บทที่ 4 | รปู เรขาคณิต คมู่ ือครรู ายวชิ าพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 เลม่ 1 ตามแกนสมมาตรของแกนใด ถา้ เลอื กแกนสมมาตร แนวนอนตอ้ งกำ�หนดจุดทจี่ ะลากเสน้ ให้ห่างจาก หนงั สือเรยี นรายวิชาพ้นื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 แกนสมมาตรใหร้ ะยะหา่ งเทา่ กนั ตามแกนสมมาตร บทท่ี 4 | รูปเรขาคณติ แนวนอนแลว้ จึงวาดอีกขา้ งหนง่ึ ใหส้ มบรู ณ์ ตามแกนสมมาตรแนวตง้ั ท�ำ นองเดยี วกนั ถา้ เลอื ก กจิ กรรม ต่อใหเ้ ปน็ รูปท่ีมีแกนสมมาตร 2 แกน แกนสมมาตรแนวตั้งตอ้ งก�ำ หนดจดุ ทีจ่ ะลากเสน้ อปุ กรณ์ 1. ใบกิจกรรม ให้หา่ งจากแกนสมมาตรให้ระยะห่างเทา่ กนั ตาม 2. ดนิ สอสี แกนสมมาตรแนวตั้งแลว้ จงึ วาดอีกข้างหนง่ึ วิธีจดั กจิ กรรม ให้สมบรู ณ์ตามแกนสมมาตรแนวนอน จากนน้ั 1. ครแู จกใบกจิ กรรมให้นักเรยี นคนละ 1 แผ่น นกั เรียนแต่ละคนอาจได้ ครูและนกั เรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง ใบกจิ กรรมทไ่ี มเ่ หมอื นกนั และน�ำ เสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรยี น ครแู ละนกั เรยี น 2. ให้นักเรียนลากเส้นต่อจดุ ใหไ้ ดร้ ูปท่ีมเี สน้ ประเป็นแกนสมมาตร รว่ มกนั สรปุ การวาดรูปต่อจดุ ให้ไดร้ ูปทม่ี ี ของรปู 2 แกน ระบายสีใหส้ วยงาม และตงั้ ชอ่ื ภาพ แกนสมมาตร 2 แกน โดยใช้กระดาษจุด 3. นักเรยี นนาำ เสนอผลงาน ครูและนักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง เมอ่ื ก�ำ หนดแกนสมมาตรให้ 2 แกนและรปู สว่ นหนง่ึ ของแกนสมมาตรให้ ท�ำ ไดโ้ ดยลากเสน้ ผา่ นจุด ตวั อยา่ งใบกจิ กรรม บนกระดาษจุดทม่ี รี ะยะหา่ งจากแกนสมมาตร กิจกรรม ตอ่ ให้เป็นรูปทม่ี ีแกนสมมาตร 2 แกน เท่ากันกบั รปู อกี ขา้ งหนง่ึ ของแกนสมมาตร อาจเรม่ิ จากแกนสมมาตร แกนใดแกนหนง่ึ ก่อน ชือ่ ภาพ…เค…ร…ือ่ …งห…ม…าย…บ…ว…ก………….. แล้วใชว้ ธิ ีการเดียวกนั ในการวาดรปู อกี ขา้ งหน่ึง ของแกนสมมาตรอกี แกนหนงึ่ | 157สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนังสือเรยี นรายวชิ าพ้นื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 บทที่ 4 | รูปเรขาคณิต ตรวจสอบความเข้าใจ เลือก ก ข หรือ ค ท่เี ปน็ รูปเมือ่ นำามาตอ่ กับรูปทกี่ ำาหนดใหแ้ ล้วได้รูปที่มแี กนสมมาตร 1 การตรวจสอบความเขา้ ใจ กขค 4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเป็น ข้อ ค. รายบุคคลตามหนงั สือเรียนหน้า 158 โดย ใหน้ ักเรียนเลือกรูปที่เปน็ รูปท่นี ำ�มาต่อกับรปู 2 ท่กี ำ�หนดให้แลว้ ไดร้ ปู ทมี่ ีแกนสมมาตรตามท่ี กขค กำ�หนด ครูและนกั เรยี นตรวจสอบความถกู ต้อง และรว่ มกนั สรปุ สง่ิ ทไ่ี ดเ้ รยี นรู้ ขอ้ ก. สงิ่ ทีไ่ ด้เรยี นรู้ สง่ิ ทไ่ี ดเ้ รยี นรู้ สามารถนำาความรเู้ ก่ยี วกับรูปท่มี แี กนสมมาตรมาประดษิ ฐ์ เปน็ ผลงานตา่ ง ๆ สามารถน�ำ ความรเู้ กย่ี วกบั รปู ทม่ี แี กนสมมาตร แบบฝึกหดั 4.4 มาประดิษฐเ์ ปน็ ผลงานตา่ ง ๆ 158 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จากนนั้ ให้นักเรยี นท�ำ แบบฝกึ หัด 4.4 หนา้ 108 - 109 | 157สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คูม่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 4 | รปู เรขาคณติ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เลม่ 1 หนงั สือเรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 ร่วมคิดร่วมทำ� (1 ชว่ั โมง) บทที่ 4 | รูปเรขาคณติ กิจกรรม ร่วมคดิ ร่วมทาำ สร้างสรรค์ด้วยสมมาตร กิจกรรม สร้างสรรคด์ ว้ ยสมมาตร อุปกรณ์ อุปกรณ ์ 1 ชุด ประกอบดว้ ย − กระดาษสตี ่าง ๆ − กรรไกร 1. กระดาษสตี ่าง ๆ 2. กรรไกร − กาว − ดินสอสี 3. กาว 4. ดนิ สอสี วิธจี ดั กิจกรรม 1. ครูแบ่งนักเรียนเปน็ กล่มุ กลุม่ ละเท่า ๆ กนั และแจกอุปกรณ์กลมุ่ ละ 1 ชุด 2. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ สร้างสรรคผ์ ลงานโดยใชก้ ารพับ วาด และตดั กระดาษ ให้เปน็ รูปทมี่ ีแกนสมมาตร แล้วนาำ มาประดิษฐ ์ ตกแต่งให้สวยงาม ตง้ั ชอื่ จากนั้นนาำ เสนอผลงาน ตัวอย่างผลงาน ชื่อผลงาน…………………………………............................................ วธิ ีจดั กิจกรรม ครแู บง่ นกั เรยี นเปน็ กลมุ่ ใหน้ กั เรยี น แตล่ ะกลมุ่ รับอุปกรณก์ ล่มุ ละ 1 ชดุ แลว้ ให้ นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มสร้างสรรคผ์ ลงานโดย แบบฝกึ ทา้ ทาย นำ�ความรเู้ รอื่ งการพบั วาด และตดั กระดาษ | 159สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้เป็นรปู ท่มี ีแกนสมมาตร แลว้ น�ำ มาประดษิ ฐ์ เปน็ รูปต่าง ๆ ตกแตง่ ให้สวยงาม พร้อมท้ังตงั้ ชอ่ื ภาพ จากนนั้ ให้แตล่ ะกลมุ่ น�ำ เสนอผลงาน ครอู าจใหน้ กั เรียนร่วมกันพจิ ารณางานของเพ่ือน ๆ วา่ รปู ทส่ี ร้างสรรค์ขนึ้ นนั้ เป็นรูปท่ีมี แกนสมมาตรหรือไม่ มีรูปที่มแี กนสมมาตรกร่ี ูป และแตล่ ะรูปมีจำ�นวนแกนสมมาตรก่แี กน จากน้นั ให้นกั เรยี นทำ�แบบฝึกท้าทาย หนา้ 110 - 111 ตวั อยา่ งรูปท่ีมแี กนสมมาตร 158 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 4 | รปู เรขาคณติ ค่มู อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี ่ 3 เล่ม 1 คณิตคดิ ทา้ ทาย 1. (NT 2555) กาำ หนดรูปสเ่ี หลี่ยมผนื ผา้ ดังภาพ ถา้ ลากเสน้ ตามแกนสมมาตร ทกุ เสน้ จะไดร้ ปู สเ่ี หลี่ยมรูป เลก็ ทีส่ ุดกีร่ ูป 1) 2 2) 4 3) 6 4) 8 2. (NT 2556) กาำ หนดรปู ส่เี หลยี่ มจตั ุรสั ดังภาพ ถ้าลากเสน้ ตามแกนสมมาตรทกุ เส้นจะได้รูปสามเหลยี่ ม รปู เล็กท่สี ุดกร่ี ปู 1) 2 2) 4 3) 6 4) 8 3. (NT 2559) ในชั่วโมงวิชางานประดิษฐ� นักเรียนห�องหนึ่งทำกจิ กรรมประดษิ ฐพ� ัดเป�นรปู ต�าง ๆ ดังนี้ พัดของเอมอร พัดของวชิ ยั พดั ของสาลี่ พัดของมีนา จากข้อมูลขา้ งต้น ถ้าไม่พิจารณาดา้ มของพดั ข้อใดถูกต้อง 1) มีพัดของนักเรียน 1 คน ที่ไมม่ แี กนสมมาตร 2) พัดของวชิ ัยมจี าำ นวนแกนสมมาตรมากกว่าพดั ของสาลี่ 3) พดั ของเอมอรมีจาำ นวนแกนสมมาตรเท่ากับพดั ของวิชัย 4) มีพดั ของนกั เรยี น 2 คน ท่ีมีจำานวนแกนสมมาตรมากกว่า 1 แกน | 159สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คูม่ ือครรู ายวชิ าพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 4 | รูปเรขาคณิต ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3 เลม่ 1 ตัวอยา่ งแบบทดสอบทา้ ยบท ตวั อยา่ งแบบทดสอบนใ้ี ชใ้ นการประเมนิ ผลระหวา่ งเรยี นเพอ่ื พฒั นานกั เรยี นหากมนี กั เรยี นคนใด ท่ีไมส่ ามารถท�ำ แบบทดสอบนี้ได้ครูควรใหน้ ักเรยี นคนนนั้ ฝึกทักษะมากข้นึ โดยอาจใช้แบบฝกึ เสรมิ ในหนังสือเสริมเพ่มิ ปญั ญาของสสวท.หรือแบบฝึกอนื่ ท่เี หน็ วา่ สมควร ซ่งึ แบบทดสอบท้ายบทน้ี มีจ�ำ นวน 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน ใชเ้ วลาในการทำ�แบบทดสอบ 20 นาที และวิเคราะห์ เปน็ รายจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ได้ดังนี้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ขอ้ ที่ ระบรุ ูปเรขาคณิตสองมติ ิท่ีมแี กนสมมาตรและจ�ำ นวนแกนสมมาตร 1-10 ตัวอย่างแบบทดสอบทา้ ยบท บทที่ 4 เลือก ก ข หรอื ค ทเี่ ปน็ ค�ำ ตอบที่ถูกตอ้ ง 1. รปู ใดเป็นรปู ที่มีแกนสมมาตร ก. ข. ค. 2. รูปใดเปน็ รปู ท่มี แี กนสมมาตร 1 แกน ก. ข. ค. 3. ขอ้ ใดเปน็ รูปทมี่ แี กนสมมาตรเท่ากับรูปที่ก�ำ หนดให้ ก. ข. ค. 160 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 4 | รูปเรขาคณิต คูม่ ือครูรายวชิ าพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เลม่ 1 จากรููปใช้ต้ อบคำ�ำ ถามข้้อ 4 - 5 4. จากรปู ท่ีก�ำ หนดใหม้ ีรูปทจ่ี �ำ นวนแกนสมมาตรเทา่ กับจำ�นวนดา้ นก่รี ปู ก. 1 รูป ข. 2 รูป ค. 3 รูป 5. จากรูปทกี่ �ำ หนดให้มรี ปู ทม่ี ีแกนสมมาตร 4 แกนท้ังหมดกร่ี ปู ก. 3 รูป ข. 2 รูป ค. 1 รูป 6. รูปเรขาคณิตรูปใดมแี กนสมมาตรมากทีส่ ุด ก. ข. ค. 7. พบั ครงึ่ กระดาษตามรอยเสน้ ประ วาดตามเสน้ แล้วตดั ตามรอยวาด คล่กี ระดาษทีต่ ดั ออกมาได้รูปใด ก. ข. ค. | 161สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 4 | รูปเรขาคณิต ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เลม่ 1 8. รูปในข้อใด เม่อื พับคร่งึ กระดาษตามรอยเสน้ ประ วาดตามเสน้ แล้วตดั ตามรอยวาด คลี่กระดาษ ออกมาไม่ได้รปู ตามทีก่ �ำ หนด ก. ข. ค. 9. รูปนเ้ี ป็นรปู ท่ีมีแกนสมมาตร เมื่อเขยี นแกนสมมาตรและแสดงรปู ขา้ งหนง่ึ ของแกนสมมาตร ข้อใดไม่ถูกต้อง ก. ข. ค. 10. เม่อื ลากเสน้ ต่อจดุ ให้ได้รปู ที่มีเส้นประเป็นแกนสมมาตร จะได้รปู ในข้อใด ก. ข. ค. เฉลยแบบทดสอบท้า้ ยบท บทที่่� 4 1. ข 2. ก 3. ค 4. ข 5. ก 6. ค 7. ก 8. ค 9. ข 10. ก 162 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 5 | แผนภมู ิรปู ภาพและตารางทางเดยี ว คู่มอื ครูรายวชิ าพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เลม่ 1 บทที่ 5 แผนภมู ริ ปู ภาพและตารางทางเดยี ว จดุ ประสงคก์ ารเรียนรแู้ ละสาระส�ำ คญั จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระสำ�คัญ นกั เรยี นสามารถ • ขอ้ มูลเป็นข้อเทจ็ จรงิ ของสิ่งท่สี นใจ การเก็บรวบรวมข้อมลู อาจใชก้ ารสังเกต 1. เก็บรวบรวมข้อมูลและจ�ำ แนกข้อมูล การสอบถามซงึ่ การเก็บรวบรวมข้อมลู และ (หวั ข้อ 5.1) การจ�ำ แนกข้อมลู ท�ำ ใหส้ ะดวกต่อการ นำ�ข้อมูลไปใช้ 2. อ่านและเขยี นแผนภมู ริ ูปภาพ • แผนภูมริ ปู ภาพเป็นแผนภมู ทิ นี่ ำ�เสนอขอ้ มูล (หัวขอ้ 5.2-5.3) โดยใชร้ ปู ภาพแทนจำ�นวนสงิ่ ต่าง ๆ ถ้าเป็นข้อมูลของสง่ิ เดยี วกัน รปู ภาพที่ได้ 3. ใชข้ อ้ มูลจากแผนภมู ิรูปภาพ ตอ้ งเปน็ รปู ภาพท่เี หมอื นกนั และมขี นาด ในการหาค�ำ ตอบของโจทยป์ ญั หา เท่ากนั ซ่งึ ประกอบดว้ ย ช่อื แผนภมู ิ (หัวขอ้ 5.2-5.3) ตวั แผนภูมิและข้อก�ำ หนด • ขอ้ มลู ชดุ เดยี วกนั สามารถเขยี นแผนภมู ริ ปู ภาพ โดยใชข้ อ้ ก�ำ หนดท่แี ตกต่างกนั และจำ�นวน รปู ภาพทเ่ี ขยี นในแผนภมู ิรปู ภาพขึน้ อยูก่ บั ขอ้ มลู และขอ้ ก�ำ หนด 4. อ่านและเขียนตารางทางเดียวจากขอ้ มลู • การนำ�เสนอขอ้ มลู อาจนำ�เสนอด้วย ทเ่ี ปน็ จำ�นวนนบั ตารางทางเดยี ว ซง่ึ ตารางทางเดียว (หวั ข้อ 5.4-5.5) ประกอบดว้ ยชอ่ื ตารางและตาราง ทมี่ ีหวั ตารางและรายละเอียดของข้อมูล 5. ใชข้ ้อมลู จากตารางทางเดียวในการหาค�ำ ตอบ ของโจทย์ปญั หา (หวั ข้อ 5.4-5.5) | 163สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครูรายวชิ าพืน้ ฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 5 | แผนภูมิรูปภาพและตารางทางเดยี ว ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เลม่ 1 การวิเคราะห์เน้อื หากับทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ หวั ขอ้ เนอื้ หา เวลา ทกั ษะและกระบวนการ ทางคณติ ศาสตร์ (ชว่ั โมง) 12345 1 เตรยี มความพรอ้ ม 2 5.1 การเก็บรวบรวมข้อมลู และการจำ�แนกขอ้ มูล 1 5.2 การอ่านแผนภมู ิรูปภาพ 3 5.3 การเขยี นแผนภมู ิรูปภาพ 1 5.4 การอา่ นตารางทางเดยี ว 2 5.5 การเขยี นตารางทางเดยี ว 1 รว่ มคดิ รว่ มทำ� 1 การแกป้ ัญหา 2 การส่อื สารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3 การเชือ่ มโยง 4 การใหเ้ หตผุ ล 5 การคดิ สร้างสรรค์ คำ�สำ�คัญ ขอ้ มูล การเก็บรวบรวมข้อมลู การสังเกต การสอบถาม การจำ�แนกขอ้ มูล เกณฑใ์ นการจ�ำ แนกข้อมลู การบันทกึ ขอ้ มลู การนำ�เสนอขอ้ มูล แผนภมู ริ ูปภาพ ข้อก�ำ หนด ตารางทางเดียว ความรูห้ รอื ทักษะพ้นื ฐานของนักเรียน 1. การบวก การลบ การคณู และการหารจ�ำ นวนนับ 2. การเปรยี บเทียบจ�ำ นวนนับ 3. แผนภมู ริ ปู ภาพอย่างงา่ ย 4. การอ่านแผนภูมริ ปู ภาพทม่ี ีข้อก�ำ หนด 1 รปู แทน 1 หน่วย 5 หน่วย หรอื 10 หนว่ ย 164 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 5 | แผนภูมิรูปภาพและตารางทางเดยี ว คู่มอื ครูรายวิชาพื้นฐานคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เล่ม 1 ส่ือและแหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี นหนา้ 160 - 189 2. แบบฝกึ หัดหน้า 112 - 135 3. แบบบนั ทึกกิจกรรม ใบกจิ กรรม บตั รขอ้ มลู บตั รภาพต่าง ๆ และอปุ กรณต์ า่ ง ๆ ทใี่ ช้ประกอบกจิ กรรม ดังน้ี แบบบนั ทกึ กิจกรรม • บัตรภาพ • บัตรข้อมูล • กระดาษ A4 •• กระดาษกาวย่น 4. ส่อื เพม่ิ เติมหนา้ 164 167 177 178 184 และ189 (Download ได้จาก QR code หน้า 160) 5. ส่อื วดี ิทศั น์ (QR code) • แผนภมู ิรปู ภาพหน้า 173 เวลาท่ใี ช้จัดการเรียนรู้ 11 ชั่วโมง | 165สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครรู ายวิชาพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | แผนภูมริ ูปภาพและตารางทางเดยี ว ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 เล่ม 1 การจดั การเรียนรู้ การเตรียมความพร้อม (1 ชั่วโมง) บทที ่ 5 แผนภมู ริ ปู ภาพและตารางทางเดยี ว เรียนจบบทน้ีแล้ว นักเรยี นสามารถ เก็บรวบรวมข้อมูลและจำาแนกขอ้ มูล ผกั ท่เี ก็บได้ในวนั จันทร์มีดงั นี้ อา่ นและเขยี นแผนภมู ริ ปู ภาพ สอ่ื เพิ่มเตมิ • ใชข้ อ้ มลู จากแผนภมู ริ ปู ภาพในการหาคาำ ตอบของโจทยป์ ญั หา ผักชี 130 ตน้ อา่ นและเขยี นตารางทางเดยี วจากขอ้ มลู ทเ่ี ปน็ จาำ นวนนบั คะน้า 91 ต้น ใชข้ อ้ มลู จากตารางทางเดยี วในการหาคาำ ตอบของโจทยป์ ญั หา ผักกาดหอม 35 ต้น กวางตงุ้ 40 ต้น ต้นหอม 37 ตน้ จะนำาเสนอข้อมูลอย่างไร เพราะเหตุใด 1. ใชข้ อ้ มูลในหนังสือเรยี นหน้าเปิดบท เพื่อกระตุ้นให้นกั เรยี นเหน็ ความสำ�คัญเก่ยี วกับ การน�ำ เสนอขอ้ มลู โดยใชค้ �ำ ถาม เชน่ − ภาพหน้าเปดิ บทเป็นภาพเก่ยี วกับอะไร (นักเรยี นเกบ็ ผกั และนำ�ไปกองรวมกนั ) − ผกั ท่ีเกบ็ ไดม้ อี ะไรบ้าง (ผกั ชี คะนา้ ผักกาดหอม กวางตงุ้ ตน้ หอม) − ขอ้ มูลนเ้ี ปน็ ข้อมูลเกย่ี วกบั อะไร (จำ�นวนผกั ที่เกบ็ ไดใ้ นวนั จนั ทร)์ − เก็บผักชีไดก้ ่ีต้น (130 ต้น) − ถา้ เราจะน�ำ เสนอขอ้ มูลจ�ำ นวนผกั ท่เี ก็บไดใ้ นวนั จนั ทร์ เราจะนำ�เสนอขอ้ มลู อย่างไร เพราะเหตุใด อาจมนี ักเรียนบางคนตอบค�ำ ถามได้ ตอบได้ไมค่ รอบคลุม หรอื ตอบไมไ่ ด้ ครูนำ�เข้าสบู่ ทเรยี นว่า ในบทเรยี นท่จี ะเรยี นต่อไปน้ี จะเป็นเรอื่ งเกยี่ วกับการน�ำ เสนอขอ้ มูลดว้ ยแผนภูมริ ูปภาพและ ตารางทางเดยี ว ซึ่งจะใชต้ อบคำ�ถามเหล่าน้ไี ด้ 2. ก่อนเรยี นเรือ่ งการเก็บรวมรวบขอ้ มลู และการจำ�แนกข้อมลู ครคู วรตรวจสอบความรู้ พ้ืนฐานของนกั เรยี นเร่อื งแผนภูมิรปู ภาพ โดยให้นักเรียนร่วมกนั พิจารณาแผนภูมิรูปภาพ 166 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 5 | แผนภูมิรูปภาพและตารางทางเดยี ว คู่มอื ครูรายวิชาพน้ื ฐานคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 เลม่ 1 ตามหนังสือเรียนหน้า 162 ท้ังสองแผนภมู ิว่าเหมอื นกันหรอื แตกตา่ งกันอยา่ งไร นักเรียนอาจมี คำ�ตอบหลากหลาย เชน่ − เป็นแผนภมู ิรปู ภาพเหมอื นกัน − มรี ายการแสดงวนั จนั ทร์ถงึ วนั ศุกร์ หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 เหมอื นกัน บทที่ 5 | แผนภูมิรปู ภาพและตารางทางเดยี ว เตรียมความพร้อม − ชนดิ ของพืชท่เี ก็บแตกต่างกัน คือ จาำ นวนมะเขือเทศท่อี อมสินเกบ็ ได้ จาำ นวนแตงกวาท่อี อมสินเก็บได้ มะเขือเทศกบั แตงกวา ตงั้ แต่วันจนั ทรถ์ งึ วันศกุ ร์ ต้ังแตว่ นั จนั ทร์ถึงวันศกุ ร์ − แสดงรายการในแนวท่ีแตกตา่ งกัน คอื จันทร์ องั คาร รายการอยแู่ นวตงั้ กบั รายการอยู่ จันทร์ อังคาร พธุ พฤหสั บดี ศกุ ร์ พุธ แนวนอน กำาหนดให ้ แทนจำานวนมะเขือเทศ 5 ผล พฤหสั บดี − มีข้อกำ�หนดต่างกนั คือ 1 รูปแทน จ�ำ นวน 5 ผลกับ 10 ผล ศุกร์ กาำ หนดให้ แทนจาำ นวน แตงกวา 10 ผล − ใช้รปู ภาพในแผนภมู ติ า่ งกนั คือ จากแผนภูมริ ปู ภาพ ตอบคาำ ถาม ใช้วงกลมกบั รูปส่เี หลยี่ ม 1 ออมสินเกบ็ มะเขอื เทศไดม้ ากทีส่ ดุ ในวันใดและเก็บไดก้ ่ีผล วนั จนั ทร์ เกบ็ ได้ 25 ผล ครใู ชค้ �ำ ถามเพอ่ื ทบทวนการอา่ นแผนภมู ริ ปู ภาพ 2 ออมสนิ เก็บแตงกวาไดม้ ากท่สี ดุ ในวนั ใดและเกบ็ ไดก้ ผ่ี ล วันจนั ทร์ เกบ็ ได้ 40 ผล เมอ่ื ก�ำ หนดรปู 1 รปู แทน 5 หนว่ ยหรอื 10 หนว่ ย 3 วนั พฤหัสบดอี อมสนิ เก็บแตงกวาได้มากกว่าหรือนอ้ ยกว่ามะเขือเทศ มากกว่า เชน่ 4 รวม 5 วันออมสินเก็บแตงกวาได้มากกวา่ หรือนอ้ ยกวา่ มะเขือเทศ มากกว่า 5 ถา้ วนั ศุกรเ์ ก็บมะเขือเทศได้เพม่ิ อีก 20 ผล วันศกุ ร์ในแผนภูมจิ ะม ี กร่ี ูป 7 รปู − วันองั คารเกบ็ มะเขอื เทศได้กผี่ ล 6 มะเขือเทศทีเ่ ก็บไดใ้ นวันพฤหัสบดีเทา่ กบั แตงกวาทเ่ี ก็บไดใ้ นวนั อังคารหรือไม่ เท่ากับ แบบฝึกหดั เตรียมความพรอ้ ม 162 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (15 ผล) − วนั องั คารเกบ็ แตงกวาไดก้ ่ีผล (20 ผล) − รปู แทนจ�ำ นวนแตงกวากผี่ ล (5 ผล) − วนั พฤหัสบดีเก็บแตงกวาไดก้ ่ผี ล (25 ผล) จากน้นั ครใู ห้นักเรียนตอบค�ำ ถามตามหนงั สือเรียนหน้า 162 เพอ่ื เตรียมความพรอ้ ม เป็นรายกล่มุ แล้วรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง โดยครอู าจแนะน�ำ ให้นกั เรียนหาจ�ำ นวนมะเขอื เทศ และแตงกวาใหค้ รบทกุ วนั เพอ่ื สะดวกในการตอบค�ำ ถาม ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากน้ันให้นักเรียนท�ำ แบบฝึกหัดเตรยี มความพรอ้ มเปน็ รายบุคคลหน้า 112 - 113 | 167สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครรู ายวิชาพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 5 | แผนภมู ริ ปู ภาพและตารางทางเดียว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1 5.1 การเก็บรวบรวมข้อมูลและการจำ�แนกข้อมลู (2 ชวั่ โมง) จุดประสงค์ เกบ็ รวบรวมข้อมลู และจำ�แนกขอ้ มลู สอ่ื การเรียนรู้ - บัตรภาพ - แบบบันทึกกิจกรรม แนวการจัดการเรยี นรู้ หนงั สอื เรียนรายวิชาพนื้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 บทท ่ี 5 | แผนภมู ิรูปภาพและตารางทางเดียว การพัฒนาความรู้ 5.1 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และการจาำ แนกขอ้ มลู 1. ครตู ดิ ภาพสตั วต์ า่ ง ๆ ตามหนงั สอื เรยี น พฒั นาความรู้ หน้า 163 บนกระดานแลว้ ใหน้ กั เรียนชว่ ยกัน ตอบคำ�ถามวา่ มสี ัตวก์ ่ชี นดิ (17 ชนิด) และ มอี ะไรบ้าง ลิง แรด สิงโต ง ู อฐู ผ้งึ ช้าง เสอื นกฟลามิงโก ้ ควาย กา ปลา ยรี าฟ นกกระยาง เตา่ จระเข้ กบ จาำ แนกสัตวใ์ นภาพได้กีป่ ระเภท อะไรบา้ ง จากนน้ั ถามนกั เรยี นว่า ถ้าตอ้ งแบ่งสตั ว์เหล่าน้ี 2 ประเภท คอื สตั วท์ ีม่ ีขาและสตั วท์ ่ีไม่มขี า นักเรยี นจะแบ่งเปน็ กีป่ ระเภท อะไรบ้าง 2 ประเภท คือสตั วท์ ่ีมีปก� และสัตว์ท่ไี มม่ ีป�ก คำ�ตอบข้ึนอย่กู บั นกั เรียน แล้วครคู วรอภิปราย 3 ประเภท คือสตั วท์ ่อี าศัยอย่บู นบก สัตว์ที่อาศยั อยู่ในนาำ้ ใหไ้ ดข้ อ้ สงั เกตวา่ สตั วท์ ีอ่ ยใู่ นประเภทเดียวกนั และสตั ว์ทอี่ าศัยอยทู่ งั้ บนบกและในนาำ้ จะต้องมลี ักษณะเหมือนกนั ตามเกณฑ์ที่ ใชจ้ ัดประเภทนนั้ เชน่ แบ่งเป็น 2 ประเภท สตั วท์ เ่ี ราจดั ใหอ้ ยปู่ ระเภทเดยี วกนั จะตอ้ งมลี กั ษณะเหมอื นกนั ตามเกณฑท์ ใ่ี ช้ จดั ประเภทนน้ั เชน่ จดั ประเภทตามทอ่ี ยอู่ าศยั จดั ประเภทตามรปู รา่ งลกั ษณะ | 163สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประเภทสัตว์มขี ากบั ประเภทสัตวไ์ ม่มีขา หรือ ประเภทสัตว์มีปีกกับประเภทสตั วไ์ ม่มปี ีก แบง่ เป็น 3 ประเภท ประเภทสตั วท์ ่ีอาศยั อยู่บนบก ประเภทสตั ว์ที่อาศัยอย่ใู นน้�ำ และประเภทสัตว์ท่อี าศัยอยู่ทงั้ บนบกและในน�ำ้ ครูและนักเรียน รว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง ครูอาจส่มุ ใหน้ กั เรียนบางคนออกมาน�ำ เสนอพร้อมกบั บอกเกณฑ์ ท่ใี ชใ้ นการแบง่ ประเภทของสัตว์ ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปวา่ ในการจัดประเภทของสัตว์ชนดิ ต่าง ๆ ให้อยใู่ นประเภทเดยี วกัน จะต้องมลี ักษณะเหมอื นกันตามเกณฑท์ เ่ี รากำ�หนด 168 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 5 | แผนภมู ริ ูปภาพและตารางทางเดียว ค่มู ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เลม่ 1 2. ครูใหน้ กั เรยี นท�ำ กิจกรรม “พวกใครพวกมนั ” หนงั สือเรยี นรายวชิ าพ้ืนฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 ตามหนังสือเรียนในหนา้ 164 โดยให้นกั เรียนแบ่งเป็นกลุม่ บทที่ 5 | แผนภูมิรูปภาพและตารางทางเดียว กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั และแจกอปุ กรณใ์ หน้ กั เรยี นกลมุ่ ละ 1 ชดุ กจิ กรรม พวกใคร พวกมัน อุปกรณ์ 1 ชดุ ประกอบด้วย บัตรภาพ จำานวน 15 ใบ ตวั อย่างบัตรภาพ ซง่ึ จะประกอบดว้ ยบตั รภาพจำ�นวน 15 ใบ ครอู าจใช้ บตั รภาพในสอ่ื เพม่ิ เตมิ ของหนงั สอื เรยี นบทนจ้ี าก QR Code หน้าแรกของบท เมื่อนักเรียนแตล่ ะกลุ่มไดบ้ ตั รภาพแล้ว ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั สงั เกตวา่ บตั รภาพทไ่ี ดร้ บั นน้ั เปน็ บตั รภาพ เกย่ี วกบั อะไร แล้วถ้าจะจำ�แนกบตั รภาพเหล่านน้ั ออก วิธจี ดั กิจกรรม เปน็ กลมุ่ นกั เรยี นมวี ธิ จี �ำ แนกบตั รภาพเหลา่ นน้ั ไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง 1. ครแู บง่ นกั เรยี นเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั และแจกอปุ กรณก์ ลมุ่ ละ 1 ชดุ ให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มชว่ ยกันจ�ำ แนกบตั รภาพและ 2. ให้นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ จาำ แนกบัตรภาพตามเกณฑ์ทส่ี มาชกิ ในกลุ่มได้ตกลงกัน 3. ใหต้ วั แทนแต่ละกล่มุ นาำ เสนอผลงาน บอกเกณฑ์ท่ีใช้จำ�แนก เชน่ จำ�แนกออกเป็น 3 ประเภท คือ ประเภทเครอ่ื งดื่ม 164 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประเภทผลไม้ ประเภทขนม จ�ำ แนกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทมีภาชนะใส่กับประเภทไมม่ ีภาชนะใส่ แลว้ ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ สง่ ตวั แทนมาน�ำ เสนอผลการจ�ำ แนกบตั รภาพและเกณฑท์ ใ่ี ชจ้ �ำ แนกบตั รภาพ 3. เมอ่ื นักเรยี นได้เรียนร้เู กยี่ วกบั การจ�ำ แนกขอ้ มลู แล้วต่อไปนักเรยี นจะไดเ้ รียนรเู้ ก่ยี วกบั การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล โดยกอ่ นท่ีจะให้นักเรียนได้เรียนรเู้ กยี่ วกบั การเกบ็ รวบรวมข้อมลู ครอู าจสรุป เร่ืองการจำ�แนกข้อมูลอกี ครั้งหนง่ึ ดงั น้ี การจ�ำ แนกขอ้ มูลนนั้ ตอ้ งมเี กณฑ์ทใี่ ชใ้ นการจำ�แนกข้อมูล เพ่อื ให้ขอ้ มูลประเภทเดียวกนั อยใู่ นกลมุ่ เดยี วกนั และสะดวกในการนำ�ข้อมูลไปใช้ จากน้นั ครนู ำ�เขา้ สกู่ ารเกบ็ รวบรวมข้อมูลโดยใช้การถาม - ตอบ เชน่ ถา้ นกั เรียนต้องการรขู้ อ้ มลู เก่ียวกับวิธกี ารเดนิ ทางมาโรงเรยี นของเพื่อนในห้องเรยี น หนงั สือเรียนรายวิชาพื้นฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 แลว้ นักเรยี นจะตอ้ งทำ�อยา่ งไรจึงจะไดข้ อ้ มลู นั้นมา บทที่ 5 | แผนภูมริ ูปภาพและตารางทางเดยี ว (ถามเพอ่ื นในหอ้ งเรยี นหรอื เดนิ ไปดวู า่ เพอ่ื นเดนิ ทางมาโรงเรยี น ด้วยวิธีใด) จากน้ันครูให้นักเรียนดภู าพตามหนังสือเรียน หนา้ โรงเรียนของเรามีรถอะไรวง่ิ ผ่านบ้าง ไปดูกัน หน้า 165 แลว้ ใชก้ ารถาม - ตอบเพ่ือใหน้ กั เรียนเขา้ ใจ สถานการณใ์ นรูปภาพ ดงั น้ี − ถา้ นักเรยี นอยากรวู้ า่ หน้าโรงเรียนมรี ถชนิดใด จำานวนรถชนิดตา่ ง ๆ ท่วี ่ิงผ่านหน้าโรงเรียน วง่ิ ผา่ นบา้ ง ควรท�ำ อยา่ งไร (ไปยนื ดหู รอื สงั เกตทห่ี นา้ โรงเรยี น) เวลา 7.30 น. ถึง 7.35 น. − ขณะทยี่ ืนดหู รือสังเกตรถทีว่ ่งิ ผา่ นหน้าโรงเรียน นกั เรียนควรเก็บข้อมลู อย่างไร (จดบันทกึ ) รถยนต์ 16 คนั รถจักรยาน 7 คนั รถจกั รยานยนต์ 13 คัน รถตู ้ 4 คนั ตง้ั แต่เวลา 7 นาฬกิ า 30 นาที ถงึ 7 นาฬิกา 35 นาที มีรถว่งิ ผา่ นหนา้ โรงเรยี นของเราทงั้ หมด 40 คัน รถทวี่ ิง่ ผา่ นหน้าโรงเรียนของเรามากทีส่ ดุ คือรถยนต์ การสังเกตแล้วบันทึกข้อมลู เป็นวธิ กี ารเกบ็ รวบรวมข้อมูลวธิ หี นึ่ง ข้อมูลท่ีได้จากการสังเกตเปน็ ข้อมลู ทเ่ี กบ็ มาโดยตรงจากสถานการณ์จริง | 165สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 169สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครูรายวิชาพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | แผนภมู ริ ปู ภาพและตารางทางเดียว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1 ครูนำ�อภปิ รายเกย่ี วกับการบนั ทึกขอ้ มูลว่านักเรียนอาจใช้การจดบันทึกรถทวี่ ่งิ ผ่านทลี ะคนั เชน่ รถยนต ์ รถจกั รยานยนต์ รถตู้ รถยนต์ รถจกั รยาน รถจกั ยานยนต ์ รถยนต์ หรือเขยี นชนดิ ของรถแล้วใชร้ อยขดี เช่น รถยนต์ รถจกั รยานยนต์ รถต้ ู ครตู ดิ ภาพแสดงจ�ำ นวนรถชนดิ ตา่ ง ๆ ทว่ี ง่ิ ผา่ นหนา้ โรงเรยี น แลว้ รว่ มกนั สรปุ กบั นกั เรยี นวา่ เมอ่ื นกั เรยี นสงั เกตรถทว่ี ง่ิ ผา่ น หนังสอื เรียนรายวิชาพ้นื ฐาน | คณติ ศาสตร ์ ป.3 บทที ่ 5 | แผนภูมิรูปภาพและตารางทางเดียว หน้าโรงเรยี นแลว้ นกั เรียนตอ้ งนบั จ�ำ นวนรถแต่ละชนดิ ตอ้ งการรวู้ า่ เพื่อน ๆ ในห้องชอบกินไอศกรมี รสอะไรบา้ ง แล้วเขยี นสรุปข้อมลู ดงั รปู ในหนังสือเรยี นหน้า 165 ไปถามเพื่อน ๆ ดสู ิ จากนั้นครใู ชค้ ำ�ถามใหน้ กั เรียนหาคำ�ตอบแล้วร่วมกันเฉลย เชน่ − รถทส่ี งั เกตเหน็ วา่ ผา่ นหนา้ โรงเรยี น เวลา 7.30 น. ผลการสอบถามเพือ่ น จาำ นวนเพ่ือนท่ีชอบกนิ ไอศกรีมรสตา่ ง ๆ ถึง 7.35 น. มีกช่ี นดิ อะไรบ้าง (4 ชนดิ ได้แก่ รถยนต์ รถจกั รยาน รถจักรยานยนต์ และรถตู)้ ไอศกรมี รอยขีด มะนาว 3 คน มะนาว ส้ม 2 คน − มีรถจักรยานยนต์จ�ำ นวนก่คี นั (13 คัน) สตรอวเ์ บอร์ร ี 6 คน ส้ม ชอ็ กโกแลต 10 คน สตรอวเ์ บอรร์ ี วานิลลา 4 คน ชอ็ กโกแลต วานิลลา เพื่อนในหอ้ งชอบกินไอศกรีมรสชอ็ กโกแลตมากท่สี ดุ − มรี ถชนดิ ใดผา่ นหนา้ โรงเรียนมากทสี่ ุด (รถยนต)์ มีเพื่อนชอบกนิ ไอศกรีมรสส้มด้วยนะ ครอู ธิบายวา่ การท�ำ ลกั ษณะเช่นนเ้ี ป็นการเก็บรวบรวม ข้อมูลจากสถานการณจ์ รงิ โดยการสังเกตแล้วบนั ทึกข้อมูล การสอบถามเป็นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู อกี วธิ หี นึ่ง ข้อมลู ทไ่ี ดจ้ าก การสอบถามเปน็ ขอ้ มูลทเี่ ก็บมาโดยตรงจากสถานการณ์จริง 166 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และขอ้ มูลทไี่ ดอ้ าจบันทกึ ในรูปแบบต่าง ๆ กัน จากนัน้ ครใู หน้ ักเรยี นทดลองเกบ็ รวบรวมข้อมลู ด้วยวิธีอืน่ เช่น การสอบถาม 4. ครูถามนักเรยี นวา่ ถา้ ต้องการรวู้ ่าเพอ่ื นในห้องชอบกนิ ไอศกรีมรสอะไรบ้าง จะตอ้ งท�ำ อยา่ งไรจงึ จะไดข้ อ้ มลู มา ครใู หต้ วั แทนหอ้ งถามเพอ่ื นแตล่ ะคนวา่ ชอบกนิ ไอศกรมี รสอะไรบา้ ง แลว้ บนั ทกึ ขอ้ มลู บนกระดาน อาจบนั ทกึ ขอ้ มลู เปน็ รอยขดี แลว้ น�ำ เสนอเปน็ ตวั เลขแสดงจ�ำ นวน ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 166 จากนน้ั ครถู ามคำ�ถามเกยี่ วกบั ข้อมลู ในตาราง แล้วร่วมกันสรุปวา่ การท�ำ ลกั ษณะเช่นน้เี ป็นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู จากสถานการณ์จริง โดยการถามค�ำ ถามแลว้ บนั ทึกขอ้ มูล และข้อมูลทไี่ ด้ อาจบันทึกในรปู แบบตา่ ง ๆ กัน 170 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 5 | แผนภูมิรปู ภาพและตารางทางเดียว คูม่ ือครูรายวชิ าพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 3 เล่ม 1 5. ครูนำ�เขา้ สูก่ ิจกรรม “รู้จักเพือ่ น” หนงั สือเรยี นรายวิชาพื้นฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 โดยเลา่ สถานการณ์ตามหนังสอื เรียนหนา้ 166 บทที่ 5 | แผนภมู ริ ูปภาพและตารางทางเดียว แลว้ ร่วมกนั อภปิ รายเกี่ยวกับข้อมูลท่ีไดจ้ าก การสอบถาม โดยอาจใช้คำ�ถามดังน้ี กจิ กรรม รูจ้ ักเพอื่ น − ถา้ อยากรู้ว่าเพ่ือนในห้องชอบกนิ อุปกรณ์ แบบบันทึกกิจกรรม ไอศกรมี รสอะไร นกั เรยี นจะท�ำ อยา่ งไร (สอบถามเพอ่ื นทลี ะคน) วิธจี ัดกิจกรรม 1. ครูถามนักเรยี นวา่ ถา้ ตอ้ งการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลของเพ่ือนในหอ้ ง นักเรียนสนใจ ที่จะเก็บข้อมูลเรือ่ งอะไรบ้าง เช่น วันเกดิ กีฬาทีช่ อบ ดนตรที ่ชี อบ สีท่ชี อบ จากนนั้ ครูนำาหัวข้อท่นี ักเรียนสนใจไปทำาฉลาก 2. ครแู บง่ นกั เรยี นเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ สง่ ตวั แทนมาจบั ฉลาก 3. ครแู จกแบบบันทึกกจิ กรรมให้นักเรยี นไปเกบ็ รวบรวมข้อมูลตามหัวขอ้ ทก่ี ลุ่ม ของตนเองจับฉลากได้ 4. ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ นาำ เสนอขอ้ มลู ทเ่ี กบ็ รวบรวมได้ − จากหนงั สอื เรยี นหนา้ 166 ต้นกล้า ตัวอยา่ งแบบบันทกึ กิจกรรม บนั ทกึ ผลการสอบถามเพือ่ นอยา่ งไร (ใชร้ อยขดี สีทช่ี อบ รอยขดี จำานวน (คน) แทนเพ่ือนทีช่ อบไอศกรีมรสต่าง ๆ) เหลือง ชมพู − เพื่อนในหอ้ งชอบกินไอศกรมี เขยี ว รสอะไรบา้ ง (มะนาว สม้ สตรอวเ์ บอรร์ ี ชอ็ กโกแลต และวานลิ ลา) ฟ้า มว่ ง แดง อน่ื ๆ ครตู ดิ ภาพแสดงจ�ำ นวนเพอ่ื นที่ชอบกนิ ไอศกรีม รสต่าง ๆ แล้วอธิบายวา่ จากข้อมลู ท่ีต้นกล้า | 167สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี บันทกึ สามารถสรปุ ขอ้ มลู ได้ดังภาพน้ตี าม หนังสอื เรียนหน้า 166 จากนนั้ ครูใชค้ ำ�ถามใหน้ ักเรยี นหาคำ�ตอบแล้วร่วมกันเฉลย เช่น − เพ่ือนชอบกนิ ไอศกรมี รสอะไรมากท่สี ุด (ชอ็ กโกแลต) − เพอ่ื นชอบกินไอศกรีมรสสตรอวเ์ บอร์รกี ่ีคน (6 คน) − เพือ่ นชอบกินไอศกรมี รสอะไรนอ้ ยทีส่ ดุ (ส้ม) − เพอ่ื นชอบกนิ ไอศกรีมทัง้ หมดก่รี สชาติ (5) จากนั้นครูอธิบายวา่ ถ้าเราจะทำ�กิจกรรมในลกั ษณะเดียวกับทีต่ ้นกล้าทำ�การส�ำ รวจเพื่อนในหอ้ ง ทชี่ อบกนิ ไอศกรมี รสตา่ ง ๆ เราจะตอ้ งทำ�อยา่ งไรบา้ ง แล้วครใู หน้ กั เรยี นทำ�กจิ กรรม “รู้จกั เพ่ือน” ตามหนังสอื เรยี นหน้า 167 โดยแบ่งนกั เรียนออกเปน็ กลุ่มแลว้ ให้นกั เรียนจบั ฉลากหวั ขอ้ ท่ีจะต้อง เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู จากเพอื่ นในหอ้ ง เชน่ วนั ท่เี กิด สีทชี่ อบ งานอดิเรกท่ชี อบทำ� โดยครแู จก แบบบันทึกกจิ กรรมใหน้ ักเรยี นกล่มุ ละ 1 แผ่น ซึ่งครอู าจใช้แบบบันทึกกจิ กรรมของหนังสือเรยี นบทน้ี จาก QR Code หนา้ แรกของบท จากนัน้ ครใู ห้นกั เรียนแต่ละกลุม่ ช่วยกันตงั้ ค�ำ ถามเกี่ยวกับขอ้ มลู ทก่ี ล่มุ ตนเองเก็บมาได้ แลว้ ให้เพอ่ื นกลมุ่ อนื่ ตอบ ครูและนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง | 171สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | แผนภมู ิรูปภาพและตารางทางเดียว ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เลม่ 1 การตรวจสอบความเขา้ ใจ หนงั สอื เรยี นรายวิชาพนื้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 บทท่ี 5 | แผนภมู ริ ูปภาพและตารางทางเดียว 6. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล โดยให้นกั เรียนฝกึ จ�ำ แนกรถประเภทตา่ ง ๆ จากรูปภาพ ตรวจสอบความเขา้ ใจ เขียนตัวเลขแสดงจาำ นวนรถแต่ละประเภทลงในตาราง แล้วกรอกขอ้ มูลลงในตารางตามหนงั สอื เรียนหน้า 168 โดยครอู าจใชค้ �ำ ถาม ดังนี้ − จากรปู ภาพมรี ถก่ปี ระเภท อะไรบา้ ง (4 ประเภท จำานวนรถประเภทต่าง ๆ ไดแ้ ก่ รถนั่งสว่ นบุคคล รถประจำ�ทาง รถบรรทกุ และ รถจักรยานยนต์) ประเภทของรถ จาำ นวน (คนั ) รถนั่งสว่ นบคุ คล 6 รถประจาำ ทาง 2 4 รถบรรทุก 3 รถจกั รยานยนต์ − ถา้ นักเรียนตอ้ งการทราบวา่ รถแตล่ ะประเภท สิง่ ที่ได้เรียนรู้ มกี ่ีคนั ตอ้ งท�ำ อยา่ งไร (นับภาพรถในแต่ละประเภท) ขอ้ มลู เป็นขอ้ เทจ็ จริงของสิง่ ท่สี นใจ ซ่งึ ไดจ้ ากการเกบ็ รวบรวม การเก็บรวบรวมข้อมลู อาจใช้การสงั เกต การสอบถาม การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และจาำ แนกขอ้ มลู ทาำ ใหส้ ะดวกตอ่ การนาำ ขอ้ มลู ไปใช้ จากนนั้ ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุปสิ่งทไ่ี ดเ้ รยี นรู้ แบบฝึกหัด 5.1 168 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ส่งิ ทไ่ี ด้เรยี นรู้ ข้อมูลเป็นขอ้ เท็จจรงิ ของสง่ิ ท่ีสนใจซง่ึ ได้จากการเก็บรวบรวม • การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลอาจใช้การสังเกต การสอบถาม •• การเก็บรวบรวมข้อมูลและจำ�แนกขอ้ มูล ท�ำ ให้สะดวกต่อการนำ�ขอ้ มลู ไปใช้ จากนั้นให้นักเรยี นทำ�แบบฝึกหัด 5.1 หนา้ 114 - 117 5.2 การอ่านแผนภมู ิรปู ภาพ (1 ชั่วโมง) หนงั สอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 จุดประสงค์ บทท่ี 5 | แผนภมู ริ ูปภาพและตารางทางเดยี ว อ่านแผนภมู ิรปู ภาพ 5.2 การอา่ นแผนภมู ิรูปภาพ สื่อการเรียนรู้ พฒั นาความรู้ − บัตรแผนภูมริ ูปภาพ ครสู อบถามนกั เรยี นเก่ยี วกบั สที ีน่ ักเรยี นชอบ และแสดงเป็นแผนภูมิรปู ภาพดงั น้ี จำานวนนกั เรียนช้ัน ป. 3/1 ที่ชอบสีต่าง ๆ แนวการจัดการเรยี นรู้ ฟ้า แดง เหลอื ง นาำ้ ตาล เขยี ว ชมพู การพัฒนาความรู้ กำาหนดให้ แทนจำานวนนกั เรยี น 3 คน แผนภูมริ ปู ภาพนแ้ี สดงอะไร จาำ นวนนกั เรียนชัน้ ป.3/1 ทชี่ อบสีตา่ ง ๆ 1. ครแู นะนำ�การนำ�เสนอข้อมลู ดว้ ยแผนภมู ริ ูปภาพ มีข้อกำาหนดว่าอย่างไร เม่ือนกั เรียนจ�ำ แนกข้อมลู และเก็บรวบรวมข้อมลู มาแล้ว กาำ หนดให้ แทนจำานวนนักเรยี น 3 คน แผนภมู ริ ูปภาพมสี ว่ นประกอบอะไรบา้ ง เพื่อให้สามารถนำ�ข้อมลู ไปใช้ประโยชน์ได้มากขน้ึ จึงตอ้ ง ชื่อแผนภูม ิ ตัวแผนภูมิ และข้อกำาหนด น�ำ ขอ้ มูลนนั้ มาน�ำ เสนอในรูปแบบต่าง ๆ เชน่ การน�ำ เสนอ | 169สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ข้อมูลเปน็ แผนภมู ริ ูปภาพ จากน้นั ครตู ดิ แผนภมู ริ ูปภาพตามหนังสือเรยี นหนา้ 169 ใชค้ ำ�ถาม เกยี่ วกบั แผนภมู ริ ูปภาพ แลว้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั หาค�ำ ตอบ และร่วมกนั ตรวจสอบคำ�ตอบ เชน่ 172 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 5 | แผนภมู ิรปู ภาพและตารางทางเดียว คู่มือครรู ายวิชาพ้ืนฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เลม่ 1 − ชอื่ ของแผนภมู ริ ูปภาพน้คี ืออะไร (จ�ำ นวนนกั เรยี นชัน้ ป.3/1 ทีช่ อบสีต่าง ๆ) − แทนจำ�นวนของอะไร (จ�ำ นวนนกั เรยี น) − รปู 1 รูปแทนจ�ำ นวนนกั เรียนก่ีคน (3 คน) − สที ี่นกั เรียนชอบมีก่ีสี (6 สี) สีอะไรบา้ ง (ฟา้ แดง เหลอื ง น้ำ�ตาล เขยี ว ชมพู) − มนี ักเรยี นชอบสแี ดงก่ีคน (9 คน) คดิ ได้อย่างไร (นับจำ�นวนรปู ได้ 3 รปู และ 1 รูปแทนจำ�นวนนกั เรียน 3 คน ดังนนั้ มีนกั เรียนชอบสแี ดงทัง้ หมด 3 × 3 = 9 คน) จากนนั้ ครูอธิบายถงึ สว่ นประกอบของแผนภูมิ รปู ภาพว่า ประกอบดว้ ย ช่ือแผนภมู ิ ตัวแผนภมู ิ หนังสือเรียนรายวิชาพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 และข้อกำ�หนด บทท่ี 5 | แผนภูมริ ูปภาพและตารางทางเดยี ว 2. ครยู กตัวอยา่ งแผนภูมริ ูปภาพลักษณะ จำานวนพันธุผ์ กั ท่ขี ายได้ใน 1 สัปดาห์ รูป แทนจาำ นวนพันธ์ุผกั กีซ่ อง ท่ตี ่างจากแผนภูมิรปู ภาพหน้า 169 คะนา้ ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 170 โดยตดิ แผนภมู ริ ปู ภาพ ผกั กาดขาว 20 ซอง บนกระดาน ให้นักเรยี นบอกสง่ิ ทที่ ราบจาก มะเขอื เทศ รปู แทนจำานวนพนั ธผ์ุ ักกีซ่ อง ฟักเขียว ฟักทอง กาำ หนดให ้ แทนจาำ นวนพนั ธุ์ผัก 20 ซอง แผนภมู ริ ูปภาพ หรอื ครอู าจใช้คำ�ถาม เช่น 10 ซอง เพราะ เป็นคร่งึ หนึ่งของ − ช่ือของแผนภมู ริ ปู ภาพคืออะไร (จ�ำ นวนพันธผ์ุ ักทีข่ ายได้ใน 1 สัปดาห)์ ใน 1 สปั ดาห ์ ขายพันธ์ผุ ักคะนา้ ได้กี่ซอง คดิ ไดอ้ ยา่ งไร − พนั ธผ์ุ กั ทข่ี ายไดม้ กี ช่ี นดิ (5 ชนดิ ) นบั ได ้ 5 รปู และ 1 รูป แทน 20 ซอง ดงั น้ัน ขายพันธุ์ผักคะนา้ ได้ 5 × 20 = 100 ซอง อะไรบา้ ง (คะนา้ ผกั กาดขาว มะเขือเทศ ใน 1 สปั ดาห ์ ขายพนั ธ์ุฟักเขียวได้กซ่ี อง คิดได้อยา่ งไร ฟกั เขียว และฟักทอง) นับ ได ้ 3 รปู คดิ เป็น 3 × 20 = 60 ซอง − ขายมะเขอื เทศได้กี่ซอง (40 ซอง) และ แทนจาำ นวนพันธผุ์ ัก 10 ซอง ดังนั้น ขายพนั ธฟ์ุ กั เขียวได้ 60 + 10 = 70 ซอง คิดไดอ้ ย่างไร (นับจ�ำ นวนรูป ได้ 2 รปู และ ตอบคำาถาม ขายพันธุ์ผักชนิดใดบ้างทรี่ วมกนั แลว้ ไดเ้ ทา่ กับจำานวนพนั ธุผ์ กั คะน้าที่ขายได้ 1 รปู แทนจ�ำ นวนผกั 20 ซอง ดงั นัน้ ขาย มะเขือเทศรวมกบั ฟักทอง หรอื ผักกาดขาวรวมกับฟักเขยี ว 170 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มะเขอื เทศได้ 2 × 20 = 40 ซอง) − ขายฟกั ทองได้กีซ่ อง (60 ซอง) คิดได้ อย่างไร (นับจำ�นวนรูป ได้ 3 รปู และ 1 รปู แทนจ�ำ นวนผัก 20 ซอง ดงั นัน้ ขายฟักทอง ได้ 3 × 20 = 60 ซอง) − ขายผกั กาดขาวได้กีซ่ อง (30 ซอง) คิดได้อยา่ งไร (นบั จำ�นวนรูป ได้ 1 รูป คดิ เป็น 20 ซอง และ แทนจำ�นวนผกั 10 ซอง ดงั นัน้ ขายผกั กาดขาวได้ 20 + 10 = 30 ซอง) ถา้ นักเรยี นไม่สามารถตอบค�ำ ถามสุดท้ายได้ ครอู าจแนะนำ�ก่อนวา่ จากขอ้ ก�ำ หนด แทนจำ�นวน พันธุ์ผกั 20 ซอง ดังนั้น แทนจ�ำ นวนพันธผ์ุ กั 10 ซอง ครใู ห้นักเรยี นชว่ ยกันตอบคำ�ถาม ในกรอบทา้ ยหนงั สือเรียนหนา้ 170 แล้วให้ตัวแทนนักเรียนออกมาน�ำ เสนอวิธีคดิ โดยครอู าจแนะนำ� ใหน้ ักเรยี นหาจ�ำ นวนพนั ธ์ุผักแตล่ ะชนดิ ก่อนเพื่อสะดวกในการตอบคำ�ถาม 3. ครตู ดิ แผนภมู ริ ปู ภาพบนกระดานตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 171 ใหน้ กั เรยี นจบั คบู่ อกสง่ิ ทท่ี ราบ | 173สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครูรายวชิ าพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | แผนภมู ิรปู ภาพและตารางทางเดยี ว ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เลม่ 1 จากแผนภมู ริ ปู ภาพ หรือ ครูอาจใช้คำ�ถาม เช่น หนงั สอื เรียนรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 − แผนภมู ริ ปู ภาพแสดงอะไร (งานอดเิ รกของนกั เรยี น บทที่ 5 | แผนภมู ริ ูปภาพและตารางทางเดยี ว โรงเรยี นแหง่ หนึ่ง) งานอดิเรกของนกั เรียนโรงเรยี นแหง่ หนงึ่ − งานอดเิ รกมีกีป่ ระเภท (4 ประเภท) อะไรบา้ ง เลย้ี งสัตว์ เล่นดนตรี เล่นกีฬา สะสมแสตมป์ กำาหนดให ้ แทนจาำ นวนนกั เรียน 30 คน (เล้ียงสัตว์ เล่นดนตรี เล่นกีฬา และสะสมแสตมป)์ มนี กั เรียนเล่นกฬี ามากกวา่ หรือน้อยกว่านกั เรียนสะสมแสตมปก์ ่คี น − รปู แทนจำ�นวนนักเรียนกีค่ น (15 คน) มนี ักเรียนเล่นกฬี า (5 × 30) + 15 = 165 คน เพราะเหตใุ ด (รปู เป็นครึ่งหนงึ่ ของรูป ดงั นัน้ รูป มนี กั เรยี นสะสมแสตมป ์ 4 × 30 = 120 คน คดิ เป็น 30 ÷ 2 = 15 คน) ดังนั้น มนี ักเรยี นเลน่ กีฬามากกวา่ นกั เรียนสะสมแสตมป์ − มีนักเรยี นเล้ยี งสตั ว์ก่ีคน (90 คน) คดิ ได้อยา่ งไร และมากกวา่ อย่ ู 165 − 120 = 45 คน (นบั จ�ำ นวนรูป ได้ 3 รปู และ 1 รปู แทนจำ�นวน เล่นกฬี า นกั เรยี น 30 คน ดงั นน้ั มนี กั เรยี นเลย้ี งสตั ว์ 3 × 30 = 90 คน) สะสมแสตมป์ − มนี กั เรยี นเลน่ ดนตรกี ่คี น (75 คน) คดิ ไดอ้ ยา่ งไร จาำ นวน ของนกั เรยี นเลน่ กฬี ามากกวา่ ของนกั เรยี นสะสมแสตมปอ์ ย ู่ (นบั จ�ำ นวนรปู ได้ 2 รปู คดิ เปน็ จ�ำ นวนนกั เรยี น ดงั น้นั มีนักเรียนเลน่ กฬี ามากกว่านักเรียนสะสมแสตมปแ์ ละมากกว่าอยู่ 30 + 15 = 45 คน ตอบคาำ ถาม 1 งานอดเิ รกของนกั เรียนโรงเรยี นนีม้ ีอะไรบา้ ง งานอดเิ รกแต่ละประเภท มนี ักเรียนกีค่ น เลย้ี งสตั ว ์ เลน่ ดนตร ี เลน่ กฬี า สะสมแสตมป์ มี 90 คน มี 75 คน มี 165 คน มี 120 คน 2 มีนักเรียนเลน่ ดนตรนี อ้ ยกว่าหรือมากกว่านกั เรียนเล่นกีฬากค่ี น นอ้ ยกวา่ 90 คน 3 งานอดเิ รกอะไรเมอ่ื นำาจำานวนนักเรียนทีท่ าำ งานอดเิ รกนนั้ มารวมกนั แลว้ เทา่ กับจำานวนนักเรียนเลน่ กฬี า เล้ยี งสตั วก์ ับเล่นดนตรี | 171สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2 × 30 = 60 คน และรปู 1 รปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 15 คน ดงั นน้ั มนี กั เรยี นเลน่ ดนตรี 60 + 15 = 75 คน) ครใู หน้ ักเรียนช่วยกันตอบคำ�ถามในกรอบท้ายหนงั สือเรียน หนา้ 171 แล้วให้ตวั แทนนกั เรียนออกมาน�ำ เสนอวธิ คี ดิ โดยครูอาจ หนังสือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 แนะน�ำ ให้นักเรยี นหาจ�ำ นวนนกั เรียนในงานอดิเรก บทท่ี 5 | แผนภูมริ ปู ภาพและตารางทางเดียว แต่ละประเภทไวเ้ พือ่ สะดวกต่อการตอบค�ำ ถาม ตรวจสอบความเข้าใจ จำานวนนักเรยี นท่ีชอบเล่นกีฬาชนดิ ตา่ ง ๆ การตรวจสอบความเข้าใจ 4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล ฟตุ บอล วอลเลย์บอล ตะกรอ้ ปิงปอง เทนนสิ โดยใหน้ ักเรยี นตอบคำ�ถามตามหนงั สือเรยี นหน้า 172 กาำ หนดให้ แทนจำานวนนักเรยี น 50 คน โดยครูอาจแนะนำ�ให้นักเรียนหาจ�ำ นวนนกั เรียนท่ีเลน่ กีฬา แต่ละประเภทกอ่ นเพื่อสะดวกต่อการตอบคำ�ถาม ตอบคำาถาม 1 นักเรยี นชอบเลน่ เทนนสิ กค่ี น 75 คน 2 ตอ้ งมนี กั เรยี นชอบเลน่ ตะกรอ้ เพม่ิ อกี กค่ี นจงึ จะเทา่ กบั จาำ นวนนกั เรยี นทช่ี อบเลน่ ฟตุ บอล 150 คน 3 มีนักเรียนชอบเล่นวอลเลยบ์ อลมากกวา่ หรือน้อยกวา่ เล่นปิงปองก่คี น นอ้ ยกวา่ 100 คน จากนัน้ ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ส่ิงที่ได้เรียนรู้ ส่ิงท่ีไดเ้ รียนรู้ แผนภมู ิรปู ภาพ เปน็ แผนภมู ิท่ีนำาเสนอขอ้ มูลโดยใช้รูปภาพแทนจาำ นวน สิ่งต่าง ๆ ถ้าเปน็ ข้อมูลของสิ่งเดียวกนั รูปภาพที่ใชต้ อ้ งเปน็ รปู ภาพ ที่เหมอื นกันและมขี นาดเท่ากัน จาำ นวนทแี่ ทจ้ ริงของส่งิ ต่าง ๆ อาจไม่เทา่ กบั จำานวนรปู ภาพ สิง่ ทไ่ี ดเ้ รียนรู้ ในแผนภมู ิรูปภาพ ข้นึ อยูก่ ับขอ้ กาำ หนดในแผนภมู ิรูปภาพ แบบฝึกหดั 5.2 172 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี • แผนภมู ิรปู ภาพ เปน็ แผนภูมทิ นี่ ำ�เสนอขอ้ มลู โดยใช้รปู ภาพแทนจ�ำ นวนสง่ิ ต่าง ๆ ถ้าเป็นข้อมูลของสงิ่ เดยี วกนั รูปภาพทใี่ ชต้ ้องเป็นรปู ภาพ ทเี่ หมอื นกันและมีขนาดเทา่ กนั • จำ�นวนทแี่ ทจ้ ริงของสง่ิ ตา่ ง ๆ อาจไมเ่ ทา่ กับจ�ำ นวนรปู ภาพในแผนภมู ริ ปู ภาพ ขนึ้ อยูก่ ับ ข้อกำ�หนดในแผนภมู ิรปู ภาพ จากนัน้ ใหน้ ักเรยี นทำ�แบบฝึกหัด 5.2 หนา้ 118 - 119 174 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 5 | แผนภมู ริ ปู ภาพและตารางทางเดียว คมู่ ือครรู ายวชิ าพื้นฐานคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เลม่ 1 5.3 การเขียนแผนภูมริ ูปภาพ (3 ช่ัวโมง) จุดประสงค์ เขียนแผนภมู ิรปู ภาพ สอ่ื การเรียนรู้ − บัตรขอ้ มลู แนวการจดั การเรยี นรู้ การพัฒนาความรู้ 1. กอ่ นเรยี นเรอ่ื งการเขยี นแผนภมู ริ ปู ภาพ หนังสือเรยี นรายวชิ าพ้ืนฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 ครอู าจน�ำ เขา้ ส่บู ทเรียนโดยใชก้ ารถาม - ตอบ บทที ่ 5 | แผนภูมิรูปภาพและตารางทางเดียว เกย่ี วกบั แผนภูมิรปู ภาพ เช่น 5.3 การเขียนแผนภูมริ ปู ภาพ − แผนภูมริ ปู ภาพประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง พฒั นาความรู้ (ชื่อแผนภูมิ ตวั แผนภมู ิ และขอ้ ก�ำ หนด) หรอื ครูสอบถามนกั เรยี นช้นั ป.3 เก่ยี วกับขนมท่ีนกั เรียนชอบกินไดข้ ้อมูลดังน้ี แผนภูมริ ปู ภาพ ครอู าจใชส้ อ่ื วดิ ีทศั น์เรือ่ งแผนภูมริ ปู ภาพจาก ชอบกนิ เค้ก 21 คน ชอบกนิ ขนมโตเกยี ว 12 คน ชอบกนิ เยลล่ี 18 คน ชอบกนิ โดนัท 24 คน ชอบกินขนมไข ่ 9 คน QR Code ในหนังสอื เรียนหนา้ 173 จะเปน็ ถา้ นาำ เสนอขอ้ มลู น้ดี ้วยแผนภูมริ ปู ภาพ จะใหช้ ่ือแผนภมู วิ า่ อะไร การอธบิ ายเกยี่ วกับการน�ำ เสนอข้อมลู ด้วย จาำ นวนนักเรียนชนั้ ป.3 ทช่ี อบกินขนมชนิดตา่ ง ๆ แผนภมู ริ ปู ภาพ จากนน้ั ครยู กตวั อยา่ งสถานการณ์ ตามหนังสือเรียนหน้า 173 เก่ียวกับขนม ก่อนเขียนแผนภูมิต้องรู้วา่ จะกำาหนดให้รปู ภาพ 1 รปู แทนจำานวนนกั เรยี นก่คี น ท่ีนกั เรยี นชอบกิน และถามค�ำ ถามเกย่ี วกบั โดยพิจารณาจากข้อมลู แต่ละรายการ เชน่ จำานวนของทกุ รายการขา้ งต้น การเขยี นแผนภมู ิรปู ภาพ ให้นกั เรียนตอบค�ำ ถาม เปน็ จำานวนทีห่ ารด้วย 3 ลงตวั จงึ กาำ หนดรูปภาพ 1 รปู แทนจำานวนนักเรียน ดังน้ี 3 คน ดงั นน้ั − สว่ นประกอบของแผนภมู ริ ูปภาพ นักเรยี นชอบกินเคก้ 21 คน แทนดว้ ยรปู ภาพ 21 ÷ 3 = 7 รปู มอี ะไรบา้ ง (ช่อื แผนภมู ิ ตัวแผนภมู ิ และ ข้อก�ำ หนด) นักเรียนชอบกินขนมโตเกยี ว 12 คน แทนด้วยรปู ภาพ 12 ÷ 3 = 4 รปู นักเรยี นชอบกนิ เยลล ่ี 18 คน แทนดว้ ยรปู ภาพ 18 ÷ 3 = 6 รปู นักเรยี นชอบกนิ โดนทั 24 คน แทนดว้ ยรปู ภาพ 24 ÷ 3 = 8 รูป นกั เรียนชอบกินขนมไข ่ 9 คน แทนด้วยรูปภาพ 9 ÷ 3 = 3 รูป | 173สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี − ถา้ ตอ้ งการเขยี นแผนภูมริ ปู ภาพแสดง ข้อมูลนชี้ ือ่ ของแผนภมู ริ ูปภาพน้คี อื อะไร (จำ�นวนนักเรยี นชนั้ ป.3 ทชี่ อบกินขนมชนิดตา่ ง ๆ) − ขอ้ มูลมกี ร่ี ายการ (5 รายการ) อะไรบ้าง (ชอบกินเคก้ 21 คน ชอบกินขนมโตเกยี ว 12 คน ชอบกนิ เยลล่ี 18 คน ชอบกนิ โดนัท 24 คน และชอบกินขนมไข่ 9 คน) ครูใหน้ ักเรยี นเขียนแผนภูมิรูปภาพทีม่ ีช่อื แผนภูมคิ อื จ�ำ นวนนักเรียนช้ัน ป.3 ทช่ี อบกนิ ขนมชนิด ต่าง ๆ ทม่ี ี 5 รายการ ตามขอ้ มลู ข้างต้น โดยให้นกั เรียนก�ำ หนดรูปอะไรในการเขียนก็ได้ และเขียน ข้อกำ�หนดเป็นรูป 1 รูป แทนจ�ำ นวนนักเรยี น 1 คน นกั เรยี นอาจเขยี นแผนภมู ริ ูปภาพไดด้ ังน้ี | 175สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | แผนภมู ิรูปภาพและตารางทางเดยี ว ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1 เคก้ จ�ำ นวนนกั เรียนชนั้ ป.3 ท่ชี อบกินขนมชนิดต่าง ๆ ขนมโตเกยี ว เยลล่ี กำ�หนดให ้ แทนจำ�นวนนกั เรียน 1 คน โดนทั ขนมไข่ ครูให้นกั เรียนชว่ ยกนั อา่ นแผนภูมริ ปู ภาพทเ่ี ขยี นขึ้น เชน่ แผนภูมิรปู ภาพน้นี ำ�เสนอจ�ำ นวนนกั เรียน ชัน้ ป.3 ท่ชี อบกินขนมชนิดตา่ ง ๆ ดังนี้ ชอบกินเคก้ 21 คน ชอบกินขนมโตเกียว 12 คน ชอบกนิ เยลล่ี 18 คน ชอบกนิ โดนทั 24 คน และชอบกินขนมไข่ 9 คน โดยมีข้อก�ำ หนดรปู 1 รูป แทนจำ�นวนนกั เรยี น 1 คน จากนน้ั ครูถามนกั เรยี นว่า ถ้าตอ้ งการก�ำ หนดให้รูป 1 รปู แทนจำ�นวน นกั เรียนมากกว่า 1 คน นกั เรียนจะก�ำ หนดใหร้ ปู 1 รูปแทนจ�ำ นวนนักเรยี นก่ีคน โดยพจิ ารณา จากอะไร (พิจารณาจากจ�ำ นวนข้อมลู ในแตล่ ะรายการ) ครอู าจอธิบายเพ่มิ เติมโดยใหน้ กั เรยี น พจิ ารณาจ�ำ นวนข้อมลู ในแตล่ ะรายการ ดงั นี้ 21 12 18 24 และ 9 แลว้ ถามนกั เรียนวา่ มีจำ�นวนใดที่หารจำ�นวนเหลา่ นี้ลงตัวบา้ ง (2 3 4 6 7 8 9) และในจ�ำ นวนทหี่ ารลงตวั นี้ มจี �ำ นวนใดบ้างทห่ี ารจำ�นวนข้อมลู ในแต่ละรายการลงตัวทั้งหมด (3) ครถู ามนกั เรียนวา่ จะต้องก�ำ หนดใหร้ ูป 1 รปู ในแผนภูมริ ปู ภาพแทนจำ�นวนนกั เรยี นก่คี น (ก�ำ หนดรูป 1 รปู แทนจ�ำ นวนนักเรยี น 3 คน) จากน้ันครูให้นกั เรียนช่วยกนั พจิ ารณาวา่ ขอ้ มูลในแตล่ ะรายการตอ้ งวาดรูปกรี่ ูป ดังนี้ ชอบกินเคก้ 21 คน ตอ้ งวาดรูป 21 ÷ 3 = 7 รูป ชอบกนิ ขนมโตเกยี ว 12 คน ตอ้ งวาดรปู 12 ÷ 3 = 4 รปู ชอบกินเยลล่ี 18 คน ตอ้ งวาดรูป 18 ÷ 3 = 6 รูป ชอบกินโดนัท 24 คน ตอ้ งวาดรปู 24 ÷ 3 = 8 รูป และชอบกินขนมไข่ 9 คน ต้องวาดรูป 9 ÷ 3 = 3 รปู จากนั้นครูและนักเรยี นรว่ มกนั เขยี นแผนภูมิรูปภาพโดยกำ�หนดให้รปู 1 รปู แทนจำ�นวนนักเรียน 3 คน ได้แผนภูมิรูปภาพ ดังนี้ 176 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 5 | แผนภมู ิรปู ภาพและตารางทางเดยี ว ค่มู ือครูรายวิชาพื้นฐานคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เล่ม 1 จำ�นวนนกั เรียนช้ันป. 3 ที่ชอบกนิ ขนมชนดิ ตา่ ง ๆ เคก้ ขนม เยลลี่ โดนทั ขนมไข่ โตเกียว แทนจำ�นวนนกั เรยี น 3 คน กำ�หนดให้ จากนน้ั ครแู บ่งนักเรยี นเป็นกล่มุ แลว้ ให้แต่ละกลุ่มช่วยกนั หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพ้ืนฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 เขยี นแผนภูมริ ปู ภาพแสดงจ�ำ นวนนักเรยี น ป.3 ท่ีสะสม บทที่ 5 | แผนภมู ริ ูปภาพและตารางทางเดยี ว ของชนดิ ตา่ ง ๆ ตามขอ้ มูลในกรอบท้ายหนังสือเรียน เขียนแผนภมู ริ ปู ภาพแสดงจำานวนนักเรียนช้นั ป.3 ทีช่ อบกนิ ขนมชนิดต่าง ๆ หน้า 174 โดยครูอาจใช้ค�ำ ถามเพื่อชว่ ยให้นักเรยี น โดยกำาหนด แทนจำานวนนกั เรยี น 3 คน ดังนี้ จาำ นวนนักเรยี นชน้ั ป. 3 ที่ชอบกนิ ขนมชนดิ ตา่ ง ๆ เขียนแผนภมู ิรปู ภาพได้ เช่น − ชอ่ื ของแผนภมู ริ ปู ภาพนค้ี อื อะไร (จ�ำ นวนนกั เรยี น ชน้ั ป.3 ท่ีสะสมของชนดิ ต่าง ๆ) − รูป แทนจำ�นวนนักเรียนก่คี น (4 คน) เคก้ ขนมโตเกยี ว เยลล่ี โดนัท ขนมไข่ − มนี ักเรยี นสะสมตกุ๊ ตา 8 คน จะต้องวาดรูป กร่ี ปู (2 รปู ) คดิ ไดอ้ ยา่ งไร ( 1 รปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น กำาหนดให ้ แทนจำานวนนักเรยี น 3 คน 4 คน ดงั นน้ั นกั เรยี น 8 คน แทนดว้ ยรปู ภาพ 8 ÷ 4 = 2 รปู ) − มีนกั เรยี นสะสมหนังสือการ์ตนู 12 คน จะตอ้ ง เขียนแผนภมู ริ ูปภาพแสดงจาำ นวนนักเรียนช้ันป.3 ท่สี ะสมของชนดิ ต่าง ๆ วาดรปู กีร่ ูป (3 รูป) คดิ ไดอ้ ยา่ งไร ( 1 รปู แทน โดยกำาหนด แทนจาำ นวนนักเรยี น 4 คน จ�ำ นวนนกั เรยี น 4 คน ดังนนั้ นักเรยี น 12 คน แทนด้วย สะสมตกุ๊ ตา 8 คน สะสมหนังสือการต์ ูน 12 คน สะสมลกู แก้ว สะสมรถของเลน่ 4 คน 16 คน 174 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เฉลย จ�ำ นวนนักเรยี นชัน้ ป.3 ท่ีสะสมของชนิดตา่ ง ๆ รูปภาพ 12 ÷ 4 = 3 รูป) − มนี ักเรียนสะสมลกู แก้ว 4 คน จะตอ้ งวาดรปู ก่ีรูป (1 รปู ) คดิ ได้อย่างไร ( 1 รปู แทนจ�ำ นวนนักเรียน ตุก๊ ตา หนังสือการต์ นู ลูกแกว้ รถของเล่น 4 คน ดงั นน้ั นักเรียน 4 คน แทนด้วยรูปภาพ 4 ÷ 4 = 1 รูป) ก�ำ หนดให้ แทนจำ�นวนนกั เรียน 4 คน − มนี กั เรยี นสะสมรถของเล่น 16 คน จะตอ้ งวาดรูป ก่ีรูป (4 รปู ) คิดได้อย่างไร ( 1 รูปแทนจำ�นวนนักเรียน 4 คน ดงั นั้นนักเรยี น 16 คน แทนดว้ ยรปู ภาพ 16 ÷ 4 = 4 รูป) ครูสมุ่ ตวั แทนนักเรียนออกมานำ�เสนอผลงาน แลว้ ครูและนกั เรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง | 177สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครรู ายวิชาพื้นฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 5 | แผนภมู ริ ูปภาพและตารางทางเดยี ว ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 เลม่ 1 2. จากขอ้ มลู จ�ำ นวนนกั เรยี นทช่ี อบกนิ ขนมชนดิ ตา่ ง ๆ ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 174 นน้ั ครถู าม นกั เรยี นวา่ ถา้ ก�ำ หนดใหร้ ปู 1 รปู แทนจ�ำ นวนอน่ื ทไ่ี มใ่ ช่ 3 จะเปน็ จ�ำ นวนอน่ื ไดห้ รอื ไม่ ครอู ธบิ าย เพม่ิ เตมิ วา่ ในการก�ำ หนดรปู 1 รปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี นกค่ี นนน้ั พจิ ารณาจากจ�ำ นวนขอ้ มลู ในแตล่ ะ รายการวา่ มจี �ำ นวนใดบา้ งทห่ี ารจ�ำ นวนขอ้ มลู ในแตล่ ะรายการลงตวั ในทน่ี ม้ี ี 3 ทส่ี ามารถหารจ�ำ นวน ขอ้ มลู ทกุ รายการลงตวั ซง่ึ ไมม่ จี �ำ นวนอน่ื อกี ทส่ี ามารถหารจ�ำ นวนขอ้ มลู ทกุ รายการลงตวั ครถู าม นกั เรยี นวา่ ถา้ เราน�ำ จ�ำ นวนทไ่ี มส่ ามารถหารจ�ำ นวนขอ้ มลู ทกุ รายการลงตวั มาก�ำ หนดเปน็ ขอ้ ก�ำ หนด ไดห้ รอื ไม่ เชน่ จากขอ้ มลู น้ี จะก�ำ หนดใหร้ ปู 1 รปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 2 คนไดห้ รอื ไม่ หรอื ก�ำ หนดให้ รปู 1 รปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 6 คนไดห้ รอื ไม่ นกั เรยี นอาจตอบวา่ ไมไ่ ด้ ครจู งึ อธบิ ายเพม่ิ เตมิ วา่ การก�ำ หนดรปู 1 รปู ในแผนภมู ริ ปู ภาพแทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 2 คน นน้ั ถงึ แมว้ า่ 2 จะหารจ�ำ นวนขอ้ มลู แตล่ ะรายการไมล่ งตวั แตน่ กั เรยี นจะสงั เกตไดว้ า่ 2 หารขอ้ มลู บางรายการลงตวั และบางรายการหารแลว้ เหลอื เศษ 1 จงึ ก�ำ หนดใหร้ ปู 1 รปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 2 คน และรปู ครง่ึ รปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 1 คน ดงั นน้ั จงึ วาดรปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 2 คน และวาดรปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 1 คน โดยเขยี นขอ้ ก�ำ หนดวา่ ก�ำ หนดให ้ แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 2 คน ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ อกี วา่ ถา้ ก�ำ หนดรปู 1 รปู ในแผนภมู ริ ปู ภาพแทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 6 คน จะไดว้ า่ 6 หารจ�ำ นวนขอ้ มลู แตล่ ะรายการไมล่ งตวั แตน่ กั เรยี นจะสงั เกตไดว้ า่ 6 หารขอ้ มลู บางรายการลงตวั และบางรายการหารแลว้ เหลอื เศษ 3 จงึ ก�ำ หนดใหร้ ปู 1 รปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 6 คน และรปู ครง่ึ รปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 3 คน ดงั นน้ั จงึ วาด รปู แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 6 คน และวาดรปู แทนจ�ำ นวนนักเรียน 3 คน โดยเขียนขอ้ ก�ำ หนดวา่ ก�ำ หนดให้ แทนจำ�นวนนกั เรียน 6 คน และเขยี นแผนภูมิรปู ภาพไดด้ งั น้ี จ�ำ นวนนกั เรียนช้นั ป.3 ทชี่ อบกินขนมชนดิ ต่าง ๆ เคก้ ขนมโตเกียว เยลล่ี โดนัท ขนมไข่ ก�ำ หนดให ้ แทนจำ�นวนนักเรียน 6 คน จากนน้ั ครูยกตวั อยา่ งขอ้ มลู ทต่ี ้องน�ำ เสนอด้วยแผนภูมริ ูปภาพทีม่ ีลกั ษณะไม่เตม็ รปู โดยใหน้ กั เรยี น พจิ ารณาขอ้ มูลผักทีน่ ักเรียนชั้น ป.3 เก็บได้ในวนั ศุกร์ ตามหนังสือเรียนหนา้ 175 โดยครูแนะนำ�วา่ นอกจากจะใชร้ ูปภาพที่มีลกั ษณะเตม็ รูปแสดงจ�ำ นวนหรือปรมิ าณของสงิ่ ตา่ ง ๆ ไดแ้ ล้ว ยังสามารถ ใช้รูปภาพทมี่ ีลักษณะไม่เตม็ รูปหรือมีลกั ษณะคร่ึงรูป เพอ่ื แสดงจ�ำ นวนหรอื ปริมาณของสิง่ ตา่ ง ๆ ตามขอ้ กำ�หนดได้ เชน่ ในแผนภูมริ ปู ภาพตามหนังสือเรยี นหนา้ 171 178 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 5 | แผนภมู ิรูปภาพและตารางทางเดียว คมู่ ือครูรายวิชาพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 3 เลม่ 1 จากนน้ั ครใู ห้นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายวา่ ถ้าจะน�ำ ขอ้ มลู ในหนงั สอื เรียนหนา้ 175 จำ�นวนผกั ทเี่ กบ็ ได้ ในวนั ศกุ ร์ ดงั นี้ ผักชี 40 ตน้ คะนา้ 35 ตน้ ผกั กาดหอม 30 ต้น กวางตุ้ง 15 ตน้ ต้นหอม 20 ตน้ นำ�ขอ้ มูลน้ี มาเขยี นแผนภูมริ ูปภาพ จะกำ�หนดให้รปู 1 รูปแทนจ�ำ นวนผกั ก่ตี น้ บา้ ง พร้อมทั้งบอก เหตผุ ล ตวั อยา่ งค�ำ ตอบของนกั เรยี น เชน่ ก�ำ หนดใหร้ ปู 1 รปู แทนจ�ำ นวนผกั 2 ตน้ 5 ตน้ หรอื 10 ตน้ ครใู หน้ ักเรียนอธิบายเหตุผล เช่น กำ�หนดใหร้ ปู 1 รูป แทนจำ�นวนผกั 5 ตน้ เนอื่ งจากจำ�นวนผกั แตล่ ะชนิดทเ่ี ก็บได้หารดว้ ย 5 ลงตวั หรอื ก�ำ หนดใหร้ ปู 1 รปู แทนจ�ำ นวนผกั 2 ตน้ เนอ่ื งจากจ�ำ นวน ผกั บางชนดิ ทเ่ี กบ็ ไดห้ ารดว้ ย 2 ลงตวั และจ�ำ นวนผักบางชนดิ ที่เก็บไดห้ ารด้วย 2 แล้วเหลอื เศษ 1 ดงั นนั้ จงึ กำ�หนดให้รูป 1 รูป แทนจ�ำ นวนผัก 2 ต้น และสามารถวาดครง่ึ รูป แทนจำ�นวนผัก 1 ตน้ ได้ หรอื ก�ำ หนดใหร้ ปู 1 รปู แทนจ�ำ นวนผกั 10 ตน้ เนอ่ื งจากจ�ำ นวนผกั บางชนดิ ทเ่ี กบ็ ไดห้ ารดว้ ย 10 ลงตวั และจ�ำ นวนผกั บางชนดิ ทเ่ี กบ็ ไดห้ ารดว้ ย 10 แลว้ เหลอื เศษ 5 ดงั นน้ั จงึ ก�ำ หนดใหร้ ปู 1 รปู แทนจ�ำ นวนผกั 10 ตน้ และสามารถวาดคร่งึ รูป แทนจำ�นวนผกั 5 ต้น ได้ ครแู บ่งนกั เรียนเป็นกล่มุ แลว้ ให้นักเรียน แต่ละกลุ่มสังเกตวา่ การเขยี นแผนภมู ิรูปภาพแสดงจำ�นวนผกั ทนี่ กั เรียนชน้ั ป.3 เก็บไดใ้ นวนั ศกุ ร์ หนงั สอื เรยี นรายวิชาพ้นื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 หนังสอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 บทท่ี 5 | แผนภมู ริ ปู ภาพและตารางทางเดียว บทท่ี 5 | แผนภูมริ ูปภาพและตารางทางเดยี ว ผกั ทีน่ ักเรยี นช้ัน ป.3 เก็บไดใ้ นวนั ศุกร์เปน็ ดงั นี้ จากขอ้ มูลเดมิ ถ้ากำาหนด แทนจำานวนผัก 5 ตน้ เขยี นแผนภูมริ ปู ภาพ ผักชี 40 ตน้ คะนา้ 35 ตน้ ผกั กาดหอม 30 ตน้ ไดด้ งั นี้ กวางต้งุ 15 ตน้ ต้นหอม 20 ตน้ ถา้ นาำ เสนอข้อมลู นด้ี ้วยแผนภูมิรปู ภาพ จะให้ชือ่ แผนภมู ิว่าอะไร แผนภมู ิรปู ภาพแสดงจาำ นวนผกั ท่นี ักเรียนชั้นป.3 เกบ็ ไดใ้ นวนั ศุกร์ จาำ นวนผกั ท่ีนกั เรยี นชัน้ ป.3 เก็บได้ในวันศุกร์ ผักชี คะนา้ ผักกาดหอม กวางตงุ้ ต้นหอม เขียนแผนภูมริ ูปภาพแสดงจำานวนผกั ทน่ี กั เรียนชนั้ ป.3 เกบ็ ไดใ้ นวนั ศุกร์ กาำ หนดให ้ แทนจาำ นวนผัก 5 ต้น โดยกำาหนด แทนจำานวนผัก 2 ต้น ดงั นี้ แผนภมู ิรูปภาพแสดงจาำ นวนผักท่ีนักเรยี นชั้นป.3 เก็บไดใ้ นวนั ศุกร์ จากขอ้ มูลเดมิ ถ้ากาำ หนด แทนจาำ นวนผัก 10 ต้น เขยี นแผนภูมิรูปภาพ ไดด้ งั น้ี แผนภูมิรูปภาพแสดงจำานวนผักทน่ี ักเรียนช้นั ป.3 เก็บได้ในวันศกุ ร์ ผักชี คะนา้ ผกั กาดหอม กวางตงุ้ ต้นหอม กาำ หนดให ้ แทนจำานวนผกั 10 ตน้ ผักชี คะนา้ ผักกาดหอม กวางตงุ้ ต้นหอม ข้อมูลชุดเดียวกนั สามารถเขียนแผนภมู ริ ปู ภาพ กำาหนดให ้ แทนจาำ นวนผัก 2 ตน้ โดยใชข้ อ้ กาำ หนดท่ีแตกตา่ งกันได้ | 175สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 176 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีข้นั ตอนการเขยี นแตล่ ะแผนภมู ริ ปู ภาพอยา่ งไร ถา้ แตล่ ะแผนภมู ริ ปู ภาพมขี อ้ ก�ำ หนดทแ่ี ตกตา่ งกนั ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 175 และ 176 จากนนั้ ครูสุ่มเลอื กนักเรยี นมาอธบิ ายข้ันตอนการเขียน แผนภมู ริ ปู ภาพแตล่ ะแผนภมู ริ ปู ภาพใหเ้ พอ่ื นฟงั โดยครรู ว่ มใหค้ �ำ แนะน�ำ ในกรณที น่ี กั เรยี นอธบิ าย ไมค่ รอบคลมุ | 179สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครูรายวิชาพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 5 | แผนภมู ิรปู ภาพและตารางทางเดยี ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1 ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ วา่ ขอ้ มูลชุดเดยี วกัน หนังสือเรียนรายวชิ าพนื้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 สามารถเขียนแผนภูมิรปู ภาพโดยใชข้ อ้ ก�ำ หนด บทท่ี 5 | แผนภมู ิรูปภาพและตารางทางเดยี ว ท่ีแตกตา่ งกันได้ กจิ กรรม สนกุ กบั การเขยี นแผนภมู ริ ูปภาพ 3. ครูให้นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ทำ�กิจกรรม อปุ กรณ ์ บัตรขอ้ มลู “สนกุ กับการเขียนแผนภมู ริ ูปภาพ” ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 177 โดยครอู าจใชบ้ ตั รขอ้ มลู ตวั อย่างบัตรข้อมลู จากสอ่ื ของหนงั สอื เรียนบทนใ้ี น QR Code หน้าแรกของบท และครแู นะน�ำ ใหน้ ักเรียน เขียนแผนภูมิรูปภาพแสดงจำานวนนักเรียนท่ีเล้ยี งสตั วช์ นิดต่าง ๆ เขียนเป็นแผนภมู ิรูปภาพทง้ั แนวตั้งและแนวนอน โดยกาำ หนดรูป 1 รปู แทนจำานวนนักเรียน 4 คน เพอ่ื ใหเ้ หน็ ความหลากหลายในการน�ำ เสนอขอ้ มลู ดว้ ยแผนภมู ริ ปู ภาพ เล้ยี งสุนขั 28 คน เลย้ี งกระตา่ ย 8 คน เลี้ยงหนแู ฮมสเตอร ์ 12 คน การตรวจสอบความเข้าใจ เล้ียงนก เลีย้ งแมว 16 คน 8 คน 4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี น เลยี้ งปลาสวยงาม 20 คน เปน็ รายบุคคล โดยให้นกั เรียนเขียนแผนภมู ิ รูปภาพจากขอ้ มลู ตามหนงั สอื เรียนหนา้ 178 เขยี นแผนภูมิรปู ภาพแสดงจำานวนอาหารจานเดียวท่รี ้านอาหารขายได้ ครูอาจใชค้ ำ�ถามเพ่อื ช่วยใหน้ กั เรยี น โดยกำาหนดรูป 1 รูป แทนจาำ นวนอาหาร 6 จาน เขียนแผนภูมิรปู ภาพได้ เช่น ข้าวไข่เจยี ว 18 จาน ข้าวไขพ่ ะโล้ 12 จาน − ชอ่ื แผนภมู ริ ปู ภาพคอื อะไร (จ�ำ นวนขวด ขา้ วผดั กะเพรา 27 จาน ข้าวผดั ปู 24 จาน ทข่ี นุ เกบ็ ไดใ้ นโรงเรยี น) ขา้ วไก่ทอด 15 จาน ผดั ไทยกงุ้ สด 9 จาน − มขี วดกีป่ ระเภท (5 ประเภท) อะไรบา้ ง (ขวดน�ำ้ ดม่ื ขวดนมสด ขวดน�ำ้ เตา้ หู้ ขวดน�ำ้ ผลไม้ วธิ ีจัดกจิ กรรม และขวดนมเปร้ียว) 1. ครูแบ่งนักเรยี นเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละเทา่ ๆ กัน แล้วแจกบตั รขอ้ มลู กลุ่มละ 1 บัตร 2. ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ เขียนแผนภมู ิรูปภาพแสดงข้อมูลทอ่ี ยใู่ นบตั ร − ก�ำ หนดให ้ 1 รปู แทนจ�ำ นวนกข่ี วด 3. ใหต้ วั แทนแตล่ ะกลุ่มออกมานาำ เสนอ (10 ขวด) เฉลย | 177สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี − ถา้ มีขวดนำ�้ ด่ืม 40 ขวด ตอ้ งระบายสี กรี่ ปู (4 รปู ) คดิ ได้อยา่ งไร ( 1 รปู จำ�นวนนกั เรียนทเี่ ล้ียงสัตวช์ นิดตา่ ง ๆ แทนจ�ำ นวน 10 ขวด ดังน้นั ขวดนำ้�ดม่ื 40 ขวด ต้องระบายสี 4 รปู ) สนุ ัข หนแู ฮมสเตอร์ นก กระตา่ ย แมว ปลาสวยงาม จากนนั้ ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปสิ่งทไ่ี ดเ้ รยี นรู้ กำ�หนดให้ แทนจ�ำ นวนนกั เรียน 4 คน จำ�นวนอาหารจานเดียวทร่ี า้ นอาหารขายได้ ขา้ ว กขร้าะวเพผัดรา ข้าว ข้าว ขา้ วผัดปู ผัดไทย ไขเ่ จียว ก�ำ หนดให้ ไกท่ อด ไขพ่ ะโล้ กุ้งสด แทนจ�ำ นวนอาหาร 6 จาน 180 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 5 | แผนภมู ิรูปภาพและตารางทางเดียว คู่มอื ครรู ายวิชาพื้นฐานคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 เลม่ 1 สงิ่ ที่ได้เรยี นรู้ หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพืน้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 • การเขียนแผนภมู ริ ปู ภาพต้องมี บทที่ 5 | แผนภูมิรปู ภาพและตารางทางเดยี ว ชอ่ื แผนภมู ิ ตวั แผนภมู แิ ละขอ้ ก�ำ หนด ตรวจสอบความเขา้ ใจ • ขอ้ มูลชุดเดียวกัน สามารถเขียน สัปดาหท์ ี่ผา่ นมาขนุ จำาแนกขวดทใ่ี ช้แล้วในโรงเรียนไดเ้ ปน็ ขวดนำา้ ดมื่ 40 ขวด ขวดนมสด 20 ขวด ขวดน้าำ เต้าหู้ 10 ขวด ขวดนำา้ ผลไม้ 35 ขวด และขวดนมเปรยี้ ว 15 ขวด ใหน้ ักเรยี น แผนภูมิรูปภาพโดยใช้ขอ้ ก�ำ หนดทแี่ ตกต่างกัน ช่วยขนุ เขียนแผนภูมิรปู ภาพ จำ�นวนรูปภาพทีเ่ ขียนในแผนภูมริ ปู ภาพ ข้ึนอยกู่ ับข้อมลู และขอ้ กำ�หนด ชอ่ื แผนภูม ิ ...................จ..�ำ ..น...ว..น...ข...ว..ด...ท..ข่ี...นุ ...เ.ก...บ็ ...ไ.ด...ใ้ .น...โ..ร..ง..เ.ร..ยี...น.................... จากนัน้ ใหน้ ักเรียนทำ�แบบฝึกหดั 5.3 ขวดนำา้ ด่ืม ขวดนมสด ขวดนา้ำ เตา้ หู้ ขวดน้าำ ผลไม้ ขวดนมเปรยี้ ว หนา้ 120 - 124 กำาหนดให้ แทนจาำ นวนขวด 10 ขวด 5.4 การอ่านตารางทางเดียว (1 ชว่ั โมง) สิง่ ท่ไี ด้เรียนรู้ จุดประสงค์ การเขียนแผนภมู ิรปู ภาพตอ้ งมีชอื่ แผนภมู ิ ตวั แผนภูมิ และขอ้ กาำ หนด อา่ นตารางทางเดยี ว ขอ้ มลู ชดุ เดยี วกนั สามารถเขยี นแผนภมู ริ ปู ภาพโดยใชข้ อ้ กาำ หนด ส่ือการเรยี นรู้ ทแี่ ตกตา่ งกนั จำานวนรูปภาพทเ่ี ขยี นในแผนภมู ิรูปภาพ ขน้ึ อยกู่ บั ขอ้ มลู และข้อกำาหนด − บตั รภาพรปู ปลาชนดิ ตา่ ง ๆ ในหนา้ 180 แบบฝึกหัด 5.3 แนวการจดั การเรยี นรู้ การพฒั นาความรู้ 178 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1. ครูเกร่นิ น�ำ เข้าสู่บทเรยี นวา่ นอกจาก หนงั สือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 การนำ�เสนอข้อมลู ด้วยแผนภมู ิรูปภาพแลว้ บทที่ 5 | แผนภูมริ ูปภาพและตารางทางเดยี ว อาจน�ำ เสนอขอ้ มูลด้วยรูปแบบอื่นได้อีก นนั่ คอื ตารางทางเดียวทเ่ี ราจะเรียนกนั ในช่ัวโมงนี้ 5.4 การอ่านตารางทางเดียว ครเู ล่าสถานการณ์เกย่ี วกบั ข้อมลู การเดินทาง มาโรงเรียนของนักเรยี นตามหนังสอื เรียน พฒั นาความรู้ หนา้ 179 จากน้นั ให้นักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายว่า ตารางทางเดยี วทง้ั สองแบบเหมือนกันหรอื ขอ้ มูลการเดนิ ทางมาโรงเรยี นของนักเรยี นโดยพาหนะชนดิ ต่าง ๆ ดงั น้ี แตกต่างกนั อย่างไร ตวั อย่างคำ�ตอบ เช่น รถยนต ์ 13 คน รถเมล ์ 5 คน รถสองแถว 6 คน รถตูร้ ับจ้าง 5 คน − ช่ือตารางเหมือนกนั การนาำ เสนอขอ้ มูลนอกจากนำาเสนอด้วยแผนภมู ริ ปู ภาพแลว้ ชื่อตาราง − หวั ตารางมี 2 หวั ขอ้ เหมอื นกนั อาจนาำ เสนอด้วย ตารางทางเดยี ว ดังนี้ − รายละเอียดของข้อมูลเหมือนกัน − หวั ตารางอยู่ทศิ ทางตา่ งกนั จาำ นวนนักเรียนทเี่ ดินทางมาโรงเรียนโดยพาหนะชนิดต่าง ๆ หวั ตาราง ชนดิ ของพาหนะ จาำ นวน (คน) รายละเอยี ด รถยนต์ 13 ของขอ้ มลู รถเมล์ 5 รถสองแถว 6 รถตรู้ ับจา้ ง 5 หรืออาจนำาเสนอดว้ ยตารางทางเดียวอกี แบบหนึง่ ไดด้ งั น้ี ชือ่ ตาราง จำานวนนักเรียนที่เดนิ ทางมาโรงเรียนโดยพาหนะชนิดตา่ ง ๆ ชนิดของพาหนะ รถยนต์ รถเมล์ รถสองแถว รถตู้รบั จา้ ง จำานวน (คน) 13 5 6 5 หัวตาราง รายละเอียดของข้อมูล ตารางทางเดียว ประกอบด้วย ช่อื ตารางและตารางท่มี หี วั ตารางและ รายละเอยี ดของข้อมูล | 179สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 181สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คูม่ อื ครูรายวชิ าพ้ืนฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | แผนภูมิรูปภาพและตารางทางเดียว ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เลม่ 1 หนังสือเรียนรายวิชาพนื้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 จากการอภปิ รายนักเรียนควรได้ข้อสรปุ ว่า ตารางทางเดียว บทท่ี 5 | แผนภมู ิรูปภาพและตารางทางเดยี ว ประกอบด้วย ช่ือตารางและตารางทมี่ หี ัวตารางและ รายละเอยี ดของข้อมลู ซ่ึงสามารถเขียนหวั ตาราง จำานวนนกั เรยี นทีเ่ ดินทางมาโรงเรยี นโดยพาหนะชนิดตา่ ง ๆ ไว้ทางด้านบนหรือด้านซ้ายก็ได้ ชนดิ ของพาหนะ จาำ นวน (คน) 2. ครูให้นกั เรียนร่วมกันพจิ ารณาตารางทางเดียว แสดงจำ�นวนนกั เรียนท่ีเดินทางมาโรงเรียนโดยพาหนะ รถยนต์ 13 ชนดิ ต่าง ๆ ตามหนังสอื เรียนหนา้ 180 จากนั้นครูอาจใช้ คำ�ถามเกี่ยวกบั ตารางทางเดยี ว ใหน้ กั เรียนหาค�ำ ตอบ รถเมล์ 5 แลว้ รว่ มกันตรวจคำ�ตอบ เช่น รถสองแถว 6 − ตารางทางเดยี วแสดงอะไร (จำ�นวนนกั เรียนที่ เดินทางมาโรงเรยี นโดยพาหนะชนดิ ต่าง ๆ) รถตู้รับจา้ ง 5 − ตารางน้มี หี ัวตารางอยูด่ า้ นใด (ดา้ นบน) อ่านขอ้ มูลจากตารางได้ดงั น้ี − นักเรยี นเดนิ ทางมาโรงเรียนด้วยพาหนะก่ชี นิด มีนกั เรยี นเดนิ ทางมาโรงเรยี นโดยรถยนต์ 13 คน (4 ชนดิ ) อะไรบา้ ง (รถยนต์ รถเมล์ รถสองแถว รถตูร้ บั จา้ ง) − นักเรยี นส่วนใหญเ่ ดนิ ทางมาโรงเรียนด้วยพาหนะ มีนกั เรยี นเดนิ ทางมาโรงเรียนโดยรถเมล ์ 5 คน ชนดิ ใด (รถยนต)์ จากน้ันครใู ห้นักเรียนร่วมกันพิจารณาตารางทางเดยี ว มีนกั เรียนเดินทางมาโรงเรียนโดยรถสองแถว 6 คน ทแ่ี สดงจ�ำ นวนปลาสวยงามทร่ี า้ น ป.ปลา ขายไดใ้ น 1 สปั ดาห์ ตามหนงั สอื เรียนหน้า 180 ครอู าจแสดงบัตรภาพรูปปลา มีนกั เรยี นเดินทางมาโรงเรียนโดยรถตรู้ ับจา้ ง 5 คน แตล่ ะชนดิ ประกอบ เพอ่ื สรา้ งความสนใจใหก้ บั นกั เรยี น เชน่ จาำ นวนปลาสวยงามท่รี ้าน ป.ปลา ขายได้ใน 1 สัปดาห์ ชนิดของปลา นีออน สอดหางดาบ หางนกยงู แพะ เสอื เยอรมัน จำานวน (ตัว) 90 84 120 65 75 ใน 1 สัปดาหร์ า้ น ป.ปลา ขายปลาสวยงามไดช้ นิดละกีต่ ัว ร้าน ป.ปลา ขายปลานอี อนได ้ 90 ตัว รา้ น ป.ปลา ขายปลาสอดหางดาบได ้ 84 ตวั และขายปลาหางนกยงู ได ้ 120 ตวั รา้ น ป.ปลา ขายปลาแพะได ้ 65 ตวั และขายปลาเสอื เยอรมนั ได ้ 75 ตวั 180 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนังสอื เรียนรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 บทที่ 5 | แผนภมู ริ ูปภาพและตารางทางเดยี ว จาำ นวนนกั เรียนทเ่ี ข้ารับบริการดว้ ยอาการต่าง ๆ ท่หี อ้ งพยาบาลของโรงเรียนในเดือนพฤศจกิ ายน อาการ จำานวน (คน) ปวดศีรษะ 52 เป็นไข้ 31 ผ่ืนคนั 25 ปวดทอ้ ง 29 แผลสด 12 ตอบคำาถาม 1 นกั เรยี นเข้ารบั บริการที่ห้องพยาบาลด้วยอาการปวดท้องจำานวนกค่ี น 29 คน 2 นกั เรียนเขา้ รับบริการท่ีหอ้ งพยาบาลดว้ ยอาการใดมากท่ีสดุ ปวดศรษี ะ 3 เรียงลำาดบั อาการตามจาำ นวนนักเรียนเข้ารบั บริการทีห่ อ้ งพยาบาล จากน้อยไปมาก แผลสด ผน่ื คนั ปวดทอ้ ง เปน็ ไข ้ ปวดศรษี ะ 4 จาำ นวนนกั เรยี นเข้ารับบรกิ ารท่ีห้องพยาบาลดว้ ยอาการปวดศีรษะมากกวา่ อาการผน่ื คันเทา่ ไร 27 คน 5 ในเดอื นพฤศจิกายนมนี ักเรยี นเข้ารบั บริการทหี่ อ้ งพยาบาลทงั้ หมดกค่ี น 149 คน นำาข้อมูลไปใชป้ ระโยชนใ์ นการเตรียมยาและเวชภณั ฑต์ า่ ง ๆ สำาหรบั หอ้ งพยาบาลและเป็นขอ้ มลู พนื้ ฐานในการป้องกนั โรคตา่ ง ๆ ทีจ่ ะเกดิ ขนึ้ กับนักเรียน | 181สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปลานอี อน ปลาสอดหางดาบ ปลาหางนกยงู ปลาแพะ ปลาเสือเยอรมัน 182 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 5 | แผนภมู ริ ปู ภาพและตารางทางเดยี ว ค่มู อื ครูรายวชิ าพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 เลม่ 1 ครใู หน้ กั เรยี นชว่ ยกนั บอกสง่ิ ทท่ี ราบจากตาราง เชน่ − ตารางทางเดยี วแสดงจำ�นวนปลา หนังสอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 บทที่ 5 | แผนภมู ริ ปู ภาพและตารางทางเดียว สวยงามที่ร้าน ป.ปลา ขายได้ใน 1 สปั ดาห์ − มปี ลา 5 ชนดิ ทขี่ ายได้ใน 1 สัปดาห์ ตรวจสอบความเข้าใจ ไดแ้ กป่ ลานอี อน ปลาสอดหางดาบ ปลาหางนกยงู จำานวนหนงั สือทีน่ กั เรยี นยมื จากหอ้ งสมดุ ของโรงเรยี นในวันจันทรถ์ งึ วันศุกร์ ปลาแพะ และปลาเสือเยอรมนั วนั จนั ทร์ องั คาร พุธ พฤหสั บดี ศุกร์ − ร้าน ป.ปลาขายปลาหางนกยงู ได้ จ�ำ นวนมากที่สุด จาำ นวน (เล่ม) 58 84 109 66 75 3. ครใู ห้นกั เรยี นแบง่ กลุ่มชว่ ยกันตอบ ตอบคำาถาม ค�ำ ถามตามหนังสอื เรียนหนา้ 181 แล้วครสู ุม่ ให้ นักเรยี นบางกลุ่มออกมานำ�เสนอ ครูและ 1 นักเรยี นยมื หนงั สือในวนั ใดมากทสี่ ดุ วันพุธ นักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง ถ้ามี 2 นักเรยี นยืมหนงั สือในวนั องั คารมากกว่าวนั จันทรก์ เี่ ล่ม 26 เล่ม นักเรยี นกลมุ่ ใดตอบค�ำ ถามผดิ ครแู กไ้ ขใหถ้ กู ต้อง 3 เรียงลาำ ดับวันตามจำานวนหนังสอื ทน่ี กั เรียนยมื จากนอ้ ยไปมาก จนั ทร ์ พฤหัสบดี ศุกร ์ อังคาร พธุ ครูอธบิ ายเพมิ่ เตมิ ว่า การนำ�เสนอข้อมูล 4 วนั จนั ทร์ถึงวนั ศกุ รน์ กั เรียนยืมหนังสือท้ังหมดก่เี ล่ม 392 เล่ม ในรปู ตารางทางเดยี วสามารถน�ำ ข้อมูลไปใช้ ประโยชน์ตอ่ ไปได้ง่ายไม่ตอ้ งเสียเวลาในการ สง่ิ ท่ไี ด้เรียนรู้ เขยี นขอ้ มูลซำ้� การนาำ เสนอขอ้ มลู อาจนำาเสนอด้วยตารางทางเดยี ว ตารางทางเดียวประกอบด้วย ชื่อตารางและตารางท่มี ีหัวตาราง และรายละเอยี ดของขอ้ มลู แบบฝกึ หัด 5.4 182 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การตรวจสอบความเขา้ ใจ 4. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี นเป็นรายบุคคลโดยให้ตอบคำ�ถามในหนังสอื เรียนหนา้ 182 ครอู าจใชค้ ำ�ถามเพ่ิมเตมิ ดงั นี้ − ตารางแสดงจำ�นวนหนงั สือทน่ี กั เรยี นยมื กว่ี นั (5 วัน) วนั อะไรบ้าง (วนั จนั ทร์ วนั องั คาร วนั พุธ วันพฤหสั บดี วันศกุ ร์) − วนั พธุ นักเรยี นยืมหนงั สอื กเี่ ลม่ (109 เลม่ ) − ถา้ อยากทราบว่านักเรยี นยืมหนงั สือวนั พุธมากกว่าวนั อังคารกี่เล่ม ตอ้ งท�ำ อย่างไร (น�ำ จ�ำ นวนหนงั สอื ทย่ี มื ในวนั พธุ ลบดว้ ยจ�ำ นวนหนงั สอื ทย่ี มื ในวนั องั คาร จะไดเ้ ปน็ 109 − 84 = 25 เลม่ ) ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและสรปุ ส่ิงท่ีไดเ้ รียนรู้ สิง่ ทไี่ ดเ้ รียนรู้ •• การน�ำ เสนอข้อมลู อาจน�ำ เสนอด้วยตารางทางเดียว ตารางทางเดียวประกอบดว้ ย ช่ือตารางและตารางท่ีมีหวั ตารางและรายละเอยี ดของขอ้ มลู จากนน้ั ใหน้ กั เรียนทำ�แบบฝกึ หัด 5.4 หน้า 125 - 127 | 183สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 5 | แผนภูมริ ปู ภาพและตารางทางเดียว ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เลม่ 1 5.5 การเขยี นตารางทางเดียว (2 ชวั่ โมง) หนังสอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 จดุ ประสงค์ บทที่ 5 | แผนภมู ริ ปู ภาพและตารางทางเดียว เขยี นตารางทางเดยี วจากข้อมลู ทเ่ี ปน็ จำ�นวนนบั 5.5 การเขียนตารางทางเดยี ว ส่ือการเรยี นรู้ พฒั นาความรู้ − ตารางขอ้ มลู สภาพอากาศของประเทศไทย ใบบวั สอบถามเพอ่ื น ๆ เก่ียวกับงานอดเิ รกท่ีเพ่ือนแต่ละคนทาำ ไดข้ อ้ มูลดงั น้ี เดอื นกันยายน ตามหนังสอื เรยี นหน้า 186 อ่านหนงั สอื 12 คน เลน่ กฬี า 4 คน ทำาอาหาร 6 คน ร้องเพลง 5 คน นำาขอ้ มูลมาเขียนตารางทางเดยี วไดอ้ ย่างไร เขียนชื่อตาราง คือ จำานวนเพอื่ นท่ที ำางานอดิเรกประเภทตา่ ง ๆ เขยี นตารางซ่ึงมีหัวตารางและรายละเอียดของขอ้ มลู ไดต้ ารางทางเดียว ดงั น้ี จาำ นวนเพอ่ื นทที่ ำางานอดเิ รกประเภทตา่ ง ๆ งานอดิเรก อา่ นหนังสือ เลน่ กฬี า ทาำ อาหาร รอ้ งเพลง 5 แนวการจดั การเรียนรู้ จำานวน (คน) 12 4 6 การพฒั นาความรู้ หรือเขียนตารางทางเดยี วแบบนก้ี ็ได้ จาำ นวนเพอ่ื นทท่ี าำ งานอดเิ รกประเภทตา่ ง ๆ การเขียนตารางทางเดียวต้องมีชอ่ื ตาราง งานอดเิ รก จำานวน (คน) และตารางทม่ี ีหวั ตารางและ อา่ นหนังสอื 12 รายละเอยี ดของขอ้ มูล 1. ครสู าธติ การเขยี นตารางทางเดยี วจากขอ้ มลู ทเ่ี ปน็ เล่นกีฬา 4 ทาำ อาหาร 6 จ�ำ นวนนบั ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 183 ทลี ะขน้ั ตอนเรม่ิ จาก ร้องเพลง 5 | 183สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การเขยี นชอ่ื ตาราง การเขยี นตาราง การเขยี นหวั ตาราง และการเขยี นรายละเอยี ดของขอ้ มลู ในตาราง และครเู นน้ ย�ำ้ วา่ สามารถเขยี นตารางทางเดยี วไดส้ องแบบ ทง้ั แบบทม่ี หี วั ตาราง หนังสือเรยี นรายวชิ าพ้ืนฐาน | คณติ ศาสตร ์ ป.3 บทท ่ี 5 | แผนภมู ริ ูปภาพและตารางทางเดียว อยู่ดา้ นบนและแบบท่ีมหี ัวตารางอยู่ด้านซ้าย แตถ่ า้ ข้อมลู กจิ กรรม เขยี นตารางทางเดียว อปุ กรณ ์ บัตรขอ้ มลู ตัวอย่างบตั รขอ้ มลู มหี ลายรายการ การเขยี นตารางแบบทม่ี หี วั ตารางอยดู่ า้ นบน จำานวนปากกาประเภทต่าง ๆ ทีส่ หกรณโ์ รงเรยี นขายไดใ้ น 1 สัปดาห ์ ดังน้ี จะสะดวกกวา่ เพราะถา้ เขยี นตารางแบบทม่ี หี วั ตารางอยดู่ า้ นซา้ ย ปากกาแดง 40 ด้าม ปากกาน้าำ เงิน 60 ดา้ ม ปากกาดำา 33 ดา้ ม ปากกาไวท์บอรด์ 24 ดา้ ม ปากกาเมจิก 35 ด้าม ปากกาเนน้ ข้อความ 18 ด้าม อาจท�ำ ใหก้ ารเขยี นรายละเอยี ดของขอ้ มลู ลงในตารางไมค่ รบถว้ น จาำ นวนนกั เรียนระดบั ช้นั ต่าง ๆ ของโรงเรยี นแหง่ หนึง่ ดงั นี้ 2. ครแู บ่งนกั เรียนเป็นกลมุ่ แลว้ ให้นกั เรยี นแตล่ ะ ป.1 จาำ นวน 85 คน ป.2 จาำ นวน 116 คน 101 คน ป.3 จาำ นวน 79 คน ป.4 จาำ นวน 124 คน กลุ่มท�ำ กจิ กรรม “เขียนตารางทางเดยี ว” ตามหนงั สอื เรียน ป.5 จาำ นวน 98 คน ป.6 จาำ นวน หน้า 184 โดยครูอาจใช้บัตรข้อมลู ท่ีเปน็ จำ�นวนนบั จาก วธิ จี ดั กจิ กรรม ส่อื ของหนังสือเรยี นบทนใี้ น QR Code หนา้ แรกของบท 1. ครแู บ่งนกั เรยี นเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละเท่า ๆ กัน แล้วให้นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ สุ่มหยิบบตั รข้อมูล กลุ่มละ 1 บัตร 2. ใหน้ กั เรียนเขียนตารางทางเดียวจากขอ้ มลู ในบัตรข้อมลู 3. ให้นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ นาำ เสนอผลงาน และครคู วรแจกกระดาษท่มี ีเส้นตารางเพือ่ ความสะดวก ในการเขยี นตาราง ครูสมุ่ นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมาน�ำ เสนอ จนครบทกุ กลมุ่ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 184 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เฉลย 1 จำ�นวนปากกาประเภทตา่ ง ๆ ท่ีสหกรณ์โรงเรียนขายไดใ้ น 1 สัปดาห์ 2 จำ�นวนนกั เรยี นระดับชัน้ ต่าง ๆ ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ปากกาประเภทตา่ ง ๆ ปากกาแดง ปากกาด�ำ ปากกาเมจกิ ปากกา ปากกา ปากกา ระดบั ช้ัน ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 น�ำ้ เงนิ ไวทบ์ อรด์ เนน้ ขอ้ ความ จ�ำ นวน (ดา้ ม) 40 33 35 60 24 18 จำ�นวน (คน) 85 116 79 101 98 124 หรอื จ�ำ นวนปากกาประเภทตา่ ง ๆ ทส่ี หกรณ์โรงเรยี นขายไดใ้ น 1 สัปดาห์ หรือ จำ�นวนนกั เรียนระดบั ช้ันต่าง ๆ ของโรงเรียนแห่งหนง่ึ ปากกาประเภทต่าง ๆ จำ�นวน (ดา้ ม) ระดบั ช้ัน จำ�นวน (คน) ป.1 85 ปากกาแดง 40 ป.2 116 ปากกาด�ำ 33 ป.3 79 ปากกาเมจกิ 35 ป.4 101 ปากกานำ้�เงิน 60 ป.5 98 ปากกาไวทบ์ อร์ด 24 ป.6 124 ปากกาเน้นขอ้ ความ 18 184 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 5 | แผนภูมิรูปภาพและตารางทางเดียว คมู่ ือครรู ายวิชาพื้นฐานคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เลม่ 1 3. จากน้ันครใู หน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ หนังสอื เรียนรายวิชาพื้นฐาน | คณติ ศาสตร ์ ป.3 ชว่ ยกนั เขียนตารางทางเดียวจากข้อมลู ที่เป็น บทท ี่ 5 | แผนภมู ิรปู ภาพและตารางทางเดียว จ�ำ นวนนับตามหนังสือเรียนหน้า 185 กล่มุ ละ 1 ขอ้ โดยครใู ช้คำ�ถามเพ่ือชว่ ยใหน้ ักเรียน เขียนตารางทางเดียวจากข้อมลู ท่กี ำาหนด เขยี นตารางทางเดียวได้ เชน่ ในขอ้ 1 ครอู าจ ใช้คำ�ถาม ดงั น้ี 1 จำานวนเงินออมของใบบัวในเวลา 6 เดือน ดงั นี้ − ชือ่ ตารางคอื อะไร (จ�ำ นวนเงนิ ออม มกราคม 320 บาท กมุ ภาพันธ ์ 232 บาท ของใบบัวในเวลา 6 เดือน) มีนาคม 175 บาท เมษายน 456 บาท พฤษภาคม 214 บาท มถิ ุนายน 270 บาท − จะต้องมีหวั ตารางกี่ชอ่ ง (2 ช่อง) อะไรบ้าง (เดอื นและจ�ำ นวนเงิน (บาท)) 2 พลังงานทีร่ า่ งกายไดร้ ับจากอาหารชนดิ ตา่ ง ๆ ดังน้ี − จะต้องมชี ่องรายละเอยี ดของขอ้ มลู ขา้ วราดคะน้านำา้ มันหอย 1 จาน 220 กิโลแคลอร่ี กี่ช่อง (6 ช่อง) อะไรบา้ ง (มกราคม กมุ ภาพนั ธ์ ข้าวไขเ่ จยี ว 1 จาน 445 กโิ ลแคลอรี่ มนี าคม เมษายน พฤษภาคม มถิ นุ ายน) ขา้ วกงุ้ ทอดกระเทยี ม 1 จาน 495 กิโลแคลอร่ี ในขอ้ 2 ครอู าจใชค้ �ำ ถามดังน้ี ขา้ วหมึกผัดนำ้าพรกิ เผา 1 จาน 535 กโิ ลแคลอร่ี − ชอ่ื ตารางคอื อะไร (พลงั งานทร่ี า่ งกาย ข้อมลู จากกองโภชนาการกรมอนามยั ได้รบั จากอาหารชนดิ ตา่ ง ๆ 1 จาน) กโิ ลแคลอร่ ี เปน็ หน่วยวดั พลังงาน มักจะเหน็ ได้จาก − จะต้องมหี วั ตารางกีช่ ่อง (2 ชอ่ ง) ฉลากขา้ งกล่องบรรจอุ าหารตา่ ง ๆ มไี วเ้ พื่อบอกปริมาณ อะไรบ้าง (ชอื่ อาหารและพลงั งาน (กโิ ลแคลอร)่ี ) แคลอร่ีของอาหารท่ีได้รับเมือ่ ทานอาหารนั้นเขา้ ไป − จะต้องมีชอ่ งรายละเอียดของข้อมลู กช่ี อ่ ง (4 ชอ่ ง) อะไรบา้ ง (ขา้ วราดคะนา้ น�ำ้ มนั หอย | 185สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ขา้ วไข่เจียว ข้าวกงุ้ ทอดกระเทียม ข้าวหมึกผดั น้ำ�พริกเผา) เฉลย จำ�นวนเงินออมของใบบวั ในเวลา 6 เดือน 1 มกราคม กมุ ภาพันธ์ มีนาคม เมษายน พฤษภาคม มิถนุ ายน เดอื น เงิน (บาท) 320 232 175 456 214 270 หรือ จ�ำ นวนเงนิ ออมของใบบัวขอ้ ในเวลา 6 เดอื น เดอื น เงิน (บาท) มกราคม 320 กุมภาพนั ธ์ 232 มีนาคม 175 เมษายน 456 พฤษภาคม 214 มถิ นุ ายน 270 2 พลังงานทีร่ า่ งกายไดร้ ับจากอาหารชนิดต่าง ๆ 1 จาน อาหาร ขา้ วราดคะนา้ ข้าวไข่เจียว ขา้ วกุ้ง ขา้ วหมกึ พลงั งาน นำ�้ มันหอย 445 ทอดกระเทียม ผดั น้�ำ พรกิ เผา (กโิ ลแคลอร)่ี 220 495 535 หรือ พลงั งานทร่ี า่ งกายไดร้ บั จากอาหารชนดิ ตา่ ง ๆ 1 จาน อาหาร พลงั งาน (กโิ ลแคลอรี่) ข้าวราดคะน้าน้ำ�มนั หอย 220 ข้าวไขเ่ จยี ว 445 ขา้ วกงุ้ ทอดกระเทียม 495 ขา้ วหมกึ ผดั น�ำ้ พรกิ เผา 535 | 185สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครูรายวิชาพืน้ ฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 5 | แผนภูมิรูปภาพและตารางทางเดียว ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เล่ม 1 4. ครูติดตารางข้อมลู สภาพอากาศของ หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพ้ืนฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 ประเทศไทยเดือนกนั ยายนตามหนงั สือเรียน บทที่ 5 | แผนภมู ิรปู ภาพและตารางทางเดยี ว หนา้ 186 แล้วใหน้ กั เรียนแต่ละกล่มุ ขอ้ มลู สภาพอากาศของประเทศไทยเดอื นกนั ยายนเปน็ ดังน้ี ตอบค�ำ ถามดังน้ี 123456 7 − เดือนกันยายนมีกีว่ ัน (30 วัน) 14 − เดือนกันยายนเป็นฤดูกาลใดของ 8 9 10 11 12 13 21 ประเทศไทย (ฤดูฝน) 28 15 16 17 18 19 20 ฝนฟา้ คะนอง 22 23 24 25 26 27 29 30 สัญลกั ษณ์แทนสภาพอากาศ มเี มฆบางสว่ น ฝนเลก็ นอ้ ย ทอ้ งฟา้ โปรง่ มเี มฆมาก ครูอาจอธิบายเพม่ิ เตมิ วา่ ประเทศไทยมี 3 ฤดูกาล ชว่ ยกันสรุปสภาพอากาศเดือนกนั ยายน ไดแ้ ก่ ฤดูร้อน (กลางเดอื นกมุ ภาพันธ์ ท้องฟ้าโปร่ง 7 วัน ถึงกลางเดอื นพฤษภาคม) ฤดฝู น (กลางเดือน มีเมฆมาก 6 วัน มเี มฆบางสว่ น 5 วัน พฤษภาคมถงึ กลางเดือนตุลาคม) และฤดูหนาว ฝนเล็กนอ้ ย 8 วนั (กลางเดือนตุลาคมถงึ กลางเดอื นกมุ ภาพันธ)์ ท่ีมา: สารานกุ รมไทยส�ำ หรบั เยาวชนฯ เล่มท่ี 4 ฝนฟา้ คะนอง 4 วัน เร่อื งที่ 6 ภมู ิอากาศ เขียนตารางทางเดียวจากข้อมูล ดังนี้ − เดอื นกนั ยายนมสี ภาพอากาศกแ่ี บบ (5 แบบ) แบบใดบ้าง (ทอ้ งฟ้าโปรง่ มเี มฆมาก จำานวนวันท่มี ีสภาพอากาศประเภทต่าง ๆ ของประเทศไทยเดือนกนั ยายน สภาพอากาศ ทอ้ งฟา้ โปร่ง มเี มฆมาก มเี มฆบางส่วน ฝนเล็กนอ้ ย ฝนฟา้ คะนอง จำานวน (วัน) 7 6 5 8 4 186 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีเมฆบางสว่ น ฝนเลก็ น้อย และฝนฟา้ คะนอง) − ตารางในหนา้ 186 มหี ัวตารางอยดู่ า้ นใด (ด้านซ้าย) ครยู กตวั อยา่ งการเขยี นตารางทางเดียวท่ีเป็นการน�ำ เสนอขอ้ มูลเดียวกนั แต่เขยี นหัวตาราง ไวด้ า้ นบน ดังนี้ จ�ำ นวนวันท่มี สี ภาพอากาศประเภทต่าง ๆ ของประเทศไทยเดือนกันยายน สภาพอากาศ จำ�นวน (วนั ) ทอ้ งฟ้าโปรง่ 7 มีเมฆมาก 6 มีเมฆบางสว่ น 5 ฝนเลก็ นอ้ ย 8 ฝนฟา้ คะนอง 4 186 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 5 | แผนภมู ริ ปู ภาพและตารางทางเดยี ว คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 3 เลม่ 1 5. ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกันเขยี น ตารางทางเดยี วแสดงจำ�นวนจังหวดั ทีม่ ีสภาพ หนงั สือเรียนรายวชิ าพนื้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 ปา่ ไมแ้ บบตา่ ง ๆ ของประเทศไทยตามหนงั สอื เรยี น บทที่ 5 | แผนภมู ิรูปภาพและตารางทางเดียว หนา้ 187 โดยครูใช้คำ�ถามชว่ ยให้นกั เรียน เขยี นตารางทางเดียวได้ ดังน้ี เขยี นตารางทางเดยี วแสดงจาำ นวนจงั หวดั ทม่ี สี ภาพปา่ ไมแ้ บบตา่ ง ๆ ของประเทศไทย − ประเทศไทยมกี จี่ งั หวดั (77 จงั หวัด) เชยี งราย − สภาพปา่ ไม้ในประเทศไทยมกี แ่ี บบ (4 แบบ) อะไรบ้าง (แหง้ แล้ง เร่มิ จะแลง้ แม�ฮอ� งสอน พะเยา ค่อนขา้ งอุดมสมบูรณ์ และอดุ มสมบูรณ์) − จากรปู แผนท่ีประเทศไทย จงั หวัด เชียงใหม� ลำปาง นา� น ที่มีสีเขียวเข้มแสดงถงึ อะไร (จงั หวดั ทม่ี ปี ่า อดุ มสมบูรณ์) มีกี่จังหวัด (3 จังหวดั ) ลำพูน แพร� บงึ กาฬ − จากรูปแผนท่ีประเทศไทย จงั หวัด ท่มี ีสีเขียวออ่ นแสดงถึงอะไร (จงั หวดั ท่ีมีป่า หนองคาย คอ่ นขา้ งอดุ มสมบรู ณ์) มกี จ่ี ังหวัด (10 จังหวัด) − จากรูปแผนท่ีประเทศไทย จงั หวดั ทีม่ ี อุตรดติ ถ� เลย อดุ รธานี นครพนม สีเหลืองแสดงถงึ อะไร (จังหวัดทีม่ ีปา่ เร่ิมจะแลง้ ) ตาก สุโขทยั พษิ ณุโลก หนองบัวลำภู สกลนคร มีก่จี ังหวดั (23 จังหวดั ) − จากรปู แผนทปี่ ระเทศไทย จงั หวดั ขอนแกน� กาฬสินธุ� มุกดาหาร ที่มีสีสม้ แสดงถึงอะไร (จังหวดั ที่มีปา่ แห้งแลง้ ) มกี ี่จงั หวดั (41 จงั หวดั ) กำแพงเพชร พจิ ติ ร เพชรบูรณ� ชยั ภูมิ มหาสารคาม ยโสธร − ตารางทางเดยี วมชี ือ่ ตารางว่าอะไร นครสวรรค� (จำ�นวนจังหวดั ท่มี ีสภาพป่าไมแ้ บบตา่ ง ๆ ร�อยเอ็ด อำนาจเจรญิ ของประเทศไทย) อุทยั ธานี อุบลราชธานี ศรสี ะเกษ ชัยนาท ลพบุรี นครราชสีมา กาญจนบรุ ี สพุ รรณบรุ ี สงิ หบ� รุ ี บรุ รี มั ย� สุรินทร� อ�างทอง สระบรุ ี พระนครศรี อยุธยา นครนายก สมุทรสงคราม ปทุมธานี ปราจนี บุรี นครปฐม ฉะเชงิ เทรา สระแก�ว ราชบุรี ชลบุรี เพชรบรุ ี ระยอง จนั ทบรุ ี ตราด ประจวบครี ขี ันธ� สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร นนทบรุ ี สมุทรสาคร ชมุ พร ระนอง สรุ าษฎรธ� านี แห�งแล�ง พงั งา นครสีธรรมราช (ป�าไม�เหลือน�อยกวา� 21%) ภเู ก็ต กระบี่ เริ่มจะแล�ง ตรัง พัทลงุ (ปา� ไม�เหลือ 21%-50%) สตูล สงขลา ปต� ตานี ยะลา คอ� นข�างอุดมสมบรู ณ� นราธิวาส (ปา� ไมเ� หลือ 51%-70%) อดุ มสมบูรณ� (ป�าไมเ� หลอื มากกว�า 70%) | 187สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เฉลย จำ�นวนจงั หวดั ทม่ี สี ภาพปา่ ไมแ้ บบตา่ ง ๆ ของประเทศไทย สภาพปา่ ไม้ แห้งแล้ง เรม่ิ จะแล้ง ค่อนขา้ ง อุดมสมบรู ณ์ อุดมสมบูรณ์ จำ�นวน (จังหวัด) 41 23 10 3 หรอื จ�ำ นวนจงั หวัดท่ีมสี ภาพป่าไมแ้ บบตา่ ง ๆ ของประเทศไทย สภาพปา่ ไมแ้ บบต่าง ๆ จ�ำ นวน (จงั หวดั ) แหง้ แล้ง 41 เรม่ิ จะแลง้ 23 คอ่ นขา้ งอดุ มสมบูรณ์ 10 อดุ มสมบูรณ์ 3 | 187สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครูรายวิชาพนื้ ฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 5 | แผนภูมริ ูปภาพและตารางทางเดียว ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 เลม่ 1 ครูสุม่ นกั เรยี นบางกลมุ่ ออกมานำ�เสนอตารางทางเดียวทัง้ สองแบบ ได้แก่ แบบทีม่ ีหวั ตารางอยดู่ า้ นบน จ�ำ นวนจงั หวัดทมี่ ีสภาพปา่ ไมแ้ บบต่าง ๆ ของประเทศไทย สภาพป่าไม้แบบต่าง ๆ จ�ำ นวน (จงั หวดั ) แห้งแลง้ 41 เริ่มจะแลง้ 23 คอ่ นขา้ งอดุ มสมบูรณ์ 10 อุดมสมบูรณ์ 3 แบบทม่ี หี วั ตารางอยู่ด้านซา้ ย จำ�นวนจงั หวัดท่ีมีสภาพปา่ ไมแ้ บบตา่ ง ๆ ของประเทศไทย สภาพป่าไม้แบบต่าง ๆ แห้งแลง้ เร่มิ จะแล้ง ค่อนขา้ งอดุ มสมบูรณ์ อุดมสมบูรณ์ จำ�นวน (จงั หวัด) 41 23 10 3 การตรวจสอบความเขา้ ใจ หนงั สอื เรียนรายวิชาพื้นฐาน | คณิตศาสตร ์ ป.3 บทท่ ี 5 | แผนภูมิรูปภาพและตารางทางเดียว 6. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล ตรวจสอบความเขา้ ใจ เขียนตารางทางเดยี วจากข้อมลู ที่กำาหนด โดยให้นกั เรียนเขยี นตารางทางเดยี วจากข้อมลู ทีก่ �ำ หนดให้ วนั จันทร์แกว้ ตานับจำานวนผกั ทเ่ี ก็บในโรงเรียนไดข้ ้อมลู ดังนี้ ตามหนงั สอื เรียนหนา้ 188 โดยครอู าจใชค้ �ำ ถามเพือ่ ช่วย ใหน้ กั เรยี นเขยี นตารางทางเดยี วได้ ดงั นี้ ผกั ช ี 130 ตน้ คะน้า 91 ต้น ผกั กาดหอม 35 ต้น กวางต้งุ 40 ต้น ตน้ หอม 37 ต้น − ตารางนี้มชี อ่ื ตารางวา่ อะไร (จ�ำ นวนผกั ชนิดตา่ ง ๆ ทแ่ี ก้วตาเก็บไดใ้ นโรงเรียนในวนั จันทร์) − หัวตารางมกี ่ชี อ่ ง (2 ชอ่ ง) − หวั ตารางจะเขียนว่าอะไรบ้าง (ชนดิ ของผักและจำ�นวน (ตน้ )) สิง่ ที่ไดเ้ รียนรู้ แบบฝกึ หัด 5.5 − ถา้ เขยี นตารางทม่ี ีหวั ตารางอย่ดู า้ นบน การเขยี นตารางทางเดยี วต้องมชี อื่ ตารางและตารางทม่ี หี วั ตาราง และรายละเอียดของข้อมูล ส่วนรายละเอียดของข้อมูลจะมีกี่แถว (5 แถว) ครแู ละนักเรียนรว่ มกันตรวจสอบตารางทางเดียว 188 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ท่เี ขยี นได้ดังน้ี เฉลย จำำ�นวนผัักชนิิดต่่าง ๆ ที่�แ่ ก้ว้ ตาเก็็บได้ใ้ นโรงเรีียนในวันั จันั ทร์์ ชนดิ ของผัก ผกั ชี คะน้า ผกั กาดหอม กวางตงุ้ ตน้ หอม จำ�นวน (ตน้ ) 130 91 35 40 37 หรอื จำ�ำ นวนผัักชนิดิ ต่า่ ง ๆ ที่�่แก้ว้ ตาเก็บ็ ได้้ในโรงเรีียนในวันั จัันทร์์ ชนดิ ของผกั จำ�นวน (ตน้ ) ผกั ชี 130 คะนา้ 91 ผกั กาดหอม 35 กวางตงุ้ 40 188 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต้นหอม 37
บทท่ี 5 | แผนภูมิรูปภาพและตารางทางเดียว คู่มือครรู ายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เล่ม 1 แบบทม่ี หี วั ตารางอยู่ด้านบน จ�ำ นวนผกั ชนิดตา่ ง ๆ ทีแ่ ก้วตาเกบ็ ไดใ้ นโรงเรยี นในวันจนั ทร์ ชนิดของผัก จ�ำ นวน (ตน้ ) ผักชี 130 คะน้า 91 ผักกาดหอม 35 กวางตุ้ง 40 ต้นหอม 37 แบบท่ีมหี วั ตารางอยดู่ า้ นซา้ ย จ�ำ นวนผกั ชนิดตา่ ง ๆ ท่แี ก้วตาเก็บไดใ้ นโรงเรยี นในวนั จันทร์ ชนดิ ของผกั ผกั ชี คะน้า ผักกาดหอม กวางตุ้ง ตน้ หอม จ�ำ นวน (ตน้ ) 130 91 35 40 37 จากนนั้ ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรุปสิ่งทีไ่ ด้เรยี นรู้ สง่ิ ทไี่ ดเ้ รยี นรู้ การเขยี นตารางทางเดยี วตอ้ งมีช่ือตารางและตารางที่มหี ัวตารางและรายละเอยี ดของข้อมูล จากน้นั ใหน้ ักเรียนท�ำ แบบฝกึ หัด 5.5 หนา้ 128 - 132 | 189สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครูรายวชิ าพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | แผนภมู ิรปู ภาพและตารางทางเดยี ว ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เล่ม 1 รว่ มคดิ รว่ มทำ� (1 ชว่ั โมง) หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 กิจกรรม บทท่ี 5 | แผนภูมิรปู ภาพและตารางทางเดียว อาหารสุดโปรด รว่ มคดิ ร่วมทาำ อปุ กรณ์ กจิ กรรม อาหารสดุ โปรด − กระดาษ A4 ตดั เปน็ 4 สว่ นเทา่ ๆ กนั อปุ กรณ์ กระดาษสำาหรบั เขียนช่ืออาหาร (กระดาษ A4 ตัดเป็น 4 สว่ นเท่า ๆ กนั ) − กระดาษกาวยน่ กระดาษกาวยน่ และบัตรขอ้ มลู − บตั รข้อมูล วิธีจัดกจิ กรรม วธิ ีจดั กิจกรรม 1. ครูแจกกระดาษใหน้ กั เรยี นคนละ 1 แผน่ เขยี นชือ่ อาหารที่ตนเองชอบมากท่สี ุด 1 อยา่ ง เชน่ ไก่ทอด แกงจดื ไข่เจียว แกงเขยี วหวาน ข้าวผดั แล้วนาำ ไปตดิ 1. ครใู ห้นักเรียนทำ�กจิ กรรม บนกระดาน “อาหารสดุ โปรด” ตามหนงั สือเรยี นหนา้ 189 ถ้านักเรยี นมีจำ�นวนน้อย ครอู าจใชบ้ ตั รข้อมลู 2. ครูและนักเรยี นร่วมกันอภิปรายเพ่ือหาข้อสรปุ ประเภทของอาหารทีน่ กั เรียนชอบ เชน่ ประเภททอด ประเภทต้ม ประเภทผัด ประเภทแกง 3. นักเรียนนาำ กระดาษทีเ่ ขียนชอ่ื อาหารของตนเองไปติดตามประเภทอาหาร 4. ครแู บง่ นักเรียนเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละเทา่ ๆ กัน ใหแ้ ต่ละกลุ่มนำาเสนอข้อมูล ดว้ ยตารางทางเดียว แลว้ ออกมานาำ เสนอพร้อมตงั้ คาำ ถามเก่ียวกับข้อมลู ในตาราง ใหเ้ พอ่ื นในห้องชว่ ยกันตอบ หมายเหต ุ กรณีท่มี จี าำ นวนนกั เรียนนอ้ ย ครอู าจจัดกจิ กรรมโดยใชข้ อ้ มูล ในบัตรข้อมลู ตวั อยา่ งบัตรข้อมูล ข้าวมันไก่ ขา้ วผดั แกงสม้ ไขต่ ม้ ไก่ทอด ผดั วนุ้ เสน้ แกงเขยี วหวาน ไขล่ ูกเขย แกงจืดฟัก ผดั ผักรวม ปลาทอด บวบผดั ไข่ ไขเ่ จียว หมูทอด ต้มยำา ไขพ่ ะโล้ จากสือ่ เพิ่มเตมิ ในหนังสอื เรียนบทน้ี ปลาททู อด ยาำ ไส้กรอก ต้มข่าไก่ แกงจืดเตา้ หู้ จาก QR Code หน้าแรกของบท แบบฝึกทา้ ทาย 2. ครูอาจช่วยตรวจสอบความถูกต้อง | 189สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ของขอ้ มูล กอ่ นท่นี ักเรียนจะน�ำ ขอ้ มลู ไปเขียน ตารางทางเดยี ว 3. เม่ือนักเรียนตอ้ งตั้งคำ�ถามเกยี่ วกบั ข้อมูลในตาราง ให้เพ่อื นชว่ ยกนั ตอบ ครอู าจช่วยให้คำ�ชแี้ นะในการสรา้ งคำ�ถามท่ีมคี วามหลากหลาย จากน้นั ใหน้ กั เรียนทำ�แบบฝกึ ท้าทาย หน้า 133 - 135 190 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 5 | แผนภูมิรูปภาพและตารางทางเดยี ว คู่มือครรู ายวชิ าพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที ่ 3 เลม่ 1 คณิตคิดท้าทาย 1. (NT 2561) รา้ นค้าสหกรณโ์ รงเรยี นตดิ ราคาสนิ ค้า ดงั ตาราง รายการ ราคาตอ่ หน่วย (บาท) สมุดปกแข็ง 25 สมดุ วาดเขียน 10 ดนิ สอ 5 ไมบ้ รรทัด 5 ยางลบ 5 สไี ม้ 35 สดุ าเลือกซอ้ื สินค้าตามขอ้ ใด จา่ ยเงนิ นอ้ ยที่สุด 1) สมดุ ปกแขง็ 2 เล่ม ดนิ สอ 3 แทง่ 2) สมดุ ปกแข็ง 3 เลม่ สมดุ วาดเขียน 1 เล่ม 3) สมดุ ปกแขง็ 1 เลม่ สไี ม ้ 1 กล่อง 4) สีไม ้ ดินสอ ยางลบ และไมบ้ รรทัด อย่างละ 1 ชิน้ 2. (NT 2561) แผนภมู แิ สดงจาำ นวนสัตว์ชนิดตา่ ง ๆ ในสวนสัตว์แห่งหนึ่ง ดังนี้ ลงิ เสอื ช้าง ม้า ฮปิ โป กาำ หนดให้ รปู สตั ว์ 1 รปู แทนจาำ นวนสตั ว์ 10 ตัว จากแผนภูมิ ข้อใดถกู ตอ้ ง | 191สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1) จำานวนชา้ งรวมกับม้า มีจำานวนมากกว่า ลิง 2) จำานวนฮิปโปรวมกับเสือ มจี ำานวนนอ้ ยกวา่ ช้าง 3) ลิงมีจำานวนเทา่ กบั จาำ นวนของเสือรวมกับชา้ ง 4) สวนสัตวแ์ ห่งนี้มีจาำ นวนสัตว์ท้ังหมด 120 ตวั
คมู่ อื ครูรายวชิ าพนื้ ฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 5 | แผนภูมริ ปู ภาพและตารางทางเดยี ว ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เล่ม 1 3. (NT 2559) อายุของพนกั งาน 4 คน ของบริษทั แห่งหนงึ่ ในเดือนเมษายน ปี 2559 เปน็ ดังน้ี ช่ือ ปอง แพรว แปน้ จอย อายุ 25 ปี 3 เดอื น 27 ปี 8 เดอื น 29 ปี 2 เดือน 24 ปี 8 เดือน จากขอ้ มูลขา้ งตน้ ข้อใดถูกตอ้ ง 1) แป้นอายุมากกว่าแพรว 4 เดือน และจอยอายุน้อยกวา่ ปอง 1 ปี 5 เดอื น 2) แป้นอายมุ ากกวา่ แพรว 4 เดือน และจอยอายุน้อยกว่าปอง 7 เดือน 3) แป้นอายมุ ากกวา่ แพรว 1ปี 6 เดอื น และจอยอายุนอ้ ยกวา่ ปอง 1 ปี 5 เดือน 4) แป้นอายุมากกวา่ แพรว 1ปี 6 เดือน และจอยอายนุ ้อยกวา่ ปอง 7 เดือน 4. (NT 2559) เดก็ หญงิ แหวนใจไปเย่ียมลงุ จนั ทบ่ี ้าน พบว่าลุงจันเลยี้ งสตั วไ์ ว้ ดังนี้ ไก่ 12 ตวั เปด็ นอ้ ยกว่าไก่ 4 ตัว ห่านน้อยกว่าเป็ด 5 ตัว และวัวมากกว่าห่าน 1 ตวั จากข้อมูลข้างตน้ การนำ�เสนอข้อมูลจ�ำ นวนสัตวเ์ ลยี้ งของลงุ จันในขอ้ ใดถูกตอ้ ง ชนิด จ�ำ นวน (ตวั ) ชนิด จ�ำ นวน (ตวั ) เปด็ 1) ววั 2) หา่ น ไก่ หา่ น วัว เปด็ ไก่ ชนิด จ�ำ นวน (ตัว) ชนิด จ�ำ นวน (ตัว) ไก่ 3) ห่าน 4) ววั ห่าน ไก่ เปด็ วัว เปด็ 192 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 5 | แผนภมู ิรปู ภาพและตารางทางเดียว คู่มือครูรายวชิ าพนื้ ฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เลม่ 1 5. (NT 2559) จ�ำ นวนเงนิ ทีไ่ ดม้ าโรงเรยี นในเวลา 1 สปั ดาห์ ของนกั เรยี น ชัน้ ป.3 จำ�นวน 5 คน แก้ว เกตุ กอ้ ง ไก่ กิ่ง กำ�หนดให้ แทนจ�ำ นวนเงิน 20 บาท จากข้อมลู ข้างตน้ ข้อใดถกู ต้อง 1) เกตุไดเ้ งินน้อยที่สดุ ซ่ึงเท่ากับ 180 บาท 2) แกว้ ไดเ้ งนิ 220 บาท ซึ่งมากกว่าเงินของกง่ิ 40 บาท 3) จ�ำ นวนเงินของไก่กบั ก่ิงรวมกัน มากกวา่ จ�ำ นวนเงินของกอ้ ง 220 บาท 4) จ�ำ นวนเงนิ ของเกตกุ บั กิง่ รวมกัน นอ้ ยกวา่ จ�ำ นวนเงินของก้องกบั ไกร่ วมกนั 80 บาท 6. (NT 2558) สุรวฒุ ิปลกู ต้นไม้ 5 ชนิด ไว้ในสวน ดังน้ี จ�ำ นวนต้นไม้ 5 ชนิด ในสวนของสุรวฒุ ิ ชนดิ ต้นไม้ เงาะ ละมดุ มะม่วง ชมพู่ 55 จำ�นวน (ตน้ ) 135 80 97 จากข้อมูล ข้อใดถูกตอ้ ง 1) ปลูกต้นเงาะมากกวา่ ต้นละมุดรวมกับตน้ ชมพู่ 2) ปลกู ต้นเงาะมากกวา่ ต้นละมุดรวมกบั ตน้ มะม่วง 3) ผลรวมของจำ�นวนต้นไมท้ ัง้ 4 ชนิด เทา่ กับ 367 ตน้ 4) ปลกู ต้นเงาะรวมกบั ต้นชมพูม่ ากกวา่ ต้นละมดุ รวมกบั ตน้ มะม่วงอยู่ 17 ต้น | 193สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครรู ายวิชาพื้นฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | แผนภูมิรูปภาพและตารางทางเดยี ว ช้ันประถมศึกษาปีท่ ี 3 เลม่ 1 7. (NT 2558) พจิ ารณาแผนภมู ิ แสดงจำานวนนกั เรียนชัน้ ป.1 ถงึ ป.4 ของโรงเรยี นบา้ นแสนสุขวทิ ยา ปกี ารศึกษา 2557 จำานวนนกั เรียน ป.1-ป.4 โรงเรียนบา้ นแสนสขุ วทิ ยา ปีการศกึ ษา 2557 ช้นั จำานวนนกั เรยี น (คน) ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 กาำ หนด แทนนกั เรยี น 3 คน จากขอ้ มลู ถ้าต้องการใหน้ กั เรียนเล่นเกมเป็นทีม ทีมละ 5 คน นักเรียนชัน้ ใดทจ่ี ะได้เลน่ เกม เป็นทีมโดยไม่มนี ักเรียนเหลือเป็นกองเชียร์ 1) ป.1 2) ป.2 3) ป.3 4) ป.4 194 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 5 | แผนภมู ริ ปู ภาพและตารางทางเดียว คมู่ อื ครูรายวิชาพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เลม่ 1 ตัวอยา่ งแบบทดสอบทา้ ยบท ตวั อยา่ งแบบทดสอบน้ีใชใ้ นการประเมินผลระหวา่ งเรยี นเพื่อพฒั นานักเรยี นหากมนี กั เรียน คนใดที่ไม่สามารถท�ำ แบบทดสอบนไ้ี ดค้ รคู วรให้นกั เรียนคนนน้ั ฝึกทักษะมากข้ึนโดยอาจใช้ แบบฝกึ เสริมในหนงั สือเสริมเพม่ิ ปญั ญาของสสวท.หรือแบบฝึกอื่นทเี่ หน็ วา่ สมควร ซ่งึ แบบทดสอบ ท้ายบทนม้ี ีจ�ำ นวน 10 ข้อ คะแนนเตม็ 10 คะแนน ใช้เวลาในการท�ำ แบบทดสอบ 20 นาที และวิเคราะห์เปน็ รายจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ได้ดังน้ี จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ขอ้ ที่ 1. เกบ็ รวบรวมข้อมลู และจ�ำ แนกข้อมูล 1-2 2. อ่านและเขียนแผนภมู ิรปู ภาพ 3-6 3. ใชข้ ้อมูลจากแผนภมู ิรูปภาพในการหาค�ำ ตอบของโจทยป์ ญั หา 3-5 4. อ่านและเขียนตารางทางเดยี วจากข้อมูลทเี่ ปน็ จ�ำ นวนนับ 7-8 5. ใช้ข้อมลู จากตารางทางเดยี วในการหาค�ำ ตอบของโจทยป์ ัญหา 9 - 10 ตวั อยา่ งแบบทดสอบทา้ ยบท บทท่ี 5 เลือก ก ข หรอื ค ท่ีเป็นค�ำ ตอบทถ่ี ูกต้อง 1. ครูสอบถามนักเรยี นหอ้ ง ป.3/2 วา่ ชอบกนิ อะไรมากทีส่ ุดได้ข้อมลู ดงั น้ี ทเุ รยี น ไอศกรมี ข้าวหมูแดง แตงโม ข้าวเหนยี วมะมว่ ง ก๋วยเตย๋ี ว ไกท่ อด ราดหนา้ ไขพ่ ะโล ้ เค้ก เยลล ี่ กุ้งเผา หมกึ ย่าง ชมพู่ ส้มโอ มะมว่ ง กุ้งอบวุน้ เส้น ชอ็ กโกแลต ปูนงึ่ สตรอวเ์ บอรร์ ี เงาะ ขนมถว้ ย นำ�้ แข็งใส แกงจดื จากขอ้ มลู ครคู วรจำ�แนกขอ้ มูลเป็นกี่ประเภท อะไรบา้ ง ขอ้ ใดเหมาะสมทส่ี ุด ก. 2 ประเภท ไดแ้ ก่ ประเภทอาหาร และประเภทไมเ่ ปน็ อาหาร ข. 2 ประเภท ไดแ้ ก่ ประเภทอาหารคาว และประเภทอาหารหวาน ค. 3 ประเภท ไดแ้ ก่ ประเภทอาหารคาว ประเภทอาหารหวาน และประเภทผลไม้ | 195สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | แผนภูมิรูปภาพและตารางทางเดยี ว ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 เล่ม 1 2. จากขอ้ มูลในข้อ 1 ถ้าจ�ำ แนกขอ้ มลู ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทผลไม้ และประเภทไม่เปน็ ผลไม้ เขยี นรอยขีดแสดงขอ้ มูลในตารางไดด้ งั น้ ี ประเภทข้อมลู รอยขดี ผลไม้ ไมเ่ ป็นผลไม้ รอยขดี ท่ีแสดงขอ้ มูลประเภทไม่เปน็ ผลไมต้ รงกบั ข้อใด ก. ข. ค. 3. แผนภมู ริ ูปภาพแสดงจ�ำ นวนคนออกก�ำ ลังกายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง 5 วนั ดงั นี้ จำ�นวนคนออกกำ�ลังกายในสวนสาธารณะแหง่ หนึง่ 5 วนั วันจนั ทร์ วนั องั คาร วันพธุ วันพฤหสั บดี วนั ศกุ ร์ ก�ำ หนดให้ แทนจ�ำ นวน 50 คน จากแผนภมู ริ ปู ภาพข้อใดต่อไปนีก้ ล่าวถกู ตอ้ ง ก. วันพฤหสั บดมี ีคนออกกำ�ลงั กายในสวนสาธารณะนอ้ ยกวา่ วนั ศุกร์ 25 คน ข. วันอังคารมีคนออกกำ�ลงั กายในสวนสาธารณะมากท่สี ุด จำ�นวน 250 คน ค. คนออกกำ�ลังกายในสวนสาธารณะวันพฤหัสบดีมากกว่าวนั จันทร์ 50 คน 196 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 5 | แผนภูมิรปู ภาพและตารางทางเดียว คู่มอื ครรู ายวชิ าพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เลม่ 1 จากแผนภมู ิรูปภาพตอบค�ำ ถามข้อ 4 - 6 จ�ำ นวนขนมที่สหกรณโ์ รงเรียนขายไดใ้ น 1 วนั ขนมชน้ั โดนทั ขนมตาล ขนมกลว้ ย เคก้ ก�ำ หนดให้ แทนขนมจำ�นวน 4 ช้ิน 4. ถ้าสหกรณโ์ รงเรยี นขายขนมกลว้ ยชน้ิ ละ 8 บาท และเคก้ ชิน้ ละ 25 บาท จะขายขนมกล้วย และเคก้ ไดเ้ งนิ ก่บี าท ก. 230 บาท ข. 246 บาท ค. 296 บาท 5. ถ้าสหกรณโ์ รงเรียนขายขนมชนั้ ได้มากกว่าโดนัท 8 ชน้ิ จะขายโดนัทไดก้ ่ชี นิ้ ก. 12 ชิน้ ข. 28 ชิ้น ค. 32 ช้ิน 6. ถ้าสหกรณโ์ รงเรยี นขายโดนัทได้ 14 ชิ้น ในแผนภมู ิรปู ภาพต้องวาดรูปแทนจำ�นวนโดนัท ทข่ี ายได้ตรงกบั ข้อใด ก. ข. ค. | 197สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครูรายวชิ าพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 5 | แผนภมู ริ ูปภาพและตารางทางเดียว ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 เลม่ 1 ใช้ขอ้ มูลตอบคาำ ถามขอ้ 7 – 8 ครใู ห้นักเรยี นชนั้ ป.3 ตดิ บตั รภาพกิจกรรมที่นกั เรยี นชืน่ ชอบบนกระดานไดข้ ้อมลู ดังนี้ กิจกรรม จาำ นวน (คน) เลจ่นาดกนขอ้ตมรีลู เขียนเป็นตารางทางเด6ยี วไดด้ ังน้ี เล่นอนิ เทอรเ์ นต็ 10 เท่ียวสวนสนุก 9 อ่านหนังสอื 5 7. ข้อใดเป็นขอ้ มลู ทเี่ ติมในตารางทางเดยี วใหส้ มบูรณ์และถูกต้อง ก. เลน่ เทนนสิ 6 ข. เล่นฟุตบอล 3 ค. เล่นกฬี า 6 8. จากตารางทางเดียวข้อใดกล่าวถกู ตอ้ ง ก. นกั เรยี นชื่นชอบกิจกรรมอ่านหนังสอื นอ้ ยที่สุด ข. นักเรยี นช่ืนชอบกิจกรรมเล่นอนิ เทอรเ์ น็ตมากกว่ากิจกรรมอา่ นหนงั สือ 6 คน ค. นกั เรยี นชืน่ ชอบกิจกรรมเล่นดนตรีน้อยกวา่ กิจกรรมเท่ยี วสวนสนุก 2 คน 198 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 5 | แผนภมู ริ ปู ภาพและตารางทางเดยี ว คมู่ อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 เลม่ 1 9. ใบบัวเริ่มบันทึกขอ้ มลู การออมเงินของตนเองในเดอื นมีนาคม พ.ศ. 2563 ดังน้ี จ�ำ นวนเงนิ ออมแตล่ ะวนั ของใบบวั ในเดือนมนี าคม พ.ศ. 2563 วันท่ี 1 2 3 4 5 6 7 จ�ำ นวนเงิน (บาท) 6 12 18 24 30 36 ......... จากข้อมลู ถ้าใบบัวออมเงนิ ในวันถดั ไปเปน็ จ�ำ นวนเงินที่เพม่ิ ขึน้ ไปเรอ่ื ย ๆ ในอัตราทีเ่ ท่ากนั ตามตาราง วนั ท่ี 7 มีนาคม 2563 ใบบัวออมเงินกบี่ าท ก. 37 บาท ข. 38 บาท ค. 42 บาท 10. เม่อื ครบ 10 วนั ใบบัวออมเงนิ ได้ทั้งหมดกีบ่ าท ก. 230 บาท ข. 330 บาท ค. 520 บาท เฉลยแบบทดสอบทา้ ยบท บทที่ 5 1. ค 2. ข 3. ก 4. ก 5. ก 6. ข 7. ค 8. ก 9. ค 10. ข | 199สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 6 | เศษส่วน ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เล่ม 1 บทที่ 6 เศษสว่ น จุดประสงคก์ ารเรยี นรแู้ ละสาระสำ�คัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสำ�คัญ นักเรยี นสามารถ • เศษสว่ นเป็นสญั ลกั ษณ์แสดงจำ�นวน ซึ่งประกอบด้วยตัวเศษและตวั สว่ น ตวั เศษ 1. บอกเศษสว่ นที่แสดงปรมิ าณของสิ่งต่าง ๆ และแสดงส่ิงต่าง ๆ ตามเศษสว่ นท่กี �ำ หนด แสดงจ�ำ นวนของสว่ นทกี่ ลา่ วถึง เขียนไว้ โดยที่ตัวเศษน้อยกวา่ หรอื เทา่ กับตวั สว่ น (หัวข้อ 6.1) ดา้ นบนของเสน้ คัน่ ตวั สว่ นแสดงจ�ำ นวน 2. อ่านและเขยี นเศษสว่ นแสดงปริมาณของ ของสว่ นท่เี ท่า ๆ กนั ทัง้ หมด เขยี นไวด้ ้านลา่ ง สิ่งตา่ ง ๆ โดยทต่ี ัวเศษนอ้ ยกว่าหรอื เท่ากับ ตวั ส่วน • ของเส้นค่ัน เชน่ 1 1 2 (หัวข้อ 6.1) 2 4 5 เ ศษส่วนทต่ี ัวเศษเทา่ กับตวั ส่วนมีค่าเทา่ กับ 1 3. เปรียบเทยี บเศษส่วนท่ีตวั สว่ นเทา่ กัน • การเปรียบเทยี บเศษสว่ นที่ตัวส่วนเท่ากนั โดยทต่ี วั เศษน้อยกวา่ หรือเทา่ กับตวั สว่ น ให้ดูทีต่ วั เศษ ถา้ ตัวเศษของเศษส่วนใด (หวั ขอ้ 6.2) มากกวา่ เศษสว่ นนัน้ จะมากกว่า • การเรียงล�ำ ดบั เศษส่วนทต่ี วั สว่ นเท่ากัน ใหพ้ ิจารณาตัวเศษ ถ้าเรยี งล�ำ ดบั เศษสว่ น จากมากไปนอ้ ย ใหเ้ ขียนเศษสว่ นเรยี งลำ�ดับ จากเศษส่วนท่ตี ัวเศษมากไปน้อย ถา้ เรยี ง ล�ำ ดับเศษส่วนจากนอ้ ยไปมาก ให้เขียน เศษสว่ นเรยี งลำ�ดบั จากเศษสว่ นที่ตวั เศษ นอ้ ยไปมาก 200 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 6 | เศษส่วน คูม่ อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เลม่ 1 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระสำ�คญั นักเรยี นสามารถ 4. เปรียบเทยี บเศษสว่ นที่ตวั เศษเทา่ กัน • การเปรยี บเทยี บเศษสว่ นทต่ี วั เศษเทา่ กนั โดยทต่ี ัวเศษนอ้ ยกว่าหรอื เทา่ กับตัวส่วน ใหด้ ทู ต่ี วั สว่ น ถา้ ตวั สว่ นของเศษสว่ นใด มากกวา่ เศษสว่ นนน้ั จะนอ้ ยกวา่ (หัวขอ้ 6.3) • การเรยี งล�ำ ดบั เศษสว่ นทต่ี วั เศษเทา่ กนั 5. หาผลบวกของเศษสว่ นท่ตี วั ส่วนเท่ากนั ใหพ้ จิ ารณาตวั สว่ น ถา้ เรยี งล�ำ ดบั เศษสว่ น โดยทผ่ี ลบวกไม่เกนิ 1 จากมากไปนอ้ ย ใหเ้ ขยี นเศษสว่ นเรยี งล�ำ ดบั จากเศษสว่ นทต่ี วั สว่ นนอ้ ยไปมาก ถา้ เรยี ง (หัวข้อ 6.4) ล�ำ ดบั เศษสว่ นจากนอ้ ยไปมาก ใหเ้ ขยี น 6. หาผลลบของเศษส่วนทต่ี ัวส่วนเท่ากนั เศษสว่ นเรยี งล�ำ ดบั จากเศษสว่ นทต่ี วั สว่ น (หัวข้อ 6.5) มากไปนอ้ ย 7. แสดงวธิ ีหาคำ�ตอบของโจทยป์ ญั หาการบวก เศษส่วนทีต่ ัวส่วนเท่ากนั และผลบวก • การหาผลบวกของเศษส่วนท่ีตัวส่วนเท่ากนั ไมเ่ กิน 1 ให้น�ำ ตัวเศษบวกกัน โดยตวั ส่วนคงเดมิ (หวั ขอ้ 6.6 - 6.7) • การหาผลลบของเศษส่วนทตี่ วั สว่ นเท่ากนั ใหน้ �ำ ตัวเศษลบกัน โดยตัวสว่ นคงเดมิ • การแกโ้ จทยป์ ญั หาท�ำ ไดโ้ ดยอา่ นท�ำ ความเขา้ ใจ ปญั หา วางแผนแกป้ ญั หา หาค�ำ ตอบ และ ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของค�ำ ตอบ 8. แสดงวิธหี าคำ�ตอบของโจทยป์ ญั หาการลบ เศษส่วนที่ตวั สว่ นเทา่ กัน (หวั ขอ้ 6.6 - 6.7) | 201สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครรู ายวชิ าพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 6 | เศษสว่ น ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 เลม่ 1 การวเิ คราะหเ์ นอื้ หากบั ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ หวั ขอ้ เนอ้ื หา เวลา ทกั ษะและกระบวนการ ทางคณติ ศาสตร์ (ช่ัวโมง) 12345 1 เตรยี มความพร้อม 2 6.1 การอา่ นและการเขียนเศษสว่ น 6.2 การเปรียบเทียบและเรียงล�ำ ดับเศษสว่ น 2 ทต่ี ัวสว่ นเท่ากัน 6.3 การเปรียบเทียบและเรียงลำ�ดบั เศษสว่ น 2 ทต่ี วั เศษเท่ากัน 1 6.4 การบวกเศษสว่ นทม่ี ตี วั สว่ นเทา่ กนั 1 6.5 การลบเศษสว่ นทม่ี ตี วั สว่ นเทา่ กนั 1 6.6 โจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบ เศษสว่ นทม่ี ตี วั สว่ นเทา่ กนั (1) 6.7 โจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบ 1 เศษสว่ นทม่ี ตี วั สว่ นเทา่ กนั (2) 1 รว่ มคดิ รว่ มท�ำ 1 การแก้ปัญหา 2 การสือ่ สารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร ์ 3 การเชอ่ื มโยง 4 การใหเ้ หตผุ ล 5 การคดิ สร้างสรรค์ 202 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 6 | เศษส่วน คูม่ ือครูรายวชิ าพ้ืนฐานคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เลม่ 1 ค�ำ ส�ำ คญั เศษสว่ น ตวั เศษ ตวั ส่วน การบวกเศษส่วน การลบเศษสว่ น การเปรยี บเทยี บเศษสว่ น โจทย์ปญั หาการบวกเศษส่วน โจทยป์ ัญหาการลบเศษสว่ น ความรหู้ รอื ทักษะพื้นฐานของนกั เรียน 1. การพับกระดาษทเ่ี ป็นการแบ่งกระดาษออกเป็นสว่ นที่เท่ากนั 2. รปู เรขาคณิตชนดิ ตา่ ง ๆ 3. การบวกและการลบจำ�นวนนับ 4. การเปรียบเทยี บและเรยี งลำ�ดับจำ�นวนนับ ส่อื และแหลง่ เรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียนหนา้ 190 - 227 2. แบบฝึกหัดหน้า 136 - 166 3. แบบบนั ทกึ กิจกรรม ใบกจิ กรรม บตั รภาพต่าง ๆ และอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ ที่ใช้ประกอบกิจกรรม ดงั น้ี กระดาษรปู สเ่ี หล่ยี มท่ีมคี วามยาวแต่ละดา้ นเท่ากบั ความกว้างของกระดาษ A4 • บตั รภาพเคก้ • กระดาษแผน่ เลก็ •• ชดุ กจิ กรรมเศษส่วนแสนสนุก ประกอบดว้ ย บตั รเศษส่วน บัตรภาพทีร่ ะบายส ี แสดงเศษส่วน และบตั รค�ำ อ่านเศษสว่ นอย่างละ 10 บตั ร บตั รภาพโหลแกว้ โหลพลาสติก หรอื เหยือกน�ำ้ • นำ้�ผลไมช้ นดิ ตา่ ง ๆ เช่น น้�ำ สม้ นำ�้ ฝรง่ั น�ำ้ สบั ปะรด เปน็ ตน้ หรอื นมเยน็ หรือน�้ำ สี •• แถบกระดาษสี 4. สอ่ื เพิม่ เตมิ หน้า 197 และ 227 (Download ไดจ้ าก QR code หนา้ 190) เวลาท่ีใช้จดั การเรียนรู้ 12 ชว่ั โมง | 203สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครูรายวิชาพืน้ ฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 6 | เศษสว่ น ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3 เล่ม 1 แก้วตาหยิบขนมชัน้ ใบเตย 4 ชนิ้ กับขนมชัน้ อญั ชนั 1 ช้นิ แกว้ ตาไดข้ นมชั้น การจัดการเรยี นรู้ ท้งั หมดคดิ เป็นเศษสว่ นเทา่ ไรของถาด การเตรียมความพร้อม (1 ช่ัวโมง) ขนมชน้ั ใขบนเตมยชน้ั ใบเตย ขนมชนั้ อขญั นชมนั ชั้นอญั ชนั ขนมเป�ยกขปนูนมเป�ยกปนู บทท่ ี 6 เศษส่วน ถาดทุกถาดมขี นาดเท่ากนั และ ขนมทกุ ถาดตัดเปน็ 6 ชิ้น เท่า ๆ กนั เรยี นจบบทนแี้ ลว้ นกั เรียนสามารถ บอกเศษส่วนทีแ่ สดงปรมิ าณของสิ่งต่าง ๆ และแสดงสง่ิ ต่าง ๆ ตามเศษส่วนทกี่ ำาหนด โดยทต่ี วั เศษนอ้ ยกว่าหรอื เทา่ กับตวั สว่ น อา่ นและเขยี นเศษสว่ นแสดงปริมาณของสง่ิ ตา่ ง ๆ โดยทีต่ วั เศษ นอ้ ยกวา่ หรอื เท่ากบั ตวั สว่ น สื่อเพิ่มเตมิ เปรยี บเทยี บเศษส่วนทต่ี ัวส่วนเทา่ กัน โดยท่ีตัวเศษน้อยกว่าหรอื เท่ากบั ตัวส่วน เปรียบเทียบเศษส่วนทตี่ วั เศษเท่ากนั โดยทีต่ ัวเศษนอ้ ยกวา่ หรอื เทา่ กบั ตัวสว่ น หาผลบวกของเศษส่วนที่ตวั ส่วนเท่ากัน โดยที่ผลบวกไม่เกนิ 1 หาผลลบของเศษส่วนที่ตัวส่วนเทา่ กนั แสดงวธิ หี าคาำ ตอบของโจทยป์ ญั หาการบวกเศษส่วน ที่ตัวส่วนเทา่ กนั และผลบวกไมเ่ กนิ 1 แสดงวธิ ีหาคาำ ตอบของโจทยป์ ัญหาการลบเศษสว่ น ทีต่ ัวสว่ นเทา่ กนั 1. ใชข้ ้อมลู ในหนงั สือเรียนหนา้ เปดิ บท สนทนากบั นักเรยี นเพอื่ กระตุน้ ความสนใจเกีย่ วกบั สถานการณใ์ นชวี ิตประจำ�วันและการแบง่ สงิ่ ต่าง ๆ ออกเป็นส่วนท่ีเท่ากนั โดยใชค้ ำ�ถาม เชน่ − ในภาพมีขนมอะไรบ้าง (ขนมช้นั ใบเตย ขนมช้นั อญั ชนั ขนมเปียกปนู สงั ขยาฟกั ทอง) − ขนมแตล่ ะชนิดมีลกั ษณะอย่างไร (ขนมชั้นและขนมเปียกปูนอยใู่ นถาด แตล่ ะถาดมขี นาด เทา่ กนั ขนมแตล่ ะถาดแบง่ เป็น 6 ชนิ้ เทา่ ๆ กัน สังขยาฟกั ทองแบง่ เป็น 5 ช้ิน เทา่ ๆ กัน) จากนั้น ครใู ช้ค�ำ ถามเก่ียวกับการแบง่ ขนมชัน้ และขนมเปียกปนู เพื่อนำ�เขา้ ส่บู ทเรียน เชน่ − ถา้ มขี นมเปียกปนู เตม็ ถาดจะได้ขนมเปียกปูนทงั้ หมดกี่ชิน้ (6 ช้ิน) − เหลอื ขนมเปียกปนู ในถาดก่ีชนิ้ (1 ช้นิ ) จากขนมเปียกปูนทัง้ หมดกีช่ น้ิ (6 ชิ้น) กนิ ขนมเปยี กปนู ไปแลว้ กชี่ ้ิน (5 ชนิ้ ) − ถาดทีแ่ ก้วตาถือมขี นมชนั้ กี่ชนิ้ (5 ช้นิ ) เปน็ ขนมชนั้ ใบเตยกี่ชิน้ (4 ชิ้น) เป็นขนมชนั้ อญั ชัน กี่ช้ิน (1 ช้นิ ) ถ้าแกว้ ตามีขนมชนั้ เต็มถาดจะมีขนมช้นั กชี่ ิน้ (6 ชนิ้ ) แก้วตามีขนมช้นั ทั้งหมด คดิ เป็นเศษสว่ นเทา่ ไรของถาด นกั เรยี นอาจตอบคำ�ถามสดุ ทา้ ยไมไ่ ด้ ครูนำ�เข้าสู่บทเรยี นโดยการแนะนำ�ว่า ในบทเรยี นน้จี ะเรียน เกี่ยวกับจำ�นวนอกี ชนดิ หน่ึงทไี่ มใ่ ช่จำ�นวนนับ ซ่ึงเรยี กจ�ำ นวนน้นั วา่ เศษส่วน 204 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 6 | เศษสว่ น คู่มือครูรายวชิ าพนื้ ฐานคณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เลม่ 1 2. ครใู ห้นกั เรยี นทำ�กจิ กรรม พับเปน็ ส่วนเท่า ๆ กนั หนงั สือเรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 เพื่อเตรียมความพรอ้ มในการเรยี นเรื่องเศษส่วน บทท่ี 6 | เศษส่วน เตรียมความพร้อม ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 192 โดยครเู ตรยี มกระดาษรปู สเ่ี หลย่ี ม กจิ กรรม พบั เป็นสว่ นเท่า ๆ กัน ทม่ี คี วามยาวแตล่ ะดา้ นเทา่ กบั ความกวา้ งของกระดาษ A4 หรือครูอาจใหน้ กั เรยี นเตรียมกระดาษมาเอง คนละส่ถี ึง อปุ กรณ ์ 1. กระดาษรูปส่เี หลยี่ มที่มคี วามยาวแตล่ ะดา้ นเทา่ กบั ความกวา้ ง หา้ แผน่ จากนน้ั ครแู บง่ นกั เรยี นเปน็ กลมุ่ และแจกกระดาษ ของกระดาษ A4 รปู ส่เี หล่ยี มกลุ่มละ 10 แผ่นหรือตามความเหมาะสม ครเู ร่ิมกิจกรรมโดยใชค้ ำ�ถามกระตุ้นนักเรยี นว่า 2. ไม้บรรทัด 3. ดนิ สอ วธิ จี ดั กจิ กรรม 1. ครแู บง่ นกั เรยี นเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละเท่า ๆ กัน และแจกกระดาษรปู สเ่ี หลี่ยม กลมุ่ ละ 10 แผน่ 2. ครูให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกันหาวิธพี ับกระดาษ 1 แผน่ เป็น 2 สว่ น เทา่ ๆ กนั ให้ไดว้ ิธที ี่แตกตา่ งกันมากทสี่ ดุ แลว้ ขดี เสน้ ตามรอยพบั พรอ้ มนาำ เสนอวิธพี ับและ ร่วมกันตรวจสอบ 3. ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั หาวธิ พี บั กระดาษ 1 แผน่ เพอ่ื แบง่ กระดาษ ออกเปน็ 4 สว่ น และ 8 สว่ นเทา่ ๆ กันตามลำาดับ ใหไ้ ด้วิธีทแ่ี ตกต่างกันมากท่ีสดุ แล้วขดี เสน้ ตามรอยพบั พรอ้ มนำาเสนอวธิ ีพับและรว่ มกันตรวจสอบ − ถ้าครูจะพบั กระดาษแผน่ น้เี พือ่ แบ่งกระดาษ ออกเปน็ 2 ส่วน เท่า ๆ กัน ครจู ะพบั ได้อย่างไร 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 จากนนั้ ครูใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มชว่ ยกันหาวิธพี บั กระดาษ 1 แผน่ ออกเปน็ 2 สว่ น เทา่ ๆ กนั จะมวี ธิ พี บั ไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง 192 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ใหไ้ ดว้ ธิ ที แ่ี ตกตา่ งกนั มากทส่ี ดุ แลว้ ขดี เสน้ ตามรอยพบั ในระหวา่ งทำ�กิจกรรมครูหยิบตวั อยา่ งการพบั กระดาษท่เี ตรียมไวห้ รือกระดาษทน่ี กั เรียนพบั แลว้ มาสนทนากับนกั เรยี น โดยใช้คำ�ถามวา่ − นักเรียนรไู้ ดอ้ ยา่ งไรวา่ กระดาษ 1 แผน่ ท่ีน�ำ มาพบั นน้ั รอยพบั จะแบง่ กระดาษออกเป็น 2 ส่วนที่เท่ากนั ซงึ่ นักเรยี นอาจให้เหตุผลว่า กระดาษ 2 ส่วนนที้ บั กนั สนิท โดยลองตัดตามรอยพับ แล้วนำ�กระดาษ 2 สว่ นนม้ี าซอ้ นทบั กนั ไดพ้ อดี เปน็ ตน้ เมอ่ื นกั เรยี นแนใ่ จวา่ กระดาษทง้ั 2 สว่ นเทา่ กนั แลว้ ใหน้ กั เรยี นขดี เส้นตามรอยพับ จากนัน้ ครใู ห้นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ ช่วยกันหาวิธีพบั กระดาษ 1 แผ่น เพ่ือแบง่ กระดาษออกเปน็ 2 สว่ น เทา่ ๆ กนั ให้ได้วิธีท่แี ตกต่างกนั มากที่สุด แล้วขีดเส้นตามรอยพบั ขณะท่นี ักเรียนท�ำ กิจกรรม ครูเดนิ ดนู ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มแล้วเลอื กกลุม่ ท่ีมีวิธีพับท่แี ตกตา่ งกัน ให้ออกมาน�ำ เสนอและอภปิ รายร่วมกนั หนา้ ชั้นเรียนโดยครูใช้ค�ำ ถามดงั ต่อไปน้ี − รอยพบั แบ่งกระดาษแผน่ นเี้ ป็น 2 สว่ นเท่า ๆ กันใช่หรอื ไม่ − นักเรยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งไรวา่ รอยพับแบง่ กระดาษเป็น 2 สว่ นเทา่ กนั − มีวิธีพับกระดาษ 1 แผ่น ให้เป็น 2 ส่วน เทา่ ๆ กัน ไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง จากนัน้ ครูให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มช่วยกนั พับกระดาษเพ่อื แบ่งกระดาษออกเปน็ 4 ส่วนเทา่ ๆ กนั แลว้ ใหน้ �ำ เสนอวธิ พี บั กระดาษทแ่ี ตกตา่ งกนั และอภปิ รายรว่ มกนั แลว้ ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ พบั กระดาษ เพอ่ื แบง่ กระดาษออกเปน็ 8 สว่ นเทา่ ๆ กนั น�ำ เสนอวธิ พี บั กระดาษทแ่ี ตกตา่ งกนั และอภปิ รายรว่ มกนั ครสู นทนากบั นกั เรยี นวา่ จากกจิ กรรมทน่ี กั เรยี นพบั กระดาษเพอ่ื แบง่ กระดาษออกเปน็ 2 สว่ นเทา่ ๆ กนั 4 ส่วนเท่า ๆ กัน และ 8 ส่วนเท่า ๆ กนั เป็นการแบ่งกระดาษ 1 แผ่น ออกเปน็ สว่ นท่เี ทา่ ๆ กัน คลา้ ยกับการแบ่งขนม 1 ถาด ออกเปน็ สว่ นทเ่ี ทา่ ๆ กัน ในหนา้ เปดิ บทของบทเรยี นนี้ ซ่ึงเป็นการกลา่ วถงึ จำ�นวนอกี ชนิดหน่งึ ทเ่ี รียกว่า เศษสว่ น | 205สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครูรายวิชาพนื้ ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 6 | เศษส่วน ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 เล่ม 1 6.1 การอ่านและการเขียนเศษส่วน (2 ชั่วโมง) หนังสือเรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 จุดประสงค์ บทที่ 6 | เศษสว่ น − บอกเศษสว่ นทแ่ี สดงปรมิ าณของสง่ิ ตา่ ง ๆ 6.1 การอ่านและการเขียนเศษสว่ น และแสดงสิง่ ตา่ ง ๆ ตามเศษสว่ นทกี่ �ำ หนด โดยท่ตี วั เศษนอ้ ยกว่าหรอื เทา่ กบั ตวั สว่ น พัฒนาความรู้ − อา่ นและเขียนเศษส่วนท่แี สดงปริมาณ 11 ของสิง่ ต่าง ๆ โดยทตี่ ัวเศษน้อยกว่าหรือเท่ากับ 22 ตัวส่วน เคก้ 1 กอ้ น แบ่งเคก้ 1 ก้อน เปน็ 2 ชิน้ เท่า ๆ กัน สื่อการเรยี นรู้ เคก้ แตล่ ะช้ินเป็น 1 ใน 2 ของเคก้ 1 ก้อน 1 − บัตรภาพเคก้ 2 − กระดาษแผน่ เล็ก เขยี นเศษสว่ นแสดงจาำ นวนของเคก้ แตล่ ะชน้ิ เป็น − บตั รเศษสว่ น − บตั รภาพที่ระบายสแี สดงเศษสว่ น 1 อา่ นว่า เศษหนงึ่ ส่วนสอง − บัตรคำ�อา่ นเศษส่วน 2 1 เปน็ ตัวเศษ 2 เปน็ ตวั ส่วน เศษสว่ นเป็นสญั ลักษณแ์ สดงจำานวน ซ่งึ ประกอบด้วยตวั เศษและตัวส่วน ตัวเศษแสดงจาำ นวนของสว่ นทกี่ ล่าวถงึ เขยี นไวด้ ้านบนของเสน้ ค่ัน ตวั สว่ นแสดงจำานวนของส่วนท่เี ทา่ ๆ กันท้ังหมด เขยี นไวด้ า้ นลา่ งของเส้นค่นั ขนมปงั 1 แผน่ แบ่งเป็น 2 ชิน้ เท่า ๆ กัน เขยี นเศษสว่ นแสดงจำานวนของขนมปงั แต่ละชิน้ 1 ได้อยา่ งไร อา่ นวา่ อย่างไร 2 อ่านวา่ เศษหนึง่ ส่วนสอง แนวการจดั การเรียนรู้ | 193สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การพัฒนาความรู้ 1. ครนู ำ�เขา้ สบู่ ทเรยี นโดยนำ�สอ่ื ของจรงิ มาแบ่งออกเป็น 2 สว่ น เท่า ๆ กัน เช่น ขนมช้นั ขนมปงั แผ่น โดยถามนักเรียนวา่ − ถ้าต้องการแบง่ ขนมช้นั ออกเป็น 2 สว่ น เทา่ ๆ กัน จะต้องแบ่งอย่างไร จากนั้นครตู ดิ บตั รภาพขนมเค้กที่แบ่งออกเปน็ 2 สว่ น เทา่ ๆ กัน และแจกบัตรภาพเคก้ ทแ่ี บง่ ออกเป็น 2 สว่ น เท่า ๆ กนั ให้นักเรยี นคนละ 1 บัตร แล้วตัดบตั รภาพเค้กตามเสน้ ทแ่ี บง่ ไว้ ครูถามนกั เรยี นดงั นี้ − เคก้ 1 ก้อน แบ่งออกเป็นกช่ี ้ิน ( 2 ช้ิน) − แตล่ ะชิน้ เทา่ กันหรอื ไม่ (เทา่ กัน) ครูอธบิ ายว่า เคก้ 1 กอ้ น แบง่ เป็น 2 ช้ิน เทา่ ๆ กัน เคก้ แต่ละชิ้นเป็น 1 ใน 2 ของเคก้ 1 กอ้ น จ�ำ นวนที่แสดงปรมิ าณของเคก้ แตล่ ะชน้ิ เรียกวา่ เศษส่วน เขียนเศษสว่ นแสดงจ�ำ นวนของเค้ก 1 แต่ละชิน้ เป็น 2 อ่านว่า เศษหน่ึงส่วนสอง โดย 1 คอื ตัวเศษแสดงจ�ำ นวนของส่วนท่ีกลา่ วถึง เขียนไวด้ า้ นบนของเสน้ คัน่ 2 คือ ตัวสว่ นแสดงจ�ำ นวนของส่วนทีเ่ ทา่ ๆ กนั ทง้ั หมด เขียนไวด้ ้านล่าง ของเสน้ ค่ัน ตามรูปในหนงั สือเรียนหนา้ 193 ทแ่ี บ่งเคก้ 1 ก้อน เป็น 2 สว่ นเทา่ ๆ กนั ดงั นี้ 206 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 574
Pages: