โรค/ เช้อื สาเหตุ อาการและอาการแสดง ระยะฟกั ตัว ระยะติดตอ่ การถ่ายทอดโรค โรคไอกรน ต้งั แต่เรม่ิ มอี าการ จากการรับเชอื้ ที่อยู่ใน (Whooping ผู้ป่วยจะมีอาการน�้ำมกู ไหล แน่นจมูก ประมาณ 6-20 วนั นำ้� มูกไหล จนถงึ ละอองเสมหะ นำ�้ มกู cough or ไอเล็กน้อย เหมอื นอาการหวดั ทวั่ ไป ทพี่ บบ่อย 7-10 วนั สัปดาห์ท่ี 3 น้�ำลายของผู้ป่วย หรอื Pertussis) ประมาณ 1-2 สปั ดาห์ ตอ่ มาจะมลี กั ษณะ ถ้าไม่ได้รบั การรกั ษา ผทู้ เ่ี ปน็ พาหะ เขา้ รา่ งกาย เชอื้ แบคทีเรยี ของไอกรน คอื มีอาการไอถ่ๆี ตดิ ต่อกัน อาจแพร่เชอื้ ได้เป็น ทางการหายใจ (Airborne Bordetella เป็นชุดๆ จนเดก็ หน้าเขยี วเพราะหายใจ เวลา 4-6 สปั ดาห์ transmission) จาก pertussis ไม่ทัน จึงหยุดไอ และมกี ารหายใจเข้า การไอ จามรดกัน ลึกๆ เป็นเสยี งวู๊ป (Whoop) สลบั กับ เชอื้ บาดทะยกั จะ โดยตรง (Droplets โรคบาดทะยกั การไอเป็นชุดๆ ซง่ึ ท�ำให้ผู้ป่วยขาด ไม่ติดต่อจากบคุ คล transmission) (Tetanus) อากาศหายใจ และเสยี ชวี ติ ได้โดยเฉพาะ หนึง่ ไปสู่อกี บคุ คล เช้อื แบคทเี รยี ในเด็กเลก็ อายตุ ่ำ� กว่า 6 เดอื น หน่งึ โดยตรง ส�ำหรบั ทารก Clostridium ทารกมักติดเชอ้ื ทาง tetani ในทารกแรกเกดิ อาการมักเร่มิ เม่อื ประมาณ 3-21 วนั สายสะดอื ทตี่ ดั ด้วย อายุประมาณ 4-10 วนั คอื เด็กดดู นม เฉลยี่ 8 วนั ข้นึ อยู่ กรรไกรหรอื ของมีคมท่ี ลำ� บาก หรือไม่ค่อยดดู นม ต่อมา กับส่งิ แวดล้อม ไม่สะอาด และการพอก ดูดนมไม่ได้เลย หน้าแบบย้มิ แสยะ ต�ำแหน่งของแผล สะดอื ด้วยยากลางบ้าน เดก็ อาจร้องคราง หลังจากนนั้ มอื และเชื้อโรคท่ีเข้าสู่ หรอื โรยด้วยแป้งท่อี าจ แขน ขาเกร็ง หลังแข็งและแอ่น ร่างกาย ปนเปือ้ นเชอื้ บาดทะยัก ซึง่ จะเปน็ มากขน้ึ ถ้ามีเสียงดงั โดยเฉพาะกรณที แ่ี ม่ หรอื จบั ต้องตวั และจะท�ำให้มอี าการ ไม่ได้รับวัคซนี ป้องกนั ชกั กระตุก หยดุ หายใจ หน้าเขยี ว บาดทะยักก่อนคลอด เป็นอันตรายถงึ ตายได้ ส�ำหรบั บุคคลทว่ั ไป ผู้ป่วยมกั ได้รบั เช้อื ในเด็กโต หรอื ผู้ใหญ่ อาการเริ่มแรก บาดทะยักผ่านทาง คอื ขากรรไกรแขง็ อ้าปากไม่ได้ บาดแผลทีผ่ ิวหนัง เช่น คอแขง็ หลังจากน้ี 1-2 วัน จะเร่มิ ถูกของมคี มสกปรกบาด มีอาการเกร็งแขง็ ในส่วนอ่นื ๆ ของ ทำ� ให้เกิดแผลลกึ ร่างกาย คอื หลัง แขน ขา หน้าแบบ โดยเฉพาะตะปู หรอื ย้ิมแสยะ ระยะต่อไปก็อาจจะมอี าการ มดี ทเ่ี ป็นสนมิ ซ่ึงมกั จะ กระตกุ หยดุ หายใจ และเสยี ชวี ติ ได้ มีเชือ้ บาดทะยกั ตดิ อยู่ บาดแผลทปี่ นเปื้อนดนิ หรอื บาดแผลทถ่ี กู สุนขั หรือแมวกดั เปน็ ต้น 50 หมวดเนอื้ หาที่ 2: โรคตดิ ต่อทีป่ ้องกนั ไดด้ ว้ ยวัคซีนและวัคซีนพนื้ ฐาน
โรค/ เชอื้ สาเหตุ อาการและอาการแสดง ระยะฟกั ตวั ระยะตดิ ต่อ การถ่ายทอดโรค โรคโปลิโอ หรือ สามารถตรวจพบเชอ้ื จากการรับเชอ้ื ที่ ไขไ้ ขสนั หลัง ผปู้ ่วยทม่ี อี าการไม่รุนแรง เช้อื น้จี ะอยู่ในลำ� ไส้ ในล�ำคอประมาณ ปนเปือ้ นมากบั อจุ จาระ อกั เสบ (Abortive case หรอื Minor illness) ของคน ระยะฟักตัว 1-2 สัปดาห์ และใน ของผู้ป่วยเข้าทางปาก (Poliomyelitis) จะมไี ข้ตำ�่ ๆ เจ็บคอ อาเจยี น ปวดท้อง ของผู้ท่ีมีอาการ อจุ จาระประมาณ (Fecal-oral route) เชอ้ื ไวรัส เบื่ออาหาร และอ่อนเพลยี ผู้ป่วยกลุ่ม ไม่รุนแรง ประมาณ 1-2 เดอื น ภายหลัง ในประเทศอตุ สาหกรรม Poliovirus นจี้ ะหายเป็นปกตใิ นเวลา 3-4 วนั 3- 6 วนั และ การติดเช้ือ ผู้ป่วยจงึ ที่มสี ขุ าภบิ าลและอนามยั Type 1, 2, 3 โดยไม่มอี าการอมั พาต ระยะฟักตัวของ สามารถแพร่เชื้อได้ ส่วนบคุ คลดี การตดิ ต่อ ผู้ป่วยท่เี ป็นอมั พาต ตั้งแต่เรมิ่ มอี าการไป ส่วนใหญ่จะเปน็ แบบ โรคหัด ผปู้ ่วยทีม่ อี าการเย่อื หุม้ สมอง อยู่ระหว่าง จนถึงหลายสปั ดาห์ Oral-oral route โดยเช้อื (Measles) อักเสบ จะมอี าการคล้าย Abortive 1- 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีเช้ืออยู่ เพ่มิ จำ� นวนในล�ำคอ หรอื เชอ้ื ไวรสั case แต่จะตรวจพบอาการคอแข็ง แต่อาจนานถงึ จำ� นวนมากท่ลี �ำคอ ทางเดินอาหารส่วนบน Measles virus ปวดศรี ษะ ปวดกล้ามเนอ้ื 5 สปั ดาห์ หรอื สนั้ และในอุจจาระ และถกู ขบั ออกมาทาง เพยี ง 3-4 วัน กไ็ ด้ ปาก ปนเปือ้ นมอื ท่ีหยิบ ผปู้ ว่ ยทเี่ ปน็ อมั พาต จะมอี าการ 2 ระยะ 1-2 วันก่อนเร่มิ มี จับอาหารเข้าปากของอกี ระยะแรกคล้าย Abortive case เป็น อาการ หรอื 3-5 วัน คนหน่งึ 3-4 วัน หายไป 3-4 วัน เร่มิ มไี ข้กลบั ก่อนผ่นื ข้นึ ถงึ มาใหม่ พร้อมอาการปวดกล้ามเนอ้ื 4-5 วัน หลงั ผน่ื ขึ้น จากการรบั เชอื้ ทอ่ี ยู่ใน กล้ามเนอ้ื เกรง็ แล้วจะมอี าการ (4 วนั ก่อน ถงึ 4 วัน ละอองเสมหะ นำ้� มูก อมั พาตเกดิ ขน้ึ และจำ� นวนกล้ามเน้อื หลงั ผืน่ ขึน้ ) น้�ำลายของผู้ป่วย ที่มีอมั พาตเพิม่ อย่างรวดเร็ว มกั เกดิ ผ่านทางการหายใจ เตม็ ทภ่ี ายใน 48 ชัว่ โมง โดยพบท่ขี า (Airborne or droplets มากกว่าแขน และเป็นข้างเดยี ว transmission) หรอื (Unilateral) มากกว่า 2 ข้าง การสัมผสั สารคัดหลัง่ (Asymmetry Unilateral) มักเป็น นำ้� มูก น�ำ้ ลาย ของ กล้ามเนื้อต้นขา หรอื ต้นแขนมากกว่า ผู้ป่วย (Direct contact) สว่ นปลาย และเปน็ แบบออ่ นปวกเปยี ก (Flaccid) หากเป็นอัมพาตของ กล้ามเน้อื กระบงั ลม ผู้ป่วยจะ หายใจเองไม่ได้ ท�ำให้เสยี ชวี ิต เรมิ่ ดว้ ยมไี ข้ นำ้� มกู ไหล ไอ ตาแดง ตาแฉะ ประมาณ หลังเรม่ิ มอี าการ 3-7 วัน จะมผี ่ืนข้ึน 8-12 วัน เฉลย่ี นูนแดง (Maculo-papular rash) โดยจะ จากวนั ทส่ี มั ผัส ข้นึ ท่หี น้าชดิ ขอบผม แล้วแผ่กระจายไป จนถงึ วนั ท่มี ผี ่นื ขึน้ ตามล�ำตัว แขน ขา จนทว่ั ตัว วันทผ่ี ืน่ ข้นึ ประมาณ 14 วนั มกั จะเป็นวันทไ่ี ข้ข้ึนสงู สุด เมื่อผน่ื แพร่ กระจายไปท่ัวตัว ซ่งึ กินเวลาประมาณ 2-3 วนั ไข้กจ็ ะเรม่ิ ลดลง ผน่ื ระยะแรก มีสีแดง และจะมสี เี ข้มขน้ึ เปน็ สีแดงคล�้ำ หรือนำ้� ตาลแดง ซง่ึ คงอยู่นาน 5-6 วัน กว่าจะจางหายไปหมดกนิ เวลาประมาณ 2 สปั ดาห์ และในระยะ 1-2 วันก่อนมผี ืน่ ขนึ้ จะตรวจพบจดุ ขาวๆ เลก็ ๆ ทเ่ี ย่อื บใุ น ช่องปาก หรอื กระพุ้งแก้มใกล้ฟนั กราม ล่าง เรยี กว่า Koplik’s spots หมวดเน้ือหาที่ 2: โรคตดิ ตอ่ ท่ีปอ้ งกันไดด้ ้วยวัคซนี และวัคซีนพนื้ ฐาน 51
โรค/ เชื้อสาเหตุ อาการและอาการแสดง ระยะฟักตวั ระยะติดต่อ การถ่ายทอดโรค โรคหัดเยอรมัน (Rubella) ปวดศรี ษะ มไี ขต้ ำ�่ ๆ และเจบ็ คอรว่ มดว้ ย ประมาณ 14-21 วนั ในช่วง 2-3 วัน จากการรบั เชอื้ ท่อี ยู่ใน เช้ือไวรัส ประมาณวันท่ี 3 จะมผี นื่ สชี มพูจางๆ เฉลีย่ 16-18 วัน ก่อนมีผื่นขน้ึ จนถงึ ละอองเสมหะ นำ้� มูก Rubella virus กระจายห่างๆ แบบ Macular rash 7 วนั หลังมผี น่ื น�้ำลายของผู้ป่วย โดยเร่ิมข้นึ ตามใบหน้า และจะ ผ่านทางการหายใจ โรคคางทูม กระจายไปทวั่ ตัวอย่างรวดเรว็ ภายใน ทารกที่เปน็ จากการไอ จาม (Mumps) 24 ชวั่ โมง และจะหายไปใน 1-2 วัน Congenital rubella (Droplets transmission) เชื้อไวรัส อาการส�ำคญั ท่ชี ่วยบ่งชลี้ ักษณะของ syndromes จะมเี ชื้อ หรอื การสัมผสั สารคัด Mumps virus โรคน้ี คือ ต่อมน้�ำเหลืองทห่ี ลังหู ไวรัสอยู่ในล�ำคอ หลงั่ นำ�้ มกู นำ้� ลาย ของ ท้ายทอย และด้านหลงั ของลำ� คอโต และขับถ่ายออกมา ผู้ป่วย (Direct contact) และเจ็บ ทางปัสสาวะได้นาน หรือจากการได้รับเชอ้ื ถงึ 1 ปี ซง่ึ อาจแพร่ จากแม่ขณะตง้ั ครรภ์ ทารกท่ีติดเชอ้ื จากมารดาในระหว่าง เชื้อสู่ผู้อื่นได้ ตง้ั ครรภ์ โดยเฉพาะในไตรมาสแรก จะทำ� ให้ทารกทค่ี ลอดออกมามี ความพกิ ารทางหู ตา หวั ใจ และสมอง (Congenital rubella syndromes) ช่วง 1-3 วันแรก มีไข้ ปวดและบวม ประมาณ 2 วนั ก่อนท่ผี ู้ป่วยจะ จากการหายใจเอา ที่ต่อมนำ้� ลาย ซง่ึ ส่วนใหญ่เป็นท่ี 16 -18 วนั แสดงอาการ จนถงึ วนั ละอองฝอยที่มเี ชือ้ ซึ่งอยู่ ต่อมนำ้� ลายหน้าหู แล้วลกุ ลามไปท่ี ที่ 5 หลงั ต่อมนำ�้ ลาย ในลำ� คอและนำ�้ ลายของ ต่อมน้�ำลายใต้ล้นิ / ใต้ขากรรไกร บวมโต ผู้ป่วยทีไ่ อ หรอื จามออก โดยมีอาการน�ำ คอื รู้สึกปวดในหู มา (Airborne or droplets หรอื หลังหู ขณะเคย้ี ว หรอื กลืน transmission) และการ อาหาร ต่อจากนน้ั จะพบว่าบรเิ วณข้าง สมั ผัสกบั น้�ำลายของ หู หรือขากรรไกรมอี าการปวด บวม ผู้ป่วย เช่น การใช้ภาชนะ แดง ร้อน จนไม่สามารถเค้ยี ว หรอื ร่วมกนั (Direct contact) อ้าปากได้ถนดั มักเป็นข้างใดข้างหนง่ึ (ข้างที่ปวดห)ู จะบวมเต็มทใ่ี น 48 ช่วั โมง และต่อมนำ�้ ลายอีกข้างหน่งึ จะบวมในอกี 2 วนั ต่อมา อาจเกดิ ลูก อัณฑะอักเสบในผู้ชายท่เี ข้าสู่วัยเจริญ พันธุ์ ซง่ึ ทำ� ให้เป็นหมนั ได้ และรังไข่ อกั เสบในผู้หญงิ โรคแทรกซ้อนที่สำ� คัญ ได้แก่ เยอื่ หุ้มสมองอักเสบ สมองอกั เสบ หหู นวก เส้นประสาทหูอักเสบ 52 หมวดเนอ้ื หาท่ี 2: โรคติดตอ่ ที่ป้องกนั ได้ด้วยวัคซนี และวัคซีนพ้นื ฐาน
โรค/ เชือ้ สาเหตุ อาการและอาการแสดง ระยะฟกั ตวั ระยะติดต่อ การถ่ายทอดโรค โรคไขส้ มอง ส่วนใหญ่มักไม่มีอาการ (Inapparent ประมาณ 2-15 วนั เชื้อโรคทีเ่ ป็นระยะ ติดต่อจากการถกู อกั เสบเจอี infection) ในรายทร่ี ุนแรงจะเป็น หลงั จากถกู ยุงท่มี ี ตดิ ต่อจะเกดิ ข้ึนใน ยุงรำ� คาญ Culex (Japanese สมองอกั เสบ โดยมไี ข้สูง ปวดเมอ่ื ย เชอื้ กัด ผู้ป่วยช่วงท่เี รม่ิ มี tritaeniorhynchus encephalitis) อ่อนเพลยี ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจยี น อาการจนถงึ วนั ที่ 5 ท่ีตดิ เชื้อกดั โดยยุงรบั เชอ้ื ไวรสั ระยะนใ้ี ช้เวลาประมาณ 1-6 วัน ของการเกดิ โรค เช้ือจากสตั ว์ท่เี ปน็ แหล่ง Japanese B ต่อมาเรมิ่ มอี าการระคายเคอื งของ เม่ือยุงมากัดและดูด รงั โรค โดยมหี มทู ีเ่ ป็น encephalitis เยือ่ หุ้มสมอง มกี ารเปล่ยี นแปลงของ เลอื ดจากผู้ป่วยแล้ว แหล่งรังโรคทส่ี �ำคญั virus ระดบั ความรู้สกึ ตวั ซมึ คอแข็ง เชือ้ โรคจึงจะพัฒนา และมีนกบางชนดิ ทอี่ ยู่ หลงั แข็ง มอี าการเกรง็ ชักกระตกุ เปน็ ระยะติดต่อในยงุ ในวงจรการแพร่กระจาย ผู้ป่วยทม่ี อี าการรุนแรงมากจะเสยี ชวี ติ ใช้เวลาประมาณ ของไวรสั ด้วย ประมาณวนั ท่ี 7-9 ถ้าพ้นระยะน้ี 8-11 วัน และพร้อมท่ี จะผ่านเข้าระยะฟื้นตัว ผู้ป่วยทห่ี าย จะถ่ายทอดเชอ้ื โรคไป แล้วประมาณร้อยละ 60 จะมคี วาม ยงั คนต่อไป พิการเหลืออยู่ เช่น อัมพาตแบบ แขง็ เกร็งของแขนขา พฤตกิ รรม เปลย่ี นแปลง สตปิ ัญญาเส่อื ม จึงเป็น โรคท่มี คี วามส�ำคญั ทางการแพทย์และ สาธารณสุข โรคมะเรง็ ผู้ที่ติดเชอ้ื ส่วนใหญ่ไม่มอี าการและ การตดิ เชอ้ื HPV ตลอดเวลาทต่ี ิดเชอื้ ติดต่อทางเพศสมั พันธ์ ปากมดลกู / หายได้เอง มเี พยี งส่วนน้อยท่ีการตดิ ในระยะแฝงใช้เวลา Human papillomavirus (Sexually transmission) (Cervical cancer) เชือ้ คงอยู่นาน (Persistent infection) อย่างน้อย 20 ปี ทอ่ี วยั วะสบื พันธุ์ เม่อื มเี พศสมั พนั ธ์กับ เชื้อไวรัส และพฒั นาไปสู่รอยโรคก่อนมะเร็ง ในการพฒั นาไปสู่ ผู้ทมี่ ีเชือ้ เอชพวี ที อี่ วยั วะ Human ปากมดลกู (Cervical intraepithelial รอยโรคก่อนมะเร็ง สบื พนั ธุ์ นอกจากน้ยี งั papillomavirus: neoplasia: CIN) หรอื ก่อนเปน็ มะเรง็ ปากมดลูก ซง่ึ ช่วง สามารถถ่ายทอดเช้อื HPV ในที่สดุ เวลาของการตดิ เชอื้ จากแม่สู่ลกู ขณะคลอด ระยะแฝงระหว่าง ท�ำให้เกิดโรคหดู ในเดก็ ผู้ป่วยมะเร็งปากมดลกู ในระยะแรก การติดเช้อื คงอยู่ ทารก เช่น หูดในกล่อง มกั ไม่พบอาการผดิ ปกติ แต่มีความ นาน (Persistent เสยี ง ผดิ ปกตขิ องเซลล์เย่อื บุปากมดลูกที่ HPV infection) และ สามารถตรวจพบได้จากการตรวจ พฒั นาไปเปน็ Low คดั กรองมะเรง็ ด้วยวธิ ี Pap smear grade cervical หากไม่ได้รบั การรกั ษาท่เี หมาะสม dysplasia จะใช้ เซลล์ผิดปกตดิ งั กล่าวจะกลายเป็น เวลาประมาณ 5 ปี มะเร็งปากมดลูกระยะลกุ ลาม อาการ และระหว่าง Low ทพ่ี บ คอื มเี ลอื ดออกผิดปกตทิ างช่อง grade lesions ไป คลอด เช่น เลอื ดออกกะปริบกะปรอย สู่ Invasive cancer เลอื ดออกหลงั มเี พศสมั พนั ธ์ มีตกขาว จะใช้เวลาประมาณ ปนเลอื ด เปน็ ต้น และมอี าการขาบวม 15 ปี ปวดหลัง ก้นกบและต้นขา ปสั สาวะ หรอื ถ่ายอจุ จาระเปน็ เลอื ด เปน็ ต้น หมวดเนอ้ื หาที่ 2: โรคตดิ ต่อทปี่ อ้ งกันได้ดว้ ยวัคซนี และวคั ซีนพืน้ ฐาน 53
โรค/ เชอื้ สาเหตุ อาการและอาการแสดง ระยะฟักตัว ระยะติดตอ่ การถ่ายทอดโรค โรคไขห้ วัดใหญ่ ผู้ป่วยมักมีไข้สงู ไอ เจ็บคอ คดั จมกู ระยะฟักตัว ตั้งแต่ 1 วัน ก่อนเร่มิ มี การหายใจเอาละออง (Influenza) นำ�้ มกู ไหล ปวดเมอ่ื ยตามตวั บางราย 2-7 วนั แล้วแต่ อาการจนถงึ ประมาณ ฝอยท่ีมีเช้ือซ่งึ ผู้ป่วยไอ เช้ือไวรัส อาจมีอาการถ่ายเหลว อาเจยี น สายพนั ธ์ุของไวรสั 5 วัน หลงั เรม่ิ มี หรอื จามออกมา Influenza virus อาการ (Droplets transmission) ภาวะแทรกซ้อนทพ่ี บบ่อยได้แก่ ปอด หรอื การสมั ผัสโดยตรง ตดิ เช้ือ หูชน้ั กลางติดเช้อื ไซนัสอกั เสบ กับสารคดั หล่ังของทาง รวมถงึ อาจทำ� ให้อาการทางคลนิ กิ เดมิ เดินหายใจ และมาสัมผัส เลวลง เช่น ภาวะหวั ใจล้มเหลว หอบ กับเยอื่ บตุ า จมูก หรอื หดื และเบาหวาน ปาก นอกจากนี้อาจพบภาวะแทรกซ้อนท่ี พบได้ไม่บ่อยทางระบบประสาท ได้แก่ สมองอกั เสบ หรอื อาจพบกลุ่มอาการ Gullian-Barre Syndrome ได้ โรคติดเชือ้ อาการและอาการแสดงตามระบบ หรอื 2-4 วนั ตั้งแต่ตรวจพบเช้อื การหายใจเอาละออง ฮิโมฟิลสุ อวยั วะท่เี ชอื้ ฮบิ เข้าไปก่อโรค โดยโรคท่ี ในจมกู หรอื ล�ำคอ ฝอยท่มี ีเชอื้ ซงึ่ อยู่ใน อนิ ฟลเู อนเซ่ ทยั ปบ์ ี พบบ่อย ได้แก่ โรคเยอ่ื หุ้มสมองอกั เสบ ซ่ึงอาจตรวจพบได้ ล�ำคอและนำ้� ลายของ (Haemophilus โรคปอดอกั เสบ ภาวะตดิ เชอื้ ในกระแสเลอื ด แม้ว่าจะไม่มนี ้�ำมูก ผู้ป่วยที่ไอ หรอื จามออก influenzae type โรคข้ออกั เสบ และโรคหชู น้ั กลางอกั เสบ แล้วก็ตาม มา (Droplets transmission) b disease (Hib)) ทง้ั น้ีอาการของโรคต่างๆ มกั ไม่ต่างจาก หรอื โดยการสมั ผัส เชอ้ื แบคทเี รยี การติดเชือ้ แบคทเี รียอ่นื ดังน้ี โดยตรงกับสาร คัดหลงั่ Haemophilus โรคเย่ือหุ้มสมองอกั เสบจากเชอื้ ฮบิ ของทางเดินหายใจ influenzae type b มกั มอี าการไข้สูง ปวดศรี ษะ อาเจยี น ซึม คอแข็ง เด็กท่รี อดชีวิตมักมคี วาม พิการทางระบบประสาท หรอื มภี าวะ หหู นวกตามมา ภาวะติดเช้ือในกระแสเลอื ด ผู้ป่วยมี อาการไข้สงู ซมึ ลง เบอ่ื อาหาร อาจ เกิดอาการช๊อคจากการตดิ เชื้อ โรคปอดอักเสบจากเชือ้ ฮิบ ผู้ป่วยมี อาการมไี ข้ ไอมเี สมหะ หายใจหอบ เหน่ือย ซมึ เปน็ ต้น โรคอุจจาระร่วง โรคจากไวรสั โรต้ามักเกดิ ในทารกและ ภายใน ผู้ป่วยสามารถขับเช้อื เช้อื ไวรัสโรต้าท่ถี ูกขบั จากไวรสั โรต้า เดก็ อายตุ �ำ่ กว่า 5 ปี โดยทำ� ให้เกดิ 24-72 ชั่วโมง ไวรสั โรต้าออกมา ออกมากับอจุ จาระของ (Rotavirus อาการท้องเสยี อาเจยี น เกดิ ภาวะขาด กบั อุจจาระได้นาน ผู้ป่วย จะถ่ายทอดไปยงั diarrhea) สารน้�ำและเกลือแร่ บางรายอาจมี ประมาณ 8 วนั หลงั บุคคลอื่นโดยการรบั เชอ้ื เช้อื ไวรัส อาการปวดท้องและไข้ อาการท้องเสยี ติดเช้ือ และอาจขบั ทเ่ี ข้าทางปาก Rotavirus ส่วนใหญ่มลี กั ษณะถ่ายเหลวเป็นน้�ำ ออกมาได้นานถงึ (Fecal-oral transmission) อาจมีมกู ปนได้บ้างแต่ไม่มเี ลือดปน 30 วัน ในผู้ท่มี ี บางครง้ั พบไวรัสอยู่ เกดิ ภาวะขาดสารน�ำ้ ลักษณะของ ภมู คิ ุ้มกนั บกพร่อง ตามผวิ สัมผัสของเล่น อจุ จาระอาจมกี ล่ินเปรย้ี ว เพราะไวรัส เม่ือเด็กหยบิ เข้าปากอาจ ทำ� ลายเซลล์ชน้ั บนของเย่อื บุล�ำไส้เลก็ ตดิ เช้อื รวมถงึ อาจ ซงึ่ ท�ำหน้าท่ผี ลติ แลคเตส (Lactase) ตดิ เชอ้ื ผ่านการสมั ผัส ท่เี ป็นเอนไซม์ย่อยน้�ำตาลแลคโตสในนม ใกล้ชดิ ได้ด้วย ดังนนั้ เมือ่ เด็กขับถ่ายนมทม่ี ีแลคโตสท่ไี ม่ ย่อยออกมาจะมสี ภาพอุจจาระเปน็ กรด และทำ� ให้อจุ จาระเหลวเปน็ น้�ำ เด็กทมี่ ี อาการรนุ แรง อาจมภี าวะขาดน้�ำจนเกิด ภาวะชอ็ คและเสยี ชวี ิตได้ 54 หมวดเนื้อหาท่ี 2: โรคติดตอ่ ทีป่ ้องกนั ไดด้ ้วยวคั ซีนและวคั ซีนพน้ื ฐาน
3. วคั ซนี ที่ใช้ในแผนการสร้างเสรมิ ภูมิคมุ้ กนั โรคของกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสขุ ไดก้ ำ� หนดวคั ซนี พน้ื ฐานทป่ี ระชาชนทกุ คนควรไดร้ บั โดยเนน้ วคั ซนี ปอ้ งกนั โรคทเี่ ปน็ ปญั หาสำ� คญั ซง่ึ ในปจั จบุ นั ประกอบดว้ ยวคั ซนี วณั โรค (BCG) ตบั อกั เสบบี (HB) คอตบี -บาดทะยกั -ไอกรน-ตบั อกั เสบบี (DTP-HB) คอตบี -บาดทะยกั -ไอกรน (DTP) โปลิโอ(OPV/ IPV) หดั -คางทมู -หัดเยอรมนั (MMR) ไข้สมองอกั เสบ เจอี (LAJE) คอตบี -บาดทะยกั (dT) มะเรง็ ปากมดลกู (HPV) และไขห้ วดั ใหญ่ (Influenza) โดยกระทรวงสาธารณสขุ จดั ระบบบรกิ ารเพอ่ื ใหก้ ลมุ่ เปา้ หมายในประเทศทกุ คนไดร้ บั วคั ซนี ตามทกี่ ำ� หนด และใหส้ ถานบรกิ ารสาธารณสขุ ของรฐั เปน็ หนว่ ยบรกิ ารหลกั ดงั มรี ายละเอยี ดเกยี่ วกบั คณุ สมบตั ขิ องวคั ซนี แตล่ ะชนดิ รวมทงั้ ขนาดและวธิ กี ารใช้ ในตารางท่ี 2.3 และภาพแสดงตัวอย่างของวคั ซนี แต่ละชนดิ ดังภาพท่ี 2.1-2.14 นอกจากน้ียังมีวัคซีนที่ได้รับค�ำแนะน�ำจากคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ให้น�ำมาใช้ใน อนาคตอันใกล้ เช่น วัคซีนรวมคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี-ฮิบ (DTP-HB-Hib) วัคซีนป้องกัน อจุ จาระรว่ งจากไวรสั โรตา้ (RV) รวมถงึ ไดร้ เิ รมิ่ ใหข้ ยายขอบเขตการใหบ้ รกิ ารวคั ซนี ไปยงั ประชาชนกลมุ่ วยั ผใู้ หญ่ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคท่ีครอบคลุมชนิดของวัคซีนมากข้ึน เช่น วคั ซีนคอตบี -บาดทะยัก-ไอกรนชนดิ ไร้เซลล์ (Tdap) ในหญิงตง้ั ครรภ์ วัคซนี หัด-หัดเยอรมนั (MR) ในบุคลากร ทางการแพทย์ และคอตบี -บาดทะยัก (dT) เข็มกระตุ้นในวยั ผู้ใหญ่ ดังรายละเอยี ดในตารางที่ 2.4 หมวดเน้อื หาที่ 2: โรคตดิ ตอ่ ทป่ี ้องกนั ได้ด้วยวคั ซีนและวัคซนี พ้ืนฐาน 55
ภาพตวั อยา่ งวัคซีนที่ใช้ในแผนงานสรา้ งเสริมภมู คิ ุ้มกนั โรคของประเทศไทย ภาพที่ 2.1 วัคซีนปอ้ งกันวัณโรค ภาพท่ี 2.2 วคั ซีนไวรสั ตับอักเสบบี ภาพที่ 2.3 วคั ซีนรวม คอตีบ- (BCG vaccine) (HB) บาดทะยกั -ไอกรน- ตบั อักเสบบี (DTwP-HB) ภาพท่ี 2.4 วคั ซีนรวมคอตบี - ภาพที่ 2.5 วัคซนี รวมคอตีบ- ภาพท่ี 2.6 วัคซีนรวมหดั -คางทมู - บาดทะยกั -ไอกรน บาดทะยกั ส�ำหรับเดก็ โต หดั เยอรมัน (MMR) (DTwP) และผู้ใหญ่ (dT) ภาพที่ 2.7 วัคซนี ไข้สมองอกั เสบเจอี ภาพที่ 2.8 วัคซนี ไขส้ มองอกั เสบเจอี ภาพที่ 2.9 วัคซีนโปลิโอชนดิ ชนดิ เช้ือเปน็ ออ่ นฤทธิจ์ าก ชนดิ เชอ้ื เป็นออ่ นฤทธ์ิ รับประทาน (OPV) เซลลเ์ พาะเลยี้ ง ชนดิ Chimeric (LAJE-CD-JEVAX) (LAJE-Thaijev) ภาพที่ 2.10 วัคซนี โรต้า (RV) ภาพท่ี 2.11 วคั ซนี มะเร็งปากมดลกู (HPV) ภาพที่ 2.12 วคั ซีนมะเร็งปากมดลูก ภาพที่ 2.13 วัคซีนรวม คอตีบ- ชนดิ ห้าสายพนั ธ์ุ (Pentalent RV) บาดทะยัก-ไอกรน- ชนิดสองสายพนั ธ์ุ ตับอักเสบบี-ฮิบ (Bivalent HPV) (DTwP-HB-Hib) ชนิดสส่ี ายพันธ์ุ (Quadrivalent HPV) ภาพที่ 2.14 วคั ซีนไข้หวดั ใหญ่ (Influenza vaccine) 56 หมวดเนือ้ หาที่ 2: โรคตดิ ต่อท่ปี ้องกนั ไดด้ ้วยวัคซนี และวัคซีนพ้นื ฐาน
ตารางที่ 2.3 รายละเอียดของวัคซนี ท่ีใช้ในแผนงานสร้างเสรมิ ภมู คิ มุ้ กันโรคของกระทรวงสาธารณสขุ วัคซีน/ ประเภทของ ขนาดบรรจุ ขนาดและวธิ ีใช้ บุคคล/ อายุท่ี ปฏิกิรยิ าจาก ข้อควรระวงั / ข้อหา้ ม ภมู ิคุ้มกนั ท่ีเกดิ ขึ้น การเก็บวัคซนี วัคซีน ชนิดผงแห้ง BCG ของ QSMI ควรได้รับ การได้รับวคั ซีน ห้ามฉีด BCG ใน ความต้านทานต่อ วคั ซีนทีย่ ังไม่ผสม ควร BCG ของ ปฏกิ ิริยาเฉพาะท:่ี 1) ผทู้ มี่ ภี มู คิ มุ้ กนั บกพรอ่ ง บซี จี ี ใช้ขนาด 0.1 มล. เด็กแรกเกดิ เปน็ ฝีในชนั้ ใต้ เช้อื วัณโรคจะเกดิ เตม็ ท่ี เกบ็ ไว้ท่อี ุณหภมู ิ +2 ถงึ (BCG) สถานเสาวภา ฉีดเข้าในหนัง รวมทง้ั ทารก ผิวหนัง ต่อม รวมถงึ ผู้ท่ไี ด้รบั ยากด ประมาณ 2 เดอื น +8 ๐C หรอื ช่องแช่แขง็ : แบคทเี รยี สภากาชาดไทย ทเี่ กดิ จาก น�ำ้ เหลอื งโต ภูมคิ ุ้มกนั เช่น หลังได้รบั วคั ซนี (ตวั ท�ำละลายห้ามเกบ็ เช้ือเป็นอ่อนฤทธ์ิ (QSMI) บรรจุ (ID) บรเิ วณ มารดาติดเชือ้ เฉพาะท่ี และ สเตียรอยด์ ยกเว้น มปี ระสิทธภิ าพดตี ่อ ในช่องแช่แข็ง เพราะจะ ขวดละ 10 โด๊ส ต้นแขนส่วนบน HIV Osteitis ผู้ทตี่ ดิ เชอื้ เอชไอวี การป้องกันวัณโรค ท�ำให้แตกได้) ต�่ำกว่าหวั ไหล่ ปฏิกริ ยิ า ถ้าไม่ได้รบั วัคซนี ระยะแรกในเด็ก ไม่ควรให้ถูกแสง ทั่วร่างกาย: เมอ่ื แรกเกิดสามารถ โดยเฉพาะวณั โรค เพราะจะท�ำให้เส่ือม Disseminated ให้วัคซีนได้ถ้ายงั เยอ่ื หุ้มสมอง สภาพเร็ว fatal infection ไม่มีอาการ (TB meningitis) และ BCG ของ QSMI 2) หญิงตง้ั ครรภ์ วณั โรคชนดิ แพร่กระจาย ผสมแล้วควรใช้ให้หมด หมวดเนื้อหาท่ี 2: โรคตดิ ตอ่ ท่ปี อ้ งกันไดด้ ว้ ยวคั ซนี และวคั ซนี พื้นฐาน 57 3) ผู้ท่เี จบ็ ป่วยเฉยี บพลัน (Miliary TB) สามารถ ภายใน 2 ช่ัวโมง 4) มีแผลตดิ เชือ้ หรอื ป้องกันได้สูงถงึ ร้อยละ ระหว่างการใช้ต้อง แผลไฟไหม้บรเิ วณ 52-100 และป้องกัน เก็บวัคซนี ไว้ในตู้เย็น ท่ีจะฉีด วณั โรคปอดในผู้ใหญ่ หรือกระตกิ วคั ซีน ทม่ี ี ได้แตกต่างกัน อุณหภูมิ +2 ถงึ +8 ๐C ร้อยละ 0-80 และป้องกันแสง ตลอดเวลา หมายเหตุ หลังฉดี 1-2 วัน รอยนูนท่ีเกิดจากการฉีดวคั ซีนจะหายไป ทำ� ให้มองไม่เหน็ จดุ ฉดี วัคซนี แต่จะมีปฏกิ ริ ิยาของวคั ซนี ทอ่ี าจเป็นตุ่มนนู (Induration) อยู่ใต้ผวิ หนัง สังเกตไม่พบรอย แต่คล�ำได้ ต่อมา 2-3 สัปดาห์ บริเวณที่ฉีดวัคซีนจะเป็นรอยนูนแดง (Bluish-red pustule) โตขึ้นช้าๆ กลายเป็นฝีเม็ดเล็กและมีหัวหนอง ขนาดประมาณ 5-15 มม. จากนั้นจะเริ่มแตกเป็นแผลท่ีมีขอบรอบๆ ตรงกลางของรอยนูนแดงจะนุ่มลง แผลจะเป็นๆ หายๆ ระยะนี้ใช้เวลา 3-4 สัปดาห์ ในสปั ดาห์ท่ี 6-10 ขอบจะเริ่มหลดุ ลอก กลายเป็นแผลเปน็ แบนๆ ขนาด 3-7 มม. บางรายแผลอักเสบทเี่ กิดขึ้นอาจเป็นอยู่นาน 3 เดือน
58 หมวดเนอ้ื หาที่ 2: โรคติดต่อทป่ี อ้ งกนั ไดด้ ว้ ยวคั ซีนและวคั ซีนพน้ื ฐาน วัคซีน/ประเภท ขนาดบรรจุ ขนาดและ บุคคล/ ปฏกิ ริ ิยาจากการไดร้ ับวัคซีน ขอ้ ควรระวัง/ ภมู ิคุ้มกันทเี่ กดิ ขน้ึ การเก็บวคั ซนี ของวัคซนี ชนดิ น�้ำ วธิ ีใช้ อายุทค่ี วรไดร้ ับ ขอ้ ห้าม ภูมคิ ุ้มกันโรคจะเกดิ ข้นึ ควรเก็บไว้ทอี่ ณุ หภมู ิ 1 มล./ขวด ตับอกั เสบบี (2 โด๊ส/ขวด) 0.5 มล. เดก็ แรกเกดิ ทกุ คน ปฏิกริ ยิ าเฉพาะที่: ปวด บวม แดง กรณที ่ี 1 มารดาไม่เป็น ถงึ ระดบั ทีป่ ้องกนั โรคได้ +2 ถงึ +8 ๐C (HB): ในเด็ก ให้คร้งั ที่ 1 ภายใน ตำ� แหน่งทฉ่ี ีด ผู้ติดเชอ้ื ไวรสั ตับอักเสบบี หลงั การฉดี วัคซนี เขม็ ท่ี 2 และห้ามเก็บใน ไวรัสเชอ้ื ตาย 24 ชวั่ โมงหลังคลอด เรือ้ รงั และทารกแรกเกดิ วัคซีนเขม็ ท่ี 3 ถือเป็น ช่องแชแ่ ข็ง เพราะ (Recombinant ฉีดเข้า คร้งั ต่อๆ ไป ให้ ปฏกิ ริ ยิ าทว่ั ร่างกาย: ไข้ มีนำ�้ หนักน้อยกว่า การกระตุ้นให้ภมู คิ ุ้มกนั วคั ซนี จะเสอ่ื ม DNA vaccine) กล้ามเนือ้ วคั ซนี รวม DTP-HB ปฏิกริ ยิ าแพ้: Anaphylaxis 2,000 กรมั ให้วคั ซนี เข็ม โรคสูงขน้ึ และมภี มู ิคุ้มกัน คณุ ภาพทนั ทเี มอื่ (IM) แรกเมือ่ เดก็ มสี ขุ ภาพ ทปี่ ้องกนั โรคได้ร้อยละ แข็งตัว กรณีทีม่ ารดาเป็น แข็งแรงและอายุ 90-95 เปิดใช้แล้ว ควรเก็บ ผู้ตดิ เชอ้ื ไวรสั ตบั 1-2 เดอื นขึน้ ไป หรือ การให้วคั ซนี ชนดิ ไว้ไม่เกนิ 8 ชั่วโมง อักเสบบเี รือ้ รงั น้ำ� หนักตัว > 2,000 กรัม Recombinant อย่างเดยี ว ระหว่างการใช้ต้อง (โดยเฉพาะถ้าพบ ในทารกทีค่ ลอดจาก เก็บวคั ซนี ไว้ในตู้เย็น HBeAg เปน็ บวก) กรณีท่ี 2 มารดาเปน็ มารดาทเ่ี ป็นผู้ตดิ เช้อื ไวรสั หรอื กระตกิ วัคซีน ทารกควรได้รับ ผู้ติดเชื้อไวรสั ตบั อักเสบบี ตบั อักเสบบเี รอ้ื รงั ชนดิ ทีม่ ีอุณหภมู ิ +2 ถงึ Hepatitis B เรอ้ื รงั หรอื ไม่ทราบผล แพร่โรคได้สูง (HBeAg +8 ๐C Immunoglobulin เลอื ด ให้ฉดี วัคซีนทันที เปน็ บวก) สามารถป้องกนั (HBIG) ร่วมกับ หลังคลอดภายใน การตดิ เชอ้ื ได้ถงึ วัคซนี ถ้าไม่มี HBIG 12 ชัว่ โมง และให้ฉดี เขม็ ท่ี ร้อยละ 93 และถ้าให้ ควรให้วคั ซนี 2 เม่อื อายุ 1 เดอื น ร่วมกับ HBIG จะป้องกนั ได้ เรว็ ที่สดุ ภายใน โดยเขม็ ที่ 2 ห่างจากเขม็ ร้อยละ 98 12 ช่ัวโมงหลงั คลอด แรกอย่างน้อย 4 สัปดาห์ และเมอื่ เด็กอายุ จากนนั้ ฉดี วคั ซนี DTP-HB ครบ 1 เดอื น ตามกำ� หนด หลังจากนน้ั ให้ วัคซนี รวม DTP-HB ทอี่ ายุ 2, 4, 6 เดอื น
วัคซนี /ประเภท ขนาดบรรจุ ขนาดและ บุคคล/ ปฏิกริ ิยาจากการได้รับวัคซีน ขอ้ ควรระวัง/ ภูมิค้มุ กันทเี่ กิดขน้ึ การเกบ็ วคั ซนี ของวคั ซนี ชนดิ น้�ำ วธิ ีใช้ อายทุ ค่ี วรไดร้ บั ปฏิกิริยาเฉพาะท่:ี ปวด บวม แดง ข้อห้าม ภมู ิคุ้มกันต่อโรคคอตีบ ควรเก็บไว้ที่ 5 มล./ขวด เดก็ ทกุ คน คอตบี - (10 โดส๊ /ขวด) 0.5 มล. ครงั้ ที่ 1 ต�ำแหน่งท่ฉี ีด เกดิ ขึ้นภายใน ไม่ให้ในเด็กอายมุ ากกว่า และบาดทะยกั จะเกดิ อณุ หภูมิ +2 ถงึ บาดทะยัก- ฉีดเข้า อายุ 2 เดอื น 3-4 ชวั่ โมง หลงั ฉดี และเปน็ นาน 7 ปี และผู้ใหญ่ ประมาณ 2 สปั ดาห์หลัง +8 ๐C และหา้ มเกบ็ ไอกรน- ครั้งที่ 2 ไม่เกนิ 2 วนั ได้รับวัคซนี คร้งั แรก ในช่องแชแ่ ขง็ ตบั อักเสบบี กล้ามเนือ้ อายุ 4 เดอื น ปฏกิ ริ ิยาทว่ั ร่างกาย: ไข้ ร้องกวน ไม่ควรฉดี ในเด็กทีก่ ำ� ลัง ภูมคิ ุ้มกนั ต่อโรคคอตีบ เพราะวัคซนี จะ (DTwP-HB): (IM) คร้ังที่ 3 ชัก ซมึ คลน่ื ไส้ ป่วยเฉยี บพลนั หรอื กำ� ลงั ภายหลังได้รบั วคั ซนี ทมี่ ี เสื่อมคณุ ภาพทนั ที ท็อกซอยด์ อายุ 6 เดอื น อาเจยี น Encephalopathy Hypotonic มไี ข้สูง ส่วนประกอบของคอตบี เมื่อแข็งตวั แบคทีเรยี และ Hyporesponsive Episode: HHE 3 ครัง้ เท่ากบั ร้อยละ 95 เปิดใช้แล้ว ควรเก็บ ไวรสั เชื้อตาย (ตวั อ่อนปวกเปียกไม่ตอบสนอง) ข้อห้ามของการฉดี วัคซีน ภมู คิ ุ้มกนั ต่อโรคบาดทะยกั ไว้ไม่เกิน 8 ชว่ั โมง ปฏกิ ิริยาแพ้: Anaphylaxis และ ไอกรนทง้ั แบบ Whole cell ภายหลงั ได้รบั วัคซนี ระหว่างการใช้ต้อง หมวดเนื้อหาท่ี 2: โรคตดิ ตอ่ ท่ปี อ้ งกันไดด้ ว้ ยวคั ซนี และวคั ซนี พื้นฐาน 59 ปฏกิ ริ ิยาแบบ Arthus-like reaction (DTwP-HB) และ Acellular ที่มสี ่วนประกอบของ เกบ็ วคั ซนี ไว้ในตู้เยน็ คือ บวมแดงเฉพาะท่อี ย่างมาก (DTaP-HB) คอื การเกิด บาดทะยัก 3 ครงั้ เท่ากับ หรอื กระตกิ วคั ซีน ซ่ึงเกดิ จากวัคซนี บาดทะยัก แต่เกิด ภาวะ Encephalopathy ร้อยละ 100 ทม่ี ีอุณหภูมิ +2 ถงึ ได้น้อย เน่อื งจากเปน็ วัคซีนท่มี ัก ภายใน 7 วนั หลงั ฉดี ประสทิ ธิภาพในการ +8 ๐C ใช้ในเดก็ เลก็ ซง่ึ มักไม่ได้รับวคั ซนี DTP-HB หรอื DTP ป้องกันโรคไอกรนภายหลัง บาดทะยกั ซำ้� บ่อยๆ แต่ถ้าเปน็ ปฏกิ ริ ยิ า ได้รับวคั ซนี ทม่ี สี ่วน รูปแบบอื่น เช่น ไข้สูง ชัก ประกอบของไอกรนครบ HHE ร้องไห้ไม่หยดุ ไม่ใช่ 3 คร้งั เท่ากบั ร้อยละ 78 ข้อห้าม และอาจพิจารณา โดยภูมิคุ้มกนั จะค่อยๆ ใช้วคั ซีนชนดิ ไร้เซลล์แทน ลดลง และมภี มู ิคุ้มกัน โดยรวมนานประมาณ 5 ปี ไม่ควรฉดี DTP-HB ใน ภมู คิ มุ้ กนั ตอ่ โรคตบั อกั เสบบี ผู้ป่วยทมี่ ีโรคทางสมอง เชน่ เดยี วกบั วคั ซนี HB เพราะวัคซนี ไอกรนอาจไป กระตุ้นอาการทางสมอง ให้เลวลง หรอื กระตุ้นให้ ชักได้
60 หมวดเนอ้ื หาที่ 2: โรคติดต่อทป่ี อ้ งกนั ไดด้ ว้ ยวคั ซีนและวคั ซีนพน้ื ฐาน วัคซีน/ประเภท ขนาดบรรจุ ขนาดและ บคุ คล/ ปฏกิ ิรยิ าจากการได้รบั วัคซนี ข้อควรระวัง/ ภมู ิคุม้ กันที่เกดิ ข้นึ การเก็บวคั ซนี ของวัคซีน ชนิดน�้ำ วิธีใช้ อายทุ ่ีควรไดร้ บั ปฏกิ ิริยาเฉพาะที่: ปวด บวม แดง ขอ้ ห้าม ภมู คิ ุ้มกนั ต่อโรคคอตีบ ควรเก็บไว้ที่ 5 มล./ขวด DTwP ใช้ฉดี กระตุ้น คอตบี - (10 โดส๊ /ขวด) 0.5 มล. ครัง้ ท่ี 1 อายุ 18 เดอื น ต�ำแหน่งทฉ่ี ีด ห้ามฉีด DTwP และ DTaP หลังได้รบั วัคซนี คอตีบเข็ม อุณหภมู ิ +2 ถงึ บาดทะยัก- ฉดี เข้า ครั้งที่ 2 อายุ 4 ปี ปฏิกิรยิ าทวั่ ร่างกาย: ไข้ ชัก ซมึ ในเด็กอายมุ ากกว่า 7 ปี กระตุ้นครบ 2 ครง้ั เท่ากับ +8 ๐C และหา้ ม ไอกรน และผู้ใหญ่ เพราะอาจ ร้อยละ 98 และ ภมู คิ ุ้มกนั เก็บในช่องแช่แข็ง (DTwP): กล้ามเน้อื คลื่นไส้ อาเจยี น Encephalopathy, มปี ฏิกริ ิยารุนแรงจาก ต่อโรคคอตบี จะอยู่นาน เพราะวคั ซนี จะ ทอ็ กซอยด์และ (IM) HHE วคั ซนี ไอกรนและปรมิ าณ เกิน 10 ปี เส่อื มคณุ ภาพทนั ที แบคทเี รียเชือ้ ปฏกิ ริ ยิ าแพ้: Anaphylaxis และ แอนติเจนท่สี ูงของ คอตีบ ภูมคิ ุ้มกันต่อโรคบาดทะยกั เม่อื แขง็ ตัว ตาย ปฏิกริ ยิ าแบบ Arthus-like reaction หลงั ได้วัคซนี เขม็ กระตุ้น เปิดใช้แล้ว ควรเกบ็ คือ บวมแดงเฉพาะท่อี ย่างมาก หากมไี ข้สูง ชกั หลงั ฉดี ครบ 2 ครงั้ ภูมคิ ุ้มกันต่อ ไว้ไม่เกนิ 8 ชัว่ โมง DTwP เข็มก่อน ให้กนิ ยา โรคคอตบี จะอยู่นานเกนิ ระหว่างการใช้ต้อง ลดไข้หลังฉดี 10 ปี เก็บวคั ซนี ไว้ในตู้เย็น ประสิทธภิ าพในการ หรือกระตกิ วคั ซนี ถ้ามีอาการทางสมอง ป้องกนั โรคไอกรน ร้อยละ ท่ีมอี ณุ หภูมิ +2 ถงึ (Encephalopathy) ภายใน 75-90 +8 ๐C 7 วนั หลงั ฉดี วัคซีน ให้ งดการฉดี วคั ซนี ทมี่ ีส่วน ประกอบของไอกรน คอตบี - ชนิดน�ำ้ 0.5 มล. ฉีดในนักเรียน ปฏิกิรยิ าเฉพาะท:ี่ ปวดบวม แดง ให้ระมัดระวังในผู้ทเ่ี คยมี ภมู คิ ุ้มกันต่อโรคคอตบี ควรเก็บไว้ที่ บาดทะยัก 5 มล./ขวด ฉีดเข้า ช้ัน ป.6 ทุกคน ต�ำแหน่งทฉ่ี ีด อาการของ Guillain-Barré และบาดทะยักจะเกดิ อณุ หภมู ิ +2 ถงึ (dT): (10 โดส๊ /ขวด) syndrome (GBS) ภายใน ประมาณ 2 สปั ดาห์ หลัง +8 ๐C และห้าม ท็อกซอยด์ กล้ามเน้อื ฉีดในหญงิ มคี รรภ์ ปฏิกิริยาทั่วร่างกาย: ไข้ แต่พบได้ 6 สัปดาห์ ภายหลังได้รับ ได้รับวัคซนี ครงั้ แรก เมอื่ เกบ็ ในชอ่ งแชแ่ ข็ง (IM) 3 คร้ัง ระยะห่าง น้อย วคั ซนี ทมี่ สี ่วนประกอบของ ได้รับวคั ซนี ครบ 3 ครง้ั จะ เพราะวัคซนี จะ 0, 1, 6 เดอื น Tetanus toxoid มภี มู คิ ุ้มกนั ต่อโรค คอตบี เส่อื มคุณภาพทนั ที ปฏิกิริยาแพ้: Anaphylaxis และ และบาดทะยกั เท่ากับ เมื่อแขง็ ตัว ฉดี กระตุ้นในผู้ใหญ่ ปฏิกริ ิยาแบบ Arthus-like reaction ร้อยละ 95 และ 100 ทงั้ น้ี ทกุ 10 ปี คือ บวมแดงเฉพาะท่อี ย่างมาก ภมู คิ ุ้มกนั ต่อโรคคอตบี เปิดใช้แล้ว ควรเก็บ พบได้บ่อย หากได้รบั วัคซนี และบาดทะยกั จะอยู่นาน ไว้ไม่เกิน 8 ช่ัวโมง บาดทะยกั มาหลายครง้ั ประมาณ 10 ปี จงึ จ�ำเปน็ ระหว่างการใช้ต้อง ต้องกระตุ้นซ้ำ� ทกุ 10 ปี เก็บวัคซนี ไว้ในตู้เย็น หรือกระตกิ วคั ซนี ท่ีมอี ณุ หภูมิ +2 ถงึ +8 ๐C
วคั ซนี /ประเภท ขนาดบรรจุ ขนาดและ บคุ คล/ ปฏิกริ ยิ าจากการไดร้ บั วัคซนี ขอ้ ควรระวัง/ ภูมคิ ุ้มกนั ทีเ่ กดิ ขึ้น การเกบ็ วัคซีน ของวคั ซนี ชนดิ น้�ำ วิธีใช้ อายุท่ีควรไดร้ ับ ข้อห้าม ขนาด 20 เดก็ ทกุ คน โปลโิ อชนิด โด๊ส/ขวด โดยการ ครงั้ ที่ 1 ปฏกิ ริ ยิ าเฉพาะที่: วัคซนี OPV ทำ� ให้ ห้ามให้วคั ซีน OPV แก่ วคั ซนี OPV มปี ระสทิ ธภิ าพสงู ควรเก็บไว้ในช่อง รบั ประทาน รบั ประทาน อายุ 2 เดอื น เกิดปฏกิ ิริยา หรอื ผลข้างเคยี งน้อย ผู้ท่ีมีภาวะภูมคิ ุ้มกนั ในการสร้างภมู คิ ุ้มกนั โรค แช่แขง็ (OPV) ขนาดโด๊สละ ครง้ั ท่ี 2 มาก บกพร่อง หรอื ได้รบั ยา ท้ังในเยอ่ื บลุ ำ� ไส้ และ :ไวรัส 2-3 หยด อายุ 4 เดือน ท่ที �ำให้มีภาวะภมู คิ ุ้มกัน ในกระแสเลอื ด โดยสร้าง เปิดใช้แล้ว ควรเก็บ เช้ือเป็นอ่อน แล้วแต่ คร้ังที่ 3 ปฏกิ ิรยิ าทัว่ ร่างกาย: ผู้ได้รบั วคั ซนี บกพร่อง ภูมิคุ้มกนั เฉพาะท่ี ท่เี ยือ่ บุ ไว้ไม่เกนิ 8 ชัว่ โมง ฤทธิ์ ทยั ป์ 1, 3 บริษัทผู้ผลิต อายุ 6 เดอื น OPV อาจเกดิ อาการอัมพาตเหมอื น ล�ำคอและลำ� ไส้ (Secretory ระหว่างการใช้ต้อง คร้งั ที่ 4 โปลิโอ (Vaccine-associated ห้ามให้วคั ซีน OPV แก่เดก็ lgA) ท�ำให้ป้องกนั ไม่ให้เชอ้ื เกบ็ วัคซนี ไว้ในตู้เยน็ อายุ 18 เดอื น paralytic poliomyelitis; VAPP) ที่ผู้ใกล้ชดิ ในบ้านมภี าวะ โปลโิ อในธรรมชาตริ กุ ล้�ำเข้า หรอื กระตกิ วัคซีน ครั้งท่ี 5 แต่พบได้น้อยมาก กล่าวคอื ภมู ิคุ้มกนั บกพร่อง หรอื สู่ร่างกายได้ จงึ น�ำมาใช้ใน ท่มี อี ณุ หภมู ิ +2 ถงึ อายุ 4 ปี อาจพบในเดก็ ทไี่ ดร้ บั OPV ครงั้ แรก ได้รบั ยากดภูมคิ ุ้มกัน การกวาดล้างโปลโิ อ +8 ๐C ประมาณ 1 ราย ใน 1.4 ลา้ นโดส๊ และ หมวดเนื้อหาท่ี 2: โรคตดิ ตอ่ ท่ปี อ้ งกันไดด้ ว้ ยวคั ซนี และวคั ซนี พื้นฐาน 61 ลดลงเปน็ 1 รายใน 27.2 ลา้ นโดส๊ ไม่ควรให้ OPV ในหญิง ขวดทเี่ อาออกจาก ในโด๊สถดั ไป อย่างไรก็ดี ผู้ทม่ี ี ตั้งครรภ์ ช่องแช่แข็งแล้ว ภูมคิ ุ้มกันตำ่� อาจมโี อกาสเกดิ VAPP ไม่ได้เปิดใช้สามารถ ได้สูงกว่าเด็กปกติ ไม่ให้ OPV ขณะยังอยู่ใน Refreeze ได้ โรงพยาบาล หาก VVM ยงั อยู่ใน เกณฑ์ท่ใี ช้ได้
62 หมวดเนอ้ื หาที่ 2: โรคติดต่อทป่ี อ้ งกนั ไดด้ ว้ ยวคั ซีนและวคั ซีนพน้ื ฐาน วคั ซนี /ประเภท ขนาดบรรจุ ขนาดและ บคุ คล/ ปฏกิ ิรยิ าจากการไดร้ ับวัคซนี ข้อควรระวงั / ภมู คิ ุ้มกันทเ่ี กิดขึน้ การเกบ็ วัคซนี ของวคั ซนี ชนดิ น�ำ้ วธิ ีใช้ อายทุ ่ีควรไดร้ บั ปฏิกริ ิยาเฉพาะท่ี: ปวด บวมแดง ข้อห้าม หลังได้รบั 2 โด๊ส ผู้ได้รับ ควรเกบ็ ไว้ท่ี ขนาด 0.5 เดก็ ทกุ คน โปลโิ อชนิดฉดี มล./ขวด 0.5 มล. โดยให้ 1 ครง้ั ตำ� แหน่งท่ฉี ีด ในผู้ท่ีมีภาวะภูมิคุ้มกนั วัคซนี มากกว่าร้อยละ 90 อุณหภมู ิ +2 ถงึ (IPV): (1 โด๊ส/ขวด) ฉีดเข้า เมอ่ื อายุ 4 เดอื น ปฏิกริ ยิ าท่วั ร่างกาย: ไม่ท�ำให้ บกพร่อง หรอื ได้รับยา จะมภี มู คิ ุ้มกันในเลอื ดต่อ +8 ๐C และหา้ ม ไวรัสเชอ้ื ตาย หรือ ทีท่ ำ� ให้มีภาวะภมู คิ ุ้มกนั เช้อื โปลโิ อทง้ั 3 ทัยป์ และ เกบ็ ในช่องแชแ่ ข็ง ทัยป์ 1, 2, 3 5 มล./ขวด กล้ามเน้ือ เกดิ อัมพาตเหมอื นท่เี กิดกับ OPV บกพร่อง ให้ใช้ IPV แทน เพ่มิ ขึ้นเป็นร้อยละ 99 เปิดใช้แล้ว ควรเก็บ (10 โดส๊ /ขวด) (IM) เนื่องจากเปน็ วคั ซนี เช้ือตาย OPV ยกเว้นผู้ท่ตี ดิ เช้อื เมอื่ ได้รบั วัคซนี 3 โด๊ส ไว้ไม่เกิน 8 ชว่ั โมง ปฏกิ ิรยิ าแพ้: อาจเกิดอาการแพ้ใน เอชไอวี WHO แนะน�ำให้ ผู้ท่ไี ด้รบั IPV จะมี ระหว่างการใช้ต้อง ผู้ได้รบั วัคซนี ทแ่ี พ้ยาปฏชิ วี นะทเ่ี ป็น ใช้ OPV ได้เหมอื นเด็ก ภูมิคุ้มกนั ในลำ� คอและ เกบ็ วัคซีนไว้ในตู้เยน็ ส่วนประกอบของวัคซนี ปกติ ลำ� ไส้น้อย ดงั นน้ั แม้จะได้ หรือกระตกิ วคั ซีน รับ IPV ครบและมรี ะดบั ที่มีอณุ หภูมิ +2 ถงึ ในหญิงมคี รรภ์ ถ้าจำ� เปน็ ภูมคิ ุ้มกันในเลอื ดสงู +8 ๐C ให้ใช้ IPV ได้ พอทจ่ี ะป้องกันไม่ให้เกดิ อัมพาตหลงั ได้รบั เช้อื Wild ไม่ควรให้วคั ซนี IPV ใน polio virus แต่ไม่สามารถ ผู้ทม่ี ปี ระวตั แิ พ้รนุ แรง ป้องกนั การตดิ เชอื้ ในล�ำไส้ (Anaphylaxis) ต่อยา ได้ เชอ้ื จงึ สามารถเพิ่ม ปฏชิ ีวนะ Streptomycin, จ�ำนวนในล�ำคอและล�ำไส้ Polymyxin B และ และขับออกมากบั อจุ จาระ Neomycin และแพร่เชอื้ ไปยงั ผู้อ่นื ได้
วคั ซนี /ประเภท ขนาดบรรจุ ขนาดและ บุคคล/ ปฏกิ ิรยิ าจากการไดร้ ับวัคซีน ข้อควรระวัง/ ภูมคิ ุ้มกนั ที่เกิดขนึ้ การเก็บวคั ซนี ของวคั ซีน ชนิดผงแห้ง วิธีใช้ อายทุ ่คี วรได้รับ ปฏิกิริยาทัว่ ร่างกาย: ไข้ 5-12 วนั ขอ้ ห้าม การฉดี วคั ซนี MMR เมื่ออายุ วคั ซนี MMR ผงแหง้ MMR ให้ MMR แก่เด็กทกุ คน 9 เดือน จะมภี ูมคิ ุ้มกนั ต่อ หัด-คางทูม- 0.5 มล. คร้งั ที่ 1 อายุ 9 เดอื น หลังฉดี ผ่นื อาจพบภาวะเกล็ดเลอื ด ไม่ควรฉดี ในหญงิ มคี รรภ์ โรคหัด โรคคางทูมและ ควรเก็บไว้ใน หดั เยอรมนั ขวดละ ฉีดเข้าใต้ ครงั้ ที่ 2 อายุ 2 ปี 6 เดอื น ตำ�่ ต่อมน�ำ้ เหลอื งโต ต่อมน�้ำลาย เพราะอาจเกดิ อนั ตราย โรคหัดเยอรมนั ร้อยละ อุณหภูมิ +2 ถงึ (MMR) 1 โด๊ส อกั เสบ และอาการทางสมอง ต่อทารกในครรภ์ได้ 85-95, 63-95 และ 96-99 +8๐C หรือในช่อง หรอื หัด- ผสมด้วย หนงั (SC) (Encephalitis หรอื Encephalopathy) ตามล�ำดบั แช่แข็ง และป้องกนั หดั เยอรมนั (MR): น้ำ� ยา ปฏกิ ริ ิยาแพ้: พบได้น้อยและมกั ไม่ควรฉดี ในผู้ป่วยท่ี แสง ไวรสั เชือ้ เปน็ ท�ำละลาย ไม่รนุ แรง อาจพบผ่นื ลมพษิ ตรง มีภูมิคุ้มกนั บกพร่อง น�ำ้ ยาทำ� ละลายควร อ่อนฤทธ์ิ 0.5 มล. ต�ำแหน่งท่ฉี ีด ซ่งึ อาจเกิดจาก อย่างมากจากทุกสาเหตุ เก็บไว้ใน +2 ถงึ MR การแพ้ Neomycin หรอื Gelatin ยกเว้นผู้ป่วยท่มี ีภมู ิคุ้มกนั +8 ๐C หรอื ขวดละ บกพร่องแต่ก�ำเนดิ ชนดิ อุณหภมู ิห้อง หมวดเนื้อหาท่ี 2: โรคตดิ ตอ่ ท่ปี อ้ งกันไดด้ ว้ ยวคั ซนี และวคั ซนี พื้นฐาน 63 10 โด๊ส B cell defect, Compliment หา้ มแช่แขง็ ผสมด้วย deficiency, Phagocytic ก่อนให้บริการต้อง นำ�้ ยา dysfunction และผู้ท่ี นำ� นำ�้ ยาท�ำละลาย ท�ำละลาย ติดเช้ือเอชไอวที มี่ ีอาการ ไปเก็บในอุณหภมู ิ 5 มล. น้อยหรอื ปานกลาง +2 ถงึ +8 ๐C สามารถให้วัคซนี ได้ อยา่ งนอ้ ย 24 ชว่ั โมง ผสมแล้วต้องใช้ ไม่ควรฉดี ในผู้ท่ีมปี ระวตั ิ ภายใน 6 ช่วั โมง แพ้ Neomycin แบบ โดยเกบ็ ไว้ในตู้เยน็ Anaphylaxis หรอื กระตกิ วคั ซีน ทม่ี อี ุณหภูมิ +2 ถงึ +8 ๐C และปอ้ งกนั แสง
64 หมวดเนอ้ื หาที่ 2: โรคติดต่อทป่ี อ้ งกนั ไดด้ ว้ ยวคั ซีนและวคั ซีนพน้ื ฐาน วัคซนี /ประเภท ขนาดบรรจุ ขนาดและ บคุ คล/ ปฏกิ ริ ิยาจากการไดร้ ับวคั ซนี ข้อควรระวงั / ภมู ิค้มุ กนั ที่เกดิ ขนึ้ การเกบ็ วคั ซีน ของวัคซีน ชนิดผง วธิ ีใช้ อายุท่ีควรได้รับ ปฏกิ ิรยิ าเฉพาะท:่ี ปวด บวม แดง ข้อหา้ ม CD-JE VAX® หลงั ฉดี ครง้ั แรก ควรเก็บไว้ท่ีอณุ หภมู ิ แห้ง ขนาด เด็กทุกคน มภี มู คิ มุ้ กนั เกดิ ขน้ึ รอ้ ยละ 89.3 ไข้สมองอักเสบ 1 โด๊ส/ขวด 0.5 มล. ครั้งที่ 1 อายุ 1 ปี ต�ำแหน่งท่ฉี ีด ห้ามฉดี วัคซนี เช้ือเป็น และร้อยละ 95 ท่ี 30 วนั +2 ถงึ +8 ๐C และ เจอี (LAJE): ผสมด้วย ฉีดเข้าใต้ ครง้ั ท่ี 2 อายุ 2 ปี 6 เดอื น ปฏิกิริยาท่วั ร่างกาย: ไข้ ผนื่ อ่อนฤทธใ์ิ นผู้ท่ีมีภูมิคุ้มกนั และท่ี 90 วนั ตามล�ำดับ ป้องกนั แสง ไวรัสเช้อื เป็น น้�ำยาละลาย บกพร่องจากสาเหตุต่างๆ หลงั ฉีดวคั ซนี ครง้ั ที่ 2 เปิดแล้ว ควรเกบ็ อ่อนฤทธ์ิ 0.5 มล. หนัง (SC) ปวดศีรษะ อ่อนเพลยี ปวดกล้ามเนอ้ื หญิงตง้ั ครรภ์และสตรอี ยู่ใน ภมู ิคุ้มกันเกดิ ข้ึนร้อยละ 100 ไว้ไม่เกิน 6 ช่วั โมง หรอื ผงแห้ง ระหว่างให้นมบุตร เน่ืองจากการได้รับวัคซนี ระหว่างการใช้ต้อง ขนาด 2 ครั้ง ในเด็ก ภูมคิ ุ้มกนั เกบ็ วัคซีนไว้ในตู้เยน็ 4 โด๊ส/ขวด จะข้ึนสูงและอยู่นาน หรอื กระตกิ วัคซนี (นำ�้ ยาละลาย ประเทศไทยจงึ แนะน�ำให้ฉดี ทม่ี ีอุณหภูมิ +2 ถงึ 2 มล.) วคั ซีนน้ี 2 ครัง้ +8 ๐C THAIJEV® หรือ IMOJEV หลัง น�้ำยาท�ำละลายควร ฉดี เขม็ แรกในผู้ใหญ่และเดก็ เกบ็ ไวใ้ น +2 ถงึ +8 ๐C มีภมู คิ ุ้มกันเกดิ ข้ึนร้อยละ หรืออณุ หภมู หิ ้อง 99.1 และ 96 ตามลำ� ดับ ใน ห้ามแช่แข็ง ผู้ใหญ่หลังจากฉดี วัคซีน 5 ปี ก่อนให้บรกิ ารต้อง ยังคงมภี ูมคิ ุ้มกันร้อยละ 93 นำ� น้�ำยาทำ� ละลาย แต่ ในเด็ก 1 ปี หลังฉีดวัคซนี ไปเก็บในอณุ หภูมิ มภี มู ิคุ้มกันร้อยละ 84 จงึ +2 ถึง +8 ๐C อย่าง แนะนำ� ให้ฉดี กระตุ้นในเด็ก น้อย 24 ช่วั โมง อีก 1 ครงั้ หลังฉดี วัคซีนครงั้ ผสมแล้วต้องใช้ แรก 1-2 ปี เพอ่ื ให้ภูมคิ ุ้มกัน ภายใน 6 ชวั่ โมง ข้นึ สงู และสามารถป้องกนั โดยเก็บไว้ในตู้เยน็ โรคได้นาน หรือกระตกิ วคั ซนี ทมี่ อี ุณหภูมิ +2 ถงึ +8 ๐C และปอ้ งกนั แสง
วคั ซนี /ประเภท ขนาดบรรจุ ขนาดและ บุคคล/ ปฏกิ ิรยิ าจากการไดร้ ับวคั ซีน ข้อควรระวงั / ภูมคิ ุ้มกนั ที่เกดิ ขน้ึ การเก็บวัคซนี ของวคั ซนี วธิ ีใช้ อายุท่ีควรไดร้ บั ข้อห้าม วคั ซีนมปี ระสทิ ธิภาพในการ ควรเก็บไว้ทีอ่ ณุ หภมู ิ ป้องกันการเกดิ เซลล์ผดิ ปกติ มะเรง็ ปากมดลกู ชนิดนำ�้ 0.5 มล. เดก็ หญิงช้นั ป.5 ปฏกิ ริ ิยาเฉพาะท:ี่ ปวด บวม แดง ห้ามฉีดในผู้ท่เี คยมอี าการ ทสี่ มั พนั ธ์กบั เชอ้ื สายพันธุ์ 16 +2 ถงึ +8 ๐C และ (HPV): Prefilled ฉีดเข้า ทกุ คน ควรได้รับวคั ซนี ต�ำแหน่งท่ฉี ีด แพ้วัคซีน HPV แบบ หรือ 18 ระดบั CIN 2 ขน้ึ ไป ป้องกันแสงหา้ ม ไวรสั เชอ้ื ตาย syringe กล้ามเน้ือ 2 ครงั้ ห่างกนั Severe allergic reaction ร้อยละ 98 เกบ็ ในช่องแชแ่ ขง็ สายพันธ์ุ 16, ขนาด (IM) อย่างน้อย 6 เดอื น ปฏกิ ิริยาทั่วร่างกาย: ไข้ คล่นื ไส้ เปิดแล้ว ควรเกบ็ 18 หรอื 6, 11, 0.5 มล. อาเจียน ปวดศรี ษะ อ่อนเพลยี หลีกเลี่ยงการฉดี วคั ซีนใน ไว้ไม่เกิน 8 ชัว่ โมง 16, 18 ขนาด ปวดเม่ือยกล้ามเนอ้ื มรี ายงานการ หญงิ ตั้งครรภ์ ระหว่างการใช้ต้อง เกิดอาการเปน็ ลมหมู่ ในวัยรุ่นหญงิ เกบ็ วคั ซนี ไว้ในตู้เยน็ 0.5 มล./ขวด ท่ีได้รบั วคั ซนี พร้อมกันหลายคน หรือกระตกิ วัคซนี (1โด๊ส/ขวด) ซ่ึงนบั เป็น Psychological reaction ทมี่ อี ุณหภมู ิ +2 ถงึ ทพ่ี บได้บ่อยในการให้วัคซนี ในวัยรุ่น +8 ๐C ปฏิกิรยิ าแพ้: Anaphylaxis หมวดเนื้อหาท่ี 2: โรคตดิ ตอ่ ท่ปี อ้ งกันไดด้ ว้ ยวคั ซนี และวคั ซนี พื้นฐาน 65
66 หมวดเนอ้ื หาที่ 2: โรคติดต่อทป่ี อ้ งกนั ไดด้ ว้ ยวคั ซีนและวคั ซีนพน้ื ฐาน วคั ซีน/ประเภท ขนาดบรรจุ ขนาดและ บุคคล/ ปฏิกิรยิ าจากการได้รบั วัคซนี ข้อควรระวงั / ภูมคิ ุม้ กันท่ีเกิดขน้ึ การเกบ็ วคั ซนี ของวคั ซนี วิธีใช้ อายุท่คี วรไดร้ บั ปฏิกิริยาเฉพาะท่:ี ปวด บวม แดง ขอ้ ห้าม ภมู ิคุ้มกนั จะเกดิ ข้ึนใน เกบ็ ท่ีอุณหภมู ิ +2 เด็กทกุ คน เวลา 7-14 วนั โดยจะมี ไข้หวดั ใหญ*่ ** ชนิดน�ำ้ เด็กทีอ่ ายุ อายุระหว่าง ตำ� แหน่งท่ฉี ีด-ปฏกิ ริ ยิ า ห้ามฉดี ในผู้ท่มี ปี ระวัตแิ พ้ ประสิทธิภาพในการป้องกนั ถึง +8 ๐C และ (Influenza Prefilled ต่�ำกวา่ 6 เดอื น ถงึ 2 ปี ทวั่ ร่างกาย: ไข้ต่�ำ ปวดเมอื่ ย ส่วนประกอบของวคั ซนี ไข้หวดั ใหญ่จากสายพันธุ์ใน ป้องกนั แสง หา้ ม vaccine): syringe 3 ปี ผู้ใหญ่ ทม่ี คี วาม หรือแพ้ไข่ไก่ อย่างรุนแรง วคั ซนี ได้ ร้อยละ 70-90 เก็บในช่องแช่แข็ง ไวรัสเช้ือตาย ขนาด 0.25 มล. เสยี่ งต่อการตดิ เชอื้ กล้ามเน้ือ ปวดศรี ษะ คัน เปิดแล้วควรเกบ็ 0.5 มล. ฉดี เข้า ได้มาก หรอื เสี่ยง ตามร่างกาย ให้ระมดั ระวังในผู้ทีเ่ คยมี ไว้ไม่เกนิ 8 ช่ัวโมง ขนาด กล้ามเนอื้ ที่จะมอี าการป่วย ปฏิกิริยาแพ้: Anaphylaxis อาการของ Guillain-Barré ระหว่างการใช้ต้อง 2 มล./ขวด (IM) หาก รนุ แรงจาก ไข้หวัด syndrome (GBS) ภายใน เกบ็ วัคซีนไว้ในตู้เย็น (4 โดส๊ /ขวด) เป็นเด็ก ใหญ่*** 6 สปั ดาห์ ภายหลงั ได้รับ หรอื กระตกิ วคั ซนี ขนาด อายตุ ำ�่ วคั ซีนไข้หวัดใหญ่ ทีม่ ีอณุ หภมู ิ +2 ถงึ +8 ๐C 0.5 มล./ขวด กว่า 9 ปี (1 โดส๊ /ขวด) ท่ีไม่เคยได้ รบั วัคซนี ไขห้ วดั ใหญ่ ใหฉ้ ดี วคั ซนี 2 คร้งั ห่างกนั อย่างน้อย 1-2 เดอื น หลงั จาก น้ันให้ฉดี ปลี ะ 1 ครง้ั ผู้ใหญ่ 0.5 มล. ฉดี เข้า กล้ามเน้ือ (IM) ทกุ ปี *** กลุ่มเป้าหมายที่กระทรวงสาธารณสุขก�ำหนดให้ได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ 1) บุคลากรที่มีความเสี่ยงต่อการสัมผัสโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล และไข้หวัดนก ได้แก่ แพทย์ พยาบาล และบุคลากรอื่นๆ ในโรงพยาบาลท้ังที่ท�ำงาน ในหอผู้ป่วย และตึกผู้ป่วยนอก รวมถึงนักศึกษาฝึกงานในแต่ละวิชาชีพ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขท่ีท�ำหน้าท่ีในการสอบสวนควบคุมโรค เจ้าหน้าท่ีและ อาสาสมคั รทำ� ลายซากสตั วป์ กี และสตั วอ์ น่ื ทสี่ งสยั ตดิ เชอ้ื ไขห้ วดั นก และเจา้ หนา้ ทหี่ อ้ งปฏบิ ตั กิ ารตรวจวนิ จิ ฉยั เชอ้ื ไวรสั ไขห้ วดั ใหญ่ 2) หญงิ ตง้ั ครรภ์ อายคุ รรภ์ 4 เดอื นขนึ้ ไป 3) เดก็ อายุ 6 เดอื น ถงึ 2 ปี ทกุ คน 4) ผู้มีโรคเร้ือรัง ดังน้ี ปอดอุดกั้นเร้ือรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งท่ีอยู่ระหว่างการได้รับเคมีบ�ำบัด และเบาหวาน 5) บุคคลท่ีมีอายุ 65 ปีข้ึนไป ทุกคน 6) ผู้พิการทางสมองที่ ช่วยเหลอื ตนเองไม่ได้ 7) ธาลัสซเี มียและผู้ท่ีมีภมู คิ ุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ตดิ เช้ือ HIV ทม่ี ีอาการ) 8) โรคอ้วน (นำ�้ หนัก > 100 กโิ ลกรมั หรอื BMI > 35 กโิ ลกรมั ต่อตารางเมตร)
ตารางที่ 2.4 รายละเอยี ดของวัคซนี ท่กี �ำลงั จะน�ำมาใช้ในแผนการสร้างเสรมิ ภมู คิ ุม้ กันโรคของกระทรวงสาธารณสขุ วคั ซีน/ประเภท ขนาดบรรจุ ขนาดและ บุคคล/ ปฏกิ ิรยิ าจากการได้รับ ข้อควรระวัง/ ภมู ิคุ้มกันทีเ่ กดิ ข้ึน การเกบ็ วคั ซีน ของวคั ซนี ชนิดน้ำ� วธิ ีใช้ อายุท่คี วรได้รบั วคั ซนี ขอ้ หา้ ม ภมู ิคุ้มกนั ท่เี กดิ ต่อโรค ควรเกบ็ ไว้ทอ่ี ุณหภมู ิ ขนาด เด็กทุกคน คอตีบ- 5 มล./ขวด 0.5 มล. คร้ังท่ี 1 อายุ 2 เดอื น ปฏิกิริยาทีเ่ กิดเหมือนที่ ห้ามฉีดในผู้ทแ่ี พ้ส่วนประกอบ คอตีบ บาดทะยกั ไอกรน +2 ถึง +8 °C และ บาดทะยกั - (10 โดส๊ /ขวด) ฉีดเข้า ครัง้ ท่ี 2 อายุ 4 เดือน เกิดได้กับวคั ซนี DTwP- ของวัคซนี ตบั อกั เสบบี เหมอื นกับ หา้ มเกบ็ ในชอ่ งแชแ่ ขง็ ไอกรน- ครั้งท่ี 3 อายุ 6 เดือน HB ปฏิกริ ยิ าท่เี กดิ จาก ภมู ิคุ้มกนั ท่เี กดิ หลงั ได้รบั เปิดแล้ว ควรเกบ็ ตับอักเสบบี- กล้ามเนอ้ื วคั ซีน Hib พบน้อยและ ข้อห้ามในการฉดี เหมอื นกับ DTwP-HB ไว้ไม่เกนิ 8 ชว่ั โมง ฮิบ(DTwP- (IM) อาการ ไม่รุนแรง เช่น วัคซนี DTwP-HB ระดับภมู คิ ุ้มกันต่อโรคติด ระหว่างการใช้ต้อง HB-Hib): ปวด บวมแดงบรเิ วณท่ี เช้อื ฮิบภายหลังฉดี ครบ 3 เก็บวคั ซนี ไว้ในตู้เย็น ทอ็ กซอยด์ ฉดี ไข้ เปน็ ต้น เด็กท่ีอายนุ ้อยกว่า 2 ปี ครัง้ นาน 1 เดอื น เท่ากบั หรอื กระตกิ วัคซีนทมี่ ี แบคทเี รยี และ แม้ว่าเคยติดเชอ้ื ฮิบชนดิ รนุ แรง ร้อยละ 98.5 อณุ หภมู ิ +2 ถงึ +8 ๐C ไวรัสเช้ือตาย ปฏิกริ ยิ าเฉพาะที:่ ไม่มี มาแล้ว ควรได้รบั วัคซนี ปฏิกิรยิ าท่วั ร่างกาย: เพราะการตดิ เชอ้ื ตามธรรมชาติ สามารถป้องกันโรคอจุ จาระ ควรเก็บไว้ทอ่ี ณุ หภมู ิ หมวดเนื้อหาท่ี 2: โรคตดิ ตอ่ ท่ปี อ้ งกันไดด้ ว้ ยวคั ซนี และวคั ซนี พื้นฐาน 67 โรตา้ ชนดิ น้ำ� รบั ประทาน เด็กทกุ คน กระตุ้นภมู คิ ุ้มกันได้ไม่ดี ร่วงรนุ แรงได้ ร้อยละ 85–98 +2 ถึง +8 ๐C และ (RV): ขนาด โด๊สละ Rotarix: ไข้ตำ่� ท้องเสยี แบบไม่ โดยแนะน�ำให้เรม่ิ ฉีดหลงั จาก แล้วแต่ประเทศท่ที ำ� การศึกษา ป้องกนั แสง ห้ามเก็บ ไวรสั เชอื้ เปน็ 1 โด๊ส/หลอด 1.5-2.0 มล. ครั้งท่ี 1 อายุ 2 เดอื น รนุ แรง อาเจยี น เดก็ มี เปน็ โรคตดิ เชื้อฮิบแล้ว 1 เดอื น ในชอ่ งแชแ่ ข็ง อ่อนฤทธ์ิ แล้วแต่ ครง้ั ท่ี 2 อายุ 4 เดอื น อาการงอแง มรี ายงาน บรษิ ทั ผผู้ ลติ Rotateq: ของการเกดิ ลำ� ไส้กลนื เด็กที่มอี าการอาเจยี นหลงั ได้รับ ครงั้ ท่ี 1 อายุ 2 เดอื น กนั (Intussusception) วัคซีน ไม่แนะน�ำให้วัคซนี ซ�้ำ ครงั้ ที่ 2 อายุ 4 เดอื น แต่มอี ุบตั กิ ารณ์ต�ำ่ ครงั้ ท่ี 3 อายุ 6 เดอื น ปฏิกิริยาแพ้: ห้ามให้วัคซนี ในเดก็ ท่มี ี Anaphylaxis ภมู คิ ุ้มกันบกพร่อง หรอื เด็กท่ี เคยเกดิ ภาวะล�ำไส้กลนื กันมา ก่อน หรอื เคยมปี ระวตั ิแพ้ ส่วนประกอบของวคั ซนี โรต้า รนุ แรง หากเด็กมารบั วคั ซีนล่าช้าควร ตรวจสอบอายสุ งู สุดท่เี ด็ก สามารถรับวคั ซนี ได้ หากมอี ายุ เกนิ กว่าท่กี ำ� หนด ไม่ควรให้ วัคซีน เนอ่ื งจากอาจเพ่มิ ความ เสี่ยงต่อการเกดิ ล�ำไส้กลนื กนั ควรให้วัคซนี อย่างระมดั ระวังใน เด็กทม่ี โี รคทางเดนิ อาหารเรอ้ื รงั หรอื Spina bifida หรอื Bladder exstrophy
68 หมวดเนอ้ื หาที่ 2: โรคติดต่อทป่ี อ้ งกนั ไดด้ ว้ ยวคั ซีนและวคั ซีนพน้ื ฐาน วัคซนี /ประเภท ขนาดบรรจุ ขนาดและ บุคคล/ ปฏิกริ ยิ าจากการไดร้ ับ ขอ้ ควรระวงั / ภมู คิ ุ้มกนั ทีเ่ กิดขึน้ การเกบ็ วคั ซนี ของวคั ซีน ชนดิ น�้ำ วิธีใช้ อายุที่ควรได้รับ วัคซีน ขอ้ ห้าม ขนาด หญิงตงั้ ครรภ์ทุกคน ควร ภูมิคุ้มกันต่อโรคคอตีบ ควรเกบ็ ไว้ทีอ่ ุณหภมู ิ คอตบี - 0.5 มล./ขวด 0.5 มล. ได้รบั วคั ซนี Tdap 1 ครง้ั ปฏิกิริยาท่ีเกิดเหมอื นที่ ห้ามให้ในผู้ที่เคยมอี าการแพ้ บาดทะยัก เหมอื นกับวคั ซนี +2 ถงึ +8 °C และ บาดทะยกั - (1 โด๊ส/ขวด) ฉดี เข้า ในไตรมาสท่ี 2 หรือ 3 เกิดได้กับวัคซนี dT รุนแรงต่อส่วนประกอบของ dT หา้ มเกบ็ ในชอ่ งแชแ่ ขง็ ไอกรนชนดิ ก่อนคลอดอย่างน้อย วัคซีน ไร้เซลล์ กล้ามเนือ้ 7 วัน ปฏิกิริยาเฉพาะท:่ี ปวด การให้วัคซนี ป้องกัน ไอกรน เปิดแล้ว ควรเกบ็ (Tdap): (IM) บวม แดง ตำ� แหน่งท่ฉี ดี ห้ามให้ในผู้ทเ่ี คยมีอาการทาง ในมารดามีประสทิ ธิผลใน ไว้ไม่เกิน 8 ช่ัวโมง ทอ็ กซอยด์ ระบบประสาท เช่น ชัก หรอื การปอ้ งกนั การเกดิ โรคไอกรน ระหว่างการใช้ต้อง และแบคทเี รีย ปฏิกริ ยิ าทวั่ ร่างกาย: ไข้ อาการผดิ ปกตขิ องสมอง ในเดก็ ทารก ร้อยละ 91 เก็บวคั ซีนไว้ในตู้เย็น เชื้อตาย คลน่ื ไส้ อาเจยี น ปวด ภายใน 7 วนั หลงั การได้รับ หรอื กระตกิ วัคซนี ท่ีมี ศรี ษะ อ่อนเพลยี ปวด วัคซีนท่ีมสี ่วนประกอบของ ภูมิคุ้มกันในหญงิ ตั้งครรภ์จะ อณุ หภมู ิ +2 ถงึ +8 ๐C เมือ่ ยกล้ามเนอ้ื ไอกรน ลดลงในระยะ 1 ปี หลังได้ รับวคั ซีนจนไม่เพยี งพอที่จะ ปฏกิ ริ ยิ าแพ:้ Anaphylaxis ถ่ายทอดภูมไิ ปยงั ทารก และปฏกิ ิริยาแบบ จงึ ต้องฉีดวัคซนี Tdap Arthus-like reaction คอื ทกุ การต้งั ครรภ์ บวมแดงเฉพาะทอ่ี ย่าง มาก พบได้บ่อย หากได้ รบั วัคซนี บาดทะยักมา หลายคร้งั
4. ก�ำหนดการใหว้ ัคซีนในแผนการสรา้ งเสริมภมู ิค้มุ กันโรคของ กระทรวงสาธารณสขุ กระทรวงสาธารณสุขได้ก�ำหนดให้มีบริการวัคซีนพ้ืนฐานท่ีเด็กทุกคนควรได้รับในช่วงอายุที่เหมาะสม ซึ่งในปัจจุบันประกอบด้วยวัคซีน 10 ชนิด ได้แก่ 1) วัคซีนวัณโรค (BCG) 2) วัคซีนตับอักเสบบี (HB) 3) วัคซีน รวมคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี (DTP-HB) 4) วัคซีนโปลิโอ (OPV) 5) วัคซีนโปลิโอชนิดฉีด (IPV) 6) วัคซีนรวมหดั -คางทมู -หดั เยอรมัน (MMR) 7) วคั ซนี ไข้สมองอักเสบเจอี (LAJE) 8) วัคซนี คอตบี -บาดทะยกั - ไอกรน (DTP) 9) วคั ซนี ปอ้ งกนั มะเรง็ ปากมดลกู (HPV) และ 10) วคั ซนี คอตบี -บาดทะยกั (dT) โดยคำ� นงึ ถงึ โอกาส เสี่ยงในการเกิดโรค โอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน และความสามารถในการตอบสนองการกระตุ้นของวัคซีนใน แต่ละวัย สรุปดงั ตารางท่ี 2.5 ตารางที่ 2.5 ตารางวคั ซีนตามเกณฑ์ปกติ อายุ วคั ซนี ที่ให้ ขอ้ แนะนำ� แรกเกิด BCG (วคั ซนี ป้องกันวัณโรค) ฉีดให้เด็กก่อนออกจาก โรงพยาบาล 1 เดือน HB1 (วคั ซนี ป้องกันโรคตับอกั เสบบ)ี ควรให้เร็วท่สี ุดภายใน 24 ชั่วโมง 2 เดือน หลังคลอด 4 เดือน HB2 (วัคซนี ป้องกันโรคตบั อกั เสบบ)ี เฉพาะรายที่คลอดจากมารดาท่ี เป็นพาหะของไวรสั ตับอกั เสบบี 6 เดอื น DTP-HB1 (วัคซนี รวมป้องกนั โรคคอตบี -บาดทะยกั - 9 เดอื น ไอกรน-ตับอกั เสบบ)ี ให้วัคซนี ป้องกันโรคโปลโิ อ 1 ปี OPV1 (วคั ซนี ป้องกันโรคโปลโิ อชนดิ รับประทาน) ชนิดฉีด 1 เขม็ พร้อมกบั วัคซนี DTP-HB2 (วคั ซนี รวมป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก- ป้องกันโรคโปลโิ อชนดิ ไอกรน-ตับอักเสบบ)ี รบั ประทาน 1 ครง้ั OPV2 (วคั ซนี ป้องกนั โรคโปลโิ อชนิดรับประทาน) IPV1 (วคั ซนี ป้องกนั โรคโปลโิ อชนดิ ฉีด) หากไม่ได้ฉดี เมือ่ อายุ 9 เดือน DTP-HB3 (วัคซนี รวมป้องกนั โรคคอตบี -บาดทะยัก- ให้รีบตดิ ตามฉีดโดยเรว็ ทส่ี ุด ไอกรน-ตับอักเสบบ)ี OPV3 (วัคซนี ป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน) MMR1 (วัคซีนรวมป้องกันโรคหดั -คางทูม-หดั เยอรมัน) LAJE1 (วคั ซนี ป้องกนั โรคไข้สมองอักเสบเจอีชนิดเชือ้ เปน็ อ่อนฤทธ์)ิ หมวดเนอ้ื หาที่ 2: โรคตดิ ตอ่ ทปี่ อ้ งกันได้ด้วยวัคซนี และวัคซีนพื้นฐาน 69
อายุ วคั ซีนท่ีให้ ข้อแนะนำ� 1 ปี 6 เดอื น DTP4 (วคั ซนี รวมปอ้ งกนั โรคคอตบี -บาดทะยกั -ไอกรน) 2 ปี 6 เดอื น OPV4 (วัคซนี ป้องกนั โรคโปลโิ อชนดิ รบั ประทาน) เฉพาะผู้ทไี่ ด้รบั วคั ซนี 4 ปี LAJE2 (วัคซนี ป้องกันโรคไข้สมองอกั เสบเจอี ไม่ครบตามเกณฑ์ 7 ปี (ป.1) ชนิดเชอื้ เปน็ อ่อนฤทธ์)ิ 1. ให้ในกรณที ี่ไม่มีหลักฐานว่า MMR2 (วคั ซนี รวมปอ้ งกนั โรคหดั -คางทมู -หดั เยอรมนั ) 11 ปี (เฉพาะ DTP5 (วคั ซนี รวมปอ้ งกนั โรคคอตบี -บาดทะยกั -ไอกรน) เคยได้รับเมื่อแรกเกดิ และ นกั เรยี น OPV5 (วัคซนี ป้องกันโรคโปลโิ อชนดิ รบั ประทาน) ไม่มีแผลเป็น หญิง ป.5) MMR (วัคซนี รวมป้องกนั โรคหดั -คางทูม-หัดเยอรมัน) 2. ไม่ให้ในเดก็ ตดิ เช้อื เอชไอวี 12 ปี (ป. 6) HB (วคั ซนี ป้องกนั โรคตับอกั เสบบี) ท่มี อี าการของโรคเอดส์ LAJE (วคั ซนี ป้องกนั โรคไข้สมองอกั เสบเจอีชนิดเช้ือเป็น ระยะห่างระหว่างเขม็ อ่อนฤทธ)์ิ อย่างน้อย 6 เดอื น IPV (วัคซนี ป้องกันโรคโปลโิ อชนดิ ฉีด) dT (วัคซนี ป้องกนั โรคคอตบี -บาดทะยัก) OPV (วคั ซนี ป้องกนั โรคโปลิโอชนดิ รับประทาน) BCG (วัคซนี ป้องกันวณั โรค) HPV1 และ HPV2 (วัคซีนป้องกันมะเรง็ ปากมดลูก) dT (วัคซนี ป้องกันโรคคอตบี -บาดทะยกั ) 5. ก�ำหนดการใหว้ ัคซนี แกเ่ ดก็ ท่ีมารบั วคั ซนี ลา่ ช้า และเด็กที่ไดร้ บั วคั ซีน ไมค่ รบตามเกณฑ์ ในกรณที เ่ี ดก็ ไดร้ บั วคั ซนี ลา่ ชา้ กวา่ ปกติ เรมิ่ ใหว้ คั ซนี ทนั ทที พ่ี บครงั้ แรก หากเปน็ ผทู้ เ่ี คยไดร้ บั วคั ซนี มาแลว้ แต่ยังได้รับไม่ครบจำ� นวนตามท่กี ำ� หนด สามารถให้วคั ซีนต่อได้ทันทโี ดยไม่ต้องเริ่มต้นคร้งั ที่ 1 ใหม่ โดยค�ำนงึ ถึง อายุ ชนิดของวัคซีน จ�ำนวนโด๊สท่ีจ�ำเป็นต้องได้รับ ระยะห่างระหว่างโด๊สที่แนะน�ำ และระยะห่างระหว่างโด๊สที่ สน้ั ทส่ี ดุ เพอ่ื นดั หมายมารบั วคั ซนี ตอ่ เนอ่ื ง และเมอ่ื ใหว้ คั ซนี ทลี่ า่ ชา้ จนทนั กบั ตารางวคั ซนี ปกตแิ ลว้ ใหป้ รบั การนดั หมาย 70 หมวดเนือ้ หาท่ี 2: โรคติดตอ่ ทป่ี ้องกันไดด้ ้วยวัคซนี และวัคซนี พ้ืนฐาน
การให้วัคซีนให้เป็นไปตามตารางการให้วัคซีนปกติต่อไป ส�ำหรับก�ำหนดการให้วัคซีนแก่เด็กท่ีมารับวัคซีนล่าช้า ท่ีไม่เคยได้รบั วัคซนี มาก่อนเลยนนั้ อาจพิจารณาให้วัคซีนดงั ตารางท่ี 2.6-2.7 ตารางท่ี 2.6 ก�ำหนดการใหว้ คั ซีนแก่เดก็ ทีม่ ารบั วัคซนี ล่าช้า ครงั้ ท่ี ช่วงอายุ 1-6 ปี ต้งั แต่อายุ 7 ปขี ้ึนไป ข้อแนะน�ำ เดือนท่ี วคั ซีน เดือนที่ วคั ซีน ให้วัคซนี IPV เกบ็ ตก เฉพาะเดก็ อายุต่�ำกว่า 7 ปี 10 DTP-HB1 0 dT1 และเดก็ นกั เรยี นชนั้ ป.1 (เม่ือพบเดก็ (เมอื่ พบเด็ก OPV1 1. ให้ในกรณที ไ่ี ม่มี ครงั้ แรก) OPV1 ครั้งแรก) IPV IPV หลักฐานว่าเคยได้รบั เม่อื แรกเกดิ และไมม่ แี ผลเปน็ MMR1 MMR/ MR 2. ไม่ให้ในเด็กตดิ เช้ือ BCG BCG เอชไอวที ี่มอี าการของ โรคเอดส์ 21 DTP-HB2 1 HB1 32 OPV2 44 LAJE1 LAJE1 5 12 MMR2 2 dT2 DTP-HB3 OPV2 OPV3 HB2 DTP4 7 HB3 OPV4 LAJE 2 12 dT3 OPV3 LAJE 2 หมายเหตุ 1. กรณีการให้วัคซนี แก่ผู้ท่ไี ด้รับวคั ซนี ไม่ครบถ้วน หรอื ล่าช้า เด็กจะได้รบั วัคซีนตามก�ำหนดครบภายใน ระยะเวลา 1 ปี จากนน้ั ให้วัคซนี ต่อเนอื่ งตามท่ีกำ� หนดในก�ำหนดการให้วัคซีนปกติ 2. กรณมี เี หตจุ ำ� เปน็ เหตอุ นั สมควร หรอื เพอื่ ประโยชนต์ อ่ ผรู้ บั วคั ซนี แพทย์ หรอื ผใู้ หบ้ รกิ ารอาจพจิ ารณา กำ� หนดการให้วัคซนี ตามความเหมาะสม ทม่ี า: แผนงานสร้างเสรมิ ภมู คิ ุ้มกนั โรค กองโรคป้องกนั ด้วยวคั ซนี กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสขุ หมวดเนอ้ื หาที่ 2: โรคติดต่อที่ปอ้ งกนั ไดด้ ้วยวคั ซีนและวัคซนี พนื้ ฐาน 71
ตารางที่ 2.7 แสดงอายทุ แ่ี นะน�ำใหว้ คั ซนี อายนุ อ้ ยทสี่ ดุ ทสี่ ามารถใหว้ คั ซนี ได้ และระยะหา่ งแตล่ ะโดส๊ 1 วคั ซนี อายุ อายนุ อ้ ยทส่ี ดุ ระยะหา่ งทีแ่ นะนำ� ระยะห่างท่นี อ้ ยทสี่ ดุ และโดส๊ ที่ให้ ทแ่ี นะนำ� ให้ ของโด๊สน้ี กบั โด๊สถัดไป ของโดส๊ ถัดไป BCG แรกเกิด HB-1 แรกเกดิ แรกเกิด - - HB-22 1-2 เดอื น แรกเกิด 1-4 เดือน 4 สปั ดาห์ HB-33 6-18 เดอื น 4 สัปดาห์ 2-17 เดอื น 8 สปั ดาห์ 24 สัปดาห์ โด๊สที่ 3 ต้องห่างจากโด๊ส DTwP, DTaP -1 2 เดอื น - แรกอย่างน้อย 16 สปั ดาห์ DTwP, DTaP -2 4 เดอื น 4 สัปดาห์ DTwP, DTaP -34 6 เดอื น 6 สัปดาห์ 2 เดือน 4 สัปดาห์ DTwP, DTaP -4 18 เดอื น 10 สปั ดาห์ 2 เดือน 6 เดอื น DTwP, DTaP -5 14 สปั ดาห์ 12 เดอื น 6 เดอื น dT 4 ปี 12 เดือน OPV, IPV -1 12 ปี 3 ปี - OPV, IPV -2 2 เดือน 4 ปี - 5 ปี OPV, IPV -3 4 เดือน 7 ปี 10 ปี 4 สัปดาห์ OPV, IPV -46 6 เดอื น 6 สปั ดาห์ 2 เดือน 4 สปั ดาห์ OPV, IPV -5 18 เดอื น 10 สปั ดาห์ 2 เดือน 6 เดือน MMR-1 4 ปี 14 สปั ดาห์ 12 เดอื น 6 เดอื น MMR-27 9 เดอื น 12 เดอื น 3 ปี - Live JE-1 2 ปี 6 เดอื น 4 ปี - 4 สัปดาห์ Live JE-2 12 เดือน 9 เดอื น 12 เดือน - Chimeric JE-1 2 ปี 6 เดอื น 18 เดือน - 3 เดอื น Chimeric JE-2 12 เดอื น 9 เดอื น 12 เดือน - HPV1 2 ปี 6 เดอื น 12 เดือน - 12 เดอื น 11 ปี 9 เดอื น 12-24 เดอื น - HPV2 1 ปี 9 เดอื น - 5 เดอื น (2 สายพนั ธ์ุ) ห่างจากเขม็ 9 ปี 6 เดือน 6 เดอื น (4 สายพันธ์ุ) แรก 6 เดอื น - -- 72 หมวดเนือ้ หาที่ 2: โรคติดต่อที่ป้องกันได้ด้วยวคั ซีนและวคั ซีนพน้ื ฐาน
วัคซีน อายุ อายนุ อ้ ยทส่ี ดุ ระยะหา่ งทแ่ี นะน�ำ ระยะห่างทนี่ ้อยท่ีสดุ และโดส๊ ท่ีให้ ท่แี นะน�ำให้ ของโด๊สนี้ กบั โด๊สถดั ไป ของโด๊สถัดไป Rota1 2 เดือน 6 สัปดาห์ 2 เดือน 4 สัปดาห์ Rota2 4 เดือน 10 สัปดาห์ 2 เดือน 4 สปั ดาห์ Rota 3 (เฉพาะ 6 เดอื น 14 สัปดาห์ RV 5) - - DTP-HB-Hib 1 DTP-HB-Hib 2 2 เดือน 6 สัปดาห์ 2 เดอื น 4 สัปดาห์ DTP-HB-Hib 3 4 เดือน 10 สปั ดาห์ 2 เดอื น 4 สปั ดาห์ DTP-HB-Hib 4 6 เดือน 14 สัปดาห์ 12 เดอื น 6 เดอื น (Booster) 13-24 เดอื น 12 เดอื น Influenza - - ≥ 6 เดือน 6 เดือน ปีละ 1 ครงั้ 4 สปั ดาห์ หมายเหตุ 1. ถ้าใช้ IPV เพยี ง 1 โด๊ส ให้เรม่ิ ท่อี ายุ 4 เดอื น 2. Rota โด๊สแรกควรให้อายไุ ม่เกนิ 15 สปั ดาห์ และโด๊สสุดท้ายอายไุ ม่เกิน 8 เดอื น นอกเหนอื จากการใหว้ คั ซนี แกเ่ ดก็ ทไี่ ดร้ บั วคั ซนี ลา่ ชา้ แลว้ เดก็ ทกุ คนทเ่ี รม่ิ เขา้ เรยี นชนั้ ประถมปที ี่ 1 จะตอ้ ง ได้รับการตรวจสอบประวัติการได้รับวัคซีนของเด็กในอดีต เพื่อให้วัคซีนแก่เด็กที่ได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ โดยตรวจสอบประวตั จิ ากผู้ปกครอง จากสมดุ บันทึกสุขภาพของแม่และเดก็ หรือจากบันทึกการให้บรกิ ารวัคซีน ถ้าไม่มปี ระวัติ หรอื ประวตั ไิ ม่แน่ชัด ให้ถอื ว่าเดก็ ไม่เคยรับวคั ซนี มาก่อน และให้พจิ ารณาให้วคั ซนี เพ่ิมดังตารางที่ 2.8-2.11 หมวดเนอื้ หาท่ี 2: โรคติดต่อทป่ี อ้ งกนั ได้ดว้ ยวคั ซนี และวคั ซนี พื้นฐาน 73
ตารางที่ 2.8 ก�ำหนดการใหว้ คั ซนี HB ในนกั เรยี นชน้ั ป.1 ตามประวตั กิ ารไดร้ บั วคั ซนี กอ่ นเขา้ เรยี น ประวัติการได้รับวคั ซนี HB/DTP-HB การให้วคั ซนี HB ในนักเรียนชั้น ป.1 ไม่เคยได้รับ ให้ HB 2 เข็ม เม่ือเข้าเรียนชนั้ ป.1 ห่างกันอย่างน้อย ได้ 1 เขม็ 1 เดอื น แล้วให้ HB เมอ่ื เข้าเรยี นช้นั ป.2 อกี 1 เขม็ (เข็มท่ี 3 ห่างจากเข็มท่ี 2 อย่างน้อย 6 เดอื น) ได้ 2 เข็ม ให้ HB 1 เขม็ เมอ่ื เข้าเรยี นชนั้ ป.1 แล้วให้ HB เม่อื เข้าเรียน ได้ 3 เขม็ ชนั้ ป. 2 อกี 1 เขม็ (เขม็ ท่ี 3 ห่างจากเข็มท่ี 2 อย่างน้อย 6 เดอื น) ให้ HB 1 เขม็ (ห่างจากเขม็ สุดท้ายอย่างน้อย 6 เดอื น) ไม่ต้องให้ ตารางที่ 2.9 ก�ำหนดการใหว้ คั ซนี dT ในนกั เรยี นชน้ั ป.1 ตามประวตั กิ ารไดร้ บั วคั ซนี DTP-HB / DTP ก่อนเขา้ เรยี น ประวัติการไดร้ บั วคั ซีนทม่ี ีสว่ นประกอบ การให้วคั ซนี dT ในนักเรยี นช้นั ป.1 ของคอตีบ-บาดทะยกั (DTP-HB, DTP) เคยได้รับ DTP-HB / DTP มาครบ 5 เข็ม ไม่ต้องให้ ไม่เคยได้รบั DTP-HB / DTP มาก่อน ให้ dT 2 เขม็ เมอ่ื เข้าเรียนชน้ั ป.1 ห่างกนั เคยได้รบั วัคซีน DTP-HB / DTP มาแล้ว 1 เขม็ อย่างน้อย 1 เดอื น แล้วให้ dT เม่อื เข้าเรยี น ชนั้ ป.2 อกี 1 เขม็ (เข็มท่ี 3 ห่างจากเข็มที่ 2 เคยได้รับ DTP-HB / DTP มาแล้ว 2, 3 หรอื 4 เข็ม อย่างน้อย 6 เดอื น) ให้ dT 1 เข็ม เมอื่ เข้าเรยี นชน้ั ป.1 แล้วให้ dT เม่ือเข้าเรยี นชนั้ ป. 2 อีก 1 เข็ม (เขม็ ท่ี 3 ห่างจากเขม็ ที่ 2 อย่างน้อย 6 เดอื น) ให้ dT เม่อื เข้าเรยี นช้นั ป.1 อกี 1 เข็ม 74 หมวดเนื้อหาที่ 2: โรคติดตอ่ ทปี่ ้องกนั ไดด้ ว้ ยวคั ซีนและวัคซีนพื้นฐาน
ตารางท่ี 2.10 ก�ำหนดการใหว้ คั ซนี OPV/ IPV ในนกั เรยี นชนั้ ป.1 ตามประวตั กิ ารไดร้ บั วคั ซนี โปลโิ อ กอ่ นเข้าเรยี น ประวัติการได้รับวคั ซีนโปลโิ อ* การใหว้ ัคซีน OPV การใหว้ คั ซีน IPV ในนกั เรยี นชัน้ ป.1 ได้รับครบ 5 คร้งั ไม่ต้องให้ ให้วคั ซีน IPV 1 เข็ม พร้อม OPV ในกรณี ไม่เคยได้รับ ให้ 3 ครง้ั ต่อไปนี้ ระยะห่าง 0, 1, 6 1. เด็กทไ่ี ด้รับวคั ซนี tOPV ** ได้รับ 1 ครงั้ เดือน ได้รบั 2, 3, 4 ครงั้ ให้ 2 ครงั้ น้อยกว่า 3 ครงั้ และไม่เคยได้รับ IPV ระยะห่าง 0, 6 เดอื น 2. เคยได้รับ IPV 1 ครงั้ ให้ 1 ครงั้ เม่ืออายุน้อยกว่า 4 เดอื น (วคั ซีน tOPV** มใี ห้บริการ ถงึ วนั ท่ี 22 เม.ย. 2559 หลังจากนนั้ เปล่ยี นเป็น bOPV*** * ในกรณที ีไ่ ด้รับวคั ซีน OPV พร้อม IPV ให้นบั รวมเปน็ 1 ครง้ั ** tOPV = Trivalent OPV เปน็ วคั ซนี โปลิโอชนดิ รับประทาน ประกอบด้วย ทัยป์ 1, 2 และ 3 ปจั จบุ นั ยกเลิกการใช้แล้ว *** bOPV = Bivalent OPV เป็นวคั ซนี โปลโิ อชนดิ รับประทาน ประกอบด้วย ทัยป์ 1 และ 3 ตารางท่ี 2.11 ก�ำหนดการให้วัคซีน MMR/ MR ในนักเรียนช้ัน ป.1 ตามประวัติการได้รับวัคซีน ก่อนเขา้ เรยี น ประวตั ิการไดร้ บั วัคซีน MMR / MR การใหว้ คั ซีน MMR/ MR ในนกั เรียนชัน้ ป.1 ไม่เคยได้รับ ให้ 1 เข็ม ได้ 1 เขม็ ให้ 1 เขม็ (ห่างจากเข็มสดุ ท้ายอย่างน้อย 1 เดอื น) ได้ 2 เขม็ ไม่ต้องให้ หมายเหตุ: แผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข แนะน�ำว่าถ้าได้ Inactivated JE มาแล้ว 3 โด๊ส แล้วไม่ต้องฉดี กระตุ้นอีก หมวดเนอื้ หาที่ 2: โรคติดต่อทป่ี อ้ งกนั ไดด้ ว้ ยวคั ซีนและวัคซนี พนื้ ฐาน 75
6. ก�ำหนดการให้วคั ซีนแกผ่ ู้ใหญ่ กระทรวงสาธารณสขุ ไดเ้ ลง็ เหน็ ความสำ� คญั ของการปอ้ งกนั โรคทส่ี ำ� คญั ในผใู้ หญ่ จงึ กำ� หนดใหส้ รา้ งเสรมิ ภูมิคุ้มกนั โรคแก่ผู้ใหญ่ โดยให้เริ่มใช้วัคซีนรวมคอตีบ-บาดทะยัก ทดแทนวคั ซีนบาดทะยักทกุ กรณี เพ่อื กระตุ้น ภมู คิ มุ้ กนั โรคคอตบี ใหว้ คั ซนี คอตบี -บาดทะยกั แกห่ ญงิ ตง้ั ครรภแ์ ละใหเ้ ขม็ กระตนุ้ แก่ผใู้ หญ่ทกุ 10 ปี ใหน้ ำ� วคั ซนี ไข้หวัดใหญ่มาให้บรกิ ารในผู้ท่มี คี วามเส่ียงจะเกดิ อาการรนุ แรงหากป่วยเปน็ โรคไข้หวดั ใหญ่ รวมถงึ แนะน�ำให้น�ำ วัคซีนรวมป้องกนั โรคหดั -หัดเยอรมนั (MR) มาให้บริการแก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขเพอื่ ป้องกนั การติดเชื้อในสถานพยาบาล โดยมรี ายละเอียดการให้วัคซนี ในผู้ใหญ่ รายละเอียดดงั ตารางท่ี 2.12-2.13 ตารางที่ 2.12 วัคซีนส�ำหรบั ผู้ใหญท่ ่ใี หบ้ รกิ ารในแผนงานสรา้ งเสรมิ ภูมคิ ุ้มกนั โรคของประเทศไทย กลมุ่ เป้าหมาย วัคซีนท่ีให้ จำ� นวนเข็มท่ีต้องให/้ ข้อแนะน�ำ 1. หญิงมีครรภ์ dT Influenza รายละเอยี ดตามตารางท่ี 2.13 1 คร้งั ในทกุ การต้ังครรภ์ 2. บคุ ลากร MR ให้รบั วัคซนี ไข้หวดั ใหญ่เม่อื อายุครรภ์ครบ 4 เดอื น โดยอาจเปน็ ทางการแพทย์ สายพันธ์ุเหนอื หรอื ใต้ Influenza กรณีหญงิ ตง้ั ครรภ์เคยได้รับวัคซนี ไข้หวดั ใหญ่สายพันธ์ุระบาด 3. บุคคลทวั่ ไป dT (Monovalent pandemic influenza vaccine) มาก่อนแล้ว ยงั คงต้อง ได้รับวัคซนี ไข้หวดั ใหญ่ตามฤดกู าล (Seasonal influenza vaccine) เนอ่ื งจากวคั ซนี ไข้หวดั ใหญ่สายพนั ธ์ุระบาดสามารถป้องกนั การ เจบ็ ป่วยจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ระบาดเท่านน้ั 1 ครง้ั ให้แก่บคุ ลากรท่สี ัมผสั ผู้ป่วย รวมถงึ นกั ศึกษาสาขาวิชาแพทย์ และสาธารณสขุ 1 ครั้ง (ทุกปี) 1 ครงั้ เมอื่ อายคุ รบ 20, 30, 40, 50, 60, 70, 80, 90 และ 100 ปี หากไม่เคย หรือเคยได้รบั วคั ซนี ทม่ี สี ่วนประกอบของคอตบี ไม่ครบ 3 ครั้ง ให้วคั ซนี dT จ�ำนวน 3 ครง้ั ห่างกนั 0, 1, 6 เดอื น จากนน้ั นดั รับวัคซนี เข็มกระตุ้นทุก 10 ปี 76 หมวดเนื้อหาที่ 2: โรคติดต่อทปี่ อ้ งกันไดด้ ้วยวคั ซนี และวคั ซีนพื้นฐาน
ตารางที่ 2.13 ก�ำหนดการใหว้ ัคซนี รวมคอตีบ-บาดทะยกั (dT) ในหญิงมีครรภ์ ประวัติการใหว้ ัคซีนทมี่ สี ่วนประกอบของวคั ซนี บาดทะยัก จ�ำนวนครั้ง ระยะห่างระหวา่ งเข็มท่ีเริม่ ฉีด (DTP-HB, DTP, DTP-HB-Hib, dT, Tdap, TT) ท่ตี ้องให้ ในชว่ งต้งั ครรภ์ ไม่เคยได้รบั หรอื ไม่ทราบ หรอื ไม่แน่ใจว่าเคยได้รับวัคซนี 3 ฉีดเข็มท่ี 1 เม่อื มาฝากครรภ์ หรอื ไม่* ทนั ที และฉดี เขม็ ท่ี 2 ห่างจาก 2 เข็มที่ 1 อย่างน้อย 1 เดอื น และ เคยได้รบั มาแล้ว 1 เขม็ ไม่ว่าจะนานเท่าใด ฉีดเขม็ ที่ 3 ห่างจากเข็มท่ี 2 1 อย่างน้อย 6 เดอื น จากนนั้ ให้ เคยได้รบั มาแล้ว 2 เขม็ ไม่ว่าจะนานเท่าใด 1 กระตุ้นทุก 10 ปี 0 ฉดี เข็มแรกห่างจากเขม็ ล่าสุด เคยได้รับมาแล้วอย่างน้อย 3 เขม็ และเขม็ สุดท้าย 2 อย่างน้อย 1 เดอื น และฉดี เข็ม นานกว่า 10 ปี ถดั ไปห่างกนั อย่างน้อย 6 เดอื น เคยได้รับมาแล้วอย่างน้อย 3 เข็ม และเขม็ สดุ ท้าย จากนั้นให้กระตุ้นทกุ 10 ปี น้อยกว่า 10 ปี ฉีดห่างจากเขม็ ล่าสุด อย่าง เคยไดร้ บั มาแลว้ แตจ่ ำ� ไมไ่ ดว้ า่ เคยไดร้ บั วคั ซนี มาแลว้ กค่ี รงั้ * น้อย 6 เดอื น จากนั้นให้กระตุ้น ให้พจิ ารณาว่าเคยได้รับมาแล้วอย่างน้อย 1 ครง้ั ทกุ 10 ปี ฉดี เมอ่ื มาฝากครรภ์ทนั ที จากน้นั ให้กระตุ้นทกุ 10 ปี ไม่ต้องฉดี ในระหว่างตงั้ ครรภ์ ครัง้ นี้ ฉีดเขม็ แรกห่างจากเขม็ ล่าสุด อย่างน้อย 1 เดอื น และฉดี เขม็ ถดั ไปห่างกนั อย่างน้อย 6 เดอื น จากน้ันให้กระตุ้นทกุ 10 ปี หมายเหตุ: ในกรณีที่เคยได้รับวัคซีนที่มีส่วนประกอบของวัคซีนบาดทะยักมาก่อน หากให้วัคซีน dT แล้วมอี าการปวดบวมลามมากกว่าปกติ เช่น บวมไปทวั่ ทงั้ แขน ยกแขนไม่ได้ (Arthus reaction) แสดงว่าร่างกาย ยังมภี มู คิ ุ้มกนั ต่อเชอ้ื บาดทะยกั อยู่ในระดับสูง ขอให้เล่ือนการฉดี วัคซนี dT ครง้ั ต่อไปเปน็ ระยะเวลา 10 ปี จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่ากระทรวงสาธารณสุขได้มีการวางแนวทางปฏิบัติส�ำหรับผู้ปฏิบัติงาน ด้านการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคเป็นอย่างดี ดังนั้นถ้าผู้ปฏิบัติงานเกิดความตระหนัก และเห็นความส�ำคัญของ งานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ซ่ึงเป็นงานพ้ืนฐานแต่มีความส�ำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพของประชากรคนไทยต้ังแต่ แรกเกดิ อนั จะนำ� ไปสู่การมสี ขุ ภาพพืน้ ฐานที่แข็งแรง ไม่ถูกรกุ รานจากโรคต่างๆ ทีส่ ามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน เติบโตเป็นทรพั ยากรบุคคลท่มี คี ณุ ภาพ ทำ� คุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาตติ ่อไป หมวดเน้อื หาท่ี 2: โรคติดต่อทีป่ ้องกันได้ดว้ ยวัคซีนและวัคซนี พ้ืนฐาน 77
เอกสารอา้ งอิง กลุ กญั ญา โชคไพบลู ยก์ จิ , เกษวดี ลาภพระ, จฑุ ารตั น์ เมฆมลั ลกิ า, ฐติ อิ ร นาคบญุ นำ� และ อจั ฉรา ตงั้ สถาพรพงษ,์ บรรณาธิการ. ต�ำราวัคซีนและการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ปี 2556. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฎ สวนสนุ ันทา; 2558. ธนากติ . การควบคุมและป้องกนั โรคติดต่อ. กรงุ เทพฯ: สุวรี ยิ าสาส์น; 2542. ประเสริฐ ทองเจรญิ , บรรณาธกิ าร. คู่มือการสร้างเสรมิ ภูมคิ ุ้มกันโรค ฉบับท่ี 10 (พิมพ์เพิ่มเตมิ ); 2545. ปิยนิตย์ ธรรมาภรณ์พลิ าศ, บรรณาธกิ าร. คู่มอื การกวาดล้างโรคโปลโิ อ. กรุงเทพฯ: สำ� นกั งานกจิ การโรงพมิ พ์ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศกึ ; 2548. ศิรริ ัตน์ เตชะธวัช, ปนัดดา ล่ีสถาพรวงศา, ธนพัฒน์ เลาวหตุ านนท์ และวรรณภา สกุลพราหม์, บรรณาธิการ. คู่มือการบริหารจัดการวัคซีนและระบบลูกโซ่ความเย็น ปี 2554. กรุงเทพฯ: บริษัท ศรีเมืองการพิมพ์ จ�ำกัด; 2554. พรรณพศิ สวุ รรณกูล, ธรี ะพงษ์ ตัณฑวิเชียร และชุษณา สวนกระต่าย. การฉีดวัคซนี ป้องกันโรคในประเทศไทย: ปจั จบุ นั สู่อนาคต. กรงุ เทพฯ: บ.ี บี. การพมิ พ์และบรรจภุ ัณฑ์; 2547. วรศกั ดิ์ โชตเิ ลอศักดิ์ และคณะ.วคั ซนี และโรคตดิ เช้อื ทีป่ ้องกันได้ด้วยวัคซนี . กรุงเทพฯ: ธนาเพรส; 2548. วชิ ัย โชคววิ ฒั น์. ปรทิ ศั น์ โรคตดิ ต่อ. นนทบุรี: โครงการสวสั ดิการวิชาการ สถาบันพระบรมราชนก; 2544. สมเกียรติ วัฒนศิริชัยกุล, เกศรา อัศดามงคล, มาเรียว ริกันติ, สมชาย สันติวัฒนกุล, คณะบรรณาธิการ. ภาวะตดิ เชอ้ื Molecular/ Cellular and Clinical Basis. เล่ม 1. กรุงเทพฯ: เมด็ ทรายพรน้ิ ต้ิง; 2547. สชุ ีรา ฉัตรเพรดิ พราย และคณะ. วัคซนี ทางออกในการป้องกันภยั ร้าย. กรงุ เทพฯ:ธนาเพรส; 2550. อังกูร เกดิ พาณิช และคณะ. Update on Pediatric infectious Diseases 2008. กรุงเทพมหานคร: บรษิ ัท รุ่งศลิ ป์ การพมิ พ์ (1977) จำ� กดั ; 2551. โอฬาร พรหมาลขิ ติ , อจั ฉรา ตงั้ สถาพรพงษ,์ อษุ า ทสิ ยากร, คณะบรรณาธกิ าร. วคั ซนี . กรงุ เทพฯ: นพชยั การพมิ พ;์ 2558. แผนปฏิบัติงานประจ�ำปี 2558: โรคติดต่อที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน ส�ำนักโรคติดต่อท่ัวไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พิรังกูร เกิดพาณิช. ใน บทท่ี 26 วัคซีนป้องกันวัณโรค โอฬาร พรมาลิขิต, อัจฉรา ต้ังสถาพรพงษ์ และ อุษา ทิสยากร (บรรณาธิการ), วคั ซนี (พมิ พ์ครงั้ ที่ 2) (น. 247-266). กรุงเทพฯ: สมาคมโรคติดเชอ้ื ในเดก็ แห่งประเทศไทย; 2558. สมาคมโรคตดิ เช้อื ในเด็กแห่งประเทศไทย. ตารางการให้วคั ซนี ในเดก็ ไทยปกติ แนะน�ำโดยสมาคมโรคติดเชอื้ เดก็ แห่งประเทศไทย 2560 [แผ่นพับ].กรงุ เทพฯ: สมาคมโรคตดิ เชอ้ื ในเดก็ แห่งประเทศไทย; 2560. The Carter center International Task Force for Disease eradication-Terms Defined [homepage on the Internet]. [updated 2009 Sep.7]. Available from: http:// www.cartercenter.org/health/itfde/program_ denition.html. WHO. [homepage on the Internet]. Report on infectious diseases eradication and elimination initiatives. [updated 2009 Sep.7]. Available from: http://www.who.int/infectious-disease-report/pages/ch6init. html. 78 หมวดเนอ้ื หาท่ี 2: โรคตดิ ตอ่ ท่ปี อ้ งกันไดด้ ว้ ยวัคซีนและวคั ซนี พน้ื ฐาน
หมวดเนื้อหาท่ี 2: โรคตดิ ตอ่ ท่ปี อ้ งกันไดด้ ว้ ยวคั ซนี และวคั ซนี พื้นฐาน 79
แบบทดสอบความรหู้ ลงั การอบรม ขอ้ คำ� ถาม ค�ำตอบ 1. โรคท่สี ามารถกวาดล้างได้แล้วคอื ก. วณั โรค ข. บาดทะยกั ค. โรคไข้ทรพษิ ง. โรคโปลโิ อ 2. เชอื้ โรคท่สี ามารถคงอยู่ใน ก. เช้ือ Mycobacterium Tuberculosis สภาพแวดล้อมได้นาน คอื ข. เชือ้ Corynebacterium diphtheriae ค. เชอ้ื Clostridium tetani ง. เช้อื Polio virus 3. โรคไวรสั ตบั อกั เสบบี ก. ใช้ของร่วมกนั เช่น ผ้าเช็ดตัว ผ้าเชด็ หน้า สามารถตดิ ต่อได้โดย ข. การสมั ผสั กับเลอื ด สารคัดหลัง่ ของผู้ป่วยผ่านทาง บาดแผล ค. จากการรับประทานอาหารร่วมกัน ง. ทางการหายใจ ไอ จามในระยะ 3 ฟุต 4. โรคใดไม่ตดิ ต่อโดยตรงจากคนไปสู่คน ก. วัณโรค บาดทะยัก ข. โปลโิ อ หดั ค. ไข้สมองอกั เสบเจอี บาดทะยัก ง. คอตบี หดั 5. วัคซนี ป้องกันโรคหัด หดั เยอรมนั ก. 9 เดือน คางทมู ควรเรม่ิ ให้ในอายุเท่าใด ข. 10 เดือน จึงจะเกิดภมู คิ ุ้มกันทด่ี ี ค. 11 เดอื น ง. 12 เดอื น 6. หญิงมีครรภ์ ถ้าเคยได้รับวคั ซนี dT มา ก. ให้ อกี 1 เขม็ เพอ่ื กระตุ้น แล้ว 1 เข็ม จะต้องให้วคั ซนี dT อย่างไร ข. ให้เพ่ิมอกี 2 เขม็ เขม็ แรกห่างจากเขม็ ล่าสดุ 1 เดอื น ค. ให้เพ่มิ อกี 2 เข็ม ระยะห่าง 0, 6 โดยห่างจาก เข็มล่าสุด 6 เดอื น ง. ให้ 3 เข็ม ระยะห่าง 0, 1, 6 เดอื น 7. ระยะห่างท่นี ้อยทส่ี ุดของการให้วคั ซนี ก. 1 สัปดาห์ DTP1 และ DTP2 คอื ข. 2 สปั ดาห์ ค. 3 สัปดาห์ ง. 4 สปั ดาห์ 80 หมวดเน้ือหาท่ี 2: โรคติดต่อท่ีปอ้ งกนั ได้ด้วยวัคซีนและวคั ซนี พืน้ ฐาน
ข้อ คำ� ถาม คำ� ตอบ 8. เด็กแรกเกิดทกุ คนท่ปี กติ ควรได้รับ ก. บซี ีจี และตับอกั เสบบี ข. หัด หัดเยอรมัน คางทูม วคั ซนี ชนดิ ใดเปน็ อันดับแรก ค. คอตีบ ไอกรน บาดทะยกั ง. ไข้สมองอกั เสบเจอ ี 9. วัคซีนชนดิ ใด ทเ่ี ป็นวัคซนี เชอ้ื เปน็ ก. โปลิโอชนดิ รับประทาน อ่อนฤทธ์ิ ข. ตับอักเสบบี ค. คอตบี ไอกรน บาดทะยกั 10. กรณีเด็กอายุ 1-6 ปีทพ่ี ลาดการรับ ง. โปลโิ อชนดิ ฉีด วัคซีนในช่วงอายุ 1 ปีแรก จะต้องให้ ก. บีซีจี วัคซนี อะไรบ้างเม่อื พบครั้งแรก ข. MMR ค. DTP,OPV , HB ง. ถูกทุกข้อ หมวดเนอื้ หาที่ 2: โรคติดตอ่ ทปี่ ้องกนั ไดด้ ว้ ยวคั ซนี และวัคซีนพน้ื ฐาน 81
3 ประมาณการวัคซีน เพอื่ ให้บริการ หลักสูตรเชงิ ปฏิบตั ิการสำ�หรบั เจา้ หน้าท่สี ร้างเสรมิ ภูมิคุม้ กนั โรค ปี 2561 83
3แผนการสอนหมวดเน้อื หาท่ี ประมาณการวคั ซีนเพื่อใหบ้ รกิ าร เรื่อง ประมาณการวคั ซนี เพอื่ ให้บรกิ าร ผู้เรียน เภสัชกร/ เจ้าหน้าท่สี าธารณสขุ / ผู้ให้บริการวคั ซนี ทุกระดับ ก�ำหนดการสอน 1.5 ช่ัวโมง วตั ถปุ ระสงค์ เมอ่ื สิน้ สดุ การเรยี นการสอน ผู้เรยี นจะสามารถ 1. ประมาณการวัคซนี ทีจ่ ะใช้ในกลุ่มประชากรเป้าหมายได้อย่างถกู ต้อง 2. คำ� นวณปรมิ าณวัคซีนทต่ี ้องการเบกิ สำ� หรบั แต่ละกลุ่มประชากรเป้าหมาย และค�ำนวณอัตราสญู เสีย วัคซนี แต่ละชนดิ ได้ 3. กรอกใบเบิกวคั ซนี (แบบ ว.3/1) ได้ครบถ้วนและถกู ต้อง 4. ตรวจสอบความครบถ้วน ถกู ต้อง และความสอดคล้องของใบเบกิ วคั ซีน (แบบ ว. 3/1) ได้ 5. เข้าใจระบบการเบกิ -จ่ายวัคซีน ผ่านระบบ VMI (Vendor Managed Inventory) 6. จัดทำ� ทะเบยี นรับ-จ่ายวัคซนี ได้อย่างครบถ้วนและถกู ต้อง กิจกรรมการสอน 1. บรรยายเนอื้ หาตามวัตถุประสงค์ 2. ฝึกปฏบิ ัติการคำ� นวณ และตรวจสอบในแบบเบิกวัคซนี (ว. 3/1) และการจัดท�ำทะเบยี นรับ-จ่ายวคั ซนี 3. สาธติ หรอื แสดง: โปรแกรม Excel ส�ำหรับแบบ ว.3/1 ระบบ VMI ขององค์การเภสัชกรรม สื่อการสอน 1. เอกสารประกอบการบรรยาย (Hand out power point ที่ใช้บรรยาย) 2. ใบงาน โจทย์ (แบบ ว. 3/1) ในการคำ� นวณ และตรวจสอบการเบกิ และรายงานการใชว้ คั ซนี พรอ้ มเฉลย 3. ใบงาน แบบฝึกหัดการกรอกรายละเอียดในทะเบียนเบิก-จ่ายวัคซีน และใบเฉลย/สรุปความรู้จาก แบบฝกึ หดั การประเมนิ ผล 1. แบบทดสอบก่อนและหลงั การอบรม 2. การมสี ่วนร่วมในกจิ กรรมระหว่างเรยี น หมวดเน้อื หาท่ี 3: ประมาณการวคั ซนี เพอื่ ให้บรกิ าร 85
แบบทดสอบความรู้ก่อนการอบรม ข้อ คำ� ถาม ค�ำตอบ 1. ประโยชน์ของประมาณการวัคซนี ก. การเตรยี มวัคซีนให้เพยี งพอ คือข้อใด ข. หลังให้บรกิ ารมวี ัคซีนคงเหลือไม่มากเกนิ ไป ค. เพื่อลดอตั ราสญู เสยี ของวัคซนี ง. ถกู ทุกข้อ 2. ข้อใดคือกลุ่มเป้าหมายทง้ั หมด ก. เด็กก่อนวัยเรียน หญงิ มีครรภ์ และเด็กต่างชาติ ในประมาณการวัคซนี ทอ่ี าศยั อยู่ในประเทศไทย ข. เดก็ ก่อนวัยเรยี น นกั เรยี น ป.1 นักเรยี นหญงิ ป.5 นกั เรียน ป.6 และเดก็ ต่างชาตทิ ี่อาศัยอยู่ใน ประเทศไทย ค. เด็กก่อนวยั เรียน นกั เรยี น ป.1 นกั เรยี นหญงิ ป.5 และ นักเรียน ป. 6 หญงิ มีครรภ์ทงั้ ชาวไทยและ ชาวต่างชาตทิ ่อี าศัยอยู่ในประเทศไทย ง. เดก็ ก่อนวัยเรยี น เด็กนกั เรยี น ป.1 นกั เรียน ป.6 และหญงิ มคี รรภ์ 3. ข้อใดไม่ใช่แหล่งข้อมลู เพอ่ื การหาจำ� นวน ก. ฐานข้อมลู โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ทบ่ี นั ทึกข้อมูล เป้าหมายเดก็ ก่อนวยั เรยี น การให้บรกิ าร ข. ทะเบียนติดตามการได้รับวัคซนี ของกลุ่มเป้าหมาย (แบบ 0119 รบ. 1ก/3) ค. บัตรบันทึกการให้วคั ซนี (0119 รบ.1ต.) ง. สมุดบนั ทึกสุขภาพแม่และเด็ก (สมุดสีชมพ)ู 4. ปัจจยั ข้อใดท่มี ีผลต่ออตั ราสูญเสยี ก. จำ� นวนผู้มารับบริการ ของวัคซนี ข. เทคนคิ การผสมและดูดวัคซีนเข้ากระบอกฉดี ค. ขนาดบรรจุโด๊สต่อขวด ง. ถกู ทุกข้อ 5. ข้อใดถกู ต้องทส่ี ุดเกย่ี วกับอัตราสูญเสยี ก. กลุ่มเด็กแรกเกดิ BCG และ HB อัตราสญู เสีย ของวัคซนี แต่ละชนดิ เท่ากบั ร้อยละ 50 ข. กลุ่มเด็กอายุ 2 เดอื น ถงึ 5 ปี อตั ราสญู เสยี เท่ากบั ร้อยละ 25 ค. กลุ่มเด็กนักเรียน อตั ราสญู เสยี เท่ากบั ร้อยละ 10 ง. วัคซีน OPV อัตราการสูญเสยี เท่ากับ ร้อยละ 30 86 หมวดเนื้อหาท่ี 3: ประมาณการวัคซนี เพือ่ ใหบ้ ริการ
ขอ้ ค�ำถาม คำ� ตอบ 6. การคำ� นวณจำ� นวนวคั ซนี ทต่ี อ้ งการเบกิ ก. จำ� นวนเป้าหมายคูณกบั อัตราสูญเสยี ของแต่ละ ข้อใดถูกต้อง ชนิดวัคซนี ข. จ�ำนวนเป้าหมายคูณกบั ตวั คูณการสูญเสยี ลบด้วย วคั ซีนทเ่ี หลอื จากการบรกิ ารครั้งท่ีผ่านมา ค. ปรมิ าณวัคซนี ท่ีให้บริการในเดอื นที่ผ่านมา ง. ค่าเฉล่ยี ของการให้บรกิ ารวัคซีนใน 6 เดือนท่ผี ่านมา 7. การกรอกใบเบกิ วคั ซีนต้องกรอกข้อมูล ก. จ�ำนวนเป้าหมาย จ�ำนวนวัคซนี ทต่ี ้องการใช้ ใดบ้าง จ�ำนวนยอดคงเหลอื ยกมา และจำ� นวนท่ขี อเบิก ข. จำ� นวนผู้มารับบริการ และวัคซนี ที่เปิดใช้ในเดอื น ทีผ่ ่านมา ค. อัตราสูญเสยี ของวัคซนี ท่เี กดิ ข้ึนจรงิ ง. ถูกทุกข้อ 8. ความหมายของ “จำ� นวนวคั ซนี ทเี่ ปดิ ใช”้ ก. วัคซนี ท่เี ปิดให้บรกิ าร วัคซีนทต่ี กแตก วัคซนี ที่ คอื ข้อใด หมดอายุ และวคั ซนี ท่ีเสอ่ื มสภาพ ข. วคั ซีนทเ่ี ปิดให้บรกิ ารและวัคซนี ทีต่ กแตกขณะให้ บริการ ค. วัคซนี ท่เี ปิดให้บรกิ าร วัคซีนท่หี มดอายุ และวัคซนี ทเี่ ส่อื มสภาพ ง. เฉพาะวัคซีนท่ีเปิดให้บรกิ ารเท่าน้นั 9. หลกั ในการเปิดใช้วัคซนี คือข้อใด ก. เปิดวัคซีนใช้ตามความสะดวกของผู้ใช้ ข. วคั ซนี ทร่ี ับมาก่อนต้องใช้ก่อน ค. วคั ซนี ทร่ี บั ทหี่ ลงั ต้องใช้ก่อน ง. วคั ซีนท่จี ะหมดอายกุ ่อนต้องใช้ก่อน 10. ข้อใดคอื ข้อมลู ท่สี �ำคญั ของทะเบียน ก. ช่อื วคั ซีน วัน/เดือน/ปีรบั -จ่าย ระบุสถานท่รี บั -จ่าย รบั –จ่ายวัคซนี จำ� นวนรับ จ�ำนวนจ่าย จ�ำนวนคงเหลอื และวันหมดอายุ (Exp. Date) ข. รุ่นการผลิต (Lot No.) ค. บรษิ ัทผู้ผลิตวัคซีน และนำ� เข้ามาจ�ำหน่าย ง. ถูกท้งั ข้อ ก. และ ข. หมวดเนอื้ หาท่ี 3: ประมาณการวคั ซนี เพ่ือให้บรกิ าร 87
88 หลักสูตรเชงิ ปฏบิ ัตกิ ารสำ�หรบั เจ้าหนา้ ทสี่ ร้างเสรมิ ภมู ิคมุ้ กนั โรค ปี 2561
3หมวดเน้ือหาท่ี ประมาณการวัคซีนเพ่ือให้บรกิ าร สาระสงั เขป ประมาณการวัคซีน หมายถึง การประมาณจ�ำนวนวัคซีนให้เพียงพอส�ำหรับกลุ่มเป้าหมายในและนอก พื้นที่ท่ีมารับบริการ โดยหน่วยบริการทุกระดับต้องมีประมาณการวัคซีนเดือนละคร้ัง เพื่อการจัดเตรียมวัคซีน ให้เหมาะสมแก่การให้บริการ ถ้าประมาณวัคซีนรายเดือนมากเกินไป จะส่งผลให้มีวัคซีนคงค้างท่ีหน่วยบริการ หากหน่วยบริการมีระบบลูกโซ่ความเย็นไม่ดี จะท�ำให้วัคซีนเส่ือมคุณภาพ ในขณะเดียวกันถ้าประมาณวัคซีน น้อยกว่าจำ� นวนผู้มารบั บรกิ าร จะท�ำให้มวี ัคซีนไม่เพียงพอ ในการประมาณวัคซีนน้ันจะต้องค�ำนึงถึงกลุ่มเป้าหมาย (เด็ก หญิงมีครรภ์ และกลุ่มผู้ใหญ่) และอัตรา สูญเสียของวัคซีนแต่ละชนิดด้วย ซึ่งจ�ำนวนกลุ่มเป้าหมายในการให้บริการของหน่วยบริการที่จะน�ำมาค�ำนวณ ปริมาณวัคซนี ท่ีต้องการใช้ในแต่ละเดือน ประกอบด้วย 3 กลุ่ม ดังน้ี §§ จำ� นวนเป้าหมายทน่ี ดั หมายมารบั วคั ซนี §§ จำ� นวนกลุ่มเป้าหมายนอกพ้นื ทที่ ่ไี ม่ได้นัดแต่มาขอรับวคั ซนี §§ จ�ำนวนกลุ่มเป้าหมายทไ่ี ม่ได้มาตามนัดเม่อื คร้งั ก่อน ส�ำหรับอัตราสูญเสียวัคซีนแต่ละชนิดข้ึนอยู่กับหลายองค์ประกอบ ได้แก่ จ�ำนวนกลุ่มเป้าหมายที่มา รบั บรกิ ารในแตล่ ะครงั้ ของการใหบ้ รกิ าร ขนาดบรรจขุ องวคั ซนี วคั ซนี ทบี่ รรจหุ ลายโดส๊ ตอ่ ขวดจะมโี อกาสสญู เสยี ได้มาก เทคนคิ การเตรยี มวคั ซนี ให้ได้ครบตามจำ� นวนโด๊สท่บี รรจตุ ่อขวด ซ่งึ ได้มีการกำ� หนดอตั ราสูญเสียวัคซีน แต่ละชนิดไว้แล้ว เพอ่ื ประมาณการใช้วัคซนี ได้อย่างเพียงพอ ดังนี้ หมวดเนอ้ื หาท่ี 3: ประมาณการวคั ซีนเพอ่ื ให้บรกิ าร 89
1. ในเด็กก่อนวัยเรยี น หญิงมีครรภ์ และกล่มุ ผู้ใหญ่ §§ วคั ซีนทม่ี ีขนาดบรรจุ 1 โด๊ส มอี ตั ราสญู เสยี เท่ากบั ร้อยละ 1 §§ วัคซีนทม่ี ีขนาดบรรจุ 2 โด๊ส มอี ัตราสูญเสยี เท่ากับร้อยละ 10 §§ วัคซนี ทม่ี ีขนาดบรรจุ 4 โด๊ส มอี ตั ราสญู เสียเท่ากับร้อยละ 20 §§ วัคซีนท่มี ีขนาดบรรจุ 10-20 โด๊ส มอี ัตราสูญเสียเท่ากบั ร้อยละ 25 ยกเวน้ วัคซนี BCG ในเด็กแรกเกดิ ก�ำหนดให้มีอัตราสญู เสยี เท่ากับร้อยละ 50 2. ในเด็กนักเรียน ป.1 ป.5 และ ป.6 §§ วคั ซีนท่มี ีขนาดบรรจุ 1 โด๊ส มอี ัตราสูญเสยี เท่ากับร้อยละ 1 §§ วัคซีนทม่ี ีขนาดบรรจุ 2-20 โด๊ส มีอัตราสญู เสียเท่ากบั ร้อยละ 10 การคำ� นวณหาจำ� นวนวคั ซนี ทต่ี ้องการใช้ของหน่วยบรกิ ารในแต่ละรอบการเบกิ มปี จั จยั ทเ่ี กยี่ วข้อง ได้แก่ จำ� นวนกลุ่มเป้าหมาย ตัวคูณการสญู เสยี วัคซนี (WMF) ขนาดบรรจุ (โด๊สต่อขวด) โดยสามารถค�ำนวณปริมาณ วคั ซีน ทต่ี ้องการใช้ได้จากสูตรค�ำนวณการใช้วคั ซนี หน่วยบริการต้องจัดทำ� ใบเบิกวัคซีน เพ่ือแจ้งประมาณการวัคซีนที่ต้องการใช้ในเดือนถัดไปส่งให้แก่ฝ่าย เภสชั กรรม หรอื สำ� นกั งานสาธารณสขุ อำ� เภอเพอื่ ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และรวบรวมสง่ ใหเ้ ภสชั กรผรู้ บั ผดิ ชอบ เพื่อที่คลังวัคซีนจะได้จัดเตรียมวัคซีนไว้ให้ตามใบเบิกของหน่วยบริการ นอกจากนี้คลังวัคซีนและหน่วยบริการ ต้องจัดท�ำทะเบียนรับ-จ่ายวัคซีนแต่ละชนิด เพ่ือควบคุมจ�ำนวน และรายละเอียดของวัคซีน ซ่ึงจะท�ำให้ทราบ ถึงอตั ราการจ่าย ยอดคงเหลอื ช่วยให้สะดวกในการจ่ายวคั ซนี ตามหลัก First Expire First Out (FEFO) รวมท้ัง ใช้ในการตดิ ตามวคั ซนี Lot number ทพ่ี บผู้ป่วยมอี าการรนุ แรงภายหลังได้รับวัคซนี 1. ความหมายและความส�ำคัญของประมาณการวัคซีนเพื่อใหบ้ ริการ 1.1 ความหมายของประมาณการวัคซีนเพื่อให้บริการ หมายถึง ประมาณการจ�ำนวน วัคซีนให้เพียงพอส�ำหรับกลุ่มเป้าหมายที่มารับบริการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคท้ังในและนอกเขตรับผิดชอบของ หน่วยบรกิ ารทุกระดบั ตั้งแต่ระดับจังหวัด อ�ำเภอ และต�ำบล 1.2 ความส�ำคัญของประมาณการวัคซีนเพ่ือให้บริการ โดยท่ัวไปหน่วยบริการแต่ละแห่ง ต้องประมาณการวัคซีนรายเดือน เพื่อการจัดเตรียมปริมาณวัคซีนให้เหมาะสมแก่กลุ่มเป้าหมาย ทั้งผู้ท่ีอาศัย อยู่ในและนอกพ้ืนที่รับผิดชอบ ซึ่งเม่อื ให้บริการแล้วจะมวี คั ซีนคงเหลอื ไม่มากเกนิ ไป (วคั ซนี คงเหลอื ต้องมจี �ำนวน น้อยกว่าจ�ำนวนเป้าหมายวัคซีนท่ีใช้ใน 1 เดือน) ถ้าประมาณการวัคซีนรายเดือนมากเกินไป จะส่งผลให้มีวัคซีน คงค้างที่หน่วยบริการมาก และหากระบบลูกโซ่ความเย็นของหน่วยบริการไม่ดีจะท�ำให้วัคซีนเส่ือมคุณภาพ ในขณะเดียวกันถ้าประมาณการใช้วัคซีนรายเดือนน้อยกว่าจ�ำนวนผู้มารับบริการ จะมีวัคซีนไม่เพียงพอในการ ให้บริการ 90 หมวดเน้ือหาที่ 3: ประมาณการวคั ซีนเพ่อื ให้บริการ
2. กลุม่ เปา้ หมายในประมาณการวคั ซนี 2.1 กลมุ่ เป้าหมายในการให้บรกิ ารวคั ซนี 2.1.1 กล่มุ เปา้ หมายเด็ก หมายถงึ กลุ่มเดก็ แรกเกิด กลุ่มเดก็ อายุ 2 เดอื น, 4 เดอื น, 6 เดอื น และ 9 เดือน กลุ่มเดก็ อายุ 1 ปี, 1 ปี 6 เดอื น, 2 ปี 6 เดอื น และอายุ 4 ปี กลุ่มเดก็ นักเรียน ป. 1, ป. 5 (หญงิ ) และ ป.6 รวมทงั้ เด็กที่ตดิ ตามพ่อแม่ผู้ปกครองมาอยู่ในพนื้ ที่และแรงงาน ต่างชาติ 2.1.2 กลุ่มเป้าหมายหญิงมีครรภ์ หมายถึง หญิงมีครรภ์ทุกราย ซ่ึงต้องได้รับวัคซีนตาม กำ� หนดการสร้างเสรมิ ภูมคิ ุ้มกนั โรคของกระทรวงสาธารณสขุ 2.1.3 กลุ่มเป้าหมายผู้ใหญ่ หมายถึง ประชาชนกลุ่มเส่ียงท่ีควรได้รับวัคซีนตามแผนงาน สร้างเสรมิ ภูมิคุ้มกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข 2.2 การหาจ�ำนวนกลมุ่ เปา้ หมาย ในการให้บรกิ ารของหน่วยบรกิ าร เพอื่ ใช้คำ� นวณปรมิ าณวคั ซนี ทตี่ ้องการใช้ในแต่ละเดอื น ประกอบด้วย 3 กลุ่ม ดงั น้ี 2.2.1 จ�ำนวนเป้าหมายท่ีนดั หมายมารับวคั ซีน สามารถหาได้จากแหล่งข้อมลู ต่างๆ เช่น §§ โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ทบี่ นั ทกึ ข้อมลู การให้บริการ §§ บญั ชรี ายชือ่ กลุ่มเป้าหมายทน่ี ดั หมายท้ังในพน้ื ที่และนอกพ้ืนทร่ี ับผิดชอบ §§ ทะเบยี นติดตามการได้รับวัคซนี ของกลุ่มเป้าหมาย (แบบ 0119 รบ 1 ก/3) §§ บัญชรี ายชือ่ เด็กนกั เรยี นที่ต้องได้รบั วคั ซีนสร้างเสรมิ ภูมิคุ้มกนั โรคในโรงเรียน ท้ังนี้หน่วยบริการต้องบันทึกการนัดหมายทุกรายอย่างสมบูรณ์ จึงจะท�ำให้ประมาณ การกลุ่มเป้าหมายมีความครบถ้วน 2.2.2 จ�ำนวนเป้าหมายนอกพ้ืนที่ท่ีไม่ได้นัดแต่มาขอรับวัคซีน สามารถประมาณโดยหา ค่าเฉลยี่ ในการให้บรกิ ารทผี่ ่านมาอย่างน้อย 3 เดือน 2.2.3 จ�ำนวนเปา้ หมายท่ีไม่ไดม้ าตามนดั เมอื่ ครง้ั กอ่ น จะตอ้ งเลอื่ นนดั มารวมเปน็ เปา้ หมายใน การให้บรกิ ารในเดอื นนด้ี ้วย นอกจากการคาดประมาณจำ� นวนกลุ่มเป้าหมายแล้ว ในประมาณการใช้วัคซีนยงั ต้อง ค�ำนึงถึงอัตราสูญเสียวัคซีน เนื่องจากวัคซีนที่ใช้ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่มีขนาดบรรจุขวดละ หลายโด๊ส ในการเปิดใช้แต่ละครงั้ อาจใช้ไม่หมดขวด 3. อัตราสูญเสียวคั ซีนแตล่ ะชนดิ อตั ราสญู เสยี วคั ซนี (Wastage rate: WR) หมายถงึ รอ้ ยละของวคั ซนี ทสี่ ญู เสยี ไปเมอื่ มกี ารใหบ้ รกิ ารวคั ซนี แต่ละชนดิ แก่กลุ่มเป้าหมาย ซ่งึ ปจั จยั ท่เี กีย่ วข้องกับการสญู เสียวคั ซนี มีดังน้ี §§ จ�ำนวนกลุ่มเป้าหมายท่มี ารบั บรกิ ารในแต่ละครง้ั §§ ขนาดบรรจุของวัคซนี วคั ซนี ท่ีบรรจุหลายโด๊สต่อขวดจะมโี อกาสสูญเสียได้มาก §§ เทคนคิ ของเจ้าหน้าท่ใี นการเตรียมวัคซนี ให้ได้ครบตามจำ� นวนโด๊สทบี่ รรจุต่อขวด §§ วคั ซีนทต่ี กแตก หรอื หมดอายุ หมวดเน้อื หาที่ 3: ประมาณการวคั ซีนเพื่อใหบ้ ริการ 91
ดงั นนั้ ในทกุ ๆ ครงั้ ของการใหบ้ รกิ ารวคั ซนี ผปู้ ฏบิ ตั งิ านตอ้ งทราบอตั ราสญู เสยี ของวคั ซนี แตล่ ะชนดิ สำ� หรบั ประเทศไทยกำ� หนดไว้ดงั ตารางที่ 3.1-3.3 การกำ� หนดอตั ราสญู เสยี วคั ซนี แต่ละชนิด อัตราสญู เสยี ของวคั ซีนในเด็กก่อนวยั เรียน หญิงมีครรภ์ และกลมุ่ ผู้ใหญ่ §§ วัคซนี ทม่ี ีขนาดบรรจุ 1 โด๊ส มอี ตั ราสญู เสยี เท่ากับ ร้อยละ 1 §§ วัคซีนทม่ี ีขนาดบรรจุ 2 โด๊ส มอี ัตราสูญเสียเท่ากบั ร้อยละ 10 §§ วคั ซีนท่มี ีขนาดบรรจุ 4 โด๊ส มอี ัตราสญู เสียเท่ากับ ร้อยละ 20 §§ วัคซนี ท่มี ีขนาดบรรจุ 10-20 โด๊ส มอี ัตราสญู เสยี เท่ากบั ร้อยละ 25 ยกเวน้ วัคซีน BCG ในเดก็ แรกเกดิ กำ� หนดให้มอี ัตราสญู เสียเท่ากบั ร้อยละ 50 อตั ราสูญเสยี ของวัคซีนในเด็กนักเรยี น ป.1, ป.5 และ ป.6 §§ วัคซนี ทม่ี ีขนาดบรรจุ 1 โด๊ส มอี ัตราสญู เสยี เท่ากบั ร้อยละ 1 §§ วัคซีนที่มีขนาดบรรจุ 2-20 โด๊ส มีอัตราสูญเสียเท่ากับร้อยละ 10 เพราะเป็นการให้บริการเป็น กลุ่มใหญ่ ตารางท่ี 3.1 อตั ราสูญเสยี วัคซีน (WR) ตวั คณู การสญู เสียวคั ซีน (WMF) และขนาดขวดบรรจใุ น กล่มุ เด็กก่อนวยั เรยี น รายการ เด็กกอ่ นวยั เรยี น BCG HB OPV DTP-HB IPV Rota MMR LA-JE ขนาดบรรจุ (โด๊ส/ขวด) 10 2 20 10 1 10 1 1 1 4 อตั ราสูญเสยี (%) 50 10 25 25 1 25 1 1 1 20 WMF* 2 1.11 1.33 1.33 1.01 1.33 1.01 1.01 1.01 1.25 หมายเหตุ: ในอนาคตอาจใช้ DTP-HB-Hib ทดแทน DTP-HB ซงึ่ มอี ตั ราสญู เสยี เช่นเดยี วกนั ตารางท่ี 3.2 อัตราสูญเสียวัคซีน (WR) ตัวคูณการสูญเสียวัคซีน (WMF) และขนาดขวดบรรจุ ในกลุ่มเด็กนกั เรียน รายการ ป.1 ป. 5 ป.6 BCG HB OPV dT IPV MMR MR LA-JE HPV dT ขนาดบรรจุ (โด๊ส/ขวด) อตั ราสญู เสยี (%) 10 2 20 10 1 10 1 10 1 4 1 10 WMF* 10 10 10 10 1 10 1 10 1 10 1 10 1.11 1.11 1.11 1.11 1.01 1.11 1.01 1.11 1.01 1.11 1.01 1.11 92 หมวดเนื้อหาท่ี 3: ประมาณการวคั ซีนเพือ่ ใหบ้ ริการ
ตารางที่ 3.3 อัตราสูญเสียวัคซีน (WR) ตัวคูณการสูญเสียวัคซีน (WMF) และขนาดขวดบรรจุ ในกลมุ่ หญิงมคี รรภแ์ ละผู้ใหญ่ รายการ หญิงมีครรภ์ ผู้ใหญ่ dT Influenza dT ขนาดบรรจุ (โด๊ส/ขวด) 10 1 4 10 อัตราสูญเสยี (%) 25 1 20 25 WMF* 1.33 1.01 1.25 1.33 * WMF หรอื Wastage multiplication factor สามารถหาได้จากสตู ร 100 / (100-WR) ท่ีมาของสตู ร WMF มดี ังนี้ วคั ซีน 100 โด๊ส ฉดี เดก็ ได้ 100–WR คน ดังนัน้ ถ้ามเี ดก็ n คน ต้องเบกิ วคั ซีนเท่ากบั n x 100 / (100-WR) โด๊ส ตวั อยา่ ง วัคซีนท่มี ีอัตราสูญเสยี ร้อยละ 25 ถ้าต้องการให้วคั ซนี แก่เด็ก 30 คน ต้องใช้วคั ซนี กโี่ ด๊ส จ�ำนวนวัคซนี ทต่ี ้องการใช้ = 30 x 100/ (100-25) = 30 x 1.33 = 39.9 โด๊ส เท่ากับ 40 โด๊ส 4. การค�ำนวณการใช้วคั ซีน การคำ� นวณหาจำ� นวนวคั ซนี ทตี่ ้องการใช้ของหน่วยบรกิ ารในแต่ละรอบการเบกิ มปี จั จยั ทเี่ กย่ี วข้อง ได้แก่ จำ� นวนกลุ่มเป้าหมาย ตวั คูณการสญู เสียวคั ซนี (Wastage multiplication factor: WMF) ขนาดบรรจุ (โด๊สต่อขวด) โดยมสี ตู รคำ� นวณปรมิ าณวัคซีนในการให้บริการ ดังน้ี สตู ร ค�ำนวณการใช้วัคซนี D=AxB C §§ จ�ำนวนประชากรกลุ่มเป้าหมายทง้ั หมดทม่ี ารับบรกิ าร แทนค่าด้วย A §§ ตวั คูณการสูญเสยี วัคซีน (WMF) แทนค่าด้วย B §§ จ�ำนวนโด๊สต่อขวด แทนค่าด้วย C §§ จำ� นวนวัคซนี ทีต่ ้องการใช้ แทนค่าด้วย D ในกรณที ีค่ �ำนวณแล้วได้ทศนยิ มให้ปดั เศษเป็น 1 ขวด หมวดเนอื้ หาท่ี 3: ประมาณการวคั ซนี เพอ่ื ให้บรกิ าร 93
ตัวอย่าง การค�ำนวณการใชว้ ัคซนี ในเดอื นมกราคม 2561 โรงพยาบาลประทบั ใจมปี ระชากรกลมุ่ เปา้ หมายเดก็ กอ่ นวยั เรยี นในพน้ื ทรี่ บั ผดิ ชอบ 80 ราย มเี ดก็ นอกพน้ื ทีม่ ารบั บริการจ�ำนวน 20 ราย ให้ค�ำนวณจ�ำนวนวัคซนี OPV ท่ีต้องการใช้ A จ�ำนวนประชากรกลุ่มเป้าหมายท้ังหมด = 80 ราย + 20 ราย = 100 ราย B ตวั คณู การสญู เสยี วคั ซีน (WMF) ของวคั ซนี OPV = 1.33 C จำ� นวนโด๊สต่อขวดของวคั ซนี OPV = 20 แทนค่าในสตู ร D = ACx B = (80 + 2200) x 1.33 = 6.65 ขวด (เศษปดั เปน็ 1 ขวด) = 7 ขวด จ�ำนวนครั้งท่ีให้บริการในแต่ละรอบการเบิกวัคซีน เป็นปัจจัยหน่ึงท่ีต้องค�ำนึงถึง เน่ืองจากวัคซีนท่ี เปดิ ใช้ในการให้บรกิ ารจะมอี ายกุ ารใช้งาน 2 ถงึ 8 ชวั่ โมง โดยขน้ึ อยกู่ บั ชนดิ ของวคั ซนี เมอื่ เปดิ ใช้แล้วส่วนทเ่ี หลอื ต้องท�ำลายท้งิ ไม่สามารถนำ� ไปใช้ได้อกี ดงั นน้ั หน่วยบริการท่ีเบกิ วคั ซนี เดือนละครัง้ แต่ให้บริการมากกว่าเดอื น ละคร้ัง จำ� เป็นต้องประมาณการวคั ซนี ในแต่ละครง้ั แล้วน�ำผลแต่ละคร้ังมารวมกนั ซงึ่ การค�ำนวณเช่นนจ้ี ะทำ� ให้ ได้จำ� นวนขวดของวัคซนี ที่เบกิ มากกว่าการน�ำเป้าหมายทงั้ เดือนมาค�ำนวณเพียงคร้งั เดยี ว 5. การจดั ท�ำใบเบกิ วคั ซนี 5.1 ความส�ำคัญของการจัดท�ำใบเบกิ วคั ซีน การกระจายวคั ซนี ผา่ นระบบ Vendor Managed Inventory (VMI) นน้ั สำ� นกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพ แหง่ ชาติ (สปสช.) ไดก้ ำ� หนดใหห้ นว่ ยบรกิ ารประจำ� คอื คลงั วคั ซนี ระดบั อำ� เภอ หรอื Contracting unit for primary care (CUP) เปน็ คลงั วคั ซนี ให้แก่หน่วยบรกิ ารปฐมภมู ใิ นเครอื ข่าย โดยองค์การเภสชั กรรมจะกระจายวคั ซนี มายงั หน่วยบรกิ ารประจ�ำโดยตรง หลงั จากน้นั หน่วยบริการประจำ� จะกระจายวัคซีนไปให้หน่วยบรกิ ารปฐมภมู ภิ ายใน เครอื ข่ายต่อไป กลุ่มเป้าหมายในการเบกิ วัคซนี ในแผนงานสร้างเสริมภูมคิ ุ้มกนั โรค หรือในโครงการ EPI Routine คอื กลมุ่ เดก็ อายตุ ำ่� กวา่ 5 ปี และหญงิ ตงั้ ครรภ์ จะมกี ารสง่ วคั ซนี เพอ่ื เตมิ เตม็ Stock โดยจดั สง่ เดอื นละ 1 ครงั้ ตาม รอบของแตล่ ะจงั หวดั และสามารถเบกิ เพมิ่ ระหวา่ งรอบไดโ้ ดยแจง้ ปรบั ขอ้ มลู ผา่ นแบบปรบั เปลย่ี นปรมิ าณการใช้ วคั ซนี (FM3) เพื่อให้ สปสช.อนมุ ตั ิ ส�ำหรับกลุ่มเป้าหมายในการเบิกวัคซนี นักเรียน หรอื ในโครงการ EPI นักเรยี น คือ นกั เรยี นชน้ั ป.1, นักเรียนหญิง ป.5 และนกั เรียนชั้น ป.6 โดยมชี ่วงการจดั ส่งและให้วคั ซีนในกลุ่มนักเรยี นใน ช่วงเดอื นมถิ นุ ายนถึงกันยายนของปี ปรมิ าณวคั ซนี ทอี่ งคก์ ารเภสชั กรรม (GPO) ซง่ึ เปน็ คลงั วคั ซนี ระดบั ประเทศจดั สง่ ผา่ นระบบ VMI ถงึ คลงั วัคซนี ระดับอ�ำเภอ (CUP) ควรมปี รมิ าณวัคซีนท่ีไม่มาก หรือน้อยเกินกว่าความต้องการใช้จริงในแต่ละเดือน โดยพจิ ารณาจากข้อมลู ทแ่ี สดงปรมิ าณวคั ซนี ของคลังวคั ซนี ระดับอ�ำเภอ (CUP) ได้แก่ ค่า Reorder Point (ROP) หรือจดุ เตมิ สินค้า คือ อัตราการใช้วคั ซนี แต่ละชนดิ เฉลีย่ ต่อเดอื น และค่าสงู สุด (Maximum Limit) ของปรมิ าณ วัคซนี ซง่ึ เท่ากับ ROP x 1.5 94 หมวดเน้อื หาท่ี 3: ประมาณการวคั ซีนเพือ่ ใหบ้ ริการ
ในแต่ละเดือนคลงั วัคซีนระดับอ�ำเภอ (CUP) จะบนั ทกึ ยอดวัคซีนคงเหลอื (On hand) ในระบบ VMI และองค์การเภสัชกรรมจะส่งวัคซีนให้ในกรณีที่ค่ายอดวัคซีนคงเหลือน้อยกว่า ค่า ROP โดยจัดส่งวัคซีนแบบ เตมิ เตม็ เท่ากบั Maximum Limit–On hand โดยปัดเศษให้เตม็ กล่อง และจัดส่งให้เดอื นละ 1 ครงั้ นอกจากจะมี การแจ้งเบกิ วัคซนี กรณีฉุกเฉิน (นอกรอบ) จากคลงั วัคซนี ระดับอ�ำเภอ (CUP) ตัวอยา่ ง รพ.ปัจจุบนั มวี คั ซนี คงเหลืออยู่ 30 ขวด มคี ่า ROP = 50 และค่า Maximum limit = 75 ดังน้นั องค์การเภสชั กรรมจะต้องส่งวคั ซนี ให้กี่ขวด ? ปรมิ าณวัคซนี ทจ่ี ัดส่ง (ขวด) = ค่า Maximum Limit–ค่า On hand = 75–30 = 45 ขวด ระบบการเบกิ วคั ซนี ของหน่วยบริการในแผนงานสรา้ งเสรมิ ภูมคิ มุ้ กันโรค โครงการ EPI Routine โครงการ EPI นักเรยี น หน่วยบริการบนั ทกึ ผา่ น VMI หนว่ ยบรกิ ารบันทึกผ่าน VMI องคก์ ารเภสัชกรรมตัดจ่ายวัคซนี สปสช.อนุมตั ิผา่ นระบบ สง่ วัคซีนใหห้ นว่ ยบริการ องคก์ ารเภสชั กรรมตัดจ่ายวัคซนี สง่ วัคซีนใหห้ นว่ ยบริการ ขนั้ ตอนในการเบกิ วคั ซีนผ่านระบบ VMI 1. เม่ือเภสัชกรผู้รบั ผดิ ชอบการเบิกวคั ซนี EPI ได้รับ Username / Password ให้เภสชั กรเข้าสู่ระบบ VMI (http://scm.gpo.or.th/vmi/) (ภาพที่ 3.1) และบันทึกปริมาณคงคลัง (On hand) แยกรายรุ่นการผลิต (Lot Number) ครงั้ แรก (กรณที ่ีไม่มวี ัคซีนอยู่ในคลังให้บนั ทึกในระบบเป็นศูนย์ได้) (ภาพที่ 3.2) ภาพที่ 3.1 หน้าจอเว็บไซด์ขององค์การเภสัชกรรมในการเบิกวคั ซนี ผ่านระบบ VMI หมวดเนอื้ หาท่ี 3: ประมาณการวคั ซีนเพอื่ ใหบ้ รกิ าร 95
2. องค์การเภสัชกรรมจัดส่งวัคซีนให้แก่คลังวัคซีนระดับอ�ำเภอ (CUP) ในกรณีที่ปริมาณวัคซีนคงคลัง (On hand) ต�่ำกว่าค่า Reorder Point 3. คลงั วคั ซนี ระดบั อำ� เภอ (CUP) จา่ ยวคั ซนี ใหแ้ กห่ นว่ ยบรกิ ารปฐมภมู /ิ โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตำ� บล (รพ.สต.) 4. เภสัชกรผู้รับผิดชอบการเบิกวัคซีนในระบบ VMI เข้าสู่ระบบ VMI และบันทึกปริมาณวัคซีนคงคลัง (On hand) แยกรายรุ่นการผลติ (Lot Number) หลงั จากทีไ่ ด้จ่ายวคั ซนี เรยี บร้อยแล้ว ถ้าปรมิ าณวัคซนี คงคลังต�่ำกว่าค่า Reorder Point องค์การเภสัชกรรมจะจัดส่งวัคซนี ให้ (ภาพท่ี 3.3) ภาพท่ี 3.2 ตัวอยา่ งหน้าจอแสดงการบนั ทกึ การเบิกวคั ซนี ในระบบ VMI 5. ส�ำหรับค่า ROP นั้น คลังวัคซีนระดับอ�ำเภอ (CUP) สามารถปรับให้สอดคล้องกับปริมาณการใช้ ให้มีความเหมาะสม ไม่เกิดปัญหาวัคซีนไม่เพียงพอในการให้บริการ หรือมีส�ำรองคงคลังมากเกินไป ถ้าหน่วยบริการต้องการ ขอปรับอัตราการใช้วัคซีนต่อเดือน (ROP) โดยสามารถ Download แบบปรับเปล่ียนปริมาณการใช้วัคซีน (FM3) (ภาพที่ 3.4) จากเว็บไซต์ขององค์การเภสัชกรรม (http://scm.gpo.or.th/vmi/index_allprojects.asp?id=EPI-Routine) แล้วบันทึกข้อมูลในแบบดังกล่าว ให้ครบถ้วน และส่งข้อมูลกลบั ไปยัง สปสช. เพ่อื ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนท่จี ะส่งข้อมูล ดงั กล่าวให้แก่องค์การเภสชั กรรม เพอ่ื ปรับค่า ROP ต่อไป 6. กรณที วี่ คั ซนี คงคลงั มปี รมิ าณไมเ่ พยี งพอและมคี วามจำ� เปน็ ตอ้ งใชเ้ รง่ ดว่ น คลงั วคั ซนี ระดบั อำ� เภอ (CUP) สามารถเบกิ วคั ซนี นอกรอบ หรอื ในกรณฉี กุ เฉนิ ได้ โดย Download ใบเบกิ กรณตี อ้ งการวคั ซนี เพมิ่ ระหวา่ ง รอบ (ภาพท่ี 3.5) จากเวบ็ ไซต์ขององค์การเภสชั กรรม (http://scm.gpo.or.th/vmi/ index_allprojects. asp?id=EPI-Routine) และกรอกข้อมลู จำ� นวนวคั ซนี แต่ละชนดิ ทตี่ ้องการเบกิ นอกรอบ (โด๊สและขวด) แลว้ สง่ ใบเบกิ ดงั กลา่ วทาง Fax /E-mail ไปยงั องคก์ ารเภสชั กรรม เพอื่ ดำ� เนนิ การจดั สง่ วคั ซนี ใหน้ อกรอบ ตอ่ ไป 96 หมวดเน้อื หาที่ 3: ประมาณการวคั ซีนเพอ่ื ใหบ้ รกิ าร
ภาพท่ี 3.3 ตัวอยา่ งหนา้ จอแสดงปริมาณคงคลังของหนว่ ยบรกิ ารในระบบ VMI หมวดเนือ้ หาที่ 3: ประมาณการวัคซนี เพื่อใหบ้ ริการ 97
ภาพที่ 3.4 แบบปรับเปลย่ี ภนาปพรทิมี่ 3า.ณ4 กแาบรบใปชร้วับัคเซปนีล่ีย(นFปMรมิ3า)ณการใชว้ คั ซนี (FM 3) หมวดเนือ้ หาท่ี 3: ประมาณการวคั ซีนเพ่ือให้บริการ 98 หมวดเนื้อหาที่ 3: ประมาณการวคั ซีนเพ่ือใหบ้ ริการ
ภาพท่ี 3.5 ใบเบิกกรณีต้องการภวาพัคทซี่นี 3เ.พ5มิ่ ใบรเะบหิกวกา่ รงณรีตอ้อบงการวคั ซีนเพ่มิ ระหวา่ งรอบ 5.2 ก5า.2รจกัดารทจ�ดัำใทบาํเบใบกิ เวบัคกิ วซคันี ซขีนอขงอหงนห่วนยว่ ยบบรรกิ ิกาารร ใใหหห้ ้หนนว่ ่วยยบบรรกิ ิกาารรกกรรออกกใบใบเบเบกิ ิวกคัวัซคนีซีนว.ว3./31/(ภ1า(พภทาพ่ี 3ท.6ี่ )3ซ.6ง่ึ )แซส่ึงดแงสขดอ้ งมขลู ้อกมาูลรกเบากิรวเบคั ิกซวนี ัคแซตีน่ลแะชตน่ลดิะชแนลิดะ ผแลลกะาผรลใหก้บารใิกหา้บรวรัิคกาซรีนวขัคอซงีนกขลอุ่มงเกปล้าุ่มหเมปา้ายหใมนาเดยือในเทดี่ผือ่านนทม่ีผา่านเพม่ือาใเหพ้ไื่อดใ้ขห้อ้ไมดูล้ขท้อ่ีคมรูลบทถี่ค้วรนบแถล้วะนถแูกลตะ้อถูงกตผ้อู้กงรผอู้กรตอ้อกง บตนั ้อทงกึ บขันอ้ ทมึกลู ขท้อกุ มรูลายทกุการราแยลกะาสรง่แใลบะเบสก่ิงใบหเต้ บริกงใตหา้ตมรกงำ� ตหานมดกําทหง้ั นเี้ดพอื่ทใั้งหนไ้ ี้เดพร้ ่ือบั ใวหคั ้ไซดน้ีรับตวาัคมซปีนรมิตาณมปทรขี่ ิมอาเบณกิ ทแ่ีขลอะเทบนัิกเแวละา ทท่ตี ัน้อเงวกลาารทใ่ตีช้องการใช้ สสำ� ําหหรรบั บั หหนนว่ ว่ ยยบบรรกิ ิกาารรตตอ้ งจดั ทำ�าํ ใบเบกิ วคั ซีน เพอื่ แจง้ ปรมิ าณวัคซีนท่ีต้องกกาารรใใชช้ใ้ นเดือนถัดดไป ส่งให้ สสำ� ํนานักักงางานนสสาาธธาารรณณสสขุ ุขออ�ำําเเภภออ((สสสสออ..))เเปป็น็นผผู้รู้รววบบรรววมมแแลละะตตรรววจจสอบความถูกต้อง และส่งให้กลุ่มม/ ฝ่ายเภสัชกรรม ขอของคงคลลงั ัวงวคั ัคซซนี ีนรระะดดบั ับออำ� ําเภเภออ(C(CUUPP) )เพเอ่ืพใื่อหใ้จหดั้จเัดตเรตยีรมียมวคัวัคซซนี ีนตตาามมใบใบเบเบกิ ิกโดโดยยกกรรมมคคววบบคคมุ ุมโโรรคคไไดด้ก้กำ� ําหหนนดดกกจิ กรรมการ เบเบกิ ิก-จ-่าจย่าวยัควซัคนี ซขีนอขงอคงลคังลวังควซัคนี ซรีนะรดะับดอับ�ำอเภําเอภอ(CU(CPU)Pแ)ละหแนล่วะยหบนร่วกิยาบรริกดางั รตาดรังาตงาทร่ีา3ง.ท4่ี แ3ล.4ะแนแะลนะ�ำแใหน้หะนํา่วใยหบ้หรนิก่วายร ใชบ้ ร“ิกแาบรบใชว้ “.3แ/บ1”บใวน.3ก/า1ร”เบิกใวนัคกซารีนเแบลิกะวรัคาซยีนงแาลนะผรลากยางราในหผ้วลัคกซาีนรใหซ้ว่ึงัคสซาีมนาซร่ึงถสาDมoาwรnถloaDdoแwบnบloaวd.3/1แทบ่ีเบป็นว.ไ3ฟ/ล1์ MทS่เี-ปE็นxไcฟelลไ์ ดM้ทSเ่ี-วE็บxcไซeตl ์ขไดอท้ งเก่ี วอ็บงไโซรตค์ขปอ้องงกกอนั งโดร้วคยปวอ้ คั งซกีนนั ดก้วรยมวคคั วซบนี คกมุ รโรมควบคุมโรค หมวดเนือ้ หาที่ 3: ประมาณการวคั ซีนเพื่อให้บริการ หมวดเนอื้ หาท่ี 3: ประมาณการวัคซีนเพื่อให้บรกิ าร 99
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270