หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรียนทบั โพธพ์ิ ฒั นวิทย์ พ.ศ.2563 1 คำนำ กลมุ่ สาระการเรียนรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ได้จัดทาหลักสตู รกล่มุ สาระการเรียนรูส้ งั คม ศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ฉบับนี้ ซ่ึงเปน็ เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนทบั โพธ์ิพฒั นวทิ ย์ พทุ ธศกั ราช 2563 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทรศักราช 2551 เพอ่ื เปน็ เปา้ หมายในการ พัฒนาคณุ ภาพผเู้ รยี น และกระบวนการจัดการเรียนรู้ เพ่ือเปน็ กรอบและทิศทางในการจัดการเรยี นการสอน ให้ตรงตามมาตฐานตัวข้วี ัดและสาระการเรียนร้ขู องกลุม่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศสนาและวฒั นธรรมโดย พจิ ารณาตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน 2551 (ฉบับปรับปรงุ พุทรศักราช 2560) หลักสตู ร สถานศกึ ษาโรงเรยี นทบั โพธพ์ิ ัฒนวิทย์ พทุ รศักราช 2563 ซึง่ มอี งค์ประกอบดังน้ี - วสิ ยั ทัศน์ หลักการ จตหมาย - สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น - คณุ สกั ษณะอันพึงประสงศ์ - สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ - คณุ ภาพผู้เรียน - ตัวชีว้ ดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลาง - รายวชิ าท่ีเปิด - คาอธบิ ายรายวิชาและโครงสรง้ รายวชิ าพ้นื ฐาน - สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ - การวตั และประเม่ืนผลการเรยี นรู้ คณะผจู้ ดั ทาขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาและจัดทาหลักสูตรกลุม่ สาระการเรยี นรสู้ งั คม ศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ฉบับน้ี จนสาเรจ็ ลลุ ว่ งเปน็ อยา่ งดี และหวังเปน็ อยา่ งย่งิ ว่าจะเกิดประโยชน์ตอ่ การ จัดการเรยี นรใู้ ห้กบั ผู้เรยี นต่อไป
หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรียนทับโพธิ์พฒั นวิทย์ พ.ศ.2563 2 สำรบญั 1 2 คานา 3 สารบัญ 3 วสิ ัยทศั น์ 3 หลกั การ 4 จดุ หมาย 4 ทาไต้องเรยี นสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม 5 เรียนรูอ้ ะไรในสงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม 6 สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ 6 คุณภาพผ้เู รียน 6 สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 10 คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 16 โครงสรา้ งหลกั สูตรรายวชิ าทีเ่ ปิดสอน 30 คาอธบิ ายรายวชิ าพ้นื ฐานมัธยมศกึ ษาตอนต้น 46 คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติมมัธยมศึกษาตอนตน้ 70 โครงสร้างรายวชิ าพ้ืนฐานมธั ยมศกึ ษาตอนต้น 89 โครงสร้างรายวิชาเพ่มิ เตมิ มธั ยมศกึ ษาตอนต้น 101 คาอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐานมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 118 คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเติมมัธยมศกึ ษาตอนปลาย 139 โครงสร้างรายวิชาพ้นื ฐานมธั ยมศึกษาตอนปลาย 159 โครงสร้างรายวชิ าเพ่ิมเตมิ มัธยมศึกษาตอนปลาย 161 กาหนดสดั สว่ นคะแนนวดั และประเมนิ ผลรายวิชา 166 การวัดและประเงนิ ผลการเรียนรู้ 168 ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ 169 ทักษะและกระบวนการการเรียนรู้ 170 ภำคผนวก 214 ตัวช้ีวตั และสาระการเรยี นรู้แกนกลาง 238 อภิธานศพั ท์ คณะผูจ้ ัดทา
หลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรียนทบั โพธ์ิพัฒนวิทย์ พ.ศ.2563 3 กลุ่มสำระเรยี นร้สู ังคมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม วิสยั ทศั น์ สง่ เสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นมีคุณธรรมนาความรู้ สามารถอยู่ร่วมกันในสงั คมไทย และสงั คมโลกอยา่ งสนั ตสิ ุข การเป็น พลเมอื งดี ศรัทธาในหลกั ธรรมของศาสนา การเหน็ คณุ ค่าของทรพั ยากร และส่งิ แวดล้อม ความรักชาติ และภูมใิ จในความเป็นไทย หลกั กำร กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม มหี ลกั การท่สี าคญั ดงั น้ี 1. เป็นหลักสตู รกลมุ่ สาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เพือ่ ความเป็นเอกภาพของชาติ มจี ุดหมายและ มาตรฐานการเรยี นรู้ เป็นเป้าหมายสาหรับพฒั นาเด็กและเยาวชนใหม้ คี วามรู้ ทกั ษะ เจตคติ และคุณธรรมบน พน้ื ฐานของความเปน็ ไทยควบคกู่ บั เปน็ สากล 2. เปน็ หลกั สตู รการศกึ ษากลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรมเพื่อปวงชนท่ีประชาชนทุก คนมีโอกาสไดร้ บั การศึกษาอย่างเสมอภาคและมีคุณภาพ 3. เป็นหลักสูตรการศึกษากลุ่มสาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรมทสี่ นองการกระจายอานาจ ใหส้ งั คมมสี ่วนรว่ มในการจดั การศึกษาให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของทอ้ งถ่ิน 4. เปน็ หลกั สูตรการศกึ ษากลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมที่มีโครงสรา้ งยดื หยุน่ ทั้ง ด้านสาระการเรยี นรู้ เวลาและการจัดการเรยี นรู้ 5. เปน็ หลักสูตรการศกึ ษากลุ่มสาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมทเ่ี นน้ ผูเ้ รยี นเป็นสาคญั 6. เป็นหลกั สูตรการศึกษากลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาหรบั การศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอธั ยาศยั ครอบคลุมทกุ กลุ่มเปา้ หมาย สามารถเทยี บโอนผลการเรยี นรู้ และประสบการณ์ จุดหมำย กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม มงุ่ พฒั นาผู้เรยี นใหเ้ ปน็ คนดี มีปัญญา มีความสุข มีศกั ยภาพในการศึกษาต่อ และประกอบอาชพี จงึ กาหนดเป็นจุดหมาย เพื่อให้เกิดกับผู้เรียนเม่อื จบ การศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน ดังนี้ 1. มคี ุณธรรม จริยธรรม และค่านยิ มทพ่ี งึ ประสงค์ เหน็ คณุ คา่ ของตนเอง มวี ินยั และปฏิบตั ิตนตาม หลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาทตี่ นนบั ถือ ยึดหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 2. มีความรู้อันเปน็ สากลและมีความสามารถในการส่อื สาร การคิด การแกป้ ญั หา การใช้เทคโนโลยี และมี ทักษะชีวิต 3. มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตท่ีดี มสี ุขนสิ ยั และรักการออกกาลังกาย 4. มีความรักชาติ มจี ติ สานึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมน่ั ในวิถชี ีวิตและการปกครองตาม ระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมุข 5. มจี ิตสานึกในการอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย การอนรุ ักษแ์ ละการพัฒนาสิง่ แวดลอ้ ม มจี ติ สาธารณะท่มี ุ่งทาประโยชนแ์ ละสรา้ งสง่ิ ท่ดี ีงามในสังคม และอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมคี วามสุข
หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรียนทบั โพธพิ์ ฒั นวิทย์ พ.ศ.2563 4 ทำไมต้องเรยี นสังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม สงั คมโลกมกี ารเปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเรว็ ตลอดเวลา กลุม่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และ วัฒนธรรม ช่วยใหผ้ ้เู รียนมคี วามรู้ ความเข้าใจ วา่ มนุษย์ดารงชีวติ อยา่ งไร ท้ังในฐานะปัจเจกบคุ คล และการ อยู่ร่วมกนั ในสังคม การปรับตัวตามสภาพแวดล้อม การจัดการทรัพยากรทมี่ ีอยู่อย่างจากัด นอกจากนี้ ยังช่วย ใหผ้ ูเ้ รียนเข้าใจถึงการพัฒนา เปลยี่ นแปลงตามยคุ สมัย กาลเวลา ตามเหตปุ ัจจัยตา่ งๆ ทาใหเ้ กิดความเขา้ ใจใน ตนเอง และผู้อนื่ มีความอดทน อดกล้นั ยอมรบั ในความแตกต่างและมคี ุณธรรม สามารถนาความร้ไู ปปรบั ใช้ ในการดาเนินชีวติ เป็นพลเมืองดขี องประเทศชาติ และสงั คมโลก เรียนรอู้ ะไรในสงั คมศกึ ษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมวา่ ด้วยการอยู่รว่ มกันในสงั คม ท่ีมีความเชอื่ ม สมั พันธก์ นั และมคี วามแตกต่างกันอย่างหลากหลาย เพื่อช่วยใหส้ ามารถปรบั ตนเองกบั บรบิ ทสภาพแวดล้อม เป็นพลเมืองดี มคี วามรบั ผิดชอบ มคี วามรู้ ทักษะ คณุ ธรรม และค่านิยมทีเ่ หมาะสม โดยได้กาหนดสาระ ต่างๆไว้ ดงั น้ี ศำสนำ ศีลธรรมและจรยิ ธรรม แนวคิดพืน้ ฐานเกย่ี วกบั ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หลกั ธรรมของ พระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนบั ถือ การนาหลักธรรมคาสอนไปปฏบิ ัตใิ นการพฒั นาตนเอง และการอยู่ ร่วมกันอยา่ งสนั ตสิ ุข เปน็ ผูก้ ระทาความดี มีคา่ นยิ มท่ดี ีงาม พฒั นาตนเองอย่เู สมอ รวมทั้งบาเพญ็ ประโยชน์ต่อ สังคมและส่วนรวม หนำ้ ท่พี ลเมอื ง วัฒนธรรม และการดาเนินชวี ติ ระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจบุ นั การ ปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลกั ษณะและความสาคัญ การเปน็ พลเมือง ดี ความแตกต่างและความหลากหลายทางวฒั นธรรม คา่ นิยม ความเชอื่ ปลกู ฝงั คา่ นยิ มด้านประชาธิปไตยอนั มี พระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุข สทิ ธิ หน้าที่ เสรภี าพการดาเนินชวี ิตอย่างสันตสิ ุขในสงั คมไทยและสงั คมโลก เศรษฐศำสตร์ การผลิต การแจกจา่ ย และการบรโิ ภคสนิ ค้าและบริการ การบริหารจดั การทรพั ยากร ท่มี ีอยู่อยา่ งจากดั อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ การดารงชีวติ อย่างมดี ลุ ยภาพ และการนาหลักเศรษฐกิจพอเพยี งไปใช้ ในชวี ติ ประจาวัน ประวตั ิศำสตร์ เวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ วิธกี ารทางประวัติศาสตร์ พัฒนาการของ มนษุ ยชาติจากอดตี ถึงปจั จุบนั ความสัมพนั ธแ์ ละเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆ ผลกระทบทเ่ี กิดจาก เหตุการณส์ าคัญในอดตี บคุ คลสาคัญที่มีอทิ ธิพลต่อการเปล่ียนแปลงตา่ งๆในอดีต ความเป็นมาของชาตไิ ทย วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย แหล่งอารยธรรมทส่ี าคญั ของโลก ภมู ิศำสตร์ ลักษณะของโลกทางกายภาพ ลกั ษณะทางกายภาพ แหลง่ ทรพั ยากร และภูมิอากาศของ ประเทศไทย และภูมิภาคตา่ งๆ ของโลก การใชแ้ ผนท่ีและเครื่องมือทางภูมศิ าสตร์ ความสมั พันธก์ นั ของสงิ่ ตา่ งๆ ในระบบธรรมชาติ ความสมั พันธ์ของมนุษยก์ บั สภาพแวดลอ้ มทางธรรมชาติ และส่ิงท่ีมนุษย์สร้างขนึ้ การ นาเสนอข้อมูลภูมสิ ารสนเทศ การอนุรกั ษส์ ่งิ แวดลอ้ มเพื่อการพฒั นาท่ียง่ั ยืน
หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรียนทับโพธิพ์ ัฒนวทิ ย์ พ.ศ.2563 5 สำระและมำตรฐำนกำรเรียนรู้ สำระท่ี 1 ศำสนำ ศีลธรรม จริยธรรม มาตรฐาน ส 1.1 รู้ และเขา้ ใจประวัติ ความสาคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาท่ีตน นบั ถือและศาสนาอืน่ มีศรัทธาทถ่ี กู ต้อง ยึดมัน่ และปฏิบัติตามหลักธรรม เพ่ืออย่รู ่วมกันอย่างสนั ติสขุ มาตรฐาน ส 1.2 เขา้ ใจ ตระหนกั และปฏิบตั ติ นเป็นศาสนิกชนท่ีดี และธารงรักษาพระพุทธศาสนาหรือ ศาสนาทตี่ นนบั ถือ สำระท่ี 2 หน้ำทพี่ ลเมือง วัฒนธรรม และกำรดำเนนิ ชวี ติ ในสังคม¬ มาตรฐาน ส 2.1 เขา้ ใจและปฏิบตั ติ นตามหน้าท่ีของการเป็นพลเมืองดี มีค่านยิ มทด่ี ีงาม และ ธารงรกั ษาประเพณแี ละวัฒนธรรมไทย ดารงชวี ิตอยรู่ ่วมกันในสังคมไทย และ สังคมโลกอย่างสนั ตสิ ขุ มาตรฐาน ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปจั จบุ นั ยดึ มั่น ศรัทธา และธารงรักษาไว้ซ่ึง การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมุข สำระท่ี 3 เศรษฐศำสตร์ มาตรฐาน ส.3.1 เขา้ ใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบรโิ ภคการใช้ ทรพั ยากรที่มีอยจู่ ากดั ได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพและคุ้มค่า รวมท้งั เข้าใจ หลักการของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพื่อ การดารงชีวิตอย่างมีดลุ ยภาพ มาตรฐาน ส.3.2 เขา้ ใจระบบ และสถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพนั ธท์ างเศรษฐกิจ และความจาเปน็ ของการร่วมมอื กันทางเศรษฐกจิ ในสังคมโลก สำระท่ี 4 ประวัตศิ ำสตร์ มาตรฐาน ส 4.1 เขา้ ใจความหมาย ความสาคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวตั ิศาสตร์ สามารถใชว้ ธิ กี าร ทางประวัตศิ าสตร์มาวเิ คราะหเ์ หตุการณต์ ่างๆ อยา่ งเป็นระบบ มาตรฐาน ส 4.2 เขา้ ใจพฒั นาการของมนุษยชาตจิ ากอดีตจนถงึ ปจั จุบนั ในด้านความสมั พันธ์และการ เปล่ยี นแปลงของเหตกุ ารณ์อย่างต่อเน่ือง ตระหนักถึงความสาคัญและสามารถ วิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดขึน้ มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเปน็ มาของชาติไทย วฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญาไทย มีความรัก ความภูมใิ จและธารงความเป็นไทย สำระที่ 5 ภูมศิ ำสตร์ มาตรฐาน ส 5.1 เข้าใจลกั ษณะทางกายภาพของโลกและความสมั พนั ธข์ องสรรพสิง่ ซง่ึ มีผลต่อกัน ใชแ้ ผนที่ และเครื่องมือทางภมู ศิ าสตร์ในการคน้ หา วเิ คราะห์ และสรุปขอ้ มูลตามกระบวนการทางภูมศิ าสตร์ลอดจนใช้ ภมู ิสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ส 5.2 เข้าใจปฏิสมั พนั ธร์ ะหว่างมนุษย์กบั สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพทีก่ ่อใหเ้ กดิ การสรา้ งสรรคว์ ถิ กี าร ดาเนนิ ชีวติ มจี ิตสานึกและมีส่วนร่วมในการจดั การทรัพยากร และส่งิ แวดลอ้ มเพื่อการพฒั นาทย่ี ่งั ยืน
หลักสูตรกลุม่ สาระการเรียนร้สู งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรยี นทบั โพธ์ิพัฒนวิทย์ พ.ศ.2563 6 คุณภำพผู้เรียน จบชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 3 ไดเ้ รียนรู้และศึกษาเกย่ี วกับความเปน็ ไปของโลก โดยการศึกษาประเทศไทยเปรยี บเทียบกบั ประเทศในภูมิภาคตา่ งๆในโลก เพ่ือพัฒนาแนวคดิ เรอ่ื งการอยูร่ ่วมกนั อยา่ งสนั ติสขุ ไดเ้ รียนรู้และพัฒนาให้มที ักษะทจี่ าเปน็ ต่อการเปน็ นักคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณได้รบั การพัฒนาแนวคิด และ ขยายประสบการณ์ เปรียบเทียบระหว่างประเทศไทยกับประเทศในภูมภิ าคต่าง ๆ ในโลก ไดแ้ ก่ เอเชีย โอเชยี เนยี แอฟริกา ยโุ รป อเมรกิ าเหนอื อเมริกาใต้ ในด้านศาสนา คุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม ความเชอื่ ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี วฒั นธรรม การเมอื งการปกครอง ประวัติศาสตรแ์ ละภูมิศาสตร์ ดว้ ยวิธีการทาง ประวตั ิศาสตร์ และสงั คมศาสตร์ ไดร้ บั การพฒั นาแนวคิดและวิเคราะห์เหตกุ ารณ์ในอนาคต สามารถนามาใชเ้ ป็นประโยชน์ ในการดาเนนิ ชวี ติ และวางแผนการดาเนินงานได้อยา่ งเหมาะสม จบชน้ั มธั ยมศึกษำปีท่ี 6 ไดเ้ รยี นรู้และศึกษาความเปน็ ไปของโลกอยา่ งกว้างขวางและลึกซ้ึงย่ิงขึน้ ไดร้ ับการส่งเสรมิ สนบั สนนุ ให้พัฒนาตนเองเป็นพลเมอื งท่ดี ี มคี ณุ ธรรม จริยธรรม ปฏิบัติตาม หลกั ธรรมของศาสนาท่ตี นนบั ถือ รวมทงั้ มีคา่ นยิ มอันพงึ ประสงค์ สามารถอยู่ร่วมกบั ผู้อ่นื และอยู่ในสังคมได้ อย่างมีความสขุ รวมทัง้ มศี ักยภาพเพื่อการศกึ ษาตอ่ ในช้ันสูงตามความประสงค์ได้ ได้เรยี นรู้เร่ืองภมู ิปัญญาไทย ความภูมิใจในความเป็นไทย ประวตั ิศาสตรข์ องชาตไิ ทยยึดม่ันในวิถี ชวี ิต และการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมขุ ไดร้ บั การสง่ เสรมิ ให้มีนสิ ยั ท่ีดีในการบริโภค เลือกและตดั สินใจบริโภคได้อยา่ งเหมาะสมมจี ิตสานกึ และมีสว่ น รว่ มในการอนุรักษ์ ประเพณวี ฒั นธรรมไทย และส่งิ แวดล้อม มีความรกั ท้องถิน่ และประเทศชาติ มุ่งทา ประโยชน์ และสรา้ งสิ่งทดี่ งี ามใหก้ ับสงั คมเป็นผู้มีความรู้ความสามารถในการจดั การเรียนร้ขู องตนเอง ช้ีนา ตนเองได้ และสามารถแสวงหาความรจู้ ากแหล่งการเรยี นรู้ตา่ งๆในสงั คมได้ตลอดชีวิต สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ในการพัฒนาผ้เู รยี นตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน มุ่งเน้นพฒั นาผูเ้ รยี นใหม้ คี ณุ ภาพ ตามมาตรฐานท่ีกาหนด ซ่ึงจะชว่ ยให้ผูเ้ รยี นเกิดสมรรถนะสาคัญและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ดังน้ี สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน มงุ่ ให้ผู้เรยี นเกดิ สมรรถนะสาคญั 5 ประการ ดงั นี้ 1. ควำมสำมำรถในกำรสอื่ สำร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มวี ัฒนธรรมในการใชภ้ าษาถา่ ยทอด ความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทศั นะของตนเองเพื่อแลกเปล่ยี นข้อมลู ขา่ วสารและประสบการณ์ อนั จะเป็นประโยชนต์ ่อการพัฒนาตนเองและสงั คม รวมทัง้ การเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหาความ ขัดแย้งตา่ ง ๆ การเลอื กรับหรือไมร่ บั ข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตผุ ลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้ วิธีการส่อื สาร ท่มี ีประสิทธภิ าพโดยคานงึ ถึงผลกระทบทีม่ ีต่อตนเองและสงั คม (Information, Media, Technology and Communication Skills) 2. ควำมสำมำรถในกำรคิด เปน็ ความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อยา่ งสรา้ งสรรค์
หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรียนทับโพธิ์พัฒนวทิ ย์ พ.ศ.2563 7 การคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพือ่ นาไปสู่การสร้างองค์ความรหู้ รือสารสนเทศเพ่ือการ ตดั สินใจเกย่ี วกบั ตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม (Critical Thinking and Systems Thinking) 3. ควำมสำมำรถในกำรแก้ปญั หำ เป็นความสามารถในการแก้ปญั หาและอุปสรรคต่าง ๆ ทเ่ี ผชญิ ได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสมบนพ้นื ฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เขา้ ใจ ความสัมพันธแ์ ละการเปลยี่ นแปลงของเหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ ในสงั คม แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรู้มาใช้ในการ ปอ้ งกนั และแกไ้ ขปัญหา และมกี ารตัดสนิ ใจที่มีประสิทธิภาพโดยคานงึ ถึงผลกระทบ ทเี่ กดิ ขน้ึ ต่อตนเอง สงั คม และสงิ่ แวดลอ้ ม (Thinking & Problem solving Skills) (Problem Identification, Formulation & Solution) กระบวนการแก้ปญั หา การประเมินผลถูกออกแบบอย่างรอบคอบ ชนดิ ทีว่ ่าผลทน่ี ักเรยี นแสดง ออกมา จะชบ้ี อกถึงระดับความสามารถของนักเรยี นทจี่ ะเผชิญหน้ากับปญั หาและการแกป้ ญั หาอย่างมี ประสทิ ธิภาพ โดยนักเรยี นจะตอ้ งแสดงออกวา่ มคี วามสามารถที่จะ 1) เข้าใจปัญหา รวมท้งั การเข้าใจเร่อื งราวสาระจากข้อเขยี น แผนผัง สตู ร ตารางและสามารถอ้างอิง เช่อื มโยงสาระจากแหล่งต่าง ๆ แสดงออกว่าเข้าใจแนวคิดท่ีเก่ยี วข้องใชส้ าระจากพืน้ ฐานความรู้เดมิ ของตน เพ่อื ทาความเขา้ ใจกับสาระเร่ืองราวท่กี าหนดให้ 2) บอกลักษณะปญั หา รวมทงั้ การระบบุ อกตัวแปรในปญั หา และตง้ั ข้อสังเกตถงึ ความเชอื่ มโยง เกี่ยวข้องระหว่างตวั แปร ตัดสนิ ใจว่าตัวแปรใดใชไ้ ดห้ รือใช้ไม่ได้ สรา้ งสมมตุ ิฐาน และคน้ คนื สาระ จัดกระทา พิจารณาและประเมินสาระที่มอี ยู่ 3) แสดงการนาเสนอการแก้ปัญหา รวมท้งั การสรา้ งตาราง กราฟ สญั ลกั ษณ์ การพดู 4) ลงมือแกป้ ญั หา รวมถึงการตดั สินใจ วิเคราะหร์ ะบบ หรือออกแบบระบบเพ่ือนนาไปสู่เป้าหมาย หรือวิเคราะหว์ นิ ิจฉยั และเสนอวธิ ีการแกป้ ญั หา 5) สะท้อนการแกป้ ัญหา รวมถงึ การตรวจสอบการแกป้ ญั หาและมองหาสาระขอ้ มลู เพ่ิมเตมิ หรอื เพ่ิม คาอธิบายให้ชัดเจนยิ่งขึน้ ประเมินการแกป้ ัญหาจากมมุ มองต่าง ๆ หรือหาวิธแี กป้ ัญหาใหม่ และให้เป็นที่ ยอมรบั มากขึน้ หรือเพ่ือใหส้ ามารถอธบิ ายได้ 6) สื่อสารการแกป้ ญั หา รวมถึงการเลือกส่ือและการนาเสนอทเ่ี หมาะสม เพอ่ื บอกกล่าวและสื่อสาร การแก้ปัญหาให้คนนอกได้รบั รู้ 4. ควำมสำมำรถในกำรใชท้ ักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในการดาเนิน ชีวติ ประจาวัน การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง การเรยี นรู้อย่างต่อเนื่อง การทางาน และ การอยรู่ ่วมกนั ในสงั คม ด้วยการสรา้ งเสรมิ ความสมั พันธอ์ ันดีระหว่างบคุ คล การจดั การปัญหาและ ความขดั แย้งตา่ ง ๆ อยา่ ง เหมาะสม การปรบั ตัวใหท้ นั กับการเปล่ียนแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ ม และการร้จู ักหลกี เลยี่ ง พฤติกรรมไมพ่ ึงประสงค์ทส่ี ่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อ่ืน(Interpersonal & Self-Directional Skills) (Interpersonal and Collaborative Skills) (Self-Direction) (Accountability and Adaptability) (Social Responsibility) 5. ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยี ด้านต่าง ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรยี นรู้ การส่ือสาร การ
หลักสตู รกลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรยี นทับโพธ์ิพัฒนวทิ ย์ พ.ศ.2563 8 ทางาน การแกป้ ัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสม และมีคณุ ธรรม (Information, Media and Technology Literacy Skills) คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ จากข้อสรุปของผทู้ รงคุณวุฒทิ างการศึกษาสรุปไดว้ ่า คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์เป็นลักษณะของคนดี คือ คนท่ี ดาเนินชวี ติ อยา่ งมีคุณภาพ มีจิตใจท่ดี ีงาม มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และได้สรุปสาระคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ดังนี้ 1. รักชำติ ศำสน์ กษตั ริย์ หมายถึง มคี วามภาคภูมใิ จในความเป็นไทย นิยมไทย ปฏิบตั ติ ามคาสงั่ สอนของ ศาสนา เคารพเทิดทูนศาสนา แสดงความจงรกั ภักดี เทดิ ทนู พระเกียรติ และ พระราชกรณียกจิ ของ พระมหากษัตริย์ 2. ซื่อสัตย์สจุ ริต หมายถงึ การประพฤตปิ ฏิบัตอิ ย่างเหมาะสม และตรงต่อความเป็นจริง ประพฤตปิ ฏิบตั ิ อย่างตรงไปตรงมา ทัง้ กาย วาจา ใจ ต่อตนเองและผู้อืน่ รวมตลอดท้ังตอ่ หน้าท่ี การงานและคาม่นั สญั ญา ความประพฤติที่ตรงไปตรงมา และจรงิ ใจในสิ่งท่ีถูกท่คี วร ถูกต้อง ตามทานองคลองธรรม รวมไปถึงการไม่ คิดคดทรยศ ไม่คดโกงและไม่หลอกลวง นอกจากนี้แลว้ ความซ่อื สัตยส์ จุ ริตยังรวมไปถงึ การรกั ษาคาพดู หรือ คามัน่ สัญญา และการปฏิบตั ิหน้าทกี่ ารงานของตนเองด้วยความรับผิดชอบ และด้วยความซอื่ สัตย์ไมแ่ สวงหา ผลประโยชนใ์ ห้แกต่ นเองและพวกพ้องด้วยการใช้ อานาจหน้าทโี่ ดยมิชอบ ซ่งึ ความซ่ือสัตยส์ จุ ริตนีจ้ ะดาเนนิ ไป ด้วยความตัง้ ใจจรงิ เพ่อื ทาหน้าทข่ี องตนเองใหส้ าเรจ็ ลุลว่ ง ด้วยความระมดั ระวงั และเกดิ ผลดตี ่อตนเองและ สังคม 3. มีวนิ ัย หมายถึง การควบคุมความประพฤตใิ ห้ถกู ต้องและเหมาะสมกบั จรรยา มารยาท ข้อบังคับ ข้อตกลง กฎหมาย และศีลธรรมการรูจ้ กั ควบคมุ ตนเองใหป้ ระพฤติปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง ข้อบังคบั ระเบียบแบบ แผน และขนบธรรมเนียมประเพณีอันดงี าม ย่อมนามาซึง่ ความสงบสขุ ในชีวิตของตน ความเป็นระเบียบ เรียบรอ้ ยของสังคมและประเทศชาติ 4. ใฝ่เรียนรู้ หมายถงึ การค้นคว้าหาความรู้หรือสงิ่ ท่ีเปน็ ประโยชน์ เพ่ือพัฒนาตนเอง อยเู่ สมอ 5. อยู่อย่ำงพอเพยี ง หมายถึง การมีความพอดีในการบรโิ ภค ใช้ทรพั ยากรและเวลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ คานงึ ถึงฐานะและเศรษฐกจิ คดิ ก่อนใช้จา่ ยตามความเหมาะสม รูจ้ ักการเพิม่ พนู ทรัพย์ ด้วยการเก็บและ นาไปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ ดูแลรกั ษาบรู ณทรพั ย์ของตนเอง มีการเก็บออมเงินไว้ตามสมควร 6. มุ่งมนั่ ในกำรทำงำน หมายถึง การศึกษาเรียนรเู้ พ่ือหาขอ้ เทจ็ จรงิ ซงึ่ อาจพฒั นาไปสูค่ วามจรงิ ในสิ่งที่ ต้องการเรยี นรู้ หรือตอ้ งการหาคาตอบ เพื่อนาคาตอบท่ีไดน้ ้ันมาใช้ประโยชน์ ในด้านตา่ ง ๆ เชน่ การ ยกระดบั ความรู้ การนาไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจาวัน ฯลฯหรอื นามาสรุปเปน็ ความจริงใหไ้ ด้ 7. รกั ควำมเป็นไทย หมายถึง เขา้ ใจ หวงแหนความเป็นไทยซ่งึ ถือเป็นตน้ ทุนทางสงั คม ทาใหท้ ุกศาสนา สามารถอย่รู ่วมกันได้อยา่ งสนั ตโิ ดยต้องมีการดาเนินชีวิตโดยกายสุจรติ วจสี ุจรติ และมโนสุจรติ เปน็ คุณลักษณะ ท่ีเกี่ยวข้องกบั การเขา้ สงั คมและการมปี ฏสิ มั พนั ธ์กบั ผอู้ ่นื เชน่ ความมกี ิรยิ ามารยาท การปรบั ตัว ความตรง ตอ่ เวลา ความสุภาพ การมสี มั มาคารวะ การพูดจาไพเราะ และความออ่ นน้อมถ่อมตน 8. มจี ิตสำธำรณะ หมายถึง คณุ ลักษณะทางจติ ใจของบุคคลเกี่ยวกบั การมองเหน็ คุณคา่ หรอื การ ให้คณุ คา่ แกก่ ารมปี ฏิสมั พันธ์ทางสังคมและส่ิงตา่ ง ๆ ท่ีเป็นสง่ิ สาธารณะที่ไม่มผี ูใ้ ดผูผ้ หู้ น่ึงเป็นเจา้ ของ หรอื เปน็ สิ่งทคี่ นในสังคมเป็นเจา้ ของร่วมกนั เป็นสิ่งทีส่ ามารถสงั เกตไดจ้ ากความรสู้ ึกนึกคดิ หรอื การกระทาท่ีแสดง ออกมา ไดแ้ ก่ การหลีกเลี่ยงการใช้หรือการกระทาทีจ่ ะทาใหเ้ กดิ ความชารุดเสียหายต่อส่วนรวมทใี่ ช้ประโยชน์ ร่วมกันของกล่มุ การถือเป็นหน้าที่ทจ่ี ะมีสว่ นรว่ มในการ
หลกั สูตรกลุม่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรียนทับโพธ์ิพฒั นวทิ ย์ พ.ศ.2563 9 สำระและมำตรฐำนกำรเรยี นรู้ สำระที่ 1 ศำสนำ ศลี ธรรม จริยธรรม มาตรฐาน ส 1.1 รู้ และเขา้ ใจประวตั ิ ความสาคญั ศาสดา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ ตนนบั ถือและศาสนาอื่น มีศรทั ธาท่ีถกู ต้อง ยดึ มน่ั และปฏิบัติตามหลักธรรม เพ่ืออยู่ รว่ มกันอย่างสนั ติสุข มาตรฐาน ส 1.2 เข้าใจ ตระหนักและปฏบิ ตั ติ นเป็นศาสนิกชนท่ดี ี และธารงรกั ษาพระพุทธศาสนาหรือ ศาสนาทต่ี นนบั ถือ สำระท่ี 2 หนำ้ ทีพ่ ลเมือง วัฒนธรรม และกำรดำเนนิ ชวี ติ ในสงั คม มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัตติ นตามหน้าทข่ี องการเป็นพลเมืองดี มีคา่ นิยมที่ดงี าม และ ธารงรกั ษาประเพณแี ละวฒั นธรรมไทย ดารงชวี ิตอยูร่ ่วมกันในสังคมไทย และ สงั คม โลกอย่างสนั ติสุข มาตรฐาน ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน ยดึ มั่น ศรัทธา และธารงรกั ษาไว้ ซึง่ การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุข สำระท่ี 3 เศรษฐศำสตร์ มาตรฐาน ส.3.1 เขา้ ใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลติ และการบริโภคการใช้ ทรพั ยากรทม่ี ีอยูจ่ ากดั ได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพและคุ้มคา่ รวมทัง้ เข้าใจ หลกั การของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพอื่ การดารงชวี ิตอยา่ งมดี ุลยภาพ มาตรฐาน ส.3.2 เข้าใจระบบ และสถาบนั ทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสมั พนั ธ์ทางเศรษฐกจิ และความจาเป็นของการรว่ มมอื กันทางเศรษฐกิจในสงั คมโลก สำระที่ 4 ประวตั ศิ ำสตร์ มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสาคัญของเวลาและยคุ สมยั ทางประวตั ศิ าสตร์ สามารถใช้ วิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณต์ ่างๆ อยา่ งเปน็ ระบบ มาตรฐาน ส 4.2 เขา้ ใจพฒั นาการของมนุษยชาตจิ ากอดีตจนถึงปจั จบุ ัน ในด้านความสมั พันธแ์ ละการ เปล่ยี นแปลงของเหตกุ ารณอ์ ย่างต่อเน่ือง ตระหนักถงึ ความสาคญั และสามารถ วเิ คราะห์ผลกระทบท่เี กิดขน้ึ มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเปน็ มาของชาติไทย วฒั นธรรม ภูมิปัญญาไทย มคี วามรัก ความภูมใิ จและธารงความเป็นไทย สำระท่ี 5 ภูมศิ ำสตร์ มาตรฐาน ส 5.1 เขา้ ใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพนั ธ์ ของสรรพสงิ่ ซ่งึ มีผลต่อกัน ใช้ แผนท่แี ละเครอ่ื งมือทางภูมิศาสตร์ ในการค้นหา วิเคราะห์ และสรุปขอ้ มลู ตาม กระบวนการทางภมู ิศาสตร์ ตลอดจนใชภ้ มู ิสารสนเทศอย่างมปี ระสิทธิภาพ มาตรฐาน ส 5.2 เข้าใจปฏิสัมพันธร์ ะหว่างมนุษยก์ ับสงิ่ แวดลอ้ ม ทางกายภาพทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ การ สร้างสรรค์วถิ กี ารด าเนินชีวิต มีจิตส านกึ และมสี ่วนรว่ มในการจัดการทรัพยากร และส่ิงแวดลอ้ มเพ่ือการพัฒนา ทีย่ ง่ั ยืน
หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรียนทบั โพธพ์ิ ัฒนวทิ ย์ พ.ศ.2563 10 โครงสรำ้ งหลกั สูตรช่วงชน้ั ท่ี 2 (ม.1-ม.3) รำยวชิ ำทเ่ี ปิดสอน รายวชิ าสังคมศึกษา 1 จานวน 60 ชว่ั โมง 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์ ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีที่ 1 รายวิชาประวตั ศิ าสตร์ 1 จานวน 20 ชวั่ โมง 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ ภำคเรียนที่ 1 รายวิชาหน้าที่พลเมอื ง1 จานวน 20 ชว่ั โมง 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ รหสั วชิ า ส21101 รายวชิ าการป้องกนั การทจุ ริต1 จานวน 20 ชว่ั โมง 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ รหสั วิชา ส21161 รหสั วิชา ส20241 รายวชิ าสังคมศกึ ษา 2 จานวน 60 ช่ัวโมง 3 ช่ัวโมง/สัปดาห์ รหสั วิชา ส21201 รายวิชาประวัตศิ าสตร์ 2 จานวน 20 ชว่ั โมง 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ ภำคเรยี นที่ 2 รายวิชาหนา้ ทพี่ ลเมือง 2 จานวน 20 ช่วั โมง 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ รหัสวชิ า ส21102 รายวิชาการปอ้ งกนั การทจุ ริต 2 จานวน 20 ชั่วโมง 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ รหัสวิชา ส21162 รหสั วชิ า ส20242 รายวชิ าสงั คมศึกษา 3 จานวน 60 ชว่ั โมง 3 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ รหัสวิชา ส21202 รายวิชาประวตั ิศาสตร์ 3 จานวน 20 ชั่วโมง 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ ชั้นมธั ยมศึกษำปีที่ 2 รายวิชาอาเซียน 1 จานวน 20 ชั่วโมง 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ ภำคเรยี นท่ี 1 รายวชิ าหน้าที่ พลเมอื ง3 จานวน 20 ชัว่ โมง 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ รหสั วิชา ส22101 รายวชิ าการปอ้ งกันการทจุ ริต 3 จานวน 20 ช่วั โมง 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์ รหัสวิชา ส22163 รหัสวิชา ส22281 รายวิชาสงั คมศึกษา 4 จานวน 60 ช่ัวโมง 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ รหัสวชิ า ส20243 รายวิชาประวัติศาสตร์ 4 จานวน 20 ชว่ั โมง 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ รหสั วิชา ส22201 รายวิชาอาเซียน 2 จานวน 20 ชั่วโมง 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ ภำคเรยี นที่ 2 รายวิชาหนา้ ทพ่ี ลเมอื ง 4 จานวน 20 ชั่วโมง 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ รหสั วชิ า ส22102 รายวิชาการปอ้ งกันการทจุ ริต 4 จานวน 20 ชว่ั โมง 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ รหสั วิชา ส22164 รหัสวิชา ส22282 รายวิชาสังคมศกึ ษา 5 จานวน 60 ช่ัวโมง 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ รหัสวิชา ส20244 รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ 5 จานวน 20 ชว่ั โมง 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ รหสั วชิ า ส22202 รายวชิ าหน้าทพี่ ลเมือง 5 จานวน 20 ชั่วโมง 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ ชน้ั มธั ยมศึกษำปีที่ 3 รายวชิ าการปอ้ งกนั การทุจริต 5 จานวน 20 ช่ัวโมง 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์ ภำคเรียนที่ 1 รหสั วชิ า ส23101 รายวิชาสังคมศกึ ษา 6 จานวน 60 ชวั่ โมง 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์ รหสั วิชา ส23165 รายวชิ าประวตั ิศาสตร์ 6 จานวน 20 ชว่ั โมง 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ รหัสวชิ า ส20245 รายวชิ าหนา้ ที่พลเมือง 6 จานวน 20 ช่วั โมง 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ รหัสวชิ า ส23201 รายวชิ าการป้องกนั การทุจริต 6 จานวน 20 ชวั่ โมง 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ ภำคเรยี นที่ 2 รหสั วิชา ส23102 รหัสวิชา ส23166 รหัสวิชา ส20246 รหัสวชิ า ส23202
หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรยี นทบั โพธิ์พัฒนวิทย์ พ.ศ.2563 11 โครงสรำ้ งหลักสตู รโรงเรียนทับโพธพิ์ ัฒนวิทย์ สรุ ินทร์ เวลาเรียน (หน่วยกิต / ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พ้ืนฐำน พทุ ธศักรำช 2551 ช่ัวโมง) ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 1 กลุ่มเรียนปกติ 1.5 (60) เวลาเรียน 0.5 (20) 2.0 (80) ภาคเรยี นที่ 1 (หน่วยกติ / ภาคเรยี นท่ี 2 0.5 (20) ชั่วโมง) 0.5 (20) 1.0 (40) รำยวิชำพืน้ ฐำน รำยวิชำพน้ื ฐำน 3.0 (120) ส21101 สังคมศึกษา 1 1.5 (60) ส21102 สงั คมศึกษา 2 เวลาเรียน (หน่วยกติ / ส21161 ประวตั ิศาสตร์ 1 0.5 (20) ส21162 ประวตั ิศาสตร์ 2 ชัว่ โมง) รวมเวลาเรยี นรายวิชาพื้นฐาน 2.0 (80) รวมเวลาเรยี นรายวชิ าพ้ืนฐาน 1.5 (60) รำยวชิ ำเพิม่ เติม รำยวชิ ำเพิม่ เติม 0.5 (20) 2.0 (80) ส20241 หนา้ ท่พี ลเมือง 1 0.5 (20) ส20242 หนา้ ทพ่ี ลเมือง 2 0.5 (20) ส21201 การปอ้ งกนั การทุจริต 1 0.5 (20) ส21202 การป้องกนั การทุจริต 2 0.5 (20) 0.5 (20) รวมเวลาเรียนรายวิชาเพมิ่ เตมิ 1.0 (40) รวมเวลาเรียนรายวชิ าเพมิ่ เตมิ 1.5 (60) 3.5 (140) รวมเวลำเรยี นทัง้ หมด 3.0 (120) รวมเวลำเรยี นทั้งหมด โครงสร้ำงหลักสตู รโรงเรียนทับโพธิ์พัฒนวิทย์ สุรินทร์ ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขัน้ พน้ื ฐำน พุทธศักรำช 2551 ระดบั ช้ันมัธยมศึกษำปีท่ี 2 กลุ่มเรียนปกติ ภาคเรยี นที่ 1 เวลาเรียน ภาคเรียนท่ี 2 (หนว่ ยกติ / รำยวิชำพื้นฐำน รำยวิชำพ้ืนฐำน ส22101 สงั คมศึกษา 3 ชวั่ โมง) ส22102 สงั คมศึกษา 4 ส22163 ประวัตศิ าสตร์ 3 ส22164 ประวตั ิศาสตร์ 4 รวมเวลาเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน 1.5 (60) รวมเวลาเรียนรายวิชาพ้นื ฐาน รำยวิชำเพ่ิมเติม 0.5 (20) รำยวชิ ำเพ่มิ เติม ส22281 อาเซยี น 1 2.0 (80) ส22282 อาเซียน 2 ส20243 หน้าท่ีพลเมือง 3 ส20244 หนา้ ท่พี ลเมือง 4 ส22201 การปอ้ งกันการทจุ ริต 3 0.5 (20) ส22202 การป้องกนั การทจุ ริต 4 รวมเวลาเรยี นรายวิชาเพิ่มเติม 0.5 (20) รวมเวลาเรยี นรายวิชาเพิม่ เติม รวมเวลำเรียนท้ังหมด 0.5 (20) รวมเวลำเรียนทงั้ หมด 1.5 (60) 3.5 (140)
หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรียนทบั โพธิ์พฒั นวทิ ย์ พ.ศ.2563 12 โครงสร้ำงหลักสตู รโรงเรียนทบั โพธิ์พัฒนวิทย์ สุรินทร์ เวลำเรียน ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพ้นื ฐำน พุทธศกั รำช 2551 (หน่วยกติ / ระดับช้ันมัธยมศึกษำปที ี่ 3 กล่มุ เรยี นปกติ ชว่ั โมง) เวลำเรยี น 1.5 (60) 0.5 (20) ภำคเรยี นที่ 1 (หนว่ ยกติ / ภำคเรยี นท่ี 2 2.0 (80) รำยวชิ ำพ้ืนฐำน ชั่วโมง) 0.5 (20) ส23101 สงั คมศึกษา 5 0.5 (20) ส23165 ประวตั ศิ าสตร์ 5 รำยวิชำพ้ืนฐำน 1.0 (40) รวมเวลาเรียนรายวชิ าพนื้ ฐาน 3.0 (120) รำยวชิ ำเพิ่มเติม 1.5 (60) ส23102 สงั คมศึกษา 6 ส20245 หน้าท่ีพลเมือง 5 ส23201 การปอ้ งกันการทุจริต5 0.5 (20) ส23166 ประวตั ิศาสตร์ 6 รวมเวลาเรยี นรายวชิ าเพ่มิ เตมิ รวมเวลำเรยี นท้ังหมด 2.0 (80) รวมเวลาเรียนรายวิชาพื้นฐาน รำยวิชำเพ่มิ เติม 0.5 (20) ส20246 หน้าที่พลเมือง 6 0.5 (20) ส23202 การป้องกันการทจุ ริต6 1.0 (40) รวมเวลาเรียนรายวชิ าเพิม่ เตมิ 3.0 (120) รวมเวลำเรยี นท้ังหมด
หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรียนทับโพธพิ์ ฒั นวทิ ย์ พ.ศ.2563 13 โครงสรำ้ งหลกั สูตรช่วงชน้ั ท่ี 4 (ม.4-ม.6) รำยวิชำทีเ่ ปดิ สอน วชิ ำพ้นื ฐำน รายวิชาสงั คมศึกษา 1 จานวน 40 ชั่วโมง 2 ชั่วโมง/สปั ดาห์ ช้นั มัธยมศกึ ษำปีที่ 4 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ ภำคเรยี นท่ี 1 รายวิชาหนา้ ทีพ่ ลเมอื ง 1 จานวน 20 ชว่ั โมง 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ รหสั วิชา ส31101 รหัสวิชา ส30241 รายวิชาการป้องกนั การทุจริต 1 จานวน 20 ชว่ั โมง 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ รหัสวชิ า ส31201 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ ภำคเรยี นที่ 2 รายวชิ าสังคมศึกษา 2 จานวน 40 ช่วั โมง 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ รหสั วิชา ส31102 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ รหสั วชิ า ส30242 รายวชิ าหน้าทพี่ ลเมอื ง 2 จานวน 20 ชวั่ โมง รหัสวิชา ส31202 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ รหสั วิชา ส31202 รายวิชาการป้องกนั การทจุ รติ 2 จานวน 20 ชว่ั โมง 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ ช้นั มธั ยมศึกษำปที ี่ 5 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ ภำคเรียนท่ี 1 รายวิชาอาเซยี นศกึ ษา 1 จานวน 20 ชว่ั โมง รหสั วิชา ส32101 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ รหัสวชิ า ส32161 รายวชิ าสงั คมศึกษา 3 จานวน 40 ช่ัวโมง 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ รหัสวชิ า ส32201 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ ภำคเรียนที่ 2 รายวชิ าประวัตศิ าสตร์สากล 1 จานวน 20 ชั่วโมง รหสั วิชา ส32102 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ รหัสวิชา ส33162 รายวชิ าการป้องกันการทจุ ริต 3 จานวน 20 ชั่วโมง 1 ช่วั โมง/สปั ดาห์ รหสั วิชา ส32202 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ ชนั้ มัธยมศึกษำปีที่ 6 รายวิชาสังคมศึกษา 4 จานวน 40 ช่ัวโมง 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ รหัสวชิ า ส33101 รหัสวิชา ส33163 รายวิชาประวัตศิ าสตร์สากล 2 จานวน 20 ชว่ั โมง 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ รหสั วชิ า ส30245 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ รหสั วิชา ส33201 รายวชิ าการปอ้ งกนั การทุจริต 4 จานวน 20 ชวั่ โมง 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ ภำคเรียนท่ี 2 1 ช่ัวโมง/สัปดาห์ รหสั วชิ า ส33102 รายวิชาสงั คมศกึ ษา 5 จานวน 40 ชั่วโมง รหัสวชิ า ส33164 รหัสวิชา ส30246 รายวิชาประวัตศิ าสตร์ไทย 1 จานวน 20 ชว่ั โมง รหัสวิชา ส33202 รายวิชาหน้าที่พลเมือง 5 จานวน 20 ชว่ั โมง รายวิชาการป้องกนั การทจุ ริต 5 จานวน 20 ชว่ั โมง รายวิชาสังคมศึกษา 6 จานวน 40 ช่วั โมง รายวิชาประวัติศาสตร์ไทย 2 จานวน 20 ชั่วโมง รายวิชาหนา้ ท่ีพลเมอื ง 6 จานวน 20 ช่วั โมง รายวิชาการป้องกันการทจุ ริต 6 จานวน 20 ชว่ั โมง
หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรียนทบั โพธพิ์ ฒั นวทิ ย์ พ.ศ.2563 14 โครงสรำ้ งหลกั สูตรโรงเรยี นทับโพธพ์ิ ฒั นวิทย์ สุรนิ ทร์ ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำขนั้ พืน้ ฐำน พุทธศกั รำช 2551 ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 4 แผนกำรเรียนวิทย์-คณติ ภาคเรยี นท่ี 1 เวลาเรยี น ภาคเรยี นท่ี 2 เวลาเรียน (หน่วยกิต / (หนว่ ยกติ / รำยวิชำพ้นื ฐำน รำยวชิ ำพื้นฐำน ส31101 สงั คมศึกษา 1 ชวั่ โมง) ส31102 สงั คมศึกษา 2 ชัว่ โมง) 1.0 (40) 1.0 (40) รวมเวลาเรียนรายวชิ าพืน้ ฐาน 1.0 (40) รวมเวลาเรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน 1.0 (40) รำยวิชำเพ่ิมเติม รำยวิชำเพ่มิ เติม ส30241 หนา้ ทพ่ี ลเมือง 1 0.5 (20) ส30242 หน้าที่พลเมือง 2 0.5 (20) ส31201 การปอ้ งกนั การทจุ ริต 1 0.5 (20) ส31202 การปอ้ งกันการทจุ ริต 2 0.5 (20) ส31201 อาเซยี นศึกษา 1 0.5 (20) รวมเวลาเรียนรายวชิ าเพ่มิ เตมิ 1.0 (40) รวมเวลาเรียนรายวชิ าเพม่ิ เตมิ 1.5 (60) รวมเวลำเรียนทั้งหมด 2.0 (80) รวมเวลำเรียนทั้งหมด 2.5 (100) โครงสรำ้ งหลักสูตรโรงเรยี นทบั โพธิพ์ ฒั นวิทย์ สรุ ินทร์ เวลาเรียน ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพน้ื ฐำน พุทธศักรำช 2551 (หนว่ ยกิต/ ช่วั โมง) ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษำปีที่ 5 แผนกำรเรยี นวิทย์-คณติ 1.0 (40) ภาคเรยี นท่ี 1 เวลาเรยี น ภาคเรียนที่ 2 0.5 (20) (หนว่ ยกติ / 1.5 (60) รำยวิชำพนื้ ฐำน รำยวิชำพืน้ ฐำน ส32101 สังคมศึกษา 3 ชวั่ โมง) ส32102 สงั คมศึกษา 4 0.5 (20) ส32161 ประวัตศิ าสตร์สากล 1 ส32162 ประวัติศาสตร์สากล 2 0.5 (20) รวมเวลาเรียนรายวิชาพนื้ ฐาน 1.0 (40) รวมเวลาเรยี นรายวิชาพื้นฐาน 2.0 (80) รำยวิชำเพิ่มเติม 0.5 (20) รำยวชิ ำเพม่ิ เติม ส32201 การป้องกันการทุจริต 3 1.5 (60) ส32202 การป้องกันการทจุ ริต 4 รวมเวลาเรียนรายวชิ าเพมิ่ เตมิ รวมเวลาเรยี นรายวิชาเพ่ิมเติม รวมเวลำเรยี นทง้ั หมด 0.5 (20) รวมเวลำเรยี นท้งั หมด 0.5 (20) 2.0 (80)
หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรยี นทบั โพธพ์ิ ัฒนวทิ ย์ พ.ศ.2563 15 โครงสร้ำงหลักสูตรโรงเรียนทับโพธิพ์ ัฒนวิทย์ สรุ ินทร์ เวลาเรียน (หนว่ ยกิต/ ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำขน้ั พื้นฐำน พทุ ธศกั รำช 2551 ช่วั โมง) ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษำปีที่ 6 แผนกำรเรียนวิทย์-คณติ 1.0 (40) 0.5 (20) เวลาเรียน 1.5 (60) ภาคเรียนท่ี 1 (หน่วยกิต / ภาคเรยี นท่ี 2 0.5 (20) 0.5 (20) ชั่วโมง) 1.0 (40) 2.5 (100) รำยวิชำพืน้ ฐำน รำยวิชำพืน้ ฐำน ส33101 สังคมศึกษา 5 1.0 (40) ส33102 สงั คมศึกษา 6 ส33163 ประวัตศาสตร์ไทย 1 0.5 (20) ส33164 ประวัตศาสตร์ไทย 2 รวมเวลาเรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน 1.5 (60) รวมเวลาเรียนรายวชิ าพืน้ ฐาน รำยวชิ ำเพ่ิมเติม รำยวิชำเพ่ิมเติม ส30245 หน้าทพี่ ลเมือง 5 0.5 (20) ส30246 หน้าท่ีพลเมือง 6 ส33201 การป้องกันการทจุ ริต 5 0.5 (20) ส33202 การปอ้ งกันการทจุ ริต 6 รวมเวลาเรียนรายวิชาเพ่ิมเตมิ 1.0 (40) รวมเวลาเรียนรายวชิ าเพ่ิมเตมิ รวมเวลำเรียนทงั้ หมด 2.5 (100) รวมเวลำเรียนทงั้ หมด
หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรียนทบั โพธพิ์ ัฒนวทิ ย์ พ.ศ.2563 16 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน ชั้นมัธยมศึกษำตอนตน้
หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรียนทับโพธพ์ิ ฒั นวิทย์ พ.ศ.2563 17 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ รำยวชิ ำสงั คมศกึ ษำ 1 รหสั วิชำ ส 21101 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้สงั คมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ชั้นมธั ยมศกึ ษำปีท่ี 1 ภำคเรยี นท่ี 1 เวลำ 60 ช่ัวโมง/ภำคเรยี น จำนวน 1.5 หน่วยกติ ศึกษาคน้ คว้ามลู เหตุการเกิดศาสนาและประวตั ิความเปน็ มาเกย่ี วกบั พุทธประวตั ิหลกั ธรรมของพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาท่ีตนนับถือการนาหลกั ธรรมคาสอนไปปฏิบัติในการพัฒนาตนเองและการอยรู่ ่วมกนั อยา่ งสันตสิ ุข เป็นผูก้ ระทาความดี มีค่านิยมที่ดงี าม พฒั นาตนเองอย่เู สมอ รวมทง้ั บาเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมและส่วนรวมการ ดาเนนิ ชวี ติ ระบบการเมืองการปกครองในสังคมปจั จุบนั การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมขุ ลกั ษณะและความสาคญั การเปน็ พลเมืองดี ความแตกต่างและความหลากหลายทาง วฒั นธรรม คา่ นยิ ม ความเช่อื ปลูกฝงั ค่านิยมด้านประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมุข สทิ ธิ หน้าท่ี เสรีภาพการดาเนนิ ชีวิตอย่างสนั ตสิ ขุ ในสงั คมไทยและสังคมโลก โดยกระบวนการสบื คน้ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวเิ คราะห์ กระบวนการสร้างความคิดรว่ มยอด กระบวนการฝึกปฏบิ ัติ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการเชงิ เหตุผล กระบวนการทางจรยิ ธรรม กระบวนการขดั เกลาทางสงั คม เพือ่ เหน็ คณุ ค่าและความสาคัญของศาสนา เกิดความศรทั ธา และสานกึ ในความสาคญั ของพระพทุ ธศาสนาใน ฐานะศาสนาประจาชาติตระหนักถึงความสาคญั ของวนั สาคัญทางศาสนามีสานึกในความเป็นไทย เป็นศาสนิก ชนท่ีดี รูจ้ ักตนเอง เขา้ ใจชีวติ ปรบั ปรงุ ตนเองอยูเ่ สมอ เหน็ คุณค่าของการบริหารจิต มีความคิดรวบยอด เกยี่ วกับการทาความดี มสี านึกว่าตนเป็นส่วนหน่ึงของสังคม มีความรับผดิ ชอบตลอดจนเหน็ คณุ คา่ ของภาษา ในคัมภีร์ทีใ่ ช้ในศาสนาที่ตนนับถอื ร่วมอนุรกั ษ์วัฒนธรรมไทยค่านยิ ม ความเชื่อ ปลูกฝังค่านยิ มดา้ น ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมุข สิทธิ หน้าที่ เสรีภาพการดาเนนิ ชวี ิตอย่างสนั ติสุขใน สังคมไทยและสงั คมโลก และเพือ่ การอยู่รว่ มกับไดอ้ ย่างมีสันตสิ ขุ รหสั ตัวช้ีวดั ส 1.1 ม.1/2 ส 1.1 ม.1/3 ส 1.1 ม.1/4 ส 1.2 ม.1/5 ส 1.1 ม.1/1 ส 1.1 ม.1/6 ส 1.1 ม.1/7 ส 1.1 ม.1/8 ส 1.1 ม.1/5 ส 1.1 ม.1/10 ส 1.1 ม.1/11 ส 1.1 ม.1/9 ส 1.2 ม.1/2 ส 1.2 ม.1/3 ส 1.2 ม.1/4 ส 1.2 ม.1/1 ส 2.1 ม.1/2 ส 2.1 ม.1/3 ส 2.1 ม.1/4 ส 2.1 ม.1/1 ส 2.2 ม.1/2 ส 2.2 ม.1/3 ส 2.2 ม.1/1 รวม 23 รหัสตัวชี้วดั
หลักสูตรกลุม่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรียนทับโพธพิ์ ฒั นวทิ ย์ พ.ศ.2563 18 คำอธิบำยรำยวชิ ำ รำยวชิ ำสงั คมศึกษำ 2 รหสั วิชำ ส 21102 กลุ่มสำระกำรเรียนรสู้ ังคมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศกึ ษำปีท่ี 1 ภำคเรยี นที่ 2 จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต เวลำ 60 ชั่วโมง/ภำคเรยี น ศกึ ษาความหมาย ความสาคัญของเศรษฐศาสตรเ์ กย่ี วกับการผลิต การแจกจา่ ย และการบริโภคสนิ คา้ และบริการ การบริหารจดั การทรพั ยากรทมี่ ีอยอู่ ยา่ งจากัดอย่างมปี ระสิทธิภาพ การดารงชวี ิตอยา่ งมดี ลุ ยภาพ และการนาหลักเศรษฐกิจพอเพยี งไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั และลกั ษณะของโลกทางกายภาพ ลกั ษณะทาง กายภาพ แหล่งทรัพยากร และภมู อิ ากาศของประเทศไทย และภูมภิ าคต่าง ๆ ของโลก การใชแ้ ผนทีแ่ ละ เครอื่ งมอื ทางภูมิศาสตร์ ความสมั พนั ธก์ ันของสิ่งตา่ ง ๆ ในระบบธรรมชาติ ความสัมพันธ์ของมนุษยก์ ับ สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และสง่ิ ท่ีมนุษย์สรา้ งขึ้น การนาเสนอข้อมลู ภูมสิ ารสนเทศ การอนรุ ักษ์ สงิ่ แวดลอ้ มเพ่ือการพัฒนาทยี่ ่ังยืน โดยกระบวนการกลมุ่ กระบวนการทางาน กระบวนการแกป้ ญั หา กระบวนการจัดการ กระบวนการสืบค้น กระบวนการพฒั นาค่านยิ ม กระบวนการคดิ วิเคราะห์ กระบวนการทางจริยธรรม กระบวนการสร้างความคดิ รวบยอด กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เพ่อื มวี ิจารณญาณเกย่ี วกับการตดั สินใจเลือกใช้ทรัพยากรเพอ่ื การผลิต คานงึ ถึงตน้ ทุน และผลประโยชนท์ ่จี ะ ไดร้ ับอยา่ งคุ้มคา่ และมคี ณุ ธรรม มีเหตุผล รู้เทา่ ทันสถานการณ์ ตระหนักและเห็นคุณค่าของการนา ทรพั ยากรทางเศรษฐศาสตร์มาใช้ในการผลิตสนิ ค้าและบรกิ ารอยา่ งมีประสิทธิภาพการบริโภคด้วยปัญญาตาม วถิ ีชีวิตไทยและตระหนกั ถึงความสาคัญของลกั ษณะกายภาพทมี่ ตี ่อระบบการดาเนินชวี ิตของมนุษย์ มสี านกึ วา่ ตนเป็นส่วนหนง่ึ ของธรรมชาติ มีเหตุผล มนี ิสยั รักการอ่าน รักการคน้ คว้า เหน็ คุณคา่ ของแผนท่ชี นดิ ต่างๆ เครื่องมอื ทางภมู ิศาสตร์และเทคโนโลยีสมยั ใหม่และเชือ่ มโยงไปสู่ชวี ติ ประจาวนั รหสั ตวั ช้ีวดั ส3.1ม.1/2 ส3.1ม.1/3 ส3.2ม.1/4 ส3.1ม.1/1 ส3.2ม.1/2 ส3.2ม.1/3 ส5.2ม.1/4 ส3.2ม.1/1 ส5.1ม.1/2 ส5.1ม.1/3 ส5.1ม.1/1 ส5.2ม.1/2 ส5.2ม.1/3 ส5.2ม.1/1 รวม 14 รหสั ตวั ชีว้ ดั
หลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรียนทับโพธิพ์ ัฒนวทิ ย์ พ.ศ.2563 19 คำอธิบำยรำยวชิ ำ รำยวิชำสงั คมศึกษำ 3 รหัสวิชำ ส22101 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้สังคมศกึ ษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ชั้นมธั ยมศึกษำปที ่ี 2 ภำคเรยี นท่ี 1 จำนวน 1.5 หน่วยกิต เวลำ 60 ชวั่ โมง/ภำคเรียน ศกึ ษาการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาทต่ี นนบั ถือสู่ประเทศเพ่ือนบ้านที่ช่วยเสริมสรา้ งความเขา้ ใจอันดี ระหว่างกัน เห็นความสาคัญของพระพทุ ธศาสนา หรอื ศาสนาทต่ี นนบั ถือ กับการพัฒนาชุมชนและการจัด ระเบยี บสังคม ในฐานะที่เปน็ รากฐานของวฒั นธรรม เอกลักษณ์และมรดกของชาติ นาข้อคิดท่ีไดจ้ ากพุทธ ประวตั หิ รือประวตั ิศาสดาของศาสนาท่ีตนนับถือ ประวัติสาวก ชาดก เรือ่ งเลา่ และศาสนิกชนตวั อย่างตามที่ กาหนดมาเป็นแบบอยา่ ง การปฏิบตั ิตนในการดาเนนิ ชีวิต ศึกษาโครงสร้างของพระไตรปิฎก หรือคัมภรี ์ ธรรมคุณ และข้อธรรมสาคัญในกรอบอริยสัจ 4 หรือหลักธรรมของศาสนาทีต่ นนับถือ ตามทกี่ าหนด นาไป พฒั นา แกป้ ัญหาของชุมชนและสงั คม พฒั นาจิตเพ่ือการเรียนรแู้ ละดาเนินชวี ิต ดว้ ยวิธคี ดิ แบบโยนิโส มนสิการคือ วธิ คี ดิ แบบอบุ ายปลกุ เรา้ คณุ ธรรม และวธิ ีคิดแบบอรรถธรรมสัมพนั ธ์ หรอื การพฒั นาจิต สวดมนต์ แผ่เมตตา บรหิ ารจติ และเจรญิ ปัญญาด้วยอานาปานสติ ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ธรรมทางศาสนาทีต่ นนับถือ เพื่อ การดารงตนอยา่ งเหมาะสมในกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลก และการอยูร่ ว่ มกันอย่างสนั ติสุข นาคาสอนที่ เกีย่ วเนือ่ งกบั วันสาคญั ทางศาสนา ปฏิบตั ติ นอยา่ งเหมาะสมตอ่ บคุ คลต่าง ๆ มมี รรยาทของความเปน็ ศาสนิก ชนที่ดี อธิบายความแตกตา่ งของศาสนพิธี พธิ กี รรมตามแนวปฏบิ ตั ขิ องศาสนาอื่นๆ เพื่อนาไปสู่การยอมรับ และความเข้าใจซึง่ กันและกัน ปฏบิ ัติตนตามกฎหมายทีเ่ กย่ี วข้องกบั ตนเอง ครอบครัว ชุมชน และ ประเทศชาติ เหน็ คณุ ค่าในการปฏบิ ัติตนตามสถานภาพ บทบาท สทิ ธิ เสรภี าพ หนา้ ที่ในฐานะพลเมืองดี ตามวิถีประชาธปิ ไตย วิเคราะห์บทบาท ความสาคญั และความสัมพันธ์ของสถาบนั ทางสังคม บอกความ คลา้ ยคลึงและความแตกต่างของวฒั นธรรมไทย และวฒั นธรรมของประเทศในภมู ิภาคเอเชยี เพือ่ นาไปสู่ความ เข้าใจอนั ดรี ะหวา่ งกนั ศกึ ษากระบวนการในการตรากฎหมาย วเิ คราะห์ข้อมลู ขา่ วสารทางการเมืองการ ปกครองทมี่ ีผลกระทบต่อสงั คมไทย สมัยปจั จุบนั โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สบื ค้นข้อมลู ปฏิบัติจรงิ สรุป รายงาน เพ่ือพัฒนาทกั ษะ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ การแกป้ ัญหา การให้เหตผุ ล การสอื่ ความหมายทางสังคม และนาประสบการณ์ ดา้ นความรู้ ความคดิ ทักษะ กระบวนการท่ีได้ไปใชใ้ นการเรียนรู้ส่งิ ตา่ ง ๆ และนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวัน อยา่ งสร้างสรรค์ เพอื่ ตระหนกั ถงึ ความสาคัญ เหน็ คุณคา่ และมเี จตคติทดี่ ตี ่อวิชาสงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม เป็น พลเมืองดี มีความรับผดิ ชอบ มีความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม คา่ นิยมทีเ่ หมาะสม พฒั นาตนเองอยเู่ สมอรวมท้งั บาเพ็ญประโยชนต์ ่อสังคมและสว่ นรวม ดารงชวี ิตอยู่ในสงั คมอย่างมีความสขุ รหัสตัวชี้วดั ส 1.1 ม.2/1 ส 1.1 ม.2/2 ส 1.1 ม.2/3 ส 1.1 ม.2/4 ส 1.1 ม.2/5 ส 1.1 ม.2/6 ส 1.1 ม.2/7 ส 1.1 ม.2/8 ส 1.1 ม.2/9 ส 1.1 ม.2/10 ส 1.1 ม.2/11 ส 1.2 ม.2/1 ส 1.2 ม.2/2 ส 1.2 ม.2/3 ส 1.2 ม.2/4 ส 1.2 ม.2/5 ส 2.1 ม.2/1 ส 2.1 ม.2/2 ส 2.1 ม.2/3 ส 2.1 ม.2/4 ส 2.2 ม.2/1 ส 2.2 ม.2/2 รวม 22 รหสั ตัวช้วี ดั
หลักสตู รกล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรียนทับโพธ์พิ ัฒนวิทย์ พ.ศ.2563 20 คำอธิบำยรำยวชิ ำ รำยวชิ ำสงั คมศกึ ษำ 4 รหัสวิชำ ส22102 กลุ่มสำระกำรเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ชน้ั มธั ยมศึกษำปที ่ี 2 ภำคเรยี นท่ี 2 จำนวน 1.5 หน่วยกิต เวลำ 60 ชวั่ โมง/ภำคเรยี น วเิ คราะหก์ ารใช้เคร่อื งมือทางภูมศิ าสตรใ์ นการรวบรวม การนาเสนอข้อมูลเกยี่ วกบั ลักษณะทาง กายภาพและสังคมของทวีปยุโรปและแอฟรกิ า และความสมั พนั ธร์ ะหว่างลกั ษณะทางกายภาพและสงั คม วเิ คราะหก์ ารก่อเกิดส่ิงแวดล้อมใหม่ทางสงั คม อันเป็นผลจากการเปลีย่ นแปลงทางธรรมชาตแิ ละทางสังคม ระบแุ นวทางการอนรุ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ในทวปี ยโุ รปและแอฟรกิ า สารวจ อภปิ ราย ประเดน็ ปัญหาเกย่ี วกับสง่ิ แวดล้อมทเ่ี กิดขึ้น เหตุและผลกระทบท่ีประเทศไทยไดร้ ับจากการเปลยี่ นแปลงของ สง่ิ แวดล้อมในทวปี ยโุ รป และแอฟรกิ า ศกึ ษาปจั จยั ที่มผี ลตอ่ การลงทุน การออม การผลิตสินค้าและ บรกิ าร และปัจจัย ทม่ี อี ทิ ธพิ ลต่อการผลิตสนิ คา้ และบริการ เสนอแนวทางการพฒั นาการผลติ ในท้องถ่นิ ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และแนวทางการคุม้ ครองสิทธิของตนเองในฐานะผ้บู รโิ ภค อภปิ รายระบบ เศรษฐกิจแบบต่างๆยกตัวอยา่ งทีส่ ะท้อนให้เหน็ การพึง่ พาอาศัยกนั และการแข่งขันกันทางเศรษฐกิจใน ภมู ิภาคเอเชยี วเิ คราะห์การกระจายของทรัพยากรในโลก ท่ีสง่ ผลตอ่ ความสมั พันธ์ ทางเศรษฐกจิ ระหว่าง ประเทศ การแขง่ ขันทางการคา้ ในประเทศ และต่างประเทศ สง่ ผลต่อ คณุ ภาพสินค้า ปริมาณการผลิต และ ราคาสนิ ค้า โดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ สบื คน้ ข้อมลู ปฏบิ ตั ิจริง สรปุ รายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ การแก้ปญั หา การใหเ้ หตผุ ล การส่อื ความหมายทางสงั คม และนาประสบการณ์ ดา้ นความรู้ ความคิด ทักษะ กระบวนการที่ได้ไปใชใ้ นการเรียนรสู้ ิ่งต่าง ๆ และนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวัน อย่างสรา้ งสรรค์ เพอ่ื ตระหนกั ถึงความสาคญั เห็นคณุ คา่ และมเี จตคติทด่ี ตี ่อวชิ าสังคมศึกษา ศาสนา และ วัฒนธรรม เปน็ พลเมอื งดี มีความรับผดิ ชอบ มคี วามรู้ ทักษะ คุณธรรม ค่านิยมท่ีเหมาะสม พฒั นาตนเองอยู่ เสมอ รวมทงั้ บาเพ็ญประโยชน์ตอ่ สงั คมและส่วนรวม ดารงชวี ติ อยูใ่ นสังคมอย่างมีความสุข รหัสตวั ชี้วดั ส 3.1 ม.2/2 ส 3.1 ม.2/3 ส 3.1 ม.2/4 ส 3.1 ม.2/1 ส 3.2 ม.2/2 ส 3.2 ม.2/3 ส 3.2 ม.2/4 ส 3.2 ม.2/1 ส 5.1 ม.2/2 ส 5.2 ม.2/1 ส 5.2 ม.2/2 ส 5.1 ม.2/1 ส 5.2 ม.2/4 ส 5.2 ม.2/3 รวม 14 รหัสตัวช้วี ดั
หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรยี นทับโพธ์ิพฒั นวิทย์ พ.ศ.2563 21 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ รำยวชิ ำสังคมศึกษำ 5 รหสั วิชำ ส23101 กลุ่มสำระกำรเรยี นร้สู ังคมศกึ ษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ช้นั มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 3 ภำคเรยี นที่ 1 จำนวน 1.5 หน่วยกติ เวลำ 60 ช่วั โมง/ภำคเรียน ศึกษา วิเคราะห์ สาระสาคัญรแู้ ละเขา้ ใจความหมายความสาคัญ สรา้ งความคิดรวบยอดนาภูมิ ปัญญาท้องถน่ิ สภาพปัญหาชวี ติ สภาพแวดล้อมในชมุ ชนและสังคมเขา้ มาเปน็ ส่วนหน่ึงของ การเรยี นรู้ เพ่ือใหม้ ีความรู้ความเขา้ ใจตระหนกั และเห็นคุณคา่ เก่ียวกับประวัตแิ ละความสาคัญของพระพุทธศาสนา เรอื่ ง ประชาธปิ ไตย ในพระพุทธศาสนากับหลกั วทิ ยาศาสตร์ การคดิ ตามนยั แห่งพระพุทธศาสนาและการคดิ แบบ วทิ ยาศาสตร์ พระพุทธศาสนาเน้นการฝกึ หดั อบรมตน การพึ่งตนเองและการมุ่งอิสรภาพ พุทธประวตั ิ พุทธ สาวก พุทธสาวกิ า ชาดกและศาสนกิ ชนตัวอย่าง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาในกรอบอริยสัจ 4 หรอื หลัก คาสอนของศาสนาทต่ี นนบั ถือ เห็นคณุ ค่าและความสาคัญของการสังคายนาพระไตรปฏิ ก เชือ่ มัน่ ต่อผลของ การทาความดีความช่ัว สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ท่ีต้องเผชญิ และตดั สนิ ใจเลือกดาเนินการหรือปฏบิ ัตติ น ไดอ้ ยา่ งมเี หตุผลถูกตอ้ งตามหลกั ธรรมจริยธรรม เก่ยี วขอ้ คิดและแบบอย่างการดาเนนิ ชีวติ จากประวตั ิสาวก เรือ่ งเลา่ และศาสนิกชนตัวอย่างตามท่ีกาหนด อธิบายหนา้ ที่และบาบาทของสาวก และปฏบิ ัติตนต่อบุคคล ต่างๆ ตามหลักศาสนาตามที่กาหนด ปฏบิ ตั หิ น้าทขี่ องศาสนิกชนทดี่ ี ในศาสนพธิ ี พธิ ีกรรม อธบิ ายประวตั ิ วนั สาคญั ทางศาสนา การแสดงตนเปน็ พุทธมามกะหรือแสดงตนเป็นศาสนกิ ชน การศึกษาแนวทาง การธารง รักษาศาสนาตามศาสนาทตี่ นนบั ถอื ศึกษาลักษณะการกระทาความผิดทางอาญาและโทษ ลักษณะการกระทาความผดิ ทางแพง่ และความ รับผิดทางแพ่ง ตัวอยา่ งการกระทาความผดิ ทางอาญา เชน่ ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ตวั อย่างการกระทา ความผดิ ทางแพง่ เช่น การทาผดิ สัญญา การทาละเมดิ ความหมายและความสาคัญของสิทธิมนุษยชน การ มีสว่ นรว่ มคุม้ ครองสิทธิมนุษยชนตามรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทยตามวาระและโอกาสท่เี หมาะสม ความสาคญั ของวฒั นธรรมไทย ภมู ปิ ัญญาไทยและวัฒนธรรมสากล การอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยและภมู ิปญั ญา ไทยที่เหมาะสม การเลือกรบั วัฒนธรรมสากลท่ีเหมาะสม ปจั จัยทก่ี ่อใหเ้ กดิ ความขัดแยง้ เชน่ การเมอื งการ ปกครอง เศรษฐกิจ สังคม ความเชอื่ สาเหตุปญั หาทางสังคม เชน่ ปัญหาสง่ิ แวดล้อม ปัญหายาเสพตดิ ปัญหาการทจุ ริต ปัญหาอาชญากรรม แนวทางความรว่ มมือในการลดความขัดแย้งและการสรา้ งความ สมานฉนั ท์ ปจั จัยท่สี ง่ เสรมิ การดารงชีวติ ให้มีความสขุ เช่น การอยรู่ ่วมกนั อยา่ งมีขนั ติธรรม หลกั ปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง เหน็ คุณคา่ ในตนเอง ร้จู กั มองโลกในแงด่ ี สรา้ งทักษะทางอารมณ์ รจู้ ักบรโิ ภคดว้ ย ปัญญา เลือก รับ – ปฏเิ สธขา่ ว ปรับปรุงตนเองและ สิ่งต่าง ๆ ให้ดีข้นึ อยูเ่ สมอ อธบิ ายระบอบการปกครอง แบบตา่ งๆ เช่น การปกครองระบอบเผด็จการ การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย วิเคราะหค์ วามแตกต่าง ความคล้ายคลึง การปกครองของไทยกบั ประเทศเพอ่ื นบ้านอืน่ ๆ บทบัญญัติของรัฐธรรมนญู ในมาตราตา่ งๆ ทเี่ กยี่ วข้องกับการเลือกตัง้ การมีสว่ นรว่ ม และการตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ บทบาทของรัฐบาลในการ บรหิ ารราชการแผ่นดินความจาเปน็ ในการมรี ัฐบาลตามระบอบประชาธปิ ไตย ปญั หา และผลกระทบท่เี ปน็ อุปสรรคต่อ การพฒั นาประชาธิปไตยของประเทศไทย และแนวทางแก้ไข โดยใชก้ ระบวนการศึกษาคน้ ควา้ การสบื เสาะหาความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มลู ปฏิบัตจิ รงิ สรุป รายงาน เพอ่ื พัฒนาทักษะกระบวนการในการคดิ วเิ คราะห์ การแกป้ ญั หา การใช้เหตผุ ล การสอ่ื ความหมายทางสังคม และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคดิ ทักษะ กระบวนการท่ีไดไ้ ปใชใ้ นการ เรยี นรู้สิง่ ต่างๆ และใช้ในชวี ติ ประจาวันอยา่ งสร้างสรรค์ รวมทัง้ เห็นคณุ คา่ และ มเี จตคติท่ดี ีตอ่
หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรยี นทบั โพธพิ์ ัฒนวทิ ย์ พ.ศ.2563 22 พระพทุ ธศาสนา และหนา้ ท่ีพลเมือง สามารถทางานอยา่ งมีระบบระเบยี บ มีความรอบคอบ มีความ รบั ผดิ ชอบ มวี จิ ารณญาณและมีความเชื่อม่ันในตนเอง เพอื่ ใหร้ จู้ ักคดิ อยา่ งมีเหตผุ ล ยดึ มั่นในหลักการพ่งึ ตนเอง ตระหนกั ถึงความสาคัญเห็นคุณคา่ และมีเจตคตทิ ่ดี ี ตอ่ พระพุทธศาสนา และหนา้ ทีพ่ ลเมือง มคี ุณธรรมจรยิ ธรรมเป็นหลกั ใน การดาเนินชีวิต สามารถทางาน อยา่ งเป็นระบบระเบยี บ มคี วามรอบคอบ มีความรับผดิ ชอบ มวี จิ ารณญาณและมีความเชือ่ ม่ันในตนเอง รหัสตวั ชี้วดั ส 1.1 ม.3/1 ส 1.1 ม.3/2 ส 1.1 ม.3/3 ส 1.1 ม.3/4 ส 1.1 ม.3/5 ส 1.1 ม.3/6 ส 1.1 ม.3/7 ส 1.1 ม.3/8 ส 1.1 ม.3/9 ส 1.1 ม.3/10 ส 1.2 ม.3/1 ส 1.2 ม.3/2 ส 1.2 ม.3/3 ส 1.2 ม.3/4 ส 1.2 ม. 3/5 ส 1.2 ม.3/6 ส 1.2 ม. 3/7 ส 2.1 ม.3/1 ส 2.1 ม. 3/2 ส 2.1 ม.3/3 ส 2.1 ม.3/4 ส 2.1 ม. 3/5 ส 2.2 ม.3/1 ส 2.2 ม.3/2 ส 2.2 ม.3/3 ส 2.2 ม.3/4 รวม 26 รหัสตัวชี้วดั
หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรยี นทบั โพธ์ิพัฒนวิทย์ พ.ศ.2563 23 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ รำยวชิ ำสังคมศึกษำ 6 รหัสวิชำ ส23102 กลุ่มสำระกำรเรียนรสู้ ังคมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 3 ภำคเรยี นท่ี 2 จำนวน 1.5 หน่วยกิต เวลำ 60 ชวั่ โมง/ภำคเรยี น ศึกษาอธิบาย และวิเคราะห์กลไกราคาในระบบเศรษฐกจิ การมสี ่วนร่วมในการแกไ้ ขปัญหาและ พัฒนาท้องถิน่ ตามปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งกบั ระบบสหกรณ์ อธิบายบทบาทหน้าที่ของรัฐบาลในระบบ เศรษฐกจิ แสดงความเห็นต่อนโยบายและกิจกรรมทางเศรษฐกิจของรฐั ที่มตี อ่ บุคคล กลมุ่ คนและประเทศชาติ อภปิ รายบทบาทความสาคัญของการรวมกลุม่ ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ผลกระทบทเ่ี กดิ จากภาวะเงนิ เฟอ้ เงินฝดื ผลเสียจากการวา่ งงานและแนวทางแกป้ ัญหา สาเหตุ และวธิ ีการกดี กนั ทางการค้าในการค้า ระหวา่ งประเทศ ศึกษาอธบิ ายการใชเ้ ครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ในการรวบรวมวเิ คราะห์ และนาเสนอข้อมูลเกย่ี วกบั ลกั ษณะและความสัมพนั ธ์ทางกายภาพสงั คม ของทวีปอเมรกิ าเหนือและอเมริกาใต้ วิเคราะห์การก่อเกดิ สง่ิ แวดล้อมใหม่ทางสงั คม อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาตแิ ละทางสงั คม ระบุแนวทางการ อนรุ กั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม สารวจอภปิ รายประเดน็ ปญั หาเกยี่ วกบั ส่งิ แวดลอ้ ม วเิ คราะห์เหตุ และผลกระทบ ต่อเน่ืองจากการเปลี่ยนแปลงของส่งิ แวดล้อมในทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ โดยใช้กระบวนการศึกษาคน้ คว้า การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นขอ้ มลู ปฏิบัตจิ รงิ สรปุ รายงาน เพอื่ พฒั นาทักษะกระบวนการในการคิดวิเคราะห์ การแก้ปญั หา การใชเ้ หตผุ ล การสอ่ื ความหมาย ทางสังคม และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะ กระบวนการทไี่ ด้ไปใช้ในการเรยี นรู้สง่ิ ตา่ งๆ และใช้ในชีวิตประจาวนั อย่างสรา้ งสรรค์ รวมทง้ั เห็นคณุ ค่าและมเี จตคติทด่ี ีต่อเศรษฐศาสตร์ และภมู ิศาสตร์ สามารถทางานอยา่ งมีระบบระเบียบ มคี วามรอบคอบ มคี วามรับผิดชอบ มวี ิจารณญาณและมีความเช่อื ม่ัน ในตนเอง เพอ่ื ให้รู้จกั คิดอยา่ งมีเหตุผล ยึดมน่ั ในหลักการพึง่ ตนเอง ตระหนักถึงความสาคญั เหน็ คุณค่าและมเี จตคตทิ ่ดี ี ต่อเศรษฐศาสตร์ และภูมศิ าสตร์ มีคณุ ธรรมจริยธรรมเป็นหลกั ในการดาเนนิ ชวี ติ สามารถทางานอยา่ งเปน็ ระบบระเบยี บ มีความรอบคอบ มีความรบั ผดิ ชอบ มีวิจารณญาณและมีความเชื่อมน่ั ในตนเอง รหสั ตวั ชี้วัด ส 3.1 ม.3/2 ส 3.1 ม.3/3 ส 3.2 ม.3/1 ส 3.1 ม.3/1 ส 3.2 ม.3/3 ส 3.2 ม.3/4 ส 3.2 ม.3/5 ส 3.2 ม.3/2 ส 5.1 ม.3/1 ส 5.1 ม.3/2 ส 5.2 ม.3/1 ส 3.2 ม.3/6 ส 5.2 ม.3/3 ส 5.2 ม.3/4 ส 5.2 ม.3/2 รวม 15 รหัสตวั ชี้วดั
หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรยี นทับโพธ์พิ ัฒนวิทย์ พ.ศ.2563 24 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ รำยวิชำประวัตศิ ำสตร์ 1 รหสั วิชำ ส 21161 กลุ่มสำระกำรเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ชัน้ มัธยมศกึ ษำปีท่ี 1 ภำคเรยี นท่ี 1 เวลำ 20 ชว่ั โมง/ภำคเรยี น จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต ศกึ ษาความหมาย และความสาคัญของการนับเวลา และการนับช่วงเวลาทางประวัตศิ าสตร์ ศึกษาการเทยี บ ศักราชในระบบตา่ งๆ ศึกษาข้ันตอนวิธีทางประวตั ิศาสตร์อยา่ งง่าย ลกั ษณะ ประเภท และแหล่งที่มาของ หลักฐานทางประวตั ิศาสตรไ์ ทย ศกึ ษาค้นคว้าประวัตศิ าสตร์ ศึกษาเหตกุ ารณ์ทางประวตั ศิ าสตร์ เรอ่ื งราวของประวัติศาสตรไ์ ทยท่มี ีอยใู่ นทอ้ งถน่ิ ตนเองในสมยั ใดก็ได้ (สมยั ก่อนประวตั ิศาสตรส์ มยั ก่อนสุโขทัย สมยั สุโขทัย สมัยอยธุ ยาสมัยธนบรุ ี สมยั รัตนโกสนิ ทร์ ) และ เหตกุ ารณส์ าคัญในสมยั สุโขทัย พฒั นาการทางสังคม เศรษฐกิจและการเมืองของประเทศต่าง ๆ ในภมู ภิ าค เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ โดยกระบวนการสร้างความคิดรวบยอด กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการกลมุ่ กระบวนการ ทางาน กระบวนการสบื ค้น กระบวนการคิดวิเคราะห์ รวบรวมขอ้ มูลและจัดระบบข้อมูลอย่างเปน็ ระบบด้วย วธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์ กระบวนการสืบค้นหาเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพ่ือใหม้ ีความคดิ ริเริ่มสร้างสรรค์ มเี หตุผล รกั ประเทศชาติ รักท้องถน่ิ ตระหนักถึงความสาคัญของ เหตกุ ารณ์ทางประวตั ิศาสตร์ รเู้ ทา่ ทนั สถานการณ์ ภูมิใจในความเปน็ ไทย ตระหนักถึงความสาคัญของ วฒั นธรรม อนรุ กั ษ์วัฒนธรรมไทย สานึกว่าตนเป็นสว่ นหน่งึ ของธรรมชาติ รู้จักตัวเอง เขา้ ใจชีวติ ปรับปรุงตนเองอยเู่ สมอง มคี วามคดิ รวบยอดเก่ยี วกับพัฒนาการของเศรษฐกจิ การเมืองการปกครอง สงั คม ศิลปวฒั นธรรมของไทย ศรัทธาและเทิดทูนในบุคคลสาคญั ของไทยและต่างประเทศ รหัสตวั ช้ีวดั ส 4.1 ม.1/1 ส 4.1 ม.1/2 ส 4.1 ม.1/3 ส 4.2 ม.1/1 รวม 4 รหสั ตัวช้ีวดั
หลกั สูตรกลุม่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรยี นทบั โพธ์พิ ฒั นวิทย์ พ.ศ.2563 25 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ รำยวชิ ำประวัตศิ ำสตร์ 2 รหสั วชิ ำ ส 21162 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้สงั คมศกึ ษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ช้ันมัธยมศึกษำปที ่ี 1 ภำคเรยี นที่ 2 จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต เวลำ 20 ชว่ั โมง/ภำคเรยี น ศกึ ษาค้นควา้ เรื่องราวทางประวตั ิศาสตร์สมัยก่อนสุโขทยั ในดินแดนไทย รัฐโบราณในดินแดนไทย เช่น ศรวี ิชยั ตามพรลิงค์ ทวารวดี ล้านนา นครศรีธรรมราช สพุ รรณภูมิ เปน็ ต้น ความสาคัญของแหลง่ อารยธรรมใน ภมู ิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ แหลง่ มรดกโลกในประเทศตา่ ง ๆของเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ อิทธิพลของ อารยธรรมโบราณในดนิ แดนไทยทม่ี ตี ่อพัฒนาการของสังคมไทยในปจั จุบนั การสถาปนาอาณาจักรสโุ ขทัย พัฒนาการของอาณาจักรสุโขทยั ดา้ นการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ สงั คม และความสมั พนั ธร์ ะหว่าง ประเทศวฒั นธรรมสมัยสุโขทัย เช่น ภาษาไทย วรรณกรรม ประเพณสี าคัญ ศลิ ปกรรมไทยภมู ปิ ัญญาไทยใน สมัยสโุ ขทยั เช่นการชลประทานเครอ่ื งสงั คมโลกและความเส่ือมของอาณาจักรสโุ ขทยั โดยกระบวนการสรา้ งความคิดรวบยอด กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการกลมุ่ กระบวนการทางาน กระบวนการสืบคน้ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ รวบรวมข้อมูลและจดั ระบบข้อมลู อย่างเป็นระบบดว้ ยวิธีการ ทางประวตั ิศาสตร์ กระบวนการสืบค้นหาเทคโนโลยีสมยั ใหม่ เพ่อื ใหม้ คี วามคิดรเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ มเี หตผุ ล รกั ประเทศชาติ รกั ทอ้ งถน่ิ ตระหนักถึงความสาคัญของ เหตกุ ารณท์ างประวัติศาสตร์ ร้เู ทา่ ทันสถานการณ์ ภมู ใิ จในความเป็นไทย ตระหนักถงึ ความสาคัญของ วัฒนธรรม อนุรักษว์ ัฒนธรรมไทย สานกึ ว่าตนเปน็ สว่ นหนงึ่ ของธรรมชาติ รูจ้ กั ตัวเอง เข้าใจชวี ติ ปรบั ปรุงตนเองอยู่เสมอง มคี วามคิดรวบยอดเก่ยี วกับพัฒนาการของเศรษฐกจิ การเมอื งการปกครอง สังคม ศลิ ปวัฒนธรรมของไทย ศรทั ธาและเทดิ ทนู ในบุคคลสาคญั ของไทยและต่างประเทศ รหัสตวั ช้ีวัด ส 4.2 ม.1/2 ส 4.3 ม.1/1 ส 4.3 ม.1/2 ส 4.3 ม.1/3 รวม 4 รหสั ตัวชี้วดั
หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรียนทับโพธ์พิ ฒั นวทิ ย์ พ.ศ.2563 26 คำอธิบำยรำยวิชำ รำยวชิ ำประวตั ศิ ำสตร 3 รหัสวชิ ำ ส22163 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ชัน้ มัธยมศกึ ษำปีที่ 2 ภำคเรยี นที่ 1 จำนวน 0.5 หน่วยกติ เวลำ 20 ชั่วโมง/ภำคเรียน ประเมนิ ความน่าเชือ่ ถือของหลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ในลักษณะต่าง ๆ วิเคราะหค์ วามแตกตา่ ง ระหวา่ งความจริงกับข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ทางประวตั ศิ าสตร์ เห็นความสาคัญของการตคี วามหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ที่น่าเช่ือถือ อธบิ ายพัฒนาการทางสงั คม เศรษฐกจิ และการเมืองของภูมิภาคเอเชยี และระบุ ความสาคัญของแหล่งอารยธรรมโบราณในภูมิภาคเอเชยี โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สืบคน้ ข้อมลู ปฏบิ ตั จิ รงิ สรปุ รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ กระบวนการคิดวิเคราะห์ การแก้ปญั หา การใหเ้ หตุผล การส่ือความหมายทางสังคม และนาประสบการณ์ ดา้ นความรู้ ความคิด ทักษะ กระบวนการท่ีได้ไปใชใ้ นการเรยี นร้สู ่ิงตา่ ง ๆ และนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน อยา่ งสรา้ งสรรค์ เพ่ือตระหนกั ถึงความสาคญั เหน็ คณุ คา่ และมีเจตคตทิ ่ดี ตี ่อวชิ าประวตั ิศาสตร์ มจี ิตสานกึ ในความ รักชาติ เหน็ คณุ คา่ ของความเสยี สละ และความสมัคสมานสามัคคีของบรรพบุรุษไทย ในการสรา้ งชาติ นา คุณธรรมจริยธรรมเปน็ หลักในการดาเนนิ ชวี ติ เปน็ พลเมืองดี มคี วามรบั ผิดชอบ มคี วามรู้ มคี ุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ มที่เหมาะสม พัฒนาตนเองอย่เู สมอ รวมท้ังบาเพ็ญประโยชนต์ ่อสงั คมและสว่ นรวม ดารงชวี ิตอยู่ในสังคมอยา่ งมีความสุข รหสั ตวั ช้ีวัด ส 4.1 ม.2/2 ส 4.1 ม.2/3 ส 4.2 ม.2/2 ส 4.1 ม.2/1 ส 4.2 ม.2/1 รวม 5 รหัสตัวชี้วัด
หลกั สูตรกลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรยี นทบั โพธิ์พฒั นวทิ ย์ พ.ศ.2563 27 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ รำยวิชำประวัติศำสตร์ 4 รหัสวิชำ ส22164 กลุ่มสำระกำรเรียนร้สู ังคมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ชั้นมธั ยมศกึ ษำปที ่ี 2 ภำคเรยี นที่ 2 จำนวน 0.5 หน่วยกติ เวลำ 20 ช่ัวโมง/ภำคเรียน วเิ คราะหพ์ ัฒนาการของอาณาจักรอยธุ ยา ธนบรุ ีในด้านตา่ งๆ ปจั จัยทส่ี ่งผลตอ่ ความมั่นคงและความ เจรญิ รงุ่ เรอื งของอาณาจักรอยุธยา ระบภุ ูมปิ ญั ญาและวฒั นธรรมไทยสมัยอยธุ ยาและธนบรุ ี และอทิ ธิพลของ ภมู ปิ ัญญาดงั กลา่ ว ต่อการพัฒนาชาติไทยในยุคต่อมา โดยใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ สืบคน้ ข้อมลู ปฏบิ ตั จิ รงิ สรุป รายงาน เพ่อื พัฒนาทกั ษะ กระบวนการคดิ วเิ คราะห์ การแกป้ ญั หา การให้เหตผุ ล การส่ือความหมายทางสังคม และนาประสบการณ์ ด้านความรู้ ความคดิ ทักษะ กระบวนการท่ีไดไ้ ปใช้ในการเรยี นรู้สงิ่ ตา่ ง ๆ และนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั อย่างสรา้ งสรรค์ เพ่ือตระหนักถงึ ความสาคญั เหน็ คุณคา่ และมีเจตคตทิ ี่ดตี ่อวิชาประวัติศาสตร์ มีจิตสานึกในความ รกั ชาติ เหน็ คุณคา่ ของความเสยี สละ และความสมัคสมานสามัคคีของบรรพบุรษุ ไทย ในการสรา้ ง ชาติ นาคณุ ธรรมจริยธรรมเป็นหลกั ในการดาเนนิ ชวี ติ เปน็ พลเมอื งดี มคี วามรบั ผิดชอบ มคี วามรู้ มี คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยมที่เหมาะสม พัฒนาตนเองอยู่เสมอ รวมท้ังบาเพญ็ ประโยชน์ตอ่ สงั คมและสว่ นรวม ดารงชวี ติ อย่ใู นสังคมอย่างมคี วามสขุ รหสั ตวั ช้ีวัด ส 4.3 ม.2/1 ส 4.3 ม.2/2 ส 4.4 ม.2/3 รวม 3 รหัสตวั ชี้วดั
หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรยี นทบั โพธ์ิพัฒนวทิ ย์ พ.ศ.2563 28 คำอธิบำยรำยวิชำ รำยวชิ ำประวัตศิ ำสตร์ 5 รหัสวชิ ำ ส23165 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้สังคมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ช้นั มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 3 ภำคเรยี นท่ี 1 จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต เวลำ 20 ชวั่ โมง/ภำคเรียน ศกึ ษาวิเคราะห์ข้นั ตอนวธิ ีการทางประวัตศิ าสตร์ ศึกษาเหตุการณส์ าคัญทางประวตั ศิ าสตรท์ ่เี กิดข้ึน ในทอ้ งถิ่นตนเอง นาวธิ กี ารทางประวัตศิ าสตร์มาใช้ในการศึกษาเรื่องราวทเี่ กยี่ วข้องกับตนเอง ครอบครวั และท้องถ่นิ ของตน วิเคราะหเ์ หตกุ ารณ์สาคัญสมัยรัตนโกสินทร์ โดยใชว้ ธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์ ศกึ ษาที่ตง้ั และสภาพภูมศิ าสตร์ ภูมิภาคตา่ ง ๆ ของโลก ทีม่ ีผลต่อพัฒนาการของ อารยธรรมตะวันตกทีม่ ีผลต่อ พัฒนาการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก ความรว่ มมือและความขัดแย้ง ในคริสตศ์ ตวรรษท่ี 20 เช่น สงครามโลกครั้งท่ี 1 ครง้ั ท่ี 2 สงครามเยน็ องค์การความรว่ มมอื ระหว่างประเทศ อธบิ ายวเิ คราะหก์ าร สถาปนากรุงเทพมหานครเปน็ ราชธานี ปัจจยั ทส่ี ่งผลต่อความมัน่ คงและความเจรญิ รงุ่ เรืองของไทย บทบาท ของพระมหากษัตรยิ ์ไทยในราชวงศ์จกั รี และสร้างสรรค์ความเจรญิ และความมน่ั คงของชาติ โดยใช้กระบวนการศึกษาคน้ ควา้ การสบื เสาะหาความรู้ การสืบค้นขอ้ มูล ปฏิบตั จิ ริง สรปุ รายงาน เพือ่ พฒั นาทักษะกระบวนการในการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา การใชเ้ หตุผล การสอ่ื ความหมายทางสังคม และนาประสบการณ์ดา้ นความรู้ ความคิดทักษะ กระบวนการท่ไี ด้ไปใช้ในการ เรยี นรู้สง่ิ ต่างๆ และใช้ในชีวติ ประจาวันอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งเหน็ คณุ คา่ และมีเจตคติที่ดีต่อประวัตศิ าสตร์ สามารถทางานอย่างมีระบบระเบียบ มีความรอบคอบ มคี วามรับผดิ ชอบ มวี จิ ารณญาณและมีความเชอ่ื มน่ั ในตนเอง เพอ่ื ให้รจู้ ักคิดอยา่ งมีเหตผุ ล ยดึ มน่ั ในหลกั การพ่งึ ตนเอง ตระหนกั ถึงความสาคญั เห็นคุณคา่ และมีเจตคติทด่ี ี ตอ่ ประวัติศาสตร์ มีคุณธรรมจริยธรรมเปน็ หลักในการดาเนินชีวิต สามารถทางานอยา่ งเป็นระบบระเบียบ มี ความรอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณและมีความเชอื่ ม่ันในตนเอง รหสั ตวั ชี้วัด ส 4.1 ม. 3/1 ส 4.1 ม. 3/2 ส 4.2 ม. 3/1 ส 4.2 ม. 3/2 รวม 4 รหัสตวั ช้ีวดั
หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรียนทบั โพธพ์ิ ัฒนวทิ ย์ พ.ศ.2563 29 คำอธิบำยรำยวชิ ำ รำยวชิ ำประวตั ิศำสตร์ 6 รหสั วิชำ ส23166 กล่มุ สำระกำรเรียนรู้สงั คมศกึ ษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ช้ันมธั ยมศกึ ษำปีที่ 3 ภำคเรยี นท่ี 2 จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต เวลำ 20 ชั่วโมง/ภำคเรียน การพัฒนาการของไทยสมัยรัตนโกสนิ ทรด์ า้ นการเมอื งการปกครอง สงั คม เศรษฐกิจและ ความสัมพันธร์ ะหว่างประเทศตามชว่ งสมนั ต่าง ๆ เหตุการณ์สาคญั ต่อการพฒั นาชาติไทย เช่น การทา สนธสิ ญั ญาเบาว์รงิ่ ในสมยั รชั กาลที่ 4 การปฏิรปู ประเทศในสมยั รัชการที่ 5 การเขา้ รว่ มสงครามโลกครง้ั ที่ 1 และคร้ังท่ี 2 โดยวิเคราะห์สาเหตุปจั จยั และผลของเหตุการณ์ต่าง ๆ วเิ คราะห์ภมู ิปัญญาและวัฒนธรรมไทย สมนั รัตนโกสนิ ทรท์ ีม่ ีอิทธิพลตอ่ การพฒั นาชาตไิ ทย โดยเฉพาะสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั และสมเด็จพระราชนิ นี าถ วิเคราะหบ์ ทบาทของไทยตั้งแต่เปล่ียนแปลงการปกครองจนถงึ ปัจจุบันในสงั คมโลก โดยใชก้ ระบวนการศึกษาค้นควา้ การสบื เสาะหาความรู้ การสบื คน้ ขอ้ มลู ปฏิบตั ิจริง สรปุ รายงาน เพ่อื พฒั นาทักษะกระบวนการในการคิดวเิ คราะห์ การแก้ปัญหา การใชเ้ หตผุ ล การสื่อความหมาย ทางสงั คม และนาประสบการณ์ดา้ นความรู้ ความคดิ ทักษะ กระบวนการทไ่ี ดไ้ ปใชใ้ นการเรียนรูส้ ่งิ ต่างๆ และใช้ในชวี ติ ประจาวนั อยา่ งสร้างสรรค์ รวมทง้ั เห็นคุณค่าและมีเจตคตทิ ่ดี ีต่อประวตั ิศาสตร์ สามารถทางาน อย่างมรี ะบบระเบียบ มีความรอบคอบ มคี วามรบั ผิดชอบ มีวิจารณญาณและมีความเชือ่ ม่ันในตนเอง เพื่อให้รจู้ ักคดิ อย่างมเี หตุผล ยึดมัน่ ในหลกั การพึง่ ตนเอง ตระหนักถึงความสาคญั เห็นคุณค่าและมเี จตคติที่ดี ตอ่ ประวัติศาสตร์ มคี ุณธรรมจริยธรรมเปน็ หลกั ในการดาเนนิ ชีวิต สามารถทางานอยา่ งเป็นระบบระเบียบ มี ความรอบคอบ มีความรับผิดชอบ มวี จิ ารณญาณและมีความเช่ือมั่นในตนเอง รหสั ตวั ช้ีวดั ส 4.3 ม. 3/1 ส 4.3 ม. 3/2 ส 4.3 ม. 3/3 ส 4.3 ม. 3/4 รวม 4 รหัสตัวชี้วดั
หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรียนทบั โพธิ์พัฒนวทิ ย์ พ.ศ.2563 30 คำอธิบำยรำยวชิ ำเพ่ิมเติม ชั้นมธั ยมศึกษำตอนตน้
หลกั สตู รกลุม่ สาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรียนทบั โพธ์ิพฒั นวทิ ย์ พ.ศ.2563 31 คำอธิบำยรำยวิชำเพิ่มเตมิ รำยวิชำหนำ้ ทีพ่ ลเมือง 1 รหัสวิชำ ส20241 กลมุ่ สำระกำรเรียนรูส้ งั คมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ช้นั มัธยมศกึ ษำปีที่ 1 ภำคเรยี นท่ี 1 จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ เวลำ 20 ชัว่ โมง/ภำคเรยี น มีส่วนรว่ มอนุรกั ษ์มารยาทไทยในการแสดงความเคารพ การสนทนา การแต่งกาย การมีสัมมาคารวะ แสดงออกถึงความเอ้ือเฟ้ือเผ่ือแผแ่ ละเสียสละต่อสงั คม เห็นคณุ ค่าและอนรุ ักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย ปฏบิ ัติตนเป็นผู้มวี ินยั ในตนเอง ในเร่ืองความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมนั่ เพียร อดทน ใฝห่ าความรู้ ตั้งใจปฏิบัติหน้าทแ่ี ละยอมรบั ผลทเ่ี กิดจากการกระทาของตนเอง ปฏิบัติตนเปน็ แบบอย่างของความรักชาติ ยึดม่ันในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษตั ริย์ ประยกุ ต์และเผยแพรพ่ ระบรมราโชวาทในเรอื่ งมีเหตุผล รอบคอบ หลกั การทรงงานในเร่อื งการใช้ธรรมชาติ ชว่ ยธรรมชาติการปลกู ป่าในใจคน และหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปฏบิ ัติตนเปน็ ผ้มู ีวินยั ในตนเอง ใน เรื่องความซื่อสตั ย์สจุ ริตขยนั หมั่นเพียร อดทน ใฝห่ าความรู้ และตงั้ ใจปฏบิ ัตหิ น้าที่ โดยใชก้ ระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการเผชญิ สถานการณ์ กระบวนการ แกป้ ญั หากระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสรา้ งความตระหนัก กระบวนการสรา้ งค่านยิ ม และ กระบวนการสร้างเจตคติ เพื่อให้ผู้เรยี นมีลกั ษณะทด่ี ีของคนไทย ภาคภูมิใจในความเป็นไทย แสดงออกถึงความรกั ชาติ ยึดม่นั ในศาสนา และเทิดทนู สถาบันพระมหากษัตริย์ เปน็ พลเมืองดีในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ มสี ่วนร่วมทางการเมืองการปกครอง อยรู่ ว่ มกบั ผูอ้ ่ืนอย่างสันติ จัดการความขัดแย้งด้วยสนั ตวิ ิธี และมี วนิ ยั ในตนเอง ผลกำรเรยี นรู้ 1. มีสว่ นร่วมในการอนุรักษ์มารยาทไทย 2. แสดงออกถึงความเอื้อเฟอ้ื เผื่อแผแ่ ละเสยี สละต่อสงั คม 3.เหน็ คณุ ค่าและอนรุ ักษ์ขนบธรรมเนียม ประเพณี ศลิ ปวัฒนธรรม และภมู ปิ ญั ญาไทย 4. เปน็ แบบอย่างของความรกั ชาติ ยดึ มั่นในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษตั ริย์ 5. ประยุกต์และเผยแพร่พระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง รวมท้ังหมด 5 ผลกำรเรยี นรู้
หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรยี นทบั โพธพิ์ ัฒนวทิ ย์ พ.ศ.2563 32 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ รำยวชิ ำหนำ้ ทีพ่ ลเมือง 2 รหัสวชิ ำ ส20242 กลุม่ สำระกำรเรียนรสู้ งั คมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศกึ ษำปีท่ี 1 ภำคเรยี นท่ี 2 จำนวน 0.5 หน่วยกติ เวลำ 20 ชวั่ โมง/ภำคเรียน ปฏิบตั ิตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธปิ ไตย ในการมีส่วนรว่ มในกิจกรรมต่างๆ ของสังคม การตดั สินใจโดยใช้ เหตุผล มีส่วนรว่ มและรบั ผดิ ชอบในการตัดสนิ ใจในกจิ กรรมของห้องเรยี นและโรงเรียน ตรวจสอบขอ้ มูลเพอ่ื ใช้ ประกอบการตัดสินใจในกจิ กรรมต่างๆ ปฏิบตั ิตนเป็นผูม้ ีวนิ ัยในตนเอง ในเร่ืองความซ่ือสัตยส์ จุ รติ อดทน ขยันหม่ันเพียร ใฝ่หาความรู้ ตง้ั ใจปฏบิ ตั หิ น้าทแี่ ละยอมรบั ผลทเ่ี กิดจากการกระทาของตนเอง ยอมรับความ หลากหลายทางสังคมวฒั นธรรมในภมู ิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ในเรื่องวถิ ชี วี ติ วฒั นธรรม ศาสนา สง่ิ แวดลอ้ ม อยู่รว่ มกันอย่างสันติและพ่ึงพาซึ่งกนั และกันในสงั คมพหุวฒั นธรรมด้วยการเคารพซง่ึ กันและกนั ไม่ แสดงกิริยาและวาจาดูหม่ินผู้อืน่ ชว่ ยเหลอื ซ่งึ กนั และกนั แบ่งปัน มีสว่ นร่วมในการแก้ปัญหาความขดั แยง้ โดย สนั ตวิ ิธี ในเรือ่ งการทะเลาะวิวาท ความคดิ เห็นไม่ตรงกนั ด้วยการเจรจาไกลเ่ กลยี่ การเจรจาต่อรอง การระงบั ความขัดแย้ง ปฏิบตั ติ นเปน็ ผมู้ ีวินยั ในตนเอง ในเร่ืองความซ่อื สัตย์สุจรติ อดทน ใฝ่หาความรู้ ตง้ั ใจปฏิบตั หิ นา้ ที่ ยอมรับผลท่ีเกิดจากการกระทาของตนเอง โดยใชก้ ระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชญิ สถานการณ์ กระบวนการ แก้ปัญหากระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสร้างความตระหนัก กระบวนการสรา้ งค่านิยม และ กระบวนการสรา้ งเจตคติ เพอื่ ให้ผู้เรียนมีลักษณะท่ดี ขี องคนไทย ภาคภมู ิใจในความเปน็ ไทย แสดงออกถึงความรักชาติ ยึดม่นั ในศาสนา และเทิดทนู สถาบนั พระมหากษัตริย์ เปน็ พลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็น ประมุข มีสว่ นรว่ มทางการเมืองการปกครอง อยู่รว่ มกบั ผู้อ่ืนอยา่ งสนั ติ จดั การความขัดแยง้ ด้วยสันตวิ ิธี และมี วินยั ในตนเอง ผลกำรเรียนรู้ 6. ปฏิบัตติ นเป็นพลเมืองดีตามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย 7. มีสว่ นร่วมและรับผดิ ชอบในการตัดสินใจ ตรวจสอบข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการตัดสนิ ใจในกจิ กรรมต่าง ๆ 8. ยอมรับความหลากหลายทางสงั คมวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ และอยู่ร่วมกัน อยา่ งสันติ และพง่ึ พาซ่งึ กนั และกัน 9. มีสว่ นร่วมในการแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยสันตวิ ิธี 10. ปฏิบตั ิตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง รวมท้ังหมด 5 ผลกำรเรยี นรู้
หลักสูตรกล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรียนทับโพธพิ์ ฒั นวิทย์ พ.ศ.2563 33 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ รำยวชิ ำหน้ำทีพ่ ลเมือง 3 รหสั วิชำ ส22223 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้สงั คมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 2 ภำคเรยี นท่ี 1 จำนวน 0.5 หน่วยกิต เวลำ 20 ช่ัวโมง/ภำคเรียน มีสว่ นร่วมและแนะนาผู้อน่ื ให้อนุรักษ์มารยาทไทยในการแสดงความเคารพ การสนทนา การแต่งกาย การมี สัมมาคารวะ แสดงออกและแนะนาผอู้ น่ื ให้มคี วามเอ้ือเฟ้ือเผอื่ แผแ่ ละเสยี สละต่อสังคม เห็นคณุ คา่ อนุรักษแ์ ละ สบื สานขนบธรรมเนียม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย ปฏบิ ตั ติ นเป็นผู้มีวนิ ยั ในตนเอง ในเรื่อง ความซือ่ สัตยส์ ุจรติ ขยนั หมั่นเพียร อดทน ต้ังใจปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ีและยอมรับผลท่เี กิดจากการกระทาของตนเอง ปฏบิ ัตติ นเป็นแบบอย่างและแนะนาผูอ้ ่ืนให้มีการปฏบิ ตั ติ นที่แสดงออกถงึ ความรกั ชาติ ยึดมั่นในศาสนา และ เทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์ ประยกุ ต์และเผยแพร่พระบรมราโชวาทในเรอ่ื งการมีสติ ความขยัน อดทน หลักการทรงงานในเร่อื งภูมิสงั คม ขาดทุนคือกาไรและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบัตติ นเปน็ ผมู้ ี วนิ ัยในตนเอง ในเร่ืองความซ่ือสัตย์สจุ รติ ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ และตง้ั ใจปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคดิ กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการเผชญิ สถานการณ์ กระบวนการ แก้ปัญหากระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสรา้ งความตระหนัก กระบวนการสร้างค่านิยม และ กระบวนการสร้างเจตคติ เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รียนมีลักษณะทด่ี ีของคนไทย ภาคภูมิใจในความเปน็ ไทย แสดงออกถงึ ความรกั ชาติ ยึดม่ันในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษตั ริย์ เปน็ พลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็น ประมุข มสี ว่ นร่วมทางการเมืองการปกครอง อยู่รว่ มกบั ผอู้ ่ืนอย่างสันติ จัดการความขดั แยง้ ด้วยสนั ติวธิ ี และมี วนิ ัยในตนเอง ผลกำรเรียนรู้ 1. มีสว่ นรว่ มและแนะนาผู้อื่นให้อนรุ ักษม์ ารยาทไทย 2. แสดงออกและแนะนาผู้อ่ืนให้มคี วามเอื้อเฟ้ือเผอ่ื แผ่และเสยี สละต่อสงั คม 3. เหน็ คุณคา่ อนรุ ักษ์ และสืบสานขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม และภมู ปิ ัญญาไทย 4. เป็นแบบอย่างและแนะนาผอู้ ืน่ ให้มีความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทูนสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ 5. ประยกุ ต์และเผยแพร่พระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งหมด 5 ผลกำรเรียนรู้
หลักสตู รกลุม่ สาระการเรียนร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรยี นทับโพธพ์ิ ฒั นวิทย์ พ.ศ.2563 34 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ รำยวชิ ำหนำ้ ทพี่ ลเมือง 4 รหัสวิชำ ส22224 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้สงั คมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ชัน้ มธั ยมศึกษำปที ่ี 2 ภำคเรยี นท่ี 2 จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต เวลำ 20 ช่ัวโมง/ภำคเรียน ปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมืองดตี ามวิถปี ระชาธิปไตยในเร่ืองการติดตามข่าวสารบ้านเมือง ความกล้าหาญ ทางจรยิ ธรรม การเป็นผ้นู าและการเป็นสมาชกิ ทดี่ ี มีส่วนรว่ มและรบั ผดิ ชอบในการตัดสนิ ใจตอ่ กจิ กรรมของ หอ้ งเรียนและโรงเรียน ตรวจสอบข้อมูลเพ่ือใช้ประกอบการตัดสินใจในกิจกรรมต่างๆ และรู้ทันข่าวสาร ปฏิบัติ ตนเป็นผมู้ ีวนิ ัยในตนเองในเรื่องความซื่อสตั ยส์ ุจรติ อดทน ตั้งใจปฏบิ ัติหนา้ ท่ี ใฝห่ าความรู้ และยอมรบั ผลท่เี กดิ จากการกระทาของตนเอง เห็นคุณคา่ ของการอย่รู ่วมกันในภมู ภิ าคเอเชียอยา่ งสนั ติ และพง่ึ พาอาศยั ซ่งึ กันและกนั โดยคานึงถึง ความหลากหลายทางสังคม วัฒนธรรมในภูมภิ าคเอเชยี ในเร่ืองวถิ ีชีวติ วัฒนธรรม ศาสนา ส่งิ แวดลอ้ มการอยู่ ร่วมกันในสงั คมพหุวฒั นธรรมและการพ่ึงพาซง่ึ กันและกัน ในเร่ืองการเคารพซึ่งกนั และกัน ไม่แสดงกิรยิ าและ วาจาดูหมิน่ ผอู้ ื่น ช่วยเหลือซง่ึ กันและกนั แบ่งปนั มีสว่ นรว่ มและเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาความขัดแย้งโดย สนั ตวิ ธิ ีเกี่ยวกับการละเมิดสิทธกิ ารใช้ของสว่ นรวมดว้ ยการเจรจาไกลเ่ กลย่ี การเจรจาต่อรอง การระงับความ ขดั แย้ง ปฏิบัติตนเปน็ ผมู้ วี ินยั ในตนเองในเร่อื งความซ่ือสตั ย์สุจรติ อดทน ใฝ่หาความรู้ ต้งั ใจปฏิบัติหนา้ ที่ ยอมรับผลท่ีเกิดจากการกระทาของตนเอง โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ กระบวนการแก้ปัญหากระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสรา้ งความตระหนกั กระบวนการสร้าง ค่านยิ ม และกระบวนการสรา้ งเจตคติ เพ่ือใหผ้ เู้ รียนมีลักษณะที่ดีของคนไทย ภาคภูมิใจในความเป็นไทย แสดงออกถึงความรักชาติ ยดึ ม่นั ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั รยิ ท์ รง เปน็ ประมุข มสี ว่ นรว่ มทางการเมอื งการปกครอง อยรู่ ่วมกับผู้อื่นอย่างสันติ จัดการความขดั แย้งดว้ ยสันตวิ ิธี และมวี ินยั ในตนเอง ผลกำรเรียนรู้ 6. ปฏิบัติตนเป็นพลเมอื งดีตามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย 7. มีส่วนร่วมและรับผดิ ชอบในการตัดสินใจ ตรวจสอบข้อมูลเพ่อื ใช้ประกอบการตัดสินใจในกิจกรรม ต่าง ๆ และรทู้ นั ขา่ วสาร 8. เห็นคุณค่าของการอยู่รว่ มกันในภูมิภาคเอเชยี อยา่ งสนั ติและพงึ่ พาซึ่งกันและกนั 9. มีสว่ นรว่ มและเสนอแนวทางการแก้ปญั หาความขดั แย้งโดยสนั ติวธิ ี 10. ปฏบิ ัตติ นเป็นผูม้ วี ินยั ในตนเอง รวมท้ังหมด 5 ผลกำรเรยี นรู้
หลกั สูตรกล่มุ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรียนทับโพธ์ิพฒั นวทิ ย์ พ.ศ.2563 35 คำอธิบำยรำยวิชำ รำยวิชำหนำ้ ท่พี ลเมือง 5 รหัสวชิ ำ ส23225 กลุ่มสำระกำรเรียนรสู้ งั คมศกึ ษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ชนั้ มธั ยมศึกษำปีท่ี 3 ภำคเรยี นท่ี 1 จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ เวลำ 20 ชั่วโมง/ภำคเรยี น มีสว่ นร่วมแนะนาผู้อนื่ ให้อนุรักษแ์ ละยกย่องผมู้ ีมารยาทไทยในเร่ืองการแสดงความเคารพ การ สนทนาการแต่งกาย การมสี ัมมาคารวะ แสดงออก แนะนาผู้อน่ื และมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมเกย่ี วกับความ เอือ้ เฟ้ือเผือ่ แผแ่ ละเสียสละต่อสงั คม เหน็ คุณค่า อนุรักษ์ สบื สานและประยุกตข์ นบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒั นธรรม และภมู ปิ ญั ญาไทย ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซือ่ สตั ย์สุจรติ ขยันหมน่ั เพยี ร อดทน ใฝห่ าความรู้ ตงั้ ใจปฏิบัตหิ น้าที่ และยอมรบั ผลทีเ่ กิดจากการกระทาของตนเอง ปฏบิ ตั ติ นเปน็ แบบอยา่ ง และมสี ่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่แสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมน่ั ในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ ประยุกต์และเผยแพร่พระบรมราโชวาทในเรือ่ งการเสียสละ ความซ่ือสัตย์ หลกั การทรงงานในเรอ่ื งศึกษาข้อมูลอยา่ งเปน็ ระบบ แกป้ ัญหาทจ่ี ดุ เล็ก ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้มีวนิ ยั ในตนเองในเรอ่ื ง ความซือ่ สตั ยส์ ุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ และตัง้ ใจปฏิบตั หิ น้าท่ี โดยใชก้ ระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ กระบวนการแกป้ ัญหากระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสร้างความตระหนัก กระบวนการสร้าง คา่ นยิ ม และกระบวนการสรา้ งเจตคติ เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นมีลักษณะทดี่ ีของคนไทย ภาคภมู ิใจในความเปน็ ไทย แสดงออกถึงความรกั ชาติ ยึดมนั่ ใน ศาสนา และเทิดทนู สถาบันพระมหากษตั รยิ ์ เป็นพลเมอื งดีในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ท์ รง เปน็ ประมุขมสี ่วนร่วมทางการเมอื งการปกครอง อยู่ร่วมกบั ผู้อื่นอยา่ งสนั ติ จัดการความขัดแยง้ ด้วยสนั ตวิ ธิ ี และมีวินัยในตนเอง ผลกำรเรยี นรู้ 1. มีส่วนร่วม แนะนาผ้อู ่นื ให้อนุรกั ษ์และยกยอ่ งผู้มมี ารยาทไทย 2. แสดงออก แนะนาผูอ้ ื่น และมสี ่วนร่วมในกิจกรรมเกยี่ วกับความเอื้อเฟอ้ื เผื่อแผ่และเสียสละ 3. เห็นคุณคา่ อนุรักษ์ สืบสาน และประยุกต์ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และภูมปิ ัญญาไทย 4. เป็นแบบอยา่ งและมสี ว่ นร่วมในการจัดกิจกรรมท่ีแสดงออกถึงความรักชาติ ยดึ มัน่ ในศาสนา และเทดิ ทูน สถาบันพระมหากษตั ริย์ 5. ประยกุ ตแ์ ละเผยแพร่พระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง รวมท้ังหมด 5 ผลกำรเรียนรู้
หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรียนทบั โพธพิ์ ัฒนวทิ ย์ พ.ศ.2563 36 คำอธิบำยรำยวชิ ำ รำยวชิ ำหนำ้ ทพี่ ลเมือง 6 รหัสวิชำ ส23226 กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้สงั คมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ชัน้ มัธยมศึกษำปีที่ 3 ภำคเรยี นท่ี 2 จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต เวลำ 20 ชั่วโมง/ภำคเรยี น ปฏิบตั ิตนเปน็ พลเมืองดีตามวิถปี ระชาธปิ ไตย ในเรื่องการใช้สิทธแิ ละหน้าที่ การใช้เสรีภาพอย่าง รบั ผิดชอบ การมีส่วนรว่ มในกิจกรรมการเลือกต้ังมสี ว่ นรว่ มและรบั ผิดชอบในการตดั สินใจต่อกจิ กรรมของ ห้องเรียนและโรงเรียน ตรวจสอบขอ้ มูล ตรวจสอบการทาหนา้ ทข่ี องบคุ คลเพื่อใชป้ ระกอบการตัดสนิ ใจ ปฏิบัติ ตนเปน็ ผู้มีวินัยในตนเองในเร่ืองความซื่อสัตยส์ จุ ริต ขยนั หมนั่ เพียร ใฝห่ าความรู้ ต้ังใจปฏบิ ตั ิหนา้ ทีแ่ ละยอมรบั ผลที่เกดิ จากการกระทาของตนเอง เหน็ คณุ ค่าของการอย่รู ว่ มกันอยา่ งสันติท่ามกลางความหลากหลายทางสงั คมวฒั นธรรมในภูมภิ าค ตา่ งๆ ของโลกในเรื่องวิถชี วี ิต วัฒนธรรมศาสนา ส่ิงแวดลอ้ ม การอยู่ร่วมกนั ในสังคมพหุวัฒนธรรมและพง่ึ พาซ่งึ กนั และกัน ในเรอ่ื งการเคารพซึ่งกนั และกัน ไม่แสดงกริ ิยาและวาจาดูหมน่ิ ผ้อู ืน่ ชว่ ยเหลอื ซึ่งกันและกัน แบ่งปัน มีสว่ นร่วมและเสนอแนวทางการป้องกันปัญหาความขัดแย้งในเร่อื งทัศนคติ ความคิด ความเชือ่ ชสู้ าว ปฏบิ ัติ ตนเป็นผมู้ ีวินัยในตนเองในเร่ืองความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ อดทน ใฝ่หาความรู้ ต้ังใจปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ และยอมรบั ผลทีเ่ กิด จากการกระทาของตนเอง โดยใชก้ ระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ กระบวนการแกป้ ญั หากระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสรา้ งความตระหนัก กระบวนการสรา้ ง ค่านิยม และกระบวนการสรา้ งเจตคติ เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนมีลกั ษณะท่ดี ขี องคนไทย ภาคภูมิใจในความเป็นไทย แสดงออกถึงความรักชาติ ยึดม่ันใน ศาสนา และเทิดทนู สถาบนั พระมหากษตั ริย์ เป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ท์ รง เปน็ ประมุข มีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครอง อย่รู ่วมกับผู้อื่นอย่างสันติ จดั การความขดั แย้งดว้ ยสนั ติวิธี และมวี นิ ยั ในตนเอง ผลกำรเรยี นรู้ 6. ปฏิบัตติ นเป็นพลเมืองดีตามวถิ ปี ระชาธิปไตย 7. มสี ว่ นร่วมและรับผิดชอบในการตัดสินใจ ตรวจสอบข้อมูล ตรวจสอบการทาหน้าท่ีของบคุ คล เพือ่ ใชป้ ระกอบการตัดสินใจ 8. เหน็ คณุ ค่าของการอยรู่ ่วมกันในภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลกอย่างสนั ตแิ ละพ่ึงพาซึ่งกันและกนั 9. มีส่วนร่วมและเสนอแนวทางการป้องกนั ปัญหาความขัดแยง้ 10. ปฏิบัติตนเป็นผมู้ ีวินยั ในตนเอง รวมทั้งหมด 5 ผลกำรเรียนรู้
หลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรยี นทับโพธพ์ิ ฒั นวทิ ย์ พ.ศ.2563 37 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ รำยวิชำกำรปอ้ งกันกำรทจุ รติ 1 รหสั วิชำ ส21201 กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้สงั คมศึกษำศำสนำและวฒั นธรรม ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 1 ภำคเรยี นที่ 1 จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ เวลำ 20 ชัว่ โมง/ภำคเรยี น ศกึ ษาเกี่ยวกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตน กบั ผลประโยชนส์ ่วนรวม ความละอายและ ความไม่ทนต่อการทจุ รติ STRONG : จติ พอเพียงต่อต้านการทุจริต ร้หู นา้ ที่ของพลเมืองและรบั ผิดชอบตอ่ สังคม ในการต่อตา้ นการทจุ ริต โดยใชก้ ระบวนการคิด วเิ คราะห์ จาแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบตั ิจริง การทาโครงงานกระบวนการ เรยี นรู้ 5 ขน้ั ตอน (5 STEPs) การอภิปราย การสบื สอบ การแกป้ ัญหา ทักษะการอา่ นและการเขียนเพ่ือให้มี ความตระหนักและเห็นความสาคญั ของการต่อต้านและการป้องกนั การทุจรติ ผลกำรเรียนรู้ 1 มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนกับผลประโยชนส์ ว่ นรวม 2 มคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับความละอายและความไมท่ นต่อการทุจรติ รวม 2 ผลกำรเรียนรู้ คำอธบิ ำยรำยวิชำ รำยวชิ ำกำรป้องกนั กำรทจุ รติ 2 รหัสวชิ ำ ส21202 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรูส้ งั คมศกึ ษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ชั้นมธั ยมศกึ ษำปีท่ี 1 ภำคเรียนท่ี 2 จำนวน 0.5 หน่วยกิต เวลำ 20 ชว่ั โมง/ภำคเรยี น ศึกษาเกยี่ วกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตน กบั ผลประโยชน์สว่ นรวม ความละอายและ ความไม่ทนต่อการทจุ ริต STRONG : จิตพอเพยี งตอ่ ตา้ นการทุจรติ รหู้ นา้ ที่ของพลเมืองและรบั ผดิ ชอบต่อ สงั คม ในการตอ่ ต้านการทจุ ริต โดยใช้กระบวนการคิด วเิ คราะห์ จาแนก แยกแยะ การฝึกปฏบิ ัตจิ รงิ การทาโครงงานกระบวนการ เรยี นรู้ 5 ขั้นตอน (5 STEPs) การอภปิ ราย การสืบสอบ การแกป้ ัญหา ทกั ษะการอ่านและการเขียนเพื่อให้มี ความตระหนักและเห็นความสาคญั ของการต่อตา้ นและการป้องกนั การทจุ ริต ผลกำรเรยี นรู้ 3 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกับ STRONG : จิตพอเพยี งต่อต้านการทุจริต 4 มีความรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกับพลเมอื งและมีความรับผิดชอบต่อสังคม รวม 2 ผลกำรเรยี นรู้
หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรยี นทบั โพธิ์พฒั นวิทย์ พ.ศ.2563 38 คำอธบิ ำยรำยวิชำ รำยวิชำกำรป้องกนั กำรทุจริต 3 รหสั วิชำ ส22201 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรูส้ งั คมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ชนั้ มธั ยมศึกษำปีที่ 2 ภำคเรยี นที่ 1 จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ เวลำ 20 ช่วั โมง/ภำคเรยี น ศกึ ษาเกี่ยวกับการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตน กบั ผลประโยชนส์ ่วนรวม ความละอายและ ความไม่ทนต่อการทุจริต STRONG : จติ พอเพียงต่อตา้ นการทจุ ริต ร้หู นา้ ทข่ี องพลเมืองและรับผดิ ชอบต่อ สังคม ในการต่อต้านการทุจริต โดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ จาแนก แยกแยะ การฝกึ ปฏิบตั จิ รงิ การทาโครงงานกระบวนการ เรยี นรู้ 5 ขนั้ ตอน (5 STEPs) การอภิปราย การสบื สอบ การแกป้ ญั หา ทกั ษะการอา่ นและการเขียนเพื่อใหม้ ี ความตระหนักและเหน็ ความสาคัญของการต่อตา้ นและการปอ้ งกันการทุจรติ ผลกำรเรียนรู้ 5 สามารถคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์สว่ นรวมได้ 6 ปฏิบัตติ นเป็นผ้ลู ะอายและไม่ทนตอ่ การทจุ ริตทุกรปู แบบ รวม 2 ผลกำรเรียนรู้ คำอธบิ ำยรำยวิชำ รำยวิชำกำรปอ้ งกันกำรทจุ ริต 4 รหสั วิชำ ส22202 กล่มุ สำระกำรเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ช้นั มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 2 ภำคเรียนท่ี 2 จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ เวลำ 20 ชั่วโมง/ภำคเรียน ศกึ ษาเก่ียวกบั การแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตน กบั ผลประโยชน์ส่วนรวม ความละอายและ ความไม่ทนต่อการทจุ รติ STRONG : จติ พอเพียงตอ่ ตา้ นการทจุ รติ รู้หน้าท่ขี องพลเมืองและรับผิดชอบตอ่ สงั คม ในการต่อตา้ นการทุจริต โดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ จาแนก แยกแยะ การฝกึ ปฏิบัตจิ ริง การทาโครงงานกระบวนการ เรียนรู้ 5 ขนั้ ตอน (5 STEPs) การอภิปราย การสืบสอบ การแก้ปัญหา ทักษะการอา่ นและการเขียนเพ่ือใหม้ ี ความตระหนักและเหน็ ความสาคัญของการต่อตา้ นและการปอ้ งกนั การทจุ รติ ผลกำรเรียนรู้ 7 ปฏิบัตติ นเปน็ ผ้ทู ี่ STRONG : จติ พอเพียงต่อตา้ นการทุจริต 8 ปฏบิ ตั ิตนตามหนา้ ท่ีพลเมืองและมีความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม รวม 2 ผลกำรเรยี นรู้
หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรยี นทบั โพธิ์พัฒนวทิ ย์ พ.ศ.2563 39 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ รำยวิชำกำรป้องกันกำรทจุ ริต 5 รหัสวิชำ ส23201 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้สังคมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ช้นั มธั ยมศึกษำปีที่ 3 ภำคเรยี นที่ 1 จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ เวลำ 20 ช่วั โมง/ภำคเรยี น ศกึ ษาเกี่ยวกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตน กับผลประโยชน์ส่วนรวม ความละอายและ ความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต STRONG : จิตพอเพยี งต่อต้านการทุจรติ รหู้ น้าทีข่ องพลเมืองและรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม ในการต่อตา้ นการทจุ ริต โดยใชก้ ระบวนการคิด วิเคราะห์ จาแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบัตจิ รงิ การทาโครงงานกระบวนการ เรยี นรู้ 5 ขนั้ ตอน (5 STEPs) การอภปิ ราย การสืบสอบ การแกป้ ัญหา ทักษะการอ่านและการเขยี นเพ่ือใหม้ ี ความตระหนักและเห็นความสาคญั ของการต่อต้านและการปอ้ งกันการทุจริต ผลกำรเรยี นรู้ 5 สามารถคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตนกับผลประโยชนส์ ่วนรวมได้ 6 ปฏบิ ตั ิตนเป็นผู้ละอายและไม่ทนต่อการทจุ ริตทกุ รปู แบบ รวม 2 ผลกำรเรียนรู้ คำอธิบำยรำยวิชำ รำยวิชำกำรปอ้ งกันกำรทจุ รติ 6 รหัสวชิ ำ ส23202 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สงั คมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ชน้ั มธั ยมศึกษำปที ี่ 3 ภำคเรยี นที่ 2 จำนวน 0.5 หน่วยกิต เวลำ 20 ชว่ั โมง/ภำคเรยี น ศึกษาเกีย่ วกบั การแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตน กบั ผลประโยชน์สว่ นรวม ความละอายและ ความไม่ทนต่อการทุจรติ STRONG : จิตพอเพียงตอ่ ต้านการทุจริต รู้หน้าทข่ี องพลเมืองและรับผดิ ชอบต่อ สงั คม ในการตอ่ ต้านการทุจริต โดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ จาแนก แยกแยะ การฝึกปฏบิ ตั จิ ริง การทาโครงงานกระบวนการ เรยี นรู้ 5 ขั้นตอน (5 STEPs) การอภิปราย การสบื สอบ การแก้ปญั หา ทักษะการอ่านและการเขยี นเพ่ือใหม้ ี ความตระหนักและเหน็ ความสาคญั ของการต่อตา้ นและการปอ้ งกันการทุจริต ผลกำรเรยี นรู้ 7 ปฏิบัตติ นเป็นผทู้ ่ี STRONG : จติ พอเพียงต่อต้านการทุจริต 8 ปฏิบัตติ นตามหน้าท่ีพลเมืองและมีความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม 9 ตระหนักและเห็นความสาคัญของการต่อตา้ นและปอ้ งกนั การทจุ รติ รวม 3 ผลกำรเรยี นรู้
หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรียนทบั โพธิพ์ ฒั นวิทย์ พ.ศ.2563 40 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ รำยวชิ ำอำเซียนศึกษำ 1 รหัสวชิ ำ ส21281 กลมุ่ สำระกำรเรียนรูส้ ังคมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 1 ภำคเรยี นท่ี 1 จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ เวลำ 20 ชวั่ โมง/ภำคเรียน ศึกษาการเปดิ ประตูสูอ่ าเซยี น การเตรียมความพร้อมสปู่ ระชาคมอาเซยี น ภมู ิศาสตร์อาเซียนกับอัต ลักษณท์ างภมู ศิ าสตร์อาเซยี น พัฒนาการของเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้กับอตั ลักษณ์ทางประวตั ิศาสตร์อาเซยี น การแลกเปลย่ี นเงนิ ตรากับการทอ่ งเทีย่ วในอาเซยี น โดยจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนทยี่ ดึ ผู้เรียนเปน็ ศนู ย์กลาง (Child-Centered) เน้นให้ผู้เรยี นไดศ้ กึ ษา คน้ ควา้ ฝึกทักษะการคิดทีห่ ลากหลาย ทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยี ทักษะการแก้ปญั หา และทักษะพลเมือง เพือ่ ให้ ผู้เรยี นตระหนกั ในอตั ลกั ษณ์อาเซยี นรว่ มกัน เคารพในความแตกตา่ งและหลากหลาย ภูมิใจในความเป็นไทย และความเป็นอาเซียน มีความรบั ผิดชอบทางสงั คมในฐานะพลเมืองไทยและพลเมืองอาเซยี น ตลอดจน สามารถปรับตัวและดาเนนิ ชีวติ อย่ใู นประชาคมอาเซยี นได้ ผลกำรเรยี นรู้ 1. อธิบายพัฒนาการของอาเซียนและสัญลักษณ์ของอาเซียน 2. บอกข้อมูลพนื้ ฐานสาคญั ของประเทศสมาชิกอาเซยี นและอธบิ ายเปา้ หมายของการจดั ตั้งประชาคม อาเซยี น และการเตรยี มความพร้อมสปู่ ระชาคมอาเซียน 3. อธบิ ายลกั ษณะทางภมู ศิ าสตร์ของอาเซยี นและสรุปอัตลักษณท์ างภูมิศาสตร์อาเซียน 4. อธิบายพัฒนาการของเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้และสรุปอัตลกั ษณ์ทางประวัติศาสตรอ์ าเซียน 5. อธิบายการแลกเปล่ยี นเงนิ ตราในอาเซยี นและยกตัวอยา่ งแหล่งทอ่ งเทย่ี วในอาเซยี นและความ รว่ มมือดา้ นท่องเทีย่ วของอาเซยี น รวมท้ังหมด 5 ผลกำรเรียนรู้
หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นรูส้ งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรยี นทับโพธพิ์ ัฒนวทิ ย์ พ.ศ.2563 41 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ รำยวชิ ำอำเซียนศึกษำ 2 รหัสวชิ ำ ส21282 กลมุ่ สำระกำรเรียนร้สู งั คมศกึ ษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศกึ ษำปที ่ี 1 ภำคเรยี นที่ 2 จำนวน 0.5 หน่วยกิต เวลำ 20 ชวั่ โมง/ภำคเรยี น วเิ คราะห์ลกั ษณะความสัมพันธข์ องอาเซยี นกับการสรา้ งสมั พนั ธไมตรีกบั ภาคภี ายนอก การสร้าง สมั พนั ธไมตรีกับภาคีนอกอาเซยี น การนาสงั คมไทยสู่ความเสมอภาคและยุตธิ รรม พลเมืองไทยและพลเมือง อาเซียนกับการสรา้ งความเสมอภาคและยุตธิ รรม การจัดต้ังประชาคมอาเซยี น โดยเน้นการจัดต้ังประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน รวมทงั้ การพฒั นาเศรษฐกิจไทยสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซยี น โดยจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนท่ียึดผเู้ รียนเป็นศนู ย์กลาง (Child-Centered) เน้นใหผ้ ู้เรยี นไดศ้ ึกษา คน้ ควา้ ฝกึ ทกั ษะการคิดท่ีหลากหลาย ทักษะการใช้เทคโนโลยี ทกั ษะการแกป้ ัญหา และทกั ษะพลเมอื ง เพื่อให้ ผู้เรยี นตระหนกั ในอตั ลกั ษณ์อาเซียนร่วมกนั เคารพในความแตกตา่ งและหลากหลาย ภมู ใิ จในความเปน็ ไทย และความเป็นอาเซียน มคี วามรบั ผดิ ชอบทางสงั คมในฐานะพลเมืองไทยและพลเมืองอาเซยี น ตลอดจน สามารถปรบั ตวั และดาเนินชวี ิตอยู่ในประชาคมอาเซียนได้ ผลกำรเรียนรู้ 6. วิเคราะห์ลักษณะความสมั พนั ธข์ องอาเซียนกบั การสร้างสมั พนั ธไมตรีกับภาคีภายนอก 7. วเิ คราะห์การส่งเสริมความเสมอภาคและความยตุ ธิ รรมในสังคมไทยจากบทบัญญัติแห่งรฐั ธรรมนูญ 8. วิเคราะหบ์ ทบาทพลเมืองอาเซียนกับการสง่ เสรมิ ความเสมอภาคและยุตธิ รรมในอาเซียน 9. สรปุ ววิ ฒั นาการของประชาคมเศรษฐกิจอาเซยี น ยกตวั อย่างผลงานและความรว่ มมือด้านเศรษฐกิจของ อาเซียน และวเิ คราะหผ์ ลประโยชนท์ ไี่ ทยไดร้ ับจากอาเซียน 10. วิเคราะหแ์ นวทางการพฒั นาเศรษฐกจิ ไทยสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซยี น รวมท้ังหมด 5 ผลกำรเรยี นรู้
หลกั สูตรกลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรียนทับโพธิพ์ ฒั นวทิ ย์ พ.ศ.2563 42 คำอธบิ ำยรำยวิชำ รำยวิชำอำเซียนศึกษำ 3 รหสั วิชำ ส22283 กลมุ่ สำระกำรเรียนรูส้ ังคมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ช้นั มธั ยมศึกษำปที ่ี 2 ภำคเรยี นที่ 1 จำนวน 0.5 หน่วยกติ เวลำ 20 ชั่วโมง/ภำคเรยี น ศึกษา วิเคราะหป์ ระวตั คิ วามเป็นมาและวตั ถุประสงค์ในการก่อตงั้ อาเซียน กฎบตั รอาเซียน โครงสร้างและ กลไกการดาเนนิ งานของอาเซียน ความรู้เบื้องตน้ เกย่ี วกับประเทศสมาชิกอาเซียน สามเสาหลกั ประชาคม อาเซยี น ความรว่ มมอื ของอาเซยี น ประโยชน์ทไี่ ทยได้รบั จากการเป็นสมาชิกอาเซียนและเปน็ ประชาคม อาเซียน การเตรียมความพร้อมของไทยเพื่อเข้าส่ปู ระชาคมอาเซียน ความร่วมมือของอาเซียนกบั ภายนอก และสนิ ค้าสง่ ออกและสนิ ค้านาเขา้ ของประเทศสมาชกิ อาเซียน โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบคน้ ขอ้ มลู กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทางสังคม กระบวนการ เผชญิ สถานการณแ์ ละแก้ปญั หา เพือ่ ให้เกดิ ความรคู้ วามเข้าใจ ตระหนกั ในความสาคญั ของการรวมกลุม่ อาเซยี น มีความภาคภมู ิใจในการเป็น สมาชกิ ของอาเซียน มคี วามเข้าใจอันดตี ่อสมาชิกของประเทศในกลุ่มอาเซยี นและสามารถปฏิบัติตนเป็นสมาชกิ ท่ีดขี องสงั คมอาเซียนและปรับตัวในการอยู่รว่ มกันในประชาคมอาเซียนไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข ผลกำรเรียนรู้ 1. อธบิ ายเกย่ี วกบั การก่อตัง้ อาเซยี นและวัตถุประสงคใ์ นการก่อตง้ั อาเซยี น 2. วเิ คราะหส์ าระสาคัญของกฎบัตรอาเซยี น โครงสร้างและกลไกการดาเนินงานของอาเซียน 3. อธิบายขอ้ มูลพ้นื ฐานเกย่ี วกบั ประเทศสมาชิกอาเซียน 4. อธิบายเปา้ หมายของสามเสาหลกั ประชาคมอาเซยี น 5. วเิ คราะห์บทบาทของไทยต่อสามเสาหลักประชาคมอาเซยี น รวมท้ังหมด5 ผลกำรเรยี นรู้
หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรียนทับโพธพ์ิ ัฒนวิทย์ พ.ศ.2563 43 คำอธิบำยรำยวิชำ รำยวิชำอำเซียนศกึ ษำ 4 รหสั วิชำ ส22284 กลมุ่ สำระกำรเรยี นร้สู ังคมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ชั้นมธั ยมศึกษำปที ่ี 2 ภำคเรยี นท่ี 2 จำนวน 0.5 หน่วยกติ เวลำ 20 ชว่ั โมง/ภำคเรยี น ระบคุ วามแตกต่างดา้ นประชาชน แนวคิด ภาษาหลักของอาเซยี น และภาษา 10 ประเทศอาเซยี น อธิบายการเปลยี่ นแปลงของภาษาตา่ งๆ ความสมั พันธ์ระหว่างมนุษย์กบั เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ความตึง เครยี ดระหวา่ งสิง่ ทเ่ี ป็นความสนใจของประเทศกบั สงิ่ ท่เี ป็นผลประโยชนข์ องภูมภิ าคโดยรวม พร้อมการผลติ และการบริโภคสนิ คา้ ในอาเซียน และการเปล่ยี นแปลงของภาษาต่างๆ อธบิ ายความสัมพันธ์ระหว่างมนษุ ยก์ ับ เหตุการณท์ างประวัติศาสตร์ พรอ้ มทั้งนาเสนอการรักษาดลุ ยภาพในระบบนิเวศในอาเซียน วิธีการออกกาลัง กายรปู แบบต่างๆที่มีอยูใ่ นภูมิภาคอาเซียน ภาระหนา้ ท่ขี องพลเมอื งที่ต้อง ปฏบิ ัติตนชมุ ชน ชาติ โลก วิเคราะห์ และเปรยี บเทยี บภูมิภาคอาเซียนกับความหลากหลายทางภาษา เหตกุ ารณ์ตา่ งๆ สนิ คา้ ระบบนเิ วศ ของ จงั หวดั สกลนคร พร้อมทัง้ ศึกษาประเภทของขยะในภูมภิ าคอาเซยี น และนาเสนอการจัดการขยะประเภทต่างๆ โดยใช้กระบวนการสรา้ งความคดิ การสรา้ งความคดิ รวบยอด การสร้างค่านิยม การเรียนรู้และเข้าใจ การปฏบิ ตั ิ การแก้ปญั หา การสร้างความตระหนัก การสร้างความคิดวิจารณญาณ และการสืบสวน สอบสวน เพื่อให้เกิดความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซือ่ สัตยส์ จุ รติ มีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ รกั ความเป็นไทย มุ่งมนั่ ในการ ทางาน ดารงชีวิตอยา่ งพอเพยี ง มีจติ สาธารณะ ความจรงิ การไตร่ตรอง วจิ ารณญาณ ความเป็นหนึ่ง สันติ และการงาน ผลกำรเรียนรู้ 6.นาเสนอการรักษาดุลยภาพในระบบนิเวศในอาเซียน 7.นาเสนอวิธกี ารออกกาลงั กายรปู แบบต่างๆที่มีอยู่ในภมู ิภาคอาเซียน 8.นาเสนอ ภาระหนา้ ท่ีของพลเมืองท่ตี ้อง ปฏิบัตติ นชุมชน ชาติ โลก 9.อธิบายการเปลย่ี นแปลงของภาษาต่างๆ 10.อธิบายความสัมพันธร์ ะหว่างมนษุ ย์กบั เหตกุ ารณท์ างประวัตศิ าสตร์ รวม 5 ผลกำรเรียนรู้
หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรยี นทับโพธิ์พฒั นวิทย์ พ.ศ.2563 44 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ รำยวชิ ำอำเซียนศกึ ษำ 5 รหสั วชิ ำ ส23285 กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้สงั คมศกึ ษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ช้นั มธั ยมศึกษำปีท่ี 3 ภำคเรยี นที่ 1 จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ เวลำ 20 ช่วั โมง/ภำคเรียน ศกึ ษาววิ ัฒนาการของการผนึกกาลงั รวมกลุ่มกนั เป็นอาเซียน กลไกการทางานของอาเซียน การเมอื ง การปกครองท่ีหลากหลายในอาเซียน อัตลกั ษณป์ ระจาชาติของอาเซียน การเผยแผศ่ าสนาในอาเซียน การ สร้างสมั พนั ธไมตรีกบั ภาคีนอกอาเซียน การสง่ เสริมความเท่าเทยี มกนั ทางเพศในอาเซียน การพัฒนาสงั คมตาม แบบอยา่ งของคนเกง่ อาเซียน และการจัดต้ังประชาคมอาเซียน โดยเน้นการจัดต้ังประชาคมการเมอื งและความ มน่ั คงอาเซียน รวมทงั้ ความท้าทายกบั การก้าวไปสู่ประชาคมอาเซยี น โดยจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนท่ียึดผเู้ รยี นเป็นศูนย์กลาง (Child-Centered) เน้นให้ผู้เรยี นได้ศกึ ษา ค้นควา้ ได้ฝึกทักษะการคดิ ที่หลากหลาย โดยเนน้ การฝกึ ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการสอ่ื สาร ทักษะการ ใชเ้ ทคโนโลยี ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะการเรียนรแู้ ละการพัฒนาตน ทกั ษะพลเมืองในประชาคมอาเซยี น เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนตระหนักในอัตลักษณ์อาเซยี นรว่ มกัน เคารพในความแตกตา่ งและหลากหลาย ภูมิใจในความ เป็นไทยและความเปน็ อาเซียน มวี ถิ ีชีวิตประชาธิปไตยและสันตวิ ัฒนธรรม และสามารถปรบั ตวั และดาเนิน ชีวิตอยู่ในประชาคมอาเซียนได้ ตลอดจนมีความรบั ผดิ ชอบทางสงั คมในฐานะพลเมืองไทยและพลเมืองอาเซียน ผลกำรเรียนรู้ 1. อธบิ ายความเป็นมา เป้าหมาย ววิ ัฒนาการกอ่ นกาเนิดอาเซยี น และววิ ัฒนาการของอาเซยี นได้ 2. วิเคราะหโ์ ครงสร้าง กลไกการดาเนนิ งานของอาเซียน และบทบาทสาคญั ของประธานอาเซียนได้ 3. วเิ คราะหป์ ัจจยั แนวคดิ และรปู แบบการเมืองการปกครองของประเทศสมาชกิ อาเซียนได้ 4. อธบิ ายอัตลักษณ์ประจาชาตขิ องอาเซยี นได้ 5. อธิบายความเป็นมาและการเผยแผ่ศาสนาสาคัญในอาเซียนได้ รวมท้ังหมด 5 ผลกำรเรียนรู้
หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรยี นทบั โพธ์พิ ัฒนวทิ ย์ พ.ศ.2563 45 คำอธิบำยรำยวิชำ รำยวชิ ำอำเซียนศึกษำ 6 รหัสวชิ ำ ส23286 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้สงั คมศกึ ษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ชัน้ มธั ยมศึกษำปที ่ี 3 ภำคเรยี นที่ 2 จำนวน 0.5 หน่วยกติ เวลำ 20 ชวั่ โมง/ภำคเรยี น ศึกษา วิเคราะห์ลกั ษณะความสมั พันธข์ องอาเซียนกบั การสร้างสมั พนั ธไมตรีกับภาคนี อกอาเซยี น การ ส่งเสริมความเทา่ เทยี มกันทางเพศในอาเซยี น การพัฒนาสงั คมตามแบบอย่างของคนเกง่ อาเซยี น และการจัดตงั้ ประชาคมอาเซียน โดยเนน้ การจัดตัง้ ประชาคมการเมืองและความมน่ั คงอาเซียน รวมท้ังความท้าทายกับการ กา้ วไปสู่ประชาคมอาเซยี น โดยจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนทีย่ ึดผเู้ รียนเป็นศูนย์กลาง (Child-Centered) เน้นให้ผเู้ รยี นได้ศกึ ษา ค้นควา้ ไดฝ้ ึกทักษะการคิดที่หลากหลาย โดยเน้นการฝึกทักษะการคิดวเิ คราะห์ ทักษะการสอื่ สาร ทักษะการ ใช้เทคโนโลยี ทกั ษะการแก้ปัญหา ทักษะการเรียนร้แู ละการพัฒนาตน ทักษะพลเมืองในประชาคมอาเซียน เพ่อื ใหผ้ ้เู รียนตระหนกั ในอัตลักษณ์อาเซียนรว่ มกนั เคารพในความแตกต่างและหลากหลาย ภูมใิ จในความ เปน็ ไทยและความเป็นอาเซยี น มีวถิ ีชวี ิตประชาธปิ ไตยและสันติวฒั นธรรม และสามารถปรับตวั และดาเนนิ ชีวิตอยใู่ นประชาคมอาเซยี นได้ ตลอดจนมคี วามรับผดิ ชอบทางสงั คมในฐานะพลเมืองไทยและพลเมืองอาเซียน ผลกำรเรยี นรู้ 6. วเิ คราะหล์ กั ษณะความสัมพนั ธ์ของอาเซียนกบั การสรา้ งสมั พันธไมตรีกบั ภาคภี ายนอกได้ 7. วิเคราะห์ปญั หาและแนวทางการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในอาเซียนได้ 8. วิเคราะหแ์ นวคิดหรือพฤติกรรมของคนเก่งในอาเซยี นที่ควรนาไปใชเ้ ปน็ แบบอย่างเพ่ือการพัฒนาสงั คมและ ประเทศชาติได้ 9. สรปุ ววิ ัฒนาการประชาคมการเมืองและความมัน่ คงอาเซียน ยกตวั อย่างผลงานและความร่วมมอื ด้าน การเมืองและความมน่ั คงของอาเซยี น และวเิ คราะหผ์ ลประโยชนท์ ่ไี ทยไดร้ บั จากอาเซยี นได้ 10. วเิ คราะห์ความท้าทายและแนวทางการเตรยี มความพร้อมเมื่อเข้าสปู่ ระชาคมอาเซยี นได้ รวมท้ังหมด 5 ผลกำรเรียนรู้
หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรยี นทบั โพธ์พิ ฒั นวิทย์ พ.ศ.2563 46 โครงสรำ้ งรำยวิชำพืน้ ฐำน ชั้นมัธยมศกึ ษำตอนต้น
หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรยี นทับโพธพิ์ ฒั นวิทย์ พ.ศ.2563 47 รำยวิชำสงั คมศกึ ษำ 1 โครงสรำ้ งรำยวิชำ ชัน้ มัธยมศึกษำปที ่ี 1 รหสั วชิ ำ ส21101 กลุ่มสำระกำรเรียนรสู้ ังคมศึกษำฯ จำนวน 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต ภำคเรียนท่ี 1 ที่ ชอื่ หน่วยกำรเรียนรู้ มฐ. ตัวชี้วดั สำระสำคัญ/ เวลำ น้ำหนกั ควำมคิดรวบยอด (ช่วั โมง) คะแนน ปฐมนเิ ทศ - -ช้แี จงขอ้ ตกลงเกยี่ วกับ 1- โครงสร้างรายวิชา -ข้อตกลงระหวา่ งเรยี น -การเก็บคะแนน 1 ประวตั ิและความสาคญั ส 1.1 ม.1/1 -การสังคายนา 44 ของพระพุทธศาสนา ส 1.1 ม.1/2 - การเผยแผ่พระพุทธศาสนา เข้าสปู่ ระเทศไทยศาสนา ประจาชาตสิ ถาบันหลกั ของ สงั คมไทย สภาพแวดลอ้ มที่ กวา้ งขวาง และครอบคลมุ สังคมไทยการพัฒนาตนและ ครอบครัว 2 พทุ ธประวตั ิ ส 1.1 ม.1/3 -ประสตู ิ 44 เทวทูต 4 การแสวงหาความรู้ การบาเพ็ญทุกรกิริยา 3 ประวตั พิ ุทธสาวกชาดก ส 1.1 ม.1/4 พทุ ธสาวก พุทธสาวิกา 22 และชาวพทุ ธตัวอยา่ ง พระมหากสั สปะ พระอบุ าลี อนาถบิณฑิกะ นางวสิ าขา ชาดก 22 อัมพชาดก ติตติรชาดก ชาวพทุ ธตวั อย่าง 22 พระเจ้าอโศกมหาราช 4 หลักธรรมทาง พระโสณะและพระอุตตระ 4 2 พระพุทธศาสนา ส 1.1 ม.1/5 -พระรตั นตรัย อริยสจั 4 พทุ ธศาสนสภุ าษติ
หลกั สูตรกล่มุ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรียนทบั โพธพ์ิ ัฒนวิทย์ พ.ศ.2563 48 ท่ี ชือ่ หน่วยกำรเรยี นรู้ มฐ. ตัวชี้วัด สำระสำคญั / เวลำ น้ำหนัก ควำมคดิ รวบยอด (ช่วั โมง) คะแนน 5 การบริหารจติ และเจริญ ส 1.1 ม.1/6 -ความรู้เบือ้ งต้นเกยี่ วกับการ 2 2 ปญั ญา ส 1.1 ม.1/7 บริหารและเจรญิ ปัญญา กระบวนการฝึกสมาธติ าม หลักอานาปานสติ การเจริญปัญญา การเจริญปัญญาโดยการคิด แบบโยนโิ สมนสกิ าร 6 ปฏิบัตติ นตามหลักธรรม ส 1.1 ม.1/8 -หลักธรรม 22 ทางศาสนา 7 ความจาเป็นทท่ี ุกคนต้อง ส 1.1 ม.1/9 -ศาสนิกชนของศาสนาต่าง ๆ 2 2 ศกึ ษาเรยี นรู้ศาสนาอน่ื ๆ มีการประพฤตปิ ฏิบตั ติ นและ วถิ ีการดาเนินชีวิตแตกต่างกนั ตามหลกั ความเชื่อและ คาสอน ของศาสนาที่ตน นบั ถือ 8 ปฏบิ ตั ิตนตอ่ ศาสนิกชนอืน่ ส 1.1 ม.1/10 -การปฏิบตั อิ ย่างเหมาะสม 2 2 ในสถานการณ์ตา่ งๆได้อย่าง ส 1.1 ม.1/11 ตอ่ ศาสนิกชนอนื่ ใน เหมาะสมและกระทาของ สถานการณ์ต่างๆ บุคคลท่เี ป็นแบบอย่างดา้ น -ตัวอย่างบคุ คลในทอ้ งถ่นิ หรือ 2 1 ศาสนสัมพันธ์ และนาเสนอ ประเทศทปี่ ฏิบัตติ นเปน็ แนวทางการปฏบิ ัติของ แบบอยา่ งด้านศาสนสัมพนั ธ์ ตนเอง 9 บาเพญ็ ประโยชน์ต่อ ส 1.2 ม.1/1 -การบาเพญ็ ประโยชนแ์ ละ 2 2 ศาสนสถานของศาสนา การบารงุ รกั ษาวดั ทบทวนและทดสอบกลางภาค 1 20
หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรยี นทับโพธ์พิ ัฒนวทิ ย์ พ.ศ.2563 49 ท่ี ชื่อหน่วยกำรเรียนรู้ มฐ. ตัวชี้วัด สำระสำคญั / เวลำ น้ำหนัก ควำมคิดรวบยอด (ชวั่ โมง) คะแนน 10 จริยวัตรของสาวก ส 1.2 ม.1/2 -วิถีชวี ิตของพระภกิ ษบุ ทบาทของ 1 2 และปฏิบตั ิตนอย่าง ส 1.2 ม.1/3 พระภิกษุการเข้าพบพระภิกษุ เหมาะสมต่อบคุ คล ต่างๆตามหลักศาสนา -ปฏบิ ตั ติ นอย่างเหมาะสมต่อ 22 เพื่อนตามหลกั พระพทุ ธศาสนา 11 วันสาคญั ทาง ส 1.2 ม.1/4 -วันสาคญั ทางพระพุทธศาสนา 2 2 พระพทุ ธศาสนาและศา ส 1.2 ม.1/5 -ศาสนพธิ ี 22 สนพธิ ี 12 กฎหมายในการ ส 2.1 ม.1/1 -กฎหมายการคุ้มครองเด็ก 2 2 2 2 คุ้มครองสิทธขิ องบุคคล กฎหมายการศึกษา กฎหมายการ 2 2 ค้มุ ครองผบู้ รโิ ภค กฎหมาย ลขิ สิทธิ์ -ประโยชน์ของการปฏบิ ัตติ นตาม กฎหมายการคุ้มครองสทิ ธิของ บคุ คล 13 ระบบความสามารถ ส 2.1 ม.1/2 -บทบาทและหน้าท่ขี องเยาวชนท่ี ของตนเองในการทา มตี ่อสังคมและประเทศชาติ โดย ประโยชนต์ ่อสงั คมและ เนน้ จิตสาธารณะ เช่น เคารพ ประเทศชาติ กติกาสังคม ปฏบิ ัตติ นตาม กฎหมาย มสี ่วนร่วมและ รับผิดชอบในกจิ กรรมทางสังคม อนรุ ักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ รกั ษา สาธารณประโยชน์
หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรียนทบั โพธพ์ิ ัฒนวิทย์ พ.ศ.2563 50 ท่ี ช่อื หน่วยกำรเรยี นรู้ มฐ. ตัวช้ีวดั สำระสำคัญ/ เวลำ นำ้ หนกั ควำมคิดรวบยอด (ชั่วโมง) คะแนน 14 คณุ คา่ ทางวฒั นธรรมท่ี ส 2.1 ม.1/3 -ความคล้ายคลึงและความ 42 เป็นปัจจยั ในการสรา้ ง แตกตา่ งระหว่างวฒั นธรรมไทย ความสมั พนั ธ์ท่ดี หี รือ กบั วัฒนธรรมของประเทศใน อาจนาไปสู่ความเขา้ ใจ ภมู ิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ ผิดตอ่ กนั วัฒนธรรมทเ่ี ปน็ ปจั จยั ในการ สรา้ งความสัมพันธท์ ่ีดี หรอื อาจ นาไปสูค่ วามเข้าใจผดิ ต่อกัน 15 การเคารพในสทิ ธขิ อง ส 2.1 ม.1/4 -วธิ ปี ฏบิ ัติตนในการเคารพใน 2 2 ตนเองและผูอ้ ่ืน สทิ ธิของตนเองและผอู้ ื่น ผลทไ่ี ดจ้ ากการเคารพในสิทธิ ของตนเองและผู้อ่นื 16 รัฐธรรมนญู แหง่ ส 2.2 ม.1/1 -หลักการ เจตนารมณ์ 2 2 2 2 ราชอาณาจกั รไทย โครงสรา้ ง และสาระสาคญั ของ 2 2 ฉบบั ปจั จุบัน รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักร 1 30 -อานาจอธิปไตย ส 2.2 ม.1/2 ไทย ฉบบั ปจั จบุ ัน 60 100 -บทบัญญตั ขิ อง -การแบง่ อานาจ และกาถ่วงดุล รัฐธรรมนญู แห่ง ส 2.2 ม.1/3 อานาจอธิปไตยท้งั 3ฝา่ ย คอื นติ ิ ราชอาณาจกั รไทย บญั ญัติ บริหารตลุ าการ ตามที่ ฉบับปัจจบุ นั ที่เกย่ี วข้อง ระบุในรัฐธรรมนูญแหง่ กบั ตนเอง ราชอาณาจกั รไทยฉบบั ปจั จบุ ัน -การปฏิบัตติ นตามบทบัญญตั ิ ของรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทยฉบับปัจจุบัน เกย่ี วกับสทิ ธิ เสรภี าพและหน้าท่ี ทบทวนและทดสอบปลายภาค รวม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239