Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรสังคมศึกษาปี ปรับปรุง 2563 โรงเรียนทับโพธิ์พัฒนวิทย์ -1

หลักสูตรสังคมศึกษาปี ปรับปรุง 2563 โรงเรียนทับโพธิ์พัฒนวิทย์ -1

Published by weeradech.mapaet, 2021-08-04 15:45:14

Description: หลักสูตรสังคมศึกษาปี ปรับปรุง 2563 โรงเรียนทับโพธิ์พัฒนวิทย์ -1

Keywords: หลักสูตรสังคม,ศึกษา

Search

Read the Text Version

หลกั สตู รสงั มศกึ ษา 2563 โรงเรียนทบั โพธิ์พฒั นวิทย์ 151 คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติม รายวิชา อาเซียนศกึ ษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 - 6

หลักสตู รสงั มศึกษา 2563 โรงเรยี นทบั โพธ์พิ ัฒนวทิ ย์ 152 คำอธบิ ายรายวิชา รายวชิ าอาเซียนศึกษา 1 รหสั วิชา ส31281 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 จำนวน 0.5 หน่วยกิต เวลา 20 ช่ัวโมง/ภาคเรียน ศึกษาพัฒนาการรวมกลุ่มของอาเซียน บ้านเกิดอาเซียน หลักการพื้นฐานและจุดมุ่งหมายของ อาเซียน กลไกสู่ความสำเร็จของอาเซียน ประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความหลากหลายของ อาเซียน การท่องเที่ยวในเซียนกับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับท้องถิ่น การสร้างสัมพันธไมตรีกับภาคีนอก อาเซียน กลไกการนำอาเซียนไปสู่ความเสมอภาคและยุติธรรม การรวมพลังนำสันติภาพสู่อาเซียน การ จัดต้งั ประชาคมอาเซียน และการเตรียมความพร้อมเข้าสปู่ ระชาคมอาเซียน โดยจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (Child-Centered) เน้นให้ผู้เรียนได้ ศึกษา ค้นคว้า ได้ฝึกทักษะการคิดที่หลากหลาย โดยเน้นการฝกึ ทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ ทักษะการใช้เทคโนโลยี ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะการเรียนรู้และการพัฒนาตน ทักษะพลเมืองใน ประชาคมอาเซียน เพื่อให้ผู้เรียนตระหนักในอัตลักษณ์อาเซียนร่วมกัน เคารพในความแตกต่างและ หลากหลาย ภูมิใจในความเป็นไทยและความเป็นอาเซียน มีวิถีชีวิตประชาธิปไตยและสันติวัฒนธรรม และสามารถปรับตัวและดำเนินชีวิตอยู่ในประชาคมอาเซียนได้ ตลอดจนมีความรับผิดชอบทางสังคมใน ฐานะพลเมืองไทยและพลเมืองอาเซยี น ผลการเรียนรู้ 1. อธบิ ายพฒั นาการ บ้านเกิด หลักการพน้ื ฐาน และจุดมงุ่ หมายของอาเซียนได้ 2. วเิ คราะหป์ ระเดน็ ที่น่าสนใจทางประวตั ิศาสตร์ของเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ได้ 3. วิเคราะหก์ ลไกการดำเนนิ งานของอาเซยี นกบั ความสำเร็จในการจัดตง้ั ประชาคมอาเซียนได้ 4. วเิ คราะหค์ วามหลากหลายของอาเซียนที่ส่งผลต่อความเจริญและการดำเนนิ ชีวติ ของชาวอาเซยี นได้ 5. วิเคราะหผ์ ลกระทบของการทอ่ งเท่ยี วรูปแบบต่างๆ ที่ส่งผลต่อเศรษฐกจิ และสังคมของอาเซียนได้ รวมทัง้ หมด 5 ผลการเรียนรู้

หลักสตู รสังมศึกษา 2563 โรงเรียนทบั โพธ์พิ ฒั นวิทย์ 153 โครงสร้างรายวิชา รายวชิ าอาเซียนศึกษา 1 รหัสวชิ า ส31281 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 จำนวน 0.5 หน่วยกติ เวลา 20 ชัว่ โมง/ภาคเรียน ลำดับ ช่อื หน่วยการ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ เรยี นรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน 1 อาเซียนรวมใจ ขอ้ 1 1.พัฒนาการของการรวมกลมุ่ ของอาเซยี น 2 8 1.1พัฒนาการก่อนกำเนิดอาเซียน เป็นหน่ึง 1.2พัฒนาการของอาเซียน 2 8 2. บา้ นเกิดของอาเซียน 1 20 2 8 2.1 จดุ หมายและความมุ่งประสงค์ของอาเซียน 2 8 2.2 หลักการพืน้ ฐานของอาเซยี น 2 8 2 เรยี นร้กู ลไกสู่ ข้อ 2 1. โครงสร้างของอาเซยี น 1 30 2. กลไกการดำเนินงานของอาเซียนและประธาน 20 100 ความสำเร็จของ อาเซยี น อาเซียน 2.1การประชุมของอาเซียน 2.2 ระบบการตดั สนิ ใจอาเซียน 2.3กลไกระงับขอ้ พพิ าท 2.4บทบาทของประธานอาเซียน 3. บทบาทของไทยกับความสำเร็จในอาเซียน 3.1 ด้านการเมืองและความมนั่ คง 3.2 ดา้ นเศรษฐกจิ 3.3 ดา้ นสังคมและวัฒนธรรม สอบกลางภาค 3 บนั ทกึ ย้อนรอย ขอ้ 3 1. พัฒนาการของรฐั โบราณในดนิ แดนเอเชีย อาเซียนเรียนรู้อตั ตะวนั ออกเฉียงใต้ ลักษณท์ าง 2. ประวัตศิ าสตรข์ องประเทศในภูมภิ าค ประวัตศิ าสตร์ เอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ 4 เรยี นรคู้ วาม ขอ้ 4 1. ความหลากหลายทางภมู ิศาสตร์ 2. ความหลากหลายทางการเมืองการปกครอง หลากหลายอัต 3. ความหลากหลายทางเศรษฐกิจ ลักษณ์สำคัญของ 4. ความหลากหลายทางเชอื้ ชาติและชาติพันธ์ุ อาเซียน 5. ความหลากหลายทางวัฒนธรรม 5 ท่องแดนอาเซียน ขอ้ 5 1. การท่องเท่ียวกบั การเรียนรู้ 2. การทอ่ งเทีย่ วเชงิ ชาติพันธ์ุในอาเซยี น แลกเปล่ียน 3. ผลกระทบของการท่องเทีย่ วเชงิ ชาตพิ นั ธ์ุที่มี เรยี นร้กู บั ทอ้ งถ่ิน อาเซยี น สอบปลายภาค รวมท้ังหมด

หลักสตู รสงั มศึกษา 2563 โรงเรยี นทบั โพธิ์พฒั นวิทย์ 154 คำอธิบายรายวชิ า รายวิชาอาเซียนศึกษา 2 รหสั วชิ า ส31282 กลุ่มสาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 จำนวน 0.5 หน่วยกิต เวลา 20 ชัว่ โมง/ภาคเรียน ศึกษา วิเคราะห์ กำเนิดสมาคมอาสา พัฒนาการของอาเซียนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ข้อมูลของ ประเทศสมาชิกอาเซียน โครงสร้างองค์กรและกลไกการดำเนินงานของอาเซียน 3 เสาหลักของประชาคม อาเซียน การเตรียมความพร้อมของอาเซียนในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน อุปสรรคในการเข้าสู่ประชาคม อาเซียน บทเรียนจากการรวมกลุ่มเศรษฐกิจของประเทศอื่น บทบาททางการเมือง เศรษฐกิจของอาเซียน ในสังคมโลก ปญั หาของอาเซียนและความพยายามแก้ปัญหาตา่ งๆ โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทางสังคม กระบวนการเผชิญสถานการณแ์ ละแกป้ ญั หา เพื่อให้เกิดความรูค้ วามเขา้ ใจ ตระหนักในความสำคัญของการรวมกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน มี ส่วนร่วมในการเตรยี มความพร้อมของสังคมและประเทศชาติในการเขา้ สู่ประชาคมอาเซยี น และปฏิบัตติ น เป็นสมาชกิ ท่ีดขี องประชาคมอาเซียนและอยรู่ ่วมกันในสังคมอาเซียนอย่างปกตสิ ขุ ผลการเรียนรู้ 6. อธบิ ายกำเนดิ สมาคมอาสาและพฒั นาการของอาเซียนตั้งแต่อดีตจนถึงปจั จบุ ัน 7. อธิบายเกี่ยวกับประเทศสมาชิกอาเซียนในด้านต่างๆ โครงสร้างองค์กรและกลไกการ ดำเนนิ งานของอาเซยี นภายใต้กฎบัตรอาเซยี น และประชาคมอาเซยี น 3 เสาหลกั 8. อธิบายการเตรียมความพร้อมของอาเซียนในการเขา้ สปู่ ระชาคมอาเซยี น 9. อธบิ ายลักษณะสำคญั ของการดำเนนิ งานตาม 3 เสาหลกั ของประชาคมอาเซยี น 10. วิเคราะหอ์ ปุ สรรคในการเข้าสปู่ ระชาคมอาเซียน และแนวทางแกไ้ ข 11. วิเคราะห์บทเรียนจากการรวมกลุ่มเศรษฐกิจของประเทศอื่นเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนา ประชาคมอาเซยี น 12. วิเคราะห์บทบาทของอาเซยี นในสังคมโลกในดา้ นตา่ งๆ ปัญหาของอาเซียน และแนวทางแกไ้ ข รวมทง้ั หมด 7 ผลการเรียนรู้

หลักสตู รสงั มศึกษา 2563 โรงเรยี นทบั โพธิพ์ ัฒนวิทย์ 155 โครงสรา้ งรายวชิ า รายวชิ าอาเซียนศกึ ษา 2 รหสั วชิ า ส31282 กลุ่มสาระการเรียนร้สู งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 2 จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต เวลา 20 ชั่วโมง/ภาคเรยี น ลำดับ ช่อื หนว่ ยการ ผลการเรยี นรู้ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา นำ้ หนกั คะแนน ท่ี เรียนรู้ (ชวั่ โมง) 8 6 สร้าง ขอ้ 6 1. รูปแบบความสมั พันธ์ของอาเซียนกบั 4 7 ภายนอก สัมพนั ธไมตรีกบั 10 2. กลไกการดำเนนิ ความสัมพันธข์ องอาเซียน ภาคนี อกอาเซยี น 3. ความสมั พนั ธ์ของอาเซียนกบั ภายนอก 20 15 7 เรียนรูก้ ลไกนำ ข้อ 7 1.กลไกด้านกฎหมาย 4 อาเซียนสคู่ วาม 10 เสมอภาคและ 1.1 ปฏญิ ญาสากลว่าด้วยสิทธิมนษุ ยชน ยตุ ิธรรม 1.2 กฎบัตรอาเซยี น 30 1.3 ปฏิญญาอาเซยี นวา่ ดว้ ยสิทธมิ นษุ ยชน 100 อาเซยี น 2. กลไกด้านบคุ คล 2.1 ผนู้ ำประเทศสมาชกิ อาเซยี น 2.2 พลเมืองอาเซยี น 8 รวมพลังนำ ขอ้ 8 1. แนวคิดเกี่ยวกบั สันติภาพ 3 สันตภิ าพสู่ อาเซียน 1.1 ความเปน็ มาของสันตภิ าพ 1.2 ความหมายของสันตภิ าพ 1.3 หลักสันติภาพ 1.4 หลกั การสนั ติวฒั นธรรม 2. ปญั หาทีม่ ผี ลตอ่ สันติภาพในอาเซยี น 3. แนวทางการสร้างสันติภาพในอาเซยี น สอบกลางภาค 1 9 รว่ มสร้าง ขอ้ 9,10 1. ประชาคมการเมืองและความมั่นคง 4 ประชาคม อาเซียนของอาเซียน อาเซยี น 2. ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น 3. ประชาคมสังคมและวฒั นธรรมอาเซยี น 10 เตรียมพร้อม ข้อ 11,12 1. การเตรยี มความพร้อมด้านการเมอื งและ 3 รว่ มมือรว่ มใจกับ ความม่ันคง การก้าวไปสู่ 2. การเตรยี มความพรอ้ มดา้ นเศรษฐกิจ ประชาคม 3. การเตรยี มความพรอ้ มดา้ นสังคมและ อาเซยี น วัฒนธรรม สอบปลายภาค 1 รวมเวลาทงั้ ปี 20

หลกั สตู รสงั มศึกษา 2563 โรงเรียนทบั โพธพ์ิ ัฒนวิทย์ 156 คำอธิบายรายวชิ า รายวชิ าอาเซียนศกึ ษา 3 รหสั วชิ า ส32283 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 จำนวน 0.5 หน่วยกิต เวลา 20 ชวั่ โมง/ภาคเรียน ศกึ ษา วเิ คราะหค์ วามรเู้ กีย่ วกับอาเซียน (โครงสรา้ งสมาชกิ ภาพ ความมุ่งประสงค์ และ แนวทางปฏบิ ัติ) และการสำรวจลักษณะทีส่ ำคญั ความสำเรจ็ และสง่ิ ทา้ ทายในอนาคต อตั ลกั ษณแ์ ละ ความหลากหลายของอาเซียน วฒั นธรรมและความเชอ่ื ความแขง็ แกร่งซ่งึ มอี ยู่ในความเหมือนของ ประชาชน (รายบคุ คลหรือกลุ่ม) เชน่ เดยี วกบั ลักษณะเฉพาะท่ีแตกต่างกนั การเช่อื มโยงโลกและท้องถ่ิน การพฒั นาและแนวโน้มของโลก เหตุการณใ์ นท้องถ่นิ ในอาเซียนท่ีสง่ ผลตอ่ สภาพการณ์ของโลก ความเสมอ ภาคและความยุตธิ รรม หลกั การของความเสมอภาคและความยุตธิ รรม การทำงานร่วมกันเพอ่ื อนาคตที่ ย่ังยืน ความกดดันทเ่ี กิดจากทรัพยากรที่มีอย่างจำกัดและการเพิม่ จำนวนประชากร และผลกระทบต่อ ความยั่งยนื บทบาทของผ้หู ญิงอาเซียน จำนวนประชากรหญงิ ในอาเซยี น ความเชอ่ื ท่มี ผี ลตอ่ คุณภาพชวี ติ ของผูห้ ญิง และบทบาทของแรงงานหญงิ ในอาเซยี นต่อความกา้ วหนา้ ของประเทศ โดยใช้กระบวนการการสืบค้นข้อมูล คิดวเิ คราะห์ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการแก้ปัญหา และการอธิบาย ผา่ น 4 ช่องทาง ไดแ้ ก่ ประชาชน คอื รายบคุ คล กลมุ่ ชาติพันธ์ุ มรดกทางวฒั นธรรม รัฐบาลและพลเรอื น สขุ ภาพ ความปลอดภยั บทบาททางเพศ และบทบาทระหวา่ งชนั้ อายุ ภายใน ครอบครัว และสังคม สถานที่ คือ ลกั ษณะทางกายภาพ ลกั ษณะภูมิประเทศ ระบบนเิ วศ ภูมอิ ากาศ ผลกระทบจากพลงั ธรรมชาติต่างๆ สอ่ื คือ ส่งิ ท่เี ปน็ รูปธรรม เชน่ เคร่ืองอุปโภคบริโภค สงิ่ ประดิษฐ์ งาน หัตถกรรม งานศลิ ป์ และโบราณสถาน โบราณวัตถุ แนวคิด คอื ศาสนา ระบบความเช่อื ปรชั ญา คา่ นิยม โลกทศั น์ รูปแบบการปกครอง เทคโนโลยี การยอมรบั และการปรับตัว เพื่อใช้วเิ คราะหส์ ถานการณท์ ่ีซับซ้อนและสามารถตอบสนองได้อย่างเหมาะสม สามารถสรา้ ง อนาคตท่ีม่ังคง่ั สันตสิ ุข และยั่งยนื ของอาเซียน ปฏบิ ัตติ ่อกันดว้ ยหลักธรรมาภบิ าล ยอมรบั ความแตกตา่ ง เหน็ คณุ ค่าของอัตลักษณ์และความหลากหลายของอาเซียน ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายข้อมูลพ้นื ฐานเกีย่ วกบั ประชาคมอาเซียนได้ 2. เหน็ คณุ คา่ ของอตั ลกั ษณ์และความหลากหลายของประชาคมอาเซียน 3. วเิ คราะหค์ วามเชอ่ื มโยงของโลกและท้องถนิ่ ได้ 4. วเิ คราะหค์ วามเสมอภาคและความยตุ ิธรรมที่เกิดขึน้ ในประชาคมอาเซียน 5. วเิ คราะหก์ ารทำงานรว่ มกันเพอื่ อนาคตทยี่ ง่ั ยืนของอาเซียน 6. วเิ คราะห์บทบาทของผหู้ ญิงที่มสี ำคัญตอ่ ความก้าวหน้าของประเทศในประชาคมอาเซียน รวม 6 ผลการเรียนรู้

หลักสตู รสังมศึกษา 2563 โรงเรียนทบั โพธพ์ิ ัฒนวิทย์ 157 โครงสร้างรายวิชา รายวิชาอาเซียนศึกษา 3 รหสั วชิ า ส32283 กลุ่มสาระการเรียนร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 จำนวน 0.5 หน่วยกิต เวลา 20 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น ลำดบั ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา นำ้ หนัก ท่ี (ช่วั โมง) คะแนน 1 ความเปน็ มาของ ข้อ 1 - ความเปน็ มาของอาเซยี น 4 10 - “อาเซยี น” สกู่ ารเป็นประชาคมอาเซียน ในปี อาเซียน 2558 48 - ประชาคมอาเซยี น คือ 37 2 พัฒนาการของ - จุดประสงคห์ ลกั ของอาเซียน 1 20 อาเซียน - ภาษาอาเซียน - คำขวัญของอาเซยี น 4 15 - อตั ลักษณ์อาเซยี น 3 โครงสรา้ งของ - สัญลักษณ์อาเซียน 3 10 อาเซียน - ธงอาเซียน - วันอาเซียน - เพลงประจำอาเซียน (ASEAN Anthem) - 1 30 4 การเขา้ สู่ กฎบตั รอาเซียน 20 100 ประชาคม อาเซียน ขอ้ 2 - กำเนดิ สมาคมอาเซยี น - พฒั นาการของอาเซียน 5 บทบาทของ - กฎบัตรอาเซียน อาเซยี น ข้อ 3 - โครงสร้างอาเซยี นก่อนมกี ฎบตั รอาเซียน - จดุ แขง็ และจุดอ่อนของโครงสรา้ งอาเซียน สอบกลางภาค ขอ้ 4 ประชาคมอาเซียนภายใต้กฎบัตรอาเซียน ประชาคมอาเซียนประกอบด้วย 3 เสาหลกั ปญั หาและอุปสรรคทส่ี ำคัญของประชาคม อาเซยี น บทเรยี นต่อประชาคมเศรษฐกิจอาเซยี น ขอ้ 5,6 -บทบาทของอาเซยี นในสังคมโลก -ความสำคญั ของอาเซียนในเวทโี ลก - บทบาทของอาเซียนในเวทเี ศรษฐกิจโลก - การสรา้ งความรว่ มมือในประเทศสมาชกิ อาเซียน สอบปลายภาค รวมทั้งหมด

หลกั สตู รสงั มศึกษา 2563 โรงเรียนทบั โพธพ์ิ ฒั นวิทย์ 158 คำอธิบายรายวชิ า รายวชิ าอาเซียนศึกษา 4 รหสั วิชา ส32284 กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 2 จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต เวลา 20 ชัว่ โมง/ภาคเรยี น ศกึ ษา วิเคราะห์ กำเนิดสมาคมอาสา พฒั นาการของอาเซยี นต้ังแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ขอ้ มลู ของประเทศสมาชกิ อาเซียน โครงสรา้ งองค์กรและกลไกการดำเนนิ งานของอาเซียน 3 เสาหลกั ของ ประชาคมอาเซยี น การเตรยี มความพร้อมของอาเซียนในการเข้าสู่ประชาชนอาเซยี น อุปสรรคในการเข้า สู่ประชาคมอาเซียน บทเรยี นจากการรวมกลุ่มเศรษฐกิจของประเทศอื่น บทบาททางการเมือง เศรษฐกจิ ของอาเซยี นในสังคมโลก ปัญหาของอาเซียนและความพยายามแกป้ ัญหาตา่ งๆ โดยใช้กระบวานการคดิ กระบวนการสบื คน้ ข้อมลู กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทางสงั คม กระบวนการเผชิญสถานการณแ์ ละแกไ้ ขปัญหา เพอ่ื ให้เกดิ ความรแู้ ละความเข้าใจ ตระหนักในความสำคญั ของการรวมกล่มุ ประเทศสมาชกิ อาเซยี น มสี ่วนร่วมในการเตรียมความพร้อมของสังคมและประเทศชาตใิ นการเขา้ สุ่ประชาคมอาเซยี น และปฏิบตั ติ นเปน็ สมาชกิ ที่ดีขแงประชาคมอาเซียน และอยู่ร่วมกันในสงั คมอาเซียนอย่างปกติสุข ผลการเรียนรู้ 1. อธบิ ายขอ้ มูลพืน้ ฐานเกย่ี วกับประชาคมอาเซยี นได้ 2. เห็นคณุ คา่ ของอัตลกั ษณแ์ ละความหลากหลายของประชาคมอาเซียน 3. วเิ คราะห์ความเชอื่ มโยงของโลกและท้องถนิ่ ได้ 4. วิเคราะหค์ วามเสมอภาคและความยตุ ิธรรมท่ีเกิดข้ึนในประชาคมอาเซยี น 5. วิเคราะห์การทำงานรว่ มกันเพอื่ อนาคตท่ีย่งั ยืนของอาเซียน 6. วเิ คราะห์บทบาทของผูห้ ญิงทมี่ สี ำคญั ตอ่ ความก้าวหน้าของประเทศในประชาคมอาเซียน รวม 6 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รสงั มศกึ ษา 2563 โรงเรียนทับโพธิพ์ ัฒนวทิ ย์ 159 โครงสร้างรายวิชา รายวิชาอาเซียนศึกษา 4 รหัสวิชา ส32284 กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นที่ 2 จำนวน 0.5 หน่วยกิต เวลา 20 ชว่ั โมง/ภาคเรียน ลำดบั ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ ผลการ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา นำ้ หนัก ท่ี เรยี นรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน 6 การแตง่ กายและ ขอ้ การแต่งกาย 5 15 วัฒนธรรม 1,2,3,4, - ชุดประจำชาติของประเทศมาเลเซีย 4 10 5,6 - ชุดประจำชาตขิ องประเทศเวียดนาม 1 20 4 10 - ชุดประจำชาตขิ องประเทศพม่า - ชุดประจำชาติของประเทศบรูไน - ชดุ ประจำชาติของประเทศลาว - ชุดประจำชาตขิ องประเทศอินโดนีเซีย - ชดุ ประจำชาติของประเทศฟิลปิ ปินส์ - ชดุ ประจำชาติของประเทศไทย - ชดุ ประจำชาตขิ องประเทศกัมพชู า - ชดุ ประจำชาตปิ ระเทศสิงคโปร์ 7 ดอกไมป้ ระจาํ ขอ้ Negara Brunei Darussalamดอกซิมปอร์ ชาตอิ าเซยี น 10 1,2,3,4, Kingdom of Cambodiaดอกลำดวน ประเทศ 5,6 Republic of Indonesiaดอกกล้วยไมร้ าตรี Lao People's Democratic Republic ดอกจำปาลาว Malaysia ดอกพรู่ ะหง Republic of the Philippinesดอกพุดแก้ว Republic of Singaporeดอกกล้วยไม้แวนดา้ Kingdom of Thailandดอกราชพฤกษ์ The Socialist Republic of Vietnamดอกบัว Union of Myanmarดอกประดู่ สอบกลางภาค 8 คำทกั ทาย ขอ้ - คำทกั ทายประเทศลาว 1,2,3,4, - คำทักทายประเทศกัมพูชา 5,6 - คำทกั ทายประเทศเวยี ดนาม - คำทักทายประเทศพมา่ - คำทกั ทายประเทศสิงคโปร์ - คำทกั ทายประเทศฟลิ ปิ ปนิ ส์ - คำทักทายประเทศบรไู น

หลกั สตู รสงั มศึกษา 2563 โรงเรียนทับโพธพ์ิ ฒั นวิทย์ 160 - คำทักทายประเทศมาเลเซยี 5 15 9 ศิลปวฒั นธรรม ข้อ - ประเทศกัมพูชา 1 30 20 100 และประเพณี 1,2,3,4, - ประเทศฟิลิปปนิ ส์ ของประเทศ 5,6 - ประเทศสงิ คโปร์ อาเซียน - ระเทศมาเลเซีย - ประเทศอินโดนีเซยี - ประเทศเวียดนาม สอบปลายภาค รวมท้ังหมด

หลกั สตู รสังมศกึ ษา 2563 โรงเรียนทับโพธพ์ิ ฒั นวทิ ย์ 161 คำอธิบายรายวชิ า รายวิชาอาเซียนศึกษา 5 รหัสวิชา ส33285 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 1 จำนวน 0.5 หน่วยกติ เวลา 20 ช่ัวโมง/ภาคเรยี น ศึกษา สืบคน้ ประวัตคิ วามเป็นมา พฒั นาการประชาคมอาเซียน กลไกอาเซียน กฎบตั รอาเซยี น วิสยั ทศั น์ วัตถุประสงค์ เป้าหมาย โครงสร้าง กลไกการบริหารงาน ความเป็นมาของชาติสมาชกิ ในเรอ่ื ง การเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ สังคมและวฒั นธรรม อาเซยี นกบั การรวมตวั เปน็ ประชาคม อาเซียน ความร่วมมือในการก้าวไปสกู่ ารเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซยี น หรือ AECและ อาเซียนกบั ความสมั พันธ์ภายนอกอาเซียน โดยการบรู ณาการ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการทำงาน กระบวนการคิด วิเคราะห์ สงั เคราะห์ กระบวนการสรา้ งความคิดรวบยอด กระบวนการสืบค้นจากแหลง่ ข้อมูลต่าง ๆ โดย ใชส้ ือ่ เทคโนโลยี เพอ่ื ให้เกิดค่านิยม ตระหนัก เจตนคติในการเปน็ สมาชิกทีด่ ี การเขา้ มามีสว่ นรว่ มเป็นส่วนหนึ่ง ของประชาคมอาซียน รแู้ นวโนม้ ทศิ ทางการเปลีย่ นแปลงทางประชาสังคมวัฒนธรรม ปรับตนในการเปน็ พลเมอื งท่ีดภี ายใต้กฎบัตรของอาเซียนสามารถดำรงชีวติ ในยคุ โลกาภวิ ตั นไ์ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม ผลการเรียนรู้ 1.มีความร้เู ขา้ ใจประวัติความเป็นมา ความสำคัญ ววิ ฒั นาการ ของกลุ่มอาเซียนสกู่ ารพฒั นาเปน็ ประชาคมอาเซยี น 2.มีความรู้เข้าใจกลไกอาเซียน กฎบตั รอาเซียน การประชุมสดุ ยอดผู้นำอาเซยี นซึง่ เปน็ การกำหนด ทิศทางการดำเนนิ งานของประชาคมอาเซียน 3.มคี วามร้เู ขา้ ใจ วเิ คราะห์การดำเนนิ งานของประชาคมเศรษฐกจิ อาเซียน (ASEAN Economic Community-AEC) เพื่อให้ภูมิภาคอาเซียนมคี วามม่ันคง มั่งคัง่ และสามารถแข่งขนั กับภูมิภาคอืน่ ๆ ได้ 4.มคี วามร้เู ข้าใจ เก่ียวกับอาเซยี นกบั ความสัมพันธภ์ ายนอกอาเซียน หลกั การและเหตผุ ลของ ประเทศคู่เจรจา ท้ังอาเซียน +3 อาเซียน +6 และความสมั พนั ธ์ของอาเซยี นกับองค์กรอื่นๆ รวมทั้งหมด 4 ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รสังมศึกษา 2563 โรงเรียนทับโพธ์พิ ฒั นวิทย์ 162 โครงสรา้ งรายวิชา รายวิชาอาเซียนศึกษา 5 รหสั วิชา ส33285 กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรียนท่ี 1 จำนวน 0.5 หน่วยกติ เวลา 20 ช่วั โมง/ภาคเรียน ลำดบั ช่ือหน่วยการเรียนรู้ ผลการ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ เรยี นรู้ (ช่วั โมง) คะแนน 1 ความเป็นมาของ ข้อ 1 - ความเปน็ มาของอาเซยี น 4 10 อาเซยี น - “อาเซยี น” สูก่ ารเป็นประชาคมอาเซียน ในปี 2558 - ประชาคมอาเซยี น คือ - จุดประสงคห์ ลกั ของอาเซียน - ภาษาอาเซียน - คำขวัญของอาเซยี น - อตั ลักษณอ์ าเซียน - สัญลกั ษณอ์ าเซยี น - ธงอาเซียน - วันอาเซียน - เพลงประจำอาเซียน (ASEAN Anthem) - กฎบตั รอาเซยี น 2 พัฒนาการของ ข้อ 2 - กำเนิดสมาคมอาเซียน 48 อาเซยี น - พัฒนาการของอาเซียน - กฎบัตรอาเซียน 3 โครงสร้างของ ข้อ 3 - โครงสรา้ งอาเซยี นก่อนมีกฎบตั รอาเซยี น 3 7 อาเซียน - จดุ แข็งและจุดออ่ นของโครงสรา้ งอาเซยี น สอบกลางภาค 1 20 4 การเข้าสู่ ข้อ 4 ประชาคมอาเซยี นภายใต้กฎบัตรอาเซยี น 4 15 ประชาคม ประชาคมอาเซยี นประกอบด้วย 3 เสาหลกั อาเซยี น ปญั หาและอุปสรรคทส่ี ำคัญของประชาคม อาเซียน บทเรียนตอ่ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซยี น 5 บทบาทของ ข้อ 4 -บทบาทของอาเซยี นในสงั คมโลก 3 10 อาเซียน -ความสำคัญของอาเซียนในเวทโี ลก - บทบาทของอาเซยี นในเวทเี ศรษฐกจิ โลก - การสร้างความร่วมมือในประเทศสมาชิก อาเซยี น สอบปลายภาค 1 30 รวมทั้งหมด 20 100

หลักสตู รสังมศกึ ษา 2563 โรงเรียนทับโพธพ์ิ ฒั นวิทย์ 163 คำอธบิ ายรายวิชา รายวิชาอาเซียนศึกษา 6 รหัสวิชา ส33286 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต เวลา 20 ช่วั โมง/ภาคเรียน ศึกษา วิเคราะห์ กำเนิดสมาคมอาสา พัฒนาการของอาเซียนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ข้อมูล ของประเทศสมาชิกอาเซียน โครงสร้างองค์กรและกลไกการดำเนินงานของอาเซียน 3 เสาหลักของ ประชาคมอาเซียน การเตรียมความพรอ้ มของอาเซียนในการเข้าสู่ประชาคมอาเซยี น อุปสรรคในการเข้าสู่ ประชาคมอาเซียน บทเรียนจากการรวมกลุ่มเศรษฐกจิ ของประเทศอ่ืน บทบาททางการเมือง เศรษฐกิจของ อาเซยี นในสังคมโลก ปญั หาของอาเซียนและความพยายามแก้ปัญหาต่างๆ โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทางสังคม กระบวนการเผชญิ สถานการณแ์ ละแกป้ ัญหา เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ตระหนักในความสำคญั ของการรวมกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน มี ส่วนร่วมในการเตรียมความพร้อมของสงั คมและประเทศชาติในการเข้าสูป่ ระชาคมอาเซยี น และปฏิบัตติ น เปน็ สมาชิกทด่ี ีของประชาคมอาเซียนและอยูร่ ่วมกนั ในสงั คมอาเซยี นอยา่ งปกติสขุ ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายกำเนิดสมาคมอาสาและพฒั นาการของอาเซยี นตง้ั แต่อดีตจนถึงปัจจบุ นั 2. อธิบายเกี่ยวกับประเทศสมาชิกอาเซียนในด้านต่างๆ โครงสร้างองค์กรและกลไกการ ดำเนนิ งานของอาเซยี นภายใต้กฎบตั รอาเซียน และประชาคมอาเซียน 3 เสาหลัก 3. อธิบายการเตรยี มความพร้อมของอาเซยี นในการเข้าสูป่ ระชาคมอาเซยี น 4. อธิบายลกั ษณะสำคญั ของการดำเนินงานตาม 3 เสาหลักของประชาคมอาเซยี น 5. วิเคราะห์อปุ สรรคในการเข้าส่ปู ระชาคมอาเซียน และแนวทางแก้ไข 6. วิเคราะห์บทเรียนจากการรวมกลุ่มเศรษฐกิจของประเทศอื่นเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนา ประชาคมอาเซยี น 7. วิเคราะห์บทบาทของอาเซยี นในสงั คมโลกในดา้ นตา่ งๆ ปญั หาของอาเซียน และแนวทางแก้ไข รวมท้งั หมด 7 ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รสังมศกึ ษา 2563 โรงเรียนทบั โพธ์พิ ฒั นวทิ ย์ 164 โครงสรา้ งรายวิชา รายวิชาอาเซียนศึกษา 6 รหสั วิชา ส33286 กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นที่ 2 จำนวน 0.5 หน่วยกิต เวลา 20 ชัว่ โมง/ภาคเรียน ลำดับ ชื่อหน่วยการ ผลการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก ท่ี เรียนรู้ เรียนรู้ (ชั่วโมง) คะแนน 1 พัฒนาการ ข้อ ประเทศในเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้รวมตัว ก่อต้งั อาเซยี น 4 ของอาเซยี น 1,2,3,4, โดยมวี ตั ถุประสงคแ์ ละเจตนารมณร์ ว่ มกัน มีกฎบตั ร 5,6,7 อาเซียนเปน็ หลักสำคญั ในการดำเนินงานให้เป็นไปตาม เป้าหมายอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ อกี ทงั้ ยังมีการรว่ มมือกบั ประเทศนอกอาเซยี น 2 โครงสร้างของ ขอ้ อาเซยี นมีโครงสร้างองคก์ รและกลไกการ 4 1,2,3,4, ดำเนินงานตามกฎบตั รอาเซียน ซง่ึ เปน็ เสมอื น อาเซยี น 5,6,7 ธรรมนญู ของอาเซยี น โดยประเทศสมาชิก อาเซียนตา่ งตอ้ งปฏบิ ัติตาม 3 การเข้าสู่ ขอ้ อาเซียนมีการเตรียมความพรอ้ มเข้าส่ปู ระชาคมอาเซียน 3 ประชาคม 1,2,3,4, แต่ก็ยงั มอี ุปสรรคหลายประการในการเข้าสปู่ ระชาคม อาเซียน 5,6,7 อาเซียน ซ่งึ ต้องหาแนวทางในการร่วมมือกนั แกไ้ ขปญั หา ตา่ งๆ และยงั ศึกษาการรวมกลมุ่ เศรษฐกจิ ของประเทศ อ่นื เพ่อื เป็นแนวทางในการพฒั นาประชาคมอาเซยี น สอบกลางภาค 1 20 4 บทบาทของ ขอ้ อาเซยี นมีบทบาททางด้านเศรษฐกจิ สงั คมและวัฒนธรรม 4 15 อาเซยี นใน 1,2,3,4, มากกวา่ ด้านการเมอื ง แต่ก็ไดต้ ้งั เป้าหมายไว้ว่าการเป็น สงั คมโลก 5,6,7 ประชาคมอาเซียนจะช่วยเพิ่มบทบาทในสงั คมโลกใหม้ าก ขน้ึ นอกจากนั้นอาเซยี นก็ยงั มีปญั หาหลายดา้ นท่ีจะต้อง ร่วมมือกนั แกไ้ ขปญั หา 5 เรยี นรคู้ วาม ขอ้ 1. ความหลากหลายทางภมู ศิ าสตร์ 3 10 หลากหลายอั 1,2,3,4, 2. ความหลากหลายทางการเมอื งการปกครอง 3. ความหลากหลายทางเศรษฐกจิ ตลกั ษณ์สำคัญ 5,6,7 4. ความหลากหลายทางเชื้อชาติและชาติพันธุ์ ของอาเซยี น 5. ความหลากหลายทางวัฒนธรรม สอบปลายภาค 1 30 รวมท้ังหมด 20 100

หลกั สตู รสังมศึกษา 2563 โรงเรยี นทับโพธ์พิ ฒั นวิทย์ 165 สอื่ และแหล่งเรยี นรู้วิชาสังคมศึกษา กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรียนทับโพธิ์พฒั นวิทย์ ปีการศึกษา 2563 สอื่ การเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้เปน็ เครือ่ งมือสง่ เสรมิ สนบั สนนุ การจดั การกระบวนการเรยี นรู้ ใหผ้ ูเ้ รียนเขา้ ถงึ ความรู้ ทกั ษะกระบวนการ และคณุ ลักษณะตามมาตรฐานการเรียนรขู้ องหลกั สตู รได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ สือ่ การเรยี นรู้มหี ลากหลายประเภท ท้งั ส่อื ธรรมชาติ ส่อื ส่ิงพิมพ์ ส่อื เทคโนโลยี และเครือข่ายการเรยี นรู้ ตา่ งๆ ที่มใี นท้องถน่ิ การเลือกใชส้ ่อื ควรเลือกให้มคี วามเหมาะสมกับระดับพัฒนาการและลลี าการเรยี นร้ทู ี่ หลากหลายของผเู้ รยี น การจัดหาสือ่ การเรียนรู้ ผเู้ รียนและผู้สอบสามารถจดั ทำและพฒั นาขึน้ เอง หรอื ปรบั ปรุงเลอื กใช้ อยา่ งมีคุณภาพจากสอื่ ตา่ งๆ ที่มีอย่รู อบตัวเพ่ือนำมาใช้ประกอบในการจัดการเรยี นรู้ที่สามารถส่งเสริมและ สื่อสารให้ผู้เรยี นเกดิ การเรยี นรูอ้ ยา่ งแทจ้ ริง สถานศกึ ษา เขตพนื้ ท่ีการศึกษา หนว่ ยงานทีเ่ ก่ียวข้องและผู้ มีหนา้ ท่จี ัดการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน ควรดำเนนิ การ ดงั น้ี 1. จดั ให้มีแหล่งการเรยี นรู้ ศูนยส์ อื่ การเรยี นรู้ ระบบสารสนเทศการเรียนรู้และเครือข่ายการ เรยี นรู้ท่มี ปี ระสทิ ธิภาพทง้ั ในสถานศกึ ษาและในชุมชน เพื่อการศึกษาค้นคว้าและการแลกเปล่ียน ประสบการณ์การเรียนรู้ ระหวา่ งสถานศกึ ษา ทอ้ งถ่นิ ชุมชน สงั คมโลก 2. จัดทำและจดั หาสือ่ การเรียนรสู้ ำหรับการศึกษาคน้ คว้าของผเู้ รียน เสริมความรูใ้ หผ้ ้สู อน รวมทง้ั จดั หาสง่ิ ทมี่ ีอยู่ในท้องถิน่ มาประยุกต์ใชเ้ ป็นส่ือการเรยี นรู้ 3. เลอื กและใช้สอ่ื การเรยี นรู้ที่มคี ุณภาพ มีความเหมาะสม มคี วามหลากหลาย สอดคลอ้ งกบั วิธีการเรยี นรู้ ธรรมชาติของสาระการเรียนรู้ และความแตกตา่ งระหว่างบุคคลของผู้เรียน 4. ประเมินคณุ ภาพของส่ือการเรยี นรทู้ เี่ ลอื กใช้อยา่ งเปน็ ระบบ 5. ศึกษาคน้ ควา้ วจิ ยั เพอ่ื พัฒนาสื่อการเรยี นร้ใู หส้ อดคล้องกับกระบวนการเรียนรขู้ องผู้เรียน 6. จัดให้มกี ารกำกับ ตดิ ตาม ประเมนิ คุณภาพและประสทิ ธภิ าพเก่ียวกบั ส่ือและการใชส้ อ่ื การ เรียนรเู้ ปน็ ระยะๆ และสม่ำเสมอ ในการจัดทำ การเลอื กใช้ และการประเมนิ คุณภาพสื่อการเรยี นรูท้ ่ีใช้ในสถานศึกษาควรคำนงึ ถงึ หลกั การสำคัญของสอ่ื การเรียนรู้ เชน่ ความสอดคล้องกับหลกั สตู ร วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรียนรู้ การ ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ การจัดประสบการณใ์ หผ้ เู้ รียน เนอื้ หามีความถกู ต้องและทันสมัย ไม่ กระทบความมนั่ คงของชาติ ไม่ขัดต่อศลี ธรรม มกี ารใชภ้ าษาทีถ่ ูกต้อง รูปแบบการนำเสนอทเ่ี ข้าใจงา่ ย และน่าสนใจ ประเภทเอกสาร -ตัวชี้วดั และสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้น พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551. -แนวปฏิบตั กิ ารวัดและประเมินผล การเรยี นรู ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551. -แนวทางการจัดการเรียนรู ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551

หลกั สตู รสงั มศกึ ษา 2563 โรงเรียนทับโพธ์ิพัฒนวทิ ย์ 166 -แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาผูเรยี น ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551. -แนวทางการพฒั นา การวดั และประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงคตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้น พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 -หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551. กรงุ เทพมหานคร: -พทุ ธธรรม. (พิมพครงั้ ที่ 22).พระธรรมปฏก (ป.อ. ปยุตฺโต). (2546). กรุงเทพมหานคร: ธรรมสาร. -ประชาธปิ ไตยจริงแท...คือแคไหน. พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตโฺ ต). (254๙). กรงุ เทพมหานคร -คาํ พอสอน. ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดาํ รสั เกย่ี วกบั เดก็ และเยาวชน. กรุงเทพมหานคร -พจนานุกรมฉบับราชบัณฑติ ยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔. ราชบณั ฑติ ยสถาน. (๒๕๕๔). กรุงเทพมหานคร -ครสู งั คมศึกษากบั การพฒั นาทกั ษะแกนกั เรียน.วลัย อิศรางกูร ณ อยธุ ยา (พานิช). (๒๕๕๔). กรุงเทพมหานคร: -ประมวลบทความกจิ กรรมพัฒนาผูเรียนสูมาตรฐานการเรียนรู กลมุ สาระการเรียนรูสงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม. กรุงเทพมหานคร: ศนู ยตาํ ราและเอกสารทางวิชาการจุฬาลงกรณมหาวทิ ยาลยั .. (๒๕๔๙). -หลกั สตู รการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐานเพือ่ พัฒนาความเปนพลเมืองไทยและพลเมอื งโลก:บทบาทสําคัญของ กลมุ สาระการเรยี นรูสงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม. -ประมวลบทความ เรื่องหลกั สตู รและการพฒั นาหลกั สตู รตามแนวปฏิรปู . กรงุ เทพมหานคร -คูมอื การอบรมสรางจิตสาํ นึกพลเมืองสาํ หรับเยาวชนระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน. ศภุ ณฐั เพม่ิ พนู ววิ ฒั น และจารุวรรณ แกวมะโน. (๒๕๕๗). กรงุ เทพมหานคร: สถาบันพระปกเกลา. -การใชวิธสี อนแบบธรรมสากัจฉาเพื่อสรางศรัทธา และวธิ ีคดิ ตามหลักสุคนธ สินธพานท. (๒๕๓๘). -พุทธธรรมแกนักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปที่ ๓. นนทบรุ ี. วทิ ยานิพนธการศึกษามหาบัณฑติ แขนงวิชา -หลักสตู รและการสอน สาขาวชิ าศกึ ษาศาสตร มหาวิทยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช.. (๒๕๕๒). -พัฒนาทกั ษะการคดิ ...พิชติ การสอน. กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พเลยี่ งเชยี ง.. (๒๕๕๔). -วธิ สี อนตามแนวปฏริ ูปการศึกษาเพือ่ พัฒนาคุณภาพของเยาวชน. กรงุ เทพมหานคร: -คานยิ มศึกษาเพื่อสนั ตภิ าพท่ีย่ังยนื . ประมวลบทความ เรื่อง หลกั สูตรและการพัฒนาหลักสูตรตามแนว ปฏริ ูป. กรงุ เทพมหานคร: ศนู ยตาํ ราและเอกสารทางวชิ าการจฬุ าลงกรณมหาวิทยาลยั . ประเภทสอื่ ออนไลน์ -https://th.wikipedia.org/wiki/ - https://www.hs3lzx.com/dtv/ -https://www.youtube.com/watch?v=QIEne81lCVg -https://www.youtube.com/watch?v=bZpzEiUifFY -https://www.dltv.ac.th/teachplan/lists/7/4000 -https://www.youtube.com/watch?v=YJCgjloB06c -https://www.youtube.com/watch?v=fdL_NhTnlz4 -https://sites.google.com/site/civicduty63/hnathi-phlmeuxng -https://www.stou.ac.th/study/sumrit/5-58(500)/page2-5-58(500).html

หลักสตู รสงั มศึกษา 2563 โรงเรียนทบั โพธพ์ิ ัฒนวทิ ย์ 167 -https://www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/ac/download/article/article -https://www.youtube.com/watch?v=ymSAv_hX0U0 -https://www.youtube.com/channel/UC5qeFW6myEIQ5iOdmEYuY-w -https://dlit.ac.th/site/ -https://dlit.ac.th/site/resources.php -https://dlit.ac.th/site/dgtlibrary.php -https://www.youtube.com/watch?v=nRhl9LCkmnY -http://learnonline.brr.ac.th/course/index.php?categoryid=20 กระบวนการจดั การเรยี นรู้ -กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด The process of creating concepts -กระบวนการแกป้ ญั หา Problem solving process -กระบวนการกลุ่ม Group process -กระบวนการทำงาน Learning process by work -กระบวนการสบื คน้ Learning process by searching -กระบวนการคิดวิเคราะห์ Analytical thinking process -รวบรวมข้อมูลและจัดระบบข้อมลู อย่างเปน็ ระบบด้วยวธิ ีการทางประวัติศาสตร์ Data collection and systematization of information systematically with historical methods -กระบวนการสบื คน้ หาเทคโนโลยีสมัยใหม่ Search process for new technology -กระบวนการพัฒนาคา่ นิยม Value Development Process -กระบวนการทางจรยิ ธรรม Ethical process -กระบวนการให้เหตุผล Reasoning process -กระบวนการสอื่ ความหมายทางสังคมและนำประสบการณ์ด้านความรู้ -กระบวนการเรยี นร้แู บบบรรยาย (passive learning) -กระบวนการเรียนรแู้ บบลงมือปฏบิ ตั ิ (active learning) -กระบวนการเรียนรแู้ บบการใช้ปญั หาเปน็ ฐาน(Problem-based learning) -กระบวนการเรยี นรแู้ บบการใช้โครงงานเป็นฐาน(Project-based learning) -กระบวนการเรยี นรแู้ บบการใชค้ วามคิดสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creativity-based learning) -กระบวนการเรยี นรแู้ บบสะเต็มศึกษา (STEM education) -กระบวนการทางประชาธปิ ไตย Democratic process -กระบวนการฝึกปฏบิ ัติ Practice process -กระบวนการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ Critical thinking process -กระบวนการขัดเกลาทางสังคม Socialization process -กระบวนการส่อื ความหมายทางสงั คม Social interpretation process

หลกั สตู รสังมศกึ ษา 2563 โรงเรียนทับโพธิพ์ ัฒนวิทย์ 168 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ การตัดสนิ ผลการเรียน การตัดสินผลการเรียนในระดับมัธยมศึกษามีการตัดสินในหลายลักษณะคือ การผ่าน รายวิชา กำหนดเป็นภาคเรียนการเลื่อนชั้นกำหนดเป็นปีการศึกษาและการจบระดับชั้น กำหนด เป็นระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย หลักเกณฑ์การวัดและ ประเมินผลการเรียนรู้ เพื่อตัดสินผลการเรียนของผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มีดังนี้ 1. การตัดสินผลการเรียนเป็นรายวิชา ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียนตลอดภาคเรียนไม่น้อย กว่ารอ้ ยละ 80 ของเวลาเรียนท้งั หมดในรายวชิ านน้ั ๆ 2. ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวชี้วัดและผ่านตามเกณฑ์ทีส่ ถานศึกษากำหนด ท้ัง รายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติม โดยกำหนดตัวชี้วัดที่ต้องผ่านไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของจำนวน ตัวชวี้ ัดแต่ละรายวิชา 3. ผเู้ รยี นต้องได้รับการตัดสนิ ผลการเรยี นทุกรายวชิ า 4. ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินและมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศึกษา กำหนดในการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์และกิจกรรม พัฒนาผู้เรยี น จงึ จัดการตดั สนิ ผล เปน็ 4 เกณฑ์คอื 1. การตดั สนิ ผลสมั ฤทธริ์ ายวชิ า 8 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ การใหร้ ะดบั ผลการเรียน ในการจัดสนิ สนิ เพอ่ื ใหร้ ะดับผลการเรียนรายวิชาของกล่มุ สาระการเรียนรู้ ใช้ตัวเลขแสดง ระดับผลการเรียนเป็น 8 ระดับ ซึ่งเป็นการประเมนิ ตามสภาพจริง และการทดสอบ รายวิชาที่นับหน่วยกิตได้จะต้องได้ระดับผลการเรียนตั้งแต่ 1 ขึ้นไป โดยมีแนวการให้ ระดับผลการเรยี นดังน้ี คะแนนร้อยละ ระดบั ผลการเรยี น ความหมายของผลการเรยี น 80-100 4 ดเี ยี่ยม 75-79 3.5 ดมี าก 70-74 3 ดี 65-69 2.5 คอ่ นข้างดี 60-64 2 ปานกลาง 55-59 1.5 พอใช้ 50-54 1 ผา่ นเกณฑ์ขัน้ ต่ำ 0-49 0 ตำ่ กวา่ เกณฑ์

หลกั สตู รสงั มศึกษา 2563 โรงเรียนทบั โพธ์ิพัฒนวิทย์ 169 2. การประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความของผู้เรียน เป็นการประเมินเพ่ือ วนิ ิจฉัย โดยแบง่ การประเมนิ เป็น 4 ระดบั ดงั นี้ กลมุ่ ดีเย่ียม (3) = ตั้งแต่ 80% ขึน้ ไป = กลมุ่ ทม่ี ีการอ่าน คิด วเิ คราะห์และเขยี นสูงกว่า กลมุ่ ดี (2) = 70-79% = เกณฑ์ก่อใหเ้ กิดคุณภาพของผู้เรยี น ดังนี้ กลมุ่ ผา่ นเกณฑข์ ้นั ตำ่ (1) = 50-69% = สามารถจับใจความสำคัญได้ครบถว้ น เขยี น กลุ่มปรับปรงุ (0) ต่ำกว่า = 50% = วิพากษ์ วิจารณ์ เขียนสร้างสรรค์ แสดงความ คิดเหน็ ประกอบอยา่ งมเี หตุผลไดถ้ ูกต้องและ สมบูรณ์ ใชภ้ าษาสภุ าพและเรียบเรียงได้ สละสลวย กลุ่มทม่ี ีการอ่าน คิด วิเคราะหแ์ ละเขียนสอ่ื ความตามเกณฑ์ ก่อให้เกิดคุณภาพของผเู้ รียน ดงั น้ี สามารถจบั ใจความสำคัญได้ เขียนวพิ ากษ์ วิจารณ์ และเขียนสรา้ งสรรค์ได้โดยใชภ้ าษา สภุ าพ กลมุ่ ท่ีมีการอ่าน คิด วเิ คราะหแ์ ละเขยี นสอ่ื ความผ่านเกณฑข์ น้ั ต่ำ ก่อให้เกดิ คณุ ภาพของ ผเู้ รยี น ดงั น้ี สามารถจับใจความสำคญั และเขยี น วพิ ากษว์ ิจารณ์ไดบ้ า้ ง กล่มุ ทมี่ ีการอ่าน คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขยี นสื่อ ความตำ่ กวา่ เกณฑ์ ซง่ึ คุณภาพของผเู้ รียนเป็น ดงั นี้ ไม่สามารถจบั ใจความสำคัญและเขยี น วิพากษว์ ิจารณ์ได้บา้ ง หากผู้เรียนมีผลการประเมินอยู่ในระดับ ต้องปรับปรุง ครูผู้สอนจะต้องพัฒนาการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียนสื่อความ เพื่อให้ผลการประเมินอยู่ใน กลุ่มผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ หรือ กลุ่มดี หรอื กลมุ่ ดเี ยย่ี ม

หลกั สตู รสงั มศกึ ษา 2563 โรงเรยี นทับโพธ์พิ ฒั นวิทย์ 170 การตัดสนิ ผลการประเมิน มีหลกั เกณฑด์ ังนี้ 1. กลุ่มที่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ได้ประเมิน ได้คะแนนเป็น 1 , 2 หรือ 3 จะต้องมี คะแนนการประเมิน การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความ รวมกันตั้งแต่ 50- 100% 2. กลุ่มที่ไม่ผ่านการประเมิน ได้คะแนน 0 ซึ่งมีคะแนนการประเมินการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียนสื่อความรวมกันต่ำกวา่ 50% 3. การประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ การประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ผู้เรยี นเป็นการประเมนิ เพื่อวินจิ ฉยั โดย แบ่ง การประเมนิ เป็น 4 ระดบั ดงั น้ี กลุ่มดเี ยยี่ ม (3) = ตัง้ แต่ 80% ขน้ึ ไป = กลุม่ ท่ีมีคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์สงู กวา่ เกณฑ์ก่อให้เกดิ คุณภาพของผู้เรียน ดังนี้ มคี ุณลักษณะในการปฏิบัตจิ นเปน็ นิสัย และนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั เพ่ือ ประโยชน์สขุ ของตนเองและสังคม กลุม่ ดี (2) = 70-79%= กลุ่มที่มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตาม เกณฑ์ก่อให้เกิดคุณภาพของผู้เรียนดังนี้มี คณุ ลักษณะในการปฏบิ ัติตามเกณฑ์เพื่อให้ เป็นที่ยอมรับของสงั คม กลมุ่ ผา่ นเกณฑ์ขนั้ ต่ำ (1) = 50-69% = กลุ่มที่มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตาม เกณฑ์ก่อให้เกิดคุณภาพของผู้เรียน ดังน้ี รับรู้และปฏิบัติตามเกณฑ์และเงื่อนไขท่ี สถานศกึ ษา กำหนด กล่มุ ปรับปรงุ (0) = ตำ่ กว่า 50% = กลมุ่ ทมี่ พี ฤติกรรมต่ำกว่าเกณฑ์ซึ่งคุณภาพ ของผู้เรียน เป็นดังนีไ้ ม่รับรู้และปฏิบัติตาม เกณฑแ์ ละเงื่อนไขที่สถานศึกษา กำหนด หากผู้เรียนมีผลการประเมินอยู่ในระดับ ต้องปรับปรุง ครูผู้สอนจะต้องพัฒนาให้ผู้เรียนมี คุณลกั ษณะอันพึงประสงคส์ ูงข้ึนจนอยู่ในกลมุ่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน อาจจะอยูใ่ นระดับผ่าน เกณฑ์ข้นั ต่ำ ดี หรอื ดี

หลักสตู รสงั มศกึ ษา 2563 โรงเรยี นทับโพธ์ิพัฒนวทิ ย์ 171 การตดั สนิ ผลการประเมนิ มีหลกั เกณฑด์ ังน้ี กลุม่ ทผ่ี ่านเกณฑ์การประเมนิ ได้ประเมนิ ไดค้ ะแนนเป็น 1 , 2 หรอื 3 จะตอ้ งมคี ะแนนการประเมิน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ทั้ง 5 ข้อ รวมกันตัง้ แต่ 50-100% กล่มุ ทีไ่ มผ่ า่ นการประเมนิ ได้คะแนน 0 ซึง่ คะแนนการประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ทุกขอ้ รวมกัน ต่ำกวา่ 50% การตดั สนิ การเขา้ รว่ มกจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน การประเมนิ กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน พจิ ารณาทง้ั เวลาการเข้าร่วมกจิ กรรม การปฏิบัติกจิ กรรมและผลงาน ของผเู้ รียน ตามเกณฑท์ ่ีกำหนดและให้ผลการเขา้ ร่วมกิจกรรมเป็นผา่ นและไม่ผา่ น การตดั สนิ การเขา้ รว่ มกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียนแต่ละกิจกรรม จะพจิ ารณาจากผลการประเมินตามจุดประสงค์ สำคัญของกิจกรรมกับเวลาทเ่ี ขา้ รว่ มกิจกรรม โดยใหร้ ะดบั ผลการประเมนิ เป็น “ผ่าน” และ “ไมผ่ ่าน” คิดเกณฑ์ “ผา่ น” คือ เข้ารว่ มกิจกรรมไม่นอ้ ยกวา่ 80% กิจกรรม และมีคุณลักษณะท่ีกำหนดไว้ไม่นอ้ ยกว่า 20% ของการประเมนิ ในกรณที ่ผี ูเ้ รยี น “ไม่ผา่ น” การเขา้ ร่วมกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน ให้ผู้เรยี นเขา้ รับการซ่อมเสรมิ หรอื เลือก กิจกรรมใหมจ่ น “ผ่าน” ครบทกุ กิจกรรม ตามหลักสูตรที่โรงเรียนกำหนดในแตล่ ะช่วงชน้ั การจบหลักสูตร ผู้เรียนที่มีผลการประเมิน ผ่านเกณฑ์มาตรฐานครบทั้ง 4 เกณฑ์ จัดเป็นผู้ได้รับการ ตัดสินให้ผ่านช่วงชั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตร การศกึ ษาขั้นพืน้ ฐานของโรงเรียน การจบหลักสูตรชั้นมัธยมศกึ ษาตอนตน้ ๑. ผู้เรียน เรียนรายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติมไม่เกิน 81 หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 63 หน่วยกิต และรายวชิ าเพ่ิมเติมตามทีก่ ำหนด สำหรับห้องเรียนพเิ ศษ ๒. ผเู้ รยี นตอ้ งได้หนว่ ยกิตตลอดหลักสูตรไมน่ ้อยกว่า 77 หนว่ ยกิต โดยเป็นรายวชิ าพื้นฐาน 63 หน่วยกติ และรายวิชาเพิม่ เติมไม่น้อยกว่า 14 หนว่ ยกติ ๓. ผ้เู รียนมผี ลการประเมนิ การอ่าน คิด วเิ คราะห์และเขียนในระดบั ผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ กำหนด ๔. ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ กำหนด ๕. ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามท่ี กำหนด

หลกั สตู รสงั มศกึ ษา 2563 โรงเรยี นทับโพธพ์ิ ัฒนวิทย์ 172 การจบระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาตอนปลาย ๑. ผู้เรียน เรียนรายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติม ไม่น้อยกว่า 81 หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 39 หน่วยกิต และรายวิชาเพม่ิ เตมิ ตามที่กำหนด ๒. ผู้เรียนต้องได้หนว่ ยกิตตลอดหลักสูตรไมน่ ้อยกว่า 77 หนว่ ยกติ โดยเปน็ รายวชิ าพื้นฐาน 39 หน่วยกติ และวชิ าเพมิ่ เตมิ ไมน่ ้อยกว่า 38 หนว่ ยกติ ๓. ผูเ้ รยี นมีผลการประเมินการอ่าน คดิ วิเคราะหแ์ ละเขยี น ในระดบั ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินตามท่ี กำหนด ๔. ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามท่ี กำหนด ๕. ผู้เรียน เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามท่ี กำหนด การเลอ่ื นชนั้ ผู้เรียนไดร้ บั การตดั สินผลการเรยี นทุกภาคเรียนและได้รับการเลื่อนขั้นเม่ือสิ้นปีการศึกษา โดยมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ ดังน้ี ๑. รายวชิ าพ้ืนฐาน ได้รับการตดั สินผลการเรียนผ่านทกุ รายวชิ า ๒. รายวชิ าเพ่ิมเตมิ ได้รบั การตัดสนิ ผลการประเมินผา่ นตามเกณฑท์ ีส่ ถานศกึ ษากำหนด ๓. ผู้เรยี นต้องได้รับการประเมินและมผี ลการประเมินผ่านเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนดในการอ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขียน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคแ์ ละกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ๔. ระดบั ผลการเรียนเฉลีย่ ในปกี ารศึกษานนั้ ต้องไดไ้ มต่ ่ำกว่า 1.00 ทั้งนี้รายวิชาใดท่ีไม่ผ่านเกณฑ์การประเมนิ สถานศึกษาสามารถซ่อมเสริมผู้เรียนให้ไดร้ บั การแก้ไขในภาคเรียนถัดไป

หลกั สตู รสงั มศึกษา 2563 โรงเรยี นทบั โพธิ์พฒั นวิทย์ 173 ภาคผนวก

หลกั สตู รสังมศึกษา 2563 โรงเรยี นทบั โพธ์ิพฒั นวิทย์ 174 ตวั ชี้วดั และสาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระที่ 1 ศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม มาตรฐาน ส 1.1 รู้ และเข้าใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาท่ี ตนนบั ถอื และศาสนาอืน่ มีศรัทธาท่ถี ูกต้อง ยดึ มัน่ และปฏิบัตติ ามหลักธรรมเพ่ืออยู่ ร่วมกนั อยา่ งสนั ติสุข ชัน้ ตวั ช้ีวดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ม.1 1. อธิบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนา หรอื  การสังคายนา ศาสนาที่ตนนับถือสปู่ ระเทศไทย  การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาเข้าสู่ ประเทศไทย 2. วิเคราะห์ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนา ➢ความสำคัญของพระพุทธศาสนาต่อสงั คมไทยใน หรือศาสนาท่ตี นนับถือ ทมี่ ตี ่อสภาพแวดล้อม ในสงั คมไทย รวมท้งั การพัฒนาตนและ ฐานะเปน็ ครอบครวั ศาสนาประจำชาติ สถาบันหลกั ของสงั คมไทย สภาพแวดล้อมที่กว้างขวาง และ ครอบคลุมสังคมไทย การพฒั นาตนและครอบครัว 3. วิเคราะหพ์ ทุ ธประวัติตง้ั แต่ประสตู จิ นถึง ➢สรปุ และวเิ คราะห์ พุทธประวตั ิ บำเพญ็ ทุกรกิรยิ า หรอื ประวตั ิศาสดาทตี่ น ประสูติ นบั ถือตามทีก่ ำหนด  เทวทตู 4 การแสวงหาความรู้ การบำเพญ็ ทุกรกริ ิยา 4. วเิ คราะห์และประพฤตติ นตามแบบอย่าง ➢ พุทธสาวก พุทธสาวกิ า การดำเนนิ ชวี ติ และข้อคิดจากประวตั ิสาวก พระมหากสั สปะ ชาดก/เรื่องเลา่ และ พระอุบาลี ศาสนิกชนตวั อย่างตามท่ีกำหนด อนาถบณิ ฑิกะ นางวสิ าขา ➢ ชาดก  อมั พชาดก  ตติ ตริ ชาดก

หลกั สตู รสงั มศึกษา 2563 โรงเรียนทบั โพธพ์ิ ัฒนวิทย์ 175 ช้ัน ตวั ชี้วัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง ม.1 ➢ พระรัตนตรัย พุทธคุณ 9 5. อธบิ ายพุทธคณุ และข้อธรรมสำคัญใน กรอบอรยิ สัจ 4 หรือหลกั ธรรมของศาสนาที่ ➢ อรยิ สจั 4 ตนนับถือ ตามที่กำหนด เห็นคุณค่าและนำไป ทกุ ข์ (ธรรมที่ควรรู้) พัฒนาแก้ปัญหาของตนเองและครอบครัว o ขันธ์ 5 - ธาตุ 4  สมทุ ยั (ธรรมทคี่ วรละ) o หลกั กรรม - ความหมายและคณุ คา่ o อบายมุข 6  นิโรธ (ธรรมทค่ี วรบรรลุ) o สุข 2 (กายิก, เจตสกิ ) o คิหิสขุ มรรค (ธรรมที่ควรเจริญ) o ไตรสกิ ขา o กรรมฐาน 2 o ปธาน 4 o โกศล 3 o มงคล 38 -ไม่คบคนพาล - คบบัณฑติ - บูชาผู้ควรบูชา ➢ พุทธศาสนสภุ าษิต  ยํ เว เสวติ ตาทิโส คบคนเชน่ ใดเปน็ คนเช่นน้ัน  อตตฺ นา โจทยตฺตานํ จงเตอื นตน ด้วยตน  นิสมมฺ กรณํ เสยฺโย ใครค่ รวญกอ่ นทำจึงดี ทุราวาสา ฆรา ทกุ ฺข์ เรือนท่คี รองไม่ดีนำทุกข์มาให้

หลกั สตู รสังมศกึ ษา 2563 โรงเรยี นทับโพธิ์พัฒนวิทย์ 176 ชัน้ ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 6. เหน็ คณุ คา่ ของการพฒั นาจิต เพื่อการ ➢ โยนโิ สมนสิการ เรยี นรแู้ ละการดำเนินชวี ติ ด้วยวธิ ีคดิ แบบ วธิ ีคดิ แบบคณุ ค่าแท้ – คุณคา่ เทียม โยนิโสมนสิการคอื วิธคี ิดแบบคณุ ค่าแท้ – วธิ ีคิดแบบคุณ - โทษและทางออก คณุ ค่าเทียม และวิธีคดิ แบบคุณ – โทษ และ ทางออก หรือการพัฒนาจิตตามแนวทางของ ศาสนาทตี่ นนับถือ 7. สวดมนต์ แผ่เมตตา บริหารจติ และเจริญ สวดมนตแ์ ปล และแผเ่ มตตา ปัญญาดว้ ยอานาปานสติ หรอื ตามแนวทาง  วธิ ีปฏบิ ัตแิ ละประโยชนข์ องการบรหิ ารจิต ของศาสนาท่ตี นนับถือตามที่กำหนด และเจริญปญั ญา การฝึกบริหารจิตและเจริญ ปญั ญาตามหลักสตปิ ัฎฐานเน้น อานา ปานสติ  นำวธิ ีการบริหารจิตและเจรญิ ปัญญา ไปใช้ในชีวติ ประจำวนั 8. วเิ คราะหแ์ ละปฏบิ ตั ิตนตามหลักธรรมทาง หลกั ธรรม ศาสนาที่ตนนบั ถือ ในการดำรงชีวิตแบบ (ตามสาระการเรยี นรขู้ ้อ 5) พอเพยี ง และดแู ลรักษาสิง่ แวดล้อมเพ่ือการ อยรู่ ว่ มกันไดอ้ ย่างสนั ติสขุ 9. วิเคราะห์เหตุผลความจำเป็นทท่ี กุ คนต้อง  ศาสนิกชนของศาสนาตา่ ง ๆ มีการประพฤติ ศึกษาเรียนรู้ศาสนาอื่นๆ ปฏบิ ตั ติ นและวถิ กี ารดำเนนิ ชวี ิตแตกต่างกันตาม หลกั ความเช่ือและคำสอน ของศาสนาท่ีตนนบั ถือ 10. ปฏิบตั ิตนต่อศาสนิกชนอ่ืนในสถานการณ์  การปฏิบตั ิอย่างเหมาะสมต่อศาสนิกชนอื่นใน ตา่ งๆได้อยา่ งเหมาะสม สถานการณต์ ่างๆ 11.วิเคราะห์การกระทำของบุคคลทีเ่ ปน็ ➢ตวั อย่างบุคคลในท้องถิ่นหรอื ประเทศที่ปฏิบตั ิ แบบอย่างด้านศาสนสัมพันธ์และนำเสนอแนว ตนเปน็ แบบอยา่ งดา้ นศาสนสัมพนั ธ์หรือมีผลงาน ดา้ นศาสนสัมพนั ธ์ ทางการปฏบิ ัติของตนเอง

หลกั สตู รสงั มศึกษา 2563 โรงเรยี นทับโพธิพ์ ฒั นวิทย์ 177 ชั้น ตัวช้วี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ม.2 1. อธิบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนา หรอื ➢การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสปู่ ระเทศเพื่อน บ้านและการนับถือพระพุทธ -ศาสนาของประเทศ ศาสนาท่ีตนนบั ถือสปู่ ระเทศเพอ่ื นบ้าน เพือ่ นบา้ นในปจั จบุ ัน 2.วเิ คราะห์ความสำคญั ของพระพทุ ธ- ศาสนา ➢ความสำคญั ของพระพุทธศาสนาที่ชว่ ย หรือศาสนาทีต่ นนับถือที่ช่วยเสริมสรา้ งความ เสริมสรา้ งความเขา้ ใจอนั ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน เขา้ ใจอันดกี บั ประเทศเพ่ือนบ้าน 3. วเิ คราะหค์ วามสำคญั ของพระพุทธศาสนา ➢ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาต่อสงั คมไทย หรอื ศาสนาที่ตนนับถือในฐานะท่เี ปน็ รากฐาน ในฐานะเป็น ของวฒั นธรรม เอกลกั ษณ์ของชาติและมรดก  รากฐานของวัฒนธรรม ของชาติ  เอกลักษณแ์ ละ มรดกของชาติ 4. อภปิ รายความสำคญั ของพระพุทธ -ศาสนา ➢ ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนา กบั การ หรือศาสนาที่ตนนับถือกบั การพัฒนาชุมชน พัฒนาชุมชนและการจดั ระเบียบสังคม และการจัดระเบยี บสงั คม 5.วิเคราะหพ์ ุทธประวตั หิ รอื ประวตั ศิ าสดา ➢ สรุปและวิเคราะห์ พุทธประวัติ ของศาสนาท่ตี นนบั ถอื ตามท่ีกำหนด การผจญมาร การตรสั รู้ การสั่งสอน 6. วิเคราะหแ์ ละประพฤติตนตามแบบอยา่ ง  พระสารีบุตร การดำเนินชวี ติ และข้อคิดจากประวตั สิ าวก พระโมคคัลลานะ ชาดก/เร่อื งเลา่ และ นางขุชชุตตรา ศาสนิกชนตวั อย่างตามท่ีกำหนด พระเจา้ พิมพิสาร มติ ตวินทกุ ชาดก  ราโชวาทชาดก ม.2 7. อธิบายโครงสรา้ ง และสาระสังเขปของ ➢โครงสร้าง แลสาระสงั เขปของพระวินัยปิฎก พระไตรปิฎก หรือคัมภีรข์ องศาสนาที่ตนนบั พระสตุ ตันตปิฎก และพระอภิธรรมปิฎก ถอื 8. อธบิ ายธรรมคณุ และขอ้ ธรรมสำคญั ใน ➢พระรัตนตรยั กรอบอริยสัจ 4 หรอื หลักธรรมของศาสนาท่ี ธรรมคณุ 6 ตนนบั ถือ ตามทก่ี ำหนด เห็นคณุ คา่ และ นำไปพฒั นา แก้ปัญหาของชุมชนและสังคม ➢อรยิ สจั 4 ทกุ ข์ (ธรรมท่ีควรร)ู้

หลกั สตู รสงั มศกึ ษา 2563 โรงเรียนทบั โพธ์พิ ฒั นวทิ ย์ 178 o ขันธ์ 5 - อายตนะ  สมุทัย (ธรรมทค่ี วรละ) o หลักกรรม - สมบตั ิ 4 - วิบตั ิ 4 o อกุศลกรรมบถ 10 o อบายมุข 6 นโิ รธ (ธรรมที่ควรบรรล)ุ สุข 2 (สามิส, นิรามิส)  มรรค (ธรรมทคี่ วรเจรญิ ) o บพุ พนิมติ ของมชั ฌิมาปฏปิ ทา o ดรณุ ธรรม 6 o กลุ จริ ฏั ฐติ ิธรรม 4 o กุศลกรรมบถ 10 o สตปิ ฏั ฐาน 4 o มงคล 38 - ประพฤติธรรม - เวน้ จากความช่วั ➢ เวน้ จากการดืม่ นำ้ เมาพุทธศาสนสุภาษติ ➢ กมฺมนุ า วตฺตตี โลโก สตั ว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม ➢กลยฺ าณการี กลฺยาณํ ปาปการี จ ปาปกํ ทำดไี ดด้ ี ทำชวั่ ไดช้ ัว่ ➢สุโข ปุญญฺ สสฺ อจุ ฺจโย การส่งั สมบุญนำสขุ มาให้ ➢ ปูชโก ลภเต ปชู ํ วนทฺ โกปฏิวนฺทนํ ผูบ้ ูชาเขายอ่ มไดร้ ับการบชู าตอบ o ผู้ไหวเ้ ขายอ่ มไดร้ บั การไหวต้ อบ

หลกั สตู รสงั มศกึ ษา 2563 โรงเรยี นทบั โพธิ์พฒั นวิทย์ 179 ช้ัน ตวั ชีว้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 9. เหน็ คณุ คา่ ของการพฒั นาจิตเพ่อื การเรยี นรู้ ➢พัฒนาการเรยี นรูด้ ้วยวิธคี ิดแบบโยนิโส-มนสกิ าร และดำเนินชีวติ ด้วยวธิ ีคิดแบบโยนิโส 2 วิธี คอื วธิ ีคิดแบบอบุ ายปลกุ เรา้ คุณธรรม และ มนสิการคือ วิธคี ิดแบบอบุ ายปลกุ เร้า วิธีคดิ แบบอรรถธรรมสัมพันธ์ คณุ ธรรม และวธิ คี ดิ แบบอรรถธรรมสัมพันธ์ หรือการพฒั นาจิตตามแนวทางของศาสนาที่ ตนนับถอื 10. สวดมนต์ แผเ่ มตตา บรหิ ารจิตและเจริญ ➢สวดมนตแ์ ปล และแผเ่ มตตา ปัญญาดว้ ยอานาปานสติ หรือตามแนวทาง ➢รแู้ ละเขา้ ใจวิธปี ฏิบัตแิ ละประโยชน์ของการ ของศาสนาท่ตี นนับถอื บรหิ ารจติ และเจริญปญั ญา ➢ ฝึกการบรหิ ารจติ และเจริญปัญญาตามหลัก สตปิ ัฎฐาน เนน้ อานาปานสติ ➢นำวธิ ีการบรหิ ารจติ และ เจริญปัญญาไปใช้ใน ชีวิตประจำวัน 11.วเิ คราะหก์ ารปฏิบตั ติ นตามหลักธรรมทาง ➢การปฏบิ ัติตนตามหลักธรรม (ตามสาระ การ ศาสนาทต่ี นนบั ถือ เพ่ือการดำรงตนอย่าง เรียนรู้ ข้อ 8.) เหมาะสมในกระแสความเปล่ียนแปลงของโลก และการอย่รู ่วมกนั อยา่ งสนั ติสขุ ช้ัน ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ม.3 1. อธบิ ายการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา หรอื ➢การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาเข้าสปู่ ระเทศตา่ ง ๆ ศาสนาที่ตนนับถือสปู่ ระเทศต่างๆ ทวั่ โลก ทวั่ โลก และการนบั ถือพระพุทธศาสนาของประเทศ เหลา่ นั้นในปัจจบุ ัน 2. วเิ คราะหค์ วามสำคญั ของพระพุทธศาสนา ➢ความสำคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะทช่ี ่วย หรือศาสนาท่ตี นนับถือในฐานะท่ชี ่วย สร้างสรรคอ์ ารยธรรมและความสงบสุขให้แก่โลก สรา้ งสรรค์อารยธรรม และความสงบสขุ แก่ โลก 3. อภปิ รายความสำคัญของพระพุทธศาสนา ➢สมั มนาพระพุทธศาสนากับปรัชญาของศรษฐกิจ หรือศาสนาท่ตี นนับถือกับปรัชญาของ พอเพียงและการพฒั นาอย่างยง่ั ยนื (ทีส่ อดคลอ้ งกบั เศรษฐกิจพอเพยี งและ การพัฒนาอย่างยัง่ ยืน หลกั ธรรมในสาระการเรยี นรู้ ขอ้ 6 )

หลกั สตู รสงั มศกึ ษา 2563 โรงเรยี นทบั โพธ์พิ ฒั นวิทย์ 180 4. วเิ คราะหพ์ ุทธประวัติจากพระพุทธรปู ปาง ➢ศึกษาพทุ ธประวัติจากพระพุทธรปู ปาง ตา่ ง ๆ ต่างๆ หรอื ประวตั ศิ าสดาทีต่ นนบั ถือ ตามที่ เชน่ กำหนด ปางมารวิชัย ปางปฐมเทศนา ปางลลี า ปางประจำวันเกิด ➢สรุปและวเิ คราะห์พทุ ธประวตั ิ ➢ศึกษาพทุ ธประวตั ิจากพระพุทธรปู ปาง ตา่ ง ๆ เช่น ปางมารวชิ ยั ปางปฐมเทศนา ปางลีลา ปางประจำวนั เกดิ ➢สรปุ และวิเคราะห์พุทธประวตั ิ ปฐมเทศนา โอวาทปาฏิโมกข์ 5. วเิ คราะห์และประพฤตติ นตามแบบอย่าง  พระอัญญาโกณฑัญญะ การดำเนินชีวติ และข้อคิดจากประวตั สิ าวก พระมหาปชาบดเี ถรี ชาดก/เรอ่ื งเล่าและ พระเขมาเถรี ศาสนิกชนตัวอย่าง ตามทก่ี ำหนด พระเจ้าปเสนทโิ กศล นันทิวิสาลชาดก สุวณั ณหังสชาดก 6. อธบิ ายสงั ฆคุณ และข้อธรรมสำคัญใน ➢พระรัตนตรัย กรอบอริยสัจ 4 หรือหลกั ธรรมของศาสนาท่ี ➢ สังฆคุณ 9 ตนนับถอื ตามที่กำหนด ➢อรยิ สัจ 4 ทกุ ข์ (ธรรมทีค่ วรรู้) o ขันธ์ 5 -ไตรลักษณ์ สมทุ ัย (ธรรมทค่ี วรละ) -หลกั กรรม -วัฏฏะ 3 -ปปญั จธรรม 3 (ตณั หา มานะ ทฎิ ฐ)ิ ➢ นโิ รธ (ธรรมท่ีควรบรรล)ุ o อตั ถะ 3 ➢ มรรค (ธรรมทคี่ วรเจริญ) มรรคมอี งค์ 8 ปัญญา 3

หลกั สตู รสังมศกึ ษา 2563 โรงเรียนทับโพธิพ์ ฒั นวทิ ย์ 181 ม.3 7. เหน็ คณุ คา่ และวิเคราะห์การปฏบิ ัตติ น  สปั ปรุ ิสธรรม 7 ตามหลกั ธรรมในการพัฒนาตนเพือ่ บญุ กริ ิยาวัตถุ 10 เตรียมพร้อมสำหรับการทำงานและการมี อบุ าสกธรรม 7 ครอบครัว มงคล 38 - มศี ิลปวทิ ยา- พบสมณะ - ฟงั ธรรมตามกาล - สนทนาธรรมตามกาล ➢พุทธศาสนสภุ าษติ  อตตฺ า หเว ชติ ํ เสยฺโย ชนะตนน่ันแลดีกวา่  ธมฺมจารี สขุ ํ เสติ ผู้ประพฤติธรรมย่อมอยเู่ ป็นสุข  ปมาโท มจจฺ โุ น ปทํ ความประมาทเปน็ ทางแหง่ ความตาย  สสุ สฺ สู ํ ลภเต ปญญฺ ํ ผู้ฟังด้วยดีย่อมได้ปญั ญา ➢การปฏบิ ัติตนตามหลกั ธรรม (ตามสาระการเรยี นรู้ ข้อ 6.) 8. เห็นคณุ คา่ ของการพัฒนาจิตเพอ่ื การเรียนรู้ ➢พฒั นาการเรยี นรดู้ ว้ ยวธิ คี ิดแบบ โยนิโสมนสกิ าร 2 วิธี คอื วธิ คี ิดแบบอริยสัจ และ และดำเนินชีวิต ด้วยวธิ คี ิดแบบโยนโิ ส มนสิการคือ วธิ ีคิดแบบอรยิ สัจ และวธิ ีคดิ วิธีคิดแบบสืบสาวเหตปุ จั จัย แบบสืบสาวเหตปุ จั จัย หรอื การ พฒั นาจติ ตามแนวทางของศาสนาทีต่ นนับถือ 9. สวดมนต์ แผเ่ มตตา บริหารจติ และเจรญิ ➢สวดมนต์แปล และแผ่เมตตา ปัญญาดว้ ยอานาปานสติ หรือตามแนวทาง ➢รแู้ ละเขา้ ใจวธิ ปี ฏิบัตแิ ละประโยชน์ของการ ของศาสนาท่ตี นนับถือ บรหิ ารจติ และเจรญิ ปัญญา ➢ฝกึ การบรหิ ารจติ และเจริญปัญญาตามหลัก สตปิ ฎั ฐานเน้นอานาปานสติ ➢ นำวธิ กี ารบรหิ ารจติ และเจริญปัญญา ไปใช้ในชีวิตประจำวัน 10. วิเคราะห์ความแตกตา่ งและยอมรับวถิ ี ➢ วถิ ีการดำเนนิ ชีวติ ของศาสนกิ ชนศาสนาอนื่ ๆ การดำเนนิ ชวี ติ ของศาสนกิ ชนในศาสนาอื่นๆ

หลกั สตู รสังมศกึ ษา 2563 โรงเรียนทบั โพธพิ์ ฒั นวิทย์ 182 ชัน้ ตัวชี้วัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ม.4-6 1.วิเคราะหส์ ังคมชมพูทวีป และคตคิ วามเช่อื ➢ ลักษณะของสงั คมชมพูทวีป และคตคิ วามเช่ือ ทางศาสนาสมัยก่อนพระพทุ ธเจ้า หรอื สงั คม ทางศาสนาสมยั กอ่ นพระพทุ ธเจ้า สมัยของศาสดาที่ตนนับถือ 2. วิเคราะห์ พระพุทธเจ้าในฐานะเป็นมนุษย์ผู้ ➢พระพุทธเจา้ ในฐานะเป็นมนุษย์ผ้ฝู ึกตนได้อย่าง ฝกึ ตนได้อยา่ งสงู สดุ ในการตรัสรู้ การกอ่ ต้งั สงู สุด (การตรสั รู้) วธิ ีการสอนและการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา ➢การก่อตั้งพระพุทธศาสนา วธิ กี ารสอน และ หรือวเิ คราะหป์ ระวตั ศิ าสดาที่ตนนบั ถือ ตามที่ การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาตามแนวพุทธจริยา กำหนด 3.วเิ คราะห์พุทธประวัตดิ า้ นการบรหิ าร และ ➢พุทธประวัติด้านการบริหารและการธำรงรกั ษา การธำรงรกั ษาศาสนา หรือ วเิ คราะหป์ ระวัติ พระพทุ ธศาสนา ศาสดาที่ตนนับถือ ตามที่กำหนด 4. วิเคราะห์ข้อปฏบิ ัติทางสายกลางใน ➢พระพุทธศาสนามีทฤษฎแี ละวธิ ีการที่เปน็ สากล พระพทุ ธศาสนา หรือแนวคดิ ของศาสนาท่ีตน และมีข้อปฏิบตั ทิ ่ยี ึดทางสายกลาง นับถือ ตามท่กี ำหนด ➢พระพุทธศาสนาเน้นการพัฒนาศรัทธาและ 5. วเิ คราะหก์ ารพัฒนาศรัทธา และปญั ญาที่ ปัญญาทถ่ี ูกต้อง ถกู ต้องในพระพทุ ธศาสนา หรือแนวคิดของ ศาสนาที่ตนนบั ถือ ตามท่ีกำหนด 6. วเิ คราะหล์ ักษณะประชาธิปไตยใน ➢ ลกั ษณะประชาธิปไตยในพระพทุ ธ- ศาสนา พระพุทธศาสนา หรือแนวคดิ ของศาสนาทต่ี น นับถือตามทีก่ ำหนด 7. วเิ คราะหห์ ลกั การของพระพทุ ธศาสนากับ ➢พระพุทธศาสนาเน้นการพัฒนาศรทั ธาและ หลักวิทยาศาสตร์ หรอื แนวคิดของศาสนาทตี่ น ปญั ญาท่ถี ูกต้อง นบั ถอื ตามท่ีกำหนด 8. วเิ คราะหก์ ารฝกึ ฝนและพัฒนาตนเอง การ ➢ พระพุทธศาสนาเน้นการฝึกหัดอบรมตน การ พึ่งตนเอง และการม่งุ อสิ รภาพใน พงึ่ ตนเอง และการมงุ่ อิสรภาพ พระพทุ ธศาสนา หรือแนวคิดของศาสนาทตี่ น นบั ถือตามทีก่ ำหนด 9. วิเคราะหพ์ ระพทุ ธศาสนาวา่ เปน็ ศาสตร์ ➢พระพทุ ธศาสนาเป็นศาสตรแ์ หง่ การศึกษา แหง่ การศึกษาซ่ึงเน้นความสัมพันธ์ของเหตุ ➢พระพทุ ธศาสนาเน้นความสัมพนั ธ์ ปจั จยั กบั วิธกี ารแกป้ ญั หา หรือแนวคิดของ ของเหตุ ศาสนาที่ตน

หลกั สตู รสงั มศึกษา 2563 โรงเรียนทับโพธ์ิพฒั นวทิ ย์ 183 10. วเิ คราะห์พระพุทธศาสนาในการฝึกตน ➢ พระพุทธศาสนาฝึกตนไม่ใหป้ ระมาท ไมใ่ ห้ประมาท มุ่งประโยชน์และสันติภาพ ➢พระพทุ ธศาสนามุง่ ประโยชน์สขุ และสนั ติภาพ บุคคล สงั คมและโลก หรอื แนวคดิ ของศาสนาที่ แก่บคุ คล สงั คมและโลก ตนนับถือตามที่กำหนดทีต่ นนับถอื ตามที่ กำหนด 11. วิเคราะหพ์ ระพุทธศาสนากบั ปรัชญาของ ➢พระพุทธศาสนากบั ปรัชญาขอเศรษฐกิจ เศรษฐกจิ พอเพียงและการพัฒนาประเทศแบบ พอเพียงและการพฒั นาแบบย่ังยนื ยงั่ ยืน หรอื แนวคิดของศาสนาทีต่ นนับถือ ตามท่กี ำหนด 12. วเิ คราะหค์ วามสำคญั ของพระพทุ ธศาสนา ➢ความสำคญั ของพระพุทธศาสนากบั การศกึ ษาท่ี เกย่ี วกบั การศึกษาที่สมบูรณ์ การเมืองและ สนั ตภิ าพหรอื แนวคิดของศาสนาท่ตี นนับถือ สมบรู ณ์ ตามทีก่ ำหนด ➢ความสำคัญของพระพุทธศาสนากับการเมือง ➢ความสำคญั ของพระพุทธศาสนากับสันติภาพ 13. วิเคราะห์หลักธรรมในกรอบ อริยสัจ 4 ➢พระรตั นตรยั หรือหลกั คำสอนของศาสนา ทีต่ นนับถอื  วิเคราะห์ความหมายและคณุ คา่ ของ พทุ ธะ ธรรมะ สงั ฆะ อรยิ สจั 4  ทกุ ข์ (ธรรมที่ควรร)ู้ -ขันธ์ 5 - นามรปู - โลกธรรม 8 - จติ , เจตสกิ สมุทัย (ธรรมท่ีควรละ) - หลกั กรรม - นิยาม 5 - กรรมนิยาม ( กรรม 12) ธรรมนิยาม(ปฏจิ จสมปุ บาท) -วิตก 3 -มิจฉาวณชิ ชา 5 -นวิ รณ์ 5 -อปุ าทาน 4 นโิ รธ (ธรรมท่คี วรบรรล)ุ -ภาวนา 4

หลกั สตู รสงั มศกึ ษา 2563 โรงเรยี นทบั โพธ์พิ ฒั นวทิ ย์ 184 -วิมตุ ติ 5 -นิพพาน  มรรค (ธรรมทีค่ วรเจริญ) -พระสทั ธรรม 3 -ปัญญาวุฒธิ รรม 4 -พละ 5 -อบุ าสกธรรม 5 -อปริหานยิ ธรรม 7 -ปาปณิกธรรม 3 ทฏิ ฐธัมมกิ ตั ถสงั วัตตนิก ธรรม 4 -อรยิ วัฑฒิ 5 -อธปิ ไตย 3 -สาราณียธรรม 6 -ทศพธิ ราชธรรม 10 -วิปสั สนาญาณ 9 -มงคล 38 - สงเคราะหบ์ ตุ ร - สงเคราะหภ์ รรยา - สนั โดษ - ถูกโลกธรรมจติ ไม่หวั่นไหว - จิตไมเ่ ศรา้ โศก - จติ ไมม่ ัวหมอง - จติ เกษม - ความเพียรเผากิเลส - ประพฤติพรหมจรรย์ - เห็นอริยสจั - บรรลุนพิ พาน

หลกั สตู รสงั มศกึ ษา 2563 โรงเรยี นทับโพธพิ์ ฒั นวิทย์ 185 ชั้น ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ➢พทุ ธศาสนสภุ าษติ  จิตตฺ ํ ทนฺตํ สขุ าวหํ จติ ท่ี ฝกึ ดีแลว้ นำสุขมาให้  นอจุ ฺจาวจํ ปณฑฺ ิตา ทสสฺ ยนตฺ ิ บณั ฑิตยอ่ มไม่แสดงอาการขึน้ ๆ ลง ๆ  นตถฺ ิ โลเก อนนิ ทฺ ิโต คนท่ี ไม่ถูกนนิ ทา ไมม่ ใี นโลก  โกธํ ฆตวฺ า สุขํ เสติ ฆ่าความ โกรธได้ย่อมอยู่เป็นสุข ปฏิรูปการี ธุรวา อฎุ ฺฐาตา วินทฺ เต ธนํ คนขยันเอาการเอางานกระทำเหมาะสม ยอ่ มหาทรัพยไ์ ด้ วายเมถว ปรุ โิ ส ยาว อตฺถสสฺ นิปฺปทา เกิดเปน็ คนควร จะพยายามจนกวา่ จะประสบความสำเร็จ  สนฺตฎฐฺ ี ปรมํ ธนํ ความ สนั โดษเปน็ ทรพั ย์อยา่ งยิ่ง  อิณาทานํ ทกุ ขฺ ํ โลเก การเป็นหนี้ เป็นทกุ ข์ในโลก  ราชา มขุ ํ มนสุ สฺ านํ พระราชาเป็น ประมุขของประชาชน  สติ โลกสฺมิ ชาคโร สตเิ ปน็ เครอื่ งตนื่ ในโลก  นตถฺ ิ สนตฺ ปิ รํ สขุ ํ สขุ อ่ืนย่ิง กว่าความสงบไมม่ ี  นิพพฺ านํ ปรมํ สุขํ นิพพานเป็นสุข อย่างย่งิ

หลกั สตู รสงั มศึกษา 2563 โรงเรียนทับโพธิ์พฒั นวทิ ย์ 186 ชนั้ ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง 14. วเิ คราะห์ข้อคดิ และแบบอย่างการดำเนนิ ➢พทุ ธสาวก พุทธสาวกิ ชีวติ จากประวตั ิสาวก ชาดก เรอ่ื งเลา่ และ  พระอัสสชิ ศาสนิกชนตัวอย่าง ตามท่กี ำหนด  พระกสี าโคตมีเถรี พระนางมัลลกิ า หมอชีวก โกมารภจั พระอนุรทุ ธะ  พระองคลุ ิมาล  พระธัมมทนิ นาเถรี  จิตตคหบดี  พระอานนท์  พระปฏาจาราเถรี  จูฬสภุ ัททา  สมุ นมาลาการ ➢ชาดก  เวสสันดรชาดก  มโหสธชาดก  มหาชนกชาดก ➢ชาวพทุ ธตัวอย่าง พระนาคเสน - พระยามลิ ินท์  สมเดจ็ พระวนั รัต (เฮง เขมจารี) พระอาจารย์มั่น ภรู ทิ ตโฺ ต สุชีพ ปุญญานุภาพ สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภกิ ขุ) พระพรหมมังคลาจารย์ (ปญั ญานนั ทภิกข)ุ ดร.เอ็มเบดการ์ พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยูห่ ัว

หลกั สตู รสังมศกึ ษา 2563 โรงเรียนทบั โพธิพ์ ัฒนวทิ ย์ 187 ชัน้ ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ➢พระโพธิญาณเถร (ชา สภุ ทฺโท) ➢พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยตุ โต) ➢ อนาคาริก ธรรมปาละ 15.วิเคราะห์คุณค่าและความสำคัญของการ ➢ วิธีการศกึ ษาและค้นคว้าพระไตรปิฏก และ สงั คายนา พระไตรปฎิ ก หรือคมั ภรี ์ของศาสนา คัมภีรข์ องศาสนาอื่น ๆ การสังคายนาและการ ทตี่ นนับถือ และการเผยแผ่ เผยแผ่พระไตรปิฏก ➢ความสำคญั และคุณค่าของพระไตรปิฏก 16. เชอ่ื ม่นั ต่อผลของการทำความดี ความชั่ว ➢ ตัวอยา่ งผลทเี่ กดิ จากการทำความดี ความ สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ที่ต้องเผชิญ และ ชัว่ ตดั สนิ ใจเลอื กดำเนนิ การหรือปฏิบตั ิตนได้อย่าง ➢โยนโิ สมนสิการด้วยวิธคี ิดแบบอริยสจั มีเหตุผลถกู ต้องตามหลักธรรม จริยธรรม และ ➢หลกั ธรรมตามสาระการเรียนร้ขู อ้ 13 กำหนดเปา้ หมาย บทบาทการดำเนนิ ชวี ติ เพือ่ การอยรู่ ่วมกันอยา่ งสันติสขุ และอยรู่ ว่ มกนั เปน็ ชาตอิ ยา่ งสมานฉันท์ 17.อธบิ ายประวัติศาสดาของศาสนาอนื่ ๆ ➢ ประวตั พิ ระพุทธเจา้ มุฮมั มดั โดยสงั เขป พระเยซู 18.ตระหนกั ในคุณค่าและความสำคญั ของ ➢คุณคา่ และความสำคัญของค่านยิ มและ คา่ นยิ ม จรยิ ธรรมทเ่ี ป็นตวั กำหนดความเชื่อ จริยธรรม และพฤติกรรมทแี่ ตกต่างกันของศาสนิกชน ➢ การขจัดความขัดแย้งเพ่ืออยูร่ ่วมกนั อย่างสันติ ศาสนาต่างๆ เพ่ือขจัดความขดั แย้งและอยู่ สุข ร่วมกันในสงั คมอย่างสนั ตสิ ุข 19. เหน็ คุณคา่ เชอื่ มน่ั และมุ่งมน่ั พฒั นาชีวติ ➢ พฒั นาการเรียนรู้ดว้ ยวิธคี ิดแบบโยนิโสมนสิการ ดว้ ยการพัฒนาจิตและพัฒนาการเรยี นรู้ดว้ ยวธิ ี 10 วิธี (เน้น วิธคี ดิ แบบแยกแยะสว่ นประกอบ คิดแบบโยนิโสมนสกิ ารหรอื การพฒั นาจติ ตาม แบบสามญั ญลักษณะ แบบเป็นอยู่ในขณะ แนวทางของศาสนาทีต่ นนับถือ ปัจจุบัน และแบบ วภิ ชั ชวาท ) 1) วิธคี ดิ แบบสืบสาวเหตปุ จั จยั 2) วิธคี ดิ แบบแยกแยะสว่ นประกอบ 3) วธิ คี ดิ แบบสามัญลักษณะ 4) วิธีคดิ แบบอริยสัจ 5) วธิ คี ิดแบบอรรถธรรมสมั พันธ์ 6) วธิ ีคดิ แบบคุณคา่ แท้- คุณคา่ เทียม 7) วิธคี ดิ แบบคุณ-โทษ และทางออก 8) วิธคี ิดแบบอบุ าย ปลกุ เร้าคณุ ธรรม 9) วิธคี ดิ แบบเป็นอยู่ในขณะปัจจบุ ัน

หลกั สตู รสงั มศกึ ษา 2563 โรงเรียนทับโพธ์ิพัฒนวิทย์ 188 10) วิธีคดิ แบบวิภัชชวาท 20. สวดมนต์ แผ่เมตตา และบริหารจิตและ ➢สวดมนต์แปล และแผ่เมตตา เจริญปัญญาตามหลักสติปฏั ฐาน หรือตาม รู้และเข้าใจวธิ ีปฏบิ ัตแิ ละประโยชนข์ องการ แนวทางของศาสนาท่ีตนนบั ถือ บรหิ ารจติ และเจรญิ ปญั ญา  ฝกึ การบรหิ ารจติ และเจริญปญั ญาตาม หลกั สตปิ ฎั ฐาน นำวธิ ีการบริหารจติ และเจริญปัญญาไปใช้ ในการพัฒนาการเรียนรู้ คุณภาพชีวติ และสงั คม 21. วิเคราะห์หลกั ธรรมสำคัญในการอยรู่ ่วมกนั ➢หลกั ธรรมสำคญั ในการอยู่รว่ มกันอยา่ งสันตสิ ุข อย่างสนั ติสขุ ของศาสนาอื่นๆ และชักชวน หลกั ธรรมในพระพุทธศาสนา เชน่ สาราณยี ส่งเสรมิ สนบั สนนุ ใหบ้ คุ คลอ่ืนเหน็ ความสำคญั ธรรม 6 อธปิ ไตย 3 มจิ ฉาวณิชชา 5 อรยิ วัฑฆิ 5 ของการทำความดี ต่อกนั โภคอาทิยะ 5 ➢คริสต์ศาสนา ไดแ้ ก่ บญั ญัติ 10 ประการ (เฉพาะท่ีเก่ยี วข้อง) ศาสนาอิสลาม ได้แก่ หลกั จรยิ ธรรม (เฉพาะท่ี เกย่ี วขอ้ ง) 22. เสนอแนวทางการจดั กิจกรรม ความ ➢สภาพปญั หาในชมุ ชน และสงั คม ร่วมมอื ของทุกศาสนาในการแก้ปัญหาและ พัฒนาสงั คม

หลักสตู รสังมศึกษา 2563 โรงเรยี นทบั โพธิพ์ ัฒนวทิ ย์ 189 สาระที่ 1 ศาสนา ศลี ธรรม จริยธรรม มาตรฐาน ส 1.2 เข้าใจ ตระหนักและปฏบิ ตั ติ นเปน็ ศาสนิกชนท่ีดี และธำรงรกั ษาพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาทีต่ นนบั ถือ ชัน้ ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ม.1 1. บำเพ็ญประโยชนต์ อ่ ศาสนสถานของศาสนา ➢การบำเพ็ญประโยชน์และ การ ทตี่ นนับถือ บำรุงรกั ษาวดั 2. อธบิ ายจรยิ วตั รของสาวกเพือ่ เป็นแบบอย่าง ➢วิถชี วี ติ ของพระภกิ ษุ ในการประพฤตปิ ฏบิ ัติ และปฏบิ ตั ติ นอยา่ ง ➢บทบาทของพระภิกษใุ นการเผยแผ่ เหมาะสมต่อสาวกของศาสนาที่ตนนบั ถือ พระพทุ ธศาสนา เช่น การแสดงธรรม ปาฐกถา ธรรม การประพฤตติ นให้เป็นแบบอย่าง ➢การเขา้ พบพระภกิ ษุ การแสดงความเคารพ การประนมมือ การไหว้ การกราบ การเคารพ พระรัตนตรยั การฟังเจริญ พระพุทธมนต์ การฟงั สวด พระ อภิธรรม การฟงั พระธรรมเทศนา 3. ปฏบิ ัตติ นอยา่ งเหมาะสมตอ่ บุคคลตา่ งๆ ➢ปฏบิ ตั ิตนอย่างเหมาะสมต่อเพื่อนตามหลัก ตามหลักศาสนาทีต่ นนบั ถือ ตามทกี่ ำหนด พระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนบั ถือ 4. จัดพธิ ีกรรม และปฏิบัตติ นใน ศาสนพิธี ➢การจัดโต๊ะหมบู่ ชู า แบบ หมู่4 หมู่ 5 หมู่ 7 หมู่9 พิธีกรรมไดถ้ กู ต้อง ➢การจดุ ธูปเทยี น การจดั เคร่อื งประกอบโต๊ะหมู่ บูชา ➢คำอาราธนาต่างๆ 5. อธบิ ายประวัติ ความสำคัญ และ ปฏิบัติตน ➢ประวัติและความสำคัญของวันธรรมสวนะ วัน เขา้ พรรษา วนั ออกพรรษา วันเทโวโรหณะ ในวนั สำคัญทางศาสนา ท่ตี นนบั ถือ ระเบียบพิธี พธิ เี วยี นเทียน การปฏบิ ตั ิตนในวนั มาฆบูชา วันวสิ าขบชู า วนั อฏั ฐมีบชู า วนั ตามทก่ี ำหนด ได้ถูกต้อง อาสาฬหบูชา วันธรรมสวนะและเทศกาลสำคัญ

หลกั สตู รสงั มศกึ ษา 2563 โรงเรยี นทับโพธ์ิพฒั นวิทย์ 190 ช้ัน ตัวช้ีวดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.2 1. ปฏิบัติตนอยา่ งเหมาะสมต่อบุคคล ต่าง ๆ ➢การเปน็ ลกู ท่ดี ี ตามหลกั ทิศเบ้อื งหนา้ ในทิศ 6 ตามหลกั ศาสนาท่ีตนนับถือ ตามทก่ี ำหนด 2. มีมรรยาทของความเปน็ ศาสนกิ ชนทด่ี ี ➢การตอ้ นรบั (ปฏสิ ันถาร) ตามทีก่ ำหนด ➢มรรยาทของผเู้ ปน็ แขก ➢ฝกึ ปฏิบัติระเบยี บพิธี ปฏบิ ตั ิตอ่ พระภิกษุ การ ยนื การให้ท่นี ั่ง การเดนิ สวน การ สนทนา การรับสิ่งของ ➢การแตง่ กายไปวัด การแต่งกายไปงานมงคล งานอวมงคล 3. วิเคราะห์คณุ คา่ ของศาสนพธิ ี และปฏิบตั ติ น ➢การทำบุญตักบาตร ได้ถูกต้อง ➢การถวายภตั ตาหารสง่ิ ของทีค่ วรถวายและ สงิ่ ของต้องหา้ มสำหรบั พระภกิ ษุ ➢การถวายสงั ฆทาน เครอ่ื งสังฆทาน ➢การถวายผ้าอาบน้ำฝน ➢การจดั เคร่ืองไทยธรรม เครือ่ งไทยทาน ➢การกรวดน้ำ การทอดกฐนิ การทอดผ้าป่า 4. อธิบายคำสอนที่เก่ียวเนอ่ื งกับวันสำคัญทาง ➢หลักธรรมเบือ้ งต้นที่เก่ยี วเน่ืองใน วนั มาฆบชู า ศาสนา และปฏิบตั ติ นได้ถูกต้อง วนั วิสาขบูชา วนั อฏั ฐมีบูชา วันอาสาฬหบูชา ➢วันธรรมสวนะและเทศกาลสำคัญ 5. อธบิ ายความแตกตา่ งของศาสนพิธี พิธีกรรม ตาม แนวปฏิบัติของศาสนาอ่ืน ๆ ระเบยี บพธิ ีและการปฏิบัตติ นในวนั ธรรมสวนะ เพื่อนำไปสกู่ ารยอมรับ และความเขา้ ใจซึง่ กนั และกัน วันเขา้ พรรษา วนั ออกพรรษา วันเทโวโรหณะ ➢ ศาสนพิธี/พิธกี รรม แนวปฏิบตั ขิ องศาสนาอ่ืน ๆ

หลกั สตู รสงั มศึกษา 2563 โรงเรียนทบั โพธพิ์ ัฒนวทิ ย์ 191 ชัน้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.3 1. วิเคราะหห์ นา้ ทีแ่ ละบทบาทของสาวก และ ➢หนา้ ท่ีของพระภกิ ษุในการปฏิบตั ิ ตามหลัก ปฏิบตั ติ นตอ่ สาวก ตามทกี่ ำหนดไดถ้ ูกตอ้ ง พระธรรมวินยั และจริยวัตรอย่างเหมาะสม ➢การปฏิบัติตนต่อพระภิกษุในงาน ศาสนพิธี ทีบ่ า้ น การสนทนา การแตง่ กาย มรรยาทการพูด กบั พระภกิ ษตุ ามฐานะ 2. ปฏบิ ัติตนอยา่ งเหมาะสมต่อบคุ คล ต่าง ๆ ➢การเป็นศษิ ย์ท่ีดี ตามหลักทิศเบือ้ งขวา ในทิศ 6 ตามหลักศาสนา ตามที่กำหนด ของพระพทุ ธศาสนา 3. ปฏิบัติหนา้ ทีข่ องศาสนิกชนทีด่ ี ➢การปฏบิ ัติหนา้ ท่ีชาวพุทธตามพุทธปณธิ าน 4 4. ปฏิบัติตนในศาสนพธิ พี ิธกี รรมได้ถูกต้อง ในมหาปรินิพพานสตู ร 5. อธบิ ายประวัตวิ ันสำคัญทางศาสนาตามท่ี ➢พธิ ที ำบญุ งานมงคล งานอวมงคล กำหนดและปฏบิ ัติตนได้ถกู ต้อง ➢การนิมนต์พระภิกษุ การเตรียมท่ีตั้งพระพุทธรูป 6. แสดงตนเป็นพุทธมามกะ หรือแสดงตน เป็นศาสนิกชนของศาสนาที่ตนนบั ถือ และเคร่ืองบชู า การวงด้ายสายสิญจน์ การปลู าด อาสนะ การเตรียมเคร่อื งรับรอง การจดุ ธปู เทียน ➢ข้อปฏิบัติในวันเลย้ี งพระ การถวายข้าวพระ พทุ ธ การถวายไทยธรรม การ กรวดนำ้ ➢ประวัติวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาใน ประเทศไทย วันวิสาขบชู า (วันสำคัญสากล) วนั ธรรมสวนะและเทศกาลสำคญั ➢หลักปฏบิ ัตติ น : การฟงั พระธรรมเทศนา การ แต่งกายในการประกอบ ศาสนพิธที ่ีวดั การงด เว้นอบายมุข ➢การประพฤติปฏบิ ตั ิในวนั ธรรมสวนะและ เทศกาลสำคัญ ➢การแสดงตนเปน็ พุทธมามกะ ขนั้ เตรยี มการ ขั้นพิธีการ

หลักสตู รสังมศึกษา 2563 โรงเรยี นทบั โพธพิ์ ัฒนวิทย์ 192 7. นำเสนอแนวทางในการธำรงรกั ษาศาสนาท่ี ➢การศึกษาเรียนรู้เรอ่ื งองค์ประกอบของ ตนนับถือ พระพทุ ธศาสนา นำไปปฏิบัติและเผยแผต่ าม โอกาส ➢การศึกษาการรวมตวั ขององคก์ รชาวพุทธ ➢การปลูกจติ สำนึกในด้านการบำรุงรักษาวดั และ พุทธสถานใหเ้ กดิ ประโยชน์ ม.4-6 1. ปฏบิ ัติตนเปน็ ศาสนิกชนที่ดีตอ่ สาวก ➢ปฏบิ ตั ิตนเป็นชาวพุทธทีด่ ีต่อพระภกิ ษุ สมาชิกในครอบครัว และคนรอบข้าง การเข้าใจในกจิ ของพระภิกษุ เช่น การศกึ ษา การปฏบิ ตั ธิ รรม และการเปน็ นักบวชทด่ี ี  คุณสมบัติทายกและปฏิคาหก  หนา้ ท่ีและบทบาทของพระภกิ ษุ ในฐานะ พระนักเทศก์ พระธรรมทูต พระธรรมจารกิ พระ วทิ ยากร พระวปิ ัสสนาจารย์ และพระนกั พฒั นา  การปกป้องคุ้มครอง พระพุทธศาสนา ของพทุ ธบริษัทในสังคมไทย  การปฏบิ ตั ิตนต่อพระภิกษุทางกาย วาจา และใจ ท่ีประกอบดว้ ยเมตตา  การปฏสิ ันถารท่ีเหมาะสมต่อพระภิกษุ ในโอกาสต่าง ๆ ➢ปฏิบัตติ นเป็นสมาชกิ ทด่ี ีของครอบครัวและ สงั คม  การรักษาศลี 8 การเขา้ รว่ มกิจกรรมและเป็นสมาชิกของ องคก์ รชาวพุทธ การเป็นชาวพุทธท่ดี ี ตามหลกั ทิศเบ้ืองบน ในทศิ 6  การปฏบิ ตั ติ นทเี่ หมาะสมในฐานะ ผู้ปกครองและ ผูอ้ ยู่ในปกครอง ตามหลักทิศเบ้ือง ล่าง ในทิศ 6 การปฏสิ นั ถารตามหลกั ปฏิสนั ถาร 2  หนา้ ทแ่ี ละบทบาทของอุบาสก อุบาสิกา ทีม่ ตี ่อสังคมไทยในปัจจุบนั

หลกั สตู รสงั มศึกษา 2563 โรงเรยี นทับโพธพ์ิ ัฒนวทิ ย์ 193 2. ปฏบิ ัติตนถกู ต้องตามศาสนพธิ พี ิธีกรรมตาม  การปฏิบัตติ นเปน็ สมาชกิ ทดี่ ขี อง หลักศาสนาทีต่ นนบั ถอื ครอบครวั ตามหลักทศิ เบอ้ื งหลังในทศิ 6 ➢ประเภทของศาสนพิธใี นพระพุทธศาสนา 3. แสดงตนเป็นพทุ ธมามกะหรอื แสดงตน เปน็ ศาสนิกชนของศาสนาท่ีตนนบั ถอื  ศาสนพิธีเน่ืองดว้ ยพุทธบัญญัติ เช่น พิธี 4. วิเคราะห์หลักธรรม คติธรรมท่ีเกี่ยวเนือ่ ง แสดงตนเปน็ พุทธมามกะ พิธีเวยี นเทียน ถวาย กบั วันสำคัญทางศาสนา และเทศกาลท่สี ำคัญ สังฆทาน ถวายผ้าอาบน้ำฝน พธิ ที อดกฐิน พธิ ี ของศาสนาทต่ี นนับถอื และปฏบิ ัติตนได้ ปวารณา เป็นต้น ถูกต้อง  ศาสนพธิ ีท่ีนำพระพุทธศาสนา เขา้ ไป 5. สัมมนาและเสนอแนะแนวทางในการธำรง เก่ยี วเนอ่ื ง เชน่ การทำบญุ เลี้ยงพระในโอกาสต่างๆ รักษาศาสนาท่ีตนนบั ถือ อันส่งผลถงึ การ ➢ความหมาย ความสำคญั คตธิ รรม ใน พฒั นาตน พัฒนาชาติและโลก พิธีกรรม บทสวดมนต์ของนักเรยี น งานพิธี คณุ ค่า และประโยชน์ ➢พธิ บี รรพชาอปุ สมบท คณุ สมบตั ขิ องผูข้ อ บรรพชาอุปสมบท เคร่อื ง อัฏฐบริขาร ประโยชนข์ องการ บรรพชาอุปสมบท ➢บญุ พิธี ทานพธิ ี กุศลพธิ ี ➢คุณค่าและประโยชนข์ องศาสนพิธี ➢การแสดงตนเป็นพุทธมามกะ  ขัน้ เตรียมการ ข้ันพธิ ีการ ➢หลักธรรม/คติธรรมที่เกย่ี วเน่ืองกับ วนั สำคัญ และเทศกาลทส่ี ำคญั ในพระพทุ ธศาสนาหรือ ศาสนาอ่นื ➢การปฏบิ ตั ิตนทถี่ ูกต้องในวันสำคัญ และเทศกาลที่สำคัญในพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาอน่ื ➢การปกป้อง ค้มุ ครอง ธำรงรักษา พระพุทธศาสนาของพทุ ธบริษัทในสงั คมไทย ➢การปลูกจิตสำนึก และการมีสว่ นรว่ มในสงั คม พุทธ

หลกั สตู รสงั มศกึ ษา 2563 โรงเรียนทับโพธพิ์ ัฒนวทิ ย์ 194 สาระที่ 2 หน้าทพี่ ลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนนิ ชวี ิตในสงั คม มาตรฐาน ส 2.1 เขา้ ใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเปน็ พลเมืองดี มีค่านิยมทีด่ ีงามและธำรงรกั ษา ประเพณแี ละวฒั นธรรมไทย ดำรงชวี ิตอยรู่ ว่ มกนั ในสังคมไทยและสังคมโลกอยา่ งสนั ตสิ ุข ชัน้ ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ม.1 1. ปฏิบัตติ ามกฎหมายในการคุ้มครองสิทธิ ➢ กฎหมายในการคุ้มครองสิทธิของบุคคล  กฎหมายการค้มุ ครองเด็ก ของบุคคล กฎหมายการศึกษา กฎหมายการคุ้มครองผบู้ ริโภค กฎหมายลขิ สิทธิ์ ➢ ประโยชนข์ องการปฏบิ ัติตนตามกฎหมายการ คมุ้ ครองสทิ ธขิ องบคุ คล 2. ระบุบความสามารถของตนเอง ➢ บทบาทและหน้าทข่ี องเยาวชนทีม่ ีตอ่ สงั คมและ ในการทำประโยชน์ตอ่ สงั คมและ ประเทศชาติ โดยเนน้ จติ สาธารณะ เชน่ เคารพ ประเทศชาติ กตกิ าสังคม ปฏิบัติตนตามกฎหมาย มสี ่วนรว่ มและรับผิดชอบ 3. อภิปรายเก่ยี วกบั คุณค่าทางวัฒนธรรมท่ี ในกิจกรรมทางสังคม อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เป็นปจั จยั ในการสร้างความสมั พนั ธ์ท่ีดีหรือ รักษาสาธารณประโยชน์ อาจนำไปสู่ความเขา้ ใจผดิ ต่อกัน ➢ ความคล้ายคลึงและความแตกต่างระหวา่ ง 4. แสดงออกถงึ การเคารพในสิทธิของ วฒั นธรรมไทยกับวฒั นธรรมของประเทศใน ตนเองและผอู้ น่ื ภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออก เฉยี งใต้ ➢ วัฒนธรรมท่ีเป็นปัจจยั ในการสรา้ ง ความสัมพันธท์ ดี่ ี หรืออาจนำไปสู่ความเข้าใจผดิ ต่อ กัน ➢วธิ ีปฏบิ ตั ิตนในการเคารพในสทิ ธขิ องตนเอง และผูอ้ ื่น ➢ผลท่ีได้จากการเคารพในสิทธิของตนเองและ ผู้อื่น

หลกั สตู รสังมศึกษา 2563 โรงเรียนทับโพธิพ์ ฒั นวิทย์ 195 ชนั้ ตวั ชวี้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ม.2 1. อธบิ ายและปฏิบัติตนตามกฎหมายที่ ➢กฎหมายทเ่ี กย่ี วข้องกับตนเอง ครอบครวั เช่น เกยี่ วข้องกบั ตนเอง ครอบครวั ชมุ ชนและ กฎหมายเกยี่ วกับความสามารถของผ้เู ยาว์ ประเทศ กฎหมายบตั รประจำตวั ประชาชน กฎหมายเพง่ เก่ยี วกบั ครอบครัวและมรดก เชน่ การหม้นั การสมรส การรับรองบุตร การรับบุตรบุญธรรม และมรดก ➢กฎหมายท่ีเก่ยี วกับชุมชนและประเทศ กฎหมายเกยี่ วกบั การอนุรักษ์ธรรมชาติและ สิง่ แวดล้อม กฎหมายเก่ยี วกบั ภาษีอากร และกรอกแบบ แสดงรายการ ภาษเี งนิ ได้บุคคลธรรมดา กฎหมายแรงงาน 2. เหน็ คุณค่าในการปฏิบัตติ นตามสถานภาพ ➢สถานภาพ บทบาท สทิ ธิ เสรีภาพ หนา้ ทใ่ี น บทบาท สทิ ธิ เสรีภาพ หนา้ ท่ีในฐานะ ฐานะพลเมืองดีตามวถิ ปี ระชาธิปไตย พลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ➢ แนวทางสง่ เสริมให้ปฏิบัติตนเปน็ พลเมืองดี ตามวถิ ีประชาธิปไตย 3. วิเคราะห์บทบาท ความสำคญั และ ➢บทบาท ความสำคัญและความสมั พนั ธ์ของ ความสมั พนั ธ์ของสถาบันทางสังคม สถาบันทางสังคม เช่น สถาบันครอบครวั สถาบนั การศึกษา สถาบนั ศาสนา สถาบันเศรษฐกจิ สถาบนั ทางการเมอื งการปกครอง 4.อธิบายความคล้ายคลงึ และความแตกต่าง ➢ความคลา้ ยคลึงและความแตกต่างของ ของวัฒนธรรมไทย และวฒั นธรรมของ วฒั นธรรมไทย และวฒั นธรรมของประเทศใน ประเทศในภูมิภาคเอเชีย เพ่ือนำไปสู่ความ ภมู ิภาคเอเชยี วัฒนธรรม เปน็ ปจั จยั สำคญั เข้าใจอันดีระหว่างกนั ในการสร้างความเขา้ ใจอนั ดีระหวา่ งกัน

หลกั สตู รสงั มศึกษา 2563 โรงเรียนทับโพธิ์พัฒนวทิ ย์ 196 ชน้ั ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.3 1. อธิบายความแตกตา่ งของการกระทำ ➢ ลักษณะการกระทำความผิดทางอาญา และ ความผิดระหวา่ งคดอี าญาและคดีแพ่ง โทษ ➢ลกั ษณะการกระทำความผิดทางแพง่ และโทษ ➢ตวั อย่างการกระทำความผิดทางอาญา เช่น ความผิดเกย่ี วกับทรพั ย์ ➢ตัวอย่างการทำความผดิ ทางแพง่ เช่น การทำ ผดิ สญั ญา การทำละเมิด 2. มีส่วนร่วมในการปกป้องคุ้มครองผู้อ่นื ตาม ➢ ความหมาย และความสำคัญของสิทธมิ นษุ ยชน หลกั สิทธิมนุษยชน ➢ การมสี ว่ นร่วมคุม้ ครองสทิ ธิมนษุ ยชนตาม รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทยตามวาระและ โอกาสท่เี หมาะสม 3. อนุรกั ษ์วัฒนธรรมไทยและเลอื กรับ ➢ ความสำคญั ของวัฒนธรรมไทย วัฒนธรรมสากลทเี่ หมาะสม ภูมปิ ัญญาไทยและวัฒนธรรมสากล ➢การอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมไทยและ ภมู ิ ปญั ญาไทยทเ่ี หมาะสม ➢การเลอื กรบั วัฒนธรรมสากลทีเ่ หมาะสม 4. วิเคราะหป์ จั จยั ทกี่ ่อให้เกดิ ปัญหาความ ➢ ปจั จยั ท่กี ่อใหเ้ กดิ ความขัดแยง้ เชน่ การเมือง ขัดแย้งในประเทศ และเสนอแนวคดิ ในการ การปกครอง เศรษฐกจิ ลดความขัดแยง้ สังคม ความเชอื่ ➢ สาเหตปุ ญั หาทางสงั คม เช่น ปัญหาสงิ่ แวดล้อม ปัญหายาเสพติด ปญั หา การทุจรติ ปญั หาอาชญากรรม ฯลฯ ➢ แนวทางความร่วมมือในการลดความขัดแย้ง และการสรา้ งความสมานฉันท์ 5. เสนอแนวคดิ ในการดำรงชีวิตอยา่ งมี ➢ ปัจจยั ท่สี ง่ เสรมิ การดำรงชีวติ ให้มคี วามสขุ ความสุขในประเทศและสงั คมโลก เชน่ การอยูร่ ว่ มกนั อย่างมี ขันตธิ รรม หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เหน็ คณุ ค่าในตนเอง รุจ้ กั มองโลกในแงด่ ี สร้างทกั ษะ ทางอารมณ์ รู้จักบริโภคด้วยปัญญา เลือกรบั - ปฏิเสธข่าวและวัตถุต่างๆ ปรบั ปรุงตนเองและสิง่ ตา่ งๆใหด้ ีขึ้นอยู่เสมอ

หลกั สตู รสงั มศกึ ษา 2563 โรงเรียนทับโพธพิ์ ฒั นวทิ ย์ 197 ชน้ั ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.4-ม.6 1. วเิ คราะหแ์ ละปฏิบัติตนตามกฎหมายที่ ➢ กฎหมายเพ่งเกีย่ วกบั นติ ิกรรมสญั ญา เช่น ซอ้ื ขาย ขายฝาก เชา่ ทรพั ย์ เช่าซือ้ กยู้ ืมเงนิ เกยี่ วข้องกับตนเอง ครอบครัว ชุมชน จำนำ จำนอง ประเทศชาติ และสงั คมโลก ➢ กฎหมายอาญา เชน่ ความผดิ เกยี่ วกบั ทรัพย์ ความผดิ เกยี่ วกบั ชีวิตและรา่ งกาย 2. วิเคราะหค์ วามสำคัญของโครงสรา้ งทาง ➢ กฎหมายอน่ื ที่สำคญั เช่น รัฐธรรมนูญแห่ง สังคม การขัดเกลาทางสงั คม และ การ ราชอาณาจักรไทยฉบบั ปจั จบุ ัน กฎหมายการรับ เปล่ยี นแปลงทางสงั คม ราชการทหาร กฎหมายภาษีอากร กฎหมาย คุ้มครองผู้บริโภค 3. ปฏบิ ตั ิตนและมสี ่วนสนบั สนนุ ใหผ้ ูอ้ น่ื ➢ ข้อตกลงระหวา่ งประเทศ เชน่ ปฏิญญาสากล ประพฤติปฏิบตั ิเพื่อเปน็ พลเมืองดีของ ประเทศชาติ และสังคมโลก วา่ ด้วยสทิ ธมิ นษุ ยชน กฎหมาย มนุษยธรรมระหว่างประเทศ ➢โครงสรา้ งทางสังคม -การจัดระเบียบทางสังคม -สถาบันทางสงั คม ➢ การขดั เกลาทางสงั คม ➢การเปล่ียนแปลงทางสงั คม ➢ การแก้ปญั หาและแนวทางการพัฒนาทางสังคม ➢คุณลกั ษณะพลเมืองดีของประเทศชาติ และ สังคมโลก เช่น - เคารพกฎหมาย และกติกาสงั คม - เคารพสทิ ธิ เสรภี าพของตนเองและบุคคลอนื่ - มเี หตุผล รบั ฟงั ความคิดเห็นของผู้อน่ื มคี วามรับผดิ ชอบต่อตนเอง สังคม ชุมชน ประเทศชาติและสงั คม - เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางการเมืองการปกครอง - มีส่วนร่วมในการป้องกนั แกไ้ ขปัญหาเศรษฐกิจ สงั คมการเมอื งการปกครองส่ิงแวดล้อม - มีคุณธรรมจรยิ ธรรม ใช้เปน็ ตวั กำหนด ความคิด

หลกั สตู รสังมศึกษา 2563 โรงเรยี นทับโพธพิ์ ฒั นวทิ ย์ 198 ชั้น ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 4. ประเมนิ สถานการณ์สทิ ธมิ นุษยชนใน ➢ความหมาย ความสำคัญ แนวคิดและหลักการ ประเทศไทย และเสนอแนวทางพัฒนา ของสิทธิมนุษยชน ➢บทบาทขององค์กรระหว่างประเทศ ในเวทีโลกท่มี ีผลตอ่ ประทศไทย ➢สาระสำคัญของปฏญิ ญาสากลว่าด้วยสิทธิ มนุษยชน ➢บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับปจั จบุ นั เกี่ยวกบั สทิ ธิ มนษุ ยชน ปญั หาสทิ ธิมนษุ ยชนในประเทศ และแนวทาง แกป้ ัญหาและพัฒนา 5. วเิ คราะหค์ วามจำเปน็ ทตี่ อ้ งมกี ารปรับปรงุ ➢ ความหมายและความสำคญั ของวฒั นธรรม เปลย่ี นแปลงและอนุรกั ษ์วฒั นธรรมไทยและ ➢ลักษณะและ ความสำคญั ของวัฒนธรรมไทยท่ี เลอื กรบั วัฒนธรรมสากล สำคัญ ➢การปรับปรงุ เปลยี่ นแปลงและอนุรกั ษว์ ัฒนธรรม ไทย ➢ความแตกต่างระหวา่ งวัฒนธรรมไทยกับวัฒนธรรม สากล ➢แนวทางการอนุรักษว์ ัฒนธรรมไทยที่ดีงาม ➢วิธีการเลือกรบั วฒั นธรรมสากล

หลักสตู รสงั มศกึ ษา 2563 โรงเรยี นทบั โพธ์ิพัฒนวทิ ย์ 199 สาระที่ 2 หน้าท่ีพลเมอื ง วฒั นธรรม และการดำเนินชีวติ ในสังคม มาตรฐาน ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน ยึดม่นั ศรัทธาและธำรงรกั ษา ไวซ้ งึ่ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมุข ชนั้ ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ม.1 1. อธิบายหลกั การ เจตนารมณ์ โครงสร้าง ➢หลักการ เจตนารมณ์ โครงสร้าง และ และสาระสำคัญของรัฐธรรมนญู แห่ง สาระสำคัญของรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย ราชอาณาจักรไทย ฉบับปัจจบุ นั ฉบบั ปจั จุบัน โดยสังเขป 2. วิเคราะหบ์ ทบาทการถ่วงดลุ ของอำนาจ ➢การแบง่ อำนาจ และการถ่วงดลุ อำนาจอธิปไตย อธปิ ไตยในรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั ร ทงั้ 3 ฝา่ ย คือนติ บิ ัญญัติ บริหาร ตุลาการ ตามท่ี ไทย ฉบบั ปัจจุบัน ระบุในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบบั ปจั จุบัน 3. ปฏบิ ัตติ นตามบทบัญญตั ิของรฐั ธรรมนญู ➢การปฏบิ ัตติ นตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แหง่ ราชอาณาจักรไทย ฉบับปจั จุบันที่ แห่งราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจบุ ัน เกีย่ วกบั สิทธิ เก่ียวขอ้ งกับตนเอง เสรภี าพและหนา้ ท่ี ม.2 1. อธบิ ายกระบวนการในการตรากฎหมาย ➢กระบวนการในการตรากฎหมาย  ผมู้ ีสิทธิเสนอร่างกฎหมาย  ขนั้ ตอนการตรากฎหมาย  การมสี ่วนร่วมของประชาชนใน กระบวนการตรากฎหมาย 2. วเิ คราะหข์ ้อมูล ข่าวสารทางการเมืองการ ➢ เหตกุ ารณ์ และการเปลยี่ นแปลงสำคญั ของ ปกครองท่มี ีผลกระทบต่อสังคมไทยสมัย ระบอบการปกครองของไทย ปัจจบุ นั ➢ หลักการเลอื กขอ้ มูล ขา่ วสาร ม.3 1. อธิบายระบอบการปกครองแบบต่างๆ ท่ี ➢ ระบอบการปกครอง แบบตา่ งๆ ทใ่ี ช้ในยคุ ใช้ในยุคปัจจุบนั ปจั จบุ นั เชน่ การปกครองแบบ ➢ เผดจ็ การ การปกครองแบบประชาธิปไตย เกณฑ์การตัดสินใจ 2. วิเคราะห์ เปรียบเทยี บระบอบการ ➢ ความแตกตา่ ง ความคลา้ ยคลึงของการ ปกครองของไทยกบั ประเทศอ่ืนๆ ทีม่ กี าร ปกครองของไทย กับประเทศอื่นๆ ทมี่ ี ปกครองระบอบประชาธิปไตย การปกครองระบอบประชาธิปไตย

หลกั สตู รสงั มศึกษา 2563 โรงเรียนทบั โพธพ์ิ ัฒนวทิ ย์ 200 ชั้น ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง 3. วเิ คราะหร์ ฐั ธรรมนญู ฉบับปจั จบุ นั ใน ➢ บทบญั ญัตขิ องรัฐธรรมนูญในมาตราตา่ งๆ ท่ี มาตราต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลอื กต้ัง เก่ยี วขอ้ งกบั การเลือกตงั้ การมีส่วนรว่ ม และการ การมีสว่ นรว่ ม และการตรวจสอบการใช้ ตรวจสอบการใชอ้ ำนาจรฐั อำนาจรฐั ➢ อำนาจหน้าท่ขี องรฐั บาล ➢ บทบาทสำคญั ของรัฐบาลในการบริหารราชการ แผน่ ดนิ ➢ ความจำเปน็ ในการมรี ัฐบาลตามระบอบ ประชาธิปไตย 4. วเิ คราะห์ประเดน็ ปญั หาที่เป็นอุปสรรค ➢ ประเดน็ ปัญหาและผลกระทบทเี่ ปน็ อุปสรรคต่อ ตอ่ การพฒั นาประชาธิปไตยของประเทศ การพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศไทย ไทยและเสนอแนวทางแก้ไข ➢ แนวทางการแก้ไขปญั หา ม.4-6 1. วเิ คราะห์ปญั หาการเมืองที่สำคัญใน ➢ ปญั หาการเมืองสำคัญที่เกิดข้ึนภายในประเทศ ประเทศ จากแหล่งข้อมูลต่างๆ พร้อมท้ัง เสนอแนวทางแกไ้ ข ➢ สถานการณก์ ารเมืองการปกครอง 2. เสนอแนวทาง ทางการเมืองการ ของสงั คมไทย และสังคมโลก และ การ ปกครองทีน่ ำไปส่คู วามเข้าใจ และ การประสานประโยชนร์ ว่ มกนั ระหว่าง ประสานประโยชน์รว่ มกัน ประเทศ ➢ อทิ ธิพลของระบบการเมอื งการปกครอง ทมี่ ผี ลตอ่ การดำเนนิ ชีวิตและความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง ประเทศ ➢ การประสานประโยชนร์ ว่ มกันระหวา่ งประเทศ เชน่ การสรา้ งความสมั พันธ์ระหว่างไทยกับประเทศ ตา่ ง ๆ ➢การแลกเปลีย่ นเพอื่ ชว่ ยเหลอื และสง่ เสรมิ ด้าน วฒั นธรรม การศึกษา เศรษฐกจิ สงั คม 3. วเิ คราะห์ความสำคัญและ ความจำเป็น ➢ การปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตยอนั มี ที่ตอ้ งธำรงรักษาไวซ้ งึ่ การปกครองตามระบอบ พระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมุข ประชาธปิ ไตย อนั มีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็  รปู แบบของรฐั ประมุข  ฐานะและพระราชอำนาจของ พระมหากษัตรยิ ์ 4. เสนอแนวทางและมีส่วนร่วมในการ ➢ การตรวจสอบการใช้อำนาจรฐั ตามรฐั ธรรมนูญ ตรวจสอบการใชอ้ ำนาจรัฐ แหง่ ราชอาณาจักรไทย ฉบับปัจจุบัน ท่มี ีผลตอ่ การ เปล่ยี นแปลงทางสังคม เชน่ การตรวจสอบโดย องค์กรอสิ ระ การตรวจสอบโดยประชาชน