Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แนวทางการรายงานโรคติดต่ออันตราย โรคติตด่

แนวทางการรายงานโรคติดต่ออันตราย โรคติตด่

Description: แนวทางการรายงานโรคติดต่ออันตราย โรคติตด่

Search

Read the Text Version

2. ผู้ป่วยท่ีเข้าข่าย หมายถึง ผู้ป่วยท่ีสงสัยร่วมกับมีข้อมูลทางระบาดวิทยาเช่ือมโยง เช่น มีประวัติ ถูกของมีคม ถูกสตั วก์ ัดมบี าดแผลหรือสมั ผัสดิน 3. ผปู้ ่วยทยี่ ืนยนั ผล หมายถึง ผูป้ ว่ ยทีส่ งสยั ที่มีผลการตรวจเพาะเช้อื พบเชือ้ Clostridium tetani ✚ การรายงานผ้ปู ่วยตามระบบเฝา้ ระวังโรค ใหร้ ายงานตงั้ แตผ่ ้ปู ่วยที่สงสยั กรณบี าดทะยกั ในเด็กแรกเกิด ✚ ประเภทผปู้ ่วย 1. ผปู้ ว่ ยทสี่ งสยั หมายถงึ ผทู้ ม่ี อี าการไมด่ ดู นม คอแขง็ หลงั แขง็ ชกั เกรง็ เมอ่ื มสี งิ่ มากระตนุ้ รว่ มกบั ประวตั ิ ในระหวา่ งอายุ 2 วนั ร้องและดูดนมได้ปกติ และเริม่ ปว่ ยเมื่ออายุได้ 3 - 28 วนั 2. ผปู้ ่วยทเ่ี ขา้ ขา่ ย (ไม่ม)ี 3. ผปู้ ว่ ยที่ยนื ยนั ผล หมายถึง ผ้ปู ่วยที่สงสยั ท่มี ผี ลการตรวจเพาะเชื้อพบเชือ้ Clostridium tetani ✚ การรายงานผปู้ ่วยตามระบบเฝ้าระวงั โรค ใหร้ ายงานต้ังแต่ผ้ปู ว่ ยทสี่ งสัย 20. โปลโิ อ (Poliomyelitis) ✚ ประเภทผปู้ ว่ ย 1. ผู้ปว่ ยทส่ี งสยั หมายถงึ ผู้ทีม่ ีอายตุ �่ำ กว่า 15 ปี มีอาการมีอาการอัมพาตออ่ นปวกเปียกอย่างเฉียบพลนั ไม่ว่จะเกิดจากอะไรก็ตาม ยกเวน้ อาการบาดเจบ็ รุนแรง 2. ผูป้ ่วยท่เี ข้าขา่ ย (ไมม่ ี) 3. ผู้ป่วยท่ียืนยันผล หมายถึง ผู้ที่มีอาการตามเกณฑ์ผู้ป่วยที่สงสัยร่วมกับมีผลบวกตามเกณฑ์ทาง ห้องปฏบิ ัตกิ ารโดยการแยกเช้อื ไวรัสโปลิโอธรรมชาติ (Wild poliovirus) ไดจ้ ากอจุ จาระของผ้ปู ว่ ย (แยกเช้ือ virus จากอจุ จาระโดยเกบ็ ตวั อยา่ งอจุ จาระ 2 ตวั อยา่ ง หา่ งกนั อยา่ งนอ้ ย 24 ชวั่ โมงขน้ึ ไป โดยทงั้ 2 ตวั อยา่ ง ต้องเกบ็ ภายใน 14 วนั หลังเริ่มมอี ัมพาต และแตล่ ะตวั อยา่ งตอ้ งมปี ริมาณมากพอ (ไมน่ ้อยกว่า 8 กรัม) จากนั้นสง่ ไปทห่ี อ้ งปฏบิ ตั ิการของสถาบันวิจยั วิทยาศาสตรส์ าธารณสขุ (NIH) โดยระบบลูกโซ่ความเยน็ ) ✚ การรายงานผู้ป่วยตามระบบเฝ้าระวงั โรค ให้รายงานตั้งแตผ่ ู้ป่วยที่สงสัย 49

21. แผลรมิ อ่อน (Chancroid) ✚ ประเภทผปู้ ่วย 1. ผปู้ ่วยทส่ี งสยั หมายถงึ มแี ผลบรเิ วณอวยั วะเพศอาจมแี ผลเดยี ว หรือหลายแผล ลกั ษณะแผลจะมีขอบนิม่ กน้ แผลมเี ศษเน้ือยุย่ สเี หลือง แผลนี้หากสมั ผสั จะรู้สึกเจบ็ อาจพบตอ่ มน้�ำ เหลอื งบริเวณขาหนบี บวมโตหรือ อักเสบเป็นเป็นฝีรว่ มดว้ ย และมปี ระวัตเิ สยี่ งตอ่ โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ภายใน 3 เดอื น 2. ผู้ปว่ ยทเ่ี ข้าข่าย (ไม่ม)ี 3. ผปู้ ว่ ยทยี่ นื ยนั ผล หมายถงึ ผทู้ มี่ อี าการตามเกณฑร์ ว่ มกบั มผี ลตามเกณฑท์ างหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารยอ้ ม gram’s stain หรอื Unna Papenheim พบ gram negative coccobacili ซ่งึ เรยี งตัวเป็นแนวยาวคล้ายฝงู ปลา (school of fish) ✚ การรายงานผู้ป่วยตามระบบเฝา้ ระวังโรค ให้รายงานตัง้ แตผ่ ปู้ ่วยท่ีสงสยั 22. พยาธทิ ริคิเนลลา (Trichinosis) ✚ ประเภทผ้ปู ว่ ย 1. ผปู้ ่วยทส่ี งสยั หมายถึง ผ้ทู มี่ ไี ข้ คลืน่ ไส้ อาเจยี น ท้องเสยี ปวดกล้ามเนือ้ และเปลอื กตาหรือหนา้ บวม ตวั บวม เท้าบวม รว่ มกบั มปี ระวตั ิการรบั ประทานเนอ้ื สัตว์ (โดยเฉพาะสตั วป์ ่า) ชนดิ ดิบๆ สกุ ๆ ภายใน 12 ช่วั โมง - 1 เดือน 2. ผูป้ ่วยท่เี ขา้ ข่าย หมายถงึ ผู้ป่วยทีส่ งสยั รว่ มกับตรวจพบขอ้ ใดขอ้ หน่งึ ดังนี้ - ผลการตรวจเม็ดเลือดขาวชนิดอโี อซโิ นฟิลเพ่มิ สูงกวา่ ปกติ (10 - 90%) - มคี า่ Creatinine kinase ในซรี มั่ สงู กวา่ ปกติ (มากกว่า 30 U/L) 3. ผ้ปู ว่ ยที่ยืนยันผล หมายถึง ผูป้ ว่ ยทสี่ งสยั ร่วมกบั ตรวจพบข้อใดข้อหน่ึงดังนี้ - ผลการตรวจซีร่ัมด้วยวิธี ELISA (Enzyme-linked immunosorbent assay) ใหผ้ ลบวก - ผลการตรวจกล้ามเนอื้ นอ่ งพบตัวอ่อนของพยาธิ ✚ การรายงานผูป้ ว่ ยตามระบบเฝ้าระวังโรค ให้รายงานตัง้ แตผ่ ้ปู ่วยทีส่ งสัย 50

23. พยาธิทริโคโมแนสของระบบสบื พนั ธแุ์ ละทางเดินปสั สาวะ (Vaginal Trichomoniasis) ✚ ประเภทผู้ป่วย 1. ผปู้ ว่ ยทีส่ งสัย (ไม่ม)ี 2. ผูป้ ว่ ยท่ีเขา้ ข่าย หมายถึง ผู้ท่ีมีประวัตเิ สี่ยงตอ่ โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์* รว่ มกบั อาการอย่างใดอยา่ งหนงึ่ เช่น ตกขาวสีขาวปนเทา หรือสีเหลอื งออกเขยี ว อาจพบลกั ษณะเป็นฟองมกี ล่ินเหม็นมีอาการระคายเคอื ง บริเวณปากช่องคลอดและในช่องคลอดอาจเกิดการอักเสบของปากมดลูกทำ�ให้มีจุดเลือดออกเป็นหย่อมๆ เรยี กวา่ strawberry spot หรือ flea bitten cervix อาจมอี าการปสั สาวะแสบขดั หรอื ปวดแสบร้อนบรเิ วณ ตน้ ขาดา้ นใน เจ็บขณะรว่ มเพศ ผู้ชายจะมีปสั สาวะแสบขัด 3. ผปู้ ว่ ยทย่ี นื ยนั ผล หมายถงึ ผทู้ มี่ ปี ระวตั เิ สย่ี งตอ่ โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ*์ รว่ มกบั อาการอยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ เช่น ตกขาวสีขาวปนเทา หรอื สีเหลืองออกเขยี ว อาจพบลักษณะเป็นฟองมีกลิน่ เหมน็ มอี าการระคายเคอื ง บริเวณปากช่องคลอดและในช่องคลอดอาจเกิดการอักเสบของปากมดลูกทำ�ให้มีจุดเลือดออกเป็นหย่อมๆ เรียกว่า strawberry spot หรอื flea bitten cervix อาจมอี าการปัสสาวะแสบขัดหรือปวดแสบรอ้ นบริเวณ ตน้ ขาด้านใน เจบ็ ขณะร่วมเพศผูช้ ายจะมีปสั สาวะแสบขัด ร่วมกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบเช้ือหรือ ผลบวกต่อ T.vaginalis ในส่ิงสง่ ตรวจท่เี ก็บจากชอ่ งคลอด หรอื ปัสสาวะด้วยการตรวจวิธีใดวิธหี นง่ึ ดงั น้ี • การเพาะเชอื้ T.vaginalis • Nucleic acid hybridization test • Nucleic acid amplification test เช่น PCR หรอื LCR หรอื TMA ✚ การรายงานผู้ปว่ ยตามระบบเฝา้ ระวงั โรค ใหร้ ายงานต้งั แต่ผู้ป่วยที่เขา้ ขา่ ย 24. เมลิออยโดสิส (Melioidosis) ✚ ประเภทผูป้ ่วย 1. ผู้ป่วยที่สงสยั (ไม่ม)ี 2. ผู้ป่วยท่ีเข้าข่าย หมายถึง ผู้ป่วยท่ีแพทย์สงสัยว่าเป็นโรคเมลิออยด์โดยไม่มีผลเพาะเช้ือยืนยัน หรือ ผูป้ ว่ ยที่สงสยั ร่วมกับตรวจพบขอ้ ใดขอ้ หนง่ึ ดงั นี้ - ผลการตรวจพบเช้ือด้วยวิธี PCR ใหผ้ ลบวก - ผลตรวจ IHA หรอื IFA ใหผ้ ลบวก - ผลตรวจ IHA หรือ IFA เพ่ิมข้ึนสี่เทา่ (Fourfold rising) 3. ผปู้ ว่ ยทยี่ นื ยนั ผล หมายถงึ ผปู้ ว่ ยทส่ี งสยั รว่ มกบั ผลการเพาะเชอ้ื จากเลอื ดหรอื จากชน้ิ สว่ นใดของรา่ งกาย พบเช้อื Burkholderiapseudomallei 51

✚ การรายงานผู้ป่วยตามระบบเฝา้ ระวังโรค ให้รายงานตง้ั แตผ่ ู้ป่วยทีเ่ ขา้ ข่าย 25. เยอ่ื หุ้มสมองอกั เสบจากพยาธิ (Eosinophilic meningitis) ✚ ประเภทผ้ปู ว่ ย 1. ผปู้ ว่ ยทีส่ งสยั หมายถงึ ผทู้ ีม่ ีอาการปวดท้อง คลน่ื ไส้ อาเจียน และมอี าการปวดศรี ษะเล็กนอ้ ยในช่วง ระยะเวลา 2 - 3 วนั ซ่ึงอาการปวดจะกำ�เริบมากขน้ึ อยา่ งเฉียบพลนั สายตาเสอ่ื ม หลังและคอแขง็ ซึม หมดสติ ผิวหนงั ชา แขนและขาออ่ นแรง ใบหนา้ และกลา้ มเนื้อตาเป็นอมั พาต ชกั กระตุก มีอาการระคายเคือง ของเย่อื หุ้มสมอง และระดับความร้สู ึกตัวอาจปกติจนถงึ ข้ันโคมา่ ในกรณเี ดก็ อาจพบกระหมอ่ มหนา้ โป่งตึง 2. ผู้ป่วยทีเ่ ข้าข่าย (ไมม่ )ี 3. ผปู้ ว่ ยที่ยนื ยนั ผล หมายถึง ผ้ปู ว่ ยทีส่ งสยั ร่วมกบั ตรวจพบขอ้ ใดขอ้ หนง่ึ ดังน้ี - ผลการตรวจน้ำ�ไขสันหลังพบเซลล์สงู ขน้ึ เทา่ กับหรือมากกวา่ 20% และมี eosinophil สูงเทา่ กับ หรือมากกว่า 10% หรอื พบตวั พยาธิในนำ้�ไขสนั หลงั - ผลการตรวจเลือด พบจ�ำ นวนเมด็ เลอื ดขาวคอ่ นขา้ งสงู และ eosinophil สงู ด้วย - ผลการตรวจทางเคมคี ลนิ กิ ของน้ำ�ไขสันหลัง พบโปรตีนสูงกว่า 50 มิลลกิ รัม น้�ำ ตาลและคลอไรด์ ปกติ ✚ การรายงานผปู้ ่วยตามระบบเฝ้าระวังโรค ให้รายงานตั้งแตผ่ ้ปู ่วยท่สี งสัย 26. เย่ือหุม้ สมองอักเสบไมร่ ะบุเชอ้ื สาเหตุ (Unspecified meningitis) ✚ ประเภทผปู้ ่วย 1. ผปู้ ่วยที่สงสัย หมายถึง ผ้ทู ีม่ ีอาการไข้ ปวดศีรษะ อาเจียน และซึม ตอ่ มาอาจมีอาการชกั ร่วมดว้ ย เม่ือตรวจร่างกายขณะมีอาการไข้ ระดับความรู้สึกตัวอาจปกติจนถึงข้ันโคม่า ในกรณีเด็กอาจพบ กระหมอ่ มหนา้ โป่งตึง 2. ผู้ปว่ ยที่เขา้ ข่าย (ไมม่ ี) 3. ผปู้ ว่ ยท่ียืนยันผล หมายถงึ ผปู้ ว่ ยทสี่ งสยั ร่วมกบั ตรวจพบข้อใดข้อหน่ึงดงั นี้ - เพาะเช้ือจากเลอื ด นำ�้ ไขสนั หลงั พบเชื้อแบคทเี รีย - ตรวจน้ำ�เหลือง น้ำ�ไขสันหลัง ด้วยวิธี Latex agglutination ให้ผลบวกต่อเชื้อใดเช้ือหน่ึง (S. pneumoniae, H. influenzae, S. agalactiae, N. meningitidis หรอื E. coli) 52

✚ การรายงานผปู้ ว่ ยตามระบบเฝา้ ระวงั โรค ให้รายงานต้ังแตผ่ ้ปู ว่ ยที่สงสยั 27. เรมิ ของอวัยวะสบื พันธ์แุ ละทวารหนกั (Anogenital Herpes) ✚ ประเภทผปู้ ว่ ย 1. ผูป้ ่วยที่สงสยั หมายถงึ ผู้ทีม่ ีประวตั ิเสย่ี งต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพนั ธ์* ร่วมกบั มีอาการแสบๆ คนั ๆ แล้วมีตุ่มนำ้�ใสขึ้นอยู่เป็นกลุ่มๆ ต่อมาตุ่มแตกเป็นแผล ถ้าเป็นการติดเช้ือคร้ังแรกมักมีรอยโรคหลายแห่ง แผลหายช้า และมีอาการตามระบบร่วมด้วย ถ้าเป็นการเกิดโรคซำ้�อาการที่เกิดขึ้นมีความรุนแรงน้อยกว่า ครงั้ แรกมาก ลักษณะรอยโรคเปน็ ตุ่มนำ�้ ใสกลุม่ เลก็ ๆ และหายได้เองโดยไม่มีแผลเป็นในเวลา 7 - 10 วนั บริเวณทพี่ บบ่อย ไดแ้ ก่ อวัยวะเพศ ทวารหนกั ปากชอ่ งคลอด ปากมดลกู บางครงั้ พบรอยโรคที่รมิ ฝีปาก 2. ผ้ปู ว่ ยทเ่ี ขา้ ข่าย ไมม่ ี 3. ผู้ปว่ ยทีย่ ืนยนั ผล หมายถึง ผูป้ ว่ ยสงสยั รว่ มกบั ผลตรวจทางห้องปฏบิ ัตกิ ารอย่างใดอย่างหน่ึงดงั นี้ • Tzanck smear พบ multinucleated giant cel • พบเช้ือหรอื ผลบวกตอ่ herpes simplex virus ในส่ิงส่งตรวจทเี่ ก็บจากแผลด้วยการตรวจวธิ ใี ด วิธีหน่งึ ดงั นี้ - เพาะเช้อื ในเซลเลย้ี งเช้ือ - Direct fluorescence assay - Nucleic acid amplification test เชน่ PCR หรอื LCR หรือ TMA ✚ การรายงานผูป้ ว่ ยตามระบบเฝ้าระวังโรค ให้รายงานต้ังแตผ่ ปู้ ่วยที่สงสยั หากรักษาหายแล้วกลบั เปน็ โรคซ�้ำ ใหม่ ไม่ตอ้ งรายงาน 28. โรคตับอกั เสบจากเชอ้ื ไวรสั ชนดิ เอ บี ซี ดี และ อี (Viral hepatitis A, B, C, D and E) 28.1 Viral hepatitis A D และ E ✚ ประเภทผ้ปู ว่ ย 1. ผปู้ ว่ ยทีส่ งสยั หมายถึง ผูท้ ่ีมีอาการไข้เฉยี บพลนั ครน่ั เนื้อคร่ันตัว คล่ืนไส้ อาเจยี น ท้องอืด และ จุกแน่นบริเวณใต้ชายโครงขวา ต่อมาจะมีปัสสาวะสีเข้ม ร่างกายและตาเหลือง โดยไม่มีประวัติได้รับยา หรือสารพษิ ทีเ่ ป็นสาเหตุของตับอกั เสบเฉยี บพลัน 2. ผปู้ ว่ ยทเ่ี ขา้ ขา่ ย หมายถงึ ผปู้ ว่ ยทสี่ งสยั รว่ มกบั ตรวจพบคา่ SGPT (ALT) ในน�ำ้ เหลอื งมากกวา่ 100 U/L 53

3. ผ้ปู ่วยท่ียืนยนั ผล หมายถึง ผปู้ ว่ ยท่สี งสัยร่วมกบั ตรวจพบขอ้ ใดขอ้ หน่ึงดังน้ี - Hepatitis A: พบ anti HAV IgM - Hepatitis D: พบ HBs ag รว่ มกบั anti HDV (IgG) - Hepatitis E: พบ anti HEV IgM ✚ การรายงานผู้ปว่ ยตามระบบเฝ้าระวังโรค ให้รายงานต้ังแต่ผู้ป่วยทส่ี งสยั 28.2 Viral hepatitis B และ C ✚ ประเภทผู้ป่วย 1. ผปู้ ่วยท่ีสงสยั ติดเชือ้ ไวรัสตับอักเสบ หมายถงึ ผู้มีประวัตเิ ส่ยี งต่อการตดิ เชื้อไวรัสตบั อักเสบบี ซี และมี อาการของตับอักเสบ โดยยงั ไม่มผี ลตรวจยืนยนั สาเหตจุ ากเชอื้ ไวรัส หรือไมส่ ามารถอธบิ ายสาเหตขุ องตับ อกั เสบจากการได้รับยา สารพิษ หรอื การเจบ็ ป่วยอ่ืนได้ จำ�แนกตามระยะดำ�เนนิ โรคต่อไปนี้ 1.1 ผปู้ ว่ ยตดิ เชอ้ื ไวรสั ตบั อกั เสบระยะตบั อกั เสบเฉยี บพลนั (Acute Hepatitis) หมายถงึ ผมู้ อี าการไข้ คร่นั เนอื้ คร่ันตัว ออ่ นเพลยี และอาการแสดงการท�ำ งานของตบั ผดิ ปกติ ไดแ้ ก่ คล่ืนไส้ อาเจยี น ทอ้ งอดี ตวั เหลอื งตาเหลอื ง ปสั สาวะสเี ข้ม ปวดจกุ แนน่ หรือกดเจ็บใต้ชายโครงขวา หรอื hepatic coma และ/หรอื มคี า่ alanine aminotransferase (ALT) มากกวา่ 400 U/L (10 เทา่ ของคา่ ปกต)ิ 1.2 ผูต้ ิดเช้ือตบั อกั เสบระยะเรอื้ งรงั (Chronic Infection) หมายถงึ ผมู้ ีอาการแสดงที่เกีย่ วข้องกบั การติดเชอื้ ตับอกั เสบเรื้อรัง ไดแ้ ก่ ตบั แขง็ หรอื Liver cel carcimoma 2. ผ้ปู ว่ ยทเ่ี ขา้ ข่าย (ไมม่ ี) 3. ผปู้ ว่ ยยืนยนั หมายถึง ผ้ทู มี่ ผี ลตรวจยืนยันการติดเชอ้ื ไวรัสตบั อกั เสบบี หรอื ซี ดังตอ่ ไปน้ี 3.1 ผูป้ ว่ ยติดเชอื้ ไวรัสตบั อักเสบบี (HBV) - ผ้ปู ่วยตบั อกั เสบบเี ฉียบพลนั (Acute Hepatitis B) หมายถึง ผูม้ ีอาการตบั อักเสบเฉยี บพลนั รว่ มกบั มี positive IgM-specific antibodies ต่อ HBV core antigen (anti-HBcIgM) - ผตู้ ดิ เชอ้ื ตบั อกั เสบบเี รอื้ รงั (Chronic HBV Infection) หมายถงึ ผทู้ ต่ี รวจพบ HBsAgpositive โดยไมม่ ีอาการหรืออาการแสดงของตบั อักเสบเฉียบพลันในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา นบั รวม ผู้ตดิ เช้ือไมม่ อี าการ (HBV carrier) และผปู้ ว่ ยตับอกั เสบบเี รื้อรัง (HBV Chronic Hepatitis) 3.2 ผปู้ ว่ ยติดเช้ือไวรัสตับอกั เสบซี (HCV) - ผตู้ ดิ เชอ้ื หรอื ผปู้ ว่ ยตบั อกั เสบซเี ฉยี บพลนั (Acute Hepatitis C) หมายถงึ ผมู้ อี าการตบั อกั เสบ เฉยี บพลนั ร่วมกบั มขี ้อใดขอ้ หนง่ึ ตอ่ ไปนี้ • seroconversion to hepatitis C virus antibodies (anti-HCV); หรือ • HCV ribonucleic acid (RNA) positive และ anti-HCV negative; หรือ 54

• Anti-HCV positive โดยมผี ล anti-HBcIgM, anti-HAVIgM และ anti-HEV IgM เปน็ negative (ยนื ยนั วา่ ไม่ป่วยจากไวรสั ตับอักเสบชนดิ อน่ื ) - ผูต้ ดิ เช้อื ตบั อักเสบซีเรือ้ รัง (Chronic HCV Infection) หมายถึงผตู้ รวจพบ HCV RNA หรือ HCVcore antigen หมายเหต:ุ - กรณีผทู้ ีไ่ ม่มีอาการหรือไม่มผี ลตรวจเข้าเกณฑ์ติดเช้ือเฉียบพลนั แต่ตรวจพบผล Anti-HCV positive ใหร้ ายงานเปน็ ผเู้ คยหรอื ยงั คงมกี ารตดิ เชื้อตบั อักเสบซี (Past or presence HCV Infection) - ประวัติเส่ยี งตอ่ การติดเชือ้ ประกอบดว้ ย 1) มีเพศสมั พนั ธ์ทีไ่ ม่ไดป้ ้องกนั หรือมปี ญั หาถุงยางอนามัย แตกร่ัว หลุดระหว่างมีเพศสัมพันธ์กับคู่เพศสัมพันธ์ท่ีเส่ียงต่อการติดเชื้อ (ได้แก่ผู้ที่ไม่รู้จักกันมาก่อน คู่นอนชวั่ คราว หญิงหรือชายใหบ้ ริการทางเพศ ผู้ท่มี ปี ระวตั ิตดิ เช้ือไวรสั ตับอกั เสบบี หรือซี หรอื เอชไอวี หรือโรคติดตอ่ ทางเพศสัมพนั ธอ์ น่ื ๆ และเปน็ ชายมเี พศสมั พนั ธ์ทางทวารหนกั กบั ชายดว้ ยกนั ), 2) มปี ระวัติ ฉดี ยาเสพตดิ และใชเ้ ขม็ ฉดี ยารว่ มกบั ผอู้ นื่ , 3) เปน็ เดก็ ทเ่ี กดิ จากแมท่ ตี่ ดิ เชอ้ื , และ 4) เปน็ บคุ ลากรทางการแพทย์ ท่ีเกดิ อุบตั เิ หตสุ มั ผัสเลือดหรอื สารคัดหล่งั ของผตู้ ดิ เชื้อฯ หรือผเู้ สยี่ งตอ่ การติดเชือ้ ฯ - การตดิ เชอื้ ระยะเฉยี บพลนั ในระยะทเี่ ปน็ seroconversion อาจยังไม่แสดงอาการของตับอักเสบ ✚ การรายงานผปู้ ว่ ยตามระบบเฝา้ ระวงั โรค ให้รายงานต้ังแต่พบผู้ป่วยท่ีสงสัยการติดเช้ือ ผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อตามชนิดของเช้ือไวรัสตับอักเสบ และทกุ ระยะการด�ำ เนนิ โรค จนถึงเสยี ชวี ติ 29. โรคตาแดงจากไวรสั (Viral conjunctivitis) ✚ ประเภทผปู้ ว่ ย 1. ผู้ป่วยทีส่ งสัย หมายถงึ ผูท้ ี่มีอาการเยือ่ บตุ า แดง อักเสบ ปวดตา มีข้ตี า อาจจะมจี ุดเลอื ดออก ใตเ้ ย่อื ตาขาว และมักเป็นสองข้าง 2. ผปู้ ว่ ยท่เี ขา้ ข่าย หมายถึง ผปู้ ว่ ยทส่ี งสัยรว่ มกับมขี อ้ มลู ทางระบาดวิทยาเชือ่ มโยงกบั ผู้ปว่ ยท่ยี นื ยันผล 3. ผูป้ ่วยทย่ี ืนยนั ผล หมายถงึ ผ้ปู ว่ ยทส่ี งสยั ทีม่ ผี ลการตรวจทางหอ้ งปฏิบัติการ พบข้อใดขอ้ หน่ึงดังน้ี - ตรวจระดบั ภูมิคุ้มกันต่อเช้ือไวรสั Adenovirus หรือ Enterovirus หรือ Coxsackie virus A24 ใน paired sera เพ่มิ ขน้ึ อยา่ งนอ้ ย 4 เท่า (four-fold rising) - แยกเชอ้ื ไวรสั ไดจ้ ากสารคัดหล่งั ทเี่ กบ็ จาก conjunctival swab ✚ การรายงานผู้ป่วยตามระบบเฝ้าระวังโรค ใหร้ ายงานตงั้ แตผ่ ู้ปว่ ยทสี่ งสัย 55

30. โรคติดเช้ือไวรสั ซกิ า (Zika virus disease) ✚ ประเภทผปู้ ่วย 1. ผู้ปว่ ยท่สี งสยั หมายถงึ ผปู้ ่วยมี 4 กลุ่ม ได้แก่ ผปู้ ่วยหญิงตงั้ ครรภ์ ผปู้ ว่ ยท่ัวไป ทารกทมี่ ีศีรษะเล็ก และผูป้ ว่ ยกล่มุ อาการ กิลแลง-บารเ์ ร 1.1 ผปู้ ว่ ยสงสยั หญงิ ตง้ั ครรภ์ หมายถงึ หญงิ ตง้ั ครรภท์ ม่ี ผี น่ื (maculopapular rash) รว่ มกบั มอี าการ อยา่ งน้อย 2 ใน 4 อาการ ดังน้ี ไข้ ปวดข้อ ตาแดง หรือปวดศรี ษะ 1.2 ผปู้ ว่ ยทว่ั ไป หมายถึง - ผู้ทมี่ ีอายุ 15 ปขี ึ้นไป มีอาการดงั นม้ี ผี ืน่ (maculopapular rash) ร่วมกับมอี าการอยา่ งนอ้ ย 2 ใน 4 อาการ ดังน้ี ไข้ ปวดข้อ ตาแดง หรอื ปวดศีรษะ - ผทู้ ่มี อี ายนุ อ้ ยกวา่ 15 ปี • ผปู้ ว่ ยรายเดียวทพี่ บทั้ง 3 อาการ ได้แก่ ไข้ ผ่ืน (maculopapular rash) และตาแดง หรอื • ผู้ปว่ ยกลุม่ กอ้ นต้งั แตส่ องรายข้นึ ไปทีม่ อี าการ ดงั นี้ • มีผ่ืน รว่ มกบั อาการอยา่ งนอ้ ย 1 ใน 3 อาการ ดงั น้ี ไข้ ปวดข้อ ตาแดง หรือ • ไข้ รว่ มกับอาการอยา่ งน้อย 2 ใน 3 อาการ ดงั นี้ ปวดศรี ษะ ปวดข้อ ตาแดง ใน 2 สัปดาห์ ในหม่บู า้ น ชุมชน โรงเรียน หรอื ท่ีท�ำ งานเดียวกนั หรือท�ำ กจิ กรรม ในสถานท่เี ดยี วกนั - มผี ื่น (maculopapular rash) ท่ีอาศยั อยู่หรอื มีประวตั เิ ดินทางเข้าไปในตำ�บลที่พบผปู้ ว่ ย ยนื ยันและยังอยู่ในระยะเวลาควบคุมโรค 1.3 ทารกทม่ี ศี รี ษะเลก็ (Neonatal Microcephaly) และ/หรอื พบ brain calcification หมายถึง ทารกที่คลอดมาไม่เกิน 1 เดือน และวัดรอบศีรษะแล้วมีค่าความยาวเส้นรอบวงต่ำ�กว่า 3 Percentile ของคา่ ปกตใิ นเพศและกลมุ่ อายคุ รรภข์ องทารกนนั้ (Fenton curve) โดยกมุ ารแพทย์ เปน็ ผวู้ นิ จิ ฉยั และ/หรอื พบหนิ ปนู ในเนอ้ื สมอง (intracranial calcification) และมผี ลตามเกณฑ์ ทางห้องปฏิบตั กิ ารจำ�เพาะ 1.4 ผปู้ ่วยกลมุ่ อาการกลิ แลง-บารเ์ ร (Guillain-Barre syndrome) ผ้ปู ่วยโรคทางระบบประสาทอกั เสบ อน่ื ๆ ภายหลังการตดิ เชื้อ หมายถงึ กล่มุ อาการทเี่ กิดจากการอักเสบเฉยี บพลันของเส้นประสาท หลายๆ เสน้ พรอ้ มกัน demyelinating polyradiculoneuropathy จนก่อให้เกิดอาการกล้ามเน้อื อ่อนแรงเฉียบพลัน ซ่ึงในรายที่รุนแรงอาจถึงข้ันเป็นอัมพาต และอาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หรือผูท้ ่ีมาด้วยอาการแขนขาออ่ นแรง 2 ขา้ ง อาจจะมชี าหรอื ไม่กต็ าม ทงั้ น้อี าจจะหายใจไม่ได ้ เม่ืออาการรนุ แรงมากขึ้น โดยแพทยเ์ ปน็ ผู้วนิ จิ ฉัยและมผี ลตามเกณฑท์ างหอ้ งปฏิบตั ิการจ�ำ เพาะ 56

ในกรณีท่ผี ้ปู ว่ ย GBS มอี าการ Acute Flaccid Paralysis รว่ มดว้ ยใหด้ ำ�เนินการเก็บตวั อย่างอุจจาระ ส่งตรวจโปลิโอ ตามโครงการกวาดล้างโรคโปลิโอนั้น เพ่ือเพ่ิมความเข้มแข็งของการเฝ้าระวังหาเช้ือท่ีเป็น สาเหตุของกลมุ่ อาการดงั กลา่ ว ผปู้ ว่ ยทส่ี งสยั หมายถงึ ผู้ปว่ ยสงสยั ทเี่ ขา้ เกณฑท์ างคลินิกใน 4 กลุ่ม ที่ไมไ่ ด้เก็บตวั อย่างส่งตรวจหรอื เกบ็ ในเวลาท่ีไมเ่ หมาะสม และมผี ลการตรวจ IgM หัด, หดั เยอรมัน ให้ผลลบ 2. ผปู้ ว่ ยทเ่ี ขา้ ขา่ ย หมายถงึ ผปู้ ว่ ยสงสยั ทเี่ ขา้ เกณฑท์ างคลนิ กิ ใน 4 กลมุ่ ทไ่ี มไ่ ดเ้ กบ็ ตวั อยา่ งสง่ ตรวจหรอื เกบ็ ในเวลาทไ่ี มเ่ หมาะสม รว่ มกบั มผี ลการเชอื่ มโยงทางระบาดวทิ ยากบั ผปู้ ว่ ยรายอน่ื ๆ ทมี่ ผี ลการตรวจยนื ยนั ทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารจ�ำ เพาะ (เชน่ มวี นั เรม่ิ ปว่ ย ภายใน 2 สปั ดาห์ กอ่ นหรอื หลงั วนั เรมิ่ ปว่ ยของผปู้ ว่ ยยนื ยนั และอยใู่ นหมบู่ า้ น ชุมชน โรงเรยี น หรือที่ท�ำ งานเดยี วกัน หรอื ท�ำ กจิ กรรมในสถานท่เี ดยี วกัน) 3. ผู้ป่วยที่ยืนยันผล หมายถึง ผู้ป่วยสงสัยท่ีเข้าเกณฑ์ทางคลินิกใน 4 กลุ่ม และผลตามเกณฑ์ทาง หอ้ งปฏิบัตกิ ารขอ้ ใดขอ้ หนึ่งดงั น้ี - ตรวจพบสารพันธกุ รรมของไวรัสซิกา โดยวิธี RT-PCR หรือ - ผู้ป่วยทารกศรี ษะเล็ก (อายุไมเ่ กิน 1 เดือน) ตรวจพบภมู ิคมุ้ กนั ชนดิ ZIKV IgM โดยวธิ ี ELISA ✚ การรายงานผู้ป่วยตามระบบเฝา้ ระวงั โรค ใหร้ ายงานตัง้ แต่ผู้ป่วยที่สงสยั 31. โรคติดเช้อื สเตร็ปโตคอคคัสซูอิส (Streptococcus suis infection) ✚ ประเภทผปู้ ่วย 1. ผู้ปว่ ยทส่ี งสยั หมายถงึ ผู้ปว่ ยทมี่ ีอาการไข้สงู เฉยี บพลัน (มากกว่า 38 องศาเชลเชียส) โดยหลังจาก ซกั ประวัตกิ ารเจบ็ ปว่ ยและตรวจร่างกายแล้วไม่สามารถอธบิ ายสาเหตุของไข้ได้ รว่ มกบั มปี ระวตั ิเสย่ี ง คือ สมั ผัส (เชน่ เล้ียงหมู และช�ำ แหละหมู) หรอื รบั ประทานหมหู รอื เลอื ดหมดู บิ ภายใน 1 สปั ดาห์ 2. ผปู้ ว่ ยทเี่ ขา้ ขา่ ย หมายถงึ ผปู้ ว่ ยทสี่ งสยั เปน็ โรคตดิ เชอ้ื สเตรป็ โตคอคคสั ซอู สิ และมขี อ้ มลู ทางระบาดวทิ ยา เชอ่ื มโยงกบั ผปู้ ่วยยนื ยนั 3. ผปู้ ว่ ยทย่ี นื ยนั ผล หมายถงึ ผปู้ ว่ ยทส่ี งสยั เปน็ โรคไข้หดู บั และมผี ลการทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารยนื ยนั พบเชอ้ื Streptococcus suis ✚ การรายงานผู้ป่วยตามระบบเฝา้ ระวังโรค ใหร้ ายงานตัง้ แต่ผู้ป่วยที่สงสัย 57

32. โรคเท้าช้าง (Elephantiasis Lymphatic Filariais) ✚ ประเภทผปู้ ว่ ย 1. ผปู้ ่วยทสี่ งสยั หมายถึง ผทู้ ่มี ไี ข้ ร่วมกบั อาการปวด บวม แดงรอ้ น บริเวณต่อมและทอ่ ทางเดนิ น้ำ�เหลอื ง อาจมีหรอื ไมม่ อี วัยวะบวม โต เช่น แขน ขา อวยั วะเพศ ก็ได้ 2. ผปู้ ่วยท่เี ขา้ ขา่ ย หมายถึง ผู้ปว่ ยท่ีสงสัย รว่ มกบั การมีประวตั ิอย่ใู นพน้ื ทๆ่ี มโี รคเทา้ ชา้ งเป็นโรคประจำ�ถิน่ (endemic area) 3. ผปู้ ่วยที่ยนื ยนั ผล หมายถงึ ผู้ป่วยที่สงสยั และมผี ลตามเกณฑท์ างห้องปฏบิ ตั กิ ารข้อใดขอ้ หนงึ่ ดงั น้ี - ตรวจหาเชอื้ microfilaria ในกระแสโลหติ โดยวธิ ี thick film technique สว่ นใหญต่ อ้ งเจาะเลอื ด ตง้ั แต่ 20.00 - 24.00 น. - ตรวจหาแอนติเจนของเชื้อ W. bancrofti โดยวธิ ี Immunochromatographic test (ICT) - Polymerase Chain Reaction (PCR) เพอ่ื ตรวจสอบเชอ้ื พยาธโิ รคเทา้ ชา้ ง W. bancrofti และ B. malayi ในเลอื ด โดยการเพมิ่ จ�ำ นวนสารพันธุกรรม DNA ท่ีจำ�เพาะ โดยการทำ�ปฏกิ ริ ยิ าลูกโซ่ โพลเี มอรเ์ รส 4. ผ้ตู ดิ เชือ้ ท่ีไมม่ อี าการ (Asymptomatic carrier) หมายถึงผ้ทู ไ่ี มม่ ีอาการ และมผี ลตามเกณฑห์ อ้ งปฏิบตั กิ าร ✚ การรายงานผู้ป่วยตามระบบเฝา้ ระวงั โรค เนอ่ื งจากโรคนม้ี อี บุ ตั กิ ารณต์ �่ำ และอาจมกี ารน�ำ เขา้ จากแรงงานตา่ งชาติ จงึ ใหร้ ายงานทงั้ ผปู้ ว่ ยทเ่ี ขา้ ขา่ ย ผปู้ ว่ ยท่ยี นื ยนั ผล และผู้ตดิ เช้อื ที่ไมม่ ีอาการด้วย เพอื่ การควบคุมปอ้ งกนั โรคต่อไป 33. โรคบรูเซลโลสิส (Brucellosis) ✚ ประเภทผู้ป่วย 1. ผู้ป่วยทส่ี งสัย หมายถงึ ผู้ทีม่ ีไข้สงู หรอื ไข้เปน็ ๆ หายๆ ปวดเมอ่ื ยกล้ามเน้ือทวั่ รา่ งกาย เหงือ่ ออกมาก ตอนกลางคืน ร่วมกับอาการอื่นๆ อย่างน้อยหน่ึงอาการ ได้แก่ ปวดศีรษะ ปวดข้อ หรือปวดหลัง อ่อนเพลียมาก น้ำ�หนักลด อัณฑะบวม/โต แดง และมีประวัติบริโภคเนื้อหรือน้ำ�นมของสัตว์ท่ีไม่ผ่าน ความรอ้ นอยา่ งถกู วธิ ี หรอื มปี ระวตั ิสมั ผสั กับสัตว์ตดิ โรค เชน่ โค กระบอื แพะ แกะ สุกร สนุ ขั 2. ผูป้ ่วยทเ่ี ข้าขา่ ย (ไม่ม)ี 3. ผปู้ ว่ ยที่ยืนยันผล หมายถงึ ผปู้ ว่ ยที่สงสยั รว่ มกับตรวจพบข้อใดขอ้ หนงึ่ ดังน้ี - ผลการเพาะเช้ือจากเลอื ด น้�ำ ไขสนั หลงั หนอง พบเช้ือ Brucela spp. - ELISA test for brucellosis ใหผ้ ลบวก - PCR ให้ผลบวก ✚ การรายงานผ้ปู ่วยตามระบบเฝา้ ระวงั โรค ใหร้ ายงานตัง้ แตผ่ ู้ปว่ ยทีส่ งสัย 58

34. โรคบดิ (Dysentery) กรณีโรคบดิ จากเชื้อชิเกลลา (Shigellosis dysentery หรอื Bacillary dysentery) ✚ ประเภทผ้ปู ว่ ย 1. ผู้ป่วยทส่ี งสยั หมายถงึ ผู้ทมี่ ีอาการไขส้ ูง (เกิน 38.5 ํC) ถ่ายเปน็ นำ�้ และ/หรอื ตามด้วยถ่ายเป็น มูกเลือด อาจรว่ มกับอาการอ่ืนๆ ดงั นี้ - ปวดเบง่ (เหมอื นถ่ายไม่สดุ ) ถา่ ยกระปรดิ กระปรอย - คลน่ื ไส้ อาเจยี น - ในเด็ก อาจมชี ักร่วมดว้ ย 2. ผปู้ ่วยท่ีเข้าขา่ ย หมายถึง ผู้ปว่ ยทส่ี งสยั ร่วมกบั การตรวจอจุ จาระพบ WBC >20 cels/HPF 3. ผปู้ ว่ ยทยี่ นื ยันผล หมายถงึ ผปู้ ว่ ยทีส่ งสัยร่วมกบั เพาะเชอื้ จากอจุ จาระ หรอื rectal swab พบเชือ้ Shigella spp. (Group A หรอื B หรอื C หรือ D) ✚ การรายงานผปู้ ่วยตามระบบเฝา้ ระวังโรค ใหร้ ายงานต้ังแตผ่ ้ปู ่วยทีเ่ ขา้ ขา่ ย หมายเหตุ ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่เข้าเกณฑ์ทางคลินิกของบิดชิเกลโลซิสและบิดอมีบา หรือไม่ได้ตรวจทาง ห้องปฏิบัติการ หรือตรวจไม่พบเช้ือสาเหตุท้ังบิดชิเกลโลซิสและบิดอมีบา แต่มีอาการถ่ายเป็นมูกเลือด ใหร้ ายงานเป็นบิดไมจ่ �ำ เพาะไปก่อน แตใ่ ห้พยายามตรวจหาเช้อื ตัวอื่นตอ่ ไป กรณโี รคบิดอมบี า (Amoebic Dysentery หรอื Amoebiasis) ✚ ประเภทผปู้ ว่ ย 1. ผปู้ ว่ ยที่สงสยั (ไม่ม)ี 2. ผู้ป่วยท่ีเข้าข่าย หมายถึง ผู้ท่ีมีอาการถ่ายเหลวมากกว่า 2 สัปดาห์ หรือถ่ายเป็นมูกปนเลือด (มกี ลิ่นเหม็นรนุ แรงคลา้ ยหัวกุ้งเน่า) โดยไม่พบสาเหตุอน่ื รว่ มกับอาการอยา่ งน้อย 1 อาการ ดงั ต่อไปนี้ - ไข้ - ปวดเบง่ (เหมือนถ่ายไม่สดุ ) - ถ่ายกระปรดิ กระปรอย 3. ผปู้ ่วยที่ยืนยันผล หมายถงึ ผู้ปว่ ยท่เี ข้าข่าย ร่วมกับมผี ลการตรวจขอ้ ใดข้อหนง่ึ ดงั นี้ - ตรวจอจุ จาระสดพบ trophozoites form ของ Entamoebahistolytica หรือ - ท�ำ sigmoidoscope หรอื proctoscope เพอ่ื ดรู อยโรค และเกบ็ อจุ จาระสด ตรวจพบ trophozoites ของ Entamoebahistolytica ✚ การรายงานผู้ป่วยตามระบบเฝ้าระวังโรค ใหร้ ายงานตั้งแต่ผปู้ ว่ ยที่เขา้ ขา่ ย 59

กรณโี รคบิดไม่จำ�เพาะ (Non-specific dysentery) ✚ ประเภทผปู้ ่วย 1. ผปู้ ว่ ยทส่ี งสัย หมายถึง ผู้ทถี่ า่ ยเป็นน�ำ้ หรือมูกปนเลอื ด รว่ มกับอาการอย่างนอ้ ย 1 อาการ ดังตอ่ ไปนี้ - ไข้ - ปวดทอ้ งทั่วไป โดยเฉพาะบริเวณตรงกลาง หรือปวดมากที่บรเิ วณทอ้ งน้อยด้านขวา (right iliac fossa) - อาเจียนมาก 2. ผปู้ ว่ ยทเ่ี ขา้ ข่าย (ไมม่ ี) 3. ผูป้ ่วยทย่ี ืนยนั หมายถงึ ผปู้ ่วยที่สงสยั ร่วมกบั - การตรวจท่วั ไป ตรวจอุจจาระพบ WBC >20 cells/HPF - การตรวจจ�ำ เพาะ ตรวจอุจจาระสดไม่พบ cyst หรอื trophozoite ของ Entamoebahistolytica หรือเพาะเช้ือจากอุจจาระไมพ่ บเชื้อ Shigella spp. หรือตรวจพบเช้อื อ่ืนๆ ✚ การรายงานผปู้ ่วยตามระบบเฝ้าระวงั โรค ให้รายงานตง้ั แต่ผู้ป่วยสงสยั หากตรวจพบเช้ืออนื่ ๆ ให้รายงานในชอ่ งอนื่ ๆ 35. โรคปอดอักเสบ (Pneumonitis หรอื Pneumonia) ✚ ประเภทผูป้ ว่ ย 1. ผู้ป่วยที่สงสัย หมายถึง ผ้ปู ว่ ยทม่ี ีอาการไข้ ร่วมกบั ไอ และหายใจเร็วหอบเหนอ่ื ย ตรวจรา่ งกายพบ มเี สียง crepitation ในปอด หรอื เสยี ง bronchial breath sound • โรคปอดอกั เสบในเดก็ อายุ 2 เดือน - 5 ปี แบง่ เกณฑ์ทางคลนิ กิ เปน็ 3 ระดับดังน้ี - โรคปอดอกั เสบไมร่ นุ แรงผปู้ ว่ ยจะมอี าการไอรว่ มกบั หายใจหอบเรว็ กวา่ ปกติ โดยใชเ้ กณฑด์ งั นี้ อายุ 2 เดอื น - 1 ปี หายใจมากกว่า 50 ครงั้ /นาที อายุ 1 ปี - 5 ปี หายใจมากกว่า 40 คร้ัง/นาที - โรคปอดอักเสบรุนแรงผู้ป่วยจะมีอาการไออาจมีหายใจเร็วหรือไม่มีแต่มีชายโครงบุ๋มเวลา หายใจเขา้ • ในเดก็ อายตุ �่ำ กวา่ 2 เดอื น ผปู้ ว่ ยจะหายใจเรว็ มากกวา่ 60 ครง้ั /นาทหี รอื มชี ายโครงบมุ๋ มากถอื วา่ เป็นชนดิ รุนแรง • ส�ำ หรับผปู้ ่วยอายมุ ากกวา่ 5 ปี อาการหายใจเร็ว ไดแ้ ก่ หายใจมากกวา่ 20 คร้งั /นาที และ อาการหายใจหอบเหนือ่ ย คือ หายใจมชี ายโครงบ๋มุ ซดี หรือเขียว 2. ผปู้ ่วยทเ่ี ข้าข่าย (ไม่มี) 60

3. ผ้ปู ่วยท่ียืนยนั ผล หมายถงึ ผู้ปว่ ยทสี่ งสัยรว่ มกับตรวจพบข้อใดขอ้ หนึ่งดงั นี้ - ผลการเพาะเชอ้ื จากตวั อยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ ตอ่ ไปนใี้ หผ้ ลบวกตอ่ เชอื้ แบคทเี รยี หรอื ไวรสั ไดแ้ ก่ เสมหะ tracheal suction nasopharyngeal swab น้�ำ จากชอ่ งเยื่อหุ้มปอด หรอื เลอื ด - ตรวจพบสารพนั ธกุ รรมของเชอื้ กอ่ โรคทางเดนิ หายใจดว้ ยวธิ ี Polymerase Chain Reaction (PCR) จากตัวอย่างใดอยา่ งหนง่ึ ต่อไปน้ีให้ผลบวกต่อเชอ้ื แบคทเี รียหรือไวรัส ไดแ้ ก่ เสมหะ tracheal suction nasopharyngeal swab นำ�้ จากช่องเยือ่ หมุ้ ปอด หรือเลอื ด - ตรวจพบวา่ มกี ารเพมิ่ ขน้ึ ของระดบั ภมู คิ มุ้ กนั ตอ่ เชอื้ ในซรี ม่ั อยา่ งนอ้ ย 4 เทา่ ในระยะเฉยี บพลนั และ ระยะพักฟืน้ ✚ การรายงานผปู้ ่วยตามระบบเฝ้าระวังโรค ใหร้ ายงานต้งั แตผ่ ู้ปว่ ยทส่ี งสัย 36. โรคพิษสนุ ขั บา้ (Rabies) ✚ ประเภทผปู้ ว่ ย 1. ผปู้ ว่ ยทส่ี งสยั หมายถงึ ผทู้ มี่ ไี ขป้ วดศรี ษะ ชา เจบ็ เสยี วบรเิ วณแผลทถ่ี กู สตั วก์ ดั รวมทงั้ บรเิ วณใกลเ้ คยี ง เป็นอาการนำ� รวมทั้งมีอาการคันอย่างรุนแรงบริเวณแผลท่ีถูกกัดหรือตามลำ�ตัว และอาการกลืนลำ�บาก ถม่ น้�ำ ลาย รว่ มกบั อาการอน่ื ๆ อย่างนอ้ ยหนึง่ อาการ ได้แก่ มอี าการกลัวน�ำ้ กลวั ลม พบ Myoedema หรือมีอาการอมั พาตของแขน ขา อยา่ งชดั เจน 2. ผปู้ ว่ ยทเ่ี ขา้ ขา่ ย หมายถงึ ผปู้ ว่ ยทส่ี งสยั รว่ มกบั การมปี ระวตั คิ ลกุ คลหี รอื ถกู สตั วเ์ ลย้ี งลกู ดว้ ยนมกดั ขว่ น 3. ผูป้ ่วยท่ยี ืนยนั ผล หมายถึง ผปู้ ่วยท่ีสงสัยร่วมกบั ตรวจพบขอ้ ใดขอ้ หนึง่ ดงั นี้ - การตรวจหาแอนติเจนโดยวธิ อี ิมมูโนฟลอู อเรสเซนต์ (FAT) ให้ผลบวก - การแยกเชื้อไวรัสโดยการฉีดเข้าสมองหนูเซลล์เพาะเล้ยี ง ใหผ้ ลบวก - การตรวจหาระดบั ภมู คิ มุ้ กนั โดย Mouse Neutralization Test (MNT), Rapid Fluorescent Focus Inhibition Test (RFFIT) ให้ผลบวก - การตรวจสารพันธุกรรมโดยวิธี PCR/Nested PCR ให้ผลบวก ✚ การรายงานผูป้ ่วยตามระบบเฝ้าระวังโรค ใหร้ ายงานตง้ั แต่ผู้ป่วยทเ่ี ขา้ ข่าย 61

37. โรคมอื เทา้ ปาก (Hand Foot and Mouth disease) ✚ ประเภทผู้ปว่ ย 1. ผปู้ ว่ ยท่ีสงสยั หมายถงึ ผทู้ ีม่ อี าการตามเกณฑท์ างคลินกิ ได้แก่ มอี าการไข มแี ผลเปอ ยหลายแผลในปาก และมีอาการเจ็บรวมกบั มตี ุมน้ําพองขนาดเล็กทีฝ่ ามือ นว้ิ มอื ฝา เทา และบางครัง้ อาจมปี รากฏท่กี น 2. ผปู้ ่วยท่ีเข้าข่าย หมายถงึ ผูป้ ว่ ยที่สงสัยรว่ มกบั ข้อมลู ทางระบาดวทิ ยาเช่ือมโยงกับผปู้ ่วยที่ยืนยนั 3. ผูป้ ว่ ยทย่ี ืนยนั ผล หมายถงึ ผู้ปว่ ยทส่ี งสัยร่วมกบั ผลตรวจยนื ยันทางห้องปฏบิ ัตกิ ารพบสารพันธุกรรม ไวรัสเอนเตอโรหรือผลการตรวจซีรั่มคตู า งกนั อยา งนอ ย 4 เทา ของระดับแอนติบอดตี อไวรสั เอนเตอโร ✚ การรายงานผูป้ ว่ ยตามระบบเฝ้าระวังโรค ใหร้ ายงานตัง้ แต่ผู้ปว่ ยท่ีเขา้ ขา่ ย 38. โรคเร้ือน (Leprosy) ✚ ประเภทผูป้ ว่ ย 1. ผปู้ ่วยทส่ี งสยั หมายถึง ผทู้ ่มี ีอาการและอาการแสดงดังนี้ 1.1 อาการและอาการแสดงทีส่ งสยั โรคเรอื้ น 1.1.1 โรคผิวหนงั เรอื้ รงั ทีเ่ ปน็ มานานกว่า 3 เดอื น ไม่คนั รกั ษาดว้ ยยากนิ หรอื ยาทาไมด่ ีข้ึน 1.1.2 วงแบนราบสจี างหรอื เขม้ กวา่ ผวิ หนงั ปกติ วงขอบนนู แดง มอี าการชา ผวิ แหง้ เหงอ่ื ไมอ่ อก ขนร่วงไม่คนั 1.1.3 ผน่ื นนู แดง ตมุ่ ผิวอิ่มฉำ�่ เป็นมันเลอื่ ม ไมค่ ัน หูหนา 1.1.4 ต่มุ แดงกดเจบ็ ตามใบหนา้ แขน ขา ลำ�ตัว 1.1.5 มอี าการบวมที่หน้ามือ เทา้ 1.1.6 ฝา่ มอื ฝา่ เทา้ ชา 1.1.7 เจบ็ หรือกดเจ็บบรเิ วณเสน้ ประสาททขี่ อ้ ศอก ข้อพับขา 1.1.8 กลา้ มเนื้อตา มอื เทา้ ออ่ นแรง ลบี นว้ิ งอกดุ ข้อมือ/ขอ้ เทา้ ตก หลบั ตาไม่สนทิ 1.1.9 แผลเร้ือรงั ท่ฝี า่ เท้า 1.2 อาการแสดงสำ�คญั (Cardinal signs) ของโรคเรือ้ นคอื 1.2.1 ตรวจพบรอยโรคผิวหนังทีม่ ีลกั ษณะเฉพาะของโรคเร้อื น 1.2.2 ตรวจพบอาการชาข้อใดข้อหนง่ึ ดงั ตอ่ ไปน้ี - ชาที่รอยโรคผิวหนังโดยจะใช้ควบคู่กับการตรวจพบรอยโรคท่ีผิวหนังที่มีลักษณะเฉพาะ ของโรคเรอ้ื น (ข้อ 1.2.1) 62

- ชาบริเวณท่รี บั ความรสู้ กึ จากเสน้ ประสาทสว่ นปลายที่ถูกทำ�ลายโดยเชอื้ โรคเรือ้ น ไดแ้ ก่ ทบ่ี รเิ วณตา มอื เทา้ ซง่ึ จะตอ้ งใชค้ วบคกู่ บั การตรวจพบเสน้ ประสาทโตทมี่ าเลยี้ งบรเิ วณ ที่ตรวจพบอาการชา (ข้อ 1.2.3) 1.2.3 ตรวจพบเสน้ ประสาทโตจากการคล�ำ บรเิ วณเสน้ ประสาททอ่ี ยตู่ น้ื ๆ เชน่ บรเิ วณคอ ขอ้ ศอก ข้อพบั ขา หรือข้อเทา้ เป็นตน้ 1.2.4 ตรวจพบเชอ้ื รปู แทง่ ตดิ สที นกรด (Acid fast bacili) จากการกรดี ผวิ หนงั (Slit skin smear) หากพบอาการแสดงอย่างน้อย 2 ข้อจาก 3 ขอ้ แรก (ข้อ 1.2.1 - 1.2.3) หรือพบขอ้ 1.2.4 เพยี งขอ้ เดียว ให้การวินจิ ฉัยวา่ เปน็ โรคเรือ้ น 2. ผู้ป่วยท่ีเข้าข่าย หมายถึง ผู้ป่วยท่ีสงสัย ร่วมกับมีข้อมูลทางระบาดวิทยาเชื่อมโยงกับผู้ป่วยที่มี ผลการตรวจวนิ จิ ฉยั ยืนยนั โรคเรอื้ น 3. ผปู้ ่วยท่ียืนยันผล หมายถงึ ผู้ป่วยท่ีสงสัยรว่ มกบั อาการแสดงส�ำ คญั (Cardinal signs) ของโรคเร้ือน โดยมกี ารจำ�แนกผ้ปู ว่ ยโรคเรอ้ื นเปน็ 2 ประเภท เพ่ือใชป้ ระโยชนใ์ นการวางแผนการรักษาและการด�ำ เนินงาน ควบคุมโรค ดงั นี้ 3.1 ประเภทเชอื้ น้อย (Paucibacilary leprosy : PB) คือผู้ป่วยท่ตี รวจไม่พบเช้อื และมีรอยโรค 1 - 5 แห่ง หรือมีรอยโรคมากกว่า 5 แห่ง แต่กระจายขา้ งเดียวของร่างกาย 3.2 ประเภทเชือ้ มาก (Multibacillary leprosy : MB) คอื ผู้ปว่ ยทีต่ รวจพบเชอื้ ทุกราย หรือผูป้ ่วย ทต่ี รวจไมพ่ บเช้อื แต่มีรอยโรคมากกวา่ 5 แห่ง และกระจาย 2 ขา้ งของร่างกาย ✚ การรายงานผปู้ ว่ ยตามระบบเฝ้าระวงั โรค ใหร้ ายงานต้งั แตผ่ ปู้ ่วยทีย่ ืนยนั ผล 39. โรคลซิ มาเนีย (Leishmaniasis) กรณีโรคลิซมาเนียชนดิ เกิดแผลท่ีผวิ หนงั ✚ ประเภทผู้ป่วย 1. ผู้ป่วยทีส่ งสัย หมายถึง ผทู้ มี่ แี ผลลักษณะเปน็ แผลแดงตืน้ ขอบเขตชดั เจน ขอบแผลยกตรงกลางแผล มี granulation tissue (โดยแผลจะเป็นตรงท่ีร้ินฝอยทรายซึ่งเป็นพาหะนำ�โรคกัด รอยโรคเร่ิมตนจาก มตี ุมเล็กแดงกลมแข็ง ตอ มาตุมนี้มีขนาดใหญขน้ึ มีสะเกด็ น�ำ้ เหลอื งปกคลุมแตกออกเกิดเปนแผลท่ขี ยาย ขนาดอยา งชาๆ แผลแดงตื้นขอบเขตชดั เจน โดยแผลอาจเป็นจุดเดยี ว หรือเป็นหลายจุด และอาจเกิดขึ้นที่ เยอื่ บตุ า่ งๆ เชน่ เยอ่ื บุชอ่ งปาก จมูก เปน็ ต้น 2. ผู้ป่วยทเี่ ขา้ ขา่ ย (ไม่มี) 63

กรณโี รคลซิ มาเนียชนิดกอ่ เกดิ สภาพอวยั วะภายใน ✚ ประเภทผปู้ ว่ ย 1. ผูป้ ่วยที่สงสยั หมายถึง ผทู้ มี่ ีไขเรือ้ รังเปน ๆ หายๆ (Intermittent fever; chronicaly) รว่ มกบั อาการ ตอ่ ไปนี้ น้�ำ หนักลดอยา งตอ่ เนือ่ ง (Progressive weight loss) รว่ มกบั ซดี (Pale) มา มโต (Splenomegaly) และตับโต (Hepatomegaly) มีเลือดออกไดง าย (Bleeding tendency) เชน เลือดกําเดาไหล เลือดออก ตามไรฟน ตอ มน้ำ�เหลอื งโต (Lymphadenopathy) ผิวหนงั สคี ล้ำ�ขึน้ (Hyperpigmented skin) ออนเพลีย (Fatigue) 2. ผู้ป่วยทเี่ ข้าขา่ ย (ไม่ม)ี 3. ผู้ปว่ ยทย่ี ืนยันผล หมายถึง ผู้ปว่ ยทส่ี งสยั ลิซมาเนยี ชนิดเกดิ แผลที่ผิวหนงั หรอื อวยั วะภายในร่วมกบั ตรวจพบขอ้ ใดขอ้ หนงึ่ ดังน้ี - การแสดงและคัดแยกเชื้อลิชมาเนีย (Demonstration &Isolation parasites) โดยการดูผาน กลอ งจุลทรรศน (Microscopicexamination) จากตวั อย่าง skin biopsy, skin aspiration, skin scraping, bone marrow aspiration, bone marrow biopsy, lymph node aspiration หรอื biopsy - ผลการเพาะเช้ือจากตวั อยา่ งใดอย่างหนงึ่ ขา้ งต้นพบเชอ้ื Leishmania - ตรวจพบสารพันธุกรรมของเชอื้ Leishmania จากตัวอย่างข้างตน้ - ตรวจพบวา่ มกี ารเพ่ิมขน้ึ ของระดบั ภูมิคมุ้ กนั ตอ่ เช้ือในซรี ่ัมอย่างนอ้ ย 4 เท่า ในระยะเฉยี บพลนั และระยะพกั ฟืน้ ✚ การรายงานผปู้ ว่ ยตามระบบเฝา้ ระวงั โรค ใหร้ ายงานตง้ั แตผ่ ูป้ ว่ ยยนื ยนั 40. โรคเลปโตสไปโรสิส (Leptospirosis) ✚ ประเภทผู้ปว่ ย 1. ผู้ป่วยท่ีสงสัย หมายถึง ผู้ท่มี ไี ข้สงู หนาวสน่ั และปวดศีรษะรนุ แรง รว่ มกับอาการอืน่ ๆ อยา่ งน้อย หนึ่งอาการ ได้แก่ ปวดกล้ามเนื้อรุนแรง หรือกดเจ็บตามกล้ามเน้ือ โดยเฉพาะกล้ามเน้ือน่อง ตาแดง (หลอดเลือดแดงแผซ่ า่ นเป็นตาขา่ ย suffusion conjunctivitis หรือมเี ลอื ดออก) อาการผิดปกตเิ กยี่ วกับ ระบบประสาท เชน่ คอแขง็ ความรสู้ กึ ตวั ผดิ ปกติ เปน็ ตน้ ไอแหง้ หรอื ไอมเี สมหะปนเลอื ด ไตวาย การหายใจ ลม้ เหลว เลอื ดออกผิดปกติตามอวยั วะต่างๆ เช่น อาเจยี นเปน็ เลือด ถา่ ยอจุ จาระเป็นสีดำ� ไอเป็นเลอื ดสด อาการดีซ่าน ความดันโลหิตตำ่� โดยไมท่ ราบสาเหตุ และมปี ระวตั สิ มั ผสั กบั น้ำ�พนื้ ทช่ี ้ืนแฉะ หรอื สิ่งแวดลอ้ ม ทปี่ นเปอ้ื นสงิ่ ขบั ถา่ ยของสตั ว์ แมว้ า่ จะไมไ่ ดเ้ จาะเลอื ดผปู้ ว่ ยตรวจทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร หรอื ถา้ หากเจาะเลอื ด 64

ผปู้ ว่ ยในขณะแรกรบั แลว้ น�ำ ไปตรวจ Screening test แลว้ ใหผ้ ลลบ และไมส่ ามารถตดิ ตามเจาะเลอื ดผปู้ ว่ ย คร้งั ทส่ี อง (10 - 14 วัน หลังจากเจาะครงั้ แรก) สง่ ตรวจได้ ก็ให้รายงานเปน็ ผปู้ ่วยทส่ี งสัย 2. ผู้ปว่ ยท่ีเขา้ ข่าย (ไม่มี) 3. ผปู้ ่วยทย่ี ืนยันผล หมายถงึ ผปู้ ว่ ยท่สี งสัยร่วมกับตรวจพบขอ้ ใดขอ้ หน่งึ ดังนี้ - เพาะเชื้อจากเลอื ด หรอื น้�ำ ไขสันหลงั หรือปัสสาวะพบเชอ้ื Leptospira spp. - ตรวจ Microscopic agglutination test (MAT) ตรวจครง้ั เดยี ว >1: 400 หรือตรวจเลือดคู่ (paired sera) พบ four-fold rising - ตรวจ Immunofluorescent antibody test (IFA) ตรวจครัง้ เดียว IgM >1: 400 หรอื ตรวจเลอื ด คู่ (paired sera) พบ four-fold rising ของ IgM หรือ IgG - การตรวจสารพันธกุ รรมโดยวิธี PCR/Nested PCR ให้ผลบวก - ตรวจ Screening test ให้ผลบวก ✚ การรายงานผู้ปว่ ยตามระบบเฝ้าระวังโรค ให้รายงานตั้งแต่ผู้ปว่ ยที่สงสยั 41. โรคสครบั ไทฟสั (Scrub typhus) ✚ ประเภทผปู้ ว่ ย 1. ผปู้ ่วยที่สงสัย หมายถงึ ผทู้ ่มี อี าการไข้ มแี ผลเหมอื นถูกบหุ ร่จี ้ี (eschar) มปี ระวตั เิ ข้าไปในพ้ืนท่ีเสีย่ ง รว่ มกบั อาการอื่นๆ อย่างน้อย 2 อาการ ดงั น้ี ปวดศรี ษะ ปวดเมือ่ ยตวั ปวดกระบอกตา ตาแดง ไอแห้ง มีผ่ืนลักษณะเป็นตุ่มนูนสีแดง ต่อมนำ้�เหลืองใกล้แผลโตและเจ็บ บางรายท่ีมีอาการรุนแรงจะมีอาการซึม สมองอกั เสบ ปอดบวม ตวั และตาเหลือง 2. ผ้ปู ว่ ยทีเ่ ข้าขา่ ย หมายถงึ ผปู้ ว่ ยที่สงสัยรว่ มกับมปี ระวัตเิ ทีย่ วหรือเขา้ ไปในทงุ่ หญ้าหรือในปา่ 6 - 21 วัน ก่อนมอี าการ 3. ผู้ป่วยที่ยืนยันผล หมายถึง ผู้ป่วยที่สงสัยที่มีผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ตรวจระดับภูมิคุ้มกัน ต่อเชือ้ ริคเกตเซยี พบขอ้ ใดข้อหนึง่ ดงั นี้ - ตรวจดว้ ยวธิ ี Immunofluorescent antibody test (IFA) ตรวจครง้ั เดยี ว IgM หรอื IgG >1: 400 หรอื ตรวจน�ำ้ เหลอื งคู่ (paired sera) พบระดบั ภมู คิ มุ้ กนั เพมิ่ ขนึ้ อยา่ งนอ้ ย 4 เทา่ (four-fold rising) - ตรวจดว้ ยวิธี Indirect Immuno Peroxidase Test (IIP) แปลผลเชน่ เดยี วกับวิธี IFA - ตรวจด้วยวธิ ี Weil Felix to OX-K ใหผ้ ลบวกเม่อื titer ≥ 1:320 ✚ การรายงานผ้ปู ่วยตามระบบเฝา้ ระวังโรค ใหร้ ายงานต้งั แตผ่ ู้ป่วยที่สงสัย 65

42. โรคสุกใส หรืออีสกุ อีใส (Varicella, Chickenpox) ✚ ประเภทผู้ปว่ ย 1. ผปู้ ่วยท่สี งสยั หมายถึง ผู้ทม่ี ีอาการไข้ ร่วมกบั ผนื่ /ตมุ่ ทม่ี ีหลายระยะ 2. ผปู้ ว่ ยทเ่ี ขา้ ขา่ ย หมายถงึ ผทู้ มี่ อี าการตามเกณฑผ์ ปู้ ว่ ยทสี่ งสยั รว่ มกบั มขี อ้ มลู ทางระบาดวทิ ยาเชอ่ื มโยง กบั ผูป้ ว่ ยท่ยี นื ยันผล 3. ผปู้ ว่ ยที่ยืนยนั ผล หมายถึง ผู้ท่ีมอี าการตามเกณฑผ์ ปู้ ่วยทีส่ งสยั และผลบวกตามเกณฑ์ทางห้องปฏบิ ัตกิ าร อย่างนอ้ ยหนึง่ ขอ้ ดงั ตอ่ ไปน้ี - Tzanck Smear โดยการเจาะตุ่มน้ำ� แล้วขูดพื้นหรือฐานของตมุ่ น้�ำ (Basement of vesicle) จะพบ multinucleate giant cell (มีความไวนอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 60) - ตรวจน�้ำ เหลอื งคู่ หาระดับ Neutralizing antibody titer ต่อ Varicela Zoster Virus (VZV) ≥ 4 เทา่ ถอื วา่ เปน็ บวก - เจาะเลอื ดตรวจ Varicella IgM ด้วยวิธี ELISA ✚ การรายงานผู้ป่วยตามระบบเฝา้ ระวังโรค ให้รายงานตั้งแตผ่ ปู้ ่วยท่ีสงสยั 43. โรคอัมพาตกลา้ มเน้ืออ่อนปวกเปียกเฉียบพลัน (Acute Flaccid Paralysis : AFP) ✚ นยิ ามการรายงาน ผปู้ ว่ ยอายตุ ่�ำ กวา่ 15 ปี ทม่ี อี าการดังนี้ - มีอาการออ่ นแรงของขา หรือแขน หรอื ทงั้ แขนและขา ขา้ งใดขา้ งหน่ึงหรอื ทัง้ สองขา้ ง ซง่ึ อาการเกิดขึ้น อยา่ งรวดเร็ว (Acute onset) ยกเวน้ ผปู้ ่วยท่ีมีอาการบาดเจ็บรุนแรง (trauma) ซง่ึ นำ�ไปสอู่ าการอัมพาต กล้ามเนื้อออ่ นแรง - มีการบนั ทกึ ผลการตรวจรา่ งกายของแพทย์ ยืนยันว่าเป็นผ้ปู ว่ ยทีม่ ีกลา้ มเนอื้ ออ่ นแรง motor power ลดลงต่�ำ กวา่ gradeV และมี Deep tendon reflex นอ้ ยกว่าปกติ คือ 0 ถึง 1+ ✚ การตรวจทางห้องปฏบิ ัตกิ าร - ผู้ป่วย AFP ทุกรายต้องเก็บตัวอย่างอุจจาระส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อหาเชื้อโปลิโอ โดยเก็บ 2 ตัวอยา่ ง ภายใน 14 วัน - ติดตามผูป้ ว่ ยว่ามีอาการกลา้ มเนอ้ื อ่อนแรงหลงเหลืออยู่หรอื ไม่ เม่อื ครบ 30 วนั และ 60 วัน 66

✚ การรายงาน - รายงาน Zero report ทุกสปั ดาห์ - เมอ่ื พบผู้ป่วยรายงานทนั ที หรือภายใน 24 ชว่ั โมง - รายงานผปู้ ว่ ยตามระบบเฝ้าระวงั โรค 44. โรคอจุ จาระร่วงเฉียบพลนั (Acute diarrhea) ✚ ประเภทผู้ป่วย 1. ผู้ปว่ ยที่สงสยั หมายถงึ ผู้ปว่ ยทมี่ ีอาการถ่ายอุจจาระเหลวอยา่ งน้อย 3 คร้งั ใน 24 ชวั่ โมง หรอื ถา่ ยเปน็ น้�ำ อย่างนอ้ ย 1 ครัง้ อาจร่วมกบั อาการอาเจยี น อาการขาดน้ำ� 2. ผูป้ ว่ ยทเ่ี ข้าข่าย (ไมม่ ี) 3. ผู้ป่วยที่ยืนยันผล หมายถึง ผู้ป่วยที่สงสัยร่วมกับตรวจพบเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสท่ีเป็นสาเหตุของ การถ่ายอุจจาระรว่ ง ✚ การรายงานผปู้ ว่ ยตามระบบเฝา้ ระวงั โรค ใหร้ ายงานตงั้ แต่ผปู้ ว่ ยทสี่ งสัย 45. โรคเอดส์ (Acquired Immunodeficiency Syndrome : AIDS) ✚ ประเภทผ้ปู ่วย 1. ผู้ท่ีสงสัยติดเช้ือเอชไอวี หมายถึง ผู้มีประวัติเส่ียงต่อการติดเช้ือโดยยังไม่มีผลตรวจเลือดยืนยัน การติดเชอื้ ร่วมกบั มอี าการหรอื อาการแสดงกรณีใดกรณหี น่งึ ตอ่ ไปนี้ - มอี าการของการตดิ เชอื้ ระยะเฉยี บพลนั (Acute HIV infection) คอื มอี าการ flu-like syndrome ไดแ้ ก่ ไข้ เจบ็ คอ ปวดศรี ษะ มผี น่ื หรอื ตอ่ มน�ำ้ เหลอื งโต ภายใน 2 - 6 สปั ดาหห์ ลงั มปี ระวตั เิ สย่ี ง - มีอาการแสดงในระยะ WHO stage 1 หรือ 2 ของการติดเชอื้ เอชไอวี ตามคำ�จำ�กดั ความระยะ การด�ำ เนนิ โรคขององคก์ ารอนามัยโลก 2. ผู้ที่เข้าขา่ ยตดิ เช้อื เอชไอวีหรอื โรคเอดส์ประกอบดว้ ย - เขา้ ขา่ ยตดิ เชอื้ เอชไอวี หมายถงึ ผทู้ ม่ี ผี ลคดั กรองการตดิ เชอื้ เปน็ บวก โดยยงั ไมไ่ ดร้ บั การยนื ยนั ผล ตามแนวทางมาตรฐาน - เขา้ ขา่ ยโรคเอดส์ หมายถงึ ผทู้ ไ่ี ดร้ บั การวนิ จิ ฉยั AIDS defining ilnesses (หรอื ระยะ WHO stage 3 และ 4) หรือมผี ล CD4 <500 cells/mm ในผ้มู อี ายุ 5 ปขี ึน้ ไป หรอื CD4 <25% ในเดก็ อายุ นอ้ ยกวา่ <5 ปี โดยไมม่ ีผลยืนยนั โดยไม่มีผลยนื ยันการตดิ เช้ือฯ และไม่สามารถอธบิ ายสาเหต ุ จากโรคหรือภาวะอ่ืนได้ 67

3. ผทู้ ย่ี นื ยนั การตดิ เชอื้ เอชไอวหี รอื โรคเอดส์ หมายถงึ ผทู้ เี่ ขา้ ขา่ ยฯ ในขอ้ 2 ทม่ี ผี ลตรวจทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร ยืนยนั การตดิ เชอ้ื กรณใี ดกรณหี นง่ึ ตอ่ ไปนี้ - ผล reactive จากชดุ ตรวจ HIV Ag/Ab ท่ีมกี ารยืนยนั ผลตรวจครบตามแนวทางมาตรฐานการ วนิ จิ ฉยั ของประเทศ ในกลมุ่ ผใู้ หญแ่ ละเดก็ อายุ ≥ 24 เดอื น หรอื ในเดก็ อายุ <24 เดอื น ทมี่ ารดา มีผล HIV nonreactive - Positive HIV virologic test ได้แก่ Qualitative testing (NAT DNA, DNA PCR) หรอื Quantitative HIV (viral load assay) ทกุ กลุ่มอายุไมร่ วมเลอื ดท่ีตรวจจากสายรก - พบเชือ้ หรอื ส่วนประกอบของเชอื้ จากการตรวจพเิ ศษอ่ืนๆ ได้แก่ P24 Antigen, HIV isolation (viral culture) หรือ HIV nucleotide sequence (genotype) หมายเหตุ - ประวตั ิเสยี่ งต่อการตดิ เชอื้ ประกอบด้วย 1) มเี พศสมั พนั ธ์ท่ีไม่ไดป้ อ้ งกัน หรือมปี ญั หาถุงยางอนามัย แตกร่ัว หลุดระหว่างมีเพศสัมพันธ์กับคู่เพศสัมพันธ์ท่ีเสี่ยงต่อการติดเช้ือ ได้แก่ ผู้ท่ีไม่รู้จักกันมาก่อน คู่นอนชั่วคราว หญิงหรือชายให้บริการทางเพศ ผู้ท่ีมีประวัติติดเช้ือเอชไอวี หรือติดเช้ือโรคติดต่อทาง เพศสมั พันธ์ และมเี พศสัมพนั ธ์ทางทวารหนกั กับชายด้วยกนั ), ใช้เข็มฉีดยารว่ มกบั ผ้อู ื่น หรือเปน็ บคุ ลากร ทางการแพทย์ทเ่ี กิดอุบตั ิเหตสุ ัมผัสเลือดหรอื สารคดั หลั่งของผ้ตู ิดเช้ือฯ หรือเส่ียงต่อการติดเชอ้ื ฯ - WHO Case Definitions of HIV for Surveillance and Revised Clinical Staging and Immunological Classification of HIV-Related Disease in Adults and Children; 2007 - AIDS defining illnesses 28 โรค ตามเกณฑ์การวินิจฉัยโรคเอดสส์ ำ�นักระบาดวิทยา (2014 CDC Classification for AIDS หรอื Nocardiosis, Penicilliosis และ Rhodococcosis ✚ การรายงานผู้ปว่ ยตามระบบเฝา้ ระวังโรคเอดส์ ใหร้ ายงานตั้งแตพ่ บผปู้ ว่ ยท่ีสงสยั ผทู้ ี่เข้าขา่ ยการติดเชื้อเอชไอวีหรอื โรคเอดส์ และผ้ทู ่ีได้รับการยนื ยนั การตดิ เชอ้ื เอชไอวีในทกุ ระยะการดำ�เนินโรคตัง้ แตไ่ มม่ อี าการ จนถงึ ระยะเอดส์ และเสยี ชีวติ 46. โรคแอนแทรกซ(์ Anthrax) ✚ ประเภทผปู้ ว่ ย 1. ผ้ปู ่วยทสี่ งสัย หมายถึง ผทู้ ม่ี อี าการและอาการแสดง ดังตอ่ ไปน้ี - Cutaneous Anthrax มตี ุม่ ใสแลว้ เปลีย่ นเป็นต่มุ หนองตามผวิ หนังและแตกเป็นแผลตรงกลางบุ๋ม สีดำ� (Black eschar) คล้ายบหุ รจ่ี ี้ รอบๆ แผลจะบวมแดงแตไ่ ม่เจบ็ ถา้ ไม่ไดร้ ับการรักษา จะเกิดตมุ่ ใหมร่ อบๆ แผล ตุม่ หนอง หรอื แผลจะขยายวงกวา้ งออกไป มกั พบนอกรม่ ผ้า เช่น มือ แขน ขา 68

- Intestinal Anthrax ปวดท้องคลน่ื ไส้ อาเจียน ทอ้ งอืด ทอ้ งเสีย มีไข้ หรอื ต่อมน�้ำ เหลืองที่บรเิ วณ ล�ำ คอบวม และลามไปถงึ ใบหนา้ ในรายทร่ี นุ แรงอาจมอี าการถา่ ยอจุ จาระเปน็ เลอื ด ตรวจพบมนี �ำ้ ในช่องท้อง (ascites) - Pulmonary Anthrax มไี ข้ ไอแหง้ เจบ็ หนา้ อก หายใจขดั หายใจลำ�บาก บางรายอาจมีอาการ ของเยอ่ื หุม้ สมองอักเสบแลว้ เสียชวี ติ ร่วมกับประวตั เิ สย่ี งหรอื การสมั ผสั โรคขอ้ ใดขอ้ หน่ึงดงั นี้ - มีประวตั สิ มั ผัสกบั สตั วท์ ่ีปว่ ยหรือตายด้วยโรคน้ภี ายใน 7 วนั กอ่ นเร่มิ มีอาการ - มปี ระวัตกิ ารกินเนื้อสัตว์ชนิดดบิ ๆ สกุ ๆ ของสตั วท์ ป่ี ว่ ยหรือตายด้วยโรคน้ภี ายใน 7 วันก่อนเร่มิ มีอาการ - หายใจเอาสปอร์ของเช้ือเขา้ ไป จากการประกอบอาชีพในโรงงานทำ�ผลติ ภณั ฑ์กระดูกป่น ขนสัตว์ หอ้ งปฏบิ ัตกิ ารหรืออาจเกิดจากการใชส้ ปอรข์ องแอนแทรกซ์เปน็ อาวธุ ชีวภาพ 2. ผปู้ ว่ ยทีเ่ ขา้ ขา่ ย (ไมม่ ี) 3. ผู้ปว่ ยทย่ี นื ยนั ผล หมายถึง ผปู้ ว่ ยที่สงสยั รว่ มกบั ตรวจพบข้อใดข้อหนงึ่ ดังนี้ - ย้อมสแี กรมจากส่ิงส่งตรวจตดิ สแี กรมบวก พบเชอ้ื Bacilus anthracis รปู ส่ีเหล่ยี ม เป็นแทง่ ติดกนั คลา้ ยปล้องไมไ้ ผ่ 3 - 5 แทง่ หรือพบสปอรโ์ ดยการย้อมด้วยสี Methylene Blue - เพาะเชอื้ จากจากแผล หรืออุจจาระพบเชือ้ Bacilus anthracis ✚ การรายงานผปู้ ว่ ยตามระบบเฝา้ ระวงั โรค ใหร้ ายงานตัง้ แตผ่ ปู้ ว่ ยทีส่ งสยั 47. โลนทีอ่ วัยวะเพศ (Pediculosis Pubis) ✚ ประเภทผู้ป่วย 1. ผู้ปว่ ยที่สงสัย ไม่มี 2. ผู้ป่วยที่เข้าข่าย ไม่มี 3. ผู้ป่วยท่ียืนยันผล หมายถึง มีประวัติเส่ียงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์* หรือมีประวัติเพศสัมพันธ์ ร่วมกบั อาการอย่างใดอยา่ งหนง่ึ เชน่ คันบริเวณหัวเหน่าและอวัยวะเพศ ตรวจรา่ งกายพบรอยโรคลกั ษณะ ตุม่ แดงคันกระจายอยู่บรเิ วณร่มผ้าและมกั มรี อยเกา อาจเกดิ การตดิ เช้อื แบคทีเรียแทรกซ้อนรว่ มดว้ ย และ เห็นตวั โลนเกาะทโี่ คนขนและอาจพบไข่ รว่ มกบั มีผลตามเกณฑ์ทางหอ้ งปฏบิ ตั ิการ โดยตรวจพบตวั โลนจาก การดูดว้ ยกล้องจลุ ทรรศน์ ✚ การรายงานผู้ปว่ ยตามระบบเฝ้าระวังโรค ให้รายงานตัง้ แต่ผ้ปู ่วยทยี่ นื ยนั ผล 69

48. วัณโรค (Tuberculosis) ✚ ประเภทผปู้ ่วย 1. ผู้ที่น่าจะเป็นวณั โรค (Presumptive TB) หมายถึง ผ้ทู ม่ี อี าการหรืออาการแสดงเข้าได้กบั วณั โรค เชน่ ไอทกุ วนั เกิน 2 สปั ดาห์ ไอเปน็ เลือด น�้ำ หนักลดผดิ ปกติ มีไข้ เหงือ่ ออกมากผิดปกตติ อนกลางคืน เปน็ ตน้ 2. ผตู้ ดิ เช้อื วณั โรคระยะแฝง (Latent TB infection) หมายถึง ผ้ทู ่ีได้รับเชื้อและติดเชือ้ วณั โรคแฝงอยู ่ ในร่างกาย แต่ร่างกายมีภูมิคุ้มกันสามารถต่อสู้กับเชื้อ สามารถยับยั้งการแบ่งตัวของเช้ือโรควัณโรคได้ ไม่มอี าการผิดปกตใิ ดๆ และไม่สามารถแพร่เชอ้ื สูผ่ ูอ้ นื่ ได้ 3. ผูป้ ่วยวัณโรค (TB Disease) หมายถงึ ผทู้ ี่ได้รับเชอ้ื และตดิ เช้อื วณั โรคแฝงอยูใ่ นรา่ งกาย แตภ่ ูมคิ มุ้ กนั ไมส่ ามารถยบั ยัง้ การแบง่ ตวั ของเชอื้ วณั โรคได้ เกิดพยาธิสภาพทท่ี ำ�ให้ป่วยเปน็ โรควณั โรค อาจมอี าการหรือ ไม่มอี าการกไ็ ด้ ✚ การจ�ำ แนกตามผลการตรวจทางแบคทเี รยี (1) ผู้ป่วยทมี่ ีผลตรวจพบเช้อื วัณโรค (bacteriologically confirmed TB case : B+) หมายถึง ผปู้ ว่ ย วัณโรคที่มีสงิ่ สง่ ตรวจ (specimen) ผลพบเชอ้ื โดยวิธี smear microscopy หรอื culture หรอื วธิ ีการอื่นๆ ท่ี WHO รับรอง เช่น Xpert MTB/RIF, Line probe assay, TB-LAMP เปน็ ต้น (2) ผู้ป่วยทม่ี ีผลตรวจไมพ่ บเชอ้ื วัณโรค (clinically diagnosed TB case: B-) หมายถงึ ผ้ปู ่วยวัณโรคท่มี ี สงิ่ สง่ ตรวจผลไมพ่ บเชอื้ หรอื ไมม่ ผี ลตรวจ แตผ่ ลการเอกซเรยห์ รอื ผลการตรวจชนิ้ เนอ้ื (histology) ผดิ ปกติ เข้าไดก้ ับวณั โรค รว่ มกบั อาการแสดงทางคลนิ กิ และแพทยต์ ัดสินใจรกั ษาดว้ ยสูตรยารกั ษาวณั โรค 49. ไวรสั ตับอกั เสบไมร่ ะบเุ ช้ือสาเหตุ (Hepatitis) ✚ ประเภทผปู้ ่วย 1. ผู้ปว่ ยที่สงสัย หมายถึง ผ้ทู ีม่ อี าการไข้เฉยี บพลนั ครัน่ เนื้อครน่ั ตัว คลื่นไส้ อาเจยี น ท้องอดื และ จุกแน่นบริเวณใต้ชายโครงขวา ต่อมาจะมีปัสสาวะสีเข้ม ร่างกายและตาเหลือง โดยไม่มีประวัติได้รับยา หรอื สารพิษท่ีเป็นสาเหตขุ องตับอกั เสบเฉียบพลนั 2. ผปู้ ว่ ยทเ่ี ขา้ ขา่ ย หมายถงึ ผปู้ ว่ ยทสี่ งสยั รว่ มกบั ตรวจพบคา่ SGPT (ALT) ในน�้ำ เหลอื งมากกวา่ 100 U/L 3. ผู้ป่วยที่ยนื ยนั ผล หมายถงึ ผ้ปู ่วยทส่ี งสยั รว่ มกับตรวจพบ Hepatitis A, Hepatitis B, Hepatitis C, Hepatitis D, Hepatitis E ✚ การรายงานผปู้ ่วยตามระบบเฝา้ ระวงั โรค ใหร้ ายงานผปู้ ว่ ยทสี่ งสยั และผปู้ ว่ ยทเ่ี ขา้ ขา่ ยเปน็ ไวรสั ตบั อกั เสบไมร่ ะบเุ ชอื้ สาเหตุ (Hepatitis) สว่ นผปู้ ว่ ย ที่ยนื ยนั ผลใหร้ ายงานเป็นไวรสั ตบั อกั เสบชนดิ ตา่ งๆ 70

50. หนองใน (Gonorrhea) ✚ ประเภทผู้ป่วย 1. ผปู้ ว่ ยทสี่ งสยั หมายถงึ ผทู้ ม่ี ปี ระวตั เิ สยี่ งตอ่ โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ*์ รว่ มกบั อาการอยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ ดงั ตอ่ ไปน้ี • หนองหรอื มูกหนองจากท่อปัสสาวะ ปัสสาวะแสบขดั • ตกขาวเปน็ หนอง หรอื มูกปนหนอง • ปวดเบง่ คันรอบทวารหนกั มี discharge เป็นมกู ปนหนอง • มีประวัติใช้ช่องปากและ/หรือทวารหนักรับการสอดใส่โดยไม่ป้องกันกับคู่ท่ีตรวจพบเป็นโรคหนอง ในทที่ ่อปัสสาวะ หรอื มอี าการแสดงของการอกั เสบและ/หรอื ฝใี นอวยั วะตา่ งๆ ของระบบทางเดนิ ปสั สาวะหรอื ระบบสบื พนั ธ์ุ อย่างใดอย่างหนึง่ ดังตอ่ ไปนี้ • Para urethral duct abscess • Tyson’s gland abscess • Periurethral abscess • Cowper’s gland abscess • Epididymitis • Epididymo-orchitis • Bartholin gland abscess • Pelviperitonitis หรือมไี ขแ้ ละอาการหรืออาการแสดงอย่างใดอยา่ งหนง่ึ ดงั ตอ่ ไปน้ี • มจี ุดเลอื ดออก (petechiae) • ตมุ่ หนอง (pustule) ทผี่ วิ หนงั • ปวดข้อ (arthralgia) • ขอ้ อกั เสบตดิ เช้ือ (septic arthritis) • เอ็นรอบขอ้ อกั เสบ (tenosynovitis) • Meningitis • Endocarditis 2. ผู้ปว่ ยทเ่ี ขา้ ข่าย หมายถงึ ผู้ปว่ ยสงสัยร่วมกบั ผลการตรวจทางหอ้ งปฏบิ ัติการ ดังน้ี • Gram stain ของมกู หนอง หรอื สง่ิ ทเ่ี กบ็ จากท่อปัสสาวะหรอื ปากมดลกู ทอนซิล ฟารงิ ซ์ หรือ ทวารหนกั พบ Gram negative intracellular diplococcic (GNID) • Gram stain ของน�้ำ ทด่ี ดู จากขอ้ (synovial fluid) หรอื น�้ำ ไขสนั หลงั (cerebrospinal fluid) พบ GNID หรือมีข้อมูลทางระบาดวิทยาเช่ือมโยงกับผู้ป่วยหนองในที่ยืนยันผล หรือมีประวัติมีเพศสัมพันธ์กับ ผู้ป่วยหนองใน 71

3. ผู้ป่วยท่ยี ืนยันผล หมายถึงผู้ปว่ ยสงสยั รว่ มกบั ผลการตรวจทางหอ้ งปฏบิ ัตกิ าร ดังน้ี • พบเชอ้ื หรอื ผลบวกตอ่ Neisseria gonorrhoeae ในมกู หนอง หรอื สงิ่ สง่ ตรวจทเ่ี กบ็ จากทอ่ ปสั สาวะ หรอื ปากมดลูก ทอนซลิ ฟาริงซ์ หรือทวารหนัก (หนองในท่ไี ม่มีหรอื มภี าวะแทรกซอ้ น) จากน้ำ�ที่ ดูดจากข้อ (synovial fluid) หรือน้�ำ ไขสันหลงั (cerebrospinal fluid) หรือเลอื ด (hemoculture) (หนองในที่มภี าวะแทรกซอ้ นแพร่กระจาย) ดว้ ยการตรวจวิธีใดวธิ หี น่งึ ดงั นี้ - เพาะเช้อื ใน modified Thayer Martin media หรือ media อน่ื ๆ ท่สี ามารถเพาะเชอ้ื N.gonorrhoeae - Nucleic acid hybridization test เช่น gen-probe - Nucleic acid amplification test เชน่ PCR หรือ LCR หรอื TMA ✚ การรายงานผปู้ ่วยตามระบบเฝ้าระวังโรค ให้รายงานตง้ั แต่ผูป้ ว่ ยทส่ี งสัย 51. หนองในเทียม (Non Gonococcal Urethritis : NGU) ✚ ประเภทผปู้ ่วย 1. ผู้ป่วยทสี่ งสยั หมายถึง ผทู้ ่ีมีประวัตเิ สี่ยงต่อโรคตดิ ต่อทางเพศสัมพันธ์* รว่ มกบั มีอยา่ งใดอย่างหนงึ่ ดงั ต่อไปนี้ • มมี ูกใส หรือมกู ขนุ่ จากท่อปัสสาวะ • มูก หรือมูกหนองจากปากมดลูก • มีปัสสาวะแสบขดั หรอื คันในท่อปสั สาวะ • มีเพศสมั พันธ์กบั ผู้ปว่ ยโรคหนองในเทียม โดยไมไ่ ดป้ ้องกนั 2. ผปู้ ว่ ยทีเ่ ขา้ ขา่ ย หมายถงึ ผู้ป่วยสงสัยรว่ มกับ ผลตรวจพบขอ้ ใดข้อหนงึ่ ดังตอ่ ไปนีโ้ ดยไม่พบ GNID และ/หรอื การติดเช้ือ N.gonorrhoeae • Gram stain จากมูกหรือส่ิงที่เก็บจากท่อปัสสาวะพบเม็ดเลือดขาว PMN >5 ตัว/oil field (กำ�ลงั ขยาย 1,000 เทา่ ) • Gram stain จากมูกหรอื ส่ิงที่เก็บจากช่องทวารหนักพบเม็ดเลือดขาว PMN >1 ตัว/oil field (กำ�ลังขยาย 1,000 เทา่ ) • First void urine 10 - 15 cc. น�ำ ไปปน่ั ดว้ ยเครื่องปั่นตกตะกอนปสั สาวะน�ำ ตะกอนมาตรวจ วิเคราะหด์ ้วยกล้องจุลทรรศน์พบ WBC (PMNL) >10 ตัว/ก�ำ ลงั ขยาย 400 • จุ่มแถบนำ้�ยาสำ�เรจ็ รปู ทม่ี ีแถบอา่ น leukocyte esterase ในfirst void urine 10 - 15 cc. ใหผ้ ลบวก 72

3. ผู้ป่วยทีย่ ืนยนั ผล หมายถึงผปู้ ว่ ยสงสยั รว่ มกับ • ผลตรวจพบเชอ้ื หรอื ผลบวกตอ่ Chlamydia trachomatis ในมกู หนอง หรอื สง่ิ สง่ ตรวจทเ่ี กบ็ จาก ทอ่ ปสั สาวะหรือปากมดลูก ทอนซลิ ฟาริงซ(์ คอหอย) หรอื ทวารหนกั ด้วยการตรวจวิธีใดวิธหี นงึ่ ดงั นี้ - เพาะเชอื้ ในเซลเลี้ยงเช้ือ เช่น Mccoy cel - Nucleic acid hybridization test เชน่ gen-probe - Nucleic acid amplification test เช่น PCR หรือ LCR หรอื TMA ✚ การรายงานผู้ปว่ ยตามระบบเฝา้ ระวงั โรค ให้รายงานตัง้ แตผ่ ปู้ ่วยที่สงสยั 52. หูดขา้ วสุก (Genital Molluscum Contagiosum) ✚ ประเภทผูป้ ว่ ย 1. ผู้ป่วยที่สงสัย หมายถึง ผู้ที่มีประวัติเส่ียงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์*หรือมีประวัติเพศสัมพันธ์ รว่ มกบั มตี มุ่ รปู โดม ผวิ เรยี บ เมด็ เลก็ ๆ มสี ขี าว เมอ่ื ตมุ่ โตขน้ึ จะเหน็ รอยบมุ๋ ตรงกลาง (umbilicated center) ขนาดตมุ่ ประมาณ 2 - 5 มม. ในเดก็ โรคนี้ตดิ ตอ่ กันโดยการสมั ผัสทางผิวหนงั ตมุ่ เกดิ ขนึ้ ท่ีหน้า ล�ำ ตวั และแขนขา ในผู้ใหญต่ ดิ ตอ่ กันโดยการสัมผสั ทางเพศเปน็ สว่ นใหญ่ ตุ่มเกิดทีอ่ วยั วะเพศใช้เข็มฉีดยาสะกิด บรเิ วณตุม่ แลว้ บบี ออก จะไดเ้ นอื้ หูดสขี าวทอ่ี ยู่ภายใน 2. ผปู้ ่วยทเี่ ขา้ ขา่ ย ไม่มี 3. ผ้ปู ว่ ยที่ยนื ยนั ผล หมายถึง ผู้ปว่ ยสงสัยร่วมกบั นำ�เนื้อหดู สีขาวมายอ้ ม Giemsa พบ intracytoplas- micmolluscum inclusion bodies ✚ การรายงานผู้ปว่ ยตามระบบเฝา้ ระวังโรค ให้รายงานต้ังแตผ่ ปู้ ว่ ยท่ีสงสยั หากรกั ษาหายแล้วกลบั เป็นโรคซำ�้ ใหม่ ไมต่ อ้ งรายงาน 53. หูดอวยั วะเพศและทวารหนกั (CondylomaAcuminata หรือ Venereal Warts) ✚ ประเภทผู้ป่วย 1. ผู้ป่วยท่ีสงสัย หมายถึง ผู้ท่ีมีประวัติเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์* ร่วมกับพบรอยโรคบริเวณ อวยั วะเพศ หรือทวารหนัก เป็นกอ้ นหรอื ต่งิ เนอื้ ลักษณะผวิ อาจเรียบหรือขรขุ ระ สอี าจจะสชี มพู สีน้ำ�ตาล สีเนอ้ื 73

2. ผ้ปู ่วยทเ่ี ขา้ ข่าย ไมม่ ี 3. ผู้ป่วยทีย่ นื ยันผล หมายถงึ ผ้ปู ว่ ยสงั สยั รว่ มกับผลตรวจทางหอ้ งปฏบิ ัตกิ ารดงั น้ี • ท�ำ ในรอยโรคที่สงสยั แต่มีลกั ษณะไมเ่ หมอื นกับรอยโรคที่ได้กล่าวไวแ้ ล้วในผ้ปู ว่ ยสงสยั • Biopsy ตรวจทางพยาธวิ ทิ ยาดว้ ยการยอ้ มสี hematoxylin-eosin พบ koilocytosis, papilomatosis and vascular distention • Exfoliative cytology (Pap smear) พบ koilocytes หรือ • ทำ�ในรอยโรคท่ีสงสยั ตามลกั ษณะรอยโรคท่ีได้กล่าวไวแ้ ลว้ ในผปู้ ่วยสงสัย • พบผลบวกตอ่ human papilloma virus ในสง่ิ ส่งตรวจทีเ่ ก็บจากรอยโรคด้วยการตรวจ nucleic acid amplification test วิธีใดวิธหี นง่ึ เช่น PCR หรอื LCR หรอื TMA ✚ การรายงานผปู้ ว่ ยตามระบบเฝ้าระวงั โรค ใหร้ ายงานต้งั แต่ผู้ปว่ ยทส่ี งสยั 54. อหิวาตกโรค (Cholera) ✚ ประเภทผปู้ ว่ ย 1. ผู้ป่วยทส่ี งสัย หมายถงึ ผปู้ ่วยที่มอี าการถ่ายอุจจาระเหลวอย่างน้อย 3 คร้งั ใน 24 ช่วั โมง หรือ ถ่ายเปน็ น้�ำ จ�ำ นวนมากอยา่ งน้อย 1 ครั้ง อาจรว่ มกับอาการอืน่ ๆ ทีส่ �ำ คัญ คอื อาการขาดน้�ำ อาเจียน 2. ผปู้ ่วยที่เข้าข่าย หมายถึง ผู้ป่วยที่สงสัยร่วมกับมีประวัติรับประทานอาหารรว่ มกบั ผปู้ ่วยท่ียืนยัน 3. ผ้ปู ่วยทย่ี นื ยันผล หมายถงึ ผู้ปว่ ยทีม่ ีอาการอหิวาตกโรคร่วมกบั ตรวจพบเช้ือ Vibrio cholerae O1 หรอื O139 โดยวธิ ีเพาะเลย้ี งเชื้อจากอจุ จาระ (rectal swab culture หรอื stool culture) ✚ การรายงานผปู้ ่วยตามระบบเฝ้าระวงั โรค ให้รายงานตัง้ แตผ่ ู้ปว่ ยที่ยืนยันผล 55. อาการภายหลังได้รบั การสร้างเสรมิ ภูมคิ มุ้ กันโรค (Adverse Event Following Immunization : AEFI) ✚ ผ้ปู ว่ ยท่ตี อ้ งรายงาน ผู้ท่ีมีอาการหรือมีความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายหลังได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคภายในระยะเวลา 4 สัปดาห์ 74

56. อาหารเป็นพิษ (Food poisoning) ✚ ประเภทผู้ปว่ ย 1. ผปู้ ว่ ยทส่ี งสยั หมายถงึ ผทู้ ปี่ ระวตั กิ ารบรโิ ภคอาหารทส่ี งสยั รว่ มกบั มอี าการตามกรณอี ยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ ดังน้ี 1.1 กรณีได้รับสารพิษของเช้ือแบคทีเรียปนเป้ือนอยู่ในอาหาร เช่น Staphylococcus aureus, Clostridium botulinum, Clostridium perfringens, Bacilus cereus สว่ นใหญจ่ ะพบในกล่มุ คน ทีร่ บั ประทานอาหารร่วมกนั โดยมอี าการเฉียบพลนั นำ�ดว้ ยอาการอาเจียน ส่วนใหญจ่ ะมอี าการ ภายใน 8 - 12 ชั่วโมง หลงั รบั ประทานอาหาร รว่ มกบั อาการปวดท้อง ท้องเสยี รนุ แรง อาจมี อาการปวดศรี ษะรุนแรง หรอื มีอาการทางประสาทรว่ มด้วย ในกรณีไดร้ บั สารพษิ บางชนดิ 1.2 กรณไี ดร้ บั เช้ือแบคทีเรีย เชน่ Vibrio parahaemolyticus, Salmonela spp., Campylobacter, Yersinia enterocolytica, Enteroinvasive E.Coli (EIEC), Enterohemorrhagic E.Coli (EHEC), Enterotoxigenic E. Coli (ETEC) ปนเปอื้ นในอาหาร ผปู้ ่วยมอี าการอย่างน้อย 2 อาการดังตอ่ ไปน้ี - ไข้ ปวดศรี ษะอยา่ งรนุ แรง - ปวดมวนทอ้ ง (Abdominal cramps) ซึ่งอาจมอี าการคลนื่ ไส้ อาเจียน ถ่ายเป็นนำ�้ อาจมี มกู เลือด 2. ผปู้ ่วยที่เขา้ ขา่ ย หมายถงึ ผู้ปว่ ยท่ีสงสยั ร่วมกบั มขี ้อมูลทางระบาดวทิ ยาเชื่อมโยงกับผ้ปู ่วยท่ียืนยัน 3. ผปู้ ว่ ยทยี่ นื ยัน หมายถึงผปู้ ว่ ยทสี่ งสัยและมีผลการตรวจดงั นี้ - เพาะเช้ือจากอาหาร/อุจจาระ (stool culture) หรือ rectal swab culture หรืออาเจียน พบเช้ือกอ่ โรค - ทดสอบการสรา้ งสารพษิ ของเชื้อท่ีเพาะข้นึ ✚ การรายงานผปู้ ่วยตามระบบเฝ้าระวังโรค ใหร้ ายงานตัง้ แต่ผู้ป่วยที่สงสัย 57. ไอกรน (Pertussis) ✚ ประเภทผู้ปว่ ย 1. ผู้ปว่ ยทีส่ งสัย หมายถงึ ผทู้ มี่ อี าการไอมาอย่างน้อย 2 สปั ดาห์ รว่ มกบั มีอาการใดอาการหนึ่งดังน้ี ไอเปน็ ชุด (paroxysms of coughing) มีเสยี งหายใจดังวบู้ (Inspiratory whooping) มอี าการอาเจยี น หลงั การไอ (post-tussivevemting) 2. ผู้ป่วยทเ่ี ข้าขา่ ย หมายถึง ผปู้ ่วยทีส่ งสัยร่วมกับมีขอ้ มูลทางระบาดวิทยาเช่ือมโยงกับผ้ปู ่วยทยี่ นื ยนั ผล 75

3. ผปู้ ่วยทีย่ ืนยนั ผล หมายถึง ผปู้ ว่ ยทีส่ งสัยทีม่ ผี ลการตรวจทางหอ้ งปฏบิ ัติการ พบขอ้ ใดข้อหน่งึ ดงั นี้ - ผลการตรวจเพาะเชอ้ื จาก nasopharyngeal swab หรอื bronchial secretion aspiration หรอื nasopharyngealaspiration หรือ cough plate พบเชื้อ Bordetela pertussis - ตรวจสารพันธกุ รรมจาก nasopharyngeal swab หรือ bronchial secretion aspiration หรือ nasopharyngealaspiration โดยวธิ ี PCR ใหผ้ ลบวก ✚ การรายงานผู้ปว่ ยตามระบบเฝา้ ระวงั โรค ใหร้ ายงานต้ังแตผ่ ปู้ ่วยที่สงสยั 76

แบบสอบสวน โรคติดต่ออันตราย แบบสอบสวนเฉพาะรายกาฬโรค 1. ข้อมลู ทั่วไป ชื่อ ………………................................... สกุล ………………........................................ เพศ * ชาย * หญงิ อายุ ……................. ปี …...............…. เดือน ทีอ่ ยู่ …………………………………..................................................................….............................………....…… อาชีพ …............…………...............…… สถานทท่ี �ำ งาน …............…….……................................................…… 2. การเจ็บปว่ ย วันเร่มิ ปว่ ย …...............….…. วนั รบั รักษา …................……. สถานที่รกั ษา …..............…….........................….. อาการและอาการแสดง 2.1 กาฬโรคตอ่ มน้ำ�เหลอื ง * ม ี * ไม่มี * ไมท่ ราบ * ม ี * ไม่มี * ไมท่ ราบ หนาวสัน่ ไข ้ คลืน่ ไส ้ * ม ี * ไมม่ ี * ไมท่ ราบ เจ็บคอ * มี * ไม่ม ี * ไม่ทราบ ตอ่ มนำ�้ เหลืองบวมโต ระบุ * ม ี * ไม่มี * ไมท่ ราบ ม้ามโต * ม ี * ไม่ม ี * ไม่ทราบ อน่ื ๆ ระบุ 2.2 กาฬโรคของโลหติ * มี * ไมม่ ี * ไมท่ ราบ ปวดศีรษะ * ม ี * ไมม่ ี * ไมท่ ราบ ไข้ คลืน่ ไส้ * มี * ไม่ม ี * ไมท่ ราบ อาเจยี น * มี * ไมม่ ี * ไมท่ ราบ หนาวสนั่ * ม ี * ไมม่ ี * ไม่ทราบ เยอื่ หมุ้ สมองอกั เสบ * ม ี * ไม่ม ี * ไมท่ ราบ ทอนซิลอกั เสบ * มี * ไม่ม ี * ไมท่ ราบ คอหอยอักเสบ * มี * ไม่ม ี * ไม่ทราบ มีจ�ำ้ เลือดตามผวิ หนัง * มี * ไมม่ ี * ไม่ทราบ ภาวะชอ็ ค * ม ี * ไมม่ ี * ไม่ทราบ อ่นื ๆ ระบุ 2.3 กาฬโรคปอด * ม ี * ไมม่ ี * ไม่ทราบ ไอ * มี * ไม่ม ี * ไม่ทราบ ไข ้ ไอปนเลือด * ม ี * ไม่ม ี * ไมท่ ราบ หอบเหนอ่ื ย * ม ี * ไมม่ ี * ไม่ทราบ หนาวส่ัน * มี * ไม่ม ี * ไมท่ ราบ CXR ………………………………………................…… อน่ื ๆ ระบุ 77

ผลการรักษา * ตาย วันท่ี ……….......…………. * ยังรกั ษาอยู่ * สง่ ต่อไปรักษาท่ี …...................……. ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการในคน ตัวอยา่ ง วันทีส่ ง่ ตรวจ ห้องปฏิบัติการ ผล * หนอง * น�ำ้ ไขสนั หลงั * เลือด (Hemoculture) * น้ำ�เหลืองคู่ (Paired sera) * อน่ื ๆ ................................ 3. ประวตั สิ ัมผัสโรค 3.1 ในระยะ 7 วันกอ่ นป่วย เดินทางเขา้ ป่า หรือ สัมผสั สตั วฟ์ นั แทะตา่ งๆ * มี ระบุรายละเอยี ด (วนั ที่ ลักษณะการสัมผัส สถานท่ี แหล่งทีม่ าของสัตว)์ * ไมม่ ี ........................................................................................................................................................................ 3.2 ในระยะ 7 วนั ก่อนป่วย มีผู้ที่มีอาการคล้ายกันในละแวกบ้านหรือทีท่ �ำ งานหรอื ไม่ ชอื่ ................................ นามสกลุ ............................... ทอี่ ยู่ ............................... รกั ษาที่ ............................. ชอ่ื ................................ นามสกลุ ............................... ทอ่ี ยู่ ............................... รกั ษาท่ี ............................. 3.3 ในระยะ 7 วันหลังป่วย มผี ู้ที่มีอาการคลา้ ยกันในละแวกบ้านหรอื ท่ีท�ำ งานหรอื ไม่ ชอ่ื ................................ นามสกลุ ............................... ทอ่ี ยู่ ............................... รกั ษาที่ ............................. ชอ่ื ................................ นามสกลุ ............................... ทอ่ี ยู่ ............................... รกั ษาที่ ............................. 4. ผู้สมั ผัสโรครายอ่นื ๆ ลำ�ดับท ่ี ชอ่ื - นามสกลุ / โทร ลักษณะการสัมผสั โรค อาการปว่ ย วันเร่ิมป่วย * มี * ไมม่ ี * มี * ไม่ม ี * มี * ไมม่ ี * มี * ไม่ม ี * มี * ไมม่ ี ผ้สู อบสวน ………………………………...............…….. หนว่ ยงาน …………………………....…… โทร. …….....……..………. 78

แบบสอบสวนเฉพาะรายไขท้ รพิษ (Smallpox) 1. ข้อมูลทวั่ ไป ชอ่ื ………………................................... สกุล ………………........................................ เพศ * ชาย * หญงิ อายุ ……................. ปี …...............…. เดือน เลขบัตรประชาชน ………………….......….......................................................................................................…… ท่อี ยู่ …………………………………………........................................……… อาชพี ………...…....................…..… สถานทที่ �ำ งาน .................................................................................. โทรศพั ท์ ………..............……......………….. 2. การเจ็บปว่ ย วันเรม่ิ ป่วย …...............….…. วันรบั รักษา …................……. สถานทีร่ ักษา …..............…….........................….. 2.1 อาการและอาการแสดง ไข้ ........................................... * มี * ไม่ม ี * ไม่ทราบ ถา้ มี วันทเ่ี ริ่มมีไข้ …………….............…...... ผื่น * มี * ไมม่ ี * ไมท่ ราบ ถา้ มี วันทเี่ ร่ิมมผี นื่ ……………...................... มีอาการไอ ก่อนมีผน่ื ขนึ้ หรอื ไม่ * มี * ไมม่ ี * ไม่ทราบ วันท่ีเร่ิมไอ ………............…...................…… อาการอืน่ ๆ ก่อนวนั ทเี่ รื่มมีผ่ืน * มี * ไมม่ ี * ไม่ทราบ ปวดหลัง * มี * ไมม่ ี * ไม่ทราบ ปวดศีรษะ * มี * ไมม่ ี * ไมท่ ราบ อาเจียน * มี * ไม่มี * ไมท่ ราบ หนาวส่ัน * ม ี * ไมม่ ี * ไมท่ ราบ อาการอน่ื ๆ 2.2 ชนิดของรอยโรคทีพ่ บในครัง้ แรกของวนั ทส่ี ัมภาษณ์ (ตอบได้มากกว่า 1 ขอ้ ) * Papules * Vesicles * Papules * Vesicles * Hemorrhagic * Scabs * ไม่ทราบ 2.3 ลักษณะการแพรก่ ระจายของโรค : * ทัว่ ไป โดยเฉพาะใบหนา้ ปลายแขนขา (centrifugal) * ทั่วไป โดยเฉพาะลำ�ตวั (centripetal) * เฉพาะที่ ไม่กระจายทัว่ ไป * อ่ืนๆ ระบุ ............................................................................................................................................... 79

2.4 การจำ�แนกผูป้ ่วย - ผูป้ ว่ ยรายน้มี ผี ลการตรวจยืนยนั ทางหอ้ งปฏิบัตกิ ารหรอื ไม ่ * ใช ่ * ไม่ม ี * รอผลตรวจ * ไม่ทราบ ถา้ ใช,่ ระบวุ ิธกี ารตรวจ ............................................................................................................................. - ผ้ปู ่วยรายน้มี ีประวัตเิ ชอ่ื มโยงทางระบาดวิทยากับผู้ปว่ ยยนื ยนั หรือผู้ปว่ ยเข้าขา่ ยหรือไม่ * ใช ่ * ไมม่ ี * รอผลตรวจ * ไม่ทราบ ถา้ ใช่ ระบปุ ระเภทของผปู้ ่วยทม่ี ปี ระวัติเชอื่ มโยง * ยนื ยัน * เขา้ ขา่ ย สรุปรายนีเ้ ปน็ ผปู้ ว่ ย * ยืนยนั * เข้าข่าย * ยนื ยนั ผลการตรวจทางห้องปฏบิ ตั กิ ารตอ่ ไข้ทรพษิ * มี * ไม่ม ี * ไมท่ ราบ วนั ที่ส่งตัวอย่าง .......................................... ชนิดของตัวอย่างท่ีสง่ ตรวจ ...................................................................... ผลการตรวจทางห้องปฏบิ ตั ิการ ตัวอย่าง วนั ท่ีสง่ ตรวจ หอ้ งปฏิบตั ิการ ผล * PCR * Culture * Electronic Microscopy: * IgM * IgG Acute สรุปสถานะผูป้ ว่ ย: * ยนื ยัน * เข้าขา่ ย * สงสัย * ไมใ่ ชผ่ ้ปู ่วยไขท้ รพิษ ถา้ ไมใ่ ช่เกดิ จากโรคไข้ทรพษิ โปรดระบกุ ารวนิ ิจฉยั : ..................................................................................................... ผลการรกั ษา * ตาย วนั ที่ …..........……... * ยงั รกั ษาอย่ ู * สง่ ต่อไปรกั ษาที่ ……...….......…………..... ผู้สอบสวน ………………..........................................……………....…… ตำ�แหนง่ …….........................……………...... หน่วยงาน ………….............................................................…………… เบอร์โทรศัพท์ …......................................…… 80

แบบสอบสวนผปู้ ว่ ยสงสยั ตดิ เชื้อไวรสั อีโบลา/โรคไขเ้ ลือดออกไครเมยี นคองโก/ โรคติดเชื้อไวรสั มารบ์ วรก์ 1. ข้อมูลท่ัวไป ชื่อ ............................................................................................................. เลขท่ีผ้ปู ่วย ....................................... อายุ ......... ปี วันเดือนปีเกิด .......................................... เพศ ............... อาชพี ................................................ ท่อี ยู่ ........................................................................................................................................................................ ชอื่ เจา้ ของบา้ น ......................................................... ชอื่ บิดา/มารดา (กรณีผูป้ ่วยเดก็ ) ...................................... เบอรโ์ ทร ................................................................... อเี มล์ ……….........……....…………………………………… โรงพยาบาล................................................................ ทอี่ ยู่ ................................................................................... วันรบั รักษา ............................................................... วันจำ�หน่าย ....................................................................... ทราบวา่ มีผ้ปู ่วยรายนีจ้ ากแหล่งใด * ขา่ วลือ * การเสยี ชีวิต * ค้นหาผู้ป่วยในชุมชน * ผปู้ ว่ ยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 2. การเจ็บป่วย * ผปู้ ่วยใน * ผู้ป่วยนอก * มชี วี ติ * เสียชีวิต วันทเ่ี สยี ชีวิต ............................................................................................ * มไี ข้สูงอณุ หภมู ิแรกรับ ........... ํC * อุณหภมู สิ ูงสุด ........... ํC * ไมม่ ีไข้ ............ * ไมท่ ราบ วนั ท่ีทำ� post-mortem skin biopsy ……………………………………………….............………………………….... นยิ ามผู้ป่วย: * ผปู้ ว่ ยสงสัย * ผู้ป่วยเข้าขา่ ย * ไมเ่ ปน็ ผู้ปว่ ย มผี ู้ป่วยรายอื่นทอ่ี าศยั อย่ใู นละแวกใกลเ้ คยี งกบั ผปู้ ว่ ยรายน้ีหรอื ไม่ * ม ี * ไม่มี พบผู้ป่วยรายใหม่ชื่อ ........................................................... นามสกลุ .................................................................. วนั เรม่ิ ป่วย .................................................. อาการของผูป้ ว่ ย ............................................................................. 81

82 ระบอุ าการและอาการแสดงของผปู้ ว่ ย กล่มุ ใช ่ อาการและอาการแสดง วันทปี่ ่วย ขอ้ สงั เกตอ่นื ๆ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 ข้อสังเกตอืน่ ๆ A ปวดศีรษะ คล่ืนไส้/อาเจียน เบือ่ อาหาร ถา่ ยเหลว ออ่ นเพลีย ปวดท้อง ปวดเมอ่ื ยกลา้ มเนอื้ กลืนลำ�บาก หายใจลำ�บาก สะอกึ อนื่ ๆ ระบุ ............................................. กลุ่ม ใช่ อาการและอาการแสดง B มีเลอื ดออกตามเหงอื ก ตาแดง มีจุดแดงทผ่ี วิ หนงั อุจจาระมเี ลอื ดปน อาเจียนมเี ลอื ดปน เลือดกำ�เดา อื่นๆ

3. ประวตั สิ มั ผสั ภายใน 21 วันก่อนมอี าการป่วย สัมผัสกับผู้ป่วยสงสยั โรค Ebola เนอ่ื งจากเปน็ สมาชกิ ในบา้ น * ใช่ ................................. * ไม่ใช่ ................................. * ไมท่ ราบ ...................................... ชอื่ ผทู้ ีผ่ ูป้ ว่ ยสัมผัส ......................................................................................................................................... ความสัมพนั ธ์เกีย่ วข้องกับผูป้ ่วย .................................................................................................................... วนั ทสี่ มั ผัสครั้งสดุ ท้าย ................................................................................................................................... ชนิดและระยะเวลาของการสมั ผสั ................................................................................................................. สัมผสั กับผู้ปว่ ยสงสัยโรค Ebola เนือ่ งจากเป็นบุคลากรทางการแพทย ์ * ใช่ ................................. * ไมใ่ ช่ ................................. * ไมท่ ราบ ...................................... ชอ่ื ผ้ทู ผ่ี ู้ป่วยสัมผสั ......................................................................................................................................... วนั ทีส่ มั ผัสครั้งสดุ ทา้ ย ................................................................................................................................... และระยะเวลาของการสัมผัส ....................................................................................................................... สถานพยาบาลทสี่ มั ผสั ............................................ จงั หวดั ........................... อำ�เภอ .............................. สมั ผัสกบั ผปู้ ว่ ยสงสยั โรค Ebola เนือ่ งจากเปน็ ผู้ร่วมเดินทาง * ใช่ ................................. * ไม่ใช่ ................................. * ไมท่ ราบ ...................................... ชื่อผู้ทีผ่ ูป้ ว่ ยสัมผัส ......................................................................................................................................... วนั ที่สมั ผัสครั้งสุดทา้ ย ................................................................................................................................... และระยะเวลาของการสัมผัส ......................................................................................................................... เสน้ ทางท่ีเดินทาง ................................................. วนั ที่เดินทาง ................................................................. สัมผสั กับสัตวป์ ่วยหรือตาย (โดยเฉพาะ ลิง แอนตโิ ลปปา่ (สตั ว์กีบคูอ่ ยใู่ นวงศว์ ัวและควาย) หนู และคา้ งคาว) * ใช่ ................................. * ไมใ่ ช่ ................................. * ไมท่ ราบ ...................................... ชนิดสตั ว์ทสี่ ัมผสั ............................................................................................................................................ วันทส่ี มั ผสั ...................................................................................................................................................... ชนดิ และระยะเวลาของการสัมผัส ................................................................................................................. สถานท่ที ี่สมั ผัส (เชน่ ตอนเดินทางไปแอฟริกา หรือขณะอยูใ่ นประเทศไทย) ............................................... ชือ่ แพทย์ผ้รู ักษา/ชื่อโรงพยาบาล ............................................................... วนั ท่ี ......................................... 4. การตรวจทางหอ้ งปฏบิ ัติการ ตัวอย่างท่ี 1 ชนดิ ตัวอย่าง .................................... วธิ กี ารตรวจ .......................................................................... สถานที่สง่ ตรวจ ..................................................... วันที่ .................................... ผล ......................................... ตวั อยา่ งที่ 2 ชนดิ ตัวอย่าง .................................... วธิ กี ารตรวจ .......................................................................... สถานที่ส่งตรวจ ..................................................... วนั ที่ .................................... ผล ......................................... 5. ข้อคดิ เหน็ ………………………………………………………………………………………………………………………....……… ………………………………………………………………………………………………………………………....……… ผู้รายงาน ................................................... หน่วยงาน ....................................... โทร. ....................................... 83

แบบสอบสวนผู้ปว่ ยสงสัยติดเชอ้ื ไขเ้ วสตไ์ นล์/ไวรสั นิปาห์/ไวรสั เฮนดรา 1. ขอ้ มูลทว่ั ไป ชอื่ - สกลุ ………………………………………….........….… เลขทบ่ี ตั รประชาชน ................................................ อายุ …… ปี เพศ * ชาย * หญิง อาชีพ ………..…………… ลักษณะงานท่ีทำ� ……...…………...…….…… ท่อี ยู่ขณะป่วยบา้ นเลขที่ …………..…… หมู่ที่ …….…......… ถนน …………………............…………………....... ต�ำ บล ……………..……………. อ�ำ เภอ ……………...………….. จงั หวดั ………………..…....……………..……………. * ในเขตเทศบาลนคร * ในเขตเทศบาลเมือง * ในเขตเทศบาลต�ำ บล * ในเขต อบต. ภมู ิล�ำ เนา บา้ นเลขที่ ……………….…… หม่ทู ี่ …..…........... ถนน ……………………………………………....... ต�ำ บล ……………..……………. อ�ำ เภอ ……………...………….. จงั หวดั ………………..…....……………..……………. * ในเขตเทศบาลนคร * ในเขตเทศบาลเมือง * ในเขตเทศบาลต�ำ บล * ในเขต อบต. ผูใ้ หส้ มั ภาษณป์ ่วยหรอื ไม ่ * ปว่ ยวินจิ ฉยั ………………………..........……….. * ไม่ปว่ ย (ข้ามไปขอ้ 5) วันเรมิ่ ป่วย ……………………..... วนั ที่มาโรงพยาบาล …..…………………. วันท่จี �ำ หนา่ ย …………..………….. ผลการรักษา * ก�ำ ลงั รกั ษา * หาย * เสยี ชีวิต * ไมส่ มัครอย ู่ * ยา้ ยไปโรงพยาบาลอื่นระบุ ..... 2. อาการและอาการแสดง ประวัติการได้รับวัคซีนได้ข้อมูลจาก ………………………………………................................................................. JE * ไดร้ ับ …………. คร้ัง คร้งั สดุ ท้ายเมื่อ ………………………………………. * ไมไ่ ด้รับ * ไม่ทราบ DTP * ได้รบั …………. ครั้ง ครั้งสุดท้ายเม่ือ ………………………………………. * ไมไ่ ด้รบั * ไมท่ ราบ BCG * ไดร้ บั …………. ครง้ั ครง้ั สุดทา้ ยเมือ่ ………………………………………. * ไม่ได้รับ * ไมท่ ราบ อื่นๆ ระบุ …………………………… ไดร้ ับ …………. ครั้ง ครัง้ สดุ ท้ายเมื่อ ………………………………………. ไข ้ * มี * ไมม่ ี * ไมท่ ราบ ปวดศรี ษะรุนแรง * ม ี * ไม่ม ี * ไมท่ ราบ ปวดกระบอกตา * มี * ไม่ม ี * ไมท่ ราบ ชกั แข็งเกร็ง * ม ี * ไมม่ ี * ไม่ทราบ คอแขง็ * มี * ไมม่ ี * ไมท่ ราบ หลงั แข็ง * ม ี * ไม่มี * ไมท่ ราบ ความรสู้ ึกสับสน (confusion) * ม ี * ไม่ม ี * ไม่ทราบ ไม่รู้สึกตวั * มี * ไมม่ ี * ไม่ทราบ อ่ืนๆ ระบุ …………..........................................…………………………………………………………………………...............….. 84

3. ผลการตรวจทางหอ้ งปฏบิ ตั ิการ 3.1 เจาะเลอื ด (C.B.C.) วนั ท่ี ……………………………… ผลจ�ำ นวนเมด็ เลอื ดขาว ………………… ตอ่ ลบ.มม. Neutrophil ……………….. % (ค่าปกติ 55 - 75%) Lymphocyte ………………... % (คา่ ปกติ 20 - 35%) Eosinophil ……………….. % (คา่ ปกติ 1 - 3%) Monocyte ……………………… % (คา่ ปกติ 2 - 6%) เพาะเชื้อแบคทเี รยี จากโลหิต * ทำ� วันท่ี ……….....…..… ผล ………………......……….…....…. * ไม่ได้ท�ำ 3.2 เจาะนำ้�ไขสนั หลัง (C.S.F.) วนั ที่ ………………………… ลักษณะของน�ำ้ ไขสันหลงั * ขุ่น * ใส จ�ำ นวนเซลล์ (Blood Count) ……..... ตอ่ ลบ.มม. (Neutrophil ……..... % Lymphocyte ……..... %) น�ำ้ ตาล ………………………………… mg% protein ………………………………………… mg% ยอ้ มเช้ือจากนำ้�ไขสันหลงั * ทำ� วนั ที่ ……….....…..… ผล ………………......……….…....…. * ไมไ่ ด้ท�ำ ตรวจ Indian ink * ท�ำ วนั ท่ี ……….....…..… ผล ………………......……….…....…. * ไม่ไดท้ �ำ เพาะเชื้อแบคทีเรียจากนำ้�ไขสันหลัง * ท�ำ วนั ที่ ……….....…..… ผล ………………......……….…....…. * ไมไ่ ดท้ �ำ 3.3 การตรวจทางภูมิคุ้มกนั วิทยา • HI test เจาะเลือด ระยะ Acute เมอ่ื วันท่ี …....…….…….. ผล …………….…….........…………. เจาะเลอื ดระยะ Convalescence เมอ่ื วันท่ี …....…….…….. ผล …………….…….........…………. • ELISA IgM นำ้�เหลอื ง * ท�ำ วันที่ ……….....…..… ผล ………………......……….…....…. * ไม่ไดต้ รวจ นำ�้ ไขสันหลงั * ทำ� วันที่ ……….....…..… ผล ………………......……….…....…. * ไม่ได้ตรวจ • IFA นำ�้ เหลือง * ทำ� วนั ท่ี ……….....…..… ผล ………………......……….…....…. * ไมไ่ ดต้ รวจ น้�ำ ไขสนั หลัง * ท�ำ วันที่ ……….....…..… ผล ………………......……….…....…. * ไมไ่ ด้ตรวจ 4. การรกั ษา ไปรบั การตรวจรักษาครั้งแรกท่ี …………..………...…….. วันที่ ….. เดือน ……………………… พ.ศ. ............... ยาปฏชิ ีวนะท่ไี ดร้ ับจากการตรวจรักษาครงั้ แรก ...................................................................................................... 5. ปัจจยั เสยี่ งต่อการเกดิ โรค 5.1 อาชีพ/กจิ กรรมในชวี ิตประจำ�วนั ทีท่ ำ�เปน็ ประจำ� * ทำ�งานในฟารม์ เล้ียงสตั ว ์ * ทำ�งานในโรงฆ่าสัตว์ ทำ�มาเปน็ ระยะเวลา …………................... ระบสุ ถานทีท่ ่ที ำ� ......................... ระบุสถานที่ทีท่ ำ� ......................................................................... * อน่ื ๆ (ระบุ) ............................................................................................................................................ 85

5.2 ประวตั ิการสัมผัสโรค • เกย่ี วกับการรับประทานอาหาร * สุก * ดิบ * ดบิ ๆ สุกๆ หอยโขง่ * สุก * ดิบ * ดบิ ๆ สกุ ๆ หอยเชอร ่ี * สกุ * ดิบ * ดิบๆ สกุ ๆ ............... * สุก * ดิบ * ดบิ ๆ สกุ ๆ ............... * สกุ * ดบิ * ดบิ ๆ สุกๆ ............... • เกีย่ วกับการสัมผัส สตั วเ์ ศรษฐกจิ และสตั วอ์ ืน่ ๆ ภายใน 30 วันกอ่ นปว่ ย * ม ี * ไมม่ ี * ไมท่ ราบ เลย้ี งสกุ ร * ม ี * ไม่ม ี * ไม่ทราบ ทำ�งานโรงฆา่ สัตว์ * มี * ไมม่ ี * ไมท่ ราบ ขายเนอ้ื สกุ ร * มี * ไมม่ ี * ไม่ทราบ ฆา่ สุกร * ม ี * ไมม่ ี * ไมท่ ราบ ขนส่งสุกรมีชีวิต • ได้สมั ผัสกับสตั ว์ * เคย * ไมเ่ คย หมู * เคย * ไมเ่ คย มา้ * เคย * ไมเ่ คย คา้ งคาว * เคย * ไมเ่ คย นกพิราบ อื่นๆ ระบุ .......................................................................................................................................................... 5.3 แหล่งรังโรค/สภาพแวดลอ้ ม * มี * ไม่มี • สภาพบา้ น มมี ุ้งลวดรอบบ้านหรือไม่ นอนกางมงุ้ หรอื ห้องนอนมีมงุ้ ลวดหรอื ไม่ * มี * ไม่มี * มี * ไมม่ ี • บริเวณรอบบา้ น มที งุ่ นาหรือไม่ * มี ระบชุ นิดสตั ว์ ..................... * ไมม่ ี มคี อกสตั ว์หรือไม่ * มี ระบุชนิดสตั ว์ ..................... * ไมม่ ี • ในหมู่บา้ น มีฟาร์ม/คอกสัตวห์ รือไม่ มีค้างคาวกินผลไม้ชกุ ชุมหรอื ไม ่ * มี ระบุบริเวณ ........................ * ไมม่ ี มีนกพริ าบ/นกเขาชุกชมุ หรอื ไม ่ * มี ระบุบริเวณ ........................ * ไมม่ ี • เคยเดินทางไปทไี่ หน (ภายใน 30 วันก่อนป่วย) หรอื ไม่ • ระบุ ตำ�บล ............................................ อ�ำ เภอ ........................................ จงั หวัด ....................................... สภาพพนื้ ท ี่ * ทงุ่ นา * คอกสตั ว ์ * อ่นื ๆ (ระบุ) ............................................. • ระบุ ตำ�บล ............................................ อ�ำ เภอ ........................................ จังหวดั ....................................... สภาพพ้ืนท ี่ * ทงุ่ นา * คอกสัตว์ * อ่ืนๆ (ระบุ) ............................................. 86

6. การคน้ หาผ้ปู ว่ ยรายอื่น 6.1 ผูป้ ่วยรายอนื่ ภายใน 30 วัน หลังจากผ้ปู ่วยเรมิ่ ป่วย • มีสมาชกิ ในบ้านท่มี อี าการคลา้ ยผปู้ ่วยหรอื ไม่ * มี ระบุ * ไมม่ ี ช่อื .............................................................................................. อายุ ..................... เพศ ..................... วันเรม่ิ ปว่ ย ........................................ รกั ษาที่ ......................................................................................... ชื่อ .............................................................................................. อายุ ..................... เพศ ..................... วันเรม่ิ ปว่ ย ........................................ รกั ษาท่ี ......................................................................................... ชอ่ื .............................................................................................. อายุ ..................... เพศ ..................... วันเรม่ิ ป่วย ........................................ รักษาที่ ......................................................................................... • มีผู้ปว่ ยรายอืน่ ทีอ่ ยูบ่ ้านตดิ กันและละแวกบา้ นเดียวกนั ทีม่ ีอาการคลา้ ยผปู้ ว่ ยหรือไม่ * มี ระบ ุ * ไมม่ ี ชอ่ื .............................................................................................. อายุ ..................... เพศ ..................... วนั เร่ิมปว่ ย ........................................ รกั ษาที่ ......................................................................................... ชื่อ .............................................................................................. อายุ ..................... เพศ ..................... วันเรม่ิ ป่วย ........................................ รักษาที่ ......................................................................................... ช่ือ .............................................................................................. อายุ ..................... เพศ ..................... วันเริม่ ป่วย ........................................ รกั ษาท่ี ......................................................................................... • มีผปู้ ่วยรายอน่ื ทีอ่ ย่โู รงเรยี น/ทท่ี �ำ งาน เดียวกัน ที่มอี าการคล้ายผปู้ ่วยหรอื ไม่ * มี ระบ ุ * ไมม่ ี ชอื่ .............................................................................................. อายุ ..................... เพศ ..................... วนั เรมิ่ ปว่ ย ........................................ รักษาที่ ......................................................................................... ชอื่ .............................................................................................. อายุ ..................... เพศ ..................... วนั เร่ิมปว่ ย ........................................ รักษาท่ี ......................................................................................... ชือ่ .............................................................................................. อายุ ..................... เพศ ..................... วันเรม่ิ ป่วย ........................................ รักษาท่ี ......................................................................................... 6.2 ผสู้ มั ผัสท่ีอาศัยอยู่บา้ นเดยี วกนั ชอ่ื ................................................................................................... อายุ ..................... เพศ ..................... ชอ่ื ................................................................................................... อายุ ..................... เพศ ..................... ชอ่ื ................................................................................................... อายุ ..................... เพศ ..................... ช่อื -สกุลผูส้ อบสวนโรค ..................................................................................... ต�ำ แหนง่ ............................................. ทท่ี ำ�งาน ............................................................... โทรศพั ท์ .......................................... วันท่ีสอบสวน ………...……. 87

แบบสอบสวนเฉพาะรายโรคไขเ้ หลอื ง 1. ข้อมูลทว่ั ไป ช่ือ ......................................................... สกลุ ......................................................... เพศ * ชาย * หญงิ อายุ ............. ปี ............. เดอื น ท่ีอยู่ ....................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. อาชพี .................................................... สถานท่ีท�ำ งาน / สถานศึกษา .............................................................. 2. การเจบ็ ปว่ ย วนั เริ่มปว่ ย .......................... วนั รับรักษา ......................... สถานทรี่ กั ษา ............................................................ วนั สถานท่ีทำ�การรักษา และการวนิ ิจฉยั (กรณีไปรับการรักษาหลายครัง้ ) .......................................................... ................................................................................................................................................................................. อาการและอาการแสดง ไข้ * มี * ไม่มี * ไม่ทราบ ปวดศีรษะ * ม ี * ไม่ม ี * ไม่ทราบ ชพี จรเตน้ ชา้ * ม ี * ไม่มี * ไม่ทราบ ปวดกล้ามเน้อื * มี * ไม่มี * ไมท่ ราบ ตาเหลือง * มี * ไม่มี * ไมท่ ราบ ตวั เหลือง * ม ี * ไม่มี * ไมท่ ราบ อาการเลอื ดออก ระบุ อนื่ ๆ ผลการรกั ษา * ตาย วนั ที่ .......................... * ยังรกั ษาอยู่ * ส่งต่อไปรกั ษาที่ ................................... ผลการตรวจทางหอ้ งปฏบิ ตั ิการทว่ั ไป ครัง้ ท่ี 1 ครัง้ ท่ี 2 ครั้งท่ี 3 คร้งั ท่ี 4 ครัง้ ที่ 5 CBC วนั ท่ี ............ วนั ท่ี ............ วนั ท่ี ............ วนั ที่ ............ วนั ที่ ............ เวลา ........... เวลา ........... เวลา ........... เวลา ........... เวลา ........... Hematocrit % WBC ตอ่ ลบ.มม. Lymphocyte% Atypical Lymphocyte % Platelet ต่อ ลบ.มม. ผลการตรวจทางหอ้ งปฏิบัติการเฉพาะ * ตวั อย่างเลอื ด หรือ ซีรมั่ ครงั้ ท่ี 1 วันทเี่ กบ็ ............................ วนั ทส่ี ่ง ............................ ผล ............................ * ตัวอย่างเลอื ด หรอื ซีรม่ั คร้งั ที่ 2 วันทเ่ี ก็บ ............................ วันที่ส่ง ............................ ผล ............................ * การส่งเลือดตรวจ PCR วันท่ีเก็บ ............................................. วันทสี่ ่ง ............................ ผล ............................ ประวตั กิ ารไดร้ ับวัคซนี ป้องกนั ไข้เหลือง * ไมเ่ คยได้รบั * เคยไดร้ บั วันท่ไี ด้รับ ............................................................................................................. 88

3. ปจั จยั เสย่ี งตอ่ การเกดิ โรค สถานท่ี ..................................................................................................................................................................... Index วนั ที ่ วนั ที ่ วนั ท่ี วนั ที่ วนั ท่ี วนั ที่ HI CI BI สถานท่ี ..................................................................................................................................................................... Index วันที่ วันท่ ี วนั ที่ วนั ที่ วันท ่ี วันที่ HI CI BI สถานที่ ..................................................................................................................................................................... Index วันที่ วันที่ วนั ที่ วนั ท่ี วนั ที ่ วันท่ี HI CI BI 4. แหลง่ แพรโ่ รค ในช่วง 14 วนั ก่อนเรมิ่ ปว่ ย ผปู้ ว่ ยเดนิ ทางไปที่ไหนบา้ ง ระบสุ ถานที่ ระยะเวลาทีพ่ กั อยู่ 1.1 ......................................................................................................................................................................... 1.2 ......................................................................................................................................................................... 1.3 ......................................................................................................................................................................... ผู้สอบสวน ..................................................... หนว่ ยงาน .......................................... โทร. ......................................... 89

แบบสอบสวนผู้ป่วยสงสัยติดเช้ือไวรสั ลาสซา (Lassa virus) วนั ที่ ............/.............................../................ 1. ข้อมูลทวั่ ไป ชอ่ื ............................................................................................................. เลขท่ีผู้ป่วย ....................................... อายุ ................. วันเดอื นปเี กดิ .................................... เพศ .................. อาชพี ................................................ ที่อยู่ ........................................................................................................................................................................ ช่อื เจ้าของบ้าน ............................................. ชื่อบิดา/มารดา (กรณีผู้ปว่ ยเดก็ ) .................................................. เบอรโ์ ทร ....................................... หรอื วิธกี ารตดิ ต่ออย่างอ่นื เช่น อเี มล์ ........................................................... โรงพยาบาล ................................. ทอ่ี ยู่ ................................................................................................................ วนั รบั รักษา .................................. วันจำ�หนา่ ย .................................... ทราบว่ามผี ปู้ ่วยรายนจี้ ากแหล่งใด * ข่าวลือ * การเสียชวี ติ * ค้นหาผ้ปู ว่ ยในชมุ ชน * ผ้ปู ่วยเข้ารับการรกั ษาในโรงพยาบาล 2. การเจ็บปว่ ย * ผู้ป่วยใน * ผปู้ ่วยนอก * มชี วี ิต * เสยี ชวี ิต วันทเี่ สียชีวิต ........................................... * มีไข้สูงอณุ หภมู แิ รกรับ ........ ํC อุณหภูมสิ ูงสดุ ........ ํC * ไม่มไี ข้ .............. * ไม่ทราบ นยิ ามผปู้ ว่ ย: * ผปู้ ว่ ยสงสยั * ผู้ปว่ ยเข้าข่าย * ไม่เปน็ ผปู้ ่วย มผี ู้ปว่ ยรายอ่นื ทอ่ี าศยั อยใู่ นละแวกใกลเ้ คยี งกบั ผู้ปว่ ยรายน้ีหรือไม่ [ ] มี [ ] ไมม่ ี พบผ้ปู ่วยรายใหม่ชอ่ื ...................................................... นามสกลุ ...................................................................... วนั เริม่ ปว่ ย ..................................................................... อาการของผ้ปู ่วย .......................................................... 90

ระบุอาการและอาการแสดงของผปู้ ่วย กลุ่ม ใช ่ อาการและอาการแสดง วนั ที่ปว่ ย ข้อสังเกตอน่ื ๆ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 ไข/้ ไขส้ งู เฉยี บพลัน ปวดศีรษะ ไอ อาเจยี น เจ็บหนา้ อกหรือช่องท้อง ตาอกั เสบ คออักเสบเปน็ หนอง หน้าบวม คอบวม หูหนวกจากพยาธิสภาพ ท่ีเสน้ ประสาทสมองคู่ท่ี 8 มีอาการเลือดออกตามผิวหนงั อ่ืนๆ ระบุ ............................................ 91

3. ประวัตสิ ัมผัสภายใน 21 วนั ก่อนมอี าการป่วย สัมผสั กับผปู้ ่วยสงสัยโรคไข้ลาสซา (Lassa) เนอ่ื งจากเปน็ สมาชิกในบา้ น * ใช่ .................................. * ไมใ่ ช่ .................................. * ไมท่ ราบ .................................. ชอ่ื ผทู้ ่ีผู้ปว่ ยสัมผัส ......................................................................................................................................... ความสัมพนั ธเ์ กย่ี วข้องกบั ผูป้ ่วย .................................................................................................................... วันทสี่ ัมผัสคร้งั สดุ ทา้ ย ................................................................................................................................... ชนดิ และระยะเวลาของการสมั ผัส ................................................................................................................. สัมผัสกบั ผปู้ ว่ ยสงสัยโรคไขล้ าสซา (Lassa) เนอื่ งจากเปน็ บุคลากรทางการแพทย ์ * ใช่ .................................. * ไมใ่ ช่ .................................. * ไม่ทราบ .................................. ชือ่ ผทู้ ผ่ี ปู้ ่วยสัมผัส ......................................................................................................................................... วนั ที่สัมผัสครั้งสุดท้าย ................................................................................................................................... และระยะเวลาของการสมั ผัส ......................................................................................................................... สถานพยาบาลทส่ี มั ผสั .................................... จงั หวัด .................................... อำ�เภอ ............................. สมั ผสั กบั ผปู้ ่วยสงสยั โรคไข้ลาสซา (Lassa) เนื่องจากเป็นผรู้ ว่ มเดนิ ทาง * ใช่ .................................. * ไมใ่ ช่ .................................. * ไม่ทราบ .................................. ช่อื ผู้ทผ่ี ู้ปว่ ยสัมผสั ......................................................................................................................................... วนั ทส่ี มั ผัสครง้ั สดุ ทา้ ย ................................................................................................................................... และระยะเวลาของการสมั ผัส ......................................................................................................................... เส้นทางท่เี ดนิ ทาง ............................................................................... วนั ท่เี ดินทาง ................................... สมั ผสั กบั อุจจาระสตั วป์ ่วยหรอื ตาย (โดยเฉพาะหน)ู * ใช่ .................................. * ไม่ใช่ .................................. * ไม่ทราบ .................................. วนั ท่สี ัมผัส ..................................................................................................................................................... ระยะเวลาของการสมั ผสั ................................................................................................................................ มีประวัติเดินทางไปพืน้ ทท่ี ี่มกี ารรายงานโรค (เชน่ แอฟรกิ าตะวันตก ไดแ้ ก่ ประเทศไลบีเรีย, เซยี รร าลโี อน และกินี) * ใช่ .................................. * ไมใ่ ช่ .................................. * ไมท่ ราบ .................................. ช่อื แพทยผ์ รู้ กั ษา/ชือ่ โรงพยาบาล ......................................................................... วันที่ ........................................ 4. การตรวจทางหอ้ งปฏิบตั ิการ ตัวอยา่ งท่ี 1 ชนิดตัวอยา่ ง ........................... วธิ กี ารตรวจ ......................... สถานทสี่ ่งตรวจ ............................. วนั ท่ี ................................ ผล ............................................................................................................................... ตัวอย่างที่ 2 ชนิดตวั อยา่ ง ........................... วิธีการตรวจ ......................... สถานทีส่ ง่ ตรวจ ............................. วันที่ ................................ ผล ............................................................................................................................... 5. ข้อคิดเห็น ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ผู้รายงาน ............................................................. หนว่ ยงาน ..................................... โทร. ........................................ 92

แบบสอบสวนผู้ป่วยสงสยั โรคซารส์ /โรคเมอร์ส ส่วนท่ี 1 1. ขอ้ มลู ทว่ั ไป ชอื่ -นามสกุล เพศ * ชาย * หญงิ อายุ ปี สัญชาติ เชื้อชาติ อาชีพ ... (ระบุลักษณะงานที่ทำ� เช่น นกั เรียน, นกั บวช, ทหาร, นักโทษ เป็นต้น และหากเป็นเจา้ หนา้ ทท่ี างการแพทยห์ รือสาธารณสุขตอ้ งระบุให้ชัดเจนว่าลกั ษณะการท�ำ งานที่ตอ้ งสมั ผัสผู้ปว่ ย อย่างไร) สถานท่ที ำ�งาน (ระบุช่อื ) ตำ�บล อ�ำ เภอ .... จงั หวดั โทรศัพทท์ ี่ทำ�งาน .... ทีอ่ ยูข่ ณะปว่ ย เลขที่ หมทู่ ี่ หมู่บา้ น/ชมุ ชน ซอย ... ถนน ... ต�ำ บล ... อำ�เภอ ... จงั หวัด โทรศพั ท์ บา้ น มอื ถือ ... * ผปู้ ว่ ย * ญาติ ระบุความสัมพนั ธ ์ * อ่ืนๆ ระบุ ... ผู้ใหข้ ้อมลู 2. ประวตั เิ สีย่ งตอ่ การติดเชื้อ 2.1 ในช่วง 14 วันก่อนป่วย ท่านได้มีการสัมผสั สตั ว์ปกี (ฟาร์ม/เลี้ยง/ในธรรมชาติ) เช่น จับ ช�ำ แหละ ฝังกลบ หรือรับประทาน สุกๆ ดบิ ๆ เป็นตน้ * ไม่ม ี * มี ระบุลกั ษณะการสัมผัส ... 2.2 ในช่วง 14 วันกอ่ นปว่ ย ท่านไดม้ ีการสัมผัสโดยตรงกบั สกุ ร หรอื สัตว์เลย้ี งลกู ดว้ ยนมอน่ื ๆ ที่ปว่ ย/ตาย ผดิ ปกติ หรอื ไม่ทราบสาเหตุ * ไม่ม ี * มี ระบุ (วนั /เดือน/ปี ทีสัมผัส) ชนิดสัตว์ ... 2.3 ในช่วง 14 วันก่อนปว่ ย ทา่ นพักอาศัยในพืน้ ทท่ี ่ีมีสัตวป์ กี ป่วยตายมากผิดปกตหิ รือพบเช้อื ในสัตว์ปีก หรอื ส่งิ แวดลอ้ ม * มี * ไมม่ ี 2.4 ในชว่ ง 14 วนั กอ่ นป่วย ท่านไดส้ ัมผัสอฐู หรือดม่ื นมอฐู * ไมม่ ี * มี ระบลุ ักษณะการสมั ผัส ... 2.5 ในชว่ ง 14 วันก่อนปว่ ย ทา่ นอาศัยอยู่ หรือมีการเดินทางมาจากพ้นื ที่ท่ีมกี ารระบาด * ไมม่ ี * มี ถ้ามีระบุรายละเอียดดงั ต่อไปนี้ ชอ่ื ประเทศ เมือง/จังหวดั อ�ำ เภอ ... วนั ที่ไป วนั ทีก่ ลับ ... เหตุผลของการเดินทางไปประเทศดงั กล่าว ... มปี ระวัตเิ ขา้ รบั การรักษาหรือเย่ยี มผ้ปู ว่ ยในโรงพยาบาลขณะอยทู่ ี่ประเทศดงั กลา่ วหรอื ไม่ * ไมม่ ี * มี ระบุวันท่เี ขา้ โรงพยาบาล ช่ือโรงพยาบาล ... 93

2.6 ในชว่ ง 14 วันกอ่ นปว่ ย ทา่ นให้การดแู ลหรือสมั ผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยอาการคล้ายไขห้ วัดใหญ่/ไขห้ วดั นก/ ปอดอกั เสบ หรือไม่ * มี ระบุความสัมพนั ธ์ ชอ่ื (หากสามารถระบุได)้ ... * ไมม่ ี * ไมใ่ ช ่ * ใช่ 2.7 เปน็ ผู้ปว่ ยปอดอกั เสบรนุ แรงหรือเสียชวี ติ ทห่ี าสาเหตุไมไ่ ด้ 2.8 เป็นบคุ ลากรทางการแพทยแ์ ละสาธารณสุขหรือเจา้ หนา้ ที่ห้องปฏบิ ตั ิการ * ไมใ่ ช ่ * ใช่ ระบุ ... 2.9 ผปู้ ่วยอาการคล้ายไข้หวดั ใหญ่ หรือปอดอักเสบเปน็ กลมุ่ ก้อน * ไม่ใช่ * ใช่ ระบรุ ายละเอียดของผูป้ ว่ ยปอดอกั เสบรายอืน่ ช่อื -สกลุ วนั เริ่มป่วย ... อาการ ... การวนิ ิจฉัย โรงพยาบาลที่วนิ จิ ฉยั ... ความเก่ยี วขอ้ งกบั ผปู้ ว่ ยรายนี้ ... 3. ขอ้ มลู การเจบ็ ปว่ ย 3.1 วันเรม่ิ ป่วยวันท่ี เดือน พ.ศ. ... 3.2 สถานทร่ี ักษา (ครั้งแรก) วันที่ ... * ผปู้ ่วยนอก * ผ้ปู ่วยใน สถานท่ี Admit วันที่ ... เปน็ 3.3 ประวตั ิการเจ็บปว่ ยในอดีตหรอื โรคประจ�ำ ตัว * ไม่มี * มี (กรุณาท�ำ เครอ่ื งหมาย P ดา้ นลา่ ง) * โรคปอดเรอื้ รงั เชน่ COPD, chronic bronchitis, chronic bronchiectasis, BPD หรอื หอบ (asthma) ทีก่ �ำ ลังรักษา * โรคหัวใจ เช่น หัวใจพิการแตก่ ำ�เนิด, โรคหลอดเลือดหวั ใจ หรอื congestive heart failure * โรคตบั เรอ้ื รงั เช่น ตับแข็ง (cirrhosis) * โรคไต, ไตวาย * เบาหวาน * ความดันโลหิตสูง * ภมู ิค้มุ กนั บกพรอ่ ง * โลหิตจาง (ธาลสั ซีเมยี , sickle cell anemia) * พกิ ารทางสมองชว่ ยเหลอื ตวั เองไม่ได ้ * ตังครรภ์ อายุครรภ์ สปั ดาห์ * อ้วน สว่ นสงู เซนตเิ มตร น�้ำ หนกั กิโลกรัม (BMI = ) * มะเร็งที่ก�ำ ลังรกั ษา ระบปุ ระเภท * อ่นื ๆ ... ประวัติการสบู บหุ รี่ * ไม่สูบ * สบู ถ้าสบู * ยังสูบ ปริมาณมวน/ซอง ต่อ วนั /สปั ดาห์ * หยุดสูบ เลกิ มานาน ... ประวตั กิ ารด่ืมสรุ า * ไมด่ ่มื * ด่ืม ถ้าด่มื * ยังดื่ม ปรมิ าณตอ่ วนั /สปั ดาห์ * หยุดด่ืม เลิกมานาน. 3.4 ประวัติการไดร้ ับวคั ซนี ไข้หวดั ใหญ่ * ไมเ่ คยไดร้ บั * เคยได้รับ ครงั้ ล่าสุดเมื่อ ... 3.5 อาการสำ�คญั ที่ท�ำ ให้มาโรงพยาบาล .............................................................................................................. ........................................................................................................................................................................ ......................................................................................................................................................................... 94

3.6 อาการผู้ป่วยตัง้ แตว่ นั เรมิ่ ปว่ ยจนถึงวันสอบสวน ออาากกาาร รแแสลดะง วนัมี เร0ิม่ ปไมว่ ่มย ี ม ี 1 ไมม่ ี ม ี 2 ไมม่ ี มวี ัน3ท ไี่หมล่มัง ีวันเมร ีม่ิ ป4ว่ ไยมม่ ี ม ี 5 ไม่ม ี ม ี 6 ไม่มี ไข้ (ระบุ Temp ํc) ไอ เจ็บคอ มนี ำ�้ มูก มเี สมหะ หายใจลำ�บาก หอบเหน่อื ย ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ ถ่ายเหลว อาการอนื่ ๆ ระบุ (ถา้ ม)ี ... * ไม่ใช ้ * ใช้ ระบุวนั ทีใ่ ส่ ... เครอ่ื งช่วยหายใจ * ไมไ่ ดร้ ับ * ไดร้ บั ระบชุ ่อื ยา ... การรกั ษา ไดร้ บั ยาตา้ นไวรสั ขนาดที่ไดร้ บั วันท่เี รมิ่ ใหย้ า วนั ท่ีหยดุ ยา ... 4. ขอ้ มลู การตรวจทางหอ้ งปฏบิ ตั ิการ 4.1 CBC คร้ังที่ 1 : วนั ท่ี ผล Hb% Hct % WBCcell/ml Neutrophil% Lymphocyte% Atypical lymphocyte% Monocyte% Eosinophil% Platelet countcell/ml ครงั้ ที่ 2 : วันท่ีผล Hb% Hct% WBCcell/ml Neutrophil% Lymphocyte% Atypical lymphocyte% Monocyte% Eosinophil% Platelet countcell/ml 4.2 Sputum gram stain : วนั ที่ ............................... ผล ... 4.3 Sputum AFB คร้งั ที่ 1: วันที่ ............................... ผล ... ครัง้ ที่ 2: วันท่ี ............................... ผล ... ครงั้ ที่ 3: วันท่ี ............................... ผล ... 4.4 Sputum culture : วันท่ี ............................... ผล ... 4.5 Hemo-cuture : วนั ที่ ............................... ผล ... 95

4.6 CXR ครัง้ ท่ี 1 : วันท่ี ............................... ผล ... ครง้ั ท่ี 2 : วันที่ ............................... ผล ... คร้ังที่ 3 : วนั ท่ี ............................... ผล ... 4.7 Rapid test (สำ�หรับไข้หวัดใหญ่) : ระบุชือ่ ชุดทดสอบ ... วนั ที่ ............................... ผล ... 4.8 Rena function test : วันที่ ............................... ผล BUN Cr GFR. 4.9 Lever function test : วันท่ี ............................... ผล SGOT SGPT ALP. Total Bilirubin Direct Bilirubin. Total Protein Albumin Globulin. 5. การเก็บวตั ถตุ วั อย่างสง่ ตรวจทางห้องปฏิบตั กิ าร * ไมเ่ ก็บ * เกบ็ ระบตุ วั อยา่ งทีเ่ กบ็ ............................ * Nasopharyngeal swab * Throat swab/ Oropharyngeal swab วันทเี่ ก็บ ..................... วันทเี่ ก็บ ..................... * Nasopharyngeal swab + Throat swab/ Oropharyngeal swab ใน VTM วันท่ีเกบ็ ..................... * Nasopharyngeal aspirate ในภาชนะเกบ็ ตัวอยา่ งปลอดเช้อื * Nasopharyngeal wash ในภาชนะเก็บตัวอยา่ งปลอดเชือ้ วนั ท่เี กบ็ ..................... * เสมหะในภาชนะเกบ็ ตัวอยา่ งปลอดเชื้อ วนั ทเ่ี ก็บ ..................... * Tracheal suction วนั ทีเ่ ก็บ ..................... * ตวั อยา่ งเลือด วันท่ีเกบ็ ..................... ครั้งที่ 1 วนั ทเี่ กบ็ ............... ครัง้ ที่ 2 วนั ทเ่ี ก็บ ..................... (กรณสี ่งตรวจหา MERS-CoV ควรเก็บตวั อย่างเลอื ด 8 มล. และการเกบ็ ตัวอย่างคร้ังทส่ี องตอ้ งหา่ งจาก คร้งั แรก 14 - 21 วนั ) ส่งตรวจที่ วันทีส่ ่ง เพื่อตรวจหา. 6. การวนิ ิจฉัยเบ้อื งต้น ................................................................................................................................................ การวินิจฉยั คร้งั สดุ ท้าย ........................................................................................................................................... 7. กรณผี ู้ปว่ ยเสียชีวติ ได้ทำ�การผ่าพสิ ูจนศ์ พหรอื ไม่ * ไมท่ ำ� * ทำ� ผล .......................   ช่อื -สกลุ ผสู้ อบสวน หน่วยงาน .............................................................................................................................. หมายเลขโทรศัพทต์ ดิ ต่อ วนั ท่สี อบสวน ................................................................................................................. สง่ รายงานสอบสวนใหก้ ับสำ�นกั งานป้องกันควบคมุ โรคท่ี ............... เมือ่ วนั ที่ ........................................................... ส่งรายงานสอบสวนใหก้ บั สำ�นักระบาดวทิ ยาเมอ่ื วนั ที่ ............................................................................................ 96

8. การค้นหาผู้สัมผสั (รายช่อื ผสู้ ัมผัสใกล้ชิดในระยะป่วย ระบลุ ักษณะการสัมผสั ถ้ามีอาการปว่ ยกรณุ าระบุอาการด้วย) ท ่ี ชอ่ื -ส กลุ เพ ศ อา ย ุ ทีอ่ ย/ู่ วันท่สี ัมผัส ลกั ษณะก ารสมั ผสั ป่วย/ไมป่ ว่ ย การใสอ่ ุปกรณ์ เบอรโ์ ทรศพั ท ์ กรณีป่วย ระบุวันเริม่ ปว่ ยและอาการ ปอ้ งกนั 97

98 สว่ นที่ 2 การติดตามลักษณะอาการผูป้ ่วยหลังการสอบสวน อาการและ วนั แรกรบั วนั ทห่ี ลงั นอนโรงพยาบาล อาการแสดง 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 มี ไมม่ ี มี ไม่ม ี มี ไม่มี ม ี ไม่มี มี ไม่ม ี ม ี ไม่มี ม ี ไมม่ ี มี ไม่มี มี ไมม่ ี ม ี ไม่ม ี ม ี ไม่มี มี ไมม่ ี มี ไมม่ ี ไข้ (ระบุ Temp ํc) ไอ เจ็บคอ มีน�้ำ มกู มเี สมหะ หายใจล�ำ บาก หอบเหน่ือย ปวดกล้ามเนอื้ ปวดศีรษะ ถ่ายเหลว อุณหภูมริ า่ งกายสูงสดุ อุณหภมู ิร่างกายต่ำ�สดุ ชีพจรสงู สุด Oxygen sat