺ า เอตมหฺ า เอเตหิ ฉ. เอตสฺส เอเตสํ เอเตสานํ ส. เอตฺสมฺ ึ เอตมหฺ ิ เอเตสุ เอต ศพั ท ในอิตถลี งิ ค แจกอยา งนี้ :- --------------------------------------------------------------------------- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. เอสา เอตา ท.ุ เอตํ เอนํ เอตา ต. เอตาย เอตาหิ
ค่มู ือการอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๕๓ จ. เอตสฺสา เอติสสฺ า เอติสฺสาย เอตาสํ เอตาสานํ ปฺ. เอตาย เอตาหิ เอตาภิ ฉ. เอตสสฺ า เอติสฺสา เอติสสฺ าย เอตาสํ เอตาสานํ ส. เอตสสฺ ํ เอติสสฺ ํ เอตาสุ เอต ศัพท ใน นปงุ สกลงิ ค แจกเหมอื นใน ปุงลงิ ค ตางกนั ที่ ปฐมาวภิ ัตติ เอกวจนะ เปน เอตํ พหุ วจนะ เปน เอตานิ และทตุ ิยาวิภตั ติ พหวุ จนะ เปน เอตานิ เทานัน้ อิม ศพั ท (นี)้ ใน ปุงลงิ ค แจกอยา งนี้ :- ---------------------------------------------------------------------------- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. อยํ อเิ ม ท.ุ อิมํ อิเม ต. อิมินา อเนน อเิ มหิ จ. อิมสฺส อสสฺ อิเมสํ อเิ มสานํ ป.ฺ อิมสฺมา อมิ มหฺ า อสมฺ า อเิ มหิ ฉ. อมิ สฺส อสสฺ อิเมสํ อเิ มสานํ ส. อิมสฺมึ อมิ มหฺ ิ อสมฺ ึ อเิ มสุ อิม ศัพท ในอติ ถีลงิ ค แจกอยางน้ี :- ------------------------------------------------------------------------------ เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. อยํ อมิ า ทุ. อิมํ อมิ า ต. อมิ าย อิมาหิ จ. อมิ ิสสฺ า อมิ ิสสฺ าย อสสฺ า อมิ าสํ อมิ าสานํ ป.ฺ อมิ าย อมิ าหิ ฉ. อมิ สิ สฺ า อมิ ิสสฺ าย อสฺสา อมิ าสํ อมิ าสานํ ส. อิมสิ สฺ ํ อสฺสํ อิมาสุ อิม ศัพท ใน นปงุ สกลงิ ค แจกเหมอื นใน ปงุ ลิงค ตางกนั ที่ ปฐมาวิภัตติ เอกวจนะ เปน อิทํ พหุ วจนะ เปน อิมานิ และ ทุตยิ าวิภัตติ เอกวจนะ เปน อิทํ อิมํ พหวุ จนะ เปน อมิ านิ เทานั้น อมุ ศพั ท (โนน ) ใน ปุงลงิ ค แจกอยา งนี้ :- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. อมุ อมู ท.ุ อมุ อมู ต. อมนุ า อมูหิ จ. อมุสฺส อมโุ น อมูสํ อมูสานํ
ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๕๔ ปฺ. อมุสมฺ า อมุมหฺ า อมูหิ ฉ. อมุสฺส อมโุ น อมสู ํ อมูสานํ ส. อมุสมฺ ึ อมุมหฺ ิ อมสู ุ อมุ ศัพท ในอติ ถีลงิ ค แจกอยา งน้ี :- เอกวจนํ พหวุ จนํ ป. อมุ อมู ทุ. อมุ อมู ต. อมุยา อมูหิ จ. อมสุ สฺ า อมูสํ อมสู านํ ปฺ. อมุยา อมหู ิ ฉ. อมสุ สฺ า อมสู ํ อมสู านํ ส. อมุสสฺ ํ อมูสุ อมุ ศัพท ใน นปงุ สกลงิ ค แจกเหมือนใน ปงุ ลงิ ค ตางกนั ท่ี ปฐมาวภิ ัตติ เอกวจนะ เปน อทุ พหุ วจนะ เปน อมูนิ และทุตยิ าวภิ ัตติ พหวุ จนะ เปน อมูนิ เทานนั้ อัพยยศพั ท ศัพทอ ีกจำพวกหนง่ึ แจกดว ยวิภตั ติทง้ั ๗ แปลงรปู ไปตา ง ๆ เหมือนนามทัง้ ๓ ไมได คงรปู อยู เปนอยางเดียว ศัพทเหลานเี้ รียกวา อัพยยศัพท แบง เปน ๓ คอื อุปสัค นิบาต ปจ จัย ๑.อุปสคั นนั้ สำหรับใชนำหนา นามและกริ ิยา แจกแจงเนอ้ื ความใหว เิ ศษขนึ้ เสมอตวั หรอื ตำ่ ลง กวา เดิม เมื่อนำหนานาม มอี าการคลา ยคุณนาม เมือ่ นำหนา กริ ิยา มีอาการคลา ยกริ ยิ าวเิ สสนะ อติ ยงิ่ เกนิ ลว ง อธิ ยงิ่ ใหญ ทบั อนุ นอ ย ภายหลงั ตาม อป ปราศ หลกี อป หรอื ป ใกล บน อภิ ยิ่ง ใหญ จำเพาะ ขา งหนา อว หรอื โอ ลง อา ทว่ั ย่ิง กลับความ อุ ขนึ้ นอก อปุ เขา ไป ใกล มั่น ทุ ช่วั ยาก นี เขา ลง นิ ไมม ี ออก ป ทัว่ ขา งหนา กอน ออก ปฏิ เฉพาะ ตอบ ทวน กลับ ปรา กลบั ความ ปริ รอบ วิ วิเศษ แจง ตา ง สํ พรอม กบั ดี สุ ดี งาม งา ย. ๒.นบิ าต น้ัน สำหรับลงในระหวา งนามศพั ทบา ง กริ ิยาศัพทบา ง บอก อาลปนะ กาล ที่ ปรเิ ฉท อุปไมย ปฏิเสธ ความไดย นิ เลาลือ ความปริกปั ความถาม ความรบั ความเตอื น เปน ตน
ค่มู อื การอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๕๕ นิบาตบอกอาลปนะ อคฺเฆ, ยคเฺ ฆ เปน คำสำหรบั รองเรยี ก ใหค นสูงกวา ตนตัง้ ใจฟงคำที่ผูพ ดู ประสงคจ ะกลา ว ไมมคี ำ แปลในภาษาของเราใหต รงกนั ได เห็นมอี ยูแตค ำทูลพระเจาแผน ดินวา \"สรวมชีพ\" หรอื \"ขอเดชะ\" ซง่ึ เปน คำพูดเพอ่ื จะใหพระจา แผนดิน ตง้ั พระราชหฤทัยฟงคำท่จี ะพดู ตอ ไป ภนเฺ ต, ภทนเฺ ต ๒ คำนี้ เปนคำสำหรับคฤหสั ถเรียกบรรพชติ ดวยเคารพ หรอื บรรพชติ ผูออน พรรษากวา เรียกบรรพชติ ผแู กก วา เชน กตมฺ ํ ปน ภนเฺ ต คนถฺ ธรุ ํ ขา แตท านผูเจรญิ ก็ คนั ถธรุ ะ เปน ไฉน ภเณ เปน คำสำหรบั คนสงู กวา พดู กบั คนผูทีอ่ ยใู นบงั คับตน เชน พระเจา แผน ดนิ รบั ส่งั แก ขา ราชการ เชน ทุกกฺ รํ ภเณ พรฺ าหมฺ เณน กตํ ภเณ กรรมอนั บคุ คล ทำไดยาก อันพราหมณ ทำแลว ในภาษาของเราทา นบญั ญตั ใิ ห แปลวา \"พนาย.\" อมฺโภ เปน คำเรียกชายดวยวาจาออ นหวาน ในภาษาเราทา นใหแ ปลวา \"แนะ ผเู จรญิ เชน อมโฺ ภ กุมารา เอส สาลกิ โปตโก, ตํ คณฺหถ. แนะ กมุ าร ท. ผูเจรญิ นนั่ ลกู นกสาลกิ า เจา ท. จงจับเอา ซึ่งมนั อาวโุ ส เปน คำสำหรบั บรรพชิตทม่ี ีพรรษามากกวา เรียกบรรพชติ ทมี่ ี พรรษานอ ยกวา และสำหรบั บรรพชติ เรยี กคฤหัสถ เชน มา อาวุโส เอวํ อวจ อาวโุ ส ทา น อยา ไดกลาวแลว อยา งนน้ั ในภาษาของเราทา นบญั ญตั ใิ หแ ปลวา \"แนะ ทา นผมู อี าย.ุ \" เร, อเร ๒ คำนี้ เปน คำสำหรับรอ งเรียกคนเลวทราม ตรงกบั ภาษาของเราวา \"เวย , โวย \" เชน อเร ขชุ ฺเช แนะ หญงิ คอ ม เวย, ติ เร เอง จงหยดุ โวย เห เปน คำสำหรบั รองเรียกคนเลว ตรงกบั ภาษาเราวา เฮย เชน เห มลฺลกิ า กสมฺ า เอวรปู มกาสิ เฮย แนะนางมัลลกิ า เหตไุ ร เจา ไดทำแลว ซึ่งกรรมมีอยางน้เี ปนรปู เช เปนคำทีน่ ายเรียกสาวใช เชน หนฺท เช อมิ ํ ภณฺฑํ คณหฺ าหิ เอาเถดิ แม(เจา)จงถอื ซง่ึ ภัณฑะนี้ นบิ าตบอกกาล ลงในอรรถสตั ตมี อถ ครงั้ นนั้ หิยโฺ ย วนั วาน ปาโต เชา เสฺว วันพรุง ทวิ า วัน สมฺปติ บดั เด๋ียวน้ี สายํ เย็น อายตึ ตอ ไป สุเว ในวนั อโธ เบอื้ งตำ่ เห า ภายใต นบิ าตบอกสถานที่ โอรํ ฝงใน ปารํ ฝง นอก อุทฺธํ เบ้ืองบน หรุ ํ โลกอืน่ อุปริ เบือ้ งบน สมมฺ ุขา ตอ หนา อนตฺ รา ระหวา ง ปรมมฺ ุขา ลบั หนา อนโฺ ต ภายใน พาหริ า ภายนอก ติโร ภายนอก พหิ ภายนอก พหิทธฺ า ภายนอก รโห ที่ลบั
ค่มู ือการอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๕๖ สมนฺตา รอบคอบ นบิ าตบอกปริจเฉท กีว เพียงไร ยาวตา มีประมาณเพียงใด ยาว เพยี งใด ตาวตา มปี ระมาณเพยี งนน้ั ตาว เพยี งนนั้ กิตตฺ าวตา มีประมาณเทา ใด ยาวเทว เพียงใดน่นั เทยี ว เอตตฺ าวตา มีประมาณเทา นนั้ ตาวเทว เพยี งนน้ั น่ันเทียว นิบาตบอกอปุ มาอุปไมย วิย ราวกะ เสยยฺ ถา ฉันใด อิว เพียงดัง ตถา ฉันนั้น ยถา ฉันใด เอวํ ฉันนั้น กถํ ดว ยประการไร นิบาตบอกประการ ยถา ดวยประการใด เอว น่ันเทียว เอวํ ดว ยประการน้ัน วินา เวน ตถา ดวยประการน้นั อลํ พอ นบิ าตบอกปฏเิ สธ น ไม หามไิ ด โน ไม หามไิ ด มา อยา ว เทียว นบิ าตบอกความไดยนิ คำเลา ลอื กิร ไดย ินวา สทุ ํ ไดยินวา นบิ าตบอกปรกิ ัป เจ หากวา อถ ถาวา ยทิ ผวิ า อปฺเปว นาม ช่ือแมไ ฉน สเจ ถา วา ยนฺนูน กระไรหนอ นิบาตบอกความถาม กึ หรอื , อะไร นนุ มิใชห รอื กถํ อยางไร อุทาหุ หรือวา กจฺจิ แลหรอื อาทู หรือวา นุ หนอ เสยยฺ ถีทํ อยางไรนี้
ค่มู อื การอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๕๗ นบิ าตบอกความรบั อาม เออ อามนฺตา เออ นิบาตบอกความเตอื น อิงฺฆ เชิญเถดิ หนฺท เอาเถดิ ตคฆฺ เอาเถดิ นิบาตสำหรับผกู ศพั ทแ ละประโยคมีอตั ถะเปนอเนก จ ดว ย, อน่ึง, ก,็ จรงิ อยู ปน สวนวา , ก็ วา หรอื , บาง อป แม, บาง หิ ก,็ จริงอยู, เพราะวา อปจ เออก็ ตุ สว นวา , ก็ อถวา อกี อยางหน่ึง นบิ าตสกั วา เปนเครอ่ื งทำบทใหเ ตม็ นุ หนอ โข แล สุ สิ วต หนอ เว เวย หเว เวย โว โวย นบิ าตมีเนื้อความตาง ๆ อฺทตฺถุ โดยแท อาวี แจง อโถ อนึ่ง อจุ จฺ ํ สูง อทธฺ า แนแ ท อิติ เพราะเหตนุ ัน้ ,วา ดังน,ี้ ดว ยประการน้ี,ชอ่ื อวสสฺ ํ แนแ ท อโห โอ กิ ฺจาป แมนอ ยหนง่ึ อารา ไกล กวฺ จิ บา ง นีจํ ตำ่ มจิ ฉฺ า ผดิ นูน แน มุธา เปลา นานา ตาง ๆ มุสา เท็จ ปจฉฺ า ภายหลงั สกึ คราวเดยี ว ป าย ตงั้ กอ น สตกขฺ ตฺตุ รอ ยคราว ปภูติ จำเดิม สทฺธึ พรอ ม, กบั ปุน อีก สณกิ ํ คอ ย ๆ ปนุ ปฺปนุ ํ บอย ๆ สยํ เอง ภยิ ฺโย ยง่ิ สห กับ ภยิ ฺโยโส โดยยิ่ง สามํ เอง ๓.ปจจัย นัน้ ลงทายนามศพั ทเปนเครอ่ื งหมายวิภัตติ ลงทายธาตเุ ปนเครอื่ งหมายกริ ยิ า มี ๔ ดงั นี้
ค่มู ือการอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๕๘ ๑.) โต ปจ จยั เปน เครอื่ งหมายตติยาวภิ ตั ติ แปลวา ขาง เปน เครอื่ งหมายปญ จมวี ิภตั ติ แปลวา แต ดังน้ี สพฺพโต แต- ท้ังปวง ปุรโต ขางหนา อฺโต แต- อนื่ ปจฉฺ โต ขางหลัง อฺตรโต แต- อันใดอนั หนงึ่ ทกขฺ ณิ โต ขางขวา อติ รโต แต- นอกนี้ วามโต ขา งซาย เอกโต ขา งเดยี ว อุตตฺ รโต ขา งเหนอื อุภโต สองขาง อธรโต ขางลา ง ปรโต ขา งอนื่ ยโต แต- ใด ตโต แต- นนั้ อมุโต แต- โนน เอโต อโต แต- นน่ั กตรโต แต- อะไร อโิ ต แต- น้ี กโุ ต แต- ไหน อปรโต ขา งอนื่ อกี ๒.) ปจจัย ๙ ตัว คือ ตรฺ ตฺถ ห ธ ธิ หึ หํ หิจฺ นํ ว เปนเคร่อื งหมายสตตฺ มแี ปลตามสตฺตมี ดงั นี้ สพฺพตรฺ ใน-ทั้งปวง สพฺพตถฺ ใน-ทัง้ ปวง อหิ ใน-น้ี อธิ ใน-น้ี สพฺพธิ ใน-ทง้ั ปวง กุหึ ใน-ไหน ยหํ ใน-ใด กุหึ จฺ นํ ใน-ไหน กวฺ ใน-ไหน ๓.) ปจ จยั ๗ ตัว คอื ทา ทานิ รหิ ธุนา ทาจนํ ชฺช ชชฺ ุ เปนเคร่ืองหมายสตตฺ มีลงในกาล ดังนี้ สพพฺ ทา ในกาลทัง้ ปวง เอตรหิ ในกาลน้ี, เดีย๋ วนี้ สทา ในกาลทุกเมื่อ กรหจิ ในกาลไหน ๆ,บางคร้ัง เอกทา ในกาลหน่งึ ,บางที อธุนา ในกาลน้ี, เมื่อก้ี ยทา ในกาลใด, เม่อื ใด กุทาจนํ ในกาลไหน ตทา ในกาลนนั้ , เมือ่ นนั้ อชฺช ในวนั นี้ กทา ในกาลไร, เมื่อไร สชฺชุ ในวันมอี ยู, วันนี้ กทาจิ ในกาลไหน,บางคราว ปรชชฺ ุ ในวนั อน่ื อทิ านิ ในกาลน้ี, เดีย๋ วนี้ อปรชฺชุ ในวันอนื่ อกี ๔.) ปจ จยั กิรยิ ากติ ก ๕ ตัว คอื ตเว ตุ ตนู ตฺวา ตวฺ าน เปน อพั ยยะ แจกดว ยวิภตั ตไิ มไ ด ดงั นี้ กาตเว เพื่ออนั ทำ กาตุ ความทำ, เพือ่ อนั ทำ กาตนู ทำแลว กตวฺ า ทำแลว
ค่มู อื การอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๕๙ กตวฺ าน ทำแลว คนตฺ เว เพอ่ื อันไป คนตฺ ุ เพือ่ อนั ไป,ความไป คนฺตนู ไปแลว คนตฺ วฺ า ไปแลว คนตฺ ฺวาน ไปแลว ๓.๕ สังขยา สังขยา คอื คำศพั ทส ำหรับใชน ับจำนวนสุทธนาม หรือจำนวนทีถ่ กู นับ มี ๒ อยาง คอื ปกตสิ ังขยา และ ปรู ณสังขยา ปกตสิ ังขยา คอื คำศพั ทท ใ่ี ชนบั จำนวนตามธรรมดา เชน หน่งึ สอง สาม เปน ตน ดงั นี้ คำบาลี คำแปล เอก ๑ ทฺวิ ๒ ติ ๓ จตุ ๔ ปจฺ ๕ ฉ๖ สตฺต ๗ อ ๘ นว ๙ ทส ๑๐ เอกาทส ๑๑ ทวฺ าทส,พารส ๑๒ เตรส ๑๓ จตทุ ฺทส,จุทฺทส ๑๔ ปจฺ ทส,ปณฺณรส ๑๕ โสฬส ๑๖ สตตฺ รส ๑๗ อ ารส ๑๘ เอกูนวสี ต,ิ อูนวีส ๑๙ วสี ติ,วีส ๒๐ เอกวีสติ ๒๑ ทฺวาวีสต,ิ พาวสี ติ ๒๒ เตวสี ติ ๒๓ จตุวีสติ ๒๔ ปฺจวีสติ ๒๕ ฉพฺพีสติ ๒๖ สตฺตวสี ติ ๒๗ อ วีสติ ๒๘
เอกูนตึสต,ิ เอกนู ตึส ค่มู ือการอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๖๐ ตสึ ต,ิ ตึส เอกตตฺ สึ ๒๙ ทฺวตตฺ ึส,พตตฺ สึ ๓๐ เตตตฺ สึ ๓๑ จตุตตฺ ึส ๓๒ ปจฺ ตตฺ สึ ๓๓ ฉตตฺ ึส ๓๔ สตฺตตฺตสึ ๓๕ อ ตตฺ ึส ๓๖ เอกูนจตฺตาสี ,อนู จตตฺ าีส ๓๗ จตฺตาีส,ตาสี ๓๘ เอกจตตฺ าีส ๓๙ เทฺวจตตฺ าีส ๔๐ เตจตตฺ าีส ๔๑ จตุจตตฺ าีส ๔๒ ปจฺ จตตฺ าีส ๔๓ ฉจตตฺ าสี ๔๔ สตตฺ จตตฺ าสี ๔๕ อ จตตฺ าีส ๔๖ เอกูนปฺ าส,อนู ปฺ าส ๔๗ ปฺ าส,ปณณฺ าส ๔๘ สี ๔๙ สตฺตติ ๕๐ อสีติ ๖๐ นวตุ ิ ๗๐ เอกนู สตํ ๘๐ สตํ ๙๐ สหสฺสํ ๙๙ ทสสหสสฺ ํ รอย สตสหสสฺ ํ,ลกขฺ ํ พัน ทสสตสหสฺสํ หมืน่ โกฏิ แสน ปโกฏิ ลาน อสงฺเขยยฺ ํ โกฏิ(สบิ ลาน) สบิ โกฏ(ิ รอ ยลา น) นับไมได
ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๖๑ ๑–๔ การจดั แบงปกติสงั ขยาในนามศพั ท ๕ – ๙๘ เปน สพั พนาม เปน วิเสสนะนบั สุทธนาม ๙๙ ข้นึ ไป เปน คณุ นาม เปนวิเสสนะนบั สทุ ธนาม ๑ – ๑๘ เปน สุทธนาม แปลไดต ามลำพงั ตวั เอง ๑๙ – ๙๘ การจดั แบง ปกตสิ ังขยาในลงิ ค ๙๙ ขึ้นไป เปน ได ๓ ลงิ ค ผันไปตามตวั สทุ ธนามทนี่ ับ โกฏิ เปน อติ ถีลงิ ค เปน อยางนน้ั ไมผ นั ตามสุทธนามทน่ี บั ๑ เปน นปงุ สกลิงค เปน สทุ ธนามแปลตามลำพังตัวเอง ๒ – ๑๘ เปนอติ ถีลงิ ค เปนสุทธนามแปลตามลำพงั ตัวเอง ๑๙ – ๙๘ การจดั แบง ปกตสิ ังขยาในวจนะ ๙๙ ขึ้นไป เปนเอกวจนะ สุทธนามตองเปน เอกวจนะ เปนพหวุ จนะ สุทธนามตอ งเปน พหวุ จนะ เปน เอกวจนะ สทุ ธนามตองเปน พหวุ จนะ เปน ๒ วจนะ สุทธนามเปน เอกวจนะและพหวุ จนะ สรปุ การจดั แบงปกติสงั ขยา เอก (๑) เปน ๓ ลงิ ค เอกวจนะ (เอก สพั พนาม เปน ๒ วจนะ) ทฺวิ (๒) ถงึ อารส (๑๘) เปน ๓ ลิงค พหวุ จนะ เอกนู วสี ติ (๑๙) ถึง อ นวตุ ิ (๙๘) เปน อิตถลี งิ ค เอกวจนะ เอกนู สต (๙๙) ถงึ อสงฺเขยยฺ เปน นปงุ สกลิงค ๒ วจนะ โกฏิ ปโกฏิ โกฏิปฺปโกฏิ อกโฺ ขภณิ ี เปน อติ ถลี งิ ค ๒ วจนะ จำแนกสงั ขยาโดยนาม ๓ เอก ถงึ จตุ เปน สัพพนาม ปจฺ ถงึ อนวตุ ิ เปน คุณนาม เอกนู สต ข้นึ ไป เปน สทุ ธนาม วธิ แี จกปกตสิ ังขยา ๑ – ๕ มแี บบแจกเฉพาะของตน เอก (๑) ใน ๓ ลิงค ปุงลิงค อิตถลี งิ ค นปงุ สกลิงค ป. เอโก เอกา เอกํ ท.ุ เอกํ เอกํ เอกํ ต. เอเกน เอกาย เอเกน จ. เอกสสฺ เอกาย เอกสสฺ ปฺ. เอกสมฺ า,เอกมหฺ า เอกาย เอกสฺมา,เอกมหฺ า ฉ. เอกสสฺ เอกาย เอกสฺส ส. เอกสมฺ ึ,เอกมหฺ ิ เอกาย เอกสฺม,ึ เอกมหฺ ิ เอก เปนเอกวจนะอยา งเดยี ว ในสงั ขยาไมมีอาลปนะ
ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๖๒ ทฺวิ (๒) และ อภุ (ท้ัง ๒) ใน ๓ ลงิ ค เปนพหวุ จนะ ทง้ั ๓ ลงิ คแ จกเหมอื นกนั ทฺวิ อภุ ป. เทวฺ อโุ ภ ท.ุ เทวฺ อุโภ อเุ ภ ต. ทวฺ หี ิ อโุ ภหิ จ. ทฺวินนฺ ํ อภุ นิ ฺนํ ปฺ. ทฺวหี ิ อโุ ภหิ ฉ. ทฺวนิ นฺ ํ อภุ นิ ฺนํ ส. ทฺวสี ุ อุโภสุ ติ (๓) ใน ๓ ลิงค เปน พหวุ จนะทั้ง ๓ ลงิ ค แจกอยางนี้ ปงุ ลิงค อติ ถลี งิ ค นปงุ สกลงิ ค ป. ตโย ติสฺโส ตณี ิ ท.ุ ตโย ติสฺโส ตีณิ ต. ตหี ิ ตีหิ ตหี ิ จ. ติณณฺ ,ํ ติณณฺ นนฺ ํ ติสฺสนนฺ ํ ติณฺณ,ํ ติณณฺ นนฺ ํ ปฺ. ตีหิ ตหี ิ ตีหิ ฉ. ตณิ ฺณ,ํ ตณิ ณฺ นนฺ ํ ตสิ สฺ นนฺ ํ ติณฺณํ,ติณณฺ นนฺ ํ ส. ตสี ุ ตีสุ ตสี ุ จตุ (๔) ใน ๓ ลงิ ค เปน พหวุ จนะท้ัง ๓ ลงิ ค แจกอยา งนี้ ปงุ ลงิ ค อิตถลี งิ ค นปงุ สกลงิ ค ป. จตฺตาโร,จตโุ ร จตสโฺ ส จตฺตาริ ท.ุ จตฺตาโร,จตุโร จตสฺโส จตฺตาริ ต. จตหู ิ จตูหิ จตูหิ จ. จตุนนฺ ํ จตสฺสนนฺ ํ จตุนนฺ ํ ปฺ. จตูหิ จตหู ิ จตูหิ ฉ. จตนุ นฺ ํ จตสฺสนนฺ ํ จตนุ นฺ ํ ส. จตสู ุ จตูสุ จตสู ุ ปฺจ (๕) ใน ๓ ลิงค เปน พหวุ จนะทั้ง ๓ ลงิ ค แจกเหมอื นกนั อยางน้ี ปงุ ลงิ ค อิตถลี ิงค นปุงสกลิงค ป. ปจฺ ปจฺ ปฺจ ทุ. ปจฺ ปจฺ ปฺจ ต. ปฺจหิ ปจฺ หิ ปจฺ หิ
ค่มู ือการอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๖๓ จ. ปฺจนนฺ ํ ปจฺ นนฺ ํ ปจฺ นนฺ ํ ปฺ. ปจฺ หิ ปจฺ หิ ปจฺ หิ ฉ. ปฺจนนฺ ํ ปจฺ นนฺ ํ ปจฺ นนฺ ํ ส. ปจฺ สุ ปฺจสุ ปจฺ สุ ๖ – ๑๘ แจกเหมือน ปฺจ ตวั อยา ง ฉ (๖) ดงั น้ี ปงุ ลิงค อติ ถลี ิงค นปุงสกลิงค ป. ฉ ฉ ฉ ท.ุ ฉ ฉ ฉ ต. ฉหิ ฉหิ ฉหิ จ. ฉนนฺ ํ ฉนนฺ ํ ฉนนฺ ํ ปฺ. ฉหิ ฉหิ ฉหิ ฉ. ฉนนฺ ํ ฉนนฺ ํ ฉนนฺ ํ ส. ฉสุ ฉสุ ฉสุ ๑๙ – ๙๘ แจกไดห ลายแบบ ตามลงิ คและการันต ดังน้ี ลงทายดว ยสระ อะ เชน เอกูนวีส วสี ตสึ จตตฺ าีส เปนอติ ถลี งิ ค แจกอยา ง เอกูนวีส ฝายเอก วจนะ ลงทายดว ยสระ อิ เชน เอกนู วีสติ วสี ติ ตสึ ติ อสตี ิ นวตุ ิ เปนอติ ถลี งิ ค แจกอยาง รตตฺ ิ ฝา ยเอก วจนะ สงทายดว ยสระ อี เชน เอกูนส ี สี เอกสี ฉสี เปน อติ ถฺ ีลงิ ค แจกอยา ง นารี ฝา ยเอก วจนะ เอกนู วสี (๑๙) เปนอติ ถีลงิ ค เอกวจนะ แจกอยางน้ี เอกวจนะ ป. เอกูนวีสํ ท.ุ เอกูนวีสํ ต. เอกนู วีสาย จ. เอกูนวีสาย ปฺ. เอกูนวสี าย ฉ. เอกูนวีสาย ส. เอกนู วีสาย เอกูนวสี ติ (๑๙) เปนอติ ถีลงิ ค เอกวจนะ แจกเหมอื น รตตฺ ิ อยา งนี้ เอกวจนะ ป. เอกนู วีสติ ทุ. เอกนู วสี ตึ ต. เอกนู วีสตยิ า
ค่มู อื การอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๖๔ จ. เอกนู วีสตยิ า ป.ฺ เอกนู วีสติยา ฉ. เอกูนวีสตยิ า ส. เอกนู วสี ตยิ า เอกนู วสี ติยํ เอกนู ส ี - อสี (๕๙-๖๘) เปนอติ ถลี งิ ค เอกวจนะ แจกเหมอื น นารี อยา งนี้ เอกวจนะ ป. เอกูนสี ทุ. เอกนู ส ึ เอกูนส ยิ ํ ต. เอกูนส ยิ า จ. เอกนู สิยา ปฺ. เอกนู สิยา ฉ. เอกนู สิยา ส. เอกนู ส ิยา เอกูนสิยํ เอกูนสตํ (๙๙) ขน้ึ ไป เปนนปุงสกลิงค เปน ได ๒ วจนะ แจกอยา ง กลุ อยางน้ี เอกวจนะ พหวุ จนะ ป. เอกนู สตํ เอกนู สตานิ ท.ุ เอกูนสตํ เอกนู สตานิ ต. เอกูนสเตน เอกูนสเตหิ จ. เอกูนสตสฺส เอกนู สตาย เอกนู สตตฺถํ เอกูนสตานํ ปฺ. เอกนู สตสมฺ า เอกนู สตมหฺ า เอกูนสตา เอกนู สเตหิ ฉ. เอกูนสตสฺส เอกูนสตานํ ส. เอกนู สตสมฺ ึ เอกนู สตมฺหิ เอกูนสเต เอกนู สเตสุ โกฏิ ปโกฏิ โกฏิปฺปโกฏิ ใหจ ำแนกตาม รตตฺ ิ ศพั ทท้ัง ๒ วจนะ อกโฺ ขภิณี ใหจำแนกตาม อติ ฺถี ศัพททงั้ ๒ วจนะ การตอ สงั ขยา สังขยาคณุ ตอ กบั สงั ขยานาม ใช อตุ ตฺ ร เช่ือม ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ – ๙๘ (หลักสบิ ) เปน สังขยาคณุ ๙๙ ข้นึ ไป (หลกั รอ ยขนึ้ ไป) เปนสงั ขยานาม ๑๐๕ ใชส งั ขยาวา ปจฺ ตุ ตฺ รสตํ ๑๐๗ ใชสังขยาวา สตฺตตุ ตฺ รสตํ ๑๑๕ ใชสงั ขยาวา ปณณฺ รสตุ ตฺ รสตํ ๑๓๘ ใชส งั ขยาวา อ ตตฺ ึสตุ ตฺ รสตํ ๑๔๔ ใชสังขยาวา จตุจตตฺ าีสุตตฺ รสตํ ๑๐๑๒ ใชสังขยาวา ทวฺ าทสตุ ฺตรสหสสฺ ํ
ค่มู อื การอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๖๕ ๑,๐๕๐ ใชสงั ขยาวา ปณฺณาสุตตฺ รสหสฺสํ ๑๐๕๗ ใชสงั ขยาวา สตฺตปฺ าสตุ ตฺ รสหสสฺ ํ หลักหนวยหรือหลกั สบิ ท่ลี งทายดว ยสระ อิ หรอื สระ อี ซึ่งอยหู นา อตุ ตฺ ร ใหแ ปลง อิ หรอื อี เปน ย แลว ลบ อ ที่ อตุ ตฺ ร แลว นำไปเชอื่ มทพ่ี ยญั ชนะตวั สดุ ทา ยของสงั ขยา เชน ๕๒๒ ใชสังขยาวา ทวฺ าวสี ตยฺ ตุ ตฺ รปฺจสตํ ๗๙๑ ใชส ังขยาวา เอกนวุตฺยตุ ฺตรสตตฺ สตํ ๖๐๕๙ ใชส ังขยาวา เอกนู ส ยฺ ตุ ตฺ รฉสหสสฺ ํ สงั ขยานาม ตอ กบั สังขยานาม ใช อธกิ เช่ือม ๑๕๐๐ ใชสงั ขยาวา ปจฺ สตาธกิ สหสสฺ ํ ๒๒๐๐ ใชสงั ขยาวา ทฺวิสตาธิกทวฺ ิสหสฺสํ ๓๔๐๐ ใชส งั ขยาวา จตสุ ตาธกิ ติสหสฺสํ ๖๓๐๐ ใชสังขยาวา ติสตาธกิ ฉสหสฺสํ ๘๙๐๐ ใชสงั ขยาวา นวสตาธกิ สหสสฺ ํ ๙๖๐๐ ใชสงั ขยาวา ฉสตาธิกนวสหสสฺ ํ สังขยานาม ตอ กบั สังขยานาม และ สงั ขยาคณุ นาม ใช อธกิ และ อตุ ตฺ ร เชือ่ ม ๒๕๕๘ ใชส ังขยาวา อ ปฺ าสตุ ตฺ รปฺจสตาธกิ ทวฺ ิสหสสฺ ํ ๑๘๓๙ ใชสงั ขยาวา เอกนู จตฺตาีสุตตฺ รสตาธกิ สหสสฺ ํ ๒๕๖๓ ใชสงั ขยาวา เตสยฺ ตุ ฺตรปฺจสตาธิกทวฺ สิ หสฺสํ ๒๒๒๒ ใชส งั ขยาวา ทวฺ าวสี ตฺยตุ ตฺ รทวฺ สิ ตาธกิ ทฺวสิ หสฺสํ ๔๓๙๓ ใชสงั ขยาวา เตนวุตฺยตุ ตฺ รติสตาธกิ จตสุ หสฺสํ ๗๘๘๘ ใชสงั ขยาวา อ าสตี ฺยตุ ฺตรสตาธกิ สตตฺ สหสฺสํ การตอสงั ขยานามบทสดุ ทา ยเปนเลข ๑ เชน หนง่ึ รอ ย หนึ่งพัน ประกอบเปน เอกวจนะ สวน สงั ขยานามบทสดุ ทา ยเปน เลข ๒-๙ ประกอบเปน เอกวจนะ หรือ พหวุ จนะ กไ็ ด เชน ๑๑๘ ใชสงั ขยาวา อ ารสตุ ตฺ รสตํ ๑๓๒ ใชสังขยาวา ทวฺ ตตฺ สึ ุตตฺ รสตํ ๑๒๐๐ ใชสงั ขยาวา ทฺวสิ ตาธิกสหสฺสํ ๑๘๒๖ ใชส ังขยาวา ฉพพฺ สี ตฺยตุ ตฺ รสตาธกิ สหสฺสํ ๓๕๐ ใชส ังขยาวา ปฺาสุตตฺ รติสตานิ ๔๘๒ ใชส ังขยาวา ทฺวาสีตยฺ ตุ ตฺ รจตสุ ตานิ ๒๐๒๐ ใชส งั ขยาวา วสี ตยฺ ตุ ฺตรทฺวสิ หสสฺ านิ ๗๕๐๐ ใชส ังขยาวา ปจฺ สตาธกิ สตตฺ สหสสฺ านิ การตอ สงั ขยาแบบแยกวิภตั ติ การตอสงั ขยาท่กี ลาวมาขางตน เปน การตอ แบบเขาสมาส คอื ลบวภิ ตั ตนิ ามออกทงั้ หมด ยกเวน สงั ขยานามบทสดุ ทายทเ่ี ปนประธานตอ งประกอบเปน เอกวจนะหรือพหวุ จนะ นอกจากนย้ี ังมกี ารตอสงั ขยา แบบแยกวภิ ตั ติ มีขอ ท่คี วรพจิ ารณา
ค่มู อื การอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๖๖ สังขยานามบทสดุ ทา ยเปน เลข ๑ ประกอบเปน เอกวจนะ ใช อตุ ฺตร และ อธกิ เช่ือม ตอ งประกอบ ใหม ลี งิ ค วจนะ และวภิ ตั ติ เสมอกบั ตวั ประธาน สังขยานามบทสดุ ทายเปนเลข ๒ – ๙ ประกอบเปนพหวุ จนะ ใช อตุ ตฺ ร และ อธิก เชอ่ื ม ตอ ง ประกอบใหม ีลิงค วจนะ และวิภตั ติ เสมอกบั ตวั ประธานดวยเชน เดยี วกนั เชน ๑๔๕ ใชสังขยาแบบแยกวิภตั ตวิ า ปจฺ จตฺตาีสาย อตุ ฺตรํ สตํ อ.รอย อนั เกนิ ดวยสส่ี บิ หา ๑๘๓๕ ใชสังขยาแบบแยกวิภตั ตวิ า ปจฺ ตฺตสึ าย อตุ ฺตรํ อหิ สเตหิ อธกิ ํ สหสสฺ ํ อ.พนั อนั ยงิ่ ดวยรอ ย ท. แปด อนั เกนิ ดว ยสามสบิ หา ๔๗๕ ใชสังขยาแบบแยกวิภตั ตวิ า ปจฺ สตฺตติยา อุตตฺ รานิ จตฺตาริ สตานิ อ.รอย ท. ส่ี อนั เกนิ ดว ยเจด็ สบิ หา ๒๕๖๓ ใชสังขยาแบบแยกวิภตั ตวิ า เตสิยา อตุ ตฺ รานิ ปจฺ หิ สเตหิ อธกิ านิ เทวฺ สหสสฺ านิ อ.พัน ท. สอง อนั ย่งิ ดว ยรอย ท. หา อนั เกนิ ดว ยหกสิบสาม การตอ สงั ขยาแทรกนาม ตอ แบบแยกวภิ ัตติ แทรกนามหลงั สงั ขยาคณุ นาม และหนา สงั ขยานาม นามหลงั สังขยาคุณนาม ประกอบตตยิ าวภิ ตั ติ และใชว จนะใหต รงกนั สว นนามหนา สงั ขยานาม ประกอบฉฏั ฐีวิภัตติ พหวุ จนะ เชน บุรษุ ๑๐๑ คน เอเกน ปรุ เิ สน อุตตฺ รํ ปรุ ิสานํ สตํ อ.รอ ย แหงบรุ ุษ ท. อนั เกนิ ดวยบรุ ษุ หนงึ่ อบุ าสกิ า ๓๒๒ คน ทวฺ าวสี ตยิ า อุปาสิกาหิ อุตตฺ รานิ ตีณิ อุปาสกิ านํ สตานิ อ.รอ ย ท. แหง อบุ าสกิ า ท. สาม อนั เกนิ ดว ยอบุ าสกิ า ท. ย่ีสิบ สอง พระอรหันต ๑๒๕๐ องค ปฺาสาย อรหนฺเตหิ อุตตฺ รํ ทฺวีหิ อรหนตฺ านํ สเตหิ อธิกํ อรหนฺตานํ สหสฺสํ อ.พนั แหง พระอรหนั ต ท. อนั ย่ิง ดว ยรอย ท. แหงพระอรหันต ท. สอง อนั เกนิ ดว ยพระอรหนั ต ท. หา สบิ ภิกษุ ๔๘๖๙ รปู เอกนู สตตฺ ตยิ า ภิกขฺ หู ิ อตุ ตฺ รานิ อหิ ภกิ ขฺ ูนํ สเตหิ อธิกานิ จตตฺ าริ ภกิ ขฺ ูนํ สหสฺสานิ อ.พัน ท. แหง ภิกษุ ท. ส่ี อนั ยง่ิ ดว ยรอ ย ท. แหงภกิ ษุ ท. แปด อนั เกนิ ดว ยภกิ ษุ ท. เจด็ สบิ หยอนหน่งึ ตอ แบบเขา สมาส ใหลบวภิ ัตติของสงั ขยานาม และสทุ ธนามออกทงั้ หมด ยกเวน สงั ขยานามบท สุดทา ยท่เี ปน ประธาน ในกรณีที่เปนเลข ๑ ประกอบเปน เอกวจนะ และกรณีที่เปน เลข ๒ – ๙ ประกอบเปน พหวุ จนะ แทรกนามไวห ลงั สงั ขยาคุณนามศพั ทแ รกและหนา สงั ขยานามศัพทสุดทา ยท่เี ปน ประธาน หรือ แทรกนามไวห นา สงั ขยานามศัพทส ุดทา ยทเ่ี ปน ประธาน ทีเ่ ดยี วกไ็ ด
ค่มู อื การอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๖๗ บรุ ษุ ๑๐๑ คน เอกปรุ ิสตุ ตฺ รปรุ สิ สตํ หรือ อุบาสกิ า ๓๒๒ คน เอกตุ ตฺ รปรุ สิ สตํ พระอรหนั ต ๑๒๕๐ องค ทฺวาวสี ตฺยปุ าสกิ ุตตฺ รตยฺ ปุ าสิกาสตานิ หรอื ภิกษุ ๔๘๖๙ รูป ทฺวาวสี ตยฺ ตุ ตฺ รตฺยปุ าสกิ าสตานิ การตอ สังขยาแบบศักราช ปฺาสารหนฺตุตตฺ รทวฺ ิสตาธิการหนตฺ สหสสฺ ํ หรือ ปฺาสุตตฺ รทวฺ ิสตาธกิ ารหนฺตสหสสฺ ํ เอกูนสตตฺ ตภิ กิ ขฺ ตุ ฺตรสตาธิกจตุภกิ ขฺ สุ หสสฺ านิ หรือ เอกนู สตตฺ ตยฺ ตุ ตฺ รสตาธกิ จตุภิกขฺ สุ หสสฺ านิ เอกวจนะ ใช อิทาน.ิ .....อติกฺกนตฺ ํ บดั นี้ลวงแลว ๑๘๕ ป อทิ านิ ปฺจาสตี ิสวํ จฺฉรุตตฺ รํ สํวจฉฺ รสตํ อตกิ ฺกนตฺ ํ บดั นี้ลวงแลว ๑,๘๒๖ ป อิทานิ ฉพพฺ สี ตสิ วํ จฉฺ รตุ ตฺ ร สตาธิกํ สวํ จฉฺ รสหสสฺ ํ อติกกฺ นตฺ ํ บดั นี้ลวงแลว ๑,๓๙๗ ป อิทานิ สตตฺ นวุตสิ วํ จฉฺ รตุ ตฺ รตสิ ตาธิกํ สวํ จฉฺ รสหสสฺ ํ อตกิ กฺ นตฺ ํ พหุวจนะ ใช อทิ านิ......อตกิ กฺ นตฺ านิ บดั น้ีลวงแลว ๔๓๓ ป อิทานิ เตตฺตสึ สวํ จฉฺ รตุ ฺตรานิ จตตฺ าริ สวํ จฉฺ รสตานิ อตกิ กฺ นฺตานิ บัดนี้ลวงแลว ๒๕๖๓ ป อิทานิ เตส ิสวํ จฉฺ รตุ ตฺ รปฺจสตาธกิ านิ เทฺว สํวจฉฺ รสหสฺสานิ อตกิ ฺกนตฺ านิ บดั นี้ลวงแลว ๒๓๓๑ ป อิทานิ เอกตฺตึสสวํ จฉฺ รตุ ตฺ รตสิ ตาธกิ านิ เทวฺ สวํ จฺฉรสหสสฺ านิ อตกิ กฺ นตฺ านิ ปรู ณสังขยา คอื คำที่ใชนบั ใหเ ต็มหรือนับตามลำดบั ทมี่ อี ยใู นที่นนั้ ๆ ภาษาไทยมคี ำแปลวา ที่ เชน ที่ ๑ ที่ ๒ ท่ี ๓ เปน ตน สว นในภาษาบาลีใหน ำปจ จัย ๕ ตัว คอื ตยิ ถ ม อี มา ลงหลงั ปกตสิ งั ขยาสำเร็จแลว ใชเปน คุณนาม เปน ได ๓ ลงิ ค และเปนเอกวจนะอยา งเดยี ว ปูรณสงั ขยาเปน คณุ นาม มใี ชท ั้ง ๓ ลงิ ค เอกวจนะอยางเดยี ว ใหจ ำแนกตามสุทธนามในลงิ คแ ละ การนั ตน ้ัน ๆ ดังนี้ ปงุ ลงิ ค อติ ถลี ิงค นปงุ สกลงิ ค คำแปล ปโม ปมา ปมํ ที่ ๑ ทุติโย ทุตยิ า ทุติยํ ที่ ๒ ตตโิ ย ตติยา ตติยํ ที่ ๓ จตุตโฺ ถ จตุตถฺ า จตตุ ฺถี จตุตถฺ ํ ท่ี ๔ ปจฺ โม ปจฺ มา ปจฺ มี ปฺจมํ ที่ ๕ ฉโ ฉา ฉี ฉํ ที่ ๖
ค่มู ือการอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๖๘ สตฺตโม สตตฺ มา สตตฺ มี สตตฺ มํ ที่ ๗ อ โม อ มา อ มี อ มํ ท่ี ๘ นวโม นวมา นวมี นวมํ ท่ี ๙ ทสโม ทสมา ทสมี ทสมํ ท่ี ๑๐ เอกาทสโม เอกาทสมา เอกาทสี เอกาทสมํ ที่ ๑๑ ทฺวาทสโม พารสโม ทวฺ าทสี พารสี ทฺวาทสมํ พารสมํ ท่ี ๑๒ เตรสโม เตรสี เตรสมํ ท่ี ๑๓ จตทุ ทฺ สโม จตุทฺทสมา จตทุ ทฺ สี จตุททฺ สมํ ท่ี ๑๔ ปณณฺ รสโม ปณณฺ รสมา ปณฺณรสี ปณฺณรสมํ ท่ี ๑๕ โสฬสโม โสฬสี โสฬสมํ ที่ ๑๖ สตตฺ รสโม สตฺตรสี สตฺตรสมํ ท่ี ๑๗ อ รสโม อ รสี อ รสมํ ที่ ๑๘ เอกนู วสี ตโิ ม เอกนู วสี ตมิ า เอกูนวีสตมิ ํ ที่ ๑๙ วสี ตโิ ม วสี ติมา วีสติมํ ท่ี ๒๐ ตึสตโิ ม ตสึ ตมิ า ตสึ ตมิ ํ ท่ี ๓๐ จตฺตาสี โม จตตฺ าีสมา จตตฺ าีสมํ ท่ี ๔๐ ปฺ าสโม ปฺ าสมา ปฺาสมํ ที่ ๕๐ การใชปรู ณสงั ขยา ใชเปน คณุ นาม ขยายสุทธนามบทใด ใหเ รยี งไวห นา บทนน้ั ประกอบลิงค วจนะ และวิภตั ติ ใหต รงกัน มตี วั อยางการใชด ังนี้ ปโม ภิกขฺ ุ อ.ภิกษุ รปู ที่ ๑ ปฺจวสี ติโม อปุ าสโก อบุ าสก คนท่ี ๒๕ ทตุ ยิ า ภกิ ฺขนุ ี อ.ภิกษณุ ี รปู ท่ี ๒ ตตยิ ํ กมลํ อ.ดอกบัว ดอกท่ี ๓ ฉ ํ คามํ ซ่งึ หมูบา น ที่ ๖ จตตุ เฺ ถน วาเรน โดยวาระ ท่ี ๔ นวมสฺส ปตุ ฺตสสฺ แกบ ตุ ร คนท่ี ๙ ปฺจมาย นทิยา จากแมน ำ้ สายท่ี ๕ โสฬสมสสฺ สิสสฺ สสฺ ของศิษย คนที่ ๑๖ สตตฺ เม ทิวเส ในวนั ท่ี ๗ ๓.๖ สมาส สมาส คอื การยอ นามศพั ท นบิ าต และอปุ สรรค ตัง้ แต ๒ ศัพทข ึ้นไป เขา เปน บทเดียวกนั คำวา “สมาส” มาจาก สํ บทหนา อสฺ ธาตุ ในความยอ ลง ณ ปจจัยในนามกติ ก ปจจัยท่เี นอ่ื งดว ย ณ ใหล บ ณ แลวทฆี ะ อ ตน ธาตุ เปน อา แปลงนคิ หติ ท่ี สํ เปน ม สำเร็จรูปเปน สมาส มบี ทวเิ คราะหว า สมสยิ เตติ สมาโส (สทโฺ ท) แปลวา อ.ศพั ท ใด อนั ทา น ยอ มยอเขา กันดว ยดี เพราะเหตนุ ัน้ อ.ศัพท น้ัน ชอ่ื วา สมาส
ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๖๙ สมาสวา โดยกจิ (วธิ ีการทำ) มี ๒ อยา ง คือ ๑. ลุตตฺ สมาส สมาสท่ลี บวิภตั ติของศพั ทหนา ใหล บพยางคท า ยคำของบทหนา เหลือไวแตสระ สุดทายของศัพทเดมิ แลวยอเขา กบั บทหลงั ใหเปนบทเดียวกัน เชน กนิ สฺส ทุสฺสํ ยอเปน กนิ ทุสฺสํ (ผาเพ่ือกฐนิ ) พทุ ฺธสสฺ สาวโก ยอเปน พทุ ฺธสาวโก (สาวกของพระพุทธเจา) มหาราชสฺส ธนํ ยอเปน มหาราชธนํ (ทรพั ยข องมหาราช) ๒. อลตุ ตฺ สมาส สมาสท่ไี มล บวิภัตตขิ องศพั ทหนา ไมลบพยางคท า ยคำของบทหนา เพียงแตน ำมา ตอเขา ดว ยกนั กับบทหลงั ใหเ ปน บทเดียวกนั เชน ปรสสฺ ปทํ ยอเปน ปรสสฺ ปทํ (บทเพ่อื ผอู ืน่ ) พทุ ฺธานํ สาสนํ ยอเปน พทุ ฺธานสํ าสนํ (คำสอนของพระพทุ ธเจา ทั้งหลาย) อรุ สิ โลโม ยอ เปน อรุ สโิ ลโม (ขนที่อก) ลกั ษณะของสมาส ๓ อยา ง ๑. ประกอบเขา เปน บทเดยี วกัน ๒. สวดใหเปน บทเดียวกนั (ไมเวนวรรคกลางสมาส) ๓. มวี ิภตั ติตวั เดยี วกนั สมาสวา โดยชอ่ื มี ๖ อยาง ๒.ทิคุสมาส ๑.กมั มธารยสมาส ๔.ทวนั ทวสมาส ๓.ตปั ปุรสิ สมาส ๖.พหพุ พิหสิ มาส ๕.อัพยยีภาวสมาส ๑. กัมมธารยสมาส กัมมธารยสมาส คอื สมาสทีย่ อสุทธนามกบั สุทธนาม สุทธนามกบั คุณนาม หรอื คณุ นามกบั คณุ นาม ท่มี วี ิภตั ติและวจนะเหมอื นกนั เขาดว ยกนั แบง ออกเปน ๙ อยา ง คอื ๑. วเิ สสนปพุ พปทะ มบี ทวเิ สสนะ(ตวั ขยาย)อยหู นา เชน มหนฺโต จ โส ปุรโิ ส จาติ มหาปุริโส. คนผปู ระเสรฐิ ดว ย คนผปู ระเสริฐนัน้ เปน บุรุษดวย เพราะเหตุนนั้ ชอ่ื วา มหาปุรสิ ะ มหนตฺ ํ จ ตํ ภยํ จาติ มหพภฺ ย.ํ สง่ิ นา กลวั ใหญดว ย ส่งิ นากลวั ใหญน ้ัน เปน ภัยดว ย เพราะเหตนุ น้ั ชื่อวา มหพั ภยะ วโี ร จ โส ปรุ โิ ส จาติ วรี ปุรโิ ส. ผูก ลา หาญดว ย ผกู ลาหาญนนั้ เปน บรุ ษุ ดว ย เพราะเหตนุ ัน้ ชื่อวา วรี ปรุ สิ ะ ๒. วเิ สสนตุ ตรปทะ มบี ทวเิ สสนะ(ตวั ขยาย)อยหู ลงั เชน สาริปตุ ฺโต จ โส เถโร จาติ สารปิ ตุ ตฺ ตเฺ ถโร. พระสารบี ุตรดวย พระสารีบตุ รน้นั เปนพระเถระดวย เพราะเหตนุ ัน้ ชื่อวา สารปิ ุตตัตเถระ พุทธฺ โฆโส จ โส อาจรโิ ย จาติ พทุ ธฺ โฆสาจรโิ ย. พระพทุ ธโฆสะดว ย พระพุทธโฆสะนั้น เปน อาจารยด ว ย เพราะเหตุนนั้ ชอื่ วา พทุ ธโฆสาจรยิ ะ
ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๗๐ วตถฺ ุ จ ตํ วเิ สโส จาติ วตถฺ วุ ิเสโส. วตั ถุดว ย วตั ถุนนั้ เปนความพเิ ศษดว ย เพราะเหตุนนั้ ชอ่ื วา วตั ถุวเิ สสะ ๓. วเิ สสโนภยปทะ มบี ททัง้ ๒ เปน วิเสสนะ(ทำหนา ที่ขยายบทอน่ื ทงั้ สองศัพท) เชน สีตฺจ ตํ อุณหฺ จฺ าติ สตี ณุ หฺ ํ(วตฺถ)ุ . วตั ถนุ นั้ เยน็ ดว ย รอ นดว ย เพราะเหตนุ ้ัน ช่ือวา สตี ุณหะ อนฺโธ จ โส พธโิ ร จาติ อนธฺ พธิโร(ปรุ โิ ส). บรุ ุษนนั้ ตาบอดดว ย หหู นวกดวย เพราะเหตนุ ัน้ ชื่อวา อันธพธริ ะ กตจฺ ตํ อกตจฺ าติ กตากต(ํ กมฺม)ํ . กรรมน้ัน อนั ถูกกระทำแลว ดว ย อันไมถ กู กระทำแลว ดวย เพราะเหตนุ น้ั ชือ่ วา กตากตะ ๔. อุปมานตุ ตรปทะ มบี ทหลังเปน บทอปุ มา(เปรียบเทยี บ) เชน มุนิ จ โส สีโห จาติ มุนิสโี ห. พระมุนดี วย พระมุนนี นั้ เปน เพียงดงั สีหะ(ราชสหี )ดวย เพราะเหตนุ น้ั ช่อื วา มุนิสหี ะ สทฺธมฺโม จ โส รสํ ิ จาติ สทธฺ มฺมรํสิ. พระสัทธรรมดว ย พระสทั ธรรมน้ัน เปน เพียงดงั รศั มีดว ย เพราะเหตนุ น้ั ชอ่ื วา สทั ธรรมรังสิ มุขจฺ ตํ จนฺโท จาติ มขุ จนโฺ ท. หนาดวย หนา นนั้ เปน เพียงดงั พระจนั ทรด ว ย เพราะเหตนุ นั้ ชอื่ วา มขุ จนั ทะ ๕. สัมภาวนาปพุ พปทะ มีบทหนาประกอบดว ย อิติ ศพั ท ในอรรถแสดงการยกยอ ง ขนั้ กลาง ระหวา งบทหนาและบทหลัง เชน ธมโฺ ม อิติ พุทธฺ ิ ธมฺมพทุ ฺธ.ิ ความรู วาเปน พระธรรม ชอื่ วา ธมั มพทุ ธิ อนิจจฺ ํ อิติ สฺ า อนิจฺจสฺา. ความจำไดหมายรู วา เปน สงิ่ ไมเ ท่ยี ง ชื่อวา อนิจจสญั ญา อตฺตา อติ ิ ทิิ อตตฺ ทิ .ิ ความเหน็ วาเปน ตวั ตน ชอ่ื วา อตั ตทฏิ ฐิ ๖. อวธารณปพุ พปทะ มีบทหนา เปน บททถ่ี กู กำหนด โดยประกอบดว ย เอว ศพั ทเปน ตวั กลา ว กำหนด เพ่ือหา มเนอ้ื ความอน่ื เชน สทฺธา เอว ธนํ สทธฺ าธนํ. ศรทั ธา นนั่ เทยี ว เปนทรพั ย ชื่อวา สัทธาธนะ รูปเมว อารมฺมณํ รูปารมมฺ ณ.ํ รูป นั่นเทยี ว เปน อารมณ ชอื่ วา รปู ารัมมณะ จกฺขุ เอว ทฺวารํ จกขฺ ทุ ฺวารํ. จักษุ นน่ั เทยี ว เปน ทวาร ชอ่ื วา จกั ขุทวาระ ๗. นนปิ าตปุพพปทะ มี น นบิ าตเปน บทหนา เพ่อื หามหรอื ปฏเิ สธ เชน น มนสุ ฺโส อมนุสฺโส. มนษุ ย หามไิ ด ช่อื วา อมนสุ สะ(ผไู มใ ชม นุษย) น สกํ ลิ ิ า อสกํ ิลิ า.
ค่มู อื การอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๗๑ (ธรรม)อนั เศรา หมองทัง้ หลาย หามไิ ด ชือ่ วา อสงั กิลฏิ ฐะ(ธรรมอันไมเ ศรา หมอง) น อุปวาโท อนูปวาโท. การวา ราย หามิได ชือ่ วา อนปู วาทะ(การไมวา ราย) ๘. กปุ พุ พปทะ มี กุ นบิ าตเปน บทหนา ในอรรถนา รงั เกยี จ เชน กจุ ฉฺ ิโต ปุรโิ ส กาปรุ โิ ส. บุรุษ ผนู ารงั เกยี จ ชอ่ื วา กาปรุ ิสะ กุจฺฉติ า ทิ ิ กทุ ิ .ิ ความเหน็ อนั นารงั เกยี จ ชอ่ื วา กทุ ิฏฐิ กุจฺฉติ า ทาสา กทุ าสา. ทาสทงั้ หลาย ผนู า รงั เกียจ ชอ่ื วา กุทาสะ ๙. ปาทิปุพพปทะ มี ป อปุ สคั เปน ตน เปนบทหนา เชน ปธานํ วจนํ ปาวจน.ํ คำพูด ทเ่ี ปน ประธาน ชอ่ื วา ปาวจนะ(ปาพจน, พระพุทธพจน) สนุ ฺทโร คนโฺ ธ สคุ นฺโธ. กล่ิน อนั ดี ช่อื วา สคุ ันธะ ววิ ธิ า มติ วิมต.ิ ความรู อนั มอี ยางตา งๆ ชอื่ วา วิมติ (ความรมู ีอยา งตา งๆ,ความสงสยั ) ๒. ทคิ สุ มาส ทิคสุ มาส คอื กมั มธารยสมาสทม่ี ปี กติสังขยาเปน บทหนา แบง ออกเปน ๒ อยา ง คือ ๑. สมาหารทิคุ ทคิ ุสมาสยอ นามศพั ทกบั สงั ขยาในลงิ คต า ง ๆ ทเ่ี ปนพหุวจนะ ทำใหเ ปน นปุงสกลงิ คเอกวจนะ เชน ตโย โลกา ติโลกํ. โลกทั้งหลาย ๓ ช่อื วา ติโลกะ จตตฺ าโร มคฺคา จตุมคฺค.ํ มรรคทง้ั หลาย สี่ ชอ่ื วา จตมุ ัคคะ ปฺจ สตานิ ปจฺ สตํ. รอ ยทัง้ หลาย หา ช่อื วา ปญจสตะ อ สลี านิ อ สีล.ํ ศลี ทัง้ หลาย แปด ชื่อวา อัฏฐสลี ะ ทส สลี านิ ทสสลี ํ. ศลี ทง้ั หลาย สบิ ชื่อวา ทสสลี ะ ฉ อายตนานิ สฬายตนํ. อายตนะท้ังหลาย หก ชอ่ื วา สฬายตนะ เทฺว องฺคุลโิ ย ทฺวงคฺ ลุ .ํ นิ้วทั้งหลาย สอง ช่ือวา ทวังคลุ ะ ตณี ิ ลกฺขณานิ สมาหฏานตี ิ ตลิ กฺขณ.ํ
ค่มู อื การอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๗๒ ลักษณะทั้งหลาย สาม ถูกรวบรวมแลว เพราะเหตนุ นั้ ชอื่ วา ตลิ ักขณะ จตตฺ าริ สจจฺ านิ สมาหฏานตี ิ จตุสสฺ จฺจํ. สจั จะทั้งหลาย ส่ี ถกู รวบรวมแลว เพราะเหตนุ น้ั ชอ่ื วา จตุสสจั จะ ๒. อสมาหารทิคุ ทคิ ุสมาสที่ยอ นามศพั ทกบั สังขยา มอี รรถไมร วบรวม รปู สำเร็จจะเปนไปตามลงิ ค ของบทหลงั และจะเปน เอกวจนะหรอื พหวุ จนะกไ็ ด เชน เอโก ปคุ คฺ โล เอกปคุ ฺคโล. บุคคล หนง่ึ ชอื่ วา เอกปคุ คละ(บุคคลคนหนงึ่ ) ตโย โลกา ติโลกา. โลกทั้งหลาย สาม ชอื่ วา ตโิ ลกา(โลกสามทงั้ หลาย) ตีณิ รตนานิ ตริ ตนานิ. รตั นะทัง้ หลาย สาม ชือ่ วา ตริ ตนาน(ิ รตั นะสามทงั้ หลาย) จตสโฺ ส ทิสา จตทุ ฺทสิ า. ทิศทั้งหลาย ๔ ชอ่ื วา จตทุ ทิสา(ทศิ ส่ีท้งั หลาย) ปฺจ พลานิ ปฺจพลานิ. กำลงั ทั้งหลาย หา ชื่อวา ปญ จพลาน(ิ กำลงั หา ท้ังหลาย) นว โลกตุ ตฺ รา นวโลกุตตฺ รา. โลกุตตรธรรมทั้งหลาย เกา ชอ่ื วา นวโลกตุ ตรา(โลกตุ ตรธรรมเกา ทง้ั หลาย) ๓. ตปั ปุริสสมาส ตปั ปุริสสมาส คอื สมาสทีย่ อ นาม ๒ บททม่ี ีวิภัตตติ างกัน เขาเปน บทเดียวกนั แบง ออกเปน ๖ อยา ง ตามลำดบั ตง้ั แตท ตุ ิยาวภิ ตั ติถงึ สตั ตมีวภิ ตั ติ ดงั น้ี ๑. ทตุ ยิ าตปั ปรุ ิสะ บทหนาประกอบดวยทตุ ยิ าวภิ ตั ติ ออกสำเนียงอายตนบิ าตวา “ซง่ึ สู ยงั ส้นิ กะ ตลอด เฉพาะ” เชน สรณํ คโต สรณคโต. ผถู ึง (ซ่ึงพระพุทธเจา) วา เปนสรณะ ชื่อวา สรณคตะ(ชนผูถงึ ซึง่ พระพุทธเจา วา เปนสรณะ) อรฺํ คโต อรฺคโต. ไปแลว สปู า ชอื่ วา อรญั ญคตะ(บรุ ุษผูไปแลว สูป า ) สุขํ ปตโฺ ต สขุ ปปฺ ตโฺ ต. ถงึ แลว ซงึ่ ความสุข ชอื่ วา สขุ ปั ปต ตะ(ชนผถู ึงแลว ซ่งึ ความสุข) ๒. ตตยิ าตปั ปรุ สิ ะ บทหนาประกอบดว ยตตยิ าวภิ ัตติ ออกสำเนียงอายตนิบาตวา “ดวย โดย อนั ตาม เพราะ ม”ี เชน พทุ ฺเธน ภาสโิ ต พุทฺธภาสโิ ต. (พระธรรม) อนั พระพทุ ธเจา ทรงภาษิตแลว ชือ่ วา พทุ ธภาสติ ะ อสนิ า กลโห อสกิ ลโห. ความทะเลาะ เพราะดาบ ชอื่ วา อสกิ ลหะ โภเคน สมฺปทํ โภคสมฺปทํ. ความถงึ พรอม ดว ยโภคะ ชอื่ วา โภคสัมปทะ
ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๗๓ อน่งึ ตติยาตัปปุรสิ สมาสน้ี มีลักษณะพเิ ศษ คอื บทใดแปลเชอ่ื มความระหวางบทหนาและบทหลงั ไดค วามไมชดั เจน ใหเติมกรยิ ากิตกท ี่มีคำแปลเช่อื มไดด กี บั บทหนา เขามาในระหวา งกลางระหวา งบทหนา กบั บทหลังในรปู วเิ คราะห เม่อื ยอ เสรจ็ ใหลบกริยากติ กท เี่ ตมิ เขามาในทามกลางออก เชน นเ้ี รยี กวา มัชเฌ โลปสมาส ตวั อยา งในภาษาไทยก็ใชค ำพูดแบบยอ เหมือนกนั เชน คนเดนิ ดว ยเทา ยอเปน คนเดนิ เทา สตั ว เกิดในน้ำ ยอ เปน สตั วน ำ้ เปนตน ในภาษาบาลกี ม็ ีคตดิ จุ เดียวกัน เชน อสฺเสน (ยตุ โฺ ต) รโถ อสฺสรโถ. รถ อนั เทยี มแลว ดว ยมา ชอื่ วา อสั สรถะ(รถมา) หตเฺ ถน (กตตฺ พพฺ )ํ กมมฺ ํ หตฺถกมมฺ .ํ กรรม อนั บุคคลพึงทำ ดว ยมอื ชอ่ื วา หตั ถกมั มะ(หตั ถกรรม) กเน (กโต) อคาโร กาคาโร. เรอื น อันบคุ คลทำแลว ดวยไม ชอื่ วา กัฏฐาคาระ(เรอื นไม) โมเหน (สมฺปยตุ ตฺ ํ) จติ ตฺ ํ โมหจติ ฺตํ. จติ อนั ประกอบพรอมแลว ดวยโมหะ ชื่อวา โมหจติ ตะ(โมหจติ ) สนตฺ เกน (ตุ โ) ภกิ ฺขุ สนตฺ กภกิ ฺขุ. ภิกษุ ผยู ินดแี ลว ดวยของมอี ยู ชอื่ วา สนั ตกภิกขุ(สนั ตกภกิ ษ)ุ ๓. จตตุ ถตี ัปปรุ สิ ะ มบี ทหนาเปน สทุ ธนามประกอบดว ยจตุตถีวภิ ตั ติ ออกสำเนยี งอายตนบิ าตวา “แก เพอ่ื ตอ ” และบทหลงั เปน สุทธนาม แปลงทายคำเปน ปฐมาวภิ ตั ติ กตั ตกุ ารก เชน กินสฺส ทุสฺสํ กินทสุ สฺ .ํ ผา เพื่อกฐนิ ชอื่ วา กฐินทสุ สะ คลิ านสสฺ เภสชชฺ ํ คลิ านเภสชชฺ .ํ ยา เพ่ือคนไข ช่ือวา คลิ านเภสัชชะ อาคนฺตกุ สสฺ ภตตฺ ํ อาคนตฺ กุ ภตฺตํ. ภัต เพื่อผูมาเยือน ชอื่ วา อาคนั ตกุ ภัตตะ มตกสฺส ภตตฺ ํ มตกภตฺต.ํ ภัตร เพื่อผตู าย ช่ือวา มตกภตั ตะ ๔. ปญจมีตัปปรุ สิ ะ มบี ทหนา ประกอบดว ยปญ จมวี ภิ ตั ติ ออกสำเนียงอายตนิบาตวา “แต จาก กวา เหต”ุ มบี ทหลงั เปน สทุ ธนาม คุณนาม หรอื สพั พนาม แปลงทา ยคำเปน ปฐมาวภิ ัตติ กตั ตกุ ารก ใหถ กู ตามการนั ต และลงิ คน ัน้ ๆ เชน อคฺคิสฺมา ภยํ อคฺคิภย.ํ ภยั แตไ ฟ ชือ่ วา อคั คภิ ยะ(อัคคภี ยั ) โจรมฺหา ภยํ โจรภยํ. ภยั แตโ จร ชอื่ วา โจรภยะ(โจรภยั ) กากสมฺ า สูโร กากสโู ร (นโร). (คน)กลา กวากา ช่อื วา กากสรู ะ(กลากวา กา) โลกา จโุ ต โลกจโุ ต (สตฺโต). (สัตว)เคลือ่ นแลว จากโลก ช่อื วา โลกจตุ ะ(เคล่อื นจากโลก)
ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๗๔ พนธฺ นา มุตโฺ ต พนธฺ นมตุ โฺ ต (สตโฺ ต). (สตั ว)พน แลว จากเคร่ืองผกู ชอื่ วา พันธนมตุ ตะ (พนเครอ่ื งผกู ) ๕. ฉัฏฐตี ัปปุรสิ ะ มบี ทหนา ประกอบดวยฉัฏฐวี ภิ ตั ติ ออกสำเนยี งอายตนบิ าตวา “แหง ของ” มี บทหลังเปน สทุ ธนาม แปลงทา ยคำเปน ปฐมาวิภตั ติ กัตตกุ ารก ตามการนั ต และลงิ คน้นั ๆ เชน พทุ ธฺ สสฺ สาวโก พทุ ธฺ สาวโก. สาวก ของพระพทุ ธเจา ชือ่ วา พทุ ธสาวกะ เส โิ น ปตุ ฺโต เสปิ ุตฺโต. บตุ ร ของเศรษฐี ชือ่ วา เสฏฐิปตุ ตะ รฺโ ปตุ ฺโต ราชปตุ โฺ ต. บุตร ของพระราชา ช่ือวา ราชปุตตะ รุกฺขสฺส สาขา รกุ ฺขสาขา. กิ่ง แหง ตน ไม ชอ่ื วา รกุ ขสาขา ปฺาย อาภา ปฺาอาภา. แสงสวาง แหง ปญ ญา ชื่อวา ปญ ญาอาภา ถา อยหู นาศพั ทเหลานี้ คอื สงฺฆ(หมู) คณ(หมู) ราสิ(กอง) สมุห(ประชมุ ) ปกติสงั ขยาทีเ่ ปน สทุ ธ นาม ตงั้ แต เกา สบิ เกา(๙๙) ข้นึ ไป เชน เอกนู สตํ สตํ สหสฺสํ เปนตน ใหประกอบสทุ ธนามที่อยูหนา เปน ฉฏั ฐี วภิ ัตติ พหวุ จนะเสมอ เชน ภกิ ขฺ ูนํ สงฺโฆ ภิกฺขสุ งฺโฆ. หมู แหง ภกิ ษทุ ้ังหลาย ชอื่ วา ภกิ ขุสงั ฆะ(หมแู หง สงฆ) ทูตานํ คโณ ทตู คโณ. หมู แหง ทตู ทง้ั หลาย ชื่อวา ทูตคณะ(คณะแหง ทตู ) ธฺานํ ราสิ ธฺราสิ. กอง แหง ขาวเปลอื กทงั้ หลาย ชอ่ื วา ธญั ญราส(ิ กองแหงขาวเปลือก) มนสุ ฺสานํ สมุโห มนสุ สฺ สมุโห. ประชมุ แหง มนษุ ยท ง้ั หลาย ชอ่ื วา มนสุ สสมหุ ะ(ประชมุ แหง มนษุ ย) ภกิ ขฺ นู ํ สตํ ภกิ ฺขุสต.ํ รอ ย แหงภิกษุทง้ั หลาย ชือ่ วา ภกิ ขสุ ตะ(รอ ยแหง ภิกษุ) ชนานํ สหสฺสํ ชนสหสสฺ .ํ พนั แหง ชนทงั้ หลาย ช่อื วา ชนสหัสสะ(พนั แหง ชน) ๖. สตั ตมตี ปั ปรุ สิ ะ มบี ทหนา เปนสุทธนามประกอบดว ยสัตตมวี ภิ ตั ติ ออกสำเนียงอายตนบิ าตวา “ใน ใกล ที่ ในเพราะ เหนอื บน” อยา งใดอยา งหนง่ึ มีบทหลงั เปน สทุ ธนาม แปลงทายคำเปน ปฐมาวิภตั ติ กัตตกุ ารก ตามการนั ตแ ละลงิ คน น้ั ๆ เชน ธมเฺ ม คารโว ธมฺมคารโว. ความเคารพ ในธรรม ชอื่ วา ธมั มคารวะ(ความเคารพในธรรม) สสํ าเร ทกุ ฺขํ สสํ ารทกุ ขฺ .ํ ความทกุ ข ในสงสาร ชอ่ื วา สงั สารทกุ ขะ(ทกุ ขใ นสงั สาร)
ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๗๕ วเน ปุปฺผํ วนปปุ ผฺ .ํ ดอกไม ในปา ชื่อวา วนปปุ ผะ(ดอกไมป า ) วเน มหิโส วนมหิโส. กระบอื ในปา ชอื่ วา วนมหสิ ะ(ควายปา ) รกุ เฺ ข สกุณา รกุ ขฺ สกณุ า. นกท้ังหลาย บนตนไม ชื่อวา รุกขสกุณา(นกบนตน ไม) รเู ป สฺ า รปู สฺา. ความหมายรู ในรปู ชอ่ื วา รปู สัญญา(ความหมายรูในรปู ) คามสฺมึ อาวาโส คามาวาโส. วัด ใกลหมบู าน ชอื่ วา คามาวาสะ(วัดใกลบ าน) ชเล มจฺฉา ชลมจฺฉา. ปลาท้งั หลาย ในนำ้ ช่ือวา ชลมจั ฉา(ปลาในนำ้ ) กาเล วสสฺ ํ กาลวสสฺ ํ. ฝน ในฤดูกาล ชอ่ื วา กาลวัสสะ(ฝนในฤดกู าล) วกิ าเล โภชนํ วกิ าลโภชน.ํ การกนิ อาหาร ในยามวิกาล ช่อื วา วกิ าลโภชนะ(การกนิ อาหารยามวกิ าล) ธมฺเม รจุ ิ ธมฺมรุจิ. ความชอบใจ ในธรรม ช่อื วา ธมั มรจุ ิ(ความชอบใจในธรรม) ธมเฺ ม รโต ธมฺมรโต. ยินดแี ลว ในธรรม ช่อื วา ธมั มรตะ(ผูยนิ ดใี นธรรม) จารเก พทโฺ ธ จารกพทฺโธ. ถูกมดั แลว ในเรือนจำ ช่ือวา จารกพทั ธะ(ผถู ูกมดั ในเรือนจำ) ๔. ทวนั ทวสมาส ทวันทวสมาส คือสมาสท่ยี อสุทธนามท่นี ิยมเปน คำคกู นั ตงั้ แตส องศัพทข ้นึ ไป ทกุ ๆศพั ทจะแปลง เปน บทปฐมาวภิ ตั ตเิ หมอื นกนั ใช จ ศพั ท ควบอยูทุกบท บทสำเรจ็ รวมเขา เปน บทเดยี วกนั แบง ออกเปน ๒ อยาง คอื สมาหารทวันทวสมาส และอสมาหารทวันทวสมาส ดงั นี้ ๑. สมาหารทวันทวสมาส ยอสุทธนามทมี่ ีลงิ คและวจนะตา งกนั บา ง เหมือนกันบาง ยอเขาเปนบท เดียวกัน รวบรวมบทตางลิงคตางวจนะใหม รี ปู สำเรจ็ เปน นปงุ สกลิงค เอกวจนะ เสมอไป เชน ปตฺโต จ จีวรจฺ ปตตฺ จีวรํ. บาตรดว ย จวี รดว ย ชอื่ วา ปต ตจวี ระ(บาตรและจวี ร) สมโถ จ วปิ สฺสนา จ สมถวปิ สฺสนํ. สมถะดว ย วปิ ส สนาดว ย ชื่อวา สมถวิปสสนะ(สมถะและวิปสสนา) สงฺโข จ ปณโว จ สงฺขปณว.ํ สงั ขด ว ย กลองบณั เฑาะวดว ย ชอื่ วา สงั ขปณวะ(สังขและกลองบัณเฑาะว) จกฺขุ จ โสตฺจ จกขฺ ุโสตํ. ตาดว ย หูดว ย ชอ่ื วา จกั ขโุ สตะ(ตาและห)ู
ค่มู อื การอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๗๖ มขุ จฺ นาสกิ า จ มขุ นาสกิ .ํ ปากดวย จมูกดวย ชอ่ื วา มขุ นาสกิ ะ(ปากและจมกู ) หนุ จ คีวา จ หนุคีว.ํ คางดว ย คอดว ย ชอ่ื วา หนคุ วี ะ(คางและคอ) ปุพพฺ า จ อปรา จ ปพุ พฺ าปรํ. ทศิ ตะวันออกดวย ทิศตะวนั ตกดว ย ชอ่ื วา ปุพพาประ(ทศิ ตะวันออกและทิศตะวนั ตก) ฑํสา จ มกสา จ ฑสํ มกสํ. เหลือบทงั้ หลายดว ย ยุงทง้ั หลายดวย ชอื่ วา ฑงั สมกสะ(เหลือบและยงุ ) กนุ ฺถา จ กปิ ล ลฺ กิ า จ กนุ ฺถกปิ ลฺลิก.ํ มดทั้งหลายดว ย ปลวกท้งั หลายดว ย ช่ือวา กนุ ถกิปลลิกะ(มดและปลวก) สากณุ กิ า จ มาควกิ า จ สากณุ กิ มาควกิ ํ. คนฆา นก ท.ดว ย คนฆาเน้ือ ท.ดว ย ชือ่ วา สากุณกิ มาควกิ ะ(พรานนกและพรานเนอ้ื ) หตถฺ ี จ อสโฺ ส จ รโถ จ ปตตฺ โิ ก จ หตฺถอี สสฺ รถปตตฺ กิ .ํ ชา งดว ย มา ดว ย รถดว ย คนเดนิ เทา ดว ย ชอื่ วา ชา งมารถและคนเดนิ เทา สงขฺ า จ ปณวา จ ฑิณฺฑิมา จ สงขฺ ปณวฑณิ ฺฑิมํ. สังข ท.ดว ย กลองบัฑเฑาะว ท.ดวย เปง มาง ท.ดว ย ช่อื วา สังขปณวฑิณฑมิ ะ(สังข กลอง บัณเฑาะว และเปงมาง) ๒. อสมาหารทวันทวสมาส ยอ สุทธนามท่มี วี จนะเหมอื นกนั สำเร็จแลว มลี งิ ค ตามบทหลงั และ เปน พหวุ จนะ เทา นนั้ เชน สารปิ ตุ โฺ ต จ โมคฺคลลฺ าโน จ สาริปตุ ฺตโมคคฺ ลลฺ านา. พระสารบี ตุ รดว ย พระโมคคลั ลานะดวย ชอ่ื วา สารปี ตุ ตโมคคลั ลานา(พระสารบี ตุ รและพระ โมคคลั ลานะท้ังหลาย) คหโ จ ปพพฺ ชิโต จ คหปพฺพชิตา. คฤหัสถด ว ย บรรพชติ ดว ย ชื่อวา คหฏั ฐปพพชติ า(คฤหสั ถและบรรพชิตท้งั หลาย) มาตา จ ปต า จ มาตาปต โร. มารดาดว ย บดิ าดว ย ชอ่ื วา มาตาปต (ุ มารดาและบิดาทง้ั หลาย) จนฺทิมา จ สรุ ิโย จ จนฺทิมสุริยา. พระจันทรด วย พระอาทิตยดวย ชอื่ วา จนั ทิมสุรยิ า(พระจันทรและพระอาทติ ยท ัง้ หลาย) สมโณ จ พฺราหมฺ โณ จ สมณพฺราหมฺ ณา. สมณะดว ย พราหมณด ว ย ชอ่ื วา สมณพราหมณา(สมณะและพราหมณท งั้ หลาย) ภกิ ฺขุ จ สามเณโร จ ภกิ ฺขุสามเณรา. ภกิ ษดุ ว ย สามเณรดว ย ช่ือวา ภิกขุสามเณรา(ภกิ ษุและสามเณรทง้ั หลาย) สมโถ จ วิปสสฺ นา จ มคฺโค จ ผลจฺ สมถวปิ สสฺ นามคฺคผลานิ. สมถะดวย วปิ สสนาดว ย มรรคดวย ผลดวย ชือ่ วา สมถวปิ สสนามัคคผลานิ(สมถวิปส สนา มรรคและผลทงั้ หลาย) สโุ ร จ อสุโร จ นโร จ อรุ โค จ นาโค จ ยกโฺ ข จ สรุ าสรุ นโรรคนาคยกขฺ า.
ค่มู อื การอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๗๗ เทวดา อสูร คน งู นาคและยักษ ชอื่ วา สุราสรุ นโรรคนาคยกั ขา(เทวดาอสรู คนงนู าคและ ยักษท ั้งหลาย) อนงึ่ อสมาหารทวนั ทวสมาสนี้ มีลกั ษณะพิเศษอกี อยา งหนงึ่ คือเวลายอบทหนา และบทหลงั เขา เปนคำเดียวกนั ใหล บทง้ิ เสยี หน่ึงศัพท หรอื ทงั้ สองศพั ท คงไวแ ตเ พียงศัพทเ ดยี ว หรือมรี ูปเปลีย่ นไปจาก ศพั ทท ่ลี บทิง้ เรียกวา เอกเสสสมาส แปลวา ยอดว ยวธิ ลี บบทหนา หรอื บทหลงั หรอื ท้ังสองบททิง้ ไปเหลือไว บทเดียวหรือแปลงรปู เปน บทเดยี ว โดยบทสำเร็จเปน พหวุ จนะ เสมอไป มี ๔ ชนดิ คอื ๑.ปุพเพกเสสสมาส ยอ ดวยวธิ ลี บบทหลงั เหลอื ไวแ ตบทหนา เชน สาริปตุ โฺ ต จ โมคฺคลลฺ าโน จ สาริปตุ ฺตา. พระสารบี ตุ รดว ย พระโมคคัลลานะดว ย ช่ือวา สารปี ตุ ตา(พระสารีบตุ รและพระโมคคัลลา นะทั้งหลาย) มาตา จ ปต โร จ มาตโร. มารดาดว ย บิดาดว ย ชอ่ื วา มาตโร(มารดาและบดิ าทั้งหลาย) อุปาสโก จ อปุ าสิกา จ อปุ าสกา. อุบาสกดวย อุบาสกิ าดว ย ชอื่ วา อุปาสกา(อุบาสกและอบุ าสิกาทง้ั หลาย) ๒.ปเุ รกเสสสมาส ยอดวยวธิ ีลบบทหนา เหลอื ไวแ ตบทหลงั เชน สมโณ จ พรฺ าหฺมโณ จ พฺราหมฺ ณา. สมณะดว ย พราหมณด ว ย ชอื่ วา พราหมณา(สมณะและพราหมณทง้ั หลาย) ทายโก จ ทายกิ า จ ทายกิ า. ทายกดว ย ทายิกาดว ย ช่ือวา ทายกิ า(ทายกและทายิกาทงั้ หลาย) ๓.สรเู ปกเสสสมาส ยอ ดว ยวธิ ีลบบททีม่ รี ปู เหมือนกนั ใหเ หลอื เพียงบทเดียว เชน รชชฺ ุ จ รชฺชุ จ รชชฺ ุโย. เชอื กดว ย เชือกดว ย ช่ือวา รชั ชุโย(เชอื กและเชอื กทง้ั หลาย) ยุคฺจ ยุคฺจ ยุคานิ. คูดว ย คดู ว ย ชื่อวา ยุคาน(ิ คแู ละคทู ง้ั หลาย) ๔.วิรเู ปกเสสสมาส ยอ ดว ยวิธลี บบทท่เี หมือนกนั ท้ังสองบททิง้ ไป แลว นำบทที่มรี ูปแปลกจากบทที่ ลบทง้ิ มาแทนไวหนง่ึ บท นิยมใชก ับปกตสิ ังขยาโดยทำบทสำเรจ็ ใหเ ปน ผลรวมของจำนวนแตล ะบททท่ี งิ้ ไป เชน ปฺจ จ ปจฺ จ ทส(สกุณา). หา ดว ย หา ดว ย ชอื่ วา ทสะ(นกทง้ั หลายสบิ ) ทส จ ทส จ วสี (ชนา). สิบดว ย สบิ ดว ย ชือ่ วา วสี ะ(ชนทั้งหลายย่สี บิ ) ทส จ ทส จ ทส จ ตึส(ชนา). สิบดว ย สิบดว ย สิบดว ย ชอื่ วา ตงิ สะ(ชนทงั้ หลายสามสบิ )
ค่มู อื การอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๗๘ ๕. อพั ยยภี าวสมาส อพั ยยีภาวสมาส คอื สมาสทีย่ ออปุ สคั หรือนิบาตบางตวั เขา กบั บทสทุ ธนามใหเ ปน บทเดยี วกัน(ยอ ศัพทท ่เี ปนอพั ยยศพั ทเขากบั สทุ ธนาม) บทสำเรจ็ จะมีบทหนาเปน อปุ สัคหรือนบิ าต บทหลังเปน สทุ ธนาม และเปน นปุงสกลิงค เอกจวนะ เทา นน้ั มี ๒ คอื ๑. อปุ สคั คปพุ พกะ มีอปุ สคั เปนบทหนา และแปลเปน ประธาน เชน นครสสฺ สมีป อปุ นคร.ํ ที่ใกล แหงเมอื ง ชื่อวา อปุ นคระ(ทีใ่ กลเ มอื ง) กุมภฺ สสฺ สมีป อปุ กุมฺภํ. ท่ใี กล แหงหมอ ชอ่ื วา อุปกมุ ภะ(ท่ใี กลห มอ) ทรถานํ อภาโว นิททฺ รถํ. ความไมม ี แหงความเรา รอ นทง้ั หลาย ช่อื วา นทิ ทรถะ(ความไมมคี วามเรารอน) โทสสสฺ อภาโว นทิ โฺ ทส.ํ ความไมม ี แหงโทษ ชอื่ วา นทิ โทสะ(ความไมม ีโทษ) ภยสฺส อภาโว นิพฺภย.ํ ความไมม ี แหง ภยั ชือ่ วา นพิ ภยะ(ความไมมีภัย) โสตสสฺ ปฏโิ ลมํ ปฏิโสต.ํ ทวน แหงกระแส ชอื่ วา ปฏโิ สตะ(ทวนกระแส) อตฺตานมตตฺ านํ ปติ ปจจฺ ตตฺ .ํ เฉพาะ แหง ตน แหงตน ชอ่ื วา ปจจตั ตะ(เฉพาะตนๆ) อปุ สคั คปุพพกะ ยงั มที ีใ่ ชกิรยิ าในรูปวเิ คราะห แทนอปุ สคั เชน วาตํ อนวุ ตตฺ ตตี ิ อนุวาต(ํ วตฺถ)ุ . วตั ถุใด ยอ มเปน ไปตาม ซึง่ ลม เหตนุ ัน้ วตั ถนุ ้นั ชือ่ วา อนวุ าตะ(เปน ไปตามลม) อตตฺ านํ อธิวตตฺ ตตี ิ อชฌฺ ตตฺ ํ(วตถฺ )ุ . วัตถใุ ด ยอ มเปน ไปทบั ซงึ่ ตน เหตนุ น้ั วตั ถนุ น้ั ช่ือวา อชั ฌัตตะ(เปนไปทบั ตน) อนตฺ ํ อตวิ ตตฺ ตตี ิ อจจฺ นตฺ (ํ วตฺถ)ุ . วัตถุใด ยอ มเปน ไปลวง ซง่ึ สว น เหตนุ น้ั วัตถุนนั้ ชื่อวา อจั จนั ตะ(เปน ไปลว งสว น) ๒. นปิ าตปุพพกะ มนี ิบาตเปน บทหนา และแปลเปน ประธาน เชน ปพฺพตสสฺ ตโิ ร ตโิ รปพพฺ ต.ํ ภายนอก แหง ภเู ขา ชอื่ วา ตโิ รปพพตะ(ภายนอกภเู ขา) นครสฺส พหิ พหินครํ. ภายนอก แหง พระนคร ชอื่ วา พหนิ คระ(ภายนอกพระนคร) เคหสสฺ อนฺโต อนโฺ ตเคห.ํ ภายใน แหง เรือน ชอ่ื วา อนั โตเคหะ(ภายในเรอื น) ภตตฺ สสฺ ปจฉฺ า ปจฺฉาภตตฺ ํ. ภายหลัง แหง ภตั ชอ่ื วา ปจ ฉาภตั ตะ(ภายหลงั ภัต) มคคฺ สฺส อนฺตรา อนตฺ รามคคฺ .ํ
ค่มู อื การอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๗๙ ระหวาง แหงหนทาง ชอื่ วา อันตรามคั คะ(ระหวางหนทาง) ปาสาทสสฺ อุปริ อุปรปิ าสาทํ. เบ้อื งบน แหง ปราสาท ชือ่ วา อุปรปิ าสาทะ(เบ้ืองบนปราสาท) มฺจสฺส เห า เหามจฺ .ํ ภายใต แหง เตียง ชื่อวา เหฏฐามญั จะ(ใตเ ตยี ง) ชวี สสฺ ยตตฺ โก ปรจิ เฺ ฉโท ยาวชีวํ. การกำหนด เพยี งใด แหง ชวี ติ ช่อื วา ยาวชวี ะ(กำหนดเพยี งใดแหงชวี ิต) สขุ สสฺ ยตตฺ โก ปรจิ เฺ ฉโท ยาวสขุ ํ. การกำหนด เพียงใด แหง ความสุข ชือ่ วา ยาวสขุ ะ(กำหนดเพยี งใดแหง ความสุข) กาลสฺส ตตฺตโก ปรจิ เฺ ฉโท ตาวกาลํ. การกำหนด เพยี งนน้ั แหงกาล ชื่อวา ตาวกาละ(กำหนดเพยี งนั้นแหง กาล) อายุสสฺ ตตตฺ โก ปริจฺเฉโท ตาวตายกุ .ํ การกำหนด เพียงนน้ั แหงอายุ ชอ่ื วา ตาวตายกุ ะ(กำหนดประมาณเพยี งนน้ั แหง อาย)ุ กมมฺ สสฺ ปฏปิ าฏิ ยถากมฺมํ. ลำดับ แหง กรรม ชอื่ วา ยถากัมมะ(ตามกรรม) สตตฺ ิยา ปฏปิ าฏิ ยถาสตตฺ ิ. ลำดับ แหง ความสามารถ ชอ่ื วา ยถาสตั ติ(ตามความสามารถ) พลสฺส ปฏิปาฏิ ยถาพลํ. ลำดบั แหง กำลัง ชื่อวา ยถาพละ(ตามกำลงั ) สทฺธาย ปฏิปาฏิ ยถาสทฺธํ. ลำดับ แหงศรทั ธา ช่ือวา ยถาสัทธะ(ตามศรทั ธา) ปสาทสสฺ ปฏปิ าฏิ ยถาปสาทํ. ลำดบั แหง ความเลอ่ื มใส ชอื่ วา ยถาปสาทะ(ตามความเลือ่ มใส) สขุ สสฺ ปฏปิ าฏิ ยถาสขุ .ํ ลำดับ แหงความสุข ชอื่ วา ยถาสขุ ะ(ตามความสขุ ) วฑุ ฒฺ านํ ปฏปิ าฏิ ยถาวุฑฒฺ ํ. ลำดบั แหงผูเจริญทงั้ หลาย ชื่อวา ยถาวฑุ ฒะ(ลำดบั ผเู จรญิ ) อนง่ึ ยถาวฑุ ฺฒํ นี้ นอกจากจะใช ปฏปิ าฏิ แทน ยถา แลว อาจจะใช เย เย แทนบา งกไ็ ด เชน เย เย วุฑฺฒา ยถาวฑุ ฺฒ.ํ (ชนท้งั หลาย) ผเู จริญแลว ใด ใด ชื่อวา ยถาวฑุ ฒะ(ชนเจริญแลว อยา งไร) ๖. พหุพพิหิสมาส พหุพพหิ ิสมาส คอื สมาสทม่ี ีอรรถของบทอน่ื เปน ประธาน(อญั ญปทตั ถะ) รปู สำเรจ็ เปน คณุ ศัพท ทำหนา ที่เปน วเิ สสนะขยายบทอ่นื แปลวา “ผมู ี...., อนั มี...., ม.ี .... พหพุ พหิ ิสมาสนี้ เก่ียวขอ งกับบท ๒ บท คอื ๑. บททถี่ ูกยอ เรียกวา “สกปท” (บทของตวั เอง) เชน อาคตสมโณ (อาคต-สมณ)
ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๘๐ ๒. บทอื่นท่ีนอกจากบทท่ีถูกยอ เรียกวา “อฺปท”(บทอื่น) ซ่ึงจำเปนและเก่ียวของทำใหอรรถ หรอื เนื้อความสมบูรณ ในรูปวิเคราะหใช ย,ต,เอต,และ อิม ศัพท แทน เมอ่ื สำเร็จเปนสมาสแลว จะปรากฏ อยูขางหลังบทสมาส เชน อาคตสมโณ อาราโม แปลวา “อาราม มีสมณะมาแลว” คำวา อาราโม เปน อัญญบทของ อาคตสมโณ พหพุ พิหสิ มาส สามารถแบงตามลกั ษณะเปน ๕ อยา ง คอื ๑.ตุลยาธิกรณพหพุ พหิ ิสมาส ๒.ฉัฏฐีอปุ มาพหพุ พหิ สิ มาส ๓.นบพุ พบทพหพุ พิหิสมาส ๔.ภนิ นาธิกรณพหุพพหิ ิสมาส ๕.สหบพุ พบทพหพุ พิหิสมาส ๑.ตลุ ยาธกิ รณพหุพพิหสิ มาส สมาสน้ีใชยอบทสทุ ธนามกบั บทวิเสสนะทงั้ ๒ ท่ีมเี นื้อความคลอ ย ตามกนั เขา ดวยกนั วเิ สสนะนน้ั ไดแ ก คุณนาม ปกตสิ งั ขยา ปรู ณสงั ขยา กิริยากติ ก นามกติ ก เมื่อยอ เขาเปน สมาสแลว มฐี านะเปน คุณนามตองมีอญั ญบท(บทอน่ื ) ท่ีเรยี กวา ตุลยาธกิ รณพหพุ พหิ สิ มาส เพราะมบี ท ประธานและบทวเิ สสนะเสมอกันดว ยลิงคและวจนะ ใชในอรรถวภิ ตั ติทง้ั ๖ ไดแ ก ทตุ ิยาวภิ ตั ติ ตติยาวิภตั ติ จตุตถวี ภิ ตั ติ ปญ จมวี ิภตั ติ ฉฏั ฐีวิภตั ติ และสตั ตมวี ภิ ตั ติ ดงั นี้ ทตุ ยิ าตลุ ยาธกิ รณพหุพพิหิสมาส นำบททเ่ี ปนทตุ ิยาวภิ ัตตใิ นประโยควิเคราะหเ ปนประธานแหง บทสมาส (ย ศพั ท ประกอบเปนทตุ ยิ าวภิ ตั ต)ิ เชน อาคตา สมณา ยํ โส อาคตสมโณ.(อาราโม) สมณะทงั้ หลาย มาแลว สอู ารามใด อารามนนั้ ชอื่ วา มสี มณะมาแลว รฬุ หฺ า ลตา ยํ โส รฬุ ฺหลโต.(รกุ โฺ ข) เครือวัลย ขนึ้ แลว สตู น ไมใ ด ตน ไมน ้นั ชอื่ วา มเี ครอื วลั ยข ึน้ แลว อุปคตา กฺา ยํ สา อุปคตกฺ า.(สาลา) นางสาวนอ ย เขา ไปแลว สศู าลาใด ศาลาน้ัน ชอ่ื วา มนี างสาวนอ ยเขา ไปแลว อภริ ูฬฺหา วาณชิ า ยํ สา อภิรูฬหฺ วาณิชา.(นาวา) พอ คา ท้ังหลาย ขน้ึ แลว สเู รอื ใด เรือนน้ั ชื่อวา มีพอ คาขน้ึ แลว ตตยิ าตลุ ยาธกิ รณพหพุ พหิ สิ มาส นำบทท่ีเปน ตติยาวิภตั ติในประโยควิเคราะหเปนประธานแหง บทสมาส (ย ศพั ท ประกอบเปนตติยาวภิ ัตต)ิ เชน ทิ า ธมฺมา เยน โส ทิ ธมฺโม.(สมโณ) ธรรมทั้งหลาย อนั สมณะใด เหน็ แลว สมณะนนั้ ชือ่ วา มธี รรมอันเหน็ แลว กตํ ปฺุ ํ เยน โส กตปุโฺ .(ปรุ ิโส) บุญ อนั บรุ ษุ ใด กระทำแลว บรุ ุษนนั้ ชือ่ วา มีบญุ อันกระทำแลว อาหิโต อคคฺ ิ เยน โส อาหติ คคฺ .ิ (พรฺ าหมฺ โณ) ไฟ อันพราหมณใ ด บชู าแลว พราหมฺณน ้นั ช่อื วา มไี ฟอนั บูชาแลว จตตุ ถีตลุ ยาธกิ รณพหพุ พิหสิ มาส นำบทที่เปน จตุตถวี ิภัตติในประโยควิเคราะหเปน ประธานแหง บทสมาส (ย ศัพท ประกอบเปนจตุตถีวิภตั ติ) เชน ทินฺโน สุงโฺ ก ยสสฺ โส ทินนฺ สงุ โฺ ก.(ราชา)
ค่มู อื การอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๘๑ สวย อนั ชาวเมืองถวายแลว แดพ ระราชาใด พระราชานน้ั ชอื่ วา มสี ว ยอนั ชาวเมอื งถวายแลว สชฺ าโต สเํ วโค ยสสฺ ตํ สชฺ าตสเํ วค.ํ (กลุ ํ) ความสงั เวช เกดิ แลว แกตระกลู ใด ตระกลู นน้ั ชื่อวา มคี วามสงั เวชเกดิ แลว อุปฺปนฺโน ลาโภ ยาสํ ตา อปุ ปฺ นฺนลาภา.(อติ ถฺ โิ ย) ลาภ เกิดขึ้นแลว แกหญงิ ทง้ั หลายเหลา ใด หญงิ ท้งั หลายเหลา น้ัน ชอ่ื วา มีลาภเกดิ ข้นึ แลว ปญจมตี ลุ ยาธิกรณพหุพพหิ ิสมาส นำบททเี่ ปน ปญจมวี ภิ ตั ติในประโยควิเคราะหเ ปน ประธานแหง บทสมาส (ย ศพั ท ประกอบเปน ปญ จมวี ภิ ัตติ) เชน นิคฺคตา ชนา ยสฺมา โส นคิ ฺคตชโน.(คาโม) ชนท้ังหลาย ออกไปแลว จากหมบู า นใด หมูบานนนั้ ชอ่ื วา มชี นออกไปแลว ชาตา ธตี า ยาย สา ชาตธตี า.(มาตา) ธดิ า เกดิ แลว จากมารดาใด มารดานน้ั ชอื่ วา มธี ิดาเกดิ แลว อปคตานิ ธนานิ ยสฺมา ตํ อปคตธนํ.(กลุ ํ) ทรพั ยท้ังหลาย ไปปราศแลว จากตระกลู ใด ตระกูลนนั้ ชอ่ื วา มที รัพยไ ปปราศแลว ฉฏั ฐีตลุ ยาธกิ รณพหุพพิหิสมาส นำบททเ่ี ปน ฉัฏฐวี ิภัตติในประโยควเิ คราะหเปน ประธานแหง บท สมาส (ย ศพั ท ประกอบเปน ฉัฏฐวี ภิ ัตต)ิ เชน ขีณา อาสวา ยสสฺ โส ขีณาสโว.(ภกิ ฺข)ุ อาสวะทงั้ หลาย ของภิกษุใด สนิ้ แลว ภกิ ษนุ น้ั ชือ่ วา มีอาสวะสนิ้ แลว สนโฺ ต กิเลโส ยสสฺ า สา สนตฺ กเิ ลสา.(ภกิ ขฺ นุ ี) กิเลส ของภิกษุณีใด สงบแลว ภิกษุณนี นั้ ช่อื วา มกี ิเลสสงบแลว ฉนิ โฺ น หตฺโถ ยสสฺ โส ฉินฺนหตโฺ ถ.(ปรุ ิโส) มือ ของบรุ ษุ ใด ขาดแลว บรุ ษุ นัน้ ชื่อวา มีมือขาดแลว วสิ ทุ ธฺ ํ สลี ํ ยสฺส โส วสิ ุทฺธสโี ล.(ภิกฺข)ุ ศีล ของภกิ ษุใด หมดจดแลว ภิกษุนน้ั ชือ่ วา มศี ลี หมดจดแลว สัตตมีตลุ ยาธิกรณพหุพพิหสิ มาส นำบททเ่ี ปน สตั ตมวี ภิ ตั ตใิ นประโยควิเคราะหเปน ประธานแหง บทสมาส (ย ศพั ท ประกอบเปน สตั ตมีวิภตั ติ) เชน สมปฺ นนฺ านิ สสสฺ านิ ยสฺมึ โส สมปฺ นนฺ สสฺโส.(ชนปโท) ขา วกลา ท้ังหลาย อนั ถงึ พรอ มแลว ในชนบทใด ชนบทนนั้ ชอ่ื วา มขี า วกลา ถึงพรอมแลว สุลภา ภกิ ฺขา ยสมฺ ึ โส สภุ กิ โฺ ข.(ชนปโท) ภิกษา อนั หาไดโ ดยงา ย ในชนบทใด ชนบทนน้ั ชอ่ื วา มภี กิ ษาหาไดโดยงา ย อากณิ ฺณา มนสุ สฺ า ยสสฺ ํ สา อากณิ ณฺ มนสุ ฺสา.(ธานี) มนษุ ยทัง้ หลาย อนั เกลอ่ื นกลนแลว ในเมอื งใด เมืองนน้ั ชอื่ วา มมี นุษยเ กลอ่ื นกลน แลว อุปจติ ํ มสํ โลหิตํ ยสฺมึ ตํ อปุ จติ มสํ โลหติ .ํ (สรรี )ํ เน้ือและเลือด อันถูกสั่งสมแลว ในสรีระใด สรรี ะน้นั ชือ่ วา มีเนื้อและเลอื ดอันถูกสั่งสมแลว ๒.ฉัฏฐอี ุปมาพหพุ พหิ สิ มาส สมาสนีม้ อี ปุ มาอยใู นประโยควเิ คราะห มคี ำแปลวา ผมู .ี ....เพยี งดัง .....แหง ... มลี กั ษณะเฉพาะคอื บทหนา เปน ฉัฏฐวี ิภัตติ เอกวจนะ บทอุปมาอยหู ลงั แสดงภาวะเปนเจา ของ
ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๘๒ และเปนสทุ ธนามเหมอื นกัน แลว เรียง อวิ ศัพทต อ จากตัวอปุ มา และวางตวั ประธานซ่งึ เปน ตวั เดยี วกบั อุปมา จัดรูปแบบเหมือนฉัฏฐพี หุพพิหิสมาส ดงั ตัวอยา งเชน สวุ ณณฺ สสฺ วณโฺ ณ อิว วณฺโณ ยสสฺ โส สวุ ณฺณวณโฺ ณ.(ภควา) วรรณะ ของพระผูมพี ระภาคพระองคใด เพยี งดงั วรรณะ แหงทอง พระผมู พี ระภาค พระองคน นั้ ชื่อวา มวี รรณะเพียงดงั วรรณะแหงทอง พรฺ หมฺ โุ น สโร อวิ สโร ยสสฺ โส พรฺ หมฺ สสฺ โร.(ภควา) เสียง ของพระผมู พี ระภาคพระองคใด เพียงดัง เสียง แหงพรหม พระผูมพี ระภาคพระองค นน้ั ชือ่ วา มีเสียงเพียงดงั เสยี งแหง พรหม นาคสสฺ คติ อิว คติ ยสสฺ โส นาคคต.ิ (ภควา) การเสดจ็ ไป ของพระผมู ีพระภาคพระองคใด เพยี งดงั การไป แหง ชางตวั ประเสรฐิ พระผูมี พระภาคพระองคน น้ั ช่ือวา มกี ารเสดจ็ ไปเพียงดงั การไปแหงชางตัวประเสรฐิ สหี สฺส หนุ อวิ หนุ ยสฺส โส สีหหนุ.(ภควา) คาง ของพระผมู พี ระภาคพระองคใด เพยี งดงั คาง แหง ราชสีห พระผมู ีพระภาคพระองค นน้ั ช่อื วา มคี างเพยี งดงั คางแหงราชสหี เอณสิ สฺ ชงฆฺ า อิว ชงฺฆา ยสฺส โส เอณชิ งโฺ ฆ.(ภควา) พระชงฆ ของพระผมู ีพระภาคพระองคใ ด เพยี งดงั แขง แหง เนือ้ ทราย พระผูมพี ระภาค พระองคน น้ั ชอ่ื วา มีพระชงฆเพียงดังแขง แหงเนอื้ ทราย อุสภสสฺ ขนโฺ ธ อิว ขนฺโธ ยสสฺ โส อสุ ภกขฺ นโฺ ธ.(ภควา) พระกาย(ลำตวั ) ของพระผมู พี ระภาคพระองคใ ด เพยี งดงั ลำตัว แหงววั ผ(ู เครอื่ งหมายแสดง กำลังและความสามารถของบุรษุ ผนู กั รบ) พระผมู ีพระภาคพระองคนนั้ ชอ่ื วา มลี ำตวั เพยี งดงั ลำตวั แหงววั ผู สูกรสฺส สสี ํ อวิ สสี ํ ยสสฺ โส สกู รสโี ส.(เปโต) ศรี ษะ ของเปรตใด เพยี งดัง ศรี ษะ แหง สุกร เปรตน้นั ชอ่ื วา มศี ีรษะเพยี งดงั ศรี ษะแหง สกุ ร หตถฺ ิโน ลงิ คฺ ํ อวิ ลงิ คฺ ํ ยสสฺ โส หตถฺ ิลงิ โฺ ค.(สกุโณ) เพศ ของนกใด เพียงดงั เพศ แหง ชา ง นกนนั้ ชอ่ื วา มเี พศเพยี งดงั เพศแหง ชาง เทวสสฺ วณโฺ ณ อวิ วณโฺ ณ ยสสฺ า สา เทววณณฺ า.(ยกขฺ นิ )ี วรรณะ ของนางยักษใ ด เพยี งดัง วรรณะ แหงเทพ นางยักษน น้ั ช่ือวา มวี รรณะเพยี งดงั วรรณะแหง เทพ ๓.นบุพพบทพหุพพหิ สิ มาส คือ พหพุ พหิ สิ มาสทมี่ ี น ศพั ท ปฏเิ สธ แสดงเนอื้ ความไมป ฏเิ สธ มีคำ แปลวา “มี....หามไิ ด” หรอื “ไมม .ี ...” ในรปู วิเคราะหใช นตฺถิ แทน น ศัพท เขา บทสมาสแลว แปลง น เปน อ หรอื อน โดยมี ต เอต อมิ ศพั ท เปน บทเรยี กหาอญั ญบท เชน นตถฺ ิ เอตสฺส อตุ ตฺ โรติ อนตุ ตฺ โร.(ภควา) บุคคลผปู ระเสริฐยิ่งกวา ยอมไมม ี แกพระผูมีพระภาคพระองคนน่ั เหตนุ ั้น พระผูมพี ระภาค พระองคน น่ั ช่ือวา มบี คุ คลผปู ระเสรฐิ ย่ิงกวา หามไิ ด( ไมม บี คุ คลผปู ระเสรฐิ ยงิ่ กวา) นตถฺ ิ ตสฺส สโมติ อสโม.(ภควา) ผเู สมอ ยอมไมม ี แกพ ระผมู ีพระภาคพระองคน ัน้ เหตนุ ัน้ พระผมู พี ระภาคพระองคน นั้ ช่ือ วา มผี เู สมอหามไิ ด(ไมม ีผูเ สมอ)
ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๘๓ นตถฺ ิ ตสสฺ ปฏิปุคฺคโลติ อปปฺ ฏปิ ุคคฺ โล.(ภควา) บคุ คลผเู ปรยี บ ยอมไมมี แกพ ระผูมีพระภาคพระองคน นั้ เหตนุ ้นั พระผมู ีพระภาคพระองค นัน้ ชื่อวา มบี ุคคลเปรยี บหามไิ ด(ไมม ีบุคคลเปรยี บ) นตฺถิ เอเตสํ อาสวาติ อนาสวา.(ภกิ ฺข)ู อาสวะทงั้ หลาย ยอ มไมมี แกภ ิกษุท้ังหลายเหลา นน่ั เหตนุ น้ั ภิกษุท้งั หลายเหลานนั่ ชื่อวา มี อาสวะหามไิ ด( ไมม อี าสวะ) นตถฺ ิ ตสฺส ตุโลติ อตโุ ล.(ชโน) ความเท่ียงตรง ยอ มไมม ี แกช นนน้ั เหตนุ น้ั ชนน้นั ชือ่ วา มคี วามเท่ียงตรงหามไิ ด( ไมมีความ เทย่ี งตรง) นตถฺ ิ เตสํ สวํ าโสติ อสํวาสา.(ชนา) การอยรู ว ม ยอ มไมมี แกช นทง้ั หลายเหลาน้ัน เหตนุ ั้น ชนทั้งหลายเหลา นนั้ ชอื่ วา มกี ารอยู รวมหามไิ ด(ไมม ีการอยูรวม) นตฺถิ ตสสฺ ปตุ ตฺ าติ อปตุ ตฺ โก.(ชโน) บุตรทงั้ หลาย ยอ มไมมี แกช นนั้น เหตนุ น้ั ชนนน้ั ชื่อวา มบี ตุ รหามิได( ไมม ีบตุ ร) นตฺถิ ตสสฺ ธมโฺ มติ อธมโฺ ม.(ชโน) ธรรม ยอ มไมม ี แกช นน้ัน เหตนุ นั้ ชนนัน้ ช่ือวา มธี รรมหามไิ ด( ไมม ธี รรม) นตถฺ ิ ตสสฺ า ธมฺโมติ อธมมฺ า.(อิตถฺ )ี ธรรม ยอ มไมมี แกห ญงิ นน้ั เหตนุ ้นั หญงิ นั้น ช่อื วา มธี รรมหามไิ ด( ไมมธี รรม) นตฺถิ ตสสฺ ธมฺโมติ อธมมฺ .ํ (กลุ )ํ ธรรม ยอมไมม ี แกตระกลู นนั้ เหตนุ ้ัน ตระกลู นน้ั ชือ่ วา มีธรรมหามไิ ด( ไมม ีธรรม) นตฺถิ ตสฺส นาโถติ อนาโถ.(ชโน) ท่พี ่งึ ยอ มไมม ี แกช นนนั้ เหตุนน้ั ชนนนั้ ชอื่ วา มีท่ีพงึ่ หามไิ ด( ไมม ีทีพ่ ง่ึ ) นตถฺ ิ ตสสฺ เหตตู ิ อเหตโุ ก.(ปุคคโล) เหตุ ยอมไมมี แกบคุ คลนนั้ เหตนุ ั้น บุคคลนน้ั ชือ่ วา มีเหตหุ ามไิ ด( ไมมเี หตุ) นตฺถิ ตสฺส สลี นตฺ ิ อสโี ล.(ปรุ ิโส) ศีล ยอมไมมี แกบ รุ ุษน้นั เหตนุ น้ั บรุ ษุ นน้ั ชือ่ วา มีศลี หามิได(ไมม ีศลี ) นตฺถิ ตสสฺ ปฺ าติ อปโฺ .(นโร) ปญ ญา ยอ มไมม ี แกคนนน้ั เหตนุ ัน้ คนนน้ั ชื่อวา มีปญ ญาหามิได(ไมมปี ญ ญา) นตถฺ ิ ตสสฺ อนฺโตติ อนนฺตํ.(จกฺกวาฬ)ํ ทีส่ ดุ ยอ มไมม ี แกจ ักรวาลนนั้ เหตนุ ้ัน จักรวาลน้นั ชื่อวา มที สี่ ดุ หามไิ ด(ไมม ที ่ีสดุ ) นตฺถิ ตสสฺ ทิ ีติ อทิิโก.(ปุรโิ ส) ความเหน็ ยอมไมมี แกบุรุษนัน้ เหตนุ ้ัน บรุ ษุ นนั้ ชอ่ื วา มคี วามเห็นหามไิ ด( ไมม ีความเหน็ ) นตถฺ ิ เอตถฺ วุ ีติ อวุ โิ ก.(ชนปโท) ฝน ยอ มไมม ี ในชนบทนี้ เหตนุ นั้ ชนบทนี้ ชอื่ วา มีฝนหามิได(ไมม ีฝน) นตถฺ ิ ตสสฺ ผาสุกนตฺ ิ อผาสกุ .ํ (จติ ตฺ )ํ ความสำราญ ยอ มไมม ี แกจติ นนั้ เหตุนนั้ จิตนั้น ชือ่ วา มคี วามสำราญหามไิ ด(ไมมคี วามสำราญ)
ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๘๔ นตฺถิ เอตถฺ อสโฺ สติ อนสฺโส.(คาโม) มา ยอ มไมมี ในหมบู านนี้ เหตุนนั้ หมบู านน้ี ชอ่ื วา มีมาหามิได(ไมมมี า )(หมูบ านไมมมี า) ๔.ภินนาธกิ รณพหุพพหิ สิ มาส คือพหุพพหิ สิ มาสที่มกี ารยอ บทสทุ ธนามเขากบั สทุ ธนาม หมายความวา ในประโยควิเคราะหน น้ั ทง้ั บทหนาและบทหลงั เปน สทุ ธนาม ซงึ่ มวี ิภตั ตแิ ตกตา งกนั สว นลงิ ค นั้นจะเหมอื นหรอื ตางกนั ก็ได นยิ มใหบทหนึ่งแปลงทา ยคำเปน ทุตยิ าวิภตั ติ หรอื สตั ตมวี ภิ ตั ติ สดุ แต เนอื้ ความจะไปทางใด สว นอกี บทหนง่ึ นนั้ นิยมใหแ ปลงทา ยคำเปน ปฐมาวภิ ตั ติ ใชเปนบทประธาน บท สำเรจ็ จากรปู วิเคราะหแ หง สมาสน้ี เปน คณุ นาม มีอญั ญบทหรือนามบทอื่นเปน ประธาน เชน เอกรตตฺ ึ วาโส อสสฺ าติ เอกรตตฺ ิวาโส.(ปรุ โิ ส) การอยู สนิ้ ราตรหี นง่ึ ของบรุ ุษนั้น (มอี ย)ู เหตุนน้ั บรุ ุษนน้ั ชอ่ื วา มกี ารอยสู น้ิ ราตรหี นง่ึ สมาเนน ชเนน สทธฺ ึ วาโส อสสฺ าติ สมานวาโส.(ปุรโิ ส) การอยู กับ ดว ยชน ผูเสมอกนั ของบรุ ุษนน้ั (มอี ยู) เหตุนนั้ บุรุษนนั้ ชื่อวา มีการอยูเสมอกนั อภุ โต กมมฺ โต อปุ ฺปนนฺ ํ พยฺ ฺชนทฺวยํ อสฺสาติ อภุ โตพยฺ ฺชโน19๑.(ปุคฺคโล) ความเปน สองเพศ เกิดข้ึนแลว เพราะกรรม สองอยา ง ของบคุ คลนน้ั มีอยู เหตนุ นั้ บุคคล น้ัน ช่อื วา มคี วามเปน สองเพศเพราะกรรมสองอยา ง กณฺสฺมึ กาโฬ อสสฺ าติ กณเฺ กาโฬ.(ปรุ โิ ส) สดี ำ ทค่ี อ ของบรุ ษุ นน้ั (มอี ย)ู เหตนุ น้ั บรุ ุษนนั้ ชอื่ วา มสี ดี ำทค่ี อ อรุ สฺมึ โลมานิ อสสฺ าติ อุรสโิ ลโม.(พรฺ าหฺมโณ) ขนทงั้ หลาย ทอี่ ก ของพราหมณนน้ั (มีอย)ู เหตุนน้ั พราหมณน น้ั ช่อื วา มขี นทอ่ี ก ปตโฺ ต หตเฺ ถ อสสฺ าติ ปตตฺ หตโฺ ถ.(ภิกขฺ )ุ บาตร ในมือ ของภิกษนุ ้นั (มอี ยู) เหตนุ ัน้ ภิกษนุ นั้ ช่อื วา มีบาตรในมือ อสิ หตเฺ ถ อสฺสาติ อสหิ ตโฺ ถ.(โยโธ) ดาบ ในมือ ของทหารนนั้ (มอี ยู) เหตนุ น้ั ทหารน้ัน ชอ่ื วา มดี าบในมอื สตถฺ ํ ปาณิมฺหิ อสสฺ าติ สตถฺ ปาณ.ิ (ปรุ ิโส) ศัสตรา ในมอื ของบรุ ุษนน้ั (มอี ย)ู เหตนุ น้ั บุรษุ น้นั ชือ่ วา มีศัสตราในมอื ฉตตฺ ํ ปาณมิ ฺหิ อสสฺ าติ ฉตตฺ ปาณิ.(ปรุ โิ ส) รม ในมือ ของบรุ ุษนนั้ (มีอยู) เหตนุ น้ั บรุ ษุ นนั้ ชอื่ วา มรี มในมอื ทณโฺ ฑ ปาณิมหฺ ิ อสสฺ าติ ทณฺฑปาณิ.(ปรุ ิโส) ไมเทา ในมือ ของบรุ ุษน้ัน (มีอยู) เหตนุ ้นั บุรุษน้นั ชอื่ วา มไี มเทาในมอื วชริ ํ ปาณิมหฺ ิ อสสฺ าติ วชิรปาณ.ิ (สกฺโก) วเิ ชยี ร ในพระหตั ถ ของทา วสักกะนนั้ (มอี ย)ู เหตนุ ั้น ทาวสกั กะนน้ั ชื่อวา มวี ิเชียรในพระ หัตถ ขคโฺ ค หตถฺ สฺมึ อสสฺ าติ ขคคฺ หตฺโถ.(ราชา) ๑ พระญาณธชเถระ(แลดสี ยาดอ) (พระธรรมโมลี (สมศกั ดิ์ อุปสโม),พระมหานมิ ิตร ธมมฺ สาโร ตรวจชำระ สมควร ถว นนอก ปรวิ รรต), นริ ตุ ตทิ ีปนี(คัมภีรว าดวยหลกั ไวยากรณสายโมคคัลลานะ)(กรงุ เทพฯ: หางหนุ สวนจำกดั ไทยรายวนั การพมิ พ, ๒๕๔๘) หนา ๒๔๙.
ค่มู ือการอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๘๕ พระขรรค ในพระหตั ถ ของพระราชานัน้ (มอี ย)ู เหตนุ นั้ พระราชานน้ั ชอื่ วา มีพระขรรคใ น พระหตั ถ อาวุธา หตเฺ ถสุ เตสนตฺ ิ อาวธุ หตถฺ า.(โยธา) อาวธุ ทั้งหลาย ในมือทงั้ หลาย ของทหารทง้ั หลายเหลา นน้ั (มีอย)ู เหตุนน้ั ทหารทั้งหลาย เหลานนั้ ช่อื วา มอี าวธุ ในมอื ทาเน อชฌฺ าสโย อสสฺ าติ ทานชฺฌาสโย.(ปุคฺคโล) อธั ยาศยั ในทาน ของบคุ คลนนั้ (มีอยู) เหตุนนั้ บคุ คลนนั้ ชอื่ วา มีอธั ยาศัยในทาน ทาเน อธิมตุ ตฺ ิ อสฺสาติ ทานาธมิ ตุ ตฺ โิ ก.(ปคุ คฺ โล) ความนอ มใจเช่อื ในทาน ของบุคคลนน้ั (มอี ย)ู เหตุนนั้ บุคคลนนั้ ชอ่ื วา มีความนอ มใจเชอ่ื ในทาน พุทเฺ ธสุ ภตตฺ ิ อสฺสาติ พุทธฺ ภตฺตโิ ก.(ปุคฺคโล) ความจงรกั ภกั ดี ในพระพุทธเจา ทงั้ หลาย ของบคุ คลนนั้ (มีอย)ู เหตนุ นั้ บุคคลน้ัน ชอื่ วา มี ความจงรกั ภกั ดใี นพระพุทธเจา พทุ เฺ ธ คารโว อสสฺ าติ พุทฺธคารโว.(ปุคฺคโล) ความเคารพ ในพระพทุ ธเจา ของบคุ คลนนั้ (มอี ยู) เหตนุ นั้ บคุ คลนนั้ ชอื่ วา มีความเคารพ ในพระพุทธเจา ธมฺเม คารโว อสฺสาติ ธมมฺ คารโว.(ปคุ คฺ โล) ความเคารพ ในพระธรรม ของบคุ คลนน้ั (มอี ย)ู เหตนุ นั้ บคุ คลนั้น ช่ือวา มีความเคารพใน พระธรรม สงฺเฆ คารโว อสสฺ าติ สงฆฺ คารโว.(ปุคคฺ โล) ความเคารพ ในพระสงฆ ของบุคคลนน้ั (มอี ยู) เหตุนน้ั บุคคลนน้ั ชือ่ วา มีความเคารพใน พระสงฆ สทธฺ มเฺ ม คารโว อสฺสาติ สทธฺ มมฺ คารโว.(ปคุ คฺ โล) ความเคารพ ในพระสทั ธรรม ของบคุ คลนน้ั (มีอยู) เหตุนน้ั บคุ คลน้ัน ช่ือวา มีความเคารพ ในพระสทั ธรรม ๕.สหบพุ พบทพหุพพหิ ิสมาส คอื พหพุ พิหสิ มาสทมี่ บี ทหนา เปน สห นบิ าต แปลวา “กบั ...” บท หลงั เปน สุทธนาม แปลงทายคำเปน ตติยาวภั ตั ติ แปลวา “ดว ย...” เสมอไป เมอื่ สำเร็จรปู เปน สมาสแลวให แปลง สห นบิ าตเปน “ส” เสมอ มคี ำแปลวา “เปน ไปกับดว ย...” หรอื “มี...” ลงในอรรถแหง ปฐมาวิภตั ติ มีอญั ญบทคือมีบทอน่ื เปน ประธานเนอ่ื งจากสมาสนเี้ ปนสมาสคุณนาม เชน สห วติ กฺเกน โย วตตฺ ตตี ิ สวิตกโฺ ก.(สมาธิ) สมาธิใด ยอ มเปน ไป กบั ดว ยวิตก เหตนุ น้ั สมาธนิ น้ั ชอื่ วา เปนไปกบั ดว ยวติ ก(มวี ติ ก) สห วติ กเฺ กน ยา วตตฺ ตตี ิ สวติ กกฺ า.(ปฺา) ปญ ญาใด ยอ มเปนไป กบั ดว ยวิตก เหตนุ ้นั ปญ ญานน้ั ช่อื วา เปน ไปกบั ดว ยวติ ก(มีวติ ก) สห วิตกฺเกน ยํ วตตฺ ตตี ิ สวติ กกฺ ํ.(ฌานํ) ฌานใด ยอมเปน ไป กบั ดว ยวติ ก เหตนุ น้ั ฌานนนั้ ช่อื วา เปน ไปกับดว ยวิตก(มวี ติ ก) สห วติ กฺเกน ยานิ วตตฺ นตฺ ตี ิ สวติ กฺกานิ.(ฌานานิ)
ค่มู ือการอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๘๖ ฌานทง้ั หลายเหลา ใด ยอมเปน ไป กบั ดว ยวติ ก เหตุนน้ั ฌานทง้ั หลายเหลานน้ั ชื่อวา เปนไปกบั ดว ยวติ ก(มวี ติ ก) สห เหตนุ า โย วตตฺ ตตี ิ สเหตโุ ก.(ธมโฺ ม) ธรรมใด ยอ มเปน ไป กบั ดว ยเหตุ เหตนุ น้ั ธรรมนน้ั ชอ่ื วา เปนไปกบั ดว ยเหตุ(มีเหต)ุ สห ปริวาเรน โย วตตฺ ตตี ิ สปริวาโร.(ภกิ ขฺ )ุ ภกิ ษใุ ด ยอ มเปน ไป กบั ดว ยบรวิ าร เหตุนน้ั ภกิ ษนุ น้ั ชือ่ วา เปนไปกบั ดว ยบริวาร(มีบรวิ าร) สห ปตุ เฺ ตน โย วตตฺ ตีติ สปตุ โฺ ต.(ปตา) บิดาใด ยอ มเปน ไป กับ ดว ยบุตร เหตนุ ั้น บิดานน้ั ชอ่ื วา เปนไปกบั ดวยบตุ ร(มีบตุ ร) สห มจฺเฉเรน ยํ วตตฺ ตตี ิ สมจเฺ ฉรํ.(จติ ฺต)ํ จิตใด ยอ มเปน ไป กับ ดว ย ความตระหนี่ เหตนุ ั้น จิตนน้ั ช่อื วา เปน ไปกบั ดว ยความตระหน่ี (มคี วามตระหนี่) สห โภเคน ยํ วตตฺ ตตี ิ สโภคํ (กลุ )ํ ตระกูลใด ยอมเปน ไป กบั ดว ยโภคะ เหตนุ น้ั ตระกูลนั้น ชอื่ วา เปน ไปกับดว ยโภคะ(มีโภคะ) สห ธเนน โย วตตฺ ตตี ิ สธโน.(ชโน) ชนใด ยอมเปน ไป กบั ดวยทรพั ย เหตนุ นั้ ชนนนั้ ชอ่ื วา เปนไปกับดวยทรัพย(มที รัพย) สห รฺา ยา วตตฺ ตตี ิ สราชกิ า.(ปรสิ า) บรษิ ัทใด ยอ มเปน ไป กับ ดว ยพระราชา เหตนุ น้ั บรษิ ทั นน้ั ช่อื วา เปนไปกบั ดว ยพระราชา (มีพระราชา) สห ภริยาย โย วตตฺ ตตี ิ สภรโิ ย.(ปุรโิ ส) บุรษุ ใด ยอมเปน ไป กบั ดวยภรยิ า เหตนุ นั้ บรุ ุษนน้ั ชือ่ วา เปนไปกบั ดว ยภรยิ า(มภี รยิ า) สห สามเิ กน ยา วตฺตตีติ สสามิกา.(อติ ฺถ)ี หญงิ ใด ยอมเปน ไป กับ ดว ยสามี เหตนุ น้ั หญงิ นน้ั ชอื่ วา เปน ไปกับดวยสามี(มสี ามี) สห ปติยา เย วตตฺ นตฺ ตี ิ สปปฺ ตกิ า.(ธมมฺ า) ธรรมทัง้ หลายเหลา ใด ยอ มเปน ไป กบั ดว ยปต ิ เหตนุ นั้ ธรรมทงั้ หลายเหลา นนั้ ช่ือวา เปนไปกบั ดว ยปต (ิ มปี ต )ิ สห ปจฺจเยหิ เย วตตฺ นตฺ ตี ิ สปจจฺ ยา.(ธมมฺ า) ธรรมทง้ั หลายเหลา ใด ยอมเปน ไป กับ ดวยปจจัยทัง้ หลาย เหตนุ ้นั ธรรมทงั้ หลายเหลา นน้ั ช่อื วา เปน ไปกบั ดวยปจ จัย(มีปจ จัย) สห อุปาทาเนหิ โย วตตฺ ตตี ิ สอุปาทาโน.(ธมฺโม) ธรรมใด ยอมเปน ไป กบั ดวยอปุ าทานท้ังหลาย เหตนุ ั้น ธรรมนนั้ ช่อื วา เปนไปกบั ดวย อปุ าทาน(มีอปุ าทาน) นอกจากนี้ ยงั มีสมาสท่ีพิเศษไปกวา สมาสทงั้ ๖ อยา งทกี่ ลา วมา ซ่ึงมีลกั ษณะสมาสซอนสมาส กลา วคอื การนำเอาบทสำเรจ็ จากสมาสตา งๆ ทงั้ ๖ นนั้ มายอ รวมไวเปน บทเดียวกัน ซอนกนั อยูเปน ช้ันๆ บทหนงึ่ ๆ อาจมหี ลายสมาส ตง้ั แต ๒ สมาสขึน้ ไป จนถงึ ๓ หรือ ๔ สมาส กไ็ ด เรยี กวา สมาสทอ ง โดยมี สมาสท่ีวเิ คราะหสดุ ทายเปนตวั หลกั หรอื สมาสใหญ และสมาสที่วิเคราะหก อ นเปน ตวั เชอ่ื มอยูภายในหรือ สมาสเล็ก
ค่มู อื การอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๘๗ ดังนนั้ การเรียกชอ่ื สมาสทอง กจ็ ะมีช่อื เรียกตามบทสำเรจ็ คอื เรยี กตามชือ่ สมาสท่วี เิ คราะห สุดทายหรอื สมาสใหญซ งึ่ สว นใหญม กั จะแปลกอน และเรยี กชอื่ สมาสท่ีอยภู ายในหรือสมาสเลก็ ตง้ั แต ขางหนาสดุ ทว่ี เิ คราะหก อ นไปตามลำดบั ซง่ึ สว นใหญม กั จะแปลทหี ลงั การวางรปู วเิ คราะหใ หถือเอา คำแปล ทหี ลัง ตง้ั วิเคราะหก อน คำแปลกอนต้ังวเิ คราะหทีหลงั ดังนี้ สพฺพรตตฺ ิโสภโณ (จนโฺ ท) แปลวา (พระจนั ทร) งามตลอดราตรีทงั้ ปวง เปน ทตุ ิยาตปั ปรุ สิ สมาส (ท.ุ ตปั .) มี วเิ สสนบพุ พบท กัมมธารยสมาส (วิ.บุพ.กัม.) เปน สมาสภายใน ตงั้ วิเคราะห ดังน้ี วิ.บุพ.กัม. วิ.วา สพพฺ า รตตฺ ิ สพฺพรตฺติ. ราตรี ท้งั ปวง ชื่อวา ราตรีทงั้ ปวง ทุ.ตปั . ว.ิ วา สพพฺ รตตฺ ึ โสภโณ สพฺพรตตฺ โิ สภโณ.(จนโฺ ท) (พระจนั ทร) งาม ตลอดราตรที ง้ั ปวง ชอ่ื วา งามตลอดราตรที ้ังปวง ภิกฺขสุ งฆฺ ปรวิ โุ ต (ภควา) แปลวา (พระผูมพี ระภาค)ผอู ันหมแู หงภิกษแุ วดลอ มแลว เปน ตตยิ าตัปปุรสิ สมาส (ต.ตปั .) มี ฉัฏฐีตัปปรุ สิ สมาส (ฉ.ตัป.) เปน สมาสภายใน ตง้ั วเิ คราะห ดังน้ี ฉ.ตปั . วิ.วา ภกิ ฺขูนํ สงโฺ ฆ ภิกฺขสุ งโฺ ฆ. หมู แหง ภกิ ษุทั้งหลาย ชอ่ื วา หมแู หงภิกษุ ต.ตปั . ว.ิ วา ภิกฺขสุ งเฺ ฆน ปรวิ ุโต ภกิ ฺขสุ งฆฺ ปริวุโต.(ภควา) (พระผูม พี ระภาค) อนั หมูแหง ภิกษุ แวดลอ มแลว ชอ่ื วา ผูอ นั หมแู หง ภิกษแุ วดลอ มแลว ปจฺ สตภกิ ขฺ ปุ รวิ าโร (ภควา) แปลวา (พระผมู ีพระภาค)ผูม ภี ิกษุมีรอ ยหาเปน บรวิ าร เปน ฉฏั ฐีตลุ ยาธิกรณพหพุ พิหิสมาส (ฉ.ตุล.พหพุ .) มี ฉัฏฐตี ุลยาธิกรณพหุพพหิ ิสมาส (ฉ.ตลุ .พหพุ .) และ วเิ สสนบพุ พบท กมั มธารยสมาส (วิ.บุพ.กมั .) เปนสมาสภายใน ตง้ั วเิ คราะห ดงั น้ี ฉ.ตลุ .พหพุ . วิ.วา ปฺจ สตานิ เยสํ เต ปฺจสตา.(ภกิ ฺข)ู รอ ยทงั้ หลาย หา ของภกิ ษุทงั้ หลายเหลาใด (มอี ย)ู ภิกษทุ ั้งหลาย เหลานน้ั ชอ่ื วา มรี อ ยหา (มหี ารอย) ว.ิ บพุ .กมั . ว.ิ วา ปจฺ สตา ภกิ ฺขู ปฺจสตภกิ ฺข.ู ภิกษทุ ้ังหลาย มรี อยหา ชือ่ วา ภกิ ษมุ รี อ ยหา ทงั้ หลาย ฉ.ตุล.พหพุ . ว.ิ วา ปจฺ สตภิกขู ปรวิ ารา ยสสฺ โส ปจฺ สตภกิ ขฺ ุปรวิ าโร.(ภควา) ภกิ ษมุ รี อยหา ทั้งหลาย เปน บรวิ าร ของพระผมู พี ระภาคพระองคใด พระผูมพี ระภาคพระองคนน้ั ชือ่ วา มีภกิ ษมุ ีรอ ยหา เปน บรวิ าร ปวตตฺ ิตปปฺ วรธมมฺ จกโฺ ก (ภควา) แปลวา (พระผมู พี ระภาค)ผูม ีจักรคอื ธรรมอนั ประเสรฐิ อนั ใหเ ปน ไปท่วั แลว เปน ตตยิ าตลุ ยาธกิ รณพหุพพิหิสมาส (ต.ตลุ .พหุพ.) มี อวธารณบุพพบท กมั มธารยสมาส (อว.บุพ.กมั .) และ วิเสสนบพุ พบท กมั มธารยสมาส (ว.ิ บุพ.กมั .) เปน สมาสภายใน ตง้ั วิเคราะห ดังนี้
ค่มู อื การอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๘๘ อว.บพุ .กัม. ว.ิ วา ธมฺโม เอว จกกฺ ํ ธมมฺ จกกฺ .ํ ว.ิ บุพ.กมั . ว.ิ วา จักร คอื ธรรม ชอื่ วา จกั รคอื ธรรม ต.ตลุ .พหพุ . วิ.วา ปวรํ ธมฺมจกกฺ ํ ปวรธมฺมจกกฺ ํ. จักรคือธรรม อนั ประเสรฐิ ชอ่ื วา จกั รคอื ธรรมอนั ประเสรฐิ ปวตตฺ ิตํ ปวรธมฺมจกกฺ ํ เยน โส ปวตตฺ ติ ปปฺ วรธมฺมจกโฺ ก.(ภควา) จักรคอื ธรรมอันประเสรฐิ อนั พระผูมพี ระภาคพระองคใด ใหเ ปน ไปทวั่ แลว พระผมู ีพระภาคพระองคนน้ั ช่ือวา ผมู ีจักรคอื ธรรมอันประเสรฐิ อนั ใหเปน ไปทว่ั แลว คนธฺ มาลาทิหตถฺ า (มนสุ ฺสา) แปลวา (มนษุ ยท้ังหลาย)มวี ตั ถุมขี องหอมและระเบยี บเปน ตน ในมอื เปน ฉัฏฐีภนิ นาธกิ รณพหุพพิ หสิ มาส (ฉ.ภิน.พหพุ .) มี อสมาหารทวนั ทวสมาส (อ.ทวนั .) และ ฉฏั ฐตี ลุ ยาธกิ รณพหุพพิหสิ มาส (ฉ.ตลุ .พหุพ.) เปน สมาสภายใน ตงั้ วิเคราะห ดงั นี้ อ.ทวนั . วิ.วา คนโฺ ธ จ มาลา จ คนธฺ มาลา. ของหอมดวย ระเบยี บดวย ชอื่ วา ของหอมและระเบียบทง้ั หลาย ฉ.ตุล.พหุพ. ว.ิ วา คนฺธมาลา อาทโิ ย เยสํ ตานิ คนฺธมาลาทีน.ิ (วตถฺ ูน)ิ ของหอมและระเบียบท้งั หลาย เปน ตน ของวตั ถุท้ังหลายเหลาใด (มอี ย)ู วตั ถทุ ้ังหลายเหลา นน้ั ช่อื วา มีของหอมและระเบียบเปน ตน ฉ.ภนิ .พหุพ. ว.ิ วา คนฺธมาลาทีนิ หตเฺ ถสุ เยสํ เต คนฺธมาลาทหิ ตถฺ า.(มนุสสฺ า) (วตั ถุท้ังหลาย)มขี องหอมและระเบยี บเปน ตน (มีอย)ู ในมอื ท้งั หลาย ของมนษุ ยท ้งั หลายเหลา ใด มนษุ ยทง้ั หลายเหลา น้นั ชอ่ื วา มวี ัตถมุ ขี อง หอมและระเบียบเปน ตน ในมอื ทิพพฺ จกฺขโุ อโลกนาทิ (กิจฺจ)ํ แปลวา (กิจ)มีการตรวจดดู วยจักษเุ พยี งดงั ทิพยเปน ตน เปน ฉฏั ฐตี ลุ ยาธิกรณพหพุ พหิ สิ มาส (ฉ.ตุล.พหุพ.) มี วิเสสโนปมบท กัมมธารยสมาส (วิ.โนปม.กัม.) และ ตตยิ าตปั ปุริสสมาส (ต.ตปั .) เปน สมาสภายใน ตง้ั วเิ คราะห ดงั น้ี วิ.โนปม.กัม. วิ.วา ทพิ ฺพํ อวิ จกฺขุ ทพิ พฺ จกฺข.ุ จักษุ เพียงดงั ทพิ ย ชอื่ วา จกั ษุเพียงดงั ทิพย ต.ตปั . วิ.วา ทพิ ฺพจกฺขุนา โอโลกนํ ทิพฺพจกขฺ โุ อโลกนํ. การตรวจดู ดวยจกั ษเุ พียงดังทพิ ย ชื่อวา การตรวจดูดว ยจกั ษเุ พยี งดงั ทพิ ย ฉ.ตุล.พหุพ. ว.ิ วา ทิพพฺ จกฺขโุ อโลกนํ อาทิ ยสสฺ ตํ ทิพพฺ จกฺขโุ อโลกนาท.ิ (กิจฺจ)ํ การตรวจดดู ว ยจกั ษเุ พียงดังทิพย เปนตน ของกจิ ใด (มีอยู) กจิ นนั้ ชือ่ วา มกี ารตรวจดดู ว ยจักษเุ พยี งดงั ทพิ ยเปน ตน
ค่มู ือการอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๘๙ พฺยาลมพฺ มฺพุธรพินฺทจุ ุมพฺ ิตกโู ฏ (ปพฺพโต) แปลวา (ภเู ขา)มยี อดอันหยาดนำ้ แหงเมฆท่ียอยจบู แลว เปน ฉัฏฐตี ลุ ยาธกิ รณพหพุ พหิ สิ มาส (ฉ. ตลุ .พหพุ .) มี วิเสสนบพุ พบท กมั มธารยสมาส ( วิ.บพุ .กมั .), ฉฏั ฐตี ัปปุริสสมาส (ฉ.ตปั .) และ ตตยิ าตปั ปุ รสิ สมาส (ต.ตปั .) เปน สมาสภายใน ตงั้ วิเคราะห ดังน้ี ว.ิ บพุ .กมั . ว.ิ วา พฺยาลมฺโพ อมฺพุธโร พฺยาลมพฺ มฺพธุ โร. เมฆ อนั ยอย ชือ่ วา เมฆอันยอ ย ฉ.ตปั . ว.ิ วา พฺยาลมฺพมฺพธุ รสสฺ พนิ ฺทูนิ พยฺ าลมฺพมฺพุธรพนิ ทฺ ูนิ. หยาดนำ้ ทง้ั หลาย แหง เมฆอนั ยอ ย ช่อื วา หยาดน้ำแหง เมฆอันยอย ต.ตปั . วิ.วา พยฺ าลมฺพมฺพธุ รพินทฺ ูหิ จุมพฺ โิ ต พยฺ าลมฺพมพฺ ุธรพนิ ทฺ ุจุมพฺ ิโต.(กโู ฏ) (ยอด)อนั หยาดนำ้ แหงเมฆอนั ยอยทง้ั หลาย จบู แลว ชื่อวา อนั หยาดนำ้ แหง เมฆอนั ยอ ยจบู แลว ฉ.ตลุ .พหพุ . ว.ิ วา พฺยาลมพฺ มฺพธุ รพนิ ฺทุจุมพฺ โิ ต กโู ฏ ยสสฺ โส พยฺ าลมพฺ มพฺ ุธรพินฺทุ- จมุ พฺ ติ กโู ฏ.(ปพฺพโต) ยอด อนั หยาดนำ้ แหงเมฆอันยอ ยจบู แลว แหง ภูเขาใด (มีอย)ู ภเู ขาน้นั ชอื่ วา มยี อดอันหยาดน้ำแหง เมฆอนั ยอ ยจบู แลว นานาทุมปตติ ปุปผฺ วาสิตสานุ (ปพพฺ โต) แปลวา (ภูเขา)มีไหลเขาถกู อบดว ยดอกไมท ห่ี ลน จากตน ไมต างๆ เปน ฉัฏฐตี ุลยาธิกรณพหพุ พหิ ิ สมาส (ฉ.ตุล.พหพุ .) มี วเิ สสนบุพพบท กัมมธารยสมาส (วิ.บุพ.กัม.), ปญจมีตปั ปรุ สิ สมาส (ป.ตัป.), วเิ ส สนบพุ พบท กมั มธารยสมาส (วิ.บพุ .กัม.) และ ตติยาตปั ปุรสิ สมาส (ต.ตปั .) เปน สมาสภายใน ต้ังวเิ คราะห ดังน้ี วิ.บุพ.กัม. ว.ิ วา นานปฺปการา ทมุ า นานาทมุ า. ตนไมท ้งั หลาย มีประการตา งๆ ชอื่ วา ตน ไมตางๆ ป.ตัป. วิ.วา นานาทเุ มหิ ปตติ านิ นานาทมุ ปติตานิ.(ปุปผฺ าน)ิ (ดอกไมทั้งหลาย)อนั ตกไปแลว จากตน ไมต า งๆท้งั หลาย ชื่อวา อนั ตกจากตนไมต างๆ วิ.บุพ.กัม. ว.ิ วา นานาทุมปตติ านิ จ ตานิ ปปุ ฺผานิ จาติ นานาทมุ ปตติ ปปุ ฺผาน.ิ อนั ตกจากตน ไมต า งๆ ทั้งหลายดว ย อันตกจากตน ไมตางๆ ทัง้ หลาย เหลา นนั้ เปน ดอกไมด ว ย เหตนุ นั้ ช่ือวา ดอกไมอ นั ตกจากตน ไมต า งๆ ต.ตปั . ว.ิ วา นานาทมุ ปตติ ปปุ เฺ ผหิ วาสติ า นานาทมุ ปติตปุปฺผวาสติ า.(สานู) (ไหลเขาทง้ั หลาย)ถูกอบแลว ดว ยดอกไมอนั ตกจากตน ไมตา งๆ ทั้งหลาย ชือ่ วา อนั ถกู อบดว ยดอกไมอนั ตกจากตน ไมต า งๆ ฉ.ตลุ .พหุพ. ว.ิ วา นานาทมุ ปตติ ปปุ ผฺ วาสติ า สานู ยสฺส โส นานาทุมปติตปุปฺผวาสติ - สานุ.(ปพฺพโต) ไหลเ ขาทัง้ หลาย อนั ถกู อบดว ยดอกไมอ นั ตกจากตน ไมตา งๆ แหง ภูเขา ใด (มีอยู) ภเู ขาน้ัน ชอ่ื วา มไี หลเขาอนั ถูกอบดว ยดอกไมอ นั ตกจาก ตนไมตา งๆ
ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๙๐ ๓.๗ ตัทธติ ตัทธติ คอื นามศัพทที่ประกอบดว ยปจจัยหมหู นง่ึ ซง่ึ ใชแทนศพั ท เปน ประโยชนเ ก้อื กลู แกเนือ้ ความ เพ่อื ยอคำพดู ใหสน้ั ลง โดยใชว ธิ กี ารลงปจ จัยแทนศัพท ศพั ทท่ปี จจัยเขาแทนทน่ี ี้ไดแ ก นามศัพท อาขยาต และกติ ก ปจ จัยตัทธติ ใชลงขา งหลงั ศัพทส ำเร็จรปู เปน ศพั ทต ัทธติ เหมอื นคำวา สยฺ าเม ชาโต ใช ณกิ ปจ จยั แทน ชาต ศัพท สำเรจ็ เปน สยฺ ามิโก (ชโน) ชน เกิดแลว ในสยาม ชอ่ื วา ผูเ กดิ แลวในสยาม (ลบ ชาต ศพั ท ลง ณิก ปจจยั หลงั สยฺ าม ศัพท ปจจยั เนอื่ งดว ย ณ เมอื่ ลงแลว ลบทง้ิ เสยี เหลอื ไวแ ตสระท่ี ณ อาศัย) ดงั น้ี เปน ตน ตทั ธติ นน้ั โดยยอ แบง เปน ๓ อยาง คือ สามญั ญตัทธติ ภาวตัทธิต และ อัพยยตทั ธิต ทั้ง ๓ อยา งนี้ มปี จ จยั เปน ของตนเอง มขี อที่ตอ งจดจำและการนำไปใชใ นแตละปจจยั ดงั ตอ ไปน้ี สามญั ญตทั ธิต แบง ออกเปน ๑๓ อยา ง และลงปจ จยั ดงั น้ี ๑.โคตตตัทธิต ลงปจ จยั ๘ ตวั คอื ณ ณายน ณาน เณยยฺ ณิ ณกิ ณว เณร ๒.ตรตยาทติ ัทธติ ลงปจจยั ๑ ตวั คอื ณกิ ๓.ราคาทิตทั ธติ ลงปจ จัย ๑ ตวั คือ ณ ๔.ชาตาทิตทั ธติ ลงปจจยั ๓ ตวั คือ อมิ อิย กิย ๕.สมุหตัทธติ ลงปจ จยั ๓ ตวั คอื กณฺ ณ ตา ๖.ฐานตัทธิต ลงปจ จยั ๒ ตวั คอื อยี เอยยฺ ๗.พหลุ ตัทธติ ลงปจ จยั ๑ ตวั คือ อาลุ ๘.เสฏฐตทั ธติ ลงปจ จัย ๕ ตวั คอื ตร ตม อยิ ิสสฺ ก อยิ อิฏ ๙.ตทสั สตั ถติ ทั ธติ ลงปจจัย ๙ ตวั คอื วี ส สี อกิ อี ร วนตฺ ุ มนตฺ ุ ณ ๑๐.ปกตติ ัทธติ ลงปจจัย ๑ ตวั คือ มย ๑๑.ปรู ณตัทธิต ลงปจจัย ๕ ตวั คอื ตยิ ถ ม อี ๑๒.สังขยาตัทธติ ลงปจ จัย ๑ ตวั คอื ก ๑๓.วิภาคตทั ธติ ลงปจจัย ๒ ตวั คอื ธา โส ภาวตัทธติ ลงปจ จัย ๖ ตวั คอื ตตฺ ณยฺ ตตฺ น ตา ณ กณฺ อพั ยยตัทธติ ลงปจ จัย ๒ ตวั คือ ถา ถํ ตามทกี่ ลา วแลว วา ตทั ธติ โดยยอ มี ๓ อยาง สว นโดยพสิ ดารนนั้ มี ๑๕ อยา ง แบง เปน สามัญญ ตทั ธติ ๑๓ อยา ง ภาวตทั ธติ ๑ อยา ง และ อัพยยตัทธติ ๑ อยาง ดงั นี้ ๑.โคตตตัทธติ โคตตตัทธติ ใชป จจยั ๘ ตวั คอื ณ ณายน ณาน เณยยฺ ณิ ณิก ณว เณร แทน อปจฺจ ศพั ท หรอื โคตตฺ ศัพท หรือ ปุตตฺ ศพั ท แปลวา \"เหลากอ, โคตร, ลูก, หลาน\" ดงั น้ี ศพั ทท ี่ลง ณ ปจจัย อยางนี้ เหลา กอ ของวสิฏฐะ ชื่อวา วาสิฐ ะ วสิสฺส อปจจฺ ํ วาสิ โ. เหลากอ ของโคตมะ ช่อื วา โคตมะ โคตมสสฺ อปจฺจํ โคตโม. เหลา กอ ของวสเุ ทวะ ชอื่ วา วาสุเทวะ วสุเทวสสฺ อปจจฺ ํ วาสุเทโว.
ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๙๑ ศัพททลี่ ง ณายน ปจจยั อยางน้ี เหลา กอ ของกัจจะ ชอ่ื วา กจั จายนะ กจจฺ สสฺ อปจฺจํ กจฺจายโน. เหลากอ ของวัจฉะ ชอื่ วา วจั ฉายนะ วจฺฉสสฺ อปจจฺ ํ วจฉฺ ายโน. เหลา กอ ของนางโมคคลั ลี ชอ่ื วา โมคคลั ลายนะ โมคคฺ ลฺลิยา อปจฺจํ โมคคฺ ลลฺ ายโน. เหลากอ ของกัจจะ ชอ่ื วา กจั จานะ ศัพททล่ี ง ณาน ปจ จัย อยา งน้ี เหลากอ ของวจั ฉะ ชอื่ วา วจั ฉานะ กจฺจสสฺ อปจจฺ ํ กจฺจาโน. เหลากอ ของนางโมคคลั ลี ชอื่ วา โมคคลั ลานะ วจฺฉสฺส อปจฺจํ วจฉฺ าโน. เหลากอ ของพ่ีนองหญงิ ชอ่ื วา ภาคเิ นยยะ โมคคฺ ลลฺ ยิ า อปจฺจํ โมคคฺ ลฺลาโน. เหลา กอ ของนางวนิ ตา ชอ่ื วา เวนเตยยะ ศพั ทท่ลี ง เณยยฺ ปจจยั อยา งนี้ เหลากอ ของนางโรหิณี ชอื่ วา โรหเิ ณยยะ ภคนิ ยิ า อปจจฺ ํ ภาคเิ นยโฺ ย. เหลา กอ ของทกั ขะ ชอื่ วา ทกั ขิ วินตาย อปจจฺ ํ เวนเตยโฺ ย. เหลากอ ของวสวะ ชอ่ื วา วาสวิ โรหณิ ยิ า อปจจฺ ํ โรหเิ ณยโฺ ย. เหลา กอ ของวรุณะ ชือ่ วา วารุณิ ศพั ทท ล่ี ง ณิ ปจ จยั อยา งน้ี เหลา กอ ของบตุ รแหง สกั ยะ ชื่อวา สากยปุตตกิ ะ ทกฺขสฺส อปจฺจํ ทกฺข.ิ เหลากอ ของบตุ รแหง นกั ฟอ น ชอ่ื วา นาฏปตุ ติกะ วสวสสฺ อปจฺจํ วาสวิ. เหลา กอ ของชนิ ทตั ตะ ชอ่ื วา เชนทตั ติกะ วรณุ สสฺ อปจจฺ ํ วารุณิ. เหลา กอ ของอุปกุ ชอ่ื วา โอปกวะ ศพั ทท่ีลง ณิก ปจจัย อยา งนี้ เหลากอ ของมนุ ช่ือวา มานวะ สกยฺ ปตุ ตฺ สสฺ อปจฺจํ สากฺยปตุ ตโิ ก. เหลากอ ของภัคคุ ช่อื วา ภคั ควะ นาฏปตุ ตฺ สสฺ อปจจฺ ํ นาฏปตุ ตฺ ิโก. เหลา กอ ของหญงิ หมา ย ชอ่ื วา เวธเวระ ชนิ ทตตฺ สสฺ อปจจฺ ํ เชนทตตฺ โิ ก. เหลากอ ของสมณะ ช่อื วา สามเณระ ศัพทท ีล่ ง ณว ปจจัย อยางน้ี เหลา กอ ของพนั ธกุ ี(กลว ยไมดอกสีขาว) ชื่อวา พนั ธุเกระ อปุ กสุ ฺส อปจจฺ ํ โอปกโว. มนุโน อปจจฺ ํ มานโว. ภคฺคโุ น อปจจฺ ํ ภคฺคโว. ศัพทท ล่ี ง เณร ปจ จัย อยางนี้ วิธวาย อปจฺจํ เวธเวโร. สมณสฺส อปจจฺ ํ สามเณโร. พนฺธุกยิ า อปจฺจํ พนฺธุเกโร20๑. ๑ พระญาณธชเถระ(แลดสี ยาดอ) (พระธรรมโมลี (สมศักดิ์ อุปสโม),พระมหานมิ ติ ร ธมฺมสาโร ตรวจชำระ สมควร ถวนนอก ปรวิ รรต), นริ ตุ ติทปี น(ี คมั ภรี วาดว ยหลักไวยากรณส ายโมคคลั ลานะ)(กรงุ เทพฯ: หางหนุ สว นจำกัดไทยรายวันการพมิ พ, ๒๕๔๘) หนา ๒๙๑.
ค่มู อื การอ่านและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๙๒ ๒.ตรตยาทติ ัทธติ ตรตยาทติ ัทธติ ใชป จจยั ๑ ตวั คือ ณกิ ปจจัย แทนศพั ททั้งหลาย มี ศัพทก ริ ยิ าอาขยาต เชน ตรติ (ยอมขา ม) ศัพทกริ ิยากติ ก เชน ชาโต(เกดิ แลว) ศพั ทสทุ ธนาม เชน มุคฺคโร(ฆอ น) ศัพทค ณุ นาม เชน สนตฺ กํ (อนั เปน ของมีอย)ู เปน ตน อยา งนี้ ใชแทนศัพทก ิริยาอาขยาต นาวาย ตรตตี ิ นาวิโก.(ชโน) ชนใด ยอ มขาม ดว ยเรอื เหตนุ นั้ ชนนนั้ ชอ่ื วา นาวกิ ะ (ผขู ามดวยเรอื ) อฬุ ุมเฺ ปน ตรตตี ิ โอฬมุ ปฺ โ ก.(ชโน) ชนใด ยอ มขา ม ดว ยแพ เหตนุ นั้ ชนนน้ั ชือ่ วา โอฬุมปกะ(ผขู า มดว ยแพ) สกเฏน จรตตี ิ สากฏิโก.(ชโน) ชนใด ยอมเท่ยี วไป ดว ยเกวยี น เหตุนนั้ ชนนนั้ ชอื่ วา สากฏกิ ะ(ผเู ท่ียวไปดว ยเกวยี น) อกฺเขน ทพิ พฺ ตตี ิ อกขฺ โิ ก.(ชโน) ชนใด ยอ มเลน ดวยสกา เหตนุ นั้ ชนนน้ั ชื่อวา อกั ขกิ ะ(ผเู ลน ดว ยสกา) สกุเณ หนตฺ ฺวา ชวี ตตี ิ สากณุ โิ ก.(ชโน) ชนใด ฆา แลว ซึ่งนกท้งั หลาย ยอมเปน อยู เหตนุ นั้ ชน นั้น ชื่อวา สากณุ กิ ะ(ผฆู านกเปนอย(ู นายพรานนก)) ปนุ ภวาย สํวตตฺ ตีติ โปโนพภฺ วโิ ก.(ธมฺโม)ธรรมใด ยอ มเปน ไปพรอ ม เพอื่ ภพ อกี เหตนุ น้ั ธรรมนน้ั ชื่อวา โปโนพภวกิ ะ(เปน ไปพรอ มเพ่อื ภพอีก) ใชแ ทนศัพทก ริ ิยากติ ก (โภชนะ) ระคนพรอมแลว ดว ยงาทง้ั หลาย ช่อื วา ติเลหิ สสํ ํ เตลกิ .ํ (โภชน)ํ เตลิกะ (ระคนพรอมแลวดว ยงา) ราชคเห ชาโต ราชคหิโก.(ชโน) (ชน) เกิดแลว ในเมืองราชคฤห ช่ือวา ราชคหกิ ะ นิรเย ชาโต เนรยโิ ก.(สตโฺ ต) (ผเู กิดแลว ในเมอื งราชคฤห) กาเยน กตํ กายิกํ.(กมฺมํ) (สัตว) เกดิ แลว ในนรก ชอื่ วา เนรยกิ ะ พุทฺเธ ปสนฺโน พุทธฺ โิ ก.(ปคุ คฺ โล) (ผูเกดิ ในนรก) ทวฺ าเร นิยุตโฺ ต โทวารโิ ก.(ชโน) (กรรม) อนั ชนกระทำแลว ดว ยกาย ชอื่ วา กายกิ ะ (อันชนกระทำแลว ดวยกาย) (บุคคล) เลอ่ื มใสแลว ในพระพุทธเจา ชอื่ วา พทุ ธกิ ะ (ผเู ลอ่ื มใสแลว ในพระพทุ ธเจา) (ชน) ประกอบแลว ในประตู ชือ่ วา โทวารกิ ะ (ผูประกอบแลวในประต)ู ใชแทนศพั ทสุทธนาม มุคฺคโร อสฺส อาวโุ ธติ มคุ ฺครโิ ก.(ชโน) คอน เปน อาวธุ ของชนนนั้ เหตนุ ัน้ ชนนนั้ ชอื่ วา มุคครกิ ะ(ผมู คี อนเปน อาวุธ) ปส กุ ูลธารณํ อสฺส สลี นฺติ ปส ุกลู ิโก.(ภกิ ขฺ )ุ การทรงผา บงั สุกุล เปน ปกติ ของภิกษุนน้ั เหตนุ ้นั ภกิ ษนุ ัน้ ชอ่ื วา ปง สุกลู กิ ะ(ผทู รงผา บงั สกุ ุลเปนปกติ)
ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๙๓ คนโฺ ธ อสฺส ปณยฺ นตฺ ิ คนธฺ โิ ก.(ชโน) เคร่ืองหอม เปน วัตถุอนั เขาพงึ ขาย ของชนนนั้ เหตนุ ัน้ ชนนน้ั ชื่อวา คนั ธกิ ะ(ผูมีเคร่อื งหอมอนั ควรขาย) วณี าวาทนมสสฺ สิปปฺ นตฺ ิ เวณโิ ก.(ชโน) การดีดพณิ เปนศิลปะ ของชนนน้ั เหตนุ ั้น ชนนน้ั ช่ือวา เวณกิ ะ(ผมู กี ารดดี พิณเปน ศลิ ปะ) อปุ ธิ อสสฺ ปโยชนนตฺ ิ โอปธกิ .ํ (ปุ ฺ ํ) รางกาย เปน ประโยชน ของบญุ นนั้ เหตนุ นั้ บญุ นน้ั ชอ่ื วา โอปธกิ ะ(อนั มีรา งกายเปนประโยชน) จาโป อสฺส ปหรณนตฺ ิ จาปโ ก.(ชโน) ธนู เปน เครอ่ื งประหาร ของชนนนั้ เหตนุ ัน้ ชนนน้ั ชื่อวา จาปก ะ(ผมู ีธนเู ปน เครือ่ งประหาร) ใชแ ทนศัพทคุณนาม (วตั ถ)ุ อนั เปน ของมีอยู แหง สงฆ ชื่อวา สงั ฆิกะ สงฺฆสฺส สนตฺ กํ สงฺฆกิ .ํ (วตฺถ)ุ (อันเปน ของมอี ยแู หง สงฆ) ปตโุ น สนตฺ กํ เปตตฺ ิก.ํ (ธน)ํ (ทรพั ย) อนั เปนของมอี ยู แหงบดิ า ช่อื วา เปตติกะ โกสเล อสิ สฺ โร โกสลโิ ก.(ชโน) (อนั เปน ของมอี ยแู หง บดิ า) มนสิ สนฺนธิ านํ มานสิกํ.(ทกุ ขฺ ํ) (ชน) ผูเปนใหญ ในแควน โกศล ช่ือวา โกสลิกะ สรเี ร สนฺนธิ านํ สารีริก.ํ (ทกุ ขฺ )ํ (ผูเปน ใหญในแควนโกศล) สรีเร สนนฺ ธิ านา สารีรกิ า.(เวทนา) (ทุกข) อนั นับเนอื่ ง ในใจ ชือ่ วา มานสกิ ะ (อนั นบั เนอ่ื งในใจ) (ทุกข) อนั นบั เนอ่ื ง ในสรรี ะ ช่อื วา สารรี กิ ะ (อันนบั เนอ่ื งในสรรี ะ) (เวทนา) อนั นบั เนอ่ื ง ในสรีระ ชอ่ื วา สารรี กิ า (อันนบั เนอื่ งในสรรี ะ) ๓.ราคาทติ ทั ธติ ราคาทติ ทั ธติ ใชปจ จยั ๑ ตัว คอื ณ ปจจัย แทนศัพททง้ั หลายไดท ว่ั ไป ไมจ ำกดั มี รตตฺ ศัพท เปน ตน เปน ปจ จัยทเี่ นือ่ งดว ย ณ มอี ำนาจในการลบ ณ ทงิ้ เมอ่ื ใชแ ทนศัพทแ ลว และยังมอี ำนาจในการทฆี ะ หรือวิการสระหนา อกี ดว ย ยกเวน เปน ทีฆะหรอื สงั โยคอยแู ลว ไมต องเปล่ยี นแปลงอะไร อยา งนี้ วยฺ ากรณํ อธเิ ตติ เวยฺยากรโณ.(ชโน) ชนใด ยอมเรยี น ซึ่งพยากรณ เหตนุ นั้ ชนนน้ั ชอื่ วา กสาเวน รตตฺ ํ กาสาวํ.(วตถฺ ํ) เวยยากรณะ(ผเู รยี นซ่ึงพยากรณ) มหิสสสฺ อทิ ํ มสํ ํ มาหสิ ํ. ผา อันบคุ คลยอ มแลว ดวยน้ำฝาด ช่ือวา กาสาวะ คพฺเภ ชาโต คพฺโภ.(สตโฺ ต) (ผา อนั ยอมแลว ดว ยน้ำฝาด) มคเธ ชาโต มาคโธ.(ชโน) เน้อื นี้ ของกระบือ ชอื่ วา มาหสิ ะ (เน้อื ของกระบอื ) (สตั ว) เกดิ แลว ในครรภ ชือ่ วา คัพภะ (ผเู กดิ แลว ในครรภ) (ชน) เกดิ แลว ในแควนมคธ ชื่อวา มาคธะ
ค่มู ือการอา่ นและแปลภาษาโบราณ : ภาษาบาลี ๙๔ สสิ ิเร ชาโต สสิ ิโร.(ชโน) (ผูเกิดแลวในแควน มคธ) มคเธ อิสฺสโร มาคโธ.(ชโน) (ชน) เกดิ แลว ในฤดใู บไมผ ลิ ชือ่ วา สิสริ ะ กตตฺ ิกาย ยตุ โฺ ต กตตฺ ิโก.(มาโส) (ผูเกิดแลว ในฤดใู บไมผลิ) มฆาย ยตุ โฺ ต มาโฆ.(มาโส) (ชน) ผูเปนใหญ ในแควน มคธ ชอ่ื วา มาคธะ ติปฏ กํ ธาเรตตี ิ เตปฏโก.(เถโร) (ผูเ ปนใหญในแควนมคธ) ชนปเท วสตตี ิ ชานปโท.(ภิกขฺ )ุ (เดอื น) ประกอบแลว ดว ยฤกษก ตั ตกิ า ชอ่ื วา กตั ตกิ ะ นคเร วสตตี ิ นาคโร.(ชโน) (อันประกอบแลว ดว ยฤกษกตั ตกิ ะ) ปรมํ ปาเปตตี ิ ปารมี.(ปฏปิ ทา) (เดอื น) ประกอบแลว ดว ยฤกษม ฆา ช่อื วา มาฆะ (อันประกอบแลว ดวยฤกษมาฆะ) พระเถรใด ยอ มทรงไว ซึง่ ปฎ กสาม เหตนุ ้นั พระเถระ น้นั ชอื่ วา เตปฏกะ(ผทู รงไวซ ่งึ ปฎ กสาม) ภิกษใุ ด ยอ มอยู ในชนบท เหตนุ ัน้ ภกิ ษุนนั้ ชอ่ื วา ชานปทะ(ผูอยใู นชนบท) ชนใด ยอ มอยู ในเมือง เหตนุ ้ัน ชนนน้ั ชอื่ วา นาคระ (ผอู ยูในเมือง) ปฏปิ ทาใด ยงั บุคคลใหถ งึ ซง่ึ คุณอนั ยง่ิ เหตนุ ั้น ปฏิปทานน้ั ชอ่ื วา ปารมี(อนั ยงั บคุ คลใหถ งึ คุณอันยง่ิ ) ๔.ชาตาทติ ทั ธติ ชาตาทติ ัทธติ ใชป จ จยั ๓ ตัว คอื อมิ อยิ และ กยิ ปจจยั แทน ชาต ศพั ท เปน ตน ไมม อี ำนาจใน การเปลีย่ นแปลง ลงแลวคงไวอยา งเดมิ ดงั นี้ ศัพทท ีล่ ง อิม ปจ จัย อยางนี้ (ชน) เกิดแลว ในกอ น ชือ่ วา ปรุ มิ ะ ปเุ ร ชาโต ปรุ ิโม.(ชโน) (ผเู กิดแลวในกอน) มชฺเฌ ชาโต มชฺฌโิ ม.(ชโน) (ชน) เกดิ แลว ในทา มกลาง ชอ่ื วา มชั ฌมิ ะ ปจฺฉา ชาโต ปจฉฺ โิ ม.(ชโน) (ผูเกดิ แลวในทา มกลาง) มชเฺ ฌ ภโว มชฌฺ โิ ม.(ชโน) (ชน) เกดิ แลว ในภายหลงั ชอื่ วา ปจ ฉมิ ะ อนเฺ ต ภโว อนฺตโิ ม.(ชโน) (ผูเกิดแลวในภายหลงั ) อปุ ริ ภโว อปุ รโิ ม.(ชโน) (ชน) มี ในทามกลาง ชอื่ วา มชั ฌมิ ะ อนเฺ ต นิยตุ โฺ ต อนตฺ ิโม.(ชโน) (ผูมีในทา มกลาง) (ชน) มี ในทีส่ ดุ ชอ่ื วา อนั ตมิ ะ (ผูมใี นทส่ี ุด) (ชน) มี ในเบ้ืองบน ช่ือวา อปุ ริมะ (ผูม ีในเบื้องบน) (ชน) ประกอบแลว ในทส่ี ดุ ชือ่ วา อนั ตมิ ะ (ผปู ระกอบแลวในทสี่ ุด)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258