Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนระดับประถมศึกษา 2-64

แผนการสอนระดับประถมศึกษา 2-64

Published by เกริก จิรัสย์พงษ์, 2021-12-02 11:50:12

Description: แผนการสอนระดับประถมศึกษา 2-64

Search

Read the Text Version



๒ คำนำ แผนการเรียนการสอนระดับประถมศึกษา ได้จัดทำข้ึนเพื่อใช้ในการจัดกิจกรรม การเรียนการสอนออฟไลน์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 โดยวิเคราะห์จากเนื้อหาท่ีผู้เรียนลงทะเบียนในการภาคเรียนนี้ เป็นการส่งเสริมให้ ผ้เู รียนไดเ้ รยี นรู้อยา่ งตอ่ เนื่อง และสอดคลอ้ งกับวิถชี ีวิตของผเู้ รียน งานการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวิเศษชัยชาญ หวังว่า แผนการเรียนการสอนออนไลน์ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จะเป็นคู่มือครูในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน รูปแบบออฟไลน์ โดยใช้กระบวนการ ONIE Model จะเป็นประโยชน์ในการจดั กจิ กรรม การเรียนรู้ หากมขี อ้ เสนอแนะ ประการใด งานการศึกษาข้ันพื้นฐาน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวิเศษชัยชาญ ขอน้อม รบั ด้วยความขอบคณุ ขอขอบคุณผู้บริหาร ข้าราชการครู และครูผู้สอนทุกทา่ นท่ีทำให้แผนการเรียนการสอนระดับประถมศึกษา ภาค เรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 เพื่อเป็นคู่มือครูในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน รูปแบบออนไลน์/ออฟไลน์ โดยใช้ กระบวนการONIE Model ฉบับนี้ประสบผลสำเร็จเป็นเล่มสมบูรณ์ คณะผู้จัดทำหวังเปน็ อย่างยง่ิ ว่า เอกสารเล่มน้จี ะเป็น ประโยชนส์ ำหรับผู้นำไปใช้ในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพต่อไป งานการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน กศน.อำเภอวิเศษชัยชาญ

สารบัญ ๓ หน้า เร่อื ง คำนำ สารบัญ ประวัตคิ รู ปฏทิ ินการจดั การศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564 ตารางวิเคราะห์หนว่ ยกิต ในการทำปฏิทนิ การเรยี นการสอน ตารางวิเคราะหเ์ นอ้ื หาสาระรายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ (พว 11001) ตารางวเิ คราะห์เนอ้ื หาสาระรายวิชา ชอ่ งทางการเข้าสอู่ าชีพ (อช 11001) ตารางวเิ คราะห์เนื้อหาสาระรายวชิ า สังคมศึกษา (สค ๑1001) ตารางวเิ คราะห์เน้ือหาสาระรายวิชา พัฒนาตนเอง ชมุ ชน สงั คม (สค ๑1003 ) ตารางวิเคราะหเ์ นื้อหาสาระรายวิชา การปอ้ งกันการทจุ ริต (สค 12026) แผนการเรียนการสอนออนไลน์รายสัปดาห์ครง้ั ท่ี 1 แผนการเรียนการสอนออนไลน์รายสัปดาห์ครง้ั ท่ี 2 แผนการเรยี นการสอนออนไลน์รายสปั ดาห์ครั้งท่ี 3 แผนการเรยี นการสอนออนไลน์รายสัปดาห์ครั้งท่ี 4 แผนการเรียนการสอนออนไลน์รายสปั ดาห์ครัง้ ท่ี 5 แผนการเรียนการสอนออนไลน์รายสปั ดาหค์ รั้งที่ 6 แผนการเรยี นการสอนออนไลน์รายสปั ดาห์ครงั้ ท่ี 7 แผนการเรยี นการสอนออนไลน์รายสัปดาห์ครง้ั ที่ 8 แผนการเรียนการสอนออนไลน์รายสัปดาห์ครง้ั ท่ี 9 แผนการเรียนการสอนออนไลน์รายสัปดาห์ครง้ั ที่ 10 แผนการเรยี นการสอนออนไลน์รายสัปดาห์ครง้ั ท่ี 11 แผนการเรียนการสอนออนไลน์รายสปั ดาห์ครั้งท่ี 12 แผนการเรียนการสอนออนไลน์รายสปั ดาห์คร้ังที่ 13 แผนการเรยี นการสอนออนไลน์รายสปั ดาห์ครั้งท่ี 14 แผนการเรยี นการสอนออนไลน์รายสปั ดาห์ครง้ั ท่ี 15 แผนการเรียนการสอนออนไลน์รายสปั ดาห์ครัง้ ท่ี 16 แผนการเรยี นการสอนออนไลน์รายสปั ดาห์ครง้ั ท่ี 17 แผนการเรียนการสอนออนไลน์รายสัปดาห์ครั้งท่ี 18 แผนการเรยี นการสอนออนไลน์รายสัปดาห์ครง้ั ที่ 19 คณะทำงาน

๔ ปฏิทินการจัดการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศึกษา 2564 หลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 ระดบั ประถมศึกษา ลำดบั วนั /เดอื น/ปี กจิ กรรมการเรยี นรู้ สถานท่ี 1 1พฤศจิกายน64 ปฐมนิเทศ - พบกลุ่มนักศกึ ษา ตำบลทา่ ช้าง - วเิ คราะห์หลกั สตู ร - ทำข้อตกลงการเรียนการสอน 2 8พฤศจกิ ายน64 - กจิ กรรมการเรียนการสอน ครง้ั ท่ี ๑ รายวชิ า วิทยาศาสตร์ (พว 11001) ตำบลท่าช้าง เรื่อง โครงงานวทิ ยาศาสตร์ 3 15พฤศจกิ ายน64 - กจิ กรรมการเรียนการสอน คร้ังที่ ๒ รายวชิ า วิทยาศาสตร์ (พว 11001) ตำบลทา่ ช้าง เรอ่ื ง สง่ิ มีชวี ติ 4 22พฤศจกิ ายน64 - กิจกรรมการเรยี นการสอน ครั้งที่ ๓ ตำบลท่าช้าง รายวิชา วิทยาศาสตร์ (พว 11001) ตำบลท่าช้าง เรื่อง ระบบนิเวศ 5 29พฤศจิกายน64 - กิจกรรมการเรียนการสอน ครง้ั ท่ี ๔ รายวชิ า วิทยาศาสตร์ (พว 11001) เรื่อง ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิงแวดลอ้ มในท้องถ่ิน 6 29พฤศจิกายน64 - กิจกรรมการเรียนการสอน ครั้งท่ี ๕ ตำบลท่าช้าง รายวชิ า วิทยาศาสตร์ (พว 11001) ตำบลท่าช้าง เรอื่ ง สารและสมบตั ิของสาร 7 29พฤศจิกายน64 - กจิ กรรมการเรยี นการสอน คร้งั ท่ี ๖ รายวิชา ช่องทางการเข้าสอู่ าชีพ (อช 11001) เรอ่ื ง ช่องทางการเขา้ สอู่ าชีพ 8 6 ธนั วาคม 64 - กจิ กรรมการเรียนการสอน ครั้งท่ี ๗ ตำบลท่าช้าง รายวิชา ช่องทางการเข้าสอู่ าชีพ (อช 11001) ตำบลท่าช้าง เรอ่ื ง การตดั สนิ ใจเขา้ สอู่ าชีพ 9 13 ธันวาคม 64 - กิจกรรมการเรียนการสอน คร้ังที่ ๘ รายวิชา ชอ่ งทางการเข้าสู่อาชีพ (อช 11001) เรอ่ื ง ความพรอ้ มในการเข้าส่อู าชพี 10 20 ธนั วาคม 64 - กจิ กรรมการเรยี นการสอน ครั้งที่ ๙ ตำบลท่าช้าง รายวิชา สงั คมศกึ ษา (สค ๑1001) ตำบลท่าช้าง เรอ่ื ง ภูมศิ าสตร์กายภาพประเทศไทย 11 27 ธนั วาคม 64 - กิจกรรมการเรียนการสอน คร้ังท่ี ๑๐ รายวชิ า สงั คมศึกษา (สค ๑1001) เร่อื ง ประวัติศาสตรช์ าตไิ ทย

๕ ปฏทิ ินการจัดการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564 หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดบั การศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับ ประถมศึกษา ลำดบั วัน/เดอื น/ปี กิจกรรมการเรยี นรู้ สถานท่ี 12 3มกราคม65 - กิจกรรมการเรียนการสอน คร้ังที่ 11 ตำบลทา่ ช้าง รายวชิ า สังคมศึกษา (สค ๑1001) ตำบลท่าช้าง เรอื่ ง เศรษฐศาสตร์ ตำบลทา่ ช้าง ตำบลท่าช้าง 13 10มกราคม65 - กจิ กรรมการเรียนการสอน ครงั้ ที่ 12 รายวิชา สงั คมศึกษา (สค ๑1001) ตำบลทา่ ช้าง เรอ่ื ง การเมอื งการปกครอง ตำบลท่าช้าง 14 17มกราคม65 - กิจกรรมการเรียนการสอน ครงั้ ที่ 13 ตำบลท่าช้าง รายวชิ า พัฒนาตนเอง ชมุ ชน สงั คม (สค ๑1003 ) ตำบลทา่ ช้าง เรือ่ ง การจดั เก็บและวิเคราะหขอมูล กศน.อำเภอวเิ ศษชยั ชาญ 15 24มกราคม65 - กิจกรรมการเรียนการสอน ครัง้ ที่ 14 รายวชิ า พฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม (สค ๑1003 ) การวางแผนพัฒนาตนเองชมุ ชนสังคมและการนาํ ไปใชใน ชวี ิตประจาํ วัน 16 31มกราคม65 - กิจกรรมการเรยี นการสอน ครง้ั ท่ี 15 รายวิชา การป้องกันการทุจรติ (สค 12026) เรือ่ ง การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนกับ ผลประโยชนส์ ่วนรวม 17 7กมุ ภาพันธ์ 65 - กจิ กรรมการเรียนการสอน ครง้ั ท่ี 16 รายวชิ า การปอ้ งกนั การทจุ ริต (สค 12026) การละอายและไมท่ นต่อการทุจริต 18 14กมุ ภาพันธ์ 65 - กจิ กรรมการเรียนการสอน ครง้ั ท่ี 17 รายวชิ า การปอ้ งกันการทุจรติ (สค 12026) STRONG : จติ พอเพยี งตานการทุจริต 19 21กมุ ภาพันธ์ 65 - กจิ กรรมการเรยี นการสอน คร้ังที่ 18 รายวิชา การปอ้ งกันการทุจรติ (สค 12026) เรอ่ื งพลเมืองกบั ความรับผิดชอบต่อสงั คม ๒๐ 28กุมภาพันธ์ 65 - ปัจฉมิ นิเทศ ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖4 ๒๑ 5-6มนี าคม65 สอบปลายภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖4 โรงเรียนวิเศษไชยชาญ “ตันตวิ ิทยาภมู ิ” หมายเหตุ ปฏทิ นิ การศึกษาฉบับน้ี ใช้แนวทางการปฏบิ ตั ขิ อง กศน.ตำบลท่าช้าง สามารถเปล่ยี นแปลงได้ ตามความเหมาะสม

๖ ตารางวิเคราะหห์ น่วยกิต ในการทำปฏิทนิ การเรยี นการสอน ระดับประถมศกึ ษา สาระการเรียนรู้ วชิ า จำนวน จำนวน จำนวน หมายเหตุ หนว่ ยกิต ครัง้ ทเ่ี รยี น ครงั้ ทปี่ รับ ความร้พู น้ื ฐาน การประกอบอาชีพ วิชาบังคับ จำนวน 9 หน่วยกิต การพฒั นาสังคม วทิ ยาศาสตร์ 3 5 - จำนวนครง้ั ท่ี การพัฒนาสงั คม 3 - ปรับเพ่ิมขึน้ / ช่องทางการประกอบอาชพี 2 4 - ลดลง ขน้ึ อยู่ 2 สังคมศกึ ษา 3 พัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม 1 กบั ความ วิชาเลอื กบงั คบั จำนวน 4 หนว่ ยกิต ยากงา่ ยของ เน้ือหา การปอ้ งกนั การทุจริต 2 4 - ครง้ั ที่ 1 กจิ กรรมปฐมนเิ ทศ คร้ังท่ี ๒๐ กิจกรรมปัจฉมิ นิเทศ

๗ การวิเคราะหเ์ นื้อหาสาระการเรยี นรู้ตามหลกั สูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้นั พน้ื ฐานนอกระบบ พทุ ธศกั ราช 2551 สาระ ความร้พู ้ืนฐาน รหัสวิชา พว 11001 รายวิชา วทิ ยาศาตร์ (3 หน่วยกิต) ระดบั ประถมศึกษา ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอวเิ ศษชัยชาญ ท่ี เนื้อหา วเิ คราะห์เนือ้ หา งา่ ย ยาก ยากมาก ๑ ธรรมชาตขิ องวิทยาศาสตร์ (กรต.) (พบกลุ่ม) (สอนเสรมิ ) เรอ่ื งที่ 1 กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่องท่ี 2 เทคโนโลยี  เรื่องท่ี 3 วสั ดแุ ละอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์   ๒ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ เร่อื ง การเขยี นโครงงานวทิ ยาศาสตร์  3 ส่ิงมชี วี ิต  เรอื่ งที่ 1 ลักษณะและการจัดกลุ่มของสงิ มีชวี ติ  เรอ่ื งท่ี 2 พืช  เรื่องท่ี 3 การขยายพนั ธ์ุพืช  เร่ืองที่ 4 สัตว์  4 ระบบนิเวศ  เรื่องที่ 1 ความเปน็ อย่ขู องสิ่งมชี วี ติ ในทอ้ งถน่ิ  เรื่องที่ 2 ห่วงโซอ่ าหาร เรื่องท่ี 3 ความสมั พันธ์ระหว่างสภาพแวดลอ้ มกับการดํารงชีวติ  ของสิงมชี วี ติ  5 ทรพั ยากรธรรมชาติและสิงแวดล้อมในทอ้ งถนิ่  เรอ่ื งที่ 1 ทรพั ยากรธรรมชาติ  เรือ่ งที่ 2 สิ่งแวดลอ้ ม  6 ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ  เรอ่ื งท่ี 1 การเกดิ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เรอ่ื งที่ 2 การรายงานสภาพอากาศของท้องถิ่น 7 สารและสมบัตขิ องสาร เรื่องที่ 1 สารและสมบัติของสาร เรื่องที่ 2 ปจั จัยทีมผี ลต่อการเปลี่ยนสถานะของสาร

๘ การวิเคราะห์เนอื้ หาสาระการเรยี นรูต้ ามหลกั สูตรการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาขนั้ พ้นื ฐานนอกระบบ พุทธศักราช 2551 สาระ ความรพู้ ื้นฐาน รหสั วชิ า รหสั วิชา พว 11001 รายวิชา วทิ ยาศาตร์ (3 หนว่ ยกิต) ระดับประถมศกึ ษา ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอวเิ ศษชยั ชาญ ท่ี เนอ้ื หา วิเคราะห์เนอ้ื หา ง่าย ยาก ยากมาก 8 การแยกสาร (กรต.) (พบกลุ่ม) (สอนเสรมิ ) เรอ่ื งที่ 1 การแยกสาร เรอื่ งท่ี 2 การเข้าสรู่ า่ งกายของสาร  เร่อื งท่ี 3 ประเภทของสารทีพบในชวี ิตประจําวัน  เร่อื งท่ี 4 สารและผลิตภณั ฑข์ องสารทใี ช้ในชีวติ ประจาํ วัน  เรื่องที่ 5 ผลกระทบทีเกดิ จากการใช้สารต่อชีวิตและสิ่งแวดลอ้ ม   9 สารในชวี ติ ประจําวัน เรื่องท่ี 1 สมบัติของสารทีใชใ้ นชีวติ ประจําวนั  เร่ืองท่ี 2 สารและผลติ ภัณฑ์ของสารทีใช้ในชีวติ ประจาํ วัน  เร่ืองท่ี 3 การเลอื กซ้ือและการใชส้ ารอย่างปลอดภัย  10 แรงและการเคล่ือนท่ีของแรง  เรื่องที่ 1 แรงและการเคลอื่ นท่ีของแรง  เรือ่ งท่ี 2 ความดนั  เรอ่ื งที่ 3 แรงดึงดดู ของโลก ความหมาย ประโยชน์ และโทษของ แรงดึงดดู ของโลก   11 พลงั งานในชีวิตประจําวนั และการอนุรักษ์ เรอ่ื งที่ 1 พลังงานไฟฟ้า  เรอ่ื งที่ 2 พลังงานแสง เรื่องที่ 3 พลงั งานเสยี ง   12 ความสัมพนั ธ์ระหว่างดวงอาทติ ย์ โลก และดวงจันทร์  เรอ่ื งท่ี 1 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ  1.1 การเกิดกลางวันกลางคนื  1.2 การเกดิ ข้างขึ้นข้างแรม  1.3 การเกดิ สุริยุปราคาและการเกิดจันทรุปราคา  1.4 การเกิดฤดูกาล 1.5 การเกดิ ลมบกลมทะเล

๙ การวิเคราะห์เน้ือหาสาระการเรียนร้ตู ามหลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดับการศึกษาขน้ั พน้ื ฐานนอกระบบ พทุ ธศกั ราช 2551 สาระ ความร้พู นื้ ฐาน รหสั วชิ า พว 11001 รายวชิ า วิทยาศาตร์ (3 หน่วยกติ ) ระดับประถมศึกษา ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอวิเศษชัยชาญ ท่ี เนื้อหา วเิ คราะหเ์ น้อื หา ง่าย ยาก ยากมาก 13 อาชีพช่างไฟฟ้า (กรต.) (พบกลุม่ ) (สอนเสรมิ ) 1. ประเภทของไฟฟ้า 2. วสั ดุอุปกรณเ์ ครืองมอื ชา่ งไฟฟ้า  3. วสั ดุอุปกรณท์ ีใช้ในวงจรไฟฟ้า  4. การตอ่ วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย  5. กฎของโอห์ม  6. การเดินสายไฟฟ้าอย่างง่าย  7. การใช้เครืองใชไ้ ฟฟ้าอยา่ งง่าย  8. ความปลอดภยั และอบุ ตั ิเหตุจากอาชพี ช่างไฟฟ้ า  9. การบริหารจดั การและการบรกิ าร  10. โครงงานวิทยาศาสตรส์ ู่อาชีพ  11. คาํ ศพั ท์ทางไฟฟ้า  

๑๐ การวิเคราะหเ์ นอ้ื หาสาระการเรยี นรูต้ ามหลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดับการศึกษาขัน้ พ้ืนฐานนอกระบบ พทุ ธศักราช 2551 สาระ ความรู้พ้ืนฐาน รหัสวชิ า อช 11001 รายวิชา ช่องทางการเข้าสู่อาชีพ (2 หนว่ ยกติ ) ระดับประถมศกึ ษา ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอวเิ ศษชยั ชาญ ท่ี เน้ือหา วเิ คราะห์เนื้อหา งา่ ย ยาก ยากมาก 1 บทท่ี 1 การงานอาชพี 1 (กรต.) (พบกลมุ่ ) (สอนเสรมิ ) เรื่องที่ 1 ความสำคัญและความจำเปน็ ในการประกอบอาชพี เรื่องท่ี 2 อาชพี ในชมุ ชน  เรอ่ื งที่ 3 การประกอบอาชีพในภูมิภาค 5 ทวปี  2 ช่องทางการเข้าสู่อาชพี  เรื่องที่ 1 ความจำเป็นในการมองเห็นช่องทางการประกอบอาชพี  เรอ่ื งท่ี 2 ความเป็นไปไดใ้ นการเข้าสู่อาชีพ  เร่อื งที่ 3 การลำดับอาชีพและเหตผุ ล  3 การตดั สินใจเขา้ สู่อาชีพ  เรอ่ื งท่ี 1 ตัดสนิ ใจเข้าสู่อาชีพดว้ ยปรัชญาคิดเป็น เร่อื งท่ี 2 การตดั สินใจเขา้ สู่อาชพี ด้วยการวิเคราะหศ์ ักยภาพ  4. ความพรอ้ มในการเขา้ สู่อาชีพ เรื่องที่ 1 ตรวจสอบความเป็นไปไดใ้ นการประกอบอาชีพ

๑๑ การวเิ คราะหเ์ นื้อหาสาระการเรยี นรู้ตามหลกั สูตรการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาขนั้ พ้ืนฐานนอกระบบ พทุ ธศกั ราช 2551 สาระ ความร้พู น้ื ฐาน รหัสวชิ า สค 11001 รายวิชา สังคมศึกษา (3 หน่วยกติ ) ระดับประถมศกึ ษา ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอวเิ ศษชยั ชาญ ท่ี เนือ้ หา วิเคราะหเ์ น้อื หา ง่าย ยาก ยากมาก 1 ภูมิศาสตรก์ ายภาพประเทศไทย (กรต.) (พบกลุ่ม) (สอนเสรมิ ) เรอ่ื งท่ี 1 ลกั ษณะภูมิศาสตรก์ ายภาพของชุมชน ทอ้ งถ่นิ เร่อื งที่ 2 ลกั ษณะภมู ิศาสตร์กายภาพของประเทศไทย  เรือ่ งที่ 3 การใช้ข้อมูลภมู ิศาสตร์กายภาพชมุ ชนท้องถิ่นในการ  ดำรงชวี ิต  เรื่องท่ี 4 ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละการอนรุ ักษ์  ทรัพยากรธรรมชาติ เรอ่ื งท่ี 5 ศักยภาพของประเทศไทย   2 ประวตั ิศาสตรช์ าติไทย  เร่อื งที่ 1 ความหมาย ความสำคัญของประวตั ศิ าสตร์ เรื่องที่ 2 ประวตั ิความเปน็ มาของชนชาตไิ ทย  เรื่องที่ 3 ประวตั แิ ละผลงานของบรรพบรุ ุษไทยทม่ี ีส่วนปกป้อง  และสร้างความเจริญให้แก่ชาตบิ ้านเมอื ง   3 เศรษฐศาสตร์ เรื่องที่ 1 เศรษฐศาสตร์ในครอบครวั และชุมชน  เร่ืองท่ี 2 กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ เรอ่ื งท่ี 3 คุณธรรมของผผู้ ลติ และผบู้ รโิ ภค  เรื่องท่ี 4 ทรพั ยากรธรรมชาติ ส่งิ แวดล้อมในท้องถ่นิ และชมุ ชน  4 การเมืองการปกครอง  เรอ่ื งที่ 1 ความหมายและความสำคัญของการเมืองและการ  ปกครอง เรอ่ื งที่ 2 โครงสรา้ งการบรหิ ารราชการแผ่นดนิ เรอ่ื งท่ี 3 ความสมั พันธ์ระหวา่ งอำนาจนติ บิ ญั ญตั ิ อำนาจบรหิ าร อำนาจตุลาการ เรื่องท่ี 4 การมสี ่วนรว่ มทางการเมืองการปกครองในระดบั ทอ้ งถ่นิ และระดบั ประเทศ

๑๒ การวเิ คราะหเ์ น้ือหาสาระการเรยี นร้ตู ามหลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาข้นั พ้ืนฐานนอกระบบ พทุ ธศักราช 2551 สาระ การประกอบอาชพี รหัสวิชา สค ๑1003 รายวชิ า พฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม (1หน่วยกติ ) ระดับประถมศกึ ษา ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอวิเศษชัยชาญ ท่ี เน้ือหา วเิ คราะห์เน้อื หา ง่าย ยาก ยากมาก ๑ บทท่ี 1 การพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สังคม (กรต.) (พบกลมุ่ ) (สอนเสรมิ ) ความหมาย ความสําคัญ และหลักการพัฒนาตนเอง ชมุ ชน  สังคม ประโยชนทม่ี ตี อตนเอง ชุมชน สังคม  ๒ บทท่ี 2 การจัดเกบ็ และวิเคราะหขอมูล ความสําคญั และคุณสมบัตขิ อมลู ที่ดี วธิ กี ารจัดเก็บขอมลู  เทคนิคการวเิ คราะหขอมูล 3 การวางแผนพัฒนาตนเอง ชุมชน สงั คม และการนําไปใชใน ชวี ิตประจาํ วนั การใชขอมูลจากการวิเคราะหเพ่อื วางแผนพฒั นา ตนเอง ชมุ ชน สังคม การนาํ แผนพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม ไปใชในชีวิตประจาํ วันการมีสวนรวมผลักดันแผนพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม ใหเปนท่ียอมรบั

๑๓ การวเิ คราะหเ์ นอ้ื หาสาระการเรยี นรตู้ ามหลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพนื้ ฐานนอกระบบ พุทธศักราช 2551 สาระ การประกอบอาชพี รหสั วิชา สค12026 รายวิชา การปอ้ งกนั การทจุ ริต (2หน่วยกิต) ระดับประถมศกึ ษา ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวิเศษชัยชาญ ท่ี เน้ือหา วิเคราะหเ์ นื้อหา ง่าย ยาก ยากมาก ๑ บทท่ี 1 การคิดแยกแยะระหวางผลประโยชนสวนตนกบั ผลประ (กรต.) (พบกลมุ่ ) (สอนเสรมิ ) โยชนสวนรวม เรอื่ งท่ี 1 สาเหตขุ องการทุจรติ และทิศทางการปองกนั และ  การทจุ รติ ในประเทศไทย เร่ืองที่ 2 ทฤษฎี ความหมายและรปู แบบของการขัดกนั  ระหวางผลประโยชนสวนตน และผลประโยชนสวนรวม (โลก)  เร่อื งที่ 3 กฎหมายที่เกี่ยวของกับการขัดกันระหวางผลประ โยชนสวนตน กบั ผลประโยชนสวนรวม  เรอ่ื งที่ 4 การคดิ เปน  เร่อื งท่ี 5 บทบาทของรัฐ/เจาหนาท่ขี องรัฐที่เกยี่ วของกบั การปองกัน ปราบปรามเกี่ยวกับการทจุ ริต   ๒ บทที่ 2 ความละอายและความไมทนตอการทุจริต เรอื่ งท่ี 1 การทุจรติ เรื่องที่ 2 ความละอายและความไมทนตอการทุจริต 3 บทที่ 3 STRONG : จิตพอเพียงตานการทจุ ริต  เรอื่ งท่ี 1 จิตพอเพยี งตานการทุจริต  เร่ืองที่ 2 พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู ิ  พลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (พระบาทสมเด็จพระ ปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช ในหลวงรัชกาลท่ี 9) แบบอยางใน เร่อื งความพอเพยี ง เรอื่ งที่ 3 กจิ กรรมที่เกย่ี วของ

๑๔ การวิเคราะหเ์ นื้อหาสาระการเรยี นร้ตู ามหลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาข้นั พนื้ ฐานนอกระบบ พุทธศักราช 2551 สาระ การประกอบอาชีพ รหัสวิชา สค12026 รายวิชา การป้องกนั การทุจริต (2หน่วยกิต) ระดบั ประถมศกึ ษา ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวิเศษชยั ชาญ ท่ี เนื้อหา วเิ คราะหเ์ น้ือหา ง่าย ยาก ยากมาก 4 บทท่ี 4 พลเมอื งกบั ความรับผดิ ชอบตอสังคม (กรต.) (พบกลุ่ม) (สอนเสรมิ ) เรอ่ื งที่ 1 ความหมายและทม่ี าของคําศัพทท่เี ก่ียวของกับพลเมอื ง เร่ืองท่ี 2 ความหมายและแนวคิดเก่ยี วกับการศึกษาเพื่อสรางความ  เปนพลเมือง  เรือ่ งท่ี 3 องคประกอบของการศกึ ษาความเปนพลเมือง เรอ่ื งท่ี 4 แนวทางการปฏิบัตติ นเปนพลเมอื งดี  เรื่องท่ี 5 แนวทางการสรางเสริมสํานึกความเปนพลเมอื ง :  กรณศี ึกษาประเทศไทย  เรอ่ื งท่ี 6 การศึกษาเก่ียวกับความเปนพลเมอื งในบริบทตาง ประเทศ  เรื่องที่ 7 กิจกรรมท่ีเกีย่ วของ 1. การเคารพสิทธหิ นาท่ีตนเองและผูอนื่  2. ระเบยี บ กฎ กตกิ า กฎหมาย 3. ความรับผดิ ชอบตอตนเองและผอู น่ื /สังคม/โลก 4. ความเปนพลเมืองของประเทศ/โลก 5. แนวทางการปฏิบัติตนเปนพลเมอื งท่ีดี 6. พลโลกท่ีมีความรับผดิ ชอบตอการปองกันการทจุ ริต 7. การยกยองเชิดชกู บั คนที่ทําความดี แผนการจัดการเรยี นการสอนรายสปั ดาห์

๑๕ ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔ ระดับประถมศึกษา กศน.อำเภอวิเศษชยั ชาญ สัปดาห์ท่ี ๑ วัน ....จนั ทร.์ .....วันท.่ี ....1.....เดือน...พฤศจิกายน........พ.ศ...2564.............เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. หน่วยการเรยี นรู้/เรื่อง ปฐมนเิ ทศนิเทศนักศกึ ษา กระบวนการจัดการเรียนรแู้ ละกจิ กรรมเพิ่มเตมิ ข้ันที่ 1 กำหนดสภาพปญั หา ความต้องการ ครูแนะนำตัวเอง และให้นักศึกษาแนะนำตนเอง ครูแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกบั การค้นคว้าหาข้อมลู ของนกั ศึกษาวิธีต่าง ๆ ขน้ั ที่ 2 แสวงหาขอ้ มูลและการจัดการเรียนรู้ ๑. ครูอธิบายเกี่ยวกับโครงสร้างหลักสูตรหารศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 การจัดการเรียนการสอน การทำกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวติ (กพช.) วชิ าที่ลงทะเบียนในภาคเรียนนี้ การเทียบโอนผล การเรียน เกณฑ์การจบหลกั สตู รและสร้างขอ้ ตกลงในการเรียนรว่ มกับผู้เรียน ๒.ตรวจสุขภาพนักศึกษาโดย อสม. เปน็ ต้น ขนั้ ท่ี 3 การปฏบิ ตั แิ ละนำไปประยุกตใ์ ช้ ครูทำแบบวิเคราะหผ์ เู้ รยี นเป็นรายบคุ คล สรปุ สาระสำคญั ท่ีผเู้ รยี นสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ ขน้ั ที่ 4 การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ครูและผู้เรยี นรว่ มกันสรปุ ผลการเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ คู่มือนกั ศึกษา แบบวิเคราะห์ผู้เรียนรายบคุ คล อินเตอร์เนต็ การวดั ผลและประเมนิ ผล การมสี ่วนรว่ มในการแสดงความคิดเหน็ ลงชอ่ื .....................................................ผูส้ อน (นายจิรัสยพ์ งษ์ วิเศษสทิ ธิโชค)

๑๖ ข้อเสนอแนะของหัวหน้างานการศึกษาขน้ั พนื้ ฐานนอกระบบ .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงช่ือ.............................................................. (นางสาวปัณณ์ปาลี ศิรธิ ุวานนท์) งานการศึกษาข้ันพ้ืนฐานนอกระบบ ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษา .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ.......................................................... (นายอำไพ ข่าขนั มะลี) รองผู้อำนวยการ สำนกั งาน กศน.จังหวดั อ่างทอง รกั ษาการในตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอวิเศษชยั ชาญ \\\\

๑๗ ใบความรู้ คร้งั ท่ี 1 ปฐมนเิ ทศนิเทศนักศึกษา กศน.อำเภอวเิ ศษชยั ชาญ การช้ีแจงการจัดกระบวนการเรียนรู้หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน 2551การจัดการ เรียนรู้ ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มุ่งเน้นการจัดการเรียนรู้ตาม ปรัชญา “คิดเป็น” และยึดหลกั ว่าผู้เรียนทุกคนสามารถเรียนรู้และพฒั นาตนเองได้ ผู้เรียนแตล่ ะคนมีธรรมชาตทิ ี่แตกตา่ ง กัน ท้ังด้านวัย วุฒภิ าวะ ความถนัด ความสนใจ วธิ ีการเรยี นรู้ ตลอดจนมีการดำเนินชีวติ และสิ่งแวดล้อมที่แตกตา่ งกนั ซ่ึง ส่งผลต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน ดังน้ันการจัดการเรียนรู้จึงต้องยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ เพ่ือส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนา ความสามารถของตนเอง ตามธรรมชาติ เต็มตามศักยภาพทีม่ ีอยู่ และเรียนรู้อย่างมีความสุข ข้ันตอนการจัดการเรียนรู้ ตามหลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 มี 4 ขนั้ ตอน ดงั น้ี ขน้ั ตอนท่ี 1 การแนะแนว การแนะแนวเป็นขั้นตอนแรกที่มคี วามสำคัญ สถานศึกษาต้องจัดบริการแนะแนว เกี่ยวกับหลักสูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดับการศึกขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เพราะเป็นข้อมูลเบ้ืองต้นที่ประชาชนหรือกลุ่มเป้าหมายควรจะได้มีความ เข้าใจเกี่ยวกับ วิธีเรียน กศน. ซ่ึงมีการจัดการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย ท่ีกลุ่มเป้าหมายสามารถเลือกเรียนได้ และจะต้องให้ ข้อมูลเก่ียวกับการจบหลักสูตรการศึกษา การเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ การเทียบโอนผลการเรียน ที่ผู้เรียน สามารถนำผลการเรียน หรือนำประสบการณ์ มาขอเทียบโอนความรู้ตามหลักสูตรฯ และเรียนเพ่ิมเติมบางสาระท่ีไม่ สามารถเทียบโอนได้ สถานศกึ ษาจะต้องจัดบริการแนะแนวให้กับกลุ่มเป้าหมายได้เขา้ ใจแต่เรมิ่ ต้น เพ่อื เขาจะไดต้ ัดสินใจ เลอื กเรยี นไดอ้ ยา่ งเหมาะสมสอดคล้องกบั ความตอ้ งการและวิถชี ีวติ ของตนเอง ขน้ั ตอนท่ี 2 การรบั สมัครผเู้ รยี น และการตรวจสอบหลกั ฐานการศกึ ษา การรับสมัครผู้เรียน และการตรวจสอบหลักฐานการศึกษา สถานศึกษาจะต้องตรวจสอบหลักฐานการสมัครให้ถูกต้อง ครบถ้วน เช่น การกรอกใบสมัครเป็นนักศึกษา กศน. วุฒิการศึกษา สำเนาทะเบียนบ้านผู้สมัครที่มีชื่อบิดามารดา บัตร ประจำตัวประชาชน ใบเปล่ียนช่ือ – ชื่อสกุล หรือใบทะเบียนสมรส ใบหย่า รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมแว่นตาดำและไม่สวม หมวก เป็นต้น เม่ือตรวจสอบหลักฐานและใบสมัครเป็นนักศึกษา กศน. ถูกต้องครบถว้ นแลว้ ให้กรอกใบลงทะเบียนเรียน การลงทะเบียนเรียนนั้น นักศึกษาต้องยื่นขอลงทะเบียนเรียนตามสาระรายวิชาที่สถานศึกษาเปิดสอน และตามจำนวน หนว่ ยกติ ทีก่ ำหนดให้ลงทะเบียนได้ ระดบั ประถมศึกษา ลงทะเบียนเรยี นได้ภาคเรยี นละ 12– 14 หนว่ ยกติ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ ลงทะเบียนเรียนได้ภาคเรยี นละ 14– 16 หน่วยกติ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ลงทะเบียนเรยี นได้ภาคเรียนละ 18– 20 หนว่ ยกติ ข้นั ตอนที่ 3การปฐมนเิ ทศและการวางแผนการเรียน การปฐมนิเทศและการวางแผนการเรียน เป็นข้ันตอนท่ีมีความสำคัญมากสำหรับผู้เรียน สถานศึกษาต้องช้ีแจงให้ผู้เรียนเข้าใจ เก่ียวกบั วธิ ีเรียนกศน.การวัดผลและประเมินผลตามหลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช2551ทเ่ี ปิดโอกาส ให้ผู้เรียนที่ลงทะเบียนเรียนได้เลือกรูปแบบการเรียนรู้ท่ีเหมาะสม ตามความต้องการ สอดคล้องกับวิถีชีวิต และการทำงานของผู้เรียน เช่น การเรียนแบบพบกลุ่มการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง การเรียนรู้แบบทางไกลการเรียนรู้แบบชั้นเรียน และการเรียนรู้รูปแบบอื่น ๆ ซงึ่ การเรียนรู้ตาม รปู แบบตา่ งๆดงั กล่าวในแตล่ ะรายวิชาผ้เู รยี นสามารถเลอื กเรยี นรปู แบบใดรูปแบบหนงึ่ หรืออาจเลือกการเรียนหลายๆ รปู แบบได้ตามความ ต้องการและความเหมาะสมของผู้เรียน ท่ีผู้เรียนคิดว่าจะทำให้ประสบความสำเร็จในการเรียน ทั้งนี้ข้ึนอยู่กับความพร้อมของสถานศึกษา สถานศึกษาจะตอ้ งชแ้ี จงให้ผูเ้ รียนเข้าใจถงึ วิธกี ารเรียนรู้รปู แบบตา่ ง ๆดังกลา่ ว

๑๘ ขน้ั ตอนท่ี 4 การวัดและประเมนิ ผล การวัดและประเมินผลการเรียนตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 มีเป้าหมายสำคัญเพื่อนำผลการประเมนิ ไปพัฒนาผ้เู รียนให้บรรลุมาตรฐานการเรยี นรู้ของหลกั สตู รฯหรือนำไปใชเ้ ป็นข้อมูล ในการปรับปรุงแก้ไข ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาการของผเู้ รยี น โดยตรง และนำไปปรับปรุงแก้ไขการจดั กระบวนการ เรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพยิ่งข้ึนรวมทั้งการนำไปใช้ในการพิจารณาตัดสินความสำเร็จทางการศึกษาของผู้เรียน การวดั ผล และประเมนิ ผลการเรยี นตามหลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 มี 2 ลักษณะ ดังน้ี 1. การวัดและประเมนิ ผลการเรียน 1.1 การวัดและประเมินผลการเรียนรายวชิ า (ระหวา่ งภาค 60 คะแนน ปลายภาค 40 คะแนน) 1.2 การประเมนิ กิจกรรมพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ (200 ช.ม.) 1.3 การประเมนิ คุณธรรม 2. การประเมินคุณภาพการศึกษานอกระบบระดบั ชาติ สถานศึกษาต้องจัดทำระเบียบการประเมินผลการเรียนของสถานศึกษา รวมทั้งจัดทำหลักเกณฑ์และแนว ปฏิบัติในการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ของสถานศึกษาให้ชัดเจนเพ่ือให้บุคลากรท่ีเกี่ยวข้องทุกฝ่ายถือปฏิบัติร่วมกันและเป็นไปตาม มาตรฐานเดยี วกัน 2. วธิ เี รยี น กศน. การจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ยึดหลักการ ดงั น้ี 1) พระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแห่งชาตพิ ทุ ธศักราช 2542 และแก้ไขเพ่มิ เตมิ (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2545 2) พระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั พุทธศักราช 2551 3) หลกั ปรชั ญา “คดิ เป็น” วิธีเรยี น กศน. ตามตามหลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 ท่ีเหมาะสมกับ ผูเ้ รยี น เช่น การเรยี นรแู้ บบพบกลมุ่ การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้แบบทางไกล การเรียนรู้แบบชัน้ เรยี น ซึ่งการเรียนรู้ แต่ละรปู แบบมีลักษณะ ดงั ต่อไปน้ี 1 การเรียนรู้แบบพบกลมุ่ การเรียนรู้แบบพบกลมุ่ เป็นการจัดการเรียนรู้ที่กำหนดใหผ้ ู้เรยี นมาพบกันโดยมีครู เป็นผู้ดำเนินการให้เกิดกระบวนการกลุ่ม เพ่ือให้มีการอภิปราย แลกเปล่ียนเรียนรู้และหาข้อสรุปร่วมกัน ทุกสัปดาห์ครู จะตอ้ งจดั ให้มีการพบกลุม่ อยา่ งน้อยสัปดาหล์ ะ 3 ชั่วโมง 2 การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้ด้วยตนเอง เป็นการเรียนรู้ท่ีผู้เรียนแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง โดยผเู้ รียน กำหนดแผนการเรยี นรู้ของตนเองให้สอดคล้องกับรายวชิ าท่ีลงทะเบียน โดยระบุขั้นตอนการเรียนรู้ตั้งแตต่ ้นจนจบ และมี ครูเปน็ ท่ีปรกึ ษา ใหค้ ำแนะนำในการศึกษาหาความรู้จากสอื่ ตา่ ง ๆและแหลง่ การเรยี นรู้ 3. การเรียนรู้แบบทางไกล การเรียนรู้แบบทางไกล เป็นการจัดการเรียนรู้ ที่ผู้เรียนจะเรียนรู้จากสื่อ ต่าง ๆ โดยผู้เรียนและครจู ะสือ่ สารทางส่ืออเิ ลก็ ทรอนกิ สเ์ ปน็ สว่ นใหญ่ เชน่ การเรยี นรู้แบบ e – learning การเรียนรู้แบบชั้นเรียน เป็นการเรียนรู้ในลักษณะแบบห้องเรยี น ท่ีสถานศึกษากำหนดรายวิชา เวลาเรียน และ สถานที่ที่เรียนชัดเจน การเรียนรู้แบบช้ันเรียนเหมาะสำหรับผู้เรียนท่ีมีเวลามาเข้าชั้นเรียนสม่ำเสมอการเรียนรู้ท้ัง 4 รปู แบบ ดงั ทีก่ ล่าวข้างตน้ สถานศึกษาและผู้เรียนจะร่วมกันกำหนดว่าในแต่ละรายวิชาจะเรียนรู้แบบใด ซ่งึ ข้ึนอยูก่ ับความ ยากงา่ ยของเนือ้ หาสาระของแต่ละรายวิชานนั้ ๆ โดยใหส้ อดคลอ้ งกบั วถิ ชี ีวติ และการประกอบอาชีพของผูเ้ รียน และขน้ึ อยู่ กบั ความพร้อมของสถานศกึ ษาในการจัดสอนเสริมเพื่อเตมิ เตม็ ความร้ใู ห้กับผู้เรยี นไดเ้ รียนรู้ใหบ้ รรลุมาตรฐานการเรียนรู้ท่ี

๑๙ กำหนดไว้ นอกจากน้นั สถานศึกษาสามารถออกแบบการเรียนรู้แบบอื่น ๆ ได้ตามความต้องการของผู้เรยี นและความพรอ้ ม ของสถานศึกษาแตล่ ะแห่ง สำนกั งานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ,(2553). โครงสรา้ งหลกั สตู ร กศน. 2551 ***หมายเหตุ*** วิชาเลือกแต่ละระดับสถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียน เรียนรู้จากการทำโครงงาน จำนวนอย่างน้อย 3 หนว่ ยกิต

๒๐ แบบเกบ็ ขอ้ มูลผเู้ รยี นรายบุคคล นกั ศกึ ษา กศน.อำเภอวิเศษชัยชาญ พบกลมุ่ กศน.ตำบล…………….. ระดับ  ประถม  ม.ต้น  ม.ปลาย 1. ขอ้ มูลทว่ั ไป 1.1 ชอ่ื -สกุล....................................................................................ช่ือเลน่ .......................................................... 1.2 อายุ..............ปี วันเดือนปเี กดิ .......................................เลขทบ่ี ัตรประชาชน................................................ เบอรโ์ ทรศัพท์มอื ถือ..................................................เบอรโ์ ทร. (บ้าน).......................................................... ID Line………………….………………………………………..ID facebook……………………………….……………..………… 1.3 ที่อยู่ตามทะเบยี นบา้ น................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... 1.4 ทอ่ี ยูท่ ต่ี ดิ ต่อได.้ .............................................................................................................................................. ....................................................................................................................................................................... 1.5 ชือ่ บคุ คลที่สามารถตดิ ตอ่ ได้ กรณีท่มี เี หตุฉุกเฉิน........................................................................................... เบอรโ์ ทรศัพท์............................................................................เกี่ยวข้องเป็น............................................... 1.6 งานอดเิ รก...................................................................................................................................................... ความสามารถพเิ ศษ (เช่น คอมพิวเตอร์ ภาษา ดนตรี กีฬา) ......................................................................... ...................................................................................................................................................................... 2. ข้อมูลการศึกษา 2.1 จบการศกึ ษาสูงสุด......................................................................................................................................... 2.2 วิชาที่ชอบ.................................................เพราะวา่ ....................................................................................... 2.3 วชิ าทีไ่ มช่ อบ.............................................เพราะวา่ ....................................................................................... 2.4 เหตุผลทม่ี าเรยี น กศน.  เรียนใหจ้ บในระดับท่ีศึกษาเท่าน้นั  ศกึ ษาตอ่  นำความร้ไู ปพัฒนาอาชีพ  อืน่ ๆ (ระบ)ุ ................................................................. 2.5 วิธีการท่จี ะพัฒนาตนเองไปสู่เป้าหมายน้ัน คือ............................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 2.6 เป้าหมายในชีวิตเมอื่ จบการศึกษาจาก กศน  นำความรู้ไปพัฒนาคณุ ภาพชีวติ  ศึกษาตอ่ 3. ข้อมลู อาชีพ  มี  ไมม่ ี 3.1 อาชีพหลัก...............................................สถานทีป่ ระกอบการ...................................................................... 3.2 อาชีพเสริม...............................................สถานที่ประกอบการ...................................................................... 3.3 ประสบการณอ์ าชีพหลัก จำนวน..........................ปี ประสบการณ์อาชีพเสริม จำนวน................................ปี 3.4 อาชพี ในอนาคตที่ตอ้ งการ............................................................................................................................. 4. วิธีการเรียนรูแ้ บบใดทท่ี ่านชอบ และสามารถเรยี นร้ไู ดด้ ี (เลอื กมากกว่า 1 วธิ ีได้)  การอา่ นจากหนงั สอื ตำราเรียน  การฟงั การบรรยายจากครู หรอื ผรู้ ู้  การดสู อื่ โทรทัศน์ / VCD  การเรยี นรู้จากส่อื ออนไลน์  การเรียนรจู้ ากการอภิปราย/แสดงความคิดเหน็  การเรยี นรูจ้ ากการปฏบิ ตั ิจริง  การเรียนรรู้ ่วมกันเป็นกลุ่ม  การเรียนรู้โดยใชป้ ญั หาเป็นฐาน  การเรยี นรู้แบบเขา้ ค่ายเชิงวชิ าการ  การเรียนรแู้ บบโครงงาน

๒๑ สัญญาการเรียนรู้ (Learning Contact) นกั ศึกษา กศน.อำเภอวิเศษชัยชาญ กศน.ตำบล.................... ภาคเรยี นท่ี ๒ ปกี ารศึกษา 2564 สัญญาการเรียน (Learning Contact) เป็นข้อตกลงท่ีผู้เรียนได้ทำไว้กับครู/ผู้สอน เพื่อการเรียนรู้ตามความ ต้องการของผู้เรียน และเพ่ือให้บรรลุจุดมุ่งหมายของหลักสูตร ในสัญญาการเรียน ผู้เรียนจะเป็นผู้เขียนเองโดยระบุว่า ต้องการเรียนเรือ่ งอะไร จะวดั ว่าไดบ้ รรลตุ ามความมงุ่ หมายแลว้ หรอื ไม่ อย่างไร มหี ลักฐานการเรยี นรอู้ ะไรบา้ งที่บ่งบอกถึง ผลการเรียนของผู้เรียนว่าผลการเรียนเป็นอย่างไร เมื่อเขียนเสร็จแล้วสำเนาส่งให้ครู/ผู้สอน เก็บไว้ 1 ชุด เพื่อติดตาม ตรวจสอบความก้าวหน้าในการเรียนของผู้เรียนแต่ละคน เนื่องจากผู้เรียนมีพื้นฐานด้านอาชพี วยั และสถานภาพท่ตี ่างกัน การทำสญั ญาการเรยี น มคี วามจำเป็นอยา่ งยิ่ง เพื่อไมใ่ ห้กระทบต่อการใช้ชวี ติ ประจำวันของผเู้ รียน และเพื่อเอ้ืออำนวยให้ เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต อย่างมีคุณภาพและทั่วถึง จึงจำเป็นต้องมีข้อตกลงระหว่างครู/ผู้สอนและผู้เรียนข้ึน เพื่อเป็น หลกั ฐานการเรยี นร้ขู องผ้เู รียนต่อไปสัญญาการเรียนหรือข้อตกลงการเรยี นรู้ มดี ังน้ี ชื่อ……………………………….….….……..นามสกลุ ………………………………….….………………ระดับ ประถมศกึ ษา วธิ ีเรียนที่ตอ้ งการคือ  On-Air online  onsite  อื่น ๆ……………………………………………………………. ขา้ พเจ้ามีความจำเปน็ ตอ้ งศกึ ษาเรียนรู้แบบ กศน. ด้วยวิธกี ารท่ีหลากหลาย เนอื่ งจากมคี วามจำเป็น ดังนี้ …………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………. ข้าพเจา้ มีจดุ มุ่งหมายการเรยี นรู้ เพือ่ ต้องการบรรลุผลสำเรจ็ ในเรอื่ ง ดังตอ่ ไปน้ี วชิ าหลกั วิชาเลอื ก  คณติ ศาสตร์ (พค 11001)  ............................................................................  ทกั ษะการประกอบอาชีพ (อช๑1002)  ............................................................................  สขุ ศึกษา พลศกึ ษา (ทช11002)  ............................................................................  สังคมศึกษา (สค11001)  ............................................................................  ชอ่ งทางการขยายอาชพี (อช11001)  ............................................................................  ทกั ษะการเรียนรู้ (ทร11001) วชิ าเลอื กบังคับ  คณิตศาสตร์ (พค11001)  การเงนิ เพ่อื ชีวิต 1 (สค12021)  พฒั นาอาชพี ใหม้ น่ั คง (อช11003)  การเรียนรู้สภู้ ยั ธรรมชาติ 1 (สค12022)  ภาษาไทย (พท11001)  ประวตั ิศาสตร์ชาติไทย (สค12024).  วทิ ยาศาสตร์ (พว11001)  ............................................................................  การพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม (ส11003)  ............................................................................ วิธเี รียนท่ีข้าพเจ้าต้องการคือ แหล่งเรยี นรู้ที่ข้าพเจ้าใช้ประกอบการเรียนรู้ (เลือกได้มากกว่า 1 รายการ)  พบกลมุ่ /รับงานจากครู/ผู้สอน เป็นเวลาไมน่ อ้ ยกว่า 4 สัปดาห์ และศึกษาดว้ ยตนเอง/รบั งาน/รับคำปรึกษาจากครู/ ผ้สู อน ผา่ นกล่มุ ไลน/์ กล่มุ เฟสบุ้ค กศน.ตำบล พรอ้ มส่งงานตามทีค่ รู/ผู้สอนกำหนด  พบกลุ่ม/รับงานจากครู/ผูส้ อน เปน็ เวลาไมน่ ้อยกว่า 10 สปั ดาห์ และศึกษาดว้ ยตนเอง/รับงาน/รับคำปรึกษาจากคร/ู ผูส้ อน ผา่ นกลุ่มไลน์/กลุม่ เฟสบุ้ค กศน.ตำบล พรอ้ มสง่ งานตามทค่ี ร/ู ผสู้ อนกำหนด  ศึกษาด้วยตนเองโดยยมื หนังสอื ประกอบการเรียนจากห้องสมดุ /กศน.ตำบล /ดาวน์โหลดหนงั สือเรียนอิเลคทรอนิคส์ (E-Book)

๒๒ วธิ กี ารเรยี นรู้ทีข่ ้าพเจา้ ตอ้ งการ (เลอื กไดม้ ากกวา่ 1 รายการ)  ใหผ้ ู้สอนสง่ เอกสาร ตำรา แผนการสอน ใบงาน ทางไปรษณียไ์ ปยงั ผู้เรยี น  ขอสำเนาเอกสารประกอบการเรยี นรู้ ปฏทิ นิ การเรียนรู้ ใบงาน จากครู/ผสู้ อน ในวันพบกล่มุ (ยนิ ดรี บั ผิดชอบ คา่ ถ่ายเอกสารของตนเอง)  ดาวนโ์ หลดเอกสารประกอบการเรียนรู้ ปฏทิ นิ การเรียนรู้ ใบงาน จากไลน์กลุ่ม/เฟสบคุ้ กลุ่ม กศน.ตำบล การเรยี นรู้เพมิ่ เติม กรณสี อบถามข้อสงสัยในการเรียนรู้ (เลือกไดม้ ากกว่า 1 รายการ)  โทรศพั ท์ถามครู/ผูส้ อนโดยตรง  มาพบเพื่อสอบถามคร/ู ผูส้ อนโดยตรง  สง่ ข้อความทางอีเมล์ (e-mail) ไปยงั คร/ู ผู้สอน เพ่อื สอบถามปญั หาการเรยี นรู้  ปรึกษาคร/ู ผ้สู อน และเพื่อนรว่ มชัน้ เรียน ผา่ นทางส่ือสารออนไลน์ FaceBook (เฟสบุ๊ค)  ปรกึ ษาคร/ู ผู้สอน และเพ่ือนรว่ มชนั้ เรียน ผ่านทางห้องสนทนาไลน์กลุ่ม ประถมศึกษา/ครเู กริก หลกั ฐานอา้ งองิ การเรียนรูเ้ พ่ือรวบรวมเขา้ แฟม้ สะสมงานท่ขี า้ พเจ้าตอ้ งการคือ (เลอื กได้มากกว่า 1 รายการ)  สง่ งานมอบหมายการเรยี นรู้ ใบงาน ในวนั พบกลุ่มตามท่ีครู/ผู้สอนกำหนด  ส่งงานมอบหมายการเรียนรู้ ใบงาน ผา่ นทางอีเมล/์ นัดหมายตามวนั เวลาทตี่ กลงกับคร/ู ผู้สอน การวดั ผล/ประเมินผล ท่ขี า้ พเจ้าตอ้ งการเรียนรู้คือ (เลอื กได้มากกวา่ 1 รายการ)  ใหค้ ร/ู ผสู้ อน ตรวจสอบและให้คะแนนจากงานมอบหมาย ใบงาน ในวันพบกลุ่ม หรอื ตรวจสอบภายหลงั  ให้คร/ู ผ้สู อน ตรวจสอบและใหค้ ะแนนจากงานมอบหมาย ใบงาน จากคำตอบในเอกสารท่สี ง่ ทางอีเมล์  ใหค้ ร/ู ผู้สอน ตรวจสอบและให้คะแนนจากงานมอบหมายใบงาน จากไลนก์ ลุ่ม ประถมศึกษา/ครูเกริก ข้าพเจ้าตอ้ งการพบกลุ่ม หรือรับการเรียนรจู้ าก ครู/ผสู้ อน ดังน้ี (เลือกไดม้ ากกว่า 1 รายการ)  พบกลุ่มอยา่ งน้อย 4 ครง้ั /ภาคเรยี น หรือตามวันและเวลาทก่ี ำหนดร่วมกบั คร/ู ผู้สอน  พบกลุ่มอย่างน้อย 10 ครงั้ /ภาคเรียน หรอื ตามวนั และเวลาท่กี ำหนดร่วมกับครู/ผสู้ อน  เขา้ ร่วมกิจกรรมตามวนั และเวลาท่ี คร/ู ผสู้ อน กำหนดทกุ คร้งั หากเข้ารว่ มกิจกรรมไม่ได้จะแจ้งลว่ งหนา้  ใหก้ ารสนบั สนุนและเขา้ ร่วมกิจกรรม/โครงการ ที่ กศน.อำเภอวเิ ศษชัยชาญ กำหนด ตลอดระยะเวลาท่ีศกึ ษา ข้าพเจา้ ยอมรบั ในการทำสัญญาการเรยี นหรือข้อตกลงดงั กล่าวข้างตน้ และยอมรบั ในการตรวจสอบหลกั ฐาน การเรยี นรกู้ ารวดั ผล/ประเมินผล ท่ีคร/ู ผู้สอน ทำการประเมินทกุ ประการ และจะรายงานสรปุ ความต้องการการเรียนรู้ ท่ขี ้าพเจ้าตกลงไว้กับ กศน.อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง เป็นลายลกั ษณอ์ ักษร เปน็ ประจำทุกภาคการศกึ ษา และยอมรับในกรณีครู/ผู้สอน หรือสถานศึกษาต้องการทำสัญญาการเรียนรู้หรือข้อตกลงเพิ่มเติมภายหลัง หากไม่ ปฏิบัติตามสัญญาการเรียนหรือข้อตกลงดังกล่าวข้างต้น ข้าพเจ้ายินยอมรับผลการไม่มีสิทธ์ิสอบปลายภาคเรียนที่ ลงทะเบียนนี้ (ลงชื่อ)………………………….………ผู้เรยี น (ลงช่อื )………….……………………....………ครทู ปี่ รึกษา (……………………………….…….…) (นายจิรสั ย์พงษ์ วเิ ศษสิทธิโชค) วนั ที่…..…เดือน……………..….. พ.ศ. ….…… วนั ที…่ ..…เดือน……………..….. พ.ศ. ….……

๒๓ บนั ทกึ หลงั สอน สปั ดาหท์ ี่ 1 วนั จันทร์ วันท่ี.......1..........เดือน...พฤศจิกายน........พ.ศ. ......2564......... ผลการเรียนรู้ .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ปัญหาและอปุ สรรค .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงช่อื .....................................................ผสู้ อน (นายจิรัสยพ์ งษ์ วิเศษสิทธิโชค) ครู กศน.ตำบล. ความคิดเห็นหัวหน้างานการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงชือ่ .............................................................. (นางสาวปัณณป์ าลี ศริ ิธุวานนท์) งานการศึกษาข้ันพ้นื ฐานนอกระบบ ข้อเสนอแนะของหวั หนา้ สถานศกึ ษา .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ.......................................................... (นายอำไพ ข่าขันมะลี) รองผอู้ ำนวยการ สำนกั งาน กศน.จังหวัดอ่างทอง รกั ษาการในตำแหน่ง ผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอวิเศษชัยชาญ

๒๔ แผนการจัดการเรยี นการสอนรายสปั ดาห์ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔ ระดับประถมศึกษา กศน.อำเภอวเิ ศษชยั ชาญ สัปดาหท์ ่ี ๒ วนั ......จันทร์ .วนั ที.่ ...8......เดอื น..พฤศจกิ ายน......พ.ศ...2564.............เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. วชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า พว 11001 จำนวน 3 หน่วยกติ มาตรฐานการเรยี นรู้ระดบั มีความรู้ ความเข้าใจและเห็นคุณคําเก่ียวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ส่ิงมีชีวิต ระบบ นิเวศ ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม ในชุมชนและท้องถ่นิ สาร แรง พลังงาน กระบวนการเปลี่ยนแปลง ของโลก และ ดาราศาสตร์ มจี ติ วทิ ยาศาสตรแ์ ละนำความรู้ไปใช้ประโยชนใ์ นการดำเนินชวี ติ หน่วยการเรียนร/ู้ เรอื่ ง โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สาระสำคญั ความหมาย ความสำคัญ ประเภทของโครงงาน วธิ กี ารวางแผนการทำโครงงาน การทำ โครงงานวิทยาศาสตร์ การนำผลของโครงงานไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั การประยกุ ตน์ ำกระบวนการ โครงงานไปใช้ในการทำโครงงานในการศกึ ษาความร้เู พ่ิมเตมิ เนื้อหา โครงงานวทิ ยาศาสตร์ จุดประสงค์การเรยี นร้/ู ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวัง 1. อธิบายประเภท การเลอื กหวั ข้อ วธิ ดี ำเนินการ และการนำเสนอโครงงานได้ 2. นำความรเู้ ก่ียวกบั กระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละโครงงานไปใชไ้ ด้ 3. เกดิ กระบวนการกลุม่ กระบวนการจดั การเรยี นรแู้ ละกิจกรรมเพมิ่ เติม ข้นั ท่ี 1 กำหนดสภาพปญั หา ความต้องการ ครูผู้สอนทกั ทายกล่าวนำถึง เรอ่ื ง โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ขัน้ ที่ 2 แสวงหาข้อมลู และการจัดการเรยี นรู้ ๑. ครูผ้สู อนสรุปเนอ้ื หาจากใบความรู้ ความหมาย ความสำคัญ ประเภทของโครงงาน วิธีการวางแผนการทำ โครงงาน การทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ และใหผ้ เู้ รียนศึกษาตัวอยา่ งการเขียนโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ๒. ครูสรปุ องคค์ วามรู้ทีไ่ ด้จากการศกึ ษาเร่ืองการเขยี นโครงงานวิทยาศาสตร์ ๓. ผเู้ รยี นศกึ ษาเพิม่ เติมจากแหลง่ เรียนรอู้ นื่ ๆ มอบหมายใบงานเร่อื งใหฝ้ กึ การเขยี นโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ให้ส่ง ในใบงานในสัปดาห์ที่ ๓ ขน้ั ท่ี 3 การปฏิบตั แิ ละนำไปประยุกต์ใช้ ครูและผ้เู รียนสรุปสาระสำคัญเร่ือง การนำความรู้จากการทำโครงงานวิทยาศาสตรไ์ ปประยุกตใ์ นการดำเนิน ชีวติ ประจำวัน ขนั้ ท่ี 4 การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ประเมนิ ผลจากการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้จากใบงาน ประเมินจากการสรปุ ผลการเรยี นรูร้ ว่ มกนั

๒๕ ส่ือการเรยี นรู้ หนังสือเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา ใบงานเรื่องโครงงานวิทยาศาสตร์ ใบความรู้เร่ือง โครงงานวิทยาศาสตร์ อนิ เตอรเ์ น็ต การวดั ผลและประเมนิ ผล แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้จากใบงาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ลงชอ่ื .....................................................ผสู้ อน (นายจิรัสยพ์ งษ์ วเิ ศษสิทธโิ ชค) ข้อเสนอแนะของหวั หนา้ งานการศึกษาข้นั พ้นื ฐานนอกระบบ .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ.............................................................. (นางสาวปัณณป์ าลี ศริ ิธุวานนท์) งานการศึกษาขัน้ พ้นื ฐานนอกระบบ ข้อเสนอแนะของหวั หนา้ สถานศึกษา .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงช่อื .......................................................... (นายอำไพ ขา่ ขันมะลี) รองผอู้ ำนวยการ สำนักงาน กศน.จงั หวดั อ่างทอง รกั ษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอวิเศษชยั ชาญ

๒๖ ใบความรู้ ครั้งที่ 1 วิทยาศาสตร์ พว11001 ระดบั ประถมศึกษา เรอื่ ง โครงงานวทิ ยาศาตร์ 1. ความหมาย โครงงาน หมายถึง กิจกรรมที่ทำให้ได้เรียนรู้ด้วยตนเองจากการลงมือปฏิบัติจริงในลักษณะ ของการศึกษา สำรวจค้นคว้า ทดลอง ประดิษฐ์คิดค้น ซึ่งผู้เรียนเป็นผู้คิด หัวเร่ืองจัดหาข้อมูล ทดลอง สรุปผล เขียนรายงาน แสดง ผลงาน โดยมคี รเู ป็นผู้กระตุน้ แนะนำ และให้คำปรกึ ษา อย่างใกล้ชิด โครงงาน หมายถึง กิจกรรมท่ีให้นักเรียนรู้จักวิธีการท าโครงงานวิจัยเล็ก ๆ ผู้เรียนลงมือ ปฏิบัติเพื่อพัฒนา ความรู้ ทักษะและสรา้ งผลผลิตท่ีมคี ุณภาพ ระเบยี บวธิ ดี ำเนนิ การเปน็ ระบบ วธิ ีการทางวิทยาศาสตร์ จุดประสงคห์ ลักของ การสอนแบบโครงงานต้องการกระตุ้นให้นักเรียนรู้จัก สังเกต รู้จกั ต้ัง คำถาม รู้จักต้ังสมมติฐาน รู้จักวิธแี สวงหาความรู้ ด้วยตนเอง เพื่อตอบคำถามท่ีตนอยาก รู้ รู้จักสรุป และทำความเข้าใจกับส่ิงที่ค้นพบโครงงานอาจจัดในเวลาเรียน หรือ นอกเวลาเรยี นกไ็ ด้ โครงงานอาชพี หมายถึง กิจกรรมเสริมหลักสูตรวิชาการงานอาชีพท่ีเปิดโอกาสให้นักเรยี น ได้ศึกษาเรอ่ื งใดเรอ่ื ง หนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการงานอาชีพและเทคโนโลยีตามความถนัดและความสนใจ ด้วยวิธีการบูรณาการความรู้ต่าง ๆ ท่ีได้ เรียนมา ภายใต้การแนะนำปรกึ ษาช่วยเหลอื และการดูแล จากครหู รือผู้ทรงคุณวุฒิ อาจจดั ในเวลาเรียนหรอื นอกเวลาเรียน ก็ได้ รวมทั้งสามารถดำเนินกิจกรรม ได้ท้ังใน และนอกโรงเรียน ซึ่งอาจทำเป็นรายบุคคลหรือกลุ่มก็ได้ แล้วจัดเขียนเป็น รายงาน และแสง ผลงานทที่ ำเผยแพรส่ ำหรบั เป็นแนวทางในการพัฒนาศึกษาต่อ โครงงานเทคโนโลยี เป็นรูปแบบการท าโครงงานที่เก่ียวกับการนำความรู้ ทักษะ และ ทรัพยากรมาสรา้ งหรือ ประดิษฐ์เคร่ืองมือ อุปกรณ์ หรอื วธิ ีการเพื่อแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการ ซ่ึงอาจเป็นการสรา้ งหรือประดิษฐข์ องใหม่ ๆ ปรับปรงุ หรือพัฒนาของเดิมที่มีอยู่แล้วใหม้ ีประสิทธิภาพ สูงขึ้นตามกระบวนการเทคโนโลยีอยา่ งปลอดภัย โดยกำหนด ปญั หาหรือความตอ้ งการ รวบรวม ข้อมูล เลอื กวิธีการ ออกแบบถา่ ยทอดความคดิ เป็นภาพรา่ งหรอื แผนท่ีความคิดก่อนลง มือสร้างและ ประเมินผล โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอรม์ าบูรณาการจัดทำโครงงานเทคโนโลยีโดยใช้โปรแกรม Desktop Author ,Flip Album, Ulead, Word, Excel, powerpoint, Captivate เป็นตน้ สรปุ โครงงาน คืองานวจิ ยั เลก็ ๆ สำหรบั นกั เรียน เป็นการแกป้ ัญหาหรือข้อสงสัยหา คำตอบโดยใชก้ ระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ และอาจใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ช่วยในการศึกษา ค้นคว้า หรือให้การศึกษาค้นคว้านั้นบรรลุ วัตถุประสงค์ อาจทำในเวลาเรียนหรือนอกเวลาเรียนก็ได้ โดยไม่จำกัดสถานที่ อาจทำเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่มได้หาก เนื้อหาหรือข้อสงสัยเป็นไปตาม ใบความรู้ ความรู้เกี่ยวกับโครงงาน รายวิชาใดจะเรียกว่าโครงงานในรายวิชานั้น ๆ เช่น โครงงานวิทยาศาสตร์ โครงงานคณติ ศาสตร์ โครงงานอาชีพ เปน็ ต้น

๒๗ ผังกราฟฟกิ เรือ่ ง ความหมายของโครงงานการงานอาชพี และเทคโนโลยี ประเภทของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ โครงงานวิทยาศาสตรเ์ ปน็ กจิ กรรมเกยี่ วกบั วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ซง่ึ เปน็ กจิ กรรมทตี่ อ้ งใชก้ ระบวนการ ทางวทิ ยาศาสตรใ์ นการศึกษาคน้ ควา้ โดยผู้เรยี นจะเป็นผ้ดู ำเนินการดว้ ยตนเองทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มวางแผนในการศึกษา ค้นควา้ การเก็บรวบรวมขอ้ มูล จนถงึ เรื่องการแปลผล สรุปผล และเสนอผลการศกึ ษา โดยมีผชู้ ำนาญการเปน็ ผ้ใู ห้ คำปรึกษา ลกั ษณะและประเภทของโครงงานวิทยาศาสตร์ จำแนกไดเ้ ปน็ 4 ประเภท ดังนี้ 1. โครงงานประเภทสำรวจ เป็นโครงงานทม่ี ลี กั ษณะเปน็ การศึกษาเชงิ สำรวจ รวบรวมข้อมูลแลว้ นำขอ้ มลู เหลา่ น้นั มาจัดกระทำและนำเสนอในรูปแบบต่าง ๆ ดงั นน้ั ลกั ษณะสำคัญของโครงงานประเภทนคี้ อื ไม่มกี ารจัดทำหรอื กำหนดตัวแปรอิสระทต่ี ้องการศกึ ษา 2. โครงงานประเภททดลอง เปน็ โครงงานท่ีมีลกั ษณะกจิ กรรมทเ่ี ป็นการศึกษาหาคำตอบของปัญหาใดปัญหา หนง่ึ ด้วยวธิ กี ารทดลอง ลกั ษณะสำคัญของโครงงานนคี้ อื ตอ้ งมีการออกแบบการทดลองและดำเนินการทดลองเพื่อหา คำตอบของปัญหาที่ตอ้ งการทราบหรอื เพือ่ ตรวจสอบสมมตฐิ านท่ีตงั้ ไว้ โดยมีการจัดกระทำกับตวั แปรตน้ หรือตัวแปรอิสระ เพือ่ ดผู ลท่เี กิดขึ้นกับตัวแปรตาม และมีการควบคุมตัวแปรอ่ืน ๆ ทไี่ ม่ตอ้ งการศกึ ษา 3. โครงงานประเภทการพัฒนาหรือประดิษฐ์ เป็นโครงงานทีม่ ลี กั ษณะกจิ กรรมท่ีเปน็ การศกึ ษาเกี่ยวกับการ ประยกุ ต์ ทฤษฎี หรอื หลักการทางวิทยาศาสตร์ เพอ่ื ประดิษฐเ์ ครอื่ งมอื เครื่องใช้ หรอื อปุ กรณ์เพอื่ ประโยชน์ใช้สอยต่าง ๆ ซ่งึ อาจเปน็ การประดษิ ฐข์ องใหม่ ๆ หรือปรับปรุงของเดมิ ที่มอี ยู่ใหม้ ีประสิทธภิ าพสงู ขนึ้ ซ่งึ จะรวมไปถงึ การสร้าง แบบจำลองเพอ่ื อธบิ ายแนวคิด 4. โครงงานประเภทการสรา้ งทฤษฎหี รืออธบิ าย เป็นโครงงานท่มี ลี ักษณะกิจกรรมท่ีผู้ทำจะต้องเสนอแนวคดิ หลักการ หรือทฤษฎีใหม่ ๆ อย่างมหี ลกั การทางวิทยาศาสตรใ์ นรปู ของสูตรสมการหรือคำอธิบายอาจเป็นแนวคิดใหม่ทยี่ งั ไม่เคยนำเสนอ หรืออาจเปน็ การอธบิ ายปรากฏการณใ์ นแนวใหม่กไ็ ด้ ลกั ษณะสำคญั ของโครงงานประเภทนี้ คือ ผทู้ ำ จะต้องมพี ื้นฐานความรู้ทางวิทยาศาสตร์เปน็ อย่างดี ต้องคน้ ควา้ ศกึ ษาเรื่องราวท่เี กยี่ วขอ้ งอยา่ งลึกซง้ึ จงึ จะสามารถสร้าง คำอธิบายหรือทฤษฎีได้

๒๘ ขั้นตอนการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ การทำกิจกรรมโครงงานเปน็ การทำกิจกรรมทีเ่ กิดจากคำถามหรอื ความอยากรู้อยากเหน็ เกย่ี วกบั เร่ืองต่าง ๆ ดงั นนั้ การทำโครงงานจึงมขี นั้ ตอนดังนี้ 1.ข้นั สำรวจหรือตดั สินใจเลือกเรอ่ื งทจ่ี ะทำ การตัดสินใจเลือกเรื่องท่จี ะทำโครงงานควรพิจารณาถึงความพร้อมในดา้ นตา่ ง ๆ เช่นแหลง่ ความรเู้ พียงพอทจี่ ะ ศกึ ษาหรือขอคำปรึกษา มีความรู้และทักษะในการใชเ้ ครอ่ื งมืออปุ กรณ์ต่าง ๆ ท่ีใช้ในการศึกษา มีผู้ทรงคณุ วฒุ ิรบั เป็นที่ ปรกึ ษา มีเวลา และงบประมาณเพยี งพอ 2.ข้ันศึกษาขอ้ มูลทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกับเรื่องท่ีตัดสนิ ใจทำ การศกึ ษาขอ้ มูลทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั เรอื่ งทตี่ ดั สนิ ใจทำ จะชว่ ยให้ผู้เรียนไดแ้ นวคดิ ที่จะกำหนดขอบขา่ ยเรื่องทีจ่ ะศกึ ษา ค้นคว้าให้เฉพาะเจาะจงมากขนึ้ และยงั ได้ความรู้ เรื่องที่จะศกึ ษาค้นคว้าเพิม่ เตมิ จนสามารถออกแบบการศึกษา ทดลอง และวางแผนดำเนนิ การทำโครงงานวทิ ยาศาสตรอ์ ย่างเหมาะสม 3.ข้นั วางแผนดำเนนิ การ การทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ไมว่ า่ เรอื่ งใดจะตอ้ งมกี ารวางแผนอยา่ งละเอยี ด รอบคอบ และมกี ารกำหนดขน้ั ตอน ในการดำเนินงานอยา่ งรัดกมุ ท้งั นี้เพ่อื ใหก้ ารดำเนินงานบรรลุจดุ มุ่งหมายหรอื เปา้ หมายทีก่ ำหนดไว้ ประเด็นที่ต้องร่วมกนั คิดวางแผนในการทำโครงงานมดี ังนี้ คอื ปญั หา สาเหตุของปญั หา แนวทาง และวธิ กี ารแกป้ ัญหาทส่ี ามารถปฏบิ ัติได้ การ ออกแบบการศึกษาทดลองโดยกำหนดและควบคุมตวั แปร วสั ดอุ ุปกรณ์และสารเคมี เวลา และสถานท่จี ะปฏิบัติงาน 4.ขัน้ เขียนเคา้ โครงของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ การเขียนเคา้ โครงของโครงงานวทิ ยาศาสตรม์ ีรายละเอียดดังนี้ 4.1 ชือ่ โครงงาน เป็นข้อความสั้น ๆ กะทดั รดั ชดั เจน ส่ือความหมายตรง และมีความเฉพาะเจาะจงว่า จะศึกษาเร่ืองใด 4.2 ชือ่ ผู้ทำโครงงาน เปน็ ผูร้ ับผิดชอบโครงงาน ซ่งึ อาจเป็นรายบคุ คลหรือกลมุ่ กไ็ ด้ 4.3 ชื่อท่ปี รกึ ษาโครงงาน ซึ่งเป็นอาจารยห์ รือผ้ทู รงคุณวฒุ กิ ไ็ ด้ 4.4 ทม่ี าและความสำคญั ของโครงงาน เปน็ การอธิบายเหตผุ ลท่ีเลือกทำโครงงานนี้ ความสำคัญของ โครงงาน แนวคิด หลกั การ หรอื ทฤษฎีทเ่ี กี่ยวกบั โครงงาน 4.5 วตั ถุประสงค์โครงงาน เปน็ การบอกจดุ ม่งุ หมายของงานทจี่ ะทำ ซึง่ ควรมีความเฉพาะเจาะจงและ เปน็ สิ่งทีส่ ามารถวัดและประเมินผลได้ 4.6 สมมติฐานของโครงงาน(ถา้ ม)ี สมมติฐานเป็นคำอธิบายที่คาดไวล้ ว่ งหน้า ซง่ึ จะผดิ หรอื ถกู กไ็ ด้ สมมติฐานท่ีดีควรมเี หตุผลรองรับ และสามารถทดสอบได้ 4.7 วัสดุอุปกรณ์และสง่ิ ที่ตอ้ งใช้ เปน็ การระบุวสั ดอุ ปุ กรณ์ที่จำเปน็ ใช้ในการดำเนนิ งานว่ามีอะไรบา้ ง ไดม้ าจากไหน 4.8 วิธดี ำเนินการ เปน็ การอธบิ ายขัน้ ตอนการดำเนนิ งานอยา่ งละเอียดทุกข้นั ตอน 4.9 แผนปฏบิ ัตกิ าร เป็นการกำหนดเวลาเริ่มต้นและเวลาเสร็จงานในแต่ละขั้นตอน 4.10 ผลที่คาดวา่ จะไดร้ ับ เป็นการคาดการณ์ผลทีจ่ ะไดร้ ับจากการดำเนนิ งานไว้ล่วงหน้า ซ่ึงอาจไดผ้ ล ตามท่ีคาดไวห้ รอื ไมก่ ไ็ ด้ 4.11 เอกสารอา้ งอิง เป็นการบอกแหลง่ ข้อมูลหรอื เอกสารทีใ่ ช้ในการศึกษาค้นคว้า 5.ขัน้ ลงมือปฏิบตั ิ การลงมือปฏิบตั ิเป็นข้ันตอนท่ีสำคัญตอนหนงึ่ ในการทำโครงงานเนอื่ งจากเป็นการลงมือปฏิบัติจรงิ ตาม แผนท่ีไดก้ ำหนดไว้ในเค้าโครงของโครงงาน อย่างไรก็ตามการทำโครงงานาจะสำเรจ็ ได้ด้วยดี ผู้เรียนจะต้องคำนงึ ถึงเร่ือง

๒๙ ความพร้อมของวสั ดอุ ปุ กรณ์ และสงิ่ อ่ืน ๆ เชน่ สมุดบนั ทกึ กิจกรรมประจำวัน ความละเอยี ดรอบคอบและความเปน็ ระเบียบในการปฏบิ ัตงิ าน ความประหยดั และความปลอดภัยในการปฏบิ ตั งิ าน ความนา่ เชอ่ื ถือของข้อมลู ทไี่ ดจ้ ากการ ปฏบิ ตั ิงาน การเรยี งลำดบั ก่อนหลงั ของงานส่วนย่อย ๆ ซ่ึงตอ้ งทำแต่ละสว่ นให้เสร็จกอ่ นทำสว่ นอน่ื ตอ่ ไปในขัน้ ลงมอื ปฏิบตั ิจะตอ้ งมีการบนั ทกึ ผล การประเมนิ ผล การวเิ คราะห์ และสรปุ ผลการปฏบิ ัติ 6.ขน้ั เขียนรายงานโครงงาน การเขยี นรายงานการดำเนนิ งานของโครงงาน ผ้เู รียนจะตอ้ งเขยี นรายงานใหช้ ัดเจน ใช้ศพั ท์เทคนคิ ที่ ถกู ต้อง ใชภ้ าษากะทัดรัด ชัดเจน เขา้ ใจง่าย และตอ้ งครอบคลมุ ประเดน็ สำคัญ ๆ ทง้ั หมดของโครงงานไดแ้ ก่ ชอ่ื โครงงาน ชอื่ ผูท้ ำโครงงาน ชอื่ ทีป่ รึกษา บทคัดย่อ ที่มาและความสำคัญของโครงงาน จุดหมาย สมมติฐาน วธิ ีดำเนินงาน ผล การศกึ ษาค้นคว้า ผลสรุปของโครงงาน ขอ้ เสนอแนะ คำขอบคณุ บคุ ลากรหรือหน่วยงานและเอกสารอ้างอิง 7.ขนั้ เสนอผลงานและจดั แสดงผลงานโครงงาน หลังจากทำโครงงานวิทยาศาสตร์เสร็จแลว้ จะตอ้ งนำผลงานท่ไี ด้มาเสนอและจัดแสดง ซ่งึ อาจทำได้หลายรปู แบบ เช่น การจดั นทิ รรศการ การประชุมทางวชิ าการ เปน็ ต้น ในการเสนอผลงานและจดั แสดงผลงานโครงงานวิทยาศาสตร์ ควรนำเสนอให้ครอบคลุมประเด็นสำคัญ ๆ ท้ังหมดของโครงงาน การทำแผงสำหรบั แสดงโครงงานให้ใช้ไม้อัดมีขนาด 60 x 120 เซนตเิ มตร ข้ันตอนการเขยี นโครงงานวิทยาศาสตร์ 1) ช่ือโครงงาน..................................................................................................................... 2) ผทู้ ำโครงงาน................................................................................................................... 3) ชอ่ื อาจารย์ท่ีปรกึ ษา.......................................................................................................... 4) คำนำ 5) สารบญั 6) บทที่ 1 บทนำ - ท่ีมาและความสำคัญ - วัตถุประสงค์ - ตัวแปรท่ีศกึ ษา - สมมติฐาน - ประโยชน์ท่คี าดว่าจะได้รบั 7) บทที่ 2 เอกสารที่เกีย่ วข้องกับการทำโครงงาน 8) บทที่ 3 วิธีการศึกษา/ทดลอง - วัสดุอุปกรณ์ - งบประมาณ - ขนั้ ตอนการดำเนินงาน - แผนปฏิบัตงิ าน 9) บทท่ี 4 ผลการศึกษา/ทดลอง - การทดลองได้ผลอยา่ งไรบา้ ง 10) บทท่ี 5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ - ข้อสรปุ ผลการทดลอง - ข้อเสนอแนะ 11) เอกสารอ้างองิ

๓๐ ใบงาน ครั้งท่ี ๒ รายวิชา วิทยาศาสตร์ พว11001 ระดบั ประถมศกึ ษา ช่อื – นามสกลุ ...................................................................................กศน.ตำบล .......................................... คำชแ้ี จง ให้ผู้เรยี นตอบคำถามตอ่ ไปนี้ 1. ประเภทของโครงงานมีอะไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………….................................................. ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………......................................................................... 2. การเขียนโครงงานมสี ว่ นประกอบอะไรบา้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………….................................................. ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………….................................................. ............................................................................................................................................................................................... ...............................................................................................................................................................................................

๓๑ เฉลยใบงาน ครงั้ ท่ี ๑ รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ พว 11001 ระดบั ประถมศกึ ษา 1. ประเภทของโครงงานมอี ะไรบ้าง 1. โครงงานประเภททฤษฎี 2. โครงงานประเภทสำรวจ 3. โครงงานประเภททดลอง 4. โครงงานประเภทสง่ิ ประดิษฐ์ 2. การเขียนโครงงานมีส่วนประกอบอะไรบ้าง 1. สว่ นปกหน้า 2. สว่ นประกอบภายในเลม่ 2.1 บทคดั ย่อ 2.2 กติ ตกิ รรมประกาศ 2.3 สารบัญ 2.4 บทท่ี 1 บทนำ 2.5 บทที่ 2 เอกสารหรือทฤษฎีท่เี กีย่ วข้อง 2.6 บทท่ี 3 วัสดุ อุปกรณ์และวิธีการดำเนินการ 2.7 บทท่ี 4 ผลของการดำเนินการ 2.8 บทที่ 5 สรุปและอภปิ รายผล

๓๒ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ คำชแี้ จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ของนักเรยี นในระหว่างเรยี น แล้วขดี  ลงในช่องทต่ี รงกับ ระดับคะแนน ความตั้งใจ ความ การตรงต่อ ความสะอาด ผลสำเรจ็ ท่ี ชอ่ื -สกุล ใน รับผดิ ชอบ เวลา เรียบร้อย ของงาน รวม การทำงาน 1 2 31 23 12 3 12 3 123

๓๓ บนั ทกึ หลังสอน สปั ดาห์ท่ี 2 วัน จันทร์ ท่.ี .....8...........เดือน.....พฤศจิกายน.....พ.ศ. …2564 . ผลการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ปัญหาและอุปสรรค .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงชอื่ .....................................................ผู้สอน (นายจริ สั ย์พงษ์ วิเศษสิทธโิ ชค) ครู กศน.ตำบล ความคดิ เหน็ หวั หนา้ งานการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงช่ือ.............................................................. (นางสาวปณั ณป์ าลี ศริ ธิ ุวานนท์) งานการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐานนอกระบบ ขอ้ เสนอแนะของหวั หนา้ สถานศึกษา .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงชือ่ .......................................................... (นายอำไพ ข่าขนั มะลี) รองผูอ้ ำนวยการ สำนกั งาน กศน.จังหวัดอา่ งทอง รกั ษาการในตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอวเิ ศษชยั ชาญ

๓๔ แผนการจดั การเรียนการสอนรายสปั ดาห์ ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ระดบั ประถมศกึ ษา กศน.อำเภอวเิ ศษชยั ชาญ สปั ดาหท์ ี่ ๓ วนั .จนั ทร.์ .วนั ที.่ ...15......เดือน..พฤศจกิ ายน..พ.ศ...2564.............เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. วิชา วทิ ยาศาสตร์ รหสั วิชา พว 11001 จำนวน 3 หนว่ ยกติ มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั สง่ิ มชี ีวิตและสง่ิ แวดลอ้ ม ประกอบด้วยส่ิงมชี วี ติ ระบบนิเวศ ทรัพยากรธรรมชาติ สง่ิ แวดลอ้ มและการ อนุรักษ์ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ หน่วยการเรียนร/ู้ เรอื่ ง สิ่งมีชวี ติ สาระสำคัญ มนุษย์มีความจำเป็นต้องศึกษา และเรยี นรู้เกี่ยวกับส่ิงมีชีวติ ทอ่ี ยู่รอบตวั ทั้งพืชและสัตวเ์ พอ่ื ให้ สามารถดำรงชีวิตและอยู่รว่ มกันได้อยา่ งปลอดภยั ท้ังนีเ้ พราะวา่ สง่ิ มชี วี ติ ท่ีอยรู่ อบตวั เรานั้น สามารถใหท้ ้ังคุณและโทษ ซงึ่ มนษุ ย์มคี วามรู้เรื่องส่ิงมีชวี ติ สามารถชว่ ยใหป้ รับตัว และสามารถท่ีจะใช้ประโยชนห์ รอื หลกี เลี่ยงจากสิ่งเหล่านั้นได้ เนื้อหา สิ่งมชี วี ิต จดุ ประสงค์การเรยี นรู้/ผลการเรยี นรู้ท่ีคาดหวัง 1. สามารถบอกลักษณะและการจัดกลุ่มของส่ิงมีชวี ิตได้ 2. สามารถอธิบายเกย่ี วกบั ประเภทของพืช ลักษณะภายนอก และหนา้ ที่ของราก ลำต้น ใบ ดอกและผล ของพชื ภายในท้องถิน่ ท่ีเหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของพืชได้ 3. สามารถอธิบายเก่ียวกบั ปัจจัยที่จำเป็นต่อการดำรงชีวติ ของพืชได้ 4. สามารถอธิบายวธิ ีการขยายพนั ธุ์ของพชื ดว้ ยวธิ ตี า่ ง ๆ ได้ 5. สามารถจำแนกพชื ภายในทอ้ งถิ่น ได้ 6. สามารถอธบิ ายเกี่ยวกบั ประเภท โครงสร้าง และหนา้ ที่ของสตั วภ์ ายในท้องถิ่น ที่เหมาะสมตอ่ การดำรงชวี ิตใน สิ่งแวดลอ้ มทแี่ ตกต่างกันได้ 7. สามารถอธิบายเก่ียวกับปจั จัยที่จำเป็นต่อการดำรงชวี ิตของสัตว์ และสามารถนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ใน ชวี ิตประจำวันได้ 8. สามารถอธิบายวธิ กี ารขยายพนั ธสุ์ ตั ว์ และสามารถนำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจำวนั ได้ กระบวนการจัดการเรียนรู้และกจิ กรรมเพ่มิ เติม ขัน้ ท่ี 1 กำหนดสภาพปญั หา ความตอ้ งการ ครผู ู้สอนทักทายและซักถามเกี่ยวกับลักษณะของส่ิงมีชีวิตที่ผู้เรียนรู้จกั ข้นั ท่ี 2 แสวงหาข้อมูลและการจัดการเรียนรู้ ๑. ครูให้ผู้เรยี นสง่ ใบงานในสัปดาห์ที่ ๒ และสรุปเร่ืองประเภทของพืช ปัจจยั ท่ีจำเป็นต่อการดำรงชีวติ ของพืช การขยายพันธพ์ุ ชื การจำแนกพชื ภายในท้องถน่ิ ปัจจัยที่จำเปน็ ตอ่ การดำรงชวี ติ ของสตั ว์ การขยายพันธ์ุสัตว์ ๒. ผู้สอนและผู้เรียนแลกเปลีย่ นเรียนรูก้ ัน เกีย่ วกบั เร่ืองสิง่ มชี ีวิต ๓. ผ้เู รยี นศึกษาเพมิ่ เติมจากแหลง่ เรียนรู้อ่ืนๆ และมอบหมายใบงาน เรอ่ื ง สิง่ มีชีวิต ให้สง่ ในสัปดาห์ที่ ๔

๓๕ ขน้ั ที่ 3 การปฏิบตั ิและนำไปประยุกต์ใช้ ครแู ละผู้เรียนสรปุ สาระสำคัญเรื่อง ส่งิ มีชวี ิตและสรปุ ความรู้ทผี่ เู้ รียนสามารถนำไปประยกุ ตใ์ ช้ได้ ขัน้ ท่ี 4 การประเมินผลการเรยี นรู้ ประเมนิ จากการทำใบงาน ประเมินจากการสรปุ ผลการเรียนรู้ร่วมกัน ส่ือการเรียนรู้ หนังสือเรยี นวชิ าวิทยาศาสตรร์ ะดับประถมศกึ ษา ใบงาน ใบความรูเ้ รอ่ื ง สงิ่ มชี วี ติ อนิ เตอร์เนต็ การวดั ผลและประเมนิ ผล ใบงาน แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ ลงชอ่ื .....................................................ผู้สอน (นายจิรัสยพ์ งษ์ วิเศษสิทธโิ ชค) ขอ้ เสนอแนะของหวั หน้างานการศึกษาขัน้ พื้นฐานนอกระบบ .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงชอื่ .............................................................. (นางสาวปณั ณ์ปาลี ศิริธุวานนท)์ งานการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐานนอกระบบ ขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ สถานศกึ ษา .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ.......................................................... (นายอำไพ ข่าขันมะลี) รองผู้อำนวยการ สำนกั งาน กศน.จงั หวดั อา่ งทอง รักษาการในตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอวิเศษชยั ชาญ

๓๖ ใบความรู้ ครัง้ ท่ี 3 วิชาวทิ ยาศาสตร์ พว11001 ระดับประถมศึกษา เร่ือง สง่ิ มีชวี ิต สิ่งมีชวี ิต คอื ส่งิ มชี ีวิตมคี ุณสมบัตติ อ่ ไปน้ี 2. หายใจได้ 1. กินอาหารได้ 4. ตอบสนองสิ่งเร้าได้ 3. สบื พันธไ์ุ ด้ 6. เจริญเติบโตได้ 5. เคล่อื นไหวได้ 7. ขับถ่ายได้ หนา้ ทแี่ ละสว่ นประกอบของพชื พชื มีสว่ นต่าง ๆ คือ พืชมรี าก ลำต้น ดอก และผล ซ่งึ มโี ครงสรา้ งดงั นี้ 1. ราก รากเปรียบเสมือนปากเพราะพชื กนิ อาหารทางราก โดยจะดูดนำ้ และธาตุอาหารในดนิ ข้ึนไปเลี้ยงส่วนตา่ ง ๆ ของพืช รากของพชื แตล่ ะชนิดจะมีลกั ษณะแตกต่างกนั \"รากแก้ว\" จะช่วยยดึ ลำตน้ ของพชื ใหต้ ิดแน่นกบั ดนิ ไมใ่ ห้โคน่ ลม้ ง่าย จะพบในตน้ ไม้ขนาดใหญ่ เช่น มะม่วง มะขาม ชมพู่ ทุเรยี น ขนุน เป็นตน้ \"รากฝอย\" ทำให้ตน้ ไม้ขนาดเลก็ เชน่ ขา้ ว หญ้า กล้วย ยดึ ลำตน้ ตดิ กับดินไมแ่ นน่ พืชพวกน้จี ึงโคน่ ล้มได้ง่าย รากของพืชบางชนดิ เช่น แครอท มนั เทศ มันสำปะหลัง มลี กั ษณะเปน็ หัว นำมากินไดร้ ากของพชื นอกจากมีหน้าท่ี ชว่ ยยึดลำตน้ แล้ว รากยังชว่ ยด้วย 2. ลำตน้ มีหนา้ ทช่ี ว่ ยชกู ่ิง กา้ น และใบ ใหไ้ ดร้ ับแสดงแดด 3. ใบ ใบไม้มีลักษณะแตกต่างกัน ใบพชื มหี น้าท่สี รา้ งอาหาร 4. ดอก สีสวยงาม บางชนิดมีกล่ินหอม ซ่ึงสแี ละกล่นิ ของดอกชว่ ยล่อแมลงให้มาชว่ ยผสมพันธุ์ ดอกจงึ มหี นา้ ทีส่ บื พันธ์ุ ทำใหเ้ กิดเปน็ ผลของพืชต่อไป 5. ผลและเมลด็ ผลของพชื จงึ มีหน้าที่ห่อห้มุ เมลด็ ถา้ นำเมลด็ ไปปลูกก็จะงอกเป็นพืชต้นใหม่ เมล็ดพชื จงึ มีหนา้ ที่ ขยายพนั ธุ์ โครงสร้างและหนา้ ที่ของอวยั วะของสัตว์ โครงสร้างของสัตว์ประกอบด้วยอวยั วะภายนอก ไดแ้ ก่ ตา หู จมกู ปาก ขา และเท้า อวัยวะต่าง ๆ ของสัตว์ทำ หน้าทแ่ี ตกต่างกนั ดังน้ี - ตา ทำหนา้ ท่มี องดสู ง่ิ ตา่ ง ๆ - หู ทำหน้าท่รี บั ฟังเสยี ง - จมูก ทำหนา้ ทห่ี ายใจและดมกล่ิน - ปาก ทำหนา้ ทีก่ ินอาหาร การปฏสิ นธิ • คือ การหลอมรวมของนิวเคลียสของเซลล์สืบพนั ธุเ์ พศผูแ้ ละนวิ เคลียสของเซลล์สืบพนั ธเุ์ พศเมยี • เปน็ การสืบพนั ธ์แุ บบอาศัยเพศ • ลูกจะมีรหสั พันธุกรรมจากทัง้ พอ่ และแม่ • จำแนกไดอ้ อกเปน็ 2 ประเภท คือการปฏสิ นธิภายนอก และการปฏิสนธภิ ายใน

๓๗ ระบบการสบื พันธ์ุแบบอาศัยเพศ แบ่งได้เปน็ ระบบการสบื พันธ์ุ ความหมาย ข้อดี ข้อเสยี 1. เลอื ดชดิ (Line ผสมพนั ธ์ุกนั ในครอบครวั รักษาลกั ษณะเดน่ ของ เพิ่มโอกาสได้ลกั ษณะดอ้ ยที่ไม่ดี Breeding) พนั ธุ์ (พนั ธแ์ุ ท)้ 2.ผสมพนั ธุ์ภายในพนั ธุ์ ผสมพนั ธุใ์ นสายพันธ์ุ รกั ษาลักษณะเด่นของ ยังมีโอกาสท่ีจะได้ลักษณะดอ้ ยของสาย เดยี วกัน(Pure เดยี วกันแต่ไม่ใชใ่ น Breeding) ครอบครวั เดยี วกัน พนั ธ์ุ (พนั ธแุ์ ท)้ พันธุ์ แตไ่ ม่เท่ากับแบบเลือดชิด 3. ผสมขา้ มพนั ธ(ุ์ Cross ผสมพันธจ์ุ ากคนละสาย พฒั นาพันธ์โุ ดยเลอื ก ระบบจัดการดูแลในฟาร์มจะยงุ่ ยาก Breeding) พันธ์ุ ลกู ที่ใหจ้ ดุ เดน่ ของแต่ เน่ืองจากมพี นั ธ์ใุ หมร่ วมอยู่ดว้ ย และจะ ละพนั ธุ์ สูญเสยี ความเป็นพนั ธ์ุแท้ ข้อมลู จาก https://dairy.ahdb.org.uk/news/technical-article-archive/july-2009/the-pros-and-cons-of-crossbreeding/#.Wq- o4JNuaYU (ข้อเสยี ของ Cross Breeding) การสบื พันธแุ์ บบไมอ่ าศยั เพศ 1. เป็นการสบื พันธุโ์ ดยไม่ตอ้ งมีการผสมกันระหวา่ ง “สเปิร์ม” และ “ไข”่ 2. ตวั ลกู จะมีรหัสพันธุกรรมทีเ่ หมือนตัวแม่ทกุ ประการ

๓๘ เทคโนโลยีการขยายพันธ์ุสตั ว์ 1. การผสมเทยี ม (Artificial Insemination) - อาศยั พ่อพันธ์แุ ละแมพ่ ันธ์ุ 2. การถา่ ยฝากตวั อ่อน (Embryo Transfer) - อาศยั พ่อพนั ธ์ุ แม่พนั ธ์ุ และ แมต่ วั รบั 3. การโคลนน่งิ (Cloning) - อาศยั ตัวพอ่ หรอื แม่ การผสมเทียม (Artificial Insemination) • คือการปฏสิ นธิในสัตว์โดยไมต่ อ้ งมีการรว่ มเพศตามธรรมชาติ • ใช้ได้ทั้งสตั วท์ มี่ กี ารปฏิสนธภิ ายนอก (ปลา) และ สัตวท์ ี่มกี ารปฏิสนธิภายใน (ววั สุกร) • ข้อดี คอื ไม่ต้องนำพ่อพันธุไ์ ป นำแคน่ ำ้ เชอ้ื ไปฉีด ประหยดั ค่าขนสง่ พอ่ พันธ์ุ และสามารถเกบ็ รกั ษานำ้ เช้ือไว้ จนถงึ เวลาท่แี มพ่ ันธพุ์ ร้อมท่ีจะผสม

๓๙ ใบงาน คร้งั ที่ 3 รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า พว 11001 ชอ่ื สกลุ .........................................................................................กศน.ตำบล..................................................... คำชีแ้ จง จงตอบคำถามต่อไปนี้ พร้อมอธบิ ายมาพอเข้าใจ 1. จงบอกสว่ นประกอบของพืช ……………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………… ………………………………..…………………………………………………………………………………………….............................………………… ……………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………… ………………………………..……………………………………………………………………………………………….............................……………… 2. จงบอกหนา้ ที่ตา่ ง ๆ ของสว่ นประกอบของพชื . ……………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………… ………………………………..…………………………………………………………………………………………………..............................…………… ……………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………… ………………………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. เราสามารถแยกประเภทของสัตว์ อย่างไรบา้ ง ……………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………… ………………………………..……………………………………………………………………………………………............................………………… ……………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………… ………………………………..……………………………………………………………………………………………….............................……………… 4. ประเภทของการสบื พันธข์ุ องสตั ว์ แบ่งออกเป็น กี่ประเภทอะไรบา้ ง ……………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………… ………………………………..…………………………………………………………………………………………………….............................………… ……………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………… ………………………………..………………………………………………………………………………………………………………………………..………

๔๐ เฉลยใบงาน ครัง้ ที่ 3 รายวชิ า วิทยาศาสตร์ พว 11001 ระดบั ประถมศึกษา คำสง่ั จงตอบคำถามต่อไปน้ี พร้อมอธบิ ายมาพอเขา้ ใจ 1. จงบอกส่วนประกอบของพืช ราก ลำตน้ ใบ ดอก ผล และเมลด็ ซ่ึงอวยั วะแต่ละสว่ นของพชื นั้นมหี น้าท่ีและสว่ นประกอบแตกต่างกนั แต่ทำงานเก่ียวข้องและสมั พันธ์กนั หากขาดอวัยวะส่วนใดสว่ นหน่ึงไป อาจทำให้พชื น้ันผิดปกติ หรอื ตายได้ และยังมปี จั จัย บางประการที่จำเป็นตอ่ การเจริญเติบโตของพืช 2. จงบอกวิธีการขยายพนั ธ์ุพืช 1. การตอนก่ิง 2. การทาบก่ิง 3. การตดิ ตา 4. การเสยี บยอด 5.การตดั 5. ชำ 3. เราสามารถแยกประเภทของสัตว์ อย่างไรบา้ ง 1.สัตว์ท่ีไมม่ ีกระดูกสันหลัง 2. สตั วท์ มี่ กี ระดูกสนั หลัง 4. ประเภทของการสบื พันธ์ุของสัตว์ แบ่งออกเปน็ กี่ประเภทอะไรบา้ ง 2 ประเภท ดังน้ี 1. การสืบพันธแุ์ บบไมอ่ าศัยเพศ (Asexual Reproduction) เป็นการสืบพันธโ์ุ ดยการผลิตหน่วย สงิ่ มีชวี ิตจากหนว่ ยส่ิงมีชวี ิตเดมิ ด้วยวิธกี ารต่าง ๆ ท่ีไม่ใช่จากการใช้เซลลส์ ืบพนั ธุ์ ไดแ้ ก่ การแตกหน่อ การงอกใหม่ การ ขาดออกเปน็ ทอ่ น และพารธ์ โี นเจเนซิส 2. การสบื พนั ธแ์ุ บบอาศยั เพศ (Sexual Reproduction) เปน็ การสบื พนั ธทุ์ ี่เกิดจากการผสมพันธ์ุ ระหว่างเซลล์สบื พนั ธเ์ุ พศผูแ้ ละเซลลส์ ืบพนั ธ์เุ พศเมยี เกิดเป็นสิ่งงมีชีวิตใหม่ ได้แก่ การสบื พันธ์ุของสตั วช์ ้ันต่ำบางพวก และสัตว์ชน้ั สูงทุกชนิด สัตว์บางชนิดสามารถสืบพันธุ์ท้ังแบบอาศัยเพศ และแบบไม่อาศยั เพศ เชน่ ไฮดรา การ สบื พนั ธุแ์ บบไมอ่ าศัยเพศของไฮดราจะใช้วธิ กี ารแตกหน่อ

๔๑ บนั ทึกหลงั สอน สปั ดาห์ท่ี 3 วนั จันทร์ วนั ที่....15......เดอื น....พฤศจิกายน.......พ.ศ. ...2564........ ผลการเรียนรู้ .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ปัญหาและอปุ สรรค .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงชือ่ .....................................................ผูส้ อน (นายจิรสั ยพ์ งษ์ วเิ ศษสิทธิโชค) ครู กศน.ตำบล ความคดิ เห็นหวั หน้างานการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงช่อื .............................................................. (นางสาวปณั ณ์ปาลี ศิริธุวานนท)์ งานการศึกษาขัน้ พ้นื ฐานนอกระบบ ขอ้ เสนอแนะของหวั หน้าสถานศกึ ษา .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงช่อื .......................................................... (นายอำไพ ขา่ ขันมะลี) รองผอู้ ำนวยการ สำนักงาน กศน.จงั หวดั อ่างทอง รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอวิเศษชยั ชาญ

๔๒ แผนการจดั การเรยี นการสอนรายสัปดาห์ ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔ ระดบั ประถมศึกษา กศน.อำเภอวิเศษชัยชาญ สปั ดาห์ท่ี ๔ วนั .จนั ทร.์ ..วนั ท่ี.....22.....เดือน....พฤศจกิ ายน.....พ.ศ...2564.............เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. วชิ า วิทยาศาสตร์ รหสั วิชา พว 11001 จำนวน 3 หนว่ ยกิต มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดบั สิ่งมชี ีวิตและส่ิงแวดล้อม ประกอบด้วยส่ิงมีชีวิต ระบบนเิ วศ ทรพั ยากรธรรมชาติส่ิงแวดล้อมและการ อนรุ กั ษ์ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ หนว่ ยการเรียนรู้/เร่อื ง ระบบนิเวศ สาระสำคญั ความหมาย ความสัมพันธข์ องกลุม่ ส่ิงมชี วี ติ ความสมั พนั ธข์ องหว่ งโซอ่ าหาร ความสัมพนั ธ์ ของส่ิงแวดลอ้ มในท้องถิ่น กบั การดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต เนอื้ หา เร่ืองที่ 1 ความเป็นอย่ขู องสิ่งมชี ีวิตในทอ้ งถนิ่ เร่ืองที่ 2 ห่วงโซอ่ าหาร เร่ืองที่ 3 ความสมั พันธ์ระหวา่ งสภาพแวดล้อมกับการดำรงชวี ิตของส่ิงมชี วี ิต จุดประสงค์การเรียนรู/้ ผลการเรียนรูท้ ีค่ าดหวัง 1. อธบิ ายความสมั พันธข์ องกลุม่ สิ่งมชี วี ติ ต่าง ๆ กับสภาพแวดล้อมได้ 2. อธบิ ายความสมั พนั ธข์ องส่ิงมชี วี ิตในห่วงโซ่อาหารได้ 3. อธิบายความสัมพนั ธร์ ะหว่างสภาพแวดล้อมในท้องถนิ่ กบั การดำรงชวี ิตของส่ิงมชี วี ติ ได้ กระบวนการจัดการเรยี นรแู้ ละกจิ กรรมเพมิ่ เตมิ ข้นั ที่ 1 กำหนดสภาพปญั หา ความต้องการ ครูผูส้ อนทักทายกล่าวนำ ถงึ เร่ืองส่งิ แวดล้อมที่อยู่บรเิ วณบา้ นของผเู้ รยี นวา่ มีความสัมพันธ์กันอย่างไร ข้ันท่ี 2 แสวงหาข้อมลู และการจัดการเรยี นรู้ ๑. ครูให้ผู้เรียนสง่ ใบงานในสัปดาห์ท่ี ๓ ครูสรปุ ความรู้ เรอ่ื ง ความเป็นอยขู่ องสิ่งมีชีวิตในท้องถนิ่ หว่ งโซอ่ าหาร ความสมั พันธ์ระหวา่ งสภาพแวดล้อมกับการดำรงชีวิตของสิง่ มีชวี ติ ๒. ครูและผู้เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกับเรือ่ งความสมั พันธร์ ะหวา่ งส่ิงแวดลอ้ มกบั การดำรงชวี ิตของ สิง่ มชี วี ติ ๓. ผเู้ รียนศกึ ษาเพิ่มเติมจากแหลง่ เรียนรอู้ ื่นๆ และมอบหมายใบงาน เร่อื ง ระบบนิเวศ ให้ส่งในสปั ดาหท์ ี่ ๕ ขน้ั ที่ 3 การปฏบิ ัตแิ ละนำไปประยุกต์ใช้ ครสู รปุ องค์ความรูท้ ีไ่ ด้จากการเรยี นรู้ เรื่อง ระบบนิเวศ และสรปุ ความรูท้ ี่ผู้เรยี นสามารถนำไปประยุกต์ใชไ้ ด้ ขั้นที่ 4 การประเมินผลการเรียนรู้ ประเมนิ ผลจากใบงาน ประเมินจากการสรปุ ผลการเรียนรรู้ ว่ มกัน

๔๓ สื่อการเรียนรู้ หนงั สือเรียนวชิ าวทิ ยาศาสตรร์ ะดับประถมศึกษา ใบงาน เรอ่ื ง ระบบนเิ วศ ใบงาน เรือ่ ง ระบบนเิ วศ อนิ เตอร์เน็ต การวดั ผลและประเมินผล ใบงาน แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ลงชอ่ื .....................................................ผู้สอน (นายจิรัสยพ์ งษ์ วเิ ศษสทิ ธโิ ชค) ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้างานการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐานนอกระบบ .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื .............................................................. (นางสาวปณั ณ์ปาลี ศิริธุวานนท)์ งานการศึกษาขัน้ พื้นฐานนอกระบบ ขอ้ เสนอแนะของหวั หน้าสถานศึกษา .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื .......................................................... (นายอำไพ ขา่ ขันมะลี) รองผูอ้ ำนวยการ สำนักงาน กศน.จงั หวัดอา่ งทอง รกั ษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอวเิ ศษชัยชาญ

๔๔ ใบความรู้ท่ี 4 วชิ าวทิ ยาศาสตร์ พว11001 เรื่อง ระบบนิเวศ ประชากร ( population ) หมายถึง กลมุ่ สิ่งมชี ีวิตชนดิ เดียวกนั อาศัยอยู่ในสถานทเี่ ดียวกัน ในช่วง เวลาหน่งึ กลมุ่ ส่ิงมีชีวิต ( community ) หมายถึง สิ่งมชี ีวิตตัง้ แต่2 ชนดิ ขึ้นไป หรือ ส่ิงมีชีวิตหลาย ๆ ชนดิ มา อาศยั อยู่รวมกนั ส่งิ แวดลอ้ ม ( environment ) คอื สรรพสงิ่ ทงั้ หลายทอ่ ยรู่ อบี ๆ ตัวเรา แบ่งเปน็ 2 ประเภท ดังน้ี 1. สิ่งแวดลอ้ มทางชวี ภาพ ( biological environment ) หมายถงึ สิง่ แวดล้อมท่ีมชี วี ติ 2. สง่ิ แวดลอ้ มทางกายภาพ ( physical environment ) หมายถงึ ส่งิ แวดล้อมท่ีไมม่ ชี วี ติ แหลง่ ทอ่ี ย(ู่ habitat ) หมายถงึ แหล่งท่ีอยูอาศยั ของสง่ิ มชี ีวติ หรอื สถานท่ซี ึ่งส่งิ มีชวี ิตอาศัยอยู่ใน่ สภาพธรรมชาติ ประโยชน์ท่สี ่ิงมีชีวิตไดจ้ ากแหล่งท่อี ยอ่ าศยั ู ได้แก่ อาหาร ทีอ่ ยู่อาศยั แหล่งแพรพ่ นั ธุ์ ท่ีหลบภัย เปน็ ที่เล้ียงดตู ัวออ่ น ความสัมพันธข์ องสง่ิ มีชวี ิตกับส่ิงแวดล้อม กลมุ่ สิ่งมีชีวติ ในระบบนเิ วศต่าง ๆ แบ่งเป็น 1. ผผู้ ลติ ( Producer ) 2. ผบู้ ริโภค ( Consumer ) 3. ผ้ยู ่อยสลาย ( Decomposer ) ระบบนิเวศ ( Ecosystem ) องค์ประกอบของระบบนเิ วศต่าง ๆ ระบบนเิ วศมอี งค์ประกอบ 2 สว่ น 1.องคป์ ระกอบทางกายภาพ ( physical components ) คอื องค์ประกอบทไี่ ม่มชี ีวิต ได้แก่ แสง ดิน น้ำ อณุ หภูมิ 2.องค์ประกอบทางชวี ภาพ ( biological components ) คือ องค์ประกอบทมี่ ีชวี ิต ได้แก่ คน สัตว์โพรทสิ ตแ์ บคทีเรยี และ ฟังไจ สิ่งมีชวี ติ สามารถดำรงชีวิตเข้ากบั ส่ิงแวดลอ้ มต่าง ๆได้ แสดงถงึ การปรบั ตัวเขา้ กับ สงิ่ แวดลอ้ มไดด้ ี แบ่งได้เปน็ 3 ประเภท 1.การปรับตวั ทางด้านรูปร่าง 2.การปรับตวั ทางด้านสรรี วิทยา 3.การปรบั ตวั ทางด้านพฤติกรรม หว่ งโซ่อาหาร ( Food chain ) หมายถึง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งส่งิ มีชวี ติ กับสงิ่ มีชวี ิตในระบบนิเวศ ในแงข่ องการกนิ กนั เปน็ ทอด ๆ หรอื ในแง่การถา่ ยทอดพลงั งานเป็นช่วง ๆ พืช แมลง นก คน สายใยอาหาร ( Food web ) หมายถงึ ความสมั พันธข์ องสงิ่ มชี ีวิตในหว่ งโซห่ ลาย ๆ ห่วงโซต่ วั อยา่ งเชน่ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสงิ่ มีชีวิตกบั ส่งมีชวี ติ ในสายใยอาหารในระบบนเิ วศต่าง ๆ สิ่งมชี วี ติ ถอื เป็นปจั จยั ทางชวี ภาพ หรือ สง่ิ แวดล้อมทางชีวภาพ สงิ่ มชี ีวิตอาจสมั พันธ์กับส่ิงมชี วี ติ ชนิดเดยี วกันเอง หรือ อาจสัมพนั ธ์กบั ส่งิ มีชวี ิตคนละชนดิ กนั ๑. ภาวะการไดป้ ระโยชน์รว่ มกัน ( Protocooperation ) นกเอ้ียงกบั ควาย แมลงกับดอกไม้

๔๕ ๒.ภาวะพ่งึ พากนั ( Mutualism ) รากับสาหร่าย แบคทีเรยี ในปมรากถัว่ ๓. ภาวะอิงอาศยั ( Commensalism ) ปลาฉลามกับเหาฉลาม กล้วยไมก้ ับตน้ ไม้ ๔.ภาวะปรสิต ( Parasitism ) พยาธกิ ับคน ๕.ภาวะล่าเหย่ือ ( Predation ) นกอินทรีกบั ปลา กบกับแมลง

๔๖ ใบงาน คร้ังที่ ๔ วิชา วิทยาศาสตร์ รหัสวชิ า พว 11001 ชื่อ สกุล......................................................................................................กศน.ตำบล............................................... คำชแี้ จง ให้ผู้เรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี 1. ระบบนเิ วศ หมายถึงอะไร และมอี งคป์ ระกอบก่ีองคป์ ระกอบ อะไรบา้ ง ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... 2.การถา่ ยทอดพลังงานจากผู้ผลิตสผู่ ู้บริโภค มกี ่แี บบ พร้อมกบั อธิบาย ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................

๔๗ เฉลยใบงาน วิชาวทิ ยาศาสตร์ พว11001 ระดบั ประถมศึกษา 1. ระบบนิเวศ หมายถงึ อะไร และมอี งค์ประกอบก่อี งคป์ ระกอบ อะไรบา้ ง ตอบ หนว่ ยพ้ืนที่หนึ่งประกอบดว้ ยสังคมของส่ิงมีชีวติ กับ สิ่งแวดล้อมทำหนา้ ที่ร่วมกัน ระบบนิเวศเป็นระบบที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดของสิ่งมีชีวิต และสิง่ แวดล้อม โดยการลำดับข้ันของการ กินแบบต่าง ๆ ตลอดจนการหมุนเวียนของสารแร่ธาตุและการถ่ายทอดพลังงาน จนทำให้เกิดองค์ประกอบของสิ่งมีชีวิต เป็นระบบท่ีมลี ักษณะตา่ ง ๆ กัน ระบบนิเวศเป็นกลไกควบคุมสังคมของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ท่ีเกิดมาจากความสัมพันธ์ต่อกัน ทั้งส่วนท่เี ป็นสิง่ มีชีวิตและสงิ่ ไมม่ ีชวี ติ ระบบนเิ วศมีองคป์ ระกอบทสี่ ำคัญ 2 สว่ น คือ 1. องค์ประกอบทางชีวภาพ(biological component) ได้แก่ สง่ิ มชี วี ติ ในระบบนิเวศ เชน่ พืช สัตว์ มนุษย์ เหด็ รา จลุ ินทรีย์ เปน็ ตน้ 2. องค์ประกอบทางกายภาพ(physical component) ได้แก่ ส่ิงไม่มีชีวิตในระบบนิเวศ เช่น ดิน น้ำ แสง อุณหภมู ิ เปน็ ตน้ 2. การถ่ายทอดพลงั งานจากผู้ผลิตสู่ผบู้ รโิ ภค มีกแี่ บบ พรอ้ มกบั อธิบาย ตอบ การถ่ายทอดพลงั งานจากผผู้ ลิตสู่ผบู้ รโิ ภค แบง่ ได้ 3 ประเภทตามหน่วยทใ่ี ชว้ ัดปริมาณของลำดบั ขน้ั ในการกิน 1. พีรามิดจำนวนของสิ่งมีชีวิต (pyramid of number) แสดงจำนวนสิ่งมีชีวิตเป็นหน่วยตัวต่อพื้นท่ี โดยท่ัวไป พรี ะมิดจะมีฐานกว้าง ซึ่งหมายถึง มีจำนวนผู้ผลิตมากทีส่ ุด และจำนวน ผ้บู ริโภคลำดับต่าง ๆ ลดลงมา แตก่ ารวัดปริมาณ พลังงานโดยวธิ ีนี้ อาจมีความคลาดเคลอื่ นได้เน่ืองจากส่ิงมีชวี ิตไม่ว่าจะเปน็ เซลล์เดียว หรือหลายเซลล์ ขนาดเล็กหรอื ขนาด ใหญ่ เช่น ไส้เดือน จะนับเป็นหนึ่งเหมอื นกันหมด แตค่ วามเป็นจริงนนั้ ในแง่ปริมาณพลังงานท่ีได้รับหรืออาหารท่ีผู้บริโภค ได้รับจะมากกว่าหลายเทา่ ดังนัน้ จึงมีการพฒั นารปู แบบในรูปของพริ ามิดมวลของส่ิงมชี ีวิต 2. พีรามิดมวลของสิ่งมชี ีวิต (pyramid of mass) โดยพิรามิดนีแ้ สดงปริมาณของสง่ิ มีชีวิตในแต่ละลำดบั ขั้นของ การกินโดยใช้มวลรวมของน้ำหนักแห้ง (dry weight) ของสิ่งมีชีวิตต่อพ้ืนที่แทนการนับจำนวนพีรามิดแบบน้ีมีความ แม่นยำมากกว่าแบบท่ี 1 แต่ในความเป็นจริงจำนวนหรือมวล ของสิ่งมีชีวิต มีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา เช่น ตาม ฤดกู าลหรือ ตามอัตราการเจริญเติบโต ปจั จยั เหล่าน้ี จึงเป็นตัวแปร ทสี่ ำคญั อย่างไรกด็ ีถึงแม้มวลท่มี ากข้ึนเช่นต้นไมใ้ หญ่ จะผลติ เป็นสารอาหารของผู้บริโภคไดม้ ากแต่กย็ ังนอ้ ยกว่าทีผ่ ู้บริโภคไดจ้ าก สิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ เช่น สาหร่ายหรือแพลงก์ตอน ทงั้ ๆท่ีมวล หรอื ปรมิ าณของสาหร่ายหรอื แพลงก์ตอนนอ้ ยกว่ามาก ดังนั้น จงึ มกี ารพัฒนาแนวความคิดในการแก้ปัญหานี้ โดยในการเสนอรูปของพีรามดิ พลังงาน (pyramid of energy) 3. พีรามิดพลงั งาน (pyramid of energy) เปน็ ปริ ามิดแสดงปรมิ าณพลงั งานของแต่ละลำดับชน้ั ของการกนิ ซง่ึ จะมีคา่ ลดลงตามลำดับขั้นของการโภค

๔๘ บนั ทึกหลังสอน สปั ดาหท์ ่ี 4 วัน จนั ทร์ วนั ท่.ี ..29......เดือน...พฤศจิกายน...พ.ศ. ...2564..... ผลการเรยี นรู้ .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ปญั หาและอปุ สรรค .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงชอื่ .....................................................ผ้สู อน (นายจิรสั ย์พงษ์ วิเศษสิทธโิ ชค) ครู กศน.ตำบล ความคิดเห็นหวั หนา้ งานการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงชอื่ .............................................................. (นางสาวปัณณ์ปาลี ศิรธิ ุวานนท)์ งานการศึกษาขน้ั พ้ืนฐานนอกระบบ ข้อเสนอแนะของหัวหนา้ สถานศึกษา .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงช่อื .......................................................... (นายอำไพ ข่าขนั มะลี) รองผู้อำนวยการ สำนักงาน กศน.จังหวัดอ่างทอง รกั ษาการในตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอวิเศษชยั ชาญ

๔๙ แผนการจดั การเรยี นการสอนรายสปั ดาห์ ภาคเรียนท่ี ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔ ระดบั ประถมศึกษา กศน.อำเภอวิเศษชยั ชาญ สปั ดาหท์ ี่ ๕ วัน จนั ทร์ วันท่ี...29.......เดอื น...พฤศจกิ ายน ...พ.ศ....2564............เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. วชิ า วทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า พว 11001 จำนวน 3 หน่วยกติ มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดับ สงิ่ มีชวี ติ และส่ิงแวดลอ้ ม ประกอบดว้ ยส่ิงมชี วี ติ ระบบนเิ วศ ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดลอ้ มและการ อนรุ ักษ์ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ หนว่ ยการเรยี นร/ู้ เรอ่ื ง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มในท้องถนิ่ สาระสำคัญ ทรัพยากรธรรมชาติ หมายถึง สงิ่ ต่าง ๆ ทเ่ี กิดขน้ึ เองตามธรรมชาติ และมนุษย์สามารถนำมาใช้ ประโยชน์ได้ เช่น ดิน นำ้ อากาศ ป่าไม้ ท่งุ หญ้า แร่ธาตุ ฯลฯ ความหมายของความสำคญั ของทรัพยากรธรรมชาติ ประเภทของทรพั ยากรธรรมชาติผลกระทบของการสูญเสยี ทรัพยากรธรรมชาติ ผลกระทบท่ีเกิดขน้ึ กับชวี ติ ความหมาย และประเภทของสิ่งแวดล้อมในทอ้ งถน่ิ การปอ้ งกนั การเปลี่ยนแปลงของส่ิงแวดล้อมและแกป้ ัญหาส่ิงแวดล้อมในท้องถนิ่ เนือ้ หา เรื่องที่ 1. ทรพั ยากรธรรมชาติ เรื่องที่ 2. สิ่งแวดลอ้ ม จุดประสงค์การเรียนรู้/ผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวงั 1. สามารถอธบิ ายกระบวนการเปลี่ยนแปลงแทนที่ของสิ่งมีชีวิตได้ 2. สามารถอภิปรายการใช้ทรพั ยากรธรรมชาตสิ ภาพปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ 3. สามารถอธิบายสาเหตุของปัญหาวางแผนและลงมือปฏบิ ัติได้ 4. สามารถอธิบายการป้องกนั แกไ้ ข เฝา้ ระวงั อนรุ ักษ์ และ พัฒนาทรพั ยากรธรรมชาติและ สง่ิ แวดล้อมได้ 5. สามารถอธิบายปรากฏการณ์ของธรณวี ทิ ยาที่มีผลต่อสิ่งมชี วี ติ และส่ิงแวดลอ้ มได้ 6. สามารถอธบิ ายปรากฏการณ์ สภาวะโลกรอ้ น สาเหตุและผลกระทบต่อชวี ิตมนุษย์ได้ กระบวนการจัดการเรยี นรแู้ ละกจิ กรรมเพมิ่ เตมิ ข้ันท่ี 1 กำหนดสภาพปญั หา ความตอ้ งการ ครผู สู้ อนทกั ทายกล่าวนำ ถึงเรื่องการอนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ มในท้องถนิ่ ข้นั ที่ 2 แสวงหาขอ้ มูลและการจัดการเรียนรู้ ๑ ครูใหผ้ ู้เรียนสง่ ใบงานสัปดาห์ที่ ๔ และสรุปความรเู้ ร่ือง ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม ๒ ครูใหผ้ ู้เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ ในเรอื่ งทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมในท้องถน่ิ และแนวทางการ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มในทอ้ งถ่ิน ๓.ครูใหผ้ ู้เรยี นศึกษาเพ่ิมเติมจากแหลง่ เรียนรู้อื่นๆ และมอบหมายใบงานเร่ือง ทรัพยากรธรรมชาติและ สง่ิ แวดล้อมในท้องถน่ิ ส่งในสัปดาห์ท่ี ๖

๕๐ ขน้ั ที่ 3 การปฏิบัตแิ ละนำไปประยกุ ต์ใช้ ครสู รปุ องคค์ วามร้ทู ี่ได้จากการเรยี นรู้ เรื่อง ทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ มในท้องถนิ่ และสรุปความรู้ท่ี ผเู้ รียนสามารถนำไปประยุกตใ์ ช้ได้ ขนั้ ที่ 4 การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ประเมนิ ผลจากใบงาน ประเมนิ จากการสรุปผลการเรยี นรูร้ ่วมกัน สือ่ การเรียนรู้ หนังสือเรยี นวชิ าวิทยาศาสตร์ ระดับประถมศกึ ษา ใบงาน เร่ือง ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม ใบความ เรอื่ ง ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม อนิ เตอร์เน็ต การวดั ผลและประเมินผล ใบงาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ลงช่อื .....................................................ผู้สอน (นายจิรัสย์พงษ์ วิเศษสทิ ธิโชค) ข้อเสนอแนะของหัวหน้างานการศึกษาขั้นพื้นฐานนอกระบบ .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงช่อื .............................................................. (นางสาวปัณณป์ าลี ศริ ธิ วุ านนท)์ งานการศกึ ษาขน้ั พื้นฐานนอกระบบ ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษา .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ.......................................................... (นายอำไพ ข่าขนั มะลี) รองผู้อำนวยการ สำนักงาน กศน.จังหวดั อา่ งทอง รักษาการในตำแหนง่ ผ้อู ำนวยการ กศน.อำเภอวเิ ศษชัยชาญ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook