Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ✍️ รายการตำรับยาแผนไทยแห่งชาติ ฉบับปีพุทธศักราช ๒๕๖๑

✍️ รายการตำรับยาแผนไทยแห่งชาติ ฉบับปีพุทธศักราช ๒๕๖๑

Description: ✍️ รายการตำรับยาแผนไทยแห่งชาติ ฉบับปีพุทธศักราช ๒๕๖๑

Search

Read the Text Version

ยาแก้ลมสุนทรวาต ท่ีมาของตาำ รบั ยา ๑. เวชศาสตร์ฉบบั หลวงรชั กาลที่ ๕ เล่ม ๑ (๑, ๒) ยาแกล้ มสนุ ทรวาตขนานนที้ า่ นใหเ้ อาขงิ แหง้ ดปี ลี กเทยี ม วา่ นนา้� ผวิ มกรดู ไพล มหาหงิ ยาดา� น กา�า้ รมบกรู รดู รกวนิ๒มย. ถา แา้ จพ๙ะทแสยกิ่งศ้ทนา้อ้ีเสองตาขเรนึ้สส์ ลมงะอเลคภารายาคะนห้�าเ์ อเาลปมใม่ กบนู รใ สดูก๑เพ พมปรกกนู ารรใไ็สูดเะดทย้ า่าแยพซาิศกทณร้งั าหปุ กลรเะาจสยตาภทกงั เรควะชีลทง า� ทรใ.หาศทเ้.ป ้อเอท๑นจงจุอ้บ๒างแจทรขมอ้ณุ้ึนก๘ิอง้อ กอเท(จบุจอ้บ๓างดทรข,ม้อึ้นปิองอ๔้ันก)แทห่งาไยวด้ลนี ะักลา๚ย “ภาคหนง่ึ ยาแกล้ มสนุ ทรวาต แลลมทรางท้งั ๗ วนั นน้ั ท่านใหเ้ อาขงิ ดีปลี กระเทียม หว้านนา้� ผิวมะกรูด ไพล มหาหิงคุ์ ยาด�า การะบรู เอาสิง่ ละ ๑ บาท ใบกระเพราเท่ายาท้งั หลาย ยา ๑๐ ส่ิงน้ีตา� ให้ละเอียด บดท�าแท่งเอาไว้ละลายน�้ามะกรูดกิน ถ้าจะแก้ท้องข้ึนละลาย น�้าปูนใสก็ได้ แล้วจึงแซก รากเจด็ ตพงั คี ทาทอ้ งหายดีนกั ” สูตรตาำ รบั ยา ประกอบด้วยตวั ยา ๑๐ ชนิด รวมนาำ้ หนกั ๒๗๐ กรัม ดังน้ี ตวั ยา นำ้าหนกั ยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข กะเพรา ๑๓๕ กรมั กระเทยี ม ๑๕ กรัม การบูร ๑๕ กรมั ขงิ แห้ง ๑๕ กรัม ดปี ลี ๑๕ กรัม ไพล ๑๕ กรัม มหาหิงคุ์ ๑๕ กรมั มะกรดู ๑๕ กรัม ยาดำา ๑๕ กรมั ว่านนำา้ ๑๕ กรมั สรรพคณุ แกล้ มซาง แก้ท้องอดื เฟอ้ แกป้ วดท้อง แกท้ อ้ งผูก รปู แบบยา ยาเมด็ พิมพ์ ขนาด ๑๐๐ มลิ ลิกรัม (ดูภาคผนวก ๓.๔.๑) ขนาดและวธิ กี ารใช้ ยากิน เดก็ อายุ ๑-๓ เดอื น กิน คร้งั ละ ๑-๒ เมด็ อายุ ๔-๖ เดอื น กนิ ครง้ั ละ ๒-๓ เมด็ อายุ ๗-๑๒ เดือน กิน คร้ังละ ๓-๔ เมด็ อายุ ๑-๕ ขวบ กนิ ครง้ั ละ ๕-๑๐ เม็ด อายุ ๖-๑๒ ขวบ กิน ครง้ั ละ ๑๐-๑๕ เม็ด ละลายน้าำ มะกรูด หรอื นา้ำ ปนู ใส กินวนั ละ ๒ ครัง้ กอ่ นอาหาร เชา้ และเย3็น1

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข ยาทาท้อง ละลายน้าำ กระสายยา ทาบรเิ วณท้องเม่อื มอี าการ วนั ละ ๑ ครง้ั กระสายยาที่ใช้ - แกอ้ าการทอ้ งข้นึ ใช้น้าำ มะกรูดหรอื น้ำาปนู ใส - แกเ้ จบ็ ท้อง ทอ้ งขึน้ ทอ้ งผกู ใช้รงทองหรอื เจตพังคี ขอ้ ห้ามใช้ หา้ มใชใ้ นผทู้ ่มี ีไข้ ขอ้ ควรระวัง - ห้ามทาบริเวณขอบตาและเน้อื เยอื่ ออ่ น - หา้ มทาบริเวณผิวหนังทมี่ บี าดแผลหรอื แผลเปดิ - ควรระวังการใช้ยาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยท่ีมีความผิดปรกติ ของตับ ไต เนอื่ งจากอาจเกิดการสะสมของการบูรและเกดิ พิษได้ - ไมค่ วรกินติดต่อกันเปน็ เวลานานเกิน ๗ วัน - หากกนิ ยานแี้ ลว้ อาการไมด่ ีข้ึน ควรพบแพทย์แผนปจั จุบนั ข้อมลู เพิ่มเตมิ - การเตรยี มตวั ยามหาหิงคก์ุ ่อนนำาไปใช ้ (ดภู าคผนวก ๒.๙) - การเตรยี มตัวยายาดำากอ่ นนำาไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๑๒) เอกสารอา้ งอิง ๑. หอสมุดแห่งชาติ กรมศลิ ปากร. ตำาราเวชศาสตร์ฉบบั หลวง รชั กาลท ี่ ๕ เลม่ ๑. กรุงเทพฯ: บริษัท อมรนิ ทร ์ พร้ินติง้ แอนด์พับลชิ ชิ่ง จำากดั (มหาชน), ๒๕๔๒. หนา้ ๓๑๗. ๒. ประกาศกำาหนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาติและตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบับท่ ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๙, ๑๒ มกราคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๗ ง, หน้า ๑-๓. ๓. พศิ ณุประสาทเวช, พระยา. แพทยศ์ าสตร์สงเคราะห์ เล่ม ๑. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ศุภการ จำารูญถนนอษั ฏางค์; ร.ศ. ๑๒๘. ๔. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ่ี ๑๓) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๖ พฤศจิกายน). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๗๑ ง, หน้า ๑. 32

ยาแกล้ มหทยั วาตะกา� เรบิ สตู ร ๑ ทม่ี าของตำารบั ยา ศลิ าจารกึ วดั ราชโอรสรามราชวรวหิ าร (๑, ๒) “สิทธิการิยะ อันว่าลมหทัยวาตก�าเริบน้ัน คือ พัดดวงหทัยให้ระส่�าระสายคุ้มดีคุ้มร้าย แลมัก ข้ึงโกรธ ให้หิวโหยหาแรงมิได้ ลูกคนทีสอ หัสคุณลูกสะบ้าปิ้ง จันทน์ท้ังสอง ดีปลี เทียนข้าวเปลือก เทียนต๊ักแตน เทพทาโร เอาเสมอภาค ท�าเป็นจุณบดท�าแท่งไว้ละลายน้�าดอกไม้แทรกพิมเสนให้กิน แกล้ มหทยั วาตก�าเรบิ หาย” สูตรตำารับยา ประกอบดว้ ยตัวยา ๙ ชนดิ รวมนำ้าหนกั ๙ สว่ น ดงั น้ี ตวั ยา น้าำ หนกั ยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข คนทสี อ (ผล) ๑ ส่วน จนั ทนข์ าว ๑ ส่วน จนั ทนแ์ ดง ๑ ส่วน ดีปลี ๑ ส่วน เทพทาโร ๑ ส่วน เทียนข้าวเปลอื ก ๑ ส่วน เทยี นตาต๊ักแตน ๑ ส่วน สหัสคณุ ๑ สว่ น สะบ้า ๑ ส่วน สรรพคุณ แกล้ มหทยั วาตะกาำ เริบ รปู แบบยา ยาเม็ดพมิ พ์ ขนาด ๑๐๐ มลิ ลิกรมั (ดภู าคผนวก ๓.๔.๑) ขนาดและวธิ กี ารใช้ กินครั้งละ ๓-๕ เม็ด ละลายนำ้าดอกไม้ แทรกพิมเสน วันละ ๓-๔ ครั้ง กอ่ นอาหาร เช้า กลางวนั เย็น และกอ่ นนอน ขอ้ มลู เพิม่ เติม หมอพืน้ บ้านจะใช้ลกู ตะลงิ ปลงิ แทนลกู สะบา้ และเรยี กช่ือตำารบั ยาวา่ “ยาลมมลู จติ ร” เอกสารอา้ งอิง ๑. สำานักคุ้มครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลอื ก. จารกึ ตาำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวหิ าร. พมิ พค์ รง้ั ท ี่ ๑. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พอ์ งคก์ ารสงเคราะห์ ทหารผ่านศกึ ในพระบรมราชปู ภัมภ,์ ๒๕๕๗. ๒. ประกาศกาำ หนดตำาราการแพทย์แผนไทยของชาตแิ ละตำารบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๙, (๒๕๕๙, ๒๒ เมษายน). ราชกจิ จานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๙๓ ง, หน้า ๑-๑๕. 33

ยาแก้ลมหทยั วาตะกา� เริบ สตู ร ๒ ทม่ี าของตำารับยา ศลิ าจารึกวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร (๑, ๒) “ลกู มะแว้งเครอื ๑ ชะเอมเทศ ๒ ใบกระวาน ๓ ดอกบนุ นาค ๔ พริกไทย ๕ ขงิ แห้ง ๖ ดีปลี ๗ อบเชยเทศ ๘ รากน้�าใจใคร่ ๙ เกสรบวั หลวง ๑๐ จันทรเ์ ทศ ๑๑ น้�าตาลทราย ๑๒ ท�าเปน็ จณุ บดทา� แท่งไวล้ ะลายน�้าร้อนกนิ กไ็ ด้ นา้� ดอกไม้กไ็ ด้ แทรกพิมเสน กนิ แกล้ มกระทบหทัยใหค้ ล่งั แกท้ ุรนทรุ าย” สตู รตาำ รับยา ประกอบดว้ ยตัวยา ๑๒ ชนิด รวมนาำ้ หนกั ๗๘ สว่ น ดังน ้ี ตวั ยา น้าำ หนกั ยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข น้ำาตาลทรายแดง ๑๒ สว่ น จันทนเ์ ทศ ๑๑ สว่ น บัวหลวง ๑๐ สว่ น นา้ำ ใจใคร่ ๙ ส่วน อบเชยเทศ ๘ สว่ น ดปี ลี ๗ สว่ น ขิง ๖ ส่วน ๕ สว่ น พรกิ ไทย ๔ สว่ น บุนนาค ๓ ส่วน กระวาน ๒ สว่ น ๑ ส่วน ชะเอมเทศ มะแว้งเครอื (ผล) สรรพคุณ แก้ลมหทัยวาตะกำาเรบิ รปู แบบยา ยาเมด็ พิมพ์ ขนาด ๑๐๐ มิลลิกรมั (ดูภาคผนวก ๓.๔.๑) ขนาดและวิธีการใช้ กนิ คร้ังละ ๓-๕ เม็ด ละลายน้าำ ดอกไม ้ แทรกพิมเสน วนั ละ ๓ ครั้ง ก่อนอาหาร เช้า กลางวนั และเยน็ เอกสารอา้ งอิง ๑. สำานักคุ้มครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลอื ก. จารกึ ตาำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวหิ าร. พมิ พค์ รงั้ ท ี่ ๑. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พอ์ งคก์ ารสงเคราะห์ ทหารผ่านศกึ ในพระบรมราชปู ภัมภ,์ ๒๕๕๗. ๒. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตำารับยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๙, (๒๕๕๙, ๒๒ เมษายน). ราชกิจจานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๙๓ ง, หน้า ๑-๑๕. 34

ยาแกล้ มอคั วารันตวาโย ที่มาของตาำ รบั ยา ศลิ าจารกึ วัดพระเชตุพนวมิ ลมงั คลาราม (วดั โพธ์ิ) (๑, ๒) “๏ สิทธิการิยะ จะกล่าวลักษณะก�าเนิดแห่งลมอันชื่อว่า อัควารันตวาโย เป็นค�ารบ ๕ น้ัน เกดิ แต่กองอมั พฤกษ์แลสมุ นาระคนกนั มักกระทา� ให้เจบ็ ทั่วสารพางคก์ าย มกั ให้นอนมาก มกั ฝันเหน็ แลให้ พรงึ ข้ึนทงั้ ตวั ใหค้ ันเปน็ กา� ลงั ใหผ้ วิ เน้ือชาสาก ฯ ขนานหนงึ่ เอาโกฐสอ โกฐเขมา โกฐกา้ นพรา้ ว โกฐพุงปลา โกฐหวั บวั โกฐน้�าเต้า เทียนดา� เทยี นแดง เทียนตาตั๊กแตน เทยี นเยาวพาณี ลกู จันทน์ กระวาน กานพลู สงิ่ ละส่วน ตรีกฏกุ แก่นสน ส่ิงละ ๒ สว่ นพริกลอ่ น ๒๐ ส่วน ทา� เปน็ จณุ บดละลายน้�าผึง้ ให้กนิ หนกั ๑ สลงึ แกล้ มอคั วารันตวาโยน้ัน หายวเิ ศษนัก ฯ” สูตรตาำ รับยา ประกอบด้วยตวั ยา ๑๘ ชนิด รวมนา้ำ หนกั ๔๑ สว่ น ดังน้ี ตัวยา น้าำ หนักยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข พรกิ ลอ่ น ๒๐ สว่ น ขิง ๒ สว่ น ๒ ส่วน ดปี ลี ๒ ส่วน พรกิ ไทย ๒ ส่วน สน ๑ สว่ น ๑ สว่ น กระวาน ๑ สว่ น ๑ สว่ น กานพลู ๑ ส่วน โกฐกา้ นพรา้ ว ๑ ส่วน โกฐเขมา ๑ ส่วน โกฐนา้ำ เต้า ๑ ส่วน โกฐพงุ ปลา ๑ สว่ น โกฐสอ ๑ ส่วน โกฐหวั บัว ๑ ส่วน เทียนดำา ๑ ส่วน เทียนแดง ๑ ส่วน เทียนตาตัก๊ แตน เทียนเยาวพาณี ลูกจนั ทน์ 35

สรรพคณุ แกล้ มอมั พฤกษ์ กระจายลมไปทว่ั รา่ งกาย รปู แบบยา ยาลูกกลอน (ดภู าคผนวก ๓.๕) ขนาดและวธิ กี ารใช้ กนิ ครงั้ ละ ๓-๕ เม็ด วันละ ๒ คร้ัง กอ่ นอาหาร เชา้ และเยน็ ข้อหา้ มใช้ ห้ามใชใ้ นหญิงต้งั ครรภ์ ผทู้ มี่ ีไข้ และเด็ก ขอ้ ควรระวงั - ควรระวงั การกินรว่ มกบั ยาในกล่มุ สารกันเลอื ดเป็นลมิ่ (anticoagulant) และ ยาตา้ นการจบั ตวั ของเกล็ดเลอื ด (antiplatelet) กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข - ควรระวงั การใชร้ ่วมกบั ยา phenyltoin, propranolol, theophylline และ rifampicin เนือ่ งจากตาำ รับน้มี พี ริกไทยในปรมิ าณสูง เอกสารอา้ งองิ ๑. สำานักคุ้มครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลอื ก. หนงั สอื ชดุ ตาำ ราภมู ปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย ฉบบั อนรุ กั ษ ์ ตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยในศลิ าจารกึ วดั พระเชตุพนวมิ ลมงั คลาราม (วดั โพธ์)ิ เลม่ ๓. พิมพ์ครง้ั ท่ ี ๑. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พอ์ งคก์ ารสงเคราะห์ ทหารผา่ นศึกในพระบรมราชูปภมั ภ์, ๒๕๕๗. ๒. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๘, ๓๐ พฤศจกิ ายน). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ๑๓๒ ตอนพเิ ศษ ๓๑๗ ง. 36

ยาแก้ลมอทุ ธังคมาวาตา ทีม่ าของตาำ รบั ยา ตาำ ราโอสถครง้ั รชั กาลท ี่ ๒ (๑, ๒) “ยาแก้ลมอทุ ธังคมาวาตาเอาโกฏเขมา มหาหงิ ค์ุ ส่ิงละ ๔ ส่วน การบรู กานพลู ดอกจันทน์ ผลพิลังกาสากนั ชา สิ่งละ ๖ ส่วน โกฏบัว สมอเทศ กล�าพกั จนั ชมด พริกหอม ดปี ลี สงิ่ ละ ๘ ส่วน พริกไทย ๔๐ ส่วนท�าเปนจุณบดละลายน้�าผงึ้ ใหก้ นิ หนกั สลงึ ๑ แกอ้ ทุ ธงั คมาวาตกลา้ กระทา� ให้คลุม้ คลง่ั แลแก้ลมอันใหม้ อื ตายเทา้ ตาย แลเปนเหน็บชา แลแกส้ รรพลมใหญ่ทัง้ ปวง อนั บงั เกิดในกองธาตนุ ัน้ หาย วิเศษนัก” สตู รตาำ รับยา ประกอบด้วยตวั ยา ๑๔ ชนดิ รวม ๑๒๖ ส่วน ดังน ้ี ตวั ยา นา้ำ หนักยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข พริกไทย ๔๐ ส่วน กระลำาพกั ๘ ส่วน โกฐหัวบัว ๘ สว่ น จนั ทน์ชะมด ๘ ส่วน ดปี ลี ๘ ส่วน พริกหอม ๘ ส่วน สมอเทศ ๘ สว่ น กัญชา ๖ ส่วน กานพลู ๖ สว่ น การบูร ๖ ส่วน ดอกจนั ทน์ ๖ สว่ น พิลงั กาสา ๖ ส่วน โกฐเขมา ๔ สว่ น มหาหิงคุ์ ๔ ส่วน 37

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสขสรรพคณุ แก้ลมอุทธังคมาวาตา แก้ลมอัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นเหน็บชา แก้ลมใหญ่ ท้งั หลายที่เกดิ ในกองธาตุ รูปแบบยา ยาลกู กลอน (ดภู าคผนวก ๓.๕) ขนาดและวิธีการใช้ กนิ ครง้ั ละ ๓-๔ เมด็ วันละ ๒ คร้ัง ก่อนอาหาร เช้าและเย็น ข้อควรระวัง - ควรระวงั การกินรว่ มกับยาในกลุ่มสารกนั เลอื ดเปน็ ลิ่ม (anticoagulant) และ ยาตา้ นการจับตัวของเกลด็ เลอื ด (antiplatelet) - ควรระวังการใชร้ ว่ มกับยา phenyltoin, propranolol, theophylline และ rifampicin เนอื่ งจากตำารบั นีม้ พี ริกไทยในปริมาณสงู - ควรระมัดระวงั การใชใ้ นผ้สู ูงอายุ ข้อห้ามใช้ หา้ มใช้ในหญิงตง้ั ครรภ์ ผ้ทู ีม่ ไี ข้ และเด็ก ขอ้ มูลเพมิ่ เตมิ - ตำารับยานี้มีกัญชาเป็นส่วนประกอบ จัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท ๕ ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ การใช้ยาตำารับนี้ต้องอยู่ ภายใตก้ ารควบคุมและการกบั ดูแลจากผู้ประกอบวชิ าชีพแพทย์แผนไทยเท่านน้ั - การเตรยี มตวั ยามหาหิงคุก์ อ่ นนาำ ไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๙) เอกสารอ้างอิง ๑. สมเด็จพระเจ้าบรมวงษ์เธอ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระมหาสมณะ. ตำารา พระโอสถครง้ั รชั กาลที่ ๒ : โรงพิมพ์ โสภณพิพรรฒธนากร, ๒๔๕๙. ๒. ประกาศกาำ หนดตำาราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตำารับยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบับท่ ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๙, ๑๒ มกราคม). ราชกจิ จานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๗ ง, หนา้ ๑-๓. 38

ยาแกล้ ะอองพระบาท ท่มี าของตำารับยา ตาำ รายาเกรด็ (๑, ๒) “ยาแก้ละอองพระบาทชอื่ วา่ เปลวไฟฟา้ และละออง อนั นเี้ กิดเพ่อื ซางโจร คอื กุมารเกิดวนั ๗ เมอื่ ละอองพระบาทจา� พวกนจี้ ะบงั เกดิ นน้ั ขนึ้ ดงั นา�้ ชาด ถา้ ทา� พษิ คางแขง็ ตาแขง็ ชกั มอื ตนี กา� ตวั รอ้ นเปน็ กา� ลงั ถ้าแก้มิทันแตเ่ ชา้ จนเท่ียงตายแล ถา้ จะแกห้ ้ามยารอ้ นยาเคล้าเหล้าเคล้านา�้ มนั ให้แก้แต่อันเยน็ อนั หอมอนั ขม จึงจะร้อนแลละออง พระบาททั้ง ๗ วันท�าดจุ กนั แล ถา้ จะแก้ เอา รากทองหลางน�า้ ๑ รากพงุ ดอ ๑ รากมะกลา�่ เครอื ๑ กฤษณา ๑ ลูกเบญกานี ๑ สเี สียดเทศ ๑ จันทนท์ ั้งสอง ๑ บดท�าแท่งละลายน้�าหมากดบิ กวาดปากหายแล ๚” กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข สตู รตาำ รบั ยา ประกอบดว้ ยตวั ยา ๘ ชนดิ รวมนำา้ หนัก ๘ ส่วน ดงั น้ี ตวั ยา นาำ้ หนกั ยา ๑ ส่วน กฤษณา ๑ ส่วน จันทน์ขาว ๑ สว่ น จันทนแ์ ดง ๑ ส่วน ทองหลางน้ำา ๑ สว่ น เบญกานี ๑ สว่ น พงุ ดอ ๑ ส่วน มะกลา่ำ เครอื ๑ สว่ น สเี สยี ดเทศ สรรพคณุ แกล้ ะออง ซาง และบรรเทาอาการท้องเสยี ในเด็ก รปู แบบยา ยาเม็ดพมิ พ์ ขนาด ๑๐๐ มิลลกิ รัม (ดูภาคผนวก ๓.๔.๑) ขนาดและวธิ กี ารใช้ เด็ก อายุ ๑-๕ เดือน กนิ คร้ังละ ๑ เมด็ อายุ ๕ เดือน-๑ ขวบ กินครั้งละ ๒ เมด็ อายุ ๑-๕ ขวบ กินครัง้ ละ ๒-๓ เม็ด อายุ ๕ ขวบ ขึ้นไป กนิ ครงั้ ละ ๓ เม็ด ละลายนา้ำ หมากดบิ เป็นยากวาดหรือยาป้ายปาก ข้อควรระวัง เดก็ ท่มี ีไขแ้ ละเด็กทีม่ ีอาการท้องเสียรนุ แรง ไม่ควรกิน เอกสารอา้ งองิ ๑. “ตาำ รายาเกรด็ ”. หอสมดุ แหง่ ชาต.ิ หนงั สอื สมดุ ไทยดาำ . อกั ษรไทย. ภาษาไทย. เลขท ี่ ๒๗๓. หมวดตาำ ราเวชศาสตร์. ๒. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ี่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๒๕ พฤษภาคม). ราชกจิ จานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๑๔๑ ง, หนา้ ๑. 39

ยาแกว้ าโยกา� เรบิ ทมี่ าของตาำ รับยา ๑. ตำาราโอสถครงั้ รชั กาลท่ ี ๒ (๑, ๒) “ยาแกว้ าโยก�าเรบิ เอา การบรู ๔ สว่ น กะเทยี ม ขิงแห้ง ดปี ลี ขม้ินอ้อย ไพล หวา้ นน�้า สิง่ ละ ๘ สว่ น เง่าหญ้าชณั กาด แหว้ หมู สง่ิ ละ ๑๖ สว่ น บรเพด็ ส่งิ ละ ๒๔ ส่วน ใบมะตมู ใบคนทีสอ ใบสเดา พริกไทย สิง่ ละ ๑๖ ส่วนท�าเปนจุณบดละลายน้�าผ้ึงใหก้ ินหนักสลงึ ๑ แก้วาโยอนั กา� เรบิ กลา้ ขึ้นเบือ้ งบนน้ัน หายดนี กั ” ๒. ศลิ าจารึกวัดพระเชตพุ นวมิ ลมงั คลาราม (วัดโพธ)์ิ (๓, ๔) “อน่งึ เอาการบรู ๔ สว่ น กระเทยี ม ขิงแห้ง ดปี ลี ขม้ินออ้ ย ไพล ว่านน�้า สงิ่ ละ ๘ ส่วน เหงา้ หญ้าชนั กาด แหว้ หมู สง่ิ ละ ๑๖ สว่ น บอระเพ็ด ๒๔ สว่ น ใบมะตมู ใบคนทสี อ ใบสะเดา พรกิ ไทย ส่งิ ละ ๑๖ ส่วน ทา� เป็นจณุ บดละลายน�้าผ้ึงใหก้ นิ หนกั ๑ สลึง แกว้ าโยอันก�าเรบิ กล้าข้ึนเบอ้ื งบนนน้ั หายดี นัก ฯ” สูตรตาำ รบั ประกอบดว้ ยตวั ยา ๑๔ ชนดิ รวมนำ้าหนกั ๑๗๒ ส่วน ดังนี้ ตวั ยา นา้ำ หนักยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข บอระเพด็ ๒๔ ส่วน คนทสี อ (ใบ) ๑๖ ส่วน พรกิ ไทย ๑๖ สว่ น มะตูม (ใบ) ๑๖ สว่ น สะเดา (ใบ) ๑๖ ส่วน หญ้าชนั กาด ๑๖ ส่วน แห้วหมู ๑๖ ส่วน กระเทยี ม ๘ ส่วน ขมิ้นออ้ ย ๘ ส่วน ขงิ แห้ง ๘ สว่ น ดปี ลี ๘ ส่วน ไพล ๘ สว่ น ว่านนา้ำ ๘ ส่วน การบูร ๔ ส่วน 40

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสขสรรพคุณ แกล้ มตขี ึน้ เบื้องสงู รปู แบบยา ยาลูกกลอน (ดภู าคผนวก ๓.๕) ขนาดและวธิ กี ารใช้ กินครง้ั ละ ๒ เมด็ วันละ ๒ ครัง้ กอ่ นอาหาร เชา้ และเย็น คาำ เตือน ควรระวงั การใช้ยาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง โดยเฉพาะอย่างย่ิงในผปู้ ว่ ยท่มี ีความผิดปรกติ ของตับ ขอ้ ควรระวัง - ควรระวงั การกนิ รว่ มกบั ยาในกลมุ่ สารกนั เลอื ดเปน็ ลม่ิ (anticoagulant) และ ยาต้านการจับตัวของเกลด็ เลอื ด (antiplatelet) - ควรระวังการใชร้ ่วมกับยา phenyltoin, propranolol, theophylline และ rifampicin เนอื่ งจากตาำ รบั นี้มพี ริกไทยในปริมาณสงู ขอ้ ห้ามใช้ หา้ มใชใ้ นหญงิ ต้งั ครรภ์ ผู้ท่มี ีไข ้ และเด็ก ขอ้ มลู เพิ่มเตมิ การเตรียมตวั ยาบอระเพ็ดก่อนนำาไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๔) เอกสารอา้ งองิ ๑. สมเด็จพระเจ้าบรมวงษ์เธอ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระมหาสมณะ. ตาำ ราพระโอสถ ครั้งรชั กาลท่ี ๒: โรงพมิ พ์ โสภณพิพรรฒธนากร, ๒๔๕๙. ๒. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทย์แผนไทยของชาติและตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบับที ่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๙, ๑๒ มกราคม). ราชกจิ จานุเบกษา. เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๗ ง, หนา้ ๑-๓. ๓. สำานักคุ้มครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลอื ก. หนงั สอื ชดุ ตาำ ราภมู ปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย ฉบบั อนรุ กั ษ ์ ตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยในศลิ าจารกึ วัดพระเชตพุ นวมิ ลมังคลาราม (วดั โพธิ)์ เลม่ ๓. พมิ พค์ รงั้ ท ่ี ๑. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์องค์การสงเคราะห์ ทหารผา่ นศึกในพระบรมราชูปภมั ภ์, ๒๕๕๗. ๔. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๘, ๓๐ พฤศจิกายน). ราชกจิ จานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๓๑๗ ง. 41

ยาแกห้ ญงิ ไม่มีระดู ชอื่ อน่ื ยาแกห้ ญิงไมม่ รี ะดูผอมแหง้ ทม่ี าของตำารบั ยา ตำารายาเกร็ด (๑, ๒) “ยาแก้หญิงไม่มรี ะดูผอมแห้ง ถา้ หญิงไม่มรี ะดใู ห้ผอมแหง้ เอา หญา้ ไทร กา� มอื ๑ ผวิ มะกรดู ๑ บาท ๒ สลึง ไพล ๒ สลึง ลกู พรกิ ไทย ๑ ขิง ๑ ดีปลี ๑ เทยี นด�า ๑ บาท บดปั้นแท่งไว้กนิ กนิ ส้มมะขาม เปยี กเสียกอ่ น เม่อื จะกินยา นงุ่ ขาวหม่ ขาวกนิ ให้ได้วนั ละ ๓ เพลาระดูงามดังเก่าแล ๚” สตู รตำารับยา ประกอบดว้ ยตัวยา ๗ ชนดิ รวมนำ้าหนกั ๑๐๕ กรมั ดังน้ี ตัวยา นา้ำ หนักยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข มะกรดู ๒๒.๕ กรมั ขิง ๑๕ กรัม ๑๕ กรมั ดปี ลี ๑๕ กรัม เทียนดำา ๑๕ กรมั พรกิ ไทย ๑๕ กรัม หญ้าไทร ๗.๕ กรัม ไพล สรรพคุณ ชว่ ยให้ประจาำ เดอื นมาเป็นปรกต ิ ปรับธาตุในสตร ี ฟอกโลหติ รปู แบบยา ยาเม็ด ขนาด ๕๐๐ มลิ ลกิ รมั (ดูภาคผนวก ๓.๔.๒) ขนาดและวธิ กี ารใช้ กนิ ครัง้ ละ ๑ กรัม (๒ เม็ด) วนั ละ ๓ ครั้ง กอ่ นอาหาร เมอ่ื ระดมู าใหห้ ยุดกิน แตไ่ มเ่ กนิ ๑ เดือน ใหก้ นิ มะขามเปยี กกอ่ นกนิ ยานีท้ กุ ครงั้ ขอ้ หา้ มใช้ ห้ามใช้ในหญงิ ตกเลอื ดหลงั คลอด หญงิ ตงั้ ครรภ ์ และผมู้ ีไข้ เอกสารอ้างอิง ๑. “ตาำ รายาเกรด็ ”. หอสมุดแห่งชาต.ิ หนงั สอื สมดุ ไทยดาำ . อกั ษรไทย. ภาษาไทย. เลขที่ ๓๓๒. หมวดตาำ ราเวชศาสตร์. ๒. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ี่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๒๕ พฤษภาคม). ราชกจิ จานุเบกษา. เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๔๑ ง, หน้า ๑. 42

ยาแก้อยไู่ ฟไม่ได้ ทมี่ าของตาำ รับยา ตาำ รายาเกรด็ (๑, ๒) “ยาแก้อยไู่ ฟไมไ่ ด้ ทา่ นใหเ้ อา เมด็ พนั ผกั กาด ๑ ว่านน�้า ๑ พรกิ ไทย ๑ กระเทยี ม ๑ หอมแดง ๑ ไพล ๑ เกลอื ๑ เสมอภาค ทา� แทง่ ไวก้ ินไปกว่าจะออกไฟดนี ักแล” สตู รตาำ รับยา ประกอบด้วยตวั ยา ๗ ชนิด รวมนาำ้ หนัก ๗ ส่วนดังนี้ ตัวยา น้าำ หนักยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข กระเทยี ม ๑ สว่ น เกลือ ๑ สว่ น พริกไทย ๑ ส่วน ไพล ๑ ส่วน เมล็ดพรรณผกั กาด ๑ ส่วน วา่ นน้ำา ๑ ส่วน หอมแดง ๑ สว่ น สรรพคณุ ขับนาำ้ คาวปลา ช่วยใหม้ ดลูกเข้าอ ู่ รปู แบบยา ยาผง (ดภู าคผนวก ๓.๒) ขนาดและวธิ ีการใช้ กินครั้งละ ๑ ชอ้ นชา ละลายนำา้ ต้มสกุ วันละ ๓ ครั้ง ก่อนอาหาร เชา้ กลางวัน และเยน็ ขอ้ ห้ามใช้ ห้ามใช้ในหญงิ ตกเลือดหลงั คลอด หญิงตัง้ ครรภ ์ และผู้ทมี่ ีไข้ เอกสารอ้างองิ ๑. “ตาำ รายาเกรด็ ”. หอสมดุ แหง่ ชาต.ิ หนงั สอื สมดุ ไทยดาำ . อกั ษรไทย. ภาษาไทย. เลขท ี่ ๒๗๓. หมวดตาำ ราเวชศาสตร์. ๒. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ี่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๒๕ พฤษภาคม). ราชกจิ จานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๑๔๑ ง, หนา้ ๑. 43

ยาแกไ้ อผสมตรผี ลา ช่ืออืน่ ยาแกค้ อ แกไ้ อ แกร้ าก แก้สอกึ (๑, ๒) ทมี่ าของตาำ รบั ยา แพทยศาสตร์สงเคราะห์ เลม่ ๑ พระยาพศิ ณปุ ระสาทเวช ร.ศ. ๑๒๘ (๑, ๒) “อนั วา่ ลกั ษณะทรางโจรทรางเพลงิ นน้ั ยอ่ มมเี ภทดจุ กนั ใหแ้ พทยพ์ งึ รดู้ งั น้ี ทรางโจรทรางเพลงิ นน้ั ย่อมบังเกิดแก่กุมาร คือ ถ้าเกิดวันอาทิตย์วันเสาร์นั้น บางทีกุมารเกิดวันอาทิตย์ทรางเพลิงเปนเจ้าเรือน ทรางโจรแซก บางทีกมุ ารเกดิ วันเสาร์ทรางโจรเปนเจ้าเรอื น ทรางเพลิงแซก เขา้ เปนสองชอื่ อย่ดู งั น้ีจงึ เรยี ก วา่ ทรางโจรทรางเพลงิ มลี กั ษณะดงั นตี้ า่ งกนั ออกทบั ทรางเพลงิ คอื แมท่ รางโจรนนั้ ตง้ั ขน้ึ กลางลนิ้ ไก่ เขา้ ไป หาแม่ดังเมลด็ เขา้ เม่า จึงกระท�าใหฅ้ อแหง้ กนิ เขา้ กินนมมไิ ด้ ใหต้ าฟางก่อน สีตาเหลืองเหมอื นดงั ควันเทยี น แล้วให้เชื่อมมึนให้ตัวร้อน คร้ันวางยาชอบถอยลงไปให้แต่ ๔ เดือน ๕ เดือน แล้วค่อยกลับข้ึนมาใหม่ ใหอ้ ยากพรกิ แลของคาวซงึ่ ชอบกบั โรค เมอื่ จะกา� เรบิ ขน้ึ นนั้ กระทา� ใหล้ งทอ้ งจะนบั เวลามไิ ด้ เปนโลหติ เสมหะ เนา่ ออกมา แลว้ ใหแ้ ปรเปนไปตา่ ง ๆ แลใหซ้ บู ผอมสนั แขง้ เปนหนามดงั หนงั กระเบน ตากต็ งั้ เปนเกลด็ กระดี่ ขน้ึ ก่อนแลว้ จึงแดงลามออกไปกก็ ลาย เปนตอ้ ก้นหอยอยู่ประมาณ ๔ วัน ๕ วนั กแ็ ตกออก กุมารผนู้ ั้น ก็ถงึ แก่ความตาย ยาแกค้ อ,แกไ้ อ,แกร้ าก, แกส้ อึก ขนานนเี้ อา ตรผี ลา ๑ กระพงั โหม ๑ ผกั หวาน ๑ ใบกระเพรา ๑ ใบมะกลา�่ เครอื ๑ รวมยา ๗ สิ่งนี้ เอาเสมอภาค บดละลายนา้� ผึ้งทาล้ิน” สตู รตาำ รบั ยา ประกอบดว้ ยตัวยา ๗ ชนดิ รวมน้ำาหนกั ๗ ส่วน ดงั น้ี ตัวยา น้าำ หนกั ยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข กระพงั โหม ๑ ส่วน กะเพรา ๑ สว่ น ผักหวาน ๑ ส่วน มะกล่ำาเครอื ๑ ส่วน มะขามปอ้ ม ๑ สว่ น สมอไทย ๑ ส่วน สมอพิเภก ๑ ส่วน สรรพคณุ แก้ระคายคอ แก้ไอ แกอ้ าเจยี น แก้สะอกึ รปู แบบยา ยาเม็ด ขนาด ๑๐๐ มิลลกิ รัม (ดภู าคผนวก ๓.๔.๒) ขนาดและวิธีการใช้ ละลายนำา้ ผ้ึง อมหรอื ทาล้นิ ครง้ั ละ ๑ เม็ด วนั ละ ๒ ครงั้ เช้าและเย็น เอกสารอา้ งอิง ๑. พิศณุประสาทเวช, พระยา. แพทยศ์ าสตรส์ งเคราะห์ เลม่ ๑. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พศ์ ภุ การ จาำ รญู ถนนอษั ฏางค;์ ร.ศ. ๑๒๘. ๒. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ่ี ๑๓) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๖ พฤศจกิ ายน). ราชกิจจานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๗๑ ง, หน้า ๑. 44

ยาเขยี วนอ้ ย ที่มาของตาำ รับยา ๑. เวชศาสตรฉ์ บบั หลวงรชั กาลท่ี ๕ เลม่ ๑ (๑, ๒) “๏ ยาช่ือเขียวน้อยขนานน้ีท่านให้เอา ใบรงับพิศม์ ใบน�้าเต้า ใบหนาด ใบกเมง ใบเสนียด ใบองั กาบ ตรีกฏกุ ขมนิ อ้อย รวมยา ๑๐ สิ่งน้ีเอาเสมอภาค บดท�าแทง่ ไว้ ลลายสุรากนิ ตามก�าลังกุมารกิน เขา้ ไดแ้ ล ห้ามตาลโจรอนั ท�าให้เจบท้องแลลงท้องน้นั หาย ๚” ๒. แพทยศาสตรส์ งเคราะห์ เลม่ ๑ พระยาพิศณุประสาทเวช ร.ศ. ๑๒๘ (๓, ๔) “ยาช่อื เขยี วนอ้ ย ขนานนท้ี า่ นให้เอา ใบระงบั พษิ ๑ ใบนา้� เตา้ ๑ ใบหนาด ๑ ใบกระเมง็ ๑ ใบ เสนยี ด ๑ ใบองั กาบ ๑ ตรีกระฏกุ ๑ ขม้นิ ออ้ ย ๑ รวมยา ๑๐ สง่ิ น้เี อาส่วนเทา่ กนั บดทา� แทง่ ไว้ละลายน้�า เหลา้ กินตามก�าลังกุมาร กินเขา้ ไดแ้ ลหา้ มตานโจรอันทา� ใหเ้ จบ็ ท้องแลลงท้องนนั้ หายแล” สตู รตาำ รบั ยา ประกอบด้วยตัวยา ๑๐ ชนิด รวมนำา้ หนกั ๑๐ สว่ น ดังนี้ ตวั ยา น้าำ หนกั ยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข กะเมง็ ๑ ส่วน ขม้ินอ้อย ๑ สว่ น ขิง ๑ ส่วน ๑ สว่ น ดีปลี ๑ สว่ น นาำ้ เตา้ ๑ ส่วน พริกไทย ๑ ส่วน ระงับพษิ ๑ ส่วน ๑ ส่วน เสนยี ด ๑ ส่วน หนาด (ใบ) องั กาบ สรรพคณุ แก้ตานโจร ซึ่งทำาให้มอี าการปวดท้อง ท้องเสยี ช่วยเจริญอาหาร รปู แบบยา ยาเมด็ พิมพ์ ขนาด ๑๐๐ มลิ ลกิ รมั (ดูภาคผนวก ๓.๔.๑) ขนาดและวธิ ีการใช้ เดก็ อายุ ๑-๓ เดอื น ครั้งละ ๑-๒ เม็ด อายุ ๔-๖ เดือน ครัง้ ละ ๒-๓ เมด็ อายุ ๗-๑๒ เดือน ครง้ั ละ ๓-๔ เม็ด อายุ ๑-๕ ขวบ ครงั้ ละ ๕-๑๐ เมด็ อายุ ๖-๑๒ ขวบ ครง้ั ละ ๑๐-๑๕ เมด็ ละลายนาำ้ สุรา ๑-๒ หยด กนิ วันละ ๒ ครง้ั กอ่ นอาหาร เชา้ และเย็น ข้อห้ามใช้ ห้ามใช้ในผ้ทู ่ีมอี าการท้องผกู 45

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสขเอกสารอ้างอิง ๑. หอสมุดแหง่ ชาติ กรมศิลปากร. ตาำ ราเวชศาสตร์ฉบบั หลวง รัชกาลท ่ี ๕ เลม่ ๑. กรุงเทพฯ: บรษิ ัท อมรินทร ์ พรนิ้ ต้ิงแอนดพ์ ับลิชช่ิง จำากัด (มหาชน), ๒๕๔๒. ๒. ประกาศกำาหนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาติและตำารับยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๙, ๑๒ มกราคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๗ ง, หนา้ ๑-๓. ๓. พศิ ณปุ ระสาทเวช, พระยา. แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ เลม่ ๑. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ศภุ การ จำารญู ถนนอัษฏางค;์ ร.ศ. ๑๒๘. ๔. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ่ี ๑๓) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๖ พฤศจิกายน). ราชกิจจานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๗๑ ง, หนา้ ๑. 46

ยาเขียวหอม ทมี่ าของตาำ รบั ยา สูตรตำารับทใ่ี กลเ้ คียงตาำ รบั น ี้ พบใน “ตำารับยาสภาอณุ าโลมแดง ร.ศ. ๑๑๒” (๑) “ยาเขียวหอม เอา ใบมะภู่ ใบมะเมีย ใบมะยม ใบมะเฟือง ใบพิมเสน ใบสนั พร้าหอม ใบผกโฉม วา่ รกิบแรด ว่ารร่อนทอง จันแดง จันเทศ มหาสดา� เนรภสู ี รากไครเครอื ระย่อม พิศนารถ เปราะหอม ดอกพกิ ุณ ดอกบุนนาก ดอกสารภี เกสรบวั หลวง ตา� ผงไว้” สูตรตำารับยา ประกอบดว้ ยตวั ยา ๑๘ ชนดิ รวมน้ำาหนกั ๙๐ กรัม (๒) ดังน้ี กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข ตวั ยา นำา้ หนกั ยา จันทน์ขาว ๕ กรัม จนั ทน์แดง ๕ กรัม เนระพูสี ๕ กรัม บวั หลวง ๕ กรัม บนุ นาค ๕ กรัม เปราะหอม ๕ กรัม ผักกระโฉม ๕ กรัม แฝกหอม ๕ กรัม พิกุล ๕ กรัม พมิ เสนต้น ๕ กรัม พษิ นาศน์ ๕ กรัม มหาสดำา ๕ กรมั ว่านกีบแรด ๕ กรัม ๕ กรัม ว่านร่อนทอง ๕ กรัม ๕ กรมั สนั พรา้ หอม ๕ กรมั สารภี ๕ กรมั หมากผู้ หมากเมีย 47

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสขสรรพคณุ บรรเทาอาการไข้ ร้อนในกระหายนำา้ (๒, ๓) แกพ้ ิษหดั พิษอีสกุ อใี ส (๒, ๓) รูปแบบยา ยาผง (๒, ๓) (ดภู าคผนวก ๓.๒) ยาเม็ด (๒) (ดภู าคผนวก ๓.๔.๑) ขนาดและวธิ ีการใช้ ชนิดผง ผใู้ หญ ่ กินครัง้ ละ ๑ กรัม ละลายนำา้ กระสายยา ทุก ๔-๖ ชั่วโมง เมื่อมอี าการ เดก็ อายุ ๖-๑๒ ขวบ กินคร้งั ละ ๕๐๐ มิลลกิ รมั ละลายนำา้ กระสายยา ทุก ๔-๖ ชัว่ โมง เมอ่ื มีอาการ กระสายยาทใ่ี ช้ - บรรเทาอาการไข ้ ร้อนในกระหายน้าำ ใชน้ าำ้ สกุ หรอื นา้ำ ดอกมะลิ - แก้พษิ หดั พษิ อีสกุ อีใส ละลายนา้ำ รากผกั ชตี ้ม ทงั้ กินและชโลม* *การชโลมใช้ยาผงละลายน้�า ๑ ต่อ ๓ แลว้ ชโลม (ประพรม) ทัว่ ตามตัวบริเวณ ท่ีตมุ่ ใสยงั ไมแ่ ตก (๒, ๓) ชนิดเมด็ ผู้ใหญ่ กนิ คร้ังละ ๑ กรัม ทกุ ๔-๖ ช่วั โมง เมื่อมอี าการ เดก็ อายุ ๖-๑๒ ขวบ กนิ ครัง้ ละ ๕๐๐ มิลลิกรมั ทกุ ๔-๖ ชัว่ โมง เมอื่ มอี าการ (๒) ขอ้ ควรระวงั - ควรระวงั การใช้ยาในผู้ป่วยทแี่ พล้ ะอองเกสรดอกไม้ - ไม่แนะนำาให้ใช้ในผู้ที่สงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก เนื่องจากอาจบดบังอาการ ของไข้เลอื ดออก - หากใช้ยาเปน็ เวลานานเกิน ๓ วัน แลว้ อาการไม่ดีขน้ึ ควรปรกึ ษาแพทย์ (๒) ข้อมลู เพ่ิมเตมิ - ทางการแพทย์แผนไทย แนะนำาให้ผู้ป่วยหัด อีสุกอีใส ห้ามกินอาหารทะเล ไข่ และนำา้ เย็น เน่ืองจากผดิ สำาแดง - ในสูตรตำารับได้ตัดไคร้เครือออก เน่ืองจากมีข้อมูลงานวิจัยบ่งชี้ว่าไคร้เครือ ท่ีใชแ้ ละจำาหนา่ ยในทอ้ งตลาด เปน็ พืชในสกุล Aristolochia ซ่งึ พืชในสกุล Aristolochia มีรายงานพบว่าก่อให้เกิดความเปน็ พิษต่อไต (nephrotoxicity) และเมอื่ พ.ศ. ๒๕๔๕ องคก์ ารอนามยั โลกไดป้ ระกาศใหพ้ ชื สกลุ Aristolochia เป็นสารกอ่ มะเรง็ ในมนุษย์ (๒) เอกสารอา้ งองิ ๑. สภากาชาดไทย. ตาำ รายาสภาอณุ าโลมแดง ร.ศ. ๑๑๒. พมิ พค์ รั้งท่ี ๓. บรษิ ทั รุ่งศลิ ปก์ าร พิมพ ์ (๑๙๗๗) จำากดั ; ๒๕๕๗. หน้า ๙. ๒. ประกาศคณะกรรมการพฒั นาระบบยาแหง่ ชาติ เร่ือง บญั ชยี าหลกั แห่งชาต ิ พ.ศ. ๒๕๖๑. (๒๕๖๑, ๑๙ มกราคม). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๑๔ ง. หน้า ๔. (เอกสารแนบท้าย ประกาศ หนา้ ๒๔๕) ๓. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยาสามัญประจำาบ้านแผนโบราณ พ.ศ. ๒๕๕๖. (๒๕๕๖, ๑๔ กมุ ภาพนั ธ)์ . ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๒๑ ง. หนา้ ๔๔. 48

ยาครรภ์รกั ษา ทม่ี าของตาำ รบั ยา ตาำ รายาเกร็ด (๑, ๒) “ยาครรภ์รกั ษา โกฐท้งั ๕ เทียนทง้ั ๕ จันทนท์ ง้ั ๒ บัวทงั้ ๕ ชะลูด ๑ สมลุ แวง้ ๑ แฝกหอม ๑ ขอนดอก ๑ สน ๑ กะทือ ๑” สตู รตำารบั ยา ประกอบดว้ ยตวั ยา ๒๓ ชนิด รวมน้าำ หนกั ๒๓ ส่วน ดังนี้ ตัวยา น้าำ หนักยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข กะทือ ๑ ส่วน โกฐเขมา ๑ ส่วน โกฐจฬุ าลมั พา ๑ สว่ น โกฐเชียง ๑ สว่ น โกฐสอ ๑ สว่ น โกฐหัวบวั ๑ สว่ น ขอนดอก ๑ สว่ น ๑ สว่ น จนั ทน์ขาว ๑ สว่ น จนั ทน์แดง ๑ สว่ น ชะลดู ๑ สว่ น เทยี นขาว ๑ สว่ น เทียนข้าวเปลือก ๑ ส่วน เทียนดาำ ๑ สว่ น เทยี นแดง ๑ ส่วน เทยี นตาตก๊ั แตน ๑ สว่ น บวั จงกลนี ๑ ส่วน บวั นลิ ุบล ๑ ส่วน บวั ลินจง ๑ ส่วน บัวสัตตบรรณ ๑ ส่วน ๑ ส่วน บวั สัตตบษุ ย์ ๑ ส่วน แฝกหอม ๑ ส่วน สน สมุลแวง้ 49

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสขสรรพคณุ บำารุงครรภ์ รูปแบบยา ยาตม้ (ดภู าคผนวก ๓.๑.๓) ขนาดและวธิ กี ารใช้ ด่มื ครั้งละ ๑๐๐ มิลลิลติ ร วันละ ๒ ครงั้ ก่อนอาหาร เชา้ และเยน็ ดม่ื ขณะ ยายงั อุ่นอยู่ ขอ้ ควรระวงั - ไมค่ วรกนิ ตดิ ต่อกันเปน็ เวลานานเกิน ๗ วนั - หากกนิ ยาน้ีแลว้ อาการไม่ดีขนึ้ ควรพบแพทย์ ข้อมลู เพ่ิมเติม ยา ๑ หม้อ ใช้ตดิ ตอ่ กนั ๕-๗ วัน โดยใหอ้ ุน่ นา้ำ สมนุ ไพรทุกครงั้ ก่อนใช้ยา เอกสารอา้ งองิ ๑. “ตำารายาเกร็ด”. หอสมดุ แหง่ ชาติ. หนังสอื สมดุ ไทยดำา. อักษรไทย. ภาษาไทย. เลขท่ี ๒๔๕. หมวดตาำ ราเวชศาสตร์. ๒. ประกาศกำาหนดตำาราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตำารบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ่ี ๘) พ.ศ. ๒๕๕๙, (๒๕๖๐, ๒๔ พฤษภาคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๓๙ ง, หนา้ ๒. 50

ยาคนั ธารส ทมี่ าของตำารบั ยา ตาำ รายาเกร็ด (๑, ๒) “๏ คันธารส เอา จันทน์ชะมด จันทนา ลูกผักชี ลูกผักกาด รากย่านาง ไพล กระชาย ชะเอมเทศ บดท�าแท่งไว้ แก้คลง่ั ละลายนา�้ ดอกไม้ แก้จับแกม้ วั นา�้ สมอ แกห้ อบน้�าถัว่ พู แกร้ ากนา้� ลกู ยอ แทรกนา�้ ผึง้ กนิ หายแล๚” สูตรตาำ รับยา ประกอบดว้ ยตัวยา ๘ ชนิด รวมนา้ำ หนัก ๘ สว่ น ดังนี้ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข ตัวยา นำ้าหนักยา กระชาย ๑ สว่ น ๑ สว่ น จันทนช์ ะมด ๑ ส่วน จนั ทนา ๑ สว่ น ชะเอมเทศ ๑ ส่วน ไพล ๑ สว่ น เมล็ดพรรณผกั กาด ๑ สว่ น ย่านาง ๑ ส่วน ลูกชลี า สรรพคุณ แกค้ ลง่ั แก้จบั แก้มวั แก้หอบ แก้อาเจยี น รปู แบบยา ยาเมด็ พิมพ์ ขนาด ๑๐๐ มลิ ลิกรัม (ดูภาคผนวก ๓.๔.๑) ขนาดและวิธีการใช้ เดก็ อาย ุ ๑-๖ เดือน กินคร้ังละ ๑-๒ เม็ด อายุ ๖ เดือน-๑ ขวบ กินครง้ั ละ ๓-๔ เม็ด อายุ ๑-๓ ขวบ กินครั้งละ ๕-๖ เม็ด อายุ ๓-๖ ขวบ กนิ ครงั้ ละ ๗-๑๐ เมด็ อายุ ๖-๑๒ ขวบ กินครั้งละ ๑๐-๑๕ เม็ด ละลายนำ้ากระสายยา วนั ละ ๓ ครงั้ เชา้ กลางวนั เยน็ หรือเมือ่ มอี าการ น้ำากระสายที่ใช้ - แกค้ ลัง่ ละลายนำ้าดอกไม้ - แก้จบั แก้มัว ละลายนาำ้ สมอไทย - แกห้ อบ ละลายน้ำาถ่ัวพู - แกอ้ าเจยี น ละลายน้าำ ลกู ยอแทรกน้ำาผึ้ง 51

ขอ้ ควรระวงั - ระวงั ในการใชใ้ นเด็กทีม่ ีไข้สูงต้งั แต่ ๓๘.๕ องศาเซลเซยี สเปน็ ต้นไป หรอื เดก็ ทมี่ ีอาการเซื่องซมึ - ไม่ควรใช้ยานีต้ ดิ ต่อกนั นานเกนิ ๓-๕ วนั - หากกนิ ยาน้แี ล้วอาการไม่ดีขึน้ ควรพบแพทย์ เอกสารอา้ งองิ ๑. “ตำารายาเกร็ด”. หอสมุดแห่งชาติ. หนงั สือสมดุ ไทยดาำ . อกั ษรไทย. ภาษาไทย. เลขท่ี ๒๓๘. หมวดตาำ ราเวชศาสตร์. ๒. ประกาศกำาหนดตำาราการแพทย์แผนไทยของชาติและตำารับยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบับท ี่ ๘) พ.ศ. ๒๕๕๙, (๒๕๖๐, ๒๔ พฤษภาคม). ราชกจิ จานุเบกษา. เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๓๙ ง, หนา้ ๒. กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข 52

ยาจนั ทน์ลลี า ชอ่ื อน่ื ยาจันทลีลา (๑) ท่มี าของตำารบั ยา สูตรตำารบั ท่ีใกลเ้ คยี งตำารับน ้ี พบใน “ต�าราเวชศกึ ษา แพทยศ์ าสตร์สงั เขป เล่ม ๑ พระยาพศิ ณุประสาทเวช ร.ศ. ๑๒๗” (๑) “ยาจนั ทลีลา แกส้ ารพัดไข้ทงั้ ปวงถึงอับจน ถงึ ชกั ตาต้งั ไปกด็ ี ใชบ่ รุ าณกรรมแลว้ หาย ทา่ นให้เอา โกฐสอ ๑ โกฐเขมา ๑ โกฐจลุ าล�าพา ๑ จันทนท์ ัง้ สอง ๑ ลูกกะดอม ๑ บรเพ็ด ๑ ปลาไหลเผอื ก ๑ เอาเสมอภาค แทรกพิมเสนชะมดบดละลายน้�าซาวเขา้ กไ็ ด้ ใช้มามากแล้ว ท่านตีราคาไวช้ งั่ ทองหนึง่ แล” สูตรตาำ รบั ยา ประกอบด้วยตัวยา ๙ ชนดิ รวมนำ้าหนัก ๙๙ กรัม (๒) ดงั น้ี ตวั ยา นาำ้ หนกั ยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข กระดอม ๑๒ กรมั ๑๒ กรัม โกฐเขมา ๑๒ กรัม โกฐจฬุ าลมั พา ๑๒ กรัม โกฐสอ ๑๒ กรัม จันทนข์ าว ๑๒ กรมั จนั ทนแ์ ดง ๑๒ กรัม บอระเพ็ด ๑๒ กรัม ปลาไหลเผอื ก ๓ กรมั พิมเสน สรรพคุณ บรรเทาอาการไขต้ ัวร้อน (๒, ๓) ไขเ้ ปล่ียนฤดู (๒) รปู แบบยา ยาผง (ดูภาคผนวก ๓.๒) ยาแคปซลู (ดภู าคผนวก ๓.๓) ยาเม็ด ขนาดและวธิ กี ารใช้ (ดภู าคผนวก ๓.๔.๒) ชนิดผง ผใู้ หญ่ กินครั้งละ ๑-๒ กรัม ละลายนำ้ากระสายยา ทุก ๓-๔ ชั่วโมง เมอื่ มีอาการ เด็ก อาย ุ ๖-๑๒ ขวบ กินคร้งั ละ ๕๐๐ มลิ ลกิ รัม-๑ กรัม ละลายนาำ้ กระสายยา ทุก ๓-๔ ชว่ั โมง เมื่อมีอาการ (๒, ๓) กระสายยาที่ใช้ แก้ไข ้ ละลายนำา้ สุกหรอื น้ำาซาวข้าว ชนดิ แคปซูลและชนิดเมด็ ผใู้ หญ่ กินครั้งละ ๑-๒ กรัม ทกุ ๓-๔ ช่วั โมง เม่อื มอี าการ เด็ก อายุ ๖-๑๒ ขวบ กนิ คร้งั ละ ๕๐๐ มิลลกิ รัม-๑ กรัม ทกุ ๓-๔ ช่ัวโมง เม่อื มีอาการ (๒, ๓) 53

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสขขอ้ ควรระวงั - ไมแ่ นะนาำ ใหใ้ ชใ้ นผทู้ ส่ี งสยั วา่ เปน็ ไขเ้ ลอื ดออก เนอื่ งจากอาจบดบงั อาการของไขเ้ ลอื ดออก - หากใช้ยาเป็นเวลานานเกิน ๓ วนั แล้วอาการไมด่ ีข้นึ ควรปรึกษาแพทย์ - แนะนำาใหใ้ ชย้ าจนั ทนล์ ลี าได้ในหญิงท่มี ไี ขท้ บั ระดหู รือไข้ระหวา่ งมปี ระจำาเดอื น (๒) เอกสารอา้ งอิง ๑. พิศณุประสาตรเวช, พระยา. เวชศึกษา แพทย์ศาสตร์สังเขป เล่ม ๑. กรุงเทพฯ: โรงพิมพไ์ ทย สพานยศเส; ร.ศ. ๑๒๗ หนา้ ๗๕. ๒. ประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาต ิ เรอ่ื ง บัญชยี าหลักแหง่ ชาต ิ พ.ศ. ๒๕๖๑. (๒๕๖๑, ๑๙ มกราคม). ราชกจิ จานุเบกษา. เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๑๔ ง. หน้า ๔. (เอกสารแนบท้าย ประกาศ หน้า ๒๔๖) ๓. ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เรอื่ ง ยาสามญั ประจาำ บา้ นแผนโบราณ พ.ศ. ๒๕๕๖. (๒๕๕๖, ๑๔ กมุ ภาพนั ธ์). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๑๓๐ ตอนพเิ ศษ ๒๑ ง. หน้า ๔๓. 54

ยาชกั ดากให้หดเขา้ ที่มาของตำารบั ยา ตาำ รายาเกร็ด (๑, ๒) “ภาคหนึ่งยาชักดากให้หดเข้า เอา น�้านมราชสีห์เครือเต็มก�ามือ ๑ กล้ันใจตัดหัวตัดท้าย ขอบชนางแดงกา� มอื ๑ ตดั หวั ตัดทา้ ย ๑ กะเมง็ แดงก�ามอื ๑ ตดั หัวตัดทา้ ย เอา ขมน้ิ อ้อยหัวใหญ่มาห่ัน เปน็ แว่นใหไ้ ด้ ๓๒ แว่นลงดว้ ยอาการ ๓๒ ต้มดว้ ยนา�้ ปนู ขาวทใี่ สกนิ เถดิ หายแล ๚” สูตรตำารบั ยา ประกอบดว้ ยตวั ยา ๔ ชนิด ดงั นี้ ตัวยา นาำ้ หนักยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข กะเม็งแดง ๑ กำามือ ขอบชะนางแดง ๑ กาำ มือ ๑ กาำ มือ น้าำ นมราชสีห์ ๓๒ แว่น ขม้ินออ้ ย สรรพคณุ ชักดากใหห้ ดเขา้ ที่เดิม รูปแบบยา ยาตม้ (ดูภาคผนวก ๓.๑.๓) ขนาดและวิธกี ารใช้ เดก็ อายุ ๑ เดอื น-๕ เดอื น กินคร้ังละ ๒ ชอ้ นชา (๑๐ มิลลิลติ ร) อายุ ๖ เดอื น-๑ ชวบ กินครั้งละ ๑ ช้อนโตะ๊ (๑๕ มิลลลิ ิตร) อายุ ๑-๖ ขวบ กนิ ครงั้ ละ ๒ ช้อนโต๊ะ (๓๐ มลิ ลลิ ิตร) อายุ ๖-๑๒ ขวบ กินครงั้ ละ ๓-๔ ชอ้ นโต๊ะ (๔๕-๖๐ มลิ ลิลิตร) วนั ละ ๓ ครั้ง กอ่ นอาหาร เช้า กลางวัน และเยน็ กนิ ขณะยายังอนุ่ อยู่ ข้อมูลเพิ่มเติม ยา ๑ หมอ้ ใช้ตดิ ตอ่ กนั ๕-๗ วัน โดยใหอ้ ่นุ นา้ำ สมุนไพรทกุ คร้งั ก่อนใช้ยา เอกสารอา้ งองิ ๑. “ตาำ รายาเกรด็ ”. หอสมดุ แหง่ ชาต.ิ หนงั สอื สมดุ ไทยดาำ . อกั ษรไทย. ภาษาไทย. เลขท ี่ ๒๗๓. หมวดตาำ ราเวชศาสตร.์ ๒. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ี่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๒๕ พฤษภาคม). ราชกจิ จานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๑๔๑ ง, หนา้ ๑. 55

ยาชา� ระโลหิตนา�้ นม ท่มี าของตำารับยา ตาำ ราเวชศาสตร์ฉบบั หลวง รชั กาลท ่ี ๕ เล่ม ๑ (๑, ๒) “ยาช�าระโลหติ น�า้ นม ขนานนี้ ทา่ นในให้เอาหศั คณุ ท้งั ๒ ผลจันทน์ ดอกจนั ทน์ เบญจเทยี น วา่ นหางชา้ ง รากหางช้าง รากตองแตก ตรีกฏุก กะเทียม ยาด�า เอาสงิ่ ละ ๒ บาท ขา่ แห้ง ไพลแห้ง การพลู เอาส่ิงละ ๑ บาทหอมแดง ๓ บาท สานซ่ม ดนิ ประสิวขาว เอาส่งิ ละ ๑ ตา� ลงึ ศิรยิ า ๒๓ ส่ิงนี้ท�าเปนจุณ บดด้วยน�้ามะขามเปยี กกินหนกั ๑ สลงึ ให้กินไปทุกวนั เปนยาช�าระอาจบ�าบดั โทษน�า้ นม ใหถ้ ึงซง่ึ พนิ าศฉบิ หาย” กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข สตู รตาำ รับยา ประกอบดว้ ยตัวยา ๒๓ ชนิด รวมน้าำ หนกั ๗๒๐ กรมั ดงั น้ี ตวั ยา น้ำาหนักยา ดนิ ประสิว ๖๐ กรมั สารสม้ ๖๐ กรมั หอมแดง ๔๕ กรมั กระเทยี ม ๓๐ กรมั ขงิ ๓๐ กรมั ๓๐ กรัม ดอกจันทน์ ๓๐ กรมั ดีปลี ๓๐ กรมั ตองแตก ๓๐ กรมั ๓๐ กรมั เทียนขาว ๓๐ กรมั เทียนข้าวเปลอื ก ๓๐ กรมั เทยี นดาำ ๓๐ กรมั เทยี นแดง ๓๐ กรมั เทียนตาตก๊ั แตน ๓๐ กรมั พริกไทย ๓๐ กรมั ยาดาำ ๓๐ กรมั ลกู จันทน์ ๓๐ กรมั ว่านหางช้าง (ใบ) ๓๐ กรมั ว่านหางชา้ ง (ราก) ๓๐ กรมั หสั คุณเทศ ๑๕ กรัม หสั คุณไทย ๑๕ กรัม กานพลู ๑๕ กรัม ข่า 56 ไพล

สรรพคุณ เปน็ ยาชำาระบำาบัดโทษนำ้านม รปู แบบยา ยาผง (ดูภาคผนวก ๓.๒) ขนาดและวธิ กี ารใช้ กินครง้ั ละ ๑-๒ ชอ้ นชา วนั ละ ๒ คร้งั ก่อนอาหาร เช้าและเย็น ข้อห้ามใช้ หา้ มใชใ้ นสตรีมีครรภ์ และผู้ทีม่ ไี ข้ ข้อมลู เพ่ิมเตมิ - การเตรยี มตวั ยายาดาำ ก่อนนำาไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๑๒) - การเตรียมตัวยาสารส้มกอ่ นนาำ ไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๒๐) กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข เอกสารอ้างอิง ๑. หอสมดุ แห่งชาติ กรมศิลปากร. ตาำ ราเวชศาสตรฉ์ บบั หลวง รัชกาลท ี่ ๕ เลม่ ๑. กรุงเทพฯ: บริษัท อมรนิ ทร ์ พริน้ ต้ิงแอนดพ์ บั ลิชชง่ิ จำากัด (มหาชน), ๒๕๔๒. ๒. ประกาศกาำ หนดตำาราการแพทยแ์ ผนไทยของชาติและตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท่ ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๙, ๑๒ มกราคม). ราชกจิ จานุเบกษา. เลม่ ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๗ ง, หนา้ ๑-๓. 57

ยาชริ นัคคจี ร ชื่ออ่ืน ยาฤทธจิ ร (๑, ๒) ทม่ี าของตำารับยา เวชศาสตร์ฉบับหลวงรชั กาลท่ี ๕ เล่ม ๑ (๑, ๒) “ยาช่ือฤทธิจร ดปี ลี ๑ แฝกหอม ๑ เปราะหอม พริกไทย ๑ แหว้ หมู ๑ ว่านนา้� ๑ ยาทั้งนี้ เอาเสมอภาค รากกะเทยี ม เทา่ ยาท้ังหลาย ต�าผงละลายน้�ารอ้ น นา�้ ผึ้ง ก็ได้กิน แกว้ าโยธาตพุ ิการหาย” สูตรตำารับยา ประกอบดว้ ยตวั ยา ๗ ชนิด รวมนำ้าหนกั ๑๒ สว่ น ดังนี้ ตวั ยา นา้ำ หนกั ยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข กระเทยี ม ๖ สว่ น ดปี ลี ๑ สว่ น เปราะหอม ๑ ส่วน แฝกหอม ๑ ส่วน พริกไทย ๑ สว่ น วา่ นนำา้ ๑ สว่ น แหว้ หมู ๑ สว่ น สรรพคุณ ขับลม แก้ลมอัมพาต ลมราทยกั ษ์ และลมปตั ฆาต รูปแบบยา ยาแคปซลู ขนาด ๕๐๐ มลิ ลิกรมั (ดภู าคผนวก ๓.๓) ขนาดและวธิ ีการใช ้ กินครง้ั ละ ๒ แคปซลู วนั ละ ๒ ครงั้ ก่อนอาหาร เช้าและเยน็ ข้อหา้ มใช้ หา้ มใชใ้ นหญงิ ตง้ั ครรภ์ ผทู้ ี่มไี ข้ และเด็ก เอกสารอ้างองิ ๑. หอสมุดแห่งชาต ิ กรมศลิ ปากร. ตาำ ราเวชศาสตรฉ์ บบั หลวง รัชกาลท่ ี ๕ เล่ม ๑. กรุงเทพฯ: บรษิ ทั อมรินทร ์ พริ้นต้ิงแอนดพ์ บั ลิชชงิ่ จาำ กัด (มหาชน), ๒๕๔๒. ๒. ประกาศกำาหนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาติและตำารบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบับท ี่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๙, ๑๒ มกราคม). ราชกจิ จานุเบกษา. เล่ม ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๗ ง, หน้า ๑-๓. 58

ยาตรีหอม ท่ีมาของตาำ รบั ยา สูตรตำารับท่ีใกล้เคียงตำารับน้ี พบในตำาราเวชศึกษา แพทย์ศาสตร์สังเขป เล่ม ๑ พระยาพศิ ณปุ ระสาทเวช ร.ศ. ๑๒๗ (๑) “ยาตรีหอม เอาลูกสมอเทศทุบเอาแต่เนือ้ แลเปลอื กนอก หนกั ๔ บาท ลกู มะขามปอ้ มเอาแต่ เนอื้ แล เปลอื กนอก หนัก ๔ บาท ลกู สมอพิเภก เอาแต่เนอ้ื และเปลือกนอก หนัก ๔ บาท ลกู ผักชีลาหนกั ๔ บาท ไคร้เครือหนัก ๑ บาท โกฐสอหนกั ๑ บาท ชะเอมเทศหนกั ๑ บาท น�้าประสารทองเทศสะตุหนกั ๑ บาท ลูกซัดค่วั หนัก ๑ บาท ลูกสมอไทยเอาแต่เนอื้ แลเปลือกนอกหนกั ๕ ต�าลงึ ๒ บาท โกฐนา�้ เตา้ น่งึ ใหส้ กุ หนัก ๕ ตา� ลงึ ๒ บาท ตากให้แห้งตา� เป็นผง แกอ้ าหารในกระเพราะพกิ าร แกท้ ราง แก้พษิ เสมหะ นา้� สมอเทศต้มเปน็ กระสาย แทรกเกลอื หรือดีเกลือกไ็ ด้” สตู รตาำ รบั ยา ประกอบด้วยตวั ยา ๙ ชนิด รวม ๖๓ กรัม (๒) ดงั น้ี ตวั ยา น้าำ หนกั ยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข โกฐนำา้ เต้า ๒๒ กรมั สมอไทย ๒๒ กรัม มะขามปอ้ ม ๔ กรัม ลกู ชีลา ๔ กรมั สมอเทศ ๔ กรมั สมอพเิ ภก ๔ กรมั โกฐสอ ๑ กรมั ชะเอมเทศ ๑ กรมั ลูกซัด ๑ กรมั สรรพคุณ แกเ้ ด็กทอ้ งผกู ระบายพิษไข้ (๒) รูปแบบยา เม็ด (๒) (ดภู าคผนวก ๓.๔.๒) ขนาดและวธิ ีการใช ้ เดก็ อายุ ๑-๒ เดอื น กินครงั้ ละ ๔๐๐-๖๐๐ มิลลิกรมั อายุ ๓-๕ เดอื น กนิ คร้ังละ ๘๐๐ มิลลิกรมั -๑ กรมั อายุ ๖-๑๒ เดือนกนิ คร้ังละ ๑.๒-๑.๖ กรมั (๒) ละลายนำ้าตม้ สกุ หรอื น้ำากระสายยาอ่นื ทเี่ หมาะสม กินก่อนอาหารเชา้ ขอ้ มลู เพิ่มเตมิ - สูตรตำารับยาตรีหอมตามประกาศยาสามัญประจำาบ้าน พ.ศ. ๒๕๓๗ (๓) มีตัวยา “นำ้าประสานทองสะตุและไคร้เครือ” เป็นส่วนประกอบ ซงึ่ น้ำาประสาน ทองสะตุได้ตัดออกจากสูตรตำารับตามประกาศยาสามัญประจำาบ้านแผนโบราณ พ.ศ. ๒๕๔๒ (๔) สว่ น “ไครเ้ ครอื ” ไดต้ ดั ออกจากสูตรตำารับ เน่อื งจากมขี อ้ มูล 59

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข งานวิจัยบ่งช้ีว่าไคร้เครือท่ีใช้และมีการจำาหน่ายในท้องตลาด เป็นพืชในสกุล Aristolochia ซ่งึ พืชในสกุล Aristolochia มีรายงานพบว่าก่อใหเ้ กดิ ความเปน็ พิษต่อไต (nephrotoxicity) และเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๕ องค์การอนามัยโลกได้ ประกาศใหพ้ ชื สกุล Aristolochia เป็นสารกอ่ มะเรง็ ในมนุษย์ (๒) - การเตรียมตวั ยาลกู ซดั กอ่ นนาำ ไปใช ้ (ดภู าคผนวก ๒.๑๔) เอกสารอา้ งองิ ๑. พิศณุประสาตรเวช, พระยา. เวชศึกษา แพทย์ศาสตร์สังเขป เล่ม ๑. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์ไทย สพานยศเส; ร.ศ. ๑๒๗ หน้า ๙๒. ๒. ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เร่ือง ยาสามัญประจาำ บา้ นแผนโบราณ พ.ศ. ๒๕๕๖. (๒๕๕๖, ๑๔ กมุ ภาพนั ธ์). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๒๑ ง. หนา้ ๔๑. ๓. ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เรื่อง ยาสามญั ประจาำ บา้ น ฉบับที่ ๒ (๒๕๓๗, ๓ ตลุ าคม). ราชกจิ จานเุ บกษา. เล่ม ๑๑๑ ตอนพิเศษ ๔๒ ง. หนา้ ๘๒. ๔. ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เรอ่ื ง ยาสามญั ประจาำ บา้ นแผนโบราณ (๒๕๔๒, ๒๔ สงิ หาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ๑๑๖ ตอนพเิ ศษ ๖๗ ง. หนา้ ๔๒. 60

ยาถา่ ยดีเกลือฝรั่ง ชื่ออน่ื ยากวน (๑), ยาถา่ ย (๓) ท่ีมาของตำารับยา สูตรตำารับที่ใกล้เคียงตำารับน้ี พบใน ตำาราเวชศึกษา แพทย์ศาสตร์สังเขป เล่ม ๓ พระยาพศิ ณปุ ระสาทเวช ร.ศ. ๑๒๗ (๑) “๑๓. ยากวน ยากวนนก้ี นิ ถา่ ยไขด้ ีมาก ให้เอาใบมะกา ๑ ใบมะขาม ๑ ใบซ่มป่อย ๑ หญา้ ไทร ๑ ใบไผ่ปา่ ๑ ฝกั คนู ๑ รากขก้ี าท้ังสอง ๑ รากตองแตก ๑ ขเ้ี หล็กทง้ั ๕ เถาวัลเปรียง ๑ หวั หอม ๑ ฝักซม่ ปอ่ ย ๑ สมอไทย ๑ สมอดีงู ๑ ยาดา� หนัก ๑ ต�าลงึ ดเี กลือ หนกั ๕ ตา� ลงึ ยาทั้งนใ้ี หเ้ ขยี้ วไปกวา่ จะแหง้ แล้วจงึ สงเอากากยาทง้ั นั้นออกเสีย จึงเอาดีเกลือกบั ยาดา� สม้ มะขามเปียกใส่เขยี้ วไปกวา่ จะป้นั เปน ลกู กลอนตามธาตหุ นักธาตุเบา ถ่ายไข้ถา่ ยโลหติ สาระพัดโรคทงั้ ปวงดีนักแล” กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข สตู รตำารบั ยา ประกอบดว้ ยตัวยา ๑๗ ชนิด รวมน้าำ หนัก ๑๑๗ กรมั (๒) ดังน้ี ตวั ยา น้าำ หนกั ยา ดีเกลือฝรัง่ ๖๐ กรมั ยาดาำ ๑๒ กรมั ขก้ี าขาว (ราก) ๓ กรัม ขกี้ าแดง (ราก) ๓ กรมั ข้เี หลก็ (ทัง้ ๕) ๓ กรัม คูน (เนื้อในฝัก) ๓ กรมั ตองแตก ๓ กรัม ๓ กรมั เถาวัลยเ์ ปรยี ง ๓ กรมั ไผป่ า่ ๓ กรัม มะกา ๓ กรัม ๓ กรัม มะขาม ๓ กรมั ๓ กรมั สม้ ป่อย (ใบ) ๓ กรัม สม้ ปอ่ ย (ฝกั ) ๓ กรัม สมอดงี ู ๓ กรัม สมอไทย หญา้ ไทร หวั หอม 61

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสขสรรพคุณ ใช้บรรเทาอาการท้องผูกเฉพาะในรายที่ท้องผูกมากหรือในรายท่ีมีอาการท้องผูก เร้อื รงั และใชย้ าอ่นื แล้วไม่ได้ผล (๒) รปู แบบยา ยาแคปซลู (ดูภาคผนวก ๓.๓) ยาเม็ด (ดูภาคผนวก ๓.๔.๑) ขนาดและวิธีการใช้ ครง้ั แรก กนิ ๑ กรมั วันละ ๑ ครั้ง ก่อนนอน ถ้าไม่ถา่ ย วนั ต่อไปกนิ ๑.๕-๒.๕ กรัม วนั ละ ๑ ครง้ั ก่อนนอน ตามกาำ ลัง ธาตหุ นักเบา (๒) ขอ้ หา้ มใช้ - ห้ามใชใ้ นหญิงตั้งครรภ์และเดก็ (๒) - หา้ มใชใ้ นภาวะทางเดนิ อาหารอุดตนั (gastrointestinal obstruction/ileus) (๒) - หา้ มใช้ในผู้ป่วยทม่ี ภี าวะผิดปรกติเฉียบพลนั ท่ที างเดนิ อาหาร (acute gastro-intestinal conditions) เชน่ คลนื่ ไส ้ อาเจยี น (๒) ข้อควรระวงั - เน่ืองจากเป็นยาถ่ายอย่างแรง ไม่ควรใช้ยานี้ในผู้ป่วยอ่อนเพลียมากหรือ มีภาวะขาดน้ำา (๒) - เม่ือถ่ายแล้วใหเ้ ว้นอย่างน้อย ๒ วัน แลว้ จงึ ใช้ยาน้อี ีกคร้ัง (๒) - ควรระวังการใช้ยาในผู้สูงอายุ และผู้ป่วยที่มีความผิดปรกติของไตหรือตับ (renal/hepatic impairment) เนอื่ งจากยามีส่วนประกอบของแมกนีเซยี ม (๒) อาการไม่พึงประสงค ์ ปวดเสียดท้อง (๒) ข้อมูลเพิม่ เตมิ การเตรียมตัวยายาดาำ กอ่ นนำาไปใช ้ (ดภู าคผนวก ๒.๑๒) เอกสารอา้ งองิ ๑. พศิ ณปุ ระสาตรเวช, พระยา. เวชศกึ ษา แพทยศ์ าสตร์สงั เขป เลม่ ๓. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์ สามัคค;ี (ม.ป.ป.). หนา้ ๑๐๒. ๒. ประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแหง่ ชาติ เรื่อง บญั ชียาหลักแห่งชาต ิ พ.ศ. ๒๕๖๑. (๒๕๖๑, ๑๙ มกราคม). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๑๔ ง. หนา้ ๔. (เอกสารแนบทา้ ย ประกาศ หน้า ๒๓๘) ๓. ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เรอ่ื ง ยาสามญั ประจำาบ้านแผนโบราณ พ.ศ. ๒๕๕๖. (๒๕๕๖, ๑๔ กมุ ภาพนั ธ์). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๒๑ ง. หนา้ ๔๒. 62

ยาถ่ายพยาธิ ชือ่ อน่ื ยารุตวั พยาธิตานโจร (๑, ๒) ทม่ี าของตาำ รบั ยา แพทยศาสตร์สงเคราะห์ เลม่ ๑ พระยาพศิ ณปุ ระสาทเวช ร.ศ. ๑๒๘ (๑, ๒) “ยารตุ วั พยาธิตานโจร ขนานนีเ้ อา พมิ เสน ๑ การบูร ๑ ผลจนั ทน์ ๑ ดอกจนั ทน์ ๑ กานพลู ๑ ใบกระเพรา ๑ ใบสวาด ๑ เอาสง่ิ ละ ๒ ส่วน รวมยา ๗ ส่ิงน้ีท�าเปนจุณ เอาผลสลอดนัน้ ๑๔ ส่วน ปอกเปลอื กเอาไส้ในออกเสียลา้ งน�้าให้หมด เอาผา้ ขาวห่อใส่หมอ้ กับเข้าใหแ้ หง้ กวน ๓ หน แล้วเอามาข้ัว กบั น้�าปลาดีใหเ้ กรยี มแล้วทบั นา�้ มนั ออกเสีย แลว้ จึงเอามาประสมเขา้ กบั ยาทง้ั นนั้ บดทา� แท่งไวเ้ ท่าเมลด็ ถัว่ เขยี ว ใหก้ ุมารกินแกผ้ อมเหลอื งใหล้ งเปนมกู เลอื ด ถ้ากมุ ารอายุได้ ๑ ขวบให้กิน ๗ เมด็ ถ้ากุมารอายไุ ด้ ๒ ขวบกิน ๙ เม็ด ถา้ กุมารอายไุ ด้ ๓ ขวบใหก้ นิ ๑๑ เมด็ ให้กนิ ตามก�าลงั เด็กแลผู้ใหญ่ ถา้ ไม่ลงจะให้ ลงเอาจันทนห์ อมทาตวั ถา้ ลงนักเอาผลมะตาดกวนกับนา้� อ้อยงบตม้ ใหก้ นิ หยุดลง” สูตรตาำ รับยา ประกอบด้วยตวั ยา ๘ ชนิด รวมนาำ้ หนัก ๒๘ สว่ น ดังน้ี ตัวยา น้าำ หนกั ยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข สลอด ๑๔ สว่ น กะเพรา ๒ สว่ น กานพลู ๒ ส่วน การบรู ๒ ส่วน ดอกจันทน์ ๒ สว่ น พิมเสน ๒ ส่วน ลกู จันทน์ ๒ ส่วน ๒ สว่ น สวาด สรรพคณุ ถ่ายพยาธิ รูปแบบยา ขนาดและวิธกี ารใช้ ยาเม็ดพิมพ์ ขนาด ๑๐๐ มิลลกิ รัม (ดภู าคผนวก ๓.๔.๑) เดก็ อายุ ๑ ขวบ คร้ังละ ๑-๒ เม็ด อายุ ๒ ขวบ ครัง้ ละ ๓-๔ เมด็ อายุ ๓ ขวบ คร้งั ละ ๕-๖ เมด็ อายุ ๔-๖ ขวบ ครงั้ ละ ๗-๘ เมด็ อายุ ๖-๑๒ ขวบ ครัง้ ละ ๙-๑๐ เมด็ ผู้ใหญ ่ กินคร้ังละ ๑๑-๑๕ เม็ด วันละ ๒ ครั้ง ก่อนอาหาร เช้าและเย็น ตามกำาลังธาตุหนักเบา ถ้ายังไม่ถ่ายให้ใช้จันทน์หอมทาตัว ถ้าถ่าย มากเกนิ ไปให้กนิ ผลมะตาดกวนกับน้ำาออ้ ยงบ 63

ขอ้ ควรระวงั ยานเ้ี ปน็ ยาถา่ ย ควรใชด้ ว้ ยความระมดั ระวงั โดยพจิ ารณาตามขนาดทใ่ี ชต้ ามกาำ ลงั ธาตหุ นกั เบา ขอ้ มลู เพมิ่ เตมิ - การเตรยี มตวั ยาสลอด กอ่ นนำาไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๑๖.๑) - จนั ทนห์ อม เปน็ แกน่ ของพชื ทม่ี ชี อ่ื วทิ ยาศาสตร์วา่ Santalum album L. (วงศ์ Santalaceae) - ถ้าหานำ้าตาลอ้อยงบไม่ได ้ ใหใ้ ชน้ ำา้ ตาลมะพรา้ วหรือน้าำ ตาลโตนดแทน กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข เอกสารอา้ งองิ ๑. พิศณุประสาทเวช, พระยา. แพทย์ศาสตรส์ งเคราะห์ เลม่ ๑. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ศภุ การ จำารูญถนนอัษฏางค;์ ร.ศ. ๑๒๘. ๒. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ่ี ๑๓) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๖ พฤศจิกายน). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๗๑ ง, หน้า ๑. 64

ยาถา่ ยพยาธพิ รหมกิจ ท่มี าของตาำ รับยา ศิลาจารกึ ตาำ รายาวัดพระเชตพุ นวมิ ลมงั คลาราม (วัดโพธิ์) (๑, ๒) “ตรีผลา ใบมะขาม ใบส้มป่อย รากขก้ี าทง้ั สอง หอม รากตองแตก สิง่ ละส่วน ฝักราชพฤกษ์ ๙ ส่วน วิธีท�าต้มตามวิธีแทรกดีเกลือให้กินตามธาตุหนักธาตุเบา เป็นยาช�าระล�าไส้ตานโจรอันชื่อว่า พรหมกจิ เกิดเพื่อซางแดง” สูตรตำารบั ยา ประกอบดว้ ยตัวยา ๑๐ ชนิด รวมนำ้าหนกั ๑๘ ส่วน ดังน้ี ตวั ยา น้ำาหนกั ยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข ราชพฤกษ์ ๙ สว่ น ขกี้ าขาว (ราก) ๑ ส่วน ข้กี าแดง (ราก) ๑ ส่วน ตองแตก ๑ สว่ น ๑ สว่ น มะขาม ๑ สว่ น ๑ สว่ น มะขามปอ้ ม ๑ สว่ น สม้ ป่อย (ใบ) ๑ สว่ น สมอไทย ๑ สว่ น สมอพเิ ภก หอม สรรพคณุ ถา่ ยพยาธติ านโจร รปู แบบยา ยาตม้ (ดภู าคผนวก ๓.๑.๑) ขนาดและวิธกี ารใช้ เดก็ อายุ ๑-๖ ขวบ ด่มื ครัง้ ละ ๑-๒ ช้อนโต๊ะ (๑๕-๓๐ มิลลลิ ิตร) อายุ ๗-๑๒ ขวบ ด่มื คร้งั ละ ๓-๔ ชอ้ นโต๊ะ (๔๕-๖๐ มลิ ลลิ ิตร) วนั ละ ๒ คร้งั ก่อนอาหาร เช้าและเยน็ แทรกดีเกลอื กนิ ตามกาำ ลังธาตุ หนักเบา ดมื่ ขณะยายังอ่นุ อยู่ ขอ้ มูลเพิม่ เตมิ ยา ๑ หมอ้ ใชต้ ดิ ต่อกนั ๕-๗ วนั โดยใหอ้ ุน่ น้ำาสมนุ ไพรทุกคร้ังกอ่ นใชย้ า เอกสารอ้างอิง ๑. สำานักคุ้มครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลอื ก. หนงั สอื ชดุ ตาำ ราภมู ปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย ฉบบั อนรุ กั ษ ์ ตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยในศลิ าจารกึ วัดพระเชตพุ นวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) เล่ม ๒. พมิ พ์ครง้ั ท ่ี ๑. กรุงเทพฯ: โรงพิมพอ์ งค์การสงเคราะห์ ทหารผา่ นศกึ ในพระบรมราชูปภมั ภ,์ ๒๕๕๗. ๒. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๘, ๓๐ พฤศจิกายน). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๑๓๒ ตอนพเิ ศษ ๓๑๗ ง. 65

ยาทวิวาตาธิคณุ ที่มาของตำารับยา ศิลาจารึกวดั พระเชตุพนวิมลมงั คลาราม (วดั โพธ)ิ์ (๑, ๒) “๏ สิทธิการยิ ะ จะกล่าวด้วยลักษณะก�าเนดิ ลม อันชื่อวา่ ลมสัตถกวาตนน้ั เปน็ คา� รบ ๒ ถา้ บงั เกิด แต่บคุ คลผใู้ ด มักกระทา� ใหเ้ จบ็ อกเปน็ ตน้ แลลมกองนเี้ กดิ เพือ่ สนั ทคาด คร้ันแก่เขา้ กระทา� ให้จับเปน็ เพลา และอาการทจี่ บั นนั้ มกั ใหเ้ จบ็ ไปทกุ ชนิ้ เนอื้ ดจุ ดง่ั บคุ คลเอามดี มาเชอื ดและเอาเหลก็ อนั แหลมมาแทง ใหแ้ ปลบ ปลาบไปทัง้ กาย ใหใ้ จน้ันสน่ั อยู่รกิ ๆ ใหเ้ จ็บอกเปน็ กา� ลัง คร้นั สร่างแลว้ ใหห้ ิวหาแรงมิได้ให้เจ็บศรี ษะให้จักษุ มวั มไิ ดเ้ หน็ สง่ิ อนั ใดบรโิ ภคอาหารมไิ ด้ นอนมหิ ลบั ถา้ จะแกใ้ หแ้ กแ้ ตย่ งั เจบ็ อกอยนู่ น้ั ใหห้ าย ถา้ มหิ ายแกเ่ ขา้ กจ็ ะกลายเปน็ โทสนั ทคาดและตรสี นั ทคาดต เปน็ อตสิ ยั โรคตามอาจารยก์ ลา่ วไวว้ า่ เปน็ โรคตดั แพทยท์ ง้ั หลาย พึงร้ดู งั นี้ ฯ “ยาช่ือทวิวาตาธิคุณ เอาโกฐจุฬาลัมพา โกฐสอ ผลจันทน์ ดอกจันทน์ ผลเอ็น ขิงแห้งดีปลี ใบกระวาน ล�าพนั ดอกกระดงั งา สมุลแวง้ การบรู ส่งิ ละสว่ น รากย่านาง ชะมด พมิ เสน สิง่ ละ ๒ สว่ น ท�าเป็นจุณเอาน้�าดอกไม้เป็นกระสายบดท�าแท่งไว้ละลายน�้าดอกไม้ให้กินแก้ลมสัตถกะวาตซ่ึงกระท�าให้เจ็บ อกน้นั หายดีนัก” สูตรตำารบั ยา ประกอบดว้ ยตวั ยา ๑๕ ชนิด รวมนำา้ หนกั ๑๘ สว่ น ดังน้ี ตวั ยา นา้ำ หนักยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข ชะมดเช็ด ๒ สว่ น พิมเสน ๒ ส่วน ยา่ นาง ๒ ส่วน ๑ สว่ น กระดังงา ๑ สว่ น ๑ สว่ น กระวาน ๑ สว่ น ๑ ส่วน การบรู ๑ ส่วน โกฐจฬุ าลมั พา ๑ ส่วน โกฐสอ ๑ ส่วน ขงิ แห้ง ๑ ส่วน ดอกจนั ทน์ ๑ สว่ น ดปี ลี ๑ ส่วน ลำาพัน ๑ สว่ น ลกู จนั ทน์ ลูกเอ็น สมลุ แว้ง 66

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสขสรรพคณุ กระจายลม ท่ที าำ ให้เกดิ อาการแนน่ หน้าอก ใจสัน่ รปู แบบยา ยาเม็ดพมิ พ์ ขนาด ๑๐๐ มิลลกิ รมั (ดภู าคผนวก ๓.๔.๑) ขนาดและวิธีการใช้ กนิ ครงั้ ละ ๓-๕ เมด็ วันละ ๒-๓ ครง้ั หลังอาหาร เช้า เยน็ กอ่ นนอน หรือ เมือ่ มอี าการ ขอ้ ควรระวงั ควรระวงั การใชย้ าอย่างตอ่ เน่อื ง โดยเฉพาะอย่างย่งิ ในผปู้ ว่ ยท่มี ีความผดิ ปรกติ ของตบั ไต เน่อื งจากอาจเกดิ การสะสมของการบูรและเกดิ พิษได้ เอกสารอา้ งอิง ๑. สำานักคุ้มครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลอื ก. หนงั สอื ชดุ ตาำ ราภมู ปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย ฉบบั อนรุ กั ษ ์ ตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยในศลิ าจารกึ วดั พระเชตพุ นวมิ ลมงั คลาราม (วดั โพธ)์ิ เลม่ ๓. พมิ พ์ครง้ั ที่ ๑. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ ทหารผ่านศกึ ในพระบรมราชูปภมั ภ์, ๒๕๕๗. ๒. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๘, ๓๐ พฤศจิกายน). ราชกิจจานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๓๑๗ ง. 67

ยาทองเน้อื งาม ทม่ี าของตาำ รับยา ๑. เวชศาสตร์ฉบบั หลวงรชั กาลท่ี ๕ เล่ม ๑ (๑, ๒) “ยาชื่อทองเนอ้ื งาม ขนานนที้ า่ นให้เอา เทียนทงั้ หา้ เอาสง่ิ ละส่วน ไพล การบูน สง่ิ ละ ๒ สว่ น สมอไทยเอาแต่เน้ือสมอพิเภกเอาแต่เนื้อ ยาด�า มหาหิง ขม้ินอ้อย เกลือสินเทาว์ ผิวมะกรูด ว่านน�้า เอาสง่ิ ละ ๔ ส่วน เอาใบสมอทเลเทา่ ยาทง้ั หลาย รวมยา ๑๖ สิ่งน้ีท�าเปนจณุ เอาสรุ าเปนกระสาย บดปั้น แทง่ ไว้ละลายน�้ามกรดู มนาว ใหก้ มุ ารกินข้ึนเหนือแลรู้จักรศอาหาร ถา้ จะใหผ้ ายละลายน�้าซ่มมะขามเปียก แทรกดีเกลอื ดีงเู หลือมลงกนิ ดนี ัก ๚” ๒. แพทยศาสตร์สงเคราะห์ เลม่ ๑ พระยาพิศณปุ ระสาทเวช ร.ศ. ๑๒๘ (๓, ๔) “ยาชื่อทองเนื้องาม เอาเทียนท้ัง ๕ ส่ิงละ ๑ ส่วน ไพล ๑ การะบูร ๑ สิ่งละ ๒ ส่วน เนือ้ สมอไทย ๑ เน้ือสมอพิเภก ๑ ยาด�า ๑ มหาหิงคุ์ ๑ ขมนิ้ อ้อย ๑ เกลือสนิ เธาว์ ๑ ผวิ มะกรดู ๑ หวา้ นน้า� ๑ สงิ่ ละ ๔ ส่วน ใบสมอทะเลเทา่ ยาท้ังหลาย รวมยา ๑๖ สง่ิ น้ีทา� เปนจุณ เอาสรุ าเปนกระสาย บดทา� แทง่ ละลายนา�้ มะกรดู กไ็ ด้ นา�้ มะนาวกไ็ ด้ กนิ เจรญิ มงั ษะเจรญิ อาหาร ถา้ จะใหผ้ ายละลายนา้� สม้ มะขาม เปยี กแซกดีเกลือ, ดีงเู หลือม กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข สูตรตาำ รบั ยา ประกอบดว้ ยตัวยา ๑๖ ชนิด รวมนำา้ หนกั ๘๒ สว่ น ดังน้ี ตวั ยา น้าำ หนกั ยา สมอทะเล (ใบ) ๔๑ ส่วน เกลอื สินเธาว์ ๔ สว่ น ขม้ินอ้อย ๔ สว่ น มหาหงิ ค์ุ ๔ ส่วน มะกรูด ๔ ส่วน ยาดำา ๔ ส่วน วา่ นน้ำา ๔ ส่วน สมอไทย ๔ ส่วน สมอพเิ ภก ๔ สว่ น การบูร ๒ สว่ น ไพล ๒ สว่ น เทยี นขาว ๑ สว่ น เทียนข้าวเปลือก ๑ สว่ น เทียนดำา ๑ ส่วน เทยี นแดง ๑ ส่วน เทยี นตาตกั๊ แตน ๑ ส่วน 68

สรรพคณุ เจริญอาหาร เปน็ ยาระบาย รปู แบบยา ยาเม็ดพมิ พ์ ขนาด ๑๐๐ มิลลิกรัม (ดภู าคผนวก ๓.๔.๑) ขนาดและวิธีการใช้ เด็ก อาย ุ ๓-๕ เดือน ครงั้ ละ ๑ เม็ด อายุ ๖-๑๒ เดือน ครงั้ ละ ๒-๓ เมด็ อายุ ๑-๕ ขวบ คร้ังละ ๓-๔ เม็ด อายุ ๖-๑๒ ขวบ คร้ังละ ๔-๕ เม็ด ละลายนำ้าต้มสุกกนิ วันละ ๒ ครั้ง ก่อนอาหาร เชา้ และเย็น หากต้องการใชเ้ ป็นยาถ่ายใหล้ ะลายนา้ำ มะขามเปียก แทรกดีเกลอื กนิ - การเตรียมตวั ยามหาหงิ คกุ์ อ่ นนำาไปใช ้ (ดูภาคผนวก ๒.๙) ข้อมลู เพิม่ เติม - การเตรยี มตวั ยายาดำาก่อนนาำ ไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๑๒) กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข เอกสารอ้างองิ ๑. หอสมดุ แห่งชาติ กรมศลิ ปากร. ตาำ ราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลท ่ี ๕ เล่ม ๑. กรุงเทพฯ: บรษิ ัท อมรินทร ์ พร้ินต้งิ แอนด์พับลชิ ช่งิ จาำ กดั (มหาชน), ๒๕๔๒. ๒. ประกาศกาำ หนดตำาราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตำารับยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบับท ี่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๙, ๑๒ มกราคม). ราชกจิ จานุเบกษา. เลม่ ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๗ ง, หนา้ ๑-๓. ๓. พศิ ณปุ ระสาทเวช, พระยา. แพทยศ์ าสตรส์ งเคราะห์ เล่ม ๑. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ศุภการ จำารูญถนนอษั ฏางค;์ ร.ศ. ๑๒๘. ๔. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ่ี ๑๓) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๖ พฤศจกิ ายน). ราชกจิ จานุเบกษา. เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๗๑ ง, หนา้ ๑. 69

ยาทองพนั ช่งั ทมี่ าของตำารบั ยา แพทยศาสตร์สงเคราะห์ เลม่ ๑ พระยาพิศณปุ ระสาทเวช ร.ศ. ๑๒๘ (๑, ๒) “ยาช่ือทองพนั ชั่งขนานนี้ เอารากตานท้งั ๕ รากมะแว้งทัง้ ๒ รากจิงจ้อ ๑ รากมะเกลือ ๑ ราก มะเขอื ขื่น ๑ รากเล็บมอื นาง ๑ ขา่ ๑ ขิง ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ตรีผลา ๑ ผลมลู กาทั้ง ๒ ผลโหระพา ๑ เทยี น เยาวภานี ๑ แหว้ หมู ๑ บระเพ็ด ๑ เอาสง่ิ ละ ๑ บาท ยาด�า ๓ บาท รวมยา ๒๔ สง่ิ นี้ ต้ม ๓ เอา ๑ กนิ แก้ตานทรางแลตานโจร เปนยาล้างทอ้ งแลแกต้ กมูกตกเลือด แก้ทรางทั้ง ๗ จา� พวก ตั้งแต่กมุ ารอายไุ ด้ ๓ เดอื น น้ันไปจนถงึ ๑๒ ขวบเปนพน้ ก�าหนด คร้ันกินยาชา� ระล้างทอ้ งแล้ว จึงเอายาชื่อทองเนอ้ื งามละลาย น�า้ ส้มซา่ ให้กนิ ประจา� ท้องตอ่ ไป ทง้ั ชูรสอาหารแลปลูกผวิ เน้อื หนังให้บรบิ รู ณด์ ว้ ย” กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข สตู รตำารบั ยา ประกอบด้วยตัวยา ๒๔ ชนิด รวมน้ำาหนัก ๓๙๐ กรมั ดังนี้ ตัวยา น้าำ หนักยา ยาดำา ๔๕ กรมั ขมิน้ ออ้ ย ๑๕ กรัม ๑๕ กรัม ข่า ๑๕ กรัม ๑๕ กรมั ขงิ ๑๕ กรมั ๑๕ กรมั ขี้กาขาว (ผล) ๑๕ กรมั ขีก้ าแดง (ผล) ๑๕ กรัม จงิ จ้อ ๑๕ กรัม ตานขโมย ๑๕ กรัม ตานดาำ ๑๕ กรัม ตานเส้ียน ๑๕ กรัม ตานหมอ่ น ๑๕ กรมั ตาลโตนด ๑๕ กรมั เทียนเยาวพาณี ๑๕ กรัม บอระเพด็ ๑๕ กรัม มะเกลือ ๑๕ กรมั มะขามป้อม ๑๕ กรมั มะเขอื ขนื่ ๑๕ กรัม มะแว้งเครอื (ราก) ๑๕ กรัม มะแว้งตน้ (ราก) ๑๕ กรัม เลบ็ มอื นาง ๑๕ กรมั สมอไทย ๑๕ กรมั สมอพเิ ภก แหว้ หมู 70 โหระพา

สรรพคุณ แก้ท้องผกู ในโรคตานซางและตานโจร รปู แบบยา ยาตม้ (ดภู าคผนวก ๓.๑.๓) ขนาดและวิธีการใช้ เด็ก อาย ุ ๓-๕ เดอื น ด่ืมครง้ั ละ ๑ ชอ้ นชา (๕ มิลลลิ ิตร) อายุ ๖-๑๒ เดือน ด่ืมครง้ั ละ ๑-๒ ชอ้ นชา (๕-๑๐ มลิ ลลิ ติ ร) อายุ ๑-๕ ขวบ ดมื่ ครัง้ ละ ๑-๒ ชอ้ นโต๊ะ (๑๕-๓๐ มลิ ลิลิตร) อายุ ๖-๑๒ ขวบ ด่มื คร้ังละ ๓-๔ ช้อนโตะ๊ (๔๕-๖๐ มิลลิลิตร) วันละ ๒ คร้งั กอ่ นอาหาร เชา้ และเยน็ - การเตรียมตวั ยายาดาำ ก่อนนาำ ไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๑๒) ข้อมูลเพ่มิ เติม - เม่ือใช้ยาขนานนี้จนหายแล้ว ให้ใช้ “ยาทองเน้ืองาม” ละลายนำ้าส้มซ่า กนิ เพื่อช่วยให้เดก็ เจริญอาหาร อว้ นทว้ นสมบูรณ์ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข เอกสารอา้ งอิง ๑. พิศณปุ ระสาทเวช, พระยา. แพทยศ์ าสตร์สงเคราะห์ เล่ม ๑. กรุงเทพฯ: โรงพิมพศ์ ภุ การ จำารูญถนนอษั ฏางค์; ร.ศ. ๑๒๘. ๒. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ี่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๖ พฤศจิกายน). ราชกจิ จานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๗๑ ง, หนา้ ๑. 71

ยาทาทอ้ ง สตู ร ๑ ช่ืออ่ืน ยาทาท้อง (๑, ๒), ยาทาแก้ท้องข้นึ แก้สอกึ (๓, ๔) ท่มี าของตำารับยา ๑. ตำาราเวชศาสตรฉ์ บบั หลวงรชั กาลท่ ี ๕ เลม่ ๑ (๑, ๒) “ยาทาท้องทา่ นใหเ้ อา พรกิ ไทย ๑ ขิง ๑ กระเทยี ม ๑ หอม ๑ เกลอื ๑ หงิ ๑ หัวพลู ๑ เอาเสมอภาค บดทาท้องนอ้ ยแก้ท้องข้นึ แกส้ อึกหายดนี กั ๚” ๒. แพทยศาสตรส์ งเคราะห์ เลม่ ๑ พระยาพิศณุประสาทเวช ร.ศ. ๑๒๘ (๓, ๔) “ยาทาแก้ทอ้ งข้นึ แก้สอกึ ทา่ นให้เอาพรกิ ไทย ๑ ขิง ๑ กระเทียม ๑ หอม ๑ เกลอื ๑ หงิ คุ์ ๑ หวั พลู ๑ เอาเสมอภาคบดทาท้องนอ้ ยแกท้ ้องขน้ึ แก้สอกึ หายดนี ัก” สูตรตำารับยา ประกอบดว้ ยตวั ยา ๗ ชนิด รวมนา้ำ หนัก ๗ สว่ น กรมั ดงั น้ ี ตวั ยา นาำ้ หนักยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข กระเทยี ม ๑ ส่วน เกลือ ๑ ส่วน ขงิ ๑ สว่ น ๑ ส่วน ถั่วพู ๑ สว่ น พริกไทย ๑ สว่ น มหาหงิ คุ์ ๑ สว่ น หอม สรรพคณุ แกท้ อ้ งอืดเฟ้อ แกส้ ะอึก รูปแบบยา ยาผง (ดภู าคผนวก ๓.๒) ขนาดและวธิ กี ารใช้ ผสมกับน้าำ สุกหรอื สุราทาทอ้ งนอ้ ยเมือ่ มอี าการ คำาเตือน เป็นยาใชภ้ ายนอก ไมค่ วรกนิ ขอ้ ควรระวัง - ห้ามทาบริเวณขอบตาและเนื้อเยือ่ อ่อน - ห้ามทาบริเวณผวิ หนงั ทม่ี ีบาดแผลหรอื แผลเปดิ ข้อมูลเพมิ่ เตมิ การเตรยี มตวั ยามหาหิงคุ์ก่อนนาำ ไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๙) 72

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสขเอกสารอ้างองิ ๑. หอสมดุ แหง่ ชาติ กรมศิลปากร. ตาำ ราเวชศาสตร์ฉบบั หลวง รชั กาลท ี่ ๕ เล่ม ๑. กรงุ เทพฯ: บรษิ ัท อมรนิ ทร ์ พริ้นติง้ แอนดพ์ ับลชิ ชิง่ จาำ กัด (มหาชน), ๒๕๔๒. ๒. ประกาศกำาหนดตำาราการแพทยแ์ ผนไทยของชาติและตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๙, ๑๒ มกราคม). ราชกจิ จานุเบกษา. เล่ม ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๗ ง, หน้า ๑-๓. ๓. พศิ ณุประสาทเวช, พระยา. แพทย์ศาสตรส์ งเคราะห์ เลม่ ๑. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์ศภุ การ จาำ รูญถนนอษั ฏางค;์ ร.ศ. ๑๒๘. ๔. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ่ี ๑๓) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๖ พฤศจิกายน). ราชกิจจานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๗๑ ง, หนา้ ๑. 73

ยาทาทอ้ ง สตู ร ๒ ที่มาของตาำ รบั ยา ๑. เวชศาสตรฉ์ บบั หลวง รชั กาลท่ี ๕ เล่ม ๑ (๑, ๒) ยาทาท้องขนานนท้ี ่านใหเ้ อา หัศคณุ ทง้ั สอง ๑ รง ๑ หิง ๑ เจตมูล ๑ หว้านน้�า ๑ ใบหนาด ๑ พริกไทย ๑ ขิง ๑ กเทียม ๑ ไพล ๑ แก่นแสมทเล ๑ ใบพลแู ก ๑ รากเจตพังคี ๑ รวมยา ๑๔ สงิ่ นีเ้ อา เสมอภาค ท�าเปนจณุ บดทา� แทง่ ไวล้ ะลายน้�าไพลทาท้องลงดนี กั ๚ ๒. แพทยศาสตร์สงเคราะห์ เล่ม ๑ พระยาพิศณปุ ระสาทเวช ร.ศ. ๑๒๘ (๓, ๔) “ยาทาทอ้ ง ขนานน้ที ่านให้เอา หศั คุณทงั้ สอง ๑ รง ๑ หงิ คุ์ ๑ เจ็ตมลู เพลงิ ๑ หวา้ นนา้� ๑ ใบหนาด ๑ พริกไทย ๑ ขิง ๑ กระเทียม ๑ ไพล ๑ แก่นแสมทเล ๑ ใบพลูแก ๑ รากเจ็ตพังคี ๑ รวมยา ๑๔ สง่ิ น้ี เอาเสมอภาคท�าเปนจุณ บดทา� แทง่ ไว้ละลายน้�าไพลทาทอ้ งลงดนี กั ” กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข สูตรตาำ รับยา ประกอบดว้ ยตัวยา ๑๔ ชนดิ รวมนำ้าหนัก ๑๔ สว่ น ดังนี ้ ตวั ยา นำา้ หนักยา กระเทียม ๑ ส่วน ขงิ ๑ สว่ น ๑ ส่วน เจตพังคี ๑ ส่วน เจตมลู เพลิง ๑ ส่วน พริกไทย ๑ ส่วน พลูแก ๑ ส่วน ไพล ๑ ส่วน มหาหิงคุ์ ๑ สว่ น รงทอง ๑ ส่วน ๑ ส่วน วา่ นนำ้า ๑ ส่วน แสมทะเล ๑ สว่ น หนาด (ใบ) ๑ สว่ น หสั คุณเทศ หสั คุณไทย สรรพคุณ บรรเทาอาการท้องผูก ท้องอดื เฟ้อ รูปแบบยา ยาเม็ดพมิ พ์ ขนาด ๑๐๐ มิลลกิ รมั (ดภู าคผนวก ๓.๔.๑) ขนาดและวธิ กี ารใช้ ละลายนำา้ ไพลทาท้องวันละ ๑ ครง้ั หรอื เมือ่ มีอาการ คาำ เตือน เปน็ ยาใชภ้ ายนอก ไมค่ วรกิน 74

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสขข้อควรระวัง - ห้ามทาบรเิ วณขอบตาและเนอ้ื เย่อื อ่อน - หา้ มทาบรเิ วณผวิ หนงั ทม่ี บี าดแผลหรอื แผลเปิด ข้อมูลเพ่มิ เติม - การเตรียมตวั ยามหาหงิ คุ์ก่อนนำาไปใช้ (ดภู าคผนวก ๒.๙) - การเตรยี มตัวยารงทองกอ่ นนาำ ไปใช ้ (ดภู าคผนวก ๒.๑๓) เอกสารอ้างองิ ๑. หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร. ตาำ ราเวชศาสตร์ฉบบั หลวง รัชกาลท ี่ ๕ เล่ม ๑. กรงุ เทพฯ: บริษทั อมรินทร ์ พร้ินติ้งแอนดพ์ ับลชิ ชง่ิ จำากัด (มหาชน), ๒๕๔๒. ๒. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทย์แผนไทยของชาติและตำารบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบับที ่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๙, ๑๒ มกราคม). ราชกจิ จานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๗ ง, หน้า ๑-๓. ๓. พิศณปุ ระสาทเวช, พระยา. แพทย์ศาสตรส์ งเคราะห์ เล่ม ๑. กรุงเทพฯ: โรงพิมพศ์ ุภการ จาำ รูญถนนอษั ฏางค์; ร.ศ. ๑๒๘. ๔. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ่ี ๑๓) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๖ พฤศจกิ ายน). ราชกจิ จานุเบกษา. เลม่ ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๗๑ ง, หน้า ๑. 75

ยาทาท้อง สูตร ๓ ชื่ออืน่ ยาทาทอ้ ง (๑, ๒), ยาทาทอ้ งให้ระบายลม (๓, ๔) ทมี่ าของตาำ รับยา ๑. ตำาราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รชั กาลท ่ี ๕ เลม่ ๑ (๑, ๒) “ยาทาท้องขนานน้ที า่ นใหเ้ อายาด�า มหาหิง รงทอง ฝักราชพฤกษ มฃามเปียก ไพล ขมิน้ อ้อย น�้าประสานทอง รวมยา ๘ สงิ่ นีเ้ อาเสมอภาค บดท�าแทง่ ไว้ละลายน�้าซ่มมะฃามเปียก แลว้ เอาต้งั เพลงิ เสีย ให้อนุ่ ทาท้องข้นึ แลกลัดอจุ ารไม่ออกก็ตกส้นิ หายดีนกั ฯ” ๒. แพทยศาสตร์สงเคราะห์ เลม่ ๑ พระยาพศิ ณปุ ระสาทเวช ร.ศ. ๑๒๘ (๓, ๔) “ยาทาท้องใหร้ ะบายลม ทา่ นให้เอายาด�า มหาหิงคุ์ รงทอง ฝกั ราชพฤกษ์ มะขามเปยี ก ไพล ขมน้ิ ออ้ ย น�้าประสานทอง บดละลาย ตัง้ ไฟให้อนุ่ ทาทอ้ งดนี ัก” สตู รตำารับยา ประกอบดว้ ยตัวยา ๘ ชนิด รวมน้ำาหนัก ๘ สว่ น ดงั นี้ ตวั ยา นา้ำ หนักยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข ขมน้ิ อ้อย ๑ สว่ น นำา้ ประสานทอง ๑ สว่ น ไพล ๑ สว่ น มหาหิงค์ุ ๑ ส่วน มะขามเปยี ก ๑ ส่วน ยาดาำ ๑ ส่วน รงทอง ๑ ส่วน ๑ สว่ น ราชพฤกษ์ สรรพคณุ บรรเทาอาการท้องผกู ท้องอดื ทอ้ งเฟอ้ รูปแบบยา ยาเมด็ พมิ พ์ ขนาด ๑๐๐ มลิ ลิกรมั (ดูภาคผนวก ๓.๔.๑) ขนาดและวธิ กี ารใช ้ ละลายน้ำามะขามเปยี ก แล้วตงั้ ไฟให้อุ่น ทาบรเิ วณทอ้ งเมอ่ื มีอาการ วันละ ๑ ครง้ั คำาเตือน เป็นยาใช้ภายนอก ไมค่ วรกิน ข้อควรระวัง - ห้ามทาบริเวณขอบตาและเน้อื เย่ือออ่ น - หา้ มทาบรเิ วณผวิ หนังที่มบี าดแผลหรอื แผลเปิด ขอ้ มูลเพมิ่ เติม - การเตรยี มตวั ยามหาหงิ คุ์กอ่ นนาำ ไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๙) - การเตรียมตัวยายาดำาก่อนนาำ ไปใช ้ (ดภู าคผนวก ๒.๑๒) - การเตรยี มตวั ยารงทองกอ่ นนำาไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๑๓) 76

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสขเอกสารอา้ งองิ ๑. หอสมุดแหง่ ชาติ กรมศลิ ปากร. ตำาราเวชศาสตร์ฉบบั หลวง รัชกาลท ่ี ๕ เลม่ ๑. กรงุ เทพฯ: บรษิ ัท อมรนิ ทร ์ พร้ินต้งิ แอนด์พบั ลิชชง่ิ จำากดั (มหาชน), ๒๕๔๒. ๒. ประกาศกำาหนดตำาราการแพทยแ์ ผนไทยของชาติและตำารบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๙, ๑๒ มกราคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๗ ง, หนา้ ๑-๓. ๓. พิศณปุ ระสาทเวช, พระยา. แพทยศ์ าสตรส์ งเคราะห์ เล่ม ๑. กรุงเทพฯ: โรงพิมพศ์ ภุ การ จาำ รญู ถนนอษั ฏางค์; ร.ศ. ๑๒๘. ๔. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ่ี ๑๓) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๖ พฤศจิกายน). ราชกจิ จานุเบกษา. เลม่ ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๗๑ ง, หนา้ ๑. 77

ยาทาท้อง สูตร ๔ ชอื่ อ่ืน ยาทาทอ้ ง (๑-๔) ทม่ี าของตาำ รบั ยา ๑. เวชศาสตรฉ์ บับหลวงรชั กาลท่ี ๕ เล่ม ๑ หนา้ ๒๙๔ (๑, ๒) อจุ จาระ ๑ ปัสสาวะ “ยาทาท้องทา่ นให้เอา รากทนดี ๑ ขา่ แก่ ๑ หงิ ๑ ยาด�า ๑ รง ๑ ฝนทาแกข้ ัด มอิ อกดนี กั ๚” กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข ๒. แพทยศาสตรส์ งเคราะห์ เลม่ ๑ พระยาพศิ ณปุ ระสาทเวช ร.ศ. ๑๒๘ (๓, ๔) “ยาทาทอ้ ง ท่านใหเ้ อา รากทนดี ๑ ขา่ แก่ ๑ หิงคุ์ ๑ ยาด�า ๑ รง ๑ ฝนทาแก้อุจจาระ ปสั สาวะไม่ออก ดีนัก” สตู รตาำ รบั ยา ประกอบดว้ ยตวั ยา ๕ ชนดิ รวมนำา้ หนกั ๕ ส่วน ดังน้ี ตวั ยา นาำ้ หนักยา ขา่ ๑ สว่ น ทนดี ๑ สว่ น มหาหงิ ค์ุ ๑ สว่ น ยาดำา ๑ ส่วน รงทอง ๑ สว่ น สรรพคุณ แกอ้ ุจจาระ ปสั สาวะไมอ่ อก รปู แบบยา ยาเมด็ พมิ พ์ ขนาด ๑๐๐ มลิ ลกิ รัม (ดูภาคผนวก ๓.๔.๑) ขนาดและวธิ กี ารใช้ ฝนทาบรเิ วณท้อง เมื่อมีอาการ คำาเตอื น เปน็ ยาใชภ้ ายนอก ไมค่ วรกนิ ขอ้ ควรระวัง - หา้ มทาบรเิ วณขอบตาและเนอื้ เยอื่ ออ่ น - หา้ มทาบริเวณผวิ หนังทมี่ บี าดแผลหรือแผลเปดิ ขอ้ มูลเพ่ิมเติม - การเตรียมตวั ยามหาหิงคุก์ ่อนนำาไปใช ้ (ดูภาคผนวก ๒.๙) - การเตรียมตัวยายาดำากอ่ นนำาไปใช้ (ดูภาคผนวก ๒.๑๒) - การเตรียมตัวยารงทองก่อนนำาไปใช ้ (ดภู าคผนวก ๒.๑๓) เอกสารอา้ งอิง ๑. หอสมดุ แห่งชาติ กรมศิลปากร. ตำาราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลท ี่ ๕ เลม่ ๑. กรุงเทพฯ: บรษิ ัท อมรินทร ์ พร้ินติ้งแอนด์พบั ลิชชิ่ง จำากดั (มหาชน), ๒๕๔๒. ๒. ประกาศกำาหนดตำาราการแพทย์แผนไทยของชาตแิ ละตำารับยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบับท ่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘, (๒๕๕๙, ๑๒ มกราคม). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๗ ง, หน้า ๑-๓. ๓. พศิ ณุประสาทเวช, พระยา. แพทย์ศาสตรส์ งเคราะห์ เล่ม ๑. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พศ์ ุภการ จำารูญถนนอษั ฏางค;์ ร.ศ. ๑๒๘. ๔. ประกาศกาำ หนดตาำ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาำ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท ี่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๖๐, (๒๕๖๐, ๖ พฤศจกิ ายน). ราชกจิ จานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๗๑ ง, หน้า ๑. 78

ยาธาตบุ รรจบ ที่มาของตำารับยา สูตรตำารับท่ีใกล้เคียงตำารับน้ี ระบุในประกาศยาสามัญประจำาบ้านแผนโบราณ พ.ศ.๒๕๓๗ (๑) “วัตถุส่วนประกอบ ขิง โกฐเขมา โกฐพุงปลา โกฐเชียง โกฐสอ เทียนด�า เทียนขาว เทียนสัตตบุษย์ เทียนเยาวพาณี เทียนแดง ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ กานพลู การบูร เปลือกสมุลแว้ง ลูกกระวาน ลกู ผกั ชลี า ใบพมิ เสน รากไครเ้ ครอื ดีปลี เปราะหอม หนักสง่ิ ละ ๔ สว่ น โกฐกา้ นพรา้ ว หนัก ๘ สว่ น เนือ้ ลกู สมอไทย หนัก ๑๖ ส่วน นา้� ประสานทองสะตุ หนกั ๑ สว่ น” สูตรตำารบั ยา ประกอบดว้ ยตวั ยา ๒๒ ชนดิ รวมนาำ้ หนัก ๑๐๔ กรัม (๒) ดังน้ี กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสข ตัวยา นา้ำ หนกั ยา สมอไทย ๑๖ กรัม โกฐกา้ นพร้าว ๘ กรมั กระวาน ๔ กรมั ๔ กรมั กานพลู ๔ กรมั การบูร ๔ กรมั โกฐเขมา ๔ กรัม โกฐเชียง ๔ กรมั โกฐพงุ ปลา ๔ กรมั โกฐสอ ๔ กรมั ขงิ ๔ กรมั ๔ กรัม ดอกจันทน์ ๔ กรมั ดีปลี ๔ กรัม เทียนขาว ๔ กรมั เทียนดาำ ๔ กรมั เทียนแดง ๔ กรัม เทยี นเยาวพาณี ๔ กรัม เทยี นสัตตบุษย์ ๔ กรัม เปราะหอม ๔ กรัม พมิ เสนต้น ๔ กรัม ลกู จันทน์ ๔ กรัม ลูกชีลา สมลุ แว้ง 79

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพท ์ยทางเลือก กระทรวงสาธารณ ุสขสรรพคุณ บรรเทาอาการทอ้ งอืด ท้องเฟอ้ บรรเทาอาการอจุ จาระธาตพุ ิการ ท้องเสยี ชนิด ทีไ่ มเ่ กิดจากการตดิ เชอ้ื เชน่ อุจจาระไมเ่ ปน็ มกู หรอื มีเลอื ดปน และท้องเสยี ชนิด ที่ไม่มไี ข้ (๒, ๓) รูปแบบยา ยาผง (๒, ๓) (ดูภาคผนวก ๓.๒) ยาแคปซลู (๒) (ดภู าคผนวก ๓.๓) ยาลกู กลอน (๒) (ดูภาคผนวก ๓.๕) ขนาดและวธิ กี ารใช้ ชนดิ ผง ผ้ใู หญ่ กินคร้ังละ ๑ กรมั ละลายนา้ำ กระสายยา วันละ ๓ ครง้ั ก่อนอาหาร เม่อื มอี าการ เด็ก อายุ ๖-๑๒ ขวบ กินครง้ั ละ ๕๐๐ มิลลกิ รัม ละลายน้ำากระสายยา วันละ ๓ ครั้งกอ่ นอาหาร เช้า กลางวนั และเยน็ เมือ่ มอี าการ กระสายยาท่ใี ช้ - แก้ทอ้ งอดื ท้องเฟอ้ ใชก้ ระเทยี ม ๓ กลีบ ทุบชงนา้ำ รอ้ นหรอื ใช้ ใบกะเพราตม้ - บรรเทาอาการอุจจาระธาตุพิการ ท้องเสียชนิดที่ไม่เกิดจากการ ติดเช้ือ ใช้เปลือกแค เปลือกสะเดา หรือเปลือกผลทับทิมต้ม แทรกกับน้าำ ปนู ใส - ถ้าหานำ้ากระสายยาไม่ไดใ้ ห้ใชน้ า้ำ สกุ แทน (๒, ๓) ชนิดแคปซลู และชนิดลกู กลอน ผู้ใหญ่ กนิ คร้งั ละ ๑ กรัม วันละ ๓ ครั้ง กอ่ นอาหาร เม่อื มอี าการ ขอ้ ห้ามใช้ เด็ก อายุ ๖-๑๒ ขวบ กินครั้งละ ๕๐๐ มิลลกิ รมั วันละ ๓ คร้งั กอ่ นอาหาร ข้อควรระวงั เชา้ กลางวนั และเยน็ เมือ่ มอี าการ (๒, ๓) หา้ มใช้ในหญิงต้ังครรภ์ และผ้ทู ีม่ ีไข้ (๒) - ควรระวงั การกินรว่ มกับยาในกลุ่มสารกันเลือดเปน็ ลม่ิ (anticoagulant) และ ยาตา้ นการจบั ตัวของเกล็ดเลอื ด (antiplatelet) (๒) - ควรระวงั การใชย้ าอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในผปู้ ว่ ยทมี่ คี วามผดิ ปรกติ ของตบั ไต เนื่องจากอาจเกดิ การสะสมของการบูรและเกดิ พษิ ได ้ (๒) ข้อมูลเพิ่มเติม - ในกรณีท้องเสียชนิดท่ีไม่เกิดจากการติดเช้ือ ใช้ไม่เกิน ๑ วัน หากอาการ ไม่ดขี นึ้ ควรปรกึ ษาแพทย์ (๒) 80 สูตรตำารับยาธาตุบรรจบตามประกาศยาสามัญประจำาบ้าน พ.ศ. ๒๕๓๗ (๔) มีตัวยา “นาำ้ ประสานทองสะตุและไคร้เครือ” เปน็ สว่ นประกอบ ซง่ึ น้าำ ประสานทอง สะตุได้ตัดออกจากสูตรตำารับตามประกาศยาสามัญประจำาบ้านแผนโบราณ พ.ศ. ๒๕๔๒ (๕) ส่วน “ไครเ้ ครอื ” ไดต้ ดั ออกจากสตู รตำารับ เนอื่ งจากมขี ้อมูล งานวิจัยบ่งช้ีว่าไคร้เครือท่ีใช้และมีจำาหน่ายในท้องตลาด เป็นพืชในสกุล Aristolochia ซง่ึ พชื ในสกลุ Aristolochia มีรายงานพบว่ากอ่ ใหเ้ กดิ ความเป็น พิษต่อไต (nephrotoxicity) และเม่ือ พ.ศ. ๒๕๔๕ องค์การอนามัยโลก ไดป้ ระกาศใหพ้ ืชสกุล Aristolochia เป็นสารก่อมะเร็งในมนษุ ย ์ (๒)