Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรรบ้านน้ำก่ำ(ล้ำประชาอุปถัมภ์)ปี65

หลักสูตรรบ้านน้ำก่ำ(ล้ำประชาอุปถัมภ์)ปี65

Published by Nonthawat Namsai, 2022-08-26 07:00:53

Description: หลักสูตรรบ้านน้ำก่ำ(ล้ำประชาอุปถัมภ์)ปี65

Search

Read the Text Version

195 คำอธบิ ายรายวิชา รายวิชาเพิ่มเติม ส ๒๒๒๐๒ หน้าท่พี ลเมือง ๔ กล่มุ สาระสงั คมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลาเรยี น ๒๐ ชวั่ โมง (๑ช่วั โมง/สปั ดาห)์ จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ ) ___________________________________________________________________________ มสี ว่ นร่วมและแนะนําผู้อื่นให้อนรุ ักษม์ ารยาทไทยในการแสดงความเคารพการสนทนา การแตง่ กาย การมีสัมมาคารวะแสดงออกและแนะนําผู้อื่นให้มีความเอื้อเฟอื้ เผ่ือแผ่และเสียสละต่อ สังคมเห็นคุณค่าอนุรักษ์และสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยปฏิบัติ ตนเป็นผู้มีวินัยในตนเองในเรื่องความซ่ือสัตย์สจุ รติ ขยนั หมั่นเพยี รอดทนตง้ั ใจปฏิบัตหิ น้าทแี่ ละยอมรับผล ท่เี กิดจากการกระทําของตนเอง ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างและแนะนําผู้อื่นให้มีการปฏิบัติตนที่แสดงออกถึงความรักชาตยิ ึด มนั่ ในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริยป์ ระยุกต์และเผยแพร่พระบรมราโชวาทในเร่ืองการมี สตคิ วามขยันอดทนหลักการทรงงานในเรื่องภูมิสังคมขาดทุนคือกำไร และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี งปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเองในเร่ืองความซ่อื สัตย์สจุ รติ ขยนั หมน่ั เพยี รอดทนใฝ่หาความรู้และ ต้งั ใจปฏิบตั ิหนา้ ที่ ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตยในเร่ืองการติดตามข่าวสารบ้านเมือง ความกล้าหาญทางจริยธรรมการเป็นผู้นําและการเป็นสมาชิกท่ีดี มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการ ตัดสินใจต่อกิจกรรมของห้องเรียนและโรงเรียนตรวจสอบข้อมูลเพ่ือใช้ประกอบการตัดสินใจใน กิจกรรมตางๆและรู้ทนข่าวสารปฏิบัติตนเป็นผู้มิวินัยในตนเองในเรื่องความซ่ือสัตย์สุจริตอดทนตั้งใจ ปฏิบัติหน้าทใี่ ฝ่หาความรู้และยอมรบผลท่ีเกิดจากการกระทาํ ของตนเอง เห็นคุณค่าของการอยู่ร่วมกันในภูมิภาคเอเชียอย่างสันติและพ่ึงพาอาศัยซ่ึงกันและ กันโดยคํานึงถึงความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียในเรื่องวถิ ีชีวติ วัฒนธรรม ศาสนาสิ่งแวดลอ้ มการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมและการพึ่งพาซ่ึงกันและกันในเร่ืองการ เคารพซง่ึ กันและกันไมแสดงกริยาและวาจาดหู ม่ินผู้อื่นชว่ ยเหลอื ซงึ่ กนั และกันแบ่งปันมีส่วนร่วมและ เสนอแนวทางการแกป้ ัญหาความขัดแย้งโดยสันติวธิ ีเก่ียวกับการละเมิดสิทธิการใช้ของส่วนรวมด้วย การเจรจาไกลเกลยี่ การเจรจาต่อรองการระงับความขัดแย้งปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเองในเรื่อง ความซือ่ สตั ย์สุจริตอดทนใฝ่หาความรู้ตั้งใจปฏิบัติหน้าท่ี ยอมรบั ผลทเ่ี กิดจากการกระทาํ ของตนเองโดยใชก้ ระบวนการกลมุ่ กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติกระบวนการเผชิญสถานการณ์ กระบวนการแก้ปญั หา กระบวนการสืบเสาะหา ความรู้กระบวนการสรา้ งความตระหนักกระบวนการสร้างค่านิยมและกระบวนการสร้างเจตคติ เพ่ือให้ ผู้เรียนมีลักษณะทด่ี ีของคนไทยภาคภูมิใจในความเป็นไทยแสดงออกถึงความรักชาตยิ ึดม่นั ใน

196 ศาสนาและเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษัตริยเ์ ป็นพลเมองดีในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขมีส่วนรวมทางการเมืองการปกครองอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันตจิ ัดการความขัดแย้งด้วย สันติวิธแี ละมีวินัยในตนเอง ตวั ชี้วัด ๑.มสี ่วนร่วมและแนะนําผู้อนื่ ให้อนุรักษ์มารยาทไทย ๒.แสดงออกและแนะนําผอู้ ่ืนให้มีความเออื้ เฟอ่ื เผอื่ แผแ่ ละเสยี สละตอ่ สังคม ๓.เหน็ คณุ ค่า อนรุ ักษแ์ ละสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย ๔.เป็นแบบอยา่ งและแนะนําผู้อนื่ ใหม้ คี วามรักชาติยึดม่ันในศาสนาและเทิดทนู สถาบัน พระมหากษตั รยิ ์ ๕.ประยุกตแ์ ละเผยแพรพ่ ระบรมราโชวาทหลกั การทรงงาน และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ๖.ปฏิบตั ติ นเป็นพลเมืองดตี ามวถิ ีประชาธปิ ไตย ๗.มสี ว่ นร่วมและรับผดิ ชอบในการตดั สินใจ ตรวจสอบข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจใน กิจกรรมต่างๆและรู้ทนั ขา่ วสาร ๘.เหน็ คุณค่าของการอยู่รว่ มกันในภูมิภาคเอเชียอย่างสันตแิ ละพ่งึ พาซง่ึ กนั และกัน ๙.มีส่วนร่วมและเสนอแนวทางการแก้ปัญหาความขดั แย้งโดยสนั ติวิธี ๑๐.ปฏิบัตติ นเป็นผมู้ ีวินัยในตนเอง รวมทั้งหมด ๑๐ ตวั ช้วี ดั

197 คำอธิบายรายวชิ า รายวชิ าเพมิ่ เตมิ ส ๒๓๒๐๑ หนา้ ท่ีพลเมอื ง ๕ กลุ่มสาระสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ ภาคเรียนที่ ๑ เวลาเรยี น ๒๐ ช่วั โมง(๑ชัว่ โมง/สัปดาห์) จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ___________________________________________________________________________ มสี ่วนร่วม แนะนําผ้อู ื่นให้อนุรักษแ์ ละยกย่องผู้มีมารยาทไทยในเร่ืองการแสดงความเคารพ การสนทนาการแต่งกายการมีสัมมาคารวะแสดงออกแนะนําผู้อื่นและมีส่วนร่วมในกิจกรรมเก่ียวกับ ความเอื้อเฟ้ือเผื่อแผ่และเสียสละต่อสังคมเห็นคุณค่าอนุรักษ์สืบสานและประยุกต์ขนบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปวัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทยปฏิบัติตนเป็นผู้มีวนิ ัยในตนเองในเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริตขยันหมั่นเพียรอดทนใฝ่หาความรู้ ตง้ั ใจปฏิบัติหนา้ ท่ี และยอมรบั ผลท่ีเกิดจากการกระทาํ ของตนเองปฏิบัติตนเป็นแบบอย่าง และมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมทแ่ี สดงออกถึงความรักชาตยิ ึดม่ันในศาสนาและเทิดทูนสถาบนพระ มหากษัตริย์ ประยุกต์และเผยแพร่พระบรมราโชวาทในเร่ืองการเสียสละความซื่อสัตยห์ ลักการทรง งานในเร่ืองศึกษาข้อมูลอย่างเป็นระบบแก้ปัญหาทจี่ ุดเล็กปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเองในเรื่อง ความซ่ือสัตย์สจุ รติ ขยนั หม่ันเพยี รอดทนใฝ่หาความรู้และตั้งใจปฏิบัติหนา้ ที่ ปฏบิ ัติตนเป็นพลเมืองดตี ามวิถปี ระชาธปิ ไตย ในเรืองการใช้สิทธิและหน้าท่ีการใช้เสรีภาพ อย่างรับผิดชอบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเลือกตง้ั ส่วนร่วมและรับผิดชอบในการตัดสินใจต่อ กิจกรรมของห้องเรียนและโรงเรียนตรวจสอบข้อมูลตรวจสอบการทําหนาทขี่ องบุคคลเพ่ือใช้ ประกอบการตัดสินใจปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเองในเรื่องความซ่ือสัตย์สุจริตขยันหมั่นเพียรใฝ่หา ความรู้ต้ังใจปฏิบัติหน้าท่ีและยอมรับผลที่เกิดจากการกระทาํ ของตนเอง เห็นคุณค่าของการอยู่ร่วมกันในภูมิภาคเอเชียอย่างสันติและพึ่งพาซึ่งกนั และกันท่ามกลาง ความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในภูมิภาคต่างๆของโลกในเรืองวิถีชวี ิตวัฒนธรรมศาสนา ส่ิงแวดล้อมการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมและพ่ึงพาซึ่งกันและกันในเร่ืองการเคารพซ่ึงกัน และกันไม่แสดงกิริยาและวาจาดูหม่ินผู้อนื่ ช่วยเหลือซ่ึงกันและกันแบ่งปันมีส่วนร่วมและเสนอแนว ทางการป้องกันปัญหาความขัดแย้งในเรื่องทัศนคติ ความคิดความเชือ่ ชู้สาวปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยใน ตนเองในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตอดทนใฝ่หาความรู้ ตง้ั ใจปฏิบัติหนา้ ท่ี และยอมรบั ผลทเี่ กิดจากการ กระทาํ ของตนเองโดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดกระบวนการปฏิบัตกิ ระบวนการเผชิญ สถานการณ์ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้กระบวนการสร้างความตระหนัก กระบวนการสร้างคานิยมและกระบวนการสรา้ งเจตคติ เพื่อให้ผู้เรยี นมีลกั ษณะท่ีดีของคนไทยภาคภูมิใจ ในความเป็นไทย แสดงออกถึงความรกั ชาติยึดมนั่ ในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เป็น

198 พลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมขุ มสี ่วนร่วมทางการเมืองการ ปกครองอยู่รว่ มกบั ผ้อู น่ื อย่างสันตจิ ัดการความขดั แย้งดว้ ยสันติวธิ ีและมีวนิ ัยในตนเอง ตัวชว้ี ดั ๑.มสี ว่ นร่วมแนะนําผอู้ ืน่ ใหอ้ นุรักษแ์ ละยกย่องผู้มีมารยาทไทย ๒.แสดงออกแนะนาํ ผู้อน่ื และมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมเกยี่ วกบั ความเอื้อเฟอ้ื เผ่ือแผ่และเสียสละ ๓.เหน็ คณุ ค่า อนุรักษ์ สบื สาน และประยุกตข์ นบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒั นธรรมและ ภมู ิปญั ญาไทย ๔.เป็นแบบอยา่ งและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมท่ีแสดงออกถึงความรักชาตยิ ดึ มน่ั ในศาสนาและ เทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั ริย ๕.ประยุกต์และเผยแพรพ่ ระบรมราโชวาทหลกั การทรงงาน และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ๖.ปฏิบตั ิตนเป็นพลเมืองดตี ามวิถีประชาธปิ ไตย ๗.มสี ว่ นร่วมและรับผิดชอบในการตดั สินใจ ตรวจสอบข้อมล ตรวจสอบการทําหนา้ ที่ของบุคคล เพอื่ ใชป้ ระกอบการตัดสนิ ใจ ๘.เห็นคุณค่าของการอยู่รว่ มกันในภูมิภาคต่าง ๆของโลกอย่างสันตแิ ละพ่งึ พาซง่ึ กันและกัน ๙.มสี ่วนรวมและเสนอแนวทางการปองกนั ปัญหาความขัดแย้ง ๑๐.ปฏบิ ตั ิตนเป็นผูม้ วี ินยั ในตนเอง รวมทัง้ หมด ๑๐ ตัวช้ีวัด

199 คำอธบิ ายรายวิชา รายวิชาเพม่ิ เติม ส ๒๓๒๐๒ หนา้ ที่พลเมือง ๖ กล่มุ สาระสังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลาเรยี น ๒๐ ชั่วโมง(๑ชว่ั โมง/สัปดาห)์ จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ____________________________________________________________________________ มสี ่วนร่วมแนะนําผู้อ่ืนให้อนุรักษ์และยกย่องผมู้ มี ารยาทไทยในเร่ืองการแสดงความเคารพการ สนทนาการแต่งกายการมีสัมมาคารวะแสดงออกแนะนําผู้อ่ืนและมีส่วนร่วมในกิจกรรมเก่ียวกับความ เอ้ือเฟื้อเผื่อแผ่และเสียสละต่อสังคมเห็นคุณคา่ อนุรักษ์สืบสานและประยุกต์ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเองในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหม่ันเพียรอดทนใฝ่หาความรู้ตั้งใจปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ และยอมรับผลท่เี กิดจากการกระทําของตนเอง ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่แสดงออกถึงความรักชาติยึด ม่ันในศาสนาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ประยุกต์และเผยแพร่พระบรมราโชวาทในเรื่อง การเสียสละความซื่อสัตย์หลักการทรงงานในเรื่องศึกษาข้อมูลอย่างเป็นระบบแก้ปัญหาท่ีจุดเล็ก ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเองในเรื่องความซ่ือสตั ย์สุจริตขยันหมัน่ เพียรอดทนใฝ่หาความรู้และตั้งใจ ปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ปฏบิ ัติตนเป็นพลเมอื งดตี ามวิถีประชาธิปไตย ในเรืองการใช้สิทธิและหน้าที่การใช่เสรีภาพ อย่ารับผิดชอบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเลือกตง้ั มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการตัดสินใจต่อ กิจกรรมของห้องเรียนและโรงเรียนตรวจสอบข้อมูลตรวจสอบการทําหนาทขี่ องบุคคลเพื่อใช้ ประกอบการตดสินใจปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเองในเรื่องความซ่ือสัตย์สุจริตขยันหม่ันเพียรใฝ่หา ความรู้ต้ังใจปฏิบัติหน้าท่ีและยอมรับผลท่ีเกิดจากการกระทาํ ของตนเอง เห็ นคุณค่ าของกา รอยู่ ร่ วมกั นในภูมิ ภา คเ อเชี ยอย่ า งสั นติ และพึ่งพาซ่ึงกันและกั นท่ า มกลา ง ความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในภูมิภาคต่างๆของโลกในเรืองวิถีชีวิตวัฒนธรรมศาสนา ส่ิงแวดล้อมการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมและพ่ึงพาซ่ึงกันและกนั ในเรื่องการเคารพซ่ึงกัน และกันไม่แสดงกิริยาและวาจาดูหมิ่นผู้อื่นช่วยเหลือซ่ึงกันและกันแบ่งปันมีส่วนร่วมและเสนอแนว ทางการป้องกันปัญหาความขัดแย้งในเรื่องทัศนคติ ความคิดความเช่อื ชู้สาวปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยใน ตนเองในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตอดทนใฝ่หาความรู้ ตง้ั ใจปฏิบตั ิหนา้ ที่ และยอมรับผลทเี่ กิดจากการ กระทําของตนเอง โดยใชก้ ระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดกระบวนการปฏิบัตกิ ระบวนการเผชิญสถานการณ์ กระบวนการแก้ปัญหากระบวนการสืบเสาะหาความรู้กระบวนการสร้างความตระหนักกระบวนการ สร้างคานิยมและกระบวนการสรา้ งเจตคตเิ พอ่ื ให้ผู้เรยี นมีลักษณะทดของคนไทยภาคภูมิใจในความเป็น ไทย แสดงออกถึงความรกั ชาติยึดมนั่ ในศาสนาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริยเ์ ป็นพลเมืองดีใน

200 ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมสี ่วนรว่ มทางการเมืองการปกครองอยู่ รว่ มกับผู้อืน่ อยา่ งสันตจิ ดั การความขัดแย้งด้วยสันติวธิ ีและมีวินัยในตนเอง ตัวช้ีวดั ๑.มสี ว่ นร่วมแนะนําผอู้ นื่ ใหอ้ นุรักษแ์ ละยกยอ่ งผู้มมี ารยาทไทย ๒.แสดงออกแนะนาํ ผู้อืน่ และมีส่วนร่วมในกจิ กรรมเกี่ยวกับความเออ้ื เฟอื้ เผื่อแผและเสียสละ ๓.เหน็ คุณค่า อนรุ ักษ์ สบื สาน และประยุกตข์ นบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒั นธรรมและ ภมู ปิ ญั ญาไทย ๔.เป็นแบบอย่างและมีส่วนร่วมในการจัดกจิ กรรมท่ีแสดงออกถึงความรักชาตยิ ึดมน่ั ในศาสนาและ เทดิ ทนู สถาบันพระมหากษตั รยิ ์ ๕.ประยุกต์และเผยแพรพ่ ระบรมราโชวาทหลักการทรงงาน และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ๖.ปฏิบตั ติ นเป็นพลเมืองดตี ามวถิ ีประชาธปิ ไตย ๗.มสี ว่ นร่วมและรบั ผิดชอบในการตดั สินใจ ตรวจสอบข้อมล ตรวจสอบการทําหนา้ ที่ของบุคคล เพือ่ ใชป้ ระกอบการตดั สนิ ใจ ๘.เหน็ คณุ ค่าของการอยู่รว่ มกันในภูมิภาคต่าง ๆของโลกอย่างสันติและพึง่ พาซง่ึ กนั และกัน ๙.มสี ่วนรวมและเสนอแนวทางการปองกนั ปัญหาความขดั แย้ง ๑๐.ปฏิบัติตนเป็นผมู้ ีวินยั ในตนเอง รวมทั้งหมด ๑๐ ตัวชี้วัด

201 กลุม่ สาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ

202 คำอธิบายรายวชิ า (ศลิ ปะ)

203 ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ คำอธบิ ายรายวชิ า ศ ๑๑๑๐๑ ศิลปะ ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ศลิ ปะ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๑ เวลา ๔๐ ชั่วโมง ----------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา สังเกต อภิปราย และฝึกปฎิบัติเกี่ยวกับงานศิลปะสิ่งที่อยู่รอบตัว รูปร่าง ธรรมชาติ และความงามของสิ่งแวดล้อม การกำเนิดเสียงจากธรรมชาติ, แหล่งกำเนิดเสียง, สีสันของเสียงระดับ เสียงดงั เบา (dynamic), อตั ราความเรว็ ของจงั หวะเพลงท่ใี ช้ในชวี ติ ประจำวัน (Tempo) การเลยี นแบบ คน สัตว์ สิ่งของ การใชภ้ าษาท่าทาง การประดิษฐท์ า่ ประกอบเพลง การแสดง ประกอบเพลงท่ีเก่ียวข้องกบั ธรรมชาติ สตั ว์ การเป็นผชู้ มทดี่ ี การละเลน่ ของเดก็ ไทยและทอ้ งถ่ิน วธิ ีการเล่น กติกา การแสดงนาฏศลิ ป์ โดยใช้ทักษะการฝึกปฏิบัติ สังเกต ถ่ายทอดงานศิลปะละเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ แสดงความ คิดเห็นเกี่ยวกับผลงานทางศิลปะ ทักษะทางดนตรี อ่านบทกลอนประกอบจังหวะ ร้องเพลงประกอบ จังหวะ ฝึกร้องเพลง เคาะประกอบจงั หวะ เคลือ่ นไหวประกอบบทเพลง เพลงกล่อมเดก็ เพลงประกอบการละเล่น เพลงชาติ เพลงสรรเสริญพระบารมี ที่มาของเพลงในท้องถิ่น ความน่าสนใจ ของบทเพลงทอ้ งถิน่ ฝึกปฏิบัติทักษะทางนาฏศลิ ป์ การเคลื่อนไหวลกั ษณะต่างๆ การเลียนแบบธรรมชาติ ในทอ้ งถนิ่ ของตน ทกั ษะเคล่ือนไหวรา่ งกายเลียนแบบธรรมชาติ คน สตั ว์ ส่ิงของ ฝกึ ปฏบิ ตั ิภาษาทา่ ประดิษฐท์ ่าทางประกอบเพลงไทยสัน้ ๆและเพลงพน้ื เมืองปฏบิ ตั ิตามได้ เพอื่ ให้มคี วามสนกุ สนานเพลดิ เพลนิ ในการทำกิจกรรมทางศิลปะ ปฏิบัติตนเปน็ ผู้ชมท่ีดี เหน็ คณุ คา่ ของดนตรี นาฏศิลปไ์ ทยและทอ้ งถิน่ มคี วามชื่นชอบเห็นความสำคญั และประโยชน์ ของดนตรนี าฏศิลป์ต่อการดำเนนิ ชวี ิตของคนในท้องถิ่น ชนื่ ชมการแสดงพน้ื เมอื งมีความกลา้ แสดงออก ตวั ช้วี ัด ศ. ๑.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓ , ป.๑/๔ , ป.๑/๕ ศ. ๑.๒ ป.๑/๑ ศ. ๒.๑ ป.๑/๑ – ป.๑/๕ ศ ๒.๒ ป.๑/๑ – ป.๑/๒ ศ. ๓.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓ ศ. ๓.๒ ป.๑/๑ ป.๑/๒ รวม ๑๕ ตวั บง่ ชี้

204 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ คำอธบิ ายรายวิชา ศ ๑๒๑๐๑ ศิลปะ ๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา รูปร่าง รูปทรง ตามทัศนธาตขุ องสิ่งแวดล้อมในธรรมชาติ ทักษะพื้นฐานในการใช้วัสดุ อุปกรณ์ในการสร้างงานทัศนศิลป์ ๓ มิติ การวาดภาพ งานปั้น และงานพิมพ์ภาพ งานปะติด ความสำคญั และการสรา้ งงานทัศนศลิ ปใ์ นท้องถนิ่ ศกึ ษาแหล่งกำเนิดของเสยี งทไี่ ด้ยิน เสยี งเคร่อื งดนตรี เสียงมนุษย์ ฝึกจำแนกสียง สูง - ต่ำ ดัง – เบา ยาว - สั้น การเคลื่อนไหวประกอบเนื้อหาในบทเพลง การเล่นเครื่องดนตรีประกอบเพลง การขับร้องเพลงง่ายๆ ความหมายและความสำคัญของเพลงปลุกใจ เพลงสอนใจ เพลงที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่มาของบทเพลงท้องถิ่น และความน่าสนใจของบทเพลงใน ท้องถิ่น ลักษณะของเสียงร้องในบทเพลงลักษณะของเสียงดนตรีที่ใช้ในบทเพลง ศึกษาฝึกปฏิบัติการ เคลื่อนไหวอย่างมีรูปแบบ การนั่ง,การยืน,การเดิน การประดิษฐ์ท่า จากการเคลื่อนไหวอย่างมีรูปแบบ หลกั วธิ ีการปฏบิ ตั นิ าฏศิลป์ การฝึกภาษาทา่ สอ่ื ความหมายแทนอากัปกิริยา การฝึก นาฏศัพท์ในส่วนลำตัว การใช้ภาษาท่าและนาฏศัพท์ประกอบจังหวะ มารยาทในการชมการ แสดงการเข้าชมหรือมีส่วนร่วมในการแสดง ที่มา วิธีการกติกาของการละเล่นพื้นบ้าน ระบุการเล่น พืน้ บ้านท่ีชอบและภาคภมู ิใจ ฝึกสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ โดยใช้ทัศนธาตุจากสิ่งแวดล้อมในธรรมชาติ ฝึกทักษะทาง ดนตรี เล่นเครื่องดนตรีประกอบเพลง การขับร้องเพลงง่ายๆ ความหมายและความสำคัญของเพลงปลกุ ใจ เพลงสอนใจ เพลงที่เกี่ยวกบั สิ่งแวดล้อม ที่มาของบทเพลงท้องถิ่น และความน่าสนใจของบทเพลงใน ท้องถิ่น ลักษณะของเสียงร้องในบทเพลงลักษณะของเสียงดนตรีที่ใช้ในบทเพลง ฝึกปฏิบัติการ เคลื่อนไหวอย่างมีรูปแบบ การนั่ง,การยืน,การเดิน การประดิษฐ์ท่า จากการเคลื่อนไหวอย่างมีรูปแบบ หลกั วิธกี ารปฏบิ ัตนิ าฏศลิ ป์ การฝึกภาษาทา่ สอ่ื ความหมายแทนอากัปกิริยา การฝกึ นาฏศัพท์ในสว่ นลำตัว การใช้ภาษาทา่ และนาฏศพั ทป์ ระกอบจังหวะมารยาทในการชมการแสดงการเข้าชม หรือมีสว่ นรว่ มในการ แสดง ที่มา วธิ กี ารกติกาของการละเล่นพน้ื บา้ น ระบุการเล่นพนื้ บ้านท่ีชอบ และภาคภมู ิใจ เพื่อให้เกิดความชื่นชมและเห็นคุณค่าของงานศิลปะ และการใช้วัสดุ อุปกรณ์อย่างประหยัด พอเพียง และคุ้มค่า ปฏิบัติตนเป็นผู้ชมที่ดี ชื่นชมเห็นคุณค่าของการแสดงนาฏศิลป์ไทย การละเล่น พน้ื บ้าน

205 ตวั ชวี้ ัด ศ. ๑.๑ ป. ๒/๑ - ป. ๒/๘ ศ. ๑.๒ ป. ๒/๑ , ป. ๒/๒ ศ. ๒.๑ ป. ๒/๑, ป. ๒/๒, ป. ๒/๓, ป. ๒/๔,ป. ๒/๕ ศ ๒.๒ ป. ๒/๑, ป. ๒/๒ ศ ๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕ ศ ๓.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓ รวม ๑๙ ตัวชี้วดั

206 ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๓ คำอธิบายรายวิชา ศ ๑๓๑๐๑ ศิลปะ ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ศิลปะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ เวลา ๔๐ ช่วั โมง ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา รปู ร่าง รูปทรง จำแนกและจัดกล่มุ ภาพตามทัศนธาตุของสิ่งตา่ งๆ ในธรรมชาติ สง่ิ แวดลอ้ ม และงานทัศนศิลป์ มีทักษะพื้นฐานการใช้วัสดุอุปกรณ์ในการสร้างงาน การวาดภาพระบายสีงานปั้น การ พิมพ์ภาพ ภาพปะติด และการสร้างงานทัศนศิลป์ในท้องถิ่น แสดงความคิดเห็น เหตุผลวิธีการในการ ปรับปรุงผลงาน รู้ประวัติความเป็นมาของงานทัศนศิลป์ในท้องถิ่น ศึกษาลักษณะของเครื่องดนตรีที่เห็น และไดย้ ินในชวี ิตประจำวนั ลักษณะเสียงสงู - ตำ่ ดงั -เบา ทมี่ ีความเกี่ยวข้องกบั ชวี ิตประจำวันและบทบาท หน้าที่ของบทเพลงที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ศึกษาความเป็นมาความสำคัญของการแสดงนาฏศิลป์ไทย นาฏศิลป์พื้นบ้าน ประเภทลักษณะและเอกลักษณ์ของการแสดงนาฏศิลป์ หลักการชมการแสดง และ เขา้ ใจความสมั พันธ์ระหวา่ งนาฏศลิ ปก์ ับการบูรณาการกลมุ่ สาระการเรยี นรตู้ ่างๆ โดยฝกึ สร้างสรรค์งานทัศนศลิ ป์ ฝกึ ใชท้ ัศนธาตจุ ากธรรมชาตสิ งิ่ แวดล้อมเพือ่ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิด จินตนาการ เหตุการณ์ ประสบการณ์ในชีวิตจรงิ และวัฒนธรรมประเพณีในท้องถิ่น มีส่วนรว่ ม ในกิจกรรมดนตรีและบทเพลงสามารถเคลื่อนไหวท่าทางอารมณ์ ให้สอดคล้องกับบทเพลงสามารถ นำไปใช้ในชีวติ ประจำวันและโอกาสพเิ ศษได้ มคี วามชน่ื ชมและสนุกสนานในกิจกรรมดนตรี ฝึกปฏิบตั ิและ แสดงนาฏศิลป์ไทย พืน้ บา้ น ฝึกเคล่ือนไหวแสดงท่าทางประกอบเพลงตามรูปแบบ ทางนาฏศิลป์ ปฏิบัติตนเปน็ ผู้ชมและผู้แสดงท่ดี ี เพอื่ ให้เกดิ ความตระหนกั ช่ืนชม เห็นคุณคา่ ของงานศิลปะ ดนตรี นาฏศิลป์ มคี วามรู้ ความเข้าใจ มีทักษะในการสร้างสรรคง์ านทัศนศลิ ป์ ดนตรี นาฏศลิ ป์และการละเลน่ พน้ื บ้าน สามารถ นำกจิ กรรมศิลปะ ดนตรี นาฏศิลปไ์ ปใช้ในโอกาสตา่ งๆ เพื่อความเพลิดเพลินแก่ตนเองและผู้อ่ืนได้ ตัวชวี้ ดั ศ ๑.๑ ป ๓/๑ , ป ๓/๑๐ ศ ๑.๒ ป ๓/๑ - ป ๓/๒ ศ ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒ ศ ๒.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒ ศ ๓.๑ ป.๓/๑, ป. ๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕ ศ ๓.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป. ๓/๓ รวม ๑๖ ตัวช้ีวัด

207 ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ คำอธบิ ายรายวิชา ศ ๑๔๑๐๑ ศลิ ปะ ๔ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔ เวลา ๘๐ ชวั่ โมง ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ศกึ ษาเปรียบเทยี บรูปลกั ษณะของรปู ร่าง รูปทรงในธรรมชาติ สิ่งแวดลอ้ ม และงานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความคิด ความร้สู ึก ความประทับใจผ่านงานทัศนศิลปข์ องตนเองและบุคคลอืน่ การอภิปราย เก่ียวกับอิทธพิ ลของสวี รรณะอ่นุ และสวี รรณะเยน็ ที่มีตอ่ อารมณข์ องมนุษย์ เหตุการณ์ และงาน เฉลมิ ฉลองของวัฒนธรรมในท้องถน่ิ จำแนกทัศนธาตขุ องสง่ิ ต่าง ๆในธรรมชาตสิ ิ่งแวดล้อม และงานทัศนศลิ ป์โดยเน้นเรือ่ งเส้น สี รปู ร่าง รูปทรงพืน้ ผิว และพื้นทีว่ า่ ง ฝกึ ทักษะพ้ืนฐานในการใชว้ สั ดุ อปุ กรณส์ รา้ งสรรค์งานพมิ พ์ภาพ งานวาดภาพระบายสี บรรยายลกั ษณะของภาพโดยเน้น เร่อื งการจดั ระยะความลกึ นำ้ หนกั แสงเงาในภาพ และงานทศั นศลิ ป์ท่ีมาจากวัฒนธรรมตา่ งๆ วาดภาพ ระบายสี โดยใชส้ ีวรรณะอนุ่ และสีวรรณะเยน็ ถา่ ยทอดความรูส้ กึ และจินตนาการ เลือกใช้วรรณะสี เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ ความร้สู ึกในการสร้างงานทัศนศลิ ป์ ศึกษาโครงสร้างของบทเพลง ความหมาย จำแนกประเภทของเครื่องดนตรี ระบทุ ศิ ทางการเคลอื่ นทขี่ ึ้นลงงา่ ยๆ ของทำนอง รูปแบบจังหวะและ ความเร็ว ของจงั หวะในเพลงที่ฟงั เคร่ืองหมายและสัญลักษณท์ างดนตรี การสบื ทอดงานทางดนตรี ท่ีเกย่ี วข้องกบั ความสัมพนั ธ์ของวิถชี ีวติ ไทยท่ีสะท้อนในดนตรีและเพลงท้องถิ่น การอนรุ ักษ์สง่ เสริม วฒั นธรรม ภูมิปญั ญาท้องถนิ่ ภมู ิปญั ญาไทยและสากล ศึกษาทกั ษะพน้ื ฐานทางนาฏศลิ ปแ์ ละการ ละครทใ่ี ช้สื่อความหมาย อารมณ์ หลกั และวิธีการปฏบิ ัติ การเคลื่อนไหวในจังหวะตา่ งๆ ตามความคดิ ของ ตน การแสดงนาฏศลิ ปเ์ ป็นคู่และหมู่ รำวงมาตรฐาน ระบำ เล่าสง่ิ ทชี่ ืน่ ชอบในการแสดงโดยเนน้ จุดสำคัญ ของเร่ืองและลกั ษณะเด่นของตวั ละคร อธบิ ายประวัติความเปน็ มาของนาฏศิลป์ หรอื ชุดการแสดงอย่าง งา่ ยๆ ใชภ้ าษาท่าและนาฏยศัพท์ถ่ายทอดเร่ืองราว อธบิ ายประวตั ิความเป็นมาของนาฏศิลป์ โดยใชท้ ักษะทางศิลปะ เลือกใชว้ ัสดุ อุปกรณส์ ร้างสรรคไ์ ดอ้ ย่างเหมาะสม ฝึกปฏบิ ตั อิ า่ น เขียน โน้ตดนตรไี ทยและสากล รอ้ งเพลง ใช้ช่วงเสียงทเี่ หมาะสมกับตนเอง บอกความหมายและสัญลักษณ์ทาง ดนตรี โครงสรา้ งโนต้ เพลงไทย ใช้และเกบ็ เครือ่ งดนตรีอย่างถูกต้องและปลอดภัย ระบวุ ่าดนตรีสามารถใช้ ในการสื่อเรื่องราว บอกแหล่งที่มาและความสัมพันธ์ของวิถีชีวิตไทย ความสำคัญในการอนุรักษ์ส่งเสริม วัฒนธรรมทางดนตรี ที่สะท้อนในดนตรี เพลงท้องถิ่นและโอกาสในการบรรเลงดนตรี ฝึกปฏิบัติภาษาท่า และนาฏยศพั ท์หรือศัพท์ทางการละครง่ายๆ ในการถา่ ยทอดเร่ืองราว ประดิษฐ์ทา่ ทางหรือท่ารำประกอบ จังหวะพื้นเมือง ชุดการแสดงอย่างง่ายๆ เปรียบเทียบการแสดงนาฏศลิ ป์กับการแสดงท่ีมาจากวัฒนธรรม อน่ื เพื่อสามารถบอกความรู้สึกในการรับรู้ความงามและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความงามของ ทัศนธาตทุ างทัศนศิลป์ ดนตรี นาฏศลิ ป์ นำเสนอผลงานของตนเองและกล่มุ อภิปราย เปรยี บเทยี บ

208 ผลงาน นำความรู้และวิธีการทางทัศนศิลป์ ดนตรี นาฏศิลป์ไปใช้ในชีวิตประจำวัน สืบทอดงาน เกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณี ที่เป็นภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ตัวชี้วัด ศ ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘, ป.๔/๙ ศ ๑.๒ ป.๔/๑,ป.๔/๒ ศ ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗ ศ ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒ ศ ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕ ศ ๓.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป๔/๔ รวม ๒๙ ตัวช้ีวัด

209 ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๕ คำอธิบายรายวิชา ศ ๑๕๑๐๑ ศิลปะ ๕ กล่มุ สาระการเรียนรู้ศิลปะ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๕ เวลา ๘๐ ชว่ั โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา เกี่ยวกับ ที่ปรากฏในสิ่งแวดล้อม และสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ สื่อความคิด จินตนาการ เปรยี บเทียบความแตกต่างระหวา่ งงานทัศนศลิ ป์ทส่ี ร้างสรรค์ด้วยวสั ดุอุปกรณแ์ ละวิธกี ารที่ตา่ งกัน ใช้ความรู้ เทคนิค วธิ กี าร และวัสดุอุปกรณ์ประเภทต่างๆ จากแหลง่ การเรียนรู้หรอื นิทรรศการ แสดงออก ถึงความรู้สึก ความคิดเห็น ประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศิลป์ที่มีผลต่อชีวิตของคน ในสงั คม สรา้ งสรรคง์ านปน้ั จาก ดนิ น้ำมัน หรือดนิ เหนยี ว งานพิมพ์ภาพ โดยเน้นการถ่ายทอดจินตนาการ ศลิ ปะ และการจัดวางตำแหน่งของสง่ิ ตา่ งๆ ในภาพ ศึกษาจังหวะ ทำนอง องคป์ ระกอบดนตรีในเพลงที่ใชใ้ นการสอื่ อารมณ์ จำแนกลักษณะของเสียง ขบั รอ้ งและเครื่องดนตรี ที่อยู่ในวงดนตรปี ระเภทต่างๆ การอ่าน เขยี นโนต้ ดนตรีไทย ดนตรสี ากล ๕ ระดับเสยี ง รอ้ งเพลงไทยหรอื เพลงสากลหรอื เพลงไทยสากลท่ีเหมาะสมกับวัย ด้นสดง่ายๆ โดยใชป้ ระโยคเพลงแบบถามตอบ ใชเ้ คร่ืองดนตรีบรรเลงจังหวะและทำนอง ร่วมกบั กิจกรรมในการ แสดงออกตามจินตนาการ ศึกษาความรู้พื้นฐานทางนาฏศิลป์ การบรรยายองค์ประกอบของนาฏศิลป์ การประดิษฐ์ท่าทาง ประกอบเพลงหรือเรื่องราวตามความคิด องค์ประกอบของละคร บอกที่มาของการแสดงนาฏศิลป์ ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ บั จากการชมการแสดง โดยใช้ทักษะทางศิลปะ เลือกเทคนิค วิธีการ วัสดุอุปกรณ์ในการสร้างสรรค์อย่างเหมาะสม ใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ การอภิปราย การฝึกปฏิบัติ การแสดงออกตามจินตนาการเพื่อสื่อความคิด จินตนาการ ความรู้สึกประทับใจและเห็นคุณค่า อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี นาฏศิลป์ กับประเพณีในวัฒนธรรมต่าง ๆ ให้สัมพันธ์กัน เพื่อนำไปสร้างสรรค์ระหว่างดนตรี นาฏศิลป์กับประเพณี ในวฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ เห็นคณุ ค่าของดนตรที ่มี าจากวัฒนธรรมทตี่ า่ งกนั เพื่อนำความรู้และหลักการทางด้านนาฏศิลป์มาใช้บูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ และชีวิตประจำวันสัมพันธก์ ับการแสดงนาฏศิลปพ์ ื้นบ้านที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและประเพณี ภูมิปัญญา ทอ้ งถิ่น ภูมปิ ัญญาไทยและสากล ตัวชีว้ ัด ศ ๑.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ศ ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗ ศ ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ศ ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗

210 ศ ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖ ศ ๓.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒ รวม ๒๖ ตัวช้ีวดั

211 ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๖ คำอธิบายรายวชิ า ศ ๑๖๑๐๑ ศิลปะ ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๖ เวลา ๘๐ ชว่ั โมง ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษา สร้างสรรคง์ านทศั นศิลป์ สอื่ ความคิด ถา่ ยทอดจนิ ตนาการ ใชส้ คี ตู่ รงขา้ ม แสงเงา น้ำหนัก งานปั้น รูปแบบ เทคนิค และวิธีการต่างๆ แสดงเป็นแผนภาพ แผนผัง ภาพประกอบ อธิบายหลักการจัด ขนาด สัดส่วน ความสมดุลในการสร้างงานทัศนศิลป์ จากรูปแบบ ๒ มิติ เป็น ๓ มิติ บทบาทของงาน ทศั นศลิ ปท์ ่สี ะทอ้ นชีวิตและสงั คม อภปิ รายเกี่ยวกับอิทธพิ ลของความเชื่อ ความศรัทธาในศาสนาท่ีมีผลต่อ งานทศั นศิลปใ์ นท้องถ่ินอันเปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปญั ญาทอ้ งถน่ิ ภมู ปิ ัญญาไทยและสากล ศึกษา วิเคราะห์องค์ประกอบดนตรี เพลงที่ฟังและศัพท์สังคีต จำแนกประเภทเครื่องดนตรี ใช้เครื่องดนตรีและ เครื่องดนตรีที่มาจากวัฒนธรรมต่าง ๆ อ่าน เขียนโน้ตไทยและโน้ตสากล ร้องเพลง ด้นสด สร้างสรรค์ รูปแบบจังหวะและทำนองด้วยเครื่องดนตรีไทยหรือเครื่องดนตรีที่มาจากวัฒนธรรมต่างๆ สืบทอดดนตรี ไทย จำแนกดนตรที ่ีมาจากยุคสมัยท่ีต่างกนั อิทธิพลของวัฒนธรรมต่อดนตรีในท้องถนิ่ บรรยายความรู้สึก และแสดงความคิดเห็นที่มีต่อบทเพลง ความไพเราะของเสียงดนตรี ศึกษาพื้นฐานความรู้ ความเข้าใจ นาฏศิลป์เบื้องต้น แสดงออกอย่างอิสระในการประดิษฐ์ท่าทางประกอบเพลงปลุกใจหรือเพลงพื้นเมือง หรือท้องถิ่น การแสดงนาฏศิลป์และละครสร้างสรรค์ การใช้เรื่องแต่ง จินตนาการ ประสบการณ์ ละคร สร้างสรรค์ ระบำ ฟ้อน รำวงมาตรฐาน การอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์และการละครกับสิ่งที่ ประสบในชวี ติ ประจำวนั ใชห้ ลกั สนุ ทรีทางนาฏศลิ ป์ การบอกความหมาย ความเปน็ มา ความสำคญั พร้อม ทั้งระบุประโยชน์ที่ได้รับจากการแสดงหรือการชมการแสดงนาฏศิลป์ สร้างสรรค์การเคลื่อนไหวและการ ถ่ายทอดลีลา อารมณ์ สิ่งที่มีความสำคัญต่อการแสดงนาฏศิลป์และละคร ระบุประโยชน์ที่ได้รับจากการ แสดงหรือการชมการแสดงนาฏศลิ ป์และละคร โดยใช้ทักษะกระบวนการทางศิลปะดนตรี นาฏศิลป์ สังเกต ทดลอง ฝึกปฏิบัติโดยเลียนแบบ ตามรูปแบบที่กำหนดให้และฝึกเปลี่ยนรูปแบบ คิดวิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์งาน กระบวนการกลุ่มและ รายบคุ คล บอกความรสู้ ึกท่ีเกดิ จากจัดการแสดงทางศลิ ปะ ดนตรี นาฏศลิ ป์ เพื่อถ่ายทอดความคิดหรือเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เพื่อให้ เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดำเนินชีวิตประจำวันสัมพันธ์กับวิถีชีวิตพ้นื บ้าน ศลิ ปะ ดนตรีและการแสดงนาฏศิลป์พ้ืนบ้านที่สะท้อนถงึ วัฒนธรรมและประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิ ปัญญาไทยและสากล

212 ตัวชี้วดั ศ ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗ ศ ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ศ ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖ ศ ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ศ ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖ ศ ๓.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒ รวม ๒๗ ตัวช้ีวดั

213 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑ คำอธบิ ายรายวชิ า ศ ๒๑๑๐๑ ทัศนศลิ ป์ ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรียนที่ ๑ หนว่ ยนำ้ หนัก ๐.๕ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความแตกต่างและความคล้ายคลึงกันของทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์และสิ่งแวดล้อม ความเป็นเอกภาพ ความกลมกลืน ความสมดุล หลักการวาดภาพแสดงทัศนียภาพ ลักษณะ รูปแบบ งานทัศนศลิ ป์ของชาติและของทอ้ งถิ่น และงานทัศนศลิ ป์ภาคตา่ งๆ ในประเทศไทย โดยการใช้กระบวนการสังเกต การลองปฏิบัติ ปฏิบัติจริง และการใช้จินตนาการสร้างสรรค์ งานศลิ ป์ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเรื่องทัศนธาตุ การออกแบบ การวาดภาพ และชื่นชอบในงาน ทัศนศลิ ป์ ตัวช้วี ดั ศ ๑.๑ ม. ๑/๑ , ม. ๑/๒ , ม.๑/๓ ศ ๑.๒ ม.๑/๑ , ม.๑/๒ รวม ๕ ตวั ชว้ี ดั

214 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๑ คำอธบิ ายรายวิชา ศ๒๑๑๐๒ ทศั นศลิ ป์ ๒ กลมุ่ สาระการเรียนรูศ้ ิลปะ ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ หนว่ ยนำ้ หนัก ๐.๕ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาเอกภาพความกลมกลืนของเรื่องราวในการปั้น งานสื่อผสม การออกแบบรูปภาพ สัญลักษณ์ งานกราฟิก ความแตกต่างของงานทัศนศิลป์ในวัฒนธรรมไทยและสากล และการประเมิน งานทศั นศิลป์ โดยใชก้ ระบวนการสงั เกต การปฏบิ ัตจิ ริง การใชจ้ ินตนาการและการประเมนิ ผลงาน เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับงานปั้น หรือสื่อผสม การออกแบบ งานกราฟิก สามารถ ประเมินงานทัศนศิลปเ์ พื่อปรับปรุงงานของตนเองและผอู้ ื่นได้ และเหน็ คณุ คา่ ของงานทศั นศิลป์ ตัวชว้ี ดั ศ ๑.๑ ม.๑/๔ ; ม.๑/๕ ; ม.๑/๖ ศ ๑.๒ ม.๑/๓ รวม ๔ ตวั ช้วี ดั

215 ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๒ คำอธิบายรายวชิ า ศ๒๒๑๐๑ ทศั นศิลป์ ๓ กลุ่มสาระการเรยี นร้ศู ิลปะ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรียนท่ี ๑ จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษารูปแบบของทัศนธาตุและแนวคิดในงานทัศนศิลป์ ความเหมือนและความแตกต่างของ รูปแบบการใช้วัสดุอปุ กรณ์ในงานทัศนศิลปข์ องศิลปิน เทคนคิ ในการวาดภาพส่ือความหมาย วัฒนธรรมที่ สะท้อนในงานทัศนศลิ ปข์ องไทยในแต่ละยคุ สมยั และในปจั จบุ นั โดยใช้กระบวนการพูด อภิปราย บรรยาย การวาดภาพ การประเมินและวิจารณ์งานศิลป์ เพ่อื ใหเ้ กดิ ความร้คู วามเข้าใจรปู แบบแนวคิด เทคนคิ ในการวาด การประเมนิ และวิจารณง์ านศิลป์ เพ่อื พฒั นาปรบั ปรุงแกไ้ ขงาน และปลกู จติ สำนึกให้ชน่ื ชอบงานทศั นศลิ ป์ ตัวชว้ี ัด ศ ๑.๑ ม.๒/๑; ม.๒/๒ ; ม.๒/๓ ; ม. ๒/๔ ศ ๑.๒ ม.๒/๑ ; ม.๒/๒ รวม ๖ ตวั ช้วี ัด

216 ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๒ คำอธิบายรายวิชา ท๒๒๑๐๒ ทศั นศิลป์ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ าระศิลปะ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๒ จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต เวลา ๒๐ ชว่ั โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาเอกภาพความกลมกลืนของเรื่องราวในการปั้น งานสื่อผสม การออกแบบรูปภาพ สัญลักษณ์ งานกราฟิก ความแตกต่างของงานทัศนศิลป์ในวัฒนธรรมไทยและสากล การประเมินงาน ทศั นศิลป์ โดยใชก้ ระบวนการสงั เกต การลองทำ การปฏิบัตจิ รงิ และ การใชจ้ ินตนาการ เพ่อื สรา้ งสรรค์งาน ศิลป์ และ การประเมนิ ผลงาน เพื่อใหม้ คี วามรู้ความเขา้ ใจงานปั้น หรือสื่อผสม การออกแบบ ทัศนศลิ ป์เพ่ือปรับปรุงงานของ ตนเองและผู้อนื่ ได้รปู ภาพ งานกราฟกิ สามารถประเมนิ งานทัศนศิลป์ได้ ตวั ชี้วดั ศ.๑.๑. ม.๒/๔ , ม.๒/๕ , ม.๒/๖ ศ.๑.๒. ม.๒/๓ รวม ๔ ตวั ชวี้ ดั

217 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ คำอธิบายรายวิชา ศ ๒๓๑๐๑ ทัศนศลิ ป์ ๕ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรียนท่ี ๑ จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต เวลา ๒๐ ชั่วโมง ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาทัศนธาตุ หลกั การออกแบบในส่ิงแวดล้อมและงานทศั นศลิ ป์ เทคนคิ วธิ กี ารในการ สร้างงานทัศนศิลป์ วิธีการใช้ทัศนธาตุและหลักการออกแบบในการสร้างงานทัศนศิลป์ การสร้างงาน ทศั นศิลปท์ ั้งไทยและสากล การใช้หลกั การออกแบบในการสร้างงานส่ือผสม การสร้างงานทัศนศิลป์แบบ ๒ มิติ และ ๓ มิติเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ และจินตนาการ ศึกษางานทัศนศิลป์กับการสะท้อน คณุ คา่ ของวฒั นธรรม โดยการใชก้ ารบรรยาย การสร้างงานทศั นศิลป์ และอภิปราย เพ่ือให้มคี วามรู้ความเขา้ ใจในหลักการ เทคนคิ และการออกแบบ ชืน่ ชอบในงานทัศนศิลป์ ตัวช้ีวัด ศ ๑.๑ ม.๒/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔, ม.๓/๕ , ม.๓/๖ ศ ๑.๒ ม.๓/๑ รวม ๗ ตัวชี้วัด

218 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ คำอธบิ ายรายวชิ า ศ ๒๓๑๐๒ ทัศนศิลป์ ๖ กลุม่ สาระการเรยี นรูส้ าระศิลปะ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ ภาคเรยี นท่ี ๒ จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา การประยุกต์ใช้ทัศนธาตุและหลักการออกแบบสร้างงานทัศนศิลป์ การวิเคราะห์ รูปแบบ เนื้อหา และคุณค่าในงานทัศนศิลป์ การใช้เทคนิคเทคนิค วิธีการที่หลากหลายสร้างงาน ทัศนศิลป์เพื่อสื่อความหมาย การประกอบอาชีพทางทัศนศิลป์ การจัดนิทรรศการ และเปรียบเทียบ ความแตกตา่ งของงานทศั นศิลป์ในแต่ละยุคสมยั ของวัฒนธรรมไทยและสากล โดยใชก้ ารวิเคราะห์ อภิปราย การออกแบบงาน เพื่อให้มีความรู้และเข้าใจเรื่องทัศนธาตุ หลักการออกแบบ เทคนิคที่หลากหลาย การ เปลี่ยนแปลงและพฒั นาการของงานทัศนศลิ ปข์ องชาติและท้องถนิ่ แต่ละยคุ สมัย เห็นคณุ ค่างานทัศนศิลป์ ที่สะท้อนวัฒนธรรมและสามารถเปรยี บเทยี บงานทัศนศิลปท์ ี่มาจากยุคสมัยและวฒั นธรรมตา่ งๆ ตวั ชว้ี ดั ศ ๑.๑ ม.๓/๗, ม.๓/๘, ม.๓/๙, ม. ๓/๑๐,ม.๓/๑๑ ศ ๑.๒ ม.๓/๒ รวม ๖ ตัวช้ีวดั

219 คำอธิบายรายวชิ า (ดนตรนี าฏศิลป)์ ระดบั มัธยมศกึ ษา

220 ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๑ คำอธบิ ายรายวชิ า ศ ๒๑๑๐๓ ดนตรีนาฏศลิ ป์ ๑ กลุ่มสาระการเรียนร้ศู ิลปะ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต เวลา ๒๐ ชว่ั โมง --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาเคร่อื งหมายและสญั ลกั ษณท์ างดนตรี เสียงรอ้ งและเสียงของเคร่ืองดนตรี ในบทเพลงจาก วัฒนธรรมต่างๆ การร้องและการบรรเลงเครื่องดนตรีประกอบการร้อง วงดนตรีพื้นเมือง วงดนตรีไทย วงดนตรีสากล การถ่ายทอดอารมณ์ของบทเพลง การนำเสนอบทเพลงที่ตนสนใจ การประเมิน คุณภาพของบทเพลง การใช้และบำรุงรักษาเครื่องดนตรีของตน บทบาทและอิทธิพลของดนตรี องค์ประกอบของดนตรีในแต่ละวฒั นธรรม โดยการใชก้ ระบวนการฝึกทักษะทางดนตรี การสงั เกต ทดลอง ฝึกปฏิบัติตามทลี ะขั้นตอน จาก งา่ ยไปหายาก และฝกึ ปฏิบัติซำ้ ๆ จนสามารถอา่ น เขียน รอ้ งโนต้ ไทย และโน้ตสากลเปรียบเทียบเสียงร้อง และเสยี งของเคร่ืองดนตรี ท่ีมาจากวัฒนธรรมทต่ี า่ งกัน ร้องเพลงและใช้เคร่ืองดนตรบี รรเลงประกอบการ ร้องเพลงด้วยบทเพลง ทห่ี ลากหลายรูปแบบ จัดประเภทของวงดนตรีไทยและวงดนตรที ่ีมาจากวัฒนธรรม ต่าง ๆ แสดงความคิดเห็นท่ีมีต่ออารมณ์ของบทเพลงท่ีมีความเร็วของจังหวะ และความดงั - เบา แตกต่าง กัน เปรยี บเทียบอารมณ์ ความรู้สกึ ในการ ฟังดนตรแี ตล่ ะประเภท นำเสนอตวั อยา่ งเพลงที่ตนเองช่ืนชอบ และอภิปรายลกั ษณะเดน่ ท่ีทำใหง้ านน้ันน่าช่ืนชม ใช้เกณฑส์ ำหรบั ประเมนิ คุณภาพ งานดนตรีหรือเพลงที่ ฟัง ใช้และบำรุงรักษาเครอ่ื งดนตรี อย่างระมดั ระวงั และรบั ผดิ ชอบ สามารถอธบิ ายบทบาทความสัมพันธ์ และอิทธิพลของดนตรีที่มีต่อสังคมไทย ระบุความหลากหลายขององค์ประกอบดนตรีในวัฒนธรรมต่างกัน ได้ เพื่อถ่ายทอดความคิดหรือเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เพื่อให้ เห็นคุณค่าของการนำความรูไ้ ปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ในการดำเนนิ ชีวิตประจำวันสัมพันธ์กับวิถีชีวิตพื้นบ้าน ศิลปะ ดนตรีและการแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้านที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิ ปัญญาไทยและสากล ตวั ช้ีวัด ศ. ๒.๑ ม.๑/๑ – ม.๑/๙ ศ. ๒.๒ ม.๑/๑ – ม.๑/๒ รวม ๑๑ ตัวชว้ี ดั

221 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ คำอธบิ ายรายวชิ า ศ ๒๑๑๐๔ ดนตรนี าฏศลิ ป์ ๒ กลุ่มสาระการเรียนร้ศู ิลปะ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต เวลา ๒๐ ชว่ั โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาการปฏิบัติของผู้แสดงและผู้ชม ประวัตินักแสดงที่ชื่นชอบ การพัฒนารูปแบบของการ แสดงอิทธิพลของนักแสดงที่มีผลต่อพฤติกรรมของผู้ชม นาฏยศัพท์หรือศัพท์ทางการละคร ในการแสดง ภาษาท่า และการตีบทท่าทางเคลื่อนไหวท่ีแสดงสื่อทางอารมณ์ ระบำเบ็ดเตล็ด รำวงมาตรฐาน รูปแบบ การแสดงนาฏศิลป์บทบาทและหน้าที่ของฝ่ายต่างๆ ในการจัดการแสดง การสร้างสรรค์กิจกรรมการ แสดงที่สนใจ โดยแบ่งฝ่ายและหน้าที่ให้ชัดเจน หลักในการชมการแสดง ประเภทของละครไทยในแต่ละ ยคุ สมยั ปจั จยั ท่มี ีผลต่อการเปล่ยี นแปลงของนาฏศิลป์ นาฏศิลปพ์ นื้ บ้าน ละครไทย และละครพนื้ บา้ น โดยใช้กระบวนการ การฝึกปฏิบัติตามแบบ ฝึกปฏิบัติด้วยตนเอง และฝึกการใช้ความคิด สร้างสรรค์ ในการใช้นาฏยศัพทห์ รือศัพท์ทางการละครในการแสดง แสดงนาฏศิลป์และละครในรปู แบบง่ายๆ ใช้ทักษะการทำงานเป็นกลุ่มในกระบวนการผลิตการแสดง ใช้เกณฑ์ง่ายๆ ที่กำหนดให้ในการพิจารณา คุณภาพการแสดงท่ีชม โดยเน้นเรื่องการใช้เสยี งการแสดงทา่ และการเคล่ือนไหว ระบุปัจจัยที่มีผลต่อการ เปลี่ยนแปลงของนาฏศิลป์ นาฏศิลป์พื้นบ้าน ละครไทยและละครพื้นบ้าน สามารถบรรยายประเภทของ ละครไทย ในแตล่ ะยุคสมยั ได้ ศกึ ษาเครอ่ื งหมายและสญั ลักษณท์ างดนตรี เสยี งรอ้ งและเสียงของเคร่ืองดนตรี ในบทเพลงจาก วัฒนธรรมต่างๆ การร้องและการบรรเลงเครื่องดนตรีประกอบการร้อง วงดนตรีพื้นเมือง วงดนตรีไทย วงดนตรีสากล การถ่ายทอดอารมณ์ของบทเพลง การนำเสนอบทเพลงที่ตนสนใจ การประเมิน คุณภาพของบทเพลง การใช้และบำรุงรักษาเครื่องดนตรีของตน บทบาทและอิทธิพลของดนตรี องค์ประกอบของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรม โดยการใชก้ ระบวนการฝึกทกั ษะทางดนตรี การสงั เกต ทดลอง ฝกึ ปฏบิ ัติตามทลี ะขั้นตอน จาก ง่ายไปหายาก และฝึกปฏิบัตซิ ้ำๆ จนสามารถอา่ น เขยี น รอ้ งโน้ตไทย และโน้ตสากลเปรียบเทียบเสียงร้อง และเสยี งของเครื่องดนตรี ท่ีมาจากวฒั นธรรมท่ตี า่ งกัน รอ้ งเพลงและใชเ้ คร่ืองดนตรบี รรเลงประกอบการ ร้องเพลงดว้ ยบทเพลง ท่ีหลากหลายรูปแบบ จดั ประเภทของวงดนตรีไทยและวงดนตรที ่ีมาจากวัฒนธรรม ตา่ ง ๆ แสดงความคดิ เหน็ ท่ีมตี ่ออารมณ์ของบทเพลงท่ีมีความเรว็ ของจังหวะ และความดัง - เบา แตกต่าง กัน เปรียบเทยี บอารมณ์ ความรูส้ ึกในการ ฟงั ดนตรแี ต่ละประเภท นำเสนอตวั อยา่ งเพลงที่ตนเองช่ืนชอบ และอภปิ รายลักษณะเดน่ ท่ีทำให้งานน้ันน่าช่ืนชม ใช้เกณฑส์ ำหรับประเมนิ คณุ ภาพ งานดนตรีหรือเพลงท่ี ฟัง ใชแ้ ละบำรุงรกั ษาเคร่ืองดนตรี อย่างระมัดระวงั และรับผิดชอบ สามารถอธิบายบทบาทความสัมพันธ์ และอิทธิพลของดนตรีท่ีมีต่อสังคมไทย ระบุความหลากหลายขององคป์ ระกอบดนตรีในวัฒนธรรมต่างกัน ได้

222 เพื่อถ่ายทอดความคิดหรือเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เพื่อให้ เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ให้เกดิ ประโยชนใ์ นการดำเนินชีวิตประจำวนั สัมพันธ์กับวิถีชีวิตพ้นื บ้าน ศิลปะ ดนตรีและการแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้านที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นภูมิ ปัญญาไทยและสากล ตวั ช้วี ดั ศ. ๓.๑ ม. ๑/๑ – ม.๑/๕ ศ. ๓.๒ ม. ๑/๑ – ม.๑/๒ รวม ๗ ตวั ชวี้ ดั

223 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๒ คำอธิบายรายวชิ า ศ ๒๒๑๐๓ ดนตรนี าฏศลิ ป์ ๓ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๒ ภาคเรยี นที่ ๑ จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาองค์ประกอบของดนตรีจากแหล่งวัฒนธรรมต่างๆ เครื่องหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรี ปัจจัยในการสร้างสรรค์บทเพลง เทคนิคการร้องและบรรเลงดนตรี การบรรยายอารมณ์และความรสู้ ึกในบท เพลง การประเมินความสามารถทางดนตรี อาชีพทางด้านดนตรี บทบาทของดนตรีในธุรกิจบันเทิง ดนตรใี นวฒั นธรรมต่างประเทศ เหตุการณป์ ระวัตศิ าสตรก์ บั การเปลี่ยนแปลง ทางดนตรใี นประเทศไทย โดยการใชก้ ระบวนการฝึกทักษะทางดนตรี การสังเกต ทดลอง ฝกึ ปฏิบตั ิตามทีละขั้นตอน จาก ง่ายไปหายาก และฝึกปฏิบัติซ้ำๆ จนสามารถเปรียบเทียบการใช้องค์ประกอบดนตรีที่มาจากวัฒนธรรม ต่างกัน อ่าน เขียนรอ้ งโนต้ ไทย และโน้ตสากลที่มีเคร่ืองหมายแปลงเสียง ระบุปจั จัยสำคัญท่ีมีอิทธิพลต่อ การสรา้ งสรรค์งานดนตรี ร้องเพลง และเลน่ ดนตรีเดี่ยวและรวมวง บรรยายอารมณ์ของเพลงและความรู้สึก ที่มีต่อบทเพลงที่ฟัง ประเมิน พัฒนาการทักษะทางดนตรีของตนเอง หลังจากการฝึกปฏิบัติ ระบุงาน อาชีพต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับดนตรีและบทบาทของดนตรีในธุรกิจบันเทิง บรรยายบทบาท และอิทธิพลของ ดนตรีในวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ สามารถบรรยายอิทธิพลของวัฒนธรรม และเหตุการณ์ใน ประวตั ิศาสตร์ที่มตี ่อรูปแบบของดนตรใี นประเทศไทยได้ ตวั ช้ีวัด ศ. ๒.๑ ม.๒/๑ – ม.๒/๗ ศ. ๒.๒ ม.๒/๑ – ม.๒/๗ รวม ๙ ตัวชว้ี ดั

224 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒ คำอธบิ ายรายวชิ า ศ ๒๒๑๐๔ ดนตรีนาฏศลิ ป์ ๔ กล่มุ สาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ภาคเรียนท่ี ๒ จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต เวลา ๒๐ ชว่ั โมง --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาศิลปะแขนงอื่นๆ กับการแสดง หลักและวิธีการสร้างสรรค์การแสดง โดยใช้องค์ประกอบ นาฏศิลป์ และการละครหลัก และวิธีการวิเคราะห์การแสดง วิธีการวิเคราะห์ วิจารณ์การแสดงนาฏศิลป์ และการละครรำวงมาตรฐาน ความสมั พนั ธข์ องนาฏศลิ ป์ หรอื การละครกบั สาระการเรียนรอู้ ่นื ๆ นาฏศิลป์ พน้ื เมือง รปู แบบการแสดงประเภทต่างๆ การละครสมัยต่างๆ โดยใช้กระบวนการ การฝึกปฏิบัติตามแบบ ฝึกปฏิบัติด้วยตนเอง และฝึกการใช้ความคิด สร้างสรรค์ ในการอธิบายการบูรณาการศิลปะแขนงอื่นๆ กับการแสดง สร้างสรรค์การแสดงโดยใช้ องค์ประกอบนาฏศิลป์และการละคร วิเคราะห์การแสดงของตนเองและผู้อื่น โดยใช้นาฏยศพั ท์หรือศัพท์ ทางการละคร ท่เี หมาะสม เสนอข้อคิดเหน็ ในการปรับปรุงการแสดง เช่อื มโยงการเรยี นรรู้ ะหวา่ งนาฏศิลป์ และการละครกับสาระการเรียนรู้อื่นๆ สามารถเปรียบเทียบลักษณะเฉพาะของ การแสดงนาฏศิลป์จาก วัฒนธรรมต่างๆ ระบุหรือแสดงนาฏศิลป์ นาฏศิลป์พื้นบ้าน ละครไทย ละครพื้นบ้าน หรือมหรสพอื่นที่ เคยนยิ มกันในอดตี สามารถอธิบายอิทธพิ ลของวฒั นธรรมทม่ี ีผลต่อเน้อื หาของละครได้ เพื่อถ่ายทอดความคิดหรือเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เพื่อให้ เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ให้เกดิ ประโยชนใ์ นการดำเนินชีวิตประจำวนั สัมพันธ์กับวิถีชีวิตพ้นื บ้าน ศิลปะ ดนตรีและการแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้านทีส่ ะท้อนถึงวัฒนธรรมและประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิ ปัญญาไทยและสากล ตวั ชีว้ ดั ศ. ๓.๑ ม.๒/๑ – ม.๒/๕ ศ. ๓.๒ ม.๒/๑ – ม.๒/๕ รวม ๘ ตวั ชีว้ ัด

225 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ คำอธิบายรายวิชา ศ ๒๓๑๐๓ ดนตรนี าฏศิลป์ ๕ กลมุ่ สาระการเรียนร้ศู ิลปะ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นที่ ๑ จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ เวลา ๒๐ ชัว่ โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาการเปรียบเทียบองค์ประกอบในงานศิลปะ เทคนิคและการแสดงออกในการขับร้องและ บรรเลงดนตรเี ดีย่ วและรวมวง อตั ราจงั หวะ การประพันธ์เพลงในอตั ราจังหวะ การเลือกใช้องคป์ ระกอบใน การสร้างสรรคบ์ ทเพลง การเปรียบเทียบความแตกต่างของบทเพลง อิทธิพลของดนตรี การจัดการแสดง ดนตรีในวาระต่างๆ ประวัติดนตรีไทยยุคสมัยต่างๆ ประวัติดนตรีตะวันตกยุคสมัยต่างๆ ปัจจัยที่ทำให้ งานดนตรีได้รับการยอมรบั โดยการใช้กระบวนการฝึกทักษะทางดนตรี การสังเกต ทดลอง ฝึกปฏิบัติตามทีละขั้นตอน จาก ง่ายไปหายาก และฝกึ ปฏบิ ัติซ้ำๆ จนสามารถเปรียบเทยี บองคป์ ระกอบที่ใชใ้ นงานดนตรีและงานศิลปะอื่น ร้องเพลง เล่นดนตรีเดี่ยว และรวมวง โดยเน้นเทคนิคการร้อง การเล่น การแสดงออก และคุณภาพสียง แต่งเพลงสน้ั ๆ จังหวะงา่ ยๆ อธบิ ายเหตุผลในการเลือกใช้องคป์ ระกอบดนตรีในการสร้างสรรค์ งานดนตรี ของตนเอง เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง งานดนตรีของตนเองและผู้อื่น อธิบายเกี่ยวกับอิทธิพล ของดนตรที ม่ี ีต่อบุคคลและสังคม สามารถนำเสนอหรือจัดการแสดงดนตรี ทเ่ี หมาะสมโดยการบูรณาการ กับสาระ การเรียนรอู้ นื่ ในกลุ่มศิลปะได้ เพื่อถ่ายทอดความคิดหรือเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เพื่อให้ เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ให้เกดิ ประโยชน์ในการดำเนินชีวิตประจำวนั สัมพันธ์กบั วิถีชีวิตพ้นื บ้าน ศิลปะ ดนตรีและการแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้านที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิ ปัญญาไทยและสากล ตัวชว้ี ดั ศ. ๒.๑ ม.๓/๑ – ๓/๗ ศ. ๒.๒ ม.๓/๑ – ม.๓/๒ รวม ๙ ตัวชวี้ ดั

226 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓ คำอธิบายรายวิชา ศ ๒๒๑๐๔ ดนตรนี าฏศลิ ป์ ๖ กลุม่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นที่ ๒ จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา องค์ประกอบของบทละคร ภาษาท่าหรือภาษาทางนาฏศิลป์ รูปแบบการแสดง การ ประดิษฐ์ทา่ รำและท่าทางประกอบการแสดง องค์ประกอบนาฏศิลป์ วธิ ีการเลอื กการแสดงละครกบั ชีวิตการ ออกแบบและสร้างสรรค์อุปกรณ์และเครื่องแต่งกายเพื่อการแสดงนาฏศิลป์ความสำคัญและบทบาทของ นาฏศลิ ป์ และการละครในชีวติ ประจำวันการอนุรักษน์ าฏศลิ ป์ โดยใช้กระบวนการ การฝึกปฏิบัติตามแบบ ฝึกปฏิบัติด้วยตนเอง และฝึกการใช้ความคิด สร้างสรรค์ ในการแสดงความคิดเห็นในการอนุรักษ์ อธบิ ายความสำคญั และบทบาทของนาฏศิลป์และการ ละครในชีวิตประจำวัน ออกแบบและสร้างสรรค์อุปกรณ์ และเครื่องแต่งกายเพื่อแสดงนาฏศิลป์และ ละครที่มาจากวัฒนธรรมต่างๆ นำเสนอแนวคิดจากเนื้อเรื่องของการแสดงที่สามารถนำไปปรับใช้ใน ชีวิตประจำวัน ร่วมจัดงานการแสดงในบทบาทหน้าที่ต่างๆ สามารถวิจารณ์เปรียบเทียบงานนาฏศิลปท์ ี่มี ความแตกต่างกัน โดยใช้ความรู้ เรื่ององค์ประกอบนาฏศิลป์ มีทักษะในการแปลความและการสื่อสาร ผ่านการแสดง มีทักษะในการใช้ความคิดในการพัฒนารปู แบบการแสดง ใช้นาฏยศัพท์หรือศัพทท์ างการ ละครที่เหมาะสม บรรยายเปรียบเทียบการแสดงอากัปกิรยิ าของผูค้ นในชีวติ ประจำวัน และในการแสดง ระบุโครงสร้างของบทละครโดยใชศ้ พั ทท์ างการละครได้ เพื่อถ่ายทอดความคิดหรือเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เพื่อให้ เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดำเนินชีวิตประจำวนั สัมพันธ์กับวิถีชีวิตพ้นื บ้าน ศิลปะ ดนตรีและการแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้านที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิ ปญั ญาไทยและสากล ตวั ชี้วัด ศ. ๓.๑ ม.๓/๑ – ม.๓/๗ ศ. ๓.๒ ม.๓/๑ – ม.๓/๓ รวม ๑๐ตวั ชว้ี ดั

227 กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน

228 กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น โรงเรียนบา้ นน้ำก่ำ(ลำ้ ประชาอุปถัมภ)์ ไดจ้ ัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนโดยมุ่งให้ผูเ้ รยี นเกดิ การเรียนรู้ จากประสบการณ์ตรง ได้ฝึกปฏิบัติจริงและค้นพบความถนัดของตนเอง สามารถค้นคว้าหาความรู้ เพิ่มเติมตามความสนใจจากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย บำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม มีทักษะในการ ดำเนินงาน ส่งเสริมให้มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ สังคม ศีลธรรม จริยธรรม ให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจตนเอง สามารถวางแผนชวี ิตและอาชพี ไดอ้ ย่างเหมาะสม กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นกิจกรรมที่มุ่งให้ผู้เรียนพัฒนาตนเองตามศักยภาพ พัฒนาการเรียนรู้ อย่างรอบด้านเพ่ือความเปน็ มนษุ ย์ท่ีสมบูรณ์ท้ังร่างกาย สติปญั ญา อารมณ์ และสงั คม เสรมิ สร้างให้เป็นผู้ มีศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลูกฝังให้สร้างจิตสำนึกของการทำประโยชน์เพื่อสังคม สามรถจัก การตนเองได้และอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข โรงเรียนบ้านน้ำก่ำ(ล้ำประชาอุปถัมภ์) ได้จัดกิจกรรม พัฒนาผู้เรียน โดยแบ่งออกเปน็ ๓ ลกั ษณะ ดังน้ี ๑. กิจกรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้รู้จักตนเอง รู้รักษ์สิ่งแวดล้อม สามารถตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา กำหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตทั้งด้านการเรียน และอาชีพ สามารถปรับ ตนได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังช่วยให้ครูรู้จักและเข้าใจผู้เรียน ทั้งยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยเหลือและให้ คำปรึกษาแก่ผู้ปกครองในการมีส่วนร่วมพัฒนาผู้เรียน โดยนักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมแนะแนว ๔๐ ชว่ั โมงตอ่ ปีการศึกษา ๒. กิจกรรมนักเรียน เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาระเบียบวินัย ความเป็นผู้นำ ผู้ตามที่ดี ความ รับผิดชอบ การทำงานร่วมกัน รู้จักแก้ปัญหา การตัดสินใจที่เหมาะสม ความมีเหตุผล การช่วยเหลือ แบ่งปันเอื้ออาทรและสมานฉนั ท์ โดยจัดให้สอดคล้องกับความสามารถ ความถนัด และความสนใจของ ผู้เรียน ให้ได้ปฏิบัติด้วยตนเองในทุกขั้นตอน ได้แก่ การศึกษาวิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมนิ และปรับปรุงการทำงานเน้นการทำงานรวมกันเป็นกลุ่มตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒิ ภาวะของผูเ้ รียนและบริบทของสถานศกึ ษาและท้องถน่ิ กิจกรรมนักเรยี น ประกอบด้วย กจิ กรรมลูกเสือ เนตรนารี นักเรียนทกุ คนต้องเขา้ ร่วม กิจกรรมลกู เสือ เนตรนารี ๓๐ ชั่งโมงต่อปีการศึกษา กิจกรรม ชุมนุม นกั เรียนทกุ คนต้องเขา้ ร่วมกจิ กรรม ชมรม ๔๐ ช่งั โมงต่อปีการศกึ ษา ๓. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นกจิ กรรมทสี่ ่งเสริมให้ผู้เรียนบำเพ็ญตนให้เป็น ประโยชน์ตอ่ สังคม ชมุ ชนและทอ้ งถนิ่ ตามความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพ่อื แสดงถึงความรับผิดชอบ ความดงี าม ความเสยี สละการมจี ิตสาธารณะ เช่น กิจกรรมอาสาพฒั นาตา่ งๆ กิจกรรมสร้างสรรค์สงั คม นักเรยี นทกุ คนต้องเข้ารว่ มกิจกรรมเพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์ ๑๐ ชวั่ โมงต่อปีการศกึ ษา

229 กจิ กรรมแนะแนว วตั ถุประสงค์ ๑. เพอ่ื ผเู้ รยี นคน้ พบความถนัด ความสามารถ ความสนใจของตนเอง รักละเห็นคุณค่าในตนเอง และผูอ้ ่นื ๒. เพื่อให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้จากข้อมูล ข่าวสาร แหล่งเรียนรู้ ทั้งด้านการศึกษา อาชีพ ส่วนตัว สังคม เพื่อนำไปใช้ในการวางแผน เลือกแนวทางการศึกษาอาชีพได้อย่างเหมาะสม สอดคลอ้ งกบั ศกั ยภาพของตนเอง ๓. เพอ่ื ให้ผเู้ รียนได้พัฒนาบคุ ลกิ ภาพ และรับตวั อยู่ในสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข ๔. เพื่อให้ผู้เรยี นมีความรู้ มีทักษะ มีความคิดสรา้ งสรรค์ ในงานอาชีพและมเี จตคตทิ ี่ดีต่ออาชีพ สจุ รติ ๕. เพื่อให้ผู้เรียนมีค่านิยมที่ดีงามในการดำเนินชีวิต สร้างเสริมวินัย คุณธรรมและจริยธรรมแก่ นักเรียน ๖. เพ่อื ให้ผูเ้ รียนมจี ิตสำนกึ ในการรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเอง ครอบครัว สงั คม และประเทศชาติ แนวการจัดกิจกรรม โรงเรียนบ้านน้ำก่ำ(ล้ำประชาอุปถัมภ์) ได้จัดกิจกรรมแนะแนวเพ่ือ ช่วยเหลอื และพฒั นาผเู้ รียน ดังน้ี ๑. จัดกิจกรรมเพื่อให้ครูได้รู้จักและช่วยเหลือผู้เรียนมากขึ้น โดยใช้กระบวนการทางจิตวิทยา การจดั บรกิ ารสนเทศ โดยใหม้ ีเอกสารเพ่ือใช้ในการสำรวจข้อมูลเกีย่ วกับตวั ผู้เรียน ดว้ ยการ สังเกต สัมภาษณ์ การใช้แบบสอบถาม การเขียนประวัติ การพบผู้ปกครองก่อนและ ระหว่างเรียน การเยี่ยมบ้านนักเรียน การให้ความช่วยเหลือผู้เรียนเรื่องสุขภาพจิต เศรษฐกจิ การจัดทำระเบยี นสะสม สมุดรายงานประจำตัวนกั เรยี น และบตั รสขุ ภาพ ๒. การจัดกิจกรรมพัฒนาวุฒิภาวะทางอารมณ์ โดยทำแบบทดสอบเพื่อรู้จักและเข้าใจตนเอง มีทักษะในการตัดสนิ ใจ การปรับตัว การวางแผนเพ่อื เลือกศึกษาต่อ เลอื กอาชีพ ๓. การจัดบริการให้คำปรึกษาแก่ผู้เรียนรายบุคคล และรายกลุ่ม ในด้านการศึกษา อาชีพ และส่วนตัว โดยมีผู้ให้คำปรึกษาท่ีมีคณุ วุฒิ และมีความเชี่ยวชาญในเรื่องการให้คำปรึกษา ตลอดจนมีห้องใหค้ ำปรึกษาท่ีเหมาะสม ๓.๑ ชว่ ยเหลอื ผู้เรียนท่ีประสบปญั หาดา้ นการเงิน โดยการใหท้ ุนการศึกษาแก่ผู้เรยี น ๓.๒ ตดิ ตามเกบ็ ข้อมูลของนักเรยี นท่สี ำเร็จการศกึ ษา

230 กจิ กรรมนกั เรียน ๑. กจิ กรรมลกู เสือ กจิ กรรมลูกเสอื - เนตรนารี ผู้เรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึง ชั้นมัธยมศึกษาปีทิ่ ๓ ทุกคน ได้ฝึกอบรมวิชา ลูกเสือ - เนตรนารี เพอ่ื สง่ เสรมิ หลักการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั ริยเ์ ปน็ ประมุข ส่งเสรมิ ความสามัคคี มวี ินยั และบำเพญ็ ประโยชนต์ ่อสังคม โดยดำเนนิ การจดั กจิ กรรมตามข้อกำหนด ของคณะกรรมการลูกเสือแห่งชาติ วัตถปุ ระสงค์ พระราชบญั ญตั ิลกู เสอื พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๘ ได้กำหนดวตั ถปุ ระสงคข์ องการฝกึ อบรม เพ่ือ พฒั นาลูกเสือท้ังทางกาย สตปิ ัญญา จติ ใจ และศีลธรรมใหเ้ ปน็ พลเมืองดี มคี วามรับผิดชอบ และช่วย สรา้ งสรรค์สังคม เพอ่ื ใหเ้ กิดความสามัคคี และความเจริญกา้ วหน้า ทง้ั นีเ้ พ่อื ความสงบสขุ และความมั่ง คงของประเทศชาตติ ามแนวทางดังต่อไปน้ี ๑. ใหม้ ีนสิ ัยในการสงั เกต จดจำ เชอ่ื ฟัง และพ่งึ ตนเอง ๒. ให้มคี วามซ่ือสตั ยส์ ุจริต มรี ะเบยี บวนิ ัย และเห็นอกเห็นใจผอู้ น่ื ๓. ให้รู้จักบำเพญ็ ตนเพื่อสาธารณประโยชน์ ๔. ให้รจู้ กั ทำการฝมี ือและฝกึ ฝนการทำกจิ กรรมตา่ งๆตามความเหมาะสม ๕. ให้ร้จู ักรักษาและสง่ เสรมิ จารีตประเพณี วฒั นธรรม และความมัง่ คงชองชาติ แนวการจดั กิจกรรม กจิ กรรมลกู เสือ เนตรนารี ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑-๓ เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบานการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษาวิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามมาตรฐาน โดยเน้นระบบหมู่ สรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม ปิดประชุมกอง โดยใหผ้ ู้เรยี นศึกษาและฝกึ ปฏบิ ตั ิดงั น้ี ๑. เตรียมลูกเสือสำรอง นิยายเรื่อเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจกรรมลูกเสือสำรอง การ ทำความเคารพเป็นหมู่ (แกรนด์ฮาวล์) การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจับ มือซ้าย ระเบียบแถวเบอื้ งต้น คำปฏญิ าณ กฎ และคตพิ จนข์ องลูกเสอื สำรอง ๒. ลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๑ , ๒ และ ๓ อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การ สำรวจ การค้นหาธรรมชาติ ความปลอดภัย บรกิ าร ธง และประเทศตา่ งๆ การ ฝีมือ กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิง การผูกเงื่อน คำปฏิญาณ และกฎของ ลูกเสือสำรองโดยใชก้ ระบานการทำงาน กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการกลุ่ม กระบวนการจัดการ กระบวนการคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ กระบวนการฝึกปฏิบัติ ทางลูกเสือ กระบวนการทางเทคโนโลยี และภมู ิปัญญาทอ้ งถิ่นได้อยา่ งเหมาะสม

231 เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของ ลูกเสอื สำรอง มนี สิ ยั ในการสงั เกต จดจำ เชื่อฟงั และพึง่ ตนเอง ซอ่ื สตั ย์ สุจรติ มรี ะเบยี บวินัย และ เห็นอกเห็นใจผู้อ่ืน บำเพ็ญตนเพ่ือสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือ พัฒนากาย จิตใจ และศีลธรรม ทั้งนี้โดยไม่เกี่ยวข้องกับลัทธิทางการเมืองใดๆ สนใจและอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำไปใช้ใน ชีวิตประจำวนั ได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ กิจกรรมลูกเสือ - เนตรนารี ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ ถึงชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามมาตรฐาน โดยเนน้ ระบบหมู่ สรุปการปฏบิ ัติกจิ กรรม ปิดประชุมกอง โดย ใหผ้ ูเ้ รียนศกึ ษาและปฏบิ ัตใิ นเรอ่ื ง ๑. ลูกเสือตรี ความรู้เกี่ยวกับขบวนการลูกเสือ คำปฏิญาณและกฎของลูกเสือสามัญ กิจกรรมกลางแจ้ง ระเบียบแถว ๒. ลูกเสอื โท การรู้จกั ดูแลตนเอง การชว่ ยเหลือผอู้ ื่น การเดินทางไปยังสถานท่ีต่างๆ ทักษะ ทางวิชาลูกเสือ งานอดิเรกและเรื่อที่น่าสนใจ คำปฏิญาณ และกฎของลูกเสือ ระเบียบ แถว ๓. ลูกเสือเอก การพึ่งพาตนเอง การบริการ การผจญภัย วิชาการของลูกเสือ ระเบียบแถว โดยใช้กระบวนการทำงาน กระบวนการแก้ปัญหา ระบวนการกลุ่ม กระบวนการจัดการ กระบวนการคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ กระบวนการฝึกปฏิบัติทางลูกเสือ กระบวนการทาง เทคโนโลยี และภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ ได้อย่างเหมาะสม เพอ่ื ใหม้ คี วามรู้ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือ สามารถปฏิบตั ิตามคำปฏญิ าณ กฎ และคติพจน์ ของลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง ซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น บำเพ็ญตนเพื่อสารธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือ พัฒนากาย จิตใจ และ ศีลธรรม ทั้งนี้โดยไม่เกี่ยวข้องกับลัทธิทางการเมืองใดๆ สนใจและอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ หมายเหตุ ผู้เรียนไดป้ ฏิบตั ิกจิ กรรม และผ่านการทดสอบแล้ว จะไดร้ บั เคร่อื งหมายลกู เสือตรี ลูกเสือ โท และลกู เสอื เอก

232 ๒. กิจกรรมชมุ นุม วัตถุประสงค์ ๑. เพ่อื ให้ผเู้ รียนได้ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามความสนใจ ความถนัด และความตอ้ งการของตน ๒. เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาความรู้ ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ให้เกิด ประสบการณ์ทัง้ ทางวิชาการและวชิ าชีพตามศักยภาพ ๓. เพื่อส่งเสริมใหผ้ ้เู รียนใชเ้ วลาให้เกิดประโยชนต์ ่อตนเองและส่วนรวม ๔. เพ่อื ใหผ้ ูเ้ รยี นทำงานร่วมกับผู้อนื่ ไดต้ ามวถิ ปี ระชาธิปไตย แนวการจดั กิจกรรม การจัดกิจกรรมตามความสนใจ (ชุมนุม) ผู้เรียนสามารถเลือกเข้าเป็นสมาชิกชมรม วาง แผนการดำเนนิ กจิ กรรมรว่ มกนั โดยมชี มรมทห่ี ลากหลาย เหมาะสมกับเพศ วยั และความสนใจของผเู้ รียน ประกอบด้วยกิจกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม วัฒนธรรม อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่งเสริมประชาธิปไตย ส่งเสริมการเรียนรู้ และค่ายวิชาการ การศึกษาดูงาน การฝึกปฏิบัติ การบรรยายพิเศษดังตัวอย่างพอ สังเขปต่อไปนี้ ๑. กิจกรรมพัฒนาวุฒิภาวะทางอารมณ์ ศีลธรรมและจริยธรรม จัดสอนจริยธรรมใน ห้องเรียน จัดให้มีการปฏิบัติกิจกรรมเนื่องในวันสำคัญทั้งทางชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยผู้เรียนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมทั้งในด้านวฒั นธรรม ประเพณี กฬี า และศีลปะ ๒. กิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิต จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสีทุกช่วงชั้น โดยผู้เรียนได้ฝึกทักษะ การทำงาน และการแกป้ ัญหาทุกข้นั ตอน ๓. กิจกรรมสง่ เสริมนิสยั รักการทำงาน จัดกจิ กรรมวันวชิ าการโดยผู้เรยี นมโี อกาสปฏิบัติจริง และฝกึ ทักษะการจัดการ ๔. กิจกรรมเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม โดยจัดกิจกรรมสืบสานวัฒนธรรมไทย เชน่ ประเพณีไหว้ครู ประเพณีลอยกระทง ๕. กิจกรรมส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตย จัดให้มีการเลือกคณะกรรมการ นกั เรยี น โดยให้นำกระบวนการประชาธิปไตยไปใช้ในการร่วมวางแผนดำเนนิ งานพัฒนา โรงเรียน ๖. กิจกรรมคนดีของสังคม จัดให้มีการบรรยายให้ความรู้ เพื่อป้องกันปัญหาโรคติดต่อ ร้ายแรง ปัญหายาเสพติด ปัญหาวัยรุ่น ให้ความรู้เพื่อปลูกฝังให้เป็นสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี ๗. กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ โดยจัดแหล่งเรียนรู้ ได้แก่ ห้องสมุด ห้องปฏิบัติการทาง ภาษา ห้องปฏบิ ตั กิ ารทางวิทยาศาสตร์ หอ้ งเทคโนโลยีสารสนเทศ

233 ๘. กิจกรรมสง่ เสริมสขุ ภาพและอนามัย ใหบ้ ริการหอ้ งพยาบาล มีบรกิ ารให้ความรู้แก่ผู้เรียน เพื่อปอ้ งกนั โรคระบาดอยา่ งทันเหตุการณ์ กิจกรรมเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์ วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพื่อให้ผู้เรียนบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรียน ชุมชน และ ประเทศชาติ ๒. เพ่อื ให้ผ้เู รยี นออกแบบกจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ตามความ ถนดั และความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร ๓. เพ่ือให้ผู้เรียนพัฒนาศักยภาพในการจัดกิจกรรมเพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์ได้อย่าง มปี ระสิทธภิ าพ ๔. เพื่อให้ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์จนเกิดคุณธรรม จริยธรรมตามคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๕. เพ่ือให้ผเู้ รียนมจี ติ สาธารณะและใชเ้ วลาว่างใหเ้ กดิ ประโยชน์ แนวการจัดกจิ กรรม การจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ทำ ประโยชน์ตามความสามารถ ความถนัดและความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความ รับผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละต่อสังคม มีจิตใจมุ่งทำประโยชน์ต่อครอบครัว ชุมชนและสังคม กิจกรรมสำคัญ ได้แก่ กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ กิจกรรมสร้างสรรค์สังคม กิจกรรมดำรงรักษา สืบสาน ศาสนา ศลิ ปะและวัฒนธรรม กจิ กรรมพฒั นานวัตกรรมและเทคโนโลยี เวลาเรียนสำหรับกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ในส่วนกิจกรรมเพื่อสังคมและ สาธารณประโยชน์ จัดสรรเวลาให้ผู้เรียนระดบั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑-๖ รวม ๖ ปี จำนวน ๖๐ ชั่วโมง(เฉลี่ย ปีละ ๑๐ ชั่วโมง) การจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ในระดับประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ เป็นการจัด กิจกรรมภายในเวลาเรียน โดยให้ผู้เรียนรายงานแสดงกรเขา้ รว่ มกิจกรรมลงในสมุดบันทึก และมีผู้รับรอง ผลการเขา้ รว่ มกจิ กรรมทุกคร้ัง

234 แนวทางการประเมินกจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น โรงเรียนบ้านน้ำก่ำ(ล้ำประชาอุปถัมภ์) กำหนดแนวทางในการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ดงั น้ี ๑. การประเมนิ กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี นรายกจิ กรรม มแี นวทางปฏบิ ัตดิ งั นี้ ๑.๑ การตรวจสอบเวลาเข้าร่วมกิจกรรมของผู้เรียน ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียน ตลอดปกี ารศกึ ษา ๑.๒ ประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนจากการปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน/ชิ้นงานของผู้เรียน ผเู้ รยี นตอ้ งได้รบั การประเมินทุกผลการเรียนรู้ และผ่านทุกผลการเรยี นรู้ โดยแตล่ ะผลการเรียนรู้ผ่านไม่ นอ้ ยกล่าร้อยละ ๕๐ หรือมีคณุ ภาพในระดบั ๑ ข้ึนไป ๑.๓ ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน/ชิ้นงานของผู้เรียนตาม เกณฑ์ ข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ถือว่าผู้เรียนมีผลการเรียน “ผ” ผ่านการประเมินกิจกรรมและนำผล การประเมินไปบันทึกในระเบียนแสดงผลการเรยี น ๑.๔ ผ้เู รยี นมเี วลาเข้ารว่ มกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมและผลงานไม่เป็นไปตาม เกณฑ์ ข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ถือว่าผู้เรียนมีผลการเรียน “มผ” โรงเรียนต้องจัดซ่อมเสริมให้ผู้เรียน ทำกิจกรรมในส่วนที่ผู้เรียนไม่ได้เข้าร่วมหรือไม่ได้ทำจนครบถ้วน แล้วจึงเปลี่ยนผลการเรยี นจาก “มผ” เป็น “ผ” และนำผลการประเมินไปบนั ทกึ ในระเบยี นแสดงผลการเรยี น ๒. การประเมินกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี นเพอ่ื การตัดสนิ มแี นวปฏิบตั ดิ งั นี้ ๒.๑ กำหนดให้ผู้รับผิดชอบในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของ ผู้เรียนทุกคนตลอดระดับการศกึ ษา ๒.๒ ผู้รับผิดชอบสรุปและตัดสินการร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของผู้เรียนเป็นรายบุคคลตาม เกณฑ์ท่โี รงเรียนกำหนด ผู้เรยี นจะตอ้ งผ่านกิจกรรม ๓ กจิ กรรมสำคญั ดงั น้ี ๒.๒.๑ กจิ กรรมแนะแนว ๒.๒.๒ กจิ กรรมนกั เรียน ไดแ้ ก่ ๑. กิจกรรมลกู เสือ เนตรนารี ๒. กจิ กรรมชมุ นมุ ๒.๒.๓ กิจกรรมเพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์ ๒.๓ การนำเสนอผลการประเมินต่อคณะกรรมการกลุ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนา ผ้เู รียน ๒.๔ เสนอผู้บริหารโรงเรียนพิจารณาอนุมัติผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนผ่านเกณฑ์ การจบแต่ละระดับการศกึ ษา

235 คำอธบิ ายรายวิชา กจิ กรรมแนะแนว

236 คำอธิบายรายวชิ ากจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน กิจกรรมแนะแนว ชั้นประถมศึกษาปีที ๑ - ๖ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ปี รจู้ กั และเขา้ ใจตนเอง รักและเห็นคุณคา่ ในตนเองและผู้อ่ืน มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ มเี จตคติที่ดี ต่อการมีชีวิตท่ีดีมีคณุ ภาพ มีทักษะในการดำเนินชีวติ สามารถปรับตัวให้ดำรงชีวิตอยู่ในสงั คมได้อย่างมี ความสุข รู้จักตนเองในทุกด้าน รู้ความถนัด ความสนใจ และบุคลิกภาพของตนเอง รู้และเข้าใจโลก ของงานอาชีพอย่างหลากหลาย มีเจตคติที่ดีต่ออาชีพสุจรติ รู้ข้อมูลอาชีพ สามารถเลือกตนแนวทางใน การประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสม มีการเตรียมตัวสู่อาชีพ สามารถวางแผนเพื่อประกอบอาชีพตามท่ี ตนเองมีความถนัดและสนใจ มีคุณลักษณะพื้นฐานที่จำเป็นในการประกอบอาชีพและพัฒนางานให้ ประสบความสำเรจ็ เพือ่ สรา้ งฐานะทางเศรษฐกิจใหก้ ับตนเอง ครอบครัว ชุมชนและประเทศชาติ พัฒนาตนเองในด้านการเรียนอย่างเต็มศักยภาพ รู้จักแสวงหาความรู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียนให้เป็นคนดีมี ความร้แู ละทกั ษะทางวชิ าการ รจู้ ักแสวงหาและใชข้ ้อมูลประกอบการวางแผนการเรยี นหรือการศึกษาต่อ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีวิธีการเรียนรู้ มีทักษะการคิด แก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ คิดเป็น ทำเป็น มี คุณธรรม จริยธรรม เอื้ออาทรและสมานฉันท์ เพื่อดำรงชีวิตอยู่รวมกันอย่างสงบสุขตามวิถีชีวิต เศรษฐกิจพอเพียง เพือ่ ให้ผู้เรียนเกดิ การเรยี นรู้ ร้จู ัก เข้าใจ รักและเห็นคณุ ค่าในตนเองและผู้อ่นื เกิดการ เรียนรู้สามารถวางแผนการเรียนรู้ อาชีพ รวมทั้งการดำเนินชีวิตและมีทักษะทางสังคม เกิดการเรียนรู้ สามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสม อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข พึ่งตนเองได้มีทักษะในการเลือก แนวทางการศึกษา การงานและอาชีพ ชีวิตและสังคม มีสุขภาพจิตที่ดีและจิตสำนึกในการทำประโยชน์ ตอ่ ครอบครัว สงั คมและประเทศชาตติ ามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ผลการเรียนรู้ ๑.เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรยี นรู้ รู้จกั เขา้ ใจ รกั และเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น ๒.เพ่ือใหผ้ ูเ้ รียนเกิดการเรยี นรู้ สามารถวางแผนการเรียน การศกึ ษาตอ่ อาชีพ รวมทงั้ การ ดำเนนิ ชีวติ และมีทกั ษะทางสังคม ๓.เพื่อให้ผ้เู รยี นเกิดการเรียนรู้ สามารถปรับตัวได้อยา่ งเหมาะสม และอย่รู ่วมกับผู้อน่ื ได้อย่าง เหมาะสม ๔.สามารถประยุกต์ใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้ รวม ๔ ผลการเรียนรู้

237 คำอธบิ ายรายวิชา กจิ กรรมลกู เสือ

238 คำอธิบายรายวิชากิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน กิจกรรมนักเรยี น (เตรียมลูกเสือสำรองและลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๑) ชน้ั ประถมศึกษาปีที ๑ เวลา ๓๐ ช่วั โมง/ปี --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เปดิ ประชุมกอง ดำเนนิ การตามกระบวนการของลูกเสือและจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเนน้ ระบบหมแู่ ละปฏิบตั ิกจิ กรรมตามคำปฏิญาณและกฎ ของลูกเสือสำรอง เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริงใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสำรองที่มีความเป็น เอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนดว้ ยความสนใจ ใฝ่รู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง สรปุ ผลการปฏิบตั ิกิจกรรม ปดิ ประชุมกอง ในเรือ่ งตอ่ ไปน้ี ๑.เตรียมลูกเสือสำรอง นิยายเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจการลูกเสือ การทำความเคารพหมู่ (แกรนดฮ์ าวล์) การทำความเคารพเปน็ รายบคุ คล การจบั มือซ้าย ระเบียบแถว เบ้ืองต้น คำปฏิญาณ กฎและคติพจนข์ องลกู เสอื สำรอง ๒.ลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๑ อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหา ธรรมชาติ ความปลอดภัย บริการ ธงและประเทศต่าง ๆ การฝีมือ กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิง การผกู เง่อื น คำปฏิญาณและกฎของลูกเสือสำรอง เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๑ สามารถปฏิบัติตามคำ ปฏญิ าณ กฎ และคติ พจน์ของลูกเสือสำรอง มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟังและพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์ สุจริต มี ระเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น รู้จักบำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมอื และฝึกฝนทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและ ความม่ันคงของชาติ และสามารถประยุกต์ใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผลการเรียนรู้ ๑.มีนิสยั ในการสงั เกต จดจำ เชอ่ื ฟงั และพง่ึ พาตนเองได้ ๒.มีความซื่อสัตย์ สุจริต มรี ะเบียบวนิ ัยและเหน็ อกเห็นใจผู้อืน่ ๓. บำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ ๔.ทำการฝีมือและฝึกฝนการทำกจิ กรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ๕.รกั ษาและส่งเสรมิ จารีตประเพณี วัฒนธรรมประเพณี ภมู ิปัญญาท้องถิ่นและ ความมน่ั คง ๖.อนรุ ักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ ส่ิงแวดลอ้ มและลดภาวะโลกร้อน ๗.สามารถประยุกตใ์ ช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้ รวม ๗ ผลการเรยี นรู้

239 คำอธิบายรายวิชากิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กจิ กรรมนักเรยี น (ลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๒) ช้นั ประถมศึกษาปที ี ๒ เวลา ๓๐ ช่ัวโมง/ปี ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัตกิ ิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเนน้ ระบบหมู่ และปฏิบัติตามคำปฏญิ าณ คตพิ จนแ์ ละ กฎของลูกเสือสำรอง ศึกษาเรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริงใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสำรองที่มีความ เปน็ เอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชมุ ชนดว้ ยความสนใจใฝ่รู้ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลและ ปฏิบตั ิกจิ กรรม ปดิ ประชมุ กองในเรอื่ งตอ่ ไปน้ี ลูกเสอื สำรองดาวดวงท่ี ๒ นยิ ายเมาคลี ประวัตกิ ารเรม่ิ กจิ การลกู เสือ การทำความเคารพหมู่ (แกรนฮาวล์) การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถว คำปฏิญาณ กฎ และคติ พจน์ของลูกเสือสำรอง อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติการอนุรักษ์ ทรัพยากรในชมุ ชนท้องถนิ่ ความปลอดภัย บรกิ าร การผกู เง่ือน ธง และประเทศต่าง ๆ การฝีมือที่ใช้ วัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่น กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิงที่ส่งเสริมสุขภาพกายสุขภาพจิตและอนุรักษ์ภูมิ ปญั ญาท้องถนิ่ อนรุ ักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติสิง่ แวดลอ้ มลดภาวะโลกรอ้ น เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๒ สามารถปฏิบัติตามคำ ปฏิญาณ กฎและคติพจน์ของลูกเสือสำรอง มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟังและพึ่งตนเอง มีความ ซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจ รู้จักบำเพ็ญเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือและฝึกฝนทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ความมั่นคงของชาติ และ สามารถประยุกตใ์ ช้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผลการเรียนรู้ 1. มนี ิสยั ในการสงั เกต จดจำ เชือ่ ฟงั และพ่ึงตนเองได้ 2. มีความซ่ือสัตย์ สุจรติ มรี ะเบยี บวนิ ยั และเห็นอกเห็นใจผ้อู ่นื 3. บำเพ็ญตนเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ 4. ทำการฝมี ือและฝึกฝนทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม 5. รักษาและส่งเสรมิ จารตี ประเพณี วัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาท้องถ่นิ และความมนั่ คงของชาติ 6. อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกรอ้ น สามารถประยุกต์ใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งได้ รวม ๖ ผลการเรียนรู้

240 คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน กิจกรรมนักเรยี น (ลูกเสือสำรองดาวดวงท่ี ๓) ช้นั ประถมศึกษาปที ี ๓ เวลา ๓๐ ชว่ั โมง/ปี ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏบิ ัติกิจกรรมตามฐานการเรยี นรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคำปฏิญาณ คตพิ จนแ์ ละ กฎของลูกเสือสำรอง ศึกษาเรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริงใช้สัญลกั ษณ์สมาชิกลูกเสือสำรองที่มีความ เป็นเอกลักษณ์รว่ มกนั ศึกษาธรรมชาติในชมุ ชนด้วยความสนใจใฝร่ ตู้ ามวถิ ีเศรษฐกิจพอเพียง สรปุ ผลและ ปฏบิ ัติกิจกรรม ปดิ ประชมุ กองในเรอ่ื งต่อไปนี้ ลกู เสอื สำรองดาวดวงท่ี ๓ นิยายเมาคลี ประวัติการเร่มิ กจิ การลูกเสอื การทำความเคารพหมู่ (แกรนฮาวล์) การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถว คำปฏิญาณ กฎ และคติ พจน์ของลูกเสือสำรอง อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติการอนุรักษ์ ทรพั ยากรในชุมชนท้องถิ่น ความปลอดภัย บรกิ าร การผูกเง่อื น ธง และประเทศตา่ ง ๆ การฝีมือท่ีใช้ วัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่น กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิงที่ส่งเสริมสุขภาพกายสุขภาพจิตและอนุรักษ์ภูมิ ปญั ญาทอ้ งถนิ่ อนุรักษท์ รพั ยากรธรรมชาตสิ ่งิ แวดลอ้ มลดภาวะโลกร้อน เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๓ สามารถปฏิบัติตามคำ ปฏิญาณ กฎและคติพจน์ของลูกเสือสำรอง มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟังและพึ่งตนเอง มีความ ซื่อสัตย์สจุ ริต มรี ะเบียบวนิ ยั และเห็นอกเหน็ ใจ ร้จู ักบำเพญ็ เพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ รจู้ กั ทำการ ฝีมือและฝึกฝนทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมิ ปญั ญาท้องถิ่น อนุรักษท์ รพั ยากรธรรมชาติส่ิงแวดล้อม ความม่นั คงของชาติ และสามารถประยุกต์ใช้หลัก ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลการเรียนรู้ ๑. มีนสิ ัยในการสงั เกต จดจำ เช่ือฟงั และพ่ึงตนเองได้ ๒. มคี วามซื่อสตั ย์ สจุ รติ มรี ะเบียบวนิ ัย และเห็นอกเหน็ ใจผอู้ ่ืน ๓. บำเพ็ญตนเพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์ ๔. ทำการฝมี ือและฝึกฝนทำกิจกรรมตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม ๕. รกั ษาและสง่ เสรมิ จารตี ประเพณี วัฒนธรรม ภมู ิปัญญาท้องถ่ินและความมนั่ คงของชาติ ๖. อนรุ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ ม ลดภาวะโลกร้อน สามารถประยกุ ต์ใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงได้ รวม ๖ ผลการเรียนรู้

241 คำอธิบายรายวิชากจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รียน กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น กจิ กรรมนักเรียน (ลูกเสือสามญั (ลูกเสือตร)ี ) ชั้นประถมศึกษาปที ี ๔ เวลา ๓๐ ชัว่ โมง/ปี ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติกิจกรรมตามคำ ปฏิญาณ คติพจน์ และกฎของลูกเสือสามัญ เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิก ลูกเสือสามัญที่มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้และมี จิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรมประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ลดภาวะโลกร้อน และประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการลูกเสือ ประวัติของ Load Baden Powell พระราชประวัติสังเขปของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว วิวัฒนาการของ กระบวนการ ลูกเสือไทยและลูกเสือโลก การทำความเคารพ การแสดงรหัส การจับมือซ้าย กิจกรรม กลางแจ้ง ระเบียบแถวท่ามือเปล่า ท่ามือไม้พลวง การใช้สัญญามือและนกหวีด การตั้งแถวและการ เรียนแถว เพ่อื ใหม้ คี วามรู้ ความเขา้ ใจในกจิ กรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัตติ ามคำปฏญิ าณ กฎ และ คติพจน์ของลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์ สุจริต มี ระเบียบวินยั และเหน็ อกเห็นใจผู้อืน่ บำเพญ็ ตนเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝีมือและฝึกฝน การทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความม่ันคง ประโยชนแ์ ละสามารถประยุกต์ใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลการเรยี นรู้ ๑ มีนิสัยในการสงั เกต จดจำ เชอื่ ฟงั และพ่ึงตนเองได้ ๒ มคี วามซื่อสตั ย์สุจรติ มีระเบียบ วินัยและเห็นอกเห็นใจผอู้ ่นื ๓ บำเพ็ญตนเพือ่ ส่งเสริมและสาธารณะประโยชน์ ๔ ทำการฝมี ือและฝึกฝนทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความถนดั และความสนใจ ๕ รกั ษาและสง่ เสรมิ จารีตประเพณี วฒั นธรรม ภมู ิปัญญาท้องถิ่น และความมนั่ คงของชาติ ๖ อนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน ๗ สามารถประยุกตใ์ ชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง รวม ๗ ผลการเรียนรู้

242 คำอธิบายรายวิชากิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น กจิ กรรมนักเรยี น ( กิจกรรมลกู เสือสามัญ (ลูกเสือโท) ) ชั้นประถมศึกษาปีที ๕ เวลา ๓๐ ชวั่ โมง/ปี ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เปิดประชุมกองดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติกิจกรรมตามคำ ปฏิญาณ คติพจน์และกฎของลูกเสือสามัญ เรียนรู้จากคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือ สามัญที่มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ มีจิตสำนึกในการ อนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ลดภาวะโลกร้อนและการประยุกต์ใช้ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ทักษะในทางวิชาลูกเสือ การรู้จักดูแลตนเอง การช่วยเหลือผู้อื่น การเดินทางไปยังสถานท่ตี า่ ง ๆ ทำงานอดเิ รก และเรือ่ งที่สนใจ เพ่อื ให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามญั สามารถปฏิบตั ิตามคำปฏญิ าณ กฎ และ คติพจน์ของลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์ สุจริต มี ระเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น บำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝีมือและ ฝึกฝนการทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีต ประเพณี วัฒนธรรมและความมั่นคง ประโยชน์และสามารถประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ผลการเรียนรู้ ๑ มนี สิ ัยในการสังเกต จดจำ เชอื่ ฟังและพ่ึงตนเองได้ ๒ มีความซ่อื สัตย์สจุ ริต มีระเบียบ วนิ ยั และเหน็ อกเหน็ ใจผูอ้ ื่น ๓ บำเพญ็ ตนเพ่ือส่งเสริมและสาธารณะประโยชน์ ๔ ทำการฝมี ือและฝึกฝนทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามความถนัดและความสนใจ ๕ รกั ษาและสง่ เสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาท้องถิน่ และความมัน่ คงของ ชาติ ๖ อนรุ ักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน ๗ สามารถประยุกตใ์ ชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง รวม ๗ ผลการเรยี นรู้

243 คำอธิบายรายวชิ ากิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น กจิ กรรมนักเรยี น ( กิจกรรมลูกเสอื สามญั (ลูกเสือโท) ) ชั้นประถมศึกษาปีที ๖ เวลา ๓๐ ชัว่ โมง/ปี ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เปิดประชุมกองดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบตั ิกิจกรรมตามฐานการเรยี นรู้ โดยเนน้ ระบบหมู่ และปฏบิ ตั ติ ามคำปฏญิ าณ คตพิ จน์ และ กฎของลูกเสือสามัญ วิชาการของลูกเสือ ระเบียบแถว การพึ่งตนเอง การผจญภัย การใช้สัญลักษณ์ สมาชิกลูกเสือสามัญ ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ศึกษาธรรมชาติ วัฒนธรรมประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ และประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง ในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมเพอ่ื การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและลดภาวะโลกรอ้ น เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติ พจน์ของลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์ สุจริต มี ระเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น บำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝีมือและ ฝกึ ฝนการทำกจิ กรรม ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ความถนดั และความสนใจ รักษาและส่งเสรมิ จารีตประเพณี วัฒนธรรมและความมั่นคง ประโยชน์และสามารถประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ผลการเรยี นรู้ ๑ มีนิสัยในการสงั เกต จดจำ เชอ่ื ฟงั และพึ่งตนเองได้ ๒ มคี วามซื่อสัตย์สุจริต มรี ะเบียบ วนิ ัยและเห็นอกเหน็ ใจผู้อื่น ๓ บำเพ็ญตนเพอ่ื ส่งเสริมและสาธารณะประโยชน์ ๔ ทำการฝมี ือและฝึกฝนทำกจิ กรรมต่าง ๆ ตามความถนัดและความสนใจ ๕ รกั ษาและสง่ เสรมิ จารตี ประเพณี วฒั นธรรม ภูมปิ ญั ญาท้องถ่ิน และความมนั่ คงของชาติ ๖ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม ลดภาวะโลกร้อน ๗ สามารถประยุกต์ใช้ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวม ๗ ผลการเรยี นรู้

244 คำอธบิ ายรายวิชากิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน กิจกรรมนักเรยี น ( กิจกรรมลกู เสือสามัญ (ลูกเสือเอก) ) ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๑ เวลา ๓๐ ชว่ั โมง/ปี ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เป็นกจิ กรรมท่ีมุ่งพฒั นาความมรี ะเบยี บวินยั ความเป็นผนู้ ำผตู้ ามที่ดี ความรบั ผิดชอบ การทำงาน ร่วมกนั การร้จู ักแกป้ ัญหา การตดั สินใจท่เี หมาะสม ความมีเหตผุ ล การชว่ ยเหลือแบง่ ปนั กนั การ ประนีประนอม เพื่อสง่ เสริมใหผ้ ูเ้ รียนเจรญิ เติบโตเปน็ ผู้ใหญ่ที่มีความสมบูรณ์พรอ้ มท้ังด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คมและสตปิ ญั ญา ดำเนนิ การตามกระบวนการลูกเสือ และจดั กจิ กรรมโดยใช้การศึกษา วิเคราะห์ วางแผนการจัด กิจกรรมตามมาตรฐาน เนน้ ระบบหมู่ สรปุ ผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ปดิ ประชมุ กอง ตามหลักสูตรลูกเสอื / เนตรนารสี ามัญร่นุ ใหญ่ ปฏบิ ัติกิจกรรมที่ก่อให้เกิดคุณธรรม คุณลกั ษณะ ตามคติพจน์ คำปฏิญาณและ กฎของลูกเสือสามัญรุน่ ใหญ่ ระเบียบวนิ ัยทางลูกเสือ ทกั ษะทางลูกเสือ เกยี่ วกบั การชว่ ยเหลอื ตนเองและ การชว่ ยเหลือผอู้ ื่น การปฐมพยาบาลเบอ้ื งต้น ตระหนักในความสำคญั ของกิจการลูกเสือแห่งชาติ ปฏิบตั ิ กรรมเพื่อตอบแทนพระคณุ บิดา มารดาและผู้มีพระคุณ รูจ้ ักและเขา้ ใจเพ่ือช่วยเหลือและชักจูงใหป้ ฏบิ ตั ิ ตนเป็นคนดี สร้างความสมั พันธอ์ ันดกี บั เพ่ือน ตระหนักในปญั หาทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมของ ชุมชน เรียนร้มู รดก ภมู ิปัญญาไทยของทอ้ งถ่ินในคุณค่าละคุณประโยชน์ ตัวชวี้ ัด ๑. เพ่ือใหล้ ูกเสือมีความรูค้ วามสามารถ ในทางวิชาการลูกเสือเพ่มิ ขึ้นจากที่เรียนมา ในระดับ ตน้ คือ ลูกเสือตรี โท เอก ๒. เพื่อใหล้ กู เสือได้มคี วามเขา้ ใจ และฝึกฝนทกั ษะตนเองในแต่ละวชิ าทเ่ี รียนมาไดด้ ียงิ่ ข้ึน ๓. เพือ่ สง่ เสรมิ ให้ลูกเสือได้เรียนในวิชาที่ตนเองถนัด และสนใจเป็นพิเศษ ๔. เพื่อใหค้ วามซาบซึ้งในกจิ การลกู เสือมากย่ิงขึน้ ๕. เพื่อให้ลูกเสือไดน้ ำความรู้ท่ีได้รับไปปฏิบัติ และบำเพ็ญตนใหเ้ ป็นประโยชนแ์ ก่สังคม รวมตวั ช้วี ดั ๕ ผลการเรียนรู้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook