Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการเรียนรู้ ปีการศึกษา 2564 ภาคเรียนที่ 2

แผนการเรียนรู้ ปีการศึกษา 2564 ภาคเรียนที่ 2

Published by toongtoongpang, 2022-08-29 05:43:25

Description: แผนการเรียนรู้ ปีการศึกษา 2564 ภาคเรียนที่ 2

Search

Read the Text Version

ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๔.๒ แสวงหาความรูจ้ ากแหลง่ เรยี นรูต้ า่ ง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลอื กใชส้ อ่ื อยา่ งเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็น องคค์ วามรู้ สามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ ม่งุ ม่นั ในการทางาน ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๑ ตงั้ ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่กี ารงาน ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย รักความเป็ นไทย ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๗.๒ เห็นคณุ คา่ และใชภ้ าษาไทยในการสอ่ื สารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม ชนิ้ งานหรือภาระ - งาน การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ครูส่ง Google meet ใหน้ กั เรียนผา่ นกลุ่ม Facebook ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใช้ คาถามทา้ ทายดงั น้ี • นกั เรียนเคยไปเที่ยวสวนสตั วห์ รือไม่ หากเคยไปนกั เรียนเห็นสตั วช์ นิดใดบา้ ง ๒. ใหน้ กั เรียนอ่านบทนาเร่ืองกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง แลว้ สรุปสาระสาคญั โดยครูอธิบายเพม่ิ เติม ๓. ใหน้ กั เรียนดูแผนภมู ิโคลงส่ีสุภาพต่อไปน้ี มเี รือคา้ ข่ีห้า ลานอ หา้ มแฮ ขวา้ งพิษบค่ ว่างพน้ พนั แขน ตนนา สุนขั หกอยา่ พึงพอ จิตเล้ียง ไปสบพบรังแตน แหยเ่ ยา้ แมวเจด็ เร่งเร็วขอ มาใส่ อีกนา ร่ายมนตร์ปลุกเสือแสน องอาจ ชา้ งแปดมา้ เกา้ เหย้ยี ง อยา่ งห้ามเพรงมา ไมซ้ น่ั ลนั สิ่งเหนา้ แน่ตอ้ งตนเอง โคลงโลกนิติ โคลงโลกนิติ ใหน้ กั เรียนสงั เกตวา่ มีคาใดบา้ งที่เขยี นแตกตา่ งไปจากปกติ (เหย้ยี ง = เยยี่ ง, ควา่ ง = ขวา้ ง, ซนั่ = ส้ัน, เหนา้ = เน่า ) ครูอธิบายเพม่ิ เตมิ ๔. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ ๓ คน แลว้ สงั เกตคาเอกโทษหรือคาโทโทษท่ขี ีดเสน้ ใตแ้ ลว้ เขยี นให้ ถูกตอ้ ง กลุ่มใดเสร็จก่อนใหย้ นื ข้ึน ครูตรวจสอบความถูกตอ้ ง ๕. ใหก้ ลุ่มทที่ าเสร็จก่อนแลว้ ถูกตอ้ งเฉลยคาตอบ ครูชมเชยใหก้ าลงั ใจ ๖. ใหน้ กั เรียนนาตวั อกั ษรหนา้ ความหมาย มาเขียนลงในช่องวา่ งใหต้ รงกบั คาศพั ทท์ ก่ี าหนดให้ โดยใชพ้ จนานุกรมประกอบการคน้ หาความหมาย ๗. ครูเฉลยคาตอบและอธิบายเพมิ่ เตมิ ๘. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี •

การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรองประเภทโคลงนอกจากจะตอ้ งรู้ความหมายของคาแลว้ ยงั ตอ้ งเขา้ ใจ ลกั ษณะพเิ ศษของคาท่ีใชบ้ างคา คอื คาเอกโทษและคาโทโทษ เม่ือเราไม่สามารถหาคาเอกคาโทไดจ้ งึ ใชค้ าเอกโทษ โทโทษแทน สอื่ การเรียนรู้ ๑. แผนภูมิ ๒. พจนานุกรม การวัดและประเมนิ ผลการ เรียนร๑ู้. วธิ ีกำรวดั และประเมนิ ผล ๑) สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓) ตรวจผลงานของนกั เรียน ๒. เคร่ืองมือ ๑) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓. เกณฑ์กำรประเมิน ๑) การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่ำน ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่ำน ๒) การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน ๙-๑๐ ระดบั ดีมาก คะแนน ๗-๘ ระดบั ดี คะแนน ๕-๖ ระดบั พอใช้ คะแนน ๐-๔ ระดบั ควรปรับปรุง ความรู้เพม่ิ เตมิ สาหรับครู คาเอก-คาโท จะมีอยใู่ นโคลงและรา่ ย เม่ือเราไมส่ ามารถหาคาเอก-โทมาเช่ือมแตง่ บทประพนั ธ์ เราก็สามารถใชค้ าเอกโทษ - โทโทษแทนท่ไี ด้ - คาเอกโทษ คอื คาท่ปี กตใิ ชไ้ มโ้ ท แตเ่ ม่ือจาเป็นก็ใชค้ าท่มี ีไมเ้ อกแทน เชน่ ใช้ เคยี่ ว แทน เขีย้ ว ค่า แทน ข้า เซน่ แทน เส้น พา่ แทน ผ้า - คาโทโทษ คอื คาท่ปี กตใิ ชไ้ มเ้ อก แตเ่ ม่ือจาเป็นก็ใชค้ าท่มี ีไมโ้ ทแทน เช่น ใช้ ฉ้วย แทน ช่วย

หว้าย แทน ว่าย หวา้ แทน วา่ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ภำคเรียนท่ี ๒ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ รำยวชิ ำ ภำษำไทย รหัสวชิ ำ ท ๒๒๑๐๒ ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี ๒ หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๖ เรื่อง กำพย์ห่อโคลงประพำสธำรทองแดง เวลำ ๑๒ ช่ัวโมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๖.๓ อ่านออกเสียงไพเราะเสนาะหู จานวน ๑ ชว่ั โมง ผสู้ อน นางสาวธนภรณ์ สุธรรมจา วนั ทส่ี อน................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคดิ เพอื่ นาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนินชีวติ และมีนิสยั รกั การอ่าน ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ม. ๒/๑ อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองไดถ้ ูกตอ้ ง ท ๑.๑ ม. ๒/๘ มีมารยาทในการอ่าน

จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. อธิบายการอ่านกาพยห์ ่อโคลง (K) ๒. อ่านออกเสียงกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง (P) ๓. เห็นความสาคญั ของการอ่านออกเสียงวรรณคดีและวรรณกรรม และมีมารยาทในการอ่าน (A) สำระสำคญั การอ่านออกเสียงกาพยห์ ่อโคลง ผอู้ ่านตอ้ งเขา้ ใจลกั ษณะคาประพนั ธแ์ ละจงั หวะการอ่านท้งั กาพยย์ านี ๑๑ และโคลงส่ีสุภาพ เนื่องจากคาประพนั ธป์ ระเภทน้ีจะแต่งดว้ ยกาพยย์ านีสลบั กบั โคลงส่ีสุภาพอยา่ งละ ๑ บท การ อ่านบทร้อยกรองนบั วา่ เป็นการช่วยอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมทางภาษาอีกวธิ ีหน่ึง สำระกำรเรียนรู้ การอ่านออกเสียงกาพยห์ ่อโคลง สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการส่ือสาร - ทกั ษะการอ่าน - ทกั ษะการเขียน - ทกั ษะการฟัง การดู และการพดู ๒. ความสามารถในการคิด - การวเิ คราะห์ - การประยกุ ต/์ การปรับปรุง - การสรุปความรู้ - การประเมินคา่ ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ท่ี ๔.๑ ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ที่ ๔.๒ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ตา่ ง ๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน ดว้ ยการเลือกใชส้ ื่ออยา่ งเหมาะสม บนั ทึกความรู้ วเิ คราะห์ สรุปเป็ น องคค์ วามรู้ สามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ ม่งุ มัน่ ในการทางาน ตวั ช้ีวดั ท่ี ๖.๑ ต้งั ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ีการงาน ตวั ช้ีวดั ท่ี ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพอ่ื ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมาย รักความเป็ นไทย ตวั ช้ีวดั ที่ ๗.๒ เห็นคุณคา่ และใชภ้ าษาไทยในการสื่อสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม

ชิน้ งานหรือภาระงาน การอ่านออกเสียงกาพยห์ ่อโคลง การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั นา ๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี • นกั เรียนคิดวา่ บทร้อยกรองชนิดใดอ่านยากทีส่ ุด เพราะเหตุใด ข้นั สอน ๒. ใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพอ่ื นศกึ ษาและสรุปความรู้ เร่ือง การอ่านกาพยห์ ่อโคลง เม่ือเสร็จแลว้ ครูเลือกบางคู่สรุปใหเ้ พอื่ น ๆ ฟัง ครูอธิบายเพมิ่ เติม ๓. ใหน้ กั เรียนฟังตวั อยา่ งการอ่านทานองเสนาะกาพยห์ ่อโคลงจากแถบบนั ทกึ เสียง หรือครูอ่านใหฟ้ ัง ๔. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม ฝึกอ่านออกเสียงกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ท้งั แบบธรรมดาและ แบบทานองเสนาะใหถ้ ูกตอ้ งตามฉนั ทลกั ษณ์ของคาประพนั ธ์ ๕. ใหน้ กั เรียนออกมาอ่านใหเ้ พอื่ นฟังหนา้ ช้นั เรียน ครูตชิ มใหก้ าลงั ใจและแนะนาเพม่ิ เตมิ ข้นั สรุป ๖. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี • การอ่านออกเสียงกาพยห์ ่อโคลง ผอู้ ่านตอ้ งเขา้ ใจลกั ษณะคาประพนั ธแ์ ละจงั หวะการอ่าน ท้งั กาพยย์ านี ๑๑ และโคลงสี่สุภาพ เน่ืองจากคาประพนั ธป์ ระเภทน้ีจะแต่งดว้ ยกาพยย์ านีสลบั กบั โคลงสี่สุภาพ อยา่ งละ ๑ บท การอ่านบทร้อยกรองนบั วา่ เป็นการช่วยอนุรักษว์ ฒั นธรรมทางภาษาอีกวธิ ีหน่ึง ส่ือกำรเรียนรู้ วดิ ีโอการอ่านกาพยห์ ่อโคลงจาก Yutube การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑. วิธีกำรวดั และประเมนิ ผล ๑) สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓) ตรวจผลงานของนกั เรียน ๒. เครื่องมือ ๑) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓. เกณฑ์กำรประเมิน ๑) การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่ำน

ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่ำน ๒) การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน ๙-๑๐ ระดบั ดีมาก คะแนน ๗-๘ ระดบั ดี คะแนน ๕-๖ ระดบั พอใช้ คะแนน ๐-๔ ระดบั ควรปรับปรุง กำรประเมนิ ผลตำมสภำพจริง การประเมินกิจกรรมน้ีใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง ระดบั คะแนน ๔๓๒๑ เกณฑ์กำรประเมนิ การอ่านออกเสียง อ่านออกเสียง อ่านออกเสียง อ่านออกเสียง อ่านออกเสียง บทร้อยกรอง ไดถ้ ูกตอ้ ง ไดถ้ ูกตอ้ ง ไดถ้ ูกตอ้ ง ไดถ้ ูกตอ้ ง ตามอกั ขรวธิ ี ตามอกั ขรวธิ ี ตามอกั ขรวธิ ี ตามอกั ขรวธิ ี เสียงดงั ชดั เจน เสียงดงั ชดั เจน เสียงดงั ชดั เจน เสียงดงั ชดั เจน เวน้ จงั หวะเหมาะสม เวน้ จงั หวะเหมาะสม เวน้ จงั หวะเหมาะสม แต่ยงั ตอ้ งปรบั ปรุง สามารถทอดเสียง มีการทอดเสียง พยายามทอดเสียง เรื่องการเวน้ จงั หวะ เอ้ือนเสียง เอ้ือนเสียง เอ้ือนเสียง และท่วงทานอง และใชน้ ้าเสียง และใชน้ ้าเสียง และใชน้ ้าเสียง ในการอ่าน แสดงอารมณ์ แสดงอารมณ์ แสดงอารมณ์ ไดไ้ พเราะ ในบางจงั หวะไดด้ ี ในบางจงั หวะ

แตย่ งั ทาไดไ้ ม่ดีนกั แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ภำคเรียนที่ ๒ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ รำยวิชำ ภำษำไทย รหัสวิชำ ท ๒๒๑๐๒ ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ ๒ หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๖ เร่ือง กำพย์ห่อโคลงประพำสธำรทองแดง เวลำ ๑๒ ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๖.๔ บรรจงคดั บรรทดั งาม จานวน ๑ ชวั่ โมง ผสู้ อน นางสาวธนภรณ์ สุธรรมจา วนั ทส่ี อน................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๒.๑ใชก้ ระบวนการเขียน เขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ และเขียนเรื่องราว ในรูปแบบตา่ ง ๆ เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ ตวั ชี้วัด ท ๒.๑ ม. ๒/๑ คดั ลายมือตวั บรรจงคร่ึงบรรทดั ท ๒.๑ ม. ๒/๘ มีมารยาทในการเขยี น มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคุณคา่ และ นามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง ตัวชี้วัด

ท ๕.๑ ม. ๒/๕ ทอ่ งจาบทอาขยานตามทกี่ าหนดและบทรอ้ ยกรองท่มี ีคุณค่าตามความสนใจ จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกหลกั การคดั ลายมอื (K) ๒. ทอ่ งจาบทรอ้ ยกรองตามความสนใจ (K) ๓. คดั ลายมือตวั บรรจงคร่ึงบรรทดั (P) ๔. เห็นความสาคญั ของการคดั ลายมอื การท่องจาบทร้อยกรอง และมีมารยาทในการเขียน (A) สาระสาคญั การคดั ลายมือตวั บรรจงตอ้ งเขียนใหถ้ ูกตอ้ ง สวยงามและอ่านงา่ ยเพราะจะทาใหก้ ารสื่อสารสมั ฤทธิผล และ การอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมแลว้ สามารถจบั ใจความสาคญั จนสรุปเน้ือหาที่อ่านได้ จะทาใหไ้ ดร้ บั ความรูจ้ าก เรื่องท่ีอ่านไดเ้ ป็ นอยา่ งดี สาระการเรียนรู้ การคดั ลายมือ สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน ๑. ความสามารถในการส่ือสาร - ทกั ษะการอ่าน - ทกั ษะการเขยี น - ทกั ษะการฟัง การดู และการพดู ๒. ความสามารถในการคดิ - การใหเ้ หตุผล - การสรุปความรู้ - การประเมินคา่ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝ่ เรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ท่ี ๔.๑ ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ที่ ๔.๒ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรูต้ า่ ง ๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน ดว้ ยการเลือกใชส้ ื่ออยา่ งเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรุปเป็ น องคค์ วามรู้ สามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ ม่งุ มั่นในการทางาน ตวั ช้ีวดั ท่ี ๖.๑ ต้งั ใจและรับผดิ ชอบในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทก่ี ารงาน ตวั ช้ีวดั ท่ี ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพอื่ ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมาย รักความเป็ นไทย

ตวั ช้ีวดั ท่ี ๗.๒ เห็นคุณค่าและใชภ้ าษาไทยในการส่ือสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม ชิ้นงานหรือภาระงาน ๑. ใบงาน เร่ือง การคดั ลายมือกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ๒. การทอ่ งจาบทรอ้ ยกรองตามความสนใจ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั นา ๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใหค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี • นกั เรียนรูจ้ กั เจา้ ฟ้าธรรมธิเบศรหรือไม่ ข้นั สอน ๒. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรม “คนดีของฉนั ” ครูใหน้ กั เรียนลงคะแนนใหก้ บั เพอื่ นในช้นั เรียน ๑ คน โดยใหเ้ ขียนชื่อเพอ่ื น และบอกเหตุผลวา่ ชอบเพอื่ นคนน้ีเพราะเหตุใด จากน้นั ครูเขยี นชื่อเพอื่ นท่ไี ดร้ บั คะแนนเสียงจนครบทกุ ชื่อแลว้ รวมคะแนน นกั เรียนคนทไ่ี ดร้ ับคะแนนเสียงมากที่สุดใหย้ นื ข้นึ รับคาชื่นชม จากเพอ่ื นและครู ครูสรุปคุณสมบตั ิของคนทีผ่ อู้ น่ื ชื่นชอบเพอื่ เป็ นตวั อยา่ งในการทาความดี ๓. ใหน้ กั เรียนทบทวนการคดั ลายมือ จากน้นั ใหเ้ ลือกกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดงท่ีชอบ ๑ บท นามาคดั ลายมือตวั บรรจงคร่ึงบรรทดั ใหส้ วยงามทาลงในใบงาน ๔. ใหน้ กั เรียนท่องจาบททนี่ กั เรียนเลือกมาคดั ลายมือ โดยผลดั กนั ท่องใหเ้ พอื่ นฟังพร้อมท้งั บอกเหตผุ ลทีช่ อบ เลือกนกั เรียนทอ่ งใหเ้ พอ่ื นฟังหนา้ ช้นั เรียน ครูชมเชยพรอ้ มท้งั อธิบายเพมิ่ เตมิ ข้ันสรุป ๕. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี • การคดั ลายมือตวั บรรจงตอ้ งเขียนใหถ้ ูกตอ้ ง สวยงามและอ่านงา่ ยเพราะจะทาใหก้ ารสื่อสาร สมั ฤทธิผล และการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมแลว้ สามารถจบั ใจความสาคญั จนสรุปเน้ือหาทีอ่ ่านได้ จะทาให้ ไดร้ ับความรูจ้ ากเร่ืองทอี่ ่านไดเ้ ป็นอยา่ งดี การจดั บรรยากาศเชิงบวก ใหน้ กั เรียนไดเ้ ลือกในส่ิงท่ีชอบจะทาใหน้ กั เรียนต้งั ใจเรียนมากข้นึ และการใหค้ าชมเชยจะทาให้ นกั เรียนภูมิใจและอยากทากิจกรรมต่อไป ส่ือการเรียนรู้ ใบงาน การวัดและประเมินผล ๑. วิธีกำรวัดและประเมนิ ผล ๑) สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) ตรวจใบงานที่ ๒๔ ๒. เครื่องมือ

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๓. เกณฑ์กำรประเมนิ การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่ำน ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่ำน การประเมนิ ผลตามสภาพจริง การประเมินใบงานน้ีใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง การคดั ลายมือ ระดบั คะแนน ๔๓๒ ๑ เกณฑ์กำรประเมิน การคดั ลายมือ เขยี นตวั อกั ษร เขยี นตวั อกั ษร เขยี นตวั อกั ษร เขยี นตวั อกั ษรถูกตอ้ ง ชดั เจน ถูกตอ้ ง ชดั เจน ถูกตอ้ ง ชดั เจน ถูกตอ้ ง ตามอกั ขรวธิ ี และ ตามอกั ขรวธิ ี ตามอกั ขรวธิ ี ตามอกั ขรวธิ ี ผลงานสะอาด ขนาดตวั อกั ษร ขนาดตวั อกั ษร ขนาดตวั อกั ษร แต่ยงั ตอ้ งพฒั นา มีสดั ส่วนเหมาะสม บางตวั ผดิ สดั ส่วน หลายตวั ผดิ สดั ส่วน การควบคุมขนาดของ และเสมอกนั บา้ ง แตผ่ ลงาน จงึ ไม่คอ่ ยเป็น ตวั อกั ษรและอตั ราเร็ว ผลงานสะอาด สะอาดเรียบรอ้ ย ระเบียบ แต่ผลงาน ในการเขียน เรียบร้อย สะอาด เร่ือง การทอ่ งจาบทรอ้ ยกรอง ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ เกณฑ์กำรประเมนิ ทอ่ งจาบทร้อยกรอง ทอ่ งจาบทรอ้ ยกรอง ทอ่ งจาบทรอ้ ยกรอง ไดถ้ ูกตอ้ งทกุ คา ไดถ้ ูกตอ้ งทกุ คา ไดถ้ ูกตอ้ งทุกคา การท่องจา ท่องจาบทรอ้ ยกรอง บทรอ้ ยกรอง ไดถ้ ูกตอ้ งทุกคา

ไม่มีติดขดั ตกหลน่ ไม่มีติดขดั ตกหลน่ ไม่มีตดิ ขดั ตกหล่น แต่มีตดิ ขดั บา้ ง ออกเสียงคา ออกเสียงคา ออกเสียงคา ออกเสียงคาบางคา ถูกตอ้ งชดั เจน ถูกตอ้ งชดั เจน ถูกตอ้ งชดั เจน ยงั ไม่ชดั เจน ทุกคา เวน้ จงั หวะ ทกุ คา เวน้ จงั หวะ ทกุ คา เวน้ จงั หวะ เวน้ จงั หวะ วรรคตอนถูกตอ้ ง วรรคตอนถูกตอ้ ง วรรคตอนถูกตอ้ ง วรรคตอนถูกตอ้ ง ทุกวรรค ใชร้ ะดบั - ทุกวรรค ใชร้ ะดบั - เป็นส่วนใหญ่ เป็ นบางวรรค เสียงแสดงอารมณ์ เสียงแสดงอารมณ์ ใชร้ ะดบั เสียง ระดบั เสียง ตามบทประพนั ธ์ ตามบทประพนั ธ์ แสดงอารมณ์ตาม ราบเรียบ ไดด้ ีมาก ไดด้ ี บทประพนั ธ์ ไม่แสดงอารมณ์ ช่ือ__ไ_ด_พ้ อ_ใ_ช_้ __________________ ____________ชนั้ _______ เลขท่ี_______ ใบงานที่ ๒๔ เร่ือง การคดั ลายมือกาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ให้นักเรียนเลือกกาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงทชี่ อบ ๑ บท นามาคดั ลายมอื ตวั บรรจง ครึ่งบรรทดั ให้สวยงาม ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ _____________________________________

แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ภำคเรียนท่ี ๒ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ รำยวิชำ ภำษำไทย รหัสวชิ ำ ท ๒๒๑๐๒ ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี ๒ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๖ เรื่อง กำพย์ห่อโคลงประพำสธำรทองแดง เวลำ ๑๒ ช่ัวโมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๖.๕ ถอดความกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง เวลา ๑ ชว่ั โมง ผสู้ อน นางสาวธนภรณ์ สุธรรมจา วนั ที่สอน................................... มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคิดเพอ่ื นาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการ ดาเนินชีวติ และมีนิสยั รกั การอ่าน ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ม. ๒/๒ จบั ใจความสาคญั สรุปความ และอธิบายรายละเอียดจากเรื่องท่ีอ่าน ท ๑.๑ ม. ๒/๘ มีมารยาทในการอ่าน มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็น คุณค่า และนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง ตวั ชี้วดั ท ๕.๑ ม. ๒/๑ สรุปเน้ือหาวรรณคดีและวรรณกรรมท่อี ่านในระดบั ทีย่ ากข้ึน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. อธิบายหลกั การถอดความบทร้อยกรอง (K)

๒. ถอดความกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง (P) ๓. เห็นความสาคญั ของการสรุปความจากเร่ืองทอี่ ่าน และมีมารยาทในการอ่าน (A) สาระสาคัญ การอ่านบทรอ้ ยกรองแลว้ สามารถถอดความไดจ้ ะทาใหไ้ ดร้ ับความรูจ้ ากเรื่องทอ่ี ่านไดเ้ ป็นอยา่ งดี สาระการเรียนรู้ การถอดความบทรอ้ ยกรอง สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการส่ือสาร - ทกั ษะการอ่าน - ทกั ษะการเขยี น - ทกั ษะการฟัง การดู และการพดู ๒. ความสามารถในการคิด - การใหเ้ หตุผล - การวเิ คราะห์ - การสงั เคราะห์ - การสรุปความรู้ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มจี ิตสาธารณะ ตวั ช้ีวดั ที่ ๘.๒ เขา้ ร่วมกิจกรรมทเี่ ป็ นประโยชนต์ ่อโรงเรียน ชุมชน และสงั คม ชิน้ งานหรือภาระงาน ใบงาน เรื่อง การถอดความกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี • ถา้ นกั เรียนจะตอ้ งเล้ียงสตั ว์ นกั เรียนจะเลือกเล้ียงสตั วช์ นิดใด เพราะเหตุใด ๒. ใหน้ กั เรียนดูภาพพชื และสตั วแ์ ลว้ ร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั ภาพ ๓. นกั เรียนศกึ ษาตวั อยา่ งการถอดคาประพนั ธ์ และอภิปรายร่วมกนั ๔. ใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพอื่ นทาใบงาน เรื่อง การถอดความกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ๕. สุ่มนกั เรียนจบั ฉลากหมายเลขบท แลว้ เลือกนกั เรียนอ่านสรุปความใหเ้ พอื่ น ๆ ฟัง ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ ๖. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การอ่านบทรอ้ ยกรองแลว้ สามารถถอดความไดจ้ ะทาใหไ้ ดร้ บั ความรู้จากเร่ืองทอ่ี ่านไดเ้ ป็นอยา่ งดี การจดั บรรยากาศเชิงบวก

ใหน้ กั เรียนไดร้ ่วมทางานกบั เพอื่ น นกั เรียนจะไดร้ ูจ้ กั การทางานกบั ผอู้ ื่น มีความสามคั คี การช่วยกนั ทากิจกรรม ท่ีนกั เรียนไดร้ บั ทาใหเ้ กิดความสนุกสนาน และกระตือรือร้นในการทางาน ส่ือการเรียนรู้ ๑. ภาพพชื และสตั ว์ ๒. ฉลาก ๓. ใบงาน การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑. วิธีกำรวัดและประเมนิ ผล ๑) สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) ตรวจใบงาน ๒. เครื่องมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๓. เกณฑ์กำรประเมนิ การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่ำน ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่ำน การประเมนิ ผลตามสภาพจริง การประเมินใบงานน้ีใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรื่อง การถอดความบทร้อยกรอง ระดบั คะแนน ๔๓๒๑ เกณฑ์กำรประเมนิ การถอดความ ถอดความ ถอดความ ถอดความ ถอดความ บทรอ้ ยกรอง บทร้อยกรอง บทร้อยกรอง บทร้อยกรอง บทรอ้ ยกรองได้ ไดถ้ ูกตอ้ ง ไดถ้ ูกตอ้ ง ไดถ้ ูกตอ้ ง เพยี งส้นั ๆ มีสาระสาคญั มีสาระสาคญั ขาดสาระสาคญั แตส่ ามารถ ครบถว้ น ครบถว้ น บางส่วน จบั ประเดน็ ใชภ้ าษาเรียบเรียง แต่พยายาม แตเ่ น้ือความ ไดต้ รงตาม สละสลวย อธิบายรายละเอียด โดยรวมตรงตาม บทร้อยกรอง มากเกินไปจน บทรอ้ ยกรอง

ทาใหข้ อ้ ความ ตอ้ งปรับปรุง ไม่กระชบั เรื่องการใชภ้ าษา ใหก้ ระชบั มากข้นึ ใบงาน เร่ือง การถอดความกาพยห์ อ่ โคลงประพาสธารทองแดง ให้นักเรียนถอดความจากกาพยห์ อ่ โคลงประพาสธารทองแดงแตล่ ะบทเป็ นร้อยแกว้ ที่ สละสลวบยทท่ี ๑ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ บทท่ี ๒ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ บทท่ี ๓ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________

บทท่ี ๔ ___________________________________________________ บทท่ี ๕ ___________________________________________________ บทท่ี ๖ ___________________________________________________ บทท่ี ๗ ___________________________________________________ บทท่ี ๘ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________

บทท่ี ๙ ___________________________________________________ บทท่ี ๑๐ ___________________________________________________ บทท่ี ๑๑ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________

บทท่ี ๑๒ ___________________________________________________ ___________________________________________________ ___________________________________________________ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ภำคเรียนที่ ๒ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ รำยวิชำ ภำษำไทย รหัสวชิ ำ ท ๒๒๑๐๒ ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี ๒ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๖ เร่ือง กำพย์ห่อโคลงประพำสธำรทองแดง เวลำ ๑๒ ช่ัวโมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๖.๖ เขยี นผงั เขา้ ใจเน้ือความ เวลา ๑ ชว่ั โมง ผสู้ อน นางสาวธนภรณ์ สุธรรมจา วนั ทสี่ อน................................... มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพอื่ นาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนินชีวติ และมีนิสยั รักการอ่าน ตวั ชี้วัด ท ๑.๑ ม. ๒/๓ เขียนผงั ความคดิ เพอื่ แสดงความเขา้ ใจในบทเรียนต่าง ๆ ทีอ่ ่าน ท ๑.๑ ม. ๒/๗ อ่านหนงั สือ บทความ หรือคาประพนั ธอ์ ยา่ งหลากหลาย และ ประเมินคุณค่าหรือแนวคดิ ที่ไดจ้ ากการอ่าน เพอื่ นาไปใชแ้ กป้ ัญหา ในชีวติ ท ๑.๑ ม. ๒/๘ มารยาทในการอ่าน จุดประสงคก์ ารเรียนรู้สู่ ตวั ชีว้ ัด๑. อธิบายการเขียนผงั ความคิด (K) ๒. เขียนผงั ความคิดจากเร่ืองทอ่ี ่าน (P) ๓. ประเมินแนวคิดจากเรื่องทีอ่ ่าน (P) ๔. เห็นความสาคญั ของการเขียนผงั ความคิดเพอ่ื การประเมินคุณค่าของเรื่องที่อ่าน และมีมารยาทในการ อ่าน (A) สาระสาคัญ การเขียนผงั ความคดิ จากเร่ืองทอ่ี ่านทาใหเ้ ขา้ ใจเน้ือเร่ืองไดช้ ดั เจนและประเมินแนวคิดจากเร่ืองทาให้ สามารถนาแนวคดิ ไปใชใ้ นชีวติ จริงได้ สาระการ เรียนรู้

๑. การการเขียนผงั ความคดิ ๒. การประเมินแนวคิดจากเรื่องที่อ่าน สมรรถนะสาคัญของ ผู้เรียน๑. ความสามารถในการส่ือสาร - ทกั ษะการอ่าน - ทกั ษะการเขยี น - ทกั ษะการฟัง การดู และการพดู ๒. ความสามารถในการคิด - การใหเ้ หตุผล - การวเิ คราะห์ - การสงั เคราะห์ - การสรุปความรู้ - การประเมินคา่ ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประสมีจติ สาธารณะ ตวั ช้ีวดั ท่ี ๘.๒ เขา้ ร่วมกิจกรรมทเี่ ป็ นประโยชนต์ อ่ โรงเรียน ชุมชน และสงั คม ชนิ้ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดง ใบงานคเรวื่อางมกราู้)รรเข่อียงนรผองั ยควแาสมดคดิงแคลวะาปมรระู้เ)มินแนวคิดจากบทความท่อี ่าน การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี • นกั เรียนชอบสถานทท่ี อ่ งเทย่ี วตามธรรมชาติแหล่งใดมากท่ีสุด เพราะเหตุใด ๒. ใหน้ กั เรียนตอบคาถามอะไรเอ่ย จากคาถามตอ่ ไปน้ี ๑) อะไรเอ่ยเป็นสตั วป์ ่ ามาอยบู่ า้ น กินอาหารอยา่ งเดียว เค้ยี วแลว้ ก็คาย (กระต่ำยขูดมะพร้ำว) ๒) อะไรเอ่ยสองปี กหวั หก มีสองบาทา ยามทวิ าพกั ผอ่ น ยามราตรีออกหากนิ (ค้ำงคำว) ๓) อะไรเอ่ยเกิดมามีหางไมม่ ีขา พอสิ้นชีวามีแตข่ าไม่มีหาง

(กบ) ๔) อะไรเอ่ยหนา้ แลง้ อยใู่ นถ้า หนา้ น้าเที่ยวจร ไวม้ วยเหมือนมอญ นามวา่ อะไร (หอยโข่ง) ๕) อะไรเอ่ยไม่ใช่แขก ไม่ใช่จีน ไม่ใช่ญวน ตากอวนบนยอดไม้ (แมงมมุ ) ๖) อะไรเอ่ยช่ือน่ากลวั ตวั น่ารัก (ผีเสื้อ) ๗) อะไรเอ่ยช่ือหน่ึงอยใู่ นทอ้ ง ช่ือสองอยบู่ นฟ้า (ไส้ เดือน) ๘) อะไรเอ่ยข้นึ กส็ ิบ ลงกส็ ิบ ขยบุ ขยบิ ไม่คอ่ ยเห็นตวั ไม่มีหางมีแต่หวั มีแตต่ วั กะลูกตา (ปู) ๙) อะไรเอ่ยควา่ กเ็ ดินได้ หงายกเ็ ดินได้ (จงิ้ จก) ๑๐) อะไรเอ่ยไม่มีตนี ปี นตน้ ไมไ้ ด้ (งู) ๓. ใหน้ กั เรียนทบทวนเร่ืองการเขียนผงั ความคดิ ดว้ ยการสนทนาแลกเปลี่ยนและตอบขอ้ ซกั ถาม ๔. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่มอ่านขอ้ ความในใบงาน แลว้ เขยี นผงั ความคิด เมื่อเสร็จแลว้ ใหน้ าเสนอหนา้ ช้นั เรียน จากน้นั ครูอธิบายเพมิ่ เติม ๕. ใหน้ กั เรียนเขยี นแนวคิดที่ไดจ้ ากบทความในการอนุรกั ษแ์ หล่งน้าเพอื่ ใหใ้ ชไ้ ดอ้ ยา่ งยง่ั ยนื เมื่อเสร็จแลว้ ร่วมกนั เฉลยคาตอบ ๖. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี • การเขยี นผงั ความคิดจากเรื่องทอ่ี ่านทาใหเ้ ขา้ ใจเน้ือเร่ืองไดช้ ดั เจนและการประเมิน แนวคิดจากเรื่องทอี่ ่านทาใหส้ ามารถนาแนวคดิ ไปใชใ้ นชีวติ จริงได้ สื่อการเรียนรู้ ๑. คาถามอะไรเอ่ย ๒. ใบงาน การวัดและประเมนิ ผลการ เรียนร๑ู้ . วิธีกำรวดั และประเมนิ ผล ๑) สงั เกตพฤตกิ รรมในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) สงั เกตพฤติกรรมนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓) ตรวจใบงาน ๒. เคร่ืองมือ ๑) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม

๒)แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓. เกณฑ์กำรประเมิน ๑) การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่ำน ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่ำน ๒) การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน ๙-๑๐ ระดบั ดีมาก คะแนน ๗-๘ ระดบั ดี คะแนน ๕-๖ ระดบั พอใช้ คะแนน ๐-๔ ระดบั ควรปรับปรุง การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubกrาiรcปsระ)เมินใบงานน้ีใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรื่อง การเขยี นผงั ความคิดและประเมินแนวคิดจากบทความทอ่ี ่าน ระดับคะแนน ๔๓๒๑ เกณฑ์กำรประเมนิ การเขียนผงั เขียนผงั ความคิด เขียนผงั ความคดิ เขียนผงั ความคดิ เขียนผงั ความคดิ ความคดิ วเิ คราะหส์ าเหตุ วเิ คราะหส์ าเหตุ วเิ คราะหส์ าเหตุ วเิ คราะห์สาเหตุ ของมลพษิ ทางน้า ของมลพษิ ทางน้า ของมลพษิ ทางน้า ของมลพษิ ทางน้า ไดถ้ ูกตอ้ ง ไดถ้ ูกตอ้ ง ไดถ้ ูกตอ้ ง ไดถ้ ูกตอ้ ง ชดั เจนทุกประเด็น ทุกประเด็น ทุกประเด็น เกือบทุกประเดน็ แตบ่ างประเดน็ แตอ่ ธิบายไม่ชดั เจน แตอ่ ธิบายไม่ชดั เจน อธิบายไม่ชดั เจน การประเมิน ประเมินแนวคดิ ประเมินแนวคดิ ประเมินแนวคดิ ประเมินแนวคิด แนวคดิ ที่ได้ ไดห้ ลายประเด็น ไดห้ ลายประเดน็ ที่เป็ นประโยชน์ ทเี่ ป็นประโยชน์ จากการอ่านบทความ ทกุ ประเด็น ทกุ ประเด็น ได้ ๒-๓ ประเด็น ไดเ้ พยี งประเด็นเดียว เป็ นประโยชน์ เป็ นประโยชน์ และบางประเด็น และสามารถ และบางประเดน็ สามารถนาไปใช้ นาไปใชไ้ ดจ้ ริง สามารถนาไปใช้ ไดจ้ ริง ไดจ้ ริง

ใบงาน การเขียนผังความคดิ และประเมินแนวคดิ จากบทความท่อี า่ น ๑. ให้นักเรียนอ่านบทความต่อไปนี้ แล้วเขียนผงั ความคิดแสดงสาเหตุทที่ าให้เกิดมลพษิ ทางน้า เรำจะช่วยกันรักษำแหล่งนำ้ ได้อย่ำงไร วถิ ีชีวติ คนไทยมีความผกู พนั กบั สายน้า มาเน่ินนานโดยแม่น้าเป็นท้งั แหล่งอาหาร เป็นเสน้ ทาง คมนาคมทส่ี าคญั ในสมยั สงั คมเกษตรกรรมเป็นแหล่งน้า สาหรบั อุปโภคบริโภคในครอบครัว เมื่อมีการเพม่ิ ข้ึน ของประชากร ตลอดจนการขยายตวั ทางเศรษฐกิจและ อุตสาหกรรม การเกษตรท่เี คยอาศยั ธรรมชาติ เปล่ียนเป็ นระบบชลประทานแบบเร่งรัดเพอื่ เพมิ่ ปริมาณ ผลผลิตต่อหน่วยพน้ื ทที่ าใหแ้ หล่งน้าต่าง ๆ ตอ้ งรับบทบาท ในการรองรับของเสียจากแหล่งกาเนิดตา่ ง ๆ เพ่ิมมากข้ึนจนเกินขีดความสามารถท่ีจะฟอกตวั เองตามธรรมชาติไดห้ รือ จนแทบเรียกไดว้ า่ ไม่มีเวลาไดห้ ายใจ จนก่อใหเ้ กิดปัญหาน้าเน่าเสียข้นึ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ แหล่งน้าท่เี ป็นสายเลือดหลกั ของประเทศและมีประชากรอยอู่ ยา่ งหนาแน่น ไดแ้ ก่แม่น้า เจา้ พระยา ท่าจนี แม่กลอง และบางปะกง หากมองยอ้ นกลบั เปรียบเทียบกบั คุณภาพของแหล่งน้าเหล่าน้ีในช่วง หลายสิบปี ท่ีผ่านมา ดังน้ัน ถ้าไม่มีมาตรการในการใช้ทรัพยากรน้าให้เหมาะสมก็จะส่งผลกระทบต่อการใช้ ประโยชนจ์ ากแหล่งน้า นอกจากจะเกิดปัญหาการขาดแคลนน้าแลว้ ปัญหามลพษิ จากภาวะน้าเน่าเสียก็จะทวคี วาม รุนแรงในขณะเดียวกนั แหล่งกาเนิดมลพษิ ที่ก่อใหเ้ กิดปัญหามลพษิ ของแหล่งน้าท่ีสาคญั มาจาก ๓ แหล่ง ไดแ้ ก่ น้าเสีย จากชุมชน (อาคาร บา้ นเรือน ตลาดสด โรงแรม และโรงพยาบาล เป็ นตน้ ) อุตสาหกรรม (โรงงานอุตสาหกรรม ประเภทต่าง ๆ) และกิจกรรมการเกษตร (ท้งั การปศุสัตวแ์ ละการเพาะปลูก) ของเสียที่สาคญั ท่ีก่อให้เกิดปัญหา มลพษิ ทางน้า ไดแ้ ก่ สารอินทรีย์ แบคทีเรีย สารอาหาร โลหะหนกั สารฆ่าแมลงและสารเคมีอ่ืน ๆ จากการสารวจคุณภาพน้าในแม่น้าสายหลกั พบปัญหามลพิษทางน้าที่สาคญั ไดแ้ ก่ การขาดออกซิเจน ปลาตาย การปนเป้ื อนของแอมโมเนีย และแบคทีเรียในปริมาณที่สูงเกินกว่าค่ามาตรฐาน รวมท้งั ปัญหาการ เจริญเตบิ โตของพชื น้าอยา่ งผดิ ปกติ (Eutrophication) ท่เี ราเห็นสภาพน้าเป็นสีเขียว โดยทวั่ ไปแลว้ ปัญหาคุณภาพน้า จะรุนแรงในช่วงฤดูแลง้ เน่ืองจากขาดปริมาณน้าท่ีมาเจือจางความสกปรก ประชาชนจะมีส่วนร่วมในการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหามลพษิ ทางน้าไดโ้ ดย - บาบดั น้าเสียและดูแลระบบบาบดั น้าเสียใหส้ ามารถดาเนินการไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพอยา่ งตอ่ เน่ือง - ใชบ้ อ่ ดกั ไขมนั และนาไขมนั ไปจดั การใหถ้ ูกตอ้ ง

- ลดปริมาณและความสกปรกของของเสียและน้าเสีย ท่ีระบายจากสถานประกอบการหรือแหล่งกาเนิด มลพิษประเภทต่าง ๆ โดยการลดปริมาณน้าใช้ การนาน้าที่ผ่านการบาบดั แลว้ ไปใชป้ ระโยชน์ในดา้ นอื่น ๆ อีก โดยเฉพาะการเกษตรในพ้นื ท่ขี า้ งเคียง - ไม่ทงิ้ ขยะมูลฝอย น้าเสียและของเสียลงสู่แหล่งน้าและทางระบายน้าสาธารณะ - สอดส่องและเป็นหูเป็นตาร่วมกบั ภาครัฐในการตรวจสอบและเฝ้าระวงั การระบายมลพษิ จากแหล่งกาเนิด ในบริเวณขา้ งเคยี ง จะเห็นแลว้ วา่ น้าเป็นทรัพยากรทมี่ ีอยอู่ ยา่ งจากดั การใชท้ รัพยากรเหล่าน้ีจะตอ้ งมีความระมดั ระวงั เป็ นพเิ ศษซ่ึงจะตอ้ งใชต้ ามศกั ยภาพของทรพั ยากร การระบายของเสียลงสู่แหล่งน้าตอ้ งอยใู่ นระดบั ทแี่ หล่งน้า จะสามารถฟอกตวั เองได้ แนวทางจดั การในทิศทางใหม่โดยการมองภาพรวมเป็ นระบบท้งั พน้ื ทเี่ ป็ นลุ่มน้า และใหป้ ระชาชนในพน้ื ที่ไดม้ ีส่วนร่วมในการดาเนินการ เพอ่ื ใหเ้ กิดความต่อเนื่องและความยงั่ ยนื ต่อไป เรียบเรียงโดย ดร.วิจารณ์ สิมาฉายา _______________ _______________ _______________ _______________ __ __ มลพษิ ทาง _______________ _______________ _______________ _______________ __ __ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ รำยวชิ ำ ภำษำไทย ภำคเรียนท่ี ๒ ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี ๒ รหัสวชิ ำ ท ๒๒๑๐๒

หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๖ เร่ือง กำพย์ห่อโคลงประพำสธำรทองแดง เวลำ ๑๒ ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๖.๗ แสดงความคิดเห็นดว้ ยเหตุผล เวลา ๑ ชวั่ โมง ผสู้ อน นางสาวธนภรณ์ สุธรรมจา วนั ท่สี อน.................................. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ัด มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคิดเพอ่ื นาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาใน การดาเนินชีวติ และมีนิสยั รักการอ่าน ตัวชี้วดั ท ๑.๑ ม. ๒/๔ อภิปรายแสดงความคดิ เห็นและขอ้ โตแ้ ยง้ เกี่ยวกบั เร่ืองทอี่ ่าน จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อธิบายหลกั การอภิปรายเก่ียวกบั เร่ืองทอ่ี ่าน (K) ๒. แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เรื่องที่อ่าน (P) ๓. เห็นความสาคญั ของการอภิปรายแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เร่ืองทอ่ี ่าน (A) สาระสาคัญ การอภิปรายเก่ียวกับเร่ืองที่อ่านประกอบด้วยขอ้ ความสาคญั ของเร่ืองท่ีอ่าน คาอธิบายแสดงเหตุผล ประกอบความคดิ เห็นวา่ คลอ้ ยตามเรื่องทอี่ ่าน หรือไม่เห็นดว้ ยกบั เรื่องที่อ่าน และขอ้ สรุปในการแสดง ความคดิ เห็นน้นั ควรเป็ นการแสดงความคิดเห็นที่ประกอบดว้ ยเหตุผลท่ีถูกตอ้ ง มีคุณธรรม ก่อใหเ้ กิดประโยชน์ต่อ ผรู้ บั สารและสงั คม ไม่ก่อใหเ้ กิดความขดั แยง้ สาระการเรยี นรู้ การอภิปรายเก่ียวกบั เร่ืองทีอ่ ่าน สมรรถนะสาคัญของ ผู้เรียน๑. ความสามารถในการสื่อสาร - ทกั ษะการอ่าน - ทกั ษะการเขยี น - ทกั ษะการฟัง การดู และการพดู ๒. ความสามารถในการคดิ - การใหเ้ หตุผล - การวเิ คราะห์

- การสงั เคราะห์ - การจดั ระบบความคิดเป็นแผนภาพ - การสรุปความรู้ ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประส มีจิตสำธำรณะ ตวั ช้ีวดั ที่ ๘.๒ เขา้ ร่วมกิจกรรมทเี่ ป็ นประโยชนต์ ่อโรงเรียน ชุมชน และสงั คม ชนิ้ งานหรือภาระงาน ใบงาน เร่ือง การอภปิ รายแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั การรกั ษาแหล่งน้า การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี • ถา้ นกั เรียนพบคนกาลงั ทาลายสถานท่ีท่องเทย่ี วตามธรรมชาตินกั เรียนจะทาอยา่ งไร ๒. ใหน้ กั เรียนทบทวนการอภปิ รายเก่ียวกบั เรื่องทีอ่ ่านโดยการสนทนา ๓. ใหน้ กั เรียนอ่านแผนภมู ิปริศนาคาทาย หว้ งน้าเคม็ สีครามช่างงามงด ลดราคาขายใหห้ มดไม่เหลือหลอ เกียจคร้านการงานจนเกินพอ ทรงใบขา้ วน้นั หนอเรียกอยา่ งไร เมื่อยงั เดก็ เด็กไทยเคยไดเ้ ล่น เกลือเคมีทาใหเ้ ป็นน้าสวยใส มะม่วงกวนแผน่ นอ้ ยนอ้ ยอร่อยเหลือใจ ผหู้ ญิงคงหาไดไ้ ม่ยากเยน็ จากหนงั สือ \"หมื่น ร้อย พนั ผสาน\" (คำเฉลย. ๑. ทะเล ๒. เลหลัง ๓. หลังยำว ๔. ยำวรี ๕. รีรีข้ำวสำร ๖. สำรส้ม ๗. ส้มแผ่น ๘. แผ่นดินไม่ไร้ เท่ำใบพทุ รำ) ให้นกั เรียนแบ่งกลุ่มหาคาตอบปริศนาคาทาย กลุ่มใดหาไดก้ ่อนใหล้ ุกข้ึนร้องเพลงประจากลุ่มที่แต่งข้ึน ครูตรวจสอบความถูกตอ้ ง และใหก้ ลุ่มที่เสร็จก่อนเฉลย ครูชมเชยกลุ่มทชี่ นะ ๔. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั อภิปรายแสดงความคิดเห็นดว้ ยเหตุผล แลว้ บนั ทึกการอภิปรายลงในใบ งานที่ ๒๗ โดยเขียนเป็นแผนภาพความคิด ๕. ใหต้ วั แทนกลุ่มนาเสนอใหเ้ พอ่ื น ๆ ฟัง ครูอธิบายเพม่ิ เติมแลว้ นาผลงานของนกั เรียนจดั ป้ายนิเทศ

๖. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี • การอภิปรายเกี่ยวกบั เร่ืองที่อ่านประกอบดว้ ยข้อความสาคญั ของเร่ืองท่ีอ่าน คาอธิบายแสดง เหตุผลประกอบความคิดเห็นวา่ คลอ้ ยตามเร่ืองที่อ่าน หรือไม่เห็นดว้ ยกบั เรื่องท่ีอ่าน และขอ้ สรุป ในการแสดงความคิดเห็นน้นั ควรเป็นการแสดงความคิดเห็นท่ปี ระกอบดว้ ยเหตผุ ลท่ถี ูกตอ้ ง มีคุณธรรม ก่อให้เกิด ประโยชนต์ ่อผรู้ ับสารและสงั คม ไม่ก่อใหเ้ กิดความขดั แยง้ ๗. ใหน้ กั เรียนเลือกอ่านวรรณกรรมที่น่าสนใจและมีคุณค่า ซ่ึงมีเร่ืองราวเก่ียวกบั การเดินทาง การใชช้ ีวติ อยู่ ทา่ มกลางธรรมชาติ เช่น กล่องไปรษณียส์ ีแดง บึงหญา้ ป่ าใหญ่ โดยใหเ้ ลือกอ่าน ๑ เรื่องเป็นการบา้ น สอ่ื การเรียนรู้ ๑. แผนภูมิ ๒. ใบงาน การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑. วิธีกำรวดั และประเมนิ ผล ๑) สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓) ตรวจใบงานท่ี ๒๗ ๒. เคร่ืองมือ ๑) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓. เกณฑ์กำรประเมนิ ๑) การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่ำน ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่ำน ๒) การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน ๙-๑๐ ระดบั ดีมาก คะแนน ๗-๘ ระดบั ดี คะแนน ๕-๖ ระดบั พอใช้ คะแนน ๐-๔ ระดบั ควรปรับปรุง การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rกuารbปrรicะsเ)มินใบงานน้ีใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)

เรื่อง การอภปิ รายแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั การรกั ษาแหล่งน้า ระดับคะแนน ๔๓ ๒๑ เกณฑ์กำรประเมนิ การอภปิ ราย แสดงความรู้ แสดงความรู้ แสดงความรู้ แสดงความรู้ ความคดิ เห็น ความคดิ เห็น แสดงความคิดเห็ น ความคดิ เห็น ความคดิ เห็น ไดต้ รงประเดน็ ไดต้ รงประเด็น เชื่อมโยงถึง แตย่ งั ไม่เช่ือมโยง เกี่ยวกบั การรักษา ไดน้ ่าสนใจ ไดน้ ่าสนใจ ส่วนรวม มีเหตุผล ถึงส่วนรวม ประกอบพอสมควร แสดงเหตุผล แหล่งน้า เป็ นประโยชน์ เป็ นประโยชน์ การใชภ้ าษา ส้นั ๆ และตอ้ ง ไม่กระชบั ปรบั ปรุงการใชภ้ าษา ตอ่ ส่วนรวม ต่อส่วนรวม และมีเหตุผล และมีเหตผุ ล ที่น่าเช่ือถือ ประกอบชดั เจน ใชภ้ าษากระชบั ใชภ้ าษาไดด้ ี ส่ือความหมาย ชดั เจน ใบงานที่ ๒๗ เร่ือง การอภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับการรักษานา้ ธารทองแดงทใี่ สสะอาดและอุดมสมบรู ณไ์ ปด้วยพฤกษชาติ และสัตวน์ านาชนิด กลายเป็ นอดตี ทเ่ี หลือเพยี งความทรงจา! จากอุทาหรณน์ ี้ ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายแสดงความคดิ เหน็ เสนอแนวทางการรกั ษาแหลง่ นา้ ธรรมชาติ ท่ยี งั คงมีอยู่ และผลท่จี ะเกิดขนึ้ จากการมีแหลง่ นา้ อนั อุดมสมบูรณบ์ นั ทกึ ความคิดท่ไี ดจ้ ากการอภปิ รายเป็น แผนภาพความคดิ

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ภำคเรียนท่ี ๒ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ รำยวิชำ ภำษำไทย รหัสวชิ ำ ท ๒๒๑๐๒ ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ ๒ หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๖ เร่ือง กำพย์ห่อโคลงประพำสธำรทองแดง เวลำ ๑๒ ช่ัวโมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๖.๘ ซาบซ้ึงคุณคา่ วรรณคดี เวลา ๑ ชว่ั โมง ผสู้ อน นางสาวธนภรณ์ สุธรรมจา วนั ทสี่ อน................................... มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ัด มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทย อยา่ งเห็นคุณคา่ และนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง

ตัวชี้วัด ท ๕.๑ ม. ๒/๒ วเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณ์วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมทอ้ งถิ่น ทอ่ี ่านพรอ้ มยกเหตุผลประกอบ ท ๕.๑ ม. ๒/๓ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมทอ่ี ่าน จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อธิบายการวเิ คราะห์ วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรม (K) ๒. วเิ คราะห์ วิจารณ์ และอธิบายคุณคา่ ของกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง (P) ๓. เห็นความสาคญั ของการวเิ คราะห์ วจิ ารณ์และอธิบายคุณคา่ ของกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง (A) สาระสาคัญ การวเิ คราะห์ วิจารณ์จะตอ้ งแยกแยะเน้ือหาใหเ้ ขา้ ใจในส่วนตา่ ง ๆ แลว้ จึงอธิบายเหตุผลประกอบ การแสดงความคดิ ท่ีเห็นดว้ ยกบั เร่ืองเพอื่ สรุปความคิดเห็นทคี่ ลอ้ ยตามและโตแ้ ยง้ จากเร่ืองท่ีอ่าน และการอ่าน หนงั สือหลายประเภทแลว้ ประเมินคา่ หรือแนวคิดทีไ่ ดเ้ พอ่ื นาไปใชใ้ นการแกป้ ัญหาชีวติ เป็นการอ่านทก่ี อ่ ใหเ้ กิด ประโยชนท์ ้งั ตอ่ ตนเองและสงั คม สาระการเรียนรู้ การวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และอธิบายคุณคา่ ของกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง สมรรถนะสาคัญของ ผู้เรียน๑. ความสามารถในการส่ือสาร - ทกั ษะการอ่าน - ทกั ษะการเขยี น - ทกั ษะการฟัง การดู และการพดู ๒. ความสามารถในการคิด - การวเิ คราะห์ - การสรุปความรู้ - การประเมินคา่ ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประสมีจติ สำธำรณะ ตวั ช้ีวดั ท่ี ๘.๒ เขา้ ร่วมกิจกรรมที่เป็ นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชน และสงั คม ชิน้ งานหรือภาระ งาน

ใบงาน เร่ือง คุณคา่ ของกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี • นกั เรียนมีความรู้เรื่องกาพยห์ ่อโคลงอยา่ งไรบา้ ง ๒. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม ๘ กลุ่ม แลว้ ออกมาจบั ฉลากเพอ่ื ทากิจกรรม ดงั น้ี กลุ่มท่ี ๑, ๒ ให้วเิ คราะห์วา่ กวมี ีความรู้สึกอยา่ งไรในขณะทแ่ี ต่ง กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง เพราะอะไรจึงคิดเช่นน้นั กลุ่มท่ี ๓, ๔ นกั เรียนมีความรู้สึกอยา่ งไรในขณะท่อี ่านกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง กลุ่มที่ ๕, ๖ อธิบายคุณค่ากาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ดา้ นเน้ือหา กลุ่มท่ี ๗, ๘ อธิบายคุณค่ากาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ดา้ นวรรณศลิ ป์ ๓. ใหแ้ ต่ละกลุ่มส่งตวั แทนนาเสนอหนา้ ช้นั เรียน โดยครูอธิบายเพมิ่ เติม ๔. ใหน้ กั เรียนนาความรูบ้ นั ทึกในใบงานท่ี ๒๘ เร่ือง คุณค่าของกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ๕. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี • การวเิ คราะห์ วจิ ารณ์จะตอ้ งแยกแยะเน้ือหาใหเ้ ขา้ ใจในส่วนต่าง ๆ แลว้ จงึ อธิบายเหตุผล ประกอบการแสดงความคิดท่เี ห็นดว้ ยกบั เรื่องเพื่อสรุปความคดิ เห็นท่คี ลอ้ ยตามและโตแ้ ยง้ จากเรื่องทีอ่ ่าน และการ อ่านหนงั สือหลายประเภทแลว้ ประเมินค่าหรือแนวคดิ ท่ีไดเ้ พอ่ื นาไปใชใ้ นการแกป้ ัญหาชีวติ เป็ นการอ่านท่ี ก่อสใอ่ื หกเ้ กาิดรปเรระียโนยชรนู้ ท์ ้งั ต่อตนเองและสงั คม ๑. ฉลาก ๒. ใบงาน การวัดและประเมนิ ผลการเรียน ๑. วิธีกำรวัดและประเมินผล ๑) สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓) ตรวจใบงานที่ ๒๘ ๒. เคร่ืองมือ ๑) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓. เกณฑ์กำรประเมนิ ๑) การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่ำน

ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่ำน ๒) การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน ๙-๑๐ ระดบั ดีมาก คะแนน ๗-๘ ระดบั ดี คะแนน ๕-๖ ระดบั พอใช้ คะแนน ๐-๔ ระดบั ควรปรบั ปรุง การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrกicาsร)ประเมินใบงานน้ีใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง การอธิบายคุณคา่ ของวรรณคดี ระดับคะแนน ๔๓๒๑ เกณฑ์กำรประเมนิ อธิบายคุณค่า อธิบายคุณค่า อธิบายคุณค่า อธิบายคุณคา่ การอธิบายคุณคา่ ของวรรณคดี ของวรรณคดี ของวรรณคดี ของวรรณคดี ของวรรณคดี ไดถ้ ูกตอ้ ง ไดถ้ ูกตอ้ ง ไดถ้ ูกตอ้ ง ไดถ้ ูกตอ้ ง ครอบคลุม ครอบคลุม ทุกดา้ น ทกุ ดา้ น ทกุ ดา้ น เกือบทกุ ดา้ น แตอ่ ธิบาย แตอ่ ธิบาย อธิบายชดั เจน มีการยกตวั อยา่ ง ไดค้ รอบคลมุ อยา่ งส้นั ๆ เขา้ ใจง่าย ประกอบ บางดา้ น ยกตวั อยา่ ง ประกอบ

ใบงานท่ี ๒๘ เร่ือง คณุ คา่ ของกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ๑. นกั เรียนคิดวา่ กวมี ีความรูส้ ึกอยา่ งไรขณะทแ่ี ตง่ กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง เพราะเหตุใดจึงคดิ เช่นน้นั ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ ๒. นกั เรียนมีความรู้สึกอยา่ งไรขณะทีอ่ ่านกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ ๓. ใหน้ กั เรียนอธิบายคุณค่าของกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดงท้งั คุณคา่ ดา้ นเน้ือหาและคุณคา่ ดา้ น วรรณศลิ ป์ คุณค่าดา้ นเน้ือหา

___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ คุณคา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์ ___________________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________________ _________________________________________________________________________ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ภำคเรียนที่ ๒ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ รำยวิชำ ภำษำไทย รหัสวิชำ ท ๒๒๑๐๒ ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ ๒ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๖ เรื่อง กำพย์ห่อโคลงประพำสธำรทองแดง เวลำ ๑๒ ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๖.๙ รูค้ ดิ มีจิตสาธารณะ เวลา ๑ ชวั่ โมง ผสู้ อน นางสาวธนภรณ์ สุธรรมจา วนั ทีส่ อน................................... มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทย อยา่ งเห็นคุณคา่ และนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง ตวั ชี้วดั ท ๕.๑ ม. ๒/๔ สรุปความรู้และขอ้ คดิ จากการอ่านไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. สรุปความรูท้ ่ไี ดจ้ ากกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง (K) ๒. สงั เคราะหข์ อ้ คดิ จากกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดงที่สามารถนาไปใชใ้ นชีวติ จริง (P) ๓. เห็นความสาคญั ของการสรุปความรู้และขอ้ คดิ จากการอ่าน (A)

สาระสาคัญ การสรุปความรูแ้ ละการนาขอ้ คิดทไี่ ดจ้ ากการอ่านไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริงจะทาใหก้ ารอ่านวรรณคดี เร่ืองน้นั ๆ เกิดประโยชนใ์ นการดาเนินชีวติ และรู้จกั แกป้ ัญหาท่เี กิดข้ึน สาระการเรียนรู้ การสรุปความรูแ้ ละขอ้ คิดจากการอ่าน สมรรถนะสาคัญของ ผู้เรียน๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร - ทกั ษะการอ่าน - ทกั ษะการเขียน - ทกั ษะการฟัง การดู และการพดู ๒. ความสามารถในการคดิ - การสงั เคราะห์ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประสมจี ติ สาธารณะ ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๘.๒ เขา้ รว่ มกิจกรรมท่เี ป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชมุ ชน และสงั คม ชนิ้ งานหรือภาระงาน ใบงาน เรอ่ื ง การสรุปความรูแ้ ละขอ้ คดิ จากกาพยห์ อ่ โคลงประพาสธารทองแดง การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี • นกั เรียนมีความคิดเห็นอยา่ งไรกบั ขอ้ ความทว่ี า่ “ดูละครแลว้ ยอ้ นดูตวั ” ๒. ใหน้ กั เรียนคิดกิจกรรมทเี่ ป็นประโยชน์ตอ่ ส่วนรวม คนละ ๑ กิจกรรม โดยครูเลือกนกั เรียนแสดง ความคดิ ใหเ้ พอ่ื น ๆ ฟัง ๓. ใหน้ กั เรียนทาใบงาน เรื่อง การสรุปความรูแ้ ละขอ้ คิดจากกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ครูเลือก นกั เรียนนาเสนอใหเ้ พอ่ื น ๆ ฟัง และอธิบายเพมิ่ เตมิ ๔. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี • การสรุปความรู้และการนาขอ้ คดิ ท่ีไดจ้ ากการอ่านไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริงจะทาใหก้ ารอ่าน วรรณคดีเรื่องน้นั ๆ เกิดประโยชน์ในการดาเนินชีวติ และรูจ้ กั แกป้ ัญหาท่ีเกิดข้นึ ๕. ใหน้ กั เรียนอ่านหนงั สือหรือชมรายการสารคดีที่เก่ียวกบั ธรรมชาติ และชีวติ สตั วห์ รือจากประสบการณ์ ตรงเป็นการบา้ น

ส่อื การเรียนรู้ ใบงาน การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑. วิธีกำรวดั และประเมินผล ๑) สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) ตรวจใบงาน ๒. เครื่องมือ • แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม • ๓. เกณฑ์กำรประเมนิ การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่ำน ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่ำน การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrกicาsร)ประเมินใบงานน้ีใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เรื่อง การสรุปความรู้และขอ้ คิดจากเรื่องท่อี ่าน ระดบั คะแนน ๔๓๒๑ เกณฑ์กำรประเมิน การสรุปความรูแ้ ละ สรุปความรู้ สรุปความรู้ สรุปความรู้ สรุปความรู้ ขอ้ คดิ จากเร่ืองท่ีอ่าน และขอ้ คดิ ได้ และขอ้ คดิ ได้ และขอ้ คดิ ได้ และขอ้ คิด หลากหลายประเด็น หลากหลายประเดน็ หลายประเด็น ไดเ้ ฉพาะ นาขอ้ คิดไป นาขอ้ คดิ ไป แมบ้ างประเดน็ ประเด็นหลกั วเิ คราะห์ วเิ คราะห์ จะไม่ชดั เจนนกั การวเิ คราะห์ อยา่ งละเอียด อยา่ งละเอียด นาขอ้ คิดมา ขอ้ คิดและ เสนอแนวทาง เสนอแนวทาง วเิ คราะห์ได้ การเสนอแนวทาง การปฏบิ ตั ิ การปฏิบตั ิ ตามทกี่ าหนด การปฏิบตั ิ ท่ที าไดจ้ ริง ทท่ี าไดจ้ ริง และเสนอแนวทาง ยงั ทาไดไ้ ม่ชดั เจน ทกุ ขอ้ และเป็น เป็ นส่วนใหญ่ การปฏิบตั ิ แต่ก็พยายาม

ประโยชน์ต่อ และเป็ นประโยชน์ หลายขอ้ เสนอใหส้ มั พนั ธ์ ส่วนรวม ต่อส่วนรวม แต่บางขอ้ กบั ชีวติ จริง อยา่ งชดั เจน ไม่ตรงกบั จดุ ประสงค์ ใบงาน เรื่อง การสรุปความรู้และข้อคิดจากกาพยห์ อ่ โคลงประพาสธารทองแดง ๑. ใหน้ กั เรียนสรุปความรู้ทไ่ี ดจ้ ากการอ่านกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดงมา ๒ ขอ้ ___________________________________________________________________________________________ _______________________________________________________________________________ ๒. ใหน้ กั เรียนสรุปขอ้ คดิ ท่ีไดจ้ ากการอา่ นกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ___________________________________________________________________________________________ _______________________________________________________________________________ ๓. นกั เรียนไดม้ ีส่วนช่วยดูแลธรรมชาตอิ ยา่ งไร บอกมา ๒ ขอ้ ___________________________________________________________________________________________ _______________________________________________________________________________ ๔. ถา้ ทกุ คนช่วยกนั ดูแลธรรมชาติแมเ้ พียงคนละเล็กละนอ้ ยจะเกิดผลดีอยา่ งไร ผลดีต่อตนเอง___________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ผลดีตอ่ ประเทศ__________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ผลดีต่อโลก____________________________________________________________________

______________________________________________________________________________ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ภำคเรียนท่ี ๒ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ ๒ รำยวชิ ำ ภำษำไทย รหัสวชิ ำ ท ๒๒๑๐๒ เวลำ ๑๒ ช่ัวโมง หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๖ เรื่อง กำพย์ห่อโคลงประพำสธำรทองแดง เวลา ๑ ชวั่ โมง วนั ท่สี อน................................... แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๖.๑๐ เขียนพรรณนาภาษางดงาม ผสู้ อน นางสาวธนภรณ์ สุธรรมจา มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ และเขียน เร่ืองราวในรูปแบบตา่ ง ๆ เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศ และรายงาน การศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ ตวั ชี้วัด ท ๒.๑ ม. ๒/๒ เขยี นบรรยายและพรรณนา ท ๒.๑ ม. ๒/๘ มีมารยาทในการเขยี น จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อธิบายการเขยี นพรรณนา (K) ๒. เขียนพรรณนา (P) ๓. เห็นคุณคา่ ของการเขียนพรรณนา และมีมารยาทในการเขยี น (A) สาระสาคัญ

การเขียนพรรณนาเป็นการเขียนรายละเอียดเพอ่ื เพม่ิ คุณค่าของเรื่องใหน้ ่าอ่าน ในการเขยี นตอ้ งรู้จกั เลือกใหถ้ อ้ ยคาใหส้ ละสลวย ใชก้ ารเปรียบเทยี บจะทาใหผ้ อู้ ่านเกิดภาพพจน์ตามไปดว้ ย สาระการเรียนรู้ การเขยี นพรรณนา สมรรถนะสาคัญของ ผู้เรียน๑. ความสามารถในการส่อื สาร - ทกั ษะการอ่าน - ทกั ษะการเขยี น - ทกั ษะการฟัง การดู และการพดู ๒. ความสามารถในการคิด - การสงั เคราะห์ - การจดั ระบบความคิดเป็นแผนภาพ - การสรุปความรู้ - การประเมินคา่ ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประสใฝ่ เรียนรู้ ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๔.๑ ตงั้ ใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๔.๒ แสวงหาความรูจ้ ากแหลง่ เรยี นรูต้ า่ ง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลอื กใชส้ ่อื อยา่ งเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็น องคค์ วามรู้ สามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ มุง่ ม่ันในการทางาน ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๑ ตงั้ ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏิบตั หิ นา้ ท่กี ารงาน ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพียรพยายามและอดทนเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย รักความเป็ นไทย ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๗.๒ เห็นคณุ คา่ และใชภ้ าษาไทยในการส่อื สารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม ชนิ้ งานหรือภาระงาน ชิน้ งาน เรอ่ื ง การเขียนพรรณนา

การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี • ถา้ นกั เรียนจะบอกเล่าความงดงามของธรรมชาติ นกั เรียนคดิ วา่ จะใชก้ ารเขียนพรรณนา หรือบรรยายจึงจะทาใหผ้ อู้ ่านเห็นภาพตามไปดว้ ย ๒.ใหน้ กั เรียนทบทวนการเขียนพรรณนา โดยครูใหน้ กั เรียนออกมาเขียนสรุปเป็นผงั ความคดิ บนกระดาน ครูอธิบายเพม่ิ เติม ๓. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ ๓-๔ คน โดยร่วมกนั อภิปรายตามประเด็นต่อไปน้ี - นกั เรียนชอบธรรมชาตแิ บบใด ธรรมชาติแบบน้นั ทาใหน้ กั เรียนรูส้ ึกอยา่ งไร - นกั เรียนไดช้ มธรรมชาติแบบน้นั จากสถานท่ใี ด - นกั เรียนประทบั ใจส่ิงใดจากสถานทน่ี ้นั ๔. เมื่อนกั เรียนทาเสร็จแลว้ ใหส้ ่งตวั แทนออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน เพอื่ นและครูร่วมสนทนาซกั ถาม ครูอธิบายเพม่ิ เติม ๕. ใหน้ กั เรียนทาช้ินงาน เขียนพรรณนาธรรมชาตติ ามประสบการณ์ ความรูส้ ึกหรือจินตนาการ ความยาวไม่นอ้ ยกวา่ ๑๕ บรรทดั พร้อมท้งั ต้งั ชื่อเรื่อง เม่ือเสร็จแลว้ ส่งครูประเมินผลงาน ๖. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี • การเขยี นพรรณนาเป็นการเขยี นรายละเอียดเพอ่ื เพม่ิ คุณค่าของเร่ืองใหน้ ่าอ่าน ในการเขียนตอ้ งรูจ้ กั เลือกใชถ้ อ้ ยคาใหส้ ละสลวย ใชก้ ารเปรียบเทียบจะทาใหผ้ อู้ ่านเกิดภาพพจนต์ ามไปดว้ ย ๗. ใหน้ กั เรียนฟังหรือดูข่าวสารจากสื่อต่าง ๆ แลว้ บนั ทกึ เน้ือหาเพอ่ื นามาใชใ้ นการเรียนชวั่ โมงต่อไป การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑. วธิ ีกำรวัดและประเมนิ ผล ๑) สงั เกตพฤตกิ รรมในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) สงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓) ตรวจชิ้นงาน ๒. เครื่องมือ ๑) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓. เกณฑ์กำรประเมิน ๑) การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่ำน ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่ำน ๒) การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม

คะแนน ๙-๑๐ ระดบั ดีมาก คะแนน ๗-๘ ระดบั ดี คะแนน ๕-๖ ระดบั พอใช้ คะแนน ๐-๔ ระดบั ควรปรับปรุง การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrกicาsร)ประเมินชิ้นงานน้ีใหผ้ สู้ อนพจิ ารณาจากเกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เร่ือง การเขยี นพรรณนา ระดบั คะแนน ๔๓๒๑ เกณฑ์กำรประเมิน การเขียนพรรณนา เขียนพรรณนาได้ เขยี นพรรณนาไดด้ ี เขียนพรรณนาไดด้ ี เขยี นความเรียง น่าอ่าน เน้ือหามี เน้ือหามีเอกภาพ เน้ือหามีเอกภาพ ตามท่กี าหนด เอกภาพ ใชภ้ าษา บางช่วงใชภ้ าษา เขียนรายละเอียด แตส่ านวน สละสลวย อยา่ งสละสลวย ถึงส่ิงท่ตี อ้ งการ พรรณนาไม่ชดั เจน สานวนพรรณนา มีการเปรียบเทียบ พรรณนาอยา่ งชดั เจน ลึกซ้ึง ใชก้ าร ช่วยเสริมเน้ือความ ใชก้ ารเปรียบเทียบ เปรียบเทียบ ใหผ้ อู้ ่านเห็นภาพ หลายแห่ง แต่บาง อยา่ งเหมาะสม หรือเขา้ ใจอารมณ์ แห่งไม่เขา้ กบั ทาใหผ้ อู้ ่าน ชดั เจนยงิ่ ข้ึน เน้ือความ เห็นภาพชดั เจน เกิดอารมณ์คลอ้ ย- ตาม

แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ภำคเรียนท่ี ๒ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ ช้ันมัธยมศึกษำปี ท่ี ๒ รำยวิชำ ภำษำไทย รหัสวชิ ำ ท ๒๒๑๐๒ เวลำ ๑๒ ช่ัวโมง หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๖ เร่ือง กำพย์ห่อโคลงประพำสธำรทองแดง เวลา ๑ ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๖.๑๑ เจาะประเดน็ ข่าว วนั ที่สอน................................... ผสู้ อน นางสาวธนภรณ์ สุธรรมจา มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอยา่ งมีวจิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิดและความรูส้ ึกในโอกาสตา่ ง ๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและ สร้างสรรค์ ตวั ชี้วัด ท ๓.๑ ม. ๒/๒ วเิ คราะห์ขอ้ เทจ็ จริง ขอ้ คิดเห็น และความน่าเช่ือถือของขา่ วสารจาก ส่ือต่าง ๆ ท ๓.๑ ม. ๒/๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อธิบายการวเิ คราะหข์ อ้ เทจ็ จริง ขอ้ คดิ เห็น และความน่าเชื่อถือของขา่ วสารจากส่ือต่าง ๆ (K) ๒. วิเคราะห์ขอ้ เทจ็ จริง ขอ้ คิดเห็น และความน่าเช่ือถือของขา่ ว (P) ๓. เห็นความสาคญั ของการวเิ คราะหข์ อ้ เทจ็ จริง ขอ้ คดิ เห็น และความน่าเชื่อถือของขา่ วสารจากส่ือต่าง ๆ (A) สาระสาคัญ การรบั รูข้ ่าวสารจากสื่อตา่ ง ๆ เป็ นส่ิงทตี่ อ้ งใหค้ วามสาคญั เพราะในโลกยคุ ขอ้ มูลข่าวสารเช่นน้ีตอ้ งรู้จกั วเิ คราะหข์ อ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็น และสามารถเชื่อมโยงความสมั พนั ธโ์ ดยใชพ้ น้ื ฐานของความคิดอยา่ งมีเหตผุ ล

สามารถประเมินคา่ และปฏิบตั กิ ารขา่ วสารเหล่าน้นั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม อนั จะกอ่ ใหเ้ กิดประโยชน์ท้งั ต่อตนเองและ ผอู้ ื่น สาระการเรยี นรู้ การวเิ คราะหข์ อ้ เทจ็ จริง ขอ้ คิดเห็น และความน่าเชื่อถือของขา่ วสารจากส่ือตา่ ง ๆ สมรรถนะสาคัญของ ผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร - ทกั ษะการอ่าน - ทกั ษะการเขยี น - ทกั ษะการฟัง การดู และการพดู ๒. ความสามารถในการคดิ - การวิเคราะห์ - การสงั เคราะห์ - การประยกุ ต/์ การปรบั ปรุง - การสรุปความรู้ - การประเมินคา่ ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประสใฝ่ เรียนรู้ ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๔.๑ ตงั้ ใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๔.๒ แสวงหาความรูจ้ ากแหลง่ เรยี นรูต้ า่ ง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลอื กใชส้ ่อื อยา่ งเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็น องคค์ วามรู้ สามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ มุ่งม่นั ในการทางาน ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๑ ตงั้ ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏิบตั หิ นา้ ท่กี ารงาน ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย

รักความเป็ นไทย ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๗.๒ เหน็ คณุ คา่ และใชภ้ าษาไทยในการส่อื สารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม ชนิ้ งานหรือภาระงาน (-) การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี • นกั เรียนคดิ วา่ “ขา่ วลือ”กบั “ข่าวกรอง” แตกต่างกนั อยา่ งไร ๒. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มเพ่ือเล่นเกม “ต่อสานวนชวนสนุก” ซ่ึงมีวิธีการเล่น คือ ให้แต่ละกลุ่มร่วมกนั คิด สานวน สุภาษติ คาพงั เพย ทีเ่ ก่ียวกบั การพดู ใหไ้ ดม้ ากที่สุด ครูจะเร่ิมก่อน ๑ สานวน กลุ่มใดจะต่อให้ยกมือ แลว้ ยกสานวนทไ่ี ม่ซ้ากนั ตอ่ เรื่อย ๆ จนไม่มีกลุ่มใดสามารถตอ่ ไดแ้ ลว้ กลุ่มทีบ่ อกสานวนสุดทา้ ยจะเป็ นผชู้ นะ จะไดร้ ับ รางวลั ตามความเหมาะสม ๓. ใหน้ กั เรียนเขา้ หอ้ งสมุดหรือหอ้ งคอมพวิ เตอร์เพอื่ คน้ หาข่าวทส่ี นใจกลุ่มละ ๑ ข่าว ๔. ใหน้ กั เรียนปฏบิ ตั ิกิจกรรมวเิ คราะหข์ อ้ เทจ็ จริง ขอ้ คิดเห็น และความน่าเชื่อถือของข่าว ตามประเด็นท่ี เคยปฏิบตั ิเม่ือชวั่ โมงท่ีแลว้ ๕. ใหน้ กั เรียนส่งตวั แทนนาเสนอหนา้ หอ้ งเรียน ครูประเมินการพดู และใหข้ อ้ เสนอแนะเพม่ิ เตมิ ๖. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี • การรับรู้ขา่ วสารจากสื่อตา่ ง ๆ เป็นสิ่งทตี่ อ้ งใหค้ วามสาคญั เพราะในโลกยคุ ขอ้ มูลข่าวสารเช่นน้ีตอ้ ง รูจ้ กั วเิ คราะห์ขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คดิ เห็น และสามารถเชื่อมโยงความสมั พนั ธโ์ ดยใชพ้ ้นื ฐานของความคิดอยา่ งมีเหตุผล สามารถประเมินค่าและปฏิบตั กิ ารข่าวสารเหล่าน้นั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม อนั จะก่อใหเ้ กิดประโยชน์ท้งั ตอ่ ตนเองและผอู้ ่ืน ส่ือการเรียนรู้ ข่าว การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑. วธิ ีกำรวดั และประเมินผล ๑) สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓) ตรวจผลงานของนกั เรียน ๒. เคร่ืองมือ ๑) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม

๓. เกณฑ์กำรประเมนิ ๑) การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่ำน ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่ำน ๒) การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน ๙-๑๐ ระดบั ดีมาก คะแนน ๗-๘ ระดบั ดี คะแนน ๕-๖ ระดบั พอใช้ คะแนน ๐-๔ ระดบั ควรปรบั ปรุง

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ภำคเรียนท่ี ๒ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ รำยวิชำ ภำษำไทย รหัสวิชำ ท ๒๒๑๐๒ ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ ๒ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๖ เร่ือง กำพย์ห่อโคลงประพำสธำรทองแดง เวลำ ๑๒ ช่ัวโมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๖.๑๒ กาพยก์ ลอน เวลา ๑ ชวั่ โมง ผสู้ อน นางสาวธนภรณ์ สุธรรมจา วนั ทส่ี อน................................... มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และพลงั ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิ ของชาติ ตัวชี้วดั ท ๔.๑ ม. ๒/๓ แตง่ บทร้อยกรอง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อธิบายการแต่งกลอนสุภาพ (K) ๒. แต่งกลอนสุภาพ (P) ๓. เห็นความสาคญั ของการแต่งบทรอ้ ยกรอง (A) สาระสาคัญ กลอนสุภาพเป็นคาประพนั ธป์ ระเภทหน่ึงทีน่ ิยมนามาแต่งเป็นวรรณคดี หรือวรรณกรรม และการแตง่ กลอนสุภาพยงั เป็นการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมทางภาษาอีกวธิ ีหน่ึง สาระการเรยี นรู้ การแตง่ กลอนสุภาพ สมรรถนะสาคัญของ ผู้เรียน๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร - ทกั ษะการอ่าน - ทกั ษะการเขยี น

- ทกั ษะการฟัง การดู และการพดู ๒. ความสามารถในการคิด - การสงั เคราะห์ - การประยกุ ต/์ การปรบั ปรุง - การสรุปความรู้ - การประเมินคา่ ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประสใฝ่ เรียนรู้ ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๔.๑ ตงั้ ใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๔.๒ แสวงหาความรูจ้ ากแหลง่ เรยี นรูต้ า่ ง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการเลอื กใชส้ ่อื อยา่ งเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรุปเป็น องคค์ วามรู้ สามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ มุง่ ม่นั ในการทางาน ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๑ ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่กี ารงาน ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพียรพยายามและอดทนเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย รักความเป็ นไทย ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๗.๒ เห็นคณุ คา่ และใชภ้ าษาไทยในการสอ่ื สารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม ชิน้ งานหรือภาระ ชิน้ งานน เร่อื ง การแตง่ กลอนสภุ าพ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี • นกั เรียนคดิ วา่ กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดงบทใดไพเราะทสี่ ุด เพราะเหตุใด ๒. ใหน้ กั เรียนทบทวนฉนั ทลกั ษณ์ของกลอนสุภาพดว้ ยการสนทนาซกั ถาม ๓. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่มเพอื่ เล่นเกม “จบั ผดิ ภาพ” โดยครูมีภาพ ๒ ภาพท่ีคลา้ ยกนั จะมีจุดท่ีแตกต่างกนั ๘- ๑๐ จุด ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มหาจดุ ทต่ี ่างกนั ในเวลาที่กาหนด กลุ่มใดทที่ าเสร็จก่อนเป็ นฝ่ายชนะ ครูสรุปกิจกรรมวา่ การเป็ น คนช่างสงั เกตจะทาใหน้ กั เรียนเป็ นคนละเอียดรอบคอบ ๔. ใหน้ กั เรียนอ่านกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง จากน้นั ใหน้ กั เรียนเลือกกาพย์ ๑ บทที่นกั เรียน ชอบ แลว้ แต่งกลอนสุภาพ ๑ บทท่ีมีเน้ือความเก่ียวกบั กาพยบ์ ทน้นั

๕. เม่ือทาเสร็จใหอ้ าสาสมคั รออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน ครูและเพอ่ื น ๆ ช่วยกนั ตชิ ม แนะนาเพม่ิ เตมิ ๖. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี • กลอนสุภาพเป็นคาประพนั ธป์ ระเภทหน่ึงท่ีนิยมนามาแต่งเป็นวรรณคดี หรือวรรณกรรม และการแตง่ กลอนสุภาพยงั เป็ นการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมทางภาษาอีกวธิ ีหน่ึง สือ่ การเรียนรู้ ภาพ การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑. วิธีกำรวัดและประเมนิ ผล ๑) สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓) ตรวจช้ินงาน ๒. เคร่ืองมือ ๑) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓. เกณฑ์กำรประเมนิ ๑) การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่ำน ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่ำน ๒) การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน ๙-๑๐ ระดบั ดีมาก คะแนน ๗-๘ ระดบั ดี คะแนน ๕-๖ ระดบั พอใช้ คะแนน ๐-๔ ระดบั ควรปรับปรุง หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๗ โคลงสุภำษติ พระรำชนิพนธ์

รำยวิชำภำษำไทย ท ๒๒๑๐๒ ภำคเรียนที่ ๒ ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๔ โรงเรียนชุมชนประชำธิปัตย์วิทยำคำร ช้ันมธั ยมศึกษำปี ที่ ๒ เวลำ ๑๗ ชั่วโมง มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชวี้ ัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ัญหาใน การดาเนนิ ชีวติ และมีนิสยั รกั การอ่าน ตัวชีว้ ดั ท ๑.๑ ม. ๒/๑ อา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองไดถ้ กู ตอ้ ง ท ๑.๑ ม. ๒/๒ จบั ใจความสาคญั สรุปความ และอธิบายรายละเอียดจากเร่อื งท่อี า่ น ท ๑.๑ ม. ๒/๓ เขียนผงั ความคิดเพ่อื แสดงความเขา้ ใจในบทเรยี นตา่ ง ๆ ท่อี ่าน ท ๑.๑ ม. ๒/๔ อภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ และขอ้ โตแ้ ยง้ เก่ียวกบั เร่อื งท่อี ่าน ท ๑.๑ ม. ๒/๕ วิเคราะหแ์ ละจาแนกขอ้ เทจ็ จรงิ ขอ้ มลู สนบั สนนุ และขอ้ คดิ เห็นจากบทความท่อี า่ น ท ๑.๑ ม. ๒/๗ อา่ นหนงั สอื บทความ หรอื คาประพนั ธอ์ ยา่ งหลากหลาย และประเมินคณุ คา่ หรอื แนวคิดท่ไี ดจ้ ากการอา่ น เพ่อื นาไปใชแ้ กป้ ัญหาในชีวติ ท ๑.๑ ม. ๒/๘ มีมารยาทในการอ่าน มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนสอ่ื สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขียนเร่อื งราว ในรูปแบบตา่ ง ๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ตัวชีว้ ัด ท ๒.๑ ม. ๒/๓ เขยี นเรียงความ ท ๒.๑ ม. ๒/๘ มีมารยาทในการเขยี น มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดอู ยา่ งมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรูส้ กึ ในโอกาสตา่ ง ๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ตวั ชีว้ ัด ท ๓.๑ ม. ๒/๔ พดู ในโอกาสตา่ ง ๆ ไดต้ รงตามวตั ถปุ ระสงค์ ท ๓.๑ ม. ๒/๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษา และพลงั ของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ขิ องชาติ

ตวั ชีว้ ดั ท ๔.๑ ม. ๒/๒ วเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งประโยคสามญั ประโยครวม และประโยคซอ้ น ท ๔.๑ ม. ๒/๕ รวบรวมและอธิบายความหมายของคาภาษาตา่ งประเทศท่ใี ชใ้ นภาษาไทย มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทย อยา่ งเหน็ คณุ คา่ และนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตจรงิ ตวั ชีว้ ดั ท ๕.๑ ม. ๒/๑ สรุปเนอื้ หาวรรณคดีและวรรณกรรมท่อี า่ นในระดบั ท่ียากขนึ้ ท ๕.๑ ม. ๒/๒ วเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณว์ รรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมทอ้ งถ่ินท่อี ่าน พรอ้ มยกเหตผุ ลประกอบ ท ๕.๑ ม. ๒/๓ อธิบายคณุ คา่ ของวรรณคดแี ละวรรณกรรมท่อี ่าน ท ๕.๑ ม. ๒/๔ สรุปความรูแ้ ละขอ้ คดิ จากการอา่ นไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จรงิ ท ๕.๑ ม. ๒/๕ ทอ่ งจาบทอาขยานตามท่กี าหนดและบทรอ้ ยกรองท่มี ีคณุ คา่ ตามความสนใจ สาระสาคัญ โคลงสุภาษิตโสฬสไตรยางค์ ๑. การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภทโคลงนอกจากจะตอ้ งรู้ความหมายของคาแลว้ ยงั ตอ้ งเขา้ ใจ ลกั ษณะของคาเอกโทษและคาโทโทษดว้ ย ๒. การอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมแลว้ สามารจบั ใจความสาคญั จนสรุปเน้ือหาท่อี ่านไดจ้ ะทาให้ ไดร้ บั ความรูจ้ ากเรื่องที่อ่านไดเ้ ป็นอยา่ งดี ๓. การเขยี นผงั ความคิดจากขอ้ ความยาว ๆ หรือขอ้ ความทีเ่ ขา้ ใจยากจะช่วยจดั ลาดบั ความคิดทาให้ จดจาไดง้ า่ ยและเขา้ ใจดีข้ึน ๔. การอภปิ รายและเขียนวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ เป็นการแสดงความคดิ เห็นซ่ึงประกอบดว้ ยเหตุผลที่ ถูกตอ้ ง มีคุณธรรม ก่อใหเ้ กิดประโยชน์ตอ่ ผรู้ ับสารและสงั คม ไม่ก่อใหเ้ กิดความขดั แยง้ ๕. การอ่านหนงั สือหลายประเภทแลว้ ประเมินค่าหรือแนวคิดทไ่ี ดเ้ พอ่ื นาไปใชใ้ นการแกป้ ัญหา ชีวติ เป็นการอ่านท่กี ่อใหเ้ กิดประโยชนท์ ้งั ตอ่ ตนเองและสงั คม ๖. การสรุปความรู้และการนาขอ้ คิดทไี่ ดจ้ ากการอ่านไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริงจะทาใหก้ ารอ่าน วรรณคดีเรื่องน้นั ๆ เกิดประโยชนใ์ นการดาเนินชีวติ และรู้จกั แกป้ ัญหาท่เี กิดข้นึ ๗. บทอาขยานช่วยจรรโลงใจและใหข้ อ้ คดิ การท่องจาบทอาขยานทาใหจ้ ติ ใจเบิกบาน เป็ นเคร่ือง เตอื นใจและสามารถนาไปใชอ้ า้ งอิงในการส่ือสารได้ ๘. ปัจจบุ นั การติดตอ่ สื่อสารกบั ต่างชาตมิ ากข้ึนมีการยมื คามาจากภาษาตา่ งประเทศเป็ นจานวนมาก จึงจาเป็ นตอ้ งมีความรูค้ วามเขา้ ใจความหมายของคาทมี่ าจากภาษาตา่ งประเทศเพอื่ ใหก้ ารสื่อสาร

ประสบความสาเร็จ โคลงสุภาษติ นฤทมุ นาการ ๑. การอ่านออกเสยี งโคลงสภุ าษิตนฤทมุ นาการใหถ้ กู ตอ้ งตามหลกั การอา่ นจะทาใหเ้ ขา้ ใจเนอื้ หา จนสามารถจบั ใจความ สรุปความเนอื้ หาไดด้ ขี นึ้ ๒. การเขียนผงั ความคิดจากขอ้ ความยาว ๆ หรือขอ้ ความท่ีเขา้ ใจยากจะช่วยจัดลาดบั ความคิดทาให้ จดจาไดง้ า่ ยและเขา้ ใจดขี นึ้ อภิปรายแสดงความคดิ เหน็ วิเคราะห์ วจิ ารณจ์ ะทาใหเ้ ขา้ ใจวรรณคดไี ดด้ ยี ่ิงขนึ้ ๓. การสรุปความรูแ้ ละการนาขอ้ คดิ ท่ไี ดจ้ ากการอ่านไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จรงิ จะทาใหก้ ารอ่าน วรรณคดีเร่อื งนนั้ ๆ เกิดประโยชนใ์ นการดาเนนิ ชีวิตและรูจ้ กั แกป้ ัญหาท่เี กิดขนึ้ ๔. เรยี งความเป็นงานเขียนท่มี ีรูปแบบชดั เจน ประกอบดว้ ย คานา เนอื้ เร่อื ง และสรุป การเขยี น เรียงความเก่ียวกับประสบการณ์ตอ้ งกล่าวถึงเร่ืองท่ีไดป้ ระสบมาจริงเพ่ือใหเ้ กิดประโยชนแ์ ก่ผูอ้ ่าน ผูเ้ ขียน เรยี งความควรวางโครงเร่อื งใหช้ ดั เจนจึงจะทาใหเ้ รยี งความมีเอกภาพ นา่ สนใจและชวนอ่าน ๕. ในการอ่านสง่ิ ท่จี าเป็นท่จี ะทาใหป้ ระสบความสาเรจ็ ไดแ้ ก่ วเิ คราะหแ์ ละจาแนกขอ้ เท็จจรงิ ขอ้ มลู สนบั สนนุ ขอ้ คิดเหน็ ประเมินคณุ คา่ หรอื แนวคิดท่ไี ดจ้ ากเร่อื งท่อี ่านเพ่อื นาไปใชใ้ นชีวิตจรงิ โคลงสุภาษิตอิศปปกรณา ๑. การอา่ นออกเสยี งโคลงสภุ าษิตอิศปปกรณา ใหถ้ กู ตอ้ งตามหลกั การอ่านจะทาใหเ้ ขา้ ใจเนอื้ หา จนสามารถจบั ใจความ สรุปความเนอื้ หาไดด้ ีขนึ้ ๒. การเขียนผงั ความคิดจากขอ้ ความยาว ๆ หรอื ขอ้ ความท่เี ขา้ ใจยากจะช่วยจดั ลาดบั ความคดิ ทา ใหจ้ ดจาไดง้ า่ ยและเขา้ ใจดีขนึ้ อภิปรายแสดงความคิดเหน็ วเิ คราะห์ วิจารณจ์ ะทาใหเ้ ขา้ ใจวรรณคดีไดด้ ีย่งิ ขนึ้ ๓. การสรุปความรูแ้ ละการนาขอ้ คิดท่ไี ดจ้ ากการอ่านไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตจรงิ จะทาใหก้ ารอ่าน วรรณคดีเร่อื งนนั้ ๆ เกิดประโยชนใ์ นการดาเนินชีวิตและรูจ้ กั แกป้ ัญหาท่เี กิดขนึ้ ๔. ประโยคมีความสาคญั ตอ่ การสอ่ื สารเพราะจะทาใหก้ ารส่อื สารชดั เจนขนึ้ ตอ้ งใชป้ ระโยคให้ ถกู ตอ้ งจะทาใหก้ ารสอ่ื สารประสบความสาเรจ็ ๕. การพดู อวยพรเป็นธรรมเนียมสากลของมนษุ ยชาติท่ปี ฏิบตั ิตอ่ กนั เพ่อื แสดงความรกั ความ หว่ งใยและความปรารถนาดจี ากผพู้ ดู สผู่ ฟู้ ังจึงจาเป็นตอ้ งใชภ้ าษาใหเ้ หมาะสม ความเข้าใจทค่ี งทน โคลงสุภาษิตโสฬสไตรยางค์ นกั เรียนสามารถสรุปไดว้ า่ การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภทโคลงนอกจากจะตอ้ งรู้ความหมายของ คาแลว้ ยงั ตอ้ งเขา้ ใจลกั ษณะของคาเอกโทษและคาโทโทษดว้ ย การอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมแลว้ สามารถจบั ใจความสาคญั จนสรุปเน้ือหาทีอ่ ่านไดจ้ ะทาใหไ้ ดร้ ับความรู้จากเรื่องท่ีอ่านไดเ้ ป็ นอยา่ งดี การเขียนผงั ความคิดจาก ขอ้ ความยาว ๆ หรือขอ้ ความทเี่ ขา้ ใจยากจะช่วยจดั ลาดบั ความคิดทาใหจ้ ดจาไดง้ ่ายและเขา้ ใจดีข้นึ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook