ยาชมุ นุมวาโย ที่มาของตำ� รบั ยา ตำ� ราเวชศาสตรฉ์ บับหลวง รชั กาลที่ ๕ เลม่ ๓ (๑, ๒) “ขนานหนึ่งชอ่ื ชมุ นุมวาโย แกล้ มในเส้นแลผวิ หนัง ในโลหติ กระดูก เน้ือ แลอาการที่ต่าง ๆ เอาผลช้าพลู ๑ สะคา้ น ๑ ดปี ลี ๑ มหาหิง ๑ ยาดำ� ๑ ตรผี ลา ๑ ไพล ๑ ฃา่ ๑ กะทือ ๑ กะชาย ๑ คนทีสอ ท้ังใบ ท้ังผล เขา้ ข้า ๑ สมลุ แวง้ ๑ ดองดึง ๑ ผวิ มะกรูด ๑ ผวิ มะนาว ๑ สหศั คณุ ทง้ั ๒ เปล้าท้ัง ๒ กระวาน ๑ กานพลู ๑ เทยี นทงั้ ๕ โกฎสอ ๑ สารสม้ ๑ เกลือสินเทาว์ ๑ นำ้� ประสารทอง ๑ กรงุ เขมา ๑ ใบสะเดา ๑ ใบเปราะหอม ๑ เอาสงิ่ ละ ๒ สลงึ พรกิ ไทย ๑ ตำ� ลึง กระเทยี ม ๑ ตำ� ลงึ ๑ บาท ฃงิ สด ๒ ตำ� ลึง ผลสลอด ๓ สลึง เอาน�้ำส้ม ๘ ประการ เปนกระสาย บดปั้นแท่ง เท่าผลมะแว้ง ละลายน้�ำผึ้งรวงภิมเสนร�ำหัด กนิ บ�ำบดั ลม ๑๐๐ จ�ำพวก ดงั กลา่ วมาแตต่ ้นนนั้ หายแล ๚ะ๛” สูตรตำ� รับยา ประกอบด้วยตัวยา ๔๑ ชนิด รวมน�ำ้ หนัก ๕๔๓.๗๕ กรมั ดังนี้ กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ตัวยา นำ�้ หนักยา ขิง ๑๒๐ กรัม กระเทยี ม ๗๕ กรัม พริกไทย ๖๐ กรัม สลอด ๑๑.๒๕ กรัม กระชาย ๗.๕ กรัม กระวาน ๗.๕ กรัม กรุงเขมา ๗.๕ กรัม กะทือ ๗.๕ กรัม กานพลู ๗.๕ กรัม เกลอื สนิ เธาว์ ๗.๕ กรัม โกฐสอ ๗.๕ กรัม ขา่ ๗.๕ กรัม เขา้ คา่ ๗.๕ กรัม คนทีสอ ๗.๕ กรัม คนทีสอ (ผล) ๗.๕ กรัม ชะพลู (ผล) ๗.๕ กรัม ดองดงึ ๗.๕ กรัม ดปี ลี ๗.๕ กรมั เทยี นขาว ๗.๕ กรัม 79
กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทยตวั ยาน้ำ� หนกั ยา เทียนขา้ วเปลือก ๗.๕ กรมั เทียนด�ำ ๗.๕ กรัม เทียนแดง ๗.๕ กรัม เทยี นตาตัก๊ แตน ๗.๕ กรัม นำ�้ ประสานทอง ๗.๕ กรมั เปราะหอม (ใบ) ๗.๕ กรมั เปล้านอ้ ย ๗.๕ กรมั เปลา้ ใหญ่ ๗.๕ กรมั ไพล ๗.๕ กรมั มหาหิงค์ุ ๗.๕ กรมั มะกรดู ๗.๕ กรัม มะขามป้อม (เนอ้ื ผล) ๗.๕ กรัม มะนาว ๗.๕ กรัม ยาด�ำ ๗.๕ กรัม สมอไทย (เนือ้ ผล) ๗.๕ กรัม สมอพเิ ภก (เนอื้ ผล) ๗.๕ กรัม สมลุ แวง้ ๗.๕ กรัม สะคา้ น ๗.๕ กรัม สะเดา ๗.๕ กรัม สารสม้ ๗.๕ กรัม หัสคณุ เทศ ๗.๕ กรมั สรรพคุณ แก้ลมในเสน้ ลมในผวิ หนงั ลมในโลหติ ลมในกระดกู ลมในเนอื้ เป็นต้น รูปแบบยา ยาเม็ดพิมพ์ ขนาด ๓๐๐ มิลลิกรัม (ดภู าคผนวก ๓.๔.๑) วธิ ีปรงุ ยา บดเป็นผงละเอยี ดผสมนำ้� ส้ม ๘ ชนดิ แลว้ ทำ� เปน็ เม็ด ขนาดและวิธีการใช้ คร้ังละ ๓-๕ กรัม ละลายน�้ำผึ้งรวง ร�ำหัดพิมเสนเป็นกระสาย กินวันละ ๒ ครั้ง กอ่ นอาหารเช้าและเยน็ ขอ้ มลู เพ่มิ เติม - การเตรียมตัวยาเขา้ คา่ ก่อนนำ� ไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๖) - การเตรยี มตัวยาดองดงึ กอ่ นน�ำไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๑๐) - การเตรียมตัวยามหาหิงค์ุก่อนนำ� ไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๑๘) - การเตรยี มตวั ยายาด�ำกอ่ นนำ� ไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๒๓) 80
กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย - การเตรยี มตวั ยาสลอดก่อนนำ� ไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๓๒) - การเตรยี มตัวยาสารส้มก่อนนำ� ไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๓๖) - การเตรียมตวั ยาหัสคณุ เทศก่อนน�ำไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๔๒) - การเตรยี มตวั ยาหสั คณุ ไทยกอ่ นนำ� ไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๔๓) เอกสารอ้างองิ ๑. หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร. ต�ำราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ ๕ เล่ม ๓. กรุงเทพฯ : บรษิ ัท อมรนิ ทร์ พริน้ ต้งิ แอนด์พับลชิ ชิ่ง จ�ำกัด (มหาชน), ๒๕๕๕. หนา้ ๓๑-๓๒. ๒. ประกาศกําหนดตําราการแพทย์แผนไทยของชาติและตํารับยาแผนไทยของชาติ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๙, ๑๒ มกราคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๗ ง, หน้า ๑-๓. 81
ยาดาวดงึ ษา ที่มาของต�ำรบั ยา แพทยศ์ าสตร์สงเคราะห์ เล่ม ๒ พระยาพิศณุประสาทเวช ร.ศ. ๑๒๖ (๑, ๒) “ท่านให้เอา จงิ จ้อ ๒ ตำ� ลึง รากตองแตก ๖ บาท สมอไทย ๖ บาท รากเจตมลู เพลงิ ๖ บาท สหัสคุณเทศ ๑ บาท เทียนด�ำ ๑ บาท เทียนขาว ๑ บาท เทียนแดง ๑ บาท เทียนตาตักแตน ๑ บาท ฐสอ ๑ บาท โกฐเขมา ๑ บาท โกฐกัดตรา ๑ บาท ยาด�ำ ๑ บาท มหาหิงคุ์ ๑ บาท กานพลู ๑ บาท ดปี ลี ๑ บาท การะบรู ๓ สลงึ เอาพริกไทย ๕ บาท ๒ สลงึ ตำ� เปนผงละลายนำ้� ผึ้งน้�ำร้อนก็ได้ นำ�้ มะกรูดนำ�้ มะนาวน�้ำสม้ ซ่าก็ได้ แก้สารพัดไกษยสารพดั โรคทงั้ ปวงแล ยานช้ี อื่ ดาวดึงษา พระอินทราเธอใหท้ านแก่คน ทั้งหลาย ตีคา่ ไวแ้ สนตำ� ลึงทอง ๑ แล” สูตรตำ� รับยา ประกอบด้วยตัวยา ๑๘ ชนดิ รวมนำ�้ หนกั ๖๖๓.๗๕ กรมั ดงั น้ี กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ตัวยา น้ำ� หนกั ยา จิงจ้อ ๑๒๐ กรัม เจตมลู เพลงิ แดง ๙๐ กรมั ตองแตก ๙๐ กรมั สมอไทย ๙๐ กรมั พริกไทย ๘๒.๕ กรัม กานพลู ๑๕ กรมั โกฐกกั กรา ๑๕ กรัม โกฐเขมา ๑๕ กรมั โกฐสอ ๑๕ กรัม ดีปลี ๑๕ กรัม เทยี นขาว ๑๕ กรมั เทียนด�ำ ๑๕ กรมั เทยี นแดง ๑๕ กรัม เทียนตาตั๊กแตน ๑๕ กรมั มหาหิงค์ุ ๑๕ กรมั ยาด�ำ ๑๕ กรมั หัสคุณเทศ ๑๕ กรมั การบูร ๑๑.๒๕ กรัม 82
สรรพคุณ แกก้ ษยั เส้น ถ่ายลมในเส้นและลำ� ไส้ รปู แบบยา ยาลกู กลอน ขนาด ๓๐๐ มลิ ลกิ รัม (ดูภาคผนวก ๓.๕) ขนาดและวิธกี ารใช้ คร้งั ละ ๓-๕ เมด็ กนิ วนั ละ ๒ ครง้ั ก่อนอาหารเชา้ และเยน็ ขอ้ ควรระวงั ควรระวังการใช้ยาอย่างต่อเน่ือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่มีความผิดปรกติของ ตับ ไต เนอื่ งจากอาจเกิดการสะสมของการบูรและเกิดพิษได้ ขอ้ หา้ มใช้ ห้ามใช้ในหญงิ ตงั้ ครรภแ์ ละผทู้ ีม่ ไี ข้ กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ข้อมลู เพมิ่ เติม - ต�ำรับน้ีมีการบูรเป็นส่วนประกอบ ร้อยละ ๑.๖๙ ในยาเม็ด ๓๐๐ มิลลิกรัม จะมกี ารบรู อยู่ ๕.๐๗ มลิ ลกิ รมั ปรมิ าณการบรู ทไ่ี ดร้ บั ใน ๑ มอื้ เทา่ กบั ๒๕.๓๕ มลิ ลกิ รมั ซง่ึ ปรมิ าณทที่ ำ� ใหเ้ กดิ พษิ จากการกนิ การบรู เทา่ กบั ๒ กรมั โดยขนาดถงึ ตาย (lethal dose) ในผ้ใู หญ่อยู่ท่ี ๔,๐๐๐ มลิ ลิกรมั /มื้อ ในเด็กอยทู่ ่ี ๕๐๐-๑,๐๐๐ มิลลกิ รมั /ม้อื และในทารกอยู่ที่ ๗๐ มิลลกิ รมั /กิโลกรมั /มื้อ (๓) - การเตรียมตวั ยาตองแตกก่อนนำ� ไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๑๒) - การเตรยี มตัวยามหาหิงคกุ์ ่อนนำ� ไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๑๘) - การเตรยี มตัวยายาด�ำกอ่ นนำ� ไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๒๓) - การเตรยี มตัวยาหัสคณุ เทศกอ่ นน�ำไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๔๒) เอกสารอา้ งองิ ๑. พศิ ณปุ ระสาทเวช, พระยา. แพทยศ์ าสตร์สงเคราะห์ เลม่ ๒. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พศ์ ภุ การจำ� รูญ ถนนอัษฏางค์, ร.ศ. ๑๒๖. ๒. ประกาศกําหนดตําราการแพทย์แผนไทยของชาติและตํารับยาแผนไทยของชาติ (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๖ พฤศจกิ ายน). ราชกิจจานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๗๑ ง, หนา้ ๑. ๓. U.S. National Library of Medicine [Internet]. Hazardous Substance Database- Camphor [updated 2014 Sep 9; cited 2019 May 28]. Available from: https://toxnet.nlm.nih.gov/ cgi-bin/sis/search2/r?dbs+hsdb:@term+@DOCNO+37. 83
ยาตม้ แก้กษยั เส้น ทม่ี าของต�ำรบั ยา ต�ำรายาพิเศษ กรมพระยาปวเรศวรยิ าลงกรณ์ (๑, ๒) “๏ ขนานหน่ึงนัน้ นายไชยรามัญ อยู่บ้านเชิงราก เปนโรคกระไสย ป่วยไขล้ ำ� บาก คุมมอญไป มาก ทำ� อฐิ ลพบรุ ี อายนุ ับได้ ห้าสิบสีโ่ ดยปี ซูบผอมเตม็ ที เปนเกลด็ ท่วั ไป หิวหอบบอบแรง ไม่อาจเดนิ ไกล ขัดสนจนใจ ไปหาผกั ฟืน พบพระหน่ึงมา หน้าตาสดชืน่ อายยุ าวยืน สักแปดสบิ ไป เดนิ คล่องเรว็ นกั ดงั จกั ร กลไฟ นายไชยตามไล่ เตม็ เหนื่อยจึงทัน ถงึ แล้วกราบไห้ว คณุ ตาได้อะไร มาทำ� ยาฉนั จงึ เดินเร็วนกั ดังจักร หมุนหัน จงเม็ดตาฉัน บอกให้เปน็ ทาน พระแกจ่ งึ วา่ กูได้กนิ ยา เจ็ดสิ่งมานาน สักสามปกี วา่ กายาอาจหาญ เดนิ ไกลไดน้ าน ไมเ่ หนอื่ ยเมอ่ื ยชา แรงไมถ่ อยถด ถงึ อดเขา้ ปลา เพราะไดก้ นิ ยา เจด็ สงิ่ จงจำ� รางแดงกระชาย แห้วหมูทั้งหาย ตะโกนาเปลือกด�ำ อีกเปลือกประค�ำไก่ รากแจงจงจ�ำ สมอไทยดีล�้ำ ต้มกินรินไป หรือจักตากแห้ง ทำ� ผงเกบ็ ไว้ นำ�้ ผงึ้ รนิ ใส่ ปน้ั กอ้ นกลนื กนิ แกก้ ระไสยผอมแหง้ เกิดแรงกายิน อาหารทวีกนิ ไมเ่ บือ่ การงาน ของหนกั ยกได้ แรงกายอาจหาญ กนิ ไปนานนาน จกั หายโรคา นายไชยจำ� ได้ หายารวมไว้ ไดส้ มปราถนา ตม้ กินรินไป หายโรคโรคา สามเดอื นเขาว่า กายาบริบรู ณ์ ผวิ หนงั เปนเกลด็ หล่นร่วงหายสญู แรงกายเพมิ่ พนู ของหนกั ยกลอย เดนิ หนทางไกล อายนุ บั ได้ หกสบิ สไี่ มถ่ อย กำ� ลงั ยงั มาก หาบเขา้ เดนิ หยอย เทย่ี วหนง่ึ ไม่นอ้ ย หกสดั พอดี ไปตั้งทำ� อฐิ อยูป่ ฐมเจดีย์ กินมาสามปี ฟันแนน่ ไม่คลอน ถ้าไม่มเี พือ่ น คนเดยี ว ไม่นอน ไม่เปนโรคกลอ่ น เหมอื นคนสบิ แปดปี ผู้เล่าน้นั ชอื่ พระสธุ รรมไมรี ขา้ เขยี นตามที่เขาจดหมายมา นายไชยเปนท่ี สมิงสทิ ธเิ ดชา เปนผกู้ นิ ยา หายโรคแรงเจริญ มีผไู้ ดฟ้ ัง พลอยพูดสรรเสริญ ยาอื่นห่อนกนิ ดีจริงควรจำ� ลอกตวั ยาไป วา่ เคยได้ใช้ มีคุณเขม้ ขำ� แต่นอ้ ยสิ่งไป เคยไดห้ าท�ำ ยานีด้ ลี ำ้� จงทินเทอญฯ ๏ เขียนลงต�ำรา อายุตูข้า ได้สองหม่ืนวัน กับเศษพันร้อย สามสิบเอ็ดด้วยกัน ครบถ้วน ในวันภุมวารมี เดือนแปดข้างแร สัตมีดิถี เถาะเปนช่ือปี นพศกตกลง คิดตามรัชกาล ที่เขาเขียนอ่าน ศกสิบเจด็ จ�ำนง จงสังเกตุไว้ เพอ่ื ใครต้องประสงค์ จักไดร้ ตู้ รง ตามปใี ช้กัน” สูตรต�ำรับยา ประกอบดว้ ยตัวยา ๗ ชนิด รวมน้ำ� หนัก ๗ ส่วน ดงั นี้ ตวั ยา นำ้� หนกั ยา กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย กระชาย ๑ สว่ น แจง ๑ สว่ น ตะโกนา ๑ สว่ น มะค�ำไก่ (เปลอื ก) ๑ สว่ น รางแดง ๑ ส่วน สมอไทย ๑ สว่ น แห้วหม ู ๑ ส่วน 84
สรรพคณุ แก้กษัยเส้น ปวดหลัง ปวดเอว รปู แบบยา ยาตม้ เดอื ด (ดภู าคผนวก ๓.๑.๑) ขนาดและวธิ ีการใช ้ คร้ังละ ๕๐-๑๐๐ มิลลิลิตร ด่ืมวันละ ๒ ครั้ง ก่อนอาหาร เช้าและเย็น ด่ืมขณะยา ยังอนุ่ อยู่ ขอ้ มลู เพิม่ เติม ยา ๑ หมอ้ ใชต้ ดิ ต่อกัน ๕-๗ วัน โดยใหอ้ ่นุ น�ำ้ สมนุ ไพรทุกคร้ังกอ่ นใชย้ า เอกสารอ้างองิ กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ๑. เจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐศักดิ์. ต�ำรายาพิเศษ กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์พระนคร : โรงพิมพโ์ สภณ พพิ รรฒธนากร, ๒๔๖๒. ๒. ประกาศกําหนดตําราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตํารบั ยาแผนไทยของชาติ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๙, ๑๒ มกราคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๗ ง, หนา้ ๑-๓. 85
ยาตรผี ลา ทีม่ าของตำ� รบั ยา สตู รตำ� รบั ทใ่ี กลเ้ คยี งตำ� รบั น้ี พบใน ตำ� รายาศลิ าจารกึ ในวดั พระเชตพุ นวมิ ลมงั คลาราม(๑) “อนง่ึ สรรพคณุ แหง่ ตรีผลานั้น กลา่ วคอื สมอพิเภก, สมอไทย, มะขามป้อมทัง้ ๓ น้รี ะคนกันเข้า ได้ชื่อว่า ตรีผลา ถ้าผู้ใดได้บริโภคอาจระงับเสียซึ่งโรคอันบังเกิดแต่ดี รู้แก้ซ่ึงเสมหะและลมในกองธาตุ กองระดู กองอายุสมฏุ ฐานนน้ั ฯ” สูตรต�ำรบั ยา ประกอบดว้ ยตัวยา ๓ ชนิด รวมน�ำ้ หนัก ๙๐ กรมั (๒) ดังน้ี ตวั ยา น�ำ้ หนกั ยา กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย มะขามปอ้ ม (เนอื้ ผล) ๓๐ กรัม สมอไทย (เนือ้ ผล) ๓๐ กรัม สมอพเิ ภก (เนือ้ ผล) ๓๐ กรัม สรรพคณุ - ยาปรบั ธาตุ (สมฏุ ฐานโรคอันบังเกิดแตด่ ี ในคิมหันตฤดู) - เปน็ ยาระบายอ่อน ๆ - บรรเทาอาการไอจากการระคายคอ รูปแบบยา ยาเมด็ ขนาด ๓๐๐ มลิ ลกิ รมั (ดภู าคผนวก ๓.๔.๒), ยาลกู กลอน ขนาด ๓๐๐ มลิ ลกิ รมั (ดูภาคผนวก ๓.๕), ยาแคปซูล ขนาด ๓๐๐ มลิ ลกิ รมั (ดูภาคผนวก ๓.๓) ยาชง (ดภู าคผนวก ๓.๙) ขนาดและวธิ ีการใช ้ ยาปรบั ธาตุ (สมุฏฐานโรคอันบังเกิดแตด่ ี ในคมิ หนั ตฤดู) ชนดิ แคปซลู ชนดิ เมด็ และชนิดลกู กลอน คร้ังละ ๑-๓ เม็ด กนิ วนั ละ ๒–๓ คร้ัง หรอื ตามแพทยส์ ัง่ ยาระบายออ่ น ๆ ชนดิ ยาชง คร้ังละ ๑–๒ กรมั ชงน�ำ้ รอ้ น ๑๒๐–๒๐๐ มิลลลิ ติ ร ทงิ้ ไว้ ๓–๕ นาที ดืม่ วันละ ๒–๓ คร้งั หรือตามแพทยส์ ัง่ ดืม่ ในขณะยายังอุ่นอยู่ ชนดิ แคปซลู ชนิดเม็ด และชนดิ ลูกกลอน ครั้งละ ๑-๒ เม็ด กนิ วันละ ๒–๓ ครง้ั หรือตามแพทยส์ ัง่ บรรเทาอาการไอจากการระคายคอ ชนิดยาชง ครงั้ ละ ๑–๒ กรมั ชงนำ้� รอ้ น ๑๒๐–๒๐๐ มิลลิลติ ร ทงิ้ ไว้ ๓-๕ นาที จบิ ในขณะ ยังอุน่ เมื่อมอี าการไอทกุ ๔ ชวั่ โมง 86
ข้อควรระวงั ควรระวังการใช้ในผู้ปว่ ยทีท่ ้องเสียงา่ ย (๒) อาการไม่พึงประสงค์ ทอ้ งเสยี (๒) ข้อมูลเพิ่มเติม - ตรผี ลาเปน็ พกิ ัดชนดิ หนึ่ง จ�ำกัดผลไมท้ ั้ง ๓ อยา่ ง ไดแ้ ก่ สมอพเิ ภก สมอไทย และมะขามป้อมในปริมาณเท่ากันโดยน้�ำหนัก ซ่ึงเป็นพิกัดยาในคิมหันตฤดู (ฤดูร้อน) ใชป้ รับสมดุลธาตุทแี่ ปรไปในฤดูรอ้ น โดยสมอพเิ ภกเป็นตัวยาประจ�ำ กองสมุฏฐานปิตตะ สมอไทยเป็นตัวยาประจ�ำกองสมุฏฐานวาตะ มะขามป้อม กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย เป็นตวั ยาประจำ� กองสมุฏฐานเสมหะ - พิกัดตรีผลามักใช้ประกอบยาต�ำรับอื่น หรือใช้เป็นกระสายยา เพ่ือเสริม ประสทิ ธิภาพในการรักษา เชน่ ชว่ ยระบายพิษไข้ หรือช่วยปรับธาตุ - การใชต้ รผี ลา สามารถใชส้ ดั สว่ นไมเ่ ทา่ กนั ได้ เรยี กวา่ มหาพกิ ดั ตรผี ลา แกป้ ติ ตะ วาตะ เสมหะในกองธาตุ ฤดู อายุ และกองสมุฏฐาน มสี ัดส่วนตัวยาทแ่ี ตกต่าง กันขน้ึ กับกองสมฏุ ฐานโรค เอกสารอา้ งอิง ๑. ต�ำรายาศิลาจารึกในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธ์ิ) พระนคร, พระบาทสมเด็จ พระนง่ั เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ใหจ้ ารกึ ไวเ้ มอื่ พ.ศ. ๒๓๗๕ ฉบบั สมบรู ณ,์ ๒๕๐๕. หนา้ ๔๔๓. ๒. ประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ เร่ือง บัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๑. (๒๕๖๑, ๑๙ มกราคม). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๑๔ ง. หนา้ ๔. (เอกสารแนบทา้ ยประกาศ หน้า ๒๕๐). 87
ยาตดั ก�ำลงั ไข้ ทม่ี าของตำ� รบั ยา คมั ภรี ์แพทย์ไทยแผนโบราณ เลม่ ๑ (๑) “ยาตัดก�ำลงั ไข้ เอาจันทนท์ ง้ั ๒ ขอนดอก มวกแดง เทียนทง้ั ๕ โกฎทัง้ ๕ เกษรบวั หลวง ชะลูด อบเชย ดอกพิกลุ หวั แหว้ หมู รากหญ้านาง เอาเสมอภาค ต้มกนิ ” สตู รต�ำรับยา ประกอบด้วยตวั ยา ๒๐ ชนิด รวมน้ำ� หนกั ๒๐ ส่วน ดังนี้ กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ตัวยา นำ�้ หนกั ยา โกฐเขมา ๑ สว่ น โกฐจุฬาล�ำพา ๑ สว่ น โกฐเชยี ง ๑ สว่ น โกฐสอ ๑ ส่วน โกฐหวั บวั ๑ สว่ น ขอนดอก ๑ ส่วน จันทนข์ าว ๑ ส่วน จนั ทนแ์ ดง ๑ ส่วน ชะลดู ๑ สว่ น เทียนขาว ๑ ส่วน เทยี นข้าวเปลอื ก ๑ สว่ น เทียนดำ� ๑ ส่วน เทียนแดง ๑ สว่ น เทยี นตาต๊กั แตน ๑ สว่ น บวั หลวง ๑ ส่วน พกิ ุล ๑ ส่วน มวกแดง ๑ สว่ น ย่านาง ๑ ส่วน แหว้ หมู ๑ ส่วน อบเชย ๑ ส่วน สรรพคุณ ลดไข้ รปู แบบยา ยาตม้ เดอื ด (ดูภาคผนวก ๓.๑.๑) ขนาดและวธิ กี ารใช้ คร้งั ละ ๑๕๐ มิลลิลิตร ด่มื วนั ละ ๒ คร้ัง กอ่ นอาหาร เชา้ และเย็น ดม่ื ขณะยายังอุน่ อยู่ ขอ้ มลู เพ่มิ เตมิ ยา ๑ หม้อ ใชต้ ิดต่อกนั ๕-๗ วนั โดยให้อุน่ น้ำ� สมุนไพรทุกคร้ังก่อนใชย้ า เอกสารอา้ งองิ ขนุ โสภติ บรรณลักษณ์ (อำ� พนั กิตตขิ จร), คมั ภรี ์แพทย์ไทยแผนโบราณ เลม่ ๓. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพอ์ ุตสาหกรรมการพมิ พ์, ๒๕๐๔. 88
ยาถา่ ยไขพ้ ษิ ไขก้ าฬ ทมี่ าของต�ำรบั ยา คมั ภีรแ์ พทย์ไทยแผนโบราณ ขุนโสภติ บรรณลักษณ์ เลม่ ๑ (๑) “ยาถา่ ยไข้พิษไข้กาฬ เอาใบมะกา ใบมะยม ใบมะเฟือง หญา้ แพรก หญา้ ปากควย ใบไผ่ปา่ ใบมะขาม ใบสม้ ปอ่ ย เนอ้ื ฝักคนู ๗ ฝกั ยาด�ำ ๑ บาท ขา่ ๓ แว่น ขม้นิ อ้อย ๕ แวน่ ดนิ ประสวิ ๓ หยิบ ต้มใหส้ กุ ตำ� คั้นเอาน้�ำแลว้ เค่ียว ๓ เอา ๑ กนิ ๑ ถว้ ยชาขนาดใหญ่ แทรกดเี กลอื พอควร ขับพษิ ไข้พษิ กาฬ หายสนิ้ แล” สูตรตำ� รบั ยา ประกอบด้วยตัวยา ๑๓ ชนดิ รวมน�้ำหนกั ๒๗๗.๕๐ กรมั ดังนี้ กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ตัวยา นำ�้ หนกั ยา คูน ๑๐๕ กรัม ขม้นิ อ้อย ๑๕ กรัม ข่า ๑๕ กรมั ไผ่ปา่ ๑๕ กรัม มะกา ๑๕ กรัม มะขาม ๑๕ กรัม มะเฟือง ๑๕ กรมั มะยม ๑๕ กรมั ยาดำ� ๑๕ กรมั ส้มป่อย ๑๕ กรมั หญา้ ปากควาย ๑๕ กรมั หญา้ แพรก ๑๕ กรมั ดินประสวิ ๗.๕ กรมั สรรพคณุ ถ่ายไขพ้ ษิ ไข้กาฬ รูปแบบยา ยาต้มเดือด (ดภู าคผนวก ๓.๑.๑) ขนาดและวิธกี ารใช้ ครงั้ ละ ๕๐-๑๐๐ มิลลิลติ ร ด่ืมวันละ ๑ คร้งั ก่อนนอน ด่ืมขณะยายงั อ่นุ อยู่ ขอ้ มูลเพิ่มเติม - ยา ๑ หมอ้ ใช้ติดตอ่ กนั ๕-๗ วนั โดยใหอ้ ่นุ นำ้� สมุนไพรทกุ ครง้ั ก่อนใชย้ า - การเตรยี มตวั ยาคูนก่อนนำ� ไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๗) - การเตรียมตัวยาดนิ ประสวิ ก่อนนำ� ไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๑๑) - การเตรียมตัวยายาดำ� ก่อนนำ� ไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๒๓) เอกสารอา้ งองิ ขุนโสภติ บรรณลกั ษณ์ (อำ� พัน กติ ตขิ จร), คัมภรี แ์ พทย์ไทยแผนโบราณ เลม่ ๓. กรุงเทพฯ : โรงพิมพอ์ ตุ สาหกรรมการพิมพ,์ ๒๕๐๔. 89
ยาถ่ายลมถ่ายเสมหะในโรคกษัย สูตร ๑ ที่มาของต�ำรบั ยา แพทยศ์ าสตร์สงเคราะห์ เลม่ ๒ พระยาพศิ ณุประสาทเวช ร.ศ. ๑๒๖ (๑, ๒) “อน่งึ เอา ผลจนั ทน์ ๑ ดอกจนั ทน์ ๑ เทยี นดำ� ๑ เทยี นขาว ๑ เทยี นแดง ๑ เทยี นตาตกั แตน ๑ โกฐสอ ๑ โกฐเขมา ๑ โกฐกัดตรา ๑ กานพลู ๑ ดปี ลี ๑ ส่ิงละ ๑ สว่ น ยาด�ำ ๔ ส่วน การะบูร ๙ ส่วน สหสั คณุ เทศ ๑ พริกไทย ๑ สิง่ ละ ๕ ส่วน รากจงิ จ้อ ๑ รากทนดี ๑ รากเจตมลู เพลิง ๑ สิ่งละ ๖ ส่วน สมอไทย ๑๔ สว่ น ต�ำเปนผงบดดว้ ยน้�ำผึง้ น้�ำมะกรูด น�้ำมะนาว ๑ น�้ำสม้ ซา่ กไ็ ด้ กนิ แกไ้ กษยปลวกซึง่ กระท�ำพษิ ตา่ งๆ แลสรรพไกษยแลสรรพโรคทงั้ ปวง หายวิเศษนกั ทา่ นตคี า่ ไว้แสนตำ� ลงึ ทอง” สตู รต�ำรบั ยา ประกอบด้วยตวั ยา ๑๙ ชนดิ รวมน�้ำหนกั ๖๖ ส่วน ดงั นี้ กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ตวั ยา นำ้� หนักยา สมอไทย (เน้อื ผล) ๑๔ สว่ น การบูร ๙ ส่วน จิงจอ้ ๖ สว่ น เจตมูลเพลิงแดง ๖ ส่วน ทนดี ๖ สว่ น พรกิ ไทย ๕ สว่ น หัสคุณเทศ ๕ ส่วน ยาด�ำ ๔ สว่ น กานพลู ๑ สว่ น โกฐกกั กรา ๑ ส่วน โกฐเขมา ๑ ส่วน โกฐสอ ๑ ส่วน ดอกจนั ทน์ ๑ ส่วน ดีปลี ๑ ส่วน เทียนขาว ๑ สว่ น เทยี นด�ำ ๑ สว่ น เทียนแดง ๑ ส่วน เทยี นตาตั๊กแตน ๑ ส่วน ลกู จันทน์ ๑ ส่วน 90
สรรพคุณ ถ่ายลมถ่ายเสมหะในผู้ป่วยโรคกษยั รปู แบบยา ยาผง (ดภู าคผนวก ๓.๒) ขนาดและวธิ กี ารใช้ ครง้ั ละ ๑ กรัม ละลายนำ้� กระสายยา กินวันละ ๒ ครง้ั กอ่ นอาหาร เชา้ และเยน็ กระสายยาที่ใช้ นำ�้ ผ้งึ นำ�้ มะกรดู น�ำ้ มะนาว หรอื น�ำ้ ส้มซ่า ข้อมลู เพิ่มเติม - ต�ำรับนี้มีการบูรเป็นส่วนประกอบร้อยละ ๑๓.๖๔ ในผงยา ๑,๐๐๐ มิลลิกรัม จะมกี ารบรู อยู่ ๑๓๖.๔ มลิ ลกิ รมั ปรมิ าณการบรู ทไ่ี ดร้ บั ใน 1 มอ้ื เทา่ กบั ๑๓๖.๔ มลิ ลกิ รมั กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ซง่ึ ปรมิ าณทที่ ำ� ใหเ้ กดิ พษิ จากการกนิ การบรู เทา่ กบั ๒ กรมั โดยขนาดถงึ ตาย (lethal dose) ในผ้ใู หญ่อยทู่ ี่ ๔,๐๐๐ มิลลกิ รมั /มื้อ ในเด็กอยูท่ ่ี ๕๐๐-๑,๐๐๐ มลิ ลกิ รัม/มอื้ และในทารกอยู่ท่ี ๗๐ มิลลกิ รมั /กโิ ลกรมั /มือ้ (๓) - การเตรยี มตัวยายาด�ำก่อนน�ำไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๒๓) - การเตรียมตวั ยาหสั คณุ เทศก่อนนำ� ไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๔๒) เอกสารอ้างองิ ๑. พศิ ณุประสาทเวช, พระยา. แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ เล่ม ๒. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ศภุ การ จำ� รญู ถนนอษั ฏางค,์ ร.ศ. ๑๒๖. ๒. ประกาศกําหนดตําราการแพทย์แผนไทยของชาติและตํารับยาแผนไทยของชาติ (ฉบบั ที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๖ พฤศจิกายน). ราชกิจจานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๗๑ ง, . หนา้ ๑. ๓. U.S. National Library of Medicine [Internet]. Hazardous Substance Database-Camphor [updated 2014 Sep 9; cited 2019 May 28]. Available from: https://toxnet. nlm.nih.gov/cgi-bin/sis/search2/r?dbs+hsdb:@term+@DOCNO+37. 91
ยาถา่ ยลมถา่ ยเสมหะในโรคกษยั สูตร ๒ ทีม่ าของต�ำรับยา แพทยศ์ าสตร์สงเคราะห์ เล่ม ๒ พระยาพศิ ณปุ ระสาทเวช ร.ศ. ๑๒๖ (๑, ๒) “อนึ่งเอา โกฐทง้ั ๕ เทียนท้งั ๕ ตรีผลา ตรกี ฏุก กานพลู ๑ ส่งิ ละ ๑ ส่วน รากสม้ กุ้งทงั้ ๒ แกน่ ขี้เหลก็ ๑ แกน่ แสมทเล ๑ สง่ิ ละ ๒ สว่ น รากทนดี ๕ สว่ น ต�ำเปนผงบดละลายนำ้� ผึง้ หรือนำ�้ ขิงกไ็ ด้ น้�ำส้มซ่า หรือน้�ำร้อนก็ได้ กินแก้ไกษยทง้ั ปวงหายวิเศษนัก” กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย สตู รต�ำรับยา ประกอบด้วยตวั ยา ๒๒ ชนิด รวมน�้ำหนกั ๓๐ ส่วน ดงั นี้ ตวั ยา น�้ำหนกั ยา ทนดี ๕ ส่วน ข้ีเหล็ก ๒ ส่วน สม้ กงุ้ นอ้ ย ๒ ส่วน ส้มก้งุ ใหญ่ ๒ ส่วน แสมทะเล ๒ ส่วน กานพลู ๑ สว่ น โกฐเขมา ๑ ส่วน โกฐจุฬาลัมพา ๑ สว่ น โกฐเชยี ง ๑ สว่ น โกฐสอ ๑ สว่ น โกฐหวั บัว ๑ ส่วน ขิง ๑ ส่วน ดีปลี ๑ ส่วน เทยี นขาว ๑ ส่วน เทยี นขา้ วเปลือก ๑ ส่วน เทียนดำ� ๑ สว่ น เทยี นแดง ๑ ส่วน เทียนตาตั๊กแตน ๑ สว่ น พรกิ ไทย ๑ ส่วน มะขามปอ้ ม ๑ ส่วน สมอไทย ๑ ส่วน สมอพเิ ภก ๑ สว่ น 92
สรรพคณุ ถ่ายลมถา่ ยเสมหะในโรคกษัย รูปแบบยา ยาผง (ดูภาคผนวก ๓.๒) ขนาดและวิธีการใช้ คร้งั ละ ๑ กรมั ละลายนำ�้ กระสายยา กินวนั ละ ๒ ครง้ั กอ่ นอาหาร เชา้ และเย็น กระสายยาท่ใี ช้ นำ�้ ผึง้ น้ำ� ขงิ น้ำ� สม้ ซ่า หรือน�ำ้ ร้อน เอกสารอา้ งองิ ๑. พิศณปุ ระสาทเวช, พระยา. แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ เลม่ ๒. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ศุภการ กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย จำ� รูญ ถนนอัษฏางค,์ ร.ศ. ๑๒๖. ๒. ประกาศกําหนดตําราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตํารบั ยาแผนไทยของชาติ (ฉบับท่ี ๑๓) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๖ พฤศจิกายน). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๗๑ ง, หนา้ ๑. 93
ยาถา่ ยลมถ่ายเสมหะในโรคกษัย สูตร ๓ ที่มาของตำ� รบั ยา แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ เล่ม ๒ พระยาพิศณุประสาทเวช ร.ศ. ๑๒๖ (๑, ๒) “ขนานหนึ่งวิเศษนักทา่ นใหเ้ อา ขม้นิ อ้อย ๑ สลึง ดองดงึ ๑ สลงึ ดปี ลี ๒ สลึง ขนั ทศกร ๒ สลงึ ตรผี ลา ๓ สลึง ขิงแหง้ ๓ สลึง พรกิ ไทย ๑ บาท รากเจตมลู เพลิง ๑ บาท รากทนดี ๓ บาท ๒ สลงึ ต�ำเปน ผงแล้วเอาน�้ำผ้ึง ๔ ส่วน นำ�้ อ้อยแดง ๑ ส่วน คุลกี ารเข้าดว้ ยกันกินหนกั ๑ สลงึ กนิ วัน ๑ ค้มุ ไปเดอื นหนง่ึ กินเดอื น ๑ คุ้มไปปหี นง่ึ แลรปู งามแล” สูตรต�ำรับยา ประกอบดว้ ยตัวยา ๑๑ ชนิด รวมน้�ำหนัก ๑๕๐ กรมั ดงั น้ี กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ตวั ยา น�้ำหนกั ยา ทนดี ๕๒.๕ กรัม เจตมูลเพลิงแดง ๑๕ กรัม พรกิ ไทย ๑๕ กรมั ขิงแห้ง ๑๑.๒๕ กรัม มะขามปอ้ ม (เน้ือผล) ๑๑.๒๕ กรมั สมอไทย (เนอื้ ผล) ๑๑.๒๕ กรมั สมอพิเภก (เน้อื ผล) ๑๑.๒๕ กรัม ขนั ทศกร ๗.๕ กรัม ดีปลี ๗.๕ กรมั ขมิ้นอ้อย ๓.๗๕ กรัม ดองดึง ๓.๗๕ กรัม สรรพคุณ ถ่ายลมถ่ายเสมหะในโรคกษยั รปู แบบยา ยาลูกกลอน ขนาด ๓๐๐ มลิ ลกิ รัม (ดภู าคผนวก ๓-๕) ขนาดและวธิ ีการใช้ คร้งั ละ ๓-๕ เมด็ กนิ วนั ละ ๒ คร้งั ก่อนอาหาร เชา้ และเย็น ข้อหา้ มใช ้ ห้ามใช้ในหญงิ ตัง้ ครรภ์ และผู้ทม่ี ีไข้ ขอ้ มูลเพมิ่ เตมิ การเตรยี มตัวยาดองดึงกอ่ นนำ� ไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๑๐) เอกสารอ้างอิง ๑. พศิ ณปุ ระสาทเวช, พระยา. แพทยศ์ าสตรส์ งเคราะห์ เลม่ ๒. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พศ์ ภุ การ จำ� รญู ถนนอษั ฏางค์, ร.ศ. ๑๒๖. ๒. ประกาศกําหนดตําราการแพทย์แผนไทยของชาติและตํารับยาแผนไทยของชาติ (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๖ พฤศจกิ ายน). ราชกิจจานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๗๑ ง, หน้า ๑. 94
ยาทาแก้เรอื้ นกวาง ทมี่ าของตำ� รับยา ศิลาจารกึ ต�ำรายาวัดพระเชตุพนวมิ ลมงั คลาราม (วัดโพธิ)์ (๑, ๒) “๏ ปุนะจะปะรัง ในล�ำดับนี้จะกล่าวด้วยนัยอันหนึ่งใหม่ ว่าด้วยลักษณะพยาธิโรค อันบังเกิด แก่บุคคลทั้งหลาย คือเป็นชาติบุพกรรมโรคคือโรคเร้ือนอันเป็นสาธารณะสืบต่อไป บังเกิดด้วยกิมิชาติ อันอาศยั กนิ อยู่ในชนิ้ เนือ้ นั้นแล จะไดเ้ หมอื นดั่งกุฏฐโรค ซง่ึ กนิ อฐั กิ ุด จนเสียซ่ึงชวี ิตนน้ั หามไิ ด้ เป็นแตจ่ ะให้ ล�ำบากกาย ดุจอาจารยก์ ล่าวไวอ้ กี ๓ จำ� พวก เปน็ ๗ จำ� พวก ด้วยกันกับกล่าวมาแลว้ ในเบอื้ งต้น ในท่นี ี้ จะวา่ แต่ ๓ จำ� พวก ฯ จ�ำพวกหนงึ่ คือชาตเิ รอื้ นอันบงั เกิดเน่ืองกนั มาแต่สัมพนั ธ์ตระกูล ฯ๒ จำ� พวกหน่ึงคอื ชาตเิ ร้ือนบังเกิดด้วยสามคั ครี ส คือหลับนอนระคนกนั อยู่เป็นนจิ จึงเป็น ฯ๓ จำ� พวกหนึ่งคอื ชาติเรอ้ื นอนั บังเกิดเป็นอปุ าติกะหาเหตุมไิ ด้ อย่ดู ีๆ กเ็ กิดขึน้ เอง แลธาตทุ งั้ ๔ กม็ ิไดว้ ิปรติ แปรปรวน แลท้งั ๓ จำ� พวกซง่ึ กล่าวมานี้ ให้เอายาตามชาตจิ ำ� พวกน้นั มาแกก้ ็จะหาย เป็นยาปะ ยะโรคหายโดยง่าย ดังอาจารย์กล่าวไว้ดังน้ีในล�ำดับนี้จะกล่าวเรื้อนจ�ำพวกหน่ึง คือเร้ือนกวางน้ันก่อน เปน็ ปฐม เม่ือจะบงั เกิดน้ันเกิดข้ึนตามข้อมือข้อเทา้ แลกำ� ด้นต้นคอ กระทำ� ให้เป็นน�้ำเหลอื งพรนึ ลามออกไป ครนั้ ตอ้ งยาแล้วแห้งเขา้ บางทกี ็หายขาดไป บางทกี ็ไมห่ าย แต่ไม่ตายเปน็ แตล่ ำ� บากดงั อาจารยก์ ลา่ วไว้ ฯ ขนานหนง่ึ เอาเห็ดร่างแห เหด็ มูลโค เอาเสมอภาค บดละลายนำ้� มันงาทา แก้พยาธิโรคคือเรอื้ นกวางน้ันหาย วเิ ศษนัก ฯ” สูตรตำ� รบั ยา ประกอบด้วยตัวยา ๓ ชนดิ รวมน้ำ� หนกั ๓ สว่ น ดังนี้ กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ตวั ยา นำ้� หนกั ยา น�้ำมันงา ๑ สว่ น เหด็ มูลโค ๑ ส่วน เห็ดรา่ งแห ๑ ส่วน สรรพคุณ แกเ้ รือ้ นกวาง (สะเก็ดเงิน) รูปแบบยา ยาน้�ำมัน (ดูภาคผนวก ๓.๖) วิธปี รุงยา บดเป็นผงละเอยี ด หุงกบั น้ำ� มันงา แล้วกรอง ขนาดและวธิ ีการใช้ ทาแผล วนั ละ ๒ ครัง้ เชา้ และเยน็ ค�ำเตือน เป็นยาใช้ภายนอกหา้ มกิน 95
กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทยเอกสารอ้างอิง ๑. สำ� นักคมุ้ ครองภูมปิ ญั ญาการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก. ชุดต�ำราภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ฉบับอนุรักษ์ ต�ำราการแพทย์แผนไทย ในศิลาจารึกวัด พระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธ์ิ) เล่ม ๒. พิมพ์คร้ังท่ี ๑. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ ทหารผ่านศกึ ในพระบรมราชปู ถัมภ์, ๒๕๕๗. ๒. ประกาศกําหนดตําราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตํารบั ยาแผนไทยของชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๘, ๓๐ พฤศจกิ ายน). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๓๑๗ ง. 96
ยาทาแก้เร้ือนข้ีนก ทีม่ าของตำ� รับยา ศิลาจารึกตำ� รายาวัดพระเชตุพนวมิ ลมงั คลาราม (วดั โพธ์ิ) (๑, ๒) “๏ ปุนะจะปะรัง ในล�ำดับนี้จะกล่าวด้วยนัยอันหนึ่งใหม่ ว่าด้วยลักษณะพยาธิโรค คือเรื้อน มูลนกน้ันเป็นค�ำรบ ๒ เมื่อจะบังเกิดนั้นผุดขึ้นมาเป็นแว่น เป็นวงขึ้นตามผิวหนัง เล็กก็มี ใหญ่ก็มี มสี ีอนั ขาวนุงๆ ขอบนัน้ นนู ดูสณั ฐานดังกลากพรรนัย กระท�ำใหค้ นั ถ้าแกเ่ ข้าเป็นลามไปท้งั ตัว พยาธิอนั น้ี หายบ้าง มิหายบา้ ง แต่ไม่ตาย เป็นแตล่ �ำบาก ดังอาจารยก์ ลา่ วไว้ ฯ ขนานหน่ึง เอาใบล�ำโพง ใบกรวยปา่ ข่าหลวง ใบพลูแก่ เอื้องเพ็ดม้า ใบกุ่มน้�ำ ใบกุ่มบก ใบขอบชะนางแดง ใบขอบชะนางขาว เอาเสมอภาค ท�ำเปน็ จุณบดละลายสรุ า ทาแกพ้ ยาธิโรค คือเร้อื นมลู นกนั้นหาย ตามอาจารย์กล่าวไวว้ ิเศษนกั ฯ” สูตรตำ� รับยา ประกอบด้วยตัวยา ๙ ชนิด รวมน้ำ� หนกั ๙ สว่ น ดังนี้ กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ตัวยา นำ้� หนักยา กรวยป่า ๑ สว่ น กุ่มน้�ำ (ใบ) ๑ สว่ น กุ่มบก (ใบ) ๑ สว่ น ขอบชะนางขาว ๑ ส่วน ขอบชะนางแดง ๑ ส่วน ขา่ หลวง ๑ ส่วน พลแู ก ๑ สว่ น ล�ำโพง (ใบ) ๑ สว่ น เออ้ื งเพ็ดมา้ ๑ ส่วน สรรพคุณ แก้โรคสะเก็ดเงิน (ระยะท่ีมีแผลเป็นวงสีขาว มีขุย ขอบนูน มีอาการคัน และ ลามไปทง้ั ตัว) รูปแบบยา ยาผง (ดภู าคผนวก ๓.๒) ขนาดและวิธกี ารใช้ ผสมสุรา ทาวันละ ๒ ครงั้ เชา้ และเย็น คำ� เตอื น เป็นยาใชภ้ ายนอกหา้ มกนิ ขอ้ มูลเพ่มิ เติม - ตวั ยาท่ีใช้ในตำ� รับน้คี วรเป็นตัวยาสด - การเตรยี มตวั ยาล�ำโพงกอ่ นน�ำไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๒๘) 97
กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทยเอกสารอ้างอิง ๑. สำ� นักคมุ้ ครองภูมปิ ญั ญาการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก. ชุดต�ำราภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ฉบับอนุรักษ์ ต�ำราการแพทย์แผนไทย ในศิลาจารึกวัด พระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธ์ิ) เล่ม ๒. พิมพ์คร้ังท่ี ๑. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ ทหารผ่านศกึ ในพระบรมราชปู ถัมภ์, ๒๕๕๗. ๒. ประกาศกําหนดตําราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตํารบั ยาแผนไทยของชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๘, ๓๐ พฤศจกิ ายน). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๓๑๗ ง. 98
ยาทาแกเ้ ร้อื นวลิ า ทีม่ าของตำ� รับยา ศิลาจารึกต�ำรายาวัดพระเชตพุ นวมิ ลมงั คลาราม (วัดโพธ)์ิ (๑, ๒) “๏ ปุนะจะปะรัง ในล�ำดับนี้จะกล่าวด้วยนัยอันหน่ึงใหม่ ว่าด้วยลักษณะพยาธิโรคคือเรื้อน วิลานัน้ เป็นค�ำรบ ๓ เมื่อจะบังเกิดนัน้ ขึ้นท่ีหูแลก�ำด้นต้นคอ กระท�ำใหเ้ ปอื่ ยพพุ อง ใหค้ นั ดูสณั ฐานดจุ มะเร็ง ไรย่ิงคนั ย่งิ เกา ครัน้ วายเกาแลว้ ให้แสบรอ้ นตามทเ่ี กา แลลักษณะเร้ือนวลิ านห้ี ายมากกว่าไมห่ าย ดงั อาจารย์ กลา่ วไว้ ฯ ขนานหนึ่ง เอาผลล�ำโพงแดง ใบกรวยปา่ ใบขอบชะนางทัง้ สอง ใบรกั ขาว เอาเสมอภาค ท�ำเปน็ จุณบดละลายน้�ำมันดิบทา แก้พยาธิโรคคือเรื้อนวิลา เป็นต้น แลเร้ือนมูลนก แลเร้ือนกวางแลเรื้อนหูด แลแก้สรรพเรื้อนทั้งปวงก็หายวเิ ศษนกั ฯ” สตู รตำ� รับยา ประกอบดว้ ยตัวยา ๖ ชนดิ รวมน�ำ้ หนัก ๖ สว่ น ดงั นี้ กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ตัวยา นำ�้ หนักยา กรวยป่า ๑ สว่ น ขอบชะนางขาว ๑ ส่วน ขอบชะนางแดง ๑ สว่ น น�ำ้ มนั งา ๑ ส่วน รักขาว ๑ สว่ น ลำ� โพงแดง ๑ สว่ น สรรพคุณ แกโ้ รคสะเก็ดเงนิ ระยะทม่ี ีแผลเป่ือย รูปแบบยา ยาน�้ำมัน (ดูภาคผนวก ๓.๖) วธิ ปี รงุ ตวั ยาลำ� โพงแดง กรวยป่า ขอบชะนางแดง ขอบชะนางขาว รักขาว โขลกให้ละเอียด แลว้ นำ� ไปหุงตามวิธกี ับน้�ำมันงา ขนาดและวธิ กี ารใช้ ทา วันละ ๒ คร้งั เชา้ และเย็น ค�ำเตือน เปน็ ยาใช้ภายนอกหา้ มกิน ขอ้ มลู เพ่มิ เตมิ - ตัวยาทใ่ี ช้ในตำ� รบั นี้ควรเป็นตวั ยาสด - การเตรียมตวั ยารกั ขาวกอ่ นนำ� ไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๒๗) 99
กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทยเอกสารอ้างอิง ๑. สำ� นกั คุ้มครองภมู ปิ ัญญาการแพทยแ์ ผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก.ชุดต�ำราภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ฉบับอนุรักษ์ ต�ำราการแพทย์แผนไทย ในศิลาจารึกวัด พระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธ์ิ) เล่ม ผภ. พิมพ์คร้ังท่ี ๑. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ ทหารผ่านศกึ ในพระบรมราชปู ถัมภ์, ๒๕๕๗. ๒. ประกาศกําหนดตําราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตํารบั ยาแผนไทยของชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๘, ๓๐ พฤศจิกายน). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๓๑๗ ง. 100
ยาทาแกโ้ รคผิวหนงั ชื่ออน่ื นำ้� มนั ทากฏุ ฐโรค ทมี่ าของตำ� รบั ยา ศลิ าจารึกตำ� รายาวัดพระเชตุพนวิมลมงั คลาราม (วัดโพธิ์) (๑, ๒) “...๏ สทิ ธิการิยะ จะกล่าวดว้ ยตำ� รายาคือวิเศษสรรพคณุ ส�ำเรจ็ อนั อาจารยเ์ จ้าในก่อนประมวล ไว้ ใหแ้ กส้ รรพโรคทงั้ ปวงตา่ งๆ สบื กนั มา ฯในทน่ี จี้ ะวา่ แตส่ รรพคณุ วเิ ศษ คอื คณะสรรพยาทจ่ี ะแกซ้ งึ่ โรคกลา่ ว คือชาติบุพกรรมกุฏฐโรค สมมุติว่าโรคเร้ือนนั้นโดยนัยดังน้ี ฯ ยาชื่อน้�ำมันทากุฏฐโรค เอาผลกะเบา ผลกะเบียน ผลล�ำโพง กาสลัก ผลดีหมีต้น เล่ียนท้ังใบทั้งเปลือก ขอบชะนางทั้งสอง ทั้งต้นท้ังราก ใบกรวยป่า ใบสะแกแสง ใบมะเกลอื ใบตานหม่อน ใบยาสูบ ขม้ินออ้ ย สงิ่ ละ ๑ ต�ำลงึ มะพรา้ วไฟผล ๑ ท�ำเป็นจุณแล้วคุลีการเข้าด้วยกัน หุงให้คงแต่น้�ำมันแล้วจึงมาทาสรรพกุฏฐโรคคือโรคเร้ือนทั้งปวง หายดีนกั ฯ …” สูตรตำ� รับยา ประกอบด้วยตัวยา ๑๔ ชนิด รวมน้ำ� หนกั ๗๘๐ กรัม* ดังนี้ กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ตัวยา นำ้� หนักยา กรวยป่า ๖๐ กรัม กระเบา ๖๐ กรัม กระเบียน ๖๐ กรมั ขม้ินอ้อย ๖๐ กรมั ขอบชะนางขาว (รากและตน้ ) ๖๐ กรมั ขอบชะนางแดง (รากและต้น) ๖๐ กรมั ดีหมตี ้น ๖๐ กรัม ตานหมอ่ น ๖๐ กรัม มะเกลือ ๖๐ กรมั ยาสูบ ๖๐ กรัม ล�ำโพงกาสลัก (ผล) ๖๐ กรัม เลยี่ น (เปลือกและใบ) ๖๐ กรมั สะแกแสง ๖๐ กรมั มะพร้าวไฟ (ผล) ๑ กรัม *ไม่รวมน้ำ�หนัก มะพรา้ วไฟ 101
สรรพคณุ แก้โรคผวิ หนังซึง่ มีอาการผื่นคนั เชน่ กลาก เกลอื้ น รูปแบบยา ยาน้�ำมนั (ดภู าคผนวก ๓.๖) วธิ ปี รุงยา ตัวยากระเบา กระเบยี น ลำ� โพงกาสลกั ดหี มีตน้ เลี่ยน ขอบชะนางแดง ขอบชะนางขาว กรวยป่า สะแกแสง มะเกลือ ตานหม่อน ยาสูบ ขมิ้นอ้อยบดเป็นผงละเอียด แลว้ หุงตามวิธีกบั น้�ำมนั มะพรา้ วไฟ ขนาดและวธิ ีการใช้ ทาแผลวันละ ๒ ครัง้ เชา้ และเย็น กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ค�ำเตอื น เปน็ ยาใช้ภายนอกหา้ มกิน ข้อห้ามใช้ ห้ามใชใ้ นแผลตดิ เช้ือ แผลเนา่ เปือ่ ยเรอ้ื รัง ข้อมลู เพิม่ เตมิ การเตรียมตวั ยายาสบู กอ่ นน�ำไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๒๔) เอกสารอ้างอิง ๑. ส�ำนักค้มุ ครองภูมิปัญญาการแพทยแ์ ผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก.ชุดต�ำราภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ฉบับอนุรักษ์ ต�ำราการแพทย์แผนไทย ในศิลาจารึก วดั พระเชตุพนวมิ ลมงั คลาราม (วดั โพธ)ิ์ เล่ม ๓. พิมพ์คร้งั ท่ี ๑. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พอ์ งคก์ ารสงเคราะห์ ทหารผ่านศกึ ในพระบรมราชปู ถมั ภ,์ ๒๕๕๗. ๒. ประกาศกําหนดตําราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตํารบั ยาแผนไทยของชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๘, ๓๐ พฤศจิกายน). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๓๑๗ ง. 102
ยาทาพระเสน้ ทม่ี าของต�ำรบั ยา คัมภีร์ธาตพุ ระนารายณ์ ฉบับใบลาน (๑, ๒) “ทาพระเสน้ ใหเ้ อาพริกไทย ข่า กระชาย หอม กะเทยี ม มหาหงิ คุ์ ยาด�ำ ส่งิ ละส่วน ตะไคร้หอม ใบข้ีเหลก็ ใบตองแตก ใบมะขาม ใบเลยี่ น สิง่ ละ ๔ ส่วน เอาใบมะค�ำไก่ ๑๖ สว่ น นำ้� สุรา น้�ำสม้ สาชูก็ได้ เป็นกระสาย นำ้� สมสาชทู าแก้พระเส้นพิรุธ แลแกล้ มอัมพาต ลมปตั ฆาฏ กลอ่ น ตระคริว จบั โปง เม่อื ยขบ ทง้ั ปวงหายส้นิ แล ฯ” กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย สูตรตำ� รับยา ประกอบดว้ ยตัวยา ๑๓ ชนิด รวมนำ้� หนัก ๔๓ สว่ น ดังนี้ ตัวยา นำ้� หนกั ยา มะคำ� ไก่ ๑๖ ส่วน ขี้เหลก็ (ใบ) ๔ ส่วน ตองแตก (ใบ) ๔ ส่วน ตะไครห้ อม ๔ ส่วน มะขาม ๔ สว่ น เลี่ยน ๔ สว่ น กระชาย ๑ ส่วน กระเทียม ๑ ส่วน ขา่ ๑ สว่ น พรกิ ไทย ๑ สว่ น มหาหงิ ค์ุ ๑ ส่วน ยาดำ� ๑ ส่วน หอม ๑ สว่ น สรรพคุณ แก้ปวดเมอื่ ยตามเส้นเอ็น ในโรคอัมพาต ปตั ฆาต เป็นตะครวิ ปวดบวมตามข้อ รปู แบบยา ยาผง (ดภู าคผนวก ๓.๒) ขนาดและวธิ ีการใช้ ละลายเหลา้ หรอื น�้ำส้มสายชู ทาหรือพอกวันละ ๒-๓ ครั้ง เชา้ (กลางวัน) เย็น คำ� เตอื น เปน็ ยาใชภ้ ายนอกหา้ มกิน ขอ้ มลู เพม่ิ เติม - การใช้ยาขนานนพี้ อกเขา่ เปน็ เวลานานเกนิ ๑ ชว่ั โมง อาจท�ำให้ผิวหนังบริเวณที่ พอกลอกเป็นขยุ ได้ แตไ่ มท่ �ำให้เกดิ อนั ตรายแตอ่ ย่างไร - น้�ำส้มสายชู ท่ีใช้เป็นกระสายน้ัน ควรเป็นน�้ำส้มสายชูที่ได้จากการหมักตาม ธรรมชาติ 103
กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย - การเตรียมตวั ยาตองแตกกอ่ นน�ำไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๑๒) - การเตรยี มตัวยามหาหิงคก์ุ ่อนนำ� ไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๑๘) - การเตรยี มตวั ยายาด�ำก่อนน�ำไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๒๓) เอกสารอา้ งอิง ๑. สำ� นกั คมุ้ ครองภูมปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย กรมพัฒนาการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก. ชุดต�ำราภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ฉบับอนุรักษ์ คัมภีร์ธาตุพระนารายณ์ ฉบับใบลาน (ตำ� ราพระโอสถพระนารายณ)์ . พมิ พค์ รงั้ ที่ ๑. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พอ์ งคก์ ารสงเคราะหท์ หารผา่ นศกึ ในพระบรม ราชูปถมั ภ์, ๒๕๕๕. หน้า ๑๖๖. ๒. ประกาศกําหนดตําราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตํารบั ยาแผนไทยของชาติ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๙, ๑๒ มกราคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๗ ง, หน้า ๑-๓. 104
ยาทพิ ดารา ทีม่ าของต�ำรบั ยา คมั ภรี ์แพทย์ไทยแผนโบราณ ขุนโสภติ บรรณลักษณ์ เลม่ ๑ (๑) “ยาทิพดารา แก้ไข้พิษไข้กาฬ ไข้สันนิบาต ไข้รากสาด ไข้กาฬโรค ไข้ประดงทั้งปวง ไขเ้ หือดหดั อีสุกอไี ส เอาจากชงิ ช่ี รากคนทา รากมะเดอ่ื ชมุ พร รากเทา้ ยายมอ่ ม รากหญา้ นาง เอาสิ่งละ ๑ บาท เหมอื ดคน ช้องระอา รากลำ� โพง ระย่อม ไคร้เครือ จันทน์แดง จนั ทน์ขาว จันทนช์ ะมด จนั ทนา เอาส่งิ ละ ๘ บาท เปลอื กตน้ ปลาไหลเผือกเทา่ ยาทงั้ หลาย ฝางเสนกึง่ ยาท้ังหลาย บดปน้ั แทง่ ดว้ ยน�้ำดอกไม้ แทรกชะมด พิมเสน กระแจะตะนาว หญ้าฝรน่ั อ�ำพนั ทอง ดหี มี ดีหมูปา่ ดีตะพาบน้�ำ ละลายน้�ำกระสายกิน” สูตรตำ� รบั ยา ประกอบดว้ ยตวั ยา ๑๖ ชนดิ รวมนำ้� หนกั ๒,๘๘๗.๕ กรัม ดงั นี้ กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ตัวยา นำ้� หนกั ยา ปลาไหลเผือก ๑,๑๕๕ กรมั ฝางเสน ๕๗๗.๕ กรมั ไคร้เครือ ๑๒๐ กรัม จันทนข์ าว ๑๒๐ กรมั จนั ทนช์ ะมด ๑๒๐ กรมั จันทน์แดง ๑๒๐ กรมั จนั ทนา ๑๒๐ กรัม ชองระอา ๑๒๐ กรมั ระย่อม ๑๒๐ กรัม ล�ำโพง ๑๒๐ กรมั เหมือดคน ๑๒๐ กรมั คนทา ชิงชี่ ๑๕ กรัม มะเดื่ออทุ มุ พร ๑๕ กรัม ไม้เทา้ ยายมอ่ ม ๑๕ กรมั ย่านาง ๑๕ กรัม ๑๕ กรมั สรรพคณุ แกไ้ ขพ้ ษิ ไขก้ าฬ ไขส้ นั นบิ าต ไขร้ ากสาด ไขก้ าฬ ไขป้ ระดงทง้ั ปวง ไขเ้ หอื ดหดั อสี กุ อใี ส ยาเมด็ พิมพ์ ขนาด ๓๐๐ มิลลกิ รัม (ดูภาคผนวก ๓.๔.๑) รูปแบบยา บดปั้นแท่งด้วยน�้ำดอกไม้แทรกชะมดพิมเสน กระแจะตะนาว หญ้าฝรั่น ดีหมี วิธปี รงุ ยา ดหี มูปา่ ดตี ะพาบน้ำ� ละลายน�้ำกระสาย 105
กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทยขนาดและวธิ ีการใช้ คร้งั ละ ๒-๔ เม็ด กินวนั ละ ๓ ครง้ั กอ่ นอาหาร เชา้ กลางวนั และเยน็ ข้อมลู เพมิ่ เตมิ - การเตรียมตัวยาไครเ้ ครือกอ่ นน�ำไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๘) - การเตรยี มตัวยาระย่อมกอ่ นน�ำไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๒๖) - การเตรียมตวั ยาล�ำโพงก่อนน�ำไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๒๘) เอกสารอา้ งอิง ขนุ โสภติ บรรณลักษณ์ (อ�ำพนั กติ ตขิ จร), คมั ภรี แ์ พทยไ์ ทยแผนโบราณ เล่ม ๓. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์อุตสาหกรรมการพมิ พ์, ๒๕๐๔. 106
ยาทภิ าวธุ ท่มี าของต�ำรับยา ตำ� รายาเกร็ด (๑) “๏ ยาช่อื ทิภาวธุ เอา โกฐ (หวั ) บัว โกฐเชียง โกฐกระดูก เทียนขาว อบเชยเทศ ชะเอมเทศ สง่ิ ละสว่ น กฤษณา กระล�ำพกั ชะลดู สิง่ ละ ๒ ส่วน พริกหาง เปราะหอม สิง่ ละ ๓ สว่ น ขอนดอก ๔ สว่ น ท�ำเป็นจุณบดท�ำแท่งไว้ ละลายน�้ำดอกไม้แทรกชะมด แทรกพิมเสนให้กิน แก้ลมสัถกะวาต ซึ่งกระทา ให้จักษุมวั แลให้หวิ หาแรงมิไดน้ ัน้ หายวเิ ศษนัก ๚” กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย สูตรตำ� รับยา ประกอบด้วยตวั ยา ๑๒ ชนดิ รวมนำ�้ หนัก ๒๒ ส่วน ดงั น้ี ตัวยา นำ้� หนักยา ขอนดอก ๔ สว่ น เปราะหอม ๓ ส่วน พรกิ หาง ๓ ส่วน กระล�ำพกั (สลดั ได) ๒ สว่ น กฤษณา ๒ สว่ น ชะลูด ๒ ส่วน โกฐกระดูก ๑ สว่ น โกฐเชยี ง ๑ ส่วน โกฐหวั บัว ๑ สว่ น ชะเอมเทศ ๑ สว่ น เทียนขาว ๑ ส่วน อบเชยเทศ ๑ ส่วน สรรพคณุ แก้ลมสัตถกวาต ซึ่งกระท�ำให้จกั ษมุ วั แลให้หิวหาแรงมิได ้ รปู แบบยา ยาเมด็ พมิ พ์ ขนาด ๕๐๐ มลิ ลิกรมั (ดภู าคผนวก ๓.๔.๑) ขนาดและวธิ กี ารใช ้ ครั้งละ ๑ เม็ด ละลายน�้ำดอกไม้ แทรกพิมเสนหรือชะมด กินวันละ ๓ คร้ัง กอ่ นอาหารเชา้ กลางวนั และเยน็ เอกสารอ้างองิ ๑. “ต�ำรายาเกรด็ ”. หอสมดุ แหง่ ชาต.ิ หนงั สอื สมดุ ไทยด�ำ. อกั ษรไทย. ภาษาไทย. เลขท่ี ๒๓๓. หมวดตำ� ราเวชศาสตร์. ๒. ประกาศกําหนดตําราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตํารบั ยาแผนไทยของชาติ (ฉบบั ท่ี ๘) พ.ศ. ๒๕๕๙, (๒๕๖๐, ๒๔ พฤษภาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๓๙ ง, หน้า ๑-๓. 107
ยาธรณสี นั ฑะฆาต ชือ่ อน่ื ธรณีสนั ฑคาต (๑) ท่ีมาของตำ� รับยา สตู รต�ำรับท่ใี กลเ้ คียงต�ำรบั นี้ พบใน ตำ� รายายรุ เวทศกึ ษา ขนุ นิทเทศสขุ กจิ เล่ม ๒ (๑) “ยา ธรณสี นั ฑคาต เอาลกู จนั ทน์ ดอกจนั ทน์ กระวาน กานพลู เทยี นดำ� เทยี นขาว ดองดงึ หวั บกุ หวั กลอย กระดาดแดง กระดาดขาว ลูกเรว่ ขิงแหง้ ชะเอมเทศ เจตมูล โกฐกระดกู โกฐเขมา โกฐนำ�้ เตา้ ส่ิงละ ๑ บาท ผักแพวแดง ลูกมะขามป้อม สิ่งละ ๒ บาท สมอไทย มหาหิงคุ์ การบูร สิ่งละ ๖ บาท รงทอง ๑๒ บาท ยาด�ำ ๒๐ บาท พริกไทย ๙๖ บาท ตำ� เปน็ ผง กินถา่ ย” สูตรต�ำรับยา ประกอบดว้ ยตวั ยา ๒๖ ชนิด รวมนำ�้ หนกั ๑๖๐ กรัม (๒) ดังน้ี กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ตัวยา นำ�้ หนกั ยา พรกิ ไทยล่อน ๙๖ กรมั ยาดำ� ๒๐ กรัม การบรู ๖ กรัม มหาหงิ ค์ุ ๖ กรัม สมอไทย (เนือ้ ผล) ๖ กรัม รงทอง ๔ กรมั ผักแพวแดง ๒ กรัม มะขามปอ้ ม (เนื้อผล) ๒ กรัม กระดาดขาว ๑ กรัม กระดาดแดง ๑ กรัม กลอย ๑ กรัม กานพลู ๑ กรัม โกฐกระดกู ๑ กรมั โกฐเขมา ๑ กรัม โกฐน�้ำเตา้ ๑ กรมั ขิง ๑ กรมั เจตมลู เพลงิ แดง ๑ กรัม ชะเอมเทศ ๑ กรัม ดอกจนั ทน์ ๑ กรมั ดองดงึ ๑ กรัม เทียนขาว ๑ กรัม เทยี นดำ� ๑ กรัม บกุ ๑ กรมั เร่ว ๑ กรมั กระวาน ๑ กรมั ๑ กรมั 108 ลูกจันทน์
สรรพคณุ แกเ้ ถาดาน ทอ้ งผูก แก้กษยั เส้น (๒) รูปแบบยา ยาแคปซูล ยาผง ยาเมด็ ยาลกู กลอน (๒) ขนาดและวธิ ีการใช้ ชนิดผง กนิ คร้งั ละ ๕๐๐ มลิ ลกิ รมั – ๑ กรัม ละลายน้�ำสกุ หรือผสมนำ�้ ผง้ึ ป้ันเป็นลกู กลอน วนั ละ ๑ ครง้ั กอ่ นอาหารเชา้ หรอื กอ่ นนอน ชนดิ แคปซูล ชนดิ เมด็ และลกู กลอน กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย กนิ คร้งั ละ ๕๐๐ มิลลกิ รมั - ๑ กรมั วันละ ๑ คร้ัง ก่อนอาหารเช้าหรือก่อนนอน (๒) ข้อหา้ มใช้ ห้ามใช้ในหญิงตงั้ ครรภ์ ผทู้ ม่ี ีไข้ และเดก็ เลก็ อายุตำ่� กวา่ ๖ ขวบ (๒) ขอ้ ควรระวงั - ควรระวังการกินร่วมกับยาในกลุ่มสารกันเลือดเป็นลิ่ม (anticoagulant) และยาตา้ นการจับตวั ของเกลด็ เลือด (antiplatelets) - ควรระวงั การใชย้ าอยา่ งตอ่ เนอื่ ง โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในผปู้ ว่ ยทม่ี คี วามผดิ ปกตขิ อง ตับ ไต เนอ่ื งจากอาจเกิดการสะสมของการบูรและเกิดพษิ ได้ - ควรระวังการใช้ร่วมกับยา phenytoin, propranolol, theophylline และ rifampicin เน่อื งจากต�ำรบั น้ีมีพริกไทยในปริมาณสูง มีรายงานว่าสารมีรายงาน วา่ สารพิเพอรีน (piperine) ในพรกิ ไทยเพ่ิมการดูดซมึ ของยาเหล่าน้ี (๒) - ควรระวังการใช้ในผสู้ งู อายุ (๒) ข้อมูลเพม่ิ เติม - การเตรียมตวั ยากลอยกอ่ นนำ� ไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๒) - การเตรียมตัวยาดองดึงกอ่ นน�ำไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๑๐) - การเตรยี มตัวยาบกุ ก่อนน�ำไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๑๔) - การเตรียมตวั ยารงทองก่อนน�ำไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๒๕) เอกสารอา้ งอิง ๑. อายุรเวทศึกษา (ขุนนิทเทสสุขกิจ) เล่ม ๒. นิทเทส (ถมรัตน์) พุ่มชูศรี. กรุงเทพ ฯ : พรอ้ มจกั รการพิมพ,์ ๒๕๑๖. หน้า ๑๘๖. ๒. ประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ เร่ือง บัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๑. (๒๕๖๑, ๑๙ มกราคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๑๓๕ ตอนพเิ ศษ ๑๔ ง. หนา้ ๔. (เอกสารแนบทา้ ยประกาศ หน้าที่ ๒๓๘, ๒๕๔) 109
ยาธาตเุ ด็ก ทีม่ าของต�ำรบั ยา ตำ� รายาเกรด็ (๑) “๏ ยาธาตเุ ดก็ ใบเจตมลู ๑ ใบดีปลี ๑ ใบขงิ ๑ ใบสะคา้ น ๑ ใบช้าพลู ๑ ใบโหระพาเทา่ ยา ท�ำเมด็ กินแก้ธาตุมิเสมอกนั ๚” สตู รต�ำรับยา ประกอบด้วยตัวยา ๖ ชนิด รวมน้ำ� หนัก ๑๐ ส่วน ดังน้ี กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ตัวยา น้ำ� หนักยา โหระพา ๕ ส่วน ขงิ (ใบ) ๑ สว่ น เจตมูลเพลงิ แดง (ใบ) ๑ สว่ น ชะพลู (ใบ) ๑ สว่ น ดปี ลี (ใบ) ๑ สว่ น สะคา้ น ๑ สว่ น สรรพคุณ แก้ธาตุไม่เสมอกัน (บ�ำรุงธาตุในเด็ก เช่น แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย เจ็บปว่ ยงา่ ย) รปู แบบยา ยาเม็ดพิมพ์ ขนาด ๑๐๐ มลิ ลกิ รัม (ดูภาคผนวก ๓.๔.๑) วธิ ปี รุงยา บดเป็นผงละเอียดแล้วทำ� เป็นเม็ด ขนาดและวิธกี ารใช ้ อายุ ๑ เดอื น-๕ เดอื น ครัง้ ละ ๑ เมด็ อายุ ๖ เดือน-๑ ปี ครัง้ ละ ๒ เม็ด อายุ ๑ ป-ี ๕ ป ี คร้ังละ ๓ เมด็ อายุ ๕ ปี ขนึ้ ไป คร้ังละ ๔ เมด็ ละลายน้�ำตม้ สุก กนิ วนั ละ ๒ ครั้ง ก่อนอาหาร เชา้ และเยน็ ข้อห้ามใช ้ ห้ามใชใ้ นเดก็ ท่ีมีไข ้ เอกสารอา้ งองิ ๑. “ตำ� รายาเกรด็ ”. หอสมดุ แหง่ ชาต.ิ หนงั สอื สมดุ ไทยดำ� . อกั ษรไทย. ภาษาไทย. เลขที่ ๓๑๔. หมวดตำ� ราเวชศาสตร.์ ๒. ประกาศกําหนดตําราการแพทย์แผนไทยของชาติและตํารับยาแผนไทยของชาติ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๒๕ พฤษภาคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๔๑ ง, หน้า ๑-๔. 110
ยานารายณป์ ระสิทธิ์ ท่ีมาของตำ� รบั ยา คมั ภรี แ์ พทยไ์ ทยแผนโบราณ ขนุ โสภิตบรรณลกั ษณ์ เลม่ ๑ (๑) “ยานารายณป์ ระสทิ ธ์ิ แกไ้ ขพ้ ษิ ไข้กาฬ ไขส้ นั นิบาต ไขร้ ากสาดทลี่ งเปน็ โลหิต ไข้จับสน่ั แกร้ อ้ น ภายในภายนอก ถอนเบื่อเมาต่าง ๆ เอาเปลือกต้นปลาไหลเผือก รากล�ำโพงกาสลัก ช้องระอา รากชิงช่ี รากคนทา รากมะเดื่อชุมพร รากเทา้ ยายมอ่ ม รากหญา้ นาง จนั ทน์แดง จนั ทนข์ าว จันทนเ์ ทศ จนั ทนช์ ะมด จนั ทนา โกฎสอ โกฎหวั บวั รากมะปรางหวาน รากมะนาว รากมะกรดู ฝางเสน เอาสงิ่ ละ ๔ บาท เหมือดคน เท่ายาทัง้ หลาย บดปัน้ แทง่ ด้วยน้�ำดอกไม้ แทรกชะมดพิมเสน กระแจะตะนาว ดงี เู หลือม ดีจรเข้ ดหี มปู า่ ดีหมี ละลายนำ�้ กระสายตามควรแกโ่ รคกนิ ” สตู รตำ� รบั ยา ประกอบด้วยตวั ยา ๒๐ ชนิด รวมน้�ำหนัก ๒,๒๘๐ กรมั ดังนี้ กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ตัวยา นำ้� หนักยา เหมอื ดคน ๑,๑๔๐ กรมั โกฐสอ ๖๐ กรัม โกฐหัวบัว ๖๐ กรัม คนทา ๖๐ กรัม จนั ทนข์ าว ๖๐ กรัม จันทน์ชะมด ๖๐ กรัม จนั ทน์แดง ๖๐ กรัม จันทนเ์ ทศ ๖๐ กรมั จันทนา ๖๐ กรมั ชองระอา ๖๐ กรัม ชงิ ช่ี ๖๐ กรมั ปลาไหลเผอื ก ๖๐ กรมั ฝางเสน ๖๐ กรัม มะกรดู (ราก) ๖๐ กรมั มะเดื่ออทุ มุ พร ๖๐ กรมั มะนาว ๖๐ กรัม มะปรางหวาน ๖๐ กรัม ไม้เทา้ ยายม่อม ๖๐ กรมั ล�ำโพงกาสลกั ๖๐ กรมั ยา่ นาง ๖๐ กรมั 111
สรรพคณุ แก้ไข้พิษไข้กาฬ ไข้สันนิบาต ไข้รากสาดที่ถ่ายเป็นโลหิต ไข้จับสั่น แก้ร้อนภายใน ภายนอก ถอนพษิ เบื่อเมาตา่ ง ๆ รูปแบบยา ยาเมด็ พมิ พ์ ขนาด ๓๐๐ มิลลกิ รมั (ดภู าคผนวก ๓.๔.๑) วิธีปรุงยา บดปั้นแท่งด้วยน้�ำดอกไม้แทรกชะมด พิมเสน กระแจะตะนาว ดีงูเหลือม ดีจระเข้ ดีหมูปา่ ดีหมี ละลายน�ำ้ กระสายยาตามควรแก่โรค ขนาดและวิธกี ารใช้ ครั้งละ ๒-๔ เมด็ กนิ วันละ ๓ คร้ัง กอ่ นอาหาร เชา้ กลางวัน และเย็น กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย เอกสารอ้างองิ ขุนโสภิตบรรณลักษณ์ (อำ� พัน กติ ติขจร), คมั ภีรแ์ พทย์ไทยแผนโบราณ เล่ม ๓. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พอ์ ุตสาหกรรมการพมิ พ,์ ๒๕๐๔. 112
ยานารายณพ์ งั คา่ ย ที่มาของต�ำรบั ยา ตำ� รายาเกรด็ (๑) “ยาชือ่ นารายณ์พงั ค่าย มหาหงิ ค์ุ ๑ (๑) อ�ำพัน ๑ (๒) เจตมูล ๑ (๓) ชีลอ้ ม ๑ (๔) สะค้าน ๑ (๕) โกฐสอ ๑ (๖) พริกหอม ๑ (๗) ลกู มะตูมออ่ น ๑ (๘) ลกู ช้าพลู ๑ (๙) ขิง ๑ (๑๐) สมอเทศ ๑ (๑๑) เทยี นดำ� ๑ (๑๒) เกสรบนุ นาค ๑ (๑๓) เปล้าท้งั ๒ ๑ (๑๔) รากทนดี ๑ (๑๕) พรกิ ไทย ๑ (๑๖) ยา ๑๖ สงิ่ นี้ ทวีตามวยั เลข ตากแห้งทำ� ผงไวเ้ ม่อื กนิ หนัก ๑ สลงึ ละลายนำ้� ร้อนกนิ ผายลง ๒ หน ๓ หน ต้องคณุ ก็ดแี ละ ลมขึ้นเบ้ืองบนถึงกระหม่อมแลลมให้เย็นตีนมือให้บวมเท้า ให้ตีนมือตายไป ต�ำหระ (ซีก) ตัวข้างหนึ่ง รบั อาหารมิไดใ้ ห้คบั ทรวง ทั่วสารพางคต์ วั ไขส้ ันนิบาตลมมีพษิ ใหฟ้ กบวมทุกแห่งลมใหเ้ ย็นตัว ให้หาแรง มิได้ ไฟธาตุหยอ่ นเผาอาหารมแิ หลก ใหเ้ จบ็ สีขา้ ง ให้ไอ เป็นหืด เปน็ ปาน เป็นพยาธิ ในท้อง ให้สั่นทงั้ ตีนมอื ลมให้ไอให้กระตุกทุกแห่ง และกินยาอันใด ๆ มิฟัง ให้กินยานี้ ถึงจะกินยาอ่ืน ยาน้ีอย่าทิ้งเสีย ๑๕ วัน กนิ ทีหนง่ึ ชื่อนารายณพ์ ังค่าย ตรี าคาไวช้ ่งั ทองหนง่ึ แล ฯ” สูตรตำ� รบั ยา ประกอบด้วยตัวยา ๑๗ ชนดิ รวมนำ�้ หนัก ๑๗ สว่ น ดังนี้ กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ตัวยา นำ้� หนักยา โกฐสอ ๑ ส่วน ขิง ๑ สว่ น เจตมูลเพลงิ แดง ๑ สว่ น ชะพลู ๑ ส่วน บุนนาค ๑ สว่ น เปล้าน้อย ๑ ส่วน เปล้าใหญ่ ๑ ส่วน ทนดี ๑ ส่วน เทยี นด�ำ ๑ สว่ น ลูกชีลอ้ ม ๑ สว่ น พรกิ ไทย ๑ สว่ น พรกิ หอม ๑ ส่วน มะตูม ๑ ส่วน มหาหิงคุ์ ๑ สว่ น สะคา้ น ๑ ส่วน สมอเทศ ๑ สว่ น อำ� พันทอง ๑ สว่ น 113
สรรพคุณ แก้ลมขึ้นเบื้องบน ลมให้เย็นมือเย็นเท้าให้เท้าบวม ให้มือเท้าตาย ซีกตัวข้างหน่ึง รับอาหารไม่ได้ ให้คับทรวงทั่วสารพางค์ตัว ไข้สันนิบาตลมมีพิษ ให้ฟกบวม ทุกแห่งลมให้เย็นตัว ให้หาแรงมิได้ ไฟธาตุหย่อนเผาอาหารมิแหลก ให้เจ็บสีข้าง ให้ไอ เป็นหืด เป็นปาน เป็นพยาธิ ในท้อง ให้ส่ันท้ังมือท้ังเท้า ลมให้ไอให้กระตุก ทุกแหง่ รูปแบบยา ยาผง (ดูภาคผนวก ๓.๒) กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ขนาดและวิธีการใช ้ คร้งั ละ ๓.๗๕ กรมั ละลายนำ้� ร้อน กนิ วนั ละ ๒ ครั้ง กอ่ นอาหาร เชา้ และเย็น ขอ้ หา้ มใช ้ ห้ามใชใ้ นหญิงตั้งครรภ์และหญงิ ให้นมบตุ ร ผู้ท่มี ีไข้ และเด็กอายุตำ่� กวา่ ๑๒ ขวบ ข้อมูลเพิ่มเติม - อำ� พนั ข้ีปลา หรอื อำ� พันทอง มชี อ่ื สามัญว่า ambergris (คำ� วา่ amber คอื อำ� พัน ส่วนค�ำว่า gris แปลว่า อาจม) ซ่ึงเป็นวัตถุคล้ายขีผ้ ึ้งมีสีเทาอมเหลือง พบลอยอยู่ ในทะเลแถบร้อน เป็นของเสียท่ีถ่ายออกมาจากท้องวาฬหัวทุย เมื่อถูกอากาศ นานเขา้ จะมกี ล่ินหอม มรี สเอียน คาวเลก็ นอ้ ย ใช้ผสมเคร่อื งหอมให้มกี ล่นิ คงทน แพทย์แผนไทยใชเ้ ปน็ ยาแกล้ ม แกเ้ สมหะ และทำ� ให้เกิดกำ� ลงั (๓) - การเตรยี มตัวยามหาหงิ คุ์ก่อนน�ำไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๑๘) เอกสารอ้างอิง ๑. “ตำ� รายาเกรด็ ”. หอสมดุ แหง่ ชาต.ิ หนงั สอื สมดุ ไทยดำ� . อกั ษรไทย. ภาษาไทย. เลขท่ี ๒๔๗. หมวดตำ� ราเวชศาสตร์. ๒. ประกาศกําหนดตําราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตํารบั ยาแผนไทยของชาติ (ฉบบั ท่ี ๘) พ.ศ. ๒๕๕๙, (๒๕๖๐, ๒๔ พฤษภาคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๑๓๙ ง, หนา้ ๑-๓. ๓. ชยันต์ พิเชียรสุนทร และ วิเชียร จีรวงส์. คู่มือเภสัชกรรมแผนไทย เล่มท่ี ๓ เคร่ืองยา สตั วว์ ัตถ.ุ กรงุ เทพฯ : อมรินทร,์ ๒๕๔๖. 114
ยานำ�้ มันช�ำระแผล ทม่ี าของตำ� รับยา ศิลาจารึกตำ� รายาวัดพระเชตุพนวิมลมงั คลาราม (วดั โพธ์)ิ (๑) “๏ สิทธิการิยะ จะกล่าวซึ่งสรรพยาข้ีผ้ึงน้�ำมัน อันจะรักษาวัณโรคคือ สรรพแผล ทั้งปวงน้ัน สืบตอ่ ไป ให้บุคคลท้งั หลายพึงรูด้ งั นี้ ฯ ยาน�้ำมนั ช�ำระแผล เอาใบขอบชะนางทั้งสอง ใบหญ้าน�้ำดบั ไฟ ใบลำ� โพงกาสลัก น�ำเอานำ้� สงิ่ ละ ทะนาน น�้ำมันงาทะนาน ๑ น�ำใบเถาคันแดง ๒ ทะนาน หุงตามวิธีให้คงแต่น้�ำมัน แล้วจึงเอาผลจันทน์ ดอกจนั ทน์ กานพลู จลุ สี สารสม้ ส่งิ ละ ๒ สลึง เป็นจุณปรงุ ลงในนำ�้ มัน ชบุ สำ� ลใี สแ่ ผลเป็นยาชำ� ระวิเศษนักฯ” สูตรตำ� รับยา ประกอบด้วยตวั ยา ๑๑ ชนดิ รวมนำ้� หนัก ๓๗.๕ กรัม* ดังนี้ กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ตัวยา นำ้� หนกั ยา กานพลู ๗.๕ กรมั จนุ สี ๗.๕ กรัม ดอกจันทน์ ๗.๕ กรัม ลกู จนั ทน์ ๗.๕ กรัม สารส้ม ๗.๕ กรัม เถาคันแดง ๒ ลิตร ขอบชะนางขาว ๑ ลิตร ขอบชะนางแดง ๑ ลิตร น้ำ� มนั งา ๑ ลิตร ล�ำโพงกาสลัก (ใบ) ๑ ลติ ร หญา้ น�้ำดับไฟ ๑ ลติ ร *ไม่รวมนำ้�หนัก ขอบชะนางขาว ขอบชะนางแดง หญ้าน�ำ้ ดบั ไฟ ลำ�โพงกาสลัก นำ้�มันงา เถาคนั แดง สรรพคุณ ช�ำระแผล รูปแบบยา ยาน้�ำมัน (ดภู าคผนวก ๓.๖) วิธปี รงุ ยา ตัวยาขอบชะนางขาว ขอบชะนางแดง หญ้าน�้ำดับไฟ ล�ำโพงกาสลัก น้�ำมันงา เถาคนั แดง หงุ ตามวธิ ใี หเ้ หลอื แตน่ ำ้� มนั แลว้ จงึ เอาตวั ยาลกู จนั ทน์ ดอกจนั ทน์ กานพลู จุนสี สารสม้ บดเปน็ ผงละเอียด ผสมลงในนำ้� มัน ขนาดและวธิ ีการใช้ ใชส้ �ำลชี ุบน้�ำมนั ทาแผลหรือปดิ แผล วันละ ๒ คร้ัง เชา้ และเยน็ ค�ำเตือน เปน็ ยาใช้ภายนอกหา้ มกนิ 115
กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทยข้อมลู เพิ่มเติม - การชำ� ระแผล ในศาสตรก์ ารแพทยแ์ ผนไทยหมายถงึ ทำ� ความสะอาดแผลโดยการ ใช้ยาทาหรอื พอกไว้ ใชไ้ ดท้ ัง้ แผลสดและแผลเป่ือย - การเตรยี มตวั ยาจุนสกี อ่ นน�ำไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๙) - การเตรียมตวั ยาสารสม้ กอ่ นนำ� ไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๓๖) เอกสารอ้างอิง ต�ำรายาศิลาจารึกในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) พระนคร, พระบาทสมเด็จ พระนง่ั เกล้าเจา้ อยหู่ ัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าใหจ้ ารึกไว้เม่ือ พ.ศ. ๒๓๗๕ ฉบับสมบูรณ,์ ๒๕๐๕. 116
ยาน�้ำมันมหาจักร ทมี่ าของต�ำรับยา คัมภีรธ์ าตพุ ระนารายณ์ ฉบับใบลาน (๑, ๒) “...นำ้� มันมหาจักร เอาน้ำ� มันงาทะนานหนงึ่ ดว้ ยทะนาน ๖๐๐ มะกรูดสด ๓๐ ลูก แลว้ จึงเอา นำ�้ มันตั้งเพลิงขนึ้ รุมเพลิงใหร้ ้อน เอาผิวมะกรูดใสล่ งให้เหลืองเกรียมดแี ลว้ ยกลงกรองกากใหห้ มดเอาไว้ให้ เย็น จงึ เอาเทยี นท้ัง ๕ สง่ิ ละ ๒ สลงึ ดีปลีบาท ๑ การบรู ๒ บาท บดจงละเอยี ดปรุงลงในนำ้� มันน้นั ยอนหู แก้ลม แก้ริดสีดวง แก้เปื่อยคันก็ได้ ทาเมื่อยขบก็ได้ ใส่บาดแผลเจ็บปวดเสี้ยนหนามหอกดาบก็ได้หายแล แต่อยา่ ให้ ถกู นำ�้ ๓ วัน มิเปนบบุ โพเลย ฯ…” สตู รตำ� รับยา ประกอบดว้ ยตวั ยา ๙ ชนิด รวมน�ำ้ หนัก ๘๒.๕ กรมั * ดงั น้ี ตวั ยา นำ้� หนักยา กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย การบูร ๓๐ กรมั ดปี ลี ๑๕ กรัม เทยี นขาว ๗.๕ กรมั เทียนขา้ วเปลือก ๗.๕ กรัม เทยี นด�ำ ๗.๕ กรมั เทียนแดง ๗.๕ กรมั เทยี นตาตัก๊ แตน ๗.๕ กรมั น�้ำมนั งา ๑ ลิตร มะกรูด ๓๐ ลกู *ไม่รวมน้�ำ หนัก น�ำ้ มันงา มะกรดู สรรพคณุ ทาแก้ปวดเมือ่ ยตามรา่ งกาย รูปแบบยา ยานำ้� มัน (ดูภาคผนวก ๓.๖) สรรพคุณ ทาแก้ปวดเมื่อยตามรา่ งกาย วิธปี รงุ ยา ๑) ทอดผิวมะกรูดในนำ้� มันงา จนผวิ มะกรดู เปลีย่ นเป็นสีเหลืองเกรยี ม ยกลงจากไฟ กรองกากออกให้หมด พกั ใหเ้ ยน็ ๒) ตัวยาเทียนแดง เทียนขาว เทียนข้าวเปลือก เทียนตาตั๊กแตน เทียนด�ำ ดีปลี บดให้พอหยาบ แล้วจึงใส่ลงในน�้ำมันตามข้อ ๑) คนให้เข้ากัน กรองเอากากออก ใหห้ มด ตงั้ ทิ้งไว้ให้เยน็ แล้วจึงเตมิ การบูร ลงในน�้ำมันคนใหเ้ ขา้ กนั ขนาดและวิธีการใช ้ ทาบริเวณที่มอี าการปวดเมอื่ ย วันละ ๒-๓ คร้งั เชา้ (กลางวนั ) เยน็ คำ� เตอื น เป็นยาใชภ้ ายนอกหา้ มกนิ 117
กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทยเอกสารอ้างองิ ๑. สำ� นกั คุม้ ครองภมู ปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก. ชุดต�ำราภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ฉบับอนุรักษ์ คัมภีร์ธาตุพระนารายณ์ ฉบับใบลาน (ตำ� ราพระโอสถพระนารายณ)์ . พมิ พค์ รงั้ ที่ ๑. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พอ์ งคก์ ารสงเคราะหท์ หารผา่ นศกึ ในพระบรม ราชปู ถมั ภ์, ๒๕๕๕. หน้า ๑๑๙. ๒. ประกาศกําหนดตําราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตํารบั ยาแผนไทยของชาติ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๙, ๑๒ มกราคม). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๗ ง, หน้า ๑-๓. 118
ยาน�ำ้ มนั สนน่ั ไตรภพ ที่มาของตำ� รับยา ศิลาจารึกต�ำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) (๑), จารึกต�ำรายา วดั ราชโอรสารามวรวหิ าร (๒) “๏ สิทธิการิยะ จะกลา่ วลกั ษณะกระษัยโรคอันบงั เกิดข้นึ เป็นอปุ ปาติก คือกระษัยเหลก็ น้นั เปน็ คำ� รบ ๓ มีประเภทกระทำ� ให้หนา้ เหนา่ และทอ้ งน้อยน้นั แขง็ ดจุ ดงั แผน่ ศลิ า และจะไหวตวั ไปมาก็มิได้ ครนั้ แก่ เขา้ แข็งลามขึ้นไปถึงยอดอก และใหบ้ รโิ ภคอาหารมไิ ด้ ให้ปวดขบดงั จะขาดใจตายดงั น้ี ฯ อนง่ึ เอาใบกะเพรา ใบแมงลัก ใบเสี้ยนผี กระชาย กัญชา พรกิ ไทย หอมแดง หญา้ ไซ เกลือ ลูกคัดเค้า ยาทั้งน้ีเอาน�้ำสิ่งละทะนาน ๑ น�้ำมันงาทะนาน ๑ หุงให้คงแต่น�้ำมันแล้ว จึงเอา ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ กระวาน กานพลู เทยี นดำ� เทียนขาว การบูร สง่ิ ละ ๑ สลึง ทำ� เปน็ จณุ ปรุงลงในนำ้� มันนัน้ แลว้ จงึ เอามาทาท้องรีดเสียให้ได้ ๓ วันก่อน แล้วจึงกินน้�ำมันนี้อีก ๓ วันหายวิเศษนัก ยาน้�ำมันขนานน้ีช่ือ สนั่นไตรภพ แกก้ ลอ่ นกระษัยทัง้ ปวงหายดนี ักฯ” สูตรตำ� รบั ยา ประกอบดว้ ยตัวยา ๑๘ ชนดิ กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ตวั ยา น�้ำหนกั ยา กะเพรา ๑ กโิ ลกรมั (นำ้� หนักตัวยาสด) แมงลกั ๑ กโิ ลกรัม (น�้ำหนักตวั ยาสด) ผักเส้ยี นผี (ใบ) ๑ กโิ ลกรัม (น�้ำหนกั ตวั ยาสด) กระชาย ๑ กโิ ลกรัม (น�้ำหนักตวั ยาสด) กัญชา ๑ กิโลกรมั (นำ้� หนักตวั ยาสด) พรกิ ไทย ๑ กโิ ลกรัม (นำ้� หนกั ตวั ยาสด) หอมแดง ๑ กโิ ลกรัม (น�้ำหนักตัวยาสด) หญ้าไทร ๑ กิโลกรัม (น�้ำหนักตวั ยาสด) เกลือ คดั เค้า ๑ กโิ ลกรัม ลูกจันทน์ ๑ กิโลกรัม (น�้ำหนกั ตัวยาสด) ดอกจันทน์ กระวาน ๓.๗๕ กรมั กานพลู ๓.๗๕ กรมั เทยี นด�ำ ๓.๗๕ กรัม เทยี นขาว ๓.๗๕ กรมั การบูร ๓.๗๕ กรมั น้�ำมนั งา ๓.๗๕ กรัม ๓.๗๕ กรัม ๑ ทะนาน 119
สรรพคณุ แก้กษัยเหล็ก รูปแบบยา ยาน้�ำมนั (ดภู าคผนวก ๓.๖) ขนาดและวิธใี ช ้ ใชน้ ้ำ� มันทารดี ทอ้ ง นวดคลงึ บริเวณรอบสะดอื ถึงชายโครง ทิศตามเขม็ นาฬิกา ๓ วนั ก่อน แล้วจงึ ให้กนิ น�้ำมัน ครั้งละ ๓-๕ มลิ ลลิ ิตร กนิ วนั ละ ๑ คร้ัง ก่อนอาหารเชา้ เปน็ เวลา ๓ วัน ขอ้ ห้ามใช ้ ห้ามใชใ้ นหญงิ ตง้ั ครรภ์ ผทู้ ่ีมีไข้ และผูท้ ่ีมอี ายตุ �ำ่ กวา่ ๑๘ ขวบ กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ขอ้ ควรระวงั - ควรระวังการกินร่วมกับยาในกลุ่มสารกันเลือดเป็นล่ิม (anticoagulant) และ ยาต้านการแขง็ ตัวของเลอื ด (antiplatelets) - ควรระวังการใช้ร่วมกับยา phenytoin, propranolol, theophylline และ rifampicin เนอ่ื งจากตำ� รบั นมี้ ีพรกิ ไทยในปริมาณสูง - ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ผู้ป่วยโรคแผลเปื่อย เพปตกิ ผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหารและกรดไหลยอ้ น เน่ืองจากเป็นตำ� รบั ยารสรอ้ น - ควรระวังการใช้ยาอย่างต่อเน่ือง โดยเฉพาะอย่างย่ิงในผู้ป่วยที่มีความผิดปรกติ ของตับ ไต เนื่องจากอาจเกดิ การสะสมของการบูรและเกิดพิษได้ - ควรระวังในการทาบริเวณผวิ ทีบ่ อบบางหรอื ผวิ หนงั ทแ่ี ตกเน่ืองจากอาจทำ� ให้เกดิ การระคายเคอื งได้ ข้อมลู เพิ่มเตมิ - ต�ำรับยานี้มีกัญชาเป็นส่วนประกอบ จัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท ๕ ตามพระราชบญั ญตั ยิ าเสพตดิ ใหโ้ ทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ และฉบบั แก้ไขเพม่ิ เตมิ การใช้ยา เสพติดให้โทษต�ำรับน้ีต้องอยู่ภายใต้การปรุงและส่ังจ่ายโดยผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์ แผนไทยตามหลักเกณฑ์ วธิ กี ารและเงอื่ นไขในประกาศกระทรวงสาธารณสุข - ตัวยากะเพรา แมงลัก ผักเสี้ยนผี กระชาย กัญชา พริกไทย หอมแดง หญ้าไทร คดั เคา้ ใชต้ วั ยาสดส่ิงละ ๑ กโิ ลกรัม คัน้ เอาแต่นำ้� มาใช้ในการปรงุ ยา - ต�ำรับน้ีมีการบูรเป็นส่วนประกอบ ซึ่งปริมาณที่ท�ำให้เกิดพิษจากการกินการบูร เทา่ กับ ๒ กรมั โดยขนาดถึงตาย (lethal dose) ในผใู้ หญ่อยู่ท่ี ๔,๐๐๐ มิลลิกรัม/มอ้ื ในเด็กอยูท่ ่ี ๕๐๐-๑,๐๐๐ มิลลิกรัม/ม้อื และในทารกอยทู่ ี่ ๗๐ มลิ ลิกรัม/กิโลกรัม/มอื้ (๓) - การเตรยี มตวั ยากญั ชากอ่ นน�ำไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๓) เอกสารอ้างอิง ๑. โรงเรียนแพทย์แผนโบราณ. ต�ำรายาศิลาจารึกในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธ์ิ) พระนคร, พระบาทสมเด็จพระน่ังเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ จารึกไว้เมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๕ ฉบบั สมบรู ณ,์ ๒๕๐๕. หน้า ๓๔๘. ๒. จารึกต�ำรายา วัดราชโอรสารามวรวหิ าร. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร,๒๕๔๕. หนา้ ๑๒๘. ๓. U.S. National Library of Medicine [Internet]. Hazardous Substance Database-Camphor [updated 2014 Sep 9; cited 2019 May 28]. Available from: https://toxnet. nlm.nih.gov/cgi-bin/sis/search2/r?dbs+hsdb:@term+@DOCNO+37. 120
ยาน้�ำมันสมานแผล ทม่ี าของตำ� รับยา ศิลาจารกึ ต�ำรายาวดั พระเชตุพนวิมลมงั คลาราม (วดั โพธ)ิ์ (๑) “๏ สิทธิการิยะ จะกลา่ วซึ่งสรรพยาขี้ผ้ึงนำ�้ มนั อนั จะรกั ษาวัณโรคคือ สรรพแผล ทั้งปวงนั้นสืบ ต่อไปใหบ้ ุคคลทง้ั หลายพงึ รู้ดังนี้ ฯ ยาน้�ำมันสมานแผล เอาใบมะเดื่ออุทมพร ใบขอบชะนางท้ังสอง ใบหญ้านาง ใบเถาวัลย์แดง ใบไผ่ป่า ใบพุงดอ ใบมะเฟือง ใบทองหลางใบมน ใบขี้เหล็ก ใบมะระ ใบน้�ำเต้า ต�ำเอาน�้ำสิ่งละทะนาน น้�ำมนั งาทะนาน ๑ หุงตามวิธีให้คงแต่น�้ำมนั แลว้ จงึ เอาเทียนด�ำ เทียนแดง เทยี นขาว เทียนเยาวภาณี สงิ่ ละ ๑ สลงึ สเี สยี ดเทศ ชนั ตะเคยี น กำ� ยาน สิง่ ละ ๒ สลงึ เปลอื กขอี้ ้ายนา ๒ บาท ทำ� เปน็ จุณปรุงลงในน้�ำมัน ดีแล้ว ชบุ ส�ำลปี ิดแผล ซง่ึ กระท�ำพษิ ใหแ้ สบ ให้รอ้ น แลเปน็ ยาสมานแผล ทัง้ ปวงน้นั หายดีนกั ฯ” สูตรตำ� รบั ยา ประกอบดว้ ยตัวยา ๒๑ ชนดิ รวมน�้ำหนกั ๖๗.๕ กรัม* ดังนี้ ตวั ยา นำ้� หนกั ยา กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ขีอ้ ้ายนา ๓๐ กรมั ก�ำยาน ๗.๕ กรมั ตะเคยี น ๗.๕ กรมั สีเสียดเทศ ๗.๕ กรัม เทยี นขาว ๓.๗๕ กรัม เทียนด�ำ ๓.๗๕ กรัม เทยี นแดง ๓.๗๕ กรมั เทยี นเยาวพาณี ๓.๗๕ กรัม ขอบชะนางขาว ๑ ลิตร ขอบชะนางแดง ๑ ลิตร ขีเ้ หลก็ (ใบ) ๑ ลติ ร เถาวัลยแ์ ดง ๑ ลติ ร ทองหลางใบมน (ใบ) ๑ ลติ ร น้ำ� เต้า ๑ ลติ ร นำ�้ มนั งา ๑ ลติ ร ไผป่ า่ ๑ ลติ ร พงุ ดอ ๑ ลติ ร มะเดอื่ อทุ ุมพร (ใบ) ๑ ลิตร มะเฟอื ง ๑ ลติ ร มะระ ๑ ลติ ร ย่านาง (ใบ) ๑ ลิตร *ไม่รวมนำ�้ หนัก มะเดื่ออุทุมพร ขอบชะนางแดง ขอบชะนางขาว ย่านาง เถาวัลย์แดง ไผ่ป่า พุงดอ มะเฟอื ง ทองหลางใบมน ขเ้ี หล็ก มะระ นำ้� เตา้ น�้ำมันงา 121
สรรพคุณ สมานแผล ใช้ในกรณีแผลสดหรือ แผลเน่าเปื่อย แก้อาการปวดแสบปวดร้อนใน อันเกดิ จากแผลเปื่อย รูปแบบยา ยาน้ำ� มัน (ดภู าคผนวก ๓.๖) วิธีปรุงยา ตัวยามะเด่ืออุทุมพร ขอบชะนางแดง ขอบชะนางขาว ย่านาง เถาวัลย์แดง ไผ่ป่า พงุ ดอ มะเฟือง ทองหลางใบมน ข้เี หลก็ มะระ น�ำ้ เตา้ น้ำ� มันงา หงุ ตามวิธีให้เหลอื แต่ น�้ำมัน แล้วจึงน�ำตัวยาเทียนด�ำ เทียนแดง เทียนขาว เทียนเยาวพาณี สีเสียดเทศ กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ตะเคียน ก�ำยาน ข้ีอา้ ยนา บดเปน็ ผงละเอยี ด ผสมลงในน�ำ้ มนั ขนาดและวิธกี ารใช้ ใช้สำ� ลีชบุ น้�ำมนั ทาแผลหรือปิดแผล วันละ ๒ ครงั้ เชา้ และเยน็ ค�ำเตือน เปน็ ยาใช้ภายนอกหา้ มกนิ ขอ้ มูลเพ่มิ เติม - สมานแผล ในศาสตร์การแพทย์แผนไทยหมายถึง การท�ำให้แผลติดกันใน แผลเปอื่ ย หรือการเรียกเน้อื ในแผลสด - การเตรยี มตวั ยาสเี สียดเทศก่อนนำ� ไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๓๗) เอกสารอา้ งองิ ต�ำรายาศิลาจารึกในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) พระนคร, พระบาทสมเด็จ พระนง่ั เกล้าเจ้าอยู่หวั ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้จารกึ ไวเ้ มอื่ พ.ศ. ๒๓๗๕ ฉบบั สมบรู ณ,์ ๒๕๐๕. 122
ยาน้�ำมนั สิทธิโยคี ทีม่ าของตำ� รบั ยา ศลิ าจารกึ ตำ� รายาวัดพระเชตพุ นวิมลมังคลาราม (วัดโพธ)ิ์ (๑, ๒) “๏ สิทธกิ ารยิ ะ จะกล่าวลักษณะก�ำเนดิ แหง่ ลมอันช่อื ว่า สิตมคั วาโย เปน็ ค�ำรบ ๑๐ นนั้ เกดิ แต่ กามวาตแลกองลมวิหค กระท�ำใหม้ อื เยน็ เท้าเย็นกอ่ น แล้วจึงท�ำใหม้ อื ตายเท้าตาย ยกมือขนึ้ มไิ ด้ ลมกองน้ี ครั้นแกเ่ ข้า แก้มิถอย จงึ ตกไปในระหวา่ งอัมพาต กระท�ำให้ลน้ิ กระด้าง เจรจามิชดั มักให้เตโชเปน็ ติกะธาตุ แพทย์ทั้งหลายพงึ รู้ ถา้ บังเกดิ ขน้ึ แก่บคุ คลผใู้ ดแล้ว อายมุ ยิ ืนเลย ฯ ยาน�้ำมันชื่อสิทธิโยคี เอาขิงแห้ง ข่าแก่ กระเทียม เจตมูลทั้งสอง เปลือกทองหลางใบมน ทองเครือ บอระเพ็ดท้ังสอง ใบกะเพรา ใบแมงลัก หญ้าไซ ผักเส้ียนผี หญ้าหนวดแมว เอาส่ิงละทะนาน น้�ำมันงาทะนาน ๑ หุงให้คงแตน่ ำ�้ มนั แลว้ จึงเอาลกู จันทน์ ดอกจนั ทน์ กระวาน กานพลู มดยอบ เทยี นดำ� เทยี นขาว สิง่ ละ ๑ สลึง ทำ� เปน็ จณุ ปรงุ ลงในนำ�้ มันท้งั กินทงั้ ทา แกล้ มสติ มัควาโยน้ันหายวเิ ศษนัก” กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย สูตรตำ� รบั ยา ประกอบดว้ ยตวั ยา ๒๒ ชนิด รวมน้�ำหนัก ๒๖.๒๕ กรมั * ดังนี้ ตัวยา นำ�้ หนักยา กระวาน ๓.๗๕ กรมั กานพลู ๓.๗๕ กรมั ดอกจันทน์ ๓.๗๕ กรมั เทยี นขาว ๓.๗๕ กรัม เทยี นด�ำ ๓.๗๕ กรมั มดยอบ ๓.๗๕ กรมั ลกู จนั ทน์ ๓.๗๕ กรมั กระเทียม กะเพรา ๑ ลติ ร ข่า ๑ ลิตร ขิงแห้ง ๑ ลิตร เจตมลู เพลิงขาว ๑ ลติ ร เจตมลู เพลงิ แดง ๑ ลติ ร ชงิ ชา้ ชาลี ๑ ลติ ร ทองเครือ ๑ ลิตร ทองหลางใบมน ๑ ลิตร นำ้� มันงา ๑ ลติ ร บอระเพด็ ๑ ลติ ร ผักเสี้ยนผี ๑ ลติ ร แมงลกั ๑ ลิตร หญ้าไทร ๑ ลติ ร หญ้าหนวดแมว ๑ ลิตร ๑ ลิตร *ไม่รวมน�ำ้ หนัก กระเทยี ม กะเพรา ข่า ขิงแห้ง เจตมูลเพลงิ ขาว เจตมูลเพลิงแดง ชิงช้าชาลี ทองเครือ ทองหลางใบมน น้ำ� มนั งา บอระเพ็ด ผักเส้ยี นผี แมงลัก หญา้ ไทร หญ้าหนวดแมว 123
สรรพคุณ แก้ลมสติ มัควาโย ซ่ึงทำ� ใหเ้ ปน็ อัมพฤกษ์ อมั พาต รปู แบบยา ยานำ้� มัน (ดภู าคผนวก ๓.๖) วิธปี รงุ ยา ๑) กระเทียม กะเพรา ข่า ขิงแห้ง เจตมูลเพลิงขาว เจตมูลเพลิงแดง ชิงช้าชาลี ทองเครอื (กวาวเครือ) ทองหลางใบมน บอระเพด็ ผกั เสย้ี นผี แมงลกั หญา้ ไทร หญา้ หนวดแมว คนั้ เอาน�้ำอยา่ งละ ๑ ลติ ร ผสมกบั น้�ำมนั งา ๑ ลติ ร หงุ ให้เหลอื แต่ น้�ำมัน กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ๒) น�ำตัวยากระวาน กานพลู ดอกจันทน์ เทียนขาว เทียนด�ำ มดยอบ ลูกจันทน์ บดเปน็ ผงละเอยี ด ผสมลงในน้�ำมนั ตามขอ้ ๑) และกวนให้เขา้ กนั ขนาดและวิธกี ารใช ้ ครัง้ ละ ๑ ช้อนชา กนิ วนั ละ ๑ ครงั้ ก่อนอาหารเชา้ รว่ มกบั ใช้ทาบริเวณที่มอี าการหรอื ทั้งตวั วนั ละ ๒ คร้ัง เชา้ และเย็น ขอ้ ควรระวงั ผูท้ ่ีเป็นแผลในกระเพาะอาหาร ควรใช้ยาน้ีหลังอาหาร ข้อหา้ มใช้ - ห้ามใชใ้ นหญิงตั้งครรภ์และผ้ทู ีม่ ีไข้ - ห้ามทาบริเวณขอบตาและเนือ้ เย่อื อ่อน - ห้ามทาบรเิ วณผิวหนงั ท่มี ีบาดแผลหรือมีแผลเปิด ข้อมลู เพิ่มเตมิ - ตัวยาขิงแห้ง ข่า กระเทียม เจตมูลเพลิงแดง เจตมูลเพลิงขาว ทองหลางใบมน ทองเครือ ชงิ ชา้ ชาลี บอระเพ็ด กะเพรา แมงลัก หญ้าไทร ผกั เสี้ยนผี หญ้าหนวดแมว ถา้ ใช้เปน็ ตวั ยาสด ใหใ้ ช้วิธีการคน้ั เอาน�ำ้ ถา้ เป็นตัวยาแห้ง ให้ใช้วิธีการต้มเอานำ้� - การเตรยี มตวั ยากัญชาก่อนน�ำไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๓) - การเตรียมตวั ยาบอระเพด็ ก่อนน�ำไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๑๓) - การเตรียมตวั ยามดยอบกอ่ นน�ำไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๑๗) เอกสารอา้ งอิง ๑. สำ� นกั คุ้มครองภมู ปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย กรมพฒั นาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก.ชุดต�ำราภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ฉบับอนุรักษ์ ต�ำราการแพทย์แผนไทยในศิลาจารึกวัด พระเชตุพนวิมล มังคลาราม (วัดโพธ์ิ) เล่ม ๓. พิมพ์คร้ังที่ ๑. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ ทหารผ่านศกึ ในพระบรม ราชูปภมั ภ,์ ๒๕๕๗. ๒. ประกาศกําหนดตําราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตํารบั ยาแผนไทยของชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๘, ๓๐ พฤศจิกายน). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๑๓๒ ตอนพเิ ศษ ๓๑๗ ง. 124
ยาบำ� รุงธาตหุ ลังฟื้นไข้ ชอ่ื อนื่ ยาบ�ำรงุ ธาตเุ มื่อไขห้ ายแลว้ ท่มี าของตำ� รบั ยา คมั ภรี แ์ พทย์ไทยแผนโบราณ ขนุ โสภิตบรรณลกั ษณ์ เล่ม ๑ (๑) “ยาบ�ำรุงธาตุเม่ือไข้หายแล้ว เอารากเจ็ตมูลเพลิง ขิง ดีปลี หัวแห้วหมู สะค้าน รากช้าพลู ลูกมะตูมออ่ น เกษรบัวหลวง ขมิ้นออ้ ย บอระเพด็ ลูกกระดอม ดอกพกิ ลุ ต้มกนิ ” สูตรตำ� รบั ยา ประกอบดว้ ยตัวยา ๑๒ ชนดิ รวมน้ำ� หนัก ๑๒ สว่ น ดงั นี้ ดังน้ี กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ตวั ยา นำ�้ หนกั ยา กระดอม ๑ สว่ น ขมิ้นอ้อย ๑ สว่ น ขงิ ๑ ส่วน เจตมลู เพลิงแดง ๑ สว่ น ชะพลู ๑ ส่วน ดปี ลี ๑ ส่วน บอระเพ็ด ๑ ส่วน บัวหลวง ๑ ส่วน พกิ ลุ ๑ สว่ น มะตมู ๑ สว่ น สะคา้ น ๑ สว่ น แหว้ หมู ๑ สว่ น สรรพคณุ บำ� รงุ ธาตุหลงั จากฟน้ื ไข้ รปู แบบยา ยาต้มเดือด (ดภู าคผนวก ๓.๑.๑) ขนาดและวิธีการใช้ ครง้ั ละ ๑๕๐ มลิ ลลิ ิตร ดม่ื วันละ ๒ ครง้ั กอ่ นอาหาร เช้าและเย็น ดมื่ ขณะยายังอุน่ อยู่ ข้อมูลเพิม่ เติม - ยา ๑ หม้อ ใชต้ ิดต่อกัน ๕-๗ วนั โดยให้อนุ่ น�้ำสมนุ ไพรทกุ ครัง้ กอ่ นใชย้ า - การเตรียมตวั ยาบอระเพด็ ก่อนน�ำไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๑๓) เอกสารอ้างอิง ขุนโสภติ บรรณลกั ษณ์ (อำ� พัน กิตตขิ จร), คัมภรี ์แพทย์ไทยแผนโบราณ เล่ม ๓. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพอ์ ตุ สาหกรรมการพิมพ,์ ๒๕๐๔. 125
ยาเบญจขนั ธ์ ทม่ี าของต�ำรบั ยา ต�ำราเวชศาสตร์ฉบบั หลวง รัชกาลท่ี ๕ เลม่ ๓ (๑, ๒) “…ขนานหนึ่งยาชื่อว่า เบญจขันธ์ เอาเบญจมูลเหลก ๑ เบญจกูล ๑ เบญจเทียน ๑ เบญจโกฎ ๑ เบญจสมอ ๑ เบญจเกลือ ๑ ยาท้ังนี้ต้ม ๓ เอา ๑ กินผายลมท้ังปวง อันบังเกิดในเส้น ในเอน หายแล ๚ะ๛ …” กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย สตู รต�ำรบั ยา ประกอบด้วยตัวยา ๒๖ ชนิด รวมน�ำ้ หนกั ๓๐ สว่ น ดังน้ี ตวั ยา น�ำ้ หนกั ยา ขเ้ี หล็ก (ท้งั ๕) ๕ ส่วน เกลอื ฝอ่ ๑ สว่ น เกลือพิก ๑ สว่ น เกลือวิก ๑ สว่ น เกลือสมทุ ร ี ๑ สว่ น เกลือสินเธาว์ ๑ สว่ น โกฐเขมา ๑ สว่ น โกฐจฬุ าลมั พา ๑ สว่ น โกฐเชียง ๑ ส่วน โกฐสอ ๑ สว่ น โกฐหวั บัว ๑ ส่วน ขงิ แห้ง ๑ ส่วน เจตมูลเพลงิ ๑ ส่วน ชะพลู ๑ ส่วน ดปี ลี ๑ ส่วน เทียนขาว ๑ ส่วน เทียนข้าวเปลอื ก ๑ สว่ น เทยี นดำ� ๑ สว่ น เทยี นแดง ๑ สว่ น เทยี นตาต๊กั แตน ๑ สว่ น สมอดีงู ๑ ส่วน สมอทะเล ๑ ส่วน สมอเทศ ๑ ส่วน สมอไทย ๑ ส่วน สมอพิเภก ๑ ส่วน สะค้าน ๑ ส่วน 126
สรรพคณุ เปน็ ยาถ่าย ยาระบาย และขบั ลมในเสน้ ในเอ็น รูปแบบยา ยาต้ม ๓ เอา ๑ (ดภู าคผนวก ๓.๑.๓) ขนาดและวธิ กี ารใช้ ครั้งละ ๑๕๐ มิลลลิ ิตร ด่มื วันละ ๒ คร้ัง ก่อนอาหารเชา้ และเยน็ ดม่ื ขณะยายังอ่นุ อยู่ ข้อควรระวัง ควรระวังการใชใ้ นผปู้ ่วยโรคหวั ใจ และโรคไต เน่ืองจากต�ำรบั ยามโี พแทสเซียมสูง ข้อหา้ มใช้ ห้ามใชใ้ นผู้ป่วยทเ่ี ปน็ โรคไต โรคหัวใจ และผปู้ ่วยโรคความดนั โลหิตสงู ข้อมูลเพิ่มเติม ยา ๑ หมอ้ ใชต้ ดิ ตอ่ กนั ๕-๗ วัน โดยใหอ้ นุ่ น้ำ� สมุนไพรทุกคร้งั กอ่ นใชย้ า กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย เอกสารอ้างอิง ๑. หอสมุดแห่งชาติ กรมศลิ ปากร. ต�ำราเวชศาสตร์ฉบบั หลวง รชั กาลท่ี ๕ เลม่ ๓. กรงุ เทพฯ : บรษิ ทั อมรินทร์ พรนิ้ ต้งิ แอนดพ์ บั ลิชช่ิง จำ� กัด (มหาชน), ๒๕๕๕. หน้า ๒๙. ๒. ประกาศกําหนดตําราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตํารบั ยาแผนไทยของชาติ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๙, ๑๒ มกราคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๗ ง, หน้า ๑-๓. 127
ยาประคบ ท่มี าของต�ำรบั ยา สูตรตำ� รับนี้ เปน็ สูตรตำ� รับในรายการบญั ชยี าหลักแหง่ ชาติ เผยแพร่โดยสถาบนั การแพทยแ์ ผนไทย ต้งั แต่ พ.ศ. ๒๕๓๘ สตู รต�ำรับยา ประกอบดว้ ยตวั ยา ๘ ชนดิ รวมน้�ำหนกั ๑๗๐ กรมั (๑) ดงั นี้ กอง ้คุมครองและส่งเส ิรมภู ิม ัปญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ ้พืน ้บานไทย ตัวยา น้ำ� หนักยา ไพล ๕๐ กรมั มะขาม ๓๐ กรัม มะกรูด ๒๐ กรมั ขม้นิ ชนั ๑๐ กรัม ตะไคร้ ๑๐ กรมั ส้มป่อย ๑๐ กรมั การบูร ๒๐ กรมั เกลอื เมด็ ๒๐ กรัม สรรพคุณ ประคบเพื่อลดอาการปวด ชว่ ยคลายกลา้ มเนือ้ เอ็น และขอ้ (๑) รูปแบบยา ยาประคบ (๒) (ดูภาคผนวก ๓.๘) ขนาดและวิธีการใช ้ น�ำยาประคบไปนึ่ง แล้วใช้ประคบ ขณะยังอุ่น วันละ ๑–๒ คร้ัง ยาประคบ ๑ ลูก ใชไ้ ด้ ๓–๔ ครงั้ โดยหลังจากใช้แล้วผง่ึ ให้แหง้ กอ่ นนำ� ไปแชต่ ้เู ย็น (๑) ขอ้ หา้ มใช ้ - ห้ามประคบบรเิ วณท่ีมีบาดแผล - หา้ มประคบเมอื่ เกดิ การอักเสบเฉยี บพลัน เช่น ข้อเท้าแพลง หรือมอี าการอกั เสบ บวม แดง รอ้ น ในชว่ ง ๒๔ ช่ัวโมงแรก เนือ่ งจากจะทำ� ให้มอี าการอักเสบบวมมากขนึ้ และอาจมเี ลอื ดออกมากตามมาได้ โดยควรประคบหลังเกดิ อาการ ๒๔ ชั่วโมง - ห้ามใชก้ ับผู้ท่ีแพ้ส่วนประกอบของยาประคบ (๑) ข้อควรระวัง - ไมค่ วรใชย้ าประคบที่ร้อนเกนิ ไป โดยเฉพาะบรเิ วณผวิ หนังท่เี คยเปน็ แผลมากอ่ น หรือบริเวณที่มีกระดูกยื่น และต้องระวังเป็นพิเศษในผู้ป่วยโรคเบาหวาน อัมพาต เดก็ และผสู้ งู อายุ เพราะมกั มคี วามรสู้ กึ ในการรบั รแู้ ละตอบสนองชา้ อาจทาใหผ้ วิ หนงั ไหม้พองไดง้ า่ ย - หลงั จากประคบสมนุ ไพรเสรจ็ ใหม่ ๆ ไมค่ วรอาบนำ้� ทนั ที เพราะเปน็ การลา้ งตวั ยา จากผิวหนัง และร่างกายยังไม่สามารถปรับตัวได้ทัน (จากร้อนเป็นเย็นทันทีทันใด) อาจทำ� ให้เป็นไข้ได้ (๑) 128
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298