Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore panwadwad

panwadwad

Published by panwad.panwad.11, 2018-05-20 23:49:46

Description: panwadwad

Keywords: หลักสูตรโรงเรียนปลอดบุหรี่

Search

Read the Text Version

หลักสูตร“โรงเรียนปลอดบุหรี”่ฉบบั กจิ กรรมการเรยี นรู มงุ สูก ารรณรงคเพ่ือการไมส ูบบุหรี่ (20 ชว่ั โมง) โดย เครอื ขา ยครนู ักรณรงคเ พอ่ื การไมส บู บุหร่ี (คมส.) มูลนิธิรณรงคเ พอื่ การไมสูบบุหรี่ ศนู ยวิจัยและจัดการความรเู พอื่ การควบคมุ ยาสบู (ศจย.) ศูนยสรา งสรรคครมู ืออาชพี สาํ นักงานกองทนุ สนบั สนนุ การสรา งเสริมสุขภาพ (สสส.)

หลกั สตู ร“โรงเรยี นปลอดบหุ ร”่ีฉบบั กิจกรรมการเรยี นรู มงุ สกู ารรณรงคเ พ่อื การไมส บู บุหรี่ (20 ช่วั โมง)ISBN 978-974-11-0757-5เรยี บเรยี งโดย เครือขา ยครูนกั รณรงคเ พ่ือการไมส บู บุหรี่ (คมส.) ศนู ยสรางสรรคค รมู ืออาชพีจัดพิมพโดย มลู นธิ ริ ณรงคเพอื่ การไมส บู บหุ ร่ี ศูนยว จิ ัยและจัดการความรเู พื่อการควบคมุ ยาสูบ (ศจย.)สนับสนุนโดย สํานักงานกองทนุ สนับสนุนการสรางเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.)พมิ พท ่ี เจรญิ ดมี ั่นคงการพิมพ เขตภาษเี จริญ กรงุ เทพ โทร.0-2457-2593พิมพค รั้งท่ี 1 พฤษภาคม 2550จาํ นวนพิมพ 1,200 เลม

i คํานยิ ม เมื่อผมและทีมงานเร่ิมทํางานรณรงคไมสูบบุหร่ีในป พ.ศ.2529 ผมรูสึกต่ืนเตนมากท่ีในสหรัฐอเมริกามีการตั้งเปาหมายวาจะทําใหชั้นเรียนปลอดบุหร่ีในป พ.ศ.2543 ดวยโครงการ“Smoke Free Class 2000” คิดงายๆ วา ถากําหนดใหโรงเรียนเปนเขตปลอดบุหร่ี และมีกฎหมายหามขายบุหรี่แกเด็กท่ีมีอายุต่ํากวา 18 ป ก็จะไมม ใี ครสบู บุหร่ใี นโรงเรยี นอีก ย่ีสิบปผ า นไป จงึ พบสัจธรรมวา มันไมใ ชเรอื่ งงายๆ ทจ่ี ะทาํ ใหโรงเรยี นปลอดบหุ รจี่ ริงๆ มูลนิธิรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี จึงมีความยินดีมาก ที่มีการตั้งเครือขายครูนักรณรงคเพื่อการไมสบู บุหร่ขี น้ึ เพอื่ สรางคานิยมและวัฒนธรรมใหมท ีไ่ มสูบบหุ ร่ีในโรงเรียน การที่จะบรรลุวัตถุประสงคน้ี จําเปนท่ีจะตองทําใหนักเรียนรูถึงประเด็นของบุหรี่กับสังคมและสุขภาพ สถิตพิ บวาคนทีร่ เู รื่องบหุ ร่กี ับสงั คมและสขุ ภาพยงิ่ มากเทาไร โอกาสที่จะเขาไปเสพติดบุหร่ีก็ย่ิงนอยลงเทานัน้ ความพยายามของคณะครูที่จัดทําหลักสูตร “โรงเรียนปลอดบุหร่ี” เพ่ือประกอบการเรียนรูของนกั เรยี นฉบับน้ี จงึ เปน เรอื่ งที่นา ช่นื ชม และสมควรสําหรับฝายที่เก่ียวขอ งในการใหการสนับสนนุ หวังวาคูมือหลักสูตร “โรงเรียนปลอดบุหรี่” จะเปนเครื่องมือในการทําใหโรงเรียนปลอดบุหรี่เปน เปา หมายทเ่ี ปนไปไดจริงตามเจตนารมณของทุกๆ ฝา ยท่ีเก่ยี วของ เพอื่ เด็กไทยจะรอดพน จากการเสพติดบหุ ร่ี หนึง่ ในพฤติกรรมเสยี่ งทสี่ าํ คญั ที่สดุ ของนกั เรียน ศ.นพ.ประกิต วาทสี าธกกจิ เลขาธิการมูลนิธิรณรงคเ พอ่ื การไมส บู บหุ ร่ี

ii คาํ นาํ “การสรางภูมิคุมกันไมสูบบุหรี่ใหกับเด็กและเยาวชน” เปนส่ิงจําเปนอยางย่ิงทามกลางสังคมบริโภคนิยมและวัตถุนิยม ท้ังน้ีเพราะเยาวชนเปนกลุมเปาหมายท่ีสําคัญของธุรกิจบุหรี่ท่ีมุงแสวงหากําไรโดยการเพ่ิมนักสูบหนาใหมในกลุมเยาวชนอยางตอเนื่อง โรงเรียนนับเปนสถาบันสังคมท่ีมีสวนสําคัญอยางมากในการชวยสกัดกั้นอิทธิพลของธุรกิจบุหร่ีในการคุกคามวิถีชีวิตของเด็กและเยาวชน และเปนที่คาดหวังในการแสดงบทบาทพัฒนาทั้งดานสติปญญา อารมณ สังคมและจิตใจ และการปกปองเด็กและเยาวชนใหป ลอดจากบุหร่ที งั้ ในฐานะผเู สพและผไู ดร ับควนั บุหรี่ จําเปนอยางย่ิงท่ีจะตองกระตุน สงเสริมและสนับสนุนใหโรงเรียนแสดงบทบาทหนาที่ดังกลาวซึ่งการแสดงบทบาทหนาที่โดยการบูรณาการในหนาท่ีประจําวันคือ การจัดการเรียนการสอนเปนทางเลือกหน่ึงของการมุงสรางโรงเรียนปลอดบุหร่ี และเพื่อเปนตัวชวยใหบุคลากรในสถาบันการศึกษาไดม แี นวทางและเครอ่ื งมือในการจดั การเรียนการสอนเพอ่ื สรางโรงเรยี นปลอดบหุ ร่ี ที่มีความสะดวกและงายตอการนําไปใช จึงไดมีการพัฒนา “หลักสูตรโรงเรียนปลอดบุหรี่” ข้ึน โดยความคิดริเร่ิมและความรวมมือของหลายหนวยงาน ไดแก มูลนิธิรณรงคเพื่อการไมสูบบุหรี่ เครือขายครูนักรณรงคเพื่อการไมสบู บุหร่ี ศนู ยสรา งสรรคค รมู อื อาชีพ และศนู ยวิจัยและจดั การความรูเพอ่ื การควบคมุ ยาสูบ (ศจย.) หลักสูตรโรงเรียนปลอดบุหร่ีเกิดขึ้นดวยความมุงม่ันของครูแกนนําของเครือขายครูฯ ที่ทุมเทและเสียสละเพื่อใหหลักสูตรสําเร็จลุลวง และไดรับการพัฒนาและประเมินผลตามหลักวิชาการโดยศูนยสรางสรรคครูมืออาชีพ และศูนยวิจัยและจัดการความรูเพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) และการสนับสนุนอยางเต็มท่ีของมูลนิธิรณรงคเพ่ือการไมสูบบุหร่ี ทั้งนี้เพราะทุกฝายตางใฝฝนท่ีจะใหเกิดโรงเรียนปลอดบหุ ร่แี ละสังคมไทยปลอดบุหรี่ไดใ นอนาคตอันใกลน ้ี หลักสูตรโรงเรียนปลอดบุหร่ีนี้ยังคงตองมีการนําไปใชและประเมินผลอยางเปนระบบและตอเนื่อง เพื่อปรับปรุงหลักสูตรใหดียิ่งขึ้น ขอบคุณทุกทานท่ีมีสวนรวมในการปฏิบัติภารกิจนี้ใหสําเร็จลลุ ว งเปนอยา งดี ขอส่งิ ศักดสิ์ ทิ ธิ์ตอบแทนความเสียสละและความมนี ํา้ ใจดีของทุกคน ผชู ว ยศาสตราจารย ดร.มณฑา เกง การพานชิ รองผูอาํ นวยการ ศจย. พฤษภาคม 2550

iiiคณะกรรมการยกรางและพัฒนาหลกั สตู ร “โรงเรียนปลอดบหุ ร่ี”คณะท่ีปรึกษาในการจัดทาํ และพัฒนาหลักสูตร มูลนิธริ ณรงคเพ่ือการไมส บู บุหรี่ 1. ศาสตราจารยเ กยี รติคุณ นายแพทยป ระกติ วาทสี าธกกจิ เครอื ขายควบคุมการบรโิ ภคยาสบู 2. นางสาวบังอร ฤทธิภกั ดี แหงเอเชยี อาคเนย ศนู ยว จิ ัยและจดั การความรเู พอื่ การ 3. ผูชวยศาสตราจารย ดร.มณฑา เกง การพานชิ ควบคุมยาสบู (ศจย.) มลู นธิ ริ ณรงคเพอื่ การไมสบู บุหรี่ 4. นางสาวแสงเดือน สวุ รรณรศั มี ศูนยว จิ ัยและจดั การความรเู พื่อการ 5. ผูช ว ยศาสตราจารย ดร.ลกั ขณา เติมศริ ิกลุ ชัย ควบคุมยาสบู (ศจย.)คณะครูผูยกรา งและพฒั นาหลกั สตู ร โรงเรยี นสวุ รรณสุทธารามวทิ ยา โรงเรียนนวมนิ ทราชินูทศิ สตรวี ิทยาพทุ ธมณฑล 1. นายศุภรัตน ตนั ตเิ วชวงศ โรงเรยี นบางมดวทิ ยา \"สีสกุ หวาดจวนอปุ ถมั ภ\" 2. นางสุวมิ ล จนั ทรเปรมปรุง โรงเรียนรตั นโกสนิ ทรส มโภชบางขนุ เทยี น 3. นางอนงค พัวตระกูล โรงเรียนสามพรานวทิ ยา 4. นางวราภรณ หงษด ลิ กกุล โรงเรียนนวมนิ ทราชนิ ทู ิศ เตรียมอดุ มศกึ ษานอมเกลา 5. นางพเยาว รุจิโรจนว งษ โรงเรียนนวมนิ ทราชินทู ิศ เตรียมอดุ มศึกษานอ มเกลา 6. นางบุญตา มะหะเลา โรงเรียนนวมนิ ทราชินทู ศิ สตรวี ทิ ยาพุทธมณฑล 7. นางภารดี แสงมณี โรงเรียนนวมนิ ทราชนิ ทู ศิ สตรวี ิทยาพทุ ธมณฑล 8. นางจนั ทรเจา รุงนาค โรงเรียนบางมดวทิ ยา \"สีสกุ หวาดจวนอุปถมั ภ\" 9. นางมาลี เอย่ี มพร้ิง โรงเรียนมธั ยมวัดดุสิตาราม 10. นางสาววรรณภา ทองสีไพล โรงเรยี นรัตนโกสนิ ทรสมโภชบางขนุ เทยี น 11. นางสาวพรดี ลิมปรตั นากร โรงเรียนราชวนิ ิตมัธยม 12. นางจันทรพ ิมพ เหมือนทพั โรงเรียนราชวนิ ิตมัธยม 13. นางสาวยพุ า สูตรเชย่ี วชาญ โรงเรยี นวัดปากนาํ้ วทิ ยาคม 14. นางรัชนี ศรีเพญ็ 15. นายพชิ ยั ชมเพญ็

ivคณะครผู ูยกรา งและพฒั นาหลกั สูตร (ตอ) โรงเรยี นวัดปากนํ้าวิทยาคม โรงเรยี นวัดราชโอรส 16. นางวิไล มณโี ชติ โรงเรียนสาธติ จฬุ าลงกรณม หาวิทยาลัย (ฝา ยมธั ยม) 17. นางสาวฤดวี รรณ มาดกี ลุ โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณม หาวทิ ยาลยั (ฝา ยมัธยม) 18. ผศ.ภญิ โญ ตาโนวัน โรงเรยี นสาธิตจฬุ าลงกรณม หาวิทยาลัย (ฝา ยมัธยม) 19. นางจารุวรรณ ตนั จนั ทรพ งศ โรงเรยี นสามพรานวทิ ยา 20. นางสาวกญั จนี ศรโี สภา โรงเรยี นชโิ นรสวิทยาลยั 21. นางอิม่ ใจ ดไี สว โรงเรียนชโิ นรสวิทยาลยั 22. นายสังเวยี น มณจี นั ทร โรงเรียนสวุ รรณสทุ ธารามวทิ ยา 23. นายถนอม พิระขัมม 24. นางเพญ็ ทพิ ย มามากคณะทาํ งานสงั เคราะหแ ละพัฒนาหลกั สตู ร1. นางอารีรัตน วฒั นสิน ผชู ว ยกรรมการผูจัดการฝา ยวชิ าการ ทปี่ รกึ ษา2. นายปญญา ทรงเสรีย บริษัท สาํ นักพิมพว ฒั นาพานชิ3. นายเศรษฐศริ ิ สายกระสนุ4. นายยุทธนา ทรงเสรีย ผอู ํานวยการศูนยสรางสรรคค รมู ืออาชพี ประธาน5. นายองั สวุ สั ดิษยมาลย6. นางสาวครอง ราศรี กรรมการบริหารศนู ยส รา งสรรคค รมู อื อาชีพ กรรมการ กรรมการบริหารศนู ยสรา งสรรคค รูมอื อาชีพ กรรมการ กรรมการบรหิ ารศูนยสรางสรรคค รูมืออาชีพ กรรมการ เลขานกุ ารศนู ยสรา งสรรคครมู ืออาชีพ เลขานุการผปู ระสานงานพัฒนาหลกั สตู ร มลู นิธิรณรงคเพื่อการไมส บู บุหรี่ 1.นางสาวกนกวรรณ ชมเชย มลู นธิ ิรณรงคเ พื่อการไมสูบบหุ ร่ี 2.นางสาวเพ็ญประภา ชิระกุล ศนู ยว ิจัยและจดั การความรเู พ่ือการควบคมุ ยาสบู (ศจย.) 3.นายสาโรจน นาคจู ศูนยว ิจัยและจดั การความรูเ พอ่ื การควบคมุ ยาสูบ (ศจย.) 4.นายณฐั พล เทศขยนั

vสารบญัคํานํา หนาคํานิยม iคณะกรรมการยกรางและพัฒนาหลกั สูตร “โรงเรียนปลอดบหุ ร่ี” iiสารบัญ iiiผังมโนทศั นส าระและมาตรฐานการเรียนรูชว งชั้น vการกําหนดผลการเรียนรทู ีค่ าดหวงั 1คาํ อธิบายรายวชิ า “โรงเรียนปลอดบุหร่”ี 2หนว ยการเรียนรูรายวิชา “โรงเรยี นปลอดบหุ ร่ี” 4ผงั มโนทัศนหนวยการเรยี นรู 5แผนการจัดการเรยี นรูพิเศษ : การปฐมนิเทศ และการวิเคราะหผเู รียน 7หนว ยการเรยี นรูท่ี 1 เร่ือง “รูจ ักบหุ รีไ่ ว ปองกนั ภัยวันขางหนา” 8 23 แผนการจัดการเรยี นรทู ี่ 1 เร่อื ง “บุหร่ีตัวรา ย มาจากไหน” 25 แผนการจัดการเรียนรูที่ 2 เร่ือง “สารใดวาแรงฤทธิ์ ไมเทาสารพษิ ในบุหร่ี” 33 แผนการจัดการเรียนรทู ี่ 3 เรือ่ ง “สุขภาพเร่ิมทรดุ เมอ่ื จดุ บหุ ร”่ี 46 แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 4 เร่อื ง “ออนแอทุกเมอื่ ความเช่อื ที่ผดิ จงึ ติดบหุ รี่” 56หนว ยการเรยี นรูที่ 2 เรื่อง “บหุ รี่มผี ลกระทบ เปนจุดจบของชีวิต” 75 แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 5 เรื่อง “ดบั บุหรกี่ อ นเสย่ี ง หลีกเล่ียงหายนะ” 77 แผนการจดั การเรียนรทู ่ี 6 เร่ือง “ผูหญงิ สูบบุหรี่ มะเร็งกม็ า ราศีก็เสื่อม” 90 แผนการจัดการเรียนรูท ่ี 7 เร่ือง “บานปลอดบหุ ร่ี ทกุ ชวี ีมคี วามสขุ ” 99 แผนการจดั การเรียนรทู ี่ 8 เรอื่ ง “ย่งิ สบู ยิง่ จน มืดมนท้งั ชีวิต” 112 แผนการจัดการเรยี นรทู ่ี 9 เรอื่ ง “บุหรค่ี อื มารราย ทาํ ลายสังคม บม เพาะอาชญากร” 143หนว ยการเรยี นรูท่ี 3 เร่ือง “กฎหมายคุมครอง เราตองรทู ัน ดับควันบุหรี่” 153 แผนการจัดการเรียนรูที่ 10 เรื่อง “รกู ฎหมายควบคุมบุหร่ี พลเมืองดชี วยระวังภัย” 155 แผนการจดั การเรยี นรูท่ี 11 เรอื่ ง “สังคมจะไรควัน หากรเู ทาทันบริษทั บุหร”ี่ 166 แผนการจดั การเรียนรูท่ี 12 เรือ่ ง “จะปลอดบหุ ร่ีมือสอง ตองชวยคุมครองอยา งทั่วถงึ ” 196หนวยการเรยี นรูที่ 4 เรื่อง “ใชก ลยทุ ธช ้ันเซียน ชวยโรงเรียนใหป ลอดบุหรี่” 211 แผนการจดั การเรยี นรูที่ 13 เร่ือง “คบเพื่อนดี ปลอดบหุ รีต่ ลอดชีวติ ” 213 แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 14 เรอ่ื ง “เลกิ บหุ รีอ่ ยางไร จงึ ชนะใจอยางย่ังยนื ” 226 แผนการจัดการเรยี นรูท ่ี 15 เรอื่ ง “ประสานใจ ใชปญ ญา พาโรงเรยี นปลอดบหุ ร่ี” 240ภาคผนวก แบบประเมินผลการเรียนรู 253

vi หลักสตู ร “โรงเรยี นปลอดบหุ ร”่ี™ ผังมโนทัศนส าระและมาตรฐานการเรยี นรูชว งช้ันกลมุ สาระการเรยี นรูส ุขศึกษาและพลศกึ ษา™ การกาํ หนดผลการเรียนรูทค่ี าดหวังโดยวเิ คราะหค วามสอดคลอ งกบั มาตรฐานการเรยี นรู™ คําอธบิ ายรายวชิ า “โรงเรยี นปลอดบหุ รี”่™ หนวยการเรยี นรรู ายวิชา “โรงเรยี นปลอดบหุ รี”่ ชว งช้นั ท่ี 3 (ม.1 - 3)™ ผงั มโนทศั นหนวยการเรียนรู

1ผงั มโนทศั นส าระและมาตรฐานการเรียนรูชวงชัน้ กลุม สาระการเรยี นรูสขุ ศึกษาและพลศกึ ษา รายวชิ า “โรงเรียนปลอดบหุ ร่”ี ชวงชน้ั ที่ 3 (ม.1-ม.3)สาระท่ี 2 : ชวี ติ และครอบครัว สาระท่ี 4 : การสรา งเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการปองกนั โรคมาตรฐาน พ 2.1 เขาใจและเห็น เจตคติ มาตรฐาน พ 4.1 เห็นคุณคาและมีทักษะในคุ ณ ค า ข อ ง ชี วิ ต ค ร อ บ ค รั ว ทักษะชีวิต คณุ ธรรม การสรางเสริมสุขภาพ การดํารงสุขภาพเพศศึกษา และมีทักษะในการ ก า ร ป อ ง กั น โ ร ค แ ล ะ ก า ร ส ร า ง เ ส ริ มดําเนินชีวติ สมรรถภาพเพ่อื สขุ ภาพ ความรู โรงเรียน จรยิ ธรรม มาตรฐานการเรยี นรชู วงช้ัน ปลอดบหุ รี่ คา นิยม 1.วิเคราะหความเชื่อมโยงระหวางพฤติกรรมมาตรฐานการเรียนรชู วงชั้น สุขภาพดี สขุ ภาพ การปอ งกนั โรค และการดํารงสขุ ภาพ2.เขาใจในคุณคาของความเปน อยา งย่ังยืน รวมทั้งรวมดูแลสุขภาพชมุ ชนสงิ่ แวดลอมเพื่อน ความเสมอภาคทางเพศ 2.วิเคราะหอันตรายจากสารพิษที่มีผลตอส า ม า ร ถ ส ร า ง แ ล ะ รั ก ษ า ทักษะสุขภาพ สขุ ภาพของผสู ูบบหุ ร่ีและบคุ คลใกลเ คยี ง *สมั พันธภาพกบั ผูอ่นื 3.วิเคราะหปญหาของบุหรี่ท่ีมีผลกระทบตอ ทกั ษะกระบวนการ บุคคล เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดลอม ดวย กระบวนการแกปญหาเชิงสรา งสรรคอยางเปนสาระที่ 5 : ความปลอดภัยในชวี ติ มาตรฐาน พ 5.1 : ปองกันและหลีกเล่ียงปจจัยเสี่ยง ระบบ * พฤติกรรมเส่ียงตอสุขภาพ อุบัติเหตุ การใชยา 4.มีทักษะการจัดการกับอารมณ ความเครียด สารเสพติด และความรนุ แรง และการฝก จิต 5.วางแผนและจัดเวลาในการออกกําลังกาย การพักผอน การสรางเสริมสมรรถภาพทาง กาย การเขารวมกิจกรรมนันทนาการไดอยาง เหมาะสมมาตรฐานการเรยี นรูชวงชั้น1. วเิ คราะหป จจยั และพฤติกรรมเสยี่ งตอสขุ ภาพ ความปลอดภัย และปฏิบตั ิตนไดถ กู ตอ งตามหลักของความปลอดภยั2. เขาใจและเห็นคุณคาของกระบวนการสรา งเสรมิ ความปลอดภยั ใหต นเอง ครอบครวั และชุมชน3. ใชกลวธิ ีตา งๆ ในการปอ งกันและหลกี เลย่ี งปจ จยั เสีย่ งตอสขุ ภาพ4. สามารถตัดสนิ ใจและแกปญ หาเม่อื เผชิญอนั ตรายและสถานการณท ีค่ บั ขนั5. ศกึ ษาวเิ คราะหก ฎหมายเก่ยี วกับการควบคุมผลติ ภัณฑย าสบู และการรูเทา ทันกลยุทธของบริษัทบุหร่ี *6. มกี ลยุทธแ ละทักษะในการรณรงคเ พื่อการไมสบู บุหรี่ ทง้ั มาตรการการปอ งกนั และการแกป ญ หา โดยมีเปา หมายใหโรงเรยี นเปนเขตปลอดบหุ รี่ * หมายเหตุ * มาตรฐานท่กี ําหนดเพมิ่ เตมิ สําหรับรายวิชา “โรงเรยี นปลอดบหุ รี่”

2 การกาํ หนดผลการเรยี นรทู ่คี าดหวัง โดยวิเคราะหความสอดคลองกับมาตรฐานการเรยี นรู กลุมสาระการเรียนรูสขุ ศกึ ษาและพลศึกษา มาตรฐานการลาํ ดับที่ ผลการเรยี นรทู ค่ี าดหวงั สาระการเรยี นรู เรียนรหู ลกั / มาตรฐานชวงช้นั1. รู เขาใจ และตระหนักในความจําเปนของการ การปฐมนิเ ท ศ แ ล ะ พ. 2.1 ขอ 2 เรียนรรู ายวิชา “โรงเรียนปลอดบุหร่ี” และมีสวน การวเิ คราะหผูเรียน พ. 4.1 ขอ 1-5 รวมในการวางแผนจัดการเรียนรู วิธีการการ พ. 5.1 ขอ 1-6 เรียนรู และการวัดประเมินผลตามสภาพจริงที่ สอดคลองกบั คุณลักษณะของผเู รยี น2. รูและเขาใจประวัติความเปนมาของบุหร่ีและ ประวัติความเปนมา พ. 4.1 ขอ 1 ตระหนักในปญ หาการสูบบุหรีใ่ นประเทศไทย ของบุหร่ี3. รู เ ข า ใ จ แ ล ะ มี ทั ก ษ ะ ก ร ะ บ ว น ก า ร ใ น สารพษิ ในบหุ รี่ พ. 4.1 ขอ 1-2 การทดลองหาสารพิษในควันบุหร่ีจนเกิดความ ตระหนกั ในพษิ ภัยของบุหรี่ทีม่ ตี อชวี ิตมนษุ ย4. รู เขาใจ ตระหนักในพิษภัยและอันตรายของ ผลกระทบของบุหร่ีตอ พ. 4.1 ขอ 1 บุหรี่ท่ีมีตอสุขภาพของตนเอง และบุคคล สุขภาพ ขา งเคียง5. รู เขาใจ ตระหนักถึงสาเหตุปจจัยและความเชื่อ สาเหตุทีท่ าํ ใหติดบหุ ร่ี พ. 5.1 ขอ 1 ของการสูบบหุ รท่ี ่ีมอี ทิ ธพิ ลตอ พฤตกิ รรมการสูบ บุหร่ี6. รู เขาใจ และตระหนกั ในผลกระทบของการสูบ ผลกระทบของบุหรี่ท่ีมี พ. 5.1 ขอ 3 บุหรที่ ม่ี ีตอ พฤตกิ รรมเสย่ี งดานอ่ืนๆ ต อ พ ฤ ติ ก ร ร ม เ ส่ี ย ง อ่นื ๆ7. รู เขาใจ ตระหนักถึงผลกระทบและมีกระบวน ผลกระทบของบุหร่ีตอ พ. 4.1 ขอ 2-3 การปอ งกันหรอื ปฏิเสธการสบู บุหรีข่ องผูหญิง ผหู ญงิ ทส่ี ูบบุหร่ี พ. 5.1 ขอ 18. รู เขาใจ ตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ที่มี ผลกระทบของบุหร่ีตอ พ. 4.1 ขอ 1, 3 ผลกระทบตอครอบครัว และมีแนวทางปองกัน ครอบครวั ผลกระทบของบหุ ร่ีที่มีตอครอบครัวได

3 มาตรฐานการลําดบั ท่ี ผลการเรยี นรทู ี่คาดหวงั สาระการเรยี นรู เรยี นรหู ลัก/ มาตรฐานชว งช้นั9. รู เขาใจ ตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ที่มี ผลกระทบของบุหร่ีตอ พ. 4.1 ขอ 3 ผลกระทบตอ เศรษฐกิจ เศรษฐกิจ พ. 5.1 ขอ 1-310. รู เขาใจ ตระหนักถึงพิษภัยของบุหร่ี ใช ผลกระทบของบุหรี่ตอ พ. 4.1 ขอ 3 ก ร ะ บ ว น ก า ร ป อ ง กั น แ ล ะ แ ก ไ ข ป ญ ห า สงั คม พ. 5.1 ขอ 1-3 ผลกระทบของบุหร่ที ่มี ีตอสงั คม11. รู เขาใจในสาระสําคัญของพระราชบัญญัติ พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ พ. 5.1 ขอ 2, 5 ควบคมุ ผลิตภณั ฑย าสบู พ.ศ.2535 และกฎหมาย ค ว บ คุ ม ผ ลิ ต ภั ณ ฑ ทเ่ี ก่ยี วขอ งได ยาสบู พ.ศ. 253512. รูเทาทันกลยุทธของบริษัทบุหรี่จากการศึกษา การรูเทาทันกลยุทธ พ. 5.1 ขอ 4 – 5 วิเคราะห และใชการคิดอยางมีวิจารณญาณใน ของบริษทั บหุ ร่ี การดูแลปองกันตนเองและผูอ่ืนมิใหตกเปน เหยอื่ ของบรษิ ัทบุหร่ี13. รจู กั สถานที่สาธารณะท่ีเปน เขตปลอดบหุ รแี่ ละมี พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ พ. 5.1 ขอ 2, 5 วิธีการปกปองคุมครองสุขภาพของตนเองและ คุมครองสุขภาพของผู ผูอน่ื ใหป ลอดจากควนั บหุ ร่ีอยางสรา งสรรค สูบบหุ รี่ พ.ศ.253514. รู เขาใจในคุณคาของความเปนเพื่อน เลือกคบ การคบเพ่ือน พ. 2.1 ขอ 2 เพ่อื นที่ดี และนาํ เพื่อนไปในทางสรา งสรรคไ ด15. รแู ละเขาใจวิธีการเลิกสูบบุหร่ี สามารถนําไปใช วิธกี ารเลิกบุหรี่ พ. 4.1 ขอ 1 – 3 กับตนเองและชวยเหลือผูอ่ืนในการเลิกสูบบุหรี่ พ. 5.1 ขอ 2 -3,6 ได16. รู เขาใจ และมีทักษะในการจัดกิจกรรมรณรงค กิจกรรมรณรงคเพื่อ พ. 2.1 ขอ 2 เพ่ือการไมสูบสุหร่ีในโรงเรียนไดอยางมี ก า ร ไ ม สู บ บุ ห รี่ ใ น พ. 4.1 ขอ 1– 5 ประสิทธิภาพดวยความมุงม่ันและเกิดความ โรงเรยี น พ. 5.1 ขอ 2 – 6 ภาคภูมิใจ

4 คําอธบิ ายรายวิชา รายวชิ าโรงเรยี นปลอดบุหร่ี กลุม สาระการเรยี นรูสขุ ศกึ ษาและพลศึกษา (สาระการเรียนรเู พ่มิ เติม) ศึกษา คนควา สํารวจ วิเคราะห สังเคราะห ใชวิจารณญาณ และสรางสรรคผลงาน โดยใชทักษะกระบวนการและกระบวนการกลุม เก่ียวกับประวัติความเปนมาของบุหร่ี สารพิษในบุหรี่อันตรายของบุหรี่ท่ีมีตอสุขภาพของผูสูบและผูไดรับควันบุหรี่ สาเหตุที่ทําใหติดบุหร่ี ผลกระทบของบุหรี่ที่มีตอพฤติกรรมเส่ียงของเยาวชน ผูหญิง ครอบครัว เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดลอม กฎหมายควบคมุ ผลติ ภณั ฑยาสูบและคมุ ครองสขุ ภาพของผูไมส บู บหุ ร่ี กลยุทธของบรษิ ทั บุหรี่ การเลือกคบเพื่อนวิธีการเลิกสูบบุหร่ี การรณรงคปองกันและแกไขปญหาเพ่ือนําไปสู “โรงเรียนปลอดบุหร่ี”ดวยความตระหนกั รบั ผิดชอบตอสวนรวม เสยี สละ เหน็ คณุ คา ในตนเองและเกิดความภาคภูมิใจ _________________________________

5 หนว ยการเรยี นรู รายวิชา “โรงเรียนปลอดบหุ ร”่ี ชวงชนั้ ที่ 3 (ม.1 - 3) กลุมสาระการเรียนรูส ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา (สาระการเรียนรูเพิ่มเตมิ ) จาํ นวน 4 หนว ยการเรยี นรู เวลาเรียน 20 ชว่ั โมง หนว ย ชื่อหนว ย/ขอบขายสาระ แผนที่/ ชื่อแผน/กิจกรรม เวลาเรียน มาตรฐานการการเรียนรู กิจกรรม (ชัว่ โมง) เรียนรู/ มาตรฐาน “รูจักบุหร่ีไว ปองกันภัย พิเศษ ก า ร ป ฐ ม นิ เ ท ศ แ ล ะ ท่ี วันขา งหนา ” การวิเคราะหผเู รยี น (1) ชวงช้ัน - ( ป ร ะ วั ติ ค ว า ม เ ป น ม า 1 พ 2.1 / ขอ 2 1 ส า ร พิ ษ ใ น บุ ห ร่ี 2 • บุหรี่ตัวราย มาจาก 1 พ 4.1 / ขอ 1 - 5 ผ ล ก ร ะ ท บ ต อ สุ ข ภ า พ 3 ไหน 1 พ 5.1 / ขอ 1 - 6 2 สาเหตทุ ่ที ําใหต ดิ บุหร่)ี 4 1 พ 4.1 / ขอ 1 • สารใดวาแรงฤทธิ์ไม “บุหรี่มีผลกระทบ เปน 5 เทา สารพษิ ในบุหร่ี 1 พ 4.1 / ขอ 1 - 2 จุดจบของชวี ิต” 6 (4) (ผลกระทบของบุหร่ีที่มี • สุ ข ภ า พ เ ร่ิ ม ท รุ ด 1 พ 4.1 / ขอ 1 ตอพฤติกรรมเส่ียงอ่ืนๆ 7 เม่อื จุดบุหร่ี 1 พ 5.1 / ขอ 1 ของเยาวชน ผลกระทบ 8 ตอผูหญิง ครอบครัว 9 • อ อ น แ อ ทุ ก เ ม่ื อ 1 พ 5.1 / ขอ 3 เศรษฐกจิ และสังคม) ความเชื่อที่ผิดจึงติด 1 บุหร่ี 2 พ. 4.1 /ขอ 2-3 (6) พ 5.1 / ขอ 1 • ดับบุหร่ีกอนเส่ียง หลีกเลีย่ งหายนะ พ 4.1 / ขอ 1, 3 พ 4.1 /ขอ 3 • ผู ห ญิ ง สู บ บุ ห ร่ี พ 5.1 /ขอ 1 - 3 มะเร็งก็มาราศีก็เส่ือม พ 4.1 / ขอ 3 บา นปลอดบหุ ร่ี พ 5.1 / ขอ 1 - 3 • ทุกชีวมี ีความสขุ • ย่ิงสูบ ยิ่งจน มืดมน ทง้ั ชีวิต • บุ ห รี่ คื อ ม า ร ร า ย ทํ า ล า ย สั ง ค ม บมเพาะอาชญากร

6หนว ยการ ชอ่ื หนว ย/ขอบขา ยสาระ แผนท่ี ช่ือแผนการจัดการเรยี น เวลาเรียน มาตรฐานการเรยี นรทู ี่ (ชว่ั โมง) เรยี นรู/มาตรฐาน ชวงช้นั3 ก ฎ ห ม า ย คุ ม ค ร อ ง 10 • รูกฎหมายควบคุม 1 พ 5.1 / ขอ 2,5 เราตองรูทัน ดับควัน บุหรี่ พลเมืองดีชวย บุหร่ี ระวังภัย พ 5.1 / ขอ 3 - 5 (กฎหมายเก่ียวกับบุหร่ี 11 • สั ง ค ม จ ะ ไ ร ค วั น 1 พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ หากรูเทาทันบริษัท พ 5.1 / ขอ 2,5 ยาสูบ พ.ศ.2535 และ 12 บหุ รี่ การรูเทาทันกลยุทธของ • จะปลอดบุหรี่มือสอง 2 บ ริ ษั ท บุ ห ร่ี พ . ร . บ . ต อ ง ช ว ย คุ ม ค ร อ ง คุมครองสุขภาพของผูไม อยา งทั่วถึง สูบบหุ รี่ พ.ศ.2535) (4)4 ใชกลยทุ ธชนั้ เซียน ชว ย 13 • คบเพ่ือนดี ปลอดบุหรี่ 1 พ 2.1 / ขอ 2 โรงเรยี นใหป ลอดบุหรี่ ตลอดชีวติ (การคบเพื่อน วิธกี ารเลิก 14 • เ ลิ ก บุ ห ร่ี อ ย า ง ไ ร 2 พ 4.1 / ขอ 1 - 3 สบู บุหรี่ และกิจกรรม จงึ ชนะใจอยา งยง่ั ยนื พ 5.1 / ขอ 2 - 3, 6 รณรงคเ พือ่ การไมส บู 15 • ประสานใจ ใชปญญา 2 พ 2.1 / ขอ 2 บหุ รใี่ นโรงเรยี น) พ า โ ร ง เ รี ย น ป ล อ ด พ 4.1 / ขอ 1 - 5 บุหรี่ พ 5.1 / ขอ 2 - 6 (5)รวม 4 หนวยการเรยี นรู 16 แผนการจดั การเรียนรู เวลาเรยี น 20 ชั่วโมง

7 ผงั มโนทศั น หนวยการเรยี นรูรายวชิ า “โรงเรยี นปลอดบหุ ร”่ี ชว งชัน้ ที่ 3 (ม.1-3) จาํ นวน 4 หนว ยการเรยี นรู เวลาเรยี น 20 ช่ัวโมง13.คบเพื่อนดี ปลอดบุหรี่ตลอดชีวติ หนว ยท่ี 1 1.บุหรต่ี ัวรา ย มาจากไหน (1 ชม.)(1ชม.) รจู กั บหุ ร่ีไว ปองกันภัย 2.สารใดวา แรงฤทธ์ิ ไมเ ทา สารพิษในบุหรี่ (1ชม.)14. เลิกบุหรอี่ ยา งไร จงึ ชนะใจ วันขางหนา 3.สุขภาพเริ่มทรุด เม่ือจดุ บหุ รี่ (1 ชม.)อยางยั่งยืน (2 ชม.) 4 ชม. 4.ออ นแอทุกเมอ่ื ความเชือ่ ทผี่ ิด จึงตดิ บหุ รี่ (1ชม.)15.ประสานใจ ใชป ญ ญา แผนพิเศษ การปฐมนิเทศและการวิเคราะหผูเ รียน 1 ชม.พาโรงเรียนปลอดบหุ ร่ี (2 ชม.) หนว ยที่ 4 รายวิชา หนวยท่ี 2 “ใชก ลยุทธช ั้นเซยี นชว ย “โรงเรียนปลอดบหุ ร่”ี “บหุ รม่ี ผี ลกระทบ เปน โรงเรียนใหปลอดบหุ รี่” 5 ชม. ชว งชน้ั ท่ี 3 (ม.1-3) จุดจบของชวี ิต” 6 ชม.10.รกู ฎหมายควบคมุ บหุ รี่ พลเมอื งดีชวยระวังภยั 20 ชม. 5. ดับบหุ รกี่ อนเส่ียง หลกี เล่ียงหายนะ( 1 ชม.) (1 ชม.) หนวยท่ี 311.สังคมจะไรควัน หากรูเทาทันบริษัทบหุ ร่ี “กฎหมายคุม ครอง 6. หญงิ สูบบุหร่ี มะเร็งกม็ า( 1 ชม.) ราศีกเ็ สอื่ ม (1 ชม.) เราตองรูทัน12.จะปลอดบุหร่มี อื สอง ตอ งชว ยคุมครองอยาง ดบั ควันบุหรี่” 7.บา นปลอดบุหรี่ ทุกชีวีมีความสขุท่ัวถึง (2 ชม.) ( 1 ชม.) 4 ชม. 8.ย่งิ สูบ ยิ่งจน มืดมนทง้ั ชวี ิต ( 1 ชม.) 9.บุหรีค่ อื มารราย ทําลายสังคม บมเพาะอาชญากร (2 ชม.)

8 แผนการจัดการเรียนรูพิเศษการปฐมนเิ ทศและการวิเคราะหผ เู รยี น

9 กลมุ สาระการเรยี นรสู ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา โรงเรียน........................................... รายวิชาโรงเรยี นปลอดบุหรี่ (สาระการเรียนรูเ พ่ิมเตมิ ) ชว งชนั้ ท่ี 3 (ม.1-ม.3) แผนการจัดการเรยี นรูพิเศษ เร่ือง “การปฐมนเิ ทศและการวเิ คราะหผูเ รียน” เวลา 1 ชว่ั โมง1. มาตรฐานการเรยี นรู (ที่กาํ หนดไวใ นรายวชิ า “รายวชิ าโรงเรียนปลอดบุหร”ี่ ) มาตรฐานหลัก พ 2.1 เขาใจและเห็นคุณคาของชีวิต ครอบครัว เพศศึกษา และมีทักษะในการดําเนนิ ชีวติ มาตรฐานชว งชัน้ ขอ 2 มาตรฐานหลัก พ 4.1 เห็นคุณคาและมีทักษะในการสรางเสริมสุขภาพ การดํารงสุขภาพการปอ งกนั โรค และการสรางเสริมสมรรถภาพเพ่ือสขุ ภาพ มาตรฐานชวงชนั้ ขอ 1-5 มาตรฐานหลัก พ 5.1 ปองกันและหลีกเล่ียงปจจัยเส่ียง พฤติกรรมเส่ียงตอสุขภาพ อุบัติเหตุการใชยา สารเสพติด และความรนุ แรง มาตรฐานชว งชั้น ขอ 1-62. ผลการเรยี นรทู ่ีคาดหวงั รู เขาใจ และตระหนกั ในความจําเปน ของการเรยี นรูร ายวชิ า “โรงเรยี นปลอดบหุ ร”่ี และมีสว นรวมในการวางแผนจดั กจิ กรรมการเรียนรู วิธีการเรียนรู และการวดั ประเมินผลตามสภาพจริงท่สี อดคลองกับคณุ ลักษณะของผเู รยี น3. จุดประสงคการเรยี นรู 3.1 แนะนําประวัติและคุณลักษณะของเพื่อน เพื่อการปรับตัวในการเรียนรูรวมกันไดอยางมีความสุข (ทักษะกระบวนการ-เจตคติ) 3.2 บอกลีลาการเรียนรูหรือวิธีการเรียนรูท่ีตนเองถนัด และวิเคราะหจุดเดนจุดดอยของตนเองและของเพอ่ื นได (ทักษะกระบวนการ) 3.3 วิเคราะหวิจารณหนวยการเรียนรู พรอมท้ังกําหนดสาระและกิจกรรมท่ีตองการเรียนรูเพ่มิ เติมได (ความร,ู ทกั ษะกระบวนการ) 3.4 บอกความคาดหวังและปจจัยแหงความสําเร็จในการพัฒนาโรงเรียนใหเปน “โรงเรียนปลอดบหุ รี่” ได (เจตคต)ิ4. สาระการเรยี นรู 4.1 การรจู กั กนั และการปรับตัวในการเรียนรรู ว มกนั 4.2 วิธีการเรยี นรู 4 รูปแบบไดแก นกั วิเคราะห นกั ทฤษฎี นกั กจิ กรรม และนักปฏบิ ัติ 4.3 การกําหนดสาระการเรยี นรู กิจกรรมการเรียนรูแ ละการวดั ประเมินผลตามสภาพจริง 4.4 ความคาดหวงั และปจ จัยแหงความสาํ เร็จของ “โรงเรียนปลอดบหุ รี่”

105. สาระสําคัญ การรวมกันรณรงคใหโรงเรียนเปนเขตปลอดบุหรี่ เปนหนาท่ีของทุกคนในโรงเรียนท่ีจะเรียนรูและตระหนักในพิษภัยของบุหร่ี ผลกระทบดานตางๆ รวมท้ังการกอใหเกิดพฤติกรรมเส่ียงการเขาใจกฎหมายท่ีเกี่ยวของและรูเทาทันบริษัทบุหรี่ นํามาสูการรวมกันรณรงคปองกัน และแกไขพฤติกรรมการสูบบุหร่ีในโรงเรียนไดอยางมีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืน จนสามารถบรรลุผลตามเปาหมายคอื “โรงเรียนปลอดบหุ ร”ี่ ไดในทีส่ ุด6. กระบวนการเรียนรู ขน้ั นาํ 6.1 ใหนักเรียนรวมกิจกรรม “จับคูรูใจเพื่อน” ตามใบงานที่ 1 โดยครูแจกกระดาษการดสีรูปหัวใจใหนักเรียนคนละ 1 ดวง แลวใหนักเรียนจับคูกันเพ่ือสัมภาษณประวัติยอ เชน ชื่อจริง ชื่อเลนวันเกิด ครอบครัว วิชาที่ถนัดและไมถนัด และคติประจําใจ เปนตน พรอมทั้งบอกความรูสึกหรือประสบการณท่ีมีตอ “บุหร่ี” แลวใชปากกาวาดภาพการตูนหรือสัญลักษณของเพื่อน และบันทึกส่ิงท่ีสัมภาษณลงในการดรูปหัวใจ แลวนําการดรูปหัวใจมาจัดวางบนปายนิเทศหนาหองตามความคิดและจินตนาการอยางอิสระ ข้ันสอน 6.2 ครูช้ีแจงนักเรียนวา แผนการจัดการเรียนรูท่ี 1 เรื่องการปฐมนิเทศและการวิเคราะหผูเรียนมีความสําคัญในการท่ีครูและนักเรียนมารวมกันวางแผนการจัดการเรียนรูใหสอดคลองกับคุณลักษณะและความตองการท่ีแทจริงของผูเรียนและใหเกิดประโยชนสูงสุดแกผูเรียน ดังน้ันในเบื้องตนครูจึงตอง“วิเคราะหผ ูเรียน” เพอื่ ทราบวานกั เรียนมี “ลีลาการเรยี นรู” หรอื วิธีการเรยี นรแู บบใดเพ่ือครูและนักเรียนจะไดรวมกนั ปรับปรุงพัฒนาวิธีการเรียนรูในรายวิชา “โรงเรียนปลอดบุหรี่” ใหสอดคลองกับผูเรียนมากขนึ้ นักเรียนทุกคนทําใบงานที่ 2 แบบสํารวจลีลาการเรียนรูของนักเรียนพรอมท้ังสรุปคะแนนและแปลความหมายเปนลีลาการเรียนรูหรือวิธีการเรียนรูตามความถนัดแบงเปน 4 กลุม ไดแก นักวิเคราะหนกั ทฤษฎี นกั กิจกรรม และนกั ปฏิบัติ 6.3 นักเรียนรวมกันวิเคราะหคุณลักษณะของวิธีการเรียนรู 4 รูปแบบและสรุปรวมกันวานักเรียนแตละกลุมจะสงเสริมจุดเดนและเติมเต็มจุดดอยของตนเองไดอยางไร โดยครูใหขอเสนอแนะเพ่ิมเติม พรอมท้ังเก็บขอมูลผลการวิเคราะหผูเรียนเพื่อนําไปวางแผนการพัฒนาผูเรียนเปนรายกลุมและรายบุคคลตอไป 6.4 นักเรียนรวมกันปฏิบัติตามใบงานที่ 3 กิจกรรม เร่ือง “ภาพอะไรเอย” โดยรวมกันวิเคราะหตีความรูปภาพ พรอมวิพากษวิจารณ และทายช่ือหนวยการเรียนรู โดยระบุวาแตละหนวยการเรียนรูและทํากิจกรรมอะไรบาง เสร็จแลวครูเฉลยชื่อหนวยและสาระท่ีเรียน จากน้ันนักเรียนรวมกันระดมความคดิ เหน็ ในประเดน็ ตอไปน้ี

11 - ขอบขา ยสาระการเรยี นรูสอดคลอ งและครอบคลุมกบั สิง่ ที่นกั เรยี นอยากรหู รือไมเ พียงใด - วิธีการสอนของครู วิธีการเรียนรูของนักเรียน รวมท้ังกิจกรรมทั้งในหองเรียนและนอกหองเรียนตองการแบบใดบา ง - การมอบหมายชิ้นงาน และการวัดประเมินผลตามสภาพจริง นักเรียนตองการลักษณะใดมีปรมิ าณเทาใด และมจี ดุ เนน อะไรเปน สําคัญ ครูใหขอเสนอแนะเพ่ิมเติม และจดบันทึกความตองการของนักเรียนเพ่ือนําไปวางแผนการจดั การเรยี นรตู อไป ขัน้ สรุป 6.5 นักเรียนรวมกันแสดงความรูสึกคาดหวังในการจัดกิจกรรมการเรียนรูและใหขอเสนอแนะปจ จัยสาํ คญั ในการพัฒนาโรงเรียนใหเ ปน “โรงเรียนปลอดบุหร่ี” โดยครูชวยเสริมแรงใหกําลังใจและใหขอ เสนอแนะเพิ่มเติม7. วธิ ีการจัดการเรียนรู การจดั การเรยี นรแู บบมีสว นรว ม (Participatory Learning)8. การบรู ณาการ บูรณาการกบั กลมุ สาระการเรียนรศู ิลปะ (ในการวาดภาพและตกแตงการดสรี ูปหวั ใจ)9. สื่อ/แหลงการเรียนรู 9.1 ใบงานที่ 1 กิจกรรมเรื่อง “จบั คูรูใจเพื่อน” 9.2 ใบงานท่ี 2 แบบสาํ รวจ “ลีลาการเรียนรู” ของนกั เรยี น 9.3 ใบงานท่ี 3 กจิ กรรม เรือ่ ง “ภาพอะไรเอย” 9.4 สื่อการเรยี นรเู ร่ือง “บุหร”ี่ เชน หนงั สือ เอกสาร โปสเตอร สติ๊กเกอร เปน ตน 9.5 หอ งสมุด 9.6 ศนู ยการเรียนรกู ลมุ สาระสุขศึกษาและพลศึกษา/ศูนยรณรงคเพ่ือการไมส บู บุหรี่ 9.7 เวบ็ ไซต http://www.ashthailand.or.th http://www.smokefreezone.or.th10. การวดั และประเมนิ ผล 10.1 วิธกี ารวัด 1) สํารวจ “ลีลาการเรยี นรู” ของนักเรยี น 2) ประเมนิ กระบวนการเรียนรู 10.2 เคร่อื งมอื วัด 1) แบบสํารวจ “ลีลาการเรียนร”ู ของนกั เรียน 2) แบบประเมนิ กระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ”

12 10.3 เกณฑการวดั - เกณฑการผานรอ ยละ 50 ของคะแนนเต็ม - เปนการวัดและประเมินผลเพ่ือการวิเคราะหผูเรียนนําไปสูการปรับปรุงพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู และวางแผนการจัดการเรียนรูที่สอดคลองกับคุณลักษณะของผูเรียน และเปนสวนหน่ึงของคะแนน “จติ พิสัย”11. กจิ กรรมเสนอแนะ 11.1 ครูสามารถวิเคราะหผูเรียนโดยใหผูเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน (Pre - test) ในแผนน้ีแลวทําแบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) เมื่อจบการเรียนในแผนสุดทาย หรือมีการทดสอบกอนและหลังเรยี นในแตล ะแผนที่เนน เน้อื หาหรอื ความรกู ็ได 11.2 เม่ือครูจัดกระบวนการเรียนรูในแผนพิเศษเรื่อง “การปฐมนิเทศและการวิเคราะหผูเรียน”แลว ครมู ีภารกจิ ท่ีตอ งปฏบิ ตั ิ 2 ประการคือ 1) นําขอมูลที่ไดรับมาปรับปรุงพัฒนาหนวยการเรียนรูและแผนการจัดการเรียนทั้ง 4 หนวยใหสอดคลอ งกบั ความตอ งการของผูเรียน 2) นําผลการวิเคราะหผูเรียนมาวางแผนการพัฒนาผูเรียนเปนรายกลุมและรายบุคคลโดยอาจคนควา วิจัยส่ือนวัตกรรมมาชวยพัฒนาผูเรียนตามมาตราท่ี 30 ของพระราชบัญญัติการศึกษาแหงชาติ พ.ศ.2542 ตอ ไป ลงช่อื ........................................................................ (......................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอน

13บนั ทกึ หลงั สอน1. ผลการจดั การเรียนรู...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................2. ปญหาและอุปสรรค...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................3. วธิ กี ารแกปญ หา............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ลงชอื่ ........................................................................ (......................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอนความคดิ เหน็ ของผูบ งั คบั บญั ชา............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ........................................................................ (.......................................................................) ตําแหนง.................................................................... ผูบังคบั บัญชา

14 ใบงานท่ี 1กิจกรรมเรือ่ ง “จับครู ใู จเพอื่ น”จดุ ประสงคการเรยี นรู แนะนําประวัติและคุณลักษณะของเพื่อน เพ่ือการปรับตัวในการเรียนรูรวมกันไดอยางมีความสขุ (ทกั ษะกระบวนการ – เจตคต)ิคําชีแ้ จง 1. นักเรียนจับคูกันเพ่ือทําความรูจักกันในระยะเวลาอันสั้น โดยผลัดกันสัมภาษณประวัติยอเชน ช่ือจริง ช่ือเลน วันเกิด ครอบครัว วิชาที่ถนัดและไมถนัด และคติประจําใจ เปนตน พรอมท้ังบอกความรูสึกหรือประสบการณท่ีมีตอ “บุหรี่” แลวใชปากกาวาดภาพการตูนหรือสัญลักษณของเพ่ือนและบันทกึ สิง่ ทส่ี ัมภาษณลงใน “การด รูปหัวใจ” (ใชเวลาไมเ กนิ 10 นาท)ี 2. ครูสุมนักเรียนประมาณ 2-3 คูออกมาผลัดกันแนะนําหรือเลาเร่ืองเก่ียวกับตัวเพื่อน หลังจากน้ันนักเรียนชวยกันนําการดรูปหัวใจของสมาชิกทุกคน มาจัดเรียงบนปายหนาหองใหเปนรูปหัวใจดวงใหญด วงเดยี วกัน 3. นักเรียนรวมกันสรุปคุณคาของกิจกรรม “จับคูรูใจเพื่อน” และความหมายของรูปหัวใจที่นักเรยี นรว มกันสรางสรรค

15 เฉลยใบงานท่ี 1 กิจกรรมเรอื่ ง “จับคูรใู จเพือ่ น” จดุ ประสงคก ารเรียนรู แนะนําประวัติและคุณลักษณะของเพื่อน เพ่ือการปรับตัวในการเรียนรูรวมกันไดอยางมี ความสุข (ทกั ษะกระบวนการ - เจตคต)ิ คําช้แี จง 1. นักเรียนจับคูกันเพื่อทําความรูจักกันในระยะเวลาอันส้ัน โดยผลัดกันสัมภาษณประวัติยอ เชน ชอื่ จรงิ ชื่อเลน วนั เกดิ ครอบครัว วิชาที่ถนดั และไมถ นดั และคตปิ ระจาํ ใจ เปนตน พรอมทั้งบอก ความรสู ึกหรือประสบการณท่มี ีตอ “บุหรี่” แลวใชปากกาวาดภาพการตูนหรือสัญลักษณของเพื่อน และ บนั ทึกสง่ิ ที่สมั ภาษณลงใน “การดรปู หวั ใจ” (ใชเวลาไมเ กนิ 10 นาท)ี 2. ครูสุมนักเรียนประมาณ 2-3 คูออกมาผลัดกันแนะนําหรือเลาเรื่องเก่ียวกับตัวเพ่ือน หลังจาก นั้นนักเรียนชวยกันนําการดรูปหัวใจของสมาชิกทุกคน มาจัดเรียงบนปายหนาหองใหเปนรูปหัวใจดวง ใหญดวงเดยี วกนั 3. นักเรียนรวมกันสรุปคุณคาของกิจกรรม “จับคูรูใจเพื่อน” และความหมายของรูปหัวใจท่ี นักเรียนรว มกันสรา งสรรค สุวทิ ย รกั ดี “แวน” ตวั อยางการดรูปหวั ใจ*เกดิ : วันพธุ ที่ 1 ม.ค. 2524 * ชอบเรยี นวทิ ย งามตา นารกั “ตุกตา”*พเ่ี บมิ้ ของนองชาย 1 และ เพราะชอบคิดคน *เกดิ : วนั ศกุ รท ี่ 3 ธ.ค. 2524 * ถนดั เรยี นภาษาเพราะกลา พดู กับฝรั่ง(องั กฤษ)นอ งสาว 1 * ไมช อบเรยี นอังกฤษ *เปน ลกู เดียว * คตพิ จน “หากยงั ไมไ ดทําในสิ่งทีร่ กั จง รกั ในสิง่ ท่ที ํา” * ไมถนดั คณิต เพราะคดิ แลว หนกั สมอง* คติประจาํ ใจ เ เพราะขเ้ี กยี จทอ งศพั ท * คิดอยางไรกับ “บหุ รี่” โชคดีท่ีในบานไมมีใครสูบบุหรี่ อยากชวยรณรงคใ หโรงเรยี นปลอดบุหรี่“ฝนใหไกล แลว ไปใหถ งึ ” * คิดอยางไรกบั “บุหร่ี” “บหุ รี่คือมารชีวิต ไมใ ชม ิตร ยามเหงา”

16 ใบงานที่ 2แบบสาํ รวจ “ลลี าการเรยี นร”ู ของนกั เรยี นช่อื -สกลุ .......................................................................ช้นั .........................เลขที่........................คําช้ีแจง แบบสํารวจนมี้ ีจุดมงุ หมายเพอ่ื ชว ยใหผ เู รยี นและผูสอนมีความเขาใจวธิ กี ารเรยี นรูของผูเรยี นแตละคน ใหก าเครอ่ื งหมาย 9 ลงในกระดาษคําตอบทตี่ รงกบั วิธีการเรียนของตนเองท่ี รายการ ใช ไมใ ช1 การไดเปนผูนําการอภิปรายหรือไดจัดใหมีการอภิปรายจะทําใหฉันเขาใจและเรียนรู ดานตา งๆ ไดด ขี นึ้2 ฉันเรียนรูเร่ืองราวขอมูลตางๆ โดยการอาน การฟง การสังเกต หรือการอภิปรายใน หองเรยี น3 ฉนั เรียนรูไดม าจากการไปฝกในสถานประกอบการ4 ฉันเรยี นรูไดเ รว็ ขึน้ ในเรอื่ งทม่ี สี มมติฐานและทุกอยา งเปนไปตามสมมตฐิ านท่ีวางไว5 ฉันชอบเขารวมทํางานกับกลุมและชุมนุมตางๆ ท่ีนาสนใจ เชนกลุมรณรงคตอตาน ยาเสพติด6 ฉันจดบันทึกการบรรยายหรือการอภิปรายในชั้นเรียนแลวอานทบทวนรายละเอียด หลายคร้งั กอนทดสอบ7 ขณะที่ฉันฟงการบรรยาย ฉันจะสรางภาพในใจเพ่ือประกอบความเขาใจและชวยให ฉันจาํ เร่ืองนนั้ ๆ ได8 ฉันจะมีทักษะในการทํางานมากข้ึน ถาฉันลงมือทําจริง เชน การชวยซอมแซมหรือ ประกอบชน้ิ สวนตางๆ9 ฉันชอบทจี่ ะเรียนรจู ากการจัดอภปิ รายในหอ งเรียนกบั เพอ่ื นๆ10 จากส่ือและกิจกรรมตางๆ เชน กราฟ แผนภูมิ แผนภาพ สถานการณจําลอง และชวย ใหฉนั สามารถสรุปขอ ความรูไ ดด ี11 ฉันสามารถเกิดการเรียนรจู ากสถานการณจรงิ12 ฉันชอบทจ่ี ะเรียนรูจากการจดั นิทรรศการ13 ฉันจะสามารถเกดิ การเรียนรจู ากการทดลอง14 ถาเรอื่ งท่ีเรยี นที่มีลกั ษณะเนน กฎหรอื องคประกอบจะทาํ ใหฉ นั เกิดการเรยี นรไู ดเร็วกวา ปกติ15 ถาฉันไดรวมแสดงละคร บทบาทสมมติ สถานการณจําลอง ฉันจะมีความสุข และ เกดิ การเรยี นรูไดเ รว็ กวาการเปนผูด ูอยางเดียว

17ท่ี รายการ ใช ไมใ ช16 ฉันชอบที่จะเรียนรูจากการอานหนังสือพิมพ หรือวารสารมากกวาการฟงคําบรรยาย จากคนเพยี งคนเดยี ว17 การปฏิบัติงานใดๆ ถาหากมีหลักการกําหนดไวชัดเจน จะทําใหฉันทํางานน้ันได รวดเรว็ กวาปกติ18 ฉันชอบทจ่ี ะเรยี นรูจ ากการไปทศั นศกึ ษา19 ถามีหลักการหรือแนวคิดกําหนดไวแลวจะทําใหฉันสามารถตัดสินใจเลือกไดเร็วกวา เรื่องทว่ั ๆ ไป20 ฉนั จะสามารถเกดิ การเรียนรูไดด ีขนึ้ ถา ไดศ กึ ษาจากแหลง ขอมลู จริง21 ฉันจะเขาใจคําช้ีแจงประกอบงานมอบหมายหรือขอทดสอบมากขึ้น หากเขียนคํา ชี้แจงน้ันบนกระดานหรือเขยี นกาํ กบั บนใบงาน มากกวาการฟงคาํ อธบิ ายของผสู อน22 ในขอสันนิษฐานทุกชนิดถามีหลักการ แนวคิด กําหนดไว จะทําใหสามารถสรุปได อยา งรวดเร็ว23 ฉันชอบท่จี ะเรียนรูจ ากการเขากลุม การเขา รว มกจิ กรรมชมุ นุม24 ฉันจะสามารถเกดิ การเรยี นรจู ากการมีกรณศี ึกษา25 ฉันจะเกิดการเรยี นรเู รอ่ื งใหมๆ ไดโ ดยการอา น หรือทาํ เรื่องนนั้ ๆหลายคร้งั26 ฉนั จะทําเรอื่ งราวตา งๆไดดีถาเรื่องนน้ั เปนทฤษฎหี รือแนวคดิ27 ฉันจะเรียนรูไดดีข้ึนเมื่อฉันมีสวนรวมในเกม หรือรวมแสดงในสถานการณจําลอง หรือทําบทบาทสมมติ28 ฉันจะสามารถเกิดการเรียนรูไ ดด ีถาเปนผูแ สวงหาความรนู นั้ ดวยตนเอง29 เมื่อเกิดปญหาขึ้นทุกครั้ง ฉันจะนําหลักธรรมของศาสนา มาใชเปนแนวทางแกไข ปญ หาเสมอ30 ทุกครั้งท่ีฉันอานหนังสือพิมพ วารสาร หรือหนังสืออ่ืนๆ จะทําใหฉันเกิดการเรียนรู เรอื่ งใหมๆ เสมอ31 ฉันจะมคี วามรสู ึกรวม และจดจําเร่อื งตา งๆไดมากถา ฉันมปี ระสบการณต รง32 กอนที่จะสรปุ หรือแสดงความคิดเห็นในเรอ่ื งใด ๆ ฉันจะตอ งศึกษาขอ มลู ในเร่อื ง นน้ั ๆ อยา งละเอียดกอ น

18 การคดิ คะแนนและแปลความหมาย คําชี้แจง คะแนนมีอยู 2 ระดับ ขึ้นอยูกับการกาเคร่ืองหมาย 9 ในแตละขอ คือ ใช = 1 คะแนนไมใช = 0 คะแนน นักเรียนแตละคนตรวจสอบเคร่ืองหมายที่กาในแตละขอ แลวรวมคะแนนลักษณะการเรียนรูแตละแบบ หากผูเรียนมีคะแนนลักษณะการเรียนรูแบบใดสูง แสดงวาผูเรียนมีทักษะและยทุ ธวิธีการเรียนรูตามแบบนน้ั ๆ และคะแนนสงู รองลงมา แสดงวาผูเรียนมียุทธวิธีการเรียนรูในแบบน้ันรองลงมา โดยเฉพาะอยางย่งิ เมอ่ื คะแนนทไ่ี ดใ กลเ คียงกันสรปุ ผลการวิเคราะหผ เู รยี นของ ...................................................... ช้นั ...............................เลขท่ี ............. นักวเิ คราะห นกั ทฤษฎี นักกิจกรรม นักปฏิบตั ิขอท่ี คะแนน ขอท่ี คะแนน ขอที่ คะแนน ขอท่ี คะแนน 2 4 1 3 6 7 5 810 14 9 1116 17 12 1321 19 15 2025 22 18 2430 26 23 2832 29 27 31รวม รวม รวม รวมอันดบั 1 ..................................................... อนั ดบั 2 .............................................................อันดับ 3 ..................................................... อันดับ 4 .............................................................สรปุ ผล ขา พเจา มีวิธกี ารเรยี นรแู บบO นกั วเิ คราะห O นกั ทฤษฎี O นักกิจกรรม O นักปฏบิ ตั ิ** ท่ีมา : หนว ยศกึ ษานเิ ทศก กรมสามญั ศึกษา. แนวปฏบิ ัตกิ ารวัดและประเมนิ ผลการเรยี นตามแนวทางปฏิรปู การศกึ ษา. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พก ารศาสนา, 2544.

19 ใบงานท่ี 3กจิ กรรมเรื่อง “ภาพอะไรเอย ”จดุ ประสงคการเรยี นรู วิเคราะห วจิ ารณหนวยการเรียนรู พรอมทั้งกําหนดสาระและกิจกรรมทต่ี องการเรียนรเู พ่มิ เติมได(ความรู - ทกั ษะกระบวนการ)คาํ ช้แี จง 1. นักเรียนรวมกันพิจารณารูปภาพการตูนประกอบหนวยการเรียนรูหลักสูตร “โรงเรียนปลอดบุหร่ี” จํานวน 4 หนวย แลวชวยกันวิจารณภาพวา แตละภาพตองการสื่อความหมายเก่ียวกับเรื่องอะไรบาง โดยตัง้ ชือ่ หนว ยและระบสุ าระ ในแตละหนวยใหส ัมพนั ธ กับภาพดว ย 2. ครูเฉลยชื่อหนว ยและสาระท่กี ําหนดไวใ นแตล ะหนวย 3. นกั เรยี นรวมกันวจิ ารณ และเสนอแนะสาระและกิจกรรมทตี่ อ งการเรยี นรูเพิ่มเตมิหนวยที่ 1 ช่อื หนว ย......................................................................................................................... เรอื่ ง/กจิ กรรมที่เรยี น .................................................. ...................................................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... ......................................................................................หนว ยที่ 2 ชือ่ หนว ย ......................................................................................................................... เรอื่ ง/กิจกรรมทเี่ รยี น .................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... ......................................................................................

20หนวยท่ี 3 ชอื่ หนว ย ......................................................................................................................... เรือ่ ง/กจิ กรรมทเ่ี รยี น ......................................................................... ......................................................................... . ......................................................................... ......................................................................... ......................................................................... . .........................................................................หนว ยที่ 4 ช่อื หนว ย ......................................................................................................................... เรอื่ ง/กจิ กรรมทเ่ี รียน ......................................................................... ......................................................................... . ......................................................................... ......................................................................... ......................................................................... .........................................................................

21 เฉลยใบงานที่ 3กจิ กรรมเรอื่ ง “ภาพอะไรเอย ”จดุ ประสงคการเรียนรู วเิ คราะห วจิ ารณหนว ยการเรยี นรู พรอมท้ังกาํ หนดสาระและกิจกรรมทต่ี อ งการเรยี นรเู พิ่มเตมิ ได(ความรู - ทกั ษะกระบวนการ)คําชแี้ จง 1. นักเรียนรวมกันพิจารณารูปภาพการตูนประกอบหนวยการเรียนรูหลักสูตร “โรงเรียนปลอดบุหรี่” จํานวน 4 หนวย แลวชวยกันวิจารณภาพวา แตละภาพตองการสื่อความหมายเกี่ยวกับเรื่องอะไรบาง โดยต้งั ช่อื หนว ยและระบุสาระ ในแตละหนว ยใหส มั พันธ กับภาพดวย 2. ครูเฉลยชอ่ื หนว ยและสาระทก่ี ําหนดไวใ นแตละหนวย 3. นักเรียนรวมกันวิจารณ และเสนอแนะสาระกจิ กรรมทีต่ องการเรียนรูเพ่มิ เตมิหนว ยที่ 1 ชือ่ หนวย รจู กั บุหร่ไี วป องกันภยั วันขางหนา เรื่อง/กิจกรรมท่ีเรยี น - ประวตั คิ วามเปน มาของบหุ ร่ี - สารพษิ ของบุหร่ี - ผลกระทบตอ สขุ ภาพ - สาเหตุท่ที ําใหต ดิ บหุ รี่ ......................................................................................หนว ยท่ี 2 ช่อื หนว ย บหุ ร่ีมผี ลกระทบ เปน จดุ จบของชวี ิต เรือ่ ง/กิจกรรมท่ีเรยี น - ผลกระทบของบุหรที่ ม่ี ตี อพฤติกรรม - ผลกระทบตอ ผูหญงิ ทสี่ บู บหุ รี่ - ผลกระทบตอ ครอบครัว เศรษฐกิจ และสงั คม .....................................................................................

22หนว ยที่ 3 ชื่อหนว ย กฎหมายคมุ ครอง เราตองรูทนั ดับควันบุหรี่ เรื่อง/กิจกรรมทเี่ รยี น - กฎหมายเกย่ี วกับบหุ รี่ - การรเู ทาทันกลยุทธของบหุ ร่ี - บหุ รีม่ อื สอง ......................................................................................หนว ยที่ 4 ชอ่ื หนว ย ใชกลยทุ ธช้นั เซียน ชว ยโรงเรียนใหปลอดบหุ ร่ี เร่อื ง/กจิ กรรมทเี่ รยี น - การคบเพ่อื น - วิธกี ารเลิกบหุ รี่ - กิจกรรมรณรงคเ พื่อการไมสบู บุหรใ่ี นโรงเรียน ....................................................................................

23 หนวยการเรียนรทู ่ี 1เร่อื ง “รจู กั บหุ รี่ไว ปองกนั ภัยวนั ขางหนา ”

25 กลมุ สาระการเรียนรสู ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา โรงเรียน........................................... รายวชิ าโรงเรยี นปลอดบหุ รี่ (สาระการเรยี นรเู พ่มิ เติม) ชว งชัน้ ที่ 3 (ม.1-ม.3) หนวยการเรียนรูที่ 1 เรื่อง “รจู กั บหุ รไี่ ว ปองกนั ภยั วันขา งหนา ” แผนการจดั การเรียนรูที่ 1 เรื่อง “บุหร่ตี ัวรา ย มาจากไหน” เวลา 1 ช่วั โมง1. มาตรฐานการเรยี นรู มาตรฐานหลัก พ 4.1 เห็นคุณคาและมีทักษะในการสรางเสริมสุขภาพ การดํารงสุขภาพการปอ งกนั โรค และการสรา งเสรมิ สมรรถภาพเพือ่ สุขภาพ มาตรฐานชว งชนั้ ขอ 12. ผลการเรยี นรูทค่ี าดหวงั รู เขาใจประวตั ิ ความเปน มาของบหุ รีแ่ ละตระหนกั ถึงปญหาการสูบบหุ รใ่ี นประเทศไทย3. จดุ ประสงคก ารเรยี นรู บอกประวัติความเปนมาของบุหรี่และการสูบบุหรี่ในประเทศไทยได (ความรู ทักษะกระบวนการ)4. สาระการเรยี นรู ประวัติความเปนมาของบุหรี่และการสบู บุหรีใ่ นประเทศไทย5. สาระสาํ คญั การสบู บหุ ร่เี กิดจากชาวอนิ เดยี นแดงซ่งึ เปน ชนพืน้ เมืองในทวปี อเมริกา ไดใ ชยาสบู เปนพวกแรกโดยปลูกยาสูบเพื่อใชเปนยาและนํามาสูบในพิธีกรรมตางๆ โดยการคนพบของ คริสโตเฟอร โคลัมบัสเม่ือ พ.ศ. 2035 ตอมามีการปลูกในบราซิล โปรตุเกส สเปน ฝร่ังเศส อังกฤษ และ 200 ปตอมาการทาํ ไรยาสบู เชงิ พาณชิ ยจงึ เกิดขน้ึ อยางแพรหลายทั่วโลก สําหรับประเทศไทยมีการใชยาสูบตั้งแตสมัยอยุธยา เมื่อ พ.ศ. 2230 และตอมาในสมัยรัตนโกสินทรมีการผลิตบุหรี่ขายโดยบริษัทของชาวอังกฤษตอมารัฐบาลไดจัดตั้งโรงงานยาสูบและซ้ือกิจการจากบริษัทกวางฮก บริษัทฮอฟฟน และบริษัทบริติชอเมริกันโทแบคโค มาดําเนินการเองแลวรวมกิจการภายใตชื่อวา โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง มาจนถึงปจจุบัน

266. กระบวนการเรียนรู ขั้นนํา 6.1 นักเรียนรวมกันนําบุหรี่ 1 มวน มาแกะไสออกใหเห็นสวนประกอบของบุหร่ีท้ังหมด และรวมกันวเิ คราะหวิจารณใ นประเด็นตอ ไปน้ี - สว นประกอบของบุหรท่ี ่นี ักเรยี นเหน็ มีอะไรบาง - เหตใุ ดผลิตภัณฑบ หุ ร่ีจึงมีการผลติ อยา งหลากหลายเพิม่ ชนดิ มากข้ึนในปจจุบนั - ควรลดหรือเพ่มิ ปรมิ าณการผลิตบุหร่ีเพราะเหตใุ ด โดยครใู หขอเสนอแนะเพิม่ เตมิ ขนั้ สอน 6.2 แบง นกั เรียนเปนกลมุ ๆ ละประมาณ 5 คน รว มกันศกึ ษาประวตั คิ วามเปน มาของบหุ รแี่ ละสถติ ิเกย่ี วกบั การสูบบุหร่จี าก ใบความรทู ี่ 1 เร่อื ง “บหุ ร่ตี วั รา ย มาจากไหน” และศกึ ษาคน ควา เพมิ่ เติมจากสอ่ื การเรียนรอู ื่น ๆ 6.3 นักเรียนแตละกลุมปฏิบัติ ใบงานท่ี 1 เรื่อง “เลาความเปนมาของบุหรี่จากภาพการตูน”โดยรวมกันสรุปความเปน มาของบหุ ร่ี ในแตล ะตอนใหถ ูกตอง 6.4 นักเรยี นรวมกนั นาํ ผลงานจากใบงานที่ 1 จดั แสดงบนปายนเิ ทศ ครูสังเกตกระบวนการเรียนรู และใหข อเสนอแนะเพม่ิ เติม ขนั้ สรปุ 6.5 นักเรียนรวมกันสรุปประวัติความเปนมาของบุหร่ีและเสนอแนวทางลดปญหาการสูบบุหรี่ในประเทศไทย7. วิธกี ารจัดการเรยี นรู การจดั การเรียนรทู เ่ี นนการคิดเชิงวเิ คราะห (Analytical Thinking)8. การบรู ณาการ 8.1 บรู ณาการกบั กลมุ สาระการเรียนรูศ ลิ ปะ (ภาพการตนู ประกอบใบความรทู ่ี 1) 8.2 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูภาษาไทย (การเขียนขอความหรือคําขวัญประดับตกแตงปายนิเทศ)9. สอื่ /แหลงการเรียนรู 9.1 ใบความรูท่ี 1 เร่อื ง “บุหรี่ตวั รา ย มาจากไหน” 9.2 ใบงานท่ี 1 เรื่อง “เลาความเปนมาของบหุ รีจ่ ากภาพการต นู ” 9.3 เวบ็ ไซต http://www.ashthailand.or.th http://www.smokefreezone.or.th

2710. การวดั และประเมินผล 10.1 วธิ ีการวัด 1) ประเมนิ การปฏบิ ตั ใิ บงานท่ี 1 2) ประเมินกระบวนการเรียนรู “หวั ใจนกั ปราชญ” 10.2 เคร่อื งมือวดั 1) แบบประเมนิ การปฏิบตั ิใบงานท่ี 1 พรอมเฉลย 2) แบบประเมนิ กระบวนการเรยี นรู “หัวใจนกั ปราชญ” 10.3 เกณฑการวัด - เกณฑการผา นรอ ยละ 50 ของคะแนนเต็ม - การใหคะแนนแบบกําหนดเกณฑ (Rubric) ใชวิธีการจัดลําดับคุณภาพ (Rating Scale)สามารถประเมินพฤติกรรมหรือผลงานไดตามสภาพจรงิ11. กิจกรรมเสนอแนะ ครูอาจเปดโอกาสใหผูเรียนมีสวนรวมในการเปนคณะกรรมการศูนยการเรียนรูกลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษาหรือศูนยรณรงคเพ่ือการไมสูบบุหรี่ สามารถศึกษาคนควา รวบรวมขอมูลและท่นี า สนใจเก่ียวกับบุหรจ่ี ัดทาํ เปน ปา ยนเิ ทศ เผยแพรข อ มูลทท่ี นั สมยั อยูตลอดเวลา ลงชอื่ ........................................................................ (.......................................................................) ตาํ แหนง................................................................... ครผู สู อน

28บันทึกหลังสอน1. ผลการจดั การเรียนรู...........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................2. ปญหาและอปุ สรรค...........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................3. วธิ กี ารแกป ญหา........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ลงชอื่ ........................................................................ (.......................................................................) ตาํ แหนง ................................................................... ครผู ูสอนความคดิ เหน็ ของผบู ริหารสถานศกึ ษา/ผูทไี่ ดรบั มอบหมาย.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ........................................................................ (.......................................................................) ตําแหนง ................................................................... ผอู าํ นวยการสถานศึกษา

29 ใบความรทู ่ี 1 เรือ่ ง “บุหรต่ี วั รา ย มาจากไหน”จุดประสงคการเรียนรู บอกประวัติความเปนมาของบหุ รี่และการสบู บหุ ร่ีในประเทศไทยได (ความรู) ตนกาํ เนดิ ของบุหรี่ ชาวอินเดียนแดงซึ่งเปนชนพื้นเมืองในทวีปอเมริกา ไดเริ่มตนใชยาสูบเปนพวกแรกโดยปลูกยาสูบเพือ่ ใชเปนยาและนํามาสบู ในพธิ ีกรรมตา ง ๆ ใน พ.ศ. 2035 เมอื่ ครสิ โตเฟอร โคลมั บสั (ChristopherColumbus) เดินเรือไปขึ้นฝงที่ซันซัลวาดอร ในหมูเกาะเวสตอินดีสนั้น ไดเห็นชาวพื้นเมืองนําเอาใบไมชนดิ หนงึ่ มามวนและจุดไฟตอนปลายแลวดดู ควนั 1. ชาวอนิ เดยี แดง ทวีปอเมรกิ า พ.ศ. 2035 ตอ มา พ.ศ. 2091 มีการปลกู ยาสบู ในบราซลิ ซึง่ เปน อาณานิคมของโปรตุเกสในทวปี อเมริกาใตเพือ่ เปน สินคาสง ออก เปนผลใหย าสบู แพรหลายเขา ไปในประเทศโปรตุเกสและสเปนตามลําดับ ตอมาใน พ.ศ. 2103 นายฌอง นิโกต (Jean Nicot) เอกอัครราชทูตฝรัง่ เศสประจําประเทศโปรตเุ กส ไดส งเมล็ดยาสบู มายังราชสํานกั ฝรั่งเศส ชื่อของนายนโิ กตจ งึ เปน ทม่ี าของช่ือสารนโิ คตนิ (Nicotin) ที่รจู ักในปจจบุ ันใน พ.ศ. 2107 เซอรจอหน ฮอคกินส (Sir John Hawkins) ไดน าํ ยาสบู เขาไปในประเทศอังกฤษ และในพ.ศ. 2155 นายจอหน รอลฟ (John Rolfe) ชาวองั กฤษประสบผลสําเร็จในการปลกู ยาสบู เชงิ พาณชิ ยเปนครงั้ แรก และ 7 ปต อมา ก็ไดส ง ออกผลผลิตไปยังประเทศอาณานิคมเปน จาํ นวนมหาศาล อีก 200 ปต อมาการทําไรยาสบู เชิงพาณชิ ยจงึ เกิดขึน้ อยา งแพรห ลายทวั่ โลก2. ฌอง นิโกต 3. จอหน รอลฟสง เมล็ดยาสบู ไป ชาวอังกฤษปลูกฝร่งั เศส : ทมี่ าของ ยาสบู เชงิ พาณิชย\"นโิ คติน” พ.ศ. 2155

30 การสูบบหุ รใ่ี นประเทศไทย ในประเทศไทยมีการใชยาสูบต้ังแตสมัยอยุธยาแลว โดยมีหลักฐานจากจดหมายเหตุของเมอรซิเออร เดอลาลูแบร (Monsieur De La Loube’re) อัครราชทูตฝรั่งเศสที่เดินทางมาเมืองไทยสมัยสมเด็จพระนารายณมหาราช เมื่อ พ.ศ. 2230 ไดเขียนเลาเรื่องประเทศสยามวา คนไทยชอบใชยาสูบอยางฉุนท้ังผูชายและผูหญิง โดยไดยาสูบมาจากเมืองมะนิลาในหมูเกาะฟลิปปนส จากประเทศจีน และที่ปลูกในประเทศเอง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกลาเจาอยูหัว พระวรวงศเธอพระองคเจาสงิ หนาทราชดาํ รงคฤทธ์ิไดทรงประดิษฐบุหร่กี นปานขนึ้ เพือ่ สบู ควันและอมยากับหมากพรอมกัน 4. สมัยสมเดจ็ พระนารายณมหาราช คนไทยไดยาสบู มาจากฟลปิ ปนส จนี และปลูกเอง (พ.ศ.2230) คร้ันถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว มีการผลิตบุหรี่ข้ึนโดยบริษัทที่มีชาวอังกฤษเปนเจาของ ไดเปดดําเนินการเปนบริษัทแรกใน พ.ศ. 2460 การผลิตบุหร่ีในระยะแรกจะมวนดวยมือ ตอมาในรัชสมัยพระสมเด็จพระมงกุฎเกลาเจาอยูหัว มีการนําเครื่องจักรเขามาจากประเทศเยอรมนี และทําการผลิตบุหรี่ออกมาจําหนายหลายย่ีหอ การสูบบุหรี่จึงแพรหลายมากขึ้น จนกระท่ังในพ.ศ. 2482 รัฐบาลไดจัดต้ังโรงงานยาสูบขนึ้ โดยซ้ือกิจการมาจากหา งหนุ สวนบรู พายาสูบ จาํ กัด (สะพานเหลือง)ถนนพระราม 4 กรุงเทพฯ และดําเนินกิจการอุตสาหกรรมยาสูบภายใตการควบคุมของกรมสรรพสามิตกระทรวงการคลัง หลังจากน้ันรัฐบาลไดซื้อกิจการของบริษัทกวางฮก บริษัทฮอฟฟน และบริษัทบริติชอเมริกันโทแบคโค เพิ่มขึ้น แลวรวมกิจการภายใตชื่อวา “โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง”มาจนถึงปจจุบัน5. ชาวองั กฤษต้งั บริษัท บหุ รใี่ นไทยพ.ศ. 2460 6. ตงั้ โรงงานยาสบู พ.ศ. 2482ทม่ี า : ศ.เกยี รตคิ ณุ นพ.ประกิต วาทีสาธกกจิ , ผศ.กรองจติ วาทีสาธกกจิ . “สารานกุ รมไทยสําหรับเด็กและเยาวชน โดยพระราชประสงคใน พระบาทสมเด็จพระเจาอยูห วั เลม 28”, 2547. หนา 161-162.

31 ใบงานท่ี 1เรื่อง “เลา ความเปนมาของบหุ ร่ี จากภาพการตนู ”จุดประสงคก ารเรียนรู บอกประวตั คิ วามเปน มาของบุหรแี่ ละการสบู บุหรใ่ี นประเทศไทยได (ความรู)คําช้แี จง เมือ่ นักเรียนศกึ ษาใบความรทู ่ี 1 เรอื่ ง “บหุ รต่ี วั ราย มาจากไหน” แลวใหนาํ ความรทู ไี่ ดมาเขียนบรรยายภาพขา งลา งนี้ จาํ นวน 6 ภาพ ใหไดใ จความทถี่ กู ตองพอเปน สงั เขป1. ชาวอินเดยี แดง ทวีปอเมริกา (พ.ศ.2035) คาํ บรรยายภาพท่ี 12. ฌอง นิโกต สงเมลด็ ยาสบู ไปฝรง่ั เศส ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... คาํ บรรยายภาพที่ 2 ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ......................................................................3. จอหน รอลฟ ชาวองั กฤษปลูกยาสูบเชิงพาณิชย คําบรรยายภาพท่ี 3 (พ.ศ.2155) ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ......................................................................

32 คาํ บรรยายภาพท่ี 4 ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ......................................................................4. สมยั สมเดจ็ พระนารายณม หาราช คนไทย ไดยาสบู มาจากฟลปิ ปนส จนี และปลูกเอง (พ.ศ. 2230) คาํ บรรยายภาพที่ 5 ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... 5. ชาวองั กฤษตงั้ บรษิ ทั บุหรใ่ี นไทย (พ.ศ. 2460) คาํ บรรยายภาพท่ี 6 ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... ...................................................................... 6. ต้ังโรงงานยาสูบ (พ.ศ. 2482)

33 กลมุ สาระการเรยี นรูส ุขศึกษาและพลศกึ ษา โรงเรยี น........................................... รายวิชาโรงเรยี นปลอดบหุ รี่ (สาระการเรยี นรเู พิ่มเตมิ ) ชวงชัน้ ที่ 3 (ม.1-ม.3) หนว ยการเรยี นรูท ่ี 1 เร่ือง “รจู ักบุหรี่ไว ปองกนั ภยั วนั ขา งหนา ” แผนการจัดการเรียนรูท่ี 2 เร่อื ง “สารใดวา แรงฤทธิ์ ไมเ ทา สารพษิ ในบุหรี่” เวลา 1 ช่วั โมง1. มาตรฐานการเรยี นรู มาตรฐานหลกั พ 4.1 เห็นคุณคาและมีทักษะในการสรางเสริมสุขภาพ การดํารงสุขภาพการปองกันโรค และการสรางเสรมิ สมรรถภาพเพ่อื สุขภาพ มาตรฐานชว งชนั้ ขอ 1-22. ผลการเรยี นรูท่ีคาดหวงั รู เขาใจ และมีทักษะกระบวนการในการทดลองหาสารพิษในควันบุหรี่ จนเกิดความตระหนักในพิษภยั ของบุหร่ที มี่ ตี อชีวิตมนษุ ย3. จุดประสงคการเรียนรู 3.1 อธิบายสวนประกอบของสารพิษในควันบุหรี่ และผลกระทบท่ีเกิดกับรางกายและชีวิตมนุษยได (ความรู) 3.2 ปฏิบัติการทดลอง “ผลการเผาไหมของบุหรี่” จนสามารถพิสูจนไดวามีสารพิษอยูในควันบุหรจ่ี ริง (ความรู - ทกั ษะกระบวนการ) 3.3 เขียนคําขวัญสรา งความตระหนักในพิษภยั ของบหุ ร่ีได (ความร-ู ทกั ษะกระบวนการ-เจตคติ)4. สาระการเรียนรู 4.1 สวนประกอบของสารพษิ ในควนั บหุ รแี่ ละผลกระทบทีเ่ กิดกบั รางกายและชวี ติ มนุษย 4.2 การทดลอง “ผลการเผาไหมข องบหุ ร่ี” 4.3 การถา ยทอดความรู ความเขา ใจ และความตระหนักในพษิ ภัยของบหุ รี่5. สาระสําคัญ บหุ ร่ีเมือ่ เกดิ การเผาไหมจะทาํ ใหเกิดสารเคมีมากกวา 4,000 ชนิด สารหลายรอยชนิดมีผลตอการทํางานของอวัยวะตางๆ ในรา งกาย และมสี าร 60 ชนิดที่เปน สารกอ มะเร็ง

346. กระบวนการเรียนรู ชั่วโมงท่ี 1 ขัน้ นาํ 6.1 นักเรยี นทาํ แบบทดสอบกอ นเรียนจํานวน 10 ขอ 6.2 นักเรียนรวมกันอานสื่อคําขวัญประกอบรูปภาพ ความวา “ชีวิตจะสั้น เพราะควันบุหร่ี”แลว รวมกันวจิ ารณค ําขวญั ทั้งในดานวรรณศลิ ปหรอื ความไพเราะในการใชภาษาและในดา นความหมาย 6.3 ครใู หขอเสนอแนะเพ่มิ เติมวา การท่ีคนติดบุหรม่ี ีอายุส้ันน้นั เปนเพราะในควันบุหร่ีมีสารพิษที่มีผลกระทบตอ รา งกายเปน อันมาก ดังนั้นเราจงึ จําเปนตองศกึ ษาคนควา วา มสี ารพิษอะไรบา งเพอื่ จะไดเกิดความตระหนักและปอ งกันหรือหลกี เลี่ยงไดถ กู วธิ ี ขัน้ สอน 6.4 แบงนักเรียนเปนกลุมๆละประมาณ 5-7 คน รวมกันศึกษาใบความรูท่ี 1 เรื่อง “สารพิษในบุหรี่” พรอมศึกษาคนควาขอมูลเพ่ิมเติมจากสื่อและแหลงเรียนรูอ่ืน ๆ และปฏิบัติตาม ใบงานท่ี 1 เร่ือง“สารพษิ ในควันบุหร่มี จี ริงหรือไม” ดงั นี้ กจิ กรรมที่ 1 กิจกรรมระดมความคิดเห็นเรอ่ื ง “สารพิษในบุหรี่” โดยสรุปประเด็นจากใบความรู ดังนี้ - มีสารพิษอะไรบางในบหุ ร่ี - สารพิษเหลานม้ี ลี ักษณะอยางไรและมีผลกระทบตอ รางกายอยา งไร ครูให คําปรึกษา เสรมิ แรงใหก ําลังใจ และประเมนิ กระบวนการกลุม 6.5 กิจกรรมที่ 2 กิจกรรมการทดลอง “ผลการเผาไหมของบุหรี่” นักเรียนแตละกลุมรวมกันทําการทดลองเร่ือง “ผลการเผาไหมของบุหร่ี” เพื่อพิสูจนวาสารพิษในควันบุหรี่มีจริงหรือไม โดยปฏิบัติตามขั้นตอนของใบงาน ครสู งั เกตกระบวนการกลมุ ใหค าํ ปรกึ ษาและเสรมิ แรงใหกําลงั ใจ 6.6 นักเรียนแตละกลุมบันทึกกระบวนการทดลองและผลการทดลองพรอมท้ังนํามาวิเคราะหวิจารณและสรุปสารเคมีซ่ึงเปนสารพิษท่ีเกิดจากการเผาไหมของบุหรี่ไดแก นิโคติน ทารคารบอนมอนอกไซด ไนโตรเจนไดออกไซด กาซไฮโดรเจนไซยาไนด แอมโมเนีย และไซยาไนดโดยศกึ ษาจากใบความรูและสอ่ื การเรยี นรูเพ่มิ เตมิ และใหน กั เรียนทกุ คนจดบนั ทึกลงในสมดุ ขั้นสรปุ 6.7 กิจกรรมท่ี 3 ใหนักเรียนชวยกันสรุปบทเรียนวาสารพิษในควันบุหรี่มีอะไรบางมีผลกระทบตอรางกายอยางไร และรวมกันเขียนคําขวัญสรางความตระหนักในพิษภัยของบุหร่ีเผยแพรภายในโรงเรยี น ครูสรุปใหขอเสนอแนะเพ่ิมเติมและใหนักเรียนทําแบบทดสอบจํานวน 10 ขอ และประเมินผลการเรียนรู

357. วิธีการจัดการเรยี นรู7.1 การจดั การเรยี นรูแ บบ CIPPA ModelC = Construction = สรา งองคค วามรูI = Interaction = สรางปฏิสมั พันธก ับผูอื่นและสิ่งแวดลอ มP = Participation = มสี ว นรว มในการเรียนP = Process Learning = การเรยี นรอู ยางมีกระบวนการA = Application = นําไปใชใ นชวี ติ จริง8. การบรู ณาการ8.1 บรู ณาการกับกลมุ สาระการเรียนรูภ าษาไทย (การอา นและวจิ ารณคําขวัญ “ชวี ิตจะสน้ั เพราะควันบหุ รี”่ )8.2 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร (การทดลองวิทยาศาสตรเร่ือง “ผลการเผาไหมข องบุหรี่”)9. ส่อื /แหลงการเรยี นรู9.1 แบบทดสอบกอ นเรียนและหลังเรียน9.2 คาํ ขวญั ประกอบรปู ภาพ9.3 ใบความรทู ่ี 1 เรอ่ื ง “สารพิษในบุหร่ี”9.4 ใบงานที่ 1 เร่ือง “สารพษิ ในบุหร่มี ีจริงหรอื ไม”9.5 วสั ดอุ ุปกรณก ารทดลองเรอื่ ง “ผลการเผาไหมข องบุหร”ี่9.6 วสั ดุอปุ กรณใ นการเขยี นคาํ ขวัญเผยแพร9.7 สมดุ บันทกึ ของนกั เรียน10. การวัดและประเมนิ ผล10.1 วธิ กี ารวดั 1) การทดสอบกอนเรียน/หลังเรียน 2) ประเมินกระบวนการปฏบิ ัติงานกลุม 3) ประเมินกระบวนการเรยี นรู “หัวใจนกั ปราชญ”10.2 เครื่องมอื การวดั 1) แบบทดสอบกอ นเรยี น/หลงั เรยี น 2) แบบประเมนิ กระบวนการปฏบิ ตั ิงานกลมุ 3) แบบประเมนิ กระบวนการเรยี นรู “หัวใจนกั ปราชญ”

3611. กิจกรรมเสนอแนะ 11.1 การทดลองเร่ือง “ผลการเผาไหมของบุหร่ี” ครูอาจเปดโอกาสใหนักเรียนเลือกใชและดัดแปลงวัสดุอุปกรณไดอยางอิสระ แตกระบวนการและการทดลองตองเปนไปตามจุดประสงคที่กาํ หนดไว 11.2 ควรมีการเผยแพรผลการทดลองดังกลาวใหนักเรียนทั่วไปในโรงเรียนไดทราบและเกิดความตระหนักในสารพิษของบหุ รร่ี ว มกนั ลงชอื่ ........................................................................ (................................................................................) ตําแหนง................................................................... ครผู สู อน

37บันทกึ หลังสอน1. ผลการจัดการเรยี นรู....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................2. ปญ หาและอปุ สรรค....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................3. วธิ ีการแกป ญ หา.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ลงชอื่ ........................................................................ (.......................................................................) ตําแหนง ................................................................... ครผู สู อนความคดิ เหน็ ของผูบรหิ ารสถานศึกษา/ผทู ไี่ ดร บั มอบหมาย............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ........................................................................ (.......................................................................) ตําแหนง ................................................................... (ผอู าํ นวยการสถานศึกษา)

38 แบบทดสอบ (กอ นเรียน – หลงั เรียน) เรือ่ ง “สารพษิ ในบหุ ร”ี่จุดประสงคก ารเรยี นรู อธบิ ายสว นประกอบของสารพษิ ในควันบหุ รี่ และผลกระทบทเี่ กดิ กับรางกาย และชีวิตมนษุ ยได (ความร)ูคําชแ้ี จง จงเลอื กคาํ ตอบทถ่ี กู ตอ งท่ีสดุ เพียงขอ เดียว1. สารพษิ ใดในบหุ ร่ที ่เี ปนสารเสพติดและทาํ ใหเ กิดโรคหวั ใจก. ทาร ข. นโิ คตนิค. แอมโมเนีย ง. ไนโตรเจนไดออกไซด2. สารพษิ ใดในบหุ รท่ี ี่มีฤทธ์กิ ดั เนื้อเย่ือบุผวิ หลอดลมและถงุ ลมปอดจนทําใหเ ปน โรคถุงลมปอดโปงพองก. ทาร ข. นิโคตนิค. แอมโมเนยี ง. ไนโตรเจนไดออกไซด3. สารพิษใดในบุหรท่ี ่ีมลี กั ษณะเปน ยางเหลวสีนํา้ ตาลจะรวมตวั กบั ฝุนละอองทสี่ ดู เขา ไปทําใหเกิดอาการไอและกอใหเกดิ มะเร็งปอดก. ทาร ข. นิโคตินค. แอมโมเนยี ง. ไนโตรเจนไดออกไซด4. สารพษิ ใดในบหุ ร่ีท่ีใชป รงุ แตงรสชาติทาํ ใหแ สบตา แสบจมกู และหลอดลมอักเสบก. ทาร ข. นิโคตนิค. แอมโมเนยี ง. ไนโตรเจนไดออกไซด5. สารพิษใดในบหุ รี่ทใี่ ชเปน ยาเบ่ือหนูก. ไซยาไนด ข. ฟอรม ารลดีไฮดค. คารบอนมอนอกไซด ง. ไฮโดรเจนไดออกไซด6. สารพิษใดในบุหรที่ ่ใี ชในการดองศพก. ไซยาไนด ข. ฟอรมารลดไี ฮดค. คารบอนมอนอกไซด ง. ไฮโดรเจนไดออกไซด

397. สารพิษใดในบหุ รีท่ เ่ี ปน กา ซชนดิ เดยี วกบั ทพ่ี น ออกมาจากทอไอเสียรถยนต เมอ่ื เขา สูรา งกายจะไปขดั ขวางการลําเลยี งออกซเิ จนทาํ ใหผ สู บู บหุ รีไ่ ดร บั ออกซิเจนนอยลง หวั ใจเตน เรว็ และทํางานหนกั ข้นึก. ไซยาไนด ข. ฟอรม ารลดไี ฮดค. คารบอนมอนอกไซด ง. ไฮโดรเจนไดออกไซด8. สารพิษใดในบหุ รี่ท่ีเปนกา ซพษิ ใชใ นสงครามเมอ่ื สูดดมเขา ไปจะทาํ ใหเ กิดอาการไอ มเี สมหะและเปนโรคหลอดลมอักเสบเรอื้ รงัก. ไซยาไนด ข. ฟอรม ารล ดไี ฮดค. คารบ อนมอนอกไซด ง. ไฮโดรเจนไดออกไซด9. จากการทดลอง “ผลการเผาไหมข องบุหรี”่ จะพบวาสําลที ่ีใชอ ดุ กน บหุ รีแ่ ทนกน กรองจะมีสารพิษเกาะอยสู ารพิษนนั้ มีลักษณะเปน สใี ดก. สีเทาหรือสดี ํา ข. สมี วงหรอื สีนา้ํ เงินเขมค. สีแดงหรือสเี ลือดหมู ง. สีเหลอื งหรือสนี าํ้ ตาลเขม10. ในบรรดาสารพษิ ของบุหร่ีสารชนดิ ใดทีเ่ ขา สสู มองไดเร็วทสี่ ุดภายใน 7 วินาที และมฤี ทธิก์ ดระบบประสาททาํ ใหเ ลกิ สบู บุหรี่ยากก. ทาร ข. นิโคตินค. คารบอนมอนอกไซด ง. ไฮโดรเจนไดออกไซด เฉลยแบบทดสอบ เรอื่ ง “สารพษิ ในบหุ ร”ี่ 1.ข 2.ง 3.ก 4.ค 5.ก 6.ข 7.ค 8.ข 9.ง 10.ง

40 สื่อการเรียนรู คําขวัญประกอบรูปภาพรายวชิ าโรงเรยี นปลอดบุหรี่ ชวงชั้นที่ 3 (ม.1-ม.3)

41 ใบความรทู ี่ 1เรื่อง “สารพษิ ในบหุ ร่ี”จดุ ประสงคการเรยี นรู 1. อธิบายสว นประกอบของสารพิษในควันบหุ รี่ และผลกระทบที่เกิดกับรา งกายและชวี ติ มนษุ ยไ ด(ความร-ู เจตคต)ิ 2. ปฏิบัติการทดลอง “ผลการเผาไหมของบุหรี”่ จนสามารถพสิ ูจนไ ดว ามสี ารพิษอยใู นควันบหุ รจี่ รงิ(ความร-ู ทักษะกระบวนการ- เจตคติ) 3. เขยี นคาํ ขวญั สรางความตระหนกั ในพิษภยั ของบหุ รไ่ี ด (ความร-ู ทักษะกระบวนการ- เจตคติ)ในบุหร่ีมสี ารพษิ อะไรบา ง ในบหุ รี่ 1 มวน เมอ่ื เกิดการเผาไหม จะทาํ ใหเ กดิ สารเคมี มากกวา 4,000 ชนิด สารหลายรอยชนดิ มีผลตอ การทาํ งานของอวยั วะตา งๆ ในรางกาย และมีกวา 60 ชนิด ทเ่ี ปนสารกอ มะเรง็สารพิษทีส่ ําคญั ในควันบหุ รนี่ อกจากสารกอ มะเร็ง คือ 1. นิโคตนิ (Nicotine) เปน สารทีม่ ีลกั ษณะคลายนา้ํ มนั ไมม สี ี เปน สารทท่ี าํ ใหเกดิ การเสพติดและทําใหเ กิดโรคหัวใจ นิโคตนิ สว นใหญจ ะไปจบั อยูทป่ี อด และบางสวนถกู ดูดซมึ เขากระแสเลือด 2. ทาร (Tar) ประกอบดวยสารหลายชนิด เปนละอองเหลวเหนียว สีนํ้าตาลคลายนํ้ามันดินรอยละ 50 ของทารจะจับอยทู ่ีปอด ทาํ ใหเยอ่ื บุหลอดลมไมส ามารถเคลื่อนไหวไดตามปกติ 3. คารบอนมอนอกไซด (Carbon monoxide) ซึ่งเปนกาซชนิดเดียวกับที่พนออกจากทอไอเสียรถยนต กาซน้ีจะขัดขวางการลําเลียงออกซิเจนของเม็ดเลือดแดงทําใหผูสูบบุหร่ีไดรับออกซิเจนนอยลงไมต ่าํ กวารอยละ 10-15 หวั ใจตอ งเตน เรว็ ขึน้ และทาํ งานมากขึ้น 4. ไฮโดรเจนไดออกไซด (Hydrogen dioxide) เปนกาซพิษท่ีใชในสงคราม กอใหเกิดอาการไอมีเสมหะหลอดลมอักเสบเรือ้ รัง 5. ไนโตรเจนไดออกไซด (Nitrogen dioxide) เปน สาเหตุของโรคถงุ ลมปอดโปงพอง เพราะไปทําลายเย่อื บุหลอดลมอักสวนปลายและถุงลม 6. แอมโมเนีย (Ammonia) ใชในการปรุงแตงรสชาติและชวยใหนิโคตินดูดซึมเขาสูสมองและประสาทเรว็ ขึ้น มีฤทธิ์ระคายเคอื งเน้อื เยือ่ ทาํ ใหแ สบตา แสบจมูก หลอดลมอักเสบ 7. ไซยาไนด (Cyanide) ซงึ่ ปกติเปนยาเบอื่ หนู ก็พบในบหุ ร่ีดว ยเชนกนั 8. ฟอรม ารลดีไฮด เปน สารท่ใี ชใ นการดองศพ

42 การสบู บุหรี่เปนวิธกี ารที่ทําใหสมองไดรับสารเสพตดิ (นโิ คติน) เรว็ ทีส่ ุด คอื ภายใน 7 วินาทเี ทา น้นั ซึ่งเรว็ กวาการฉดี เฮโรอีนเขา เสน เลือดเสยี อีกการสูบบหุ รี่ 1 ซอง จะทาํ ใหช วี ติ ของผสู บู บหุ รส่ี ้นั ลงประมาณ 2 ชว่ั โมง 20 นาที หรอื สบู บุหรี่ 1 มวน ทาํ ใหชวี ติ ส้ันลงไป 7 นาที


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook