Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E book ร่าเริงบันเทิงใจ

Description: E book ร่าเริงบันเทิงใจ

Search

Read the Text Version

ร่าเริงบันเทงิ ใจดว้ ยสัมโมทนยี กถา (รวมเลม่ ) บทท่ี ๖๓ หมดบุญก็หมดสทิ ธ์ิ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงรับรองว่า น้ำใน มหาสมุทรทั้งสี่น้ันมีปริมาณน้อย๑ เมื่อเทียบกับน้ำตา ของชนผู้ประสพทุกข์ ในระหว่างเวียนว่ายตายเกิดใน สังสารวัฏ น้ำตาน้ันมากกว่าน้ำในมหาสมุทรท้ังส่ี เสยี อกี พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ เคยให้ โอวาทไวว้ ่า อย่าลืมวา่ ชวี ิตท่ีผ่านมา เราดำเนนิ ชีวิตผดิ พลาดกันมาทุกชาติ มากหรือน้อยเท่านั้น แปลว่าชีวิต ทผี่ ิดพลาดเหลา่ นนั้ มวี ิบากกรรมทพี่ ร้อมจะสอดแทรก ให้ผล ได้ชอ่ งเมือ่ ไหรก่ ส็ ง่ ผลทนั ที ๑ เรื่องพระวนวาสีตสิ สะ มก. ๔๑/๒๗๕ , มจ. ๒๕/๕๑ 149 www.kalyanamitra.org

รา่ เริงบันเทงิ ใจดว้ ยสัมโมทนยี กถา (รวมเลม่ ) เราจึงจำเป็นต้องมีบุญ ถ้าหมดบุญก็หมดลม หายใจ แปลว่าหมดสิทธิ์ครอบครองทรัพย์สินทุกอย่าง บุญนี้ใช้ไปก็หมดไป ถ้าไม่สร้างบุญใหม่ ภพต่อไปเรา จะลำบากยากจน ชีวิตจะลำเค็ญ เพราะฉะน้ัน ใครมี กำลงั นอ้ ยก็ทำนอ้ ย มีกำลงั มากก็ทำมาก ท่านทานบดีทั้งหลาย ได้ตั้งใจมาสั่งสมบุญ กุศล ด้วยการมาถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน เป็น การสง่ั สมบุญใหแ้ ก่ตนเอง จึงไดช้ อื่ ว่า ดำรงตนอย่ดู ้วย ความไมป่ ระมาท. 150 www.kalyanamitra.org

รา่ เริงบนั เทิงใจด้วยสมั โมทนยี กถา (รวมเลม่ ) บทที่ ๖๔ เราใชบ้ ุญเก่าไปทุกวนั พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า บุคคลปรารถนา ความมีอายุยืน๑ ความไม่มีโรค วรรณะ สวรรค์ ความ เกิดในตระกูลสูง พงึ บำเพ็ญความไมป่ ระมาท พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสทุ ธิ์ เคยให้ โอวาทไว้ว่า บุญเก่าเราใช้กันไปทุกวัน บุญเก่าเขามี วัตถุประสงค์เพื่อมาเป็นอุปกรณ์ในการสร้างบารมีของ เราในภพนี้ ถ้าเราไม่สร้างบุญใหม่ บุญเก่าก็จะทยอย หมดไปเรือ่ ยๆ ถ้าบุญเก่าหมดไป บาปก็จะได้ช่อง ชีวิตก็จะมี อุปสรรค เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องส่ังสมบุญให้ มากๆ เพ่ือให้ได้อุปกรณ์สร้างบารมี ทั้งรูปสมบัติ ๑ ปฐมกัปปมาทสูตร มก. ๒๔/๔๗๙ , มจ. ๑๕/๑๕๑ 151 www.kalyanamitra.org

รา่ เรงิ บนั เทงิ ใจด้วยสัมโมทนียกถา (รวมเลม่ ) ทรพั ยสมบัติ คุณสมบตั ิ มเี ฉพาะกายมนษุ ยเ์ ท่านนั้ ที่ สร้างบารมีได้ กายทิพย์ก็ได้แค่อนุโมทนาบุญกับน่ังทำ สมาธิ ถ้าไปอยู่อบายภูมิก็มีแต่ความทุกข์ทรมาน ไม่มีโอกาสได้ทำความดี เพราะเป็นภพของการเสวย ผลบาป ภพมนษุ ย์เปน็ ท่สี ร้างบารมี แต่กม็ เี วลาจำกดั ท่านทานบดีท้ังหลาย ได้ต้ังใจมาสั่งสมบุญ กุศล ดว้ ยการถวายภตั ตาหารเปน็ สงั ฆทาน จงึ ได้ชอ่ื ว่า เปน็ ผู้ดำเนินชวี ิตอิ ยดู่ ้วยความไมป่ ระมาท. 152 www.kalyanamitra.org

รา่ เริงบนั เทิงใจด้วยสัมโมทนยี กถา (รวมเล่ม) บทที่ ๖๕ ดปู จั จุบนั พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ตรสั วา่ ขมุ ทรพั ยค์ อื บญุ ๑ ย่อมให้ผลที่น่าปรารถนา ทั้งที่เป็นมนุษยสมบัติ… สวรรคสมบัติ... และนิพพานสมบัต ิ พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวสิ ุทธิ์ เคยให้ โอวาทไว้ว่า การปฏิเสธบุญคือการปฏิเสธความสุข ปฏิเสธความสำเร็จไปทุกภพ ทุกชาติ ถ้ามีบุญน้อย อุปสรรคของชีวิตก็มาก ถ้ามีบุญมากอุปสรรคของชีวิต ก็น้อย ชีวิตยังมีการเวียนว่ายตายเกิด เราจะรู้ได้ อย่างไร ใหด้ ูปัจจบุ ัน ถ้าสั่งสมบุญมามาก ปจั จุบนั เรา ก็มีอุปสรรคน้อย ร่ำรวย มีรูปสมบัติ ทรัพยสมบัติ คุณสมบัติ ถ้าประกอบเหตุไม่ดี สั่งสมความตระหน่ี และบาปอกุศล ชวี ิตกล็ ำเคญ็ ยากลำบากทเี ดยี ว ๑ นธิ ิกณั ฑ์ มก. ๓๙/๓๐๒ 153 www.kalyanamitra.org

ร่าเรงิ บนั เทิงใจด้วยสัมโมทนยี กถา (รวมเลม่ ) ท่านทานบดีทั้งหลาย ได้ต้ังใจมาสั่งสมบุกุศล ด้วยการถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน จึงได้ชื่อว่า สัง่ สมเหตุอนั จะนำความสุขมาให้. 154 www.kalyanamitra.org

รา่ เรงิ บนั เทงิ ใจด้วยสัมโมทนยี กถา (รวมเลม่ ) บทท่ี ๖๖ เราคอื ผอู้ อกแบบชวี ติ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า เรามีกรรมเป็น ของตน๑ มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ุ มี กรรมเป็นที่พ่ึงอาศัย เราทำกรรมใดไว้ ดีหรือช่ัวก็ตาม เราจะตอ้ งเป็นผู้รบั ผลของกรรมนัน้ พระเดชพระคณุ พระราชภาวนาวสิ ุทธ์ิ เคยให้ โอวาทไว้วา่ เราคอื ผู้ออกแบบชีวิตในสงั สารวัฏ จะให้ ชวี ิตเปน็ อยา่ งไร ภพต่อไปจะยากจน เป็นชนชัน้ กลาง หรือเป็นชนช้ันสูง เราออกแบบชีวิตชาตินี้ได้ ส่ิงดีๆ จะเกิดข้ึนได้ เพราะเราสั่งสมบุญอย่างเดียวเท่าน้ัน บญุ จะไปปรงุ แตง่ ทุกอยา่ ง ฉะนัน้ ตอ้ งจำไวว้ ่า เราคอื ผู้ ออกแบบชีวิต ไม่ใช่พรหมลิขิต ไม่ใช่ฟ้าลิขิต ไม่ใช่ ใครลขิ ิต ๑ จูฬกัมมวิภังคสตู ร มก. ๒๓/๕๑ , มจ. ๑๔/๓๔๙ 155 www.kalyanamitra.org

ร่าเริงบนั เทิงใจด้วยสมั โมทนยี กถา (รวมเลม่ ) ท่านทานบดีทั้งหลาย ได้ต้ังใจมาสั่งสมบุญ กุศล ด้วยการถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน ไดช้ อ่ื ว่า มาออกแบบชีวิต อันจะนำไปสู่ความสุขความสำเร็จ ทั้งปวง. 156 www.kalyanamitra.org

รา่ เริงบันเทิงใจด้วยสัมโมทนียกถา (รวมเล่ม) บทที่ ๖๗ ผู้ไม่สะดุง้ กลวั ตอ่ ความตาย ครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล พราหมณ์ชานุโสณี ได้กราบทูลความเห็นของตนต่อพระบรมศาสดาว่า สัตว์ท้ังหลายมีความตายเป็นธรรมดา๑ ผู้ท่ีไม่สะดุ้ง กลัวตอ่ ความตายนั้นไมม่ ี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสตอบว่า มีท้ังผู้ท่ี สะด้งุ กลวั และไมส่ ะดุง้ กลัวต่อความตาย ผทู้ ไี่ มส่ ะดุ้งกลวั ต่อความตายที่จะมาถึง เพราะ เป็นผู้ไม่ทุกข์ร้อนกับบาปอกุศล เพราะได้ประกอบ กศุ ลกรรมไว้ดแี ล้ว ๑ อภยสตู ร มก. ๓๕/๒๔๕ , มจ. ๒๑/๒๖๑ 157 www.kalyanamitra.org

รา่ เริงบนั เทงิ ใจดว้ ยสมั โมทนียกถา (รวมเลม่ ) พระเดชพระคณุ พระราชภาวนาวสิ ทุ ธ์ิ หลวงพอ่ ธัมมชโย เคยให้โอวาทไว้ว่า ศาสตร์ทุกศาสตร์ที่เรียน มาในโลกนี้ ชว่ ยอะไรเราไม่ไดเ้ ลย แมย้ ามทีเ่ ราอย่บู น เตียงผู้ปว่ ย แต่บุญบารมที ่สี ัง่ สมโดยไม่มขี อ้ แม้ ข้ออ้าง และเงอ่ื นไข สามารถช่วยเราได ้ แม้ต้องถอดกายไปตอนน้ี ก็ไม่หวาดหว่ันต่อ มรณภัย เพราะเรารู้ว่า มีกายใหม่ท่ีสวยสดงดงาม มี สถานทีท่ ง่ี ดงามรอเราอยู่. 158 www.kalyanamitra.org

ร่าเริงบนั เทิงใจด้วยสัมโมทนียกถา (รวมเล่ม) บทท่ี ๖๘ สร้างบารมไี ม่มเี ว้นวรรค พระสัมมาสัมพทุ ธเจ้าตรสั ว่า หากบุคคลจะพงึ ทำบุญ ก็ควรทำบุญนั้นบ่อยๆ ควรทำความพอใจใน บุญ๑ นั้น เพราะการสั่งสมบุญนำความสุขมาให้ พระเดชพระคณุ พระราชภาวนาวสิ ทุ ธ์ิ หลวงพอ่ ธัมมชโย เคยให้โอวาทไว้ว่า เราต้องส่ังสมบุญทุกวัน เพราะบุญเป็นเคร่ืองชำระใจ เม่ือบุญเกิดข้ึนในใจ จะ ทำให้ใจใสสะอาดบริสุทธ์ิ คุณภาพของใจจะดีข้ึน บริสุทธ์ิข้ึน ใสสว่างขึ้น บุญมีลักษณะเป็นกระแสแห่ง ความบริสุทธ์ิ ไหลมารวมอย่ใู นกลางกาย รวมเป็นดวง กลมใส เรียกว่า ดวงบุญ ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เกิดความ สขุ และความสำเรจ็ ในชีวติ ๑ นางลาชเทวธิดา มก. ๔๒/๑๔ , มจ. ๒๕/๖๘ 159 www.kalyanamitra.org

ร่าเรงิ บันเทงิ ใจดว้ ยสัมโมทนียกถา (รวมเล่ม) บุญเป็นสิ่งท่ีเราต้องส่ังสมเอาไว้มากๆ ถ้าบุญ มากอุปสรรคกน็ อ้ ย ถา้ บญุ น้อยอปุ สรรคกม็ าก เราจะ สร้างบารมสี ะดวก สบายก็ต้องอาศัยเสบียง อาศัยสมบัติในการ สร้างบารมี ย่ิงเราเป็นนักสร้างบารมี ก็ต้องสร้าง บารมี ไม่มีเว้นวรรคจากการสั่งสมบุญ เพราะเราใช้ บุญเก่าหมดไปทุกวัน เราจึงจำเป็นต้องสั่งสมบุญใหม่ อยู่เสมอ ทา่ นทานบดที งั้ หลายไดช้ อ่ื วา่ เปน็ ผไู้ มป่ ระมาท ในการดำเนินชวี ติ ดุจเดยี วกับบัณฑิตในกาลกอ่ น ท่ี หม่นั สง่ั สมบุญอย่เู ปน็ เนอื งนติ ย์. 160 www.kalyanamitra.org

บทสมั โมทนยี กถา หมวดชวี ิตในปรโลก www.kalyanamitra.org

ร่าเรงิ บนั เทิงใจด้วยสมั โมทนยี กถา (รวมเล่ม) บทที่ ๖๙ เมือ่ เหลา่ เทพจตุ ิ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสแก่ภิกษุทั้งหลายว่า เม่ือใดเทวดาจะต้องจุติ๑ (ตาย) เทวดาท้ังหลาย ต่าง พากันมาอวยพรว่า ขอให้ท่านไปสู่สุคติ คร้ันไปสู่สุคติ แล้วขอให้ได้ลาภ ครั้นได้ลาภแล้วขอให้ดำรงตนอยู่ ดว้ ยดี ภิกษุรูปหน่ึงกราบทูลถามว่า อะไรเป็นสุคติ อะไรเป็นลาภ และอะไรเป็นการดำรงตนอยดู่ ว้ ยดขี อง เทวดา พระบรมศาสดาตรัสตอบว่า การได้เกิดเป็น มนุษย์เป็นสุคติของเทวดา การมีศรัทธาในพระธรรม วินัยเป็นลาภ การมีศรัทธาท่ีมั่นคงไม่คลอนแคลน ๑ จวมานสูตร มก. ๔๕/๕๐๑ , มจ. ๒๕/๔๔๗ 162 www.kalyanamitra.org

ร่าเรงิ บันเทงิ ใจด้วยสัมโมทนียกถา (รวมเล่ม) ตลอดชวี ติ เปน็ การดำรงตนอยดู่ ้วยด ี ท่านทานบดีทั้งหลาย เทวดาเหล่าใดได้เกิด เปน็ มนษุ ย์ มศี รัทธาในพระธรรมวินัย และมศี รัทธาที่ ม่ันคงไม่คลอนแคลน ก็ย่อมได้กลับไปสู่ความเป็น สหายของเทวดาอกี บุคคลใดดำรงตนเช่นนีย้ ่อมไดช้ ่อื ว่า เปน็ มนสุ - เทโว คือเป็นเทพบุตรเทพธิดาตั้งแต่ยังเป็นมนุษย์ เมือ่ ละจากโลกแลว้ ย่อมมีสุคติโลกสวรรคเ์ ป็นที่ไป. 163 www.kalyanamitra.org

ร่าเริงบันเทงิ ใจด้วยสัมโมทนียกถา (รวมเล่ม) บทที่ ๗๐ สวา่ งมา สว่างไป พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า บุคคลในโลกมี ๔ ประเภท๑ คอื บุคคลท่สี ว่างมาสว่างไป สว่างมา มดื ไป มดื มามดื ไป มืดมาสวา่ งไป ในบุคคลท้ัง ๔ ประเภทน้ี บคุ คลท่ีสวา่ งมา สว่างไปเปน็ เลิศ บุคคลทีส่ ว่างมา สวา่ งไป เปน็ อย่างไร พระบรมศาสดาตรัสแก่ภิกษุท้ังหลายว่า เม่ือ ใดเทวดาจะต้องจุติ๒ เทวดาทั้งหลายต่างพากันมา อวยพรว่า ขอใหท้ า่ นไปสสู่ คุ ติ ครัน้ ไปสูส่ ุคตแิ ล้วขอ ให้ได้ลาภ ครัน้ ไดล้ าภแลว้ ขอใหด้ ำรงตนอยู่ดว้ ยด ี ๑ ตมสูตร มก. ๓๕/๒๔๖ , มจ. ๒๐/๑๒๙ ๒ จวมานสูตร มก. ๔๕/๕๐๑ , มจ. ๒๕/๔๔๗ 164 www.kalyanamitra.org

รา่ เริงบันเทิงใจดว้ ยสัมโมทนียกถา (รวมเล่ม) ภิกษุรูปหนึ่งกราบทูลถามว่า อะไรเป็นสุคติ อะไรเป็นลาภ และอะไรเป็นการดำรงตนอยดู่ ้วยดขี อง เทวดา พระบรมศาสดาตรัสตอบว่า การได้เกิดเป็น มนุษย์เป็นสุคติของเทวดา การมีศรัทธาในพระธรรม วินัยเปน็ ลาภ การมีศรัทธามัน่ คงไม่คลอนแคลนตลอด ชวี ติ เปน็ การดำรงตนอย่ดู ้วยด ี ท่านทานบดีทั้งหลาย เทวดาเหล่าใดได้เกิด เปน็ มนุษย์ มศี รทั ธาในพระธรรมวนิ ัย และมศี รทั ธาท่ี ม่นั คงไมค่ ลอนแคลน ย่อมไดก้ ลบั ไปสูค่ วามเปน็ สหาย ของเทวดาอีก บคุ คลเชน่ นจี้ งึ ไดช้ อื่ วา่ เปน็ ผสู้ วา่ งมา สวา่ งไป. 165 www.kalyanamitra.org

รา่ เริงบันเทงิ ใจด้วยสมั โมทนียกถา (รวมเลม่ ) บทท่ี ๗๑ เรือนทีถ่ กู ไฟไหม้ ปกติของทรัพย์สินเงินทอง หรือส่ิงของท่ี บุคคลหวงแหน ไม่มีแม้แต่สิ่งเดียวที่บุคคลจะนำติดตัว ไปได้ เพราะเม่ือละโลกไปต้องท้ิงสมบัติเหล่านี้ไว้เป็น ธรรมดา บุญกุศลที่ได้กระทำไว้ทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ จะเปน็ สมบัติท่ตี ิดตามไปประดุจเงาตามตวั เปรียบเหมือนเรือนที่ถูกไฟไหม้๑ ภาชนะใดที่ เจ้าของนำออก ภาชนะนั้นย่อมเป็นประโยชน์แก่ เจ้าของ ตัวเราเองก็เชน่ กนั ถูกไฟ คือ ความแก่ ความ เจ็บ ความตาย เผาลนอย่ตู ลอดเวลา ๑ อาทิตตสูตร มก. ๒๔/๒๓๖ , มจ. ๑๕/๕๗ 166 www.kalyanamitra.org

ร่าเริงบนั เทงิ ใจดว้ ยสัมโมทนียกถา (รวมเลม่ ) บุคคลผู้มีปัญญาจึงนำทรัพย์ออกด้วยการให้ ทาน เพราะทรพั ย์ท่ีให้แล้ว ชื่อวา่ นำออกดีแล้ว ย่อมมี สุขเป็นผล แต่ทรัพย์ที่ยังไม่ได้นำออก ย่อมไม่เป็นเช่น นั้น เพราะโจรอาจขโมยได้ ไฟอาจไหม้ได้ น้ำอาจพัด พาไปได้ หรืออาจถูกภยั จากเศรษฐกจิ คุกคาม เม่ือความตายคืบคลานมาถึง แม้จะมีทรัพย์ สมบัติ ยศ บริวาร หรือความเป็นใหญ่มากมายเพียง ใด กต็ อ้ งสละไวแ้ ม้สรรี ะของตน ผู้มีปัญญา รู้ความจริงข้อน้ีแล้ว ย่อมหมั่นให้ ทาน เพราะทานน้จี ะเปน็ เสบยี ง เปน็ ท่ีพ่ึง ติดตาม ไปในภพชาติเบอ้ื งหนา้ ท่านทานบดีทั้งหลายช่ือว่า เป็นผู้ฉลาดใน การดำเนินชีวิต แม้อยู่กับโลก แต่กระแสโลกไม่อาจ ทำให้มัวเมาลุ่มหลงได้ ประดุจใบบัวท่ีน้ำไม่อาจ ซมึ ซาบได.้ 167 www.kalyanamitra.org

รา่ เรงิ บันเทงิ ใจด้วยสมั โมทนยี กถา (รวมเล่ม) บทท่ี ๗๒ ผใู้ ห้ของท่ีประเสรฐิ ยอ่ มเข้าถึงฐานะอนั ประเสริฐ พระสัมมาสมั พทุ ธเจ้าตรสั ว่า “ผใู้ หข้ องชอบใจ ย่อมได้ของชอบใจ ผู้ให้ของเลิศย่อมได้ของเลิศ ผู้ให้ ของดี ย่อมได้ของดี ผู้ให้ของประเสริฐ ย่อมเข้าถึง ฐานะอันประเสริฐ นรชนใดให้ของทเี่ ลศิ ใหข้ องทด่ี ี และให้ของ ทปี่ ระเสรฐิ นรชนนัน้ จะไปเกิด ณ ที่ใดๆ ย่อมเปน็ ผู้ มอี ายยุ นื มียศในท่นี น้ั ๆ๑” พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมนุ ี หลวงปวู่ ัด ปากน้ำภาษีเจริญ เคยให้โอวาทไวว้ า่ ๑ มหาปทายสี ูตร มก. ๓๖/๑๐๐ , มจ. ๒๒/๖๙ 168 www.kalyanamitra.org

ร่าเรงิ บันเทิงใจดว้ ยสมั โมทนียกถา (รวมเล่ม) “คนมีปัญญาอยู่ในสถานท่ีใด หญิงชายก็ดี เป็นใหญใ่ นที่น้นั เพราะทาน สงเคราะห์เขาอยเู่ สมอไป คนโง่อยู่ท่ีไหนจมมืด ไม่ให้ใครเพราะกลัวเปลือง หนัก เข้าต้องอยู่คนเดียว เจ็บไข้ ไม่มีใครเยี่ยม คนฉลาด เลีย้ งตัวเอง สร้างตัวเอง ส่งเสริมตวั เองท้งั เป็น เราเป็นมนุษย์ยังไม่ถึงชาติสุดท้าย ต้องให้ ถ้า ไม่ให้ ภายภาคหน้าจะกันดาร ไม่สมบูรณ์ด้วยเคร่ือง กนิ เครือ่ งใช้ ถ้าวา่ ให้อยู่เนืองนิตย์ ไม่ขาดตกบกพรอ่ ง ไม่ทุกข์ไม่ยากในระหว่างนั้นๆ พอใช้พอสอยทีเดียว เพราะการให้เป็นตัวสำคัญ ทา่ นจงึ วางไว้เป็นตำรบั ตำราว่า ผ้ใู หข้ องชอบใจ ย่อมไดข้ องชอบใจ ชือ่ ว่าให้ ความหวังของตัวทุกภพทุกชาติท่ีตัวทำไว้ ต่อไปภาค หนา้ จะเป็นของตัวแท้ๆ ผใู้ หข้ องเลิศย่อมไดข้ องเลิศ แลว้ แตว่ ตั ถุนัน้ ๆ ในประเทศนน้ั ๆ นิยมกัน 169 www.kalyanamitra.org

ร่าเรงิ บนั เทิงใจด้วยสมั โมทนยี กถา (รวมเลม่ ) ผใู้ หข้ องประเสรฐิ ยอ่ มเขา้ ถงึ ฐานะอนั ประเสรฐิ เช่น กษัตริย์ นายกรัฐมนตรี ฯลฯ ให้ฐานะอันเลิศ ได้ เม่ือให้ก็ย่อมประสบกับฐานะอันเลิศน้ันเป็น ชนั้ ๆ ไป๒.” 170๒ ทานานโุ มทนากถา (ฉากหลัง) ๓ เมษายน ๒๔๙๙ www.kalyanamitra.org

รา่ เรงิ บันเทงิ ใจดว้ ยสัมโมทนียกถา (รวมเล่ม) บทที่ ๗๓ เทวดาขม่ เทวดา ในสมัยพุทธกาล พระราชโอรส ๒ พระองค์๑ องค์หนึ่งเกิดจากพระครรภ์ของพระอัครมเหสี บรรทม อยูใ่ ตเ้ ศวตฉตั ร อกี องคห์ น่ึงเกดิ จากทอ้ งของหญิงรบั ใช้ นอนอยู่ในท่ีนอนต่ำกว่า ทารกท้ัง ๒ มีปัญญามาก สนทนากันต้งั แต่เยาวว์ ยั พระราชธิดาสุมนาทรงสดับ จึงนำความนี้ไป กราบทลู ถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพทุ ธองค์ตรัสวา่ ในอดตี พระราชโอรสท้งั ๒ องค์ เคยบวชเป็นภิกษุในสมัยพระกัสสปสัมมาสัม- พุทธเจ้า พระราชโอรสที่เกิดใต้เศวตฉัตร ในอดีตเป็น ภิกษุผู้ชอบให้ทาน ส่วนทารกที่นอนอยู่ในที่ต่ำกว่า ใน อดีตเปน็ ภิกษุที่ไม่ให้ทาน แลว้ ตรัสต่อไปวา่ ๑ สมุ นสูตร มก. ๓๖/๖๖ , มจ. ๒๒/๔๕ 171 www.kalyanamitra.org

รา่ เรงิ บันเทงิ ใจด้วยสมั โมทนียกถา (รวมเล่ม) ผู้ให้ทานแม้เกิดเป็นเทวดาย่อมข่มเทวดาผู้ไม่ ใหด้ ้วยเหตุ ๕ ประการ คือ อายุ วรรณะ สขุ ยศ และ อธิปไตย คือความเป็นใหญอ่ นั เป็นทิพย ์ ท่านทานบดีทั้งหลาย การให้ทานยังความสุข และความสำเร็จใหแ้ ก่มนุษยแ์ ละเทวดาทั้งหลาย. 172 www.kalyanamitra.org

รา่ เริงบันเทิงใจด้วยสัมโมทนยี กถา (รวมเล่ม) บทที่ ๗๔ คนเช่อื ผลของบญุ ๒ ประเภท บุคคลเสวยสุขในวัยชรา เพราะความขยัน หมนั่ เพียรทตี่ นไดก้ ระทำไว้ในวยั หนุ่มสาว ฉนั ใด เทพบุตร เทพธิดา เสวยสุขในทิพสมบัติอัน โอฬาร เพราะผลบุญที่ตนได้เคยส่ังสมไว้ เมื่อคร้ังเป็น มนษุ ย์ ฉันน้นั คำว่า บุญ เป็นช่ือของความสุข อยู่เบ้ืองหลัง ความสำเร็จ ต้งั แตช่ ีวติ มนษุ ยป์ ุถุชนจนถงึ พระอรหนั ต ์ บุญมคี ณุ สมบตั อิ ยา่ งน้อย ๒ ประการ คอื ประการแรก เป็นของเฉพาะตน ไม่ใช่ของ สาธารณะแกค่ นทว่ั ไป ภยั ใดๆ ไมส่ ามารถทำอนั ตรายได ้ 173 www.kalyanamitra.org

ร่าเริงบันเทงิ ใจด้วยสมั โมทนยี กถา (รวมเล่ม) ประการท่ีสอง บุญนั้นติดตามผู้เป็นเจ้าของ ไปในภพเบื้องหน้าได ้ คนท่เี ช่ือเร่ืองผลของบญุ มี ๒ ประเภท ประเภทแรก เช่ือเรื่องผลของบุญตั้งแต่ยังมี ชีวิตอยู่ จึงเรง่ ขวนขวายสง่ั สมบุญ เพราะเหน็ คณุ ค่า ของบุญ ว่าเป็นท่ีพ่ึงท้ังในโลกน้ีและโลกหน้า เป็น เหตุให้ได้ท้ังมนุษยสมบัติ ทิพยสมบัติ และนิพพาน สมบตั ิ ประเภทที่สอง เมื่อมีชีวิตอยู่ไม่เชื่อเรื่องผล ของบุญ แต่ไปเชื่อเร่ืองผลของบุญเมื่อละจากโลกไป แล้ว จึงเป็นท่ีน่าเสียดาย เพราะไม่สามารถส่ังสมบุญ ได้ ตอ้ งมชี วี ิตอยอู่ ย่างยากลำบาก ไดแ้ ต่รอคอยผลของ บญุ ทห่ี มูญ่ าติอุทิศไปให้ 174 www.kalyanamitra.org

ร่าเริงบนั เทงิ ใจดว้ ยสมั โมทนียกถา (รวมเล่ม) ท่านทานบดีทั้งหลายจึงได้ช่ือว่า เป็นผู้มีบุญ ลาภอันประเสริฐ คือมีศรัทธา เช่ือในผลของการให้ ทาน พากนั มาสง่ั สมทานกศุ ลอยา่ งต่อเนือ่ ง เปน็ แบบ อย่างของผู้ดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท ดำเนิน รอยตามปฏิปทาของพระบรมโพธิสัตว์ท้ังหลาย อีกท้ัง ยังเป็นต้นบุญและต้นแบบแก่อนุชนที่ตามมาในภาย หลัง. 175 www.kalyanamitra.org

ร่าเริงบันเทงิ ใจดว้ ยสัมโมทนยี กถา (รวมเลม่ ) บทที่ ๗๕ บุญเปน็ ส่ิงทีต่ อ้ งแสวงหา ชีวิตของเราดำรงอย่ไู ด้ตอ้ งอาศยั ปจั จยั ๔ เรา จึงแสวงหาปัจจัย ๔ มาหล่อเลี้ยงชีวิต แต่พวกเราท้ัง หลายมีศรัทธาในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มองชีวิตไกลกว่าบุคคลทั่วไป เห็นว่าชีวิตในปรโลก (โลกหน้า) ไม่ได้ใช้ปัจจัย ๔ แต่ใช้บุญเป็นที่พ่ึง จึงได้ ขวนขวายมาส่ังสมบุญ ด้วยการให้ทาน รักษาศีล และเจริญสมาธภิ าวนาอย่เู ป็นประจำ พวกเราตระหนักในคุณค่าของบุญ จึงพากัน มาส่ังสมบญุ ซึ่งแตกต่างจากบคุ คลท่ัวไปคือ ส่ิงท่ีหาไม่ ได้ใช้ ส่ิงที่ใช้ไม่ได้หา หมายความว่า ปัจจัย ๔ ที่ แสวงหาตลอดชีวิต เม่ือละโลกไปแล้วกลับไม่ได้ใช้ สิ่งที่ต้องใช้ในโลกหน้าคือ บุญ กลับไม่ได้แสวงหา เพราะอวิชชาคอื ความไม่รู้ปกปดิ เอาไว้ 176 www.kalyanamitra.org

รา่ เรงิ บันเทิงใจดว้ ยสมั โมทนียกถา (รวมเล่ม) ทา่ นท้งั หลายจงึ ไดช้ ่อื วา่ เป็นผูใ้ ห้แสงสว่างแก่ ชาวโลก คือ เป็นแบบอย่างของผู้ดำเนินชีวิตอยู่ด้วย ความไม่ประมาท ให้ปลื้มใจเถิดว่า วัน เวลาท่ีผ่านไป คุ้มค่า ไม่สญู เปลา่ บุคคลผสู้ ่งั สมบุญไว้ดีแลว้ ย่อมเสวยสุขในโลก ท้ังสอง คือ ในโลกนี้ เมื่อระลึกนึกถึงบุญที่ตนกระทำไว้ ย่อมมีความปีติ อ่ิมเอิบ เบิกบานใจเป็นเคร่ือง ตอบแทน ในโลกหน้า บุญย่อมคอยต้อนรับบุคคลผู้ ทำความดี ประดุจหมู่ญาติคอยต้อนรับบุคคลอันเป็น ท่ีรกั ทจี่ ากไปนานแลว้ กลบั มาดว้ ยความสวสั ด.ี 177 www.kalyanamitra.org

ร่าเริงบันเทงิ ใจด้วยสัมโมทนียกถา (รวมเลม่ ) บทที่ ๗๖ บุญเป็นมิตรตดิ ตามไปในโลกหนา้ มติ ร แปลว่า เพื่อนรักใครค่ ุน้ เคย มารดา ชื่อว่า เปน็ มิตรในเรอื น เพราะเป็นผู้ ให้ความรักใคร่คุ้นเคยตั้งแต่บุตรอยู่ในครรภ์ ท้ังยังมี อปุ การะเลยี้ งดูแนะนำแตส่ งิ่ ทเี่ ป็นประโยชน์แกบ่ ตุ ร ยานพาหนะ ช่ือว่า เป็นมิตรของคนเดินทาง เพราะทำให้ไม่ต้องลำบากด้วยภัย คือ แดด ลม ฝน ไม่ส้ินเปลืองเวลา และช่วยทำกิจท่ีพึงประสงค์ ให้ สำเรจ็ ลลุ ว่ งได้โดยรวดเร็ว แต่ทั้งมารดาและยานพาหนะ เป็นมิตรได้ก็ เฉพาะแต่ในโลกน้เี ท่าน้ัน 178 www.kalyanamitra.org

ร่าเริงบนั เทิงใจด้วยสัมโมทนียกถา (รวมเลม่ ) พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเห็นการเวียนว่าย ตายเกิดของสัตว์ทั้งหลาย ทรงค้นพบว่าบุญ เป็นเหตุ นำความสุขมาให้แก่สัตว์ทั้งหลายในโลกหน้า จึงตรัส ว่า บุญท่ีบุคคลกระทำไว้๑ เป็นมิตรติดตามไปในภพ หน้า การเข้าถึงฐานะของความเป็นเศรษฐี มหา เศรษฐีได้ก็เพราะบุญ การเข้าถึงความเป็นกษัตริย์ พระเจ้าจักรพรรดิได้ก็เพราะบุญ การบรรลุธรรมเป็น พระอรหันต์ พระสัมมาสมั พุทธเจ้าได้ก็เพราะบุญ บุญมีอุปการะมากอย่างน้ี การสั่งสมบุญจึง เป็นเรื่องของคนมีปัญญา มองการณ์ไกล หาเคร่ือง ป้องกนั ภยั ในวฏั สงสาร บุคคลผู้สั่งสมบุญไว้ดีแล้ว ย่อมมีความสุขใน โลกทงั้ สอง ๑ มิตตสตู ร มก. ๒๔/๒๗๔ , มจ. ๑๕/๖๘ 179 www.kalyanamitra.org

ร่าเรงิ บันเทิงใจด้วยสัมโมทนยี กถา (รวมเลม่ ) ในโลกนี้ เมื่อระลึกนึกถึงบุญท่ีตนกระทำไว้ ย่อมมีความปีติ อิ่มเอิบ เบิกบานใจเป็นเครื่อง ตอบแทน ในโลกหน้า บุญย่อมคอยต้อนรับผู้ทำความดี ประดุจหมู่ญาติคอยต้อนรับบุคคลอันเป็นท่ีรัก ที่จาก ไปนานแล้วกลบั มาดว้ ยความสวสั ดี. 180 www.kalyanamitra.org

รา่ เรงิ บนั เทงิ ใจดว้ ยสมั โมทนยี กถา (รวมเลม่ ) บทท่ี ๗๗ ฐานะทางสงั คมในโลกหน้า ฐานะทางสังคมในโลกนี้ วัดกันที่ใครมีทรัพย์ สมบัติ ยศ บริวาร และความเป็นใหญ่มากกวา่ กัน แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงค้นพบว่า ฐานะ ทางสังคมที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ไม่สามารถนำไปใช้ใน โลกหนา้ ไดเ้ ลย อปุ มาเหมือนกับเราอยใู่ นประเทศไทย เราใช้ เงินสกุลไทยแลกเปลี่ยนปัจจัย ๔ เพ่ือดำรงชีวิต แต่ เม่ือเราเดินทางไปต่างประเทศ เราต้องแลกเปลี่ยนใช้ เงินตราในสกลุ ของประเทศนัน้ ๆ 181 www.kalyanamitra.org

ร่าเรงิ บนั เทิงใจดว้ ยสมั โมทนียกถา (รวมเล่ม) พระบรมศาสดาทรงค้นพบว่า บุญ คือผลแห่ง การทำความดีที่บุคคลสั่งสมไว้เม่ือเป็นมนุษย์ เป็น เคร่อื งวัดฐานะทางสังคมในโลกหนา้ ฐานะทางสังคมในโลกน้ี ใช้ได้ก็ไม่เกินร้อยปี แต่ฐานะทางสังคมในโลกหน้า ท้ังสุคติโลกสวรรค์หรือ ทคุ ตใิ นอบาย มีอายุเป็นล้านๆ ปี ท่านทานบดีท้ังหลายจึงได้ชื่อว่า เป็นผู้ไม่ ประมาทในการดำเนนิ ชีวิต และเปน็ ผมู้ ีสายตายาวไกล บุคคลผู้เลี้ยงชีวิตด้วยสัมมาอาชีวะในโลกนี้ และส่ังสมบุญเป็นเสบียงไว้ใช้ในโลกหน้า ช่ือว่าเป็นผู้มี ชัยชนะในโลกทง้ั สอง ในโลกนี้ เมื่อระลึกถึงความขยันหม่ันเพียร ด้วยความสุจริตของตน ย่อมมีปีติอ่ิมเอิบใจเป็นเครื่อง ตอบแทน ในโลกหน้า บุญย่อมคอยต้อนรับบุคคลผู้ทำ ความดี ประดุจหมู่ญาติคอยต้อนรับบุคคลอันเป็นท่ีรัก ทจี่ ากกันไปนานแลว้ กลับมาด้วยความสวสั ดี. 182 www.kalyanamitra.org

รา่ เริงบนั เทิงใจด้วยสมั โมทนยี กถา (รวมเล่ม) บทท่ี ๗๘ ผมู้ ชี ัยในโลกทงั้ สอง ฐานะทางสังคมในโลกน้ี วัดกันที่ใครมีทรัพย์ สมบตั ิ ยศ บรวิ าร และความเป็นใหญ่มากกวา่ กัน แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงค้นพบว่า ฐานะ ทางสังคมในโลกหน้า วัดกันท่ีกำลังบุญ ผู้มีบุญมาก ปกครองผู้มีบญุ นอ้ ย บุคคลผู้มีศรัทธา ประกอบสัมมาอาชีวะ แสวงหาทรัพย์ด้วยความขยนั หม่นั เพียร และหาโอกาส สั่งสมบุญอยู่เป็นนิตย์ จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้มีชัยในโลกท้ัง สอง ในโลกนี้ เม่อื ระลึกถงึ ความขยันหม่ันเพียร ใน การประกอบสัมมาอาชีวะอันสุจริตของตน ย่อมมี 183 www.kalyanamitra.org

ร่าเริงบนั เทิงใจด้วยสมั โมทนยี กถา (รวมเลม่ ) ความปีติ อาจหาญ ร่าเรงิ แกล้วกล้าในทุกสถานท ่ี ในโลกหน้า บุญย่อมคอยต้อนรับบุคคลผู้ ทำความดี ประดุจหมู่ญาติคอยต้อนรับบุคคลอันเป็น ทรี่ ัก ที่จากไปนานแลว้ กลบั มาด้วยความสวสั ดี บุคคลผู้มีชัยในโลกท้ังสอง ย่อมเป็นท้ังต้นบุญ ต้นแบบ และเป็นประดุจแสงสว่างส่องทางแก่ชนท้ัง หลาย. 184 www.kalyanamitra.org

รา่ เริงบันเทงิ ใจด้วยสมั โมทนียกถา (รวมเล่ม) บทท่ี ๗๙ ละโลกไปอย่างผู้มีชยั ในสังสารวัฏอันยาวไกล ผู้พอใจในการเกิด ยอ่ มเกดิ บอ่ ยๆ การเกดิ บอ่ ยๆ นน้ั พระผมู้ พี ระภาคเจา้ ตรัสว่า เป็นความทุกข์ เพราะส่ิงท่ีติดตามมา คือ ความแก่ ความเจ็บ และความตาย บัณฑิตทง้ั หลายในกาลกอ่ นกล่าวว่า ร่างกายน้ี ไม่นานจักถมทับแผ่นดิน เม่ือปราศจากวิญญาณ เป็นประดจุ ท่อนฟนื หาประโยชนม์ ไิ ด้ ชีวิต คือ อายุเป็นของน้อย อันชรานำเข้าไป สัตวแ์ ละสงั ขารทีเ่ ป็นทพ่ี ึง่ ชว่ ยป้องกันยอ่ มไมม่ ี บุคคลเมื่อพิจารณาเห็นภัยในวัฏสงสาร พึง 185 www.kalyanamitra.org

ร่าเรงิ บันเทงิ ใจดว้ ยสัมโมทนยี กถา (รวมเล่ม) หมั่นทำบุญ อันจะนำความสุขมาให้ เพราะทรัพย์สิน เงินทองหรือของที่บุคคลหวงแหน มิอาจนำไปได้ จำ ต้องทอดทิ้งไว้ท้ังหมด แต่บุญกุศลท่ีบุคคลกระทำ ดีแล้วด้วยกาย วาจา หรือด้วยใจ ย่อมติดตามไป ประดุจเงาท่ีติดตามตัว เป็นที่พ่ึงทั้งในโลกนี้และโลก หน้า บุคคลผู้มีปกติสั่งสมบุญ เม่ือถึงวาระสุดท้าย ภาพแห่งการทำความดีย่อมมาปรากฏ ทำให้เกิด ความปล้ืมปีติและภาคภูมิใจว่า เราได้เกิดมาสร้าง บารมี เม่อื ละจากอัตภาพนี้ ย่อมเขา้ สู่สุคติ เสวยสขุ ในทิพยสมบัติ เป็นผู้ละจากโลกนี้ไปอย่างผู้มีชัยชนะ เหมอื นละจากภาชนะดินแลว้ ไปเสวยภาชนะทองคำ. 186 www.kalyanamitra.org

ร่าเรงิ บนั เทงิ ใจดว้ ยสมั โมทนยี กถา (รวมเลม่ ) บทที่ ๘๐ จติ ผ่องใส สุคติเป็นทไี่ ป ท่านทานบดีทั้งหลาย ฝุน่ ในเลบ็ มอื มีประมาณ นอ้ ย เม่ือเทียบกบั ฝุ่นในแผ่นดิน ฉันใด พระสัมมาสัม- พุทธเจ้าตรัสว่า สัตว์ท่ีตายแล้วไปสู่สุคติก็มีประมาณ น้อย ฉันนั้น การไปสู่สุคติจึงเป็นการยาก และเป็นท่ี ปรารถนาของชนทง้ั หลาย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงหนทางไปสู่สุคติ ไว้ว่า๑ จิตเต อสังกิลิฏเฐ สุคติ ปาฏิกังขา เมื่อจิต ผ่องใส ไม่เศร้าหมอง สุคติเป็นที่ไป จิตจะผ่องใสได้ เม่ือใจระลึกนึกถึงบุญท่ีกระทำไว้ ใจจะนึกถึงบุญได้ ก็ ต้องสั่งสมบุญบ่อยๆ ทั้งการให้ทาน รักษาศีล เจริญ สมาธิภาวนา และตามนึกถึงบุญบ่อยๆ จนเป็นอาจิณ กรรม ๑ วัตถปู มสตู ร มก. ๑๗/๔๓๓ , มจ. ๑๒/๖๒ 187 www.kalyanamitra.org

รา่ เริงบันเทิงใจดว้ ยสัมโมทนยี กถา (รวมเล่ม) ท่านทานบดีท้ังหลาย บุคคลแม้จะมีทรัพย์ ยศ บริวาร หรือความเป็นใหญ่มากมายดุจพระเจ้า จักรพรรดิ์ ก็ไม่ได้เป็นหลักประกันว่า จะมีสุคติเป็นท่ี ไป แตบ่ คุ คลผู้มจี ติ ผ่องใสอยูเ่ ป็นนติ ย์ แม้ในวาระสุดท้าย ก็ยังรักษาจิตให้ผ่องใสเอา ไว้ไดช้ ่อื วา่ เปน็ ผูไ้ มป่ ระมาทในการดำเนินชีวติ เป็นมนุ สสเทโว คือ เป็นเทพบุตร เทพธิดาตั้งแต่อยู่ในเมือง มนุษย์. 188 www.kalyanamitra.org

ร่าเริงบนั เทิงใจด้วยสมั โมทนยี กถา (รวมเล่ม) บทที่ ๘๑ นาทีทองตอนส้นิ ใจ ชีวิตในปรโลกนับล้านๆ ปี ขึ้นอยู่กับเวลาไม่ก่ี นาทีตอนสิ้นใจเหมือนขับรถไปถึงทางแยก ถ้าไปผิด ทางก็ห่างไกลจากจุดหมายไปทุกที แต่การขับรถหลง ทางยังกลับรถได้ แต่การพลัดไปในอบายเพราะหลง ตายน้นั น่าสะพรงึ กลัว พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ตรสั วา่ จติ เต อลงั กลิ ฎิ เฐ สคุ ติ ปาฏิกังขา แปลความวา่ จิตผอ่ งใส ไม่เศรา้ หมอง สุคตเิ ป็นอนั หวงั เมื่อใกล้ตาย จึงต้องรักษาใจให้ผ่องใสด้วยการ นกึ ถงึ ภาพประวตั ชิ ีวติ ทีง่ ดงาม คือความดีหรือบญุ กุศล ทีส่ ่ังสมไว้ในวยั ทย่ี ังแข็งแรง 189 www.kalyanamitra.org

รา่ เรงิ บันเทิงใจดว้ ยสัมโมทนียกถา (รวมเลม่ ) ดังนั้น ทุกคร้ังท่ีเรามาสั่งสมบุญด้วยการให้ ทาน รักษาศีลหรือเจริญสมาธิภาวนา จะต้องยังจิตให้ ปล้ืมปีตทิ ุกคร้งั เพอื่ เก็บไวใ้ ช้ในวาระสุดทา้ ยของชวี ิต ภาพแห่งความปล้ืมปีติในการส่ังสมบุญน้ี จะ เป็นประดุจเทวรถท่ีจะนำเราไปสู่หนทางสวรรค์และ พระนพิ พานในทสี่ ดุ . 190 www.kalyanamitra.org

ร่าเริงบนั เทิงใจด้วยสัมโมทนียกถา (รวมเลม่ ) บทที่ ๘๒ ชวี ติ ท่ีปลอดภยั ในปรโลก เรือเดินสมุทรที่นำสรรพชีวิตออกจากฝ่ังแล่น ไปสู่เป้าหมายปลายทางได้เพราะมีเชื้อเพลิงและเสบียง อาหารท่ีพอเพียง หากขาดเชื้อเพลิงและเสบียงแล้ว ชวี ิตในเรอื เดนิ สมุทร ย่อมนา่ หวาดหวนั่ น่าสะพรึงกลัว ต้องผจญกับภัย คือ คลื่นลม และสัตว์ร้ายใน มหาสมุทร พระเดชพระคณุ พระราชภาวนาวสิ ทุ ธิ์ หลวงพอ่ ธัมมชโย เคยให้โอวาทไว้ว่า ชวี ิตหลงั ความตาย ไมม่ ี การหว่าน ไม่มกี ารไถ ไม่มีการทำไร่ทำสวน ไมม่ กี าร ทำมาค้าขาย เป็นอยู่ได้ด้วยบุญและบาปท่ีสั่งสมไว้ ตอนเปน็ มนษุ ย ์ 191 www.kalyanamitra.org

ร่าเรงิ บันเทงิ ใจดว้ ยสมั โมทนียกถา (รวมเล่ม) ถ้าสง่ั สมบุญก็จะสง่ ผลดี มีสขุ ไปยาวนาน ถ้าส่ังสมบาปก็ส่งผลตรงกันข้าม เป็นทุกข์ ยาวนานเช่นเดยี วกัน ถ้าเรารักตัวเองก็ต้องหม่ันส่ังสมเติมบุญเติม บารมี เติมความบริสทุ ธิ์ใหต้ ัวเราใหม้ ากๆ. 192 www.kalyanamitra.org

รา่ เริงบันเทิงใจด้วยสมั โมทนียกถา (รวมเล่ม) บทท่ี ๘๓ ชวี ิตท่รี าบเรียบ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนชาวโลกให้ แ ส ว ง ห า ป ร ะ โ ย ช น์ ทั้ ง ใ น โ ล ก นี้ แ ล ะ โ ล ก ห น้ า นั้ น หมายความว่า คนเราตายแล้วไม่สญู ยังต้องเกิดอกี พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ หลวง พ่อธัมมชโย เคยให้โอวาทไว้ว่า เราคือผู้ออกแบบชีวิต ชีวิตไม่ใช่ส้ินสุดกันง่ายๆ ตราบใดท่ียังไม่หมดกิเลส เมื่อชวี ิตยังไม่สน้ิ สุด เรากค็ วรอยใู่ นสงั สารวัฏแบบคนมี กเิ ลสที่เป็นสุข เปน็ คนมีกเิ ลสท่ีมีมโนปณิธาน ถ้าตายก็ ขอใหไ้ ปดี ชีวิตราบเรยี บไมข่ รขุ ระ ชีวิตราบเรยี บ คอื ไปแค่ ๒ ภมู ิระหวา่ งมนุษย์ กับเทวโลก 193 www.kalyanamitra.org

ร่าเรงิ บนั เทิงใจดว้ ยสัมโมทนียกถา (รวมเลม่ ) ชีวติ ขรุขระ คอื เดยี๋ วไปอบาย เดยี๋ วกม็ าเปน็ มนุษย์ เดย๋ี วกไ็ ปเทวโลก วนไปเวยี นมาอย่างน ้ี ท่านทานบดีท้ังหลาย ได้ต้ังใจมาส่ังสมบุญ กุศลด้วยการถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน ส่ังสมเหตุ อนั จะนำไปสหู่ นทางสวรรค์และพระนพิ พาน. 194 www.kalyanamitra.org

ร่าเรงิ บันเทิงใจด้วยสมั โมทนียกถา (รวมเล่ม) บทท่ี ๘๔ ชวี ติ ในปรโลกไมม่ ีการทำมาหากนิ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ขุมทรัพย์คือ บุญ๑ ย่อมให้ผลท่ีน่าปรารถนา ทั้งท่ีเป็นมนุษยสมบัติ สวรรคสมบัติ และนิพพานสมบตั ิ พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธ์ิ เคยให้ โอวาทไว้ว่า บุญเป็นบ่อเกิดแห่งความสุข และ ความสำเร็จในชีวิตทุกระดับ เป็นทุกส่ิงของเรา ได้ เกดิ มาเป็นมนษุ ย์ก็เพราะบุญ มลี มหายใจกเ็ พราะบุญ บุญเราใช้ตลอดเวลา ใช้ไปหมดไป ถ้าไม่สร้าง บุญใหม่ หมดบุญก็หมดลม แปลว่าหมดสิทธิในการ สั่งสมบุญ และครอบครองทุกส่ิงทุกอย่างที่เรามีอยู่ ชีวิตหลังความตายแล้ว เป็นชีวิตท่ีไม่มีการทำมาหากิน ๑นธิ กิ ณั ฑ์ มก. ๓๙/๓๐๒ 195 www.kalyanamitra.org

ร่าเริงบนั เทิงใจดว้ ยสมั โมทนียกถา (รวมเลม่ ) ไม่มีการทำมาค้าขาย ไม่ได้ใช้เงินใช้ทอง ไม่ได้เอา ความสามารถในเมืองมนุษย์ไปใช้ เขาใช้แต่บุญและ บาปเทา่ นั้น บาปกเ็ อาไปอบาย บุญกใ็ หม้ ีสขุ อยใู่ นสุคติ โลกสวรรค ์ ท่านทานบดีทั้งหลาย ได้ต้ังใจมาสั่งสมบุญ กุศล อันเป็นเหตุนำความสุขมาให้ ท้ังในโลกนี้และใน โลกหนา้ . 196 www.kalyanamitra.org

รา่ เรงิ บนั เทิงใจดว้ ยสมั โมทนียกถา (รวมเล่ม) บทท่ี ๘๕ เงินสกุลบญุ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ขุมทรัพย์ทั่วไป เป็นอันตราย๑ เพราะอาจถูกพระราชายึดไปบ้าง ถูก โจรปล้นบ้าง ถูกน้ำพัดไปบ้าง ทายาทผู้ไม่เป็นที่รัก ขโมยไปใช้บ้าง แต่ขุมทรัพย์คือบุญ ปลอดภัยจาก อันตรายต่างๆ เหล่าน้นั ขุมทรัพย์ คือ บุญ เป็นของติดตามตนไปได้ ทกุ หนทกุ แหง่ เป็นของเฉพาะตัว โจรลักไปไมไ่ ด ้ พระเดชพระคณุ พระราชภาวนาวสิ ทุ ธิ์ หลวง พอ่ ธมั มชโย เคยใหโ้ อวาทไว้ว่า ส่งิ ทีเ่ ราทำไปแลว้ ก็เป็น ของเรา สมบัตกิ ็จะบงั เกิดขน้ึ เปน็ อุปกรณ์ในการสรา้ ง บารมี โลกมนุษยเ์ ปน็ ทีส่ รา้ งบารมี เทวโลกคือทเ่ี สวย ๑ นิธกิ ัณฑ์ มก. ๓๙/๓๐๒ , มจ. ๒๕/๑๗ 197 www.kalyanamitra.org

รา่ เรงิ บันเทงิ ใจด้วยสัมโมทนียกถา (รวมเล่ม) ผลบุญ ถ้าไมท่ ำกไ็ มไ่ ด้ เงนิ ตราสกลุ ใดๆ ก็เอาไปใช้ ในเทวโลกไม่ได้ มีแต่เงินสกุลบุญ แปรเปล่ียนเป็น ทพิ ยสมบตั ิ ทำด้วยอะไรกไ็ ด้อยา่ งนน้ั เราจึงจำเปน็ ต้องส่ังสมบุญทุกบญุ สร้างบารมี อย่างเต็มที่ อย่าทิ้งการสร้างบุญ อย่าคิดว่าบุญเยอะ แล้ว ถ้าบุญพอแล้วก็ไปนิพพานแล้ว เราใช้บุญทุกอนุ- วินาที หลวงพ่อเปิดโอกาสให้พวกเราส่ังสมบุญ ให้ ตง้ั ใจ อย่าวติ กกังวล ต้องทำดว้ ยตนเอง แลว้ กไ็ ปชวน คนอื่นด้วย. 198 www.kalyanamitra.org