- 250 - การกำหนดวธิ ีเลือกรายการในลิสตบ์ อ็ กซ์ เราสามารถกำหนดว่า จะให้ผใู้ ช้เลอื กรายการในลิสตบ์ อ็ กซท์ ลี ะรายการ หรือหลายรายการ โดยกำหนดท่ีคุณสมบัติ SelectionMode ซึง่ แต่ละคา่ จะมีความหมายดังตารางตอ่ ไปน้ี ตัวอย่าง เปน็ ตวั อย่างการเขยี นโปรแกรมรับขอ้ มลู จากเทก็ ซบ์ ็อกซ์ เม่อื คลกิ ปมุ่ Add จะนำ ข้อมูลไปในลสิ ตบ์ อ็ กซ์ วิธีการออกแบบโปรแกรม 1. สร้างโปรเจก็ ตใ์ หม่ แล้วนำคอนโทรลต่างๆมาวางบนฟอร์ม โดยกำหนดชอ่ื และคณุ สมบตั ิ ตา่ งๆ ดังน้ี
- 251 - 2. เขียนโปรแกรมใหก้ บั ปุ่ม Add โดยดับเบิลคลิกท่ีปุ่มแล้วเขียนโปรแกรมอา่ นขอ้ มลู จาก เท็กซบ์ ็อกซไ์ ปเพิม่ ในลิสต์บอ็ กซ์ 3. เขยี นโปรแกรมใหก้ บั ปุ่ม Remove โดยลบขอ้ มูลทเ่ี ลือกในลิสต์บ็อกซ์ โปรแกรมทเ่ี ขียนขึน้ จะเปน็ ดังน้ี
- 252 - การกำหนดค่ารูปแบบของคอมโบบอ็ กซ์ คอมโบบอ็ กซเ์ ป็นคอนโทรลทรี่ วมความสามารถของเทก็ ซบ์ ็อกซ์และลสิ ต์บ็อกซเ์ ข้าไว้ดว้ ยกนั ทำใหเ้ ราสารถเลอื กรายการไดเ้ ช่นเดยี วกบั ลิวต์บอ็ กซ์ รวมทั้งสามารถแก้ไขรายการได้เหมอื นกบั เทก็ ซ์บ็อกซ์ คอมโบ บอ็ กซจ์ ะใช้พื้นทีน่ ้อยกว่าลิสตบ์ อ็ กซ์ และใช้คำสั่งในการทำงานคล้ายกันดงั นน้ั เรา สามารถนำความรู้เก่ียวกับลสิ ต์บอ็ กซ์มาใชก้ ับคอมโบบอ็ กซ์ได้ เราสามารถกำหนดรูปแบบของคอมโบบ็อกซไ์ ด้ โดยผา่ นทางคุณสมบัติ DropDownStyle โดยคอมโบบ็อกซ์มรี ปู แบบที่ใชง้ านอยู่ 3 รปู แบบดังตารางตอ่ ไปน้ี สำหรบั รายละเอยี ดของคอมโบบ็อกซ์แต่ละรปู แบบเปน็ ดงั นี้ 1. ซิมเปิลคอมโบบ็อกซ์ (Simple ComboBox) เปน็ คอมโบบ็อกซ์ที่มลี กั ษณะดังรปู ซึง่ จะ แสดงรายการทมี่ อี ยูต่ ลอดเวลา และเมือ่ จำนวนรายการเกินความสูงของคอนโทรล ตัวคอนโทรลจะ แสดงสกรอลบาร์แนวตงั้ เพ่อื ใหเ้ ลอ่ื นดูรายการที่เหลอื ได้
- 253 - 2. ดรอปดาวน์คอมโบบ็อกซ์ (Dropdown ComboBox) เปน็ คอมโบ บ็อกซ์ท่ีมลี กั ษณะดัง รูป ซึง่ ผูใ้ ชส้ ามารถใสค่ า่ ลงไปได้โดยตรง หรือเลือกจากรายการทม่ี ีอยไู่ ด้ โดยการคลิกที่ป่มุ ลกู ศรชี้ลง เมอ่ื เลือกตวั เลือกใดในรายการแล้ว ตัวเลอื กน้นั จะแสดงอยูช่ อ่ งข้างบนสุดของคอนโทรล 3. ดรอปดาวน์ลสิ ตบ์ ็อกซ์ (Dropdown ListBox) เป็นคอมโบบอ็ กซ์ทมี่ ลี ักษณะดังรปู เปน็ คอมโบบอ็ กซ์ท่ีคล้ายกับลสิ ต์บอ็ กซแ์ ต่จะประหยัดเน้อื ทท่ี ่ใี ช้แสดงรายการมากกวา่ โดยที่เราตอ้ งคลิก เมาสป์ มุ่ ลกู ศรลงเพื่อดูรายการท้งั หมด และคอมโบบอ็ กซแ์ บบน้จี ะไมส่ ามารถใสค่ ่าเองได้ จะเลือก ข้อมูลจากรายการทมี่ ีอยไู่ ด้เทา่ นน้ั
- 254 - สำหรบั การเพิ่มรายการ การเรียงรายการ การลบรายการ การหาตำแหนง่ รายการ การ เข้าถงึ รายการ เปน็ สว่ นท่ีมีการใชง้ านเหมอื นกับลิสตบ์ ็อกซท์ ุกประการ ดังนน้ั เราสามารถย้อนกลบั ไป ดูวิธจี ดั การได้ ในเนอ้ื หาของลิวตบ์ ็อกซ์ คอนโทรลพกิ เจอรบ์ อ็ กซ์ (PictureBox) การแสดงรปู ภาพบนฟอรม์ สามารถทำไดโ้ ดยการนำคอนโทรลพิกเจอรบ์ อ็ กซ์ (Picture Box) มาใช้ คอนโทรลตวั นส้ี ามารถแสดงรปู ภาพไดห้ ลายรปู แบบ สำหรับคุณสมบัตพิ น้ื ฐานท่คี วรรจู้ กั ใน เบอื้ งตน้ มีดังนี้ Image เปน็ ออบเจ็กตท์ ีใ่ ชส้ ำหรับอ้างถึงรปู ภาพ Visible ใชส้ ำหรับกำหนดให้แสดงหรือไมแ่ สดงรปู ภาพ (กำหนดเปน็ True หรือ False) SizeMode ใชส้ ำหรบั กำหนดรปู แบบการแสดงรปู ภาพ โดยสมโี หมดดังน้ี • Normal แสดงรูปตามขนาดจริง • CenterImage แสดงรูปกลางพกิ เจอรบ์ ็อกซต์ ามขนาดจริง • StretchImage แสดงรูปพอดขี นาดของพกิ เจอร์บ็อกซ์ • AutoSize ปรับขนาดของพวิ เจอร์บ็อกซ์ตามขนาดของรูป • Zoom ย่อหรอื ขยายรปู ใหอ้ ยู่ในพิกเจอร์บ็อกซ์ตามสัดส่วนจรงิ ตัวอยา่ ง แสดงการใช้พกิ เจอรบ์ ็อกซเ์ บอื้ งตน้ โดยเขียนโปรแกรมให้คลกิ ปุ่ม Show แล้ว แสดงรปู ภาพ ให้สร้างโปรเจ็กตใ์ หม่ตามข้นั ตอนต่อไปนี้ 1. นำคอนโทรลพกิ เจอร์บอ็ กซ์ และคอนโทรลปมุ่ คำส่ังมาวางบนฟอรม์ 2. เปลี่ยนคุณสมบัติ Text ของปุม่ คำส่ังเปน็ \"Show\" 3. คลิกเมาส์ที่พกิ เจอรบ์ อ็ กซบ์ นฟอรม์ แล้วเลือกคุณสมบัติ Image ในหนา้ ตา่ งคุณสมบัตเิ พื่อ เลือกรูปภาพท่จี ะนำมาแสดง
- 255 - 4. เมอ่ื คลิกปมุ่ เลือกรปู ภาพจะปรากฏหน้าต่าง Select Resource ใหค้ ลกิ ปุ่ม Import แล้วเลือกไฟลร์ ปู ภาพจากเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ จากนั้นคลกิ ปมุ่ OK 5. เลอื กคุณสมบัติ Visible ของพิกเจอร์บ็อกซใ์ หเ้ ปน็ False เพื่อไม่ให้แสดงภาพ และ เลอื ก SideMode ให้เปน็ StretchImage
- 256 - 6. เขียนโปรแกรมใหก้ ับปุ่มคำส่ัง โดยดับเบิลคลิกทีป่ มุ่ Show แล้วเขยี นโคด้ โดยเปลี่ยน คุณสมบัติ Visible เป็น True เมือ่ รนั โปรแกรมแล้วใช้เมาส์คลกิ ท่ปี ุ่ม Show โปรแกรมจะแสดงภาพออกมา ดังน้ี
- 257 - ใบมอบงาน หนว่ ยท่ี 4 ชื่อวิชา การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหสั วชิ า 3204 - 2007 ระดับช้นั ปวส. สอนคร้ังที่ 8 ชื่อหนว่ ย โปรแกรม Visual Basic ช่อื เรอื่ ง อภปิ ราย เรอื่ งโปรแกรม Visual Basic จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม กกกกกกกอภิปราย เรอื่ งโปรแกรม Visual Basic ข้อตกลงเบ้อื งต้น กกกกกกกให้นักเรียนแบง่ กล่มุ ๆ ละ 3 - 5 คน อภิปรายเก่ียวกับองค์ประกอบของโปรแกรมพร้อมท้ัง นำเสนอสรปุ จากแนวคดิ ของกลมุ่ สอื่ การเรียนการสอน กกกกกกก1. ส่อื สง่ิ พมิ พ์ กกกกกกกกกก1.1 หนงั สอื แบบเรยี นรายวิชาการเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ กกกกกกกกกก1.2 ใบมอบงาน ใบงาน กกกกกกกกกก1.3 แบบประเมินผล กกกกกกก2. สือ่ โสตทัศน์ กกกกกกกกกก2.1 สือ่ Power Point ประกอบการสอน เรอ่ื ง โปรแกรม Visual Basic กกกกกกกกกก2.2 เครื่องโปรเจคเตอร์ กกกกกกกกกก2.3 เครือ่ งคอมพิวเตอรแ์ บบพกพา (Notebook) ลำดบั ขัน้ ตอนการดำเนินงาน กกกกกกก1. แบง่ กลมุ่ นกั เรียนอตั ราส่วน 1: 3 : 1 โดยคละคนเก่ง ปานกลางและออ่ น ให้นกั เรยี นเลือกประธาน เลขานุการ กกกกกกก2. แต่ละกลุ่มอภิปรายแนวคิดเกี่ยวกับความหมายของการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หลักการพัฒนาการเขียนโปรแกรมและหลักการออกแบบและพัฒนาโปรแกรมโดยใช้เครื่องมือ กราฟกิ โหมด กกกกกกก3. ให้แต่ละกลุ่มนำเสนอผลการอภิปรายแนวคดิ เกีย่ วกับความหมายของการเขียนโปรแกรม คอมพิวเตอร์ หลักการพัฒนาการเขียนโปรแกรมและหลักการออกแบบและพัฒนาโปรแกรมโดยใช้ เครื่องมอื กราฟิกโหมดหน้าช้ันเรียนตามแบบประเมินผลใบมอบงาน เกณฑก์ ารประเมิน กกกกกกกคะแนนรวมตามแบบประเมนิ ผลใบมอบงาน ไมต่ ำ่ กว่าร้อยละ 60
- 258 - แบบประเมินผลใบมอบงาน หนว่ ยที่ 4 ชอ่ื วชิ า การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สอนครงั้ ท่ี 8 รหสั วิชา 3204 - 2007 ระดับชั้น ปวส. ชอ่ื หน่วย โปรแกรม Visual Basic ชือ่ เรื่อง โปรแกรม Visual Basic หวั ขอ้ อภปิ ราย เรือ่ งโปรแกรม Visual Basic ชือ่ กลุม่ …………………………………………………………………………………………………………………..……. สมาชิกกลุ่ม 1. ……………………………………………. 2. ……………………………………………………… 3. …………………………………………… 4. …………………………………..…………………… 5. …………………………………………… รายการประเมิน คะแนนเต็ม ผลคะแนน หมายเหตุ 1. การแบง่ หนา้ ที่ 10 …………. 2. การทำงานเป็นทีม 10 …………. 3. ความรบั ผิดชอบ 10 …………. 4. การอภปิ รายกลุม่ 10 …………. 5. การแสดงความคดิ เห็น 10 …………. 6. ความพรอ้ มในการนำเสนอ 10 …………. 7. บคุ ลิกในการนำเสนอ 10 …………. 8. ความชัดเจนของการนำเสนอ 10 …………. 9. การตอบขอ้ ซกั ถาม 10 …………. 10. การสรุปประเด็นสำคัญ 10 …………. รวมคะแนนที่ได้ ลงชอ่ื ..............................................ครผู ู้ประเมิน เกณฑ์การประเมนิ (นายพรพิทกั ษ์ ศรีแกว้ ) ได้รอ้ ยละ 80 – 100 ดมี าก ได้ร้อยละ 70 – 79 ดี ได้รอ้ ยละ 60 – 69 พอใช้ ได้รอ้ ยละ 50 – 59 ต้องปรับปรุง น้อยกวา่ 50 ตำ่ กวา่ เกณฑ์
- 259 - ใบงานท่ี 4.1 หน่วยที่ 4 ช่ือวิชา การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ สอนคร้ังท่ี 8 รหัสวชิ า 3204 - 2007 ระดับช้ัน ปวส. ชอ่ื หน่วย โปรแกรม Visual Basic จำนวน เรอื่ ง/งาน Windows Form 1 ชุด 1 ระบบ 1. วัตถปุ ระสงค์ 1 โปรแกรม 1 โปรแกรม กกก1.1 เพ่อื ให้นักเรียนมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกับ Windows Form กกก1.2 ปฏบิ ัตใิ ชง้ านเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ในการค้นหาขอ้ มลู ได้ กกก1.3 ปฏิบตั ใิ ชง้ านโปรแกรม Visual Basic Windows Form ได้ กกก1.4 ปฏบิ ตั ิสง่ ไฟลข์ ้อมูล Windows Form ทางอินเทอรเ์ น็ตได้ 2. เคร่อื งมอื และอุปกรณ์ ลำดบั ที่ รายการ 1 เครื่องคอมพวิ เตอร์ แบบตั้งโตะ๊ 2 ระบบเครือขา่ ย อินเทอรเ์ นต็ 3 โปรแกรมบราวเซอร์ 4 โปรแกรม Visual Basic
- 260 - ใบงานที่ 4.1 หน่วยที่ 4 ชือ่ วิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ สอนคร้ังท่ี 8 รหัสวชิ า 3204 - 2007 ระดับช้ัน ปวส. ชือ่ หน่วย โปรแกรม Visual Basic เร่ือง/งาน Windows Form 3. การวเิ คราะห์งาน กกก3.1 เตรียมเครอื่ งมอื อุปกรณ์ กกก3.2 ปฏบิ ัตกิ ารใชง้ านโปรแกรมบราวเซอร์คน้ หาข้อมลู กกก3.3 ปฏิบตั ิการใช้งานโปรแกรม Visual Basic กกก3.4 ปฏบิ ตั ิเขียน Windows Form โดยโปรแกรม Visual Basic กกก3.5 ปฏิบัติการใชง้ านโปรแกรม Visual Basic บนั ทกึ งานชอ่ื ไฟล์ ใบงานที่ 4.1 กกก3.6 ปฏบิ ัตกิ ารใช้งานโปรแกรมบราวเซอรส์ ่งงาน ที่ bit.ly/3204-2007 กกก3.7 ปฏิบตั ิการสร้างโฟลเดอรเ์ ปน็ รหสั ประจำตวั นักเรียน เช่น 63320400xx กกก3.8 ปฏบิ ตั ิการอพั โหลดไฟล์ ใบงานท่ี 4.1 ไวใ้ นโฟลเดอร์ท่ีสร้างโฟลเดอร์เป็นรหัสประจำตัว นกั เรยี น กกก3.9 เกบ็ เครอื่ งมือ อปุ กรณ์ Shut down เครื่องคอมพวิ เตอรแ์ ละปิดสวติ ซห์ น้าจอ 4. ทฤษฎี ในชีวติ ประจำวันนน้ั ทุกคนมักจะพบปญั หาต่างๆ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งในการแก้ปญั หานนั้ ก็จะมี วิธกี ารที่เปน็ ข้นั ตอนชัดเจน และแตกตา่ งกนั ท้ังนี้ขึน้ อยกู่ ับความสามารถและประสบการณ์ของบคุ คล นัน้ ๆ โดยวิธกี ารแก้ปญั หาตอ้ งเริม่ จากการทำความเข้าใจ แล้วหาวิธกี ารแกป้ ัญหาอย่างมีประสิทธภิ าพ 5. ลำดับข้ันการทดลอง / ปฏบิ ตั งิ าน กกก5.1 เปดิ โปรแกรมบราวเซอร์ เข้าไปเว็บไซต์ http://www.google.com กกก5.2 ค้นหาขอ้ มลู Windows Form กกก5.3 ปฏิบัติการสรา้ ง Project แบบ Windows From Application และปฏบิ ัตดิ งั นี้ 1. ตงั้ ชื่อ Project เป็น myFirstForm 2. บันทกึ Form โดยใช้ช่อื Form เปน็ myForm1 3. ทำการปิด myForm1 และ เปดิ ขน้ึ มาใหม่ 4. ทำการปดิ Project และทำการเปิด Project myFirstForm ข้ึนมาอีกคร้ัง 5. ออกจากโปรแกรม Visual Basic
- 261 - ใบงานที่ 4.1 หนว่ ยที่ 4 ชอื่ วชิ า การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ สอนคร้ังที่ 8 รหัสวิชา 3204 - 2007 ระดับชัน้ ปวส. ชอ่ื หน่วย โปรแกรม Visual Basic เร่อื ง/งาน Windows Form กกก5.5 รวมไฟลด์ ้วยโปรแกรม Win Zip หรอื Win RAR บันทึกงานช่ือไฟล์ ใบงานที่ 4.1 กกก5.6 สง่ งานทางอนิ เทอร์เน็ต ท่ี bit.ly/3204-2007 กกก5.7 เกบ็ เครื่องมอื อปุ กรณ์ Shut down เคร่ืองคอมพิวเตอร์และปิดสวติ ซห์ นา้ จอ ขอ้ ควรระวัง : 1. ไมค่ วรเปดิ -ปิดเครือ่ งบ่อยๆ ถ้าจำเป็นต้องใช้บ่อยๆให้ใช้โปรแกรมรักษาหน้าจอ(screen sever) และตั้งค่าการประหยัดพลงั งานแทน โดยให้คลิกขวาทว่ี า่ งๆบน Desk top และเลือก Screen saver (การรักษาหนา้ จอ) แล้วก็ต้ังเวลาและลกั ษณะได้ตามตอ้ งการว่าจะให้จอภาพเกดิ screen sever ภายในกี่นาที ถ้าไมไ่ ดใ้ ชง้ านติดตอ่ กัน แต่ถ้าจะตั้งให้จอภาพปิด หรือ จะปดิ การทำงานของ Hard disk ถ้าปล่อยทิง้ ไว้นานๆ กใ็ ห้คลกิ ตอ่ ที่ Energy แล้วก็เลือกเวลาท่ีจะใหจ้ อปิด, เวลาท่ีจะให้ เครอื่ งเตรียมพรอ้ ม, และเวลาท่ีจะให้ให้ปิด Hard disk เมื่อเคร่ืองไมไ่ ดถ้ ูกใชง้ านนานๆ แลว้ ก็คลิก Apply และ OK 2. ปมุ่ restart ท่ตี ัว case ใช้ในกรณที ี่จำเป็นจริงๆ เช่นเครือ่ งแฮงค์ (คา้ ง) ปิดโปรแกรมไมไ่ ด้และ shut down ไม่ได้ 3. ไม่จำเป็นอยา่ เปดิ ฝาเคร่ืองแลว้ ไปถูกต้องอุปกรณข์ า้ งใน เชน่ ไมโครชิพ เพราะอาจมีไฟฟา้ สถิต จากตัวเราที่จะทำให้ไมโครชิปเสียหายได้ (ถ้าจำเป็นตอ้ งจับก็ให้แตะที่ตัว CASE หรอื โครงก่อนเพื่อ ปลอ่ ยไฟฟ้าสถติ ที่อาจมีอยใู่ นตวั เราใหห้ มดไปกอ่ น) ข้อแนะนำ : ลดความเสย่ี งจากภยั ของไวรสั มีวธิ กี ารตา่ งๆ เปน็ จำนวนมากทีค่ ุณสามารถกระทำไดเ้ พ่ือปอ้ งกัน คอมพวิ เตอร์และเครอื ข่ายของคณุ ให้ปลอดภยั จากไวรสั การใชซ้ อฟต์แวร์ป้องกนั ไวรัสและทำให้ ซอฟต์แวรด์ ังกลา่ วทนั สมัยอยเู่ สมอเปน็ สง่ิ ที่ควรทำเป็นลำดับแรก
- 262 - ใบงานที่ 4.1 หนว่ ยท่ี 4 ชือ่ วชิ า การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สอนคร้ังท่ี 8 รหสั วชิ า 3204 - 2007 ระดบั ช้ัน ปวส. ชื่อหน่วย โปรแกรม Visual Basic เรือ่ ง/งาน Windows Form 6. สรุปผลการทดลอง / ปฏบิ ตั งิ าน …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 7. คำถามท้ายการทดลอง / ปฏบิ ตั ิงาน 7.1 นกั เรยี นคดิ วา่ ความหมายการเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์คอื อะไร 7.2 แผนผัง Flow Chart คืออะไร 7.2 ผเู้ รียนสามารถนำความรูท้ ่ไี ด้จากการปฏิบัติใบงานไปใช้กบั ชวี ติ ประจำวันไดอ้ ย่างไร
- 263 - ใบประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงานที่ 4.1 หนว่ ยท่ี 4 ชื่อวิชา การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ สปั ดาห์ที่ 8 รหสั วชิ า 3204 - 2007 ระดับช้นั ปวส. ชื่อหนว่ ย โปรแกรม Visual Basic ชือ่ เรื่อง Windows Form รหสั นักศกึ ษา………………...………… ชื่อ-สกุล ผู้เข้ารับการฝึก………………………………..…………………….. ระดับ ปวส. ชัน้ ปีท่ี....................... แผนกวชิ า....................................................................................... รายการประเมนิ คะแนนเต็ม คะแนนทไ่ี ด้ หมายเหตุ 1. การจดั เตรียมวัสดอุ ุปกรณ์ 10 2. การปฏบิ ัติการสรา้ ง Windows Form 10 3. บนั ทกึ ผลการทดลอง/ปฏิบัตงิ าน 10 4. อภิปรายผลการทดลอง/ปฏิบัตงิ าน 10 5. สรุปผลการทดลอง/ปฏิบัติงาน 10 6. ตรงตามเวลา 10 7. การจดั เกบ็ เคร่อื งมือและอปุ กรณ์ 10 รวม 70 เกณฑ์การให้คะแนน (ข้อท่ี 1 - 5) เกณฑก์ ารประเมนิ 10 คะแนนหมายถึง สามารถปฏิบัตงิ านไดอ้ ยา่ ง ได้ร้อยละ 80 – 100 ดมี าก อสิ ระโดยไมต่ อ้ งขอคำแนะนำจากครผู ู้สอน 70 – 79 ดี 7 คะแนนหมายถงึ สามารถปฏิบตั ิงานได้โดย 60 – 69 พอใช้ ขอรบั คำแนะนำจากครผู ู้สอนเปน็ บางครัง้ 50 – 59 ต้องปรบั ปรงุ 5 คะแนนหมายถึง สามารถปฏิบตั งิ านไดโ้ ดย นอ้ ยกว่า 50 ตำ่ กว่าเกณฑ์ ขอรับคำแนะนำจากครผู ู้สอนอยา่ งใกลช้ ิด รวมคะแนนระดับความสามารถ …………. คะแนนคดิ เป็นรอ้ ยละ…………… ผลการฝึก ผา่ น ไมผ่ า่ น ลงช่ือ ..................................... ลงช่อื ..................................... (..........................................) (นายพรพิทกั ษ์ ศรแี ก้ว) นักเรยี นรว่ มประเมนิ ครูผสู้ อน
- 264 - แบบฝึกหัด หน่วยที่ 4 สอนครั้งท่ี 8 ช่อื วิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหสั วชิ า 3204 - 2007 ระดับชั้น ปวส. ชือ่ หน่วย โปรแกรม Visual Basic เรือ่ ง/งาน แผนภาพโปรแกรม Visual Basic คำชแี้ จง 1. แบบฝึกหดั ชนิดเตมิ คำ จำนวน 5 ข้อ ๆ ละ 1 คะแนน คะแนนเต็ม 5 คะแนน 2. ให้นักเรยี นเขยี นคำตอบลงในชอ่ งว่างใหถ้ ูกต้อง 3. เวลาทใี่ ช้ในการทำแบบฝกึ หัด จำนวน 15 นาที 1. จงอธิบายความหมายของตัวแปลภาษาต่อไปนี้ Assembler Interpreter Complier …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. ยกตัวอยา่ งของโปรแกรมท่ีใชภ้ าษา 4GLs ในการเขยี น พรอ้ มทงั้ อธิบายลกั ษณะการทำงานของ โปรแกรมพอสังเขป …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………..
- 265 - แบบฝกึ หดั หนว่ ยท่ี 4 สอนครั้งที่ 8 ชอ่ื วิชา การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหสั วชิ า 3204 - 2007 ระดบั ช้ัน ปวส. ชอื่ หน่วย โปรแกรม Visual Basic เรื่อง/งาน แผนภาพโปรแกรม Visual Basic 3. อธบิ ายความหมายของโครงสร้างขอ้ มลู ดงั ตอ่ ไปนี้ Bit Byte Field Record …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 4. จงเติมคำให้ถูกต้อง 1 ไบต์ เท่ากับ.............บิต ข้อมลู ท่ีมีลกั ษณะ 001100 คิดเป็นขนาด..........บิต ค่าสงู สุดของไบต์ มคี า่ ...............ไบต์ 5. ยกตวั อยา่ งฐานข้อมลู ในสถานศึกษามา 1 ฐานขอ้ มูล และรว่ มกันอภปิ รายหน้าชัน้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………..
- 266 - ใบเฉลยแบบฝกึ หดั หน่วยที่ 4 สอนครั้งท่ี 8 ชอ่ื วชิ า การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา 3204 - 2007 ระดับช้นั ปวส. ชอื่ หน่วย โปรแกรม Visual Basic เรือ่ ง/งาน แผนภาพโปรแกรม Visual Basic 1. จงอธิบายความหมายของตวั แปลภาษาตอ่ ไปน้ี Assembler หมายถงึ โปรแกรมทใ่ี ช้เพือ่ ทำหนา้ ที่แปลโปรแกรมภาษาแอสเซมบลเี ป็น ภาษาเคร่อื ง (machine language) ซ่ึงจะทำใหค้ อมพิวเตอรอ์ ่านแล้วเขา้ ใจ และปฏิบัตติ ามคำส่งั ได้ ดู assembly language Interpreter หมายถงึ โปรแกรมตวั แปลทอ่ี า่ นคำสั่งในโปรแกรมทลี ะคำสง่ั (ไมร่ อจนจบ โปรแกรมเหมือนตัวแปลอื่น) แปลเปน็ ภาษาเครอ่ื ง (machine language) แลว้ ปฏิบัติตามคำสัง่ น้ันเลย เช่น ตัวแปลทใี่ ชแ้ ปลโปรแกรมภาษาเบสิก (BASIC) การเรยี นวธิ เี ขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ที่ใช้ ตัวแปลประเภทน้ี ผูเ้ รยี นจะรู้สึกว่าง่ายและทันใจ เพราะพอใส่คำสั่งเข้าไป เคร่อื งก็จะรายงานไดท้ ันที วา่ คำส่ังนัน้ ถกู หรือผิด ถา้ สั่งให้ทำอะไร ก็จะทำให้เลย ข้อเสยี ของตัวแปลประเภทนี้ ก็คือ คอมพวิ เตอรจ์ ะไม่เก็บคำแปลไว้ หากจะต้องย้อนกลบั ไปทำคำสัง่ นน้ั อีก กจ็ ะตอ้ งแปลใหม่อกี ทุกครั้ง ดู compiler ประกอบ Complier หมายถึง โปรแกรมทแ่ี ปลโปรแกรมภาษาตา่ ง ๆ เชน่ ภาษา FORTRAN, COBOL ฯ เป็นภาษาเคร่อื ง (machine language) การแปลโดยใช้โปรแกรมแปลนี้ จะใช้วธิ ีแปลทัง้ โปรแกรม นำ คำแปลเกบ็ ไว้ในหนว่ ยความจำ แล้วจงึ ลงมือปฏิบัตกิ าร (execute) ไปทีละคำสง่ั ถ้ามีการสั่งให้ทำบาง คำสง่ั ซำ้ ก็ไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งแปลใหม่ ดู translator ประกอบ ดู interpreter เปรยี บเทยี บ (เน้อื หาอ่นื เพมิ่ เติมหรอื นอกเหนอื จากนี้ ขนึ้ อย่กู ับวจิ ารณญาณของผู้สอน)
- 267 - ใบเฉลยแบบฝึกหดั หนว่ ยที่ 4 สอนคร้ังท่ี 8 ช่อื วชิ า การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหสั วิชา 3204 - 2007 ระดบั ชัน้ ปวส. ชือ่ หนว่ ย โปรแกรม Visual Basic เรอื่ ง/งาน แผนภาพโปรแกรม Visual Basic 2. ลักษณะของ 4GL มีดังตอ่ ไปนี้ เปน็ ภาษาแบบ Nonprocedural ซึ่งหมายความว่าผ้ใู ชเ้ พียงแตบ่ อกว่าตอ้ งการอะไร แตไ่ ม่ต้อง บอกถงึ รายละเอยี ด วา่ ต้องทำอย่างไร คอมพวิ เตอรจ์ ะเป็นผ้จู ดั การให้เองหมด ตัวอย่างเชน่ ถ้า ตอ้ งการสรา้ งแบบฟอร์มการรับขอ้ มูลจาก ผ้ใู ช้ผู้เขียนโปรแกรมเพยี งแตท่ ำการออกแบบหน้าตาของ แบบฟอรม์ นน้ั บนโปรแกรมอดิ ิเตอร์ (Editor) ใดๆ และเก็บ เปน็ ไฟลไ์ วเ้ มอื่ จะเรียกใช้งานแบบฟอรม์ นัน้ เพยี งแตใ่ ช้คำสงั่ เปิดไฟลน์ ้ันขึน้ มาแสดงบนหน้าจอคอมพวิ เตอรไ์ ดโ้ ดยทนั ทซี ่งึ ต่างจากภาษารนุ่ ท่ี 3 ซง่ึ เปน็ แบบ Proceduralผู้เขียนโปรแกรม จะตอ้ งเขียนรายละเอียดของโปรแกรมทัง้ หมดวา่ ทีบ่ รรทัด นี้คอลมั น์นจี้ ะให้แสดงขอ้ ความหรอื ขอ้ มูลอะไรออกมา ซ่ึงถา้ ตอ่ ไปจะมีการปรับเปลย่ี นหน้าตาของ แบบฟอรม์ ก็จะเปน็ เร่อื งที่ยงุ่ ยากอยา่ งย่งิ หรอื ในการสร้างรายงานด้วย 4GLs ก็สามารถทำไดอ้ ย่าง ง่ายดายเพียงแต่ระบลุ งไปวา่ ตอ้ งการรายงานอะไร มีข้อมูลใดท่ีจะนำมาแสดงบ้าง โดยไมต่ อ้ งบอกถงึ วิธกี ารสร้าง หรือการดงึ ขอ้ มูลแต่อยา่ งใด 4GLsจะจัดการให้เองหมด สว่ นใหญ่จะพบว่า 4GLs มักจะ อยูค่ วบค่กู บั ระบบฐานข้อมลู โดยผูใ้ ชร้ ะบบฐานข้อมลู จะสามารถจดั การฐานข้อมูล ได้โดยผา่ นทาง 4GLs นี้ สว่ นประกอบของภาษา 4GLs โดยท่ัวไปแลว้ 4GLs จะประกอบด้วยสว่ นสำคัญ 3 สว่ นดงั ตอ่ ไปน้ี เคร่ืองชว่ ยสร้างรายงาน (Report Generators)หรอื อาจเรยี กไดอ้ กี อยา่ งว่า เครื่องมือชว่ ยเขียน รายงาน (Report Writer) เป็นโปรแกรมสำหรบั ผู้ใช้ (end - users) ใหส้ ามารถสร้างรายงานอยา่ งง่าย ได้ด้วยตนเอง โดยผูใ้ ช้สามารถกำหนดเง่ือนไขและขอ้ มูลทจี่ ะออกมาพมิ พ์ในรายงาน รวมไปถึงรูปแบบ (format) ของการพิมพไ์ ว้ โปรแกรมชว่ ยสรา้ งรายงานนจี้ ะทำการพมิ พร์ ายงานตาม รูปแบบทีเ่ รากำหนดไว้ให้ ภาษาช่วยคน้ หาข้อมูล (Query Languages)เป็นภาษาทชี่ ว่ ยในการค้นหาหรอื ดึงข้อมูลจาก ฐานขอ้ มูล ภาษานจี้ ะงา่ ยตอ่ การใช้งานมาก เนื่องจากจะอยใู่ นรูปแบบที่ใกลเ้ คยี งกับภาษาอังกฤษมาก ตัวอย่างของภาษาชว่ ยค้นหาข้อมูลนี้ได้แก่ ภาษา SQL (Structured Query Language)ภาษา QBE (Query - By - Example) และ Intellect เป็นต้น
- 268 - ใบเฉลยแบบฝึกหดั หน่วยที่ 4 สอนครั้งที่ 8 ช่ือวิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหสั วชิ า 3204 - 2007 ระดับช้ัน ปวส. ช่อื หนว่ ย โปรแกรม Visual Basic เรือ่ ง/งาน แผนภาพโปรแกรม Visual Basic 2. ลักษณะของ 4GL มีดงั ตอ่ ไปน้ี (ตอ่ ) เครอื่ งมอื ชว่ ยสรา้ งโปรแกรม (Application Generators) 4GLs จะมรี ูปแบบการเขียนโปรแกรม เฉพาะตัว และสามารถเรยี กใชเ้ ครอ่ื งมอื ช่วยสร้างโปรแกรมนที้ ำการแปลง 4GLs ให้กลายเป็นโปรกรม ในภาษารุ่นท่ี 3 ได้ เช่น ภาษาโคบอล หรือ ภาษาซี เปน็ ต้น ซึ่งอาจนำภาษาโคบอล หรือซที ี่แปลงได้ ไปพัฒนาต่อเพื่อใชก้ ับงานท่มี ีความซับซ้อนมากๆ ต่อไปได้ ประโยชน์ของ 4GL เป็นภาษาท่ีง่ายตอ่ การเรียนรู้ คำสัง่ แต่ละคำสงั่ สอ่ื ความหมายไดอ้ ย่างชดั เจน ดงั น้ันจึง สามารถใชเ้ วลาในการศึกษาส้ันกว่าภาษาร่นุ ท่ี 3ประหยัดเวลาในการเขยี นโปรแกรมได้มาก เน่อื งจาก 1 คำสงั่ ของ 4GL ถา้ ต้องเขียนด้วยภาษารนุ่ ที่ 3 อาจต้องเขียนถึง 100 กวา่ คำส่งั ในการทำงานแบบ เดียวกนั สนบั สนนุ ระบบจดั การฐานขอ้ มลู ทำใหส้ ามารถจัดการกับข้อมูลไดอ้ ย่างสะดวก และรวดเร็ว สามารถสรา้ งแบบฟอรม์ เพ่อื จดั การกับข้อมูลในฐานข้อมลู และออกรายงานได้อยา่ งง่ายดาย ไม่ยงุ่ ยาก มเี ครอ่ื งมอื การใชง้ านเพอ่ื อำนวยความสะดวกในการเขยี นโปรแกรมมากพอสมควรสามารถทำงานได้ ในลกั ษณะ Interactive คือมีการโต้ตอบกับผู้ใช้ได้ทนั ที (เนือ้ หาอื่นเพ่มิ เตมิ หรอื นอกเหนอื จากนี้ ขน้ึ อยูก่ บั วจิ ารณญาณของผู้สอน) 3. อธบิ ายความหมายของโครงสร้างขอ้ มูลดงั ตอ่ ไปน้ี Bit บติ ในระบบเลขฐาน 2 หมายถงึ ตวั เลข 0 และ 1, หนว่ ยขอ้ มูลทีเ่ ล็กที่สุด โดยทีห่ นงึ่ บิต จะตอ้ งเพยี งพอต่อการบอกความแตกตา่ งระหว่างข้อมลู ประเภท \"ใช\"้ ในปจั จุบันมักใช้บติ เป็นหน่วยวดั ตวั ประมวลผล (microprocessor) ของไมโครคอมพิวเตอร์ วา่ เป็นขนาด 8 บิต 16 บิต หรอื 32 บิต ถ้าจัดบิตเป็นชุดท่เี รยี กวา่ ไบต์ (byte) ซงึ่ ปกตจิ ะมี 8 บติ จะใช้เป็นรหัสเก็บขอ้ มูลต่าง ๆ ได้ ไมว่ ่าจะ เป็นตวั เลข ตัวอกั ษร
- 269 - ใบเฉลยแบบฝกึ หดั หนว่ ยที่ 4 สอนคร้ังที่ 8 ช่อื วิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวชิ า 3204 - 2007 ระดับชัน้ ปวส. ช่ือหน่วย โปรแกรม Visual Basic เรอ่ื ง/งาน แผนภาพโปรแกรม Visual Basic 3. อธิบายความหมายของโครงสรา้ งข้อมูลดงั ตอ่ ไปนี้ (ตอ่ ) Byte หน่วยของข้อมลู คอมพิวเตอร์เท่ากับ 1 อกั ขระหรือ 8 บิต, ขอ้ มูลจำนวน 8 บิต, ชุดของ บิต (bit) ซ่ึงคอมพวิ เตอร์จัดไว้สำหรบั เกบ็ ขอ้ มล 1 ชดุ คอมพวิ เตอร์ต่างชนิดจะจดั ชดุ ของบติ ไว้ไม่ เทา่ กนั เชน่ เคร่อื ง IBM 360 จัดบติ ไว้เปน็ ชุด ๆ ละ 8 บิต เรยี กวา่ ไบต์ โดยปกติ ใช้เปน็ หน่วยวัด ขนาดของหน่วยความจำ หรอื จานบันทึกว่า มขี นาดเก็บได้กตี่ ัวอกั ษร Field หมายถงึ ทซ่ี ่ึงใชเ้ ก็บข้อมูลเฉพาะในโปรแกรมประเภทการจดั การฐานขอ้ มูล โดย จัดแบง่ ให้แต่ละเขตเกบ็ ขอ้ มลู แต่ละ เร่ือง เชน่ แบ่งเปน็ เขต ชอ่ื นามสกลุ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อายุ เพศ ฯ ถา้ เรานำเขตขอ้ มูลเหลา่ น้ี หลาย ๆ เขตมารวมกนั จะเรียกว่า \"ระเบียน\" (record) Record หมายถงึ หน่วยหนึง่ ของขอ้ มลู ที่บันทึกไว้ในฐานหรือคลังข้อมลู โดยปกติ ระเบยี นหน่งึ จะประกอบดว้ ยเขตขอ้ มลู (field) 1 เขตข้ึนไป เช่น ระเบยี นของพนักงานของบริษทั แห่งหนึ่ง ประกอบด้วยเขตขอ้ มลู 10 เขต มี ชอ่ื นามสกุล ทีอ่ ยู่ วันเข้าทำงาน เงนิ เดอื นทไ่ี ดร้ ับ ตำแหน่งปจั จุบัน ฯ เป็นตน้ ดู data field ประกอบ (เน้ือหาอ่นื เพ่มิ เติมหรือนอกเหนือจากน้ี ข้นึ อยู่กบั วจิ ารณญาณของผู้สอน) 4. จงเติมคำให้ถูกต้อง 1 ไบต์ เท่ากับ 8 บิต ขอ้ มูลที่มีลกั ษณะ 001100 คิดเป็นขนาด 8 บติ ค่าสูงสดุ ของไบต์ มีค่า 1,024 ไบต์ 5. ยกตัวอย่างฐานข้อมลู ในสถานศกึ ษามา 1 ฐานขอ้ มลู และร่วมกันอภปิ รายหนา้ ชน้ั ฐานข้อมลู ในโรงเรียน จะเปน็ การรวบรวมข้อมูลเก่ียวกบั นกั เรียน ครู ภารโรง พัสดุ ส่งิ ของ ฯลฯ อาจบันทกึ ข้อมูลลงกระดาษ แบบฟอรม์ หรือจัดเกบ็ ลงคอมพิวเตอร์ เมอื่ มกี ารจดั เก็บข้อมลู อย่าง เป็น ระเบยี บ การค้นหาก็ทำไดง้ า่ ย
- 270 - แบบทดสอบหลงั เรยี น รายวิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหัสวชิ า 3204 - 2007 ระดบั ชัน้ ปวส. หน่วยท่ี 4 เรื่อง โปรแกรม Visual Basic คำชี้แจง กกก1. ให้นกั เรียนเลอื กคำตอบทถี่ กู ตอ้ งทีส่ ุดเพยี งข้อเดียวทำเคร่ืองหมาย (X) ลงในกระดาษคำตอบ กกก2. แบบทดสอบมีลักษณะแบบปรนยั จำนวน 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน 1. ขอ้ ใดควรปฏิบตั ิเปน็ อนั ดับแรกในการออกแบบเขียนโปรแกรม ก. วิเคราะหป์ ญั หา ข. เขียนอลั กอริทมึ ค. เขยี น Flow Chart ง. เขยี น Pseudo Code 2. ในการวิเคราะหป์ ญั หาในการเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ครวจะพิจารณาสิง่ ใดอนั ดับแรก ก. ขอ้ มูลท่ีใชท้ ง้ั หมด ข. ขอ้ มลู จากผลลัพธ์ ค. ขอ้ มลู การประมวลผล ง. ขอ้ มูลจากแผนกอนื่ ๆ 3. เคร่อื งมือ่ ใดท่ีใช้ในการออกแบบโปรแกรม ก. การใช่โปรแกรม Edit ข. การเขยี นโค้ดโปรแกรมจรงิ ค. เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ ง. การเขียนอัลกอริทึม 4. อัลกอริทึมในขอ้ ใดทใี่ ช้สัญลักษณ์ในการเขยี นเพื่อออกแบบโปรแกรม ก. Pseudo Code ข. Flow Chart ค. Structure Chart ง. Code Program
- 271 - 5. การบออกแบบในข้อใดท่ใี ชภ้ าษาทีผ่ ู้อ่านสามารเขา้ ใจง่าย ก. Pseudo Code ข. Flow Chart ค. Structure Chart ง. Code ProGram 6. ข้อใดเปน็ จดุ เดน่ ของการออกแบบโปรแกรม แบบ Structure Chart ก. ใช้สญั ลกั ษณใ์ นการออกแบบ ข. ใช้ภาษาองั กฤษในการออกแบบ ค. ใช้ภษาไทยท่ีเข้าใจได้ง่าย ง. ใช้การแบ่งออกเป็นมอดลู ย่อยๆ จากใหญไ่ ปเล็ก 7. การเลอื กโปรแกรมภาษาท่ีเหมาะสมในการเขียนโปรแกรมจะอยู่ในข้นั ตอนใดในการเขียนโปรแกรม คอมพิวเตอร์ ก. การวเิ คราะห์ปัญหา ข. การออกแบบโปรแกรม ค. การเขียนโปรแกรม ง. การทดสอบโปรแกรม 8. ส่งิ ท่ไี ดร้ ับจากการทำเอกสารประกอบโปรแกรมคือขอ้ ใด ก. เพอ่ื ใหอ้ อกแบบโปรแกรมง่ายข้ึน ข. เพ่อื ช่วยวเิ คราะหป์ ัญหาในการเขียนโปรแกรม ค. เพ่ือใหเ้ ขา้ ใจปัญหาของการทำงาน ง. เพื่อใหใ้ ช้งานโปรแกรมได้ง่าย 9. การทำงานของโปรแกรมท่เี ขียนข้ึนมาจะทำงานไดถ้ ูกตอ้ งหรือไม่ ขึน้ อยูก่ บั ขั้นตอนใด ก. การวเิ คราะหป์ ญั หา ข. การออกแบบ ค. การทดสอบโปรแกรม ง. การบำรุงรกั ษาโปรแกรม 10. รูปแบบของอลั กอรทิ ึมในข้อใดท่มี ีความซับซอ้ นน้อยทีส่ ุด ก. แบบไม่ลำดับ ข. แบบลำดบั ค. แบบทางเลอื ก ง. แบบทำซ้ำ
- 272 - เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน ชอ่ื วิชา การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหัสวชิ า 3204 - 2007 ระดบั ชน้ั ปวส. หนว่ ยที่ 4 เรือ่ ง โปรแกรม Visual Basic ข้อที่ คำตอบ 1. ก 2. ข 3. ง 4. ข 5. ก 6. ง 7. ค 8. ง 9. ค 10. ข
- 273 - แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม ช่ือวิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หน่วยที่ 4 รหัสวชิ า 3204 - 2007 ระดับชนั้ ปวส. ชอื่ หน่วย โปรแกรม Visual Basic จำนวน 12 ช่ัวโมง คำชแ้ี จง ใหท้ ำเครอ่ื งหมาย ✓ หากนักเรียนมพี ฤติกรรมนัน้ ลงในชอ่ งรายการ พฤตกิ รรม ท่ี ชื่อ- สกุล ความร่วมมอื การแบ่ง การรบั ฟัง การตัง้ ใจ ทำงานตามหนา้ ที่ รวม หน้าท่ใี นกลุ่ม ความคิดเหน็ ทำงาน มอบหมาย 4 3 2 1 4 3 2 1 43 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 เกณฑ์การวัดผล ใหค้ ะแนนระดับคุณภาพของแต่ละพฤติกรรมดงั น้ี 1..ดีมาก = 4 ประสิทธิภาพอยูใ่ นเกณฑ์ 90 – 100 % หรอื ปฏิบัติบอ่ ยครงั้ 2..ดี = 3 ประสิทธิภาพอยูใ่ นเกณฑ์ 70 – 89 % หรือปฏิบตั ิบางครั้ง 3..ปานกลาง = 2 ประสิทธิภาพอย่ใู นเกณฑ์ 50 – 69 % หรือปฏิบตั ิครง้ั เดยี ว 4..ปรบั ปรงุ = 1 ประสทิ ธิภาพอยู่ในเกณฑ์ น้อยกว่า 50 % หรือไมเ่ คยปฏิบตั เิ ลย ลงชอ่ื ..............................ครผู ปู้ ระเมนิ (นายพรพทิ กั ษ์ ศรแี ก้ว) .............../............./..............
- 274 - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้รายบุคคล ช่ือวิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ หนว่ ยท่ี 4 รหสั วิชา 3204 - 2007 ระดับชน้ั ปวส. ชอ่ื หน่วย โปรแกรม Visual Basic จำนวน 12 ชัว่ โมง คำชแี้ จง ให้ทำเคร่ืองหมาย ✓ หากนักเรยี นมพี ฤตกิ รรมนัน้ ลงในชอ่ งรายการ พฤติกรรม ท่ี ช่ือ- สกลุ ความสนใจ การแสดงความ การตอบ การยอมรับ ทำงาน รวม คิดเห็น คำถาม ความคดิ เห็น ตามหน้าที่ มอบหมาย คนอืน่ 4 3 2 1 4 3 2 1 43 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 เกณฑก์ ารวัดผล ใหค้ ะแนนระดบั คณุ ภาพของแต่ละพฤตกิ รรมดังนี้ 1..ดมี าก = 4 สนใจฟงั ไม่หลับ ไม่พดู คุยในชนั้ เรียน มคี ำถาม ตอบคำถามถกู ทำงานส่งตามเวลา 2..ดี = 3 พฤตกิ รรมการแสดงออกอยู่ในเกณฑป์ ระมาณ 70 % 3..ปานกลาง = 2 พฤตกิ รรมการแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 50 % 4..ปรับปรงุ = 1 เข้าชน้ั เรยี น แต่การแสดงออกนอ้ ยมาก ส่งงานไม่ครบ สง่ งานไม่ตรงเวลา ลงชอ่ื ..............................ครูผู้ประเมิน (นายพรพิทกั ษ์ ศรีแกว้ ) .............../............./..............
- 275 - แบบสรุปผลประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ รายวชิ า การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหัสวิชา 3204 - 2007 ระดบั ชั้น ปวส. หนว่ ยท่ี 4 เรอ่ื ง โปรแกรม Visual Basic การประเมนิ ผลดา้ นจติ พิสยั ตามคา่ นยิ มหลกั ของคนไทย 12 ประการ (คะแนนเตม็ 30 คะแนน) ท่ี รายการประเมนิ 1 มคี วามรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ 2 ซอ่ื สตั ย์ เสียสละ อดทน 3 กตัญญตู ่อพอ่ แม่ ผู้ปกครอง ครบู าอาจารย์ 4 ใฝห่ าความรู้ หม่ันศึกษา เล่าเรยี น ท้งั ทางตรงและทางออ้ ม 5 รกั ษาวัฒนธรรม ประเพณีไทยอันงดงาม 6 มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดตี ่อผ้อู ืน่ เผื่อแผ่และแบง่ ปนั 7 เข้าใจการเรียนรู้การเปน็ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุขท่ถี กู ตอ้ ง 8 มรี ะเบียบ วินยั เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักเคารพผใู้ หญ่ 9 มสี ติ รูต้ ัว รคู้ ิด รูท้ ำ ร้ปู ฏิบัติ ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั 10 ร้จู กั ดำรงตนอย่โู ดยใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รจู้ ักอดออมไวใ้ ชเ้ ม่ือยาม จำเปน็ มีไวพ้ อกนิ พอใช้ ถ้าเหลือกแ็ จกจา่ ยจำหนา่ ยและพรอ้ มท่จี ะขยายกจิ การเม่อื มี ความพร้อมเมอ่ื มภี ูมคิ มุ้ กนั 11 มคี วามเขม้ แขง็ ทัง้ ร่างกาย และจิตใจ ไมย่ อมแพ้ต่ออำนาจฝา่ ยต่ำหรือกิเลส มคี วาม ละอายเกรงกลัวตอ่ บาปตามหลกั ของศาสนา 12 คำนงึ ผลประโยชนข์ องส่วนรวมและของชาตมิ ากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง เกณฑ์การให้คะแนนตามพฤติกรรมท่ีแสดงออก พฤตกิ รรมทีม่ ีการปฏบิ ัติ คะแนน พฤตกิ รรมท่ีมกี ารปฏิบัติค่อนขา้ งมาก 4 คะแนน พฤติกรรมทม่ี กี ารปฏิบัตปิ านกลาง 3 คะแนน พฤตกิ รรมทีม่ กี ารปฏิบัตคิ อ่ นข้างนอ้ ย 2 คะแนน พฤติกรรมทม่ี ีการปฏิบัตนิ ้อยทสี่ ดุ 1 คะแนน
- 276 - บรรณานุกรม กิตนิ ันท์ พลสวัสด.ิ์ (2559). Professional Visual Basic 2015. พมิ พ์ครัง้ ท่ี 1. นนทบรุ ี : ไออซี ี พรเี มยี ร์. ณฐั ธยาน์ ธีรกุลจินดาภรณ์. (2558). พ้ืนฐานการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์. พมิ พค์ ร้ังท่ี 1. นนทบุรี : ศนู ย์หนังสอื เมอื งไทย. พฒั พงษ์ อมรวงศ์. (2560). พนื้ ฐานการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร.์ พิมพค์ รั้งที่ 1. ปทุมธานี : มเี ดยี อินเทลลิเจนซ์ เทคโนโลย.ี บัญชา ปะสีละเตสัง. (2558). สรา้ ง Windows Application ดว้ ย Visual Basic 2015. กรงุ เทพฯ : ซเี อด็ ยเู คช่ัน. มนสั ชยั กรี ติผจญ. (2558). การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์. พมิ พ์ครั้งที่ 1. กรงุ เทพฯ : สำนักพิมพ์เอมพนั ธ์. อภิชยั ตระหงา่ นศรี. (2557). การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์. พมิ พ์ครง้ั ท่ี 1. กรงุ เทพฯ : สำนักพิมพ์วงั อักษร. โอภาส เอ่ียมสิรวิ งศ์ และ สมโภชน์ ชน่ื เอย่ี ม. (2560). การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชน่ั .
โครงการสอน ท-ป-น 2-2-3 จำนวน 4 ชวั่ โมง รายวิชา การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหสั วิชา 3204 - 2007 ช่อื หน่วย โปรแกรม Visual Basic หนว่ ยที่ 4 โปรแกรม Visual Basic (ต่อ) เรอ่ื ง กกกกกก1. การใช้หนา้ ตา่ ง Properties Window กกกกกก2. การกำหนด Properties ให้กบั Form กกกกกก3. การเพม่ิ และลบ Form ออกจาก Project กกกกกก4. การสงั่ ให้โปรแกรมทำงาน (Run Program) จุดประสงค์การสอน รายการสอน 1. ใช้หนา้ ต่าง Properties Window ได้ 1. การใชห้ นา้ ตา่ ง Properties 2. กำหนด Properties ให้กับ Form ได้ Window 3. เพ่มิ และลบ Form ออกจาก Project ได้ 2. การกำหนด Properties ใหก้ บั 4. สั่งใหโ้ ปรแกรมทำงาน (Run Program) ได้ Form 3. การเพิม่ และลบ Form ออกจาก Project 4. การสัง่ ใหโ้ ปรแกรมทำงาน (Run Program) 5. ปฏิบัติงานตามใบงาน วธิ กี ารสอน บรรยาย/ถาม – ตอบ สาธติ การปฏิบตั ิงานตามใบงาน ส่ือการสอน สอื่ Power Point ประกอบการสอน หนังสอื อ้างอิง ใบความรู้ แบบฝึกหัด ใบงาน แบบทดสอบ หนงั สอื แบบเรียนรายวชิ าการเขียน โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ สำนักพมิ พเ์ อม พนั ธ์ การประเมินผล คะแนนจากการทำแบบทดสอบก่อนเรียน/หลงั เรยี น แบบประเมนิ ผลใบมอบงาน แบบประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงาน แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรม การเรยี นรู้รายบคุ คลและแบบประเมินผลคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยมและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
- 278 - แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 6 รหัสวชิ า 3204 - 2007 ชื่อวิชา การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ สอนครั้งที่ 9 หนว่ ยที่ 4 โปรแกรม Visual Basic จำนวน 4 ชั่วโมง หัวเรอื่ ง 1. การใชห้ นา้ ตา่ ง Properties Window 2. การกำหนด Properties ให้กับ Form 3. การเพม่ิ และลบ Form ออกจาก Project 4. การสง่ั ให้โปรแกรมทำงาน (Run Program) สาระสำคญั การเขยี นโปรแกรมบนระบบปฏบิ ตั ิการ GUI โดยใช้โปรแกรม Visual Basic เป็นที่นิยม แพร่หลายน่อื งจากมีการใชง้ านทีง่ ่าย และมปี ระสิทธภิ าพ โปรแกรมได้จัดเตรยี มเคร่อื งมือและสภาวะ แวดล้อมในการใชง้ านไดอ้ ยา่ งเหมาะสม มีความยืดหยุน่ โดยผูพ้ ฒั นาโปรแกรมสามารถกำหนดสภาวะ แวดลอ้ มเองได้ สมรรถนะอาชพี ประจำหน่วย กกกกกก1. แสดงความรเู้ ก่ียวกับหลกั การพัฒนาโปรแกรม ขั้นตอนการแกไ้ ขปัญหา(Algorithm) และ กระบวนการเขยี นโปรแกรม กกกกกก2. เขยี นโปรแกรมโดยใช้เครื่องมือกราฟิกโหมด จดุ ประสงค์การสอน/การเรยี นรู้ จดุ ประสงค์ทั่วไป นกั เรียนแสดงความรู้เกีย่ วกบั โปรแกรม Visual Basic จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. ดา้ นความรู้ ( K ) 1.1 ใชห้ น้าต่าง Properties Window ได้ 1.2 กำหนด Properties ให้กับ Form ได้ 1.3 เพม่ิ และลบ Form ออกจาก Project ได้ 1.4 สง่ั ให้โปรแกรมทำงาน (Run Program) ได้ 2. ด้านทักษะ ( S ) นกั เรียนมคี วามรู้ ทกั ษะในเรอื่ งโปรแกรม Visual Basicถูกต้อง
- 279 - 3. ดา้ นคุณธรรมอันพงึ ประสงค์ ( A ) (อา้ งองิ จากค่านยิ มหลกั ของคนไทย 12 ประการ) 3.1 เขา้ เรียนตรงเวลา 3.2 แตง่ กายตามระเบยี บการปฏิบัติงาน 3.3 ผลงานประณีตเรียบร้อย 3.4 ปดิ เครอื่ งคอมพิวเตอร์เม่ือเลกิ ใชง้ าน 3.5 มีน้ำใจชว่ ยเหลือผอู้ ่นื และการปฏิบัตงิ านร่วมกบั ผอู้ ืน่ กจิ กรรมการเรยี นการสอน ครูแจง้ จุดประสงค์การเรียนรู้ การวดั ผลประเมนิ ผล ขอ้ ตกลงขณะเรียน และใหน้ ักเรียนทำ แบบทดสอบก่อนเรียน ขนั้ นำเข้าสู่บทเรยี น ครนู ำเข้าสู่บทเรยี นโดยครูกล่าวนำเก่ียวกับเนื้อหาระบบคอมพิวเตอร์ การทำงาน ของเครือ่ งคอมพวิ เตอรแ์ ละเนอ้ื หาโดยรวมของวชิ าการเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ เกณฑก์ าร ประเมินผลและใช้คำถามนำให้นักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายถึงการเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์และระดบั ของภาษาคอมพิวเตอร์ เชน่ นกั เรยี นเคยใชซ้ อฟต์แวรร์ ะบบ หรอื ไม่ ขั้นสอน 1. ครูแจกใบเนอ้ื หาและใหน้ กั เรยี นอา่ นทำความเข้าใจเนอื้ หา เร่อื ง โปรแกรม Visual Basic 2. ครอู ธบิ ายเนือ้ หา โดยใช้สอ่ื Power Point สอนประกอบการบรรยายในหนงั สือ แบบเรียน รายวิชาการเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสวชิ า 3204 - 2007 สำนักพิมพ์เอมพันธ์ จำกดั หนา้ 63 - 92 และตงั้ คำถามสลบั การบรรยายเพ่อื ให้นกั เรยี นมสี ่วนรว่ มระหว่างปฏิบตั ิการสอน เพ่ือใหน้ ักเรียนเข้าใจเน้อื หาสาระของการเรยี นรู้เรอื่ ง 2.1 การใชห้ น้าต่าง Properties Window 2.2 การกำหนด Properties ให้กับ Form 2.3 การเพ่ิมและลบ Form ออกจาก Project 2.4 การสั่งใหโ้ ปรแกรมทำงาน (Run Program) ขนั้ ประกอบกจิ กรรมการเรยี น 1. ให้นักเรียนแบง่ กลุ่มอตั ราส่วน 1 : 3 : 1 โดยคละคนเก่ง ปานกลางและอ่อน ให้นกั เรยี นเลือกประธาน เลขานุการ ปฏิบัตงิ านตามใบงาน โดยปฏบิ ัตติ ามขัน้ ตอนการปฏบิ ตั งิ านตาม ใบมอบงาน 2. นกั เรียนปฏบิ ัติงานตามใบงานดังนี้ ใบงานที่ 4.2 Main Form 3. นกั เรียนทำแบบฝกึ หัด เรอ่ื งโปรแกรม Visual Basic จากน้ันครแู ละนักเรยี น ร่วมกันเฉลย ตรวจคำตอบ เพ่ือประเมนิ ผลการเรียนตามใบงาน
- 280 - กลยุทธ์ในการจัดการเรยี นรู้ 1. ครใู หเ้ พื่อนชว่ ยเพือ่ น ใหน้ ักเรียนกล่มุ เกง่ และปานกลาง อยู่กบั กลุ่มนกั เรยี นที่ เรียนอ่อน ชว่ ยกันทำความเขา้ ใจในเน้อื หา 2. สอนแบบ Active Learning โดยใช้เครื่องมอื บนอนิ เทอรเ์ นต็ กลยทุ ธ์ทีใ่ ช้ พัฒนาการเรียนรู้ดา้ นทักษะพสิ ัย 2.1 สรา้ งเจตคติทีด่ ีต่อการฝึกปฏบิ ัติ 2.2 ส่งเสริมการใช้เวลาว่างในการฝกึ ปฏิบัติตามใบงาน 2.3 ใหค้ วามสำคญั ตอ่ การปฏิบัตงิ านอย่างเปน็ ระบบและมีความประณีต 2.4 แสดงความช่ืนชมในความสามารถและใหร้ างวลั แก่นักศึกษาท่มี ีผลงาน การฝึกปฏบิ ตั ดิ ี 2.5 สนับสนุนการเขา้ ประกวดการแข่งขนั ทักษะดา้ นเทคโนโลยี คอมพวิ เตอร์ การสอนบูรณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ดา้ นความมภี มู ิค้มุ กันที่ดี ใหน้ ักเรยี นปฏิบัตติ นตามกฎระเบยี บและขอ้ บงั คับของสถานศกึ ษา การเขา้ ใชง้ าน ห้องปฏบิ ัติการคอมพิวเตอร์ การบำรงุ รักษาเคร่อื งคอมพวิ เตอร์กอ่ นและหลังการปฏิบตั ิงาน ด้านความรอบรู้ กจิ กรรมการเรยี นการสอนใหส้ ืบคน้ ขอ้ มูลทางอินเทอรเ์ น็ตให้มกี ารปฏิบัติงานได้ อยา่ งถูกตอ้ งตรงตามเน้ือหาในหนว่ ยการเรียนรู้ ขน้ั สรุป 1. ครูอธบิ ายสรุปเน้อื หา เรื่องโปรแกรม Visual Basic 2. ครแู ละนกั เรียนอภปิ รายสรปุ ปัญหาการปฏิบตั ิงานและข้อเสนอแนะเพมิ่ เติม 3. ตรวจประเมินตามใบงาน สรุปผลการตรวจให้นักเรยี นทราบและกำหนดวนั แก้ไข ขนั้ ทดสอบหลังเรยี น นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น สือ่ การเรียนการสอน 1. ส่ือสงิ่ พมิ พ์ 1.1 หนังสือแบบเรียนรายวชิ าการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ สำนกั พมิ พเ์ อมพันธ์ มนสั ชยั กีรติผจญ หน้า 63 - 92 1.2 ใบมอบงาน และใบงานท่ี 4.2 1.3 แบบประเมนิ ผล 2. สื่อโสตทศั น์ 2.1 ส่ือ Power Point เรือ่ ง โปรแกรม Visual Basic 2.2 เครอื่ งฉายโปรเจคเตอร์ 2.3 เครื่องคอมพวิ เตอร์แบบพกพา (Notebook)
- 281 - การวัดผลประเมินผล วธิ ีการ เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมนิ ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 60 1. ทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 50 2. อภปิ รายกลุม่ แบบประเมนิ ผลใบมอบงาน ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 50 3. การทำใบงาน แบบประเมินผลการปฏบิ ัตงิ าน ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 50 4. การทำแบบฝกึ หัด แบบฝกึ หดั ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 50 5. สังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ ม แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ กจิ กรรมกลุ่ม 24 คะแนน 6. สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนร้รู ายบุคคล ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 รายบุคคล 7. สงั เกตพฤติกรรมคุณธรรม แบบสรุปผลประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยมและ ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 8. ทดสอบหลังเรยี น แบบทดสอบหลงั เรยี น งานทม่ี อบหมาย งานท่ีมอบหมายนอกเหนอื เวลาเรยี น ผลงาน/ชิน้ งาน/ความสำเร็จของผูเ้ รยี น 1. ผลการทำใบงานที่ 4.2 2. แบบฝึกหัดท้ายหนว่ ยท่ี 4 แหลง่ การเรียนรเู้ พิ่มเติม 1. หอ้ งสมดุ 2. สถานประกอบการ 3. ข้อมลู จากอนิ เทอร์เนต็ กิจกรรมเสนอแนะ นกั เรียนสบื ค้นข้อมลู เพ่มิ เติมหรอื ทบทวนเนื้อหาจากเว็บไซต์ทห่ี อ้ งปฏิบตั ิการคอมพวิ เตอร์ใช้ เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ในเวลาว่าง เรื่อง โปรแกรม Visual Basic
- 282 - บันทกึ หลังการสอน ผลการใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ กกกกกกก.......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ผลการเรียนของนักเรียน กกกกกกก.......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ผลการสอนของครู กกกกกกก.......................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................
- 283 - ใบเน้ือหา สัปดาห์ท่ี 9 จำนวน 4 ชวั่ โมง ช่ือวชิ า การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหัสวชิ า 3204 - 2007 ระดับช้นั ปวส. ช่อื หนว่ ย โปรแกรม Visual Basic สาระสำคญั ในชวี ติ ประจำวนั นน้ั ทุกคนมักจะพบปัญหาตา่ งๆ อยูต่ ลอดเวลา ซึ่งในการแกป้ ัญหาน้ันก็จะมี วธิ กี ารทเ่ี ปน็ ขัน้ ตอนชดั เจน และแตกต่างกัน ท้งั น้ขี ้นึ อย่กู บั ความสามารถและประสบการณ์ของบุคคล นั้นๆ โดยวิธีการแก้ปัญหาต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจ แล้วหาวิธีการแก้ปัญหาอย่างมี ประสทิ ธภิ าพก จุดประสงค์การเรยี นการสอน จุดประสงคท์ ั่วไป นกั เรียน มคี วามร้คู วามเขา้ ใจโปรแกรม Visual Basic จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. ใช้หนา้ ต่าง Properties Window ได้ 2. กำหนด Properties ใหก้ บั Form ได้ 3. เพิ่มและลบ Form ออกจาก Project ได้ 4. ส่งั ให้โปรแกรมทำงาน (Run Program) ได้ คุณธรรมจริยธรรม 1. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 2. การบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง สาระการเรยี นรู้ 1. การใช้หน้าต่าง Properties Window 2. การกำหนด Properties ให้กบั Form 3. การเพิม่ และลบ Form ออกจาก Project 4. การสง่ั ให้โปรแกรมทำงาน (Run Program)
- 284 - เนอื้ หาสาระ การเขียนโปรแกรมดว้ ย Visual Basic น้ันจะใช้ภาษา BASIC (เบสิก) ทีร่ บั ความสามารถ ใหมๆ่ เขา้ ไป ทำให้กลายเป็นภาษาท่มี ีความสามารถมากข้นึ วตั ถปุ ระสงค์ของภาษาเบสิกกเ็ พือ่ ทจี่ ะ เปน็ ภาษากลางทเ่ี ราจะสามารถสอื่ สารใหค้ อมพิวเตอร์เขา้ ไดเ้ หมือนภาษาพดู เช่น ภาษาองั กฤษที่ใช้ เป็นภาษากลางในการพูดคยุ ภาษาเบสกิ ก็เช่นเดียวกนั ไมว่ ่านกั พัฒนาโปรแกรมจะอยู่ส่วนใดของโลก ถ้าตอ้ งการสงั่ งานเหมอื นกัน ก็จะใช้คำสง่ั เบสิกคำส่งั เดยี วกันทง้ั โลก จากบทที่ผ่านมาเราได้รูจ้ กั คำสัง่ ของ VB และคอนโทรลพื้นฐานกนั มาบา้ งแลว้ สำหรับในบท นีจ้ ะใหค้ วามร้พู น้ื ฐานเกีย่ วกับเขยี นโปรแกรมดว้ ย VB เพื่อให้เราสามารถเขียนโปรแกรมให้ทำงานตรง ตามจุดประสงค์ต่อไป โดยการฝึกเขยี นโปรแกรมนั้นอาจเขียนโปรแกรมเลก็ ๆ ขึน้ มาก่อน โดยพัฒนา โปรแกรมแบบ Console Application ตัวอยา่ ง จากโปรแกรมตอ่ ไปน้เี ปน็ การเขยี นโปรแกรมใหแ้ สดงผลในโหมดตัวอกั ษรเปน็ ข้อความจำนวนสองบรรทดั ให้สรา้ งโปรเจ็กต์ใหม่ช่ือ Pro4_1 ในแบบ Console Application แลว้ คียค์ ำสั่งเขา้ ไปดงั นี้
- 285 - พิมพ์คำสง่ั เข้าไปดังน้ี เมอ่ื รันโปรแกรมจะได้ผลลัพธจ์ ะแสดงทางหน้าต่างเอาตพ์ ตุ ดังตอ่ ไปนี้ จากคำสง่ั ที่เขียนขน้ึ จะเรียกใชเ้ มธอด Write เพอ่ื พมิ พ์ข้อความท่ีอยูใ่ นวงเล็บ โดยหลังจาก พิมพแ์ ลว้ จะไมข่ นึ้ บรรทดั ใหม่ ส่วนคำสงั่ WriteLine จะเปน็ การพมิ พท์ ข่ี ึน้ บรรทัดใหมห่ ลังจากพมิ พ์ ขอ้ ความ สว่ นเมธอด ReadLine จะใชร้ ับค่าการกดคียแ์ ปน้ พมิ พ์ สำหรับรปู แบบการเขียนคำส่งั จะได้ ศึกษาในหัวข้อตอ่ ไปน้ี การเขียนคำสง่ั ในรูปแบบต่างๆ ในการเขียนคำส่งั โปรแกรมบางครงั้ เราอาจต้องการให้มคี ำอธบิ ายสำหรับคำสงั่ โปรแกรมใน ส่วนน้ันๆ หรอื ต้องการแบง่ คำสั่งในบรรทัดหนง่ึ ออกเปน็ หลายบรรทัด เน่อื งจากคำสง่ั ในบรรทัดน้นั ยาวเกนิ ไป การเขยี นคำส่งั ในรปู แบบเปน็ ดงั น้ี การแบ่งคำส่งั บรรทดั หนึ่งออกเปน็ หลายบรรทดั เนื่องจากคำสั่งใน VB น้ันเราต้องใส่คำสั่งต่างๆ ให้จบภายใน 1 บรรทดั แต่ในบางคร้งั คำสงั่ นน้ั ยาวมาก ทำให้ไม่สะดวกในการทำงาน จึงสามารถแตกบรรทดั หน่ึงออกเป็นหลายบรรทดั ได้ ดว้ ยการใชต้ วั อกั ขระชอ่ งวา่ ง ตามด้วยตวั อกั ขระ _ ดงั ตวั อย่างตอ่ ไปนี้
- 286 - เราสามารถแยกเปน็ หลายๆ บรรทัดได้ ดังการเขียนคำส่งั ตอ่ ไปน้ี การรวมคำส่ังหลายคำส่งั ไว้เปน็ บรรทดั เดยี ว เราสามารถรวมคำส่ังมากกวา่ หน่งึ คำสั่งให้อยู่ในบรรทดั เดยี วกันโดยใช้เครื่องหมาย : ในการ แยกแต่ละคำสง่ั ออกจากกนั ตัวอยา่ งเช่น เราสามารถรวมเป็นบรรทดั เดยี วกนั ได้ ดังการเขียนคำสั่งต่อไปน้ี จากตวั อยา่ งขา้ งตน้ จะเปน็ การรวมคำสงั่ X = 1, Y = 2 และ Z = X + Y ใหอ้ ยใู่ นบรรทัด เดยี วกนั โดยเวน้ แต่ละคำสัง่ ด้วยเครอ่ื งหมาย : หากพิจารณาตวั อย่างโปรแกรมที่ 4.1 สามารถรวมคำส่งั สองบรรทดั เขา้ ดว้ ยกนั ได้ดงั น้ี
- 287 - การใส่คำอธิบายสำหรับโปรแกรม (Comment) เราสามารถเพ่ิมคำอธบิ ายสำหรบั คำส่ังโปรแกรมในหน้าตา่ ง Code Editor ได้ เพือ่ ชว่ ยให้ ทำความเข้าใจกบั คำสง่ั ทเ่ี ราพิมพไ์ ดง้ ่ายข้ึน โดยเราสามารถใส่คำอธบิ ายไดด้ ว้ ยการใชอ้ กั ขระ ซงึ่ เปน็ อกั ขระท่ีบอกให้ VB ไมไ่ ด้สนใจข้อความท่ตี ามหลังอกั ขระนนั้ ตัวอย่างการเขยี นโปรแกรมจะเปน็ การ เขยี นคำอธิบายไวห้ ลัง End Sub เพอ่ื อธิบายว่าเป็นการสน้ิ สุดคำสั่งของโปรแกรม ตัวแปร คา่ คงที่ และชนิดของขอ้ มูล การเขียนคำสัง่ ตา่ งๆ ใน VB น้นั บางครงั้ เราจำเป็นตอ้ งมีการจำข้อมูลบางอย่าง เชน่ เมือ่ ต้องการคณู เลข 2 จำนวน จำนวนนัน้ เขยี นลงบนกระดาษแล้วจึงตั้งคณู กัน ซง่ึ กระดาษทดจะทำหน้าที่ เหมอื นหน่วยความจำชัว่ คราว ตัวแปรใน VB ก็มีความหมายในทำนองเดียวกนั คือมีไวเ้ ก็บขอ้ มูล ช่วั คราวในระหวา่ งการทำงานของโปรแกรม และข้อมลู ในตวั แปรสามารถเปลย่ี นแปลงได้ สำหรับค่าคงทีก่ ท็ ำหน้าที่คล้ายกับตัวแปร เพียงแตค่ า่ ของมนั จะไมเ่ ปลย่ี นแปลงตลอดการ ทำงานของโปรแกรม ค่าคงที่มีประโยชน์ในการเกบ็ ค่าที่ไม่เปลย่ี นแปลง เชน่ เกบ็ ค่าคงท่ี Pi ที่ใช้ คำนวณเก่ียวกับวงกลม เปน็ ตน้ ทั้งตัวแปรและค่าคงท่ีจะมชี อ่ื สำหรบั ใชอ้ ้างองิ ในโปรแกรม และตัวแปรจะมีชนิดขอ้ มลู ท่ี บอกวา่ ตัวแปรสามารถเก็บค่าอะไรไดบ้ ้าง เช่น ตัวแปรชนดิ ตวั เลขจะไมส่ ามารถเก็บขอ้ ความได้ เปน็ ตน้ การใช้ชนดิ ขอ้ มูลให้เหมาะสมจะทำใหโ้ ปรแกรมทีพ่ ฒั นาข้ึนทำงานไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพมากขึ้น ด้วย ตวั แปรและการประกาศตัวแปร ตัวแปรของ VB มหี น้าท่ีเก็บขอ้ มลู ในการทำงานของโปรแกรมไว้เป็นการชั่วคราว ตวั แปรที่ เรากำหนดขึ้นจะตอ้ งประกอบด้วยชอ่ื และชนิดของขอ้ มูล (Data Type) ท่ีตัวแปรเกบ็ ไว้ ตัวอย่างของ การใช้งานตวั แปร เชน่ ถ้าหากตอ้ งการคำนวณราคาของหนังสอื ทงั้ หมด โดยใหผ้ ใู้ ชป้ อ้ นข้อมูลเป็น ราคาหนังสอื ต่อเล่ม และจำนวนหนงั สอื ผา่ นเท็กบ็อกซ์ และเม่ือผใู้ ช้คลกิ เมาส์ปมุ่ ราคารวมทั้งหมด ให้ โปรแกรมแสดงราคาหนงั สอื ออกมา ในการพัฒนาโปรแกรมจะต้องนำราคาหนงั สอื ตอ่ เล่มและจำนวน หนังสอื ทป่ี อ้ นเขา้ ไปมาเก็บในตวั แปรเสยี กอ่ น จากนนั้ จึงนำคา่ ในตัวแปรทง้ั สองมาคำนวณหาราคารวม การสร้างตัวแปรขนึ้ มาใชใ้ นโปรแกรมนัน้ จะทำไดโ้ ดยการประกาศตัวแปร (Variable Declaration) ซง่ึ เป็นการบอกว่าในโปรแกรมของเรามีตวั แปรน้ีอยู่ และสามารถนำไปใช้งานได้ ใน VB การประกาศตัวแปรจะเร่มิ ดว้ ยคำว่า Dim ตามดว้ ยชือ่ ตัวแปร และประเภทของข้อมลู ท่เี กบ็ ในตวั แปร โดยมรี ปู แบบดังนี้
- 288 - ในการประกาศตวั แปร เราจะตอ้ งกำหนดช่อื ตวั แปรเพ่อื นำชื่อนไี้ ปใช้อ้างองิ ตลอดทง้ั โปรแกรมสำหรับคำว่า As Type จะเป็นการบอกว่าตวั แปรนนั้ เปน็ ข้อมลู ชนดิ ใด ตวั อยา่ งของชนดิ ขอ้ มลู เช่น ชนดิ Interger ทใ่ี ชส้ ำหรบั เกบ็ ตัวเลข ข้อมูลชนดิ String สำหรับใช้เกบ็ ข้อความ เป็นต้น สำหรบั การประกาศตวั แปรทไ่ี มม่ สี ว่ นของ [As Type] นนั้ VB จะกำหนดใหต้ วั แปรท่ีสร้าง ขน้ึ เป็นขอ้ มลู ชนิดดีฟอลต์ ซ่ึงก็คอื ชนิด Object โดยขอ้ มลู นจี้ ะใช้เก็บข้อมูลได้ท้ังตวั เลขและขอ้ ความ สำหรบั การตัง้ ช่ือตวั แปรจะตอ้ งตง้ั ชื่อตามกฎต่อไปนี้ • ชื่อตัวแปรแต่ละตัวจะตอ้ งไมซ่ ำ้ กันในขอบเขตของการทำงานเดียวกนั • ชื่อตัวแปรจะตอ้ งไม่ซ้ำกับคำสงวน (Reserved Word) หรอื คำท่ี VB รู้จกั เช่น คำว่า Dim. Integer เอามาใชต้ ง้ั เป็นชอ่ื ตวั แปรไมไ่ ด้ • ตวั แปรตอ้ งเร่มิ ต้นดว้ ยตวั อกั ขระ A-Z หรือ a-z ตัวอย่างการประกาศตวั แปรในบรรทดั แรกจะเป็นการประกาศตวั แปรชือ่ Name ซง่ึ เปน็ ตวั แปรชนิดขอ้ ความ ส่วนบรรทัดท่ีสองใหต้ ัวแปร X เป็นตวั แปรท่เี ก็บเลขจำนวนเต็ม สว่ นบรรทดั สุดท้าย เปน็ ตัวแปรชือ่ Lastname ซงึ่ เป็นข้อมูลชนดิ ดีฟอลต์ ซ่งึ กค็ อื Object โดยขอ้ มูลชนดิ นส้ี ามารถเก็บได้ ท้ังตัวเลขและข้อความ หลังจากทไี่ ด้ประกาศตวั แปรขึ้นมาแล้ว เราสามารถนำตวั แปรน้ีไปใชใ้ นการกระทำต่างๆ ในโปรแกรมได้
- 289 - ขอบเขตการประกาศตวั แปร (Scope of variables) ในการเขียนโปรแกรมเราสามารถกำหนดได้วา่ จะให้โปรแกรมมองเหน็ ตวั แปรน้นั ในส่วน ใดบ้าง โดยนำวธิ ีการกำหนดขอบเขตของตวั แปรมาใช้ เช่น ตอ้ งการใหเ้ ข้าถึงตวั แปรได้เฉพาะใน โปรแกรมยอ่ ยเท่านั้น หรือให้ทุกโปรแกรมย่อยในคลาสนั้นเขา้ ถงึ ตัวแปรได้ทง้ั หมด เปน็ ต้น สำหรบั คำส่งั Dim ทใ่ี ช้ในการประกาศตัวแปรจะมีรูปแบบดังน้ี ในการประกาศตัวแปรถา้ หากใช้คำว่า Public นำหน้าหมายความว่าตัวแปรนน้ั ทกุ ๆ สว่ น ของโปรแกรมสามารถของมองเหน็ และเรียกมาใช้งานได้ แตถ่ ้าหากใช้คำว่า Private นำหนา้ หมายความวา่ ตวั แปรน้นั จะใช้ไดเ้ ฉพาะภายในโปรแกรมยอ่ ยนั้นเท่านั้น
- 290 - จากตวั อย่างขา้ งตน้ จะพบว่า • ตวั แปร name1 และ ตวั แปร name2 จะเปน็ ตัวแปรท่ีประกาศแบบ Public ในระดบั คลาสซ่ึงจะทำใหท้ ุกไฟลใ์ นโปรเจก็ ต์นี้ใชต้ ัวแปรน้ีได้ เชน่ ในไฟล์ Form2 สามารถใช้ ตวั แปร name1 และ name2 ทป่ี ระกาศไวใ้ น Form1 ได้ • ตัวแปร name3 และ name4 เป็นตัวแปรระดับโปรแกรมย่อย ซ่ึงจะใช้ในโปรแกรมยอ่ ยที่ มนั ถกู ประกาศเทา่ น้ัน เชน่ name3 จะใชใ้ นโปรแกรมยอ่ ย Button1_Click สว่ น name4 จะใช้ในโปรแกรมยอ่ ย Form1_Load ไมส่ ามารถใชง้ านขา้ มโปรแกรมย่อยได้ • การประกาศตัวแปรระดบั คลาส เช่น name1 และ name2 จะต้องประกาศไวภ้ ายนอก โปรแกรมย่อยหรือฟงั ก์ชัน ตวั แปรระดบั โปรแกรมยอ่ ยน้ันจะใชง้ านได้เมอื่ โปรแกรมทำงานอยใู่ นโปรแกรมย่อยเทา่ นน้ั เม่ือออกจากโปรแกรมยอ่ ย ตวั แปรน้ันจะถูกทำลายทันทเี มื่อมีการเรยี กโปรแกรมย่อยอีกครง้ั ตวั แปรน้ี กจ็ ะถกู สรา้ งขน้ึ มาอีกครงั้ หน่งึ สำหรับการเขียนโปรแกรมด้วย VB นน้ั นอกจากการประกาศตัวแปรแบบ Public และ Private แล้วยังมกี ารประกาศตัวแปรแบบอนื่ ๆ อีก ซง่ึ ศกึ ษาได้ในเร่ืองการเขียนโปรแกรมเชงิ วตั ถุ (Object-Oriented) ชนิดของขอ้ มูล (Data Types) ชนดิ ของขอ้ มูลท่กี ำหนดให้กับตวั แปรนั้นจะเป็นตัวบอกว่าตัวแปรท่สี รา้ งขึ้นใชเ้ ก็บขอ้ มูล ประเภทใด ตัวแปรนั้นใชห้ น่วยความจำจำนวนเท่าใด ในการเขยี นโปรแกรมด้วย VB มีชนิดของขอ้ มูล พ้ืนฐานดงั ตารางต่อไปนี้
- 291 - ในการประกาศตวั แปรบางครัง้ เราสามารถกำหนดคา่ เริ่มต้นให้กับตัวแปรไดท้ นั ที ดัง ตัวอยา่ งการปราศตัวแปรต่อไปน้ี การประกาศตัวแปรบรรทดั แรกจะให้ X เกบ็ ขอ้ มูลชนดิ เลขจำนวนเตม็ ส่วนบรรทัดท่สี องจะ ให้ Y เก็บข้อมลู เลขทศนยิ ม การประกาศในสองบรรทัดนีเ้ มอื่ คอมพิวเตอรจ์ องหนว่ ยความจำจะ กำหนดคา่ เรม่ิ ตน้ ให้เปน็ ศูนย์ สว่ นประทดั ที่สามจะให้ตัวแปร blnlsValid เปน็ ตวั แปรเก็บขอ้ มลู แบบ บูลีนแลว้ กำหนดค่าเรมิ่ ต้นให้เป็น \"จรงิ \" ส่วนการประกาศตัวแปรในบรรทัดสุดท้ายจะกำหนดให้ตวั แปร StrMessage เก็บข้อความเร่ิมตน้ เป็นคำว่า \"Good morning\"
- 292 - ตัวแปรแบบสแตตกิ (Static Variables) การประกาศตวั แปรระดับโปรแกรมย่อยนั้น ตัวแปรทปี่ ระกาศขึ้นจะใชง้ านได้เฉพาะ โปรแกรมยอ่ ยทีท่ ำงานอยู่เท่านัน้ หลงั จากทำงานเสรจ็ แลว้ ตวั แปรนั้นจะถูกทำลายไป เมอ่ื มกี ารเรยี ก โปรแกรมยอ่ ยนนั้ ใหมต่ ัวแปรระดบั โปรแกรมยอ่ ยก็จะถกู สร้างขึน้ มาใหม่ ซ่ึงอาจทำใหค้ ่าของตวั แปร ไมใ่ ชค่ ่าเกา่ อกี ต่อไป แตเ่ ราสามารถรักษาค่าของตัวแปรระดบั โปรแกรมยอ่ ยได้ โดยประกาศตัวแปร แบบสแตตกิ โดยใชค้ ำว่า Static แทนคำวา่ Dim ในการประกาศตวั แปร ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง การใชต้ วั แปรแบบสแตติก โดยออกแบบให้คลิกป่มุ Button1 แล้วใหโ้ ปรแกรม แสดงจำนวนครงั้ ทีค่ ลิกออกมาทางกล่องขอ้ ความ ให้สรา้ งโปรเจก็ ต์ใหม่ โหมด Windows Forms Application โดยสร้างฟอรม์ แลว้ วางปุม่ กดลงไปดังรปู ต่อไปน้ี จากโปรแกรมท่ีเขียนขึ้นจะเป็นการเขียนโปรแกรมย่อยให้กบั ปมุ่ กด โดยประกาศตวั แปร Count เปน็ แบบสแตตกิ เม่ือมีการคลกิ ที่ปุม่ กดจะเพ่มิ ค่าใหก้ ับตวั แปร Count เปน็ แบบสแตตกิ เมื่อ มีการคลิกท่ปี มุ่ กดจะเพม่ิ คา่ ใหก้ บั ตัวแปร Count ข้นึ หน่งึ คา่ แล้วแสดงผลออกทางกลอ่ งขอ้ ความ โดย
- 293 - ค่าจะเพิม่ ขนึ้ เร่ือยๆ เพราะค่าเกา่ ของตัวแปร Count ยงั คงอยู่ เมื่อรนั โปรแกรมแล้วคลิกปุ่ม Button1 โปรแกรมจะแสดงจำนวนคร้งั ที่คลิกออกมาดังน้ี ค่าคงที่ (Constants) ค่าคงท่ีมีไวส้ ำหรับเกบ็ ค่าท่ีไม่มีการเปลยี่ นแปลงตลอดช่วงเวลาทโี่ ปรแกรมทำงานอยู่ ซง่ึ ถ้า ในโปรแกรมมีการใชค้ ำสง่ั ให้เปลยี่ นค่าคงที่ VB จะแสดงขอ้ ผดิ พลาดออกมา เนอ่ื งจากเราไมส่ ามารถ เปลย่ี นคา่ ที่ประกาศค่าคงทไ่ี ด้ การประกาศค่าคงทจี่ ะคล้ายกบั การประกาศค่าตัวแปร แต่จะใช้คำว่า Const โดยมีรูปแบบดังน้ี ในการประกาศคา่ คงท่ีเราสามารถกำหนดชนดิ ของข้อมูลใหค้ ่าคงทไ่ี ด้ สว่ นคา่ ท่ีกำหนด ให้กบั คา่ คงทีจ่ ะเปน็ ตวั เลข ขอ้ ความ หรอื ค่าท่ีเก็บในตวั แปร รวมทัง้ ใชต้ ัวดำเนนิ การกบั ค่าทก่ี ำหนดได้ ดังตัวอยา่ งการประกาศต่อไปน้ี
- 294 - ตวั ดำเนนิ การ (Operator) ตวั ดำเนนิ การหรือโอเปอเ์ รเตอรน์ นั้ เป็นการกระทำบางอยา่ งกับข้อมลู และได้ผลลัพธ์ ออกมาสำหรับตวั ดำเนนิ การของ VB สามารถแบง่ ออกเปน็ ประเภทใหญๆ่ ได้ดงั ตอ่ ไปนี้ • ตัวดำเนนิ การทางคณติ ศาสตร์ • ตวั ดำเนนิ การทางตรรกะ • ตัวดำเนินการเกี่ยวกบั ข้อมลู สตรงิ • ตวั ดำเนนิ การเปรียบเทยี บ ตวั ดำเนนิ การทางคณติ ศาสตร์ เปน็ ตัวดำเนนิ การท่เี กยี่ วขอ้ งกับการคำนวณทางครติ ศาสตร์ เชน่ การบวก การลบ การคูณ การหาร เป็นตน้ ดังตารางตอ่ ไปนี้ ตัวอยา่ ง การเขยี นโปรแกรมทางคณิตศาสตร์อย่างง่าย โปรแกรมจะใหป้ อ้ นขอ้ มลู ตวั เลขเข้า ไปสองค่า จากนน้ั โปรแกรมจะแสดงผลรวมของตัวเลขทงั้ สองออกมา ใหเ้ ขียนโปรแกรมในโหมด Console Application ดงั ต่อไปน้ี
- 295 - ตวั ดำเนินการทางตรรกะ ตวั ดำเนินการประเภทน้จี ะนำข้อมูลสองคา่ มากระทำทางตรรกะตอ่ กัน แลว้ ให้ผลลพั ธ์เป็น ค่าจรงิ (True) หรือเทจ็ (False) โดยตัวดำเนนิ การและตารางดำเนินการต่างๆ จะเป็นดังนี้ • ตวั ดำเนนิ การ And ถ้าทกุ นพิ จน์ทม่ี า And กนั มคี า่ เปน็ True ทกุ นพิ จน์ ผลลัพธ์ท่ีได้จะมี ค่าเปน็ จริง (True)
- 296 - • ตวั ดำเนินการ Or ถ้าทกุ นิพจน์ทมี่ า Or กนั มคี ่าเปน็ True เพยี งนิพจน์เดียว ผลลัพธท์ ไ่ี ด้ จะเป็น True • ตวั ดำเนนิ การ Xor ตัวดำเนินการน้ใี ช้ตรวจสอบวา่ นพิ จน์ทน่ี ำมาดำเนินการต่อกันมีคา่ ตรงกันหรือไม่ ถ้าไม่ตรงกันผลลัพธท์ ่ไี ด้จะเป็น True • ตัวดำเนนิ การ AndAlso จะคล้ายกับตัวดำเนนิ การ And ยกเวน้ แต่ว่าถ้านพิ จน์แรกมีค่า เป็น False โปรแกรม VB จะไมห่ าค่านพิ จนท์ ส่ี องเลย และจะใหผ้ ลลัพธ์กลับมาเปน็ False
- 297 - • ตัวดำเนินการ OrElse จะคล้ายกับตวั ดำเนินการ Or ยกเว้นแต่วา่ ถา้ นิพจนแ์ รกมีค่าเป็น True โปรแกรม VB จะไม่หาค่านพิ จนท์ สี่ องเลย และจะใหผ้ ลลัพธ์กลับมาเปน็ True • ตวั ดำเนกิ าร Not จะใชส้ ำหรบั กลบั ค่าทางลอจิกจาก True เป็น False จาก False เปน็ True ตัวดำเนนิ การเก่ยี วกับข้อมลู สตรงิ ตัวดำเนินการกลุม่ นจี้ ะเป็นตวั ดำเนินการที่ใช้เช่ือมขอ้ ความ (String) เกบ็ ข้อความเข้า ดว้ ยกัน หรอื ขอ้ ความกบั ตัวเลข ประกอบด้วยตวั ดำเนินการดงั น้ี • + ใช้เชือ่ มข้อความกับขอ้ ความ • & ใช้เช่ือมขอ้ ความกบั ตัวเลข หรอื ข้อความกบั ข้อความก็ได้
- 298 - จากตัวอยา่ งขา้ งตน้ ถ้าคา่ ของตัวแปร MyFriend เทา่ กับคำวา่ \"John\" ผลลัพธ์ทไี่ ด้ออกมา คือ \"Your friend is John\" ตัวดำเนินการเปรยี บเทยี บ ตวั เนินการประเภทนจ้ี ะใช้เปรยี บค่า 2 คา่ โดยมผี ลลพั ธ์เปน็ True หรอื False อยา่ งใด อยา่ งหน่ึงเทา่ นัน้ ตวั ดำเนนิ การและตวั อย่างการใช้งานเปน็ ดังตารางต่อไปนี้ กำหนดให้ A = 10 และ B = 15 ลำดบั การทำงานของตัวดำเนินการ ในการเขียนโปรแกรมบางคร้งั ในนพิ จนท์ ่ีเขยี นขึน้ อาจมีการใช้ตัวดำเนนิ การหลายตัว ประกอบกันอยู่ ในการคำนวณคา่ ของนิพจน์ใด จะดูว่าตัวดำเนนิ การใดมีลำดบั ในการทำกอ่ นสงู สดุ ก็ ให้คา่ จากการกระทำของตวั ดำเนินการน้นั กอ่ น ตามด้วยหาค่าจากการกระทำของตวั ดำเนินการที่มี ลำดบั ในการทำงานต่ำลงมา และทำเชน่ นไ้ี ปเรื่อยๆ จนกระทง่ั ไดผ้ ลลัพธ์ขึน้ สุดท้ายออกมา ลำดบั การ ทำงานกอ่ นหลงั (Precedence) ของตัวดำเนินการตา่ งๆ ใน VB เป็นดังตารางตอ่ ไปนี้
- 299 - ตารางแสดงลำดบั การทำงานก่อนหลังของตวั ดำเนนิ งาน โดยเรียงลำดบั การทำก่อนจากบนลงล่าง สำหรับในกรณีที่ตัวดำเนินการมลี ำดับการทำงานเท่ากัน โปรแกรมจะทำงานจากซ้ายไปขวา ตวั อยา่ งเชน่ X * 2 / 4 < 20 Or Y = \"rat\" ในนิพจน์ขา้ งต้น จะหาค่าของนพิ จน์ตามลำดับดงั ตอ่ ไปนี้ • คำนวณ x * 2 / 4 เน่อื งจากมีลำดับเท่ากนั จึงทำตามลำดบั จากซา้ ยไป ขวา โดยทำการคณู กอ่ น และหาร • การเปรยี บเทยี บ X * 2 / 4 < 20 • การเปรยี บเทียบ Y = \"rat\" • การเชอื่ มต่อทางตรรกะ Or ในการเขยี นโปรแกรมเราสามารถกำหนดให้ตัวดำเนินการใดทำงานกอ่ นหลังได้ดว้ ยการใช้ วงเลบ็ ในการจดั กล่มุ ตวั ดำเนินการท่ี ต้องการให้ทำงานก่อน เช่น
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 543
Pages: