Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ธันยาวาท_หิมาลประเทศ

ธันยาวาท_หิมาลประเทศ

Description: ธันยาวาท_หิมาลประเทศ

Search

Read the Text Version

เรดฟอรต์ (Red Fort) กรงุ นวิ เดลี ใครใครค่ า้ ...คา้ ... ใครใครข่ าย...ขาย..

บทท่ี 15 “บทท่ี 15 ลานะ...เทโชคลงิ ” ไมน่ า่ เชอ่ื วา่ เมอื งเลก็ ๆทไ่ี มม่ อี ะไร ‘มากมาย’ อยา่ งแมค็ คลาวดก์ นั จจ์ ะทำให้ ฉันพักกายพักใจอยู่ที่นี่ได้นานที่สุดในทริปนี้โดยไม่เบื่อ ไม่เหนื่อย และถึงแม้ เมอื งนจ้ี ะไมไ่ ดม้ อี ะไรนา่ ตน่ื เตน้ หรอื เปน็ ไฮไลทร์ ะดบั โลกเหมอื นสถานทท่ี อ่ งเทย่ี ว หลายๆแหง่ ทฉ่ี นั เคยไปเยอื น แตเ่ มอื งนก้ี ลบั มเี สนห่ อ์ ยา่ งมาก โดยเฉพาะในแงข่ อง ผคู้ น วัฒนธรรม ความคิด วิถีชีวิต และจิตวญิ ญาณ คณุ สามารถสมั ผสั สง่ิ เหลา่ นน้ั ได.้ .. ผา่ นรอยยม้ิ และแววตาของผคู้ น ผา่ นเสยี ง รถราและเสยี งสวดมนต์ ผา่ นกลน่ิ ของปา่ สนทค่ี ละเคลา้ ปนกบั กลน่ิ ธปู ผา่ นรสสมั ผสั ของอาหารทม่ี เี อกลกั ษณ์ และสามารถบอกเลา่ เรอ่ื งราวความเปน็ อยขู่ องพวกเขา ไดอ้ ย่างดี โดยรสสัมผัสท้ังหมดนั้นจะว่ิงตรงเข้าไปจับใจคณุ ...ทกุ วนั ...ทง้ั วัน... ตลอดระยะเวลา 4 วนั 4 คืนทีฉ่ นั ได้อยู่ใตช้ ายคาของวัดเทโชคลิงและออ้ ม กอดของธรรมะกับลามะ ฉันได้เรียนรู้อะไรๆมากมายจากผู้คนที่ฉันได้พบและพูด คุยด้วย ซึ่งในความคิดเห็นของฉัน...มันคือ “มรดกโลก” (World Heritage) “ท่ยี ังมีชีวติ ” และควรค่าแกก่ ารอนรุ ักษ์ไว้ที่สุด ผู้คนเล็กๆ(ซึ่งอาจเป็นคนสำคัญของท่ีอื่นหรือกับคนอื่นๆ)ที่ฉันได้เจอท่ีน่ี มารวมตวั กนั ในที่แหง่ นี้ ในเวลาเดยี วกันน้ีเพอื่ อะไร เพราะอะไร... ราฟาเอลอาสาสมัครหนุ่มน้อยชาวเยอรมัน วัย 17 ปี ซึ่งมาช่วยงานสอน ภาษาเยอรมนั ใหช้ าวบา้ นทน่ี ่ี บอกกบั ฉนั วา่ ...สง่ิ ทเ่ี ขาประทบั ใจมากกบั การมาเปน็ 225

อาสาสมคั รทน่ี ก่ี ค็ อื ... ‘แมเ้ ขาจะเปน็ แคเ่ ดก็ วยั รนุ่ ธรรมดาๆ แตช่ าวบา้ นทม่ี าเรยี น หนงั สอื กบั เขา ตา่ งกใ็ หค้ วามเคารพเขาอยา่ งสงู ในฐานะครู ซง่ึ มนั เปน็ สง่ิ ทแ่ี ทบจะ หายไปแลว้ จากสงั คมยโุ รป...’ อาสาสมัครอีกรายที่ฉันได้พูดคุยด้วยบ่อยๆ เป็นหญิงชาวเยอรมันที่เกษียณ จากงานแลว้ เธอมชี อ่ื ทอ่ี อกจะเรยี กยากอยสู่ กั หนอ่ ย ฉนั จงึ ขอเรยี กเธอวา่ “ปา้ แอด๊ ” (ซึ่งออกเสียงใกล้เคียงกับชื่อจริงของเธอ) วันหนึ่ง... “ป้าแอ๊ด”กับฉันได้พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เกี่ยวกับข้อความประทับใจหรือหนังสือที่มีเนื้อหา เปลี่ยนชีวิตของคนเราได้ เธอจึงยกข้อความๆหนึ่งของนักเขียนชาวเยอรมันที่เธอ ชื่นชอบมาเล่าให้ฉันฟัง... ข้อความนั้นมีอยู่ว่า...‘การนั่งสมาธิคือการฝึกฝนจิตใจ เพื่อให้เรามีสติและสมาธิในทุกขณะที่กำลังใช้ชีวิตประจำวัน...แต่การฝึกสมาธิใน ชีวิตประจำวันที่ดีที่สุด...ก็คือการมองเข้าไปในดวงตาของผู้อ่ืนด้วยความรักและ เมตตา...’ ยงั มนี กั เดนิ ทางหนมุ่ อารมณด์ อี กี คน ทม่ี โี อกาสมาพกั ทน่ี ร่ี ะหวา่ งรอใหค้ อรส์ วปิ สั สนาทเ่ี ขาสมคั รไวเ้ ปดิ อบรม เขาเปน็ ชาวลธิ วั เนยี ทร่ี ำ่ เรยี นและทำมาหากนิ อยู่ ในอเมรกิ า ชอ่ื แอนดรวู ์ ภายนอกเขาดเู ปน็ คนตลกและมอี ารมณข์ นั แตล่ กึ ๆแลว้ ... เขาเปน็ คนทจ่ี รงิ จงั กบั ชวี ติ ไมน่ อ้ ยเลยทเี ดยี ว แอนดรวู ไ์ ดท้ ง้ิ ประโยคทฟ่ี งั แลว้ ดงู นุ งง... วกวน...ชวนหัว...แต่ก็ช่วยเขย่าบัลลังก์ความคิดต่อคุณค่าของการเรียนรู้เรื่อง ต่างๆในโลกนี้ของฉันได้ไม่น้อย... ระหว่างการสนทนาไปดื่มชาไป ในห้องอาหาร ของคำ่ วันหนึง่ เขากพ็ ดู ขน้ึ วา่ ...‘ยงิ่ เราร้นู ้อยเทา่ ไร...เรากย็ ่งิ เรยี นมากข้ึนเทา่ นน้ั ... ยิ่งเราเรียนมากข้ึนเท่าไร...เราก็ยิ่งรู้มากขึ้นเท่าน้ัน...ย่ิงเรารู้มากขึ้นเท่าไร... เราก็ย่ิงลืมมากข้ึนเท่าน้ัน...ย่ิงเราลืมมากข้ึนเท่าไร...เราก็ยิ่งรู้น้อยลงเท่าน้ัน... ยิ่งเราร้นู ้อยเทา่ ไร...เรากย็ ่งิ เรียนมากข้นึ เท่านน้ั ...เปน็ เชน่ นรี้ ำ่ ไปไมม่ วี ันจบส้นิ ’ เมื่อ 2 ปีก่อนตอนที่ฉันได้ยินประโยคนี้จากเขา ฉันก็แค่รู้สึกขำๆกับความ 226

จรงิ อกี ดา้ นของโลกทไ่ี ดฟ้ งั จากปากเขา แตเ่ มอ่ื ฉนั ไดก้ ลบั มาทบทวนถงึ ความหมาย ของประโยคนห้ี ลงั จากทไ่ี ดฝ้ กึ ปฏบิ ตั ภิ าวนา ฉนั จงึ ไดต้ ระหนกั วา่ ...มนั เปน็ ประโยค ธรรมดาทไ่ี มธ่ รรมดาเลย ชวี ติ ของคนเราตอ้ งวนเวยี นซำ้ ซากอยกู่ บั ความรแู้ ละไมร่ ู้ เชน่ นน้ั อยา่ งไมม่ วี นั จบสน้ิ เพราะมนั เปน็ ความรใู้ นระดบั สมองและความคดิ ไมใ่ ช่ ความรู้จริงที่ประกอบด้วยปัญญา หากแต่เป็นความรู้ที่มีอวิชชาหรือความเห็นผิด เคลือบแฝงอยู่ แต่เราๆท่านๆก็ยังฝักใฝ่ไล่ตามความรู้ประเภทนั้นอยู่เสมอ และ เพราะมนุษยเ์ ราเปน็ เชน่ น้.ี ..โลกจงึ มแี ตก่ ารคดิ ผิดทำผดิ ซ้ำแล้วซำ้ เลา่ ไมร่ ู้จบ... นอกจากการสนทนาแลกเปลย่ี นประสบการณแ์ ละมมุ มองกบั เหลา่ นกั เดนิ ทาง ทด่ี น้ั ดน้ มาถงึ ทน่ี ท่ี ง้ั ๆทเ่ี คยอยคู่ นละมมุ โลกแลว้ ...ฉนั ยงั ไดเ้ รยี นรอู้ ะไรๆอกี มากมาย จากเหลา่ พระลามะและผู้คนที่อยู่ในวดั เทโชคลิง... ฮงิ มา...พระลามะรา่ งเลก็ ทท่ี ำหนา้ ทด่ี แู ลความสะอาดและเครอ่ื งบชู าภายใน โบสถ์ แสดงใหฉ้ ันเห็นถงึ ความงามของการประหยัดคำพูดแตไ่ ม่ประหยดั รอยยิม้ ฮงิ มาใหญ1่ ...พระลามะรา่ งใหญ่ ทใ่ี ครๆบอกวา่ เขามสี ตไิ มส่ มประกอบ แสดง ให้ฉนั เหน็ วา่ ความใสซือ่ บริสุทธข์ิ องจิตใจคืออาภรณ์ทค่ี นเราควรสวมใส่ จัมยัง เชริง โชทัก โซทัม ตนดุป...คือเหล่าพระลามะที่มีความสามารถ หลากหลาย บางคนกเ็ กง่ ดา้ นปน้ั ตอรม์ า บางคนกเ็ กง่ ดา้ นภาษา บางคนกเ็ ชย่ี วชาญ การสวดมนต2์ แตส่ ง่ิ ท่ีทกุ คนมีเหมอื นกนั คือความใฝร่ แู้ ละหมัน่ เพยี ร 1 ชาวทิเบต (หรือแมก้ ระท่ังชาวเชอร์ปา) นิยมต้ังชือ่ ลูกตามวนั ท่เี ดก็ เกดิ มา เช่น เกดิ วนั อาทติ ย์ชอ่ื ... “ฮงิ มา” วนั จันทรช์ ื่อ “ดาวา” อังคารชือ่ “มงิ มา” พุธชือ่ “ลกั ปา” พฤหสั บดชี อ่ื “ฟูร”ู ศุกร์ชอ่ื “ปาซาง” และวันเสาร์ชือ่ “เปมบา” (ไมอ่ อกเสียง ‘บ’) เราจงึ พบคนทีช่ ่อื ซ้ำกันได้มากมาย 2 บทสวดของทีน่ เี่ ปน็ ภาษาสนั สกฤต แตส่ วดด้วยท่วงทำนองแบบทเิ บต ซึง่ มีการแบ่งกลุม่ แบง่ วรรค ในการสวดคล้ายการร้องเพลงประสานเสียง มีพระลามะผใู้ หญ่เป็นผคู้ วบคุมการสวดและเปล่งเสยี ง 227

ปาลเดด็ ...พระลามะและครผู คู้ วบคมุ การสวดมนต์ ทท่ี ง้ั เครง่ ครดั และเครง่ ขรมึ ตอ่ ลกู ศษิ ย์ แสดงใหฉ้ นั เหน็ หวั ใจของครผู ใู้ ห.้ ..เมอ่ื เขาแทบกลน้ั นำ้ ตาเอาไวไ้ มอ่ ยู่ ขณะกล่าวอำลาตำแหน่ง...ในวันท่ีตนเองต้องก้าวลงจากหน้าท่ีครู…เพ่ือรับหน้าที่ ใหม่ที่สำคัญกว่า ซึ่งทำให้ทั้งลูกศิษย์ของเขา (รวมทั้งฉัน) กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว (แมฉ้ ันจะฟงั ไม่รเู้ รอื่ งวา่ เขาพดู อะไรเลยก็ตาม) โซนัม...พระลามะผู้ใหญ่ซ่ึงทำหน้าที่คล้ายผู้ควบคุมกิจกรรมและกิจการ ต่างๆของวัด ที่มักวิ่งวุ่นและมีกิจธุระตลอดวัน แต่ก็มีรอยยิ้มที่เปี่ยมด้วยเมตตา อยบู่ นใบหน้าเสมอ และคนสุดท้ายที่ฉันไม่อาจลืมที่จะกล่าวถึงได้ก็คือ ลบซัง...เด็กหนุ่มที่คอย ชว่ ยงานครวั ของวดั เพอ่ื เกบ็ เงนิ ไวเ้ รยี นตอ่ หนมุ่ คนนแ้ี อบมองฉนั และยม้ิ อายๆอยู่ บอ่ ยๆ ในทส่ี ดุ เขากร็ วบรวมความกลา้ ทจ่ี ะเลา่ สง่ิ ทเ่ี ขาเกบ็ งำไวใ้ นใจหลายวนั ออก มาใหฉ้ นั ฟงั เขาบอกวา่ ... วนั แรกทฉ่ี นั มาถงึ ...ลามะนอ้ ยรปู หนง่ึ วง่ิ ไปบอกเขาวา่ ... นางเอกหนังไทยเร่ืององค์บาก(แอร์-ภุมวารี)มาที่วัด...แม้เขาจะคิดว่ายังไงก็ต้อง ไมใ่ ชแ่ นๆ่ ...แตก่ อ็ ดวง่ิ มาแอบดใู หเ้ หน็ กบั ตาไมไ่ ด.้ ..(เลา่ ถงึ ตรงนค้ี ณุ ผอู้ า่ นทง้ั หลาย คงอยากเหน็ หนา้ ฉนั ชัดๆ แตฉ่ นั ขอแนะนำวา่ ...อยา่ ดกี วา่ คะ่ ฮา่ ๆ) หลังจากเคลียร์เรื่องค้างคาใจจบลงไปได้ ลบซังก็มักเข้ามาคุยกับฉันเสมอๆ โดยเร่อื งหลักๆท่คี ุยก็มักจะเก่ยี วกับหนังบ๊ใู นดวงใจของเขา...ไม่ว่าจะเป็นองค์บาก หรอื ตม้ ยำกงุ้ รวมทง้ั ควิ บชู๊ วนตนื่ ตาต่นื ใจจากหนังเร่ืองโปรดของเขา 228

ชว่ งทฉ่ี นั ไปเยอื นวดั เทโชคลงิ เปน็ ชว่ งทต่ี รงกบั วนั เกดิ ของวดั หรอื วนั ครบรอบ การกอ่ ตง้ั วดั 1 เมอ่ื 20 กวา่ ปกี อ่ น จงึ ตอ้ งถอื วา่ เปน็ โชคของฉนั อยา่ งมาก ทม่ี โี อกาส ร่วมพธิ กี รรมทางศาสนาซงึ่ ถกู จัดขึ้นเปน็ การภายในของวัด แม้แม็คคลาวดก์ ันจจ์ ะดเู ป็นเมอื งพุทธท่ีเงยี บสงบ แตเ่ น่อื งจากทนี่ เ่ี ปน็ บา้ น หลังที่สองของชาวทิเบตพลัดถิ่น ซึ่งผ่านอดีตอันเลวร้ายและยังคงอยู่ในระหว่าง การต่อสู้เพื่อร้องขอสิทธิเหนือดินแดนที่เป็นบ้านของพวกเขาเอง ทั่วทั้งเมืองจึงมี ปา้ ยรณรงคเ์ กย่ี วกบั การกอบกทู้ เิ บต มโี ปสเตอรแ์ ละหนงั สอื แจกเกย่ี วกบั การตอ่ สู้ ทางการเมือง และป้ายร้องขอให้ปลอ่ ยตัวนักโทษทางการเมอื งอยู่ทว่ั ไปหมด คุณ จงึ เหน็ บาดแผลทางใจของชาวทเิ บตทกุ ผทู้ กุ คนได้ ภายใตร้ อยยม้ิ ทอ่ี บอนุ่ และเปน็ มติ รของพวกเขา วันหนึ่งที่ฉันได้มีโอกาสคุยกับจัมยัง แล้วจัมยังถามว่าฉันเคยไปเที่ยวทิเบต ไหม ฉันตอบว่า... “ฉันยังไม่เคยไปทิเบตหรอก แต่ทิเบตก็เป็นดินแดนในฝันอีก แห่งหนึ่งที่ฉันอยากไปเยือนหากมีโอกาส น่าเสียดายที่ฉันมีเงินไม่พอ เพราะการ ไปเทย่ี วทเิ บตตอ้ งใชเ้ งนิ เยอะ และมกี ฏมขี อ้ หา้ มเยอะ การเดนิ ทางไปไหนมาไหนก็ ‘ไม่อิสระ’ เพราะต้องขออนุญาตแทบจะทุกจุด...” จัมยังยิ้มและตอบฉันสั้นๆว่า “แต่คุณก็มอี สิ ระมากกวา่ เรา...” ประโยคนั้นของจัมยัง เหมือนสายฟ้าที่ฟาดเปรี้ยงลงกลางหัวใจ จนฉัน ไหววบู ไปทง้ั รา่ ง... แลว้ ‘สต’ิ กล็ กุ ขน้ึ มาทำหนา้ ทข่ี องมนั กอ่ น ‘นำ้ ตา’... “ใช.่ .. 1 วัดเทโชคลิง (Tsechokling Gompa) ในแมค็ คลาวด์กนั จ์ (อนิ เดีย) ถูกสร้างขนึ้ ใหม่เม่อื วันท่ี 26 เม.ย. ค.ศ. 1987 โดยจำลองแบบมาจากวัดเดิมซึ่งมีชื่อเดียวกันในทิเบต ที่ถูกเผาทำลายไปในช่วง ปฏริ ปู วฒั นธรรมของกองทพั แดงในประเทศจนี โดยเหลา่ พระลามะกบั ฆราวาสทห่ี ลบหนแี ละอพยพ ออกมาจากทเิ บตหลงั การกวาดลา้ งครง้ั ใหญ่ ชว่ ยกนั กอ่ สรา้ งวดั แหง่ นข้ี น้ึ ใหม่ “นอกบา้ น” และหนง่ึ ในผู้ร่วมกอ่ ต้งั วัดก็คอื ชายทเ่ี ดินมาบอกฉนั ว่ามีหอ้ งว่างให้พกั ในวนั แรกทีฉ่ นั มาถึงนัน่ เอง 229

ฉนั มอี สิ ระมากกวา่ พวกเขาจริงๆ ฉันยงั มีบา้ นให้อยู่ มีแผน่ ดินให้เปน็ เรือนเกดิ และเรือนตาย แต่พวกเขาต้องอยู่โดยถวิลหาแต่บ้านเกิดเมืองนอน คำว่า ‘ขาดอิสรภาพ’ ของฉนั มนั เทียบไม่ได้เลยกบั คำๆเดยี วกันของเขา...” จัมยังกับเพื่อนของเขาเล่าว่า พวกเขาและเด็กๆชาวทิเบตหลายๆคนอพยพ จากทิเบตมาอยู่ที่แม็คคลาวด์กันจ์ โดยพ่อแม่พามาส่งด้วยการเดินเท้าข้ามเทือก เขาหิมาลัยซึ่งต้องใช้เวลาเดินมาราวๆ 2 เดือน จากนั้นพ่อแม่ก็จะฝากลูกไว้กับ พระลามะหรอื ญาตๆิ ทอ่ี ยทู่ น่ี ่ี เพอ่ื ใหล้ กู ไดร้ บั การศกึ ษาและมชี วี ติ ทด่ี กี วา่ จากนน้ั ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ ก็จะใช้เวลาเดินเท้ากลับเข้าทิเบตอีก 2 เดือน เพื่อที่จะกลับไป เฝ้าบ้าน ไปทำงานหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว โดยที่ไม่รู้เลยว่าจะมีโอกาสได้พบกับ ลูกๆของตนเองอีกหรอื ไม.่ .. จติ ใจทเ่ี ขม้ แขง็ อดทน และความรกั ความสามคั คใี นชาตขิ องชาวทเิ บตพลดั ถน่ิ ทน่ี ่ี ทำใหพ้ วกเขามชี มุ ชนเลก็ ๆทแ่ี ขง็ แกรง่ มรี ฐั บาลพลดั ถน่ิ ทร่ี ว่ มไมร้ ว่ มมอื ทำงาน กนั อยา่ งแขง็ ขนั และกลมเกลยี ว ยง่ิ กวา่ รฐั บาลทม่ี อี สิ ระในการปกครองตนเองบาง ประเทศเสียอีก พวกเขารักบ้าน...แต่ไม่มีบ้านให้อยู่ ในขณะที่บางประเทศมีบ้าน ที่น่าอยู่...แต่กลับพากันทำร้ายทำลายประเทศของตัวเองเพ่ือผลประโยชน์ส่วน ตน จนฉนั ไมร่ วู้ า่ ควรจะสงสารชาวทเิ บตทไ่ี รบ้ า้ น หรอื ควรจะสงสารชาวเมอื งทไ่ี ร้ สติและสามัญสำนึกมากกว่ากัน การตอ่ สเู้ พอ่ื อสิ รภาพของชาวทเิ บตกบั รฐั บาลจนี ยงั คงดำเนนิ ตอ่ ไป และฉนั กห็ วงั วา่ ทงั้ คจู่ ะพบทางออกทเ่ี หมาะสมไดใ้ นเร็ววัน ฉนั ไมแ่ นใ่ จวา่ เพอ่ื นรว่ มทางรว่ มวดั ทฉ่ี นั ไดพ้ บคราวนน้ั จะมชี วี ติ ทเ่ี ปลย่ี นไป หรือไม่เมื่อพวกเขากลับสู่บ้านเกิดเมืองนอน แต่ฉันพบว่า...ชีวิตของฉันค่อยๆ เปล่ยี นไปทีละน้อยๆ จากมุมมองใหม่ๆที่ฉันได้รับจากพวกเขา 230

ตสี ามนดิ ๆ ของวนั สดุ ทา้ ยในเทโชคลงิ ของฉนั แอนดรวู ซ์ ง่ึ อาสาชว่ ยฉนั แบก เป้ขึ้นเขา(เพื่อไปขึ้นรถบัสในเมือง) ก็มาเคาะประตูห้องของฉันและบอกว่า เขา เตรยี มตวั พรอ้ มแลว้ ฉนั กวาดตามองไปรอบๆหอ้ งเปน็ ครง้ั สดุ ทา้ ย ไมใ่ ชเ่ พอ่ื สำรวจ วา่ ลมื อะไรไวห้ รอื ไม่ แตเ่ พอ่ื เกบ็ ความทรงจำดๆี ทฉ่ี นั ไดร้ บั จากทน่ี เ่ี ปน็ ครง้ั สดุ ทา้ ย... กอ่ นที่จะปดิ ประตู ฉันมาถงึ วัดเทโชคลิง...ในเชา้ ที่มืดมดิ และกำลังจะจากทน่ี ไี่ ป...ในชว่ งเวลาเดียวกัน ฉนั มาถึงวัดเทโชคลงิ ...เพราะมเี พอื่ นแปลกหนา้ ชที้ างให้ และกำลงั จะจากทนี่ ไ่ี ป...โดยมีเพอ่ื นแปลกหนา้ อกี คนเดนิ มาส่ง ฉนั มาถึงวัดเทโชคลิง...ก่อนสวา่ ง และกำลังจะจากท่ีนไี่ ป...โดยมีแสงสว่างรออยู่ท่ปี ลายทาง 231

วา่ ด้วยบุคคลในโลก ๔ จำพวก ตโม ตมปรายโน บุคคลมืดมาแล้ว มีมืดไปภายหน้า ตโม โชติปรายโน บุคคลมืดมาแล้ว มีสว่างไปภายหน้า โชติ ตมปรายโน บุคคลสว่างมาแล้ว มีมืดไปภายหน้า โชติ โชติปรายโน บุคคลสว่างมาแล้ว มีสว่างไปภายหน้า คัดย่อจาก พระสุตตันตปิฎก องั คตุ รนกิ าย จตุกนิบาต เลม่ ๒ ตมสตู รท่ี ๕

บทท่ี 16 “บทท่ี 16 วหิ ารทองคำแหง่ อมั รติ สาร”์ โยกเยก...โยกเยก...ฉันกลับมาอยู่บนท้องถนนท่ีเปรียบเสมือนท้องทะเลท่ี มคี ลน่ื สงู 1-2 ฟตุ อกี ครง้ั และหลงั จากทป่ี ลอ่ ยใหล้ มเยน็ ๆกระแทกหนา้ อยปู่ ระมาณ 15 นาที รถบัสที่ฉันนั่งมาจากแม็คลาวด์กันจ์ก็วิ่งมาถึงท่ารถบัสของธรรมศาลา ซึ่งเป็นจุดที่ฉนั ตอ้ งเปลยี่ นรถเพอ่ื เดนิ ทางต่อไปยังเมอื งอมั ริตสาร์ อมั รติ สารเ์ ปน็ เมอื งหลวงของแควน้ ปญั จาบ ซง่ึ เปน็ แควน้ ทอ่ี ยทู่ างตะวนั ตก เฉียงเหนือของอินเดีย มีพรมแดนติดกับประเทศปากีสถาน และเป็นที่ตั้งของ ศาสนสถานอันเลื่องชื่อ ฮาร์มันดิร์ ซาฮิบ (Harmandir Sahib) หรือที่รู้จักกัน ในนาม “วหิ ารทองคำ” (The Golden Temple) ซึง่ เปน็ หน่ึงในศาสนาสถานที่ สวยท่สี ุดในโลก และเป็นสถานทีๆ่ มีความสำคัญท่สี ดุ สำหรบั ผู้นบั ถอื ศาสนาซิกข์ เนื่องจากในทริปนี้... ฉันได้นอนค้างอ้างแรมมาแล้วทั้งวัดไทยวัดทิเบต ‘คนตดิ วดั ’ อยา่ งฉนั จงึ อยากลองคา้ งคนื ท่ี “วดั ซกิ ข”์ อยา่ งวหิ ารทองคำแหง่ นด้ี สู กั ที เพราะเวลาเอาไปเลา่ ใหใ้ ครๆฟงั มนั คงจะโกไ้ มห่ ยอกทไ่ี ดพ้ ดู ออกไปวา่ ... “ฉนั เคย นอนในวหิ ารทองคำมาแลว้ ” ในทส่ี ดุ ฉันก็ไดม้ ายืนจอ้ งวิหารทองคำ1 ในระยะประชดิ ตวั อาคารด้านนอก เป็นสีขาวงามตาด้วยสถาปัตยกรรมที่วิจิตรบรรจง มียอดโดมทองคำแอร่มอร่าม โผล่พ้นมาจากแนวตึกสขี าวท่สี ูงตระหง่านอยเู่ บ้อื งหน้า... 1 การจะเข้าไปในอาณาเขตของวิหารทองคำอนั ศักดิ์สทิ ธิ์ ทกุ คนจะตอ้ งมีผา้ คลุมผมไว้ตลอดเวลา 233

หลงั จากเขา้ ไปสอบถามรายละเอยี ดการเขา้ พกั จากศนู ยอ์ ำนวยความสะดวก ท่อี ยทู่ างด้านขวาของปากทางเข้าหลกั ฉนั กเ็ ดินถอดรองเท้าและถงุ เทา้ เข้าไปยัง เรอื นพกั สำหรบั นกั ทอ่ งเทย่ี วตา่ งชาติ หรอื อาคารกรู รู ามดาส ซาราย (Guru Ram Das Sarai)1 เมื่อเจ้าหน้าที่ดูแลอาคาร เปิดประตูเรือนพักให้ฉันเข้าไปด้านใน... ใจฉนั ก็หายวาบ... ภาพทปี่ รากฏต่อสายตาฉันคอื ห้องเกา่ ๆ ‘สเี ทา’ ทมึ ทบึ ท่ีส่งกลน่ิ อับฉนุ กกึ้ เสียดแทงฆานประสาทที่ไวจัดของฉัน เตียงถูกวางเรียงเป็นตับอยู่ด้านนอก ฟูก และผา้ หม่ กอ็ ย่ใู นสภาพที่มองปราดเดยี วก็รวู้ ่าผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชน เจ้าหนา้ ท่ีนายนั้นก็บอกวา่ “ดา้ นนอกเป็นทีพ่ กั สำหรับผูช้ าย ส่วนผู้หญงิ จะ ได้พักในห้อง” แล้วเขาก็เปิดประตูห้องเล็กๆอีกห้องที่อยู่ทางด้านซ้ายมือของฉัน สภาพทีเ่ หน็ ไมแ่ ตกตา่ งกนั มากนัก...แต่อยา่ งน้อย หอ้ งเล็กๆที่มีเตียง 3 เตยี งน้ี ก็ ยงั ดเู ปน็ สดั สว่ นและปลอดภยั กวา่ หอ้ งดา้ นนอก เจา้ หนา้ ทน่ี ายนน้ั พดู ตอ่ วา่ “นค่ี อื ต้เู ก็บของ ถา้ คณุ มีแม่กุญแจตดิ มา คณุ ก็ใชล้ อ็ คตูไ้ ด้เลย” ฉนั กลา่ วขอบคณุ เขา...แลว้ เขากเ็ ดนิ ออกจากหอ้ งไป โดยทง้ิ ใหฉ้ นั ยนื อยกู่ ลาง หอ้ งขนาดประมาณ 3x3 เมตร พรอ้ มกบั อทุ านออกมาในหวั วา่ “จะไหวไหมเนย่ี ” แต่ไหนๆก็ไหนๆ...ใช่ว่าโรงแรมท่ีฉันเคยๆพักมาจะมีสภาพดีกว่านี้สักเท่าไร ทส่ี ำคญั มนั คอื โอกาสครง้ั หนง่ึ ในชวี ติ ทฉ่ี นั จะไดน้ อนในทๆ่ี ฉนั คดิ วา่ “แย”่ จนรบั ไมไ่ หว และถา้ ฉันผา่ นมนั ไปได้...ก็แปลว่าฉนั “ยังไหว” และมันก็ “ดีพอ” บา่ ยวนั นน้ั ฉนั ใชเ้ วลาไปกบั การเขา้ ชมวหิ ารทองคำซง่ึ เปน็ อาคารสที องสกุ ปลง่ั 1 การเขา้ พกั ทว่ี หิ ารทองคำไมม่ คี า่ ใชจ้ า่ ยใดๆ ผเู้ ขา้ พกั สามารถบรจิ าคเงนิ ไดต้ ามจติ ศรทั ธา และกำลงั ทรัพย์ 234

กลางสระน้ำสีเทอร์ควอยซ์ ซึ่งศาสนิกชนชาวซิกข์ถือว่าเป็นสระน้ำศักดิ์สิทธิ์และ จะลงไปอาบน้ำชำระล้างรา่ งกายเพ่อื ความเป็นสิริมงคล การรอตอ่ แถวเพอ่ื ทจ่ี ะเขา้ ไปภายในวหิ ารศกั ดส์ิ ทิ ธแ์ิ หง่ น้ี ตอ้ งใชค้ วามอดทน สงู สกั หนอ่ ย แตก่ น็ บั วา่ คมุ้ คา่ เพราะนอกจากความละเอยี ดงดงามของสถาปตั ยกรรม ภายในตัววิหารแล้ว... พิธีกรรมอันแปลกตากับศรัทธาอันแรงกล้าที่คุณสัมผัสได้ จากเสยี งสวดมนต์ ซง่ึ ศาสนกิ ชนชาวซกิ ขพ์ รอ้ มใจกนั เปลง่ เสยี งออกมาตลอดเวลา ที่ยังเข้าแถว...ไปจนถึงตอนที่เข้าไปอยู่ภายในมหาวิหารแล้ว... คือความงดงามที่ คุณสมั ผัสได้ดว้ ยใจ ที่น่าชื่นชมอีกอย่าง คือเรื่องของระบบการจัดการภายในศาสนสถานแห่งนี้ เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสะอาดสะอ้านโดยรอบ หรือระบบการจัดการ เพอ่ื ใหเ้ หลา่ ผแู้ สวงบญุ ไดร้ ว่ มแรงรว่ มใจกนั ทำงาน เพอ่ื ประโยชนส์ าธารณะ อยา่ ง การลา้ งแกว้ ลา้ งชาม หรอื การจดั โรงทานใหม้ อี าหารและนำ้ ดม่ื ‘ฟร’ี สำหรบั ทกุ คน ทุกศาสนา ล้วนแล้วแต่เป็นไปอย่างมีระบบระเบียบ ไม่มีการแก่งแย่งกันให้เห็น เหมอื นหลายๆจดุ ทฉ่ี นั เคยเจอมาในอนิ เดยี ซง่ึ เรอ่ื งแบบน.้ี ..คงมอิ าจเกดิ ขน้ึ ได้ ใน ท่ีๆขาดศรัทธาหรือขาดความรกั ความเมตตาตอ่ กนั ยง่ิ เมอ่ื ฉนั ไดร้ บั รปู้ ระวตั ศิ าสตรก์ ารตอ่ สทู้ ต่ี อ้ งผา่ นเลอื ดและนำ้ ตาของคนทน่ี ่ี บวกกับการอ่านคำสอนบางส่วนของกูรูเอกทั้ง 10 ของชาวซิกข์ ก็ยิ่งทำให้ฉัน ชน่ื ชมพวกเขามากขน้ึ อาจเปน็ เพราะคำสอนบางขอ้ มคี วามคลา้ ยคลงึ กบั คำสอน ของพทุ ธศาสนา ยกตัวอย่าง เชน่ คำสอนของกูรู โกไบนด์ ซงิ ห์ (Guru Gobind Singh) ที่บอกว่า “เธอไมม่ รี ูป...แตร่ ูปของเธอกง็ ดงาม” หรอื บางสว่ นจากคำสอน ของคัมภีร์เกอร์บานี (Gurbani) ที่บอกว่า “เราจงมาค้นดูจิตและใจของเราเถิด เพราะเมื่อปราศจากการค้นลึกลงไปภายใน...เราก็ไม่อาจกำจัดรากแก้วของความ สงสยั ได”้ เป็นตน้ และคำสอนอันดงี ามเหลา่ นั้นก็ทำใหช้ าวซกิ ขซ์ ึง่ มีศรัทธาสงู มี 235

สงั คมทส่ี งบสุขและเป็นระเบยี บเรียบรอ้ ย หลังจากเที่ยวชมวิหารทองคำกับพิพิธภัณฑ์กลางชาวซิกข์ (Central Sikh Museum) จนทอ้ งเรม่ิ สง่ เสยี งครางเบาๆ ฉนั จงึ เดนิ ออกไปยงั ตลาดทอ่ี ยใู่ กลๆ้ กบั วิหารทองคำเพื่อหาอะไรกินสักหน่อย แต่ความคับคั่งจอแจของผู้คนและรถรา ก็ ทำใหฉ้ นั พลดั ลน่ื ตกรอ่ งถนน ขณะทพ่ี ยายามหลบรถสามลอ้ ซง่ึ แลน่ สวนมาในระยะ ประชดิ จนทำใหข้ อ้ เทา้ พลกิ ... ความสนกุ สนานเพลดิ เพลนิ ของฉนั จงึ จบลงทก่ี าร หาอะไรงา่ ยๆกนิ แลว้ ลากสงั ขารกลบั ไปเรอื นพกั แบบเปๆ๋ กอ่ นทจ่ี ะผลอยหลบั ไป เพราะฤทธิ์ยาแกป้ วด ฉนั ตน่ื มาอกี ครง้ั ราวๆ 1 ทมุ่ และเมอ่ื นกึ ไดว้ า่ วหิ ารทองคำจะงดงามอยา่ งยง่ิ ยามต้องแสงไฟยามราตรีภายใต้ท้องฟ้าสีดำขลับ ฉันจึงค่อยๆเดินโขยกเขยกออก มาจากห้อง เพอ่ื ยนื มองความงามของศาสนสถาน ท่เี ปลง่ ประกายเจิดจา้ จนแทบ ต้องหยตี ามอง เมอ่ื อม่ิ ใจจากความงามทอ่ี ยตู่ รงหนา้ แลว้ ฉนั จงึ กลบั หลงั หนั เพอ่ื ทจ่ี ะเดนิ ไป เขา้ หอ้ งนำ้ แลว้ ฉนั กต็ อ้ งตะลงึ อกี ครง้ั เมอ่ื เหน็ วา่ ...ลานโลง่ กวา้ งปราศจากหลงั คา ระหว่างเรือนพักกับห้องน้ำ มีคนนับร้อยๆปูผ้านอนเรียงกันเป็นแถวทั่วบริเวณ ห้องพักที่เหม็นอับและคับแคบของฉัน กลายเป็นคฤหาสน์หลังน้อยๆไปในบัดดล เมื่อเทียบกับที่พกั ของผู้แสวงบุญชาวซกิ ข์ ที่กำลงั นอนเรยี งรายอยู่ใตแ้ สงดาว ฉนั คอ่ ยๆเดนิ โขยกเขยกเลย่ี งคนทน่ี อนอยบู่ นพน้ื อยา่ งระมดั ระวงั พรอ้ มกบั ระลึกรู้ในใจว่า...วิหารทองคำแห่งนี้เป็นสถานที่ๆงดงามโดยแท้ เพราะในขณะที่ คุณจ้องมองไปยังมหาวิหาร...คุณจะเห็นความอลังการของวัตถุ แต่เมื่อคุณหันมา มองผู้คน...คณุ จะเหน็ ความอลงั การของศรทั ธา เช้าวันร่งุ ข้นึ เจ้าหน้าท่ดี ูแลเรือนพักก็มาบอกให้ฉันเก็บของเข้าต้ใู ห้เรียบร้อย 236

เพราะวันนี้จะมีการทำความสะอาดใหญ่ประจำสัปดาห์ ฉันจึงได้รู้ว่าที่นี่มีการนำ ฟูกและผ้าห่มออกมาตากแดดและซักทำความสะอาด อาทิตย์ละ 2 ครั้ง รวมทั้ง มกี ารพน่ ควนั ไลย่ งุ และแมลงดว้ ย ฉนั จงึ ดใี จทจ่ี ะไดน้ อนบนฟกู และทน่ี อนทส่ี ะอาด เอย่ี มออ่ ง แตก่ ต็ อ้ งลากขาออกไปอยขู่ า้ งนอกครง่ึ วนั ระหวา่ งทม่ี กี ารทำความสะอาด ฉนั จงึ ไปฝงั ตวั นั่งเขียนบันทึกอยู่ทร่ี ้านอาหารตดิ แอร์ใตโ้ รงแรมเลก็ ๆแห่งหนงึ่ แล้ว สง่ั “แกงเผด็ ไทย” มากนิ ใหห้ ายคดิ ถงึ บา้ น...แตป่ รากฏวา่ ยง่ิ ทำใหค้ ดิ ถงึ บา้ นหนกั เข้าไปอีก เพราะแม้ว่ามันจะอร่อยใชไ้ ด้ แตม่ ันก็เป็นแค่แกงท่มี ีรสชาติ “คล้ายๆ” แกงเผด็ ไทยเท่าน้นั หลงั จากตระเวนไปตามตรอกซอกซอยรอบวหิ ารทองคำ กบั ขาเดย้ี งๆจนบา่ ย คล้อย ฉันจึงตัดสินใจกลับไปที่เรือนพัก แต่ก็พบว่าเจ้าหน้าที่ยังทำความสะอาด ไม่เสรจ็ ฉนั จึงยนื คุยกับนกั ท่องเทย่ี วกลุ่มหนง่ึ ท่หี น้าห้องพัก พวกเธอชวนฉันแชร์ ค่ารถไปชมพิธีปดิ ดา่ นชายแดนของอินเดยี กบั ปากีสถานในเยน็ วนั นนั้ และพิธีน้ี... คอื สง่ิ ทหี่ นังสอื ทอ่ งเทีย่ วแทบจะทุกเลม่ แนะนำว่า ‘ตอ้ งไปชมใหไ้ ด้สักคร้ังหนงึ่ ใน ชีวติ ’ (แตไ่ ม่ใช่หนังสือเล่มนนี้ ะคะ) เพราะพิธีปิดด่านที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าฉัน คือการตะโกนโห่ร้องแข่งกันของ ประชาชนท้งั 2 ประเทศ ทฝ่ี ่ายหนึ่งตะเบง็ เสียงออกมาประมาณวา่ “ฮินดสู ถาน คือผู้ยิ่งใหญ่” และอีกฝ่ายหนึ่งก็ตะโกนแข่งกลับมาว่า “ปากีสถานคือผู้ยิ่งใหญ่” แมจ้ ะเปน็ การตะโกนดว้ ยความภาคภมู ใิ จในชาตขิ องตน และทว่ งทา่ ในการสวนสนาม ของทง้ั สองฝา่ ยจะดกู ระฉบั กระเฉง เขม้ แขง็ ด.ี .. แตม่ นั กแ็ ฝงความขงึ ขงั ดดุ นั ทเ่ี หน็ ได้ว่า...เป็นการแสดงออกเพื่อข่มฝ่ายตรงข้ามอยู่ในที ซึ่งดูแล้วเหมือนเป็นการ ตอกยำ้ ความไมล่ งรอยกนั ระหวา่ ง 2 ชาติ มากกวา่ จะเปน็ การสรา้ งความปรองดอง ระหว่างกนั แต่ฉันอาจจะไม่เข้าใจวัฒนธรรมการแสดงออกซ่ึงความจริงใจที่ท้ังสอง 237

ประเทศมีต่อกันก็เป็นได้ เพราะในความรู้สึกของฉัน...บรรยากาศมันเคร่งเครียด มากจนเหมอื นกบั ว่า...พวกเขากำลงั ทะเลาะกนั อยู่ กิจกรรมเดียวที่ฉันชอบในพิธีนี้ คือ การที่ทางการของแต่ละประเทศ เปิด โอกาสให้ประชาชนของตน จับมือกันวิ่งชูธงไปที่แนวกั้นพรมแดน... ฉันไม่ค่อย แน่ใจเรื่องการสร้างความปรองดองระหว่างชาติ...แต่การรักใคร่ปรองดองกันภาย ในชาติของท้งั อินเดยี และปากสี ถานนั้น...แน่นป้กึ ! เมื่อฉันเดินทางมาจนสุดพรมแดนของประเทศอินเดีย เสียงเรียกให้ฉันกลับ บา้ นกค็ อ่ ยๆดงั ขน้ึ เรอ่ื ยๆ ปา้ ยขา้ งทางบอกใหร้ วู้ า่ ... ฉนั อยหู่ า่ งจากนวิ เดลี 492 กโิ ลเมตร ร่างกายที่อ่อนล้า...กับแข้งขาที่กะปลกกะเปลี้ย...บอกฉันว่า... “กลับบ้านเถอะ” ฉนั จงึ ตดั สนิ ใจขน้ึ รถกลบั นวิ เดลใี นคนื นน้ั โดยไมไ่ ดฉ้ ลองฟกู และผา้ ปทู น่ี อนทเ่ี พง่ิ เปล่ียนใหม่ 238

“ปพุ เพ จาหงั ภกิ ขะเว เอตะระหิ จะ ทุกขัญเจวะปัญญาเปมิ ทกุ ขสั สะ จะ นิโรธงั ” ดูกอ่ นภิกษทุ ั้งหลาย ในกาลก่อนก็ตาม ในบัดนกี้ ็ตาม เราตถาคตบญั ญตั ิแสดงเฉพาะเรือ่ งทกุ ข์ และการพ้นไปแหง่ ทุกขเ์ ทา่ น้ัน ม.มู อลคัททปู มสตู ร ๑๒/๒๔๖



บทท่ี 17 “บทท่ี 17 ระหวา่ งทาง...กลบั บา้ น” การตดั สนิ ใจมาเยอื นประเทศอนิ เดยี ถอื วา่ เปน็ เรอ่ื งทไ่ี มง่ า่ ยนกั สำหรบั คนไทย หลายๆคน การมาเที่ยวอินเดียอย่างมีความสุขสนุกสบายก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้น ไดง้ า่ ยๆ แถมการจะอำลาอนิ เดยี ไปกไ็ มใ่ ชเ่ รอ่ื งงา่ ยๆอกี นน่ั ละ่ คะ่ เพราะนค่ี อื เสนห่ ์ เฉพาะตวั ของอนิ เดยี อนิ เดยี จะทำใหค้ ณุ จดจำประทบั จติ ประทบั ใจไปนานแสนนาน ไมท่ างใดก็ทางหนึ่ง วนั สดุ ทา้ ยในอมั รติ สาร์ ฉนั กย็ งั เจอคนถบี รคิ ชอวพ์ าไปซอ้ื ตว๋ั รถบสั จากเอเจนซี่ ที่เขามีฮั๊วกันอยู่ เหมือนเมื่อครั้งที่ฉันเจอตอนก่อนจะข้ามพรมแดนจากเนปาลมา อินเดีย แต่คราวนี้ฉันยืนกระต่ายขาเดียวว่าจะไปที่สถานีรถบัส เพราะฉันเช็ค ตารางเดินรถมาแน่นอนแล้ว แม้คนถีบสามล้อจะไม่ค่อยพอใจ...แต่ในที่สุดฉันได้ ข้ึนรถบสั ที่สถานขี นสง่ สมใจ แตส่ งสยั วา่ วนั นด้ี วงเดนิ ทางของฉนั คงดบั สนทิ เพราะรถบสั ทฉ่ี นั โดยสารไป เกิดปัญหาต้องหยุดซ่อมระหว่างทางครั้งละนานๆ 3-4 ครั้ง ครั้งหนึ่งยางแตก ครง้ั หนง่ึ ลอ้ มปี ญั หา อกี สองครง้ั เกยี รห์ รอื เครอ่ื งยนตข์ ดั ขอ้ ง ทำใหผ้ โู้ ดยสารหลายๆ คนโวยออกมา เพราะไม่สามารถเดินทางไปถึงจุดหมายได้ตามเวลาที่กำหนด จน ในท่ีสุดผู้โดยสารกลุ่มหนึ่งก็รวมตัวกันเรียกร้องขอค่าโดยสารคืนจากกระเป๋ารถ ตอนทรี่ ถเสยี เป็นคร้งั ท่ี 3 แต่ก็ไม่เปน็ ผล เพราะรถดนั ใชก้ ารได้ขึน้ มาเสียก่อน แต่ เครือ่ งยนต์ก็ทำงานไปสำลกั ไปตลอดเวลา สุดท้ายคนขับรถก็ตัดสินใจนำรถไปจอดที่หน้าปากทางด่านเก็บเงินของ 241

มอเตอรเ์ วยห์ รอื ทางดว่ นอะไรสกั อยา่ ง คราวนเ้ี องทผ่ี โู้ ดยสารเกอื บทง้ั คนั รถฮอื กนั เขา้ ไปลอ้ มพนกั งานเกบ็ เงนิ นายนน้ั เพอ่ื ขอคา่ รถคนื ฉนั ซง่ึ เปน็ ชาวตา่ งชาตคิ นเดยี ว บนรถคันนั้นจึงได้แต่อึ้งทำอะไรไม่ถูก แล้วก็มีกระทาชายนายหนึ่งพูดกับฉันเป็น ภาษาอังกฤษว่า “ใจเย็นๆ เดี๋ยวคนรถก็เคลียร์ปัญหาได้” สุดท้าย...พนักงานเก็บ เงนิ ก็ยอมคืนเงินค่าตั๋วรถให้ผู้โดยสารทุกคน แตฉ่ ันไม่ไดต้ อ้ งการเงนิ คนื น่ีนา...ฉนั ต้องการไปให้ถึงนิวเดลตี ่างหาก...เอาไงดลี ่ะทนี ้ี ในขณะทผ่ี ้โู ดยสารทั้งคนั รถไปมะรมุ มะตมุ้ ขอเงนิ ของตวั เองคนื ...ฉันก็ตดั ใจ ทง้ิ เงนิ คา่ ตว๋ั ราคาไมก่ บ่ี าท แลว้ แบกเป.้ ..ลากขา...ทำหนา้ เศรา้ พรอ้ มแววตาเวา้ วอน เดนิ ตรงไปยงั ดา่ นเกบ็ คา่ ผา่ นทาง จากนน้ั กเ็ ขา้ ไปสอบถามเจา้ หนา้ ทเ่ี กบ็ คา่ ผา่ นทาง วา่ ... “ขอโทษคะ่ ฉนั ตอ้ งการความชว่ ยเหลอื คนื นจ้ี ะมรี ถบสั ไปเดลผี า่ นมาอกี ไหมคะ เพราะรถที่ฉันโดยสารมากำลังจอดเสียอยู่ตรงนั้น และมันก็ถึงกำหนดที่ฉันต้อง กลบั บา้ นเกดิ เมอื งนอนแลว้ ...” พวกพๆ่ี ลงุ ๆนายดา่ นจงึ ปรกึ ษากนั ขโมงโฉงเฉงอยู่ ครู่หนึ่ง แล้วหันมาบอกฉันว่า... “ใจเย็นๆ รออยู่ตรงนี้ล่ะ เดี๋ยวฉานจัดการให้...” จากนั้นก็ยกเป้ของฉันไปวางที่หน้าช่องเก็บค่าผ่านทาง แล้วกวักมือเรียกฉันไปนั่ง ขา้ งๆเป้ พรอ้ มกบั รนิ น้ำท่ถี กู เก็บอยใู่ น ‘ถงั น้ำมันเคร่อื งเก่าๆ’ มาให้ฉนั ดม่ื ... แม้ ฉันจะรู้ว่าเป็นการเสี่ยงอย่างยิ่งที่จะเจอกับอาการท้องเสียขั้นรุนแรง แต่น้ำใส ใจจริงของพวกเขาก็ทำให้ฉันยอมรับน้ำน้ันมาดื่ม...“มันจะตายเพราะน้ำใจคนก็ ใหม้ นั รู้ไปสิน่า”...ฉนั คิดในใจ เนอ่ื งจากดา่ นนเ้ี ปน็ ดา่ นใหญท่ ม่ี ชี อ่ งเกบ็ เงนิ ไมต่ ำ่ กวา่ 10 ชอ่ งจงึ มรี ถวง่ิ ผา่ น ดา่ นแทบจะตลอดเวลา และทกุ ครง้ั ทม่ี รี ถบสั วง่ิ เขา้ มาทด่ี า่ นเกบ็ เงนิ ฉนั กล็ นุ้ อยใู่ น ใจทุกรอบว่าขอให้เป็นรถที่จะพาฉันเข้านิวเดลีได้ จนเวลาใกล้ตีสอง...หลังจากที่ รออยู่ราวๆ 15-20 นาที เจ้าหน้าที่ด่านเก็บเงินคนนึงก็มายกเป้ฉันไปขึ้นรถ โดย แทบจะยกฉนั ขน้ึ รถตามเปไ้ ปอกี ที ฉนั รบี ยกมอื ไหวข้ อบคณุ ชายคนนน้ั และเจา้ หนา้ ท่ี คนอื่นๆทุกคนที่ช่วยเหลือฉัน เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบบอกกับฉันก่อนรถออกว่า... 242

‘ไมต่ อ้ งจา่ ยเงนิ คา่ ตว๋ั รถนะ เขาคยุ กบั คนเดนิ รถเรยี บรอ้ ยแลว้ ...’ แลว้ รถกว็ ง่ิ ออก ไปจากด่านด้วยความรวดเร็ว หัวใจที่เคยถูกบีบอัดด้วยแรงกดดันจากความวิตก ตา่ งๆนานาก่อนหนา้ น้นั จึงค่อยๆคลายตัว โชคดีที่บนรถคันนั้นมีที่นั่งว่างอยู่หลายที่ ฉันจึงได้หลับอย่างสบายใจอยู่พัก ใหญๆ่ จนเมอ่ื มคี นคอ่ ยๆขน้ึ มาบนรถมากขน้ึ ในตอนรงุ่ สาง ฉนั จงึ ตอ้ งนง่ั หลบั ตาไป ระวังตวั ไป ในทส่ี ดุ ฉนั กม็ าถงึ นวิ เดลี แตร่ ถมาจอดทป่ี า้ ยรถเมลร์ มิ ถนนใหญ่ ซง่ึ ฉนั ไมอ่ าจ รู้ได้เลยว่า...มันคือส่วนไหนของกรุงเดลี (สภาพเหมือนจุดจอดรถแถวๆรังสิตหรือ นวนครกอ่ นถงึ กรงุ เทพฯ) คนขบั รถแทก็ ซห่ี ลายรายพยายามเสนอตวั พาฉนั เขา้ เมอื ง ด้วยราคา 150 รูปีบ้าง 100 รูปีบ้าง... แต่ฉันเลือกที่จะถามคนที่ดูท่าทางเป็น พนักงานออฟฟิศ ซึ่งกำลังรอขึ้นรถเมล์ไปทำงาน...ว่าฉันจะเข้าไปยังใจกลางกรุง เดลไี ด้อยา่ งไร ในที่สุดก็เจอชายใจดีคนหนึ่งซึ่งพูดภาษาอังกฤษได้ เขาบอกว่าวิธีที่จะเข้าสู่ ใจกลางเมอื งไดเ้ รว็ และสะดวกท่ีสุด คอื รถไฟใต้ดนิ และบอกว่าเขากำลังจะข้นึ รถ ไฟใตด้ นิ ไปทำงานพอดี ฉนั อยากไปตรงไหนของเดลลี ะ่ เดย๋ี วเขาจะพาฉนั ไปเอง... ชวี ติ รนั ทดของฉนั เมอ่ื คนื น้ี จงึ ไดร้ บั การชดเชยดว้ ยเรอ่ื งดๆี ตง้ั แตเ่ ชา้ และถงึ แมว้ า่ ฉนั จะพยายามขอจา่ ยเงนิ คา่ ตว๋ั รถไฟแคไ่ หน แตช่ ายคนนน้ั กป็ ฏเิ สธ โดยยนื กราน วา่ มนั เปน็ เงนิ แคเ่ ลก็ นอ้ ย ฉนั จงึ ไดแ้ ตย่ กมอื ไหวแ้ ละขอบคณุ เขากอ่ นทจ่ี ะกลา่ วคำ อำลา เนื่องจากสถานีนิวเดลี (New Delhi) ทฉ่ี นั ต้องการลงถึงกอ่ นสถานีของเขา หลังจากเดินออกจากสถานีรถไฟใต้ดิน ซึ่งอยู่บริเวณเดียวกับสถานีรถไฟ นิวเดลี... ย่านพาฮากันจก์ ็อย่หู า่ งจากฉันแค่ฟากถนนกั้น... เจา้ ของรอยลั เกสตเ์ ฮาสด์ ใี จมาก ทว่ี า่ เหน็ ฉนั กลบั ไปพกั ทโ่ี รงแรมของเขาอกี 243

แม้จะแปลกใจที่ฉนั กลับมาเร็วกวา่ กำหนดการเดมิ สิ่งแรกที่ฉันทำหลังจากอาบน้ำอาบท่าแล้วก็คือ การออกไปหาเอเจนซี่ขาย ตว๋ั เครอ่ื งบนิ เพอ่ื เลอ่ื นกำหนดกลบั บา้ นใหเ้ รว็ ขน้ึ ซง่ึ ตวั เลอื กทฉ่ี นั มกี ค็ อื ...การเดนิ ทาง กลบั ในวนั รงุ่ ขน้ึ หรอื ไมก่ ต็ อ้ งแกรว่ รออยใู่ นเดลอี กี 3 วนั และการเปน็ นกั ทอ่ งเทย่ี ว ขาเดย้ี งในเดลกี ไ็ มใ่ ชเ่ รอ่ื งทน่ี า่ สนกุ เลย... ฉนั จงึ ตดั สนิ ใจยตุ กิ ารเดนิ ทางครง้ั นท้ี ว่ี นั รงุ่ ขึน้ และใชเ้ วลาหน่งึ วันทเ่ี หลอื ไปกับการเดินซ้อื ของฝากในย่านพาฮากันจ์ การเดินทางนอกบ้านเกดิ เมอื งนอนทีย่ าวนานทีส่ ดุ ของฉัน... กำลังจะจบลง แล้ว... และเมื่อมองย้อนกลับไป ฉันก็พบว่า... ฉันมีความทรงจำเกี่ยวกับสถานที่ ท่องเที่ยวต่างๆ น้อยกว่าเรื่องราวของผู้คนกับประสบการณ์รายทาง ที่ฉันได้พบ เสียอีก ฉันมาเท่ียวอินเดียโดยไม่ได้เห็นทัชมาฮาล...ไม่ได้ยลโฉมเทือกเขาหิมาลัย ในอินเดียอย่างที่ตั้งใจเอาไว้... แต่ฉันก็ได้พบกับสิ่งที่มีค่าเหลือเกินกับการดำรง ชีวิต... นั่นคอื การได้พบตัวเองทหี่ ายไป... ไดพ้ บตัวเองในมมุ ใหม.่ .. และได้พบกบั ธรรมะทเี่ ป็นเสมือนเคร่ืองชำระลา้ งจติ ใจ ฉนั เดนิ ทางถงึ เมอื งไทยในวนั ทร่ี ถตดิ อยา่ งยง่ิ เนอ่ื งจากเปน็ วนั หยดุ ยาว และ ยังต้องเดินทางออกจากกรุงเทพฯเพื่อกลับไปยังบ้านเกิดที่ต่างจังหวัดอีกต่อหนึ่ง แต่ก็โชคดีมากท่ียังมที ีน่ ง่ั วา่ งใหฉ้ ันเดนิ ทางกลบั บา้ นอยู่ 1 ท่ีพอดี และเมอ่ื ฉนั มาถงึ “บา้ น” ฉนั กก็ ม้ กราบเทา้ พอ่ แมข่ องฉนั ดว้ ยความสำนกึ ใน บุญคุณที่มอบชีวิตให้ฉัน ขอบคุณที่ท่านทำให้ฉันมีโอกาสเห็นโลกใบนี้ ขอบคุณที่ ทำใหฉ้ นั มโี อกาสไดเ้ หน็ และเรยี นรธู้ รรมจากการเดนิ ทางครง้ั น.้ี .. ทง้ั ทางตรงและ ทางอ้อม ขอบคุณสำหรับทุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่ท่านทำเพื่อฉัน... ขอบคุณที่อภัยให้ ลูกที่ควบคุมไม่ได้อย่างฉันเสมอมา และขอโทษ...สำหรับทุกๆสิ่งที่ฉันมิอาจทำให้ 244

ท่านสมหวังได้... ถึงแม้ฉันจะไม่ได้พูดทุกๆอย่างที่ฉันคิดออกไปให้ท่านฟัง แต่ฉัน กค็ าดวา่ ทา่ นนา่ จะรับรไู้ ด้... หนงั สอื เลม่ นม้ี ชี อ่ื วา่ “ธนั ยาวาท...หมิ าลประเทศ” เพอ่ื ‘ขอบคณุ ดนิ แดน ศกั ดส์ิ ทิ ธ’์ิ ทใ่ี หท้ ง้ั ชวี ติ และความตน่ื รตู้ อ่ ตวั ฉนั ในวนั ทฉ่ี นั ออ่ นลา้ และหลงทาง... แต่ผู้ที่ให้ทั้งชีวิตและความตื่นรู้ต่อตัวฉันอย่างแท้จริง... คือดินแดนที่ฉันได้ หยง่ั รากชวี ติ ลงไปเปน็ ครง้ั แรก...หลงั จากทล่ี มื ตาขน้ึ มาดโู ลก... ดนิ แดนแหง่ นน้ั ไมเ่ คยแหง้ แลง้ ...ดนิ แดนแหง่ นน้ั ไมเ่ คยหยดุ ให.้ ..ดนิ แดนแหง่ นน้ั ไมเ่ คยหมดใจ... ดินแดนแหง่ นั้นมชี ่ือว่า “บิดามารดา” 245

มรรคาแหง่ ชีวิต เดนิ เดยี่ วมาเดยี วดาย ดว้ ยมงุ่ หมายซึง่ มรรคา จิตใจใฝ่ค้นหา ยอดธรรมาอันวมิ ตุ ิ สู่ทางแสนกนั ดาร ถงึ ทกุ ข์ท้อก็มหิ ยดุ ย่ิงก้าวยิง่ เร่งรดุ ไมส่ น้ิ สดุ ซ่งึ ความเพียร ผา่ นปา่ -หิน-หนาม-ตอ ไมร่ ะย่อไมแ่ วะเวียน หวั ใจไมแ่ ปรเปลยี่ น เพราะฝันใฝ่ในเสรี บัดน้ีฉันเหน็ แล้ว ซง่ึ ทางแกว้ แห่งมนุ ี แมภ้ ัยประดามี จะมากมายอกี ก่ายกอง ค่อยวางโลภโกรธหลง ค่อยปลดปลงทกุ ข์ท้งั ผอง มาตรแมน้ น้ำตานอง เพือ่ มิต้องก้าวกลบั ไป เขด็ แล้วกับการเกิด ท้ังความแก่แลความตาย ชพี นี้ขอฝากไว ้ ใตบ้ าทธรรมพระสัมมาฯ จากหนังสือ สุขง่ายๆ แคป่ ลายจมูก / พระมหาวเิ ชียร ชนิ วโํ ส

บา้ นเกา่ ๆ ในเขตเมืองเก่า โอลด์มะนาลี (Old Manali)

เดก็ หญงิ คนนกี้ ำลงั นงั่ ทอผา้ บนหลงั คาบ้าน โดยมผี นงั หอ้ งทำงาน เปน็ ทวิ เขาและทิวทศั น์ของเมืองมะนาลี นีค่ ือหน่งึ ในทีท่ ำงานท่ีดที ่สี ดุ ในโลก

มือจบั บานประตมู ี ‘มอื จบั ’ เพือ่ ให้เราเปิดไปส.ู่ ..หอ้ งที่ต้องการ จิตของเราก็มี ‘มือจบั ’ เพอื่ ใหเ้ ราเปิดไปสู่...ห้องทีต่ อ้ งการ...เชน่ กัน อย่ามัวแตจ่ ับจอ้ ง ยดึ ถอื พนิ ิจพิเคราะห์ ‘มอื จบั ’ จนลืม... ‘เปิดประตู’

โซนัม จัมยัง ฉันถาม... ‘ทำไมพระพุทธรปู ทีเ่ ห็นจึงต้องถือดาบซง่ึ เป็นอาวุธรา้ ย’ ลามะตอบ... ‘เอาไวต้ ัดอวิชชา’ ฮงิ มา(เลก็ ) ลามะนอ้ ยหดั ท่องบทสวด ตอร์มา เครื่องบูชาทำจากเนยปนั้ สุดวจิ ติ ร...ความหมายลึกซ้ึง พิธีกรรมทางศาสนาของวดั เทโชคลงิ , แม็คคลาวด์กนั จ์

ยามนภาไรด้ วง...ดาราราย แสงพิภพจ่งึ กราย...เจดิ จ้า ดารดาษวาววับ...ประดบั ประดา เยย้ เวหาทา้ สวรรค์ให.้ ..พร่นั พรงึ ภาพของดาไลลามะองคท์ ี่ 14 ในวัยหนุ่มกับแม่ แม้องค์ดาไลลามะจะมีถนิ่ พำนกั ในธรรมศาลา แต่ท่านกม็ กี ิจนิมนตท์ วั่ โลก การจะรว่ มฟงั ธรรมหรอื กราบแสดงความเคารพตอ่ ทา่ น จงึ ต้องศึกษาตารางกิจนมิ นตข์ องทา่ นกอ่ น

ส่งนม ตดั ผม อบขนม ซกั รดี ทง้ั หมดเกดิ ขน้ึ ทร่ี มิ มรรคาแหง่ อมั รติ สาร์ ท่พี ัก...อาหาร คนล้างถว้ ยจาน...ฟรี ทวี่ ิหารทองคำ

วิหารทองคำ เมืองอัมริตสาร์ (The Golden Temple) บชู าครู มคี า่ คำสอนเหลา่ ครุ ุ ส่องชีวติ ทกุ ทศิ า อรา่ มล้ำ ศรัทธานำปญั ญา เรืองร่งุ นบนอบก้มกราบซ้ำ จิตยำ้ บชู า

ในการเดินทางไกล... คุณทำไดแ้ ค.่ .. เตรยี มแผนที่ สัมภาระ และเสบยี ง แผนท่ที ี่ขาดไม่ได้ คือ สติ สัมภาระท่ีคุณไม่ควรลืม คือ ความเพยี ร และเสบียงทีต่ ้องหมนั่ สะสม คอื ปญั ญา ทีเ่ หลอื คณุ ตอ้ ง ‘ดน้ สด’ ระหว่างทาง

บทสง่ ทา้ ย ในวันที่ฉันเขียนหนังสือเล่มนี้จนเสร็จสมบูรณ์ การเดินทางในอินเดียและ เนปาลของฉนั ไดจ้ บสน้ิ ลงไปนานแลว้ ชวี ติ ของฉนั หลงั จากการเดนิ ทางครง้ั นน้ั ผา่ น ทง้ั สขุ และทกุ ขต์ ามมาอกี มากมาย มหี ลายครง้ั ทฉ่ี นั หลงลมื ตน ทำผดิ ซำ้ ๆ และกลบั ไปเดนิ หลงทางในกายใจตนเองอยู่หลายหน แต่จะด้วยบุญเก่าหรือกุศลกรรมในปัจจุบันท่ีฉันพอจะมีโอกาสสั่งสมเอาไว้ บา้ งกต็ าม ทำใหฉ้ นั ไดพ้ บธรรมะขององคพ์ ระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ไดเ้ กดิ มาในตระกลู ทด่ี ี มคี รบู าอาจารยค์ อยเมตตาชแ้ี นะ มโี อกาสไดข้ ดั เกลาจติ ใจของตนเอง มกี ลั ยาณมติ ร เดินร่วมทาง และมีโอกาสให้ธรรมตามสติปัญญาที่พึงมี การเดินทางที่เริ่มต้นมา นานแสนนาน และไม่รู้วา่ จะไปจบส้นิ ลงเมื่อใดของฉันจงึ ไม่ถอื วา่ เสียเปล่าเลย ฉนั ไดแ้ ตห่ วงั วา่ ...ทกุ ตวั อกั ษรทฉ่ี นั ทมุ่ เทกายใจเขยี นเอาไว้ จะเปน็ ประโยชน์ ต่อผู้ท่ีเดินทางผ่านมาพบกันคร้ังน้ี...และไม่ว่าจุดหมายของคุณจะเป็นที่ใด โปรดกา้ วเดนิ ไป...พรอ้ มกบั การเจรญิ ปัญญา... 255

เคล็ด (ไม่) ลับในการฝกึ เจรญิ สติ 1. รู้ปัจจบุ ันอารมณต์ ามความจริง 2. ไม่ตดั สนิ อารมณ์วา่ ดีหรอื ไม่ดี 3. ไม่จำเปน็ วา่ จติ ต้องสงบ 4. ไม่คดิ ตอ่ ไม่เลน่ กับความคิด 5. อารมณไ์ หนชัด รอู้ ารมณ์นั้น 6. “มนั ไม่แน่” คาถาแกท้ กุ ข์ จากหนังสอื สขุ งา่ ยๆ แคป่ ลายจมูก / พระมหาวเิ ชียร ชนิ วโํ ส

ภาคผนวก

พระพุทธพจน์เกี่ยวกบั สงั เวชนียสถานสี่ “ดกู อ่ นอานนท์ สงั เวชนยี สถาน ๔ แหง่ เหลา่ น้ี เปน็ ทค่ี วรเหน็ ของกลุ บตุ รผมู้ ศี รทั ธา. สงั เวชนยี สถาน ๔ เปน็ ไฉน… สงั เวชนียสถาน เปน็ ทค่ี วรเห็นของกลุ บุตรผมู้ ศี รัทธา ดว้ ยระลึกว่า... พระตถาคตประสตู ิในทีน่ ี่ ๑ สังเวชนียสถาน เปน็ ท่ีควรเห็นของกลุ บตุ รผู้มีศรทั ธาดว้ ยระลึกว่า... พระตถาคตตรสั รอู้ นตุ ตรสัมมา สมั โพธญิ าณในทีน่ ้ี ๑ สังเวชนยี สถาน เป็นที่ควรเห็นของกุลบตุ รผู้มศี รทั ธา ด้วยระลกึ วา่ ... พระตถาคตยังธรรมจกั รอันยวดย่งิ ใหเ้ ป็นไปแล้วในทนี่ ี้ ๑ สงั เวชนียสถาน เปน็ ท่ีควรเหน็ ของกุลบตุ รผมู้ ีศรัทธาด้วยระลกึ วา่ ... พระตถาคตเสดจ็ ปรินพิ พานดว้ ยอนปุ าทิเสสนิพพานธาตใุ นทนี่ ้ี ๑ อานนท์ สังเวชนียสถานสี่แห่งเหล่านั้นแล เป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธา ภิกษุ ภิกษณุ ี อบุ าสก อุบาสกิ าผู้มศี รัทธา จกั มาด้วยระลึกถึงว่า... พระตถาคตประสตู ใิ นท่นี ้บี ้าง พระตถาคตตรสั รูอ้ นุตตรสมั มาสัมโพธญิ าณในทน่ี ี้บา้ ง พระตถาคตยังธรรมจกั ร อนั ยวดยิ่งใหเ้ ป็นไปในทน่ี บี้ ้าง พระตถาคตเสร็จปรนิ ิพพานแลว้ ดว้ ยอนุปาทิเสสนิพพานธาตใุ นที่น้บี า้ ง อานนท์ ชนเหลา่ ใดเทย่ี วจารกิ ไปยงั เจดยี ์ มจี ติ เลอ่ื มใสจกั กระทำกาละ ชนเหลา่ นน้ั ท้งั หมด เบื้องหน้าแตต่ ายเพราะกายแตก จกั เขา้ ถึงสุคติโลกสวรรค์.” *ทม่ี า: มหาปรนิ พิ พานสตู ร, พระสตุ ตนั ตปฎิ ก ทฆี นกิ าย มหาวรรค เลม่ ๒ ภาค ๑ หนา้ ท่ี 308* 258

สมปรารถนาเมือ่ สักการะบูชาสังเวชนยี สถาน ๔ ตำบล สถานทปี่ ระสตู ิ ‘ลมุ พินีวนั ’ ไดช้ ีวิตดี มีหลกั ประกนั ไดค้ วามเป็นเลิศประเสริฐสดุ ไดค้ วามกา้ วหน้า ยอดเจรญิ ๙๗๙ สถานท่ีตรสั รู้ ‘พุทธคยา’ ได้ปัญญาเปน็ อาวธุ ไดค้ วามรแู้ จง้ แทงตลอด ไดช้ ัยชนะดว้ ยบารมไี ม่มแี พ้ สถานทแ่ี สดงปฐมเทศนา ‘พาราณส’ี ไดบ้ ริวาร เปิดมติ ร ปดิ ศัตรู ได้ความไมว่ นุ่ วาย ไม่ขัดข้อง ได้ดวงตาเหน็ ธรรมล้ำเลศิ สถานทีป่ รนิ พิ พาน ‘นครกุสินารา’ ไดอ้ ายยุ ืนยาว ป่วยหาย หนา่ ยรกั ได้มรดก ยกฐานะ มที รัพย์นับไมถ่ ว้ น ไดพ้ น้ จากเครอ่ื งเสยี ดแทงการทำรา้ ยทง้ั ปวง *ทม่ี า: ‘ตามรอยบาทพระศาสดา อนิ เดยี -เนปาล’ พระราชรตั นรงั ษ*ี 259

คำบชู าสังเวชนยี สถาน 4 แห่ง 1.พุทธคยา คำบูชาสถานทตี่ รสั รู้ วนั ทามิ ภันเต ภะคะวา อิมัง โพธริ ุกขะเจติยงั , สังเวชะนยี ัง ฐานงั , ยตั ถาคะโตมหิ, สทั ธสั สะ กลุ ะปตุ ตสั สะ ทสั สะนยี งั , อธิ ะ คะยาสเี ส, ตถาคะเตนะ สะเทวะเก โลเก สมาระเก สะพรหั มะเก สสั สะมะณะ พราหมะณิยา ปะชายะ สะเทวะมะนุสสายะ อะนตุ ตะรัง สมั มาสมั โพธิง อะภสิ มั พทุ ธัง สาธุ โน ภันเต,อิเมหิ สัก-กาเรหิ อะภิปูชะยามิ, สวากขาตัญจะนะมามิ, มัยหัง ทีฆะรัตตัง หติ ายะ สุขายะฯ คำแปล ข้าแตพ่ ระผู้มพี ระภาคผู้เจริญ ขา้ พระพุทธเจา้ ได้จารกิ ตามรอยบาทพระศาสดา มาถงึ แล้ว ขอถวาย อภวิ าท ตน้ พระศรมี หาโพธ์ิ และพระเจดยี น์ ้ี อนั เปน็ สงั เวชนยี สถานทก่ี ลุ บตุ รผมู้ ศี รทั ธา ควรมาเหน็ เปน็ สถานท่ี พระตถาคตเจา้ ตรสั รพู้ รอ้ มเฉพาะแลว้ ซง่ึ อนตุ ตระสมั มาสมั โพธญิ าณในโลก พรอ้ มทง้ั เทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมสู่ ตั ว์ พร้อมทั้งสมณะพราหมณ์เทวดาและมนษุ ย์ ณ ตำบล คยาสสี ะประเทศแหง่ นี้ ฯ ขา้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ ขา้ พระพทุ ธเจา้ ขอบชู าโดยยง่ิ ดว้ ยเครอ่ื งสกั การะเหลา่ น้ี และขอนอ้ มระลกึ ถงึ พระธรรม ทีท่ รงแสดงไว้ดีแลว้ ขออานุภาพแห่งการสกั การะในครงั้ นี้ จงเป็นไปเพือ่ ประโยชน์ เพอ่ื ความสขุ แกข่ า้ พระพทุ ธเจ้า ตลอดกาลนาน เทอญ ฯ. คำอธษิ ฐานใตต้ น้ พระศรมี หาโพธ์ิ ขอเดชะดว้ ยอำนาจแหง่ บญุ กศุ ลเจตนาอนั มงุ่ มน่ั ความเพยี รอนั บรสิ ทุ ธ์ิ ทข่ี า้ พระพทุ ธเจา้ ตง้ั ใจเดนิ ทาง จารกิ มาในครง้ั น้ี เพอ่ื นอ้ มกราบนมสั การองคพ์ ระพทุ ธ ดว้ ยศรทั ธาตอ่ การตรสั รธู้ รรมขององคพ์ ระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ด้วยบุญกุศลนี้ ขอจงเป็นบารมี เป็นพลวะ ปัจจัย อนุสัยตามส่งให้ข้าพเจ้า ได้เกิดปัญญาญาณ ได้ดวงตา เหน็ ธรรม รูแ้ จง้ เหน็ จรงิ รูย้ ่งิ เหน็ ตาม ซ่ึงพระธรรมทพ่ี ระสมั มาสมั พุทธเจา้ ไดท้ รงตรสั รู้ชอบแลว้ ณ สถานที่ แหง่ น้ี หากแมน้ วา่ ถา้ ขา้ พระพทุ ธเจา้ ยงั เวยี นวา่ ยตายเกดิ อยใู่ นวฏั สงสาร ขอใหข้ า้ พเจา้ จงประสบความบรบิ รู ณ์ ด้วยศีลและโภคทรัพย์ พร้อมด้วยสติปัญญา มีบุญที่จักได้บำเพ็ญธรรมตามรอยบาทแห่งองค์พระศาสดา จนถึงความพ้นทุกขค์ ือพระนพิ พานในอนาคตกาล..ตอ่ กาลไม่นานดว้ ยเทอญ สาธุ..สาธ.ุ .สาธุ *ท่มี า: พระวิเทศโพธคิ ุณ, พระพุทธมนตฉ์ บบั ตามรอยบาทพระศาสดาอินเดยี -เนปาล, หน้า 11* 2.ธัมเมกขะสถปู ....สถานท่แี สดงปฐมเทศนา คำบชู าธมั เมกขะสถปู วันทามิ ภันเต ภะคะวา อิมัง ธัมเมกขะเจติยัง สังเวชะนียัง ฐานัง, ยัตถาคะโตมหิ, สัทธัสสะ กลุ ะปตุ ตสั สะ ทสั สะนยี งั , อาสาฬะหะปณุ ณะมยิ งั , อธิ ะ พาราณะสยิ งั อสิ ปิ ะตะเน มคิ ะทาเย ตะถาคะเตนะ ปญั จะวคั คยิ านงั ภกิ ขนู งั อะนตุ ตะรงั ธมั มะจกั กงั ปะฐะมงั ปะวตั เตตวา จตั ตาริ อะรยิ ะสจั จานิ ปะกาสติ านฯิ สาธุ โน ภนั เต, อเิ มหิ สกั กาเรหิ อะภิปูชะยาม,ิ สวากขาตัญจะ นะมามิ, มัยหงั ทีฆะรตั ตัง หติ ายะ สขุ ายะฯ 260

คำแปล ขา้ แตพ่ ระผมู้ พี ระภาคเจา้ ผเู้ จรญิ ขา้ พระพทุ ธเจา้ ไดจ้ ารกิ ตามรอยบาทพระศาสดามาถงึ แลว้ ขอถวายอภวิ าท ธมั เมกขะสถปู น้ี อนั เปน็ สงั เวชนยี สถาน ทก่ี ลุ บตุ รผมู้ ศี รทั ธา ควรมาเหน็ เปน็ สถานทพ่ี ระตถาคตเจา้ ไดย้ งั พระธรรมจกั ร ใหเ้ ปน็ ไปแกพ่ ระภกิ ษปุ ัญจวคั คยี ์ ทีป่ ่าอสิ ิปตนมฤคทายวัน แขวงเมอื งพาราณสีนี้ ในวนั อาสาฬหปณุ ณมีฯ ขา้ แต่พระองคผ์ เู้ จรญิ ข้าพระพทุ ธเจา้ ขอบชู าโดยยง่ิ ดว้ ยเครอื่ งสักการะเหล่าน้ี และขอนอ้ มระลกึ ถึง พระธรรมทท่ี รงแสดงไวด้ แี ลว้ ขออานภุ าพแหง่ การบชู าสกั การะในครง้ั น้ี จงเปน็ ไปเพอ่ื ประโยชน์ เพอ่ื ความสขุ แกข่ า้ พระพทุ ธเจ้า ตลอดกาลนาน เทอญฯ คำอธษิ ฐานธัมเมกขะสถูป พทุ ธองคท์ รงประสบความสำเร็จในการแสดงธรรม ทรงไดบ้ ริวารเป็นอริยสาวกผู้ไดด้ วงตาเห็นธรรม องคแ์ รกและไดบ้ รวิ ารชดุ แรก ดว้ ยอำนาจศรทั ธาทม่ี งุ่ มน่ั ตง้ั ใจเดนิ ทางมาไหวส้ ถานทน่ี ้ี ขอจงเปน็ บารมี การได้ ดวงตาเหน็ ธรรม รแู้ จง้ เหน็ จรงิ ตามธรรมทพ่ี ระพทุ ธองคท์ รงแสดงแลว้ จงบงั เกดิ มแี กข่ า้ พเจา้ ดว้ ย ขอบญุ กศุ ลน้ี จงประทานพร ใหล้ กู หลาน บรวิ าร ญาตมิ ติ รของขา้ พเจา้ (ระบชุ อ่ื .......) มสี ตปิ ญั ญา เจรญิ รงุ่ เรอื ง ประสบความสขุ สำเรจ็ สมหวัง (เรอื่ งระบุ.......) ดว้ ยเทอญ ฯ. *ทมี่ า: พระวิเทศโพธิคณุ , พระพทุ ธมนต์ฉบับตามรอยบาทพระศาสดาอนิ เดีย-เนปาล, หนา้ 120* 3.กุสนิ ารา....แดนปรนิ ิพพาน คำบชู าองคพ์ ระพุทธปรนิ พิ พาน วันทามิ อิมัง พุทธะปะฏิมัง, อิมัสมิง กุสินารายัง สาละวะโนทเย พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปรินพิ พานฏั ฐาเน. อะยัง วนั ทะนา อัมหากงั ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะฯ คำแปล ข้าพเจ้าขอกราบไหว้พระพุทธปฏิมานี้ ณ สาลวโนทยาน ที่เมืองกุสินารานี้ อันเป็นสถานที่เสด็จ ดบั ขนั ธปรนิ พิ พานของพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ขอการกราบไหวน้ ้ี จงเปน็ ไปเพอ่ื ประโยชน์ เพอ่ื ความสขุ ความเจรญิ ของขา้ พเจา้ ท้งั หลาย เทอญ ฯ. *ทีม่ า: พระวิเทศโพธคิ ุณ, พระพทุ ธมนตฉ์ บบั ตามรอยบาทพระศาสดาอนิ เดยี -เนปาล, หน้า 122* 4.ลุมพนิ ี ...แดนประสูติ คำบชู าแดนประสูติ วันทามิ ภันเต ภะคะวา อิมัง สังเวชะนียัง ฐานัง, ยัตถาคะโตมหิ, สัทธัสสะ กุละปุตตัสสะ ทัสสะนยี ัง, อิธะ ลุมพนิ ี วะเน ตะถาคะเตนะ มัชฌเิ มสุ ชะนะปะเทสุ อะรยิ ะเกสุ มะนสุ เสสุ อปุ ปนั นังฯ ภาสิตา จะ อาสะภิวาจา อัคโคหะมัสมิ โลกัสสะ เชฏโฐหะมัสมิ โลกัสสะ, เสฏโฐหะมัสมิ โลกัสสะ, อะยะมันติมา เม ชาติ, นตั ถทิ านิ ปนุ ัพภะโวติ ฯ สาธุ โน ภันเต, อเิ มหิ สกั กาเรหิ อะภปิ ชู ะยามิ, สวากขาตัญจะ นะมามิ, มยั หัง ทีฆะรัตตงั หติ ายะ สขุ ายะ 261

คำแปล ขา้ แตพ่ ระผมู้ พี ระภาคเจา้ ผเู้ จรญิ ขา้ พระพทุ ธเจา้ ไดจ้ ารกิ ตามรอยบาทพระศาสดามาถงึ แลว้ ขอถวาย อภิวาทสังเวชนียสถานที่กุลบุตร ผู้มีศรัทธาควรทัศนา(ควรเห็น) อันเป็นสถานที่ที่พระตถาคตเจ้า เสด็จอุบัติ ขน้ึ แลว้ ในหมมู่ นษุ ยช์ าวอรยิ กะ ในมชั ฌมิ ชนบท ณ สวนลมุ พนิ นี ้ี และไดต้ รสั อาสภวิ าจาวา่ “เราจะเปน็ ผเู้ ลศิ ทส่ี ดุ ในโลก เราจะเปน็ ผเู้ จรญิ ทส่ี ดุ ในโลก เราจะเปน็ ผปู้ ระเสรฐิ ทส่ี ดุ ในโลก การเกดิ ของเรานเ้ี ปน็ ชาตสิ ดุ ทา้ ย บัดนจี้ ะไม่มภี พใหม่อีก” ขา้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ ขา้ พระพทุ ธเจา้ ขอบชู าโดยยง่ิ ดว้ ยเครอ่ื งสกั การะเหลา่ น้ี และขอนอ้ มระลกึ ถงึ พระธรรมทท่ี รงแสดงไวด้ แี ลว้ ขอการบชู าสกั การะในครง้ั นจ้ี งเปน็ ไปเพอ่ื ประโยชน์ เพอ่ื ความสขุ แกข่ า้ พระพทุ ธเจา้ ตลอดกาลนาน เทอญ ฯ. คำอธษิ ฐาน ณ แดนประสูติ ด้วยอำนาจแห่งบุญกุศล ที่ข้าพเจ้าได้จาริกธรรม บำเพ็ญบุญ มาตลอดเส้นทาง สังเวชนียสถานทั้ง ส่ี ตำบลครบบรบิ รู ณ์ ดว้ ยศรทั ธาเลอ่ื มใสตอ่ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ในครง้ั น้ี ขอจงเปน็ บารมอี ำนวยผลใหช้ วี ติ ของขา้ พระพทุ ธเจา้ จงบงั เกดิ ความสำเรจ็ เจรญิ รงุ่ เรอื งในหนา้ ทก่ี ารงาน หากเวยี นวา่ ยตายเกดิ ในวฎั ฎสงสาร ขอให้ข้าพเจ้าจงเกิดในตระกูลดี มีสัมมาทิฎฐิ ได้พบพระพุทธศาสนา ในทุกภพทุกชาติ ได้พบพระพุทธเจ้า ได้ฟงั ธรรม มีปญั ญารูธ้ รรมท่ที รงแสดงแล้ว จนไดบ้ รรลถุ ึงซง่ึ ความพ้นทกุ ข์คอื พระนพิ พานด้วยเทอญ...ฯ *ที่มา: พระวเิ ทศโพธคิ ุณ, พระพทุ ธมนตฉ์ บบั ตามรอยบาทพระศาสดาอินเดยี -เนปาล, หน้า 114* 262

การซอื้ ตั๋วรถไฟในอนิ เดียดว้ ยตัวเอง วิธที ่งี า่ ยทส่ี ุดสำหรบั ชาวตา่ งชาติทีจ่ ะซ้อื ตว๋ั รถไฟในอนิ เดียดว้ ยตนเอง ก็คือ การใช้บริการจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวซึ่งมีอยู่แทบจะทุกสถานี โดยคุณควร จองตั๋วก่อนวันเดินทางจริงอย่างน้อย 1 วัน เพราะการซื้อตั๋วในวันที่ออกเดินทาง นอกจากคุณอาจจะไม่ไดต้ ว๋ั ตามท่ตี ้องการแลว้ คณุ อาจได้ตัว๋ แต่ไมม่ ที ี่นง่ั คณุ ไมต่ อ้ งเสยี คา่ บรกิ ารในการใชบ้ รกิ ารทศ่ี นู ยบ์ รกิ ารนกั ทอ่ งเทย่ี ว แตอ่ าจมี เจ้าหน้าที่บางราย-บางสถานีเรียกร้องขอของที่ระลึก-ของฝาก หรืออะไรก็ตามที่ ทำให้เขารู้สึกมีความสุขจากการให้บริการมากขึ้น แต่จากประสบการณ์ส่วนตัว ของผเู้ ขียน เจ้าหน้าท่ีส่วนใหญ่มักใหบ้ ริการด้วยอธั ยาศยั ไมตรที ด่ี ี ขนั้ ตอนการซือ้ ตั๋วรถไฟ 1. ขอสลปิ (Slip) หรอื แบบฟอรม์ สำหรบั ซอ้ื ตว๋ั รถไฟทเ่ี คานเ์ ตอร์ “สอบถามและ สลิป” (Inqury&Slip) 2. กรอกรายละเอียดต่างๆ เช่น ชื่อ-นามสกุลผู้ที่ต้องการซื้อตั๋ว ชื่อขบวนรถไฟ เลขทข่ี บวนรถไฟ และอน่ื ๆตามทม่ี รี ะบไุ วใ้ นสลปิ โดยอาจดชู อ่ื ขบวนและหมายเลข ขบวนรถที่เป็นจุดหมายปลายทางได้จากบอร์ดที่สถานีรถไฟ แต่บ่อยครั้งที่ข้อมูล บนบอรด์ ตามสถานรี ถไฟ มกั ไมใ่ ชข่ อ้ มลู ทใ่ี ชจ้ รงิ ในปจั จบุ นั คณุ จงึ ควรเชค็ และจด รายละเอียดทุกอย่าง (ย้ำว่าทุกอย่าง) ของขบวนรถไฟ ที่เป็นจุดหมายปลายทาง ของคุณ จากเวบ็ ไซต์ของการรถไฟอนิ เดยี กอ่ นไปซอ้ื ต๋ัว www.indianrail.gov.in/between_Imp_Stations.html 3. นำสลิปทีก่ รอกขอ้ มูลเรียบร้อยแล้ว ไปเข้าควิ ซอื้ ตว๋ั ทชี่ ่องจำหนา่ ยตว๋ั สำหรับ นกั ทอ่ งเทย่ี วต่างชาติ รวมทงั้ ผูห้ ญงิ คนชรา คนพิการ หรอื ทหารผา่ นศึก โดยมาก 263

ตามสถานีต่างๆจะมีช่องทางพิเศษไว้ในช่องสุดท้ายที่เขียนไว้ว่า For Disabled and Ladies ที่สำคัญคุณควรตรวจสอบข้อมูลตามหน้าตั๋วกับเจ้าหน้าที่อย่าง ละเอยี ด และถา้ เปน็ ไปได.้ ..กจ็ า่ ยเงนิ คา่ ยนื ยนั ตว๋ั เพม่ิ อกี นดิ เพอ่ื ความสบายใจ(และ สบายกาย)ของคุณเอง รายละเอียดที่ควรรบู้ นหน้าต๋ัว 1. RAC ยอ่ มาจาก Reservation against Cancellation หรอื แปลไดว้ า่ ‘ลำดบั ทจี่ องเม่ือหักลบกบั การแจ้งยกเลิกต๋วั ’ ซ่งึ จะมีตวั เลขตอ่ ท้ายคำวา่ RAC เสมอ และตัวเลขดงั กลา่ วจะบอกใหค้ ุณทราบวา่ ตวั๋ เดนิ ทางของคณุ ต้องรอการแจ้ง ยกเลกิ จากผซู้ ้ือต๋ัวท่ัวประเทศอนิ เดียอีกก่ีลำดบั เช่น RAC/10 หมายความวา่ ตวั๋ ใบนั้นต้องรอการแจง้ ยกเลิกอีก 10 ลำดบั 2. PNR ยอ่ มาจาก Passenger Name Record ซง่ึ หมายถงึ รายละเอยี ดเกย่ี วกบั ผู้โดยสาร โดย PNR จะเป็นเลขรหัสที่เชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมดของผู้โดยสาร ตามที่ผู้โดยสารให้ไว้บนสลิปที่นำไปซื้อตั๋ว ตัวเลขชุดนี้จะถูกพิมพ์ไว้ที่มุมบน ด้านซ้ายของตั๋ว ซึ่งการเช็คสถานะของตั๋ว หรือการเปลี่ยนแปลงการเดินทาง รวมทงั้ การขอคนื ตั๋ว จะตอ้ งใชต้ ัวเลขชดุ นีใ้ นการอ้างอิง 3. Train No. หรือหมายเลขขบวนของรถไฟ เนือ่ งจากรถไฟของอนิ เดยี จะมาถงึ สถานีไม่ค่อยตรงเวลา (โดยมากก็จะมาหลังเวลานั่นล่ะ) ก่อนขึ้นรถจึงต้องดู หมายเลขขบวนใหถ้ ว้ นถ่ี มเิ ชน่ นน้ั ทา่ นอาจไปผดิ เมอื งหรอื ตอ้ งหนา้ แตก รบี ลง จากรถแทบไม่ทนั 4. หากคุณซื้อตั๋วแบบยืนยันการจอง ควรตรวจตราให้แน่ใจว่ามีข้อความนี้อยู่บน หนา้ ตัว๋ Journey Cum Reservation Ticket (ตัว๋ ทีย่ ืนยันการจองแลว้ ) 5. Coach Seat/Berth หรอื หมายเลขตขู้ บวน เลขทน่ี ง่ั หรอื เตยี งนอน มกั ปรากฏ ใหค้ ณุ เหน็ เมอ่ื คณุ ซอ้ื ตว๋ั จองแบบยนื ยนั ทน่ี ง่ั เทา่ นน้ั เพราะโดยปกติ ตวั หนงั สอื 264

RAC/ตัวเลข(รอคิว) จะถูกพิมพ์ไว้ตรงตำแหน่งของเลขตู้ขบวนและเลขที่นั่ง เพราะต้องรอให้ระบบตัดการยกเลิกการ ‘จองซื้อ’ ก่อน คุณจึงจะทราบเลข ตขู้ บวนและเลขทน่ี ง่ั หลงั จากตรวจสอบผา่ นระบบออนไลนห์ รอื การตรวจสอบ กอ่ นออกเดนิ ทางทส่ี ถานรี ถไฟ (อย่าไดค้ ดิ ว่า RAC คือเลขตขู้ บวน และตวั เลข ที่ตามมา คอื เลขทน่ี ั่งเหมอื นฉันเดด็ ขาด) การเช็คสถานะตวั๋ (ไม่เรยี งตามลำดับความสะดวก) 1. เชค็ ที่บอรด์ ทีต่ ิดไว้ ทสี่ ถานีรถไฟท่คี ณุ จะเดนิ ทาง 2. เชค็ กับเจ้าหน้าท่ี ณ ศนู ยด์ ูแลนักทอ่ งเทยี่ วท่ีสถานรี ถไฟ 3. เชค็ สถานะตว๋ั ออนไลนท์ ี่ http://www.indianrail.gov.in/pnr_stat.html ตัวอย่างต๋ัวรถไฟ 265

การกราบแบบอษั ฎางคประดิษฐ์ การกราบแบบอัษฎางคประดิษฐ์ มีความหมายโดยนัยแฝงอยู่ในทุกท่วงท่า ของการกราบ เรม่ิ ตน้ จาก...ทา่ ยนื ตรงพนมมอื ทห่ี นา้ อก อนั เปน็ สญั ลกั ษณข์ องความเปน็ หนง่ึ เดยี วของเมตตาและปญั ญา ทา่ นม้ี นี ยั ถงึ การตง้ั จติ เพอ่ื ขออทุ ศิ ตนสกู่ ารตรสั รู้ เพ่ือยงั ประโยชน์สุขตอ่ สรรพชีวิตทง้ั มวล จากนน้ั เมอ่ื เรม่ิ เคลอ่ื นมอื ไปยงั ตำแหนง่ ของจกั รในรา่ งกายทก่ี ลางกระหมอ่ ม หนา้ ผาก ลำคอ และ หวั ใจ ตา่ งก็มีนยั ดงั นี้... ตำแหนง่ กลางกระหมอ่ ม หมายถงึ การตง้ั ความปรารถนาทจ่ี ะเปน็ ใหไ้ ดด้ ง่ั องคพ์ ระสมั มาสัมพุทธเจ้า เพ่ือปกปกั รักษาสรรพชีวิตทัง้ มวล ตำแหน่งหน้าผาก หมายถึง การตั้งความปรารถนาที่จะมุ่งสู่การหยั่งรู้เพื่อ สามารถแลเหน็ ความทกุ ขย์ ากของทุกสรรพชีวิต ตำแหนง่ ลำคอ หมายถึง การต้ังความปรารถนาทจี่ ะบรรลุธรรม อันเปน็ คำ ส่งั สอนเพอ่ื ปลดปล่อยสรรพสตั ว์ออกจากห้วงทกุ ข์แห่งวฏั สงสาร ตำแหนง่ หวั ใจ หมายถงึ การตง้ั ความปรารถนาทจ่ี ะเขา้ ถงึ จติ ศกั ดส์ิ ทิ ธส์ิ รรค์ สร้างปญั ญาในอนั ทจ่ี ะปลดปล่อยสรรพสัตว์ เมอ่ื นอ้ มตวั ลงกราบนอนราบไปกบั พน้ื กห็ มายถงึ การยนิ ดอี ทุ ศิ ตน พรอ้ ม เขา้ สูว่ ฏั สงสาร เพ่อื ช่วยสรรพสัตวอ์ นื่ ๆ เมื่อกลบั มายืนขึน้ อกี คร้งั ก็มคี วามหมายถึงการพร้อมทีจ่ ะนำพาสรรพสตั ว์ อื่นๆ ใหห้ ลดุ พน้ ออกจากห้วงทกุ ข์แหง่ วฏั สงสารด้วยกัน การกราบสักการะแบบอัษฎางคประดิษฐ์ หรือ “ชากเซล” (Chag Tsel) ในภาษาธเิ บต มคี วามหมายทีล่ ุ่มลกึ คำวา่ “ชาก” (chag) หมายถงึ กายศกั ดส์ิ ทิ ธ์ิ วาจาศกั ดส์ิ ทิ ธ์ิ และจติ ศกั ดส์ิ ทิ ธ์ิ ของพระพทุ ธเจา้ พระโพธสิ ตั ตท์ ง้ั หลาย สว่ นคำวา่ “เซล” (tsel) หมายถงึ การอทุ ศิ 266

ตนอยา่ งจรงิ จังและจริงใจ ท่ีจะกา้ วตามรอยพระพทุ ธบาท บนหนทางอันถกู ต้อง มงุ่ สู่การบรรลเุ ปน็ พระโพธิสตั ต์ หรอื พระพุทธเจา้ อัษฎางคประดษิ ฐ์ มนี ัยยะทั้งต่อวถิ ภี ายในและวถิ ีภายนอก วถิ ภี ายนอก คอื การเคลอ่ื นไหวของร่างกายในการกราบสกั การะ วถิ ีภายใน คอื ความคดิ ความรูส้ กึ ของจติ วิญญาณที่เกิดขนึ้ ขณะท่ีรา่ งกายกำลัง ดำเนนิ อยู่บนวถิ ภี ายนอก การเคลอ่ื นไหวของอษั ฎางคประดษิ ฐ์ จะเรม่ิ ตน้ ดว้ ยการยนื ตวั ตรง พนมมอื ทร่ี ะดบั หนา้ อก โดยใหน้ ว้ิ หวั แมม่ อื อยภู่ ายในองุ้ มอื เปน็ รปู ดอกบวั จากนน้ั เคลอ่ื น มอื ไปยงั ตำแหนง่ กลางกระหมอ่ ม...หนา้ ผาก...ลำคอ...และหนา้ อก อนั เปน็ ตำแหนง่ ที่ตัง้ ของจกั รท่สี ำคญั ในรา่ งกาย จากนน้ั เหยยี ดแขนออกไปขา้ งหนา้ ยอ่ เขา่ ลงพรอ้ มกบั เคลอ่ื นตวั ไปขา้ งหนา้ จนลำตวั เหยยี ดตรงกบั พน้ื ตอ้ งระวงั ไมใ่ หห้ วั เขา่ แตะพน้ื กอ่ นทล่ี ำตวั จะเหยยี ดออกไป แล้วเคลื่อนลำแขนทั้งสองข้าง...ไปด้านข้างของลำตัว ตามแนวโค้งของวงกลม... พร้อมกบั คอ่ ยๆ ชันตัวขึ้นบนเข่า...ยืดตัวขึ้น...กลับสทู่ ่ายนื ตรงตอนเร่ิมตน้ ขอ้ สำคญั คอื ...อยา่ ลมื เมตตาและรกั ตวั เอง ใหม้ ากพอทจ่ี ะอดทน... โดยไมต่ อ้ ง ฝืนตนเองจนเกนิ ไป ประโยชนภ์ ายนอกทจ่ี ะไดร้ บั คอื รา่ งกายของเราจะคอ่ ยๆ ยดื หยนุ่ แขง็ แรง มากขน้ึ ทอ่ พลงั งานตา่ งๆในรา่ งกายถกู ชะลา้ ง การไหลเวยี นของปราณในรา่ งกาย ดขี ้นึ ระบบประสาทสัมผัสตน่ื ตัว เมอ่ื ปฏบิ ตั ไิ ปไดถ้ งึ ระดบั หนง่ึ ผปู้ ฏบิ ตั จิ ะสมั ผสั ไดเ้ อง ถงึ การเคลอ่ื นไหวของ รา่ งกาย ประดจุ การเคลอ่ื นไหวของเกลยี วคลน่ื อนั ออ่ นนมุ่ แตแ่ ฝงไปดว้ ยอานภุ าพ อนั ทรงพลัง ขอ้ มูลจาก www.navagaprom.com 267

เสน้ ทางสรา้ งบญุ 1. เชญิ รว่ มสรา้ งอโุ บสถวดั วงั หนิ ตดิ ตอ่ บรจิ าคไดท้ พ่ี ระครปู ลดั วมิ ลสริ วิ ฒั น์ เจา้ อาวาส หรอื พระมหาวิเชียร ชนิ วโํ ส โทร.08-7308-4387 หรือโอนเงินเข้าบญั ชี ธนาคารออมสนิ สาขาท่ามะปราง พิษณโุ ลก บญั ชเี ลขท่ี 04-2708-20-0407020 2. กองทนุ จติ ภาวนาชนิ วงส์ เพอ่ื การปฏบิ ตั วิ ปิ สั สนากรรมฐาน ตดิ ตอ่ สอบถาม ได้ที่ คุณสมจติ ร คำมนิ เสก โทร.08-9644-3467 หรอื บริจาคโดยการโอนเงนิ เข้า บญั ชีธนาคารไทยพานชิ ย์ บญั ชีเลขท่ี 873-203-755-9 3. กองทนุ เผยแผธ่ รรม เพอ่ื ผลติ สอ่ื วซี ดี ธี รรมะ และหนงั สอื ธรรมะ เพอ่ื การ เจรญิ สติ บรจิ าคไดท้ ่ี พระมหาวเิ ชยี ร ชนิ วโํ ส โทร.08-7308-4387 หรอื โอนเงนิ เขา้ บญั ชธี นาคารกรงุ เทพฯ สาขาถนนสงิ หวฒั น์ พษิ ณโุ ลก บญั ชเี ลขท่ี 535-0-22451-4 4. เพื่อสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา-ไฟฟ้า ติดต่อบริจาคได้ที่วัดวังหิน โทร.08-7308-4387 หรอื โอนเงนิ เขา้ บญั ชธี นาคารกรงุ เทพฯ สาขาถนนสงิ หวฒั น์ พิษณโุ ลก บญั ชเี ลขท่ี 535-0-274717 5. โครงการบูรณปฏิสังขรณ์สถานที่ประสูติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาส มหามงคล 60 ปี ราชาภเิ ษก และ 84 พรรษามหาราชา ดรู ายละเอยี ดเพม่ิ เตมิ ที่ www.lumbinidevelopment.org 268

6. จิตอาสาช่วยงานพระพุทธเจ้าในพุทธภูมิ ขอเรียนเชิญท่านผู้มีศรัทธา ผมู้ เี วลา ผมู้ ที รพั ย์ ผมู้ บี คุ คล ผมู้ ปี ญั ญาในงาน รว่ มเปน็ อาสาสมคั รชว่ ยงานบญุ ท่ี วดั ไทยในพทุ ธภมู ิ สามารถเขา้ ไปดรู ายละเอยี ดไดท้ ่ี www.watthailumbini-th.org 7. รว่ มทำบญุ กับวัดไทยในแดนพทุ ธภูมิ ณ ประเทศอนิ เดยี -เนปาล หรือ ต้องการขอความชว่ ยเหลือ โปรดติดตอ่ ... มลู นิธวิ ดั ไทยกสุ ินาราเฉลมิ ราชย์ 373/4-5 ซ.รามคำแหง 39 แยก 7 เขตวังทองหลาง กรงุ เทพฯ 10130 Tel. : 0-2184-4539 – 40, Fax. : 0-2184-4541 Website : www.mulnidhiwatthaikusinara.org Email : [email protected] วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ (๙๕๐) ประเทศอินเดีย Wattthai Kusinarachalermraj P.O & Distt, Kushinagar 274403 (U.P.) INDIA Tel. : (91) 5564-271189, Fax. : (91) 5564-272089 Website : www.watthaikusinara.org, www.watthaikusinara-th.org E-mail : [email protected] วัดไทยลมุ พนิ มี หาวิหาร (๙๗๙) ประเทศเนปาล Royal Thai Monastery Lumbini Lumbini Sacred Garden, East Monastic Zone, Dist.Rupandihi, Lumbini, Nepal Tel. : (977)-71-580222, Fax. : (977)-71-580271 Website : www.watthailumbini.org E-mail : [email protected]

วดั ไทยเชตวันมหาวิหาร (๙๘๐) นครสาวตั ถี ประเทศอินเดีย Wat Thai Chtavan Mahavihar Sravasti Bahrampur – Baharaich Highway, P.O., Sravasti, Distt Balrampur., (U.P) India. Tel. : (91) 9415-270696, (91) 9415-261662 Website : www.watthaichetavan.org E-mail : [email protected] หรือ [email protected] “พุทธวิหาร สาลวโนทยาน ๙๖๐” สุเนาลี – อินเดยี Ninth and Sixty Salavanotayan Gorakhpur – Sonauli Road, Near Sonauli Border P.O., Nautanwa, Distt. Maharajgant, (U.P) Tel. : (91) 9415-270696, (91) 9415-261662 Website : www.watthai960.org E-mail : [email protected] 270

เกย่ี วกบั ผเู้ ขยี น ผู้หญิงตัวสั้นๆ ยิ้มกว้างๆ ตาตี่ๆ รักอิสระเสรี มีอารมณ์ขัน(แต่บางวันก็ ‘รมณเ์ สีย) เป็นคนจังหวดั พิษณุโลกโดยกำเนิด เกิดหลงั เหตุ ‘ตลุ าเดือด’ ปฉี ลู การศกึ ษา ร.ร.อภิชาติบุตรวิทยา (อนุบาล), ร.ร.อนุบาลพิษณุโลก (ประถมศึกษา), ร.ร.เฉลมิ ขวัญสตรี (มธั ยมต้น-มัธยมปลาย), มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ (ปรญิ ญาตรี- เกียรตนิ ยิ ม) คณะมนุษยศาสตร์ ภาควชิ าการส่อื สารมวลชน วิชาเอกวิทยุโทรศน์ (เพื่อเลี้ยงชีพ) วชิ าโทศาสนาและปรชั ญา (เพ่ือเลยี้ งใจ) ประสบการณ์การทำงาน อดีตนักเขียนบทโทรทัศน์ ตัดต่อวิดีโอ เป็นผู้กำกับเวที เป็นตัวประกอบใน รายการทวี ี เปน็ นกั พากย์ เปน็ นกั แปล ฯลฯ แลว้ จบั พลดั จบั ผลไู ปไดด้ เี ปน็ ผจู้ ดั การ การตลาดของบรษิ ทั ด้านนวิ มีเดยี (New Media) แห่งหน่ึง... ปัจจุบันหันหลังให้แสงไฟ(และรถติด)ของกรุงเทพฯเมืองฟ้าอมร แล้วมา ทำงานในคลินิกโรคตาของน้องชายที่บ้านเกิด รับงานแปลบ้าง เขียนหนังสือบ้าง ถูศาลาวัดบา้ ง ชอ่ งทางติดต่อ [email protected] 271

รายนามผ้รู ว่ มบุญ คณุ ณฐั ธ์วรา ภกั ดีโต 1,000 บาท คณุ จไุ ร พวงสมบัติ 1,000 บาท บา้ นธรรมทาน 20,000 บาท คุณสิทธชิ ัย, เต็มสิร,ิ ทพิ ย์เกสร, พรู่ ะหง ตู้บริจาคสอ่ื ธรรมะ หอสมุดชนิ วงส์ วดั วงั หิน 5,000 บาท ช้อยตะคุ 1,000 บาท คณุ มาริสชญา ศรีแกว้ 1,000 บาท คณุ อมิ -คุณชนุ้ ธาราวชั รศาสตร์ 5,000 บาท คุณสภุ าพรรณ ไทยววิ ฒั นะวงศ์ 1,000 บาท คณุ อุบล-ศุภวัฒน์ ธาราวชั รศาสตร์ และครอบครวั 5,000 บาท คุณดวงพร ทองน้อย 1,000 บาท คุณรงรอง เพง็ ปาน 1,000 บาท คุณชุลกี ร ทองเผอื ก 3,000 บาท ด.ช.สริ วิชญ์, ด.ช.สริ ภพ ธรี านันตชยั คุณวสิ ตู ร สวนพลาย 3,000 บาท คณุ อุษณีย์ ติลภทั ร 2,500 บาท และครอบครวั 1,000 บาท คุณพชั รีวรรณ ศรีเพ็ชร์ 1,000 บาท พระสุนนั ท์ สมุ งฺคโล 2,000 บาท คุณศศิธร วิกิจการโกศล 1,000 บาท คุณพจนยี ์ ธารประดบั และครอบครัว 2,000 บาท คณุ วรรณอร มาลีพัตร 1,000 บาท คณุ รุ่งทพิ ย์ กล่อมจันทร ์ 1,000 บาท รศ.ดร.ทิพยวรรณ กติ ตพิ ร 2,000 บาท คณุ ลลดิ า เทียนทอง 1,000 บาท ผศ.ดร.ปาจรีย์ ทองสนิท 2,000 บาท คุณพรทพิ ย์ นวลศิริ 2,000 บาท คณุ เปียโน วัชราพลเมฆ 1,000 บาท คุณจิรวรรณ กาญจนานนั ท์ 2,000 บาท คณุ เบญจวรรณ สวา่ ง 1,000 บาท คณุ ธนชั ชาพร พงษ์เย็น 2,000 บาท คณุ พอ่ อดลุ ย-์ คณุ แมพ่ ชระ นกั บรรเลง คุณสุดจติ ร์ ฉตั รสมสง่า และครอบครวั 1,000 บาท 2,000 บาท คณุ กุลวดี โล่หส์ วัสด์ิกุล 900 บาท คุณอษุ า พูลสวสั ด ์ิ 2,000 บาท คณุ ชาญชยั เลศิ ทวีเดช 800 บาท คุณจรุญลกั ษณ์ วงศ์ชูพนั ธ์ 1,800 บาท คณุ เสนห่ า บณุ ยรกั ษ ์ 800 บาท คณุ ภัคศรัณย์ โพธเิ์ ย็นญาติ 1,200 บาท คุณพลอยพิชญ์ ชวนชยั สิทธิ์ 700 บาท คุณไพรพรรณ อินทะวชิ ัย 1,100 บาท คุณทินน์ ตชิ ลิ ันธ์ 650 บาท รา้ นมติ รภาพโฟโตกราฟฟี 1,000 บาท คณุ นฤมล เบญจสวุ รรณเทพ 600 บาท คณุ นลพรรณ กมลวรเดช 1,000 บาท คณุ จิตตาภัทร์ โชติสิรภิ ัควรกลุ 600 บาท คุณอารี วรรณกุล 1,000 บาท คุณณปภัช แสงโสภณ และครอบครัว คณุ ปาริชาต เนตรแกว้ 1,000 บาท 600 บาท พญ.สุนี จิรสมิทธา 1,000 บาท คณุ สุมณฑา ฤทธิรอน 500 บาท

ครอบครวั เสมามิ่ง 500 บาท คณุ สมนกึ พมุ่ สลตุ 300 บาท คณุ จนั ทรจ์ ริ า พันธุลาภ 500 บาท คุณสำเนยี ง เพ็งพ่มุ 300 บาท คุณณัฐธยาน์ วิริยะชาญกลุ 500 บาท คุณสอุ ังคณา รุ่งรส 200 บาท คณุ เพียงแข อินทรทัศน์ 500 บาท คณุ วนิ ติ า สูท้ กุ ทศิ 200 บาท คณุ สุนยี ์ สถิรอังกรู 500 บาท คณุ อไุ ร จันทร์ครี ี 200 บาท คณุ บอย, แอ๊ด, มุก พลอยใส 500 บาท ฉวิสรรค์ ชาวไทย 200 บาท ครอบครัวคูณขนุ ทด 500 บาท คณุ พีรพฒั น์ ชาวไทย 200 บาท คณุ ชนุ กมลวรเดช 500 บาท คณุ สมเจตน์ ล้ิมคาง 200 บาท อาจารย์สะอาด แสนผ่องจบั 500 บาท คณุ ฉันทนา รงุ่ เรือง 200 บาท คณุ วัฒนชาติ จันอนิ ทร ์ 500 บาท ด.ญ.ลกั ขณา อยจู่ ำนง 200 บาท คุณทัศนี หอมอม้ 500 บาท คณุ ปญั ญา สุนันตา 200 บาท คุณวนัสนันท,์ คุณฌานวฒั น์ นิ่มสวัสด์ิ คณุ เสาวลกั ษณ์ เชวงเกยี รติ 200 บาท 500 บาท คณุ จรนิ ทร,์ คณุ สรุ นิ ทร์ ภมู่ ะกา และหลานๆ คุณแม่บุญแกว้ , นอ้ งอารีรัตน์ พรมหล่ำ 200 บาท 500 บาท คณุ ปดวิ รชั ดา, กติ ต,ิ ณชั ปญั ญา ศภุ นมิ ติ รกลุ คุณยายเปยี๊ ะ นามวงษ ์ 500 บาท 200 บาท คุณน้าศศิธร นามวงษ์ 500 บาท คณุ ธนสทิ ธ์ิ อำพนั ธ์ และคณุ พงศกร หมอนทอง คุณจติ ภทั ร์ อุปราวิทยานนท ์ 500 บาท 200 บาท นพ. สทน ธรรมอำนวยสุข 500 บาท คุณจรินทร์, คุณสุรินทร์ ภู่มะกา และหลาน ไม่ประสงคอ์ อกนาม 500 บาท 200 บาท ไม่ประสงคอ์ อกนาม 500 บาท ด.ญ.อลษิ า เอลเิ ซีย คลงิ ง์ 200 บาท คุณวชริ าภรณ์ สรรพสวัสดโี ชติ 400 บาท ไม่ประสงคอ์ อกนาม 200 บาท คณุ พัชรี กีรติวิทยาภรณ์ 400 บาท ไมป่ ระสงคอ์ อกนาม 200 บาท คุณชามาพชั ร์ วราฐติ โิ รจน์ และครอบครัว คณุ แมย่ ุพนิ ดอนสวุ รรณ 100 บาท 400 บาท คณุ ธนกร บุญแสงวัฒน์ 100 บาท คณุ นพมาศ ตระกลู สนิ 400 บาท คุณสายัณห,์ คณุ ศรีนวล ลำใย คณุ สวุ รรณา แยม้ เพรศิ ศรี (สวุ สิ ษิ ฐ)์ 300 บาท และครอบครวั 100 บาท คณุ วทิ ยาวฒุ ิ, คุณศศธิ ร, ด.ช.ภาคนิ , คุณประภากร นรรัตน์ 100 บาท ด.ญ.ชตุ กิ าญจน์ อนิ มา 300 บาท คุณเพญ็ พชิ ชา นรรัตน์ 100 บาท คุณบุญนาค แสงอ่วม 50 บาท


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook