194 บทท่ี 11การใชท กั ษะกระบวนการทางคณติ ศาสตรใ นงานอาชีพสาระสําคญั ในการประกอบอาชีพตา ง ๆ ในสังคม ผูประกอบอาชพี ในหลายสาขา เชน เกษตรกรรม การประมงการกอสรา ง การบญั ชี งานบรกิ ารและการทองเทยี่ ว เปน ตน จาํ เปน ตอ งใชทกั ษะกระบวนการทางคณติ ศาสตรไ ปใชใ นการพัฒนาอาชีพใหมีความมนั่ คง เพ่อื เสรมิ สรางรายไดและผลกาํ ไรท่ีสูงขน้ึผลการเรียนรทู ค่ี าดหวัง 1. สามารถวเิ คราะหงานอาชีพในสังคมท่ีใชท กั ษะทางคณิตศาสตร 2. มคี วามสามารถในการเช่ือมโยงความรแู ละทกั ษะตา ง ๆ ทางคณิตศาสตรก ับงานอาชพี ไดขอบขา ยเนื้อหา ลกั ษณะประเภทของงานอาชพี ทีใ่ ชทกั ษะทางคณติ ศาสตร การนําความรทู างคณิตศาสตรไปเชอ่ื มโยงกบั งานอาชีพในสังคม เร่อื งที่ 1 เรื่องที่ 2
195เรอ่ื งที่ 1 ลักษณะ ประเภทของงานอาชีพทใี่ ชท ักษะทางคณติ ศาสตร 1.1 กลุมอาชีพเกษตรกรรม ไดแ ก อาชพี การทาํ นา ทาํ ไร การปลูกผัก การเล้ยี งสัตว ฯลฯ (1) ลกั ษณะงานเบอ้ื งตน ทใ่ี ชท กั ษะทางคณิตศาสตร 1. การสาํ รวจของตลาดทจี่ ะปลกู พชื เกษตรกรรม 2. การเตรียมพนื้ ทด่ี นิ ซงึ่ ขน้ึ อยูก บั ความกวาง ความยาวของพืน้ ทว่ี า ผปู ระกอบการใชพ้นื ทกี่ ไี่ ร ก่งี าน กตี่ ารางวา ในการทาํ แปลง ขุดรอง เพ่ือใชเปน พนื้ ที่นา 1 สวน พน้ื ทป่ี ลกู ผกั 1 สวน บอนํ้า 1 สว น การเลย้ี งสตั ว 1 สวน พนื้ ทีอ่ ยอู าศยั 1 สวน เปนตน 3. การเตรยี มเมลด็ พนั ธขุ าว ผกั และพืชพนั ธอุ นื่ ๆ(ภาพ) 4. การเตรียมปยุ วาใชข นาดกกี่ ิโลกรัมตอ ไร 5. การรดนํ้า พรวนดิน ซึง่ ตองกําหนดวา รดน้ําวนั ละ 2 ครง้ั ในปรมิ าณ มากนอ ยเทาไร 6. การฉดี ยาฆาแมลงโดยใชสารกําจดั ศตั รพู ืชทางชวี ภาพ เชน สะเดา และ สมนุ ไพรอนื่ ๆ เปนตน ใชค วามรเู รือ่ งอัตราสว น สดั สว นเพอ่ื ผสม ยากําจดั ศตั รูพชื กบั นํา้ กอนฉดี พน 7. การเก็บเกี่ยวผลผลิต ซ่ึงตองใชท กั ษะการคํานวณระยะเวลาต้ังแต การปลกู จนถงึ ระยะการเก็บเก่ยี วผลผลิต - การตรวจสอบความชื้นของวสั ดแุ ละสถานทเ่ี กบ็ ผลผลติ - การคํานวณพ้ืนทใี่ นการเกบ็ รักษาผลผลติ 8. การจาํ หนา ยผลผลติ ซึง่ ตองใชท กั ษะการจัดทาํ บญั ชรี บั – จาย การจดบนั ทกึ จาํ นวนและบนั ทกึ ของผลผลิตที่ได 9. การคํานวณภาษีเงนิ ไดบคุ คลธรรมดา
196 (2) เครื่องมือและเทคโนโลยีทใี่ ช 1. เครือ่ งคิดเลข 2. สมดุ บนั ทึกรายรับ รายจายหรอื คอมพวิ เตอรโ นต บคุ 3. สมุดจดบันทกึ ระยะเวลาการเจรญิ เตบิ โตต้ังแตการปลกู จนถึงการเก็บเก่ียว ผลผลติ (3) ความรูทางคณติ ศาสตรทใ่ี ช 1. การวดั ความยาว การหาพืน้ ท่ี 2. อตั ราสวนในการผสมปยุ ตอความกวางความยาวของพนื้ ท่ีดนิ 3. การชั่งผลผลติ ทไี่ ด 4. การกาํ หนดราคาขายตอ กโิ ลกรมั 5. การบวก ลบ คูณ หาร 6. การทาํ บัญชรี ายรบั รายจายประจําวัน 7. การคาํ นวณภาษีเงนิ ไดบคุ คลธรรมดา 1.2 กลมุ อาชีพอุตสาหกรรม ไดแก อาชีพพนกั งานในโรงงานอุตสาหกรรมตางๆ ไดแ ก อตุ สาหกรรมหอ งเยน็ ถว ยชามอปุ กรณเซรามิค ผา ขนหนู กระดาษและสง่ิ พมิ พ สแตนเลส เหลก็ พลาสติก ฯลฯ (1) ลกั ษณะงานเบอื้ งตน ทใ่ี ชท ักษะคณิตศาสตร 1. การคาํ นวณเงนิ รายไดประจําวนั 2. การคํานวณเงนิ คา ทํางานลว งเวลา 3. การคํานวณเงนิ กแู ละดอกเบ้ียคงท่ีหรือดอกเบ้ยี ทบตน 4. การทาํ บัญชีรายรบั – รายจา ยประจําวนั 5. การจัดทาํ บญั ชีพสั ดุ (การจดั ซ้อื การเบกิ จา ยพัสด)ุ 6. การสาํ รวจและวิจยั การตลาด
1977. การคํานวณภาษีเงนิ ไดบ คุ คลธรรมดา (2) เครือ่ งมือและเทคโนโลยที ใ่ี ช 1. เครื่องคดิ เลข 2. เครื่องคอมพิวเตอร 3. เคร่ืองจกั รอตุ สาหกรรมในแตล ะสาขาอตุ สาหกรรม 4. เครอื่ งบรรจภุ ณั ฑลงกลองหรือแพค็ เปน พลาสตกิ (3) ความรูและทกั ษะทางคณติ ศาสตรท่ใี ช 1. การคํานวณเงนิ รายไดป ระจําสัปดาห ประจาํ เดือนโดยหกั วันลาหยุด 2. การคํานวณเงนิ คา ทํางานลว งเวลาเปน จํานวนชั่วโมงตอ คา จางรายชวั่ โมง 3. การคาํ นวณเงนิ กูและดอกเบี้ย (ดอกเบี้ยคงท,ี่ ดอกเบยี้ ทบตน ) 4. การทาํ บญั ชีรับ – จา ยประจาํ วนั 5. การคาํ นวณภาษีเงนิ ไดบคุ คลธรรมดา 1.3 กลมุ อาชพี พาณิชยกรรม ไดแก อาชีพคา ขาย ผูประกอบการรานอาหารและเครอื่ งดื่มผูประกอบการขายปลีกและขายสง ธรุ กจิ การซอื้ ขายอสังหาริมทรัพย ธุรกจิ การซอ้ื ขายหนุ ในตลาดหลักทรัพย อาชีพการทําบัญชี การตลาด เปนตน(1) ลกั ษณะงานเบอ้ื งตน ทใ่ี ชทกั ษะคณติ ศาสตร 1. การจัดเตรยี มสถานท่ี การคํานวณการจดั วางโตะ เกา อ้ี หรือวัสดุ อุปกรณใ นการขาย 2. การจดั ซอื้ วตั ถดุ ิบในการคา ขายปลกี หรือขายสง 3. การจาํ หนายสินคา การคาํ นวณราคาสนิ คาตอ หนวย การทอนเงิน 4. การจัดทาํ บัญชีพัสดุ (การจดั ซ้ือ การเบกิ จายพสั ด)ุ 5. การจดั ทําบัญชรี ับ – จายประจําวัน 6. การฝากเงนิ การถอนเงิน การออมเงิน
198 7. การประชาสมั พนั ธใ นงานธรุ กจิ คาขายหรอื พาณิชยกรรม ซ่ึงตอ งใช ทักษะในการคํานวณขนาดของปา ยโฆษณา ขนาดตวั อกั ษร ขนาดและ จาํ นวนแผน พับหรือใบปลิวโฆษณา 8. การคํานวณภาษเี งนิ ไดบคุ คลธรรมดา (2)เคร่ืองมือและเทคโนโลยีทใ่ี ช 1. เคร่อื งคิดเลข 2. เครอื่ งเกบ็ เงนิ – ทอนเงนิ 3. เครื่องคอมพิวเตอร 4. เครอ่ื งไมโครเวฟ 5. เครอ่ื งปนนํ้าผลไม (3) ความรแู ละทกั ษะทางคณติ ศาสตรท ี่ใช 1. การคํานวณขนาดของพ้ืนทใี่ ชส อยเพอ่ื จดั วาง โตะ เกา อห้ี รอื วัสดุ อุปกรณใ นการขาย 2. การคํานวณปริมาณการจดั ซอื้ วตั ถุดิบในแตล ะวนั 3. การคาํ นวณในการจดั ซื้อพสั ดุ 4. การจดั ทําบญั ชีรบั – จายประจําวัน 5. การคํานวณขนาดของปายโฆษณา ประชาสัมพนั ธห รอื แผน พบั แผน ปลิว โฆษณา 6. การคาํ นวณภาษีเงนิ ไดบ คุ คลธรรมดา 1.4 กลมุ อาชีพดา นความคดิ สรางสรรค ไดแก ธุรกิจโฆษณา ธรุ กจิ การออกแบบตกแตง ทีอ่ ยูอาศยัสํานักงานและสวนหยอม การจัดดอกไมแ ละแจกนั ประดับ ธรุ กิจการทาํ พวงหรดี การจัดกระเชาของขวญัเปนตน
199 (1) ลกั ษณะงานเบอื้ งตน ทใ่ี ชท กั ษะคณติ ศาสตร 1. การจัดเตรียมขนาด ปริมาตร รูปทรงของพนื้ ทห่ี รอื ช้นิ งานในการจดั ทาํ ธรุ กจิ ซงึ่ ตองใชก ารวดั ความกวา ง ความยาว ความสูงของพ้ืนทหี่ รือ ชิ้นงาน การออกแบบรปู ทรงโดยใชร ูปเรขาคณิตสามมติ ิ 2. การคาํ นวณปรมิ าณของวสั ดุอปุ กรณใ นการใชประดษิ ฐส รางสรรค ช้นิ งาน หรอื การจดั ตกแตง สวนหยอ ม 3. การคํานวณเพอ่ื กาํ หนดราคาขายสินคา 4. การจัดทาํ บญั ชพี สั ดุ (การจดั ซือ้ การเบกิ จายพสั ด)ุ 5. การจดั ทําบัญชรี บั – จาย ประจําวนั 6. การประชาสมั พนั ธใ นอาชีพธรุ กจิ ทุกประเภท ซ่งึ ตอ งใชท ักษะใน การคํานวณเปน พื้นฐาน 7. การคํานวณภาษเี งนิ ไดบคุ คลธรรมดา (2) เคร่ืองมือและเทคโนโลยีทใ่ี ช 1. เครื่องคิดเลข 2. เคร่อื งคอมพวิ เตอร 3. โปรแกรมสาํ เร็จรปู ในการออกแบบสนิ คา (3) ความรแู ละทกั ษะทางคณติ ศาสตรทใ่ี ช 1. การคํานวณพืน้ ทผี่ วิ ปรมิ าตรของพน้ื ท่ีหรือออกแบบรปู ทรงทใ่ี ชใ น การทํางานอาชีพ 2. การคาํ นวณปรมิ าณของวสั ดุ อปุ กรณทใี่ ชประดษิ ฐ สรางสรรค ชนิ้ งาน 3. การคาํ นวณตน ทนุ และกาํ ไร เพอ่ื กําหนดราคาขายสนิ คา 4. การจดั ทาํ บญั ชีพสั ดุ 5. การจดั ทําบัญชรี บั – จายประจาํ วนั 6. การคํานวณภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดา 1.5 กลุมอาชพี บริหารจดั การและการบรกิ าร ไดแ ก อาชีพกลมุ งานบริการและการทองเทยี่ วงานบริการรกั ษาความปลอดภัย บรกิ ารดแู ลสตอ ก บรกิ ารดแู ลผสู งู อายุ บรกิ ารสันทนาการและการกีฬาเปน ตน
200(1) ลกั ษณะงานเบอื้ งตน ทใี่ ชท ักษะคณิตศาสตร 1. การสาํ รวจพื้นท่ใี นการใหบรกิ าร การคํานวณระยะทางในการใหบรกิ าร 2. การจัดซ้อื วสั ดุ อุปกรณใ นการใหบริการ 3. การรับสมคั รและกําหนดเงินเดอื นตามตาํ แหนงงานของเจา หนาท่ีใน การใหบรกิ าร 4. การจดั ทาํ ตารางเวลา การอยเู วร - ยามของเจาหนาทป่ี ระจาํ สาํ นกั งาน 5. การจัดทาํ กาํ หนดการทองเท่ยี วและการใหบรกิ าร รวมทงั้ กําหนด ราคาขายบริการในแตล ะพนื้ ที่ 6. การคาํ นวณการใชน้ํามนั เชือ้ เพลิงของยานพาหนะทใ่ี หบริการ 7. การจดั ทาํ บัญชพี ัสดุ และการเบกิ จา ยพัสดุ 8. การจัดทาํ บัญชีรบั – จา ยประจาํ วนั 9. การจดั ทาํ แผนปายโฆษณา ประชาสัมพนั ธก ารใหบ รกิ าร 10. การจดั ทาํ สรปุ รายงานและการนําเสนอขอ มลู 11. การคาํ นวณภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดา(2) เครอื่ งมอื และเทคโนโลยีทใ่ี ช 1. เคร่ืองคิดเลข 2. เครือ่ งคอมพวิ เตอร 3. เครื่องออกกาํ ลังกาย 4. อุปกรณใ นการเตรยี มอาหาร นํ้าดื่ม นมแกท ารกและผสู งู อายุ 5. ยานพาหนะในการใหบรกิ าร 6. แผนท่ีของสถานทห่ี รอื จุดท่ีใหบ รกิ าร
201(3) ความรูและทกั ษะทางคณติ ศาสตรท ใี่ ช 1. การคํานวณพนื้ ท่ีและการวดั ระยะทาง 2. การคํานวณปรมิ าณของวัสดุ อปุ กรณท จ่ี ําเปน ตอ งจดั ซอ้ื จดั หา เพอ่ื ใหบริการ 3. การคํานวณเงนิ เดอื นและกาํ หนดตําแหนง งานของเจา หนา ที่ 4. การจดั ทาํ ตารางการปฏบิ ัตงิ าน 5. การคาํ นวณการใชเ ชือ้ เพลิงรถยนตตอ ระยะทางทใี่ หบรกิ าร 6. การจดั ทําบญั ชีเบ้ืองตน 7. การใชส ถติ ใิ นการจัดทาํ สรุปรายงานหรอื นําเสนอขอ มูล 8. การคํานวณภาษเี งนิ ไดบคุ คลธรรมดาเร่ืองที่ 2 การนาํ ความรทู างคณิตศาสตรไปเช่ือมโยงกับงานอาชีพในสงั คม คณติ ศาสตรเ ปน วชิ าที่วาดว ยเหตุผล กระบวนการคิดและแกปญหาเสริมสรา งใหมกี ารคิดอยางมีวจิ ารญาณเปน ระบบเปนคนมีเหตผุ ล มที ักษะการแกป ญ หา สามารถวเิ คราะหปญ หาและสถานการณไดอยางถี่ถวน รอบคอบ การเชอื่ มโยงความรตู า ง ๆ ทางคณติ ศาสตรก ับงานอาชีพเปน การนาํ ความรูและทักษะ/กระบวนการตาง ๆ ทางคณติ ศาสตรไ ปสมั พันธก ับเน้ือหาและความรขู องงานอาชีพอยางเปน เหตเุ ปน ผล ชวยในการตัดสนิ ใจในงานอาชีพ เชน การใชต ารางและกราฟประกอบการใชส ถิติมาชว ยในการวเิ คราะหงานอาชพี เพอ่ืสาํ รวจความตองการสนิ คาเพือ่ การผลิต ใชร อ ยละในการคดิ คํานวณดอกเบีย้ ภาษี กําไรขาดทนุ เปนตน2.1 ทักษะการจัดทําบญั ชรี ายรบั – รายจา ยประจาํ วันตัวอยาง การจดั ทาํ บญั ชรี ายรบั – รายจายประจําวนั ของผูประกอบการรา นอาหารวันท่ี 25 กนั ยายน 2554 จา ยคา ซ้ือวัตถุดิบในการขายอาหาร 3,000 บาท คา นํ้า คาไฟฟา 850 บาท คาอาหาร 250 บาท ไดร บั เงนิ จากการขายอาหาร 6,500 บาทวนั ที่ 26 กนั ยายน 2554 จายคา โทรศพั ท 650 บาท จายคา นา้ํ มนั รถยนต 1,400 บาท จา ยคาอาหาร 280 บาท จา ยคาผลไม 150 บาท ไดรับเงนิ จาก การขายอาหาร 5,400 บาท
วนั ที่ 27 กนั ยายน 2554 202วันที่ 28 กนั ยายน 2554 จา ยคาหนงั สอื พมิ พ 480 บาท จา ยคาอาหาร 310 บาท จายคา นํ้าด่ืม 270 บาท จายคาซอมรถยนต 4,800 บาท ไดร บั เงนิ จากการขายอาหาร 4,500 บาท จายคาอาหาร 240 บาท จา ยคาบตั รการกศุ ล 1,000 บาท ซือ้ ถุงพลาสตกิ ใสอาหาร 550 บาท ไดร บั เงินจากการขายอาหาร 6,800 บาทตัวอยา ง การจัดทําบัญชรี ายรบั – รายจายประจาํ วันของผูป ระกอบการรา นอาหารวนั เดือน ป รายการรบั จํานวนเงนิ วนั เดือน ป รายการจา ย จาํ นวนเงนิ25 ก.ย. 54 ไดเงินจากการขาย บาท สต. บาท สต. 3,000 - อาหาร 6,500 - 25 ก.ย. 54 ซื้อวตั ถุดิบในการ 850 -26 ก.ย. 54 ไดเงนิ จากการขาย ขายอาหาร 250 - อาหาร 650 - คา น้าํ คา ไฟฟา 1,400 -27 ก.ย. 54 ไดเ งินจากการขาย 280 - อาหาร คา อาหาร 150 - 480 -28 ก.ย. 54 ไดเงนิ จากการขาย 5,400 - 26 ก.ย. 54 คาโทรศัพท 310 - อาหาร 270 - คานาํ้ มันรถยนต 4,800 - รวม 240 - คา อาหาร 1,000 - 550 - คาผลไม 14,230 - 4,500 - 27 ก.ย. 54 คา หนงั สอื พมิ พ 8,970 - คาอาหาร คานา้ํ ดื่ม คาซอ มรถยนต 6,800 - 28 ก.ย. 54 คาอาหาร คาบัตรการกุศล ซื้อถงุ พลาสตกิ ใส อาหาร 23,200 - รวม ยอดคงเหลือยกไป เม่ือจัดทําบัญชีรายรับและรายจายประจาํ วนั แลว ผูเรียนจะคํานวณยอดคงเหลอื ซ่งึ ไดจ ากการนํารายรับไปลบกับรายจาย เม่อื จัดทาํ บญั ชีในหนาถัดไปหรอื ในเดือนถัดไปก็จะนํายอดคงเหลอื ไปบนั ทึกในรายการของรายรับในหนาถัดไป ซงึ่ จะไปเปน ยอดรายการรบั รวมกบั รายการรับเงินทจี่ ะไดจ ากการรบั เงินจากการขายอาหารในวนั ตอ ๆ ไป
2032.2 ทักษะการคํานวณรายไดและการแลกเปลี่ยนเงนิ ตราตวั อยา งบรษิ ัทแหง หนง่ึ สั่งซ้อื เครอื่ งจักรจากตางประเทศราคา 45,000 ดอลลารส หรฐั เมื่อสนิ คา สง มาถงึ เมืองไทยตองผา นพธิ กี ารศุลกากร เสียภาษศี ุลกากร 10% ภาษีมูลคาเพิ่ม 7% คาธรรมเนียมและคา บรกิ ารตา ง ๆ รวม 4,000 บาท ราคาเครื่องจักรและคา ใชจา ยทงั้ หมดรวมเปน เงนิ เทา ไร (1 ดอลลารสหรัฐ เทา กับ 30.42 บาท)วธิ ีทํา ราคาเครอ่ื งจกั ร 45,000 × 30.42 = 1,368,900 บาท เสยี ภาษีศลุ กากร 10% = 1,368,900 × 10 = 136,890 บาท 100 7 เสียภาษีมูลคา เพ่มิ 7% = 1,368,900 × 100 = 95,823 บาท ราคาเครื่องจกั รและคาใชจ า ยท้ังหมด รวมเปนเงนิ = ราคาเครือ่ งจกั ร + ภาษศี ุลกากร + ภาษีมลู คา เพมิ่ + คา ธรรมเนยี มและคา บรกิ ารตาง ๆ = 1,368,900 + 136,890 + 95,823 + 4,000 = 1,605, 613 บาท2.3 การคดิ คาํ นวณดอกเบยี้ สินเช่ือธนาคารตัวอยา งบริษทั สงั่ ซ้ือเครือ่ งจกั รจากตัวอยางขา งตน บรษิ ทั ไดข อสินเชื่อจากธนาคารไดร บั สทิ ธใิ นการผอนชาํ ระ เคร่ืองจกั รเปน รายเดอื น เดอื นละ 120,000 บาท คิดดอกเบยี้ ปละ 7.5% เมื่อผอนชําระครบ 1 ป จะตอง เสยี เงินท้ังหมดเทา ไรวิธที าํ ดอกเบยี้ = เงนิ ตน อัตราดอกเบย้ี ระยะเวลา 100 7.5 1 เดือนท่ี 1 เสยี ดอกเบยี้ = 1,368,900 100 12 = 8,555.63 บาท เดือนท่ี 2 เงนิ ตน คงเหลอื = 1,368,900 – 120,000 = 1,248,900 บาท เสียดอกเบี้ย = 1,248,900 7.5 1 = 7,805.63 บาท 100 12 เดือนที่ 3 เงนิ ตน คงเหลือ = 1,248,900 – 120,000 = 1,128,900 บาท เสยี ดอกเบี้ย = 1,128,900 7.5 1 = 7,055.63 บาท 100 12
204เดือนที่ 4 เงนิ ตน คงเหลือ = 1,128,900 – 120,000 = 1,008,900 บาทเสยี ดอกเบย้ี = 1,008,900 7.5 1 = 6,305.63 บาท 100 12เดือนท่ี 5 เงินตนคงเหลือ = 1,008,900 – 120,000 = 888,900 บาทเสยี ดอกเบยี้ = 888,900 7.5 1 = 5,555.63 บาท 100 12เดอื นที่ 6 เงินตนคงเหลอื = 888,900 – 120,000 = 768,900 บาทเสียดอกเบยี้ = 768,900 7.5 1 = 4,805.63 บาท 100 12เดือนท่ี 7 เงินตน คงเหลือ = 768,900 – 120,000 = 648,900 บาทเสยี ดอกเบยี้ = 648,900 7.5 1 = 4,055.63 บาท 100 12เดือนท่ี 8 เงินตน คงเหลือ = 648,900 – 120,000 = 528,900 บาทเสยี ดอกเบย้ี = 528,900 7.5 1 = 3,305.63 บาท 100 12เดอื นที่ 9 เงนิ ตนคงเหลือ = 528,900 – 120,000 = 408,900 บาทเสยี ดอกเบย้ี = 408,900 7.5 1 = 2,555.63 บาท 100 12เดือนที่ 10 เงนิ ตน คงเหลือ = 408,900 – 120,000 = 288,900 บาทเสยี ดอกเบี้ย = 288,900 7.5 1 = 1,805.63 บาท 100 12เดือนที่ 11 เงนิ ตนคงเหลอื = 288,900 – 120,000 = 168,900 บาทเสยี ดอกเบี้ย = 168,900 7.5 1 = 1,055.63 บาท 100 12เดือนที่ 12 เงนิ ตน คงเหลือ = 168,900 – 120,000 = 48,900 บาทเสียดอกเบี้ย = 48,900 7.5 1 = 305.63 บาท 100 12เม่อื ผอ นชาํ ระครบ 1 ป จะตองเสยี เงินท้งั หมด = ราคาเคร่ืองจักร + ดอกเบี้ย 12 เดือน = 1,368,900 + 8,555.63 + 7,805.63 + 7,055.63 + 6,305.63 + 5,555.63 + 4,805.63 + 4,055.63 + 3,305.63 + 2,555.63 + 1,805.63 + 1,055.63 + 305.63 = 1,422,067.56 บาท
2052.4 การคํานวณกาํ ลังการผลิต (อัตราสวน/สดั สวน)ตัวอยางเครอ่ื งจกั รบรรจนุ ํา้ ตาลทรายขนาด 8 กรัม ไดน าทีละ 100 ซอง ทาํ งานวันละ 8 ชัว่ โมง เคร่อื งจักรจะทําการบรรจุไดกซี่ องวิธที าํ อัตราสว นของเวลาทใ่ี ชใ นการบรรจุตอ จาํ นวนซองเทากับ 1 นาที ตอ 100 ซอง หรือ 8 ชว่ั โมง ตอ A (8 ชัว่ โมง 60 นาที : A) นนั่ คือ 1 : 100 = 8 60 : A 1 = 480 100 A A = 480 100 A = 48,000 ดังนัน้ เครอ่ื งจกั รบรรจุนํ้าตาลทรายขนาด 8 กรัม วนั ละ 8 ช่วั โมง เทา กับ 48,000 ซอง2.5 การคาํ นวณรายได (รอ ยละ อตั ราสว น สดั สว น)ตัวอยางพนกั งานไดร บั เงนิ เดอื น ๆ ละ 12,000 บาท คาเบ้ยี ขยัน 10%ของเงินเดือน คาลวงเวลาไดช ัว่ โมงละ 50 บาท เดอื นนี้ทาํ งานลว งเวลา 8 วนั ๆ ละ 3 ชวั่ โมง หกั เงนิ คา ประกันสังคม 5% ของเงนิ เดอื น พนกั งาน คนนี้จะไดรบั เงนิ เทาไรวธิ ที าํ คา เบยี้ ขยัน = 10 12,000 = 1,200 บาท 100 อตั ราสวนของจํานวนชวั่ โมงลวงเวลา : รายได เทา กับ 1 ชว่ั โมง ตอ 50 บาท นัน่ คือ 8 3: รายได = 1 : 50 24: รายได = 1 : 50 24 = 1 รายได 50 รายได = 24 50 = 1,200 บาท คา ประกนั สงั คม = 5 12,000 = 600 บาท 100 พนักงานคนน้ไี ดรับเงิน = เงินเดือน + เบย้ี ขยนั + คา ลว งเวลา – คาประกันสังคม = 12,000 + 1,200 + 1,200 – 600 = 13,800 บาท
2062.6 ทักษะการคํานวณภาษเี งนิ ไดบคุ คลธรรมดาตวั อยา งท่ี 5 โอฬารมรี ายไดจ ากการประกอบอาชพี เดือนละ 10,500 บาท ไมม คี รอบครวั เมอื่ ย่นื แบบคาํ นวณภาษี มสี ทิ ธหิ กั คาใชจา ยได 40% ของรายไดแ ตไ มเกิน 60,000 บาทคาลดหยอ นผูม ีเงินได 30,000 บาท สนิ้ ปโอฬารจะตองชําระภาษหี รอื ไมวิธีทาํ เงนิ ไดพ งึ ประเมินของโอฬารตลอดป = 10,500 12 = 126,000 บาทหกั คาใชจา ยไดรอ ยละ 40 ของเงนิ ไดพงึ ประเมิน = 40 126,000 = 50,400 บาท 100หกั คา ลดหยอนผูม ีเงนิ ได 30,000 บาทเงินไดส ุทธทิ ่ตี อ งคํานวณภาษี = เงินไดพึงประเมิน – (เงินหักคาใชจ า ย + คา ลดหยอน) = 126,000 – (50,400 + 30,000) = 45,600 บาทกรมสรรพากรกําหนดใหผ ูม เี งนิ ไดสทุ ธติ งั้ แต 0 ถึง 150,000 บาท ไดร บั การยกเวน ภาษีดังน้ัน โอฬารตอ งย่นื แบบภาษเี งนิ ไดบคุ คลธรรมดา (ภ.ง.ด.91) แตไมต อ งชาํ ระเงินเพราะไดรบั การยกเวนภาษี ดงั ตาราง ตารางอัตราภาษเี งนิ ไดบ คุ คลธรรมดาขน้ั เงนิ ไดส ุทธติ ้ังแต เงนิ ไดส ุทธิ เงนิ ไดส ุทธิ อัตราภาษี ภาษเี งนิ ได ภาษใี นแตละ ภาษสี ะสม จาํ นวนสงู สดุ แตล ะข้นั รอยละ ข้ันเงนิ ได สงู สดุ ของขั้น ของขน้ั0 ถงึ 100,000 100,000 .............. .... 5 .............. .... ยกเวน 0เกนิ 100,000 ถึง 150,000 50,000 .............. .... 10 .............. .... ยกเวน 0เกิน 150,000 ถึง 500,000 350,000 .............. .... 10 .............. .... 35,000 35,000เกนิ 500,000 ถงึ 1,000,000 500,000 .............. … 20 .............. … 100,000 135,000เกิน 1,000,000 ถึง 4,000,000 3,000,000 .............. … 30 .............. … 900,000 1,035,000เกนิ 4,000,000 บาทขนึ้ ไป .............. … 37 .............. … รวม
2072.7 การทําปายจากแผน อะครลี ิกตวั อยางทาํ ปา ยจากแผนอะครีลิกตดิ หนาหองตาง ๆ ดังน้ี หองประชมุ Meeting Room หองแสดงสนิ คา Show Room หองเกบ็ ของ Store Room ปายท้ัง 3 ทําดว ยแผน อะครีลิกหนา 3 มม. สีขาว โดยมีขนาดกวาง 8 นิว้ ยาว 21 น้วิ โดยทางรา นคิดคาใชจายการจัดทําตารางฟตุ ละ 165 บาท จะตองเสยี คา ใชจ า ยทาํ ปายทัง้ สามเทา กบั เทาไรวิธีทํา ปา ยมคี วามกวา ง 8 นว้ิ = 8 ฟุต 12 21 ความยาว 21 น้ิว = 12 ฟตุ พ้ืนทปี่ ายทงั้ หมด = 8 1221 3 = 3.5 ตารางฟตุ 12 เสยี คา ใชจา ยทาํ ปาย = 3.5 165 = 577.50บาท
208 แบบฝก หดั1. จงจัดทําบัญชรี ับจา ยประจาํ วันของนายสมพร ซ่งึ ประกอบอาชีพเปน ผขู ายปาทองโก ในเวลา 5 วนัดังรายการดงั น้ีวันที่ 1 ตลุ าคม 2554 ยอดเงินคงเหลอื มาจากเดือนกนั ยายน 2554 8,000 บาท จา ยคา ซือ้ แปง สาลีและวัตถุดบิ อน่ื ๆ 2,500 บาท จา ยคาแกสหุงตม 350 บาท คา อาหาร 270 บาท ไดร ับเงนิ จากการขายปาทอ งโก 4,800 บาทวนั ท่ี 2 ตุลาคม 2554 จา ยคา นํา้ คาไฟฟา 840 บาท คา อาหาร 320 บาท คาถงุ พลาสตกิ 200 บาท คาถงุ กระดาษ 100 บาท ไดร ับเงนิ จากการขายปาทอ งโก 4,200 บาทวนั ที่ 3 ตุลาคม 2554 จายคาโทรศพั ท 430 บาท คาอาหาร 290 บาท จายคา หนังสอื เรียนลูก 950 บาท คานา้ํ ดืม่ 160 บาท ไดร บั เงนิ จากการขายปาทอ งโก 3,900 บาทวนั ท่ี 4 ตลุ าคม 2554 จายคาเสือ้ ผา 1,250 บาท คาอาหาร 340 บาท ซื้อแปงสาลีและวตั ถดุ บิ อนื่ ๆ 2,000 บาท ไดร ับเงนิ จากการขายปาทองโก 4,500 บาทวันที่ 5 ตลุ าคม 2554 จายคาอาหาร 250 บาท คาน้ําดื่ม 120 บาท จา ยคา หนังสอื พมิ พ 480 บาท ไดร บั เงินจากการขายปาทองโก 3,800 บาท2. ใหผ ูเรยี นจดั ทําบญั ชรี ับ – จา ยประจาํ วนั ของตนเองในเวลา 1 สัปดาห ตามความเปนจริง พรอมทั้งสรุปรายรบั รายจาย และยอดเงินคงเหลือ________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________
2093. รานเฟอรนิเจอรแหงหนง่ึ ซอ้ื เฟอรนเิ จอรค รบ 25,000 บาท (ราคาสนิ คา + ภาษมี ูลคาเพ่ิม) ไดล ด 10% ราคาเฟอรนิเจอร และทุกรายการตอ งเสียภาษีมลู คาเพมิ่ 7% สมรตอ งการซ้อื เตยี งนอน ตเู สอ้ื ผา และโตะ สมรตองจา ยเงนิ เทาไรประเภท ราคา หากสมรซอ้ื เฟอรนิเจอรทกุ รายการในตาราง สมรตองจา ยเงนิ เทา ไรเตยี งนอน 6,000ตูเส้อื ผา 8,500เกาอ้ี 600โตะ 5,500ตตู ิดผนงั 3,200 __________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________4. อมรมเี งินสด 500,000 บาท อมรควรนาํ เงนิ สดไปออมประเภทใด จึงจะไดผลตอบแทนมากทส่ี ดุ ในระยะเวลา 1 ป จงบอกเหตุผล (1) ฝากออมทรพั ยไ ดด อกเบ้ยี รอ ยละ 0.75 บาท/ป (2) ฝากประจาํ 4 เดอื นไดดอกเบี้ยรอ ยละ 3.42 บาท/ป กรณฝี ากประจําตอ งเสียภาษี 15% ของดอกเบีย้ (3) ซ้อื สลากออมสิน ฉบับละ 50 บาทไดด อกเบ้ยี ฉบับละ 2.50 บาท เมอ่ื ฝากครบ 3 ป ฝากครบ 1 ป ไดด อกเบีย้ ฉบับละ 0.25 บาท และมสี ิทธิถูกรางวัลเลขทา ย 4 ตวั รางวลั ละ 150 บาท จํานวน 2 รางวัล/เดอื น________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________
2105. จาํ นงเปน พนกั งานขายอุปกรณก ารแพทยไ ดค าตอบแทนเดือนละ 15,000 บาท แตย งั ไมม ีครอบครวั ส้ินปม สี ทิ ธิหักคาใชจ า ยรอ ยละ 40 ของเงินไดพงึ ประเมิน แตไมเ กนิ 60,000 บาท หกั ลดหยอ น ผมู เี งนิ ได 30,000 บาท หกั คาเบี้ยประกนั ชีวิต 10,000 บาท สนิ้ ปย่ืนแบบแสดงรายการภาษเี งนิ ได บุคคลธรรมดาตอ งชาํ ระภาษหี รอื ไม ถาชําระตอ งชาํ ระภาษเี ทาไร____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________6. การใชสถิติชว ยในการวเิ คราะห (สถติ )ิ พ. ค. ชน้ิ 400 350 300 250 200 150 100 50 0 ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. บรษิ ทั แหง หนง่ึ จําหนายกระเปาไดต ามกราฟขางตน เมื่อพจิ ารณาจากกราฟ บรษิ ัทแหงนค้ี วรดาํ เนนิ การอยางไร________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________
2117. พนกั งานไดรับคา จา งรายวนั วนั ละ 215 บาท ไดค าลวงเวลา 1.5 เทาของรายได ทํางานปกติ 5 วัน ทาํ ลว งเวลา 3 วนั พนกั งานคนนี้ไดรบั คา จา งเทา ไร________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________8. ถา ตองการดแู นวโนมผลกาํ ไรของธุรกจิ ยอนหลัง 3 ป ควรใชแผนภูมิชนิดใดในการวิเคราะห________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________9. ทําแผนปายตดิ หนา หอ งตา งๆ ดงั นี้ หองประชุม 1 Meeting Room 1 สตูดิโอ Studio หอ งประชมุ 2Meeting Room 2 ปายท้ัง 3 ทาํ ดว ยแผน อะครลิ กิ หนา 2 มม. สคี รมี โดยมขี นาดกวา ง 10 นิว้ ยาว 21 น้วิ โดยทางรานคดิ คา ใชจ า ยตารางฟุตละ 185 บาท ตอ งเสียคา ใชจายท้งั หมดเทาไร________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________
212เฉลยแบบฝกหดั
213 เฉลย บทท่ี 1 จํานวนและการดําเนนิ การแบบฝกหดั ท่ี 11. จงเลอื กจาํ นวนเตม็ บวก จาํ นวนเต็มลบ และจํานวนเต็มจากจาํ นวนตอ ไปนี้-1, 4 , 0, -3, 500 , 500 2 1000 250จาํ นวนเตม็ บวก ประกอบดวย 4 500 250 2จํานวนเตม็ ลบ ประกอบดว ย-1-3 500 250จาํ นวนเตม็ ประกอบดวย -1, 4 , 0, -3, 22. จงเตมิ เคร่ืองหมาย <หรือ>เพ่อื ใหประโยคตอ ไปนเี้ ปนจริง 1) -4 ...............<................. 3 2) -4 ..............<................. -3 3) -2 ..............>............... -5 4) 4................>................ -2 5) 4................>................. -83. จงเรยี งลําดบั จํานวนเต็มจากนอยไปหามาก 1) -2, -8, -4, -15, -20, -7 ………-20, -15, -8, -7, -4, -2………………… 2) 4, -8, 0, -2, 16, -17 ………-17, -8, -2, 0, 4, 16 ……………………
214แบบฝก หดั ที่ 21. จงเตมิ คําวา “มากกวา” หรอื “นอ ยกวา ” หรอื “เทากบั ” 1) คา สัมบรู ณของ (-3)..................เทา กับ...........คา สัมบูรณข อง 3 2) จาํ นวนตรงขามของ (-4) ...........มากกวา..........................จาํ นวนตรงขา มของ 4 3) จาํ นวนตรงขา มของ 5 ...............นอ ยกวา ..........................จาํ นวนตรงขามของ -5 4) คาสมั บูรณของ A...........เทา กับ...................คาสมั บรู ณข อง(-A) เมอื่ A เปนจาํ นวนใดๆ 5) จํานวนตรงขา มของ A .....นอ ยกวา......จาํ นวนตรงขามของ (-A) เมื่อA เปนจาํ นวนใดๆ2. จงเตมิ เครอื่ งหมาย <,>หรือ = ลงในชองวาง 1) – (- 5) .....................=...........................5 2) จาํ นวนตรงขามของ 8 ..................<..................................8 3) จํานวนตรงขามของ (-8).................>................................(-8) 4) 25................. ..................... 25 5) 20 ................. ....................... 20 6) 25................. .......................... 5 7) จาํ นวนตรงขา มของ (-2) ..........................<.........................จาํ นวนตรงขา มของ(-7) 8) จํานวนตรงขามของ 32........................>...............................จํานวนตรงขามของ 77
215แบบฝก หดั ท่ี 31. จงแสดงการหาผลบวกของสองจํานวนท่ีกาํ หนดให โดยใชเสน จาํ นวน 1. 3+2 2. (-3)+(-2) 3. 2+1 4. (-2)+(-1) 5. 5+ (-1) 6. (-1) +5 7. (-5) +3 8. 3 + (-5) -4 -3 -2 -1 0 1 2 3
2162. จากผลการบวกโดยใชเสนจํานวน จงเติมคาํ ตอบตอไปนใ้ี หส มั บูรณประโยคแสดงผลบวกของ a+b คาสัมบรู ณข อง a คา สมั บูรณข อง b คา สัมบรู ณของ(a+b) ผลบวกของ a กับ b เทา กนั หรอื ไมก ับ a b1. 3+2 = 5 3 2 52. (-3)+(-2) = -5 3 2 5 เทากนั3. 2+1 = 3 2 1 3 เทากัน4. (-2)+(-1) = -3 2 1 3 เทา กนั5. 5+ (-1) = 4 5 1 6 เทา กัน6. (-1) +5 = 4 1 5 6 เทากัน7. (-5) +3 = -2 5 3 8 เทากัน8. 3 + (-5) = -2 3 5 8 เทา กัน เทากัน
217แบบฝก หดั ที่ 4 4. (-5) – (-8)1. จงทาํ ใหเ ปนผลสาํ เรจ็ วธิ ที าํ (-5) – (-8) = (-5) + 8 1. (-12) – 7 =3วธิ ีทํา (-12) – 7 = (-12) + (-7)= - 19 2. 7 – (-12) 5. [8 – (-2)]– 6วธิ ีทํา 7 – (-12) = 7 + 12 วธิ ีทํา [8 – (-2)]– 6 = [ 8 + 2] + (-6) = 19 = 10 + (-6) =4 3. (-8) – (-5)วธิ ที ํา (-8) – (-5) = (-8) + 5 6. 8 –[(-2) – 6] วธิ ีทํา 8 –[(-2) + (-6)] = 8 – (-8) = -3 =8+8 = 162. จงหาคาของ a – b และ b – a เม่ือกาํ หนด a และ b ดงั ตอ ไปน้ี 1. a = 5, b = (-3) b – a = (-3) – 5วธิ ีทํา a – b = 5 – (-3) = (-3) + (-5) = -8 =5+3 =8 b – a = (-6) – (-14) 2. a = (-14), b = (-6) = (-6) + 14วิธที ํา a – b = (-14) – (-6) =8 = (-14) + 6 b – a = (-4) – (-4) = (-8) = (-4) + 4 3. a = (-4), b = (-4) =0วธิ ีทํา a – b = (-4) – (-4) = (-4) + 4 =0
แบบฝก หดั ที่ 5 218จงหาผลลพั ธ1). [(-3) (-5)] (-2) 6). (-5) [6 + (-6)]วิธที าํ [(-3) (-5)] (-2) = 15 (-2) วธิ ที ํา (-5) [6 + (-6)] = (-5) 0 = (-30) =02). (-3) [(-5) (-2)] 7). [(-7) (-5)] + [(-7) 2]วิธที าํ (-3) [(-5) (-2)] = (-3) 10 วธิ ีทํา [(-7) (-5)] + [(-7) 2] = 35 + (-14) = -30 = 213). [4 (-3)] (-1) 8). (-7) [(-5) + 2]วิธที ํา [4 (-3)] (-1) = (-12) (-1) วิธีทํา (-7) [(-5) + 2] = (-7) (-3) = 12 = 214). 4 [(-3) (-1)] 9). [5 (-7)] + [5 3]วธิ ที ํา 4 [(-3) (-1) ] = 4 3 วิธีทํา [5 (-7)] + [5 3] = (-35) + 15 = 12 = (-20)5). [(-5) (-6)] + [(-5) (-6)] 10). 5 [(-7) + 3]วธิ ที าํ [(-5) (-6)] + [(-5) (-6)] = 30+30 วธิ ีทํา 5 [(-7) + 3] = 5 (-4) = 60 = (-20)
219แบบฝกหดั ท่ี 61. จงเติมคาํ ตอบใหสมบูรณเ พ่อื แสดงหลักของความสมั พนั ธร ะหวางการหารและการคูณ ตอ ไปนี้ประโยคท่ีแสดงความสมั พนั ธ a bc ประโยคทแี่ สดงความสัมพนั ธ a b c หรือ a c b10 = 5 x 2 10 5 = 2 หรือ 10 2 = 535 = 7 x 5 35 7 = 5 หรือ 35 5 = 733 = 3 x 11 33 3 = 11 หรอื 33 11 = 3(-14) = 7 x (-2) (-14) 7 = (-2) หรอื (-14) (-2) = 7(-21) = 7 x (-3) (-21) 7 = (-3) หรอื (-21) (-3) = 7(-15) = 3 x (-5) (-15) 3 = (-5) หรือ (-15) (-5) = 310 = (-5) x (-2) 10(-5) = (-2) หรือ 10(-2) = (-5)จงหาผลหาร 4. (-72) 91. 17 17 วธิ ีทํา (-72) 9 = -8วิธที าํ 17 17 = 1 5. [(-51) (-17)] [15 (-5)]2. 23 (-23) วิธที ํา [(-51) (-17)] [15 (-5)] = 3 (-3)วิธที ํา 23 (-23) = -1 = -13. 15 (-3) 6. [(-72) 9][ 16 (-2)]วธิ ที าํ 15 (-3) = -5 วธิ ที ํา [(-72) 9][ 16 (-2)]= (-8) (-8) =1
220แบบฝกหดั ที่ 71. จงเติมจาํ นวนเต็มในชองวางทเ่ี วน ไวเ พื่อใหแ ตละประโยคตอ ไปน้เี ปนจริง1.1 5 1.2 (-5)1.3 7 1.4 61.5 (-9) 1.6 (-5)1.7 (-13) 1.8 131.9 0 1.10 (-3)2. เมื่อกาํ หนดให a = 8, b = 10, c = 3 และ d = -6 จงหาคา ของ ac bd abวิธีทาํ 8 3 10 6 24 60 8 10 18 36 18 = (-2)
221แบบฝกหดั ที่ 1 เฉลย บทที่ 2 เศษสวนและทศนยิ ม1. จงเติมเศษสวนลงใน 1) ใหถ กู ตอง2)2. จงเขยี นเสน จาํ นวนแลว หาจุดท่ีแทนจาํ นวนตอไปนี้ 1) 4 , 1 1 , 20 8 280 1 232)1 1 , 4 3 , 29 2 66 * 11 23. จงเขยี นจาํ นวนตอไปนใี้ หอยใู นรูปของทศนยิ ม1. 6 = 0.6 2. 12 0.12 0.357 10 1003. 357 4. 1 2 3 0.123 1000 10 100 1000
222แบบฝกหดั ที่ 21. จงเปล่ยี นเศษสว นตอ ไปนใี้ หเปน ทศนิยม โดยการทาํ สวนใหเปน 10 , 100 ,1,000,.......1) 9 = 225 = 2.25 2) 1 3 = 175 = 1.75 4 100 4 1003) 39 = 97.5 = 0.975 4) 7 = 28 = 0.28 40 100 25 1005) 1 = 125 = 0.125 6) 8 = 64 = 0.064 8 1000 125 10002. จงเปล่ยี นเศษสวนตอไปนใ้ี หเปน ทศนยิ ม โดยการหารเศษสว น1) 9 = 0.81 2) 3 1 = 3.14 11 73) 7 = 0.4375 4) 5 = 1.25 16 45) 5 = 0.83 6) 8 3 = 8.6 6 5
223แบบฝกหดั ที่ 3 เพื่อใหไ ดเ ศษสวนท่ีเทา กัน1. ใหเตมิ ตัวเศษหรือตวั สวนของเศษสว นลงใน2. ใหเ ตมิ เครือ่ งหมาย > , <หรอื = ลงใน ใหถกู ตอง
2243. ใหนักศกึ ษาเตมิ เครอื่ งหมาย >, <หรอื = ระหวา งจาํ นวนสองจาํ นวน1) -0.500 ..............0.501 2) 103.012 .........>............. – 0.5013) 5.28 .................... 5.82 4) – 5.28 .........=................. -5.285) 8.354 ................. 8.534 6) -8.544 ........................... -8.5347) -13.06 ................. 13.06 8) 103.012 .........>........... -103.0129) -5.125 ..........=........ -5.1250 10) -7.10 ......................... -7.014. ใหน ักศกึ ษาเรยี งลําดบั จํานวนตอ ไปน้ีจากคานอ ยไปคามาก 1) -1.724, -1.738, 0.832, -2.000 - 2.000, - 1.738,-1.724,0.8322) -30.710, -31.170, -31.107, 30.017 -30.710, -31.170,-31.107,30.0173) 83.000, -38.000, -83.001, -138.500 -138.500, -83.001,-38.000,83.0004) -34.50, -37.40, -41.54, -39.62, -42.50 -42.50, -41.54, -39.62, -37.40, -34.50แบบฝก หัดท่ี 41. ใหห าผลลัพธตอ ไปน้ี 1.2 6 1 1.1 12 6 12 2 2 1.4 16 = 1 5 1.3 24 2 11 11 12 1.6 2 1 1.5 2 1 24 12 12 6
2252. ใหเติมจาํ นวนลงใน แลวทําใหประโยคเปนจรงิ 2.1 6 2.2 6 8 6 2.3 12 2.4 5 8 3 2.5 7 แลวทําใหประโยคเปน จรงิ 83. ใหหาจาํ นวนมาเติมลงใน3.1 3 3.2 9 6 143.3 1 3.4 15 = 2 3 2 1 6 6 623.5 7 = 1 3 3.6 14 44 243.7 35 =117 3.8 111 18 18 284. ใหหาผลลัพธต อไปนี้1. วธิ ีทํา = 3 14 20 2. วธิ ีทาํ = 7 5 4 7 93. วิธที าํ 7 35 35 10 9 9 10 9 = 3 34 3 5 34 15 34 = 7 1 7 35 7 5 35 35 35 10 = 49 = 17 35 10 = 114 35 = 12 5 = 3 8 7 5 2 4. วธิ ีทาํ = 46 7 7 5 8 8 5 5 11 3 33 = 24 35 2 = 46 7 11 7 40 40 5 11 3 11 33 = 59 2 = 46 77 7 11 33 33 40 5 = 59 2 8 = 46 70 40 5 8 11 33 = 59 16 = 46 3 70 11 3 33 40 40 = 75 1 35 = 138 70 = 208 = 610 40 40 33 33 33 33
226แบบฝก หดั ท่ี 51. จงหาผลคูณตอ ไปน้ี1) 2 1 11 35 วธิ ที ํา = 7 6 35 = 42 15 = 212 2 4 15 52) 11 5 59 วธิ ีทํา = 6 5 59 = 30 2 45 33) 5 2 11 11 9 วิธที ํา = 57 10 11 9 = 570 5 75 5 25 99 99 334) 16 2 7 3 10 วิธที ํา = 50 7 3 10 = 35 11 2 335) 5 2 2 1 2 16 3 5 วธิ ีทํา = 5 8 7 16 3 5 = 7 11 666) 6 2 3 1 346 วธิ ที าํ = 20 3 1 = 511 5 3 4 6 1 23 6
2277) 15 24 35 49 25 18 วิธีทาํ = 15 24 35 49 25 18 =4 78) 24 10 11 10 25 27 25 22 วธิ ที าํ 24 10 11 10 25 27 25 22 = 8 211 5 9 5 1 = 16 225แบบฝก หดั ท่ี 61. จงหาผลลัพธตอไปน้ี 1.1 วธิ ที ํา = 4 8 55 = 32 1 7 25 25 1.2 วิธที าํ = 10 2 11 5 =4 11 1.3 วธิ ที ํา = 9 12 24 6 =3 4 1.4 วิธที ํา = 15 24 16 5 = 9 41 22 1.5 วิธที าํ = 99 25 100 11 = 9 21 44 1.6 วธิ ีทํา = 3 1 23 =1 2
2282. จงทาํ ใหเ ปนผลสาํ เรจ็ 9 21 31 2.1 วธิ ที ํา = 17 5 9 = 9 189 155 9 34 17 45 45 17 45 = 2 2.2 วิธที ํา = 5 3 2 3 2 = 6 6 6 6 = 5 1 56 2.3 วธิ ีทาํ = 66 6 = = 5 2.4 วธิ ีทาํ = = 11 7 12 3 6 11 14 3 42 3 24 7 10 753 16แบบฝก หัดที่ 71. ใหหาคําตอบของโจทยปญ หาตอไปนี้ 1) ตองมเี งิน 320 บาท ซ้อื รองเทา 2 ของเงนิ ทงั้ หมด ซอ้ื เสือ้ 5 ของเงนิ ทีเ่ หลอื จงหาวา 5 16ตองเหลอื เงนิ เทาไรวธิ ีทาํ ตองมีเงนิ 320 บาท ซือ้ รองเทา 2 ของเงนิ ทงั้ หมด คดิ เปน 2 320 128 55 เหลอื เงนิ จากการซือ้ รองเทา 320 – 128 = 192 บาท ซอ้ื เส้อื 5 ของเงนิ ทเ่ี หลอื คดิ เปน 5 192 60 บาท 16 บาท 16 192 – 60 = 132 เหลอื เงนิ จากการซื้อเสือ้ตอบ ตองเหลือเงนิ 132 บาท
2292) หอ งประชุมหอ งหนึ่งมคี วามยาวเปน 3 3 ของความกวา ง และความกวา งเปน 4 2 ของ 45ความสูงถาหอ งสูง 3 1 เมตร และมนี ักเรียน 462 คน จงหาวา โดยเฉลี่ยนกั เรยี นคนหน่งึ 2มีอากาศหายใจก่ีลกู บาศกเมตรวธิ ีทํา หองประชุมมีความกวา ง 4 2 ของความสงู = 22 7 77 เมตร 5 52 5 มีความยาวเปน 3 3 ของความกวา ง = 15 77 231 เมตร 4 45 4ดังนน้ั หองประชมุ มปี ริมาตร = 7 77 231 124,509 ลูกบาศกเมตร 25 4 40ในหองประชมุ มีนกั เรียน 462 คน โดยเฉลย่ี นกั เรยี นคนหนงึ่ มอี ากาศหายใจ = 124,509 462 40 = 124,509 1 40 462 = 6.7375 ลกู บาศกเมตรตอบ โดยเฉล่ียนกั เรียนคนหนึง่ มอี ากาศหายใจ 6.7375 ลกู บาศกเมตร3) จางคนปลกู หญาบนสนามรปู ส่ีเหลีย่ มผนื ผา กวา ง 6 4 เมตร ยาว 10 1 เมตร ในราคาตารางเมตรละ 5245 บาท จะตอ งจายเงนิ ท้ังหมดเทาไรวธิ ีทาํ สนามรูปสีเ่ หลย่ี มผืนผากวาง 6 4 เมตร = 34 เมตร 5 5 ยาว 10 1 เมตร = 21 เมตร 2 2พน้ื ทีส่ นาม = 34 21 357 ตารางเมตร 52 5จา ยคาจางคนปลูกหญา ตารางเมตรละ 45 บาท ตอ งจายเงิน = 45 357 3,375 บาทตอบ จายคา จางปลกู หญาบนสนามเทา กับ 3,213 บาท 5
2304) โทรทัศนเครอื่ งหนง่ึ ประกาศลดราคาลง 1 ของราคาทป่ี ด ไวเดมิ แตผูซอ้ื เปนเพ่อื นกบั ผขู ายลดใหอ กี 41 ของราคาทปี่ ระกาศลดแลว ในคร้ังแรก ซึ่งปรากฏวาผูซ ื้อจายไป 4,200 บาท จงหาวาโทรทัศนเ คร่ืองน้ี5ปดราคาเดมิ ไวเทา ไรวิธีทํา โทรทศั นเ ครื่องหน่งึ ลดราคาลง 1 ของราคาทีป่ ด ไว 4ถาลดราคา 1 บาท ราคาท่ีลดแลว เหลอื 1 1 3 บาท 44 4ขายใหเ พอ่ื นลดใหอ กี 1 ของราคาทปี่ ระกาศลด 13 3 5 4 20 5ขายไปจริงราคา 3 3 15 3 12 3 บาท 4 20 20 20 5เศษสว น 3 คดิ เปน เงิน 4,200 บาท 5ดงั นนั้ ราคาเดมิ ขายไว = 4,200 5 7,000 บาท 3ตอบ เดิมติดราคาไว 7,000 บาท5) ในการเดนิ ทางครั้งหน่งึ เสียคาท่ีพกั 2 ของคาใชจ ายทัง้ หมด คา เดินทาง 1 ของคาใชจายท้งั หมด 54คาใชจ ายอืน่ ๆ คดิ เปน เงิน 1,470 บาท จงหาวา คาใชจ ายทง้ั หมดเปน เงนิ เทา ไรวธิ ที าํ คา ใชจา ยท้งั หมดเปน เงนิ 1 บาท เสียคาทพี่ ัก 2 ของคาใชจ า ยทงั้ หมดเปน เงนิ = 2 บาท 5 5 เสียคา เดนิ ทาง 1 ของคา ใชจายทง้ั หมดเปน เงิน = 1 บาท 4 4 รวมคา ทพ่ี กั และคา เดนิ ทาง = 2 1 13 บาท เปนคาใชจ า ยอ่ืนๆ 5 4 20 ดงั น้ัน 7 คิดเปน เงนิ 1,470 บาท = 1 13 7 บาท 20 20 20 ดังนัน้ คา ใชจายท้ังหมด = 1,470 x 20 4,200บาทตอบ คา ใชจ ายทงั้ หมด 4,200 บาท 7
แบบฝกหัดที่ 8 2311. จงเตมิ ผลลพั ธตอไปน้ี 1.2 -0.2 1.1 0.99 1.4 0.1 1.3 -0.1 1.6 -12.5 1.5 -16.7 1.8 -15.15 1.7 50.09 1.10 3.306 1.9 10.1 1.12 -16.57 1.11 -9.1 1.14 -50.1 1.13 -36.7 1.16 2.7843 1.15 8.4782 1.18 -63.938 1.17 -57.03 1.20 3.327 1.19 -3.237 1.2 -0.1176แบบฝกหดั ที่ 9 1.4 -32.68081. จงหาคาของ 1.1 -28.92 1.3 6.67422. จงหาคาของ 2.1 -1,240 2.2 -10.1802 2.3 -12.596 2.4 24.5746 2.5 -3.33
232แบบฝกหดั ที่ 10ใหนกั ศกึ ษาแกปญหาโจทยตอไปน้ี1. เชอื กยาว 17.25 เมตร นําอกี เสนหนง่ึ ยาว 5.2 เมตร มาผูกตอ กนั ทาํ ใหเสียเชือกตรงรอยตอ 0.15 เมตรนําเชือกท่ีตอ แลวมาวางเปนรปู สเ่ี หล่ยี มผนื ผา ใหดา นกวา งยาวดา นละ 1.5 เมตร ดานยาวจะยาวดานละก่ีเมตรวธิ ที ํา เชือกทีเ่ หลอื จากการนํามาตอกนั คดิ เปน (17.25 + 5.2) – 0.15 = 22.3 เมตร นํามาวางใหเปนรูปสเี่ หลยี่ มผนื ผาใหดา นกวา งยาว 1.5 เมตร ดานกวางทงั้ 2 ดานจะใชเชือกไป 1.5 x 2 = 3 เมตร เหลอื เชือกเปน ดา นยาว 22.3 – 3 = 19.3 แตด านยาว มี 2 ดา น ดังนนั้ ดา นยาว ดา นละ 19.3 ÷ 2 = 9.65 เมตรตอบ ดานยาวจะยาวดา นละ 9.65 เมตร2. นาํ้ ตาลถุงหน่งึ หนกั 9.35 กโิ ลกรัม จํานวน 16 ถงุ ใชท ําขนมเฉล่ยี แลววนั ละ 4.4 กโิ ลกรมั จะใชนํ้าตาลไดทง้ั หมดกีว่ ันวธิ ีทํา น้ําตาลถุงหนง่ึ หนัก 9.35 กิโลกรมั จาํ นวน 16 ถงุ = 9.35 x 16 = 149.6 กิโลกรัม ใชทาํ ขนมเฉล่ยี แลววนั ละ 4.4 กิโลกรมั จะใชน าํ้ ตาลได = 149.6 34 วนั 4.4ตอบ จะใชน ้ําตาลไดทั้งหมด 34 วัน3. หอ งรปู ส่เี หลีย่ มผนื ผา กวา ง 4.8 เมตร ยาว 9.6 เมตร นํากระเบอ้ื งรูปสี่เหลี่ยมจตั รุ สั ขนาด 32 ตารางเซนติเมตร มาปูหอ งจะตองใชก ระเบือ้ งก่ีแผนวิธีทาํ พื้นท่ีหอ งสเี่ หลีย่ มผนื ผา กวาง 4.8 เมตร ยาว 9.6 เมตร = 480 x 960 = 460,800 ตร.ซม. พน้ื ทกี่ ระเบ้อื งรูปสเ่ี หล่ียมจัตรุ ัสขนาด = 32 ตร.ซม. ถาปูหองจะตองใชกระเบ้อื ง = 460,80014,400 แผนตอบ จะตอ งใชก ระเบ้อื ง 14,400 แผน 32
2334. มที องคาํ แทงหนงึ่ หนัก 12.04 กรัม ซื้อเพ่มิ อกี 25.22 กรมั แบงขายไปสองครง้ั หนักคร้งั ละ 8.02กรมั ท่เี หลอื นําไปทาํ แหวน 5 วง หนกั วงละ 3.45 กรัมเทาๆ กัน จะเหลือทองอีกก่กี รมัวธิ ที าํ ทองคําแทง หนึง่ หนกั 12.04 กรัม ซอ้ื เพิ่มอีก 25.22 กรัม = 12.04 + 25.22 = 37.26 กรัมแบง ขายไปสองคร้ัง หนักครงั้ ละ 8.02 กรัม = 8.02 x 2 = 16.04 กรัมเหลือทอง = 37.26 – 16.04 = 21.22 กรัม นาํ ไปทาํแหวน 5 วง หนกั วงละ 3.45 กรมั เทา ๆ กนั = 5 x 3.45 = 17.25 กรัม ทองทีเ่ หลอื จากการทาํ แหวนจะได = 21.22 – 17.25 = 3.97 กรัมตอบ จะเหลอื ทองอีก 3.97 กรมั
234 เฉลย บทที่ 3 เลขยกกําลังแบบฝก หดั ท่ี 11. จงเขียนจาํ นวนตอไปนใี้ นรูปเลขยกกาํ ลงั ทม่ี ีเลขชกี้ าํ ลังเปนจาํ นวนเต็มท่ีมากกวา 1 พรอมทง้ั บอกฐานและเลขช้ีกาํ ลัง1.1 25 = ……… 5x 5…………………=……..…52 ……………..มี = …………5…………….เปนฐานและ..............2..................เปนเลขช้กี ําลัง1.2 64= ………8 x 8…………………=……………82 …………..มี = …………8…………….เปน ฐานและ...............2..................เปนเลขช้กี าํ ลัง1.3 169= ………13 x 13……………....=……………132 …….…..มี = ……………13……….เปนฐานและ..............2....................เปน เลขชก้ี ําลงั1.4 729 = ……………27 x 27………..=…………272……….…..มี = …………27………….เปนฐานและ............2......................เปน เลขช้กี ําลัง1.5 -32 = …(-2) (-2) (-2) (-2) (-2)…….=………… 25 ………..มี = …………(-2)…………เปน ฐานและ............5.....................เปน เลขชก้ี าํ ลัง1.6 -243 = …(-3) (-3) (-3) (-3) (-3)……….=……… 35 …………..มี = ……………(-3)………เปน ฐานและ............5.....................เปนเลขชก้ี าํ ลัง1.7 0.125 = …(0.5) (0.5) (0.5)………….=…………0.53 ……..…..มี = …………(0.5)………เปนฐานและ.....................3..............เปน เลขชีก้ าํ ลัง2. จงเขยี นจาํ นวนทแ่ี ทนดว ยสญั ลักษณตอ ไปน้ี2.1 2 2 2 2 2 2 2 2 = 2562.2 (-3) (-3) (-3) (-3) = 812.3 (0.3) (0.3) (0.3) (0.3) (0.3) = 0.002432.4 (0.02) (0.02) (0.02) (0.02) (0.02) (0.02) = 0.0000000000642.5 1 1 1 = 1 3 3 3 27 2.6 2 2 2 =8 7 7 7 3432.7 (-5) (-5) (-5) (-5) = 6252.8 - (2 2 2) = -82.9 110 1 1 110 1 =1 10 10 10 100000
235 2.10 (0.5) (0.5) (0.5) (0.5) (0.5) (0.5) = 0.015625แบบฝก หดั ที่ 21 จงเขยี นจํานวนตอไปนใี้ นรปู สญั กรณว ิทยาศาสตร 1. 4 x 105 2. 2.3 x 1010 3. 6.39 x 108 4. 2.475 x 1082. ดาวเสารอยูหา งจากดวงอาทติ ยป ระมาณ1,430,000,000 กิโลเมตร จงเขยี นใหอยใู นรปู สัญกรณวิทยาศาสตรตอบ 1.43 x 1093. สญั กรณวทิ ยาศาสตรในแตล ะขอ ตอไปนแ้ี ทนจํานวนใด 3.1 2,000,000 3.2 48,000,000,000,000 3.3 4,030,000,000 3.5 912,500แบบฝก หดั ท่ี 31 จงเขียนจํานวนทแ่ี ทนดว ยสัญลักษณตอ ไปน้ี1.1 256 = 2,0481.2 32 x 9 = 2881.3 63 = 2161.4 0.752 = 0.56251.5 1 9 =1 = -216 91.6 631.7 8 625 = 5 = 1 2 125 16 221.8 1 16807 = 1 224 117649 321.9 0.125 1 = 0.0078125 16
2361.10 115 = 1610512. จงเขยี นผลคณู ของจํานวนในแตล ะขอตอไปนีใ้ นรูปเลขยกกาํ ลัง2.1 2237 = 2122.2 3 315 = 392.3 55 4 5 2 = =5 142 5 72.4 11 2 1111 2 = =11 212 11 52.5 3 437 = 314แบบฝกหดั ท่ี 41. จงหาผลลพั ธ1.1 292 = 271.2 361 = 351.3 1136 = 113 = 11.4 1 42 11 3 5 = 1 21.5 0.0354 5 = 0.031.6 0.8 5 ( 0.8 ) 7 = 0.8 57 = ( 0.8 ) 2 = 1 ( 0.8 ) 21.7 5347 = 50 =11.8 7614 = 731.9 13245 = 131.10 m674 = m32. จงหาผลลพั ธต อไปนใ้ี นรูปทมี่ เี ลขชี้กาํ ลงั เปน จํานวนเตม็ บวก2.1 53(4) = 51 =1 12.2 3862 = 30 = 15 a2.3 461 = 47 =12.4 261 = 252.5 1.523 = 1.51 472.6 x25 = x3 =1 2.7 a31 a05 = a45 1.5 =1 x3 = a1 =2.8 =m75 m 75 = m2 =1 m2
237 เฉลย บทท่ี 4 อตั ราสวนรอ ยละแบบฝก หดั ท่ี 11.จงเขยี นอัตราสว นจากขอความตอ ไปน้ี1.1 1 เซนตเิ มตร : 100 กิโลเมตร1.2 200 กิโลเมตร : 3 ชว่ั โมง1.3 40 คน : 1,000 คน1.4 72 ครง้ั : 1 นาที2. สลากกินแบงรัฐบาลแตละงวดเปน เลข 6 หลัก เชน 889748 ซงึ่ มหี มายเลขตางกันท้งั หมด 1,000,000 ฉบบัในจํานวนทง้ั หมดนี้มีสลากทถ่ี ูกรางวลั เลขทา ย 2 ตวั ทงั้ หมด 10,000 ฉบบั ถูกรางวลั เลขทาย 3 ตัว 4,000ฉบับ และถูกรางวลั ท่ี 1 อีก 1 ฉบับ2.1 1 : 1,000,0002.2 10,000 : 1,000,0002.3 4,000 : 1,000,0002.4 10,000 : 4,0003. พอ คา จัดลูกกวาดคละสีขนาดเทา กนั ลงในขวดโหลเดยี วกัน โดยนบั เปน ชดุ ดังน้ี “ลกู กวาดสแี ดง 3 เมด็ สีเขยี ว 2 เมด็ สเี หลอื ง 5 เม็ด” จงหา3.1 3: 103.2 3: 53.3 สเี หลอื งเพราะมจี ํานวนมากที่สดุ ดงั นนั้ โอกาสทจ่ี ะหยบิ ไดส ีเหลอื งจงึ มมี ากแบบฝก หดั ท่ี 21. ถาอตั ราการแลกเปลีย่ นเงนิ ดอลลารต อ เงินหน่ึงบาทเทากบั 1 : 43 จงเตมิ ราคาเงนิ ในตาราง43 86 129 430 860
2382. จงเขยี นอัตราสวนทเ่ี ทา กบั อัตราสว นทีก่ าํ หนดใหต อไปนมี้ าอกี 3 อัตราสวน2.1 4 , 6 , 8 6 9 122.2 10 , 15 , 20 18 27 363. จงตรวจสอบวาอตั ราสว นตอ ไปนีเ้ ทากันหรอื ไม อัตราสว นท่ีกําหนดให พิจารณาการคณู ไขว ผลการตรวจสอบ 5 10 5 12 = 10 6 5 101) 6 กับ 12 เพราะ 60 = 60 6 = 12 3 5 4 42) 3 กบั 4 เพราะ 15 16 34 4 5 6 9=8 7 4 5 เพราะ 54 563) 6 กบั 7 12 15 = 18 10 67 8 9 8 9 180 = 1804) 12 กบั 18 0.3 200 = 6 10 12 = 18 10 15 10 15 60 = 605) 0.3 กับ 6 0.3 = 6 10 200 10 2004. จงทําใหอัตราสว นตอ ไปน้ีมีหนว ยเดยี วกนั และอยใู นรปู อยา งงาย4.1 2x 24 : 10 หรือ 48 : 10 หรือ 24 : 54.2 200 : 1.5 x 1,000 เมตร หรอื 200 : 1,500
239แบบฝกหดั ที่ 31. พอ แบง เงนิ ใหล ูกสามคนโดยกาํ หนด อตั ราสว นของจํานวนเงินลูกคนโต ตอคนกลาง ตอคนเล็กเปน 5 : 3 : 2 จงหาอัตราสว นตอ ไปน้ี1.1 5 : 21.2 2 : 31.3 3 : 101.4 2 : 102. เศรษฐีคนหน่ึงไดเ ขียนพนิ ยั กรรมไวกอ นจะเสียชีวติ วา ถาภรรยาทกี่ าํ ลงั ตงั้ ครรภค ลอดลูกเปน ชายใหแบงเงนิ ในพนิ ัยกรรมเปนอัตราสว นเงนิ ของภรรยาตอบุตรชายเปน 1 : 2 แตถา คลอดลกู เปนหญงิ ใหแบง เงนิ ในพินยั กรรมเปนอัตราสวนเงนิ ของภรรยาตอบตุ รหญิงเปน 2 : 1 เมื่อเศรษฐคี นน้ีเสยี ชวี ติ ลงปรากฏวา ภรรยาคลอดลูกแฝด เปนชาย 1 คน หญงิ 1 คน จงหาอัตราสวนของเงินในพินัยกรรมของภรรยาตอบุตรชาย ตอ บตุ รหญงิตอบ อัตราสว นเงนิ ของภรรยาตอ เงินของบุตรชาย เปน 1: 2อตั ราสวนเงนิ ของภรรยาตอเงินของบตุ รหญิง เปน 2 : 1เม่อื เศรษฐเี สยี ชีวิตลงภรรยาคลอดลูกเปน ฝาแฝด ชาย 1 คน หญิง 1 คน ตอ งแบง พินัยกรรมเปน สามสวน คอื อัตราสว นเงินของภรรยาตอเงนิ ของบตุ รชาย เปน 1: 2 = 2: 4 อัตราสว นเงนิ ของภรรยาตอ เงนิ ของบุตรหญงิ เปน 2 : 1นัน่ คือ อตั ราสว นเงินของภรรยาตอเงนิ ของบตุ รชายตอบุตรหญงิ เปน 2 :4 : 1แบบฝก หดั ที่ 41. จงเขยี นสดั สว นจากอตั ราสวนตอไปน้ี1.1 3 6 481.2 A 9 7 271.3 12 B 10 51.4 5 65 4D
2402. จงหาคาตวั แปรจากสัดสว นท่ีกาํ หนดใหตอ ไปนี้2.1 A 12 3 15วิธที ํา A 12 3 15= 2.42.2 3 21 B 28วธิ ีทํา B 3 28 21 =4แบบฝก หดั ที่ 51. ขายมะละกอ 3 ผล ราคา 50 บาท ถาขาย มะละกอ 15 ผล จะไดเ งินเทาไรวธิ ีทาํ ขายมะละกอ 3 ผล ราคา 50 บาท ขายมะละกอ 15 ผล ราคา x บาทจะได 3 15 50 xx 15x50 3x = 2502. กศน.แหงหนึ่งมีนกั ศึกษาท้งั หมด 400 คน มีจาํ นวนนกั ศกึ ษาหญิงตอจํานวนนกั ศึกษาชายเปน 5: 3 จงหาวา มนี กั ศกึ ษาชายกคี่ นและนกั ศกึ ษาหญิงกค่ี นวิธีทํา กศน. แหง หน่งึ มนี กั ศกึ ษาทงั้ หมด 400 คนมจี าํ นวนนกั ศกึ ษาหญิงตอ จาํ นวนนกั ศกึ ษาชาย เปน 5: 3ดัง้ น้ันถาแบงนกั ศึกษา กศน.ทงั้ หมดออกเปน 5+3 = 8 สว นจะไดนกั ศกึ ษา กศน. สวนละ 400 = 50 คน 8ฉะน้ัน มนี ักศกึ ษาชาย อยู 3 สวน เปน 3 x 50 = 150 คนมีนักศกึ ษาหญงิ อยู 5 สว น เปน 5 x 50 = 250 คน
2413. พอแบงมรดกใหลกู สองคน โดยอัตราสวนของสวนแบง ของลูกคนโตตอ สวนแบง ลกู คนเล็กเปน 7: 3 ถาลกู คนโตไดเ งินมากกวา ลกู คนเลก็ 80,000 บาท จงหาสว นแบงทแ่ี ตล ะคนไดรับวธิ ีทาํ อัตราสวนของสวนแบงของลกู คนโตตอ สว นแบงลูกคนเลก็ เปน 7: 3ดงั นน้ั พอแบง เงินท้ังหมดเปน 10 สวนลูกคนโตมเี งินมากกวาลกู คนเลก็ 4 สวน เปนเงิน 80,000 บาทดังนั้น เงนิ 1 สว น เปนเงิน 80,000 20,000 บาท 4สรุปไดว า ลกู คนโตไดร บั เงินมรดก 7 สว น เปนเงนิ 7 x 20,000 = 140,000 บาท ลกู คนเลก็ ไดร บั เงินมรดก 3 สวน เปนเงนิ 3 x 20,000 = 60,000 บาทแบบฝก หดั ท่ี 61.1 901.2 481.3 7%1.4 25%1.5 6001.6 0.5แบบฝก หดั ที่ 7 20 %1. 125 คน 250 บาท2. 2.1 1,200 คน 250100 1, 250 บาท 2.2 480 คน3. 20วธิ ที าํ สินคาทุกชนดิ ลดราคา คณุ แมซ ือ้ เครื่องแกว แลว ไดส วนลด ดังนัน้ รานคา ปดราคา4. วิธีทาํ สนามหญา แหงหน่งึ กวาง 5 เซนติเมตร ยาว 8 เซนตเิ มตร มาตราสวน 1 เซนตเิ มตร : 50 เมตร ดังน้ันสนามหญาจรงิ กวา ง 250 เมตร ยาว 400 เมตร
242 หาพนื้ ทีส่ ีเ่ หลยี่ มผืนผา จะได 250 x 400= 100,000 ตารางเมตร5.วิธีทํา นกนอยไดอตั ราดอกเบีย้ รอยละ 3 ตอ ป แตถ กู หักภาษีรอ ยละ 15 คดิ เปน 15 3 0.45 100 เทากบั ดอกเบีย้ ทถ่ี กู หกั ภาษีแลว 3 – 0.45 = 2.55 นกนอ ยฝากเงนิ 10,000 บาท สนิ้ ปจะไดด อกเบ้ยี ท่ีถกู หักภาษี รอ ยละ 2.55 คิดเปน 2.55 10,000 255 บาท 100 รวมมเี งนิ บัญชี 10,000 + 225 = 10,225 บาทในตน ปท ่ีสอง สิน้ ปทส่ี องจะไดดอกเบี้ยรอยละ 2.55 ของเงนิ ฝากปทีส่ อง = 2.5510,255 261.50บาท 100 ครบสองปจ ะมีเงนิ ในบญั ชี 10,255 + 261.50 = 10,516.50 บาท6. วิธที ํา วีระซ้ือรถยนต ราคา 200,000 บาทขายตอ ไดก ําไร 20% เปน เงนิ 20 200,000 40,000 บาทวรี ะมเี งนิ ทั้งหมด 100 บาท 240,000 บาท วรี ะเอาเงนิ ไปเลนหนุ ขาดทนุ 20% เปนเงนิ 20 240,000 48,000 100ดงั น้นั วรี ะเหลือเงนิ 240,000 - 48,000 = 192,000 บาท
243 เฉลย บทที่ 5 การวัดแบบฝกหดั ที่ 11. จงเติมหนว ยความยาวหรอื หนวยพนื้ ทใี่ หเหมาะสมกบั ขอ ความตอไปน้ี 1.1 มลิ ลเิ มตร 1.2 เซนตเิ มตร, เซนติเมตร, มลิ ลิเมตร 1.3 กโิ ลเมตร 1.4 เมตร, เมตร, กิโลเมตร 1.5 เซนติเมตร, เซนติเมตร, มลิ ลเิ มตร 1.6 ตารางเซนตเิ มตร 1.7 ตารางเมตร 1.8 เมตร หรอื วา , ไร- งาน-ตารางวา, ตารางเมตร 1.9 เมตร2. จงเตมิ คําลงในชอ งวางทกี่ าํ หนดใหถกู ตอง 2.1 1,600 2.2 170,000 2.3 7 ไร 3 งาน 19 ตารางวา 2.4 5 2.5 2 x10 10 2.6 2,222 2.7 2.9 2.8 432 2.9 38 2.10 1,072 938,000 และ 1,400,0003. จงตอบคําถามตอไปนี้ พรอ มแสดงวิธีทํา 1) สวนแหงหนงึ่ มีพน้ื ท่ี 4,800 ตารางเมตร คดิ เปน พนื้ ทกี่ ่ไี รวิธีทาํ พ้ืนท่ี 1,600 ตารางเมตร เทากับ 1 ไร พน้ื ที่ 4,800 ตารางเมตร เทากบั 4,800 3 ไร 1,600
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297