Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารประกอบการสอน 3204_2007

เอกสารประกอบการสอน 3204_2007

Published by pornpithak, 2021-11-14 22:12:51

Description: เอกสารประกอบการสอน 3204_2007

Search

Read the Text Version

- 150 - ใบเฉลยแบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 3 สอนครั้งที่ 2 ชือ่ วชิ า การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหสั วิชา 3204 - 2007 ระดบั ชน้ั ปวส. ชอื่ หนว่ ย ขนั้ ตอนการแกป้ ัญหา เรอ่ื ง/งาน แผนภาพขนั้ ตอนการแกป้ ัญหา 1. จงอธิบายความหมายของตวั แปลภาษาตอ่ ไปน้ี Assembler หมายถงึ โปรแกรมที่ใช้เพือ่ ทำหนา้ ที่แปลโปรแกรมภาษาแอสเซมบลเี ปน็ ภาษาเครอื่ ง (machine language) ซ่ึงจะทำให้คอมพิวเตอร์อา่ นแล้วเข้าใจ และปฏิบัตติ ามคำสัง่ ได้ ดู assembly language Interpreter หมายถงึ โปรแกรมตัวแปลที่อา่ นคำสงั่ ในโปรแกรมทลี ะคำสงั่ (ไมร่ อจนจบ โปรแกรมเหมือนตัวแปลอืน่ ) แปลเปน็ ภาษาเครื่อง (machine language) แลว้ ปฏบิ ตั ิตามคำสัง่ นนั้ เลย เชน่ ตัวแปลทใี่ ชแ้ ปลโปรแกรมภาษาเบสิก (BASIC) การเรยี นวธิ เี ขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอรท์ ใี่ ช้ ตวั แปลประเภทนี้ ผูเ้ รยี นจะร้สู ึกวา่ ง่ายและทนั ใจ เพราะพอใสค่ ำส่ังเข้าไป เครอื่ งก็จะรายงานไดท้ ันที วา่ คำส่งั นั้นถกู หรือผดิ ถ้าสง่ั ให้ทำอะไร ก็จะทำให้เลย ขอ้ เสียของตวั แปลประเภทนี้ ก็คือ คอมพิวเตอรจ์ ะไม่เก็บคำแปลไว้ หากจะต้องยอ้ นกลบั ไปทำคำสงั่ น้ันอีก กจ็ ะตอ้ งแปลใหม่อีกทกุ ครั้ง ดู compiler ประกอบ Complier หมายถงึ โปรแกรมทแี่ ปลโปรแกรมภาษาตา่ ง ๆ เชน่ ภาษา FORTRAN, COBOL ฯ เป็นภาษาเครื่อง (machine language) การแปลโดยใช้โปรแกรมแปลนี้ จะใชว้ ิธแี ปลทั้งโปรแกรม นำ คำแปลเกบ็ ไวใ้ นหนว่ ยความจำ แลว้ จงึ ลงมือปฏบิ ัตกิ าร (execute) ไปทีละคำส่งั ถ้ามกี ารสงั่ ให้ทำบาง คำสัง่ ซ้ำ กไ็ มจ่ ำเป็นตอ้ งแปลใหม่ ดู translator ประกอบ ดู interpreter เปรยี บเทยี บ (เนือ้ หาอื่นเพ่ิมเตมิ หรอื นอกเหนอื จากน้ี ข้ึนอยกู่ ับวจิ ารณญาณของผู้สอน)

- 151 - ใบเฉลยแบบฝึกหดั หน่วยที่ 3 สอนครั้งท่ี 2 ช่ือวชิ า การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวชิ า 3204 - 2007 ระดับช้ัน ปวส. ชือ่ หนว่ ย ขั้นตอนการแก้ปัญหา เรอ่ื ง/งาน แผนภาพข้นั ตอนการแกป้ ัญหา 2. ลักษณะของ 4GL มดี งั ตอ่ ไปน้ี เปน็ ภาษาแบบ Nonprocedural ซ่ึงหมายความว่าผใู้ ชเ้ พยี งแต่บอกวา่ ตอ้ งการอะไร แต่ไม่ต้อง บอกถงึ รายละเอยี ด วา่ ต้องทำอย่างไร คอมพวิ เตอร์จะเปน็ ผูจ้ ดั การให้เองหมด ตัวอย่างเช่น ถ้า ต้องการสรา้ งแบบฟอรม์ การรับข้อมลู จาก ผู้ใช้ผ้เู ขียนโปรแกรมเพยี งแต่ทำการออกแบบหน้าตาของ แบบฟอรม์ น้นั บนโปรแกรมอิดิเตอร์ (Editor) ใดๆ และเก็บ เปน็ ไฟลไ์ ว้เมอ่ื จะเรียกใชง้ านแบบฟอรม์ นั้นเพยี งแต่ใชค้ ำสัง่ เปิดไฟล์น้ันขึ้นมาแสดงบนหน้าจอคอมพิวเตอรไ์ ด้โดยทันทซี ง่ึ ตา่ งจากภาษารุ่นท่ี 3 ซง่ึ เป็นแบบ Proceduralผ้เู ขยี นโปรแกรม จะตอ้ งเขยี นรายละเอยี ดของโปรแกรมท้ังหมดวา่ ท่ีบรรทัด น้ีคอลมั น์นีจ้ ะให้แสดงข้อความหรอื ข้อมูลอะไรออกมา ซึง่ ถ้าต่อไปจะมีการปรบั เปล่ยี นหนา้ ตาของ แบบฟอรม์ ก็จะเป็นเร่ืองที่ยุ่งยากอย่างยง่ิ หรอื ในการสรา้ งรายงานดว้ ย 4GLs ก็สามารถทำไดอ้ ย่าง ง่ายดายเพียงแตร่ ะบุลงไปวา่ ตอ้ งการรายงานอะไร มีขอ้ มลู ใดทจี่ ะนำมาแสดงบ้าง โดยไมต่ อ้ งบอกถงึ วิธกี ารสรา้ ง หรอื การดงึ ขอ้ มูลแตอ่ ยา่ งใด 4GLsจะจัดการใหเ้ องหมด ส่วนใหญ่จะพบว่า 4GLs มักจะ อยคู่ วบคู่กับระบบฐานข้อมลู โดยผู้ใชร้ ะบบฐานข้อมูลจะสามารถจดั การฐานขอ้ มูล ไดโ้ ดยผา่ นทาง 4GLs นี้ สว่ นประกอบของภาษา 4GLs โดยทวั่ ไปแลว้ 4GLs จะประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วนดงั ตอ่ ไปน้ี เคร่อื งช่วยสร้างรายงาน (Report Generators)หรืออาจเรยี กไดอ้ กี อย่างวา่ เคร่อื งมือช่วยเขียน รายงาน (Report Writer) เป็นโปรแกรมสำหรบั ผู้ใช้ (end - users) ใหส้ ามารถสรา้ งรายงานอย่างง่าย ไดด้ ้วยตนเอง โดยผูใ้ ช้สามารถกำหนดเงื่อนไขและข้อมูลที่จะออกมาพิมพ์ในรายงาน รวมไปถงึ รปู แบบ (format) ของการพิมพไ์ ว้ โปรแกรมชว่ ยสรา้ งรายงานนจ้ี ะทำการพิมพ์รายงานตาม รูปแบบทเ่ี รากำหนดไว้ให้ ภาษาช่วยคน้ หาข้อมลู (Query Languages)เปน็ ภาษาทช่ี ว่ ยในการคน้ หาหรอื ดงึ ข้อมลู จาก ฐานขอ้ มูล ภาษานี้จะงา่ ยต่อการใชง้ านมาก เนื่องจากจะอยใู่ นรูปแบบที่ใกลเ้ คียงกับภาษาอังกฤษมาก ตัวอย่างของภาษาช่วยค้นหาขอ้ มูลน้ไี ดแ้ ก่ ภาษา SQL (Structured Query Language)ภาษา QBE (Query - By - Example) และ Intellect เปน็ ต้น

- 152 - ใบเฉลยแบบฝึกหดั หน่วยที่ 3 สอนครั้งที่ 2 ชอ่ื วิชา การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหสั วิชา 3204 - 2007 ระดับชน้ั ปวส. ชอื่ หน่วย ขนั้ ตอนการแกป้ ญั หา เรือ่ ง/งาน แผนภาพขั้นตอนการแกป้ ญั หา 2. ลักษณะของ 4GL มีดังต่อไปนี้ (ต่อ) เครอื่ งมอื ชว่ ยสรา้ งโปรแกรม (Application Generators) 4GLs จะมรี ูปแบบการเขียนโปรแกรม เฉพาะตัว และสามารถเรยี กใช้เคร่อื งมอื ช่วยสร้างโปรแกรมน้ีทำการแปลง 4GLs ให้กลายเป็นโปรกรม ในภาษารุ่นท่ี 3 ได้ เช่น ภาษาโคบอล หรือ ภาษาซี เปน็ ต้น ซึ่งอาจนำภาษาโคบอล หรือซที ี่แปลงได้ ไปพัฒนาต่อเพื่อใชก้ บั งานท่ีมีความซบั ซ้อนมากๆ ต่อไปได้ ประโยชน์ของ 4GL เป็นภาษาที่ง่ายต่อการเรียนรู้ คำสง่ั แต่ละคำส่ังส่ือความหมายไดอ้ ย่างชดั เจน ดงั น้ันจึง สามารถใชเ้ วลาในการศึกษาสั้นกว่าภาษารุ่นท่ี 3ประหยัดเวลาในการเขยี นโปรแกรมได้มาก เน่อื งจาก 1 คำสงั่ ของ 4GL ถา้ ต้องเขยี นด้วยภาษารนุ่ ที่ 3 อาจต้องเขียนถึง 100 กวา่ คำส่งั ในการทำงานแบบ เดียวกนั สนบั สนนุ ระบบจดั การฐานขอ้ มูล ทำให้สามารถจัดการกับข้อมูลไดอ้ ย่างสะดวก และรวดเร็ว สามารถสรา้ งแบบฟอรม์ เพ่ือจัดการกบั ขอ้ มูลในฐานขอ้ มลู และออกรายงานได้อยา่ งง่ายดาย ไม่ยงุ่ ยาก มเี ครอ่ื งมอื การใชง้ านเพอ่ื อำนวยความสะดวกในการเขยี นโปรแกรมมากพอสมควรสามารถทำงานได้ ในลกั ษณะ Interactive คอื มีการโต้ตอบกบั ผู้ใช้ไดท้ นั ที (เนือ้ หาอื่นเพ่มิ เตมิ หรือนอกเหนือจากน้ี ขน้ึ อยู่กบั วจิ ารณญาณของผู้สอน) 3. อธบิ ายความหมายของโครงสร้างขอ้ มูลดงั ตอ่ ไปน้ี Bit บติ ในระบบเลขฐาน 2 หมายถงึ ตัวเลข 0 และ 1, หนว่ ยขอ้ มูลทีเ่ ล็กที่สุด โดยทีห่ นงึ่ บิต จะตอ้ งเพยี งพอต่อการบอกความแตกต่างระหว่างข้อมลู ประเภท \"ใช\"้ ในปจั จุบันมักใช้บติ เป็นหน่วยวดั ตวั ประมวลผล (microprocessor) ของไมโครคอมพิวเตอร์ วา่ เป็นขนาด 8 บิต 16 บิต หรอื 32 บิต ถ้าจัดบิตเป็นชุดท่เี รียกว่าไบต์ (byte) ซ่งึ ปกตจิ ะมี 8 บติ จะใช้เป็นรหัสเก็บขอ้ มูลต่าง ๆ ได้ ไมว่ ่าจะ เป็นตวั เลข ตัวอกั ษร

- 153 - ใบเฉลยแบบฝกึ หดั หนว่ ยที่ 3 สอนครงั้ ที่ 2 ชื่อวิชา การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหสั วิชา 3204 - 2007 ระดบั ช้นั ปวส. ช่อื หน่วย ข้นั ตอนการแก้ปัญหา เรอื่ ง/งาน แผนภาพข้นั ตอนการแกป้ ญั หา 3. อธบิ ายความหมายของโครงสร้างขอ้ มลู ดงั ต่อไปน้ี (ต่อ) Byte หน่วยของขอ้ มลู คอมพวิ เตอร์เท่ากับ 1 อกั ขระหรอื 8 บิต, ขอ้ มลู จำนวน 8 บิต, ชุดของ บิต (bit) ซึง่ คอมพวิ เตอร์จัดไว้สำหรับเก็บขอ้ มล 1 ชุด คอมพิวเตอร์ต่างชนดิ จะจัดชุดของบติ ไว้ไม่ เทา่ กัน เชน่ เคร่ือง IBM 360 จัดบติ ไว้เปน็ ชุด ๆ ละ 8 บิต เรยี กว่า ไบต์ โดยปกติ ใชเ้ ปน็ หน่วยวัด ขนาดของหน่วยความจำ หรอื จานบนั ทึกว่า มีขนาดเก็บไดก้ ตี่ วั อักษร Field หมายถึง ท่ีซึง่ ใช้เกบ็ ขอ้ มูลเฉพาะในโปรแกรมประเภทการจดั การฐานขอ้ มูล โดย จดั แบ่งใหแ้ ตล่ ะเขตเกบ็ ขอ้ มลู แต่ละ เรอื่ ง เชน่ แบ่งเป็นเขต ชื่อ นามสกุล ทอี่ ยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อายุ เพศ ฯ ถ้าเรานำเขตข้อมูลเหลา่ น้ี หลาย ๆ เขตมารวมกนั จะเรยี กว่า \"ระเบียน\" (record) Record หมายถึง หนว่ ยหน่งึ ของขอ้ มลู ทบี่ ันทกึ ไว้ในฐานหรือคลงั ขอ้ มูล โดยปกติ ระเบียนหนึ่ง จะประกอบดว้ ยเขตข้อมลู (field) 1 เขตขึน้ ไป เช่น ระเบียนของพนักงานของบริษทั แหง่ หนง่ึ ประกอบดว้ ยเขตขอ้ มลู 10 เขต มี ช่ือ นามสกลุ ท่ีอยู่ วนั เข้าทำงาน เงินเดอื นทไ่ี ด้รบั ตำแหน่งปัจจุบัน ฯ เป็นตน้ ดู data field ประกอบ (เน้ือหาอน่ื เพ่มิ เติมหรอื นอกเหนอื จากนี้ ข้ึนอยู่กบั วจิ ารณญาณของผู้สอน) 4. จงเตมิ คำใหถ้ ูกต้อง 1 ไบต์ เทา่ กับ 8 บติ ข้อมลู ทมี่ ีลกั ษณะ 001100 คิดเป็นขนาด 8 บิต ค่าสูงสดุ ของไบต์ มีคา่ 1,024 ไบต์ 5. ยกตัวอยา่ งฐานข้อมูลในสถานศกึ ษามา 1 ฐานขอ้ มลู และร่วมกันอภปิ รายหนา้ ชนั้ ฐานขอ้ มูลในโรงเรียน จะเป็นการรวบรวมขอ้ มูลเก่ยี วกับนักเรยี น ครู ภารโรง พสั ดุ ส่ิงของ ฯลฯ อาจบนั ทกึ ขอ้ มูลลงกระดาษ แบบฟอร์มหรอื จัดเกบ็ ลงคอมพิวเตอร์ เมอ่ื มีการจัดเก็บข้อมลู อย่าง เปน็ ระเบียบ การคน้ หากท็ ำไดง้ ่าย

- 154 - แบบทดสอบหลงั เรียน รายวิชา การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหัสวชิ า 3204 - 2007 ระดบั ชัน้ ปวส. หน่วยท่ี 3 เรื่อง ขัน้ ตอนการแก้ปัญหา คำชี้แจง กกก1. ให้นกั เรียนเลอื กคำตอบท่ถี ูกตอ้ งท่ีสุดเพียงข้อเดยี วทำเคร่อื งหมาย (X) ลงในกระดาษคำตอบ กกก2. แบบทดสอบมีลักษณะแบบปรนยั จำนวน 10 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน 1. ขอ้ ใดควรปฏิบตั ิเปน็ อนั ดับแรกในการออกแบบเขียนโปรแกรม ก. วิเคราะหป์ ญั หา ข. เขียนอลั กอริทมึ ค. เขยี น Flow Chart ง. เขยี น Pseudo Code 2. ในการวิเคราะหป์ ญั หาในการเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ครวจะพจิ ารณาสง่ิ ใดอนั ดับแรก ก. ขอ้ มูลท่ีใชท้ ง้ั หมด ข. ขอ้ มลู จากผลลัพธ์ ค. ขอ้ มลู การประมวลผล ง. ขอ้ มูลจากแผนกอนื่ ๆ 3. เคร่อื งมือ่ ใดท่ีใช้ในการออกแบบโปรแกรม ก. การใช่โปรแกรม Edit ข. การเขยี นโค้ดโปรแกรมจรงิ ค. เครอื่ งคอมพิวเตอร์ ง. การเขียนอัลกอรทิ ึม 4. อัลกอริทึมในขอ้ ใดทใี่ ช้สัญลักษณ์ในการเขยี นเพื่อออกแบบโปรแกรม ก. Pseudo Code ข. Flow Chart ค. Structure Chart ง. Code Program

- 155 - 5. การบออกแบบในข้อใดท่ใี ชภ้ าษาทีผ่ ู้อ่านสามารเขา้ ใจง่าย ก. Pseudo Code ข. Flow Chart ค. Structure Chart ง. Code ProGram 6. ขอ้ ใดเปน็ จดุ เดน่ ของการออกแบบโปรแกรม แบบ Structure Chart ก. ใชส้ ญั ลกั ษณใ์ นการออกแบบ ข. ใช้ภาษาอังกฤษในการออกแบบ ค. ใช้ภษาไทยที่เข้าใจได้งา่ ย ง. ใช้การแบ่งออกเป็นมอดลู ย่อยๆ จากใหญไ่ ปเล็ก 7. การเลือกโปรแกรมภาษาท่ีเหมาะสมในการเขียนโปรแกรมจะอยู่ในข้นั ตอนใดในการเขียนโปรแกรม คอมพิวเตอร์ ก. การวเิ คราะหป์ ัญหา ข. การออกแบบโปรแกรม ค. การเขียนโปรแกรม ง. การทดสอบโปรแกรม 8. สิ่งท่ไี ดร้ ับจากการทำเอกสารประกอบโปรแกรมคือขอ้ ใด ก. เพอ่ื ใหอ้ อกแบบโปรแกรมง่ายข้ึน ข. เพื่อชว่ ยวิเคราะหป์ ัญหาในการเขียนโปรแกรม ค. เพ่อื ใหเ้ ขา้ ใจปัญหาของการทำงาน ง. เพ่ือใหใ้ ช้งานโปรแกรมได้งา่ ย 9. การทำงานของโปรแกรมท่เี ขียนขน้ึ มาจะทำงานไดถ้ ูกตอ้ งหรือไม่ ขึน้ อยูก่ บั ขั้นตอนใด ก. การวเิ คราะห์ปญั หา ข. การออกแบบ ค. การทดสอบโปรแกรม ง. การบำรงุ รกั ษาโปรแกรม 10. รปู แบบของอัลกอริทมึ ในข้อใดท่มี ีความซับซอ้ นน้อยทีส่ ุด ก. แบบไม่ลำดับ ข. แบบลำดบั ค. แบบทางเลอื ก ง. แบบทำซำ้

- 156 - เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น ชอ่ื วิชา การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวชิ า 3204 - 2007 ระดบั ชน้ั ปวส. หนว่ ยท่ี 3 เรื่อง ขนั้ ตอนการแกป้ ัญหา ขอ้ ที่ คำตอบ 1. ก 2. ข 3. ง 4. ข 5. ก 6. ง 7. ค 8. ง 9. ค 10. ข

- 157 - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม ช่อื วชิ า การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ หนว่ ยท่ี 3 รหัสวิชา 3204 - 2007 ระดับชั้น ปวส. ชือ่ หนว่ ย ขนั้ ตอนการแกป้ ัญหา จำนวน 12 ช่ัวโมง คำชี้แจง ให้ทำเครือ่ งหมาย ✓ หากนกั เรียนมพี ฤติกรรมน้ัน ลงในชอ่ งรายการ พฤติกรรม ท่ี ชอื่ - สกลุ ความรว่ มมอื การแบ่ง การรบั ฟัง การต้งั ใจ ทำงานตามหน้าที่ รวม หนา้ ท่ีในกลุ่ม ความคดิ เหน็ ทำงาน มอบหมาย 4 3 2 1 4 3 2 1 43 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 เกณฑ์การวัดผล ใหค้ ะแนนระดบั คุณภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดงั น้ี 1..ดีมาก = 4 ประสิทธภิ าพอยูใ่ นเกณฑ์ 90 – 100 % หรอื ปฏบิ ตั ิบอ่ ยครั้ง 2..ดี = 3 ประสิทธิภาพอยใู่ นเกณฑ์ 70 – 89 % หรอื ปฏิบตั ิบางครง้ั 3..ปานกลาง = 2 ประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ 50 – 69 % หรอื ปฏิบตั คิ ร้ังเดียว 4..ปรบั ปรงุ = 1 ประสทิ ธิภาพอยใู่ นเกณฑ์ น้อยกว่า 50 % หรอื ไมเ่ คยปฏบิ ัติเลย ลงชอ่ื ..............................ครูผู้ประเมิน (นายพรพทิ กั ษ์ ศรแี ก้ว) .............../............./..............

- 158 - แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้รายบุคคล ช่ือวิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ หนว่ ยท่ี 3 รหสั วชิ า 3204 - 2007 ระดับชั้น ปวส. ชอ่ื หนว่ ย ขน้ั ตอนการแก้ปญั หา จำนวน 12 ชัว่ โมง คำชแ้ี จง ให้ทำเคร่ืองหมาย ✓ หากนักเรียนมีพฤตกิ รรมนัน้ ลงในชอ่ งรายการ พฤติกรรม ท่ี ช่อื - สกุล ความสนใจ การแสดงความ การตอบ การยอมรับ ทำงาน รวม คิดเห็น คำถาม ความคดิ เห็น ตามหน้าที่ มอบหมาย คนอืน่ 4 3 2 1 4 3 2 1 43 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 เกณฑก์ ารวัดผล ใหค้ ะแนนระดบั คุณภาพของแตล่ ะพฤตกิ รรมดังนี้ 1..ดีมาก = 4 สนใจฟงั ไมห่ ลับ ไม่พูดคุยในชัน้ เรียน มคี ำถาม ตอบคำถามถกู ทำงานส่งตามเวลา 2..ดี = 3 พฤตกิ รรมการแสดงออกอยู่ในเกณฑป์ ระมาณ 70 % 3..ปานกลาง = 2 พฤตกิ รรมการแสดงออกอย่ใู นเกณฑ์ประมาณ 50 % 4..ปรับปรุง = 1 เข้าช้นั เรยี น แต่การแสดงออกนอ้ ยมาก ส่งงานไม่ครบ สง่ งานไม่ตรงเวลา ลงชอ่ื ..............................ครูผู้ประเมิน (นายพรพิทกั ษ์ ศรีแกว้ ) .............../............./..............

- 159 - แบบสรุปผลประเมินคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ รายวชิ า การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา 3204 - 2007 ระดบั ชนั้ ปวส. หน่วยที่ 3 เรอ่ื ง ขนั้ ตอนการแกป้ ญั หา การประเมินผลด้านจติ พิสยั ตามคา่ นิยมหลักของคนไทย 12 ประการ (คะแนนเต็ม 30 คะแนน) ท่ี รายการประเมิน 1 มีความรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ 2 ซ่อื สตั ย์ เสยี สละ อดทน 3 กตญั ญตู ่อพอ่ แม่ ผู้ปกครอง ครบู าอาจารย์ 4 ใฝห่ าความรู้ หมนั่ ศึกษา เล่าเรียน ทง้ั ทางตรงและทางอ้อม 5 รกั ษาวฒั นธรรม ประเพณีไทยอนั งดงาม 6 มีศลี ธรรม รกั ษาความสัตย์ หวงั ดตี ่อผอู้ ่นื เผ่อื แผ่และแบง่ ปัน 7 เข้าใจการเรียนรู้การเป็นประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ ทถ่ี ูกตอ้ ง 8 มีระเบียบ วินยั เคารพกฎหมาย ผนู้ อ้ ยรู้จักเคารพผูใ้ หญ่ 9 มีสติ รู้ตัว รคู้ ิด รู้ทำ รปู้ ฏบิ ตั ิ ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัว 10 ร้จู กั ดำรงตนอย่โู ดยใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รจู้ กั อดออมไวใ้ ช้เม่ือยาม จำเป็นมีไว้พอกินพอใช้ ถ้าเหลือกแ็ จกจา่ ยจำหนา่ ยและพรอ้ มที่จะขยายกจิ การเม่อื มี ความพรอ้ มเมอ่ื มีภมู ิคุ้มกัน 11 มคี วามเข้มแขง็ ทัง้ รา่ งกาย และจิตใจ ไม่ยอมแพต้ ่ออำนาจฝ่ายต่ำหรอื กเิ ลส มีความ ละอายเกรงกลัวต่อบาปตามหลักของศาสนา 12 คำนงึ ผลประโยชนข์ องส่วนรวมและของชาตมิ ากกว่าผลประโยชนข์ องตนเอง เกณฑ์การให้คะแนนตามพฤติกรรมทแี่ สดงออก พฤติกรรมที่มกี ารปฏบิ ัติ คะแนน พฤติกรรมที่มีการปฏิบตั ิค่อนขา้ งมาก 4 คะแนน พฤตกิ รรมทม่ี กี ารปฏิบตั ิปานกลาง 3 คะแนน พฤติกรรมทม่ี กี ารปฏบิ ตั คิ ่อนข้างนอ้ ย 2 คะแนน พฤติกรรมท่มี ีการปฏิบตั นิ ้อยทส่ี ดุ 1 คะแนน

- 160 - บรรณานุกรม กิตนิ ันท์ พลสวัสด.ิ์ (2559). Professional Visual Basic 2015. พมิ พ์คร้ังท่ี 1. นนทบรุ ี : ไออซี ี พรเี มยี ร์. ณฐั ธยาน์ ธีรกุลจินดาภรณ์. (2558). พ้ืนฐานการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์. พมิ พค์ ร้ังท่ี 1. นนทบุรี : ศนู ย์หนังสอื เมอื งไทย. พฒั พงษ์ อมรวงศ์. (2560). พนื้ ฐานการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร.์ พิมพค์ รงั้ ที่ 1. ปทมุ ธานี : มเี ดยี อินเทลลิเจนซ์ เทคโนโลย.ี บัญชา ปะสีละเตสัง. (2558). สร้าง Windows Application ดว้ ย Visual Basic 2015. กรงุ เทพฯ : ซเี อด็ ยเู คช่ัน. มนสั ชยั กรี ติผจญ. (2558). การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์. พมิ พ์ครั้งที่ 1. กรงุ เทพฯ : สำนักพิมพ์เอมพนั ธ์. อภิชยั ตระหงา่ นศรี. (2557). การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์. พมิ พ์ครง้ั ท่ี 1. กรงุ เทพฯ : สำนักพิมพ์วงั อักษร. โอภาส เอ่ียมสิรวิ งศ์ และ สมโภชน์ ชน่ื เอย่ี ม. (2560). การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชน่ั .

โครงการสอน ท-ป-น 2-2-3 จำนวน 4 ชว่ั โมง รายวชิ า การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหสั วชิ า 3204 - 2007 ชื่อหนว่ ย โปรแกรม Visual Basic หนว่ ยท่ี 4 โปรแกรม Visual Basic เร่อื ง กกกกกก1. การใช้งานของโปรแกรม Visual Basic กกกกกก2. การเปดิ โปรแกรม Visual Basic กกกกกก3. การสร้าง Project ใหม่ และเรยี ก Project เดมิ ขึน้ มาใชง้ าน กกกกกก4. การบนั ทกึ Form และ Project กกกกกก5. การออกจากโปรแกรม จดุ ประสงค์การสอน รายการสอน 1. อธบิ ายการใช้งานของโปรแกรม Visual Basic ได้ 1. การใช้งานของโปรแกรม Visual 2. เปิดโปรแกรม Visual Basic เพ่อื ใชง้ านได้ Basic 3. สร้าง Project ใหม่ และเรยี ก Project เดมิ ขน้ึ มาใชง้ าน 2. การเปดิ โปรแกรม Visual Basic ได้ 3. การสร้าง Project ใหม่ และเรียก 4. บนั ทึก Form และ Project ได้ Project เดมิ ขนึ้ มาใช้งาน 5. ออกจากโปรแกรมได้ 4. การบนั ทึก Form และ Project 5. การออกจากโปรแกรม 6. ปฏบิ ตั ิงานตามใบงาน วิธกี ารสอน บรรยาย/ถาม – ตอบ สาธิต การปฏิบัติงานตามใบงาน สื่อการสอน ส่ือ Power Point ประกอบการสอน หนงั สืออ้างอิง ใบความรู้ แบบฝึกหัด ใบงาน แบบทดสอบ หนงั สือแบบเรียนรายวชิ าการเขียน โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ สำนกั พิมพ์เอม พันธ์ การประเมินผล คะแนนจากการทำแบบทดสอบก่อนเรยี น/หลังเรียน แบบประเมินผลใบมอบงาน แบบประเมนิ ผลการปฏิบัติงาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม การเรียนรู้รายบคุ คลและแบบประเมนิ ผลคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ มและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

- 162 - แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 4 รหัสวิชา 3204 - 2007 ชือ่ วิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สอนครั้งท่ี 7 หน่วยท่ี 4 โปรแกรม Visual Basic จำนวน 4 ชวั่ โมง หัวเร่อื ง 1. การใช้งานของโปรแกรม Visual Basic 2. การเปิดโปรแกรม Visual Basic 3. การสร้าง Project ใหม่ และเรยี ก Project เดิมข้นึ มาใช้งาน 4. การบนั ทกึ Form และ Project 5. การออกจากโปรแกรม สาระสำคัญ การเขยี นโปรแกรมบนระบบปฏบิ ตั ิการ GUI โดยใชโ้ ปรแกรม Visual Basic เปน็ ท่ีนิยม แพรห่ ลายนื่องจากมกี ารใช้งานที่ง่าย และมปี ระสิทธิภาพ โปรแกรมได้จัดเตรียมเคร่ืองมือและสภาวะ แวดลอ้ มในการใชง้ านไดอ้ ยา่ งเหมาะสม มีความยืดหยนุ่ โดยผูพ้ ฒั นาโปรแกรมสามารถกำหนดสภาวะ แวดล้อมเองได้ สมรรถนะอาชพี ประจำหนว่ ย กกกกกก1. แสดงความรเู้ ก่ียวกบั หลกั การพฒั นาโปรแกรม ขัน้ ตอนการแกไ้ ขปญั หา(Algorithm) และ กระบวนการเขยี นโปรแกรม กกกกกก2. เขียนโปรแกรมโดยใชเ้ ครอื่ งมือกราฟกิ โหมด จุดประสงค์การสอน/การเรยี นรู้ จุดประสงคท์ ั่วไป นักเรยี นแสดงความรู้เกย่ี วกบั โปรแกรม Visual Basic จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. ด้านความรู้ ( K ) 1.1 อธิบายการใช้งานของโปรแกรม Visual Basic ได้ 1.2 เปิดโปรแกรม Visual Basic เพ่อื ใชง้ านได้ 1.3 สร้าง Project ใหม่ และเรียก Project เดิมขึ้นมาใชง้ านได้ 1.4 บนั ทึก Form และ Project ได้ 1.5 ออกจากโปรแกรมได้ 2. ดา้ นทักษะ ( S ) นักเรียนมคี วามรู้ ทักษะในเรื่องโปรแกรม Visual Basicถูกตอ้ ง 3. ดา้ นคุณธรรมอนั พึงประสงค์ ( A )

- 163 - (อ้างอิง จากค่านยิ มหลักของคนไทย 12 ประการ) 3.1 เข้าเรยี นตรงเวลา 3.2 แตง่ กายตามระเบยี บการปฏบิ ัติงาน 3.3 ผลงานประณีตเรยี บรอ้ ย 3.4 ปดิ เครือ่ งคอมพิวเตอร์เมื่อเลิกใชง้ าน 3.5 มนี ำ้ ใจชว่ ยเหลือผอู้ ืน่ และการปฏิบัตงิ านรว่ มกบั ผู้อน่ื กจิ กรรมการเรียนการสอน ครูแจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การวัดผลประเมินผล ข้อตกลงขณะเรยี น และใหน้ ักเรียนทำ แบบทดสอบก่อนเรยี น ข้นั นำเข้าส่บู ทเรยี น ครนู ำเขา้ สู่บทเรยี นโดยครูกล่าวนำเกีย่ วกบั เนอ้ื หาระบบคอมพวิ เตอร์ การทำงาน ของเครือ่ งคอมพิวเตอรแ์ ละเนื้อหาโดยรวมของวชิ าการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ เกณฑก์ าร ประเมินผลและใช้คำถามนำให้นกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายถงึ การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอรแ์ ละระดับ ของภาษาคอมพิวเตอร์ เช่น นกั เรียนเคยใช้ซอฟต์แวรร์ ะบบ หรือไม่ ขัน้ สอน 1. ครูแจกใบเนอื้ หาและใหน้ ักเรยี นอา่ นทำความเข้าใจเน้ือหา เรือ่ ง โปรแกรม Visual Basic 2. ครอู ธบิ ายเนอ้ื หา โดยใช้สื่อ Power Point สอนประกอบการบรรยาย ในหนงั สอื แบบเรยี น รายวิชาการเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา 3204 - 2007 สำนกั พิมพ์เอมพันธ์ จำกดั หนา้ 63 - 92 และตงั้ คำถามสลับการบรรยายเพ่ือใหน้ ักเรยี นมีสว่ นรว่ มระหวา่ งปฏิบตั ิการสอน เพอ่ื ใหน้ ักเรียนเข้าใจเน้ือหาสาระของการเรียนรู้เรอ่ื ง 2.1 การใช้งานของโปรแกรม Visual Basic 2.2 การเปิดโปรแกรม Visual Basic 2.3 การสรา้ ง Project ใหม่ และเรยี ก Project เดิมข้นึ มาใช้งาน 2.4 การบันทึก Form และ Project 2.5 การออกจากโปรแกรม ขน้ั ประกอบกจิ กรรมการเรยี น 1. ให้นักเรียนแบง่ กลุม่ อัตราสว่ น 1 : 3 : 1 โดยคละคนเกง่ ปานกลางและออ่ น ให้นักเรยี นเลอื กประธาน เลขานกุ าร ปฏิบัติงานตามใบงาน โดยปฏบิ ัติตามขน้ั ตอนการปฏิบตั งิ านตาม ใบมอบงาน 2. นักเรียนปฏิบัติงานตามใบมอบงาน 3. นักเรยี นทำแบบฝกึ หดั เร่ืองโปรแกรม Visual Basic จากน้ันครแู ละนกั เรียน ร่วมกันเฉลย ตรวจคำตอบ เพื่อประเมินผลการเรียนตามใบงาน กลยทุ ธ์ในการจดั การเรียนรู้

- 164 - 1. ครใู หเ้ พ่อื นช่วยเพื่อน ใหน้ กั เรียนกลมุ่ เกง่ และปานกลาง อย่กู ับกลมุ่ นกั เรยี นท่ี เรยี นอ่อน ช่วยกนั ทำความเข้าใจในเนอ้ื หา 2. สอนแบบ Active Learning โดยใช้เครอ่ื งมอื บนอินเทอรเ์ น็ต กลยทุ ธ์การ ประเมนิ ผลการเรียนรูด้ ้านทักษะความสมั พันธ์ระหวา่ งบคุ คลและความรบั ผดิ ชอบ 2.1 ประเมินจากรายงานหนา้ ชนั้ เรียนโดยครูผู้สอนและนักเรียน นักศึกษา 2.2 ประเมินพฤติกรรมภาวการณ์เป็นผนู้ ำและผู้ตามทด่ี ี 2.3 พจิ ารณาจาการเขา้ รว่ มกิจกรรมของนกั เรียน นกั ศึกษา 2.4 ประเมนิ ผลจากแบบประเมนิ ตนเองและกจิ กรรมกลุม่ 2.5 ตดิ ตามการทำงานร่วมกับสมาชิกกลุ่มของนักศกึ ษาเปน็ ระยะ พรอ้ ม บนั ทึกพฤติกรรมเปน็ รายบคุ คล 2.6 ประเมินจากผลงานการอภปิ รายและเสวนา 2.7 สังเกตพฤตกิ รรมการระดมสมอง การสอนบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ด้านความมีภมู ิคมุ้ กนั ท่ดี ี ใหน้ ักเรยี นปฏิบัตติ นตามกฎระเบียบและข้อบังคับของสถานศึกษา การเขา้ ใช้งาน ห้องปฏบิ ตั กิ ารคอมพวิ เตอร์ การบำรงุ รักษาเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ก่อนและหลงั การปฏิบตั งิ าน ด้านความรอบรู้ กจิ กรรมการเรียนการสอนให้สืบคน้ ขอ้ มลู ทางอนิ เทอร์เนต็ ให้มีการปฏิบัติงานได้ อย่างถูกต้องตรงตามเนื้อหาในหน่วยการเรยี นรู้ ขน้ั สรุป 1. ครอู ธิบายสรปุ เน้ือหา เรอ่ื งโปรแกรม Visual Basic 2. ครแู ละนกั เรยี นอภิปรายสรุปปญั หาการปฏบิ ตั ิงานและข้อเสนอแนะเพม่ิ เติม 3. ตรวจประเมินตามใบงาน สรุปผลการตรวจให้นกั เรียนทราบและกำหนดวันแกไ้ ข ขน้ั ทดสอบหลงั เรียน นกั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น ส่ือการเรยี นการสอน 1. สื่อสงิ่ พิมพ์ 1.1 หนังสอื แบบเรียนรายวิชาการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สำนกั พิมพเ์ อมพันธ์ มนัสชัย กีรตผิ จญ หน้า 63 - 92 1.2 ใบมอบงาน 1.3 แบบประเมนิ ผล 2. สือ่ โสตทศั น์ 2.1 ส่ือ Power Point เร่ือง โปรแกรม Visual Basic 2.2 เครอ่ื งฉายโปรเจคเตอร์ 2.3 เครอ่ื งคอมพิวเตอรแ์ บบพกพา (Notebook) การวัดผลประเมินผล

- 165 - วธิ ีการ เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 60 1. ทดสอบก่อนเรยี น แบบทดสอบก่อนเรียน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 50 2. อภปิ รายกล่มุ แบบประเมนิ ผลใบมอบงาน ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 50 3. การทำใบงาน แบบประเมินผลการปฏบิ ัตงิ าน ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 50 4. การทำแบบฝึกหัด แบบฝึกหัด ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 50 5. สงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ ม แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ กิจกรรมกล่มุ 24 คะแนน 6. สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรรู้ ายบุคคล ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 รายบคุ คล 7. สังเกตพฤตกิ รรมคณุ ธรรม แบบสรปุ ผลประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและ คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 8. ทดสอบหลงั เรยี น แบบทดสอบหลงั เรียน งานทีม่ อบหมาย งานทม่ี อบหมายนอกเหนือเวลาเรียน ผลงาน/ชน้ิ งาน/ความสำเรจ็ ของผู้เรียน 1. ผลการทำใบมอบงาน 2. แบบฝึกหัดท้ายหน่วยที่ 4 แหล่งการเรยี นรู้เพมิ่ เตมิ 1. หอ้ งสมุด 2. สถานประกอบการ 3. ข้อมูลจากอนิ เทอร์เน็ต กจิ กรรมเสนอแนะ นักเรียนสบื ค้นขอ้ มูลเพิม่ เตมิ หรือทบทวนเน้ือหาจากเวบ็ ไซต์ทีห่ ้องปฏิบตั ิการคอมพวิ เตอร์ใช้ เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ในเวลาวา่ ง เรือ่ ง โปรแกรม Visual Basic

- 166 - บันทึกหลังการสอน ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ กกกกกกก.......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ผลการเรยี นของนักเรียน กกกกกกก.......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ผลการสอนของครู กกกกกกก.......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................

- 167 - กระดาษคำตอบ ชื่อวิชา การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหสั วิชา 3204 - 2007 ระดับชั้น ปวส. หน่วยที่ 4 เรอ่ื ง โปรแกรม Visual Basic กระดาษคำตอบ แบบทดสอบก่อนเรยี น กระดาษคำตอบ แบบทดสอบหลงั เรียน ข้อ ก ข ค ง ข้อ ก ข ค ง 1 1 2 2 3 3 4 4 5 5 6 6 7 7 8 8 9 9 10 10 สรปุ คะแนนสอบก่อนการเรียน สรุปคะแนนสอบหลงั การเรยี น 10 10

- 168 - แบบทดสอบก่อนเรยี น รายวชิ า การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา 3204 - 2007 ระดบั ช้นั ปวส. หนว่ ยท่ี 4 เรอื่ ง โปรแกรม Visual Basic คำชี้แจง กกก1. ใหน้ กั เรียนเลือกคำตอบท่ถี กู ตอ้ งท่ีสุดเพยี งข้อเดยี วทำเครื่องหมาย (X) ลงในกระดาษคำตอบ กกก2. แบบทดสอบมีลกั ษณะแบบปรนัย จำนวน 10 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน 1. ขอ้ ใดควรปฏิบตั ิเปน็ อนั ดับแรกในการออกแบบเขยี นโปรแกรม ก. วิเคราะหป์ ัญหา ข. เขียนอลั กอรทิ มึ ค. เขยี น Flow Chart ง. เขยี น Pseudo Code 2. ในการวิเคราะหป์ ญั หาในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ครวจะพจิ ารณาสงิ่ ใดอันดับแรก ก. ขอ้ มูลท่ีใช้ทงั้ หมด ข. ขอ้ มลู จากผลลพั ธ์ ค. ขอ้ มลู การประมวลผล ง. ขอ้ มูลจากแผนกอน่ื ๆ 3. เคร่อื งมือ่ ใดท่ีใช้ในการออกแบบโปรแกรม ก. การใช่โปรแกรม Edit ข. การเขยี นโคด้ โปรแกรมจริง ค. เครอื่ งคอมพิวเตอร์ ง. การเขียนอัลกอรทิ ึม 4. อัลกอริทึมในขอ้ ใดที่ใชส้ ญั ลกั ษณ์ในการเขยี นเพื่อออกแบบโปรแกรม ก. Pseudo Code ข. Flow Chart ค. Structure Chart ง. Code Program

- 169 - 5. การบออกแบบในข้อใดท่ใี ชภ้ าษาทีผ่ ู้อ่านสามารเขา้ ใจง่าย ก. Pseudo Code ข. Flow Chart ค. Structure Chart ง. Code ProGram 6. ข้อใดเปน็ จดุ เดน่ ของการออกแบบโปรแกรม แบบ Structure Chart ก. ใช้สญั ลกั ษณใ์ นการออกแบบ ข. ใช้ภาษาองั กฤษในการออกแบบ ค. ใช้ภษาไทยท่ีเข้าใจได้ง่าย ง. ใช้การแบ่งออกเป็นมอดลู ย่อยๆ จากใหญไ่ ปเล็ก 7. การเลอื กโปรแกรมภาษาท่ีเหมาะสมในการเขียนโปรแกรมจะอยู่ในข้นั ตอนใดในการเขียนโปรแกรม คอมพิวเตอร์ ก. การวเิ คราะห์ปัญหา ข. การออกแบบโปรแกรม ค. การเขียนโปรแกรม ง. การทดสอบโปรแกรม 8. ส่งิ ท่ไี ดร้ ับจากการทำเอกสารประกอบโปรแกรมคือขอ้ ใด ก. เพอ่ื ใหอ้ อกแบบโปรแกรมง่ายข้ึน ข. เพ่อื ช่วยวเิ คราะหป์ ัญหาในการเขียนโปรแกรม ค. เพ่ือใหเ้ ขา้ ใจปัญหาของการทำงาน ง. เพื่อใหใ้ ช้งานโปรแกรมได้งา่ ย 9. การทำงานของโปรแกรมท่เี ขียนขน้ึ มาจะทำงานไดถ้ ูกตอ้ งหรือไม่ ขึน้ อยูก่ บั ขั้นตอนใด ก. การวเิ คราะหป์ ญั หา ข. การออกแบบ ค. การทดสอบโปรแกรม ง. การบำรุงรกั ษาโปรแกรม 10. รูปแบบของอลั กอรทิ ึมในข้อใดท่มี ีความซับซอ้ นน้อยทีส่ ุด ก. แบบไม่ลำดับ ข. แบบลำดบั ค. แบบทางเลอื ก ง. แบบทำซ้ำ

- 170 - เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น รายวิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวชิ า 3204 - 2007 ระดับช้นั ปวส. หนว่ ยท่ี 4 เร่ือง โปรแกรม Visual Basic ข้อที่ คำตอบ 1. ก 2. ข 3. ง 4. ข 5. ก 6. ง 7. ค 8. ง 9. ค 10. ข

- 171 - ใบเนื้อหา สปั ดาห์ท่ี 7 จำนวน 4 ชั่วโมง ช่อื วิชา การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหสั วชิ า 3204 - 2007 ระดับชน้ั ปวส. ชอื่ หน่วย โปรแกรม Visual Basic สาระสำคัญ ในชวี ติ ประจำวันนั้นทุกคนมักจะพบปัญหาต่างๆ อยตู่ ลอดเวลา ซึง่ ในการแก้ปัญหานั้นก็จะมี วธิ ีการท่เี ป็นข้ันตอนชดั เจน และแตกต่างกัน ทัง้ นข้ี ึน้ อยู่กบั ความสามารถและประสบการณ์ของบุคคล นั้นๆ โดยวิธีการแก้ปัญหาต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจ แล้วหาวิธีการแก้ปัญหาอย่างมี ประสทิ ธิภาพก จุดประสงคก์ ารเรียนการสอน จดุ ประสงค์ท่ัวไป นักเรียน มีความรู้ความเขา้ ใจโปรแกรม Visual Basic จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. บอกข้นั ตอนการแกไ้ ขปญั หาได้ 2. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั การทำงานอลั กอริทึมได้ 3. แสดงความรู้เกี่ยวกบั การใชร้ หัสเทียมในการทำงานได้ 4. เขียนผงั งานได้ 5. เขยี นแผนภมู โิ ครงสรา้ งได้ คณุ ธรรมจริยธรรม 1. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 2. การบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สาระการเรยี นรู้ 1. ขน้ั ตอนการแกไ้ ขปัญหา 2. อลั กอริทึม 3. รหัสเทยี ม 4. การเขยี นผงั งาน 5. แผนภมู ิโครงสรา้ ง

- 172 - เน้อื หาสาระ พ้ืนฐานเกย่ี วกบั Visual Basic 2010 Visual เปน็ สว่ นทีห่ มายถงึ เมธอดในการติดตอ่ แบบ graphical user interface (GUI) ซึง่ การสร้างทำได้โดยการเพิม่ ออบเจก็ ต์ ลงบนฟอร์มท่ที ำหน้าทต่ี ิดต่อกบั ผู้ใช้ผา่ นจอภาพ Basic เปน็ สว่ นทห่ี มายถึงภาษา BASIC (Beginners ALL Purpose Symbolic Instruction Code) โดย Visual Basic ไดเ้ ปลยี่ นแปลงจากภาษา Basic ดังเดิม ดว้ ยการเพ่มิ ประโยคคำส่ัง ฟังกช์ ัน และ คยี เ์ วริ ด์ ทเี่ กี่ยวขอ้ งโดยตรงกับ GUI ภาษา BASIC ไดพ้ ัฒนาขึ้น ปี ค.ศ. 1963 โดย Thomas Kurtz โดยเน้นความง่ายต่อการ เข้าใจและการใช้งานรวมทั้งการทำงาน ในรปู แบบ Interpreter คอื ทำงานเรยี งตามบรรทดั ต่อมาได้ พัฒนาเปน็ GW Basic ซ่ึงเป็น Interpreter บนระบบปฏิบตั กิ าร Dos ตอ่ มา ในปี ค.ศ. 1982 ได้เพมิ่ ความสามารถในการประมวลผล โดยการตดั เลขประจำบรรทัดออก และมาใช้รูปแบบของ Sub Program User Defined การประมวล แทน เรียกว่า QUICK BASIC Visual Basic เป็นภาษาคอมพวิ เตอร์ทีไ่ ด้รับการพัฒนาต่อเนอ่ื ง ต้ังแต่ QUICK BASIC จนกระทงั่ ถึง PDS BASIC จากนน้ั Microsoft ไดน้ ำเอาหลกั การมปี ฏิสมั พันธร์ ะหวา่ งผใู้ ช้กับเคร่อื ง คอมพิวเตอรม์ าใช้ในการออกแบบภาษา BASIC จนเปน็ ท่มี าของคำวา่ Visual Basic Visual Basic เป็นภาษาคอมพวิ เตอร์ ที่มปี ระสิทธภิ าพสงู และออกแบบมาเพอื่ ทำงาน บนระบบปฏิบตั กิ าร Windows คำวา่ Visual หมายถึงวธิ กี ารท่ใี ชส้ ร้างตดิ ตอ่ กบั ผู้ใชแ้ บบกราฟิก (GUI : Graphic User Interface ) สว่ น BASIC เปน็ คำทยี่ อ่ มาจาก (Beginner All-Purpose Symbolic Instruction Code) ในทนี่ ้ีจะขอเรียก Visual Basic สัน้ ๆ วา่ VB โปรแกรม Visual Basic (VB) เป็นโปรแกรมสำหรับพัฒนาโปรแกรมประยกุ ตท์ ก่ี ำลังเปน็ ทนี่ ยิ มใช้อย่ใู นปจั จบุ นั โปรแกรม Visual Basic เป็นโปรแกรมท่ีไดเ้ ปลย่ี นรูปแบบการเขียนโปรแกรม ใหม่ โดยมีชุดคำส่งั มาสนับสนุนการทำงาน มเี ครอ่ื งมือตา่ งๆ ท่เี รียกกนั วา่ คอนโทรล(Controls) ไว้ สำหรับชว่ ยในการออกแบบโปรแกรม โดยเนน้ การออกแบบหนา้ จอแบบกราฟิก หรือท่ีเรียกวา่ Graphic User Interface (GUI) ทำให้การจดั รปู แบบหน้าจอเป็นไปไดง้ ่าย และในการเขียนโปรแกรม นั้นจะเขยี นแบบ Event –Driven Programming คือ โปรแกรมจะทำงานก็ตอ่ เมอื่ เหตุการณ์ (Event) เกิดข้ึน ตวั อย่างของเหตุการณ์ได้แก่ ผใู้ ช้เลือ่ นเมาส์ ผู้ใช้กดปุม่ บนคยี บ์ อร์ด ผู้ใช้กดปมุ่ เมาส์ เป็นต้น เครือ่ งมือ หรอื คอนโทรล ต่างๆ ที่ Visual Basic ไดเ้ ตรยี มไวใ้ ห้ ไม่วา่ จะเปน็ Form Textbox Label ฯลฯ ถือว่าเป็นวตั ถุ (Object ในทน่ี ้ีขอใช้คำวา่ ออบเจก็ ต์) นนั่ หมายความวา่ ไมว่ า่ จะเป็นเครือ่ งมือ ใดๆ ใน Visual Basic จะเป็นออบเจก็ ต์ท้งั ส้ิน สามารถท่จี ะควบคมุ การทำงาน แกไ้ ขคณุ สมบตั ิของ ออบเจ็กตน์ ้ันได้โดยตรงในทุกๆ ออบเจก็ ตจ์ ะมีคุณสมบตั (ิ Properties) ประจำตัว ซึง่ ในแตล่ ะ ออบเจก็ ต์ อาจจะมีคุณสมบัตแิ ละเมธอดที่เหมอื น หรอื ต่างกันก็ได้ ขึน้ อย่กู ับชนิดของออบเจ็กต์ ในการพัฒนาโปรแกรมประยกุ ตด์ ว้ ย Visual Basic1 การเขยี นโค้ดจะถกู แบง่ ออกเปน็ สว่ นๆ เรียนกวา่ โพรซเี ดอร์ (procedure) แต่ละโพรซเี ดอรจ์ ะประกอบไปดว้ ย ชุดคำสัง่ ทพี่ ิมพ์เขา้ ไป แลว้ ทำใหค้ อนโทรลหรอื ออบเจก็ ตน์ ้ันๆ ตอบสนองการกระทำของผใู้ ช้ ซง่ึ เรียกว่าการเขยี นโปรแกรม

- 173 - เชิงวัตถุ (Object Oriented Programming-OOP) แตต่ ัวภาษา Visual Basic ยงั ไม่ถอื วา่ เป็นการ เขยี นโปรแกรม OOP อย่างแทจ้ ริงเน่ืองจากข้อจำกัดหลายๆ อย่างท่ี Visual Basic ไมส่ ามารถทำได้ โปรแกรมประยกุ ต์ Visual Basic การสร้างโปรแกรมประยุกต์ Visual Basic ประกอบดว้ ยข้นั ตอนหลัก 3 ขั้นตอน คือ • การสร้างอนิ เตอรเ์ ฟซ โดยมีฟอร์มเป็นออบเจ็กต์พนื้ ฐานและเปน็ ท่วี างตัว Control สำหรบั การติดต่อกบั ผู้ใช้ • ต้งั ค่าคณุ สมบตั ิ เป็นการกำหนดพฤตกิ รรมและการทำงานใหก้ บั ออบเจ็กต์ต่างๆ • การเขียนคำสั่ง เป็นการควบคุมการประมวลผลผา่ น Procedure ท่ีกำหนด Private Sub Form_Load() Text1.Text = “ Hello Word” End Sub ในปจั จบุ ัน Visual Basic ไดพ้ ฒั นาเวอรช์ นั นีเ้ พื่อเพ่มิ interface การใช้งานทง่ี า่ ยและ หลากหลายเหมาะกบั การใช้งานท่ีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งปัจจุบนั เปน็ เวอร์ชนั 2010 มีรูปแบบ วธิ ีการใช้งานท่นี า่ สนใจมากมาย ซ่งึ ในโปรแกรม Visual Basic 2010 หรือเรียกอกี อย่างว่า Visual Studio 2010 มขี น้ั ตอนการทำงานดงั ต่อไปนี้ การเรียกใช้โปรแกรม Visual Studio จะแสดงหนา้ จอ Choose Default Environment Settings (ถา้ หากเป็นชุด Express Edition จะเข้าสู่การเขยี นโปรแกรม Visual Basic ได้ทนั ที) ซึ่ง หนา้ จอนีจ้ ะปรากฏข้นึ ในการเรียกโปรแกรมแรกคร้งั นนั้ หน้าจอนจี้ ะใหเ้ ลอื กสภาพแวดลอ้ มทเี่ รา ค้นุ เคยในการทำงาน เชน่ ถ้าเคยใช้โปรแกรม VB เวอร์ชันก่อน ใหเ้ ลอื ก Visual Basic Development Settings เพ่อื ตง้ั คา่ คีย์ เมนู ตำแหน่งการจดั หน้าจอ และอน่ื ๆ ให้คล้ายกับเวอร์ชนั ที่เคยใช้มา ขน้ั ตอนนเี้ ปน็ เพยี งการต้ังค่าสภาพแวดล้อมการทำงานเท่าน้นั ไมเ่ กย่ี วกับภาษาทตี่ ิดต้ังไว้เรา สามารถใช้ภาษา C++, C# ไดเ้ หมือนเดมิ แตก่ ารใชง้ านจะอยู่ในสภาพแวดลอ้ มของ VB เมื่อเลือกสภาพแวดลอ้ มท่ีต้องการแล้ว จะเข้าสหู่ น้าจอเรมิ่ ต้นสำหรับรนุ่ Ultimate จะมี หน้าจอดังน้ี สำหรับ Ultimate

- 174 - เม่ือเลอื ก New Project โปรแกรมจะให้เลอื กภาษาท่จี ะเขยี น

- 175 - รายละเอียดหน้าแรก Start Page Start Page คอื หนา้ แรกหรอื หนา้ เริ่มตน้ ซึ่งจะพบหนา้ นี้ทกุ ครั้งทเ่ี ปดิ โปรแกรม Visual Studio โดยหน้าจอจะมรี ายละเอยี ดต่างๆ ดงั นี้ 1. RecentProjectsเป็นสว่ นทีใ่ ชแ้ สดงรายการโปรเจ็กต์ทเ่ี ราได้เคยสรา้ งสามารถเปิดโปร เจ็กตเ์ หล่านัน้ หรอื ถ้าตอ้ งการสร้างโปรเจ็กต์ใหมไ่ ด้ที่น่ี 2. Getting Started แสดงเอกสารแนะนำการใชง้ าน Visual Studio ขัน้ เรม่ิ ตน้ การเริม่ สร้างโปรเจ็กต์ (Create Project) ในการสร้างโปรแกรมจะมีไฟลท์ ี่เก่ียวข้องมากกวา่ หนงึ่ ไฟล์ชุดของไฟลท์ ่ีใช้ในงานทส่ี รา้ งขึน้ รวมเรยี กวา่ \"โปรเจก็ ต์ (Project)\" สำหรับโปรแกรม VB ถ้าเราตอ้ งการสร้างโปรเจ็กตใ์ หม่ เราสามารถ สรา้ งได้โดยใชเ้ มาส์คลิกที่ New Project

- 176 - ในการพัฒนาโปรแกรมเราสามารถเลือก ต้นแบบ (Template) โดยโปรแกรมจะเตรียม สว่ นประกอบพ้นื ฐานที่จำเป็นให้เราใชง้ าน เช่น หนา้ จอ คลาสหลกั ๆ ที่ตอ้ งใช้ จากนั้นให้ ผู้พฒั นาโปรแกรมเลือกกำหนดรายละเอยี ดของหน้าจอ การตกแตง่ หน้าจอ และการเขียนโปรแกรม เอง การใช้ต้นแบบทำให้การเขยี นโปรแกรมทำได้เรว็ ขน้ึ และมีมาตรฐานเดยี วกนั ทุกๆโปรแกรม สำหรับต้นแบบประเภทของโปรแกรมสำหรบั ผู้เรมิ่ ตน้ มีดงั น้ี • Windows Forms Application เป็นต้นแบบทใ่ี ชส้ ำหรับการสรา้ งโปรแกรมท่ที ำงานบน วนิ โดว์ • Console Application เป็นตน้ แบบทีใ่ ช้ในการสรา้ งโปรแกรมท่ที ำงานบน Dos การ ทำงานจะเป็นแบบพิมพค์ ำสัง่ (Commands Line) • Class Library เป็นตน้ แบบท่ีใชส้ รา้ งคลาส โดยเราสามารถสร้างคลาสสว่ นตวั ไว้เรียกใช้ใน โปรแกรมทีเ่ ขียนข้นึ ได้

- 177 - ใหเ้ ลอื กสรา้ งโปรแกรมประเภท Windows Forms Application แลว้ ต้งั ช่อื เปน็ App1 จากน้นั กด OK จะแสดงฟอรม์ ว่างของโปรแกรมที่จะสรา้ ง โดยส่วนประกอบตา่ งๆ เป็นดงั น้ี

- 178 - จากหนา้ จอ จะเหน็ ว่ามีส่วนประกอบตา่ งๆดังต่อไปนี้ • เมนบู าร์ (Menu bar) เปน็ เมนหู ลักที่เกบ็ คำส่งั ควบคุมการทำงานของVB โดยจดั เปน็ กลุ่ม แยกตามประเภทของการใชง้ าน • ทลู บาร์ (Toolbar) เกบ็ เฉพาะคำสง่ั บางคำส่ังท่ีมกั จะใชง้ านบอ่ ยๆ คำส่งั จะเปน็ ปมุ่ ท่เี รียกใช้ งานได้อย่างรวดเร็ว • หนา้ ต่างแสดงโปรเจก็ ต์ (Solution Explorer) เปน็ หนา้ ต่างแสดงรายการของไอเทม็ (ไอ เทม็ ) ทม่ี อี ยู่ในโปรเจก็ ต์ทั้งหมด เช่น รายละเอียดของไฟล.์ โมดูล (Modules) • หนา้ ต่างคุณสมบัติ (Properties Window) เปน็ หน้าต่างแสดงคณุ สมบตั ิของคอลโทรลท่ี เลือกใชอ้ ยู่ในขณะน้ัน โดยเราสามารถกำหนดหรอื เขียนโค้ดเพ่ิมเตมิ ได้ • ฟอรม์ (Form) เปน็ พ้ืนท่ีสำหรบั ออกแบบหนา้ จอของโปรแกรม ถา้ หากต้องการปรับแกไ้ ขค่าต่างๆ หรอื สภาวะแวดลอ้ มตา่ งๆ ใหเ้ ลอื กท่ีเมนู Tools แล้วเลอื ก Options

- 179 - 3. จะปรากฏ dialog box ของ option เพื่อเลือกปรบั ค่าต่างๆ ที่ตอ้ งการ

- 180 - ในโปรเจ็กต์หนงึ่ จะประกอบด้วยหลายโปรแกรม ถ้าหากนำ mouse มาคลิกที่ Form1.vb จะ ทำใหฟ้ อรม์ แอคทฟี ข้นึ มาดังรูป ซง่ึ เปน็ หน้าตา่ งของการออกแบบโปรแกรม ในการพฒั นาโปรแกรมเรา สามารถนำคอลโทรลและคอมโพเนนต์ต่างๆ มาวางบนฟอร์มได้ เคร่ืองมือเหลา่ นี้จะเกบ็ อยู่ในหน้าตา่ ง Toolbox หากหนา้ ต่างนีถ้ ูกซ่อนอยู่ ให้นำเมาสไ์ ปคลกิ โปรแกรมจะแสดง Toolbox ออกมา เมื่อแสดง Toolbox หรอื กล่องเครอ่ื งมอื ออกมาแล้ว หากตอ้ งการใหแ้ สดงอย่างถาวร เรา สามารถคลกิ เมาส์ทปี่ มุ่ ปักหมนุ ได้ ดงั รปู โปรแกรมจะแสดงกล่องเครอื่ งมือ และจดั หนา้ จอให้เหมาะกบั การออกแบบโปรแกรม โดยคอลโทรลและคอนโพเนนตใ์ นกล่องเครอ่ื งมือ ผู้เขยี นโปรแกรมสามารถ ลากมาวางบนฟอรม์ ได้

- 181 - ในการพฒั นาโปรแกรมแบบ Windows Forms Application จะมีหนา้ ตา่ งทสี่ ำคญั สอง หน้าต่างคือ หน้าต่างการออกแบบ (Designer) ที่ใช้สำหรบั ออกแบบหนา้ จอ โดยผูพ้ ัฒนาโปรแกรม สามารถนำออบเจก็ ต์ตา่ งๆ มาวางบนฟอรม์ ได้ และหน้าตา่ งการเขียนโปรแกรมให้กับออบเจ็กต์ ให้ ทำงานตามต้องการ สำหรบั การเปลย่ี นการแสดงผลระหวา่ งหน้าต่างทัง้ สอง ให้เลือกเมนู View แล้ว เลือกหน้าตา่ งท่ีต้องการ หรอื ใช้วิธีกดคยี ล์ ัดก็ได้ คอลโทรลและคอมโพเนนต์ การพฒั นาโปรแกรมดว้ ย VB นั้นจะตอ้ งมีการตดิ ตอ่ กบั ผใู้ ชง้ านตดิ ต่อกับผใู้ ช้ ซ่งึ จะต้องนำ เครือ่ งมอื ในทูลบ็อกมาวางบนฟอร์ม โดยคอนโทรลเปน็ ออบเจ็กต์ที่เราสามารถมองเหน็ ได้ เชน่ ปมุ่ กด ตา่ งๆ กล่องสำหรับใสข่ ้อมูล ส่วนคอมโพเนนต์เป็นออบเจก็ ต์ท่มี องไม่เห็น เช่น ตวั เปิดไฟล์ ตวั จบั เวลา สำหรับออบเจ็กต์ที่ควรรูจ้ กั พ้นื ฐานมีดงั น้ี คอลโทรล (Control)ถอื วา่ เปน็ เครอื่ งมอื สำคัญในการออกแบบโปรแกรมเมอื่ เลือก คอลโทรล มาวางบนฟอร์มจะทำให้คอลโทรลทีเ่ ลอื กเปน็ ออบเจ็กต์ของโปรแกรมท่จี ะพฒั นาข้ึน จากรปู ทผ่ี ่านมา จะเปน็ คอลโทรลพืน้ ฐานทีม่ ักใช้บ่อยๆ ได้แก่ • ปมุ่ กด (Button) ใช้สำหรับคลกิ เพื่อเลอื กการทำงานบางอยา่ ง • เลเบล (Label) ใชส้ ำหรบั แสดงขอ้ ความ • พกิ เจอร์บ็อกซ์ (Picture box) ใช้สำหรบั แสดงภาพ • เทก็ ร์บ็อกซ์ (Text box) ใช้สำหรบั รับ/แสดงขอ้ มลู จากคีย์บอร์ด

- 182 - สำหรับในหวั ข้อนจี้ ะกลา่ วถงึ พ้ืนฐานเกย่ี วกับหลกั การท่คี วรทราบในการพัฒนาโปรแกรมดว้ ย VB โดยมีส่งิ ที่รจู้ ักคือ คอลโทรล คุณสมบัติ และการเขียนโปรแกรมแบบ Event-Driven สำหรบั หลักการตา่ งๆ เหล่าน้ีอาจเปน็ สิ่งใหมส่ ำหรบั ผู้ท่ีเริ่มเขียนโปรแกรมบนวินโดว์ ดงั นนั้ จงึ ต้องศึกษา หัวข้อนีใ้ หด้ ี เน่ืองจากมคี วามสำคญั มากในการใช้ VB ถา้ หากแบ่งขั้นตอนการเขยี นโปรแกรมดว้ ย VB จะแบ่งได้ 2 ขน้ั ตอนหลกั ๆ ไดแ้ ก่ 1. การออกแบบหน้าจอของโปรแกรม ซึ่งเป็นส่วนท่ที ำหน้าทตี่ ิดต่อกบั ผู้ใช้ (เรียกวา่ ยูชเซอร์ อนิ เทอรเ์ ฟช : User Interface) ซงึ่ ทำไดโ้ ดยการนำเอาคอลโทรลตา่ งๆ มาวางบนฟอร์ม ถ้าหากมีการกระทำกบั ออบเจ็กต์ต่างๆ เชน่ คลกิ ปอ้ นข้อมูล เลือกขอ้ มูล จะทำใหเ้ กิดเหตกุ ารณข์ ้ึนกบั ออบเจก็ ต์น้นั เรยี กว่า อเี วนต์ (Event) โดยใน VB นั้นจะมีอีเวนต์ตา่ งๆ ให้เลอื กมากมาย 2. การเขยี นโปรแกรม ซง่ึ ใน VB เปน็ การกำหนดคุณสมบัติของคอลโทรลบนฟอร์มให้ เหมาะสม และการเขียนคำส่งั ตอบสนองตอ่ อเี วนตท์ ่ตี ้องการ

- 183 - ออกแบบหน้าจอของโปรแกรมดว้ ยคอลโทรล คอลโทรลเปน็ เครือ่ งมือในการออกแบบหนา้ จอโปรแกรม ซ่งึ เครื่องมือต่างๆ เหล่านี้ VB ได้ เตรียมไวใ้ หใ้ นทูลบ็อกซ์ โดยใหเ้ ลอื กคอลโทรลให้ตรงกับจุดประสงค์ในการใช้งาน และนำมาวางแผน บนฟอรม์ วา่ งท่ีปรากฏอยู่คอลโทรลแต่ละตัวที่เลอื กจะถกู กำหนดช่อื ไวอ้ ้างองิ ในโปรแกรม โปรแกรม VB เตรยี มคอลโทรลต่างๆ มาไว้ให้เป็นพื้นฐานในการเขยี นโปรแกรมแตย่ ังมีคอล โทรลอนื่ ท่ีนา่ สนใจอีกมากมาย ซง่ึ จะได้ศึกษารายละเอียดในบทตอ่ ไป การสร้างโปรแกรมในข้นั ตอนแรกนนั้ จะต้องเลอื กคอลโทรลต่างๆใหเ้ หมาะสมกับการทำงาน

- 184 - ของโปรแกรม เพราะว่าเป็นส่วนท่ีใชง้ านเหน็ และทำงานร่วมดว้ ย เมื่อเลือกคอลโทรลทูล บ็อกซม์ าวาง บนฟอร์ม VB จะต้ังชอ่ื ใหก้ ับคอนโทรลโดยอัตโนมัติ โดยใชก้ ฎตอ่ ไปน้ี • เท็กซบ์ ็อกซอ์ นั แรกทีว่ าง จะมชี ่ือวา่ Textbox 1 อนั ตอ่ ไปจะชอื่ Textbox 2 ไปเรอ่ื ยๆ • เลเบลอนั แรกท่ีวาง จะมชี อ่ื วา่ Label 1 อนั ต่อไปจะมีช่ือวา่ Label 2 ไปเรอื่ ยๆ • ปมุ่ กดอนั แรกที่วาง จะมีชอื่ วา่ Button 1 อนั ต่อไปจะมีชอื่ วา่ Button 2ไปเร่อื ยๆ การเขียนโปรแกรม ในขนั้ ตอนนจ้ี ะแบ่งออกเป็น 2 ข้นั ตอน คือ 1.1 การกำหนดคณุ สมบัติ คุณสมบตั ิ (Properties) คอื ลักษณะตา่ งๆ ของคอลโทรลที่เราสามารถกำหนดได้ เช่น ข้อความแสดงภายในคอลโทรล รปู แบบฟอนต์ของคอลโทรล สำหรับคอลโทรลพ้ืนฐานท่ีกล่าวมาแล้ว 3 คอนโทรลจะมคี ุณสมบัตติ ่างๆ ท่ีสำคญั ดงั นี้ 1. เท็กซบ์ อ็ กซ์ มีคุณสมบัติ Text ที่ใชก้ ำหนดขอ้ ความที่จะแสดงภายใน Textbox 2. ป่มุ กด มคี ุณสมบัติ Text ที่ใช้กำหนดข้อความทแ่ี สดงบนปุ่มกด 3. เลเบล มีคุณสมบตั ิ Text ที่ใชก้ ำหนดข้อความทแี่ สดงบนเลเบล คุณสมบัตทิ ั้ง 3 แสดงไดด้ งั รปู สำหรบั รายละเอียดของคณุ สมบัติตา่ งๆ ของคอลโทรลที่ เพิม่ ขึ้นจะกลา่ วในบทต่อๆไป การเขียนโปรแกรมแบบ Event-Driven Programming การเขยี นโปรแกรมแบบ Event-Driven คือการเขียนคำสั่งใหโ้ ปรแกรมทำงานอย่างใดอย่าง หนงึ่ เมอ่ื เกดิ เหตกุ ารณ์ท่ีเราสนใจข้นึ ซึ่งเราเรยี กเหตกุ ารณ์ทเ่ี ราสนใจวา่ อเี วนต์ (Event) เช่น ถ้าเรา

- 185 - สนใจเหตกุ ารณ์เม่อื กดปุ่มถกู คลิก (Click) หรอื สนใจเหตกุ ารณเ์ ม่ือค่าในเทก็ ซบ์ อ็ กซม์ ีการแก้ไข (TextChanged) เราสามารถเขียนคำสัง่ ท่เี ราตอ้ งการให้โปรแกรมทำงานเมอ่ื เกดิ เหตุการณเ์ หลา่ นนั้ ขึน้ ได้ดงั รูป สำหรับตวั อย่างอีเวนต์พื้นฐานทเ่ี ราควรรจู้ กั ได้แก่ • อเี วนต์ TextChanged จะเกิดขึน้ เม่อื มีการแก้ไขขอ้ ความในเทก็ ซบ์ ็อกซ์ • อีเวนต์ (Click) จะเกดิ ขน้ึ เมอ่ื มีการคลกิ ทป่ี มุ่ คำสั่ง สำหรบั กฎการตง้ั ชื่อของคำส่ังท่ีตอบสนองต่ออเี วนต์ใน VB จะใช้ชอ่ื คอนโทรลแลว้ ตามดว้ ย เคร่ืองหมาย UnderScore (_) และชื่ออเี วนต์ เช่น ปมุ่ คำสง่ั ช่ือ Button 1 ดังน้นั คำส่งั ทีต่ อบสนองต่อ อีเวนต์ Click จะมชี อื่ คำส่งั เป็น Button1_Click โดยมีรูปแบบดงั น้ี สำหรับคำวา่ Private Sub และ End Sub จะเป็นการบอกว่าคำสั่งทีต่ อบสนองต่ออีเวต์น้ี เริ่มตน้ และจบลงที่ใด และสำหรบั พารามิเตอร์ (ค่าในวงเล็บหลงั คำวา่ Button1_Click) ทส่ี ่งเข้ามาใน อีเวนตน์ จ้ี ะกล่าวถงึ ภายหลัง การจดั การคอลโทรล • ถ้าเราต้องการเพิม่ คอลโทรลลงไปบนฟอร์ม ทำไดด้ ังนี้

- 186 - • ถ้าตอ้ งการยา้ ยตำแหนง่ คอลโทรลสามารถคลกิ เมาส์เลือกคอนโทรลท่ีจะย้ายแล้วลากไปยงั ตำแหนง่ ใหมท่ ่ตี ้องการ • ถา้ หากต้องการแกไ้ ขขนาดของคอลโทรล ทำได้ดังนี้ การกำหนดคุณสมบัติ เราสามารถกำหนดคุณสมบัติให้กับคอนโทรลทุกคอลโทรลบนฟอรม์ ไดใ้ นหน้าตา่ งคุณสมบัติ (Properties Window) การเปดิ หน้าตา่ งนีใ้ ห้เลือกที่เมนู View แลว้ เลอื ก Order Windows แลว้ เลือก Properties Windows หรือใช้คีย์ <F4>

- 187 - • Object name เป็นส่วนท่แี สดงรายชอ่ื ของคอลโทรลที่อยบู่ นฟอร์ม • Categorized ใชเ้ ลอื กจดั เรยี งคุณสมบัติตามรายชอื่ ตวั อักษร • Alphabetic ใช้เลอื กจัดเรยี งคณุ สมบัติตามรายช่อื ตัวอักษร • Properties แสดงคณุ สมบตั ทิ ง้ั หมดของคอลโทรลท่เี ลอื ก • Event แสดงอเี วนตท์ ั้งหมดของคอลโทรลที่เลอื ก • Property Pages แสดงหน้าตา่ ง Property Pages หรอื Project Designer ซึ่งหน้าต่างน้ี จะแสดงคุณสมบัตอิ นื่ ๆ (ถ้าม)ี นอกเหนอื จากคุณสมบตั ปิ กติที่แสดงในหนา้ ตา่ งคุณสมบัติ • Description pane แสดงคำอธบิ ายสน้ั ๆ สำหรับคุณสมบัติทเ่ี ลอื ก สำหรับการกำหนดคุณสมบตั ใิ หก้ ับคอลโทรล สามารถทำได้ผ่านหนา้ ต่างคุณสมบตั ิ ดัง ตวั อย่างตอ่ ไปนี้

- 188 - จากตวั อย่างเป็นการเปลี่ยนคุณสมบตั ิ Text ซงึ่ จะเปน็ ช่ือท่ีแสดงบนคอนโทรลถ้าหาก เปลี่ยนเป็น Show กจ็ ะทำใหป้ ่มุ ทเี่ ลือกแสดงคำว่า Show ด้วยเช่นกนั การกำหนดอเี วนต์ หน้าตา่ ง Code Editor เปน็ หน้าตา่ งท่เี ราใช้สำหรบั เขียนโคด้ คำส่ังของ VB ลงไป เพ่ือให้ ตอบสนองตอ่ อเี วนตต์ ่างๆ ทีเ่ กดิ ขึ้นกับคอลโทรลตัวนัน้ ๆเราสามารถเปิด/ปดิ หนา้ ต่างน้ีได้ โดยกดคยี ์ <F7> หรือเลือกจากเมนู View>Code ดังรูป

- 189 - ถา้ หากตอ้ งการกลับไปยังหน้าตา่ งการออกแบบฟอร์ม ให้กดคยี ์ <Shift+F7> สำหรบั อีเวนต์ บางประเภท เชน่ Click การเขยี นโปรแกรมตอบสนองให้กบั อเี วนต์สามารถดบั เบลิ คลกิ ที่คอลโทรลที่ ตอ้ งการได้ทันที ก็จะแสดงโปรแกรมยอ่ ยทต่ี อบสนองอีเวนต์น้ีออกมาเชน่ กนั การทดสอบโปรแกรม เราสามารถทดสอบการทำงานของโปรแกรมได้ โดยกดคีย์ <F5> หรอื เลอื กเมนู Debug>Start Debugging ดงั รูป

- 190 - ถ้าหากตอ้ งการหยดุ การทดสอบโปรแกรมที่รันทดสอบหรอื กดคยี ์ <Shitf+F5> หรอื เลอื ก เมนู Debug>Stop Debugging ดังรปู การบนั ทึกโปรแกรม โปรแกรมท่ีพัฒนาขนึ้ ด้วย VB จะประกอบด้วยส่วยย่อยๆ ทีเ่ รียกว่า โมดูล (Module) หลาย สว่ นประกอบกนั โมดลู ตา่ งๆ เหล่านีเ้ ม่ือนำมารวมกันจะเรียกว่า โปรเจ็กต์ (Prject) ดังน้นั การบันทกึ โปรแกรมทสี่ รา้ งขึน้ จะเป็นการบันทกึ โปรเจ็กต์ มีอยู่ 2 วิธี คอื • การบนั ทกึ โปรเจ็กต์ในชื่อเดิม การบันทึกโปรเจก็ ตต์ ามช่ือที่ตง้ั ไวเ้ ดมิ ตอนเรม่ิ สร้างโปรเจ็กต์ ใหเ้ ลอื กเมนู Five>Save [ช่อื ของ โปรเจ็กต]์ ถา้ หากมไี ฟล์ใหม่ที่สร้างข้ึนมา และยงั ไม่ถูกบนั ทกึ VB จะต้ังช่ือไฟลใ์ ห้เพื่อทำการ บันทึกดว้ ย

- 191 - • การบันทึกในโปรเจ็กต์ในชื่อใหม่ การบันทึกโปรเจก็ ต์ในชื่อใหม่ ให้เลือก File>Save [ชือ่ ของโปรเจก็ ต์] As การบันทกึ จะเปน็ การสร้างโปรเจ็กต์ชื่อใหม่ โดยโปรเจก็ ตเ์ ดมิ ก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม สำหรับหวั ขอ้ นจ้ี ะนำความรู้ทไ่ี ดก้ ล่าวมาแล้วมาใช้สรา้ งโปรแกรมของเรา ซึง่ ขั้นตอนการ พฒั นาโปรกรมดว้ ย VB สามารถสรปุ ขน้ั ตอนได้ 3 ขน้ั ตอนท่สี ำคญั ดังนี้ • ออกแบบหน้าจอท่ีตดิ ต่อกับผู้ใช้ • กำหนดคุณสมบัติของคอนโทรลบนฟอร์มให้เหมาะสมกับความต้องการ • เขียนคำสง่ั ตอบสนองต่ออีเวนต์ สำหรับโปรแกรมแรกจะสรา้ งโปรแกรมรบั ข้อความจากผู้ใช้ เม่อื คลิกเมาส์ให้นำข้อความท่ี ปอ้ นเขา้ ไป มาแสดงผลทางขอ้ ความ โดยมลี ักษณะการทำงานดงั นี้

- 192 - สำหรับการสรา้ งโปรแกรมให้ทำดงั ข้ันตอนตอ่ ไปนี้ 1. สรา้ งโปรเจก็ ตใ์ หม่ ชื่อวา่ Hello เลอื กแบบ Windows Application แลว้ นำคอลโทรล โดยเลือกเลเบล, เท็กซ์บ็อกซ์ และปมุ่ คำสง่ั มาวางบนฟอรม์ 2. ให้กำหนดคุณสมบตั ขิ องคอลโทรลต่างๆ โดยคลิกท่ีคอลโทรลต่างๆ โดยคลิกที่คอลโทรล แตล่ ะตัวแลว้ กำหนดตามตารางต่อไปนี้

- 193 -

- 194 - 3. เขียนโปรแกรม โดยเลอื กเมนู View>Code เพอื่ ให้แสดงหน้าต่างเขียนโค้ดคำสั่ง (Code Editor) 4. เมื่อเขา้ สู่หนา้ ต่างเขียนโค้ด ให้สร้างการตอบสนองหรืออเี วนต์ใหก้ บั ปุ่ม Buuton1 โดย คลิกเลอื กออบเจก็ ต์ Button1 และเลอื กอเี วนต์ Click จากหนา้ ต่าง ดังรูป

- 195 - 5. เขยี นโคด้ คำสั่งเติมลงไป ในส่วนท่แี รเงาดังรปู จากการเขยี นโปรแกรมคำส่งั ข้างตน้ คำสงั่ Msgbox จะใชแ้ สดงกล่องข้อความ (Message Box) ที่ใชแ้ สดงขอ้ ความแจ้งเตอื น โดยเราจะใส่ค่าในกลอ่ งขอ้ ความนไ้ี ด้ 2 ค่า คอื ข้อความทตี่ อ้ งการ แสดง และค่าของปุม่ กด โดยใช้เครือ่ งหมาย (,) ค่ันระหวา่ งข้อความ • คา่ แรกที่เขียนลงไปคือ \"Hello, \"& TextBox1.Text หมายความวา่ ให้แสดงคำว่า Hello แล้วนำข้อความท่อี ยู่ใน TextBox1 มาตอ่ เข้ากับ Hello โดยใช้ตัวดำเนนิ การ & เปน็ ตวั ต่อใน โปรแกรมที่เขียนเปน็ TextBox1 หมายถึงคุณสมบตั ิ Text ของ คอลโทรล TextBox1 ซงึ คุณสมบัติน้ี จะเปน็ ขอ้ ความท่เี ราพิมพ์ลงไปใน เท็กซ์บ็อกซ์ • คา่ ทส่ี องของการเขยี นโปรแกรมลงไปคือ MsgBoxStyle.Ok.Only เปน็ การกำหนดปมุ่ ทจ่ี ะ แสดงในกลอ่ งข้อความ 6. ข้นั ตอนตอ่ ไปให้ทดลองรันโปรแกรมโดยเลือกเมนู Start Debugging หรือกดคยี ์ <F5> จะ ไดโ้ ปรแกรมท่ีทำงานตามต้องการ เมื่อป้อนข้อความเข้าไปในเทก็ ซ์บอ็ กซ์แล้วคลิกปมุ่ Say Hello โปรแกรมก็จะแสดงกลอ่ งข้อความออกมาโปรแกรมจะแสดงฟอร์มช่วงโปรแกรมออกมา ใหพ้ ิมพ์ชอ่ื เขา้ ไปแล้วกดป่มุ Say Hello

- 196 - ในการพัฒนาโปรแกรมนั้นสามารถนำคอลโทรลหลายๆ ตวั มาวางบนฟอรม์ ได้ หลังจากวาง คอลโทรลตวั แรกลงไปแล้ว เมอ่ื วางคอนโทรลตัวต่อไปบนฟอร์มโปรแกรมจะแสดงเสน้ (Snap line) สำหรับจัดตำแหน่งให้ตรงกับคอนโทรลตัวแรกๆดว้ ย

- 197 - เมื่อวางคอลโทรลหลายๆตัวลงบนฟอรม์ ถา้ หากใช้เมาสค์ ลกิ ที่คอนโทรลตัวในหน้าต่าง คณุ สมบตั จิ ะแสดงคณุ สมบัตขิ องคอนโทรลตวั ที่เลือก ทำให้ผู้เขยี นโปรแกรมสามารถปรบั แก้คุณสมบตั ิ ต่างๆ ไดง้ ่าย

- 198 - สำหรับตัวอย่างโปรแกรมต่อไปนจี้ ะแสดงการประยุกตใ์ ชค้ อนโทรลหลายๆตัว และเขียนอี เวนต์ใหก้ ับคอลโทรลแต่ละตัว ให้สรา้ งโปรเจ็กตใ์ หม่ นำคอลโทรลปมุ่ กด (Button) มาวางบนฟอรม์ จำนวน 4 ตัว และเลเบลหนง่ึ ตัว โดยปรบั ค่าคณุ สมบัตใิ หก้ บั คอลโทรลแต่ละตัวดงั น้ี สำหรบั ตัวอยา่ งนจ้ี ะออกแบบใหโ้ ปรแกรมทำงานดังนี้ • คลิกทีป่ ่มุ English แสดงข้อความท่ีเลเบลชื่อ Label1 • คลกิ ท่ีปุ่ม Spanish แสดงข้อความที่เลเบลชื่อ Label1 • คลิกที่ Print แสดงขอ้ มูลในลักษณะการพมิ พ์ออกเครอื่ งพมิ พ์ • คลิกที่ปุม่ Exit จบโปรแกรม เม่อื นำคอลโทรลต่างๆมาวางบนฟอร์ม โปรแกรมจะมองคอลโทรลเหล่านั้นเป็นออบเจ็กตใ์ น

- 199 - การเขยี นโปรแกรมถา้ หากต้องการกำหนดคา่ คุณสมบัติ ใหมใ่ หก้ ับออบเจ็กต์สามารถเขียนโคด้ ไดด้ ังรปู แบบต่อไปนี้ ถ้าตอ้ งการเขยี นโปรแกรมเรยี กใชง้ านเมธอดของออบเจ็กต์สามารถเขียนไดด้ งั รปู แบบตอ่ ไปน้ี ขน้ั ตอ่ ไป นำคอมโพเนนต์ PrintForm จากกลอ่ งเคร่ืองมอื ซงึ่ เก็บอยใู่ นกล่มุ Visual Basic PowerPacks มาวางบนฟอร์ม เมอื่ วางแล้วจะปรากฏสัญลกั ษณ์ของคอมโพเนนตน์ ดี้ า้ นล่างของฟอรม์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook