๓ การเมือง การปกครอง ๔ วฏั สงสาร ๑๐. ซากเอ๋ยซากศพ อาจเป็นซากนกั รบผกู้ ลา้ หาญ เช่นชาวบา้ นบางระจนั ขนั ราบาญ กบั หมู่ม่านมาประทษุ อยธุ ยา ไม่เช่นน้นั ทา่ นกวเี ช่นศรีปราชญ์ นอนอนาถเล่หใ์ บไ้ รภ้ าษา หรือผกู้ บู้ า้ นเมืองเรืองปัญญา อาจจะมานอนจมถมดินเอย ขอ้ ใดต่อไปน้ีแสดงใหเ้ ห็นถึง “อจั ฉริยลกั ษณ์” ของกวผี แู้ ตง่ บทประพนั ธข์ า้ งตน้ ไดช้ ดั เจนที่สุด ๑ การสอดแทรกคุณธรรมเรื่องความสมคั รสมานสามคั คี ๒ การเพม่ิ ขอ้ มูลความรูเ้ ก่ียวกบั วรี กรรมของบรรพชนท่ปี กป้องชาติ ๓ การรู้จกั ดดั แปลงวฒั นธรรมต่างชาติใหเ้ ขา้ กบั วฒั นธรรมไทย ๔ การใชส้ านวนภาษาที่ปลุกเรา้ ให้รู้จกั มีความกตญั ญูกบั บา้ นเมือง เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre - Test) ) กลอนดอกสร้อยราพงึ ในป่ าช้า ๑. ๒ ๒. ๑ ๓. ๔ ๔. ๔ ๕. ๔ ๖. ๓ ๗. ๒ ๘. ๒ ๙. ๒ ๑๐. ๒ เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน (Post - Test) กลอนดอกสร้อยราพงึ ในป่ าช้า ๑. ๒ ๒. ๒ ๓. ๔ ๔. ๒ ๕. ๔ ๖. ๒ ๗. ๔ ๘. ๓ ๙. ๑ ๑๐. ๒
แบบบนั ทึกสรุปผลการเรียนรู้สาหรับผู้เรียน ชื่อ-นามสกลุ ...............................................................เลขท.่ี .....................ช้นั ....................... วนั ท.ี่ ...............................................เดือน.............................................พ.ศ. ......................... คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนบนั ทกึ สรุปผลการเรียนรู้จากหน่วยการเรียนรูน้ ้ี นกั เรยี นยงั ไมเ่ ขา้ ใจเร่ืองใดอีกบา้ ง นกั เรียนมีความรูส้ กึ อยา่ งไร หลงั จากที่ นกั เรียนไดร้ บั ความรูเ้ ร่ืองใดบา้ ง เรยี นหน่วยการเรียนรูน้ ีแ้ ลว้ ท่ีเก่ียวกบั หนว่ ยการเรยี นรูน้ ี้ จากหนว่ ยการเรียนรูน้ ี้ ......................................................... ซ่ึงตอ้ งการใหค้ รูอธิบายเพ่ิมเตมิ ......................................................... ...................................................... ......................................................... ...................................................... .................................................... ......................................................... ...................................................... .................................................... ......................................................... ...................................................... .................................................... ......................................................... ...................................................... .................................................... หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี.............. ........................................ นกั เรียนจะสามารถนาความรู้ ความเขา้ ใจ ผลงานท่ีนกั เรยี นชอบและตอ้ งการ นกั เรียนไดท้ ากจิ กรรมอะไรบา้ ง จากหน่วยการเรียนรูน้ ีไ้ ปใชป้ ระโยชน์ ในหน่วยการเรยี นรูน้ ี้ ...................................................... ในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ภำคเรียนท่ี ๒ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ รำยวชิ ำ ภำษำไทย รหัสวิชำ ท ๒๒๑๐๒ ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี ๒ หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๘ เรื่อง กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่ ำช้ำ เวลำ ๑๔ ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๘.๑ อ่านทานอง สอดคลอ้ งอารมณ์ จานวน ๑ ชว่ั โมง ผสู้ อน นางสาวธนภรณ์ สุธรรมจา วนั ท่สี อน................................... มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพอ่ื นาไปใชต้ ดั สินใจ มาตรฐาน ท ๑.๑ แกป้ ัญหาในการดาเนินชีวติ และมีนิสยั รักการอ่าน ตวั ชี้วดั อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกตอ้ ง ท ๑.๑ ม. ๒/๑ มีมารยาทในการอ่าน ท ๑.๑ ม. ๒/๘ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. บอกความหมายของคาศพั ทจ์ ากกลอนดอกสรอ้ ยราพงึ ในป่ าชา้ (K) ๒. อ่อนออกเสียงกลอนดอกสรอ้ ยราพงึ ในป่ าชา้ (P) ๓. เห็นความสาคญั ของการอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรองที่ถูกตอ้ ง ไพเราะ และมีมารยาทในการอ่าน (A) สาระสาคัญ
การอ่านออกเสียงเป็ นการส่งสารรูปแบบหน่ึง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองตอ้ งออกเสียงคาใหถ้ ูกตอ้ ง ชดั เจน ใช้จงั หวะและน้าเสียงใหไ้ พเราะ เหมาะสม การรู้ความหมายของคาศพั ทจ์ ะทาให้ผอู้ ่านสามารถถ่ายทอด ความคิดและอารมณ์จากบทรอ้ ยกรองไปสู่ผอู้ ่านไดด้ ี สาระการเรียนรู้ ๑. ความหมายของคาศพั ทจ์ ากกลอนดอกสร้อยราพงึ ในป่ าชา้ ๒. การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง สมรรถนะสาคัญของ ผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร คณุ ลกั ษณ- ะทอกั นัษะพกงึ าปรอร่าะนสงค์ ประสรักควำมเป็ นไทย ตวั ช้ีวดั ที่ ๗.๒ เห็นคุณคา่ และใชภ้ าษาไทยในการสื่อสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม ชนิ้ งานหรือภาระงาน การอ่านออกเสียงกลอนดอกสร้อยราพงึ ในป่ าชา้ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั นา ๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี เมื่อถึงวนั หน่ึงทุกชีวติ ก็ตอ้ งตาย ถา้ วนั น้ีเป็นวนั สุดทา้ ย นกั เรียนจะทาอะไร จากน้นั นาเขา้ สู่บทเรียน ข้นั สอน ๒. ใหน้ กั เรียนอ่านบทนาเร่ืองและท่มี าของกลอนดอกสร้อยราพงึ ในป่ าชา้ แลว้ สรุปสาระสาคญั ๓. ใหน้ กั เรียนอ่านสารวจกลอนดอกสร้อยราพึงในป่ าชา้ ๑ รอบ ภายในเวลาท่ีกาหนดเพ่อื คน้ หาคาศพั ทท์ ่ี ไม่เขา้ ใจความหมาย ๔. ให้นักเรียนบอกคาศพั ทท์ ่ีไม่เขา้ ใจความหมายคนละ ๑ คา ครูบนั ทึกคาศพั ทบ์ นกระดาน จากน้ันให้ นกั เรียนช่วยกนั คน้ หาความหมายจากคาศพั ทท์ า้ ยเร่ืองหรือพจนานุกรม ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ๕. ให้นักเรียนสงั เกตกลอนดอกสร้อยแลว้ ช่วยกนั บอกฉันทลกั ษณ์ ครูนาแผนผงั กลอนดอกสร้อยติดบน กระดานใหน้ กั เรียนศึกษาและตรวจสอบความเขา้ ใจของตนเอง ๖. ใหน้ กั เรียนทบทวนหลกั การอ่านทานองเสนาะ และจงั หวะการอ่านกลอนสุภาพ ๗. ใหน้ กั เรียนจบั คูก่ นั แต่ละคูจ่ บั ฉลากเพอ่ื เลือกบทกลอนดอกสร้อยราพงึ ในป่ าชา้ คูล่ ะ ๑ บท
๘. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะคู่แบ่งจงั หวะการอ่านกลอนดอกสร้อยบทท่ีไดร้ บั แลว้ ฝึกอ่านทานองเสนาะ ๙. ให้นักเรียนอ่านทานองเสนาะกลอนดอกสร้อยราพึงในป่ าชา้ ทีละคู่ เรียงลาดบั ไปตามเรื่อง นักเรียนท่ี ไม่ไดเ้ ป็นผอู้ ่านใหส้ งั เกตลีลาการอ่านของเพอื่ น ๑๐. เมื่อนักเรียนอ่านครบทุกบทแลว้ ใหร้ ่วมกนั ประเมินขอ้ บกพร่องในการอ่าน จากน้ันฝึกอ่านใหม่และ พยายามแกไ้ ขขอ้ บกพร่อง รวมท้งั ฝึกสอดแทรกอารมณ์ในการอ่าน ข้นั สรุป ๑๑. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การอ่านออกเสียงเป็ นการส่งสารรูปแบบหน่ึง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองตอ้ งออกเสียงคาให้ ถูกตอ้ ง ชดั เจน ใชจ้ งั หวะและน้าเสียงใหไ้ พเราะ เหมาะสม การรู้ความหมายของคาศพั ท์จะทาใหผ้ ูอ้ ่านสามารถ ถ่าสยทอื่ อกดาครวเารมียคนดิ แรลู้ ะอารมณ์จากบทร้อยกรองไปสู่ผอู้ ่านไดด้ ี ๑. พจนานุกรม ๒. แผนผงั กลอนดอกสรอ้ ย การวัดและประเมนิ ผลการ เรียนรู้ ๑. วธิ ีกำรวดั และประเมินผล สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๓. เกณฑ์กำรประเมิน การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่ำน ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่ำน การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics) การประเมินกิจกรรมน้ีใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรื่อง การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ อ่านออกเสียงได้ อ่านออกเสียงได้ อ่านออกเสียงได้ อ่านออกเสียงได้ เกณฑ์กำรประเมนิ การอ่านออกเสียง
บทร้อยกรอง ถูกตอ้ งตาม ถูกตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี ถูกตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี ถูกตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี อกั ขรวธิ ี เสียงดงั เสียงดงั ชดั เจน เสียงดงั ชดั เจน เสียงดงั ชดั เจน แตย่ งั ชดั เจนเวน้ จงั หวะ เวน้ จงั หวะเหมาะสม เวน้ จงั หวะเหมาะสม ตอ้ งปรบั ปรุงเรื่องการ เหมาะสมสามารถ มีการทอดเสียง พยายามทอดเสียง เวน้ จงั หวะและ ทอดเสียงเอ้ือนเสียง เอ้ือนเสียงและใช้ เอ้ือนเสียงและใช้ ทว่ งทานองในการอ่าน และใชน้ ้าเสียง น้าเสียงแสดงอารมณ์ น้าเสียงแสดงอารมณ์ แสดงอารมณ์ได้ ในบางจงั หวะไดด้ ี ในบางจงั หวะแตย่ งั ทา ไพเราะ ไดไ้ ม่ดนี กั แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ภำคเรียนที่ ๒ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ รำยวิชำ ภำษำไทย รหัสวชิ ำ ท ๒๒๑๐๒ ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี ๒ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๘ เร่ือง กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่ ำช้ำ เวลำ ๑๔ ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๘.๒ อ่านไดเ้ ขา้ ใจความ จานวน ๑ ชวั่ โมง ผสู้ อน นางสาวธนภรณ์ สุธรรมจา วนั ทส่ี อน................................... มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคดิ เพอื่ นาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาใน การดาเนินชีวติ และมีนิสยั รกั การอ่าน ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ม. ๒/๒ จบั ใจความสาคญั สรุปความ และอธิบายรายละเอียดจากเรื่องท่ีอ่าน มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทย อยา่ งเห็นคุณค่าและนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง ตวั ชี้วดั ท ๕.๑ ม. ๒/๑ สรุปเน้ือหาวรรณคดีและวรรณกรรมทอ่ี ่านในระดบั ท่ียากข้นึ จุดประสงคก์ าร เรียนรู๑้ . อธิบายหลกั การถอดความบทรอ้ ยกรอง (K) ๒. ถอดความกลอนดอกสรอ้ ยราพงึ ในป่ าชา้ (P) ๓. เขียนสรุปความจากกลอนดอกสร้อยราพงึ ในป่ าชา้ (P) ๔. เห็นความสาคญั ของการถอดความบทรอ้ ยกรองไดส้ ละสลวย (A) สาระสาคัญ
การถอดความบทรอ้ ยกรองเป็นการแปลความจากบทร้อยกรองมาเป็ นบทรอ้ ยแกว้ ที่สละสลวย โดยยงั คงส่ือ ความหมายเช่นเดิม การถอดความจงึ ฝึกทกั ษะท้งั การอ่านและการเรียบเรียงขอ้ ความผา่ นการเขียนหรือการพดู สาระการ เรียน๑ร. ู้ การอ่านจบั ใจความ ๒. การถอดความจากบทร้อยกรอง สมรรถนะสาคัญของ ผู้เรียน๑. ความสามารถในการส่ือสาร - ทกั ษะการอ่าน - ทกั ษะการเขียน - ทกั ษะการฟัง การดู และการพดู ๒. ความสามารถในการคดิ - การวเิ คราะห์ - การประยกุ ต/์ การปรบั ปรุง - การสรุปความรู้ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประสใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ท่ี ๔.๑ ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ท่ี ๔.๒ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรูต้ ่าง ๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน ดว้ ยการเลือกใชส้ ื่ออยา่ งเหมาะสม บนั ทึกความรู้ วเิ คราะห์ สรุปเป็ น องคค์ วามรู้ สามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ มุ่งมัน่ ในกำรทำงำน ตวั ช้ีวดั ที่ ๖.๑ ต้งั ใจและรับผดิ ชอบในการปฏิบตั ิหนา้ ท่กี ารงาน ตวั ช้ีวดั ท่ี ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพอ่ื ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมาย รักควำมเป็ นไทย ตวั ช้ีวดั ท่ี ๗.๒ เห็นคุณค่าและใชภ้ าษาไทยในการสื่อสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม ชิน้ งานหรือภาระงาน ใบงาน เรื่อง การถอดความกลอนดอกสร้อยราพงึ ในป่ าชา้
การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี นกั เรียนชอบอ่านบทร้อยแกว้ หรือบทร้อยกรอง เพราะเหตใุ ด ๒. ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เปรียบเทยี บความแตกตา่ งของบทร้อยแกว้ กบั บทร้อยกรอง ๓. ให้นักเรียนช่วยกนั บอกหลกั การถอดความบทร้อยกรองและข้นั ตอนการถอดความ ครูช่วยอธิบาย เพม่ิ เตมิ ๔. ใหน้ กั เรียนจบั คูแ่ ลว้ ฝึกถอดความกลอนดอกสร้อยราพงึ ในป่ าชา้ บทท่เี คยอ่านเป็นทานองเสนาะ ภายใน เวลาทกี่ าหนด ๕. ใหต้ วั แทนของนกั เรียนแต่ละคู่อ่านหรือพูดขอ้ ความที่เรียบเรียงไว้ ทุกคนร่วมกนั ตรวจสอบ ปรับปรุง แกไ้ ข หรือเพมิ่ เติม ๖. ใหน้ ักเรียนทาใบงานท่ี ๔๘ เรื่อง การถอดความกลอนดอกสร้อยราพึงในป่ าช้า ครูตรวจสอบผลงาน ของนกั เรียนเป็นรายบคุ คล ๗. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การถอดความบทร้อยกรองเป็นการแปลความจากบทร้อยกรองมาเป็ นบทร้อยแกว้ ที่สละสลวย โดย ยงั คงส่ือความหมายเช่นเดิม การถอดความจงึ ฝึกทกั ษะท้งั การอ่านและการเรียบเรียงขอ้ ความผ่านการเขียนหรือการ พดู สื่อการ เรียใบนงราูน้ การวัดและประเมนิ ผลการ เรียนรู๑้ . วธิ ีกำรวัดและประเมนิ ผล ๑) สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) ตรวจใบงานที่ ๔๘ ๒. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๓. เกณฑ์กำรประเมิน การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่ำน ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่ำน
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ภำคเรียนที่ ๒ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ รำยวชิ ำ ภำษำไทย รหัสวชิ ำ ท ๒๒๑๐๒ ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ ๒ หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๘ เร่ือง กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่ ำช้ำ เวลำ ๑๔ ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๘.๓ ภาพสะทอ้ น กลอนราพงึ จานวน ๑ ชว่ั โมง ผสู้ อน นางสาวธนภรณ์ สุธรรมจา วนั ทีส่ อน................................... มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรูแ้ ละความคิดเพอ่ื นาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาใน การดาเนินชีวติ และมีนิสยั รักการอ่าน ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ม. ๒/๔ อภปิ รายแสดงความคิดเห็นและขอ้ โตแ้ ยง้ เก่ียวกบั เรื่องที่อ่าน มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็น คุณค่าและนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง ตวั ชี้วดั ท ๕.๑ ม.๒/๒ วเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณ์วรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมทอ้ งถิ่นที่อ่าน พรอ้ มยกเหตุผลประกอบ ท ๕.๑ ม.๒/๕ ท่องจาบทอาขยานตามท่ีกาหนดและบทรอ้ ยกรองทมี่ ีคุณค่าตามความสนใจ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. ท่องจากลอนดอกสรอ้ ยราพงึ ในป่ าชา้ บททีส่ นใจ (K) ๒. วเิ คราะหจ์ นิ ตภาพและอารมณ์สะเทือนใจจากกลอนดอกสรอ้ ยราพงึ ในป่ าชา้ (P) ๓. อภปิ รายแสดงความคิดเห็นในกลุ่มยอ่ ยและกลุ่มใหญ่ (P) ๔. เห็นความสาคญั ในการแลกเปล่ียนความคิดเห็น และกระตือรือร้นในการร่วมกิจกรรม (A) สาระสาคัญ ๑. การอภปิ รายเป็นวธิ ีแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นเพอ่ื พฒั นาความรู้ ความคิด การอภปิ รายเกี่ยวกบั เรื่องที่อ่าน ช่วยขยายประสบการณ์จากการอ่านเพื่อนาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการดาเนินชีวิตและพฒั นาสังคมให้ เจริญกา้ วหนา้
๒. การทอ่ งจาบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่าช่วยจรรโลงใจและทาใหม้ ีขอ้ คิดเตอื นใจ สาระการ เรกียารนอรภู้ ปิ รายเกี่ยวกบั เร่ืองทอี่ ่าน สมรรถนะสาคัญของ ผู้เรียน๑. ความสามารถในการส่ือสาร - ทกั ษะการอ่าน - ทกั ษะการเขียน - ทกั ษะการฟัง การดู และการพดู ๒. ความสามารถในการคดิ - การใหเ้ หตุผล - การวเิ คราะห์ - การสรุปความรู้ - การประเมินคา่ ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประสใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ท่ี ๔.๑ ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ท่ี ๔.๒ แสวงหาความรูจ้ ากแหล่งเรียนรู้ตา่ ง ๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน ดว้ ยการเลือกใชส้ ่ืออยา่ งเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรุปเป็ น องคค์ วามรู้ สามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ ม่งุ ม่ันในกำรทำงำน ตวั ช้ีวดั ท่ี ๖.๑ ต้งั ใจและรับผดิ ชอบในการปฏบิ ตั ิหนา้ ทก่ี ารงาน ตวั ช้ีวดั ที่ ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพอ่ื ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมาย รักควำมเป็ นไทย ตวั ช้ีวดั ที่ ๗.๒ เห็นคุณค่าและใชภ้ าษาไทยในการส่ือสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม ชิน้ งานหรือภาระงาน
๑. ใบงาน เรื่อง การวเิ คราะหจ์ นิ ตภาพและอารมณ์สะเทอื นใจจากกลอนดอกสรอ้ ยราพงึ ในป่ าชา้ ๒. การท่องจากลอนดอกสรอ้ ยราพงึ ในป่ าชา้ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี แต่ละคนมีความอ่อนไหวกบั เรื่องต่าง ๆ ไม่เหมือนกนั เรื่องใดมกั จะทาใหน้ กั เรียนเกิดความสะเทือน ใจ ๒. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ทบทวนหลกั การอภปิ รายแสดงความคิดเห็น ๓. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ ๔ - ๕ คน ร่วมกนั แสดงความคิดเห็นวา่ กลอนดอกสร้อยราพงึ ในป่ าชา้ บท ใดก่อใหเ้ กิดภาพในใจ หรือสร้างอารมณ์สะเทอื นใจไดช้ ดั เจนท่ีสุด ให้สมาชิกในกลุ่มลงคะแนนเลือก ๑ บท พร้อม ท้งั สรุปเหตผุ ลสนบั สนุน ๔. ใหน้ กั เรียนทุกกลุ่มร่วมกนั อภิปรายกลุ่มใหญ่ โดยแต่ละกลุ่มนาเสนอความคิดเห็นของกลุ่มตนใหก้ ลุ่ม อ่ืนฟัง แลว้ ร่วมกนั แสดงความคิดเห็น ๕. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สรุปสิ่งทีก่ ่อใหเ้ กิดภาพในใจ หรือสร้างอารมณ์สะเทอื นใจในบทร้อยกรอง ๖. ใหน้ กั เรียนทาใบงาน เรื่อง การวเิ คราะหจ์ ินตภาพและอารมณ์สะเทือนใจจากกลอนดอกสร้อยราพึงใน ป่ าชา้ ครูตรวจสอบผลงานของนกั เรียนเป็นรายบุคคล ๗. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การอภปิ รายเป็นวธิ ีแลกเปล่ียนความคิดเห็นเพอ่ื พฒั นาความรู้ ความคิด การอภิปรายเกี่ยวกบั เร่ืองท่ี อ่านช่วยขยายประสบการณ์จากการอ่านเพ่ือนาไปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ต่อการดาเนินชีวิตและพฒั นาสังคมให้ เจริญกา้ วหนา้ ๘. ใหน้ กั เรียนเลือกกลอนดอกสรอ้ ยราพงึ ในป่ าชา้ ๑ บทท่ีสะทอ้ นใจนามาท่องจา โดยเลือกอยา่ งมีเหตุผล ครูอธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจวา่ นกั เรียนสามารถเลือกตามความสนใจของตนเองได้ ซ่ึงอาจเป็ นบทเดียวกบั ที่เลือกใน การอภปิ รายหรือคนละบทกไ็ ด้ ๙. ครูหยบิ ลูกปิ งปองในกล่องซ่ึงมีหมายเลขประจาตวั ของนกั เรียนตดิ อยขู่ ้นึ มา ไดห้ มายเลขใดใหน้ ักเรียน ออกมาท่องกลอนดอกสร้อยบทที่ตนเองเลือกพรอ้ มบอกเหตผุ ล ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมน้ีตามเวลาทีเ่ หมาะสม ๑๐. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การท่องจาบทร้อยกรองทมี่ ีคุณค่าช่วยจรรโลงใจและทาใหม้ ีขอ้ คดิ เตอื นใจ สอื่ การเรียนรู้ ๑. ใบงาน ๒. ลูกปิ งปองท่ีติดหมายเลขประจาตวั ของนกั เรียน
การวัดและประเมนิ ผลการ เรียนร๑ู้. วิธีกำรวัดและประเมนิ ผล ๑) สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓) ตรวจใบงานท่ี ๔๙ ๒. เครื่องมือ ๑) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓. เกณฑ์กำรประเมิน ๑) การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่ำน ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่ำน ๒) การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน ๙ - ๑๐ ระดบั ดีมาก คะแนน ๗ - ๘ ระดบั ดี คะแนน ๕ - ๖ ระดบั พอใช้ คะแนน ๐ - ๔ ระดบั ควรปรบั ปรุง การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrกicาsร)ประเมินใบงานน้ีใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง การแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรื่องทอ่ี ่าน ระดับคะแนน ๔๓๒๑ เกณฑ์กำรประเมนิ การแสดง แสดงความคดิ เห็น แสดงความคดิ เห็น แสดงความคดิ เห็น แสดงความคดิ เห็น ความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ตรงประเดน็ อธิบาย ตรงประเดน็ อธิบาย ตรงประเดน็ อธิบาย ตรงประเด็น เรื่องทอ่ี ่าน เหตผุ ลสนบั สนุน เหตุผลที่สนบั สนุน เหตผุ ลประกอบที่ อธิบายเหตุผล อยา่ งชดั เจน กนั สมั พนั ธก์ บั ความคิด ประกอบส้นั ๆ การประเมินกิจกรรมน้ีใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
เรื่อง การท่องจาบทรอ้ ยกรอง ระดบั คะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ เกณฑ์กำรประเมนิ ทอ่ งจาบทรอ้ ยกรอง ท่องจาบทร้อยกรอง ท่องจาบทรอ้ ยกรอง ไดถ้ ูกตอ้ งทกุ คา ไดถ้ ูกตอ้ งทกุ คา ไดถ้ ูกตอ้ งทกุ คาแต่มี การท่องจา ทอ่ งจาบทร้อยกรอง ไม่มีติดขดั ตกหล่น ไม่มีติดขดั ตกหลน่ ตดิ ขดั บา้ ง ออกเสียง ออกเสียงคาถูกตอ้ ง ออกเสียงคาถูกตอ้ ง คาบางคายงั ไม่ บทร้อยกรอง ไดถ้ ูกตอ้ งทกุ คา ชดั เจนทุกคา ชดั เจนทุกคา ชดั เจน เวน้ จงั หวะ เวน้ จงั หวะ เวน้ จงั หวะ วรรคตอนถูกตอ้ ง ไม่มีตดิ ขดั ตกหลน่ วรรคตอนถูกตอ้ ง วรรคตอนถูกตอ้ ง เป็นบางวรรค ระดบั ทุกวรรค ใชร้ ะดบั ทุกวรรค ใชร้ ะดบั เสียงราบเรียบ ไม่ ออกเสียงคาถูกตอ้ ง เสียงแสดงอารมณ์ เสียงแสดงอารมณ์ แสดงอารมณ์ ตามบทประพนั ธไ์ ด้ ตามบทประพนั ธไ์ ด้ ชดั เจนทกุ คา ดี พอใช้ เวน้ จงั หวะ วรรคตอนถูกตอ้ ง ทกุ วรรค ใชร้ ะดบั เสียงแสดงอารมณ์ ตามบทประพนั ธไ์ ด้ ดีมาก กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ ภำคเรียนที่ ๒
รำยวิชำ ภำษำไทย รหัสวชิ ำ ท ๒๒๑๐๒ ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี ๒ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๘ เร่ือง กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่ ำช้ำ เวลำ ๑๔ ช่ัวโมง แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๘.๔ รู้ คิด อยา่ งมีเหตผุ ล จานวน ๑ ชวั่ โมง ผสู้ อน นางสาวธนภรณ์ สุธรรมจา วนั ท่ีสอน................................... มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ และเขยี นเร่ืองราว ในรูปแบบตา่ ง ๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศ และรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ท ๒.๑ ม.๒/๗ เขยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และแสดงความรู้ ความคิดเห็น หรือโตแ้ ยง้ ในเร่ืองท่อี ่าน อยา่ งมีเหตุผล ท ๒.๑ ม.๒/๘ มีมารยาทในการเขียน จุดประสงคก์ าร เรียนร๑ู้ . อธิบายหลกั การเขียนวเิ คราะห์วจิ ารณ์ (K) ๒. เขยี นวิเคราะหว์ จิ ารณ์เกี่ยวกบั เรื่องที่อ่าน (P) ๓. เห็นความสาคญั ของการเขยี นแสดงความรูแ้ ละความคิดเห็นอยา่ งมีเหตุผลและมีมารยาทในการเขียน (A) สาระสกาารคเขัญียนวเิ คราะหว์ จิ ารณ์เป็นการแสดงความรู้และความคิดเห็นซ่ึงประกอบดว้ ยหลกั การและเหตุผลทถี่ ูกตอ้ ง สรา้ งสรรค์ ก่อใหเ้ กิดประโยชน์ต่อผรู้ บั สารและสงั คม ไม่ก่อใหเ้ กิดความสบั สนหรือเขา้ ใจผดิ ไปจากความเป็นจริง สาระการ เรียกนารรเู้ ขียนวเิ คราะห์วจิ ารณ์ สมรรถนะสาคัญของ ผู้เรียน๑. ความสามารถในการส่ือสาร - ทกั ษะการอ่าน - ทกั ษะการเขียน - ทกั ษะการฟัง การดู และการพดู ๒. ความสามารถในการคิด - การใหเ้ หตุผล - การวเิ คราะห์ - การสงั เคราะห์ - การจดั ระบบความคิดเป็นแผนภาพ
- การประยกุ ต/์ การปรบั ปรุง - การสรุปความรู้ - การประเมินคา่ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประสใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ที่ ๔.๑ ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ท่ี ๔.๒ แสวงหาความรูจ้ ากแหล่งเรียนรูต้ ่าง ๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน ดว้ ยการเลือกใชส้ ื่ออยา่ งเหมาะสม บนั ทึกความรู้ วเิ คราะห์ สรุปเป็น องคค์ วามรู้ สามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ ม่งุ มั่นในกำรทำงำน ตวั ช้ีวดั ที่ ๖.๑ ต้งั ใจและรับผดิ ชอบในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทกี่ ารงาน ตวั ช้ีวดั ที่ ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพอ่ื ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมาย รักควำมเป็ นไทย ตวั ช้ีวดั ที่ ๗.๒ เห็นคุณค่าและใชภ้ าษาไทยในการสื่อสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม ชิน้ งานหรือภาระ ชิ้นงงาานนเร่ือง การเขียนแสดงความรู้ ความคิดเห็นจากกลอนดอกสรอ้ ยราพงึ ในป่ าชา้ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนา โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี ในชีวติ จริงนกั เรียนมกั จะวเิ คราะห์วิจารณ์เร่ืองใด และการวเิ คราะหว์ จิ ารณ์เรื่องน้นั เกิดประโยชน์อยา่ งไร ๒. ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกประโยชน์ของการวเิ คราะหว์ จิ ารณ์ท้งั ต่อตนเองและผอู้ ่ืน ครูบนั ทกึ เป็นแผนภาพ ความคดิ บนกระดาน ๓. ใหน้ กั เรียนศกึ ษาบทความหรือตวั อยา่ งงานเขียนวเิ คราะห์วิจารณ์ที่ครูเตรียมไว้ ๔. ใหน้ กั เรียนช่วยกนั อธิบายหลกั การวเิ คราะหว์ จิ ารณ์ท่จี ะทาใหเ้ กิดประโยชน์ ๕. ใหน้ กั เรียนทาช้ินงาน เรื่อง การเขยี นแสดงความรู้ ความคิดเห็นจากกลอนดอกสรอ้ ยราพงึ ในป่ าชา้ ๖. ใหน้ กั เรียนจบั คู่แลกผลงานกนั อ่านและประเมนิ โดยใหน้ กั เรียนที่มีเลขประจาตวั เป็นเลขคอ่ี อกมาหยบิ ลูก ปิ งปองทีม่ ีเลขคู่ ไดห้ มายเลขใดจะเป็ นคูก่ นั เมื่อประเมินผลงานแลว้ ใหผ้ ลดั กนั เสนอแนะเพอ่ื ปรับปรุงผลงานของ ตนเอง จากน้นั ครูจึงประเมินผลงานของนกั เรียนเป็นรายบุคคล ๗. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การเขยี นวเิ คราะหว์ จิ ารณ์เป็นการแสดงความรูแ้ ละความคิดเห็นซ่ึงประกอบดว้ ยหลกั การและเหตผุ ลท่ี ถูกตอ้ ง สร้างสรรค์ ก่อใหเ้ กิดประโยชน์ต่อผรู้ บั สารและสงั คม ไม่ก่อใหเ้ กิดความสบั สนหรือเขา้ ใจผดิ ไปจากความ เป็ นจริง
สอ่ื การเรียนรู้ ๑. บทความหรืองานเขยี นวเิ คราะห์วจิ ารณ์ ๒. ลูกปิ งปองทต่ี ิดหมายเลขประจาตวั ของนกั เรียน การวัดและประเมนิ ผลการ เรียนรู้ ๑. วิธีกำรวดั และประเมินผล ๑) สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) ตรวจช้ินงานที่ ๑๔ ๒. เครื่องมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๓. เกณฑ์กำรประเมนิ การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่ำน ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่ำน แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ภำคเรียนที่ ๒ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ รำยวิชำ ภำษำไทย รหัสวชิ ำ ท ๒๒๑๐๒ ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี ๒ หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๘ เรื่อง กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่ ำช้ำ เวลำ ๑๔ ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๘.๕ พนิ ิจคุณค่าวรรณคดี จานวน ๑ ชว่ั โมง ผสู้ อน นางสาวธนภรณ์ สุธรรมจา วนั ทีส่ อน................................... มำตรฐำนกำรเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็น คุณค่า และนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง ตวั ชี้วดั ท ๕.๑ ม.๒/๓ อธิบายคุณคา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมทีอ่ ่าน จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อธิบายคุณคา่ ของกลอนดอกสร้อยราพงึ ในป่ าชา้ (K) ๒. วิเคราะหค์ ุณค่าของกลอนดอกสร้อยราพงึ ในป่ าชา้ (P) ๓. เห็นคุณคา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมไทย (A) สาระสาคัญ การอ่านมีความสาคญั และจะเกิดประโยชน์เมื่อผอู้ ่านสามารถประเมินคุณคา่ หรือแนวคิดจากเร่ืองที่อ่านได้ และรู้จกั นาไปใชใ้ นการดาเนินชีวติ สาระการ เรีคยุณนคราู่้ ของกลอนดอกสรอ้ ยราพงึ ในป่ าชา้ สมรรถนะสาคัญของ ผู้เรียน๑. ความสามารถในการส่ือสาร - ทกั ษะการอ่าน - ทกั ษะการเขยี น - ทกั ษะการฟัง การดู และการพดู ๒. ความสามารถในการคิด - การใหเ้ หตุผล - การวเิ คราะห์ - การสรุปความรู้ ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประสใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ที่ ๔.๑ ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ที่ ๔.๒ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน ดว้ ยการเลือกใชส้ ่ืออยา่ งเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรุปเป็ น
องคค์ วามรู้ สามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ ม่งุ มน่ั ในกำรทำงำน ตวั ช้ีวดั ท่ี ๖.๑ ต้งั ใจและรับผดิ ชอบในการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีการงาน ตวั ช้ีวดั ที่ ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพอื่ ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมาย รักควำมเป็ นไทย ตวั ช้ีวดั ท่ี ๗.๒ เห็นคุณคา่ และใชภ้ าษาไทยในการสื่อสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม ชิน้ งานหรือภาระ ใบงาานนเร่ือง การอธิบายคุณค่าของกลอนดอกสรอ้ ยราพงึ ในป่ าชา้ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี ศาสนาทุกศาสนามุ่งสอนใหผ้ ทู้ ่นี บั ถือทาแต่ความดี นกั เรียนคดิ วา่ เป็ นเพราะเหตุใด ๒. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั สจั ธรรมในชีวติ วา่ มีอะไรบา้ งที่ทุกคนในโลกน้ีตอ้ งประสบ พร้อมท้งั ยกตวั อยา่ ง ๓. ใหน้ กั เรียนทบทวนหลกั การวเิ คราะหค์ ุณคา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรม ๔. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั วเิ คราะห์คุณคา่ ของกลอนดอกสร้อยราพงึ ในป่ าชา้ ดา้ นแนวคิดและดา้ นเน้ือหา ครูช่วยอธิบายเพมิ่ เติม ๕. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม ๕ กลุ่ม ส่งตวั แทนออกมาจบั ฉลากเพอ่ื วเิ คราะห์คุณค่าดา้ นวรรณศลิ ป์ ของ กลอนดอกสร้อยราพงึ ในป่ าชา้ ในประเด็นต่อไปน้ี กลุ่มท่ี ๑ การใชค้ าเลียนเสียงธรรมชาติ กลุ่มท่ี ๒ การใชอ้ ุปมา กลุ่มที่ ๓ การเลือกใชค้ าเพอ่ื บรรยายทาใหเ้ ห็นภาพและไดย้ นิ เสียง กลุ่มที่ ๔ การซ้าคาเพอ่ื เนน้ ความหมาย กลุ่มท่ี ๕ การเล่นสมั ผสั พยญั ชนะและสมั ผสั สระ ๖. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาเสนอผลการวเิ คราะหห์ นา้ ช้นั เรียน ทุกคนร่วมกนั ตรวจสอบและ อธิบายเพมิ่ เติมได้ ๗. ใหน้ กั เรียนทาใบงาน เรื่อง การอธิบายคุณคา่ ของกลอนดอกสรอ้ ยราพงึ ในป่ าชา้ ครูตรวจสอบผลงานของ นกั เรียนเป็นรายบุคคล ๘. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การอ่านมีความสาคญั และจะเกิดประโยชนเ์ มื่อผอู้ ่านสามารถประเมินคุณคา่ หรือแนวคิดจากเร่ืองท่ีอ่านได้ และรูจ้ กั นาไปใชใ้ นการดาเนินชีวติ ๙. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนไปหาคากล่าวหรือบทรอ้ ยกรองทีม่ ีเน้ือหากล่าวถึงปรชั ญาชีวติ และความตายจาก แหล่งการเรียนรูต้ ่าง ๆ แลว้ คดั ลอกมาคนละ ๑ ขอ้ ความหรือ ๑ บท สาหรบั ทากิจกรรมในชวั่ โมงต่อไป
สอ่ื การเรียนรู้ ๑. ฉลาก ๒. ใบงาน การวัดและประเมนิ ผลการ เรียนร๑ู้. วิธีกำรวดั และประเมินผล ๑) สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓) ตรวจใบงานท่ี ๕๐ ๒. เครื่องมือ ๑) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓. เกณฑ์กำรประเมิน ๑) การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่ำน ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่ำน ๒) การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน ๙-๑๐ ระดบั ดีมาก คะแนน ๗-๘ ระดบั ดี คะแนน ๕-๖ ระดบั พอใช้ คะแนน ๐-๔ ระดบั ควรปรบั ปรุง การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrกicาsร)ประเมินใบงานน้ีใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรื่อง การอธิบายคุณคา่ ของเร่ืองท่อี ่าน ระดบั คะแนน ๔๓ ๒ ๑ เกณฑ์กำรประเมนิ การอธิบายคุณค่าของ อธิบายคุณคา่ ของ อธิบายคุณคา่ ของ อธิบายคุณคา่ ของ อธิบายคุณค่าของ เรื่องท่ีอ่าน กลอนดอกสรอ้ ย กลอนดอกสรอ้ ยราพงึ กลอนดอกสรอ้ ยราพงึ กลอนดอกสร้อยราพงึ ราพงึ ในป่ าชา้ ท้งั ๓ ในป่ าชา้ ท้งั ๓ ดา้ น ในป่ าชา้ ท้งั ๓ ดา้ น ในป่ าชา้ ท้งั ๓ ดา้ น ดา้ น ไดล้ ะเอียดทุก ไดล้ ะเอียดชดั เจน ไดห้ ลายประเด็น เฉพาะประเดน็ ท่ี
ประเด็นอธิบายชดั เจน มีการยกตวั อยา่ ง มีการยกตวั อยา่ งบา้ ง เด่นชดั และอธิบาย มีการยกตวั อยา่ ง ประกอบแต่มองขา้ ม แตอ่ ธิบายไม่ละเอียด ส้นั ๆ ไม่ยกตวั อยา่ ง ประกอบ บางประเด็น ประกอบ ใบงานที่ ๕๐ เรื่อง การอธิบายคุณค่าของกลอนดอกสร้อยราพึงใน ป่ าช้า ใหน้ กั เรยี นอธิบายคณุ คา่ ของกลอนดอกสรอ้ ยราพงึ ในป่าชา้ ในดา้ นแนวคดิ ดา้ นเนอื้ หา และดา้ นวรรณศลิ ป์ คณุ ค่ำด้ำนแนวคดิ คุณค่ำด้ำนเนื้อหำ
คุณค่ำด้ำนวรรณศิลป์ ๑. การใชค้ าเลียนเสียงธรรมชาติ เช่น ๒. การใชค้ าอุปมา เปรียบเทยี บให้เขา้ ใจชดั เจน เช่น ๓. การเลือกใชค้ าเพอ่ื บรรยายทาใหเ้ ห็นภาพและไดย้ นิ เสียง เช่น ๔. การซ้าคาเพอ่ื เนน้ ความหมาย เช่น ๕. การเล่นสมั ผสั พยญั ชนะและสมั ผสั สระ เช่น ใบงาน เร่ือง การวเิ คราะหจ์ นิ ตภาพและอารมณส์ ะเทอื นใจจากกลอนดอกสร้อยราพึงใน ป่ าช้า ใหน้ ักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ วา่ กลอนดอกสร้อยราพงึ ในป่ าช้าบทใดก่อใหเ้ กิดภาพใน ใจ หรือสร้างอารมณส์ ะเทือนใจไดช้ ัดเจนทสี่ ุดพร้อมยกเหตผุ ลประกอบ บทกลอน ___________________________________________________________________ ___________________________________________________________________ ___________________________________________________________________ ___________________________________________________________________ เหตุผล ___________________________________________________________________
___________________________________________________________________ ___________________________________________________________________ ___________________________________________________________________ ___________________________________________________________________ ___________________________________________________________________ ___________________________________________________________________ ___________________________________________________________________ ___________________________________________________________________ ___________________________________________________________________ ___________________________________________________________________ ___________________________________________________________________ ___________________________________________________________________ ___________________________________________________________________ ___________________________________________________________________ ___________________________________________________________________ ___________________________________________________________________ ___________________________________________________________________ ___________________________________________________________________
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ภำคเรียนที่ ๒ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ รำยวชิ ำ ภำษำไทย รหัสวชิ ำ ท ๒๒๑๐๒ ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี ๒ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๘ เรื่อง กลอนดอกสร้อยราพึงในป่ าช้า เวลำ ๑๔ ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๘.๖ คตชิ ีวติ คดิ ใหถ้ ี่ถว้ น จานวน ๑ ชวั่ โมง ผสู้ อน นางสาวธนภรณ์ สุธรรมจา วนั ท่ีสอน................................... มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคดิ เพอ่ื นาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาใน การดาเนินชีวติ และมีนิสยั รักการอ่าน ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ม.๒/๗ อ่านหนงั สือ บทความ หรือคาประพนั ธอ์ ยา่ งหลากหลายและประเมินคุณคา่ หรือ แนวคดิ ทีไ่ ดจ้ ากการอ่านเพอื่ นาไปใชแ้ กป้ ัญหาในชีวติ ท ๑.๑ ม.๒/๘ มีมารยาทในการอ่าน
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อธิบายแนวคิดจากเร่ืองทีอ่ ่าน (K) ๒. เสนอแนวทางการดาเนินชีวิตตามแนวคิดจากการอ่าน (P) ๓. เห็นความสาคญั ของการอ่าน (A) สาระสาคัญ การอ่านอยา่ งหลากหลายทาใหเ้ กิดความคิดกวา้ งไกล ไดป้ ระสบการณ์ชีวติ จากการอ่านที่สามารถนาไปใช้ แกป้ ัญหาในชีวติ ได้ สาระการเรยี นรู้ แนวคิดจากเร่ืองท่อี ่าน สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ๑. ความสามารถในการส่ือสาร - ทกั ษะการอ่าน - ทกั ษะการเขยี น - ทกั ษะการฟัง การดู และการพดู ๒. ความสามารถในการคิด - การวเิ คราะห์ - การสงั เคราะห์ - การจดั ระบบความคิดเป็นแผนภาพ - การประยกุ ต/์ การปรับปรุง - การสรุปความรู้ - การประเมินคา่ ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประสใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ที่ ๔.๑ ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ท่ี ๔.๒ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ตา่ ง ๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน ดว้ ยการเลือกใชส้ ่ืออยา่ งเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรุปเป็ น องคค์ วามรู้ สามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ ม่งุ มนั่ ในกำรทำงำน
ตวั ช้ีวดั ท่ี ๖.๑ ต้งั ใจและรับผดิ ชอบในการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่กี ารงาน ตวั ช้ีวดั ที่ ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพอื่ ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมาย รักควำมเป็ นไทย ตวั ช้ีวดั ที่ ๗.๒ เห็นคุณค่าและใชภ้ าษาไทยในการสื่อสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม ชิน้ งานหรือภาระงาน ใบงาน เร่ือง การประเมินแนวคิดจากการอ่าน การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี นกั เรียนมีความคดิ เห็นอยา่ งไรกบั คากล่าวทีว่ า่ “คนเราเลือกเกิดไม่ไดแ้ ตเ่ ลือกท่จี ะทาได”้ ๒. ใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพอื่ นแลว้ นาคากลา่ วหรือบทรอ้ ยกรองที่มีเน้ือหากล่าวถึงปรัชญาชีวติ และความตาย ซ่ึงครูมอบหมายใหไ้ ปหาในชวั่ โมงท่ีแลว้ มาแลกเปล่ียนกนั อ่าน ๓. ใหน้ กั เรียนแต่ละคูเ่ ลือกคากล่าวหรือบทรอ้ ยกรอง ๑ เรื่อง มาประเมินแนวคิด และเสนอแนวทางการ ดาเนินชีวติ ตามแนวคิดน้นั หรือนาแนวคิดน้นั ไปใชแ้ กป้ ัญหาในชีวติ ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมภายในเวลาทกี่ าหนด ๔. ใหน้ กั เรียนแต่ละคูอ่ อกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน โดยอ่านคากล่าวหรือบทรอ้ ยกรองใหเ้ พอื่ นฟัง จากน้นั บอกแนวคดิ ของเร่ืองท่ีอ่านและนาเสนอแนวทางการดาเนินชีวติ นกั เรียนที่เป็ นผฟู้ ังสามารถร่วมแสดงความคดิ เห็น ได้ ๕. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สรุปแนวคดิ ท้งั หมดท่ไี ดจ้ ากการทากิจกรรมน้ี ครูบนั ทึกเป็นแผนภาพความคิดบน กระดาน ๖. ใหน้ กั เรียนทาใบงาน เร่ือง การประเมินแนวคิดจากการอ่าน ครูตรวจสอบผลงานของนกั เรียนเป็ น รายบคุ คล ๗. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การอ่านอยา่ งหลากหลายทาใหเ้ กิดความคิดกวา้ งไกล ไดป้ ระสบการณ์ชีวติ จากการอ่านท่ีสามารถ นาไปใชแ้ กป้ ัญหาในชีวติ ได้ สอื่ การเรียนรู้ ๑. คากล่าวหรือบทร้อยกรอง ๒. ใบงาน การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑. วธิ ีกำรวดั และประเมนิ ผล ๑) สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม
๒) ตรวจใบงานที่ ๕๑ ๒. เครื่องมือ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๓. เกณฑ์กำรประเมนิ การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่ำน ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่ำน การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrกicาsร)ประเมินใบงานน้ีใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง การประเมินแนวคิดจากการอ่าน ระดับคะแนน ๔๓ ๒ ๑ เกณฑ์กำรประเมนิ ประเมินแนวคิดจาก ประเมินแนวคดิ จาก ประเมินแนวคิดจาก ประเมินแนวคดิ จาก การประเมินแนวคดิ เรื่องท่อี ่านไดถ้ ูกตอ้ ง เร่ืองทีอ่ ่านไดแ้ ต่ จากการอ่าน เรื่องท่อี ่านไดถ้ กู ตอ้ ง เร่ืองทอ่ี ่านไดถ้ กู ตอ้ ง เสนอแนวทางการ อธิบายไม่ชดั เจน ดาเนินชีวติ หลายขอ้ การเสนอแนวทาง ชดั เจน เสนอ ชดั เจน เสนอ แตบ่ างขอ้ ไม่สมั พนั ธ์ การดาเนินชีวติ กบั แนวคิดของเรื่อง ไม่ชดั เจนและเสนอ แนวทางการดาเนิน แนวทางการดาเนิน เพยี งแนวทางเดียว ชีวติ ทส่ี ามารถปฏบิ ตั ิ ชีวติ ท่ีสามารถปฏบิ ตั ิ ไดจ้ ริงทกุ ขอ้ และเป็น ไดจ้ ริงเป็นส่วนใหญ่ ประโยชนต์ ่อส่วนรวม และเป็นประโยชนต์ อ่ อยา่ งชดั เจน ส่วนรวม
ใบงาน เรื่อง การประเมนิ แนวคดิ จากการอา่ น ให้นักเรียนอา่ นคาประพนั ธต์ อ่ ไปนี้ แล้วตอบคาถาม เหน็ กนั อยเู่ ม่ือเชา้ สายตาย สายอยสู่ ขุ สบาย บา่ ยมว้ ย บา่ ยรน่ื ช่ืนรวยราย เย็นดบั ชีพแฮ เยน็ เลน่ กบั ลกู ดว้ ย ค่ามว้ ยอาสญั พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ๑. คาประพนั ธน์ มี้ ีแนวคิดอยา่ งไร
๒. นกั เรยี นจะดาเนนิ ชีวติ อยา่ งไร แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ภำคเรียนที่ ๒ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ รำยวชิ ำ ภำษำไทย รหัสวชิ ำ ท ๒๒๑๐๒ ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี ๒ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๘ เร่ือง กลอนดอกสร้อยรำพงึ ในป่ ำช้ำ เ ว ล ำ ๑ ๔ ช่ั ว โ ม ง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๘.๗ เป้าหมายชีวติ คิดใหร้ อบคอบ จานวน ๑ ชว่ั โมง ผสู้ อน นางสาวธนภรณ์ สุธรรมจา วนั ทีส่ อน................................... มำตรฐำนกำรเรียนรู้ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทย มาตรฐาน ท ๕.๑ อยา่ งเห็นคุณคา่ และนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง ตัวชี้วดั สรุปความรู้และขอ้ คิดจากการอ่านไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง ท ๕.๑ ม. ๒/๔ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. สรุปความรูแ้ ละขอ้ คดิ จากกลอนดอกสรอ้ ยราพงึ ในป่ าชา้ (K) ๒. สงั เคราะหข์ อ้ คดิ จากกลอนดอกสรอ้ ยราพงึ ในป่ าชา้ ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง (P) ๓. เห็นคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรม (A) สาระสาคัญ
การสรุปความรู้และการนาขอ้ คดิ จากการอ่านไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง จะทาใหก้ ารอ่านเกิดประโยชน์ และควรอ่านหนงั สือต่าง ๆ อยเู่ สมอ สาระการเรยี นรู้ ความรู้และขอ้ คิดจากกลอนดอกสรอ้ ยราพงึ ในป่ าชา้ สมรรถนะสาคัญของ ผู้เรียน๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร - ทกั ษะการอา่ น - ทกั ษะการเขียน - ทกั ษะการฟัง การดู และการพดู ๒. ความสามารถในการคดิ - การสงั เคราะห์ - การสรุปความรู้ - การประเมินคา่ ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประสใฝ่ เรียนรู้ ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๔.๑ ตงั้ ใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๔.๒ แสวงหาความรูจ้ ากแหลง่ เรยี นรูต้ า่ ง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลอื กใชส้ อ่ื อยา่ งเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรุปเป็น องคค์ วามรู้ สามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ มุ่งม่นั ในการทางาน ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๑ ตงั้ ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่กี ารงาน ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย รักความเป็ นไทย ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๗.๒ เห็นคณุ คา่ และใชภ้ าษาไทยในการสอ่ื สารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม ชิน้ งานหรือภาระงาน ชิน้ งาน เรอ่ื ง ชีวิตราพงึ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั บคุ คลสาคญั ของโลกท่ีนกั เรียนชื่นชม ๒. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่มตามความสมคั รใจ ครูไม่กาหนดจานวนสมาชิกในกลุ่ม สามารถมีจานวนมาก นอ้ ยแตกต่างกนั ได้ จากน้นั ใหส้ มาชิกในกลุ่มแลกเปลี่ยนความคิดเก่ียวกบั เป้าหมายของชีวติ ท่ีต้งั ใจจะทาใหส้ าเร็จ ๓. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มยนื ข้นึ นาเสนอ โดยเลือกสมาชิก ๑ คน ทาหนา้ ทพ่ี ธิ ีกรสมั ภาษณ์เป้าหมาย ในชีวติ ของเพอื่ นในกลุ่มแตล่ ะคน รวมท้งั บอกเป้าหมายในชีวติ ของตนเองดว้ ย ทากิจกรรมน้ีจนครบทุกกลุ่ม ๔. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั ความสาคญั ของการทาความดีและประโยชน์ของความดี ๕. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรม “สญั ญาใจ” โดยเขยี นความดีทตี่ ้งั ใจจะทาเพอื่ โลกลงในกระดาษทค่ี รูแจก ให้ เป็ นเหมือนการทาสญั ญากบั โลก เมื่อเขยี นเสร็จแลว้ ใหล้ งช่ือตนเอง นากระดาษแผน่ น้นั มาใส่กล่องทีค่ รูเตรียมไว้ จนครบทุกคน ๖. ครูหยบิ สญั ญาความดีในกล่องข้นึ มาทีละใบ ใหผ้ ทู้ าสญั ญาออกมากลา่ วใหเ้ พอื่ นฟังวา่ ความต้งั ใจ ของนกั เรียนเป็นอยา่ งไร และนกั เรียนจะปฏิบตั ิตามคาสญั ญาน้นั อยา่ งไร ๗. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงาน เรื่อง ชีวติ ราพงึ ครูตรวจสอบผลงานของนกั เรียนเป็ นรายบคุ คล ๘. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การสรุปความรูแ้ ละการนาขอ้ คดิ จากการอา่ นไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง จะทาใหก้ ารอ่านเกิด ประโยชน์และควรอ่านหนงั สือต่าง ๆ อยเู่ สมอ ๙. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี โลกเหมือนบา้ นหลงั ใหญ่ ถา้ บา้ นพงั จะเกิดอะไรข้นึ ก่อนท่ีบา้ นจะพงั เราควรทาอยา่ งไร ส่ือการเรียนรู้ สญั ญาความดี การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑. วธิ ีกำรวดั และประเมินผล ๑) สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓) ตรวจช้ินงานที่ ๑๕ ๒. เครื่องมือ ๑) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓. เกณฑ์กำรประเมนิ ๑) การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่ำน ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่ำน ๒) การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม
คะแนน ๙-๑๐ ระดบั ดีมาก คะแนน ๗-๘ ระดบั ดี คะแนน ๕-๖ ระดบั พอใช้ คะแนน ๐-๔ ระดบั ควรปรบั ปรุง ชิน้ งาน เร่ือง ชีวติ ราพงึ ๑. เมือ่ ทุกคนเกิดมาแล้วต้องตาย นักเรียนมีเป้าหมายชีวติ ในเรื่องใดทจี่ ะทาให้สาเร็จ เขียน ความเรียงส้ัน ๆแสดงความคดิ เหน็ ของตนเอง ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ _____________________________________________________________ ๒. นรชาติวางวาย มลายสนิ้ ทงั้ อินทรยี ์ สถิตท่วั แตช่ ่วั ดี ประดบั ไวใ้ นโลกา ความดที กุ อยา่ งที่ทาแมเ้ พียงเล็กน้อยกม็ ปี ระโยชนต์ ่อโลกทงั้ สิน้ ตงั้ แต่วันนีน้ ักเรียนจะเร่ิมต้นทา ความดีอะไรเพอื่ ประดบั ไวใ้ นโลกบ้าง และความดนี ั้นก่อใหเ้ กิดผลดีอย่างไร ๑.๑.ผลผดลีตดอ่ีตอ่ตตนนเอเองง ๒. ผลดีตอ่ ครอบครัว ความดี ๔. ผลดีต่อโลก ๓. ผลดีต่อประเทศ
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ภำคเรียนท่ี ๒ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ รำยวชิ ำ ภำษำไทย รหัสวิชำ ท ๒๒๑๐๒ ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ ๒ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๘ เร่ือง กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่ ำช้ำ เ ว ล ำ ๑ ๔ ช่ั ว โ ม ง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๘.๘ ภาษาจากตา่ งแดน จานวน ๑ ชวั่ โมง ผสู้ อน นางสาวธนภรณ์ สุธรรมจา วนั ทสี่ อน................................... มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา และพลงั ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็น สมบตั ิของชาติ ตวั ชี้วัด ท ๔.๑ ม. ๒/๕ รวบรวมและอธิบายความหมายของคาภาษาตา่ งประเทศทีใ่ ชใ้ นภาษาไทย จุดประ๑ส. องธคิบก์ ายาครวเารมียหนมราู้ยของคาภาษาตา่ งประเทศที่ใชใ้ นภาษาไทย (K) ๒. รวบรวมคาภาษาตา่ งประเทศท่ีใชใ้ นภาษาไทย (P) ๓. เห็นความสาคญั ของการใชภ้ าษาอยา่ งถูกตอ้ ง (A) สาระสาคัญ ภาษาไทยมีการรบั คาภาษาตา่ งประเทศมาใชเ้ พอ่ื ใหภ้ าษาไทยมีคาใชเ้ พม่ิ มากข้ึน การรูจ้ กั คา ภาษาตา่ งประเทศทาใหเ้ ลือกใชแ้ ละเขา้ ใจความหมายในการส่ือสาร สาระการเรียนรู้ ๑. ลกั ษณะของภาษาไทย ๒. ลกั ษณะของคาทม่ี าจากภาษาต่างประเทศ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
๑. ความสามารถในการส่อื สาร - ทกั ษะการอ่าน - ทกั ษะการเขยี น - ทกั ษะการฟัง การดู และการพดู ๒. ความสามารถในการคิด - การจาแนก - การใหเ้ หตผุ ล - การวิเคราะห์ - การสรุปความรู้ ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประสใฝ่ เรียนรู้ ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๔.๑ ตงั้ ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๔.๒ แสวงหาความรูจ้ ากแหลง่ เรยี นรูต้ า่ ง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลอื กใชส้ ่อื อยา่ งเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็น องคค์ วามรู้ สามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ มงุ่ ม่ันในการทางาน ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๑ ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบในการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่กี ารงาน ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย รักความเป็ นไทย ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๗.๒ เหน็ คณุ คา่ และใชภ้ าษาไทยในการสอ่ื สารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม ชนิ้ งานหรือภาระงาน - การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ๑. ใหน้ กั เรยี นบอกคาเรยี กเครอื ญาติ เชน่ พอ่ แม่ พ่ี นอ้ ง ป่ ู ยา่ ตา ยาย ลงุ ปา้ นา้ อา และคา แสดงอิรยิ าบถตา่ ง ๆ เช่น ยืน เดนิ น่งั นอน ครูเขยี นคาท่นี กั เรยี นบอกบนกระดาน ๒. ใหน้ กั เรยี นสงั เกตและบอกลกั ษณะของคาเหลา่ นนั้ (ตวั อยา่ งคาตอบ เป็ นคาพยางคเ์ ดยี ว มีตัวสะกดตรงตามมาตรา)
๓. ใหน้ กั เรยี นนาคาบนกระดานมาเรยี งเป็นประโยคงา่ ย ๆ เชน่ พอ่ นอน แม่เดิน แลว้ ใชค้ า ภาษาองั กฤษแตง่ ประโยคท่มี ีใจความเดยี วกนั เพ่อื สงั เกตลกั ษณะของคา ๔. ใหน้ กั เรยี นอา่ นแถบประโยคท่ีครูติดบนกระดาน ดงั นี้ นอ้ งกินหมอ้ ขา้ วหมด แลว้ สนทนาเก่ียวกบั ใจความของประโยค จากน้นั เรียงลาดบั คาใหม่ใหถ้ ูกตอ้ ง นอ้ งกินขา้ วหมดหมอ้ ๕. ใหน้ กั เรียนศกึ ษาความรู้ เรื่อง ลกั ษณะของภาษาไทย แลว้ ร่วมกนั สรุปความเขา้ ใจ ๖. ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกคาทค่ี ดิ วา่ ไม่ใช่คาไทย ครูเขยี นคาท่ีนกั เรียนบอกบนกระดาน จากน้นั ครูใชค้ าถามถามนกั เรียนวา่ เพราะเหตุใดนกั เรียนจึงคดิ วา่ คาเหล่าน้ีไม่ใช่คาไทย ๗. ใหน้ กั เรียนศกึ ษาความรู้ เร่ือง ลกั ษณะของคาทีม่ าจากภาษาต่างประเทศแลว้ ร่วมกนั สรุปความ เขา้ ใจ ๘. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม ๓ กลุ่ม ส่งตวั แทนออกมาจบั ฉลาก แลว้ รวบรวมคายมื จากภาษาน้นั ให้ ไดม้ ากทีส่ ุดภายในเวลาที่กาหนด กลุ่มที่ ๑ คายมื จากภาษาองั กฤษ กลุ่มที่ ๒ คายมื จากภาษาจนี กลุ่มที่ ๓ คายมื จากภาษาญ่ีป่ ุน (ครูอาจใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่มตามภาษาอื่นท่สี นใจเพม่ิ เติมก็ได)้ ๙. ใหน้ กั เรียนท้งั ๓ กลุ่ม ส่งตวั แทนออกมาเขยี นคาทีร่ วบรวมไดบ้ นกระดาน จากน้นั ครูให้ นกั เรียนอ่านออกเสียงคาพรอ้ มกนั และตรวจสอบความถูกตอ้ ง ๑๐. ใหน้ กั เรียนช่วยกนั จดั คาเหล่าน้นั เป็ นหมวดหมู่ เช่น คาทเี่ ป็นชื่ออาหาร กีฬา เครื่องใช้ วชิ าการ คาทวั่ ไป ๑๑. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี ภาษาไทยมีการรับคาภาษาตา่ งประเทศมาใชเ้ พอ่ื ใหภ้ าษาไทยมีคาใชเ้ พมิ่ มากข้ึน การรู้จกั คาภาษาต่างประเทศทาใหเ้ ลือกใชแ้ ละเขา้ ใจความหมายในการส่ือสาร ๑๒. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี นกั เรียนเห็นดว้ ยหรือไม่ที่ไทยตอ้ งนาคายมื จากภาษาตา่ งประเทศมาใช้ ๑๒. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนไปสารวจการใชค้ าภาษาต่างประเทศในอินเทอร์เน็ต บนั ทึกคาและ ขอ้ ความท่ีน่าสนใจเพอ่ื นามาทากิจกรรมในชว่ั โมงต่อไป สอื่ การเรียนรู้
๑. แถบประโยค ๒. ฉลาก การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑. วิธีกำรวดั และประเมนิ ผล ๑) สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓) ตรวจผลงานของนกั เรียน ๒. เคร่ืองมือ ๑) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓. เกณฑ์กำรประเมิน ๑) การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่ำน ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่ำน ๒) การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน ๙-๑๐ ระดบั ดีมาก คะแนน ๗-๘ ระดบั ดี คะแนน ๕-๖ ระดบั พอใช้ คะแนน ๐-๔ ระดบั ควรปรบั ปรุง
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ภำคเรียนที่ ๒ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ รำยวชิ ำ ภำษำไทย รหัสวชิ ำ ท ๒๒๑๐๒ ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี ๒ หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๘ เรื่อง กลอนดอกสร้อยรำพงึ ในป่ ำช้ำ เ ว ล ำ ๑ ๔ ชั่ ว โ ม ง แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๘.๙ ปริศนาภาษาองั กฤษ จานวน ๑ ชว่ั โมง ผสู้ อน นางสาวธนภรณ์ สุธรรมจา วนั ที่สอน................................... มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา และพลงั ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็น สมบตั ิของชาติ ตวั ชี้วัด ท ๔.๑ ม. ๒/๕ รวบรวมและอธิบายความหมายของคาภาษาต่างประเทศทีใ่ ชใ้ นภาษาไทย จุดประ๑ส. องธคิบก์ าายรคเวรามียหนมราู้ ยของคาภาษาต่างประเทศที่ใชใ้ นภาษาไทย (K) ๒. ประเมินการใชค้ าภาษาต่างประเทศในอินเทอร์เน็ต (P) ๓. ใชค้ าภาษาต่างประเทศในภาษาไทยไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม (P) ๔. เห็นความสาคญั ของการใชภ้ าษาไทย (A) สาระสาคัญ ภาษาไทยมีการรับคาภาษาต่างประเทศมาใชเ้ พอ่ื ใหภ้ าษาไทยมีคาใชเ้ พม่ิ มากข้นึ จึงควรเลือกใชค้ า ภาษาตา่ งประเทศใหถ้ ูกตอ้ งเหมาะสม และไมล่ ืมภาษาไทย สาระการเรียนรู้ ๑. สาเหตุการยมื คาในภาษาอื่นมาใช้ ๒. การใชค้ าภาษาตา่ งประเทศในอินเทอร์เน็ต สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการส่อื สาร - ทกั ษะการอา่ น - ทกั ษะการเขียน
- ทกั ษะการฟัง การดู และการพดู ๒. ความสามารถในการคดิ - การวเิ คราะห์ - การจดั ระบบความคิดเป็นแผนภาพ - การประยกุ ต/์ การปรบั ปรุง - การสรุปความรู้ - การประเมินคา่ ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต ๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประสใฝ่ เรียนรู้ ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๔.๑ ตงั้ ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๔.๒ แสวงหาความรูจ้ ากแหลง่ เรยี นรูต้ า่ ง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลอื กใชส้ อ่ื อยา่ งเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็น องคค์ วามรู้ สามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ มุ่งม่ันในการทางาน ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๑ ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่กี ารงาน ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย รักความเป็ นไทย ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๗.๒ เห็นคณุ คา่ และใชภ้ าษาไทยในการสอ่ื สารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม ชิน้ งานหรือภาระงาน ใบงาน เร่อื ง การคน้ หาคาศพั ทภ์ าษาองั กฤษ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี “ ภาษาเปล่ียนไปตามความเจริญกา้ วหนา้ ของโลก” นกั เรียนมีความคดิ เห็นกบั คากลา่ วน้ีอยา่ งไร ๒. ใหน้ กั เรียนช่วยกนั สนั นิษฐานเกี่ยวกบั สาเหตุทไี่ ทยรับคาภาษาต่างประเทศมาใช้ พรอ้ มยกตวั อยา่ ง ๓. ใหน้ กั เรียนศึกษาความรู้ เร่ือง สาเหตุการยมื คาในภาษาอื่นมาใช้ แลว้ ร่วมกนั สรุปความเขา้ ใจเป็น
แผนภาพความคดิ ความสมั พนั ธ์ ความสมั พนั ธ์ ทางศาสนา ทางถ่ินฐาน ความสมั พนั ธ์ และวฒั นธรรม ทางการเผยแพร่ ศิลปะวรรณคดี สาเหตกุ ารยืมคา ภาษาต่างประเทศ ความสมั พนั ธ์ ความสมั พนั ธ์ ทางการศกึ ษา ทางการคา้ และการกีฬา ๔. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ ๔-๕ คน วเิ คราะห์ภาษาท่ีใชใ้ นอินเทอร์เน็ตท่ที ุกคนสารวจมาตามคา มอบหมายของครูในชว่ั โมงทีแ่ ลว้ โดยวเิ คราะห์วา่ มีคายมื จากภาษาใดบา้ งทนี่ กั เรียนรูจ้ กั คาเหล่าน้นั นามาใชอ้ ยา่ ง เหมาะสมหรือไม่ ถา้ ไม่เหมาะสมจะแกไ้ ขอยา่ งไร ครูแจกพจนานุกรมและ dictionary ใหน้ กั เรียนทุกกลุ่มเพอ่ื ใชเ้ ป็ น เคร่ืองมือในการตรวจสอบ ๕. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอผลการประเมินหนา้ ช้นั เรียนกลุ่มอ่ืนช่วยกนั ตรวจสอบและ เสนอแนะ ๖. ใหน้ กั เรียนทาใบงาน เร่ือง การคน้ หาคาศพั ทภ์ าษาองั กฤษ นกั เรียนสามารถใช้ dictionary ในการคน้ หาและตรวจสอบได้ เมื่อทกุ คนทาเสร็จร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ๗. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี ภาษาไทยมีการรับคาภาษาต่างประเทศมาใชเ้ พ่ือใหภ้ าษาไทยมีคาใชเ้ พม่ิ มากข้นึ จงึ ควรเลือกใช้ คาภาษาตา่ งประเทศใหถ้ ูกตอ้ งเหมาะสมและไม่ลมื ภาษาไทย ส่อื การเรียนรู้ ๓. คาและขอ้ ความในอินเทอรเ์ นต็ ๔. พจนานกุ รม และ dictionary ๕. ใบงาน การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑. วธิ ีกำรวดั และประเมินผล ๑) สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม
๒) สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓) ตรวจใบงานที่ ๕๒ ๒. เคร่ืองมือ ๑) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓. เกณฑ์กำรประเมิน ๑) การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่ำน ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่ำน ๒) การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน ๙-๑๐ ระดบั ดีมาก คะแนน ๗-๘ ระดบั ดี คะแนน ๕-๖ ระดบั พอใช้ คะแนน ๐-๔ ระดบั ควรปรับปรุง การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrกicาsร)ประเมินใบงานน้ีใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง การคน้ หาคาศพั ทภ์ าษาองั กฤษ ระดับคะแนน ๔๓๒ ๑ เกณฑ์กำรประเมนิ คน้ หาคาศพั ท์ ไดไ้ ม่รวดเร็วนกั การคน้ หาคาศพั ท์ คน้ หาคาศพั ท์ การคน้ หาคาศพั ท์ การคน้ หาคาศพั ท์ แตก่ ็มีความพยายาม และถูกตอ้ งทุกคา ภาษาองั กฤษ ไดร้ วดเร็ว มีตดิ ขดั บา้ งบางคา มีติดขดั อยหู่ ลายคา และถูกตอ้ งทุกคา นอกน้นั ก็ แตน่ อกน้นั ก็ สามารถคน้ หา ใชเ้ วลาคน้ หา ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ไม่มากนกั และถูกตอ้ งทกุ คา และถูกตอ้ งทกุ คา ใบงานเร่ือง การคน้ หาคาศพั ทภ์ าษาอังกฤษ ใหน้ กั เรยี นเตมิ ตวั อกั ษรภาษาองั กฤษลงใน ใหเ้ ป็นคาท่มี ีความหมายตรงกบั ภาษาไทยท่กี าหนด ๑. ตรงกบั คาวา่ ววั ๒. ตรงกบั คาวา่ ทวิ ากาล
o a i a o ea ui e oe ae กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ รำยวิชำ ภำษำไทย ภำคเรียนที่ ๒ ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ ๒ รหัสวิชำ ท ๒๒๑๐๒
หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๘ เร่ือง กลอนดอกสร้อยรำพงึ ในป่ ำช้ำ เ ว ล ำ ๑ ๔ ชั่ ว โ ม ง แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๘.๑๐ โนม้ นา้ วใจใหค้ ลอ้ ยตาม จานวน ๑ ชว่ั โมง ผสู้ อน นางสาวธนภรณ์ สุธรรมจา วนั ที่สอน................................... มำตรฐำนกำรเรียนรู้ สามารถเลอื กฟังและดอู ยา่ งมีวิจารณญาณและพดู แสดงความรู้ มาตรฐาน ท ๓.๑ ความคิดและความรูส้ กึ ในโอกาสตา่ ง ๆ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ตวั ชีว้ ดั พดู ในโอกาสตา่ ง ๆ ไดต้ รงตามวตั ถปุ ระสงค์ ท ๓.๑ ม. ๒/๔ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู ท ๓.๑ ม. ๒/๖ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ (K) ๑. อธิบายลกั ษณะการพดู โนม้ นา้ ว ๒. บอกขอ้ ควรปฏบิ ตั ิในการพดู โนม้ นา้ ว (K) ๓. วเิ คราะหจ์ ุดประสงคข์ องผพู้ ดู (P) ๔. เขียนบทพดู โนม้ นา้ ว (P) ๕. เหน็ ความสาคญั ของการเตรยี มตวั ในการพดู (A) สาระสาคัญ การพดู โนม้ นา้ วมีจดุ ประสงคเ์ พ่อื ชกั จูงหรอื เปล่ยี นความคดิ และความรูส้ กึ ของผฟู้ ังใหค้ ลอ้ ยตามผพู้ ดู และ กระทาการอยา่ งใดอยา่ งหน่งึ ตามท่ผี พู้ ดู ตอ้ งการดว้ ยความสมคั รใจ สาระการเรยี นรู้ การพดู โนม้ นา้ ว สมรรถนะสาคัญของ ผู้เรียน๑. ความสามารถในการส่อื สาร - ทกั ษะการอ่าน - ทกั ษะการเขียน - ทกั ษะการฟัง การดู และการพดู ๒. ความสามารถในการคิด - การวิเคราะห์ - การสงั เคราะห์ - การประยกุ ต/์ การปรบั ปรุง
- การสรุปความรู้ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประส ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๔.๑ ตงั้ ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๔.๒ แสวงหาความรูจ้ ากแหลง่ เรยี นรูต้ า่ ง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลอื กใชส้ อ่ื อยา่ งเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรุปเป็น องคค์ วามรู้ สามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ มุ่งม่ันในการทางาน ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๑ ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบในการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่กี ารงาน ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย รักความเป็ นไทย ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๗.๒ เห็นคณุ คา่ และใชภ้ าษาไทยในการส่อื สารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม ชนิ้ งานหรือภาระงาน - การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั นี้ คาพดู แบบใดท่ที าใหค้ นฟังคลอ้ ยตาม ๒. ใหน้ กั เรยี นฟังการพูดโนม้ นา้ วจากแถบบนั ทกึ เสยี งท่คี รูเตรยี มไว้ แลว้ รว่ มกนั สนทนา โดยครูใชค้ าถาม ดงั นี้ เม่ือฟังเรอ่ื งนแี้ ลว้ นกั เรยี นรูส้ กึ อยา่ งไร ผพู้ ดู มีจดุ ประสงคใ์ ด การพดู นมี้ ีลกั ษณะเดน่ อยา่ งไร ๓. ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาความรู้ เรอ่ื ง การพดู โนม้ นา้ ว แลว้ รว่ มกนั สรุปความเขา้ ใจ ๔. ใหน้ กั เรยี นเตรยี มตวั พดู โนม้ นา้ ว โดยเลอื กขอ้ คิดท่กี าหนด ๑ ขอ้ นามาเขยี นบทพดู โนม้ นา้ วท่ีมีเนอื้ หา สอดคลอ้ งกบั ขอ้ คิดดงั กลา่ ว ใหเ้ ช่ือมโยงกบั ชีวติ จรงิ และสภาพสงั คมปัจจบุ นั ๕. เม่อื นกั เรยี นเขียนเสรจ็ ใหอ้ า่ นทวนอีกครงั้ เพ่ือตรวจสอบและปรบั ปรุงแกไ้ ข จากนนั้ นาบทท่รี า่ งไป ฝึกซอ้ มการพดู สาหรบั ออกมาพดู หนา้ ชนั้ เรยี นใหเ้ พ่อื นฟังในช่วั โมงถดั ไป ซ่งึ นกั เรยี นต้องฝึกควบคมุ เวลาในการพดู ประมาณ ๓ นาที ๖. ใหน้ กั เรยี นและครูรว่ มกนั สรุปความรู้ ดงั นี้
การพดู โนม้ นา้ วมีจดุ ประสงคเ์ พ่อื ชกั จงู หรอื เปล่ยี นความคิดและความรูส้ กึ ของผฟู้ ังใหค้ ลอ้ ยตาม ผพู้ ดู และกระทาการอยา่ งใดอยา่ งหน่งึ ตามท่ผี พู้ ดู ตอ้ งการดว้ ยความสมคั รใจ สอ่ื การเรียนรู้ แถบบนั ทกึ เสยี ง การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑. วิธีกำรวดั และประเมินผล ๑) สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) ตรวจผลงานของนกั เรียน ๒. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๓. เกณฑ์กำรประเมิน การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่ำน ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่ำน แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ภำคเรียนท่ี ๒ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ รำยวชิ ำ ภำษำไทย รหัสวิชำ ท ๒๒๑๐๒ ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี ๒ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๘ เร่ือง กลอนดอกสร้อยรำพงึ ในป่ ำช้ำ เ ว ล ำ ๑ ๔ ช่ั ว โ ม ง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๘.๑๑ เชื่อถอ้ ยรอ้ ยคา จานวน ๑ ชวั่ โมง ผสู้ อน นางสาวธนภรณ์ สุธรรมจา วนั ท่สี อน...................................
มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดอู ยา่ งมีวจิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และความรู้สึกในโอกาสตา่ ง ๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ตัวชี้วัด ท ๓.๑ ม. ๒/๔ พดู ในโอกาสต่าง ๆ ไดต้ รงตามวตั ถุประสงค์ ท ๓.๑ ม. ๒/๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู จดุ ประ๑ส.งบคอก์ กาลรกั เษรียณนะรกู้ ารพดู โนม้ นา้ วที่ดีและการพดู ทบ่ี กพร่อง (K) ๒. พดู โนม้ นา้ วตามเวลาทก่ี าหนด (P) ๓. ประเมินการพดู โนม้ นา้ ว (P) ๔. เห็นความสาคญั ของการพดู โนม้ นา้ วและมีมารยาทในการพดู (A) สาระสาคัญ การพดู ท่มี ีประสิทธิภาพและประสบความสาเร็จ ผพู้ ดู ตอ้ งเตรียมตวั มาเป็ นอยา่ งดี มีความจริงใจ และมี คุณธรรม สาระการเรียนรู้ การพดู โนม้ นา้ ว สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร - ทกั ษะการอ่าน - ทกั ษะการเขยี น - ทกั ษะการฟัง การดู และการพดู ๒. ความสามารถในการคดิ - การวิเคราะห์ - การสงั เคราะห์ - การประยกุ ต/์ การปรบั ปรุง - การสรุปความรู้ - การประเมินคา่ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ปใฝร่ ะเรสียนรู้ ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๔.๑ ตงั้ ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้
ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๔.๒ แสวงหาความรูจ้ ากแหลง่ เรยี นรูต้ า่ ง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลอื กใชส้ ่อื อยา่ งเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็น องคค์ วามรู้ สามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ มุ่งม่นั ในการทางาน ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๑ ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบในการปฏิบตั ิหนา้ ท่กี ารงาน ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพียรพยายามและอดทนเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย รักความเป็ นไทย ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๗.๒ เห็นคณุ คา่ และใชภ้ าษาไทยในการส่อื สารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม ชนิ้ งานหรือภาระงาน การพดู โนม้ นา้ ว การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั วธิ ีการฝึกซอ้ มพดู โนม้ นา้ วทป่ี ฏิบตั จิ ริงวา่ เป็ นอยา่ งไร มี อุปสรรคใดบา้ ง และนกั เรียนแกป้ ัญหาอยา่ งไร ๒. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั กาหนดเกณฑก์ ารประเมินการพดู ครูช่วยตรวจสอบและแนะนาเพมิ่ เตมิ ๓. ใหน้ กั เรียนออกมาพดู โนม้ นา้ วหนา้ ช้นั เรียนทีละคน เพอื่ นที่เป็ นผฟู้ ังร่วมกนั ประเมินและบนั ทกึ ขอ้ เสนอแนะไว้ ๔. เมื่อนกั เรียนทกุ คนพดู จบ ใหร้ ่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั การพดู สรุปวธิ ีการพดู ทดี่ ีและ ขอ้ บกพร่อง รวมท้งั เสนอแนวทางการปรับปรุง ๕. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การพดู ทีม่ ีประสิทธิภาพและประสบความสาเร็จ ผพู้ ดู ตอ้ งเตรียมตวั มาเป็ นอยา่ งดี มีความ จริงใจ และมีคุณธรรม ๖. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนา โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี ในชีวติ จริงนกั เรียนตอ้ งใชก้ ารพดู โนม้ นา้ วในสถานการณ์ใดบา้ ง การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑. วิธีกำรวัดและประเมินผล ๑) สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) ตรวจผลงานของนกั เรียน ๒. เครื่องมือ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
๓. เกณฑ์กำรประเมิน การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่ำน ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่ำน การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrกicาsรประเมินกิจกรรมน้ีใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรื่อง การพดู ในโอกาสต่าง ๆ ระดบั คะแนน ๔๓๒๑ เกณฑ์กำรประเมนิ การพดู ในโอกาส เตรียมการพดู เตรียมการพดู เตรียมการพดู เตรียมการพดู ต่าง ๆ มาเป็นอยา่ งดี มาเป็ นอยา่ งดี ไม่ดีเท่าทีค่ วร ลาดบั ยงั ไม่ดี พดู ติด ๆ ขดั ๆ ลาดบั การพดู ต่อเน่ือง ลาดบั การพดู ตอ่ เน่ือง การพดู ติดขดั เลก็ นอ้ ย แตก่ ็มีความพยายาม ใชภ้ าษาและน้าเสียง ใชภ้ าษาและน้าเสียง บางโอกาสยงั ใช้ เหมาะสมกบั ทกุ โอกาส เหมาะสมกบั ภาษาและน้าเสียง พดู เป็นธรรมชาติ และมีบคุ ลิกภาพที่ดี ทุกโอกาส การพดู ไม่เหมาะสม ไม่คอ่ ยเป็ นธรรมชาติ การพดู ไม่เป็ น และตอ้ งปรับปรุง ธรรมชาติ บคุ ลิกภาพเล็กนอ้ ย แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ภำคเรียนท่ี ๒ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ รำยวิชำ ภำษำไทย รหัสวชิ ำ ท ๒๒๑๐๒ ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี ๒ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๘ เรื่อง กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่ ำช้ำ เ ว ล ำ ๑ ๔ ชั่ ว โ ม ง แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๘.๑๒ พธิ ีกรรมกบั ความตาย จานวน ๑ ชว่ั โมง ผสู้ อน นางสาวธนภรณ์ สุธรรมจา วนั ทีส่ อน................................... มำตรฐำนกำรเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดูอยา่ งมีวิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด และความรูส้ กึ ในโอกาสตา่ ง ๆ อยา่ งมีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ ตัวชีว้ ัด ท ๓.๑ ม. ๒/๕ พดู รายงานเรอ่ื งหรอื ประเด็นท่ศี กึ ษาคน้ ควา้ จากการฟัง การดู และการสนทนา ท ๓.๑ ม. ๒/๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. สรุปหลกั การพดู รายงาน (K) ๒. พดู รายงานตามประเดน็ ท่ศี กึ ษาคน้ ควา้ (P) ๓. เห็นความสาคญั ของการเผยแพรค่ วามรูแ้ ละมีมารยาทในการพดู (A) สาระสาคัญ การพดู รายงานเป็นการพดู เพ่อื ใหค้ วามรู้ ม่งุ เนน้ การนาเสนอขอ้ เทจ็ จรงิ ท่ไี ดจ้ ากการศึกษาคน้ ควา้ การพูด รายงานท่ีมีส่ือประกอบการพูดจะช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจเนือ้ หาสาระได้ชัดเจนย่ิงขึน้ ผู้พูดรายงานต้องมีความ รบั ผดิ ชอบนาเสนอขอ้ มลู ตามความเป็นจรงิ และอา้ งอิงแหลง่ ท่มี าของขอ้ มลู เสมอ สาระการเรยี นรู้ การพดู รายงาน สมรรถนะสาคัญของ ผู้เรียน๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร - ทกั ษะการอา่ น - ทกั ษะการเขยี น - ทกั ษะการฟัง การดู และการพดู ๒. ความสามารถในการคดิ - การสงั เคราะห์ - การประยกุ ต/์ การปรบั ปรุง - การสรุปความรู้ - การประเมินคา่ ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประสใฝ่ เรียนรู้ ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๔.๑ ตงั้ ใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๔.๒ แสวงหาความรูจ้ ากแหลง่ เรยี นรูต้ า่ ง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลอื กใชส้ อ่ื อยา่ งเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรุปเป็น องคค์ วามรู้ สามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ ม่งุ ม่ันในการทางาน ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๑ ตงั้ ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏิบตั หิ นา้ ท่กี ารงาน ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพียรพยายามและอดทนเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย รักความเป็ นไทย ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๗.๒ เหน็ คณุ คา่ และใชภ้ าษาไทยในการส่อื สารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม ชิน้ งานหรือภาระงาน การพดู รายงานเก่ียวกบั พิธีกรรมในงานศพ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั สนทนา โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั นี้ นกั เรยี นจะนาวิธีการพดู รายงานขา่ วทางโทรทศั นม์ าใชก้ บั การพดู รายงานหนา้ ชนั้ เรยี นไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง ๒. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลมุ่ โดยพิจารณาจากชุมชนท่ีอาศยั อยู่ นกั เรียนท่ีอยู่ละแวกชุมชนเดียวกนั ใหอ้ ยู่ กลมุ่ เดยี วกนั เพ่อื ใหส้ ะดวกตอ่ การไปเก็บขอ้ มลู ในชุมชน ดงั นนั้ แตล่ ะกลมุ่ อาจมีจานวนสมาชิกไมเ่ ทา่ กนั ๓. ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ไปสงั เกตพิธีกรรมเก่ียวกบั งานศพในชมุ ชนของคนหรอื ในสถานท่ีตา่ ง ๆ ตามท่ี ครูเห็นวา่ เหมาะสม จะเป็นพิธีกรรมของกลมุ่ ชนเชือ้ สายใดหรอื ศาสนาใดก็ได้ อาจสอบถามหรือสมั ภาษณบ์ ุคคลท่ี มีความรูเ้ ก่ียวกบั พิธีกรรมนนั้ ๆ รวบรวมขอ้ มลู ท่ไี ดน้ ามาเรยี บเรยี งแลว้ ฝึกซอ้ มการพดู เพ่ือออกมาพูดรายงานหนา้ ชนั้ เรยี น (ครูมอบหมายใหน้ กั เรยี นไปทากิจกรรมนมี้ าลว่ งหนา้ ) ๔. ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ สง่ ตวั แทนออกมาพดู รายงานหนา้ ชนั้ เรยี น เม่ือพดู จบนกั เรยี นกลมุ่ อ่ืนสามารถ ซกั ถามหรอื แสดงความรูข้ องตนเองเพ่มิ เติมได้ ๕. ใหน้ กั เรยี นช่วยกนั สรุปหลกั การพูดรายงานจากการปฏิบตั ิจริง รวบรวมขอ้ บกพรอ่ งและเสนอแนะ แนวทางการปรบั ปรุง ๖. ใหน้ กั เรยี นและครูรว่ มกนั สรุปความรู้ ดงั นี้
การพูดรายงานเป็นการพูดเพ่ือใหค้ วามรู้ มุ่งเน้นการนาเสนอขอ้ เท็จจริงท่ีไดจ้ ากการศึกษา คน้ ควา้ การพดู รายงานท่มี ีส่อื ประกอบการพดู จะชว่ ยใหผ้ ฟู้ ังเขา้ ใจเนอื้ หาสาระไดช้ ดั เจนย่ิงขนึ้ ผพู้ ดู รายงานตอ้ งมี ความรบั ผดิ ชอบ นาเสนอขอ้ มลู ตามความเป็นจรงิ และอา้ งอิงแหลง่ ท่มี าของขอ้ มลู เสมอ ๗. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนเลือกอ่านวรรณกรรมซ่ึงมีเรื่องราวทแ่ี สดงสจั ธรรมของชีวติ เช่น อมตะหว้ งมหรรณพ โดยเลือกอ่านคนละ ๑ เรื่อง เพอ่ื นามาทากิจกรรมในชว่ั โมงตอ่ ไป ส่อื การเรียนรู้ สอ่ื ท่ใี ชป้ ระกอบการพดู รายงาน การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑. วิธีการวดั และประเมินผล ๑) สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเขา้ รว่ มกิจกรรม ๒) สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ ๓) ตรวจผลงานของนกั เรยี น ๒. เครื่องมือ ๑) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ ๓. เกณฑก์ ารประเมนิ ๑) การประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม ผา่ นตงั้ แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น ๒) การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ คะแนน ๙ - ๑๐ ระดบั ดมี าก คะแนน ๗ - ๘ ระดบั ดี คะแนน ๕ - ๖ ระดบั พอใช้ คะแนน ๐ - ๔ ระดบั ควรปรบั ปรุง
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ภำคเรียนที่ ๒ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ รำยวชิ ำ ภำษำไทย รหัสวชิ ำ ท ๒๒๑๐๒ ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี ๒ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๘ เร่ือง กลอนดอกสร้อยรำพงึ ในป่ ำช้ำ เ ว ล ำ ๑ ๔ ชั่ ว โ ม ง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๘.๑๓ คดั สรรวรรณกรรมน่าอ่าน จานวน ๑ ชว่ั โมง ผสู้ อน นางสาวธนภรณ์ สุธรรมจา วนั ที่สอน................................... มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพอ่ื นาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการ ดาเนินชีวติ และมีนิสยั รกั การอ่าน ตวั ชี้วดั ท ๑.๑ ม. ๒/๗ อ่านหนงั สือ บทความ หรือคาประพนั ธอ์ ยา่ งหลากหลายและประเมินคุณค่าหรือแนวคิดท่ี ไดจ้ ากการอ่านเพอ่ื นาไปใชแ้ กป้ ัญหาในชีวติ ท ๑.๑ ม. ๒/๘ มีมารยาทในการอ่าน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311