Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กฏหมายดิจิทัล Digital_Law_2020

กฏหมายดิจิทัล Digital_Law_2020

Published by สมยงค์ สาลีศรี, 2021-09-02 04:08:38

Description: กฏหมายดิจิทัล Digital_Law_2020

Search

Read the Text Version

292 สำ�นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์

สำ�นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 293

294 สำ�นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์

สำ�นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 295

296 สำ�นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์

สำ�นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 297

298 สำ�นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์

สำ�นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 299

300 สำ�นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์

ประกาศกระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร เรอื่ ง หลกั เกณฑเกีย่ วกบั คณุ สมบตั ิของพนักงานเจา หนา ท่ี ตามพระราชบัญญัติวาดว ยการกระทําความผดิ เกี่ยวกบั คอมพวิ เตอร พ.ศ. ๒๕๕๐ (ฉบบั แกไขเพม่ิ เตมิ ) สำ�นกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 301

ชื่อกฎหมาย ประกาศกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร เร่ือง หลักเกณฑเกี่ยวกับคุณสมบัติ ของพนักงานเจาหนาท่ีตามพระราชบัญญัติวาดวยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร พ.ศ. ๒๕๕๐ (ฉบบั แกไขเพม่ิ เติม) ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา เลม ๑๒๔ / ตอนพเิ ศษ ๑๐๒ ง / หนา ๙ / วันท่ี ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๐ เร่มิ บงั คบั ใช วนั ที่ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๕๐ แกไ ขเพ่มิ เติมโดย  ประกาศกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร เรื่อง หลักเกณฑเก่ียวกับคุณสมบัติ ของพนักงานเจาหนาที่ตามพระราชบัญญัติวาดวยการกระทําความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร พ.ศ. ๒๕๕๐ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙  ประกาศในราชกิจจานุเบกษา : เลม ๑๓๓ / ตอนพิเศษ ๙๖ ง / หนา ๑๓ / วนั ที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๙  เริ่มบงั คบั ใช : วนั ท่ี ๒๘ เมษายน ๒๕๕๙ 302 สำ�นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์

ประกาศกระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร เรื่อง หลกั เกณฑเ ก่ียวกบั คุณสมบตั ขิ องพนักงานเจาหนา ที่ ตามพระราชบญั ญตั ิวา ดว ยการกระทาํ ความผดิ เกยี่ วกับคอมพิวเตอร พ.ศ. ๒๕๕๐  เพ่ือใหการแตงตั้งพนักงานเจาหนาท่ีตามพระราชบัญญัติวาดวยการกระทําความผิดเก่ียวกับ คอมพิวเตอร พ.ศ. ๒๕๕๐ มคี วามชัดเจนและเปน ไปอยางมีประสิทธิภาพ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๒๘ แหงพระราชบัญญัติวาดวยการกระทําความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร พ.ศ. ๒๕๕๐ รัฐมนตรีวาการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จึงไดกําหนด หลกั เกณฑเ กีย่ วกบั คณุ สมบตั ิของพนักงานเจา หนาที่ ดังตอไปน้ี ขอ ๑ ในประกาศน้ี “พนักงานเจาหนาท่ี” หมายความวา ผูซึ่งรัฐมนตรีแตงต้ังใหปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวาดวย การกระทําความผิดเก่ียวกับคอมพวิ เตอร พ.ศ. ๒๕๕๐ “รฐั มนตรี” หมายความวา รฐั มนตรวี าการกระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร ขอ ๒ พนักงานเจา หนา ที่ ตอ งมคี ุณสมบัติ ดังตอไปน้ี (๑) มคี วามรูและความชาํ นาญเก่ียวกบั ระบบคอมพวิ เตอร (๒ ) สําเร็จการศึกษาไมนอยกวาระดับปริญญาตรีทางวิศวกรรมศาสตร วิทยาศาสตร วทิ ยาการคอมพิวเตอร เทคโนโลยสี ารสนเทศ สถติ ศิ าสตร นิตศิ าสตร รฐั ศาสตร หรอื รฐั ประศาสนศาสตร (๓) ผานการอบรมทางดานความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศ (Information Security) สืบสวน สอบสวน และการพิสูจนหลักฐานทางคอมพิวเตอร (Computer Forensics) ตามภาคผนวก ทายประกาศน้ี และ (๔) มคี ณุ สมบตั อิ ่ืนอยา งหนึ่งอยางใด ดงั ตอไปน้ี ก. รับราชการหรือเคยรับราชการไมนอยกวาสองปในตําแหนงเจาหนาท่ีตรวจพิสูจน พยานหลกั ฐานท่เี ปนขอ มูลคอมพวิ เตอรห รือพยานหลักฐานอเิ ล็กทรอนิกส ข. สําเร็จการศึกษาตามขอ ๒ (๒) ในระดับปริญญาตรี และมีประสบการณท่ีเปนประโยชน ตอ การปฏบิ ัตงิ านตามพระราชบญั ญัตนิ น้ี บั แตสําเรจ็ การศึกษาดังกลา วไมน อยกวาสี่ป ค. สําเร็จการศึกษาตามขอ ๒ (๒) ในระดับปริญญาโท หรือสอบไลไดเปนเนติบัณฑิต ตามหลักสูตรของสํานักอบรมศึกษากฎหมายแหงเนติบัณฑิตยสภา และมีประสบการณที่เปนประโยชน ตอ การปฏิบัตงิ านตามพระราชบัญญัตินนี้ บั แตส าํ เร็จการศึกษาดังกลาวไมน อยกวาสามป ง. สําเร็จการศึกษาตามขอ ๒ (๒) ในระดับปริญญาเอก หรือมีประสบการณที่เปนประโยชน ตอ การปฏิบัตงิ าน ตามพระราชบัญญัตนิ ี้นับแตสาํ เร็จการศึกษาดังกลา วไมนอยกวาสองป สำ�นกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 303

จ. เปนบุคคลที่ทํางานเก่ียวกับความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศ การตรวจพิสูจน หลักฐานทางคอมพิวเตอร หรือมีประสบการณในการดําเนินคดีเกี่ยวกับการกระทําความผิด ทางคอมพวิ เตอรไมนอ ยกวาสองป ขอ ๓ ในกรณีท่ีมีความจําเปนเพื่อประโยชนของทางราชการในการสืบสวนและสอบสวน การกระทําความผิดเกย่ี วกับคอมพวิ เตอร จาํ เปนตอ งมีบุคลากรซ่ึงมีความรู ความชาํ นาญ หรือประสบการณสูง เพ่ือดําเนินการสืบสวนและสอบสวนการกระทําผิดหรือคดีเชนวานั้น หรือเปนบุคลากรในสาขาที่ขาดแคลน รัฐมนตรีอาจยกเวนคุณสมบัติตามขอ ๒ ไมวาท้ังหมดหรือบางสวนสําหรับการบรรจุและแตงตั้งบุคคลใด เปน การเฉพาะกไ็ ด ขอ ๔ การแตงต้ังบุคคลหน่ึงบุคคลใดเปนพนักงานเจาหนาท่ีใหแตงตั้งจากบุคคลซ่ึงมีคุณสมบัติ ตามขอ ๒ หรือขอ ๓ โดยบุคคลดงั กลาวตอ งผา นการประเมนิ ความรูความสามารถหรือทดสอบตามหลักสูตร และหลกั เกณฑทร่ี ัฐมนตรปี ระกาศกําหนด การแตงตั้งบุคคลใดเปนพนักงานเจาหนาที่ตามวรรคหน่ึง ใหพนักงานเจาหนาท่ีดํารงตําแหนง ในวาระคราวละ ๔ ป๑ การแตงต้ังและการพนจากตําแหนงของพนักงานเจา หนาท่ีใหประกาศในราชกิจจานเุ บกษา๒ ขอ ๕ พนักงานเจาหนาทต่ี อ งไมมีลกั ษณะตองหา ม ดังตอ ไปนี้ (๑) เปนบคุ คลลมละลาย บคุ คลไรค วามสามารถ หรือบุคคลเสมือนไรความสามารถ (๒) เปนสมาชิกสภาผูแทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ขาราชการการเมือง สมาชิกสภาทองถ่ิน ผูบริหารทองถ่ิน กรรมการหรือผูดํารงตําแหนงที่รับผิดชอบในการบริหารพรรคการเมือง ที่ปรึกษา พรรคการเมอื ง หรอื เจาหนา ที่ในพรรคการเมอื ง (๓) เปน ผูอยรู ะหวา งถกู ส่ังใหพักราชการหรอื ถกู สั่งใหออกจากราชการไวก อน (๔) ถูกไลอ อก ปลดออก หรอื ใหออกจากราชการ หนว ยงานของรฐั หรอื รัฐวสิ าหกิจ เพราะทําผิดวินัย หรือรัฐมนตรใี หออกจากการเปนพนักงานเจาหนา ท่ี เพราะมีความประพฤติเสื่อมเสีย บกพรองหรือไมสุจรติ ตอหนาทหี่ รือหยอนความสามารถ (๕) ไดรับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดใหจําคุก เวนแตเปนโทษ สําหรับความผิดท่ีกระทําโดย ประมาทหรือความผิดลหโุ ทษ (๖) ตองคําพิพากษาหรือคําสั่งของศาลใหทรัพยสินตกเปนของแผนดิน เพราะรํ่ารวยผิดปกติหรือ มีทรพั ยสนิ เพิม่ ข้ึนผิดปกติ ขอ ๖ พนักงานเจา หนา ที่พน จากตาํ แหนงเมอื่ (๑) ตาย (๒) ลาออก ๑ ขอ ๔ วรรคสอง แกไขเพ่ิมเติมโดยประกาศกระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สาร เรือ่ ง หลักเกณฑเ กี่ยวกับคณุ สมบตั ิของ พนกั งานเจา หนา ทต่ี ามพระราชบญั ญตั ิวา ดว ยการกระทาํ ความผิดเกีย่ วกบั คอมพวิ เตอร พ.ศ. ๒๕๕๐ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙ ๒ ขอ ๔ วรรคสาม เพม่ิ โดยประกาศกระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร เรอื่ ง หลักเกณฑเ ก่ียวกบั คณุ สมบัติของพนกั งาน เจาหนา ทต่ี ามพระราชบญั ญัตวิ าดว ยการกระทาํ ความผดิ เกยี่ วกบั คอมพวิ เตอร พ.ศ. ๒๕๕๐ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙ 304 สำ�นักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์

(๓) ถกู จำคกุ โดยคำพิพากษาถงึ ทส่ี ุดใหจำคุก (๔) ขาดคุณสมบัตหิ รือมลี ักษณะตองหามตามขอ ๕ (๕) รัฐมนตรีใหออก เพราะมีความประพฤติเสื่อมเสีย บกพรองหรือไมสุจริตตอหนาท่ี หรือหยอน ความสามารถ (๖) ครบวาระการดำรงตำแหนง ขอ ๗๓ ประกาศน้ีมผี ลใชบ ังคับตั้งแตว ันประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปนตนไป ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ สิทธชิ ยั โภไคยอุดม รัฐมนตรีวาการกระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สาร ๓ ราชกจิ จานุเบกษา เลม ๑๒๔/ตอนพิเศษ ๑๐๒ ง/หนา ๙/๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๐ 305 สำ�นักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

ประกาศกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เรื่อง หลักเกณฑเกี่ยวกับคุณสมบัติของ พนักงานเจาหนาที่ตามพระราชบัญญัติวาดวยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร พ.ศ. ๒๕๕๐ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙๔ ขอ ๒ ประกาศนีใ้ หใชบ ังคับต้งั แตวนั ถดั จากวันประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเปน ตนไป ๔ ราชกิจจานเุ บกษา เลม ๑๓๓/ตอนพิเศษ ๙๖ ง/หนา ๑๓/๒๗ เมษายน ๒๕๕๙ 306 ส�ำ นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์

ภาคผนวก ประกาศกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร เรอื่ ง หลักเกณฑเ ก่ยี วกับคณุ สมบตั ขิ องพนกั งานเจา หนาท่ี ตามพระราชบัญญตั วิ าดวยการกระทาํ ความผิดเกย่ี วกับคอมพิวเตอร พ.ศ. ๒๕๕๐ ………………………………………….. ผูท่ีจะไดรับการแตงต้ังใหเปนพนักงานเจาหนาที่ตามพระราชบัญญัติวาดวยการกระทําความผิด เกย่ี วกับคอมพิวเตอร พ.ศ. ๒๕๕๐ จะตอ งผา นการอบรมดานจริยธรรม สืบสวน สอบสวน ความมนั่ คงปลอดภัย ของระบบสารสนเทศ (Information Security) และการพิสูจนหลักฐานทางคอมพิวเตอร (Computer Forensics) แลว แตก รณี ดงั ตอ ไปนี้ ๑. หลกั สตู รมาตรฐานสากล (International Standard Courses) วัตถุประสงค : เพ่ือใชเปนแนวทางในการจัดอบรมใหกับบุคคลซึ่งจะไดรับการแตงตั้งเปน พนักงานเจาหนาท่ีในกรณีท่ัวไป (หลักสูตรเต็มเวลาประมาณ ๑ เดือน ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ทั้งน้ี ไมร วมดานที่สาม ข. และดา นทส่ี ่ี ข. ซง่ึ เปนหลกั สูตรความเชยี่ วชาญเฉพาะทาง) เน้ือหาหลักสตู รท่ีอบรม : ดา นแรก การอบรมดานจริยธรรม/จรรยาบรรณทพี่ ึงมีในบทบาทและ อํานาจหนาที่ของพนักงานเจาหนาท่ี ดานที่สอง ความรพู นื้ ฐานดานการสืบสวนและสอบสวนเพ่ือการบังคบั ใชก ฎหมาย (Law Enforcement) ลําดับ เนอ้ื หาหลักสูตร (ภาคบังคบั ) Compulsory Course ๑. กฎหมายวาดว ยการกระทําความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร ๒. กฎหมายอาญาและวธิ พี จิ ารณาความอาญาที่เกยี่ วของกับการกระทาํ ความผิดเกีย่ วกับ คอมพิวเตอร ๓. รปู แบบการกระทําความผดิ และกรณีศึกษา (Case Studies) ๔. การสืบสวนทางเทคนิค เชน การตรวจสอบหมายเลข IP Address หรือแหลง ทม่ี าของ การกระทําความผดิ การขอขอมลู จราจรทางคอมพิวเตอร (Traffic Data) จากผูใ หบ ริการ การวิเคราะหและเช่อื มโยงขอ มูล/พยานหลักฐานขางตน สำ�นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ 307

ลําดับ เน้อื หาหลักสตู ร (ภาคบังคบั ) Compulsory Course ๕. แนวทางปฏิบัตใิ นการดําเนินคด/ี การทาํ สาํ นวนคดี เชน การรองทุกขกลาวโทษ (การแจงความ) การประสานความรวมมือกบั หนวยงานท่ีเก่ยี วของ การรวบรวมพยานหลกั ฐาน และแสวงหา ขอเท็จจริง การตรวจสถานทีเ่ กดิ เหตุ การยื่นคํารองตอ ศาล การยดึ อายัดและคนื พยานหลักฐาน การเกบ็ รักษาพยานหลักฐาน การเก็บรักษาพยานหลักฐานใหค งความนา เชื่อถือในกระบวนการ การเปรียบเทียบปรบั และการดาํ เนนิ คดี เปน ตน ๖. การบริหารจดั การคดใี หเปนไปอยา งมีประสิทธภิ าพ ดานท่ีสาม ความม่ันคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศ (Information Security) ก. เนอ้ื หาหลักสตู รภาคบงั คบั สําหรับพนักงานเจาหนาท่ี ลาํ ดับ เนื้อหาหลกั สูตร (ภาคบังคบั ) Compulsory Course ๑. General security concepts ๒. Security Architecture ๓. Access Controls ๔. Applications Security ๕. Operation Security ๖. Security Management ๗. Cryptography ๘. Physical Security ๙. Telecommunications and Network Security ๑๐. Business Continuity Planning ๑๑. Law, Investigations, and Ethics ข. หลักสตู รความมัน่ คงปลอดภัยของระบบสารสนเทศขั้นสูง (Advanced Information Security Course) สาํ หรบั พนกั งานเจา หนาทส่ี ายผูเ ชี่ยวชาญ ดานเทคนคิ ลําดบั เนือ้ หาหลกั สตู ร (ความชํานาญเฉพาะทาง) ๑. Audit and Monitoring ๒. Risk, Response and Recovery ๓. Malicious Code Analysis ๔. Vulnerabilities Assessment & Penetration Testing 308 สำ�นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์

ดานทส่ี ่ี การพสิ ูจนห ลกั ฐานทางคอมพิวเตอร (Computer Forensics) ก. ความรูดานการพิสูจนห ลักฐานทางคอมพวิ เตอร (Computer Forensics) ลาํ ดบั เนอื้ หาหลกั สตู ร (ภาคบังคับ) Compulsory Course ๑. The needs for Computer Forensics ๒. Principles of Computer Forensics and Digital/Electronic Evidence ๓. Crime scene, Digital/Electronic Evidence and Chain of Custody ๔. Capturing the Data Image and Volatile Data ๕. Extracting Information from Captured Data ๖. Breaking Password and Encryption ๗. Using Computer Forensics Tools ๘. Investigation and Interrogation ๙. Digital/Electronic Evidence Analysis and Synthesis ๑๐. Testify in Court, Admissibility requirements ๑๑. Different between Computer Forensics and Network/Internet Forensics ๑๒. Network/Internet Forensics ๑๓. Using Network/Internet Forensics Tools ข. ความเชยี่ วชาญเฉพาะทางดานการพิสจู นห ลกั ฐานทางคอมพวิ เตอร (Professional Computer Forensics และ Certified Forensic Computer Examiner (CFCE)) ลําดบั เนือ้ หาหลกั สูตร (ความชํานาญเฉพาะทาง) ๑. Using Computer Forensic Tools เชน Encase, Forensics Toolkits, ILook ๒. Using Network / Internet Forensic Tools เชน Encase Field Intelligence Model (FIM) ๓. Wireless Forensic Tools เชน Netstumbler, Kismet, Aircrack ๔. Using Handheld Forensics Tools (Cell & PDA) Paraben, MobilEdit, Vogon ๕. Cryptology ไดแก Cryptography และ Cryptanalysis สำ�นักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ 309

๒. หลกั สูตรเรงรัด (Intensive Courses) (๕ วัน) วัตถุประสงค : เพ่ือใชเปนแนวทางในการจัดการอบรมระยะสั้นแบบเรงรัดใหกับบุคคลซ่ึงจะ ไดรับการแตงตั้งเปนพนักงานเจาหนาท่ีในกรณีพิเศษ ซึ่งไดรับการยกเวนตามหลักเกณฑในการกําหนด คุณสมบัติของพนกั งานเจา หนาทีต่ ามปกตทิ ั่วไป เน้อื หาหลกั สตู รที่อบรม : ดานแรก การอบรมดานจรยิ ธรรม/จรรยาบรรณทพ่ี ึงมใี นบทบาทและอํานาจหนาท่ีของ พนกั งานเจาหนา ที่ ดานท่ีสอง ความรพู ื้นฐานดา นการสบื สวนและสอบสวนเพ่ือการบังคับใชกฎหมาย (Law Enforcement) ลาํ ดับ เนอ้ื หาหลกั สตู ร (ภาคบังคับ) Compulsory Course ๑. กฎหมายวาดวยการกระทาํ ความผดิ เก่ยี วกับคอมพวิ เตอร ๒. กฎหมายอาญาและวิธีพิจารณาความอาญาที่เกีย่ วของกับการกระทาํ ความผดิ เกย่ี วกับ คอมพิวเตอร ๓. รูปแบบการกระทาํ ความผดิ และกรณีศกึ ษา (Case Studies) ๔. การสบื สวนทางเทคนิค เชน การตรวจสอบหมายเลข IP Address หรอื แหลง ทม่ี าของ การกระทาํ ความผดิ การขอขอมลู จราจรทางคอมพวิ เตอร (Traffic Data) จากผูใ หบ ริการ การวิเคราะหและเชอื่ มโยงขอ มูล/ พยานหลกั ฐานขางตน ๕. แนวทางปฏิบตั ใิ นการดําเนินคดี/การทาํ สาํ นวนคดี เชน การรองทุกขก ลาวโทษ (การแจงความ) การประสานความรว มมือกบั หนว ยงานท่เี กีย่ วของ การรวบรวมพยาน หลกั ฐาน และแสวงหา ขอ เทจ็ จริง การตรวจสถานทีเ่ กิดเหตุ การย่นื คํารอ งตอ ศาล การยดึ อายัดและคนื พยานหลักฐาน การเกบ็ รักษาพยานหลักฐาน การเก็บรักษาพยานหลกั ฐานใหค งความนาเชื่อถือในกระบวนการ การเปรียบเทยี บปรบั และการดาํ เนนิ คดี เปนตน ๖. การบรหิ ารจัดการคดีใหเปน ไปอยา งมีประสทิ ธิภาพ ดานที่สาม การพิสูจนห ลกั ฐานทางคอมพิวเตอร (Computer Forensics) ลาํ ดับ เน้ือหาหลักสตู ร (ภาคบงั คับ) Compulsory Course ๑. The needs for Computer Forensics ๒. Principles of Computer Forensics and Digital/Electronic Evidence ๓. Crime scene, Digital/Electronic Evidence and Chain of Custody ๔. Capturing the Data Image and Volatile Data 310 สำ�นกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์

ลาํ ดบั เนื้อหาหลกั สตู ร (ภาคบงั คับ) Compulsory Course ๕. Extracting Information from Captured Data ๖. Breaking Password and Encryption ๗. Using Computer Forensics Tools ๘. Investigation and Interrogation ๙. Digital/Electronic Evidence Analysis and Synthesis ๑๐. Testify in Court, Admissibility requirements ๑๑. Different between Computer Forensics and Network/Internet Forensics ๑๒. Network/Internet Forensics ๑๓. Using Network/Internet Forensics Tools ส�ำ นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ 311

312 สำ�นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์

ประกาศกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร เรอ่ื ง กาํ หนดแบบบัตรประจาํ ตวั พนกั งานเจาหนา ที่ ตามพระราชบญั ญัตวิ า ดว ยการกระทําความผดิ เก่ยี วกบั คอมพวิ เตอร พ.ศ. ๒๕๕๐ ส�ำ นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 313

ชื่อกฎหมาย ประกาศกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เรอื่ ง กําหนดแบบบตั รประจําตัวพนักงานเจาหนาท่ี ตามพระราชบญั ญตั ิวา ดวยการกระทําความผิดเกย่ี วกบั คอมพิวเตอร พ.ศ. ๒๕๕๐ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เลม ๑๒๔ / ตอนพเิ ศษ ๑๐๒ ง / หนา ๑๒ / วันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๐ เร่ิมบังคบั ใช วนั ที่ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๕๐ 314 ส�ำ นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์

เลม ๑๒๔ ตอนพเิ ศษ ๑๐๒ ง หนา ๑๒ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๐ ราชกจิ จานุเบกษา ประกาศกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร เร่ือง กาํ หนดแบบบัตรประจาํ ตวั พนักงานเจา หนา ท่ี ตามพระราชบัญญัติวา ดวยการกระทําความผดิ เกีย่ วกบั คอมพวิ เตอร พ.ศ. ๒๕๕๐ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๓๐ แหงพระราชบัญญัติวาดวยการกระทําความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร พ.ศ. ๒๕๕๐ รัฐมนตรีวาการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร กาํ หนดแบบบตั รประจาํ ตัวพนักงานเจาหนาทไี่ ว ดงั ตอ ไปนี้ ขอ ๑ บัตรประจําตัวพนักงานเจาหนาท่ีใหมีพ้ืนสีขาว ขนาดและลักษณะตามแบบ ทา ยประกาศนี้ ขอ ๒ ใหปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร เปนผูออกบัตรประจําตัว พนักงานเจาหนา ที่ ขอ ๓ ใหพนกั งานเจา หนาทยี่ ่นื คําขอมบี ตั รประจาํ ตวั พรอมกับแนบรปู ถายไมเกินหกเดือน กอ นวันยนื่ คําขอมีบตั ร ขนาด ๒.๕ x ๓ เซนติเมตร คร่ึงตวั หนา ตรง ไมส วมหมวก แตงเครื่องแบบ ปฏิบตั ิราชการหรือเคร่ืองแบบพิธีการหรือแตงกายสุภาพ จํานวน ๒ รูป ตอสํานักงานปลัดกระทรวง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร ขอ ๔ คาํ ขอมบี ตั รตามขอ ๓ ใหเปน ไปตามแบบทายประกาศน้ี ขอ ๕ บตั รประจําตวั ตามประกาศนี้ ใหใชไดส่ีปนบั แตว นั ออกบตั ร ขอ ๖ เมือ่ ไดอ อกบตั รประจําตัวใหแกผูใด ใหผูออกบัตรประจําตัวจัดใหมีสําเนาขอความ และรายการบตั รประจาํ ตัวซ่ึงตดิ รูปถา ยของผูน้ันไวดวยหนึ่งฉบับ และเก็บไวเปนหลักฐานท่ีสํานักงาน ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ขอ ๗ การออกบัตรประจําตัว ในกรณีบัตรประจําตัวหมดอายุ สูญหายหรือชํารุด ในสาระสําคญั หรอื ผูถ ือบัตรประจาํ ตัวน้นั ไดย า ยสังกัด ใหนําความในขอ ๑ ขอ ๒ ขอ ๓ ขอ ๔ ขอ ๕ และขอ ๖ มาบังคับใชโดยอนโุ ลม สำ�นักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ 315

เลม ๑๒๔ ตอนพเิ ศษ ๑๐๒ ง หนา ๑๓ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๕๐ ราชกิจจานเุ บกษา ขอ ๘ ผูใดไดรับบัตรประจําตัวใหม หรือผูถือบัตรไมมีสิทธิใชบัตรประจําตัวนั้นตอไป ใหคืนบัตรตอสํานักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารโดยพลัน ในวันที่ไดรับ บัตรประจําตัวใหมห รือไมมสี ทิ ธิใชบตั รประจําตัวนั้น ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ สิทธิชยั โภไคยอุดม รฐั มนตรีวาการกระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร 316 ส�ำ นกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์

แบบคําขอมีบัตรประจาํ ตวั พนกั งานเจา หนาที่ ตามพระราชบัญญัตวิ าดว ยการกระทําความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร พ.ศ. ๒๕๕๐ เขยี นที…่ ……………………………...... วันท่.ี ...........เดอื น......................พ.ศ................. ขาพเจา .........................................................เกิดวนั ท.ี่ .......เดอื น........................พ.ศ................... อาย.ุ .........ป เลขทบี่ ัตรประจําตวั ประชาชน.............................................................................................. มชี ่อื อยใู นทะเบยี นบานเลขท่.ี ...............ซอย.........................ถนน.............................................................. ตาํ บล/แขวง...................................อาํ เภอ/เขต.....................................จังหวัด.......................................... รหัสไปรษณีย. .............................โทรศพั ท................................โทรศัพทมือถือ......................................... ทอี่ ยตู ามภมู ิลาํ เนา บา นเลขท.่ี .....................ซอย.........................ถนน...................................................... ตาํ บล/แขวง...................................อาํ เภอ/เขต.......................................จังหวดั ........................................ รหัสไปรษณยี . ............................. หนว ยงาน........................................................................................................................... ทําคําขอยืน่ ตอปลดั กระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร เพอื่ ขอมบี ตั รประจําตวั พนกั งาน เจา หนา ที่ ตามพระราชบญั ญตั วิ าดวยการกระทําความผดิ เกย่ี วกบั คอมพวิ เตอร พ.ศ.๒๕๕๐ และไดแนบรปู ถายสองรูปมาพรอมกับคาํ ขอนแี้ ลว ขา พเจา ขอรับรองวาขอความดงั กลา วขางตน เปน ความจริงทุกประการ (ลายมอื ชือ่ ).......................................ผทู ําคาํ ขอ (...........................................) ลงชื่อ ......................................... ตําแหนง ...................................... (ผบู ังคับบญั ชา ผใู หค วามยินยอม) (......./..................../.........) สำ�นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ 317

แบบบตั รประจําตวั พนักงานเจาหนาที่ ดานหนา ติดรปู ถาย เลขที.่ .................... กวาง 5.4 ซม. ขนาด ช่อื .......................................................... 2.5 X 3 ซม. Name…………………………………………… หนว ยงาน.................................................... .................................................................. เลขประจําตัวประชาชน................................. .................................................... ............................. ตําแหนง....................................... ลายมือชอื่ ผูถอื บตั ร ผูออกบัตร วนั ออกบัตร..../...../.....บัตรหมดอายุ.../.../.. ยาว 8.5 ซม. ดานหลงั แถบแมเ หล็ก บตั รประจําตวั พนักงานเจา หนา ที่ ตามพระราชบัญญัติวา ดว ยการกระทาํ ความผิดเกยี่ วกบั คอมพิวเตอร พ.ศ.2550 กระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร หากเก็บบัตรน้ีไดกรณุ าสง คนื กระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร หรือ โทร. 1111 หมายเหตุ ดา นหนา บตั รแสดงขอ มูลผถู อื บัตรไดแ ก ช่ือ ชอ่ื ภาษาอังกฤษ หมายเลขบตั รประจาํ ตัว (1) ประชาชน ช่อื หนวยงานตน สงั กัด ภาพถาย ลายมอื ชอื่ ผถู อื บตั ร และแสดงเลขทบี่ ัตรพรอม วนั ทอ่ี อกและวนั ทหี่ มดอายุ (2) ดา นหนาบตั รมตี ราครฑุ สีแดง เปน วงกลมสองวงซอนกนั ขนาดเสน ผา ศูนยก ลาง 3.5 ซม. วงใน 2.5 ซม. ลอ มครฑุ ขนาดตัวครฑุ 2 ซม. ระหวา งวงนอกและวงใน ใหม ีอกั ษรไทยระบุ (3) กระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารอยขู อบลางของตรา (4) ดานหลงั มีแถบแมเหลก็ สําหรบั บรรจขุ อมลู (5) ดานหลงั ระบวุ าเปน บตั รประจําตัวพนกั งานเจา หนา ทต่ี ามพระราชบญั ญตั ฯิ ดา นหลังบัตรดา นลา งมขี อ ความระบวุ า หากเก็บบัตรนไ้ี ดก รณุ าสง คืนกระทรวงฯ หรอื โทร. 1111 318 สำ�นักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์

สำ�นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 319

320 สำ�นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์

ประกาศกระทรวงดจิ ทิ ลั เพื่อเศรษฐกิจและสงั คม เรือ่ ง ลักษณะและวธิ ีการสง และลักษณะและปรมิ าณของขอ มลู ความถแี่ ละวธิ ีการสง ซงึ่ ไมเ ปนการกอใหเกดิ ความเดือดรอ นราํ คาญ แกผ ูรับ พ.ศ. ๒๕๖๐ ส�ำ นกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 321

ช่อื กฎหมาย ประกาศกระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม เรื่อง ลักษณะและวิธีการสง และลักษณะและปริมาณ ของขอ มูล ความถแี่ ละวธิ ีการสง ซึง่ ไมเ ปนการกอใหเกิดความเดือดรอนรําคาญแกผูรับ พ.ศ. ๒๕๖๐ ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา เลม ๑๓๔ / ตอนพเิ ศษ ๑๘๘ ง / หนา ๑ / วันท่ี ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๐ เร่มิ บังคบั ใช วนั ที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ผูรักษาการ ปลัดกระทรวงดจิ ิทลั เพื่อเศรษฐกจิ และสงั คม 322 ส�ำ นกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์

เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๘๘ ง หนา้ ๑ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา ประกาศกระทรวงดิจทิ ัลเพื่อเศรษฐกิจและสงั คม เรอ่ื ง ลกั ษณะและวธิ ีการส่ง และลกั ษณะและปรมิ าณของขอ้ มลู ความถ่ีและวธิ ีการส่ง ซึง่ ไมเ่ ปน็ การกอ่ ใหเ้ กิดความเดือดร้อนราํ คาญแก่ผ้รู ับ พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยที่เป็นการสมควรกําหนดลักษณะและวิธีการส่ง และลักษณะและปริมาณของข้อมูล ความถ่ี และวธิ ีการสง่ คอมพิวเตอรห์ รือจดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ซ่งึ ไม่เปน็ การกอ่ ใหเ้ กดิ ความเดือดรอ้ นรําคาญแกผ่ รู้ ับ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔ ประกอบมาตรา ๑๑ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติ ว่าดว้ ยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกจิ และสงั คมออกประกาศไว้ ดังตอ่ ไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม เร่ือง ลักษณะ และวิธีการส่ง และลักษณะและปริมาณของข้อมูล ความถ่ีและวิธีการส่งซ่ึงไม่เป็นการก่อให้เกิดความ เดือดร้อนรําคาญแกผ่ รู้ ับ พ.ศ. ๒๕๖๐” ขอ้ ๒ ประกาศน้ีใหใ้ ช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นตน้ ไป ข้อ ๓ ในประกาศนี้ “ข้อมูลคอมพิวเตอร์” หมายความว่า ข้อมูล ข้อความ คําส่ัง ชุดคําสั่ง หรือสิ่งอ่ืนใดบรรดา ท่ีอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ในสภาพท่ีระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ และให้หมายความรวมถึง ข้อมูลอิเลก็ ทรอนิกส์ ตามกฎหมายว่าด้วยธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกสด์ ้วย “ท่ีอยู่ทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Address)” หมายความว่า (๑) ท่ีอยู่ปลายทาง (destination) ท่ีใช้รับจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail address) หรือ (๒) ที่อยู่ปลายทางบน อินเทอร์เน็ตท่ีใช้รับข้อมูลคอมพิวเตอร์ (IP Address of computer data) ซึ่งท่ีอยู่ดังกล่าวอาจ ประกอบด้วยชื่อผู้ใช้ (Username) ชื่อผู้รับข้อมูล (Recipient’s name) หรือกล่องจดหมาย อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail box) ของผู้รับข้อมูลรวมถึงเบอร์โทรศัพท์หรือที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต (IP Address) ของผู้รับข้อมูลซ่ึงท่ีอยู่ดังกล่าวสามารถอ้างอิงถึงชื่อโดเมน (Domain Name) ปลายทาง หรือท่ีอยู่ปลายทาง ของเครือข่ายคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ใช้รับข้อมูลคอมพิวเตอร์ได้ ไม่ว่าที่อยู่ดังกล่าวน้ัน จะปรากฏให้เหน็ หรอื ไมก่ ต็ าม “ผรู้ บั ขอ้ มลู ” หมายความวา่ บุคคลซ่ึงผู้ส่งขอ้ มูลประสงค์จะส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมาย อิเล็กทรอนิกส์ใหแ้ ละไดร้ ับข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์น้ัน ท้ังนี้ ไม่รวมถึงบุคคลท่ีเป็น สอื่ กลางสําหรับขอ้ มลู คอมพิวเตอร์หรอื จดหมายอิเล็กทรอนิกสน์ ้นั สำ�นกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 323

เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๑๘๘ ง หน้า ๒ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ราชกจิ จานุเบกษา “ผู้ส่งขอ้ มลู ” หมายความว่า บุคคลที่มีเจตนาส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ในเบื้องต้นเพื่อประโยชน์ในทางการค้า ไม่ว่าจะเป็นการเสนอขายสินค้าหรือบริการ การลงทุน หรืออสังหาริมทรัพย์ใด ๆ รวมถึงผู้ให้บริการเว็บไซต์หรือผู้ให้บริการแอปพลิเคช่ัน (Application) หรือ ผู้ให้บริการประเภทส่ือสังคมออนไลน์ (Social Media) ที่โฆษณา หรือสนับสนุนการส่งข้อมูล หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว ทั้งน้ี ไม่รวมถึงผู้ให้บริการโทรคมนาคมท่ีเป็นสื่อกลางสําหรับ การสง่ ผ่านข้อมูลคอมพวิ เตอรห์ รอื จดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกสน์ ัน้ “หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า กระทรวง ทบวง กรม ส่วนราชการท่ีเรียกชื่ออย่างอ่ืน และมีฐานะเป็นกรม ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถ่ิน รัฐวิสาหกิจ ท่ีตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติ หรือพระราชกฤษฎีกา และให้หมายความรวมถึงนิติบุคคล หรือบุคคลซึ่งมีอํานาจหน้าที่ดําเนินการของรัฐ ไมว่ า่ ในการใด ๆ “อิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า การประยุกต์ใช้วิธีการทางอิเล็กตรอน ไฟฟ้า คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า หรือวิธีอื่นใดในลักษณะคล้ายกัน และให้หมายความรวมถึงการประยุกต์ใช้วิธีการทางแสง วิธีการทางแม่เหล็ก หรืออปุ กรณ์ทเ่ี กยี่ วกับการประยกุ ต์ใชว้ ธิ ตี า่ ง ๆ เช่นวา่ นัน้ ขอ้ ๔ การส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่บุคคลอื่นในลักษณะ ดงั ตอ่ ไปนี้ไมถ่ อื วา่ เปน็ การสง่ ข้อมูลที่ก่อใหเ้ กดิ ความเดอื ดรอ้ นราํ คาญแก่ผู้รบั ข้อมลู (๑) การสง่ ขอ้ มลู คอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์เพื่อติดตอ่ หรอื เป็นหลักฐานในการทํา นิติกรรมสัญญา (transactional) ที่คู่สัญญาได้ตกลงกันเป็นท่ีเรียบร้อยแล้ว หรอื การส่งขอ้ มูลทผี่ รู้ ับ ข้อมูลและผู้ส่งขอ้ มลู ส่งเพือ่ ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพอื่ แสดงความสมั พันธ์หรือนิติสัมพันธ์ท่ีมีระหว่างกัน (relationship) ในทางกฎหมาย ไดแ้ กก่ ารกระทาํ ทมี่ ีลกั ษณะ ดังตอ่ ไปน้ี (ก) การส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ท่ีใช้เพ่ือยืนยันการชําระหน้ี หรอื การกระทําการใด ๆ ท่ีเป็นส่วนหนึง่ ของการทาํ นิติกรรมในเชิงพาณิชย์ (commercial transaction) ซึ่งผ้รู บั ขอ้ มลู และผสู้ ง่ ขอ้ มลู ไดต้ กลงเขา้ ทาํ นติ ิกรรมสญั ญาดังกล่าวแลว้ (ข) การส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ท่ีใช้เพ่ือประกอบการใช้สิทธิ เรียกร้องในทางกฎหมายหรือชําระหนี้ทางกฎหมายหรือการส่งข้อมูลเพ่ือเข้าทํานิติกรรมสัญญาตามแบบ หรือเงือ่ นไขอนื่ ใดทก่ี ฎหมายกําหนด ซงึ่ ผู้รับข้อมูลและผูส้ ง่ ขอ้ มูลไดต้ กลงเขา้ ทํานิตกิ รรมดงั กลา่ วแล้ว (ค) การส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์เพ่ือให้คํารับรอง (warranty) เรียกคืนสินค้าหรือบริการ (recall) เน่ืองจากความชํารุดบกพร่องหรือสินค้าไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม หรือความปลอดภัยหรือมาตรฐานของสินค้าและบริการ (safety) หรือข้อมูลที่เกี่ยวกับหลักประกันเกี่ยวกับ สินคา้ หรอื บริการ (security) (ง) การส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวกับการแก้ไขเปลี่ยนแปลง เพ่ิมเติมข้อกําหนดเง่ือนไขเดิมในการซ้ือขายสินค้าหรือบริการ การบริการสมาชิก การลงทะเบียนเพื่อรับบริการ หรือการแกไ้ ขเปลยี่ นแปลงเพมิ่ เติมความสมั พนั ธ์ในทางนิตกิ รรมสญั ญาไมว่ า่ ดว้ ยประการใด ๆ ตามกฎหมาย 324 ส�ำ นักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์

เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๘๘ ง หนา้ ๓ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ราชกจิ จานุเบกษา (จ) การส่งขอ้ มลู คอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่เก่ียวกับนิติสัมพันธ์ที่เกิดจาก สัญญาจ้างแรงงาน สัญญาจ้างทําของหรือผลประโยชน์อ่ืนใดท่ีเก่ียวข้องกับผู้รับข้อมูลและผู้ส่งข้อมูล ทีต่ กลงกันแลว้ (ฉ) การส่งมอบสินค้าและบริการตามท่ีผู้ส่งข้อมูลและผู้รับข้อมูลตกลงกันไว้ล่วงหน้า เชน่ การเป็นสมาชิก หรอื สมคั รเปน็ ผู้ใชบ้ รกิ ารตา่ ง ๆ ที่ถกู กฎหมาย โดยผรู้ บั ข้อมลู และผสู้ ่งขอ้ มูลตกลงกันแล้ว (ช) การสง่ ข้อมูลคอมพวิ เตอร์หรอื จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ซง่ึ เป็นไปตามท่ีกฎหมายกําหนด (๒) การส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ โดยรัฐบาล รัฐสภา ศาล หรือหน่วยงานของรัฐใด ๆ ที่บังคับใช้กฎหมาย เพื่อแจ้งให้ทราบถึงข้อกําหนด กฎหมาย คําสั่ง หรือผลของนิติกรรมทางปกครองใด ๆ ท่ไี มไ่ ดม้ วี ัตถุประสงค์ในเชงิ พาณชิ ย์หรือเพอื่ แสวงหาผลกําไรทางธรุ กิจ (๓) การส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์โดยสถาบันการศึกษาหรือหน่วยงาน หรือองค์กรการกศุ ลท่ไี ม่ไดม้ ีวตั ถุประสงคใ์ นเชงิ พาณชิ ย์หรอื เพื่อแสวงหาผลกําไรทางธรุ กจิ (๔) การสง่ ขอ้ มูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกส์ที่ไม่มลี ักษณะผดิ กฎหมาย ไม่ละเมิด สิทธสิ ่วนบุคคล และไมม่ ีวตั ถุประสงคใ์ นเชงิ พาณิชย์ ขอ้ ๕ ในกรณีที่เป็นการส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ในเชิงพาณิชย์ นอกเหนือจากที่ระบุในข้อ ๔ ไปยังที่อยู่ทางอิเล็กทรอนิกส์ในลักษณะดังต่อไปนี้ เม่ือได้รับความยินยอม จากผู้รับขอ้ มลู แลว้ ไมเ่ ปน็ การก่อใหเ้ กิดความเดือดร้อนรําคาญแกผ่ รู้ ับขอ้ มูล (๑) ผู้ส่งข้อมูลต้องระบุข้อความดังต่อไปน้ีในข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ที่ส่งให้แก่ผู้รับขอ้ มูลแต่ละราย (ก) ระบุหรือแสดงสัญลักษณ์หรือรายละเอียดและวิธีการใด ๆ ที่ผู้รับข้อมูลสามารถ บอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์ไว้อย่างชัดเจนเพ่ือปฏิเสธการตอบรับข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมาย อเิ ลก็ ทรอนิกส์ (Opt-Out) จากผู้สง่ ข้อมลู ได้โดยงา่ ย (ข) วิธีการท่ีเปิดโอกาสให้ผู้รับข้อมูลจะใช้เพื่อแจ้งความประสงค์ในการบอกเลิก ปฏิเสธ หรอื ไม่ยอมรับขอ้ มลู ต้องมีรายละเอียดดังต่อไปน้ี ๑) มาตรการทางเทคนิค (Technical measure) ใด ๆ ที่ให้ผู้รับข้อมูลสามารถ แจ้งกลับเพื่อบอกเลิก ปฏิเสธการรับข้อมูล หรือไม่ยอมรับข้อมูลที่ส่งไปยังผู้ส่งข้อมูลได้โดยง่าย อาทิ ต้องระบุจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail address) หรือหมายเลขโทรศัพท์ หรือหมายเลขโทรสาร หรือที่อยู่ท่ีติดต่อได้ของผู้ส่งข้อมูลเพื่อส่งให้ผู้ส่งข้อมูลทําการระงับการส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมาย อเิ ล็กทรอนกิ ส์ใหแ้ กผ่ ู้รบั ข้อมลู คอมพิวเตอร์ หรอื ๒) วิธีการใด ๆ ทางคอมพิวเตอร์ที่มีการระบุยูอาร์แอล (URL) แบบฟอร์ม หรือคําสั่งทางคอมพิวเตอร์ใด ๆ เพื่อให้ผู้รับข้อมูลคอมพิวเตอร์สามารถทําคําสั่งปฏิเสธการตอบรับข้อมูล ดงั กลา่ วหรือยกเลิกการเปน็ สมาชิก (unsubscribe) ไดโ้ ดยเรว็ ส�ำ นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ 325

เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๘๘ ง หนา้ ๔ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา (๒) หลังจากท่ีผู้ส่งข้อมูลได้รับคําสั่งยกเลิก บอกเลิก หรือปฏิเสธการตอบรับข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือยกเลิกการเป็นสมาชิกหรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์จากผู้รับข้อมูลแล้ว ผู้ส่งข้อมูลต้องดําเนินการ ยกเลิกการส่งข้อมูลไปยังผู้รับโดยทันที ทั้งนี้ หากมีเหตุอันสมควรที่ไม่สามารถยกเลิกได้ทันที ผู้ส่งข้อมูล ต้องทําการยกเลิกการส่งข้อมูลโดยไม่ชักช้า ทั้งนี้ ต้องดําเนินการให้เสร็จส้ินภายใน ๗ วัน นับแต่วันที่ ไดร้ ับคาํ ส่ังจากผรู้ บั ข้อมูล (๓) ในการระบุวิธีการหรือแบบฟอร์มเพ่ือบอกเลิก ยกเลิก หรือปฏิเสธการรับข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวน้ัน ผู้ส่งข้อมูลหรือบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งข้อมูล หา้ มดําเนนิ การ ดงั ต่อไปน้ี (ก) เรียกรอ้ งให้ผรู้ ับขอ้ มลู ชาํ ระเงนิ หรือผลประโยชน์ใด ๆ เปน็ การตอบแทน (pay a fee) (ข) ขอข้อมูลจากผู้รับข้อมูลเพิ่มเติม เว้นแต่เป็นการขอข้อมูลเพื่อประกอบการยกเลิก การส่งข้อมูลคอมพิวเตอรด์ ังกล่าว (ค) ดําเนนิ การใด ๆ เพมิ่ เตมิ เพ่ือวัตถปุ ระสงคใ์ นเชิงพาณิชย์ เช่น ให้ดําเนินการกดปุ่มคําสั่ง (click) เพ่ือประโยชน์ใด ๆ ในทางธุรกิจ หรือเข้าสู่เว็บไซต์ หรือช่องทางอื่นใดของผู้ให้บริการหรือ ขายสินค้าหรือบรกิ ารเพิ่มเติม (๔) ในกรณีที่ผู้รับข้อมูลส่งคําส่ังบอกเลิกยกเลิกหรือปฏิเสธการรับข้อมูลไปยังผู้ส่งข้อมูลแล้ว ปรากฏว่าผู้ส่งข้อมูลยังฝ่าฝืนและส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์เพ่ิมเติมอีก ให้ผู้รับข้อมูลส่งคําส่ังบอกเลิก ยกเลิก หรือปฏิเสธการรับข้อมูลไปยังผู้ส่งข้อมูลอีกครั้งโดยการส่งหนังสือ บอกกล่าวทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์และไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ หรือวิธีการใด ๆ ท่ียืนยันได้ว่า ผู้ส่งได้รับคําส่ังดังกล่าวแล้ว หากปรากฏว่าผู้ส่งข้อมูลยังฝ่าฝืนและส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมาย อิเล็กทรอนิกส์เพ่ิมเติมอีก ให้ถือว่าผู้ส่งข้อมูลมีความผิดตามมาตรา ๑๑ วรรคสอง ต้องระวางโทษปรับ ไมเ่ กนิ สองแสนบาท ขอ้ ๖ ผู้ส่งข้อมูลท่ีเป็นผู้ให้บริการเว็บไซต์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคช่ัน หรือผู้ให้บริการ ประเภทส่ือสังคมออนไลน์ที่โฆษณาหรือสนับสนุนการส่งข้อมูลหรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ จะต้องจัดให้มี มาตรการหรือช่องทางในการบอกเลิก ยกเลิกหรือปฏิเสธการรับข้อมูลหรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ข้างต้น แก่ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ แอปพลิเคช่ัน หรือส่ือสังคมออนไลน์ของตน ท้ังน้ี ผู้ให้บริการเว็บไซต์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่น หรือผู้ให้บริการประเภทสื่อสังคมออนไลน์จะต้องแจ้งรายละเอียดมาตรการ หรือช่องทางการบอกเลิก ยกเลิก หรือปฏิเสธการรับข้อมูลหรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่ผู้ใช้บริการ และมาตรการหรอื ช่องทางดงั กลา่ วจะต้องเป็นมาตรการทผี่ ู้ใชบ้ รกิ ารสามารถเข้าใจและเข้าถึงไดโ้ ดยง่าย ในกรณีท่ีผู้ให้บริการเว็บไซต์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคช่ัน หรือผู้ให้บริการประเภทส่ือสังคม ออนไลน์ไม่ปฏิบัติตามข้อ ๕ ให้ถือว่าผู้ให้บริการเว็บไซต์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคช่ัน หรือผู้ให้บริการ ประเภทส่ือสงั คมออนไลนด์ ังกล่าวมคี วามรับผิดเชน่ เดียวกบั ผ้สู ง่ ข้อมลู ตามมาตรา ๑๑ 326 สำ�นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์

เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๑๘๘ ง หนา้ ๕ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ราชกจิ จานุเบกษา ขอ้ ๗ ให้ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรักษาการให้เป็นไปตามประกาศนี้ และใหม้ อี ํานาจตคี วามและวนิ จิ ฉยั ปัญหาอนั เกิดจากการปฏิบัตติ ามประกาศนี้ ในการตีความและการวินิจฉัยปัญหา ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมอาจต้ัง คณะทํางานซึ่งประกอบด้วยผู้แทนของภาครัฐและภาคเอกชนทีเ่ กีย่ วข้อง เพ่ือร่วมพิจารณาและดําเนินการ ใหเ้ ป็นไปตามประกาศนี้ ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ พิเชฐ ดรุ งคเวโรจน์ รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงดจิ ิทลั เพื่อเศรษฐกจิ และสังคม ส�ำ นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 327

328 สำ�นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์

ประกาศกระทรวงดิจทิ ลั เพอื่ เศรษฐกิจและสงั คม เรอ่ื ง หลกั เกณฑ ระยะเวลา และวธิ ีการปฏบิ ตั ิสาํ หรบั การระงบั การทําใหแ พรห ลายหรอื ลบขอ มลู คอมพวิ เตอร ของพนกั งานเจาหนาท่ีหรอื ผูใ หบริการ พ.ศ. ๒๕๖๐ สำ�นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ 329

ชื่อกฎหมาย ประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เรื่อง หลักเกณฑ ระยะเวลา และวิธีการปฏิบัติสําหรับ การระงับการทําใหแพรห ลายหรือลบขอมลู คอมพิวเตอรของพนักงานเจาหนาท่ีหรือผูใหบริการ พ.ศ. ๒๕๖๐ ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา เลม ๑๓๔ / ตอนพเิ ศษ ๑๘๘ ง / หนา ๒๑ / วันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๐ เรม่ิ บงั คบั ใช วนั ท่ี ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ผูรกั ษาการ ปลดั กระทรวงดจิ ิทัลเพื่อเศรษฐกจิ และสังคม 330 สำ�นักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์

เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๘๘ ง หน้า ๒๑ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ราชกจิ จานุเบกษา ประกาศกระทรวงดิจิทลั เพ่ือเศรษฐกิจและสงั คม เรือ่ ง หลักเกณฑ์ ระยะเวลา และวิธกี ารปฏิบตั สิ ําหรบั การระงับการทาํ ใหแ้ พร่หลาย หรือลบข้อมลู คอมพวิ เตอรข์ องพนักงานเจ้าหนา้ ท่หี รอื ผใู้ ห้บรกิ าร พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยท่ีเป็นการสมควรกําหนดหลักเกณฑ์ ระยะเวลา และวิธีการปฏิบัติสําหรับการระงับการทํา ให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ของพนักงานเจ้าหน้าท่ีหรือผู้ให้บริการตามที่ศาลได้มีคําสั่งให้ระงับ การทาํ ใหแ้ พร่หลายหรอื ลบข้อมูลคอมพวิ เตอร์ที่เป็นความผดิ แล้ว ให้เปน็ ไปในแนวทางเดยี วกัน อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔ ประกอบมาตรา ๒๐ วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทําความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคมออกประกาศไว้ ดังต่อไปน้ี ขอ้ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เรื่อง หลักเกณฑ์ ระยะเวลา และวธิ ีการปฏิบัติสําหรับการระงับการทําให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ของพนักงาน เจ้าหน้าท่ีหรือผูใ้ ห้บรกิ าร พ.ศ. ๒๕๖๐” ข้อ ๒ ประกาศนใ้ี หใ้ ช้บังคับตั้งแต่วันถดั จากวันประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเป็นต้นไป หมวด ๑ บทท่วั ไป ขอ้ ๓ ในประกาศนี้ “ระบบคอมพิวเตอร์” หมายความว่า อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ที่เช่ือม การทํางานเข้าด้วยกัน โดยได้มีการกําหนดคําสั่ง ชุดคําสั่ง หรือสิ่งอ่ืนใด และแนวทางปฏิบัติงาน ใหอ้ ปุ กรณห์ รือชดุ อปุ กรณ์ทําหน้าทีป่ ระมวลผลข้อมลู โดยอตั โนมัติ “ข้อมูลคอมพิวเตอร์” หมายความว่า ข้อมูล ข้อความ คําส่ัง ชุดคําส่ัง หรือส่ิงอ่ืนใดบรรดา ท่ีอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ในสภาพท่ีระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ และให้หมายความรวมถึง ข้อมูลอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกสด์ ้วย “ผใู้ หบ้ ริการ” หมายความวา่ (๑) ผู้ให้บริการแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกันโดยประการอื่น โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งน้ี ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการในนามของตนเอง หรือเพ่ือประโยชน์ ของบคุ คลอน่ื (๒) ผูใ้ ห้บรกิ ารเก็บรกั ษาขอ้ มูลคอมพวิ เตอรเ์ พอื่ ประโยชนข์ องบุคคลอ่นื ส�ำ นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ 331

เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๑๘๘ ง หนา้ ๒๒ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ราชกจิ จานุเบกษา “พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซ่ึงรัฐมนตรีแต่งต้ังให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติ วา่ ดว้ ยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพวิ เตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และทแ่ี กไ้ ขเพม่ิ เตมิ “ตําแหน่งท่ีอยู่ของข้อมูล” หมายความว่า ตําแหน่งหรือแหล่งท่ีอยู่ของข้อมูล (Related Online Location) อาทิ ยูอาร์แอล (Related URL) ท่ีอยู่บนอินเตอร์เน็ต (Related IP Address) ชื่อโดเมน (Related Domain Name) เว็บเพจ (Related web page) ของแหล่งข้อมูล หรือ ตําแหนง่ ทีอ่ ยู่ทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ (Related Electronic Address) ท่ีเกยี่ วข้องกบั ขอ้ มูลนั้น ข้อ ๔ ในกรณีที่ศาลมีคําส่ังให้ระงับการทําให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ จากตําแหน่งที่อยู่ของข้อมูล พนักงานเจ้าหน้าที่จะทําการระงับการทําให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ น้ันเอง หรือจะสั่งให้ผใู้ หบ้ ริการระงับการทําใหแ้ พรห่ ลายหรอื ลบขอ้ มูลคอมพวิ เตอรน์ ้นั กไ็ ด้ ในการส่ังให้ผู้ให้บริการระงับการทําให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามวรรคหน่ึง พนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ แต่การส่ังเช่นว่านั้นจะต้องไม่เป็นการสร้างภาระ หรือสง่ ผลกระทบกระเทอื นต่อผใู้ ห้บรกิ ารเกินสมควร เพ่อื ประโยชน์ในการระงบั การทาํ ใหแ้ พร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ได้โดยถูกต้อง ครบถ้วน ภายในระยะเวลาท่ีกําหนด และเพ่ือประโยชน์ในการติดตามและการตรวจสอบสถานะของการระงับ การทําให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามวรรคหนึ่ง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม อาจจัดให้มีสารบบสําหรับการส่ังให้ผู้ให้บริการระงับการทําให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์และ การรายงานผลการระงับการทาํ ให้แพร่หลายหรือลบข้อมลู คอมพิวเตอรต์ ามคําส่ังศาล เพ่ือประโยชน์ในการตรวจสอบการระงับการทําให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ให้เก็บรกั ษาขอ้ มลู จราจรทางคอมพิวเตอรท์ เ่ี กิดจากสารบบตามวรรคสามไวไ้ มน่ ้อยกว่าห้าปี หมวด ๒ การระงบั การทําใหแ้ พร่หลายหรือลบขอ้ มูลคอมพิวเตอร์ ของพนกั งานเจา้ หน้าที่ ข้อ ๕ ภายใต้บังคับข้อ ๔ หากพนักงานเจ้าหน้าท่ีจะทําการระงับการทําให้แพร่หลาย หรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นเอง ให้กระทําในทันทีที่ได้รับสําเนารายงานกระบวนพิจารณาของศาลท่ีปรากฏ ให้เห็นคําสั่งศาลและรายละเอียดตําแหน่งท่ีอยู่ของข้อมูล เว้นแต่ในกรณีท่ีมีเหตุจําเป็นอันสมควรท่ีมิอาจ ทําการระงับการทําให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ได้ในทันที ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีทําการระงับ การทําให้แพรห่ ลายหรือลบข้อมลู คอมพวิ เตอร์นั้นเมอื่ เหตจุ าํ เป็นดงั กลา่ วไดส้ ้นิ สุดลง แตต่ อ้ งไมเ่ กนิ กวา่ เจ็ดวัน ให้เป็นหน้าท่ีของพนักงานเจ้าหน้าท่ีในการตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง ครบถ้วน ก่อนท่ีจะ ทําการระงับการทําให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น รวมท้ังการบันทึกผลการระงับการทํา ให้แพร่หลายหรือลบขอ้ มลู คอมพิวเตอร์ลงในสารบบท่กี ระทรวงดจิ ทิ ลั เพื่อเศรษฐกจิ และสงั คมจดั ไว้ให้ 332 ส�ำ นกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์

เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๑๘๘ ง หน้า ๒๓ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา ขอ้ ๖ ในกรณีที่มีเหตุจําเป็นอันสมควร หรือกรณีท่ีได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวนหรือ เจ้าหน้าที่ท่ีเกี่ยวข้อง หรือเพื่อประโยชน์ในการสืบสวนและสอบสวน ก่อนที่จะทําการระงับการทํา ให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ พนักงานเจ้าหน้าที่จะเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นไว้ เท่าที่จําเป็นก็ได้ ทั้งน้ี ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีรีบส่งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่จัดเก็บไว้ดังกล่าว ไปยงั พนกั งานสอบสวนหรือเจา้ หน้าท่ที ่เี กย่ี วขอ้ งเพ่อื ดําเนินการต่อไป หมวด ๓ การระงบั การทําให้แพร่หลายหรอื ลบขอ้ มูลคอมพวิ เตอร์ ของผูใ้ ห้บริการ ขอ้ ๗ ภายใต้บังคับข้อ ๔ ในการส่ังให้ผู้ให้บริการระงับการทําให้แพร่หลายหรือลบ ข้อมูลคอมพวิ เตอร์ ให้พนักงานเจ้าหนา้ ที่จัดทําคําสัง่ โดยภายในคําส่งั อย่างน้อยต้องประกอบด้วย (๑) สําเนารายงานกระบวนพิจารณาของศาลที่ปรากฏให้เห็นคําส่ังศาลและรายละเอียด ตําแหนง่ ท่ีอยขู่ องขอ้ มลู ทศี่ าลมคี ําสั่งให้ระงับการทําใหแ้ พรห่ ลายหรอื ลบขอ้ มูลคอมพิวเตอร์นั้น (๒) ระบุว่าจะให้ผู้ให้บริการดําเนินการระงับการทําให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ในสว่ นใด และจะต้องดาํ เนินการให้แล้วเสร็จเมือ่ ใด (๓) เอกสารหลักฐานอื่นที่เกีย่ วขอ้ ง (ถา้ มี) ซึ่งผ่านการรบั รองความถูกต้องแล้ว คําสั่งให้ผู้ให้บริการระงับการทําให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ให้ใช้ตามแบบ ดศร. ๑ ทา้ ยประกาศน้ี ข้อ ๘ เมื่อผู้ให้บริการได้รับคําสั่งให้ระงับการทําให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ จากพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว ต้องดําเนินการระงับการทําให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตามรายละเอียดทีป่ รากฏในคาํ สั่งของพนักงานเจา้ หน้าท่ใี นทันทีที่ได้รับคําส่ัง แต่ต้องไม่เกินกว่าระยะเวลา ที่ระบุไว้ในคําส่ัง เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุจําเป็นอันสมควรซึ่งพนักงานเจ้าหน้าท่ีอนุญาตให้ดําเนินการ เกินกวา่ ระยะเวลาทรี่ ะบไุ วใ้ นคําสั่ง แตต่ อ้ งไมเ่ กนิ สบิ หา้ วัน ในการระงับการทําให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ ให้ดําเนินการ ดว้ ยมาตรการทางเทคนิคใด ๆ (Technical Measures) ทีไ่ ด้มาตรฐานเพ่อื ใหบ้ งั เกดิ ผลตามคําส่ังศาล หมวด ๔ เบ็ตเตล็ด ขอ้ ๙ ในกรณีท่ีศาลมีคําสั่งเพิกถอนการระงับการทําให้แพร่หลายข้อมูลคอมพิวเตอร์ ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีส่งคําสั่งให้ผู้ให้บริการยุติการระงับการทําให้แพร่หลายซ่ึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตามแบบ ดทร. ๒ ทา้ ยประกาศนี้ ส�ำ นกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ 333

เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๘๘ ง หน้า ๒๔ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา ขอ้ ๑๐ ให้ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรักษาการให้เป็นไปตามประกาศนี้ และให้มีอํานาจตีความและวินจิ ฉยั ปญั หาอันเกิดจากการปฏบิ ตั ติ ามประกาศน้ี ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ พิเชฐ ดรุ งคเวโรจน์ รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงดจิ ิทลั เพ่ือเศรษฐกจิ และสังคม 334 สำ�นักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

แบบ ดศร. ๑ คาํ ส่งั ให้ระงับการทําใหแ้ พรห่ ลายหรือลบขอ้ มูลคอมพิวเตอร์ ตามพระราชบัญญัติวา่ ด้วยการกระทําความผิดเกย่ี วกบั คอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และที่แก้ไขเพม่ิ เตมิ ----------------------------------------- ด้วยศาลมีคําสั่ง เมื่อวันที่ ................................................ ให้ระงับการทําให้แพร่หลาย/ลบ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม ดังปรากฏตามรายการของข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือตําแหน่งท่ีอยู่ของข้อมูลคอมพิวเตอร์ จาํ นวน................................. URLs คดีหมายเลขดําที่ .................................. /๒๕.. คดีหมายเลขแดงท่ี .................................. /๒๕.. ฉะนั้น อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๒๐ วรรคส่ี แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทํา ความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเก่ียวกับ คอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ พนักงานเจ้าหน้าที่จึงมีคําส่ังให้..................................................................... ซง่ึ เปน็ ผู้ใหบ้ ริการตามพระราชบัญญัติน้ี ดําเนินการระงับการทําให้แพร่หลาย/ลบ ข้อมลู คอมพวิ เตอร์ ดงั ปรากฏ ตามรายการของข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือตําแหน่งท่ีอยู่ของข้อมูลคอมพิวเตอร์ในสําเนารายงานกระบวนพิจารณา ของศาลท่ีแนบมาพร้อมกับคําสั่งนี้ในทันทีท่ีได้รับคําส่ัง แต่ไม่เกินวันท่ี....................................... ท้ังน้ี หากมี เหตุจําเป็นอันสมควรซึ่งทําให้ไม่อาจดําเนินการตามคําสั่งนี้ได้ ขอให้ท่านแจ้งไปยังพนักงานเจ้าหน้าท่ีตามที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ หรอื จดหมายอิเล็กทรอนกิ ส์ตามทป่ี รากฏด้านลา่ งนี้ สัง่ ณ วันที่ .. เดอื น ..................... พ.ศ. .... (ลงชือ่ ) (................................................) ตาํ แหนง่ งาน................................... พนกั งานเจ้าหนา้ ทีต่ ามพระราชบัญญัติ วา่ ดว้ ยการกระทาํ ความผดิ เกี่ยวกบั คอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ชอื่ หนว่ ยงาน และสังกัด เช่น สํานกั งานปลดั กระทรวงดจิ ิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม สํานักกฎหมาย โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๖๗๖๓ โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๘๐๑๓ E-mail : [email protected] หมายเหตุ ใหฆ้ า่ คาํ วา่ “ระงบั ” หรือ “ลบ” แล้วแต่กรณี เพอ่ื ใหต้ รงกบั คาํ ส่ังศาล ส�ำ นักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ 335

๒ แบบ ดศร. ๒ คําส่งั เพิกถอนการระงบั การทําใหแ้ พร่หลายขอ้ มูลคอมพวิ เตอร์ ตามพระราชบัญญตั ิว่าดว้ ยการกระทําความผดิ เก่ียวกับคอมพวิ เตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และทีแ่ ก้ไขเพม่ิ เติม ----------------------------------------- ด้วยศาลมีคําส่ัง เม่ือวันที่ .............................................................. ให้เพิกถอนการระงับ การทําให้แพร่หลายข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ดังปรากฏตามรายการของข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือตําแหน่งที่อยู่ของ ข้อมลู คอมพวิ เตอร์ จํานวน................................. URLs คดีหมายเลขดาํ ท่ี .................................. /๒๕.. คดหี มายเลขแดงท่ี .................................. /๒๕.. เพ่อื ให้เปน็ ไปตามคําส่ังศาลข้างตน้ พนักงานเจ้าหน้าที่ จงึ มีคาํ สงั่ ให.้ ................................................ ซ่ึงเป็นผู้ให้บริการตามพระราชบัญญัติน้ี ดําเนินเพิกถอนการระงับการทําให้แพร่หลายข้อมูลคอมพิวเตอร์ ดังปรากฏตามรายการของข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือตําแหน่งท่ีอยู่ของข้อมูลคอมพิวเตอร์ในสําเนารายงาน กระบวนพิจารณาของศาลท่ีแนบมาพร้อมกับคําส่ังน้ีในทันทีท่ีได้รับคําส่ัง แต่ไม่เกินวันที่....................................... ท้ังนี้ หากมีเหตุจําเปน็ อันสมควรซง่ึ ทําให้ไม่อาจดาํ เนินการตามคําสงั่ นไี้ ด้ ขอใหท้ ่านแจง้ ไปยงั พนกั งานเจ้าหน้าท่ี ตามท่อี ยแู่ ละหมายเลขโทรศัพท์ หรือจดหมายอเิ ล็กทรอนกิ สต์ ามท่ีปรากฏด้านล่างน้ี สัง่ ณ วนั ท่ี .. เดอื น ..................... พ.ศ. .... (ลงชอื่ ) (................................................) ตาํ แหน่งงาน................................... พนักงานเจ้าหน้าทตี่ ามพระราชบัญญัติ วา่ ด้วยการกระทําความผดิ เก่ยี วกับคอมพวิ เตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ช่อื หนว่ ยงาน และสงั กัด เชน่ สํานกั งานปลดั กระทรวงดจิ ิทลั เพอื่ เศรษฐกจิ และสงั คม สํานักกฎหมาย โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๖๗๖๓ โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๘๐๑๓ E-mail : [email protected] 336 สำ�นกั งานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์

สำ�นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 337

338 สำ�นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์

ประกาศกระทรวงดิจทิ ลั เพ่ือเศรษฐกจิ และสงั คม เรื่อง แตง ตั้งคณะกรรมการเปรียบเทียบ ตามพระราชบัญญัติวาดว ยการกระทําความผดิ เกย่ี วกับคอมพวิ เตอร พ.ศ. ๒๕๕๐ พ.ศ. ๒๕๖๐ สำ�นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 339

ชือ่ กฎหมาย ประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เรื่อง แตงตั้งคณะกรรมการเปรียบเทียบ ตามพระราชบัญญตั ิวาดว ยการกระทําความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร พ.ศ. ๒๕๕๐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา เลม ๑๓๔ / ตอนพเิ ศษ ๑๘๘ ง / หนา ๑๒ / วนั ที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๐ เรม่ิ บังคบั ใช วนั ท่ี ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ผรู ักษาการ ปลดั กระทรวงดจิ ิทลั เพ่ือเศรษฐกจิ และสังคม 340 ส�ำ นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์

เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๘๘ ง หนา้ ๑๒ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ราชกจิ จานุเบกษา ประกาศกระทรวงดจิ ิทลั เพ่ือเศรษฐกิจและสงั คม เร่ือง แตง่ ตั้งคณะกรรมการเปรยี บเทียบ ตามพระราชบัญญัติวา่ ด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพวิ เตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยท่ีเป็นการสมควรให้มีคณะกรรมการเปรียบเทียบเพื่อทําหน้าท่ีเปรียบเทียบในคดีความผิด เกยี่ วกบั คอมพิวเตอร์ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔ ประกอบมาตรา ๑๗/๑ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วย การกระทําความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ซึ่งแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติว่าด้วย การกระทําความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพือ่ เศรษฐกจิ และสังคม ออกประกาศแตง่ ต้ังคณะกรรมการเปรียบเทียบไว้ ดงั ตอ่ ไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เร่ือง แต่งต้ัง คณะกรรมการเปรียบเทียบตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ พ.ศ. ๒๕๖๐” ข้อ ๒ ประกาศน้ใี ห้ใชบ้ ังคบั ตง้ั แตว่ นั ถดั จากวันประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเป็นตน้ ไป ข้อ ๓ ในประกาศน้ี “ความผิด” หมายความว่า ความผิดตามมาตรา ๕ มาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๑๑ มาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๖/๒ มาตรา ๒๓ มาตรา ๒๔ และมาตรา ๒๗ แห่งพระราชบัญญัติ วา่ ดว้ ยการกระทําความผดิ เกยี่ วกบั คอมพวิ เตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และทแ่ี กไ้ ขเพิ่มเติม “ผู้ต้องหา” หมายความว่า บุคคลผู้ถูกกล่าวหาว่าได้กระทําความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วย การกระทาํ ความผิดเกย่ี วกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม “พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งต้ังให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติ ว่าดว้ ยการกระทาํ ความผิดเกี่ยวกบั คอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และทแ่ี ก้ไขเพม่ิ เตมิ “คณะกรรมการเปรียบเทียบ” หมายความว่า คณะกรรมการเปรียบเทียบตามมาตรา ๑๗/๑ แหง่ พระราชบญั ญตั ิวา่ ดว้ ยการกระทําความผดิ เกยี่ วกบั คอมพวิ เตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และทแ่ี ก้ไขเพ่มิ เตมิ หมวด ๑ คณะกรรมการเปรียบเทยี บ ขอ้ ๔ ให้มีคณะกรรมการเปรียบเทียบคณะหนึ่ง ประกอบด้วยผู้แทนสํานักงานอัยการสูงสุด เป็นประธานกรรมการ ผู้แทนกองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรม ทางเทคโนโลยเี ป็นกรรมการ ผู้อํานวยการกองกฎหมาย สํานักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและ สำ�นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ 341


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook