88 สัททสงั เขป ๖๓. สตั ถาทิคณะ หมู่ศัพท์ท่มี ี อกุ ารนั ต์เป็นทส่ี ดุ มี สตฺถุ เป็นตน้ เมอ่ื ส�ำเรจ็ รปู แลว้ มี อาการนั ตเ์ ปน็ ทส่ี ดุ (สตถฺ า) โดยแปลง อุ เปน็ อา แล้วลบ สิวภิ ตั ติ ดว้ ยสตู รว่า สตฺถุปติ าทนี มา สสิ มฺ ึ สิโลโป จ ในคณะมี สตฺถุศพั ทเ์ ปน็ ต้นเปน็ ปงุ ลงิ ค์, มาตุ ศพั ท์เป็นต้น เปน็ อติ ถีลงิ ค์ สตฺถา - พระศาสดา สตฺถสุ ทฺทปทมาลา เอกวจนะ พหวุ จนะ ป. สตถฺ า สตฺถาโร อา. โภ สตถฺ สตฺถา โภนฺโต สตฺถาโร ทุ. สตถฺ ารํ สตถฺ าเร สตถฺ าโร ต. สตฺถารา สตถฺ นุ า สตถฺ าเรหิ - ภ,ิ สตฺถหู ิ - ภิ จ. สตถฺ ุ สตฺถโุ น สตถฺ สุ ฺส สตฺถารานํ สตถฺ านํ สตฺถูนํ มี. สตถฺ ารา สตถฺ าเรหิ - ภ,ิ สตถฺ ูหิ - ภิ ฉ. สตถฺ ุ สตถฺ ุโน สตฺถสุ ฺส สตถฺ ารานํ สตฺถานํ สตถฺ นู ํ ส. สตถฺ ริ สตฺถาเรสุ สตฺถูสุ กตตฺ ุ ภตฺตุ วตตฺ ุ เนตุ เนตฺตุ นตฺตุ ธาตุ สมา, ปติ ุ ภาตุ ชามาตุ จ มาตุ ธตี ุ วเิ สสกา. ผู้กระท�ำ, ผ้เู ล้ยี ง, ผกู้ ล่าว, ผนู้ �ำไป, หลาน, ผทู้ รงไว,้ (แจกปทมาลาเหมอื น สตถฺ ุ ศัพท)์ ผรู้ กั ษา (พอ่ ), ผู้กลา่ ว (พช่ี าย น้องชาย), ลกู เขย, ผูบ้ ชู า (ผรู้ ักษา, แม่), ลกู สาว (ต่าง จาก สตถฺ ุ) ปิตุ ภาตุ ชามาตุ ๓ ศัพท์นต้ี อ้ ง รัสสะ อา ท่ี อาร เป็น อร ปิตุ ศัพท์ ใน นา วิภตั ตมิ ีรปู เป็น เปตฺยา เนตฺตุ ศัพท์ ใน สมฺ ึ วิภัตติมีรปู เปน็ เนตฺเต
นามคณะ 89 มาตา - มารดา มาตุสททฺ ปทมาลา (อติ ฺ) เอกวจนะ พหวุ จนะ ป. มาตา มาตโร อา. โภติ มาต มาตา โภติโย มาตเร ท.ุ มาตรํ มาตโร ต. มาตรา มาตยุ า มตฺยา มาตเรหิ - ภิ, มาตหู ิ - ภิ จ. มาตุ มาตุสสฺ มาตุยา มตยฺ า มาตรานํ มาตานํ มาตนู ํ มี. มาตรา มาตยุ า มตฺยา มาตเรหิ - ภิ, มาตหู ิ - ภิ ฉ. มาตุ มาตุสสฺ มาตยุ า มตฺยา มาตรานํ มาตานํ มาตนู ํ ส. มาตริ มาตยุ า มตฺยา มาตุยํ มตยฺ ํ มาตเรสุ มาตสู ุ ธีตุ ศัพท์ ไม่มีรูปเป็น ธีตยฺ า ธตี ฺยํ เหมือน มตยฺ า, มตฺยํ นตฺตุ ศัพท์ ในอิตถลี งิ ค์ กลา่ วอรรถ หลานสาว ไมต่ อ้ ง รสั สะ อาร เปน็ อร มีรูปเป็น นตฺตาโร, นตตฺ าร.ํ สตู รที่ใช้ท�ำตัวรปู ในสตั ถาทคิ ณะ ๑. เพราะ สิ วิภัตติ แปลง อุ ของ สตฺถุ เปน็ ตน้ เปน็ อา และลบ สิ ดว้ ยสตู รว่า สตฺถปุ ติ าทนี มา สิสมฺ ึ สโิ ลโป จ ๒. เพราะวภิ ัตตทิ ้งั หลาย (เว้น สิ วภิ ัตติ) แปลง อุ ของ สตถฺ ุ เปน็ ต้นเป็น อาร = อญเฺ สฺวารตฺตํ ๓. หลังจาก อาร แปลง โย วภิ ตั ตเิ ปน็ โอ = ตโต โยนโม ตุ ๔. หลงั จาก อาร แปลง นา วิภตั ตเิ ป็น อา = นา อา ๕. เพราะ ส วิภัตติ แปลง อุ ของ สตฺถุ เป็นต้น เป็น อุ และลบ ส = อุ สสฺมึ สโลโป จ ๖. เพราะ นํ วิภตั ติ แปลง อุ ของ สตฺถุ เป็นต้น เปน็ อาร = วา นํมฺหิ ๗. เพราะ นํ วภิ ัตติ แปลง อุ ของ สตถฺ ุ เป็น อาร แน่นอน ของศพั ท์อ่นื ๆ ไม่แนน่ อน = สตฺถนุ ตตฺ ญฺจ
90 สัททสังเขป ๘. หลงั จาก อาร แปลง สมฺ วึ ภิ ตั ติ เปน็ นิ = ตโต สฺมึ นิ ๙. เพราะ อิ รัสสะ อาร เปน็ อร = อาโร รสสฺ มกิ าเร จบสตั ถาทคิ ณะ ๖๔. รตั ตาทิคณะ รัตตาทคิ ณะนี้ มีทง้ั ๒ ลิงค์ คอื อิตถลี ิงค์ และ นปงุ สกลงิ ค์ ในอิตถีลิงค์ มกี ารันต์ ๓ คือ อิการันต์ อุการัน และ อูการันต์ ในการันต์ทั้ง ๓ น้ัน หมู่บทท่ีมี อิการันต์เป็นที่สุด มี รตฺติ เป็นต้น มีรปู ส�ำเร็จเปน็ อิการันต์ (รตตฺ )ิ โดยลบ สิ วภิ ตั ติด้วยสตู รวา่ เสสโต โลปํ คสิปิ ช่ือว่า รตั ตาทคิ ณะ อติ ถลี ิงค์ ฯ รตฺติ - ราตรี รตตฺ สิ ทฺทปทมาลา เอกวจนะ พหุวจนะ ป. รตฺติ รตตฺ ี รตฺติโย รตโฺ ย อา. โภติ รตฺติ โภติโย รตตฺ ี รตตฺ โิ ย รตฺโย ท.ุ รตฺตึ รตตฺ ี รตตฺ ิโย รตฺโย ต. รตตฺ ยิ า รตยฺ า รตฺตหี ิ - ภ,ิ รตฺติหิ - ภิ จ. รตฺตยิ า รตยฺ า รตฺตีนํ รตตฺ นิ ํ มี. รตฺติยา รตฺยา รตฺตหี ิ - ภิ, รตฺติหิ - ภิ ฉ. รตฺติยา รตฺยา รตฺตนี ํ รตฺตนิ ํ ส. รตฺติยา รตฺยา รตตฺ ิยํ รตฺยํ รตโฺ ต รตตฺ ีสุ รตตฺ ิสุ
นามคณะ 91 มติ นาภิ ภมู ิ โพธิ ขนตฺ ิ ยุวติ โอสธิ, ปาฬิ สนธฺ ิ อิทธฺ ิ กติ ฺติ ยุตฺตฺยงฺ'คลุ ิ ทนุ ฺทภุ ิ. ความรู้, สะดอื , แผ่นดนิ , อรยิ มรรคญาณ, ความอดทน, หญงิ สาว, ยา, บาล,ี ปฏิสนธิ, ฤทธิ์, ชื่อเสยี ง, ความสมควร, นวิ้ มอื , กลองใหญ,่ ศพั ทใ์ นคาถานแ้ี จกปทมาลาเหมือน รตตฺ ิ ศัพท์ ทุกวภิ ัตติ ยกเวน้ สฺมวึ ภิ ตั ติ ไมม่ ีรปู เหมือน รตโฺ ต อกุ ารนั ต์ อติ ถีลิงค์ ยาคุ ธาตุ กาสุ เธนุ ทททฺ ุ กณฑฺ ุ กเรณุ จ, รชชฺ ุ สสฺสุ ปยิ งฺคู'ฬ-ุ ตฺยุการนตฺ ิตถฺ ิกา ตถา. ศพั ทเ์ หลา่ นี้ คอื ขา้ วตม้ , ธาต,ุ หลมุ , แมโ่ คนม, โรคกลาก, โรคเกลอื้ น, ชา้ งพงั , เชอื ก, แมย่ ายแมผ่ ัว, ต้นประยงค์ ดาว เป็นอิตถลี ิงค์ อุการนั ต์ (ปิยงฺคุ+อฬุ ุ+อติ ิอกุ ารนฺต+อิตถฺ กิ า) อุการนั ต์ อติ ถีลงิ ค์ มรี ปู ในปทมาลาเหมือน รตตฺ ิ ศพั ท์เปน็ สว่ นมาก ยกเว้นรปู รตฺโย, รตยฺ า, รตฺยํ ดงั นี้ จงึ จะแจกปทมาลาไว้ต่างหาก ยาคุสททฺ ปทมาลา (ข้าวต้ม) เอกวจนะ พหุวจนะ ป. ยาคุ ยาคู ยาคโุ ย อา. โภติ ยาคุ โภตโิ ย ยาคู ยาคุโย ท.ุ ยาคํุ ยาคู ยาคุโย ต. ยาคยุ า ยาคูหิ - ภ,ิ ยาคหุ ิ - ภิ จ. ยาคยุ า ยาคูนํ ยาคุนํ ม.ี ยาคยุ า ยาคหู ิ - ภิ, ยาคหุ ิ - ภิ ฉ. ยาคุยา ยาคูนํ ยาคุนํ ส. ยาคุยา ยาคยุ ํ ยาคูสุ ยาคสุ ุ
92 สัททสังเขป อูการันต์ อิตถีลิงค์ วธู ชมพฺ ู จมู กจฉฺ ู สรภู สรพู สภุ ู, วามูรู นาคนาสูรู สุตน'ู การอนตฺ กา. ลูกสะใภ้ (หญิงสาว), ตน้ หวา้ , ทหาร, โรคหิด, แม่นำ้� สรภ,ู ตุ๊กแก, หญงิ มีค้ิวงาม, หญิงมขี าอ่อนงามเหมอื นงวงชา้ ง, หญิงมกี ายงาม (หุ่นดี) ศพั ทเ์ หล่านเี้ ปน็ อกู ารนั ต์ อิตถลี ิงค์ ศัพท์ในคาถานี้มีรูปเดิมเป็นอูการันต์ รูปส�ำเร็จจึงไม่ต้องท�ำรัสสะเป็น วธุหิ, วธุนํ, วธุสุ วธสู ทฺทปทมาลา (หญงิ สาว) เอกวจนะ พหวุ จนะ ป. วธู วธู วธุโย อา. โภติ วธุ โภติโย วธู วธโุ ย ท.ุ วธุํ วธู วธโุ ย ต. วธุยา วธูหิ วธูภิ จ. วธยุ า วธูนํ ม.ี วธยุ า วธูหิ วธูภิ ฉ. วธยุ า วธนู ํ ส. วธุยา วธยุ ํ วธสู ุ สูตรทใ่ี ชท้ �ำตวั ในรตั ตาทคิ ณะ อติ ถีลงิ ค์ ๑. ต้ัง อิ ช่ือ ป ด้วยสูตร = เต อิตฺถขฺยาโป ๒. หลงั ป ลบ โย วิภัตติ = ฆปโต จ โยนํ โลโป ๓. เพราะ โย ทถ่ี ูกลบแล้ว ทฆี ะ อิ เปน็ อี = โยสุกตนกิ ารโลเปสุ ทฆี ํ ๔. แปลง โย วภิ ัตติเป็น โอ ด้วย ตุ ศัพท์ในสตู ร = ตโต โยนโม ตุ ๕. เพราะสระ โอ หลัง แปลง อิ ทชี่ อื่ ป เปน็ ย = ปสญฺสสฺ จ ๖. ลบ ตฺ ตัวหน้าเสียตัวหน่งึ ด้วย จ ศพั ทใ์ นสตู ร = พฺยญฺชโน จ วสิ ญโฺ โค ๗. หลัง อิ ท่ีช่อื ป แปลง นา, ส, สฺมา, ส และ สฺมึ วิภตั ติ เป็น ยา = ปโต ยา จบรัตตาทคิ ณะ อิตถลี ิงค์
นามคณะ 93 รตั ตาทิคณะ (ปุ)ํ รตั ตาทิคณะ ปงุ ลงิ คม์ ีการันต์ ๖ คือ อา อิ อี อุ อู และ โอ การนั ต์ อาการันต์ สาสททฺ ปทมาลา (สุนัข) เอกวจนะ พหุวจนะ ป. สา สา สาโน อา. เห ส สา โภนฺโต สา สาโน ท.ุ สํ เส สาเน ต. เสน สาหิ สาภิ สาเนหิ สาเนภิ จ. สสฺส สาย สานํ มี. สา สมฺหา สสมฺ า สาหิ สาภิ สาเนหิ สาเนภิ ฉ. สสฺส สานํ ส. เส สมหฺ ิ สสมฺ ึ สาสุ สาเนสุ สูตรที่ใช้ในอาการันต์ ๑. เพราะ โย และวภิ ัตตฝิ ่ายเอกวจนะ รัสสะ อา เปน็ อ = อโฆ รสสฺ เมกวจน- โยสฺวปิ จ ๒. เพราะวภิ ตั ตทิ งั้ หลาย แปลง อ เป็น อาน = จ ศัพทใ์ นสูตร หวิ ิภตตฺ มิ ฺหิ จ ๓. แปลง โย วิภัตติ เป็น โอ = ตุ ศัพทใ์ นสูตร ตโต โยนโม ตุ วธิ ีทีเ่ หลอื เหมือนกับ ปรุ ิส ศัพท์
94 สทั ทสงั เขป อกิ ารันต์ อคฺคสิ ททฺ ปทมาลา (ไฟ) เอกวจนะ พหวุ จนะ ป. อคฺคนิ ิ อคฺคิ อคฺคี อคฺคโย อา. โภ อคฺคิ โภนฺโต อคฺคี อคคฺ โย ท.ุ อคฺคึ อคฺคี อคคฺ โย ต. อคคฺ นิ า อคคฺ ีหิ - ภ,ิ อคคฺ ิหิ - ภิ จ. อคฺคโิ น อคคฺ ิสฺส อคฺคีนํ อคคฺ ินํ มี. อคฺคิสมฺ า อคคฺ ิมหฺ า อคฺคนิ า อคฺคหี ิ - ภ,ิ อคคฺ ิหิ - ภิ ฉ. อคคฺ ิโน อคคฺ สิ สฺ อคฺคีนํ อคฺคินํ ส. อคคฺ สิ ฺมึ อคคฺ มิ ฺหิ อคคฺ ีสุ อคคฺ ิสุ อาทิ พฺยาธิ มเหส'ี ส ิ สนธฺ ิ คณฑฺ ิ มนุ ิ กุจฉฺ ิ, อสิ ปาณิ อหิ กมิ ิ อร ิ าติ พลา'ติถ.ิ เบ้อื งต้น, โรค, พระพุทธเจ้า, ฤาษ,ี การต่อ (สรสนธฺ ิ - ป,ํุ ปฏิสนธฺ ิ - อติ ฺ) ศัพท์ยาก (ข้อไมไ้ ผ่), ภกิ ษุ, ท้อง, ดาบ, ฝ่ามือ, งู, หนอน, ศตั รู, ญาต,ิ การบวงสรวง, อาคันตกุ ะ (แขก) สูตรท่ใี ชท้ �ำตัวรปู ในอิการันต์ ๑. เพราะ สิ วิภัตติ แปลง อิ ของ อคฺคิ ศพั ท์ เป็น อนิ ิ = อคคฺ สิ สฺ นิ ิ ๒. ตง้ั อิ ชอ่ื ฌ = อิวณฺณุวณฺณา ฌลา ๓. หลังจาก ฌ ลบ โย วภิ ัตติ = ฆปโต จ โยนํ โลโป ๔. เพราะ โย ทถี่ ูกลบแลว้ ทฆี ะ อิ เป็น อี = โยสุ กตนิการโลเปสุ ทฆี ํ ๕. หลังจาก ฌ แปลง ส วิภัตติ เปน็ โน = ฌลโต สสฺส โน วา วิธที ่ีเหลอื เหมอื นกับ ปรุ สิ ศัพท์
นามคณะ 95 อกี ารนั ต์ ทณฑีสททฺ ปทมาลา (ผู้มไี มเ้ ท้า) เอกวจนะ พหวุ จนะ ป. ทณฑฺ ี ทณฑฺ ี ทณฺฑโิ น อา. โภ ทณฑฺ ิ โภนโฺ ต ทณฑฺ ี ทณฑฺ ิโน ท.ุ ทณฺฑนิ ํ ทณฑฺ ึ ทณฺฑี ทณฺฑโิ น ต. ทณฑฺ นิ า ทณฑฺ ีหิ ทณฑฺ ีภิ จ. ทณฑฺ ิโน ทณฑฺ ิสสฺ ทณฺฑีนํ มี. ทณฑฺ นิ า ทณฑฺ ิมฺหา ทณฺฑสิ ฺมา ทณฺฑีหิ ทณฺฑีภิ ฉ. ทณฑฺ โิ น ทณฑฺ สิ ฺส ทณฺฑนี ํ ส. ทณฺฑินิ ทณฺฑมิ หฺ ิ ทณฑฺ สิ มฺ ึ ทณฑฺ ีสุ ศัพทแ์ จกตาม หตถฺ ี ทาี คณี สํฆี สามี คามี จ คามณี, โยคี โรคี สขุ ี ทกุ ขฺ ี จารี จาคี จ กสุ ลี. ช้าง, สัตว์ร้าย, ผู้มีคณะ, ผู้มีหมู่, เจ้าของ หรือ สามี, ผู้ใหญ่บ้าน, ก�ำนัน, ผู้มี ความเพยี ร, ผมู้ โี รค, ผมู้ คี วามสุข, ผู้มคี วามทกุ ข,์ ผู้มคี วามประพฤติ, ผู้มกี ารบริจาค, ผู้มีกุศล สตู รท่ใี ช้ท�ำตวั รปู ในอีการนั ต์ ๑. เพราะวภิ ตั ตฝิ า่ ยเอกวจนะและโย วภิ ตั ตทิ ง้ั หลาย รสั สะ อี เปน็ อิ ดว้ ยสตู ร = อโฆ รสฺสเมกวจนโยสวฺ ปิจ ๒. หลงั จาก อิ ช่ือ ฌ แปลง โย วิภตั ติ เป็น โน = โยนํ โน ๓. หลงั จาก อิ ช่ือ ฌ แปลง สมฺ ึ วภิ ัตติ เปน็ นิ = สมฺ ึ นิ วธิ ที ่ีเหลอื เหมือนกับ อคฺคิ ศัพท์ ฯ
96 สัททสังเขป อกุ ารนั ต์ ภกิ ขุสทฺทปทมาลา (ภกิ ษ)ุ เอกวจนะ พหุวจนะ ป. ภิกฺขุ ภิกขฺ ู ภิกฺขโว อา. โภ ภกิ ฺขุ โภนฺโต ภิกฺขู ภิกขฺ เว ภกิ ฺขโว ทุ. ภิกฺขุํ ภกิ ขฺ ู ภิกขฺ โว ต. ภิกฺขุนา ภิกฺขูหิ - ภิ, ภกิ ขฺ ุหิ - ภิ จ. ภกิ ฺขโุ น ภกิ ขฺ สุ สฺ ภิกขฺ ูนํ ภกิ ฺขนุ ํ ม.ี ภิกขฺ ุนา ภกิ ฺขมุ หฺ า ภกิ ฺขสุ ฺมา ภิกฺขหู ิ - ภิ, ภิกฺขหุ ิ - ภิ ฉ. ภิกขฺ โุ น ภิกขฺ ุสสฺ ภกิ ฺขนู ํ ภิกฺขนุ ํ ส. ภกิ ขฺ มุ หฺ ิ ภกิ ขฺ ุสฺมึ ภิกขฺ สู ุ ภิกฺขุสุ ศพั ท์แจกตาม ปฏุ สานุ ภาณุ ราหุ เกตุ ปงคฺ 'ุ จฉฺ ุ สินธฺ ิ'ธุ, เวฬุ เวณุ เนรุ เมรุ คุร'ู สุ เหตุ ชนฺตุ จ. คนฉลาด, ไหลเ่ ขา, รศั มี, ราหู, ธง, คนเปลี้ย, ออ้ ย, มหาสมทุ ร, เชือ้ ไฟ, ไมไ้ ผ,่ ไมไ้ ผ่, ภเู ขาสุเมร}ุ ภูเขาสเุ มรุ, คร,ู ลูกศร, เหต,ุ สตั ว์ (สินธฺ ิ'ธุ = สนิ ฺธุ + อิธ)ุ สตู รท่ใี ชท้ �ำตัวรูปในอุการนั ต์ ๑. หลังจาก อุ ชอ่ื ล แปลง โย วภิ ัตตเิ ปน็ โว = ลโต โวกาโร จ ๒. เพราะ เว, โว แปลง อุ ทชี่ อื่ ล เปน็ อ = เวโวสุ โล จ ๓. หลงั จาก อุ ทช่ี อ่ื ล แปลง โย อาลปนะ เป็น เว, โว = อกตรสฺสา ลโต ยวาลปนสสฺ เวโว วิธีที่เหลอื เหมอื นกบั อคฺคิ ศัพท์
นามคณะ 97 อูการนั ต์ สยมฺภูสททฺ ปทมาลา (พระสยมั ภพู ุทธเจ้า) เอกวจนะ พหวุ จนะ ป. สยมฺภู สยมฺภู สยมฺภโุ ว อา. โภ สยมฺภุ โภนฺโต สยมฺภู สยมฺภโุ ว ทุ. สยมฺภํุ สยมภฺ ู สยมภฺ โุ ว ต. สยมภฺ นุ า สยมภฺ หู ิ สยมฺภภู ิ จ. สยมฺภโุ น สยมฺภุสสฺ สยมฺภูนํ ม.ี สยมภฺ นุ า สยมภฺ ุมฺหา สยมฺภุสฺมา สยมภฺ ูหิ สยมฺภภู ิ ฉ. สยมฺภโุ น สยมฺภสุ สฺ สยมฺภนู ํ ส. สยมฺภมุ ฺหิ สยมภฺ ุสมึ สยมฺภูสุ อภิภู วตฺตภู สมฺภู ปภู วภิ ู ปราภิภูทโย. ศพั ทท์ ั้ง ๖ นีแ้ จกปทมาลาเหมอื น สยมฺภู สว่ น สพพฺ ญฺู เวทคู วญิ ฺู เปน็ ต้น แปลง โย เปน็ โน แทน โว และ สหภู ศพั ท์ แปลง โย เปน็ โว และ โน นกั ศกึ ษาพงึ จดจ�ำด้วยคาถา น้ี โวโยโน ชนฺตโุ ต โหนฺติ โวโยว เหตสุ ททฺ โต, สหภสู ทฺทโต โวโน โวว ภิกฺขาภิภฺวาทิโต, อมปุ ภตุ โิ ต โยว โนว สพพฺ ญญฺ อุ าทิโต. หลงั จาก ชนตฺ ุ ศพั ท์ มี โว โย โน หลังจาก เหตุ ศพั ท์มี โว โย เทา่ นน้ั หลงั จาก สหภู ศพั ท์ มี โว โน หลังจาก ภกิ ขฺ ุ ศพั ท์ และ อภภิ ู ศพั ท์มี โว เทา่ น้นั หลังจาก อมุ ศพั ท์ เปน็ ตน้ มี โย อยา่ งเดียว หลงั จาก สพฺพญญฺ ู ศพั ทเ์ ปน็ ต้น มี โน เท่าน้นั
98 สทั ทสงั เขป โอการนั ต์ โค - ววั โคสทฺทปทมาลา เอกวจนะ พหวุ จนะ ป. โค คาโว คโว อา. เห โค โภนฺโต คาโว คโว ท.ุ ควํ คาวํ คาวํุ คาโว คโว ต. คาเวน คเวน โคหิ โคภิ จ. คาวสฺส ควสสฺ ควํ คนุ นฺ ํ โคนํ มี. คาวา คาวมหฺ า - สมฺ า ควา ควมหฺ า - สมฺ า โคหิ โคภิ ฉ. คาวสสฺ ควสสฺ ควํ คุนฺนํ โคนํ ส. คาเว คาวมหฺ ิ - สมฺ ึ คเว ควมหฺ ิ - สฺมึ คาเวสุ คเวสุ โคสุ (โคศัพท์นั้น มิใช่หมายเอาวัวตัวผู้เท่านั้น บางรูปหมายถึงวัวตัวเมียด้วย ในคัมภีร์ โมคคลั ลานะกล่าวว่า ส วิภัตติมรี ูป ควํ ด้วย) สตู รที่ใชท้ �ำตวั รูปในโอการนั ต์ ๑. เพราะ โย วิภตั ติ แปลง โอ ของ โค เปน็ อาว = โยสุ จ ๒. เพราะ นา, สมฺ า, สฺมึ, สุ วิภัตติ แปลง โอ ของ โค เป็น อาว = จ ศัพท์ในสูตร โยสุ จ ๓. เพราะ โย, นา, ส, สฺมา, สฺมึ, สุ วิภัตติ แปลง โอ ของ โค เป็น อว = จ ศพั ทใ์ นสตู ร อวํมหฺ ิ จ ๔. แปลง โย วภิ ตั ติ เป็น โอ = ตุ ศัพท์ ในสูตร ตโต โยนโม ตุ ๕. เพราะ อํ วิภตั ติ แปลง โอ ของ โค เปน็ อาว และ อว = อวมํ หฺ ิ จ ๖. เพราะ อํ วภิ ัตติ แปลง อ ของ อาว เปน็ อุ = อาวสสฺ ุ วา ๗. หลังจาก อุ ทช่ี อ่ื ล แปลง อํ เป็น นคิ คหติ = อโํ ม นคิ ฺคหตี ํ ณลเปหิ ๘. เพราะ ส วิภัตติ แปลง โอ ของ โค เป็น อาว = คาว เส
นามคณะ 99 ๙. แปลง นํ วิภตั ตเิ ป็น อํ แปลง โอ ของ โค เป็น อว = จ ศัพท์ในสตู ร ตโต นมํปติมหฺ า ลุตฺเต จ สมาเส ๑๐. เพราะ นํ วภิ ัตติ แปลง โค เปน็ คุ = จ ศัพท์ในสตู ร สุหินาสุ จ ๑๑. เพราะ นํ วภิ ตั ติ ลง นฺ อาคม ด้วย จ ศพั ท์ ในสตู ร = โน จ ทฺวาทิโต นมํ หฺ ิ จบรัตตาทิคณะ ปงุ ลิงค์ รตั ตาทคิ ณะ นปงุ สกลงิ ค์ ในรัตตาทคิ ณะน้ี มี การันต์ ๕ คือ อิ - อี - อุ - อู - โอ อิการนั ต์ อฏฺิ สตฺถิ ทธ' กฺข'จฺฉิ วาริ สปฺปิ นปสุํ กา. เมลด็ (กระดูก) ขาออ่ น, นมสม้ , นัยนต์ า, นัยน์ตา, นำ�้ , เนยใส ศัพทเ์ หล่าน้เี ป็นรัตตาทิคณะ อกิ ารันต์ นปุงสกลิงค์ อฏฺสิ ททฺ ปทมาลา เอกวจนะ พหุวจนะ ป. อฏฺี อฏฺ ี อฏฺ นี ิ อ. เห อฏฺ ี เห อฏฺี อฏฺนี ิ ทุ. อฏฺึ อฏฺี อฏฺนี ิ รูปทเี่ หลือ เหมือนกับ อคฺคิ ศพั ท์ ในปงุ ลงิ ค์ ท�ำตัวรปู ๑. แปลง โย วิภัตติ เปน็ นิ = โยนํ นิ นปํสุ เกหิ
100 สทั ทสงั เขป อกี ารนั ต์ สุขการี, สีฆยายี เป็นต้นเป็นอีการันต์ นปุงสกลิงค์ แจกปทมาลาเหมือน ทณฺฑี ศัพท์ ในปงุ ลงิ ค์ เพยี งแตป่ ฐมา สิ วิภัตติ ตอ้ งรัสสะเป็น สขุ การิ, สีฆยายิ ส่วน โย วภิ ตั ติเป็น สุขการีนิ, สีฆยายนี ิ เท่านน้ั ท่ีเหลอื เหมอื น ทณฺฑี ศัพท์ อกุ ารันต์ อายุ จกขฺ ุ วสุ ทารุ มธฺวมพฺ ุ ติปุ หงิ คฺ ุ จ, สงิ ฺคุ มตฺถุ วตฺถุ ชตุ สาลฺวสฺสุ ผลุ พินทฺ ุ จ. อายุ, ดวงตา, ทรพั ย์, ไม้, นำ�้ ผึ้ง, น้�ำ, ดบี กุ , มหาหงิ ค์ (ยา), ตน้ มะรุม, เนยเหลว, เร่ือง (วตั ถุสิ่งของ, สวน, ท่ีตงั้ ), ครง่ั , เงา่ บวั , น�ำ้ ตา, ขอ้ (ปลอ้ ง), จุด (หยาดน้�ำ) ศพั ทเ์ หล่าน้ีเปน็ รตั ตาทิคณะ อุการันต์ นปุงสกลงิ ค์ แจกเหมือน อฏฺิ ศพั ท์ แต่ อายุ ศพั ท์ พเิ ศษใน นา ตตยิ าวิภตั ติมรี ปู เป็น อายสุ า เหมอื นกับมโนคณะเทา่ น้นั อกู ารนั ต์ โคตรภู, ธมฺมญฺู เป็นต้น เป็นรัตตาทิคณะ อูการันต์ นปุงสกลิงค์ แจกเหมือน สขุ การี ศัพท์ ฯ โอการันต์ จิตตฺ โคศัพท์ เปน็ สมาส โอการันต์ ต้องรสั สะ โอ เปน็ อุ ดว้ ยสตู ร = สโร รสโฺ ส นปุํงสเก แลว้ มาเปน็ นามมี อกุ ารนั ต์เป็นท่สี ดุ แจกปทมาลาเหมอื น อุ การันต์ อายุ ศพั ท์
นามคณะ 101 อธิบาย อีการนั ต์ นปุงสกลงิ ค์ สุขการี ทานอันกระท�ำความสุข สฆี ยายี จติ ผไู้ ปเร็วเปน็ ปกติ ความจรงิ แล้ว อกี ารันต์ ในปุงลิงค์ หากกลา่ วถึง จิต ทาน ศลี และ ตระกูล เป็นต้น ก็เปลี่ยนเปน็ นปงุ สกลงิ คไ์ ป เช่น ทณฑฺ ี ศัพท์ แปลวา่ ชายผูม้ ไี ม้เทา้ กเ็ ป็นปุงลงิ ค์ ถา้ แปลวา่ ตระกลู ผมู้ ีไมเ้ ท้า ก็เป็นนปงุ สก ลิงค์ แจกเปน็ ทณฑฺ ิ ทณฑฺ ี ทณฑฺ ีนิ เป็นต้น สุขการี ถ้าแปลว่า ชายผู้กระท�ำความสุข ก็เป็นปุงลิงค์ แจกเหมือน ทณฺฑีศัพท์ หากแปลว่า ทานอนั กระท�ำความสุข กเ็ ป็นนปุงสกลงิ ค์ สฆี ยายีศัพท์ ก็เช่นเดียวกนั จบรัตตาทคิ ณะ นปงุ สกลงิ ค์ ๖๕. นทาทคิ ณะ อติ ถีลงิ ค์ หมู่บททส่ี �ำเรจ็ รูป โดยลง อี ปัจจยั ด้วยสูตรว่า นทาทิโต วา อี และสตู รวา่ ณวณกิ - เณยฺยณนฺตหู ิ เปน็ ต้น ชือ่ วา่ นทาทคิ ณะ เปน็ อติ ถีลิงค์เท่านัน้ นที - แม่นำ้� นทีสททฺ ปทมาลา เอกวจนะ พหวุ จนะ ป. นที นที นทิโย นชโฺ ช อา. โภติ นทิ โภตโิ ย นที นทิโย นชฺโช ทุ. นทึ นทิยํ นที นทิโย นชฺโช ต. นชฺชา นทยิ า นทหี ิ นทภี ิ จ. นชชฺ า นทยิ า นทนี ํ มี. นชฺชา นทยิ า นทหี ิ นทภี ิ ฉ. นชชฺ า นทิยา นทนี ํ ส. นชชฺ ํ นทยิ า นทิยํ นทสี ุ
102 สัททสังเขป ศพั ท์แจกตาม อติ ฺถี นารี กมุ ารี จ ตรณุ ี พฺราหฺณี สข,ี มาตลุ านี สริ ี โภคี คจฺฉนฺตี คจฉฺ ตี คณุ - วนฺตี คุณวตี คาวี ทาสี ปถุ วี ปถว.ี ผหู้ ญิง, เดก็ หญิง, หญิงสาว, หญิงผู้ประพฤตพิ รหมจรรย์, เพ่อื นหญงิ , ป้า, นา้ หญิง, สิร,ิ หญิงผมู้ ที รพั ย,์ หญิงผไู้ ปอยู่, หญงิ ผ้ไู ปอยู่, หญิงผู้มคี ณุ , แมว่ วั , ทาสหญิง, แผน่ ดนิ , แผ่นดิน. บทเหล่าน้แี จกปทมาลาเหมอื น นทศี พั ท์ ยกเว้นรปู ชโฺ ช ชชฺ า ชชฺ ํ ดงั น้ัน จงึ จะแจกไว้ ตา่ งหากอกี ท�ำตวั รูปเฉพาะรูปพเิ ศษ ๑. แปลง โย วภิ ัตติ เปน็ โอ = ตุศพั ท์ในสตู ร ตโต โยนโม ตุ ๒. แปลง อิ ชอื่ ป เป็น ย = ปสญฺ สสฺ จ ๓. แปลง ทยฺ เป็น ช = ยวตํ ตลนทการานํ พยฺ ญชฺ นานิ จลยชการตฺตํ ๔. ชฺ สทสิ เทฺวภาวะ = ปร เทฺวภาโว าเน ๕. หลัง อิ ชอ่ื ป แปลง นา, ส วิภตั ติเปน็ อา = อา ปโต โยควิภาค ในสตู ร อมา ปโต สฺมึสมฺ านํ วา ๖. หลงั จาก อิ ท่ชี ือ่ ป แปลง สมฺ ึ เป็น อํ, สฺมา เปน็ อา = อมา ปโต สฺมสึ ฺมานํ วา วิธที ี่เหลือ เหมอื นกับ รตตฺ ิ ศัพท์ ฯ อติ ฺถสี ทฺทปทมาลา เอกวจนะ พหวุ จนะ ป. อิตถฺ ี อิตฺถี อติ ถฺ โิ ย อา. โภติ อติ ฺถิ โภติโย อติ ถฺ ี อิตฺถโิ ย ทุ. อิตถฺ ิยํ อติ ถฺ ึ อิตถฺ ี อิตถฺ โิ ย ต. อติ ถฺ ิยา อิตถฺ หี ิ อติ ฺถีภิ
นามคณะ 103 เอกวจนะ พหวุ จนะ จ. อิตฺถิยา อติ ฺถนี ํ มี. อิตถฺ ิยา อิตถฺ หี ิ อติ ถฺ ภี ิ ฉ. อติ ถฺ ิยา อติ ฺถีนํ ส. อติ ถฺ ิยา อติ ถฺ ิยํ อติ ถฺ ีสุ ปุถวสี ทฺทปทมาลา เอกวจนะ พหุวจนะ ป. ปุถวี ปถุ วี ปุถวิโย อา. โภติ ปุถวิ โภติโย ปุถวี ปถุ วิโย ทุ. ปถุ วี ปถุ วยิ ํ ปุถวี ปุถวิโย ต. ปุถพฺยา ปุถวิยา ปถุ วหี ิ ปถุ วภี ิ ต. ปถุ พยฺ า ปถุ วยิ า ปถุ วีนํ ม.ี ปุถพยฺ า ปถุ วิยา ปุถวีหิ ปุถวภี ิ ฉ. ปถุ พยฺ า ปถุ วิยา ปถุ วีนํ ส. ปถุ พยฺ ํ ปุถวิยา ปุถวยิ ํ ปถุ วสี ุ คาถาแจกตามยังมศี ัพท์ทีม่ ีรูปพิเศษอกี ๒ ศัพท์ คอื พรฺ าหฺมณี และ ทาสี ใน นา, ส, สฺมา วภิ ัตติ มีรูปเป็น พฺราหฺมณญฺ า, ทาสยฺ า และ สตั ตมวี ิภตั ติ มรี ปู เปน็ พฺราหฺมณญฺํ , ทาสยฺ ํ ท�ำตัวรปู เฉพาะรปู พเิ ศษ ๑. หลังจาก อิ ชือ่ ป แปลง นา และ ส วภิ ตั ติเปน็ อา = อา ปโต โยควภิ าคใน อมา ปโต สฺมึสมฺ านํ วา ๒. หลังจาก อิ ชื่อ ป แปลง สฺมึ เปน็ อํ, สมฺ า เปน็ อา = อมา ปโต สมฺ ึสมฺ านํ วา ๓. เพราะ อา และ อํ แปลง อิ ช่อื ป เปน็ ย = ปสญฺสสฺ จ ๔. แปลง วฺ เปน็ พฺ = โพ วสฺส
104 สัททสังเขป ๖๖. คหปตาทิคณะ อิตถีลงิ ค์ หมู่บทที่ส�ำเร็จรูปโดย ลง อินี ปัจจัยด้วยสูตร ปติภิกฺขุราชีการนฺเตหิ อินี ฯ ช่ือว่า คหปตาทคิ ณะ เปน็ อติ ถีลงิ คแ์ นน่ อน คหปตานสี ททฺ ปทมาลา เอกวจนะ พหุวจนะ ป. คหปตานี คหปตานี คหปตานิโย อา. โภติ คหปตานิ โภตโิ ย คหปตานี คหปตานโิ ย ทุ. คหปตานึ คหปตานยิ ํ คหปตานี คหปตานโิ ย ต้ังแต่ ตตยิ า ไปจนถงึ สัตตมี แจกเหมือนกับ อติ ฺถศี พั ท์ ศัพท์แจกตาม ภิกขฺ ุนี ราชินี เจว ทณฺฑินี จ โปกฺขรณ,ี ยกฺขนิ ี จ ปรจิตตฺ - วิทุนี คหปตาทโย. นางภิกษุณี, พระราชินี, หญิงผู้มีไม้เท้า, สระโปกขรณี, นางยักษินี, หญิงผู้รู้จิตของ บุคคลอื่น, ศัพทเ์ หลา่ นเ้ี ป็นคหปตาทคิ ณะ บทเหลา่ นแี้ จกปทมาลาเหมอื นกบั คหปตานี ศัพท์ เว้น โปกขฺ รณี ศัพทท์ ี่มีรปู พเิ ศษ ใน ปฐมาวิภัตติ เป็น โปกฺขรญโฺ นา, ส, สฺมา เป็น โปกขฺ รญฺ า สมฺ ึ เป็น โปกขฺ รญฺ ํ จงึ จะแจก ไว้ต่างหาก โปกขฺ รณีสทฺทปทมาลา เอกวจนะ พหุวจนะ ป. โปกขฺ รณี โปกขฺ รณี โปกขฺ รญฺโ โปกขฺ รณิโย อา. เห โปกฺขรณิ เห โปกฺขรณี โปกขฺ รญโฺ โปกขฺ รณิโย ท.ุ โปกขฺ รณึ โปกขฺ รณยิ ํ โปกขฺ รณี โปกขฺ รญฺโ โปกขฺ รณิโย
นามคณะ 105 เอกวจนะ พหวุ จนะ ต. โปกขฺ รณิยา โปกฺขรญฺา โปกฺขรณหี ิ โปกฺขรณภี ิ จ. โปกขฺ รณิยา โปกฺขรญฺา โปกขฺ รณีนํ ม.ี โปกขฺ รณยิ า โปกขฺ รญฺ า โปกขฺ รณีหิ โปกฺขรณีภิ ฉ. โปกฺขรณยิ า โปกฺขรญฺา โปกขฺ รณนี ํ ส. โปกฺขรณยิ า โปกฺขรณิยํ โปกฺขรญฺ ํ โปกขฺ รณสี ุ ท�ำเฉพาะรปู พเิ ศษ ๑. แปลง อิ ของ อนิ ี ปัจจยั เปน็ อ และแปลง น เป็น ณ = เตสุ วทุ ธฺ ิโลปาคม ฯ ๒. แปลง โย วภิ ัตติ เปน็ โอ = ตุศัพท์ในสตู ร ตโต โยนโม ตุ ๓. แปลง อี ท่ชี ่อื ป เป็น ย = ปสญฺสฺส จ ๔. แปลง ณยฺ เป็น = การศพั ทใ์ นสูตร ยวตํ ตลนทการานํ พยญชฺ นานิ ฯ ๕. เทฺวภาวะ -= ปร เทฺวภาโว าเน ๖. หลังจาก อี ทช่ี อื่ ป แปลง นา, ส วิภตั ตเิ ป็น อา = อา ปโต โยควิภาค ในสูตรว่า อมา ปโต สมฺ ึสมฺ านํ วา ๗. หลงั จาก อี ทีช่ ื่อ ป แปลง สมฺ ึ เป็น อํ, สฺมา เป็น อา = อมา ปโต สฺมึสฺมานํ วา สรปุ วิธลี งอติ ถีลิงค์โชตกปัจจัย ๑. บทที่เปน็ ได้ ๒ ลงิ ค์ ลง อี ปัจจัย เปน็ ส่วนมาก ลง อนิ ี ปัจจัยนอ้ ย เช่น สุนข,ี สกู ร,ี มกฺกฏี, ยกขฺ ี มีรูปเปน็ ยกขฺ นิ ี บา้ ง ฯ ๒. บทท่มี ี ณว, ณิก, เณยฺย, ณ, นตฺ และ นตฺ ุ ปจั จัยเป็นทสี่ ดุ ลง อี ปัจจยั เทา่ น้ัน ฯ เช่น มาณวี, นาวิกี, เวนเตยยฺ ี, โคตม,ี คจฉฺ นฺตี คณุ วนฺตี (ตามล�ำดับ) ๓. คุณนามทม่ี ี อการนั ตเ์ ปน็ ท่ีสุด ลงเฉพาะ อา ปัจจยั เทา่ นนั้ เช่น อภิรปู า กญฺ า, นลี า มาลา, โสภณา วธู ๔. บทท่มี ี อิ, อี, อ,ุ อู เปน็ ทส่ี ุด ลง อนิ ี ปจั จยั เช่น คหปตานี, ภกิ ขฺ ุนี, ทณฺฑนิ ี, โปกฺขรณี, ปรจติ ฺตวทิ ุนี
106 สัททสังเขป ๖๗. สพั พนามคณะ สพฺพนาม คือ ศัพท์ท่ีใชแ้ ทน นามศพั ท์ ทว่ั ๆ ไป มี ๒๗ ตวั คือ สพฺพ, กตร, กตม, อภุ ย, อิตร, อญฺ , อญฺตร, อญฺ ตม, ปพุ พฺ , ปร, อปร, ทกฺขณิ , อตุ ฺตร, อธร, ย, ต, เอต, อมิ , อม,ุ ก,ึ เอก, อุภ, ทวฺ ,ิ ต,ิ จตุ (ปญจฺ ) ตมุ ฺห อมหฺ อติ ิ สตตฺ วสี ติ สพฺพนามาน,ิ ตานิ สพพฺ นามตตฺ า ตลิ งิ คฺ านิ ฯ สพฺพ - ท้ังปวง สพฺพสททฺ ปทมาลา (ป)ํุ เอกวจนะ พหุวจนะ ป. สพโฺ พ สพฺเพ อา. โภ สพฺพ สพฺพา โภนโฺ ต สพเฺ พ ทุ. สพฺพํ สพเฺ พ ต. สพฺเพน สพเฺ พหิ สพเฺ พภิ จ. สพพฺ สฺส สพฺเพสํ สพฺเพสานํ มี. สพฺพสมฺ า สพพฺ มหฺ า สพฺเพหิ สพฺเพภิ ฉ. สพฺพสสฺ สพฺเพสํ สพฺเพสานํ ส. สพฺพสฺมึ สพพฺ มฺหิ สพเฺ พสุ สพพฺ สททฺ ปทมาลา (นปุํ) เอกวจนะ พหวุ จนะ ป. สพฺพํ สพฺพานิ อา. โภ สพพฺ สพพฺ า ภวนตฺ าน ิ สพฺพานิ ทุ. สพฺพํ สพพฺ านิ ต้งั แต่ ตตยิ าวิภัตติ เปน็ ตน้ ไป แจกเหมือนในปงุ ลิงค์
นามคณะ 107 สพพฺ าสทฺทปทมาลา อิตถลี งิ ค์ เอกวจนะ พหุวจนะ ป. สพพฺ า สพฺพา สพฺพาโย อา. โภติ สพเฺ พ โภตโิ ย สพฺพา สพพฺ าโย ท.ุ สพฺพํ สพฺพา สพพฺ าโย ต. สพพฺ าย สพพฺ าหิ สพฺพาภิ จ. สพฺพาย สพพฺ สฺสา สพพฺ าสํ สพฺพาสานํ ม.ี สพฺพาย สพฺพาหิ สพพฺ าภิ ฉ. สพฺพาย สพพฺ สสฺ า สพพฺ าสํ สพพฺ าสานํ ส. สพพฺ ายํ สพพฺ สฺสํ สพฺพาสุ สูตรท�ำตัวรปู ในปุงลงิ ค์ ๑. หลังจากสัพพนาม แปลง โย ปฐมาวภิ ัตติ เป็น เอ = สพฺพนามการเต ปโม ๒. เพราะ นํ วภิ ัตติ แปลง อ ของสัพพนาม เปน็ เอ = สพพฺ นามานํ นํมหฺ ิ จ ๓. หลงั จากสัพพนาม แปลง นํ วิภตั ติ เป็น ส,ํ สานํ = สพฺพโต นํ สํสานํ นปงุ สกลงิ ค์ ๑. หลังจาก อการันต์ แปลง โย เปน็ นิ = อโต นจิ ฺจํ ๒. ท่ีเหลือ เหมือนในปงุ ลงิ ค์ อติ ถีลงิ ค์ ๑. ในอาลปนะ แปลง สิ ท่ชี ื่อ ค เปน็ เอ = ฆเต จ ๒. หลงั จาก อา ทชี่ ่อื ฆ แปลง นา วภิ ัตตเิ ป็นตน้ เปน็ อาย = ฆโต นาทนี ํ ๓. หลังจาก ฆ, ป แปลง สมฺ ึ เปน็ ส,ํ ส เปน็ สา = ฆปโต สมฺ สึ านํ สํสา ๔. เพราะ ส,ํ สา ลง สฺ อาคม = สสํ าเสฺกวจเนสุ จ
108 สัททสังเขป กตร ถงึ อญฺ ตม ๖ ศพั ทน์ ี้แจกเหมือน สพพฺ ศพั ท์ แต่ในอติ ถีลงิ ค์มรี ปู พเิ ศษคอื ใน ส วิภตั ติ มีรปู เป็น กตริสสฺ า, สฺมึ วิภัตติ มีรูปเป็น กตริสฺส.ํ โดยแปลง อ เป็น อิ ด้วย จ ศพั ท์ท่ีตามมาในสตู ร เอตมิ าสมิ กตราสทฺทปทมาลา (ไหน) เอกวจนะ พหวุ จนะ ป. กตรา กตรา กตราโย อา. โภติ กตเร โภติโย กตรา กตราโย ทุ. กตรํ กตรา กตราโย ต. กตราย กตราหิ กตราภิ จ. กตราย กตริสสฺ า กตราสํ กตราสานํ ม.ี กตราย กตราหิ กตราภิ ฉ. กตราย กตริสฺสา กตราสํ กตราสานํ ส. กตราย กตรสิ ฺสํ กตราสุ ตง้ั แต่ ปพุ ฺพ ถึง อธร ๖ ศัพท์นี้มรี ปู ตา่ งจาก สพพฺ ศัพท์ โดยแปลง โย ปฐมา เปน็ อา มรี ปู เป็น ปพุ พฺ า, แปลง สฺมา วภิ ตั ตเิ ปน็ อา มีรูปเปน็ ปพุ ฺพา และแปลง สฺมึ วภิ ตั ตเิ ปน็ เอ มีรปู เป็น ปุพฺเพ (เพราะ จ ศพั ทใ์ นสูตร ตโย เนว จ สพฺพนาเมหิ ให้ท�ำได้บา้ ง) ปพุ โฺ พ - ขา้ งหน้า, ก่อน ปพุ ฺพสททฺ ปทมาลา (ปํุ) เอกวจนะ พหุวจนะ ป. ปพุ ฺโพ ปุพฺ เฺ พ ปพุ พฺ า อา. โภ ปพุ ฺพ ปพุ ฺพา โภนฺโต ปพุ เฺ พ ปพุ ฺพา ท.ุ ปุพพฺ ํ ปุพเฺ พ ต. ปุพฺเพน ปุพเฺ พหิ ปพุ ฺเพภิ
นามคณะ 109 เอกวจนะ พหุวจนะ จ. ปุพฺพสฺส ปุพเฺ พสํ ปุพฺเพสานํ ม.ี ปุพฺพา ปุพฺพมฺหา ปพุ ฺพสฺมา ปุพฺเพหิ ปุพฺเพภิ ฉ. ปพุ พฺ สสฺ ปพุ เฺ พสํ ปุพเฺ พสานํ ส. ปพุ เฺ พ ปพุ ฺพมฺหิ ปุพพฺ สฺมึ ปพุ เฺ พสุ ในนปุงสกลิงค์มีรูปแตกต่างเฉพาะปฐมา และทุติยาวิภัตติเท่านั้น ส่วนในอิตถีลิงค์ ศัพทท์ งั้ ๖ น้ี แจกเหมอื น สพฺพา ศพั ท์ เว้น ทกขฺ ิณ และ อุตตฺ ร ศัพท์ มรี ูปพเิ ศษ ใน สมฺ ึวิภตั ติ มรี ปู เป็น ทกฺขณิ าย, อตุ ฺตราย เกนิ จาก สพฺพา ศพั ท์ (เพราะว่า ศพั ทท์ ี่มาจากสูตร เนตาหิ สมฺ มิ าย ยา) สพั พนามตง้ั แต่ ย ศัพท์ ถึง อมหฺ ศพั ท์ ไม่มีอาลปนะ ย ศัพท์ แจกปทมาลาเหมอื น สพฺพ ศัพท์ ทัง้ สามลิงค์ โส - น้นั ตสททฺ ปทมาลา (ปํุ) เอกวจนะ พหุวจนะ ป. โส เน เต ท.ุ นํ ตํ เน เต ต. เนน เตน เนหิ เนภิ เตหิ เตภิ จ. อสฺส นสสฺ ตสสฺ เนสํ เนสานํ เตสํ เตสานํ ม.ี อสมฺ า นสมฺ า ตสมฺ า นมหฺ า ตมหฺ า เนหิ เนภิ เตหิ เตภิ ฉ. อสฺส นสสฺ ตสฺส เนสํ เนสานํ เตสํ เตสานํ ส. อสฺมึ นสมฺ ึ ตสมฺ ึ นมฺหิ ตมหฺ ิ เนสุ เตสุ
110 สัททสงั เขป ตสทฺทปทมาลา (นป)ุํ เอกวจนะ พหวุ จนะ ป. นํ ตํ นานิ ตานิ ท.ุ นํ ตํ นานิ ตานิ ต. เนน เตน เนหิ เนภิ เตหิ เตภิ ทเ่ี หลอื แจกเหมือน ปุลํ ิงค์ ตาสทฺทปทมาลา (อิตถีลงิ ค)์ เอกวจนะ พหุวจนะ ป. สา นา นาโย ตา ตาโย ท.ุ นํ ตํ นา นาโย ตา ตาโย ต. นาย ตาย นาหิ นาภิ ตาหิ ตาภิ จ. ติสสฺ าย ตสฺสาย อสสฺ าย นสฺสาย ตสิ ฺสา ตสฺสา อสฺสา นสสฺ า นาย ตาย นาสํ นาสานํ ตาสํ ตาสานํ มี. นาย ตาย นาหิ นาภิ ตาหิ ตาภิ ฉ. ตสิ ฺสาย ตสฺสาย อสสฺ าย นสสฺ าย ติสฺสา ตสฺสา อสสฺ า นสฺสา นาย ตาย นาสํ นาสานํ ตาสํ ตาสานํ ส. ติสสฺ ํ ตสฺสํ อสสฺ ํ นสฺสํ นายํ ตายํ นาสุ ตาสุ เอโส - น่นั เอตสทฺทปทมาลา (ปํุ) เอกวจนะ พหุวจนะ ป. เอโส เอเต ท.ุ เอตํ (เอนํ) เอเต ต. เอเตน เอเตหิ เอเตภิ
นามคณะ 111 เอกวจนะ พหวุ จนะ จ. เอตสฺส เอเตสํ เอเตสานํ ม.ี เอตมฺหา เอตสฺมา เอเตหิ เอเตภิ ฉ. เอตสสฺ เอเตสํ เอเตสานํ ส. เอตมฺหิ เอตสฺมึ เอเตสุ เอตสททฺ ปทมาลา (นป)ํุ เอกวจนะ พหุวจนะ ป. เอตํ เอตานิ ทุ. เอตํ เอตานิ ต. เอเตน เอเตหิ เอเตภิ รูปทเ่ี หลอื แจกเหมือนในปุงลิงค์ เอตาสททฺ ปทมาลา (อติ ถีลงิ ค์) เอกวจนะ พหวุ จนะ ป. เอสา เอตา เอตาโย ทุ. เอตํ เอตา เอตาโย ต. เอตาย เอตาหิ เอตาภิ จ. เอตสิ ฺสาย เอติสฺสา เอตาย เอตาสํ เอตาสานํ ม.ี เอตาย เอตาหิ เอตาภิ ฉ. เอติสฺสาย เอตสิ ฺสา เอตาย เอตาสํ เอตาสานํ ส. เอตสิ ฺสํ เอตายํ เอตาสุ ขอ้ ควรทราบ ตา ศัพท์ อิตถลี งิ ค์ ใน นํ วภิ ตั ติ รปู วา่ อาสํ มใี ช้นอ้ ย สว่ น ตฺย สพั พนาม แจกปท- มาลาเหมอื น ต ศัพท์
112 สัททสงั เขป สูตรทใี่ ช้ท�ำตวั รปู ต ศัพท์ ๑. แปลง ต ของ เอต และ ต ศัพท์ เปน็ ส = เอตเตสํ โต ๒. หลงั จากสพั พนาม แปลง โย ปฐมา เปน็ เอ = สพฺพนามการเต ปโม ๓. แปลง ต สัพพนามเป็น น = ตสสฺ วา นสฺตํ สพพฺ ตฺถ ๔. เพราะ ส, สมฺ า, สมฺ ึ, สํ, สา วิภตั ติ แปลง ต เป็น อ = สสมฺ าสมฺ ึสสํ วฺ ตตฺ ํ ๕. เพราะ นํ วิภัตตใิ นอิตถีลิงค์ แปลง อ เปน็ เอ = สพพฺ นามมานํ นํมหฺ ิ จ ๖. เพราะ สํ, สา เอกวจนะ ลง สฺ อาคม = สสํ าเสฺวกวจเนสุ จ ๗. แปลง ส วิภัตตทิ ีอ่ ยู่หลงั จาก ตา, เอตา, อิมา เปน็ สฺสาย = ตโต สสฺส สสฺ าย ๘. หลงั จาก ฆ, ป แปลง สฺมึ เป็น สํ, ส วภิ ัตตเิ ป็น สา = ฆปโต สฺมสึ านํ สํสา ๙. หลงั จาก ฆ, ป แปลง สมฺ ึ วภิ ตั ติ เปน็ ยํ = ฆปโต สฺมึ ยํ วา ๑๐. หลังจาก ฆ แปลง นา วภิ ัตติเปน็ ตน้ เป็น อาย = ฆโต นาทนี ํ ๑๑. เพราะ ส,ํ สา เอกวจนะ แปลง อา ท่ี ตา เป็น อิ = ตสสฺ า วา ๑๒. เพราะ สํ, สา เอกวจนะ แปลง อา ท่ี เอตา และ อิมา เป็น อิ = เอติมาสมิ อยํ - น้ี อิมสทฺทปทมาลา (ปุ)ํ เอกวจนะ พหุวจนะ ป. อยํ อิเม ท. อิมํ อเิ ม ต. อเนน อิมินา เอหิ เอภิ อเิ มหิ อิเมภิ จ. อสสฺ อิมสฺส เอสํ เอสานํ อิเมสํ อิเมสานํ มี. อสมฺ า อมิ มหฺ า อมิ สฺมา เอหิ เอภิ อเิ มหิ อเิ มภิ ฉ. อสสฺ อิมสฺส เอสํ เอสานํ อเิ มสํ อเิ มสานํ ส. อสฺมึ อมิ มฺหิ อิมสฺมึ เอสุ อิเมสุ
นามคณะ 113 อิมสทฺทปทมาลา (นป)ํุ เอกวจนะ พหุวจนะ ป. อิทํ อมิ ํ อมิ านิ ท.ุ อิทํ อิมํ อมิ านิ รูปที่เหลือเหมอื นกบั ปุลํ ิงค์ ฯ อมิ าสททฺ ปทมาลา (อติ ถีลงิ ค)์ เอกวจนะ พหุวจนะ ป. อยํ อิมา อมิ าโย ท.ุ อมิ ํ อิมา อิมาโย ต. อมิ าย อมิ าหิ อิมาภิ จ. อสฺสาย อิมสิ ฺสาย อสฺสา อมิ ิสฺสา อมิ าย อิมาสํ อิมาสานํ ม.ี อมิ าย อิมาหิ อมิ าภิ ฉ. อสฺสาย อิมสิ สฺ าย อสสฺ า อิมิสฺสา อมิ าย อิมาสํ อิมาสานํ ส. อสฺสํ อมิ สิ สฺ ํ อิมายํ อิมาสุ อสุ - โนน้ อมุสททฺ ปทมาลา (ปํ)ุ เอกวจนะ พหุวจนะ ป. อสุ อมุ อมู ท.ุ อมุํ อมู ต. อมุนา อมูหิ อมูภิ อมุหิ อมภุ ิ จ. อมสุ ฺส อทสุ ฺส อมสู ํ อมสู านํ อมุสํ อมสุ านํ ม.ี อมุมหฺ า อมสุ ฺมา อมหู ิ อมูภิ อมหุ ิ อมภุ ิ ฉ. อมุสฺส อทุสฺส อมสู ํ อมูสานํ อมุสํ อมุสานํ ส. อมมุ ฺหิ อมุสมฺ ึ อมสู ุ อมสุ ุ
114 สทั ทสงั เขป อมสุ ทฺทปทมาลา (นปํ)ุ เอกวจนะ พหุวจนะ ป. อทุํ อมู อมนู ิ ท. อทํุ อมู อมูนิ รูปที่เหลอื เหมือนในปงุ ลิงค์ อมุสททฺ ปทมาลา (อิตถลี ิงค์) เอกวจนะ พหุวจนะ ป. อสุ อมุ อมู อมโุ ย ท.ุ อมํุ อมู อมโุ ย ต. อมุยา อมหู ิ อมภู ิ อมุหิ อมภุ ิ จ. อมสุ ฺสา อมุยา อมสู ํ อมูสานํ อมุสํ อมุสานํ มี. อมยุ า อมูหิ อมูภิ อมหุ ิ อมุภิ ฉ. อมสุ ฺสา อมุยา อมูสํ อมูสานํ อมสุ ํ อมุสานํ ส. อมุสฺสํ อมยุ ํ อมูสุ อมุสุ ๑. เพราะ สิ วภิ ตั ติ แปลง อิม ศัพท์ที่ไมใ่ ช่ นปํุ เปน็ อยํ = อนุปํสกสฺสายํ สิมฺหิ ๒. เพราะ นา วิภตั ติ แปลง อิม ศัพท์ทีไ่ มใ่ ช่ อติ ถีลิงคเ์ ปน็ อน และ อมิ ิ = อนมิ ิ นามฺหิ จ ๓. เพราะ สุ, น,ํ หิ วภิ ัตติ แปลง อมิ ที่ไมใ่ ช่อิตถลี ิงค์ เป็น เอ = สพพฺ สฺสมิ สฺเส วา ๔. เพราะ ส, สฺมา, สมฺ ึ, สํ, สา แปลง อิม เป็น อ = อิมสทฺทสสฺ จ ๕. เพราะ สํ, สา และ สฺสาย เอกวจนะ แปลง อ ของ อิม เป็น อิ = เอตมิ าสมิ
นามคณะ 115 นปงุ สกลงิ ค์ ๖. เพราะ อํ และ สิ วิภัตติ แปลง อิม กับวิภัตติเป็น อิทํ = อิมสฺสิทมํสิสุ นปุสํ เก อมศุ ัพท์ ๗. เพราะ สิ วภิ ตั ติ แปลง ม ของ อมุ เป็น ส = อมุสฺสโม สํ ๘. เพราะ อํ และ สิ วิภตั ติ แปลง อมิ กบั วภิ ตั ติเป็น อทุํ = อมสุ สฺ าทุํ ข้อควรทราบ ต ศัพท์ แปลว่า น้ัน ส�ำหรับใช้ในท่ี ไกล, เอต ศัพท์ แปลว่า นั่น ใช้ในที่ไม่ใกล้ ไมไ่ กล, อิม ศพั ท์ แปลว่า นี้ ใชใ้ นทใ่ี กล้ การก�ำหนดใชเ้ ชน่ น้ี ยงั ไมแ่ นน่ อน เพราะ เอต ศัพท์ ตามคัมภีร์ไวยากรณใ์ ช้ในท่ีไมไ่ กล แต่ในพระวนิ ัย เอต ศพั ท์มีใช้ในท่ไี กล เช่น เอตํ สฆํ าฏึ อธฏิ ฺาม.ิ กึสททฺ ปทมาลา (ปํ)ุ เอกวจนะ พหุวจนะ ป. โก เก ทุ. กํ เก ต. เกน เกหิ เกภิ จ. กสฺส กิสฺส เกสํ เกสานํ มี. กมหฺ า กสฺมา เกหิ เกภิ ฉ. กสฺส กิสฺส เกสํ เกสานํ ส. กมหฺ ิ กมิ หฺ ิ กสฺมึ กสิ ฺมึ เกสุ
116 สทั ทสังเขป กึสททฺ ปทมาลา (นปุํ) เอกวจนะ พหวุ จนะ ป. กึ กานิ ทุ. กึ กานิ รปู ท่เี หลอื เหมือนในปงุ ลงิ ค์ กาสททฺ ปทมาลา (อิตถีลิงค์) เอกวจนะ พหวุ จนะ ป. กา กา กาโย ท.ุ กํ กา กาโย ต. กาย กาหิ กาภิ จ. กสสฺ า กาย กาสํ กาสานํ มี. กาย กาหิ กาภิ ฉ. กสฺสา กาย กาสํ กาสานํ ส. กสสฺ ํ กายํ กาสุ สูตรทใี่ ช้ท�ำตวั รูป ๑. เพราะวิภตั ติทง้ั หลาย แปลง กึ เปน็ ก = เสเสสุ จ ๒. เพราะพยัญชนะหลัง ลบนคิ คหิต = พยญฺชเน จ ๓. เพราะสระหลงั ลบนคิ คหติ = กวฺ จิ โลปํ กึ ศพั ทท์ ีม่ ี จิ นิบาตอยหู่ ลัง มอี รรถ อปปฺ ก แปลว่า นอ้ ย
นามคณะ 117 กึสททฺ จอิ นฺตปทมาลา ปํุ อติ ฺ เอกวจนะ พหุวจนะ เอกวจนะ พหุวจนะ ป. โกจิ เกจิ กาจิ กาโยจิ ทุ. กญจฺ ิ เกจิ กญฺจิ กาโยจิ ต. เกนจิ เกหจิ ิ กายจิ กาหิจิ จ. กสสฺ จิ เกสญฺจิ กายจิ กสฺสาจิ กาสญฺจิ ม.ี กสฺมาจิ เกหิจิ กายจิ กาหิจิ ฉ. กสสฺ จิ เกสญฺจิ กายจิ กสฺสาจิ กาสญฺจิ ส. กสมฺ ญิ จฺ ิ กิสมฺ ญิ ฺจ ิ เกสุจิ กายญฺจิ กสสฺ ญจฺ ิ กาสจุ ิ กึสททฺ จอิ นฺตปทมาลา (นปํ)ุ เอกวจนะ พหุวจนะ ป. กญิ ฺจิ กานจิ ิ ทุ. กญิ จฺ ิ กานจิ ิ รูปท่เี หลอื เหมือนในปงุ ลิงค์ กึ ศัพท์ท่มี ี ย อยู่หนา้ มี จิ อย่หู ลัง มอี รรถ สกล (ทง้ั หมดท้งั ส้ิน) แปลวา่ คนใด คนหนึง่ หรือ สิ่งใดสง่ิ หนง่ึ กสึ ททฺ ยปุพพฺ จอิ นตฺ สทฺทปทมาลา เอกวจนะ ปุํ เอกวจนะ อิตฺ ป. โย โกจิ พหุวจนะ ยา กาจิ พหวุ จนะ ท.ุ ยํ กญฺจ ิ ยํ กญฺจ ิ ต. เยน เกนจิ เย เกจ ิ ยาย กายจิ ยา กาจิ, ยาโย กาโยจิ เย เกจิ ยา กาจิ, ยาโย กาโยจิ เยหิ เกหจิ ิ ยาหิ กาหจิ ิ
118 สัททสงั เขป ปุ ํ อติ ฺ พหุวจนะ เอกวจนะ เอกวจนะ พหุวจนะ จ. ยสสฺ กสสฺ จิ เยสานํ เกสานํจิ, เยสํ เกสญจฺ ิ ยสสฺ า กสฺสาจ,ิ ยาสํ กาสญจฺ ิ มี. ยสมฺ า กสมฺ าจ,ิ เยหิ เกหจิ ิ ยาย กายจิ ยมหฺ า กมฺหาจิ ยาย กายจิ ยาหิ กาหิจิ ฉ. ยสสฺ กสฺสจิ เยสํ เกสญฺจ,ิ เยสานํ เกสานจํ ิ ยสสฺ า กสฺสาจิ, ยาสํ กาสญจฺ ิ ส. ยสมฺ ึ กสฺมิญจฺ ,ิ เยสุ เกสจุ ิ ยาย กายจิ ยาสุ กาสจุ ิ ยสฺมึ กิสฺมิญจฺ ิ ยสฺสํ กสฺสญฺจิ, ยายํ กายํจิ กึสททฺ ยปพุ ฺพ จิอนตฺ สททฺ ปทมาลา (นปุ)ํ เอกวจนะ พหุวจนะ ป. ยํ กญิ ฺจิ ยานิ กานิจิ ท.ุ ยํ กิญจฺ ิ ยานิ กานจิ ิ รูปที่เหลอื เหมอื นกบั ปลํุ ิงค์ คาถา กึ ศัพท์ จินฺโต กาโก จ กสึ ทโฺ ท อปปฺ กตฺถสสฺ วาจโก, ยการยุตฺโต อาทมิ ฺหิ สกลตถฺ สสฺ วาจโก, อจินฺโต จ อยาทิ จ ปจุ ฉฺ า วาจกสมฺมโต. กา ศัพท์ โก ศัพท์ และ กึ ศพั ท์ ทม่ี ี จิ อยหู่ ลงั กลา่ วอรรถว่า อปปฺ = น้อย หากมี ย อยูห่ น้า และมี จิ อย่หู ลัง กล่าวอรรถว่า สกล = ทงั้ หมดทั้งสน้ิ ถา้ ไมม่ ี จิ อยู่หลงั ไม่มี ย อยูห่ น้า กก็ ลา่ วอรรถ ปุจฉฺ า = ค�ำถาม
นามคณะ 119 กึ ศพั ท์ท่ปี ระกอบกับ นามศัพท์ ปุงลิงค์ แจกเป็น กึนาโม, โกนาโม นปุงสกลงิ ค์ แจกเปน็ กึนาม,ํ กํนามํ อิตถลี ิงค ์ แจกเปน็ กนึ ามา, กานามา เปน็ ตน้ (สทั ทนตี ิ กลา่ ววา่ แจกไดท้ กุ วภิ ตั ต)ิ นอกจากรูป กึนาโม, โกนาโม ในพระไตรปิฎกมีใช้นอ้ ย ฯ เอกศัพท์มีอรรถมาก เอโก ตีสุ สงฺขยฺ าตุลยฺ า- ตุลยฺ าสหายมิสสฺ เน เสฏฺ ญฺ สจฺจมุขเฺ ยสุ อปปฺ มฺหิ เกวเลปิ จ. เอก ศัพท์ มอี รรถสังขยา ตลุ ฺย (เหมือน), อตุลยฺ (ไม่เหมอื น), อสหาย (ไม่มสี หาย), มสิ ฺสน (อรรถผสม), เสฏฺ (อรรถประเสรฐิ ), อญฺ (อน่ื ), สจจฺ (จริง), มุขยฺ (ประธาน), อปฺป (น้อย), เกวล (อยา่ งเดยี ว, ลว้ นๆ) เอกสทฺทปทมาลา (อรรถสงฺขยฺ าเปน็ ต้น) ปํุ นปุํ อิตฺถี เอกา ป. เอโก เอกํ เอกํ ท.ุ เอกํ เอกานิ เอกาย ต. เอเกน เอเกน เอกสิ ฺสา เอกาย จ. เอกสฺส เอกสสฺ เอกาย ม.ี เอกมฺหา เอกสมฺ า เอกมหฺ า เอกสมฺ า เอกสิ สฺ า เอกาย ฉ. เอกสสฺ เอกสสฺ เอกสิ ฺสํ เอกายํ ส. เอกมฺหิ เอกสมฺ ึ เอกมหฺ ิ เอกสฺมึ เอกศัพทม์ ี อรรถ อญฺ (อืน่ ๆ) มีเฉพาะพหวุ จนะเท่านั้น แจกเหมอื น สพฺพ ศพั ท์ พหวุ จนะ ทงั้ ๓ ลงิ ค์
120 สทั ทสังเขป ปํุ นปุํ อิตฺถี พหุวจนะ พหวุ จนะ พหวุ จนะ เอกา เอกาโย เอกา เอกาโย ป. เอเก เอกานิ เอกาหิ เอกาภิ ท.ุ เอเก เอกานิ เอกาสํ เอกาสานํ ต. เอเกหิ เอเกภิ เอเกหิ เอเกภิ เอกาหิ เอกาภิ จ. เอเกสํ เอเกสานํ เอเกสํ เอเกสานํ เอกาสํ เอกาสานํ มี. เอเกหิ เอเกภิ เอเกหิ เอเกภิ เอกาสุ ฉ. เอเกสํ เอเกสานํ เอเกสํ เอเกสานํ ส. เอเกสุ เอเกสุ เอกศัพทอ์ รรถ มสิ สฺ น (ผสมกนั ) ไมใ่ ชส่ พั พนาม มีทงั้ เอกพจนแ์ ละพหพุ จน์ ๓ ลิงค์ แจกปทมาลาตาม ปุริส, จติ ฺต, กญฺ า ศัพท์ สว่ นอรรถ เสฏฺ และ สจจฺ เป็นตน้ ในไวยากรณ์ ไมแ่ สดงไวว้ า่ แจกปทมาลาตามนาม หรอื สพั พนาม แตพ่ บในพระบาลมี รี ปู เหมอื น นามนาม ใน ลิงค์ทัง้ ๓ มี ปรุ ิส เป็นต้น ลง ก อาคมหลัง เอก ศัพทม์ ีรปู เปน็ เอกโก แจกตาม ปรุ สิ าทิคณะ, เอกกํ แจกตาม จติ ตาทคิ ณะ, เอกกิ า แจกเหมือน กญั ญาทคิ ณะ ทง้ั เอกวจนะ และพหวุ จนะ ลง กากี ปัจจัย หลงั เอก ศพั ทม์ รี ูปเป็น เอกากี แจกเหมอื น ทณฑฺ ี ปงุ ลงิ ค,์ เอกากิ แจกเหมือน นปงุ สกลงิ ค์, เอกากนิ ี แจกเหมือน ทณฺฑินี อติ ถลี ิงค์ทง้ั ๒ วจนะ รปู เอเกโก (ปุ)ํ , เอเกกํ (นปุํ), เอเกกา (อิตถีลงิ ค)์ เป็นค�ำวิจฉา (การกลา่ วซำ้� วา่ เอก, เอก) อยา่ งหนง่ึ แจกเหมือน เอก ศัพท์ สพั พนาม เป็นเอกวจนะอยา่ งเดียว ท้งั ๓ ลิงค์ รูป เอกโก (ลง ก อาคม) กบั รปู เอเกโก (วิจฉฺ า) น้ันมเี นอ้ื ความต่างกนั ท่ีลง ก อาคม หมายถงึ คนเดียว ส่ิงเดียว เช่น เอกโก (ชาย) คนเดียว, เอกกํ (ตระกลู ) ๆ เดยี ว, เอกกิ า (หญงิ ) คนเดยี ว, รูปวจิ ฉา หมายถงึ หลายคนหลายสง่ิ เช่น เอเกโก คนหนงึ่ ๆ หรอื ทกุ ๆ คน, เอเกกํ ตระกลู หน่งึ ๆ หรอื ทุก ๆ ตระกูล, เอกกิ า หญงิ คนหนงึ่ ๆ หรอื หญิงทุก ๆ คน อุภ ศพั ท์ เปน็ พหุวจนะอยา่ งเดยี ว มรี ปู เหมอื นกันทงั้ ๓ ลิงค์
นามคณะ 121 อภุ - สอง อุภสทฺทปทมาลา ๓ ลงิ ค์ พหวุ จนะ ป. อุโภ อเุ ภ ท.ุ อโุ ภ อเุ ภ ต. อุโภหิ อุโภภิ อุเภหิ อเุ ภภิ จ. อภุ ินนฺ ํ ม.ี อุโภหิ อโุ ภภิ อุเภหิ อเุ ภภิ ฉ. อุภนิ ฺนํ ส. อุโภสุ อุภย ศัพท์ แจกปทมาลาเหมือน สพฺพศัพท์ท้ัง ๓ ลิงค์ แต่ในปุงลิงค์ โย วิภัตติ มรี ปู พิเศษกวา่ สพฺพ ศัพท์ โดยแปลง โย เปน็ โอ ดว้ ย ตุ ศพั ทใ์ นสตู ร ตโต โยนโม ตุ จึงมไี ด้ ๒ รปู (อุภโย อุภเย) รปู ว่า อภุ เย (ในคมั ภรี ์สัททนตี ิ ไม่มี) แต่ในพระบาลีมีรปู ว่า “อุภเย เทวมนุสสฺ า” อภุ ย ศพั ทใ์ น นปุงสกลิงค์ อาจารยไ์ วยากรณท์ ้ังหลาย ไมไ่ ดแ้ สดงไว้ แต่ใน พระบาลีมีรูปว่า “อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ” (อุภย ศัพท์นี้มีอรรถเท่า อุภ ศัพท์ แปลว่า สอง) สงั ขยา ตัง้ แต่ ทฺวิ (๒) ถงึ ปญฺจ (๕) เป็นพหวุ จนะอย่างเดียว ทวฺ ิ และ ปญจฺ มรี ปู เหมอื นกนั ทง้ั ๓ ลิงค์ กติศัพท์ (เท่าไร) ในพระไตรปิฎกมีใช้มาก และอาจารย์บางท่านกล่าวว่าเป็น สัพพนาม แต่คัมภีร์ไวยากรณ์ต่าง ๆ ไม่กล่าวว่าเป็นสัพพนาม กติศัพท์ เป็นพหุวจนะ อยา่ งเดยี ว แจกเหมอื น ทวฺ ิ ศพั ท์ ทวฺ ปิ ทมาลา ๓ ลงิ ค์ กตปิ ทมาลา ๓ ลิงค์ พหวุ จนะ พหวุ จนะ ป. เทวฺ ทุเว กติ (ปุรสิ า) ท.ุ เทฺว ทเุ ว กติ (ปุริเส) ต. ทวฺ ีหิ ทวฺ ภี ิ กติหิ กติภิ (ปรุ ิเสหิ)
122 สัททสงั เขป ทวฺ ิปทมาลา ๓ ลิงค์ กติปทมาลา ๓ ลงิ ค์ พหวุ จนะ พหวุ จนะ จ. ทวฺ ินฺนํ ทุวนิ ฺนํ กตนิ ฺนํ (ปรุ ิสาน)ํ มี. ทวฺ ีหิ ทฺวีภิ กตหิ ิ กตภิ ิ (ปุริเสหิ) ฉ. ทวฺ ินนฺ ํ ทุวนิ นฺ ํ กตินนฺ ํ (ปุริสานํ) ส. ทฺวสี ุ ทวุ ีสุ กตสิ ุ (ปุริเสส)ุ ตสิ ททฺ ปทมาลา พหุวจนะ ปุงลิงค์ นปุงสกลงิ ค์ อิตถีลงิ ค์ ป. ตโย ตีณิ ติสโฺ ส ทุ. ตโย ตีณิ ติสโฺ ส ต. ตหี ิ ตภี ิ ตีหิ ตภี ิ ตีหิ ตีภิ จ. ติณณฺ ํ ติณฺณนฺน ํ ติณฺณํ ติณฺณนฺนํ ตสิ สฺ นนฺ ํ ม.ี ตีหิ ตภี ิ ตีหิ ตภี ิ ติหิ ตภี ิ ฉ. ตณิ ฺณํ ตณิ ฺเณนนฺ ํ ตณิ ณฺ ํ ตณิ ฺณนฺนํ ติสสฺ นฺนํ ส. ตสี ุ ตสี ุ ตสี ุ จตุสทฺทปทมาลา ๓ ลิงค์ ปงุ ลิงค์ - พหุวจนะ อิตถลี งิ ค์ - พหุวจนะ ป. จตตฺ าโร จตุโร จตสโฺ ส ท.ุ จตฺตาโร จตโุ ร จตสโฺ ส ต. จตหู ิ - ภ,ิ จตุหิ - ภ,ิ จตพุ ภฺ ิ จตหู ิ - ภ,ิ จตุหิ - ภ,ิ จตพุ ฺภิ จ. จตุนฺนํ จตสฺสนฺนํ มี. จตูหิ - ภิ, จตหุ ิ - ภ,ิ จตุพฺภิ จตหู ิ - ภิ, จตุหิ - ภ,ิ จตพุ ภฺ ิ ฉ. จตนุ นฺ ํ จตสสฺ นนฺ ํ ส. จตสู ุ จตสุ ุ จตูสุ จตุสุ นปุงสกลงิ ค์ ป. จตฺตาริ, ท.ุ จตตฺ าริ รปู ทเ่ี หลอื เหมือนในปุงลิงค์
นามคณะ 123 สูตรท่ใี ชท้ �ำตัวรปู ๑. เพราะ โย วิภตั ติ แปลง ทฺวิ กับ โย เปน็ เทฺว = โยสุ ทวฺ ินนฺ ํ เทฺว จ ๒. เพราะ โย วภิ ตั ติ แปลง ทฺวิ กบั โย เป็น ทเุ ว = จ ศัพทใ์ นสูตร โยสุ ทวฺ นิ ฺนํ เทฺว จ ๓. ในเพราะ นํ วิภัตติ แปลง ทฺวิ เป็น ทวุ ิ = จ ศพั ทใ์ นสตู ร โยสุ ทวฺ นิ ฺนํ เทวฺ จ ๔. ในเพราะ นํ ลง นฺ อาคม = โน จ ทฺวาทิโต นมํ หฺ ิ ๕. ในเพราะ โย วภิ ตั ติ แปลง ติ กบั โย เปน็ ตสิ โฺ ส, จตสโฺ ส (อติ )ฺ , ตโย, จตตฺ าโร (ป)ํุ , ตีณิ, จตฺตาริ (นปุํ) = ตจิ ตนุ นฺ ํ ติสฺโสจตสโฺ สตโยจตฺตาโรตีณิจตฺตาริ ๖. ในอติ ถลี ิงค์ เพราะ นํ วภิ ัตติ ลง สฺ อาคม = จ ศพั ท์ในสตู ร โน จ ทฺวาทโิ ต นํมหฺ ิ ปญฺจ (๕) เป็น พหูพจน์อย่างเดยี ว มรี ูปเหมือนกนั ท้งั ๓ ลิงค์ ปญฺจสทฺทปทมาลา ป. ปญฺจ ทุ. ปญจฺ ต. ปญฺจหิ ปญจฺ ภิ จ. ปญฺจนฺนํ ม.ี ปญฺจหิ ปญฺจภิ ฉ. ปญฺจนนฺ ํ ส. ปญฺจสุ สังขยา ตง้ั แต่ ฉ (๖) เป็นต้น ถึง อฏฺ ารส (๑๘) แจกปทมาลา เหมือนกับ ปญฺจ สงั ขยา ตงั้ แต่ เอกนู วสี ติ (๑๙) มวี จนะ และวภิ ตั ตแิ ตกตา่ งกนั ออกไป จะก�ำหนดไดด้ ว้ ย คาถานี้ ทฺวาทโย อฏฺารสนฺตา ตลิ ิงเฺ ค พหวุ าจกา, วสี ตฺยาที นวุตฺยนฺตา อิตฺถลี งิ เฺ คกวาจกา. สตาที อสงฺเขฺยยฺยนฺตา นปุสํ กา ทวฺ ิวาจกา, โกฎติ ยฺ มกโฺ ขภิณี อติ ถฺ ีลิงฺคา ทวฺ ิวาจกา. สังขยาท้ังหลายมี ทฺวิ เป็นต้น ถึง อฏฺารส เป็นพหุวจนะ ในลิงค์ท้ัง ๓ ตั้งแต่ เอกูนวสี ติ ถึง นวนวุติ เปน็ เอกวจนะ อติ ถลี งิ ค์เท่านัน้ , ต้งั แต่ เอกนู สตํ ถึง อสงเฺ ขยฺ ยฺย เป็น
124 สทั ทสงั เขป นปุงสกลงิ ค์ ๒ วจนะ, โกฏิ, ปโกฏ,ิ โกฎิปโกฎิ และ อกโฺ ขภิณี เป็นอติ ถลี งิ ค์ ๒ วจนะ ฯ หมายเหตุ ท่กี ล่าวว่า สตํ และ โกฏิ เปน็ ต้น มี ๒ วจนะน้นั หมายเอาในขณะแยกกนั เปน็ ๒ พวก เชน่ เทวฺ วสี ตโิ ย, เทวฺ โกฏโิ ย เปน็ ตน้ แตห่ ากวา่ กลา่ วเนื้อความ \"หนง่ึ \" เชน่ สตํ หนง่ึ รอ้ ย, โกฏิ หน่งึ โกฏิ เป็นตน้ ก็เป็นเอกวจนะแน่นอน วสี ติ ในคาถาหมายเอาตัง้ แต่ เอกูนวีสติ ขน้ึ ไป, นวุติ หมายเอา นวนวตุ ิ (๙๙) รูปนี้ มีใชม้ ากในอรรถกถา เชน่ \"นวนวุติกปฺเป\" เป็นต้น, สว่ น สตํ หมายเอาตัง้ แต่ เอกนู สตํ (๙๙) ข้ึนไป วีสติสททฺ ปทมาลา อิตถีลิงค์ เอกวจนะ ป. วสี ติ ทุ. วีสตึ ต. วสี ตยิ า จ. วสี ตยิ า มี. วสี ติยา ฉ. วีสติยา ส. วสี ติยํ สงั ขยาทเี่ ปน็ เอกวจนะอยา่ งเดยี ว เชน่ สตํ เมอ่ื ตอ้ งการกลา่ วถงึ หลาย ๆ รอ้ ย ตอ้ งแยก ออกเป็น ๒ พวก แล้วลง โย วิภตั ติ เปน็ เทฺว สตานิ เป็นต้น แยกพวกกันเปน็ พหุวจนะ ป. เทวฺ วีสติโย ทุ. เทฺว วีสตโิ ย ต. ทวฺ ีหิ วสี ตีหิ จ. ทวฺ ินนฺ ํ วสี ตนี ํ ปญฺ. ทวฺ ีหิ วสี ติหิ ฉ. ทฺวนิ ฺนํ วสี ตีนํ ส. ทวฺ ีสุ วีสตสี ุ
นามคณะ 125 ตมุ ฺหสทฺทปทมาลา เอกวจนะ พหุวจนะ ป. ตวฺ ํ ตวุ ํ ตุมฺเห โว ทุ. ตวํ ตํ ตวฺ ํ ตุวํ ตุมฺหากํ ตมุ เฺ ห โว ต. ตยา ตวฺ ยา เต ตมุ ฺเหหิ ตุมฺเหภิ โว จ. ตุมหฺ ํ ตว เต ตยุ ฺหํ ตุมหฺ ากํ ตุมหฺ ํ โว ปญฺ. ตยา ตวฺ ยา ตุมฺเหหิ ตมุ เฺ หภิ ฉ. ตมุ ฺหํ ตว เต ตยุ ฺหํ ตุมหฺ ากํ ตุมฺหํ โว ส. ตยิ ตวฺ ยิ ตุมฺเหสุ อมฺหสททฺ ปทมาลา เอกวจนะ พหุวจนะ ป. อหํ มยํ อมฺเห โน ท.ุ มํ มมํ อมฺหากํ อมฺเห โน ต. มยา เม อมฺเหหิ อมเฺ หภิ โน จ. อมฺหํ มม มยหฺ ํ มมํ เม อมฺหํ อมหฺ ากํ อสมฺ ากํ โน ปญ.ฺ มยา อมเฺ หหิ อมเฺ หภิ ฉ. อมหฺ ํ มม มยหฺ ํ มมํ เม อมฺหํ อมฺหากํ อสมฺ ากํ โน ส. มยิ อมฺเหสุ อสฺเมสุ อธบิ าย ตุมฺห และ อมฺห ศัพท์ เหมอื นกนั ในลงิ คท์ ้งั ๓ เช่น ตฺวํ อ.ทา่ น ผชู้ าย อ. ท่าน ผหู้ ญงิ อ.ทา่ น ตระกูล ดงั น้นั จงึ เรียกวา่ อลิงค์ เพราะไมเ่ ปน็ ที่สงั เกตว่า เปน็ ปงุ ลิงค์ อติ ถีลงิ ค์ และนปุงสกลิงค์ แตม่ ใี ช้ ไมม่ ลี ิงค์ตามท่ีกลา่ วว่า ลงิ คฺ ญจฺ นปิ ปฺ จฺจเต วิธีท�ำตัวรูปของ ตุมฺห และ อมฺห ศัพท์น้ี พิสดารมาก จะไม่แสดงไว้ในท่ีนี้ และ ขอใหน้ ักศกึ ษาพึงทราบวา่ แปลง ตมุ หฺ และ อมหฺ ศพั ท์ กับวิภัตตนิ นั้ ๆ รวมกนั แลว้ ส�ำเร็จรปู ตามวิภัตติน้นั ๆ
126 สัททสงั เขป ๖๘. ปจั จยั ใช้ในอรรถของวิภัตตินาม ๑๕ ตวั สพฺพาทโิ ต โต ตฺร ถ ธิ ว หึ หํ ห ธ หิญฺจนํ, ทา ทาจนํ ทานิ รหิ ธุนาติ ทส ปญฺจ จ. สพพฺ าทิโต หมายเอาถงึ สพฺพ, ย, ต, เอต. อมิ , และ กึ ศพั ท์ ลง โต ปัจจยั หลงั จาก สพพฺ าทิ ได้ทัง้ หมด ลง ตฺร, ถ, ธิ และ ทา ปจั จัยหลงั จาก สพพฺ ศัพท์ เปน็ สพพฺ โต, สพฺพตฺร, สพพฺ ตฺถ, สพฺพธ,ิ สพฺพทา (สทา) ลง ตรฺ , ถ, หึ และ ทา ปัจจยั หลงั จาก ย สพั พนาม เป็น ยโต, ยตรฺ , ยตถฺ , ยหึ, ยทา ลง ตฺร, ถ, ห,ึ ห,ํ ทา, ทานิ ปัจจยั หลังจาก ต สัพพนาม เปน็ ตโต, ตตรฺ , ตตฺถ, ตห,ึ ตหํ, ตทา, ตทานิ ลง ตฺร และ ถ ปัจจยั หลังจาก เอต สพั พนาม เปน็ เอตโฺ ต, อโต, อตฺร, เอตฺถ, อตถฺ ลง ห, ธ, รหิ, ทานิ ธนุ า, ปจั จัยหลังจาก อิม ศัพท์ เปน็ อโิ ต, อหิ , อธิ , เอตรห,ิ อทิ าน,ิ อธนุ า ลง ตรฺ , ถ, ว, หึ, ห,ํ หิญฺจนํ ทาจน,ํ ทา และ รหิ ปจั จยั หลงั จาก กึ ศพั ท์ เป็น กุโต, กุตรฺ , กตุ ถฺ , กตถฺ , กวฺ , กุหึ, กุห,ํ กหํ, กหุ ิญฺจน,ํ กทุ าจนํ, กทา, กรหิ จบสัพพนาม จบนามคณะยอ่
อาขยาต 127 ๖๙. ค�ำน�ำอาขยาต ยํ ตกิ าลํ ตปิ รุ สิ ํ กฺรยิ าวาจิ ติการก,ํ อติลงิ คฺ ํ ทวฺ ิวจนํ ตทาขฺยาตนตฺ ิ วจุ ฺจต.ิ ยํ อ.บทใด ติกาลํ มีสามกาล ติปุริสํ มีบุรุษสาม กฺริยาวาจิ เป็นตัวกล่าวกิริยา ตกิ ารกํ มสี ามการกะ อติลิงคฺ ํ ไม่มลี งิ คท์ งั้ สาม ทฺววิ จนํ มสี องวจนะ (อตถฺ ิ มอี ยู)่ ตํ อ. บทนัน้ วจุ ฺจติ ย่อมถกู กลา่ ว อาขยฺ าตนตฺ ิ วา่ \"อาขยฺ าต\" ติกาลํ มสี ามกาล คือ อดตี กาลกม็ ี ปัจจบุ นั กาลก็มี อนาคตกาลก็มี เช่น อคจฉฺ ิ - ได้ไปแล้ว (อดตี กาล), คจฺฉติ - ยอ่ มไป (ปจั จุบนั ), คจฉฺ ิสสฺ ติ - จกั ไป (อนาคต) ติปุริสํ มีบุรุษสาม คือ ปฐมบุรุษ, มัชฌิมบุรุษ, อุตตมบุรุษ, ปฐมบุรุษ คือ บุคคล ที่เราพดู ถงึ , มัชฌมิ บุรษุ คือ บุคคลท่กี �ำลังพดู อยู่กบั เรา, อุตตมบุรุษ คือ ตัวเรา กฺริยาวาจิ กล่าวกิริยา คือ กล่าวถึงกิริยาอาการโดยความเป็นประธาน ไม่กล่าวถึง ทัพพะวัตถุโดยความเปน็ ประธานเหมอื นกบั บทนาม เช่น คจฉฺ ามิ - ย่อมไป ในทนี่ ี้ กลา่ วถงึ กิริยาเป็นประธาน คือกล่าวถึงกิริยาการไปโดยตรง แต่เมื่อกล่าวถึงการไปแล้วก็เชื่อว่า กลา่ วถงึ ผไู้ ปโดยอ้อมด้วย (นามบทกล่าวถงึ ทพั พะ สว่ นอาขยาตกลา่ วถงึ กิริยา) ติการกํ มกี ารกะสาม คือ ภาวการกะ, กมั มการกะ, กัตตุการกะ เชน่ คจฺฉียเต - การ ไป (ภาวะ), คจฺฉยี เต - ยอ่ มถกู ไป (กัมมะ), คจฉฺ ติ - ย่อมไป (กตั ตุ) อตลิ งิ ฺคํ ไม่มีลิงคท์ ้ังสาม คือ ไม่เปน็ ทงั้ อติ ถีลิงค์ ปงุ ลงิ ค์ และนปงุ สกลิงค์เหมือนกบั นามบท ทวฺ ิวจนํ มีสองวจนะ คอื เอกพจน์ พหูพจน์ เช่น คจฺฉติ เป็นเอกพจน์, คจฉฺ นตฺ ิ เปน็ พหพู จน์ บทท่ีมีลกั ษณะทัง้ ๖ ตามท่ีกลา่ วมาน้ี ช่ือวา่ อาขยาตบท ผู้ช�ำนาญในนามปทมาลาและอาขยาตปทมาลา ก็ช่ือว่าช�ำนาญภาษาบาลีเกนิ ครึง่ แลว้ ดงั น้นั ข้าพเจ้าจึงจะแสดงอาขยาตปทมาลาตอ่ ไป เพอื่ ใหน้ กั ศึกษาทอ่ งจ�ำไว้ท้ังหมดโดยยอ่ (ทอ่ งเฉพาะรปู ส�ำเรจ็ เปน็ กริ ยิ าแลว้ เทา่ นน้ั บทวภิ ตั ตขิ า้ งหนา้ และขา้ งหลงั ไมต่ อ้ งทอ่ ง)
128 สัททสังเขป ขอ้ ควรทราบ ในอาขยาตปทมาลาน้ี ไม่ต้องท�ำวิธสี �ำเรจ็ รปู ทอ่ งใหจ้ �ำไดค้ ล่องปากกใ็ ช้ไดแ้ ล้ว และ ในขณะทอ่ ง จะใหเ้ ข้าใจไดง้ า่ ย ก็ต้องสงั เกตระเบียบดงั ตอ่ ไปนี้ ๑. ติ, มิ, ตุ, มิ, เอยฺย, เอยฺยาสิ, เอยฺยามิ, เอยฺยํ, เป็น เอ ๘ อย่าง วิภัตติ ๘ ตัวน้ี เมอื่ ส�ำเรจ็ รูปแลว้ มีรปู เป็น เอ ได้เช่น ภเว = ภ+ู อ+ติ ๒. อนฺติ, อนฺเต วิภัตติเป็น เร เฉพาะท่ีอยู่หลังจาก รัสสสระที่มีครุอยู่หน้า เช่น คจฉฺ เร (คจฺฉ + อนฺต)ิ คจฺ เป็น ครุ ซึง่ อยู่หน้าของ ฉ อนั เปน็ รสั สะ อภภิ ูยเร (อภภิ ยู + อนฺเต) ภู เปน็ ครุ อยูห่ น้าของ ย อันเปน็ รสั สะ, เม่อื มี อนตฺ ิ และ อนฺเตวิภตั ติท่อี ยู่หลังรัสสะเชน่ น้ี จึงเปน็ เร ได้, และอนตฺ ิ, อนฺเต ทเี่ ปน็ เร นี้ หมายเอา อนตฺ ิ, อนเฺ ต ในภวสิ สันตีวภิ ตั ติดว้ ย ๓. ในหิยยัตนีวิภัตติต้องลง อ อาคมหน้าธาตุ, ในปโรกขาวิภัตติ และ ภวิสสันตี วิภัตติต้องลง อิ อาคมหลังธาต,ุ ในอัชชตนวี ภิ ตั ตแิ ละกาลาติปตั ติวภิ ัตตติ อ้ งลงทั้ง อ อาคม หนา้ ธาตุและ อิ อาคมหลังธาตุ วิภัตติท่ีกล่าวมานีท้ ่ีไมล่ งอาคมกม็ ี ในปโรกขาวิภัตติและภวิสสันตีวิภัตติ ลง อิ อาคมได้เฉพาะที่มีวิภัตติเป็น พยัญชนะเท่านั้น เชน่ ตฺถวภิ ัตติ เรวิภัตติเป็นตน้ . ส่วนท่ีมวี ภิ ัตติท่ีเปน็ สระ เชน่ อ และ อุ เปน็ ต้น ไมต่ อ้ งลง อิ อาคม ๔. ในหยิ ยตนี และ อชั ชตนวี ภิ ตั ติ รสั สะ อา, อ,ี อ,ู มหฺ าวภิ ตั ติ เปน็ อ, อ,ิ อ,ุ มหฺ บา้ ง, โอ หิยยัตตนวี ภิ ัตติ เป็น อ, โอ อชั ชตนีวิภตั ติ เป็น อ,ิ ตถฺ หิยยัตตนีวภิ ัตติ เป็น ถ. อาอัชชตนี วิภตั ติ เป็น ตถฺ บ้าง, และในท่ีมี ตฺถา และ มหฺ าวภิ ัตตเิ บือ้ งหลงั ให้ลง อุ อาคมไดบ้ ้าง ๕. ในกาลาติปตั ตวิ ิภัตติใหร้ ัสสะ สสฺ าวิภตั ติ เปน็ สสฺ , สสามฺหา เปน็ สสามฺห, และ แปลง เอ ของ สเฺ สวภิ ตั ติ เปน็ อ บ้าง ๖. ธาตุท่ีไม่มีกรรม (ไม่มองหากรรม) มี ภูธาตุเป็นต้น ถ้ามี อภิ อุปสัค เป็นต้น อยู่ข้างหน้าก็เป็นธาตุมีกรรม ดังน้ันจึงจะแสดงกัมมวาจกด้วยภูธาตุท่ีมี อภิ อุปสัคอยู่หน้า มี อภิภูยเต เปน็ ต้น และกมั มวาจกน้ี จะต้องมีวิภตั ติเปน็ ฝา่ ยอัตตโนบท รูปกัมมวาจกทม่ี รี ปู เปน็ ปรสั สบทก็มี โดยแปลงวิภตั ตฝิ ่ายอัตตโนบท เปน็ ปรัสสบท เชน่ แปลง เต เป็น ติ ดังนั้น จึงจะแสดงที่เป็นรูปอัตตโนบทก่อน แล้วแสดงรูปท่ีเป็นปรัสสบทภายหลัง รปู อตั ตโนบท เปน็ ปรสั สบทนจ้ี ะแสดงเฉพาะในคณะแรกเทา่ นนั้ คณะตอ่ ๆ ไปจะไมแ่ สดงแลว้
อาขยาต 129 ๗. รูปภาววาจก มีเฉพาะวภิ ัตตฝิ า่ ยอตั ตโนบท ปฐมบุรษุ เอกพจน์เทา่ น้นั ๘. ปโรกขาวภิ ตั ตแิ ละกาลาตปิ ตั ตวิ ภิ ตั ตมิ ใี ชน้ อ้ ย พงึ อา่ นแลว้ สงั เกตไว้ สว่ นปทมาลา ของวภิ ัตติทเ่ี หลือ มใี ช้มาก จงท่องใหค้ ลอ่ งปากขนึ้ ใจ ๙. วภิ ตั ติ ๘ หมวดน้แี บ่งไดเ้ ปน็ ๓ กาล และมคี �ำแปลโดยยอ่ ดงั ต่อไปน้ี วัตตมานา - อยู่, ย่อม, จะ, ปญั จมี - จง, ขอจง, สัตตมี - ควร, พึง. ทั้งสามน้จี ดั เปน็ ปัจจบุ ันกาล ปโรกขา - แล้ว (นาน), หิยยตั ตนี - แล้ว (วานนี้), อชั ชตนี - แล้ว (วนั น้)ี ท้ังสามน้ี จดั เป็นอดีตกาล ภวสิ สนั ตี - จกั , กาลาตปิ ตั ติ - จกั ..แลว้ (อนาคตของอดตี ) ทงั้ สองนจ้ี ดั เปน็ อนาคตกาล จบค�ำน�ำอาขยาต ๗๐. อาขยาต หมบู่ ทอาขยาต ชอ่ื วา่ อาขยาตคณะ ปจั จยั ทที่ �ำใหธ้ าตแุ ตกตา่ งกนั เรยี กวา่ วกิ รณปจั จยั มี ๑๔ ตวั คือ อ, เอ และนิคคหิตอาคม, ย, ณ,ุ ณา, อุณา, นา, ปปฺ , ณฺหา, โอ, ยริ , เณ, ณยฺ . อาขยาตคณะน้ี เมื่อจ�ำแนกโดยวกิ รณปัจจัยแล้ว กม็ ี ๘ คณะ คือ ๑. ภวู าทิคณะ ลง อปจั จัย ๒. รุธาทคิ ณะ ลง อปัจจยั และนคิ คหติ อาคม ๓. ทวิ าทคิ ณะ ลง ยปัจจยั ๔. สวฺ าทิคณะ ลง ณุ, ณา และ อณุ าปัจจัย ๕. กยิ าทิคณะ ลง นาปัจจยั ๖. คหาทคิ ณะ ลง ปฺป และ ณฺหาปจั จัย ๗. ตนาทิคณะ ลง โอ และ ยิรปัจจยั ๘. จุราทิคณะ ลง เณ และ ณยปัจจัย (ตามล�ำดับสตู รดังนี้ ภวู าทโิ ต อ, รธุ าทโิ ต นิคคฺ หตี ปุพพฺ ญฺจ, ทวิ าทิโต โย, สฺวาทโิ ต ณณุ าอุณา จ, กิยาทิโต นา, คหาทโิ ต ปปฺ ณหฺ า, ตนาทโิ ต โอยิรา, จุราทิโต เณณยา)
130 สทั ทสงั เขป ๗๑. ภวู าทคิ ณะ หมู่บทน้ีส�ำเร็จรูปโดยลง อปัจจัย ด้วยสูตรว่า ภูวาทิโต อ ชื่อว่า ภูวาทิคณะ ๆ น้ี เปน็ ได้ ๓ วาจก คือ กตั ตุวาจก, กัมมวาจก และ ภาววาจก ภธู าต+ุ อปจั จัย+วตั ตมานาวภิ ตั ติ (กัตตุวาจก) ปรสั สบท เอกวจนะ พหุวจนะ ติ ภวต,ิ ภเว ภวนฺติ อนตฺ ิ สิ ภวสิ ภวถ ถ มิ ภวามิ, ภเว ภวาม ม อตั ตโนบท เอกวจนะ พหวุ จนะ เต ภวเต เส ภวเส ภวนเฺ ต อนเฺ ต เอ ภเว ภวเวฺห เวฺห ภวาเมหฺ เมหฺ กัมมวาจก เอกวจนะ พหุวจนะ อนเฺ ต เต อภภิ ูยเต อภิภยู นเฺ ต, อภภิ ูยเร เวฺห เส อภิภูยเส อภภิ ยู เวหฺ อาเมฺห เอ อภภิ เู ย อภิภูยาเมฺห
อาขยาต 131 แปลงอตั ตโนบทเป็นปรสั สบท เอกวจนะ พหวุ จนะ เต อภภิ ยู ติ อภิภยู นฺต,ิ อภิภยู เร อนฺเต เส อภิภยู สิ อภิภยู ถ เวฺห เอ อภภิ ยู ามิ อภิภยู าม เมฺห ภูธาต+ุ อปัจจัย+ปญั จมวี ิภัตติ (กัตตุวาจก) ปรสั สบท เอกวจนะ พหุวจนะ ตุ ภวต,ุ ภเว ภวนฺต ุ อนตฺ ุ หิ ภวาห,ิ ภว ภวถ ถ มิ ภวาม,ิ ภเว ภวาม ม อัตตโนบท เอกวจนะ พหุวจนะ ตํ ภวตํ สสฺ ุ ภวสสฺ ุ ภวนตฺ ํ อนตฺ ํ เอ ภเว ภวโวหฺ โวฺห ภวามเส อามเส กัมมวาจก เอกวจนะ พหวุ จนะ ตํ อภิภูยตํ สสสฺ ุ อภิภูยสฺสุ อภิภยู นฺตํ อนฺตํ เอ อภิภเู ย อภภิ ยู โวหฺ โวฺห อภภิ ยู ามเส อามเส
132 สทั ทสงั เขป ภธู าตุ+อปจั จยั +สตั ตมวี ภิ ตั ติ (กตั ตวุ าจก) ปรัสสบท เอกวจนะ พหุวจนะ เอยฺย ภเวยยฺ , ภเว ภเวยยฺ ํุ เอยฺยุํ เอยยฺ าสิ ภเวยฺยาสิ, ภเว ภเวยยฺ าถ เอยฺยาถ เอยยฺ ามิ ภเวยยฺ ามิ, ภเว ภเวยฺยาม เอยฺยาม อัตตโนบท เอกวจนะ พหวุ จนะ เอถ ภเวถ ภเวรํ เอรํ เอโถ ภเวโถ ภเวยฺยาโวฺห เอยฺยาโวฺห เอยยฺ ํ ภเวยยฺ ,ํ ภเว ภเวยยฺ าเมหฺ เอยยฺ าเมฺห กัมมวาจก เอกวจนะ พหุวจนะ เอถ อภิภเู ยถ อภิภเู ยรํ เอรํ เอโถ อภิภูเยโถ อภิภูเยยยฺ าโวหฺ เอยยฺ าโวฺห เอยยฺ ํ อภิภเู ยยยฺ ,ํ อภิภูเย อภภิ ูเยยยฺ าเมฺห เอยฺยาเมฺห ภธู าตุ+ปโรกขาวิภตั ติ (กัตตุวาจก) เอกวจนะ พหวุ จนะ อ พภูว พภูวุ อุ เอ พภูเว พภูวิตฺถ ตถฺ อํ พภูว พภวู ิมหฺ มฺห
อาขยาต 133 อตั ตโนบท เอกวจนะ พหวุ จนะ ตฺถ พภูวติ ฺถ ตฺโถ พภูวติ ฺโถ พภูวิเร เร อิ พภวู ิ พภูวโิ วหฺ โวฺห พภวู ิเมฺห เมหฺ กมั มวาจก เอกวจนะ พหวุ จนะ ตฺถ อภิพภวู ยี ิตถฺ อภพิ ภวู ียเิ ร เร ตโฺ ถ อภิพภวู ยี ติ โฺ ถ อภิพภูวยี ิโวฺห โวฺห อิ อภพิ ภวู ียิ อภิพภวู ียเิ มฺห เมหฺ ออาคม+ภูธาต+ุ อปจั จัย+หิยยัตตนวี ภิ ตั ติ (กตั ตวุ าจก) อา อภวา, ภวา, อภว, ภว อ ู อภว,ู ภว,ู อภวุ, ภวุ โอ อภโว, ภโว, อภว, ภว, อภว,ิ ภวิ ตฺถ อภวตถฺ , ภวตถฺ , อภวถ, ภวถ อ อภว, ภว มหฺ า อภวมหฺ า, ภวมหฺ า, อภวมหฺ ภวมหฺ ตถฺ อภวตฺถ, ภวตฺถ ตฺถํุ อภวตฺถุํ, ภวตถฺ ุํ เส อภวเส, ภวเส วฺหํ อภววหฺ ํ, ภววหฺ ํ อึ อภว,ึ ภวึ มฺหเส อภวมหฺ เส, ภวมหฺ เส
134 สทั ทสังเขป ตถฺ ตถฺ ุํ กมั มวาจก เส วหฺ ํ อภฺยภยู ตฺถ, อภภิ ยู ตฺถ, อภยฺ ภูยถ, อภิภยู ถ อึ อภฺยภยู ตฺถ,ํุ อภิภูยตฺถุํ มหฺ เส อภยฺ ภยู เส, อภภิ ูยเส อี อภฺยภยู วฺห,ํ อภภิ ยู วหฺ ํ อํุ อภยฺ ภูยึ, อภภิ ยู ึ โอ อภฺยภยู มหฺ เส, อภภิ ยู มหฺ เส ตถฺ อึ อชั ชตนวี ิภตั ติกัตตวุ าจก มหฺ า อา อภว,ี ภวี, อภวี, ภวิ อู อภวุํ, ภวุํ, อภวสึ ,ุ ภวึส,ุ ภวสํ ุ เส อภโว, ภโว, อภว, ภว, อภวิ, ภวิ วหฺ ํ อภวิตฺถ, ภวิตถฺ , อภวุตถฺ , ภวุตถฺ อํ อภวึ, ภวึ เมหฺ อภวมิ หฺ า, ภวมิ หฺ า, อภวมิ หฺ , ภวมิ หฺ ,อภวมุ หฺ า ภวมุ หฺ า, อภวมุ หฺ , ภวมุ หฺ อา อภวา, ภวา, อภวิตถฺ , ภวติ ฺถ อู อภวู, ภวู, อภว,ุ ภวุ เส อภวิเส, ภวเิ ส อภววิ หฺ ํ, ภววิ ฺหํ อภว, ภว, อภว,ํ ภวํ อภวิเมหฺ , ภวิเมหฺ กัมมวาจก อภฺยภูยา, อภภิ ูยา, อภยฺ ภยู ิตถฺ , อภิภูยิตฺถ อภยฺ ภยู ู, อภิภยู ,ู อภยฺ ภูย,ุ อภภิ ูยุ อภยฺ ภูยเิ ส, อภิภูยเิ ส
วฺหํ อาขยาต 135 อํ สฺสนตฺ ิ เมฺห กมั มวาจก สฺสถ สฺสาม อภฺยภูยวิ หฺ ,ํ อภิภยู วิ หฺ ํ สสฺ นเฺ ต อภยฺ ภยู , อภิภยู , อภยฺ ภยู ํ, อภิภยู ํ สสฺ เวหฺ อภยฺ ภยู เิ มหฺ , อภภิ ยู ิเมหฺ สสฺ าเมฺห ภวิสสนั ตวี ภิ ัตตกิ ตั ตุวาจกปทมาลา สสฺ ติ ภวิสสฺ ติ ภวสิ สฺ นฺต,ิ ภวิสสฺ เร สฺสสิ ภวสิ สฺ สิ ภวิสฺสถ สฺสามิ ภวสิ ฺสามิ ภวสิ สฺ าม สฺสเต ภวิสฺสเต ภวิสฺสนเฺ ต, ภวิสฺสเร สฺสเส ภวิสสฺ เส ภวสิ ฺสเวฺห สสฺ ํ ภวิสฺสํ ภวิสฺสาเมหฺ กมั มวาจก สสฺ เต อภภิ ยู สิ ฺสเต สฺสนเฺ ต อภิภูยสิ ฺสนฺเต, อภภิ ูยิสสฺ เร สสฺ เส อภิภยู สิ สฺ เส สสฺ เวฺห อภิภูยิสฺสเวหฺ สสฺ ํ อภิภูยสิ สฺ ํ สสฺ าเมหฺ อภิภูยิสสฺ าเมฺห
136 สทั ทสงั เขป กาลาติปตั ตวิ ิภตั ตกิ ตั ตวุ าจกปทมาลา สฺสา อภวสิ สฺ า, ภวสิ ฺสา, อภวสิ ฺส, ภวิสสฺ สสฺ ํสุ อภวสิ สฺ ํสุ, ภวิสฺสสํ ุ สเฺ ส อภวิสฺเส, ภวิสเฺ ส. อภวิสสฺ , ภวิสสฺ สสฺ ถ อภวิสฺสถ, ภวิสสฺ ถ สสฺ ํ อภวิสสฺ ,ํ ภวสิ สฺ ํ สฺสามหฺ า อภวิสฺสามฺหา, ภวสิ สฺ ามหฺ า, อภวสิ สฺ ามฺห, ภวิสสฺ ามฺห สฺสถ อภวสิ ฺสถ, ภวิสฺสถ สฺสึสุ อภวสิ สฺ สึ ,ุ ภวิสฺสึสุ สสฺ เส อภวสิ สฺ เส, ภวสิ ฺสเส สฺสเวหฺ อภวสิ ฺสเวฺห, ภวสฺสิ เวหฺ สสึ อภวิสสฺ ,ึ ภวสิ ฺสึ สสฺ ามหฺ เส อภวสิ ฺสามฺหเส, ภวสิ สฺ ามหฺ เส สฺสถ กมั มวาจก สสฺ ึสุ สสฺ เส อภภิ ยู ิสฺสถ สฺสเวหฺ อภิภูยิสสฺ สึ ุ สฺสึ อภิภูยสิ ฺสเส สสฺ ามหฺ เส อภภิ ูยิสฺสเวหฺ อภิภยู สิ ฺสึ อภภิ ูยสิ ฺสามหฺ เส
อาขยาต 137 ภูวาทิคณกิ ธาตุ คจฉฺ ติ ปจตจิ ฺฉติ ตุทติ ปวสิ ติ นทุ ต,ิ โหติ สยติ ตฏิ ฺ ติ ชโุ หตยฺ าที ภุวาทโย. คจฉฺ ติ - ยอ่ มไป, ปจติ - ยอ่ มหงุ , อิจฉฺ ติ - ยอ่ มปรารถนา, ย่อมใคร่, ตทุ ติ - ยอ่ มแทง, ปวิสสฺ ติ - ยอ่ มเขา้ ไป, นุทติ - ย่อมทง้ิ , โหติ - ย่อมม,ี สยติ - ยอ่ มนอน, ติฏฺ ติ - ย่อมตัง้ , ย่อมยนื , ชุโหติ - ยอ่ มบวงสรวง กิรยิ าเหลา่ นแี้ จกปทมาลาเหมอื น ภูธาตุ ๗๒. รธุ าทคิ ณะ หมู่บทท่สี �ำเร็จรูปโดยการลง อปจั จัยและนคิ คหิตอาคม ดว้ ยสตู รวา่ รุธาทโิ ต นิคคหีิต ปุพพฺ ญฺจ ช่อื วา่ รุธาทิคณะ รธุ ธาตุ+อปัจจัย+วตั ตมานาวิภัตติ (กัตตุวาจก) ปรสั สบท อัตตโนบท รนุ ฺธต,ิ รนุ เฺ ธ รุนธฺ นตฺ ,ิ รุนฺธเร รนุ ธฺ เต รนุ ฺธนฺเต, รุนธฺ เร รุนธฺ สิ รนุ ฺธถ รุนธฺ เส รนุ ธฺ เวหฺ รุนฺธามิ, รุนฺเธ รุนฺธาม รนุ เฺ ธ รนุ ฺธาเมหฺ กัมมวาจก นิรชุ ฺฌเต นริ ชุ ฺฌนฺเต, นริ ชุ ฌฺ เร นริ ุชฺฌเส นิรุชฺฌเวฺห นิรชุ ฺเฌ นิรชุ ฺฌาเมฺห
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287