Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรรบ้านน้ำก่ำ(ล้ำประชาอุปถัมภ์)ปี65

หลักสูตรรบ้านน้ำก่ำ(ล้ำประชาอุปถัมภ์)ปี65

Published by Nonthawat Namsai, 2022-08-26 07:00:53

Description: หลักสูตรรบ้านน้ำก่ำ(ล้ำประชาอุปถัมภ์)ปี65

Search

Read the Text Version

หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนบ้านน้ำก่ำ(ล้ำประชาอุปถัมภ์) พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๕) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ สำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต ๑ สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

ก ประกาศโรงเรยี นบ้านนำ้ กำ่ (ล้ำประชาอุปถัมภ์) เรือ่ ง ประกาศให้ใช้หลกั สตู ร โรงเรียนบ้านน้ำก่ำ(ลำ้ ประชาอปุ ถัมภ)์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๕) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ........................................................... ตามท่ี ประกาศโรงเรียนบา้ นน้ำกำ่ (ล้ำประชาอุปถัมภ)์ ได้จัดทำการปรบั ปรุงใช้หลักสตู ร โรงเรียนบ้านน้ำก่ำ(ลำ้ ประชาอุปถัมภ)์ พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๕) ตามหลกั สตู ร แกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ โดยเรม่ิ ใชห้ ลกั สตู รดงั กล่าวกบั นักเรียนทุกระดับชั้นใน ปีการศึกษา ๒๕๖๕ เพ่ือใหส้ อดคล้องรบั กบั นโยบายเรง่ ดว่ นของรฐั มนตรวี ่าการกระทรวงศกึ ษาธิการเพ่ือให้ ผู้เรียนพัฒนาทักษะกระบวนการคดิ วเิ คราะห์ มีเวลาทำกจิ กรรมเพ่ือพัฒนาความรู้ ความสามารถและทักษะ การปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม การสรา้ งวนิ ยั การมีจติ สำนึกรบั ผิดชอบต่อสังคม ยดึ มัน่ ในสถาบนั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ และมีความภาคภมู ิใจในความเปน็ ไทย และความเปน็ พลเมืองโลก ท้งั นี้ หลกั สตู รโรงเรียนบา้ นน้ำกำ่ (ล้ำประชาอปุ ถมั ภ)์ ได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมการ สถานศกึ ษาขั้นพ้นื ฐานโรงเรียนบ้านน้ำก่ำ(ลำ้ ประชาอปุ ถมั ภ์) เป็นท่เี รียบร้อยแลว้ จึงขอประกาศใช้ หลกั สูตรโรงเรียนบ้านนำ้ กำ่ (ล้ำประชาอปุ ถัมภ์)พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๕) ตาม หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ตง้ั แต่บัดนี้เป็นตน้ ไป ประกาศ ณ วันท่ี ๑๒ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ลงชอ่ื ลงช่อื (นายชยั รตั น์ เมตุลา) (นายเดชา หรสทิ ธ)ิ์ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา ผอู้ ำนวยการ โรงเรยี นบ้านนำ้ ก่ำ(ลำ้ ประชาอปุ ถัมภ์) โรงเรียนบา้ นนำ้ กำ่ (ล้ำประชาอุปถัมภ์)

ข คำสง่ั โรงเรียนบา้ นน้ำก่ำ(ลำ้ ประชาอุปถมั ภ์) ท่ี ๑๑ / ๒๕๖๕ เรื่อง แตง่ ตั้งคณะกรรมการปรับปรุงหลักสูตรสถานศกึ ษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๕) ............................................................................................................................. ...................................... ตามท่ีโรงเรียนบ้านนำ้ กำ่ (ลำ้ ประชาอุปถัมภ)์ ไดใ้ ช้หลักสูตรสถานศกึ ษา พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ สู่การปฏิบตั ใิ น โรงเรยี นและหอ้ งเรียนเป็นระยะเวลา ๑ ปกี ารศึกษาน้นั โรงเรียนไดด้ ำเนนิ การประเมนิ การใช้หลักสูตร ซ่ึง ผลจากการประเมินทางโรงเรียนเหน็ ควรให้มกี ารปรับปรงุ หลกั สูตร เพ่อื ให้ตรงกับการจัดการเรยี นร้ขู อง ผเู้ รียนในศตวรรษที่ ๒๑ สอดรบั หลักสูตรแกนกลาง และบริบทของท้องถ่ิน เพ่อื ให้การดำเนนิ งานปรบั ปรุงหลกั สตู รสถานศึกษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๕) เป็นไปอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพและเกิดประสทิ ธผิ ล จงึ อาศัย อำนาจตามพระราชบญั ญตั ิระเบยี บบริหารกระทรวงศกึ ษาธกิ าร พ.ศ. ๒๕๔๖ มาตรา ๓๙ (๑) – (๖) และ พระราชบัญญัติระเบียบขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๔๗ มาตรา ๒๗ (๑) – (๖) แตง่ ตัง้ คณะกรรมการปรับปรุงหลักสตู รสถานศึกษา ดังต่อไปนี้ ๑. นายเดชา หรสทิ ธิ์ ผ้อู ำนวยการโรงเรยี น ประธานกรรมการ ๒. นางปภัสรา หรสทิ ธิ์ ครูชำนาญการพเิ ศษ รองประธานกรรมการ ๓. นางธิดาพรรณ อาจวิชัยอุดม ครูชำนาญการพเิ ศษ ๔. นางสาวสวุ ภัทร ไชยชนะ ครูชำนาญการพิเศษ กรรมการ ๕. นางวยิ ดา ชนะเคน ครชู ำนาญการพเิ ศษ กรรมการ ๖. นางสาววฒั นา บญุ กอ ครูชำนาญการ กรรมการ ๗. นางสาวธนันตญ์ ดา บปุ ผาชาติ ครู คศ.๑ กรรมการ ๘. นายนลธวัฒน์ นามสาย ครูผชู้ ่วย กรรมการ ๙. นายฉัตรมงคล ติว้ วงศ์ ครผู ชู้ ่วย กรรมการ ๑๐. นางสาวสภุ ารตั น์ ตะวังทัน ครูผูช้ ว่ ย กรรมการ ๑๑. นางสาวธัญญา ผนั สำลี ครพู เ่ี ลี้ยงเด็กฯ กรรมการ ๑๒. นางสาวมนัสชนก เมืองโคตร ครชู ำนาญการ กรรมการ กรรมการและเลขานกุ าร

หนา้ ที่ ๑. วางแผนดำเนินงานวิชาการ กำหนดสาระรายละเอียดของหลักสตู รระดบั สถานศึกษา และแนวการจดั สดั ส่วนสาระการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนาผ้เู รียนของสถานศกึ ษาใหส้ อดคลอ้ งกับหลกั สูตร แกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ สภาพเศรษฐกิจ สังคม ศิลปวัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญา ท้องถิ่น ๒. จัดทำคมู่ อื บรหิ ารหลักสูตรและงานวิชาการของสถานศึกษา นิเทศ กำกบั ติดตาม ให้ คำปรกึ ษาเก่ียวกับการพัฒนาหลักสตู รการจดั กระบวนการเรยี นรู้ การวัดและประเมินผลและการแนะแนว ให้สอดคล้องและเป็นไปตามมาตรฐานหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ๓. ส่งเสริมและสนบั สนนุ การพฒั นาบคุ ลากรเก่ยี วกบั การพัฒนาหลกั สตู ร การจัด กระบวนการเรียนรู้การวัดผลและประเมนิ ผลและการแนะแนวให้เปน็ ไปตามจดุ หมายและแนวทางการ ดำเนนิ การของหลกั สูตร ๔. ประสานความรว่ มมือจากบุคคล หน่วยงาน องค์กรต่างๆ ชมุ ชน เพ่ือให้การใช้ หลกั สูตรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพ ๕. ประชาสัมพนั ธห์ ลกั สตู รและการใชห้ ลักสูตรให้แก่นักเรียน ผปู้ กครอง ชุมชน และผู้ที่ เกีย่ วข้องและนำขอ้ มลู ปอ้ นกลบั จากฝ่ายต่างๆ มาพจิ ารณา เพื่อการปรบั ปรงุ และพฒั นาหลกั สตู ร สถานศึกษา ๖. สง่ เสรมิ และสนับสนุนการวจิ ัยเกี่ยวกบั การพฒั นาหลักสูตรและกระบวนการเรยี นรู้ ๗. ติดตามผลการเรียนของนักเรยี นรายบุคคล ระดับชน้ั และระดบั กลมุ่ วิชาการในแตล่ ะ ปกี ารศกึ ษา เพ่ือปรับปรงุ แก้ไขและพฒั นาการดำเนินงาน ด้านต่างๆ ของสถานศึกษา ๘. ตรวจสอบ ทบทวน ประเมนิ มาตรฐานในการปฏิบตั งิ านของครูและการบริหาร หลกั สูตรระดับสถานศกึ ษาในรอบปีท่ผี ่านมาแล้วใชผ้ ลการประเมนิ เพื่อวางแผนพฒั นาการปฏิบตั งิ านของครู และการบรหิ ารหลกั สตู รปีการศึกษาต่อไป ๙. รายงานผลการปฏบิ ตั ิงานและผลการบริหารหลักสตู รของสถานศกึ ษา โดยเน้นผลการ พัฒนาคณุ ภาพนกั เรยี นตอ่ คณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน คณะกรรมการบรหิ ารหลกั สูตรระดบั เหนอื สถานศึกษา สาธารณชนและผทู้ ีเ่ ก่ยี วข้อง ทง้ั น้ใี หค้ ณะกรรมการทไ่ี ด้รบั การแตง่ ตง้ั ปฏิบัติหน้าท่ี ด้วยความตง้ั ใจ เอาใจใสเ่ พ่ือใหเ้ กิดผลดีต่อ ทางราชการต่อไป สง่ั ณ วนั ที่ ๑๒ เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ (นายเดชา หรสทิ ธ์ิ) ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นบ้านน้ำก่ำ(ล้ำประชาอุปถัมภ)์

ค คำนำ กระทรวงศึกษาธกิ ารได้ประกาศใช้มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตวั ช้ีวดั กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และสาระภมู ิศาสตรใ์ นกล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นบ้านน้ำก่ำ(ล้ำประชาอุปถัมภ์) พุทธศกั ราช ๒๕๖๑ ตามหลักสูตรแกนกลาง การศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ตามคำสง่ั กระทรวงศึกษาธิการ ท่ี สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๗ สงิ หาคม ๒๕๖๐ และคำสง่ั สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน ที่ ๓๐/๒๕๖๑ ลงวนั ท่ี ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ให้เปลยี่ นแปลงมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ช้วี ัด กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตรแ์ ละ วิทยาศาสตร์ หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนบ้านน้ำก่ำ(ล้ำประชาอปุ ถัมภ)์ พุทธศกั ราช ๒๕๖๑ โดยให้ โรงเรยี นใชห้ ลกั สตู รในปกี ารศึกษา ๒๕๖๑ โดยใหส้ อนในช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ และ ๔ ในปีการศึกษา ๒๕๖๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ ให้ใช้ในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑, ๒, ๔ และ ๕ และปีการศึกษา ๒๕๖๓ ให้ใช้ใน ทุกชั้นปี โดยกำหนดใหเ้ ปน็ หลกั สตู รแกนกลางของประเทศ กำหนดจดุ หมาย และมาตรฐานการเรยี นร้เู ปน็ เป้าหมาย และกรอบทศิ ทางในการพฒั นาคุณภาพผูเ้ รยี นใหม้ พี ฒั นาการเต็มตามศักยภาพ ส่งเสริมทักษะ วชิ าการ ทักษะอาชีพ และทักษะชวี ติ มคี ณุ ภาพและมีทักษะการเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี ๒๑ เพ่ือใหส้ อดคล้องกับนโยบายและเปา้ หมาย ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน สพป.นครพนมเขต ๑ จึงได้ทำหลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนบา้ นน้ำก่ำ(ลำ้ ประชาอุปถัมภ)์ พุทธศักราช ๒๕๖๒ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ในกล่มุ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมศิ าสตร์ในกลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม เพื่อนำไปใชป้ ระโยชน์และเป็นกรอบในการวางแผนและพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษา และออกแบบการ จดั การเรียนการสอน โดยมเี ป้าหมายในการพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี น ใหม้ กี ระบวนการนำหลกั สูตรไปส่กู าร ปฏิบัติ โดยมีการกำหนดวสิ ยั ทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชวี้ ดั โครงสรา้ งเวลาเรยี น ตลอดจนเกณฑ์การวัดและประเมินผล ให้มคี วาม สอดคล้องกบั มาตรฐานการเรียนรู้ เปิดโอกาสใหโ้ รงเรยี นสามารถกำหนดทิศทางในการจัดทำหลกั สูตรการ เรียนการสอน ในแต่ละระดบั ตามความพร้อมและจดุ เนน้ โดยมีกรอบแกนกลางเป็นแนวทางท่ีชดั เจน เพ่ือ ตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐ มคี วามพรอ้ มในการกา้ วสู่สงั คมคณุ ภาพ มคี วามรู้อย่างแท้จรงิ และมี ทกั ษะในศตวรรษท่ี ๒๑ และในส่วนฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๕ น้ี ไดม้ กี ารปรับปรุงเพม่ิ เติมจากฉบบั ปี พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ คือในกลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชีพไดเ้ พ่มิ เติมรายวิชาเพิ่มเติมเพื่อใหผ้ ู้เรยี น สามารถเรียนรู้ไดห้ ลากหลายมากยิ่งขึน้ และเพอ่ื เปน็ แนวทางในการสรา้ งอาชพี ใหแ้ กผ่ ้เู รียนในอนาคตได้ มาตรฐานการเรียนร้แู ละตัวชีว้ ดั ทกี่ ำหนดไวใ้ นเอกสารนี้ ช่วยทำใหห้ นว่ ยงานท่ีเกี่ยวข้องในทกุ ระดับเห็นผลคาดหวังทตี่ ้องการพฒั นาการเรียนรู้ของผเู้ รียนทชี่ ัดเจนตลอดแนว ซ่ึงจะสามารถช่วยให้ หนว่ ยงานที่เกี่ยวข้องในระดับทอ้ งถิน่ และสถานศึกษาร่วมกนั พฒั นาหลกั สตู รได้อยา่ งมนั่ ใจ ทำให้การจดั ทำ หลกั สูตรในระดับสถานศึกษามคี ุณภาพและมีความเป็นเอกภาพยงิ่ ข้ึน อีกทงั้ ยังช่วยให้เกิดความชดั เจนเรื่อง การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ช่วยแก้ปัญหาการเทียบโอนระหว่างสถานศึกษา

ดงั นั้นในการพัฒนาหลกั สตู รในทกุ ระดับ ต้งั แตร่ ะดบั ชาติ จนกระทั่งถงึ ระดับสถานศึกษา จะตอ้ ง สะท้อนคุณภาพตามมาตรฐานการเรยี นร้แู ละตวั ชี้วัดที่กำหนดไวใ้ นหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน รวมทงั้ เปน็ กรอบทศิ ทางในการจัดการศึกษาทุกรปู แบบ และครอบคลมุ ผูเ้ รียนทุกกลมุ่ เป้าหมายในระดับ การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน การจัดหลกั สตู รการศึกษาข้ันพื้นฐาน จะประสบความสำเร็จตามเปา้ หมายท่คี าดหวังได้ ทกุ ฝา่ ยทเี่ กยี่ วข้องทั้งระดบั ชาติ ชุมชน ครอบครัว และทุกคนต้องร่วมกนั รับผดิ ชอบ โดยร่วมกนั ทำงานอยา่ ง เปน็ ระบบ และต่อเน่ือง วางแผนดำเนินการ สง่ เสรมิ สนบั สนนุ ตรวจสอบ ตลอดจนปรับปรุงแก้ไข เพื่อ พัฒนาเยาวชนของชาติ ไปสูค่ ุณภาพตามมาตรฐานการเรยี นรู้ทก่ี ำหนดไว้ คณะผจู้ ัดทำ โรงเรียนบ้านนำ้ กำ่ (ลำ้ ประชาอปุ ถมั ภ์)

สารบญั ง เรื่อง ประกาศโรงเรยี นบ้านน้ำก่ำ(ลำ้ ประชาอปุ ถัมภ์)พทุ ธศักราช ๒๕๖๒ หนา้ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๑๕๖๕) ก คำสง่ั โรงเรยี นบา้ นน้ำก่ำ(ลำ้ ประชาอปุ ถัมภ)์ คำนำ ข สารบัญ ค วิสัยทศั น์ พันธกิจ เปา้ ประสงค์ กลยทุ ธ์ ง สมรรถนะของผเู้ รียนและคุณลักษณะของผู้เรียน 1 โครงสรา้ งเวลาเรียนตามหลกั สตู รแกนกลามทิอแรง 2 โครงสร้างเวลาเรียนระดบั ประถมศกึ ษา โครงสรา้ งเวลาเรยี นระดับมธั ยมศกึ ษา กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม กลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี กลุ่มสาระการเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศึกษา กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ิลปะ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น แนวทางการประเมนิ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น เกณฑ์การจบการศกึ ษา การจดั การเรยี นรู้ สอื่ การเรียนรู้ การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ เอกสารหลักฐานการศึกษา

1 วิสัยทศั น์ โรงเรยี นบ้านน้ำก่ำ(ล้ำประชาอปุ ถัมภ์) เป็นโรงเรียนแหง่ การเรียนรู้ จดั การศกึ ษาโดยการมีส่วน รว่ มทกุ ภาคส่วน พัฒนาผ้เู รยี นเปน็ ไปตามการศึกษาชาติ ห่างไกลยาเสพตดิ อนุรักษ์สิง่ แวดลอ้ ม ดำรงชีวติ ได้อย่างมคี วามสุข บนพ้ืนฐานความเป็นไทย ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง พนั ธกจิ ( MISSION ) ท่จี ะตอ้ งปฏบิ ตั ิมีดงั น้ี ๑. จดั การศึกษาข้นั พืน้ ฐานมีคณุ ภาพตามมาตรฐานและสง่ เสริมเทคโนโลยเี ป็นเครอื่ งมอื ในการ เรียนรู้ ๒. ปลกู ฝังคณุ ธรรมใหห้ ่างไกลยาเสพติด อนรุ ักษ์สิง่ แวดลอ้ มและวถิ ชี วี ิตตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ๓. พฒั นาระบบบรหิ ารจดั การโรงเรียนใหเ้ ขม้ แข็งเพื่อรองรับการกระจายอำนาจ ๔. พฒั นาครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาใหม้ ีความรูค้ วามสามารถอย่างต่อเนื่อง ๕. ส่งเสริมให้ชุมชน องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ินและผ้มู ีส่วนไดส้ ่วนเสีย มีส่วนรว่ มในการจดั การศึกษา เปา้ ประสงค์ ( GOAL ) ๑. นกั เรียนมคี ณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน ๒. บคุ ลากรมคี วามรู้ความสามารถและคณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน ๓. โรงเรียนมคี วามเข้มแข็งเพื่อรองรับการกระจายอำนาจ ๔. ชมุ ชม องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ผ้มู สี ่วนได้ ส่วนเสีย (Stake holder) เขา้ มามีส่วนรว่ ม ในการจัดการศกึ ษาตามศักยภาพ กลยุทธ์ ๑. พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศกึ ษาทุกระดับและส่งเสริมเทคโนโลยีเป็นเครือ่ งมอื ใน การเรียนรู้ ๒. ปลกู ฝงั คณุ ธรรมใหห้ ่างไกลยาเสพติด อนรุ ักษส์ งิ่ แวดลอ้ มและวิถชี วี ิตตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียง ๔. พัฒนาระบบบรหิ ารใหม้ ีความเขม้ แข็งเพ่ือรองรบั การกระจายอำนาจ ๕. พฒั นาครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาทัง้ ระบบ ๖. พัฒนาประสิทธภิ าพ การบริหารจดั การศึกษาตามแนวทางกระจายอำนาจ เนน้ การมสี ่วน ร่วมจากทุกภาคสว่ น

2 สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ในการพัฒนาผู้เรยี นตามหลกั สตู ร โรงเรียนบา้ นนำ้ ก่ำ(ลำ้ ประชาอปุ ถัมภ์) พุทธศักราช ๒๕๖๑ (ฉบบั ปรับปรงุ ๒๕๖๒)ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ม่งุ เนน้ พฒั นา ผูเ้ รียนใหม้ ีคุณภาพตามมาตรฐานทกี่ ำหนด ซ่งึ จะช่วยให้ผเู้ รยี นเกิดสมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ดังน้ี สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น หลกั สูตร โรงเรียนบา้ นนำ้ ก่ำ(ล้ำประชาอุปถัมภ์) พุทธศักราช ๒๕๖๑ มงุ่ ใหผ้ ้เู รยี นเกิดสมรรถนะ สำคัญ ๕ ประการ ดงั น้ี ๑. ความสามารถในการสื่อสาร เปน็ ความสามารถในการรบั และส่งสาร มีวฒั นธรรมในการใช้ ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเขา้ ใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพือ่ แลกเปลีย่ นข้อมูลข่าวสาร และประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม การเลือกรับ หรือไม่รับข้อมูล ข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสาร ที่มีประสิทธิภาพโดย คำนงึ ถึงผลกระทบที่มีตอ่ ตนเองและสังคม ๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือ สารสนเทศเพอ่ื การตดั สินใจเก่ียวกบั ตนเองและสังคมได้อยา่ งเหมาะสม ๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา เปน็ ความสามารถในการแกป้ ญั หาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสม บนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ ความสัมพันธ์และการเปลยี่ นแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสงั คม แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรู้มาใช้ใน การป้องกนั และแกไ้ ขปัญหา และมกี าตดั สนิ ใจทม่ี ปี ระสทิ ธิภาพโดยคำนงึ ถึงผลกระทบท่เี กดิ ขนึ้ ต่อตนเอง สงั คมและส่งิ แวดลอ้ ม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ใน การดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงาน และการอยู่ร่วมกัน ในสงั คมด้วยการสรา้ งเสริมความสัมพนั ธ์อันดรี ะหวา่ งบุคคล การจดั การปัญหาและความขดั แยง้ ต่าง ๆ อย่าง เหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยง พฤติกรรมไมพ่ งึ ประสงคท์ ่ีสง่ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อื่น ๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้เทคโนโลยีดา้ น ต่าง ๆ และมีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพอื่ การพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรยี นรู้ การสื่อสาร การทำงาน การแก้ปัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ ถกู ต้อง เหมาะสม และมีคุณธรรม

3 คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ หลักสูตร โรงเรียนบ้านน้ำก่ำ(ล้ำประชาอุปถัมภ์) พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ มุง่ พัฒนาผูเ้ รียนให้มีคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เพ่ือให้สามารถ อยู่ร่วมกบั ผู้อ่นื ในสังคมได้อยา่ งมคี วามสุข ในฐานะพลเมอื งไทยและพลโลก ดงั นี้ ๑. รกั ษ์ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ๒. ซ่ือสัตย์สุจรติ ๓. มวี นิ ยั ๔. ใฝ่เรยี นรู้ ๕. อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง ๖. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน ๗. รกั ความเปน็ ไทย ๘. มจี ติ เป็นสาธารณะ

4 โครงสร้างเวลาเรยี น โครงสร้างเวลาเรียนหลกั สูตรสถานศึกษาแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ภายหลังจากการประกาศใชห้ ลกั สูตรสถานศกึ ษาแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ได้มี คำส่งั ประกาศ และหนังสือราชการ เกย่ี วกับโครงสร้างเวลาเรยี นอย่หู ลายฉบบั บางฉบับมผี ลบงั คับใช้ บางฉบับยกเลิกไปแล้ว รายละเอียดสามารถสรปุ ดังนี้ เวลาเรียน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ / ระดบั ประถมศกึ ษา ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ ระดับ กิจกรรม มธั ยมศึกษา ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖ ม.๑ ม.๒ ม.๓ ตอนปลาย กล่มุ สาระการเรียนรู้ ๒๐๐ ม. ๔ - ๖ ภาษาไทย ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ (๓ นก.) (๓ นก.) (๓ นก.) ๒๔๐ คณิตศาสตร์ ๒๐๐ (๖ นก.) ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๒๔๐ วทิ ยาศาสตร์ ๘๐ (๓ นก.) (๓ นก.) (๓ นก.) (๖ นก.) ๒๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ (๖ นก.) (๓ นก.) (๓ นก.) (๓ นก.) ๓๒๐ สงั คมศึกษา ศาสนาและ (๘ นก.) วัฒนธรรม ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๘๐ (๔ นก.) (๔ นก.) (๔ นก.) (๒ นก.) - ประวัติศาสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๒๔๐ (๑ นก.) (๑ นก.) (๑ นก.) (๖ นก.) - ศาสนา ศีลธรรม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ จริยธรรม ๘๐ (๓ นก.) (๓ นก.) (๓ นก.) (๓ นก.) ๑๒๐ - หนา้ ท่ีพลเมอื ง ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ (๓ นก.) วฒั นธรรมและการ (๒ นก.) (๒ นก.) (๒ นก.) ๑๒๐ ดำเนินชีวติ ในสังคม (๓ นก.) ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๒๔๐ - เศรษฐศาสตร์ (๒ นก.) (๒ นก.) (๒ นก.) (๖ นก.) - ภูมิศาสตร์ ๑,๖๔๐ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ (๔๑ นก.) (๒ นก.) (๒ นก.) (๒ นก.) ศิลปะ ๘๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ การงานอาชพี และ ๔๐ (๓ นก.) (๓ นก.) (๓ นก.) เทคโนโลยี ๒๐๐ ภาษาต่างประเทศ ๑,๐๔๐ ๑,๐๔๐ ๙๒๐ ๙๒๐ ๙๒๐ ๘๘๐ ๘๘๐ ๘๘๐ (๒๒ นก.) (๒๒ นก.) (๒๒ นก.) รวมเวลาเรียน ๑,๐๔๐ (พน้ื ฐาน)

เวลาเรยี น 5 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ / ระดับประถมศึกษา ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ ระดบั กิจกรรม มัธยมศึกษา ตอนปลาย ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖ ม.๑ ม.๒ ม.๓ ม. ๔ - ๖ 5 ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๓๖๐ กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน ปีละไมน่ อ้ ยกวา่ ๔๐ ช่ัวโมง ไม่นอ้ ยกว่า รายวชิ า / กิจกรรมที่ ปีละไมน่ อ้ ยกวา่ ๒๐๐ ชวั่ โมง ๑,๖๐๐ สถานศึกษาจัดเพิม่ เตมิ ไมน่ อ้ ยกว่า ๑,๐๐๐ ชั่วโมง / ปี ตามความพร้อมและจดุ เนน้ ไม่น้อยกว่า ชว่ั โมง ๑,๒๐๐ ช่วั โมง / ปี รวม ๓ ปี รวมเวลาเรียนท้งั หมด ไม่น้อยกวา่ ๓,๖๐๐ ชม. โครงสรา้ งเวลาเรียนระดับประถมศกึ ษา โครงสรา้ งเวลาเรยี น หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนบา้ นน้ำกำ่ (ล้ำประชาอปุ ถมั ภ์) กำหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียน ดงั นี้ กล่มุ สาระการเรยี นร/ู้ กจิ กรรม เวลาเรียน ระดับประถมศึกษา  กลุ่มสาระการเรียนรู้ ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ สังคมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐  ศาสนาศลี ธรรม จรยิ ธรรม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐  ภมู ศิ าสตร์  เศรษฐศาสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ สุขศึกษาและพลศึกษา ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ศลิ ปะ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ การงานอาชพี ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ภาษาต่างประเทศ

กลมุ่ สาระการเรยี นร/ู้ กิจกรรม ป. ๑ ป. ๒ เวลาเรยี น ป. ๕ 6 ๑,๐๔๐ ๑,๐๔๐ ระดบั ประถมศกึ ษา ๙๒๐ รวมเวลาเรยี น (พนื้ ฐาน) ป. ๓ ป. ๔ ป. ๖ รายวิชาเพ่มิ เติม ๔๐ ๔๐ ๑,๐๔๐ ๙๒๐ ๔๐ ๙๒๐ ภาษาไทย ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ หน้าทพ่ี ลเมอื ง ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐  รวมกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น  กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐  กิจกรรมนกั เรยี น ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๔๐ ๔๐ - ลกู เสือ-เนตรนารี ๑๐ ๑๐ ๓๐ ๓๐ ๑๐ ๑๐ - ชุมนุมตามความสนใจ/ลดเวลาเรยี น/เศรษฐกจิ ๑๐ ๑๐ พอเพียง/อนื่ ๆ  กิจกรรมเพื่อสังคมและ สาธารณประโยชน์ รวมเวลาเรยี นทงั้ หมด ไมน่ อ้ ยกว่า ๑,๐๐๐ ชั่วโมง/ปี ไมน่ อ้ ยกว่า๑,๐๐๐ ช่วั โมง/ปี

7 ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ โรงเรยี นบา้ นน้ำก่ำ(ล้ำประชาอปุ ถัมภ์) กำหนดกรอบโครงสรา้ งเวลาเรยี น ดังนี้ รายวชิ า/กิจกรรม เวลาเรยี น (ชม./ป)ี รายวชิ าพ้ืนฐาน ๘๔๐ ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ ๒๐๐ ค๑๑๑๐๑ คณติ ศาสตร๑์ ๒๐๐ ว๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี๑ ๘๐ ส๑๑๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม๑ ๑๒๐ ส๑๑๑๐๒ ประวัติศาสตร์๑ ๔๐ พ๑๑๑๐๑ สุขศึกษาและพลศกึ ษา๑ ๘๐ ศ๑๑๑๐๑ ศลิ ปะ๑ ๘๐ ง๑๑๑๐๑ การงานอาชพี ๑ ๔๐ อ๑๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ๑ ๒๐๐ รายวชิ าเพมิ่ เติม ๘๐ ท๑๑๒๐๑ ภาษาไทย ๑ ๔๐ ส๑๑๒๓๑ หน้าท่ีพลเมอื ง ๑ ๔๐  รวมกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น ๑๒๐  กิจกรรมแนะแนว ๔๐  กจิ กรรมนกั เรยี น - ลกู เสอื -เนตรนารี ๔๐ - ชุมนมุ ตามความสนใจ/ลดเวลาเรยี น/เศรษฐกิจพอเพียง/อ่ืนๆ ๓๐  กจิ กรรมเพอื่ สังคมและ สาธารณประโยชน์ ๑๐ รวมเวลาเรียนทงั้ สิ้น ไมน่ อ้ ยกวา่ ๑,๐๐๐

8 ระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๒ โรงเรยี นบา้ นนำ้ กำ่ (ลำ้ ประชาอปุ ถมั ภ์) กำหนดกรอบโครงสรา้ งเวลาเรียน ดงั น้ี รายวชิ า/กิจกรรม เวลาเรียน (ชม./ปี) รายวิชาพื้นฐาน ๘๔๐ ท๑๒๑๐๑ ภาษาไทย๒ ๒๐๐ ค๑๒๑๐๑ คณติ ศาสตร๒์ ๒๐๐ ว๑๒๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐ ส๑๒๑๐๑ สังคมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม๒ ๑๒๐ ส๑๒๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์๒ ๔๐ พ๑๒๑๐๑ สุขศึกษาและพลศกึ ษา๒ ๘๐ ศ๑๒๑๐๑ ศิลปะ๒ ๘๐ ง๑๒๑๐๑ การงานอาชพี ๒ ๔๐ อ๑๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๒ ๒๐๐ รายวิชาเพมิ่ เติม ๘๐ ท๑๒๒๐๑ ภาษาไทย ๒ ๔๐ ส๑๒๒๓๒ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๒ ๔๐  รวมกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น ๑๒๐ ๔๐  กิจกรรมแนะแนว  กิจกรรมนักเรยี น ๔๐ - ลูกเสอื -เนตรนารี ๓๐ - ชุมนุมตามความสนใจ/ลดเวลาเรยี น/เศรษฐกจิ พอเพยี ง/อน่ื ๆ  กิจกรรมเพอ่ื สงั คมและ ๑๐ สาธารณประโยชน์ รวมเวลาเรียนท้ังสิน้ ไม่นอ้ ยกว่า ๑,๐๐๐

9 ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ โรงเรียนบ้านน้ำกำ่ (ล้ำประชาอปุ ถมั ภ์) กำหนดกรอบโครงสรา้ งเวลาเรียน ดงั น้ี รายวิชา/กิจกรรม เวลาเรียน (ชม./ป)ี รายวิชาพืน้ ฐาน ๘๔๐ ท๑๓๑๐๑ ภาษาไทย๓ ๒๐๐ ค๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร๓์ ๒๐๐ ว๑๓๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๓ ๘๐ ส๑๓๑๐๑ สังคมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม ๓ ๑๒๐ ส๑๓๑๐๒ ประวัติศาสตร๓์ ๔๐ พ๑๓๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา๓ ๘๐ ศ๑๓๑๐๑ ศิลปะ๓ ๘๐ ง๑๓๑๐๑ การงานอาชพี ๓ ๔๐ อ๑๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๓ ๒๐๐ รายวชิ าเพมิ่ เติม ๘๐ ท๑๓๒๐๑ ภาษาไทย ๓ ๔๐ ส๑๓๒๓๓ หน้าท่พี ลเมือง ๓ ๔๐  รวมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๑๒๐ ๔๐  กิจกรรมแนะแนว  กจิ กรรมนกั เรยี น ๔๐ - ลกู เสือ-เนตรนารี ๓๐ - ชมุ นมุ ตามความสนใจ/ลดเวลาเรยี น/เศรษฐกิจพอเพยี ง/อืน่ ๆ  กจิ กรรมเพ่ือสงั คมและ ๑๐ สาธารณประโยชน์ รวมเวลาเรยี นทง้ั สิน้ ไม่นอ้ ยกว่า ๑,๐๐๐

10 ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรยี นบา้ นน้ำกำ่ (ล้ำประชาอปุ ถัมภ)์ กำหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียน ดงั น้ี รายวชิ า/กจิ กรรม เวลาเรียน (ชม./ป)ี รายวิชาพื้นฐาน ๘๘๐ ท๑๔๑๐๑ ภาษาไทย๔ ๑๖๐ ค๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์๔ ๑๖๐ ว๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๔ ๘๐ ส๑๔๑๐๑ สงั คมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม๔ ๘๐ ส๑๔๑๐๒ ประวัติศาสตร๔์ ๔๐ พ๑๔๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา๔ ๘๐ ศ๑๔๑๐๑ ศิลปะ๔ ๘๐ ง๑๔๑๐๑ การงานอาชพี ๔ ๘๐ อ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ๔ ๑๒๐ รายวิชาเพมิ่ เติม ๘๐ ท๑๔๒๐๑ ภาษาไทย ๔ ๔๐ ส๑๔๒๓๔ หน้าทพ่ี ลเมือง ๔ ๔๐  รวมกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน ๑๒๐ ๔๐  กจิ กรรมแนะแนว  กิจกรรมนักเรยี น ๔๐ - ลกู เสอื -เนตรนารี ๓๐ - ชุมนุมตามความสนใจ/ลดเวลาเรียน/เศรษฐกิจพอเพียง/อน่ื ๆ  กิจกรรมเพือ่ สังคมและ ๑๐ สาธารณประโยชน์ รวมเวลาเรยี นทั้งส้ิน ไม่นอ้ ยกว่า ๑,๐๐๐

11 ระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรยี นบา้ นน้ำกำ่ (ลำ้ ประชาอุปถมั ภ์) กำหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียน ดงั น้ี รายวิชา/กจิ กรรม เวลาเรียน (ชม./ป)ี รายวชิ าพื้นฐาน ๘๘๐ ท๑๕๑๐๑ ภาษาไทย๕ ๑๖๐ ค๑๕๑๐๑ คณติ ศาสตร์๕ ๑๖๐ ว๑๕๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๕ ๘๐ ส๑๕๑๐๑ สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม๕ ๘๐ ส๑๕๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์๕ ๔๐ พ๑๕๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา๕ ๘๐ ศ๑๕๑๐๑ ศิลปะ๕ ๘๐ ง๑๕๑๐๑ การงานอาชีพ ๕ ๘๐ อ๑๕๑๐๑ ภาษาอังกฤษ๕ ๑๒๐ รายวชิ าเพมิ่ เติม ๘๐ ท๑๕๒๐๑ ภาษาไทย ๕ ๔๐ ส๑๕๒๓๕ หนา้ ทพี่ ลเมอื ง ๔๐  รวมกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน ๑๒๐ ๔๐  กิจกรรมแนะแนว  กิจกรรมนักเรียน ๔๐ - ลูกเสอื -เนตรนารี ๓๐ - ชมุ นุมตามความสนใจ/ลดเวลาเรยี น/เศรษฐกิจพอเพยี ง/อืน่ ๆ  กิจกรรมเพ่อื สงั คมและ ๑๐ สาธารณประโยชน์ รวมเวลาเรียนทัง้ ส้ิน ไมน่ อ้ ยกว่า ๑,๐๐๐

12 ระดับช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๖ โรงเรยี นบ้านนำ้ ก่ำ(ลำ้ ประชาอุปถมั ภ)์ กำหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรยี น ดงั น้ี รายวิชา/กจิ กรรม เวลาเรียน (ชม./ปี) รายวชิ าพืน้ ฐาน ๘๘๐ ท๑๖๑๐๑ ภาษาไทย๖ ๑๖๐ ค๑๖๑๐๑ คณติ ศาสตร๖์ ๑๖๐ ว๑๖๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๖ ๘๐ ส๑๖๑๐๑ สงั คมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม๖ ๘๐ ส๑๖๑๐๒ ประวัติศาสตร์๖ ๔๐ พ๑๖๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา๖ ๘๐ ศ๑๖๑๐๑ ศิลปะ๖ ๘๐ ง๑๖๑๐๑ การงานอาชพี ๖ ๘๐ อ๑๖๑๐๑ ภาษาอังกฤษ๖ ๑๒๐ รายวิชาเพ่มิ เติม ๘๐ ท๑๖๒๐๑ ภาษาไทย ๖ ๔๐ ส๑๖๒๓๖ หนา้ ที่พลเมือง ๖ ๔๐  รวมกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น ๑๒๐ ๔๐  กจิ กรรมแนะแนว  กิจกรรมนกั เรยี น ๔๐ - ลูกเสือ-เนตรนารี ๓๐ - ชมุ นุมตามความสนใจ/ลดเวลาเรียน/เศรษฐกจิ พอเพยี ง/อนื่ ๆ  กจิ กรรมเพอ่ื สังคมและ ๑๐ สาธารณประโยชน์ รวมเวลาเรยี นท้ังสน้ิ ไม่นอ้ ยกวา่ ๑,๐๐๐

13 โครงสรา้ งเวลาเรียนระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น โรงเรยี นบ้านน้ำกำ่ (ลำ้ ประชาอุปถัมภ์) กำหนดกรอบโครงสรา้ งเวลาเรียน ดังนี้ กลมุ่ สาระการเรียนร/ู้ กจิ กรรม เวลาเรยี น ม.๓ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้  กลุ่มสาระการเรียนรู้ ม.๑ ม.๒ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ๑๖๐ ( ๔ นก.) ๑๖๐ ( ๔ นก.) ๑๖๐ ( ๔ นก.)  ประวัตศิ าสตร์ ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) ศาสนาศลี ธรรม จริยธรรม ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.)  เศรษฐศาสตร์  ภมู ศิ าสตร์ ๘๐ (๒ นก.) ๘๐ (๒ นก.) ๘๐ (๒ นก.) ๘๐ (๒ นก.) ๘๐ (๒ นก.) ๘๐ (๒ นก.) สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ๘๐ (๒ นก.) ๘๐ (๒ นก.) ๘๐ (๒ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) ศิลปะ ๘๘๐ (๒๒ นก) ๘๘๐ (๒๒ นก) ๘๘๐ (๒๒ นก) การงานอาชพี ปลี ะไม่นอ้ ยกวา่ ๒๐๐ ชว่ั โมง ภาษาตา่ งประเทศ ๔๐ ๔๐ ๔๐ รวมเวลาเรยี น (พนื้ ฐาน) ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๒๕ ๒๕ ๒๕  รายวิชาเพมิ่ เตมิ ๑๕ ๑๕ ๑๕ ๑. ภาษาองั กฤษ ๒. ภาษาไทย ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๓ เทคโนโลยี ๔ ทักษะอาชพี ๕ หนา้ ที่พลเมอื ง  กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น  กิจกรรมแนะแนว  กจิ กรรมนกั เรยี น - ลูกเสือยวุ กาชาด - ชมุ นุม/ลดเวลาเรยี น/เศรษฐกิจพอเพยี ง/ อน่ื ๆ  กิจกรรมเพอื่ สงั คมและ สาธารณประโยชน์ รวมเวลากจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน

14 โครงสรา้ งหลกั สูตรช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ โรงเรียนบา้ นนำ้ กำ่ (ลำ้ ประชาอุปถมั ภ)์ กำหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรยี น ดงั น้ี ภาคเรียนที่ ๑ (หนว่ ยกิต/ ภาคเรยี นที่ ๒ (หนว่ ยกิต/ ชม.) ชม.) รายวชิ าพ้นื ฐาน รายวิชาพน้ื ฐาน ท๒๑๑๐๑ ภาษาไทย๑ ๑๑ (๔๔๐) ท๒๑๑๐๒ ภาษาไทย ๒ ๑๑ (๔๔๐) ค๒๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์๑ ๑.๕ (๖๐) ค๒๑๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๒ ๑.๕ (๖๐) ว๒๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์และ ๑.๕ (๖๐) ว๒๑๑๐๒ วิทยาศาสตร์และ ๑.๕ (๖๐) เทคโนโลยี ๑ ๑.๕ (๖๐) เทคโนโลยี ๒ ๑.๕ (๖๐) ส๒๑๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนา ส๒๑๑๐๒ สังคมศกึ ษา ศาสนา ๑.๕ (๖๐) ๑.๕ (๖๐) และวัฒนธรรม ๑ และวัฒนธรรม ๒ ส๒๑๑๐๓ ประวตั ิศาสตร์ ๑ ๐.๕ (๒๐) ส๒๑๑๐๔ ประวตั ิศาสตร์ ๒ ๐.๕ (๒๐) พ๒๑๑๐๑ สุขศึกษาและพลศกึ ษา๑ ๑ (๔๐) พ๒๑๑๐๒ สขุ ศึกษาและพลศึกษา๒ ๑ (๔๐) ศ๒๑๑๐๑ ทัศนศลิ ป์ ๑ ๑ (๔๐) ศ๒๑๑๐๒ ดนตรี-นาฏศลิ ป์ ๑ (๔๐) ง๒๑๑๐๑ การงานอาชพี ๑ ๑ (๔๐) ง๒๑๑๐๒ การงานอาชีพ ๒ ๑ (๔๐) อ๒๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๑ ๑.๕ (๖๐) อ๒๑๑๐๒ ภาษาองั กฤษ ๒ ๑.๕ (๖๐) ๒.๕ (๑๐๐) ๒.๕ (๑๐๐) รายวิชาเพ่มิ เติม ๐.๕ (๒๐) รายวชิ าเพ่ิมเติม ๐.๕ (๒๐) อ๒๑๒๐๑ ภาษาอังกฤษ ๑ ๐.๕ (๒๐) อ๒๑๒๐๒ ภาษาองั กฤษ ๒ ๐.๕ (๒๐) ท ๒๑๒๐๑ ภาษาไทย ๑ ๐.๕ (๒๐) ท ๒๑๒๐๑ ภาษาไทย ๐.๕ (๒๐) ว๒๑๒๐๑ เทคโนโลยี ๑ ๐.๕ (๒๐) ง๒๑๒๐๒ คอมพิวเตอร์ ๐.๕ (๒๐) ง๒๑๒๐๓ ทักษะอาชีพ(ขนมไทย 1) ๐.๕ (๒๐) ง๒๑๒๐๔ ทกั ษะอาชพี (ขนมไทย 2) ๐.๕ (๒๐) ส ๒๑๒๐๑ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๑ ส ๒๑๒๐๑ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๖๐ ๖๐ กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น ๒๐ กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น ๑๕  กจิ กรรมแนะแนว  กจิ กรรมแนะแนว  กิจกรรมนักเรียน ๒๐  กิจกรรมนักเรียน ๒๐ ลูกเสือ - เนตรนารี ๑๕ ลูกเสือ - เนตรนารี ๑๕ ชุมนมุ ๕ ชุมนุม ๕  กิจกรรมเพื่อสงั คมและ  กจิ กรรมเพื่อสงั คมและ สาธารณประโยชน์ ๖๐๐ สาธารณประโยชน์ ๖๐๐ รวมเวลาเรยี นท้งั สิ้น รวมเวลาเรยี นทั้งส้ิน

15 โครงสรา้ งหลักสตู รชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๒ โรงเรียนบา้ นนำ้ ก่ำ(ลำ้ ประชาอุปถัมภ์) กำหนดกรอบโครงสรา้ งเวลาเรยี น ดังนี้ ภาคเรยี นท่ี ๑ (หน่วยกิต/ ภาคเรียนที่ ๒ (หนว่ ยกิต/ ชม.) ชม.) รายวชิ าพื้นฐาน ท๒๒๑๐๑ ภาษาไทย ๓ ๑๑ (๔๔๐) รายวิชาพ้ืนฐาน ๑๑ (๔๔๐) ค๒๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์๓ ๑.๕ (๖๐) ว๒๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และ ๑.๕ (๖๐) ท๒๒๑๐๒ ภาษาไทย ๔ ๑.๕ (๖๐) เทคโนโลยี ๓ ๑.๕ (๖๐) ส๒๒๑๐๑ สงั คมศกึ ษา ศาสนา ๑.๕ (๖๐) ค๒๒๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๔ ๑.๕ (๖๐) และวัฒนธรรม ๓ ๑.๕ (๖๐) ว๒๒๑๐๒ วิทยาศาสตร์และ ส๒๒๑๐๓ ประวัตศิ าสตร์ ๓ ๐.๕ (๒๐) พ๒๒๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา๓ เทคโนโลยี ๔ ๑ (๔๐) ศ๒๒๑๐๑ ทัศนศลิ ป์ ๓ ๑ (๔๐) ง๒๒๑๐๑ การงานอาชพี ๓ ๑.๕ (๖๐) ส๒๒๑๐๒ สังคมศึกษา ศาสนา ๑ (๔๐) อ๒๒๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๓ ๑.๕ (๖๐) และวฒั นธรรม ๔ ๒.๕ (๑๐๐) รายวชิ าเพ่ิมเติม ๐.๕ (๒๐) อ๒๒๒๐๑ ภาษาอังกฤษ ๓ ๐.๕ (๒๐) ส๒๒๑๐๔ ประวตั ศิ าสตร์ ๔ ๐.๕ (๒๐) ท ๒๒๒๐๑ ภาษาไทย ๓ ๐.๕ (๒๐) ว๒๒๒๐๑ เทคโนโลยี ๓ ๑ (๔๐) พ๒๒๑๐๒ สุขศึกษาและพลศึกษา๔ ๐.๕ (๒๐) ง๒๒๒๐๓ ทักษะอาชีพ(ตัดผม ๑) ๐.๕ (๒๐) ส ๒๒๒๐๑ หนา้ ทีพ่ ลเมือง ๓ ๑ (๔๐) ศ๒๒๑๐๒ ดนตรี-นาฏศิลป์ ๔ ๖๐ กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ๑ (๔๐) ง๒๒๑๐๒ การงานอาชพี ๔ ๑๕  กจิ กรรมแนะแนว  กิจกรรมนักเรยี น ๑.๕ (๖๐) อ๒๒๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ๔ ๒๐ ลกู เสือ - เนตรนารี ๑๕ ชมุ นุม ๒.๕ (๑๐๐) รายวิชาเพมิ่ เติม ๕  กิจกรรมเพ่ือสงั คมและ สาธารณประโยชน์ ๐.๕ (๒๐) อ๒๒๒๐๒ ภาษาอังกฤษ ๔ ๖๐๐ รวมเวลาเรียนทงั้ ส้นิ ๐.๕ (๒๐) ท ๒๒๒๐๑ ภาษาไทย ๔ ๐.๕ (๒๐) ว๒๒๒๐๒ เทคโนโลยี ๔ ๐.๕ (๒๐) ง๒๒๒๐๔ ทกั ษะอาชีพ(ตดั ผม ๒) ๐.๕ (๒๐) ส ๒๒๒๐๑ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๔ ๖๐ กิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน ๒๐  กิจกรรมแนะแนว  กจิ กรรมนกั เรียน ๒๐ ลูกเสอื - เนตรนารี ๑๕ ชมุ นมุ ๕  กิจกรรมเพื่อสงั คมและ สาธารณประโยชน์ ๖๐๐ รวมเวลาเรยี นทง้ั ส้ิน

16 โครงสร้างหลักสตู รชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ โรงเรียนบ้านน้ำกำ่ (ล้ำประชาอุปถมั ภ์) กำหนดกรอบโครงสรา้ งเวลาเรยี น ดงั น้ี ภาคเรยี นท่ี ๑ (หนว่ ยกิต/ ภาคเรียนที่ ๒ (หนว่ ยกิต/ ชม.) ชม.) รายวิชาพื้นฐาน ท๒๓๑๐๑ ภาษาไทย ๕ ๑๑ (๔๔๐) รายวชิ าพื้นฐาน ๑๑ (๔๔๐) ค๒๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๕ ๑.๕ (๖๐) ว๒๓๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และ ๑.๕ (๖๐) ท๒๓๑๐๒ ภาษาไทย ๖ ๑.๕ (๖๐) เทคโนโลยี ๕ ๑.๕ (๖๐) ส๒๓๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนา ๑.๕ (๖๐) ค๒๓๑๐๒ คณติ ศาสตร์ ๖ ๑.๕ (๖๐) และวฒั นธรรม ๕ ๑.๕ (๖๐) ว๒๓๑๐๒ วิทยาศาสตร์และ ส๒๓๑๐๓ ประวตั ิศาสตร์ ๕ ๐.๕ (๒๐) พ๒๓๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา๕ เทคโนโลยี ๖ ๑ (๔๐) ศ๒๓๑๐๑ ทศั นศิลป์ ๕ ๑ (๔๐) ง๒๓๑๐๑ การงานอาชพี ๕ ๑.๕ (๖๐) ส๒๓๑๐๒ สงั คมศึกษา ศาสนา ๑ (๔๐) อ๒๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๕ ๑.๕ (๖๐) และวฒั นธรรม ๖ ๒.๕ (๑๐๐) รายวิชาเพ่มิ เติม ๐.๕ (๒๐) อ๒๓๒๐๑ ภาษาองั กฤษ ๕ ๐.๕ (๒๐) ส๒๓๑๐๔ ประวตั ศิ าสตร์ ๖ ๐.๕ (๒๐) ท ๒๓๒๐๑ ภาษาไทย ๕ ๐.๕ (๒๐) ว๒๓๒๐๑ เทคโนโลยี ๕ ๑ (๔๐) พ๒๓๑๐๒ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา๖ ๐.๕ (๒๐) ง๒๓๒๐๓ งานประดษิ ฐเ์ ศษวัสดุ เหลือใช้ ๑ (๔๐) ศ๒๓๑๐๒ ดนตรี-นาฏศลิ ป์ ๖ ๐.๕ (๒๐) ส ๒๑๒๐๑ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๖๐ ๑ (๔๐) ง๒๓๑๐๒ การงานอาชีพ ๖ ๒๐ กิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน  กิจกรรมแนะแนว ๑.๕ (๖๐) อ๒๓๑๐๒ ภาษาองั กฤษ ๖ ๒๐  กจิ กรรมนกั เรียน ๑๕ ลกู เสือ - เนตรนารี ๒.๕ (๑๐๐) รายวิชาเพิ่มเติม ๕ ชมุ นุม  กิจกรรมเพ่ือสงั คมและ ๐.๕ (๒๐) อ๒๓๒๐๒ ภาษาองั กฤษ ๖ ๖๐๐ สาธารณประโยชน์ ๐.๕ (๒๐) ท ๒๓๒๐๑ ภาษาไทย ๖ รวมเวลาเรยี นท้งั ส้นิ ๐.๕ (๒๐) ว๒๓๑๒๐๒ เทคโนโลยฯี ๖ ๐.๕ (๒๐) ง๒๓๒๐๔ งานประดษิ ฐ์ใบตอง ๐.๕ (๒๐) ส ๒๑๒๐๑ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๖๐ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๒๐  กิจกรรมแนะแนว ๒๐  กจิ กรรมนักเรียน ๑๕ ลกู เสือ - เนตรนารี ๕ ชุมนุม  กิจกรรมเพ่ือสงั คมและ ๖๐๐ สาธารณประโยชน์ รวมเวลาเรียนทั้งส้ิน

17 กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย

18 คำอธิบายรายวชิ า ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ เวลา ๒๐๐ ชั่วโมง ....................................................................................................... .......................................................... อา่ นออกเสียงและบอกความหมายของคำ คำคลอ้ งจอง ขอ้ ความ คำพื้นฐาน คำที่ใช้ ในชวี ติ ประจำวัน ไมน่ ้อยกวา่ ๖๐๐ คำ คำทใ่ี ชเ้ รียนรใู้ น กลมุ่ สาระการเรยี นรู้อืน่ คำท่ีมีรูปวรรณยุกตแ์ ละ ไมม่ ีรปู วรรณยุกต์ คำท่ตี วั สะกดตรงตามมาตร และไมต่ รงตามมาตรา คำที่มพี ยัญชนะควบกลำ้ คำที่ อักษรนำ อา่ นจบั ใจความจากสือ่ ตา่ งๆ นิทาน เร่อื งส้นั ๆบทรอ้ งเล่นและบทเพลงเร่ืองราว จากบทเรียน ในกลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทยและกลุ่มสาระการเรียนร้อู ่ืน อ่านหนงั สอื ตามความสนใจหนงั สือท่ี นักเรยี นสนใจเหมาะสมกับวยั หนังสือทีค่ รูและนกั เรยี นกำหนดรว่ มกัน อ่านเครื่องหมาย สัญลกั ษณ์ เครื่องหมายสัญลักษณ์ตา่ งๆ ทพี่ บเห็นชวี ติ ประจำวัน เคร่ืองหมายแสดงความปลอดภยั และแสดง อันตรายมารยาทในการอ่าน คดั ลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทัดตามรูปแบบ เขยี นตัวอักษรไทย เขียน สอ่ื สาร คำท่ใี ช้ในชวี ิตประจำวันคำพืน้ ฐานในบทเรียน คำคลอ้ งจองประโยคงา่ ยๆมารยาทในการเขยี น ฟงั ปฏบิ ตั ติ ามคำแนะนำ คำสั่งงา่ ยๆ จบั ใจความ พดู แสดงความคิดเห็นความรู้สึกจากเร่ืองที่ฟังและดู ท้งั ที่เปน็ ความรู้แลความบนั เทิง เรือ่ งเล่า สารคดสี ำหรับเด็ก นทิ าน การ์ตูน เร่ืองขบขัน พูดส่อื สารใน ชีวติ ประจำวัน แนะนำตนเอง ขอความชว่ ยเหลือ คำขอบคณุ คำขอโทษ มารยาทในการฟงั ต้งั ใจฟัง มารยาทในการดู ตั้งใจดูมารยาทในการพูด บอกและเขยี นพยญั ชนะ สระ วรรณยกุ ต์ เลขไทย สะกด คำ แจกลกู อา่ นเปน็ คำ มาตราตวั สะกดท่ีตรง ตามมาตราและไมต่ รงตามมาตรา การผันคำ ความหมายของคำ แต่งประโยค คำคลอ้ งจองวรรณกรรมรอ้ ยแกว้ รอ้ ยกรองสำหรบั เดก็ นิทาน เรอ่ื ง สั้นง่ายๆปรศิ นาคำทาย บทร้องเลน่ บทอาขยาน บทร้อยกรองวรรณคดแี ละวรรณกรรมในบทเรยี นบท อาขยานและบทร้อยกรองบทอาขยานตามท่ีกำหนด บทร้อยกรองตามความสนใจ โดยการอา่ นออกเสยี ง การอ่านจับใจความ การอ่านตามความสนใจ การอา่ น เครอ่ื งหมาย การคัดลายมอื การเขียนอักษรไทยการเขียนส่ือสาร การฟัง ปฏบิ ตั ิตาม ตอบคำถาม เล่าเรอื่ ง การพดู แสดงความคดิ เห็น ความรสู้ ึกพดู ส่ือสาร การกล่าวคำขอบคณุ ขอโทษ บอกและเขียน อักษรไทย การแต่งประโยคการเขยี นสะกดคำ การผันคำบอกความหมายของคำเรียบเรียงคำเปน็ ประโยค การต่อคำคล้องจอง การบอกขอ้ คิดการอ่านการฟงั วรรณกรรม รอ้ ยแก้วรอ้ ยกรอง การทอ่ งจำอาขยาน มารยาทการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพดู รกั ภาษาไทย สร้างความร้แู ละความคดิ เพื่อนำไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนนิ ชวี ิต และ มีมารยาทและนิสยั รักการอ่าน การเขยี น การฟงั การดู และการพูด

19 รหัสตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป. ๑/๑, ป. ๑/๒ , ป. ๑/๓ , ป ๑/๔, ป. ๑/๕, ป.๑/๖, ป. ๑/๗, ป.๑/๘ ท ๒.๑ ป. ๑/๑ , ป. ๑/๒, ป. ๑/๓ ท ๓.๑ ป. ๑/๑ , ป. ๑/๒ , ป. ๑/๓ , ป ๑/๔, ป.๑/๕ ท ๔.๑ ป. ๑/๑ ,ป. ๑/๒ , ป. ๑/๓ , ๑/๔ ท. ๕.๑ ป. ๑/๑ , ป. ๑/๒ รวม ๒๒ ตัวช้ีวัด

20 คำอธบิ ายรายวชิ า ท๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๒ เวลา ๒๐๐ ชวั่ โมง ........................................................................................ ......................................................................... อา่ นออกเสยี งและบอกวามหมายของคำ คำคลอ้ งจอง ขอ้ ความ และบทร้อยกรองง่ายๆ ทีป่ ระกอบด้วยคำพนื้ ฐานเพิม่ จาก ป. ๑ ไมน่ อ้ ยกวา่ ๘๐๐ คำ รวมท้งั คำที่ใช้เรยี นรู้ในกลุม่ สาระ การเรยี นรู้อ่นื คำที่มีรูปวรรณยกุ ต์และไมม่ ีรปู วรรณยกุ ต์ คำทมี่ ีตัวสะกดตรงตามมาตราและไม่ตรง ตามมาตรา คำที่มีพยัญชนะควบกลำ้ คำที่มีอักษรนำ คำท่ีมีตัวการันต์ คำทม่ี ี รร คำที่มีพยัญชนะและ สระท่ีไมอ่ อกเสยี ง การอา่ นจบั ใจความจากส่ือตา่ งๆ นทิ าน เรื่องเล่าสั้นๆบทเพลง และ บทร้อยกรองงา่ ยๆ เรื่องราวจากบทเรียนในกลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย และกลุ่มสาระการเรยี นรู้ อ่ืน ข่าวและเหตุการณป์ ระจำวนั อา่ นหนังสอื ตามความสนใจ หนังสือท่ีนักเรยี นสนใจและเหมาะสม กับวัย หนังสือทีค่ รูและนกั เรียนกำหนดรว่ มกัน หนงั สอื ทคี่ รแู ละนักเรยี นกำหนดร่วมกัน อ่านข้อเขยี นเชิง อธิบาย ใช้สถานทส่ี าธารณะ คำแนะนำ ใชเ้ ครอ่ื งใชท้ ี่จำเป็นในบา้ นและในโรงเรยี น มารยาทในการ อ่าน คดั ลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทดั ตามรูปแบบการเขียนตัวอกั ษรไทย เขยี นเร่ืองสั้นๆ เกีย่ วกับ ประสบการณ์ เขียนเรื่องส้ันๆ ตามจินตนาการ มารยาทในการเขยี น ฟังและปฏิบัตติ ามคำแนะนำ คำสั่งท่ีซับซ้อนจบั ใจความและพดู แสดงความคิดเห็น ความรู้สึกจากเรอ่ื งที่ฟังและดู ท้งั ทเี่ ปน็ ความรู้และ ความบนั เทิง เรอ่ื งเล่าและสารคดีสำหรับเด็กนิทาน การต์ ูน และเรือ่ งขบขนั รายการสำหรับเดก็ ข่าว และเหตกุ ารณป์ ระจำวัน เพลง พูดสอ่ื สารในชีวิตประจำวัน แนะนำตนเอง ขอความช่วยเหลอื กลา่ วคำขอบคุณกล่าวคำขอโทษพูดขอร้องในโอกาสตา่ งๆ เลา่ ประสบการณ์ ในชีวติ ประจำวัน มารยาทในการฟัง มารยาทในการดู มารยาทในการพูด บอกและเขยี น พยญั ชนะ สระ และ วรรณยกุ ต์ เลขไทย สะกดคำ แจกลกู อา่ นเปน็ คำมาตราตวั สะกดทต่ี รงตามมาตรา และไม่ตรงตาม มาตรา ผันอักษรกลาง อกั ษรสูง และอักษรต่ำ คำทม่ี ีตัวการันต์ คำทมี่ ีพยญั ชนะควบกล้ำ คำที่มีอักษรนำ คำท่ีมีความหมายตรงขา้ มกัน คำท่มี ีความหมายของคำ การแต่งประโยค เรยี บเรียงประโยคเปน็ ข้อความสั้นๆ คำคล้องจอง ภาษาไทยมาตรฐาน ภาษาถ่ิน วรรณกรรมรอ้ ยแก้วและรอ้ ยกรอง สำหรบั เด็ก นิทาน เรอ่ื งสั้นง่ายๆ ปริศนาคำทาย บทอาขยาน บทร้อยกรอง วรรณคดีและวรรณกรรมใน บทเรยี น โดยการอ่านออกเสยี ง บอกความหมายของคำ คำคล้องจอง ข้อความ บทร้อยกรอง อธบิ าย ความหมายของคำและขอ้ ความท่ีอา่ นการตั้งคำถาม ตอบคำถามเก่ียวกับเร่ืองที่อ่านระบุใจความ สำคญั และรายละเอยี ดจากเรื่องที่อ่าน แสดงความคิดเห็น คาดคะเนเหตกุ ารณ์จากเร่ืองท่อี ่าน การอา่ น หนังสอื ตามความสนใจ การอ่านข้อเขียนเชงิ อธิบาย ปฏิบัติตามคำสั่งหรือข้อแนะนำ การคัดลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทดั ตามรูปแบบ การเขยี นอักษรไทยการเขยี นส่ือสารคำในชีวิตประจำวัน คำพ้ืนฐาน คำคล้องจอง ประโยค - การฟังคำแนะนำ คำส่ังง่าย ๆการปฏบิ ัติตามคำแนะนำ คำส่งั

21 ตอบคำถาม เลา่ เร่อื งทฟ่ี ังและดูทัง้ ความรแู้ ละความบันเทิง การพดู แสดงความคิดเห็น ความรสู้ ึกจาก เรอ่ื งที่ฟังและดู การพดู ส่ือสาร บอกและเขียนพยญั ชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย เขียนสะกดคำ บอกความหมายของคำ เรียบเรยี งคำเป็นประโยค การต่อคำคล้องจองการระบุข้อคิดที่ไดจ้ ากการอ่าน การฟงั วรรณกรรมสำหรบั เด็ก การรอ้ งบทร้องเลน่ สำหรับเด็ก การทอ่ งจำบทอาขยานตามท่ีกำหนด และบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่า ตามความสนใจ รักภาษาไทย สรา้ งความรู้และความคิดเพ่ือนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปญั หาในการดำเนินชวี ติ และ มีมารยาทและนสิ ยั รกั การอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพดู ตัวช้ีวดั ท ๑.๑ ป. ๒/๑ , ป. ๒/๒ , ป. ๒/๓ , ป ๒/๔, ป. ๒/๕, ป.๒/๖, ป. ๒/๗, ป. ๒/๘ ท ๒.๑ ป. ๒/๑ , ป. ๒/๒ , ป. ๒/๓ , ป. ๒/๔ ท ๓.๑ ป. ๒/๑ ,ป. ๒/๒ ,ป. ๒/๓ , ป ๒/๔, ป. ๒/๕,ป.๒/๖, ป. ๒/๗ ท ๔.๑ ป. ๒/๑ , ป. ๒/๒ , ป. ๒/๓ , ป. ๒/๔ ป. ๒/๕ ท ๕.๑ ป. ๒/๑ ป. ๒/๓ รวม ๒๗ ตวั ชีว้ ัด

22 คำอธิบายรายวิชา ท๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๑ กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ เวลา ๒๐๐ ชั่วโมง ............................................................................................................................. .................................... อ่านออกเสียงคำ ขอ้ ความ เรอ่ื งสั้นๆ และบทรอ้ ยกรองง่ายๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง คลอ่ งแคลว่ จาก ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ และ ๒ ไมน่ อ้ ยกว่า ๑,๒๐๐ คำ อธบิ ายความหมายของคำและข้อความ ทอี่ า่ นต้งั คำถาม และตอบคำถามเชงิ เหตุผลเกยี่ วกับเร่ืองท่ีอ่าน ลำดับเหตกุ ารณแ์ ละคาดคะเนเหตุการณ์ จากเรอื่ งที่อ่าน โดยระบุเหตผุ ลประกอบสรปุ ความรู้ และข้อคดิ จากเรอ่ื งทอี่ ่านเพ่ือนำไปใช้ ในชีวติ ประจำวนั อ่านหนงั สือตามความสนใจ อย่างสม่ำเสมอและนำเสนอเรื่องท่ีอา่ น อา่ นข้อเขียน เชิงอธิบายและปฏบิ ตั ิตาม คำสัง่ หรือข้อแนะนำ อา่ นข้อเขียนเชงิ อธิบายและปฏิบตั ติ ามคำสั่ง หรือ ขอ้ แนะนำ บอกสาระสำคัญจากการฟงั และการดู เขียนสะกดคำและบอกความหมายของคำชนิด ของคำ ภาษาไทยมาตรฐาน ภาษาถนิ่ ระบุข้อคิดท่ีไดจ้ ากการอา่ นวรรณคดี วรรณกรรม และเพลง พน้ื บา้ น นิทานหรือเร่ืองในท้องถ่นิ เรอ่ื งส้นั ง่ายๆ ปรศิ นาคำทาย บทร้อยกรอง เพลงพ้นื บา้ น เพลง กล่อมเด็ก คัดลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทดั เขียนบรรยายเกยี่ วกับสง่ิ ใดสง่ิ หน่ึง เขยี นบันทกึ ประจำวัน จดหมายลาครู เรือ่ งตามจินตนาการ เล่ารายละเอยี ดเกยี่ วกบั เรอ่ื งที่ฟังและดูทง้ั ที่เปน็ ความร้แู ละความ บันเทงิ ตั้งคำถามและตอบคำถามเกีย่ วกบั เร่ืองท่ีฟงั และดู พดู แสดงความคดิ เหน็ และความรู้สกึ จากเรอื่ ง ท่ีฟงั และดู พดู ส่ือสารได้ชัดเจน แต่งประโยคเพื่อการส่อื สาร แตง่ คำคล้องจองและคำขวัญ ทอ่ งจำบท อาขยานตามท่ีกำหนด และบทร้อยกรองที่มีคุณคา่ ตามความสนใจ รกั ภาษาไทย สรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพอื่ นำไปใช้ตดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดำเนนิ ชีวิต และมมี ารยาทและนสิ ยั รักการอ่าน การเขียน การฟงั การดแู ละการพูด รหัสตัวช้ีวดั ท ๑.๑ ป. ๓/๑ , ป. ๓/๒ , ป. ๓/๓ , ป ๓/๔, ป. ๓/๕, ป.๓/๖, ป. ๓/๗, ป. ๓/๘ ป. ๓/๙ ท ๒.๑ ป. ๓/๑ , ป. ๓/๒ , ป. ๓/๓ , ป ๓/๔, ป. ๓/๕, ป. ๓/๖ ท ๓.๑ ป. ๓/๑ , ป. ๓/๒ , ป. ๓/๓ , ป ๓/๔, ป. ๓/๕, ป. ๓/๖ ท ๔.๑ ป. ๓/๑ , ป. ๓/๒ , ป. ๓/๓ , ป ๓/๔, ป. ๓/๕, , ป. ๓/๖ , ป. ๓/๗ ท ๕.๑ ป. ๓/๑ , ป. ๓/๒ , ป. ๓/๓ , ป. ๓/๔ รวม ๓๒ ตัวช้ีวัด

23 คำอธบิ ายรายวิชา ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ เวลา ๑๖๐ ช่วั โมง ............................................................................................................................. ........................ มคี วามสามารถในการอ่านออกเสียงร้อยแกว้ รอ้ ยกรอง คำที่มี ร ล ว เปน็ พยัญชนะตน้ ตัวควบกลำ้ อกั ษรนำ คำประสม อักษรยอ่ เคร่ืองหมายวรรคตอน ตำนาน สภุ าษิต อา่ นจบั ใจความ เรือ่ งสัน้ เรือ่ งเลา่ จากประสบการณ์ แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเหน็ จากการอ่าน คาดคะเนจากเร่ืองที่ อา่ น โดยมีเหตุผลประกอบ สรุปความรู้และข้อคิดจากการอ่าน ไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั คัดลายมอื ตัว เต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัดตามร)แบบการเขียนอกั ษรไทย เขยี นคำขวญั คำแนะนำ แผนภาพโครงเรอ่ื ง และแผนภาพความคิดไปพัฒนาตนเอง เขยี นย่อความจากนิทาน ความเรยี ง ประกาศ คำสอน เขยี น จดหมายถึงเพื่อน บิดา มารดา เขยี นบันทกึ ความร้หู รอื เรื่องราวจากจนิ ตนาการ จำแนกขอ้ เท็จจริง ขอ้ คิดเหน็ จากการฟัง การดู การตง้ั คำถามตอบคำถามจากการฟัง การดูจากส่ิงตา่ งๆเชน่ เรื่องเลา่ บทความสนั้ ๆ ขา่ ว เหตกุ ารณ์ประจำวนั โฆษณา หรือเรื่องราวจากบทเรยี นในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทยและกลุ่มสาระอนื่ ๆ สามารถสะกดคำ และบอกความหมายจากคำแม่ ก กา มาตราตัวสะกด การผนั อักษร คำ ชนดิ ของคำ การใช้พจนานกุ รม ประโยค บทรอ้ ยกรอง สำนวน สุภาษติ คำพงั เพย ภาษาไทยมาตรฐาน ภาษาถิ่น การอธิบายระบุข้อคิดจากการอ่านนทิ านพน้ื บ้าน นทิ านคติธรรม เพลง พ้ืนบา้ น ท่องจำบทอาขยาน บทรอ้ ยกรองตามทีก่ ำหนดและความสนใจ ใชท้ กั ษะกระบวนการอา่ น คิด เขียน ฟงั ดู และพูด เพื่อให้เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถสอื่ สารนำความรูจ้ ากทกั ษะ ด้านภาษาไทยไปใชใ้ นชีวติ ประจำวัน เหน็ คณุ ค่าดา้ นภาษาไทย รกั และหวงแหนภาษาไทย มีคุณธรรม จรยิ ธรรมและค่านิยมทเ่ี หมาะสม ตวั ชี้วดั ท ๑.๑ ป.๔ - ป. ๔ / ๘ , ท ๒.๑ ป. ๔ / ๑ - ป. ๔ / ๘, ท ๓.๑ ป. ๔ / ๑ - ป. ๔ / ๖ ท ๔. ๑ ป. ๔ / ๑ - ป. ๔ / ๗ ท ๕.๑ ป. ๔ / ๑ - ป. ๔ / ๔ รวม ๓๓ ตัวชว้ี ดั

24 คำอธบิ ายรายวชิ า ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๕ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๕ เวลา ๑๖๐ ชว่ั โมง ............................................................................................... .................................................................. ฝกึ อา่ นออกเสยี ง คำ วลี ประโยค และข้อความตามหลกั เกณฑ์การอ่านเกย่ี วกับ คำสภุ าพ คำราชาศัพท์ สำนวนภาษา คำคม คำขวัญ อักษรย่อ เคร่อื งหมายวรรคตอน การอา่ นบทร้อยกรอง เปน็ ทำนองเสนาะ การอ่านบทอาขยาน โดยเนน้ อ่านได้คล่องแคลว่ รวดเร็ว ถกู ต้องตามอักขรวธิ ี มีวรรค ตอน ใชน้ ำ้ เสยี งเหมาะสมกบั เรอื่ งท่ีอา่ น ฝกึ อ่านในใจเกีย่ วกับนทิ าน ตำนาน เร่อื งสั้น สารคดี บทความ บทละคร บทร้อยกรอง การอ่านโวหารบรรยาย การพรรณนาการเปรียบเทียบ โดยเนน้ การอ่านไดร้ วดเรว็ ตามเวลาที่กำหนด การจับใจความ แยกข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น วิเคราะหค์ วาม สรปุ ความ การใชบ้ รบิ ทใน การอ่านและเข้าใจความหมายของคำ ประโยค ข้อความ รจู้ กั เลอื กอ่านหนงั สือและส่ืออีเลก็ ทรอนิกส์ และ นำความรู้จากการอา่ นไปใชป้ ระโยชน์ในการตดั สนิ ใจแกป้ ัญหา และพัฒนาตน มีมารยาทและมีนสิ ัยรักการ อ่าน ฝึกคดั ลายมือและเขียนหวัดแกมบรรจง ฝกึ เขียนสะกดคำและเขยี นตามคำบอก เขยี นเล่าเรอื่ ง เขยี น ตงั้ คำถาม ตอบคำถาม เขียนเรียงความ ย่อความเรื่องจากประสบการณ์และจินตนาการ เขยี นรายงานและ เขียนช้ีแจงการปฏิบตั งิ าน การเขยี นจดหมายถึงญาติและเพ่ือนเขียนกรอกแบบรายงานต่างๆ การเขยี น เลขไทย โดยเน้นใหม้ ีทักษะในการเขียน เขียนได้ถูกต้องรวดเร็ว เป็นระเบียบ สวยงาม ส่อื ความได้ เขียน ได้อย่างมีรูปแบบ มมี ารยาทและมนี สิ ัยรกั การเขียน ฝึกฟงั ดู เรอ่ื งราว ข่าวเหตกุ ารณ์ คำโฆษณา การ อภปิ ราย การายงาน สำนวนโวหาร ภาษิต คำพงั เพย บทร้อยกรอง นิทาน ตำนาน บทความ สารคดี โดย เน้นการจับใจความ เขา้ ใจจดุ ประสงค์ของเร่ือง และของผู้พดู เขา้ ใจถ้อยคำ น้ำเสียง กริ ิยาทา่ ทางของผู้ พูด แยกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเหน็ วเิ คราะห์หาหลกั การ สรุปความเรอ่ื งที่ฟังและพดู เลอื กฟังและดูสง่ิ ท่ี เป็นประโยชน์ มีมารยาทในการฟังและดฝู กึ พูดออกเสียงคำท่ใี ช้ในชวี ติ ประจำวนั คำควบกล้ำ คำทีม่ ี ร ล ใหถ้ ูกต้องตามอักขรวิธี ฝกึ ฝนการใช้คำในการพูดใหถ้ ูกตอ้ งตามหลักเกณฑ์ทางภาษา ฝึกเล่าเรือ่ ง อธบิ าย บรรยายความรูส้ ึก สนทนาโต้ตอบ พูดแสดงความคิดเหน็ การตั้งขอ้ สงั เกต เปรียบเทียบ การพดู รายงาน โดยเน้นมารยาทและบุคลกิ ภาพท่ดี ใี นการพูด การใช้น้ำเสยี ง ลีลาทา่ ทางประกอบการพดู การเลา่ ลำดับ เหตุการณ์ พูดสอื่ ความได้ชัดเจน ถกู ตอ้ ง กลา้ พูด ใชค้ ำพูดไดถ้ กู ต้องเหมาะสมกบั กาลเทศะและบุคคลฝกึ การใชค้ ำ กล่มุ คำ ตามชนดิ และหนา้ ที่เรียบเรียงเปน็ ประโยค หลกั การใช้ประโยค การใช้คำทม่ี ีความหมาย โดยตรงและโดยนัย การใชพ้ จนานกุ รม คำราชาศัพท์และคำสภุ าพ การใช้คำภาตา่ งประเทศในภาษาไทย การแตง่ คำประพนั ธ์ การใช้ภาษาพูดและภาษาเขยี น การใช้ทักษะทางภาษาและสื่ออเี ล็กทรอนิกสใ์ น การศกึ ษาค้นคว้า ตัวชวี้ ัด ท๑.๑ ป๕/๑ - ป๕/๘, ท๒.๑ ป๕/๑ - ป๕/๙, ๓.๑ ป๕/๑ - ป๕/๗, ท๕.๑ ป๕/๑ - ป๕/๔ รวม ๒๘ ตวั ชว้ี ดั

25 คำอธิบายรายวิชา ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ เวลา ๑๖๐ ชว่ั โมง ............................................................................................................................. .................................... อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ บทร้อยกรอง และอา่ นบทรอ้ ยกรองเปน็ ทำนองเสนาะไดถ้ ูกต้อง เข้าใจความหมายของคำ ประโยคและข้อความทเ่ี ปน็ โวหาร เข้าใจเกย่ี วกับชนดิ หน้าท่ีของคำ ในประโยค ลักษณะของประโยค ใชค้ ำได้เหมาะสมกับกาลเทศะและบคุ คล รวบรวมและเข้าใจ ความหมายของคำภาษาต่างประเทศ แต่งบทร้อยกรอง เปรียบเทยี บสำนวน คำพงั เพยและสภุ าษิต อา่ นเรอ่ื งสน้ั อย่างหลากหลาย อ่านจบั ใจความจากสือ่ ต่างๆ แยกข้อเทจ็ จรงิ และข้อคดิ เห็นจากเรื่อง ทีอ่ า่ น นำความรู้ ความคิดจากเร่อื งท่ีอ่านไปตดั สินใจแกป้ ัญหา ปฏิบัตติ ามคำสั่ง คำอธิบาย จากเร่อื งทีอ่ ่านได้ เขา้ ใจความหมายของข้อมลู จากแผนผงั แผนท่ี แผนภูมแิ ละกราฟ พูดแสดงความรู้ ความเขา้ วเิ คราะหค์ วามนา่ เช่อื ถอื จากการฟัง และดูสอ่ื โฆษณาอยา่ งมีเหตผุ ล พดู ลำดับข้นั ตอน การปฏบิ ตั ิงาน ลำดบั เหตุการณจ์ ากเร่ืองทศี่ ึกษาค้นคว้า พดู โนม้ น้าวในสถานการณ์ต่างๆ ให้ผู้อ่ืน นา่ เช่ือถือ คัดลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทดั และครงึ่ บรรทัด เขยี นคำขวัญ คำอวยพร ประกาศ เขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิด เขยี นเรยี งความ เขยี นย่อความ เขยี นจดหมายส่วนตัว กรอกแบบรายการ เขยี นเรอ่ื งรามจินตนาการ มีมารยาทในการอ่าน การเขยี น การฟงั การดู และการ พดู มีความเข้าใจ เห็นคุณคา่ วรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน เล่านทิ านพืน้ บ้าน ร้องเพลงพ้ืนบา้ นใน ท้องถ่นิ โดยใช้หลกั การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ บทร้อยกรองและคำประพันธ์ตามลักษณะ ของคำประพันธเ์ ปน็ ทำนองเสนาะ อา่ นจบั ใจความ ตคี วาม แปลความ วิเคราะห์ความ อธบิ าย และสรปุ ความ ทกั ษะการคัดลายมือ การเขยี นโดยใช้หลกั การเขยี นสื่อสาร การเขียนเรื่องตามจติ นาการ เขยี นจดหมายและกรอกแบบรายการ ทักษะการฟัง การพดู แสดงความรู้ ความเขา้ ใจ ความคิดเห็น การพดู วิเคราะห์เร่ืองจาการฟัง การดสู อื่ โฆษณา พูดรายงานและพูดโนม้ นา้ ว สามารถเลอื กใชค้ ำได้ เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล สามารถนำความรแู้ ละข้อคิดไปใช้ในตัดสอนใจแกป้ ัญหาในการดำเนนิ ชีวิตประจำวนั มจี ติ สาธารณะ มคี ณุ ธรรม จริยธรรมและค่านยิ มทเี่ หมาะสม ตวั ชวี้ ดั ท ๑.๑ ป.๖/๑- ป.๖/๙ ท ๒.๑ ป.๖/๑ - ป.๖/๙ ท ๓.๑ ป.๖/๑ - ป.๖/๖ ท ๔.๑ ป.๖/๑ - ป.๖/๖ ท ๕.๑ ป.๖/๑ - ป.๖/๔ รวม ๓๔ ตัวชี้วดั

26 คำอธบิ ายรายวชิ า ท ๒๑๑๐๑ ภาษาไทย๑ กลุ่มสาระภาษาไทย ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต เวลา ๖๐ ช่ัวโมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- หลกั การอา่ นออกเสียงรอ้ ยแกว้ รอ้ ยกรอง การอ่านจับใจความ การคดิ วเิ คราะห์เหตแุ ละผล แยกแยะข้อเท็จจรงิ และข้อคดิ เหน็ การอธิบายคำเปรียบเทียบความหมายของคำในบรบิ ทต่างๆ มมี ารยาทในการอ่านและมีนิสยั รกั การอ่าน การเขยี นสอื่ สาร คัดลายมือแบบอาลกั ษณ์ หวั กลม เขียนแนะนำตนเอง แนะนำสถานที่ เขียนบรรยาย เรียงความเชงิ พรรณนา ยอ่ ความจากเร่ืองทีอ่ ่าน มีมารยาทในการเขยี นและมีนสิ ยั รักการ เขยี น การสรปุ ใจความสำคัญ เลา่ เรื่องยอ่ พูดแสดงความคิดเหน็ ประเมินค่าจากเร่ืองทีฟ่ งั และดู และมมี ารยาทในการพูด การฟัง การดู เสยี งในภาษา พลังภาษา หลักการสรา้ งคำ ชนิดและหนา้ ท่ีของคำ วเิ คราะห์โครงสร้าง ประโยคสามญั การสรุปเนอ้ื หาวรรณคดีและวรรณกรรม วเิ คราะห์ประเมนิ คุณคา่ วรรณคดีและวรรณกรรมด้าน จินตนาการ ศลิ ปะการประพันธ์ อารมณ์ คุณธรรม การสรุปความรู้และข้อคิดเพื่อประยุกต์ใช้ ในชีวติ ประจำวัน โดยใช้กระบวนการอ่าน การเขยี น การคิดวิเคราะห์ การฟังและการดู เพื่อให้ผเู้ รียนมคี วามรู้ ความสามารถ มีทักษะและลักษณะตามมาตรฐานการเรียนรู้ของกลุ่มสาระภาษาไทย เพื่อพฒั นาความรู้ ความคดิ สรา้ งสรรค์ใหท้ ันต่อการเปลีย่ นแปลงทางสังคมและความก้าวหนา้ ทางเทคโนโลยตี ลอดจนการ นำไปใช้ในการพฒั นาอาชพี และเพ่ือใชใ้ นชีวิตประจำวัน นอกจากนีย้ งั ช่วยปลูกฝงั ให้ร้จู ักอนุรกั ษส์ บื สาน ภมู ปิ ัญญา ด้านภาษา ประเพณี วัฒนธรรม อันเป็นสมบัติของชาติไทยต่อไป ตวั ชว้ี ัด ท ๑.๑ ม.๑/๑ , ม.๑/๒ , ม.๑/๓, ม.๑/๗ ท ๒.๑ ม.๑/๑ , ม.๑/๒, ม.๑/๓ , ม.๑/๔ , ม.๑/๕ ท ๓.๑ ม.๑/๑ , ม.๑/๒ , ม.๑/๓ ท ๔.๑ ม.๑/๑ ,ม.๑/๒ , ม.๑/๓ ท ๕.๑ ม.๑/๑ , ม.๑/๒ ,ม.๑/๓ , ม.๑/๔ , ม.๑/๕ ท ๓.๑ ม.๑/๑ , ม.๑/๒ , ม.๑/๓ ท ๔.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒ , ม.๑/๓ ท ๕.๑ ม.๑/๑ , ม.๑/๒ ,ม.๑/๓ , ม.๑/๔ , ม.๑/๕ รวม ๓๑ ตัวชว้ี ัด

27 คำอธิบายรายวชิ า ท ๒๑๑๐๒ ภาษาไทย ๒ กลุ่มสาระภาษาไทย ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรียนที่ ๒ จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต เวลา ๖๐ ชวั่ โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- การอธบิ ายคำ ตคี วาม อา่ นคดิ วเิ คราะหค์ ุณคา่ ความสมเหตสุ มผลของงานเขียนประเภทชกั จงู โนม้ น้าวใจ มมี ารยาทในการอา่ นและมีนสิ ยั รักการอา่ น การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เขยี นจดหมายสว่ นตวั จดหมายกิจธรุ ะ เขียนรายงานโครงการมี มารยาทในการเขียน การพดู ประเมินค่า พดู รายงาน มารยาทในการฟัง การดู การพูด ศกึ ษาวเิ คราะหค์ วามแตกตา่ งของภาษาพดู ภาษาเขยี น ระดบั ภาษา กาพยย์ านี ๑๑ สุภาษิต-ลา้ นนา สำนวน คำพังเพยสภุ าษิต การสรุปเน้ือหาวรรณคดีและวรรณกรรม วิเคราะหป์ ระเมินคา่ อธิบายคุณค่า สรปุ ความรู้ ข้อคิดเพ่ือประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง การท่องบทอาขยาน โดยการใชก้ ระบวนการอา่ น การเขียน การฟงั การดู การพูด และการคิดวิเคราะห์ เพื่อให้ ผูเ้ รยี นมคี วามรคู้ วามสามารถ มที ักษะและคุณลักษณะตามมาตรฐานการเรยี นรู้กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษ ไทย ทำให้ประกอบกจิ กรรมงานและดำรงชวี ิตอยู่รว่ มกนั ไดอ้ ยา่ งมีความสุข เพื่อพัฒนาความรู้ ความคิด สร้างสรรค์ให้ทนั ต่อการเปล่ียนแปลงทางสังคมและความก้าวหนา้ ทางวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยตี ลอดจน การนำไปใช้ในการพัฒนาอาชีพให้มีความมน่ั คงทางเศรษฐกิจ นอกจากน้ยี ังชว่ ยปลูกฝงั ให้รู้จกั อนรุ กั ษ์สืบ สานทางภมู ิปัญญาของบรรพบุรุษทางดา้ นภาษา ประเพณีและวฒั นธรรม อนั เป็นสมบัติล้ำค่าของชาติ ไทยต่อไป ตัวชว้ี ดั ท ๑.๑ ม.๑/๔, ม.๑/๕ ,ม.๑/๖ , ม.๑/๘ , ม.๑/๙ ท ๒.๑ ม.๑/๖, ม.๑/๗ ,ม.๑/๘, ม.๑/๙ ท ๓.๑ ม.๑/๔ , ม.๑/๕ , ม.๑/๖ ท ๔.๑ ม.๑/๔ , ม.๑/๕ ,ม.๑/๖ ท ๕.๑ ม.๑/๑ , ม.๑/๒ , ม.๑/๓ , ม.๑/๔ ม. ๑/๕ รวม ๒๐ ตวั ชี้วัด

28 คำอธิบายรายวิชา ท ๒๒๑๐๑ ภาษาไทย๓ กล่มุ สาระภาษาไทย ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรียนที่ ๑ จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต เวลา ๖๐ ชว่ั โมง ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรอง การสรปุ ใจความสำคัญ การอธบิ าย รายละเอียดจากเรอื่ งท่ีอา่ น การเขียนผงั ความคิด การอภิปรายแสดงความคดิ เห็น และข้อโตแ้ ยง้ เกีย่ วกบั เรอื่ งท่อี ่าน การคัดลายมอื ตัวบรรจงครึง่ บรรทัด เขยี นบันทึก เขียนบรรยายและพรรณนา การเขยี น เรียงความ ยอ่ ความ การพูดสรุปความ วิเคราะหข์ ้อเทจ็ จริง ข้อคดิ เหน็ และความนา่ เชื่อถอื การวเิ คราะหว์ ิจารณ์ เรือ่ งท่ีฟงั และดูอย่างมเี หตุผลเพื่อนำข้อคิดเหน็ มาประยุกตใ์ ช้ในการดำเนนิ ชวี ติ การสร้างคำสมาส การวเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งประโยคสามญั ประโยคความรวม ประโยคความ ซอ้ น การแต่งกลอนสภุ าพ การสรุปเน้ือหาวรรณคดแี ละวรรณกรรม การบันทกึ การอ่าน เลา่ เรอ่ื งยอ่ ย่อเรอ่ื ง การ-วเิ คราะห์วิจารณ์คณุ ค่าและข้อคิด จากวรรณคดแี ละวรรณกรรมไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตจริง ทอ่ งจำ บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองท่ีมคี ุณคา่ ตามความสนใจ โดยการใชก้ ระบวนการอ่าน การเขียน การฟงั การดู การพดู การคดิ วิเคราะห์ เพ่ือใหผ้ เู้ รยี นมี ความร้คู วามสามารถ มีทักษะและมีคุณลักษณะตามมาตรฐานการเรยี นรกู้ ลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ตลอดจนการนำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้อยา่ งถูกต้อง นอกจากน้ียงั ชว่ ยปลกู ฝังให้รู้จกั อนุรักษส์ ืบสานภูมิ ปญั ญาของบรรพบรุ ุษทางด้านภาษา ประเพณี วัฒนธรรม อนั เปน็ สมบัตลิ ำ้ ค่า ของชาติต่อไป ตัวช้วี ดั ท ๑.๑ ม.๒/๑ , ม.๒/๒ , ม.๒/๓ , ม.๒/๔ ท ๒.๑ ม.๒/๑ , ม.๒/๒ , ม.๒/๓ , ม.๒/๔ ท ๓.๑ ม. ๒/๑ , ม.๒/๒ , ม.๒/๓ ท ๔.๑ ม.๒/๑ , ม.๒/๒ , ม.๒/๓ ท ๕.๑ ม.๒/๑ , ม.๒/๒ , ม.๒/๓ ,ม.๒/๔ , ม.๒/๕ รวม ๑๙ ตัวชีว้ ดั

29 คำอธบิ ายรายวชิ า ท ๒๒๑๐๒ ภาษาไทย ๔ กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๒ ภาคเรยี นท่ี ๒ จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต เวลา ๖๐ ช่วั โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- การวิเคราะห์จำแนกข้อเท็จจรงิ ขอ้ สนับสนุน และข้อคดิ เห็นจากบทความทอี่ ่าน ระบุ ขอ้ สงั เกตการชวนเชอ่ื การโน้มนา้ ว หรอื ความสมเหตุสมผล การโฆษณา การเลือกอา่ นหนงั สือตาม ความสนใจ มมี ารยาทในการอา่ นและรักอ่าน การเขยี นรายงาน การทำโครงงาน เขยี นจดหมายกจิ ธรุ ะ จดหมายเชิญวิทยากร จดหมายขอ ความอนเุ คราะห์ การเขียนวิจารณแ์ สดงความคิดเหน็ หรือโตแ้ ยง้ และมีมารยาทในการเขยี น การใชศ้ ลิ ปะการพดู ในโอกาสตา่ งๆ พดู อวยพร พูดโน้มนา้ วใจ และการพดู โฆษณา การ-พูด รายงานการศึกษาค้นคว้า และมมี ารยาทในการฟงั การดู การพดู การใชค้ ำราชาศพั ท์ การทำรายงาน โครงงาน และคำท่มี าจากภาษาตา่ งประเทศ การสรุปเนอ้ื หาความรู้ การวเิ คราะห์วิจารณ์ อธบิ ายคุณค่า และข้อคิดจากการอา่ นไป ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ จริง โดยการใชก้ ระบวนการ การอ่าน การเขียน การพูด การฟัง การดู และการคิดวเิ คราะห์ เพือ่ ใหผ้ ู้เรียนมีความรู้ความสามารถ มีทักษะและคุณลักษณะตามมาตรฐานการเรียนรกู้ ลุ่มสาระการ เรยี นรภู้ าษาไทยและนำไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจำวนั ได้อย่างถูกต้อง นอกจากน้ยี ังชว่ ยปลกู ฝังใหร้ ูจ้ ัก อนุรักษส์ ืบสานภูมปิ ัญญาทางดา้ นภาษา ประเพณี และ วฒั นธรรม อนั เป็นสมบตั ลิ ้ำค่าของชาติ ตวั ชีว้ ัด ท ๑.๑ ม.๒/๕ , ม.๒/๖ , ม.๒/๗ , ม.๒/๘, ท ๒.๑ ม.๒/๕ ,ม.๒/๖ ,ม.๒/๗ , ท ๓.๑ ม.๒/๔ , ม.๒/๕ , ม.๒/๖, ท ๔.๑ ม.๒/๔ , ม.๒/๕, ท ๕.๑ ม.๒/๑ ,ม.๒/๒ , ม.๒/๓ , ม.๒/๔ ,ม.๒/๕ รวม ๑๗ ตัวชีว้ ัด

30 คำอธิบายรายวิชา ท ๒๓๑๐๑ ภาษาไทย ๕ กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ ภาคเรยี นที่ ๑ จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต เวลา ๖๐ ชว่ั โมง ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- การอ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองเปน็ ทำนองเสนาะ การอา่ นจับใจความระบุ ความแตกตา่ งของคำท่มี ีความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัย การเขียนกรอบแนวความคดิ ผงั ความคิด บนั ทึกการอา่ น การย่อความ และรายงาน มีมารยาทในการอ่านและการใชภ้ าษา การคดั ลายมือตวั บรรจงครงึ่ บรรทัดตามรูปแบบการเขยี นตัวอกั ษรไทย การเขยี นข้อความตาม สถานะและโอกาสต่างๆ คำอวยพร คำขวัญ คำคม โฆษณา คติพจน์ สนุ ทรพจน์ การเขียนชวี ประวตั ิ หรอื อตั ชีวประวัติ เขยี นย่อความ และการเขียนจดหมายกิจธุระ การพูดแสดงความคิดเห็น ประเมนิ เรื่อง และพูดวิเคราะห์วิจารณ์จากเร่ืองท่ฟี ังและดู การพูดรายงานการศึกษาคน้ คว้าเกีย่ วกบั ภูมิปัญญาท้องถ่นิ การจำแนกและใช้คำทีม่ าจากภาษาตา่ งประเทศ การวิเคราะห์โครงสรา้ งประโยคซับซ้อน การ วิเคราะหร์ ะดบั ภาษา การสรปุ เนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมท้องถิ่นเกีย่ วกับศาสนา ประเพณี พิธีกรรม สภุ าษติ คำสอน เหตุการณใ์ นประวัตศิ าสตร์ การวิเคราะห์วถิ ีไทยและคุณคา่ จากวรรณคดีและวรรณกรรม สรปุ ความรแู้ ละข้อคดิ จากการอ่านมาประยุกต์ใชใ้ นชีวิตจรงิ ทอ่ งบทอาขยานและบทร้อยกรองทม่ี ีคุณคา่ ตามทก่ี ำหนดให้และตามความสนใจ โดยการใชก้ ระบวนการอา่ น การเขยี น การการฟัง การดู และการพูด การคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และประเมินค่า เพอื่ ใหผ้ ้เู รยี นมคี วามรู้ความสามารถมีทักษะและคุณลักษณะตามมาตรฐาน การเรยี นรกู้ ลมุ่ สาระภาษาไทยและสามารถนำความรู้ไปในชวี ติ ประจำวัน นอกจากนี้ยังชว่ ยปลกู ฝังให้ รู้จักอนรุ กั ษ์สบื สานภูมิปญั ญาทางดา้ นภาษา ประเพณี และวฒั นธรรม อนั เปน็ สมบัตลิ ำ้ ค่าของชาติ ตอ่ ไป ตวั ชีว้ ัด ท ๑.๑ ม.๓/๑ , ม.๓/๒ ,ม.๓/๓ , ม.๓/ ๔ ท ๒.๑ ม.๓/๑ , ม.๓/๒ , ม.๓/๓ , ม.๓/๔ ท ๓.๑ ม.๓.๑ , ม.๓/๒ , ม.๓/๓ ท ๔.๑ ม.๓/๑ , ม.๓/๒ ,ม.๓/๓ ท ๕.๑ ม.๓/๑ , ม.๓/๒ , ม.๓/๓ , ม.๓/๔ ,ม.๓/๕ รวม ๑๙ ตวั ชีว้ ดั

31 คำอธิบายรายวิชา ท ๒๓๑๐๒ ภาษาไทย ๖ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ ภาคเรยี นท่ี ๒ จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต เวลา ๖๐ ชว่ั โมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- การวเิ คราะห์วจิ ารณ์ ประเมินเร่ืองท่ีอ่าน ประเมินความถูกตอ้ งของข้อมลู ท่ใี ชส้ นบั สนนุ การวิจารณค์ วามสมเหตสุ มผล ความเปน็ ไปได้ของเรอ่ื ง การวิเคราะห์เพ่ือแสดงความคิดเห็นโต้แยง้ ตคี วาม และประเมินค่าแนวคดิ ทีไ่ ดจ้ ากงานเขียน มีมารยาทในการอ่าน การเขียนอธิบาย ชแี้ จง การเขียนแสดงความคิดเห็น และโต้แยง้ โฆษณา บทความทาง วิชาการ การกรอกแบบสมัครงาน การเขยี นรายงาน โครงงาน มีมารยาทในการเขียน การใชศ้ ลิ ปะการพดู ในโอกาสต่าง การพดู โต้วาที การอภิปราย การพูดยอวาที พดู โน้มน้าว โดยนำเสนอหลกั ฐานตามลำดับเนอ้ื หาอย่างมเี หตผุ ลน่าเช่ือถอื มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด การใช้คำทับศัพท์และคำศัพท์บัญญตั ิ การอธิบายความหมายคำศัพทท์ างวิชาการ วชิ าชพี การ แตง่ โคลงสส่ี ุภาพ การสรปุ เนือ้ หาวรรณคดวี รรณกรรม การวเิ คราะห์และประเมินคา่ วรรณคดี ดา้ นจนิ ตนาการ ศลิ ปะการประพนั ธ์ อารมณ์ คณุ ธรรม การสะท้อนภาพชีวติ วิถไี ทย การสรปุ ความรู้ และข้อคิดเพ่อื นำไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ จริง การทอ่ งจำและบอกคุณค่าบทอาขยานตามที่กำหนดหรอื ตาม ความสนใจและนำไปใช้อา้ งอิง ตวั ช้วี ดั ท ๑.๑ ม.๓/๕ , ม.๓/๖ , ม.๓/๗ , ม.๓/๘ , ม.๓/๙, ท ๒.๑ ม.๓/๖ , ม.๓/๗ , ม.๓/๘ , ม.๓/๙ , ม.๓/๑๐ ท ๓.๑ ม.๓/๔ , ม.๓/๕ , ม.๓/๖ ท ๔.๑ ม.๓/๔ ,ม.๓/๕ , ม.๓/๖ ท ๕.๑ ม.๓/๑ , ม.๓/๒ , ม.๓/๓ , ม.๓/๔ , ม.๓/๕ รวม ๒๑ ตวั ชว้ี ัด

32 คำอธิบายรายวชิ า (วิชาเพ่ิมเตมิ )

33 คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม ท ๑๑๒๐๑ ภาษาพาเพลนิ (ภาษาไทย) ๑ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชั่วโมง ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาคำตอบมาตรแม่ ก กา มาตราตวั สะกด คำทมี่ ีตวั การนั ต์ อกั ษรควบ อกั ษรนำ ประโยคและ ขอ้ ความส้นั ๆ คำคล้องจองส้ันๆ การจดบนั ทกึ ขอ้ ความ นิทาน เรื่องราว โดยการอ่านแจกลูกสะกดคำตามมาตราแม่ ก กา มาตราตัวสะกด คำที่มีตัวการันต์ อักษรควบ อักษรนำ อ่านออกเสียง แล้วตอบคำถามและสรุปเหตุการณ์ได้ตามลำดับขั้นตอน เขียนแสดงความคิด ความรู้สึก ความต้องการเป็นประโยคและข้อความสั้นๆ คำคล้องจองสั้นๆ (วรรคละ ๒-๓ คำ) จดบันทึก ขอ้ ความ นิทาน เรือ่ งราว จากการอ่าน แล้วเขียนสรปุ การอา่ น เปน็ แผนที่ความคดิ และสมดุ เลม่ เลก็ มีมารยาทในการอ่าน การฟัง ดู พูด และการเขียน มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ตระหนัก คุณคา่ ความสำคญั ของภาษาไทย ผลการเรียนรู้ ๑. อ่านแจกลูกสะกดคำตามมาตราแม่ ก กา มาตราตวั สะกด ๒. อ่านคำท่ีมตี ัวการันต์ อักษรควบ อกั ษรนำ ๓. อา่ นออกเสียงแลว้ ตอบคำถาม และสรุปเหตุการณ์ได้ตามลำดับข้นั ตอน ๔. เขียนเสดงความคดิ ความรสู้ กึ ความตอ้ งการ เปน็ ประโยค และข้อความส้นั ๆ ๕. เขยี นคำคล้องจองส้นั ๆ ได้ ๖. จดบันทกึ ข้อความ นทิ าน เรื่องราว จากการอา่ น แลว้ เขยี นเป็นสรุปการอา่ น แผนท่ี ความคิด และสมุดเล่มเล็กได้ รวม ๖ ผลการเรยี นรู้

34 คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ ท ๑๒๒๐๑ ภาษาพาเพลนิ (ภาษาไทย) ๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ เวลา ๔๐ ช่วั โมง -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาการแจกลูกสะกดคำตามมาตราแม่ ก กา และมาตราตวั สะกด ทสี่ ะกดไม่ตรงตามมาตราคำ ท่มี ตี วั การนั ต์ อกั ษรควบ อักษรนำ และการผนั คำ การแตง่ ประโยค การเขยี นคำคลอ้ งจองสน้ั ๆ การบนั ทึก ข้อความ โดยการอ่านแจกลูกสะกดคำตามมาตราแม่ ก กา และมาตราตัวสะกด ที่สะกดไม่ตรงตามมาตรา คำที่มีตัวการันต์ อักษรควบ อักษรนำ และการผันคำ การอ่านในใจสรุปการหาคำสำคัญ การตั้งคำถาม การคาดคะเนเหตุการณ์ การใช้แผ่นภาพโครงเรื่อง แผ่นภาพความคิด การเรียบเรียงประโยค การแสดง ความรู้สึก ความคิด ความต้องการ การเขียนคำคล้องจองสั้นๆ การบันทึกข้อความ นิทาน เรื่องราวจาก การอ่าน สรปุ ความคิดของตนเอง การนำเสนอผลงาน มมี ารยาทในการอา่ น การฟัง ดู พดู และการเขยี น มีความภมู ใิ จในความเปน็ ไทย ตระหนักคุณค่า ความสำคัญของภาษาไทย ผลการเรียนรู้ ๑. อา่ นแจกลูกสะกดคำตามมาตราแม่ ก กา และมาตราตัวสะกด ทสี่ ะกดไมต่ รงตามมาตรา ๒. อ่านคำทมี่ ีตัวการันต์ อกั ษรควบ อักษรนำ และผันวรรณยุกต์ ๓. อา่ นในใจแล้วสรปุ โดยการหาคำสำคญั ต้ังคำถาม คาดคะเนเหตุการณ์ ใชแ้ ผนภาพโครงเร่ือง หรอื แผนภาพความคิด ๔. เขียนเป็นประโยค ตรงตามความหมายและเขียนเป็นย่อหน้า ที่แสดงความรู้ ความคิด ความรู้สกึ ตามต้องการ ๕. เขียนคำคลอ้ งจองสั้นๆ ได้ ๖. จดบันทึกข้อความ นิทาน เรื่องราว จากการอ่าน แล้วเขียนสรุปการอ่านเป็นความคิดของ ตนเอง แผนท่คี วามคดิ และสมุดเลม่ เล็กได้ รวม ๖ ผลการเรียนรู้

35 คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติม ท ๑๓๒๐๑ ภาษาพาเพลนิ (ภาษาไทย) ๓ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๓ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาการแจกลูก สะกดคำตามมาตราแม่ ก กา และมาตราตัวสะกด ที่สะกดไม่ตรงตามมาตรา คำทีม่ ตี วั การนั ต์ อกั ษรควบ อักษรนำ การผันวรรณยุกต์ คำเป็น คำตาย อา่ นในใจ การเขียนประโยคและ เร่ืองราว การเขียนคำคล้องจองสนั้ ๆ (วรรคละ ๔-๖ คำ) นทิ าน เร่อื งราว โดยการอา่ นแจกลกู สะกดคำตามมาตราแม่ ก กา และมาตราตัวสะกด ท่ีสะกดไมต่ รงตามมาตรา คำทมี่ ีตัวการนั ต์ อกั ษรควบ อักษรนำ รูจ้ ักการผนั วรรณยุกต์ คำเป็น คำตาย อ่านในใจแลว้ สรุปโดยการหา คำสำคัญ ตั้งคำถาม คาดคะเนเหตุการณ์ ใช้แผนภาพโครงเรื่อง หรือแผนภาพความคิดเขียนเป็นประโยค ตรงตามความหมาย และเรียบเรียงเป็นเรื่องราว ที่แสดงความรู้สึก ความคิด ความต้องการตาม ประสบการณ์ และจินตนาการ เขียนคำคล้องจองสั้นๆ (วรรคละ ๔-๖ คำ) จดบันทึกข้อความนิทาน เรอื่ งราว จากการอา่ น แลว้ เขียนสรุปการอ่านเป็นความคิดของตนเอง เขียนแผนท่ีความคิดและจัดทำเป็น สมดุ เลม่ เล็ก มีมารยาทในการอ่าน การฟัง ดู พูด และการเขียน มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ตระหนัก คณุ คา่ ความสำคัญของภาษาไทย ผลการเรียนรู้ ๑. อ่านแจกลูกสะกดคำตามมาตราแม่ ก กา และมาตราตวั สะกด ทส่ี ะกดไมต่ รงตามมาตรา ๒. อ่านคำทม่ี ตี วั การันต์ อกั ษรควบ อักษรนำ ผันวรรณยุกต์และคำเป็น คำตาย ๓. อ่านในใจแลว้ สรุป โดยการหาคำสำคัญ ต้งั คำถาม คาดคะเนเหตกุ ารณ์ ใช้แผนภาพโครงเรอื่ ง หรอื แผนภาพความคิด ๔. เขียนเป็นประโยค ตรงตามความหมาย และเรียบเรียงเป็นเรื่องราว ที่แสดงความรู้สึก ความคิด ความรสู้ ึก ตามตอ้ งการ ประสบการณ์ และจินตนาการณ์ ๕. เขยี นคำคล้องจองสน้ั ๆ ได้ ๖. จดบันทึกข้อความ นิทาน เรื่องราว จากการอ่าน แล้วเขียนสรุปการอ่านเป็นความคิดของ ตนเอง แผนท่คี วามคิด และสมุดเล่มเล็กได้ รวม ๖ ผลการเรียนรู้

36 คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ ท ๑๔๒๐๑ ภาษาพาเพลิน (ภาษาไทย) ๔ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาการแจกลูก สะกดคำตามมาตราแม่ ก กา และมาตราตัวสะกด ที่สะกดไม่ตรงตามมาตรา คำทม่ี ีตวั การนั ต์ อักษรควบ อกั ษรนำ การผนั วรรณยุกต์ คำเป็น คำตาย อ่านในใจ การเขียนประโยคและ เรือ่ งราว การเขียนคำคล้องจองสนั้ ๆ (วรรคละ ๔-๖ คำ) นทิ าน เรอื่ งราว โดยการอา่ นแจกลกู สะกดคำตามมาตราแม่ ก กา และมาตราตวั สะกด ทสี่ ะกดไมต่ รงตามมาตรา คำทมี่ ตี ัวการันต์ อักษรควบ อกั ษรนำ รจู้ ักการผนั วรรณยุกต์ คำเปน็ คำตาย อ่านในใจแลว้ สรุปโดยการหา คำสำคัญ ตั้งคำถาม คาดคะเนเหตุการณ์ ใช้แผนภาพโครงเรื่อง หรือแผนภาพความคิดเขียนเป็นประโยค ตรงตามความหมาย และเรียบเรียงเป็นเรื่องราว ที่แสดงความรู้สึก ความคิด ความต้องการตาม ประสบการณ์ และจินตนาการ เขียนคำคล้องจองสั้นๆ (วรรคละ ๔-๖ คำ) จดบันทึกข้อความนิทาน เร่ืองราว จากการอ่าน แล้วเขยี นสรปุ การอา่ นเป็นความคิดของตนเอง เขยี นแผนท่ีความคิดและจัดทำเป็น สมุดเลม่ เลก็ มีมารยาทในการอ่าน การฟัง ดู พูด และการเขียน มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ตระหนัก คณุ คา่ ความสำคัญของภาษาไทย ผลการเรยี นรู้ ๑ อา่ นแจกลูกสะกดคำตามมาตราแม่ ก กา และมาตราตวั สะกด ท่ีสะกดไมต่ รงตามมาตรา ๒ อา่ นคำที่มตี วั การันต์ อกั ษรควบ อักษรนำ ผนั วรรณยกุ ตแ์ ละคำเปน็ คำตาย ๓ อ่านในใจแลว้ สรปุ โดยการหาคำสำคัญ ต้ังคำถาม คาดคะเนเหตุการณ์ ใช้แผนภาพโครง เร่อื ง หรือแผนภาพความคิด ๔ เขียนเป็นประโยค ตรงตามความหมาย และเรียบเรียงเป็นเรื่องราว ที่แสดงความรู้สึก ความคิด ความรู้สกึ ตามตอ้ งการ ประสบการณ์ และจนิ ตนาการณ์ ๕ เขยี นคำคล้องจองส้ันๆ ได้ ๖ จดบันทึกข้อความ นิทาน เรื่องราว จากการอ่าน แล้วเขียนสรุปการอ่านเป็นความคิด ของตนเอง แผนทค่ี วามคิด และสมดุ เลม่ เล็กได้ รวม ๖ ผลการเรียนรู้

37 คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม ท ๑๕๒๐๑ ภาษาพาเพลนิ (ภาษาไทย) ๕ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๕ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาการแจกลูก สะกดคำตามมาตราแม่ ก กา และมาตราตัวสะกด ที่สะกดไม่ตรงตามมาตรา คำท่มี ีตวั การันต์ อักษรควบ อักษรนำ การผันวรรณยุกต์ คำเปน็ คำตาย อา่ นในใจ การเขียนประโยคและ เร่อื งราว การเขยี นคำคล้องจองส้ันๆ (วรรคละ ๔-๖ คำ) นทิ าน เรื่องราว โดยการอ่านแจกลูก สะกดคำตามมาตราแม่ ก กา และมาตราตัวสะกด ทส่ี ะกดไม่ตรงตามมาตรา คำที่มตี ัวการนั ต์ อักษรควบ อักษรนำ รูจ้ กั การผนั วรรณยุกต์ คำเป็น คำตาย อา่ นในใจแล้วสรปุ โดยการหา คำสำคัญ ตั้งคำถาม คาดคะเนเหตุการณ์ ใช้แผนภาพโครงเรือ่ ง หรือแผนภาพความคิดเขียนเป็นประโยค ตรงตามความหมาย และเรียบเรียงเป็นเรื่องราว ที่แสดงความรู้สึก ความคิด ความต้องการตาม ประสบการณ์ และจินตนาการ เขียนคำคล้องจองสั้นๆ (วรรคละ ๔-๖ คำ) จดบันทึกข้อความนิทาน เรอ่ื งราว จากการอา่ น แล้วเขยี นสรุปการอ่านเป็นความคิดของตนเอง เขียนแผนท่ีความคิดและจัดทำเป็น สมุดเลม่ เล็ก มีมารยาทในการอ่าน การฟัง ดู พูด และการเขียน มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ตระหนัก คณุ คา่ ความสำคญั ของภาษาไทย ผลการเรยี นรู้ ๑ อ่านแจกลูกสะกดคำตามมาตราแม่ ก กา และมาตราตัวสะกด ที่สะกดไม่ตรงตาม มาตรา ๒ อ่านคำท่มี ีตัวการนั ต์ อกั ษรควบ อกั ษรนำ ผนั วรรณยุกตแ์ ละคำเป็น คำตาย ๓ อ่านในใจแล้วสรปุ โดยการหาคำสำคัญ ตงั้ คำถาม คาดคะเนเหตุการณ์ ใช้แผนภาพ โครงเรอ่ื ง หรือแผนภาพความคิด ๔ เขียนเป็นประโยค ตรงตามความหมาย และเรียบเรียงเป็นเรื่องราว ที่แสดง ความรู้สกึ ความคิด ความรูส้ กึ ตามตอ้ งการ ประสบการณ์ และจินตนาการณ์ ๕ เขียนคำคล้องจองสนั้ ๆ ได้ ๖ จดบันทึกข้อความ นิทาน เรื่องราว จากการอ่าน แล้วเขียนสรุปการอ่านเป็น ความคดิ ของตนเอง แผนทีค่ วามคดิ และสมุดเลม่ เล็กได้ รวม ๖ ผลการเรยี นรู้

38 คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม ท ๑๖๒๐๑ ภาษาพาเพลนิ (ภาษาไทย) ๖ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาการแจกลูก สะกดคำตามมาตราแม่ ก กา และมาตราตัวสะกด ที่สะกดไม่ตรงตามมาตรา คำท่มี ีตวั การันต์ อักษรควบ อักษรนำ การผันวรรณยุกต์ คำเปน็ คำตาย อา่ นในใจ การเขียนประโยคและ เร่อื งราว การเขยี นคำคล้องจองส้ันๆ (วรรคละ ๔-๖ คำ) นทิ าน เรื่องราว โดยการอ่านแจกลูก สะกดคำตามมาตราแม่ ก กา และมาตราตัวสะกด ทส่ี ะกดไม่ตรงตามมาตรา คำที่มตี ัวการนั ต์ อักษรควบ อักษรนำ รูจ้ กั การผนั วรรณยุกต์ คำเป็น คำตาย อา่ นในใจแล้วสรุปโดยการหา คำสำคัญ ตั้งคำถาม คาดคะเนเหตุการณ์ ใช้แผนภาพโครงเรือ่ ง หรือแผนภาพความคิดเขียนเป็นประโยค ตรงตามความหมาย และเรียบเรียงเป็นเรื่องราว ที่แสดงความรู้สึก ความคิด ความต้องการตาม ประสบการณ์ และจินตนาการ เขียนคำคล้องจองสั้นๆ (วรรคละ ๔-๖ คำ) จดบันทึกข้อความนิทาน เรอ่ื งราว จากการอา่ น แล้วเขยี นสรปุ การอ่านเป็นความคิดของตนเอง เขียนแผนท่ีความคดิ และจัดทำเป็น สมุดเลม่ เล็ก มีมารยาทในการอ่าน การฟัง ดู พูด และการเขียน มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ตระหนัก คณุ คา่ ความสำคญั ของภาษาไทย ผลการเรยี นรู้ ๑ อ่านแจกลูกสะกดคำตามมาตราแม่ ก กา และมาตราตัวสะกด ที่สะกดไม่ตรงตาม มาตรา ๒ อ่านคำท่มี ีตัวการนั ต์ อกั ษรควบ อกั ษรนำ ผนั วรรณยกุ ตแ์ ละคำเป็น คำตาย ๓ อ่านในใจแล้วสรปุ โดยการหาคำสำคัญ ตงั้ คำถาม คาดคะเนเหตุการณ์ ใช้แผนภาพ โครงเรอ่ื ง หรอื แผนภาพความคิด ๔ เขียนเป็นประโยค ตรงตามความหมาย และเรียบเรียงเป็นเรื่องราว ที่แสดง ความรู้สกึ ความคิด ความรูส้ กึ ตามตอ้ งการ ประสบการณ์ และจินตนาการณ์ ๕ เขียนคำคล้องจองสนั้ ๆ ได้ ๖ จดบันทึกข้อความ นิทาน เรื่องราว จากการอ่าน แล้วเขียนสรุปการอ่านเป็น ความคดิ ของตนเอง แผนทีค่ วามคดิ และสมุดเลม่ เล็กได้ รวม ๖ ผลการเรยี นรู้

39 ท ๒๑๒๐๑ วรรณกรรมทอ้ งถ่ิน รายวิชาเพ่ิมเติม กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลาเรยี น ๒๐ ชั่วโมง/ ภาคเรียน (จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต) ___________________________________________________________________________ สรปุ เนอื้ หาวรรณกรรมท่ีอา่ นวเิ คราะหว์ รรณกรรมที่อ่านพร้อมยกเหตผุ ลประกอบอธิบาย คุณคา่ ของวรรณกรรมทีอ่ ่าน สรุปความรแู้ ละขอ้ คดิ จากการอ่าน ศึกษาวเิ คราะห์ ความหมายและ ความสำคญั ให้รู้เรอื่ งตลอดโดยสังเขป และอ่านเพื่อจับใจความสำคญั ในเชงิ วรรณศิลป์ ตคี วามคำยากในเอกสารวชิ าการโดยพจิ ารณาจากบริบทโดยใช้ กระบวนการเรยี นภาษา กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการสร้างความตระหนัก กระบวนการกลุ่ม กระบวนการสรา้ งความรู้ความเข้าใจ กระบวนการคิด อย่างมีวิจารณ์ และเสรมิ สรา้ งคณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ เพือ่ ให้เกิดความรู้ความเข้าใจสามารถวเิ คราะหแ์ ละแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับลักษณะ คำประพันธ์ แนวคดิ ในเนื้อเรื่องโดยเปรยี บเทียบกับเหตกุ ารณใ์ นชวี ิตประจำวนั เกิดความประทับใจ ในศลิ ปะการเขยี นเรื่องเชิงสร้างสรรค์ สามารถนำไปกลา่ วอ้างได้ ตวั ชวี้ ดั ๑. สามารถสรปุ เนือ้ หาวรรณกรรมท้องถิน่ ได้ ๒ วเิ คราะหค์ วามหมาย ความสำคญั ของวรรณกรรมได้ ๓ บอกลักษณะของคำประพันธ์ แนวคิดในเนอ้ื เรื่อง โดยเปรียบเทียบเหตกุ ารณใ์ น ชีวติ ประจำวันได้ รวมท้ังหมด ๓ ตัวช้ีวดั

40 ท ๒๑๒๐๑ วรรณกรรมท้องถ่นิ รายวิชาเพิม่ เติม กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ภาคเรียนที่ ๒ เวลาเรยี น ๒๐ ชั่วโมง/ ภาคเรียน (จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ ) ___________________________________________________________________________ สรปุ เนอื้ หาวรรณกรรมท่ีอ่านวิเคราะห์วรรณกรรมที่อ่านพร้อมยกเหตผุ ลประกอบอธิบาย คุณคา่ ของวรรณกรรมท่อี า่ น สรปุ ความรู้และข้อคิดจากการอ่าน ศึกษาวเิ คราะห์ ความหมายและ ความสำคญั ใหร้ ู้เรอ่ื งตลอดโดยสงั เขป และอา่ นเพื่อจบั ใจความสำคัญในเชงิ วรรณศลิ ป์ ตคี วามคำยากในเอกสารวชิ าการโดยพิจารณาจากบรบิ ทโดยใช้ กระบวนการเรียนภาษา กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการสรา้ งความตระหนกั กระบวนการกลมุ่ กระบวนการสรา้ งความรู้ความเขา้ ใจ กระบวนการคิด อย่างมวี ิจารณ์ และเสริมสรา้ งคุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ เพ่ือให้เกิดความรคู้ วามเขา้ ใจสามารถวิเคราะหแ์ ละแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั ลกั ษณะ คำประพันธ์ แนวคดิ ในเน้ือเรื่องโดยเปรียบเทียบกบั เหตุการณใ์ นชวี ิตประจำวัน เกดิ ความประทบั ใจ ในศลิ ปะการเขียนเรื่องเชงิ สร้างสรรค์ สามารถนำไปกลา่ วอ้างได้ ตวั ชวี้ ัด ๑. สามารถสรุปเนื้อหาวรรณกรรมท้องถิน่ ได้ ๒ วเิ คราะหค์ วามหมาย ความสำคญั ของวรรณกรรมได้ ๓ บอกลกั ษณะของคำประพันธ์ แนวคดิ ในเน้ือเรื่อง โดยเปรยี บเทียบเหตุการณใ์ น ชวี ติ ประจำวนั ได้ รวมทั้งหมด ๓ ตัวชี้วัด

41 ท ๒๒๒๐๑ การแตง่ คำประพนั ธ์ รายวชิ าเพมิ่ เติม กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลาเรยี น ๒๐ ช่วั โมง/ ภาคเรยี น (จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต) ___________________________________________________________________________ ศึกษาความหมายของบทร้อยกรอง ถ้อยคำทีท่ ำใหเ้ กดิ เสียง เกิดภาพพจนเ์ กดิ อารมณค์ วามรู้สึก ได้ ขนั้ ตอนการเขยี นลำนำความคิด ลักษณะของคำสมั ผัสในและสัมผัสนอก ลกั ษณะบงั คับของคำ ประพนั ธช์ นดิ ตา่ ง ๆ การแต่งคำประพนั ธป์ ระเภทกลอนบทละคร กลอนนิทาน โดยคำนึงถงึ ลักษณะบังคบั ฉนั ทลักษณ์ วิเคราะห์ความแตกตา่ งของคำประพันธ์แตล่ ะชนิด วเิ คราะหค์ วามไพเราะ เนอื้ หาสาระ และ ความคิดสรา้ งสรรค์ของคำประพันธ์ โดยใช้กระบวนการอ่าน การเขยี น กระบวนการอภปิ รายซักถาม กระบวนการกลุ่ม กระบวนการ ปฏบิ ัติ กระบวนการคิดวิเคราะห์ วิจารณ์ คิดสร้างสรรค์ เพื่อใหเ้ กดิ ความรูค้ วามเขา้ ใจ สามารถแต่งคำ ประพนั ธ์ พัฒนาผลงาน นำไปสื่อสารและประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจำวันได้ เพ่อื ให้เห็นคุณค่าของการแตง่ คำประพันธ์ การใช้ภาษาที่ไพเราะ นำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวัน มีนิสยั รกั การอ่าน การเขียน มีความสนใจ รบั ผิดชอบในการทำงาน มีมารยาทในการเขยี น มีคุณธรรม จริยธรรม ตัวชว้ี ัด ๑ สามารถสรปุ เนื้อหาวรรณกรรมท้องถนิ่ ได้ ๒ สามารถเขยี นลำนำความคิดได้ ๓ สามารถเขียนแผนผังคำประพนั ธ์ ประเภทกลอนบทละคร กลอนนิทาน กลอนเพลงยาว และกาพยห์ อ่ โคลงได้ ๔ สามารถแต่งกลอนบทละคร กลอนนทิ านกลอนเพลงยาว และกาพยห์ ่อโคลงได้ รวมทั้งหมด ๔ ตัวชี้วัด

42 ท ๒๒๒๐๒ การแตง่ คำประพันธ์ รายวิชาเพม่ิ เติม กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๒ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลาเรียน ๒๐ ชั่วโมง/ ภาคเรยี น (จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต) ___________________________________________________________________________ ศึกษาความหมายของบทร้อยกรอง ถ้อยคำที่ทำให้เกดิ เสยี ง เกิดภาพพจน์เกดิ อารมณ์ความร้สู ึก ได้ ขั้นตอนการเขียนลำนำความคิด ลกั ษณะของคำสัมผสั ในและสมั ผัสนอก ลักษณะบังคบั ของคำ ประพันธช์ นดิ ต่าง ๆ การแตง่ คำประพนั ธป์ ระเภทกลอนบทละคร กลอนนิทาน กลอนเพลงยาว และกาพย์ ห่อโคลง โดยคำนึงถึงลักษณะบงั คับ ฉนั ทลักษณ์ วิเคราะห์ความแตกต่างของคำประพันธ์แต่ละชนดิ ว เคราะหค์ วามไพเราะ เน้อื หาสาระ และความคดิ สรา้ งสรรค์ของคำประพันธ์ โดยใชก้ ระบวนการอ่าน การเขียน กระบวนการอภิปรายซักถาม กระบวนการกล่มุ กระบวนการ ปฏิบัติ กระบวนการคิดวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ คดิ สรา้ งสรรค์ เพื่อให้เกิดความร้คู วามเขา้ ใจ สามารถแตง่ คำ ประพนั ธ์ พฒั นาผลงาน นำไปส่ือสารและประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจำวันได้ เพ่ือใหเ้ ห็นคุณคา่ ของการแต่งคำประพันธ์ การใชภ้ าษาท่ีไพเราะ นำไปใช้ในชีวติ ประจำวนั มีนสิ ัย รักการอา่ น การเขียน มคี วามสนใจ รับผดิ ชอบในการทำงาน มมี ารยาทในการเขียน มีคุณธรรม จริยธรรม ตวั ช้วี ดั ๑ สามารถสรุปเนอื้ หาวรรณกรรมทอ้ งถิ่นได้ ๒ สามารถเขียนลำนำความคิดได้ ๓ สามารถเขียนแผนผังคำประพนั ธ์ ประเภทกลอนบทละคร กลอนนิทาน กลอนเพลงยาว กาพย์ยานี ๑๑ และกาพยห์ ่อโคลงได้ ๔ สามารถแต่งกลอนบทละคร กลอนนิทานกลอนเพลงยาว กาพย์ยานี ๑๑ และกาพย์หอ่ โคลง ได้ รวมทั้งหมด ๔ ตัวชี้วัด

43 ท ๒๓๒๐๑ สร้างสรรค์หนงั สือเลม่ เล็ก๑ รายวชิ าเพ่ิมเติม กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลาเรียน ๒๐ ชวั่ โมง/ ภาคเรยี น (จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ ) __________________________________________________________________________ ศกึ ษาหลกั การทำหนังสอื เลม่ เล็กและการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ปฏิบตั กิ ารทำหนังสือเลม่ เลก็ เขียนเรอื่ งราวเชงิ สรา้ งสรรค์ประกอบรูปภาพพ่ือให้มีความรู้ ความเขา้ ใจ และมีทกั ษะการทำหนังสือ เล่มเลก็ ตามจนิ ตนาการ พร้อมบรรยายภาพตามเร่อื ง ตัวชีว้ ดั นกั เรยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และพฒั นาการคิดการเขยี น ดว้ ยการทำหนังสือเลม่ เล็กที่ดมี ี ประสทิ ธิภาพ รวมท้ังหมด ๑ ตัวชี้วัด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook