Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore (คู่มือ) หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานคณิตศาสตร์ ป.3 ล.1

(คู่มือ) หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานคณิตศาสตร์ ป.3 ล.1

Published by Www.Prapasara, 2021-01-23 12:24:00

Description: (คู่มือ) หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานคณิตศาสตร์ ป.3 ล.1


คู่มือครูรายวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร์

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
เล่ม 1

ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

Keywords: (คู่มือ) หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานคณิตศาสตร์ ป.3 ล.1,คู่มือครูรายวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร์,กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560),หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

Search

Read the Text Version

บทท่ี 6 | เศษส่วน ค่มู อื ครูรายวิชาพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 เลม่ 1 หนังสอื เรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 บทท่ี 6 | เศษสว่ น 11 111 22 333 รูปสี่เหล่ยี ม 1 รปู แบ่งรปู สเ่ี หลยี่ ม 1 รปู เป็น 3 สว่ น เท่า ๆ กนั แตล่ ะสว่ นเปน็ 1 ใน 3 ของรปู ส่ีเหลย่ี ม 1 รปู 1 3 จากน้ันครยู กตวั อย่างการแบ่งสิง่ ของออกเป็น เขยี นเศษสว่ นแสดงจำานวนของแตล่ ะส่วนเปน็ 2 สว่ น เทา่ ๆ กนั แบบอน่ื เชน่ การแบ่งขนมชน้ั 1 อ่านว่า เศษหนงึ่ สว่ นสาม 1 เปน็ ตัวเศษ 3 เปน็ ตวั สว่ น 3 ออกเป็น 2 ส่วนเทา่ ๆ กนั ในชว่ งต้นชวั่ โมง นำ�มาให้นักเรยี นบอกเศษสว่ น โดยแตล่ ะชน้ิ ของ รูปหา้ เหลยี่ ม 1 รปู แบง่ รปู หา้ เหลย่ี ม 1 รูป เปน็ 5 สว่ น เทา่ ๆ กัน แต่ละสว่ นเป็น 1 ใน 5 ของรปู หา้ เหลีย่ ม 1 รปู 1 5 ขนมชัน้ ที่แบ่งแสดงจ�ำ นวนดว้ ยเศษหนงึ่ สว่ นสอง เขยี นเศษส่วนแสดงจำานวนของแต่ละส่วนเป็น 1 1 อา่ นว่า เศษหนึง่ ส่วนหา้ 1 เปน็ ตัวเศษ 5 เปน็ ตัวสว่ น 2 5 ( ) หรอื ใช้การพับกระดาษทแ่ี บง่ กระดาษ สงั เกต รูป 1 รปู จะแบ่งเป็นกส่ี ว่ นกไ็ ด ้ แตต่ ้องแบ่งใหแ้ ต่ละสว่ นเทา่ กัน ออกเปน็ 2 สว่ น เทา่ ๆ กนั แตล่ ะสว่ นแสดงจ�ำ นวน รูปใดท่ีแบง่ เป็นส่วนเท่า ๆ กัน ใหเ้ ขียนเศษสว่ นแสดงจาำ นวนของแต่ละสว่ น 1 พรอ้ มทัง้ บอกตัวเศษและตวั ส่วน 2 จนนักเรยี นไดข้ ้อสรุปวา่ การแบง่ ส่งิ ใดกต็ าม ถา้ แบ่งออกเป็น 2 สว่ นเท่า ๆ กนั แต่ละสว่ น 1 คือ 2 ของส่ิงนัน้ เช่น แบง่ กระดาษ 1 แผน่ รปู 1 รปู 2 รปู 3 1รปู 4 รูป1 51 เป็นตัวเศษ 1 12 3 3 เปน็ ตัวสว่ น 1 เป็น6ตัวเศษ 1 เป็นตัวเศษ ออกเป็น 2 ส่วน เท่า ๆ กนั แตล่ ะส่วนทีแ่ บ่ง 12 เป็นตวั สว่ น แบบฝกึ หัด 6.1.1 6 เปน็ ตวั สว่ น 194 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คอื 1 ของกระดาษ 1 แผ่นน้ัน 2 จากนน้ั ครูให้นกั เรยี นช่วยกันเขียนและอา่ นเศษส่วนแสดงจ�ำ นวนขนมปังแต่ละชิ้นในกรอบทา้ ย หนงั สอื เรยี นหน้า 193 หรอื ครอู าจน�ำ ภาพการแบ่งขนมปงั ออกเปน็ 2 สว่ นเท่า ๆ กัน แบบอน่ื หรือครูอาจยกตวั อยา่ งเพม่ิ เติมเกย่ี วกับการแบ่งสิง่ ของออกเปน็ 2 ส่วนเทา่ ๆ กัน แลว้ ให้นักเรียน ชว่ ยกันเขยี นและอ่านเศษสว่ นทีไ่ ดจ้ ากการแบ่งส่ิงของเหล่านน้ั 1 2 2. เมื่อนกั เรียนเข้าใจความหมายของเศษส่วนและการเขยี นแสดงเศษสว่ นเป็น แลว้ ครตู ดิ บัตรภาพการแบง่ รปู สีเ่ หล่ยี มออกเปน็ 3 ส่วน เท่า ๆ กนั บนกระดาน แล้วถามนักเรียนว่า 1 รูปสเ่ี หลย่ี มรปู นแ้ี บ่งออกเปน็ กสี่ ว่ น เทา่ ๆ กนั (3 สว่ น) แต่ละสว่ นแสดงเศษสว่ นใด ( 3 ) ถ้านักเรียนตอบไมไ่ ด้ ครูอาจอธิบายเพม่ิ เติมวา่ รูปสี่เหล่ยี ม 1 รปู แบ่งเป็น 3 สว่ น เทา่ ๆ กนั 1 แต่ละสว่ นเป็น 1 ใน 3 ของรูปส่ีเหลยี่ ม 1 รปู เขยี นเศษสว่ นแสดงจ�ำ นวนแต่ละส่วนเปน็ 3 อา่ นวา่ เศษหนง่ึ สว่ นสาม ครถู ามนกั เรยี นวา่ ตวั เศษคือจ�ำ นวนใด (1) ตวั ส่วนคอื จำ�นวนใด (3) จากนัน้ ครูยกตวั อยา่ งการแบ่งสงิ่ ของออกเป็น 3 ส่วน เท่า ๆ กนั แบบอ่ืน เชน่ การแบง่ กระดาษ รูปต่าง ๆ ออกเป็น 3 สว่ นเท่า ๆ กัน แล้วนำ�มาใหน้ กั เรยี นบอกเศษสว่ น โดยแตล่ ะส่วนของส่วนท่ีแบง่ แ3แเทสตสา่ ดล่ ว่ ๆงะนจสกำ�่วเนันทนวา่ ทแนๆแี่ตดบ่ลก้ว่งะยนั สคเแศ่วือตนษ่ลแห31ะสนสดขง่ึว่ งอสนจงว่ ำ�กนคนรอืสวะานด13มาษ13(ข13อ1จ)งนสหแน่ิงผรนกัือน่ ั้นเในรชยีัน้เก้ ชนา่นไรดพแข้ บับอ้ กง่ สกรรระุปะดวดาา่ าษษกทาแี่ 1รบแแง่ บผกง่ ่นรสะ่ิงอดใอดากษกเอต็ ปอาน็ มกถเ3ปา้ สน็แว่บ3น่งอสเอท่วกน่าเๆปน็ กัน | 207สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

ค่มู ือครูรายวิชาพื้นฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 6 | เศษสว่ น ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3 เล่ม 1 จากนัน้ ครยู กตัวอยา่ งการแบ่งกระดาษหรอื การแบง่ รูปตา่ ง ๆ ออกเป็น 4 สว่ น เทา่ ๆ กนั 5 สว่ น เทา่ ๆ กนั 6 สว่ น เท่า ๆ กัน ... แลว้ ใหน้ กั เรยี นบอกเศษสว่ นที่แสดงจำ�นวนของแตล่ ะสว่ นท่ีแบ่งว่า เป็นเศษสว่ นใดของทงั้ หมด แล้วใหน้ กั เรยี นเขียนเศษส่วนแสดงจ�ำ นวนของแต่ละสว่ นพร้อมทัง้ บอก ตวั เศษและตวั สว่ นในกรอบทา้ ยหนงั สอื เรยี นหนา้ 194 โดยครใู หน้ กั เรยี นสงั เกตวา่ รปู 1 รปู จะแบง่ เปน็ กส่ี ว่ นกไ็ ดแ้ ตต่ อ้ งแบง่ ใหแ้ ตล่ ะสว่ นเทา่ กนั จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นท�ำ แบบฝกึ หดั 6.1.1 หนา้ 136 - 137 3. เมื่อนักเรียนเขา้ ใจเก่ยี วกบั หนังสอื เรยี นรายวชิ าพ้นื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 การแบง่ สง่ิ ของออกเปน็ สว่ น แตล่ ะสว่ นเทา่ ๆ กนั บทที่ 6 | เศษส่วน และเขียนเศษส่วนแสดงจำ�นวนของแตล่ ะส่วน รูปสี่เหลยี่ ม 1 รูป แบ่งเป็น 4 ส่วน เทา่ ๆ กนั ท่เี ทา่ กันแล้ว จากนั้นครูยกตวั อย่างเศษส่วน ที่แสดงสว่ นทร่ี ะบายสใี นรูปตา่ ง ๆ เพือ่ แสดง ระบายส ี 1 ส่วนใน 4 ส่วน 1 เตจศาอ้ ษกงสทเข่ว้ัง้านหใทมจกตี่ดอ่วั 4เนศวสษา่ว่ มน14ากถคกา้ เวือปา่สน็ ว่1น42เทชร่ี่นคะือบ24กาายซรสรึง่ ีนะ1บกั สาเรยว่ ยี นสนี 4 2 ส่วน จากท้ังหมด 4 ส่วน ครูถามนักเรียนวา่ เขียนเศษสว่ นแสดงจาำ นวนของส่วนทร่ี ะบายสเี ป็น 1 อา่ นว่า เศษหน่ึงสว่ นส่ ี 1 เป็น ตวั เศษ 4 เปน็ ตวั สว่ น 4 รูปสเ่ี หลย่ี ม 1 รปู แบง่ เปน็ 4 สว่ น เทา่ ๆ กนั ระบายส ี 2 สว่ นใน 4 ส่วน 2 4 เขยี นเศษส่วนแสดงจาำ นวนของสว่ นที่ระบายสเี ปน็ 2 อา่ นว่า เศษสองส่วนส่ ี 2 เป็น ตัวเศษ 4 เป็น ตวั ส่วน 4 ตัวเศษคอื อะไร (2) ตัวสว่ นคอื อะไร (4) โดยครู เขียนเศษสว่ นแสดงจำานวนของสว่ นทีร่ ะบายสีแต่ละรปู ได้อยา่ งไร เพราะอะไร อาจติดบตั รภาพการระบายสี 2 ของรูปสเี่ หลยี่ ม 2 เพราะแต่ละรปู ระบายส ี 2 ส่วนจาก 4 สว่ น เทา่ ๆ กนั 4 4 ท่แี บง่ เปน็ 4 สว่ น เทา่ ๆ กัน แล้วระบายสี บอกเศษสว่ นแสดงจาำ นวนของสว่ นท่รี ะบายสี 2 ส่วน ตามหนังสอื เรียนหนา้ 195 ครอู าจ ใชค้ �ำ ถามวา่ ระบายสีแสดงเศษสว่ นไดอ้ ย่างไร รูป 1 รูป 2 รูป 3 รปู 4 รูป 5 บา้ ง นกั เรียนอาจตอบไดด้ ังน้ี 3 4 6 3 4 4 8 8 6 5 | 195สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครใู หน้ กั เรียนเขยี นเศษส่วนแสดงจำ�นวนของสว่ นทร่ี ะบายสี พรอ้ มระบตุ วั เศษและตัวสว่ น 3 ครอู าจยกตวั อยา่ งเพมิ่ เติมโดยเขยี นเศษสว่ นแสดงจ�ำ นวนของส่วนที่ระบายสีเป็นจำ�นวนอื่น เชน่ 4 อาจใหน้ กั เรียนระบายสแี สดงเศษสว่ นและเขียนเศษส่วน พร้อมทง้ั ระบุตัวเศษและตัวสว่ น นักเรียน แต่ละคนอาจระบายสแี สดงเศษสว่ นไมเ่ หมือนกัน ครอู าจให้นักเรยี นที่ระบายสแี ตกต่างกันออกมา แสดงให้เพอื่ นดูหนา้ ชัน้ เรยี น จากน้ันครใู ห้นักเรยี นช่วยกนั บอกเศษสว่ นแสดงจ�ำ นวนสว่ นที่ระบายสี เขยี นเศษส่วน พร้อมทง้ั ระบุตวั เศษและตัวสว่ นในกรอบทา้ ยหนังสือเรียนหนา้ 195 ครูใหน้ ักเรียน สงั เกตว่า ตวั เศษคือส่วนทร่ี ะบายสี ตัวสว่ นคอื ส่วนท่แี บ่งเท่า ๆ กันท้ังหมด 208 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 6 | เศษสว่ น ค่มู ือครูรายวชิ าพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 เลม่ 1 4. เมือ่ นักเรยี นเขา้ ใจเศษสว่ นท่ีตัวเศษ หนงั สอื เรียนรายวชิ าพื้นฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 บทที่ 6 | เศษส่วน ไม่เท่ากบั 1 แล้ว ครคู วรฝกึ การเขียนเศษส่วน เขยี นเศษสว่ นแสดงจำานวนของส่วนท่รี ะบายสี แสดงจำ�นวนของส่วนท่รี ะบายสีทตี่ วั เศษ และอา่ นเศษส่วนทีเ่ ขียน ไมเ่ ท่ากับ 1 หลาย ๆ จ�ำ นวน หลาย ๆ แบบ รปู สเ่ี หลย่ี ม 1 รปู แบง่ เปน็ 4 สว่ น เทา่ ๆ กนั ระบายส ี 4 สว่ นใน 4 สว่ น เ44ขยี นอา่เศนษวสา่ ่วเนศแษสสดส่ี งว่ จนำาสน่ ีวน4ข อเปงส็น่ว ตนัวทเ่ีรศะษบ าย4ส ีเปเปน็ น็ 44ตวั ส่วน จากนัน้ ครูถามนกั เรียนวา่ ถ้าระบายสขี องสว่ น ทีเ่ ท่ากันทัง้ หมดจะเขยี นเศษสว่ นไดอ้ ยา่ งไร ตามหนงั สือเรยี นหน้า 196 ครอู าจติดบตั รภาพ ระบายสี 4 ส่วนใน 4 ส่วน หมายถึง ระบายสแี ต่ละส่วนของรปู จนเตม็ รูป 1 รปู 4 ดงั น้ัน 4 เทา่ กับ 1 ทแี่ สดงการระบายสี 4 ส่วนจากทัง้ หมด 4 ส่วน ระบายส ี 6 สว่ นใน 6 ส่วน หมายถึง ระบายสเี ต็มรปู 1 รูป แลว้ ถามนกั เรยี นว่า จากบัตรภาพเขียนแสดง ดงั นน้ั 6 เทา่ กับ 1 6 เศษสว่ นไดอ้ ย่างไร พร้อมระบุตวั เศษและตัวสว่ น สังเกต เศษส่วนที่ตวั เศษเทา่ กบั ตัวส่วนเป็นเศษส่วน 4 ( 4 ตวั เศษคอื 4 ตวั สว่ นคอื 4) ครอู ธบิ ายวา่ รปู ทีเ่ ทา่ กบั 1 เชน่ 4 6 4 6 ส่เี หลีย่ ม 1 รปู แบง่ เป็น 4 สว่ นเท่า ๆ กัน เขยี นเศษส่วนแสดงสว่ นท่รี ะบายสีของแตล่ ะรูป และบอกว่าเศษสว่ นใด เทา่ กับ 1 ระบายสี 4 ส่วนใน 4 ส่วน หมายถงึ ระบายสี แตล่ ะสว่ นของรูปจนเตม็ รปู 1 รูป ดังนัน้ รปู 1 รปู 7 2 รูป 3 รปู 4 รูป2 5 เท่ากับ 8 เท่ากับ 1 เทา่ กับ 1 6 เศษส่วนน้ีจึงเท่ากับ 1 ครถู ามนักเรียนว่า ถา้ แบง่ 3 1 8 2 3 8 2 รปู สเ่ี หลย่ี ม 1 รปู เปน็ 3 สว่ น เทา่ ๆ กนั ระบายสี 196 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทง้ั หมด 3 สว่ น เขยี นเศษสว่ นแสดงส่วนท่ี ระบายสีไดอ้ ยา่ งไร และเศษสว่ นนั้นมคี า่ เทา่ ไร หนงั สือเรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 3 บทที่ 6 | เศษส่วน (เขียนเศษสว่ นแสดงส่วนทรี่ ะบายสเี ปน็ 3 กิจกรรม เศษสว่ นแสนสนกุ มคี ่าเท่ากบั 1) ครูอาจยกตัวอยา่ งรูปอ่ืนที่ อปุ กรณ ์ 1 ชุด ประกอบดว้ ย บตั รเศษส่วน บตั รภาพท่รี ะบายสีแสดงเศษสว่ น 6 และบตั รคำาอา่ นเศษสว่ น อย่างละ 10 บัตร ระบายสเี ตม็ รปู เชน่ 6 ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 196 วิธจี ดั กิจกรรม 1. ครูแบง่ นกั เรียนเปน็ กลมุ่ และแจกอปุ กรณ์ใหก้ ล่มุ ละ 1 ชดุ ครเู นน้ ย้ำ�การอ่านและการเขียนเศษสว่ นโดย 2. ครูตดิ บตั รเศษสว่ นบนกระดาน แล้วให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มชูบัตรภาพทรี่ ะบายสี แสดงเศษส่วน และบัตรคำาอ่านเศษส่วนทีส่ อดคลอ้ งกบั บตั รเศษส่วนท่ีครูกาำ หนด ให้นักเรยี นชว่ ยกันดรู ปู ที่ระบายสีในกรอบ หรอื ครูอาจติดบัตรภาพท่รี ะบายสีแสดงเศษส่วน แล้วให้นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ ชบู ตั รเศษส่วนและบตั รคาำ อา่ นเศษสว่ น หรือครูอาจตดิ บัตรคำาอ่านเศษส่วน ท้ายหนงั สอื เรียนหนา้ 196 ท่ีเก่ียวกบั การเขยี น แล้วใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มชูบตั รเศษส่วน และบัตรภาพที่ระบายสีแสดงเศษสว่ น เศษสว่ นแสดงส่วนท่ีระบายสีของรูปตา่ ง ๆ ตัวอยา่ งบัตรเศษส่วน ทีแ่ บ่งออกเป็นส่วนที่เท่า ๆ กนั พร้อมท้ังระบุ 2153 6354 ตวั เศษและตัวสว่ น และบอกว่าเศษสว่ นใดมีค่า ตัวอย่างบัตรภาพทร่ี ะบายสีแสดงเศษสว่ น เท่ากับ 1 ครูใหน้ กั เรยี นสงั เกต และสรุปใหไ้ ดว้ ่า เศษสว่ นทต่ี วั เศษเทา่ กับตวั สว่ นเป็นเศษส่วน ตัวอย่างบัตรคาำ อ่านเศษสว่ น ทเ่ี ท่ากับ 1 เช่น 3 4 7 12 เศษสองสว่ นหก เศษหน่ึงส่วนสาม เศษหา้ สว่ นหา้ เศษสามสว่ นส่ี 3 4 7 12 5. ครแู บง่ นักเรยี นเป็นกลมุ่ ให้แต่ละกล่มุ ช่วยกันทำ�กจิ กรรม เศษสว่ นแสนสนุก ครแู จก | 197สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อุปกรณก์ ลุม่ ละ 1 ชดุ ประกอบด้วย | 209สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มือครูรายวิชาพน้ื ฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 6 | เศษสว่ น ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 3 เล่ม 1 หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 บตั รเศษส่วน บตั รภาพทีร่ ะบายสีแสดงเศษส่วน บทท่ี 6 | เศษสว่ น และบัตรค�ำ อ่านเศษสว่ น อย่างละ 10 บัตร โดยครสู ามารถดาวนโ์ หลดอปุ กรณจ์ ากสอ่ื เพม่ิ เตมิ ตรวจสอบความเข้าใจ ในหนงั สือเรยี นหนา้ เปดิ บท ครตู ิดบตั รเศษสว่ น บนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ชบู ตั รภาพ 1 เขยี นเศษส่วนแสดงจาำ นวนของสว่ นที่ระบายสี พร้อมทง้ั เขียนคำาอ่าน ทร่ี ะบายสแี สดงเศษสว่ น และบตั รค�ำ อา่ นเศษสว่ น ทส่ี อดคลอ้ งกบั บตั รเศษสว่ นที่ครูก�ำ หนด 1) 2) 4 อ่านวา่ เศษสส่ี ว่ นหก หรอื ครูอาจติดบตั รภาพท่ีระบายสแี สดงเศษส่วน 6 แลว้ ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มชบู ัตรเศษส่วนและ บัตรคำ�อา่ นเศษส่วน หรือครูอาจตดิ บตั รค�ำ อา่ น 3 อา่ นวา่ เศษสามส่วนแปด เศษสว่ น แลว้ ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ชบู ตั รเศษสว่ น 8 และบัตรภาพท่รี ะบายสีแสดงเศษสว่ น เปน็ ต้น กล่มุ ใดชูบตั รไดถ้ ูกต้องมากท่สี ุดเปน็ กลุม่ ชนะ 3) เ17ศษหอนา่ น่งึ สว่วา่ นเ4จ)็ด เ33ศษสเทาม่ากสับว่ น1สาอม่านหวร่าือ หน่งึ ครูใหน้ ักเรียนสงั เกตว่า เศษสว่ นทนี่ ำ�เสนอใน บตั รภาพเปน็ การเขยี นแสดงเศษส่วนของส่วนที่ 2 ระบายสหี รอื แรเงาแสดงเศษสว่ น ระบายสี อาจมีทั้งท่ตี ัวเศษเทา่ กับ 1 ตวั เศษ มากกว่า 1 และตัวเศษเท่ากบั ตวั ส่วนซงึ่ เป็น 1) 4 เศษสว่ นที่เท่ากบั 1 6 2) 3 10 สง่ิ ที่ได้เรยี นรู้ เศษสว่ นเป็นสัญลักษณ์แสดงจำานวน ซงึ่ ประกอบดว้ ย ตวั เศษและตัวส่วน ตัวเศษแสดงจำานวนของส่วนท่ีกล่าวถึง เขยี นไวด้ ้านบนของเส้นค่ัน ตวั ส่วนแสดงจำานวนของส่วนท่เี ทา่ ๆ กันท้ังหมด เขยี นไวด้ ้านลา่ ง 1 2 6 ของเสน้ คน่ั เชน่ 4 5 13 เศษส่วนท่ตี ัวเศษเท่ากบั ตวั สว่ นมีค่าเทา่ กับ 1 แบบฝกึ หัด 6.1.2 198 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การตรวจสอบความเขา้ ใจ 6. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเปน็ รายบุคคล โดยให้นักเรียนแตล่ ะคนเขียนเศษสว่ น แสดงจำ�นวนของสว่ นทรี่ ะบายสี พร้อมท้งั เขียนค�ำ อ่าน และระบายสหี รือแรเงารูปเพอื่ แสดงเศษส่วน ทีก่ ำ�หนด ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง และรว่ มกันสรุปสิ่งท่ไี ด้เรียนรู้ ส่ิงที่ได้เรียนรู้ • เศษสว่ นเปน็ สญั ลกั ษณ์แสดงจำ�นวน ซ่งึ ประกอบด้วยตัวเศษและตวั ส่วน ตัวเศษ แสดงจำ�นวนของสว่ นทีก่ ล่าวถึง เขียนไว้ด้านบนของเสน้ คั่น ตัวส่วนแสดงจ�ำ นวนของส่วนท่ีเท่า ๆ กัน 1 2 6 • ทง้ั หมดเขยี นไวด้ า้ นล่างของเสน้ ค่ัน เชน่ 4 5 13 เศษสว่ นที่ตวั เศษเท่ากับตวั ส่วนมคี ่าเทา่ กับ 1 จากนั้นให้นกั เรยี นทำ�แบบฝึกหดั 6.1.2 หนา้ 138 - 142 210 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 6 | เศษสว่ น คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เลม่ 1 6.2 การเปรยี บเทยี บและเรยี งลำ�ดบั เศษสว่ นที่ตัวส่วนเทา่ กัน (2 ชวั่ โมง) จุดประสงค์ − เปรยี บเทยี บเศษส่วนทต่ี วั ส่วนเทา่ กนั โดยที่ตัวเศษน้อยกวา่ หรือเทา่ กับตัวส่วน หนังสือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 − เรียงล�ำ ดบั เศษส่วนทต่ี วั สว่ นเท่ากนั บทที่ 6 | เศษสว่ น โดยทต่ี ัวเศษน้อยกวา่ หรือเท่ากบั ตัวสว่ น 6.2 การเปรยี บเทียบและเรียงลาำ ดับเศษสว่ น ท่ีตัวส่วนเทา่ กนั พฒั นาความรู้ สือ่ การเรยี นรู้ โหลแกว้ ความจุ 1 ลติ ร มนี ้ำาผลไม้บรรจุอยดู่ ังนี้ − บตั รภาพโหลแกว้ ความจุ 1 ลติ ร 1 ลิตร 1 ลติ ร 1 ลิตร ทแ่ี บง่ เปน็ 5 ส่วน เท่า ๆ กนั ท่ีระบายสี 2 ส่วน ระบายสี 3 สว่ น และระบายสี 4 ส่วน นา้ำ สม้ 2 ลติ ร นา้ำ ฝร่ัง 3 ลติ ร นาำ้ สับปะรด 4 ลติ ร จำ�นวน 3 บตั ร ตามหนงั สอื เรียนหน้า 199 5 5 5 − แถบกระดาษขนาดเท่ากนั 2 แถบ สงั เกต โหลแก้วทกุ ใบมีรปู ร่างและขนาดเดยี วกัน แต่ละใบมีความจุ แต่ละแถบแบง่ เป็น 4 ส่วน เท่า ๆ กัน 1 ลิตร และแบง่ เป็น 5 ส่วน เท่า ๆ กนั − แถบกระดาษขนาดเท่ากัน 6 แถบ พิจารณาระดับน้าำ ผลไมใ้ นโหลแก้ว นำา้ ส้ม 2 ลิตร มีปรมิ าตร นอ้ ยกวา่ นาำ้ ฝรั่ง 3 ลติ ร แต่ละแถบแบ่งเปน็ 6 สว่ น เทา่ ๆ กนั และ 5 5 ระบายสแี สดงเศษสว่ น 3 2 หรอื นำา้ ฝร่งั 5 ลิตร มปี ริมาตร มากกว่า นาำ้ สม้ 5 ลิตร − กระดาษ A4 กล่าวไดว้ ่า 2 นอ้ ยกวา่ 3 หรอื 3 มากกวา่ 2 5 5 5 5 ตอบคาำ ถาม 1 นาำ้ สบั ปะรด 4 ลติ ร มปี ริมาตรมากกว่าหรอื น้อยกวา่ นา้ำ ฝร่ัง 3 ลิตร มากกวา่ 5 5 2 4 มากกว่าหรอื นอ้ ยกว่า 3 มากกวา่ 5 5 | 199สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แนวการจดั การเรยี นรู้ การพฒั นาความรู้ 1. ครูตดิ บตั รภาพโหลแก้วความจุ 1 ลติ รทแ่ี บ่งเป็น 5 สว่ นเทา่ ๆ กัน แลว้ ระบายสี 2 สว่ น แทนนำ�้ ส้ม ครูชวนสนทนาว่า นำ้�สม้ 2 สว่ น ใน 5 สว่ น เขียนเศษส่วนแสดงปรมิ าณของน้ำ�สม้ 2 เปน็ 5 ลติ ร จากน้นั ครตู ิดภาพโหลแก้วความจุ 1 ลติ ร ทแ่ี บง่ เปน็ 5 ส่วน เทา่ ๆ กนั แลว้ ระบายสี 3 ส่วน แทนนำ�้ ฝร่งั แล้วถามนกั เรยี นว่า เขียนเศษส่วนแสดงปรมิ าณของนำ้�ฝร่ังเป็นเศษส่วนเท่าไร 3 ( 5 ลติ ร) ครตู ดิ ภาพ โหลแกว้ ความจุ 1 ลติ ร ทแ่ี บง่ เปน็ 5 สว่ น เทา่ ๆ กนั แลว้ ระบายสี 4 สว่ น แทนน�ำ้ สบั ปะรด แลว้ ถามนักเรยี นว่า เขยี นเศษส่วนแสดงปรมิ าณของน�ำ้ สบั ปะรดเปน็ เศษส่วนเทา่ ไร 4 ( 5 ลติ ร) ครใู ห้นักเรียนสังเกตโหลแกว้ ในบตั รภาพแต่ละบตั รวา่ มรี ปู รา่ งและมคี วามจุ 1 ลิตร เท่ากัน และแบ่งเป็น 5 ส่วน เท่า ๆ กัน แลว้ สงั เกตปริมาตรของน้ำ�แตล่ ะชนิดวา่ เป็นอยา่ งไร (น้�ำ สม้ นอ้ ยกวา่ น�ำ้ ฝรัง่ น้�ำ สม้ น้อยกว่านำ�้ สับปะรด นำ�้ ฝรง่ั น้อยกว่านำ�้ สับปะรด หรือ น�ำ้ ฝรงั่ มากกว่าน�้ำ ส้ม นำ�้ สบั ปะรดมากกวา่ น้�ำ ส้ม น้�ำ สับปะรดมากกว่าน�้ำ ฝรงั่ ) ครเู ขียนค�ำ ตอบของนักเรยี นบนกระดาน บเชน่นกนระำ�้ ดสา้มนน้อแยลก้ววถ่าานม้ำ�นฝกั รเงั่รียคนรวถู ่าามนนำ้�กัฝเรรงั่ ยี มนีปวร่าิมนาตำ้�รสเม้ ทมา่ ปีไรรมิ( 53าตลรเิตทรา่ )ไครร(เู 52ขียลนติ นร้ำ�)ฝครร่งั เู ข35ียนลนติ ้�ำ รสม้ 2 5 ลติ ร | 211สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

ค่มู ือครรู ายวชิ าพื้นฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 6 | เศษส่วน ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3 เล่ม 1 มบปีนรกิมราะตดรานนอ้ แยลกว้ วใ่าห้นนัก�ำ้ ฝเรรีย่งั น53เปรลียติ บรเทหยีรือบกนล้ำ�า่ สว้มได้ว52า่ ลติ ร กบั น�้ำ ฝรัง่ 3 ลติ ร จะไดว้ ่า น้�ำ ส้ม 2 ลิตร 2 3 5 5 5 น้อยกวา่ 5 ดงั นี้ นำ�้ ส้ม 2 ลิตร มปี ริมาตรนอ้ ยกว่า น�้ำ ฝร่ัง 3 ลิตร 5 5 น่ันคอื 2 นอ้ ยกวา่ 3 5 5 ครอู ธบิ ายว่า การน�ำ เศษส่วนมาเปรยี บเทียบกัน เศษส่วนนั้นตอ้ งมาจากสิง่ เดยี วกนั ในทน่ี ค้ี อื น�ำ้ สม้ กบั น�ำ้ ฝรง่ั ในโหลแกว้ ทม่ี รี ปู รา่ งและขนาด 1 ลติ รเทา่ กนั และแบง่ เปน็ 5 สว่ น เทา่ ๆ กนั 2 3 3 จึงสามารถน�ำ มาเปรียบเทยี บกันได้ ครูถามนักเรียนว่า 5 กบั 5 เศษส่วนใดมากกวา่ ( 5 ) จากนน้ั ครเู ขียนน�ำ้ สม้ น้อยกว่านำ�้ สบั ปะรดบนกระดาน แลว้ ถามนักเรียนวา่ น้�ำ สม้ มีปรมิ าตรเทา่ ไร กเค(หม35ท25บัรปีร่าใูือรกหไลนกิมรบัน้ติ�้ำ ลา(กัสรตา่ 5454)เับวรรคไปยีนลวดรนะ้อติา่เู้วรขเยเรา่ปศดยี)กรษนค52วยี 45สา่รนบ่วูเน้ำ�นขเลนทสอ้ ้ำ�ยีิตใยี้มยสนดรบกับมน52จปวปา�ำ้ ะ่ารกสะไลมิ กรบัด45ติาดว้วปตร่าา่ คะร45บข(รรนน54ดูใอ้�ำ ลหกงส)ติน้น54รม้ ร�ำ้ะักฝดลเห52รราติ รียง่ั นรือลกนกบติับแเปลรนลน่าร�ำ้้วมกวียสถรปีไบบัาดะรมเปดว้มิทนะา่าาียรนกั ตบด35เรรแนใีย52ลนน้อนว้ ้อทยใกวย�ำหก่าับนก้นวนวอา่ ัก45า่งำ�้นเเสรด�ำ้ 45วับยีสยี า่ นปบัวเคศกเะปปรษนัระใู รดสหรียจมว่ด้นะบนีปกัไเด45ใรทเดรวิม้ ยี ียมา่ลาบนาติตนนกเรร�ำ้ป�้ำกฝสรวรยี้มา่ง่ั บ(3552เ54ท)ียลลติบติ รร จากน้นั ครใู หน้ ักเรยี นช่วยกันตอบค�ำ ถามในกรอบท้าย หนังสอื เรยี นรายวิชาพื้นฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 บทท่ี 6 | เศษส่วน หนังสือเรยี นหนา้ 199 เปรยี บเทียบ 2 กบั 3 4 4 2. ครตู ดิ แถบกระดาษขนาดเทา่ กนั 2 แถบ บนและลา่ ง 2 แต่ละแถบแบง่ เปน็ 4 ส่วน เท่า ๆ กัน ระบายสีแตล่ ะสว่ น 4 ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 200 แลว้ ถามนกั เรยี นวา่ แถบกระดาษบน 3 แร34ะสบดโงาดเยยศสพษีแจิสสวา่ ดรนงณเเทศาา่ จษไราสก่ว(ก34นาเ)รทคร่าระไใู บรหาน(้ ย24กั สเ)รใี แนยี ถนแบเถปกบรรกยี ะรบดะเาทดษยีาลษบา่ ง24ระกบับายสี 4 จะเห็นวา่ การระบายสขี องแถบกระดาษบนน้อยกว่า เแ34ขถยี บ>นกแร42ทะนดคดารว้ษูยยลกา่ ต24งวั ดอ<ยังนา่ 43งนั้ เจหพงึ รมิ่ สอื เรตปุ 34ิมวเกา่มย่ี า42วกกกนบัวอ้า่กยา42กรเวปเ่าขรยี ยี43นบแเททยีนบดว้ ย 2 น้อยกวา่ 3 เขียนแทนด้วย 2 < 3 4 4 4 4 หรอื 3 มากกว่า 2 เขียนแทนดว้ ย 3 > 2 4 4 4 4 เตมิ เครอ่ื งหมาย > หรือ < 2 1 <1 2 >4 3 33 77 3 4 <6 7 >4 2 99 55 การเปรียบเทยี บเศษส่วนที่ตัวส่วนเทา่ กัน ให้ดทู ต่ี ัวเศษ ถ้าตัวเศษของเศษสว่ นใดมากกว่าเศษส่วนนน้ั จะมากกวา่ 200 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 212 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 6 | เศษส่วน คู่มอื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 เลม่ 1 เศษสว่ น โดยการระบายสใี นรูปภาพ โดยวาดภาพแลว้ ระบายสี ให้นกั เรียนเปรยี บเทยี บเศษสว่ น ทแ่ี สดงส่วนท่ีระบายสีน้ัน 2 - 3 ตัวอย่าง จากนนั้ ครใู หน้ กั เรียนชว่ ยกนั เปรียบเทียบเศษส่วน โดยเตมิ เคร่ืองหมาย > หรอื < ในกรอบทา้ ยหนังสอื เรียนหนา้ 200 โดยพจิ ารณาทีละขอ้ จากเศษสว่ น ทเี่ ปน็ สว่ นทร่ี ะบายสขี องรปู ตา่ ง ๆ แล้ว น�ำ มาเปรยี บเทยี บกัน ครอู าจใช้คำ�ถามว่า เศษส่วนของส่วน ท่ีระบายสนี ้นั เป็นเทา่ ไรกอ่ นแล้วจงึ น�ำ เศษสว่ นทั้งสองนั้นมาเปรยี บเทยี บกนั ครใู ห้นกั เรียนสังเกตว่า การน�ำ เศษส่วนมาเปรยี บเทยี บกนั ในแตล่ ะข้อน้ัน ตวั ส่วนต้องเท่ากัน และเม่ือนำ�เศษส่วนที่ตัวส่วน เทา่ กนั มาเปรยี บเทียบกนั ให้สงั เกตท่ีตวั เศษ ถ้าตวั เศษของเศษสว่ นใดมากกว่าเศษส่วนน้ันจะมากกว่า หรอื ถ้าตวั เศษของเศษส่วนใดน้อยกวา่ เศษส่วนน้ันจะนอ้ ยกวา่ 3. ครูยกตัวอยา่ งการเปรียบเทียบเศษส่วน โดยใช้ข้อสรุปวา่ การเปรียบเทยี บเศษส่วน ทีต่ ัวสว่ นเทา่ กนั ใหส้ ังเกตทต่ี วั เศษ ถา้ ตัวเศษของเศษสว่ นใดมากกวา่ เศษสว่ นนั้นจะมากกวา่ เช่น 8 ด14งั0นัน้ จะ1ส80งั เก>ตไ1ด40้ว่าหเศรอืษส1ว่40นท<ัง้ ส1อ80งจถำ�า้นมวนีนักมเตี รวัยี สน่วทน่ยี เงัทไา่ มก่สนั าคมือาร1ถ0เปพริจียาบรเณทยี าบ เปรยี บเทยี บ 10 กับ >4 ท่ีตวั เศษ จะได้ 8 เศษสว่ นได้ ครอู าจน�ำ แถบกระดาษท่ีระบายสีแสดงเศษสว่ น 8 4 10 กับ 10 แล้วให้นักเรยี นเปรยี บเทียบส่วนทรี่ ะบายสี หนังสือเรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 แล้วจงึ น�ำ เศษส่วนมาเปรยี บเทียบกัน จากน้ันครใู ห้นกั เรยี น บทท่ี 6 | เศษส่วน ช่วยกนั เปรยี บเทยี บเศษส่วนโดยเตมิ เครอ่ื งหมาย > หรือ < เปรยี บเทยี บ 180 กับ 140 เนื่องจากเศษสว่ นทั้งสองจาำ นวนมตี ัวสว่ นเทา่ กันคือ 10 พิจารณาตวั เศษ 8 > 4 การเปรียบเทยี บเศษสว่ นที่ตัวสว่ นเทา่ กัน 8 4 ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 201 แลว้ ให้พิจารณาเติมตวั เลข ดังนั้น 10 > 10 ใหด้ ูท่ตี วั เศษ ถ้าตวั เศษของเศษส่วนใดมากกวา่ เศษสว่ นนน้ั จะมากกว่า แสดงจ�ำ นวนในช่องว่างในกรอบทา้ ยหนงั สือเรียนหน้า 201 เตมิ เครื่องหมาย > หรือ < เพื่อใหก้ ารเปรียบเทยี บถกู ต้อง นักเรียนอาจเติมตวั เลข แสดงจ�ำ นวนไดห้ ลายจ�ำ นวน ครอู าจถามวา่ ไดจ้ �ำ นวนใดบา้ ง 1<1 2 >2 3 1 2 2 4 4 >36 5 <4 4 8 7 7 9 9 เตมิ ตัวเลขแสดงจำานวน เพราะเหตใุ ด เช่น ในขอ้ 1 นักเรียนอาจเติมตวั เศษเป็น 1 4 > 7 ในชอ่ งวา่ ง ไดจ้ ำ�นวนเดยี ว แตใ่ นขอ้ 2 นกั เรียนอาจเติม 7 4 เศษส่วนท่ตี ัวสว่ นเป็น 7 และนอ้ ยกวา่ 7 ตวั เศษตอ้ งนอ้ ยกวา่ 4 ซงึ่ ไดแ้ ก ่ 3 หรอื 2 หรือ 1 7 7 7 ดงั น้นั เตมิ 3 หรือ 2 หรอื 1 ใน ตวั เศษเปน็ 1 2 3 4 หรอื 5 ในชอ่ งวา่ งกไ็ ด้ เพราะตวั เศษ มหี ลายคาำ ตอบ ใหต้ อบเพยี งคาำ ตอบเดยี ว 1 2 3 4 หรือ 5 ทกุ จ�ำ นวนนอ้ ยกว่าตวั เศษ 6 จากนัน้ เตมิ ตวั เลขแสดงจำานวน ให้นกั เรียนท�ำ แบบฝึกหัด 6.2.1 หน้า 143 - 144 211> 6 12 9 < 6 4. ครแู บ่งนกั เรยี นเปน็ กลุม่ แล้วใหน้ ักเรียน 6 9 แบบฝกึ หัด 6.2.1 | 201สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่ละกลุ่มท�ำ กิจกรรม เรียงลำ�ดบั เศษสว่ นท่ตี วั ส่วนเทา่ กนั โดยแจกอุปกรณก์ ลุ่มละ 1 ชุด ซ่งึ ประกอบดว้ ย กระดาษ A4 จำ�นวน 2 แผ่น และแถบกระดาษขนาดเทา่ กัน 6 แถบ แต่ละแถบ แบ่งเป็น 6 ส่วน เทา่ ๆ กันพรอ้ มระบายสี ดงั รปู ตามหนงั สอื เรียนหน้า 202 แล้วใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั เรยี งล�ำ ดบั แถบกระดาษตามสว่ นทร่ี ะบายสจี ากนอ้ ยไปมากพรอ้ มทง้ั เขยี นเศษสว่ นแสดงสว่ นทร่ี ะบายสี จากนอ้ ยไปมาก ในกระดาษ A4 เมอ่ื ท�ำ กจิ กรรมเสรจ็ แลว้ ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และครใู ชค้ ำ�ถามเพอ่ื ร่วมกันสรุปเกี่ยวกบั เรยี งล�ำ ดบั เศษส่วนทตี่ วั ส่วนเท่ากันดงั น้ี | 213สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

ค่มู ือครูรายวิชาพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 6 | เศษสว่ น ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1 หนงั สอื เรียนรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 − นกั เรยี นมีวิธคี ิดในการเรียงล�ำ ดับ บทท่ี 6 | เศษสว่ น เศษสว่ นทตี่ ัวสว่ นเท่ากนั จากน้อยไปมากได้ กิจกรรม เรยี งลาำ ดบั เศษสว่ นท่ตี ัวส่วนเทา่ กนั อุปกรณ์ 1 ชดุ ประกอบด้วย กระดาษ A4 และแถบกระดาษขนาดเท่ากัน 6 แถบ อยา่ งไร (เรยี งจากแถบกระดาษตามสว่ นที่ แตล่ ะแถบแบ่งเปน็ 6 ส่วนเทา่ ๆ กัน และระบายสแี สดงเศษสว่ นตา่ ง ๆ ดงั รปู ระบายสีจากน้อยไปมากแล้วเขยี นเศษส่วน แสดงสว่ นทร่ี ะบายสนี ้นั กจ็ ะได้เศษสว่ นทเี่ รียง จากนอ้ ยไปมากด้วย) − นักเรยี นได้ขอ้ สังเกตจากการเรยี งล�ำ ดบั เศษส่วนจากแถบกระดาษอย่างไร นกั เรียน อาจตอบค�ำ ถามไมไ่ ด้ ครูอธบิ ายเพม่ิ เติมว่า วธิ ีจัดกิจกรรม 1. ครแู บ่งนกั เรียนเป็นกล่มุ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กัน แจกอปุ กรณก์ ลุ่มละ 1 ชุด เมอื่ เขียนเศษสว่ นท่เี รยี งลำ�ดับจากนอ้ ยไปมาก 2. ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มช่วยกนั เรยี งลาำ ดับแถบกระดาษตามสว่ นทรี่ ะบายสี ต66ามจสะว่ สนังเทก่ีรตะไบดาว้ ยา่ สเจีศะษไสดว่ ้ดนงั ทนุก้ี 16จำ�น26วนม36ีตวั ส64ว่ น56 ในแถบกระดาษจากนอ้ ยไปมาก พร้อมทัง้ เขยี นเศษสว่ นแสดงสว่ นที่ระบายสี เท่ากนั คอื 6 และมตี วั เศษเขยี นเรียงกัน 1 2 3 จากนอ้ ยไปมากในกระดาษ A4 และร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง 3. ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั เรยี งลำาดับแถบกระดาษสว่ นทีร่ ะบายสี 4 5 6 จากนอ้ ยไปมาก จากนน้ั ครใู ห้นกั เรยี น ในแถบกระดาษจากมากไปน้อย พร้อมท้ังเขยี นเศษส่วนแสดงสว่ นที่ระบายสี จากมากไปนอ้ ยในกระดาษ A4 และรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง แตล่ ะกล่มุ ช่วยกันเขียนเศษสว่ นโดยเรียงลำ�ดับ 4. ครแู ละนกั เรียนอภปิ รายผลการเรียงลำาดบั เศษส่วนรว่ มกัน เศษสว่ นจากมากไปน้อยในกระดาษ A4 ครูและ การเรยี งลำาดับเศษส่วนทีต่ ัวสว่ นเทา่ กันจากมากไปน้อย หรือจากน้อยไปมาก มีวิธคี ดิ อย่างไร 202 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง และ รว่ มกนั สรปุ วา่ การเรยี งล�ำ ดบั เศษสว่ นทต่ี วั สว่ น หนงั สือเรยี นรายวชิ าพื้นฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 บทท่ี 6 | เศษส่วน เทา่ กนั จากนอ้ ยไปมากใหเ้ ขยี นเศษสว่ นเรยี งล�ำ ดบั จากเศษส่วนทีต่ วั เศษน้อยไปมาก ถา้ เรยี งล�ำ ดบั เรยี งลาำ ดบั 3 6 1 5 จากน้อยไปมาก 7 7 7 7 เศษสว่ นจากมากไปน้อย ใหเ้ ขยี นเศษสว่ น เนื่องจากเศษสว่ นทกุ จำานวน ตัวส่วนเป็น 7 เท่ากนั เรียงล�ำ ดับจากเศษส่วนท่ตี วั เศษมากไปนอ้ ย จงึ เรยี งลำาดบั เศษส่วนจากเศษส่วนท่ีตัวเศษนอ้ ยไปมาก จะได ้ 1 3 5 6 7 7 7 7 5. ครูยกตวั อยา่ งเศษส่วนตาม 5 3 6 1 7 หนังสอื เรียนหนา้ 203 เช่น 7 7 7 และ แลว้ ใหน้ กั เรยี นเรยี งล�ำ ดบั เศษสว่ นจากมากไปนอ้ ย 1 เรยี งลำาดับเศษสว่ นจากมากไปนอ้ ย 1) 1 4 2 42 1 4 4 4 44 4 และจากนอ้ ยไปมาก จะไดด้ งั นเ้ี รยี งล�ำ ดบั เศษสว่ น 2) 152 24 542 6 5 3 1 12 12 12 12 12 7 7 7 7 จากมากไปน้อยได้ 3) 170 2 10 8 4 10 8 7 4 2 10 10 10 10 10 10 10 10 10 เรยี งล�ำ ดับเศษสว่ นจากนอ้ ยไปมากได้ 2 เรยี งลาำ ดบั เศษส่วนจากนอ้ ยไปมาก 1 3 5 6 1) 5 2 4 2 4 5 7 7 7 7 5 5 5 5 5 5 ครอู าจให้นกั เรียนชว่ ยกนั 2) 7 3 6 8 3 6 78 8 8 8 8 8 8 88 สรุปการเรียงล�ำ ดบั เศษส่วนท่ตี ัวส่วนเทา่ กัน 3) 2 8 4 7 1 1 2 4 7 8 9 9 9 9 9 9 9 9 9 9 ว่าทำ�อยา่ งไร นักเรยี นอาจตอบวา่ การเรยี งล�ำ ดับเศษส่วนทีต่ วั ส่วนเทา่ กนั | 203สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถ้าเรียงลำ�ดับเศษส่วนจากนอ้ ยไปมาก 214 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 6 | เศษสว่ น คูม่ ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เลม่ 1 ให้เขียนเศษส่วนเรียงล�ำ ดับจากเศษส่วน หนงั สอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 ทีต่ วั เศษนอ้ ยไปมาก ถา้ เรยี งลำ�ดบั เศษสว่ น บทท่ี 6 | เศษสว่ น จากมากไปน้อย ให้เขยี นเศษส่วนเรยี งลำ�ดับ จากเศษสว่ นที่ตัวเศษมากไปน้อย จากนนั้ ตรวจสอบความเข้าใจ ครูให้นักเรยี นชว่ ยกันเรยี งลำ�ดับเศษสว่ น ทต่ี ัวส่วนเท่ากัน จากมากไปนอ้ ยและ 1 เตมิ เครอ่ื งหมาย > < หรอื เติมตัวเลขแสดงจาำ นวน จากน้อยไปมาก ในกรอบทา้ ยหนังสือเรยี น หนา้ 203 ครูและนกั เรยี นร่วมกันตรวจสอบ 1) 2 < 5 2) 3 > 2 ความถูกต้อง 7 7 4 4 3) 2 > 1 21 8 8 4) 13 > 13 2 เรียงลำาดบั เศษสว่ นจากมากไปนอ้ ย 11 10 7 5 3 5 3 11 7 10 11 11 11 11 11 11 11 11 11 11 3 เรียงลำาดับเศษสว่ นจากนอ้ ยไปมาก 2 6 8 11 12 8 2 12 6 11 15 15 15 15 15 15 15 15 15 15 การตรวจสอบความเข้าใจ ส่งิ ท่ีได้เรยี นรู้ 6. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน การเปรยี บเทียบเศษสว่ นทต่ี วั สว่ นเทา่ กันให้ดูท่ีตวั เศษ เป็นรายบุคล โดยใหน้ กั เรียนแตล่ ะคน ถา้ ตัวเศษของเศษสว่ นใดมากกวา่ เศษส่วนน้ันจะมากกว่า เตมิ เครอ่ื งหมาย > หรือ < หรือตัวเลข แสดงจ�ำ นวนในขอ้ ที่ 1 ซ่งึ ในการเตมิ ตัวเลข การเรยี งลำาดบั เศษส่วนทตี่ วั ส่วนเทา่ กันให้พิจารณาตัวเศษ แสดงจำ�นวนในข้อ 3) และ 4) อาจเตมิ ได้ - ถ้าเรยี งลำาดบั เศษสว่ นจากมากไปน้อยให้เขยี นเศษส่วนเรียงลาำ ดับ จากเศษส่วนทตี่ ัวเศษมากไปน้อย - ถ้าเรยี งลำาดับเศษส่วนจากนอ้ ยไปมากใหเ้ ขียนเศษสว่ นเรียงลำาดบั จากเศษสว่ นที่ตัวเศษนอ้ ยไปมาก แบบฝกึ หัด 6.2.2 204 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หลายจ�ำ นวน ให้นกั เรียนเลอื กตอบเพียง จำ�นวนเดยี ว และใหน้ ักเรยี นเรยี งล�ำ ดบั เศษส่วนทก่ี �ำ หนดใหใ้ นข้อท่ี 2 และ 3 ตามหนงั สือเรียน หนา้ 204 ครแู ละนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง และร่วมกันสรปุ ส่งิ ท่ีไดเ้ รยี นรู้ สงิ่ ท่ีได้เรียนรู้ • การเปรียบเทียบเศษส่วนท่ีตวั สว่ นเทา่ กัน ใหด้ ทู ่ีตวั เศษ ถา้ ตวั เศษของเศษสว่ นใด มากกวา่ เศษส่วนนนั้ จะมากกว่า • การเรยี งลำ�ดบั เศษสว่ นทตี่ วั สว่ นเท่ากัน ใหพ้ จิ ารณาตัวเศษ ถา้ เรยี งล�ำ ดบั เศษส่วน จากมากไปนอ้ ยใหเ้ ขยี นเศษส่วนเรยี งล�ำ ดบั จากเศษส่วนทีต่ วั เศษมากไปนอ้ ย ถ้าเรียงลำ�ดับเศษสว่ น จากน้อยไปมากให้เขยี นเศษสว่ นเรียงลำ�ดบั จากเศษสว่ นทต่ี วั เศษนอ้ ยไปมาก จากน้ันใหน้ กั เรยี นทำ�แบบฝกึ หัด 6.2.2 หนา้ 145 - 147 | 215สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

ค่มู อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 6 | เศษส่วน ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 เล่ม 1 6.3 การเปรยี บเทยี บและเรียงลำ�ดับเศษสว่ นทต่ี วั เศษเทา่ กัน (2 ช่วั โมง) จดุ ประสงค์ − เปรียบเทยี บเศษส่วนที่ตวั เศษเทา่ กัน หนังสอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 โดยที่ตัวเศษนอ้ ยกวา่ หรือเท่ากับตวั ส่วน บทที่ 6 | เศษสว่ น − เรียงลำ�ดบั เศษส่วนท่ตี วั เศษเทา่ กนั 6.3 การเปรยี บเทยี บและเรียงลำาดบั เศษส่วน โดยทต่ี ัวเศษนอ้ ยกว่าหรอื เท่ากบั ตวั สว่ น ท่ตี วั เศษเทา่ กัน พัฒนาความรู้ ขวดโหล 3 ใบ แตล่ ะใบมีความจ ุ 1 ลติ ร ใบแรกแบง่ เปน็ 2 ส่วนเท่า ๆ กนั ใบท ่ี 2 แบง่ เปน็ 4 ส่วนเท่า ๆ กัน ใบที ่ 3 แบ่งเป็น 5 ส่วนเท่า ๆ กัน แลว้ ใสน่ ำ้าผลไม้ ดงั นี้ สือ่ การเรยี นรู้ 1 ลติ ร 1 ลิตร 1 ลติ ร − บัตรภาพขวดโหลความจุ 1 ลิตร น้าำ ส้ม 1 ลิตร นา้ำ ฝร่ัง 1 ลิตร นาำ้ สบั ปะรด 1 ลิตร ท่แี บ่งเป็น 2 ส่วน เท่า ๆ กัน 4 ส่วนเทา่ ๆ กัน 2 4 5 และ 5 สว่ น เทา่ ๆ กนั ท่ีระบายสี 1 สว่ น จำ�นวน 3 บตั ร ตามหนังสือเรียนหนา้ 205 พจิ ารณาระดับน้ำาผลไม้ในโหลแก้ว น้ำาสม้ 1 ลติ ร มีปรมิ าตร มากกว่า นาำ้ ฝร่ัง 1 ลติ ร 2 4 − แถบกระดาษขนาดเท่ากัน 2 แถบ 1 1 หรือ นำ้าฝรั่ง 4 ลิตร มีปรมิ าตร น้อยกว่า นา้ำ สม้ 2 ลิตร กลา่ วได้วา่ 1 มากกวา่ 1 หรือ 1 นอ้ ยกว่า 1 2 4 4 2 ทแ่ี บง่ เปน็ 3 สว่ น เทา่ ๆ กัน และท่ีแบ่งเป็น ตอบคำาถาม 5 สว่ น เทา่ ๆ กัน ทีร่ ะบายสี 2 สว่ น 1 นำ้าสับปะรด 1 ลติ ร มีปริมาตรมากกวา่ หรือนอ้ ยกว่าน้าำ สม้ 1 ลิตร นอ้ ยกวา่ − แถบกระดาษขนาดเท่ากนั 5 แถบ 5 2 2 1 มากกว่าหรือน้อยกวา่ 1 นอ้ ยกว่า 5 2 แตล่ ะแถบแบง่ เป็น 2 ส่วน เท่า ๆ กนั | 205สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3 สว่ น เท่า ๆ กัน 5 สว่ น เท่า ๆ กนั 9 ส่วน เท่า ๆ กนั และ 10 ส่วน เทา่ ๆ กนั ท่รี ะบายสี 2 สว่ น − กระดาษ A4 แนวการจดั การเรยี นรู้ การพฒั นาความรู้ 1. ครูติดบตั รภาพขวดโหลท่ีมีความจุ 1 ลิตร ใบที่ 1 ทีแ่ บง่ ออกเปน็ 2 สว่ น เทา่ ๆ กัน ระบายสี 1 1 สว่ น แทนน้�ำ ส้ม ครูถามนกั เรยี นวา่ นำ้�ส้มเป็นเศษส่วนเท่าไร ( 2 ลติ ร) ครตู ดิ บัตรภาพขวดโหล ทมี่ คี วามจุ 1 ลติ ร ใบท่ี 2 ทแ่ี บง่ ออกเป็น 4 ส่วน เทา่ ๆ กัน ระบายสี 1 สว่ น แทนนำ�้ ฝร่งั ครูถาม 1 นกั เรียนวา่ น้�ำ ฝรงั่ เป็นเศษส่วนเทา่ ไร ( 4 ลติ ร) ครตู ดิ บตั รภาพขวดโหล ท่มี ีความจุ 1 ลิตร ใบที่ 3 ที่แบง่ ออกเป็น 5 ส่วน เท่า ๆ กนั ระบายสี 1 สว่ น แทนน้�ำ สบั ปะรด ครูถามนกั เรียนวา่ น้�ำ สับปะรด 1 เปน็ เศษส่วนเท่าไร ( 5 ลติ ร) ครใู ห้นกั เรยี นสังเกตขวดโหลในบัตรภาพแตล่ ะบตั ร วา่ มรี ูปรา่ งและ มีความจุ 1 ลิตร เทา่ กนั และระบายสี 1 สว่ นเทา่ กัน แลว้ สังเกตปรมิ าตรของนำ�้ แตล่ ะชนดิ วา่ เปน็ อย่างไร (นำ้�ส้มมากกวา่ น้�ำ ฝรัง่ นำ�้ สม้ มากกว่านำ้�สับปะรด น�ำ้ ฝรั่งมากกวา่ นำ�้ สับปะรด หรอื น�ำ้ ฝร่งั นอ้ ยกว่าน�ำ้ สม้ น�้ำ สับปะรดน้อยกวา่ น�ำ้ ส้ม น้�ำ สับปะรดน้อยกว่าน้ำ�ฝรง่ั ) ครเู ขยี นค�ำ ตอบ ของนักเรียนบนกระดาน เชน่ น�้ำ ส้มมากกวา่ นำ้�ฝรงั่ ครูถามนกั เรียนว่า น�้ำ ส้มมีปรมิ าตรเทา่ ไร 216 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 6 | เศษสว่ น ค่มู อื ครูรายวชิ าพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 3 เลม่ 1 ((11142 ลลลิตตติิ รรร))จคคะรรไดูเูเขขว้ ยียี่านนนนนำ้��ำ�้ำ้ สฝสม้ ม้รั่ง212114ลลติ ลิตรติ รรมบปีบนรนกิมกราระตะดรดามานานกแกแลวล้ว่าว้ ถในาหม้�ำ น้ ฝนกั รกั เง่ั รเรยี 14ียนนเลปวิตา่ รรยี นบหำ�้ เฝรทอืรียก่งั บมลปี่านวรำ้�ไิมสดาม้ว้ ตา่ ร12เ21ทลา่ มิตไรารกกกบั วา่ น�้ำ14ฝรง่ั 4 ดังนี้ 1 ลติ ร 1 ลติ ร น�้ำ ส้ม 1 ลติ ร มากกวา่ น้�ำ ฝรั่ง 1 ลิตร 2 4 ครูอธิบายว่า การน�ำ เศษส่วนมาเปรยี บเทยี บกัน เศษส่วนน้ันตอ้ งมาจากสิง่ เดียวกนั ในท่นี ี้คือ น้ำ�สม้ กับน้�ำ ฝรง่ั ในขวดโหลที่มรี ปู ร่างและขนาด 1 ลิตรเทา่ กัน แตล่ ะใบแบง่ เปน็ สว่ นเท่า ๆ กนั และมีน้�ำ เ(อมมนนม15ป15ยาีปปี�ำ้�้ำ รกฝสู่)ลรร1ียกม้รมิมิคิตบง่ัวสาารรเา่12ตตใูว่ท41หหนรร(ยี ลร ้นเเ12เ บททือทิตลัก)า่่ากติร่าเจ14ไไรกลรรรกาีย่าัน กมบักน( ว (นปี21บั ไเ51จนดปั้นรึง�ำ้ว้ลมริ15คสลสา่ตียิ ารติาบั บรตวเูมร21ข)ปา่รเ)าทคยีมะรเคมยีนศรารถราูเกบดษนนูเขกขกปสำ้��ำยีก51ยีวส่วมรนวา่นนม้ิมา่านนลนเมาใป้�ำ�ำ้ติดต15ำ้�าสสรรนสรก้มบัยี ขคอ้ับกจปบอรยวะป21ะเูใงา่กไะทหนดรนวรลียด้นว้�้ำ้�ำ่าดิตบา่ฝกัส(ร15กรเับน5151รง่ัันบป�ำ้ียลก)ไนลสะนติบัจดิต้มกรเรา้นปดรครก�ำ้หะ21รรนบบสดรียถู ้นันบันอืลบาาคกปกนกมิตเทรรลระรนแใูะะาีย่รักหมลดวดดบเ้นปี้วไาราใดถนนกัยีนร12ว้ าิมเนทาร่แแมาวกำ�ยีลลนตา่นบั14น้ว้วรกั อใชถ21เมหง51มรว่าเาน้าียมยดกกวกนกักนยีับ่ากกเนัววักเรววศ่ากต41เยีา่ า่รษันอนน ียน ส51บำ้�เเนจปศ่ว้�ำสคะวสคนษรบัำ�ไ่าับรียใดถสปดใูนบปว้าว่หะนม�ำ้า่เนะรน้ท้อสรใดกัยีย้มดดเบกรวยี ่าน ในกรอบท้ายหนงั สอื เรียนหนา้ 205 ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ครูอาจถาม คำ�ถามเพมิ่ เตมิ เพื่อให้นักเรยี นเขา้ ใจมากขนึ้ ดังนี้ − นนนน�ำ้้�ำำ้�ำ้�สสสสม้ับม้ับปป2112ะะรรลลดดติติ รร1155มมลลปี ีปิตติ รรรมิรมิ ามมาตตีปปี รรรรมมิมิ มาาาากตตกกรรกวมมวา่ าา่าหกกหรกกรอื ววอื น่าา่ นอ้หหอ้ ยรรยกอือื กวนนวา่ อ้้อา่ นยยน�ำ้กกส้�ำ ววฝบั า่่ารปนนัง่ ะำ้�ำ�้ รฝ41ฝดรรล่งัั่ง15ติ 1441รลตินลลรกัติิตเรรนรกัียนนเนักักรยีรเเรร้ไูนยีียดรนน้อไู้ ดยรรไูู้ไ้อ้า่ ดดงยอ้อ้ไา่ รยยงไา่่ารงงไไรร − − − นักเรยี นควรจะตอบได้ว่าปรมิ าตรของสงิ่ ใดมากกว่าหรอื นอ้ ยกว่าโดยพจิ ารณาจากปรมิ าตรของ นเพำ�้ รในาะรอปู ะภไารพนักจเารกยี นนน้ัคควรรตูเชอื่อบมไโดย้วง่าไป51สู่เนศ้อษยสก่ววน่าโด14ยใเพช้คราำ�ะถใานมกเาชร่นแบ15ง่ สมง่ิ าขกอกงวต่า่าหงรๆือนทอ้ม่ี ยาจกาวกา่ 1 4 สงิ่ เดียวกนั เช่นในที่นี้ขวดโหลแตล่ ะใบมีความจุ 1 ลิตร เทา่ กนั การแบ่งเปน็ 1 ส่วน ใน 5 ส่วน | 217สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

ค่มู อื ครูรายวชิ าพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 6 | เศษสว่ น ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 3 เลม่ 1 จงึ นอ้ ยกวา่ การแบง่ เป็น 1 สว่ น ใน 4 ส่วน ซงึ่ นักเรียนอาจจะแสดงแนวคดิ ในการตอบค�ำ ถาม จากการแสดงปริมาตรของน้ำ�ผลไม้เพอื่ เปรียบเทียบเศษสว่ นทีแ่ บง่ เป็น 1 สว่ น ใน 2 สว่ น แบ่งเปน็ 1 ส่วน ใน 4 สว่ น และ แบ่งเปน็ 1 สว่ น ใน 5 ส่วน ตามลำ�ดับ ครูและนักเรยี นร่วมกนั อภปิ ราย จนไดข้ อ้ สรปุ ว่า ในการแบง่ สง่ิ ของต่าง ๆ ท่มี าจากสง่ิ เดียวกัน ถ้าแบง่ เปน็ สว่ นเทา่ ๆ กนั หลายสว่ น แต่ละส่วนจะมีค่าน้อยกว่าการแบ่งเป็นสว่ นเท่า ๆ กนั ทม่ี ีจำ�นวนส่วนนอ้ ยกว่า เช่น แบ่งขวดโหล ใบท่ี 1 เป็น 10 สว่ น เทา่ ๆ กัน ใบท่ี 2 แบง่ เปน็ 5 ส่วน เทา่ ๆ กนั จะได้วา่ แต่ละสว่ นของขวดโหล ใบที่ 1 จะนอ้ ยกวา่ แตล่ ะส่วนของขวดโหลใบที่ 2 2. ครตู ดิ แถบกระดาษขนาดเทา่ กนั 2 แถบ แถบบนและแถบลา่ ง แถบบนแบง่ กระดาษออกเปน็ 3 ส่วน เทา่ ๆ กัน และระบายสี 2 สว่ น ครถู ามนกั เรยี นว่า เศษสว่ นทแ่ี สดงส่วนทีร่ ะบายสีเปน็ เทา่ ไร ท(3232ี่แส)กดแับถงสบ52ว่ ลนโา่ ดทงยแีร่ พบะบง่จิ กาารรยะณสดี าเาปจษา็นอกเอทกกา่าเรไปรรน็ะ(บ525า)ยสตสว่ านี ใมนเหทแนา่ถงั บๆสกือกรเนัระยีดแนาลษหะจนระา้ะเบห2า็น0ย6วส่าีคก2ราใูสรหวร่ ้นะนบกั คเารรยียถู สนาขี มเอปนงรกั แียเถรบบยี เทนกรยีวะา่บเดศาษษสว่ น แถบบนมากกวา่ แถบลา่ ง ดังนน้ั จงึ สรปุ ว่า ห23รอื มา25กกนว้อา่ ยก52วา่ เข32ยี นเแขทียนนแดทว้ ยนด32ว้ ย> 2 25 < 2 หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพืน้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 5 3 บทท่ี 6 | เศษส่วน ครูยกตวั อย่างเพิม่ เตมิ เก่ียวกบั การเปรียบเทียบ เศษสว่ น โดยการระบายสใี นรปู ภาพ โดยวาดภาพ เปรยี บเทยี บ 2 กับ 2 3 5 แล้วระบายส ี ให้นกั เรียนเปรยี บเทยี บเศษสว่ น 2 ทแ่ี สดงสว่ นทีร่ ะบายสีอกี 2 - 3 ตวั อยา่ งจากน้นั 3 ครูใหน้ กั เรยี นช่วยกันเปรยี บเทียบเศษส่วน 2 โดยเติมเครอ่ื งหมาย > หรอื < ในกรอบท้าย 5 หนังสือเรยี นหนา้ 206 โดยพิจารณาทีละขอ้ จากเศษสว่ นท่ีเป็นสว่ นท่รี ะบายสีของรูปต่าง ๆ 2 มากกว่า 2 เขยี นแทนดว้ ย 2 > 2 3 5 3 5 หรือ 2 น้อยกว่า 2 เขียนแทนดว้ ย 2 < 2 5 3 5 3 เติมเครื่องหมาย > หรือ < 2 1 แลว้ น�ำ มาเปรยี บเทยี บกัน ครอู าจใชค้ ำ�ถามว่า 4 > 4 5 > 5 5 7 6 7 เศษส่วนของส่วนที่ระบายสนี ้ันเป็นเท่าไรก่อน 3 4 แล้วจึงนำ�เศษสว่ นท้งั สองนนั้ มาเปรยี บเทยี บกนั 2 < 2 3 < 3 ครูให้นกั เรยี นสังเกตวา่ การนำ�เศษสว่ นมา 8 4 6 5 เปรียบเทยี บกนั ในแต่ละขอ้ นั้น ตวั เศษเท่ากัน การเปรียบเทียบเศษสว่ นท่ีตัวเศษเท่ากัน ให้ดูทตี่ วั สว่ น และเมือ่ นำ�เศษสว่ นที่ตัวเศษเท่ากนั มา ถ้าตวั ส่วนของเศษส่วนใดมากกวา่ เศษสว่ นน้นั จะน้อยกวา่ เปรียบเทียบกนั ใหส้ ังเกตท่ตี วั สว่ น 206 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถา้ ตวั สว่ นของเศษสว่ นใดมากกว่า เศษส่วนน้นั จะนอ้ ยกว่า หรอื ถา้ ตวั ส่วนของเศษส่วนใดน้อยกว่า เศษสว่ นนั้นจะมากกว่า 218 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 6 | เศษส่วน คู่มือครูรายวชิ าพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 3 เล่ม 1 3. ครยู กตวั อยา่ งการเปรยี บเทยี บเศษสว่ น หนังสอื เรียนรายวิชาพืน้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 บทที่ 6 | เศษสว่ น ทตี่ วั เศษเท่ากนั โดยใชข้ อ้ สรุปว่าการเปรยี บเทียบ 4 4 เศษสว่ นทต่ี วั เศษเท่ากันใหส้ ังเกตท่ีตวั สว่ น เปรียบเทยี บ 8 กบั 5 เน่ืองจากเศษสว่ นทงั้ สองจาำ นวนมตี วั เศษเท่ากนั คอื 4 ถ้าตวั ส่วนของเศษส่วนใดมากกว่าเศษสว่ นนั้น พิจารณาตัวสว่ น 8 > 5 การเปรียบเทยี บเศษส่วนทต่ี ัวเศษเทา่ กัน ใหด้ ทู ีต่ วั ส่วน ถ้าตวั สว่ นของเศษสว่ นใด 4 4 ดังนนั้ 4 < 4 8 5 8 5 มากกว่าเศษสว่ นนนั้ จะน้อยกว่า จะน้อยกว่า เชน่ เปรียบเทยี บ กับ เติมเครอ่ื งหมาย > หรือ < จะสงั เกตไดว้ า่ เศษสว่ นท้ังสองจำ�นวนมีตัวเศษ 1 5 < 5 2 1 > 1 8 < 5 6 < 7 > 3 > 9 เทา่ กนั คือ 4 พิจารณาทต่ี ัวส่วน จะได้ 8 > 5 3 3 4 4 9 9 7 7 12 4 4 4 4 4 15 11 ดังนนั้ 8 < 5 หรือ 5 > 8 ถา้ มนี ักเรยี น 5 7 6 4 12 10 ทีย่ ังไมส่ ามารถเปรียบเทียบเศษสว่ นได้ เตมิ ตัวเลขแสดงจำานวน 7 7 9 > ครอู าจน�ำ แถบกระดาษทีร่ ะบายสแี สดงเศษสว่ น เศษส่วนท่ตี ัวเศษเป็น 7 และน้อยกว่า 7 ตวั ส่วนต้องมากกว่า 9 4 4 9 8 5 7 7 7 กบั ให้นกั เรียนเปรียบเทียบสว่ นท่รี ะบายสี เช่น 10 11 12 ดังน้นั ตัวเลขท่เี ติมใน เชน่ 10 11 12 แลว้ จงึ นำ�เศษสว่ นมาเปรยี บเทยี บกัน มหี ลายคาำ ตอบ ใหต้ อบเพยี งคาำ ตอบเดยี ว จากนัน้ ครใู ห้นกั เรียนช่วยกันเปรียบเทยี บ เตมิ ตัวเลขแสดงจำานวน เศษส่วนโดยเติมเครือ่ งหมาย > หรอื < 1 5 > 5 2 4 < 4 9 8 8 12 ตามหนังสอื เรยี นหนา้ 207 แลว้ ใหพ้ ิจารณา แบบฝึกหัด 6.3.1 เติมตวั เลขแสดงจำ�นวนในช่องว่างในกรอบทา้ ย | 207สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนงั สือเรยี นหน้า 207 เพ่ือให้การเปรียบเทียบ ถกู ต้อง นกั เรียนอาจเติมตวั เลขแสดงจำ�นวนได้หลายจำ�นวน ครูอาจถามว่าไดจ้ �ำ นวนใดบ้าง เพราะเหตใุ ด เช่น ในขอ้ 1 นกั เรียนอาจเตมิ ตัวสว่ นเป็น 5 6 7 หรือ 8 จำ�นวนใดกไ็ ด้ในชอ่ งว่าง 5 5 5 5 5 เพราะตัวสว่ นทกุ จำ�นวนน้อยกวา่ ตัวสว่ น 9 จะได้เศษส่วนทม่ี ากกว่า 9 เช่น 5 6 7 8 และในขอ้ 2 นกั เรียนอาจเตมิ ตัวส่วนเป็น 9 10 11 … จ�ำ นวนใดกไ็ ด้ในช่องวา่ ง เพราะตวั สว่ น 4 4 4 4 ทุกจ�ำ นวนมากกว่าตวั ส่วน 8 จะได้ เศษส่วนทนี่ อ้ ยกวา่ 8 เชน่ 9 10 11 ... จากนัน้ ให้นักเรียน ท�ำ แบบฝกึ หัด 6.3.1 หนา้ 148 - 149 4. ครแู บ่งนกั เรียนเป็นกลมุ่ แล้วใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุม่ ทำ�กจิ กรรม เรยี งล�ำ ดบั เศษสว่ น ทต่ี วั เศษเท่ากัน โดยแจกอุปกรณ์กลมุ่ ละ 1 ชดุ ซึง่ ประกอบดว้ ย กระดาษ A4 จำ�นวน 2 แผ่น และแถบกระดาษขนาดเท่ากัน 5 แถบ แถบที่ 1 แบง่ เปน็ 2 สว่ นเท่า ๆ กนั ระบายสที ้งั 2 ส่วน แถบท่ี 2 แบง่ เปน็ 3 สว่ น เท่า ๆ กัน ระบายสี 2 ส่วน แถบท่ี 3 แบ่งเปน็ 5 ส่วนเทา่ ๆ กัน ระบายสี 2 ส่วน แถบที่ 4 แบ่งเป็น 9 ส่วนเท่า ๆ กัน ระบายสี 2 ส่วน แถบท่ี 5 แบ่งเป็น 10 สว่ น เทา่ ๆ กนั ระบายสี 2 ส่วน ดังรูปตามหนงั สือเรียนหน้า 208 แลว้ ให้นักเรียนชว่ ยกนั เรียงล�ำ ดบั แถบกระดาษตามส่วนที่ระบายสีจากนอ้ ยไปมากพรอ้ มทัง้ เขยี นเศษสว่ นแสดงส่วนท่ีระบายสี จากน้อยไปมากในกระดาษ A4 เมอ่ื ท�ำ กจิ กรรมเสรจ็ แลว้ ครูและนกั เรยี นช่วยกนั ตรวจสอบ ความถกู ตอ้ ง และครใู ช้คำ�ถามเพ่ือรว่ มกนั สรุปเกี่ยวกับการเรยี งล�ำ ดบั เศษส่วนที่ตวั เศษเทา่ กนั ดงั น้ี | 219สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มือครูรายวิชาพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 6 | เศษสว่ น ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เลม่ 1 หนงั สอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 − นกั เรยี นมวี ธิ คี ดิ ในการเรยี งล�ำ ดบั เศษสว่ น บทท่ี 6 | เศษส่วน ท่ตี วั เศษเท่ากนั จากน้อยไปมากได้อย่างไร กจิ กรรม เรียงลาำ ดับเศษส่วนท่ตี ัวเศษเท่ากัน อุปกรณ์ 1 ชดุ ประกอบดว้ ย กระดาษ A4 และแถบกระดาษที่มขี นาดเท่ากนั 5 แถบ (เรยี งจากแถบกระดาษตามส่วนที่ระบายสี แต่ละแถบระบายส ี ดังรปู จากนอ้ ยไปมากแล้วเขียนเศษสว่ นแสดงสว่ น ทร่ี ะบายสนี ัน้ ก็จะไดเ้ ศษสว่ นท่ีเรียงจาก น้อยไปมากด้วย) − นกั เรียนไดข้ อ้ สังเกตจากการ เรยี งลำ�ดบั เศษส่วนจากแถบกระดาษอย่างไร วธิ ีจดั กิจกรรม 1. ครูแบ่งนักเรียนเปน็ กลุ่ม กล่มุ ละเท่า ๆ กนั และแจกอุปกรณก์ ลมุ่ ละ 1 ชดุ นกั เรยี นอาจตอบค�ำ ถามไมไ่ ด้ ครูอธบิ าย 2. ครูใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มช่วยกันเรียงลำาดบั แถบกระดาษตามสว่ นทีร่ ะบายสี ในแถบกระดาษจากน้อยไปมาก พร้อมทง้ั เขียนเศษส่วนแสดงสว่ นทรี่ ะบายสี เพมิ่ เตมิ วา่ เมอื่ เขียนเศษสว่ นท่เี รยี งล�ำ ดับจาก จากนอ้ ยไปมากในกระดาษ A4 และรว่ มกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 3. ครูใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุม่ ช่วยกันเรยี งลาำ ดับแถบกระดาษตามสว่ นท่ีระบายสี นอ้ ยไปมากตามสว่ นท่รี ะบายสจี ะได้ดังนี้ ในแถบกระดาษจากมากไปนอ้ ย พร้อมทัง้ เขียนเศษส่วนแสดงส่วนทร่ี ะบายสี 22 2 2 2 จากมากไปนอ้ ยในกระดาษ A4 และรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง 10 9 5 3 2 จะสงั เกตไดว้ ่า 4. ครแู ละนักเรียนอภปิ รายผลการเรียงลำาดบั เศษส่วนรว่ มกนั เศษส่วนทกุ จำ�นวนมตี วั เศษเท่ากัน คอื 2 การเรยี งลำาดับเศษสว่ นทต่ี วั เศษเท่ากันจากมากไปน้อย หรือจากนอ้ ยไปมาก มีวธิ ีคดิ อย่างไร และมตี ัวสว่ นเขยี นเรียงกนั 10 9 5 3 2 208 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จากมากไปนอ้ ย จากนั้นครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่ม ชว่ ยกันเขยี นเศษสว่ นโดยเรียงลำ�ดับเศษสว่ น จากมากไปนอ้ ยในกระดาษ A4 ครูและนกั เรยี น รว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง และร่วมกนั หนงั สือเรยี นรายวิชาพ้ืนฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 บทที่ 6 | เศษสว่ น สรปุ ว่าการเรียงลำ�ดับเศษสว่ นทีต่ ัวเศษเท่ากันให้ พิจารณาตวั สว่ น ถา้ เรยี งลำ�ดับเศษส่วนจากมาก เรียงลาำ ดับ 3 3 3 3 จากมากไปน้อย 7 5 4 8 ไปนอ้ ยใหเ้ ขียนเศษสว่ นเรียงลำ�ดบั จากเศษส่วน เน่อื งจากเศษสว่ นทุกจำานวน ตวั เศษเปน็ 3 เท่ากัน ท่ตี วั สว่ นนอ้ ยไปมาก ถ้าเรยี งลำ�ดบั เศษสว่ น จงึ เรียงลาำ ดบั เศษสว่ นจากเศษส่วนที่ตัวสว่ นน้อยไปมาก จะได ้ 3 3 3 3 4 5 7 8 จากนอ้ ยไปมาก ใหเ้ ขียนเศษสว่ นเรยี งลำ�ดับ จากเศษสว่ นทต่ี ัวสว่ นมากไปนอ้ ย 5. ครูยกตัวอยา่ งเศษสว่ นตาม 1 เรยี งลาำ ดบั เศษสว่ นจากมากไปน้อย 3 3 3 3 1) 4 4 44 4 4 7 5 4 8 5 9 75 7 9 หนงั สอื เรียนหน้า 209 เชน่ และ 2) 1125 12 12 12 12 12 20 12 12 15 20 แลว้ ใหน้ กั เรยี นเรยี งล�ำ ดบั เศษสว่ นจากมากไปนอ้ ย 3) 1140 10 10 10 10 10 10 10 10 10 12 10 20 13 10 12 13 14 20 และจากนอ้ ยไปมาก จะไดด้ งั นี้ 2 เรียงลำาดับเศษสว่ นจากน้อยไปมาก 1) 5 5 5 55 5 8 10 5 10 8 5 เรียงล�ำ ดบั เศษส่วนจากมากไปน้อยได้ 2) 8 8 8 8 8888 9 20 15 30 30 20 15 9 3333 4578 3) 9 9 999 9999 9 9 12 18 14 17 18 17 14 12 9 เรียงล�ำ ดบั เศษสว่ นจากนอ้ ยไปมากได้ 3 73 3 3 8 5 4 | 209สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 220 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 6 | เศษส่วน คมู่ ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 เลม่ 1 ครอู าจให้นักเรยี นชว่ ยกันสรุปการเรียงล�ำ ดบั หนงั สอื เรียนรายวิชาพนื้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 เศษส่วนที่ตวั เศษเทา่ กันว่าท�ำ อยา่ งไร นักเรยี น บทท่ี 6 | เศษสว่ น อาจตอบว่า การเรยี งลำ�ดับเศษส่วนที่ตัวเศษ เทา่ กัน ถ้าเรียงลำ�ดบั เศษส่วนจากน้อยไปมาก ตรวจสอบความเขา้ ใจ ให้เขยี นเศษส่วนเรยี งลำ�ดับจากเศษส่วนทต่ี ัวส่วน มากไปนอ้ ย ถา้ เรยี งล�ำ ดบั เศษสว่ นจากมากไปนอ้ ย บางขอ้ มหี ลายคาำ ตอบ เลอื กตอบเพยี งคาำ ตอบเดยี ว ใหเ้ ขยี นเศษสว่ นเรียงลำ�ดับจากเศษสว่ น ท่ตี ัวส่วนน้อยไปมาก จากนนั้ ครใู ห้นกั เรยี น 1 เตมิ เครื่องหมาย > < หรือ เติมตวั เลขแสดงจำานวน 1) 6 < 6 2) 5 > 5 9 7 6 10 3) 4 > 4 4) 2 < 7 12 2 6 8 2 เรยี งลาำ ดบั เศษสว่ นจากมากไปนอ้ ย 444 7 10 12 44 4 4 4 12 7 5 10 5 ชว่ ยกนั เรียงลำ�ดบั เศษสว่ นท่ีตวั เศษเท่ากัน 3 เรียงลำาดับเศษสว่ นจากนอ้ ยไปมาก จากมากไปน้อยและจากนอ้ ยไปมาก ในกรอบท้ายหนงั สือเรียน หน้า 209 3 3 3 3 3333 ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง 5 10 8 3 10 8 5 3 การตรวจสอบความเข้าใจ สงิ่ ทไี่ ดเ้ รยี นรู้ การเปรียบเทียบเศษส่วนท่ตี วั เศษเท่ากัน ใหด้ ูทีต่ วั ส่วน ถา้ ตัวส่วนของเศษส่วนใดมากกวา่ เศษสว่ นนัน้ จะนอ้ ยกวา่ การเรยี งลาำ ดบั เศษส่วนที่ตวั เศษเท่ากนั ใหพ้ จิ ารณาตวั สว่ น - ถา้ เรยี งลาำ ดบั เศษสว่ นจากมากไปนอ้ ยใหเ้ ขยี นเศษสว่ นเรยี งลาำ ดบั จากเศษสว่ นทต่ี วั สว่ นนอ้ ยไปมาก - ถา้ เรยี งลาำ ดบั เศษสว่ นจากนอ้ ยไปมากใหเ้ ขยี นเศษสว่ นเรยี งลาำ ดบั จากเศษสว่ นทต่ี วั สว่ นมากไปนอ้ ย 6. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี น แบบฝกึ หดั 6.3.2 เปน็ รายบุคคล โดยใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคน 210 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เตมิ เครื่องหมาย > หรอื < หรือ ตัวเลข แสดงจ�ำ นวนในขอ้ ท่ี 1 ซง่ึ ในการเตมิ ตวั เลขแสดงจ�ำ นวนในขอ้ 2) 3) และ 4) อาจเตมิ ไดห้ ลายจ�ำ นวน ให้นักเรยี นเลอื กตอบเพียงจำ�นวนเดยี ว และให้นกั เรียนเรียงล�ำ ดบั เศษสว่ นที่ก�ำ หนดใหใ้ นขอ้ ที่ 2 และ 3 ตามหนงั สอื เรียนหนา้ 210 ครูและนกั เรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง และรว่ มกัน สรปุ สง่ิ ทีไ่ ด้เรยี นรู้ สง่ิ ทไ่ี ด้เรียนรู้ • การเปรียบเทยี บเศษส่วนทต่ี ัวเศษเทา่ กนั ใหด้ ทู ่ีตัวสว่ น ถ้าตวั สว่ นของเศษส่วนใด มากกวา่ เศษสว่ นนน้ั จะน้อยกวา่ • การเรียงลำ�ดบั เศษส่วนทีต่ วั เศษเทา่ กันให้พิจารณาตวั ส่วน ถา้ เรียงล�ำ ดบั เศษส่วน จากมากไปน้อยใหเ้ ขยี นเศษสว่ นเรยี งลำ�ดบั จากเศษส่วนทต่ี วั ส่วนนอ้ ยไปมาก ถ้าเรยี งล�ำ ดบั เศษส่วน จากน้อยไปมากใหเ้ ขียนเศษส่วนเรียงล�ำ ดบั จากเศษสว่ นที่ตัวส่วนมากไปนอ้ ย จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นทำ�แบบฝึกหดั 6.3.2 หนา้ 150 - 151 | 221สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

ค่มู ือครูรายวชิ าพืน้ ฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 6 | เศษส่วน ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3 เลม่ 1 6.4 การบวกเศษส่วนที่มีตัวสว่ นเท่ากัน (1 ชว่ั โมง) หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน | คณติ ศาสตร ์ ป.3 จุดประสงค์ บทที่ 6 | เศษส่วน หาผลบวกของเศษสว่ นทต่ี ัวสว่ นเทา่ กัน โดยท่ผี ลบวกไม่เกนิ 1 สือ่ การเรียนรู้ 6.4 การบวกเศษสว่ นท่มี ีตัวส่วนเทา่ กนั − บตั รภาพเหยือกน้ำ� 3 ใบ ท่ีมคี วามจุ พัฒนาความรู้ 1 ลิตร เท่ากัน และแบ่งเปน็ 8 ส่วน เทา่ ๆ กัน ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 211 เหยอื กใบหนงึ่ มนี มเย็น 5 ลติ ร เหยือกอกี ใบหนง่ึ มนี มเยน็ 1 ลติ ร 8 8 − แถบกระดาษท่ีแบง่ เปน็ 5 ส่วน นำามาเทรวมกันได้นมเยน็ ท้ังหมดกีล่ ิตร เท่า ๆ กัน ท่รี ะบายสี 2 สี ตามหนงั สอื เรียน หน้า 212 1 ลติ ร 1 ลติ ร 1 ลติ ร นมเยน็ 5 ลติ ร นมเยน็ 1 ลิตร นมเยน็ 6 ลิตร 8 8 8 ไดน้ มเยน็ 6 ลติ ร 8 5 1 6 สังเกต 8 + 8 = 8 แนวทางการจดั การเรียนรู้ การพัฒนาความรู้ 1. ครนู �ำ เขา้ สบู่ ทเรยี นโดยใชส้ ถานการณ์ ทเทมี่ นีขาำ้ นทางั้ ดหเมทด่ากจับากขขววดดโหโหลลส อ2ง ใใบบนแร ้ี ลกงนในำ้าจขะวลดน้ โหขลวดใบโหใหลมห่รนอื ำ้�ไมไม ่ เล่ พน้ รขาวะดเหโหตลุใ ด นเำ�้ พจระาเะตม็ ข52วด+โหล53พอด=ี 5 หรอื 1 หวา่ นเง่ึ หมยีนอื มกเยใบ็นหน18ง่ึ มลนี ิตมรเยนน็ำ�ม58าเทลรติ วรมเกหนั ยไอื ดก้นอมกี เใยบน็ 5 ทัง้ หมดกล่ี ิตร ครตู ิดบัตรภาพเหยอื กใบแรกที่มี | 211สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความจุ 1 ลิตร แบง่ เป็น 8 สว่ น เทา่ ๆ กนั ระบายสี 5 สว่ น แทนปรมิ าตรนมเยน็ ครถู ามนักเรียนว่า เหยือกใบแรกมนี มเยน็ เปน็ เศษสว่ นเท่าไร 1( 85สว่ลนติ ร )แคทรนตู ปดิ รบมิ ตั ารตภรานพมเเหยย็นือคกรใูถบาทมีส่ นอักงเทรม่ี ยี คีนววา่ามเจหุ ย1อื ลกติ ใบร ทแ่ีสบอง่ งเปมน็ีนม8เยส็น่วเนปน็เทเศ่าษๆสกว่ ันนเรทะ่าบไราย( ส18ี ลติ ร) ครูถามนักเรยี นว่า ถ้าเทนมเย็นมารวมกันในเหยอื กใบท่สี ามทม่ี คี วามจุ 1 ลติ ร และแบ่งเป็น 8 ส่วน เทา่ ๆ กัน จะไดน้ มเย็นในเหยอื กใบทีส่ ามเปน็ เศษส่วนเท่าไร นักเรยี นอาจยงั ตอบไมไ่ ด้ ครูใชก้ ารระบายสี ช่วยในการอธบิ ายดงั นี้ 1 ลิตร ครอู ธิบายว่า เหยือกใบแรกมีนมเยน็ อยู่ 5 ลิตร ระบายสีแสดงปริมาตรนมเยน็ ดังรปู 8 1 ลิตร ระบายสแี สดงปริมาตรนมเยน็ ดังรปู 1 ลิตร นมเย็น 5 ลติ ร 8 8 เหยือกใบทสี่ องมีนมเย็นอยู่ 222 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นมเยน็ 1 ลติ ร 8

บทท่ี 6 | เศษสว่ น คูม่ ือครูรายวิชาพื้นฐานคณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เล่ม 1 1 ลติ ร เมื่อน�ำ มาเทรวมกันในเหยอื กใบทสี่ ามครรู ะบายสี 5 ส่วน และเพม่ิ อีก 1 สว่ น ดงั รปู ปคในรรรูถะปู าโยมสคุดนสทกั ัญา้เรยลยี เักพนษวอ่ื ณา่ใหแ์ใ้นนสักเดหเงรยกยี ือานกรสบใบรวปุทกวส่ีเศ่าาษมเมสมอื่ว่ีนนนมไำ�เดยนด้็นมงั เเนปยน็้ีน็ 58มเศาษ+เทสร81ว่ วนม=เทกันา่68ไไรดค้น(ร68มอู เธยลิบน็ติ ารทย)้ังเคหพรมมิ่ ูเดขเตียมิ 68นว่าล68ติในรลตติ ควั รรอูเยขา่ยี งนน้ี เหยือกท่มี ีนมเย็นอยู่เปน็ เหยือกทมี่ รี ูปร่างและขนาด 1 ลิตรเทา่ กนั และแต่ละใบแบ่งเปน็ 8 สว่ น 5 1 6 เท่า ๆ กัน จงึ สามารถนำ�เศษส่วนมาบวกกันได้ เช่น 8 + 8 = 8 จากนั้นครใู หน้ ักเรยี น ชว่ ยกนั อภปิ รายเกย่ี วกับสถานการณใ์ นกรอบทา้ ยหนังสอื เรียนหน้า 211 วา่ เมื่อขุนและตน้ กลา้ เทน้�ำ ลงในขวดโหลใบใหม่ทมี่ รี ูปรา่ งและขนาดความจเุ ทา่ กนั นำ้�จะล้นขวดโหลหรือไม่ เพราะเหตใุ ด 2 นักเรียนควรตอบไดว้ า่ น้�ำ ไม่ลน้ ขวดโหล น้ำ�จะเต็มขวดโหลพอดี เพราะตน้ กล้ามีนำ้�อยู่ 5 3 2 3 5 ขุนมนี ำ้�อยู่ 5 เม่ือน�ำ มาเทรวมกนั จะได้ 5 + 5 = 5 น้ำ�จะเตม็ ขวดโหลพอด ี โดยใช้ 2 1 2. ครตู ิดแถบกระดาษท่ีแบ่งเปน็ 5 สว่ น เทา่ ๆ กนั ใหห้ าผลบวกของ 5 กับ 5 การถามตอบดงั น้ี 2 5 − ระบายสีแสดง ได้อย่างไร นักเรยี นอาจตอบว่าระบายสี 2 สว่ นจาก 5 สว่ น ดังน้ี − ระบายสแี สดง 1 ไดอ้ ยา่ งไร ถา้ เปน็ การบวกจะตอ้ งระบายเพม่ิ จากทม่ี อี ยู่ นกั เรยี นอาจระบายสี 5 ดงั น้ี หรือ นกั เรียนอาจจะระบายสีเพม่ิ จากทมี่ ีอยู่แบบใดก็ได้ 3 5 − รูปที่ได้จากการระบายสที ั้งหมดเป็นเศษส่วนเทา่ ไร ( ) คิดได้อยา่ งไร (นบั ส่วนที่ระบายสีได้ 3 ส่วนจาก 5 ส่วน) ครเู ขียนประโยคสญั ลกั ษณ์การบวกเศษส่วน 2 1 3 − จะได้ 5 + 5 = 5 ครอู ธบิ ายเพิ่มเตมิ ว่า ในตัวอยา่ งน้ี แถบกระดาษแบง่ ออกเป็น 5 ส่วน เท่า ๆ กัน คร้ังแรกระบายสี 2 สว่ น ครง้ั ทส่ี องระบายสีเพม่ิ อีก 1 ส่วน รวมเป็นระบายสี 3 สว่ น รจะาบกา5ยสสแีว่ ดนงจึง25สาแมลาะรสถ่วนน�ำ ทเศี่รษะบสา่วยนสมีเาขบยี ววกก15ันรไดวมด้ สงั น่วน้ี 25ทรี่ +ะบ51าย=สที 53้ังหคมรดใู ห53น้ กั ดเรงั นยี นน้ั ส25ังเก+ตส51ว่ น=ท่ี 3 5 เนอื่ งจากใชก้ ระดาษแผ่นเดิมท่ีแบ่งเปน็ 5 สว่ น เทา่ ๆ กัน ดังนนั้ ผลบวกของเศษส่วนจึงมีตวั สว่ น คงเดมิ เป็น 5 และระบายสีแสดงการนำ�ตัวเศษของเศษส่วนสองจ�ำ นวนมารวมกัน คอื ตัวเศษ 2 บวกกบั ตวั เศษ 1 เป็น 3 ดังน้นั ผลบวกของเศษสว่ นจงึ เป็นการน�ำ ตัวเศษ | 223สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มอื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 6 | เศษส่วน ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3 เลม่ 1 มารวมกนั ครูยกตวั อยา่ งการบวกเศษสว่ น หนังสอื เรียนรายวิชาพื้นฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 3 2 5 บทที่ 6 | เศษสว่ น ท่ตี วั ส่วนเท่ากนั เช่น 7 + 7 = 7 ครูและ 2 1 นกั เรียนร่วมกันอภปิ รายว่า แถบกระดาษ หาผลบวกของ 5 กับ 5 แบ่งเปน็ 7 สว่ นเทา่ ๆ กัน ระบายสี 3 ส่วน รสวว่ มนสท่วี่รนะทบร่ีาะยบสาแี ยดสงีท 25งั้ ห แมลดะ ส53ว่ นทร่ี ะบายสีเขียว 415 และ 2 สว่ น รวมเป็นระบายสี 5 สว่ นใน 7 ส่วน ดงั นั้น 2 + 1 = 3 5 5 5 5 ดงั น้ันจึงได้ผลบวกเปน็ 7 ครแู ละนักเรียน 1 ร่วมกันสรุปวา่ การบวกเศษสว่ นที่ตวั ส่วนเท่ากนั หาผลบวก หาผลบวกโดยนำ�ตัวเศษบวกกบั ตวั เศษ 1 2 + 2 = 4 2 3 + 2 = 5 5 5 5 6 6 6 ตัวสว่ นคงเดมิ ครูให้นักเรยี นชว่ ยกนั หาผลบวก 3 2 + 4 = 6 4 5 + 4 = 9 หรอื 1 7 7 7 9 9 9 ของเศษสว่ นในกรอบทา้ ยหนังสอื เรียนหนา้ 212 และร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง 5 7 + 1 = 8 หรือ 1 6 3 + 5 = 8 8 8 8 12 12 12 3. เม่ือนักเรยี นเขา้ ใจการบวกเศษส่วน ทม่ี ีตวั สว่ นเทา่ กนั โดยใชแ้ ถบกระดาษและ สงั เกต เศษส่วนทีต่ ัวส่วนเท่ากนั บวกกัน หาผลบวก โดยนาำ ตวั เศษบวกกบั ตัวเศษ ตวั ส่วนคงเดิม ได้ข้อสรปุ ร่วมกนั แล้ววา่ การบวกเศษสว่ นท่ีมี 212 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตวั สว่ นเทา่ กนั หาผลบวกได้โดยนำ�ตวั เศษ บวกกบั ตวั เศษ ตัวสว่ นคงเดิม จากน้นั ครู ยกตัวอย่างการหาผลบวกของเศษสว่ นท่ีมี ตัวส่วนเทา่ กัน ตามหนังสอื เรียนหน้า 213 3 4 หนงั สอื เรียนรายวิชาพ้นื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 เช่น 8 + 8 = ครูให้นักเรียนหาผลบวก บทท่ี 6 | เศษส่วน โดยใช้ขอ้ สรปุ ทไี่ ด้กล่าวมาแลว้ ขา้ งต้น 3 + 4 = ตวั เศษบวกกบั ตวั เศษ 8 8 ตัวสว่ นคงเดิม จะได้ 3 + 4 = 3+ 4 = 7 3 + 4 = 3+4 ดังน้ัน 83 + 84 = 78 8 8 8 8 8 8 8 = 7 8 ดังนนั้ 3 + 4 = 7 8 8 8 ครูยกตัวอยา่ งเพ่ิมเตมิ อีก 2-3 ตัวอย่าง หาผลบวก แลว้ ให้นักเรยี นชว่ ยกันหาผลบวกของเศษสว่ น 1 1 + 3 = 4 2 2 + 1 = 3 5 5 5 6 6 6 ท่ตี วั ส่วนเทา่ กันในกรอบตามหนังสือเรยี น 3 1 1 2 3 2 5 3 3 3 7 7 7 หน้า 213 ครูให้นักเรียนสงั เกตผลบวกของ + = 4 + = เศษสว่ นบางข้อที่ได้ผลบวกเป็นตัวเศษเทา่ กบั 5 4 + 2 = 6 6 3 + 5 = 8 9 9 9 10 10 10 ตัวส่วน นกั เรยี นอาจตอบได้ 2 ค�ำ ตอบ เชน่ 7 2 + 1 = 3 8 7 + 6 = 13 5 6 11 4 4 4 15 15 15 11 11 11 ข้อ 9 จะได้ + = หรืออาจตอบ 5 6 11 5 7 12 11 11 11 12 12 12 เปน็ 1 ก็ได้ จากนน้ั ครูและนกั เรียนรว่ มกัน 9 + = หรือ 1 10 + = หรอื 1 ตรวจสอบความถูกต้อง การตรวจสอบความเขา้ ใจ | 213สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 224 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 6 | เศษสว่ น คูม่ ือครูรายวชิ าพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1 4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน เป็นรายบคุ คล โดยให้นกั เรยี นแต่ละคนหา หนงั สือเรียนรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 ผลบวกของเศษสว่ น ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 214 บทที่ 6 | เศษส่วน ก่อนทีจ่ ะตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี น ครอู าจใหน้ ักเรียนทบทวนขอ้ สรุปเก่ียวกับ ตรวจสอบความเขา้ ใจ การหาผลบวกของเศษส่วนท่ตี วั สว่ นเท่ากนั ดังนี้ การบวกเศษสว่ นที่มตี วั ส่วนเทา่ กัน หาผลบวกได้ หาผลบวก โดยน�ำ ตวั เศษบวกกบั ตวั เศษ ตัวส่วนคงเดิม จากน้ันครูและนักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบ 1 1 + 1 = 2 2 2 + 2 = 4 ความถกู ตอ้ ง และสรปุ สิง่ ท่ีได้เรียนรู้ หากพบว่า 4 4 4 5 5 5 มนี ักเรยี นบางคนหาผลบวกไม่ถกู ตอ้ ง ครคู วรสอนเพมิ่ เตมิ เป็นรายบุคคล 3 1 + 3 = 4 4 4 + 2 = 6 6 6 6 8 8 8 สง่ิ ทไี่ ดเ้ รยี นรู้ 5 3 + 4 = 7 หรอื 1 6 5 + 2 = 7 การหาผลบวกของเศษสว่ นทต่ี วั สว่ นเทา่ กนั 7 7 7 9 9 9 ใหน้ ำ�ตัวเศษบวกกันโดยตวั ส่วนคงเดิม 7 6 + 2 = 8 8 7 + 4 = 11 จากน้ันครใู หน้ ักเรยี นทำ�แบบฝกึ หัด 6.4 10 10 10 12 12 12 หน้า 152 - 154 ส่งิ ทีไ่ ด้เรียนรู้ 6.5 การลบเศษส่วนที่มตี วั สว่ นเทา่ กนั (1 ช่ัวโมง) การหาผลบวกของเศษส่วนที่ตัวส่วนเทา่ กนั ใหน้ ำาตวั เศษบวกกัน จดุ ประสงค์ โดยตัวส่วนคงเดมิ หาผลลบของเศษสว่ นที่ตัวสว่ นเท่ากัน แบบฝึกหัด 6.4 สอ่ื การเรยี นรู้ 214 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี − บตั รภาพโถ 3 ใบ ท่ีมคี วามจุ 1 ลติ ร หนังสือเรยี นรายวชิ าพ้นื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 เทา่ กัน และแบง่ เปน็ 5 สว่ น เทา่ ๆ กัน บทท่ี 6 | เศษสว่ น ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 215 6.5 การลบเศษส่วนทีม่ ตี ัวสว่ นเท่ากัน − แถบกระดาษท่ีแบง่ เปน็ 7 สว่ น เทา่ ๆ กัน ที่ระบายสตี ามหนังสือเรียนหน้า 216 พฒั นาความรู้ โถใบท่ี 1 มีน้าำ สม้ 4 ลติ ร เทนาำ้ ส้ม 1 ลติ ร จากโถใบท่ ี 1 5 5 ลงในโถใบท ี่ 2 เหลือนำ้าส้มในโถใบที ่ 1 กลี่ ิตร 1 ลติ ร 1 ลิตร 1 ลติ ร ใบท่ี 1 ใบท่ี 2 ใบท่ี 1 นาำ้ ส้ม 4 ลติ ร นำา้ ส้ม 1 ลิตร นาำ้ ส้ม 3 ลิตร 5 5 5 เหลือนำา้ สม้ ในโถใบที่ 1 3 ลติ ร 5 สังเกต 4 − 1 = 3 5 5 5 ตอบคำาถาม โเหถใลบอื ทน ่ี ำ้า1ส มม้ ีนในาำ้ โสถม้ ใ บ54ท ี่ ล1ิต กร่ีล ติเทรน15ำ้าสม้ ล 53ติ รลิตร จากโถใบท ี่ 1 ลงในโถใบท ่ี 2 | 215สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 225สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

ค่มู ือครรู ายวชิ าพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 6 | เศษส่วน ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 เลม่ 1 แนวทางการจดั การเรียนรู้ การพฒั นาความรู้ 4 1 5 5 1. ครูนำ�เขา้ สูบ่ ทเรยี นโดยใชส้ ถานการณว์ า่ โถใบท่ี 1 มีน้�ำ สม้ ลติ ร เทน้ำ�สม้ ลิตร จากโถใบท่ี 1 ลงในโถใบท่ี 2 เหลอื น�ำ้ สม้ ในโถใบท่ี 1 กล่ี ติ ร ครตู ดิ บตั รภาพโถใบท่ี 1 ทม่ี คี วามจุ 1 ลติ ร แบ่งเปน็ 5 ส่วน เท่า ๆ กัน ระบายสี 4 ส่วน แทนปรมิ าตรนำ้�สม้ ครถู ามนกั เรียนว่า โถใบท่ี 1 มีน�ำ้ ส้ม เใปน็นโถเศใบษทสี่ ่ว2นจเทะ่ามไนี รำ้�(ส45้มเลปติ น็ รเ)ศคษรสถู ว่ านมเนทักา่ เไรรยี (น15ถา้ ลเติทรน)�้ำ คสร้มูตจิดาบกัตโถรใภบาทพ่ี โ1ถใลบงทในี่ 2โถทใบี่มทีค่ีว2า ม จ15ุ ลิตร 1 ลิตร แบง่ เปน็ 5 ส่วนเท่า ๆ กนั ระบายสี 1 ส่วน แทนปริมาตรน้�ำ สม้ ครถู ามนักเรียนว่า โถใบท่ี 2 มีน้�ำ สม้ 1 เปน็ เศษส่วนเท่าไร ( 5 ลติ ร) ครถู ามนกั เรยี นวา่ หลงั จากทเ่ี ทน้�ำ ส้มจากโถใบท่ี 1 ลงในโถใบท่ี 2 แล้ว น�้ำ สม้ ในโถใบท่ี 1 จะมากขนึ้ หรอื น้อยลง (นอ้ ยลง) ครอู ธิบายเพ่ิมเตมิ วา่ น�้ำ สม้ ในโถใบท่ี 1 จากเดมิ มอี ยู่ 4 ส่วน ใน 5 ส่วน เทออกไป 1 สว่ น ใน 5 สว่ น จะเหลอื นำ�้ ส้ม 3 สว่ น ใน 5 ส่วน 3 ดงั นั้น นำ�้ สม้ ในโถใบท่ี 1 เป็นเศษส่วนเท่าไร ( 5 ลติ ร) ครูติดบตั รภาพใบท่ี 3 แทน โถใบที่ 1 ระบายสี 3 3 ส่วน ใน 5 ส่วน ครูถามนกั เรยี นวา่ น�้ำ สม้ ในโถใบท่ี 1 เป็นเศษสว่ นเทา่ ไร ( 5 ลติ ร) ครอู ธบิ ายเพม่ิ เติมโดยใช้การระบายสีชว่ ยในการอธิบายดงั น้ี 1 ลิตร โถใบที่ 1 มีน�ำ้ สม้ อยู่ 4 ลติ ร ระบายสแี สดงปรมิ าตรน�ำ้ ส้มดังรปู ใบท่ี 1 5 น�้ำ สม้ 4 ลิตร 5 1 ลิตร เทน้ำ�ส้ม 1 ลติ ร จากโถใบที่ 1 ลงในโถใบที่ 2 มนี ้ำ�ส้มในโถ ใบท่ี 2 ใบที่ 2 15 ลติ ร ระบายสแี สดงปริมาตรนำ�้ ส้ม ดังรูป 5 1 1 ลติ ร น�้ำ สม้ 5 ลติ ร เหลือนำ�้ ส้มในโถใบท่ี 1 ดังรปู ใบที่ 1 คใคนรรรเูถู ขปู าียมสนุดนปทกั ร้าเระยียโเยพนควื่อส่าใหญั เห้นลลักกั ือเษรนณยี �ำ้ น์แสสส้มรดใุปนงวกโถ่าาใรเบลมทบื่อ่ีเเ1ทศษนเปส�ำ้ สน็ว่ ้มนเศอไษดอด้สกงั่วไนปนี้แเท54ล่าว้ ไ−เรห(ล5153อื =นลำ�้ ติ 35สร้ม)คใคนรรูอโูเถธขใบิ ยี บานทย่ีเ351พ ิ่ม ล53เิตตรมิ ลวิตา่ ร ในตวั อยา่ งนี้ โถท่มี ีน�ำ้ ส้มอยู่เปน็ โถที่มรี ปู ร่างและขนาด 1 ลิตรเทา่ กนั และแต่ละใบแบง่ เป็น 5 ส่วน เเ35ทกี่ยา่ ลวๆติ กรกบั นัสจถาจกางึ นโสถกาใมาบราทณร่ีถ1ใ์ นนล�ำ กเงรศใอนษบโสถทว่ ใน้าบยมทหา่ี ลน2บงั เสกหอืนั ลเไือรดยีน้ เน�้ำ ชสหน่ ้มนใา้54น2โ−ถ1ใ5บ51ทว=า่ี่ 1โ53ถกใ่ลี จบติาทกรี่ น1คน้ั รมคอู ีนรธำ้�ใูบิ หสาน้้มยกั ว45เา่ รยี มลนีนิตช�ำ้รว่ สเย้มทกนน4ั ำ�้ อสสภ่วม้ ปิ นราย 226 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 6 | เศษส่วน คมู่ ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เล่ม 1 ใน 5 สว่ น เทออกไป 3 สว่ น ใน 5 สว่ น เหลือ หนังสอื เรยี นรายวิชาพ้นื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 4 3 1 บทที่ 6 | เศษส่วน น้ำ�ส้ม 1 สว่ น ใน 5 สว่ น จะได้ 5 − 5 = 5 ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ ค�ำ ตอบ เหลอื น�้ำ สม้ 5 − 2 = 7 7 ในโถใบท่ี 1 1 ลติ ร 5 2. ครูยกตวั อย่างการหาผลลบของ ส่วนท่ีระบายสีชมพ ู 5 และกากบาทแสดงการเอาออก 2 7 7 3 เศษสว่ นทมี่ ีตวั สว่ นเท่ากนั โดยใชแ้ ถบกระดาษ เหลือสว่ นท่ีระบายสีชมพู 7 5 2 ดังน้ัน 5 − 2 = 3 7 7 7 7 7 ตามหนังสอื เรยี นหนา้ 216 เชน่ − = จากโจทยค์ รูใหห้ าผลลบของเศษสว่ นที่ตวั ส่วน หาผลลบ เท่ากนั โดยใช้แถบกระดาษ และถามนักเรยี นดงั น้ี 1 3 − 1 = 2 2 4 − 2 = 2 5 5 5 6 6 6 − ต้องใช้แถบกระดาษท่แี บง่ เปน็ ก่ีส่วน 3 7 − 6 = 1 4 7 − 4 = 3 เทา่ ๆ กัน (7 ส่วน เทา่ ๆ กัน) 9 9 9 7 7 7 − ระบายสแี สดงเศษสว่ นใดก่อน 5 5 7 เพราะเหตใุ ด (ระบายสแี สดง 7 กอ่ น เพราะ เปน็ ตวั ต้งั ) 5 สังเกต เศษส่วนทีต่ ัวสว่ นเท่ากันลบกัน หาผลลบ 7 โดยนำาตัวเศษมาลบกัน ตัวสว่ นคงเดมิ − ระบายสีแสดง ต้องระบายสกี ี่สว่ น 216 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ระบายสี 5 สว่ น ใน 7 สว่ น) ครตู ิดแถบกระดาษที่ระบายสี 5 สว่ นใน 7 สว่ น แสดงบนกระดาน และใชค้ �ำ ถามเพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสรปุ เกย่ี วกบั การหาผลลบของเศษสว่ นทม่ี ตี วั สว่ นเทา่ กนั ดงั น้ี − แแจาถสกดบโงทจกร่ีทาะยรบล์ า57บยดสล้วแี บยสดด27ว้ งยเไศเดศษ้อษสยสว่ า่ ่วนงนไใใรดด((5727)) − − ค�ำ ถามข้อสุดทา้ ยน้ี ครูอาจอธบิ ายว่า การแสดงการเอาออกไป 2 สว่ น ใน 7 สว่ น นน้ั ท�ำ ได้หลายวธิ ี เชน่ การกากบาท การขีดออก การตดั ออก หรือ การโยงลูกศรออกไป ครูแสดงการเอาออกไป โดยการกากบาท ดงั รปู คร่วรมถู กามนั นสกัรปุเรคยี �ำ นตวอ่าบเหจละอืไดส้ ว่ 75นท−ี่ระ72บา=ยส73ที ่ีไคมรไ่ อู ดธก้ ิบาากยบเาพทิม่ เเปต็นิมเวศา่ ษใสน่วกนาเรทก่าาไกรบ( า73ท) แ คสดรแูงกลาะรนเักอเารอยี อนกไป 2 สว่ น ใน 7 สว่ น นน้ั จะกากบาทส่วนใดกไ็ ด้ เชน่ | 227สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คูม่ อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 6 | เศษสว่ น ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3 เลม่ 1 หรือ หรอื ดคงรั ในู หน้ั น้ กั 57เรยี−นส27งั เ=กต37สว่ เนนทอ่ื ร่งี ะจบากายใชสก้ ี ร75ะดแาลษะสแว่ผนน่ ทเดก่ี มิากทบแ่ี าบทง่ อเปอน็กไ7ป 2 เหลอื สว่ นทร่ี ะบายสที ไ่ี มม่ กี ากบาท 3 7 7 สว่ น เทา่ ๆ กนั ดงั นน้ั ผลลบของเศษสว่ น จึงมีตวั ส่วนคงเดมิ เป็น 7 และกากบาทสว่ นท่ีระบายสอี อกแสดงการน�ำ ตัวเศษของเศษส่วนสองจำ�นวน มาลบกนั ตัวเศษ 5 ลบดว้ ย ตวั เศษ 2 เป็น 3 ดังน้ัน ผลลบของเศษสว่ นจึงเปน็ การนำ�ตวั เศษมาลบกนั 5 3 2 ครยู กตวั อย่างการลบเศษสว่ นท่ีตวั สว่ นเทา่ กัน เชน่ 8 − 8 = 8 ครูและนกั เรยี นรว่ มกันอภปิ รายว่า แถบกระดาษแบง่ เปน็ 8 สว่ นเทา่ ๆ กนั ระบายสี 5 สว่ น และ กากบาทออก 3 สว่ น เหลอื สว่ นทร่ี ะบายสี 2 ทไ่ี มม่ กี ากบาท 2 สว่ นใน 8 สว่ น ดงั นน้ั จงึ ไดผ้ ลลบเปน็ 8 ครยู กตวั อยา่ งการหาผลลบของเศษสว่ นทต่ี วั สว่ น เทา่ กนั อกี 2 - 3 ตวั อยา่ งแล้วรว่ มกันสรปุ เกีย่ วกบั การลบเศษสว่ นทีต่ ัวสว่ นเทา่ กันว่า ในการหาผลลบ ของเศษสว่ นทตี่ ัวส่วนเทา่ กนั ทำ�ไดโ้ ดยน�ำ ตวั เศษมาลบกนั ตัวส่วนคงเดิม จากน้ันครใู หน้ ักเรยี น ชว่ ยกนั หาผลลบของเศษส่วนท่ีมีตัวสว่ นเท่ากนั ในกรอบทา้ ยหนังสือเรยี นหน้า 216 และรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง 3. เม่อื นักเรียนเขา้ ใจการลบเศษส่วนทมี่ ีตวั ส่วนเทา่ กัน โดยใช้แถบกระดาษและไดข้ ้อสรุป ร่วมกันแลว้ วา่ การลบเศษส่วนที่มตี วั ส่วนเท่ากนั หนังสอื เรียนรายวิชาพ้นื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 หาผลลบไดโ้ ดยน�ำ ตวั เศษมาลบกนั ตวั สว่ นคงเดมิ บทที่ 6 | เศษสว่ น จากนน้ั ครยู กตัวอยา่ งการหาผลลบของเศษส่วน 4 − 1 = นาำ ตวั เศษมาลบกนั 5 5 ตัวส่วนคงเดิม ที่มีตวั สว่ นเท่ากัน ตามหนังสือเรียนหนา้ 217 4 − 1 = 4 − 1 5 5 5 4 1 = 3 5 5 5 เชน่ − = ครใู ห้นกั เรยี นหาผลลบ ดงั น้นั 4 − 1 = 3 5 5 5 โดยใช้ข้อสรปุ ท่ไี ด้กลา่ วมาแล้วขา้ งตน้ จะได้ 4 − 1 = 435−5ค1รยู =กต53วั อย่างเพมิ่ เตมิ อีก หาผลลบ ดังน้นั 54 − 51 = 5 5 1 3 − 2 = 1 2 4 − 3 = 1 5 5 5 6 6 6 2 - 3 ตวั อย่างแลว้ ใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั หาผลลบ 3 4 − 1 = 3 4 6 − 2 = 4 4 4 4 7 7 7 ของเศษสว่ นทีต่ วั ส่วนเทา่ กันในกรอบ 5 8 − 3 = 5 6 180 − 150 = 3 9 9 9 10 ตามหนังสอื เรียนหน้า 217 จากน้ันครแู ละ 7 7 − 6 = 1 8 191 − 161 = 3 นกั เรยี นร่วมกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 8 8 8 11 9 1102 − 142 = 6 10 1155 − 1105 = 5 12 15 การตรวจสอบความเข้าใจ | 217สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี น เปน็ รายบคุ คล โดยใหน้ กั เรยี นแต่ละคนหาผลลบ 228 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 6 | เศษสว่ น คมู่ อื ครรู ายวชิ าพน้ื ฐานคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 3 เล่ม 1 ของเศษส่วนตามหนงั สือเรยี นหนา้ 218 ก่อนท่ีจะตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี น หนังสือเรยี นรายวิชาพ้นื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 ครูอาจให้นกั เรยี นทบทวนข้อสรปุ เก่ยี วกับ บทท่ี 6 | เศษสว่ น การหาผลลบของเศษสว่ นทีต่ วั ส่วนเทา่ กนั ดงั นี้ การลบเศษส่วนท่มี ีตัวสว่ นเทา่ กัน หาผลลบ ตรวจสอบความเข้าใจ ได้โดยนำ�ตวั เศษมาลบกนั ตัวสว่ นคงเดิม จากนัน้ ครูและนกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบ หาผลลบ ความถกู ตอ้ ง และสรุปสง่ิ ท่ไี ดเ้ รยี นร ู้ หากพบว่า มนี ักเรยี นบางคนหาผลลบไมถ่ กู ตอ้ ง ครคู วร 1 3 − 2 = 1 2 6 − 4 = 2 สอนเพิ่มเติมเป็นรายบคุ คล 7 7 7 8 8 8 3 6 − 4 = 2 4 170 − 140 = 3 6 6 6 10 5 191 − 151 = 4 6 172 − 132 = 4 11 12 7 1133 − 1123 = 1 8 1145 − 1105 = 4 13 15 สิ่งท่ีไดเ้ รียนรู้ ส่ิงท่ีไดเ้ รียนรู้ แบบฝกึ หัด 6.5 การหาผลลบของเศษส่วนที่ตวั สว่ นเทา่ กนั การหาผลลบของเศษสว่ นทต่ี วั สว่ นเทา่ กนั ใหน้ าำ ตัวเศษลบกัน ให้นำ�ตัวเศษลบกันโดยตัวส่วนคงเดมิ โดยตวั สว่ นคงเดมิ จากนน้ั ครใู หน้ กั เรยี นทำ�แบบฝึกหัด 6.5 218 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน้า 155 - 157 6.6 โจทย์ปัญหาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบเศษส่วนท่ีมตี วั ส่วนเท่ากนั (1) (1 ชว่ั โมง) จดุ ประสงค์ − แสดงวธิ ีหาคำ�ตอบของโจทย์ปญั หาการบวกเศษสว่ นท่ีตวั ส่วนเทา่ กันและผลบวกไมเ่ กิน 1 − แสดงวธิ ีหาคำ�ตอบของโจทย์ปญั หาการลบเศษสว่ นทต่ี วั ส่วนเท่ากัน ส่ือการเรียนรู้ − แถบโจทยป์ ญั หา − แถบกระดาษทีแ่ บง่ เปน็ 8 ส่วน เทา่ ๆ กัน และท่ีแบ่งเป็น 10 ส่วน เทา่ ๆ กัน แนวทางการจดั การเรยี นรู้ การพัฒนาความรู้ 1. ครทู บทวนการหาผลบวกและการหาผลลบเศษสว่ นทม่ี ตี วั สว่ นเทา่ กนั โดยใชก้ ารถาม - ตอบ 6 4 เชน่ 12 + 12 เท่ากับเทา่ ไร ครูใหน้ กั เรยี นหาผลบวกโดยใชข้ อ้ สรุปว่า การหาผลบวกของเศษส่วน ท่ตี วั สว่ นเทา่ กัน ใหน้ �ำ ตัวเศษบวกกนั โดยตัวสว่ นคงเดิม ดังนัน้ 6 + 4 = 6+4 = 10 12 12 12 12 ครยู กตวั อยา่ งการบวกเศษส่วนทต่ี วั สว่ นเทา่ กนั อกี 2 - 3 ตวั อย่าง | 229สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คมู่ อื ครูรายวชิ าพ้ืนฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 6 | เศษสว่ น ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 เล่ม 1 จากนัน้ ครนู �ำ เสนอสถานการณต์ ามหนงั สอื เรยี น หนงั สอื เรยี นรายวิชาพื้นฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 บทท่ี 6 | เศษสว่ น หนา้ 219 เชน่ “แมท่ �ำ นมเยน็ โดยผสมนม 6 ลติ ร 8 6.6 โจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบ 1 เศษสว่ นทม่ี ตี วั สว่ นเทา่ กนั (1) และนำ�้ แดง 8 ลติ ร แม่ได้นมเย็นก่ลี ติ ร” ครแู ละ พฒั นาความรู้ นกั เรียนชว่ ยกันวเิ คราะหโ์ จทย์ โดยใชก้ าร 6 1 ถาม - ตอบ ดงั น้ี แมท่ ำานมเยน็ โดยผสมนม 8 ลติ ร และนาำ้ แดง 8 ลิตร แมไ่ ดน้ มเยน็ กล่ี ิตร − โจทยถ์ ามอะไร (แมไ่ ด้นมเย็นกีล่ ิตร) โจทย์ถาม แมไ่ ดน้ มเยน็ ก่ลี ติ ร โจทยบ์ อก แมท่ ำานมเย็นโดยผสมนม 6 ลิตร และนำ้าแดง 1 ลติ ร 8 8 − โจทย์บอกอะไร (แมท่ ำ�นมเยน็ โดย หาคำาตอบไดอ้ ย่างไร ผสมนม 6 ลติ ร และนำ�้ แดง 1 ลิตร) 8 8 − หาค�ำ ตอบไดอ้ ยา่ งไร (หาคำ�ตอบ นำา 6 บวกกบั 1 8 8 โดยการนำ� 6 บวกกบั 1 ) ประโยคสัญลกั ษณ์ 6 + 1 = 8 8 8 8 − เขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์ได้อย่างไร วธิ ที าำ นม 6 ลติ ร 8 6 1 นำ้าแดง 1 ลติ ร 8 8 8 ( + = ) ไดน้ มเยน็ 6 + 1 = 7 ลิตร 8 8 8 ครูอธิบาย โดยตดิ แถบกระดาษท่แี บ่งเป็น 8 ส่วน ตอบ แมไ่ ด้นมเย็น 7 ลติ ร 8 เทา่ ๆ กนั บนกระดาน แล้วให้นกั เรยี นออกมา 7 เป็นคำาตอบทสี่ มเหตสุ มผล เพราะ 7 มากกวา่ 6 8 8 8 ระบายสแี สดงการบวก 6 กับ 1 จะไดด้ ังรปู | 219สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 8 8 คดงัรนูให้ัน้นแกั มเรไ่ ยีดน้นชมว่เยย็นกนั 78หาลผติ ลรบ วคกรูอจธะิบไดา้วยา่ วา่ 86กา+รเ18ขีย=นแ87สดคงรวแู ิธลีหะานคกั �ำ เตรอียบนขรอ่วมงโกจนั ทสยรป์ ุปญั คห�ำ ตาอบ เขยี นสงิ่ ทโ่ี จทย์บอกและหาค�ำ ตอบไดด้ ังน้ี วิธีท�ำ นม 6 ลิตร 8 น้ำ�แดง 1 ลติ ร 8 ได้นมเย็น 6 + 1 = 7 ลิตร 8 8 8 ตอบ แม่ได้นมเยน็ 7 ลติ ร 8 จากนนั้ ครแู ละนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำ�ตอบ โดยพิจารณาวา่ โจทยข์ ้อน้ี เป็นการหาคำ�ตอบโดยการบวก ดงั นั้น 7 เปน็ คำ�ตอบทส่ี มเหตุสมผล เพราะ 7 มากกว่า 6 8 87 8 9 10 2. ครทู บทวนการหาผลลบของเศษสว่ นที่ตัวสว่ นเท่ากัน เช่น 10 − เท่ากบั เท่าไร ครใู ห้ นักเรียนหาผลลบ โดยใช้ข้อสรุปวา่ การหาผลลบของเศษส่วนทีต่ ัวส่วนเทา่ กัน ใหน้ �ำ ตวั เศษมาลบกนั โดยตวั สว่ นคงเดิม ดงั น้ัน 9 − 7 = 9−7 = 2 ครูยกตวั อย่างการลบเศษสว่ นทีต่ วั ส่วนเทา่ กนั 10 10 10 10 230 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 6 | เศษส่วน คูม่ ือครรู ายวชิ าพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เล่ม 1 อีก 2 - 3 ตวั อยา่ ง จากนั้นครูน�ำ เสนอสถานการณ์ตาม หนังสือเรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 บทท่ี 6 | เศษส่วน หนงั สอื เรียนหนา้ 220 เชน่ “ป้ามรี บิ บิ้นยาว 1 เมตร 7 ปา้ มีรบิ บิ้นยาว 1 เมตร ตดั ไปทำาดอกไม้ประดิษฐ ์ 170 เมตร เหลือรบิ บนิ้ กเ่ี มตร ตดั ไปทำ�ดอกไม้ประดษิ ฐ์ 10 เมตร เหลือรบิ บ้ินกเ่ี มตร” โจทย์ถาม เหลือริบบิน้ ก่ีเมตร โจทยบ์ อก ป้ามีรบิ บิน้ ยาว 1 เมตร ตัดไปทำาดอกไม้ประดิษฐ์ 170 เมตร ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกนั วเิ คราะหโ์ จทย ์ โดยใชก้ ารถาม - ตอบ ริบบนิ้ 1 เมตร แบ่งเปน็ 10 สว่ นเทา่ ๆ กัน คอื รบิ บ้นิ 1100 เมตร ดงั นี้ หาคำาตอบไดอ้ ย่างไร 1 เมตร เท่ากับ 1100 เมตร − โจทยถ์ ามอะไร (เหลอื รบิ บิ้นกีเ่ มตร) − โจทยบ์ อกอะไร (ป้ามีริบบน้ิ ยาว 1 เมตร ตัดไปทำ� 1100 ลบดว้ ย 170 7 ดอกไมป้ ระดษิ ฐ์ 10 เมตร) ประโยคสัญลกั ษณ์ 1100 − 170 = − หาคำ�ตอบไดอ้ ย่างไร (หาคำ�ตอบโดยการลบ) วิธที ำา ปา้ มรี ิบบิน้ 1 เมตร หรอื 10 เมตร 10 ตดั ไปทำาดอกไมป้ ระดิษฐ์ 7 เมตร 10 − รบิ บน้ิ ยาว 1 เมตร ถา้ แบง่ เปน็ 10 สว่ น เทา่ ๆ กนั เหลือริบบ้นิ 1100 − 170 = 3 เมตร 10 จะไดค้ วามยาวรบิ บนิ้ เป็นเศษสว่ นเทา่ ไร ( 10 เมตร) ตอบ เหลอื ริบบ้ิน 130 เมตร 10 3 เปน็ คำาตอบทถ่ี ูกต้อง เพราะ 3 + 7 = 10 หรือ 1 10 10 10 10 − เขยี นประโยคสัญลักษณไ์ ดอ้ ยา่ งไร 220 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( 10 − 7 = ) 10 10 ครูอธิบาย โดยติดแถบกระดาษทแ่ี บง่ เป็น 10 ส่วน เท่า ๆ กัน บนกระดาน แล้วใหน้ ักเรยี นออกมา 10 7 ระบายสแี สดงการลบ 10 กับ 10 จะไดด้ ังรูป 1 เมตร เท่ากบั 10 เมตร 10 คดงัรนใู ห้ันน้ เักหเลรียือนรบิ ชบ่วยน้ิ กัน13ห0าผเมลตลรบคจระอู ไธดบิ ว้ า่ายว11่า00 − 7 = 3 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปค�ำ ตอบ 10 10 การเขยี นแสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหา เขียนส่ิงทโี่ จทยบ์ อกและหาคำ�ตอบได้ดังนี้ วธิ ที �ำ ปา้ มีรบิ บน้ิ 1 เมตร หรอื 10 เมตร 10 ตัดไปทำ�ดอกไม้ประดิษฐ์ 7 เมตร 10 เหลอื รบิ บน้ิ 10 − 7 = 3 เมตร 10 10 10 ตอบ เหลือรบิ บน้ิ 3 เมตร 10 จากนน้ั ครูและนกั เรียนรว่ มกันตรวจค�ำ ตอบ โดยพจิ ารณาวา่ โจทย์ข้อนเ้ี ป็นการหาคำ�ตอบโดยการลบ 3 3 7 10 ดังนน้ั 10 เปน็ ค�ำ ตอบท่ีถกู ตอ้ ง เพราะ 10 + 10 = 10 หรอื 1 ครใู ห้นกั เรยี นสงั เกตวา่ เนื่องจาก | 231สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มอื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 6 | เศษส่วน ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 3 เล่ม 1 การลบเศษสว่ นตวั ส่วนของตวั ตงั้ ต้องเท่ากบั ตวั ส่วนของตวั ลบ ดงั นนั้ ในการแบ่งริบบ้นิ 1 เมตร ออกเป็นกส่ี ว่ นเทา่ ๆ กัน น้นั พิจารณาได้จากตัวสว่ นของตวั ลบ ในท่ีนตี้ ัวสว่ นของตวั ลบคอื 10 10 7 จงึ ตอ้ งแบ่งรบิ บิ้น 1 เมตรออกเป็น 10 สว่ นเท่า ๆ กนั ไดเ้ ปน็ 10 เมตร แลว้ นำ�มาลบกบั 10 เมตร 3 ไดผ้ ลลบเป็น 10 เมตร 3. ครูแบ่งนักเรยี นเป็นกลุ่ม ใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันเขยี นประโยคสญั ลักษณแ์ ละ แสดงวธิ หี าค�ำ ตอบ ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 221 กลมุ่ ละ 1 ขอ้ แลว้ ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมาน�ำ เสนอ วธิ ีหาค�ำ ตอบจนครบทุกขอ้ โดยครูอาจเดินส�ำ รวจแนวคิด ของนกั เรยี นแตล่ ะกลุ่ม จากนั้นนำ�แนวคดิ ของนักเรยี น หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 บทท่ี 6 | เศษสว่ น มาอภปิ รายเพื่อหาขอ้ สรปุ โดยมีประเด็นอภปิ ราย เขยี นประโยคสัญลักษณ์และแสดงวธิ ีหาคาำ ตอบ คือ โจทยถ์ ามอะไร โจทย์บอกอะไร หาค�ำ ตอบ 1 ใบบัวชว่ ยแม่ทาำ ขนมโดยใชน้ ้ำาตาล 1 ถ้วยตวง และแปง้ 2 ถ้วยตวง ได้อย่างไร เขยี นประโยคสญั ลักษณไ์ ด้อย่างไรและ 3 3 เขยี นแสดงวิธหี าค�ำ ตอบไดอ้ ยา่ งไร พร้อมทัง้ ตรวจสอบ ใบบวั ใช้นา้ำ ตาลและแป้งในการทาำ ขนมกถ่ี ้วยตวง 2 ออมสนิ เดินเปน็ ระยะทาง 120 กิโลเมตร แกว้ ตาเดนิ เป็นระยะทาง 5 10 กโิ ลเมตร แก้วตาเดนิ ได้ระยะทางมากกว่าออมสนิ กกี่ โิ ลเมตร ความสมเหตุสมผลของค�ำ ตอบให้นักเรยี นไดน้ ำ�เสนอ 3 ป้าซ้อื กระเทียม 3 กโิ ลกรัม และซ้ือหอมแดง 2 กโิ ลกรัม ปา้ ซอ้ื กระเทยี ม แนวคดิ ท่ีหลากหลาย และแลกเปลย่ี นเรยี นร้กู ัน 5 5 ระหวา่ งกลมุ่ ครอู าจแนะนำ�ส�ำ หรบั ขอ้ ทีย่ าก เชน่ และหอมแดงกี่กโิ ลกรมั 4 ต้นกลา้ ซ้ือพรกิ ชฟี้ ้าและพรกิ ขห้ี น ู 190 กิโลกรัม พรกิ ชฟ้ี ้า 150 กโิ ลกรมั ต้นกล้าซ้อื พริกขี้หนูกกี่ โิ ลกรมั ข้อ 5 ครอู าจแนะน�ำ ว่า น�้ำ มนั ดเี ซล 1 ลิตร จะแบง่ ออกเป็น 5 พ่อซ้ือนำ้ามันดีเซล 1 ลิตร ใชไ้ ป 3 ลติ ร พ่อเหลือน้าำ มนั ดเี ซลกีล่ ิตร 4 ก่สี ว่ นเท่า ๆ กนั ถ้าตวั ส่วนของตวั ลบคอื 4 จะได้วา่ น�ำ้ มัน 6 ระยะทางจากบา้ นขุนไปโรงเรยี น 170 กิโลเมตร ระยะทางจากบา้ นตน้ กลา้ ไปโรงเรียน 140 กิโลเมตร บ้านของขุนหรือบา้ นของต้นกล้าอยู่ไกลจาก ดเี ซล 1 ลติ ร ต้องแบง่ ออกเปน็ 4 ส่วนเท่า ๆ กนั โรงเรียนมากกว่า และมากกว่าก่ีกิโลเมตร ได้ 4 ลติ ร แลว้ จงึ น�ำ ไปลบกับ 3 ลิตร | 221สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4 4 เฉลย 1 ประโยคสญั ลักษณ์ 1 + 2 = 2 ประโยคสญั ลักษณ์ 5 − 2 = 3 3 10 10 1 5 วิธีท�ำ ใบบวั ชว่ ยแม่ท�ำ ขนมโดยใชน้ �ำ้ ตาล 3 ถ้วยตวง วิธีท�ำ แกว้ ตาเดนิ เปน็ ระยะทาง 10 กิโลเมตร ใชแ้ ป้ง 2 ถ้วยตวง ออมสินเดนิ เปน็ ระยะทาง 2 กิโลเมตร 3 10 1 2 3 5 2 3 กโิ ลเมตร ใบบัวใชน้ ำ�้ ตาลและแปง้ 3 + 3 = 3 หรือ 1 ถ้วยตวง แกว้ ตาเดนิ ไดร้ ะยะทางมากกวา่ ออมสนิ 10 − 10 = 10 ตอบ ใบบัวใชน้ ้�ำ ตาลและแป้งทำ�ขนม 1 ถว้ ยตวง ตอบ แก้วตาเดินได้ระยะทางมากกวา่ ออมสิน 3 กโิ ลเมตร 10 3 ประโยคสัญลักษณ์ 3 + 2 = 4 ประโยคสัญลกั ษณ์ 9 − 5 = 5 5 10 10 3 9 วิธที �ำ ปา้ ซอื้ กระเทียม 5 กิโลกรมั วธิ ีทำ� ต้นกลา้ ซื้อพรกิ ช้ีฟ้าและพรกิ ข้หี นู 10 กโิ ลกรมั ซื้อหอมแดง 2 กโิ ลกรัม ซอื้ พรกิ ชฟี้ ้า 5 กโิ ลกรัม 5 10 3 2 5 9 5 4 ปา้ ซื้อกระเทยี มและหอมแดง 5 + 5 = 5 หรือ 1 กิโลกรมั ซือ้ พรกิ ขห้ี น ู 10 − 10 = 10 กิโลกรมั ตอบ ปา้ ซื้อกระเทียมและหอมแดง 1 กิโลกรัม ตอบ ตน้ กลา้ ซ้อื พริกขี้หนู 4 กิโลกรมั 10 5 ประโยคสญั ลกั ษณ์ 4 − 3 = 6 ประโยคสญั ลักษณ์ 7 − 4 = 4 4 10 10 4 7 วิธีท�ำ พอ่ ซอ้ื นำ�้ มนั ดเี ซล 1 ลติ ร หรือ 4 ลิตร วธิ ที �ำ ระยะทางจากบ้านขนุ ไปโรงเรยี น 10 กโิ ลเมตร ใชไ้ ป 3 ลิตร ระยะทางจากบ้านตน้ กล้าไปโรงเรียน 4 กิโลเมตร 4 10 4 3 1 7 4 3 พอ่ เหลอื น้ำ�มนั ดเี ซล 4 − 4 = 4 ลิตร บา้ นของขนุ อยไู่ กลจากโรงเรยี นมากกวา่ 10 − 10 = 10 กโิ ลเมตร ตอบ พ่อเหลอื น�้ำ มนั ดีเซล 1 ลิตร ตอบ บา้ นของขุนอยู่ไกลจากโรงเรียนมากกวา่ และมากกว่าอยู่ 3 กิโลเมตร 4 10 232 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 6 | เศษส่วน คู่มอื ครูรายวิชาพน้ื ฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 เล่ม 1 การตรวจสอบความเขา้ ใจ หนังสอื เรียนรายวิชาพน้ื ฐาน | คณติ ศาสตร ์ ป.3 บทที ่ 6 | เศษสว่ น 4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล โดยใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคนเขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์ ตรวจสอบความเข้าใจ และแสดงวิธีหาค�ำ ตอบ ตามหนังสือเรยี นหน้า 222 เขยี นประโยคสัญลักษณแ์ ละแสดงวิธหี าคำาตอบ ครูและนักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้อง และ สรุปสงิ่ ทไี่ ดเ้ รียนร้ ู หากพบวา่ มนี ักเรียนบางคนเขยี น แกว้ ตามีน้ำาผลไม ้ 1 ลติ ร แบ่งให้ใบบวั 3 ลติ ร แกว้ ตาเหลอื นำา้ ผลไมก้ ่ลี ิตร ประโยคสัญลกั ษณ์และแสดงวธิ ีหาค�ำ ตอบไม่ถูกต้อง 5 ครูควรสอนเพมิ่ เติมเป็นรายบคุ คล สงิ่ ทีไ่ ดเ้ รยี นรู้ สง่ิ ทไี่ ด้เรยี นรู้ การแกโ้ จทยป์ ญั หาท�ำ ไดโ้ ดยอา่ นท�ำ ความเขา้ ใจ การแก้โจทยป์ ญั หาทำาไดโ้ ดยอา่ นทำาความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแกป้ ัญหา ปญั หา วางแผนแกป้ ญั หา หาค�ำ ตอบและตรวจสอบ หาคาำ ตอบ และตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาำ ตอบ ความสมเหตุสมผลของค�ำ ตอบ แบบฝกึ หดั 6.6 จากนั้นครูให้นกั เรยี นท�ำ แบบฝึกหดั 6.6 หนา้ 158 - 160 222 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 6.7 โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหา เฉลย การลบเศษสว่ นทม่ี ตี ัวสว่ นเทา่ กนั (2) (1 ชั่วโมง) ประโยคสัญลกั ษณ์ 5 − 3 = จดุ ประสงค์ 5 5 5 − แสดงวธิ หี าค�ำ ตอบของโจทยป์ ญั หาการบวกเศษสว่ น วธิ ีทำ� แกว้ ตามนี ้�ำ ผลไม ้ 1 ลติ ร หรือ 5 ลติ ร ท่ีตัวสว่ นเทา่ กนั และผลบวกไม่เกนิ 1 3 แบ่งใหใ้ บบวั 5 3 5 2 ลิตร − แสดงวธิ หี าคำ�ตอบของโจทย์ปญั หาการลบ 5 5 = 5 เศษสว่ นที่ตวั ส่วนเท่ากนั แกว้ ตาเหลือนำ้�ผลไม้ − ลติ ร ส่ือการเรียนรู้ ตอบ แก้วตาเหลอื น�้ำ ผลไม้ 2 ลติ ร 5 − แถบโจทยป์ ญั หา − แถบกระดาษท่แี บง่ เป็น 4 ส่วน เทา่ ๆ กนั และ หนงั สือเรยี นรายวิชาพ้นื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 ทแ่ี บง่ เปน็ 10 สว่ น เท่า ๆ กัน บทท่ี 6 | เศษสว่ น 6.7 โจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบ เศษสว่ นทม่ี ตี วั สว่ นเทา่ กนั (2) พัฒนาความรู้ แแมม่ซซ่ ้อือ้ื นน้าำำ้าตตาาลลทปรีบาย24ก่กีกโิิโลลกกรรมััม ซื้อน้ำาตาลปบี น้อยกว่านา้ำ ตาลทราย 1 กโิ ลกรมั 4 โจทย์ถาม แมซ่ ือ้ นาำ้ ตาลทรายก่ีกโิ ลกรมั โจทยบ์ อก แมซ่ ือ้ น้ำาตาลปบี 2 กโิ ลกรมั ซอ้ื น้ำาตาลปีบน้อยกว่านา้ำ ตาลทราย 1 กิโลกรัม 4 4 หาคำาตอบไดอ้ ยา่ งไร 2 กก. 4 นำา้ ตาลปีบ นำ้าตาลทราย 1 กก. กก. แนสำ้าดตงาวลา่ ปนีบาำ้ นต้อาลยทกรวาา่ ยนมาำ้ าตกากลวทา่ รนาาำ้ ยต า41ลป กบี ก .414 นาำ 2 บวกกับ 1 4 4 ประโยคสญั ลกั ษณ์ 2 + 1 = 4 4 วธิ ที ำา แม่ซื้อนำา้ ตาลปบี 2 กิโลกรัม 4 ซ้อื นำ้าตาลปีบน้อยกวา่ น้ำาตาลทราย 1 กโิ ลกรมั 4 แม่ซ้อื นาำ้ ตาลทราย 2 + 1 = 3 กิโลกรัม 4 4 4 ตอบ แม่ซ้อื น้ำาตาลทราย 3 กโิ ลกรมั 4 3 เป็นคำาตอบที่สมเหตสุ มผล เพราะ 3 มากกว่า 2 4 4 4 | 223สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แนวทางการจัดการเรียนรู้ การพัฒนาความรู้ 1. การสอนเรื่องโจทยป์ ญั หาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบเศษสว่ นท่ีมตี วั สว่ นเทา่ กนั | 233สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

ค่มู อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 6 | เศษส่วน ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 เล่ม 1 เมอื่ นักเรียนได้เรยี นรู้เกีย่ วกบั การแกโ้ จทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบทเ่ี ปน็ พน้ื ฐานแลว้ ในชว่ั โมงนน้ี กั เรยี นจะไดเ้ รยี นรเู้ กย่ี วกบั โจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบทม่ี คี วามซบั ซอ้ นขน้ึ ครูอาจทบทวนขน้ั ตอนการแก้โจทยป์ ัญหาการบวกเศษส่วนทเ่ี ปน็ โจทย์ปญั หาพน้ื ฐานงา่ ย ๆ ก่อน โดยครูเนน้ ย�้ำ ในเรอ่ื งการวิเคราะห์โจทยป์ ญั หาและการวาดรปู ประกอบการวางแผนการแก้ปัญหา เพอื่ จะชว่ ยให้การเขียนประโยคสญั ลักษณก์ ารบวกง่ายขึน้ ครนู ำ�เสนอสถานการณ์ โดยติดแถบ โจทย์ปัญหาตามหนงั สอื เรยี นหน้า 223 เชน่ “แมซ่ ้อื น�ำ้ ตาลปบี 2 กิโลกรมั ซ้อื น�ำ้ ตาลปบี นอ้ ยกวา่ น้ำ�ตาลทราย 1 กิโลกรัม แมซ่ ือ้ น�ำ้ ตาลทราย 4 4 กี่กิโลกรัม” จากน้นั ครูและนักเรียนชว่ ยกันวเิ คราะหโ์ จทย์ปญั หา โดยใช้การถาม - ตอบ ดงั นี้ − โจทยถ์ ามอะไร (แมซ่ ้ือน�้ำ ตาลทรายก่ีกิโลกรัม) 2 1 − โจทยบ์ อกอะไร (แมซ่ อ้ื น�ำ้ ตาลปบี 4 กโิ ลกรมั ซอ้ื น�ำ้ ตาลปบี นอ้ ยกวา่ น�ำ้ ตาลทราย 4 กโิ ลกรมั ) − หาค�ำ ตอบไดอ้ ย่างไร นกั เรยี นอาจตอบคำ�ถามยงั ไม่ได้ ครแู ละนักเรียนชว่ ยกันวาดรูป เพื่อวิเคราะห์โจทยป์ ญั หาวา่ จะใช้การบวกหรอื การลบในการหาค�ำ ตอบ โดยใชก้ ารถาม - ตอบ ดังน้ี 2 − แมซ่ ื้อน�้ำ ตาลปีบมากี่กิโลกรัม ( 4 กโิ ลกรัม) ครตู ิดแถบกระดาษที่แบ่งเป็น 4 ส่วนเท่า ๆ กนั แสดงน้�ำ ตาลปีบ 1 กิโลกรมั แลว้ ถามนักเรยี นว่า ถา้ นำ�้ ตาลปีบ 1 กิโลกรัมแบ่งเปน็ 4 ส่วน เท่า ๆ กัน 2 แม่ซื้อน�ำ้ ตาลปบี 4 กิโลกรมั นกั เรียนต้องระบายสแี ถบกระดาษกี่ส่วน (2 สว่ น) ครใู หน้ กั เรียน ออกมาระบายสีในแถบกระดาษบนกระดาน 2 สว่ น ใน 4 ส่วน ดงั นี้ 2 กก. 4 นำ้�ตาลปีบ จากโจทยแ์ มซ่ ือ้ นำ้�ตาลปีบน้อยกว่าน�้ำ ตาลทราย 1 กิโลกรมั ครถู ามนกั เรยี นวา่ แมซ่ อ้ื น้ำ�ตาลปีบ 4 หรือนำ้�ตาลทรายมากกว่า และมากกว่าอย่เู ทา่ ไร (แมซ่ อื้ น�ำ้ ตาลทรายมากกว่าและมากกวา่ อยู่ 1 กิโลกรัม) ครถู ามวา่ จากแถบกระดาษทีร่ ะบายสีแสดงน�ำ้ ตาลปีบ 2 กิโลกรมั นนั้ จะตอ้ งระบายสี 4 4 เพิม่ หรือต้องตดั ส่วนท่ีระบายสีอย่แู ลว้ ออก (ต้องระบายสเี พิม่ ) ครถู ามตอ่ ไปวา่ ตอ้ งระบายสเี พิ่ม อีกก่ีส่วน (ระบายสีเพม่ิ อีก 1 ส่วน) ครูติดแถบกระดาษท่ีระบายสแี สดงน�้ำ ตาลทรายท่แี ม่ซ้ือมาให้เหน็ เทยี บกันดงั รปู 2 กก. 4 นำ�้ ตาลปบี นำ้�ตาลทราย 1 กก. 4 ครูถามนักเรียนวา่ ตอ้ งหาค�ำ ตอบของโจทย์ปัญหานด้ี ว้ ยการบวกหรอื การลบ (การบวก) 2 1 เขียนเปน็ ประโยคสญั ลักษณไ์ ด้อยา่ งไร ( 4 + 4 = ) ครใู หน้ ักเรียนช่วยกนั หาค�ำ ตอบ พร้อมทงั้ เขียนแสดงวิธหี าค�ำ ตอบ ดงั นี้ 234 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 6 | เศษส่วน คมู่ ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เลม่ 1 วธิ ีทำ� แม่ซอ้ื น้�ำ ตาลปีบ 2 กิโลกรมั 4 กโิ ลกรัม ซอ้ื น้ำ�ตาลปบี น้อยกวา่ น�้ำ ตาลทราย 1 กโิ ลกรัม 4 แม่ซอ้ื น้ำ�ตาลทราย 2 + 1 = 3 4 4 4 3 ตอบ แม่ซอ้ื นำ�้ ตาลทราย 4 กิโลกรมั ครูให้นกั เรียนชว่ ยกันสรุปคำ�ตอบและตรวจสอบความสมเหตุสมผลของค�ำ ตอบ โดยการเทยี บกับ 3 โจทย์ปัญหาว่า น�ำ้ ตาลทรายมากกว่าน้ำ�ตาลปบี ดังน้ัน คำ�ตอบ 4 เปน็ ค�ำ ตอบที่สมเหตสุ มผล 3 2 เพราะ 4 มากกว่า 4 2. ครูทบทวนการแกโ้ จทย์ปญั หาการลบทเี่ ปน็ พน้ื ฐานโดยเนน้ การวิเคราะหโ์ จทย์ จากนน้ั ครูนำ�เสนอสถานการณ์ โดยติดแถบโจทยป์ ัญหาบนกระดาน ตามหนังสอื เรียนหนา้ 224 เช่น 9 2 “วันแรกขนุ ว่ิงได้ 10 กโิ ลเมตร วนั แรกว่งิ ได้มากกว่าวนั ทสี่ อง 10 กิโลเมตร วันท่ีสองขุนว่งิ ไดร้ ะยะ ทางก่ีกิโลเมตร” จากนน้ั ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกันวเิ คราะหโ์ จทย์ปัญหา โดยใชก้ ารถาม - ตอบ ดังนี้ − โจทยถ์ ามอะไร (วนั ทส่ี องขุนวง่ิ ไดร้ ะยะทางกีก่ โิ ลเมตร) 9 2 − โจทย์บอกอะไร (วันแรกขนุ วิ่งได้ 10 กิโลเมตร วนั แรกวิง่ ไดม้ ากกว่าวันท่สี อง 10 กโิ ลเมตร) − หาคำ�ตอบไดอ้ ยา่ งไร นกั เรียนอาจตอบคำ�ถามยังไมไ่ ด้ ครแู ละนกั เรยี นช่วยกนั วาดรปู เพือ่ วิเคราะห์โจทย์ปญั หาว่า จะใชก้ ารบวกหรือการลบในการหาค�ำ ตอบ โดยใชก้ ารถาม - ตอบ ดงั นี้ 9 − วนั แรกขุนวิง่ ได้กกี่ ิโลเมตร ( 10 กโิ ลเมตร) ครูติดแถบกระดาษ ท่แี บง่ เปน็ 10 ส่วน เทา่ ๆ กนั แสดงระยะทาง 1 กิโลเมตร แล้วถามนักเรียนวา่ ถา้ ระยะทาง 1 กิโลเมตรแบ่งเปน็ 10 สว่ น 9 เท่า ๆ กนั วนั แรกขุนว่ิงได้ 10 กโิ ลเมตร นักเรียน ต้องระบายสแี ถบกระดาษกี่สว่ น (9 สว่ น) ครูใหน้ ักเรียน ออกมาระบายสใี นแถบกระดาษบนกระดาน 9 ส่วน หนงั สอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 บทที่ 6 | เศษส่วน ใน 10 สว่ น ดงั นี้ วันแรกขุนว่ิงได ้ 190 กิโลเมตร วนั แรกวง่ิ ไดม้ ากกวา่ วนั ทส่ี อง 120 กโิ ลเมตร วนั ทส่ี องขนุ วง่ิ ไดร้ ะยะทางกก่ี โิ ลเมตร 9 กม. โจทย์ถาม วนั ทส่ี องขนุ วง่ิ ไดร้ ะยะทางกก่ี โิ ลเมตร 10 โจทยบ์ อก วันแรกขุนว่ิงได้ 190 กโิ ลเมตร วนั แรกวง่ิ ไดม้ ากกวา่ วนั ทส่ี อง 120 กิโลเมตร หาคาำ ตอบได้อยา่ งไร 9 กม. 10 วันแรก วันแรก วนั ท่สี อง วนั แรกว่ิงไดม้ ากกวา่ วนั ทสี่ อง 120 กม. 2 กม. แสดงวา่ วันทส่ี องวิง่ ไดน้ อ้ ยกว่าวนั แรก 10 2 กม. 10 จากโจทย์ วนั แรกขุนวง่ิ ได้มากกว่าวนั ทีส่ อง 2 กิโลเมตร 190 ลบดว้ ย 120 10 ครูถามนักเรยี นวา่ วันทสี่ องขุนวิ่งได้ระยะทางมากกวา่ หรือ ประโยคสญั ลักษณ์ 190 − 120 = วิธที ำา วนั แรกขนุ วงิ่ ได ้ 9 กิโลเมตร 10 น้อยกวา่ วันแรกอยู่เท่าไร (วนั ทส่ี องขุนวงิ่ ได้ระยะทาง วันแรกวิง่ ได้มากกว่าวนั ที่สอง 2 กิโลเมตร นทร่ีอ้ ะยบกาวยา่ สวแี นั สแดรงกระ12ย0ะกทิโาลงเทมข่ี ตนุ รว)ง่ิ ไคดรใ้ ถู นาวมนั วแ่ารกจา1ก90แถกบโิ ลกเรมะตดรานษน้ั 10 จะต้องระบายสีเพ่ิมหรอื ตอ้ งตัดส่วนที่ระบายสอี ยูแ่ ลว้ ออก วันทส่ี องขุนว่ิงได้ 190 − 120 = 7 กิโลเมตร 10 ตอบ วันทีส่ องขนุ ว่งิ ไดร้ ะยะทาง 170 กโิ ลเมตร 7 เป็นคำาตอบทส่ี มเหตุสมผล เพราะ 170 น้อยกวา่ 190 10 224 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 235สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

ค่มู อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 6 | เศษส่วน ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เล่ม 1 (ต้องตดั ส่วนทร่ี ะบายสีอยู่แล้วออก) ครูถามต่อไปวา่ หนงั สือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 บทท่ี 6 | เศษสว่ น ต้องตัดสว่ นท่ีระบายสอี ยู่แล้วออกไปกีส่ ว่ น (ต้องตดั เขยี นประโยคสญั ลกั ษณแ์ ละแสดงวธิ ีหาคาำ ตอบ ส่วนทีร่ ะบายสอี ยแู่ ลว้ ออกไป 2 ส่วน) ครูติดแถบกระดาษ 1 ไม้ทอ่ นแรกยาว 7 เมตร ไม้ทอ่ นแรกยาวกว่าไมท้ อ่ นที่สอง 1 เมตร 8 8 ท่รี ะบายสีแสดงระยะทางทขี่ นุ ว่งิ ไดใ้ นวันที่สอง ไมท้ ่อนทส่ี องยาวกเ่ี มตร 2 ต้นกลา้ เก็บถว่ั ลสิ งได้ 6 ถงั เกบ็ ถวั่ แดงไดน้ ้อยกวา่ ถ่ัวลสิ ง 3 ถัง 7 7 มาให้เหน็ เทยี บกนั ดังรปู ต้นกล้าเก็บถ่วั แดงได้ก่ถี ัง 9 กม. 3 วนั แรกแกว้ ตาวง่ิ ออกกาำ ลงั กายไดร้ ะยะทาง 180 กโิ ลเมตร วนั แรกวง่ิ 10 ออกกาำ ลงั กายไดร้ ะยะทางนอ้ ยกวา่ วนั ท่ีสอง 120 กโิ ลเมตร วนั ที่สอง แกว้ ตาวิ่งออกกำาลงั กายไดร้ ะยะทางกีก่ โิ ลเมตร วันแรก 4 วนั แรกกนั ตอ์ า่ นหนังสือใชเ้ วลา 142 ชั่วโมง วนั แรกอ่านหนงั สือใชเ้ วลา มากกวา่ วนั ท่ีสอง 112 ชว่ั โมง วนั ที่สองกนั ต์ใช้เวลาอ่านหนงั สอื กช่ี ว่ั โมง วนั ทีส่ อง 5 ปา้ มีนำ้าตะไคร้ 7 ลิตร มนี ้ำาอญั ชนั มากกวา่ นาำ้ ตะไคร้ 9 ลิตร 20 20 ป้ามนี ้าำ อญั ชันก่ีลิตร 2 กม. 6 แมท่ าำ ขนมใชน้ าำ้ ตาลทราย 150 กโิ ลกรมั ใชน้ าำ้ ตาลทรายนอ้ ยกวา่ แปง้ 10 130 กโิ ลกรมั แม่ใชแ้ ป้งทาำ ขนมก่ีกโิ ลกรมั ครูถามนักเรียนว่า ต้องหาค�ำ ตอบของโจทยป์ ัญหานีด้ ว้ ย | 225สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การบวกหรือการลบ (การลบ) เขียนเปน็ ประโยคสัญลกั ษณ์ เฉลย 9 2 ได้อยา่ งไร ( 10 − 10 = ) 1 ประโยคสัญลักษณ์ 7 − 1 = 8 8 7 ครูให้นกั เรียนช่วยกนั หาคำ�ตอบ พรอ้ มท้งั เขยี นแสดง วิธที ำ� ไม้ท่อนแรกยาว 81 เมตร 68 เมตร ไมท้ ่อนแรกยาวกว่าไม้ทอ่ นท่สี อง 8 เมตร วธิ ีหาคำ�ตอบ ดังนี้ ไมท้ ่อนท่สี องยาว 7 − 1 = 8 8 6 ตอบ ไม้ทอ่ นท่สี องยาว 8 เมตร 9 2 ประโยคสญั ลกั ษณ์ 6 − 3 = 6 10 7 7 วิธีท�ำ วันแรกขนุ วง่ิ ได ้ กโิ ลเมตร วธิ ที ำ� ตน้ กล้าเกบ็ ถัว่ ลสิ งได ้ 37 ถัง 7 ถงั เก็บถ่วั แดงไดน้ ้อยกวา่ ถ่ัวลสิ ง วนั แรกวง่ิ ได้มากกวา่ วนั ท่สี อง 2 กโิ ลเมตร ต้นกล้าเก็บถวั่ แดงได้ 6 − 3 = 3 ถงั 10 7 7 7 3 ตอบ ต้นกลา้ เกบ็ ถั่วแดงได้ 7 ถงั วันทส่ี องขนุ วง่ิ ได้ 9 − 2 = 7 กิโลเมตร 3 ประโยคสัญลักษณ์ 8 + 2 = 10 10 10 10 10 8 วธิ ีท�ำ วนั แรกแก้วตาวงิ่ ออกก�ำ ลงั กายได้ระยะทาง 10 กโิ ลเมตร ตอบ วันทส่ี องขุนวิ่งได้ระยะทาง 7 กิโลเมตร วนั แรกว่ิงไดร้ ะยะทางนอ้ ยกวา่ วันท่ีสอง 2 กโิ ลเมตร 10 10 8 2 10 วนั ท่สี องแกว้ ตาว่งิ ได้ระยะทาง 10 + 10 = 10 ห รือ 1 กโิ ลเมตร ตอบ วนั ท่ีสองแกว้ ตาวง่ิ ออกก�ำ ลังกายไดร้ ะยะทาง 1 กิโลเมตร 4 ประโยคสัญลกั ษณ์ 4 − 1 = 12 12 ครูใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั สรปุ คำ�ตอบและตรวจสอบ 4 วธิ ที ำ� วันแรกกนั ตอ์ ่านหนงั สอื ใช้เวลา 12 ชั่วโมง ช่วั โมง ความสมเหตุสมผลของค�ำ ตอบ โดยการเทียบกบั วนั แรกใชเ้ วลามากกวา่ วันทสี่ อง 1 ชั่วโมง 12 4 1 3 วนั ทีส่ องกันต์ใชเ้ วลาอา่ นหนงั สือ 12 − 12 = 12 โจทยป์ ญั หาวา่ วนั ท่สี องขนุ วงิ่ ได้ระยะทางน้อยกว่าวันแรก ตอบ วันที่สองกันตใ์ ชเ้ วลาอ่านหนงั สอื 3 ชว่ั โมง 12 ดงั นนั้ ค1�ำ70ตอนบ้อย17ก0วา่ เป1น็ 90คำ�ตอบท่สี มเหตสุ มผล 5 ประโยคสัญลักษณ์ 7 + 9 = เพราะ 20 20 7 วิธที ำ� ป้ามนี �ำ้ ตะไคร ้ 20 ลิตร มนี �ำ้ อัญชัญมากกว่าน้ำ�ตะไคร ้ 9 ลติ ร 20 7 9 16 3. ครแู บง่ นักเรียนเป็นกลุม่ ให้นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ ปา้ มีน้�ำ อัญชนั 20 + 20 = 20 ลิตร ตอบ ปา้ มนี ำ�้ อัญชัน 16 เมตร 20 ช่วยกนั เขยี นประโยคสัญลกั ษณแ์ ละแสดงวิธีหาค�ำ ตอบ 6 ประโยคสญั ลักษณ์ 5 + 3 = 10 10 5 ตามหนังสอื เรยี นหนา้ 225 กลุ่มละ 1 ขอ้ แลว้ ใหน้ กั เรยี น วธิ ีทำ� แม่ท�ำ ขนมใชน้ ้ำ�ตาลทราย 10 กิโลกรัม กโิ ลกรัม ใช้นำ้�ตาลทรายน้อยกว่าแปง้ 3 กิโลกรัม 10 5 3 8 แตล่ ะกล่มุ ออกมาน�ำ เสนอวิธีทำ�จนครบทุกขอ้ แม่ใชแ้ ป้งท�ำ ขนม 10 + 10 = 10 ตอบ แมใ่ ช้แปง้ ทำ�ขนม 8 กิโลกรัม 10 โดยครูอาจเดินส�ำ รวจแนวคิดของนกั เรียนแต่ละกลุ่ม 236 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 6 | เศษส่วน คู่มือครูรายวชิ าพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 เลม่ 1 จากนั้นน�ำ แนวคิดของนกั เรยี นมาอภิปรายเพือ่ หาข้อสรุป หนังสอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 บทที่ 6 | เศษส่วน โดยมีประเด็นอภปิ ราย คือ โจทยถ์ ามอะไร โจทย์บอกอะไร ตรวจสอบความเข้าใจ หาค�ำ ตอบไดอ้ ยา่ งไร เขียนประโยคสัญลักษณไ์ ดอ้ ยา่ งไร เขียนประโยคสัญลักษณแ์ ละแสดงวิธหี าคำาตอบ และเขยี นแสดงวธิ ีหาค�ำ ตอบได้อย่างไร พร้อมทัง้ ตน้ กล้ากินพิซซา่ ไป 3 ถาด ต้นกลา้ กินพิซซ่าน้อยกวา่ ขุน 1 ถาด ขนุ กินพิซซา่ ไปกี่ถาด 8 8 ตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคำ�ตอบ โดยเปิดโอกาส ให้นักเรยี นไดน้ �ำ เสนอแนวคดิ ท่หี ลากหลาย และ แลกเปลย่ี นเรยี นรู้กนั ระหว่างกลุ่ม ครอู าจแนะนำ�วธิ คี ิด ในการหาค�ำ ตอบ เชน่ ขอ้ 1 ครูอาจแนะนำ�วา่ ไมท้ ่อนแรก 7 1 ยาว 8 เมตร ไมท้ อ่ นแรกยาวกว่าไม้ทอ่ นที่สอง 8 เมตร สิ่งทไ่ี ด้เรยี นรู้ แสดงว่าไม้ทอ่ นทีส่ องยาวมากกว่าหรอื ยาวน้อยกวา่ การแก้โจทย์ปัญหาทาำ ได้โดยอา่ นทำาความเขา้ ใจปญั หา วางแผนแกป้ ญั หา หาคาำ ตอบ และตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาำ ตอบ ไม้ทอ่ นแรก (ไม้ท่อนทสี่ องยาวนอ้ ยกวา่ ไมท้ อ่ นแรก) ดังน้ันต้องหาคำ�ตอบด้วยการบวก แบบฝึกหดั 6.7 226 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรอื การลบ (การลบ) เปน็ ตน้ หรอื ครอู าจ เฉลย ใชก้ ารระบายสีในแถบกระดาษ ให้นกั เรยี น ประโยคสัญลักษณ์ 3 + 1 = 3 8 8 เข้าใจว่าต้องใชก้ ารบวกหรือการลบในการหา วธิ ีทำ� ตน้ กล้ากินพิซซา่ ไป 18 ถาด ถาด ตน้ กล้ากนิ พิซซ่านอ้ ยกวา่ ขนุ 1 84 ถาด 3 8 8 ค�ำ ตอบแต่ละข้อกอ่ นทจ่ี ะใหน้ กั เรียนแบ่งกลมุ่ ขุนกินพิซซ0่ ไป 8 + = 4 ตอบ ขนุ กินพซิ ซ่าไป 8 ถาด การตรวจสอบความเข้าใจ 4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนเป็นรายบคุ คล โดยให้นักเรยี นแต่ละคนเขียน ประโยคสญั ลักษณแ์ ละแสดงวิธหี าค�ำ ตอบตามหนังสือเรียนหนา้ 226 ครูและนกั เรยี นรว่ มกัน ตรวจสอบความถูกตอ้ ง และสรปุ สิง่ ที่ไดเ้ รียนรู้ หากพบวา่ มนี กั เรียนบางคนเขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์ และแสดงวิธีหาคำ�ตอบไม่ถูกตอ้ ง ครูควรสอนเพ่ิมเติมเป็นรายบคุ คล สิง่ ที่ได้เรียนรู้ การแก้โจทยป์ ัญหา ท�ำ ไดโ้ ดยอา่ นทำ�ความเข้าใจปญั หา วางแผนแกป้ ญั หา หาค�ำ ตอบ และตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของค�ำ ตอบ จากนั้นครใู หน้ กั เรียนท�ำ แบบฝึกหัด 6.7 หนา้ 161 - 163 | 237สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คมู่ ือครูรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 6 | เศษสว่ น ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เล่ม 1 หนงั สือเรียนรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 รว่ มคิดร่วมทำ� (1 ช่ัวโมง) บทท่ี 6 | เศษส่วน กิจกรรม รว่ มคิดรว่ มทาำ ตรงใจใหเ้ ลย กิจกรรม ตรงใจใหเ้ ลย อุปกรณ์ อปุ กรณ ์ 1. บตั รเศษส่วน 5 ชุด ชุดละอยา่ งน้อย 6 บัตร แต่ละชุดมีเศษสว่ นท่ตี วั ส่วนเทา่ กนั − บัตรเศษส่วน 5 ชดุ ชดุ ละอยา่ งน้อย 6 บัตร แตล่ ะชุดมเี ศษส่วนทต่ี วั ส่วนเทา่ กนั 2. บตั รเคร่ืองหมาย 1 ชุด ม ี 4 บัตร (บตั รเศษสว่ นที่ครเู ตรียมไว้ต้องมีผลบวก ไมเ่ กิน 1 หรอื ครอู าจน�ำ บัตรเศษส่วน วธิ ีจดั กิจกรรม มาจากสือ่ เพิ่มเตมิ ทไ่ี ด้จากการสแกน QR code 1. ครูใหน้ กั เรยี นจับค ู่ แจกบัตรเศษส่วนและบัตรเครือ่ งหมายอย่างละ 1 ชดุ จากหนา้ แรกของบทน้)ี แล้วให้นักเรียนแตล่ ะคคู่ ว่าำ บัตรไว้ − บัตรเคร่ืองหมาย 1 ชุด มี 4 บัตร 2. ให้นักเรียนแต่ละคู่ตกลงกนั วา่ ใครจะเรม่ิ เล่นก่อน ผู้ทเี่ รมิ่ เล่นก่อนจะหยบิ บตั รเคร่อื งหมายหงายไว ้ 1 บตั ร เตรียมสถานท่ี กรณีที่หยิบได้ + หรอื − ให้ผเู้ ล่นแต่ละคนหยบิ บตั รเศษส่วน 2 บัตร ห้องโลง่ หรอื จดั โต๊ะเรียนเป็นคู่ หรอื แล้วหาผลบวกหรอื ผลลบตามบตั รเครอ่ื งหมาย ผเู้ ล่นทไี่ ดผ้ ลบวกหรอื ผลลบ เปน็ กล่มุ ตามจ�ำ นวนสมาชกิ ท้งั 2 ทีม มากกว่าจะไดค้ ะแนน 1 คะแนน กรณหี ยบิ ได้ > หรือ < ใหผ้ เู้ ลน่ แต่ละคนหยิบบัตรเศษสว่ น 1 บตั ร ผู้เลน่ ท่ีได้เศษส่วนที่สอดคลอ้ งกับเครอ่ื งหมายจะได้คะแนน 1 คะแนน 3. เมือ่ เล่นครบ 10 รอบ นบั คะแนนทไ่ี ด้ ผูเ้ ล่นคนใดไดค้ ะแนนมากกว่าจะเปน็ ผูช้ นะ ตัวอยา่ งบัตรเศษสว่ น 1 ชุด 123 4 5 6 12 12 12 12 12 12 *บัตรเศษส่วนต้องมผี ลบวกไมเ่ กิน 1 ตัวอยา่ งบตั รเคร่อื งหมาย 1 ชดุ <>+− แบบฝกึ ทา้ ทาย | 227สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วธิ จี ัดกจิ กรรม 1. ครูให้นักเรยี นจับคกู่ นั หรือแบง่ เป็นทมี 2 ทมี และแจกอุปกรณ์คลู่ ะ 1 ชุด หรือทีมละ 1 ชุด ประกอบดว้ ย บัตรเศษสว่ น 6 บัตร และบัตรเคร่ืองหมาย 4 บตั ร จากนั้นใหน้ กั เรียนตกลงกนั ว่า ใครหรอื ทีมใดจะเริม่ เลน่ ก่อน โดยบตั รเศษส่วนและบตั รเครอ่ื งหมายทุกใบจะคว่ำ�ไว้ 2. ผทู้ เ่ี ร่มิ เล่นก่อนหรอื ทีมที่เริม่ เลน่ กอ่ น จะหยิบบัตรเคร่อื งหมายหงายไว้ 1 บตั ร กรณี ทห่ี ยิบไดบ้ ตั รเครื่องหมาย + หรอื − ให้ผเู้ ล่นแต่ละคนหรอื แตล่ ะทีมหยิบบัตรเศษสว่ นขน้ึ มา 2 บตั ร แลว้ หาผลบวกหรอื ผลลบตามบตั รเคร่อื งหมาย ผู้เลน่ คนใดหรอื ทมี ใดทีไ่ ดผ้ ลบวกหรือผลลบมากกว่า จะได้คะแนน 1 คะแนน กรณที ีห่ ยิบได้บตั รเครอ่ื งหมาย > หรอื < ให้ผเู้ ล่นแต่ละคนหรือแตล่ ะทีม หยบิ บัตรเศษสว่ นข้นึ มา 1 บตั ร ผู้เลน่ คนใดหรอื ทีมใดทไ่ี ดเ้ ศษส่วนทีส่ อดคล้องกับบตั รเครื่องหมาย จะได้คะแนน 1 คะแนน 3. เม่ือเล่นครบ 10 รอบ ใหน้ บั คะแนนทไี่ ด้ ผูเ้ ล่นคนใดหรือทีมใดได้คะแนนมากกวา่ จะเป็นผ้ชู นะ จากน้ันใหน้ กั เรยี นท�ำ แบบฝึกท้าทายหนา้ 164 - 166 238 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 6 | เศษส่วน ค่มู ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เล่ม 1 คณิตคิดทา้ ทาย 1. (TIMSS 2011) 2 3 ภาพใดมสี ว่ นทีแ่ รเงาเป็น ของภาพ (1) (2) (3) (4) (5) 2. (TIMSS 2011) เ14จนข,อใหงเมค่ ก้ แทล้งัะกค้อณุ นแคมุณก่ นิ แขมน่กมนิ เไคปก้ ก41อ้ นขอหงนเ่ึงค้กเจทนั้งกกิน้อนไปจะ12มขขี อนงมเเคคก้ ก้ ทเหง้ั กล้ออื นอยใเู่หทม่า่กไหนิ รไป่ (1) 3 (2) 1 (3) 1 (4) ไม่มีเหลือ 4 2 4 3. (TIMSS 2011) ภาพนีบ้ างส่วนมีการแรเงา ส่วนทแี่ รเงาคดิ เป็นเศษสว่ นเทา่ ใดของภาพ (1) 5 (2) 4 (3) 6 (4) 5 4 5 9 9 4. (TIMSS 2011) รูปสเี่ หลี่ยมผนื ผ้าในขอ้ ใดท่ไี ม่ไดแ้ บง่ ออกเป็น 4 สว่ น เทา่ ๆ กัน (1) (2) (3) (4) | 239สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มือครูรายวิชาพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 6 | เศษสว่ น ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เลม่ 1 5. (TIMSS 2011) 1 2 แรเงารูปตอ่ ไปนใี้ หไ้ ด้พนื้ ที่เป็น ของพนื้ ท่ีของรปู สามเหลี่ยมใหญ่ 6. (TIMSS 2007) สว่ นทแ่ี รเงาของรูปส่เี หลย่ี มผนื ผ้าด้านบนมีพืน้ ที่ส่วนทแ่ี รเงาเทา่ กบั วงกลมในขอ้ ใด (1) (2) (3) (4) (5) 240 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 6 | เศษส่วน คมู่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เล่ม 1 ตวั อย่างแบบทดสอบท้ายบท ตัวอยา่ งแบบทดสอบนีใ้ ชใ้ นการประเมนิ ผลระหว่างเรยี นเพือ่ พัฒนานกั เรียนหากมีนกั เรยี น คนใดที่ไมส่ ามารถท�ำ แบบทดสอบนี้ไดค้ รคู วรให้นกั เรียนคนน้ันฝกึ ทักษะมากข้ึนโดยอาจใช้แบบฝึก เสรมิ ในหนงั สือเสรมิ เพ่ิมปญั ญาของสสวท.หรือแบบฝึกอน่ื ทเี่ หน็ ว่าสมควร ซงึ่ แบบทดสอบทา้ ยบทน้ี มีจ�ำ นวน 10 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน ใช้เวลาในการทำ�แบบทดสอบ 20 นาที และวเิ คราะห์ เป็นรายจดุ ประสงค์การเรียนรูไ้ ด้ดงั น้ี จุดประสงค์การเรียนรู้ ขอ้ ที่ 1. บอกเศษสว่ นท่แี สดงปรมิ าณของส่ิงต่าง ๆ และแสดงสง่ิ ต่าง ๆ 1 ตามเศษสว่ นที่ก�ำ หนดโดยทต่ี ัวเศษนอ้ ยกวา่ หรือเท่ากบั ตวั สว่ น 2 2. อ่านและเขียนเศษส่วนแสดงปรมิ าณสิง่ ตา่ ง ๆ โดยท่ีตวั เศษนอ้ ยกวา่ 3-4 หรอื เท่ากับตัวส่วน 5-6 3. เปรียบเทยี บเศษส่วนทีต่ ัวสว่ นเทา่ กัน โดยท่ีตวั เศษน้อยกวา่ หรือเทา่ กับ 7 ตัวส่วน 8 4. เปรียบเทยี บเศษสว่ นทต่ี วั เศษเทา่ กนั โดยที่ตัวเศษน้อยกวา่ หรอื เท่ากบั 9 - 10 ตัวสว่ น 9 - 10 5. หาผลบวกของเศษส่วนทต่ี ัวส่วนเทา่ กัน โดยท่ผี ลบวกไมเ่ กิน 1 6. หาผลลบของเศษส่วนท่ตี วั ส่วนเท่ากัน 7. แสดงวธิ หี าคำ�ตอบของโจทย์ปญั หาการบวกเศษส่วนทตี่ วั ส่วนเทา่ กัน และผลบวกไม่เกิน 1 8. แสดงวธิ หี าคำ�ตอบของโจทย์ปญั หาการลบเศษส่วนทตี่ ัวสว่ นเท่ากัน | 241สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คมู่ ือครูรายวชิ าพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 6 | เศษสว่ น ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3 เลม่ 1 ตัวอยา่ งแบบทดสอบท้ายบท บทที่ 6 เลือก ก ข หรอื ค ทเี่ ป็นค�ำ ตอบทถ่ี ูกตอ้ ง 2 1. รปู ใดตอ่ ไปนม้ี สี ว่ นทแ่ี รงเงาเปน็ 3 ก. ข. ค. 2. จากภาพสว่ นที่แรเงาคดิ เป็นเศษสว่ นเท่าใดของภาพ ก. 5 ข. 4 ค. 4 4 5 9 3. เศษสว่ นในขอ้ ใดมีค่านอ้ ยกวา่ 5 10 ก. 3 ข. 7 ค. 9 10 10 10 4. ข้อใดเป็นการเรยี งล�ำ ดบั เศษสว่ นจากมากไปนอ้ ย ก. 14 4 3 ข. 7 4 2 ค. 5 7 10 4 4 8 8 8 13 13 13 5. การเปรยี บเทียบเศษสว่ นในขอ้ ใดถูกต้อง ก. 2 > 2 ข. 5 > 5 ค. 8 < 8 4 3 6 12 9 11 6. ขอ้ ใดเปน็ การเรียงลำ�ดับเศษสว่ นจากน้อยไปมาก ก. 3 3 3 ข. 4 4 4 ค. 6 6 6 14 5 7 5 4 8 13 9 7 242 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 6 | เศษส่วน ค่มู อื ครรู ายวชิ าพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 เล่ม 1 7. ข้อใดเปน็ ค�ำ ตอบของ 2 + 2 6 6 ก. 4 ข. 2 ค. 4 6 6 12 8. ข้อใดเปน็ คำ�ตอบของ 5 − 1 9 9 ก. 4 ข. 6 ค. 4 9 9 18 9. ขุนซื้อข้าวเหนียวแดง 6 ถาด ซ่ึงมากกว่าวุน้ กะทิใบเตย 1 ถาด ขนุ ซอ้ื ว้นุ กะทิใบเตยก่ีถาด 8 8 ข้อความข้างตน้ สอดคล้องกบั ประโยคสญั ลักษณใ์ นขอ้ ใด ก. 6 + 1 = ข. − 1 = 6 ค. 6 − 1 = 8 8 8 8 8 8 10. ใบบวั ยา้ ยต้นผักกาดไปปลกู ในแปลงทเี่ ตรยี มไว้ วนั แรกใบบัวปลูกได้ 3 แปลง วันท่สี อง 2 7 7 ปลูกเพิม่ อกี แปลง ใบบัวปลกู ผักกาด 2 วนั ได้ทงั้ หมดกีแ่ ปลง ก. 1 แปลง ข. 5 แปลง ค. 5 แปลง 7 7 14 เฉลยแบบทดสอบท้ายบท บทที่ 6 1. ข 2. ค 3. ก 4. ข 5. ข 6. ค 7. ก 8. ก 9. ค 10. ข | 243สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คมู่ อื ครูรายวชิ าพื้นฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 7 | การคณู ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 3 เล่ม 1 บทท่ี 7 การคณู จุดประสงคก์ ารเรยี นรแู้ ละสาระสำ�คัญ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระสำ�คัญ นกั เรียนสามารถ • จำ�นวน 1 หลกั คูณกบั 100 200 300 … 900 หรอื คูณกบั 1,000 2,000 3,000 … 1. หาผลคูณในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดง 9,000 หาผลคณู โดยนำ�จ�ำ นวน 1 หลักนน้ั การคูณของจำ�นวน 1 หลักกบั จำ�นวน คูณกับ 1 2 3 … 9 แลว้ เตมิ 0 ตอ่ ท้าย 2 ตวั ไม่เกนิ 4 หลกั และจำ�นวน 2 หลกั กับ หรือเตมิ 0 ตอ่ ทา้ ย 3 ตัว จำ�นวน 2 หลกั (หวั ข้อ 7.1-7.6) • การหาผลคูณของจ�ำ นวน 1 หลกั กับจ�ำ นวน ไม่เกนิ 4 หลกั โดยการต้ังคณู ตอ้ งคูณจ�ำ นวน ในหลกั หน่วยก่อนแลว้ คณู ในหลักสิบ หลกั รอ้ ยและหลักพันตามลำ�ดบั ถา้ ผลคูณ ในหลกั ใดครบสิบหรอื มากกวา่ สิบให้ทด จำ�นวนทีค่ รบสิบไปรวมกับผลคณู ในหลกั ถัดไปทางซ้าย • จ�ำ นวน 2 หลักคูณกบั 10 20 30 … 90 หาผลคูณโดยนำ�จ�ำ นวน 2 หลกั นัน้ คณู กับ 1 2 3 … 9 แลว้ เตมิ 0 ต่อท้าย • การหาผลคณู ของจำ�นวน 2 หลักกับจำ�นวน 2 หลกั โดยการต้ังคูณท�ำ ได้โดยกระจาย จ�ำ นวนใดจ�ำ นวนหน่ึงตามคา่ ประจำ�หลกั แล้วน�ำ ไปคูณกบั อีกจำ�นวนหน่ึงโดยเรมิ่ จาก หลักหน่วยและหลักสิบตามล�ำ ดบั แลว้ น�ำ ผลคูณทีไ่ ดม้ าบวกกนั 244 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 7 | การคณู คมู่ ือครูรายวิชาพ้ืนฐานคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 3 เล่ม 1 จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระส�ำ คัญ นกั เรียนสามารถ 2. หาค่าของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์ • ก ารหาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยค แสดงการคณู ของจำ�นวน 1 หลักกับจำ�นวน สญั ลกั ษณ์แสดงการคูณอาจใช้สตู รคณู ไม่เกิน 4 หลกั และจำ�นวน 2 หลักกับจำ�นวน ชว่ ยในการหาค่าของตวั ไมท่ ราบค่า 2 หลัก เมื่อนำ�จ�ำ นวนมาแทนตัวไมท่ ราบค่า (หวั ข้อ 7.7) ในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการคณู แล้ว ได้ผลคณู ตามที่ก�ำ หนด 3. แสดงวิธหี าคำ�ตอบของโจทยป์ ัญหาการคณู • การแกโ้ จทยป์ ญั หาทำ�ไดโ้ ดยอ่าน (หวั ขอ้ 7.8) ท�ำ ความเข้าใจปญั หา วางแผนแก้ปัญหา หาคำ�ตอบและตรวจสอบความสมเหตุสมผล ของคำ�ตอบ 4. สร้างโจทย์ปญั หาการคณู • การสรา้ งโจทยป์ ญั หาตอ้ งมที ้ังส่วนท่ี (หัวขอ้ 7.9) โจทยบ์ อกและสว่ นทโ่ี จทย์ถาม นอกจากนี้ โจทยป์ ญั หาทสี่ รา้ งต้องมคี วามเป็นไปได้ | 245สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มือครูรายวชิ าพื้นฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 7 | การคณู ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เล่ม 1 การวเิ คราะห์เนอ้ื หากบั ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ หวั ขอ้ เนอ้ื หา เวลา ทกั ษะและกระบวนการ ทางคณิตศาสตร์ (ชั่วโมง) 12345 เตรยี มความพร้อม 1 1 การหาผลคูณของจ�ำ นวนหนง่ึ หลกั กับ 100 7.1 200 … 900 และการหาผลคณู ของจำ�นวน 3 หน่ึงหลักกับ 1,000 2,000 … 9,000 1 7.2 การหาผลคูณของจ�ำ นวนหนึง่ หลักกับจำ�นวน 1 สามหลักโดยการตั้งคูณ 2 7.3 การหาผลคูณของจ�ำ นวนหนงึ่ หลักกับจ�ำ นวน 1 สี่หลกั โดยการต้ังคูณ 1 2 7.4 การหาผลคณู ของจ�ำ นวนสองหลกั กบั 10 20 1 30 … 90 1 7.5 การหาผลคณู ของจ�ำ นวนสองหลกั กบั จ�ำ นวน สองหลกั โดยการตง้ั คณู 7.6 การพฒั นาความรสู้ กึ เชงิ จ�ำ นวนเกย่ี วกบั การคณู 7.7 การหาค่าของตัวไมท่ ราบค่าในประโยค สัญลักษณแ์ สดงการคูณ 7.8 โจทย์ปัญหาการคูณ 7.9 การสรา้ งโจทยป์ ญั หาการคณู รว่ มคิดร่วมท�ำ 1  การแก้ปัญหา 2  การสื่อสารและการสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร ์ 3  การเชอ่ื มโยง 4  การให้เหตผุ ล 5  การคิดสร้างสรรค์ 246 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 7 | การคูณ คมู่ ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เล่ม 1 คำ�ส�ำ คญั ประโยคสัญลักษณแ์ สดงการคูณ จ�ำ นวน 1 หลัก จ�ำ นวน 2 หลัก จำ�นวน 3 หลัก จ�ำ นวน 4 หลัก ความรู้สึกเชงิ จ�ำ นวนเกยี่ วกบั การคณู โจทย์ปญั หาการคูณ ความรูห้ รอื ทักษะพนื้ ฐานของนักเรยี น 1. การบวกจ�ำ นวนนับไม่เกิน 100,000 2. การบวกจำ�นวนเดียวกันซ้ำ� ๆ 3. การคูณจ�ำ นวน 1 หลกั กับจำ�นวน 1 หลกั 4. การคูณจำ�นวน 1 หลกั กบั จำ�นวน 2 หลกั 5. การคณู จำ�นวน 1 หลกั กบั 10 20 30 … 90 ส่อื และแหลง่ เรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนหนา้ 228 - 273 2. แบบฝึกหดั หนา้ 167 - 205 3. แบบบนั ทกึ กิจกรรม ใบกิจกรรม บัตรภาพตา่ ง ๆ และอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ ทใี่ ช้ประกอบกิจกรรม ดงั น้ี บตั รภาพแสดงการคูณ • บตั รโจทย์การคณู • บัตรโจทย์ปญั หาการคณู • แผ่นตารางรอ้ ย แผ่นตารางสิบ แผน่ ตารางหนว่ ย • บัตรกจิ กรรมตวั เลขใดหายไป • ใบกิจกรรมเรียงล�ำ ดับผลคณู • ตารางสูตรคณู แม่ 2 - 9 •• ใบกจิ กรรมสนกุ กบั ตัวเลขและแบบบนั ทกึ กจิ กรรม 4. สื่อเพ่ิมเตมิ หน้า 230 243 257 273 (Download ได้จาก QR code หน้า 228) 5. ส่ือวดี ทิ ัศน์ (QR code) การคณู จำ�นวน 1 หลักกบั 4 หลกั หน้า 241 • การคณู จ�ำ นวน 2 หลักกับ 2 หลกั หนา้ 249 •• เลขโดดทีห่ ายไป หน้า 253 เวลาที่ใช้จัดการเรียนรู้ 15 ชว่ั โมง | 247สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มือครรู ายวิชาพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 7 | การคณู ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เลม่ 1 35 บาท 35 บาท การจดั การเรียนรู้ 35 บาท 35 บาท การเตรยี มความพรอ้ ม (1 ชว่ั โมง) 35 บาท 35 บาท บทท่ี 7 การคูณ แม่ซ้ือนมรสจืด 12 แพก็ ราคาแพก็ ละ 35 บาท แม่ตอ้ งจา่ ยเงินเทา่ ไร เรยี นจบบทน้ีแลว้ นกั เรยี นสามารถ สื่อเพิม่ เตมิ หาผลคณู ในประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการคูณของจาำ นวน 1 หลกั กับจาำ นวนไมเ่ กิน 4 หลกั และจาำ นวน 2 หลกั กบั จำานวน 2 หลกั หาค่าของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการคณู ของจาำ นวน 1 หลักกับจำานวนไมเ่ กนิ 4 หลัก และจำานวน 2 หลัก กบั จาำ นวน 2 หลกั แสดงวิธหี าคำาตอบของโจทย์ปญั หาการคูณ สร้างโจทย์ปญั หาการคณู 1. ใช้ข้อมูลในหนงั สือเรยี นหนา้ เปดิ บททเ่ี ปน็ ขอ้ มูลเกย่ี วกบั การซือ้ ขาย ดินสอ ปากกา นมกลอ่ งในร้านคา้ ของโรงเรยี น ซง่ึ มสี นิ ค้าประเภทเคร่ืองเขยี น ดนิ สอ ปากกา กล่องดินสอ ดินสอสี สีเมจกิ เปน็ กล่อง ๆ และเป็นแพ็ก ๆ นมกล่องเป็นแพก็ ๆ โดยครูอาจกลา่ วว่ามนี กั เรยี น ผูป้ กครอง มาซือ้ สนิ ค้าในร้านค้าของโรงเรียน ครถู ามนกั เรียนวา่ ใครเคยไปซื้อสินค้าท่ีรา้ นค้าในโรงเรยี นบา้ ง และซอ้ื สนิ คา้ ประเภทใด ราคาเทา่ ไร จากนนั้ ครูให้นกั เรยี นสังเกตภาพในหนงั สือเรยี นหนา้ เปิดบท ด้านขวา พบวา่ แม่ของขุนซื้อนมกลอ่ ง โดยซอ้ื นมรสจืด 12 แพ็ก ราคาแพก็ ละ 35 บาท แมข่ องขุน จะตอ้ งจา่ ยเงนิ เท่าไร ครูถามนักเรียนวา่ นักเรยี นจะหาคำ�ตอบไดอ้ ยา่ งไร นกั เรียนอาจหาคำ�ตอบได้ โดยการบวกซำ�้ ๆ นมราคาแพ็กละ 35 บาท แม่ซอื้ จำ�นวน 12 แพ็กจะต้องจา่ ยเงินเทา่ กับ 35 + 35 + 35 + 35 + 35 + 35 + 35 + 35 + 35 + 35 + 35 + 35 หรืออาจกลา่ วว่านำ� 35 บวกกัน 12 จำ�นวน ครถู ามนักเรียนวา่ จะใชว้ ธิ กี ารใดได้อกี นกั เรียนอาจตอบวา่ ใช้การคูณ ครซู กั ถามตอ่ ไปอีกว่าใช้วธิ ีการคณู อยา่ งไร ครูบอกวา่ นกั เรยี นหาค�ำ ตอบไดโ้ ดยการคณู จำ�นวน 2 หลักกบั จ�ำ นวน 2 หลัก ซ่ึงจะใช้ความรู้ในบทเรยี นนห้ี าคำ�ตอบ 248 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 7 | การคูณ คู่มือครรู ายวิชาพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เล่ม 1 2. การเตรยี มความพรอ้ มส�ำ หรับเรียนบทน้ี หนงั สือเรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 จะเปน็ การตรวจสอบวา่ นกั เรียนแตล่ ะคนมคี วามรพู้ ืน้ ฐาน บทที่ 7 | การคณู เตรียมความพร้อม เพยี งพอในการเรยี นบทนห้ี รอื ไม่ นน่ั คอื การมคี วามรพู้ น้ื ฐาน กจิ กรรม ฝก� คณู กนั เถอะ เกี่ยวกบั การคูณจำ�นวน 1 หลกั กับจ�ำ นวน 1 หลัก และ การคูณจ�ำ นวน 1 หลกั กับจำ�นวน 2 หลกั ที่เรียนใน อปุ กรณ์ 1 ชดุ ประกอบดว้ ย ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 2 โดยให้นักเรียนทำ�กิจกรรม ฝกึ คณู บตั รภาพ บตั รโจทยก์ ารคูณ และบัตรโจทยป์ ัญหาการคูณ กันเถอะ ครแู บง่ นักเรียนเปน็ กลุ่มและแจกอปุ กรณก์ ล่มุ ละ วิธีจัดกิจกรรม 1. ครูแบง่ นักเรยี นเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั และแจกอุปกรณก์ ลมุ่ ละ 1 ชุด 2. ครใู ห้นักเรยี นแต่ละกลุม่ ทาำ กิจกรรมที่ 1 – 3 กจิ กรรมท่ี 1 เขยี นประโยคสญั ลักษณ์การคูณจากบตั รภาพ กจิ กรรมที่ 2 หาผลคูณจากบัตรโจทยก์ ารคณู กิจกรรมที่ 3 เขยี นประโยคสญั ลกั ษณแ์ ละหาคาำ ตอบจากบตั รโจทยป์ ญั หาการคณู 3. แต่ละกลมุ่ นาำ เสนอ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง บตั รภาพ ตัวอย่าง 1 ชดุ แตล่ ะชุดประกอบดว้ ย บัตรภาพ บตั รโจทย์การคูณ บตั รโจทยก์ ารคูณ 2 × 48 = 34 × 7 = 5 × 92 = และบตั รโจทย์ปญั หาการคูณ แตล่ ะกล่มุ อาจได้บัตรไมซ่ �ำ้ กนั 13 × 6 = ซง่ึ ครสู ามารถน�ำ บัตรภาพ บัตรโจทยก์ ารคูณ และบตั รโจทย์ บัตรโจทย์ปัญหาการคณู ปัญหาการคณู มาจากการสแกน QR code ในหน้าเปิดบท ขนุ แบ่งเงาะใหเ้ พ่อื น 20 คน คนละ 5 ผล ขนุ แบง่ เงาะใหเ้ พ่อื นทง้ั หมดก่ผี ล แล้วครใู หน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มท�ำ กจิ กรรมที่ 1 - 3 แกว้ ตาซื้อดินสอแทง่ ละ 4 บาท จำานวน 12 แท่ง แกว้ ตาจา่ ยเงินซื้อดนิ สอก่บี าท ซึง่ กิจกรรมที่ 1 เขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์การคูณจาก ใบบัวปลูกตน้ มะลิ 3 แถว แถวละ 8 ตน้ ใบบัวปลกู ต้นมะลิทั้งหมดกี่ต้น 230 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี บัตรภาพ กจิ กรรมที่ 2 หาผลคูณจากบัตรโจทย์การคูณ และกิจกรรมท่ี 3 เขียนประโยคสญั ลักษณ์ และหาค�ำ ตอบจากบตั รโจทย์ปัญหาการคูณ จากนั้นครใู ห้นกั เรยี นแต่ละกลุม่ น�ำ เสนอผลงาน ครแู ละนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง ถ้าพบวา่ นักเรยี นกลุ่มใดยงั หาค�ำ ตอบไม่ถกู ตอ้ ง ครคู วรฝึกนกั เรียนเปน็ รายกลุ่มหรือรายบุคคล 7.1 การหาผลคณู ของจ�ำ นวนหน่งึ หลักกบั 100 200 … 900 และการหาผลคณู ของจ�ำ นวนหนึ่งหลักกบั 1,000 2,000 … 9,000 (1 ชว่ั โมง) จุดประสงค์ − หาผลคณู ของจำ�นวนหน่งึ หลกั กบั 100 200 … 900 − หาผลคูณของจำ�นวนหน่ึงหลักกบั 1,000 2,000 … 9,000 สอื่ การเรียนรู้ − บตั รภาพ − บัตรสถานการณ์ − บัตรโจทย์การคณู แนวการจดั การเรยี นรู้ การพฒั นาความรู้ 1. ครูทบทวนการหาผลคูณของจ�ำ นวน 1 หลักกับ 10 20 30 … 90 ใหน้ กั เรยี นสังเกต ผลคูณทไี่ ด้ว่า เปน็ การน�ำ จ�ำ นวน 1 หลกั น้ัน คณู กบั 1 2 3 … 9 แล้วเตมิ 0 ตอ่ ท้าย 1 ตัว | 249สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คมู่ ือครรู ายวชิ าพืน้ ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 7 | การคูณ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 เลม่ 1 จากนน้ั ครถู ามนกั เรยี นวา่ ถา้ นำ�จำ�นวน 1 หลกั หนังสอื เรียนรายวิชาพน้ื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 คณู กับ 100 200 300 … 900 ผลคูณทไี่ ด้ บทท่ี 7 | การคณู ควรจะเปน็ อย่างไร จากนนั้ ครูติดบตั รภาพ ของขวญั 2 กลอ่ ง และตดิ บัตรสถานการณ์ 7.1 การหาผลคณู ของจาำ นวนหนง่ึ หลกั กบั “ของขวญั ราคากล่องละ 100 บาท ครูซอ้ื 100 200 … 900 และการหาผลคณู ของขวญั 2 กล่อง ครตู อ้ งจา่ ยเงนิ ก่ีบาท” ของจาำ นวนหนง่ึ หลกั กบั 1,000 2,000 … 9,000 พัฒนาความรู้ ของขวัญราคากลอ่ งละ 100 บาท ครูซอ้ื ของขวญั 2 กล่อง ครูตอ้ งจ่ายเงินเทา่ ไร ตามหนงั สือเรียนหน้า 231 จากสถานการณ์ ของขวญั ราคากลอ่ งละ 100 บาท ซื้อ 2 กล่อง ครูใช้การถาม - ตอบ เพ่อื เชือ่ มโยงความรู้ ประโยคสญั ลกั ษณ์ 2 × 100 = ครตู อ้ งจ่ายเงิน 2 × 100 = 100 + 100 = 200 บาท ไปสู่การคณู ดังนี้ ถ้าครูซอ้ื ของขวญั กลอ่ งละ 400 บาท 3 กลอ่ ง ครจู ะต้องจา่ ยเงินเทา่ ไร − ของขวญั ราคากลอ่ งละกบ่ี าท (100 บาท) ประโยคสัญลกั ษณ์ 3 × 400 = ครูต้องจ่ายเงิน 3 × 400 = 400 + 400 + 400 = 1,200 บาท − ครูซอื้ ของขวญั ก่กี ล่อง (2 กลอ่ ง) สังเกต 2 × 1 = 2 3 × 4 = 12 − ครูตอ้ งจา่ ยเงินกบ่ี าท (200 บาท) − นักเรียนหาค�ำ ตอบไดอ้ ย่างไร 2 × 100 = 200 3 × 400 = 1,200 นักเรยี นอาจหาคำ�ตอบโดยนำ�ราคาของขวัญ ทงั้ สองกล่องมาบวกกัน ดงั นี้ หาผลคณู 1,200 2 8 × 200 = 1,600 100 + 100 = 200 บาท 1 4 × 300 = 5,400 4 700 × 6 = 4,200 3 9 × 600 = จาำ นวนหนึง่ หลักคณู กับ 100 200 300 … 900 หาผลคูณโดย นาำ จำานวนหนึง่ หลักนนั้ คูณกับ 1 2 3 … 9 แล้วเตมิ 0 ต่อทา้ ย 2 ตัว | 231สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จากน้ันครถู ามนกั เรียนตอ่ ไปวา่ มีวิธหี าค�ำ ตอบแบบอืน่ หรือไม่ ถ้ามีหาคำ�ตอบไดอ้ ยา่ งไร และเขียนประโยคสญั ลกั ษณไ์ ด้อย่างไร นกั เรยี นอาจตอบว่าหาคำ�ตอบโดยการคณู เขียนประโยคสัญลกั ษณ์การคณู ไดเ้ ปน็ 2 × 100 = ดงั นน้ั ครูต้องจา่ ยเงิน 2 × 100 = 100 + 100 = 200 จาก 2 × 100 = 200 ครถู ามนกั เรียน เกีย่ วกับความหมายของการคณู ในท่นี ี้ 2 เป็นจำ�นวนกลุม่ 100 เป็นจำ�นวนสมาชกิ ในแตล่ ะกลุ่ม และ 200 เป็นจำ�นวนสมาชกิ ทงั้ หมด จากน้ันครยู กตวั อย่างสถานการณ์ “ถ้าครูซ้อื ของขวัญกล่องละ 400 บาท 3 กลอ่ ง ครตู อ้ งจ่ายเงินเทา่ ไร” แล้วใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันหาคำ�ตอบจากสถานการณ์ นักเรยี นอาจหาคำ�ตอบได้วา่ ของขวัญกล่องละ 400 บาท ครซู อื้ จ�ำ นวน 3 กล่อง ครูตอ้ งจา่ ยเงิน 400 + 400 + 400 = 1,200 บาท ครูถามตอ่ ไปว่า เขียนประโยคสญั ลกั ษณ์การคณู ได้อย่างไร นกั เรียนตอบว่า 3 × 400 = ครตู อ้ งจา่ ยเงิน 3 × 400 = 400 + 400 + 400 = 1,200 บาท ครูใหน้ ักเรียนสังเกตการหาผลคณู ของ 2 × 100 = 200 และ 3 × 400 =1,200 ดงั น ี้ 2 × 1 = 2 3 × 4 = 12 2 × 100 = 200 3 × 400 = 1,200 จะสงั เกตเหน็ วา่ 2 × 1 = 2 และ 2 × 100 = 200 เป็นการเติม 0 จ�ำ นวน 2 ตวั ต่อทา้ ยผลคณู ของ 2 × 1 จาก 3 × 4 = 12 และ 3 × 400 = 1,200 เปน็ การเติม 0 จ�ำ นวน 2 ตัวต่อท้ายผลคูณของ 250 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 7 | การคูณ คู่มือครรู ายวชิ าพื้นฐานคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เล่ม 1 3 × 4 ครูและนกั เรียนได้ขอ้ สงั เกตว่า จ�ำ นวนใดคณู กับ 100 หรือ 400 ให้คูณจำ�นวนนน้ั กบั 1 หรือ 4 แล้วเตมิ 0 ตอ่ ท้าย 2 ตัว ครูใหน้ ักเรยี นช่วยกันหาผลคณู ในกรอบทา้ ยหนงั สือเรยี นหนา้ 231 ขอ้ 1 - 4 ครูและนกั เรยี นตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ครูช้ใี ห้นักเรยี นเหน็ วา่ การหาผลคณู ของจำ�นวน สองจ�ำ นวนสามารถสลบั ท่ไี ด้ผลคูณยังเท่าเดิม เชน่ ในข้อ 4 นักเรยี นสามารถหา 700 × 6 หรือ 6 × 700 ไดผ้ ลคูณเทา่ กัน จากน้นั ครใู หน้ กั เรยี นสังเกตผลคณู ของข้อ 1 - 4 แลว้ รว่ มกนั สรปุ วา่ จ�ำ นวนหนึ่งหลกั คูณกับ 100 200 300 … 900 หาผลคณู โดยน�ำ จ�ำ นวนหน่ึงหลกั นนั้ คูณกับ 1 2 3 … 9 แล้วเตมิ 0 ตอ่ ท้าย 2 ตัว 2. เมอ่ื นักเรียนสามารถหาผลคูณของจำ�นวน 1 หลักกบั 100 200 300 … 900 ไดแ้ ลว้ ครถู ามนักเรยี นวา่ สามารถหาผลคณู ของจ�ำ นวน 1 หลกั กับ 1,000 2,000 3,000 … 9,000 ได้หรอื ไม ่ ครตู ดิ บัตรสถานการณ์ตามหนังสือเรียนหนา้ 232 “พอ่ แก้วตาซ้อื กระติกนำ�้ รอ้ นบริจาค ใหโ้ รงเรียน 4 ใบ ราคาใบละ 1,000 บาท พ่อแกว้ ตาต้องจา่ ยเงนิ กบ่ี าท” จากสถานการณ์ ครูใชก้ ารถาม - ตอบ เพ่อื เชอ่ื มโยงความรู้ไปสกู่ ารคูณ ดังน้ี − พ่อของแก้วตาซือ้ กระติกน�ำ้ รอ้ นก่ีใบ (4 ใบ) − กระติกน้ำ�รอ้ นราคาใบละเทา่ ไร (1,000 บาท) − พอ่ ของแกว้ ตาต้องจ่ายเงนิ กี่บาท (4,000 บาท) − นักเรยี นหาคำ�ตอบไดอ้ ย่างไร นักเรียนอาจหาค�ำ ตอบโดยน�ำ ราคาของกระตกิ น้�ำ ร้อน 4 ใบ มาบวกกนั ดังนี้ 1,000 + 1,000 + 1,000 + 1,000 = 4,000 บาท หนังสือเรยี นรายวิชาพ้ืนฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 จากน้ัน ครูถามนักเรยี นต่อไปวา่ มีวิธีหาคำ�ตอบ บทที่ 7 | การคณู แบบอ่นื หรือไม่ ถา้ มี หาค�ำ ตอบไดอ้ ยา่ งไร พอ่ แก้วตาซอ้ื กระติกนาำ้ ร้อนบรจิ าคใหโ้ รงเรียน 4 ใบ และเขียนประโยคสญั ลักษณก์ ารคณู ได้อย่างไร ราคาใบละ 1,000 บาท พอ่ แกว้ ตาตอ้ งจ่ายเงนิ ก่บี าท กระตกิ นำ้ารอ้ นใบละ 1,000 บาท ซื้อ 4 ใบ นกั เรียนอาจตอบว่าหาค�ำ ตอบโดยการคณู ประโยคสัญลกั ษณ์ 4 × 1,000 = เขยี นประโยคสัญลกั ษณการคูณได้เปน็ พอ่ แกว้ ตาตอ้ งจา่ ยเงนิ 4 × 1,000 = 1,000 + 1,000 + 1,000 + 1,000 = 4,000 บาท 4 × 1,000 = ดงั นนั้ พอ่ ของแกว้ ตา รา้ นคา้ ขายหมอ้ หุงขา้ วใบละ 3,000 บาท 2 ใบ ต้องจา่ ยเงิน 4 × 1,000 = รา้ นคา้ ไดร้ บั เงินกี่บาท 1,000 + 1,000 + 1,000 + 1,000 = 4,000 ประโยคสญั ลักษณ์ 2 × 3,000 = จาก 4 × 1,000 = 4,000 ครถู ามนกั เรียน ร้านคา้ ไดร้ ับเงิน 2 × 3,000 = 3,000 + 3,000 = 6,000 บาท เก่ียวกบั ความหมายของการคูณ ในท่ีนี้ 4 เป็น สงั เกต 4 × 1 =4 2×3 =6 4 × 1,000 = 4,000 2 × 3,000 = 6,000 จ�ำ นวนกลมุ่ 1,000 เป็นจำ�นวนสมาชกิ ใน หาผลคูณ 14,000 2 9,000 × 5 = 45,000 แตล่ ะกลุ่ม และ 4,000 เปน็ จ�ำ นวนสมาชกิ 1 2 × 7,000 = 35,000 4 8 × 4,000 = 32,000 3 7 × 5,000 = ทงั้ หมด จากนน้ั ครยู กตัวอย่างสถานการณ ์ จำานวนหนง่ึ หลักคูณกบั 1,000 2,000 3,000 ... 9,000 “รา้ นค้าขายหมอ้ หุงข้าวใบละ 3,000 บาท 2 ใบ หาผลคูณโดยนำาจาำ นวนหนึ่งหลกั น้ันคณู กบั 1 2 3 … 9 แล้วเตมิ 0 รา้ นค้าไดร้ บั เงินกี่บาท” แลว้ ให้นกั เรยี นชว่ ยกนั ต่อทา้ ย 3 ตัว 232 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 251สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มือครรู ายวิชาพ้ืนฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 7 | การคณู ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 เลม่ 1 หาค�ำ ตอบ จากสถานการณ์ นกั เรียนอาจหาคำ�ตอบได้วา่ หมอ้ หุงข้าวราคาใบละ 3,000 บาท ขาย 2 ใบ รา้ นค้าได้รับเงนิ 3,000 + 3,000 = 6,000 บาท ครถู ามตอ่ ไปวา่ เขยี นประโยคสญั ลกั ษณก์ ารคูณได้อย่างไร นักเรยี นตอบวา่ 2 × 3,000 = ดงั น้ันร้านค้าได้รับเงิน 2 × 3,000 = 3,000 + 3,000 = 6,000 บาท ครใู หน้ ักเรยี นสังเกตการหาผลคณู ของ 4 × 1,000 = 4,000 และ 2 × 3,000 = 6,000 ดงั น ้ี 4 × 1 = 4 2 × 3 = 6 4 × 1,000 = 4,000 2 × 3,000 = 6,000 จะสังเกตเห็นว่า 4 × 1 = 4 และ 4 × 1,000 = 4,000 เปน็ การเติม 0 จำ�นวน 3 ตวั ต่อท้ายผลคณู ของ 4 × 1 จาก 2 × 3 = 6 และ 2 × 3,000 = 6,000 เปน็ การเตมิ 0 จ�ำ นวน 3 ตัวต่อทา้ ยผลคณู ของ 2 × 3 ครูและนักเรียนได้ข้อสังเกตว่า จ�ำ นวนใดคูณกบั 1,000 หรือ 3,000 ใหค้ ูณจ�ำ นวนนั้น กับ 1 หรือ 3 แล้วเตมิ 0 ตอ่ ทา้ ย 3 ตวั ครใู หน้ กั เรยี นช่วยกนั หาผลคณู ในกรอบทา้ ยหนงั สอื เรยี น หนา้ 232 ข้อ 1 - 4 ครแู ละนักเรียนตรวจสอบความถูกต้อง ครูชีใ้ ห้นักเรียนเห็นวา่ การหาผลคณู ของจำ�นวนสองจ�ำ นวนสามารถสลับทไ่ี ดผ้ ลคูณยังเท่าเดมิ เชน่ ในขอ้ 2 นักเรยี นสามารถหา 9,000 × 5 หรือ 5 × 9,000 ไดผ้ ลคณู เท่ากัน จากนั้นครูใหน้ กั เรยี นสงั เกตผลคณู ของขอ้ 1 - 4 แล้วร่วมกันสรุปว่า จ�ำ นวนหนึ่งหลกั คณู กบั 1,000 2,000 3,000 … 9,000 หาผลคณู โดยน�ำ จำ�นวนหนึ่งหลักน้ันคูณกับ 1 2 3 … 9 หนงั สือเรยี นรายวชิ าพื้นฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 แล้วเตมิ 0 ตอ่ ท้าย 3 ตวั บทที่ 7 | การคูณ 3. ครูยกตัวอยา่ งการคูณจำ�นวน 1 หลกั หาผลคูณ กับ 100 200 300 … 900 และ การคณู จำ�นวน 1 หลกั กบั 1,000 2,000 3,000 … 7,000 × 6 = 7 × 6 = 42 7,000 × 6 = 42,000 7,000 × 6 = 42,000 ตอบ ๔๒,๐๐๐ 9,000 ตามหนังสือเรยี นหน้า 233 1 2 × 300 = 2 3 × 2,000 = เชน่ 7,000 × 6 = ครตู ดิ บตั รโจทยก์ ารคูณ บนกระดานแลว้ ให้นกั เรยี นช่วยกนั หาผลคณู ตอบ ๖๐๐ ตอบ ๖,๐๐๐ นักเรยี นอาจหาผลคณู จาก 6 × 7,000 = จะได้ 6 × 7 = 42 ดงั นน้ั 6 × 7,000 = 42,000 3 4,000 × 7 = 4 900 × 5 = จากนัน้ ครูถามนกั เรียนวา่ 6 × 7,000 = 7,000 × 6 หรอื ไม่ เพราะเหตุใด ตอบ ๒๘,๐๐๐ ตอบ ๔,๕๐๐ 5 9 × 800 = 6 5,000 × 6 = ตอบ ๗,๒๐๐ ตอบ ๓๐,๐๐๐ 7 8,000 × 8 = 8 700 × 9 = ตอบ ๖๔,๐๐๐ ตอบ ๖,๓๐๐ 9 6,000 × 4 = 10 8 × 500 = ตอบ ๒๔,๐๐๐ ตอบ ๔,๐๐๐ นกั เรียนตอบว่าผลคณู เทา่ กัน เพราะจ�ำ นวน หาผลคูณงา่ ย ๆ แตต่ อ้ งคดิ ใหด้ วี ่ามี 0 ตอ่ ท้ายกตี่ วั สองจำ�นวนคณู กันสลบั ทกี่ นั ได้ผลคูณเทา่ เดมิ ครใู หน้ กั เรยี นจบั คกู่ นั ใหแ้ ตล่ ะคชู่ ว่ ยกนั หาผลคณู | 233สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามหนังสอื เรียนหน้า 233 คู่ละ 3 ขอ้ 252 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 7 | การคณู คู่มือครรู ายวชิ าพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 3 เล่ม 1 แล้วใหแ้ ตล่ ะคูอ่ อกมาน�ำ เสนอจนครบทกุ ข้อ ครูและนกั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากน้นั ครใู หน้ ักเรยี นสงั เกตผลคูณท่ีไดจ้ ากข้อ 1 - 10 ว่าการหาผลคณู ที่ได้ในแตล่ ะขอ้ พจิ ารณา จากจำ�นวนท่ีน�ำ มาคูณวา่ มี 0 กตี่ ัว และผลคูณทไี่ ดต้ อ้ งเตมิ 0 ต่อทา้ ยกต่ี วั เช่น 4,000 × 7 ตัวที่นำ�มาคูณคอื 4,000 มี 0 จ�ำ นวน 3 ตัว เม่อื หา 4 × 7 = 28 แล้ว ตอ้ งเตมิ 0 ต่อทา้ ย 3 ตัว ดังนั้น 4,000 × 7 = 28,000 ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรุปวา่ การคณู จ�ำ นวน 1 หลกั กับ 100 200 300 … 900 ท�ำ ไดโ้ ดย น�ำ จำ�นวน 1 หลักนัน้ คูณกับ 1 2 3 … 9 แล้วเตมิ 0 ต่อท้าย 2 ตัว และ การคูณจ�ำ นวน 1 หลัก กับ 1,000 2,000 3,000 … 9,000 ทำ�ไดโ้ ดย น�ำ จ�ำ นวน 1 หลกั นั้นคูณกับ 1 2 3 … 9 แล้วเตมิ 0 ต่อท้าย 3 ตัว การตรวจสอบความเข้าใจ หนงั สือเรียนรายวชิ าพนื้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 บทท่ี 7 | การคณู ตรวจสอบความเขา้ ใจ 4. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี น หาผลคณู เปน็ รายบคุ คลโดยให้นกั เรียนแตล่ ะคนหาผลคณู 1 8 × 700 = 2 7 × 300 = ของจำ�นวนหน่ึงหลักกับ 100 200 300 … 900 และ หาผลคูณจ�ำ นวนหนง่ึ หลัก ตอบ ๕,๖๐๐ ตอบ ๒,๑๐๐ กับ 1,000 2,000 3,000 … 9,000 3 9 × 5,000 = 4 9,000 × 2 = ตอบ ๔๕,๐๐๐ ตอบ ๑๘,๐๐๐ 5 6 × 400 = 6 8,000 × 3 = ตอบ ๒,๔๐๐ ตอบ ๒๔,๐๐๐ ตามหนงั สอื เรียนหนา้ 234 ข้อ 1 - 6 จากน้นั ครแู ละนักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และสรปุ สิ่งที่ไดเ้ รียนรู้ ถ้าพบว่านกั เรียนคนใด ยังหาผลคูณไมถ่ ูกตอ้ งครูควรฝึกนักเรียนเพ่มิ เติม สงิ่ ที่ได้เรียนรู้ เป็นรายบุคคล จาำ นวนหนงึ่ หลักคณู กับ 100 200 300 … 900 หาผลคูณโดย ส่ิงทไ่ี ดเ้ รียนรู้ นาำ จำานวนหนงึ่ หลกั นั้นคณู กับ 1 2 3 … 9 แลว้ เตมิ 0 ตอ่ ทา้ ย 2 ตัว • จำ�นวนหน่งึ หลกั คูณกบั 100 200 จำานวนหนงึ่ หลักคูณกับ 1,000 2,000 3,000 … 9,000 หาผลคูณโดยนาำ จาำ นวนหนงึ่ หลกั นนั้ คณู กบั 1 2 3 … 9 300 … 900 หาผลคณู โดยน�ำ จ�ำ นวนหนง่ึ หลกั นน้ั แล้วเติม 0 ตอ่ ท้าย 3 ตัว แบบฝึกหดั 7.1 234 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คูณกับ 1 2 3 … 9 แลว้ เตมิ 0 ตอ่ ทา้ ย 2 ตัว • จ�ำ นวนหน่ึงหลักคณู กบั 1,000 2,000 3,000 … 9,000 หาผลคูณโดยน�ำ จำ�นวน หนึ่งหลกั น้ันคณู กบั 1 2 3 … 9 แลว้ เติม 0 ต่อท้าย 3 ตวั จากนั้นให้นักเรียนท�ำ แบบฝกึ หัด 7.1 หน้า 167 - 169 | 253สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มอื ครูรายวิชาพืน้ ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 7 | การคณู ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เล่ม 1 7.2 การหาผลคณู ของจ�ำ นวนหนง่ึ หลกั กบั จ�ำ นวนสามหลกั โดยการตง้ั คณู (3 ชว่ั โมง) จดุ ประสงค์ หาผลคณู ของจำ�นวนหนึ่งหลักกับจำ�นวนสามหลกั โดยการต้งั คูณ สอ่ื การเรยี นรู้ − บตั รโจทย์การคูณ หนังสอื เรยี นรายวชิ าพ้นื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.3 บทท่ี 7 | การคูณ − แผน่ ตารางรอ้ ย 7.2 การหาผลคณู ของจาำ นวนหน่งึ หลัก − แผ่นตารางสบิ กับจำานวนสามหลกั โดยการตั้งคูณ − แผ่นตารางหนว่ ย พัฒนาความรู้ 2 × 234 = 2 กลุ่มของ 234 เท่ากบั 2 กลมุ่ ของ 200 กบั 2 กลุม่ ของ 30 กับ 2 กลุ่มของ 4 แนวการจัดการเรยี นรู้ 2 × 234 = 2 × 200 + 2 × 30 + 2×4 การพัฒนาความรู้ = 400 + 60 + 8 = 468 1. ครทู บทวนการคณู จำ�นวน 1 หลกั กับจ�ำ นวน 2 หลกั ทเ่ี รียนในระดับชั้นประถม หลกั รอ้ ย หลักสิบ หลกั หนว่ ย ขนั้ ท่ี 1 คูณในหลกั หนว่ ย ศึกษาปีท่ี 2 จากนัน้ น�ำ เข้าส่กู ารคณู จ�ำ นวน 2 คูณ 4 หนว่ ย ได้ 8 หน่วย 1 หลกั กบั จ�ำ นวน 3 หลกั โดยใชแ้ ผ่นตารางร้อย 23 4 × เขียน 8 ในหลักหน่วย แผน่ ตารางสิบและแผน่ ตารางหน่วย 2 ตามหนังสือเรียนหนา้ 235 ดังนี้ ครูตดิ บตั รโจทย์ การคูณ 2 × 234 = บนกระดาน แลว้ 8 รว่ มกนั อภิปรายเกีย่ วกบั การหาผลคณู โดยใช้ หลกั ร้อย หลักสิบ หลักหนว่ ย ข้ันท่ี 2 คูณในหลกั สิบ 2 คูณ 3 สิบ ได้ 6 สิบ 23 4 × เขียน 6 ในหลกั สบิ 6 2 ข้นั ท่ี 3 คณู ในหลักรอ้ ย 8 2 คูณ 2 ร้อย ได้ 4 ร้อย เขียน 4 ในหลักรอ้ ย หลักรอ้ ย หลกั สิบ หลกั หนว่ ย 23 4 × 2 46 8 ดังนัน้ 2 × 234 = 468 | 235สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การถาม-ตอบ เชน่ − นกั เรยี นหาคำ�ตอบไดอ้ ยา่ งไร (2 × 234 = 234 + 234 = 468) − สามารถหาผลคูณโดยวิธีอื่นได้หรือไม่ (ได้) − หาผลคณู ไดโ้ ดยวิธใี ด (หาผลคณู โดยการตง้ั คณู ) − 2 × 234 มีความหมายของการคณู ว่าอย่างไร (มจี �ำ นวน 2 กลุม่ แต่ละกลุ่มมจี ำ�นวน สมาชิก 234) − 234 เขยี นในรูปการกระจายได้อย่างไร (234 = 200 + 30 + 4 ) − 2 กลุ่มของ 200 + 30 + 4 หมายถงึ อะไร (2 กลมุ่ ของ 200 กบั 2 กลมุ่ ของ 30 กบั 2 กลุ่มของ 4) ครอู ธิบายโดยติดแผน่ ตารางร้อย แผน่ ตารางสบิ และแผน่ ตารางหนว่ ย แสดงจ�ำ นวน 234 บนกระดาน แลว้ ถามนกั เรียนว่า ตอ้ งติดก่ีกลมุ่ (2 กลุ่ม) ครูแสดง 2 × 234 โดยตดิ แผน่ ตารางรอ้ ย แผน่ ตารางสบิ และแผน่ ตารางหนว่ ยเป็น 2 กลมุ่ ของ 200 + 30 + 4 ตามหนังสือเรยี นหนา้ 235 254 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 7 | การคณู คู่มือครูรายวชิ าพ้ืนฐานคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เลม่ 1 ดังน้ี 2 × 234 = 2 × 200 + 2 × 30 + 2 × 4 = 400 + 60 + 8 = 468 ครูอธิบายวา่ การหา 2 × 234 เปน็ การหาผลคณู ของ 2 กลมุ่ ของ 200 กับ 2 กลมุ่ ของ 30 กบั 2 กลุม่ ของ 4 ดงั นนั้ จงึ ไดผ้ ลคูณเปน็ 400 + 60 + 8 ได้ 468 ซ่ึงนกั เรียนอาจหาผลคูณโดยการ ตง้ั คูณและเปน็ การหาผลคูณไปทลี ะหลักเริม่ จากหลกั หน่วย หลกั สบิ หลักรอ้ ย ดงั นี้ ขัน้ ที่ 1 คูณในหลกั หนว่ ย 2 คณู 4 หนว่ ย ได้ 8 หน่วย เขียน 8 ในหลกั หนว่ ย หลักรอ้ ย หลกั สบิ หลักหน่วย 2 3 24 × 8 ขัน้ ท่ี 2 คณู ในหลกั สิบ 2 คณู 3 สบิ ได้ 6 สิบ เขียน 6 ในหลกั สิบ หลักร้อย หลักสิบ หลกั หน่วย 2 3 24 × 6 8 ข้ันที่ 3 คณู ในหลักรอ้ ย 2 คูณ 2 รอ้ ย ได้ 4 ร้อย เขยี น 4 ในหลักร้อย หลักรอ้ ย หลกั สบิ หลักหน่วย 2 3 24 × 4 6 8 ดังนัน้ 2 × 234 = 468 | 255สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

ค่มู ือครูรายวชิ าพื้นฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 7 | การคูณ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เลม่ 1 2. ครูยกตัวอย่างการหาผลคณู ของจำ�นวน 1 หลัก หนังสอื เรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.3 กบั จำ�นวน 3 หลกั โดยการตั้งคณู ไม่มีการทด เชน่ บทท่ี 7 | การคณู 123 × 3 = ครูตดิ บตั รโจทย์การคณู แล้วให้นกั เรียน ช่วยกันหาผลคูณโดยการต้งั คณู ตามหนงั สอื เรยี น 123 × 3 = หน้า 236 ดังน้ี หลกั ร้อย หลกั สบิ หลักหนว่ ย ขั้นที่ 1 คณู ในหลักหนว่ ย หลักร้อย หลักสิบ หลกั หน่วย 3 คูณ 3 หนว่ ย ได้ 9 หน่วย 12 3 เขยี น 9 ในหลักหน่วย 1 2 3 × × ขั้นท่ี 2 คูณในหลักสิบ 3 3 คูณ 2 สิบ ได้ 6 สิบ 3 เขยี น 6 ในหลกั สบิ 3 6 9 36 9 ขั้นที่ 3 คูณในหลักร้อย ดงั น้ัน 123 × 3 = 369 ดงั น้นั 123 × 3 = 369 3 คูณ 1 ร้อย ได้ 3 รอ้ ย เขียน 3 ในหลักร้อย ข้ันท่ี 1 คณู ในหลักหนว่ ย 3 คณู 3 หน่วย ได้ 9 หนว่ ย แสดงวธิ ีหาผลคูณ ดงั น้ี เขยี น 9 ในหลักหนว่ ย ขนั้ ที่ 2 คูณในหลักสิบ 3 คณู 2 สบิ ได้ 6 สบิ วิธีทำา 1 2 3 × เขียน 6 ในหลักสบิ 3 ข้นั ที่ 3 คูณในหลกั รอ้ ย 3 คณู 1 รอ้ ยได้ 3 ร้อย เขียน 3 ในหลกั รอ้ ย 369 ดังนน้ั 123 × 3 = 369 ตอบ ๓๖๙ ครแู นะนำ�ว่าในการหาผลคณู โดยการต้ังคูณไม่จ�ำ เป็นตอ้ ง เขยี นคำ�วา่ หลักหนว่ ย หลักสบิ หลักรอ้ ย สามารถเขียน แสดงวิธีหาผลคณู 2 110 × 6 = แสดงวิธีหาผลคณู ได้ ดังนี้ 1 122 × 4 = 4 401 × 2 = 3 4 × 211 = 6 111 × 9 = 5 321 × 3 = 8 5 × 101 = 7 222 × 4 = แบบฝกึ หดั 7.2.1 236 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เฉลย 1 วิธที �ำ 1 2 2 × 2 วธิ ีท�ำ 1 1 0 × 4 6 4 8 8 6 6 0 ตอบ ๔๘๘ ตอบ ๖๖๐ 3 วธิ ีท�ำ 2 1 1 × 4 วิธที ำ� 4 0 1 × 4 2 8 4 4 8 0 2 ตอบ ๘๔๔ ตอบ ๘๐๒ 5 วิธีท�ำ 3 2 1 × 6 วิธีท�ำ 1 1 1 × 3 9 9 6 3 9 9 9 ตอบ ๙๖๓ ตอบ ๙๙๙ 7 วิธที ำ� 2 2 2 × 8 วธิ ที ำ� 1 0 1 × 4 5 8 8 8 5 0 5 วิธีทำ� 1 2 33 × ตอบ ๘๘๘ ตอบ ๕๐๕ 3 6 9 ตอบ ๓๖๙ ครยู กตัวอย่างการหาผลคูณของจำ�นวน 1 หลักกบั จ�ำ นวน 3 หลัก โดยการต้งั คณู ไมม่ ีการทดเพ่ิมอีก 2 - 3 ตวั อย่าง เช่น 111 × 7 = 423 × 2 = 3 × 212 = จากนน้ั แบง่ นกั เรยี นเป็นกลุ่ม ใหแ้ ตล่ ะกลุม่ ชว่ ยกนั หาผลคูณโดยการตั้งคณู ในกรอบท้ายหนงั สอื เรยี นหนา้ 236 ขอ้ 1 - 8 กลุ่มละ 4 ขอ้ แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ ออกมานำ�เสนอจนครบทุกขอ้ ครูและนกั เรียนชว่ ยกันตรวจสอบ ความถกู ต้อง ครอู าจชแ้ี นะวา่ ในการหาผลคูณของจ�ำ นวน 1 หลักกบั จำ�นวน 3 หลักโดยการตั้งคูณ ใหค้ ณู ในหลักหน่วยกอ่ น แลว้ คณู ในหลกั สบิ และหลักร้อย ตามลำ�ดบั จากน้ันใหน้ กั เรียน ทำ�แบบฝึกหดั 7.2.1 หนา้ 170 - 172 256 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook