รา่ เรงิ บนั เทิงใจด้วยสัมโมทนียกถา (รวมเล่ม) บุคคลใดท่ีบุญหล่อเลี้ยงรักษา ย่อมประสพแต่ ความสขุ ความเจริญ แต่เพียงฝ่ายเดียว คณุ ยายอาจารยม์ หารตั นอบุ าสกิ าจนั ทร์ ขน- นกยูง เคยสอนไว้ว่า บุญเหมือนน้ำในคลอง บาป เหมอื นตอใตน้ ำ้ ชีวติ เหมอื นเรือท่ีแล่นไปบนนำ้ ถ้ามีบุญมากก็เหมือนน้ำในคลองมาก ตอที่อยู่ ใตน้ ำ้ ดจุ ดงั บาปอกศุ ลกไ็ มส่ ามารถทำอะไรได้ เรอื กแ็ ลน่ ไปไดอ้ ยา่ งสะดวก เหมอื นชวี ติ ทร่ี าบรนื่ เจรญิ กา้ วหนา้ ถ้าบุญน้อยก็เหมือนน้ำน้อย ตอก็ผุด เรือก็ติด ตอ ชีวิตกม็ แี ตอ่ ุปสรรค จะประกอบธรุ กิจการงานใดๆ กต็ ิดขัดไปหมด ดังนน้ั จึงควรสง่ั สมบุญบ่อยๆ ตามระลกึ นึกถงึ บุญบ่อยๆ เพื่อให้บุญกุศลส่งผลอย่างต่อเนื่อง ไม่เปิด โอกาสใหบ้ าปอกศุ ลเขา้ แทรก. 99 www.kalyanamitra.org
ร่าเรงิ บันเทงิ ใจดว้ ยสัมโมทนยี กถา (รวมเลม่ ) บทท่ี ๓๘ เหตใุ หป้ ระสพบุญมาก ๓ ประการ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า กุลบุตรผู้มี ศรัทธา๑ จะประสพบุญมาก เพราะความถึงพร้อมด้วย เหตุ ๓ ประการ คอื ประการแรก ถึงพร้อมด้วยศรัทธา คือ เช่ือใน ผลของการให้ทาน ประการที่สอง ถึงพร้อมด้วยไทยธรรม คือ ปัจจัย ๔ ท่ปี ระณีต สมควรแกส่ มณบริโภค ไดม้ าด้วย ความชอบธรรม ประการที่สาม ถึงพร้อมด้วยทักขิไณยบุคคล คอื เนอ้ื นาบญุ หมายถงึ ผรู้ บั เปน็ ผมู้ ศี ลี ตง้ั ใจปฏบิ ตั ติ น ตามพระธรรมวนิ ยั มเี ปา้ หมายทำพระนพิ พานใหแ้ จง้ ๑ สัมมุขีสูตร มก. ๓๔/๑๙๑ , มจ. ๒๐/๒๐๕ 100 www.kalyanamitra.org
ร่าเริงบนั เทงิ ใจด้วยสัมโมทนยี กถา (รวมเลม่ ) ความถงึ พรอ้ มท้ัง ๓ ประการน้ี ความถึงพร้อม ด้วยศรัทธาหาไดย้ าก เพราะชนเปน็ อันมากมศี รทั ธาไม่ มน่ั คง ผู้ใดใครเห็นผู้มีศีล ปรารถนาจะฟังธรรมและ กำจดั มลทิน คอื ความตระหนอ่ี ยู่เปน็ นติ ย์ ผู้นนั้ ชอ่ื ว่า เปน็ ผูม้ ศี รัทธา วนั น้ี เปน็ บญุ ลาภอนั ประเสรฐิ ของทา่ นทานบดี ทั้งหลาย ท่ีถึงพร้อมด้วยความศรัทธา ไทยธรรม และ เนื้อนาบุญ ผลบญุ ทเ่ี กิดขึน้ ย่อมมากมาย มอี านสิ งส์นับ ไมไ่ ด้ ประมาณไมไ่ ด้. 101 www.kalyanamitra.org
ร่าเรงิ บันเทงิ ใจด้วยสมั โมทนยี กถา (รวมเลม่ ) บทที่ ๓๙ ไมค่ วรดหู มิน่ บุญว่า มปี ระมาณนอ้ ย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า “บุคคลไม่ควรดู หม่ินบุญว่าบุญมีประมาณน้อยจะไม่มาถึง แม้หม้อน้ำ ยังเต็มด้วยหยาดน้ำท่ีตกลงมาทีละหยาดได้ ฉันใด ชน ผู้มีปัญญา สั่งสมบุญแม้ทีละน้อย ย่อมเต็มด้วยบุญได้ ฉนั นนั้ ๑” ทานท่ีบุคคลให้ดีแล้ว ย่อมเป็นทางมาแห่งบุญ เสมอ แม้กระท่ังจะให้แก่สัตว์ทั้งหลาย เหมือนดังท่ี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า สัตว์ทั้งหลายที่อาศัย อยู่ในบ่อน้ำครำ๒ หรือหลุมโสโครกข้าง ประตูบ้าน บุคคลใดสาดน้ำล้างภาชนะหรือน้ำล้างขันไปด้วยต้ังใจ 102 ๑ พฬิ ารปทกเศรษฐี มก. ๔๒/๒๗ , มจ. ๒๕/๖๙ ๒๐/๒๒๑ ๒ ชัปปสูตร , วจั ฉโคตตสตู ร มก. ๓๔/๒๒๘ , มจ. www.kalyanamitra.org
ร่าเรงิ บนั เทิงใจดว้ ยสัมโมทนียกถา (รวมเล่ม) วา่ ขอใหส้ ัตว์ทั้งหลายทอี่ าศัยอยู่ในท่ีนนั้ จงยงั อัตภาพ ให้เป็นไปด้วยน้ำนี้เถิด กรรมอันมีการสาดน้ำล้าง ภาชนะน้นั ยังเป็นทางมาแห่งบุญ จะกล่าวไปไยถงึ การ ใหท้ านในมนุษย์เล่า วนั น้ี ท่านทานบดที ้งั หลาย ไดพ้ รอ้ มใจกันเปน็ สมานฉันท์ มาทำบุญถวายสังฆทานแก่คณะสงฆ์หมู่ ใหญ่ ซึ่งเป็นเน้ือนาบุญอันเลิศ ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ย่อมได้บุญมาก เปรียบเหมือนชาวนาผู้ชาญฉลาด ได้หว่านข้าวกล้าลงในผืนนาอันอุดม ย่อมอำนวยผล อันไพบูลย.์ 103 www.kalyanamitra.org
ร่าเริงบันเทิงใจดว้ ยสัมโมทนียกถา (รวมเลม่ ) บทท่ี ๔๐ บญุ เอาตดิ ตัวไปได ้ ครั้งหน่ึงในสมัยพุทธกาล เทวดาได้ทูลถาม พระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า “อะไรหนอเป็นมิตรของคน เดินทาง อะไรหนอเป็นมิตรในเรือนของตน อะไรหนอ เปน็ มิตรตดิ ตามไปในภพหน้า” พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสตอบเทวดานั้นว่า พวกเกวียนพวกโคต่างเป็นมิตรของคนเดินทางมารดา เป็นมิตรในเรือนของตน บุญท่ีตนทำเป็นมิตรติดตาม ไปในภพหนา้ ๑ คณุ ยายอาจารยม์ หารตั นอบุ าสกิ าจนั ทร์ ขนนกยงู เคยสอนไว้ว่า บุญเอาติดตัวไปได้ มีน้อยทำน้อย ทำ บ่อยๆ ก็มากเอง เหมือนเก็บเงินใส่กระปุก ถึงจะมี ๑ มติ ตสูตร มก. ๒๔/๒๗๔ , มจ. ๑๕/๖๘ 104 www.kalyanamitra.org
ร่าเรงิ บันเทิงใจดว้ ยสมั โมทนยี กถา (รวมเล่ม) สมบัติพันล้าน ถ้าไม่ได้ทำบุญ เวลาตายก็เอาติดตัวไป ไมไ่ ด้ ยงั ไมใ่ ช่ของเรา ถ้าเราทำบุญ สมบัติก็เป็นของเรา ติดตัวเรา ข้ามภพข้ามชาติ ทำบญุ ไมส่ ญู เปล่า สมบัติของเรา ถ้าไม่ได้ทำบุญ เราตายไปก่อน คนอยู่ข้างหลังก็เป็นคนใช้สมบัตินั้น หรือไม่ก็ถม แผน่ ดนิ ๒ ทา่ นทานบดที ัง้ หลาย ขอให้ปล้มื ใจเถดิ ว่า บญุ ท่ีทุกท่านได้กระทำในวันน้ี ย่อมไม่สูญหายไปไหน บุญน้ียอ่ มเปน็ มติ รติดตามไปในภพเบื้องหน้า. ๒ คำสอนยาย ๑๓ พฤศจกิ ายน ๒๕๓๒ 105 www.kalyanamitra.org
รา่ เรงิ บนั เทิงใจด้วยสัมโมทนยี กถา (รวมเล่ม) บทที่ ๔๑ ยดึ บญุ เป็นใหญ่ ท่านทานบดีท้ังหลาย หากเราย้อนเวลาไปใน อดีต ๑๐๐ ปี บุคคลในยุคนั้นต่างก็ละจากโลกน้ีไป แล้ว เช่นเดียวกนั อีก ๑๐๐ ปี ขา้ งหน้า ในโลกนีไ้ ม่มี พวกเราทั้งหลาย ไม่มีส่ิงใดที่จะนำติดตัวไป เว้นแต่ บญุ และบาป พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า “บุคคลพึงนำ ความตระหน่ีออกไปเสีย พึงข่มความตระหนี่ซึ่งเป็น มลทนิ แล้วพงึ ใหท้ าน เพราะบญุ ทง้ั หลายเปน็ ท่ีพึง่ ของ สัตว์ในโลกหนา้ ๑” คณุ ยายอาจารยม์ หารตั นอบุ าสกิ าจนั ทร์ ขนนกยงู เคยสอนไวว้ า่ ๑ อนั นสตู ร มก. ๒๔/๒๔๓ , มจ. ๑๕/๕๙ 106 www.kalyanamitra.org
ร่าเริงบนั เทิงใจดว้ ยสัมโมทนยี กถา (รวมเลม่ ) “กว่าจะไดเ้ กดิ มาเป็นคนน่ะ ยากนะ เกิดมา แล้วก็ให้ทำบุญเยอะๆ มีมากก็ทำมาก มีน้อยก็ทำ นอ้ ย ทำตามกำลงั อยา่ ให้เดือดร้อน จะยังไงยายก็ ทำบญุ ไมท่ ำไมไ่ ด.้ . ...ยายทำบญุ มาก ขนาดท่ีวา่ นง่ั ธรรมะทำวิชชาปัดลกู ระเบดิ ได้ แล้วก็สร้างวัดได้ สำเร็จ... ยายยึดบุญเป็นใหญ่ ยาย รกั บุญ รกั บญุ มากที่สุด เพราะบญุ ช่วยยายได้ คนยัง มกี เิ ลส เดยี๋ วก็ดีบ้าง เดยี๋ วก็รา้ ยบ้าง ยายยึดบุญของ ยายเปน็ ทพ่ี ึง่ ๒.” ๒ คำสอนยาย ๗ พฤศจิกายน ๒๕๒๓ , ๒๖ มกราคม ๒๕๓๔ 107 www.kalyanamitra.org
ร่าเริงบนั เทงิ ใจดว้ ยสัมโมทนยี กถา (รวมเล่ม) บทท่ี ๔๒ บุญฉุดไปสภู่ พภมู ิอนั ประเสรฐิ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า มารดาเป็นมิตร ในเรือน๑ ยานพาหนะเป็นมิตรของคนเดินทาง บุญทั้ง หลายทต่ี นทำเปน็ มติ รในสัมปรายภพ พระเดชพระคณุ พระราชภาวนาวสิ ทุ ธิ์ หลวงพอ่ ธัมมชโย เคยให้โอวาทไว้ว่า ชีวิตในโลกมนุษย์นี้สั้นนิด เดียว ไม่มีนิมิตหมายว่าจะละโลกเมื่อไร สถานที่ใด ด้วยอาการอย่างไร เราไม่อาจจะเลือกสถานที่ เลือก โรคภัยไขเ้ จบ็ หรือเลือกวิธีการตายได้ เพราะฉะนนั้ เรา ต้องส่ังสมบุญมากๆ และพร้อมเสมอท่ีจะเดินทางไปสู่ ปรโลก 108 ๑ มิตตสตู ร มก. ๒๔/๒๗๔ , มจ. ๑๕/๖๘ www.kalyanamitra.org
รา่ เรงิ บนั เทงิ ใจดว้ ยสมั โมทนียกถา (รวมเล่ม) ถ้าเราได้สั่งสมบุญเอาไว้ แม้ต้องตายอย่าง กะทันหัน เราก็อยู่ตรงนั้นเหมือนฝันช่ัวคราว ประ เดี๋ยวเดียวกระแสบุญก็จะตามมา แล้วฉุดเราไปสู่ภพ ภมู อิ นั ประเสริฐ ตามกำลงั บุญของเรา. 109 www.kalyanamitra.org
รา่ เรงิ บนั เทิงใจดว้ ยสมั โมทนียกถา (รวมเลม่ ) บทที่ ๔๓ บุญทีส่ ่ังสมไวด้ แี ล้ว เหมือนผลไม้พันธุด์ ี ผลไม้จากป่า แม้จะใส่ปุ๋ย รดน้ำ พรวนดิน อย่างไรก็ตาม อย่างมากก็ทำให้มีผลดกข้ึนบ้าง แต่จะ ให้มีรสอร่อยข้ึนกว่าเดิมนั้นยาก ตรงกันข้าม ผลไม้ พันธุ์ดี แม้รดน้ำ พรวนดินพอประมาณก็ให้ผลมาก เกินคาด รสชาติเอร็ดอร่อย เช่นเดียวกัน ผู้ที่ส่ังสมบุญมาน้อย เมื่อ ประกอบกิจการงานใดๆ ถึงขยันขันแข็งสักปานใด กว่าผลแห่งความดีจะปรากฏ ก็ต้องใช้ความพยายาม อย่างมาก 110 www.kalyanamitra.org
ร่าเริงบันเทงิ ใจดว้ ยสัมโมทนียกถา (รวมเลม่ ) ส่วนผู้ท่ีสั่งสมบุญมาดีแล้ว เมื่อประกอบ กิจการงานใดๆ ผลดยี อ่ มปรากฏเต็มทท่ี ันตาเหน็ สง่ ผลให้มีความเจริญก้าวหน้า เหนือกว่าบุคคลท้ังหลาย ได้อย่างน่าอัศจรรย์ บญุ คอื สิง่ อยเู่ บือ้ งหลงั ความสำเรจ็ ต้งั แตช่ ีวิต มนษุ ย์ปถุ ุชน จนถงึ พระอรหนั ต์ บุญน้ันติดตามผู้เป็นเจ้าของไปในภพเบ้ืองหน้า ได้ เป็นเหตุให้ได้ทั้งมนุษยสมบัติ ทิพยสมบัติ และ นิพพานสมบัต ิ ดังนั้น จึงควรส่ังสมบุญบ่อยๆ ตามระลึก นึกถึงบุญบ่อยๆ เพราะบุญเป็นเหตุนำความสุขมาให้ ทง้ั ในโลกนแี้ ละในโลกหน้า. 111 www.kalyanamitra.org
รา่ เรงิ บันเทงิ ใจดว้ ยสมั โมทนยี กถา (รวมเล่ม) บทที่ ๔๔ ดวงบุญเปรียบด่งั ดวงตะวนั พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ตรสั วา่ ขมุ ทรพั ยค์ อื บญุ ๑ ย่อมให้ผลท่ีน่าปรารถนาท้ังท่ีเป็นมนุษยสมบัติ... สวรรคสมบัต.ิ .. และนพิ พานสมบัติ พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี หลวงปู่ วัดปากน้ำภาษีเจริญ กล่าวไว้ว่า บุญมีลักษณะเป็น ดวงใส มคี วามสวา่ งอย่ใู นตัว เกิดขน้ึ ณ ศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๗ ทุกครง้ั เมือ่ เราบำเพญ็ บญุ ดวงบุญน้ีจะชำระล้างจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ เมือ่ ใจใสสว่าง จะพิจารณา ตัดสินใจแกไ้ ขปัญหาท่เี กิด ขึ้นได้ถูกต้อง เป็นเหตุให้ประสพความสำเร็จในภารกิจ หน้าที่การงานท้ังหลาย 1 12๑ นิธกิ ัณฑ์ มก. ๓๙/๓๐๒ , มจ. ๒๕/๑๗ www.kalyanamitra.org
รา่ เริงบนั เทงิ ใจดว้ ยสมั โมทนียกถา (รวมเล่ม) ทา่ นทานบดที ั้งหลาย ดวงตะวนั ท่ีข้นึ จากขอบ ฟา้ ในยามเช้า สอ่ งโลกนี้ให้สว่างไสว ให้สิ่งมีชีวิตกา้ ว เดนิ ไปสู่จดุ หมายปลายทางไดร้ วดเรว็ ปลอดภยั ฉันใด ดวงบุญอันสว่างไสว ซ่ึงเกิดขึ้นจากการหมั่น ให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา กจ็ ะฉายแสงขับ ความมืดอันเกิดจากอวิชชา คือ ความไม่รู้ ให้มลาย หายไป ทำให้ความเหน็ ความจำ ความคิด ความรู้ ถูกต้อง ส่องหนทางสายกลางให้สว่างไสว นำชนทั้ง หลาย ก้าวเดินไปสู่หนทางสวรรค์และพระนิพพานได้ รวดเร็วปลอดภัย ฉันนน้ั . 113 www.kalyanamitra.org
ร่าเรงิ บนั เทิงใจด้วยสัมโมทนียกถา (รวมเล่ม) บทท่ี ๔๕ เกิดมาสร้างบุญบารม ี ชีวิตของเทพบุตร เทพธิดา มีอายุยืนยาวเป็น ล้านปี สิบล้านปี ร้อยล้านปี พันล้านปี ไม่มีความแก่ ไมม่ ีความเจบ็ ไมต่ ้องทำมาหากิน มคี วามสขุ อยูไ่ ด้ด้วย บุญท่ีทำเอาไว้ตอนเป็นมนุษย์ แต่สร้างบุญได้ไม่เต็มที่ ชีวิตของเทพบุตร เทพธิดาจึงเป็นชีวิตของการเสวยผล บุญ ชีวิตของมุษย์ มีอายุส้ันไม่เกินร้อยปี ความแก่ ความเจ็บ ตามเบียดเบียนนำไปสู่ความตาย ชีวิตของ มนุษย์จึงไม่ใช่ชีวิตของการเสวยผลบุญ แต่เป็นชีวิต ของการสร้างบุญบารมี 114 www.kalyanamitra.org
รา่ เรงิ บนั เทิงใจดว้ ยสัมโมทนยี กถา (รวมเลม่ ) พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ดวงจันทร์ปราศ จากเมฆหมอก โคจรไปในนภากาศ ย่อมสว่างกว่าหมู่ ดาวทงั้ ปวงในโลกด้วยรัศมี ฉันใด บุคคลผูส้ มบรู ณด์ ้วย ศีล มีศรัทธา ก็ฉันนั้น ย่อมสว่างกว่าผู้ตระหนี่ทั้งปวง ในโลกดว้ ยจาคะ. 115 www.kalyanamitra.org
ร่าเรงิ บันเทิงใจด้วยสมั โมทนยี กถา (รวมเล่ม) บทที่ ๔๖ พื้นฐานของความสขุ และ ความสำเร็จ บัณฑิตท้ังหลายในกาลก่อนกล่าวไว้ว่า บุคคล ท้ังหลายล้วนปรารถนาความสุขความสำเร็จในชีวิต สงิ่ เหล่านี้จะเกดิ ข้นึ ได้ เพราะอาศัยการประกอบเหตทุ ่ี ถกู วธิ ี ดว้ ยการทำทาน รักษาศีลและเจรญิ สมาธิภาวนา ทานที่ให้ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา ย่อมเป็น ทางมาแห่งโภคทรพั ย์สมบัติ เข้าถงึ ฐานะของความเปน็ มหาเศรษฐี ทั้งในโลกน้แี ละโลกหนา้ ศีลท่ีต้งั ใจรกั ษา ย่อมสง่ ผลใหม้ สี ขุ ภาพร่างกาย ที่แข็งแรง มีผิวพรรณ วรรณะผ่องใส เป็นที่ดึงดูดตา ดึงดดู ใจของมหาชน 116 www.kalyanamitra.org
รา่ เริงบันเทิงใจดว้ ยสัมโมทนยี กถา (รวมเลม่ ) สมาธิภาวนา เมื่อปฏบิ ตั ิอย่เู ปน็ นิจ ย่อมทำให้ สมบูรณด์ ้วยสตแิ ละปญั ญา ทาน ศีล ภาวนา เมื่อปฏิบัติอยู่เป็นประจำ จะทำให้เกิดดวงบุญ ติดอยู่ท่ีศูนย์กลางกายฐานท่ีเจ็ด ดวงบุญน้ีเอง คือส่ิงท่ีอยู่เบื้องหลังความสุขความ สำเร็จทง้ั มวลในชีวิต บุคคลเข้าถึงฐานะของความเป็นเศรษฐี มหา เศรษฐีไดก้ ด็ ว้ ยอำนาจของบญุ บุคคลเขา้ ถ๑ งึ ความเปน็ กษัตริย์ พระเจา้ จกั รพรรดไิ ด้ก็ดว้ ยอำนาจของบญุ แม้ กระทั่งการตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ด้วย อำนาจของบุญ ท่านทานบดที ั้งหลายไดป้ ระกอบเหตุ อันเปน็ เหตุนำความสุขความเจริญมาสู่ตนเองอย่างแท้จริง ดังที่พระสัมมาสมั พุทธเจ้าตรสั ไวว้ า่ การส่ังสมบญุ นำ สุขมาให้. 117 www.kalyanamitra.org
ร่าเรงิ บนั เทิงใจด้วยสัมโมทนียกถา (รวมเล่ม) บทที่ ๔๗ ผมู้ ีบญุ ลาภอนั ประเสริฐ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า “ชีวิตถูกชรานำ เข้าไป อายุจึงสั้น ผู้ที่ถูกชรานำเข้าไปแล้ว ไม่มีเคร่ือง ต้านทาน บุคคลพิจารณาเห็นภัยในมรณะ ควรละ โลกามิส มุ่งสูพ่ ระนิพพานเถิด๑” พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธ์ิ หลวง พ่อธมั มชโย เคยใหโ้ อวาทไว้วา่ สถานท่ีท่เี ราไม่อยาก ไป แต่เราทุกคนต้องไป คอื ปรโลก (โลกหน้า) เม่ือละสังขารไปแล้ว ชีวิตในปรโลก ท้ังสุคติ และทุคติ ยาวนานเป็นล้านหรือหลายๆ ลา้ นป ี ชีวิตในสุคติบนสวรรค์น้ันไม่มีการทำมาหากิน ๑ อปุ เนยยสูตร มก. ๒๔/๔๔ , มจ. ๑๕/๔ 118 www.kalyanamitra.org
ร่าเริงบนั เทงิ ใจดว้ ยสัมโมทนียกถา (รวมเล่ม) อยู่ได้ด้วยบุญท่ีตนเองส่ังสมไว้เม่ือคร้ังยังเป็นมนุษย์ และบุญทหี่ มู่ญาตอิ ทุ ิศไปให้ ฝุ่นในเล็บมือ เมื่อเทียบกับฝุ่นในแผ่นดิน มี ประมาณน้อย ฉันใด พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า สัตว์ท่ีตายแล้วไปเกิดในสุคติ โลกสวรรค์ ก็มีประมาณ น้อย๒ ฉนั นน้ั การได้อัตภาพเป็นมนุษย์จึงเป็นการยาก เกิด แล้วมาพบพระพุทธศาสนาก็ยาก พบแล้วเกิดศรัทธา ก็ยาก เกิดศรัทธาแล้วจะมีความพร้อมท้ังไทยธรรม และเนื้อนาบุญก็ยากยิ่ง แต่พวกเราทั้งหลายข้ามความ ยากท้ังหมดมาแลว้ ท่านทานบดีทั้งหลายจึงได้ชื่อว่า เป็นผู้มีบุญ ลาภอันประเสริฐ ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า ดำรงชีวิตอยู่ ด้วยความไม่ประมาท เป็นต้นบุญ ต้นแบบอันดีงาม ของอนุชนที่ตามมาในภายหลัง. ๒ นขสขิ สตู ร มก. ๒๖/๗๒๗ , มจ. ๑๖/๓๑๓ 119 www.kalyanamitra.org
ร่าเรงิ บันเทิงใจด้วยสัมโมทนยี กถา (รวมเล่ม) บทที่ ๔๘ ทำประกนั ชีวติ ดว้ ยบุญ บุญเป็นผลที่เกิดจากการทำความดี ทั้งทาง กาย วาจา ใจ เช่นการทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิ ภาวนา บุญเป็นต้นทางแห่งความสุขและความสำเร็จ ตั้งแต่ชวี ิตมนษุ ย์ปุถุชน จนถงึ พระอรหันต ์ บุญมีอานิสงส์แก่ผู้เป็นเจ้าของอย่างน้อย ๕ ประการ ประการแรก บุญเม่ือเกิดขึ้นแล้ว นำความสุข กายสขุ ใจมาให้ ประการท่ีสอง บุญสะสมได้ ดังท่ีพระสัมมา สัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า๑ บุคคลไม่ควรดูหม่ินบุญว่ามี ประมาณ นอ้ ยจะมาไม่ถงึ 120๑ พฬิ ารปทกเศรษฐี มก. ๔๒/๒๗ , มจ. ๒๕/๖ www.kalyanamitra.org
ร่าเริงบนั เทิงใจด้วยสัมโมทนียกถา (รวมเลม่ ) แม้หม้อน้ำยังเต็มด้วยหยาดน้ำที่ตกลงมาทีละ หยาดได้ ฉันใด ชนผู้มีปัญญาส่ังสมบุญแม้ทีละน้อยๆ ยอ่ มเตม็ ด้วยบุญได้ ฉันนัน้ ประการที่สาม บุญน้ันอุทิศให้แก่หมู่ญาติมิตร ท่ีล่วงลับไปแล้วได้ สามารถแปรเปล่ียนสภาพชีวิตให้ดี ขึ้นท่ีมีทุกข์มากก็ทุกข์น้อย ท่ีทุกข์น้อยก็พ้นทุกข์ ที่สุข น้อยก็สขุ มาก ท่สี ขุ มากแล้วกม็ สี ุขยงิ่ ๆ ขึน้ ไป ประการท่ีสี่ บุญเป็นของเฉพาะตน ไม่ใช่ของ สาธารณะแกค่ นทว่ั ไป ใครทำคนนน้ั กไ็ ด้ ถา้ ไมท่ ำกไ็ มไ่ ด ้ ประการที่ห้า บุญติดตามไปในภพเบื้องหน้า ได้ ประดจุ เงาติดตามตัวไปในทุกท่ีทกุ สถาน ทา่ นทานบดที ง้ั หลาย การทำบญุ เปรยี บเหมอื น การทำประกันชีวติ ด้วยหลกั ประกนั ที่ม่ันคง เพราะบุญ สามารถประกนั ชวี ติ ไม่ให้ตกไปสู่อบาย ทำชวี ติ ของเรา ใหก้ ้าวข้นึ ไปส่ภู พภูมทิ ด่ี ี ดังน้ัน พึงส่ังสมบุญบ่อยๆ เพราะบุญในวันน้ี จะเป็นเหตุให้ประสพความสุขทั้งท่ีเป็นของมนุษย์ ท้ัง ทเี่ ปน็ ของทิพย์ และสุขในพระนพิ พาน. 121 www.kalyanamitra.org
รา่ เริงบนั เทิงใจดว้ ยสัมโมทนียกถา (รวมเลม่ ) บทที่ ๔๙ คณุ ค่าของความเป็นมนษุ ย์ ชีวิตของเทพบุตร เทพธิดา เป็นชีวิตของการ เสวยสุข ซึ่งเป็นผลจากบุญกุศล ที่ได้กระทำไว้เมื่อครั้ง เปน็ มนุษย์ ตรงกันข้ามกับชีวิตในอบาย เป็นชีวิตของการ เสวยทุกข์ ซ่ึงเป็นผลจากบาปอกศุ ล ที่ได้กระทำไวเ้ ม่ือ ครั้งเป็นมนุษย ์ ฝุ่นในเล็บมือมีประมาณน้อย เมื่อเทียบกับฝุ่น ในแผ่นดิน ฉันใด พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า สัตว์ท่ี ตายแลว้ จะไปสู่สคุ ติก็มปี ระมาณน้อย ฉันน้นั ความเป็นมนุษย์จึงมีคุณค่าอย่างน้อย ๓ ประการ คือ 122 www.kalyanamitra.org
รา่ เริงบนั เทงิ ใจด้วยสมั โมทนยี กถา (รวมเลม่ ) ประการแรก เปน็ อัตภาพทไี่ ดม้ าโดยยาก ประการท่ีสอง เป็นชุมทางที่จะไปสู่สุคติโลก สวรรค์ หรือทุคติในอบาย ประการท่ีสาม กายมนุษย์นี้เป็นอัตภาพที่ดี ที่สุดในการทำความดี ส่ังสมบุญบารมีได้อย่างเต็มที่ กายทิพย์ได้แค่อนุโมทนาบุญกับน่ังทำสมาธิ แม้ พระบรมโพธิสัตว์ทุกพระองค์ ก็เลือกกายมนุษย์น้ี รองรับการสร้างบารมี และการตรสั รูธ้ รรม ทา่ นทานบดีทั้งหลายไดม้ าส่ังสมบุญกศุ ล ดว้ ย การให้ทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา จึงได้ชื่อว่า ดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท ประกอบเหตุอันจะ นำตนไปสู่หนทางสวรรค์และพระนพิ พาน. 123 www.kalyanamitra.org
ร่าเริงบันเทงิ ใจดว้ ยสัมโมทนียกถา (รวมเลม่ ) บทท่ี ๕๐ ชาวนาผชู้ าญฉลาด มารดาได้ช่ือว่า เป็นมิตรในเรือน เพราะเป็นผู้ ทร่ี กั บตุ รดว้ ยความบรสิ ุทธใ์ิ จ ยานพาหนะได้ช่ือว่า เป็นมิตรของผู้เดินทาง เพราะชว่ ยให้ไมต่ ้องลำบาก บญุ เทา่ นน้ั ช่อื ว่า เป็นมิตรในโลกหน้า เพราะ เป็นสิ่งเดยี วทีส่ ามารถติดตัวเม่อื ละจากโลกนไ้ี ปได ้ ผู้มีบุญสั่งสมทานกุศลมาในอดีต ย่อมมีทรัพย์ ในท่ีๆ ตนเกิด เมื่อจะประกอบกิจในทางโลกหรือทาง ธรรม ย่อมสำเร็จลุล่วงได้โดยง่าย ตรงกันข้ามกับ บุคคลผู้ไม่มีบุญ จะประกอบกิจในทางโลกหรือทาง ธรรมกจ็ ะมีแต่อปุ สรรค 124 www.kalyanamitra.org
รา่ เรงิ บนั เทงิ ใจดว้ ยสัมโมทนยี กถา (รวมเลม่ ) ท่านทานบดีท้ังหลายได้ปรารภเหตุอันดีงาม มาสั่งสมบุญกุศล ด้วยการถวายภัตตาหาร และ จตปุ ัจจยั ไทยธรรมแด่คณะสงฆ์หมใู่ หญ่ โลกียทรัพย์ท่ีทุกท่านฝากฝังไว้ดีแล้วในพระพุทธ ศาสนา เปรยี บเหมอื นชาวนาผชู้ าญฉลาด หวา่ นเมลด็ ขา้ ว พันธ์ดุ ลี งในเนื้อนาอันอุดม เมลด็ ขา้ วย่อมผลดิ อกออกผล เป็นรวงขา้ วอันงาม ใหช้ าวนาไดเ้ กบ็ เกี่ยว โลกียทรัพย์ท่ีนำออกดีแล้ว จะเปล่ียนเป็นอริย- ทรัพย์คือ บุญ ติดตัวท่านไปในโลกหน้า ประดุจเงาท่ี ตดิ ตามตวั บญุ นจี้ ะแปรเปลยี่ นเปน็ มนษุ ยสมบตั ิ ทพิ ยสมบตั ิ และนพิ พานสมบัติ. 125 www.kalyanamitra.org
ร่าเรงิ บนั เทงิ ใจดว้ ยสมั โมทนียกถา (รวมเลม่ ) บทท่ี ๕๑ บญุ ทำใหอ้ ายุยืน และอายุส้ัน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า บุคคลผู้มีความ กตัญญู กตเวที เป็นบุคคลท่ีหาได้ยากในโลก เม่ือผู้มี ความกตัญญู มาตามระลึกถึงบุพการี ผู้เคยมีอุปการ- คุณท่ลี ่วงลบั ไปแลว้ ยอ่ มทำบญุ อทุ ศิ ไปให ้ บุคคลท่ีเคยประพฤติดีประพฤติชอบ คร้ันละ โลกแล้วไปสู่เทวโลก เมื่อได้รับบุญท่ีญาติมิตรอุทิศไป ให้ ยอ่ มทำให้เจริญดว้ ยอายุ วรรณะ ยศ และอธปิ ไตย คือความเป็นใหญ่ บญุ ทำให้อายยุ นื ดงั น ้ี ส่วนบุคคลท่ีเคยประพฤติผิดพลาด ครั้นละ โลกแล้วไปสู่อบาย ต้องทนทุกข์จากการถูกทัณฑ์ 126 www.kalyanamitra.org
ร่าเรงิ บนั เทิงใจดว้ ยสัมโมทนียกถา (รวมเล่ม) ทรมาน อยู่ในยมโลก เมื่อได้รับบุญจากญาติมิตรที่ อุทิศไปให้ บญุ นจี้ ะไปตดั รอนวิบากกรรมใหท้ ุเลาลง ท่ี ทุกข์มากก็ทุกข์น้อย ท่ีทุกข์น้อยก็พ้นทุกข์ หมายถึง ระยะเวลาในการรับทณั ฑท์ รมานลดลง บุญทำให้อายุ สั้นดงั นี้ บุญจึงมีอุปการะมาก เป็นที่พ่ึงของสรรพชีวิต ทงั้ ในโลกนแี้ ละโลกหนา้ . 127 www.kalyanamitra.org
ร่าเรงิ บนั เทิงใจดว้ ยสัมโมทนยี กถา (รวมเลม่ ) บทที่ ๕๒ เนื้อนาบญุ ครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล พระสัมมาสัมพุทธ- เจ้าเสด็จข้ึนไปแสดงธรรมบนสวรรค์ช้ันดาวดึงส์ เพ่ือ โปรดเทพบุตรพุทธมารดา ทรงปรารภอังกุรเทพบุตร กบั อนิ ทกเทพบตุ ร มสี าระสำคญั วา่ อังกุรเทพบุตร เม่ือครั้งเป็นมนุษย์ ทำทาน ดว้ ยการตง้ั เตาหุงขา้ วเลี้ยงมหาชนยาวถึง ๑๒ โยชน์ ตอ่ เนอื่ งถึงหมน่ื ปี แตผ่ ู้มารบั ทานนั้นไม่มศี ีล ส่วนอินทกเทพบุตร ถวายข้าวเพียงทัพพี เดียวแก่พระอนุรุทธะ ยังมีอานิสงส์มากกว่าทานของ อังกุรเทพบุตร 128 www.kalyanamitra.org
ร่าเรงิ บันเทิงใจด้วยสัมโมทนยี กถา (รวมเล่ม) ทา่ นทานบดีทัง้ หลาย พระบรมศาสดาตรสั วา่ “บุคคลควรเลือกให้ทาน ในเขตท่ีตนให้แล้วจะมีผล มาก เพราะการเลอื กให้ พระสคุ ตทรงสรรเสริญ๑” “บุคคลไม่ควรดูหมิ่นบุญว่า บุญมีประมาณ น้อยจะไมม่ าถงึ แม้หม้อน้ำย่อมเต็มด้วยหยาดนำ้ ท่ีตก มาทีละหยาดได้ ผู้มีปัญญาสั่งสมบุญแม้ทีละน้อย ยอ่ มเต็มด้วยบุญได้ ฉันนน้ั .๒” ๑ อังกุรเทพบตุ ร มก. ๔๓/๓๓๔ 129 ๒ พิฬารปทกเศรษฐี มก. ๔๒/๒๗ , มจ. ๒๕/๖๙ www.kalyanamitra.org
ร่าเรงิ บนั เทงิ ใจดว้ ยสัมโมทนยี กถา (รวมเลม่ ) บทที่ ๕๓ การสงั่ สมบญุ นำความสขุ มาให้ หนิ แม้กอ้ นเลก็ ย่อมจมนำ้ ได้ ฉนั ใด บาปแม้ เพียงน้อยท่ีบุคคลผู้มีคุณความดีน้อย ปกติมีชีวิตอยู่ ด้วยใจทีเ่ ศร้าหมอง บาปนัน้ ยอ่ มนำบุคคลไปสู่อบายได้ ฉันนนั้ ตรงกันข้าม หนิ แมก้ ้อนใหญ่ วางอยบู่ นเรอื ก็ อาจนำข้ามมหาสมุทรไปสู่ฝ่ังได้ ฉันใด บุคคลที่เคย ทำผิดพลาดมาในอดีต เมื่อกลับตัวกลับใจได้ หมั่น สั่งสมบุญอย่างต่อเน่ือง ด้วยการให้ทาน รักษาศีล เจรญิ สมาธภิ าวนา แล้วระลึกถงึ บญุ อยูเ่ ป็นนิตย์ บญุ นน้ั ย่อมนำบคุ คลไปสสู่ ุคตโิ ลกสวรรคไ์ ด้ ฉนั น้นั ท่านทานบดีท้ังหลาย เพราะบุญมีอุปการะ 130 www.kalyanamitra.org
ร่าเริงบันเทงิ ใจด้วยสัมโมทนยี กถา (รวมเล่ม) มาก เปน็ เครอ่ื งป้องกนั ภัยในอบาย นำไปสู่สุคติโลก สวรรค์ เป็นทพ่ี ึงท้งั ในโลกน้แี ละในโลกหน้า พระสมั มาสมั พทุ ธเจ้าจึงตรสั วา่ “หากบุคคลจะพึงทำบุญ ก็ควรทำบุญนั้น บ่อยๆ ควรทำความพอใจในบุญน้ัน เพราะการสั่งสม บญุ นำความสุขมาให.้ ๑” ๑ เรอ่ื งนางลาชเทวธิดา มก. ๔๒/๑๔ , มจ. ๒๕/๖๘ 131 www.kalyanamitra.org
รา่ เรงิ บันเทงิ ใจดว้ ยสมั โมทนยี กถา (รวมเลม่ ) บทท่ี ๕๔ ทำบญุ ไมส่ ญู เปล่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า เมื่อเรือนถูกไฟ ไหม้๑ ส่ิงของที่นำออกไปได้ย่อมเป็นประโยชน์ ส่ิงของ ท่ถี กู ไฟไหมใ้ นเรือนนั้น ย่อมไม่เป็นประโยชน์ ฉนั ใด เม่ือโลกถูกชรา และมรณะเผาแล้วก็ฉันน้ัน เหมือนกัน บุคคลควรนำออกด้วยการให้ สิ่งที่ให้แล้ว ช่ือวา่ นำออกดแี ล้ว คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยงู เคยสอนไว้ว่า “บุญเอาติดตวั ไปได้ มนี ้อยก็ ทำนอ้ ย ทำบ่อยๆ กม็ ากเอง เหมือนเก็บเงนิ ใสก่ ระปกุ ๑ ทุตยิ เทวพราหมณสตู ร มก. ๓๔/๒๑๗ , มจ. ๒๐/๒๑๖ 132 www.kalyanamitra.org
รา่ เริงบนั เทงิ ใจด้วยสัมโมทนียกถา (รวมเลม่ ) ถึงจะมีสมบัติพันล้าน ถ้าไม่ได้ทำบุญ เวลา ตายก็เอาตดิ ตวั ไปไม่ได้ ยงั ไม่ใช่ของเรา สมบตั ขิ องเรา ถ้าเราไม่ได้ทำบุญ เราตายไป ก่อน คนทีอ่ ยขู่ ้างหลังกเ็ ป็นคนใช้สมบัตินน้ั หรือไมก่ ็ ถมแผ่นดิน๒.” ๒ คำสอนยาย ๑๓ พฤศจกิ ายน ๒๕๓๒ 133 www.kalyanamitra.org
รา่ เริงบนั เทิงใจด้วยสัมโมทนียกถา (รวมเล่ม) บทที่ ๕๕ ไดท้ ัง้ ทรัพย์และบรวิ าร พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า บุคคลผู้ให้ทาน ด้วยตนเอง๑ ทั้งชักชวนผู้อื่นให้ทาน เขาย่อมได้ท้ังโภค สมบัติ และบริวารสมบตั ใิ นท่ีๆ ตนเกิด คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขน- นกยงู เคยสอนไวว้ า่ “ท่ียายบอกบุญเพราะยายรกั บญุ บุญคือความดี จะทำให้ยายพ้นทุกข์ ยายอยากได้บุญ เพราะภพชาติต่อไป ยายต้องเกิดอีก ท่ีเขายากจน เพราะเขาไม่ทำทาน บอกบุญเขา เขาก็ได้บุญ เราก็ได้ บุญ ไปกันเป็นหมู่คณะ ไม่ต้องนั่งอยู่คนเดียว ภพชาติต่อไปจะได้ไปพบกันอีกไม่ต้องเจอคน พาล พบแต่คนมบี ุญดว้ ยกนั กไ็ มเ่ ดอื ดรอ้ น๒.” 134 ๑ บัณฑิตสามเณร มก. ๔๑/๓๑๘ , มจ. ๒๕/๕๓ ๒ คำสอนยาย ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ www.kalyanamitra.org
ร่าเรงิ บนั เทงิ ใจด้วยสัมโมทนียกถา (รวมเลม่ ) บทท่ี ๕๖ หาบญุ ได้ ใช้บุญเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า “หากบุคคล จะ พึงทำบญุ กค็ วรทำบุญนั้นบอ่ ยๆ ควรทำความพอใจใน บุญนัน้ เพราะการสง่ั สมบญุ นำความสุขมาให๑้ ” พระเดชพระคณุ พระมงคลเทพมุนี หลวงปวู่ ัด ปากนำ้ ภาษีเจรญิ เคยใหโ้ อวาทไวว้ า่ “การทำบุญต้องทำให้ถูกส่วน คือนำเครื่อง ไทยทานวัตถุมาถวายพระภกิ ษ ุ พระภิกษุสงฆ์รับเคร่ืองไทยทานวัตถุจากมือ ของผ้ใู ห้ ขาดจากสทิ ธ์ิของผู้ให้ เป็นสทิ ธ์ิของผู้รับขณะ ใด ปุญญาภสิ นั ธาน บญุ ไหลมาในขณะนั้น... ๑ นางลาชเทวธิดา มก. ๔๒/๑๔ , มจ. ๒๕/๖๘ 135 www.kalyanamitra.org
ร่าเริงบันเทิงใจด้วยสัมโมทนยี กถา (รวมเลม่ ) ในโลกมนุษย์ ถ้ามีบุญ จะค้าขายก็ร่ำรวย หาทรัพย์ง่ายไม่ตดิ ขัด พาตัวให้เปน็ สุขสูส่ คุ ต.ิ .. ต้องนึกถึงบุญ สิ่งอ่ืนอย่าไปนึก เม่ือต้องภัย ให้เอาใจจรดอยู่ท่ีบุญ ถ้าไปค้าขายติดขัดข้ึนก็ขอให้ บุญชว่ ย นึกถงึ บุญตรงกลางดวงธรรมนั้น ถ้าว่ามีอุปสรรคมาแทรกแซงอย่างใดอย่าง หน่งึ มผี ู้มารุกรานก็ขอใหบ้ ุญช่วย สิ่งอ่นื ช่วยไม่ได้ ถ้าหาบุญได้ใช้บุญเปน็ ก็ตอ้ งเอาใจไปจรดอยู่ท่ี ศูนยก์ ลางดวงบุญ๒...” ๒ ภัตตานุโมนากถา ๒ ๑๐ พฤษภาคม ๒๔๙๗ 136 www.kalyanamitra.org
รา่ เริงบนั เทงิ ใจด้วยสัมโมทนยี กถา (รวมเลม่ ) บทที่ ๕๗ ใช้บุญให้เป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า กุลบุตรผู้มี ศรัทธาจะประสพบุญมาก๑ เพราะความถึงพร้อมด้วย เหตุ ๓ ประการคือ ประการแรก ถึงพร้อมด้วยความศรัทธา คือ เช่ือในผลของการใหท้ าน ประการที่สอง ถึงพร้อมด้วยไทยธรรม คือ ปัจจยั ๔ ที่ประณตี สมควรแก่สมณบริโภค ได้มาดว้ ย ความชอบธรรม ประการท่ีสาม ถึงพร้อมด้วยทักขิไณยบุคคล คือ เน้อื นาบุญ หมายถงึ ผ้รู บั เปน็ ผ้มู ศี ลี ตั้งใจปฏบิ ตั ิ ๑ สมั มขุ ีสตู ร มก. ๓๔/๑๙๑ , มจ. ๒๐/๒๐๕ 137 www.kalyanamitra.org
รา่ เริงบันเทงิ ใจดว้ ยสมั โมทนียกถา (รวมเล่ม) ตนตามพระธรรมวินัย มีเป้าหมายทำพระนิพพานให้ แจง้ คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขน- นกยูง เคยสอนไว้ว่า “การทำทานเป็นเสบียง การทำสมาธิทำให้ หลุดพ้น ต้องทำให้มากๆ กว่าเราจะได้บุญ ต้องมี ความเพยี รพยายาม กว่าจะได้บญุ ตอ้ งมีศรัทธา มีเนอ้ื นาบุญ มีทกุ สิ่งทกุ อยา่ งพร้อม จงึ จะทำบุญได ้ เมื่อทำบุญยากอย่างนี้ ต้องอย่าให้บุญหกบุญ หลน่ ไป ใช้บญุ ใหเ้ ปน็ เพราะบุญจะนำเราไปสคู่ วามสขุ ได๒้ .” ๒ คำสอนยาย ธันวาคม ๒๕๒๒ 138 www.kalyanamitra.org
รา่ เริงบันเทงิ ใจด้วยสัมโมทนียกถา (รวมเลม่ ) บทที่ ๕๘ บุญเก่า บุญใหม่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า “ชนเหล่าใดมี จิตผ่องใส ให้อาหารด้วยศรัทธา อาหารนั้น ย่อม พะนอเขาท้ังในโลกน้ีและโลกหน้า เพราะเหตุน้ัน บุคลพึงนำความตระหนี่ออกไปเสีย พึงข่มความ ตระหนี่ ซึ่งเป็นมลทินแล้วให้ทาน เพราะบุญท้ังหลาย เปน็ ท่พี งึ่ ของเหล่าสตั วใ์ นโลกหน้า๑ ” คณุ ยายอาจารย์มหารัตนอบุ าสิกาจนั ทร์ ขน- นกยูง เคยสอนไว้ว่า “ยายสงสารท้ังคนจนคนรวย คนรวยทำบุญเก่าไว้ดี จึงมีสมบัติ ถ้าเราไม่ชวนเขา ทำบุญ บุญเก่าเขาก็จะหมด ภพชาติต่อไปก็จะจน และลำบาก ๑ อันนสูตร มก. ๒๔/๒๔๓ , มจ. ๑๕/๕๙ 139 www.kalyanamitra.org
รา่ เริงบนั เทงิ ใจด้วยสัมโมทนียกถา (รวมเลม่ ) คนจนเพราะบุญเก่าทำมาน้อย ถ้าเราไม่ชวน เขาทำบญุ ภพชาติตอ่ ไปก็จะจนยง่ิ กว่านอี้ กี ๒” “เอาบุญไปเยอะๆ นะ เดยี๋ วชาตหิ นา้ เกดิ มา เจอยาย ยายจะจำไดว้ ่า เจ้าคนนี้ ตอนนัน้ ยายให้มนั มา เอาบุญ มนั ไม่เอา ตอนนี้บุญมนั นดิ เดยี ว ตามเขาไม่ทนั ตอนนเี้ ราไมเ่ หน็ หรอกวา่ เราทำแลว้ ไดอ้ ะไรไป พอตายไปถงึ ไปเหน็ วา่ เรามบี ญุ มบี าปมานอ้ ยเพยี งไร กายหยาบๆ น้ีมองไม่เห็นของละเอียด จึงไม่รู้ ว่าบุญบาปมีจริง แต่พอตายแล้ว หลุดออกจากกาย หยาบ ทีนี้ละถึงเห็นดวงบุญ ดวงบาปตัวเองว่า มีมาก น้อยแคไ่ หน๓.” ๒ คำสอนยาย ๕ พฤศจกิ ายน ๒๕๒๒ ๓ คำสอนยาย ๕ เมษายน ๒๕๒๔ 140 www.kalyanamitra.org
รา่ เริงบนั เทิงใจด้วยสัมโมทนียกถา (รวมเลม่ ) บทท่ี ๕๙ บุญ...ธาตุดงึ ดดู สมบตั ิ ท่านทานบดีท้ังหลาย ธรรมดาสมบัติทั้งหลาย น้ันย่อมจะเกิดข้ึนมาพร้อมกับความตระหน่ี ความ ตระหนี่ย่อมครอบงำใจอยู่ตลอดเวลา ตราบเท่าที่ สมบัตินั้นยังมีอยู่ และความตระหน่ีนี่เอง ท่ีจะเป็นตัว ผลักดันสมบัตอิ ันจะพึงบังเกิดขึ้นออกไป เม่ือใดท่ีได้สละทรัพย์ออกทำทาน เม่ือน้ัน ความตระหน่ีย่อมหลุดออกจากใจ บุญย่อมเกิดขึ้น ยัง จิตให้ผ่องใส เบิกบาน บุญน้ีเองจะเป็นตัวดึงดูดให้ ทรัพย์สมบัติทั้งหลายมาสู่ตัวเรา ดังท่ีพระเดชพระคุณ พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) เคยให้ โอวาทไวว้ า่ “หวงคอื ไล่ ใหค้ อื เรียก” พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเห็นถึงเหตุนี้แล้ว 141 www.kalyanamitra.org
ร่าเรงิ บนั เทิงใจด้วยสมั โมทนียกถา (รวมเล่ม) จึงทรงสอนให้ละความตระหน่ีด้วยการนำสมบัติออก ทำทาน วันนี้ท่านทานบดีท้ังหลาย ได้สละทรัพย์ อัน เป็นเคร่ืองหล่อเล้ียงชีวิต เพ่ือถวายเป็นสังฆทาน แด่ พระภกิ ษสุ งฆห์ มใู่ หญ่ บุญกุศลอันเปน็ ธาตดุ งึ ดดู สมบตั ิ ย่อมเกิดขึ้นแก่ท่านทานบดีท้ังหลายและบุญน้ี เม่ือ สั่งสมมากเข้า ย่อมเป็นเหตุให้ได้มนุษยสมบัติ ทิพย- สมบัติ และนิพพานสมบตั .ิ 142 www.kalyanamitra.org
รา่ เริงบันเทงิ ใจด้วยสมั โมทนียกถา (รวมเล่ม) บทที่ ๖๐ กระแสบญุ พระสมั มาสมั พุทธเจ้าตรสั ว่า ห้วงบุญห้วงกศุ ล นำสุขมาให้๑ เป็นไปเพื่อให้ได้อารมณ์ดี มีสุขเป็นผล ให้เกิดในสวรรค์ เป็นไปเพ่ือเกื้อกูล เพ่ือความสุขท่ีน่า ปรารถนา นา่ ใครน่ า่ พอใจ พระราชภาวนาวิสุทธ์ิเคยให้โอวาทไว้ว่า บุญ แปลว่าเครือ่ งชำระใจให้บริสุทธ ์ิ เมื่อใจบริสุทธิ์ใจจะมีคุณภาพ ความใสความ สว่างจะบังเกิดข้ึน นี้แหละคือตัวบุญ ส่วนกระแสแห่ง บุญอยู่ตรงกลางดวงบุญนั้น บุญเกิดข้ึนเมื่อเราให้ทาน รักษาศีล หรือเจริญสมาธิภาวนา จะทำให้จิตมี คุณภาพขึ้น มีอานุภาพส่งกระแสบุญไปทุกทิศทุกทาง สามารถดงึ ดูดสมบตั ิทั้งหลายท่มี ีอยูใ่ นโลกได้ ๑ ปฐมปุญญาภสิ ันทสตู ร มก. ๓๗/๔๙๒ , มจ. ๒๓/๒๙๙ 143 www.kalyanamitra.org
ร่าเรงิ บนั เทิงใจด้วยสมั โมทนยี กถา (รวมเลม่ ) เมือ่ ยามท่เี รามีบญุ กระแสบุญสง่ ผล เรากร็ วม สมบัติให้มาเป็นของเราได้ แต่ยามใดบุญน้อย กระแส บุญอ่อนตัวลง สมบัติแม้มีน้อยก็สูญสลายไป พลัด พรากไปเพราะไมม่ ีแรงดึงดดู เพราะฉะน้ันสมบัติจะอยู่ กับเราได้ต่อเม่ือเรามีบุญ ถ้าหมดบุญก็เปล่ียนมือไป บุญจึงเป็นสิ่งสำคัญ แม้เรามองไม่เห็นด้วยตา สัมผัส ไม่ได้ด้วยมือ แต่ว่าสิ่งน้ันมีอยู่ จะเห็นได้ก็ต้องเข้าถึง ธรรมกาย มีญาณทัสนะเกิดข้ึน เราจะเห็นกระแสธาร แห่งบุญซึ่งอยู่ในกลางดวงบุญ คอยส่งกระแสออกไป ทกุ ทิศทกุ ทาง แม้แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ในระหว่างท่ีสร้างบารมี ท่านก็สั่งสมบุญอยู่เป็นนิตย์ เพราะท่านรู้เห็นว่าบุญเป็นบ่อเกิดแห่งความสุขความ สำเร็จ ต้ังแต่ชีวิตในระดับของปุถุชนจนกระทั่งเป็น พระอรยิ เจ้า. 144 www.kalyanamitra.org
รา่ เริงบันเทิงใจด้วยสัมโมทนยี กถา (รวมเลม่ ) บทที่ ๖๑ การสง่ ผลของบุญ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ยานพาหนะเป็น มิตรของคนเดนิ ทาง๑ มารดาเปน็ มติ รในเรือนตน บญุ ท่ี ตนทำไว้แลว้ เปน็ มติ รตดิ ตามตนไปในภพหนา้ คณุ ยายอาจารย์มหารตั นอุบาสิกาจันทร์ ขน- นกยงู เคยสอนไว้ว่า “บุญในอดีตเรามีมากหรือน้อย จะส่งผลให้ เปน็ ไปในปจั จุบันน ้ี ถา้ บญุ ในอดตี เราทำมา ๑๐ ก็สง่ ผล ๑๐ บุญท่ีเราทำในปัจจุบันนี้ส่งผลในปัจจุบันเพียง ๑๐ - ๒๐ เปอรเ์ ซน็ ต์ ของบุญทท่ี ำ แต่จะส่งผลเตม็ ๑ มิตตสูตร มก. ๒๔/๒๗๔ , มก. ๑๕/๖๘ 145 www.kalyanamitra.org
ร่าเริงบันเทงิ ใจดว้ ยสัมโมทนียกถา (รวมเลม่ ) ท่ใี นอนาคต ทำใหช้ าตหิ น้าของเราจะดมี าก ด้วยผล บุญในปจั จบุ นั ดังน้นั เราต้องหัดมกั นอ้ ยให้มากๆ ถา้ เรามี ๑๐๐ ใช้ ๑,๐๐๐ ไมน่ านก็วิบัต ิ แต่ถ้าเรามีบุญ ๑,๐๐๐ ใช้แค่ ๑๐๐ ไม่ นานบุญก็ต้องส่งผลมากขึ้น เม่ือได้มากข้ึน ก็ให้วางใจ อุเบกขา อย่าโลภ จงคิดว่า นั้นเป็นบุญท่ีส่งผล แล้ววางใจ เฉยๆ๒.” ๒ คำสอนยาย ๑๖ สิงหาคม ๒๕๒๒ 146 www.kalyanamitra.org
รา่ เรงิ บนั เทิงใจดว้ ยสมั โมทนียกถา (รวมเลม่ ) บทที่ ๖๒ ผรู้ ักตนเอง ครงั้ หนงึ่ ในสมยั พทุ ธกาล พระเจา้ ปเสนทโิ กศล กราบทูลความเห็นของตนต่อ พระผู้มีพระภาคเจ้า เรือ่ งบคุ คลผู้รกั ษาตนและไม่รักษาตน๑ พระบรมศาสดาตรัสรับรองว่า บุคคลผู้ ประพฤติทุจริต แม้จะมีพลม้า พลรถ พลเดินเท้าคอย รักษา ก็ช่ือว่าไม่รักษาตน เพราะเป็นการรักษาภาย นอก ส่วนบุคคลใด ประพฤติสุจริตด้วยกาย วาจา ใจ ชอ่ื วา่ เปน็ ผู้รกั ษาตน เพราะเป็นการรกั ษาภายใน พระเดชพระคณุ พระราชภาวนาวสิ ทุ ธิ์ หลวงพ่อ ๑ อตั ตริกขติ สตู ร มก. ๒๔/๔๒๙ , มจ. ๑๕/๑๓๔ 147 www.kalyanamitra.org
รา่ เริงบนั เทงิ ใจด้วยสมั โมทนยี กถา (รวมเล่ม) ธัมมชโย เคยให้โอวาทไว้ว่าชีวิตหลังจากตายแล้ว ไมม่ ีการหวา่ น ไม่มีการไถ ไม่มีการทำไร่ทำสวน ไม่มีการทำมาค้าขาย เปน็ อยู่ได้ดว้ ยบุญและบาป ทสี่ ่งั สมไว้ตอนเป็นมนุษย์ ถ้าสัง่ สมบุญกจ็ ะส่งผลดี มีสขุ ไปยาวนาน ถ้าสั่งสมบาปก็ส่งผลตรงกันข้าม เป็นทุกข์ ยาวนานเชน่ เดียวกนั ถ้าเรารักตัวเอง ก็ต้องหมั่นสั่งสมเติมบุญเติม บารมี เติมความบรสิ ทุ ธ์ิให้ตวั ของเราใหม้ ากๆ. 148 www.kalyanamitra.org
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304